Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore follow2559

follow2559

Published by chuaysong, 2018-10-30 23:49:32

Description: follow2559

Search

Read the Text Version

คำนำ ตามนโยบายและจุดเน้นการดาเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการและจุดเน้นการดาเนินงานของสานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ท่ีให้มีการนาเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาและเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อลดความเหล่ือมลาทางการศึกษา เสริมสร้างคุณภาพทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชน เพ่ือให้การดาเนินงานตามนโยบายดังกล่าวบรรลุตามวัตถุประสงค์ ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา สานักงาน กศน. ซงึ่ เป็นหน่วยงานหลักในการผลติ พัฒนาและเผยแพร่เทคโนโลยีเพื่อการศกึ ษาในรปู แบบโทรทัศน์เพื่อการศึกษา วิทยุเพื่อการศึกษา คอมพิวเตอร์เพื่อการศกึ ษา VCD / DVD / CD เพื่อการศึกษาและส่ือในรูปแบบอ่ืนๆ จึงมีความจาเป็นที่จะต้องดาเนินการติดตามผลการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาจากผ้รู ับบริการในพนื ท่ี เพ่ือทจ่ี ะไดน้ าข้อมูลสารสนเทศมาใช้ในการวางแผนกาหนดทิศทางการพัฒนางานต่อไป ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาใคร่ขอขอบคุณผู้บริหารสานักงาน กศน.จังหวัด ผู้บริหารกศน. อาเภอ ครู กศน.ตาบล และเจ้าหน้าท่ีผู้เก่ียวข้องทุกท่าน ท่ีได้ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์และตอบแบบสอบถามด้วยดี ทาให้ภารกิจการติดตามผลการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 บรรลผุ ลสาเรจ็ ตามเปา้ หมายทุกประการ (นายปรีชา ชนื่ ชนกพิบลู ) ผอู้ านวยการศูนย์เทคโนโลยที างการศกึ ษา พฤศจิกายน 2559

สารบญั หน้าบทสรปุ ผู้บรหิ ารบทที่ 1 3 1 บทนำ................................................................................................................. 3 วัตถปุ ระสงค.์ ................................................................................................. 4 ขอบเขตของกำรศึกษำ.................................................................................. 4 ประเดน็ ท่ศี กึ ษำ............................................................................................ 4 นิยำมศพั ท์เฉพำะ.......................................................................................... 6 ประโยชนท์ ่คี ำดว่ำจะไดร้ บั ............................................................................ 6 9 2 เอกสำรและงำนวิจัยที่เกยี่ วข้อง.......................................................................... แนวคิดเกี่ยวกับเทคโนโลยเี พ่อื กำรศกึ ษำ...................................................... 12 นโยบำยของรัฐบำลที่เก่ียวกบั กำรส่งเสรมิ กำรใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อกำรศึกษำ.... 15 นโยบำยของรฐั บำลท่ีเกยี่ วข้องกับกำรศกึ ษำนอกระบบและ 16 กำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั ................................................................................... 20 แนวโนม้ เทคโนโลยเี พื่อกำรศกึ ษำในอนำคต................................................... 23 ศนู ยเ์ ทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ สำนักงำน กศน. สป. ...................................... เอกสำรและงำนวจิ ัยทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กำรใช้เทคโนโลยีเพือ่ กำรศกึ ษำ................ 25 3 วิธดี ำเนินกำรศกึ ษำ.............................................................................................. 25 ศกึ ษำควำมตอ้ งกำร ปัญหำดำ้ นกำรผลติ พัฒนำ เผยแพร่และกำรใชส้ ือ่ 25 เทคโนโลยีเพือ่ กำรศึกษำของปีงบประมำณที่ผ่ำนมำและเอกสำรทเี่ กย่ี วข้อง.. 25 ศกึ ษานโยบาย จดุ เน้นการดาเนินงานด้านเทคโนโลยีเพือ่ การศกึ ษา/ 26 26 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร........................................................... 26 วเิ คราะห์ปัญหา สรุปประเดน็ ปัญหา............................................................ 28 กาหนดวตั ถปุ ระสงค์การติดตามผล.............................................................. ออกแบบวธิ ีการตดิ ตามผล………………………………………………………………….. ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง…………………………………………………………………. สร้างเครื่องมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู ………………………………………… เก็บรวบรวมข้อมลู ……………………………………………………………………………..

สารบญั (ตอ่ ) วิเคราะห์ข้อมลู และสถิติทีใ่ ชใ้ นกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล...................................... หน้า เขียนรายงาน................................................................................................ 28 28 เผยแพร่รายงานไปยงั หนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้อง................................................. 28 294 ผลกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มูล....................................................................................... ผลกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูลกำรติดตำมผลกำรใช้เทคโนโลยีเพื่อกำรศึกษำในภำพรวม 30 ของทุกภำค (ภำคตะวันออกเฉียงเหนอื ภำคเหนือ ภำคใต้ ภำคกลำง และภำคตะวนั ออก)...................................................................................... 50 ผลกำรวิเครำะห์ขอ้ มูลกำรติดตำมผลกำรใช้เทคโนโลยีเพ่ือกำรศกึ ษำ ภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ…………………………………………………………………….. 66 ผลกำรวิเครำะหข์ อ้ มูลกำรติดตำมผลกำรใชเ้ ทคโนโลยีเพอ่ื กำรศึกษำ ภำคเหนอื ...................................................................................................... 82 ผลกำรวเิ ครำะห์ข้อมูลกำรติดตำมผลกำรใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อกำรศกึ ษำ ภำคใต้……………………………………………………………………………………………….. 98 ผลกำรวิเครำะหข์ อ้ มูลกำรติดตำมผลกำรใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื กำรศึกษำ ภำคกลำง……………………………………………………………………………………………. 114 ผลกำรวิเครำะหข์ ้อมลู กำรติดตำมผลกำรใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื กำรศกึ ษำ 130 ภำคตะวนั ออก……………………………………………………………………………………. 130 1305 สรปุ อภปิ รำยผล และขอ้ เสนอแนะ.................................................................... 130 วัตถุประสงค์.................................................................................................. 131 ขอบเขตของกำรศึกษำ................................................................................... 131 กำรเกบ็ รวบรวมข้อมูล................................................................................... 140 กำรวเิ ครำะห์ข้อมลู และสถิติที่ใช้ในกำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูล................................ 144 สรปุ กำรติดตำมผลกำรใช้สอื่ เทคโนโลยีเพ่ือกำรศกึ ษำ ปีงบประมำณ 2559.. อภิปรำยผล..................................................................................................... ข้อเสนอแนะ....................................................................................................

สารบญั (ต่อ) หน้าบรรณำนกุ รม........................................................................................................ 145ภำคผนวก.............................................................................................................. 147 แบบสอบถำมกำรใช้บรกิ ำรและใช้สื่อเทคโนโลยเี พอื่ กำรศกึ ษำเพอ่ื สง่ เสริม 148 กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ปีงบประมำณ 2559………… รำยช่อื สถำนศึกษำทเี่ ป็นกลมุ่ ตวั อยำ่ งในกำรเกบ็ รวบรวมข้อมูลกำรติดตำมผล 155 กำรใชส้ ือ่ เทคโนโลยีเพ่ือกำรศกึ ษำ ปงี บประมำณ พ.ศ.2559........................... หนังสอื ติดต่อประสำนงำนกับสถำนศึกษำในกำรติดตำมผลกำรใช้สื่อเทคโนโลยี 160 เพื่อกำรศึกษำ ปงี บประมำณ พ.ศ. 2559...........................................................คณะผู้จัดทำ

สารบญั ตารางตาราง หน้า3.1 แสดงจำนวนกลมุ่ ตวั อยำ่ งท่ใี ช้ในกำรติดตำมผลกำรใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื กำรศึกษำ...... 26ภาพรวม 30 314.1 แสดงข้อมูลท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถำม............................................................... 334.2 แสดงควำมพรอ้ มในกำรใหบ้ ริกำรเทคโนโลยเี พ่ือกำรศกึ ษำ..................................... 36 394.3 แสดงควำมพงึ พอใจในกำรรบั ชมรำยกำร (ETV)...................................................... 424.4 แสดงกำรให้บรกิ ำรคอมพิวเตอรเ์ พ่อื กำรศกึ ษำ........................................................4.5 แสดงกำรให้บรกิ ำร VCD/DVD เพอ่ื กำรศกึ ษำ........................................................ 434.6 แสดงกำรใหบ้ รกิ ำรวทิ ยเุ พือ่ กำรศกึ ษำ....................................................................4.7 แสดงกำรให้บรกิ ำรเทคโนโลยเี พื่อกำรศกึ ษำเพ่ือส่งเสรมิ ควำมรเู้ ก่ยี วกบั ประชำคมอำเซียน............................................................................................ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 50 514.8 แสดงข้อมูลท่ัวไปของผตู้ อบแบบสอบถำม............................................................... 534.9 แสดงควำมพรอ้ มในกำรให้บรกิ ำรเทคโนโลยเี พอื่ กำรศกึ ษำ..................................... 554.10 แสดงควำมพงึ พอใจในกำรรบั ชมรำยกำร (ETV)..................................................... 584.11 แสดงกำรใหบ้ รกิ ำรคอมพวิ เตอร์เพ่ือกำรศึกษำ........................................................ 614.12 แสดงกำรใหบ้ ริกำร VCD/DVD เพื่อกำรศึกษำ........................................................4.13 แสดงกำรใหบ้ รกิ ำรวทิ ยเุ พื่อกำรศึกษำ.................................................................... 624.14 แสดงกำรให้บริกำรเทคโนโลยีเพ่อื กำรศึกษำเพ่อื ส่งเสริมควำมร้เู ก่ยี วกบั ประชำคมอำเซยี น.............................................................................................ภาคเหนอื 66 674.15 แสดงข้อมูลทวั่ ไปของผูต้ อบแบบสอบถำม............................................................... 69 714.16 แสดงควำมพรอ้ มในกำรใหบ้ ริกำรเทคโนโลยเี พื่อกำรศึกษำ.................................... 744.17 แสดงควำมพงึ พอใจในกำรรบั ชมรำยกำร (ETV)..................................................... 774.18 แสดงกำรใหบ้ รกิ ำรคอมพิวเตอรเ์ พอ่ื กำรศึกษำ........................................................ 784.19 แสดงกำรใหบ้ รกิ ำร VCD/DVD เพ่ือกำรศึกษำ........................................................4.20 แสดงกำรให้บริกำรวิทยเุ พอ่ื กำรศกึ ษำ....................................................................4.21 แสดงกำรให้บรกิ ำรเทคโนโลยเี พอื่ กำรศึกษำเพ่ือส่งเสริมควำมรู้เกี่ยวกับ ประชำคมอำเซยี น.............................................................................................

สารบญั ตาราง (ต่อ)ตาราง หน้าภาคใต้ 82 834.22 แสดงข้อมูลทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถำม............................................................... 854.23 แสดงควำมพรอ้ มในกำรใหบ้ ริกำรเทคโนโลยเี พ่อื กำรศึกษำ.................................... 874.24 แสดงควำมพงึ พอใจในกำรรบั ชมรำยกำร (ETV)..................................................... 90 934.25 แสดงกำรใหบ้ รกิ ำรคอมพวิ เตอร์เพือ่ กำรศึกษำ........................................................4.26 แสดงกำรให้บริกำร VCD/DVD เพอ่ื กำรศึกษำ........................................................ 944.27 แสดงกำรให้บริกำรวทิ ยเุ พือ่ กำรศกึ ษำ....................................................................4.28 แสดงกำรใหบ้ ริกำรเทคโนโลยีเพื่อกำรศึกษำเพอ่ื สง่ เสริมควำมร้เู กย่ี วกบั ประชำคมอำเซียน.............................................................................................ภาคกลาง 98 994.29 แสดงขอ้ มูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถำม............................................................... 1014.30 แสดงควำมพร้อมในกำรใหบ้ ริกำรเทคโนโลยเี พอ่ื กำรศึกษำ.................................... 1034.31 แสดงควำมพึงพอใจในกำรรับชมรำยกำร (ETV)..................................................... 106 1094.32 แสดงกำรใหบ้ ริกำรคอมพิวเตอรเ์ พ่ือกำรศึกษำ........................................................4.33 แสดงกำรใหบ้ รกิ ำร VCD/DVD เพอ่ื กำรศึกษำ........................................................ 1104.34 แสดงกำรใหบ้ ริกำรวทิ ยุเพ่อื กำรศกึ ษำ....................................................................4.35 แสดงกำรใหบ้ ริกำรเทคโนโลยีเพอื่ กำรศึกษำเพื่อส่งเสริมควำมรเู้ กี่ยวกบั ประชำคมอำเซียน.............................................................................................ภาคตะวันออก 114 1154.36 แสดงข้อมูลทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถำม............................................................... 1174.37 แสดงควำมพรอ้ มในกำรใหบ้ ริกำรเทคโนโลยีเพอื่ กำรศกึ ษำ.................................... 1194.38 แสดงควำมพึงพอใจในกำรรับชมรำยกำร (ETV)..................................................... 1224.39 แสดงกำรให้บรกิ ำรคอมพิวเตอรเ์ พ่ือกำรศึกษำ........................................................ 1254.40 แสดงกำรใหบ้ รกิ ำร VCD/DVD เพือ่ กำรศึกษำ........................................................4.41 แสดงกำรให้บริกำรวิทยเุ พื่อกำรศึกษำ.................................................................... 1264.42 แสดงกำรให้บรกิ ำรเทคโนโลยเี พ่อื กำรศึกษำเพอื่ ส่งเสรมิ ควำมรเู้ กี่ยวกบั ประชำคมอำเซยี น.............................................................................................

สารบญั ภาพภาพ หนา้3.1 แสดงขัน้ ตอนกำรดำเนนิ งำนติดตำมผลกำรใชส้ อ่ื เทคโนโลยีเพอื่ กำรศกึ ษำ............ 24

บทสรุปสำหรบั ผู้บริหำรเรอ่ื ง รายงานการตดิ ตามผลการใช้เทคโนโลยเี พ่ือการศึกษา ปงี บประมาณ พ.ศ.2559วัตถปุ ระสงค์ เพอื่ สอบถามเก่ยี วการให้บรกิ าร การใช้ ปญั หา ข้อคิดเหน็ ขอ้ เสนอแนะเกีย่ วกบั เทคโนโลยีเพือ่ การศกึ ษาของศนู ย์เทคโนโลยีทางการศึกษากลุ่มตวั อยำ่ ง ไดแ้ ก่ ครู กศน.ตาบล จาก 5 ภมู ิภาค จานวน 145 กศน.ตาบลสรุปข้อมูลกำรติดตำมผล ควำมพร้อมในกำรใหบ้ รกิ ำรเทคโนโลยีเพอื่ กำรศึกษำของ กศน.ตำบล - สภาพความพร้อมใน กศน. ตาบลสว่ นใหญ่มีชุดรับสัญญาณ ETV (ร้อยละ 97.24) - มเี คร่อื งรับโทรทัศน์ทีส่ ามารถใชง้ านได้ 1 เครื่อง (รอ้ ยละ 86.21) - เคร่อื งรับโทรทศั นท์ สี่ ามารถใช้งานได้ 2 เครือ่ ง (ร้อยละ 11.03) - ไมม่ เี ครื่องรับโทรทศั น์เลย (ร้อยละ 2.07) - มีเคร่ืองเลน่ VCD/DVD ท่สี ามารถใช้งานได้ (รอ้ ยละ 95.86) - ส่วนใหญ่ไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ให้บริการ (ร้อยละ 22.06) รองลงมา คือ มีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ใหบ้ รกิ าร 6 เครอื่ ง (ร้อยละ 20.70) มีเคร่ืองคอมพวิ เตอรใ์ ห้บรกิ าร 1เครื่อง (ร้อยละ 18.62) - ด้านความพร้อมของโครงข่ายเพ่ือให้บริการ Internet กศน.ตาบล ท่ีเป็นกลุ่มตวั อย่างส่วนใหญ่ มโี ครงข่ายเพ่ือรองรับการใช้บรกิ าร Internet (ร้อยละ 74.48) - มีครบู คุ ลากรใหบ้ ริการคอมพิวเตอร์ ที่ กศน.ตาบล (ร้อยละ 96.55) - ไม่มีบคุ ลากรให้บรกิ าร (ร้อยละ 3.45)กำรใหบ้ รกิ ำรเทคโนโลยเี พือ่ กำรศึกษำ จากการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่าเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่ครู กศน. ตาบล นิยมใช้เป็นประจาในการจัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย คือ รายการโทรทัศน์ (ร้อยละ 55.17) รองลงมา คือคอมพิวเตอร์ (ร้อยละ 48.28) และ VCD/DVD (ร้อยละ 11.72) ตามลาดับ ความพึงพอใจในการรับชมรายการโทรทัศนเ์ พอ่ื การศึกษา ETV มีความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั มาก (ร้อยละ 87.80)กำรใหบ้ รกิ ำรโทรทศั นเ์ พือ่ กำรศึกษำ (ETV) กศน.ตาบล มีชุดรับสัญญาณ ETV (ร้อยละ 97.24) ส่วนใหญ่ให้บริการรับชมทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทยี ม (รอ้ ยละ 97.24) รองลงมาคือ รับชมทาง www.etvthai.tv (ร้อยละ 58.62) ส่วนใหญ่ทราบวา่ มีการให้บริการดาวน์โหลดตารางออกอากาศทางเว็บไซต์ (ร้อยละ 84.14) เนื้อหาที่ให้บริการส่วนใหญ่เป็นการส่งเสริมการศึกษาสายสามัญ (ร้อยละ 91.03) รองลงมา คือ รายการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา(ร้อยละ 47.59) ส่วนใหญ่ได้รับตารางออกอากาศ (ร้อยละ 98.62) ผู้รับบริการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา (ETV)สว่ นใหญ่ ได้แก่ นกั ศกึ ษา กศน. (ร้อยละ 98.62) รองลงมาคอื ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา (รอ้ ยละ 63.45)และประชาชนทั่วไป (ร้อยละ 31.72) มีผู้รับบริการโทรทัศน์ (ETV) โดยเฉลี่ย 21 - 40 คน ต่อ 1 จุดรับสัญญาณต่อสัปดาห์ (ร้อยละ 37.24) รองลงมา คือ 1 – 20 คน (ร้อยละ 25.52) ผู้รับบริการมีความพึงพอใจตอ่ การรบั ชมอยู่ในระดับมาก (ร้อยละ 82.40)

ข้อเสนอแนะเกย่ี วกับกำรใหบ้ ริกำร ETV เพอื่ ส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัย - ในรายวชิ าคณติ ศาสตร์ ภาษาองั กฤษ นาเสนอเนอ้ื หายาก สอนเร็วไป นักศึกษา กศน. ติดตามบทเรียนไม่ทนั ควรอธิบายชา้ ๆ สรปุ เป็นระยะๆ มกี ารทบทวนให้มากข้ึน (ผู้ตอบ 20 คน) - เวลาทอี่ อกอากาศรายการ ETV ไมต่ รงกบั เวลาจัดการเรียนการสอน การพบกลุ่มของนักศึกษา(ผตู้ อบ 17 คน) - ในรายวชิ าคณติ ศาสตร์ ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ ควรขยายเวลาของแต่ละรายการใหม้ ากขน้ึ(ผตู้ อบ 13 คน) - ในรายวชิ าสายสามญั กลุม่ ผู้เรียนสูงอายุ ควรบรรยายใหช้ า้ กวา่ น้ี ไม่สรุปเร็วเกินไป การนาเสนอตวั อักษรให้นาเสนอชา้ ๆ ตวั อกั ษรใหญ่ๆ (ผ้ตู อบ 5 คน) - ในรายวชิ าหลกั ทาใหน้ ักศึกษาเครียด ควรมบี ันเทิง ละคร การ์ตูน คลายเครียด (ผูต้ อบ 4 คน) - ควรปรับปรุงรปู แบบรายการใหด้ งึ ดดู ความสนใจ หลากหลาย ไม่ทารายการรปู แบบเดมิ ๆ(ผตู้ อบ 4 คน) - ชมรายการ ETV ผ่าน Internet สญั ญาณไม่เสถยี ร คน้ หารายการไดช้ ้า (ผตู้ อบ 4 คน) - รับสญั ญาณไมไ่ ด้ ภาพและเสยี งกระตกุ ภาพหยดุ เปน็ ชว่ งๆ เมือ่ อากาศแปรปรวนหรอื ฝนตก(ผูต้ อบ 3 คน) - ควรนาเสนอเนื้อหารายวิชาหลักท่ีมกี ารจัดการเรยี นการสอนตรงกนั ในภาคเรียนนัน้ ๆ (ผู้ตอบ 2 คน) - วชิ าภาษาองั กฤษควรเวน้ ระยะการนาเสนอช่วงพูดคาศัพท์ใหน้ านขึน้ (ผู้ตอบ 2 คน) - ควรนารายการ ETV ลง Application ทางโทรศพั ท์มือถือ (ผู้ตอบ 2 คน) - ควรจัดทาเป็นรายการสดทาง ETV สือ่ สารได้สองทาง สามารถซกั ถามปัญหาได้ทนั ที (ผู้ตอบ 2 คน) - ในรายวชิ าคณิตศาสตร์ ภาษาองั กฤษ นาเสนอกราฟิกตัวอกั ษรไมช่ ดั เปลี่ยนเรว็ เกินไป นกั ศึกษาตดิ ตามบทเรียนไม่ทัน (ผตู้ อบ 2 คน) - ควรมีรายการ ETV ประกอบการเรียนการสอนในรายวชิ าเลอื กทีห่ ลากหลายครอบคลมุ ทุกกล่มุ สาระ - รายการสง่ เสริมการศกึ ษาตามอัธยาศยั สว่ นใหญเ่ ปน็ การสมั ภาษณ์ ควรนาเสนอเป็นสารคดีใหเ้ ห็นจรงิ - ตัววิ่งในรายการ ควรตรวจสอบให้ถกู ต้องกอ่ นออกอากาศ - ในวิชาคณติ ศาสตร์ ควรจัดทารายการตามระดับใหค้ รบทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้นและมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย - ควรมเี อกสารประกอบการเรยี นในรายวชิ าต่างๆ ท่นี าเสนอทาง ETV - มีแนวโนม้ ว่านักเรยี นจะชมรายการ ETV ผา่ นทางอนิ เทอร์เน็ตมากขนึ้ - ในวชิ าภาษาองั กฤษ ควรเน้นเรื่องการพดู สนทนาในชีวิตประจาวัน ให้สามารถพดู ได้กำรใหบ้ ริกำรคอมพวิ เตอรเ์ พ่อื กำรศกึ ษำ - กศน.ตาบลสว่ นใหญ่ มกี ารให้บรกิ ารคอมพวิ เตอร์เพื่อการศึกษา (รอ้ ยละ 80.69) - ผใู้ ช้บริการคอมพิวเตอรส์ ่วนใหญ่ ได้แก่ นกั ศึกษา กศน. (รอ้ ยละ 84.14) รองลงมาคอื ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา (รอ้ ยละ 62.72) ประชาชนทัว่ ไป (ร้อยละ 48.28)

- กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ใชค้ อมพิวเตอรเ์ พอ่ื การศึกษาค้นคว้าขอ้ มลู (ร้อยละ 78.62)ใชเ้ พ่อื พิมพง์ าน (ร้อยละ 60.69) ใชเ้ พอ่ื ดูหนงั ฟังเพลง เลน่ เกม (รอ้ ยละ 47.59) - ครู กศน. มีการนาส่อื สังคมออนไลน์มาใช้ในการส่งเสริมการศึกษา (รอ้ ยละ 99.31)สว่ นใหญใ่ ชเ้ พอ่ื แจง้ นัดหมายนกั ศกึ ษา (รอ้ ยละ 96.55) ใชเ้ พ่อื ประชาสัมพันธเ์ ผยแพรข่ า่ วสาร (ร้อยละ 93.79)โดยส่วนใหญใ่ ชโ้ ปรแกรม Line (ร้อยละ 93.79) รองลงมาคอื FaceBook (ร้อยละ 92.41) - มีผ้ใู ช้บริการคอมพิวเตอรท์ ี่ กศน.ตาบล เฉลี่ย 1 - 20 คน ตอ่ สปั ดาห์ (ร้อยละ 37.24) รองลงมาคอื21 – 40 คน (รอ้ ยละ 24.14) ปญั หำเกย่ี วกบั กำรให้บรกิ ำรคอมพิวเตอร์เพ่ือสง่ เสรมิ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัย - มีเครือ่ งคอมพวิ เตอรใ์ หบ้ ริการไม่เพยี งพอ (ผตู้ อบ 70 คน) - ไม่มีเคร่อื งคอมพิวเตอร์ให้บรกิ าร (ผู้ตอบ 51 คน) - นักศกึ ษาสงู อายขุ าดทกั ษะในการใช้เคร่อื งคอมพิวเตอร์ (ผตู้ อบ 35 คน) - ไม่มีโครงข่ายอินเทอรเ์ น็ต (ผตู้ อบ 32 คน) - ขาดบุคลากรท่ีมีความรูช้ ่วยดแู ล บารงุ รกั ษา แกไ้ ขปญั หา ซ่อมแซมเบอื้ งตน้ (ผู้ตอบ 28 คน) - สัญญาณอินเทอรเ์ นต็ ล่าชา้ (ผ้ตู อบ 27 คน) - เคร่ืองคอมพิวเตอร์เก่า ล้าสมยั (ผ้ตู อบ 27 คน) ข้อเสนอแนะเกีย่ วกับกำรให้บริกำรคอมพวิ เตอร์เพื่อส่งเสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย - ควรสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอรใ์ ห้บรกิ ารที่ กศน.ตาบล อยา่ งเพียงพอ (ผตู้ อบ 34 คน) - ควรจดั สรรเคร่ืองคอมพวิ เตอร์พร้อมตดิ ต้งั สัญญาณอินเทอร์เนต็ ให้กับ กศน.ตาบล ทุกแหง่ เพื่อใหบ้ รกิ ารได้อย่างเตม็ ประสทิ ธภิ าพ (ผตู้ อบ 21 คน) - ควรปรบั ปรุงสัญญาณอนิ เทอรเ์ น็ตให้เรว็ ขึน้ (ผู้ตอบ 18 คน) - ควรจดั สรรงบประมาณในการดูแลบารุงรกั ษาเคร่อื งคอมพิวเตอร์ (ผตู้ อบ 6 คน) - ควรมเี ครอ่ื งคอมพวิ เตอรใ์ หบ้ รกิ ารที่ กศน.ตาบล อย่างนอ้ ย 6 เครื่อง (ผู้ตอบ 5 คน) - ควรสนับสนนุ โครงข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ ใหเ้ ข้าถึงทุก กศน.ตาบล (ผู้ตอบ 5 คน) - ครขู าดความชานาญด้าน IT ควรมีการอบรมครใู นโปรแกรมคอมพวิ เตอรท์ ตี่ ้องใชง้ านการบารุงดแู ลรักษา (ผตู้ อบ 4 คน) - ต้องการคอมพิวเตอรท์ ่ีทนั สมยั (ผตู้ อบ 4 คน) - จัดหาบุคลากรทม่ี ีความรู้ทักษะในการบารุงรกั ษาและแกไ้ ขคอมพวิ เตอร์ (ผู้ตอบ 3 คน) - ตอ้ งการให้มกี ารรวบรวมสือ่ กศน. ไว้เปน็ หมวดหมู่ ทาเป็น clip ความยาว 20 -30 นาทีเพอื่ สะดวกต่อการค้นหากำรให้บรกิ ำร VCD/DVD เพอ่ื กำรศกึ ษำ - กศน.ตาบลสว่ นใหญม่ กี ารให้บรกิ าร VCD/DVD เพ่อื การศึกษา (รอ้ ยละ 95.86) - สว่ นใหญม่ แี ผ่น VCD/DVD ให้บริการ 51 – 100 แผ่น (รอ้ ยละ 40.00) รองลงมาคือ มีแผ่นให้บริการ 1 – 50 แผ่น (ร้อยละ 38.62)

- เนอื้ หาที่ให้บรกิ ารสว่ นใหญ่เป็นรายการส่งเสริมการศกึ ษาสายสามญั (ร้อยละ 58.62)สายอาชีพ (ร้อยละ 36.55) - จานวนแผ่น VCD/DVD ท่ีให้บริการสว่ นใหญม่ เี พยี งพอ (รอ้ ยละ 75.17) - ผู้รบั บริการ VCD/DVD ส่วนใหญ่ ได้แก่ นกั ศกึ ษา กศน. (รอ้ ยละ 97.93) รองลงมา ได้แก่ ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา (ร้อยละ 48.97) - วธิ ีการใหบ้ ริการส่วนใหญใ่ หย้ ืมไปศกึ ษาท่ีบ้าน (รอ้ ยละ 73.79) เปดิ ให้ชมที่ กศน.ตาบล(ร้อยละ 68.28) - สว่ นใหญไ่ มม่ ีการหมนุ เวียนแผ่น VCD/DVD กับ กศน.ตาบลใกลเ้ คยี ง (ร้อยละ 55.86) มีการหมุนเวียน (ร้อยละ 42.07) - มผี ู้ใชบ้ ริการ VCD/DVD ที่ กศน.ตาบล เฉล่ยี 1 - 20 คน ต่อสปั ดาห์ (รอ้ ยละ 69.66) ปญั หำเกี่ยวกบั กำรให้บริกำร VCD/DVD เพอ่ื สง่ เสรมิ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัย - นกั ศึกษาไมค่ อ่ ยให้ความสนใจ VCD/DVD ชอบสื่อออนไลนม์ ากกว่า (ผู้ตอบ 72 คน) - แผ่นชารุด เปน็ รอย เพราะใช้งานมานาน (ผตู้ อบ 54 คน) - แผ่นมเี นือ้ หาเกา่ ล้าสมยั (ผ้ตู อบ 47 คน) - มีแผน่ แต่เน้อื หาไมต่ รงกบั การเรียนการสอน ไมต่ รงกบั ความต้องการ (ผู้ตอบ 25 คน) - ไม่มีเครอ่ื งเล่น VCD/DVD (ผตู้ อบ 4 คน) ข้อเสนอแนะเก่ียวกับกำรใหบ้ รกิ ำร VCD/DVD เพื่อส่งเสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั - ควรสนับสนนุ แผน่ VCD/DVD ในรายวชิ าชพี ใหมๆ่ ทันสมัย (ผ้ตู อบ 16 คน) - ควรจัดสง่ VCD/DVD เนือ้ หาสายสามญั ม.ต้น และ ม.ปลาย ครบทกุ รายวิชาต่อเน่ืองกนั ท้งั หลกั สตู ร ให้กับ กศน.ตาบล (ผู้ตอบ 10 คน) - ต้องการ VCD/DVD ในเนื้อหาใหมๆ่ เพ่มิ เติม (ผู้ตอบ 10 คน) - นกั ศกึ ษาไมค่ อ่ ยนิยมใช้สื่อ VCD/DVD นิยมใช้คอมพวิ เตอร์ส่ือออนไลน์มากกว่า (ผตู้ อบ 10 คน) - ขอรับการสนบั สนนุ เครือ่ งเลน่ VCD/DVD (ผูต้ อบ 7 คน) - กศน.ตาบล ควรมแี ผน่ VCD/DVD เพยี งพอสาหรับใหบ้ รกิ ารยมื ไปใช้ (ผตู้ อบ 6 คน) - ต้องการ VCD/DVD ในเนือ้ หาทีห่ ลากหลาย (ผู้ตอบ 5 คน) - ควรมีรูปแบบการนาเสนอท่นี า่ สนใจ (ผูต้ อบ 2 คน)กำรให้บริกำรวทิ ยุศกึ ษำ - ครสู ว่ นใหญไ่ ม่ไดน้ ารายการวิทยศุ ึกษาไปใชใ้ นการส่งเสริมการศึกษา กศน. (ร้อยละ 96.55)นาไปใช้ (รอ้ ยละ 3.45) ปัญหำเกยี่ วกบั กำรใช้บรกิ ำรวิทยเุ พ่ือกำรส่งเสริมกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย - ไมท่ ราบวา่ มีรายการวทิ ยุส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยใหบ้ รกิ าร(ผตู้ อบ 84 คน)

- ไมน่ ยิ มใชว้ ิทยุเปน็ เครือ่ งมอื ในการสง่ เสรมิ การศึกษา เพราะมสี ่ือเทคโนโลยอี ่ืนๆ ทใ่ี ชง้ านได้ดกี ว่า เชน่ โทรทศั น์ผา่ นดาวเทียม อินเทอรเ์ นต็ เป็นต้น (ผตู้ อบ 66 คน) - รบั ฟังไม่ได้ ไมม่ สี ญั ญาณ (ผู้ตอบ 37 คน) - ไมท่ ราบรายละเอียดคลืน่ ความถีแ่ ละช่องทางการรบั ฟัง (ผู้ตอบ 32 คน) - ไมม่ ีเครือ่ งรบั วทิ ยุ (ผู้ตอบ 32 คน) ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะเกีย่ วกบั กำรใหบ้ รกิ ำรวทิ ยเุ พ่อื ส่งเสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย - ควรมกี ารประชาสมั พันธร์ ายการ สถานวี ทิ ยุให้เป็นท่ีรู้จักอย่างกวา้ งขวางท่ัวถงึ(ผู้ตอบ 11 คน) - นกั ศกึ ษา กศน. ไมค่ อ่ ยมคี วามสนใจรายการวิทยุ สนใจโทรทัศน์ อนิ เทอรเ์ นต็ มากกว่า(ผูต้ อบ 4 คน) - ส่ือวทิ ยุขาดความเร้าใจผูเ้ รยี น ส่ือโทรทัศน์ อนิ เทอรเ์ นต็ ทาใหเ้ หน็ ภาพ ได้ยนิ เสยี ง ทาให้เข้าใจเน้อื หาไดม้ ากกวา่ (ผ้ตู อบ 3 คน) - ปัจจบุ ันสอ่ื วิทยไุ มเ่ หมาะกบั การใช้ในการเรียนการสอน แต่เหมาะสาหรับการเผยแพรข่ า่ วสารความรูท้ ว่ั ไป ( ผู้ตอบ 3 คน) - ถา้ ต้องการให้มีการใชว้ ิทยุ ควรมีนโยบายส่ังการให้ใช้ โดยระบุรายการใหช้ ัดเจนกำรใหบ้ ริกำรสอ่ื ส่งเสรมิ ประชำคมอำเซยี น - กศน.ตาบลสว่ นใหญ่ มกี ารให้บรกิ ารสอื่ ส่งเสริมประชาคมอาเซียน (รอ้ ยละ 99.31) - ส่อื ส่วนใหญ่ท่ีใช้ในการสง่ เสรมิ ไดแ้ ก่ สือ่ ประเภทสงิ่ พมิ พ์ ปา้ ยนเิ ทศ (ร้อยละ 64.14) รองลงมา คอืVCD/DVD (ร้อยละ 52.41) คอมพิวเตอร์ (ร้อยละ 39.31) - ผ้รู ับบริการเทคโนโลยเี พือ่ การศกึ ษาเพื่อส่งเสริมประชาคมอาเซยี นส่วนใหญ่ ได้แก่ นักศึกษา กศน.(รอ้ ยละ 99.31) รองลงมาคอื ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา (รอ้ ยละ 42.07) - มผี ้ใู ช้บริการสื่อส่งเสรมิ ประชาคมอาเซยี นท่ี กศน.ตาบล เฉล่ีย 1 - 20 คน ต่อสัปดาห์(รอ้ ยละ 67.59) ปัญหำเก่ียวกบั กำรให้บริกำรส่อื กำรศึกษำเพ่ือสง่ เสริมควำมรเู้ กีย่ วกับประชำคมอำเซยี น - สื่อสง่ เสริมเก่ียวกับอาเซยี นมนี ้อย (ผตู้ อบ 76 คน) - นักศึกษาและประชาชนขาดความสนใจ (ผ้ตู อบ 50 คน) - ขาดส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ เช่น VCD/DVD (ผู้ตอบ 49 คน) - ส่ือไมห่ ลากหลาย (ผู้ตอบ 2 คน)ควำมต้องกำรดำ้ นเนอื้ หำสง่ เสริมประชำคมอำเซียน - ภาษาของประเทศสมาชกิ (ผตู้ อบ 81 คน) - วัฒนธรรมประเพณี (ผตู้ อบ 53 คน) - การประกอบอาชพี (ผูต้ อบ 34 คน)

- สถานทท่ี ่องเทีย่ ว (ผตู้ อบ 24 คน) - ภาษาอังกฤษ (ผูต้ อบ 19 คน) - เศรษฐกิจ การคา้ การลงทุน (ผตู้ อบเนอื้ หาละ 15 คน) - กฎหมายทค่ี วรรู้สาหรบั ประเทศในประชาคมอาเซียน (ผูต้ อบ 13 คน) - อาหารประจาชาติของประเทศสมาชกิ ประชาคมอาเซยี น (ผูต้ อบ 10 คน) - ภาษาจีน (ผู้ตอบ 6 คน) - ความรู้ทัว่ ไปเกี่ยวกับประเทศสมาชิก สถานท่ีสาคัญ (ผู้ตอบเน้อื หาละ 5 คน) ขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกับกำรใหบ้ รกิ ำรสอื่ กำรศึกษำเพอื่ ส่งเสรมิ ควำมรเู้ กยี่ วกบั ประชำคมอำเซียน - สื่ออาเซยี นมีไม่เพียงพอ ต้องการสื่อ VCD/DVD เน้อื หาประชาคมอาเซยี นให้ กศน.ตาบล เพมิ่ มาก ขนึ้ (ผ้ตู อบ 18 คน) - ควรผลติ ส่ืออาเซยี นทีห่ ลากหลาย ดงึ ดดู ความสนใจ (ผู้ตอบ 9 คน) - ควรผลิตสอื่ อาเซียนให้มคี วามน่าสนใจ เนอ้ื หากระชับ ทนั สมัย เข้าใจง่าย (ผู้ตอบ 5 คน) - นักศกึ ษาและประชาชนขาดความสนใจเกย่ี วกับอาเซียนเทา่ ท่ีควร (ผตู้ อบ 4 คน) - ตอ้ งการเน้อื หาเก่ียวกบั ประโยชน์ ผลกระทบ การปรับตวั เม่อื เข้าสปู่ ระชาคมอาเซยี น (ผตู้ อบ 3 คน) - ตอ้ งการสือ่ ด้านภาษา ฝกึ การพดู ทส่ี ามารถสือ่ สารโตต้ อบได้ (ผ้ตู อบ 3 คน) - ต้องการสอ่ื สอนภาษาอาเซียน (ผู้ตอบ 3 คน) - ควรนาเสนอเรอ่ื งการประกอบอาชีพของประชาชนในประชาคมอาเซยี น เพ่อื เป็นตัวอย่างนามา พฒั นาตอ่ ยอดให้เหมาะกบั คนไทย (ผู้ตอบ 2 คน) - ตอ้ งการส่ือส่งเสริมประชาคมอาเซยี นในรปู แบบ VCD การ์ตนู /สารคดี เนน้ สาหรับเด็กปฐมวยั (ผ้ตู อบ 2 คน) - ควรจดั ทาสือ่ อาเซยี นในระบบออนไลน์ควำมตอ้ งกำรดำ้ นเนือ้ หำ (content) จำแนกตำมชว่ งวยั 1. ช่วงแรกเกดิ – ปฐมวยั (อำยุ 0 – 5 ป)ี มีความต้องการเน้ือหาเก่ียวกบั - การส่งเสรมิ พฒั นาการเด็ก (ผู้ตอบ 39 คน) - การดแู ลเด็กเลก็ (ผตู้ อบ 29 คน) - อาหาร โภชนาการสาหรบั เดก็ (ผตู้ อบ 19 คน) - นิทานส่งเสรมิ คณุ ธรรมจริยธรรม (ผ้ตู อบ 11 คน) - นิทานสาหรับเด็ก (ผู้ตอบ 10 คน) - การ์ตนู (ผ้ตู อบ 10 คน) - การฝกึ หดั อา่ น เขยี น (ผู้ตอบ 8 คน) - เพลงสาหรับเดก็ (ผู้ตอบ 6 คน) - การปลูกฝงั คุณธรรมจริยธรรม (ผู้ตอบ 5 คน) - โภชนาการแม่และเดก็ การดูแลสุขภาพหญงิ มคี รรภ์และทารกในครรภ์ การฝึกกล้ามเนอ้ื เด็ก สขุ ภาพอนามัย (ผตู้ อบเนือ้ หาละ 3 คน) 2. ชว่ งวยั นักเรียน (อำยุ 5 – 14 ป)ี มคี วามต้องการเนอื้ หาเกี่ยวกบั

- วชิ าภาษาอังกฤษ (ผ้ตู อบ 23 คน) - วิชาคณิตศาสตร์ (ผู้ตอบ 20 คน) - การปลูกฝงั คณุ ธรรมจริยธรรม (ผู้ตอบ 15 คน) - วิชาวทิ ยาศาสตร์ (ผตู้ อบ 11 คน) - เพศศกึ ษา (ผ้ตู อบ 8 คน) - มารยาทในสังคม (ผตู้ อบ 8 คน) - กีฬาและนนั ทนาการ (ผู้ตอบ 6 คน) - พัฒนาการตามวยั (ผตู้ อบ 6 คน) - วิชาภาษาไทย (ผ้ตู อบ 5 คน) - สขุ ภาพอนามัย การดแู ลสขุ ภาพ (ผู้ตอบ 5 คน) - จติ วิทยาวัยร่นุ (ผู้ตอบ 4 คน)3. ชว่ งวัยรุ่น – นกั ศกึ ษำ (อำยุ 15 - 21 ปี) มีความตอ้ งการเนอ้ื หาเกีย่ วกับ - เพศศึกษา (ผู้ตอบ 41 คน) - การป้องกันยาเสพตดิ (ผู้ตอบ 36 คน) - วิชาภาษาอังกฤษ (ผ้ตู อบ 34 คน) - วิชาวทิ ยาศาสตร์ (ผู้ตอบ 31 คน) - วิชาคณิตศาสตร์ (ผตู้ อบ 31 คน) - แนะแนวการศกึ ษาและอาชพี (ผูต้ อบ 18 คน) - กีฬาและนนั ทนาการ (ผตู้ อบ 8 คน) - รเู้ ท่าทันเทคโนโลยีใหมๆ่ (ผูต้ อบ 8 คน) - การใช้คอมพิวเตอร์ (ผูต้ อบ 7 คน) - การปรับตัวเขา้ กบั สังคมวยั รนุ่ (ผตู้ อบ 7 คน) - คณุ ธรรมจริยธรรม (ผู้ตอบ 6 คน) - มารยาททางสังคม (ผตู้ อบ 4 คน)4. ช่วงวัยแรงงำน (อำยุ 15 – 59 ป)ี มคี วามต้องการเน้ือหาเกีย่ วกับ - อาชพี (ผู้ตอบ 15 คน) - การดูแลสุขภาพอนามัย (ผู้ตอบ 15 คน) - กฎหมายเบื้องตน้ กฎหมายชาวบ้าน (ผู้ตอบ 12 คน) - ปลกู มนั สาปะหลงั (ผู้ตอบ 12 คน) - ทาไร่ทานาปลกู ข้าว (ผู้ตอบ 10 คน) - อาชีพเสรมิ (ผตู้ อบ 10 คน) - เกษตรทฤษฎใี หม่ เกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสาน (ผ้ตู อบเน้ือหาละ 10 คน) - ปลกู ผัก ช่างคอมพิวเตอร์ ปลกู ลาไย (ผูต้ อบเนอ้ื หาละ 6 คน) - ชา่ งยนต์ ช่องทางประกอบอาชีพ เศรษฐกจิ พอเพียง เสรมิ สวย ความปลอดภัยจากสารเคมี (ผูต้ อบเน้ือหาละ 5 คน) - ชา่ งซ่อมจักรยานยนต์ จักสาน ช่างไม้ กฎหมายแรงงาน ทาสวนยางพารา ทาขนมไทย

5. ช่วงผู้สูงอำยุ (อำยุ 60 ปีข้นึ ไป) มคี วามต้องการเนอ้ื หาเก่ยี วกบั - การดแู ลรักษาสุขภาพผู้สงู อายุ (ผู้ตอบ 101 คน) - อาหาร โภชนาการผู้สูงอายุ (ผูต้ อบ 44 คน) - กฬี าและการออกกาลงั กาย (ผตู้ อบ 33 คน) - ธรรมะ (ผูต้ อบ 25 คน) - อาชีพเสรมิ (ผูต้ อบ 15 คน) - การดูแลผู้สูงอายุ (ผตู้ อบ 8 คน) - นนั ทนาการ ศาสนา การใช้เวลาวา่ ง งานอดเิ รก (ผู้ตอบเนอ้ื หาละ 5 คน) - จักสาน (ผูต้ อบ 4 คน) - สอ่ื ประดษิ ฐ์สาหรับคนสูงอายุ ภาษาองั กฤษ (ผู้ตอบเนื้อหาละ 3 คน)ปัญหำและข้อเสนอแนะเกี่ยวกบั กำรให้บริกำรเทคโนโลยเี พ่อื กำรศึกษำของศูนย์เทคโนโลยที ำงกำรศกึ ษำ - ต้องการใหศ้ ูนย์เทคโนโลยีทางการศกึ ษาลงพ้นื ทีเ่ พอื่ แนะนา ช้แี จงรายละเอยี ดเก่ยี วกับสอื่ ทใ่ี ห้บริการ ชอ่ งทางการใช้บริการ วธิ ีการใช้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การใช้งานอยา่ งจริงจงั มปี ระสทิ ธภิ าพ ไดร้ บั ทราบปัญหาความต้องการของพน้ื ท่ี (ผตู้ อบ 3 คน) - รายการ ETV สายสามญั ควรมสี าระบันเทงิ แทรกบา้ ง นักศกึ ษาไม่ชอบน่งั นานๆ ไมช่ อบสาระมาก เกินไป - ต้องการใหม้ ีการรวบรวมสาระไว้เปน็ หมวดหมู่ในลกั ษณะ Clip ส้นั ๆ ความยาว 30 นาที เผยแพร่ ทางอนิ เทอร์เนต็ เพ่อื สะดวกในการสบื คน้ - ควรเพิ่มเวลาออกอากาศ ETV ในรายวิชายากใหม้ ากขึน้ - ตอ้ งการให้มีการเผยแพร่ส่ือผ่าน TV สาธารณะ วทิ ยุสาธารณะ ผ่านอินเทอร์เน็ตท่ีใชต้ ้นทนุ ต่า ท่ี ผูร้ บั บรกิ ารไม่ต้องจ่ายเงิน - ควรมกี ารประชาสมั พนั ธ์ ETV ให้มากขึ้นไมเ่ ฉพาะแต่ กศน. เท่านน้ั ควรประชาสมั พนั ธ์ให้ ประชาชนไดร้ จู้ กั ดว้ ย จะได้ใชป้ ระโยชนไ์ ดม้ ากกวา่ นี้ - ควรมนี โยบายทชี่ ดั เจนในการกาหนดใหค้ รู กศน. ในพ้ืนที่ชมรายการ ETV ควรใหช้ มท่ี กศน. ตาบล ไมจ่ าเปน็ ต้องเข้าไปชมท่ี กศน.อาเภอ - ในรายการ ETV ควรออกแบบจดั ทากราฟกิ ให้สวยงามเพอื่ ดงึ ดดู ความสนใจนกั ศึกษา - ควรจัดหาอปุ กรณ์รบั ชม ETV ให้กับ กศน.ตาบล ศูนย์การเรยี นชมุ ชน ใหม้ ใี ช้งานอย่างทัว่ ถึง - ควรออกแบบสร้างสรรคส์ อ่ื ให้น่าสนใจ มีการกระตุ้นใหน้ กั ศึกษาพฒั นาตนเองอยู่เสมอ - ควรจัดสรรส่อื สาเร็จรูปเก่ียวกับการเรยี นการสอนแบบบรู ณาการของ กศน. เพอ่ื ช่วยครูในการ จัดการเรียนการสอน ถา้ หากทาไม่ได้ ก็ควรผลิตส่ือใหค้ รบทุกวชิ าทกุ ระดบั ชั้น - ควรมคี ลงั สื่อของ กศน. เพอ่ื เตรยี มความพร้อมสาหรบั ครู กศน. ในการจดั การเรยี นการสอนให้ ครบ ทัง้ 18 สปั ดาห์ - ปจั จุบันแมจ้ ะมสี ่ือออนไลนใ์ หม่ๆ สะดวกต่อการใช้ แต่ควรมกี ารผลติ VCD/DVD เพื่อใชใ้ นกรณีที่ สัญญาณอนิ เทอร์เน็ตไม่ดี หรอื ในทห่ี ่างไกล - ผลติ ส่ือใหต้ รงกับเน้ือหาที่จัดการเรยี นการสอน ตรงกบั ข้อสอบ

- ต้องการส่อื ในเนอ้ื หาวชิ าทีห่ ลากหลายตรงกับวิชาท่จี ดั การเรียนการสอน- ควรแกป้ ญั หาการดาวนโ์ หลดทางอินเทอรเ์ นต็ ให้มีความเร็วเพิม่ ข้นึ- ตอ้ งการสือ่ ทที่ าเป็นชุดวชิ าทีม่ ีเน้อื หายากๆ- ตอ้ งการรายการตวิ คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาองั กฤษ ทีต่ รงกับหลักสูตรของ กศน. โดยตรง ทั้งระดบั ประถม ม.ต้น และ ม.ปลาย- ควรทาสอ่ื เนื้อหาในรายวชิ าที่ยากๆ เชน่ คณิตศาสตร์ ภาษาองั กฤษ วิทยาศาสตร์ เป็นหลกั- การท่จี ะให้บรกิ ารเทคโนโลยใี ห้เตม็ ประสิทธภิ าพ ควรจดั หาเครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ส่อื ต่างๆ ใหพ้ ร้อม กอ่ น- ตอ้ งการให้ศนู ย์เทคโนโลยีทางการศึกษาจัดสง่ VCD/DVD รายวิชาทกุ วชิ า ทุกระดับใหก้ บั กศน. ตาบล- ควรพฒั นาสื่อผา่ นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนใหส้ ามารถดไู ดต้ อ่ เนอ่ื ง สะดวก ไมต่ ิดขัด- ควรผลิตและจัดส่ง VCD/DVD เน้อื หาใหม่ๆ ส่งมาให้ กศน.ตาบล และควรสง่ ให้อย่างต่อเนื่อง- ควรมสี ่ือใหบ้ รกิ ารที่หลากหลาย สามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ และประกอบอาชีพไดจ้ ริง- รายการรายวชิ า ควรจดั ทาต้งั แตร่ ะดบั ประถม ม.ต้น ม.ปลาย ให้ครบ- ควรออกแบบการนาเสนอรายการ ส่อื ใหส้ นกุ สนาน น่าสนใจ น่าติดตาม- ควรจัดทาสือ่ ให้เหมาะสมกับสภาพการเรียนการสอนของนกั ศึกษา กศน.- ควรมกี ารประชาสมั พันธ์เกี่ยวกับการเข้าถึงส่อื ออนไลนข์ อง ศท. ใหม้ ากกวา่ น้ี

บทท่ี 1 บทนำ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545หมวด 9 ว่าด้วยเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา กาหนดให้ รัฐต้องจัดโครงสร้างพ้ืนฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ช่องทางและสื่อโทรคมนาคมเพื่อการศึกษา และต้องจัดให้มีโครงสร้างและหน่วยงานเฉพาะเพื่อรับผิดชอบด้านเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา นอกจากนี้ยังต้องส่งเสริมบุคลากรทางการศึกษาตลอดท้ังประชาชนให้มีขีดความสามารถในการผลิตการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเพื่อการเรียนรู้ ในยุคสังคมข่าวสารเพื่อการแสวงหาความรู้และการศึกษาตลอดชีวิต ลักษณะของการศึกษาตามเจตนารมณด์ ังกลา่ วจะเปน็ การศึกษาตลอดชวี ิตท่ีมคี วามยดื หยุ่นสูง สามารถตอบสนองต่อความต้องการความจาเป็นและความสนใจของปัจเจกบุคคลโดยเป็นการศึกษาแบบไม่เผชิญหน้าผ่านทางเครือข่ายโทรคมนาคมซ่ึงเชื่อมโยงทั่วถึงทุกมุมโลก (สานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2545 ก, หน้า 37) “เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา” จึงเป็นเครื่องมือในการพัฒนาการศึกษาโดยการนาส่ือสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ โทรคมนาคม และการจัดแหล่งทรพั ยากรการเรียนรู้มาใช้เพ่ือจัดการศึกษาท่ีสามารถผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เอ้ืออานวยให้ผู้เรียนสามารถศึกษาค้นคว้าได้ตามความต้องการ เพื่อให้การเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกิดข้ึนได้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิตทั้งด้านการศึกษา สาระความรู้ทางวชิ าการ ทางศาสนาและศลิ ปวัฒนธรรม (สานักงานปลดั ทบวงมหาวิทยาลัย, 2544, หนา้ 12) กระทรวงศึกษาธิการ ได้มนี โยบายเกี่ยวกบั เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศกึ ษาไวใ้ นนโยบายท่ัวไป โดยมีเป้าหมายในการดาเนินงาน ให้มีช่องทางการส่ือสารอย่างเป็นระบบ นาเทคโนโลยีการสอ่ื สารเข้ามาช่วยปฏิบัติงาน อาทิ การประชุมทางไกล โปรแกรมไลน์ เป็นต้น โดยมีวตั ถุประสงค์เพ่ือสร้างความเข้าใจภายในองค์กรให้มากขึ้น ให้ผู้บริหารมีช่องทางติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลา สามารถถ่ายทอดคาส่ังไปยังหน่วยรองและหน่วยปฏิบัตไิ ด้ทันที รวดเร็ว และท่ัวถงึ ใหม้ ีการรายงานที่รวดเร็วทันเหตุการณ์ และทดสอบระบบท่ีมีอยู่เสมอ ให้มีการนา ICT มาใช้ในการบริหารงานในกระทรวงศึกษาธิการอย่างทั่วถึง มีประสิทธิภาพ ให้มีการดาเนินงานของศูนย์ศึกษาทางไกล (DistanceLearning Thailand) โดยบูรณาการเขา้ กบั สถานีวิทยุเพื่อการศกึ ษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และเครือข่ายของสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารเพ่ือการศึกษาท่ีมีคุณภาพ จัดให้มี CEO ด้าน ICT เพื่อขับเคลื่อนงานการจัดการศึกษา การใช้สื่อเพื่อสร้างความเข้าใจความสนใจ และการประชาสัมพันธ์ด้าน “เสมาสนเทศ” และ “ประชาสนเทศ” (พลเอกดาว์พงษ์รัตนสวุ รรณ์, 2558, หน้า 3) สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้ดาเนินแนวทางตามยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดาเนินงาน ประจาปีงบประมาณ 2559 ยุทธศาสตร์ท่ี 1 “พัฒนา กศน.ตาบล ให้เปน็ กลไกการขับเคลอ่ื นการจัดการศึกษาและสง่ เสริมภาคีเครือข่ายในการจดั การศึกษาเพ่ือสร้างและกระจายโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชน” โดยมีจุดเน้นการดาเนินงาน เพื่อส่งเสริม

2และพัฒนาเครือข่าย กศน.ตาบล/แขวง โดยเน้นการประสานเช่อื มโยงระหว่าง บ้าน วดั โรงเรียน และภาคีเครือข่ายอ่ืน ที่ดาเนินการในรูปแบบคณะกรรมการ เพ่ือการทางานร่วม การส่งต่อผู้เรียน และการแลกเปล่ียนเรียนรู้ประสบการณ์ ในอันท่ีจะเสริมสร้างสมรรถนะสาหรับการให้บริการทางการศึกษาที่สนองตอบต่อความต้องการของผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานกศน.ตาบล ให้มีความพร้อมเกี่ยวกับโครงสร้างพ้ืนฐานด้าน ICT และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอ่ืนท่ีเหมาะสมกับพ้ืนที่ เพ่ือให้มีความพรอ้ มในการให้บริการการศึกษาและการเรียนรู้ที่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนและชุมชน ยุทธศาสตร์ที่ 2 “ลดความเหลื่อมล้า สร้างโอกาส และยกระดับคุณภาพการศึกษา” โดยมีจุดเน้นการดาเนินการ เพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาและการเรียนรู้การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย “ปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีจดั การเรยี นรู้” โดยการพัฒนาหลักสูตร การพฒั นาสอ่ื การพัฒนาสื่อเทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษา การพัฒนาระบบ ICT การพัฒนาบุคลากรผู้เก่ียวข้อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา การประเมินเทียบระดับการศึกษา การพัฒนาระบบการสะสมและเทียบโอนผลการเรียน และให้ความสาคัญกับการวิจัยเพ่ือการพัฒนางานในรปู แบบต่างๆ ใช้ส่ือเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีการสื่อสารท่ีทันสมัยและเหมาะสมเป็นเคร่ืองมือในการสร้างและกระจายโอกาสทางการศึกษา โดยการจัดการศึกษานอกระบบผ่านทีวีสาธารณะ (ติวเข้มเติมเตม็ ความรู้) ETVวิทยุกระจายสียง Social Media ในรูปแบบต่างๆ Application บน Smart Phone สื่อ Off lineตลอดจนส่งเสริมให้มีการสร้างองค์ความรู้ที่หลากหลาย ให้มีความถูกต้องและสอดคล้องกับความจาเป็นและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย เสนอผ่านช่องทางดังกล่าว (สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย, 2559, หนา้ 7) ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา สังกัดสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา จัด ผลิต พัฒนา เผยแพร่ และให้บริการเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาท่ีมีคุณภาพและทันสมัยเพื่อตอบสนองนโยบายดังกล่าว ในรูปแบบรายการวิทยุกระจายเสียงเพื่อการศึกษา รายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา สื่อคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา สื่อการศึกษาเพ่ือคนพิการและส่ืออ่ืนๆในรูปแบบ VCD / DVD / CD / MP3 เพ่ือสง่ เสริมการศึกษาทงั้ ในระบบโรงเรียน นอกระบบโรงเรียนและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยมีช่องทางการเผยแพร่ให้ผู้รับบริการสามารถเลือกใช้บริการได้หลากหลาย ได้แก่ ทางสถานีวิทยุศึกษากระทรวงศึกษาธิการ สถานีวิทยุโทรทัศน์เพ่ือการศึกษากระทรวงศกึ ษาธิการ (ETV) และสถานีวิทยโุ ทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) นอกจากน้ียงั พัฒนาการให้บริการสื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาผ่านระบบ Online ทางอินเทอร์เน็ต Social Network ผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น โทรศัพท์มือถือ Smart Phone แท็บเล็ต เพ่ือตอบสนองต่อพฤตกิ รรมของกลุ่มเป้าหมายและเป็นทางเลอื กให้แกป่ ระชาชนอีกดว้ ย ตามยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดาเนินงานสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ที่ให้มีการนาสื่อและเทคโนโลยีทางการศึกษาที่หลากหลายและมีคุณภาพ มาใช้ในการจัดกระบวนการการเรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการจัดการศึกษา โดยใช้แผนและการวิจัยเป็นเครื่องมือสาคัญ

3ในการดาเนินการทั้งการออกแบบกิจกรรม การนิเทศ การติดตามผล การปรับปรุง การพัฒนาเพ่ือให้การดาเนินงานด้านการผลิต พัฒนาและเผยแพร่เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาบรรลุตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีความจาเป็นต้องมีการตดิ ตามผลการใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษาเพื่อที่จะได้นาข้อมูลสารสนเทศที่ไดร้ บั มาใช้ในการพัฒนาเนือ้ หาสาระ การบรหิ ารจดั การเทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษาให้มีประสิทธิภาพ มีความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกับความตอ้ งการของกลมุ่ เปา้ หมายตอ่ ไปวตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื ศึกษาสภาพความพร้อมในการให้บรกิ ารเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษาของ กศน.ตาบล 2. เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการให้บริการ ปัญหา ข้อเสนอแนะในการให้บริการเทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษาในรูปแบบโทรทศั นเ์ พอื่ การศึกษา คอมพิวเตอรเ์ พื่อการศึกษา VCD/DVD เพอ่ื การศกึ ษาวิทยเุ พ่ือการศกึ ษา และสื่อการศึกษาเพือ่ สง่ เสริมความรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมอาเซยี น 3. เพ่ือสอบถามความต้องการด้านเนื้อหาเพื่อใช้ในการผลิตและเผยแพร่เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของผู้รบั บรกิ ารทกุ ช่วงวัย 4. เพ่ือสอบถามปัญหาและข้อเสนอแนะเก่ียวกับการให้บริการสื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาของศูนย์เทคโนโลยเี พอ่ื การศึกษาขอบเขตของกำรศกึ ษำ การตดิ ตามผลการใชเ้ ทคโนโลยีเพอื่ การศึกษาคร้งั น้มี ีขอบเขตของการศกึ ษา ดังน้ี 1. ขอบเขตด้ำนเทคโนโลยเี พ่อื กำรศกึ ษำ การติดตามผลครั้งน้ี ติดตามผลเฉพาะสื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา ท่ีผลิตและเผยแพร่โดยศูนยเ์ ทคโนโลยที างการศกึ ษา สังกัดสานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยในรูปแบบของโทรทัศน์เพื่อการศึกษา (ETV) คอมพิวเตอร์เพ่ือการศึกษา VCD/DVD เพื่อการศึกษาวิทยเุ พอ่ื การศกึ ษา และส่อื การศึกษาเพื่อส่งเสริมความรู้เกี่ยวกบั ประชาคมอาเซียน 2. ขอบเขตด้ำนประชำกรและกลุ่มตวั อยำ่ ง การติดตามผลในครงั้ นี้ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากกลุ่มตัวอยา่ ง จาก กศน.ตาบล สงั กัดสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ใน พ้ืน ที่ 5 ภาค ได้ แก่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ภาคเหนอื ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวนั ออก กลุ่มตัวอย่าง ไดแ้ ก่ ครู กศน.ตาบล หรือเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการให้บริการเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซ่ึงผู้บริหาร กศน.อาเภอพิจารณามอบหมายให้เป็นผู้ตอบแบบสอบถาม ให้การสัมภาษณ์ด้านเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา รวมจานวนกลุม่ ตวั อยา่ งทั้งสนิ้ 145 คน 3. ขอบเขตดำ้ นระยะเวลำในกำรเก็บรวบรวมขอ้ มูล การติดตามผลในครั้งน้ีกระทาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ระยะเวลาเก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ในระหวา่ งเดือน ธันวาคม 2558 ถึงเดือนกรกฎาคม 2559

4ประเด็นที่ศกึ ษำ ในการตดิ ตามผลคร้งั น้ี มีประเด็นท่ีมงุ่ ศึกษา ได้แก่ 1. ข้อมูลทว่ั ไปของผใู้ ห้การสัมภาษณ์ 2. ความพรอ้ มในการใหบ้ ริการเทคโนโลยเี พ่อื การศกึ ษาของ กศน.ตาบล 3. การใหบ้ ริการและการใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื การศึกษา/ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ 3.1 โทรทัศนเ์ พ่ือการศึกษา (ETV) 3.2 คอมพวิ เตอร์เพ่อื การศึกษา 3.3 VCD/DVD เพ่อื การศึกษา 3.4 วิทยุเพ่อื การศกึ ษา 3.5 สื่อการศกึ ษาเพอื่ ส่งเสริมความรเู้ กย่ี วกบั ประชาคมอาเซยี น 4. ความตอ้ งการดา้ นเนื้อหาเพอื่ การผลิตและเผยแพร่เทคโนโลยเี พือ่ การศกึ ษา 5. ปญั หาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการให้บริการเทคโนโลยเี พอื่ การศกึ ษาของศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษานยิ ำมศัพท์เฉพำะ 1. เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา หมายถึง สื่อการศึกษาในรูปแบบของโทรทัศน์เพ่ือการศึกษา(ETV) คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา VCD/DVD เพื่อการศึกษา วิทยุเพื่อการศึกษา และส่ือการศึกษาเพ่ือสง่ เสริมความรเู้ กยี่ วกบั ประชาคมอาเซยี น 2. การให้บริการ หมายถึง การจัดสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้บริการในรูปแบบของโทรทัศน์เพ่ือการศึกษา (ETV) คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา VCD/DVD เพ่ือการศึกษา วิทยุเพ่ือการศึกษา และสือ่ การศกึ ษาเพื่อส่งเสริมความรู้เกี่ยวกบั ประชาคมอาเซียน เพอื่ การส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 3. การใช้ หมายถึง การท่ี ครู กศน.ตาบล ใช้บริการสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในรูปแบบของโทรทัศน์เพื่อการศึกษา (ETV) คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา VCD/DVD เพื่อการศึกษา วิทยุเพ่ือการศกึ ษา และส่ือการศกึ ษาเพ่ือส่งเสรมิ ความรเู้ ก่ียวกบั ประชาคมอาเซียน เพ่ือการสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยประโยชนท์ ค่ี ำดวำ่ จะไดร้ บั 1. การติดตามผลการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาในครั้งนี้จะทาให้ได้ข้อมูลสารสนเทศท่ีถกู ต้องตามความเป็นจริงในปัจจุบันเกี่ยวกบั สภาพการให้บริการและการใชเ้ ทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาของสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตลอดจนความต้องการปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ เพ่ือนาไปปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการเทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษาตอ่ ไป 2. ศนู ยเ์ ทคโนโลยีทางการศึกษา จะได้นาข้อมูลสารสนเทศท่ีได้รับจากการตดิ ตามผลในคร้งั น้ีไปใชใ้ นการวางแผน การดาเนินงานด้านการผลติ การเผยแพร่ รายการโทรทัศน์เพ่ือการศกึ ษา (ETV)คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา VCD/DVD เพ่ือการศึกษา วิทยุเพ่ือการศึกษา และส่ือการศึกษาเพ่ือ

5ส่งเสริมความรู้เก่ียวกับประชาคมอาเซียน ให้มีเน้ือหาสาระสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการอย่างแท้จริง รวมทั้งนาเสนอรายงานการติดตามผลน้ีให้กับ กลุ่มแผนงานสานักงาน กศน. เพ่ือเป็นข้อมูลในการวางแผนบริหารจัดการด้าน Hardware Software โครงข่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร การบริหารค่าใช้จ่ายด้านค่าบริการ เพื่อให้การบริการเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาเกิดความคล่องตัวและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อกลุ่มเป้าหมายนักเรียนนกั ศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา ประชาชน และผ้ดู อ้ ยโอกาสทางการศกึ ษา

บทท่ี 2 เอกสารและงานวิจยั ทเี่ ก่ียวข้อง การติดตามผลการใชส้ อ่ื เทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษาของศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา สานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ได้มีการศึกษาค้นควา้ เอกสารและงานวิจยั ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง เรียงตามลาดบั ดงั นี้ 1. แนวคิดทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั เทคโนโลยีเพอื่ การศกึ ษา 2. นโยบายของรฐั บาลที่เกี่ยวข้องกบั กบั การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยเี พ่ือการศกึ ษา 3. นโยบายของรัฐบาลท่เี กย่ี วขอ้ งกับการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 4. แนวโน้มเทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษาในอนาคต 5. ศนู ย์เทคโนโลยที างการศกึ ษา สานกั งานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั สานกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ 6. การติดตามผลการใชเ้ ทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษา ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 7. เอกสารและงานวิจัยทเ่ี กี่ยวข้องกับการใชเ้ ทคโนโลยเี พือ่ การศกึ ษา1. แนวคดิ ที่เก่ยี วขอ้ งกับเทคโนโลยีเพือ่ การศึกษา ความหมายของเทคโนโลยีเพอื่ การศึกษา มีนกั วิชาการได้ให้ความหมายของ เทคโนโลยเี พ่อื การศกึ ษา ในมติ ิตา่ งๆ อยู่มากมาย ดงั นี้ วิจิตร ศรีสอ้าน (อ้างถึงใน ปาริชาติ โต๊ะเอี่ยม, 2556, หน้า 46) ได้ให้ความหมายของเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาว่า เป็นการประยุกต์เอาเทคนิค วิธีการ แนวความคิด อปุ กรณ์และเครื่องมือใหมๆ่ มาใช้เพือ่ ชว่ ยแก้ปญั หาทางการศึกษา ไชยยศ เรืองสุวรรณ (อ้างถึงใน วิไลวรรณ เรืองอุไร, 2556, หน้า 22) ได้ให้ความหมายเทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษาวา่ เป็นระบบการออกแบบการดาเนนิ การและการประเมนิ กระบวนการเรยี นการสอนท้ังมวลในลักษณะของจุดมุ่งหมายเฉพาะบนพื้นฐานของการวิจัยเกี่ยวกับการเรียนรู้ของมนุษย์และการสื่อสารโดยรวมเอาทรัพยากรทั้งท่ีเป็นมนุษย์และเคร่ืองมือหรือวัสดุมาใช้เพื่อเพ่ิมประสทิ ธิภาพของการจดั การเรียนการสอน วไิ ลวรรณ เรอื งอุไร (2556, หน้า 23) ได้ให้ความหมายเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาว่า เป็นการประยุกต์ความรู้ทางวิทยาศาสตรอ์ ย่างมีระบบเพื่อนามาใช้ในกระบวนการเรียนการสอน แก้ไขปัญหาและพัฒนาการศึกษาให้ก้าวต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มีความหมายไม่เพยี งแตเ่ ป็นวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาตเิ ทา่ นน้ั แตย่ ังรวมหมายถึงวิทยาศาสตร์ทางจิตวิทยาและศาสตร์ในการจัดบริหารงานครอบคลมุ ท้งั ดา้ นบริหารวชิ าการและบริการ ปาริชาติ โต๊ะเอ่ียม (2556, หน้า 46) ได้ให้ความหมายเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาว่า เป็นการปฏิบัติงานระหว่างคนกับเคร่ืองมือและวัสดุ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทุกรูปแบบในการศึกษาอย่าง

7มีระบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยแก้ปัญหาทางการศึกษา และพัฒนาปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนใหม้ ีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพชรรัตน์ เวสน์ไพบูลย์ (2556, หน้า 13) ได้ให้ความหมายเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาว่าเปน็ การนาศาสตรแ์ หง่ วิธกี าร หรือการประยกุ ตว์ ิทยาศาสตรม์ าใช้ในการศึกษา โดยคาว่า วทิ ยาศาสตร์ในท่ีนี้มุ่งเน้นท่ีวิชาพฤติกรรมศาสตร์ เพราะถือว่าพฤติกรรมศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์แ ขนงหนึ่งเชน่ เดยี วกบั วชิ าฟิสกิ ส์ เคมี ชีววทิ ยา เปน็ ตน้ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา (2558, หน้า 1)ได้ให้ความหมายเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาว่า เป็นการสื่อสารในรูปคล่ืนความถี่ สื่อตัวนา และโครงสร้างพื้นฐานอ่ืนที่จาเป็นต่อการแพร่ภาพ เสียง และการส่ือสารในรูปแบบอ่ืน โดยครอบคลุมสื่อสารมวลเทคโนโลยสี ารสนเทศและโทรคมนาคม สื่อโสตทัศน์ แบบเรยี น ตารา หนังสือทางวิชาการหรือแหลง่ การเรียนรทู้ ีน่ ามาใชเ้ พื่อประโยชนใ์ ห้บริการทางการศกึ ษา จากความหมายของเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาดังกล่าว สรุปได้ว่า เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาหมายถึง การประยุกต์วิทยาศาสตร์มาใช้ในการศึกษา โดยการนาเทคนิค วิธีการ แนวความคิดอุปกรณ์และเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้ในกระบวนการเรียนการสอน เพื่อช่วยแก้ปัญหาทางการศึกษาและพัฒนาปรับปรงุ กระบวนการเรยี นการสอนให้มปี ระสทิ ธิภาพย่งิ ขึ้น การนาเทคโนโลยีทางการศึกษามาใช้ในการเรียนการสอนจะยึดหลักการทั่วไปเหมือนการนาเอาเทคโนโลยีไปใช้ในสาขาวิชาอ่ืน นอกจากนั้นแล้วยังพิจารณาเน้นเฉพาะเม่ือเกี่ยวกับกิจกรรมการศึกษา คอื ประสิทธิภาพ (Efficiency) ในการเรียนการสอน หมายความว่า เม่ือนาเอาเทคโนโลยีมาใช้การเรยี นการสอนแล้ว ถ้าทาให้เกิดการเรียนรู้ตามที่วางจุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรมไว้ในแผนการสอนทกุ ประการกจ็ ัดว่าการเรียนการสอนน้ันมีประสทิ ธภิ าพสูง ประสิทธิผล (Productivity) หลงั จบกระบวนการเรียนการสอนแล้วผเู้ รียนทงั้ หมดหรือเกือบท้งั หมดเกดิ การเรียนรมู้ ีผลตามจุดมุ่งหมายท่ีวางไว้ หรือกล่าวอกี นัยหน่ึงได้วา่ ถา้ การเรียนการสอนนั้นมีประสทิ ธภิ าพย่อมจะมปี ระสทิ ธผิ ลสงู ดว้ ย ประหยัด (Economy) การท่ีจะนาเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอนต้องตระหนักถึงขอ้ นเี้ พราะบางคร้ังพิจารณาดูแลว้ จะเหน็ ว่ามีการลงทุนสูง แต่ถ้าผลการเรียนการสอนมปี ระสทิ ธิภาพและประสิทธิผลในช่วงระยะเวลาท่ีส้นั กว่าย่อมคมุ้ ทนุ ดังน้ันจาเป็นต้องพจิ ารณาในแงก่ ารลงทุนกับผลที่ได้ออกมาในแงเ่ ศรษฐศาสตร์ การศกึ ษาแล้วเลือกวิธีการทคี่ ุ้มคา่ มปี ระสทิ ธภิ าพ ประสิทธผิ ล สะดวกและประหยัด ทรพั ยากร เช่น เงนิ เวลา วสั ดุ อุปกรณ์และบุคลากร เป็นตน้ ดังนั้นเทคโนโลยที างการศึกษาไมไ่ ด้หมายถึงแต่เฉพาะวัสดุ (Software หรือ Materials) กับอุปกรณ์ (Hardware) เท่าน้ัน ยังหมายถึงวิธีการจัดระบบ แนวความคิดและระบบตา่ งๆ ท่ีสมั พันธก์ ันรวมทง้ั เทคนิควิธีการ แนวปฏิบตั ิเพอ่ื ใหก้ ารดาเนนิ งานลุล่วงไปสู่จุดหมายทต่ี ้องการซ่ึงส่งิ ต่างๆ จะเป็นระบบสมั พันธ์กัน

8 ความสาคญั ของเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษา ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสาคัญ ในการพัฒนาเกือบทุกๆด้านทั้งด้านธุรกิจดา้ นสาธารณสุข ด้านการทหารและความมั่นคง ด้านโทรคมนาคมและการส่ือสาร ซ่ึงจะส่งผลต่อการเพมิ่ ศักยภาพการแขง่ ขนั ของประเทศใหส้ ูงข้ึนทดั เทียมกับนานาประเทศไทย ดังจะเห็นได้ว่า หน่วยงานธุรกิจส่วนใหญ่จาเป็นต้องใช้เทคโนโลยีมาเป็นเคร่ืองมือสาคัญในการบริหาร การจัดการในองค์กรอีกท้ังเพ่ิมระดับความสาคัญมากข้นึ ในแต่ละปี มีการจัดสรรงบประมาณส่วนหน่ึงไว้เพอื่ การจัดการกับข้อมูลสารสนเทศเป็นการเฉพาะ มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อวางกลยุทธ์หาความได้เปรียบในตลาดโดยรวม อีกท้ังยังเป็นเครื่องมือสาคัญในการจัดการเพ่ือเพิ่มผลผลิต รวมถึงใช้เป็นช่องทางสาหรับเผยแพรส่ ารสนเทศขององค์กรมากขน้ึ ดว้ ย ในส่วนของการศึกษา เทคโนโลยีก็มีบทบาทที่สาคัญในการเป็นเครื่องมือสาคัญ ในการส่งเสริมการจัดการศึกษาให้แก่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ โดยคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษาแห่งสหรัฐอเมริกา(The Commission on Instructional Technology) ได้สรุปสาระสาคัญของเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาว่ามีความสาคัญต่อระบบการศึกษา ดังน้ี (Tickton, 1970, หน้า 108 อ้างถึงในเอกวิทย์ แก้วประดิษฐ์,2545, หนา้ 25 – 27) 1. ทาให้การเรียนการสอน การจัดการศึกษามีความหมายมากข้ึน การนาเทคโนโลยีทางการศึกษามาใช้ในการเรียนการสอนจะช่วยทาให้ผู้เรียนเรียนได้มากและรวดเร็ว ทาส่ิงที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม ง่ายต่อการทาความเข้าใจ ทาให้การเรียนสนุกน่าสนใจ เม่ือผู้เรียนได้เห็นหรือได้สัมผัสกับส่ิงที่ตนเรียนและยังทาให้ครูมีเวลาให้กับผู้เรียนมากข้ึนเน่ืองจากเทคโนโลยีเพอื่ การศึกษาจะช่วยลดเวลาในการเรียนน่ันเอง 2. สามารถสนองตอบเร่ืองความแตกต่างระหว่างบุคคลได้ ผู้เรียนแต่ละคนมีภูมิหลังทแ่ี ตกต่างกนั มีความแตกต่างกันทัง้ ทางด้านสตปิ ญั ญา การอบรมเลีย้ งดูดา้ นสง่ิ แวดล้อมและด้านอื่นๆผู้เรียนแต่ละคนจะมีความถนัดหรือมีความสนใจแตกต่างกันตามสภาวะของแต่ละบุคคล เมื่อนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาเข้ามาใช้จะช่วยให้ผ้เู รียนสามารถศึกษาได้ตาม ความสนใจของตนเอง ผเู้ รียนจะมีอิสระในการศึกษาหาความรู้ เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาจะช่วยให้ การเสาะแสวงหาความใหม่สะดวกและง่ายขึ้น เปรียบเสมือนว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เลือกโอกาสท่ีจะเรียนตามความสามารถ ตามความตอ้ งการ 3. ทาให้การจัดการศึกษาตั้งอยู่บนรากฐานของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพราะเทคโนโลยีเพื่อการศึกษามิได้หมายถึงเฉพาะแต่เคร่ืองมือและอุปกรณ์แต่เพียงอย่างเดียว ยังรวมถึงแนวคิดเทคนคิ และวิธีการตา่ งๆ ที่นามาใช้ในการศึกษาด้วย ดงั น้นั วิธรี ะบบกเ็ ป็นรปู แบบของการจัดการศกึ ษาอีกลกั ษณะหน่ึงที่ตรวจสอบได้ตามวธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์ 4. ช่วยให้การจัดการศึกษามีพลังมากขึ้น ส่ือที่ใช้ในการเรียนการสอนนับวันจะพัฒนาตัวมันเองให้มีคุณค่าสะดวกต่อการใช้มากข้ึนและง่ายต่อการเรียนรู้ เมื่อนาสื่อมาใช้จะทาให้ประหยัดเวลาในการเรียน แต่เรียนได้ปริมาณมากข้ึน ทาให้การเรียนน่าสนใจ สื่อสามารถจับยึดประสบการณ์ให้จาได้นาน ทุกวันน้ีโลกมีการเปล่ียนแปลงไปรวดเร็ว สื่อก็เป็นผลิตผลอย่างหน่ึงของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ดังน้ัน หากนาส่ืออันเป็นส่วนหน่ึงของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

9มาใช้อย่างจริงจัง จะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าทาให้การศึกษามีประสิทธิภาพ มีประสิทธิผล เพิ่มพลังการเรียนรู้ 5. ช่วยทาให้การเรียนรู้อยู่แค่เอื้อม การนาเทคโนโลยีทางการศึกษามาใช้ทาให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างกว้างขวางมากขึ้น เน่ืองจากสามารถศกึ ษาหาความรจู้ ากส่อื ประเภทต่างๆ ส่ือแต่ละชนิดจะไม่มีความสมบูรณ์ในตัวมันเอง ส่อื ทกุ ชนิดจะมีข้อจากดั เฉพาะตัว ดังนั้นเมื่อได้ศึกษาจากส่อื หลายๆแหล่ง ทาให้เป็นการเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ได้กว้างขวาง ได้เห็นสภาพความเป็นจริงในสังคมด้วยประสาทสัมผัสของผู้เรียนเอง เป็นการนาโลกภายนอกเข้ามาสู่ห้องเรียน เป็นการลดช่องว่างทางการเรียนรู้ระหวา่ งโรงเรียนกับสังคมและสิ่งแวดล้อมให้ลดน้อยลง เชน่ การศกึ ษาทางอินเทอร์เน็ตการศกึ ษาโดยผ่านส่อื โทรคมนาคม การศกึ ษาผ่านทางโทรทัศน์ วิทยุและส่อื มวลชนอ่นื 6. ช่วยทาให้เกิดความเสมอภาคในทางการศึกษา เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาช่วยทาให้ขยายโอกาสทางการศึกษาของบุคคลในสังคมให้มีมากข้ึนทุกระดับชั้น ทุกภูมิภาคสามารถศึกษาหาความรู้ได้อย่างทัดเทียมกันทั้งในแง่ปริมาณและคณุ ภาพ เช่น การผลิตส่ือท่ีมีคุณภาพให้สามารถใช้สอนวิชาเดียวกันกับผเู้ รียนทีอ่ ยู่ต่างถ่นิ ตา่ งสถานทีก่ ัน เปน็ ต้น นอกจากนั้นเทคโนโลยีทางการศึกษายังเปิดโอกาสให้ทุกคนศึกษาได้อย่างมี อิสระเสรีตามความสนใจ ตามความต้องการและความสามารถของตนเองได้ ท้ังยังสามารถทาให้การศึกษาของผู้พิการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธภิ าพยิ่งขึ้นเมื่อนาเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษามาใช้ ทาให้การศึกษาของประชากรมีอย่างเต็มรูปแบบ เช่น จัดให้มีการเรียนการสอนนอกระบบ (Informal Education)การจัดการศึกษาแบบเอกัตบุคคล (Individualized Education) การจัดการศึกษาทางไกล (DistanceEducation) เป็นต้น ทาให้สามารถลดช่องว่างหรือลดความแตกต่างในสังคมได้อย่างมาก ซ่ึงศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา สังกัดสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเปน็ หนว่ ยงานท่รี ับผิดชอบงานดา้ นเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา จดั ผลิต พัฒนา เผยแพร่ และให้บรกิ ารเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาท่ีมีคุณ ภาพและทันสมัย ในรูปแบบรายการวิทยุกระจายเสียงเพื่อการศึกษา รายการโทรทัศน์เพ่ือการศึกษา สื่อคอมพิวเตอร์เพ่ือการศึกษา ส่ือการศึกษาเพ่ือคนพิการและส่ืออื่นๆ ในรูปแบบ VCD/DVD/CD/MP3 เพ่ือส่งเสริมการศึกษาท้ังในระบบโรงเรียนนอกระบบโรงเรยี นและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั2. นโยบายของรัฐบาลท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั การสง่ เสริมการใช้เทคโนโลยเี พื่อการศึกษา พระราชบัญญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพ่ิมเตมิ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545หมวด 9 เทคโนโลยีเพ่อื การศึกษา เป็นกฎหมายท่ีกาหนดบทบัญญัติ เป็นกรอบแนวทางในการปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ ทั้งในเรื่องสทิ ธแิ ละหน้าทท่ี างการศึกษา ระบบการศกึ ษา แนวทางการจัดการศกึ ษา การบรหิ ารและการจัดการศึกษามาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา ครู อาจารยแ์ ละบุคลากรทางการศึกษา ทรัพยากรและการลงทุนเพ่ือการศึกษา และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซ่ึงกฎหมายฉบับนี้ถือได้ว่า เป็นกฎหมายการศึกษาฉบับแรกท่ีให้ความสาคัญกับการนาเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษามาใช้ประโยชน์ โดยมี

10บทบัญญัติที่เก่ียวข้องด้านเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาทั้งหมด 7 มาตรา (มาตรา 63 – 69) ดังนี้(กระทรวงศกึ ษาธิการ, 2546 หน้า 30 – 31) มาตรา 63 รัฐต้องจัดสรรคลื่นความถ่ี สื่อตัวนาและโครงสร้างพ้ืนฐานอื่นท่ีจาเป็นต่อการส่งวทิ ยุกระจายเสียง วิทยโุ ทรทัศน์ วิทยุโทรคมนาคม และการสื่อสารในรปู อื่น เพื่อใช้ประโยชน์สาหรับการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมตามความจาเปน็ มาตรา 64 รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิต และพัฒนาแบบเรียน ตารา หนังสือทางวิชาการ สื่อสิ่งพิมพ์อื่น วัสดุอุปกรณ์และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอื่น โดยเร่งรัด พัฒนาขดี ความสามารถในการผลิต จดั ให้มีเงนิ สนบั สนุนการผลิตและมีการให้แรงจูงใจแก่ผู้ผลิต และพัฒนาเทคโนโลยีเพือ่ การศกึ ษา ทั้งนี้ โดยเปิดให้มกี ารแข่งขันโดยเสรอี ยา่ งเป็นธรรม มาตรา 65 ให้มีการพัฒนาบุคลากรท้ังด้านผู้ผลิต และผู้ใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการผลิต รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม มีคุณภาพ และประสิทธภิ าพ มาตรา 66 ผู้เรียนมีสิทธิได้รับการพัฒนาขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาในโอกาสแรกท่ีทาได้ เพื่อให้มีความรู้ และทักษะเพียงพอที่จะใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาในการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเองได้อย่างต่อเนอื่ งตลอดชวี ติ มาตรา 67 รัฐต้องส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนา การผลิตและการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา รวมทั้งการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาเพอ่ื ให้เกิดการใช้ทค่ี ุ้มคา่ และเหมาะสมกบั กระบวนการเรียนรขู้ องคนไทย มาตรา 68 ให้มีการระดมทุน เพื่อจัดตั้งกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาจากเงินอุดหนุนของรัฐ ค่าสัมปทาน และผลกาไร ท่ีได้จากการดาเนินกิจการส่ือสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ และโทรคมนาคมจากทุกฝ่ายที่เก่ียวข้อง ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรประชาชนรวมท้ังให้มีการลดอัตราค่าบริการเป็นพิเศษในการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อพัฒนาคนและสังคมโดยหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อการผลิต การวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษาให้เปน็ ไปตามกาหนดในกฎกระทรวง มาตรา 69 รัฐต้องจัดให้มหี น่วยงานกลางทาหน้าที่พจิ ารณาเสนอนโยบาย แผน ส่งเสรมิ และประสานการวิจยั การพัฒนา และการใช้ รวมท้ังการประเมินคุณภาพ และประสิทธิภาพของการผลิตและการใชเ้ ทคโนโลยเี พ่อื การศกึ ษา นโยบายรฐั บาล (ภายใต้การนาของ พลเอกประยุทธ์ จนั ทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) ได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเม่ือวันศุกร์ที่ 12 กันยายน 2557 โดยในส่วนนโยบายด้านการศึกษาปรากฏอยู่ในนโยบายที่ 4 การศึกษาและเรียนรู้ การทานุบารุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ซ่ึงมีสาระของนโยบาย 10 ประเด็น ได้แก่ (สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั , 2558, หน้า 3) 1. จัดให้มีการปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้โดยให้ความหมายทั้งการศึกษาในระบบและการศึกษาทางเลอื กไปพร้อมกัน

11 2. ปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการศึกษาให้สอดคล้องกับความจาเป็นของผู้เรียนและลักษณะพ้ืนที่ของสถานศึกษาและจัดให้มีคูปองการศึกษาเพ่ือการศึกษาท้ังในระบบโรงเรยี นและนอกโรงเรยี น 3. ให้องค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและประชาชนท่ัวไปรว่ มจดั การศึกษาท่ีมีคุณภาพและท่ัวถงึ และร่วมปฏิรปู การศึกษาและการเรยี นรู้ 4. พัฒนาคนทุกช่วงวัยโดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยเน้นความร่วมมือระหว่างผเู้ ก่ยี วข้องในและนอกโรงเรยี น 5. ส่งเสริมอาชวี ศกึ ษาและการศึกษาระดับวิทยาลัยชุมชน สร้างแรงงานทมี่ ีทักษะและพัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษาให้เชือ่ มโยงกับมาตรฐานวิชาชีพ 6. พฒั นาระบบการผลิตและพัฒนาครูท่มี ีคุณภาพและมจี ิตวญิ ญาณของความเปน็ ครู 7. สนบั สนุนให้องค์กรทางศาสนามบี ทบาทสาคญั ในการปลูกฝงั คณุ ธรรม จริยธรรม การสรา้ งสันติสุขและความปรองดองสมานฉันทใ์ นสงั คมอย่างยัง่ ยืน 8. อนุรักษ์ ฟ้ืนฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ภาษาไทย และภาษาถิ่น ภูมิปัญญาท้องถนิ่ เพอ่ื การเรยี นรู้ การสรา้ งจิตสานึกความเปน็ ไทยและการเพ่มิ มูลคา่ ทางเศรษฐกิจให้แกป่ ระเทศ 9. สนับสนุนการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านและวัฒนธรรมสรา้ งสรรค์ 10. ปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกที่ดีให้เยาวชนและประชาชนได้มีโอกาสแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ นโยบายกระทรวงศึกษาธิการพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ประกาศนโยบายเม่อื วันท่ี 27 สงิ หาคม 2558 กระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายเกย่ี วกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาไวใ้ นนโยบายท่วั ไป โดยมเี ป้าหมายในการดาเนนิ นโยบาย ดงั นี้ (พลเอกดาวพ์ งษ์ รตั นสุวรรณ,์ 2558, หนา้ 3) 1. จดั ให้มีช่องทางการสื่อสารอย่างเป็นระบบ นาเทคโนโลยีการส่ือสารเข้ามาชว่ ยปฏิบัติงานอาทิ การประชุมทางไกล โปรแกรมไลน์ เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างความเข้าใจภายในองค์กรให้มากข้ึน ให้ผู้บริหารมีช่องทางติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลา สามารถถ่ายทอดคาส่ังไปยังหน่วยรองและหน่วยปฏบิ ตั ิได้ทนั ที รวดเร็ว และท่ัวถึง ใหม้ ีการรายงานท่ีรวดเรว็ ทันเหตกุ ารณ์ และทดสอบระบบท่มี อี ยูเ่ สมอ 2. ให้มีการนา ICT มาใช้ในการบรหิ ารงานในกระทรวงศึกษาธกิ ารอยา่ งทัว่ ถึง มีประสิทธิภาพให้มีการดาเนินงานของศูนย์ศึกษาทางไกล (Distance Learning Thailand) โดยบูรณาการเข้ากับสถานีวิทยุโทรทัศน์เพ่ือการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และเครือข่ายของสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารเพ่ือการศึกษาที่มีคุณภาพ จัดให้มี CEOด้าน ICT เพื่อขับเคลื่อนงานการจัดการศึกษา การใช้สื่อเพื่อสร้างความเข้าใจความสนใจ และการประชาสัมพนั ธ์ดา้ น “เสมาสนเทศ” และ “ประชาสนเทศ”

12 นโยบายกระทรวงศึกษาธิการนายธรี ะเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ประกาศนโยบายเม่อื วันท่ี 2 มนี าคม 2560 กระทรวงศึกษาธิการได้มีนโยบายเกี่ยวกับด้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคและการลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา โดยมีแนวทางหลักคอื การให้โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาดังนี้ (นายธรี ะเกยี รติ เจรญิ เศรษฐศิลป,์ 2560, หนา้ 4) 1. สรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษาโดยยกระดับคุณภาพสถานศกึ ษาท่ีต้องการความชว่ ยเหลือและพัฒนาเปน็ พิเศษอยา่ งเรง่ ดว่ น (ICU) รวมท้ังการดาเนนิ การตามแนวทาง NoChild Left Behind คือ จดั ทาขอ้ มูลเพือ่ สง่ ต่อผเู้ รยี น การปอ้ งกัน การตดิ ตามเดก็ ออกกลางคนั โดยชุมชน ผู้ปกครองรว่ มรับผดิ ชอบ และคัดกรองเดก็ ที่มคี วามจาเป็นและความต้องการเปน็ พิเศษ 2. เพม่ิ โอกาสทางการศกึ ษาผ่านเทคดนโลยีดิจิทัล โดยบรู ณาการเทคโนโลยีดิจทิ ัลเพื่อการศึกษาให้สามารถใช้ประโยชนร์ ่วมกนั ทงั้ ด้านโครงสร้างพ้ืนฐานและระบบเครือข่าย ดา้ นระบบข้อมลู สารสนเทศเพ่ือการศึกษา ด้านสือ่ และองค์ความรู้ รวมถงึ การพฒั นาบคุ ลากรให้ใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ัลอย่างสร้างสรรคแ์ ละรู้เท่ากันการเปลย่ี นแปลง 3. จดั ระบบการคัดเลอื กเข้าเรียนมหาวิทยาลยั (Admission) เพอ่ื สรา้ งความเทา่ เทียมในการใชส้ ิทธิเ์ ข้าศึกษาตอ่ ระดบั อดุ มศกึ ษาผ่านระบบ Clearing-Ho0use3. นโยบายของรัฐบาลท่เี กี่ยวข้องกับการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั พลเอกดาวพ์ งษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธิการ ได้ใหน้ โยบายส่งเสริมและสนบั สนุนการศกึ ษา ข้อที่ 4 เกยี่ วกบั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ไว้ดังนี้ 1. จัดการศึกษาเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา โดยส่งเสรมิ ให้ประชาชนที่พลาดโอกาสทางการศึกษาในระบบโรงเรียน สามารถหาความรู้ด้วยตนเองอย่างกว้างขวางและต่อเน่ือง โดยจัดการศึกษาทั้งในระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน้ และมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนาความรู้ไปประกอบอาชีพ หรือเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อในระดับท่ีสูงขึ้น จัดโครงการติวเข้มเติมเต็มความรู้เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา ลดความเหลื่อมล้าเพ่ิมและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้เกิดความเท่าเทียมกันทั้งในเมืองและชนบท 2. เร่งสร้างค่านิยมอาชีวศึกษา โดยจัดโครงการเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลายของสานักงาน กศน. เพ่ือผลิตและพัฒนากาลังคนด้านอาชีวศึกษาให้เพิ่มมากขน้ึ และตรงกบั ความตอ้ งการของตลาดแรงงานและการจ้างงานท้ังภาคธรุ กิจบริการ ภาคอตุ สาหกรรมและภาคการเกษตร 3. จัดกิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้ เพื่อให้คนทุกช่วงวัยได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ ท้ังด้านภาษา การเปิดโลกทัศน์ เกษตรธรรมชาติ กีฬาสายสัมพันธ์ การฝึกอาชพี การพัฒนาศักยภาพครู พนักงานราชการและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนติดตามและประสานงานแผนการดาเนินงานใหบ้ รรลผุ ลสาเร็จ

13 4. ดาเนนิ การปลกู ฝังและเสรมิ สร้างอุดมการณ์รักชาติ เพือ่ ให้นกั ศึกษาและประชาชน มคี วามตระหนกั ในความเปน็ ชาติ กระตุ้นใหเ้ กิดความรกั ชาตแิ ละเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เปน็ ศูนยร์ วมจติ ใจและความรักความสามคั คขี องประชาชน สามารถนาไปถ่ายทอดและขยายผลในวงกวา้ ง 5. กาหนดให้ กศน.ตาบล เป็นกลไกสาคัญในการขับเคลื่อนการเชื่อมประสานระหว่างบ้านวัด โรงเรียน และเพ่ือเพ่ิมแหล่งเรียนรู้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยดาเนินการในรูปแบบของคณะกรรมการ กศน.ตาบลในวัด ประกอบด้วย คณะกรรมการสถานศึกษา เจ้าอาวาสหรือผู้นาทางศาสนา ผ้นู าทอ้ งถนิ่ ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ เครอื ข่ายในชมุ ชน 6. พัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพ่ือให้สามารถมีความรู้และทักษะใหม่ที่สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลายตามแนวโน้มการจ้างงานในอนาคต ปรับกระบวนการเรียนรู้และหลักสูตรให้เชื่อมโยงกับภูมิสังคม โดยบูรณาการความรู้และคุณธรรมเข้าด้วยกัน เพ่ือให้เอ้ือต่อการพัฒนาผู้เรียนทั้งในด้านความรู้ ทักษะการใฝ่เรียนรู้ แก้ปัญหา การรับฟังความเห็นอื่น การมีคุณธรรม จริยธรรม และความเป็นพลเมืองดี โดยเน้นความร่วมมือระหว่างผเู้ กี่ยวขอ้ งทง้ั ในและนอกโรงเรียน ยุทธศาสตร์และจุดเน้นการดาเนินงานของสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ประจาปีงบประมาณ 2559 มดี งั น้ี ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 พัฒนา กศน.ตาบล ให้เปน็ กลไกการขบั เคล่ือนการจัดการศึกษาและส่งเสริมภาคเี ครอื ขา่ ยในการจัดการศกึ ษาเพือ่ สร้างและกระจายโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชวี ติ ในชมุ ชน จุดเน้นการดาเนินงาน คือ ส่งเสริมและพัฒนาเครือข่าย กศน.ตาบล/แขวง โดยเน้นการประสานเชื่อมโยงระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน และภาคีเครือข่ายอื่น ที่ดาเนินการในรูปแบบคณะกรรมการ เพอ่ื การทางานร่วม การส่งต่อผู้เรยี น และการแลกเปลยี่ นเรียนรปู้ ระสบการณ์ ในอนั ที่จะเสริมสร้างสมรรถนะสาหรับการให้บริการทางการศึกษาท่ีสนองตอบต่อความต้องการของผู้เรียนอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ พัฒนาโครงสรา้ งพืน้ ฐาน กศน.ตาบล ให้มคี วามพร้อมเกี่ยวกับโครงสรา้ งพน้ื ฐานด้าน ICT และเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาอ่ืนที่เหมาะสมกับพ้ืนท่ี เพื่อให้มีความพร้อมในการให้บรกิ ารการศึกษาและการเรียนรู้ที่เปน็ ไปตามความต้องการของประชาชนและชุมชน และสรา้ งโอกาสในการเรียนรู้ได้อย่างทั่วถงึ และพัฒนากระบวนการดาเนินงานใน กศน.ตาบล โดยให้ความสาคัญกับการใช้วงจรคุณภาพเดมมิ่ง (PDCA) เพ่ือการวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามผล และการนาผลมาพฒั นาการดาเนินงาน กศน..ตาบล/แขวง อย่างตอ่ เน่ือง ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 2 ลดความเหลือ่ มล้า สร้างโอกาส และยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษา จุดเน้นการดาเนินการ คือ เร่งลดจานวนผู้ไม่รู้หนังสือ มุ่งเน้นจัดการศึกษานอกระบบให้กับกลุ่มเป้าหมายพิเศษ อาทิ ประชาชนวัยแรงงานที่ไม่จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน เด็กออกกลางคัน พ้ืนที่ชายขอบ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ เร่ร่อน กลุ่มชาติพันธุ์ ชนกลุ่มน้อย ชายแดนใต้ แรงงานต่างด้าว ท่ีสอดคลอ้ งกับสภาพ ความต้องการและความจาเป็น ของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาและการเรียนรู้การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย “ปรับวิธีเรียน เปล่ียนวิธีจัดการเรียนรู้” โดยการพัฒนาหลักสูตร การพัฒนาส่ือ การพัฒนาส่ือเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา การพัฒนาระบบ ICT การพัฒนาบุคลากรผู้เกี่ยวข้อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ การพัฒนา

14ระบบประกันคุณภาพภายในของสถานศกึ ษา การประเมนิ เทียบระดบั การศึกษา การพัฒนาระบบการสะสมและเทียบโอนผลการเรียน และให้ความสาคญั กับการวจิ ัยเพื่อการพัฒนางานในรปู แบบตา่ งๆ ใช้สื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีการสื่อสารท่ีทันสมัยและเหมาะสมเป็นเครื่องมือในการสร้างและกระจายโอกาสทางการศึกษา อาทิ การจัดการศึกษานอกระบบผ่านทีวีสาธารณะ (ติวเข้มเติมเต็มความรู้) ETV วิทยุกระจายสียง Social Media ในรูปแบบต่างๆ Application บน SmartPhone ส่ือ Off line ตลอดจนส่งเสริมให้มีการสร้างองค์ความรู้ท่ีหลากหลาย มีความถูกต้องและสอดคล้องกับความจาเป็นและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย เสนอผ่านช่องทางดังกล่าว ขยายโอกาสการเข้าเรียนอาชีวศึกษาโดยขยายโครงการ “เรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย กศน.” (ทวิศึกษากศน.) ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด สร้างค่านิยมอาชวี ศึกษา โดยสรา้ งความรู้ และค่านิยมเชิงบวกในการเข้ารบั การศกึ ษาสายอาชีพให้กับกลุ่มเป้าหมาย กศน. เพ่ือการเพิ่มสัดส่วนผู้เรียนอาชีวศึกษา ม่งุ เน้นการฝึกหลักสูตรวิชาชพี ระยะส้ันในวิชาช่างพ้นื ฐาน (ช่างไม้ ชา่ งปูน ชา่ งเชอ่ื ม ช่างก่อสรา้ ง ชา่ งประปาช่างไฟฟ้า ฯลฯ) และวชิ าชีพระยะสั้นอ่ืนๆ ทสี่ อดคลอ้ งกับความต้องการของตลาดแรงงาน บรบิ ทของพืน้ ท่ี และส่งเสริมการใชร้ ะบบเทคโนโลยีเพอ่ื การพัฒนาอาชพี ในอันที่จะประกอบอาชีพทส่ี ร้างรายได้ได้จริง ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพ่ือยกระดับการศึกษาและพัฒนาศักยภาพแรงงาน ในจังหวัดท่ีมีพนื้ ท่ีเขตเศรษฐกจิ พเิ ศษ เพอ่ื สร้างโอกาสและศักยภาพ ในการสร้างงานและการพฒั นาอาชีพทเี่ ป็นไปตามความต้องการและบริบทของพื้นท่ีพิเศษ เรง่ พฒั นาระบบกลไกการกากับ ติดตาม และนิเทศ เพ่ือการพฒั นางานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อย่างมปี ระสิทธิภาพ ยุทธศาสตรท์ ่ี 3 สร้างอุดมการณ์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ และสรา้ งค่านิยมทพี่ ึงประสงค์ จุดเน้นการดาเนินงาน ส่งเสริมการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพ่ือสนับสนนุ โครงการอันเนอื่ งมาจากพระราชดาริ หรือโครงการอันเกยี่ วเนอ่ื งจากพระราชวงศ์ สง่ เสริมให้ชุมชนจัดต้ังหมู่บ้านเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท เพ่ือเสริมสร้างอุดมการณ์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ส่งเสริมการจดั กิจกรรมเพื่อพัฒนาทกั ษะชีวิต การรู้จักสิทธแิ ละหน้าที่ การสร้างจิตสาธารณะ การต้านยาเสพติด ในรูปแบบกิจกรรมลูกเสือ ยุวกาชาด กิจกรรมค่าย การแข่งขันกีฬาและรูปแบบอ่ืนๆ ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์และข้อมูลความเป็นมาของชุมชนเพื่อสร้างสานึกการรักถ่ินและสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เร่งสร้างความรู้ ความตระหนัก และปลูกจิตสานึกด้านคุณธรรม จริยธรรมตามหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนความรู้เรื่องกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และอื่นๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการปฏิบัติงานให้กับบุคลากรทุกระดับ ทุกประเภท ส่งเสริมให้ประชาชน นักศึกษา กศน. และบุคลากร กศน. จดั ทาบญั ชีครวั เรอื น เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ยุทธศาสตรท์ ่ี 4 จดั การศึกษาเพ่อื ส่งเสริมการเรยี นร้ทู กุ ช่วงวัยและพฒั นาคุณภาพชีวติ จุดเน้นการดาเนินงาน คือ จัดให้มีการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวันในรูปแบบและวิธีการต่างๆ ท่ีหลากหลายสาหรับประชาชนในทุกหมู่บ้าน/ชุมชน ท้ังหลักสูตรระยะส้ัน และการเรียนรู้ตามอัธยาศัยจากสภาพแวดล้อมต่างๆ รอบตัว มุ่งเน้นการส่งเสริมให้เกิดชุมชนรักการอ่าน“สร้างการอา่ น เสริมการเรียนรู้” ในรูปแบบหมู่บา้ น/ชมุ ชนแห่งการอา่ น อาสาสมัครส่งเสริมการอ่านบ้านหนังสือชุมชน มุ่งเน้นการจัดการศึกษาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันครอบครัว อาทิ

15หลกั สูตรครอบครัวศึกษา ค่ายครอบครัว การจัดกระบวนการเรยี นรู้สาหรับผู้สงู อายุ Book-start การส่งเสริมการอ่านสาหรับเด็กปฐมวัย บ้านหลังเรียน จัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในชมุ ชนในรูปแบบกลุ่มสนใจในเร่อื งตา่ งๆ อาทิ การจัดการขยะ การประหยัดพลังงาน การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม การใช้กระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ สุขภาพอนามัย ความรู้เร่ืองภาษาและวฒั นธรรมในกลมุ่ ประเทศอาเซยี น ความสามัคคีปรองดอง ความพอเพียง ดาเนินการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลดา้ นอาเซียนของกระทรวงศกึ ษาธิการ ท่ีทาหน้าท่ีรวบรวมและจัดทาฐานข้อมูลพ้ืนฐานของศูนย์อาเซียนของหนว่ ยงานในสังกัดกระทรวงศกึ ษาธิการ สังเคราะห์แนวทางการการดาเนินการของศนู ย์อาเซียนในแต่ละพ้ืนท่ี และจัดทาข้อเสนอเพ่ือเป็นแนวทางในการพฒั นามาตรฐานศนู ย์ฯ สง่ เสริมการจัดกิจกรรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชนในเชิงรุกที่หลากหลาย ทันสมัยสร้างสรรค์ ต่อเน่ืองและตอบสนองความต้องการของประชาชนและชุมชนและความจาเป็นเร่งด่วนตา่ งๆ ของแต่ละชุมชนรวมทั้งมกี ารบูรณาการความร้ใู นชุมชนเพ่ือเชื่อมโยงกับหลกั สูตรต่างๆ ของ กศน. และใชท้ นุ ทางสังคมของแต่ละชุมชนให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ โดยใช้ กศน.ตาบล/แขวง ที่ดาเนินการอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สงู สดุ ยทุ ธศาสตร์และจุดเน้นการดาเนินงานของ สานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ 2560ในดา้ นการสง่ เสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยดี จิ ทิ ัลเพอื่ การศกึ ษา มจี ุดเนน้ การดาเนินงาน ดังนี้ 1. พฒั นา กศน.ตาบล ให้มีความพรอ้ มเกย่ี วกับโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอื่นท่ีเหมาะสมกับพื้นที่ เพอ่ื ให้ กศน.ตาบล ทกุ แหง่ เข้าถงึ การใชบ้ ริการทางอินเทอร์เน็ตและมีความพร้อมในการใหบ้ ริการการศึกษาและการเรียนรทู้ ี่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนและชุมชน และสร้างโอกาสในการเรียนรูไ้ ดอ้ ยา่ งทัว่ ถงึ 2. พฒั นาระบบช่องทางแหล่งเรยี นร้อู อนไลน์ (Portal Web) และส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารมาประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้/กิจกรรมต่างๆ เพ่ือเพิ่มโอกาสการเรยี นรู้ และการพัฒนาอาชีพ เช่น การแสวงหาความร้เู พอ่ื การดารงชีวิต การพัฒนาตอ่ ยอดอาชีพเพ่ือสร้างรายได้โดยผา่ นกลไกของศูนยด์ ิจิทัลชุมชน เพ่ือใหผ้ ู้เรียนสามารถนาความรู้ความสามารถ เจตคติทีด่ ีตอ่ การประกอบอาชีพและทักษะที่พัฒนาขน้ึ ไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ได้จรงิ และการพัฒนาสู่เศรษฐกจิ เชิงสร้างสรรค์ตอ่ ไป ภารกิจต่อเน่ืองของสานักงาน กศน. ด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ประจาปีงบประมาณ2560 มีดงั นี้ 1. ผลติ และพฒั นารายการวิทยุและรายการโทรทศั นืเพอื่ การศกึ ษาให้เชือ่ มโยงและตอบสนองต่อการจัดกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาสาหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ให้มีทางเลือกในการเรยี นรทู้ ี่หลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองให้รู้เท่าทันส่ือและเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการส่ือสาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพเพ่ือการมีงานทารายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุศึกษา สถานีวิทยุโทรทัศน์เพ่ือการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทางอนิ เทอร์เน็ต

16 2. พัฒนาช่องทางการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารแบบออนไลน์ เพื่อส่งเสริมให้ครู กศน. นาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารมาใชใ้ นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3. พัฒนาสถานีวิทยุศึกษา และสถานีโทรทัศน์เพ่ือการศึกษาเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตและการออกอากาศให้กลุ่มเป้าหมายสามารถใช้เป็นช่องทางการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยขยายเครือข่ายการรบั ฟงั ใหส้ ามารถรับฟงั ได้ทุกที่ ทุกเวลา ครอบคลมุ พ้ืนท่ีทว่ั ประเทศและเพิ่มช่องทางให้สามารถรับชมรายการโทรทศั น์ได้ท้ังระบบ Ku – Band และ C – Band และทางอนิ เทอรเ์ น็ต พรอ้ มทจ่ี ะรองรับการพฒั นาเป็นสถานวี ทิ ยโุ ทรทศั นเ์ พื่อการศกึ ษาสาธารณะ (Free ETV) 4. พัฒนาระบบการให้บริการสื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาให้ได้หลายช่องทางท้ังทางอินเทอร์เน็ต และรูปแบบอื่นๆ เช่น Application บนโทรศัพท์เคลื่อนท่ี และ Tablet, DVD, CD,VCD และ MP3 เป็นต้น เพ่ือให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเลือกใช้บริการเพื่อเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรไู้ ดต้ ามความตอ้ งการ 5. สารวจ วจิ ัย และติดตามประเมินผลด้านส่อื เทคโนโลยีเพือ่ การศึกษาอยา่ งตอ่ เนื่อง และนาผลมาใช้ในการพัฒนางานให้มีความถูกต้อง ทันสมัยและสามารถส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชวี ติ ของประชาชนได้อย่างแทจ้ ริง4. แนวโน้มเทคโนโลยีเพือ่ การศึกษาในอนาคต จากปรากฏการณ์ของการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ในยุคปัจจุบัน โดยมีการนาเอาศาสตร์แห่งเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาไปใช้ในวงการศึกษานั้นได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการสร้างนวัตกรรมรูปแบบการเรียนการสอนแบบใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเน่ือง อย่างไรก็ตามผลจากการวจิ ัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงที่อาจตามมาในหลายๆประเด็น ซ่ึงเก่ียวกับเรื่องดังกล่าวนี้ ร็อบบลายเยอร์ และโดว์ร่ิง (Roblyer & Doering, 2010อ้างถึงในสุรศักด์ิ ปาเฮ, 2554, หน้า 16) ได้กล่าวถึงภาพแห่งอนาคตของเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาในประเดน็ ตา่ งๆ ไวอ้ ย่างน่าสนใจดงั น้ี 1. เกิดการเช่ือมโยงประสบการณ์ความรู้และข้อมูลข่าวสารแบบไร้ขอบข่ายมากยิ่งข้ึน(Wireless Connectivity) 2. เกดิ การบรู ณาการการใชเ้ ทคโนโลยีแบบผสมผสานกันมากขน้ึ (Merging of Technology) 3. วิวัฒนาการส่ืออุปกรณ์ขนาดจ๋ิวแบบพกพาจะมากข้ึนและมีความจาเป็น เพิ่มข้ึน(Developments in Portable Devices) 4. การพฒั นาสมรรถนะของระบบการส่ือสารความเร็วสูงจะเพิ่มขดี จากดั มากขน้ึ (Ability ofHigh-Speed Communications) 5. การพัฒนาสมรรถนะของระบบสื่อเชิงทัศนะท่ีมีประสิทธิภาพ (Visual ImmersionSystems) 6. วิวัฒนาการการปรับใช้สื่อปัญญาประดิษฐ์หรือสื่อปัญญาประยุกต์ที่เพิ่มข้ึน (IntelligentApplication)

17 โดยศาสตร์และองค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา (Educational Technology)มพี ัฒนาการจากอดตี สูป่ ัจจบุ นั จากเทคโนโลยียุคแอนาลอ็ ก (Analog) ส่เู ทคโนโลยยี ุคดจิ ิตอล(Digital) ตามลาดบั เร่อื ยมา โอกาสของสานักงาน กศน. กับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารของประเทศไทย ปัจจุบันรัฐบาลได้ให้บริการด้านส่ือสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยความเร็วสูง รวมถึงการสนับสนนุ การทางานด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศของหนว่ ยงานภาครฐั รฐั วิสาหกิจ และหน่วยงานอิสระให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารงานภายใน และการให้บริการแก่ประชาชน โดยประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมลู ต่างๆ ผ่านเครือขา่ ยอนิ เตอร์เน็ต ซ่ึงปัจจุบันมีหลายหน่วยงานของราชการจดั ทารายละเอียดข้อมูลต่างๆ ให้บริการผ่านเว็บไซต์ เช่น การให้บริการของสานักบริการเทคโนโลยีส า ร ส น เท ศ ภ า ค รั ฐ โด ย มี ผู้ ให้ บ ริ ก า ร Universal Resource Locator ห รื อ URL คื อhttp://www.gitt.net.th หรือการให้บริการของกระทรวงศึกษาธิการท่ี http://www.moe.go.thนอกจากนี้ยังมีอีกหลายหน่วยงานท่ีให้บริการเช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันภาคเอกชนต่างๆ หรือองค์กรอิสระท่ีเกิดขึ้นตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ต่างก็ให้ความสาคัญกับการนาเอาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้งาน และเม่ือมีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซ่ึงรับผิดชอบทางด้านนโยบายการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารก็ย่ิงทาให้กิจการเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทยก้าวหน้าย่ิงขึ้น ซง่ึ ทาให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมลู ต่างๆ ได้โดยง่าย รวดเร็วและเท่าเทียมกันเป็นการเปิดระบบการเรียนรู้ใหม่ของประชาชน ความรู้จะกลายเป็นสง่ิ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้หมด ผู้คนสามารถเรียนรู้จากการศึกษาอย่างไม่เป็นทางการได้มากมาย ในเวลาเดียวกันความรู้จะกลายเป็นปัจจัยสาคัญของการแขง่ ขนั ทางเศรษฐกิจซึ่งถือว่าเปน็ ทุนความรู้ ท้ังนี้ สานักงานกศน. เป็นหน่วยงานหลักของภาครัฐหน่วยงานหนึง่ ที่มบี ทบาทสาคัญและมีความพร้อมในการสง่ เสริมการเรียนรู้ของประชาชน ในระบบของการศึกษาที่ไม่เป็นทางการหรือการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านช่องทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเครือข่ายสารเทศ(สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั , 2558, หน้า 6)5. ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา สานักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ความเป็นมาของศนู ยเ์ ทคโนโลยที างการศกึ ษา ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา เดิมช่ือกองเผยแพร่การศึกษา สังกัดกรมวิชาการกระทรวงศึกษาธิการ ก่อต้ังขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2495 ทาหน้าที่โฆษณาเผยแพร่ให้ประชาชนเห็นคุณค่าของการศึกษาและอาชีพ ต่อมารัฐบาลได้เห็นความสาคัญของการใช้วิทยุเพื่อการศึกษาจงึ มีมติอนมุ ัติให้กระทรวงศกึ ษาธิการ จัดต้ังสถานีวิทยุกระจายเสยี งข้ึน โดยใช้ชอื่ ว่า “สถานีวิทยุศึกษา”สังกัดกองเผยแพรก่ ารศึกษา เริ่มออกอากาศเพ่ือให้การศึกษาแก่ประชาชนในสาขาต่างๆ ต้ังแต่วนั ท่ี

181 มกราคม 2497 และในปีเดียวกันนั้นเอง รัฐบาลได้ออกพระราชกฤษฎีกา จัดวางระเบียบราชการใหม่โดยโอนกองเผยแพรก่ ารศกึ ษาไปขนึ้ กบั สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร หลังจากท่ี มี ประสบการณ์ เก่ี ยวกั บการจั ดรายการวิ ทยุ เพื่ อให้ การศึ กษาแก่ ประ ชาชนแล้ วกองเผยแพร่การศึกษาได้เริ่มทดลองใช้วิทยุ เพ่ือเป็นสื่อการเรียนการสอนในโรงเรียน เรียกว่า“วิทยโุ รงเรียน” เร่ิมดาเนนิ การออกอากาศรายการในปี พ.ศ. 2501 เป็นตน้ มา และในเดือนตุลาคม2502 ได้เร่ิมจัดรายการโทรทศั น์เพ่ือการศึกษาเป็นคร้ังแรก โดยออกอากาศรายการส่งเสริมเผยแพร่ศิลปะการฟ้อนราและการดนตรีของไทย ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ช่อง 5)สถานีวิทยโุ ทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 4 (ช่อง MCOT ในปจั จุบนั ) พ.ศ. 2515 รัฐบาลได้รวมงานการกระจายเสียงท้ังวิทยุ โทรทัศน์ งานผลิตเอกสาร วารสารของกองเผยแพร่การศึกษา สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ งานผลิตโสตทัศนูปกรณ์ของกรมวิชาการ และแผนกโสตทัศนศึกษาของกรมสามัญศึกษา ตั้งเป็น “ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา”สังกัดกรมวิชาการตามพระราชกฤษฎีกา เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ต่อมาได้โอนเข้าสังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน เม่ือวันที่ 24 มีนาคม 2522 ตามพระราชบญั ญัติแก้ไขเพิ่มเตมิ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 216 ที่ได้มีการต้ังกรมการศึกษานอกโรงเรียนขึ้น และรัฐบาลได้อนุมัติโครงการพัฒนาวิทยุกระจายเสยี ง ตามโครงการพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ 5 ซ่ึงมีระยะเวลาดาเนินการตัง้ แต่ พ.ศ. 2522 – 2527 ในส่วนหน่ึงของโครงการน้ี รัฐบาลได้อนุมัติให้สรา้ งอาคารศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาข้ึนใหม่ พร้อมห้องบันทึกเสียงและห้องผลิตรายการวิทยุ และได้ย้ายท่ีทาการจากเดิมซ่ึงอยู่ภายในบริเวณกระทรวงศึกษาธิการ มาอยู่ ณ อาคารใหม่ ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวีกรุงเทพมหานคร ตัง้ แต่ พ.ศ. 2526 และอนุมัติใหต้ ่อเตมิ อาคารด้านทิศตะวันตกของศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา พร้อมติดต้ังอุปกรณ์การผลิตรายการโทรทัศน์และวิดีโอเทปตามโครงการจัดตั้งศนู ยผ์ ลิตรายการโทรทัศน์และวิดีโอเทปเพื่อการศกึ ษา ต้งั แตว่ นั ท่ี 22 มิถนุ ายน 2527 พ.ศ. 2536 คณะรัฐมนตรีมมี ติเห็นชอบใหด้ าเนินโครงการพัฒนาศูนย์ผลิตรายการโทรทัศน์และวิดีโอเทปเพื่อการศึกษา โดยเล็งเห็นว่ารายการโทรทัศน์เป็นส่ือเทคโนโลยีอีกส่ือหนึ่งท่ีมีบทบาทสาคัญในการจัดการศึกษาทางไกล ซึ่งจะช่วยเสริมเติมและอธิบายข้อมูลความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนและน่าสนใจยิ่งข้ึน จึงอนุมัติงบประมาณให้ก่อสรา้ งอาคารศนู ย์ผลติ รายการโทรทัศน์และวิดีโอเทปเพื่อการศึกษา โดยใช้พื้นท่ี จานวน 30 ไร่ บริเวณคลอง 6 ถนนรังสิต-นครนายก อาเภอธญั บรุ ี จังหวดั ปทุมธานี เพ่ือผลติ รายการโทรทศั น์และวิดโี อเทป ออกอากาศสัปดาห์ละ19 ชว่ั โมง พ.ศ. 2537 รัฐบาลได้อนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ ดาเนินโครงการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมไทยคม โดยใช้ส่ือโทรทัศน์เพื่อจัดการศึกษาทางไกล ให้กับประชาชน ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาและเพื่อยกระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานของประชากรกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม คือกลุ่มนักเรียนในระบบโรงเรียน กลุ่มนักศึกษานอกโรงเรียน และกลุ่มประชาชนท่ัวไป โดยเริ่มออกอากาศครั้งแรกเม่ือวันที่ 12 สิงหาคม 2537 ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และดาเนนิ การตอ่ มาจนถึงปจั จบุ ัน

19บทบาท ภารกิจด้านการผลิต พัฒนาและเผยแพรเ่ ทคโนโลยีเพ่อื การศึกษา ปัจจุบันศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา อยู่ภายใต้สังกัดสานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีบทบาทสาคัญในการดาเนินการผลิตพัฒนาและเผยแพร่เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคล่ือนการดาเนินงานในการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมท้ังส่งเสริมการศึกษาเพ่ือคนพิการ ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ทั้งนี้เพื่อมุ่งหวังในการพัฒนาคุณภาพของเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา อีกทั้งมุ่งพัฒนาการให้บริการในรูปแบบต่างๆ เช่น รายการวิทยุเพื่อการศึกษา รายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา สื่อการศึกษาเพ่ือคนพิการ สื่อการศึกษา Online รวมท้ังสื่อการศึกษา Offlineประเภท CD VCD DVD และ MP3 เป็นต้น โดยให้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ที่หลากหลาย เช่น ทางสถานีวิทยุศึกษา ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์เพ่ือการศึกษา (ETV) และเคเบ้ิลทีวีท้องถ่ิน ทางเครือข่ายสากลทางเว็บไซต์ที่ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบ ทางโทรศัพท์มือถือ Smartphone ท้ังระบบปฏิบัติการ Android และ IOS และทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางการศึกษา ให้ประชาชนทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตอย่างท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน สามารถสนองตอบเจตนารมณ์ ในการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง(พ.ศ. 2552-2561) “คนไทยได้เรยี นรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ” ประกอบกับห้วงเวลาน้ีเปน็ ชว่ งที่ประเทศไทยกาลังเตรียมความพร้อมด้านการผลิตและพัฒนากาลังคน เพื่อรองรบั การเคลื่อนย้ายแรงงานเสรภี ายใต้กรอบประชาคมอาเซียน (ASEAN Community : AC) ในปี พ.ศ. 2558 ซ่ึงสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกับแนวนโยบายด้านกาลังคนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ที่มุ่งพัฒนาคนให้มคี ุณภาพเป็นกาลังสาคัญในการพัฒนาประเทศใหม้ ั่นคงและสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อยา่ งต่อเนื่องพัฒนาคนสู่สงั คมแหง่ การเรียนรตู้ ลอดชวี ิตอยา่ งย่ังยืน โดยศูนย์เทคโนโลยีทางการศกึ ษามบี ทบาท ภารกิจดังนี้ (ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา,2557, หนา้ 17 - 25) วิทยเุ พื่อการศึกษา จัดผลิตรายการวิทยุเพ่ือการศึกษาตามหลักสูตร เพื่อส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ตามหลกั สูตรของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร สาหรบั นักเรยี นในระบบโรงเรยี นและนักศึกษานอกระบบโรงเรียนผลิตรายการวิทยุเพื่อการพัฒนาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา จัดรายการวิทยุเพื่อการศึกษาสาหรับพ่อแม่ ผู้ปกครองและประชาชนผู้สนใจ โดยมีรายการวิทยุเพื่อการศึกษาตามหลักสูตรท่ีผลิตเผยแพร่ออกอากาศ เชน่ รายการสาระความรดู้ า้ นภาษาไทย วทิ ยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เป็นต้น จัดผลิตรายการวิทยุเพ่ือการศึกษาตามอัธยาศัยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวติ เพ่ือพฒั นาศักยภาพดา้ นการศึกษา พัฒนาอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีรายการวิทยุที่ผลิต เผยแพร่ออกอากาศ เช่น รายการตามตะวัน รายการความรู้สู่ชุมชน รายการคลินิกรักษ์สุขภาพรายการสอนภาษาต่างประเทศ เชน่ ภาษาองั กฤษ จีน ญี่ป่นุ เกาหลี เป็นตน้ จัดผลิตและเผยแพร่รายการข่าววิทยุเพื่อการศึกษา ข่าวบริการทางการศึกษาและรายงานเหตุการณ์ ความเคล่ือนไหวทางการศึกษาอย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกประเด็น ร่วมมือและสนับสนุนสถานศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ เพ่ือให้บริการข่าวการศึกษาแก่กลุ่มเป้าหมาย พัฒนาระบบข้อมูลข่าวการศึกษาเพ่ือการสืบค้นและให้บริการหน่วยงานต่าง ๆ

20ของกระทรวงศึกษาธิการ รวมทั้งรายงานข่าวสารย่านอาเซียน การวิเคราะห์ข่าวข้อมูลองค์ความรู้เพ่ือพัฒนาความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน เพ่ือสร้างความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการศึกษาอาเซยี น บริหารจัดการสถานีวิทยุศึกษา จัดทาผังรายการ ควบคุมการประกาศรายการ การออกอากาศ การนาเสนอข่าวรายการวิทยุเพื่อการศึกษาของสถานีวิทยุศึกษา ระบบ AMคล่ืน 1161 kHz และระบบ FM คลื่น 92 MHz ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับว่าด้วยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ต้ังแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. ทุกวัน วันละ 18 ช่ัวโมง และพัฒนาเทคโนโลยีการเผยแพร่รายการวิทยุผ่านทางเครอื ข่าย Internet ท่ี www.moeradiothai.netในรปู แบบ Live Radio และ Radio on demand โทรทศั น์เพื่อการศกึ ษา จดั ผลติ รายการโทรทศั น์เพอ่ื การศึกษาตามหลกั สูตร พร้อมสอ่ื ประกอบเพื่อส่งเสรมิ การศึกษาตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ สาหรับนักเรียนในระบบโรงเรียน นักศึกษานอกระบบโรงเรียนผลิตและพฒั นารายการโทรทศั น์ท่ีเกี่ยวกับเทคนิคและวิธีการสอนการศึกษาตามหลักสตู ร เพ่ือส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการเรียน การสอนตามหลักสูตร สาหรับครู อาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา โดยมีรายการโทรทัศน์เพ่ือการศึกษาที่เผยแพร่ออกอากาศ ได้แก่ ติวเข้มเตรยี มสอบ O-NET และ A-NET รายการครูจอแกว้ กศน. ตวิ เข้มวิชาต่างๆ ครูประถมคนเก่ง เปน็ ตน้ จัดผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาตามอัธยาศัย เผยแพร่แก่ประชาชนทั่วไปทุกกลมุ่ เป้าหมาย ให้ได้มีโอกาสในการเรียนรูอ้ ย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต สามารถพัฒนาตนเองไดอ้ ยา่ งเต็มท่ีตามศักยภาพของแต่ละบุคคล เพ่ือให้เกิดการพฒั นาอาชีพ พัฒนาคณุ ภาพชีวติ และสงั คมไทย ได้อย่างยัง่ ยืน โดยมรี ายการโทรทัศน์เพ่ือการศึกษาที่เผยแพร่ออกอากาศ เช่น ช่องทางการประกอบอาชีพ รายการภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ค้นทางชีวิต ชุมชนมืออาชีพ ร้อยบุปผา สอนภาษาต่างประเทศ เป็นต้นนอกจากน้ียงั ผลิตรายการโทรทัศนเ์ พ่ือตอบสนองนโยบายการเตรียมความพรอ้ มเข้าสู่ประชาคมอาเซียนโดยผลติ รายการท่องโลก 10+1 ภาษาเพ่อื อาชีพ เรียนแบบอาเซียน แงม้ ประตูสูล่ าว เป็นตน้ จดั ผลิตและเผยแพร่ข่าวโทรทศั น์เพ่ือการศึกษา นาเสนอสาระขา่ วสารเพ่ือการศึกษา รายงานข่าวความเคล่ือนไหวทางการศึกษา การเผยแพร่สาระความรู้ ความก้าวหน้าของการศึกษาในด้านตา่ งๆ เช่น เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้นักเรยี น นักศึกษาครู อาจารย์ ผู้บริหารการศึกษา ได้รับความรู้ข่าวสารข้อมลู ในการพัฒนาคุณภาพชีวติ เพื่อให้เกิดการเรยี นรอู้ ยา่ งต่อเน่อื ง บริหารจัดการสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (ETV) ดาเนินการบริหารจดั การ ออกอากาศรายการโทรทัศน์เพอื่ การศึกษาให้เหมาะสมและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายผ้รู ับชมรายการ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. ทุกวัน วันละ 18 ชั่วโมง จดั ทาประกาศแจ้งรายการประจาวันจดั ทาผังรายการ ตารางออกอากาศและคู่มือรับชมรายการ ควบคุมดาเนินการออกอากาศสถานีวิทยุโทรทศั น์เพอื่ การศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร(ETV )

21 สอื่ การศึกษา Online เผยแพร่สื่อคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาในรูปแบบของ e – Learning ให้บริการกลุ่มเป้าหมายผ่านทางเครือข่ายสากล (Internet) ที่ www.ceted.org โดยมีเน้ือหาสาระสอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษานอกระบบ พุทธศักราช 2551 รวมทั้งหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพื่อส่งเสริมการศึกษานอกระบบโรงเรียน ในระบบโรงเรียนและการศกึ ษาตามอัธยาศยั เพื่อการเรยี นรู้อยา่ งตอ่ เนือ่ งตลอดชวี ิต สื่อการศึกษาเพือ่ คนพกิ าร ผลิต พฒั นา และเผยแพร่ส่ือการศึกษาเพอ่ื คนพิการในรปู แบบต่าง ๆ ได้แก่ หนังสือเสียง หนงั สือ อกั ษรเบรลล์ รายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ รายการวีดิทัศน์ CAI/CD-ROM เปน็ ตน้ เพื่อเสริมการเรยี น การสอนและการเรียนรู้ ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย สาหรับคนพิการทุกประเภท ทั้งคนตาบอด คนหูหนวก และคนพิการประเภทอ่ืนๆ รวมทั้งผู้ที่ เกี่ยวข้องกับคนพิการ เช่น ครู ผู้ปกครอง เป็นต้น เป็นศูนย์ส่ือระบบดิจิตอล เพื่อให้บริการเทคโนโลยี รูปแบบใหมแ่ กผ่ พู้ กิ าร โดยพฒั นางานบรกิ ารผ่านทางเครอื ขา่ ยสากลที่ www.braille-cet.in.th พฒั นาส่อื เทคโนโลยแี ละจดั การทรพั ยากร ดาเนินการผลิต พัฒนา ส่ือการศึกษา offline ในรูปแบบ VCD DVD CD MP3 เพือ่ ให้บริการ แก่กลุ่มเป้าหมาย พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการเผยแพร่และบริการส่ือการศึกษาทาง Internet พัฒนาส่ือการศึกษาให้มีรูปแบบที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อใช้ ส่ือการศึกษาในการพัฒนาความรู้ ทักษะ และคณุ ภาพชวี ิตอย่างกว้างขวาง จดั การด้านสิทธิประโยชน์ ในส่ือการศึกษาท่ีเป็นทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กร พัฒนาระบบห้องสมุดส่ือการศึกษา (Media Archives) มีระบบจัดเก็บสื่อต้นฉบับ และ Stock shot ด้วยเทคโนโลยที ่ีเหมาะสมเพ่ือให้บริการ นาไปใช้ ประโยชน์ในการปฏิบัติงาน และในปัจจุบันได้พัฒนาระบบการให้บริการ โดยผู้สนใจสามารถเลือกดู ข้อมูลรายการสื่อการศึกษา พร้อมทั้งส่ังซ้ือผ่าน www.cet-media.com อย่างง่ายดาย ซ่ึงสามารถ ตอบสนองความต้องการของกล่มุ ผู้รับบรกิ ารทีอ่ าศยั อย่ใู นเขตพืน้ ท่ีหา่ งไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ สง่ เสริมการวจิ ัย การสารวจ ตดิ ตามผลด้านเทคโนโลยีเพ่อื การศึกษา ดาเนินการวิจัย สารวจ ติดตามผลการผลิตและเผยแพร่เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา เพื่อนาข้อมูล มาใช้ในการวางแผน ผลิต พัฒนา และเผยแพร่รายการวิทยุเพ่ือการศึกษา รายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษา สื่อการศึกษา Online สื่อการศึกษาเพ่ือคนพิการและส่ืออ่ืน ๆ ให้มีคุณภาพตอบสนองกับยุทธศาสตร์และ จุดเน้นการดาเนินงานดา้ นการสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความต้องการของผรู้ บั บริการเทคโนโลยีเพอื่ การศึกษา พฒั นาบคุ ลากรทางเทคโนโลยเี พ่อื การศึกษา ดาเนินการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรและหน่วยงานเครือข่ายให้มีความรู้ความสามารถ และทกั ษะที่สอดคล้องกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษา มสี มรรถนะ ท่พี รอ้ มสาหรับการ ปฏบิ ัติงาน ดาเนินการศกึ ษา วิเคราะห์ ติดตามและประเมินผลการพฒั นาบุคลากร เพื่อนาข้อมูลมาใช้

22เป็นแนวทางในการพัฒนาหลักสูตร สื่อประกอบการฝึกอบรม และพัฒนารูปแบบการฝึกอบรมเพ่ือพัฒนาองค์ความรู้ท่ีเกี่ยวข้องกับงานพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา รวมท้ังพัฒนาระบบข้อมลู สารสนเทศด้านการพฒั นาบคุ ลากรใหท้ ันสมัย6. การตดิ ตามผลการใชเ้ ทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษา ปงี บประมาณ พ.ศ. 2558 ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา (2558) ได้ทาการติดตามผลการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาประจาปีงบประมาณ 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการให้บริการ การใช้ ปัญหาขอ้ คดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะเก่ียวกับเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา โดยศกึ ษาจากการสมั ภาษณ์กลุ่มตัวอย่างจากครู กศน.ตาบล จาก 5 ภูมิภาค จานวน 136 คน สรุปการตดิ ตามผลการใช้เทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษา ปี พ.ศ. 2558 ดังน้ี ความพร้อมในการใหบ้ รกิ ารเทคโนโลยีเพอื่ การศกึ ษาของ กศน.ตาบล - ส่วนใหญม่ ีอาคารถาวร (รอ้ ยละ 97.06) - มีบุคลากรให้บรกิ ารเทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษา (ร้อยละ 100) - มีเครอ่ื งมือทางเทคโนโลยใี หบ้ รกิ ารสว่ นใหญ่ ไดแ้ ก่ - มีชุดรบั สญั ญาณโทรทศั น์ผา่ นดาวเทียม (รอ้ ยละ 98.53) - มีเครอื่ งรบั โทรทัศน์ 1 เคร่ือง (รอ้ ยละ 91.18) - มเี ครอื่ งเลน่ VCD/DVD 1 เคร่ือง (รอ้ ยละ 65.44) ไม่มรี ้อยละ 16.18 - มีเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ให้บรกิ าร 1 – 3 เครอื่ ง (ร้อยละ 33.82) ไมม่ รี อ้ ยละ 22.06 - มีโครงข่าย Internet (ร้อยละ 72.79) ไมม่ รี ้อยละ 25.00 การใหบ้ ริการเทคโนโลยเี พอื่ การศกึ ษาโทรทศั น์เพ่ือการศึกษา- มกี ารใหบ้ ริการโทรทัศน์เพือ่ การศกึ ษา (ร้อยละ 91.18)- เนื้อหาที่ใหบ้ ริการส่วนใหญ่เปน็ การสง่ เสริมการศึกษาสายสามัญ (รอ้ ยละ 97.79) รองลงมา คือสายอาชีพ- สว่ นใหญไ่ ดร้ บั ตารางออกอากาศ (รอ้ ยละ 94.85)- เคยรับชมรายการโทรทัศน์ทาง Internet (รอ้ ยละ 85.29)- มผี รู้ บั บริการโทรทัศน์โดยเฉลี่ย 36 คน ต่อ 1 จุดรบั สัญญาณตอ่ สปั ดาห์ ปัญหาเก่ียวกบั การใช้บริการ ETV เพอ่ื สง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย- วชิ าบังคับ คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ นาเสนอเน้ือหายาก วิทยากรบรรยายเรว็ เกนิ ไปนกั ศกึ ษาติดตามบทเรยี นไมท่ นั ตวั อักษรประกอบเล็กเกนิ ไป (ผ้ตู อบ 35 คน)- ช่วงอากาศไมด่ ี มีฝนตก รับสญั ญาณ ETV ไมไ่ ด้ ไมช่ ัดเจน มีภาพคา้ ง ภาพหายไป (ผู้ตอบ 18 คน)- เนื้อหารายการท่ีออกอากาศ ไมต่ รงกับการจดั การเรยี นการสอนและการพบกลุ่ม (ผูต้ อบ 11 คน)- ผู้เรียนมอี ายตุ ่างกนั มีพ้นื ฐานทางการศึกษาไมเ่ ท่ากัน ทาใหค้ วามสามารถในการเรียนรตู้ ่างกัน(ผู้ตอบ 7 คน)

23- มนี กั ศึกษามาก แต่เครอื่ งโทรทศั นร์ ับมีเครอ่ื งเดยี ว มขี นาดเล็กเป็นปญั หาในการรับชมรายการ(ผูต้ อบ 5 คน)- ดาวน์โหลดเอกสาร คูม่ อื รายวิชายาก บางครั้งดาวนโ์ หลดไมไ่ ด้- ครูไม่สะดวกในการรับชมรายการตามตารางออกอากาศ ขอ้ เสนอแนะเกยี่ วกับการใหบ้ ริการ ETV เพอ่ื ส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั- นักศกึ ษามีพืน้ ฐานความรนู้ อ้ ยในรายวิชาบงั คบั คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ควรทารายการให้งา่ ย นาเสนอรายการให้ช้าลง (ผ้ตู อบ 10 คน)- ควรมกี ารออกอากาศรายการในแต่ละวชิ าทกุ วัน เพราะนกั ศึกษามเี วลาวา่ งไม่ตรงกบั การออกอากาศ(ผตู้ อบ 6 คน)- ควรจัดทารายการใหน้ ่าสนใจ สนกุ เหมาะสมกบั กล่มุ เป้าหมาย รปู แบบรายการควรพฒั นาใหเ้ ป็นEdutainment (ผ้ตู อบ 3 คน)- ในรายวิชาภาษาอังกฤษควรเพ่มิ ขนาดตวั อักษรกราฟกิ ของรายการใหโ้ ตขึ้นและควรท้งิ ระยะเวลาการนาเสนอให้มากกว่าน้ี (ผู้ตอบ 2 คน)- ในรายการที่มเี นอื้ ยากควรมกี ารเน้น ย้า สรุป เน้ือหาความร้เู ปน็ ระยะๆ และมีเวลาทบทวนบทเรยี นใหม้ ากกว่าน้ี- ควรมกี ารจัดทารายการ ETV ในรายวชิ าเลอื กเผยแพรอ่ อกอากาศ- ควรเผยแพรใ่ นระบบ C – Band ด้วย- ควรจดั ทาเปน็ สอ่ื ชดุ สาเรจ็ รูปประกอบดว้ ยรายการโทรทศั น์ คู่มือประกอบการรับชมรายการ คอมพวิ เตอรเ์ พือ่ การศึกษา- กศน.ตาบลส่วนใหญ่ มกี ารให้บรกิ ารคอมพวิ เตอรเ์ พือ่ การศึกษา (ร้อยละ 80.85)- กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญใ่ ช้คอมพวิ เตอร์เพือ่ การศึกษาคน้ คว้าขอ้ มลู (ร้อยละ 80.88)ใชเ้ พื่อพมิ พง์ าน (ร้อยละ 70.59) ตดิ ตอ่ สงั คมออนไลน์ (ร้อยละ 55.15)- ครู กศน. มีการนาส่อื สังคมออนไลนม์ าใช้ในการส่งเสริมการศกึ ษา (รอ้ ยละ 96.32)ส่วนใหญใ่ ชเ้ พ่อื นดั หมายนักศึกษา (รอ้ ยละ 93.38) เผยแพรข่ า่ วสาร (รอ้ ยละ 88.97)- มีผ้ใู ชบ้ ริการคอมพิวเตอร์ท่ี กศน.ตาบล เฉลีย่ 41 คน ต่อสัปดาห์ ปญั หาเก่ียวกบั การให้บรกิ ารคอมพิวเตอร์เพอื่ สง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั- สัญญาณ Internet ไม่ดี ล่าชา้ หลุดบอ่ ย (ผู้ตอบ 39 คน)- มเี ครื่องคอมพิวเตอรใ์ หบ้ ริการไม่เพยี งพอ (ผูต้ อบ 36 คน)- ไม่มเี ครื่องคอมพวิ เตอรใ์ ห้บรกิ าร (ผ้ตู อบ 20 คน)- เคร่อื งคอมพิวเตอร์และอปุ กรณม์ ีสภาพเก่า ล้าสมยั (ผตู้ อบ 8 คน)- ขาดบุคลากรทม่ี คี วามรดู้ ูแลโครงขา่ ย แกไ้ ข ซอ่ มแซมคอมพวิ เตอร์เบ้อื งต้น (ผ้ตู อบ 6 คน)- ขาดงบประมาณในการซ่อมแซมคอมพวิ เตอร์ (ผู้ตอบ 2 คน)

24 ขอ้ เสนอแนะเกีย่ วกับการให้บรกิ ารคอมพิวเตอรเ์ พอื่ ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั- ควรจัดสรรเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์พรอ้ ม Internet ให้บรกิ ารที่ กศน.ตาบลอยา่ งเพียงพอ(ผตู้ อบ 31 คน)- ควรวางโครงข่าย Internet ให้ถึง กศน.ตาบล (ผู้ตอบ 7 คน)- ควรเพ่มิ ความเรว็ สญั ญาณ Internet (ผู้ตอบ 5 คน)- ส่วนกลางควรจดั สรรงบประมาณในการซ่อมแซมคอมพวิ เตอร์ และค่าสาธารณูปโภคใหก้ บักศน.ตาบล อย่างเพยี งพอ (ผตู้ อบ 4 คน)- ควรจดั สรรบคุ ลากรทม่ี คี วามรู้ด้าน ICT ของอาเภอ เพอื่ ดูแลอุปกรณ์ใหก้ ับ กศน.ตาบล(ผู้ตอบ 3 คน)- ควรมกี ารอบรมครู กศน. เกีย่ วกับการใชโ้ ปรแกรมการซ่อมแซมเบอ้ื งตน้ (ผู้ตอบ 3 คน) VCD/DVD เพอ่ื การศกึ ษา- กศน.ตาบลสว่ นใหญม่ กี ารใหบ้ รกิ าร VCD/DVD เพอื่ การศกึ ษา (รอ้ ยละ 90.44)- ส่วนใหญม่ ีแผน่ VCD/DVD ให้บรกิ าร 51 – 100 แผน่ (รอ้ ยละ 42.65)- เนื้อหาท่ีให้บรกิ ารสว่ นใหญเ่ ป็นรายการส่งเสริมอาชพี (ร้อยละ 49.26) สายสามญั (รอ้ ยละ 46.23)- วธิ กี ารให้บรกิ ารสว่ นใหญ่ให้ยมื ไปศกึ ษาที่บ้าน (รอ้ ยละ 83.09) เปิดให้ชมท่ี กศน.ตาบล(รอ้ ยละ 68.38)- ส่วนใหญ่ไมม่ กี ารหมุนเวียนแผ่น VCD/DVD กบั กศน.ตาบลใกล้เคยี ง (ร้อยละ 53.68)- มีผ้ใู ชบ้ ริการ VCD/DVD ท่ี กศน.ตาบล เฉลย่ี 19 คน ตอ่ สัปดาห์ ปัญหาเก่ียวกับการให้บริการ VCD/DVD เพอื่ ส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย- แผ่น VCD/DVD มีสภาพเก่า เน้อื หาเกา่ ลา้ สมัย (ผูต้ อบ 10 คน)- แผ่น VCD/DVD ใชง้ านมานาน ชารุด เปน็ รอย (ผ้ตู อบ 9 คน)- แผน่ VCD/DVD มนี ้อย เนือ้ หาไมห่ ลากหลาย เนื้อหาไม่สอดคลอ้ งกบั ชมุ ชนสงั คมในพื้นท่ีไมส่ อดคล้องกับความตอ้ งการ (ผูต้ อบ 8 คน) ข้อเสนอแนะเกยี่ วกบั การให้บรกิ าร VCD/DVD เพ่อื ส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั- ต้องการ VCD/DVD ที่มีเน้ือหาหลากหลายทั้งสายสามญั สายอาชพี สง่ ให้ กศน.ตาบล(ผู้ตอบ 15 คน)- ควรจดั สง่ แผ่น VCD/DVD เน้อื หาใหม่ๆ และวชิ าหลกั ใหก้ ับ กศน.ตาบล อย่างพอเพยี ง(ผตู้ อบ 7 คน)- สว่ นใหญ่นกั ศกึ ษานิยมใช้ Internet มากกว่า VCD/DVD เพราะสะดวก รวดเรว็ (ผูต้ อบ 5 คน)

25 วิทยุศกึ ษา- ครู กศน.ตาบลสว่ นใหญไ่ ม่ทราบวา่ มกี ารให้บรกิ ารวิทยศุ กึ ษา (รอ้ ยละ 57.35) ทราบว่ามีให้บรกิ ารร้อยละ 42.65- ครสู ่วนใหญ่ไม่ไดน้ ารายการวทิ ยศุ กึ ษาไปใชใ้ นการส่งเสรมิ การศึกษา กศน. (ร้อยละ 83.82)นาไปใช้ (รอ้ ยละ 5.15)- สว่ นใหญ่ไม่เคยประชาสมั พนั ธ์รายการวทิ ยุศึกษาให้กบั นักศึกษาประชาชน (ร้อยละ 66.9)เคยประชาสมั พนั ธ์ (รอ้ ยละ 17.65) ปัญหาเกี่ยวกับการให้บรกิ ารวิทยุเพอ่ื การส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั- ครูมสี ่อื อน่ื ที่สามารถสง่ เสริมการเรยี นการสอนได้ดีกว่าสื่อวทิ ยุ จึงไม่ได้นารายการวิทยุไปใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน (ผ้ตู อบ 15 คน)- ครูไมท่ ราบว่ามีรายการวทิ ยุ กศน. ให้บริการ (ผู้ตอบ 12 คน)- นักศกึ ษาไม่นิยมรับฟังรายการวทิ ยุ ชอบดู ETV หรือใช้คอมพิวเตอรม์ ากกวา่ (ผู้ตอบ 11 คน)- ควรปรับปรงุ การให้บริการสือ่ ทางวทิ ยุ มีการประชาสัมพันธใ์ หป้ ระชาชนได้ทราบอยา่ งทั่วถงึ(ผตู้ อบ 9 คน)- รับสญั ญาณไม่ได้ (ผตู้ อบ 6 คน)- มขี ้อจากัดในการใช้ Internet เพอื่ รับฟงั รายการวิทยุ สือ่ ส่งเสรมิ ประชาคมอาเซียน- กศน.ตาบลส่วนใหญ่ มกี ารให้บรกิ ารส่อื สง่ เสรมิ ประชาคมอาเซยี น (ร้อยละ 98.53)- สอ่ื ส่วนใหญ่ท่ีใช้ในการส่งเสริม ได้แก่ ส่อื ประเภทสิง่ พิมพ์ ป้ายนเิ ทศ (รอ้ ยละ 61.03) รองลงมา คือVCD/DVD (ร้อยละ 56.62) คอมพวิ เตอร์ (ร้อยละ 34.56)- มีผูใ้ ช้บรกิ ารสือ่ สง่ เสริมประชาคมอาเซียนท่ี กศน.ตาบล เฉล่ยี 24 คน ต่อสัปดาห์ ปัญหาเกยี่ วกับการใหบ้ ริการสือ่ การศึกษาเพอ่ื สง่ เสริมความรเู้ กี่ยวกบั ประชาคมอาเซยี น- ส่อื เพอื่ ส่งเสรมิ ประชาคมอาเซยี นมนี ้อย ไม่เพยี งพอต่อการให้บริการ (ผู้ตอบ 25 คน)- นักศึกษา ประชาชน ใหค้ วามสนใจเกยี่ วกับอาเซียนค่อนขา้ งนอ้ ย (ผ้ตู อบ 8 คน)- ขาดสือ่ ประเภทเทคโนโลยี ส่วนใหญม่ ีแตเ่ อกสาร แผน่ ผบั (ผูต้ อบ 4 คน) ขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกับการใหบ้ ริการส่อื การศกึ ษาเพื่อส่งเสริมความรู้เก่ียวกบั ประชาคมอาเซียน- ตอ้ งการ VCD/DVD เนื้อหาเก่ยี วกบั อาเซียนเพมิ่ ขน้ึ (ผตู้ อบ 20 คน)- ตอ้ งการส่อื อาเซยี นที่มเี นอื้ หาทหี่ ลากหลาย (ผตู้ อบ 4 คน)- ต้องการให้ ศท. จัดส่งสื่อ VCD/DVD อาเซียนไปที่ กศน.อาเภอ เพือ่ กระจายสู่ กศน.ตาบล- ต้องการสอ่ื ทม่ี ีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาอาเซียน

26 ความต้องการด้านเนื้อหาของเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษา ความตอ้ งการรายวชิ าสายสามัญ- วชิ าคณิตศาสตร์ (ผู้ตอบ 120 คน)- วชิ าภาษาองั กฤษ (ผู้ตอบ 117 คน)- วิชาวิทยาศาสตร์ (ผู้ตอบ 93 คน) ความตอ้ งการรายวชิ าสายอาชีพ 1. ด้านเกษตรกรรม- เพาะเหด็ (เหด็ ฟาง เห็ดนางฟ้า) (ผู้ตอบ 26 คน)- ทานา/ปลกู ข้าว (ผตู้ อบ 21 คน)- ปลูกผักปลอดสารพษิ (ผู้ตอบ 19 คน)- ทาป๋ยุ ชวี ภาพ (ผู้ตอบ 16 คน)- ทาสวนยางพารา (ผตู้ อบ 15 คน)- เกษตรอินทรยี ์ เกษตรธรรมชาติ (ผตู้ อบ 14 คน)- ปลูกออ้ ย (ผ้ตู อบ 12 คน)- ปลูกผักสวนครัว (ผู้ตอบ 10 คน)- ปลูกปาล์มน้ามนั (ผ้ตู อบ 9 คน)- ปลูกมะนาว (ผู้ตอบ 8 คน)- ปลกู มันสาปะหลัง ทาปยุ๋ หมกั ปลกู ข้าวโพด เลีย้ งกงุ้ (ผตู้ อบเนอื้ หาละ 7 คน)- เล้ยี งปลา ปลาดุก ปลานิล ปลาทับทิม (ผู้ตอบ 6 คน)- เกษตรผสมผสาน ไร่นาสวนผสม ปลกู พชื สมนุ ไพร เล้ยี งไก่ไข่ เลี้ยงไก่พื้นเมือง เลี้ยงไกเ่ น้อื เลี้ยงกบ(ผู้ตอบเนอ้ื หาละ 4 คน) 2. ดา้ นชา่ ง- ช่างไฟฟ้า (ผูต้ อบ 53 คน)- ชา่ งคอมพิวเตอร์ (ผู้ตอบ 40 คน)- ชา่ งซ่อมโทรศพั ทม์ อื ถอื (ผู้ตอบ 27 คน)- ช่างไม้ ชา่ งซอ่ มจักรยานยนต์ (ผู้ตอบเนอ้ื หาละ 25 คน)- ช่างยนต์ (ผตู้ อบ 17 คน)- ช่างซ่อมเครือ่ งยนตเ์ ล็ก (ผตู้ อบ 16 คน)- ช่างเช่อื ม (ผู้ตอบ 14 คน)- ช่างซอ่ มเครื่องใชไ้ ฟฟ้า ช่างก่อสร้าง (ผูต้ อบเนือ้ หาละ 11 คน)- ช่างเครอื่ งยนต์การเกษตร (ผตู้ อบ 10 คน)

27 3. ด้านอาชีพอิสระ- นวดแผนไทย (ผู้ตอบ 22 คน)- ทาขนมไทย (ผตู้ อบ 19 คน)- ตัดผม (ผ้ตู อบ 13 คน)- ทาอาหาร (ผตู้ อบ 11 คน)- เสริมสวย (ผู้ตอบ 12 คน)- ตดั เย็บเสื้อผา้ (ผูต้ อบ 9 คน)- จกั สาน มัคคุเทศก์/ธรุ กจิ ทอ่ งเทีย่ ว ศลิ ปะประดิษฐ์ (ผู้ตอบเนื้อหาละ 6 คน)- กาแฟโบราณ เย็บปักถักร้อย (ผตู้ อบ 5 คน)- สานตะกรา้ กระเปา๋ ดว้ ยเสน้ พลาสติก (ผ้ตู อบ 4 คน)- จดั สวน งานฝมี ืองานประดษิ ฐ์ ทอผ้า จัดดอกไม้ ทาเบเกอร่ี ประดิษฐ์ของใชจ้ ากยางรถยนตเ์ กา่(ผู้ตอบเนอื้ หาละ 3 คน) ความตอ้ งการเนอ้ื หาการศกึ ษาตามอธั ยาศัย- กฎหมายเบ้ืองตน้ กฎหมายชาวบ้าน กฎหมายในชีวิตประจาวัน (ผ้ตู อบ 37 คน)- การดแู ลผู้สงู อายุ (ผตู้ อบ 29 คน)- การดูแล/การสง่ เสรมิ สขุ ภาพ (ผูต้ อบ 27 คน)- ภยั พบิ ัติ (ผู้ตอบ 8 คน)- ภัยธรรมชาติ การออกกาลังกาย การอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม(ผตู้ อบเนอ้ื หาละ 5 คน)- เศรษฐกิจพอเพียง ธรรมะ หน้าทพี่ ลเมอื ง อนามยั แมแ่ ละเด็ก ความรเู้ ร่ืองโภชนาการ(ผตู้ อบเน้อื หาละ 4 คน) ความตอ้ งการเนอ้ื หาด้านการพฒั นาอาชพี- การออกแบบผลิตภัณฑ์ การพฒั นาบรรจภุ ัณฑ์ เทคโนโลยกี ารเกษตร การเพ่ิมผลผลิตนาข้าวชอ่ งทางธุรกจิ ชอ่ งทางการจาหน่ายผลผลติ ในพ้ืนที่ การเก็บเมลด็ พันธพุ์ ืช ความต้องการเนือ้ หาส่งเสริมความรเู้ รื่องประชาคมอาเซียน- ภาษาของประเทศสมาชกิ (ผ้ตู อบ 96 คน)- วถิ ีชวี ิต ศาสนา ศิลปะวฒั นธรรม ประเพณี (ผตู้ อบ 92 คน)- การประกอบอาชพี (ผู้ตอบ 84 คน)- สถานทีส่ าคญั แหล่งท่องเทยี่ ว (ผตู้ อบ 74 คน)- ความรู้เบื้องตน้ เกยี่ วกับประชาคมอาเซียน (ผู้ตอบ 57 คน)- การศกึ ษา (ผู้ตอบ 51 คน)- การเมืองการปกครอง (ผตู้ อบ 46 คน)- ภาษาองั กฤษ (ผูต้ อบ 28 คน)

28 ปัญหาและข้อเสนอแนะเกีย่ วกับการใหบ้ ริการเทคโนโลยเี พอื่ การศกึ ษาของศูนย์เทคโนโลยีทางการศกึ ษา- ตอ้ งการให้นาเสนอสื่อต่างๆ ทางอนิ เทอร์เน็ต ท่ีสามารถดาวนโ์ หลดมาใช้ไดง้ ่าย- ในรายวชิ าทีม่ ีเอกสารประกอบการบรรยาย ควรมีการจัดทาเอกสารเปน็ เลม่ เผยแพรม่ ายงั กศน.ตาบล หรือนาเสนอไว้บนเว็บไซต์ลว่ งหน้าระยะเวลานานสกั หน่อย ไมใ่ ช่จะนาเสนอเน้อื หาแล้วค่อยโหลดขึน้ เว็บไซต์ เป็นปญั หาสาหรบั ครู กศน.มาก- ควรนาเสนอรายการ ETV รายวิชาหลกั ในวนั ธรรมดาดว้ ย (ผู้ตอบ 2 คน)- กศน.ตาบล ยังขาดความพรอ้ มในดา้ นการใช้สื่อออนไลน์- ควรมีงบประมาณในการซอ่ มบารงุ ดแู ลรกั ษา อุปกรณท์ างเทคโนโลยีเพือ่ การศกึ ษาอยา่ งต่อเนือ่ ง- ควรแจก VCD ให้กบั กศน.ตาบล ใหม้ ากกวา่ น้ี- มปี ัญหาการรบั ชม ETV เน่ืองจาก กศน.ตาบล มีเครอ่ื งรบั โทรทศั น์ขนาดเล็ก เม่อื มนี ักศกึ ษาจานวนมากมารับบรกิ าร การรบั ชมไม่ทว่ั ถึง- ต้องการใหม้ ีรายการแนะนาการสอนรายวิชาต่างๆ ให้กับครู กศน.ตาบล- กศน. จดั สรรเครื่องคอมพวิ เตอรม์ าให้ กศน.ตาบล แต่ไม่สนับสนุนอปุ กรณต์ อ่ Internet มาให้ จงึ ไม่สามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากเครื่องคอมพวิ เตอรไ์ ดอ้ ยา่ งเต็มประสทิ ธภิ าพ- ควรมกี ารจัดอบรมเรอื่ งการบารุงดูแลรกั ษาเครอื่ งคอมพิวเตอร์ การตดิ ต้งั โปรแกรม การวางระบบคอมพวิ เตอร์ การตดิ ตง้ั เครื่องเสยี ง การติดต้ังโปรเจคเตอร์- ควรมกี ารประชาสัมพนั ธ์ ชอ่ งทางและวิธีการใช้สือ่ ของศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษาให้กบั กศน.ตาบล เพ่อื ให้นักศกึ ษาและประชาชนใช้ประโยชน์จากสือ่ ได้เตม็ ประสิทธิภาพ (ผตู้ อบ 5 คน)7. เอกสารและงานวิจัยทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับการใช้เทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษา พรภิมล สาคร (2551) ได้ศึกษาความคิดเห็นเก่ียวกับเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาของผู้บริหารโรงเรียนเอกชนอาชีวศึกษาสังกัดสานักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมเอกชน กรุงเทพมหานครพบว่า ในมาตรา 63 ด้านการจัดสรรคลื่นความถ่ี มาตรา 64 ด้านการส่งเสริมการผลิตและการพัฒนาแบบเรียน อยู่ในระดับไม่แน่ใจ ส่วนมาตรา 65 ด้านการพัฒนาบุคลากรในด้านการผลิตและผู้ใช้เทคโนโลยีการเพือ่ การศึกษา มาตรา 66 ด้านการพฒั นาผู้เรยี น มาตรา 67 ดา้ นการตดิ ตามตรวจสอบประเมินผลการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 68 ด้านการจัดตั้งกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 69 ด้านการจัดให้มีหน่วยงานกลางเพื่อเสนอนโยบายส่งเสริมเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา อยู่ในระดับเห็นด้วย ในการจัดนโยบาย แผนงาน และโครงการของผู้บริหารสถานศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ในหมวดเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาพบว่า มีนโยบายเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษามากท่ีสุด มีการวางแผนเตรียมความพร้อมทุกด้านไม่ว่าจะเป็นบุคลากรท่ัวไป ครู ผู้บริหาร ชุมชน คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา เพื่อให้เห็นถึงความสาคัญของเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา รองลงมา คอื การสง่ เสริม และสนับสนนุ ในดา้ นงบประมาณใหไ้ ด้รับการพฒั นาความรูเ้ กี่ยวกบั เทคโนโลยีทางการศึกษาใหม่ๆ เพ่ือใช้ในกระบวนการเรียนการสอนในระดับอาชีวศึกษา และสนับสนนุ ให้บุคลากรท่ัวไปนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใชใ้ นการปฏิบตั ิงาน

29ในหน้าท่ี เพ่ือให้ได้สารสนเทศท่ีเกิดประโยชน์สูงสุดในเวลาอันรวดเร็ว สุดท้ายเกี่ยวกับผู้เรียน คือการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้จากเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา โดยกาหนดให้จัดเป็นกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียน เกิดทักษะสามารถนาความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพศกึ ษาต่อและแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้ตลอดชวี ิต วรดานันท์ เหมนิธิ (2551) ได้ศกึ ษาแนวโน้มการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาของอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร พบว่า การวิจัยคร้ังน้ีมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาแนวโน้มการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาของอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครเพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษาในอนาคต เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม ซึ่งแบ่งออกเป็น5 ด้าน คือ ด้านรูปแบบและวิธีการใช้นวตั กรรมและเทคโนโลยีการศึกษา ด้านการบริหาร ด้านแหล่งทรพั ยากรการเรียน ด้านการพัฒนาการเรยี นการสอน และด้านการสอนและการจัดระบบการสอนในห้องเรียน กลุ่มประชากรท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ คือ อาจารย์ (สายสอน) ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครทั้ง 9 คณะ จานวน 484 คน โดยสุ่มเป็นกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นและกาหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างจากตาราง Kerjcie & Morgan ได้กลุ่มตัวอย่างจานวน 250 คนสารวจข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ การหาค่าเฉล่ีย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานและนาเสนอโดยตาราง ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูลพบวา่ 1) รูปแบบและวิธีการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศกึ ษายังมีการใช้ส่ือแผ่นใสและเคร่ืองฉายภาพข้ามศรีษะ เครอื่ งวิชวลไลเซอร์ และเคร่ืองวิดีโอโปรเจคเตอร์ในการเสนองานมากขึ้น 2) ด้านบริหารมีการใช้ระบบ office Automationในหนว่ ยงานและใช้ระบบ Teleconference ในการประชุม มีการตดิ ตั้งระบบเครอื ข่ายสารสนเทศในหน่วยงานและใช้ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ในการบริหารจัดการในการประชาสัมพันธ์ทาง Internet มากข้ึน3) ด้านแหล่งทรัพยากรการเรียนมีการสร้างส่ือบทเรียน มีการใช้เครือข่าย Internet เป็นแหล่งทรัพยากรเรียนแทนสื่อ หนังสือ และส่ิงพิมพ์มากข้ึน 4) ด้านการพัฒนาการเรียนการสอนมีการใช้เทคโนโลยีเป็นส่ือเสรมิ เพื่อสนับสนุนการสอนของอาจารย์ ผู้เรียนและผู้สอนมีการเรียนการสอนและตดิ ต่อกันทางระบบออนไลน์ 5) ด้านการสอนและจัดระบบการสอนในห้องเรียน ผู้สอนสามารถผลิตสื่อด้วยตนเอง กิจกรรมการเรียนการสอนเน้นให้ผ้เู รียนใช้ความคิดวิเคราะห์โดยการค้นควา้ อ้างอิงผา่ นสอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ในห้องสมดุ ในสว่ นความคิดเห็นของอาจารย์ท่ีมีต่อการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาเห็นว่ามีการใช้ระบบอินเทอร์เน็ต มีเป้าหมายเพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนได้ทุกท่ี ทุกเวลาและควรจัดบริการด้านฐานขอ้ มลู และแหล่งการเรยี นรู้ในคณะใหเ้ พยี งพอกับผู้เรยี นในการสบื ค้นขอ้ มูลยังแหลง่ เว็บไซตท์ ่ีผสู้ อนไดจ้ ดั ทาไว้เพื่อเป็นสือ่ เสรมิ ใหม้ ากข้นึ วิไลวรรณ เรืองอุไร (2556) ได้ศึกษาแนวโน้มการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาสาหรับสาขาวิชาเทคโนโลยีและส่ือสารการศึกษาสู่ประชาคมอาเซียน พบว่า ด้านสื่อสารมวลชนด้ า น เท ค โ น โ ล ยี ก า ร ศึ ก ษ าแ ล ะ ด้ า น เท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เท ศ อ ยู่ ใน ร ะ ดั บ ม า ก ที่ สุ ด ใน แ ต่ ล ะ ด้ า นประกอบด้วย 1) ด้านสื่อสารมวลชน คือ การนารูปแบบทีวีดิจิทัล และระบบวิดีทัศน์ตามประสงค์มาใช้เพื่อจัดการเรียนการสอน 2) ด้านเทคโนโลยีการศึกษา คือ การใช้หลักสูตรการเรียนออนไลน์แบบเปิด (MOOC) การเรียนการสอนแบบร่วมมือ การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้สังคมและวัฒนธรรมประชาคมอาเซียน การใช้เทคโนโลยีก่อให้เกิดทักษะและการแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองอย่าง

30ต่อเน่ืองตลอดชีวิต และการจัดการเรียนการสอนควรมุ่งเน้นการเช่ือมโยงและแลกเปล่ียนเรียนรู้ประสบการณ์ 3) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ คือ การส่งเสริมและพัฒนาเครือข่ายเพื่อการศึกษาแห่งชาติ (NEIS) การเรียนทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การใช้สมาร์ทโฟน ดาวเทียมเพื่อการศกึ ษา ระบบการเรียนการสอนผ่านทางอินเทอร์เน็ตและเว็บเพจห้องเรียนเสมือนจริง เทคโนโลยีในรปู แบบคลาวดค์ อมพวิ ติง้ (Cloud computing) และการใชเ้ ครอื ข่ายสังคมออนไลน์ เพชรรัตน์ เวสน์ไพบูลย์ (2556) ได้ศกึ ษาสภาพการบรหิ ารงานศูนย์เทคโนโลยเี พื่อการศึกษาของโรงเรียนราชนนั ทาจารย์ สามเสนวิทยาลัย 2 สังกดั สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาเขต 1พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง และเม่ือพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงตามลาดับค่าเฉลี่ยพบว่า ด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร มีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก รองลงมาคือด้านการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้านการสนับสนุนการเรียนการสอนด้วยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและด้านการสร้างกาลังคนให้มีศักยภาพในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ตามลาดับ ความคิดเห็นของครูต่อสภาพการบริหารงานศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา และประสบการณ์การทางาน แตกต่างกันมีความคิดเห็นไมแ่ ตกต่างกัน ปารชิ าติ โต๊ะเอีย่ ม (2556) ไดศ้ ึกษาสภาพและปญั หาการบรหิ ารเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของสถานศึกษา ในสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต 1 และเขต 2พบว่า โดยรวมมีสภาพการบริหารอยู่ในระดับมากโดยสถานศึกษาขนาดใหญ่มีสภาพการบริหารโดยรวมอยใู่ นระดับมากทีส่ ุด รองลงมา คอื สถานศกึ ษาขนาดเลก็ และสถานศึกษาขนาดกลาง ปญั หาการบริหารเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา โดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับปานกลางโดยสถานศึกษาขนาดเล็กมีปัญหาการบริหารโดยรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด รองลงมาคือ สถานศึกษาขนาดกลาง และสถานศึกษาขนาดใหญ่ ผลการเปรียบเทียบสภาพการบริหารเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พบว่าสถานศึกษาที่มีขนาดต่างกัน มีสภาพการบริหารโดยรวมไม่แตกต่างกนั เม่ือพิจารณารายด้าน พบว่าด้านการจัดบุคลากร และด้านงบประมาณของสถานศึกษาขนาดเล็กกับขนาดกลางมีสภาพการบรหิ ารแตกต่างกัน ผลการเปรียบเทียบปัญหาการบริหารเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พบว่า สถานศึกษาที่มีขนาดต่างกัน มีปัญหาการบริหารโดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการจัดบุคลากรและด้านงบประมาณเท่านั้นท่ีพบว่า สถานศึกษาขนาดเล็กและสถานศึกษาขนาดกลางมีปญั หาการบรหิ ารแตกตา่ งกัน

บทท่ี 3 วธิ ดี ำเนินกำรวิจยั การติดตามผลการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ปีงบประมาณ 2559 คร้ังน้ี เป็นการตดิ ตามผลการใช้เทคโนโลยเี พ่ือการศึกษาท่ีผลิต พฒั นาและเผยแพร่โดยศูนย์เทคโนโลยที างการศึกษา สานกั งานกศน. ซ่ึงเผยแพร่ให้บริการกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบโทรทัศน์เพื่อการศึกษา (ETV) คอมพิวเตอร์เพ่ือการศึกษา VCD/DVD เพ่ือการศึกษา วิทยุเพื่อการศึกษาและเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาเพื่อส่งเสริมความรู้เก่ียวกับประชาคมอาเซียน โดยศึกษาเกี่ยวกับความพร้อมการให้บริการและการใช้ปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการให้บริการเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา โดยมีวิธีดาเนินการศึกษาเปน็ ข้นั ตอนตามลาดบั ดงั น้ี 1. ศึกษาปัญหา ความต้องการด้านการผลติ พัฒนา เผยแพรแ่ ละการใช้เทคโนโลยีเพอื่ การศกึ ษาของปงี บประมาณทีผ่ ่านมาและเอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ ง 2. ศกึ ษานโยบาย จดุ เนน้ การดาเนนิ งานด้านเทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษา/เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3. วิเคราะห์ปญั หา สรปุ ประเดน็ ปญั หา 4. กาหนดวัตถปุ ระสงคก์ ารติดตามผล 5. ออกแบบวิธีการติดตามผล 6. คดั เลอื กกลมุ่ ตัวอยา่ ง 7. สร้างเครือ่ งมอื ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 8. เก็บรวบรวมขอ้ มลู 9. วิเคราะห์ขอ้ มูล 10. เขยี นรายงาน 11. เผยแพร่รายงานไปยงั หนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วข้อง โดยมีขั้นตอนในการดาเนินงานการตดิ ตามผลการใช้เทคโนโลยเี พ่ือการศกึ ษา ปงี บประมาณพ.ศ. 2559 แสดงเป็นแผนภมู ไิ ดด้ งั นี้

30 แผนภูมิขั้นตอนกำรดำเนนิ งำนกำรติดตำมผลกำรใช้เทคโนโลยีเพอ่ื กำรศกึ ษำ ศึกษาปญั หา ความต้องการด้านการผลิต พัฒนา เผยแพร่และการใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื การศึกษาของปีงบประมาณท่ผี ่านมาและเอกสารทีเ่ ก่ยี วข้อง ศึกษานโยบาย จุดเนน้ การดาเนินงานดา้ นเทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษา/เทคโนโลยี สารสนเทศและการสอื่ สาร วิเคราะห์ปญั หา สรปุ ประเดน็ ปญั หา กาหนดวัตถุประสงค์การติดตามผล ออกแบบวิธกี ารติดตามผล คดั เลือกกลมุ่ ตัวอยา่ ง สรา้ งเครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู วเิ คราะหข์ ้อมลู เขียนรายงาน เผยแพร่รายงานไปยงั หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องภำพท่ี 3.1 แสดงขั้นตอนการดาเนินงานตดิ ตามผลการใช้สื่อเทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษา

31ศกึ ษำปัญหำ ควำมต้องกำรด้ำนกำรผลิต เผยแพร่และกำรใช้เทคโนโลยีเพ่ือกำรศึกษำของปงี บประมำณทผี่ ำ่ นมำและเอกสำรที่เกย่ี วข้อง ผู้ดาเนินการได้ศึกษาปัญหา ความต้องการด้านการผลิต พัฒนา เผยแพร่และการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา โดยศึกษาจากรายการติดตามผลการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาปงี บประมาณ 2558 และศึกษาจากแผนปฏิบัตริ าชการศูนย์เทคโนโลยี ปีงบประมาณ 2558 – 2559และจากการสรุปรายงานการประชุมผู้บริหารสถานศึกษาของสานักงาน กศน. เพ่ือรวบรวมปัญหาข้อเสนอแนะต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้านการผลิต พัฒนาเผยแพร่และการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาของศนู ย์เทคโนโลยที างการศกึ ษาศึกษำนโยบำย จุดเน้นกำรดำเนินงำนด้ำนเทคโนโลยีเพื่อกำรศึกษำ/เทคโนโลยีสำรสนเทศและกำรส่อื สำร ศึกษานโยบาย จุดเน้นการดาเนินงานด้านเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา/เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของรฐั บาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ Roadmap ขับเคลื่อนนโยบายการปฏิรูปการศึกษา พ.ศ. 2557 – 2559 และจุดเน้นการดาเนินงานด้านเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาของสานักงาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 รวมท้ังข้อมูลข้อเสนอแนะการปฏิรปู การศึกษาในทศวรรษท่ีสอง (พ.ศ. 2552 - 2561) รายงานการติดตามและประเมินผลด้านการศึกษาของสานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เพ่ือรวบรวมนโยบาย ข้อเสนอแนะบริบทต่างๆ ท่ีเก่ยี วขอ้ งกับการดาเนินงานด้านเทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษาวเิ ครำะหป์ ญั หำ สรปุ ประเด็นปญั หำ ผู้ดาเนินงานได้นาปัญหาด้านผลิต พัฒนา เผยแพร่ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่ได้รวบรวมมาศกึ ษาวเิ คราะหใ์ นประเดน็ ต่างๆ แลว้ สรุปประเด็นสาคัญกำหนดวตั ถปุ ระสงค์ของกำรติดตำมผล ผู้ดาเนินงานได้นาข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการวิเคราะห์ สรุปประเด็นมาเป็นข้อมูลสาหรับการกาหนดวัตถุประสงค์ของการติดตามผลการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ปีงบประมาณ พ.ศ.2559โดยกาหนดวตั ถุประสงค์ของการติดตามผลไว้ดังน้ี 1. เพอื่ ศกึ ษาสภาพความพร้อมในการใหบ้ รกิ ารเทคโนโลยเี พ่อื การศึกษาของ กศน.ตาบล 2. เพ่ือสอบถามเกี่ยวกับการให้บริการ ปัญหา ข้อเสนอแนะในการให้บริการเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาในรูปแบบโทรทัศน์เพื่อการศึกษา คอมพิวเตอร์เพ่ือการศึกษา VCD/DVD เพ่ือการศึกษาวิทยเุ พื่อการศกึ ษา และสือ่ การศึกษาเพือ่ ส่งเสริมความรเู้ ก่ยี วกับประชาชนอาเซยี น 3. เพื่อสอบถามความต้องการด้านเนื้อหาเพื่อใช้ในการผลิตและเผยแพร่เทคโนโลยีเพอ่ื การศกึ ษาใหส้ อดคลอ้ งกับความตอ้ งการของผรู้ บั บริการทุกช่วงวยั 4. เพื่อสอบถามปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการให้บริการส่ือเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาของศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook