Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การศึกษาสภาวการณ์และปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาวะกาย จิต สังคม และ ความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองในผู้สูงอายุ: ชมรมผู้สูงอายุแห่ง ประเทศไทยในพระบรมราชนูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

การศึกษาสภาวการณ์และปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาวะกาย จิต สังคม และ ความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองในผู้สูงอายุ: ชมรมผู้สูงอายุแห่ง ประเทศไทยในพระบรมราชนูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

Published by ao.point03, 2021-05-28 02:45:59

Description: การศึกษาสภาวการณ์และปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาวะกาย จิต สังคม และ
ความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองในผู้สูงอายุ: ชมรมผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยในพระบรมราชนูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

Search

Read the Text Version

รายงานความกา้ วหนา้ การศึกษาสภาวการณ์และปจั จยั ที่มผี ลตอ่ สุขภาวะกาย จิต สังคม และ ความสามารถการคดิ เชิงบริหารของสมองในผ้สู งู อาย:ุ ชมรมผู้สูงอายุแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชนปู ถมั ภส์ มเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดย อาจารย์ ดร.ศรัล ขนุ วิทยา และคณะ สถาบันแหง่ ชาติเพื่อการพฒั นาเด็กและครอบครัว มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล มิถุนายน พ.ศ. 2562

สญั ญาเลขท่ี RDG6140037 รายงานความก้าวหนา้ การศึกษาสภาวการณ์และปัจจัยที่มผี ลตอ่ สขุ ภาวะกาย จติ สงั คมและความสามารถ การคดิ เชิงบริหารของสมองในผู้สูงอายุ: ชมรมผ้สู งู อายแุ ห่งประเทศไทยใน พระบรมราชนูปถัมภ์สมเดจ็ พระศรนี ครินทราบรมราชชนนี A study of situation and factors effecting the health, mind, social and executive function in the elderly of the elderly club of Thailand under the Royal Patronage of His Majesty the King คณะผู้วิจยั สังกัด 1. อ.ดร.ศรลั ขนุ วิทยา สถาบนั แหง่ ชาตเิ พอื่ การพฒั นาเดก็ และครอบครัว มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล 2. อ.ดร.อธิวัฒน์ เจย่ี ววิ รรธน์กลุ สถาบันแห่งชาติเพอ่ื การพฒั นาเด็กและครอบครัว มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล 3. อ.ดร.นุชนาถ รักษี สถาบนั แห่งชาติเพ่อื การพฒั นาเด็กและครอบครัว มหาวทิ ยาลัยมหิดล สนบั สนุนโดยสานกั งานกองทุนสนับสนนุ การวจิ ยั (สกว.) (ความเหน็ ในรายงานน้เี ป็นของผ๎ูวิจัย สกว.ไมจํ ําเปน็ ตอ๎ งเห็นด๎วยเสมอไป) 2

กิตตกิ รรมประกาศ โครงการสภาวการณ๑และปจ๓ จยั ท่มี ีผลตํอสุขภาวะกาย จติ สงั คมและความสามารถการคิดเชิง บริหารของผสู๎ ูงอายุ: ชมรมผส๎ู ูงอายแุ หงํ ประเทศไทยในพระบรมราชนูปถมั ภ๑สมเดจ็ พระศรนี ครินทราบ รมราชชนนี สถาบนั แหํงชาติเพ่อื การพัฒนาเดก็ และครอบครวั มหาวิทยาลัยมหดิ ล ขอขอบพระคุณผ๎ูมี อุปการะทุกทํานได๎แกํ ผ๎ูบริหารและบุคลากรสถาบันแหํงชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ผู๎บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล บุคลากรสํานักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล คณะกรรมการ จริยธรรมการวิจัยในคนมหาวิทยาลัยมหิดล ประธานชมรมผ๎ูสูงอายุแหํงประเทศไทยในพระบรม ราชนูปถมั ภส๑ มเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และผ๎ูสูงอายุที่สมัครใจเข๎ารํวมโครงการวิจัย เป็น ผลให๎โครงการวิจัยสามาถดําเนินงานวิจัยสําเร็จตามเปูาประสงค๑ และท๎ายสุดโครงการวิจั ย ขอขอบพระคณุ สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ท่ีให๎การสนับสนุนทุนวิจัยประจําปี พ.ศ. 2561 3

สารบญั หนา้ 7 เร่ือง 7 บทท่ี 1 บทนา 10 10 หลกั การและเหตผุ ล หรือ ความสาํ คญั ของปญ๓ หา วตั ถุประสงค๑ 13 ขอบเขตของการวิจัย 13 24 บทท่ี 2 แนวคิดและทฤษฎที ีเ่ ก่ียวข้อง 25 สถานการณ๑ผู๎สงู อายุไทย 26 ความรเู๎ บ้อื งตน๎ เกย่ี วกบั ผู๎สูงอายแุ ละภาวะสูงอายุ 30 แนวคิดการเป็นผู๎สงู อายุท่ีมีภาวะพฤตพลัง 31 ป๓จจัยสํงเสรมิ การพัฒนาประชากรผ๎ูสูงอายุ แนวทางจดั การกระบวนการเรียนร๎ูในผ๎ูสูงอายุ 37 ทิศทางการวิจยั เพื่อสังคมผ๎ูสูงอายุไทย 37 39 บทที่ 3 วิธีการดาเนินการวจิ ัย 41 กรอบแนวคดิ การวิจัย 43 การดําเนินงานวจิ ยั ของวัตถปุ ระสงค๑ที่ 1 43 การดําเนนิ งานวิจัยของวัตถปุ ระสงค๑ที่ 2 การดําเนินงานวิจยั ของวตั ถุประสงค๑ท่ี 3 45 การดาํ เนินงานวิจัยของวตั ถปุ ระสงคท๑ ี่ 4 88 100 บทท่ี 4 ผลการวจิ ัย 119 ผลการดําเนนิ งานวจิ ัยตามวัตถุประสงค๑ท่ี 1 ผลการดาํ เนนิ งานวิจยั ตามวตั ถปุ ระสงค๑ที่ 2 ผลการดําเนินงานวิจยั ตามวัตถุประสงคท๑ ี่ 3 บทท่ี 5 สรุปผลการวจิ ัย ภาคผนวก 4

สารบัญภาพ ภาพ หน้า ภาพที่ 1 การสํารวจการทํางานของประชากร 2557 8 ภาพท่ี 2 รอ๎ ยละการประเมินสถานะสุขภาพตนเองในผส๎ู ูงอายุ 15 ภาพท่ี 3 ร๎อยละของผส๎ู งู อายุทีย่ ังสามารถปฏบิ ัตืกจิ วตั รพ้นื ฐานประจาํ วัน 16 ภาพที่ 4 รอ๎ ยละของผูส๎ ูงอายทุ ี่ยงั สามารมองเห็น ได๎ยิน และทานอาหารได๎ 17 ภาพที่ 5 ร๎อยละของผ๎ูสูงอายทุ ี่มีปญ๓ หาโรคเบาหวาน โรคความดันโลหติ สูง 18 ภาพท่ี 6 อตั ราการฆาํ ตัวตายในผ๎ูสุงอายุ 19 ภาพท่ี 7 รอ๎ ยละของผสู๎ ูงอายุทส่ี ูบบหุ รแี ละดืม่ แอลกอฮอล๑ 20 ภาพท่ี 8 ร๎อยละของผู๎สงู อายุท่อี อกกําลังกาย 20 ภาพท่ี 9 ร๎อยละของผส๎ู ูงอายุท่ีไมํมกี ารศึกษาและที่มกี ารศึกษา 21 ภาพที่ 10 ร๎อยละการทํางานของผูส๎ งู อายุ 22 ภาพท่ี 11 ร๎อยละแหลงํ รายไดข๎ องผ๎ูสูงอายุ 23 ภาพที่ 12 ร๎อยละจาํ นวนผ๎สู งู อายไุ ด๎รับเบี้ยยงั ชีพ 23 ภาพที่ 13 แนวโนม๎ การเปลี่ยนแปลงครัวเรอื นของผสู๎ ูงอายุ 24 ภาพที่ 14 การเปน็ สมาชกิ กลํุมหรือชมรมผส๎ู ูงอายุ 25 ภาพที่ 15 จาํ นวนการจดั ตั้งโรงเรียนผู๎สงู อายุ 25 ภาพที่ 16 มโนทัศน๑ของพฤตพลงั 27 ภาพที่ 17 กรอบแนวคิดของคุณภาพชวี ิตในวัยสงู อายุ 27 ภาพท่ี 18 การพฒั นาความสามารถการคดิ เชงิ บรหิ ารของสมอง 30 ภาพท่ี 19 กจิ กรรมการลงพนื้ ทโ่ี รงเรียนผ๎สู งู อายเุ ทศบาลตําบลยุหวาํ จ.เชียงใหมํ 46 ภาพที่ 20 กิจกรรมการลงพน้ื ที่ชมรมรักษ๑สขุ ภาพวัดอโศการาม จ.กาฬสินธ๑ุ 47 ภาพที่ 21 กจิ กรรมการลงพนื้ ท่ีชมรมผู๎สูงอายวุ ัดปาุ ทรงคณุ จ.ปราจีนบุรี 48 ภาพท่ี 22 กจิ กรรมการลงพน้ื ทชี่ มรมผู๎สงู อายุ ต.โพตลาดแก๎ว จ.ลพบุรี 49 ภาพท่ี 23 กจิ กรรมการลงพ้ืนท่ชี มรมผส๎ู ูงอายเุ ทศบาลพรหมคีรี จ.นครศรธี รรมราช 50 ภาพที่ 24 กิจกรรมการลงพื้นที่ชมรมผส๎ู งู อายวุ ัดมาตุคุนาราม จ.สงขลา 51 ภาพท่ี 25 กิจกรรมการลงพ้ืนทีช่ มรมผสู๎ งู อายุวดั มาตคุ ุนาราม จ.พงั งา 52 ภาพที่ 26 กิจกรรมการลงพน้ื ทชี่ มรมผส๎ู งู อายตุ าํ บลเขาหวั ควาย จ.สุราษฎรธ๑ านี 53 ภาพท่ี 27 รอ๎ ยละจํานวนผสู๎ งู อายุแบงํ ตามชํวงอายุ 54 ภาพท่ี 28 รอ๎ ยละของความสามารถเชงิ ปฏิบัติกจิ วัตรประจาํ ในกลุมํ ผูส๎ ูงอายุ 55 ภาพท่ี 29 รอ๎ ยละการประกอบอาชีพในกลํุมผ๎สู ูงอายุ 56 ภาพท่ี 30 ร๎อยละขอ๎ มลู โภชนาการในกลุมํ ผูส๎ ูงอายุ 57 ภาพท่ี 31 ร๎อยละความสามารถการมองเหน็ ในกลํุมผ๎สู ูงอายุ 58 ภาพที่ 32 รอ๎ ยละความสามารถในการไดย๎ ินในกลุํมผส๎ู งู อายุ 59 5

สารบญั ภาพ (ตอ่ ) ภาพ หน้า ภาพที่ 33 รอ๎ ยละการใชอ๎ ปุ กรณก๑ ารแพทยใ๑ นผ๎ูสูงอายุ 60 ภาพท่ี 34 รอ๎ ยละการเจบ็ ปวุ ยในผู๎สูงอายุ 61 ภาพท่ี 35 ร๎อยละการเจบ็ ปวุ ยในผู๎สงู อายุ 62 ภาพที่ 36 ร๎อยละการเจ็บปุวยในผู๎สูงอายุ 63 ภาพท่ี 37 ร๎อยละการเจบ็ ปุวยในผ๎ูสงู อายุ 64 ภาพท่ี 38 ร๎อยละการออกกําลงั กายในกลมํุ ผ๎สู ูงอายุ 65 ภาพที่ 39 รอ๎ ยละการทํางานอดิเรกในกลมํุ ผ๎สู ูงอายุ 66 ภาพที่ 40 รอ๎ ยละการสูบบุหร่ีในกลุํมผูส๎ งู อายุ 67 ภาพท่ี 41 รอ๎ ยละการด่มื สรุ าในกลุํมผู๎สูงอายุ 68 ภาพที่ 42 ร๎อยละการรบั ประทานอาหารเพียงพอในแตํละวนั ในกลมํุ ผ๎ูสูงอายุ 69 ภาพที่ 43 รอ๎ ยละรับประทานอาหารเสริมในกลมุํ ผู๎สงู อายุ 70 ภาพที่ 44 รอ๎ ยละการรับประทานผกั และผลไมใ๎ นกลมํุ ผูส๎ งู อายุ 71 ภาพท่ี 45 ร๎อยละการรับการตรวจสุขภาพประจําปใี นกลุํมผสู๎ งู อายุ 72 ภาพที่ 46 ร๎อยละการเขา๎ รวํ มกิจกรรมชมุ ชนในกลํุมผส๎ู งู อายุ 73 ภาพท่ี 47 ร๎อยละการได๎รบั แหลงํ สนนั สนนุ ด๎านการเงินในกลมํุ ผ๎สู ูงอายุ 74 ภาพท่ี 48 ร๎อยละสถานการณส๑ ขุ ภาพจิต (TGDS) ใจในกลํมุ ผสู๎ งู อายุ 75 ภาพท่ี 49 ร๎อยละสถานการณ๑สุขภาพสังคมในกลุํมผส๎ู งู อายุ 76 ภาพที่ 50 รอ๎ ยละความสามารถการคดิ เชิงบริหาร (GEC) ในกลํุมผ๎ูสงู อายุ 77 ภาพที่ 51 ร๎อยละความสามารถการคิดเชงิ บริหารด๎านพทุ ธปิ ญ๓ ญาในผูส๎ ูงอายุ 78 ภาพท่ี 52 รอ๎ ยละความสามารถด๎านการยับยัง้ ชงั่ ใจ (Inhibit) ในผูส๎ ูงอายุ 79 ภาพท่ี 53 ร๎อยละความสามารถดา๎ นยืดหยํนุ ทางความคิด (Shift) ในผ๎ูสูงอายุ 80 ภาพท่ี 53 ร๎อยละความสามารถดา๎ นควบคุมอารมณ๑ (Emotional) ในผู๎สูงอายุ 81 ภาพท่ี 54 ร๎อยละความสามารถดา๎ นควบคมุ ตนเอง (Self control) ในผส๎ู ูงอายุ 82 ภาพท่ี 55 ร๎อยละความสามารถด๎านการควบคมุ พฤตกิ รรม (BRI) ในผ๎ูสงู อายุ 83 ภาพที่ 56 รอ๎ ยละความสามารถด๎านความคดิ ริเร่มิ (Initiate) ในผู๎สงู อายุ 84 ภาพท่ี 57 รอ๎ ยละความสามารถดา๎ นความจําขณะทาํ งาน (WM) ในผ๎ูสงู อายุ 85 ภาพท่ี 58 ร๎อยละความสามารถดา๎ นการวางแผน (Plan) ในผู๎สงู อายุ 86 ภาพท่ี 59 รอ๎ ยละความสามารถดา๎ นการจัดการ (Organize) ในผสู๎ ูงอายุ 87 ภาพที่ 60 รอ๎ ยละความสามารถด๎านการจดจํอสนใจ (Monitor) ในผส๎ู งู อายุ 88 6

สารบญั ตาราง ตาราง หนา้ ตารางท่ี 1 88 ตารางท่ี 2 93 ตารางที่ 3 97 7

บทท่ี 1 บทนา 1. หลกั การและเหตผุ ล หรือ ความสาคัญของปัญหา สังคมไทยในระยะปี พ.ศ. 2552 เป็นตน๎ ไป กลําวได๎วาํ เป็น สังคมผู๎สูงอายุ เน่ืองจากผ๎ูสูงอายุท่ัวโลก ไดเ๎ พิม่ จํานวนขึน้ ทง้ั เชงิ ปรมิ าณและสดั สวํ น โดยองค๑การสหประชาชาตริ ายงานวํา ใน พ.ศ. 2552 ผ๎ูสูงอายุ ทั่วโลกมีประมาณ 737 ล๎านคน หรือคิดเป็นร๎อยละ 11 ของประชากรโลกทั้งหมด และคาดประมาณวํา จํานวนผู๎สูงอายุจะเพ่ิมข้ึนเป็น 1,963 ล๎านคนหรือคิดเป็นร๎อยละ 22 ใน พ.ศ. 2593 แนวโน๎มสัดสํวน ผู๎สงู อายุทมี่ อี ายุมากขน้ึ ยังเพมิ่ ขนึ้ อีกท้ัง 2 ใน 3 ของผส๎ู ูงอายุในโลกอยูํในประเทศกําลังพัฒนา โดยเฉพาะ ในทวีปเอเชีย (United Nations, 2009) การรายงานของสหประชาชาติ (United Nations, 2009) มีความสอดคล๎องกับจํานวนผู๎สูงอายุใน ประเทศไทยที่มูลนธิ สิ ถาบนั วจิ ยั และพฒั นาผ๎สู งู อายุไทย (มส.ผส.) ได๎รายงานในปี 2558 วําประเทศไทยมี ประชากร 65.1 ลา๎ นคน (ไมรํ วมแรงงานข๎ามชาติจากประเทศเพ่ือนบ๎านอีกประมาณ 3 ล๎านคน) ประเทศ ไทยไดก๎ ลายเปน็ สงั คมสงู วัย ที่มีประชากรอายุ 60 ปขี ึ้นไปประมาณ 10.3 ล๎านคน คิดเป็นร๎อยละ 16 ของ ประชากรไทยท้งั หมดประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ประกอบด๎วยผ๎ูชาย 4.6 ล๎านคน และผู๎หญิง 5.7 ล๎านคน คิดเปน็ อัตราสวํ นเพศของประชากรสงู อายุเทาํ กับผส๎ู งู อายุชาย 80 คนตํอผ๎ูสงู อายหุ ญงิ 100 คน การทปี่ ระเทศไทยมีประชากรผู๎สงู อายไุ ทยเพม่ิ ขึ้นเกินกวํารอ๎ ยละ 10 ทําให๎เป็นประเทศที่มีผู๎สูงอายุ มากท่ีสดุ เปน็ อนั ดบั สองในภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต๎ รองจากประเทศสิงคโปร๑ที่มีประชากรผู๎สูงอายุ รอ๎ ยละ12 (องค๑การแรงงานระหวํางประเทศ, 2553) ซึ่งเป็นผลให๎โครงสร๎างของประชากรไทยเข๎าสํูสังคม ผ๎ูสูงอายุ และอาจนําไปสูํภาระพ่ึงพิงทางสังคมของผู๎สูงอายุ (Dependency) ซึ่งเกิดจากประชากรวัย แรงงานตอ๎ งรับภาระดูแลผ๎ูสูงอายุเพ่ิมขึ้น โดยประเด็นดังกลําวเป็นส่ิงที่นักวิชาการวิตกวําจะมีผลตํอการ ขบั เคลื่อนการพฒั นาประเทศ และผลจากการศึกษาอัตราการเป็นภาระของผู๎สูงอายุของประเทศไทยและ ประเทศสิงคโปร๑ พบวํามีอัตราการเป็นภาระของผ๎ูสูงอายุเทํากับ ร๎อยละ 16.1 และร๎อยละ 16.3 ตามลําดับ เม่ือเปรียบเทียบกับอัตราการเป็นภาระของผ๎ูสูงอายุของประเทศลาว ประเทศฟิลิปปินส๑ และ ประเทศกมั พูชา น้ันยังคงเทํากับร๎อยละ 9.0 ร๎อยละ 10.7 และร๎อยละ 8.9 ตามลําดับเทําน้ัน (สํานักงาน สถิติแหํงชาติ 2551, มูลนิธิสถาบันวิจยั และพัฒนาผูส๎ งู อายไุ ทย 2553) นอกจากนี้การรายงานของมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผ๎ูสูงอายุไทย (มส.ผส.) ในระหวํางปี พ.ศ. 2556-2558 พบวําสถานการณส๑ าํ คัญทเี่ กิดกับกลุํมผู๎สงู อายุคือ (1) ด๎านสังคมสูงวัยมีเพศหญิงมากกวําเพศ ชาย (2) ด๎านสุขภาพ (3) ดา๎ นท่อี ยูอํ าศยั (4) ดา๎ นเศรษฐกจิ ของผูส๎ งู อายุ ในปี 2557 ประชากรไทยเป็นผู๎หญิง (33.3 ล๎านคน) มากกวําผ๎ูชาย (31.5 ล๎านคน) อัตราสํวนเพศ เทํากบั 94.6 คือมปี ระชากรชาย 94.6 คน ตํอประชากรหญิง 100 คน ในกลํุมประชากรสูงอายุ อัตราสํวน เพศจะย่ิงตลง ผ๎ูสูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมีอัตราสํวนเพศเทํากับ 81.1 คือ มีผู๎สูงอายุชาย 81.1 คน ตํอ ผู๎สงู อายหุ ญิง 100 คน จากความจรงิ ท่วี ําผห๎ู ญงิ มอี ายุยืนกวําผู๎ชาย เราจึงเห็นภาพในอนาคตได๎ชัดเจนวํา จะย่ิงมปี ระชากรหญงิ มากกวําประชากรชาย ในปี 2583 ประมาณวําประเทศไทยจะมีอัตราสํวนเพศอยูํท่ี 91.6 คอื มีผชู๎ าย 91.6 คน ตํอผู๎หญิง 100 คน ในกลุมํ ประชากรสูงอายุ (60 ปขี น้ึ ไป) ในปี 2583 อัตราสํวน เพศจะอยูํท่ีประมาณ 76.2 คือมีผู๎สูงอายุชาย 76.2 คน ตํอผ๎ูหญิง 100 คน ในปี 2583 ดังนั้นกลไกของ รัฐบาลและสงั คมในการรองรบั จาํ นวนสงู วัยเพศหญิงมากกวําเพศชายจึงเป็นสิ่งทตี่ ๎องคาํ นงึ ถงึ 8

ในระหวาํ งปี 2256-2558 มลู นิธิสถาบนั วจิ ัยและพัฒนาผูส๎ ูงอายไุ ทย (มส.ผส.) ได๎การสํารวจสุขภาพ ประชาชนโดยการตรวจรํางกายได๎สํารวจความยากลําบากในการทํากิจกรรมในชีวิตประจําวัน 10 ด๎าน (อาบนํ้าเองไมไํ ดล๎ า๎ งหนา๎ , หวีผมแปรงฟน๓ เองไมไํ ด๎, สวมใสํเสื้อผ๎าเองไมํได๎, ใช๎ห๎องนํ้าเองไมํได๎, ลุกน่ังจาก เตยี งไมไํ ด๎, รบั ประทานอาหารเองไมํได๎, เคล่อื นไหวภายในห๎องไมํได๎, ข้นึ ลงบนั ไดเอง 1 ชั้นไมํได๎ (ประมาณ 8-10 ขนั้ ), กล้นั อุจจาระไมไํ ด๎, กลนั้ ปส๓ สาวะไมํได๎) พบวําผสู๎ ูงอายุหญิงไมสํ ามารถทํากิจกรรมประจําวันได๎ ในแตลํ ะกิจกรรมมากกวําผ๎สู ูงอายุชาย การสํารวจสุขภาพประชาชนโดยการตรวจรํางกายยังพบวํา โรคท่ี มักพบในผ๎ูสูงอายุ ได๎แกํข๎ออักเสบ/ข๎อเสื่อม โรคถุงลมโปุงพอง/หลอดลมปอดอุดก้ันเรื้อรัง หลอดเลือด หวั ใจตีบกล๎ามเนอื้ หวั ใจตายและอัมพาต ในปี 2557 มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผ๎ูสูงอายุไทย (มส.ผส.) รายงานรูปแบบการอยํูอาศัยของ ผสู๎ งู อายุในลักษณะการอยํตู ามลาํ พังคนเดียวหรืออยํูตามลําพังกับคูํสมรสมีสัดสํวนท่ีสูงข้ึน พบวําผู๎สูงอายุ โดยเฉพาะในเขตเมืองหรือเขตเทศบาลจะมีผ๎ูสูงอายุท่ีอยูํตามลําพังคิดเป็นร๎อยละ 9.5 สํวนนอกเขต เทศบาลคิดเป็นร๎อยละ 8.2 และพบวําผู๎สูงอายุอยํูตามลําพังกับคํูสมรสในเขตเมืองหรือเขตเทศบาลคิด เป็นร๎อยละ 16.3 สํวนนอกเขตเทศบาลคิดเป็นร๎อยละ 19.9 หากสัดสํวนและจํานวนผู๎สูงอายุที่อยํูตาม ลาํ พังคนเดยี วหรอื อยูตํ ามลาํ พงั กับคูํสมรสมแี นวโนม๎ เพิ่มมากข้ึนไปอีกในอนาคต ก็ยํอมจะมีผลตํอการดูแล ผส๎ู ูงอายใุ นระยะยาว ข๎อมลู การสาํ รวจประชากรสงู อายุปี 2557 พบวํา มีผู๎สูงอายุ (อายุ 60 ปีข้ึนไป) หน่ึงในสามมีรายได๎ ตํ่ากวําเส๎นความยากจน และพบวําแหลํงรายได๎หลักท่ีผู๎สูงอายุได๎รับจากบุตรลดลงอยํางมาก ในขณะท่ี รายไดจ๎ ากการทาํ งาน มแี นวโนม๎ สงู ขน้ึ ภาพท่ี 1 การสํารวจการทํางานของประชากร 2557 จะเห็นได๎วาํ สังคมสูงวัยกําลังเผชิญสถานการณ๑สําคัญๆ ในหลายด๎าน ซ่ึงนโยบายในระดับชาติและ นานาชาติได๎เล็งเห็นถึงความสําคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตผ๎ูสูงอายุอยํางย่ังยืน และเม่ือทบทวน นโยบายในระดับนานาชาติและระดับชาติ ท่ีมีเน้ือหาเกี่ยวข๎องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู๎สูงอายุอยําง ยั่งยืน ยกตัวอยํางเชํน แนวคิดการพัฒนาภาวะพฤฒพลังขององค๑การอนามัยโลก (Active Aging : A Policy Framework) (World Health Organization: WHO, 2002) ตลอดจนรัฐธรรมนูญแหํง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 (สํานักนายกรัฐมนตรี, 2550) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แหํงชาติ ฉบับท่ี 10 (พ.ศ. 2550 - 2554) (สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แหํงชาติ, 2552) แผนผู๎สูงอายุแหํงชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545 - 2564) (คณะกรรมการสํงเสริมและ ประสานงานผ๎ูสูงอายุแหํงชาติ, 2545) พระราชบัญญัติผ๎ูสูงอายุ พ.ศ. 2546 (กระทรวงการพัฒนาสังคม 9

และความม่นั คงของมนุษย๑, 2550) และปฎิญญาผสู๎ ูงอายุไทย (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง ของมนุษย๑, 2542) ซ่ึงเป็นนโยบายในระดับนานาชาติและระดับชาติ ในชํวงระยะ 10 ปีท่ีผํานมา พบวํา นโยบายเหลําน้ีมํุงเน๎นการสร๎างสังคมผู๎สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีและการเพิ่มคุณคําการมีชีวิตอยํูของ ผส๎ู งู อายุ และลดป๓ญหาภาระพ่ึงพิงทางสังคมของผู๎สูงอายุ ซึ่งจากการทบทวนจะพบวําโดยสํวนใหญํจะมี ความสอดคลอ๎ งกับแนวคดิ การพัฒนาภาวะพฤฒพลงั ขององค๑การอนามัยโลกท่ีมุํงหวังให๎ผู๎สูงอายุเป็นกลุํม ประชากรท่ีมีคุณคําทางสังคมรวมทั้งการเสริมความรู๎ให๎กับสังคม และได๎กําหนดเป็นแนวคิดสากลที่ใช๎ใน การพัฒนาศักยภาพผู๎สูงอายุใน 3 ด๎านหลักคือ (1) การมีสุขภาพดี (2) การมีสํวนรํวมในสังคม และ (3) การสรา๎ งหลกั ประกันและความม่นั คงใหต๎ นเอง จากสถานการณ๑สงั คมผูส๎ งู อายุในปจ๓ จบุ นั รวมทงั้ ปญ๓ หาภาระพงึ่ พงิ ทางสังคมของผู๎สูงอายุ จนนํามา ซง่ึ แนวทางการพฒั นาผู๎สงู อายผุ ํานนโยบายตาํ งๆ ขององค๑กรภาครัฐและเอกชน อีกทั้งนโยบายตํางๆ นั้นมี ความสอดคล๎องกับแนวทางขององค๑การอนามัยโลกท่ีมุํงหวังให๎ผ๎ูสูงอายุเป็นกลุํมประชากรที่มีคุณคําทาง สังคมและมีศักยภาพหลกั ใน 3 ด๎านหลักคือ (1) การมีสุขภาพดี (2) การมีสํวนรํวมในสังคม และ (3) การ สร๎างหลกั ประกันและความมั่นคงให๎ตนเอง ด๎วยข๎อมูของสถานการณ๑และข๎อมูลทางวิชาการเหลําน้ีทําให๎ คณะวิจยั มแี นวคดิ สํารวจสถานการณ๑ วิเคราะห๑ ถอดบทเรยี น และสงํ เสริม สุขภาวะกาย จิต สังคม และ ความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมอง ในผ๎ูสูงอายุไทย ซ่ึงการท่ีจะมีศักยภาพดังกลําวน้ัน ผ๎ูสูงอายุ ควรเตรียมตัวให๎พร๎อมในด๎านสําคัญดังนี้ การมีสุขภาพดีท้ังทางรํางกายและจิตใจ อีกทั้งต๎องร๎ูวําตัวเองมี ประโยชน๑มีความหมายกับคนอื่นเพื่อความภูมิใจ การเข๎าไปมีสํวนรํวมกับสังคมในบทบาทตํางๆ ตาม ความสามารถ การเตรียมพร๎อมกับการเรียนร๎ูและการร๎ูคิดโดยเฉพาะความสามารถการคิดเชิงบริหาร ซ่ึง ในกรณีน้ีผ๎ูสูงอายุควรรักษาให๎คงอยูํหรือพัฒนาอยํางตํอเนื่อง โดยควรฝึกฝนเป็นประจําจากกิจกรรมท่ี สํงเสริมทักษะการร๎ูคิดและจากแบบฝึกหัดตํางๆ เพื่อให๎ตนเองมีสติ มีสมาธิ มีความยับย้ังชั่งใจ มีความ เพยี ร โดยจะพบวาํ ผู๎สูงอายุท่มี ีความสามารถทางการร๎ูคดิ ดโี ดยเฉพาะความสามารถการคิดเชิงบริหารของ สมองนัน้ จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด๎วยเพราะความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองเป็นการทํางาน ผสานของสมองระดับสูงกบั สมองหลายๆ สํวน อีกทง้ั มีการเชอื่ มโยงกับจิตใจของตนเองเพื่อแสดงออกทาง พฤติกรรมของบุคคลหน่งึ ๆ โดยพบวํา ความสามารถการคดิ เชงิ บริหารของสมองชํวยให๎เราควบคุมอารมณ๑ ความคดิ การตดั สินใจ และการกระทํา สํงผลให๎เราลงมือทํางาน และมุํงม่ันทํางาน จนงานน้ันสําเร็จตาม เปูาหมายหมายท่ีต้ังไว๎ (Goal directed behavior) (Anderson 2002) ซ่ึงถ๎าผู๎สูงอายุยังคงมีระดับของ ความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองที่ดีอยูํหรือได๎รับการฝึกฝนอยํางตํอเนื่อง จะชํวยให๎ผ๎ูสูงอายุมี ความคิดยืดหยํุน สามารถปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ๑ โดยเฉพาะอยํางยิ่งเม่ือมีสถานการณ๑ตํางๆ เปลี่ยนแปลงไป จะชํวยให๎ผู๎สูงอายุปรับความคิดและพฤติกรรมให๎เข๎ากับบริบทของส่ิงแวดล๎อมที่ เปล่ียนแปลงไปได๎ นอกจากน้ียังสํงผลถึงการควบคุมอารมณ๑ ควบคุมพฤติกรรมให๎แสดงออกอยําง เหมาะสม เปน็ ที่ยอมรับของสังคม ร๎ูจักคาดการณ๑ผลของการกระทําวําทําไปแล๎วจะเกิดสิ่งใดตามมา รู๎จัก เลือกที่จะทําหรอื ไมํทําสิง่ ใดเพ่ือใหป๎ ระสบความสาํ เร็จการทํางาน นอกจากนเ้ี มอ่ื เตรียมรํางกาย จิตใจ และ สมองดีแล๎ว ผู๎สูงอายุควรนําพาตนเองเข๎าไปมีสํวนรํวมในชุมชนสังคมในบทบาทที่ตนเองถนัด และหากมี ครอบครัวให๎การสนบั สนนุ จะดียิ่งขนึ้ จากข๎อมลู ดงั กลําวหากผ๎ูสงู อายุ โดยความรํวมมือของครอบครัวและ สงั คม มกี ารเตรียมพร๎อมท่ดี ีจากบริบทป๓จจัยเหลํานี้ ก็จะสํงผลถึงการพัฒนาผู๎สูงอายุที่มีสุขภาวะกาย จิต สังคม และมีศักยภาพของความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองได๎ (Campanholo KR 2017, Demnitz N 20016, Ge S 2017, Huei-Ling Chiu 2017, Thow ME 2017) 10

ดงั นนั้ การวจิ ัยนีจ้ งึ สนใจศึกษาสถานการณ๑ วิเคราะห๑ ถอดบทเรียน และการสํงเสริมผ๎ูสูงอายุไทยให๎ มีสุขภาวะกาย จิต สังคม และมีความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมอง โดยมํุงเน๎นการวิเคราะห๑ ความสาํ คญั ของปจ๓ จัยตาํ งๆ ที่จะสํงผลถึงการเป็นผู๎สูงอายุท่ีมีศักยภาพดังกลําว อีกท้ังมีการถอดบทเรียน และศึกษาแนวทางปฏิบตั ิที่ดีสํูการเป็นผ๎ูสูงอายุที่มีคุณภาพท้ังในระดับพื้นท่ีและในภาพรวม โดยแนวทาง ปฏิบตั ิท่ดี ีจะเข๎าสํกู ระบวนการจดั การความรู๎ได๎เป็นเครื่องมือหรือกิจกรรมท่ีสํงเสริมการเป็นผ๎ูสูงอายุมีสุข ภาวะกาย จติ สงั คม และมีความสามารถการคิดเชงิ บริหารของสมองท่ดี ีตํอไป 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพ่อื สาํ รวจสถานการณ๑ดา๎ นสุขภาวะทางกาย จิต สังคม และความสามารถการคิดเชิงบริหารของ สมองในผสู๎ ูงอายุ 2.2 เพื่อศกึ ษาป๓จจัยที่มีผลตํอสขุ ภาวะกาย จิต สังคม และความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมอง ในผส๎ู ูงอายุ 2.3 เพ่ือศึกษาแนวทางปฏิบัติที่ดีของชมรมผู๎สูงอายุฯ ในการสํงเสริมสุขภาวะและความสามารถการ คดิ เชิงบรหิ ารของสมองในผส๎ู งู อายุ 2.4 เพ่ือสังเคราะห๑และเผยแพรํองค๑ความร๎ูในการสํงเสริมสุขภาวะทางกาย จิต สังคม และ ความสามารถการคดิ เชงิ บรหิ ารของสมองในผูส๎ ูงอายุ 3. ขอบเขตของการวจิ ัย 3.1 กล่มุ ตัวอยา่ ง 3.1.1 ผ๎ูสูงอายุ คือ ผ๎ูสูงอายุท่ีมีอายุระหวําง 60-80 ปี จํานวนประมาณ 440 คน คัดเลือกจาก ผ๎สู ูงอายทุ ่เี ป็นสมาชิกของชมรมผ๎ูสูงอายุแกนนําเข๎มแข็งของสมาคมสภาผ๎ูสูงอายุแหํงประเทศไทยในพระ บรมราชนูปถัมภ๑สมเดจ็ พระศรนี ครินทราบรมราชชนนี (แหลํงข๎อมูล: รายงานประจําปีชมรมผู๎สูงอายุแกน นําเขม๎ แขง็ และรายงานสถานการณ๑ผ๎ูสูงอายไุ ทยประจาํ ปี 2560) 3.1.2 ชมรมผ๎สู งู อายุแกนนาํ เขม๎ แข็ง คือ ชมรมผู๎สูงอายุที่สังกัดสมาคมสภาผู๎สูงอายุแหํงประเทศ ไทยในพระบรมราชนูปถัมภ๑สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยท่ีชมรมผ๎ูสูงอายุแกนนําเข๎มแข็งมี ตัวชี้วัดเป็นไปตามเกณฑ๑ของโครงการพัฒนาศักยภาพชมรมผู๎สูงอายุให๎มีความเข๎มแข็งสูํภาวะพฤติพลัง Active Aging สมาคมสภาผูส๎ งู อายุแหงํ ประเทศไทยในพระบรมราชนูปถัมภ๑สมเด็จพระศรีนครินทราบรม ราชชนนี ซึ่งแบํงเป็นภาคเหนอื ภาคกลาง/กรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต๎ จาํ นวน 20 ชมรม (ชมรมแกนนาํ เข๎มแขง็ ในแตลํ ะภูมิภาคจะมีชมรมเครือขํายเพ่ือใช๎ในการขยายผลองค๑ความร๎ูการ วจิ ยั รวมประมาณ 80 ชมรม) 3.2 สถานทว่ี ิจัย ชมรมผูส๎ งู อายุแกนนาํ เขม๎ แข็งของสมาคมสภาผ๎สู งู อายแุ หํงประเทศไทยในพระบรม ราชนปู ถมั ภส๑ มเด็จพระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนี 3.3 ระยะเวลา 1 ปี 3.4 นิยามศัพท์ 3.4.1 สุขภาวะทางกาย คือ สภาวะของรํางกายที่มีความสมบูรณ๑ แข็งแรง สมวัย ระบบตํางๆ ของรํางกายสามารถทํางานได๎เป็นปกติและมีประสิทธิภาพ รํางกายมีความต๎านทานโรคได๎ดี ปราศจาก โรคภัยไข๎เจ็บและความทุพพลภาพ ลักษณะของผทู๎ ี่มสี ขุ ภาพกายท่ีดี มดี งั นี้ 11

 มีการเจริญเติบโตทางด๎านรํางกายทส่ี มวยั มนี ้าํ หนัก และสวํ นสูงเปน็ ไปตามเกณฑ๑อายุ  มีระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตทดี่ ี (ชพี จรและความดันโลหิตปกติ)  มคี วามอยากรับประทานอาหาร ไมเํ บอื่ อาหาร  มรี าํ งกายแข็งแรงมีภูมติ ๎านทานโรคดี และไมมํ โี รคภัยไขเ๎ จบ็ ไมํพกิ าร หรอื ผิดปกตอิ ่ืนๆ  มคี วามสามารถเชิงปฏิบัตกิ จิ วัตรประจาํ วันปกติ อ๎างอิงจากแบบประเมินภาวะสุขภาพของผ๎ูสูงอายุ (Elderly Health Profile) กระทรวง สาธารณสุข 3.4.2 สขุ ภาพจติ คอื จติ ใจท่ีเปน็ สุข ผํอนคลาย ไมเํ ครยี ด คลํองแคลํว มีความเมตตา กรุณา มีสติ มีสมาธิ เป็นต๎น โดยอ๎างอิงจากแบบประเมินสุขภาพจิต (Thai Mental State Examination: TMSE) กระทรวงสาธารณสุข โดยที่การประเมนิ สุขภาพจิตจะแปลผลดงั น้ี  สขุ ภาพจติ ปกติ  มีความเศรา๎ เล็กนอ๎ ย  มคี วามเศร๎าปานกลาง  มีความเศรา๎ รุนแรง 3.4.3 ความสามารถเชิงปฏบิ ตั ิ คอื ความสามารถในการปฏิบตั กิ จิ วัตรประจาํ วันพ้ืนฐาน เชํน ทาน อาหาร อาบน้ํา และแตํงตัวเป็นต๎น โดยอ๎างอิงจากแบบประเมินภาวะสุขภาพของผ๎ูสูงอายุ (Elderly Health Profile) กระทรวงสาธารณสุข และ Barthel ADL Index (BAI) โดยท่ีการประเมินความสามารถ เชงิ ปฏิบัติจะแปลผลดงั น้ี  สามารถชํวยเหลอื ตนเองได๎  ตอ๎ งมคี นคอยชวํ ยเหลือ  ไมสํ ามารถชวํ ยเหลอื ตวั เองได๎ 3.4.4 สขุ ภาพสังคม คอื สมั พันธภาพในครอบครวั ในชุมชน ในท่ที ํางาน ในสังคม ซ่ึงรวมถึงการมี บรกิ ารทางสังคมท่ีดี มีแหลํงสนันสนุนด๎านการเงิน มีแหลํงสนันสนุนด๎านผู๎ดูแล มีแหลํงสนันสนุนด๎านจิต สงั คม เปน็ ต๎น โดยอา๎ งองิ จากแบบประเมนิ ภาวะสุขภาพของผสู๎ งู อายุ (Elderly Health Profile) 3.4.5 ความสามารถการคิดเชงิ บริหารของสมอง คือ ความสามารถการคิดเชงิ บรหิ ารของสมองขั้น สูงที่ชวํ ยให๎มนุษย๑ควบคุมอารมณ๑ ความคดิ การตัดสนิ ใจ และการกระทํา สํงผลให๎มํุงม่ันทํางาน จนงานน้ัน สําเร็จตามเปูาหมายหมายทต่ี งั้ ไว๎ (Goal directed behavior) ประกอบไปด๎วย 5 ดา๎ นสาํ คัญคอื 1) การควบคมุ อารมณ๑และพฤตกิ รรมของตนเอง (Emotional Control) 2) การยบั ยั้งพฤติกรรม (Inhibit) 3) การเปลย่ี นความคดิ เมือ่ เงอ่ื นไขเปล่ยี นไป (Shifting) 4) ความจาํ ขณะทํางาน (Working Memory) 5) การวางแผนและการจัดการอยาํ งเปน็ ระบบ (Plan/Organize) โดยประเมินจากพฤติกรรมในชีวิตประจําวันในสภาพแวดล๎อมจริง อ๎างอิงจากแบบประเมิน Behavior Rating Inventory of Executive Function- Adult Version (BRIEF-A) โดยท่ีการประเมิน ความสามารถการคดิ เชงิ บรหิ ารของสมองจะแปลผลดงั นี้  ความสามารถการคดิ เชิงบริหารของสมองดี (Excellence) 12

 ความสามารถการคดิ เชิงบริหารของสมองปกติ (Normal)  สมควรไดร๎ บั การสงํ เสรมิ (Should be support) 3.4.6 ป๓จจยั ทส่ี ํงผลตํอสุขภาวะในผ๎ูสงู อายุ 3.4.6.1 ป๓จจัยภายใน คือ ลักษณะพันธุกรรม เช้ือชาติ เพศ อายุ ความสามารถการร๎ูคิด โรคภยั และการเจ็บปวุ ย พฤติกรรมสขุ ภาพ ความสามารถในการปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจําวนั พ้นื ฐาน และภาวะ เครยี ด ซึมเศร๎า เปน็ ต๎น 3.4.6.2 ป๓จจัยภายนอก คือ สัมพันธภาพครอบครัวและชุมชน แหลํงสนับสนุนทางการเงิน แหลํงสนับสนุนด๎านผู๎ดูแล แหลํงสนับสนุนด๎านจิตสังคม ความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรม ระบบ การศึกษา โครงสร๎างระบบสาธารณสุข ระบบเศรษฐและการประกอบอาชีพ วิทยาการเทคโนโลยี และ ปจ๓ จยั ทางการเมอื ง เป็นต๎น 3.4.7 แนวทางปฏิบัติที่ดี คือ วิธีปฏิบัติหรือขั้นตอนการปฏิบัติที่สํงผลให๎ชมรมผู๎สูงอายุประสบ ความสําเร็จในการสํงเสริมสุขภาวะหรือสํงเสริมความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองให๎กับผ๎ูสูงอายุ โดยมีการสรปุ วธิ ปี ฏิบตั ิ หรอื ข้ันตอนการปฏบิ ัติ ตลอดจนความร๎แู ละประสบการณ๑ ท่ีได๎บันทึกเป็นเอกสาร หรือข๎อมูลสารสนเทศ อีกทั้งเผยแพรํให๎กลุํมผู๎สูงอายุหรือหนํวยงานอ่ืนสามารถนําไปใช๎ประโยชน๑ได๎ (เกณฑ๑ประเมนิ แสดงในภาคผนวก) 13

บทที่ 2 แนวคดิ และทฤษฎที ่ีเกีย่ วขอ้ ง 1.สถานการณ์ผูส้ ูงอายไุ ทย สงั คมไทยในระยะปี พ.ศ. 2552 เป็นต๎นไป กลาํ วได๎วําเป็น สังคมผู๎สูงอายุ เนื่องจากผู๎สูงอายุท่ัวโลก ได๎เพิม่ จาํ นวนขึน้ ทงั้ เชงิ ปรมิ าณและสัดสํวน โดยองค๑การสหประชาชาตริ ายงานวํา ใน พ.ศ. 2552 ผู๎สูงอายุ ทั่วโลกมีประมาณ 737 ล๎านคน หรือคิดเป็นร๎อยละ 11 ของประชากรโลกท้ังหมด และคาดประมาณวํา จํานวนผู๎สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,963 ล๎านคนหรือคิดเป็นร๎อยละ 22 ใน พ.ศ. 2593 แนวโน๎มสัดสํวน ผู๎สูงอายทุ ม่ี ีอายุมากขึ้นยังเพม่ิ ขนึ้ อกี ทั้ง 2 ใน 3 ของผสู๎ ูงอายใุ นโลกอยใูํ นประเทศกําลังพัฒนา โดยเฉพาะ ในทวีปเอเชีย (United Nations, 2009) การรายงานของสหประชาชาติ (United Nations, 2009) มีความสอดคล๎องกับจํานวนผู๎สูงอายุใน ประเทศไทยที่มูลนธิ สิ ถาบันวิจยั และพฒั นาผส๎ู ูงอายุไทย (มส.ผส.) ได๎รายงานในปี 2558 วําประเทศไทยมี ประชากร 65.1 ล๎านคน (ไมรํ วมแรงงานข๎ามชาติจากประเทศเพื่อนบ๎านอีกประมาณ 3 ล๎านคน) ประเทศ ไทยได๎กลายเปน็ สงั คมสูงวยั ทมี่ ีประชากรอายุ 60 ปขี ึน้ ไปประมาณ 10.3 ล๎านคน คิดเป็นร๎อยละ 16 ของ ประชากรไทยทั้งหมดประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ประกอบด๎วยผ๎ูชาย 4.6 ล๎านคน และผู๎หญิง 5.7 ล๎านคน คิดเปน็ อัตราสวํ นเพศของประชากรสูงอายุเทํากับผส๎ู งู อายุชาย 80 คนตํอผู๎สูงอายหุ ญงิ 100 คน การท่ปี ระเทศไทยมีประชากรผู๎สงู อายุไทยเพ่มิ ขึน้ เกินกวาํ รอ๎ ยละ 10 ทําให๎เป็นประเทศท่ีมีผู๎สูงอายุ มากทส่ี ดุ เปน็ อนั ดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต๎ รองจากประเทศสิงคโปร๑ท่ีมีประชากรผ๎ูสูงอายุ ร๎อยละ12 (องค๑การแรงงานระหวํางประเทศ, 2553) นอกจากน้ีการรายงานของมูลนิธิสถาบันวิจัยและ พัฒนาผ๎ูสูงอายุไทย (มส.ผส.) ในระหวํางปี พ.ศ. 2556-2558 พบวําสถานการณ๑สําคัญที่เกิดกับกลุํม ผ๎ูสูงอายุคือ (1) ด๎านสังคมสูงวัยมีเพศหญิงมากกวําเพศชาย (2) ด๎านสุขภาพ (3) ด๎านที่อยูํอาศัย (4) ด๎าน เศรษฐกิจของผูส๎ ูงอายุ ในปี 2557 ประชากรไทยเป็นผู๎หญิง (33.3 ล๎านคน) มากกวําผู๎ชาย (31.5 ล๎านคน) อัตราสํวนเพศ เทาํ กบั 94.6 คือมีประชากรชาย 94.6 คน ตํอประชากรหญิง 100 คน ในกลํุมประชากรสูงอายุ อัตราสํวน เพศจะยิ่งตลง ผ๎ูสูงอายุ 60 ปีข้ึนไปจะมีอัตราสํวนเพศเทํากับ 81.1 คือ มีผู๎สูงอายุชาย 81.1 คน ตํอ ผ๎ูสงู อายุหญงิ 100 คน จากความจริงทวี่ าํ ผห๎ู ญงิ มีอายุยืนกวําผ๎ูชาย เราจึงเห็นภาพในอนาคตได๎ชัดเจนวํา จะยง่ิ มีประชากรหญิงมากกวําประชากรชาย ในปี 2583 ประมาณวําประเทศไทยจะมีอัตราสํวนเพศอยูํท่ี 91.6 คือมีผ๎ชู าย 91.6 คน ตอํ ผห๎ู ญิง 100 คน ในกลมํุ ประชากรสูงอายุ (60 ปีขน้ึ ไป) ในปี 2583 อัตราสํวน เพศจะอยูํที่ประมาณ 76.2 คือมีผ๎ูสูงอายุชาย 76.2 คน ตํอผ๎ูหญิง 100 คน ในปี 2583 ดังนั้นกลไกของ รัฐบาลและสังคมในการรองรับจํานวนสงู วัยเพศหญิงมากกวาํ เพศชายจึงเป็นส่งิ ท่ีต๎องคาํ นึงถึง ในระหวาํ งปี 2256-2558 มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผส๎ู งู อายไุ ทย (มส.ผส.) ได๎การสํารวจสุขภาพ ประชาชนโดยการตรวจรํางกายได๎สํารวจความยากลําบากในการทํากิจกรรมในชีวิตประจําวัน 10 ด๎าน (อาบน้าํ เองไมํได๎ลา๎ งหนา๎ , หวผี มแปรงฟ๓นเองไมไํ ด๎, สวมใสํเส้ือผ๎าเองไมํได๎, ใช๎ห๎องนํ้าเองไมํได๎, ลุกน่ังจาก เตยี งไมํได๎, รบั ประทานอาหารเองไมไํ ด๎, เคลื่อนไหวภายในห๎องไมไํ ด๎, ขน้ึ ลงบันไดเอง 1 ชั้นไมํได๎ (ประมาณ 8-10 ข้ัน), กล้นั อจุ จาระไมไํ ด๎, กลัน้ ปส๓ สาวะไมํได๎) พบวําผสู๎ งู อายหุ ญงิ ไมํสามารถทาํ กิจกรรมประจําวันได๎ ในแตํละกิจกรรมมากกวําผ๎สู ูงอายุชาย การสํารวจสุขภาพประชาชนโดยการตรวจรํางกายยังพบวํา โรคท่ี มักพบในผู๎สูงอายุ ได๎แกํข๎ออักเสบ/ข๎อเสื่อม โรคถุงลมโปุงพอง/หลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง หลอดเลือด หัวใจตีบกล๎ามเนื้อหวั ใจตายและอมั พาต 14

ในปี 2560 ประเทศไทยมีประชากรสูงอายุ 60 ปีข้ึนไป 11 ล๎านคน คิดเป็นร๎อยละ 17 ของ ประชากร ทง้ั หมด 65.5 ล๎านคน ประเทศไทยจะมปี ระชากรผู๎อายุสูงขึ้นอยํางเร็วมาก โดยคาดประมาณวําอีกไมํเกิน 4 ปี ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมสงู อายุอยาํ งสมบรู ณ๑ และจะมีสดั สวํ นประชากรอายุ 60 ปีขนึ้ ไป ร๎อยละ 20 และทส่ี าํ คญั คือ กลุํมประชากรสงู อายุวยั ปลาย (อายุ 80 ปขี น้ึ ไป) จะเพ่ิมขน้ึ อยํางมากจาก 1.5 ล๎านคน ใน ปี 2560 เป็น 3.5 ลา๎ นคนในอีก 20 ปีข๎างหน๎า และจากรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทยในปี 2560 จัดทา โดยมูลนิธสิ ถาบนั วจิ ัยและพัฒนาผ๎ูสูงอายุไทย (มส.ผส.) พบวาํ มีการรายงานทีน่ าํ สนใจดงั นี้ 1.1 สุขภาพร่างกายโดยรวมของผ้สู งู อายุ ในทางวิชาการเป็นท่ียอมรบั กันวา่ สุขภาพของคนจะถดถอยไปตามอายุท่ีเพิ่มข้ึน การประเมินสถานะ สุขภาพด้วยตนเองของผู้สูงอายุ จัดทาโดยมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู๎สูงอายุไทย (มส.ผส.) พบวํา ผสู้ งู อายุทป่ี ระเมินสุขภาพของตนเองว่าไม่ดีหรือไม่ดีมากๆ มีแนวโน้มลดลงโดยตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ผล การประะเมนิ นี้แสดงว่าผสู้ งู อายุไทยมสี ขุ ภาพโดยรวมท่ดี ีขึน้ ภาพท่ี 2 ร๎อยละการประเมนิ สถานะสุขภาพตนเองในผ๎สู งู อายุ แหล่งขอ้ มลู : วิเคราะห์จากข้อมูลการสารวจประชากรสงู อายใุ นประเทศไทย พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ที่มกี ารถ่วงนา้ หนกั ประชากร 15

1.2 ความสามารถในการปฏบิ ตั ิกจิ วตั รประจาวันพืน้ ฐาน กจิ วัตรพน้ื ฐานและใกล้ตัวผู้สูงอายุมีอยู่ 3 เรื่องสาคัญคือ การกินอาหาร ใส่เส้ือผ้า (แต่งตัว) อาบน้า/ ลา้ งหนา้ (รวมการใช้หอ้ งนา้ ) ผสู้ ูงอายทุ ไ่ี มส่ ามารถทากจิ วัตรพื้นฐานเหล่านีไ้ ดด้ ว้ ยตนเองแม้เพยี งกิจวัตรใด กิจวัตรหนึ่งย่อมเป็นภาระต่อบุคคลผู้อยู่ใกล้ชิดอย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ และน่ันหมายถึงว่าผู้สูงอายุท่านนั้น จาเป็นต้องมีผู้ดูแลช่วยเหลือ และจากรายงานของมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผ๎ูสูงอายุไทย (มส.ผส.) พบวา่ ผสู้ ูงอายทุ ่ีมอี ายุตา่ กว่า 80 ปกี วา่ รอ้ ยละ 95 ยังสามารถกินอาหาร ใส่เส้ือผ้า (แต่งตัว) อาบน้า/ล้าง หน้า (รวมการใช้ห้องน้า) ได้โดยไม่ต้องมีการช่วยเหลือ แต่เมื่ออายุ 80 ปีขึ้นไปแล้ว ราว 2 ใน 10 ของ ผสู้ ูงอายวุ ัยนีไ้ ม่สามารถทากิจวัตรพื้นฐานเหล่าน้ีไดด้ ้วยตนเอง สรปุ โดยรวมการสารวจในปี พ.ศ.2560 พบวา่ ผูส้ งู อายุร้อยละ 95 ยังสามารถทากิจวัตรพ้ืนฐานท่ีใกล้ ตวั ได้ด้วยตนเอง และมีผูส้ ูงอายุรอ้ ยละ 5 ท่ตี ้องการ การดแู ล ภาพที่ 3 ร๎อยละของผส๎ู งู อายทุ ยี่ งั สามารถปฏิบตั ืกจิ วัตรพ้ืนฐานประจําวนั แหล่งขอ้ มูล: วิเคราะหจ์ ากขอ้ มูลการสารวจประชากรสงู อายใุ นประเทศไทย พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ท่ีมีการถว่ งน้าหนักประชากร 1.3 แนวโนม้ สุขภาพนยั น์ตา หู ชอ่ งปากและฟนั ความสามารถในการมองเห็น ได้ยิน และเคี้ยวอาหาร นับเป็นปัจจัยสาคัญหน่ึงท่ีทาให้ผู้สูงอายุมี คุณภาพชีวิตท่ีดี แต่ความสามารถเหล่านี้ก็มักถดถอยไปตามอายุที่เพิ่มข้ึนเช่นกัน และเมื่อพิจารณาตาม กลุ่มอายุของผู้สูงอายุ ในช่วงปีพ.ศ. 2545-2560 พบแนวโน้มท่ีน่าต่าลงในเรื่องของการมองเห็นโดยเร่ิม ตั้งแต่ปี 2550 แต่มีแนวโนม้ ที่ดีข้ึนในเรอ่ื งของการไดย้ ิน เป็นที่น่าสังเกตว่า ความเสอ่ื มถอยทางด้านสายตา เกิดขน้ึ กอ่ นการได้ยินอยา่ งมาก สาหรบั เรอื่ งของความสามารถในการเค้ียวอาหารน้ัน การสารวจประชากร สูงอายุในประเทศไทยมีการสอบถามเร่ืองนี้ไว้แตกต่างกันกล่าวคือ การสารวจเมื่อปี 2545 แบบประเมิน ถามวา่ “ทา่ นสามารถเค้ยี วอาหารได้ดีหรือไม่” โดยมีตัวเลือกของคาตอบอยู่ 4 แบบ คือ เค้ียวได้ดีโดยไม่ ต้องใสฟ่ ันปลอม เคยี้ วไดด้ ีแตต่ ้องใส่ฟนั ปลอม เคีย้ วได้ไม่ค่อยดีและเค้ยี วไม่ไดเ้ ลย ในขณะที่การสารวจครั้ง ถัดมาปี 2550 แบบประเมินถามว่ามฟี นั ท้ังหมดก่ีซี่ ถา้ มีน้อยกว่า 20 ซ่ี จึงจะถามตอ่ ว่าใส่ฟันปลอมหรือไม่ สว่ นการสารวจหลังจากนั้น ถามเพยี งว่าใส่ฟันปลอมหรือไม่ การประเมินความสามารถในการเค้ียวอาหาร จึงทาไม่ได้ ทาได้แต่เพียงประเมินว่าในช่วงปี 2550-2560 มีผู้สูงอายุมากน้อยเพียงใดที่ใส่หรือไม่ใส่ฟัน ปลอม จากการรายงานของมูลนธิ ิสถาบนั วจิ ัยและพฒั นาผ๎ูสูงอายไุ ทย (มส.ผส.) พบวา่ รอ้ ยละของผู้สูงอายุ ท่ใี ส่ฟันปลอมน้ันเพมิ่ ขนึ้ ตามอายุ และโดยรวมในปี พ.ศ.2560 จะพบว่าร้อยละ 25 ของผู้สูงอายุเป็นผู้ท่ีใส่ ฟนั ปลอม 16

ภาพที่ 4 ร๎อยละของผ๎ูสูงอายุทย่ี ังสามารมองเห็น ไดย๎ ิน และทานอาหารได๎ แหล่งขอ้ มูล: วเิ คราะห์จากขอ้ มลู การสารวจประชากรสงู อายใุ นประเทศไทย พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ทมี่ กี ารถ่วงน้าหนักประชากร 1.4 ปัญหาสขุ ภาพจากโรคความดันโลหติ สูงและเบาหวาน ในปีช่วงปี พ.ศ. 2545-2560 ผ้สู งู อายไุ ทยมปี ัญหาดา้ นสขุ ภาพจากโรคเบาหวาน และความดันเลือดสูง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเน่ืองโดยจาการรายงานของรายงานของมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู๎สูงอายุไทย (มส. ผส.)พบว่าร้อยละของผู้สูงอายุที่มีปัญหาโรคเบาหวานในปี พ.ศ. 2560 เพิ่มข้ึนราว 2 เท่าเม่ือเทียบกับปี 2545 ในขณะที่รอ้ ยละของผู้สูงอายุทมี่ ปี ัญหาความดันเลือดสงู เมอ่ื ปี พ.ศ. 2560 เพิม่ ขึน้ เกือบ 1.7 เท่าเมื่อ เทียบกับปี พ.ศ. 2545 17

ภาพที่ 5 ร๎อยละของผ๎ูสูงอายุท่มี ปี ๓ญหาโรคเบาหวาน โรคความดนั โลหิตสูง แหลง่ ข้อมูล: วเิ คราะห์จากขอ้ มูลการสารวจประชากรสงู อายุในประเทศไทย พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ท่ีมกี ารถ่วงน้าหนักประชากร 1.5 แนวโนม้ การฆ่าตัวตายในผสู้ งู อายุ สุขภาวะทางจิตของผู้สูงอายุเป็นอีกประเด็นหน่ึงที่ไม่ควรมองข้าม ในสภาพเศรษฐกิจสังคมที่บีบค้ัน รวมท้งั การอยู่โดยลาพังระหว่างผู้สูงอายุด้วยกันเองมากขึ้น อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้สูงอายุได้ เมื่อ นาสถิติท่ีเผยแพร่โดยกรมสุขภาพจิตบนเว็บไซต์ https://www.dmh.go.th/report/suicide/age.asp มาวิเคราะห์เป็นอัตราการฆ่าตัวตายในผู้สูงอายุช่วงปี พ.ศ. 2540-2559 พบว่า อัตราการฆ่าตัวตายใน ผู้สูงอายุวัย 60-69 ปี และ 70-79 ปี มีค่าใกล้เคียงกัน แต่มีค่าสูงกว่าอัตราการฆ่าตัวตายของผู้สูงอายุวัย 80 ปีขึ้นไปอย่างชัดเจนในช่วงปี พ.ศ. 2540-2551 แต่หลังจากนั้นพบว่าอัตราการฆ่าตัวตายของท้ังสาม กลมุ่ วัยมพี อๆ กัน 18

ภาพที่ 6 อตั ราการฆําตวั ตายในผ๎ูสุงอายุ แหลง่ ขอ้ มูล: วิเคราะหจ์ ากข้อมลู การสารวจประชากรสงู อายุในประเทศไทย พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ทม่ี ีการถว่ งนา้ หนักประชากร 1.6 พฤตกิ รรมการสูบบหุ รแี่ ละดมื่ แอลกอฮอลใ์ นผู้สูงอายุ ผ๎ูสงู อายใุ นทุกกลมํุ อายุทงั้ ชายและหญงิ มแี นวโนม๎ ของการสบู บุหรี่และดื่มแอลกอฮอล๑ลดลงในชํวง ปี พ.ศ.2554 ถงึ ปี พ.ศ. 2560 19

ภาพท่ี 7 รอ๎ ยละของผู๎สูงอายุทสี่ ูบบุหรีและดื่มแอลกอฮอล๑ แหล่งข้อมูล: วเิ คราะหจ์ ากขอ้ มลู การสารวจประชากรสงู อายใุ นประเทศไทย พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ที่มีการถว่ งนา้ หนกั ประชากร 1.7 พฤตกิ รรมการออกกาลงั กายในผ้สู ูงอายุ ในขณะทพ่ี ฤตกิ รรมการสบู บหุ รแี่ ละด่มื แอลกอฮอล์ มีแนวโน้มท่ีลดลง แตพ่ ฤตกิ รรมการออกกาลังกาย ซึ่งเปน็ พฤติกรรมท่สี ่งเสรมิ สุขภาพ กลับมแี นวโนม้ ท่ีลดลงในทกุ กลมุ่ อายุ ภาพท่ี 8 ร๎อยละของผู๎สูงอายุทีอ่ อกกําลังกาย แหลง่ ข้อมลู : วเิ คราะหจ์ ากข้อมลู การสารวจประชากรสงู อายใุ นประเทศไทย พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ที่มกี ารถ่วงนา้ หนักประชากร 1.8 ผสู้ งู อายกุ ับการศกึ ษา ตวั ชีว้ ดั เชงิ เศรษฐกจิ และสังคมตัวหนึง่ คือการศึกษา โดยจากรายงานวิชาการพบว่า ผู้ที่มีการศึกษาสูง ส่วนใหญจ่ ะสามารถประกอบอาชีพท่ีมรี ายไดส้ ูง ซ่จึ ะตรงกันข้ามกับผูท้ ม่ี ีการศกึ ษาต่า จากการรายงานของ รายงานของมลู นิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผ๎ูสงู อายไุ ทย (มส.ผส.) พบว่า ผู้สงู อายุ 60-69 ปี มีจานวนของผู้ที่ ไม่มกี ารศกึ ษาลดลงจากร้อยละ 16 ในปี 2545 เหลือร้อยละ 7 ในปี 2560 ขณะเดียวกัน ร้อยละของผู้ท่ีมี การศึกษาในกลุ่มอายุ 70-79 ปี มีจานวนลดลงจากร้อยละ 22 ในปี 2545 เหลือร้อยละ 13 ในปี 2560 เช่นเดียวกับรอ้ ยละของผทู้ ่ีไม่มกี ารศึกษาในผู้สูงอายุวัยปลาย (80 ปีขึ้นไป) มีจานวนลดลงจากร้อยละ 51 เหลือร้อยละ 22 ในช่วงเวลาเดยี วกนั 20

ภาพท่ี 9 รอ๎ ยละของผู๎สงู อายุท่ีไมมํ กี ารศกึ ษาและที่มกี ารศกึ ษา แหล่งขอ้ มลู : วเิ คราะห์จากขอ้ มูลการสารวจประชากรสงู อายใุ นประเทศไทย พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ท่มี กี ารถว่ งนา้ หนกั ประชากร เม่ือพจิ ารณารอ้ ยละของผูส้ งู อายทุ ี่มีการศึกษาระดบั มหาวทิ ยาลัย พบว่ามีจานวนเพิ่มสูงขึ้นตลอดช่วง ปี พ.ศ 2545-2560 โดยเพม่ิ จากร้อยละ 2 เปน็ ร้อยละ 7 สาหรับผู้ที่อายุ 60-69 ปี เพ่ิมจากร้อยละ 1 เป็น รอ้ ยละ 4 สาหรับผู้ทีอ่ ายุ 70-79 ปี และเพมิ่ จากรอ้ ยละ 1 เป็น รอ้ ยละ 2 สาหรบั ผ้ทู อี่ ายุ 80 ปขี นึ้ ไป 21

1.9 ผู้สูงอายุกับการทางาน ในช่วงปี พ.ศ. 2545-2554 ผสู้ ูงอายไุ ทยมีแนวโน้มท่ีทางานอยู่ในสัดส่วนท่ีสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ ช่วง 60-69 ปี 70-79 ปี หรือ 80 ปีข้ึนไป แนวโน้มที่เคยสูงขึ้นนี้ ได้ลดลงเล็กน้อยในช่วงปี พ.ศ.2560 สถานการณก์ ารทางานของผู้สงู อายุท่ีลดลงในปี พ.ศ. 2560 น้นั ควรที่จะต้องเฝ้าระวงั ตอ่ ไป ภาพที่ 10 รอ๎ ยละการทาํ งานของผส๎ู งู อายุ แหลง่ ขอ้ มูล: วิเคราะหจ์ ากข้อมูลการสารวจประชากรสงู อายใุ นประเทศไทย พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ที่มีการถ่วงน้าหนักประชากร 1.10 แหล่งรายได้หลกั ของผู้สงู อายุ เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลการสารวจประชากรสูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ในเรื่องแหล่งรายได้หลักของผู้สูงอายุ พบว่าแหล่งรายได้หลักของผู้สูงอายุ 3 ลาดับแรกในปี 2550 มาจากบุตร (ร้อยละ 52) จากการทางาน (ร้อยละ 29) และจากคู่สมรส (ร้อยละ 6) ในปี 2554 และ ปี 2560 แหล่ง รายได้หลัก 2 ลาดบั แรกยงั คงเป็นเช่นเดมิ คือ จากบตุ ร และจากการทางาน แต่มีแนวโน้มที่ลดลง ในขณะ ท่ีแหล่งรายได้ลาดับท่ีสาม ได้เปล่ียนจากคู่สมรสมาเป็นจากเบ้ียยังชีพ/สวัสดิการแทน และมีแนวโน้มท่ี เพม่ิ ข้ึน ภาพที่ 11 ร๎อยละแหลํงรายได๎ของผู๎สงู อายุ แหล่งขอ้ มลู : วิเคราะหจ์ ากข้อมูลการสารวจประชากรสงู อายใุ นประเทศไทย พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2550 พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2560 ทมี่ กี ารถว่ งนา้ หนักประชากร 22

1.11 เบ้ยี ยงั ชพี สาหรับผสู้ ูงอายุ การไดร้ ับเบีย้ ยังชีพสาหรับผูส้ ูงอายุ เปน็ สิทธิทผี่ สู้ ูงอายุพึงมีพึงได้ตามกฎหมาย จากข้อมูลต้ังแต่ช่วงปี พ.ศ. ปี 2552-2560 พบว่า ประเทศไทยมีจานวนผู้สูงอายุทไ่ี ด้รบั เบย้ี ยังชีพและจานวนเงินเบี้ยยังชีพสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง โดยมีจานวนผู้สูงอายุที่ได้รับเบ้ียยังชีพในปี พ.ศ.2560 จานวน 8.2 ล้านคน ซ่ึงสูงข้ึน 1.5 เทา่ เมอ่ื เปรยี บเทียบกบั ปี พ.ศ.2552 ส่วนจานวนเงินเบี้ยยงั ชีพนน้ั รฐั บาลอนมุ ัติเงินงบประมาณเพิ่มสูงข้ึน จาก 21,963,075,000 บาท ในปี พ.ศ. 2552 เปน็ 64,783,645,200 บาท (สงู ขึ้น 3 เทา่ ) ในปี พ.ศ.2560 5.4 ล้าน คน ภาพที่ 12 ร๎อยละจาํ นวนผส๎ู ูงอายไุ ดร๎ ับเบย้ี ยังชพี แหลง่ ขอ้ มลู : ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2552-2558 จานวนและงบประมาณเบ้ียยังชีพ เปน็ ขอ้ มูลขององค์กรปกครองสว่ น ทอ้ งถน่ิ กทม. และเทศบาลเมืองพทั ยา 1.12 แนวโนม้ การเปล่ยี นแปลงครวั เรอื นของผู้สูงอายุ เม่ือนาขอ้ มลู การสารวจตัวอยา่ งของสานกั งานสถิตแิ ห่งชาติมาวเิ คราะหใ์ นระดับครวั เรือน โดยให้คาจา กัดความ “ครัวเรือนผู้สูงอายุ” คือ ครัวเรือนที่สมาชิกในครัวเรือนอย่างน้อย 1 คนมีอายุ 60 ปีหรือ มากกว่า ส่วนครัวเรือนท่ีไม่มีสมาชิกคนใดอายุถึง 60 ปี ก็ “ไม่ใช่ครัวเรือนผู้สูงอายุ” ตามนิยาม เช่นนี้ พบว่าครัวเรือนผู้สูงอายุในปี 2539 (หรือราว 20 ปีก่อน) มีอยู่ร้อยละ 29 แล้วเพิ่มเป็นร้อยละ 34 ในอีก 10 ปีถดั มา ส่วนในปี พ.ศ.2560 ประเทศไทยมีครวั เรือนผู้สูงอายุคิดเปน็ รอ้ ยละ 41 ของครัวเรอื นทงั้ หมด ภาพท่ี 13 แนวโน๎มการเปลี่ยนแปลงครวั เรือนของผสู๎ ูงอายุ แหล่งขอ้ มูล: วิเคราะห์จากข้อมลู การสารวจภาวะเศรษฐกจิ และสงั คมของครวั เรือน พ.ศ. 2539 พ.ศ. 2549 และการ สารวจประชากรสงู อายใุ นประเทศไทย พ.ศ. 2560 ท่ีมีการถว่ งนา้ หนกั ครัวเรือน 23

1.13 การเปน็ สมาชกิ กล่มุ หรือชมรมผ้สู ูงอายุ การมีกิจกรรมและปฏิสัมพันธ์กับสังคมอย่างสม่าเสมอ เป็นปัจจัยสาคัญในการสูงวัยอย่างมีพลังและ นาไปสู่การมรี ะดบั คณุ ภาพชวี ิตและความพึงพอใจในชีวิตที่สูงขึ้น ท้ังหมดน้ีจะช่วยชะลอกระบวนการการ สงู วัย กล่าวคอื จะสามารถรักษาพลานามยั ของรา่ งกาย และสขุ ภาพทดี่ ขี องจติ ใจไดน้ านข้ึน การส่งเสริมให้ ผสู้ ูงอายุมีกจิ กรรมและปฏิสัมพันธ์กับสังคม จึงเป็นเรื่องสาคัญทต่ี ้องส่งเสรมิ เพ่อื ใหผ้ ู้สูงอายุมคี ณุ ภาพชีวิตท่ี ดี รฐั บาลไทยใหค้ วามสาคัญกบั การสง่ เสริมให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมและปฏิสัมพันธ์กับสังคม โดยที่ผ่านมา ได้มีโครงการจัดต้ังชมรมผู้สูงอายุเพื่อให้สมาชิกได้มาพบปะสังสรรค์และดาเนินกิจกรรมที่ก่อให้เกิด ประโยชนท์ ั้งตอ่ ตนเองและผู้อ่นื เพ่อื ใหเ้ กิดความคุ้นเคย รักใคร่ มีความสมัครสมานสามัคคี ความเบิกบาน คลายเหงา และเกดิ ความสขุ โดยในปี พ.ศ.2560 พบวา่ มจี านวนผู้สงู อายุท่ีเข้าร่วมกิจกรรมสังคมประมาณ 7 ล้านคน (ร้อยละ 64) แต่แนวโน้มการเข้าร่วมกิจกรรมหมู่บ้านและชุมชนมีแนวโน้มลดลงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ในทางตรงกัน ข้ามกลับพบว่าการเข้าร่วมกิจกรรมกับชมรมผู้สูงอายุมีแนวโน้มท่ีสูงข้ึน นอกจากนี้ยังพบความแตกต่าง อยา่ งมากระหว่างเขตการอยู่อาศัยผู้สูงอายุในเขตเทศบาลมีแนวโน้มในการเข้าร่วมกิจกรรมของหมู่บ้าน/ ชุมชน ในวันสังคมน้อยกว่าผู้สูงอายุท่ีอาศัยอยู่นอกเขตเทศบาลอย่างเห็นได้ชัดท่ีร้อยละ 52 และ 73 ตามลาดับ ความแตกต่างนี้เปน็ สิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างในหลายๆ ด้าน ระหว่างผู้สูงอายุท่ีอาศัย อยู่ในเมืองและชนบท ภาพที่ 14 การเปน็ สมาชกิ กลํมุ หรือชมรมผ๎สู ูงอายุ แหลง่ ขอ้ มลู : การสารวจประชากรสงู อายใุ นประเทศไทย พ.ศ. 2560 1.14 โรงเรยี นผสู้ ูงอายุ การจัดต้ังโรงเรียนผู้สูงอายุจะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุสามารถเรียนรู้ได้ตามอัธยาศัยและได้มีส่วน ร่วมกับชุมชน เพื่อพัฒนาทักษะต่างๆ ท่ีสาคัญอย่างรอบด้าน เช่น การดูแลสุขภาพ การสร้างอาชีพ การ วางแผนการเงิน ความรู้ด้านกฎหมาย รวมถึงการเรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เป็นต้น ในปี พ.ศ. 2560 ประเทศไทยมีจานวนโรงเรียนผูส้ ูงอายุที่เกิดจากการขับเคล่ือนของกรมกิจการผู้สูงอายุท้ังสิ้น 1,163 แห่ง 24

และมีจานวนนักเรียนสูงอายุมากกว่า 64,000 คน ทาให้ผู้สูงอายุได้การพัฒนาความรู้อย่างต่อเน่ือง เปิด โอกาสให้ผู้สูงอายุได้มีสังคม มีกลุ่มเพื่อน มีกิจกรรมที่สนุกสนาน เป็นการส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตท่ีมาก ยงิ่ ขน้ึ ภาพท่ี 15 จํานวนการจัดตัง้ โรงเรียนผู๎สูงอายุ แหล่งขอ้ มูล : ข้อมูลการสารวจการจดั ตง้ั โรงเรียนผ้สู งู อายุ ณ 31 ธันวาคม 2560 กรมกจิ การผสู้ งู อายุ 2.ความรเู้ บอื้ งตน้ เกยี่ วกบั ผสู้ งู อายุและภาวะสงู อายุ ความสูงอายุ (Aging) หมายถึง กระบวนการเปล่ียนแปลงอยํางตํอเนื่องในระยะสุดท๎ายของชํวงอายุ มนุษย๑ ดังน้ัน ความสูงอายุหรือความชราภาพจึงเกี่ยวข๎องกับความเส่ือมถอยท้ังทางรํางกาย จิตใจและ พฤติกรรม ทีเ่ กิดข้ึนตามอายุ วัยสูงอายุเป็นวัยท่ีบุคคลต๎องเผชิญกับวิกฤติการณ๑อยํางมากมาย อันเริ่มมา ตั้งแตํวัยผู๎ใหญตํ อนต๎น ซึ่งโดยมากเป็นไปในทางลบ (ศิรางค๑ ทับสายทอง 2533) ดังน้ัน ความชราภาพจึง เกี่ยวข๎องกบั ความเสื่อมถอยทัง้ ทางรํางกายและจิตใจความสามารถทางรํางกายลดลง ความสามารถในการ ปรับตัวกับสภาพแวดล๎อมตํางๆ ลดลง โดย สามารถแบํงได๎ 2 ลักษณะด๎วยกัน คือ (สุรกุล เจนอบรม 2534) 1.1. ความชราภาพแบบปฐมภูมิ (Primary aging) เป็นความชราภาพที่เกิดข้ึนกับทุกคนตาม ธรรมชาติ ไมสํ ามารถหลีกเลี่ยงได๎ กลําวคือเม่ืออวัยวะตํางๆ เซลลต๑ าํ งๆ ในราํ งกายมนุษย๑ถูกใช๎งานมานาน ก็ยํอมเกิดความเส่ือมโทรม เส่ือมสภาพไปตามชํวงอายุของการใช๎งาน ซ่ึงการเสื่อมโทรมของเซลล๑ใน ราํ งกายนี้ สงํ ผลใหเ๎ ห็นเดํนชดั ทลี ะน๎อย เชํน ผวิ หนงั เริ่มเหี่ยวยํน สายตายาวพละกาํ ลงั เริ่มถดถอย เปน็ ต๎น 1.2. ความชราภาพแบบทุติยภูมิ (Secondary aging) เป็นความชราภาพท่ีมนุษย๑เราสามารถ หลีกเล่ียงได๎ ความชราภาพลักษณะน้ี เกิดจากการปลํอยปละละเลยไมํหํวง ไมํกังวล ไมํรักษาสุขภาพ รํางกาย การใช๎รํางกายทํางานหนักจนเกินกําลัง การรับประทานอาหารมากเกินควรดื่มสุรา สูบบุหรี่ พักผํอนไมํเพียงพอ ในบางกรณเี กดิ จากโรคภัยมาเบยี ดเบยี น กอํ ใหเ๎ กิดความชราภาพแบบทตุ ยิ ภมู ิได๎ ความสงู อายุหรือความชราภาพ จงึ เป็นกระบวนการทสี่ ลับซับซอ๎ น และนาํ สนใจ มนุษยท๑ กุ คนต๎อง ประสบภาวะน้ี ท่ีกลําววําสลับซับซ๎อนเน่ืองจาก กระบวนการของผ๎ูสูงอายุมีความเกี่ยวข๎องกับการ เปล่ียนแปลงทางกายภาพ (Physiological) ทางอารมณ๑ (Emotional) การเรียนรู๎สติป๓ญญา (Cognitive) เศรษฐกิจ (Economic) และความสัมพันธ๑ระหวํางบุคคล (Interpersonal) ซึ่งสิ่งตํางๆเหลําน้ีจะมีความ 25

แตกตาํ งกันไปในแตํละบุคคล ดงั น้ันกระบวนการเก่ยี วกับความชราภาพ จึงเป็นประเด็นท่ีนําสนใจ เพราะ ความสงู อายมุ ผี ลกระทบอยาํ งรวดเรว็ ในสังคม 3. แนวคิดการเป็นผสู้ ูงอายทุ ่มี ีภาวะพฤฒพลงั (Active aging) องค๑การอนามัยโลกได๎ให๎แนวคิดของ Active aging ไว๎วําการเป็นผู๎สูงอายุที่มีพลังและศักยภาพ อยํูในภาวะพฤตพลงั น้ัน จะมอี งค๑ประกอบ 3 ประการได๎แกํ 1) การพงึ่ พาตนเองได๎หรือคงภาวะสขุ ภาพที่ดีทส่ี ดุ ของตนเองในแตลํ ะชํวงชวี ิตใหไ๎ ด๎ 2) การมสี วํ นรํวมกบั สงั คมให๎นานที่สุดเทาํ ที่จะทําได๎ 3) การสรา๎ งหลกั ประกันและความมน่ั คงใหต๎ นเองตามอัตภาพโดยรัฐบาลมีสํวนชํวยในการสร๎าง หลักประกันให๎กับผ๎ูสงู อายุ โดยองค๑ประกอบการเป็นผ๎ูสูงอายุท่ีมีภาวะพฤฒิพลังน้ันควรจะเป็นกระบวนการที่เหมาะสม (Optimization) เพื่อนําไปสูํสุขภาพ (Health) การมีสํวนรํวม (Participation) และหลักประกัน (Security) ในอันท่จี ะเสริมสร๎างคุณภาพชีวิต (To enhance quality of life) เม่ือสูงวัย (Older age) ดัง แสดงในแผนภาพท่ี 1 (สุทธชิ ัย จติ ะพนั ธก๑ุ ุล 2544 ) ภาพท่ี 16 มโนทศั น๑ของพฤตพลัง (สุทธิชัย จติ ะพันธ๑ุกลุ 2544) โดยที่กระบวนการของพฤฒพิ ลังมีขัน้ ตอนหรอื เง่ือนไขสําคัญ ดงั น้ี 1) ตระหนักและรับท่ีจะทํา (Realization and Make commitment) 2) พ่งึ พาตนเอง (Self-reliance) 3) ทุกคนทาํ และทาํ เพือ่ ทุกคน (Everyone does and does for everyone) 4) ทําอยํางตํอเนอื่ ง (Do continuously) กระบวนการดังกลําวสอดคล๎องกับการศึกษาของ ศ.นพ.ประเวศ วะสี (2542) ท่ีได๎กลําวถึง องค๑ประกอบการเป็นผ๎ูสูงอายุท่ียังประโยชน๑และมีคุณภาพชีวิตท่ีดี จะต๎องประกอบไปด๎วยเร่ืองของ สุขภาพหรือสุขภาวะ (Well being) ซึ่งแยกเป็น 4 เร่ือง คือ กาย (Physical) จิต (Mental) สังคม (Social) และป๓ญญา (Spirit) (แผนภาพท่ี 2) 26

ภาพที่ 17 กรอบแนวคดิ ของคุณภาพชวี ิตในวยั สงู อายุ (ประเวศ วะสี, 2542) โดยการศึกษาของ ศ.นพ.ประเวศ วะสี อธบิ ายถึงองคป๑ ระกอบการเป็นผูส๎ ูงอายุทีย่ งั ประโยชน๑และ มีคณุ ภาพชีวติ ท่ีดีนั้น จะตอ๎ งเตรียมตวั ดา๎ นสุขภาพกายให๎พร๎อมแตวํ ัยหนํมุ สาว จติ ใจต๎องรําเริงแจํมใส ต๎อง รว๎ู ําตัวเองมีประโยชน๑มคี วามหมายกับคนอ่นื จะได๎ภมู ิใจ สวํ นเรื่องสติสมาธนิ ้นั ถ๎าสามารถเจริญสติสมาธิได๎ คุณภาพชวี ติ ก็จะสูง มีภูมิค๎ุมกันมากขึ้น ด๎านสังคมควรให๎ความสําคัญกับครอบครัว ครอบครัวอบอุํนเป็น เร่ืองสําคัญและการมีสํวนรํวมในชุมชน ประการสุดท๎ายผ๎ูสูงอายุควรมีการพัฒนาทางด๎านกระบวนการ เรยี นร๎ู โดยเนน๎ การศึกษาตลอดชวี ิตรวํ มด๎วย 4. ปจั จัยท่ีส่งเสรมิ การพฒั นาประชากรสงู อายุ 4.1 ปจั จยั ตัดขวาง (Cross-cutting determinants) เป็นป๓จจัยที่ต๎องคาํ นึงถึงเป็นภาพใหญํกํอน ได๎แกํ เพศและวัฒนธรรม เป็นป๓จจัยสําคัญที่มีอิทธิพลตํอป๓จจัยด๎านอ่ืนๆ ซ่ึงสํงผลตํอการเข๎าสํูวัยสูงอายุ อยาํ งมพี ฤฒพลงั มีรายละเอียดดังน้ี 4.1.1 เพศ เป็นป๓จจัยท่ีสํงผลตํอสถานภาพทางสังคม ลักษณะการเข๎าถึงบริการทางสุขภาพของ ผ๎สู งู อายุ การทาํ งาน การบรโิ ภคและภาวะโภชนาการ ในบางสงั คม เด็กและผู๎หญิงมีสถานภาพในสังคมตํ่า โอกาสในการเข๎าถึงอาหาร การศึกษา การทํางานและบริการสุขภาพมีน๎อย รวมทั้งคํานิยมแตํดั้งเดิมท่ี ผ๎ูหญิงมีบทบาทเป็นผ๎ูดูแลเด็ก ผู๎สูงอายุและครอบครัว ซึ่งอาจทําให๎ต๎องละทิ้งงานท่ีกํอให๎เกิดรายได๎ สิ่ง เหลํานสี้ งํ ผลตอํ ภาวะสขุ ภาพและทําใหเ๎ กิดความยากจนในผ๎หู ญิงเม่อื เข๎าสวํู ยั ชรา 4.1.2 วฒั นธรรม ได๎แกํ คํานิยมทางวัฒนธรรม (Culture value) และประเพณีนิยม (Tradition) ของแตลํ ะสงั คมเป็นตัวกาํ หนดกว๎างๆ วาํ สงั คมมองและปฏิบัติตํอผู๎สูงอายุและกระบวนการสูงอายุอยํางไร เพื่อเป็นบรรทัดฐานให๎แกํคนรํุนใหมํในการปฏิบัติตํอผู๎สูงอายุซ่ึงจะสํงผลตํอความเป็นอยูํ พฤติกรรม ตลอดจนสุขภาพของผส๎ู งู อายุ 4.2 ตวั กาหนด (Determinants) การเขา๎ สูํผ๎ูสูงอายุทม่ี ีศกั ยภาพ 4.2.1 ตวั กําหนดทางพฤติกรรม ได๎แกํ พฤติกรรมสุขภาพของผ๎ูสูงอายุแตํละบุคคลท่ีประกอบกัน เป็นปจ๓ จัยทางพฤตกิ รรมไดแ๎ กํ 4.2.1.1 กจิ กรรมทางกาย (Physical activity) การมสี ํวนรวํ มในกจิ กรรมอยํางสมํ่าเสมอ ชํวย ชะลอการเส่ือมของการทําหน๎าที่ของรํางกาย ลดระยะเวลาของการเกิดโรคเรื้อรังผ๎ูสูงอายุที่ยังคงความ กระตอื รอื ร๎น (Active) ได๎ต๎องมีสุขภาพจิตท่ดี ี มีการติดตํอกบั สงั คม การเปน็ ผ๎ูสงู อายทุ ีย่ ังกระตือรือร๎นชํวย 27

ให๎ผู๎สูงอายุคงไว๎ซ่ึงความเป็นอิสระ พ่ึงพาตนเองได๎ยาวนานมากขึ้น ลดภาวะเสี่ยงการหกล๎มและชํวยลด คําใช๎จํายในการรกั ษา 4.2.1.2 การรับประทานอาหารท่ีถูกสุขอนามัย (Healthy eating) ป๓ญหาโภชนาการของ ผส๎ู ูงอายุ มี 2 ประเภท คือ ภาวะทุพโภชนาการและภาวะโภชนาการเกนิ ภาวะทุพโภชนาการในผู๎สูงอายุมี สาเหตุจาก ขอ๎ จํากัดในการเข๎าถึงอาหาร สูญเสียฟ๓น สังคมเศรษฐกิจ ขาดความร๎ูในเร่ืองภาวะโภชนาการ และเลอื กรบั ประทานอาหารท่มี คี ุณคาํ ตาํ่ โรคและการใช๎ยา แยกตัวจากสังคม ภาวะทุพลภาพทางรํางกาย และสติป๓ญญาเป็นอุปสรรคในการซ้ือและเตรียมอาหารสํวนภาวะโภชนาการเกินมีสาเหตุมาจาก การ บริโภคอาหารมากเกิน ขาดการออกกําลังกาย โรคเรื้อรังและภาวะทุพพลภาพในผ๎ูสูงอายุ การขาด แคลเซียมและวิตามินดีทําให๎มีการสูญเสียความหนาแนํนของมวลกระดูก สํงผลให๎กระดูกหักงําย มักพบ มากในผู๎สูงอายุหญิง อุบัติการณ๑ของกระดูกหักนั้นสามารถลดลงได๎โดยการรับประทานแคลเซียมและ วติ ามินดี 4.2.1.3 สุขภาพปาก (Oral health) ป๓ญหาสุขภาพชํองปากเชํนโรคฟ๓นผุ โรคที่เกี่ยวกับเย่ือ ห๎ุมฟ๓น สูญเสียฟ๓นและมะเร็งชํองปาก สร๎างภาระทางเศรษฐกิจ ลดความรู๎สึกม่ันใจในตัวเองลดคุณภาพ ชีวิตผ๎ูสูงอายุ ป๓ญหาสุขภาพชํองปากของผู๎สูงอายุมีความสัมพันธ๑กับภาวะทุพโภชนาการและเพ่ิมความ เสยี่ งในการเกิดโรค การสงํ เสรมิ สุขภาพชํองปากและแผนงานที่สนบั สนุนประชาชนใหร๎ กั ษาสุขภาพฟ๓นด๎วย ตนเอง ต๎องเรมิ่ ตั้งแตใํ นวัยเดก็ และตอํ เนอื่ งจนถึงชวํ งสดุ ท๎ายของชีวติ 4.2.1.4 การสูบบุหร่ี (Tobacco use) การสูบบุหรี่เพิ่มภาวะเส่ียงตํอการเกิดโรคเชํน มะเร็ง ปอด การสญู เสียสมรรถนะในการทําหนา๎ ทขี่ องราํ งกายเนือ่ งจากการสบู บุหรเี่ รํงให๎อัตราการลดลงของมวล กระดกู เร็วขน้ึ ความแข็งแรงของกล๎ามเน้ือและการทาํ หนา๎ ท่ีเกีย่ วกับการหายใจลดลง เป็นสาเหตุหลักของ การตายกํอนวัยอันควรซง่ึ สามารถปูองกันได๎ 4.2.1.5 แอลกอฮอล๑ (Alcohol) การบรโิ ภคแอลกอฮอล๑ในผู๎สูงอายุน๎อยกวําวัยหนํุมสาว โรค ท่ีมสี าเหตุจากแอลกอฮอล๑ เชํน ภาวะทุพโภชนาการ โรคตับ แผลในกระเพาะอาหาร ตับอํอน เสี่ยงตํอการ หกลม๎ และการไดร๎ ับบาดเจบ็ มแี นวโน๎มที่จะมีอันตรายเพ่ิมขึ้นหากใช๎รํวมกับยา การแก๎ป๓ญหาการดื่มสุรา ควรท่ีจะทําควบคูํกันทั้งในวัยสงู อายุและวัยหนํุมสาว 4.2.1.6 การใช๎ยา (Medication) ผ๎ูสูงอายุเป็นวัยท่ีมีป๓ญหาเรื้อรังทางสุขภาพ จึงจําเป็นต๎อง ใช๎ยามากกวําวัยอื่นๆ ป๓ญหาการใช๎ยาที่พบในผ๎ูสูงอายุ คือ การซื้อยามารับประทานเองในผ๎ูสูงอายุใน ชนบท สวํ นในเมอื งจะใช๎จํายเก่ยี วกับยามากเกินไปและมกี ารใชย๎ าโดยไมํมใี บสัง่ ยา (โดยเฉพาะเพศหญิง) 4.2.1.7 การปฏิบัติตาม/การให๎ความรํวมมือในการรักษา (Adherence) นอกจากการได๎รับ ยาอยํางเพียงพอในการดูแลรักษาในระยะยาวแกํผู๎สูงอายุท่ีเจ็บปุวยเรื้อรังแล๎วยังต๎องประกอบด๎วยการ รํวมกันทจี่ ะคงไว๎ซ่ึงพฤติกรรมสุขภาพทด่ี ี (เชํน อาหารทีถ่ ูกสุขลักษณะ กจิ กรรมทางกาย ไมสํ ูบบหุ ร่ี) 4.2.2 ตวั กําหนดเก่ยี วกบั ปจ๓ จัยสวํ นบคุ คล ไดแ๎ กํ 4.2.2.1 ชีววิทยาและพันธุกรรม (Biological and genetic) การสูงอายุถูกกําหนด ขนึ้ โดยกระบวนทางชวี วทิ ยาซึง่ มพี ันธกุ รรมเปน็ ตัวกําหนด ซึ่งความยนื ยาวของชีวิต ภาวะสุขภาพและการ เกดิ โรคเป็นผลจากพนั ธกุ รรม สง่ิ แวดล๎อมวิถีชวี ติ อาหาร และโอกาสของบุคคล อทิ ธิพลทางพันธุกรรมเป็น ปจ๓ จยั ชักนําใหเ๎ กิดโรคเร้อื รัง เชนํ เบาหวาน โรคหัวใจอัลไซเมอร๑ และมะเร็ง ซึ่งได๎รับการถํายทอดมาทาง พนั ธกุ รรม 4.2.2.2 ป๓จจัยทางจิตวิทยา (Psychological factor) ป๓จจัยทางด๎านจิตวิทยาได๎แกํ ความฉลาด ความสามารถทางการคิด ความสามารถในการแก๎ป๓ญหาและการปรับตัวตํอการเปลี่ยนแปลง 28

และการสูญเสีย จะเป็นป๓จจัยสําคัญตํอการเข๎าสํูภาวะพฤฒพลังและการมีอายุยืนยาว ในผ๎ูสูงอายุน้ัน แนวโนม๎ ของความามารถในการเรยี นร๎ู ความจาํ ความสามารถทางการคิด ความสามารถในการแก๎ป๓ญหา และการปรับตวั ตอํ การเปลี่ยนแปลงจะลดลงตามอายุ ซง่ึ ความสามารถดงั กลําวมคี วามเก่ยี วขอ๎ งโดยตรงกับ การทําหน๎าที่ของสมองสํวนหน๎า (Prefrontal cortex) โดยสมองสํวนน้ีถือวําเป็นนายสมอง ทําหน๎าท่ี ควบคมุ ความคิดและการตัดสินใจทส่ี ํงผลทําใหเ๎ กิดการกระทําจนสําเร็จตามเปูาหมาย การทํางานดังกลําว จะเกิดการประสานการทํางานท้ัง 5 ด๎านสําคัญคือ (1) ความจําขณะทํางาน (Working memory) คือ ความสามารถในการจดจําขอ๎ มูลไวใ๎ นใจชวั่ คราวเพื่อจดั การขอ๎ มูลเหลาํ นัน้ ทง้ั ในด๎านเหตุผลและความเข๎าใจ (2) การวางแผนจัดการอยํางเป็นระบบ (Planning/ organization) คือการวางแผนการดําเนินการอยําง เป็นระบบ โดยคําถึงถึงเปูาหมาย มีแนวทางในการทํางานที่เหมาะสม มีการคาดการณ๑เหตุการณ๑หรือ ผลกระทบทีจ่ ะเกดิ ข้นึ ในอนาคต (3) การยบั ยงั้ ตนเอง (Inhibit) คอื สามารถหยดุ พฤตกิ รรมของตัวเอง หรือ ควบคุมพฤติกรรมให๎แสดงออกในชํวงเวลาที่เหมาะสมหรือในบริบทท่ีเหมาะสม (4) การควบคุมอารมณ๑ (Emotional control) คอื ความสามารถในการตอบสนองทางอารมณ๑อยํางเหมาะสมตามบริบทหรือตาม สถานการณ๑ขณะน้ัน และ (5) การเปลี่ยนความคิดเมื่อเงื่อนไขเปลี่ยนไป คือความยืดหยุํนทางความคิด (Cognitive fexibility) ทสี่ ามารถเปลย่ี นความคดิ ได๎อยํางอิสระเม่ือกิจกรรมท่ีกําลังคิดอยูํเปล่ียนแปลงไป เชนํ เม่ือเผชิญป๓ญหาทไี่ มเํ คยพบมากอํ น คนเราจะต๎องมที กั ษะในด๎านการคิดแกป๎ ญ๓ หาโดยใช๎เหตุผล สมอง จะต๎องประมวลขอ๎ มลู เกํากบั ข๎อมูลใหมเํ พอ่ื เปรยี บเทียบหาความเช่ือมโยง และวิเคราะห๑ข๎อมูลเหลําน้ันใน การหาทางแก๎ไขป๓ญหา นอกจากน้นั จะตอ๎ งมที ักษะในการควบคมุ อารมณ๑และการกระทําของตนเองให๎จด จํอกับสิ่งท่ีทําจนงานสําเร็จบรรลุเปูาหมาย ต๎องมีความคิดที่ยืดหยํุน สามารถปรับเปล่ียนความคิดได๎ จะ เห็นได๎วําทักษะท่ีกลําวมาข๎างต๎นน้ันล๎วนเกี่ยวข๎องกับการคิดเชิงบริหารของสมอง Brain executive functions (EF) (Zelazo, 2004) จะเห็นวําในการดํารงชีวิตของมนุษย๑จะต๎องใช๎ความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมอง ใน สถานการณใ๑ หมํท่ีไมํคุ๎นเคยเชํน เปล่ียนงาน เปลี่ยนสถานที่ เม่ือต๎องทําในส่ิงท่ีไมํเคยทํามากํอน เม่ือสิ่งท่ี กําลังทําไมํเป็นไปตามที่คาดหมาย เมื่ออยูํในสถานการณ๑ท่ีไมํคาดคิด เม่ือต๎องอดทนตํอส่ิงย่ัวยุและต๎อง เลือกทําส่ิงท่ีสําคัญกวํา เมื่อต๎องเลือกทําในส่ิงท่ีถูกต๎องเป็นท่ี ยอมรับของสังคม ในบริบทเหลํานี้ ความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมอง จะชํวยให๎เราบริหารจัดการงานจนสําเร็จได๎และชํวยให๎เรา ตัดสินใจได๎ถูกต๎องโดยคํานึงถึงผลท่ีจะตามมา (Gilbert & Burgess, 2008) และเมื่อพิจารณาถึงในกลุํม ผูส๎ ูงอายแุ ล๎ว จงึ จําเปน็ อยาํ งย่ิงที่จะต๎องรักษาและสงํ เสริมความสามารถนี้ไว๎ นั่นเป็นเพราะทักษะด๎านการ คิดเชิงบริหารของสมองจะพัฒนาอยํางมากในชํวงเด็กปฐมวัยตํอเนื่องไปจนถึงวัยเรียน วัยรํุน วัยทํางาน และจะมีแนวโน๎มลดลงในชํวงสูงวัย (Age-related reduction in executive function) ดังแสดงในภาพ ที่ 4 29

ภาพท่ี 18 การพฒั นาความสามารถการคดิ เชิงบรหิ ารของสมอง www.developingchild.harvard.edu 4.2.3 ตัวกําหนดทางด๎านส่ิงแวดล๎อมทางกายภาพ สิ่งแวดล๎อมทางกายภาพที่สํงผลตํอภาวะ พงึ่ พาและไมพํ ่งึ พาในผ๎ูสูงอายุ เชํน ผสู๎ งู อายุซงึ่ อาศยั อยํูในสง่ิ แวดล๎อมทีไ่ มํปลอดภัยหรือพ้ืนท่ีจํากัดมีส่ิงกีด ขวางที่ไมํสามารถหลีกออกมาได๎ มีแนวโน๎มท่ีจะแยกตัว ซึมเศร๎า และมีป๓ญหาในเร่ืองการเคลื่อนไหว เพิม่ ขึน้ ตวั กาํ หนดด๎านสงิ่ แวดล๎อมทางกายภาพควรตอ๎ งคํานงึ ถงึ ดงั ตอํ ไปน้ี 4.2.3.1 ท่อี ยูํอาศัยอันปลอดภัย เป็นส่ิงสําคัญท่ีสํงผลตํอความผาสุกของผู๎สูงอายุ สถานที่ต้ัง รวมถึงการท่ีได๎อยํูใกล๎กับสมาชิกในครอบครัว สถานบริการ และการขนสํง เหลําน้ีสํงผลตํอการมี ปฏิสมั พันธก๑ บั สังคมทด่ี ีหรือแยกตัว 4.2.3.2 การหกล๎ม ผ๎ูสูงอายุหกล๎มทําให๎เกิดการบาดเจ็บ เสียคําใช๎จํายในการรักษาและเป็น สาเหตุการตาย ผลของการบาดเจ็บมักรุนแรงในผู๎สูงอายุนําไปสูํภาวะพิการ อยูํโรงพยาบาลนาน ระยะเวลาในการฟ้ืนฟสู ภาพยาวนาน เส่ยี งตอํ การเกิดภาวะพ่ึงพาและเสี่ยงตํอการตาย ส่ิงแวดล๎อมท่ีเสี่ยง ในการหกลม๎ ได๎แกํ การมีแสงสวํางไมํพอเพียง พ้ืนท่ีลื่นหรือพ้ืนดินที่ไมํสมํ่าเสมอในการเดิน และขาดราว สาํ หรับจับ การหกลม๎ สํวนใหญํมักเกิดขนึ้ ในบา๎ นและสามารถปอู งกันได๎ 4.2.3.3 นา้ํ สะอาด อากาศบริสุทธ์ิ และอาหารปลอดภัย การได๎รับป๓จจัยพ้ืนฐานที่จําเป็นตํอ การดาํ รงชีวติ ซ่งึ ได๎แกํ นาํ้ สะอาด อากาศบรสิ ุทธแิ์ ละการได๎รับอาหารปลอดภัยเป็นส่ิงท่ีมีความสําคัญเป็น อยํางมากสําหรบั เดก็ ผ๎สู ูงอายุ ตลอดจนบุคคลซ่ึงมีภาวะเจบ็ ปวุ ยเรือ้ รงั และระบบภูมิคุ๎มกนั บกพรํอง 4.2.4 ตวั กาํ หนดเกย่ี วกบั สง่ิ แวดลอ๎ มทางสงั คมการสนับสนุนทางสังคม โอกาสทางการศึกษาและ การเรียนร๎ูตลอดชีวิต ความสงบสุขและการปกปูองความรุนแรงการทารุณกรรม เป็นตัวกําหนดที่ชํวย สงํ เสรมิ ให๎ผู๎สงู อายุก๎าวเขา๎ สูภํ าวะพฤฒพลงั 4.2.4.1 การสนับสนุนทางสังคม (Social support) การได๎รับการสนับสนุนทางสังคมจะทํา ใหเ๎ กดิ ความเข๎มแข็งทางอารมณ๑ผูส๎ งู อายุ ซง่ึ เป็นวัยที่ต๎องเผชิญกับการสูญเสียสมาชิกครอบครัวและเพ่ือน มากกวาํ วยั อ่นื ทาํ ให๎เกดิ ความร๎ูสึกโดดเด่ียว แยกตัวจากสังคมได๎งําย ดังน้ันการเสริมสร๎างให๎เกิดเครือขําย ทางสังคมแกผํ ู๎สงู อายุ การมอี าสาสมัคร การชํวยเหลือของเพือ่ นบา๎ น การเป็นที่ปรึกษาและการเย่ียมเยียน ครอบครัวผ๎ูดูแล จะสํงผลตํอการเปน็ ผู๎สงู อายทุ ่ีพ่ึงพาตนเองได๎ 30

4.2.4.2 ความรุนแรงและการทารุณกรรม (Violence and abuse) ผ๎ูสูงอายุซึ่งอยํูในสภาพที่ ออํ นแอหรืออยเูํ พียงลาํ พงั เสี่ยงตํอการเกดิ อาชญากรรม เชนํ การลกั ทรพั ยแ๑ ละทาํ ร๎ายราํ งกาย 4.2.4.3 การศึกษาและการอาํ นออกเขยี นได๎ (Education and literacy) การได๎รบั การศึกษา ในวัยเด็ก รวมท้ังโอกาสสําหรับการเรียนร๎ูตลอดชีวิต จะชํวยให๎ผู๎สูงอายุพัฒนาทักษะและความมั่นใจใน การปรับตัวกับสังคมและโลกที่เปล่ียนไป และสามารถพึ่งพาตนเองได๎ ซึ่งในสํวนของประเทศไทยนั้น รัฐบาลไดใ๎ ห๎ความสาํ คญั กบั การศึกษาสาํ หรบั ผส๎ู ูงอายุ ดงั จะเหน็ ได๎จากพระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแหํงชาติท่ี แก๎ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มีสาระสําคัญที่ให๎ความสําคัญของการศึกษาตลอดชีวิต ซึ่งเป็น การศึกษาที่ผสานกันทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย เพ่ือพัฒนา คณุ ภาพชีวิตไดอ๎ ยาํ งตํอเน่ืองตลอดชีวิต แม๎วําผส๎ู งู อายจุ ะผาํ นโลกมามากมปี ระสบการณ๑ในการทํางานและ การดํารงชีวิต ก็ยังคงต๎องเรียนร๎ูตลอดเวลาเพื่อพัฒนาตนเองให๎สามารถพ่ึงพาตนเองได๎เทําทันการ เปลีย่ นแปลงของสงั คมและประเทศในโลกยุคใหมํ โดยเช่ือวําหากผ๎ูสูงอายุได๎รับการศึกษาหรือการเรียนรู๎ ตลอดชีวิตแล๎วจะทําให๎มีความรู๎ ทักษะ และประสบการณ๑ตามความต๎องการของตน ยํอมสํงผลตํอการ พฒั นาตนเองและสังคมใหเ๎ จรญิ ก๎าวหนา๎ ตอํ ไป 4.2.5 ตวั กาํ หนดทางเศรษฐกจิ ได๎แกํ รายได๎ การทาํ งาน และการปกปอู งทางสังคม มีรายละเอียด ดงั ตอํ ไปนี้ 4.2.5.1 รายได๎ ประชาชนที่ยากจนมีความเส่ียงเพิ่มขึ้นที่จะเจ็บปุวยและเกิดภาวะทุพพล ภาพ ผสู๎ ูงอายซุ ่งึ ไมํมที รัพยส๑ ิน หรือมนี ๎อย หรือไมมํ กี ารเกบ็ ออม ไมํไดร๎ ับเบ้ยี บาํ นาญหรือเงินประกันสังคม หรือผู๎ซ่ึงอยํูในครอบครัวที่มีรายได๎ตํ่า หรือไมํแนํนอน โดยเฉพาะผ๎ูสูงอายุที่ไมํมีลูกหลานหรือสมาชิก ครอบครัวที่จะพ่ึงพาในอนาคต จะมคี วามเสย่ี งสูงท่จี ะไมมํ ที ีพ่ กั อาศัยและอยใูํ นสภาพทีข่ าดแคลน 4.2.5.2 การทํางาน หากผู๎สูงอายุได๎รับสวัสดิการท่ีดีในการทํางาน เชํนได๎รับการปกปูอง อนั ตรายจากการทํางาน ก็จะสามารถทําให๎ผู๎สูงอายุท่ียังมีสํวนรํวมเป็นกําลังแรงงานของประเทศมากข้ึน ดังน้ันควรสนับสนุนให๎ทุกประเทศตระหนักถึงการนําผู๎สูงอายุที่มีศักยภาพมาเป็นทรัพยากรสําคัญใน บทบาทของการเป็นอาสาสมัครในโรงเรียน ชุมชน สถาบันทางศาสนา ทางธุรกิจ องค๑กรทางสุขภาพ องค๑กรทางการเมือง บทบาทเหลํานี้ทําให๎มีโอกาสติดตํอกับสังคมซ่ึงสํงผลดีตํอความผาสุกทางจิตใจของ ผส๎ู ูงอายแุ ละยังเป็นการชวํ ยเหลือชมุ ชนและประเทศชาติ 4.2.5.3 การปกปอู งทางสังคม ทุกประเทศทัว่ โลกจดั ใหค๎ รอบครวั เป็นแหลํงสนับสนุนท่ีสําคัญ ของผ๎ูสงู อายุ โดยเฉพาะผูส๎ งู อายุกลํุมท่ีไมํสามารถหาเลย้ี งชพี ได๎ 5. แนวทางจดั การกระบวนการเรยี นรู้ในผสู้ ูงอายุ แนวคิดการศึกษาตลอดชีวิตในฐานะที่เป็นยุทธศาสตร๑การศึกษาของ Organization for Economic Co-operation and Development (OECD) และ Council of Europe เป็นแนวคิดท่ี ต๎องการให๎บุคคลเรียนรู๎ตลอดเวลาท่ียังมีชีวิตอยํูและได๎รับโอกาสทางการศึกษาในทุกชํวงวัย การศึกษา ตลอดชวี ติ จึงครอบคลุมการเรียนร๎ทู ุกรูปแบบและเกดิ ข้ึนได๎หลายวิธี นอกเหนือจาก หลักสูตรการเรียนรู๎ท่ี เปน็ ทางการในระบบการศึกษาแบบเปน็ ทางการ (Formal Learning) โดยเป็นการเรียนรู๎ที่ให๎ความสําคัญ กับการเรียนรู๎ท่ีไมํเป็นทางการ (Non-formal, In-formal, and Workplace learning experience) ที่ สามารถลดต๎นทุนการเรียนรู๎ ลดระยะเวลาการศึกษา และเพ่ิมผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ รวมถึงมี มาตรฐานและผลลพั ธ๑ของการเรยี นร๎ูท่ีชัดเจน และ สามารถประเมินผลการเรียนรู๎ได๎โดยมีหลักการสําคัญ คอื 31

1) เปน็ การเรียนเพื่อร๎ู โดยบุคคลจะผสมผสานความรูท๎ ัว่ ไปที่กว๎างขวางจากการเรียนรู๎ทุกรูปแบบ เพ่ือพฒั นาตนเองเป็นสําคัญอยํางตํอเนื่องตลอดชวี ิต 2) เป็นการเรียนรู๎เพื่อปฏิบัติได๎จริง หรือเป็นการเรียนร๎ูเพื่อพัฒนาทักษะหรือความเชี่ยวชาญให๎ สามารถนาํ ไปปฏิบตั ิใช๎ได๎จริงในการดาํ เนินชีวติ หรือการทํางาน 3) เป็นการเรียนรู๎ที่จะอยํูรํวมกัน โดยมํุงสํงเสริมให๎บุคคลเข๎าใจผู๎อ่ืนและตระหนักถึงการพึ่งพา อาศยั ซึ่งกนั และกนั การสรา๎ งความรํวมมอื และการแก๎ไขป๓ญหาขอ๎ ขัดแยง๎ ตาํ งๆ 4) เป็นการเรยี นร๎เู พ่อื ชวี ติ หรอื เปน็ การเรียนร๎ูเพ่อื พฒั นาคุณภาพชีวติ หรือความเจริญก๎าวหน๎าของ บุคคล ดงั นนั้ การศึกษาตลอดชวี ิตจงึ เปน็ การเรยี นร๎อู ยํางอิสระท่ีบุคคลสามารถจะกระทําได๎และเป็นสิ่งท่ี ควรจะต๎องเกิดขึ้นตลอดในทุกชํวงชีวิตของแตํละบุคคล โดยเฉพาะในผ๎ูสูงอายุน้ัน แนวทางการจัด การศึกษาสําหรับผ๎ูสูงอายุจะมุํงเน๎นให๎ผู๎สูงอายุนําไปปรับปรุงคุณภาพชีวิตให๎ดีย่ิงขึ้น โดยให๎เป็นผ๎ูที่มี สขุ ภาพดี ไดอ๎ ยใูํ นสภาพแวดล๎อมท่ีดี มีศีลธรรม มีคุณธรรม เพ่ือใช๎ชีวิตอยูํในสังคมได๎อยํางมีความสุขและ ชํวยถํายทอดมรดกของแตํละสังคมไปสูํอนุชนรํุนหลังตํอไป ซ่ึงจะเห็นได๎วํา แนวทางในการจัดการศึกษา สาํ หรบั ผู๎สงู อายุจะตอ๎ งจัดการศึกษาให๎ตอบสนองความต๎องการพื้นฐานของผ๎ูสูงอายุ อันผสมกลมกลืนกับ ทฤษฎีตาํ งๆ ของผ๎สู ูงอายุ อันเป็นการศึกษาอยํางตํอเน่ืองตลอดชีวิต เพื่อชํวยพัฒนาคุณภาพชีวิตผู๎สูงอายุ ใหส๎ ามารถอยํใู นสงั คมไดอ๎ ยํางมคี วามสุข แนวทางการจัดการศึกษาในผ๎ูสูงอายุโดยสํวนใหญํจะแบํงออกเป็นการศึกษานอกระบบโรงเรียน และการศึกษาตามอัธยาศัยสําหรับผู๎สูงอายุ ซึ่งได๎รับอิทธิพลสําคัญมาจากการเปล่ียนแปลงทางด๎าน รํางกาย จิตใจ และด๎านสังคมที่เกิดขึ้นโดยตรงกับผ๎ูสูงอายุและต๎องยึดหลักการสํงเสริมสนับสนุนให๎ ผสู๎ ูงอายุปรับตัวเข๎ากับสภาพแวดล๎อมในวัยของตนได๎เป็นอยํางดี อีกทั้งควรตอบสนองปรัชญาการศึกษา ตลอดชีวิตซึ่งอธิบายวํา บุคคลต๎องเกิดการเรียนรู๎ตลอดเวลา (สุรกุล เจนอบรม 2537, สํานักงานสํงเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 2551) โดยกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนและ การศึกษาตามอัธยาศัยสําหรับผู๎สงู อายุ สามารถแบงํ ออกเป็น 3 ประเภท ได๎แกํ 1) กจิ กรรมการศึกษาดา๎ นความรู๎พ้ืนฐาน เพ่ือให๎เกดิ ความรู๎พื้นฐานทจ่ี ําเป็นตํอการดํารงชีวิต 2) กิจกรรมด๎านการฝึกทักษะ เพ่ือให๎ความร๎ูและทักษะอาชีพ สร๎างรายได๎กํอให๎เกิดการ พง่ึ ตนเอง 3) กิจกรรมดา๎ นขําวสารข๎อมลู ซึ่งเป็นการศึกษาตามอัธยาศัยของผู๎สูงอายุ เพื่อผ๎ูสูงอายุเกิดการ เรยี นรูต๎ ลอดชวี ิตในการรบั มอื กบั ปญ๓ หาตํางๆ ในชวี ิตได๎อยาํ งเหมาะสม 6. ทิศทางการวจิ ัยเพอ่ื สังคมผสู้ งู อายุไทย การวิจัยด๎านสังคมผ๎ูสูงอายุไทยในระยะ 10 ปีท่ีผํานมา (พ.ศ.2551-2560) มีความนําสนใจและ เป็นประโยชน๑ตํอแนวทางการพัฒนาศกั ยภาพของผู๎สูงอายไุ ทย ซงึ่ จากการทบทวนบทความวิชาการพบวํา หัวข๎อการวจิ ยั มีในมิตติ ํางๆ เชนํ การนยิ ามศพั ทผ๑ ๎ูสูงอายุ นโยบายการขยายอายกุ ารทํางาน การออมเงินใน ผู๎สงู อายุโรงเรียนผู๎สงู อายุ ศนู ย๑พฒั นาคณุ ภาพผสู๎ งู อายุ การออกแบบกิจกรรมสงํ เสริมสุขภาพผู๎สูงอายุ การ วิจัยด๎านการสังเคราะห๑งานวิจัยท่ีศึกษาความสัมพันธ๑ระหวํางลักษณะทางจิตและสังคมที่เกี่ยวข๎องกับ คุณภาพชีวติ ของผส๎ู งู อายุ และการวิจัยประเมินแผนพัฒนาผู๎สูงอายุแหํงชาติ เป็นต๎น ซึ่งในประเทศไทยมี ตวั อยํางการวิจัยที่นาํ สนใจดงั น้ี 32

6.1 มโนทัศน์ใหม่ของนิยามผู้สูงอายุ: มุมมองเชิงจิตวิทยาสังคม และสุขภาพ (รศรินทร๑ เกรย๑ 2556, มหาวิทยาลัยมหิดล) โครงการวิจัยนี้มีเปูาหมายเพี่อค้นหาความหมายของการเป็นผู้สูงอายุ ท้ังใน อดีต ปัจจุบัน อนาคต ในมุมมองเชิงจิตวิทยาและสังคมสุขภาพ วิธีการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บ รวบรวมข้อมูลด้วยการจัดสนทนากลุ่มกับประชากรเป้าหมาย 45 กลุ่ม ที่อาศัยอยู่ทั้งในเขตเมืองและ ชนบท ของกรุงเทพฯและจังหวัดใน 4 ภาคของประเทศไทย (เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา และนครปฐม) และทำาการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้บริหาร และนักวิชาการท่ีเก่ียวข้อง ผลการศึกษาวิจัยพบความ หลากหลายของการให้ความหมายของคาว่า “ผู้สูงอายุ”การจะเรียกบุคคลใดเป็นผู้สูงอายุมีแนวทาง พิจารณาจาก 1) เกณฑ์อายุตามปีปฎิทิน คือ คนที่มีอายุ 60 ปีข้ึนไปตามเกณฑ์ของทางราชการ 2) ดูจาก ลักษณะภายนอก เช่น หน้าตาท่ีดูมีอายุ หรือแก่ ผิวหนังเหี่ยวย่น ผมหงอก 3) สุขภาพและความจาไม่ดี เป็นวยั ทต่ี อ้ งพง่ึ พงิ ผูอ้ นื่ 4) ความสามารถในการทางานลดลง หรือไม่สามารถทางานได้แล้ว 5) พฤติกรรม และอารมณ์ เช่น จุกจิก ขี้บ่น ย้าคิดย้าทา 6) การเปลี่ยนแปลงสถานภาพเป็น ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด ซ่ึง ข้อเสนอแนะจากโครงการวจิ ัยมดี งั นี้  นิยามผสู้ งู อายุควรใช้เป็นตวั เลขท่ี 65 ปี เนือ่ งจากเปน็ ความเห็นสว่ นใหญ่จากผเู้ ขา้ รว่ ม สนทนากลมุ่ และผู้ใหส้ ัมภาษณเ์ ชิงลึก รวมทัง้ หลกั ฐานเชิงประจักษ์ของตวั เลขทางดา้ น ประชากรศาสตร์ท่วี า่ คนไทยมอี ายุยืนยาวข้ึน และการกาหนดด้วยอายุเปน็ มาตรฐาน เดยี วกนั จะทาให้สามารถบริหารจดั การกาลังคนได้  นอกเหนอื จากการเปล่ียนนยิ ามผู้สูงอายแุ ลว้ ควรมีการเปลย่ี นทศั นคติของสงั คมทีม่ ีตอ่ ผสู้ ูงอายุให้เป็นเชงิ บวกมากข้นึ  การเชอื่ มโยงนิยามผส้ ูงอายุใหมก่ ับอายกุ ารทางาน หรอื ขยายอายุเกษยี ณในภาคราชการและ เอกชนนั้น ตอ้ งไดร้ ับการศึกษาอยา่ งรอบด้านในเรอื่ งผลกระทบท่จี ะเกิดข้นึ  ควรตอ้ งมกี ารศึกษาถึงผลกระทบดา้ นงบประมาณของรฐั ท่ีจะเป็นคา่ ใชจ้ ่ายดา้ นสวัสดกิ ารของ ผ้สู ูงอายใุ นสังคมไทยท่ีกาลงั สูงวัยข้ึนอยา่ งต่อเนอ่ื ง โดยเฉพาะหากไมม่ ีการปรบั เปลยี่ นนิยาม ผสู้ ูงอายุ  การเปลีย่ นแปลงนยิ ามผู้สูงอายนุ ้ัน ควรมีการสือ่ สารและช้แี จงลว่ งหน้าแกส่ งั คม เชน่ การให้ ความรูเ้ กี่ยวกบั การเปล่ยี นแปลงของโครงสร้างอายขุ องประชากรทีจ่ ะมีผ้สู งู อายเุ พม่ิ ขึ้น และ ผลกระทบทอ่ี าจเกดิ ข้นึ  มโนทัศน์ใหม่ของนิยามของผู้สูงอายุ ควรใชเ้ พื่อการปรบั เปลย่ี นทศั นคติของสงั คมทม่ี ีตอ่ ผูส้ ูงอายุ รวมทงั้ การเตรียมความพรอ้ มของประชากรใหเ้ ข้าสู่วัยสงู อายุอย่างมคี ณุ คา่ 6.2 โครงการทบทวนวรรณกรรมบทเรยี นประสบการณ์ทางนโยบายการขยายอายุการทางาน จาก 3 ประเทศ (สหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และญ่ีปุ่น) (สวรัย บุณยมานนท๑ ปภัศร ชัยวัฒน๑ และวร เวศม๑ สวุ รรณระดา 2556, จฬุ าลงกรณม๑ หาวิทยาลยั ) โครงการวิจัยน้ีมีเปูาหมายเพ่ีอนาเสนอนโยบายและ แนวทางการขยายอายุการทํางาน ผลการศกึ ษาวจิ ัยมดี ังนี้  การขยายอายุเกษียณหรืออายุการทางานสหราชอาณาจักร เป็นผลมาจากปรับเปลี่ยน นโยบายบานาญของรัฐซึ่งระบุว่า การรับผลประโยชน์ของผู้สูงอายุในลักษณะบานาญ จะ ข้ึนกับจานวนปีท่ีได้จ่ายเงินสมทบตามที่กฎหมายกาหนดไว้ การดาเนินนโยบายในแต่ละ ขั้นตอนมีการชี้แจงถึงกระบวนการ ผลกระทบ และประโยชน์ท่ีจะได้รับเพื่อให้ประชาชน เข้าใจโดยท่ัวถึง ผา่ นช่องทางสอื่ สาธารณะอยา่ งสม่าเสมอ ส่งิ ท่ีน่าสนใจคอื 33

1) แรงงานชายทีอ่ ายุ 65 ปี จะมกี ารวางแนวทางในการเพ่ิมอายเุ กษียณเป็น 66 ปีในปี 2030 เพิม่ เป็น 67 ปใี นปี 2040 และเพ่ิมเปน็ 68 ปีในปี 2050 2) แรงงานหญิงกําหนดให๎อายุเกษียณที่อายุ 60 ปีและวางแนวทางในการเพิ่มอายุเกษียณ เป็น 65 ปี ในปี 2020 เพ่ิมเป็น 66 ปีในปี 2030 เพิ่มเป็น 67 ปีในปี 2040 และเพิ่ม 68 ปี ในปี 2050  การขยายอายเุ กษียณหรืออายกุ ารทางานญ่ีปุน่ ในป๓จจบุ นั อายุเกษียณของผ๎ูที่เป็นลูกจ๎างใน ญ่ีปุนถูกกําหนดโดยกฎหมาย จากการแก๎ไขกฎหมายเสถียรภาพการจ๎างงานผ๎ูสูงอายุในปี 2004 อายุเกษียณถูกขยายเป็น 65 ปีจากเดิมที่กําหนดไว๎ท่ี 60 ปี รัฐบาลพยายามออก กฎหมายสํงเสรมิ ให๎ภาคเอกชนสงํ เสริมการจา๎ งงานผู๎ทมี่ อี ายุมากกวํา 60 ปี โดยมีการกําหนด เปูาหมายลํวงหน๎าวําจะขยับอายุเกษียณข้ึนเป็น 65 ปี โดยใช๎มาตรการคํอยๆปรับแก๎ไข กฎหมาย สํงเสริมและเตรียมการมาเร่ือยๆ ยกตัวอยํางเชํน ในปี 2007 มีการแก๎ไข “กฎหมายการจ๎างงาน” เพื่อบังคับให๎นายจ๎างยกเลิกการจํากัดอายุในการรับสมัครหรือการ รบั เขา๎ ทาํ งาน และเร่มิ บงั คบั ใช๎ตั้งแตํปี 2013 ส่วนกรณขี องขา้ ราชการสงั กัดรัฐบาลกลาง อายุ เกษียณจะถูกกาหนดโดยกฎหมายข้าราชการส่วนกลางและระเบียบของ National Personal Authority โดยพ้นื ฐานข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าท่ีบริหารธุรการทั่วไป อายุเกษียณ 60 ปี ในสายงาน/ อาชพี อนื่ ๆ จะมากกวา่ 60 ปี แตจ่ ะมกี ารกาหนดไวใ้ นกฎหมายอ่ืน  การขยายอายุเกษียณหรืออายุการทางานเกาหลีใต้ รัฐสภาเกาหลีใต้ได้ผ่านกฎหมายในปี 2556 ให้กาหนดอายุเกษียณอย่างน้อยท่ี60 ปี สาหรับผู้ท่ีทางานท้ังในภาครัฐและเอกชน และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในสถานประกอบการที่มีขนาดตั้งแต่ 300 คนข้ึนไป ตั้งแต่วันท่ี 1 มกราคมพ.ศ. 2559 เป็นต้นไป นอกจากน้ีเกาหลีใต้มีระบบการกาหนดจุดสูงสุดของค่าจ้าง (Wage Peak System) เป็นมาตรการลดอัตราเงินเดือนของแรงงานผู้สูงอายุ เพื่อแลกกับ ความมนั่ คงในการจา้ งงาน ภายใต้ระบบการกาหนดจุดสูงสุดของค่าจ้างน้ี ผู้สูงอายุมีโอกาสท่ี จะทางานต่อไปได้นานขึ้น โดยจะได้รับเงินเดือนในอัตราท่ีลดลง (ประมาณร้อยละ 10 ของ เงินเดือนเดมิ ) และทีน่ า่ สนใจคือ ระบบการบริการจัดหางานสาหรับผู้สูงอายุ กระทรวงการ จา้ งงานและแรงงานของประเทศเกาหลใี ต้ไดจ้ ัดบรกิ ารการหางานสาหรบั ผู้สงู อายุ โดยบริการ น้ีมงุ่ เนน้ การใหบ้ รกิ ารที่ครบวงจร ต้ังแต่การให้คาปรึกษา การอบรม ไปจนกระทั่งการจัดหา งาน เพ่ือเป็นการส่งเสริมโอกาสการทางานให้แก่ผู้สูงอายุ โดยผู้สูงอายุไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพอ่ื รับบริการน้ี 6.3 โครงการวิจัยผลกระทบด้านมหภาคและจุลภาคของขยายอายุเกษียณ (วรเวศม๑ สุวรรณ ระดา 2556, จุฬาลงกรณ๑มหาวิทยาลัย) โครงการวจิ ยั น้มี ีเปูาหมายเพ่อี ศึกษาและคาดประมาณผลกระทบ ของการเพม่ิ ระยะเวลาการทางานหรอื การขยายอายุเกษียณต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในระดับจุลภาค (ลูกจ้าง) และตวั แปรทางเศรษฐกิจมหภาคทส่ี าคัญ ผลการศึกษาวิจัยมีดงั น้ี  ในปีแรกของการดาเนินนโยบาย ในกลุ่มนายจ้างภาคเอกชน การเลื่อนอายุเกษียณจากการ ทางานเป็น 60 ปี จะมีต้นทุนส่วนเพ่ิมคงท่ีอยู่ท่ีปีละประมาณ 32,592 ล้านบาท เม่ือดาเนิน นโยบายต้ังแต่ปีที่ 10 เป็นต้นไป ในส่วนของภาระการคลังภาครัฐ พบว่าหากมีการดาเนิน นโยบายภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว รัฐบาลจะมีภาระการคลังท่ีสาคัญใน 2 ส่วน คือ 1) ค่าจ้าง ของลกู จ้างภาครัฐส่วนเพ่ิม และ 2) ต้นทุนสวัสดิการท่ีภาครัฐจ่ายสมทบให้กับลูกจ้างเหล่าน้ี ท่ีนา่ สนใจคือ แม้ว่ารัฐจะมีรายจ่ายในส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้น แต่เมื่อวิเคราะห์ถึงภาระทางการ 34

คลังสทุ ธิของรฐั บาล พบว่า รายจ่ายไม่ได้เพ่ิมข้ึนอย่างมีนัยสาคัญ เนื่องจากรัฐบาลสามารถมี รายไดจ้ ากภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดาของแรงงานท่ที างานอย่างต่อเน่ือง โดยเฉพาะอย่างย่ิงใน กลุ่มผทู้ ่เี ปน็ ลูกจา้ งภาคเอกชน เพอ่ื เปน็ สว่ นทดแทนกบั รายจ่ายทงั้ 2 สว่ นขา้ งต้น  ผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับมหภาค หากมีการขยายอายุเกษียณการทางาน พบว่า การ ดาเนินนโยบายดังกล่าวนี้ จะสามารถช่วยบรรเทาผลจากการเปล่ียนแปลงทางโครงสร้าง ประชากรสู่สังคมสงู วัยทีจ่ ะทาใหเ้ กิดการขาดแคลนประชากรวยั แรงงาน สง่ ผลโดยตรงต่อการ ชะลอตวั ลงของระบบเศรษฐกิจไทยได้ส่วนหน่ึง แต่ก็ยังไม่มากพอกับระดับความรุนแรงของ ภาวะการขาดแคลนแรงงานท่ีจะเกิดขึ้นในอนาคต ส่ิงที่ภาครัฐควรเร่งให้ความสาคัญในการ ผลักดันเพ่ือบรรเทาผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะช่วยได้อย่างมี นัยสาคัญในระยะยาว คอื การส่งเสรมิ การออมและการพฒั นาเทคโนโลยใี นกระบวนการผลติ 6.4 โครงการวิจัยการออม ความม่ันคง และบานาญผู้สูงอายุของครัวเรือนไทย (ดิเรก ป๓ทม สิรวิ ัฒน๑ และ สวุ ิมล เฮงพัฒนา 2557, สถาบนั บณั ฑิตพัฒนบริหารศาสตร๑ และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิ โรฒ) โครงการวิจัยน้ีมีเปูาหมายเพี่อศึกษาพฤติกรรมการออมของครัวเรือนไทย การสะสมทรัพย์สินหรือ ความมั่งคั่ง การมีหลักประกันทางสังคม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีบานาญผู้สูงอายุ) โดยคานึงถึงความ แตกต่างและหลากหลายตามสถานะรวย/จน อาชีพ/ชนชัน้ และระดบั การศึกษา ผลการศกึ ษาวิจัยมดี งั นี้  อัตราการออมของครัวเรือนไทยซ่ึงมีความผันผวนปีต่อปีมีแนวโน้มลดลงการเปล่ียนแปลง เช่นน้ีคาดว่ามาจากหลายสาเหตุ อาทิ วัฒนธรรมบริโภคนิยมตามกระแสโลกาภิวัตน์ ความ ตอ้ งการผลติ ภัณฑใ์ หมด่ า้ นสอ่ื สารคมนาคม และการขยายตวั ของสินเช่อื ผบู้ ริโภค  ร้อยละ 26 ของครัวเรอื นไทยมี “การออมตดิ ลบ”  ร้อยละ 28 ของครวั เรอื นไทยมี “การออมไม่เพยี งพอ” ซง่ึ หมายถงึ มีการออมแต่ออมไดน้ ้อย กวา่ ค่าท่ีควรจะเปน็ (มกี ารออมเพยี งร้อยละ 0-20 ของรายได้)  พฤติกรรมกลุ่ม คือ การจัดต้ังกองทุนออมทรัพย์/กองทุนฌาปนกิจ ซ่ึงดาเนินการภายใน หมู่บ้านโดยผู้นาชุมชนมีบทบาทในการโน้มน้าวให้ครัวเรือนออมเพ่ิมขึ้นเพื่ อหวังจะได้สิทธิ ประโยชน์ 6.5 โครงการวิจัยการทบทวนวรรณกรรมอยา่ งเป็นระบบเรื่องมาตรการป้องกันการหกล้มใน ผู้สูงอายุ (ธัญญารัตน๑ อโนทัยสินทวี แสงศุลี ธรรมไกรสร และ พัฒน๑ศรี ศรีสุวรรณ 2557, โครงการ ประเมินเทคโนโลยแี ละนโยบายดา๎ นสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข) โครงการนี้มีเปูาหมายเพี่อวิจัยทบทวน วรรณกรรมอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับมาตรการการป้องกันการหกล้มที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับ บริบทของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นมาตรการท่ีไม่ใช้ยา และเป็นมาตรการท่ีผู้สูงอายุหรือผู้ดูแลสามารถ นาไปปฏิบัติได้ด้วยตนเอง ผลการศึกษาวิจัยมาตราการท่ีช่วยลดความเสี่ยงต่อการหกล้มได้อย่างมี นัยสาคญั มีดังนี้  การออกกาลงั กายท่ีช่วยเร่ืองการเดนิ และการทรงตวั  การออกกาลังกายทีม่ ีการเคลื่อนไหวแบบ 3 ระนาบ คอื การเคล่ือนไหวท่ีไปข้างหน้า-ข้างหลัง การเคล่ือนไหวไปข้างๆ และการเคลอื่ นไหวแบบขึ้น-ลง  การปรับเปลีย่ นสภาพแวดล้อมในบา้ นใหเ้ หมาะสม  การลดละเลิกยาท่ีมีผลต่อจติ ประสาท  การใชร้ องเทา้ และแผน่ รองรองเท้าท่ีเหมาะสม 35

 การใชม้ าตรการป้องกันการหกล้มหลายมาตรการรว่ มกนั 6.6 โครงการวิจัยการประเมินสัมฤทธิผลศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุเทศบาลนคร นนทบุรี (ศศิพัฒน๑ ยอดเพชร 2558, คณะสังคมสงเคราะห๑ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร๑) โครงการนี้มี เปูาหมายเพี่อศกึ ษาความคมุ้ ค่าทางสงั คมของการปฏิบัติภารกิจของรัฐในประเด็นประสิทธิภาพสัมฤทธิผล การดาเนินงานของศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เทศบาลนครนนทบุรี และผลกระทบจากการ ดาเนินงาน โดยใช้วิธีการศึกษาทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ การเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ แบบสอบถามที่ประเมินความพึงพอใจการใช้บริการที่ศูนย์ และสัมภาษณ์ระดับลึกกับผู้สูงอายุท่ีประสบ ความสาเร็จ (Case study) และบุคลากรผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ใช้การวิเคราะห์เชิงเน้ือหา (Content analysis) ผลการศึกษาวิจยั มดี ังนี้  การดาเนินงานของศูนย์ผ่านเกณฑ์ด้านความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และนโยบายในด้าน กระบวนการให้เกิดผลผลิต การกาหนด/จัดสรรทรัพยากรอย่างมีมาตรฐาน การกาหนด/มี คา่ ใช้จ่ายทเ่ี หมาะสม และการประหยดั ทรพั ยากร  การประเมินค่าเฉล่ียในเรื่องอารมณ์ สังคม สุขภาพร่างกาย ด้านจิตวิญญาณ (ปัญญา) และ จิตใจ ของกลมุ่ ตัวอยา่ งผ้สู ูงอายุผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน มีระดบั สมั ฤทธผิ ลเกินรอ้ ยละ 50  เปน็ ศนู ยต์ น้ แบบดา้ นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและศูนย์การแลกเปล่ียนเรียนรู้ใน ระดบั ชาติ  มีผู้สูงอายุมาใช้บริการรวมทั้งส้ิน 6,383 คน ตั้งแต่ปี 2556- 2558 มีหน่วยงาน/องค์กร ภาครัฐและเอกชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศมาศกึ ษาดงู านอย่างต่อเนอื่ ง 6.7 โครงการวิจัยการสังเคราะห์งานวิจัยท่ีศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางจิตและ สังคมที่เก่ียวข้องกับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในประเทศไทย (นริสรา พึ่งโพธ์ิสภ และ ฐาศุกร๑ จัน ประเสรฐิ 2559, สถาบนั วิจัยพฤติกรรมศาสตร๑ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ) โครงการนี้มีเปูาหมายเพ่ีอ รวบรวมและประมวลผลงานวิจัยท่ีศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางจิตและสังคมท่ีเก่ี ยวข้องกับ คณุ ภาพชีวิตของผสู้ ูงอายุ ตลอดจนค้นหาปัจจัยเชิงเหตุ ด้านจิตและสังคมที่เก่ียวข้องกับคุณภาพชีวิตของ ผสู้ งู อายุ ผลการวจิ ยั มดี งั นี้  งานวิจยั เกย่ี วกบั คณุ ภาพชีวิตผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะใชท้ ฤษฎีคุณภาพชีวติ ของ WHO งานวจิ ัย เกอื บท้งั หมดแบ่งองคป์ ระกอบของคณุ ภาพชีวิตผู้สูงอายุเป็นรายด้านได้แก่ ดา้ นสขุ ภาพ รา่ งกาย ดา้ นสภาพทางสังคม ดา้ นสขุ ภาวะทางจติ ใจ และดา้ นสภาพทางเศรษฐกิจ  งานวจิ ัยเกี่ยวกบั คณุ ภาพชวี ิตผู้สงู อายสุ ่วนใหญจ่ ะใชเ้ คร่ืองมอื วดั คุณภาพชวี ิตขององคก์ าร อนามยั โลกชุด 26 ตัวชีว้ ัด (WHOQOL-BREF)  งานวิจยั น้ีแสดงถงึ ปัจจยั สาคัญทส่ี ่งผลถงึ คุณภาพชวี ิตของผ้สู งู อายุ ได้แก่ (1) โปรแกรมการ แนะแนวกลุม่ (2) ความสามารถของตนเองในการมคี ณุ ภาพชวี ิตทดี่ ี (3) ความสมั พันธ์ใน ครอบครัว (4) รายได้ของผ้สู งู อายุ และ (5) ความสามารถในการเผชญิ ปญั หาและฝ่าฟนั อปุ สรรค 6.8 โครงการวิจัยการถอดบทเรียนตัวอยา่ งทดี่ ขี องโรงเรียนผสู้ ูงอายุ (ศศิพัฒน์ ยอดเพชร ภาวนา พัฒนศรี และ ธนิกานต์ ศักดาพร 2559, คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) โครงการน้ีมีเปูาหมายศึกษาคุณลักษณะโครงสร้างการบริหารของโรงเรียนผู้สูงอายุและถอดบทเรียน หลกั สูตรการพฒั นาเปน็ ผู้สูงอายุทีม่ ศี ักยภาพ ผลการวิจัยมดี งั นี้ 36

 โรงเรยี นผสู้ ูงอายุดาเนินงานในลักษณะชุมชนจัดทาข้ึนเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุผ่านการ ถ่ายทอดความรู้อยา่ งเป็นระบบ ในบรรยากาศการเรียนรแู้ บบสนุกสนานและรน่ื เรงิ  นักเรียนผู้สูงอายุที่เข้ารับการศึกษาในหลักสูตร มีศักยภาพในด้านการดูแลตนเอง ควบคุม ตนเอง การพ่ึงตนเองดขี นึ้ มากภายหลังเขา้ รบั การอบรม  หลักสูตรที่เหมาะสมสาหรับโรงเรียนผู้สูงอายุ ประกอบด้วย เน้ือหาความรู้ที่ผู้สูงอายุต้องรู้ ร้อยละ 50 ควรรู้ร้อยละ 30 และอยากรู้ ร้อยละ 20 ภายใต้ชั่วโมงเรียนไม่น้อยกว่า 96 ช่วั โมง 6.9 โครงการวิจัยการติดตามและประเมินผลแผนผู้สูงอายุแห่งชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545 - 2564) ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2555 - 2559) (วิราภรณ์ โพธิศิริ และคณะ 2560, วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) โครงการน้ีมีเปูาหมายเพื่อติดตามและประเมินผลการดาเนินงานตามแผน ผู้สูงอายุแห่งชาติและค้นหาปัจจัยท่ีส่งผลต่อความสาเร็จของการบริหารจัดการเพ่ือการพัฒนางานด้าน ผู้สูงอายุ อันนาไปสู่ข้อเสนอแนะในการปรับแผนผู้สูงอายุให้สอดคล้องสถานการณ์ความเป็นจริง ผลการวจิ ยั มดี ังน้ี  ผลการติดตามและประเมินผลการดาเนินงานด้านผู้สูงอายุตามดัชนีชี้วัดในแผนผู้สูงอายุ แห่งชาติ พบว่า ดัชนีชี้วัดทั้งหมด 56 ดัชนี มีเพียง 27 ดัชนีเท่าน้ันท่ีผ่านเกณฑ์เป้าหมายปี 2559 คิดเป็นร้อยละ 48.2  ผลการประเมินการเตรียมความพร้อมของประชากรเพ่ือเข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ พบว่ากลุ่มประชากรอายุ 18-59 ปี มีการเตรยี มตัวเพยี งรอ้ ยละ 30 ซง่ึ ตา่ กวา่ คา่ เปา้ หมาย  ผลการประเมินพบว่าการจัดสรรงบประมาณให้กับกิจกรรมด้านผู้สูงอายุขององค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถนิ่ ยงั คงมคี วามผันผวน  ผลการประเมินพบว่าสถานท่ีสาธารณะจานวนมากยังขาดอุปกรณ์อานวยความสะดวกแก่ ผสู้ งู อายุ  ไม่มีการออกมาตรการเก้ือหนุนให้เอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินจัดบริการด้าน สุขภาพและสังคมให้แก่ผู้สูงอายุ และยังไม่มีการดาเนินการจัดทาแผนผลิตบุคลากรด้าน ผสู้ งู อายอุ ย่างเป็นรูปธรรม  การดาเนินงานด้านผู้สูงอายุยังไม่ประสบความสาเร็จเท่าที่ควร เน่ืองจากมีหลายหน่วยงาน ไม่ได้ให้ความสาคัญกับภารกิจท่ีเก่ียวข้องกับวัยสูงอายุ การดาเนินงานขาดการบูรณาการท่ี เป็นรูปธรรม การกระจายอานาจและการถา่ ยโอนภารกิจไปสู่ท้องถ่ินยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และ ขาดการเช่ือมโยงระบบฐานข้อมูลผู้สูงอายุทั้งในระดับประเทศและท้องถ่ิน ส่งผลให้การ ปรับปรุง ติดตามและพัฒนางานตามแผนผู้สูงอายุเป็นไปอย่างล่าช้า และไม่ตอบสนองกับ ปัญหาท่เี กิดขนึ้ 37

บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินการวิจัย กรอบแนวคิดการวจิ ัย จากข๎อมูลทางวิชาการและการวิจัยพบวําการดําเนินงานด๎านผู๎สูงอายุไทย ควรมีการพัฒนาในด๎าน สําคัญดังตํอไปน้ี คือ (1) ผลักดันให้เร่ืองสังคมสูงอายุเป็นระเบียบวาระแห่งชาติ (2) ปรับปรุงดัชนีช้ีวัด การบูรณาการงานดา้ นผสู้ ูงอายุ (3) สร้างความรู้ทางสุขภาพและระบบการดูแลสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม (4) เพ่ิมโอกาสในการทางานแก่ผสู้ ูงอายุ (5) การเตรยี มการดา้ นบุคลากรเพื่อรองรับสังคมสูงอายุ (6) สร้าง ฐานข้อมูลผู้สูงอายุอย่างเป็นระบบและบูรณาการ และ (7) ระบบการเรียนรู๎ตลอดชีวิต ซึ่งนโยบายของ รฐั บาลทม่ี ุํงเน๎นการสร๎างสังคมผ๎ูสูงอายุท่ีมีคุณภาพชีวิตท่ีดีนั้น จําเป็นอยํางยิ่งท่ีจะต๎องเตรียมพร๎อมทั้ง 7 ดา๎ นดังกลําว ซงึ่ หากมกี ารเตรียมความพรอ๎ มทีด่ ี ประเทศไทยจะมีผ๎ูสูงอายุที่เป็นไปตามแนวคิดการพัฒนา ภาวะพฤฒพลงั ขององคก๑ ารอนามัยโลกท่ีมํุงหวังให๎ผู๎สูงอายุเป็นกลุํมประชากรท่ีมีคุณคําทางสังคมรวมท้ัง การเสริมความร๎ใู หก๎ บั สงั คม และศกั ยภาพผสู๎ ูงอายุตามแนวคิดภาวะพฤฒพลัง คือ (1) การมีสุขภาพดี (2) การมีสวํ นรํวมในสงั คม และ (3) การสรา๎ งหลกั ประกนั และความม่ันคงใหต๎ นเอง การบรรลุผลของการพัฒนาศักยภาพผู๎สูงอายุใน 3 ด๎านหลักดังกลําว จําเป็นต๎องอาศัยกลไกของ ภาครฐั ภาคเอกชน และองค๑กรท่ีเกยี่ วข๎องเขา๎ ไปมสี วํ นรํวมในการสํงเสริมและพฒั นาผส๎ู งู อายไุ ทย ซ่งึ จาการ ทบทวนรายงานทางวชิ าการและการวิจยั ทั้งในประเทศและตํางประเทศ พบวําการวิจัยในประเทศไทยจะ มุํงเน๎นการศึกษาวิจัยในด๎านการจัดการระบบสุขภาพและส่ิงแวดล๎อมท่ีอยูํอาศัย ระบบสวัสดิการสังคม การจัดกจิ กรรมสํงเสริมการเรยี นร๎ูผํานโรงเรยี นผส๎ู งู อายุ การจา๎ งงานในผส๎ู งู อายุ การวิจัยการออมเงิน และ การสรา๎ งนวัตกรรม เพอ่ื ผู๎สงู อายุ เป็นต๎น ซึ่งการวิจัยดังกลําวมีสํวนชํวยสํงเสริมให๎ผ๎ูสูงอายุไทยมีคุณภาพ เมอื่ นําไปปฏิบตั จิ ริงทัง้ ในระดับนโยบายและระดบั ปฏิบัติการ แตํเม่ือวิเคราะห๑ท่ีคุณลักษณะเฉพาะตัวของ ผ๎ูสูงอายุแล๎ว กลับมีคําถามวํา “ผ๎ูสูงอายุไทยสามารถรู๎คิด (Cognitive function) และปรับตัว (Shift) ให๎ พร๎อมกับส่ิงตาํ งๆ ที่จะเข๎ามาในชีวิตได๎หรือไมํ” ส่ิงน้ีเป็นสิ่งที่ท๎าทายและนําสนใจ น่ันเป็นเพราะมนุษย๑มี ความสามารถของการรู๎คิดทต่ี าํ งกัน และในองค๑ประกอบของความสามารถของการร๎ูคิดน้ัน ความสามารถ การคิดเชิงบริหารของสมอง (Brain executive function) เป็นสํวนสําคัญที่สุดเพราะการดํารงชีวิตของ มนษุ ย๑จะตอ๎ งใชค๎ วามสามารถการคิดเชงิ บรหิ ารของสมองกับสถานการณ๑ใหมํท่ีไมํคุ๎นเคย เชํน เปลี่ยนงาน เปลี่ยนสถานท่ี เมื่อต๎องทําในสิ่งที่ไมํเคยทํามากํอน เม่ือสิ่งที่กําลังทําไมํเป็นไปตามท่ีคาดหมาย เมื่ออยูํใน สถานการณ๑ท่ไี มํคาดคิด เม่ือต๎องอดทนตํอสิง่ ยั่วยุและต๎องเลือกทําส่ิงท่ีสําคัญกวํา เม่ือต๎องเลือกทําในส่ิงที่ ถกู ตอ๎ งเป็นทย่ี อมรบั ของสังคม ในบรบิ ทเหลาํ น้ีความสามารถการคดิ เชิงบริหารของสมอง จะชํวยให๎มนุษย๑ บรหิ ารการทํางานจนสําเร็จ (Gilbert & Burgess, 2008) ดังน้ันการท่ีจะพัฒนาผ๎ูสูงอายุไทยให๎มีคุณภาพ จึงควรพฒั นาคุณสมบัติภายในของผ๎ูสูงอายุด๎วย โดยเฉพาะความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองอัน เปน็ รากฐานสําคญั อนั หนง่ึ ท่ขี วํ ยใหผ๎ ส๎ู งู อายุไทยมีความสามารถในด๎านการร๎ูคิดและสามารถปรับตัวกับส่ิง ตาํ งๆ ทเ่ี ขา๎ มาในชวี ิต ณ ปจ๓ จุบันได๎ โครงการวิจัยมีแนวคิดท่ีทําการศึกษาสถานการณ๑ วิเคราะห๑ และถอดบทเรียนการสํงเสริม สุขภาวะ กาย จติ สังคม และความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองในผู๎สูงอายุ โดยมํุงเน๎นการวิเคราะห๑ป๓จจัย สาํ คญั ท่จี ะสํงผลถงึ การเป็นผ๎ูสูงอายุที่มีศักยภาพในด๎านดังกลําว อีกทั้งมีการศึกษาแนวทางปฏิบัติท่ีดีของ ชมรมผ๎ูสูงอายุ ในการสํงเสริมให๎ผู๎สูงอายุเป็นผู๎สูงอายุท่ีมีคุณภาพ ทั้งในระดับพ้ืนท่ีและในภาพรวม โดย แนวทางปฏิบัติท่ีดีจะเข๎าสํูกระบวนการจัดการความร๎ูได๎เป็นเครื่องมือหรือกิจ กรรมท่ีสํงเสริมการเป็น 38

ผ๎ูสูงอายุมีสุขภาวะกาย จิต สังคม และมีความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองท่ีดีตํอไป อีกทั้งยัง สามารถเปน็ ตน๎ แบบของการนําไปขยายผลในระดับภูมภิ าคและเปน็ ขอ๎ เสนอทางนโยบายในอนาคต ขั้นตอนการวจิ ัย สถานการณ๑สุขภาพกาย จิต  สํารวจข๎อมูลท่วั ไป สังคม และความสามารถการคิด  ประเมนิ สุขภาพกาย เชิงบรหิ ารของสมองในผ๎ูสูงอายุ  ประเมนิ ความสามารถการปฏิบัตกิ ิจวัตรประจาํ วนั  ประเมินสุขภาพจติ ศกึ ษา วเิ คราะห๑ ป๓จจยั ทสี่ ํงผล  ประเมนิ สขุ ภาพสงั คม ตอํ สุขภาพกาย จติ สังคม และ  ประเมนิ ความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมอง ความสามารถการคิดเชิงบริหาร  สัมภาษณ๑ประธานและคณะทํางานในเรื่องการดําเนินงาน ของสมองในผส๎ู ูงอายุ ของชมรมและการขบั เคลื่อนโรงเรียนผสู๎ ูงอายุ ชมรมผูส๎ ูงอายุที่ 1 ถอดบทเรียน แนวทางปฏบิ ตั ทิ ีด่ ีของชมรมตํอการสงํ เสรมิ ชมรมผ๎สู ูงอายุท่ี 2 บทเรียน สุขภาวะทางกาย จิต สังคม และ ชมรมผ๎ูสูงอายุที่ 20 ความสามารถการคิดเชิงบรหิ ารของสมอง ในผส๎ู ูงอายุในระดบั พืน้ ท่ี/ภูมิภาค เผยแพรํองคค๑ วามร๎ใู นการสงํ เสรมิ สุขภาวะทางกาย จติ สงั คม และความสามารถการคดิ เชิงบริหาร ของสมองในผส๎ู งู อายใุ หก๎ บั ชมรมผูส๎ งู อายุและองค๑กรทเ่ี กี่ยวข๎อง 39

1) การดาเนินงานวิจัยของวัตถุประสงค์ที่ 1 (เพื่อสารวจสถานการณ์ด้านสุขภาวะทางกาย จิต สังคม และความสามารถการคิดเชงิ บริหารของสมองในผสู้ ูงอายุ) 1.1 วธิ กี ารเกบ็ ขอ้ มูล 1.1.1 ขอ้ มลู ปฐมภูมิ กล่มุ ตวั อย่างผสู้ ูงอายุ (อายุระหวา่ ง 60-80 ปี) การคาํ นวนประชากรตัวอยํางตามวิธีของ ยามาเนํ (Taro Yamane) เมอ่ื n คอื ขนาดกลํมุ ตวั อยาํ ง และ N คอื ขนาดประชากร e คอื คลาดคลาดเคลื่อนของกลุํมตัวอยาํ ง เชนํ ระดบั ความเชือ่ ม่นั 95% สัดสํวนความคลาดเคลอ่ื นเทาํ กับ 0.05 ระดับความเช่อื ม่ัน99% สัดสํวนความคลาดเคล่อื นเทํากับ 0.01 วธิ ีการคํานวนขนาดประชากร (N) = 9,934,309 คน (แหลํงข๎อมูล:จํานวนผู๎สูงอายุ อายุ 60 ปีขึน้ ไป: สํานักงานสถติ แิ หงํ ชาติ 2559) ระดบั ความเชอ่ื มัน่ 95% (e) = 0.05 n  1 9,934,309 9,934,309x0.05 2 ขนาดกลมุํ ตวั อยาํ ง (n) = 400 คน รวม drop-out 10% (n) = 440 คน เม่อื ไดจ๎ ํานวนกลมํุ ตัวอยาํ ง 440 คน แล๎ว โครงการวิจัยทําการสํุมผู๎สูงอายุแบบ Probability sampling จากชมรมผูส๎ ูงอายุท่ีเป็นชมรมแกนนําเขม๎ แข็งของสมาคมสภาผู๎สูงอายุแหํงประเทศไทยใน พระบรมราชนูปถัมภ๑สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซ่ึงชมรมผ๎ูสูงอายุแตํละแหํงจะมีการ แบงํ กลมํุ สมาชิกเป็น 3 กลมํุ หลกั คือ กลํุมผ๎สู งู อายตุ ดิ สังคม กลมุํ ผู๎สูงอายุติดบ๎าน และกลุํมผู๎สูงอายุติด เตยี ง โดยใช๎เกณฑก๑ ารประเมินความสามารถเชิงปฏิบัติกิจวัตรประจําวัน ซึ่งพบวําในแตํละชมรมจะมี กลํุมผ๎ูสูงอายุติดสังคมเฉลี่ยร๎อยละ 97 และมีกลํุมผ๎ูสูงอายุติดบ๎าน/ติดเตียง รวมกันเฉลี่ยร๎อยละ 3 (แหลํงขอ๎ มูล: รายงานประจําปีชมรมผ๎ูสูงอายุและโรงพยาบาลสงํ เสรมิ สุขภาพตําบล) โครงการวจิ ัยคัดเลือกชมรมผส๎ู งู อายุแกนนําเข๎มแข็งสุํมตามภาคดังนี้ ภาคเหนือ ภาคกลาง/ กรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต๎ จํานวน 20 ชมรม โดยท่ีชมรมผู๎สูงอายุแกน นําเข๎มแขง็ ในแตํละภมู ภิ าคจะมชี มรมเครือขํายเพื่อใชใ๎ นการขยายผลองค๑ความรู๎การวิจยั 1.1.2 เกณฑก์ ารคัดออกจากโครงการวิจัย คือ ผ๎ูสูงอายุที่เป็นโรคหรืออยูํระหวํางการรักษาใดๆ ก็ตามท่ีไมํสามารถเข๎ารํวมการวิจัยได๎ ให๎ยุติการวิจัย หรือผ๎ูสูงอายุได๎รับการประเมินไมํครบถ๎วนตาม กระบวนการวิจัย 1.1.3 เกณฑ์การถอนตัวของผู้เข้าร่วมโครงการวิจัย คือ ผู๎สูงอายุยกเลิกการเข๎ารํวม โครงการวิจัย 1.1.4 เกณฑ์การคัดเลือกชมรมผู้สูงอายุที่เป็นแกนนาเข้มแข็ง (Node) คือ ชมรมผู๎สูงอายุท่ี เป็นแกนนําระดับจังหวัดและมีชมรมขยายผล โดยได๎รับการรับรองจากสมาคมสภาผู๎สูงอายุแหํง ประเทศไทยในพระบรมราชนูปถมั ภส๑ มเด็จพระศรนี ครินทราบรมราชชนนี โดยแบงํ ออกเปน็ ภาคเหนือ ภาคกลาง/กรงุ เทพมหานคร ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และภาคใต๎ ซง่ึ จะมจี าํ นวนชมรมผู๎สงู อายุที่เป็น แกนนําเขม๎ แข็ง 20 ชมรม 40

1.2 เคร่ืองมือ 1.2.1 แบบสอบถามสุขภาวะทางกาย จติ สังคม เครือ่ งมือประเมนิ สขุ ภาวะทางกาย จติ สังคม ในผู๎สูงอายุ จะประกอบด๎วยข๎อมูล 5 สํวน คือ 1) ขอ๎ มูลท่วั ไปของผู๎สูงอายุ 2) สขุ ภาพกายของผ๎ูสูงอายุ 3) สุขภาพจิตของผู๎สูงอายุ 4) ความสามารถ เชงิ ปฏบิ ัตขิ องผูส๎ งู อายุ และ 5) สุขภาพสังคมของผ๎ูสูงอายุ โดยอ๎างอิงจากแบบประเมินภาวะสุขภาพ ของผ๎ูสูงอายุ (Elderly Health Profile) และ แบบประเมินสุขภาพจิต TMSE ( Thai Mental State Examination) กระทรวงสาธารณสุข โดยแบบสอบถามดังกลําวท่ีถูกพัฒนาข้ึนจะนํามา ตรวจสอบความคุณภาพความเที่ยงตรงของเนื้อหาและความสอดคล๎องระหวํางข๎อคําถามกับ วตั ถปุ ระสงค๑ โดยขอความอนเุ คราะหจ๑ ากผู๎ทรงคุณวฒุ ิทาํ การตรวจสอบเครือ่ งมอื และนําไปทดสอบกับ กลุํมผู๎สูงอายุที่ไมํใชํกลุํม ตัวอยํางเพื่อพิจารณาคุณภาพของแบบสอบถามกํอนท่ีจะดําเนินการเก็บ รวบรวมข๎อมูลตํอไป 1.2.2 แบบประเมินความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมอง เครอื่ งมือประเมนิ ความสามารถของการคิดเชงิ บริหารจะประกอบไปด๎วยการประเมิน 2 สวํ น สําคญั คอื ด๎านสมรรถภาพ (Performance) และ ด๎านพฤตกิ รรม (Behavior) ดา๎ นสมรรถภาพใช๎ แบบประเมนิ Wisconsin Card Sorting Test (WCST) แบบทดสอบน้จี ะใหผ๎ ู๎ถกู ทดสอบใชเ๎ กณฑ๑ เรื่อง สี รปู รําง และจํานวน ในการจดั กลมุํ ประเภทของส่ิงเร๎าซึง่ ผถู๎ กู ทดสอบจะไมํทราบวําจะใช๎เกณฑ๑ ใดในการจัดกลํมุ ประเภทแตํจะต๎องคน๎ หาเกณฑ๑ในการจัดกลุํมด๎วยตวั เอง จากการนาํ ผลของการเลอื ก แตลํ ะคร้ังไปชวํ ยในการตดั สนิ ใจหลงั จากการเลอื กแตํละคร้งั จะมกี ารบอกผลวาํ ผู๎ถกู ทดสอบเลอื กได๎ ถกู ต๎องหรอื ผดิ หากพบวาํ เลือกผิดผู๎ถกู ทดสอบจะต๎องคน๎ หาเกณฑ๑อันใหมใํ ห๎ได๎และหากเลอื กถูกก็ สามารถใชเ๎ กณฑเ๑ ดิมในการเลือกคร้ังตํอไปไดแ๎ ตํเมอื่ ทาํ แบบทดสอบไปสกั ระยะหน่งึ เกณฑใ๑ นการจัด กลุมํ ก็จะถูกเปลีย่ นเปน็ อยํางอ่นื โดยไมํแจง๎ ให๎ทราบลํวงหนา๎ ผถ๎ู ูกทดสอบจะตอ๎ งเร่ิมคน๎ หาเกณฑ๑อัน ใหมํโดยการทําแบบทดสอบนจี้ ะตอ๎ งมีสมาธิจดจอํ อยูตํ ลอดเวลา ตอ๎ งใชค๎ วามจาํ ขณะทํางานและ ความคิดยืดหยํนุ ในการคิดหาเหตุผลเพอื่ เลือกเกณฑใ๑ นการจดั กลํุม ซ่งึ แบบประเมิน WCST เป็น เคร่ืองมือทม่ี ลี ิขสิทธ์ิสามารถจดั ซอ้ื ได๎ในการทาํ วิจัย (อายุผร๎ู บั การประเมิน 60-89 ปี) สวํ นแบบประเมนิ ด๎านพฤติกรรมใช๎แบบประเมินพฤติกรรมทเี่ ปน็ ผลลพั ธ๑จากความ สามารถ การคิดเชงิ บริหารในผ๎ูใหญคํ อื แบบประเมนิ BRIEF-A (The Behavior Rating Inventory of Executive Function- Adult Version) เปน็ แบบประเมนิ พฤติกรรมใน 5 ดา๎ นคือ การควบคมุ อารมณ๑และพฤติกรรมของตนเอง (Emotional Control) การยบั ย้งั พฤติกรรม (Inhibit) การเปลีย่ น ความคิดเมื่อเงื่อนไขเปลยี่ นไป (Shifting) ความจาํ ขณะทาํ งาน (Working Memory) การวางแผนและ การจดั การอยาํ งเป็นระบบ (Plan/Organize) โดยประเมนิ จากพฤตกิ รรมในชีวติ ประจําวันใน สภาพแวดลอ๎ มจริง ซึ่งแบบประเมิน BRIEF-A เป็นเคร่ืองมอื ที่มลี ขิ สทิ ธิ์สามารถจัดซื้อได๎ในการทาํ วิจัย โดยแบบสอบถามดงั กลําวจะถูกแปลเป็นภาษาไทยและจะนาํ ตรวจสอบความคุณภาพความเที่ยงตรง ของเน้ือหาและถูกหลักไวยกรณ๑ โดยขอความอนุเคราะหจ๑ ากผท๎ู รงคุณวฒุ ิทําการตรวจสอบเคร่อื งมือ และนาํ ไปทดสอบกับกลํุมผู๎สงู อายทุ ่ไี มํใชกํ ลมํุ ตวั อยาํ งเพือ่ พจิ ารณาคุณภาพของแบบสอบถามกอํ นท่ี จะดาํ เนินการเกบ็ รวบรวมขอ๎ มลู ตอํ ไป 41

1.3 วิธกี ารวเิ คราะห์ขอ้ มลู การเกบ็ รวบรวมข๎อมูล หลังจากได๎รับการรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน มหาวทิ ยาลยั มหิดล ทางโครงการวิจัยจะสํงหนังสือถึงสมาคมสภาผู๎สูงอายุแหํงประเทศไทยฯ เพ่ือขอ ความอนุเคราะหใ๑ นการลงเกบ็ ขอ๎ มูลในระดับพื้นท่ีตํางๆ ตามเกณฑ๑การคัดเลือกผู๎สูงอายุและลักษณะ ชมรมผู๎สูงอายุ โดยจะทําการประสานไปยังชมรมท่ีเป็นแกนนําระดับจังหวัดเพ่ือซักซ๎อมความเข๎าใจ ของวัตถุประสงค๑การวิจัย การรับสมัครผู๎สูงอายุเข๎ารํวมโครงการวิจัย การกําหนดผู๎ประสานงาน โครงการวจิ ัยระดบั พ้ืนที่ (ตัวแทนชมรมผู๎สูงอายุ) การตอบแบบสอบถาม การได๎รับการประเมินระดับ บุคคล การทํากิจกรรมกลํุม การประชุม การค๎นหาผู๎สูงอายุต๎นแบบ และประโยชน๑ท่ีจะได๎รับ โดย กระบวนการตํางๆ ทีมวิจัยและผ๎ูชํวยโครงการวิจัยจะดําเนินการรํวมกับผ๎ูประสานงานโครงการวิจัย ระดบั พ้ืนทเี่ พอ่ื เก็บรวมรวมขอ๎ มูลวจิ ัย การวิเคราะห๑ข๎อมูลทําโดยแบํงกลุํมผ๎ูสูงอายุท่ีสํุมจากชมรมผู๎สูงอายุเป็น 2 กลุํมหลักคือ (1) กลุํมผู๎สูงอายุติดสังคม และ (2) กลํุมผ๎ูสูงอายุติดบ๎านและติดเตียง โดยใช๎เกณฑ๑การประเมิน ความสามารถเชิงปฏิบัติกิจวัตรประจําวัน จากนั้นทําการวิเคราะห๑ข๎อมูลด๎านตํางๆได๎แกํ 1) ข๎อมูล ทว่ั ไปของผสู๎ งู อายุ 2) สขุ ภาพกายของผส๎ู ูงอายุ 3) สขุ ภาพจิตของผ๎สู งู อายุ 4) ความสามารถเชิงปฏิบัติ ของผสู๎ ูงอายุ 5) สขุ ภาพสังคมของผู๎สูงอายุ 6) ความสามารถการคดิ เชิงบริหารของสมองของผ๎ูสูงอายุ และ 7) ขอ๎ มลู การสัมภาษณแ๑ ละการทํากิจกรรมกลุํม ผลการวิเคราะห๑ข๎อมูลท่ีได๎จะบํงช้ีถึงสถานการณ๑ด๎านสุขภาวะทางกาย จิต สังคม และ ความสามารถการคิดเชิงบรหิ ารของสมองในผู๎สงู อายุทเ่ี ขา๎ รํวมโครงการวิจัยและเป็นข๎อมูลที่จะใช๎เพ่ือ ตอบโจทย๑วิจัยในวัตถุประสงค๑ท่ี 2 คือ เพ่ือศึกษาป๓จจัยท่ีมีผลตํอสุขภาวะกาย จิต สังคม และ ความสามารถการคดิ เชิงบริหารของสมองในผ๎สู งู อายุ 2. การดาเนินงานวิจัยของวัตถุประสงค์ท่ี 2 (เพ่ือศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาวะกาย จิต สังคม และความสามารถการคิดเชงิ บริหารของสมองในผู้สูงอายุ) 2.1 วธิ กี ารเก็บข้อมลู ข๎อมูลจากผลลัพธ๑ในวัตกถุประสงค๑ข๎อท่ี 1 ได๎แกํ 1) ข๎อมูลท่ัวไปของผู๎สูงอายุ 2) ข๎อมูล สุขภาพกายของผ๎ูสูงอายุ 3) ข๎อมูลสุขภาพจิตของผู๎สูงอายุ 4) ข๎อมูลความสามารถเชิงปฏิบัติของ ผ๎ูสงู อายุ 5) ขอ๎ มูลสุขภาพสังคมของผู๎สงู อายุ 6) ข๎อมลู ความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองของ ผูส๎ ูงอายุ และ 7) ข๎อมูลการสมั ภาษณแ๑ ละการทํากจิ กรรมกลํุม) นําเข๎าสูํกระบวนการวิเคราะห๑ข๎อมูล ทางสถิติและกระบวนการทําเหมืองข๎อมูล (Data miming) เพื่อวิเคราะห๑ความสัมพันธ๑ตัวแปรและ สร๎างตัวแบบพยากรณ๑ในอนาคตของการเป็นผ๎ูสูงอายุท่ีมีสุขภาวะทางกาย จิต สังคมและ ความสามารถการคดิ เชิงบริหารของสมองจากปจ๓ จยั ตาํ งๆ ด๎วยเทคนคิ ทางคอมพิวเตอรข๑ นั้ สงู 2.2 เครอื่ งมอื โปรแกรมวิเคราะหท๑ างสถติ แิ ละโปรแกรมการวิเคราะห๑เหมอื งขอ๎ มลู 42

2.3 วธิ กี ารวเิ คราะหข์ อ้ มูล ข๎อมูลจากวัตถุประสงค๑ที่ (1) นํามาจัดกลุํมเป็นตัวแปรต๎นและตัวแปรตามเพ่ือวิเคราะห๑ ความสัมพันธ๑ตวั แปรและสร๎างตัวแบบพยากรณ๑ในอนาคตของการเป็นผ๎ูสูงอายุท่ีมีสุขภาวะทางกาย จิต สงั คมและความสามารถการคิดเชิงบรหิ ารของสมอง ดงั นี้ 2.3.1 ตัวเเปรตน้ ได๎แกํ ขอ๎ มูลปจ๓ จัยภายในและปจ๓ จัยภายนอกที่คาดวําจะสํงผลตํอสุขภาวะ ทางกาย จิต สงั คม และความสามารถการคิดเชงิ บรหิ ารของสมองในผูส๎ งู อายุ มีดงั น้ี ป๓จจัยภายใน ได๎แกํ เพศ อายุ สถานภาพสมรส การทํางาน ระดับการศึกษา องค๑ประกอบ ของความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมอง 5 ด๎าน (ผลประเมินความจําขณะทํางาน การยับย้ัง พฤตกิ รรม การเปล่ียนความคิดเมื่อเงื่อนไขเปลี่ยนไป การควบคุมอารมณ๑และพฤติกรรมของตนเอง และการวางแผนและการจัดการอยํางเป็นระบบ) โรคและการเจ็บปุวย พฤติกรรมสุขภาพ ระดับ ความสามารถในการปฏิบตั ิกจิ วัตรประจาํ วันพนื้ ฐาน และภาวะเครียด ซมึ เศรา๎ เปน็ ตน๎ ป๓จจัยภายนอก คือ สัมพันธภาพครอบครัวและชุมชน แหลํงสนับสนุนทางการเงิน แหลํง สนับสนุนด๎านผ๎ูดูแล แหลํงสนับสนุนด๎านจิตสังคม ระบบสาธารณสุข ระบบการศึกษาตลอดชีวิต การประกอบอาชีพ วิทยาการเทคโนโลยี และปจ๓ จัยทางการเมือง เป็นตน๎ 2.3.2 ตัวแปรตาม ได๎แกํ สุขภาวะกาย จติ สงั คม และความสามารถการคิดเชิงบริหารของ สมองในผูส๎ งู อายุ ข๎อมูลดังกลําวจะเขา๎ สูกํ ระบวนการวิเคราะหข๑ อ๎ มลู ทางสถิติและกระบวนการทําเหมืองข๎อมูล (Data miming) เพอื่ วิเคราะหค๑ วามสมั พันธต๑ วั แปรและสรา๎ งตัวแบบพยากรณ๑ในอนาคตของการเป็น ผ๎ูสูงอายทุ มี่ สี ุขภาวะทางกาย จติ สังคมและความสามารถการคดิ เชิงบริหารของสมอง การวิเคราะห๑ทางสถิติทําการศึกษาความสัมพันธ๑ของตัวแปรแบบเป็นฟ๓งก๑ชั่น โดยการวิจัย เลือกใช๎สมการถดถอยเชิงเส๎นในรูปแบบตํางๆ เชํน Multiple Linear Regression, Logistic Regression หรือ Generalized linear model เชํน Multiple Linear Regression, Logistic Regression หรือ Generalized linear model สวํ นการทาํ เหมืองข๎อมูลน้ัน จะทําการเลือกข๎อมูล (Input data) บางสํวนที่ถูกคัดกรองแล๎ว เพื่อใช๎ในการออกแบบการเรียนร๎ู (Training set) และออกแบบคําสั่งให๎ computer สร๎างตัวแบบ การทํานายด๎วยข๎อมูลที่ computer ไมํเคยพบเห็นมากํอน โดยใช๎เครื่องมือในการจัดแนก (Classification) ที่เป็นที่รู๎จักกัน เชํน decision trees, rule induction, k-nearest neighbors, naïve Bayesian, artificial neural networks, และ support vector machines เป็นต๎น ด๎วย เทคนิคดังกลําวจะได๎ชุดข๎อมูลป๓จจัยสําคัญอันสํงผลตํอการคาดการณ๑ภาวะสุขภาพกาย ภาวะ สุขภาพจิต ภาวะสุขภาพสงั คม และความสามารถการคดิ เชิงบริหารของสมองในอนาคต 43

3. การดาเนนิ งานวจิ ัยของวตั ถุประสงค์ที่ 3 เพ่ือศกึ ษาแนวทางปฏิบัติท่ดี ขี องชมรมผู้สูงอายุฯ ใน การสง่ เสริมสขุ ภาวะและความสามารถการคิดเชงิ บรหิ ารของสมองในผ้สู งู อายุ ชมรมผ๎สู งู อายุท่ี 1 ถอดบทเรยี น แนวทางปฏบิ ัติที่ดีของการสํงเสริมสุขภาวะ ชมรมผูส๎ ูงอายุที่ 2 บทเรยี น ทางกาย จติ สงั คม และความสามารถการ คิดเชงิ บรหิ ารของสมองในผ๎ูสงู อายุ ชมรมผส๎ู ูงอายุท่ี 20 ในระดับพ้นื ท่ี/ภูมภิ าค 3.1 วธิ กี ารเกบ็ ข้อมลู ทาํ การสัมภาษณค๑ ณะกรรมการบริหารชมรมผู๎สูงอายุ คัดเลือกจากชมรมผ๎ูสูงอายุท่ีเป็นแกน นําระดับจงั หวดั และมชี มรมขยายผล โดยได๎รับการรับรองจากสมาคมสภาผ๎ูสูงอายุแหํงประเทศไทย ในพระบรมราชนูปถัมภ๑สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยแบํงออกเป็นภาคเหนือ ภาค กลาง/กรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต๎ ซ่ึงจะมีจํานวนชมรมผ๎ูสูงอายุที่เป็น แกนนาํ เขม๎ แขง็ 20 ชมรม 3.2 เครือ่ งมือ เคร่ืองมือการจัดการความร๎ู ด๎วยวิธีการตํางๆ เชํน การประชุมระดมสมองและชุมชนนัก ปฏิบัติในชมรมผ๎ูสูงอายุ และใช๎เครื่องมือประเมินแนวทางปฏิบัติที่ดี (เกณฑ๑ประเมินแสดงใน ภาคผนวก) 3.3 วธิ ีการวิเคราะหข์ อ้ มูล การวิเคราะห๑ชมรมผ๎ูสูงอายุท่ีมีแนวทางปฏิบัติท่ีดี คือ วิธีปฏิบัติหรือข้ันตอนการปฏิบัติที่ สํงผลใหช๎ มรมผูส๎ ูงอายุประสบความสําเร็จในการสํงเสริมสุขภาวะหรือสํงเสริมความสามารถการคิด เชงิ บริหารของสมองใหก๎ บั ผ๎สู งู อายุ โดยมกี ารสรุปวิธีปฏิบัติ หรือขั้นตอนการปฏิบัติ ตลอดจนความรู๎ และประสบการณ๑ ท่ีได๎บันทึกเป็นเอกสารหรือข๎อมูลสารสนเทศ อีกทั้งเผยแพรํให๎กลํุมผู๎สูงอายุหรือ หนวํ ยงานอื่นสามารถนําไปใช๎ประโยชน๑ได๎ (เกณฑป๑ ระเมินแสดงในภาคผนวก) 4. การดาเนินงานวิจัยของวัตถุประสงค์ที่ 4 เพ่ือสังเคราะห์และเผยแพร่องค์ความรู้ในการ สง่ เสริมสุขภาวะทางกาย จิต สังคม และความสามารถการคิดเชิงบริหารของสมองในผูส้ ูงอายุ 4.1 วิธีการเกบ็ ข้อมลู นําข๎อมูลจากวัตถุประสงค๑ที่ 1-3 มาสังเคราะห๑และจัดทําส่ือเพื่อเผยแพรํองค๑ความร๎ูในการ สงํ เสรมิ สุขภาวะทางกาย จติ สงั คม และความสามารถการคิดเชงิ บริหารในผ๎ูสูงอายุ 4.2 เครื่องมือ 4.2.1 เวทปี ระชุมวิชาการ 4.2.2 สอื่ สิง่ พมิ พ๑และขอ๎ มลู สารสนเทศ 44

4.3 วิธกี ารวิเคราะหข์ อ้ มูล นําข๎อมูลจากวัตถุประสงค๑ท่ี 1-3 มาสังเคราะห๑เพ่ือสร๎างองค๑ความรู๎และนําไปขยายผลผําน สมาคมสภาผู๎สงู อายุแหํงประเทศไทยฯ ผาํ นการจัดประชมุ เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู๎การสํงเสริมสุขภาวะ ทางกาย จติ สงั คมและความสามารถการคดิ เชิงบรหิ ารในผส๎ู งู อายุ 45

บทท่ี 4 ผลการวจิ ัย 1. การดาเนินงานวิจัยของวัตถุประสงค์ที่ 1 เพื่อสารวจสถานการณ์ด้านสุขภาวะทางกาย จิต สังคม และความสามารถการคิดเชงิ บริหารของสมองในผู้สูงอายุ ภาพที่ 19 กิจกรรมการลงพื้นท่ีโรงเรยี นผ๎สู ูงอายเุ ทศบาลตําบลยหุ วํา จ.เชียงใหมํ โคร ง กา ร วิ จัย ดํ าเนิน กา ร ลง พ้ื น ท่ีเพ่ื อกา ร เก็บร ว บร ว ม ข๎อมูลภา ย หลัง จ ากไ ด๎รั บ การ รั บ ร อง จา ก คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคน มหาวิทยาลัยมหิดล โดยโครงการวิจัยสํงหนังสือถึงสมาคมสภา ผ๎ูสูงอายุแหํงประเทศไทยฯ เพื่อขอความอนุเคราะห๑ในการลงเก็บข๎อมูลในระดับพ้ืนที่ตํางๆ โดยทําการ ประสานไปยังชมรมท่ีเป็นแกนนําระดับจังหวัดเพื่อซักซ๎อมความเข๎าใจของวัตถุประสงค๑การวิจัย การรับ สมัครผ๎ูสูงอายุเข๎ารํวมโครงการวิจัย การกําหนดผู๎ประสานงานโครงการวิจัยระดับพื้นท่ี (ประธานชมรม ผูส๎ ูงอายุ) การตอบแบบสอบถาม การได๎รับการประเมินระดับบุคคล และการทํากิจกรรมกลํุม โดยทําการ ลงพ้นื ท่ีเกบ็ ข๎อมลู ครบทัง้ 20 ชมรม ซึ่งคร้งั แรกได๎กําหนดท่ีโรงเรยี นผู๎สูงอายุเทศบาลตําบลยุหวํา อ.สันปุา ตอง จ.เชยี งใหมํ โดยเปน็ ชมรมแกนนําเข๎มแข็งและได๎รบั การตอบรับเข๎ารวํ มโครงการวิจัยเป็นอยาํ งดี 46

ภาพที่ 20 กจิ กรรมการลงพนื้ ทช่ี มรมรกั ษส๑ ขุ ภาพวดั อโศการาม จ.กาฬสนิ ธ๑ุ 47

ภาพที่ 21 กิจกรรมการลงพนื้ ทชี่ มรมผ๎สู งู อายุวดั ปุาทรงคณุ จ.ปราจนี บรุ ี 48

ภาพที่ 22 กิจกรรมการลงพนื้ ทชี่ มรมผ๎สู งู อายุ ต.โพตลาดแกว๎ จ.ลพบรุ ี 49