138 ดงั น้ัน เพือ่ มีกลไกหรือกระบวนการพิจารณากลั่นกรองและคัดเลือกโครงการ SIB ท่ีจะได้รับการสนับสนุน จากภาครัฐ คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการฯ สามารถกาหนดออกระเบียบท่ีเก่ียวข้องเพ่ือรองรับ กระบวนการดงั กล่าวได้ (3) การเพ่ิมเงินทุนให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพ่ือเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ซึ่งเป็นกองทุนที่จัดต้ังภายใต้พระราชบัญญัติการจัดประชารัฐสวัสดิการฯ เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนสาหรับ ใช้จ่ายในการจัดประชารัฐสวัสดิการของภาครัฐแล้วก็ตาม แต่แหล่งเงินทุนของกองทุนยังคงพึ่งพิงกับ เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายเป็นหลัก ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง จึงอาจส่งผล ให้การดาเนินการไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ท่ีวางไว้ เพราะมีข้อจากัดของเงินงบประมาณเช่นเดียวกับ การดาเนนิ โครงการเพ่ือสังคมโดยหน่วยงานภาครฐั ทว่ั ไป ดังนัน้ จึงควรปรบั ปรุงพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว โดยกาหนดให้ผู้ที่บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีสามารถนามาหัก ลดหย่อนหรือหักเป็นรายจ่ายในการคานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ (เช่นเดียวกับพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพ่ือสังคมฯ) ท้ังนี้ เพ่ือจูงใจใหภ้ าคส่วนตา่ งๆ บริจาคเงินเพ่ือ ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยภายใต้โครงการประชารัฐสวัสดิการฯ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มแหล่งเงินทุน สาหรบั การดาเนินโครงการเพื่อสงั คมท่ีสาคญั อกี ทางหน่ึง 6.2.3 จดั ต้งั Social Finance Thailand เนื่องจากการระดมทุนสาหรับการดาเนินโครงการเพ่ือสังคมของภาครัฐใน รูปแบบของ SIB น้ัน มขี ั้นตอนกระบวนการที่ซับซ้อน ส่งผลให้อาจเป็นอุปสรรคในการตัดสินใจของหน่วยงาน ภาครัฐเจ้าของโครงการเม่ือต้องพิจารณาควบคู่กับการระดมทุนจากเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์หรือการ ขอรับจัดสรรงบประมาณที่มีรูปแบบท่ีง่ายและมีความคุ้นชินมากกว่า ดังนั้น นอกเหนือจากการทาหน้าท่ี เป็นเจ้าของโครงการท่ีต้องว่าจ้างหน่วยงานผู้ดาเนินการ พร้อมท้ังจ่ายคืนเงินต้นและผลตอบแทนเมื่อ โครงการ SIB ประสบผลสาเร็จแล้ว บริบทที่หน่วยงานภาครัฐอาจมีความจาเป็นต้องทาหน้าที่การเป็น หน่วยงานที่อานวยความสะดวกในกระบวนการทั้งระบบ หรือ Facilitator เพื่อเชื่อมโยงการทางานของ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคการเงิน รวมถึงการกากับดูแลโครงการให้เป็นไป ในทิศทางทีเ่ หมาะสมและตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ทต่ี ้ังไว้ คณะผู้วิจัยเห็นว่า เน่ืองจากข้อเสนอการแต่งตั้ง Social Investment Finance Team ภายใตพ้ ระราชบัญญัติการจัดประชารัฐสวัสดิการฯ ข้างต้นอาจมีความไม่คล่องตัวเนื่องจากจะต้อง ยึดโยงกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย หรือประชาชนที่ตกอยู่ในภาวะลาบากตาม นโยบายของรฐั บาล (อาทิ โครงการลงทะเบียนเพือ่ สวัสดิการแหง่ รฐั ) จึงอาจไม่ครอบคลุมโครงการเพ่ือสังคม ท้ังหมดในภาพรวม ดังน้ัน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการดาเนินงานของท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน และภาค
139 ประชาสังคม และในระหว่างทีข่ อ้ กฎหมายต่างๆ ท่ีรองรับการดาเนินงานในรูปแบบ SIB ยังไม่มีเป็นรูปธรรม ในระยะเริ่มแรกของโครงการ SIB ในประเทศไทย ควรมีการจัดตั้ง Social Finance Thailand เพื่อทา หน้าท่ีเป็น Facilitator โดยอาจอยู่ในลักษณะการดาเนินงานร่วมกับภาคเอกชนแบบ Public Private Partnership (PPP) เป็นส่วนงานย่อยในส่วนราชการ โดยมีผู้แทนของหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวง การคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงชองมนุษย์ ก.ล.ต. สานักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ เป็นต้น และผู้แทนจากหน่วยงานภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เข้าร่วมเป็น คณะกรรมการพร้อมทั้งมอบหมายผู้ทาหน้าที่บริหารจัดการ โดย Social Finance Thailand ทาหน้าที่ ดงั น้ี - ให้คาปรึกษา (Consulting) หน่วยงานภาครัฐเจ้าของโครงการเพื่อสังคมในการ กาหนดรูปแบบโครงการ โดยในคราวจัดตั้งอาจกาหนดให้ต้องหน่ึงในหน่วยงานให้ความเห็นประกอบการ เสนอโครงการในรปู แบบ SIB ก่อนเข้าสูก่ ารพจิ ารณาของคณะรฐั มนตรี - กาหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาหน่วยงานภาคการเงินหรือสถาบันการเงินที่ สามารถเข้ามาทาหน้าท่ีเป็นผู้วางแผนจัดการทางการเงิน (Financial Arranger) ของโครงการให้สามารถ เข้าถึงกลมุ่ นกั ลงทนุ สถาบนั และนกั ลงทุนรายย่อยตามเป้าหมายของโครงการได้ - กาหนดหลักเกณฑก์ ารพจิ ารณาหน่วยงานผดู้ าเนินโครงการ (Service Provider) รวมถงึ กาหนดราคากลางท่ีใช้ประกอบการพิจารณาคัดเลือก หรือเกณฑ์ข้ันต่าในกรณีที่โครงการมีลักษณะ เฉพาะเจาะจงและมผี ูท้ ีส่ ามารถดาเนินการไดน้ ้อยรายหรือเพียงรายเดียว - กาหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาหน่วยงานท่ีทาหน้าท่ีผู้ประเมินโครงการ SIB ซ่ึง ต้องเป็นโครงการท่ีมีความน่าเชื่อถือและเป็นอิสระ เป็นท่ียอมรับทั้งในส่วนของภาครัฐที่ต้องจ่ายเงินและ นักลงทนุ ผ้รู ับผลอบแทน - ใหค้ วามเหน็ ในการกาหนดตัวช้ีวัดและเกณฑ์การประเมินโครงการ โดยพิจารณา ถึงประโยชน์ที่ภาครัฐเจ้าของโครงการจะได้รับเป็นสาคัญ และเง่ือนไขในการชาระเงินแก่นักลงทุนมีความ เหมาะสมตามความเสยี่ งของโครงการ - ใหเ้ งินสนับสนุนหรือเงินยืมระยะส้ันเพื่อการบริหารจัดการในระยะเร่ิมต้นโครงการ เชน่ เงินทุนในการสารวจความเปน็ ไปได้ของโครงการ - ชักชวนและประชาสมั พันธ์หน่วยงานภาครัฐทั้งส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น เพอื่ ให้พิจารณาใชร้ ปู แบบการระดมทนุ ของ SIB ในการดาเนนิ โครงการเพ่ือสงั คม - ผลกั ดันและสนบั สนุนการดาเนนิ โครงการ SIB ในประเด็นอนื่ ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้อง
140 อย่างไรก็ดี การทางานของ Social Finance Thailand ดังกล่าวน้ันจะขึ้นอยู่กับข้อกฎหมาย และระเบียบต่างๆ ของภาครฐั ทมี่ ีในปัจจุบัน ซึ่งยังไม่มีการระบุหน้าท่ีการดาเนินงานอย่างสมบูรณ์ แต่การ ทาหน้าท่ีในลักษณะน้ีจะช่วยสร้างเช่ือม่ันแก่นักลงทุนใน SIB ว่าโครงการเพื่อสังคมของหน่วยงานภาครัฐใดๆ ทร่ี ะดมทนุ แบบ SIB นัน้ ผ่านการพจิ ารณาอยา่ งบูรณาการจากหน่วยงานต่างๆ ทัง้ ภาครฐั และเอกชน 6.3 มาตรการภาษีเพื่อสง่ เสริมการลงทนุ ใน SIB สิทธิประโยชน์ทางภาษีสาหรับการลงทุนในโครงการเพื่อสังคม (Social Investment Tax Relief) ถือเป็นหน่ึงในปัจจัยแห่งความสาเร็จของการระดมทุนด้วย SIB สาหรับข้อเสนอการกาหนด มาตรการดงั กล่าวอยา่ งเป็นรปู ธรรม คณะผู้วจิ ยั มีแนวคดิ และหลกั การ ดังน้ี 6.3.1 วเิ คราะห์กลมุ่ เปา้ หมายที่ควรไดร้ ับสทิ ธิประโยชน์ทางภาษีจากธุรกรรม SIB คณะผู้วจิ ัยมคี วามเห็นว่า เน่ืองจากวัตถุประสงค์ท่ีสาคัญของการนาเคร่ืองมือ SIB มาใช้เพ่ือดาเนินโครงการเพื่อสังคม คือ การลดภาระเงินงบประมาณ และความเส่ียงของภาครัฐในการ ดาเนนิ โครงการเพอ่ื สงั คม และการเปดิ โอกาสให้ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนรวมในการ ดาเนนิ โครงการเพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นผู้สนับสนุนเงินทุน (นักลงทุนใน SIB) และการเป็นคู่สัญญากับหน่วยงาน ภาครัฐ (ได้แก่ ผู้ดาเนินโครงการ ตัวกลาง ผู้ประเมินโครงการ) อย่างไรก็ดี เม่ือพิจารณาในข้ันตอนการ ดาเนนิ โครงการเพือ่ สังคมผา่ นการระดมทุนโดย SIB แล้วพบว่า ผเู้ กี่ยวข้องกับธุรกรรม SIB จะมีรายได้และ รายจ่ายท่สี ามารถนามาพจิ ารณาความเหมาะสมในการกาหนดสิทธิประโยชนท์ างภาษไี ด้ 3 กลุ่ม ดงั น้ี 1) กลุ่มผู้ออกตราสาร SIB จะได้รับเงินทุนจากการระดมทุนจากนักลงทุน ซึ่งไม่ ถือเป็นรายได้ และขณะเดียวกันผอู้ อกตราสาร SIB จะมีรายจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ยเงินกู้หรือผลตอบแทนของ ตราสารทต่ี ้องชาระให้กับนักลงทุนตามเงื่อนไขตัวช้ีวัดท่ีกาหนด ซ่ึงจากการรับฟังความคิดเห็นหน่วยงานท่ี เกี่ยวข้อง (Focus Group) เม่ือวันท่ี 19 มิถุนายน 2562 มีข้อเสนอให้พิจารณาแนวทางการให้สิทธิประโยชน์ ทางภาษีแก่หนว่ ยงานผู้ออก SIB ด้วย อย่างไรกต็ าม คณะผู้วิจัยเห็นว่า ด้วยลักษณะของการดาเนินโครงการ เพื่อสังคมด้วย SIB ส่วนใหญ่หน่วยงานภาครัฐจะเป็นผู้ออกตราสาร SIB ซึ่งตามกฎหมายไทยหน่วยงาน ภาครัฐต่างๆ จะไม่ถือเป็นหน่วยภาษี จึงไม่มีหน้าท่ีต้องเสียภาษีอากร ดังนั้น จึงไม่จาเป็นต้องกาหนด มาตรการภาษสี าหรับผู้ออกตราสาร SIB แต่อย่างใด 2) กลุ่มผู้ดาเนินโครงการ ตัวกลาง และผู้ประเมิน ซึ่งมีรายได้จากค่าจ้างในการ รับทาหน้าท่ีต่างๆ ตามที่หน่วยงานเจ้าของโครงการกาหนดภายใต้เง่ือนไขของสัญญาว่าจ้าง ซ่ึงผู้รับจ้าง มีหน้าท่ีนาเงินค่าจ้างดังกล่าวมาคานวณรวมเป็นรายได้ของบุคคล/กิจการ ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้บุคคล ธรรมดาหรอื ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล (แล้วแต่กรณ)ี อย่างไรก็ตาม คณะผูว้ จิ ยั เหน็ วา่ บุคคลธรรดาหรือนิติบุคคล
141 ท่ที าหนา้ ทเี่ ป็นผ้ดู าเนนิ การ ตัวกลาง และผู้ประเมินในโครงการ SIB จะมีรายได้เป็นอัตราค่าจ้างที่แน่นอน ตามท่ีกาหนดในสัญญา และเป็นการดาเนินงานตามปกติของผู้รับจ้าง จึงไม่ต้องรับความเส่ียงจากการ ดาเนินโครงการเพ่ือสังคมแต่อย่างใด ดังนั้น จึงไม่จาเป็นต้องกาหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กลุ่มบุคคล ธรรมดาหรือนติ บิ ุคคลดงั กล่าว 3) กลุ่มนักลงทุนในตราสาร SIB จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ซ่ึงปัจจุบัน การลงทุนในตราสารหนี้จะต้องเสียภาษีเงินได้จากผลตอบแทน รวมทั้งเงินได้จากการขายตราสารด้วย คณะผวู้ จิ ยั เห็นว่า เน่ืองจากเงื่อนไขในการจ่ายผลตอบแทนของตราสาร SIB จะมีความไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับ ผลการประเมินโครงการ ดังน้ัน จึงเป็นความเสี่ยงของนักลงทุนในการลงทุนในตราสารประเภทนี้ ดังน้ัน เพ่ือจูงใจให้เกิดการลงทุนใน SIB จึงเห็นควรกาหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่นักลงทุนเพื่อสนับสนุน และส่งเสริมให้เกิดการลงทุนใน SIB ซึ่งคณะผู้วิจัยได้มีการวิเคราะห์รูปแบบของสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่เหมาะสมสาหรับนักลงทุนใน SIB ในหวั ข้อตอ่ ไป 6.3.2 เปรยี บเทยี บมาตรการภาษใี นการดาเนินกิจกรรมเพอ่ื สงั คมรูปแบบต่างๆ ในการวิเคราะห์รูปแบบสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เหมาะสมสาหรับนักลงทุน ในตราสาร SIB คณะผ้วู จิ ยั ได้มกี ารวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทียบมาตรการภาษีเพอ่ื ส่งเสริมและจูงใจให้ภาคเอกชน ดาเนนิ กิจกรรมเพอื่ สังคมใน 2 รปู แบบสาคญั ดังนี้ (1) การบริจาคเพ่ือสังคม : การอนุญาตให้นาเงินหรือมูลค่าทรัพย์สินที่บริจาค ให้แก่หน่วยรับบริจาคท่ีกาหนด เช่น สถานพยาบาล สถานศึกษา องค์การหรือสถานสาธารณกุศล วัดวา อาราม กิจการต่างๆ เป็นต้น มาหักลดหย่อนหรือหักเป็นรายจ่ายในการคานวณเพื่อภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษเี งินได้นิตบิ ุคคลแลว้ แตก่ รณี (2) วิสาหกิจเพื่อสังคม : การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่วิสาหกิจเพ่ือสังคม และอนุญาตให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนาเงินลงทุนในหุ้นสามัญของวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือเงิน หรือทรัพย์สินท่ีบริจาคให้แก่วิสาหกิจเพ่ือสังคมมาหักเป็นรายจ่ายในการคานวณเพ่ือเสียภาษีเงินได้ นติ ิบุคคล สาหรับประโยชน์หรือผลตอบแทนท่ีเอกชนจะได้รับหากดาเนินกิจกรรมเพ่ือ สังคม สามารถแยกพจิ ารณาได้ ดงั น้ี (1) ผู้บริจาคเงินหรือทรัพย์สิน จะได้รับผลตอบแทนในรูปของการประหยัด ภาษี (Tax Saving) (2) วิสาหกิจเพ่อื สงั คมจะไดร้ บั ยกเว้นภาษี (Tax Exemption)
142 (3) ผู้ลงทุนในหุ้นสามัญของวิสาหกิจเพื่อสังคมจะได้รับประโยชน์จาก Tax Saving และผลตอบแทนทางการเงิน (Financial Return) ในรูปเงินปันผล (Dividend) หรือเงินลดทุน (Capital Decrease) นอกจากน้ี เอกชนที่ดาเนินกิจกรรมเพื่อสังคมดังกล่าว ยังได้รับผลตอบแทน ทางเศรษฐศาสตร์ (Economics Return) ได้แก่ ความพึงพอใจท่ีเพิ่มข้ึนจากที่ได้มีส่วนร่วมในการดาเนิน กิจกรรมเพือ่ สงั คม หรือผลตอบแทนอน่ื ๆ จากการได้ทาเพื่อสังคม เช่น การได้รับความนิยมจากการแสดง ความรับผิดชอบตอ่ สงั คม (Corporate Social Responsibility : CSR) เป็นตน้ ทัง้ นี้ เมอ่ื พิจารณาเปรยี บเทยี บกับการออก SIB ซ่ึงถือเป็นทางเลือกหน่ึงในการ สง่ เสริมและจูงใจให้ภาคเอกชนดาเนนิ กจิ กรรมเพอ่ื สังคม จะแตกต่างจากการลงทุนในตราสารหนี้โดยทั่วไป โดย SIB เป็นเคร่ืองมือที่มีการผสมผสานระหว่างการลงทุนและการดาเนินกิจกรรมเพื่อสังคมเข้าด้วยกัน ซ่ึงสามารถนามาใช้แก้ไขปัญหาทางสังคมได้ ขจัดปัญหาข้อกาจัดด้านงบประมาณของภาครัฐ มีกลไกการ นาเงินที่ระดมทุนจากภาคเอกชนไปดาเนินกิจกรรมเพ่ือสังคม โดยผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับข้ึนอยู่ กับผลลัพธ์ว่าเป็นไปตามตัวช้ีวัดที่กาหนดไว้หรือไม่ ท้ังน้ี สามารถเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการ ลงทนุ ในตราสารหน้ีโดยทัว่ ไป และการดาเนนิ กจิ กรรมเพ่อื สังคมอ่นื ๆ ได้ ดงั นี้ ตารางท่ี 6.1 : ความแตกตา่ งระหว่างการลงทุนในตราสารหนโ้ี ดยทั่วไป และการดาเนนิ กจิ กรรมเพ่ือสังคมอน่ื ๆ รปู แบบการระดมทุนเพ่อื สงั คม เปรยี บเทียบความแตกต่าง ตราสารหนี้ พนั ธบัตร วิสากิจ การบริจาค โดยท่ัวไป 1. สถานะของนักลงทนุ เจ้าหน้ี เพื่อสงั คม เพอ่ื สงั คม เพอื่ สงั คม 2. ลักษณะผลตอบแทนทน่ี กั ลงทุนไดร้ บั เจ้าหน้ี เจา้ ของ × 2.1 ผลตอบแทนทางการเงิน (Financial Return) × (1) (2) × (3) 2.2 ผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ (Economics Return) และผลตอบแทน × อ่ืนๆ จากการได้ทาเพื่อสังคม 3. สทิ ธิประโยชนท์ างภาษี ทม่ี า : คณะผวู้ ิจยั หมายเหตุ: (1) การจ่ายผลตอบแทนขนึ้ อยู่กบั ผลลัพธข์ องการดาเนนิ การวา่ เป็นไปตามตวั ชี้วัดท่กี าหนดไว้หรือไม่ (2) จา่ ยเงนิ ปันผลหรอื เงินลดทนุ ได้ไม่เกนิ ร้อยละ 30 ของกาไรสุทธิ หากจา่ ยเกนิ นักลงทุนจะไม่ไดร้ บั สทิ ธิประโยชนท์ างภาษี (3) มีการกาหนดสิทธิประโยชน์เป็นบางกรณี เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสาหรับดอกเบ้ีย ส่วนลด และผลประโยชน์ท่ีได้จากการโอน พันธบัตรหรือหุ้นกู้ เพื่อริเร่ิมตลาดพันธบัตรเอเชีย ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสาหรับดอกเบ้ียพันธบัตรออมสิน รุ่นพันธบัตรเงินฝากช่วย ชาติ เปน็ ตน้
143 จากตารางข้างต้นจะเห็นได้ว่า SIB จะมีลักษณะที่ผสมผสานระหว่างการลงทุนในตราสาร หนีโ้ ดยทว่ั ไป และการดาเนินกจิ กรรมเพ่อื สงั คมอื่น กล่าวคือ นักลงทุนท่ีลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลมีสถานะ เป็นเจ้าหน้ีเหมือนกับนักลงทุนในตราสารหนี้โดยท่ัวไป แต่มีความเส่ียงในการจะได้รับ Financial Return โดยจะได้รับ Financial Return หรือไม่ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการดาเนินกิจกรรมเพื่อสังคม นอกจากนี้ นักลงทุนจะได้รับ Economics Return เหมือนกับการดาเนินกิจกรรมเพื่อสังคมผ่านวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือการบริจาคเพื่อสังคมด้วย อย่างไรก็ดี เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีการดาเนินการออก SIB จึงยังไม่มี การกาหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีในลักษณะเดียวกันกับการบริจาคเพื่อสังคม และวิสาหกิจเพ่ือสังคม ใหก้ บั นักลงทุนท่ีลงทนุ ในพันธบตั รเพ่ือสังคมแต่อยา่ งใด 6.3.3 วเิ คราะหแ์ นวทางการกาหนดมาตรการภาษสี าหรบั SIB โดยหลักการพิจารณากาหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับนักลงทุนเพื่อ สง่ เสริมการลงทุนในทรัพย์สินทางการเงินโดยทั่วไป อาจพิจารณากาหนดได้ใน 3 ช่วงเวลา ได้แก่ (1) การอนุญาตให้นาเงินได้ที่ได้จ่ายไปในการลงทุนหักออกจากเงินได้พึง ประเมินหรอื หักเปน็ รายจา่ ยในการคานวณภาษเี งนิ ได้ (2) ยกเวน้ ผลตอบแทนท่ไี ด้รบั ในระหวา่ งที่ถือทรพั ยส์ ินทางการเงินดงั กลา่ ว (3) ยกเว้นผลตอบแทนที่ไดร้ ับเมอื่ ขายทรพั ยส์ นิ ทางการเงินนน้ั ออกไป เม่ือพิจารณาการกาหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีตลอดทั้ง 3 ช่วงเวลา จะสามารถ กาหนดสิทธิประโยชน์ (Tax Treatment) ได้ใน 7 รูปแบบ ได้แก่ 1) Exempt Exempt Exempt (EEE) 2) Exempt Exempt Taxable (EET) 3) Exempt Taxable Exempt (ETE) 4) Taxable Exempt Exempt (TEE) 5) Exempt Taxable Taxable (ETT) 6) Taxable Taxable Exempt (TTE) 7) Taxable Exempt Taxable (TET) อย่างไรก็ดี ผู้วิจัยเห็นว่าในการกาหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีควรตั้งอยู่บนหลัก ความเป็นธรรมทางภาษี (Equity) ไว้ด้วย กล่าวคือ นักลงทุนควรจะต้องเสียภาษีอย่างน้อย 1 ช่วงเวลาใน 3 ช่วงเวลา (Taxable) และเน่ืองจากนักลงทุนมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงในการจะได้รับผลตอบแทน ดังนั้น การกาหนดสทิ ธิประโยชน์ทางภาษีในช่วงเวลาที่ 2 และ 3 อาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าท่ีควร ดังนั้น จึงเห็นควร กาหนดสิทธิประโยชน์ในรปู แบบ ETT โดยกาหนดให้นาเงินลงทุนใน SIB มาหักออกจากเงินได้พึงประเมิน หรือหักเป็นรายจ่ายในการคานวณภาษีเงินได้ (Tax Allowance or Tax Expense) เพ่ือส่งเสริมการระดมทุน ผ่าน SIB เพ่ือนาเงินมาใช้ดาเนินกิจกรรมเพ่ือสังคม อันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม เปิดโอกาสให้ ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทางสังคม และประหยัดงบประมาณของภาครัฐ โดยมี สาระสาคญั สรุปได้ ดงั ตารางต่อไปนี้
144 ตารางท่ี 6.2 : สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนใน SIB ประเดน็ รายละเอยี ดของข้อเสนอมาตรการภาษี 1. วัตถุประสงค์ เพ่อื จงู ใจใหเ้ กดิ การลงทนุ ในพนั ธบัตรเพอ่ื สังคม เพอื่ ใชด้ าเนนิ กจิ กรรมเพอื่ สังคมอนั จะ เป็นประโยชนต์ ่อสงั คมส่วนรวม 2. สทิ ธปิ ระโยชน์ 1.1 ลดหยอ่ นภาษีเงนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดาสาหรบั เงินลงทนุ ในพนั ธบตั รเพอ่ื สงั คม ตาม จานวนท่จี า่ ยจรงิ แตร่ วมกันแลว้ ไมเ่ กนิ 200,000 บาท ในปีภาษนี ั้น 1.2 ใหบ้ รษิ ทั หรือห้างหุ้นส่วนนติ บิ คุ คลหกั รายจา่ ยสาหรับเงินลงทนุ ในพนั ธบตั รเพ่ือ สงั คม ตามจานวนที่จา่ ยจริง แตร่ วมกนั ทงั้ หมดแลว้ ไมเ่ กนิ 200,000 บาท ต่อรอบ ระยะเวลาบญั ชี อยา่ งไรก็ดี เน่อื งจากยังไมเ่ คยมีการระดมเงนิ ทุนผา่ น SIB จงึ ยงั ไม่ทราบอปุ สงค์ (Demand) ท่ีแทจ้ ริง และคานงึ ถึงรายจ่ายทางภาษี (Tax Expenditure) ซ่ึงจะกระทบ รายได้ภาษที ่ีจดั เกบ็ ไดข้ องรัฐบาล ในเบ้ืองต้นคณะผ้วู จิ ยั จงึ กาหนดเพดานการใชส้ ิทธิ ไวท้ ่ี 200,000 บาท และเท่ากนั ระหวา่ งบคุ คลธรรมดาและบรษิ ทั หรือหา้ งหนุ้ ส่วน นิติบคุ คล เพอ่ื ไม่ใหเ้ กิดความลักล่นั กันระหวา่ งบคุ คลธรรมดาและนิตบิ ุคคล 3. หลกั เกณฑ์ 3.1 นกั ลงทนุ : วิธกี าร และเง่ือนไข 3.1.1 จะตอ้ งถอื พนั ธบตั รเพื่อสังคมจนสิ้นสดุ ระยะเวลาโครงการ 3.1.2 มีหลกั ฐานเอกสารรบั รองการจา่ ยลงทุนในพนั ธบัตรเพื่อสังคม โดยระบจุ านวน เงนิ ลงทนุ วนั เดอื น ปีที่จา่ ยเงนิ ลงทนุ ระยะเวลาโครงการ วธิ กี าร เง่อื นไข และตวั ชีว้ ัด การจา่ ยผลตอบแทน ช่อื นักลงทนุ ชื่อผอู้ อกพนั ธบัตรเพ่อื สังคม และชื่อผู้จา่ ย ผลตอบแทน 3.2 ผ้อู อกพันธบตั รเพอื่ สังคม : 3.2.1 ต้องได้รับอนุญาตให้ออกพันธบัตรเพื่อสังคมตามหลักเกณฑ์ของ กลต. 3.2.2 โครงการเพื่อสังคม ต้องมกี ารระบชุ อ่ื หน่วยงานที่เกย่ี วข้องกับโครงการ เชน่ ผู้ออกพันธบัตรเพื่อสงั คม ผดู้ าเนนิ โครงการ ผ้จู า่ ยผลตอบแทน ท่ปี รึกษาโครงการ ผ้ปู ระเมนิ ผลโครงการ เป็นต้น และแผนการดาเนนิ โครงการการท่ีชดั เจน เชน่ วัตถปุ ระสงค์ ลักษณะโครงการ วธิ กี ารดาเนนิ โครงการ วิธีการ เงื่อนไข และตัวชว้ี ัดการจา่ ยผลตอบแทน ระยะเวลาโครงการ ประโยชนท์ ่ีสังคมจะไดร้ ับ เป็นตน้ ซ่งึ โครงการดังกลา่ วตอ้ งไดก้ าร รบั รองจากกระทรวงการพฒั นาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์ ที่มา: คณะผวู้ ิจัย
145 6.4 การเตรียมความพร้อมในการตดิ ตามประเมินผลโครงการ จาการวิเคราะห์บทเรียนโครงการ SIB ในต่างประเทศ คณะผู้วิจัยพบว่า การติดตาม ประเมินผลโครงการเป็นขั้นตอนสาคัญที่ทาให้โครงการ SIB ประสบความสาเร็จ อาทิ โครงการ HM Peterborough Prison มกี ารประเมนิ ผลโดยสานักงานผู้ตรวจการแผ่นดนิ ท่นี า่ เชื่อถือ โครงการ Educate Girls Development Impact Bond ประเมินผลโดยองค์กรพัฒนาสังคมที่มีความเป็นอิสระ และโครงการ Sticking Together SIB ใช้ระบบการประเมินที่เป็นการบันทึกข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมจริงโดยไม่ใช้ ดุลยพินิจของผู้ประเมนิ ในขณะท่ีจากการวเิ คราะห์ความเป็นไปได้ในการนาธุรกรรม SIB มาประยุกต์ใช้ใน ประเทศไทยพบว่า หน่วยงานภาครัฐยังคงมีข้อจากัดในการประเมินผลโครงการด้านสังคม ดังน้ัน เพื่อ ส่งเสริมให้ SIB เป็นนวัตกรรมทางการเงินเพื่อสังคมที่เป็นที่ยอมรับของนักลงทุน หน่วยงานภาครัฐที่ เกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่มีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาและแก้ไขปัญหาสังคม จาเปน็ ต้องเตรยี มความพร้อมในดา้ นการติดตามประเมินผลโครงการเพ่ือสังคมในมติ ิต่าง ๆ ดงั นี้ 6.4.1 แนวทางการจดั เก็บข้อมูลดา้ นสังคมของหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากโครงการด้านสังคมในปัจจุบันมีเป็นจานวนมากและมีความหลากหลาย ทั้งในเชิงพื้นที่และความซับซ้อนของปัญหา ในขณะที่แนวทางการระดมทุนในรูปแบบ SIB จาเป็นต้องมี การประเมินความเป็นไปได้ ความคุ้มค่าและความเหมาะสมของโครงการ ตลอดจนกาหนดตัวชี้วัดและ การติดตามประเมินผลโครงการท่ีเป็นรูปธรรมและวัดผลสัมฤทธิ์หรือผลที่คาดหวังได้จริง ซ่ึงจาเป็นต้องมี ข้อมูลทางสถิติ หรือเอกสารหลักฐานเพียงพอที่จะนามาใช้ประกอบการจัดทาโครงการ SIB อาทิ ข้อมูล ต้นทนุ ทางการเงนิ ต่อหนว่ ย (unit cost) เพ่อื ใชใ้ นการคานวณผลเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างต้นทุน ของโครงการและการประหยัดงบประมาณของภาครัฐ การเปรียบเทียบจากข้อมูลสถิติของกลุ่มท่ีไม่ได้ เข้าร่วมโครงการ หรือข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างในอดีต เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลสถิติด้านสังคมต่างๆ ยังกระจายอยู่ในความรับผิดชอบของ หน่วยงานภาครัฐตามภารกิจ และอาจยังมีความไม่ครบถ้วนและครอบคลุมเพียงพอ ดังน้ัน หน่วยงาน ภาครัฐที่มีแผนจะดาเนินโครงการ SIB ควรวางแนวทางการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลด้านสังคมซึ่งอยู่ใน ความรับผิดชอบของตนอย่างเป็นระบบ อาทิ ข้อมูลย้อนหลังโดยเฉพาะข้อมูลฐาน (ก่อนเร่ิมโครงการ) หรือ ข้อมูลของประชากรท่ีมีความใกล้เคียง เช่น ในพื้นที่อื่น หรือช่วงอายุอ่ืน เพ่ือให้ภาครัฐสามารถนาข้อมูล ดังกลา่ วไปประมวลผลและใช้ในการวเิ คราะหค์ วามเป็นไปได้ในการดาเนนิ โครงการ ตลอดจนคานวณความ คมุ้ ค่า และกาหนดเกณฑต์ ัวชี้วัดและวธิ กี ารประเมินผลได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและเชอ่ื ถือไดใ้ นทางวชิ าการ
146 6.4.2 การพัฒนาตัวชีว้ ดั โครงการ และการขน้ึ ทะเบยี นหน่วยงานผู้ประเมนิ โครงการ สาหรับการเตรียมพร้อมในด้านการประเมินผล (Evaluation) ซึ่งถือเป็นขั้นตอน สาคัญในการสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนในการให้เงินทุน และเป็นกลไกที่จะช่วยให้รัฐบาลแน่ใจได้ว่า จะจ่ายเงินต้นและผลตอบแทนให้กับโครงการท่ีประสบผลสาเร็จเท่านั้น หน่วยงานภาครัฐซึ่งเป็นเจ้าของ โครงการจึงตอ้ งมกี ารจดั ทาตวั ชวี้ ดั ทีส่ อดคล้องกับวัตถปุ ระสงค์ของโครงการเพื่อประเมินผลสาเร็จ อย่างไร ก็ตาม เนื่องจากวิธีการและเคร่ืองมือในการประเมินผลโครงการเชิงสังคมยังไม่เป็นท่ีแพร่หลายมากนัก ดังนัน้ เพอื่ เตรยี มความพร้อมของบุคลากรภาครัฐในด้านน้ี หน่วยงานกลางหรือ Social Finance Thailand ทจ่ี ัดตง้ั ข้ึน จงึ ควรมีการให้บริการคาปรึกษาแก่หน่วยงานท่ีต้องการริเริ่มโครงการ SIB ตลอดจนจัดฝึกอบรม ให้ความรู้เกี่ยวกบั การกาหนดตัวช้ีวัด และวิธีการประเมินโครงการและการใช้เครื่องมือประเมินผลกระทบ เพอ่ื สังคม เช่น Social Return on Investment (SROI) เปน็ ตน้ นอกจากนี้ ในประเด็นความพร้อมของหน่วยงานผู้ประเมินโครงการนั้น เน่ืองจาก กระบวนการจัดซอื้ จัดจ้างของหนว่ ยงานภาครัฐจะต้องดาเนนิ การตามพระราชบญั ญัติการจัดซื้อจัดจ้างและ การบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. 2562 โดยในการวา่ จา้ งผูป้ ระเมินผลโครงการ หนว่ ยงานภาครัฐจะต้องว่าจ้าง ท่ีปรึกษาท่ีขึน้ ทะเบียนกบั ศูนย์ข้อมูลท่ีปรึกษา กระทรวงการคลัง251ซ่ึงปัจจุบันสานักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้มกี ารพฒั นาระบบการขึ้นทะเบยี นท่ีปรึกษา โดยครอบคลุมที่ปรึกษาอิสระ (บุคคลธรรมดา) และที่ปรึกษา นิติบคุ คล (ประกอบด้วย ส่วนราชการ หน่วยงานในกากับดูแลของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ตลอดจนสถาบันการศึกษา และสมาคม) ซึ่งปัจจุบันมีท่ีปรึกษาท่ีจดทะเบียนในสาขาการวิจัยและการประเมินผล จานวน 108 แห่ง (ข้อมลู ณ วนั ที่ 3 กนั ยายน 2562) นอกจากนี้ ยังมีท่ีปรึกษาท่ีมีความเช่ียวชาญในสาขาอ่ืนๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การดาเนนิ งานดา้ นสังคมดว้ ย อาทิ สาขาการเกษตรและการพัฒนาชนบท สาขาการศึกษา สาขาส่ิงแวดล้อม สาขาสาธารณสุข สาขาประชากร และสาขาการพัฒนาเมือง262ซ่ึงฐานข้อมูลหน่วยงานในระบบศูนย์ข้อมูล ทป่ี รึกษาดังกล่าวจะช่วยใหห้ น่วยงานภาครัฐท่ีดาเนินโครงการ SIB สามารถคัดเลือกหน่วยงานที่มีคุณสมบัติ เหมาะสม โดยปราศจากการมีส่วนได้เสียกับโครงการ SIB หรือผู้เกี่ยวข้องในโครงการ ตลอดจนมีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาเป็นผู้ประเมินผลโครงการ (Evaluator) หรือเป็นหน่วยงานตัวกลาง (Intermediary) ภายใต้โครงการ SIB ได้ กระบวนการขึ้นทะเบียนท่ีปรึกษาดังกล่าวจึงถือเป็นหน่ึงในกลไก ของภาครัฐที่จะชว่ ยสรา้ งสภาพแวดลอ้ มที่เหมาะสมต่อการประยุกต์ใช้ SIB ในประเทศไทยได้ 25 พระราชบญั ญัตกิ ารจดั ซ้อื จดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. 2562 มาตรา 73 26 กฎกระทรวง กาหนดหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขการขนึ้ ทะเบยี นที่ปรกึ ษา พ.ศ. 2560 ขอ้ 11
147 ท้ังน้ี ในการนากรอบแนวคิดและข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (Policy Recommendation) ขา้ งต้นใหเ้ กิดขนึ้ อยา่ งเปน็ รูปธรรม รฐั บาลในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการจัดทาบริการสาธารณะ และโครงการด้านสงั คม ควรทาหนา้ ทเ่ี ปน็ กลไกขับเคลอ่ื นหลกั ในการผลกั ดันให้เกิดโครงการ SIB ในประเทศ ไทย เพอื่ เปน็ การสง่ สญั ญาณเพมิ่ ความเชอ่ื ม่นั ให้แก่ภาคเอกชนและภาคประชาสังคมในการเข้ามามีส่วนร่วม โดยในระยะแรกภาครฐั ควรจดั ให้มีเวทีแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาค ประชาสงั คม เพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมกาหนดกลไกริเร่ิมการจัดทาโครงการ SIB ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ ก่อตั้งองค์กรกลางในด้านการระดมทุนเพื่อสังคม Social Finance Thailand โดยจะมีหน้าท่ีหลัก คือ ประสาน งานและบูรณาการการทางานระหว่างหนว่ ยงานภาครฐั ท่ีเกย่ี วขอ้ ง รวมถึงกาหนดประเด็นที่ต้องการดาเนิน โครงการ SIB ทสี่ อดคลอ้ งกับยุทธศาสตร์ชาติและภาครฐั พร้อมสนบั สนนุ ในลกั ษณะโครงการ SIB Pipeline รวมทง้ั เพ่ือให้คาปรกึ ษาและความช่วยเหลอื ทางวชิ าการแก่หนว่ ยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ท่ีสนใจจะดาเนินโครงการ SIB ท้ังน้ี คณะผู้วิจัยได้จัดทาตัวอย่างโครงการ SIB ที่มีความเป็นไปได้ในการ ดาเนินงานในลกั ษณะโครงการนาร่อง (Pilot project) เพอื่ ให้หนว่ ยงานที่สนใจนาไปพัฒนาต่อยอดให้เป็น รูปธรรมตอ่ ไป (ภาคผนวก ฏ) สาหรบั การดาเนนิ การในระยะตอ่ ไป หนว่ ยงานภาครฐั ทเ่ี กี่ยวขอ้ งควรมีการทบทวนกรอบ กฎหมายและระเบียบท่ีเก่ียวข้องเพื่อรองรับ ตลอดจนกาหนดมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนใน รูปแบบ SIB ในระยะยาว โดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องสามารถนาข้อเสนอในรายงานวิจัยนี้ไปเป็น ตัวตง้ั ต้นในการพจิ ารณาศึกษาต่อยอดทางวชิ าการ เพ่ือประเมินถึงความเป็นไปได้ ความเหมาะสมของการ ดาเนินการ และพิจารณาผลกระทบอย่างรอบด้านต่อไป โดยคณะผู้วิจัยได้สรุปผลการนารายงานวิจัยน้ี ไปประยุกตใ์ ช้ในบทบาทของหนว่ ยงานภาครฐั ดงั นี้ ขอ้ เสนอ/มาตรการ หน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้อง การดาเนนิ การระยะแรก สานักงานสภาพฒั นาการเศรษฐกิจและ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ ง สงั คมแห่งชาติ จัดเวทีแลกเปล่ียนความคิดเห็น กระทรวงการคลัง การจดั ตง้ั Social Finance Thailand กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคง จดั ทาโครงการ SIB Pipeline ของมนษุ ย์
148 ขอ้ เสนอ/มาตรการ หนว่ ยงานทเี่ กี่ยวข้อง การดาเนนิ การระยะตอ่ ไป 1. กาหนดหลักเกณฑก์ ากับดูแลการออกตราสาร SIB สานกั งานคณะกรรมการกากับ หลักทรัพยแ์ ละตลาดหลักทรพั ย์ 2. ปรับปรุงกระบวนการจัดซอ้ื จดั จ้างภาครฐั เพ่ือรองรบั กรมบัญชีกลาง การแก้ไขกฎกระทรวงเก่ยี วกับการขน้ึ ทะเบยี น ผู้ประกอบการ การจัดทารา่ งสญั ญามาตรฐานเกีย่ วกับการจา้ ง ผู้เกีย่ วขอ้ งในโครงการ SIB 3. กาหนดสิทธปิ ระโยชน์ทางภาษีเพ่อื สนับสนุนการ สานกั งานเศรษฐกิจการคลงั ลงทนุ ใน SIB กรมสรรพากร คณะผู้วิจัยเช่ือม่ันว่า “พันธบัตรเพื่อสังคม” หรือ Social Impact Bond จะเป็นนวัตกรรม ทางสังคมท่ีสาคัญ ซึ่งใช้ทั้ง “เคร่ืองมือทางการเงิน” และ “มาตรการทางการคลัง” ผ่านกลไกการทางาน ของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อแกไ้ ขปญั หาสงั คมได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและยั่งยืน
150
151 บรรณานกุ รม เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ (2556). “พันธบัตรตอบแทนการพัฒนาสังคม (Social impact bond) : ทางเลือกใหมใ่ นการพัฒนาประเทศ”. สบื ค้นจาก http://drdancando.com แถลงข่าวกระทรวงการคลัง (2541). “โครงการลงทุนเพื่อสังคม (Social Investment Project: SIP)”. สืบค้น จาก https://www.mof.go.th/home/Press_release/news98/News50.htm พมิ พ์เพ็ญ ลัดพลี และคณะ (2560). “การวเิ คราะห์ต้นทนุ และผลประโยชน์ของการดาเนินนโยบายประชา นยิ ม : กรณีศึกษามาตรการลดคา่ ครองชพี ของประชาชนในโครงการรถเมล์ฟรี”. สบื คน้ จาก http://www.pdmo.go.th/th/publications/article วิวรรณ ธาราหริ ัญโชติ (2559). “การลงทุนเพื่อสงั คม”. คลังบทความ. สืบค้นจาก http://www.thaivi.org/ สถาบันวจิ ัยเพื่อการพฒั นาประเทศไทย. (2560). “โครงการศึกษารูปแบบของการสร้างความร่วมมือท่ีเน้น ผลลัพธ์เพื่อสังคม (Social Impact Partnership Model) เสนอต่อสานักงานคณะกรรมการ พัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย. (2560). “มาตรการทางการคลังเพื่อสนับสนุนการลงทุนด้าน สังคม”.เอกสารประกอบงานสัมมนาวิชาการ “ชวนสังคมลงทุน” โครงการศึกษาการลงทุนด้าน สังคมเพือ่ การพฒั นาอยา่ งยั่งยืนของภาคีสุขภาวะ. เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2560. สถาบันวิจัยเพ่ือการพัฒนาประเทศไทย. (2560). “ระบบนิเวศ รูปแบบ และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับ การ ลงทุนด้านสังคมของไทย”. เอกสารประกอบงานสัมมนาวิชาการ “ชวนสังคมลงทุน” โครงการ ศึกษาการลงทุนด้านสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภาคีสุขภาวะ เม่ือวันที่ 11 มกราคม 2560. สฤณี อาชวานันทกุล (2556). กลไกใหม่ๆ สาหรับ “การเงินเพ่ือสังคม” (2) : “พันธบัตรเพื่อสังคม” (social impact bond). สืบค้นจาก http://thaipublica.org/2013/12/social-impact-bond- structure/ สฤณี อาชวานันทกุล (2557). กลไกใหม่ๆ สาหรับ “การเงินเพื่อสังคม” (3) : ประสบการณ์จาก “พันธบัตรเพ่ือ สังคม” ของจริง. สืบค้นจาก https://thaipublica.org/2014/01/social-impact-bond- case/ สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ และอิสร์กุล อุณหเกตุ. (2559). “การปรับบทบาทภาครัฐในการให้บริการ สาธารณสุข: กระจายอานาจให้ท้องถ่ินตัดสินใจ”. รายงานทีดีอาร์ไอ ฉบับท่ี 118 สิงหาคม 2559.
152 สานกั งานคณะกรรมการกากับหลกั ทรัพย์และตลาดหลักทรพั ย์ (2557). “Social Impact Bond as a market based driver of social and development interventions”. สบื คน้ จาก https://www.sec.or.th/TH/MarketDevelopment/Documents/SIB_on%20the%20web.pdf สานกั งานบรหิ ารหน้ีสาธารณะ (2562). “ตารางโครงการสนับสนนุ ทางการเงินแบบให้เปลา่ (Grant Assistance)”. สานกั งานเศรษฐกิจการคลัง (2562). ข้อมูลงบประมาณรายจ่ายเพื่อสังคม พ.ศ. 2556 - 2560 ของประเทศไทย. “Government Finance Statistics”. สืบค้นจาก http://www.fpo.go.th สานักงานสรา้ งเสริมกจิ การเพื่อสงั คมแห่งชาติ (2557). “บทเรยี นและบทวิเคราะห์เพ่อื การปรบั ใชใ้ นสงั คมไทย”. รายงานการศกึ ษาทศิ ทางการขบั เคลื่อนประเดน็ วสิ าหกิจเพ่อื สงั คม (Social Enterprise). สานักงานสร้างเสริมกิจการเพ่ือสังคมแห่งชาติ (2557). “บทเรยี นและบทวิเคราะหเ์ พอ่ื การปรับใช้ใน สงั คมไทย”. รายงานการศึกษาทิศทางการขับเคลื่อนประเดน็ วิสาหกจิ เพอ่ื สังคม (Social Enterprise). สานักงานสถิตแิ ห่งชาติ (2562). สามะโน/สารวจ ดา้ นเศรษฐกจิ สาขาบัญชีประชาชาติ “องคก์ ารเอกชนท่ี ไมแ่ สวงหากาไร พ.ศ. 2556”. สบื ค้นจาก http://www.nso.go.th/sites/2014/Pages/ สารวจ/ ดา้ นเศรษฐกจิ /สาขาบัญชีประชาชาต.ิ aspx สานกั งานสถติ แิ ห่งชาติ (2562). สามะโน/สารวจ ด้านสงั คม สาขารายได้และรายจ่ายของครัวเรอื น “ภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2560”. สืบค้นจาก http://www.nso.go.th/ sites/2014 /Pages/สารวจ/ดา้ นสงั คม/สาขารายได้และรายจา่ ยของครัวเรอื น.aspx สานกั วิชาการ สานักงานสภาผู้แทนราษฎร (2560). “Social Impact Bond กบั การพัฒนา SMEs”. สบื ค้น จาก http://library2.parliament.go.th/ebook/content-issue/2560/hi2560-083.pdf Annual Status of Education Report (2558). Annual Status of Education Report (Rural) 2014. [รายงานประจาปี]. สืบค้นจาก http://img.asercentre.org/docs/Publications/ASER%20Reports/ASER%202014/full aser2014mainreport_1.pdf
153 Boggild-Jones, I. and Gustafsson-Wright, E.. World’s first development impact bond for education shows successful achievement of outcomes in its final year. [เวบ็ บลอ็ ก]. สืบคน้ จาก https://www.brookings.edu/blog/education-plus- development/2018/07/13/worlds-first-development-impact-bond-for-education- shows-successful-achievement-of-outcomes-in-its-final-year/ British Council (2558). “กิจการเพ่ือสงั คมในสหราชอาณาจักร: การพัฒนาสกู่ ิจการภาคสงั คมทเ่ี ติบโต”. สืบค้น จาก https://www.britishcouncil.or.th/sites/default/files/kicchkaarephuuesangkhmain shraachaanaacchakr_final.pdf Brookings Institution (2558). “The Potential and Limitations of Impact Bonds: LESSONS FROM THE FIRST FIVE YEARS OF EXPERIENCE WORLDWIDE”. Available from: https://www.brookings.edu/wp-content/uploads/2016/07/Impact-Bondsweb.pdf Cave, S., Williams, T., Jolliffe, D., & Hedderman, C. (2555). Peterborough social impact bond: An independent assessment. Development of the PSM methodology. Ministry of Justice Research Series, 8, 12. Civil Society Strategy. DCMS (2561). “Civil Society Strategy: building a future that works for everyone”. Available from: https://www.gov.uk/government/publications/civil-society-strategy-building-a- future-that-works-for-everyone DC Water (2560). “FACT SHEET: DC Water Environmental Impact Bond”. Available from https://www.goldmansachs.com/media-relations/press-releases/current/dc- water-environmental-impact-bond-fact-sheet.pdf DC Water (2562). “Restoring our Rivers and Protecting the District”. Available from https://www.dcwater.com/stormwater DC Water (2562). “Wastewater Flows From as far as Dulles Airport to Blue Plains”. Available from https://www.dcwater.com/stormwater Disley, E., Rubin, J., Scraggs, E., Burrowes, N., & Culley, D. (2554). Lessons learned from the planning and early implementation of the Social Impact Bond at HMP Peterborough. Research series, 5(11).
154 Disley, E., Giacomantonio, C., Kruithof, K., & Sim, M. (2558). The payment by results Social Impact Bond pilot at HMP Peterborough: final process evaluation report. RAND. Emily Gustafsson-Wright Sophie Gardiner Vidya Putcha (2558). “The Potential and Limitations of Impact Bonds”. Global Economy and Development ant Brookings. Availablefrom :https://www.brookings.edu/wp-content/uploads/2016/07/Impact-Bondsweb.pdf Good Finance (2559). “Social investment, Tools for success: doing the right things and doing them right”. Available from: https://www.goodfinance.org.uk/sites/default/files/post/pdf/Social%20Investme nt-%20tools%20for%20success_%20Cass%20Business%20School.pdf Good Finance (2561). “What is social investment?”. Available from: https://www.goodfinance .org.uk/ understanding-social-investment Government Outcome Lab (2561). “An introduction to social impact bonds (SIBs)”. Available from: https://golab.bsg.ox.ac.uk/knowledge/basics/introduction-social-impact- bonds/pdf/ Harvard Kennedy School Government Performance Lab (2560). “DC Water Environmental Impact Bond”. Available from https://govlab.hks.harvard.edu/files/govlabs/files/ dc_water_environmental_impact_bond.pdf Hasan, M. (2556). Valuation of the Peterborough Prison Social Impact Bond. Herwig Raubal (2559). “Benefit System Performance Report”. Ministry of Social Development, New Zealand. Available fromhttps://www.msd.govt.nz/documents/about-msd- and-our-work/publications-resources/evaluation/investment-approach/2016- benefit-system-performance-report-final.pdf HM Treasury (2561). “Civil Society Strategy: Building a Future That Works For Everyone”. Available from: https://assets.publishing.service.gov.uk/government/uploads/system/uploads /attachment data/file/732765/Civil_Society_Strategy_-_building_a future_that_works_for_ everyone.pdf
155 Instiglio (2558). EDUCATE GIRLS DEVELOPMENT IMPACT BOND. สบื คน้ จาก http://instiglio.org/educategirlsdib/wp-content/uploads/2016/03/EG-DIB-Design- 1.pdf International Monetary Fund. (2562). ขอ้ มลู งบประมาณรายจ่ายเพื่อสังคม พ.ศ. 2556 – 2559 ของ ประเทศสมาชกิ แห่งองค์กรเพื่อความรว่ มมือและการพฒั นาทางเศรษฐกจิ (OECD). สบื คน้ จาก https://www.imf.org Jolliffe, D., & Hedderman, C. (2557). Peterborough Social impact bond: final report on cohort 1 analysis. Report prepared for the Ministry of Justice, University of Leicester. Judith Rodin (2555). “Welcome Remarks: Capital Markets for Impact at Scale”. Rockfeller Foundation News & Media. Available from:https://www.rockefellerfoundation.org/ about-us/news-media/welcome-remarks-capital-markets-for-impact-at-scale/ Kay, L. World's first social impact bond achieved goals and repaid investors. [เวบ็ บลอ็ ก]. สบื คน้ จาก https://www.thirdsector.co.uk/worlds-first-social-impact-bond- achieved-goals-repaid-investors/finance/article/1440676 Kitzmüller, L., McManus, J., Shah, N. B., and Sturla, K. (2561). Educate Girls Development Impact Bond. สืบคน้ จาก https://www.idinsight.org/wp-content/uploads/2018/07/ Educate-Girls-DIB-Final-Evaluation-Report_2018-06-10.pdf Master of Finance.org (2561). “What is Social Finance?”. Available from: https://www.master-of-finance.org/faq/what-is-social-finance/ MDRC (2562). “Key Partners in NYC's Social Impact Bond”. Available from https://www.mdrc.org/key-partners-nycs-social-impact-bond Nicholas Bergfeld, David Klausner, and Matus Samel (2559). “Improving Social Impact Bonds: Assessing Alternative Financial Models to Scale Pay-for-Success”. M-RCBG Associate Working Paper Series No. 65, Harvard Kenedy School. Available from : https://www. hks.harvard.edu/sites/default/files/centers/mrcbg/files/Final_AWP65.pdf
156 Wilson, K. (2557). \"New Investment Approaches for Addressing Social and Economic Challenges\". OECD Science, Technology and Industry Policy Papers, No. 15, OECD Publishing, Paris. https://doi.org/10.1787/5jz2bz8g00jj-en. OECD (2558). “Social Impact Investment: Building the evidence base”. OECD Publishing, Paris. Available from: https://doi.org/10.1787/9789264233430-en OECD (2559). “Understanding Social Impact Bond”. OECD Working paper. Available from: http://www. oecd.org/cfe/leed/UnderstandingSIBsLux-WorkingPaper.pdf OECD (2559). “Social impact bonds: state of play & lessons learnt”. OECD Working paper. Available from: https://www.oecd.org/cfe/leed/SIBs-State-Play-Lessons-Final.pdf OECD (2562). “Social Expenditure - Aggregated data”. Available from: https://stats.oecd.org/ Index.aspx?DataSetCode=SOCX_AGG# Olson, J. & Phillips, A. (2556). “Rikers Island: The First Social Impact Bond in the United States”. Community Development INVESTMENT REVIEW, FEDERAL RESERVE BANK OF SAN FRANCISCO. Available from https://www.frbsf.org/community- development/publications/community-development-investment- review/2013/april/rikers-island-social-impact-bond/ One Service. (2560). “World’s 1st Social Impact Bond shown to cut reoffending and to make impact investors a return”. Press Releases ของ Social Finance, UK”. Available from: http://www.socialfinance.org.uk/wp- content/uploads/2017/07/Final-press-release-PB-July-2017.pdf Quantified Venture (2562). “World's First Environmental Impact Bond to Reduce Stormwater Runoff and Combined Sewage Overflows in Washington, D.C. Available from http://www.quantifiedventures.com/dc-water Ravi, S. and Sharma, P.. How a development impact bond is helping improve girls’ education in Rajasthan. [เว็บบลอ็ ก]. สบื คน้ จาก https://www.hindustantimes.com/analysis/how-a-development-impact-bond-is- helping-improve-girls-education-in-rajasthan/story- UOaxXIAw0TLzWsEVALVFyO.html
157 SET Social Impact (2561). “SET Social Impact เกีย่ วกับเรา”. สบื คน้ จาก http://www.setsocialimpact.com /Article/Detail/51211 Social Finance. (2559). “Social Impact Bonds: The Early Years”. Available from: http://www. socialfinance.org.uk/resources/publications/. Social Finance (2561). “Social Impact Bond Database”. Available from: https://sibdatabase. socialfinance.org.uk/ Social Finance (2562). “Impact Bond Global Database”. Available from: https://sibdatabase. socialfinance.org.uk/ Social Ventures Australia (2561). “Sticking Together Social Impact Bond: Information Memorandum”. Available from https://www.socialventures.com.au/assets/SVA- Sticking-Together-SIB-IM_digital-single.pdf SYC (2561). “Sticking Together Project: Discussion Paper”. Available from https://www.syc.net.au/app/uploads/2019/03/SYC-Sticking-Together-Project- Discussion-Paper.pdf Thaicsr community.com (2562). “รวม CSR”. สบื คน้ จาก http://www.csrcom.com/project The Rand Coperation (2561). “Evaluating the World's First Social Impact Bond”. Available from: https://www.rand.org/randeurope/research/projects/social-impact- bonds.html UBS Optimus Foundation (2561). Knowledge is power. [แผน่ พบั อิเล็กทรอนิกส์]. สืบค้นจาก https://www.ubs.com/microsites/optimus-foundation/en/resources.html Wright, E., G., Jones, I., B., Segell, D., & Durland, J. (2560). “Impact Bonds in Developing Countries: Early Learnings from the field”. Univeral Education at Brookings. Available from https://www.brookings.edu/wp-content/uploads/2017/09/impact- bonds-in-developing-countries_web.pdf Young Foundation (2553). “Social Impact Investment: the challenge and opportunity of Social Impact Bonds”. Available from: https://youngfoundation.org/wp- content/uploads/2012/10/Social-Impact-Investment-The-opportunity-and- challenge-of-Social-Impact-Bonds-March-2011.pdf
158
159 ภาคผนวก
160
161 ภาคผนวก ก ตวั ชีว้ ดั โครงการเพื่อสงั คมของหนว่ ยงานภาครฐั 1. โครงการปรับสภาพแสดล้อมและสง่ิ อานวยความสะดวกของผู้สูงอายใุ ห้เหมาะสมและปลอดภยั สาระสาคัญ : ประเทศไทยจะก้าวเข้าสสู่ ังคมผู้สงู อายุระดับสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2564 ซ่งึ ประเทศไทย จะมผี สู้ ูงอายมุ ากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทงั้ หมด รฐั บาลจึงใหค้ วามสาคญั ในการ ลดความเหล่อื มล้าสรา้ งความเปน็ ธรรมในสังคม โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ การมีความม่ันคงใน ทีอ่ ยูอ่ าศัยของผสู้ ูงอายุ วตั ถปุ ระสงค์ : เพอื่ ให้ผสู้ ูงอายุท่ีมีฐานะยากจนท่ีอยู่อาศยั ไมป่ ลอดภยั ได้รับการปรับปรงุ /ซ่อมแซม ทอี่ ยอู่ าศัยใหม้ ีสภาพแวดล้อมทเ่ี หมาะสมและปลอดภัย กลมุ่ เปา้ หมาย : ผู้มอี ายุ 60 ปขี นึ้ ไปมีฐานะยากจน มีท่อี ย่อู าศัยไมม่ ีความเหมาะสมและปลอดภัยต่อ การดารงชวี ิตของผสู้ งู อายุ ตัวชีว้ ัด : (เชงิ ปริมาณ) จานวนบ้านผสู้ ูงอายุทไี่ ด้รบั การปรับปรุงใหม้ ีความเหมาะสมและปลอดภยั โดยมคี า่ เป้าหมาย 3,200 แหง่ (เชงิ คุณภาพ) ผสู้ ูงอายุท่ีใชป้ ระโยชนม์ คี วามพึงพอใจ โดยมคี า่ เป้าหมาย ร้อยละ 95 ระยะเวลา : 1 ปี (ปีงบประมาณ 2562) งบประมาณ : จานวน 78,354,500 บาท ท่ีมา : กรมกจิ การผูส้ ูงอายุ กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความม่ันคงของมนษุ ย์ 2. โครงการเพิม่ ศักยภาพผูม้ ีรายไดน้ อ้ ยท่ลี งทะเบียนสวัสดกิ ารแหง่ รฐั เพื่อสรา้ งงาน สรา้ งอาชพี เพ่ิมรายได้ และความมั่นคงในชวี ิต สาระสาคัญ : รัฐบาลมีนโยบายท่ีจะช่วยเหลือผู้ท่ีมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านกลไกการหางานให้ ทาการสง่ เสริมคมุ้ ครอง การจดั ฝึกอบรม ส่งเสริมทกั ษะอาชพี ให้แกผ่ มู้ บี ัตรสวัสดิการ แหง่ รฐั ใหค้ วามรู้ ทกั ษะฝีมือในการประกอบอาชพี มีรายไดเ้ พม่ิ ข้นึ มงี านทา วตั ถุประสงค์ : 1. เพ่ือพัฒนาศักยภาพผู้ที่ลงทะเบียนเพ่อื สวสั ดกิ ารแหง่ รฐั ที่มรี ายได้ตา่ กว่า 30,000 บาท ต่อปี ทงั้ ในเขตพื้นที่ชมุ ชนเมืองและชนบทใหม้ อี าชพี มงี านทา มที ักษะฝมี ือ 2. เพือ่ ให้เกิดความรว่ มมอื จากทุกภาคสว่ นในรปู แบบประชารัฐ กลมุ่ เปา้ หมาย : ผมู้ บี ัตรสวสั ดกิ ารแหง่ รฐั ทีม่ ีรายไดต้ า่ กว่า 30,000 บาทต่อปี จานวน 625,120 คน
162 ตัวชว้ี ัด : (เชิงคณุ ภาพ) ร้อยละ 65 ของผมู้ สี วัสดิการแหง่ รัฐทมี่ รี ายไดต้ า่ กวา่ 30,000 บาทตอ่ ปี ทเ่ี ข้ารว่ มโครงการพัฒนาคุณภาพชวี ิตของกระทรวงแรงงาน มอี าชีพ มีงานทา มที ักษะ ระยะเวลา ฝมี อื มรี ายได้ที่เพ่มิ ข้นึ ตลอดจนมหี ลกั ประกนั ทางสังคมและความม่ันคงในชวี ิต งบประมาณ ท่มี า : 1 ปี (ปงี บประมาณ 2561) : จานวน 2,120,025,400 บาท : กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงแรงงาน 3. โครงการเงินอุดหนุนเพ่อื การเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด สาระสาคัญ : โครงการเงนิ อุดหนนุ เพื่อการเลีย้ งดเู ด็กแรกเกิด เปน็ นโยบายสาคัญระดับชาติของ รฐั บาลซึ่งเป็นการสรา้ งระบบคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) โดยจัดสวัสดกิ าร เงนิ อดุ หนุนใหก้ ับเด็กแรกเกิดในครัวเรือนยากจนและครวั เรอื นเสี่ยงต่อความยากจน รวมท้ังเปน็ การลดความเหลอื่ มลา้ ทางสงั คม วัตถปุ ระสงค์ : เปน็ การจดั สวสั ดกิ ารพื้นฐานเพ่ือสร้างระบบการคุ้มครองทางสังคมและเป็นหลักประกนั สิทธิขนั้ พน้ื ฐานใหเ้ ด็กแรกเกดิ ได้รับการเล้ียงดูท่ีมีคุณภาพ กล่มุ เป้าหมาย : เด็กแรกเกดิ สัญชาติไทย และอยู่ในครอบครวั ยากจนหรือเส่ียงต่อความยากจน ตวั ช้ีวดั : (เชิงคุณภาพ) รอ้ ยละ 95 ของเด็กที่ได้รบั เงินอดุ หนุนเพอ่ื การเล้ยี งดูเด็กแรกเกิดได้รบั การเลย้ี งดทู ่ีมคี ณุ ภาพและมีพัฒนาการทเ่ี หมาะสมด้วย ระยะเวลา : รอบละ 1 ปี (ต้งั แต่ ปงี บประมาณ 2558 - 2562) งบประมาณ : งบประมาณรวมทั้งส้นิ 657,686,400 บาท ทีม่ า : กรมกจิ การเดก็ และเยาวชน กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่นั คงของมนษุ ย์
ภาคผนวก ข รายชื่อโครงการสนบั สนนุ ทางการเงินแบบให้เปลา่ (Grant Assistance) ต้งั แต่ ปี 2554 - 2562 ปที ี่ โครงการ วัตถปุ ระสงค์ หน่วยงาน หน่วยงานทรี่ บั ระยะเวลา วงเงิน สนบั สนุน ที่ให้การ การสนับสนนุ ดาเนิน สนับสนุน โครงการ (ล้านดอลลาร์ สหรัฐ) 2554 โครงการบรรเทา เพือ่ ใหค้ วามช่วยเหลอื ทาง ADB สภากาชาดไทย 1 ปี 3 เดอื น 3.00 ผลกระทบและความ การเงนิ แกป่ ระเทศ 0.20 เสียหายซงึ่ เกิดจาก สมาชกิ ของ ADB ในการ 0.34 อุทกภัย บรรเทาผลกระทบและ 0.35 ความเสยี หายซ่ึงเกดิ จาก ภัยพิบัตธิ รรมชาตจิ าก อุทกภัย 2555 Strengthening เพอ่ื เสรมิ สรา้ ง World Bank สานักงาน 3 ปี 7 เดอื น คณะกรรมการ Quality Assurance ประสิทธภิ าพการทางาน การอุดมศกึ ษา and Performance ของสานกั งาน สถาบนั 3 ปี พระปกเกลา้ Excellence in Thai คณะกรรมการการ Higher Education อดุ มศกึ ษาในด้านการ พัฒนาคณุ ภาพการศึกษา ในระดบั อดุ มศึกษา 2555 Capacity Support เพ่ือสง่ เสริมรัฐสภาไทยใน World Bank for the Design and การเพ่มิ ประสิทธภิ าพใน Operation of the การวิเคราะห์และประเมิน Independent งบประมาณแผน่ ดินด้วย Budget Research การจัดต้งั หนว่ ยงานอิสระ Office within the ขนึ้ ภายใตส้ ถาบนั King Prajadhipok's พระปกเกลา้ Institute 2556 โครงการเตรยี มความ เพ่อื จดั ทาข้อเสนอ World Bank องคก์ ารบริหาร 2 ปี 8 เดอื น จดั การกา๊ ซ พร้อมด้านกลไกตลาด โครงการเตรยี มความ เรอื นกระจก เพือ่ สนบั สนุนการลด พร้อมดา้ นกลไกตลาดและ กา๊ ซเรือนกระจก เตรยี มความพร้อมในการ (ระยะท่ี 1) สรา้ งระบบซอื้ ขายใน (Partnership for ประเทศ เพ่ือนาไปสู่การ Market Readiness: ลดปรมิ าณการปลอ่ ยก๊าซ PMR) เรือนกระจก
164 ปที ่ี โครงการ วตั ถุประสงค์ หน่วยงาน หนว่ ยงานทีร่ บั ระยะเวลา วงเงนิ สนับสนนุ ที่ใหก้ าร การสนบั สนนุ ดาเนิน สนับสนุน โครงการ (ลา้ นดอลลาร์ สหรัฐ) 2556 โครงการสนับสนุน เพือ่ สนบั สนุนการพฒั นา World Bank สถาบนั ชุมชน 4 ปี 3 เดือน ท้องถน่ิ พฒั นา 4.20 ชุมชนทอ้ งถ่ิน เพอื่ แบบมีสว่ นรว่ มท่ีมี 23.90 ฟื้นฟชู ายแดนภาคใต้ ประสิทธภิ าพและ 3.60 ระยะขยายผล ยกระดับคุณภาพชีวติ ของ 2.00 (Expanding ประชาชนและเสริมสรา้ ง Community ความสมั พันธท์ ่ดี รี ะหวา่ ง Approaches in ประชาชนกับหน่วยงานใน Conflict Situation พ้ืนที่เพือ่ ลดความขดั แยง้ in Three ในพ้นื ท่สี ามจังหวัด ชายแดนภาคใต้ 2557 โครงการลดและเลิก เพื่อลดปรมิ าณการใชส้ าร World Bank กรมโรงงาน 4 ปี 1 เดอื น การใชส้ ารไฮโดรคลอ ไฮโดรคลอไรฟลโู อโร อตุ สาหกรรม ไรฟลโู อโรคาร์บอน คาร์บอน และ (HCFC Phrase Out ธนาคารออม Project) สิน 2559 โครงการเตรยี มความ เพือ่ ให้เงินสนบั สนนุ ใน World Bank องค์การบรหิ าร 2 ปี 9 เดือน จดั การก๊าซ พร้อมดา้ นกลไกตลาด การศึกษา วิเคราะห์และ เรือนกระจก เพ่อื สนบั สนนุ การลด พฒั นากลไกตลาด กา๊ ซเรือนกระจก ภายในประเทศเพื่อเพ่ิม (ระยะท่ี 2) ประสทิ ธภิ าพในการใช้ (Partnership for พลงั งานและลดกา๊ ซเรอื น Market Readiness: กระจก PMR) 2559 Commuty Based เพ่อื จัดทาแผนการบรหิ าร ADB กรมปอ้ งกัน 2 ปี 2 เดอื น และบรรเทา Flood Risk จัดการความเสย่ี งด้าน สาธารณะภยั Management อุทกภัยในพื้นทช่ี มุ ชนและ (CBFRM) in the สง่ เสรมิ การปอ้ งกันการ Chao Phraya Basin เกดิ อุทกภยั ซ่ึงเน้นการ พฒั นาโครงสร้างพ้ืนฐาน ขนาดเล็กในชมุ ชนนารอ่ ง 5 พนื้ ที่ ทม่ี า : สานักงานบริหารหนี้สาธารณะ
ภาคผนวก ค สทิ ธิประโยชนท์ างภาษีสาหรบั การบริจาคเงนิ สิทธิประโยชนท์ างภาษีสาหรบั การบริจาคเงินท้ังบุคคลธรรมดา บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามประมวลรัษฎากรฯ พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร และประกาศกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องกับ เรื่อง ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ สาหรับการบรจิ าคเงนิ หรอื ทรพั ยส์ ิน สรปุ สาระสาคัญได้ ดังนี้ 1. สิทธิประโยชน์ทางภาษีสาหรบั ผู้บรจิ าคท่เี ป็นบุคคลธรรมดา 1.1 ให้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นจานวน 2 เท่าของเงินบริจาคหรือค่าใช้จ่าย แต่ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 10 ของเงนิ ไดพ้ งึ ประเมินหลังหักค่าใชจ้ ่ายและหักลดหยอ่ นอืน่ 1.2 ให้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นจานวนเท่าที่บริจาคเป็นสาธารณประโยชน์ แก่องค์การหรือสถานสาธารณกุศล หรือสถานพยาบาล หรือสถานศึกษา แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้ พึงประเมินหลงั หกั คา่ ใชจ้ า่ ย หกั ลดหย่อน และเงนิ บริจาคตาม (1) 2. สิทธิประโยชนท์ างภาษีสาหรับผู้บริจาคทีเ่ ปน็ บริษทั หรือห้างหนุ้ ส่วนนิตบิ คุ คล 2.1 ให้หักรายจ่ายได้ 2 เท่าของเงินบริจาค ค่าใช้จ่ายหรือทรัพย์สิน แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของ กาไรสุทธกิ ่อนหกั รายจ่าย ตามมาตรา 65 ตรี (3) ประมวลรัษฎากรฯ 2.2 ใหห้ กั รายจ่ายได้เท่ากับรายจ่ายเพ่ือการกุศลสาธารณะ หรือสาธารณประโยชน์ แต่ไม่เกิน ร้อยละ 2 ของกาไรสทุ ธิ และรายจ่ายเพอื่ การศกึ ษา หรือเพื่อการกีฬา แตไ่ ม่เกนิ ร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิ
166 ภาคผนวก ง รายชื่อวสิ าหกิจเพื่อสงั คมที่ผา่ นการรับรองคุณสมบัติ จากคณะกรรมการสร้างเสรมิ กิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ รายชื่อวิสาหกจิ เพื่อสังคม (Social Enterprise : SE) ทผ่ี ่านการรับรองคุณสมบตั ิจากคณะกรรมการ สรา้ งเสรมิ กจิ การเพอื่ สังคมแห่งชาติ จานวน 15 กจิ การ ได้แก่ 1) บริษทั ดอยคาผลติ ภณั ฑ์อาหาร จากดั 2) บริษทั เรยว์ ิสาหกิจเพ่อื สงั คม จากดั 3) บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพ่อื สังคม จากดั 4) บรษิ ัท เเดรี่โฮม จากดั 5) บรษิ ัท กาแฟอาขา่ อ่ามา จากัด 6) บรษิ ทั สยามออร์แกนิค จากดั 7) บรษิ ทั แจสเบอร์รี่ จากดั 8) กล่มุ เกษตรกรทานา นาโส่ 9) มลู นธิ ิแมฟ่ ้าหลวงในพระบรมราชปู ถัมภ์ 10) บรษิ ทั เด็กพเิ ศษ วสิ าหกจิ เพอ่ื สังคม จากัด 11) บริษทั ลุมพนิ ี พร็อพเพอร์ต้ี เซอร์วสิ แอนด์ แคร์ จากดั 12) บรษิ ทั คิดคิด จากดั 13) มูลนธิ ิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภเู บศรในพระอปุ ถัมภฯ์ 14) สหกรณก์ รีนเนท จากัด และ 15) บรษิ ัท โลเคลิ อไลค์ จากดั
ภาคผนวก จ สิทธปิ ระโยชน์ทางภาษีของวสิ าหกจิ เพื่อสงั คม สิทธิประโยชน์ทางภาษีของวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise : SE) ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรษั ฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 621) พ.ศ. 2559 มดี ังนี้ 1. ยกเวน้ ภาษีเงินได้นิตบิ คุ คลสาหรับกาไรสุทธิของวสิ าหกิจเพือ่ สังคม ท้ังน้ี เฉพาะวิสาหกิจ เพ่ือสังคมที่นาผลกาไรทั้งหมดในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีไปลงทุนในกิจการหรือใช้เพื่อประโยชน์ของ เกษตรกร ผ้ยู ากจน คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส หรือใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมอ่ืนๆ โดยไม่มีการจ่ายเงินปันผล และเงินลดทนุ 2. สิทธิประโยชน์ทางภาษีสาหรับผู้สนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม ท่ีเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน นิติบคุ คล มรี ายละเอียดดังนี้ 2.1 กาหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถหักรายจ่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญ ของวิสาหกจิ เพอ่ื สังคมตามจานวนทล่ี งทุนจรงิ 2.2 กาหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถหักรายจ่ายที่เป็นเงินหรือทรัพย์สิน ท่ีโอนให้วิสาหกิจเพ่ือสังคมนาไปใช้ในกิจการหรือใช้เพ่ือประโยชน์ของสังคมโดยไม่มีค่าตอบแทนตาม จานวนท่จี ่ายจรงิ แตเ่ มือ่ รวมกบั รายจ่ายเพ่ือการกุศลสาธารณะแลว้ ต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกาไรสุทธิ ท้ังน้ี หากวิสาหกิจเพ่ือสังคมจ่ายเงินปันผล และเงินลดทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วน ไม่เกินร้อยละ 30 ของกาไรสุทธิในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ผู้สนับสนุนวิสาหกิจเพ่ือสังคมจะได้รับสิทธิ ประโยชน์ทางภาษีตามข้อ 2.2 แต่หากวิสาหกิจเพื่อสังคมไม่มีการจ่ายเงินปันผล วิสาหกิจเพ่ือสังคม จะไดร้ บั สทิ ธิประโยชน์ทางภาษีตามข้อ 2.1 และผู้สนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมจะได้รับสิทธิประโยชน์ทาง ภาษตี ามขอ้ 2.2
168 ภาคผนวก ฉ หน้าทกี่ ารชาระภาษีอากรในการลงทุนในพันธบตั ร 1. ภาษเี งินได้ 1.1 ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็น ภาษีที่เก็บจากฐานภาษี ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเก็บจากฐานเงินได้สุทธิ1 ในอัตราก้าวหน้าร้อยละ 0 – 35 จาก บุคคลทั่วไป หรือจากหน่วยภาษีที่มีลักษณะพิเศษตามที่กฎหมายกาหนด (ได้แก่ ผู้ถึงแก่ความตาย กองมรดกที่ยังมิได้แบ่ง) โดยจัดเก็บเป็นรายปีภาษี (ปีปฏิทิน) กฎหมายกาหนดให้ผู้มีเงินได้ที่มีเงินได้ ถึงเกณฑ์ที่กาหนดในปีภาษีที่ล่วงมาแล้วมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการพร้อมชาระภาษี (ถ้ามี) ภายใน เดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดจากปีท่ีมีเงินได้หรือบางกรณีกฎหมายยังกาหนดให้ผู้มีเงินได้พึงประเมิน บางประเภทต้องย่ืนแบบแสดงรายการก่อนกาหนดเวลาด้วยการย่ืนแบบแสดงรายการครึ่งปีภาษี สาหรับ เงินได้ช่วงครึ่งปีแรก ภายในเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนในปีภาษีนั้นด้วยและให้นาภาษีที่เสียไป หักออกจากภาษีสิ้นปีได้ 1.2 ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax) ภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นภาษีท่ีเก็บ จากฐานภาษี ซ่งึ โดยทัว่ ไปเกบ็ จากกาไรสุทธขิ องบรษิ ัทหรอื หา้ งหนุ้ ส่วนนิติบุคคลใน 1 รอบระยะเวลาบัญชี ในอัตรารอ้ ยละ 20 โดยจะต้องยื่นแบบแสดงรายการพร้อมชาระภาษี (ถา้ มี) 2 คร้ัง ไดแ้ ก่ 1. ครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี คือ ภายใน 2 เดือน นับจากวันสุดท้ายของทุก 6 เดือนของ รอบระยะเวลาบัญชี และ 2. ส้ินรอบระยะเวลาบัญชี คือ ภายใน 150 วนั นับแต่วันสดุ ท้ายของรอบระยะเวลาบญั ชี นอกจากนี้ กฎหมายยงั กาหนดให้ผจู้ ่ายเงินได้มีหน้าที่หักภาษี ณ ท่ีจ่าย (Withholding Tax : WHT) จากเงินได้ท่ีจ่ายบางส่วน และนาส่งกรมสรรพากร เพ่ือให้มีการทยอยชาระภาษีและบรรเทาภาระ ภาษตี อนส้นิ ปอี กี ดว้ ย โดยมอี ัตราและวธิ ีการหกั ภาษีขนึ้ อยกู่ ับประเภทเงนิ ได้ ผจู้ ่ายเงินได้ และผรู้ ับเงินได้ 1 โดยสามารถคานวณไดจ้ ากการนาเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตลอดทง้ั ปีภาษี (ปปี ฏทิ ิน) ไปหักคา่ ใช้จา่ ยและค่า ลดหยอ่ นต่าง ๆ ฯ ตามท่กี ฎหมายกาหนด
169 สาหรบั การลงทนุ ในพันธบัตรจะไดร้ บั เงนิ ได้ประเภทต่าง ๆ และมภี าระภาษเี งินได้สรุปได้ ดงั น้ี ตารางที่ 1 : สรุปภาระภาษเี งินได้สาหรับการลงทุนในพันธบตั ร ประเภทพนั ธบตั ร พนั ธบตั ร พันธบตั ร (กรณไี มม่ ีดอกเบ้ยี ) ประเภทเงนิ ได้ ดอกเบ้ยี ผลประโยชน์ทีไ่ ดจ้ าก ส่วนลด ผลประโยชน์ทีไ่ ด้ (ม. 40 (4) (ก)) การโอน (ม. 40 (4) (ก)) จากการโอน กรณนี ักลงทุนไทย (ม. 40 (4) (ช)) เลอื ก WHT 15% (ม. 40 (4) (ช)) หรอื นาไปรวมคานวณ บคุ คลธรรมดา เลอื ก WHT 15% เลอื ก WHT 15% ยกเว้น2 หรอื นาไปรวม หรือ นาไปรวมคานวณ เฉพาะ ผทู้ รงคนแรก นาไปรวมคานวณ คานวณ (ม. 48 (3) (ค)) (ม. 50 (2) (ค) (ม. 48 (3) (ก)) และกฎกระทรวง เหมอื นนักลงทนุ ไทย นาไปรวมคานวณ ฉบับที่ 126 WHT 15% (ม. 70) WHT 1% ขอ้ 2 (30)) เหมอื นนักลงทุนไทย นิติบคุ คล และ นาไปรวม WHT 15% (ม. 70) WHT 1 % คานวณ และ นาไปรวมคานวณ (ขอ้ 4 ทป.4/2528) (ข้อ 4 ทป.4/2528) เหมอื นนักลงทุนไทย กรณนี ักลงทุนตา่ งประเทศ WHT 15% (ม. 70) บคุ คลธรรมดา เหมอื นนกั ลงทนุ ไทย นิตบิ คุ คล WHT 15% (ม. 70) ท่มี า : รวบรวมโดยคณะผ้วู จิ ยั 2 ผลประโยชนท์ ีไ่ ด้จากการโอนต๋วั เงนิ หรอื ตราสารแสดงสิทธิในหนี้ใดๆ ท่ีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคล อื่นเปน็ ผ้อู อก ทัง้ นี้ เฉพาะตัว๋ เงนิ หรอื ตราสารแสดงสิทธิในหน้ีทีไ่ ม่มีดอกเบยี้ และได้มีการหักภาษีเงินได้ ณ ท่ีจ่ายจากเงิน ได้ของบุคคลธรรมดาท่ีเป็นผู้ทรงคนแรกไว้แล้วตาม มาตรา 50 (2) (ค) แห่งประมวลรัษฎากร และผู้จ่ายเงินได้ได้ ประทบั ตราว่าไดห้ กั ภาษเี งินได้ ณ ที่จ่ายบนตราสารแลว้ (กฎกระทรวงฯ 126 ข้อ 2 (30))
170 2. อากร นอกจากภาระภาษีเงินได้แล้ว กรณีมีการกระทาตราสารตามลักษณะท่ีกาหนดไว้ใน บัญชีอากรแสตมป์ในประมวลรัษฎากร บุคคลตามท่ีกฎหมายกาหนดระบุไว้มีหน้าท่ีเสียอากรแสตมป์ด้วย สาหรบั อากรแสตมปใ์ นส่วนทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั พนั ธบัตรมี ดังนี้ 2.1 การโอนพนั ธบตั ร ซ่งึ บริษทั สมาคม คณะบุคคลหรอื องคก์ ารใด ๆ เป็นผู้ออก คิดตามราคา ในตราสารทกุ จานวน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท ผู้โอนเสียอากรแสตมป์ 1 บาท (ยกเว้นอากร แสตมป์สาหรับพนั ธบตั รรัฐบาลไทย) 2.2 พันธบัตรของรัฐบาลใด ๆ ที่ขายในประเทศไทย ทุกจานวนเงิน 100 บาท หรือเศษของ 100 บาท ผทู้ รงตราสารเสยี อากรแสตมป์ 1 บาท
171 ภาคผนวก ช สทิ ธิประโยชนท์ างภาษีสาหรับการลงทุนในพันธบัตร สทิ ธปิ ระโยชน์ทางภาษี หมายเหตุ 1. ยกเว้นภาษเี งนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดาใหแ้ กผ่ ู้มเี งนิ ได้ทม่ี ิได้ ระยะเวลา: พ.ศ. 2548 - 2553 เป็นผอู้ ยู่ในประเทศไทยสาหรับเงนิ ได้พงึ ประเมนิ วตั ถุประสงค์: มาตรการรเิ รมิ่ ตลาด ดงั ตอ่ ไปนี้ พนั ธบตั รเอเชยี โดยการออกพันธบัตร หรอื หุน้ กขู้ องรัฐบาลและรฐั วิสาหกจิ 1.1 ดอกเบีย้ พันธบตั รหรือดอกเบ้ียหุ้นกู้ ซึ่งเป็นการสนบั สนนุ ให้ตลาดตราสารหน้ี 1.2 ผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกบั ราคาจาหน่าย ของประเทศมีประสทิ ธิภาพเพ่มิ ขน้ึ และ พนั ธบัตรหรือหนุ้ กู้ทอี่ อกจาหนา่ ยครั้งแรกในราคาต่ากว่า เปน็ การสร้างแหลง่ เงินทุนระยะยาวใหแ้ ก่ ราคาไถถ่ อน (ส่วนลด) ภาครฐั และเอกชนอนั จะนาไปสู่ระบบ 1.3 ผลประโยชนท์ ไ่ี ด้จากการโอนพนั ธบัตรหรือหุ้นกู้ การเงนิ ทม่ี ีดลุ ยภาพ ตลอดจนเป็นการ ทั้งนี้ เฉพาะพนั ธบตั รหรือหุ้นกูข้ องรฐั บาล องค์การของ พฒั นาตลาดพันธบตั รเอเชยี และความ รฐั บาล หรอื สถาบันการเงินที่มกี ฎหมายโดยเฉพาะของ ร่วมมือทางการเงินระหวา่ งประเทศให้มี ประเทศไทยจดั ต้ังขน้ึ สาหรับใหก้ ูย้ ืมเงนิ เพอ่ื สง่ เสรมิ ความแข็งแกรง่ แต่ภายหลังตอ้ งการชะลอ เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรอื อุตสาหกรรม (สถาบนั ฯ) เงินทุนท่ีไหลเข้าสูป่ ระเทศไทย ซึง่ จะกระทบ ต่อเสถยี รภาพทางเศรษฐกิจและการเงนิ ของประเทศจึงยกเลิกในปี พ.ศ. 2553 กฎหมาย: กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 126 ข้อ 2 (21) 2. ยกเว้นภาษเี งินได้บุคคลธรรมดาสาหรบั ดอกเบ้ีย ระยะเวลา: ตงั้ แต่ พ.ศ. 2541 เปน็ ต้นไป พันธบตั รออมสนิ ร่นุ พนั ธบัตรเงินฝากชว่ ยชาติ วัตถปุ ระสงค์: ระบบการเงิน ภายในประเทศขาดสภาพคล่อง ธนาคาร ออมสินจึงได้ออกพนั ธบัตรออมสนิ รุ่น พันธบัตรเงินฝากชว่ ยชาติ เพื่อเป็นการ ระดมเงนิ ฝากมาช่วยเสริมทนุ สารอง
172 สทิ ธิประโยชนท์ างภาษี หมายเหตุ เงินตราต่างประเทศอันจะส่งผลให้สภาพ คลอ่ งของระบบการเงินภายในประเทศ ดขี ้ึน กฎหมาย: กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 126 ขอ้ 2 (46) 3. ยกเวน้ WHT ใหแ้ กบ่ ริษทั หรอื หา้ งหนุ้ สว่ นนิติบุคคลท่ี ระยะเวลา: ต้งั แต่ พ.ศ. 2515 เป็นตน้ ไป ตั้งขน้ึ ตามกฎหมายของตา่ งประเทศ มิไดป้ ระกอบกิจการ วตั ถปุ ระสงค์: วตั ถปุ ระสงคไ์ ม่แนช่ ัด ในประเทศไทย ทไ่ี ด้รบั เงินได้พงึ ประเมินท่ีเปน็ ดอกเบ้ีย แตใ่ นสมยั นัน้ รฐั บาลอาจมคี วาม จากรฐั บาล หรอื สถาบันฯ (ปกตติ ้อง WHT 15%) จาเปน็ ต้องกู้ยมื เงนิ จากต่างประเทศ เพ่ือนามาใชพ้ ฒั นาประเทศ กฎหมาย: มาตรา 70 วรรค 2 แห่งประมวลรัษฎากร 4. ยกเว้น WHT ให้แก่บริษัทหรอื หา้ งหุน้ สว่ นนิติบคุ คลที่ ระยะเวลา: พ.ศ. 2548 - 2553 ตัง้ ข้ึนตามกฎหมายของตา่ งประเทศ มิไดป้ ระกอบกจิ การ วตั ถปุ ระสงค์: เหมอื นวตั ถปุ ระสงคใ์ นข้อ 1 ในประเทศไทยสาหรบั เงนิ ได้พึงประเมนิ (ปกติตอ้ ง WHT กฎหมาย: 15%) ดงั ต่อไปนี้ 1. พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ท่ี 429) 4.1 ดอกเบย้ี พันธบัตรหรือดอกเบย้ี หนุ้ กู้ขององคก์ าร พ.ศ. 2548 ของรัฐบาล 2. พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที่ 509) 4.2 ผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกบั ราคาจาหนา่ ย พ.ศ. 2553 พันธบัตรหรอื หุ้นกู้ท่ีออกและจาหน่ายครงั้ แรกในราคาต่า กว่าราคาไถถ่ อน เฉพาะพนั ธบัตรหรือหุ้นกขู้ องรัฐบาล องค์การของรัฐบาล หรือสถาบันฯ 4.3 ผลประโยชน์ทไี่ ดจ้ ากการโอนพนั ธบัตรหรือหุน้ กู้ เฉพาะพนั ธบัตรหรือหนุ้ กู้ของรัฐบาล องคก์ ารของรฐั บาล หรอื สถาบันฯ
173 สทิ ธปิ ระโยชนท์ างภาษี หมายเหตุ 5. ยกเวน้ WHT ใหแ้ กบ่ ริษทั หรือหา้ งหนุ้ ส่วนนติ บิ คุ คลท่ี ระยะเวลา: ตั้งแต่ พ.ศ. 2553 เปน็ ต้นไป ตงั้ ข้นึ ตามกฎหมายของต่างประเทศ มิไดป้ ระกอบกิจการ วัตถปุ ระสงค์: ส่งเสริมการพฒั นาตลาด ในประเทศไทยสาหรบั เงนิ ได้พึงประเมินดอกเบ้ียพนั ธบัตร พันธบัตรหน้ี และควรได้รบั การปฏิบัติ ธนาคารแห่งประเทศไทยและดอกเบย้ี พันธบัตรกองทนุ เชน่ เดยี วกบั พันธบัตรรฐั บาล รวมถงึ การ เพอื่ การฟน้ื ฟแู ละพัฒนาระบบสถาบนั การเงินตาม สรา้ งความเชือ่ มน่ั ใหแ้ กน่ ักลงทุน สร้าง กฎหมายวา่ ด้วยธนาคารแหง่ ประเทศไทย เสถยี รภาพทางเศรษฐกิจและการเงนิ ของ (ปกตติ ้อง WHT 15%) ประเทศ กฎหมาย: คาส่ังหวั หนา้ คณะรักษาความ สงบแห่งชาติ ท่ี 17/2561 ที่มา: รวบรวมโดยคณะผูว้ จิ ัย
174 ภาคผนวก ซ สรุปผลการประชุมรับฟังความคดิ เหน็ (Focus Group) 1. หนว่ ยงานท่ีเขา้ ร่วมรบั ฟังความคดิ เห็น 1. สำนักงำนบริหำรหนส้ี ำธำรณะ (สบน.) 2. สำนักงำนเศรษฐกจิ กำรคลัง (สศค.) 3. สำนกั งบประมำณ (สงป.) 4. สำนกั งำนสภำพัฒนำกำรเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชำติ (สศช.) 5. สำนักงำนคณะกรรมกำรกำกับหลกั ทรัพยแ์ ละตลำดหลกั ทรพั ย์ (กลต.) 6. กำรไฟฟำ้ สว่ นภมู ิภำค (กฟภ.) 7. กำรไฟฟำ้ ฝำ่ ยผลติ แห่งประเทศไทย (กฟผ.) 8. กรุงเทพมหำนคร (กทม.) 9. สำนักงำนกองทุนสนบั สนุนกำรสร้ำงเสรมิ สขุ ภำพ (สสส.) 10. กองทนุ สง่ เสริมและพัฒนำคณุ ภำพชีวติ คนพกิ ำร 11. บริษทั ปตท. จำกัด (มหำชน) 12. ธนำคำรกสกิ รไทย จำกัด (มหำชน) 2. สรุปผลการประชมุ เพอ่ื รับฟังความคิดเห็น ประเดน็ เรื่องรปู แบบการระดมทนุ ด้วยพันธบัตรเพื่อสังคม (SIB) ควรเพ่ิมควำมชัดเจนในรูปแบบกำรออก SIB ว่ำมีควำมแตกต่ำงจำก Social Bond โดยควรมี กำรอธิบำยให้ชัดเจนว่ำรูปแบบกำรระดมทุนด้วย SIB เป็นอย่ำงไร ใครเป็นผู้ออก SIB และใช้แหล่งเงินใด ในกำรจ่ำยให้นกั ลงทุน ซง่ึ หำกเปน็ หน่วยงำนอ่นื นอกเหนือจำกรัฐบำลเป็นผู้ออก SIB จะต้องอยู่ภำยใต้กำร กำกับดูแลและมำตรฐำนของ กลต. ท้ังน้ี กลต. ไม่ขัดข้องในกำรดำเนินกำรออกหลักเกณฑ์รองรับสำหรับ กำรออกพันธบตั ร SIB ซงึ่ มกี ำรจำ่ ยผลตอบแทนตำมตวั ชีว้ ดั ของโครงกำร (กลต.) กำรดำเนินโครงกำรในลักษณะ SIB เป็นกำรดำเนินกำรที่สอดคล้องกับนโยบำยและยุทธศำสตร์ ภำครัฐท่ีมีควำมพยำยำมในกำรร่วมมือกับภำคสังคมในปัจจุบัน โดยองค์กำรมหำชนและองค์กรปกครอง เมื่อวนั ท่ี 19 มถิ ุนำยน 2562 ณ หอ้ งประชมุ 501 สำนักงำนเศรษฐกิจกำรคลัง
175 ส่วนท้องถ่นิ ถือเป็นหน่วยงำนทีม่ ีควำมเหมำะสมในกำรดำเนนิ โครงกำรในลักษณะดังกล่ำว แต่อย่ำงไรก็ตำม ต้องศกึ ษำขอ้ จำกัดในทำงกฎหมำยในกำรดำเนินกำรของหน่วยงำนดังกล่ำวด้วย (สศช.) เน่ืองจำกรูปแบบกำรดำเนินโครงกำรยังคงไม่ชัดเจน และลักษณะกำรจ่ำยผลตอบแทนมีควำม ซับซ้อน จึงจำเป็นต้องมีกำรสร้ำงควำมเข้ำใจกับผู้ดำเนินโครงกำรและนักลงทุนเป็นอย่ำงมำก ดังนั้น หำก ต้องกำรตอบสนองควำมต้องกำรของนักลงทุนอำจต้องมีกำรศึกษำตลำดอย่ำงรอบคอบ และต้องมีกำรกำหนด ตัวชี้วดั ควรท่เี ข้ำใจงำ่ ยเป็นรูปธรรม และสำมำรถวัดไดง้ ำ่ ย จงึ จะสำมำรถตอบโจทย์ของกำรลงทุน และควรเปิด โอกำสให้นักลงทนุ ทอ้ งถน่ิ ใหเ้ ข้ำมำมสี ่วนร่วมเพ่ือใหเ้ หมำะสมกับลกั ษณะโครงกำรทเี่ ปน็ ขนำดเลก็ ดว้ ย (สศช.) ในส่วนของ อปท. กำรพจิ ำรณำขอ้ จำกัดดำ้ นกฎหมำยเพยี งอย่ำงเดียวอำจไม่เพียงพอ ต้องพิจำรณำ ปัจจัยข้อจำกัดทำงนโยบำยและทำงกำรเมืองในทำงปฏิบัติด้วย เช่น กำรขอมติจำกสภำท้องถ่ิน กำรขอ อนุมัติโครงกำร กำรจัดซ้ือจัดจ้ำง และกำรจัดทำงบประมำณ เป็นข้อจำกัดที่สำคัญอย่ำงย่ิง นอกจำกนี้ ควร พิจำรณำถึงข้อจำกัดในด้ำนควำมไม่คุ้นเคยของนักลงทุนและผู้ดำเนินโครงกำรเน่ืองจำก รูปแบบของ โครงกำรทม่ี คี วำมซบั ซอ้ นอีกด้วย (กทม.) สำหรับกำรดำเนนิ โครงกำร SIB หำกหน่วยงำนภำครฐั อื่นซง่ึ มภี ำรกจิ หนำ้ ที่และได้รับกำรจัดสรร งบประมำณเพื่อแก้ไขปัญหำทำงสังคมในเรือ่ งเดียวกับโครงกำร SIB เช่น โครงกำรแก้ไขปัญหำผักตบชวำที่ มีหลำยหน่วยงำนเก่ียวข้อง หำกให้หน่วยงำนต่ำงๆ ดังกล่ำวดำเนินโครงกำรร่วมกันแบบบูรณำกำร อำจ ชว่ ยลดจำนวนเงนิ ทีจ่ ะต้องระดมทุนจำก SIB ได้ (กทม.) ประเด็นเรอ่ื งแหล่งเงินในการลงทุน เสนอแนะให้พิจำรณำแหล่งเงินทุนจำกโครงกำรรัฐสวัสดิกำร เนื่องจำกมีกำรจัดตั้งกองทุน อย่แู ลว้ โดยกองทนุ มวี ตั ถุประสงค์ 2 ส่วน คอื (1) เพือ่ สนบั สนุนผมู้ รี ำยได้น้อย และ (2) เพ่ือพัฒนำท้องถิ่น แตอ่ ย่ำงไรก็ตำมกองทุนยังไม่มีกำรรองรับกำรระดมทุนในรูปแบบ SIB ดังนั้น อำจพิจำรณำเสนอแนะช่องทำง โดยกำรประสำนงำนกบั กรมบญั ชีกลำง (สศค.) กำรจัดหำแหล่งเงินทุน หำก อปท. องค์กำรมหำชน มีควำมสำมำรถในกำรหำรำยได้ด้วยตนเอง อำจใหใ้ ชเ้ งินทุนของตนเองในกำรดำเนินกำรก่อนในช่วงแรก และพัฒนำโครงกำรให้มีผลกำรดำเนินงำนท่ี ชัดเจนและสำมำรถระดมเงนิ ทนุ จำกนกั ลงทุนได้ (สศช.) โครงกำร SIB ต้องรองรับได้ท้ังโครงกำรขนำดใหญ่และขนำดเล็ก และอำจต้องพิจำรณำปัจจัย ต่ำงๆ เพือ่ ให้โครงกำรสำมำรถสร้ำงรำยได้ดว้ ยตนเอง (Generate Income) เพื่อให้สำมำรถนำรำยได้มำช่วย สนับสนนุ เปน็ ส่วนหนง่ึ ในกำรดำเนินโครงกำรต่อไปได้ดว้ ย (กลต.)
176 ประเด็นปญั หาในการดาเนนิ โครงการ โครงสร้ำงของหน่วยงำนท้องถิ่นในประเทศไทยอำจไม่มีควำมเข้มแข็งในกำรดำเนินงำนมำก เทียบเท่ำกับกรณีศึกษำของต่ำงประเทศ เพรำะต่ำงประเทศมีกำรออกพันธบัตรท้องถ่ิน (Municipal Band) เป็นปกติอยู่แล้ว จึงอำจสำมำรถดำเนินโครงกำร SIB ได้ แต่ในกรณีของประเทศไทยอำจจะพบข้อจำกัด และอุปสรรคต่ำงๆ ในกำรดำเนินโครงกำร เน่ืองจำกกำรออกพันธบัตรเป็นกรณีที่เป็นไปได้ยำกใน อปท. ไทยปัจจุบัน และ SIB มีควำมซับซ้อนกว่ำเป็นอย่ำงมำก จึงอำจต้องมีกำรศึกษำควำมเป็นไปได้ในกำร ดำเนนิ โครงกำรอย่ำงรอบคอบ และต้องไดร้ บั กำรสนับสนนุ จำกภำครัฐอยำ่ งเตม็ ทดี่ ้วย (สศช. / ธ.กสิกร) กำรดำเนินโครงกำร SIB ภำครัฐควรเป็นผู้ริเร่ิมและตัดสินใจ โดยเห็นว่ำ SIB อำจเข้ำมำมีส่วน แกป้ ญั หำสำหรับกำรดำเนนิ โครงกำรภำคสงั คมในปัจจบุ นั ทไี่ ม่มีกำรตดิ ตำมประเมินโครงกำรในเชิงคุณภำพ ทีช่ ัดเจน แต่หำกดำเนินโครงกำรในรูปแบบ SIB ถงึ แมว้ ำ่ ภำครฐั จะเป็นผ้ลู งทุน แต่กำรดำเนินโครงกำรจะมี กำรตรวจสอบประเมนิ ผล (Check and Balance) โดยกลไกตลำดก่อให้เกดิ กำรบรหิ ำรงบประมำณอย่ำงมี ประสิทธิภำพ และมีผลกำรประเมนิ กำรดำเนนิ งำนของโครงกำรทชี่ ัดเจน (กลต.) ปัจจุบันมีกำรดำเนินโครงกำรทำงสังคม ซึ่งแหล่งเงินในกำรดำเนินงำนมำจำกเงินอุดหนุนของ รัฐบำลหรือเงินกองทุนต่ำงๆ โดยอำจมีกำรจ้ำงที่ปรึกษำเพื่อศึกษำกำรดำเนินโครงกำรหรือประเมินผล โครงกำรด้วย ซ่ึงหำกปรับเปลี่ยนมำเป็นรูปแบบ SIB ก็สำมำรถเป็นไปได้ในปัจจุบัน แต่อย่ำงไรก็ตำมต้อง พจิ ำรณำถึงปจั จัยในกำรดำเนนิ โครงกำร เชน่ กำรกำหนดระยะเวลำกำรดำเนินโครงกำร หรือผู้ประเมินผล โครงกำร ให้มีควำมชดั เจนและเช่ือถือได้ (สสส./กองทุนฯ) ปญั หาด้านการสร้างแรงจงู ใจสาหรบั นกั ลงทุน เสนอแนะให้มกี ำรกำหนดแรงจงู ใจ (Incentive Scheme) สำหรบั นักลงทุน เน่ืองจำกกำรลงทุน ในตลำด SIB เปน็ รูปแบบทแี่ ตกตำ่ งจำกกำรลงทนุ ปกติ ทำให้นกั ลงทุนไมม่ คี วำมค้นุ เคย โดยเฉพำะอย่ำงย่ิง กรณที ่ีมีเง่ือนไขวำ่ อำจไมไ่ ด้รบั ผลตอบแทนหรือเงนิ ต้นคืน นักลงทนุ อำจสญู เสยี ควำมสนใจในกำรลงทุน จึง ต้องสรำ้ งแรงจงู ใจเพื่อให้ตลำดหนั มำสนใจในกำรลงทุน (ธ.กสิกร) เสนอแนะว่ำสิทธิประโยชน์ทำงภำษีเป็นประเด็นสำคัญ ถึงแม้ว่ำจะเทียบเคียงกำรลงทุนใน รูปแบบ SIB กับกำรทำ CSR แต่ SIB มีข้ันตอนที่ซับซ้อนกว่ำกำรทำ CSR เป็นอย่ำงมำก อีกทั้งยังมีควำม เป็นไปได้ที่จะไม่ได้รับผลตอบแทนคืนอีกด้วย ดังน้ัน นักลงทุนอำจไม่พิจำรณำลงทุนในโครงกำรหำกไม่มี แรงจูงใจทำงดำ้ นภำษีทม่ี ำกพอ (ปตท.)
177 นอกจำกกำรพิจำรณำสิทธิประโยชน์ทำงภำษีทำงฝั่งนักลงทุนแล้ว เสนอแนะให้ต้องพิจำรณำ สิทธิประโยชน์ฝั่งผู้ออก SIB ด้วย (หำกเป็นกรณีที่เป็นหน่วยงำนที่ต้องเสียภำษี) เนื่องจำก SIB มีขั้นตอน กำรดำเนินงำนท่ีค่อนข้ำงยุ่งยำกซับซ้อน อำจต้องมีแรงจูงใจให้กับผู้ออกหรือผู้ดำเนินโครงกำรท่ีอำจไม่ใช่ ภำครัฐอกี ด้วย เพือ่ จูงใจใหเ้ ข้ำมำมสี ่วนร่วมในกำรดำเนนิ โครงกำร SIB (กลต. / ธ. กสกิ ร) ในกรณีนห้ี ำกพิจำรณำให้สทิ ธปิ ระโยชน์ทำงภำษกี บั กำรออก SIB เห็นควรให้กระทรวงกำรคลัง พิจำรณำสทิ ธิประโยชนท์ ำงภำษีสำหรบั พนั ธบัตรในรูปแบบอนื่ ทคี่ ล้ำยคลึงกัน เช่น Green Bond / Social Bond / Sustainability Bond เพื่อให้เปน็ กำรสร้ำงแรงจงู ใจในมำตรฐำนเดยี วกันดว้ ย (กลต.) ---------------------------------------
ภาคผนวก ฌ สรปุ กระบวนงาน (Work Flow) หรือขน้ั ตอนดาเนินโครงการ SIB ของหนว่ ยงานภาครฐั 1. กระบวนงาน (Work Flow) โครงการ SIB ของหนว่ ยงานของรฐั
179 2. กระบวนงาน (Work Flow) โครงการ SIB ของรัฐวิสาหกิจกรณีกระทรวงการคลงั ค้าประกนั
180 3. กระบวนงาน (Work Flow) โครงการ SIB ของรัฐวิสาหกิจกรณกี ระทรวงการคลงั ไมค่ ้าประกนั องค์การมหาชน และกองทุนตา่ งๆ
181 4. กระบวนงาน (Work Flow) โครงการ SIB ขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ
182 ภาคผนวก ญ โครงการพันธบัตรเพ่อื สังคม (Social Impact Bond : SIB) เพ่อื ปอ้ งกนั ปัญหาหมอกควนั ภาคเหนอื 1. สภาพปญั หาและเหตุผลความจาเปน็ การนาเสนอตวั อย่างโครงการ SIB เพื่อป้องกันปัญหาหมอกควันภาคเหนือ คณะผู้วิจัยได้ นาแนวคิดมาจาก “แผนปฏิบัติการป้องกันปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ปี 2559” ของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ซึ่งแผนปฏิบัติการป้องกันปัญหาหมอกควันฯ เป็นการดาเนินการ ร่วมกันท้ังราชการส่วนกลางและราชการส่วนท้องถ่ิน โดยใช้แหล่งเงินงบประมาณในการดาเนินการ รวมท้ังสิ้น จานวน 362 ล้านบาท แบ่งเปน็ งบประมาณของราชการส่วนกลาง จานวน 268 ล้านบาท และงบประมาณของ ราชการสว่ นท้องถ่ิน จานวน 94 ลา้ นบาท และไดร้ บั การสนับสนุนจากภาคเอกชนทั้งในรูปแบบเงินบริจาค และการดาเนินโครงการในรูปแบบ CSR เพ่ือป้องกันปัญหาหมอกควันท่ีสร้างผลกระทบต่อคุณภาพส่ิงแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชน และกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเท่ียวใน 9 จังหวัดภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลาพูน ลาปาง พะเยา แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน และ ตาก) โดยจะเกิดข้ึนเป็นประจาทุกปี ในช่วง หน้าแลง้ ช่วงเดือนมกราคม – เดือนเมษายน อย่างไรก็ดี ในการดาเนินแผนปฏิบัติการป้องกันปัญหาหมอกควันฯ ยังคงประสบปัญหา ข้อจากดั ดา้ นงบประมาณ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซง่ึ เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจหลากหลาย ท่ีเก่ียวข้องกับการป้องกันและแก้ไขหมอกควัน แม้ภาคเอกชนจะให้ความสนใจและร่วมสนับสนุนการแก้ไข ปัญหาหมอกควนั ในพื้นที่ แต่ยังเป็นการสนับสนุนแบบเป็นครั้งคราวไม่ต่อเน่ือง ส่งผลให้การป้องกันและแก้ไข ปัญหาหมอกควันฯ ยงั ไมส่ ามารถดาเนินการได้อย่างเต็มประสิทธภิ าพ ด้วยลักษณะของแผนปฏิบัติการป้องกันปัญหาหมอกควันฯ เป็นโครงการที่ส่งผลกระทบ ในวงกว้างครอบคลมุ พน้ื ท่ีหลายจังหวัด ใช้งบประมาณในการดาเนินการป้องกันและแก้ไขเป็นประจาทุกปี ได้รับความสนใจและการสนับสนุนรวมถึงความร่วมมือจากท้ังภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน จึงเป็น โครงการที่เหมาะสมจะนารูปแบบ SIB เข้ามาปรับใช้เพ่ือแก้ไขปัญหาการขาดแคลนงบประมาณ โดยกาหนดให้ อปท. ในแต่ละจงั หวดั ซง่ึ เป็นหน่วยงานที่มีส่วนสาคัญในการดาเนินแผนปฏิบัติการป้องกันปัญหาหมอกควันฯ และขาดแคลนงบประมาณในการดาเนนิ การเป็นผู้กเู้ งิน ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการคลังในรูปแบบ การให้กู้ต่อ เพื่อเป็นโครงการนาร่องสาหรับการดาเนินโครงการ SIB ของ อปท. และเป็นแหล่งทุนเสริม นอกเหนอื จากเงินงบประมาณทม่ี อี ย่างจากดั โดยมีข้นั ตอนในการดาเนินโครงการรูปแบบ SIB ดงั นี้
183 2. วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ เพ่ือเป็นการป้องกันปัญหาหมอกควัน ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจของ ประชาชนในพ้นื ท่ี 9 จงั หวัดภาคเหนอื โดยการดาเนนิ กจิ กรรมและโครงการตา่ ง ๆ เช่น การเผยแพร่ข้อมูล ความรคู้ วามเขา้ ใจให้แกป่ ระชาชนในพ้ืนที่เกย่ี วกับการจัดการเศษวัสดุการเกษตรแทนการเผา สร้างความรู้ ความเขา้ ใจเรื่องผลกระทบทเ่ี กิดจากการเผาพนื้ ทเ่ี กษตรและพืน้ ที่ปา่ ส่งเสริมให้ประชาชนในพ้ืนที่มีส่วนร่วม ในการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาการเผาในพ้ืนที่เกษตรกรรมและพ้ืนท่ีป่า การจัดการฝึกอบรมอาสาสมัคร เพ่อื เขา้ ทาหน้าท่ีในการป้องกันและยับยั้งไฟป่าหรือไฟท่ีเกิดจากการเผาวัสดุทางการเกษตร และการดาเนินการ ในรปู แบบของโครงการ เชน่ โครงการจัดทาแนวปอ้ งกันไฟ โครงการจดั หาเคร่อื งมือในการดับไฟ เปน็ ตน้ 3. ผเู้ กี่ยวขอ้ ง (Stakeholder) และบทบาทภายใตโ้ ครงการ SIB การนาเสนอโครงการ SIB เพื่อป้องกันปัญหาหมอกควัน มีภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการ ดาเนินโครงการตามรูปแบบ SIB แบ่งเปน็ 5 องคป์ ระกอบสาคญั ดงั น้ี นักลงทุน (Investor) : กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน และประชาชนที่มี ความตอ้ งการบรจิ าคเงนิ หรอื ร่วมลงทนุ ในโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควนั องค์กรตัวกลาง (Intermediary) : กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ท่ีปรึกษาโครงการและการเงิน เพอ่ื ทาหนา้ ทใ่ี นการใหค้ าปรึกษาในการวางแผนการดาเนนิ โครงการ กาหนดข้นั ตอนในการดาเนินโครงการ จัดหาแหล่งเงินทุนและวิธีการระดมทุนท่ีเหมาะสม และกาหนดเง่ือนไข/วิธีการในการติดตามประเมินผล สาเร็จตลอดจนผลกระทบของโครงการ ผู้ดาเนินการ (Social Service Provider) : กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ อปท. ซึ่งเป็นการ ดาเนินการโดยมี มลู นธิ ิ สมาคม และองคก์ รมหาชน ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวด้านการบริหารจัดการ มปี ระสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควัน และการแก้ไขปัญหาการเผาวัสดุทางการเกษตร เป็นผู้ร่วม ดาเนนิ โครงการดว้ ย ผปู้ ระเมนิ ผล (Evaluator) : กล่มุ เปา้ หมาย ไดแ้ ก่ มหาวิทยาลัยท่ีมีประสบการณ์ในการ ติดตามประเมินผลโครงการ เพ่ือทาหน้าที่เป็นคนกลางในการติดตามผลการดาเนินงานและรายงานให้ กระทรวงการคลงั ทราบ ตลอดจนประเมนิ ผลสัมฤทธ์ติ ามตัวช้วี ดั KPI เมื่อส้ินสดุ ระยะเวลาดาเนินโครงการ ผู้จ่ายเงิน (Payors) : ได้แก่ กระทรวงการคลัง โดย อปท. จะชาระคืนเงินกู้ต่อให้แก่ กระทรวงการคลัง เพ่ือกระทรวงการคลังนาไปชาระคืนเงินต้นและจ่ายผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนตาม เงื่อนไขที่ได้กาหนดไว้ในการระดมทุน ภายหลังจากได้รับรายงานผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ตามตัวชี้วัด KPI จากผู้ประเมนิ แลว้
184 4. รายละเอียดของโครงการ 4.1 เป้าหมายของโครงการ SIB เพ่อื ป้องกนั ปัญหาหมอกควันฯ การกาหนดเป้าหมายของโครงการ นับเป็นจุดเร่ิมต้นและเป็นส่วนสาคัญที่จะส่งผล ต่อกระบวนการในการดาเนนิ โครงและความสาเร็จในการแก้ไขปัญหาที่เป็นเป้าหมายในการดาเนินโครงการ ดังน้ัน ในข้ันตอนนี้หน่วยงานทีจ่ ะดาเนนิ โครงการ SIB ซึ่งตามตัวอย่างน้ี ได้แก่ อปท. และกระทรวงการคลัง จะต้องมีการประชุมหารือร่วมกันเพ่ือกาหนดประเด็นปัญหา เป้าหมายท่ีต้องการบรรลุ มาตรการและ วธิ ีการแกไ้ ขปัญหา และระยะเวลาดาเนินโครงการ ให้มีความชดั เจนอย่างชัดเจนและมีความเฉพาะเจาะจง โดยสามารถจัดจ้างท่ีปรึกษาเพื่อทาหน้าท่ีให้คาปรึกษาด้านความเหมาะสมของโครงการ และรูปแบบ เงื่อนไข การบริหารจัดการเงินลงทุน กาหนดอัตราผลตอบแทน จัดหาแหล่งเงินทุน รวมทั้งการกาหนด คุณสมบัติและดาเนินกระบวนการคัดเลือกผู้ดาเนินการและผู้ประเมินผลโครงการด้วย ท้ังน้ี ในส่วนของ โครงการ SIB เพอ่ื ป้องกนั ปัญหาหมอกควนั ฯ คณะผวู้ จิ ัย ไดก้ าหนดเปา้ หมายของโครงการ ดงั น้ี 4.2 กรอบวงเงินลงทุน : โครงการเพื่อป้องกันปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มีกรอบวงเงิน โครงการรวม จานวน 350 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของเงินงบประมาณ จานวน 250 ล้านบาท สาหรับการ ดาเนินกิจกรรมเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร กิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนในพ้ืนที่ กิจกรรมการ จัดการฝึกอบรมอาสาสมัคร และส่วนของเงินท่ีได้รับจากการระดมทุนผ่าน SIB จานวน 100 ล้านบาท เพื่อใช้ สาหรับการดาเนินโครงการ เชน่ โครงการจดั ทาแนวป้องกันไฟ โครงการจดั หาเคร่ืองมือในการดับไฟ เปน็ ต้น 4.3 ระยะเวลาดาเนินโครงการ : 2 ปี นบั จากวันทกี่ ระทรวงการคลังระดมทุนจากนักลงทุน โดยมีกระบวนการในการดาเนนิ โครงการ ดังนี้ ตารางที่ 1 แสดงกระบวนการดาเนินโครงการพันธบัตรเพ่ือสังคม เพ่ือปอ้ งกนั ปัญหาหมอกควนั ภาคเหนือ การดาเนินการ ระยะเวลา วงเงนิ ลงทุน หน่วยงาน (บาท) ผู้รับผดิ ชอบ 1. อปท. ในพืน้ ท่ี 9 จงั หวัดภาคเหนือท่ีต้องการเข้ารว่ ม 3 เดือน - อปท. โครงการ ทาการศึกษาและจัดทาข้อเสนอโครงการท่ีเกี่ยว ข้องกับการป้องกนั ปัญหาหมอกควันในพ้นื ทขี่ องตนเอง โดยแยกแผนการดาเนนิ กิจกรรม (ใชแ้ หล่งเงนิ งบประมาณ) และแผนการดาเนินโครงการ (ใชแ้ หล่งเงนิ SIB) 2. กระทรวงการคลงั รวบรวมแผนการดาเนินโครงการ 2 เดือน - อปท. / (ใช้แหล่งเงนิ SIB) ของ อปท. เพือ่ กาหนดแผนความ กระทรวงการคลัง ต้องการใชจ้ า่ ยเงิน
185 การดาเนินการ ระยะเวลา วงเงนิ ลงทนุ หนว่ ยงาน (บาท) ผรู้ ับผดิ ชอบ 3. กระทรวงการคลงั ดาเนินการจดั จา้ ง กระทรวงการคลงั 1) องค์กรตัวกลางเพ่ือทาหน้าที่พจิ ารณาความเหมาะสม 5 เดือน 500,00 ของโครงการ และกาหนดแผนการ/แนวทางการระดมทนุ (100,000 บาท x 5 เดือน) 2) ผดู้ าเนินการเพ่ือทาหนา้ ท่ีบรหิ ารจดั การโครงการให้ เปน็ ไปตามแผนการดาเนินงานและวัตถปุ ระสงค์ของ 24 เดอื น 2,400,00 โครงการ (100,000 บาท x 24 เดือน) 3) ผ้ปู ระเมนิ ผลโครงการเพื่อทาหนา้ ท่ีติดตามและ 24 เดือน 2,400,00 ประเมินผลการดาเนินงาน (100,000 บาท x 24 เดอื น) 4. กระทรวงการคลัง อปท. และท่ปี รึกษาโครงการและ 2 เดือน - อปท. / การเงิน ร่วมกัน พจิ ารณาความเหมาะสมของโครงการ กระทรวงการคลงั และรูปแบบ เงอื่ นไข การบรหิ ารจดั การเงนิ ลงทุน / องค์กรตวั กลาง กาหนดอตั ราผลตอบแทน วางแผนจัดหาแหลง่ เงินทนุ ทั้ง ในสว่ นของเงินกู้แบบ SIB เงนิ สนบั สนุนจากหนว่ ยงาน ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์การความรว่ มมือระหวา่ ง ประเทศ องค์กรระหวา่ งประเทศ หรือองค์กรพฒั นา เอกชน (NGO) เป็นต้น รวมท้งั การกาหนดคุณสมบตั ิและ ดาเนนิ กระบวนการคดั เลือกผู้ดาเนินการและผู้ ประเมนิ ผลโครงการ 5. กระทรวงการคลัง อปท. และท่ปี รึกษาโครงการและ 2 เดือน 700,00 อปท. / การเงิน รว่ มกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การออก SIB กระทรวงการคลงั เพ่ือสร้างความรู้ความเขา้ ใจให้แก่นักลงทุน เกย่ี วกบั / องค์กรตวั กลาง วัตถปุ ระสงค์ของโครงการและเงอ่ื นไขในการระดมทนุ 6. กระทรวงการคลงั ดาเนนิ การออกพนั ธบตั ร SIB 1 เดือน - อปท. / และทาสัญญาเพ่ือให้กู้ต่อ แก่ อปท. กระทรวงการคลัง / องค์กรตวั กลาง 7. อปท. ดาเนนิ กิจกรรมและโครงการเพื่อป้องกันปัญหา อปท. / หมอกควนั ฯ แยกเปน็ ผ้ดู าเนินการ
186 การดาเนนิ การ ระยะเวลา วงเงนิ ลงทุน หน่วยงาน (บาท) ผ้รู บั ผิดชอบ 1) แผนการดาเนนิ กิจกรรม (ใช้แหล่งเงินงบประมาณ) 24 เดอื น 250,000,000 2) แผนการดาเนินโครงการ (ใชแ้ หล่งเงิน SIB) 24 เดือน 94,000,000 8. ผู้ประเมนิ ผลโครงการทาการติดตามผลการดาเนนิ งาน - - ผูป้ ระเมินผล ทกุ รอบ 3 เดือน และประเมินผลการดาเนินงานตาม ตัวชี้วัด (KPI) เม่อื สนิ้ สดุ โครงการและแจ้งผลการประเมนิ ให้กระทรวงการคลังทราบ 9. กระทรวงการคลังรับชาระคืนหนี้เงินกู้ต่อจาก อปท. - - กระทรวงการคลงั และกระทรวงการคลังดาเนิน การชาระคนื ต้นเงินและ ผลตอบแทนใหก้ ับนักลงทุน รวม 350,000,000 บาท ท้งั นี้ นอกจากในสว่ นของเงนิ งบประมาณท่ี อปท. ได้รับการจัดสรร และเงินกู้ที่ได้รับจาก การระดมทนุ ด้วย SIB แล้ว ยงั สามารถพจิ ารณาแหลง่ เงนิ ทุนอ่ืน เช่น งบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐอ่ืนท่ี มีภารกิจในเรื่องเดียวกัน เงินบริจาคหรือเงินช่วยเหลือจากภาคเอกชน องค์การความร่วมมือระหว่าง ประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ หรือองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ที่มีความสนใจหรือมีโครงการให้ความ ชว่ ยเหลือทางการเงินสาหรับการดาเนินโครงการด้านส่ิงแวดล้อม และด้านการสาธารณะสุข เป็นต้น เพื่อ เปน็ แหลง่ เงินทุนเพ่ิมเติมได้อกี ทางหน่งึ และปอ้ งกันความเสีย่ งกรณีไม่สามารถระดมทนุ ด้วย SIB ไดส้ าเรจ็ 4.4 เง่ือนไขการจ่ายผลตอบแทนคณะผวู้ ิจัยเหน็ ควรกาหนด ดงั น้ี 1) ส่วนของเงินต้น นักลงทุนจะได้รับคืนทั้งจานวนเมื่อครบกาหนดโครงการ SIB เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความสาคัญ เร่งด่วน และมีปัจจัยภายนอกจานวนมากที่ส่งผลต่อความสาเร็จของ โครงการ ดังนั้น เพ่ือดึงดูดให้มีผู้ลงทุนสนใจลงทุนในโครงการ จึงควรกาหนดเงื่อนไขให้คืนเงินต้นเต็มจานวน เม่ือครบกาหนดของโครงการ 2) ส่วนของผลตอบแทนท่ีนักลงทุนจะได้รับในแต่ละงวดจะข้ึนอยู่กับผลการดาเนิน งานท่ีสามารถบรรลุได้ เพ่ือเป็นการกระตุ้นให้มีการติดตามความสาเร็จของโครงการอย่างใกล้ชิด โดยกาหนด เงือ่ นไขในการพจิ ารณาใน 2 ประเด็น ได้แก่ จานวนวันที่ปริมาณฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM10) สูงเกินเกณฑ์ มาตรฐานลดลง และจานวนจุดความร้อน (Hotspot) ลดลง ซึ่งมีเกณฑ์มาตรฐานท่ีกาหนดไว้โดยกรมควบคุม มลพษิ โดยมีเงอื่ นไขในการให้ผลตอบแทนดังนี้
187 4.5 ตัวชว้ี ัดความสาเรจ็ 1) จานวนวันท่ปี ริมาณฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ (PM10) สงู เกนิ เกณฑม์ าตรฐานลดลง 2) จานวนจดุ ความร้อน (Hotspot) ลดลง 4.6 หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผล : โครงการ SIB จะดาเนินการกาหนดจุดพื้นที่ท่ี แนน่ อนในการตรวจวดั ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM10) และกาหนดใหใ้ ชข้ ้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อ ใช้เป็นเกณฑ์ในการตรวจวัดจดุ ความร้อน (Hotspot) สาหรบั การประเมินผลโครงการ โดยมีเงื่อนไข ดงั น้ี ตารางท่ี 2 แสดงเกณฑ์การประเมินผลโครงการ SIB เพ่ือปอ้ งกันปัญหาหมอกควนั ภาคเหนือ เกณฑก์ ารประเมินผล ผลตอบแทน 1. จานวนวันที่ปรมิ าณฝ่นุ ละอองขนาดเลก็ (PM10) สูงเกินเกณฑ์มาตรฐานลดลง 1.1 ลดลงนอ้ ยกว่าร้อยละ 10.0 - ไมไ่ ด้รบั ผลตอบแทน 1.2 ลดลงระหวา่ งรอ้ ยละ 10.0 – 19.9 - รอ้ ยละ 3.25 ต่อปี 1.3 ลดลงระหว่างรอ้ ยละ 20.0 – 29.9 - ร้อยละ 4.00 ต่อปี 1.4 ลดลงระหวา่ งรอ้ ยละ 30.0 – 39.9 - ร้อยละ 4.75 ตอ่ ปี 1.5 ลดลงระหวา่ งรอ้ ยละ 40.0 – 49.9 - รอ้ ยละ 5.50 ต่อปี 1.6 ลดลงระหว่างร้อยละ 50.0 – 59.9 - ร้อยละ 6.25 ต่อปี 1.7 ลดลงระหวา่ งรอ้ ยละ 60.0 – 69.9 - รอ้ ยละ 7.00 ต่อปี 1.8 ลดลงระหว่างร้อยละ 70.0 – 79.9 - ร้อยละ 7.75 ต่อปี 1.9 ลดลงระหว่างร้อยละ 80.0 – 89.9 - ร้อยละ 8.50 ต่อปี 1.10 ลดลงตง้ั แตร่ อ้ ยละ 90.0 ขึ้นไป - ร้อยละ 9.25 ตอ่ ปี (2) จานวนจุดความร้อน (Hotspot) ลดลง 2.1 นอ้ ยกว่าร้อยละ 10.0 - ไม่ได้รับผลตอบแทน 2.2 ระหว่างรอ้ ยละ 10.0 – 19.9 - ร้อยละ 3.25 ตอ่ ปี 2.3 ระหว่างรอ้ ยละ 20.0 – 29.9 - ร้อยละ 4.00 ต่อปี 2.4 ระหวา่ งรอ้ ยละ 30.0 – 39.9 - รอ้ ยละ 4.75 ตอ่ ปี 2.5 ระหวา่ งร้อยละ 40.0 – 49.9 - รอ้ ยละ 5.50 ต่อปี 2.6 ระหว่างร้อยละ 50.0 – 59.9 - ร้อยละ 6.25 ต่อปี 2.7 ระหว่างร้อยละ 60.0 – 69.9 - รอ้ ยละ 7.00 ตอ่ ปี 2.8 ระหวา่ งรอ้ ยละ 70.0 – 79.9 - รอ้ ยละ 7.75 ต่อปี 2.9 ระหว่างรอ้ ยละ 80.0 – 89.9 - รอ้ ยละ 8.50 ต่อปี 2.10 ลดลงตงั้ แตร่ อ้ ยละ 90.0 ขนึ้ ไป - ร้อยละ 9.25 ตอ่ ปี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225