ส่วนท่ี 4.4 ผลการศกึ ษาการใชส้ อ่ื ดจิ ทิ ลั ร่วมกันกับบุตรหลานอายุ 6-13 ปี ตารางที่ 4.141 จำนวนและร้อยละการใช้สื่อดิจิทัลร่วมกนั กับบุตรหลาน จำแนกตามระยะเวลา ทำกิจกรรม หรืองานอดิเรก การใช้เวลาทํากิจกรรมหรอื งานอดิเรก เช่น ปลกู ตน้ ไม้ ทำความ จำนวน ร้อยละ สะอาดบา้ น ฯลฯ ดว้ ยกนั เฉลยี่ ในแตล่ ะวัน ไมท่ ำกจิ กรรม 4 3.75 นอ้ ยกว่า 1 ชั่วโมง 45 42.45 1-3 ช่ัวโมง 36 34.00 3-5 ช่ัวโมง 14 13.20 มากกว่า 5 ชั่วโมง 7 6.60 รวม 106 100.00 จากตารางท่ี 4.141 พบว่า กลุ่มตัวอยา่ งผู้ปกครองของเดก็ ในชว่ งอายุ 6 – 13 ปี สว่ นใหญ่ใช้ เวลาทำ กจิ กรรมหรอื งานอดิเรก เชน่ ปลกู ต้นไม้ ทำความสะอาดบา้ น ฯลฯ ด้วยกันกบั บตุ รหลานเฉล่ยี วันละ น้อยกว่า 1 ชั่วโมง จำนวน 45 คน (ร้อยละ 42.45) รองลงมา คือ เฉลี่ยวันละ 1-3 ชั่วโมง จำนวน 36 คน (ร้อยละ 34.00) ตารางท่ี 4.142 จำนวนและรอ้ ยละการใช้สื่อดิจทิ ลั ร่วมกันกับบุตรหลาน จำแนกตามระดับการมีสว่ นร่วมใน การใช้ส่ือดิจทิ ลั ของบตุ รหลาน ในขณะทบ่ี ุตรหลานของทา่ นใชส้ ่ือดิจทิ ัล ทา่ นมสี ว่ นร่วมดว้ ยมากนอ้ ย จำนวน รอ้ ยละ เพยี งใด? เช่น ชวนพดู คุย เลน่ เกมดว้ ยกนั ดูยทู ูปด้วยกัน เป็นต้น มีส่วนรว่ มทุกครงั้ 22 20.80 มีส่วนรว่ มบอ่ ยครงั้ 33 31.10 เม่ือมโี อกาส 39 36.80 แทบจะไม่ไดม้ สี ว่ นรว่ ม 7 6.60 ไม่เคยมสี ว่ นรว่ ม 5 4.70 รวม 106 100.00 จากตารางที่ 4.142 พบวา่ จากการสอบถามผปู้ กครองว่า “ในขณะท่บี ุตรหลานของท่านใช้สื่อดิจิทัล ท่านมีส่วนร่วมด้วยมากน้อย เพียงใด? เช่น ชวนพูดคุย เล่นเกมด้วยกัน ดูยูทูปด้วยกัน เป็นต้น” พบว่า กลุ่ม ตวั อย่างผปู้ กครองของเดก็ ใน ชว่ งอายุ 6 – 13 ปี สว่ นใหญเ่ มือ่ มโี อกาสมีส่วนร่วมในขณะท่ีบตุ รหลานของท่าน 128
ใชส้ ื่อดจิ ทิ ลั จำนวน 39 คน (ร้อยละ 36.80) รองลงมา คือ มีส่วนร่วมบอ่ ยคร้ัง จำนวน 33 คน (ร้อยละ 31.10) และ มีส่วนร่วมทกุ ครั้ง จำนวน 22 คน (ร้อยละ 20.80) ตารางที่ 4.143 จำนวนและร้อยละการใชส้ อ่ื ดจิ ิทัลรว่ มกันกับบุตรหลาน จำแนกตามรูปแบบการทำกิจกรรม ร่วมกบั บุตรหลานเมื่อใช้สื่อดจิ ิทัล ทา่ นใช้สอื่ ดจิ ิทัลเพอื่ ทาํ กิจกรรมใดรว่ มกบั บุตรหลานบ้าง? จำนวน ร้อยละ (เลือกตอบไดม้ ากกวา่ 1 ข้อ) 66 12.60 ดูการต์ นู 61 11.70 ดูภาพยนตร์ 17 3.30 ดูรีววิ สินคา้ 22 4.20 เลอื กซือ้ สินคา้ 25 4.80 ฟังนทิ าน 57 10.90 ฟงั เพลง มิวสคิ วดิ ีโอ 27 5.20 เล่นเกมออนไลน์ 41 7.90 แชท สง่ ข้อความ ฯลฯ 46 8.80 วดี ีโอคอล 8 1.50 ถ่ายทอดสด (Live) 2 0.40 อดั คลปิ และเผยแพร่ 23 4.40 โพสภาพหรอื ข้อความผ่านส่ือสังคมออนไลน์ 45 8.60 สบื คน้ ข้อมลู 38 7.30 ทําการบ้าน แบบฝกึ หัด 41 7.90 พฒั นาทักษะการเรียนรเู้ ช่น การออกเสยี ง, การสะกดคาํ หรอื ตัวอักษร,การคิดเลข, วาดภาพระบายสี 3 0.60 อ่ืนๆ 129
จากตารางท่ี 4.143 พบวา่ กล่มุ ตัวอย่างผปู้ กครองของเด็กในชว่ งอายุ 6 – 13 ปี ส่วนใหญใ่ ช้ ส่ือดจิ ทิ ลั เพอ่ื ทำกจิ กรรมดกู ารต์ นู ร่วมกนั กบั บุตรหลาน รอ้ ยละ 12.60 รองลงมา คือ ดูภาพยนตร์ รอ้ ยละ 11.70 และ กจิ กรรมฟังเพลง มิวสคิ วดิ โี อ ร้อยละ 10.90 ส่วนที่ 4.5 บทบาทในการกำกบั ดแู ลการใชส้ ่อื ดจิ ิทลั ของบุตรหลานอายุ 6-13 ปี ตารางที่ 4.144 จำนวนและร้อยละบทบาทในการกำกับดูแลการใช้สื่อดิจิทลั ของบตุ รหลาน จำแนกตามอายุ เริม่ ต้นใช้ส่อื ดจิ ิทลั ของบตุ รหลาน บุตรหลานของทา่ นเร่มิ ใชส้ ่ือดิจทิ ลั คร้งั แรกเม่ืออายุ จำนวน ร้อยละ ต่ำกว่า 1 ปี 0 0.00 1 – 2 ปี 3 2.80 3 – 5 ปี 30 28.30 6 – 9 ปี 57 53.80 10 – 13 ปี 16 15.10 รวม 106 100.00 จากตารางที่ 4.144 พบว่า บุตรหลานของกลมุ่ ตวั อยา่ งผ้ปู กครองของเดก็ ในช่วงอายุ 6 – 13 ปี ส่วน ใหญเ่ ร่มิ ใชส้ อื่ ดจิ ิทัลเมื่ออายุ 6 – 9 ปี จำนวน 57 คน (รอ้ ยละ 53.80) รองลงมา คือ เร่มิ ใช้สอ่ื ดิจทิ ัลเมื่อ อายุ 3 – 5 ปี จำนวน 30 คน (ร้อยละ 28.30) ตารางที่ 4.145 จำนวนและร้อยละบทบาทในการกำกับดูแลการใช้สื่อดิจิทัลของบุตรหลาน จำแนกตาม ลกั ษณะการใช้ส่ือดจิ ิทัลคร้งั แรกของบุตรหลาน บุตรหลานของทา่ นใชส้ อื่ ดจิ ิทลั ครั้งแรกกับใคร จำนวน รอ้ ยละ ใช้โดยลำพงั 3 2.80 78 73.60 ใช้ขณะอยู่กับบดิ า/มารดา 15 14.20 ใช้ขณะอยู่กบั พนี่ อ้ งรว่ มบิดามารดาเดียวกัน 9 8.50 ใช้ขณะอยู่กบั ญาติ เชน่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลงุ ป้า นา้ อา 1 0.90 0 0.00 ใชข้ ณะอยกู่ ับผู้ดแู ล เช่น พเี่ ล้ยี ง 106 100.00 อน่ื ๆ รวม 130
จากตารางท่ี 4.145 พบว่า จากการสอบถามผปู้ กครองวา่ “บุตรหลานของทา่ นใช้ส่อื ดิจทิ ัลครง้ั แรกกบั ใคร” พบว่า บตุ รหลานของกลุ่มตัวอย่างผูป้ กครองของเด็กในชว่ งอายุ 6 – 13 ปี สว่ นใหญ่ใชส้ ่อื ดิจิทัลครัง้ แรก ใน ขณะอยู่กบั บดิ า/มารดา จำนวน 78 คน (รอ้ ยละ 73.60) รองลงมา คือ ใช้ส่ือดจิ ทิ ลั คร้ังแรกในขณะอย่กู บั พ่ี นอ้ งรว่ มบดิ ามารดาเดยี วกันจำนวน 15 คน (รอ้ ยละ 14.20) และใชข้ ณะอยูก่ ับญาติ เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ลงุ ปา้ น้า อา จำนวน 9 คน (ร้อยละ 8.50) ตารางท่ี 4.146 จำนวนและร้อยละบทบาทในการกำกับดูแลการใช้สื่อดจิ ิทัลของบุตรหลาน จำแนกตามการ เป็นเจ้าของส่ือดิจิทลั ของบตุ รหลาน ปัจจบุ ันบุตรหลานของท่านมสี ่ือดิจทิ ลั เปน็ ของตนเอง จำนวน รอ้ ยละ มสี มาร์ทโฟนของตนเอง 65 61.30 มีสื่อดจิ ิทลั ไดแ้ กแ่ ทบ็ เล็ต/ไอแพต คอมพิวเตอรข์ องตนเอง 0 0.00 ไมม่ สี ื่อดจิ ิทลั เปน็ ของตนเอง 41 38.70 106 100.0 รวม จากตารางที่ 4.146 พบวา่ บตุ รหลานของกล่มุ ตวั อย่างผูป้ กครองของเดก็ ในช่วง 6 – 13 ปี ส่วนใหญ่ ยงั มีสมารท์ โฟนเปน็ ของตนเอง จำนวน 65 คน (รอ้ ยละ 61.30) ตารางที่ 4.147 จำนวนและร้อยละบทบาทในการกำกับดูแลการใช้สื่อดิจิทัลของบุตรหลาน จำแนกตาม ระยะเวลาทีบ่ ตุ รหลานของทา่ นใช้สื่อดิจทิ ลั ระยะเวลาทีบ่ ุตรหลานของท่านใช้ส่ือดิจิทลั จำนวน ร้อยละ นอ้ ยกว่า6เดือน 54 51.40 6 เดอื น - 1ปี 8 7.60 1 – 2 ปี 43 41.00 2 – 3 ปี 0 0.00 3 – 5 ปี 0 0.00 มากกว่า 5 ปี 0 0.00 รวม 105 100.0 จากตารางท่ี 4.147 พบว่า ระยะเวลาที่เด็กในช่วงอายุ 6 – 13 ปี ใช้สื่อดจิ ทิ ัลมาแลว้ เปน็ ระยะเวลา น้อยกว่า 6 เดือน จำนวน 54 คน (ร้อยละ 51.40) รองลงมา คือ 1 – 2 ปี จำนวน 43 คน (ร้อยละ 41.00) 131
ตารางที่ 4.148 จำนวนและรอ้ ยละบทบาทในการกำกับดแู ลการใช้ส่ือดิจิทลั ของบุตรหลาน จำแนกตามการ กำหนดกติกาในการใชส้ อื่ มีการกําหนดกตกิ าในการใช้สื่อดจิ ทิ ลั ของบุตรหลาน จำนวน ร้อยละ ภายในครอบครัวหรือไม่ ไมม่ ี 31 29.25 มี 75 70.75 รวม 106 100.0 จากตารางที่ 4.148 พบว่า กลุ่มตัวอย่างผู้ปกครองของเด็กในช่วงอายุ 6 – 13 ปี ส่วนใหญ่มีการ กาํ หนดกตกิ าในการใช้ส่ือดจิ ทิ ัลของบุตรหลาน ภายในครอบครวั จำนวน 75 คน (ร้อยละ 70.75) และไม่มีการ กาํ หนดกตกิ าในการใชส้ อื่ ดิจทิ ลั ของบุตรหลาน ภายในครอบครัว จำนวน 31 คน (ร้อยละ 29.25) สว่ นท่ี 4.6 บทบาทในการสง่ เสรมิ การรู้เท่าทันสือ่ ดิจิทัลใหก้ ับบุตรหลานอายุ 6-13 ปี ตารางที่ 4.149 คา่ เฉล่ียและสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดบั ความคิดเหน็ เกย่ี วกับบทบาทในการสง่ เสรมิ การ รู้เทา่ ทันส่อื ดิจิทลั ให้กับบุตรหลาน ระดบั ความคิดเห็น ความคดิ เห็นเก่ียวกับ เห็นดว้ ย เห็นดว้ ย ไม่เห็น ไมเ่ ห็น ไม่ ̅������ S.D. ระดับ ดว้ ย แนใ่ จ บทบาทในการสง่ เสรมิ การรเู้ ทา่ อยา่ งยง่ิ n (%) ด้วย อยา่ งย่งิ 2.74 1.063 ไมเ่ ห็นด้วย ทันสือ่ ดิจทิ ัลใหก้ บั บตุ รหลาน n (%) n (%) n (%) n (%) 2.84 1.070 ไมเ่ หน็ ดว้ ย 34.1 การใชส้ ่อื ดจิ ทิ ัลชว่ ยสง่ เสริมพัฒนาการ 2 24 43 19 2.55 0.896 ไม่เหน็ ดว้ ย 18 ด้านการเรยี นให้เด็กได้ (1.90) (22.60) (40.60) (17.90) อย่างยงิ่ (17.00) 34.2 การใช้สอื่ ดิจิทลั ชว่ ยให้เดก็ มสี มาธมิ าก 2 30 40 17 17 2.87 0.895 ไม่เห็นด้วย 2.92 0.957 ไม่เหน็ ด้วย ขึน้ (1.90) (28.30) (37.70) (16.05) (16.05) 2.91 0.982 ไม่เหน็ ดว้ ย 26 2.68 0.879 ไมเ่ ห็นด้วย 34.3 เด็กควรมีสื่อดจิ ิทลั เป็นของตนเอง 0 12 51 17 (24.50) (11.35) (48.15) 23 (16.00) 34.4 เดก็ สามารถใชส้ อื่ ดิจทิ ลั ไดโ้ ดยลำพงั 3 19 53 (21.75) 8 (2.85) (17.90) (50.00) 18 (7.50) (17.00) 34.5 เดก็ ควรตัดสินใจได้โดยอสิ ระวา่ 2 27 48 11 (1.85) (25.50) (45.25) 21 (10.40) ตอ้ งการ ใชส้ อ่ื ดจิ ทิ ลั ในชว่ งเวลาใด (19.85) 5 21 49 10 34.6 เดก็ ควรมีตดั สนิ ใจไดโ้ ดยอิสระว่า (4.70) (19.85) (46.20) 31 (9.40) ตอ้ งการ เลือกชมเนื้อหา/รายการใด (29.20) 34.7 การท่บี ตุ รหลานใช้สื่อดจิ ิทัลชว่ ยให้ 2 13 50 10 (1.90) (12.30) (47.20) (9.40) ผปู้ กครองมเี วลาสว่ นตัวมากขึ้น 132
34.8 ผปู้ กครองไมค่ วรกำกบั การใช้ส่อื ดจิ ิทลั 3 16 49 22 16 2.70 0.997 ไมเ่ ห็นดว้ ย (15.10) (46.20) (20.80) (15.10) 3.93 0.897 เหน็ ด้วย ของบุตรหลาน (2.80) 34.9 ผปู้ กครองไมค่ วรใช้โปรแกรมตดิ ตาม 31 43 28 2 2 (29.20) (40.60) (26.40) (1.90) (1.90) การ ใช้สอ่ื ดจิ ิทัลของบุตรหลาน หมายเหต:ุ คะแนนเฉลีย่ 1.00-1.80 มีบทบาทในการสง่ เสริมการรู้เทา่ ทันส่อื ดจิ ทิ ลั ใหก้ บั บตุ รหลานอย่ใู นระดับไมแ่ น่ใจ คะแนนเฉลีย่ 1.81 -2.61 บทบาทในการส่งเสริมการร้เู ทา่ ทนั สื่อดจิ ทิ ลั ให้กบั บุตรหลานอยูใ่ นระดับไม่เห็นด้วยอย่างยิง่ คะแนนเฉล่ยี 2.62-3.42 บทบาทในการสง่ เสรมิ การรูเ้ ท่าทนั สอ่ื ดิจทิ ลั ใหก้ บั บตุ รหลานอยู่ในระดับไมเ่ หน็ ด้วย คะแนนเฉลยี่ 3.43-4.23 บทบาทในการส่งเสริมการรเู้ ทา่ ทนั สอื่ ดจิ ิทัลใหก้ บั บตุ รหลานอยูใ่ นระดับเห็นดว้ ย คะแนนเฉล่ีย 4.24-5.00 บทบาทในการส่งเสรมิ การรู้เท่าทนั สอื่ ดิจิทัลให้กับบตุ รหลานอย่ใู นระดบั เหน็ ด้วยอยา่ งยิ่ง **หมายเหตุ ������̅ = ค่าเฉลีย่ , S.D. = คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน จากตารางที่ 4.149 แสดงให้เหน็ ว่า ผู้ปกครองส่วนใหญม่ ีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทในการ ส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลให้กับบุตรหลาน โดยพิจารณารายข้อ จากคะแนนเฉลี่ย มากที่สุดพบว่า ข้อ คำถามผปู้ กครองไมค่ วรใชโ้ ปรแกรมติดตามการ ใช้ส่ือดจิ ิทลั ของบตุ รหลาน อยู่ในระดบั เหน็ ด้วย (ค่าเฉล่ีย = 3.93) ตารางท่ี 4.150 คา่ เฉลีย่ และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานของบทบาทในการให้คำแนะนำบตุ รหลานเพ่อื สง่ เสรมิ การรเู้ ทา่ ทันส่ือดจิ ทิ ลั ระดับความคดิ เหน็ บทบาทในการส่งเสรมิ ทุกครงั้ บอ่ ยคร้งั เมื่อมี แทบจะไม่ ไม่เคย ���̅��� SD. ระดับ การรู้เท่าทันสอ่ื ดิจิทลั ท่ีใชส้ ่ือ โอกาส n(%) n(%) n(%) ให้กบั บุตรหลาน n(%) n(%) 35.1 ใหค้ ำแนะนำเกี่ยวกับการ 42 38 18 3 5 4.03 1.055 บ่อยครั้ง ฝึกวินัยในการ ใชส้ อื่ ดิจทิ ลั (39.60) (35.85) (17.00) (2.85) (4.70) 35.2 ให้คำแนะนำเกีย่ วกับการ 30 46 22 3 5 3.88 1.011 บ่อยครงั้ กำหนดเวลาใน การใชส้ อื่ ดจิ ทิ ลั (28.30) (43.40) (20.80) (2.80) (4.70) ในแต่ละวัน 35.3 พูดคุยเก่ียวกบั ตัวอย่างการ 34 43 23 2 4 3.95 0.980 บอ่ ยครั้ง ใชส้ อื่ ดิจทิ ัล ทด่ี ีและไมด่ ี (32.10) (40.55) (21.65) (1.90) (3.80) 35.4 ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการ 38 43 20 2 3 4.05 0.940 บอ่ ยครง้ั เลือกเน้อื หา และรายการที่ (35.80) (40.60) (18.90) (1.90) (2.80) เหมาะสม 35.5 พดู คุยเกี่ยวกับอันตรายท่ี 25 43 27 8 3 3.75 0.996 บอ่ ยคร้ัง อาจเกดิ ขนึ้ จากการใชส้ อ่ื ดิจิทลั (23.60) (40.60) (25.50) (7.50) (2.80) 35.6 ใหค้ วามรูเ้ กย่ี วกับวิธกี าร 25 44 27 6 4 3.75 1.003 บ่อยครง้ั พจิ ารณา ความน่าเชือ่ ถือของ (23.60) (41.45) (25.45) (5.70) (3.80) ข้อมูล 133
35.7 ให้ความรู้เก่ียวกบั วธิ ีการ 1 0 50 39 16 2.35 0.769 แทบจะใม่ พจิ ารณาข้อมูล ท่ีจรงิ และไม่จริง (0.90) (47.20) (36.80) (15.10) หมายเหตุ: คะแนนเฉล่ีย 1.00-1.80 มบี ทบาทในการสง่ เสรมิ การรู้เทา่ ทนั สื่อดิจทิ ัลให้กับบุตรหลานดา้ นการให้คำแนะนำอยใู่ นระดับไม่เคย คะแนนเฉลี่ย 1.81 -2.61 บทบาทในการส่งเสรมิ การรเู้ ทา่ ทันสอื่ ดิจทิ ัลใหก้ ับบุตรหลานด้านการให้คำแนะนำอยู่ในระดับแทบจะไม่ คะแนนเฉลี่ย 2.62-3.42 บทบาทในการสง่ เสรมิ การร้เู ท่าทันส่ือดิจิทลั ให้กบั บตุ รหลานดา้ นการใหค้ ำแนะนำอยู่ในระดบั เมอ่ื มีโอกาส คะแนนเฉลีย่ 3.43-4.23 บทบาทในการสง่ เสรมิ การรเู้ ทา่ ทนั ส่อื ดจิ ิทัลให้กบั บตุ รหลานด้านการให้คำแนะนำอย่ใู นระดบั บ่อยคร้งั คะแนนเฉล่ีย 4.24-5.00 บทบาทในการส่งเสริมการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื ดิจิทัลใหก้ ับบตุ รหลานดา้ นการใหค้ ำแนะนำอย่ใู นระดบั ทกุ คร้ังทใ่ี ชส้ ่อื **หมายเหตุ ������̅ ������̅ = ค่าเฉลี่ย , S.D. = คา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน จากตารางท่ี 4.150 แสดงให้เห็นว่า ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีบทบาทในการให้คำแนะนำบุตรหลานเพือ่ ส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลเกี่ยวกับการเลือกเนื้อหา และรายการที่เหมาะสม อยู่ในระดับ บ่อยคร้ัง (คา่ เฉลย่ี = 4.05) ตารางท่ี 4.151 ค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดบั ความม่ันใจในการให้คำแนะนำความรู้เกี่ยวกับ การใช้สอื่ ดจิ ทิ ลั กับบุตรหลาน ระดบั ความมน่ั ใจในการให้คำแนะนำความรู้เก่ียวกบั คา่ เฉลยี่ ส่วนเบ่ียงเบน ระดบั การใช้ส่อื ดจิ ิทัลกบั บุตรหลาน มาตรฐาน 1. สามารถฝกึ วนิ ยั ในการใชส้ ่ือดจิ ิทัลใหก้ ับบตุ รหลานได้ 2.47 .746 มน่ั ใจวา่ มคี วามรู้ เพียงพอ 2. สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับระยะเวลาการใช้สื่อ 2.33 .700 ไม่มั่นใจวา่ มีความรู้ ดจิ ิทลั ที่ เหมาะสม เพียงพอ 3. สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมเกี่ยวกบั การปกป้อง 2.43 .690 มั่นใจว่ามีความรู้ ขอ้ มูล สว่ นตัวได้ เพียงพอ 4. สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมเกี่ยวกับการควบคมุ 2.45 .706 มั่นใจว่ามคี วามรู้ อารมณ์ ขณะใชส้ ่ือดจิ ิทัล เพยี งพอ 5. สามารถชวนบุตรหลานพูดคุยเกี่ยวกับผลกระทบและ 2.46 .650 มั่นใจวา่ มคี วามรู้ อันตราย ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้สื่อดิจิทัลได้อย่างรอบ เพียงพอ ด้าน 6. สามารถสอนให้บุตรหลานแยกแยะได้ว่าข้อมูลใด 2.55 .664 มั่นใจว่ามคี วามรู้ นา่ เชื่อถือ/ ไม่นา่ เชือ่ ถอื จรงิ /ไม่จริง เพียงพอ 7. สามารถแนะนำบุตรหลานได้ว่าภาพ เนื้อหา หรือแอ 2.58 .647 มนั่ ใจว่ามคี วามรู้ พลเิ คชน่ั ใดท่ีเปน็ ประโยชน์ สง่ เสรมิ การเรียนรู้ เพยี งพอ 8. สามารถแนะนำบุตรหลานได้ว่าภาพ เนื้อหา หรือ 2.50 .665 ม่ันใจว่ามคี วามรู้ แอพลิเคชั่นใดที่ไม่เหมาะสม ไม่ควรเลียนแบบ ควร เพยี งพอ หลีกเล่ยี ง 134
ตารางท่ี 4.151 ค่าเฉลีย่ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของระดบั ความม่ันใจในการให้คำแนะนำความรู้เก่ียวกับ การใช้ส่ือดิจิทลั กบั บุตรหลาน (ต่อ) ระดับความม่ันใจในการให้คำแนะนำความรู้เกี่ยวกบั คา่ เฉลย่ี ส่วนเบ่ยี งเบน ระดบั การใช้สือ่ ดิจทิ ลั กบั บตุ รหลาน มาตรฐาน 9. สามารถแนะนำบตุ รหลานได้วา่ ข้อความหรือเน้ือหาใด 2.45 .692 มนั่ ใจวา่ มีความรู้ เหมาะสมสำหรับการแชร์ สง่ ต่อ เผยแพร่ เพยี งพอ 10. สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมเกี่ยวกับการ 2.51 .680 มน่ั ใจวา่ มีความรู้ ถ่ายภาพ จัดทำคลิปเพื่อเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ส่ือ เพียงพอ สังคมออนไลน์ ยูทปู 11. สามารถยกตัวอย่างภาพหรือเนื้อหาที่ดีและไม่ดี ได้ 2.43 .743 ม่ันใจวา่ มีความรู้ อยา่ ง หลากหลาย เพียงพอ 12. สามารถเปน็ ต้นแบบที่ดใี นการใชส้ ่ือดจิ ิทัลให้กับบุตร 1.99 .640 ไม่ม่นั ใจวา่ มคี วามรู้ หลาน เพยี งพอ หมายเหตุ: คะแนนเฉลีย่ 1.00-1.67 มีระดบั ความมนั่ ใจในการให้คำแนะนำความรเู้ กย่ี วกบั การใชส้ อ่ื ดจิ ิทัลกับบตุ รหลานอยู่ในระดบั ไม่แน่ใจ คะแนนเฉล่ีย 1.68 -2.35 มีระดบั ความมั่นใจในการใหค้ ำแนะนำความร้เู ก่ยี วกบั การใช้สื่อดิจิทัลกับบตุ รหลานอยู่ในระดบั ไม่มน่ั ใจวา่ มคี วามรู้เพยี งพอ คะแนนเฉล่ยี 2.36 -3.00 มรี ะดบั ความม่นั ใจในการใหค้ ำแนะนำความร้เู กยี่ วกับการใชส้ ่อื ดิจทิ ลั กบั บุตรหลานอยใู่ นระดบั มน่ั ใจวา่ มคี วามรู้เพยี งพอ จากตารางท่ี 4.151 แสดงให้เหน็ วา่ ความมนั่ ใจในการใหค้ ำแนะนำความรูเ้ กี่ยวกบั การใชส้ ่อื ดจิ ิทัลกับ เด็ก 6 – 13 ปี โดยผปู้ กครองสามารถแนะนำบุตรหลานได้วา่ ภาพ เนอื้ หา หรือแอพลเิ คชนั ใดที่เปน็ ประโยชน์ สง่ เสรมิ การเรยี นรู้ เมอ่ื พิจารณารายข้อ จากคะแนนเฉลี่ยมากท่สี ดุ พบวา่ อยใู่ นระดบั มั่นใจว่ามคี วามรเู้ พียงพอ (คา่ เฉลี่ย = 2.58) ส่วนท่ี 4.7 สถานการณเ์ สยี่ งในการใชส้ อ่ื ของเด็กอายุ 6-13 ปี ตารางท่ี 4.152 คา่ เฉลย่ี และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานสถานการณ์เส่ียงในการใช้ส่อื ของเดก็ อายุ 6-13 ปี สถานการณ์เสย่ี งในการใชส้ ื่อ ค่าเฉลยี่ ส่วน ระดบั เบี่ยงเบน ไม่ทราบ ไมท่ ราบ มาตรฐาน ไม่ทราบ ไมท่ ราบ 1. การขอข้อมลู สว่ นตวั เลขบญั ชี หรือรหสั ธนาคาร 1.21 .716 ไมท่ ราบ 2. การขอชกั ชวนให้โพสต์ข้อมลู หรือรปู ถ่ายส่วนตัว 1.22 .735 3. การดา่ ต่อว่า ภาษาหยาบคาย ไม่สภุ าพ 1.48 .946 4. เน้ือหาทเ่ี ป็นการลอ้ เลยี น หรอื สร้างความเสียหายให้ผอู้ ื่น 1.29 .685 5. เนื้อหาทเี่ ก่ยี วข้องกบั การมเี พศสัมพันธ์ ลามก อนาจาร 1.15 .532 135
ตารางที่ 4.152 ค่าเฉลีย่ และส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐานสถานการณเ์ สยี่ งในการใช้สื่อของเด็กอายุ 6-13 ปี (ตอ่ ) สถานการณเ์ สยี่ งในการใชส้ อ่ื ค่าเฉลย่ี สว่ น ระดับ เบ่ียงเบน มาตรฐาน 6. เนื้อหาทเ่ี กยี่ วกบั การทำแทง้ 1.11 .524 ไมท่ ราบ 7. เน้ือหาทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การทำรา้ ยรา่ งกาย ตบตี ทะเลาะววิ าท 1.41 .814 ไม่ทราบ 8. เน้ือหาทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั การใชอ้ าวธุ 1.44 1.211 ไม่ทราบ 9. เนอ้ื หาทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั การเชญิ ชวนใหซ้ ้อื -ขาย อาวธุ ปืน 1.16 .553 ไมท่ ราบ 10. เน้ือหาทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั การเชญิ ชวนให้ซื้อ-ขาย สรุ า บหุ รี่ ยาเสพติด 1.13 .568 ไม่ทราบ 11. เนอื้ หาทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การเชิญชวนให้ซอ้ื -ขาย เช่น ยาลดความ 1.22 .602 ไมท่ ราบ อว้ น ยาผวิ ขาว ยาเกย่ี วกบั การกระต้นุ สมรรถนะทางเพศ 12. เนอื้ หาทเี่ กี่ยวข้องกบั การเชญิ ชวนให้ซ้อื สนิ คา้ ออนไลน์ 1.52 1.042 ไม่ทราบ 13. เนื้อหาทเ่ี กีย่ วข้องกบั การเชญิ ชวนให้เลน่ เกม ออนไลน์ 2.19 1.497 ไมเ่ คย 14. เนอ้ื หาทเี่ กี่ยวข้องกบั การเชญิ ชวนให้เลน่ การพนัน ออนไลน์ 1.43 1.032 ไมท่ ราบ 15. เนอ้ื หาทเ่ี กยี่ วข้องกบั ความขดั แย้งทางการเมอื ง 1.28 .741 ไมท่ ราบ 16. เนือ้ หาทเ่ี ก่ียวข้องกบั การดหู ม่นิ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ 1.29 .780 ไม่ทราบ หมายเหต:ุ คะแนนเฉล่ยี 1.00-1.80 สถานการณเ์ สี่ยงการใช้สื่ออยู่ในระดับไม่ทราบ คะแนนเฉล่ีย 1.81 -2.61 สถานการณ์เส่ยี งการใชส้ ่อื อยู่ในระดับไม่เคย คะแนนเฉลย่ี 2.62-3.42 สถานการณ์เสย่ี งการใช้สอ่ื อยู่ในระดบั บางครัง้ คะแนนเฉลย่ี 3.43-4.23 สถานการณเ์ สยี่ งการใชส้ ่อื อยู่ในระดบั บอ่ ยคร้ัง คะแนนเฉลี่ย 4.24-5.00 สถานการณเ์ ส่ียงการใชส้ อ่ื อยใู่ นระดบั ทกุ คร้งั ท่ีใช้สอ่ื จากตารางท่ี 4.152 แสดงใหเ้ หน็ ว่า สถานการณ์เสี่ยงในการใชส้ ่อื ของเด็กอายรุ ะหวา่ ง 6-13 ปี มกี าร ด่า ต่อว่า ภาษาหยาบคาย ไม่สุภาพ เมื่อพิจารณารายข้อ จากคะแนนเฉลี่ยมากที่สุดพบว่า อยู่ในระดับไม่ ทราบ (ค่าเฉลีย่ = 1.48) สว่ นท่ี 4.8 ผลการศกึ ษาระดบั ทกั ษะการรู้คดิ ของเดก็ อายุ 6-13 ปี ผลการศึกษาระดบั การคดิ เชิงบรหิ าร (EF) ของเด็กอายุ 6-13 ปี ภาพรวม การศกึ ษาในคร้งั น้ไี ด้มีการประเมนิ ทักษะการคิดเชงิ บริหารกลมุ่ ตัวอยา่ งเด็กนักเรยี นอายุระหวา่ ง 3 ปี ถึง 13 ปีในจังหวัดนครปฐม จำนวน 120 คน ซึ่งมีเดก็ ที่ได้รับการประเมินทักษะการคดิ เชิงบริหารด้วยแบบ ประเมนิ BRIEF โดยครูสมบูรณท์ ้ังส้นิ จำนวน 116 คน พบว่า เดก็ อายรุ ะหวา่ ง 3 -13 ปมี ีทกั ษะ EF ภาพรวม อยู่ในระดับเกณฑ์ปกติ (EF ดี) ร้อยละ 68.1 (79 คน) รองลงมา คือ มีทักษะ EF อยู่ในระดับควรได้รับการ ส่งเสริม ร้อยละ 29.3 (34 คน) และมีทักษะ EF อยู่ในระดับดี รอ้ ยละ 2.6 (3 คน) 136
ภาพท่ี 4.8 รอ้ ยละทกั ษะการคิดเชิงบรหิ าร (EF) ของเด็กนกั เรยี นทมี่ ีอายุระหว่าง 3 ปี ถึง 13 ปี ผลการประเมินทักษะการคดิ เชงิ บริหาร (EF) ของเดก็ จำแนกตามรายด้านท่ีสำคัญ 5 ดา้ น นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาผลการประเมินทักษะการคิดเชิงบริหาร (EF) รายด้านที่สำคัญทั้ง 5 ด้าน พบวา่ ดา้ นการยับยงั้ ชง่ั ใจ (Inhibitory Control) พบว่า เด็กจำนวน 116 คน มีทักษะ EF ด้านการยับยั้งชั่ง ใจ อยู่ ในระดับเกณฑ์ปกติ (EF ปกติ) ร้อยละ 77.6 ( 90 คน) นอกนั้นมีทักษะ EF อยู่ในระดับควรได้รับการ สง่ เสรมิ รอ้ ยละ 22.4 ( 26 คน ) ด้านการยืดหย่นุ ความคิด (Shift Cognitive Flexibility) พบว่า เดก็ จำนวน 116 คน มที กั ษะ EF ด้าน การยืดหยุน่ ความคิด (Shift Cognitive Flexibility) อยู่ ในระดับเกณฑ์ปกติ (EF ปกติ) รอ้ ยละ 83.6 (97 คน) นอกนัน้ มีทักษะ EF อยู่ในระดับควรไดร้ ับการสง่ เสรมิ ร้อยละ 16.4 ( 19 คน ) ด้านการควบคุมอารมณ์ (Emotion Control) พบว่า เด็กจำนวน 116 คน มีทักษะ EF ด้านการ ควบคมุ อารมณ์ อยใู่ นระดับเกณฑ์ปกติ (EF ปกต)ิ รอ้ ยละ 76.7 (89 คน) นอกน้นั มีทกั ษะ EF อยู่ในระดับควร ได้รับการส่งเสรมิ รอ้ ยละ 23.3 ( 27 คน ) ด้านความจำในขณะทำงาน (Working Memory) พบว่า เด็กจำนวน 116 คน มีทักษะ EF อยู่ ใน ระดบั EF ดี รอ้ ยละ 6.0 (7 คน) และมที กั ษะEF ดา้ นความจำขณะทำงานอยู่ในระดบั เกณฑ์ปกติ (EF ปกต)ิ รอ้ ย ละ 67.2 (78คน) นอกน้ันมที ักษะ EF อย่ใู นระดบั ควรไดร้ บั การสง่ เสริม ร้อยละ 26.7 ( 31 คน ) ด้านการวางแผนจดั การ (Planning and Organizing) พบว่า เด็กจำนวน 116 คน มีทักษะ EF ด้าน การวางแผนจดั การ อยู่ในระดับ EF ดี รอ้ ยละ 5.2 (6 คน) และมที ักษะEF ดา้ นการวางแผนจัดการอยใู่ นระดบั เกณฑ์ปกติ (EF ปกติ) ร้อยละ 64.7 (75 คน) นอกนั้นมีทักษะ EF อยู่ในระดับควรได้รบั การส่งเสริม ร้อยละ 30.2 ( 35 คน ) ดงั แสดงในตารางท่ี 4.154 137
ตารางท่ี 4.153 ระดบั ผลการประเมนิ ระดบั ทักษะ EF จำแนกตามรายด้าน ระดับทักษะ EF รายดา้ น EF ดี ระดบั ควรได้รบั การ จำนวน (%) EF ปกติ สง่ เสริม ดา้ นการยบั ยง้ั ช่ังใจ (Inhibitory Control) จำนวน (%) ดา้ นการยดื หยุน่ ความคิด (Shift Cognitive 0 (0.0) 90 (77.6) จำนวน (%) Flexibility) 0 (0.0) 97 (83.6) 26 (22.4) การควบคมุ อารมณ์ (Emotion Control) 0 (0.0) 89 (76.7) ด้านความจำในขณะทำงาน 7 (6.0) 78 (67.2) 19 (16.4) (Working Memory) ด้านการวางแผนจัดการ 6 (5.2) 27 (23.3) (Planning and Organizing) 31 (26.7) 75 (64.7) 35 (30.2) จากตารางที่ 4.153 แสดงระดบั ผลการประเมนิ ระดบั ทกั ษะ EF จำแนกตามรายดา้ น พบวา่ ด้านการยับยั้งชั่งใจ (Inhibitory Control) EF ปกติ 90 คน (ร้อยละ77.6) ควรได้รบั การส่งเสริม 26 คน (รอ้ ยละ 22.4) ด้านการยืดหยุ่นความคิด (Shift Cognitive Flexibility) EF ปกติ 97คน (ร้อยละ 83.6) ควรได้รับ การสง่ เสรมิ 19 คน (รอ้ ยละ 16.4) ดา้ นการควบคมุ อารมณ์ (Emotion Control) EF ปกติ 89 คน (รอ้ ยละ 76.7) ควรได้รับการส่งเสรมิ 27 คน (รอ้ ยละ 23.3) ด้านความจำในขณะทำงาน (Working Memory) EF ดี 7คน (6.0) EF ปกติ 78 คน (ร้อยละ 67.2) ควรไดร้ ับการส่งเสรมิ 31 คน (ร้อยละ 26.7) ด้านการวางแผนจัดการ (Planning and Organizing) EF ดี 6 คน (5.2) EF ปกติ 75 คน (รอ้ ยละ 64.7) ควรไดร้ ับการสง่ เสริม 35 คน (รอ้ ยละ 30.2) 138
ส่วนท่ี 4.9 ผลการบ่งชี้และคดั กรองบุคคลทมี่ ีภาวะสมาธสิ ้ัน บกพรอ่ งทางการเรียนรู้และออทสิ ซม่ึ ตารางที่ 4.154 ระดบั การประเมนิ บง่ ชีแ้ ละคดั กรองบุคคลที่มีภาวะสมาธิสั้น บกพรอ่ งทางการเรียนรแู้ ละออทสิ ซมึ่ ระดับ ดา้ น เกณฑ์ปกติ กลมุ่ เฝา้ ระวัง กลุม่ ทคี่ วร กลมุ่ ท่คี วรส่ง จำนวน (%) ติดตาม ได้รบั การ แพทย์ พฤตกิ รรมดา้ นสมาธสิ ้ัน ทำซำ ช่วยเหลือดา้ น (ซน/ววู่ าม) การศึกษา เพ่อื รับการ พฤติกรรมด้านสมาธสิ น้ั จำนวน (%) จำนวน (%) ตรวจประเมิน (ขาดสมาธิ) จำนวน (%) พฤตกิ รรมดา้ นภาวะการบกพร่อง ดา้ นการอ่าน 100(93.50) 6 (5.60) 1 (0.90) 0 (0.00) พฤตกิ รรมด้านภาวะการบกพร่อง ดา้ นการเขียน 102(94.40) 4 (3.70) 2 (1.90) 0 (0.00) พฤติกรรมดา้ นภาวะการบกพร่อง ด้านการคดิ คำนวณ 106(98.10) 0 (0.00) 2 (1.90) 0 (0.00) 54(94.70) 2 (3.50) 0 (0.00) 1 (1.80) 103(95.40) 3 (2.75) 2 (1.85) 0 (0.00) จากตาราง 4.154 พบว่า เด็กในกลุ่มช่วงอายุ 6-13 ปี จำนวน 110 คน จำแนกตามรายด้านจาก คะแนนรวมพฤติกรรม ออกเป็น 5 ด้าน ดังนี้ 1. คะแนนรวมพฤตกิ รรมดา้ นสมาธิส้ัน (ซน/ว่วู าม) อยู่ในเกณฑป์ กติ จำนวน 100 คน อยู่ในเกณฑ์ เฝ้าระวงั ตดิ ตาม ทำซำ้ จำนวน 6 คน และอย่ใู นเกณฑ์ควรไดร้ บั การชว่ ยเหลอื ดา้ นการศกึ ษา จำนวน 1 คน 2. คะแนนรวมพฤติกรรมดา้ นสมาธิส้ัน (ขาดสมาธิ) อยู่ในเกณฑ์ปกติ จำนวน 102 คน อยใู่ นเกณฑ์ เฝ้าระวงั ระวังติดตาม ทำซ้ำ จำนวน 4 คน และอยใู่ นเกณฑค์ วรไดร้ บั การช่วยเหลอื ด้านการศกึ ษา จำนวน 2 คน 3. คะแนนรวมพฤตกิ รรมด้านภาวะการบกพรอ่ งดา้ นการอ่าน อยู่ในเกณฑ์ปกติ จำนวน 106 คน และอยู่ในเกณฑ์ควรได้รับการชว่ ยเหลอื ดา้ นการศกึ ษา จำนวน 2 คน 4. คะแนนรวมพฤติกรรมด้านภาวการณบ์ กพร่องด้านการเขียน อย่ใู นเกณฑ์ปกติ จำนวน 54 คน และอยใู่ นเกณฑเ์ ฝา้ ระวงั ตดิ ตาม ทำซ้ำ จำนวน 2 คน และกลุม่ ทค่ี วรสง่ แพทย์เพอ่ื รบั การตรวจ ประเมิน จำนวน 1 คน 139
5. คะแนนรวมพฤติกรรมดา้ นภาวการณ์บกพรอ่ งดา้ นการเขยี น อยู่ในเกณฑ์ปกติ จำนวน 103 คน อย่ใู นเกณฑเ์ ฝา้ ระวัง จำนวน 3 คน และอยใู่ นเกณฑ์ควรไดร้ บั การช่วยเหลอื ดา้ นการศึกษา จำนวน 2 คน ส่วนที่ 5 ผลการศึกษาความสมั พันธ์ระหว่างรปู แบบการเล้ียงดู และความผกู พนั ผปู้ กครอง-บตุ รพฤตกิ รรม เสยี่ งในการใชส้ อ่ื ออนไลน์ของเด็กอายุ 0 - 13 ปี เน่ืองจากเมื่อพิจารณาลกั ษณะของตัวแปรในการศึกษานี้ เพือ่ ศึกษาความสมั พนั ธ์ระหว่างรูปแบบการ เลี้ยงดูกับพฤตกิ รรมเสี่ยงในการใช้สือ่ ออนไลน์ของเด็กอายุ 0 - 13 ปี โดยตัวแปรพฤติกรรมการใช้ส่ือดิจิทัล ของผู้ปกครองและเด็กมีลักษณะเป็นตัวแปรประเภทกลุ่ม ส่วนรูปแบบการเลี้ยงดู ความผูกพันระหว่าง ผู้ปกครองกบั บตุ รมีลักษณะเป็นตัวแปรเชิงปริมาณ การวิเคราะหค์ วามสัมพนั ธโ์ ดยใช้สัมประสทิ ธิ์สหสัมพันธ์ แบบอีต้า (Eta correlation)เปน็ วิธีท่ีใช้วัดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรรายคู่ หรือข้อมูล 2 ชุด โดยที่ตวั แปร หนึ่งเป็นตัวแปรต่อเนอ่ื ง อีกตวั หนงึ่ ถูกแบ่งใหม้ ีกลมุ่ ลกั ษณะ ส่วนที่ 5.1 ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการเลี้ยงดู รูปแบบความผูกพันผู้ปกครอง-บุตรกับ พฤติกรรมการใช้สอ่ื ดิจิทัลของผปู้ กครองและเด็กชว่ งอายุ 0-13 ปี ตารางที่ 4.155 ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการเลี้ยงดูกับพฤติกรรมการใช้สื่อดิจิทัลของ ผ้ปู กครองและเดก็ ชว่ งอายุ 0-13 ปี พฤติกรรมการใชส้ ่อื ดจิ ิทลั Parenting Styles ของผปู้ กครองและเดก็ Authoritative Authoritarian Permissive ŋ p-value ŋ p-value ŋ p-value ทา่ นใชส้ ่อื ดจิ ิทลั เฉลี่ยวันละกช่ี ่วั โมง? .41 .74 .42 .72 .38 .41 ท่านเคยใหบ้ ุตรหลานใชส้ ่ือดิจิทลั เชน่ สมาร์ท .53 .03* .44 .13 .21 .97 โฟน แทบ็ เลต็ /ไอแพด ของทา่ นหรอื ไม่? ท่านใชส้ ่อื ดิจิทลั ในขณะท่อี ยูก่ บั บตุ รหลาน .48 .00* .43 .22 .34 .03* เฉลี่ยวันละกชี่ ัว่ โมง? บตุ รหลานของทา่ นเคยประสบอุบัติเหตเุ ช่น .54 .01* .47 .05* .28 .69 ตกเตียง ตกบนั ได หกล้ม ในขณะทท่ี า่ นกาํ ลงั ใชส้ ือ่ ดจิ ทิ ลั หรือไม่? .43 .55 .41 .50 .33 .18 การใชเ้ วลาทาํ กจิ กรรมหรอื งานอดิเรกเชน่ ปลกู ต้นไม้ ทาํ ความสะอาดบา้ น ฯลฯ ด้วยกนั เฉล่ียในแต่ละวนั 140
ตารางท่ี 4.155 ค่าสมั ประสทิ ธิส์ หสมั พนั ธ์ระหว่างรปู แบบการเล้ียงดกู บั พฤตกิ รรมการใช้ส่อื ดจิ ิทลั ของ ผู้ปกครองและเดก็ ชว่ งอายุ 0-13 ปี (ตอ่ ) พฤติกรรมการใชส้ อ่ื ดจิ ิทลั Authoritative Parenting Styles Permissive ของผปู้ กครองและเด็ก ŋ p-value Authoritarian ŋ p-value .46 .15 ŋ p-value .34 .33 ในขณะท่บี ตุ รหลานของทา่ นใชส้ อื่ ดจิ ิทลั ทา่ น .46 .47 มีสว่ นร่วมด้วยมากนอ้ ยเพียงใด? เช่น ชวน .31 .21 .25 .66 พูดคยุ เล่นเกม ดว้ ยกัน ดูยูทูปด้วยกนั .45 .13 .33 .84 .27 .00* บุตรหลานของทา่ นเร่มิ ใชส้ ่ือดจิ ทิ ลั ครง้ั แรก .48 .10 .32 .87 เมื่ออายเุ ท่าไหร่? .55 .01* .29 .42 .33 .26 บตุ รหลานของทา่ นใชส้ ่ือดจิ ิทลั เป็นระยะ เวลานานเท่าใด .41 .97 ปัจจุบนั บุตรหลานของทา่ นมสี อ่ื ดจิ ทิ ลั เป็น ของตนเองตอนอายเุ ท่าไหร่? .42 .25 มกี ารกาํ หนดกตกิ าในการใชส้ ่ือดจิ ทิ ลั ของ บุตรหลาน ภายในครอบครวั หรือไม่? จากตารางท่ี 4.155 ผลการศึกษาความสมั พนั ธ์ระหว่าง รปู แบบการเล้ยี งดแู บบตา่ ง ๆ กบั พฤติกรรม การใช้สือ่ ดิจิทัลของผู้ปกครองและเดก็ ของเด็กอายุ 0-13 ปี พบวา่ รูปแบบการเลย้ี งดูแบบเอาใจใส่มีความสัมพันธก์ ับการใหบ้ ุตรหลานใชส้ อื่ ดจิ ิทัลเช่น สมาร์ทโฟน แท็บ เล็ต/ไอแพด (ŋ=.53; p<0.05) ระยะเวลาเฉลี่ยตอ่ วนั ของการใช้สื่อดิจิทลั ในขณะทอ่ี ยู่กบั บุตรหลาน (ŋ= .48; p<0.005) การทีบ่ ุตรหลานเคยประสบอุบัติเหตเุ ช่น ตกเตียง ตกบันได หกล้ม ในขณะที่ตนกาํ ลังใชส้ ื่อดิจิทัล (ŋ=.54; p<0.05) และการมีการกําหนดกติกาในการใช้สื่อดิจิทัลของบุตรหลานภายในครอบครัว (ŋ=.55; p<0.05) อยา่ งมีนยั สำคัญทางสถิติ รูปแบบการอบรมเลีย้ งดูแบบควบคุมมีความสัมพนั ธ์กับการที่บุตรหลานเคยประสบอุบัติเหตุเช่น ตก เตยี ง ตกบนั ได หกล้ม ในขณะท่ีตนกําลังใชส้ ือ่ ดจิ ิทัล (ŋ=.47; p<0.05) อย่างมีนัยสำคญั ทางสถิติ รูปแบบการอบรมเลีย้ งดูแบบตามใจมคี วามสัมพันธ์กับระยะเวลาเฉลีย่ ต่อวันของการใช้สือ่ ดจิ ทิ ลั ใน ขณะทอี่ ยู่กบั บตุ รหลาน (ŋ=.34; p<0.05) และระยะเวลาท่บี ตุ รหลานใชส้ ่อื ดจิ ิทัล (ŋ=.27; p<0.005) อย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ 141
ตารางท่ี 4.156 ผลการศึกษาความสัมพนั ธร์ ะหว่างรปู แบบความผูกพันผู้ปกครอง-บตุ รกับพฤติกรรม การใชส้ ื่อดิจิทลั ของผ้ปู กครองและเด็กชว่ งอายุ 0-13 ปี พฤตกิ รรมการใช้ส่ือดิจิทัลของผปู้ กครองและเด็ก Attachment ทา่ นใชส้ อื่ ดิจทิ ลั เฉลี่ยวันละกช่ี ว่ั โมง? Anxiety Avoidance ท่านเคยให้บุตรหลานใชส้ ือ่ ดิจิทัลเช่น สมาร์ทโฟน แทบ็ เล็ต/ ไอแพด ของท่านหรอื ไม่? ŋ p-value ŋ p-value ท่านใชส้ อ่ื ดิจทิ ลั ในขณะท่อี ยูก่ ับบุตรหลาน เฉลย่ี วนั ละกี่ชวั่ โมง? .497 .202 .341 .144 .418 .387 .527 .004 .404 .699 .456 .287 บุตรหลานของทา่ นเคยประสบอุบัติเหตเุ ชน่ ตกเตยี ง ตกบันได หก .515 .027 .386 .374 ล้ม ในขณะทีท่ ่านกาํ ลังใชส้ ือ่ ดิจิทลั หรือไม่? การใช้เวลาทาํ กจิ กรรมหรอื งานอดเิ รกเช่น ปลูกต้นไม้ ทาํ ความ .349 .931 .451 .024 สะอาดบา้ น ฯลฯ ดว้ ยกนั เฉล่ียในแต่ละวนั ในขณะท่ีบตุ รหลานของทา่ นใชส้ อื่ ดจิ ิทลั ทา่ นมีสว่ นรว่ มด้วยมาก .532 .217 .436 .006 น้อยเพียงใด? เช่น ชวนพดู คุย เล่นเกม ด้วยกัน ดูยทู ูปดว้ ยกนั บุตรหลานของทา่ นเริม่ ใช้สือ่ ดจิ ทิ ัล ครัง้ แรกเมือ่ อายเุ ท่าไหร่? .496 .002 .441 .149 บตุ รหลานของทา่ นใช้สือ่ ดจิ ทิ ลั เป็นระยะเวลานานเทา่ ใด .391 .240 .341 .214 ปัจจบุ ันบุตรหลานของท่านมสี ่อื ดิจทิ ลั เป็นของตนเองตอนอายุ .505 .014 .382 .031 เท่าไหร่? มกี ารกาํ หนดกติกาในการใชส้ ่อื ดิจิทลั ของบตุ รหลาน ภายใน .452 .184 .467 .042 ครอบครัวหรือไม่? ŋ=Eta, * มนี ัยสำคญั ทางสถิติทรี่ ะดบั p<0.05 จากตารางที่ 4.156 พบวา่ ผลการศกึ ษาความสมั พันธ์ระหวา่ งรปู แบบความผูกพันผู้ปกครอง-บุตรกับ พฤติกรรมการใช้สอื่ ดจิ ิทัลของผ้ปู กครองและเด็ก พบว่า รปู แบบความผูกพันผปู้ กครอง-บุตรแบบวิตกกงั วล (Anxiety attachment) มีความสมั พนั ธ์กับ การท่ี บตุ รหลานเคยประสบอบุ ัตเิ หตุเช่น ตกเตียง ตกบนั ได หกลม้ ในขณะทีต่ นกาํ ลังใช้สื่อดจิ ทิ ลั (ŋ=.51; p<0.05) อายขุ องบุตรหลานเมือ่ เริม่ ใชส้ ่ือดจิ ทิ ัลคร้งั แรก (ŋ=.49; p<0.005) อายุของบุตรหลานของทา่ นมีส่อื ดิจิทัลเป็น ของตนเอง (ŋ=.50; p<0.05) อย่างมนี ัยสำคญั ทางสถติ ิ สว่ นรปู แบบความผกู พันผู้ปกครอง-บุตรแบบหลกี หนี (Avoidance attachment) มีความสมั พันธ์กับ การใหบ้ ุตรหลานใช้สอ่ื ดิจิทัลเชน่ สมาร์ทโฟน แทบ็ เล็ต/ไอแพด ของตนเอง (ŋ=.52; p<0.005) การใช้เวลาทํา กิจกรรมหรืองานอดิเรกร่วมกนั เช่น ปลูกต้นไม้ ทําความสะอาดบา้ น ฯลฯ ด้วยกันเฉลีย่ ในแตล่ ะวัน (ŋ=.45; 142
p<0.05) ในขณะทบ่ี ุตรหลานของทา่ นใชส้ ือ่ ดจิ ทิ ลั ทา่ นมสี ่วนร่วมดว้ ยมากน้อยเพียงใด? เชน่ ชวนพดู คุย เล่น เกม ด้วยกัน ดูยูทูปดว้ ยกัน เป็นต้น (ŋ=.43; p<0.01) อายุของบุตรหลานของท่านมีส่ือดิจทิ ลั เป็นของตนเอง (ŋ=.38; p<0.05) มีการกําหนดกติกาในการใช้สื่อดิจิทัลของบุตรหลาน ภายในครอบครัวหรือไม่? (ŋ=.46; p<0.05) อยา่ งมนี ยั สำคัญทางสถิติ ส่วนที่ 5.2 ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้สมาร์ทโฟนของบุตรหลาน และ พัฒนาการของเดก็ ความรู้ความสามารถของผู้ปกครองในการกำกบั ดูแลการใช้สือ่ และรปู แบบการเลย้ี งดแู ละ ความผูกพันในครอบครวั ของเดก็ อายุ 0 - 2 ปี 11 เดอื น ตารางที่ 4.157 คา่ สัมประสทิ ธิสหสมั พันธ์พฤตกิ รรมเสย่ี งในการใช้สมารท์ โฟนของบุตรหลาน และพฒั นาการ ของเดก็ ของเด็กอายุ 0-2 ปี 11 เดือน พฤตกิ รรมเสีย่ ง ดา้ นสงั คมและการ ด้านการใช้ ด้านการ ดา้ นภาษา ภาพรวม ในการใช้สมาร์ทโฟน ช่วยเหลือตนเอง กลา้ มเนอ้ื เลก็ และ ใช้กล้ามเน้อื ใหญ่ ŋ=0.443 ŋ=0.525 พฤติกรรมเสี่ยงในการใช้ ŋ=0.454* การปรับตัว และ สมารท์ โฟนของบุตรหลาน การทรงตัว ŋ=0.451 ŋ=0.574 ŋ=Eta, * มีนยั สำคญั ทางสถิตทิ ร่ี ะดบั p<0.05 จากตารางที่ 4.157 พบว่า เมื่อพิจารณาพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้สมาร์ทโฟนของบุตรหลาน และ พัฒนาการของเด็ก พบว่า พฤติกรรมเสี่ยงในการใช้สมาร์ทโฟนของบุตรหลาน มีความสัมพันธ์ทางบวกกับ พฒั นาการดา้ นสงั คมและการช่วยเหลือตนเองของบตุ รหลานอยา่ งมีนยั สำคญั ทางสถิติ (ŋ = 0.454 , p<0.05) เดก็ อายุ 0-2 ปี 11 เดอื น เนอื่ งจากตัวแปรพฤติกรรมเสยี่ งในการใชส้ มาร์ทโฟนของบุตรหลาน รูปแบบการเล้ียงดู ความผูกผัน ระหวา่ งแม่กับลกู บทบาทการสง่ เสรมิ การรเู้ ทา่ ทันสื่อดจิ ิทัลในบุตรหลาน การให้คำแนะนำในการใช้ส่ือดิจิทัล ของผปู้ กครอง ความรู้เกย่ี วกบั การใช้สอ่ื ดิจิทลั ของผู้ปกครอง มลี ักษณะเปน็ ตวั แปรเชิงปรมิ าณ การวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r) ซึ่งเป็น Parametric Statistics กรณีข้อมูลแจกแจงแบบปกติ หรือ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ของ สเปียร์แมน(Spearman Correlation Coefficient; rs) ซึ่งเป็น Non Parametric Statistics ในกรณี ข้อมูลมีการแจกแจงไม่เปน็ ปกติ ก่อนการทดสอบความสัมพันธร์ ะหวา่ ง พฤติกรรมเส่ียงในการใช้สมาร์ทโฟนข องบุตรหลานกบั รูปแบบการเลี้ยงดู ของเด็กอายุ 0-2 ปี 11 เดือน ต้องทดสอบการทดสอบการแจกแจงของ ขอ้ มลู ว่าเปน็ โค้งปกตหิ รือไม่ 143
ตารางท่ี 4.158 ผลการทดสอบการแจกแจงของขอ้ มลู โดยวิธี Shapiro-wilk ตวั แปร Shapiro-wilk Statistics df Sig รูปแบบการเลีย้ งดแู แบบควบคุม (Authoritarian Parenting Style) 0.951 35 0.121 รูปแบบการเล้ียงดูแบบตามใจ (Permissive Parenting Style) 0.964 35 0.310 รปู แบบการเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting Style) 0.943 35 0.071 พฤตกิ รรมการใชส้ มารท์ โฟน 0.954 35 0.152 บทบาทการสง่ เสรมิ การรู้เท่าทนั สื่อดจิ ิทลั 0.933 35 0.035 การให้คำแนะนำในการใชส้ ื่อ 0.791 35 0.000 ความรูใ้ นการใชส้ ่ือของผปู้ กครอง 0.859 35 0.000 ความผกู พันระหวา่ งแมก่ ับลกู 0.942 35 0.063 * p-value <0.05 จากตารางที่ 4.158 ผลการทดสอบ พบว่า ตัวแปรรูปแบบการเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting Style) รูปแบบการเลี้ยงดูแบบตามใจ (Permissive Parenting Style) รูปแบบการเลี้ยงดูแแบ บควบคุม (Authoritarian Parenting Style) พฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟน ความผูกพันระหว่างแม่กับลูก มี การแจกแจงแบบปกติ (p-value > 0.05) ในขณะท่ี บทบาทการสง่ เสรมิ การรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื ดิจทิ ลั การใหค้ ำแนะนำ ในการใช้สือ่ ความรใู้ นการใชส้ ื่อของผปู้ กครอง มีการแจกแจงแบบไมป่ กติ ในการพจิ ารณาถงึ ตวั แปรเชงิ ปรมิ าณ 2 ตวั แปรเพือ่ ศกึ ษาดรู ะดับความสัมพนั ธว์ า่ มีหรอื ไม่ ถา้ มจี ะวัด ความสมั พันธ์ออกมาในรปู แบบเชิงเสน้ ตรงหรือไม่ใชเ่ สน้ ตรง ผวู้ จิ ัยอาจใช้กระบวนการงา่ ยๆ ดว้ ยแผนภาพ การ กระจาย (Scatter plot) หรืออาจใช้เทคนคิ การคำนวณด้วยค่าสมั ประสิทธ์ิสหสมั พนั ธ์ ถา้ ข้อมูลทวิมีการแจก แจง แบบปกตทิ วิ (Bivariate Normal Distribution) แผนภาพที่ 4.9 แสดงการกระจายของข้อมลู ระหวา่ งรูปแบบการเลี้ยงดแู บบควบคุมกบั พฤติกรรมเส่ยี งการใช้ สมารท์ โฟน 144
แผนภาพที่ 4.10 แสดงการกระจายของข้อมลู ระหว่างรูปแบบการเล้ียงดูแบบตามใจกบั พฤติกรรมเสี่ยงการใช้ สมารท์ โฟน แผนภาพท่ี 4.11 แสดงการกระจายของข้อมลู ระหวา่ งรปู แบบการเลย้ี งดูแบบเอาใจใสก่ บั พฤติกรรมเสี่ยงการใช้ สมารท์ โฟน 145
ตารางท่ี 4.159 คา่ สมั ประสทิ ธิสหสมั พนั ธ์ระหว่างพฤตกิ รรมเสีย่ งในการใชส้ มารท์ โฟนของบตุ รหลานกับ รูปแบบการเลยี้ งดู ของเดก็ อายุ 0-2 ปี 11 เดอื น รปู แบบการเลย้ี งดู พฤตกิ รรมการใชส้ มารท์ โฟนของบตุ รหลาน ค่าสถติ ิ p-value รปู แบบการอบรมเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting r = -0.148 0.388 Style) รปู แบบการอบรมเลย้ี งดแู บบตามใจ (Permissive Parenting Style) r = 0.124 0.464 รปู แบบการอบรมเลยี้ งดูแบบควบคุม (Authoritarian Parenting r = -0.368* 0.025 Style) หมายเหต:ุ p-value< 0.05, Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r จากตารางที่ 4.159 เมื่อพิจารณารปู แบบการเล้ียงดูและพฤติกรรมเสยี่ งในการใช้สมารท์ โฟนของบุตร หลาน พบว่า รปู แบบการอบรมเลีย้ งดแู บบควบคมุ (Authoritarian Parenting Style) มคี วามสมั พนั ธ์ทางลบ กับพฤติกรรมการใช้สมารท์ โฟนของบุตรหลานอย่างมนี ัยสำคญั ทางสถติ ิ (r = -0.368 , p<0.05) ความสัมพันธร์ ะหว่างความรู้ความสามารถของผปู้ กครองในการกำกบั ดูแลการใชส้ ื่อ และความผกู พนั ระหวา่ งแมก่ ับลูก กบั พฤตกิ รรมเสย่ี งในการใช้สื่อออนไลนข์ องเด็กอายุ 0-2 ปี 11 เดอื น จากผลการทดสอบพบว่า ตัวแปรพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟน ความผูกพันระหว่างแม่กับลูก มีการ แจกแจงแบบปกติ อยา่ งมีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value < 0.05) ในขณะที่ บทบาทการสง่ เสรมิ การรู้เท่าทันสื่อ ดิจิทัลการให้คำแนะนำในการใช้ส่ือ ความรูใ้ นการใชส้ ่ือของผปู้ กครอง มกี ารแจกแจงแบบไม่ปกติ ดังนั้นกรณี ขอ้ มลู แจกแจงแบบปกติ จึงการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r) หาความสมั พันธ์ระหวา่ งความผูกพันระหว่างแมก่ บั ลูกกับพฤติกรรม การใชส้ มาร์ทโฟนของบุตรหลาน กรณีข้อมูลมีการแจกแจงไม่เป็นปกติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของ สเปียร์แมน(Spearman Correlation Coefficient; rs) ซึ่งเปน็ Non Parametric Statistics เพอื่ หาความสัมพันธ์ระหว่าง บทบาทการ สง่ เสรมิ การร้เู ทา่ ทนั สอ่ื ดจิ ทิ ัลในบุตรหลาน การให้คำแนะนำในการใชส้ ่อื ดจิ ทิ ัลของผปู้ กครองความรู้เกี่ยวกับ การใช้สอื่ ดจิ ทิ ลั ของผปู้ กครองกบั พฤตกิ รรมการใชส้ มาร์ทโฟนของบุตรหลาน 146
แผนภาพท่ี 4.12 แสดงการกระจายของข้อมลู ระหวา่ งความผกู พันระหวา่ งแมก่ บั ลูกกบั พฤตกิ รรมเส่ยี งการใช้ สมารท์ โฟน แผนภาพท่ี 4.13 แสดงการกระจายของข้อมลู ระหว่างบทบาทการสง่ เสริมการรเู้ ท่าทันส่ือดจิ ิทลั ในบุตรหลาน กับพฤติกรรมเสี่ยงการใชส้ มารท์ โฟน 147
แผนภาพท่ี 4.14 แสดงการกระจายของข้อมลู ระหวา่ งการใหค้ ำแนะนำในการใชส้ ่ือดจิ ิทลั ของผ้ปู กครองกับ พฤตกิ รรมเสีย่ งการใช้สมารท์ โฟน แผนภาพที่ 4.15 แสดงการกระจายของข้อมลู ระหวา่ งความรเู้ กยี่ วกบั การใชส้ ือ่ ดจิ ทิ ัลของผปู้ กครองกบั พฤติกรรมเส่ยี งการใชส้ มารท์ โฟน 148
ตารางท่ี 4.160 ค่าสัมประสิทธิสหสมั พันธร์ ะหว่างความผูกผนั ระหว่างแมก่ บั ลูก บทบาทการสง่ เสรมิ การรเู้ ท่า ทันสื่อการให้คำแนะนำในการใช้สื่อดจิ ิทัลของผู้ปกครอง ความรู้เกี่ยวกับการใช้สื่อดิจิทัลของผู้ปกครอง กับ พฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนของบตุ รหลานกบั รปู แบบการเลย้ี งดู ของเด็กอายุ 0-2 ปี 11 เดือน ปัจจยั พฤตกิ รรมการใชส้ มารท์ โฟน ของบุตรหลาน ค่าสถติ ิ p-value ความผูกผนั ระหว่างแมก่ ับลูก r=0.076 0.655 บทบาทการสง่ เสรมิ การรูเ้ ท่าทนั สอื่ ดจิ ทิ ลั ในบตุ รหลาน rs=-0.262 0.107 การใหค้ ำแนะนำในการใช้ส่อื ดจิ ทิ ลั ของผปู้ กครอง rs=0.149 0.364 ความรเู้ ก่ียวกบั การใชส้ อื่ ดจิ ิทลั ของผปู้ กครอง rs=0.147 0.372 หมายเหต:ุ p-value< 0.05, Spearman Correlation Coefficient; rs, Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r จากตารางที่ 4.160 เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ความสามารถของผู้ปกครองในการ กำกับดูแลการใช้สื่อ และความผูกพันระหว่างแม่กับลูก กับ พฤติกรรมเส่ียงในการใชส้ ือ่ ออนไลน์ พบว่า ไม่มี ปัจจัยใดท่ีสมั พนั ธก์ บั พฤติกรรมเสี่ยงในการใช้สอ่ื ออนไลน์ แผนภาพแสดงการกระจายของข้อมลู ระหว่างความรเู้ กยี่ วกบั การใชส้ อ่ื ดจิ ทิ ลั ของผปู้ กครองกบั การให้ คำแนะนำในการใช้สอ่ื ดิจทิ ัลของผปู้ กครอง 149
แผนภาพท่ี 4.16 แสดงการกระจายของขอ้ มลู ระหว่างความผกู ผนั ระหว่างแม่กบั ลกู กบั การให้คำแนะนำในการ ใช้ส่อื ดจิ ิทลั ของผู้ปกครอง ตารางที่ 4.161 ค่าสมั ประสทิ ธสิ หสมั พนั ธร์ ะหว่างความรเู้ กย่ี วกับการใชส้ อ่ื ดจิ ิทลั ของผ้ปู กครอง ความผกู ผัน ระหวา่ งแมก่ บั ลกู กับการใหค้ ำแนะนำในการใชส้ ่ือดจิ ิทลั ของผูป้ กครอง ของเด็กอายุ 0-2 ปี 11 เดือน การให้คำแนะนำในการใชส้ อื่ ดจิ ิทลั ของผูป้ กครอง ค่าสถติ ิ p-value ความผูกผันระหวา่ งแม่กบั ลูก rs=0.387* 0.016 ความรเู้ ก่ียวกบั การใชส้ อ่ื ดิจทิ ลั ของผู้ปกครอง rs=0.553* 0.000 หมายเหต:ุ * p-value< 0.05, Spearman Correlation Coefficient; rs จากตารางท่ี 4.161 เม่ือพิจารณาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความรู้เก่ยี วกบั การใชส้ อื่ ดจิ ิทลั ของผู้ปกครอง และความผูกพัน กับ การให้คำแนะนำในการใช้สื่อดิจิทัลของผู้ปกครอง พบว่า ความผูกพันระหว่างแม่ลูก มี ความสัมพันธ์ทางบวกกับการให้คำแนะนำในการใช้สื่อดิจิทัลของผู้ปกครองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (rs = 0.387 , p<0.05) ส่วนความรู้เกี่ยวกับการใช้สื่อดิจิทัลของผู้ปกครองมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการให้ คำแนะนำในการใช้สือ่ ดิจิทลั ของผ้ปู กครองอยา่ งมีนัยสำคญั ทางสถิติ (rs = 0.553 , p<0.05) 150
ส่วนที่ 5.3 ผลการศึกษาความสัมพนั ธ์ระหว่างพฤตกิ รรมเสี่ยงในการใช้ส่ือออนไลน์ และพัฒนาการ ของเด็ก ความรู้ความสามารถของผู้ปกครองในการกำกับดูแลการใช้สื่อ และรูปแบบการเลี้ยงดูและความผูกพันใน ครอบครัวของเด็กอายุ 3-5 ปี 11 เดอื น ก่อนทำการทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ ได้แก่ รูปแบบการเลี้ยงดูแแบบควบคุม (Authoritarian Parenting Style) รูปแบบการเลย้ี งดแู บบตามใจ (Permissive Parenting Style)รูปแบบการ เลีย้ งดูแบบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting Style) พฤตกิ รรมการใชส้ มาร์ทโฟน บทบาทการส่งเสรมิ การ รู้เท่าทนั สื่อดิจทิ ลั การให้คำแนะนำในการใชส้ ่อื ความรใู้ นการใช้สอ่ื ของผู้ปกครอง ความผูกพันระหว่างแม่กับ ลูก ทักษะ EF ด้านการยับยั้งชั่งใจ ทักษะ EF ด้านการยืดหยุ่นความคิด ทักษะ EF ด้านการควบคุมอารมณ์ ทักษะ EF ด้านความจำในขณะทำงาน ทักษะ EF ด้านการวางแผนจัดการ และ ทักษะ EF ภาพรวมต้อง ทดสอบการทดสอบการแจกแจงของข้อมลู วา่ เป็นโค้งปกติหรอื ไม่ ตารางที่ 4.162 ผลการทดสอบการแจกแจงของขอ้ มลู โดยวธิ ี Kolmogorov-Smirnova ตวั แปร Kolmogorov-Smirnova Statistics df Sig รปู แบบการเลี้ยงดแู แบบควบคมุ (Authoritarian Parenting Style) .125 31 .200 รปู แบบการเล้ยี งดแู บบตามใจ (Permissive Parenting Style) .214 31 .001 รูปแบบการเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting Style) .127 31 .200 พฤติกรรมการใชส้ มารท์ โฟน .114 31 .200 บทบาทการส่งเสริมการรู้เท่าทนั ส่ือดจิ ทิ ลั .119 31 .200 การใหค้ ำแนะนำในการใชส้ ่อื .138 31 .139 ความผูกผันระหว่างแมก่ ับลูกแบบ Attachment Anxiety .221 31 .001 ความผูกผนั ระหวา่ งแมก่ บั ลูกแบบ Attachment Avoidance .179 31 .013 สถานการณ์เส่ียงในการใชส้ ่อื ดจิ ทิ ลั .217 31 .001 ทกั ษะ EF ด้านการยับยงั้ ชง่ั ใจ .139 31 .134 ทักษะ EF ดา้ นการยืดหยนุ่ ความคดิ .142 31 .113 ทกั ษะ EF ด้านการควบคมุ อารมณ์ .212 31 .001 ทักษะ EF ดา้ นความจำในขณะทำงาน .172 31 .020 ทักษะ EF ดา้ นการวางแผนจดั การ .130 31 .194 ทักษะ EF ภาพรวม .157 31 .049 * p-value <0.05 151
จากตารางที่ 4.162 ผลการทดสอบ พบว่า ตัวแปรรปู แบบการเลย้ี งดูแบบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting Style) รูปแบบการเลี้ยงดูแแบบควบคุม (Authoritarian Parenting Style) พฤติกรรมการใช้ สมาร์ทโฟน การให้คำแนะนำในการใช้สื่อ บทบาทการส่งเสริมการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล ทักษะ EF ด้านการ ยดื หย่นุ ความคดิ ทักษะ EF ดา้ นการยบั ย้ังชงั่ ใจทักษะ EF ดา้ นการวางแผนจัดการ มีการแจกแจงแบบปกติ (p- value > 0.05) ในขณะที่ ความรู้ในการใช้สื่อของผู้ปกครอง ความผูกผันระหว่างแม่กับลูกแบบ Attachment Anxiety ความผูกผันระหว่างแม่กับลูกแบบ Attachment Avoidance สถานการณ์เสี่ยงในการใช้สื่อดิจทิ ัล ทักษะ EF ด้านการควบคุมอารมณ์ ทักษะ EF ด้านความจำในขณะทำงาน ทักษะ EF ภาพรวม รูปแบบการ เลย้ี งดูแบบตามใจ (Permissive Parenting Style)มีการแจกแจงแบบไม่ปกติ ในการพจิ ารณาถงึ ตวั แปรเชงิ ปรมิ าณ 2 ตัวแปรเพอื่ ศึกษาดรู ะดบั ความสมั พันธว์ า่ มหี รือไม่ ถ้า มีจะวัด ความสัมพันธอ์ อกมาในรูปแบบเชิงเสน้ ตรงหรอื ไมใ่ ช่เสน้ ตรง ผ้วู ิจัยอาจใชก้ ระบวนการง่ายๆ ด้วยแผนภาพ การ กระจาย (Scatter plot) หรืออาจใช้เทคนิคการคำนวณด้วยค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ถ้าข้อมูลทวิมีการแจก แจง แบบปกตทิ วิ (Bivariate Normal Distribution) แผนภาพที่ 4.17 แสดงการกระจายของข้อมลู ระหวา่ งรูปแบบการเลี้ยงดแู บบเอาใจใส่ กับ พฤติกรรมเสย่ี งใน การใช้สมารท์ โฟนของเดก็ อายุ 3-5 ปี 11 เดอื น 152
แผนภาพที่ 4.18 แสดงการกระจายของขอ้ มลู ระหวา่ งรปู แบบการเลี้ยงดูแบบตามใจ กับ พฤตกิ รรมเส่ยี งในการ ใช้สมารท์ โฟนของเดก็ อายุ 3-5 ปี 11 เดอื น แผนภาพที่ 4.19 แสดงการกระจายของข้อมูลระหว่างรปู แบบการเลี้ยงดูแบบควบคุม กับ พฤติกรรมเสี่ยงใน การใช้สมาร์ทโฟนของเด็ก อายุ 3-5 ปี 11 เดือน 153
ตารางท่ี 4.163 ค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้สมาร์ทโฟนของบุตรหลานกับ รปู แบบการเลีย้ งดู ของเด็กอายุ 3-5 ปี 11 เดอื น รูปแบบการเลี้ยงดู พฤติกรรมเสยี่ งในการใช้สมารท์ โฟนของบตุ รหลาน คา่ สถิติ p-value รูปแบบการอบรมเลีย้ งดแู บบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting r=-0.440 0.001 Style) รปู แบบการอบรมเลีย้ งดแู บบตามใจ (Permissive Parenting Style) rs=0.483 0.000 รปู แบบการอบรมเลีย้ งดแู บบควบคุม (Authoritarian Parenting r=0.402 0.003 Style) หมายเหต:ุ p-value< 0.05 Spearman Correlation Coefficient; rs, Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r จากตารางท่ี 4.163 พบวา่ เม่อื พจิ ารณารูปแบบการเล้ียงดแู ละพฤติกรรมเสีย่ งในการใช้สมาร์ทโฟนข องบุตรหลาน พบว่า รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูแบบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting Style)มีความสัมพันธ์ ทางลบกบั พฤติกรรมเส่ียงในการใชส้ มารท์ โฟนของบตุ รหลาน อย่างมนี ัยสำคัญทางสถติ ิ สว่ นรูปแบบการอบรม เลี้ยงดูแบบควบคุม (Authoritarian Parenting Style) มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้ สมาร์ทโฟนของบุตรหลานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนรูปแบบการอบรมเลี้ยงดูแบบตามใจ (Permissive Parenting Style)ความสัมพันธท์ างบวกกับพฤติกรรมเสี่ยงในการใชส้ มาร์ทโฟนของบตุ รหลานอย่างมนี ัยสำคญั ทางสถิติ แผนภาพที่ 4.20 แสดงการกระจายของขอ้ มลู ระหว่างความผูกพันระหวา่ งแมก่ บั ลูกแบบ Attachment Anxiety กบั พฤตกิ รรมเส่ียงในการใชส้ มาร์ทโฟนของเดก็ อายุ 3-5 ปี 11 เดอื น 154
แผนภาพท่ี 4.21 แสดงการกระจายของข้อมลู ระหว่างความผูกพันระหวา่ งแม่กบั ลกู แบบ Attachment Avoidance กับ พฤติกรรมเสยี่ งในการใช้สมาร์ทโฟนของเดก็ อายุ 3-5 ปี 11 เดือน แผนภาพที่ 4.22 แสดงการกระจายของขอ้ มลู ระหว่างความผูกพันระหว่างบทบาทการสง่ เสรมิ การรู้เท่าทันส่อื ดิจิทัลในบุตรหลาน กบั พฤติกรรมเสย่ี งในการใช้สมารท์ โฟนของเด็ก อายุ 3-5 ปี 11 เดือน 155
แผนภาพที่ 4.23 แสดงการกระจายของขอ้ มลู ระหว่างการใหค้ ำแนะนำในการใชส้ อื่ ดจิ ิทลั ของผูป้ กครอง กบั พฤตกิ รรมเสย่ี งในการใช้สมารท์ โฟนของเดก็ อายุ 3-5 ปี 11 เดือน ตารางท่ี 4.164 ค่าสมั ประสิทธสิ หสมั พันธ์ระหว่างความรคู้ วามสามารถของผปู้ กครองในการกำกบั ดแู ลการใช้ ส่อื สถานการณ์เสย่ี ง และความผกู พนั ระหว่างแมก่ บั ลกู กบั พฤตกิ รรมเสย่ี งในการใช้สือ่ ออนไลน์ของเดก็ อายุ 3-5 ปี 11 เดือน รปู แบบการเล้ยี งดู พฤติกรรมเสี่ยงในการใชส้ มาร์ท โฟนของบุตรหลาน คา่ สถติ ิ p-value ความผูกผนั ระหวา่ งแม่กบั ลกู แบบ Attachment Anxiety rs =0.438* 0.001 ความผกู ผันระหวา่ งแม่กับลกู แบบ Attachment Avoidance rs =0.460* 0.001 บทบาทการส่งเสริมการรเู้ ทา่ ทนั ส่อื ดจิ ทิ ลั ในบุตรหลาน r = 0.186 0.179 การใหค้ ำแนะนำในการใช้สื่อดจิ ทิ ลั ของผปู้ กครอง r =-0.217 0.112 หมายเหต:ุ p-value< 0.05 Spearman Correlation Coefficient; rs, Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r จากตารางท่ี 4.164 พบว่า ความผกู ผันระหว่างแมก่ บั ลูกแบบ Attachment Anxiety และแบบ Attachment Avoidance มคี วามสมั พันธท์ างบวก กบั พฤติกรรมเสี่ยงในการใชส้ มารท์ โฟนของเดก็ อายุ 3-5 ปี 11 เดือน อย่างมีนยั สำคัญทางสถติ ิ 156
นอกจากนี้ เน่อื งจากเมือ่ พจิ ารณาลักษณะของตัวแปรในการศกึ ษาน้ี เพื่อศกึ ษาความสัมพันธ์ระหว่าง พฤตกิ รรมเสี่ยงในการใชส้ มารท์ โฟนของบตุ รหลาน และพัฒนาการของเด็ก ของเดก็ อายุ 3-5 ปี 11 เดอื น โดย ตัวแปรพัฒนาการมลี กั ษณะเปน็ ตวั แปรประเภทกลมุ่ สว่ นพฤตกิ รรมเสย่ี งในการใชส้ มารท์ โฟนของบุตรหลาน มี ลักษณะเป็นตัวแปรเชิงปริมาณ การวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบอีต้า (Eta correlation) เป็นวิธที ีใ่ ช้วดั ความสัมพันธ์ระหวา่ งตัวแปรรายคู่ หรอื ขอ้ มูล 2 ชดุ โดยท่ตี ัวแปรหน่งึ เปน็ ตัวแปร ต่อเนอ่ื ง อกี ตัวหน่ึงถกู แบ่งให้มีกลุม่ ลักษณะ ตารางที่ 4.165 ค่าสัมประสิทธิสหสมั พันธ์พฤติกรรมเสย่ี งในการใช้สมารท์ โฟนของบุตรหลาน และพฒั นาการ ของเด็ก ของเดก็ อายุ 3-5 ปี 11 เดอื น พฤติกรรมเสี่ยง ดา้ นสงั คมและ ดา้ นการใช้ ดา้ นการใช้ ด้านภาษา ภาพรวม ในการใช้สมารท์ โฟน การช่วยเหลือ กลา้ มเนือ้ เล็กและ กลา้ มเนือ้ ใหญ่ และการทรงตวั ŋ=0.422 ŋ=0.455 พฤตกิ รรมเส่ยี งในการใช้ ตนเอง การปรบั ตัว สมารท์ โฟนของบตุ รหลาน ŋ=0.555 ŋ=0.389 ŋ=0.389 ŋ=Eta, * มีนัยสำคญั ทางสถติ ิทร่ี ะดบั p<0.05 จากตารางท่ี 4.165 พบวา่ เมอ่ื พิจารณาพฤตกิ รรมเสีย่ งในการใชส้ มารท์ โฟนของบุตรหลาน และ พฒั นาการของเดก็ พบวา่ พฤติกรรมเสี่ยงในการใช้สมารท์ โฟนของบุตรหลาน ไมม่ คี วามสมั พันธ์กับพฒั นาการ ภาพรวมและรายด้าน นอกจากนี้เมื่อทำการทดสอบยังสนใจทดสอบความสมั พันธ์ปัจจัยด้านส่ือดิจิทัลที่มีความสัมพันธ์กับ ทักษะ EF รายด้านและภาพรวม ซง่ึ กอ่ นการทดสอบความสมั พนั ธ์ควรจะมีการพจิ ารณาถงึ ตวั แปรเชิงปริมาณ 2 ตัวแปรเพ่อื ศกึ ษาดูระดบั ความสมั พนั ธ์วา่ มีหรือไม่ ถ้ามีจะวัดความสมั พนั ธอ์ อกมาในรูปแบบเชงิ เส้นตรงหรือ ไม่ใช่เสน้ ตรง ผวู้ ิจัยอาจใชก้ ระบวนการงา่ ยๆ ด้วยแผนภาพ การกระจาย (Scatter plot) แผนภาพที่ 4.24 การกระจายระหวา่ งขอ้ มลู พฤตกิ รรมเสยี่ งในการใช้สมารท์ โฟนของบตุ รหลาน กบั ทกั ษะ EF รายด้านและภาพรวม 157
แผนภาพที่ 4.25 การกระจายระหว่างพฤตกิ รรมเสีย่ งในการใชส้ มาร์ทโฟนของบุตรหลาน กับ ทกั ษะ EF ราย ด้านและภาพรวม 158
แผนภาพที่ 4.26 การกระจายระหว่าความผกู พันระหว่างแมก่ บั ลกู แบบ Attachment Anxietyกบั ทักษะ EF รายด้านและภาพรวม 159
แผนภาพที่ 4.27 การกระจายระหว่างความผูกพันระหวา่ งแม่กบั ลูกแบบ Attachment Avoidance กบั ทักษะ EF รายดา้ นและภาพรวม 160
แผนภาพที่ 4.28 การกระจายระหว่างบทบาทการสง่ เสรมิ การรู้ เทา่ ทันส่ือดจิ ทิ ลั ในบตุ รหลาน กบั ทักษะ EF รายด้านและภาพรวม 161
แผนภาพที่ 4.29 การกระจายระหว่างการให้คำแนะนำในการใชส้ ่อื ดิจทิ ลั ของผปู้ กครอง กบั ทกั ษะ EF ราย ด้านและภาพรวม 162
แผนภาพที่ 4.30 การกระจายระหวา่ งสถานการณเ์ สี่ยงในการใชส้ ่ือ กับ ทักษะ EF รายด้านและภาพรวม 163
ตารางที่ 4.166 ค่าสัมประสิทธิสหสัมพนั ธ์ระหว่างความร้คู วามสามารถของผ้ปู กครองในการกำกบั ดูแลการใช้ ส่ือ สถานการณเ์ สย่ี ง ความผกู พนั ระหวา่ งแมก่ ับลกู และพฤตกิ รรมเส่ยี งในการใช้ส่ือออนไลน์กับทักษะการคิด เชิงบริหารภาพรวมและรายด้านของเดก็ อายุ 3-5 ปี 11 เดือน ปจั จยั ด้านสอื่ ดิจิทลั ดา้ นการยับยงั้ ดา้ นการ ดา้ นการ ดา้ นความจำ ด้านการวางแผน ภาพรวม ชั่งใจ ยืดหย่นุ ควบคมุ ในขณะ จัดการ ความคิด อารมณ์ ทำงาน พฤติกรรมเสี่ยงในการใช้ r = -0.071 r =-0.077 rs =-0.090 rs =- r =0.018 rs -0.166 สมารท์ โฟนของบตุ รหลาน 0.038 ความผกู พันระหว่างแมก่ บั rs= 0.014 rs=0.015 rs=0.193 rs=- rs=-0.166 rs=-0.127 ลูกแบบ Attachment 0.479** Anxiety ความผกู พนั ระหวา่ งแมก่ บั rs =0.031 rs=-0.118 rs=0.156 rs=- rs=-0.178 rs=-0.209 ลูกแบบ Attachment 0.425* Avoidance บทบาทการสง่ เสริมการรู้ r =-0.060 r =-0.064 rs=-0.051 rs=-0.247 r =-0.017 rs=-0.207 เท่าทันสอื่ ดิจทิ ลั ในบตุ รหลาน การใหค้ ำแนะนำในการใช้ r =0.132 r =0.239 rs=0.245 rs=-0.013 r =0.251 rs=0.139 สอื่ ดจิ ทิ ลั ของผปู้ กครอง สถานการณ์เส่ยี งในการใชส้ อื่ rs=0.195 rs=0.299 rs=0.222 rs=0.378* rs=0.216 rs=0.344* * p-value< 0.05 * * p-value< 0.00 1 Spearman Correlation Coefficient; rs, Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r จากตารางที่ 4.166 พบว่า เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหวา่ งความรู้ความสามารถของผูป้ กครองใน การกำกบั ดูแลการใชส้ ่ือ สถานการณเ์ สย่ี ง ความผกู พัน และพฤติกรรมเส่ียงในการใช้สือ่ ออนไลน์กับทักษะการ คิดเชงิ บรหิ ารภาพรวมและรายดา้ น ของเดก็ อายรุ ะหวา่ ง 3- 5 ปี 11 เดือน พบวา่ ความผูกพนั ระหว่างแม่กับลูกแบบ Attachment Anxiety มีความสัมพันธท์ างลบกับทกั ษะการคดิ เชงิ ด้านความจำขณะทำงาน อย่างมีนัยสำคญั ทางสถิติ (rs = -0.479 , p<0.001) , ความผูกพนั ระหว่างแม่กับลูก แบบ Attachment Avoidance มีความสัมพันธ์ทางลบกับ Working Memory (rs = -0.425 , p<0.05) เป็นต้น 164
ส่วนที่ 5.4 ผลการศึกษาความสมั พันธ์ระหว่างพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้ส่ือออนไลน์ และพัฒนาการ ของ เด็ก ความรู้ความสามารถของผู้ปกครองในการกำกับดูแลการใช้สื่อ และรูปแบบการเลี้ยงดูและความ ผกู พันในครอบครวั ของเด็กอายุ 6-13 ปี ตารางท่ี 4.167 ผลการทดสอบการแจกแจงของข้อมลู โดยวิธี Kolmogorov-Smirnova ของเด็กอายุ 6-13 ปี ตวั แปร Kolmogorov-Smirnova Statistics df Sig รูปแบบการเล้ียงดูแแบบควบคมุ (Authoritarian Parenting Style) .172 43 .003 รปู แบบการเลยี้ งดูแบบตามใจ (Permissive Parenting Style) .106 43 .200 รปู แบบการเลีย้ งดูแบบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting Style) .208 43 .000 พฤตกิ รรมการใชส้ มารท์ โฟน .108 43 .200 บทบาทการส่งเสริมการรู้เทา่ ทนั ส่ือดจิ ิทลั .144 43 .025 การให้คำแนะนำในการใชส้ ื่อ .120 43 .132 ความรใู้ นการใช้สอื่ ของเด็กนกั เรียน .131 43 .063 ความผกู ผันระหวา่ งแม่กับลูกแบบ Attachment Anxiety .106 43 .200 ความผกู ผันระหว่างแมก่ บั ลูกแบบ Attachment Avoidance .205 43 .000 สถานการณ์เส่ยี งในการใช้สื่อดจิ ิทลั .277 43 .000 ทกั ษะ EF ด้านการยับยง้ั ชง่ั ใจ .189 43 .001 ทกั ษะ EF ด้านการยืดหยุ่นความคดิ .206 43 .000 ทักษะ EF ดา้ นการควบคุมอารมณ์ .239 43 .000 ทักษะ EF ด้านความจำในขณะทำงาน .114 43 .185 ทักษะ EF ด้านการวางแผนจัดการ .147 43 .020 ทักษะ EF ภาพรวม .158 43 .008 วู่วาม .256 43 .000 สมาธสิ ั้น .241 43 .000 บกพรอ่ งด้านการอา่ น .232 43 .000 บกพรอ่ งดา้ นการเขียน .222 43 .000 บกพรอ่ งด้านคำนวณ .232 43 .000 * p-value <0.05 165
จากตารางที่ 4.167 ผลการทดสอบ พบว่า ตัวแปร รูปแบบการเลี้ยงดูแบบตามใจ (Permissive Parenting Style) พฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟน ความรู้ในการใช้ส่ือของเด้กนักเรียน ความผูกผันระหวา่ งแม่ กับลูกแบบ Attachment Anxiety การใหค้ ำแนะนำในการใชส้ ือ่ ทักษะ EF ด้านความจำในขณะทำงานมกี าร แจกแจงแบบปกติ (p-value > 0.05)ในขณะที่ ตวั แปรอ่นื ๆ มีการแจกแจงแบบไมป่ กติ ในการพจิ ารณาถึงตัวแปรเชิงปรมิ าณ 2 ตวั แปรเพอื่ ศกึ ษาดรู ะดบั ความสัมพนั ธ์วา่ มีหรือไม่ ถา้ มีจะวัด ความสัมพันธอ์ อกมาในรปู แบบเชงิ เสน้ ตรงหรือไม่ใชเ่ สน้ ตรง ผ้วู ิจยั อาจใช้กระบวนการง่ายๆ ดว้ ยแผนภาพ การ กระจาย (Scatter plot) หรืออาจใชเ้ ทคนคิ การคำนวณดว้ ยค่าสัมประสิทธิ์สหสมั พนั ธ์ แผนภาพที่ 4.31 แสดงการกระจายระหว่างรูปแบบการเลย้ี งดกู ับ พฤติกรรมเส่ยี งในการใชส้ มารท์ โฟนของบตุ ร หลานของเดก็ อายุ 6-13 ปี 166
ตารางท่ี 4.168 คา่ สัมประสิทธสิ หสมั พนั ธร์ ะหว่างพฤติกรรมเส่ียงในการใชส้ มารท์ โฟนของบตุ รหลานกับ รูปแบบการเลี้ยงดู ของเดก็ อายุ 6-13 ปี รปู แบบการเลี้ยงดู พฤตกิ รรมเสี่ยงในการใชส้ มาร์ท โฟนของบุตรหลาน คา่ สถติ ิ p-value รปู แบบการอบรมเลย้ี งดแู บบเอาใจใส่ (Authoritative Parenting Style) rs=0.201 0.052 รูปแบบการอบรมเล้ียงดูแบบตามใจ (Permissive Parenting Style) r=-0.074 0.459 รูปแบบการอบรมเล้ยี งดแู บบควบคมุ (Authoritarian Parenting Style) rs=-0.163 0.100 ห ม า ย เ ห ตุ : p-value< 0.05 ,Spearman Correlation Coefficient; rs, Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r จากตารางท่ี 4.168 พบว่า เมอื่ พจิ ารณารปู แบบการเลี้ยงดแู ละพฤตกิ รรมเสี่ยงในการใช้สมารท์ โฟนข องบตุ รหลาน พบวา่ รปู แบบการอบรมเล้ยี งดูท้ัง 3 รุปแบบไม่มีความสมั พนั ธ์กบั พฤตกิ รรมเส่ียงในการใช้ สมารท์ โฟนของบุตรหลาน แผนภาพที่ 4.32 แสดงการกระจายระหวา่ งความผกู ผันระหว่างแมก่ บั ลูกแบบ Attachment Anxiety กบั พฤติกรรมเสี่ยงในการใชส้ มาร์ทโฟนของบตุ รหลานของเด็กอายุ 6-13 ปี 167
แผนภาพท่ี 4.33 แสดงการกระจายระหวา่ งความผกู ผนั ระหว่างแม่กบั ลูกแบบ Attachment Avoidance กบั พฤติกรรมเส่ียงในการใช้สมารท์ โฟนของบุตรหลานของเดก็ อายุ 6-13 ปี แผนภาพท่ี 4.34 แสดงการกระจายระหวา่ งการใหค้ ำแนะนำในการใช้สอ่ื ดิจทิ ลั ของผปู้ กครอง กับ พฤติกรรม เส่ยี งในการใชส้ มารท์ โฟนของบุตรหลานของเดก็ อายุ 6-13 ปี 168
แผนภาพที่ 4.35 แสดงการกระจายระหว่างความรเู้ ก่ยี วกบั การใช้สอ่ื ดจิ ทิ ลั ของของเด็กนกั เรียน กบั พฤตกิ รรม เสี่ยงในการใช้สมารท์ โฟนของบตุ รหลานของเด็กอายุ 6-13 ปี แผนภาพที่ 4.40 แสดงการกระจายระหว่างสถานการณ์เสย่ี งในการใชส้ ่อื กบั พฤตกิ รรมเส่ียงในการใช้ สมารท์ โฟนของบุตรหลานของเดก็ อายุ 6-13 ปี 169
แผนภาพท่ี 4.41 แสดงการกระจายระหว่างบทบาทการสง่ เสริมการรู้เทา่ ทนั สอื่ ดิจิทลั ใหก้ ับบตุ รหลาน กบั พฤติกรรมเส่ยี งในการใชส้ มารท์ โฟนของบุตรหลานของเดก็ อายุ 6-13 ปี ตารางท่ี 4.169 คา่ สัมประสทิ ธิสหสัมพันธ์ระหว่างความรคู้ วามสามารถของผปู้ กครองในการกำกับดูแลการใช้ สื่อ สถานการณ์เสีย่ ง และความผูกพันระหวา่ งแมก่ บั ลูก กับพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้ส่ือออนไลน์ของเด็กอายุ 6-13 ปี ปัจจัย พฤติกรรมเสีย่ งในการใช้สมาร์ท โฟนของบตุ รหลาน ค่าสถิติ p-value ความผูกผนั ระหวา่ งแมก่ ับลูกแบบ Attachment Anxiety r=0.066 0.505 ความผกู ผนั ระหวา่ งแมก่ บั ลูกแบบ Attachment Avoidance rs=0.150 0.130 การให้คำแนะนำในการใชส้ ื่อดิจทิ ัลของผปู้ กครอง r=-0.088 0.349 ความรูเ้ ก่ียวกบั การใชส้ อ่ื ดจิ ทิ ลั ของของเด็กนกั เรียน r=-0.002 0.981 สถานการณเ์ สีย่ งในการใชส้ ือ่ rs=0.151 0.106 บทบาทการส่งเสริมการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื ดจิ ทิ ลั ใหก้ บั บุตรหลาน rs=-0.014 0.889 หมายเหตุ: p-value< 0.05 p-value< 0.05 ,Spearman Correlation Coefficient; rs, Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r 170
จากตารางที่ 4.169 พบว่า ความรคู้ วามสามารถของผ้ปู กครองในการกำกบั ดูแลการใชส้ ่ือ สถานการณ์ เสยี่ ง และความผูกพันระหว่างแมก่ ับลกู ไม่มีความสมั พนั ธ์กับพฤตกิ รรมเสย่ี งในการใชส้ ื่อออนไลน์ของเด็กอายุ 6-13 ปี แผนภาพท่ี 4.42 แสดงการกระจายระหวา่ งความรเู้ กย่ี วกบั การใชส้ อ่ื ดจิ ทิ ลั ของผูป้ กครอง กบั การใหค้ ำแนะนำ ในการใชส้ อ่ื ดิจทิ ัลของผปู้ กครองของเดก็ อายุ 6-13 ปี ตารางท่ี 4.170 คา่ สัมประสทิ ธสิ หสัมพนั ธร์ ะหว่างความรู้ความสามารถของผปู้ กครองในการกำกับดูแลการใช้ สอ่ื กบั สถานการณเ์ ส่ียงในการใช้สอื่ พฤตกิ รรมเส่ียงในการใช้สื่อออนไลน์ของเดก็ อายุ 6-13 ปี ปจั จัย การใหค้ ำแนะนำในการใชส้ อ่ื ดจิ ิทัลของผู้ปกครอง ค่าสถติ ิ p-value ความรเู้ ก่ยี วกับการใชส้ อ่ื ดจิ ิทลั ของผูป้ กครอง r=0.214* 0.021 หมายเหต:ุ * p-value< 0.05, Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r จากตารางที่ 4.170 พบว่า เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้เกี่ยวกับการใช้สื่อดิจิทัลของ ผู้ปกครอง และสถานการณ์เสย่ี งในการใช้ส่ือ กั การใหค้ ำแนะนำในการใช้สือ่ ดิจทิ ัลของผปู้ กครอง พบว่าความรู้ เกี่ยวกับการใช้สื่อดิจิทัลของผู้ปกครองมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการให้คำแนะนำในการใช้สื่อดิ จิทัลของ ผู้ปกครองอยา่ งมีนัยสำคญั ทางสถติ ิ (r = 0.214 , p<0.05) 171
แผนภาพท่ี 4.33 แสดงการกระจายระหว่างรูปแบบความผกู พนั ของครอบครัว กับ สถานการณ์เสี่ยงในการใช้ ส่อื ดิจทิ ัลของเดก็ อายุ 6-13 ปี 172
ตารางที่ 4.171 คา่ สมั ประสิทธสิ หสมั พันธร์ ะหว่างรูปแบบความผูกพันของครอบครัว กับ สถานการณ์เสี่ยงใน การใช้สื่อดจิ ทิ ลั ของเดก็ อายุ 6-13 ปี รปู แบบความผกู พัน สถานการณเ์ สย่ี งในการใชส้ อ่ื ค่าสถิติ p-value ความผกู ผันระหว่างแม่กบั ลกู แบบ Attachment Anxiety rs =-0.093 0.352 ความผกู ผนั ระหว่างแม่กบั ลกู แบบ Attachment Avoidance rs =-0.082 0.411 หมายเหต:ุ * p-value< 0.05 Spearman Correlation Coefficient; rs, Pearson Product Moment Correlation Coefficient ; r จากตารางที่ 4.171 พบวา่ เมื่อพจิ ารณาความสัมพันธร์ ะหว่าง รูปแบบความผูกพันของครอบครวั แบบ Attachment Anxiety แบบ Attachment Avoidance ไมม่ คี วามสมั พันธ์ กับ สถานการณเ์ ส่ียงในการใช้สื่อ ดจิ ิทลั ของเด็กอายุระหวา่ ง 6-13 ปี ตารางท่ี 4.172 ค่าสัมประสทิ ธสิ หสมั พันธร์ ะหว่างความร้คู วามสามารถของผปู้ กครองในการกำกบั ดแู ลการใช้ สอื่ ดจิ ทิ ัลของบตุ ร กบั สถานการณ์เสี่ยงในการใช้สื่อของบตุ รหลาน ของเดก็ อายุ 6-13 ปี การกำกับดูแลการใช้สอ่ื ดจิ ทิ ลั ของบตุ ร สถานการณ์เสย่ี งในการใช้สอื่ ŋ p-value ทา่ นตดิ ตามหรือสงั เกตการใช้สอ่ื ดิจทิ ัลของบุตรหลาน 0.068 0.927 บตุ รหลานของทา่ นเรม่ิ ใชส้ ่อื ดิจทิ ัลครง้ั แรกเม่ืออายุ 0.074 0.755 ปจั จุบนั บตุ รหลานของท่านมสี ่อื ดิจทิ ลั เปน็ ของตวั เอง 0.010 0.923 ท่านและบุตรหลานเคยโต้เถยี ง ขดั แยง้ หรือทะเลาะกนั เก่ียวกบั การใช้ส่ือดจิ ิทัล 0.193 0.282 ŋ=Eta, * มนี ยั สำคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดับ p<0.05 จากตารางที่ 4.172 พบว่า เม่ือพิจารณาการกำกับดูแลการใช้ส่ือดจิ ิทัลของบตุ ร กับสถานการณ์เส่ียง ในการใชส้ ือ่ ของบุตรหลาน ของเดก็ อายรุ ะหว่าง 6 - 13 ปี พบวา่ ไม่มปี จั จัยใดท่สี มั พนั ธก์ ับสถานการณ์เสย่ี งใน การใชส้ อ่ื ของบตุ รหลาน ของเดก็ อายุระหวา่ ง 6 - 13 ปี 173
แผนภาพที่ 4.34 แสดงการกระจายของขอ้ มลู พฤตกิ รรมเสยี่ งในการใชส้ มาร์ทโฟนของบตุ รหลาน กบั ทักษะ EF รายด้านและภาพรวม 174
แผนภาพที่ 4.35 แสดงการกระจายของข้อมลู ความผกู ผันระหวา่ งแม่กบั ลกู แบบ Attachment Anxiety กับ ทักษะ EF รายดา้ นและภาพรวม 175
แผนภาพที่ 4.36 แสดงการกระจายของความผกู ผันระหวา่ งแม่กบั ลูกแบบ Attachment Avoidance กบั ทักษะ EF รายดา้ นและภาพรวม 176
แผนภาพที่ 4.37 แสดงการกระจายของบทบาทการส่งเสรมิ การรเู้ ท่าทนั ส่อื ดจิ ิทลั ในบตุ รหลาน กบั ทักษะ EF รายด้านและภาพรวม 177
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247