รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษารูปแบบการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน

181    “ขณะเริ่มโครงการมี อสค.ในพื้นที่ผ่านการอบรม 5 คน แต่มีคนในทีมมากมายก็ใช้ วิธีการพ่ีสอนน้อง มีการจัดอบรมถ่ายทอดความรู้กัน ตามที่ได้รับจากการอบรมของสนง.คุมประพฤติ ให้แกอ่ สค.และเครือขา่ ยทไี่ มไ่ ด้รบั การอบรมโดยตรงจากสํานักงานฯ” “ด้วยความท่ีเราเป็นคนท้องถ่ิน ทําให้เกิดความอบอุ่นระหว่างผู้ถูกคุมฯและอสค.มีอะไร ก็พูดความจริง ท่ีสําคัญหากไปรายงานตัวท่ีสํานักงานฯจะเดินทางไกลมาก แต่มาท่ีศูนย์ อ.งาว จะ สะดวก ผู้ถูกคุมฯมามาก พบปะพูดคุยบ่อย เราสามารถช่วยเหลือเขาได้ หากมีการขยายทุกเขตพื้นที่ ในประเทศไทย ก็สามารถทําให้คืนคนดสี สู่ งั คมไดม้ าก” ดา้ นการแกไ้ ขฟื้นฟผู ูก้ ระทําผดิ ทีมบูรณาการส่งเสริมการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทําผิดในชุมชนหลายประการ จาก ประสบการณข์ องสมาชกิ ทีมบรู ณาการจังหวดั นครราชสีมาพบว่า พนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสมี ากล่าวว่า ทีมบูรณาการสามารถใช้ดูแลผู้กระทํา ผิดในชุมชนไดท้ ุกชว่ งวยั และทุกประเภทคดี และยังเข้าถึงครอบครัวของผู้กระทําผิดได้ง่าย สม่ําเสมอ และท้งั ยงั ทาํ ให้ผูถ้ กู คมุ ความประพฤตใิ ชพ้ ลังกลุ่มทด่ี ใี นการชว่ ยเหลือ สมาชกิ ในกลุม่ เช่น “ทีม อ.อนงค์เกดิ ผลทีไ่ ม่คาดคิด คือ วันหนึ่งมีผู้ถูกคุมฯ คนหนึ่งย้ายไปต่างจังหวัด จึงไม่ สามารถมารายงานตัวตามกําหนดได้ อีก 19 คนท่ีเหลือโทรตาม จึงทราบว่าไม่มาเพราะไม่มีค่ารถ ทั้ง กลุ่มจึงตกลงรวบรวมเงินให้.....ครั้งหน่ึงก็มีการรวบรวมเป็นค่านมบุตรให้....อีกครั้งแม่ของผู้ถูกคุมคุมฯ เสียชวี ติ ทั้งกลมุ่ ผู้ถูกคุมฯ ไดโ้ ทรตามสมาชกิ คนอ่นื และรวมตัวกนั ไปช่วยงานฯ” ทีมจังหวัดมหาสารคาม พบว่านอกจากผู้กระทําผิดไม่ผิดเง่ือนไขแล้ว พวกเขายัง ประกอบอาชีพเป็นกิจจะลักษณะ มีการดํารงชีวิตท่ีดีขึ้น เด็กและเยาวชน และกลุ่มผู้ปกครองท่ีเข้า ร่วมกิจกรรมกับสํานักงาน กล่าวว่าพวกเขาพบแนวทางและมีกําลังใจแก้ไขปัญหาครอบครัวมากขึ้น ส่วนหน่ึงเพราะการดูแล และให้คําแนะนําจากอาสาสมัครคุมประพฤติในทีมบูรณาการ โดย อาสาสมัครคมุ ประพฤติกลา่ วว่า “ผมอาชีพทํานา เหมือนๆกับครอบครัวผู้ถูกคุมฯ ส่วนใหญ่ในพื้นท่ี ทําให้เกิด ความคุ้นเคยกบั ผูถ้ ูกคุมฯ และครอบครัว ซงึ่ ช่วยในการดูแลแก้ไขผูถ้ กู คมุ ฯมาก” ในดา้ นการป้องกนั และตดั ปัญหาพฤติกรรมเสี่ยง ทมี จังหวดั ลาํ ปาง กลา่ วว่า “อาํ เภองาวเป็นพ้ืนท่ีเสี่ยงมากในคดียาเสพติดแต่เม่ือมีโครงการนี้เราสามารถบล็อกผู้ถูก คมุ ฯ ไมใ่ ห้เข้ามามเี ครือขา่ ยเพม่ิ มากข้ึนในเขตตัวอําเภออ่นื ๆ เราจัดกิจกรรมที่งาวหมด เราไม่ได้ให้เข้า มาในอาํ เภอเมอื ง แตค่ ดฟี น้ื ฟฯู ยงั ไม่ได้ทําในอาํ เภองาวหากทํากส็ ามารถบลอ๊ คได้มากข้นึ ”

182    ในระยะแรกของการดําเนินงานทีมบูรณาการ การออกเย่ียมบ้านก็มีปัญหา เช่น อาสาสมคั รคุมประพฤติในทีมบูรณาการจังหวดั พัทลุง กลา่ วว่า “เย่ียมบ้าน ดูทุกข์สุข ด้วยความเป็นมิตร แรกๆ เขาปฏิเสธไม่ยินดี โกรธเรา รู้สึกว่าเรา ไปจับผิดเขา หลังๆ เขายินดี กลายเป็นมิตรกัน เราก็พยายามเข้าใกล้ๆ ไว้ ก็จะได้รู้จักเขามากขึ้น รู้ว่า ทาํ ไมไปทําผิด แตก่ ารใหเ้ ปลี่ยนนสิ ัยทันทเี ปน็ เรอ่ื งยาก” อาสาสมัครในทีม ได้ช่วยคิด ดําเนินการ กิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลายสอดคล้องกับ บริบทของพ้ืนท่ี เช่น กิจกรรมหิ้วปิ่นโตไปวัดท่ีจังหวัดพัทลุง กิจกรรมตักบาตรดอกไม้ ของทีมสระบุรี ผทู้ น่ี บั ถือศาสนาอสิ ลามกจ็ ัดกจิ กรรมทีม่ สั ยดิ เป็นตน้ ดา้ นความพึงพอใจ สาํ นกั งานคุมประพฤตทิ ั้ง 8 สํานกั งานท่ีดาํ เนินโครงการทีมบรู ณายงั คงดาํ เนนิ การใน รปู แบบทีมบรู ณาการตอ่ ไปหลงั จากประเมนิ ผลโครงการวิจัยแลว้ แมพ้ นกั งานคมุ ประพฤติจะรูส้ กึ วา่ “คร้ังแรกทที่ ํามันเกดิ ความวุน่ วายมากจนต้องท้อ.....แต่หลงั จากนนั้ พบว่าทมี บรู ณาการ ช่วยลดภาระ พคป. เช่น การรับรายงานตัว การติดตามสอดส่อง สงเคราะห์ ได้มาก และเป็นการ อํานวยความสะดวกใหแ้ ก่ผถู้ กู คุมความประพฤติ ชว่ ยใหเ้ จ้าหนา้ ท่ที ีมงานเกิดการเรยี นรู”้ “เมื่อนําไปใช้จรงิ ในทสี่ ดุ พบวา่ นีไ่ ม่ใชภ่ าระ แต่เปน็ การลดภาระงานโดยความรว่ มมือ ของ อสค. ซงึ่ จริงๆ แล้วคอื ผทู้ ี่รู้จกั ชมุ ชนดีกว่า เจ้าหน้าทีห่ ลายคนรอวา่ เม่ือไหร่จะนาํ มาใช้ในเขตพน้ื ที่ ที่ตนรับผิดชอบได”้ “เม่อื ก่อนทํางานคนเดียวต้องไปรบั รายงานตวั หรอื ตดิ ตามผูถ้ กู คมุ ฯทีอ่ ําเภองาว อยหู่ ่าง จากสาํ นกั งานฯ 90 กม.ผมตอ้ งตนื่ ประมาณตี 5 ต้องใช้เวลามาก ตงั้ แต่มีโครงการน้มี ากม็ อี ะไรดีๆข้นึ ” จากประสบการณ์ มมุ มองของอาสาสมัครคมุ ประพฤติ พบว่าอาสาสมัครคมุ ประพฤติท่ี เขา้ รว่ มโครงการมคี วามพงึ พอใจการทาํ งานแบบทมี บูรณาการเนอ่ื งจากเหตุตา่ งๆ เช่น “ทีมบูรณาการทําให้อสค.มีส่วนร่วมดูแลผู้ถูกคุมฯ ต้ังแต่ผู้ถูกคุมฯเริ่มเข้าสู่การคุม ประพฤติจนพ้นจากการคุมประพฤติ ช่วยให้ได้เห็นความเปล่ียนแปลงต่อเน่ืองของผู้ถูกคุมฯ ว่าเป็น อย่างไร เหน็ ภาพผลการทํางานของเราอย่างชดั เจน ไดช้ ว่ ยเต็มท่ี ครอบครวั เขาก็คยุ กนั ช่วยกันดแู ล” “อยากใช้เวลาท่ีมีทําประโยชน์ จะทําด้านฝึกอาชีพ พอคุมประพฤติมีโครงการนี้ก็ตรงใจ ใชเ้ งินเกษยี ณกอ่ นกําหนดมาปรบั ปรุงบ้านเป็นศนู ย์ประสานงาน อสค.ก็ได้รับความช่วยเหลือจากอสค. ด้วยกัน จากท่านประธานอสค.แก่งคอย ช่วยแนะนําการก่อสร้างปรับปรุงศูนย์ประสานงาน ใช้เป็น สถานที่รบั รายงานตวั จดั กิจกรรม และเป็นศูนยฝ์ กึ อาชพี ก็ดึงพวกลูกศิษย์มาช่วยงาน ถ้าผู้ถูกคุมฯ ไม่ มาก็ไปตามที่บ้าน หาบ้านไม่เจอก็ไปที่อําเภอ ประสานงานฝ่ายปกครอง ตามจนเจอ บางรายมี

183    หมายจับ ก็พาไปพบศาลไปรับรองว่าจะดูแลใกล้ชิด ศาลก็เข้าใจให้คุมประพฤติต่อ เป็นผลดีกับผู้ถูก คุมฯ เราก็จะดูแลเขาให้ใกล้ชิดไม่ให้ทําผิดอีก ที่ผ่านมาพคป.มีคดีเยอะดูไม่ท่ัวถึง ตอนน้ีเราก็มา ชว่ ยกนั เพราะเปน็ ลกู หลาน เปน็ ลกู ศษิ ยเ์ ราทงั้ น้นั ” “ภูมิใจในการทําหน้าที่ อสค. คิดว่าเป็นการใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีคุณค่า เพราะงานคุม ประพฤติเปน็ งานท่มี ีประโยชน์ต่อสังคม แต่มกั ถูกลืม” “คิดว่าการทํางานแบบทีมเป็นวิธีการทํางานท่ีดี มีความพึงพอใจ เพราะได้รับความ เคารพนบั ถือ และดใี จท่มี ีสว่ นชว่ ยคนื คนดสี สู่ ังคม” “มกี ารหารือทีม ได้ข้อสรุปว่าเรามาร่วมโครงการด้วยใจ เพราะอยากเห็นความผิดพลาด ของเยาวชนในอําเภอได้รบั การแก้ไข” “พอใจโครงการนี้ ช่วยกันทํางานหลายคน อยู่หมู่บ้าน เขาก็รู้ว่าเราทํางานช่วยป้องกัน ชุมชน เดินไปไหน เขาเรียกแม่ ผถู้ ูกคมุ ฯ เรยี กแม่ เชอ่ื ฟังเรา ปรึกษาเรา กภ็ ูมิใจ เขาเป็นคนดกี ็ชน่ื ใจ” “พอใจในการทาํ งานในรปู แบบทมี บรู ณาการ เพราะเช่ือว่าเปน็ วธิ ีการทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ” “อาสาสมคั รในทมี มีความภมู ิใจ และทาํ ใหม้ อี าสาสมคั รคนอน่ื ๆตัง้ ใจขอเขา้ รว่ มเป็นส่วน หนง่ึ ของทมี บรู ณาการชุมชนเพมิ่ ข้ึน” การดาํ เนนิ การตอ่ ไปของสาํ นกั งานคุมประพฤติ สาํ นักงานคุมประพฤติในโครงการนาํ ร่องทกุ แห่ง ยงั คงดําเนินการทีมงานบูรณาการ และ บางสํานักงานทข่ี ยายพน้ื ทดี่ าํ เนินการ เชน่ สาํ นักงานคมุ ประพฤติจังหวดั นครราชสมี า “มีการขยายพ้ืนท่ีดําเนินการไปท่ีอําเภอครบุรีแล้ว โดยต้องการขยายให้ครอบคลุมทุก อําเภอ” เชน่ เดยี วกับสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดเชยี งราย “มีการขยายการดําเนินงานไปในพื้นที่อ่ืน แต่ไม่เต็มรูปแบบ เช่น อําเภอแม่สวย ดอยวา วี บ้านดอยชา้ ง (คนเผา่ ) ซง่ึ เดิมมีปัญหาไม่มารายงานตัวเน่ืองจากอยู่ไกล ขาดการทํางานบริการสังคม และภาษาอาข่าซ่ึงเข้าใจยาก ทีมอาสาสมัครในพื้นท่ีจึงมาช่วยได้มาก อยากให้ขยายโครงการไปใช้กับ พื้นทอี่ น่ื โดยเฉพาะท่ีห่างไกล เพราะอสค.สามารถเข้าถึงผ้ถู ูกคมุ ฯ และแก้ไขได้ดกี วา่ ” “ปจั จบุ ันถงึ แมโ้ ครงการวิจยั น้จี ะเสร็จแล้ว แต่สํานักงานฯก็ยังคงรูปแบบการทํางานแบบ นีต้ อ่ ไป เพราะเปน็ วิธกี ารทีส่ ามารถเข้าถงึ ผู้ถูกคมุ ฯและผ้ฟู ืน้ ฟไู ดม้ ากข้ึน” อย่างไรก็ตามทุกสํานักงานมีข้อกังวลใจเช่นเดียวกันเก่ียวกับข้อจํากัดด้านจํานวนอสค. และเครอื ข่ายทีม่ ีคุณภาพ

184    5.2.3 โครงการทีมบูรณาการกับบรบิ ทของพืน้ ทดี่ ําเนนิ การ แมจ้ ะมหี ลักการในการดาํ เนินการร่วมกัน และมีการกําหนดกรอบ รูปแบบ แนวทางการ ดาํ เนนิ โครงการทมี บรู ณาการร่วมกันของทุกสํานักงานนําร่อง ร่วมถึงมกี ารจัดทาํ เค้าโครง แนวทางการ ดําเนินงาน และคู่มือการปฏิบัติงานร่วมกัน แต่หลักการหน่ึงของการดําเนินโครงการวิจัยการยืดหยุ่น การดําเนินงานภายใต้หลักการสําคัญร่วมกันคือการทํางานเป็นทีมร่วมกับอาสาสมัครในชุมชน ดังนั้น จึงมีการเปิดให้สํานักงานคุมประพฤติแต่ละแห่งสามารถปรับ อัตราส่วนระหว่างพนักงานคุมประพฤติ และอาสาสมัครคุมประพฤติในทีมบูรณาการ และปรับวิธีการทํางาน รวมทั้งใช้กิจกรรมการควบคุม สอดส่อง การแก้ไขฟ้ืนฟู การทํางานบริการสังคม การให้การสงเคราะห์ และการกําหนดประเภทคดี จํานวนผู้กระทําผิด พ้ืนท่ีในการดําเนินโครงการ ได้ตามความพร้อมของสํานักงานและตามบริบทของ พ้ืนที่ในแต่ละจังหวัด ทั้งนี้เพื่อค้นหาวิธีการปฏิบัติที่ได้ผลดีสําหรับแต่พื้นท่ี (what work หรือ best practice) ดังน้ัน สํานักงานคุมประพฤติแต่ละแห่งจะมีอัตราส่วนของจํานวนอาสาสมัครในทีม บูรณาการต่างกัน และสํานักงานส่วนใหญ่จะนําเครือข่ายยุติธรรมชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วยภายใต้ การนําของอาสาสมัครคุมประพฤติท่ีมีศักยภาพ บางสํานักงานดําเนินการทุกอําเภอเช่นสํานักงานคุม ประพฤติจังหวัดมหาสารคาม และสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดพัทลุง บางสํานักงานดําเนินการใน บางพ้ืนท่ี บางสํานักงานใช้เฉพาะคดีเข้าใหม่ บางสํานักงานใช้คดีทุกคดีท่ีอยู่ระหว่างการดําเนินงาน ของสํานักงาน และเน่ืองจากโครงการวิจัยคร้ังน้ี มีหลักคิดว่า การทดลองดําเนินการจะปรากฏผลตาม ธรรมชาติ และตามความเป็นจริงเมื่อ สํานักงานคุมประพฤติทั้งผู้บริหารและผู้ปฏิบัติมีความเข้าใจ เก่ียวกับหลักการ และแนวคิด วัตถุประสงค์ของโครงการวิจัย ดังนั้นสํานักงานท่ีเข้าร่วมโครงการ ทดลองจึงมีหลักมาจากความสมัครใจของสํานักงานคุมประพฤติ และอาสาสมัครคุมประพฤติ และใน การนาํ หลักการทมี บรู ณาการไปปฏิบัติสํานักงานคุมประพฤติแต่ละแห่งได้มีการปรับปรุงวิธีการทํางาน เป็นระยะโดยการประชุมทีมเพ่ือแก้ไขปัญหา และวางแนวทางที่เหมาะสมมากขึ้นเร่ือยๆ ซึ่งเป็นการ เรียนรู้จากการปฏิบัติ ดังนั้นวิธีการทํางานของทีมในระยะทดลองจะมีการพัฒนาปรับปรุงมาตลอด และจากผลการทดลองพบว่า นอกจากทีมบูรณาการจะสามารถใช้ได้กับผู้กระทําผิดในชุมชนทุกประเภทแล้ว ยัง สามารถนําไปใช้ในการติดตามสงเคราะห์ผู้กระทําผิดภายหลังปล่อยได้เป็นอย่างดี เช่นในการทดลอง ดําเนินงานของสํานักงานคุมประพฤติประจําศาลจังหวัดมีนบุรี จึงช่วยให้การดูแลผู้พ้นโทษ พ้นการ คุมความประพฤติเป็นรูปธรรมครบวงจร ซึ่งคาดว่าน่าจะช่วยลดอัตราการกระทําผิดซ้ํา ลดอันตรายท่ี จะเกิดต่อชุมชนไปได้ส่วนหน่ึง อย่างไรก็ตาม จากการถอดบทเรียนของผู้ดําเนินการทีมบูรณาการพบ ปัจจัยแห่งความสําเร็จในการดําเนินงานของทีมบูรณาการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นเร่ืองการบริหารจัดการ ในพื้นที่ แต่จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงพบว่าปัจจัยแห่งความสําเร็จท่ีเป็นปัจจัยหลัก คือ

185    นโยบายขององค์กร ท่ีจะช่วยขับเคล่ือนให้การดําเนินการทุกอย่างมีความเป็นไปได้ในทางปฎิบัติ ซ่ึง จากสรุปผลการวิจยั และการอภิปรายสามารถตอบคาํ ถามและสมมุติฐานการวจิ ยั ไดด้ ังน้ี 1. ผู้กระทําผิดท่ีเข้าโครงการทดลองได้รับการสอดส่อง ดูแล แก้ไขอย่างทั่วถึงเพ่ิม มากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการทํางานในรูปแบบเดิม เนื่องจากพนักงานคุมประพฤติในโครงการ ทดลองมีทีมผู้ช่วยปฏิบัติงานอยู่ในชุมชน ท่ีสามารถสอดส่อง ติดตามผู้กระทําผิดได้ตามแผนการแก้ไข ฟ้ืนฟู ต่างจากเดมิ ท่ีผู้ถกู คุมประพฤตจิ ํานวนมากไม่ไดร้ ับการเยย่ี มบ้าน 2. ผกู้ ระทาํ ผิดในโครงการทดลองปฏิบัติตามเง่ือนไขเพ่ือการคุมความประพฤติ หรือ คําวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดฯ คิดเป็นร้อยละ 85.49 2 ซ่ึงเป็นไป ตามสมมติฐานการวิจัยท่ีว่าผู้กระทําผิดท่ีเข้าโครงการทดลองจะปฏิบัติตามเง่ือนไขเพ่ือการคุมความ ประพฤติ หรือคาํ วนิ จิ ฉยั ของคณะอนุกรรมการฟ้ืนฟสู มรรถภาพผ้ตู ดิ ยาเสพตดิ ไม่ตํ่ากว่ารอ้ ยละ 80 3. พนักงานคุมประพฤติบริหารจัดการงานคดีได้โดยไม่มีสํานวนคดีค้างดําเนินการ เนื่องจากทีมบูรณาการมีการประชุมทางคดี (case conference) ทุก 1-3 เดือนต่อครั้ง เพ่ือ ประเมินผล ปรบั แผน และดาํ เนนิ การแกไ้ ขทันทีเมอ่ื พบปญั หา 4. พนักงานคุมประพฤติ อาสาสมัครคุมประพฤติ และเครือข่ายยุติธรรมชุมชน มี ความพึงพอใจในการมีสว่ นรว่ มแกไ้ ขฟื้นฟูผกู้ ระทาํ ผดิ ในชุมชนของตนเพม่ิ มากข้ึน พนักงานคุมประพฤติและอาสาสมัครคุมประพฤติสามารถบูรณาการทํางานร่วมกันใน การแก้ไขฟ้ืนฟูผู้กระทําผิดในชุมชนได้ โดยมีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทําผิดใน ชุมชน ภายใต้เง่อื นไขทีเ่ ปน็ ปัจจยั สคู่ วามสาํ เรจ็ ได้แก่ 1. นโยบายขององค์กรในการสนับสนุนการดําเนินงานทีมบูรณาการอย่างชัดเจน เปน็ รปู ธรรม และต่อเนื่อง 2. การบริหารจัดการทีมงาน ที่มีการวางแผน การมอบหมายงาน รวมท้ังการกํากับ ดูแลอยา่ งเป็นระบบ เพือ่ ให้การดาํ เนินงานเปน็ ไปตามวัตถุประสงค์ 3. การมีระบบเครือข่ายฐานข้อมูลคดี และข้อมูลอาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่าย ยุติธรรมชุมชนในพื้นท่ีที่เป็นปัจจุบัน และมีการเช่ือมโยงในระดับจังหวัด และ ระดับกรม 4. มีกลไกการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล การปฏิบัติงาน ท่ีถูกต้อง ตาม มาตรฐาน เพ่ือการรับรองคุณภาพงาน และเพื่อการพัฒนาวิธีการฏิบัติงานอย่าง ต่อเนื่อง 5. ความเข้าใจของผู้บริหารและผู้ปฏิบัติ ทุกระดับ เก่ียวกับหลักการ และแนวทาง ของทีมบูรณาการ และแนวคิดยุติธรรมชุมชน รวมทั้งการสนับสนุนการจัดการ ความรู้ (Knowledge Management) ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอยา่ งกวา้ งขวาง จริงจงั

186    6. สัมพันธภาพและทัศนคติที่ดีระหว่างพนักงานคุมประพฤติ อาสาสมัครคุม ประพฤติ และเครือข่ายยุติธรรมชุมชน รวมถึงความมุ่งม่ันร่วมกันในการแก้ไข ฟ้ืนฟูผูก้ ระทําผดิ ในชุมชน 7. พนักงานคุมประพฤติ อาสาสมัครคุมประพฤติ และเครือข่ายยุติธรรมชุมชน ท่ี ได้รับการพัฒนาองค์ความรู้หรือถ่ายทอดความรู้ทางด้านงานยุติธรรมชุมชน การ ทาํ งานเป็นทีม 8. อาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ที่มีจิตอาสา มีความต้ังใจมุ่งม่ัน ความเสียสละ ความพร้อม และมีศักยภาพในการปฏิบัติงานที่มีปริมาณ และมี การกระจายตัวครอบคลมุ ทุกพืน้ ที่ 9. สถานะ บทบาทในชุมชน และสมรรถนะของอาสาสมัครคุมประพฤติ และ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ในการเช่ือมต่อความร่วมมือในการดําเนินงานคุม ประพฤตกิ ับ ประชาชน และสถาบนั ตา่ งๆ ในชมุ ชน 10. มีศูนย์ประสานการดาํ เนนิ งานในชมุ ชนที่เป็นสัดส่วน มีวัสดุอุปกรณ์ที่จําเป็น และ เป็นสถานทท่ี ่ีสะดวก ตอ่ การเป็นศูนยก์ ลางในการทาํ งานเชิงพน้ื ที่ 11. งบประมาณที่เพียงพอต่อการสนับสนุนการดําเนินงานของสํานักงานคุมประพฤติ และทมี บรู ณาการ นอกจากน้ัน ทีมบูรณาการชุมชน ยังสามารถตอบสนอง นโยบายของกระทรวงยุติธรรม ในด้านการบําบัดฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติดในระบบบังคับบําบัด ตาม พ.ร.บ.ฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพ ติด พ.ศ. 2545 ด้านการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกระดับและความเข้มแข็งของชุมชน โดยเฉพาะโครงการอาสาสมัครคุมประพฤติและเครือข่ายยุติธรรมชุมชน ด้านการทําให้ผู้กระทําผิด กลับตนเปน็ คนดแี ละมีวิถชี วี ติ เปน็ ปกติสขุ ด้านการนาํ ระบบคมุ ประพฤติมาใช้แก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นคุก โดยในปีงบประมาณ 2555 ได้มีการจัดอบรมพนักงานคุมประพฤติและอาสาสมัครคุมประพฤติใน โครงการทมี บูรณาการเพ่ิมขึน้ อีก 20 สํานักงาน เพื่อใหด้ แู ลผู้รบั การพกั การลงโทษ หรอื ผู้รบั การลดวัน ต้องโทษที่มีเงือ่ นไขคุมความประพฤติ ตามนโยบายลดความแออัดในเรอื นจาํ 5.3 ข้อเสนอแนะจากการวจิ ัย รูปแบบทีมบรู ณาการชุมชน เป็นกา้ วแรกของการเข้าสู่วิถียุตธิ รรมชมุ ชน ซึง่ สอดคลอ้ ง กบั ทศิ ทางการพฒั นาระบบงานคุมประพฤตสิ ากล ตอบสนองต่อนโยบายแหง่ รัฐ และนโยบาย กระทรวงยตุ ธิ รรม และยทุ ธศาสตรข์ องกรมคมุ ประพฤติ ผลจากการนาํ ทีมบรู ณาการไปทดลองใชข้ อง สํานกั งานคมุ ประพฤติ ปรากฏวา่ ไดผ้ ลทีด่ ใี นด้านการบริหารจัดการคดี ทาํ ใหผ้ กู้ ระทําผดิ ได้รบั การ

187    ดูแลแกไ้ ขและการสงเคราะหอ์ ย่างทว่ั ถงึ และใกล้ชดิ มากยิง่ ขน้ึ อยา่ งไรกต็ ามทีมบูรณาการชุมชนเป็น เพยี งความพยายามในการพฒั นางานคุมประพฤติ และเปน็ ก้าวแรกของการนําสู่ยุติธรรมชมุ ชน ซ่ึง หากได้รบั การพัฒนาใหม้ ีความเข้มแข็งมากข้ึน อาสาสมัครคมุ ประพฤติ และเครอื ขา่ ยยตุ ธิ รรมชุมชนที่ เป็นสมาชิกทีมบูรณาการ จะสามารถถา่ ยทอดความรูเ้ กีย่ วกบั งานคมุ ประพฤตแิ ละยุติธรรมชุมชนสู่ ชมุ ชนไดแ้ พร่หลายมากขนึ้ และยกระดับขน้ึ มาเปน็ ภาคประชาสังคมทเี่ ป็นผู้นําทีมบรู ณาการชมุ ชน และเปน็ ผ้แู ทนของสํานักงานคมุ ประพฤติทเ่ี ป็นแกนนาํ ในการประสานความรว่ มมอื กบั สถาบนั ตา่ งๆ ในชุมชน ต่อไป ซึ่งผ้วู ิจยั มขี อ้ เสนอแนะเกยี่ วกับรูปแบบการแก้ไขฟื้นฟูผูก้ ระทาํ ผิดในชุมชนโดยการมี ส่วนร่วมของชมุ ชน หรอื ทมี บรู ณาการเพอ่ื การแก้ไขฟื้นฟผู กู้ ระทาํ ผิดในชุมชน ดังนี้ 4.1.1 ข้อเสนอแนะสาํ หรับสํานักงานคุมประพฤติ ข้อเสนอแนะสาํ หรับสํานกั งานคมุ ประพฤติทีด่ ําเนนิ โครงการทีมบูรณาการและสาํ นกั งาน คมุ ประพฤติท่ีประสงคจ์ ะพฒั นางานทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั การแกไ้ ขฟน้ื ฟผู ู้กระทาํ ผดิ ในชุมชน มีดังนี้ 1. สาํ นกั งานคมุ ประพฤติพงึ ตระหนกั ว่าการปอ้ งกันอาชญากรรม (crime prevention) เกดิ ข้ึนได้ทกุ เม่อื ท่ีเราสามารถเชอ่ื มโยงผกู้ ระทาํ ผิดเขา้ กับชุมชนได้ ในขณะเดยี วกัน อาสาสมัครคมุ ประพฤติ และเครือขา่ ยยุตธิ รรมชมุ ชน สามารถเปน็ แกนนําในการเช่ือมโยงงานคุม ประพฤติเขา้ กับชุมชนได้ ยงิ่ ผกู้ ระทาํ ผดิ รู้สกึ วา่ เปน็ สว่ นหน่ึงของชมุ ชนมากขน้ึ เท่าไหร่ ยง่ิ ได้ผลในเชิง ปอ้ งกันผกู้ ระทําผดิ จากการกระทาํ ผิดซํ้าไดม้ ากขึ้นเท่านนั้ 2. การนาํ ทมี บรู ณาการมาใช้ในพ้ืนที่ตอ้ งเริ่มจาก ความต้องการในการพัฒนางาน รว่ มกนั ของสํานักงานคมุ ประพฤติและอาสาสมคั รคมุ ประพฤติ และการพัฒนาความรู้ความเขา้ ใจ เกยี่ วกับการทาํ งานแบบทีมบรู ณาการ ซงึ่ ไดจ้ ากการนิเทศ อบรม สอนงาน และการศึกษาดูงาน 3. การเตรียมการตอ้ งเร่ิมจากการบริหารงานคดีเชิงพื้นที่ คอื การจ่ายคดตี ามเขต พ้นื ที่ จากนน้ั อาจพิจารณาจา่ ยคดตี ามประเภทของคดีในพืน้ ท่ีได้ตามความเหมาะสม และตอ้ งจดั ทํา แผนทช่ี มุ ชนแสดงการกระจายตัวของผู้กระทาํ ผดิ การกระจายตัวของอาสาสมคั รคมุ ประพฤติ และ เครือขา่ ยยตุ ิธรรมชมุ ชน เพอ่ื การจดั โครงสรา้ งทีมบรู ณาการทีเ่ หมาะสม 4. การนําคดีเขา้ สทู่ มี บรู ณาการ สามารถใชค้ ดที อ่ี ย่รู ะหวา่ งดําเนินการ หรือคดที ค่ี ้าง ดาํ เนนิ การ ซง่ึ จะมสี ว่ นชว่ ยสาํ นักงานคมุ ประพฤตไิ ดม้ ากกว่าการเริ่มตน้ ใช้เฉพาะคดีเขา้ ใหม่ แล้วยงั งา่ ยตอ่ การบริหารจดั การระบบงานงานคดี 5. การพัฒนาบคุ ลากร เจา้ หน้าท่ี และอาสาสมคั รคมุ ประพฤติ อาจทาํ ไดห้ ลาย รปู แบบ เชน่ การใชว้ ธิ ีการบริหารจัดการความรู้ การจดั ฝึกสอนงานในสํานักงานคุมประพฤติเป็น รายบุคคล หรอื เปน็ กลมุ่ ย่อย การศึกษาดูงานในสํานักงานคมุ ประพฤตนิ าํ ร่อง เปน็ ต้น

188    6. พนกั งานคุมประพฤติ ซ่ึงจะรับหน้าที่เป็นหวั หนา้ ทมี ตอ้ งเป็นบคุ คลท่สี ามารถ ทํางานรว่ มกับอาสาสมัคร และชมุ ชนได้ดี โดยเป็นผู้มคี ุณสมบัติไมน่ อ้ ยกว่าคุณสมบัติท่ีกรมคุม ประพฤตกิ ําหนดใหเ้ ป็นคุณสมบัตขิ องอาสาสมัครคุมประพฤติ 7. พนักงานคมุ ประพฤติพงึ ตระหนักว่า แมต้ ามหลักการ ทมี บูรณาการจะชว่ ยลด ภาระงานของพนักงานคมุ ประพฤติได้ แต่พนักงานคมุ ประพฤตยิ ังคงต้องรบั ผดิ ชอบต่อคุณภาพงาน ดังนน้ั พนกั งานคมุ ประพฤตติ อ้ งมีความรับผดิ ชอบเข้มข้นมากขน้ึ โดยต้องเพ่ิมบทบาทเปน็ ผสู้ อนงาน ผคู้ วบคมุ คณุ ภาพ ตรวจสอบ และผรู้ ับรองคณุ ภาพงาน และต้องดแู ลความเคลื่อนไหวของคดอี ย่าง ใกล้ชิด ดว้ ยวธิ ีการประชมุ คดี (case conference) อย่างสมํา่ เสมอ 4.1.2 ข้อเสนอแนะสาํ หรับกรมคุมประพฤติ เมอื่ พิจารณาจากประโยชน์ที่ได้รบั จากการทดลองใช้ทมี บรู ณาการเพือ่ การแกไ้ ขฟ้นื ฟู ผกู้ ระทาํ ผดิ ในชุมชน และความประสงคข์ องสํานกั งานคุมประพฤตนิ าํ รอ่ งท่ีจะดาํ เนินการทมี บรู ณา การต่อไปในลักษณะงานประจําหลงั จากเสรจ็ สิ้นโครงการศึกษาครั้งน้แี ลว้ กรมคุมประพฤตอิ าจให้ ความสนบั สนนุ ในการพัฒนาระบบงานควบคุมสอดสอ่ งโดยการนาํ ทมี บรู ณาการมาใช้ในการบริหาร และปฏบิ ัตงิ านได้ โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ คอื ระยะสนั้ และระยะยาว ดังนี้ การดําเนินการสนบั สนุนระยะท่ี 1 (พ.ศ.2556) 1. สนับสนนุ ใหส้ าํ นกั งานคุมประพฤตนิ ํารอ่ งในการศึกษาคร้งั นี้ สามารถดําเนนิ งาน ทีมบรู ณาการตอ่ ไปไดใ้ นลกั ษณะงานประจาํ เพื่อใหเ้ กดิ การพัฒนารปู แบบ วิธีการทํางานท่ตี ่อเนอื่ ง และมีหลักฐานเชิงประจักษ์ทีม่ นี ยั สาํ คญั ทีแ่ สดงใหเ้ หน็ ถึงผลสัมฤทธ์ิของทมี บรู ณาการชมุ ชน 2. สนบั สนุนใหส้ าํ นกั งานคุมประพฤตินาํ ร่องสามารถขยายพื้นทีก่ ารดาํ เนินงานของ ทีมบูรณาการให้ครอบคลุมพน้ื ทท่ี ้งั จงั หวดั เพ่ือประโยชนใ์ นการศกึ ษาเปรยี บเทียบผลสมั ฤทธ์ิของงาน การสนับสนนุ ตามขอ้ 1 – 2 ทําได้โดยการพจิ ารณาจัดสรรงบประมาณค่าพาหนะให้แก่ อาสาสมัครคุมประพฤติทีเ่ ข้าร่วมทํางานกับสํานกั งานคุมประพฤตติ ามความเปน็ จรงิ และพจิ ารณาให้มี การจดั อบรมอาสาสมัครคมุ ประพฤติใหม่ และจดั อบรมพัฒนาศกั ยภาพอาสาสมคั รคุมประพฤติเพื่อ รองรับการทาํ งานแบบทมี บรู ณาการเพม่ิ ตามความต้องการของสํานกั งาน ทั้งน้ีกรมคมุ ประพฤติ สามารถพิจารณาจดั ทาํ หลักสตู รเรง่ รดั หรือ หลกั สตู รเฉพาะสาํ หรับอาสาสมัครคุมประพฤติผมู้ ี คณุ สมบัติพิเศษ โดยการดําเนนิ การตามขอ้ 1 และ 2 เปน็ สิง่ ทก่ี รมคมุ ประพฤตสิ ามารถสนับสนุนการ ดาํ เนนิ งานได้ทันที เพราะสาํ นักงานคุมประพฤตดิ งั กลา่ วมีประสบการณ์ และมคี วามพรอ้ มอยู่แล้ว 3. พิจารณาใหส้ ํานกั งานคุมประพฤตทิ กุ สํานักงานนาํ รูปแบบทีมบรู ณาการไปใชก้ บั คดีทผี่ ูร้ บั บรกิ ารเป็นเดก็ และเยาวชน เนอ่ื งจาก สํานักงานคมุ ประพฤตทิ ่ัวประเทศส่วนใหญม่ ีพนักงาน คุมประพฤตทิ ่รี บั ผดิ ชอบคดเี ดก็ และเยาวชนเพยี งคนเดียว และในบางสาํ นักงาน พนักงานคุมประพฤติ

189    ทีร่ ับผดิ ชอบคดเี ด็กและเยาวชนตอ้ งรบั ผิดชอบภารกิจอืน่ ด้วย ในขณะทเ่ี ดก็ และเยาวชนซ่ึงเปน็ อนาคต ของชาตเิ ป็นกลุ่มผู้รับบรกิ ารท่ตี ้องการดแู ลแกไ้ ขอยา่ งใกลช้ ดิ ดงั นน้ั การใชท้ ีมบูรณาการจะชว่ ยให้ สามารถเขา้ ถงึ เยาวชนและครอบครวั ไดซ้ งึ่ จะเป็นประโยชน์ต่อการดแู ลแกไ้ ขฟ้นื ฟเู ยาวชนไดอ้ ย่างดี 4. พิจารณาให้สํานักงานคุมประพฤตทิ ่ัวประเทศทม่ี ีความพร้อม นํารูปแบบทมี บูรณาการมาใช้เพ่ือแกไ้ ขปญั หาคดคี ่ังค้าง หรือปอ้ งกันปัญหาคดีคา้ งการเขียนรายงาน เพื่อใหผ้ กู้ ระทํา ผิดได้รับการดูแลอยา่ งทัว่ ถงึ และสมาํ่ เสมอ เพือ่ ใหผ้ ู้พ้นโทษได้รับการตดิ ตามสงเคราะหไ์ ดม้ ากขึน้ และ เพือ่ ใหช้ มุ ชนมสี ว่ นร่วมในการดแู ลแก้ไขผกู้ ระทาํ ผดิ และให้มกี ารทาํ งานบริการสงั คมเชงิ พนื้ ท่ี อันเปน็ การชดเชยความเสียหายใหก้ บั ชมุ ชน และสรา้ งความผกู พนั ให้แกผ่ ถู้ ูกคุมความประพฤติและชุมชน การสนบั สนนุ ตามขอ้ 3–4 สามารถทําได้โดยการพจิ ารณาจัดสรรงบประมาณค่าพาหนะ ใหแ้ กอ่ าสาสมคั รคุมประพฤตติ ามความเปน็ จริง และพจิ ารณาให้มีการนเิ ทศ หลกั การแนวคิด วิธกี าร ทมี บรู ณาการ แก่ผบู้ รหิ ารและผปู้ ฏิบตั ิของสํานักงานคุมประพฤติ การอบรมพฒั นาพนักงานคุม ประพฤติ และอาสาสมัครคุมประพฤติเพื่อรองรบั การทํางานแบบทมี บูรณาการ 5. ควรมีการพฒั นาหลักสตู รการฝกึ อบรมพนกั งานคุมประพฤติ และอาสาสมคั รคุม ประพฤติ มีการจดั ทําเกณฑค์ ุณสมบตั ิของผู้ปฏิบตั ิงานและผรู้ ่วมปฏิบตั ิงานในแตล่ ะข้นั ตอนของการ คมุ ประพฤติ และจดั ทาํ เกณฑ์มาตรฐานการรบั รองคณุ ภาพงาน รวมท้งั เผยแพรค่ วามรูค้ วามเข้าใจ เกยี่ วกบั ความเคลื่อนไหวของการดําเนินงานคุมประพฤตสิ ากล และแนวคดิ ยตุ ิธรรมชุมชน เพือ่ รองรับ และพัฒนาการดาํ เนินงานการดาํ เนนิ งานควบคมุ และสอดสอ่ ง และการแก้ไขฟน้ื ฟูผูก้ ระทําผดิ 6. ควรมีการขอต้ังงบประมาณเพ่อื การอบรมอาสาสมคั รคมุ ประพฤติเข้าใหม่ตาม โครงการ 1 อสค.1 ตาํ บล และงบประมาณคา่ พาหนะในการปฏบิ ตั งิ านของ อสค. เพิ่มขึน้ เนือ่ งจาก การทาํ งานแบบทีมบูรณาการถ้าครอบคลุมทุกพืน้ ทจี่ ะเท่ากับเปน็ การสง่ คดีให้ อสค.มสี ่วนรว่ มถึงร้อย ละ 100 ซ่งึ เดมิ มกี ารดาํ เนินการเพียงรอ้ ยละ 10-17 การดําเนินการสนับสนนุ ระยะที่ 2 (พ.ศ.2557-2558) การนาํ รูปแบบทีมบูรณาการมาใช้ในการบรหิ ารและการปฏิบตั ิงานคุมประพฤติ เปน็ การ ปรบั เปลย่ี นกระบวนการทํางานครง้ั ใหญ่เปน็ ครงั้ แรกของระบบงานคุมประพฤติในประเทศไทย แต่ เปน็ เพยี งกา้ วแรกในการพัฒนาระบบงานคมุ ประพฤติส่รู ะดบั สากล ดงั นน้ั กรมคมุ ประพฤตจิ ึงควร พจิ ารณาถงึ แผนการปรบั องค์กรอยา่ งเป็นระบบ โดยนอกจากจะพจิ ารณาเฉพาะปญั หาและอุปสรรค ของการทาํ งานท่ผี จญอยู่เปน็ ประจาํ แล้ว ควรพิจารณาถึงองค์ความรเู้ ก่ียวกับงานคุมประพฤตใิ นระดับ สากลว่า หนว่ ยงานคุมประพฤติในประเทศต่างๆ มกี ารแกไ้ ขปัญหา และพัฒนาองคไ์ ปในทิศทางไหน อยา่ งไร และนําสง่ิ ท่ีเปน็ ประโยชนม์ าปรับใชต้ ามต้นทุนท่ีมีอยูใ่ หเ้ หมาะสมกับบริบทของสังคมไทย ไม่ ว่าเป็นการนาํ แนวคิดยตุ ธิ รรมชมุ ชน การนาํ เทคโนโลยี หรือการนาํ แนวคดิ การดูแลแบบครบวงจร

190    (through-care) และอ่นื ๆ มาใช้ ภายใต้หลกั คิดว่า ศักยภาพขององค์กรไมไ่ ดอ้ ย่ทู ีเ่ ทคโนโลยเี ทา่ น้นั แต่อยทู่ ีก่ ารประสานทักษะ ความร้ขู องคนในองค์กร และระบบการให้รางวัล วฒั นธรรม กระบวนการ และการออกแบบองคก์ ร ดังน้นั ผ้วู จิ ยั ขอนําเสนอตามแนวทางการวิเคราะห์องคก์ ร และออกแบบ องคก์ ร (organisational design framework) แบบ Five Star Model ของ Jay Galbraith ซ่ึงเปน็ วิธีทใี่ ช้กันมากที่สดุ ประกอบดว้ ยการพจิ ารณาในด้าน กลยุทธ์ (strategy) โครงสรา้ ง (structure) กระบวนการ (processes) ระบบการให้รางวัล (reward systems) และ นโยบายดา้ นบคุ ลากร (people policies) โดยสรุป ดงั นี้ 1. กลยุทธ์ (Strategy) เป็นการกาํ หนดความต้องการขององคก์ ร ซึง่ มสี ว่ นสาํ คญั ยงิ่ ต่อการขบั เคลื่อนองคก์ รไปในทศิ ทางทพ่ี ึงประสงค์ การทาํ งานในรปู แบบทีมบูรณาการ เปน็ การกา้ วสู่ คติยุติธรรมชุมชนสากล ดังนน้ั กรมคุมประพฤตอิ าจจัดใหม้ กี ารทบทวน ทิศทาง วสิ ยั ทศั น์ ให้ชัดเจน ว่าจะพัฒนาองค์กรไปในทิศทางใด เพอื่ กําหนดทิศทางการพฒั นาศกั ยภาพองค์กร สมรรถนะหลัก ศาสตรข์ องความเช่ียวชาญ ท่ีเออื้ ตอ่ แนวคิดยุตธิ รรมชุมชน (Community Justice) ซง่ึ เนน้ การสร้าง ความสมดลุ ทส่ี าํ คญั ระหว่างความปลอดภยั ของชมุ ชน ความรับผดิ ชอบของผู้กระทาํ ผดิ และการ พฒั นาความสามารถของผกู้ ระทําผิด 2. โครงสร้าง (Structure) กรมคุมประพฤตอิ าจพจิ ารณาปรับโครงสรา้ งองค์กร ให้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ และกลยทุ ธ์ ในทนี่ ้ีโครงสร้างองค์กรคอื การทาํ ใหก้ รมคมุ ประพฤติสามารถ บรรลุเปา้ หมายในการดาํ เนนิ งานโดยการแบ่งภาระหนา้ ท่ีออกเป็นสว่ นๆ โดยให้คนที่เหมาะสมทสี่ ดุ เปน็ ผ้ดู แู ลทํางาน การแบง่ สว่ นงานหรือโครงสรา้ งท่สี ามารถเปลีย่ นแปลงไปตามความเหมาะสมของ ขนาดขององค์กรเพ่ือให้เกดิ ประสิทธิภาพสูงสดุ จากโครงสรา้ งองค์กรง่ายๆ ผา่ นกระบวนการ ปรับเปลีย่ นไปส่โู ครงสรา้ งท่เี หมาะสมกับแตล่ ะชว่ งเวลาและสถานการณใ์ หม้ ากทส่ี ุด เชน่ โครงสรา้ ง ทมี บรู ณาการในสาํ นกั งานคุมประพฤติ อาจพฒั นาไปสอู่ งค์กรคมุ ประพฤตชิ มุ ชนซง่ึ ดําเนนิ การโดยภาค ประชาสังคมในชมุ ชนที่เช่ือมตอ่ กับสาํ นกั งานคมุ ประพฤติ ภายใตก้ ารควบคมุ คณุ ภาพของสํานักงาน คมุ ประพฤติ 3. กระบวนการ (processes) คือ โครงสร้าง หรือตัวแทนที่ใช้สําหรับการแสดงให้ เห็นถึงการทํางานและการจัดการองค์กรในการดําเนินงานให้บรรลุถึงความสามารถในการปฏิบัติงาน ได้อย่างมีประสิทธิผล และมีประสิทธิภาพ การนํารูปแบบทีมบูรณาการมาใช้เป็นการปรับเปลี่ยน กระบวนการทํางานเพียงบางส่วน กรมคุมประพฤติควรเพิ่มการศึกษาเพื่อให้เกิดกระบวนการท่ีมี ศักยภาพในการปรับตัวในทิศทางที่ประสงค์ ซ่ึงรวมไปถึงการใช้บริการขององค์กรภายนอก (outsourcing) และการจัดการกระบวนการ ที่รวมถึงระบบสารสนเทศและการส่ือสาร งบประมาณ และการเงินด้วย

191    4. ระบบการให้รางวลั (reward systems) เปน็ แรงจูงใจสาํ คัญทท่ี ําใหค้ นเข้ามามี สว่ นร่วมในการดาํ เนนิ การอยา่ งเตม็ ศักยภาพ รางวลั อาจมาในรปู ของเงิน หรือในรูปของสวัสดกิ าร การยกยอ่ ง เชิดชู ใหเ้ กยี รติ ซ่งึ รางวัลเปน็ ตัวขบั เคลื่อนการมสี ว่ นรว่ ม บนปจั จัยพ้นื ฐานของการมสี ว่ น ร่วม 3 ประการ คือ เกดิ จาก ส่งิ จูงใจจากเหตผุ ลการมองเห็นผลประโยชน์ตอบแทน ช่องทางการเข้ามี ส่วนร่วม และโอกาสในการมสี ่วนรว่ มกําหนดเป้าหมาย วธิ กี ารหรอื ผลประโยชน์ ในการทดลองทมี บูรณาการชมุ ชน อาสาสมัครส่วนใหญ่ไมไ่ ด้รบั คา่ พาหนะในการปฏบิ ัตงิ าน แต่ท้งั หมดสมคั รใจเขา้ ร่วม เพราะเหน็ ประโยชน์ท่จี ะเกดิ ขึน้ แก่ชุมชน แตก่ ารดาํ เนนิ โครงการศึกษาเป็นการทาํ งานทมี่ ชี ว่ งเวลา สน้ิ สดุ หากอาสาสมัครคมุ ประพฤติและเครอื ขา่ ยยตุ ธิ รรมชุมชนเขา้ มามสี ว่ นรว่ มเปน็ ทีมบรู ณาการ ประจําแลว้ ทกุ คนมคี า่ ใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการร่วมปฏิบตั งิ าน ประกอบกับ องคก์ รสหประชาชาติได้ ระบุไวว้ ่า “ประชาชนต้องไมเ่ สียค่าใช้จ่ายในการมีส่วนร่วมมากเกินกว่าผลตอบแทนท่ีจะได้รับ” ดงั นัน้ กรมคุมประพฤติควรหาความสนบั สนุนในการผลักดันใหก้ รมคุมประพฤตไิ ดร้ ับการจดั สรรงบประมาณ คา่ พาหนะอาสาสมคั รคุมประพฤติ และเครือข่ายยตุ ธิ รรมชมุ ชน ตามความเหมาะสม นอกจากนนั้ กรมคุมประพฤติ ควรพิจารณา ปรบั ระบบงานอาสาสมคั รคมุ ประพฤติทง้ั ระบบ เพอ่ื ใหส้ ามารถ สนบั สนนุ การดําเนนิ งานของกรมคุมประพฤติได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพมากทส่ี ดุ นอกจากนัน้ กรมควรให้ความสาํ คัญกบั การเสริมแรงของพนักงานคุมประพฤติ โดยตงั้ ระบบอย่บู นพ้ืนฐานของปริมาณและคุณภาพงาน ทีท่ ําได้ตามแนวทางมาตรฐาน และการสร้างงานเชงิ คณุ ภาพทสี่ ามารถตรวจสอบได้ 5. นโยบายด้านบุคลากร (people policies) กรมคมุ ประพฤติควรพจิ ารณาถึงการ จดั ทาํ แผนอาชพี (career path) การปฏิรปู หลักสูตรการฝกึ อบรมใหส้ อดคลอ้ ง กบั ความเปลี่ยนแปลง เชน่ หากมกี ารนาํ ทมี บรู ณาการมาใชม้ อี งค์ความรใู้ ดท่คี วรเพ่มิ เตมิ ให้แกพ่ นกั งานคุมประพฤติ และ อาสาสมัครคมุ ประพฤติ กรมคุมประพฤติอาจพิจารณาใหม้ กี ารร้ือฟื้น หรอื จดั หลกั สูตรอบรมพนกั งาน คุมประพฤตริ ่วมกับมหาวทิ ยาลัยทั้งในประเทศ และตา่ งประเทศ เปน็ ต้น 4.1.3 ข้อเสนอแนะสาํ หรบั การวจิ ยั ต่อไป ผสู้ นใจการศึกษา ด้านงานคุมประพฤติ งานยุติธรรมชุมชน อาจขยายการศึกษาตอ่ ไปได้ อกี ดังน้ี 1. การศึกษาเร่ือง “การศกึ ษาเปรียบเทยี บผลสมั ฤทธิข์ องการคมุ ประพฤตแิ บบปกติ และการคุมประพฤตแิ บบทีมบูรณาการ” 2. การศึกษาเรือ่ ง “ความพึงพอใจของผูถ้ กู คมุ ความประพฤติและครอบครวั ต่อการ ปฏิบตั งิ านของทมี บูรณาการ” 3. การศึกษาเร่ือง “ความพึงพอใจของชมุ ชนต่อการแกไ้ ขฟืน้ ฟผู กู้ ระทาํ ผดิ โดยทมี บรู ณาการชมุ ชน” 4. การศึกษาเรอ่ื ง “แนวคดิ ยตุ ธิ รรมชุมชนกับการพฒั นางานคุมประพฤติ” 5. การศกึ ษาเรอื่ ง “การรือ้ ปรบั ระบบงานอาสาสมคั รคมุ ประพฤติ”

 

    บรรณานุกรม กิตติพงษ์ กิตยารักษ์. (2544). กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์: ทางเลือกใหม่สําหรับ กระบวนการยตุ ธิ รรมไทย. กรงุ เทพมหานคร: สํานกั งานกองทนุ สนับสนุนการวจิ ัย. กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ และจุฑารัตน์ เอ้ืออํานวย . (2547). “ระบบยุติธรรมแห่งอนาคต” บทความ นําเสนอ ใน การสัมมนาทางวิชาการประจําปี 2547 เร่ือง “เหลียวหลังแลหน้า: ยี่สิบปี เศรษฐกิจสังคมไทย” จัดโดยมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ณ โรงแรมแอม บาสเดอร์ จอมเทยี น จังหวดั ชลบรุ ี วนั ท่ี 27-28 พฤศจกิ ายน 2547 กมลทิพย์ แจ่มกระจ่าง และคณะ. (2549) คู่มือการฝึกอบรมเครือข่ายยุติธรรมชุมชน (ฉบับ ปรบั ปรุง). กรมคมุ ประพฤติ,. กรกช นาควิเชตร และคณะ. (2552) การมีส่วนร่วมของชุมชนในศูนย์ยุติธรรมชุมชนตําบลพระ พุทธ.กรุงเทพมหานคร: สํานักงานคุมประพฤตจิ ังหวดั นครราชสีมา. กรกช นาควิเชตร และคณะ. (2552). การศกึ ษาผลสัมฤทธข์ิ องการนําเครอื ขา่ ยยตุ ธิ รรมชมุ ชนมาใช้ ในการคุมประพฤติแบบเข้มข้นในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: สํานักงานกองทุน สนบั สนุนการวจิ ยั . กรมคุมประพฤติ. (2546). รายงานโครงการประสานเครือข่ายชุมชนในการแก้ไขผู้กระทําผิด. กรุงเทพมหานคร: กรมคุมประพฤติ. (2549). ค้นเส้นทาง สร้างความรู้ ก้าวสู่ยุติธรรมชุมชน.การถอดบทเรียนโครงการ พลงั เครือข่ายยตุ ธิ รรมชุมชนแก้ปญั หายาเสพติด. กรงุ เทพมหานคร: คณะนติ ิศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลยั ธุรกิจบัณฑติ ย์. (2554). รายงานวิจยั เร่ือง โครงการ ศกึ ษาวจิ ยั เพ่ือพฒั นาระบบวธิ กี ารเพื่อความปลอดภยั ในมาตรการตา่ งๆ. จารภุ รณ์ พนู สวัสด์ิ และคณะ. (2547). รายงานสรุปผลการประชุมเชงิ ปฏิบตั กิ ารเพื่อติดตามผลการ ดาํ เนนิ โครงการประสานเครือข่ายชุมชนในการแก้ไขฟนื้ ฟูผ้กู ระทาํ ผิด.กรุงเทพมหานคร. จุฑารัตน์ เอื้ออํานวย และคณะ. (2549). ยุติธรรมชุมชน: การเปิดพ้ืนที่ของชุมชนในการอํานวย ความยุติธรรม การแก้ไขผู้กระทําผิดในชุมชน. กรุงเทพมหานคร: สํานักงานกองทุน สนบั สนนุ การวจิ ยั . วิไล จิวังกูร. (2528). กฎหมายคุมประพฤติผู้ใหญ่ในประเทศไทย. วิทยานิพนธ์ ภาควิชานิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . วีระกิตต์ิ หาญปริพรรณ์ และคณะ. (2551). การมีส่วนร่วมของชุมชนในงานยุติธรรมชุมชน: กรณศี กึ ษาชมุ ชนคลองจรเข้นอ้ ย ตาํ บลเกาะไร่ อําเภอบ้านโพธ์ิ จังหวัดฉะเชิงเทรา. การ ฝึกอบรมหลกั สตู ร นักบรหิ ารระดบั กลาง รนุ่ ท่ี 7 กระทรวงยุติธรรม.

    วันชัย รุจนวงศ์. (2551). กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ แปลจาก The little Book of Restorative justice of Howard Rehr Good Books, intercourse, PA 17534.202 (ระบบออนไลน์) ท่ีมา http//w.djod.moj.go.th/orti 3htm สุณีย์ กัลป์ยะจิตร และคณะ. (2544). การติดตามประเมินผลงานยุติธรรมชุมชน. สมุทรปราการ: หจก.สินทวกี จิ พริ้นตงิ้ . สํานักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม. (2553). รายงานวิจัย เรื่อง การศึกษาวิจัยรูปแบบการบูรณาการ ระบบงานยตุ ิธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกระทรวงยุติธรรม. สมชาย เตียวกุล และคณะ. (2549). การพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเยาวชนต้นแบบสร้างพลัง เครือขา่ ยสานใจชมุ ชน.กรุงเทพมหานคร: สถาบนั คลงั สมองของชาติ. ศักดชิ์ ยั เลิศพานชิ พนั ธ์ และคณะ. (2551). รายงานวิจัย เรื่อง การศึกษาแนวทางและความเป็นไป ได้ในการนํามาตรการลงโทษระดับกลางมาใช้เพื่อเป็นมาตรการทางเลือกแทนการจําคุก ในการลงโทษผู้กระทําผิดในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของไทย. คณะสังคม สงเคราะห์ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. องั คณา บุญสิทธ์ิ และคณะ. (2553). มิติของงานคุมประพฤติในงานยุติธรรมชุมชน. กรุงเทพมหานคร: กรมคุมประพฤติ. อังคณา บุญสิทธ์ิ. (2549). รายงานสรุปผลโครงการบรรยายพิเศษโดยวิทยากรต่างประเทศเรื่อง กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ครั้งที่ 1 - 2 และโครงการสัมมนาเร่ือง “การนํา กระบวนการยุติธรรมเชงิ สมานฉนั ทม์ าใช้ในงานคุมประพฤต”ิ . กรมคุมประพฤติ. อรทัย ก๊กผล และคณะ. (2554). โครงการนําร่องเพ่ือเตรียมความพร้อมในการขยายบทบาทและ ภารกิจงานยุติธรรมสู่ท้องถิ่น. ความร่วมมือระหว่าง กระทรวงยุติธรรมและ วิทยาลัย พัฒนาการปกครองทอ้ งถน่ิ สถาบันพระปกเกล้า. 2554 อรพินธ์ สุวัณณปุระ และคณะ. (2551). ยุติธรรมชุมขนโดยชุมขนเพื่อชุมขนจังหวัดเชียงใหม่และ ลําพูน. กรุงเทพมหานคร: กรมคมุ ประพฤติ. อรพินธ์ สุวัณณปุระและคณะ (2554). กลยุทธ์การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมใน การแก้ไขฟื้นฟผู ู้กระทาํ ผดิ . กรงุ เทพมหานคร: กรมคุมประพฤติ. A Campbell R., and Wolf, R. V. (2001) Problem-Solving Probation: An Examination of Four Community-Based Experiments. New York, Center for Court Innovation. Available online at http://www.courtinnovation.org/sites/default/files/problemsolvingprobation.p df, accessed on 1 September 2012.

    American Probation and Parole Association. (2009). www.appa-net.org/eweb/DynamicPage.aspx?webcode Bazemore, Gordon, and Mark Umbreit. (1995). Rethinking the sanctioning function in juvenile court: “Retributive or restorative responses to youth crime. Crime andDelinquency” www.restorativejustice.org/articlesdb/articles/810 Bursik, Robert J., and Harold G. Grasmick. (1993). Neighborhoods and crime: The dimensions of effective community control. New York: Lexington Books Campbell R., and Wolf, R. V. (2001) Problem-Solving Probation: An Examination of Four Community-Based Experiments. New York, Center for Court Innovation. http://www.courtinnovation.org/sites/default/files/problemsolvingprobation.p df, accessed on 1 September 2011 Chavis, David M., Kien Lee, and Suzanne Merchlinsky. 1997. National cross-site evaluation of the community building initiative. Bethesda, Maryland: Cosmos, Inc. Corbett, Fitzgerald, and Jordan (1996). Operation Night Light: An emerging model for police-probation partnership. In Invitation to change:Better government competition on public safety, edited by L. Brown and K. Ciffolillo.Boston: Pioneer Institute for Public Policy Research. Clear, Todd R and Karp, David R (2000). Community justice: A conceptual framework In Boundary changes in criminal justice organizations,ed. Charles M. Friel, 323-368. Criminal Justice 2000, vol. 2. Washington, DC: United States Department of Justice, Office of Justice Programs, National Institute of Justice. Department of Adult Probation (Travis County, Texas). (n.d). FY 2012-2013 Community Justice Plan. Available online at http://www.co.travis.tx.us/community_supervision/pdfs/cj_plan_2012- 2013.pdf. accessed on 1 September 2011. Department of Community Justice (Jackson County, Oregon). (n.d.). Community Justice. Available online at http://www.co.jackson.or.us/SectionIndex.asp?SectionID=9 accessed on 1 September 2011.

    Department of Community Justice (Multnomah County, Oregon). (n.d.). Community Justice Through Positive Change. Available online at http://web.multco.us/dcj, accessed on 1 September 2011. Department of Probation and Community Justice (Tompkin County, Newyork). (n.d.). Annual report 2011. Available online at http://www.tompkins- co.org/probation/Annual_Reports/Index.html. accessed on 1 Sepr 2011. Kawaharada, (2012). Community-Based Correction in Japan. Rehabilitation Bureau Ministry of Justice Japan. Kunihiko Sakai. Community Involvement and Crime Prevention in Japan-Exetensive of Volunteer Probation Officers. Japan. UNAFEI: 2000 Lorraine R Beyer. Community policing : lessons from Victoria. Canberra: Australian Institute of Criminology, 1993 Marc A. Levin. (2006). Probation System in Texas. Texas Public Policy Foundation, Austin. Mike Nellis. Probation Partnerships, Voluntary Action and Community Justice. Social Policy & Administration, Volume 29 Issue 2 Page 91-109, June 1995 Urban Institute (2002) Understanding Community Justice Partnerships: Assessing the Capacity to Partner. Justice Policy Center, 2002Submitted to the National Institute of Justice. Prepared Under Contract Number OJP-99-C-010 (T005) for the National Institute of Justice.) Wachtel, T., & McCold, P. (2000). Restorative justice in everyday life. In J. Braithwaite and H. Strang (Eds.), Restorative Justice in Civil Society (pp. 117-125). New York: Cambridge University Press. Jane Winstone & Francis Pakes ( 2005 ). Community Justice : lssues for probation and criminal justice. Willan Pablishing Robert A.Fox. (2000). Transforming Probation through Leaadership: the “Broken Windows” Model by the Reinventing Probation Council, Center for Civic Innovation Manhattan Institute, the University of Pennsylvania

    ประวัติผูว้ ิจยั หัวหนา้ โครงการวจิ ยั ชอ่ื –สกลุ นางกรกช นาควิเชตร Mrs. Korakod Narkvichetr ตาํ แหน่ง (ปจั จุบนั ) ผู้อํานวยการสํานักพฒั นาการคุมประพฤติ หน่วยงานทสี่ งั กัด สาํ นักพฒั นาการคุมประพฤติ กรมคมุ ประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ประวตั ิการศกึ ษา พ.ศ. 2548 Master of Science (Criminal Justice Administration), University of North Carolina Charlotte, USA พ.ศ. 2528 สังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิต (สังคมสงเคราะห์ศาสตรใ์ น กระบวนการยุตธิ รรม),มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ พ.ศ.2523 ครุศาสตรบณั ฑิต (จติ วิทยา), จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ประวัติการทาํ งาน ผู้เชย่ี วชาญเฉพาะด้านการแก้ไขฟนื้ ฟูและกจิ กรรมชมุ ชน ผ้อู ํานวยการสํานกั งานคมุ ประพฤติภาค 3 ผู้อาํ นวยการสํานักงานคมุ ประพฤติภาค 4 ผลงานวิจัย - Intensive Probation Supervision in Cabarrus County: Success and Failure, 2548 University of North Carolina (Charlotte) - Trafficking in women in Thailand, 2547 University of North Carolina (Charlotte) - การประเมินผลการพัฒนางานคมุ ประพฤติ โครงการวดี ที ศั นเ์ พอื่ การปฐมนิเทศและ สอบปากคําจาํ เลยและผถู้ กู คมุ ความประพฤต,ิ 2543 กรมคุมประพฤติ - การศึกษาเปรียบเทยี บการคมุ ประพฤตปิ ระเทศไทยและการคุมประพฤตปิ ระเทศญ่ปี ่นุ , 2543 กรมคุมประพฤติ - การมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชนในศนู ยย์ ุตธิ รรมชมุ ชนตาํ บลพระพทุ ธ.จงั หวดั นครราชสมี า. - การศกึ ษาผลสมั ฤทธขิ์ องการนําเครอื ขา่ ยยตุ ิธรรมชมุ ชนมาใชใ้ นการคุมประพฤติแบบ เข้มขน้ ในประเทศไทย. - การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมเชิงรกุ : ปจั จยั ท่ีมคี วามสัมพนั ธต์ ่อผลสัมฤทธิ์ในการปอ้ งกัน อาชญากรรมโดยเครือขา่ ยยตุ ิธรรมชุมชน

    ประวตั ิหัวหนา้ โครงการทดลองทีมบูรณาการชมุ ชน สํานกั งานคุมประพฤตจิ ังหวดั เชยี งราย ช่อื – สกลุ นายอภิฑูรย์ ภู่เพชร ตาํ แหน่ง (ปัจจบุ ัน) ผูอ้ าํ นวยการสํานกั งานคุมประพฤตจิ ังหวดั เชียงราย ประวตั กิ ารศกึ ษา - นติ ิศาสตรบณั ฑิต จาก มหาวทิ ยาลยั รามคาํ แหง ปี พ.ศ.2525 ประวัตกิ ารทํางาน - เนตบิ ัณฑติ ไทย สาํ นักอบรมวิชากฎหมายแห่งเนติบณั ฑติ ยสภา สมยั ท่ี 38 - รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑติ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ ปี พ.ศ.2544 - นติ ศิ าสตรมหาบัณฑิต มหาวทิ ยาลัยรามคําแหง (เชยี งใหม่) พ.ศ.2550 - พนักงานคมุ ประพฤติ สาํ นกั งานคุมประพฤตกิ ลาง ปี พ.ศ.2525 - ผ้อู าํ นวยการสํานกั งานคุมประพฤตจิ ังหวดั ระยอง ปี พ.ศ.2534 - ผู้อาํ นวยการสาํ นกั งานคุมประพฤติจงั หวดั สงขลา ปี พ.ศ.2535 - ผอู้ ํานวยการสาํ นกั งานคุมประพฤติ ภาค 5 ปี พ.ศ.2546 - ผู้อํานวยการสาํ นกั งานคุมประพฤตจิ งั หวดั เชียงราย ปี พ.ศ.2552 ชอ่ื – สกลุ ประวัตหิ ัวหนา้ โครงการทดลองทมี บูรณาการชุมชน ตําแหนง่ (ปัจจบุ นั ) สาํ นกั งานคมุ ประพฤตจิ งั หวดั นครราชสมี า ประวัตกิ ารศึกษา นางมณีรัตน์ บุญฤทธ์ิ ประวตั กิ ารทาํ งาน ผ้อู าํ นวยการสํานกั งานคมุ ประพฤตจิ งั หวัดนครราชสมี า - รัฐศาสตร์ (บริหารรฐั กิจ) มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ - นติ ศิ าสตร์บณั ฑติ มหาวิทยาลัยรามคาํ แหง - เนติบญั ฑิตไทย - พนักงานคมุ ประพฤติ 3 สาํ นกั งานคุมประพฤติประจําศาลจังหวัดชลบุรี - ผอู้ ํานวยการสาํ นักงานคมุ ประพฤติจงั หวัดอุบลราชธานี - ผู้อาํ นวยการสํานกั งานคมุ ประพฤติจงั หวัดสุรนิ ทร์ - ผอู้ ํานวยการสาํ นักงานคุมประพฤติจงั หวดั นครราชสมี า - ผชู้ ว่ ยผ้อู าํ นวยการสาํ นักงานคุมประพฤติ ภาค 3 - ผอู้ ํานวยการสํานกั งานคมุ ประพฤตจิ งั หวดั สระบุรี - ผู้อาํ นวยการสาํ นักงานคมุ ประพฤติจังหวัดนครราชสีมา ถึงปัจจุบนั

    ประวัติหวั หนา้ โครงการทดลองทีมบูรณาการชมุ ชน สํานักงานคมุ ประพฤติจังหวัดสระบรุ ี ช่อื – สกุล นางเสาวนีย์ สิมรวี งษ์ ตาํ แหนง่ (ปัจจบุ นั ) ผูอ้ ํานวยการสาํ นักงานคุมประพฤตจิ งั หวัดสระบุรี ประวตั กิ ารศึกษา ปรญิ ญาตรสี าขารฐั ศาสตร์ จากมหาวิทยาลยั รามคาํ แหง ประวตั กิ ารทาํ งาน พนักงานคมุ ประพฤตทิ ่สี นง.คมุ ประพฤติธนบรุ ี -ผู้อาํ นวยการสาํ นักงานคุมประพฤตปิ ระจําศาลจงั หวดั สีคิว้ -ผ้อู ํานวยการสาํ นักงานคมุ ประพฤตจิ งั หวดั นครราชสีมา -ผูอ้ ํานวยการสาํ นกั งานคุมประพฤติจงั หวดั ลพบุรี ปจั จบุ นั ดํารงตําแหนง่ ผ้อู าํ นวยการสํานักงานคุมประพฤติจงั หวัด สระบรุ ี ประวตั หิ ัวหนา้ โครงการทดลองทีมบูรณาการชมุ ชน สาํ นกั งานคุมประพฤติจงั หวัดมหาสารคาม ชอื่ – สกุล นางเยาวดี พันธห์ นิ กอง เกิดเมือ่ 22 มนี าคม 2503 ตําแหนง่ (ปจั จุบนั ) ผูอ้ าํ นวยการสํานักงานคุมประพฤติจังหวดั มหาสารคาม ประวตั ิการทํางาน พนักงานคมุ ประพฤติ 3 สนง.คุมประพฤติจังหวดั อดุ รธานี 27 มกราคม 2529 สนง.คมุ ประพฤตจิ ังหวดั ขอนแกน่ พ.ศ. 2531 ผู้ช่วยผูอ้ ํานวยการสนง.คุมประพฤตจิ งั หวัดร้อยเอด็ พ.ศ. 2536 ผอู้ ํานวยการสนง.คมุ ประพฤตจิ งั หวดั ร้อยเอ็ด พ.ศ. 2537 ผู้อํานวยการสนง.คมุ ประพฤติจังหวัดขอนแก่น พ.ศ. 2543 ผู้อํานวยการสนง.คมุ ประพฤติจงั หวัดมหาสารคามจนถงึ ปัจจุบัน พ.ศ. 2554

    ประวตั ิหัวหนา้ โครงการทดลองทีมบรู ณาการชมุ ชน สํานกั งานคุมประพฤตจิ ังหวัดลาํ ปาง ชื่อ – สกุล นางสาวญาดา มนทมาส เกดิ เมื่อ 25 ตุลาคม 2500 ตาํ แหน่ง (ปจั จุบัน) ผูอ้ าํ นวยการสาํ นักงานคมุ ประพฤติจงั หวัดลําปาง ประวัติการศกึ ษา ศลิ ปศาสตรบณั ฑติ (รฐั ศาสตร(์ การปกครอง)) พ.ศ. 2519-2523 มหาวิทยาลยั รามคําแหง ประวัตกิ ารทาํ งาน พนักงานคมุ ประพฤติ 3 สนง.คมุ ประพฤตกิ ลาง 2 ธันวาคม 2528 ผู้อาํ นวยการสนง.คุมประพฤตจิ งั หวดั อุตรดิตถ์ พ.ศ. 2551 ผู้อาํ นวยการสนง.คมุ ประพฤติจงั หวดั ลาํ ปางจนถึงปจั จบุ นั พ.ศ. 2553 ประวตั หิ วั หนา้ โครงการทดลองทีมบรู ณาการชุมชน สาํ นักงานคุมประพฤตจิ งั หวัดพทั ลุง ช่ือ – สกุล นางสุจติ รา รัตนเสวี ตําแหน่ง (ปัจจุบนั ) ผอู้ าํ นวยการสํานักงานคมุ ประพฤติจังหวดั พัทลงุ ประวตั ิการศึกษา - คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ (รฐั ศาสตร)์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตปตั ตานี - รัฐประศาสนศาสตรม์ หาบัณฑติ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ การศึกษาดงู าน กันยายน 2539 ศึกษาดูงานดา้ นการบาํ บดั รกั ษาผตู้ ดิ ยาเสพติดใหโ้ ทษแบบงั คบั รักษาและ ศึกษาดูงาน AFTERCARE CENTRE ณ เมอื งโกตาบารู รฐั กลนั ตัน ประเทศมาเลเซยี กันยายน 2547 ดูงานกระบวนการยุตธิ รรมเชิงสมานฉนั ท์ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร กรกฎาคม 2548 ศึกษาดงู าน ณ ประเทศออสเตรเลยี หลกั สตู ร “ผ้บู ริหารระดับกลาง กระทรวงยตุ ธิ รรม” ตลุ าคม 2548 ศึกษาดูงาน ณ ประเทศสิงคโปร์ หลักสูตร “การบรหิ ารงานภาครัฐ แนวใหมแ่ ละการพัฒนาระบบราชการ” และหลักสูตร “การบริหารงาน ยุตธิ รรมยุคใหม่”

    ประวตั ิหัวหนา้ โครงการทดลองทมี บูรณาการชมุ ชน สํานกั งานคุมประพฤตปิ ระจําศาลจังหวัดมีนบุรี ชอ่ื – สกลุ นายประทกั ษ์ ประทมุ ทพิ ย์ ตาํ แหนง่ (ปัจจุบนั ) ผ้อู าํ นวยการสํานกั งานคมุ ประพฤตปิ ระจาํ ศาลจงั หวดั มนี บรุ ี ประวัตกิ ารศกึ ษา นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลยั รามคาํ แหง พ.ศ. 2524-2527 เนติบณั ฑติ ไทย จาก สํานักอบรมวิชากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา พ.ศ. 2528-2531 ประวัติการทํางาน พนกั งานคมุ ประพฤติ 3 สนง.คมุ ประพฤติธนบุรี ผู้อาํ นวยการสนง.คุมประพฤตจิ งั หวัดปทมุ ธานี พ.ศ. 2533 ผู้อาํ นวยการสนง.คมุ ประพฤตปิ ระจําศาลอาญา พ.ศ. 2546 ผ้อู าํ นวยการสนง.คมุ ประพฤติประจําศาลจังหวดั มนี บรุ จี นถึงปจั จุบัน พ.ศ. 2551 พ.ศ. 2553 ประวตั ิหัวหนา้ โครงการทดลองทีมบรู ณาการชุมชน สํานกั งานคมุ ประพฤตปิ ระจําศาลจงั หวัดพระโขนง ชอ่ื – สกลุ นางสาวระยอง เวยี งลอ ตาํ แหน่ง (ปัจจบุ ัน) รกั ษาราชการแทนผู้อาํ นวยการสาํ นกั งานคุมประพฤตปิ ระจําศาล จังหวัดพระโขนง ประวตั กิ ารศึกษา - วิทยาศาสตรบ์ นั ฑติ จติ วิทยา มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ - นติ ศิ าสตร์บนั ฑิต มหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช ประวัตกิ ารทาํ งาน พ.ศ. 2538-2541 พนกั งานคมุ ประพฤตปิ ฏบิ ตั ิการ สาํ นักงานคุมประพฤติประจําศาลอาญา พ.ศ. 2541-2545 สํานกั งานคมุ ประพฤตจิ งั หวัดเชียงราย พ.ศ. 2545-2549 พนกั งานคมุ ประพฤตชิ ํานาญการ สํานักงานคมุ ประพฤติประจาํ ศาลจงั หวดั มีนบรุ ี พ.ศ. 2549-2551 สาํ นักงานคมุ ประพฤตปิ ระจําศาลแขวงพระนครเหนือ พ.ศ. 2551 ถงึ ปัจจุบัน พนกั งานคมุ ประพฤติชาํ นาญการพิเศษ สํานักงานคมุ ประพฤตปิ ระจําศาลจงั หวดั พระโขนง

    พิมพ์ที่ : รา้ นพมุ่ ทอง 10/2 ซอยวงั หลงั ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิรริ าช เขตบางกอกนอ้ ย กทม. 10700 โทร. 02-4114673