Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน วิทยาการคำนวณ ป.4

แผนการสอน วิทยาการคำนวณ ป.4

Published by PaniS nissara, 2021-09-27 03:54:23

Description: แผนการสอน วิทยาการคำนวณ ป.4

Search

Read the Text Version

5.รูปแบบการสอน/วิธีการสอน  ซื่อสตั ย์ สุจริต - การอภปิ ราย  ใฝ่เรียนรู้ - วธิ ีการสอนแบบกลุ่ม  มุ่งม่นั ในการทำงาน - การนำเสนองาน  มจี ติ สาธารณะ 6.สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น  ความสามารถในการสอื่ สาร  ความสามารถในการคดิ  ความสามารถในการแก้ปญั หา  ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7.ทกั ษะ 4 Cs  ทกั ษะการคิดวิจารณญาณ (Critical Thinking)  ทักษะการทำงานร่วมกัน (Collaboration Skill)  ทกั ษะการส่ือสาร (Communication Skill)  ทักษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) 8.คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์  รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์  มีวนิ ัย  อยู่อย่างพอเพียง  รักความเป็นไทย 9.การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ 1 1. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 การใชเ้ ทคโนโลยีอย่างปลอดภัยเพ่ือเข้าใจ ระดับความรู้เดมิ ของนักเรียนกอ่ นเข้าสู่กิจกรรม ข้นั นำ (10 นาท)ี 1. ครถู ามนักเรยี นวา่ ถ้านกั เรยี นกำลงั คน้ หาข้อมูลทางอินเทอรเ์ นต็ อยู่ อาจมหี นา้ ต่าง pop-up ปรากฏขน้ึ มา บนหนา้ จอคอมพิวเตอร์ โฆษณาสนิ ค้า แจ้งข่าวสารหรอื ขอ้ ความให้ร่วมกิจกรรม แล้วใหก้ รอกข้อมูล สว่ นตัว นกั เรียนจะทำอย่างไร แนวคำตอบ ปิดหน้าเว็บ ถ้าไมไ่ ดผ้ ลปดิ เบราว์เซอร์ หรอื ปดิ คอมพวิ เตอร์ พรอ้ มกบั แจ้งผปู้ กครองหรอื ครู ทันที 95

2. นกั เรยี นคิดว่า ถา้ นักเรียนกรอกขอ้ มลู ส่วนตวั ไปจะสง่ ผลกระทบอยา่ งไรบา้ ง แนวคำตอบ อาจส่งผลกระทบใหถ้ ูกโจรกรรมข้อมูลไปใช้ในทางทไี่ ม่ดีและสรา้ งความเสียหายตอ่ ชอื่ เสียง และทรัพยส์ นิ ได้ ขั้นสอน (50 นาท)ี 1. ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนในกลุม่ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าเพราะอะไรจงึ ไม่ควรเผยแพรข่ ้อมลู ส่วนตัวน้ี ระหวา่ งนกั เรยี นทำกิจกรรม ครคู อยสังเกตการอธิบายของนกั เรยี นแตล่ ะคนในกล่มุ (ใช้เวลาประมาณ 10 -15 นาที) 2. เมื่อนักเรยี นแตล่ ะคนพูดคยุ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ครูใหน้ ักเรียนสรปุ สาระทีส่ มาชิกกลมุ่ ได้อภปิ ราย กันเป็นขอ้ สรุปของกลุ่ม 3. ครเู ขยี นประเดน็ หัวขอ้ การอภิปรายไว้หนา้ กระดานว่า ข้อมูลใดบ้างทไี่ ม่ควรเผยแพรท่ างอินเทอร์เน็ต 4. ครูช้แี จงกตกิ าการอภปิ รายว่า แตล่ ะกลุ่มจะมีปา้ ยประจำกลมุ่ หากกลมุ่ ใดตอ้ งการคัดคา้ นหรอื เพิม่ เตมิ ประเดน็ ให้ยกปา้ ยกลุ่มขนึ้ นกั เรียนจะเสนอความคิดเห็นไดเ้ มื่อครูอนุมัติ และระหวา่ งท่เี พอื่ นกำลังพดู ห้ามพดู แทรกขนึ้ มา 5. ครสู ุ่มเรียกข้นึ มา 1 กลุ่มเรยี กวา่ กลมุ่ ผเู้ สนอ แลว้ ให้สง่ ตัวแทนพดู เก่ยี วกับประเดน็ การอภิปราย 6. เมอ่ื กลุม่ ผูน้ ำพูดจบ ครูเปดิ โอกาสใหก้ ลมุ่ อืน่ ท่ีคดั ค้านกบั ประเดน็ ทกี่ ล่มุ ผู้เสนอพูดไปไดแ้ สดงความคดิ เห็น พร้อมอธบิ ายเหตผุ ลทคี่ ัดคา้ นประกอบ 7. ถ้ากลุม่ ไหนมีความคิดเห็นตรงกับกลุม่ ผู้นำเสนอ และตอ้ งการอธบิ ายเพ่มิ เตมิ หรอื เสริมประเดน็ น้ี ให้ยก ป้ายกลุม่ เพือ่ แสดงความคิดเหน็ (ทุกกลมุ่ ต้องแสดงความคิดเห็น) 8. นักเรียนร่วมกนั สรปุ ผลการอภิปรายวา่ ข้อมูลทไี่ ม่ควรเผยแพรท่ างอินเทอรเ์ น็ตได้แก่ ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ ช่อื และนามสกลุ จรงิ ทอ่ี ยู่ โรงเรยี น ท่อี ยูอ่ เี มล วนั เดือนปเี กดิ หมายเลขโทรศัพท์ ชอ่ื และนามสกุล ผปู้ กครอง และภาพถ่ายที่มีรายละเอยี ดขอ้ มูลส่วนตัว เชน่ บตั รประชาชน หนงั สือเดนิ ทาง 9. ให้นกั เรียนบันทึกสรปุ ผลการอภปิ รายข้อมูลท่ไี ม่ควรเผยแพร่ทางอนิ เทอรเ์ นต็ ลงในสมุดในรูปแบบของ ผังมโนทศั น์ ตกแตง่ ใหส้ วยงาม ชัว่ โมงที่ 2 ขั้นสอนต่อ (60 นาท)ี 1. ครทู บทวนกิจกรรมช่วั โมงท่ีแล้ว โดยถามนักเรียนว่า เพราะเหตุใดจงึ ไม่ควรเผยแพร่ข้อมลู ส่วนตวั ทาง อินเทอรเ์ นต็ แนวคำตอบ เนอ่ื งจากข้อมูลเหล่าน้ีอาจถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางทไ่ี มเ่ หมาะสมหรอื มาหลอกลวงเราได้ 2. ให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำข้อมูลท่รี วบรวมได้มาวิเคราะหว์ ่า ข้อมลู ไหนสามารถเปดิ เผยได้ หรอื ขอ้ มูลไหนไม่ สามารถเปิดเผยได้ โดยสร้างไฟล์เพอื่ ใช้นำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรม Word , Excel หรือ PowerPoint 3. ครใู หน้ ักเรียนเตรยี มตัวนำเสนอข้อมลู โดยเลอื กใช้ Word ,Excel หรือ PowerPoint 96

ชว่ั โมงท่ี 3 ขั้นสอนต่อ (50 นาท)ี 1. ครูทบทวนกิจกรรมท่ที ำในชวั่ โมงทีแ่ ลว้ ให้นกั เรยี นฟงั 2. ครถู ามนักเรยี นเพอื่ กระตุ้นความสนใจ คำถาม - นักเรียนเคยเลน่ Facebook, Line หรือโปรแกรมอะไรบา้ งทสี่ ามารถใช้ในการสือ่ สารหรือไม่ นักเรยี น ใชโ้ ปรแกรมเหล่านีท้ ำอะไรบ้าง แนวคำตอบ เคยเลน่ Facebook, Line ในการติดตอ่ แชรข์ ้อมูลข่าวสาร โพสต์ภาพและขอ้ ความตา่ งๆ - ถา้ ขอ้ ความนี้ถูกสง่ มาทางไลน์ นกั เรียนคดิ ว่าข้อความนน้ี า่ เชื่อถือหรอื ไมเ่ พราะเหตุใด แนวคำตอบ ข้อความไม่นา่ เชอื่ ถอื เพราะ ไม่ทราบแหลง่ ทมี่ าของขอ้ มูลที่ชัดเจน และเมื่อสบื คน้ ข้อมลู ต่างๆ ทางอินเทอรเ์ นต็ จากแหลง่ ทน่ี า่ เชอื่ ถือ พบวา่ ไมม่ ีขอ้ มูลใดตรงกบั ข้อมูลในขอ้ ความน้ี 3. ครแู จกถงุ มอื แชร์ใหน้ ักเรยี นคนละ 1 ช้นิ และแจกถุงมือไมแ่ ชร์ใหน้ กั เรยี นคนละ 1 ชิ้น ครูอธิบายเพ่ิมเติม ว่า ครูจะให้นกั เรียนดขู ้อความท่ีแชร์ใน Facebook ใหน้ กั เรยี นพิจารณาวา่ จะแชร์หรอื ไม่ ถ้าแชรใ์ ห้ยกถงุ มอื ดา้ นทแี่ ชร์ ถ้าไมแ่ ชรใ์ หย้ กถุงมือดา้ นทไี่ ม่แชร์ 97

4. ครถู ามนกั เรียนว่า ถ้านกั เรยี นเหน็ ข้อความน้ี นักเรียนจะแชรต์ อ่ หรือไม่ 5. ครูสุม่ นักเรียนบางคนใหอ้ ธิบายเหตุผลวา่ เพราะอะไรจงึ แชร์/ไมแ่ ชร์ขอ้ ความน้ี แนวคำตอบ ตอบตามความคดิ เหน็ ของนักเรียน เช่น แชร์ เพราะ เปน็ ประโยชนต์ อ่ ผู้อื่น หรือ ไม่แชร์ เพราะเป็นข้อมูลเทจ็ 6. ครูให้นกั เรียนร่วมกนั สรุปวา่ ขอ้ ความนไี้ มค่ วรแชร์เพราะเปน็ ข้อมลู เท็จ และอาจก่อความรำคาญแก่ผอู้ น่ื 7. ครถู ามนักเรียนว่า ถา้ นักเรียนเหน็ ขอ้ ความนี้ นกั เรยี นจะแชรต์ อ่ หรอื ไม่ 8. ครูสมุ่ นกั เรียนบางคนใหอ้ ธบิ ายเหตุผลว่า เพราะอะไรจึงแชร์/ไมแ่ ชร์ข้อความนี้ แนวคำตอบ ตอบตามความคิดเห็นของนักเรยี น เช่น แชร์ เพราะ เปน็ แบง่ ปนั ความโชคดีใหผ้ ูอ้ ื่นและไม่ อยากลบหลู่สิ่งศักด์ิสิทธ์ิ หรือ ไม่แชร์ เพราะเปน็ ข้อมูลเทจ็ ไม่มที ่มี าท่ีไปของขอ้ มูล ข้อมูลไม่น่าเชอ่ื ถือ 9. ครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกันสรุปวา่ ขอ้ ความนีไ้ มค่ วรแชร์เพราะเปน็ ขอ้ มูลเทจ็ และอาจกอ่ ความรำคาญแก่ผ้อู ื่น 98

10. ครูถามนักเรยี นว่า ถ้านกั เรยี นเหน็ ขอ้ ความนี้ นกั เรยี นจะแชร์ตอ่ หรอื ไม่ 11. ครูส่มุ นักเรียนบางคนใหอ้ ธบิ ายเหตุผลวา่ เพราะอะไรจงึ แชร/์ ไม่แชรข์ ้อความน้ี แนวคำตอบ ตอบตามความคิดเห็นของนกั เรยี น เช่น แชร์ เพราะ มปี ระโยชน์กบั ผู้อื่นหรือ ไม่แชร์ เพราะ เป็นขอ้ มลู เท็จ และไม่นา่ เชอ่ื ถือ 12. ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกนั สรปุ ว่า ข้อความนไี้ มค่ วรแชรเ์ พราะเป็นขอ้ มูลเท็จ และหากมีคนปฏิบตั ิตามอาจเป็น อันตรายได้ 13. ครถู ามนักเรียนว่า ถ้านกั เรียนเหน็ ขอ้ ความนี้ นกั เรียนจะแชรต์ อ่ หรือไม่ 14. ครสู ่มุ นักเรยี นบางคนใหอ้ ธบิ ายเหตุผลว่า เพราะอะไรจงึ แชร/์ ไมแ่ ชรข์ อ้ ความนี้ แนวคำตอบ ตอบตามความคิดเหน็ ของนกั เรยี น เชน่ แชร์ เพราะ มปี ระโยชนก์ ับผู้อ่นื หรอื ไมแ่ ชร์ เพราะ เป็นข้อมูลที่ยังไม่มหี ลักฐานมายืนยนั ผลชัดเจน ซึ่งอาจเกดิ อนั ตรายกบั ผู้ที่ปฏบิ ัตติ ามได้ 15. ครใู หน้ กั เรียนร่วมกันสรุปว่า ขอ้ ความนีไ้ มค่ วรแชร์เพราะเปน็ ขอ้ มูลเท็จ และหากมีคนปฏบิ ตั ิตามอาจเป็น อันตรายได้ 16. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ วา่ ลกั ษณะของขา่ วปลอม มกั จะกระตนุ้ ความสนใจ อ้างอิงนกั วิจัย ชอบโยงไปขายของ หรือหลอกใหร้ ว่ มกิจกรรม อีกทง้ั ข่าวเหล่านีย้ งั กระตุ้นอารมณ์ผอู้ า่ นให้เกดิ ความรสู้ กึ กลัว ความโลภ ความ เช่ือ ความเกลียดชัง 99

17. ครถู ามนักเรยี น คำถาม - ถ้านกั เรยี นไดร้ ับขอ้ มูลขา่ วสาร แต่ไม่แน่ใจวา่ เป็นขา่ วปลอมหรอื ไม่ นกั เรียนคดิ วา่ ควรปฏิบตั ิ อยา่ งไร แนวคำตอบ ตรวจสอบท่มี าของข้อมูล ประเมินความหน้าเช่ือถอื สอบถามครหู รอื ผปู้ กครอง ไม่แชรข์ า่ วไปก่อนตรวจสอบ - เม่อื นกั เรยี นทราบแล้วว่าขา่ วสารท่ีไดร้ ับ เปน็ ข่าวขา่ วปลอม ควรทำอย่างไร แนวคำตอบ ไมแ่ ชรข์ ่าวนัน้ และแจ้งให้ครหู รอื ผปู้ กครองทราบ - นักเรียนคิดวา่ การส่งตอ่ หรอื แชร์ข่าวปลอมเหลา่ น้ี จะสง่ ผลกระทบอย่างไรบ้าง แนวคำตอบ การส่งต่อข่าวลวง ข่าวปลอม จะสง่ ผลให้ผ้อู ่ืนได้รับขอ้ มูลทผี่ ิดๆ หากผรู้ ับ ข่าวสารไม่ทราบวา่ เปน็ ข่าวปลอม อาจกอ่ ให้เกดิ ความเสยี หาย ความวุ่นวายและการส่งข่าว ปลอมอาจมีความผิดตามกฎหมายได้ การสง่ ข่าวปลอมบอ่ ยๆ จะสง่ ผลให้คนส่งขาดความ นา่ เชือ่ ถือนอกจากนอี้ าจเปน็ การสง่ เสริมมิจฉาชีพแบบไมร่ ู้ตัวด้วย 18. ครใู หน้ ักเรียนใหน้ ักเรยี นหาข่าวปลอม หรอื บทความทีเ่ ป็นเท็จจากอนิ เทอร์เนต็ มาคนละ 1 เร่อื ง เพอ่ื ทำ กิจกรรมในชว่ั โมงหนา้ ชวั่ โมงที่ 3 ขัน้ สอนตอ่ (30 นาท)ี 1. ครูทบทวนกิจกรรมชว่ั โมงทแี่ ลว้ วา่ นักเรียนจะทราบได้อยา่ งไรวา่ ข่าวนน้ั เปน็ ข่าวลวงหรือข่าวปลอม แนวคำตอบ ประเมินความน่าเช่อื ถือของขอ้ มลู 2. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ ละ 4-5 คนเพ่อื ทำกจิ กรรม 3. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำขา่ วท่ีสบื คน้ มาวเิ คราะห์ ว่าข่าวไหนนา่ สนใจ และเลือกขึน้ มา 1 แลว้ วิเคราะห์ วา่ ข่าวปลอม หรือมขี อ้ ความท่ีเปน็ เทจ็ อย่างไร ถ้าแชร์ข่าวหรือขอ้ ความน้อี อกไปจะสง่ ผลกระทบอย่างไร บา้ ง บันทกึ ลงในใบงาน 5.1 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศให้ปลอดภยั 4. ครสู มุ่ ตัวแทนนกั เรียนบางกลมุ่ ใหน้ ำเสนอการวิเคราะห์ขา่ วหรือข้อความทไ่ี ปสืบค้นมา 5. ครตู งั้ ประเด็นคำถามกับนกั เรยี นว่า นักเรียนคิดวา่ ควรทำอย่างไร นกั เรยี นคิดว่าควรทำอย่างไร เพ่อื ปอ้ งกนั ไมใ่ หม้ ีการแชรข์ า่ วปลอม แนวคำตอบ ตอบตามความคิดเหน็ นักเรียน เช่น บอกคนอ่นื ใหร้ ะวังขา่ วลวงหรอื ขา่ วปลอม หรอื เขยี น ป้ายรณรงคร์ ะวังภยั ขา่ วลวงหรือข่าวปลอม เปน็ ต้น 6. ครูสนทนากับนกั เรยี นว่า นกั เรยี นเรียนเรือ่ งการนำเสนอข้อมูลดว้ ยซอฟแวรม์ าแล้ว ครูให้นกั เรยี น ออกแบบโปสเตอรร์ ะวงั ภยั ขา่ วลวง โดยใช้โปรแกรมนำเสนอขอ้ มูลเชน่ Microsoft word PowerPoint Photoshop 100

7. ครตู รวจสอบความถูกตอ้ ง และใหน้ กั เรยี นแชร์ลงในสอื่ สังคม เช่นใน Facebook หรือบางส่วนอาจนำไป ติดในบอรด์ ประชาสมั พนั ธข์ องโรงเรียน ขน้ั สรปุ (20 นาที) 1. ครูถามคำถามเพื่อตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนจากคำถามท้าทายการคิดข้ันสูงจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.4 หน้า 119 ว่า นักเรียนจะเลือกลบ หรือตอบกลับ อีเมลฉบบั ใด เพราะเหตใุ ด แนวตอบ จากตัวเลือกควรเลือกตอบอีเมลของพ่ีโบว์เนื่องจากเป็นอีเมลจากคนทีเ่ รารู้จัก และข้อความท่ี ส่งมาก็เป็นข้อความท่ีสุภาพ ในส่วนของข้อความจากทีมงาน The Smart email น้ันไม่ควรตอบกลับ เนอ่ื งจากเป็นบุคคลทไี่ ม่รจู้ กั และไม่ทราบตัวตน อกี ท้งั ในขอ้ ความระบุว่าให้สง่ ข้อมูลทงั้ ชอื่ นามสกุล และที่ อยู่ ซึ่งเป็นข้อมูลท่ีเป็นส่วนตัว เพื่อให้ปลอดภัยในการใช้งานเทคโนโลยีเราควรปกป้องข้อมูลส่วนตัวโดย ไมใ่ ห้ข้อมลู ส่วนตัวตอ่ บุคคลที่ไมร่ ู้จัก 2. ให้นักเรียนตรวจสอบงานวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของข่าวในใบงาน 5.2 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้ ปลอดภยั และหากมขี ้อผิดพลาดใหน้ กั เรียนปรบั ปรุงแกไ้ ขให้ถูกต้อง 3. ครตู รวจประเมนิ ผลงาน 4. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เพื่อวัดความรู้ที่ได้เรียนมาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง การใช้ เทคโนโลยีอยา่ งปลอดภยั 10.สอ่ื แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน วชิ าเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.4 2. แบบฝกึ หัดวิชาวิทยาการคำนวณ 3. ใบงาน 5.1 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศใหป้ ลอดภัย 101

11.การวัดและการประเมนิ ผล จดุ ประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เคร่ืองมอื การประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน 1. นักเรยี นสามารถอธิบาย ตรวจใบงาน 5.1 การ ใบงาน 5.1 การใช้ ร้อยละ 50 ขึ้นไป ความหมายเกย่ี วกบั ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศให้ ผา่ นเกณฑ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ ใหป้ ลอดภยั ปลอดภัย พลเมอื งดจิ ิทอล และ ลักษณะพลเมืองดิจิทัลได้ 2. นักเรียนสามารถ ตรวจช้ินงานโปสเตอร์ แบบประเมินชน้ิ งาน คุณภาพอยูใ่ นระดับ ดี วิเคราะหข์ อ้ มูลท่ีสามารถ ระวังภัยข่าวปลอม ผา่ นเกณฑ์ เปิดเผยได้อย่างปลอดภยั และปอ้ งกันตนเองจากภยั คุกคามต่าง ๆ ได้ 3. นักเรยี นสามารถใช้ โปรแกรมไมโครซอฟต์ นำเสนองานได้ 4. นกั เรียนเหน็ คุณค่าของ การตอบคำถามและการ แบบประเมินพฤตกิ รรม คุณภาพระดับดี ผา่ นเกณฑ์ สทิ ธแิ ละหน้าที่ของตน ยกตวั อย่างผลดีท่ีเกดิ เคารพในสิทธิของผ้อู ืน่ จากการเคารพสิทธิ แจ้งผเู้ กีย่ วขอ้ งเมอื่ พบ ตนเองและผ้อู ืน่ รวมถึง ข้อมูลหรอื บคุ คลทไี่ ม่ ผลกระทบทเี่ กิดขน้ึ จาก เหมาะสม การไมเ่ คารพสทิ ธติ นเอง และผู้อนื่ 102

ใบงาน 5.1 การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศใหป้ ลอดภยั คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นสืบคน้ ขา่ วหรอื บทความจากอินเทอรเ์ นต็ แล้ววิเคราะห์เนื้อหาในข่าวว่ามีลักษณะอย่างไร นา่ เชือ่ ถอื หรือควรเผยแพร่หรือไม่ เพราะเหตใุ ด ภาพข่าว .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... 103

แบบประเมินช้นิ งาน โปสเตอรร์ ะวังภัยข่าวปลอม ประเด็นการประเมินชน้ิ งาน การให้คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1.ความถูกตอ้ งของเน้ือหา .2การเลือกใชโ้ ปรแกรมไมโครซอฟตน์ ำเสนองาน 3.ใช้ภาษาถกู ตอ้ งเหมาะสม รวมคะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 8–9 ดี 5 –7 1 –4 พอใช้ ปรับปรุง 104

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน ชน้ิ งาน คำอธิบายระดบั คุณภาพ / ระดับคะแนน ดี (3 คะแนน) พอใช้ (2 คะแนน) ปรบั ปรงุ (1 คะแนน) 1.ความถกู ตอ้ งของ 1.วิเคราะห์เนอ้ื หาถกู ตอ้ ง 1.วิเคราะห์เนือ้ หาถกู ต้อง 1.วเิ คราะหเ์ น้อื หาไม่ เนอ้ื หา ครบถว้ นสมบรู ณ์ สามารถ ครบถ้วน ตอบคำถามได้ ครบถว้ นแตภ่ าพรวมของ ตอบคำถามได้ทุกขอ้ และ ตระหนกั ถงึ ความปลอดภัย เป็นสว่ นใหญ่ และ เนือ้ หาทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ รวมถึงปอ้ งกันสิทธิตนเอง ตระหนักถึงความปลอดภัย พอใช้ ความปลอดภัยของ และผู้อนื่ รวมถึงปอ้ งกนั สิทธติ นเอง การของข้อมูลคอ่ นข้างน้อย และผู้อื่น 2.การเลอื กใช้ 2.เลอื กใช้โปรแกรม 2.เลือกใชโ้ ปรแกรม 2.เลอื กใช้โปรแกรม โปรแกรมไมโครซอฟต์ ไมโครซอฟต์นำเสนองานได้ นำเสนองาน เหมาะสม จัดรปู แบบ ไมโครซอฟตน์ ำเสนองานได้ ไมโครซอฟตน์ ำเสนองาน นำเสนองานเขา้ ใจง่ายและ เหมาะสม จัดรูปแบบ ค่อยขา้ งไม่เหมาะสม สวยงาม นำเสนองานเข้าใจ ความ จัดรูปแบบนำเสนองาน สวยงามพอใช้ ใชไ้ ด้เปน็ บางสว่ น 3.ใช้ภาษาถูกต้อง 3.ใช้ภาษาถกู ต้องเหมาะสม 3.ใชภ้ าษาถูกต้องเหมาะสม 3.ใชภ้ าษาถกู ต้องเหมาะสม เหมาะสม ออกเสยี งได้ถกู ต้องดี ออกเสียงได้ถกู ตอ้ งพอใช้ ออกเสยี งไดถ้ กู ต้องดมี าก ลำดบั ความไดด้ ี พอใช้ ลำดับความได้พอเข้าใจ ลำดบั ความได้ชดั เจน เข้าใจ ง่าย 105

แบบสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น คำชี้แจง : ครพู ิจารณาให้คะแนนนกั เรียนรายบุคคลตามขอ้ คำถามทก่ี ำหนดใหใ้ นใบรายชือ่ นกั เรียน โดยใช้เกณฑใ์ นการประเมิน ดงั น้ี 3 = มาก 2 = ปานกลาง 1 = นอ้ ย พฤตกิ รรมทส่ี ังเกต ระดับคะแนน 1 32 1. แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ 2. เห็นคุณคา่ ของสทิ ธแิ ละหน้าทีข่ องตน เคารพใน สิทธขิ องผู้อน่ื แจ้งผเู้ ก่ียวขอ้ งเม่ือพบข้อมูลหรอื บุคคลทไี่ มเ่ หมาะสม 3. มวี ินัย และม่งุ มน่ั ในการทำงาน 4. เข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ 5. แจง้ ผูเ้ กี่ยวขอ้ งเมื่อพบขอ้ มูลหรอื บุคคลท่ีไม่ เหมาะสม รวมคะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14 – 15 ดมี าก 11 – 13 ดี 8 – 10 พอใช้ 1–7 ปรบั ปรุง 106


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook