หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 การใช้อินเทอรเ์ น็ต คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. เฟซบุ๊ก (Facebook) เปน็ การให้บรกิ ารอินเทอรเ์ น็ตรูปแบบใด ก. เวิลด์ไวดเ์ ว็บ ข. ชุมชนออนไลน์ ค. การถา่ ยโอนข้อมูล ง. การสนทนาผา่ นเครอื ข่าย 2. การนำแฟ้มขอ้ มลู จากเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ของเราไปไว้ยงั เครื่องคอมพิวเตอรข์ องผอู้ นื่ เรียกว่าอะไร ก. รีโหลด (Reload) ข. อปั โหลด (Upload) ค. พรโี หลด (Preload) ง. ดาวนโ์ หลด (Download) 3. ไปรษณยี ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ มีชอ่ื ยอ่ ว่าอะไร ก. Net ข. E-mail ค. Address ง. Download 4. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้องเกย่ี วกบั การค้นหาขอ้ มูลแบบ Search Engine ก. การค้นหาขอ้ มูลผา่ นเวบ็ ไซตใ์ นอนิ เทอรเ์ นต็ โดยใชซ้ อฟต์แวรค์ ้นผา่ นเวบ็ ข. การค้นหาขอ้ มูลโดยดูในเว็บเบราเซอร์ จากนัน้ หนา้ จอจะแสดงรายละเอียดหัวข้อยอ่ ยมาให้เลือก ค. การค้นหาโดยใช้คำคน้ ป้อนลงในเวบ็ เสริ ์ชเอน็ จิน Google จะปรากฏขอ้ มลู ท่ีสอดคลอ้ งกับคำค้น ขน้ึ มา ง. การค้นหาขอ้ มูลโดยการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลขา่ วสารบทความต่าง ๆ จากคอมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งหน่ึงไป ยังคอมพวิ เตอรอ์ ีกเครอื่ งหนึ่ง 5. ข้อใดตอ่ ไปนี้คน้ หารปู ภาพแบบเจาะจงสไี ด้ถกู ตอ้ ง ก. กำหนดคำค้น เลือก ค้นรปู แลว้ คลกิ สี กด Enter ข. กำหนดคำค้น เลอื ก คน้ รปู แลว้ คลิก เพิ่มเตมิ และเลือก สี กด Enter ค. กำหนดคำคน้ เลอื ก คน้ รูป แลว้ คลิก เคร่อื งมือ และเลอื ก สี กด Enter ง. กำหนดคำค้น เลอื ก ค้นรูป แล้วคลกิ ประเภทภาพและเลือก สี กด Enter 6. หากต้องการสืบค้นข้อมลู กลว้ ยไม้ไทยเฉพาะไฟลน์ ำเสนอแบบ PPT (PowerPoint) ข้อใดตอ่ ไปน้ีระบุ คำค้นได้ถกู ต้อง ก. File Type : PPT กลว้ ยไม้ไทย ข. File Type : PPT : กลว้ ยไม้ไทย ค. File Type : กล้วยไมไ้ ทย ง. กล้วยไม้ไทย : File Type : PPT 7. ขอ้ ใดต่อไปนี้ไม่ใชต่ ัวเลอื กของการคน้ หารูปภาพตามสิทธิในการใช้งาน ก. นำภาพไปใช้ได้ หา้ มแก้ไขภาพ ข. นำภาพไปใช้ได้ สามารถแกไ้ ขภาพได้ ค. ไมส่ ามารถนำไปใช้ได้ ตอ้ งขออนญุ าตก่อน ง. ไม่สามารถนำไปใชไ้ ด้ ไมอ่ นุญาตใหน้ ำไปใช้ 8. เม่อื สบื คน้ ข้อมูลและไดข้ อ้ มลู ตามท่ีต้องการแล้ว ควรปฏิบตั อิ ย่างไร ก. คดั ลอกขอ้ มูลลงสมุด ข. เผยแพรข่ อ้ มูลโดยการสง่ ตอ่ ค. นำเสนอขอ้ มูลที่ได้หนา้ ชน้ั เรียน ง. ประเมนิ ความน่าเช่อื ถอื ของข้อมูล
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ 9. ข้อใดตอ่ ไปน้ใี ช้งานอนิ เทอร์เน็ตไม่ถูกตอ้ ง ก. สนทนาดว้ ยคำสุภาพ ข. ไม่แอบอ้างขอ้ มูลของผอู้ น่ื ค. ไมส่ ง่ ต่อข้อมลู ลามกอนาจาร ง. สง่ จดหมายลูกโซไ่ ปให้เพื่อน ๆ 10. ข้อใดกล่าวถกู ต้องเกี่ยวกบั อินเทอร์เนต็ ก. เครือขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ่เี ชอ่ื มต่อกนั ภายในประเทศเท่านัน้ ข. เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ที่เชอื่ มต่อกนั ระหว่างองค์กรกับองคก์ ร ค. เครอื ข่ายคอมพวิ เตอรข์ นาดใหญ่ท่ีสามารถเชอื่ มตอ่ กนั ไดท้ วั่ โลก ง. เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ที่เชื่อมตอ่ กันภายในอาคารเดยี วกันเทา่ นั้น เฉลย 1. ข 2. ข 3. ข 4. ค 5. ข 6. ก 7. ง 8. ง 9. ง 10. ค
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 การใช้อนิ เทอรเ์ น็ต แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 การใช้อินเทอร์เนต็ คำชแี้ จง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 2. เฟซบกุ๊ (Facebook) เปน็ การใหบ้ ริการอินเทอรเ์ นต็ รปู แบบใด ก. เวิลดไ์ วด์เว็บ ข. ชมุ ชนออนไลน์ ค. การถา่ ยโอนข้อมลู ง. การสนทนาผ่านเครอื ข่าย 2. การนำแฟ้มขอ้ มูลจากเครื่องคอมพิวเตอรข์ องเราไปไว้ยงั เครือ่ งคอมพิวเตอรข์ องผู้อน่ื เรียกวา่ อะไร ก. รีโหลด (Reload) ข. อัปโหลด (Upload) ค. พรโี หลด (Preload) ง. ดาวนโ์ หลด (Download) 3. ไปรษณีย์อิเลก็ ทรอนิกส์ มีช่ือยอ่ วา่ อะไร ก. Net ข. E-mail ค. Address ง. Download 4. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกย่ี วกับการคน้ หาข้อมูลแบบ Search Engine ก. การค้นหาข้อมูลผา่ นเวบ็ ไซตใ์ นอนิ เทอร์เน็ต โดยใช้ซอฟต์แวร์ค้นผ่านเวบ็ ข. การคน้ หาข้อมูลโดยดูในเว็บเบราเซอร์ จากนนั้ หน้าจอจะแสดงรายละเอียดหัวขอ้ ย่อยมาให้เลือก ค. การคน้ หาโดยใช้คำค้น ปอ้ นลงในเว็บเสิร์ชเอ็นจนิ Google จะปรากฏข้อมูลที่สอดคล้องกับคำค้น ขน้ึ มา ง. การค้นหาขอ้ มูลโดยการถ่ายโอนแฟ้มขอ้ มูลข่าวสารบทความตา่ ง ๆ จากคอมพวิ เตอร์เครื่องหนึง่ ไป ยังคอมพิวเตอรอ์ กี เครอื่ งหนึ่ง 5. ข้อใดตอ่ ไปนีค้ ้นหารปู ภาพแบบเจาะจงสีได้ถกู ตอ้ ง ก. กำหนดคำคน้ เลอื ก คน้ รปู แล้วคลกิ สี กด Enter ข. กำหนดคำค้น เลือก คน้ รปู แลว้ คลกิ เพิม่ เติมและเลอื ก สี กด Enter ค. กำหนดคำคน้ เลอื ก ค้นรปู แลว้ คลิก เคร่อื งมอื และเลือก สี กด Enter ง. กำหนดคำคน้ เลอื ก ค้นรูป แลว้ คลกิ ประเภทภาพและเลือก สี กด Enter 6. หากตอ้ งการสืบคน้ ขอ้ มูลกลว้ ยไม้ไทยเฉพาะไฟล์นำเสนอแบบ PPT (PowerPoint) ขอ้ ใดตอ่ ไปน้รี ะบุ คำค้นได้ถูกตอ้ ง ก. File Type : PPT กล้วยไมไ้ ทย ข. File Type : PPT : กล้วยไมไ้ ทย ค. File Type : กล้วยไมไ้ ทย ง. กล้วยไมไ้ ทย : File Type : PPT 7. ข้อใดต่อไปน้ไี ม่ใชต่ ัวเลือกของการคน้ หารปู ภาพตามสิทธิในการใชง้ าน ก. นำภาพไปใชไ้ ด้ หา้ มแกไ้ ขภาพ ข. นำภาพไปใชไ้ ด้ สามารถแก้ไขภาพได้ ค. ไม่สามารถนำไปใชไ้ ด้ ต้องขออนุญาตกอ่ น ง. ไมส่ ามารถนำไปใช้ได้ ไม่อนญุ าตใหน้ ำไปใช้ 8. เมื่อสบื ค้นข้อมูลและไดข้ ้อมูลตามท่ีต้องการแลว้ ควรปฏิบตั ิอย่างไร ก. คดั ลอกข้อมูลลงสมุด ข. เผยแพรข่ อ้ มูลโดยการส่งตอ่ ค. นำเสนอขอ้ มูลที่ไดห้ นา้ ช้นั เรียน ง. ประเมนิ ความน่าเช่ือถือของขอ้ มลู
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การใช้อินเทอรเ์ นต็ 9. ข้อใดตอ่ ไปนใ้ี ช้งานอนิ เทอรเ์ น็ตไมถ่ ูกต้อง ก. สนทนาดว้ ยคำสุภาพ ข. ไม่แอบอ้างขอ้ มลู ของผู้อ่นื ค. ไม่ส่งต่อข้อมูลลามกอนาจาร ง. สง่ จดหมายลกู โซ่ไปใหเ้ พื่อน ๆ 10. ข้อใดกล่าวถกู ตอ้ งเก่ียวกบั อนิ เทอร์เน็ต ก. เครือข่ายคอมพิวเตอรท์ ่เี ชือ่ มต่อกนั ภายในประเทศเทา่ นนั้ ข. เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ที่เช่อื มต่อกันระหว่างองคก์ รกับองค์กร ค. เครอื ข่ายคอมพวิ เตอรข์ นาดใหญ่ทีส่ ามารถเช่อื มต่อกันได้ทัว่ โลก ง. เครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ที่เชื่อมต่อกันภายในอาคารเดยี วกันเทา่ นั้น เฉลย 1. ข 2. ข 3. ข 4. ค 5. ข 6. ก 7. ง 8. ง 9. ง 10. ค
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 การใช้งานอินเตอรเ์ น็ต แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 ความนา่ เชอื่ ถอื ของขอ้ มูล แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การใช้งานอนิ เตอร์เนต็ เวลา 5 ชั่วโมง เรอื่ ง ความน่าเช่ือถือของขอ้ มลู เวลา 5 ช่ัวโมง รายวิชา วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้วี ัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาที่พบในชวี ิตจรงิ อย่างเปน็ ข้นั ตอนและ เปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รเู้ ท่าทันและมจี รยิ ธรรม ตวั ชีว้ ัด ป.4/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ค้นหาความรู้ และประเมินความน่าเชอ่ื ถอื ของขอ้ มูล 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถอธิบายความหมายของอนิ เทอรเ์ นต็ และประเมินความนา่ เช่ือถอื ของขอ้ มลู ได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถใชง้ านอินเทอร์เน็ตในการคน้ หาข้อมูลได้ (P) 3. นักเรยี นสามารถยกตวั อยา่ งการนำอินเทอร์เนต็ ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวนั ได้ (A) 3. สาระสำคัญ อนิ เทอรเ์ นต็ (Internet) คือ เครอื ข่ายคอมพิวเตอรท์ ี่เช่ือมตอ่ กันจำนวนมากและครอบคลุมไปทั่วโลก โดย เครอื ขา่ ยนี้จะเช่ือหากันภายใตก้ ฎเกณฑ์ท่เี ปน็ มาตรฐานเดียวกัน ทำให้สามารถแลกเปลยี่ นข้อมลู และสง่ ผ่านข้อมลู ระหวา่ งกันได้ ในปัจจบุ ันมีฐานขอ้ มูลที่เก็บไวใ้ นอนิ เทอร์เนต็ จำนวนมาก ดังนัน้ การคน้ หาข้อมูลจากอนิ เทอร์เนต็ จะต้อง ประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถือของข้อมูล โดยจะตอ้ งศึกษาเรยี นรู้เกี่ยวกบั การคน้ หาขอ้ มลู จากอินเทอรเ์ น็ต 4. สาระการเรียนรู้ • การใชอ้ ินเทอร์เน็ตในการคน้ หาขอ้ มูล 5. รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน • เกม • วธิ ีการสอนแบบสุ่ม • วิธกี ารสอนแบบกล่มุ 6. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ความสามารถในการสอื่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. ทกั ษะ 4 Cs ทกั ษะการคดิ วิจารณญาณ (Critical Thinking) ทักษะการทำงานรว่ มกัน (Collaboration Skill) 68
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การใช้งานอนิ เตอรเ์ น็ต แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ความนา่ เช่ือถือของข้อมลู ทักษะการส่ือสาร (Communication Skill) ซ่ือสัตย์ สจุ รติ ทักษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) ใฝ่เรียนรู้ 8. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มงุ่ มั่นในการทำงาน รักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ มจี ติ สาธารณะ มีวนิ ยั อยู่อย่างพอเพียง รกั ความเปน็ ไทย 9. การจัดกระบวนการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 1. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การใช้งานอนิ เตอร์เน็ต เพ่อื เข้าใจระดับ ความร้เู ดมิ ของนกั เรียนก่อนเข้าสูก่ ิจกรรม ขน้ั นำ (10 นาท)ี 1. ครูสอบถามนกั เรยี นว่ารจู้ กั อนิ เทอร์เนต็ หรือไม่ อนิ เทอร์เนต็ มีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร (แนวคำตอบ เปน็ เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ทเี่ ชือ่ มตอ่ กนั จำนวนมากและครอบคลุมไปทวั่ โลก ทำให้สามารถ แลกเปลีย่ นข้อมูลและส่งผ่านข้อมูลระหวา่ งกันได้) ข้นั สอน (40 นาท)ี 1. ครูสุม่ นักเรยี นมาทำกิจกรรม 6 คนโดยแบง่ ออกเป็น 2 กลุ่ม คละความสามารถ 2. ให้แตล่ ะกลุ่มนง่ั เก้าอี้ แลว้ หันหลังเขา้ หากนั โดยไม่ให้เหน็ วา่ อีกกลุ่มดา้ นหลังกำลงั ทำอะไรอยู่ 3. ครูอธบิ ายกติกาวา่ จะมโี จทย์ปัญหาใหแ้ ต่ละกลุ่มตอบปัญหาภายในเวลาท่ีกำหนด หากตอบได้จะได้รับ 1 คะแนน โดยการเขียนคำตอบลงบนกระดาษ A4 และชูคำตอบขน้ึ 4. ครเู ร่ิมกจิ กรรม รอบท1่ี ใช้คำถามงา่ ยที่เป็นความร้พู ื้นฐาน คำถามมดี งั นี้ 1) ประเพณีบญุ บง้ั ไฟเป็นประเพณีโดง่ ดงั จากภาคใด 2) ประเทศไทยมีก่ีจงั หวดั 3) จังหวัดเหนอื สดุ เขตแดนไทยคือจงั หวัดอะไร 4) นายกคนปจั จุบนั คือคนท่ีเท่าไหร่ 5)แมน่ ำ้ ทยี่ าวท่ีสุดในโลกคอื แม่นำ้ ใด 5. กอ่ นเริม่ กจิ กรรมรอบที่ 2 ใหค้ รูนำหนงั สือทเ่ี ตรียมไว้ 3-5 เลม่ เก่ยี วหรอื ไมเ่ กีย่ วกับเนื้อหาทใี่ ช้กไ็ ดไ้ ปวาง ให้กล่มุ หนึง่ และให้ครนู ำโนต้ บุก๊ 1-2เครือ่ ง ไปวางใหก้ ลุ่มสอง โดยห้ามท้งั สองกลมุ่ เหน็ วา่ อีกกลุม่ ได้รับ อะไร 6. ในรอบที่ 2 ครูใชค้ ำถามยากขน้ึ คำถามดังน้ี 1) สตั ว์ท่ีมขี นาดใหญท่ ่ีสดุ ในโลกคอื ชนดิ ใด 2) แม่นำ้ ทีม่ ขี นาดกวา้ งท่ีสดุ ในโลกคอื แมน่ ำ้ ใด 3) มหาสมุทรท่ีใหญ่ท่ีสดุ ในโลกคือที่ใด 69
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 การใช้งานอินเตอรเ์ น็ต แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 ความนา่ เชื่อถือของข้อมลู 4) สงครามโลกคร้ังทสี่ องกนิ ระยะเวลานานกีป่ ี 5) ประเทศไทยมพี ้นื ท่ีทงั้ หมดเทา่ ใด 6) ทวปี ยุโรปมปี ระเทศทัง้ หมดกปี่ ระเทศ 7) ใครคือนกั บินที่เหยยี บดวงจนั ทร์เปน็ คนแรก 8) หากเดินทางจากไทยไปลาสเวกสั ด้วยเครื่องบนิ ต้องใชเ้ วลากช่ี ั่วโมง 9) ภเู ขาไฟฟูจิสูงจากระดับน้ำทะเลเท่าใด 10) จงบอกชื่อเครอ่ื งบินทเ่ี รว็ ท่ีสุดในโลก (คำถามท่เี ลือกใชข้ ้นึ อย่กู บั ความเหมาะสม และวิจารณญาณของครผู ู้สอน) 7. ครใู ห้นกั เรียนในห้องเรยี นชว่ ยกันสรุปคะแนนจากการตอบคำถามของทัง้ สองกลุ่ม ขั้นสรปุ (10 นาที) 1. ครใู หน้ กั เรียนหนั ดอู ุปกรณท์ ีอ่ กี กลุ่มทีใ่ ช้ 2. ครสู อบถามท้งั สองกลุ่มและใหว้ เิ คราะหก์ ลมุ่ ตนเองวา่ ทำไมถงึ แพ้ หรอื ชนะ ชว่ั โมงท่ี 2 ขน้ั สอน (60 นาท)ี 1. ครูใหน้ ักเรยี นทบทวนกจิ กรรมทท่ี ำจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 2. ครูตัง้ คำถามว่าจากการที่เราเห็นความแตกตา่ งระหว่างการใช้ประโยชน์จากหนังสอื และอินเทอร์เน็ต นักเรยี นสงั เกตเห็นอะไรบา้ ง (แนวตอบ ขอ้ มูลจากหนงั สอื ไม่ครอบคลุมคำถามทค่ี ณุ ครูถาม หาข้อมูลได้ชา้ ข้อมูลบางอย่างไม่อพั เดท ส่วนอนิ เทอร์เน็ตสะดวกในการคน้ หาขอ้ มลู รวดเร็ว ข้อมูลมาจากหลายแหลง่ และคลอบคลมุ ทกุ คำถาม) 3. ครถู ามคำถามกระต้นุ นักเรยี นจากหนงั สือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.4 หน้า 61 ว่า อนิ เทอร์เนต็ จำเป็นต่อชีวติ เราอย่างไร (แนวตอบ ในปจั จุบันอนิ เทอร์เน็ตมบี ทบาทและมคี วามสำคญั ตอ่ ชวี ิตประจำวนั ของคนเราเป็นอย่าง มาก เพราะทำใหว้ ิถชี วี ิตเราทนั สมัยและทันเหตกุ ารณอ์ ยเู่ สมอ อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศท่ี สำคญั เพราะสารถคน้ หาสงิ่ ทส่ี นใจไดใ้ นทันที โดยไม่ตอ้ งเสยี เวลาในการเดินทางไปศึกษาค้นควา้ จากแหล่ง ต่าง ๆ แม้แต่การรับรู้ข่าวสารทัว่ โลกสามารถหาอ่านได้จากอนิ เทอร์เนต็ ) 4. ครตู ัง้ คำถามว่า นกั เรียนคิดว่าการคน้ หาข้อมูลในอนิ เทอรเ์ นต็ ควรทำอยา่ งไร (แนวตอบ เนอ่ื งจากข้อมลู ในอนิ เทอร์เนต็ มีมากมายหลากหลาย การค้นหาขอ้ มูลนัน้ จะต้องใช้คำคน้ หาท่ี ตรงประเดน็ กระชบั จึงจะทำใหไ้ ด้ข้อมลู หรอื ผลลัพธ์ที่รวดเรว็ และตรงตามความตอ้ งการ) 5. ครูให้นกั เรยี นจับค่กู ัน จากน้ันให้นกั เรียนคนทห่ี นง่ึ กำหนดโจทย์ ส่งิ ท่ตี ้องการทราบ หรอื คำถามท่ีสงสยั อยากรูค้ ำตอบ สว่ นคนท่สี องทำหน้าท่เี ปน็ คนคน้ หาขอ้ มลู ให้คนท่ีสองใช้คอมพิวเตอร์ หรือมือถือในการ สบื ค้นขอ้ มลู จากระบบอนิ เทอรเ์ น็ตเพื่อให้คำตอบคนที่ 1 ภายในเวลา 2 นาที จากน้นั สลับหนา้ ที่กนั 6. ครูใหแ้ ต่ละครู่ ่วมกันสรา้ งคำถาม หรอื ตัง้ โจทย์ท่ตี ้องการทราบคำตอบรว่ มกันอยา่ งอิสระ 7. ครใู หแ้ ต่ละคู่สลับโจทยข์ องกลุ่มตนเองกบั กลมุ่ ข้าง ๆ หรือกลุม่ ทใ่ี กล้ที่สุด จากนนั้ ใหแ้ ลกกนั หาคำตอบที่ ไดร้ ับ 70
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 ความนา่ เชื่อถือของขอ้ มูล 8. ครูและนักเรียนทกุ กล่มุ ร่วมกนั อภปิ รายสรุปสิง่ ทไ่ี ดจ้ ากการทำกิจกรรม 1. ครูสรปุ ลักษณะและวิธกี ารใช้คำ การใช้งาน Search Engine เพอ่ื ใช้ในการค้นหาที่มีประสิทธภิ าพ ชว่ั โมงที่ 3 ข้ันสอนต่อ (60 นาที) 1. ครูตง้ั คำถามว่าจากการทำกิจกรรมทผี่ ่านมานกั เรียนใช้เครื่องมืออะไรในการสืบค้นบา้ ง (แนวคำตอบ Google chrome ,Firefox ,Yahoo ,Internet Explorer) 2. ครูถามว่าแต่ละเครื่องมือแตกต่างกันอย่างไร 3. ครูสุม่ นกั เรียนประมาณ 4-5 คน ให้เล่าประสบการณ์เก่ยี วกบั การใชง้ านอินเทอรเ์ น็ตวา่ นกั เรียนใชง้ าน อนิ เทอร์เนต็ รปู แบบใดบา้ ง อย่างไร 4. ครใู ห้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน แลว้ ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สืบคน้ เกย่ี วกบั รูปแบบการให้บริการ อนิ เทอร์เน็ตวา่ มีอะไรบา้ ง สรปุ ใสล่ งสมดุ โดยให้ใชเ้ ครอ่ื งคอมพิวเตอรห์ รอื สมารต์ โฟนในการสบื คน้ หรอื หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.4 หน้า 63-67 5. ครสู รุปรปู แบบการค้นหาข้อมูลจากอินเทอรเ์ นต็ มี 2 รูปแบบ คือ 1) การค้นหาในรปู แบบ Index Directory เปน็ การค้นหาข้อมูล โดยการคลิกเลอื กข้อมูลทตี่ ้องการดูใน เว็บบราวเซอร์ จากน้นั หน้าจอก็จะแสดงรายละเอียดของหวั ข้อปลีกยอ่ ยมาให้เลือก 2) การค้นหาในรูปแบบ Search Engine เป็นการค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต โดยใช้ ซอฟต์แวร์ค้นผา่ นเว็บ ชว่ั โมงท่ี 4 ขน้ั สอนต่อ (45 นาที) 1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันทบทวนจากช่ัวโมงทแ่ี ลว้ 2. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมว่า การใชง้ าน Search Engine นนั้ จะต้องพิมพค์ ำหรอื ข้อความซ่งึ เปน็ การอธิบายถงึ ข้อมลู ท่ีตอ้ งการจะค้นหา จากนนั้ Search Engine จะแสดงข้อมลู และเวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ ง โดยการ คน้ หาขอ้ มลู เช่น ภาพ ข้อความ คลิปวิดโี อ จะตอ้ งใช้คำที่ตรงประเดน็ ซึ่งเราเรียกคำทใ่ี ช้ในการคน้ หา ขอ้ มูลน้วี ่า คำค้น (Keyword) 3. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัดรายวชิ าวิทยาการคำนวณ เร่อื ง การใช้งานอนิ เทอรเ์ น็ต หนา้ 29-32 4. ครใู หน้ ักเรยี ร่วมกนั อภิปรายสรปุ ความรู้ รปู แบบการค้นข้อมลู จากอนิ เทอร์เนต็ 71
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การใชง้ านอนิ เตอร์เน็ต แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1 ความนา่ เช่อื ถอื ของขอ้ มลู ช่ัวโมงที่ 5 ข้ันสอนต่อ (45 นาที) 1. ครูเปดิ ภาพข่าวจากเฟสบคุ ให้นกั เรยี นดู พร้อมเล่าเนอ้ื หาจากข่าวและชวนนักเรยี นคยุ เกี่ยวกับข่าว (ขา่ วขึ้นอยกู่ ับความเหมาะสม และดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 2. ครูต้งั คำถามว่านกั เรยี นคดิ วา่ ข่าวที่ครูเอามาให้ดเู ปน็ เรื่องจรงิ หรือไม่ และทำไมคดิ อยา่ งนั้นให้นกั เรียน บอกเหตุผล 3. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ 4-5 คน คละความสามารถ จากน้ันใหแ้ ต่ละกลมุ่ ช่วยกนั หาวธิ กี ารแยกแยะความ น่าเชอื่ ถือของขา่ วและข้อมูล ใหน้ ักเรยี นเปิดหนังสือวชิ าวิทยาการคำนวณ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่4ี หน้า73 (การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมลู ) ภายในเวลา 5-10 นาที 4. ครสู ่มุ กล่มุ นกั เรียนมานำเสนอการประเมนิ ความน่าเช่อื ถือของขา่ วและข้อมูล พร้อมใหน้ ักเรียนตรวจสอบ ส่งิ ท่แี ตล่ ะกลมุ่ นำเสนอ 5. จากน้ันครแู นะแนวทางการประเมนิ ความนา่ เช่อื ถือของข้อมูลเพ่ิมเตมิ ขั้นสรุป (15 นาที) 1. ครูให้นกั เรียนรว่ มกันบอกวิธกี ารประเมินความนา่ เชื่อถอื ของขอ้ มลู 2. ครถู ามคำถามนักเรียนว่า เราสามารถนำอินเทอร์เนต็ ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจำวันอย่างไร 3. (แนวคำตอบข้นึ อย่กู บั ดุลยพินิจของครผู ู้สอน) 4. ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน เพ่อื วัดความรทู้ ่ีไดเ้ รยี นมาในหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่ือง การใชง้ าน อินเตอร์เน็ต 10.ส่อื แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.4 2. แบบฝึกหัด เรื่อง การใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ 72
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 การใชง้ านอนิ เตอรเ์ นต็ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1 ความนา่ เช่ือถือของขอ้ มูล 11.การวัดและการประเมนิ ผล จดุ ประสงค์ วิธีการประเมิน เครอ่ื งมือการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน - รอ้ ยละ 50 ขึ้นไป 1. นกั เรยี นสามารถอธิบาย - ตรวจแบบฝกึ หัดรายวิชา - แบบฝึกหัดรายวิชา ความหมายของ วทิ ยาการคำนวณ เรื่อง วทิ ยาการคำนวณ เร่ือง ผา่ นเกณฑ์ อินเทอร์เน็ต และประเมิน - คุณภาพระดบั ดี ความน่าเชอ่ื ถอื ของขอ้ มูล การใช้งานอนิ เทอร์เน็ต การใช้งานอนิ เทอรเ์ น็ต ได้ (K) ผ่านเกณฑ์ หนา้ 29-32 หนา้ 29-32 2.นกั เรยี นสามารถใชง้ าน - ร้อยละ 50 ขึน้ ไป อนิ เทอร์เนต็ ในการค้นหา - การนำเสนอวิธกี าร - แบบประเมนิ การ ผ่านเกณฑ์ ข้อมูลได้ (P) แยกแยะความนา่ เชอื่ ถือ นำเสนอ ของขา่ วและข้อมูล - แบบฝกึ หัดรายวิชา - แบบฝกึ หัดรายวิชา วิทยาการคำนวณ เรอ่ื ง วทิ ยาการคำนวณ เร่ือง การใช้งานอนิ เทอรเ์ นต็ การใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ หนา้ 29-32 หนา้ 29-32 3.นกั เรยี นสามารถ - ยกตวั อย่างการนำ - แบบประเมนิ พฤติกรรม - คุณภาพระดบั ดี ยกตวั อยา่ งการนำ อินเทอรเ์ นต็ ไปใช้ ผ่านเกณฑ์ อินเทอร์เนต็ ไปใชป้ ระโยชน์ ประโยชน์ใน ในชีวติ ประจำวันได้ (A) ชีวติ ประจำวนั 73
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 การใช้งานอินเตอร์เนต็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 ความนา่ เช่ือถือของขอ้ มลู แบบประเมินการนำเสนอ ประเด็นการประเมิน การใหค้ ะแนน (3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) 1.ความถูกต้องของเน้อื หา .2ประเมินความน่าเชื่อถอื ของข้อมลู ไดแ้ ละข่าวสารท่ไี ดร้ ับ 3.วธิ กี ารนำเสนอ 4.ใช้ภาษาถกู ตอ้ งเหมาะสม รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 10 – 12 ดี 6–9 1–5 พอใช้ ปรับปรุง 74
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การใชง้ านอนิ เตอร์เน็ต แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 ความนา่ เชอื่ ถือของข้อมลู เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเด็นการประเมิน คำอธิบายระดบั คุณภาพ / ระดับคะแนน ชน้ิ งาน ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรบั ปรุง (1 คะแนน) 1.ความถูกต้องของ เน้อื หาถูกตอ้ งครบถว้ น เน้อื หาถูกต้องค่อนขา้ ง มีเนือ้ หาไม่ครบถ้วนแต่ เนอ้ื หา สมบรู ณ์ สามารถตอบ ครบถ้วน ตอบคำถามได้ ภาพรวมของเนือ้ หาท้งั หมด คำถามไดท้ กุ ข้อ เป็นส่วนใหญ่ อย่ใู นเกณฑพ์ อใช้ 2.ประเมนิ ความ สามารถแยกแยะ และ สามารถแยกแยะ และ สามารถแยกแยะ และ นา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มูลได้ ประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถอื ประเมินความน่าเชื่อถอื ประเมนิ ความน่าเชอื่ ถือของ และข่าวสารท่ไี ดร้ ับ ของข้อมลู ข่าวสารทไ่ี ดร้ บั ของข้อมูล ขา่ วสารท่ไี ดร้ บั ข้อมูล ข่าวสารทีไ่ ด้รับจาก จากอินเทอรเ์ น็ตไดท้ ้ังหมด จากอินเทอร์เน็ตไดเ้ ปน็ อินเทอรเ์ น็ตได้เพียงบางส่วน สว่ นใหญ่ 3.วิธีการนำเสนอ รูปแบบการนำเสนอ รปู แบบการนำเสนอ รูปแบบการนำเสนอพอใช้ น่าสนใจ ลำดับเรอื่ งราวได้ น่าสนใจ ลำดบั เรือ่ งราวได้ ลำดบั เร่ืองราวได้พอใช้ ดีมาก ดี 4.ใช้ภาษาถูกต้อง ใชภ้ าษาถกู ตอ้ งเหมาะสม ใช้ภาษาถูกต้องเหมาะสม ใชภ้ าษาถูกต้องเหมาะสม เหมาะสม ออกเสียงได้ถูกตอ้ งดีมาก ลำดบั ความไดช้ ัดเจน ออกเสียงไดถ้ ูกต้องดี ออกเสยี งไดถ้ กู ตอ้ งพอใช้ เขา้ ใจงา่ ย ลำดบั ความไดด้ ี พอใช้ ลำดับความได้พอเขา้ ใจ 75
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การใชง้ านอนิ เตอร์เน็ต แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 ความน่าเชอื่ ถอื ของข้อมูล แบบสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียน คำช้แี จง : ครพู จิ ารณาให้คะแนนนักเรยี นรายบคุ คลตามข้อคำถามทีก่ ำหนดให้ในใบรายชอ่ื นกั เรยี น โดยใช้เกณฑ์ในการประเมนิ ดงั น้ี 3 = มาก 2 = ปานกลาง 1 = น้อย พฤตกิ รรมท่สี ังเกต ระดบั คะแนน (3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) 1. แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ เรียนร้ตู ่างๆ 2. ยกตวั อยา่ งการนำอนิ เทอร์เนต็ ไปใช้ประโยชน์ใน ชวี ิตประจำวัน 3. มวี นิ ยั และมุ่งมน่ั ในการทำงาน 4. เขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู 5. แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ รวมคะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 14 – 15 ดมี าก 11 – 13 ดี 8 – 10 พอใช้ 1–7 ปรับปรุง 76
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 การนำเสนอข้อมลู ด้วยซอฟตแ์ วร์ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การนำเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์ รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระยะเวลา 10 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชวี ติ จริงอยา่ งเป็นขั้นตอน ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการ แกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทนั และมจี ริยธรรม ตัวช้ีวัด ป.4/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 1) การรวบรวมขอ้ มูล ทำได้โดยกำหนดหวั ข้อท่ตี อ้ งการ เตรียมอุปกรณ์ในการจดบนั ทึก 2) การประมวลผลอย่างง่าย เชน่ การเปรียบเทียบ จัดกลุ่ม เรียงลำดับ การหาผลรวม 3) วเิ คราะห์ผลและสร้างทางเลือกท่เี ป็นไปได้ ประเมนิ ทางเลือก (เปรยี บเทียบ ตดั สนิ ) 4) การนำเสนอข้อมูลทำได้หลายลักษณะตามความเหมาะสม เช่น การบอกเล่า เอกสารรายงาน โปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ 5) การใช้ซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน เช่น การสำรวจเมนูอาหารกลางวันโดยใช้ ซอฟต์แวร์สร้างแบบสอบถามและเก็บข้อมูล ใช้ซอฟต์แวร์ตารางทำงานเพื่อประมวลผลข้อมูล รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการและสร้างรางการอาหารสำหรับ 5 วัน ใช้ซอฟต์แวร์ นำเสนอผลการสำรวจรางการอาหารทเี่ ป็นทางเลือกและข้อมูลดา้ นโภชนาการ 2.2 สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น (พิจารณาตามหลักสูตรสถานศกึ ษา) 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด ซอฟตแ์ วร์ (Software) คอื ชุดคำสง่ั ทีก่ ำหนดใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงาน แบ่งไดเ้ ปน็ 2 ประเภท ดงั น้ี ซอฟต์แวรร์ ะบบ เปน็ โปรแกรมทใี่ ชค้ วบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น ระบบปฏบิ ตั ิการ OS ระบบปฏิบตั ิการ Windows เปน็ ตน้ ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ เปน็ โปรแกรมทีใ่ ชท้ ำงาน และเพ่อื ประโยชน์ตา่ ง ๆ เช่น โปรแกรม Microsoft Office โปรแกรม Adobe Photoshop เป็นตน้ การนำเสนองานด้วยโปรแกรมจำเปน็ ต้องวิเคราะหค์ วามเหมาะสมของลักษณะโปรแกรมท่ใี ช้ด้วย วา่ โปรแกรมมีความเหมาะสมกับช้ินงานชนิดใด
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การนำเสนอขอ้ มูลด้วยซอฟต์แวร์ 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ความสามารถในการคดิ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประวัตสิ ่วนตวั ในโปรแกรม Microsoft Word - การนำเสนอตนเองในการสมัครงานโปรแกรม Microsoft PowerPoint - บัญชีรายรบั -รายจ่าย ในโปรแกรม Microsoft Excel 6. การวดั และการประเมนิ ผล รายการวดั วิธวี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ - แบบทดสอบกอ่ น - ประเมนิ ตาม 6.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบ เรียน สภาพจรงิ - แบบทดสอบก่อนเรียน กอ่ นเรยี น - แบบประเมินผลงาน - คณุ ภาพระดับดี หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ผ่านเกณฑ์ - แบบฝกึ หัด เร่ือง การใช้งาน เทคโนโลยี - ร้อยละ 50 ขึ้นไป (วิทยาการคำนวณ) ผา่ นเกณฑ์ อินเทอรเ์ นต็ ป.4 หนา้ 41-44 - ระดับคุณภาพดี 6.2 การประเมินระหวา่ ง - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ ชน้ิ งาน การจัดกจิ กรรม - ระดบั คุณภาพดี - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ 1) งานนำเสนอโดยใช้ - ประวตั ิส่วนตัว ชิ้นงาน - ระดับคุณภาพดี โปรแกรม Microsoft - แบบสังเกต Word 2) แบบฝกึ หัดการนำเสนอ - ตรวจแบบฝกึ หัด ข้อมลู โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ เทคโนโลยี(วทิ ยาการ คำนวณ) ป.4 หน้า 41-44 3) การใช้ Microsoft - ตรวจชน้ิ งานการ PowerPoint นำเสนอตนเองในการ สมคั รงานโปรแกรม Microsoft PowerPoint 4) การใช้ Microsoft - ตรวจชนิ้ งานบัญชี Excel รายรับ-รายจา่ ย ใน โปรแกรม Microsoft Excel 5) สงั เกตพฤตกิ รรม - สังเกตพฤติกรรม
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การนำเสนอข้อมลู ด้วยซอฟต์แวร์ รายการวดั วธิ ีวัด เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ นกั เรียน รายบุคคล - ตรวจแบบทดสอบ พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ หลังเรยี น 6.3 การประเมนิ หลังเรยี น- - แบบทดสอบหลังเรยี น - ร้อยละ 50 - แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 ผ่านเกณฑ์ เรือ่ ง การใช้งาน อินเทอรเ์ นต็ 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา 4 ช่วั โมง เวลา 3 ชั่วโมง • แผนฯ ท่ี 1 : ประวตั ิส่วนตวั ของฉนั เวลา 3 ชั่วโมง (รวมเวลา 10 ชั่วโมง) วิธีสอนแบบกระบวนการคิดคำนวณ (Computational Thinking Process) • แผนฯ ท่ี 2 : นักพรีเซนต์คนเก่ง วิธสี อนแบบกระบวนการคิดคำนวณ (Computational Thinking Process) • แผนฯ ท่ี 3 : โปรแกรมจดั การตัวเลข วิธสี อนแบบกระบวนการคิดคำนวณ (Computational Thinking Process) 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี น รายวชิ าวทิ ยาการคำนวณ ป.4 8.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งเรยี น 2) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การนำเสนอขอ้ มูลด้วยซอฟต์แวร์ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 การนำเสนอขอ้ มลู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์ คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1.ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ซอฟต์แวรไ์ ด้ถูกต้อง ก. ซอฟตแ์ วร์ คือ ชดุ คำสงั่ ทก่ี ำหนดให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ข. ซอฟตแ์ วร์ คอื โปรแกรมทใ่ี ชใ้ นแกไ้ ขและตกแต่งรปู ภาพ ค. ซอฟตแ์ วร์ คอื โปรแกรมที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู และนำเสนองาน ง. ซอฟต์แวร์ คือ ชดุ คำสั่งทเี่ ป็นตัวเลข ใช้ในการคำนวณ ประมวลผลข้อมูลโดยใชส้ ูตรทาง คณิตศาสตร์ 2. โปรแกรมไมโครซอฟต์เวริ ์ด เปน็ ซอฟตแ์ วรป์ ระเภทใด ก. ซอฟตแ์ วร์ระบบ ข. ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ ค. ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ง. ซอฟตแ์ วร์สอื่ สารขอ้ มลู 3.หากข้อมลู มลี ักษณะเป็นตัวเลข ตอ้ งคำนวณโดยใชส้ ูตรทางคณิตศาสตร์ โปรแกรมที่เหมาะสมในการนำเสนอ คือโปรแกรมใด ก. ไมโครซอฟต์เวิร์ด ข. ไมโครซอฟตอ์ อฟฟิศ ค. ไมโครซอฟตเ์ อ็กเซล ง. ไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ 4.หากต้องการทำรายงานที่มีลักษณะเปน็ ตวั อักษร มรี ปู ภาพประกอบ โปรแกรมทเี่ หมาะสมในการนำเสนอคอื โปรแกรมใด ก. ไมโครซอฟต์เวริ ด์ ข. ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ ค. ไมโครซอฟตเ์ อก็ เซล ง. ไมโครซอฟตเ์ พาเวอรพ์ อยต์ 5. เมอื่ พิมพ์ข้อความในโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดแล้วตอ้ งการเน้นขอ้ ความดว้ ยไฮไลตจ์ ะต้องคลิกเลอื ก เคร่อื งมือใด ก. ข. ค. ง. 6. เมื่อตอ้ งการสรา้ งรูปดาวในโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ด ตอ้ งเลอื กเครอ่ื งมอื ใดจงึ จะเหมาะสมท่ีสดุ ก. ข. ค. ง.
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 การนำเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟต์แวร์ 7. ข้อใดตอ่ ไปนเ้ี ปน็ ข้นั ตอนในการสร้างตารางในโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิรด์ ก. View > Table > เลอื กคอลมั น์และแถวของตาราง ข. Insert > Table > เลือกคอลัมนแ์ ละแถวของตาราง ค. Insert > Text Box > เลอื กคอลัมนแ์ ละแถวของตาราง ง. Page Layout > Columns > เลือกคอลัมน์และแถวของตาราง 8. พื้นที่สำหรับพมิ พ์ข้อความในโปรแกรมไมโครซอฟต์เอก็ เซล เรียกว่าอะไร ก. รบิ บอน ข. ชีตงาน ค. พ้ืนท่ีทำงาน ง. แถบเครือ่ งมือ 9. หากตอ้ งการนำเสนองานในรปู แบบสไลด์หรือภาพนิง่ โปรแกรมทเี่ หมาะสมในการนำเสนอคอื โปรแกรมใด ก. ไมโครซอฟต์เวริ ์ด ข. ไมโครซอฟต์ออฟฟศิ ค. ไมโครซอฟตเ์ อ็กเซล ง. ไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยต์ 10. เมอื่ จดั ทำขอ้ มูลเพอ่ื นำเสนอโดยใช้โปรแกรมตา่ ง ๆ แลว้ ควรปฏิบัติอย่างไร ก. บนั ทึกไฟลง์ านด้วยชอื่ ท่ีซับซอ้ น ทันสมัย เพ่ือไมใ่ ห้ไฟล์งานท่ีบนั ทกึ ไวส้ ูญหาย ข. สำรองขอ้ มูลไฟลง์ านไวใ้ นที่เก็บข้อมูลภายนอก เชน่ แฟลชไดรฟ์ หรอื อัปโหลดลงเว็บฝากข้อมูล ค. ควรตรวจสอบขอ้ มูลอีกคร้งั เพื่อพจิ ารณาความทันสมัยของข้อมลู และรูปภาพท่ีนำมาใช้ในการ จดั ทำมีความคมชดั และสวยงามหรือไม่ ง. พจิ าณาโปรแกรมท่ีเลอื กใชว้ ่ามีความเหมาะสมกับชิ้นงานทีต่ ้องการนำเสนอหรือไม่ หากไม่ เหมาะสมให้เปลี่ยนโปรแกรมในการนำเสนองาน เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ก 5. ง 6. ค 7. ข 8. ค 9. ง 10. ข
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 การนำเสนอข้อมลู ด้วยซอฟตแ์ วร์ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 การนำเสนอข้อมลู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์ คำชีแ้ จง : ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1.ข้อใดกลา่ วถงึ ซอฟตแ์ วร์ได้ถกู ต้อง ก. ซอฟตแ์ วร์ คือ ชุดคำสัง่ ที่กำหนดให้คอมพวิ เตอร์ทำงาน ข. ซอฟต์แวร์ คือ โปรแกรมทใ่ี ช้ในแกไ้ ขและตกแตง่ รูปภาพ ค. ซอฟต์แวร์ คือ โปรแกรมท่ีใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนองาน ง. ซอฟตแ์ วร์ คอื ชุดคำสงั่ ที่เปน็ ตัวเลข ใช้ในการคำนวณ ประมวลผลขอ้ มูลโดยใช้สูตรทาง คณิตศาสตร์ 2. โปรแกรมไมโครซอฟต์เวริ ์ด เปน็ ซอฟตแ์ วร์ประเภทใด ก. ซอฟตแ์ วร์ระบบ ข. ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ ค. ซอฟต์แวรป์ ระมวลคำ ง. ซอฟต์แวร์ส่ือสารข้อมูล 3.หากขอ้ มูลมลี กั ษณะเปน็ ตวั เลข ตอ้ งคำนวณโดยใชส้ ูตรทางคณิตศาสตร์ โปรแกรมที่เหมาะสมในการนำเสนอ คือโปรแกรมใด ก. ไมโครซอฟต์เวริ ์ด ข. ไมโครซอฟต์ออฟฟศิ ค. ไมโครซอฟต์เอ็กเซล ง. ไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยต์ 4.หากตอ้ งการทำรายงานที่มีลกั ษณะเป็นตัวอกั ษร มรี ปู ภาพประกอบ โปรแกรมทีเ่ หมาะสมในการนำเสนอคอื โปรแกรมใด ก. ไมโครซอฟต์เวริ ด์ ข. ไมโครซอฟตอ์ อฟฟิศ ค. ไมโครซอฟตเ์ อก็ เซล ง. ไมโครซอฟตเ์ พาเวอรพ์ อยต์ 5. เมอ่ื พมิ พข์ ้อความในโปรแกรมไมโครซอฟต์เวริ ด์ แลว้ ต้องการเนน้ ขอ้ ความดว้ ยไฮไลต์จะต้องคลิกเลอื ก เครอื่ งมือใด ก. ข. ค. ง. 6. เม่อื ต้องการสรา้ งรูปดาวในโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ด ตอ้ งเลอื กเครื่องมือใดจึงจะเหมาะสมที่สุด ก. ข. ค. ง.
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 การนำเสนอข้อมลู ด้วยซอฟต์แวร์ 7. ข้อใดตอ่ ไปนี้เป็นขน้ั ตอนในการสร้างตารางในโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิรด์ ก. View > Table > เลอื กคอลัมน์และแถวของตาราง ข. Insert > Table > เลอื กคอลมั น์และแถวของตาราง ค. Insert > Text Box > เลอื กคอลมั นแ์ ละแถวของตาราง ง. Page Layout > Columns > เลอื กคอลมั นแ์ ละแถวของตาราง 8. พื้นที่สำหรับพมิ พ์ข้อความในโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ อก็ เซล เรยี กวา่ อะไร ก. รบิ บอน ข. ชีตงาน ค. พ้ืนที่ทำงาน ง. แถบเครือ่ งมือ 9. หากตอ้ งการนำเสนองานในรปู แบบสไลด์หรือภาพนง่ิ โปรแกรมท่ีเหมาะสมในการนำเสนอคอื โปรแกรมใด ก. ไมโครซอฟตเ์ วริ ด์ ข. ไมโครซอฟตอ์ อฟฟศิ ค. ไมโครซอฟตเ์ อ็กเซล ง. ไมโครซอฟตเ์ พาเวอรพ์ อยต์ 10. เมอื่ จดั ทำข้อมูลเพื่อนำเสนอโดยใชโ้ ปรแกรมตา่ ง ๆ แล้ว ควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ก. บันทึกไฟลง์ านด้วยช่อื ทซ่ี บั ซอ้ น ทันสมยั เพอ่ื ไม่ให้ไฟลง์ านทบี่ ันทกึ ไวส้ ูญหาย ข. สำรองข้อมลู ไฟล์งานไวใ้ นทีเ่ ก็บข้อมูลภายนอก เชน่ แฟลชไดรฟ์ หรอื อัปโหลดลงเว็บฝากขอ้ มูล ค. ควรตรวจสอบขอ้ มลู อีกคร้ังเพอ่ื พจิ ารณาความทันสมยั ของขอ้ มลู และรูปภาพทน่ี ำมาใช้ในการ จดั ทำมีความคมชดั และสวยงามหรอื ไม่ ง. พจิ าณาโปรแกรมที่เลือกใช้วา่ มีความเหมาะสมกบั ชน้ิ งานทต่ี ้องการนำเสนอหรือไม่ หากไม่ เหมาะสมใหเ้ ปลี่ยนโปรแกรมในการนำเสนองาน เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ก 5. ง 6. ค 7. ข 8. ค 9. ง 10. ข
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 การนำเสนอขอ้ มลู ดว้ ยซอฟตแ์ วร์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1 ประวัตสิ ว่ นตวั ของฉนั แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 การนำเสนอข้อมูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์ เวลา 10 ช่ัวโมง เรือ่ ง ประวตั ิส่วนตัวของฉัน เวลา 4 ชั่วโมง รายวิชา วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 1.มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปญั หาทพี่ บในชวี ติ จรงิ อย่างเปน็ ขัน้ ตอนและ เปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ แกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ รูเ้ ทา่ ทนั และมีจรยิ ธรรม ตวั ชี้วัด ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ที่หลากหลายเพ่อื แกป้ ญั หาในชีวิตประจำวนั 2.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถอธิบายอธิบายความหมายเกีย่ วกับซอฟตแ์ วร์ได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถใชง้ านเครื่องมือพน้ื ฐานในโปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดการพมิ พข์ อ้ ความได้ (P) 3. นักเรยี นเหน็ ความสำคัญในการใช้โปรแกรมหรือซอฟต์แวรใ์ นชีวติ ประจำวนั (A) 3.สาระสำคญั ซอฟต์แวร์ (Software) คือ ชุดคำสั่งที่กำหนดให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามความต้องการ เช่น การนำเสนอ งาน การพิมพง์ านเอกสาร รายงาน โปสเตอร์ โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิรด์ (Microsoft Word) ใช้ในการพมิ พ์งานเอกสารที่เปน็ ขอ้ มูลลกั ษณะเป็นตัวอักษร และมีรูปภาพประกอบ เชน่ รายงาน โปสเตอร์ ฯลฯ และยังสามารถใช้งานระบบอัตโนมัตติ ่าง ๆ ไดด้ ้วย เช่น การ ค้นหาคำ ตรวจสอบไวยากรณ์ การสรา้ งตาราง ฯลฯ 4.สาระการเรยี นรู้ การใช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ด์ คอมพวิ เตอร์เพื่อการจดั ทำเอกสาร ขอ้ มูล สารสนเทศ 5.รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน - การอภิปราย 6.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการสอื่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7.ทักษะ 4 Cs ทักษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking) ทักษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill) ทกั ษะการส่ือสาร (Communication Skill) ทกั ษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) 76
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การนำเสนอขอ้ มูลด้วยซอฟตแ์ วร์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1 ประวตั สิ ว่ นตวั ของฉนั 8.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ซอ่ื สัตย์ สุจริต รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ใฝ่เรียนรู้ มีวินยั ม่งุ มัน่ ในการทำงาน อยู่อย่างพอเพียง รักความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ 9.การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ขัน้ นำ (10 นาที) 1. ครูนำตวั อย่างโปรไฟล์ในรปู แบบ Port folio ให้นักเรยี นดู จากนั้นตัง้ คำถามว่านกั เรยี นชอบการออกแบบแบบไหน จากตวั อยา่ งที่ดูทง้ั หมด (ครปู รนิ้ ใหน้ ักเรยี นด)ู 2. ครถู ามนกั เรยี นวา่ หากนักเรียนต้องการทำพอร์ทตาม ตัวอยา่ งต่าง ๆ ท่เี หน็ สกั ครู่ นักเรียนคิดโปรแกรมอะไร สามารทำได้บา้ ง 3. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั บอกตวั อยา่ งโปรแกรมทคี่ าดวา่ จะใช้สรา้ งพอรท์ ได้ ขนั้ สอน (50 นาท)ี ลิงกต์ วั อยา่ ง 1. ครูบอกนักเรียนว่าจะแนะนำโปรแกรมที่ใช้ในการสร้าง 2. แบบงา่ ยไมย่ ุ่งยากให้กับนักเรียนแตน่ ักเรยี นตอ้ งรจู้ ัก 3. กอ่ นวา่ โปรแกรม และซอฟตแ์ วร์คอื อะไร 4. ครใู ห้นักเรยี นเปดิ หนงั สอื วทิ ยาการคำนวณ ช้นั ประถมศึกษาปีท่4ี หนา้ 83 จากนัน้ ครอู ธบิ ายเร่อื ง ซอฟต์แวรใ์ นหนา้ 83-85 ชวั่ โมงที่ 2 ขัน้ สอนตอ่ (50 นาท)ี 1. ครทู บทวนความรจู้ ากช่ัวโมงที่แล้วใหน้ กั เรียนฟงั 2. ครใู หน้ ักเรยี นเปดิ โปรแกรม Word จากนัน้ ครูแนะนำประโยชนข์ องโปรแกรม Word 3. ครูสอนวธิ ใี ช้งานโปรแกรมตามหนงั สือเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.4 หนา้ 86-92 4. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกนั บอกเครอ่ื งมอื ทไ่ี ด้เรียนในชวั่ โมง และหน้าที่ของเครือ่ งมือ 77
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การนำเสนอข้อมูลด้วยซอฟต์แวร์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1 ประวตั สิ ว่ นตวั ของฉนั ชวั่ โมงท่ี 3 ข้นั สอนต่อ (50 นาท)ี 1. ครูให้นกั เรียนทบทวนเครือ่ งมือที่เรียนในโปรแกรม Word จากชวั่ โมงทแ่ี ลว้ 2. ครูนำตวั อยา่ งประวตั ิส่วนตวั ท่คี รทู ำจากโปรแกรม Word พร้อมตกแตง่ ด้วยเครื่องมอื หลากหลายชนิด อยา่ งสวยงามให้นกั เรียนดู 3. ครูให้นกั เรยี นออกแบบประวตั ิสว่ นตัวของตนเองดว้ ยโปรแกรม Word จากเครื่องมอื ทค่ี รสู อนใชม้ าแลว้ อย่างสวยงามท่สี ุด ช่วั โมงท่ี 4 ขัน้ สอนตอ่ (50 นาที) 1. ครูสอบถามเร่ืองการทำประวัติสว่ นตวั ของนกั เรียน 2. ครใู ห้นกั เรียนทีย่ งทำไมเ่ สรจ็ ทำชิ้นงานต่อจากช่ัวโมงทแ่ี ล้ว ข้ันสรปุ (10 นาท)ี 1. ครตู รวจผลงานประวตั ิสว่ นตวั ของนักเรยี นพรอ้ มใหค้ ะแนน 2. ครูให้นักเรยี นบอกประโยชน์ของการใชโ้ ปรแกรมในชีวติ ประจำวัน 3. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั เรื่องการนำเสนอขอ้ มูลโดยใช้ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์ ในแบบฝกึ หดั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.4 หนา้ 41-44 10.ส่อื แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.4 78
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 การนำเสนอขอ้ มลู ด้วยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 ประวตั ิส่วนตัวของฉนั 11.การวัดและการประเมนิ ผล จุดประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เครอื่ งมอื การประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน 1.นกั เรยี นบอกลักษณะของ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั - รอ้ ยละ 50 ขน้ึ ไป ซอฟแวร์ได้ เทคโนโลยี(วทิ ยาการ เทคโนโลยี ผา่ นเกณฑ์ คำนวณ) ป.4 หนา้ (วทิ ยาการคำนวณ) 41-44 ป.4 หน้า 41-44 2.นักเรยี นสามารถใชง้ าน - ตรวจผลชิ้นงาน - แบบประเมนิ ผลงาน - คณุ ภาพระดบั ดี ผ่าน เครอ่ื งมอื พนื้ ฐานในการ ประวัติส่วนตัว เกณฑ์ พมิ พ์ขอ้ ความได้ 3.นกั เรียนเห็นความสำคญั - นักเรียนยกตัวอยา่ ง - แบบประเมนิ - คณุ ภาพระดับดี ผา่ น ในการใช้โปรแกรมซอฟแวร์ การใช้โปรแกรม พฤตกิ รรม เกณฑ์ เวริ ด์ ในชีวิตประจำวัน Word ใน ชีวติ ประจำวนั ได้ 79
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 การนำเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 ประวัตสิ ว่ นตวั ของฉัน แบบประเมินผลงานประวตั สิ ว่ นตวั ประเด็นการประเมนิ ชิน้ งาน 3 คะแนน การให้คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 1.ความสอดคล้องของเนอื้ หา 2.คณุ ภาพของผลงานและการนำเสนอข้อมลู ใน โปรแกรม Microsoft Word รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5-6 ดี 3-4 1-2 พอใช้ ปรบั ปรงุ 80
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การนำเสนอขอ้ มูลดว้ ยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ประวตั ิส่วนตวั ของฉนั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเดน็ การประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ / ระดบั คะแนน ช้ินงาน ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรบั ปรุง (1 คะแนน) 1.ความสอดคล้องของ 1.นักเรยี นแสดงออกถึง 1.นักเรียนแสดงออกถึงการ 1.นกั เรยี นแสดงออกถึงการ เน้ือหา การวางแผน การ วางแผน การนำเสนอข้อมลู วางแผน การนำเสนอขอ้ มูล ชัดเจน เขา้ ใจงา่ ยบางสว่ น นำเสนอขอ้ มูล อยา่ ง ชัดเจน เขา้ ใจงา่ ยเปน็ สว่ น โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ในการสร้าง ชดั เจน เขา้ ใจง่าย โดยใช้ ใหญ่ โดยใช้ซอฟต์แวร์ใน ชน้ิ งานสมั พนั ธ์กบั โจทย์ท่ี ไดร้ ับ ซอฟตแ์ วร์ในการสรา้ ง การสร้างช้นิ งานสัมพันธก์ บั ชิ้นงานสัมพันธก์ ับโจทย์ โจทย์ท่ไี ด้รบั ทไี่ ดร้ บั 2.คุณภาพของผลงานและ 2.นักเรยี นสามารถใช้ 2.นกั เรยี นสามารถใช้ 2.นักเรียนสามารถใช้ การนำเสนอข้อมูลใน โปรแกรม Word โปรแกรม Word ออกแบบ โปรแกรม Word ออกแบบ โปรแกรม Word ออกแบบประวตั สิ ว่ นตวั ประวตั สิ ว่ นตัวของตนเอง ประวัติสว่ นตวั ของตนเอง ของตนเอง และใชง้ าน และใชง้ านเครอ่ื งมอื พ้นื ฐาน และใชง้ านเครอื่ งมือพื้นฐาน เครือ่ งมือพืน้ ฐานในการ ในการพมิ พ์ขอ้ ความได้เปน็ ในการพิมพข์ อ้ ความได้บาง พมิ พข์ อ้ ความไดอ้ ย่าง ส่วนใหญ่ ในการสรา้ ง เคร่อื งมอื ในการสรา้ ง หลากหลาย ในการสร้าง ชิ้นงาน ชิน้ งาน ชน้ิ งาน 81
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 การนำเสนอขอ้ มลู ด้วยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 ประวัตสิ ว่ นตวั ของฉนั แบบสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียน คำชแี้ จง : ครูพจิ ารณาให้คะแนนนักเรยี นรายบคุ คลตามข้อคำถามท่กี ำหนดใหใ้ นใบรายช่อื นักเรียน โดยใช้เกณฑ์ในการประเมนิ ดังน้ี 3 = มาก 2 = ปานกลาง 1 = น้อย พฤติกรรมทส่ี งั เกต ระดบั คะแนน 1 32 1. แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ เรยี นร้ตู ่าง ๆ 2. ยกตวั อย่างการใช้โปรแกรม Word ใน ชีวติ ประจำวันได้ 3. มวี นิ ยั และมุง่ ม่ันในการทำงาน 4. เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ รวมคะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14 – 15 ดีมาก 11 – 13 ดี 8 – 10 พอใช้ 1–7 ปรับปรงุ 82
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2 นกั พรีเซนตค์ นเก่ง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การนำเสนอขอ้ มลู ดว้ ยซอฟต์แวร์ เวลา 10 ชั่วโมง เร่อื ง นักพรีเซนต์คนเก่ง เวลา 3 ชั่วโมง รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 1.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวติ จริงอย่างเป็นข้นั ตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ แกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ร้เู ทา่ ทันและมจี รยิ ธรรม ตัวชว้ี ัด ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ทีห่ ลากหลายเพื่อ แก้ปัญหาในชวี ิตประจำวนั 2.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธบิ ายลกั ษณะของโปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ได้ (K) 2. นักเรียนสามารถใช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยต์ในการสรา้ งไฟลน์ ำเสนอได้ (P) 3. นกั เรยี นเห็นประโยชนข์ องการใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยตใ์ นการนำเสนองาน (A) 3.สาระสำคญั โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์เป็นโปรแกรมหนง่ึ ในตระกูลไมโครซอฟต์ออฟฟิต เหมาะสำหรบั การใช้ นำเสนองาน โดยสร้างออกมาเป็นสไลด์ย่อย ๆ แต่ละสไลด์จะสามารถใส่ข้อมูลต่าง ๆ ได้ เช่น ตัวอักษร รูปภาพ เสียง ภาพเคล่ือนไหว เพ่อื สรา้ งความนา่ สนใจใหเ้ พ่มิ มากขน้ึ ในการนำเสนองาน 4.สาระการเรยี นรู้ การใช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยต์เพอื่ การจดั ทำเอกสาร ขอ้ มูล สารสนเทศ การนำเสนองาน 5.รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน - การอภิปราย - บทบาทสมมติ 6.สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการส่อื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7.ทกั ษะ 4 Cs ทักษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill) ทกั ษะการส่อื สาร (Communication Skill) ทกั ษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) 82
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย ซอื่ สัตย์ สจุ ริต แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 2 นักพรีเซนต์คนเกง่ ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 8.คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มจี ิตสาธารณะ มีวนิ ยั อยู่อย่างพอเพียง รักความเปน็ ไทย 9.การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1 ขั้นนำ (10 นาท)ี 1. ครสู นทนากับนักเรียนวา่ ถา้ นักเรียนเปน็ แมค่ า้ นักเรยี นจะนำเสนอขายสินค้าอย่างไร แนวคำตอบ ตามความคดิ เหน็ ของนักเรียน 2. ครูสุ่มนกั รยี น 2-3 คน ออกมาสาธิตการนำเสนอขายกระถางต้นไม้ 3. ครถู ามนักเรยี นวา่ นกั เรียนคิดว่าการนำเสนอดว้ ยปากเปล่านา่ สนใจหรือไม่ แนวคำตอบ ยงั ไม่นา่ สนใจเท่าท่ีควร ข้ันสอน (50 นาท)ี 1. นักเรยี นเคยใชโ้ ปรแกรม Microsoft PowerPoint หรอื ไม่ และใชท้ ำอะไรบ้าง แนวคำตอบ ไมเ่ คยใช/้ เคยใชใ้ นการนำเสนองาน ใส่รปู ภาพ 2. ครูให้นักเรยี นเปิดโปรแกรม Microsoft PowerPoint ตามขนั้ ตอนในหนงั สอื วทิ ยาการคำนวณ ป.4 หนา้ 93 3. เมื่อนกั เรยี นเปิดโปรแกรม Microsoft PowerPoint แลว้ จะปรากฏหนา้ ต่างสว่ นประกอบของโปรแกรม ครใู หน้ ักเรยี นศกึ ษาส่วนประกอบต่าง ๆ ในโปรแกรมและลองใช้เครื่องมือตา่ งๆ โดยศึกษาขอ้ มลู เพิ่มเติม เก่ียวกับเครอื่ งมือต่างๆ ในหนงั สอื วทิ ยาการคำนวณ ป.4 หน้า 99 4. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงานท่ี 4.3 เรื่อง สว่ นประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft PowerPoint 5. ครูให้นกั เรียนศกึ ษาขอ้ มลู เก่ยี วกบั การนำเสนองานด้วยโปรแกรม Microsoft PowerPoint จากหนงั สือ วทิ ยาการคำนวณ ป.4 หนา้ 100 6. ครูถามนกั เรียนวา่ คำถาม - ถ้าต้องการใส่ข้อความในโปรแกรม Microsoft PowerPoint สามารถทำได้อย่างไร (ให้นักเรยี นใช้ โปรแกรม เพื่อหาคำตอบเอง) แนวคำตอบ 1) คลกิ เลือกพืน้ ท่ีทีต่ ้องการพมิ พ์ขอ้ ความ 83
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 นกั พรเี ซนตค์ นเก่ง 2) คลิกเลอื กรูปแบบขนาดและลักษณะของตัวอักษรทีต่ อ้ งการ 3) คลกิ ในพื้นทสี่ ำหรบั พมิ พข์ อ้ ความ แล้วพิมพข์ ้อความตามท่ีตอ้ งการจากน้นั คลิกพื้นท่ี ว่างนอกกรอบ 7. ครใู ห้นกั เรยี นปฏบิ ตั ติ ามคำตอบเพื่อให้ได้ผลลพั ธ์ท่ถี ูกต้อง หากนกั เรยี นยงั ไดผ้ ลลพั ธ์ท่ีไม่ถูกตอ้ งหรอื ยงั ทำ ไม่ได้ ครใู ห้ศกึ ษาข้นั ตอนการใส่ขอ้ ความในหนงั สือวทิ ยาการคำนวณ ป.4 หน้า 100 และครใู ห้คำแนะนำ เพม่ิ เติม 8. ครถู ามนักเรยี น คำถาม - นักเรียนคดิ วา่ พน้ื หลังสีขาว ดูนา่ สนใจหรอื ไม่ ทำอย่างไรจงึ จะทำให้พ้ืนหลงั น่าสนใจหรือ สวยงามขน้ึ แนวคำตอบ ไมน่ า่ สนใจ ควรเพม่ิ ภาพพ้ืนหลังสไลด์ - การเพม่ิ ภาพพืน้ หลงั สไลด์ ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint ทำได้อยา่ งไร อยา่ งไร (ให้ นกั เรยี นใชโ้ ปรแกรม เพื่อหาคำตอบ) แนวคำตอบ คลกิ ขวาบนพ้นื ที่วา่ ง > Format Background > เลอื กสี และรปู แบบที่ ต้องการ > คลกิ Close เพอื่ ใชก้ บั สไลด์น/้ี คลกิ Apply to all เพ่ือใช้กบั สไลด์ทกุ หน้า 9. ครใู ห้นกั เรียนปฏิบัตติ ามคำตอบเพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์ท่ีถกู ต้อง หากนักเรียนยังไม่ไดผ้ ลลพั ธ์ครูใหศ้ ึกษาข้นั ตอน การตกแตง่ พนื้ หลงั สไลด์ในหนังสือวิทยาการคำนวณ ป.4 หนา้ 100 และครูให้คำแนะนำเพม่ิ เตมิ 10. ครูถามนักเรียนวา่ คำถาม - ถ้าเรานำเสนอสนิ ค้า แต่ไม่ใส่รปู สนิ ค้า การนำเสนอน่านา่ สนใจหรอื ไม่ แนวคำตอบ ไม่น่าสนใจ เพราะไมเ่ หน็ ภาพสินคา้ - ถ้าตอ้ งการใสร่ ูปประกอบในโปรแกรม Microsoft PowerPoint ต้องทำอยา่ งไร แนวคำตอบ คลิก Insert > Picture >เลอื กภาพ >คลกิ Insert 11. ครูใหน้ กั เรียนปฏิบัติตามคำตอบเพ่ือให้ไดผ้ ลลพั ธท์ ่ถี ูกต้อง หากนกั เรยี นยังไม่ได้ผลลัพธค์ รใู ห้ศึกษาขัน้ ตอน การใส่ข้อความและการสร้างรูปแบบตารางในหนังสือวิทยาการคำนวณ ป.4 หน้า 100 และครูให้ คำแนะนำเพ่มิ เติม 84
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 นักพรีเซนตค์ นเก่ง ชั่วโมงท่ี 2 ขัน้ สอน (60 นาท)ี 1. ครูใหน้ ักเรยี นทบทวนการใชง้ านเครื่องมือในโปรแกรม PowerPoint 2. ครูให้นักเรียนสมมติบทบาทตนเองว่ากำลังไปสมัครงานในบรษิ ัทท่อี ยากทำงานด้วย นกั เรียนจะมวี ิธกี าร นำเสนอตนเองอยา่ งไรโดยการออกแบบการนำเสนอด้วยโปรแกรม PowerPoint จากนัน้ ให้นักเรียน ออกแบบการนำเสนอด้วยโปรแกรม PowerPoint และเตรียมนำเสนอในชว่ั โมงหน้า ชว่ั โมงที่ 3 ขั้นสอน (30 นาท)ี 1. ครใู ห้นักเรียนทบทวนการทำชนิ้ งานจากชั่วโมงท่ีแล้ว และสอบถามนักเรียนทท่ี ำงานเสรจ็ แล้ว 2. ครูใหน้ กั เรยี นท่ียงั ทำงานไมเ่ สร็จทำงานตอ่ และคอยกำกบั ดูแลความเรียบรอ้ ย 3. ครูให้นักเรียนนำเสนอตนเองดว้ ยโปรแกรม PowerPoint ข้นั สรุป (20 นาท)ี 1. ครตู รวจชนิ้ งานนกั เรยี นพร้อมให้คะแนน 2. ครูให้นักเรียนบอกประโยชน์การนำเสนอข้อมลู ในชวี ติ ประจำวัน 10.สอ่ื แหลง่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรียนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.4 85
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 2 นกั พรีเซนต์คนเก่ง 11.การวัดและการประเมนิ ผล จดุ ประสงค์ วิธีการประเมนิ เคร่ืองมือการประเมิน เกณฑ์การประเมิน - รอ้ ยละ 50 ขึน้ ไป 1. นักเรยี นสามารถอธิบาย - ตรวจสมุด - สมดุ แบบฝกึ หัด ลกั ษณะของโปรแกรม แบบฝึกหัด ผา่ นเกณฑ์ ไมโครซอฟต์เพาเวอรพ์ อยต์ - ระดับคณุ ภาพดี ได้ ผ่านเกณฑ์ 2. นักเรยี นสามารถใช้ - ตรวจชน้ิ งานการ - แบบประเมินชิ้นงาน - ระดับคณุ ภาพดี โปรแกรมไมโครซอฟต์ ออกแบบการ - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ เพาเวอรพ์ อยต์ในการสรา้ ง นำเสนอ วิธกี าร ไฟลน์ ำเสนอได้ นำเสนอตนเองใน พฤติกรรม การสมคั รงานดว้ ย 3. นักเรียนเห็นประโยชน์ โปรแกรม ของการใชโ้ ปรแกรม ไมโครซอฟต์ ไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยต์ เพาเวอร์พอยต์ ในการนำเสนองาน - นักเรียนบอก ประโยชนก์ ารใช้ โปรแกรม ไมโครซอฟต์ เพาเวอรพ์ อยต์ นำเสนอใน ชีวิตประจำวนั งาน 86
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การเขียนโปรแกรมอย่างง่าย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 นักพรีเซนต์คนเกง่ แบบประเมินชิ้นงาน ประเด็นการประเมินชน้ิ งาน การให้คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1.ความถกู ต้องของเนือ้ หา 2.คุณภาพของผลงานและการนำเสนอขอ้ มลู ใน โปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ 3.ความคดิ สรา้ งสรรคก์ ารออกแบบนำเสนอข้อมลู ในโปรแกรม ไมโครซอฟตเ์ พาเวอร์พอยต์ รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 8–9 ดี 5 –7 1 –4 พอใช้ ปรบั ปรงุ 87
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 การเขยี นโปรแกรมอยา่ งงา่ ย แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2 นกั พรเี ซนต์คนเกง่ เกณฑก์ ารให้คะแนน คำอธิบายระดบั คุณภาพ / ระดับคะแนน ประเด็นการประเมนิ ชน้ิ งาน ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรับปรุง (1 คะแนน) 1.ความถูกต้องของเนอ้ื หา การเลือกใชเ้ คร่อื งมอื การเลือกใช้เครอื่ งมอื ถกู ต้อง การเลือกใชเ้ ครือ่ งมอื ถูกต้องเหมาะสม ขอ้ มูล ครบถ้วนถูกตอ้ ง เหมาะสมเป็นส่วนใหญ่ เหมาะสมเพียงบางส่วน ขอ้ มลู ครบถว้ น ข้อมลู ยังไมเ่ พยี งพอ 2.คณุ ภาพของผลงานและ แสดงออกถงึ การวางแผน แสดงออกถึงการวางแผน แสดงออกถึงการวางแผน การนำเสนอข้อมลู ใน การนำเสนอขอ้ มลู พอใช้ การนำเสนอขอ้ มลู อย่างดี การนำเสนอขอ้ มลู ดี ทำให้ ทำให้เข้าใจขอ้ มลู เพยี ง โปรแกรมไมโครซอฟต์ บางสว่ น มขี ้อผิดพลาด เพาเวอร์พอยต์ ทำให้เข้าใจง่าย เขา้ ใจขอ้ มูลสว่ นใหญ่ เลก็ นอ้ ย 3.ความคดิ สรา้ งสรรคก์ าร สามารถออกแบบ สามารถออกแบบโปรแกรม สามารถออกแบบ ออกแบบนำเสนอข้อมูลใน โปรแกรมไมโครซอฟต์ โปรแกรมไมโครซอฟต์ ไมโครซอฟตเ์ พาเวอรพ์ อยต์ โปรแกรมไมโครซอฟต์ เพาเวอร์พอยต์ เพาเวอรพ์ อยตไ์ ด้สวยงาม ได้สวยงาม แปลกใหม่ เพาเวอร์พอยตไ์ ดส้ วยงาม แปลกใหม่ นา่ สนใจ และ น่าสนใจ และสือ่ ความหมาย แต่การสือ่ ความหมายอาจ สอ่ื ความหมายไดต้ รงหวั ข้อ ไดส้ อดคล้องกับหวั ขอ้ เป็น ไม่ตรงหวั ขอ้ ส่วนใหญ่ 88
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 2 นกั พรีเซนต์คนเกง่ แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น คำช้ีแจง : ครพู จิ ารณาให้คะแนนนกั เรียนรายบุคคลตามขอ้ คำถามทก่ี ำหนดใหใ้ นใบรายชอื่ นกั เรยี น โดยใช้เกณฑใ์ นการประเมิน ดังนี้ 3 = มาก 2 = ปานกลาง 1 = นอ้ ย พฤตกิ รรมท่สี งั เกต ระดบั คะแนน 1 32 1. แสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรยี นรูต้ ่างๆ 2. เห็นประโยชน์ของการใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟต์ เพาเวอรพ์ อยตใ์ นการนำเสนองาน 3. มีวนิ ยั และมงุ่ ม่ันในการทำงาน 4. เข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ 5. แลกเปล่ียนเรยี นรู้ รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 14 – 15 ดีมาก 11 – 13 ดี 8 – 10 พอใช้ 1–7 ปรบั ปรงุ 89
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การนำเสนอขอ้ มลู ด้วยซอฟตแ์ วร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 ประวตั ิส่วนตวั ของฉนั แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 Microsoft Excel เวลา 10 ช่ัวโมง เรอื่ ง โปรแกรมจัดการตัวเลข เวลา 3 ชว่ั โมง รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที 4่ี 1.มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ติ จรงิ อยา่ งเปน็ ข้นั ตอนและเป็น ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทันและมีจรยิ ธรรม ตวั ชี้วัด ว 4.2 ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใชซ้ อฟตแ์ วรท์ หี่ ลากหลาย เพอ่ื แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวัน 2.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นบอกลกั ษณะของซอฟต์แวรไ์ ด้ (K) 2. นกั เรยี นสามารถใช้งานไมโครซอฟต์เอ็กเซลในการรวบรวมและประเมินข้อมลู ได้ (P) 3. นักเรยี นเห็นความสำคัญในการใช้โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ในชีวติ ประจำวัน (A) 3.สาระสำคญั ไมโครซอฟต์เอ็กเซลเป็นโปรแกรมทางด้านตารางคำนวณ หรือที่เรียกว่า เสปรดชีต (Spreadsheet) เป็น โปรแกรมในชุด Microsoft Office มีความสามารถในด้านการสร้างตาราง การคำนวณ การวิเคราะห์ การออก รายงานในรปู แบบตารางและกราฟ และการคำนวรขอ้ มลู ตา่ ง ๆ 4.สาระการเรยี นรู้ การใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือการจัดทำเอกสาร ขอ้ มลู สารสนเทศ การนำเสนองาน 5.รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน - การอภปิ ราย 6.สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7.ทกั ษะ 4 Cs ทักษะการคดิ วจิ ารณญาณ (Critical Thinking) ทักษะการทำงานรว่ มกนั (Collaboration Skill) ทกั ษะการสือ่ สาร (Communication Skill) ทกั ษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) 87
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 การนำเสนอข้อมูลดว้ ยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 ประวัตสิ ่วนตวั ของฉัน 8.คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ ใฝ่เรียนรู้ มีวนิ ยั มงุ่ มน่ั ในการทำงาน อยู่อย่างพอเพียง รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ 9.การจดั กระบวนการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 ขน้ั นำ (10 นาท)ี 1.ครใู หน้ ักเรยี นเปดิ โปรแกรม Microsoft Word 2.ครูให้นกั เรียนจบั ค่กู ันสรา้ งตารางรายรับรายจา่ ยซ้ืออุปกรณ์ทำสวนในโปรแกรม Microsoft Word รายจา่ ยวนั นี้ รับเงนิ มา 500 บาท ซ้อื บัวรดนำ้ ต้นไม้ 60 บาท จอบขดุ ดิน 150 บาท ช้อนพรวนดนิ 20บาท ส้อมพรวนดนิ 45 บาท คราด 65 บาท 3.ครูถามนักเรยี นว่า คำถาม - ครูใช้เงนิ ซอื้ ของไปทงั้ หมดกบ่ี าท และครเู หลอื เงนิ ก่ีบาท แนวคำตอบ ครูใชเ้ งนิ ไปทั้งหมด 340 คงเหลือ 160 - นกั เรียนใช้วธิ กี ารหาจำนวนเงนิ ที่ใช้ไปและจำนวนเงินท่คี งเหลอื อยา่ งไร แนวคำตอบ ตามคำตอบของนกั เรียน เช่น เขียนคำนวณในกระดาษ ใชเ้ ครือ่ งคิดเลข - นกั เรียนคดิ ว่า โปรแกรมซอฟตแ์ วรใ์ ดที่จะสามารถคำนวณได้ พร้อมเหตผุ ล แนวคำตอบ โปรแกรมMicrosoft Excel ขัน้ สอน (50 นาท)ี 1. ครใู หน้ ักเรียนนง่ั เปน็ กลุม่ 3-5 คนคละความสามารถ 2. ครูแจกกระดาษทดให้นกั เรียนกลุ่มละแผน่ จากนั้นครเู ร่ิมต้นทำกิจกรรม 3. ครอู ธิบาย กตกิ าโดยจะเลา่ เรื่องราวให้นักเรยี นฟงั จากนนั้ ให้นกั เรียนบอกว่าจากเร่อื งทฟ่ี ังตัวละครเหลอื เงนิ จากการทำกจิ กรรมทัง้ วนั ก่บี าท ดังน้ี พายุไดร้ ับเงินจากพ่อมา 124 บาท จากนั้นพายกุ ็ไปซ้ือไอตมิ 25 บาท และนำ้ หวาน 12 บาท พายุเดิน ไปเล่นที่สนามเด็กเล่นปรากฏว่าเงินหายไปบางส่วนเหลือเพียง 41 บาท แม่จึงให้เงินพายุเพ่ิมอีก 88
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 การนำเสนอขอ้ มลู ด้วยซอฟต์แวร์ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 1 ประวตั สิ ว่ นตวั ของฉนั 67 บาท แตใ่ ห้พายุไปซอ้ื น้ำปลาขวดละ 32 บาทมาด้วยจากนั้นพายกุ ็กลบั มาหาแม่ที่บ้านตอนน้ีพายุจะมี เงินเหลือกบ่ี าท 4. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ หาคำตอบ 5. ครูถามนักเรยี นวา่ การหาคำตอบหรือบนั ทกึ รายการเกย่ี วกับเงนิ เมอื่ สกั ครยู่ าก หรือไม่ 6. ครถู ามนักเรียนตอ่ ว่าถา้ เราอยากทำรายการตามตัวอย่างสักครู่ใหร้ วดเร็วข้นึ นกั เรียนคดิ ว่าน่าจะมี เครอ่ื งมือทชี่ ว่ ยเราได้หรือไม่ 7. ครูให้นกั เรยี นเปิดหนังสือวทิ ยาการคำนวณ หนา้ 94-97 จากนน้ั ครูแนะนำโปรแกรม Microsoft excel 8. ครูใหน้ ักเรียนเปิดโปรแกรม Microsoft excel จากนน้ั ครูสอนการใชเ้ คร่ืองมอื พ้ืนฐานในโปรแกรมโดยการ สอนทำบันทึกรายรับรายจ่ายจากโจทย์ท่ีใช้ทำกิจกรรม 9. ครูถามนักเรียนเพอื่ ตรวจสอบความเข้าใจในการใชป้ รแกรม Microsoft excel ว่า คำถาม - การใสข่ อ้ ความในโปรแกรม Microsoft Excel สามารถทำไดอ้ ย่างไร แนวคำตอบ คลกิ เซลล์ที่ตอ้ งการ พมิ พข์ ้อความลงไป แลว้ กดแปน้ Enter - การสร้างรปู แบบตารางในโปรแกรม Microsoft Excel สามารถทำได้อยา่ งไร แนวคำตอบ 1) คลิก แลว้ ลากคลมุ พื้นทีท่ ี่ต้องการสร้างตาราง 2) คลิกขวาที่เมาส์> Format cell… 3) คลิก Border แล้วกำหนดเสน้ ขอบและเสน้ คั่นในเซลล์ 4) คลกิ OK - วิธกี ารหาคา่ เฉล่ียโดยใช้สูตรในโปรแกรม Microsoft excel ทำอย่างไร แนวคำตอบ คลกิ Formulas ทีแ่ ถบเคร่ืองมอื คลิกทีผ่ ลรวมอตั โนมัติ แลว้ เลอ่ื นเมาสพ์ อยนเ์ ตอร์ ไป คลกิ ท่ี Average ค่าเฉลี่ย แล้วกดแปน้ Enter ชั่วโมงที่ 2 ขัน้ สอนตอ่ (50 นาที) 1. ครใู หน้ ักเรยี นทบทวนเคร่อื งมือที่เรียนจากช่ัวโมงทีผ่ า่ นมา 2. ครูให้นกั เรยี นทำบันทึกรายรับรายจา่ ยประจำวนั ของตนเอง(โดยอาจใหท้ ำย้อนหลงั 3 วนั ) โดยครูคอย ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ย 3. ครูถามนกั เรียนว่าจากท่ีเรียนมานกั เรยี นว่าวิธกี ารในการจดบนั ทึกแบบเดิมกับการใช้งานโปรแกรม Microsoft excel ในการช่วยหาคำตอบด้านคำนวณแบบใดรวดเร็ว และสะดวกสบายกว่า 4. ครูอธบิ ายประโยชนข์ องการใช้โปรแกรม Microsoft excel เพ่อื จดั การกับการคำนวณในชีวิตประจำวันให้ ฟัง 89
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 การนำเสนอขอ้ มูลด้วยซอฟต์แวร์ ชั่วโมงท่ี 3 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 ประวตั สิ ว่ นตัวของฉัน ขั้นสอนตอ่ (50 นาที) 1. ครูทบทวนความรู้จากชว่ั โมงทีแ่ ลว้ 2. ครูให้นกั เรียนเปดิ บนั ทึกรายรับรายจ่ายท่ีทำจากชั่วโมงทแี่ ลว้ ข้นึ มา 3. ครูถามนกั เรยี นวา่ จากบันทกึ รายรับรายจ่ายของตนเองใหน้ ักเรียนวิเคราะหร์ ายรับรายจ่ายของตนเองว่ามี รายการใดที่เปน็ รายจ่ายท่ไี มจ่ ำเปน็ และสามารถตัดออกได้ เพอื่ วางแผนการใชเ้ งนิ ในวนั ถัดไป 4. ครูให้นกั เรียนวเิ คราะห์บนั ทึกรายรบั รายจา่ ยของตนเอง 5. ครสู ุ่มนักเรียนขนึ้ มานำเสนอบันทึกรายรบั รายจ่ายของตนเอง พร้อมบอกเหตุผลในการตดั รายจา่ ยทไ่ี ม่ จำเป็นออก ข้นั สรุป (10 นาท)ี 1. ครใู ห้นักเรียนรว่ มกันบอกประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft excel 2. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เพ่ือวัดความรู้ที่ได้เรียนมาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การนำเสนอ ข้อมูลด้วยซอฟต์แวร์ 10.สอ่ื แหล่งการเรยี นรู้ 1 ) หนังสอื เรียนเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.4 11.การวัดและการประเมินผล จุดประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เครอ่ื งมอื การประเมนิ เกณฑ์การประเมิน - ร้อยละ 50 ขนึ้ ไป 1.นักเรียนบอกลักษณะ - การตอบคำถามใน - แบบประเมนิ ของซอฟแวรไ์ ด้ แบบฝึกหดั แบบฝึกหดั ผ่านเกณฑ์ - ระดับคณุ ภาพดี 2. นกั เรยี นสามารถใชง้ าน - ตรวจชิ้นงานบญั ชี - แบบประเมินช้นิ งาน ไมโครซอฟตเ์ อ็กเซลใน รายรบั รายจ่าย ใน- ผ่านเกณฑ์ การรวบรวมและประเมนิ Microsoft Excel - คุณภาพระดับดี ข้อมูลได้ ผา่ นเกณฑ์ 3.นักเรียนเห็นความสำคัญ - นักเรยี นยกตวั อย่าง - แบบประเมนิ ในการใช้โปรแกรมหรือ การใชโ้ ปรแกรม พฤตกิ รรม ซอฟต์แวรใ์ น Microsoft Excel ใน ชวี ติ ประจำวัน ชีวิตประจำวนั ได้ 90
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การนำเสนอข้อมูลด้วยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 ประวตั สิ ่วนตวั ของฉนั แบบประเมนิ ใบงาน ประเดน็ การประเมนิ ช้นิ งาน การให้คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1.ความสอดคลอ้ งกับเน้ือหา 2.คณุ ภาพของผลงานและการนำเสนอขอ้ มลู รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 5-6 ดี 3-4 1-2 พอใช้ ปรบั ปรุง 91
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การนำเสนอข้อมลู ด้วยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 1 ประวตั สิ ่วนตัวของฉัน เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเดน็ การประเมิน คำอธบิ ายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ชิ้นงาน ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรับปรงุ (1 คะแนน) 1.ความสอดคลอ้ งกับ 1.นกั เรยี นแสดงออกถงึ 1.นักเรียนแสดงออกถงึ 1.นักเรยี นแสดงออกถงึ เน้อื หา การวางแผน การ การวางแผน การนำเสนอ การวางแผน การ นำเสนอขอ้ มลู ชดั เจน นำเสนอขอ้ มูล อยา่ ง ข้อมลู ชัดเจน เขา้ ใจง่าย เข้าใจงา่ ยบางส่วน โดย ชัดเจน เขา้ ใจง่าย โดยใช้ เป็นสว่ นใหญ่ โดยใช้ ใช้ซอฟตแ์ วร์ในการ จดั การกบั การคำนวณใน ซอฟต์แวร์ในการจัดการ ซอฟต์แวร์ในการจดั การ ชวี ิตประจำวนั สมั พนั ธ์ กบั การคำนวณใน กับการคำนวณใน กับโจทยท์ ไ่ี ดร้ บั ชีวิตประจำวันสัมพนั ธ์กบั ชวี ิตประจำวันสมั พนั ธก์ บั โจทย์ท่ไี ด้รับ โจทย์ทีไ่ ด้รบั 2.คณุ ภาพของผลงานและ 2.นกั เรียนสามารถใช้ 2.นักเรยี นสามารถใช้ 2.นักเรียนสามารถใช้ การนำเสนอขอ้ มูล โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft Excel ในการช่วยหา Excel ในการช่วยหา Excel ในการช่วยหา คำตอบด้านคำนวณได้ รวดเร็ว และใชง้ าน คำตอบด้านคำนวณได้ คำตอบด้านคำนวณได้ เครื่องมอื พ้ืนฐานใน รวดเรว็ และใชง้ าน รวดเรว็ และใช้งาน โปรแกรม Microsoft เครื่องมือพ้นื ฐานใน เครื่องมือพื้นฐานใน Excel ได้อย่าง หลากหลาย โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft Excel ได้ส่วนใหญ่ Excel ไดบ้ างเครอ่ื งมือ 92
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 การนำเสนอขอ้ มลู ด้วยซอฟตแ์ วร์ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1 ประวตั ิส่วนตวั ของฉัน แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน คำช้ีแจง : ครพู จิ ารณาให้คะแนนนักเรียนรายบคุ คลตามขอ้ คำถามทก่ี ำหนดให้ในใบรายช่อื นกั เรียน โดยใช้เกณฑ์ในการประเมิน ดังน้ี 3 = มาก 2 = ปานกลาง 1 = น้อย พฤติกรรมท่ีสังเกต ระดบั คะแนน 1 32 1. แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ เรียนร้ตู ่าง ๆ 2. ยกตวั อยา่ งการใช้โปรแกรม Microsoft Excel ใน ชีวิตประจำวนั ได้ 3. มีวินัย และมุ่งมั่นในการทำงาน 4. เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ 5. มีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมคะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 14 – 15 ดีมาก 11 – 13 ดี 8 – 10 พอใช้ 1–7 ปรับปรุง 93
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 การใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภยั หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 การใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภยั รายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ระยะเวลา 4 ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาท่ีพบในชวี ติ จรงิ อยา่ งเป็นขน้ั ตอนและ เปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ แกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ร้เู ท่าทนั และมีจริยธรรม ตวั ชว้ี ดั ป.4/5 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั เข้าใจสิทธิและหน้าท่ขี องตน เคารพในสิทธ์ิ ของผอู้ ่นื แจง้ ผูเ้ กีย่ วข้องเมื่อพบขอ้ มลู หรอื บคุ คลทไี่ มเ่ หมาะสม 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง 1) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตน เคารพในสิทธิของผู้อ่ืน เช่น ไม่สรา้ งข้อความเท็จและส่งให้ผ้อู ื่น ไมส่ ร้างความเดือดร้อนตอ่ ผอู้ ่ืนโดยการส่งสแปม ข้อความ ลูกโซ่ ส่งต่อโพสต์ท่ีมีขอ้ มลู สว่ นตัวของผอู้ ื่น สง่ คำเชญิ เลน่ เกม ไมเ่ ขา้ ถึงข้อมลู สว่ นตัวหรือการบ้าน ของบุคคลอนื่ โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต ไมใ่ ชเ้ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์/ชอื่ บัญชขี องผอู้ น่ื 2) การสอ่ื สารอย่างมมี ารยาทและร้กู าลเทศะ 3) การปกป้องข้อมูลส่วนตัว เช่น การออกจากระบบเอเลิกใช้งาน ไม่บอกรหัสผ่าน ไม่บอกเลข ประจำตัวประชาชน 2.2 สาระการเรยี นรูท้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลักสตู รสถานศึกษา) 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) คือ การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ โทรคมนาคม (เทคโนโลยี) เพื่อจัดเก็บ ค้นหา ส่งผ่าน และประมวลผลข้อมูล ซึ่งข้อมูลท่ีถูกประมวลผล เรียบร้อยแล้วจะเรียกวา่ สารสนเทศ พลเมืองดิจิทัล (Digital Citizen) คือ บุคคลที่มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และสื่อดิจิทัล เป็นประจำได้อย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และมีประสิทธิภาพ พลเมืองดิจิทัลจะต้องมีความ รับผิดชอบต่อตนเอง ความรับผิดชอบต่อครอบครัวและเพื่อน และความรับผิดชอบต่อชุมชน เพ่ือให้ สังคมมคี วามสงบเรียบร้อย
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 การใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภยั 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 5. ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - โปสเตอร์ระวังภยั ขา่ วปลอม 6. การวดั และการประเมนิ ผล รายการวัด วธิ ีวัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 6.1 การประเมินกอ่ นเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ประเมินตาม - แบบทดสอบก่อนเรียน ก่อนเรียน สภาพจริง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 6.2 การประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม 1) การใชเ้ ทคโนโลยี - ตรวจใบงาน 5.1 - ใบงาน 5.1 การใช้ - รอ้ ยละ 50 เทคโนโลยีสารสนเทศ ผา่ นเกณฑ์ อย่างปลอดภยั การใชเ้ ทคโนโลยี ใหป้ ลอดภยั สารสนเทศให้ ปลอดภยั 2) โปสเตอรร์ ะวังภยั - ตรวจชนิ้ งาน - แบบประเมินช้นิ งาน - คณุ ภาพระดับ ดี - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ ขา่ วปลอม - แบบทดสอบหลงั เรียน - คณุ ภาพระดับ ดี 3) สงั เกตพฤติกรรม - สังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ รายบคุ คล - ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์ 6.3 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น หลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 7. กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา 4 ช่วั โมง • แผนท่ี 1 : แชร์ได้ไหมนะ (รวมเวลา 4 ชว่ั โมง) วิธีการสอนแบบอภปิ ราย (Discussion Method)
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 การใช้เทคโนโลยอี ย่างปลอดภัย 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรียน รายวิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.4 2) ใบงานท่ี 5.1 เร่ือง การใช้เทคโนโลยอี ย่างปลอดภยั 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 การใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งปลอดภัย แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยที่ 5 การใช้เทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภยั คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดกล่าวถงึ พลเมืองดิจิทัลได้ถกู ตอ้ ง ก. บุคคลทม่ี ีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และส่อื ดิจิทัลไดอ้ ย่างปลอดภยั ข. บุคคลท่ีมมี ีความสามารถเข้าถึงข้อมูลลบั เช่น ขอ้ มูลราชการ ขอ้ มูลบัตรเครดติ ค. บคุ คลที่ทนั ยุค ทันสมัย สามารถนำเทคโนโลยมี าใช้ในการทำงานเพ่ือใหม้ รี ายได้มากขึ้น ง. บุคคลที่มคี วามสามารถในการใชง้ านคอมพวิ เตอรไ์ ดอ้ ย่างรวดเร็ว และสามารถเขียนโปรแกรมปอ้ น คำส่ังให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ 2. ขอ้ ใดตอ่ ไปนีไ้ ม่ใช่พลเมืองดจิ ทิ ัล ก. ป้องกันคอมพิวเตอร์จากภยั คกุ คามต่าง ๆ เชน่ ไวรสั คอมพิวเตอร์ หรอื ผูไ้ ม่หวังดี ข. เขยี นโปรแกรมขึ้นมาป้อนใหค้ อมพวิ เตอร์ เพื่อใหค้ อมพิวเตอร์ทำงานตามคำสั่งตา่ ง ๆ ทกี่ ำหนด ค. เคารพสิทธิส่วนบุคคล ปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ า และมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ พฤติกรรมของตนเองในโลก ออนไลน์ ง. ควบคุมการใชอ้ ุปกรณ์คอมพิวเตอรใ์ หม้ ีความเหมาะสม เพือ่ ไมใ่ หเ้ กดิ การเสพติด และไมส่ ่งผลเสีย ต่อสขุ ภาพ 3. ขอ้ มลู ใดท่ไี มค่ วรเผยแพร่ในอนิ เทอร์เนต็ ก. งานอดเิ รก ข. วนั เดือนปีเกิด ค. สตั ว์เลี้ยงทช่ี อบ ง. อาหารจานโปรด 4. ขอ้ ใดปฏิบัติถกู ต้องเมื่อเขา้ ใชง้ านระบบอินเทอรเ์ น็ต ก. ไมโ่ หลดเพลง ข. ไม่เล่นเกมออนไลน์ ค. ออกจากระบบเมือ่ เลกิ ใช้งาน ง. พูดคุยทักทายกบั บคุ คลทีไ่ มร่ ้จู กั 5. การเกบ็ รกั ษาอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์เปน็ ความรับผดิ ชอบต่อพลเมอื งดจิ ิทลั ใด ก. ความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ข. ความรับผิดชอบตอ่ ผู้อื่น ค. ความรับผิดชอบต่อชมุ ชน ง. ความรับผิดชอบต่อครอบครัว 6. บคุ คลใดต่อไปนี้ปฏบิ ัติตัวเป็นพลเมืองดิจทิ ัลไม่เหมาะสม ก. เรนนี่ปรกึ ษาพอ่ กับแมเ่ รอ่ื งที่มบี ุคคลที่ไม่รจู้ กั ทักแชตมาคุยดว้ ย ข. น้อยหน่าใชภ้ าษาสภุ าพเสมอในการสนทนาผ่านอินเทอรเ์ น็ต ค. ฟ้าใสสอบถามการบา้ นกบั หนนู ่ิมผ่านทางไลน์ (Line) เนือ่ งจากฟา้ ใสป่วยจงึ ไมไ่ ด้ไปโรงเรียน ง. นำ้ หวานใหท้ ี่อยกู่ บั นนทท์ ี่รูจ้ ักกนั ผ่านเฟซบกุ๊ (Facebook) ซงึ่ พูดคยุ กนั ได้ 3 เดือน โดยทน่ี ำ้ หวาน ยังไมเ่ คยเห็นหนา้ นนท์ 7. นำ้ ผงึ้ เผยแพร่ข้อมูลทไี่ ด้รับมาทางแชต เกยี่ วกับบอ่ นำ้ ศักดสิ์ ิทธทิ์ ่ีพึ่งค้นพบสามารถรกั ษามะเร็งได้ โดยให้ ผ้ปู ว่ ยดม่ื และอาบทุกวัน การกระทำของน้ำผง้ึ เหมาะสมหรอื ไม่ อย่างไร ก. เหมาะสม เพราะเป็นการให้ความรูแ้ กบ่ ุคคลอืน่ ข. เหมาะสม เพราะไดช้ ว่ ยเหลอื ผู้ปว่ ยใหห้ ายขาดจากโรคมะเรง็ ค. ไมเ่ หมาะสม เพราะผู้ป่วยควรดื่มน้ำอยา่ งเดียวไมค่ วรนำน้ำมาอาบ ง. ไม่เหมาะสม เพราะข้อมูลท่เี ผยแพรไ่ ม่ได้รบั การกล่นั กรองความถกู ต้อง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 การใช้เทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภยั 8. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเกี่ยวกับเทคโนโลยสี ารสนเทศ ก. ข้อมูล ขอ้ ความที่สง่ ต่อผา่ นทางอินเทอรเ์ น็ต ข. การประยุกต์ใช้คอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์โทรคมนาคม เพอ่ื จดั เก็บ ค้นหา ส่งผ่าน และประมวลผล ข้อมลู ค. ความสามรถในการเข้าใชง้ านเทคโนโลยี และส่ือดิจทิ ลั เปน็ ประจำอย่างสม่ำเสมอ และใช้งานได้ อยา่ งปลอดภัย ง. การควบคมุ การเข้าใช้อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ และสมาร์ตโฟนให้มคี วามเหมาะสม เพือ่ ไมใ่ ห้เกดิ การ เสพติดการใชง้ าน 9. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกย่ี วกบั สารสนเทศ ก. เครอื ข่ายอินเทอร์เน็ต ข. ระบบคอมพวิ เตอร์ ค. บทความท่ีถกู เผยแพร่ ง. ข้อมลู ที่ไดร้ ับการประมวลผล 10. ข้อใดตอ่ ไปนเ้ี ป็นความรับผิดชอบต่อชมุ ชนของพลเมืองดจิ ิทัล ก. รักษาขอ้ มลู ส่วนตัว ข. แนะนำเพื่อนในการใชง้ านซอฟตแ์ วร์ ค. ปฏิบตั ิตามกฎ ระเบียบ และข้อบังคบั ของโรงเรยี น ง. แลกเปลี่ยนความรูเ้ กย่ี วกบั การใช้งานอินเทอรเ์ นต็ กบั เพ่อื น ๆ ในชน้ั เรียน เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ค 5. ก 6. ง 7. ง 8. ข 9. ง 10. ค
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 การใชเ้ ทคโนโลยีอย่างปลอดภยั แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยที่ 5 การใช้เทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภัย คำชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดกล่าวถงึ พลเมืองดิจิทัลได้ถูกตอ้ ง ก. บุคคลที่มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และส่ือดจิ ิทัลได้อยา่ งปลอดภัย ข. บุคคลที่มีมีความสามารถเข้าถงึ ข้อมลู ลบั เช่น ข้อมลู ราชการ ข้อมูลบัตรเครดติ ค. บคุ คลที่ทนั ยุค ทันสมัย สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานเพื่อให้มีรายไดม้ ากขึ้น ง. บคุ คลทมี่ คี วามสามารถในการใช้งานคอมพิวเตอรไ์ ดอ้ ย่างรวดเรว็ และสามารถเขยี นโปรแกรมปอ้ น คำส่งั ให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ 2.ข้อใดตอ่ ไปนไ้ี ม่ใชพ่ ลเมอื งดจิ ิทลั ก. ปอ้ งกนั คอมพวิ เตอร์จากภยั คุกคามต่าง ๆ เชน่ ไวรัสคอมพวิ เตอร์ หรอื ผไู้ ม่หวงั ดี ข. เขยี นโปรแกรมข้นึ มาปอ้ นให้คอมพิวเตอร์ เพือ่ ให้คอมพวิ เตอรท์ ำงานตามคำสง่ั ตา่ ง ๆ ทก่ี ำหนด ค. เคารพสทิ ธิส่วนบุคคล ปฏิบตั ิตามกฎ กติกา และมคี วามรบั ผิดชอบตอ่ พฤตกิ รรมของตนเองในโลก ออนไลน์ ง. ควบคุมการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ใหม้ ีความเหมาะสม เพือ่ ไมใ่ หเ้ กิดการเสพติด และไม่ส่งผลเสีย ต่อสขุ ภาพ 3.ขอ้ มูลใดทไี่ ม่ควรเผยแพรใ่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ก. งานอดเิ รก ข. วันเดือนปีเกิด ค. สตั วเ์ ลี้ยงท่ชี อบ ง. อาหารจานโปรด 4.ขอ้ ใดปฏิบัตถิ กู ต้องเมื่อเขา้ ใช้งานระบบอนิ เทอร์เน็ต ก. ไม่โหลดเพลง ข. ไม่เลน่ เกมออนไลน์ ค. ออกจากระบบเมือ่ เลกิ ใช้งาน ง. พูดคยุ ทกั ทายกบั บุคคลที่ไม่รจู้ กั 5.การเก็บรักษาอปุ กรณค์ อมพวิ เตอรเ์ ปน็ ความรบั ผิดชอบต่อพลเมืองดิจิทลั ใด ก. ความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ข. ความรับผิดชอบต่อผอู้ ่นื ค. ความรบั ผดิ ชอบต่อชมุ ชน ง. ความรับผดิ ชอบตอ่ ครอบครวั
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 การใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งปลอดภัย 6. บุคคลใดตอ่ ไปนีป้ ฏบิ ตั ติ ัวเป็นพลเมืองดิจทิ ัลไม่เหมาะสม ก. เรนน่ีปรกึ ษาพ่อกับแม่เร่อื งทีม่ ีบุคคลท่ีไมร่ จู้ กั ทักแชตมาคยุ ดว้ ย ข. น้อยหนา่ ใชภ้ าษาสุภาพเสมอในการสนทนาผ่านอินเทอรเ์ นต็ ค. ฟ้าใสสอบถามการบา้ นกับหนูนม่ิ ผ่านทางไลน์ (Line) เนอื่ งจากฟา้ ใสปว่ ยจงึ ไม่ได้ไปโรงเรียน ง. น้ำหวานใหท้ ่อี ยู่กบั นนท์ท่ีรู้จักกันผ่านเฟซบกุ๊ (Facebook) ซ่งึ พูดคยุ กันได้ 3 เดอื น โดยทีน่ ้ำหวาน ยังไมเ่ คยเหน็ หน้านนท์ 7. นำ้ ผึง้ เผยแพรข่ ้อมูลที่ได้รบั มาทางแชต เกีย่ วกับบอ่ น้ำศักดิส์ ิทธิท์ ่ีพ่ึงคน้ พบสามารถรักษามะเรง็ ได้ โดยให้ ผปู้ ่วยดม่ื และอาบทุกวัน การกระทำของนำ้ ผึ้งเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร ก. เหมาะสม เพราะเป็นการให้ความรแู้ ก่บุคคลอืน่ ข. เหมาะสม เพราะได้ชว่ ยเหลอื ผู้ปว่ ยให้หายขาดจากโรคมะเร็ง ค. ไมเ่ หมาะสม เพราะผู้ปว่ ยควรด่มื น้ำอย่างเดยี วไมค่ วรนำน้ำมาอาบ ง. ไม่เหมาะสม เพราะข้อมลู ท่ีเผยแพรไ่ ม่ได้รบั การกลนั่ กรองความถูกตอ้ ง 8. ข้อใดกลา่ วถกู ตอ้ งเกี่ยวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ ก. ข้อมลู ข้อความที่สง่ ต่อผา่ นทางอินเทอร์เนต็ ข. การประยุกตใ์ ช้คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์โทรคมนาคม เพื่อจดั เก็บ ค้นหา สง่ ผา่ น และประมวลผล ขอ้ มลู ค. ความสามรถในการเข้าใชง้ านเทคโนโลยี และสื่อดจิ ทิ ลั เป็นประจำอย่างสมำ่ เสมอ และใช้งานได้ อย่างปลอดภัย ง. การควบคุมการเข้าใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และสมารต์ โฟนใหม้ คี วามเหมาะสม เพือ่ ไมใ่ ห้เกิดการ เสพตดิ การใชง้ าน 9. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกับสารสนเทศ ข. ระบบคอมพิวเตอร์ ก. เครือข่ายอินเทอร์เนต็ ง. ข้อมูลทีไ่ ด้รับการประมวลผล ค. บทความที่ถกู เผยแพร่ 10. ขอ้ ใดต่อไปน้เี ป็นความรับผดิ ชอบตอ่ ชมุ ชนของพลเมืองดิจทิ ัล ก. รกั ษาข้อมูลสว่ นตัว ข. แนะนำเพอ่ื นในการใช้งานซอฟต์แวร์ ค. ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และข้อบงั คับของโรงเรยี น ง. แลกเปลย่ี นความรู้เกย่ี วกบั การใชง้ านอินเทอรเ์ น็ตกับเพอื่ น ๆ ในชนั้ เรยี น เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ค 5. ก 6. ง 7. ง 8. ข 9. ง 10. ค
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5 การใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างปลอดภยั เวลา 4 ชั่วโมง เร่อื ง แชร์ไดไ้ หมนะ เวลา 4 ชวั่ โมง รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 1.มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาทพี่ บในชีวิตจริงอย่างเป็นขัน้ ตอนและ เปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการ แกป้ ญั หาได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทันและมีจริยธรรม ตวั ชีว้ ัด ป.4/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ทห่ี ลากหลาย เพื่อ แกป้ ัญหาในชีวิตประจำวนั ป.4/5 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เข้าใจสิทธแิ ละหนา้ ทขี่ องตน เคารพในสิทธขิ อง ผู้อื่น แจง้ ผเู้ ก่ยี วข้องเมือ่ พบข้อมลู หรือบุคคลท่ไี มเ่ หมาะสม 2.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นสามารถอธิบายความหมายเกยี่ วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ พลเมอื งดิจทิ อล และลกั ษณะพลเมอื ง ดิจทิ ัลได้ (K) 2. นักเรียนสามารถวเิ คราะหข์ ้อมลู ท่ีสามารถเปิดเผยไดอ้ ย่างปลอดภัย และป้องกันตนเองจากภัยคกุ คาม ตา่ ง ๆ ได้ (P) 3. นักเรียนสามารถใช้โปรแกรมไมโครซอฟตน์ ำเสนองานได้ (P) 4. นักเรยี นเหน็ คณุ ค่าของสทิ ธแิ ละหนา้ ทีข่ องตน เคารพในสทิ ธิของผอู้ ื่น แจ้งผูเ้ กย่ี วข้องเมือ่ พบข้อมูลหรอื บคุ คลท่ไี ม่เหมาะสม (A) 3.สาระสำคญั เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) คือ การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ โทรคมนาคม (เทคโนโลยี) เพ่ือจัดเก็บ ค้นหา ส่งผ่าน และประมวลผลข้อมูล ซ่ึงข้อมูลท่ีถูกประมวลผล เรียบร้อยแล้วจะเรยี กวา่ สารสนเทศ พลเมืองดิจิทัล (Digital Citizen) คือ บุคคลท่ีมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และส่ือดิจิทัลเป็น ประจำไดอ้ ยา่ งปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และมีประสทิ ธภิ าพ พลเมืองดิจิทัลจะต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ความรับผิดชอบต่อครอบครัวและเพื่อน และความ รบั ผดิ ชอบตอ่ ชุมชน เพอื่ ให้สังคมมีความสงบเรยี บรอ้ ย 4.สาระการเรียนรู้ - ความหมายเกย่ี วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ - พลเมอื งดจิ ทิ อล และลักษณะพลเมอื งดิจิทัล 94
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162