รเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่ การยอ่ ยและดูดซมึ เคี้ยวอำหารใหม้ ขี นาดเลก็ ลง คล้าอาหารกบั นำ้ ลาย ใน อยแปง้ ใหเ้ ปน็ นำ้ ตาล หน้าที่ลำเลียงอาหารจาก อาหาร ภายในกระเพาะ รตีนโดยกรดและเอนไซมท์ ี่ อาหาร มท์ ีส่ ร้างจากผนงั ลำไส้เลก็ ที่ชว่ ยย่อยโปรตีน ไขมนั โดยโปรตนี ไขมัน ที่ผ่านการยอ่ ยจนเป็น กพอท่ีจะ ดดู ซึมได้ รวมถึง ามิน จะถกู ดูดซึม ที่ผนัง สเลือด เพ่อื ลำเลยี งไปยัง กาย ซ่ึงโปรตีน ไขมัน จะถูกนำไปใชเ้ ปน็ บใช้ในกจิ กรรมต่าง ๆ สว่ น ามิน จะช่วยให้รา่ งกาย สง่ มายงั ลำไส้เล็กช่วยให้ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
รหสั ตัวชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการ - ลำไส้ใหญท่ ำหน้าท บริเวณท่ีมอี าหารทย่ี เปน็ กากอาหาร ซ่ึงจ หนกั - อวยั วะต่าง ๆ ในระ ความสำคัญ จึงควรป ใหท้ ำงานเป็นปกติ สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถา่ ยทอดลักษ สิ่งมีชวี ิต ความหลากหลายทางชีวภาพและววิ ัฒนาการของสงิ่ มชี วี ติ รวมท้ังนำความรไู้ รหสั ตัวช้ีวัด ตัวชี้วัด สาระการ -- หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทย
รเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ ที่ดูดนำ้ และเกลอื แร่ เปน็ ย่อยไมไ่ ด้ หรอื ย่อยไม่หมด จะถกู กำจดั ออกทางทวาร ะบบย่อยอาหาร มี ปฏิบัติตน ดูแลรกั ษาอวัยวะ ษณะทางพนั ธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธกุ รรมทม่ี ีผลต่อ ไปใช้ประโยชน์ รเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถนิ่ -- ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพ หลกั และธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการ รหัสตัวชี้วดั ตวั ชี้วัด สาระกา ว 2.1 ป 6/1 1. อธบิ ายและเปรียบเทียบการแยกสาร - สารผสมประกอบ ผสม โดยการหยิบออก การร่อน การใช้ ผสมกัน เช่น นำ้ มนั แม่เหลก็ ดงึ ดูด การรินออก การกรอง และ ทราย วธิ กี าร ท่เี หม การตกตะกอน โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ข้นึ อยู่กับลกั ษณะแ รวมท้งั ระบุวิธีแก้ปญั หาในชีวิตประจำวนั องคป์ ระกอบของส เกย่ี วกบั การแยกสาร ของแขง็ ทีม่ ขี นาดแ วธิ ีการหยิบออกหร สารใดสารหน่ึงเป็น แมเ่ หล็กดึงดูด ถ้ำอ ทไี่ มล่ ะลายในของเห การกรอง หรือการต สามารถนำไปใช้ปร หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทย
พันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค รเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี ารเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ บดว้ ยสารตั้งแต่ 2 ชนิดขนึ้ ไป นผสมน้ำ ข้าวสารปนกรวด มาะสมในการแยกสารผสม และสมบัติของสารที่ผสมกนั ถา้ สารผสมเปน็ ของแข็งกบั แตกต่างกนั อย่างชัดเจน อาจใช้ รือการร่อนผา่ นวสั ดุ ทม่ี รี ู ถ้ำมี นสารแมเ่ หลก็ อาจใช้วิธี การใช้ องค์ประกอบเป็นของแขง็ หลว อาจใชว้ ธิ กี ารรนิ ออก ตกตะกอน ซง่ึ วธิ กี ารแยกสาร ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวันได้ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวติ ประจำวัน ผลของแรงที่ก ใชป้ ระโยชน์ รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ชว้ี ัด สาระการ ว 2.2 ป 6/1 1. อธิบายการเกดิ และผลของแรงไฟฟา้ ซงึ่ - วัตถุ ๒ ชนดิ ท่ีผ่าน เกดิ จากวัตถุทผ่ี า่ นการขัดถูโดยใช้หลักฐาน ใกล้กัน อาจดงึ ดดู ห เชิงประจักษ์ เป็นแรงไฟฟ้า ซงึ่ เป ระหว่างวัตถุที่มปี ระ 2 ชนิด คือ ประจไุ ฟ ลบ วตั ถุทมี่ ีประจุไฟ ชนิดตรงข้ามกันดึงด หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ย
กระทาตอ่ วัตถุ ลักษณะการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวตั ถุ รวมทง้ั นำความรูไ้ ป รเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น - นการขดั ถแู ล้ว เมื่อนำเข้า หรอื ผลกั กนั แรงทีเ่ กดิ ขนึ้ นี้ ปน็ แรงไมส่ ัมผสั เกิดข้ึน ะจุไฟฟา้ ซ่ึงประจไุ ฟฟา้ มี ฟฟา้ บวกและประจุไฟฟ้า ฟฟา้ ชนิดเดียวกันผลกั กัน ดูดกัน ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรัฐวิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและ ชวี ิตประจำวนั ธรรมชาตขิ องคลน่ื ปรากฏการณท์ ่เี ก่ียวข้องกบั เสียง แสง และคลืน่ แมเ่ รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชี้วัด สาระกา ว 2.3 ป 6/1 1. ระบุส่วนประกอบและบรรยายหน้าท่ี ของ - วงจรไฟฟา้ อยา่ งง แตล่ ะส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า อย่างงา่ ย ไฟฟา้ สายไฟฟา้ แ จากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ อุปกรณไ์ ฟฟา้ แหล ว 2.3 ป 6/2 2. เขียนแผนภาพและตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย ถ่านไฟฉาย หรือแบ ไฟฟา้ สายไฟฟา้ เป เช่อื มตอ่ ระหวา่ งแห เครื่องใช้ไฟฟ้าเขา้ ด หนา้ ท่ีเปลยี่ นพลงั ง ว 2.3 ป 6/3 3. ออกแบบกำรทดลองและทดลองดว้ ยวธิ ี - เม่อื นำเซลล์ไฟฟา้ ทีเ่ หมาะสมในการอธบิ ายวิธกี ารและผลของ โดยให้ขั้วบวกของเ การต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม ข้ัวลบของอีกเซลลห์ ว 2.3 ป 6/4 4. ตระหนกั ถงึ ประโยชนข์ องความรขู้ องการ ทำใหม้ ีพลังงานไฟฟ ต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบอนกุ รมโดยบอกประโยชน์ เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ซ่ึงก อนุกรมสามารถนำ และการประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน ชวี ิตประจำวนั เช่น ว 2.3 ป 6/5 5. ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธี - การตอ่ หลอดไฟฟ ทเ่ี หมาะสมในการอธบิ ายการต่อหลอดไฟฟ้า ไฟฟา้ ดวงใดดวงหน แบบอนกุ รมและแบบขนาน เหลือดับทง้ั หมด ส ว 2.3 ป 6/6 6. ตระหนักถงึ ประโยชนข์ องความรู้ของการ ขนาน เมือ่ ถอดลอด ตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนกุ รมและแบบขนาน หลอดไฟฟา้ ทีเ่ หลอื หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทย
ะการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานใน เหลก็ ไฟฟ้า รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ารเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ ง่ายประกอบด้วยแหลง่ กำเนิด - และเครื่องใชไ้ ฟฟา้ หรือ ล่งกำเนิดไฟฟา้ เชน่ บตเตอรี่ ทำหนา้ ท่ีให้พลังงาน ปน็ ตวั นำไฟฟ้าทำหน้าที่ หลง่ กำเนดิ ไฟฟ้า และ ด้วยกัน เครือ่ งใช้ไฟฟา้ มี งานไฟฟ้าเปน็ พลงั งานอนื่ าหลายเซลลม์ าต่อเรยี งกนั เซลลไ์ ฟฟา้ เซลลห์ น่ึงต่อกบั หนง่ึ เปน็ การตอ่ แบบอนุกรม ฟ้าเหมาะสมกับ การต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบ ำไปใชป้ ระโยชนใ์ น น การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าในไฟฉาย ฟา้ แบบอนุกรมเม่อื ถอดหลอด นงึ่ ออกทำใหห้ ลอดไฟฟ้าท่ี ส่วนการตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบ ดไฟฟ้าดวงใดดวงหนงึ่ ออก อ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรัฐวิทยา ๗๕ เฉลิมพระเกยี รติ
รหัสตวั ชี้วัด ตัวชีว้ ัด สาระกา โดยบอกประโยชน์ ขอ้ จำกดั และการ กย็ ังสวา่ งได้ การต่อ สามารถนำไปใช้ปร ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตประจำวัน ไฟฟ้าหลายดวงในบ แบบขนานเพ่ือเลอื หนึ่งไดต้ ามตอ้ งการ ว 2.3 ป 6/7 7. อธิบายการเกิดเงามืดเงามวั จากหลักฐาน - เมือ่ นำวัตถุทึบแส เชงิ ประจกั ษ์ ฉากรับแสงที่อยดู่ ้า ว 2.3 ป 6/8 8. เขยี นแผนภาพรังสขี องแสงแสดงการเกิด คล้ายวัตถทุ ีท่ ำใหเ้ ก เงามืดเงามวั แสงบางส่วนตกลงบ บริเวณทีไ่ มม่ ีแสงต บนฉากเลย หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทย
ารเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ อหลอดไฟฟา้ แตล่ ะแบบ ระโยชน์ได้ เช่น การต่อหลอด บ้านจึงต้องตอ่ หลอดไฟฟ้า อกใช้หลอดไฟฟ้าดวงใดดวง ร สงมาก้ันแสงจะเกดิ เงาบน านหลังวตั ถุ โดยเงามีรูปร่าง กิดเงา เงามวั เป็นบรเิ วณท่มี ี บนฉาก สว่ นเงามดื เปน็ ตกลง ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิว ภายในระบบสุรยิ ะทีส่ ง่ ผลต่อสง่ิ มชี วี ิตและการประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยอี วกาศ รหัสตัวชี้วดั ตัวช้วี ัด สาระการ ว 3.1 ป 6/1 1. สร้างแบบจำลองท่อี ธบิ ายการเกิด และ - เม่ือโลกและดวงจ เปรียบเทียบปรากฏการณส์ ุรยิ ุปราคา และ เสน้ ตรงเดยี วกนั กบั จันทรุปราคา เหมาะสม ทำใหด้ ว ของดวงจนั ทร์ทอด บรเิ วณเงาจะมองเห ปรากฏการณส์ ุริยปุ เตม็ ดวง สรุ ยิ ุปราคา วงแหวน หากดวงจนั ทร์และ เสน้ ตรงเดียวกนั กบั จันทรเ์ คล่อื นท่ีผ่าน ดวงจนั ทรม์ ืดไป เก จนั ทรุปราคา ซึง่ มที และจนั ทรปุ ราคาบ ว 3.1 ป 6/2 2. อธบิ ายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ - เทคโนโลยีอวกาศ และยกตัวอยา่ งการนำเทคโนโลยอี วกาศมา มนษุ ย์ในการสำรวจ ใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั จากข้อมูลท่ี กล้อง-โทรทรรศน์ แ รวบรวมได้ ขนส่งเพ่อื สำรวจอว ขนสง่ อวกาศ และย ปัจจบุ นั มีการนำเทค หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ย
วัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏสิ ัมพันธ์ รเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ - จนั ทร์ โคจรมาอยู่ในแนว บดวงอาทติ ยใ์ นระยะทางท่ี วงจันทร์บงั ดวงอาทิตย์ เงา ดมายังโลก ผู้สังเกตทอ่ี ยู่ ห็น ดวงอาทติ ยม์ ดื ไป เกิด ปรำคำ ซึง่ มีท้งั สรุ ยิ ุปราคา าบางส่วน และสรุ ิยุปราคา ะโลกโคจรมาอยใู่ นแนว - บดวงอาทติ ย์ แล้วดวง นเงาของโลก จะมองเห็น กิดปรากฏการณ์ ท้งั จันทรปุ ราคาเตม็ ดวง บางสว่ น ศเร่มิ จากความตอ้ งการของ จวัตถทุ ้องฟา้ โดยใช้ตาเปลา่ และได้พัฒนาไปสูก่ าร วกาศดว้ ยจรวดและยาน ยงั คงพัฒนาอยา่ งต่อเน่อื ง คโนโลยอี วกาศบาง ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชว้ี ัด สาระการ ประเภทมาประยกุ ต การใชด้ าวเทยี มเพ่ือ อากาศ หรือการสำ การใชอ้ ุปกรณว์ ัดชพี หมวกนิรภัย ชดุ กีฬ สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองคป์ ระกอบ และความสมั พนั ธ์ของระบบโลก กร เปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศและภูมอิ ากาศโลกรวมท้ังผลตอ่ สง่ิ มีชวี ติ และสงิ่ แวดล้อม รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชวี้ ัด สาระการ ว 3.2 ป 6/1 1. เปรยี บเทยี บกระบวนการเกิดหินอัคนี - หนิ เปน็ วสั ดแุ ขง็ เก หินตะกอน และหินแปรและอธิบายวฏั จกั ร ประกอบ ดว้ ยแรต่ ง้ั หนิ จากแบบจำลอง สามารถจำแนกหิน เปน็ 3 ประเภท ได และหินแปร - หินอัคนีเกิดจากก หนิ มีลกั ษณะเป็นผ ขนาดเล็ก บางชนิด พรุน - หินตะกอน เกดิ จา เมอ่ื ถูกแรงกดทับแล เกิดเป็นหนิ เน้ือหนิ เป็นเมด็ ตะกอน มีท หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทย
รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั เช่น อการสอื่ สาร การพยากรณ์ ำรวจทรพั ยากรธรรมชำติ ชพจรและการเต้นของหัวใจ ฬา ระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลกและบนผวิ โลก ธรณพี ิบตั ภิ ัย กระบวนการ รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ -สงั เกต เปรยี บเทยี บ หินท่พี บบรเิ วณชายหาด กดิ ข้ึนเองตามธรรมชำติ และหินที่พบทัว่ ไป งแตห่ นึง่ ชนิดขนึ้ ไป นตำมกระบวนการเกิดได้ ดแ้ ก่ หินอัคนี หนิ ตะกอน การเย็นตวั ของแมกมา เนอ้ื ผลึก ท้ังผลกึ ขนาดใหญแ่ ละ ดอาจเป็นเนอื้ แกว้ หรอื มีรู ากการทบั ถมของตะกอน ละมสี ารเชอ่ื มประสานจึง นกล่มุ นสี้ ว่ นใหญ่มีลักษณะ ทั้งเนื้อหยาบและเน้ือ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ชี้วัด สาระการ ว 3.2 ป 6/2 2. บรรยายและยกตวั อยา่ งการใชป้ ระโยชน์ ละเอยี ด บางชนดิ เป ของหนิ และแร่ในชวี ติ ประจำวนั จากข้อมูล เกดิ จากการตกผลกึ ท่รี วบรวมได้ โดยเฉพาะนำ้ ทะเล ๆ จึงเรียกอกี ชอ่ื ว่าห - หนิ แปร เกดิ จากก ซึง่ อาจเปน็ หินอัคน โดยการกระทำของ ปฏิกิริยาเคมี เนื้อห ผลกึ ของแร่เรยี งตัว ชนดิ แซะออกเป็นแ ผลกึ ทมี่ ีความแขง็ ม - หินในธรรมชาตทิ เปล่ยี นแปลงจากปร ประเภทหนึง่ หรือป รปู การเปลย่ี นแปลง จักร หนิ และแร่แต่ละชน แตกตา่ งกัน มนุษย ชีวติ ประจำวนั ในล มาทำเครือ่ งสำอาง อุปกรณท์ างการแพ งานกอ่ สรา้ งต่าง ๆ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ย
รเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ ป็นเน้อื ผลึกที่ยึดเกาะกนั - กหรือตกตะกอนจากน้ำ ล บางชนิดมีลกั ษณะเป็นชัน้ หนิ ชัน้ การแปรสภาพของหินเดมิ นี หนิ ตะกอน หรือหนิ แปร งความรอ้ น ความดัน และ หินของหินแปรบางชนิด วขนานกนั เปน็ แถบ บาง แผน่ ได้ บางชนดิ เปน็ เน้อื มาก ท้งั ประเภท มกี าร ระเภทหน่งึ ไปเป็นอีก ประเภทเดิมได้ โดยมแี บบ งคงท่ีและตอ่ เน่อื งเป็นวัฏ นดิ มีลักษณะและสมบัติ ย์ใช้ประโยชนจ์ ากแร่ใน ลักษณะตา่ ง ๆ เชน่ นำแร่ ยำสฟี นั เครื่องประดับ พทย์ และนำหินมาใช้ใน เปน็ ต้น ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
รหัสตัวช้ีวัด ตัวชี้วัด สาระการ ว 3.2 ป 6/3 3. สรา้ งแบบจำลองท่ีอธิบายการเกิด ซาก ดกึ ดำบรรพ์และคาดคะเนสภาพแวดลอ้ มใน - ซากดกึ ดำบรรพ์เก ว 3.2 ป 6/4 อดตี ของซากดึกดำบรรพ์ ประทบั รอยของสงิ่ ม โครงสรา้ งของซากห 4. เปรียบเทยี บการเกิดลมบก ลมทะเล ปรากฏอยใู่ นหนิ ใน และมรสมุ รวมทง้ั อธิบายผลทมี่ ตี ่อสงิ่ มชี วี ิต บรรพ์ ทห่ี ลากหลาย และสง่ิ แวดลอ้ ม จากแบบจำลอง ปลา เต่า ไดโนเสาร - ซากดกึ ดำบรรพ์ส หน่งึ ท่ชี ว่ ยอธิบายส อดีตขณะเกิดสงิ่ มชี ดึกดำบรรพ์ของ หอ บรเิ วณนั้นอาจเคยเ และหากพบซากดึก สภาพแวดลอ้ มบรเิ ว กอ่ น นอกจากนซ้ี าก ระบอุ ายขุ องหนิ แล ววิ ฒั นาการของสิ่งม - ลมบก ลมทะเล แ และ พ้ืนนำ้ รอ้ นแล อุณหภมู ิอากาศเหน แตกต่างกนั จึงเกิด จากบริเวณท่มี อี ุณห อณุ หภมู สิ ูง หลักสูตรกลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ย
รเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ - กิดจากการทับถม หรือการ มีชีวิตในอดตี จนเกดิ เป็น - หรอื รอ่ งรอยของส่ิงมชี ีวิตท่ี นประเทศไทยพบซากดกึ ดำ ย เชน่ พืช ปะกำรัง หอย ร์ และรอยตนี สตั ว์ สามารถใช้เป็นหลกั ฐาน สภาพแวดล้อมของพื้นที่ใน ชีวติ น้ัน เชน่ หากพบซาก อยน้ำจดื สภาพแวดล้อม เป็นแหล่งนำ้ จดื มากอ่ น กดำบรรพข์ องพชื วณน้นั อาจเคยเป็นปา่ มา กดึกดำบรรพ์ยงั สามารถใช้ ละเปน็ ขอ้ มูลในการศึกษา มีชีวิต และมรสมุ เกดิ จากพ้ืนดิน ละเยน็ ไม่เท่ากนั ทำให้ นอื พ้ืนดินและพ้นื น้ำ ด การเคล่ือนทีข่ องอากาศ หภูมิต่ำ ไปยังบรเิ วณท่ีมี ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรัฐวิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
รหัสตัวช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการ ว 3.2 ป 6/5 5. อธบิ ายผลของมรสุมตอ่ การเกิดฤดูของ - ลมบกและลมทะ ว 3.2 ป 6/6 ประเทศไทย จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ บรเิ วณชายฝั่ง โดยล ทำให้มีลมพดั จากช 6. บรรยายลักษณะและผลกระทบของ น้ำ ทะเลเกิดในเวลากล ทว่ ม การกดั เซาะชายฝ่งั ดินถล่ม ทะเลเขา้ สชู่ ายฝ่งั แผน่ ดนิ ไหว สนึ ามิ - มรสุมเปน็ ลมประ ของโลก ซง่ึ เป็นบริเ ประเทศไทยได้รับผ ตะวันออกเฉียงเหน กลางเดือนตุลำคมจ เกดิ ฤดูหนาว และไ ตะวันตกเฉียงใตใ้ น พฤษภาคมจนถงึ กล ฤดฝู น สว่ นช่วงประ กุมภาพันธ์จนถึงกล ช่วงเปลยี่ นมรสุมแล ศนู ย์สตู ร แสงอาทติ ประเทศไทย ในเวล รอ้ นจำกดวงอาทติ ย อบอา้ วทำให้เกิดฤด - น้ำทว่ ม การกัดเซ แผ่นดนิ ไหว และ ส และส่ิงแวดลอ้ มแต หลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทย
รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ ะเลเป็นลมประจำถิ่นที่พบ - ลมบกเกิดในเวลากลางคืน ชายฝั่งไปสู่ทะเล ส่วนลม - ลางวัน ทำใหม้ ลี มพัดจาก ะจำฤดเู กดิ บริเวณเขตรอ้ น เวณกวา้ งระดบั ภูมภิ าค ผลจากมรสุม นือในชว่ งประมาณ จนถึงเดอื นกมุ ภาพันธ์ทำให้ ได้รับผลจากมรสมุ นชว่ งประมาณกลางเดอื น ลางเดือนตลุ ำคมทำให้เกดิ ะมาณกลางเดือน ลางเดือนพฤษภาคมเป็น ละประเทศไทยอยู่ใกล้เสน้ ตย์เกือบต้ังตรงและตั้งตรง ลาเที่ยงวนั ทำให้ไดร้ บั ความ ยอ์ ย่างเตม็ ทอ่ี ากาศจงึ ร้อน ดูรอ้ น ซาะชายฝงั่ ดนิ ถลม่ สนึ ามิ มผี ลกระทบต่อชวี ิต ตกต่างกนั ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
รหัสตวั ช้ีวัด ตัวช้ีวัด สาระการ ว 3.2 ป 6/7 7. ตระหนกั ถงึ ผลกระทบของภัยธรรมชำติ และธรณพี บิ ตั ภิ ัย โดยนำเสนอแนวทางใน - มนุษยค์ วรเรยี นรวู้ ว 3.2 ป 6/8 การเฝา้ ระวงั และปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภยั จาก เชน่ ตดิ ตามข่าวสา ว 3.2 ป 6/9 ภัยธรรมชำตแิ ละธรณพี บิ ัติภยั ท่ีอาจเกดิ ใน ยังชีพ ให้พรอ้ มใช้ต ทอ้ งถน่ิ คำส่งั ของผปู้ กครอง เคร่งครัดเมื่อเกดิ ภัย 8. สร้างแบบจำลองทอ่ี ธิบายการเกิด พบิ ตั ิภยั ปรากฏการณ์เรือนกระจกและผลของ ปรากฏการณเ์ รือนกระจกตอ่ สิง่ มีชีวิต - ปรากฏการณเ์ รอื น 9. ตระหนักถึงผลกระทบของปรากฏการณ์ กระจกในช้ันบรรยา เรอื นกระจกโดยนำเสนอแนวทางการ ร้อนแล้ว คายความ ปฏิบัติตนเพอื่ ลดกิจกรรมทก่ี อ่ ให้เกดิ แก๊ส ทำใหอ้ ากาศ บนโล เรือนกระจก การดำรงชีวติ - หากปรากฏการณ ขน้ึ จะมผี ลต่อการเ มนษุ ย์ จึงควรร่วมก แก๊สเรอื นกระจก สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พอ่ื การดำรงชีวิตในสังค คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพือ่ แก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมคี วามคิดสรา้ งสรร โดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชวี ติ สังคม และส่งิ แวดล้อม รหัสตวั ชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระการ -- หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ย
รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิน่ วธิ ปี ฏบิ ัตติ นให้ปลอดภัย - ารอยา่ งสม่ำเสมอ เตรียมถงุ ตลอดเวลา และปฏบิ ัติตาม งและเจ้าหนา้ ที่อยา่ ง ยทางธรรมชำติและธรณี นกระจกเกดิ จากแก๊สเรือน ากาศของโลก กกั เกบ็ ความ มรอ้ นบางส่วนกลบั สผู่ วิ โลก ลกมอี ณุ หภูมิเหมะสมตอ่ ณ์เรือนกระจกรนุ แรงมาก เปล่ยี นแปลงภูมิอากาศโลก กนั ลดกจิ กรรมท่ีก่อให้เกดิ คมทมี่ ีการเปล่ยี นแปลงอยา่ งรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ รคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่ - - ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบใน สอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รู้เท่าทัน แล รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชี้วัด สาระการ ว 4.2 ป 6/1 1. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการอธบิ ายและ - การแกป้ ัญหาอยา่ ออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หาท่ีพบใน แก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งม ชีวิตประจำวัน - การใช้เหตุผลเชิงต กฎเกณฑ์ หรอื เงื่อน ใช้พิจารณา ในการ - แนวคดิ ของการท เงื่อนไข - กำรพจิ ารณากระ ทำงานแบบวนซำ้ ห ช่วยใหก้ ารออกแบบ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ - ตัวอย่างปญั หา เ ต้องการใหเ้ ร็วท่ีสดุ 1 – 1,000,000 คำถาม, การคำนวณ คำนึงถงึ ระยะทาง เ ว 4.2 ป 6/2 2. ออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย - การออกแบบโปร เพอ่ื แก้ปญั หาในชวี ิตประจำวัน ตรวจหำ เขยี น เปน็ ขอ้ ความ ข้อผิดพลาดของโปรแกรมและแก้ไข - การออกแบบแล ตัวแปร การวนซ้ำ ก หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ย
นชีวิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ ละมจี รยิ ธรรม รเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน างเปน็ ขั้นตอนจะชว่ ยให้ - มปี ระสิทธภิ าพ ตรรกะเปน็ การนำ นไขท่ีครอบคลุมทกุ กรณมี า รแก้ปัญหา ทำงานแบบวนซำ้ และ ะบวนการทำงานท่ีมีการ หรือเง่ือนไขเปน็ วธิ กี ารที่จะ บวิธกี ารแก้ปัญหาเป็นไป พ เช่น การค้นหาเลขหน้าท่ี ด, การทายเลข 0 โดยตอบให้ถกู ภายใน 20 ณเวลาในการเดนิ ทาง โดย เวลา จุดหยดุ พกั รแกรมสามารถทำไดโ้ ดย ม หรอื ผังงาน ละเขยี นโปรแกรมทม่ี ีการใช้ การตรวจสอบเงอื่ นไข – ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
รหสั ตัวช้ีวัด ตัวชี้วัด สาระการ หากมีข้อผดิ พลาดใ ละคำส่งั เม่อื พบจดุ ใหท้ ำการแก้ไขจนก - การฝกึ ตรวจหำข้อ ของผอู้ ่ืนจะช่วยพฒั ของปัญหาได้ดยี ่งิ ข - ตวั อย่างปญั หา เช โปรแกรมหาคา่ ค.ร - ซอฟต์แวรท์ ใ่ี ช้ในก Scratch, logo ว 4.2 ป 6/3 3. ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตในการค้นหาข้อมลู อยา่ ง - การคน้ หาอย่างมีป มปี ระสิทธภิ าพ ค้นหาขอ้ มูลทไี่ ดต้ ร เวลาทรี่ วดเร็วจากแ หลายแหลง่ และข้อ – การใช้เทคนคิ การ ตัวดำเนินการ การร หรอื ชนิดของไฟล์ - การจัดลำดับผลล โปรแกรมค้นหา - การเรยี บเรียง สร กับวชิ าภาษาไทย) หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทย
รเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ ให้ตรวจสอบการทำงาน ที ดท่ีทำให้ผลลัพธไ์ มถ่ ูกต้อง กวา่ จะได้ผลลัพธ์ท่ีถูกต้อง อผดิ พลาดจากโปรแกรม ฒนาทักษะการหาสาเหตุ ข้นึ ชน่ โปรแกรมเกม ร.น เกมฝึกพมิ พ์ การเขยี นโปรแกรม เช่น ประสทิ ธิภาพ เปน็ การ รงตามความตอ้ งการใน แหลง่ ข้อมลู ท่นี ่าเช่อื ถือ อมูล มีความสอดคลอ้ งกัน รค้นหาขน้ั สูง เช่น การใช้ ระบรุ ปู แบบของข้อมูล ลพั ธจ์ ากกาคน้ หาของ รปุ สำระสำคญั (บรู ณาการ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ช้วี ัด สาระการ ว 4.2 ป 6/4 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกัน - อันตรายจากการใ อยา่ งปลอดภยั เข้าใจสิทธแิ ละหนา้ ทข่ี อง ทางอนิ เทอรเ์ น็ต แน ตน เคารพในสทิ ธิของผอู้ น่ื แจ้งผู้เกีย่ วข้อง - วิธีกำหนดรหสั ผ่า เมือ่ พบขอ้ มลู หรือบคุ คลทีไ่ มเ่ หมาะสม - การกำหนดสิทธ์ิก เขา้ ถึง) - แนวทางการตรวจ อันตรายจากการติด อินเทอร์เนต็ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทย
รเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ ใช้งานและอาชญากรรม นวทางในการป้องกัน าน การใชง้ าน (สิทธใิ์ นการ จสอบและป้องกนั มัลแวร์ – ดต้ังซอฟต์แวรท์ ีอ่ ยู่บน ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกยี รติ
คำอธิบายรายวชิ า กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชา ว๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ศึกษาการเรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ ลักษณะ หน้าที่และการดูแลรักษาส่วนต่างๆ ของร่างกาย มนษุ ย์ ลักษณะและหนา้ ท่ขี องสว่ นต่าง ๆ ของสตั ว์และพชื รอบตวั และสภาพแวดลอ้ ม ในบรเิ วณที่สัตว์และพืช อาศยั อยู่ ชนิดและสมบัติของวัสดุท่ใี ช้ทำวัตถุรอบตวั การเกดิ เสียงและ ทิศทางการเคลื่อนทขี่ องเสียง ลักษณะ ของหิน และการมองเห็นดาวบนท้องฟ้าในเวลากลางวัน และกลางคืน การแก้ปัญหาโดยการลองผิดลองถูก การเปรียบเทียบ การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่ายโดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรือส่ือ การใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีเบ้อื งตน้ การใชง้ านซอฟตแ์ วรเ์ บอ้ื งตน้ ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต สำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย รวบรวมข้อมูล บันทึก และอธิบายผลการสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขน้ั พื้นฐานและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบ้อื งตน้ สามารถสอื่ สารสิง่ ท่ีเรียนรู้ มคี วามคิดสร้างสรรค์ สามารถทำงานรว่ มกับผูอ้ ่นื แสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหาอย่าง งา่ ย เขยี นโปรแกรมโดยใช้สื่อ สร้าง จดั เก็บและเรยี กใชไ้ ฟลต์ ามวัตถุประสงค์ ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในการใชง้ าน ดูแลรกั ษาอปุ กรณแ์ ละใชง้ านเทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งเหมาะสม มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม รหัสตัวชวี้ ัด วิทยาศาสตร์ ว ๑.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ ว ๑.๒ ป.๑/๑ ,ป๑/๒ ว ๑.๓ ป.๑/๑ ว ๒.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ ว ๓.๑ ป.๑/๑,ป.๑/๒ ว ๓.๒ ป.๑/๑ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ว ๔.๒ ป.๑/๑,ป.๑/๒,ป.๑/๓,ป.๑/๔,ป.๑/๕ รวมทัง้ หมด ๑๕ ตัวชี้วดั
คำอธบิ ายรายวิชา รหสั วิชา ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง ศกึ ษาการเรยี นรูแ้ บบนกั วทิ ยาศาสตร์ ลกั ษณะของสิง่ มีชวี ิตและสิ่งไมม่ ชี ีวติ ความจำเป็นของแสง และน้ำต่อการเจริญเตบิ โตของพืช วัฏจกั รชีวิตของพชื ดอก สมบตั ิการดูดซบั นำ้ ของวสั ดแุ ละการนำไปใช้ ประโยชน์ สมบตั ิของวัสดทุ ี่เกิดจากการนำวสั ดุมาผสมกัน การเลอื กวัสดมุ าใช้ทำวัตถุตามสมบัติของวัสดุ การนำ วสั ดุท่ใี ชแ้ ล้วกลับมาใช้ใหม่ การเคลือ่ นท่ขี องแสง การมองเห็นวตั ถุ การปอ้ งกนั อันตรายจากการ มองวตั ถใุ น บริเวณที่มแี สงสวา่ งไมเ่ หมาะสม ส่วนประกอบและการจำแนกชนดิ ของดิน การใชป้ ระโยชน์จากดนิ การแสดง ขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา การตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม การใชง้ านซอฟต์แวร์เบอื้ งตน้ การจดั การไฟล์ และโฟลเดอร์ การใช้งานและดูแลรกั ษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวนั การใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ใชก้ ารสบื เสาะหาความรู้ สงั เกต จำแนกประเภท รวบรวมข้อมูล บันทกึ และอธิบายผลการสำรวจ ตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานและมีทักษะการ เรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ ในด้านการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารเบ้ืองต้น สามารถส่อื สารสิง่ ท่ีเรียนรู้ มคี วามคิดสร้างสรรค์ สามารถทำงานร่วมกับผู้อ่ืน แสดงขนั้ ตอนการแก้ปญั หาอย่างง่าย เขยี นโปรแกรมแบบมี เงอ่ื นไขโดยใช้บตั รคำสง่ั และตรวจหาขอ้ ผิดพลาด ใช้งานซอฟต์แวร์ สร้าง จดั หมวดหมู่ไฟลแ์ ละโฟลเดอร์ ตระหนักถงึ ประโยชนข์ องการใช้ความรแู้ ละกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต ตระหนักถึงความสำคญั ของการปกปอ้ งข้อมูลส่วนตัว ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ดูแลรักษา อุปกรณค์ อมพิวเตอร์ มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม รหสั ตวั ชีว้ ดั วทิ ยาศาสตร์ ว ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ ว ๑.๓ ป.๒/๑ ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ว ๒.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ว ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ว ๔.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ รวมทง้ั หมด ๑๖ ตัวชีว้ ัด หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ว๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง ศึกษาการเรียนรูแ้ บบนักวิทยาศาสตร์ ปัจจัยในการดำรงชีวติ และการเจริญเติบโตของมนุษย์และสัตว์ วัฏจักรชีวิตของสัตว์ วัตถุประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนย่อยซึ่งสามารถแยกออกจากกันและประกอบกันเป็นวัตถุ ชิ้นใหม่ได้ การเปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อทำให้ร้อนขึ้นหรือเย็นลง ผลของแรงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลง การ เคลื่อนที่ของวัตถุ แรงสัมผัสและแรงไม่สัมผัส วัสดุที่แม่เหล็กดึงดูดได้ แรงแม่เหล็ก ขั้วแม่เหล็ก การเปลี่ยน พลังงานหนึ่งไปเปน็ อีกพลงั งานหน่งึ การทำงานของเครื่องกำเนดิ ไฟฟ้า แหลง่ พลงั งานในการผลติ ไฟฟ้า การใช้ ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัย การเกิดกลางวัน กลางคืน การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ การกำหนด ทิศ ความสำคัญของดวงอาทิตย์ ส่วนประกอบของอากาศ ความสำคัญของอากาศ ผลกระทบของมลพิษ ทางอากาศ การเกดิ ลม ประโยชนแ์ ละโทษของลม การแสดงขั้นตอนการแก้ปญั หาโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะเบื้องต้น การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ บัตรคำสงั่ และการตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด การใชอ้ ินเทอร์เนต็ และขอ้ ตกลงในการใชง้ าน การรวบรวมขอ้ มลู การ ประมวลผลข้อมลู เบอ้ื งตน้ การนำเสนอขอ้ มูลเทคโนโลยี ในงานด้านตา่ ง ๆ ข้อดแี ละข้อเสียในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการส่อื สาร โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ สังเกต รวบรวมข้อมูล จัดกระทำและ สื่อความหมายข้อมูล สร้างแบบจำลอง และอธิบายผลการสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มี ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เบื้องต้น สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถ ทำงานร่วมกบั ผู้อืน่ แสดงขั้นตอนการแกป้ ัญหา เขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้บัตรคำสั่ง ใช้อินเทอร์เน็ตใน การคน้ หาความรู้ รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอข้อมลู ตามวัตถุประสงค์ ตระหนักถงึ ประโยชน์ของการใช้ ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการดำรงชวี ิต ตระหนกั ถึงการใช้อินเทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภัยและ อย่ใู นการดแู ลของครหู รอื ผู้ปกครอง มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม เกิดการรับรู้ และเห็นคุณคา่ ของการนำความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั มีจติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทเี่ หมาะสมทพี่ ึงประสงคต์ ่อการดำเนนิ ชีวติ ในปจั จุบนั รหสั ตวั ช้ีวัด ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ วิทยาศาสตร์ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓, ป.๓/๔ มาตรฐาน ว ๑.๒ มาตรฐาน ว ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ มาตรฐาน ว ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ มาตรฐาน ว ๒.๓ ป.๓/๑ , ป.๓/๒, ป.๓/๓ , ป.๓/๔ มาตรฐาน ว ๓.๑ มาตรฐาน ว ๓.๒ หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) มาตรฐาน ว ๔.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒, ป.๓/๓ , ป.๓/๔, ป๓/๕ รวมท้งั หมด ๒๕ ตวั ชวี้ ัด หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
คำอธบิ ายรายวิชา รหัสวชิ า ว๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๑๒๐ ช่ัวโมง ศึกษาการเรียนรูแ้ บบนักวิทยาศาสตร์ การจำแนกสิ่งมีชวี ิตเป็นกลุม่ พืช กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ไม่ใชพ่ ชื และสัตว์ การจำแนกพืชออกเป็นพชื ดอกและพืชไม่มีดอก การจำแนกสัตวอ์ อกเป็นสัตว์ มีกระดูกสันหลังและ สัตว์ไมม่ กี ระดกู สันหลงั ลักษณะเฉพาะของสัตว์มีกระดูกสนั หลงั ในกล่มุ ปลา กล่มุ สตั วส์ ะเทนิ น้ำสะเทนิ บก กลุ่ม สตั ว์เลือ้ ยคลาน กลุ่มนก และกลมุ่ สัตว์เล้ยี งลกู ดว้ ยน้ำนม หน้าทขี่ องราก ลำต้น ใบและดอกของพืชดอก สมบัติ ทางกายภาพ ด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนำความร้อน และการนำไฟฟ้าของวัสดุ การนำสมบัติทาง กายภาพของวสั ดุไปใช้ในชีวิตประจำวัน สมบัติของสสาร ทงั้ 3 สถานะ ผลของแรงโนม้ ถ่วงทม่ี ีตอ่ วัตถุ การวัด น้ำหนักของวัตถุ มวลของวัตถุที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุ และตัวกลางของแสง การข้ึน และตกและรูปรา่ งดวงจันทร์ และองค์ประกอบของระบบสรุ ยิ ะ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การ ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย การตรวจหาข้อผิดพลาดในโปรแกรม การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และการใช้คำค้น การประเมินความนา่ เชือ่ ถือของขอ้ มูล การรวบรวม นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ ตั้งคำถาม คาดคะเนคำตอบหรือสร้างสมมติฐาน วางแผนและสำรวจ ตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออุปกรณ์และเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม ประเมินความน่าเชื่อถือ ของข้อมลู รวมรวมข้อมูล ประมวลผลอย่างง่าย วเิ คราะหข์ ้อมูล วเิ คราะหผ์ ลและสร้างทางเลือก นำเสนอข้อมูล ลงความ คิดเห็นและสรุปผลการสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ และมที ักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารเบือ้ งต้น มีความคิด สร้างสรรค์ สามารถทำงานร่วมกับผู้อ่ืน ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา และอธิบายการทำงานหรือคาด การผลลัพธ์จากปัญหาอย่างง่าย ออกแบบและเขียนโปรแกรม ตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของตนเอง และผอู้ ืน่ ตระหนักถึงคุณค่าของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และใช้ความรู้และกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต สามารถสื่อสารอย่างมีมารยาทและรู้กาลเทศะ รู้จักการปกป้องข้อมูลส่วนตัว มี จิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม ศึกษาและฝกทักษะเกี่ยวกับการใชเหตุผลเชิงตรรกะในการแกปญหา การอธิบายการทํางาน หรือ การคาดการผลลัพธจากปญหาอยางงาย การออกแบบและเขียนโปรแกรมอยางงาย การตรวจหาขอผดิ พลาดใน โปรแกรม การคนหาขอมูลในอินเทอรเน็ตและการใชคําคน การประเมินความนาเชื่อถือของขอมูล การ รวบรวมขอมูล การประมวลผลอยางงาย การวิเคราะหผลและสรางทางเลือกการนําเสนอขอมูล การสื่อสาร อยางมมี ารยาทและรูกาลเทศะ การปกปองขอมลู สวนตัว รหัสตวั ช้ีวัด วิทยาศาสตร์ ว ๑.๒ ป.๔/๑ ว ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป. ๔/๔ ว ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป. ๔/๔ ว ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ว ๒.๓ ป.๔/๑ ว ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
วิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ว ๔.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป. ๔/๔, ป. ๔/๕ รวมท้ังหมด ๒๑ ตวั ชวี้ ัด หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
คำอธบิ ายรายวชิ า รหสั วชิ า ว๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๑๒๐ ชว่ั โมง ศึกษาการเรียนรแู้ บบนักวิทยาศาสตร์ โครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชีวิตทเ่ี หมาะสมในแต่ละ แหล่งที่ อยู่ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสิง่ มีชีวิตกบั ส่ิงมชี ีวติ และความสมั พันธร์ ะหวา่ งสิ่งมชี ีวิตกบั สิง่ ไม่มชี ีวิต การถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรมของพืช สัตว์ และมนุษย์ การเปลี่ยนสถานะของสสาร การละลายของสารในน้ำ การ เปลี่ยนแปลงทางเคมี การเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้และผันกลับไม่ได้ แรงลัพธ์ แรงเสียดทาน การได้ยินเสียง ผ่านตัวกลาง ลักษณะและการเกิดเสียงสูง เสียงต่ำ เสียงดัง และเสียงค่อย ระดับเสียงและมลพิษทางเสียง ความแตกต่างของดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษ์ การใชแ้ ผนท่ดี าว แบบรปู เส้นทางการข้นึ และตก ของกลุ่มดาวฤกษ์ บนท้องฟ้าในรอบปี ปริมาณนำ้ ในแต่ละแหลง่ ปริมาณน้ำทีม่ นษุ ย์สามารถนำมาใช้ได้ การใช้น้ำอย่างประหยดั และการอนุรกั ษ์น้ำ วัฏจักรนำ้ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้างแข็ง กระบวนการเกิดฝน หิมะ และลูกเหบ็ การใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การเขียนรหสั ลำลองเพ่อื แสดงวิธีแกป้ ัญหา การออกแบบ และการเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขและการทำงานแบบวนซ้ำ การใช้ซอฟต์แวร์ประมวลผลข้อมูล การ ติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต การใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลและการประเมิน ความน่าเชื่อถือของข้อมูล อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สงั เกต รวบรวมขอ้ มูล จดั กระทำและส่ือความหมายขอ้ มูล สร้างแบบจำลอง และอธิบายผลการสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรูค้ วามเข้าใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ขั้น พื้นฐานและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องต้น สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทำงานร่วมกับผู้อืน่ แสดงวิธีแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผล เชิงตรรกะ ใช้รหสั ลำลองแสดงวธิ ีการแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ข้ันตอน ออกแบบ และเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไข และการทำงานแบบวนซ้ำ ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ใช้ซอฟตแ์ วร์ชว่ ยในการแกป้ ัญหา ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ตดิ ตอ่ ส่ือสารและคน้ หาข้อมูล แยกแยะข้อเทจ็ จรงิ กับข้อคดิ เห็น ประเมนิ ความนา่ เชื่อถือ ของข้อมลู ตระหนักถึงคุณค่าของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และใช้ความรู้และกระบวนการ ทาง วิทยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัยและมีมารยาท มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม รหัสตัวชี้วัด วทิ ยาศาสตร์ ว ๑.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓, ป.๕/๔ ว ๑.๓ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ว ๒.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓, ป.๕/๔ ว ๒.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓, ป.๕/๔ ,ป.๕/๕ ว ๒.๓ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓, ป.๕/๔ ,ป.๕/๕ ว ๓.๑ ป.๕/๑,ป.๕/๒ ว ๓.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔ ,ป.๕/๕ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลิมพระเกยี รติ
วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ว ๔.๒ ป.๕/๑,ป.๕/๒,ป.๕/๓,ป.๕/๔,ป.๕/๕ รวมทัง้ หมด ๓๒ ตวั ชวี้ ัด หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวิชา ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๑๒๐ ชัว่ โมง ศึกษาการเรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ สารอาหาร การเลือกรับประทานอาหารให้ได้สารอาหาร ครบถ้วนในสดั ส่วนที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพ ระบบย่อยอาหาร การแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด การรินออก การกรอง และการตกตะกอน แรงไฟฟ้าซึง่ เกิดจากวัตถุที่ผ่านการ ขัดถู การตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างง่าย การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมและการนำไปใช้ประโยชน์ การตอ่ หลอดไฟฟ้า แบบอนุกรมและแบบขนานและการนำไปใช้ประโยชน์ การเกิดเงามืดเงามัว ปรากฏการณ์สุริยุปราคา และ จันทรุปราคา พัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ การนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน กระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร และวัฏจักรหิน ลักษณะและสมบัติของหินและแร่ การใช้ ประโยชน์ของหินและแร่ การเกิดซากดึกดำบรรพ์และสภาพแวดล้อมในอดีตของซากดึกดำบรรพ์ การเกิดลม บก ลมทะเล และมรสุม ผลของมรสุมต่อการเกิดฤดูของประเทศไทย ลักษณะและผลกระทบของน้ำท่วม การ กัดเซาะชายฝ่ัง ดินถลม่ แผ่นดนิ ไหว สึนามิ การเกดิ และผลกระทบของปรากฏการณ์เรอื นกระจก ศกึ ษาขนั้ ตอนการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธบิ ายและออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา การออกแบบ การ เขียนโปรแกรมและการตรวจหาข้อผิดพลาด การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศในการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภยั เขา้ ใจสิทธิและหน้าทขี่ องตน เคารพในสทิ ธขิ องผูอ้ ืน่ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ รวบรวมข้อมูล จัดกระทำและสื่อ ความหมายข้อมลู สรา้ งแบบจำลอง และอธบิ ายผลการสำรวจตรวจสอบ เพ่อื ใหเ้ กิดความรคู้ วามเข้าใจ มีทกั ษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเบื้องต้น สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทำงานร่วมกบั ผ้อู นื่ อธิบายและออกแบบวธิ กี าร แกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะ เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่ายเพ่ือแกป้ ัญหาและ ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำงานร่วมกัน ตระหนักถึงคุณค่าของความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี และใช้ความรู้และกระบวนการ ทางวทิ ยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศรว่ มกันอย่างปลอดภัย เขา้ ใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธขิ องผู้อ่นื มจี ิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทีเ่ หมาะสม รหสั ตวั ช้ีวัด วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ มาตรฐาน ว ๒.๑ ป.๖/๑ มาตรฐาน ว ๒.๒ ป.๖/๑ มาตรฐาน ว ๒.๓ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ มาตรฐาน ว ๓.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ มาตรฐาน ว ๓.๒ ป.๖/๑,ป.๖/๒,ป.๖/๓,ป.๖/๔,ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ , ป.๖/๙ หลักสตู รกลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรียนไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) มาตรฐาน ว ๔.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓, ป.๖/๔ รวม ๓๐ ตวั ช้ีวัด หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
โครงสร้างรายวิชา รายวิชา วิทยาศาสตร์ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 รหัสวิชา ว11101 เวลา ๘0 ชว่ั โมง / ปี ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ ตัวช้วี ัด จำนวน น้ำหนักคะแนน (ชว่ั โมง) 100 ตัวเรา พืชและสัตว์ ว 1.1 ป1/1, ป1/2 พชื และสัตว์ในทอ้ งถน่ิ ว 1.2 ป1/1, ป1/2 ๘0 วัสดแุ ละการเกิดเสียง ว 2.1 ป1/1, ป1/2 ว 2.3 ป1/1 หนิ และทอ้ งฟ้า ว 3.1 ป1/1, ป1/2 ว 3.2 ป1/1 วทิ ยาการคำนวณ ว 4.2 ป1/1, ป1/2, ป1/3, ป1/4, ป1/5 รวม 15 หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ 2 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 รหัสวชิ า ว12101 เวลา ๘0 ชว่ั โมง / ปี ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ตัวชี้วัด จำนวน(ชั่วโมง) นำ้ หนกั คะแนน วัฏจักรชวี ิตของพืชดอก ส่ิงมชี ีวิตและสิง่ ไม่มีชวี ติ ว 1.2 ป2/1, ป2/2, ป2/3 ธรรมชาตขิ องสสาร ว 1.3 ป2/1 แสงและการเคลือ่ นท่ี ว 2.1 ป2/1, ป2/2, ป2/3, ดิน ป2/4 วิทยาการคำนวณ ว 2.3 ป2/1, ป2/2 รวม ว 3.2 ป2/1, ป2/2 ว 4.2 ป2/1 ,ป2/2, ป2/3, ป2/4 16 ๘0 100 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
โครงสร้างรายวิชา รายวชิ า วิทยาศาสตร์ 3 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3 รหัสวิชา ว13101 เวลา ๘0 ชัว่ โมง / ปี ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ตวั ชีว้ ัด จำนวน(ช่วั โมง) น้ำหนกั คะแนน วัฏจักรชวี ติ ของสัตว์ ว 1.2 ป3/1, ป3/2, ป3/3, ป ๘0 100 3/4 วัสดุรอบตัว ว 2.1 ป3/1, ป3/2 ธรรมชาตขิ องแรง ว 2.2 ป3/1, ป3/2, ป3/3, ป พลังงานและไฟฟา้ 3/4 ปรากฏการณธ์ รรมชาติ ว 2.3 ป3/1, ป3/2, ป3/3 อากาศ ว 3.1 ป3/1, ป3/2, ป3/3 ว 3.2 ป3/1, ป3/2, ป3/3, ป วทิ ยาการคำนวณ 3/4 ว 4.2 ป3/1, ป3/2, ป3/3, ป รวม 3/4, ป3/5 25 หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ า วิทยาศาสตร์ 4 ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 รหัสวชิ า ว14101 เวลา 120 ชว่ั โมง / ปี ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ัด จำนวน(ชวั่ โมง) น้ำหนักคะแนน ส่วนตา่ งๆของพืช ว.1.2 ป.4/1 120 100 พืชและสัตว์ ว.1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป 4/4 สมบตั ทิ างกายภาพ ว.2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป 4/4 แรงโน้มถ่วงของโลก ว.2.2 ป.4/1, ป.4/2, ป4/3 ตวั กลางของแสง ดวงจันทรแ์ ละระบบสรุ ิยะ ว.2.3 ป.4/1 วทิ ยาการคำนวณ ว 3.1 ป4/1, ป4/2, ป4/3 รวม ว 4.2 ป4/1, ป4/2, ป4/3, ป 4/4, ป4/5 21 หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรัฐวิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
รายวิชา วิทยาศาสตร์ 5 โครงสร้างรายวิชา ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 รหสั วิชา ว15101 เวลา 120 ชั่วโมง / ปี ตัวชีว้ ัด ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ จำนวน(ชว่ั โมง) นำ้ หนกั คะแนน สงิ่ มชี วี ติ และสิ่งไมม่ ชี ีวติ ว 1.1 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, ป 5/4 120 100 พันธกุ รรมของพชื และสัตว์ ว 1.3 ป 5/1, ป 5/2 สถานะของสาร ว 2.1 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, ป 5/4 แรง ว 2.2 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, ป 5/4, ป5/5 เสยี ง ว 2.3 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, ป 5/4 ดาว ว 3.1 ป 5/1, ป 5/2 น้ำและการเปลี่ยนแปลง ว 3.2 ป 5/1, ป 5/2, ป 5/3, ป 5/4, ป5/5 วิทยาการคำนวณ ว 4.2 ป4/1, ป4/2, ป4/3, ป4/4, ป4/5 รวม 31 หลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ 6 โครงสรา้ งรายวิชา ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 รหัสวิชา ว16101 เวลา 120 ชว่ั โมง / ปี ตัวช้วี ัด ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ จำนวน(ชั่วโมง) นำ้ หนกั คะแนน สารอาหารและระบบย่อยอาหาร ว 1.2 ป6/1, ป6/2, ป6/3, ป6/4, ป6/5 การแยกสาร ว 2.1 ป6/1 แรงไฟฟ้า วงจรไฟฟา้ ว 2.2 ป6/1 ว 2.3 ป6/1, ป6/2, ป6/3, ป6/4, ป6/5, ป สรุ ิยปุ ราคา จนั ทรปุ ราคาและ 6/6, ป6/7, ป6/8 เทคโนโลยีอวกาศ ว 3.1 ป6/1, ป6/2 โลกและการเปลย่ี นแปลง ว 3.2 ป6/1, ป6/2, ป6/3, ป6/4, ป6/5, ป วิทยาการคำนวณ 6/6, ป6/7, ป6/8, ป6/9 ว 4.2 ป6/1, ป6/2, ป6/3, ป6/4 รวม 30 120 100
อภิธานศัพท์ กำหนดปัญหา (Define problem) ระบคุ ำถาม ประเด็น หรอื สถานการณ์ ทเี่ ป็น ข้อสงสยั เพ่อื นำไปสู่การแก้ปญั หา หรืออภปิ ราย ร่วมกัน แกป้ ญั หา (Solve problem) หาคำตอบของปญั หาท่ยี งั ไมร่ ู้วธิ กี ารมาก่อน ทัง้ ปัญหาทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับวิทยาศาสตรโ์ ดยตรง และ ปญั หา ในชีวิตประจำวนั โดยใช้เทคนิคและ วธิ กี ารตา่ ง ๆ เขยี นแผนผงั / วาดภาพ (Construct diagram/ illustrate) นำเสนอข้อมูล หรอื ผลการสำรวจตรวจสอบด้วย แผนผงั กราฟ หรือภาพวาด คาดคะเน (Predict) คาดการณ์ผลท่จี ะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต โดยอาศยั ข้อมูลทีส่ ังเกตได้ และประสบการณ์ท่ีมี คำนวณ (Calculate) หาผลลพั ธ์จากข้อมูลโดยใช้หลกั การ ทฤษฎี หรือ วิธกี ารทางคณิตศาสตร์ จำแนก (Classify) จัดกล่มุ ของสง่ิ ต่าง ๆ โดยอาศัยลักษณะท่ี เหมือนกนั เป็นเกณฑ์ ต้ังคำถาม (Ask question) พูดหรอื เขียนประโยค หรอื วลเี พอ่ื ให้ไดม้ าซ่ึง การคน้ หำคำตอบทต่ี ้องการ ทดลอง (Conduct/ experiment) ปฏบิ ตั ิการเพอ่ื หำคำตอบของคำถาม หรอื ปัญหา ในกำรทดลอง โดยตั้งสมมติฐานเพ่ือเป็นแนวทาง ใน การกำหนดตวั แปรและวางแผนดำเนนิ การ เพื่อตรวจสอบสมมติฐาน นำเสนอ (Present) แสดงขอ้ มลู เรอื่ งราว หรอื ความคิด เพ่ือให้ผ้อู น่ื รับร้หู รือพิจารณา บรรยาย (Describe) ใหร้ ายละเอียดของเหตุการณห์ รือปรากฏการณ์ท่ี เกิดขึน้ ใหผ้ อู้ ่นื ได้รับร้ดู ว้ ยการบอกหรอื เขียน บอก (Tell) ใหข้ อ้ มลู ขอ้ เท็จจรงิ แก่ผอู้ ่ืนดว้ ยการพูด หรือเขยี น บนั ทึก (Record) เขียนขอ้ มลู ทีไ่ ดจ้ ากการสังเกต เพื่อช่วยจำ หรอื เพอื่ เปน็ หลักฐาน เปรียบเทียบ (Compare) บอกความเหมอื น และ/หรอื ความแตกต่างของ ส่ิงท่เี ทียบเคยี งกัน แปลความหมาย (Interpret) แสดงความหมายของข้อมลู จากหลกั ฐานทป่ี รากฎ เพอ่ื ลงข้อสรุป ยกตัวอยา่ ง (Give examples) ให้ข้อมูล เหตุการณ์ หรือสถานการณ์ เพอื่ แสดง ความเขา้ ใจในสง่ิ ท่ไี ด้เรียนรู้ ระบุ (Identify) ช้บี อกสิง่ ตา่ ง ๆ โดยใช้ขอ้ มูลประกอบอยา่ งเพยี งพอ
เลอื กใช้ (Select) พิจารณาและตัดสนิ ใจนำวัสดุ ส่ิงของ อปุ กรณ์ หรือวิธีการมาใชไ้ ด้อย่างเหมาะสม วดั (Measure) หาขนดหรอื ปริมาณของส่ิงตา่ ง ๆ โดยใช้เครอ่ื งมือ ที่เหมาะสม วิเคราะห์ (Analyze) แยกแยะ จัดระบบ เปรียบเทียบ จดั ลำดบั จดั จำแนก หรือเช่อื มโยงขอ้ มลู สร้างแบบจำลอง (Construct model) นำเสนอแนวคิดหรือเหตกุ ารณ์ในรูปของ แผนภาพ ช้ินงาน สมการ ขอ้ ความ คำพูด และ/หรอื ใช้ แบบจำลองเพื่ออธิบายความคิด วตั ถุ หรอื เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ สังเกต (Observe) หาขอ้ มูลด้วยการใช้ประสาทสมั ผสั ท้งั ห้ำ ทีเ่ หมาะสม ตามขอ้ เท็จจริงทปี่ รากฏ โดยไมใ่ ช้ ประสบการณ์ เดิมของผู้สงั เกต สำรวจ (Explore) หาข้อมลู เก่ยี วกบั สง่ิ ตา่ ง ๆ โดยใชว้ ธี กี ารและ เทคนิคท่ีเหมาะสมเพอื่ นำข้อมูลมาใชต้ าม วัตถปุ ระสงค์ท่ี กำหนดไว้ สบื คน้ ขอ้ มูล (Search) หาขอ้ มลู หรอื ข้อสนเทศทีม่ ีผู้รวบรวมไวแ้ ลว้ จาก แหล่งตา่ ง ๆ มาใช้ประโยชน์ สอื่ สาร (Communicate) นำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิด ขอ้ มูล หรอื ผล จากการสำรวจตรวจสอบด้วยวธิ ที เี่ หมาะสม อธิบาย (Explain) กล่าวถึงเรอื่ งราวต่าง ๆ อย่างมเี หตุผล และมี ขอ้ มูล หรอื ประจักษพ์ ยานอ้างองิ อภปิ ราย (Discuss) แสดงความคิดเห็นตอ่ ประเด็น หรอื คาถามอย่าง มีเหตผุ ลโดยอาศยั ความร้แู ละประสบการณ์ของ ผู้ อภิปรายและข้อมลู ประกอบ ออกแบบกำรทดลอง (Design experiment) กำหนดและวางแผนวิธีกำรทดลองใหส้ อดคล้องกับ สมมติฐานและตวั แปรต่าง ๆ รวมทงั้ การบนั ทกึ ขอ้ มูล
ศัพทท์ เ่ี กีย่ วขอ้ งกบั ตวั ชี้วัด สาระเทคโนโลยี การใช้ลิขสิทธข์ิ องผอู้ น่ื โดยชอบธรรม (Fair use) การนำส่ือ หรอื ขอ้ มูลที่เป็นลขิ สทิ ธิ์ของผู้อื่นไปใช้โดยชอบด้วยกฎหมาย ภายใต้เงื่อนไขบางประการ เชน่ 1) นำไปใชใ้ นการศกึ ษา หรือการคำ้ 2) งานน้ันเป็นงานวชิ ำการ หรอื บันเทิง 3) คดั ลอกเพยี งสว่ นน้อย หรือคดั ลอกจานวนมาก 4) ทำให้เจ้าของเสียผลประโยชน์ทางการเงิน มากน้อยเพยี งใด การตรวจและแกไ้ ขข้อผิดพลาด (Debugging) กระบวนการในการคน้ หาขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม เพอื่ แก้ไขใหท้ ำงานได้ถูกต้อง การประมวลผลขอ้ มูล (Data processing) การดำเนนิ การต่าง ๆ กับขอ้ มลู เพ่ือให้ได้ผลลพั ธ์ที่มีความหมาย และมปี ระโยชน์ต่อการนำไปใชง้ าน มากยิ่งขน้ึ การวบรวมขอ้ มลู (Data collection) กระบวนกรในการรวบรวมขอ้ มลู ที่เกย่ี วข้องจากแหล่งข้อมลู ตา่ ง ๆ ข้อมลู ปฐมภมู ิ (Primary data) ข้อมูลท่รี วบรวมโดยตรงจากแหล่งข้อมลู ขน้ั ตน้ โดยอาจใชว้ ิธีการสังเกต การทดลอง การสำรวจ การ สัมภาษณ์ เทคโนโลยี (Technology) สิง่ ทม่ี นษุ ย์สร้าง หรือพฒั นาขนึ้ ซง่ึ อาจเป็นได้ทัง้ ช้ินงาน หรือวิธกี าร เพอ่ื ใชแ้ กป้ ัญหา สนองความ ตอ้ งการ หรอื เพม่ิ ความสามารถในการทำงำนของมนุษย์ แนวคดิ เชงิ คำนวณ (Computational thinking) กระบวนการในการแก้ปญั หา การคิดวิเคราะหอ์ ย่างมเี หตุผลเป็นข้ันตอน เพื่อหำวิธกี ารแก้ปญั หาใน รปู แบบท่ีสามารถนำไปประมวลผลได้ แนวคดิ เชิงนามธรรม (Abstraction) การพิจารณารายละเอียดท่สี ำคญั ของปญั หา แยกแยะสำระสำคญั ออกจากสว่ นทีไ่ มส่ ำคญั ระบบทางเทคโนโลยี (Technological system) กลมุ่ ของส่วนต่าง ๆ ตง้ั แตส่ องสว่ นข้ึนไปประกอบเขา้ ด้วยกันและทำงานร่วมกันเพอ่ื ใหบ้ รรลุ วตั ถุประสงค์ โดยในการทำงานของระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบไปด้วย ตวั ปอ้ น (input) กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ท่ีสมั พนั ธ์กัน นอกจากน้รี ะบบทางเทคโนโลยีอาจมีข้อมลู ย้อนกลับ (feedback) เพือ่ ใช้ปรบั ปรุง การทำงานได้ตามวตั ถปุ ระสงค์ เหตุผลเชงิ ตรรกะ (Logical reasoning) การใชเ้ หตุผล กฎ กฎเกณฑ์ หรือเง่ือนไข ท่ีเกยี่ วขอ้ ง เพอ่ื แกป้ ัญหาได้ครอบคลมุ ทุกกรณี เหตผุ ลวิบัติ (Logical fallacy) การใช้เหตุผลที่ผดิ พลาด ไม่อยบู่ นพน้ื ฐานของความจริง ไม่มีนำ้ หนกั สมเหตุสมผล มาสนับสนุน หรือ ช้นี ำข้อสรุปที่ผดิ ให้ดูน่าเชือ่ ถือ
อตั ลักษณ์ (Identity) ลกั ษณะเฉพาะ หรอื ข้อมลู สำคัญท่ีบ่งบอกถึงความเปน็ ตวั ตนของบคุ คลหรอื สิ่งใดส่ิงหนึ่ง เช่น ชื่อบญั ชี ผู้ใช้ ใบหนา้ ลายนิว้ มือ อลั กอริทมึ (Algorithm) ขนั้ ตอนในการแก้ปัญหา หรอื การทำงาน โดยมีลำดับของคำสั่งหรือวิธีการทช่ี ัดเจน ที่คอมพวิ เตอร์ สามารถปฏิบัตติ ามได้ แอพพลิเคชนั (Software application) ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ ทที่ ำงานบนคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แทบ็ เล็ต หรืออปุ กรณเ์ ทคโนโลยีอื่น ๆ
อภิธานศพั ท์ ศัพทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกับตวั ชว้ี ัดกลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ท่ี ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ วามหมาย ๑ กำหนดปญั หา define problem ระบุคำถาม ประเด็นหรือ สถานการณ์ที่เป็น ข้อสงสัย เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาหรือ อภิปรายรว่ มกนั ๒ แกป้ ัญหา solve problem หาคำตอบของปัญหาที่ยงั ไม่รู้ วิธีการมาก่อน ทั้งปัญหาที่ เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ โดยตรงและปัญหาในชีวิต ประจำวันโดยใช้ เทคนคิ และ วธิ กี ารต่าง ๆ ๓ เขียนแผนผงั /วาดภาพ construct diagram/ นำเสนอข้อมูลหรือผลการสำรวจ ตรวจสอบ illustrate ด้วยแผนผัง กราฟ หรือภาพวาด ๔ คาดคะเน predict คาดการณ์ผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดย อาศัยขอ้ มลู ท่ีสังเกตได้ และประสบการณ์ทม่ี ี ๕ คำนวณ calculate หาผลลพั ธจ์ ากข้อมูล โดยใช้ หลักการ ทฤษฎี หรือวิธกี ารทาง คณติ ศาสตร์ ๖ จำแนก classify จัดกลุ่มของสิ่งต่าง ๆ โดยอาศัย ลักษณะท่ี เหมอื นกนั เป็นเกณฑ์ ๗ ต้ังคำถาม ask question พดู หรอื เขียนประโยค หรอื วลี เพื่อให้ได้มาซึ่ง การค้นหา คำตอบท่ีตอ้ งการ ๘ ทดลอง conduct/experiment ปฏิบัติการเพื่อหาคำตอบ ของคำถาม หรือ ปัญหาในการ ทดลอง โดยตั้งสมมติฐานเพื่อ เป็นแนวทางในการกำหนด ตัวแปรและ วางแผนดำเนินการ เพื่อตรวจสอบสมมตฐิ าน ๙ นำเสนอ present แสดงข้อมูล เรื่องราว หรือ ความคิด เพื่อให้ ผอู้ นื่ รับรู้ หรือพจิ ารณา ๑๐ บรรยาย describe ใ ห ้ ร า ย ล ะ เ อ ี ยด ข อ ง เ หต ุ ก า ร ณ์ ห รื อ ปรากฏการณท์ เี่ กิดขน้ึ ให้ ผู้อื่นได้รับร้ดู ้วยการ บอก หรอื เขียน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209