ภพาฒัวะผนนู้ าำ� คใภนนารพนุ่ คใื้นใหตทม้ ี่ ่ ชัยวฒั น์ ถริ ะพนั ธุ์ ชดุ โครงการสนบั สนุนการพฒั นาครู และเดก็ นอกระบบการศกึ ษา โดยเครือข่ายเชงิ พนื้ ที่ : พืน้ ท่ภี าคใต้
บทนำ� กองทนุ เพอ่ื ความเสมอภาคทางการศกึ ษา (กสศ.) จดั ตงั้ ขน้ึ ตามพระราชบญั ญตั กิ องทนุ เพอ่ื ความเสมอภาคทางการศกึ ษา พ.ศ.2561 มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ชว่ ยเหลอื ผขู้ าดแคลนทนุ ทรพั ย์ ลดความเหลอ่ื มลำ้� ทางการศกึ ษา รวมถงึ การเสรมิ สรา้ งและพฒั นาคณุ ภาพและประสทิ ธภิ าพครู โดย มกี ลมุ่ เปา้ หมายอยา่ งนอ้ ย 7 กลมุ่ จำ� นวนประมาณ 4.3 ลา้ นคนในทกุ ชว่ งวยั 1 ซงึ่ ในการชว่ ยเหลอื เดก็ และเยาวชนกลมุ่ เปา้ หมายทอ่ี ยเู่ ปน็ จำ� นวนมากและกระจายตวั อยทู่ วั่ ประเทศ ทางองคก์ รจงึ จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ลไกระดบั พน้ื ทท่ี มี่ ปี ระสทิ ธภิ าพเขา้ มาเปน็ กลไกรว่ มดำ� เนนิ การ เพอื่ ใหส้ ามารถดำ� เนนิ งานบรรลเุ ปา้ หมายทกี่ ำ� หนดไว้ สำ� หรบั พน้ื ทภี่ าคใต้ ทมี ประสานงานภาคใตไ้ ดป้ ระสานความรว่ มมอื กบั เครอื ขา่ ยองคก์ รและ คนทำ� งานทม่ี ปี ระสบการณใ์ นการดำ� เนนิ งานดา้ นเดก็ เยาวชน คนรนุ่ ใหม่ และเดก็ เยาวชนนอกระบบ การศกึ ษา เพอ่ื รว่ มขบั เคลอื่ นงาน ซงึ่ ทางเครอื ขา่ ยภาคใตเ้ หน็ รว่ มกนั วา่ การทำ� งานครงั้ นจ้ี ะเปน็ โอกาสในการพฒั นาตอ่ ยอดการทำ� งานเพอื่ ชว่ ยเหลอื กลมุ่ เปา้ หมายเดก็ เยาวชนนอกระบบการศกึ ษา และสนบั สนนุ การพฒั นาครแู ละเดก็ นอกระบบการศกึ ษา จงึ รว่ มพฒั นาขอ้ เสนอโครงการเพอ่ื ขอรบั 1 คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏริ ปู การศกึ ษา
การสนบั สนนุ การดำ� เนนิ งานในลกั ษณะเครอื ขา่ ยเชงิ พน้ื ท่ี เพอื่ เปน็ การเสรมิ พลงั ใหก้ บั องคก์ ร ในการชว่ ยเหลอื กลมุ่ เปา้ หมายพรอ้ มทง้ั การพฒั นาครพู เี่ ลย้ี งในการดแู ลเดก็ เยาวชนดว้ ย การขบั เคลอ่ื นงานรว่ มกนั ในระดบั พนื้ ทภี่ าคใตค้ รงั้ น้ี นบั เปน็ โอกาสดที ไี่ ดป้ ระสานพลงั ของกลมุ่ คน 3 รนุ่ ในการขบั เคลอ่ื นงานในพนื้ ทภี่ าคใต ้ เพอื่ ชว่ ยแบง่ ปนั ชดุ ประสบการณ์ ความรู้ เตมิ เตม็ ทกั ษะ ในการทำ� งานทางสงั คมและสนบั สนนุ การทำ� งานใหเ้ กดิ ประโยชนก์ บั กลมุ่ เดก็ เยาวชนนอกระบบได ้ คอื กลมุ่ คนรนุ่ ใหญ ่ รว่ มถา่ ยทอดบทเรยี นความรแู้ ละประสบการณก์ ารทำ� งาน คอื อาจารยช์ ยั วฒั น ์ ถริ ะพนั ธ์ุ อาจารยพ์ ชิ ยั ศรใี ส อาจารยส์ มเจตนา มณุ โี มไนย อาจารยท์ วศี กั ดิ์ สขุ รตั น์ อาจารย์ นวิ ฒั น ์ โฮเ้ ตก้ มิ้ และคณะอาจารย์ รวมถงึ ทมี พๆี่ ซง่ึ เปน็ ทปี่ รกึ ษากลมุ่ องคก์ รเครอื ขา่ ยทางสงั คม ในพนื้ ทภ่ี าคใต ้ กลมุ่ คนรนุ่ กลาง ทร่ี ว่ มตดิ ตามสนบั สนนุ การทำ� งานของกลมุ่ พเ่ี ลยี้ งครนู อกระบบให้ สามารถพฒั นาศกั ยภาพตนเองใหม้ คี วามพรอ้ มในการดำ� เนนิ งานตงั้ เปา้ หมายอยากมคี ณุ ภาพ คอื คณุ ไมตร ี จงไกรจกั ร คณุ ทววี ฒั น ์ เครอื สาย คณุ สมพงษ์ หลเี คราะห์ คณุ ขนษิ ฐา จลุ บล คณุ ละมา้ ย มานะการ ดร.พทั ธธ์ รี านาคอไุ รรตั น ์ และแกนนำ� พนี่ อ้ งเครอื ขา่ ยองคก์ รทำ� งานทางสงั คม ในพนื้ ที่ ภาคใต้ และกลมุ่ เยาวชน คนรนุ่ ใหม่ พเี่ ลย้ี ง ครนู อกระบบการศกึ ษา จำ� นวน 50 คน มารว่ มปฏบิ ตั ิ การเรยี นรผู้ า่ นการปฏบิ ตั จิ รงิ ซงึ่ ครอบคลมุ ทงั้ 14 จงั หวดั ในพน้ื ทภี่ าคใต้ การดำ� เนนิ งานชดุ โครงการสนบั สนนุ การพฒั นาครแู ละเดก็ นอกระบบการศกึ ษาโดยเครอื ขา่ ย เชงิ พน้ื ท่ี : พน้ื ทภ่ี าคใต้ ภายใตก้ ารสนบั สนนุ จากสำ� นกั งานกองทนุ เพอื่ ความเสมอภาคทางการศกึ ษา (กสศ.) ครง้ั น้ี คณะทำ� งานไดก้ ำ� หนดกรอบการดำ� เนนิ งานรว่ มกนั โดยมคี วามมงุ่ หวงั เพอื่ พฒั นา ศกั ยภาพเยาวชน ครนู อกระบบ และทมี พเี่ ลยี้ งรนุ่ ใหม่ ใหม้ ที กั ษะความสามารถ และมคี วามพรอ้ ม ในการทำ� งานชว่ ยเหลอื และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ เดก็ เยาวชนนอกระบบการศกึ ษา เนน้ การพฒั นาตอ่ ยอดการทำ� งานทง้ั ดา้ นกลไกรปู แบบการชว่ ยเหลอื และองคค์ วามรทู้ ม่ี อี ยใู่ นระดบั พนื้ ทส่ี กู่ ารสรา้ ง ปฏบิ ตั กิ ารพนื้ ทที่ างสงั คม เพอ่ื สรา้ งคณุ ภาพชวี ติ เดก็ เยาวชนผา่ นการกำ� หนดนโยบายการจดั การ ปญั หาเดก็ เยาวชนนอกระบบในเชงิ พนื้ ท่ี รวมถงึ สรา้ งโอกาสลดความเหลอื่ มลำ้� ทางการศกึ ษา โดย เนน้ การสรา้ งคณุ ภาพชวี ติ ของเดก็ และเยาวชนเดก็ และเยาวชน เปน็ การทำ� งานทเ่ี สรมิ สรา้ งทกั ษะ ชวี ติ ทดี่ ใี หก้ บั เดก็ เยาวชนนอกระบบและสรา้ งการเปลยี่ นแปลงทง้ั ดา้ นการสอื่ สาร การสรา้ งพน้ื ท่ี ปลอดภยั สำ� หรบั เดก็ เยาวชน
ชว่ งแรก เนน้ การคน้ หากลมุ่ เดก็ เยาวชนนอกระบบการศกึ ษาซงึ่ เปน็ กลมุ่ เปา้ หมายโดยจดั ทำ� ฐานขอ้ มลู เดก็ เยาวชนจำ� นวน 4,500 คน และจดั ทำ� ฐานขอ้ มลู กลมุ่ พเี่ ลยี้ งครนู อกระบบจำ� นวน 300 คน จากนนั้ จงึ จดั กระบวนการพฒั นาศกั ยภาพทมี พเี่ ลยี้ งครนู อกระบบเพอ่ื เปน็ โคช้ ในการ สนบั สนนุ การทำ� งานกบั เดก็ และเยาวชน รวมถงึ การพฒั นาทมี ครพู เ่ี ลยี้ งผา่ นหลกั สตู รการเรยี นรทู้ ง้ั หลกั สตู รกลาง 4 หลกั สตู รและเวทรี วม คอื Dialogue ทเ่ี นน้ การสนทนาอยา่ งลกึ ซง้ึ System Thinking (Basic) และ System Thinking (Advance) เพอื่ การมองระบบอยา่ งเปน็ องคร์ วม และ หลกั สตู ร Design Thinking เพอ่ื ออกแบบแนวทางใหมใ่ นการแกป้ ญั หา นอกจากนี้ ยงั มเี วทรี วมเสรมิ พลงั และหลกั สตู รของแตล่ ะเครอื ขา่ ย เชน่ หลกั สตู รสทิ ธมิ นษุ ยชน และสนั ตภิ าพ การจดั ความสมั พนั ธภ์ าค ี จติ วญิ ญาณความเปน็ คร ู ความเสมอภาคทางเพศ เปน็ ตน้ จงั หวะกา้ วตอ่ มา จะเนน้ การลดความเหลอื่ มลำ�้ ทางการศกึ ษาและพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ใหก้ บั กลมุ่ เดก็ เยาวชนเปา้ หมายจำ� นวน 4,500 คน ผา่ นการดแู ล ชว่ ยเหลอื เยยี วยา การพฒั นารปู แบบ ความชว่ ยเหลอื การสรา้ งอาชพี สรา้ งทกั ษะชวี ติ และความเขม้ แขง็ รวมถงึ การพฒั นายกระดบั กลมุ่ เดก็ เยาวชนนอกระบบอยา่ งนอ้ ย 20 เปอรเ์ ซน็ ตใ์ หเ้ ปน็ ตน้ แบบในการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ี เชน่ ผู้ ประกอบการทางสงั คมบทเรยี นการเยยี วยาบาดแผลทางใจ ผนู้ ำ� การเปลย่ี นแปลง เดก็ เยาวชนนอก ระบบพบแนวทางการศกึ ษาและการเรยี นรพู้ หวุ ฒั นธรรมชาตพิ นั ธแ์ุ ละศาสนา ซง่ึ สามารถสรา้ งรปู ธรรมการดแู ลชว่ ยเหลอื และพฒั นาเชงิ พนื้ ที่ รวมถงึ การสรา้ งพนื้ ทที่ างสงั คมและการผลกั ดนั เชงิ นโยบายทเ่ี กยี่ วขอ้ งในการสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ คณุ ภาพชวี ติ ทดี่ แี ละการลดความเหลอ่ื มลำ�้ ทางการ ศกึ ษาใหก้ บั กลมุ่ เดก็ เยาวชนนอกระบบได ้ โดยมกี ารสอื่ สารเพอ่ื สรา้ งความรว่ มมอื กบั คนในสงั คมอยา่ ง ตอ่ เนอื่ ง
สำ� หรบั การฝกึ อบรมทกั ษะ เครอ่ื งมอื ความรใู้ นการดำ� เนนิ งานครงั้ น้ี คณะทำ� งานภาคใตฯ้ รว่ มกบั อาจารยช์ ยั วฒั น์ ถริ ะพนั ธแ์ ละคณะ ไดพ้ ฒั นาหลกั สตู รการอบรมเพอื่ เสรมิ พลงั การทำ� งาน เยาวชนคนรนุ่ ใหมแ่ ละทมี พเี่ ลย้ี งในพน้ื ทภ่ี าคใต้ โดยไดเ้ ชญิ ชวนใหค้ ณะอาจารยท์ มี ขบั เคลอ่ื นงานทาง สงั คม(รนุ่ ใหญ)่ รวมถงึ กลมุ่ พนี่ อ้ งนกั พฒั นาในพน้ื ทภี่ าคใต้ เขา้ รว่ มแบง่ ปนั แนวคดิ ประสบการณ์ ในการทำ� งานทางสงั คม โดยมกี ลมุ่ เยาวชน คนรนุ่ ใหม่ พเี่ ลย้ี ง ครนู อกระบบ เขา้ รว่ มหลกั สตู รการ อบรมอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง จำ� นวน 4 หลกั สตู ร และเวทเี สรมิ พลงั ระดบั ภาค 1 ครงั้ คอื หลกั สตู รท่ี 1 > 29-31 สงิ หาคม 2563 “การสนทนาอยา่ งลกึ ซง้ึ ” หลกั สตู รที่ 2 > 4-6 ตลุ าคม 2563 “system thinking (basic)” หลกั สตู รที่ 3 > 8-10 พฤศจกิ ายน 2563 “system thinking (advance)” หลกั สตู รที่ 4 > 6-8 ธนั วาคม 2563 “design thinking” เวทเี สรมิ พลงั > 12-14 มกราคม 2564 “เวทเี ครอื ขา่ ยดา้ นเดก็ และเยาวชนภาคใต”้ คณะทำ� งานหวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ การฝกึ อบรมทกั ษะ เครอื่ งมอื ความรใู้ นหลกั สตู รทก่ี ลา่ วมา อกี ทงั้ การเตมิ เตม็ ดว้ ยแนวคดิ ชดุ ประสบการณ์ ความรู้ ของคณะอาจารยแ์ ละทมี พๆ่ี นอ้ งๆ ทผ่ี า่ น การทำ� งานทางสงั คมมาอยา่ งยาวนาน และการลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ ของกลมุ่ พเ่ี ลยี้ ง เยาวชน คนรนุ่ ใหม่ และครนู อกระบบ ในพนื้ ทภี่ าคใตค้ รงั้ นี้ จะเปน็ ประโยชนใ์ นการดำ� เนนิ งาน เพอื่ ชว่ ยเหลอื กลมุ่ เดก็ เยาวชนนอกระบบการศกึ ษาใหม้ คี ณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ี และสนบั สนนุ การพฒั นาครแู ละเดก็ นอกระบบการ ศกึ ษาใหส้ ามารถทำ� งานตามเปา้ หมายเกดิ การพฒั นาตอ่ ยอดการทำ� งานตอ่ ไปไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ คณะทำ� งาน/ ทมี ประสานงาน พนื้ ทภี่ าคใต้
สารบัญ เก่ียวกับหลักสตู รการเรยี นรู้ 8 12 การหยั่งเห็นและปญั ญา (Insights and Wisdom) 22 40 ผู้นำ�การสนทนา: คิดร่วมกนั เพ่ือการเปลีย่ นแปลง 43 45 บทเรยี น “การหายใจ” จากการแสดงละครเวที 47 49 4 ทักษะ กบั 4 ความสามารถเพื่อบม่ เพาะผ้นู ำ� 52 86 “4 สนามการสนทนา” นำ�มาใชใ้ ห้เกดิ พลงั 98 101 ฝกึ การฟงั ด้วยหัวใจ ไดย้ นิ มากกว่าเสียง 103 การฟัง 4 ระดับ ทกั ษะสำ�คญั ของการสนทนาใหเ้ กดิ ปัญญารว่ ม 114 วิธคี ิดเชิงกระบวนระบบ (System Thinking) ปาฐกถาชเรอดงิ เจอร์ 1997 โดย ฟรติ จ๊อฟ คาปรา ประสบการณ์ท่ตี ้องเรียนรใู้ นเรอื่ งรถไฟฟา้ Kiyoshi Kimura ประธานบริษัทซูชิ ซานไม ผ้พู ิชติ โจรสลัดโซมาเลียด้วยมอื เปลา่ และหัวใจ แสวงหาฐานรากของชวี ิตในโลกแห่งกจิ กรรม แบบฝกึ หดั systems thinking
ลิขิตชีวิตและภาวะผู้นำ� 118 คุณลกั ษณะแห่งผูน้ ำ� 6 ประการ 131 ธรรมนูญชีวิตและธรรมแห่งผู้นำ� (ความสำ�เรจ็ ) 138 วิถแี หง่ ผ้กู ล้า: คณุ คา่ แหง่ การภาวนาในวิถีตนั ตระ 144 สงั คมสารสนเทศ 146 สงั คมเครอื ข่าย ในยคุ ขอ้ มูลข่าวสาร 152 ทฤษฎี “ภาวะผ้นู ำ�” ในโลกแห่งความไมแ่ นน่ อน (Uncertainty) 169 หลกั การ “คดิ ดว้ ยมอื ” - Design thinking 171 คมู่ อื Design Thinking โดย Stanford d.school 173 บทกวี นักรบผู้เรงิ รา่ 222 สู่ฝนั อันย่ิงใหญ ่ 223 ทำ�ไมพระนารายณจ์ ึงบรรทมสนิ ธ์ุ 225 บทกวี ซามไู ร (นิรนาม) 228 บทกวี จิตวญิ ญาณผไู้ ม่พ่าย Invictus 229
8 เกยี่ วกบั หลกั สตู รการเรยี นรู้ ภาวะผนู้ ำ� คนรนุ่ ใหมใ่ นพน้ื ทภี่ าคใต้ เนอื้ หาในหนงั สอื ประกอบการเรยี นรเู้ ลม่ น้ี ประกอบดว้ ยบทความตา่ งๆ ทช่ี ว่ ยใหผ้ เู้ รยี นได้ เขา้ ใจสาระสำ� คญั ของแตล่ ะหลกั สตู รเพม่ิ มากขนึ้ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ความสำ� คญั ของแตล่ ะหลกั สตู ร ทต่ี อ้ งเรยี นรวู้ า่ เปน็ ไปเพอื่ อะไร และมกี ระบวนการฝกึ ฝนตนเองในเรอื่ งใดบา้ ง โดยอาจารยช์ ยั วฒั น์ ถริ ะพนั ธ์ุ ไดอ้ อกแบบหลกั สตู รในการพฒั นาภาวะผนู้ ำ� คนรนุ่ ใหมใ่ นพนื้ ทภ่ี าคใตไ้ วด้ งั น้ี 1. ผนู้ ำ� การสนทนา (Conversational Leadership) หรอื Dialogue ทเี่ นน้ การสนทนาอยา่ งลกึ ซง้ึ 2. พนื้ ฐานการคดิ กระบวนระบบ Systems Thinking (Basic) 3. การคดิ กระบวนระบบขน้ั สงู Systems Thinking (Advance) 4. หลกั สตู ร Design Thinking เพอ่ื ออกแบบแนวทางใหมใ่ นการแกป้ ญั หา ผนู้ ำ� การสนทนา (Conversational Leadership) หรอื Dialogue ทเี่ นน้ การสนทนาอยา่ งลกึ ซงึ้ หลกั สตู รนเี้ พอ่ื ทำ� ความเขา้ ใจกบั โลกทมี่ คี วามไมแ่ นน่ อน ซบั ซอ้ นและพลกิ ผนั กบั สงิ่ ทค่ี าดไม่ ถงึ บอ่ ยๆ ในการประชมุ ระดมสมองทเี่ อาชนะเรอ่ื งยากๆ และเปน็ ปญั หามคี วามซบั ซอ้ นเชอื่ มโยง กระทบไปมากบั คนทำ� งานหลากหลายสว่ น ตอ้ งการผนู้ ำ� กระบวนการสนทนาทม่ี พี ลงั แหง่ การครนุ่ คดิ และตดั สนิ ใจลงมอื ทำ� ดว้ ยกนั ทงั้ ๆ ทข่ี อ้ มลู ขา่ วสารไมส่ มบรู ณ์ 100 เปอรเ์ ซน็ ต์ และบอ่ ยครงั้ การ ประชมุ เพอ่ื เอาชนะวกิ ฤตอาจจะเกดิ ขน้ึ ทา่ มกลางแรงกดดนั จากหลายทศิ หลายทาง การทจ่ี ะดงึ ศกั ยภาพผรู้ ว่ มประชมุ ไมว่ า่ จะเปน็ ทมี เฉพาะกจิ กด็ ี หรอื ในการประชมุ ประจำ� เดอื นกด็ ี หรอื ตอ้ ง มาจดั กระบวนการระดมสมองลกั ษณะสมชั ชากด็ ี ลว้ นแลว้ แตเ่ ปน็ งานทา้ ทายความสามารถผนู้ ำ� การ สนทนาเปน็ อยา่ งยงิ่ การสนทนากนั ในหวั ขอ้ ทยี่ ากหรอื ปญั หายากๆ มกั จะนำ� ไปสกู่ ารถกเถยี งทอ่ี าจจะบานปลาย ไปสคู่ วามขดั แยง้ สว่ นบคุ คลเพราะควบคมุ อารมณไ์ มไ่ ด้ หรอื ตรงขา้ มไมอ่ ยากจะขดั แยง้ กนั จงึ หลกี เลยี่ งการพดู ถงึ ปญั หาทที่ า้ ทายการแกไ้ ข เปน็ การ “กวาดขยะเอาไวใ้ ตพ้ รม” ไปเสยี ทมี ทำ� งานหลกี เลย่ี งการเผชญิ หนา้ ความจรงิ ไมเ่ อาปญั หาทบ่ี บี คน้ั มาพดู จงึ เปน็ การทำ� งานแบบฉาบฉวยหรอื ทำ� งาน แบบขอไปที การเปลย่ี นแปลงขององคห์ รอื ชมุ ชนจงึ ไมเ่ กดิ คนทำ� งานเมอื่ ทำ� งานภายใตส้ ภาพทไี่ ร้ วญิ าณแหง่ ความภาคภมู ใิ จ มกั ขาดความสขุ ในการทำ� งาน ไมม่ กี ารเคารพตนเอง ไมไ่ วว้ างใจเพอ่ื น รว่ มงาน ไม่มีพลังท่ีจะเอาชนะปัญหา รู้สึกว่าตนเองต้องพึ่งพาผู้มีอ�ำนาจท�ำตามท่ีผู้มีอ�ำนาจ
9 สั่งการ ไมม่ คี วามคดิ รเิ รมิ่ และไมม่ คี วามรบั ผดิ ชอบ องคก์ รหรอื ชมุ ชนทม่ี สี ภาพไรพ้ ลงั เชน่ นี้ ถา้ เปน็ จำ� นวนมากในสงั คม สงั คมนนั้ จะไมม่ วี นั จะเขม้ แขง็ ได้ ยากทจี่ ะเจรญิ ในโลกทเี่ ปน็ อนั ตราย กระบวนการฝกึ อบรมจะเนน้ ทหี่ ลกั การหรอื ปรชั ญาการเปน็ ผนู้ ำ� การสนทนาทล่ี มุ่ ลกึ และมี สติ เหน็ สมมตุ ฐิ านการคดิ และการสนทนา โดยเฉพาะใหค้ ณุ คา่ กบั การฟงั อยา่ งไมม่ อี คติ และการ ตง้ั คำ� ถามทล่ี ว้ งลกึ ไปสคู่ วามจรงิ ทซี่ อ่ นอยู่ การเปดิ ใจและเปดิ ความคดิ ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งทท่ี ำ� กนั ไดง้ า่ ยๆ มนั เปน็ เรอื่ งละเอยี ดออ่ นทฝ่ี กึ บอ่ ยๆกจ็ ะชำ� นาญขน้ึ ดงั นนั้ การสรา้ งบรรยากาศการประชมุ และการ สนทนาทท่ี ำ� ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มรสู้ กึ ไวว้ างใจกนั และกนั กลา้ ทจ่ี ะบอกความในใจจงึ เปน็ สงิ่ สำ� คญั ของการทำ� วงสนทนาทนี่ ำ� ไปสคู่ วามรว่ มมอื รว่ มใจ ตรงนค้ี อื กญุ แจสำ� คญั ทจี่ ะไขประตเู ปดิ สงู่ านบรู ณาการ นอกจากเรยี นรจู้ ากประสบการณท์ งั้ ดา้ นดแี ละและดา้ นจดุ ออ่ นของตนแลว้ กระบวนการจะ เรยี นรเู้ รอื่ งการสรา้ งเจตจำ� นง (intention) ของผเู้ ขา้ รว่ มการสนทนาหรอื การประชมุ ทกุ ครงั้ เพอ่ื ทำ� ใหก้ ารสนทนาแตล่ ะครงั้ มโี ฟกสั พลงั ไปยงั เรอ่ื งทสี่ ำ� คญั ไมป่ ลอ่ ยใหก้ ระบวนการพาการสนทนาที่ สนกุ แตไ่ รเ้ ปา้ หมายทแ่ี ทจ้ รงิ เมอ่ื การสรา้ งบรรยากาศทด่ี ตี อ่ การสนทนาแลว้ ผนู้ ำ� การสนทนาตอ้ งฝกึ ฝนการเรยี นรทู้ เ่ี กดิ มี “ดวงตาใหม”่ ดว้ ยการตงั้ คำ� ถามและอดทนทจ่ี ะอยกู่ บั คำ� ถามทต่ี อบยาก จะทำ� ใหเ้ หน็ ความแตกตา่ ง ของการสนทนาหรอื การประชมุ ทใ่ี ชค้ วามฉลาดของสมองวเิ คราะห์ มาสกู่ ารมปี ญั ญาคอื ฉลาดดว้ ย ใจ และมไี มตรตี อ่ กนั ในการทำ� งาน จะสรา้ งความรสู้ กึ ตอ้ งแครก์ นั ชว่ ยเหลอื กนั มที มี สปริ ติ เกดิ ขนึ้ ไมห่ วน่ั ไหวกบั สภาพแวดลอ้ มทมี่ อี ปุ สรรคขดั ขวาง พลงั ทอ่ี อ่ นโยนแตเ่ ขม้ แขง็ นสี้ ามารถสรา้ งขน้ึ ได้ เมอ่ื กระบวนกรเรยี นรลู้ กึ ซงึ้ ดา้ น ความฉลาดทางจติ วญิ ญาณและความฉลาดทางอารมณ์ (spir- itual intelligence and emotional intelligence) System Thinking (Basic) และ System Thinking (Advance ) เพอ่ื การมองระบบอยา่ งเปน็ องคร์ วม หลกั สตู รนเี้ นน้ การทำ� ความเขา้ ใจโลกปจั จบุ นั ทซี่ บั ซอ้ น ปน่ั ปว่ น และผนั แปรอยา่ งเปน็ พลวตั ลองหยบิ เรอื่ งราว ปญั หามาสกั เรอ่ื ง ไมว่ า่ เหตกุ ารณก์ ารชมุ นมุ ทางการเมอื ง เหตนุ ำ้� ทว่ ม ปา่ ไมล้ ด ภาวะเศรษฐกจิ ในโลกตะวนั ตก ฯลฯ เมอ่ื พจิ ารณาจะเหน็ วา่ เรอ่ื งราวหรอื ปญั หานน้ั ๆ เกย่ี วขอ้ งกบั ผคู้ นจำ� นวนมากและหลากหลาย อกี ทง้ั ยงั ทบั ซอ้ น เกยี่ วโยง สง่ ผลกระทบถงึ กนั อยา่ งตอ่ เนอื่ งและ กระจายในวงกวา้ ง จนดเู หมอื นยากทเี่ ราจะไลต่ ามปญั หาไดท้ นั การคดิ และลงมอื แกป้ ญั หา หรอื สรา้ งสรรคส์ งิ่ ใหมเ่ พอื่ อนาคตทป่ี รารถนานนั้ เราจำ� ตอ้ ง พฒั นาความสามารถทจี่ ะมองเหน็ เรอื่ งราวและวเิ คราะหป์ ญั หาใหท้ ะลุ เขา้ ใจโลกตามความเปน็ จรงิ ซงึ่ เครอื่ งมอื หนงึ่ ทจ่ี ะชว่ ยใหเ้ ราเหน็ โลกตามความเปน็ จรงิ คอื การคดิ กระบวนระบบ (Systems thinking)
10 การคดิ กระบวนระบบ ไมใ่ ชก่ ารคดิ แบบระบบกลไก ตรรกะทต่ี ายตวั หรอื ระบบทดี่ ำ� เนนิ ไป ในลกั ษณะเสน้ ตรง จาก 1-2-3 (linear thinking) ทวา่ การคดิ แบบกระบวนระบบ คอื การคดิ จากการเหน็ วา่ เราอยใู่ นโลกแหง่ ระบบทม่ี ชี วี ติ อนั ซบั ซอ้ น เปราะบาง ซงึ่ ทกุ อยา่ ง ทกุ องคป์ ระกอบ ลว้ นสมั พนั ธแ์ ละสง่ ผลกระทบตอ่ กนั ทงั้ สนิ้ หรอื การเหน็ แบบเปน็ องคร์ วม (whole หรอื holistic) การเหน็ โลกในกระบวนระบบจะชว่ ยใหเ้ ราเขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเรากบั ระบบทซ่ี บั ซอ้ น และเปลย่ี นแปลงอยเู่ สมอ เราจะเหน็ ความเชอื่ มโยงทซ่ี อ่ นเรน้ ในระบบ อนั จะชว่ ยใหเ้ ราวเิ คราะห์ เรอื่ งราวตา่ ง ๆ ไดใ้ กลเ้ คยี งความจรงิ มากขน้ึ เหน็ ทม่ี าทไี่ ปของเหตกุ ารณ์ และสามารถเหน็ จดุ หรอื พน้ื ที่ (คานงดั ) ทเี่ ราจะเขา้ ไป “รว่ มเลน่ กบั ระบบ” จดั ปรบั ความสมั พนั ธ์ หรอื เปลยี่ นปจั จยั เงอื่ นไข เพอื่ สรา้ งสรรคผ์ ลลพั ธใ์ หมท่ ป่ี รารถนา ในหลกั สตู รการคดิ กระบวนระบบ จะไดฉ้ ายภาพใหผ้ เู้ ขา้ อบรมไดเ้ ขา้ ใจโลกในระบบทซี่ บั ซอ้ น (complex system) อนั ประกอบดว้ ยความซบั ซอ้ น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คอื ความซบั ซอ้ นทม่ี พี ลวตั (Dynamic complexity) ความซบั ซอ้ นทางสงั คม (Social complexity) และการซบั ซอ้ นแบบผดุ บงั เกดิ และบานปลาย (Emerging or generative complexity) นอกจากนนั้ ผเู้ ขา้ อบรมจะไดเ้ รยี น รทู้ งั้ ภาคทฤษฏแี ละฝกึ ฝนทกั ษะตา่ ง ๆ อาทิ o ทฤษฎวี า่ ดว้ ยการคดิ 4 ระดบั “มองใหท้ ะลภุ เู ขานำ้� แขง็ ” o การคดิ เชอ่ื มโยง เหตุ (ปจั จยั ) และผลทเ่ี กดิ ขน้ึ (casual loops) o การทำ� แผนทคี่ วามสมั พนั ธ์ ทม่ี องไมเ่ หน็ ดว้ ยตาเปลา่ ดว้ ยการทำ� ความเขา้ ใจ เสน้ ทางการปอ้ นกลบั (Feedback Loops) ทเี่ ปน็ ทง้ั การปอ้ นกลบั เพมิ่ กำ� ลงั ทวคี ณู (reinforcing feedback) การปอ้ นกลบั คานกำ� ลงั (balancing feedback) รจู้ กั การมาชา้ ในระบบทซ่ี บั ซอ้ น (delay) o ความเขา้ ใจเรอื่ ง “โคตรแบบ” (archetypes) ทม่ี กั เกดิ ขนึ้ และ “โคตรแบบยงิ่ แกย้ งิ่ ยงุ่ ” (fix that backfires)
หลกั สตู ร Design Thinking 11 เพอ่ื ออกแบบแนวทางใหมใ่ นการแกป้ ญั หา Design Thinking หรอื การคดิ ดว้ ยมอื เปน็ ปรชั ญาและวธิ กี ารใหมท่ ช่ี ว่ ยใหค้ นทำ� งานฝกึ การ คดิ นอกกรอบดว้ ยกระบวนการของการออกแบบ (design) ซง่ึ ใชอ้ ยเู่ ปน็ ประจำ� ในวงการอตุ สาหกรรม การออกแบบสนิ คา้ และผลติ ภณั ฑต์ า่ งๆ กระบวนการนจี้ ะใชค้ วามฉลาดทางกายคอื มอื ของเราเอง เปน็ หลกั ในการสรา้ งนวตั กรรม และกระตนุ้ เรอื่ งสำ� คญั ในการทดลองหรอื ประดษิ ฐส์ งิ่ ใหมๆ่ คอื กลา้ ลอง กลา้ เสยี่ งกบั ความผดิ พลาดหรอื ลม้ เหลว (risk) แตเ่ รยี นรใู้ หเ้ รว็ จากความผดิ พลาดหลงั จาก ทไ่ี ดท้ ดลองโมเดลจำ� ลอง (prototyping) แลว้ ดว้ ยการแกไ้ ขปรบั ปรงุ โมเดลจำ� ลองใหด้ ขี น้ึ ทดลอง ใหผ้ ใู้ ช้ หรอื ผบู้ รโิ ภคหรอื ผรู้ บั บรกิ ารได้ feedback ตวั โมเดลของเรา ซงึ่ จะทำ� ใหง้ านของเราตอบ สนองผบู้ รโิ ภคตรงเปา้ หลกั สตู รนจ้ี ะสง่ เสรมิ การทำ� งานเปน็ ทมี อยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละสนกุ สนาน โดยไมก่ ลวั ผดิ ฝกึ ใหก้ ลา้ คดิ กลา้ ลอง ทำ� ตวั ใหผ้ อ่ นคลายกบั เครอ่ื งมอื ใหม่ อกี ทงั้ ชว่ ยใหก้ ำ� ลงั ใจกนั และกนั ในทมี เมอ่ื เกดิ ผดิ พลาด แลว้ หาทางพลกิ สถานการณจ์ ากสงิ่ ทผ่ี ดิ พลาดใหเ้ ปน็ คณุ ประโยชนไ์ ด้ ซงึ่ มคี ำ� เรยี กเปน็ ภาษาองั กฤษวา่ serendipity ดงั เชน่ การคน้ พบ post it ของบรษิ ทั 3M ซง่ึ ตง้ั ใจจะผลติ กาวยดึ ให้ ตดิ ดตี ดิ นาน แตเ่ มอื่ ทดลองทำ� กาวนม้ี นั ตดิ แลว้ หลดุ ตดิ ไดไ้ มน่ าน เปน็ ความลม้ เหลวในการประดษิ ฐ์ ทต่ี ดิ แนน่ แตม่ คี นหนง่ึ เกดิ ปง๊ิ ไอเดยี ขนึ้ มา วา่ ถา้ เชน่ นนั้ กเ็ อามาตดิ กระดาษมาแปะตดิ ขอ้ ความสำ� หรบั ใชใ้ นสำ� นกั งาน ทำ� ใหบ้ รษิ ทั รำ�่ รวยจากการพลกิ ความลม้ เหลวใหเ้ ปน็ บวก.. ดงั นนั้ ในการทำ� การฝกึ “คดิ ดว้ ยมอื ” เราอาจจะพบพรสวรรคบ์ างอยา่ งในตวั ของแตล่ ะคน อยา่ งคาดไมถ่ งึ เราเรยี นรทู้ จี่ ะเปน็ เดก็ อกี ครงั้ ในงานจนิ ตนาการทง้ั วาดภาพ ปน้ั และสรา้ งโมเดลใน การนวตั กรรม อนั จะมผี ลดา้ นบวกตอ่ บรรยากาศของทที่ ำ� งานใหม้ คี วามเปน็ มติ ร และคดิ เชงิ บวก มากขน้ึ มนั จะสรา้ ง positive feedback ในการทำ� งานเปน็ ทมี และชมุ ชนเรยี นรทู้ มี่ อี ารมณด์ า้ นบวก เปน็ พนื้ ดนิ ใหค้ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ยม์ คี ณุ ภาพขน้ึ และในตวั ปจั เจกบคุ คลเองมภี มู ติ า้ นทานกบั ความผดิ หวงั สงู ขนึ้ ไมห่ วน่ั ไหวกบั ความลม้ เหลว แตเ่ ดนิ หนา้ ทำ� งานตอ่ ไป
12 การหยัง่ เห็นและปญั ญา (Insights and Wisdom) องค์กรต่างๆ ลงทุนมากมายไปในการพัฒนาบรรดาผู้น�ำของ องคก์ ร ดว้ ยวธิ กี ารวดั ประเมนิ ทกั ษะอาชพี การโคช้ และโปรแกรมอนื่ ๆ อกี มากมาย แตส่ ง่ิ หนงึ่ ทม่ี กั จะขาดหายไป คอื หนงึ่ ในภารกจิ ทจ่ี ำ� เปน็ ทส่ี ดุ ของการเปน็ ผนู้ ำ� นน่ั คอื การเพม่ิ ขดี ความสามารถในการคดิ อยา่ งมคี ณุ ภาพใหก้ บั คนในองคก์ ร เรามักไม่ค่อยได้ตั้งใจพิจารณาคนในองค์กรและผู้น�ำทั้งหลาย ในเรือ่ งกระบวนการคิด ท้งั ทจ่ี รงิ ๆ แล้วเป็นประเด็นสำ� คญั ทีจ่ ะนำ� ไปสู่ ความสำ� เรจ็ ของทกุ องคก์ ร ในบทความน้ี Robin & Charles ชวนเรามองประเด็นส�ำคัญน้ี เขาเหน็ วา่ การรบั รภู้ าวะจติ ใจของเราสามารถนำ� พาใจเราไปสคู่ วาม สงบนงิ่ เราจะสามารถคดิ อะไรไดท้ ะลแุ ละลกึ ซงึ้ การฝกึ ฝนใหท้ กั ษะ ดงั กลา่ วตกผลกึ ในองคก์ รนนั่ คอื คณุ คา่ ทแ่ี ทจ้ รงิ ของผนู้ ำ� Paul M. Cohen, Senior Editor
บทบาททจี่ ำ� เปน็ อยา่ งหนงึ่ ของผนู้ ำ� คอื 13 การหมน่ั หยง่ั รากแหง่ สมองและปญั ญาลงในองคก์ รของตน ผนู้ ำ� ทกุ คนตระหนกั ในขอ้ ดขี องการคดิ ทกี่ ระจา่ งชดั เจนของทมี และขององคก์ ร ตลอดจนใน งานและในชวี ติ ของตนเอง กระนน้ั กต็ าม ในการคยุ กบั ผนู้ ำ� หลายคน พวกเขารายงานวา่ ทมี ของพวก เขามผี ลงานในระดบั ทไ่ี มเ่ หน็ จะตา่ ง มบี อ่ ยครงั้ ทพี่ วกเขามกั พบคนทมี่ รี ะดบั การศกึ ษาสงู เยยี่ ม แต่ วางกลยทุ ธแ์ ละตดั สนิ ใจผดิ พลาด ทง้ั ๆ ทกี่ อ็ ยบู่ นตรรกะท่ี ณ เวลานน้ั ถอื วา่ เปน็ ยอด ในปลายปี 2002 เราเร่ิมค้นหาความจริงว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่การน�ำเสนอแนวคิดและ กระบวนการธรรมดาๆ ไมก่ อ่ี ยา่ งจะสามารถนำ� มาซงึ่ การพฒั นาอยา่ งเหลอื เชอื่ ของการหยง่ั เหน็ และ ปญั ญาในการตดั สนิ ใจในเรอ่ื งตา่ งๆ ของผบู้ รหิ าร สมมตุ ฐิ านของเรากค็ อื ความกระจา่ งแจง้ ในเรอื่ ง ตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในความคดิ อยา่ งสมำ่� เสมอเปน็ ประจำ� มากขน้ึ เรอ่ื ยๆ จะทำ� ใหก้ ารคดิ พฒั นาขนึ้ และ มผี ลตอ่ ไปถงึ การตดั สนิ ใจดว้ ยเชน่ กนั และทา้ ยทสี่ ดุ กน็ ำ� ไปสผู่ ลงานทดี่ ขี น้ึ เพม่ิ ขนึ้ ของบคุ คลและ องค์กร นอกจากนนั้ เรายังคาดหวงั วา่ เมอ่ื การหยง่ั รเู้ จรญิ ข้ึนในตวั บคุ คล กจ็ ะทำ� ใหพ้ วกเขามี วจิ ารณญาณทด่ี ขี น้ึ ทงั้ สว่ นตวั และเรอื่ งธรุ กจิ ซง่ึ เรามกั เรยี กวา่ เกดิ “ปญั ญา” ในบทความนจ้ี ะอภปิ ราย กนั ถงึ ผลการทดลองแนวคดิ นใี้ น 18 เดอื นแรก เราทกุ คนคงเคยเจอเหตกุ ารณข์ ณะทเ่ี รากำ� ลงั เจอปญั หาทแ่ี กแ้ สนยาก แลว้ จๆู่ กเ็ กดิ เหน็ ทางออกแวบ้ ขน้ึ มาในความคดิ ไมร่ มู้ าจากไหน สามารถแกป้ ญั หาไปได้ การเหน็ ทะลใุ นความคดิ ตา่ งๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ สามารถพบไดใ้ น •การพฒั นายทุ ธศาสตรท์ แ่ี ตกตา่ ง ไมธ่ รรมดา และยง่ั ยนื •การสรา้ งนวตั กรรมใหม่ •การผกู พนั สญั ญากบั เปา้ หมายทเ่ี ปน็ ความปรารถนาสงู (High Aspiration Goal) นา่ ประหลาดทกี่ ารปง๊ิ แวบ้ ในหวั มกั จะเกดิ ขน้ึ ตอนกำ� ลงั อาบนำ�้ หรอื บางทกี ต็ อนไปเทยี่ ว ตอนกำ� ลงั วง่ิ ออกกำ� ลงั หรอื ตอนตน่ื นอน แตก่ น็ า่ เสยี ใจยง่ิ ทมี่ นั ไมย่ กั เกดิ ตอนระหวา่ งเวลาทกี่ ำ� ลงั ทำ� งานอยา่ งกดดนั คน้ หาคำ� ตอบนน้ั อยู่ และจำ� เปน็ ตอ้ งคดิ ออกในเวลานน้ั เสยี ดว้ ย วธิ กี ารทเ่ี ราใชแ้ ละไดท้ ำ� การทดสอบซง่ึ เราเรยี กวา่ Insight Thinking Methods (ITM) (ซงึ่ อาจจะแปลเปน็ ไทยวา่ วิธคี ดิ โดยการหยง่ั เหน็ ) นนั้ สามารถชว่ ยใหบ้ คุ คลทง้ั รายบคุ คล หรอื ทีม สามารถมองอะไรไดท้ ะลแุ ละลกึ ซง้ึ มากขนึ้ ตกผลกึ ในตน และทำ� บอ่ ยขน้ึ ในการทำ� งานทอี่ ยใู่ นกรอบ การทำ� ธรุ กจิ เรม่ิ แรกเรานำ� เอากระบวนการตา่ งๆ ดงั กลา่ วไปใชใ้ นการวางยทุ ธศาสตรท์ างธรุ กจิ และใน การแกป้ ญั หาเรอื้ รงั ทเี่ กดิ มานานและแกไ้ มไ่ ด้ ดว้ ยวธิ กี ารมากมายทพ่ี ยายามเอามาใช้ แตห่ ลงั จาก ไดใ้ ช้ ITM ผจู้ ดั การทง้ั หลายรายงานวา่ เกดิ ความคดิ ดๆี ใหมๆ่ มากขนึ้ การตดั สนิ ใจทางธรุ กจิ ดขี นึ้
14 ผดิ พลาดนอ้ ยลง สามารถเขา้ ใจและยอมรบั ความคดิ ใหมๆ่ ของคนอน่ื และรว่ มคดิ กบั คนอนื่ ไดอ้ ยา่ ง มคี วามชดั เจน การกา้ วหนา้ ในการคดิ ซงึ่ ในทา้ ยทสี่ ดุ แสดงออกทผ่ี ลทางธรุ กจิ นน้ั ตอ้ งการเพยี งแค่ เศษทเี่ พมิ่ ขนึ้ ของเวลาและทรพั ยากรทเี่ คยใช้ ผลลพั ธข์ องการคดิ ทมี่ คี ณุ ภาพดขี นึ้ (Outcomes of Better Thinking) ในการทบทวนเกอื บ 20 insight thinking พบองคป์ ระกอบพนื้ ฐานบางประการและผลทาง ธุรกิจท่ีน่าเชื่อถืออีกบางประการ ในหลายๆ กรณี พบว่าเกิดผลข้ึนทันทีโดยตรงจากการ นำ� กระบวนการไปใช้ บางกรณพี บวา่ มนั ไปตกผลกึ อยใู่ นงานทก่ี ำ� ลงั ดำ� เนนิ อยแู่ ละในกระบวนการทาง สงั คม และจะสง่ ผลเมอื่ เกดิ การทำ� งานชนิ้ ใหญๆ่ ทต่ี อ้ งใชค้ นจำ� นวนมาก และมกี ารใชก้ ระบวนการ อน่ื มารว่ มดว้ ย ในกรณแี บบน้ี insight thinking (การคดิ แบบหยงั่ เหน็ ) เปน็ ตวั เพม่ิ เรง่ และ หลอ่ ลน่ื การทำ� งาน ผลในทางบวกเกดิ ขนึ้ มากครง้ั กวา่ ทเี่ คยเปน็ มากอ่ นในประสบการณก์ ารทำ� งานของเรา แตจ่ ะ วา่ ไปกไ็ มใ่ ชเ่ รอ่ื งนา่ ประหลาดใจอะไร เมอื่ คนเราพฒั นาการคดิ ของตนไดด้ ขี นึ้ นำ� ไปสกู่ ารเปน็ คน ฉลาดขน้ึ ผลจะไปตกอยทู่ ที่ กุ แงม่ มุ ทง้ั การทำ� งาน การใชช้ วี ติ สว่ นตวั และการจดั การความสมั พนั ธ์ ในทที่ ำ� งาน insight thinking (การคดิ แบบหยง่ั เหน็ ) แสดงออกที่ •งานเรว็ ขน้ึ ระยะเวลาในการทำ� งานโครงการนอ้ ยลง เรว็ ขน้ึ ถงึ 80% ในบางโครงการ และมแี นวคดิ ทกี่ า้ วหนา้ ในการปฏบิ ตั กิ ารเกดิ ขน้ึ ในระหวา่ งการประชมุ ตวั อยา่ งเชน่ ผบู้ รหิ ารของ บรษิ ทั ผลติ ภณั ฑอ์ าหารระดบั พนั ลา้ นดอลลา่ รส์ หรฐั สามารถแกป้ ญั หาโครงสรา้ งกบั คคู่ า้ ในเอเชยี ซง่ึ แกไ้ มต่ กกนั มาเปน็ เวลา 6 เดอื นมาแลว้ โดยใชเ้ วลาเพยี ง 15 นาที สว่ นอกี บรษิ ทั ผบู้ รหิ ารดา้ น การผลติ สามารถคดิ คน้ ประเมนิ และนำ� เสนอขอ้ สรปุ โครงสรา้ งองคก์ รใหมส่ ำ� หรบั องคก์ รของเขา ทมี่ พี นกั งานหลายพนั คน โดยใชเ้ วลา 6 ชม. •ลดการใชท้ รพั ยากร ใชเ้ งนิ นอ้ ยลง ใชค้ นนอ้ ยลงเทยี บกบั การทำ� งานในแบบเดยี วกนั ในอดตี ตวั อยา่ งหนงึ่ คอื ผบู้ รหิ าร 4 คน สามารถลดงบประมาณประจำ� ปขี องงาน R&D จำ� นวน 250 ลา้ น ดอลลา่ รส์ หรฐั จากทเี่ คยใชเ้ วลาถกเถยี งกนั 6 เดอื น เปน็ ใชเ้ วลาประชมุ 45 นาที •ความเชอื่ มนั่ และความเรยี บงา่ ยของปฏบิ ตั กิ าร พนั ธกจิ กลายเปน็ แกน่ แทแ้ ละตามมาดว้ ยการ ปฏบิ ตั กิ าร ซง่ึ แทบไมต่ อ้ งมกี ารลงไปตรวจสอบ(monitor) หรอื ลงไปชว่ ยแกป้ ญั หาเลย ยงิ่ กวา่ นนั้ คนทำ� งานยงั เกดิ ความรสู้ กึ เชอื่ มนั่ เพม่ิ ขน้ึ ในความสำ� เรจ็ ของภารกจิ และความสำ� เรจ็ ของบรษิ ทั โดยรวม
15 •ประสทิ ธภิ าพการทำ� งานเปน็ ทมี ดขี น้ึ การประชมุ มหี วั ขอ้ ชดั เจนขนึ้ และใหผ้ ลทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ พดู นอกประเดน็ นอ้ ยลง ไมต่ อ้ งยำ�้ แลว้ ยำ�้ อกี การประชมุ ทไ่ี มไ่ ดเ้ รอ่ื งหมดไป สามารถอภปิ รายเรอ่ื ง ยากๆ ในการประชุมท่ีใหญ่ๆ และยังคงสงบน่ิง แม้เผชิญกับความเห็นท่ีแตกต่างในวงประชุม ยกตวั อยา่ ง หลงั จาก 6 สปั ดาหข์ องการทบทวนยทุ ธศาสตรแ์ ละประเดน็ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ปรากฎวา่ ทมี บรหิ ารทไี่ มเ่ ปน็ ระบบกลบั เกดิ ความรว่ มมอื ประสานแรง และรว่ มพนั ธกจิ ตามยทุ ธศาสตร์ หลงั จาก นน้ั 2 เดอื นตอ่ มา เมอื่ บรษิ ทั แมเ่ กดิ การเปลย่ี นแปลงครง้ั ใหญ่ มกี ารแตง่ ตงั้ CEO ใหม่ มกี ารลด คา่ ใชจ้ า่ ย แตท่ มี กย็ งั คงปฏบิ ตั กิ ารและสรา้ งผลงานทำ� ตวั เลขทด่ี เี ยยี่ มเหมอื นเดมิ โดยทว่ั ไป ผลทไี่ ดร้ บั จะมคี ณุ ภาพสงู เกนิ คาด บางครงั้ สงู จนนา่ ประหลาดใจ ผลทเี่ กดิ ขน้ึ แสดงออกในหลายทาง อาทิ ความชดั เจนของยทุ ธศาสตร์ (เรยี บงา่ ย เขา้ ใจงา่ ย เปน็ เรอ่ื งราว ลอก เลยี นแบบไดย้ าก หรอื มคี วามยดื หยนุ่ มากขน้ึ ) ผลกระทบของการแกป้ ญั หา (ตวั เลขดขี นึ้ ) หรอื พฒั นาการทดี่ ขี น้ึ ของความเปน็ ระบบและความรว่ มมอื ในทา้ ยทสี่ ดุ ของกระบวนการ ปรากฏวา่ ปญั หาและประเดน็ ตา่ งๆ ไดร้ บั การวเิ คราะหม์ องดว้ ย สายตาทคี่ มชดั ขน้ึ ปญั หาเกอื บครง่ึ หายไปโดยงา่ ยดายหมดภาระ ไมต่ อ้ งจดั การอะไรอกี เลย โดย สว่ นใหญ่ การคดิ แบบมองทะลหุ รอื หยง่ั เหน็ (Insight Thinking) เกดิ ขนึ้ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ บอ่ ยครงั้ ทใ่ี ชเ้ วลา 30 นาทกี เ็ หน็ ผลอยา่ งไมน่ า่ เชอ่ื อะไรคอื การหยงั่ เหน็ (What is Insight?) Insight หรือการหย่ังเห็น อาจเรียกได้ว่าเป็นรูปแบบเฉพาะของ “Fresh Thoughts” (คดิ สดๆ) อยากใหค้ ณุ ลองคดิ ไตรต่ รองทบทวนดสู กั ครู่ ลองสงั เกตวา่ ทแ่ี ทก้ ารคดิ ของเราสว่ นมาก คอื การเอาความคดิ เดมิ ทเี่ รามอี ยแู่ ลว้ นน่ั แหละมาทบทวน เอามาใชใ้ หม่ ตอ่ ไปเราจะเรยี กความคดิ ชนดิ นวี้ า่ ‘Memory-based thought’ (MBT) หรอื “ความคดิ ทม่ี าจากการจำ� ” สว่ นมากเราจะได้ รบั การศกึ ษามาให้ จดจำ� ซมึ ซบั ขอ้ เทจ็ จรงิ และทฤษฎตี า่ งๆ เพอื่ จะเรยี กออกมาประยกุ ตใ์ ชย้ ามท่ี เกดิ ปญั หาใหมๆ่ เขา้ มาใหแ้ ก้ “ความคดิ ทม่ี าจากการจำ� ” (MBT) จะมปี ระโยชนม์ าก เมอ่ื สามารถเอาไปใชต้ อบปญั หาท่ี เกดิ ขนึ้ ใหม่ หรอื เมอื่ เราหาคำ� ตอบเพอื่ แกป้ ญั หาไดจ้ ากขอ้ เทจ็ จรงิ ทม่ี อี ยใู่ นหวั เราเดมิ “ความคดิ สดๆ” (Fresh Thought) เกดิ ขนึ้ ไมบ่ อ่ ย และสงั เกตเหน็ ไดน้ อ้ ยกวา่ MBT และ เปน็ ความคดิ ท่ี (ไมว่ า่ จะด-ี เลว) ไมเ่ คยอยใู่ นหวั เรามากอ่ น Fresh Thought (การคดิ สดๆ) อาจสง่ ผลทงั้ ดเี ลศิ ประเสรฐิ หรอื อาจสรา้ งความผดิ พลาด แตไ่ มว่ า่ จะเปน็ แบบดหี รอื ไมด่ ี Fresh Thought จะนำ� มาซงึ่ ความรสู้ กึ ทค่ี ดิ ออก สบายใจ และมพี ลงั ซงึ่ ในลำ� ดบั ตอ่ ไป จะชใ้ี หเ้ หน็ วา่ มคี วามสำ� คญั คนสว่ นใหญจ่ ะนกึ ไดแ้ ละจดจำ� ทงั้ Fresh Thought ทดี่ แี ละไมด่ ี
16 ธรรมชาตแิ หง่ การหยง่ั เหน็ (The Nature of Insights) Insight (การหยงั่ เหน็ ) คอื Fresh Thought (การคดิ สด) ทด่ี ี ทมี่ าชใี้ หเ้ ราเหน็ ความจรงิ หรอื ทางออกทเ่ี ราลมื นกึ ถงึ Insight คอื ความรสู้ กึ “ใช”่ นา่ พอใจ นา่ ยนิ ดี แบบเดยี วกบั ความ รู้สึกท่ีเกิดขึ้นตอนเราพบต�ำแหน่งที่จะวางชิ้นต่อจ๊ิกซอว์รูปร่างประหลาดที่เราหาอยู่ต้ังนาน และบอ่ ยครง้ั ทมี่ นั จะเปลย่ี นความเขา้ ใจทเ่ี ปน็ สมมตุ ฐิ านเดมิ อยา่ งถาวรในสถานการณน์ น้ั ๆ ลองย้อนนึกไปถึงตอนอยู่โรงเรียน ตอนที่ไม่ว่าคุณครูจะพยายามอธิบาย ย้�ำแล้วย�้ำอีก เรายงั ไมเ่ ขา้ ใจอยดู่ ี แลว้ ตอ่ มา จๆู่ เรากลบั เกดิ เขา้ ใจขน้ึ มาเอง Insight เหมอื นการมองดนู กทอี่ ยบู่ นตน้ ไม้ ซงึ่ เราหาเทา่ ไหรก่ ม็ องไมเ่ หน็ จนมคี นมาแนะนำ� ใหว้ า่ อยตู่ รงกง่ิ ไหน จากทไ่ี มเ่ หน็ (ทง้ั ๆ ทมี่ อี ย)ู่ กก็ ลบั เหน็ วา่ มนี กอยู่ Insight สามารถเปน็ อะไรทเ่ี ลก็ ๆ-เหมอื นการคน้ พบทางลดั (short cut) ในการเขา้ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ หรอื ขยบั การจบั ไมก้ อลฟ์ นดิ หนอ่ ยกต็ ไี ดเ้ ยย่ี ม เปน็ ตน้ หรอื มนั อาจจะ เหมอื นเปน็ เรอื่ งยง่ิ ใหญข่ นาดพธิ ฉี ลองการกลบั สชู่ วี ติ ใหมข่ องพระเยซู หรอื การคน้ พบทฤษฎสี มั พทั ธภาพของไอนส์ ไตน์ ซง่ึ เขาพดู วา่ มนั คอื “ความคดิ ทเ่ี ปน็ ความสขุ ทส่ี ดุ ในชวี ติ ” Insight ลำ�้ เลยไปถงึ ความเขา้ ใจทางปญั ญา ความสามารถทจ่ี ะจดจำ� ความคดิ ทคี่ นอนื่ เชอื่ ม โยงมาถงึ หรอื ความสามารถทจี่ ะปฏบิ ตั ติ ามกฎขอ้ บงั คบั หรอื คำ� สง่ั จากนน้ั ดว้ ยความเขา้ ใจทล่ี กึ ซง้ึ จะชว่ ยใหค้ ณุ เชย่ี วชาญพอทจี่ ะเขา้ รว่ มในวงถกเถยี งอสิ ระ สามารถเปรยี บเทยี บและโตแ้ ยง้ ความคดิ กบั คนอนื่ ๆ แรกๆ ความคดิ ยงั คงเปน็ ความคดิ ของคนอนื่ แตค่ ณุ กำ� ลงั ผา่ นกระบวนการไปสกู่ ารสรา้ ง มนั จนกระทง่ั ณ เวลาหนงึ่ ทตี่ อบไมไ่ ดว้ า่ เมอ่ื ใด เมอื่ คณุ ไดป้ ระสบการณค์ วามคดิ ดงั กลา่ วท่ี เขม้ ขน้ ขนึ้ และมลี กั ษณะบรู ณาการมากขน้ึ มนั กพ็ ฒั นาเปน็ ความคดิ ของคณุ เอง ความรบั รขู้ อง คณุ เดนิ ไปขา้ งหนา้ อยา่ งยากจะเปลยี่ นแปลง ความเขา้ ใจของคณุ เกย่ี วกบั ทกุ เรอ่ื งในอดตี สามารถ เปลย่ี นไปไดเ้ ชน่ กนั และมกั จะมากเสยี จนคณุ เหน็ ตา่ งไปจากเดมิ การเพม่ิ พลงั การคดิ (Increasing Thought) ไมต่ อ้ งสงสยั เลยวา่ Insight คอื เรอื่ งดี ดงั นนั้ ถามตอ่ วา่ เราจะเพม่ิ มนั ไดอ้ ยา่ งไรกนั คำ� ตอบ งา่ ยๆ คอื การใหเ้ วลามากขนึ้ เกย่ี วกบั ภาวะของจติ ใจทชี่ ว่ ยใหเ้ กดิ Insight ภาวะทเี่ กดิ การถา่ ยเทความรสู้ กึ ความคดิ แตล่ ะความคดิ ไหลเคลอ่ื นจากความคดิ หนงึ่ สคู่ วามคดิ หนง่ึ ดว้ ยจงั หวะทสี่ วยงามตามเวลาของมนั เอง ไมก่ ดดนั ไมร่ บี รอ้ น และไมเ่ รง่ ดว่ น
17 เกดิ สมั ผสั แหง่ ความวา่ งระหวา่ งแตล่ ะความคดิ หายใจ-หยดุ ในแตล่ ะชว่ งวา่ งนนั้ เอง คอื โอกาส เออื้ อำ� นวยของการเกดิ Fresh Thought •ชอ่ งวา่ งระหวา่ งความคดิ คอื โอกาสของการคดิ สด (Insight) •ไมม่ คี วามวา่ งกไ็ มเ่ กดิ Insight หรอื เกดิ กน็ อ้ ย คนทมี่ วี ถิ ชี วี ติ แบบตะวนั ตก จะมลี กั ษณะถกู บงั คบั ถกู กด แตล่ ะความคดิ ถกู บบี คนั้ สอู่ กี ความ คดิ พอถงึ เวลาตอ้ งแกป้ ญั หากเ็ หมอื นเดนิ บนนำ�้ มนั ตอ้ งพยายามควบคมุ ใหผ้ า่ นพน้ ในสถานการณ์ การคดิ แบบน้ี แมจ้ ะดเู ปน็ เรอ่ื งปกติ แตก่ ารเกดิ Insight กล็ ดลงหรอื หมดสนิ้ ไป ตรงขา้ ม การคดิ แบบ Insight ทม่ี องทะลลุ กึ มกี ารไหลเลอ่ื นของความคดิ ในกระบวนคลา้ ย กบั ทม่ี กั ถกู ยกมาเขยี นถงึ บอ่ ยๆ ในบรบิ ทของกฬี าและศลิ ปะการแสดง ความแตกตา่ งขอ้ หนง่ึ คอื Insight Thinking ไมไ่ ดแ้ ปลวา่ ตอ้ งมคี วามรสู้ กึ กระตนุ้ รนุ แรง มนั จะคลา้ ยคลงึ กบั การเดนิ กลบั บา้ น ในเสน้ ทางทคี่ นุ้ เคย งา่ ย สงบ และไมก่ ดดนั หากตอ้ งการเพม่ิ ความถข่ี องการเกดิ Insight กเ็ พยี งแคต่ อ้ งใหเ้ กดิ การ flow ของความ คดิ บอ่ ยๆ ขน้ึ เรอ่ื งดกี ค็ อื ภาวะจติ ใจของ Insight (สงบ วา่ ง จดจอ่ ) นน้ั ธรรมดา และเปน็ ธรรมชาตเิ สยี จนเราไมท่ นั สงั เกตวา่ มนั เกดิ ขนึ้ กบั เรา ชว่ งเวลาใดทเ่ี ราไมไ่ ดอ้ ยใู่ นภาวะจติ ใจดงั กลา่ ว เรากไ็ มร่ ตู้ วั เชน่ กนั วา่ เราออกนอกทางไปแลว้ วธิ กี ลบั มาทภ่ี าวะจติ ใจทส่ี งบกเ็ พยี งแคเ่ ลกิ ฟงุ้ ซา่ น มติ รคนหนง่ึ เปรยี บปรากฏการณน์ กี้ บั การพยายามถอื ลกู บาสเกตบอลใตน้ ำ�้ ภาวะทเ่ี ปน็ ธรรมชาตคิ อื ภาวะทลี่ กู บอลลอยอยา่ งอสิ ระบนผวิ นำ�้ ในขณะทก่ี ารพยายามกดมนั ลงใตน้ ำ้� เกดิ ภาระ ต้องออกแรง ในท�ำนองคล้ายกัน สมองต้องท�ำงานเพื่อสงบภาวะจิตใจ แค่จับสังเกตเรื่องนี้ และ (ถา้ จำ� เปน็ ) หยดุ สง่ิ ทก่ี ำ� ลงั ทำ� ไมว่ า่ จะเปน็ อะไรกต็ าม แลว้ คอ่ ยๆ พาตวั เองกลบั มาสคู่ วาม สงบนง่ิ นด่ี จู ะขดั แยง้ มากกบั ภาวะภายนอกทดี่ เู หมอื นตอ้ งการใหเ้ ราเรง่ รบี ไมใ่ ชช่ า้ ลง สภาวะการหยง่ั เหน็ ของจติ กบั การ “ทง้ิ ”บางสงิ่ ออกไป (Dropping Out of an Insight State of Mind) การคดิ สด ๆ นน้ั (Fresh thinking) โดยหลกั การแลว้ เปน็ เรอื่ งเรยี บงา่ ยมาก แตก่ ย็ ากและ ทา้ ทายทจ่ี ะทำ� ใหเ้ กดิ ขนึ้ ดว้ ยเหตผุ ล 2 ประการ คอื 1) “ความคดิ ทม่ี าจากการจำ� ” (MBT) แมจ้ ะมปี ระโยชนใ์ นบางกรณี แตป่ ญั หาคอื จะกลาย เป็นการย้�ำคิดย�้ำท�ำในตัวเอง เอาวิธีเดิมๆ มาใช้อยู่ตลอด กลายเป็นนิสัย เป็นการครอบง�ำ MBT เองนน้ั มปี ระโยชน์ แตก่ ารเอามาใชแ้ บบเดมิ ๆ ไมท่ ำ� ใหม้ นั เกดิ ประโยชน์ แตก่ ลบั เปน็ อปุ สรรค ตอ่ การไปสู่ Insight โดยเราไมร่ ตู้ วั
18 ผปู้ ฏบิ ตั งิ านทเ่ี กง่ ๆ ในทกุ สาขารายงานวา่ Insight เยย่ี มๆ ของพวกเขา และการคน้ พบ ทางออกของปญั หามกั ไมเ่ กดิ ในการวเิ คราะหท์ เ่ี ครง่ เครยี ด แตเ่ กดิ ตอนทพี่ วกเขาหยดุ พกั และให้ ความสนใจไปทอี่ น่ื เรอ่ื งอน่ื ทไี่ มเ่ กยี่ วกนั กเ็ หมอื นกลา้ มเนอ้ื ของเรา ทงั้ ภาวะหดเกรง็ และภาวะผอ่ น คลาย ลว้ นดี แตก่ ำ� ลงั ของการหดเกรง็ ตอ้ งพงึ่ พงิ ชว่ งระยะเวลาผอ่ นคลาย ถา้ กลา้ มเนอื้ ตอ้ งหดเกรง็ ตลอดเวลา กจ็ ะทำ� ใหห้ มดแรง เชน่ เดยี วกบั ทเ่ี ราตอ้ งสามารถเคลอื่ นอยา่ งพงึ่ พงิ และเปน็ อสิ ระ ระหวา่ ง Fresh Thinking และ MBT ภาวะ Insight คลา้ ยกบั ‘Mindfulness’ การรสู้ ติ การ เอาใจเขามาใสใ่ จเรา ในหลายๆ ศาสนา เปน็ ภาวะตระหนกั รบั รอู้ ยา่ งไรอ้ คติ ตอ่ คณุ ภาพ และสาระ ของความคดิ 2) เมอื่ ภาวะแหง่ ความวา่ งแหง่ ความคดิ อนั เปน็ ภาวะทไี่ มค่ นุ้ เคยปรากฏขน้ึ หลายคนกงั วล เปน็ ทกุ ข์ เหมอื นวา่ ไมม่ คี ำ� ตอบในขณะทหี่ วงั วา่ จะมี เพอ่ื แกค้ วามรสู้ กึ น้ี โดยไมร่ ตู้ วั เราจะเตมิ ชอ่ ง วา่ งนน้ั ในทนั ทดี ว้ ย “ความคดิ เกา่ จากความทรงจำ� ” และนน่ั กค็ อื การทำ� ลายการแสวงหาความ สงบแหง่ จติ และเขา้ ไปสภู่ าวะทไี่ มส่ ามารถไปถงึ Insight สว่ นมากทเ่ี ราไมเ่ กดิ ภาวะ Insight เพราะเราถกู พาใหเ้ ขวออกไปดว้ ยความรสู้ กึ ไมม่ นั่ คง ความ โกรธ ความผดิ หวงั ความกงั วล หรอื ความเหนอ่ื ยลา้ (โปรดระลกึ ไวว้ า่ ภาวะเหลา่ นี้ แทท้ จี่ รงิ คอื ความคดิ และเราทกุ คนสามารถเปลย่ี นความคดิ ไดแ้ มจ้ ะดเู หมอื นเราทำ� ไมไ่ ด)้ ภาวะทเ่ี ปน็ ปจั จยั ลบเหลา่ น้ี มาจากมากมายหลายทาง (รายงานประจำ� สปั ดาหท์ ไ่ี มไ่ ดเ้ รอื่ ง ยอดขายตก เพอื่ นรว่ ม งานขโี้ มโห ลา้ จากงาน และอะไรทำ� นองน)้ี ในขณะทเ่ี รากล็ มื นกึ ไปวา่ เรอื่ งพวกนเี้ ปน็ ปจั จยั ลบ พอเจอเรอื่ งเหลา่ น้ี เรากจ็ ะเฝา้ แตค่ ดิ วเิ คราะห์ ยง่ิ คดิ จติ ยง่ิ ตก ความคดิ สรา้ งสรรคก์ ล็ ดลง ทำ� พลาด มากขน้ึ อกี และเพราะยทุ ธศาสตรท์ ตี่ ง้ั ขนึ้ เพอื่ แกส้ ถานการณ์ คอื ผลผลติ ของกระบวนการคดิ ในภาวะ จติ ไรค้ ณุ ภาพ มนั กเ็ ลยไมป่ ระสบความสำ� เรจ็ เชน่ กนั การคนื สสู่ ภาวะหยง่ั เหน็ ของจติ (Returning to an Insight State of Mind) หลายคนรบั เอาประสบการณท์ างจติ วทิ ยาดงั กลา่ ว ทำ� เปน็ นสิ ยั จนตดิ กบั ไมร่ ตู้ วั หลายคน ไดว้ ธิ ที ฉ่ี ลาดในการเปลย่ี นการคดิ ใหม่ อาทิ เอาความคดิ เชงิ บวกไปแทนความคดิ เชงิ ลบ หรอื คดิ คน้ ทางออกอนื่ ๆ อยา่ งไรกด็ ี งานนที้ งั้ หนกั ทง้ั ยาก และไมม่ วี นั จบ ในการจะใชใ้ จไปชนะใจ ขา่ วดกี ็ คอื โชคดที เี่ ราเกดิ มาพรอ้ มกบั เครอ่ื งวดั ความคดิ มคี ณุ ภาพตดิ ตวั มาดว้ ย นนั่ คอื การเกดิ ขน้ึ หรอื หาย ไปของสงิ่ ทเ่ี ราเรยี กงา่ ยๆ วา่ “good feeling” คำ� นเี้ ราหมายถงึ ความสขุ ภายในทเี่ กดิ ขน้ึ ณ เวลาท่ี เราแกป้ ญั หาตก หวั โลง่ ความคดิ คม ไดร้ บั การยอมรบั และนบั ถอื รสู้ กึ โลกนนี้ า่ อยู่ และกย็ งั มคี วาม รสู้ กึ ดแี บบอนื่ ๆ อาทิ มชี ยั ชนะเหนอื ปรปกั ษ์ ทำ� งานเสรจ็ เปน็ ตน้ ทง้ั หมดเปน็ เรอื่ งดี และสว่ นใหญ่ กด็ ที จี่ ะไดร้ สู้ กึ แบบนนั้ ๆ แต่ Good Feeling ของเราหมายถงึ เฉพาะในกรณที เี่ กย่ี วกบั ภาวะ Insight
19 เมอ่ื ความรสู้ กึ ถกู ตอ้ งตามธรรมชาตทิ อ่ี ยภู่ ายในเกดิ ขน้ึ มนั จะเชอื่ มโยงไปถงึ การเกดิ ปญั ญา แตถ่ า้ ยามทค่ี ณุ รสู้ กึ มวั ซวั สบั สน กดดนั หรอื โกรธ เรอ่ื งดๆี ดงั กลา่ วจะไมเ่ กดิ ขน้ึ Insight Thinking Methods คนทงั้ หลายพยายามทำ� ทกุ วธิ ที จ่ี ะไปสภู่ าวะ Insight บางคนใชว้ ธิ อี อกเดนิ หรอื วงิ่ บางคน ไปพกั ผอ่ น บางคนทำ� สวน บางคนสวดมนต์ บางคนแชน่ ำ�้ บางคนเปา่ แซก็ โซโฟน ถา้ เปน็ ในทท่ี ำ� งาน เวลาตดิ อยใู่ นภาวะจติ ตก ใหย้ นื แลว้ ยดื ตวั หรอื ไมก่ เ็ ดนิ ไปทหี่ นา้ ตา่ ง ดเู มฆ ดรู ถรา ดเู สน้ ขอบฟา้ ไปเรอื่ ยเปอ่ื ย ทง้ั หมดนช้ี ว่ ยได้ แตไ่ มม่ อี นั ไหนทชี่ ว่ ยไดท้ กุ คน หรอื ตลอดเวลา ถา้ มจี รงิ คงตอ้ งมคี น คน้ พบแลว้ ในสงั คมตะวนั ตก มกี ารจงู ใจใหต้ อ้ งการเรยี นรเู้ ทคนคิ ทสี่ ามารถนำ� ไปปรบั ใชต้ ามตอ้ งการ ซงึ่ กม็ อี ยมู่ ากมาย และ Insight Thinking กเ็ ปน็ อยา่ งหนงึ่ ซงึ่ ไมไ่ ดส้ ง่ ผลเหมอื นกระบวนการทเ่ี ปน็ โครงสรา้ ง เชน่ การฟงั เพลง การดรู ปู ภาพการเดนิ เลน่ การอยกู่ บั คนรกั เปน็ ตน้ วธิ กี ารแตล่ ะอยา่ ง ควรนำ� มาใชบ้ างครงั้ บางคราว ใชเ้ มอ่ื เรารสู้ กึ วา่ ใช่ รสู้ กึ สมเหตสุ มผล มากกวา่ จะทำ� เปน็ ประจำ� หรอื ตามสงั่ It’s About the Principles Insight Thinking เปน็ ความเขา้ ใจ ทมี่ ตี อ่ หลกั การมากกวา่ เทคนคิ เรม่ิ ทหี่ ลกั การแลว้ จงึ ไปสทู่ ฤษฎี หรอื เทคนคิ ซง่ึ เปน็ ไปเองอยา่ งเปน็ ธรรมชาติ ซงึ่ มกั เกดิ ขน้ึ ในการเลน่ กฬี า หรอื ศลิ ปะ นกั บาสเกตบอลคนสำ� คญั มคี วามเขา้ ใจแจม่ แจง้ ในเรอื่ งหลกั การ กฎ ยทุ ธศาสตร์ และวธิ ี การเดนิ เกม แตใ่ นการเลน่ แตล่ ะวนิ าที การตดั สนิ ใจจะเกดิ ขน้ึ เองตามธรรมชาติ คลา้ ยกบั Insight Thinking จากหลกั การไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ ทง้ั ประสบการณเ์ ดมิ ทเี่ คยทำ� แลว้ หรอื ทคี่ ดิ ไดใ้ หมใ่ หเ้ หมาะ สมกบั สถานการณน์ นั้ ๆ เปน็ ความสามารถมากกวา่ เปน็ สครปิ ท์ (Script) หลกั ใหญ่ 2 ประการของเรา คอื 1) เมอ่ื จติ สงบ พกั ปราศจากภาวะกดดนั จติ จะเปดิ สู่ fresh thought และ insight 2) ในขณะทเี่ ราเขา้ สกู่ ารตระหนกั รวู้ า่ ความคดิ นำ� ไปสกู่ ารกอ่ รปู ประสบการณข์ องเราอยา่ งไร เราจะไมค่ อ่ ยไขวเ้ ขวจากภาวะสงบ และเมอื่ เราเผลอพน้ ออกไป เราจะกลบั มาหามนั ไดโ้ ดยงา่ ย แกน่ ของ Insight Thinking คอื การดำ� รงภาวะจติ ทต่ี ระหนกั รู้ ในขณะทเ่ี รากำ� ลงั ตอ้ งการมองทะลถุ งึ การแกป้ ญั หา หรอื ประเดน็ ตา่ งๆ เราจดจอ่ อยกู่ บั คุณภาพของความคิดของเรา แล้วในหลากหลายจุดเราเกิดการมองทะลุถึงตัวปัญหา และรู้ว่า
20 ความคดิ มนั ชว่ ยเราอยา่ งไร ลองนกึ ถงึ ตอนทเ่ี ราคดิ จะซอ้ื รถใหม่ จะเหน็ วา่ เราจะเรมิ่ สงั เกตรถตา่ งๆ บนท้องถนนมากข้ึนที่อยู่ในแนวรถท่ีเราชอบ เช่นเดียวกัน หากเราก�ำลังค้นหาภาวะของจิตท่ี ตระหนกั รู้ เราจะหมนั่ สงั เกตและจะเหน็ ภาวะตระหนกั รขู้ องจติ ของเราบอ่ ยครง้ั ขนึ้ และเชน่ กนั ท่ีการสังเกตตัวเราว่า Good Feeling หายไป จะช่วยพาเรากลับมาบนเส้นทางแห่งจิตท่ีสงบ เหมอื นยามทเี่ ราขบั รถออกนอกเลนส์ เราจะหนั กลบั เขา้ มาใหต้ รงเลนโดยเปน็ ไปอยา่ งเปน็ ธรรมชาติ “การสงั เกตและดงึ กลบั ” งา่ ยๆ แคน่ น้ั เองและดว้ ยจติ ทรี่ บั รู้ รวมกบั ประสบการณเ์ ขา้ ไป เราจะทำ� ไดง้ า่ ยๆ และกลายเปน็ second nature ใจของเราจะตง้ั มนั่ และคน้ หาภาวะสงบอยา่ ง เปน็ ไปเองตามธรรมชาติ หลงั จากนน้ั ทกุ อยา่ งดเู หมอื นจะดำ� เนนิ ไปดว้ ยตวั ของมนั เอง สตปิ ญั ญา ทฝ่ี งั ลกึ ตามธรรมชาตจิ ะไดร้ บั การปลดปลอ่ ย และจากนน้ั เราจะไมถ่ กู รบกวนหรอื ออกนอกทางได้ เลย (โดยสญั ชาตญาณแลว้ คนเราจะถกู ปอ้ นขอ้ มลู ใหร้ วู้ า่ จะทำ� อยา่ งไรจงึ เขา้ สภู่ าวะจติ ตระหนกั รทู้ เ่ี กดิ ขนึ้ อยา่ งสมำ�่ เสมอ) การรบั รขู้ องความคดิ เกดิ ขนึ้ นาทตี อ่ นาที Good Feeling กลายเปน็ ความเคยชนิ เปน็ ความปกตอิ นั ใหม่ และเมอ่ื มนั หายไปกจ็ ะถกู ดงึ กลบั ทนั ทโี ดยธรรมชาติ บางครง้ั การเปลย่ี นแปลงของนสิ ยั เกดิ ขน้ึ แวบเดยี ว บางครงั้ กนิ เวลา สำ� หรบั คนสว่ นใหญ่ แลว้ สงิ่ ทต่ี อ้ งมคี อื ความตง้ั ใจ ความอดทน และการฝกึ ฝน โชคดที ก่ี ารฝกึ ฝนไมใ่ ชเ่ รอื่ งหนกั แต่ กลบั สรา้ งความรสู้ กึ ดที ง้ั กายและใจ เคยี งมาดว้ ยความคดิ สรา้ งสรรค์ ไอเดยี บรรเจดิ ผดิ พลาด นอ้ ยลง การตดั สนิ ใจดขี นึ้ และเปน็ ธรรมชาติ เราเพยี งแคใ่ ชช้ วี ติ โดยทำ� ใหด้ ที สี่ ดุ ทจ่ี ะพาตวั เองไปรบั Good Feeling หลกั การของ Insight Thinking สามารถเรยี นรแู้ ละฝกึ ฝนไดท้ ง้ั รายบคุ คล หรอื ในการประชมุ ทมี หรอื ทงั้ สองแบบ ในประเดน็ รายบคุ คลโดยทว่ั ไป ถา้ จะใหด้ คี วรใหบ้ คุ คลไดเ้ ขา้ รว่ มการสนทนา อยา่ งนอ้ ย 2 ครงั้ ครง้ั ละ 75 นาที เพอ่ื ฝกึ การมองใหท้ ะลใุ นประเดน็ ปญั หาทางธรุ กจิ ในประเดน็ เปน็ กลมุ่ หรอื ทมี สามารถนำ� หลกั การตา่ งๆ มาสอนเปน็ กลมุ่ ใชเ้ วลาสกั ชว่ งละครงึ่ ชวั่ โมง บอ่ ยๆ ตลอดวนั สลบั กบั การใหค้ ำ� แนะนำ� ในการนำ� ไปใชใ้ นปฏบิ ตั กิ ารแกป้ ญั หาจรงิ ทงั้ สองแนวทางลว้ น เพ่ือชว่ ยใหค้ นได้เชื่อมตอ่ กบั ภาวะจติ ตระหนกั รขู้ องตน อาจจะโดยการทบทวนและแลกเปล่ียน ประสบการณใ์ นอดตี สกั เรอื่ งสองเรอ่ื งซง่ึ เกย่ี วขอ้ งกบั Insight เมอ่ื คนทง้ั หลายเหน็ ดว้ ยตนเองวา่ ภาวะการมองเหน็ ทะลเุ ปน็ เรอ่ื งทค่ี วรสรา้ ง เพราะทำ� ให้ ตวั เองคดิ อะไรไดด้ ขี นึ้ กจ็ ะเหลอื แตเ่ รอื่ งการฝกึ ฝนจนกวา่ ภาวะ “รสู้ กึ ” เหน็ อะไรไดท้ ะลจุ ะลงรากลกึ จะเปน็ การดหี ากมกี ารสรา้ งโครงสรา้ งซง่ึ ทำ� งานเหมอื น memory aid เพอื่ ชว่ ยดำ� รงภาวะจติ ทร่ี ู้ โครงสรา้ งเหลา่ นนี้ ำ� พาโครงสรา้ งความคดิ หรอื ดงึ ใหเ้ กดิ การทบทวนไตรต่ รอง เชน่ การพยายามมอง ใหท้ ะลเุ มอ่ื ปญั หาชกั จะถงึ ทางตนั การสรา้ งกตกิ าใหมข่ องทมี หรอื การหยดุ เมอ่ื บรรยากาศชกั จะตงึ
การคดิ แบบหยงั่ เหน็ ในทมี (Insight Thinking in teams) 21 เมอื่ คนคอ่ นขา้ งวนเวยี นอยนู่ อกประเดน็ การคยุ คณุ ภาพการคดิ กจ็ ะแยล่ ง โดยเจา้ ตวั กไ็ มท่ นั สงั เกต เหตลุ กั ษณะนหี้ รอื เหตอุ น่ื ๆ ถอื วา่ เปน็ เรอ่ื งทา้ ทายของทมี ทจ่ี ะเหน็ บรรยากาศทก่ี ำ� ลงั เกดิ ขน้ึ คนในทมี ทคี่ นุ้ เคยกบั Insight Thinking กจ็ ะเปน็ เหมอื นทหารยาม จะสงั เกตเหน็ วา่ ทป่ี ระชมุ ชกั จะหนกั หนาและออกนอกประเดน็ แคม่ คี นทเี่ ขา้ ใจอยใู่ นวงเพยี งคนเดยี วกส็ ามารถหา้ มลอ้ ไวไ้ ด้ และบอ่ ยครง้ั ทเ่ี พยี งคำ� ทกั วา่ “the good feeling is gone” (ความรสู้ กึ ทด่ี ไี ดห้ ายไปแลว้ ) กเ็ พยี ง พอทจี่ ะใหท้ กุ คนดงึ การสนทนาเขา้ สเู่ ปา้ ประเดน็ ใหต้ รงขนึ้ ไมใ่ ชข่ อ้ บงั คบั แตจ่ ะเปน็ การดี ถา้ มคี นทมี่ ปี ระสบการณ์ insight thinking คอยชว่ ยดู บรรยากาศการประชมุ แตไ่ มต่ อ้ งเขา้ ไปยงุ่ กบั เนอ้ื หาสาระของการประชมุ และนา่ จะเปน็ คนที่ แนวคดิ การแกป้ ญั หาไมเ่ ปน็ ประเภทเดยี วกบั วงประชมุ และถงึ แมจ้ ะมคี วามเปน็ ไปได้ ทส่ี มาชกิ วง ประชมุ จะทำ� หนา้ ทน่ี เ้ี องได้ แตโ่ ดยทว่ั ไปจะยากในระยะแรกๆ ของการเรยี นรู้ insight thinking หรอื เมอื่ ประเดน็ ในวงประชมุ ชกั จะรอ้ นแรงขนึ้ คนทท่ี ำ� หนา้ ทน่ี ี้ คอื คนทช่ี ว่ ยสรา้ งภาวะใหค้ นเกดิ insight thinking ไมใ่ ชเ่ ปน็ คนหาทางออกปญั หาใหเ้ ขา เรอื่ งนนั้ ใหว้ งประชมุ ทำ� เองคดิ เอง การคดิ แบบหยงั่ เหน็ คอื อนาคตของผนู้ ำ� (The Promise for Leaders) มกั มกี ารพดู ทว่ั ไปวา่ – โลกหมนุ ไปเรว็ มาก การอยบู่ นโลกทก่ี ำ� ลงั เปลย่ี นแปลงใหไ้ ด้ ตอ้ งคดิ ใหเ้ รว็ ขน้ึ มากขน้ึ ประสบการณ์ 18 เดอื นทผ่ี า่ นมาพบวา่ เปน็ จรงิ เพยี งบางสว่ น จะเปน็ การดมี าก ถา้ ผนู้ ำ� จะคดิ ใหช้ า้ ๆ นงิ่ ๆ ลดแนวโนม้ ทจี่ ะคดิ เรว็ และรอ้ นแรง ทผ่ี า่ นมา เรายงั ไมเ่ คยพบปญั หาไหนทไ่ี มม่ ขี อ้ มลู คำ� ตอบ การไปไมไ่ ดเ้ มอื่ เจอปญั หาใหญเ่ กดิ จากความตงึ เครยี ด ไมใ่ ชเ่ กดิ จากขนาดของปญั หา และขนาดของปญั หาทแ่ี ทก้ ำ� หนดโดยการคดิ ของ เราเอง ความสามารถทางสรา้ งสรรคแ์ ละปญั ญาไมม่ ขี อบเขตจำ� กดั และจะแสดงออกมาไดท้ กุ โอกาส ทเ่ี ออื้ อำ� นวย แมใ้ นยามแยท่ สี่ ดุ และโดยเฉพาะในยามทต่ี อ้ งการทสี่ ดุ จติ แพทยร์ มู้ านานแลว้ วา่ คน เราจะหาทางออกได้ เราพบวา่ องคก์ รกเ็ ชน่ กนั ในโลกทที่ กุ องคก์ รตอ้ งกระตนุ้ เสรมิ การคดิ ทส่ี รา้ งสรรคใ์ นทกุ ภาคสว่ น เราเชอื่ วา่ insight thinking จะชว่ ยยดึ โยงสญั ญาใจผนู้ ำ� ทงั้ หลาย ถา้ เราลองพจิ ารณาศกั ยภาพทจี่ ะเกดิ ขนึ้ แลว้ คำ� นวณ ดวู า่ จะมคี ณุ คา่ แคไ่ หน หาก staff ของเราจะมแี นวคดิ ดๆี ใหมๆ่ ออกมาไมข่ าดสาย และลองคดิ ดู วา่ หากมใี ครเกดิ ความคดิ สรา้ งสรรคท์ พ่ี เิ ศษเพยี งหนงึ่ ความคดิ ทส่ี ามารถพลกิ ฟา้ ใหมใ่ หท้ มี ใหบ้ รษิ ทั แกป้ ญั หาทเี่ ลวรา้ ยหมดไป?
22 ผนู้ ำ� การสนทนา: คดิ รว่ มกนั เพอ่ื การเปลย่ี นแปลง (Conversational Leadership) โดย โธมสั เจ เฮอลยี ์ และ ฆวนนติ า บราวน์ “การสนทนาเป็นหนทางที่คนท�ำงานจะได้ค้นพบส่ิงท่ีตนเองรู้ แลกเปล่ียนกับเพื่อนร่วมงาน และกระบวนการน้ันเอง จะน�ำไปสู่การ สรา้ งความรใู้ หมใ่ หก้ บั องคก์ ร ในเศรษฐกจิ ใหม่ การสนทนาเปน็ รปู แบบ ของการงานท่ีมีความส�ำคัญมากที่สุด... มากพอท่ีจะกล่าวได้ว่า การสนทนานน่ั เอง คอื ตวั องคก์ ร” อลนั เวบ็ เบอร์ “เรอื่ งใหมส่ ดุ เกย่ี วกบั เศรษฐกจิ ใหม”่ ฮารว์ ารด์ บสิ ซเิ นส รวี วิ ครง้ั แรกทบ่ี อ็ บ เวสซี -- ซงึ่ ขณะนนั้ เปน็ วศิ วกรอาวโุ สและผจู้ ดั การฝา่ ยผลติ ทโ่ี รงงานฮวิ เลต็ แพค็ คารด์ ในรฐั โอเรกอน สหรฐั อเมรกิ า รว่ มสนทนาแบบเวลิ ด์ คาเฟ่ ระหวา่ งทเี่ ขา้ อบรมหลกั สตู ร “ระบบการจดั การตนเอง” (self-organising system) เขารสู้ กึ เหมอื นวา่ สง่ิ ทม่ี หศั จรรยบ์ างอยา่ ง ไดบ้ งั เกดิ ขนึ้ ในการสนทนา เวลิ ด์ คาเฟ่ คราวนนั้ บอ็ บสมั ผสั ไดว้ า่ ปญั ญากลมุ่ เกดิ ขน้ึ อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั ใน ชว่ งทผี่ คู้ นยา้ ยจากโตะ๊ หนงึ่ ไปอกี โตะ๊ หนง่ึ เพอื่ สนทนากนั ผสมเกสรความคดิ เชอื่ มตอ่ กนั โดยไมค่ าด หวงั แตก่ ไ็ ดส้ รา้ งความรใู้ หม่ และโอกาสในการทำ� งานรว่ มกนั เขากลา่ วหลงั จากนน้ั วา่ :
23 “มบี างอยา่ งทล่ี กึ ซงึ้ และกระตกุ ใจเกดิ ขน้ึ ระหวา่ งสนทนาในสภากาแฟ ผมเกดิ ตระหนกั ขน้ึ มา วา่ แทท้ จี่ รงิ แลว้ เจา้ กลอ่ งสเ่ี หลย่ี มบนผงั องคก์ ร กค็ อื ขา่ ยใยการสนทนาและความสมั พนั ธ์ ในแตล่ ะ วนั พวกเราสนทนากนั อยแู่ ลว้ มคี ำ� ถามทแ่ี ตกตา่ งหลากหลาย เชน่ เดยี วกบั บทสนทนาบนโตะ๊ เหลา่ นน้ั แลว้ เรากย็ า้ ยไประหวา่ ง “โตะ๊ ” เหมอื นกบั ทเ่ี ราทำ� ในบรษิ ทั ผมจงึ ปง้ิ ขน้ึ มาวา่ “นแี่ หละ คอื วถิ ี ทชี่ วี ติ เปน็ ไปอยา่ งแทจ้ รงิ ” แลว้ ผมกเ็ รมิ่ คดิ วา่ : ถา้ หากบทสนทนาและความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ย์ เปน็ หวั ใจของงานทเี่ ราทำ� ละ่ ผม ในฐานะผนู้ ำ� มสี ว่ นเกอื้ กลู หรอื ลดทอนพลงั ของกระบวนการ ธรรมชาตนิ อ้ี ยา่ งไร? พวกเรากำ� ลงั ใชส้ ตปิ ญั ญาของผคู้ นไมก่ ค่ี นหรอื เปลา่ จะเกดิ อะไรขนึ้ หากเราสามารถรวบรวม ความฉลาดของคนเปน็ รอ้ ยเปน็ พนั ได้ ดว้ ยการพงุ่ ความสนใจไปทคี่ ำ� ถามสำ� คญั และนำ� พาผคู้ นให้ เขา้ รว่ มสนทนากนั มากกวา่ น”ี้ หลงั จากนน้ั ไมน่ านนกั บอ็ บกร็ บั จดั กจิ กรรม ความปลอดภยั ของทงั้ บรษิ ทั ซงึ่ นำ� เอาผคู้ น กวา่ 50,000 คน จากโรงงานผลติ ทวั่ โลก มารว่ มสนทนากนั ในเรอ่ื ง การลดความเสยี่ งเพอ่ื ความ ปลอดภยั บอ๊ บจดั ใหผ้ คู้ นทกุ ระดบั ชน้ั ในบรษิ ทั มาพบปะพดู คยุ กนั ในทท่ี พ่ี วกเขามกั รวมตวั กนั อยแู่ ลว้ เขาพกคำ� ถามเขา้ ไปชวนคยุ ในวงสนทนา มากกวา่ ทจ่ี ะเตรยี มคำ� ตอบสำ� เรจ็ ไวแ้ ลว้ และชว่ ยดแู ลการ สนทนาใหห้ ยง่ั ลงไปสมั ผสั ประสบการณ์ ความสมั พนั ธ์ และปญั ญารว่ มของแตล่ ะกลมุ่ เพอ่ื หาวธิ ลี ด อตั ราการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ เวิลด์ คาเฟ ในการสนทนาแบบเวลิ ด์ คาเฟ ผเู้ ขา้ รว่ มจะนงั่ เปน็ กลมุ่ ละสหี่ รอื หา้ คน รอบโตะ๊ เลก็ ๆ หรอื พน้ื ทส่ี ำ� หรบั การสนทนา โตะ๊ ถกู ตกแตง่ ในลกั ษณะ เช่นเดียวกับในร้านกาแฟ มักจะมีผ้าลายตารางสีแดง แจกันดอกไม้ หนงั สอื พมิ พ์ และปากกาสำ� หรบั จดบนั ทกึ ผสู้ นทนารว่ มสบื คน้ “คำ� ถาม สำ� คญั ” ซง่ึ การคดิ รว่ มกนั จะชว่ ยกอ่ ใหเ้ กดิ ความเปลย่ี นแปลง เจา้ ภาพ คนหนงึ่ จะนงั่ อยกู่ บั ทเ่ี พอ่ื แบง่ ปนั ขอ้ คดิ เดน่ ๆ จากบทสนทนาคราวกอ่ น ในขณะท่ีคนอ่ืนย้ายไปโต๊ะใหม่หรือพ้ืนที่ใหม่ เพื่อผสมเกสรความคิด และทศั นะ เมอื่ เชอื่ มโยงบทสนทนาได้ กจ็ ะคน้ พบความรใู้ หม่ ทางออก ของปญั หากจ็ ะปรากฎขนึ้ ปญั ญากลมุ่ จะขยายตวั และพฒั นาขนึ้ หลงั จากผา่ นการสนทนาไปหลายรอบดว้ ยคำ� ถามเดมิ หรอื คำ� ถามอนื่ เพมิ่ เตมิ ผเู้ ขา้ รว่ มกจ็ ะนำ� เสนอมมุ มอง การเรยี นรู้ และทางออกเชงิ ปฏบิ ตั ิ ผา่ น “การเกบ็ เกยี่ วผลผลติ ” ในการสนทนากบั กลมุ่ ทงั้ หมด
24 ทมี งานหลกั ของเขานำ� แนวคดิ ดๆี จากโรงงานหนง่ึ ไปยงั อกี โรงงานหนง่ึ แลกเปลยี่ นเรอื่ งราว และนำ� คนทำ� งานจากทกุ ระดบั ชนั้ และทกุ ภาคสว่ นของบรษิ ทั มาพบและเรยี นรจู้ ากกนั และกนั “การ ประชุมพนักงานที่ผมเข้าร่วมแต่ละคร้ังก็เหมือนกับโต๊ะตัวหน่ีงในสภากาแฟที่คุยกันเรื่องความ ปลอดภยั – เปน็ เครอื ขา่ ยของการสนทนา” เวสซกี ลา่ ว “โตะ๊ ” ของทง้ั บรษิ ทั เชอื่ มโยงกนั ดว้ ยคำ� ถามหลกั ทจ่ี ะตอบโจทยเ์ ปา้ หมายการลดอบุ ตั เิ หตุ ผลลพั ธท์ เ่ี กดิ ขน้ึ นนั้ นา่ ประทบั ใจมาก ในประเทศเปอโตรโิ ก อตั ราการเกดิ อบุ ตั เิ หตลุ ดฮวบ ลงจากรอ้ ยละ 4.2 เปน็ รอ้ ยละ 0.2 ในโอเรกอน หลน่ จากรอ้ ยละ 6.2 เหลอื รอ้ ยละ 1.2 อตั ราการ เกดิ อบุ ตั เิ หตใุ นบรษิ ทั โดยรวมลดลงรอ้ ยละ 33 และความสำ� เรจ็ ในลกั ษณะอยา่ งนก้ี ย็ งั คงอยใู่ นโรงงาน ทย่ี งั คงสนทนาเกยี่ วกบั ความปลอดภยั อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เมอ่ื บอ๊ บ เวสซี เปลย่ี นแปลงมมุ มองวา่ องคก์ รคอื ขา่ ยใยของการสนทนา เขาไดค้ น้ พบภาวะ ผนู้ ำ� ทช่ี ว่ ยเพม่ิ ศกั ยภาพของพนกั งานทฮี่ วิ เลต็ แพค็ คารด์ เขาไดค้ น้ พบอำ� นาจทผ่ี นู้ ำ� การสนทนาจะ เออื้ ใหเ้ กดิ การปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ เพอ่ื บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคร์ ว่ มกนั มองการสนทนาในฐานะกระบวนการหลกั ความสำ� เรจ็ ขององคก์ รวดั ไดจ้ ากขา่ ยใยของมนษุ ยผ์ ู้ มคี วามมงุ่ มน่ั รบั ผดิ ชอบ ซง่ึ ทง้ั น้ี ขา่ ยใยดงั กลา่ วเกดิ ขน้ึ จาก การสนทนาระหวา่ งมนษุ ยด์ ว้ ยกนั เฟอรน์ านโด ฟลอเรส อดตี รฐั มนตรกี ารคลงั ประเทศชลิ ี นกั การศกึ ษา แคโรลนี บาลดว์ นิ นยิ าม ผนู้ ำ� การสอ่ื สารไวว้ า่ คอื “ผนู้ ำ� ทตี่ งั้ ใจใชก้ ารสนทนา เปน็ กระบวนการหลกั เพอื่ บม่ เพาะสตปิ ญั ญารว่ มทจ่ี ำ� เปน็ ตอ่ การสรา้ งคณุ คา่ ทางธรุ กจิ และสงั คม” ทง้ั นี้ ยงั รวมถงึ วธิ มี อง แนวคดิ และแนวปฏบิ ตั ทิ มี่ คี วามสำ� คญั อยา่ งยง่ิ ยวดในปจั จบุ นั ซงึ่ เปน็ หว้ ง เวลาทเ่ี รากำ� ลงั เผชญิ ปญั หาความทา้ ทายทสี่ ลบั ซบั ซอ้ น เราจำ� ตอ้ งพฒั นาวธิ กี ารคดิ รว่ มกนั เพอ่ื นำ� ไปสกู่ ารเปลยี่ นแปลงดา้ นบวก
25 ภาวะวกิ ฤตทิ างการเงนิ และอนาคตทม่ี แี นวโนม้ ไมแ่ นน่ อนสงู ทำ� ใหผ้ นู้ ำ� ในทกุ ภาคสว่ น แสวงหาวถิ ที างใหมใ่ นการพฒั นาทนุ องคก์ รและชมุ ชน เพอื่ สรา้ งผลกระทบเชงิ ยทุ ธศาสตรใ์ หม้ ากขนึ้ ทกุ สว่ นตา่ งเนน้ ความพยายามทจี่ ะตดั คา่ ใชจ้ า่ ย เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพ แขง่ ขนั อยา่ งมปี ระสทิ ธผิ ล สรา้ ง นวตั กรรม แตด่ เู หมอื นวา่ การดำ� เนนิ การดงั กลา่ วโดยมากไมอ่ าจบรรลผุ ลทตี่ ง้ั ใจไว้ หรอื ไมก่ ก็ อ่ ให้ เกดิ ผลทไ่ี มพ่ งึ ประสงคต์ ามมา ซงึ่ ภายหลงั จำ� ตอ้ งมกี ารดำ� เนนิ การอนื่ เพม่ิ เตมิ จะเปน็ อยา่ งไร หากการดำ� เนนิ การดงั กลา่ วใหค้ วามสำ� คญั กบั กระบวนการทล่ี กึ ซงึ้ ขน้ึ อยา่ ง กระบวนการสนทนา และสรา้ งหรอื ใหค้ วามหมายใหมก่ บั ความเปน็ จรงิ ทเี่ กดิ ขน้ึ ดงั ทนี่ กั ชวี วทิ ยาววิ ฒั นาการ ฮมุ เบอรโ์ ต มาทรู านา กลา่ วไว้ เราดำ� รงชวี ติ อยใู่ นภาษาและ ดำ� เนนิ กจิ กรรมตา่ งๆ ทส่ี อดประสานเชอื่ มโยงกนั โดยมภี าษาเปน็ เครอื่ งมอื ทำ� ใหเ้ ปน็ จรงิ นบั แตค่ รงั้ บรรพบรุ ษุ ของเราลอ้ มวงอยรู่ อบกองไฟ การพดู คยุ เปน็ ปฐมบทของการคน้ พบความสนใจรว่ มกนั แลกเปลยี่ นความรู้ ฝนั ถงึ อนาคต และรว่ มมอื กนั เพอื่ ความอยรู่ อดและขยายเผา่ พนั ธ์ุ การผสมเกสรของความสมั พนั ธ์ ความคดิ และความหมายในขณะทผ่ี คู้ นเคลอ่ื นยา้ ยจากบท สนทนาหนงึ่ ไปสบู่ ทสนทนาหนงึ่ ชว่ ยเออ้ื ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ การสบื คน้ แสวงหา และการทำ� งานรว่ มกนั จากมมุ มองนเ้ี อง การสนทนากค็ อื การกระทำ� - เปน็ ดง่ั จงั หวะการเตน้ ของหวั ใจและโลหติ หลอ่ เลย้ี งชวี ติ ของระบบสงั คมอยา่ ง องคก์ ร ชมุ ชน และวฒั นธรรม ตามถอ้ ยคำ� ของมาทรู านา เรา “ผลกั หมนุ โลกใหเ้ คลอ่ื นไป” ดว้ ยเครอื ขา่ ยการสนทนา การวเิ คราะหเ์ ครอื ขา่ ยทางสงั คมอาจชว่ ยใหเ้ รามองเหน็ ภาพเครอื ขา่ ยเหลา่ นนั้ ไดช้ ดั เจนขน้ึ เทคโนโลยสี มยั ใหมแ่ ละสอื่ ทางสงั คม อยา่ ง บลอ็ ก วกิ ิ และชมุ ชนแนวปฏบิ ตั อิ อนไลน์ ชว่ ยใหเ้ รา ขยายขอบเขตการสนทนาอยา่ งกวา้ งขวาง ลกึ ซงึ้ และรมุ่ รวยขนึ้ โอกาสและความรว่ มมอื ใหมๆ่ เรม่ิ จากกลมุ่ เลก็ ๆ และคอ่ ยๆ ขยายไปสขู่ า่ ยวงทก่ี วา้ งขนึ้ – และน่ี หมายถงึ เรากำ� ลงั สรา้ งอนาคต ผนู้ ำ� การสอ่ื สารจะเหน็ องคก์ รเสมอื นขา่ ยใยชวี ติ ของการสนทนา และใหค้ วามสำ� คญั กบั การ สนทนา ในฐานะเปน็ กระบวนการหลกั ทสี่ ง่ ผลดา้ นบวกตอ่ การเปลยี่ นแปลงอยา่ งเปน็ ระบบ ยทุ ธวธิ ี ในการนำ� กระบวนการนไี้ ปใช้ ไมเ่ พยี งแตข่ ยายตน้ ทนุ ทางสตปิ ญั ญาและสงั คม หากยงั สรา้ งความรว่ ม มอื ในโลกทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยเครอื ขา่ ยความสมั พนั ธข์ องสงิ่ ตา่ ง ๆ วธิ ที เ่ี รารว่ มกนั ระบปุ ญั หาและทางออก ใชเ้ ทคโนโลยที างสงั คมเพอื่ ประสานงานและคดิ รว่ ม กนั เปลยี่ นเราจากการ “ดำ� เนนิ การอยา่ งทเ่ี คยๆ ทำ� ” มาสวู่ ธิ คี ดิ และปฏบิ ตั แิ บบใหมท่ เ่ี หมาะกบั สถานการณแ์ ละปญั หาในปจั จบุ นั ดว้ ยการออกแบบ ประชมุ และเปน็ เจา้ ภาพในการสนทนากบั คำ� ถามทมี่ คี วามหมายและสำ� คญั – และเชอ่ื มโยงบทสนทนาอยา่ งเปน็ ระบบระเบยี บ – ผนู้ ำ� จะเขา้ ถงึ ปญั ญากลมุ่ และชว่ ยนำ� ไปสกู่ ารปฏบิ ตั เิ พอ่ื เปา้ หมาย
26 ฉะนน้ั แทนทจี่ ะแนะนำ� ใหเ้ ดก็ นกั เรยี นและลกู จา้ งขององคก์ ร “เลกิ พดู และตงั้ หนา้ ตง้ั ตา ทำ� งานไป” เราอาจจะตอ้ งกระตนุ้ พวกเขาให้ “เรมิ่ พดู คยุ และสรา้ งสรรคง์ านดว้ ยกนั ” หลกั การฝกึ ฝนผนู้ ำ� การสนทนา ยุทธวิธีในการพัฒนาการสนทนาให้กลายเป็นกระบวนการหลัก หรือท�ำให้องค์กรเร่ิม “คดิ ดว้ ยกนั เพอ่ื การเปลยี่ นแปลง” นน้ั เปน็ อยา่ งไร? หากการสนทนาเปน็ สอื่ ในการฝกึ ฝนศลิ ปะแหง่ ผนู้ ำ� – หนทางในการสรา้ งคณุ คา่ ทางสงั คมและธรุ กจิ – เราจะฝกึ ฝนศลิ ปะและทกั ษะนไี้ ดอ้ ยา่ งไร? เราขอเสนอหลกั การงา่ ยๆ ในการทำ� ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การฝกึ ฝนผนู้ ำ� การสนทนา ซงึ่ อาจ ประยกุ ตใ์ ชไ้ ดห้ ลายระดบั ตง้ั แตก่ ารออกแบบการประชมุ แบบงา่ ยๆ ไปจนถงึ การพฒั นาหลกั สตู ร หลายระดบั ขนั้ หรอื กจิ กรรมวา่ ดว้ ยการเปลยี่ นแปลงเชงิ ยทุ ธศาสตรข์ นาดใหญแ่ ละยง่ั ยนื ในการออกแบบสถาปตั ยกรรมการสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพนน้ั ผนู้ ำ� การสอ่ื สาร จะตอ้ ง:
· ชดั เจนในวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายเชงิ กลยทุ ธ์ 27 · สบื คน้ ประเดน็ ปญั หาและคำ� ถามสำ� คญั · สรา้ งการมสี ว่ นรว่ มจากทกุ ภาคสว่ นทเ่ี กยี่ วขอ้ ง · มที กั ษะในการใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื สรา้ งความรว่ มมอื ทางสงั คมไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ · นำ� พาสตปิ ญั ญารว่ มไปสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ ม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ · ดแู ลการพฒั นาศกั ยภาพทนี่ ำ� ไปสนู่ วตั กรรมใหม่ เราจะทำ� ความเขา้ ใจแตล่ ะกระบวนการตามลำ� ดบั ขณะทท่ี า่ นอา่ น ใหพ้ จิ ารณาตามไปดว้ ย วา่ ในเวลาทที่ า่ นใชก้ ระบวนการเหลา่ น้ี เกดิ อะไรขนึ้ บา้ ง และไตรต่ รองถงึ ผลกระทบทอี่ าจเกดิ ขน้ึ ถา้ กระบวนการบางอยา่ งขาดหายไป หรอื นำ� ไปใชอ้ ยา่ งไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ ชดั เจนในวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายเชงิ กลยทุ ธ์ “วัตถปุ ระสงค์ของเปา้ หมายเชิงกลยุทธ์ คือการเช่ือมโยง อนาคตสู่ปัจจุบัน ... ขณะท่ีเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ชัดเจนเรื่อง ผลลพั ธ์ แตก่ ม็ คี วามยดื หยนุ่ เชงิ วธิ กี าร – ดว้ ยการใหพ้ น้ื ทก่ี บั การ ดน้ สด การบรรลเุ ปา้ หมายเชงิ กลยทุ ธจ์ ำ� ตอ้ งมกี ารสรา้ งสรรคท์ ่ี สอดคลอ้ งกบั วธิ กี าร” แกรี ฮาเมล และ ซี เค ปราหแ์ ลด จาก “เปา้ หมายเชงิ กลยทุ ธ”์ ในฮารว์ ารด์ บสิ ซเิ นส รวี วิ ความชดั เจนในวตั ถปุ ระสงคห์ รอื เปา้ หมายเชงิ กลยทุ ธ์ เปน็ บาทฐานแรกของการออกแบบวธิ ี การสรา้ งการมสี ว่ นรว่ ม วตั ถปุ ระสงคเ์ ปน็ เครอ่ื งกำ� หนดวา่ ประเดน็ ปญั หา หรอื ทางออกไหนมคี วาม สำ� คญั และคำ� ถามอะไรทม่ี คี วามหมาย เปน็ สง่ิ ทช่ี ว่ ยใหผ้ นู้ ำ� คน้ พบวา่ ใครเปน็ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ท่ี เกย่ี วขอ้ งบา้ ง และเลอื กใชเ้ ทคโนโลยที างสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทจ่ี ะสนบั สนนุ ลกั ษณะของการ ทำ� งานรว่ มกนั เพอื่ บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ และยงั ชว่ ยพฒั นากลยทุ ธแ์ ละเออื้ อำ� นวยใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มสามารถ ตดั สนิ ใจไดว้ า่ ตอ้ งทำ� อะไร และไมต่ อ้ งทำ� อะไร เมอื่ ตอ้ งตดั สนิ ใจอยา่ งทนั ทเี พอ่ื รบั มอื สถานการณท์ ี่ ผนั ผวน
28 เมอื่ ครง้ั ทดี่ ร. ฟลิ แคส รบั เปน็ ซอี โี อของมลู นธิ แิ ละสมาคมแพทยโ์ คลมั บสั ทโี่ อไฮโอ เขามี กติ ตศิ พั ทใ์ นการเปน็ ผนู้ ำ� แบบ “ควบคมุ บงั คบั บญั ชา” แตเ่ ขากร็ ดู้ วี า่ ถงึ เวลาทจี่ ะตอ้ งนำ� แบบอนื่ แลว้ “ผมเรม่ิ ตน้ งานใหมด่ ว้ ยการแสดงความประสงคท์ จ่ี ะสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มของผทู้ เี่ กยี่ วขอ้ ง ทงั้ หมด ผมเลอื กแนวทางทใี่ หอ้ สิ ระทางความคดิ กบั ลกู นอ้ งและคณะกรรมการบรหิ าร” เขากลา่ ว “ผมไมร่ หู้ รอกวา่ จะตอ้ งทำ� ยงั ไง แลว้ กบ็ อกพวกลกู นอ้ งไปวา่ เราตอ้ งใช้ “เซลลส์ มอง” ทกุ เมด็ ทมี่ ใี หเ้ กดิ ประโยชนเ์ พอ่ื ไปสคู่ วามสำ� เรจ็ ผมแสดงเจตจำ� นงคอ์ ยา่ งแจม้ ชดั ทจ่ี ะสรา้ งระบบของ “การนำ� ได”้ และไมเ่ คยไขวเ้ ขวไปจากแนวทางนเี้ ลยนบั แตบ่ ดั นนั้ ” เพอ่ื บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคน์ ้ี ฟลิ เรม่ิ นำ� เสนอ หนทางการสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มจากทกุ ภาคสว่ นท่ี เกย่ี วขอ้ ง ดว้ ยการแลกเปลย่ี นสนทนาในประเดน็ สำ� คญั ๆ เขาเรมิ่ จากองคก์ ารของตวั เองกอ่ น ตาม ดว้ ยชมุ ชนในขอบขา่ ยกวา้ งขนึ้ จนภายหลงั ไดน้ ำ� ไปสกู่ ารกอ่ ตงั้ Our Optimal Health ซง่ึ เปน็ กระ บวนการรเิ รมิ่ ระดบั ชาติ ทรี่ วมผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี หลายฝา่ ย โดยมเี ปา้ หมายในการเปลยี่ นแปลงสขุ ภาวะ ทงั้ ระดบั ปจั เจกและชมุ ชน ไปพรอ้ มกนั กบั การสรา้ งระบบสขุ ภาพทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ เมอื่ เวลาผา่ นไป ความรสู้ กึ ของการทำ� งานรว่ มกนั กง็ อกงาม มผี คู้ นเขา้ รว่ มมากขนึ้ ทำ� ใหก้ าร ทำ� งานมชี วี ติ ชวี า “งานชว่ งแรกทที่ ำ� รว่ มกบั ผนู้ ำ� ชมุ ชน เรม่ิ ดว้ ยเปา้ หมายระยะสนั้ ในการปลกู เมลด็ พนั ธก์ุ ารสนทนาทม่ี คี วามหมายลงในพน้ื ทส่ี าธารณะ” เขากลา่ ว “แตเ่ ปา้ หมายระยะยาวคอื การเปลยี่ นแปลงคณุ ภาพการสนทนาในชมุ ชนของเรา” ชมุ ชนสบิ แหง่ กอ่ ตวั ขน้ึ และสมั พนั ธภาพ ความรว่ มมอื ระหวา่ งบคุ คล กบั สาธารณะ กเ็ รมิ่ ทำ� ใหเ้ ปา้ หมายนนั้ เปน็ จรงิ ขนึ้ มา ฟลิ และเครอื ขา่ ยผนู้ ำ� ทเ่ี ตบิ โตจากชมุ ชนเหลา่ นน้ั กำ� ลงั แผว้ ถางทางในการกา้ วขา้ มอปุ สรรค ปญั หาทางสาธารณสขุ และหาทางออกของปญั หารว่ มกนั เขาใชก้ ระบวนการกำ� หนดเปา้ ประสงคท์ ี่ ชดั เจน และเทคโนโลยที างสงั คมอยา่ ง เวลิ ด์ คาเฟ่ กระบวนการรปู ตวั ยู และศลิ ปะของการเปน็ เจา้ ภาพ ความพยายามของพวกเขาแสดงใหเ้ หน็ วา่ วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายเชงิ กลยทุ ธท์ ำ� หนา้ ที่ เปน็ “ตวั ดงึ ดดู ” ใหเ้ กดิ การสนทนาและสานขา่ ยใยทมี่ ศี กั ยภาพ ปราศจากเสยี ซง่ึ วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายเชงิ กลยทุ ธแ์ ลว้ ยอ่ มไมม่ ใี ครรไู้ ดว้ า่ เราจะไปในทศิ ทางไหนหรอื ทำ� ไม
สบื คน้ ประเดน็ ปญั หาและคำ� ถามสำ� คญั 29 “การเปลย่ี นแปลงถงึ รากฐานเกดิ ขน้ึ เมอ่ื ผคู้ นเรม่ิ ตง้ั คำ� ถามรว่ มกนั ค�ำถามเหล่าน้ันสร้างบทสนทนาแห่งการเรียนรู้ได้มากกว่าการถกเถียง อยา่ งตน้ื เขนิ เกย่ี วกบั ปญั หา” ไมค์ ซสิ แมนไซค์ กรรมการและผบู้ รหิ ารสงู สดุ กลมุ่ อลั เทรยี เราจะวดั ภาวะผนู้ ำ� ในทกุ ระดบั ชน้ั ขององคก์ รได้ กจ็ ากประเดน็ และคำ� ถามเชงิ กลยทุ ธท์ เี่ ขา เหน็ และตง้ั ขน้ึ มาวา่ จะเฉยี บคมลมุ่ ลกึ เพยี งใด ประเดน็ ปญั หาสำ� คญั ดงึ พลงั ความสนใจของเรา ปลกุ เรา้ ความปรารถนา และกระตนุ้ พลงั งาน ในตวั เราออกมา พวกเรามแี รงจงู ใจใหเ้ รยี นรแู้ ละลงมอื ทำ� จากประเดน็ คำ� ถามทเ่ี ราสนใจมากทส่ี ดุ บอ่ ยครงั้ ทเ่ี รามกั จะถกเถยี งหรอื ดำ� เนนิ การในเรอ่ื งตา่ งๆ โดยไมพ่ จิ ารณาใครค่ รวญวา่ อะไรคอื ปญั หา หรอื ใครค่ รวญไปจนถงึ คำ� ถามทล่ี กึ ลงไปอกี ซง่ึ อาจจะนำ� ไปสวู่ ธิ คี ดิ ใหมๆ่ ได้ ผนู้ ำ� การสนทนาจำ� ตอ้ งพฒั นาศกั ยภาพในการปลกุ เรา้ ใหผ้ คู้ นตระหนกั เหน็ ประเดน็ คำ� ถามที่ เปน็ หวั ใจ และดแู ลศกั ยภาพเหลา่ นข้ี องผคู้ นในองคก์ รหรอื ชมุ ชน ตวั อยา่ งเชน่ ภายใตก้ ารนำ� ของพอล บอรอฟสกี สมาคมคณุ ภาพอเมรกิ นั ไดเ้ รมิ่ กระบวนการ “กลยทุ ธท์ มี่ ชี วี ติ ” เพอื่ กำ� หนดทศิ ทางสมาคมในอนาคต ในการประชมุ รว่ มกบั คณะกรรมการวางแผนเชงิ กลยทุ ธข์ องคณะกรรมการบรหิ าร พอลไมไ่ ด้ จดั ทำ� แผนการดำ� เนนิ งานหนง่ึ หนา้ กระดาษอยา่ งทเ่ี คยทำ� มา ซงึ่ มกั จะตงั้ อยบู่ นสมมตฐิ านแบบโดดๆ วา่ ประเดน็ ปญั หานน้ั กระจา่ งชดั เจนอยแู่ ลว้ แตค่ ราวน้ี พอลเนน้ ไปทกี่ ารสบื คน้ คำ� ถามเชงิ กลยทุ ธ์ ทจ่ี ะนำ� ไปสคู่ ำ� ตอบใหมๆ่ เขาจำ� ไดว้ า่ การประชมุ ครง้ั แรก “ไดเ้ ปลย่ี นแปลงสมาคมคณุ ภาพอเมรกิ นั แบบปลน้ิ เนอ้ื ในสเู่ นอ้ื นอกเลยทเี ดยี ว คณะกรรมการเรม่ิ ตง้ั คำ� ถาม ทพ่ี บวา่ ตนเองไมใ่ ชผ่ หู้ าคำ� ตอบ บางคนอยากจะเขา้ ไปหาคณะกรรมการ บรหิ าร บางคนอยากจะใหส้ มาชกิ ทง้ั หมดเขา้ รว่ มสนทนา ทงั้ หมดทง้ั นน้ั นำ� ไปสคู่ วามเขา้ ใจวา่ เรา ตอ้ งการผคู้ นอกี มากมาชว่ ยกนั คน้ หาคำ� ตอบ สำ� หรบั คำ� ถามเชงิ กลยทุ ธท์ ต่ี ง้ั ขนึ้ มาในการประชมุ ครง้ั แรกนนั้ ”
30 ฟลิ แคส ยงั ไดค้ น้ พบพลงั แหง่ การตงั้ ประเดน็ คำ� ถามสำ� คญั จากการสนทนาในชมุ ชนวา่ ดว้ ย เรอื่ งสขุ ภาวะดว้ ย แพทยค์ นหนงึ่ ถามวา่ “ชมุ ชนจะสรา้ งระบบสขุ ภาพทพ่ี อจา่ ยไหวและยงั่ ยนื สำ� หรบั ทกุ คนไดอ้ ยา่ งไร?” ผเู้ ขา้ รว่ มตระหนกั ไดว้ า่ การเปลย่ี นแปลงขน้ั พนื้ ฐานมคี วามจำ� เปน็ เราตอ้ งเปลย่ี น ทศั นะทห่ี มกมนุ่ กบั การรกั ษาเยยี วยาโรค มาเปน็ การสง่ เสรมิ สขุ ภาวะทดี่ ที สี่ ดุ ดว้ ย ความสำ� เรจ็ รว่ ม กนั นเี้ ปน็ แรงบนั ดาลใจใหก้ บั งานดา้ นการบกุ เบกิ Our Optimal Health ปราศจากเสยี ซง่ึ การเนน้ ยำ้� ประเดน็ สำ� คญั และคำ� ถาม ทม่ี คี วามหมาย ยอ่ มไมม่ เี หตผุ ลทจี่ ะกระทำ� การใดๆ และไมม่ บี รบิ ทใดสำ� หรบั การเรยี นรรู้ ว่ มกนั สรา้ งการมสี ว่ นรว่ มจากทกุ ภาคสว่ นทเี่ กยี่ วขอ้ ง “ภารกิจของผู้น�ำคือการมุ่งม่ันใส่ใจหนทางในการรวม กลมุ่ ผคู้ น และคำ� ถามทด่ี งึ พวกเขาเขา้ มามสี ว่ นรว่ ม” ปเี ตอร์ บลอ็ ค คำ� ตอบของอยา่ งไรกค็ อื ใช่ จากประสบการณข์ องสมาคมคณุ ภาพอเมรกิ นั กระบวนการกำ� หนดประเดน็ ปญั หาสำ� คญั จะ ชว่ ยฉายใหเ้ ราเหน็ ความตอ้ งการทช่ี ดั ขน้ึ เหน็ เสยี งอนั หลากหลายทเ่ี ปน็ ตวั แทนสว่ นตา่ งๆ ของระบบ และเหน็ มมุ มองทแ่ี ตกตา่ งในประเดน็ ทต่ี งั้ ไว้ แกรี ฮาเมลเนน้ ยำ้� เรอื่ งนวี้ า่ “ววิ ฒั นาการเชงิ กลยทุ ธท์ ม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพนนั้ ขนึ้ อยกู่ บั การสรา้ ง ขา่ ยใยโยงใยบทสนทนา กา้ วขา้ มความรทู้ แี่ ยกสว่ นเปน็ แทง่ ๆ และสรา้ งสว่ มผสมของความคดิ และ ปญั ญาญาณอนั นา่ ตน่ื ใจ” การผุดบังเกิดของทีมงานที่ประกอบด้วยบุคลากรข้ามสายงาน บทสนทนาแลกเปลี่ยน ระหวา่ งผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี หลายฝา่ ย กระบวนการทน่ี ำ� เอาระบบองคร์ วมมาไวใ้ นหอ้ งเดยี วกนั เปน็ เครอื่ งแสดงใหเ้ หน็ วา่ เราจำ� เปน็ ตอ้ งมี “ระบบนเิ วศทางความคดิ ” อนั บรบิ รู ณ์ เพอ่ื ทำ� ความเขา้ ใจ ประเดน็ สำ� คญั ตา่ งๆ พฒั นาทางออกอยา่ งเปน็ ระบบ มองเหน็ เรอื่ งราวอยา่ งครอบคลมุ กระจา่ งชดั และเรง่ ปฏกิ ริ ยิ าสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มและสนบั สนนุ การเปลยี่ นแปลงองคห์ รอื ชมุ ชน
31 ผนู้ ำ� การสนทนาเรมิ่ จากการมศี รทั ธาในปญั ญากลมุ่ – เชอื่ วา่ เมอื่ ทำ� งานรว่ มกนั เรายอ่ ม ฉลาดขนึ้ สรา้ งสรรคข์ น้ึ และมศี กั ยภาพมากขนึ้ มากกวา่ ทจี่ ะทำ� งานคนเดยี ว ในทางปฏบิ ตั ิ นยี่ อ่ มนำ� ไปสกู่ ารตง้ั คำ� ถามวา่ “ใครจะตอ้ งอยทู่ โ่ี ตะ๊ ประชมุ บา้ ง? เพราะวา่ เขา มที ศั นะหรอื ขอ้ มลู ทจี่ ำ� เปน็ ตอ้ งใช?้ เพราะวา่ เขามบี ทบาทสำ� คญั ในการตดั สนิ ใจ? เพราะวา่ เขามสี ว่ น รว่ มในการดำ� เนนิ งาน? เพราะวา่ เขาไดร้ บั ผลกระทบจากการตดั สนิ ใจและการดำ� เนนิ งานทเี่ กดิ ขน้ึ ?” การทผี่ มู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ทง้ั หมดเขา้ รว่ มการสนทนา และผสมเกสรทศั นะทห่ี ลากหลาย เปน็ หวั ใจ หลกั ของกระบวนการรเิ รม่ิ 2007 ของบรษิ ทั โนเกยี เพอ่ื สรา้ งคณุ คา่ หลกั ขนึ้ มาใหม่ พนกั งานโนเกยี และมลู นธิ ชิ มุ ชนเวลิ ด์ คาเฟ ไดร้ ว่ มกนั เปน็ เจา้ ภาพจดั “สภากาแฟวถิ โี นเกยี ” 16 แหง่ ใน 9 ประเทศ โดยมพี นกั งานเขา้ รว่ มกวา่ 3,000 คน จากทกุ ระดบั ชน้ั ขององคก์ ร คนงาน นกั ออกแบบผลติ ภณั ฑ์ พนกั งานขาย นกั พฒั นาซอฟทแ์ วร์ ผบู้ รหิ ารอาวโุ ส ฯลฯ ได้ เขา้ รว่ มการสนทนาแบบเหน็ หนา้ กนั แลกเปลย่ี นสนทนาเรอื่ งคณุ คา่ ทจ่ี ะนำ� พาโนเกยี ไปสบู่ รษิ ทั อนิ เทอรเ์ นตทดี่ ที สี่ ดุ ตลอดจนวธิ เี ชอ่ื มโยงคณุ คา่ หลกั เหลา่ นน้ั กบั ความสำ� เรจ็ เชงิ ธรุ กจิ แนวคดิ เดน่ ๆ จากการสนทนาไดน้ ำ� มาแบง่ ปนั และเผยแพรท่ างออนไลนใ์ หก้ บั ทกุ คนในบรษิ ทั ผา่ นเวบ็ บลอ็ กวดี โี อ จดุ สดุ ยอดของงานอยทู่ ี่ “โนเกยี แจม” ซงึ่ ไดน้ ำ� เอาพนกั งานทวั่ โลกเขา้ รว่ ม สนทนาเชงิ กลยทุ ธเปน็ เวลา 72 ชวั่ โมง คน้ หาจดุ รว่ มในบรรษทั ขนาดใหญร่ ะดบั โลก งานนม้ี คี วาม ทา้ ทายอยมู่ าก แตค่ ณุ คา่ ใหมท่ เ่ี กดิ ขน้ึ จากงานกม็ คี วามสดใหมแ่ ละทรงพลงั ยง่ิ และไดร้ บั การตอบ รบั อยา่ งกวา้ งขวาง โดยเหตทุ กี่ ระบวนการทผ่ี า่ นมาไดร้ วมเอาผคู้ นจากทกุ สว่ นของบรษิ ทั ขา้ มทง้ั สายงาน วฒั นธรรม และเสน้ แบง่ ระดบั ชนั้ ในการทำ� งาน ปราศจากเสยี ซง่ึ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ทสี่ ำ� คญั ทง้ั หมด ยอ่ มประสบความสำ� เรจ็ ยากในการคิ หรอื พบหนทางฝา่ อปุ สรรคปญั หา
32 ใชเ้ ทคโนโลยที างสงั คมไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ “ถา้ คณุ สามารถออกแบบประสานพน้ื ทท่ี างกายภาพ พนื้ ที่ ทางสงั คม และพนื้ ทขี่ อ้ มลู ขา่ วสาร เขา้ ไวด้ ว้ ยกนั เพอ่ื พฒั นาการ เรยี นรรู้ ว่ มกนั ได้ สภาวะแวดลอ้ มทงั้ หมดนนั้ จะกลายเปน็ เทคโนโลยี แหง่ การเรยี นร”ู้ จอหน์ ซลี ยี ์ บราวน์ อดตี หวั หนา้ นกั วทิ ยาศาสตร์ บรษิ ทั ซรี อ็ กซ์ การคน้ พบเปา้ หมายรว่ ม ปลกุ เรา้ ปญั ญารว่ ม และถกั ทอยทุ ธศาสตรไ์ ปสกู่ ารปฏบิ ตั ิ ไมไ่ ด้ เกดิ ขนึ้ โดยบงั เอญิ แตเ่ กดิ จากการใสใ่ จเลอื กกระบวนการสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มทเี่ ออื้ ใหค้ วามคดิ เหน็ ของทกุ คนมารวมกนั ได้ ในรปู แบบ “เกยี่ วพนั โดยไมค่ วบคมุ ” มฉิ ะนน้ั แลว้ การนำ� เอาผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ทม่ี มี มุ มองหลากหลายมาไวด้ ว้ ยกนั อาจนำ� ไปสกู่ ารโตเ้ ถยี งแบบแบง่ ขว้ั ความยงุ่ เหยงิ หรอื แนวคดิ มากมายทไี่ มอ่ าจเลอื กหรอื นำ� ไปสกู่ ารปฏบิ ตั ไิ ด้ ตงั้ แตช่ ว่ งปี ค.ศ. 1980 เปน็ ตน้ มา พวกเราไดร้ ว่ มเปน็ พยานรบั รกู้ ารพฒั นาและการใช้ เทคโนโลยที างสงั คมอยา่ งสรา้ งสรรคม์ ากมาย อนั ไดแ้ ก่ เวลิ ด์ คาเฟ, สนุ ทรยี สาธก (Appreciative Inquiry) โอเพน่ สเปซ การวางแผนดว้ ยทศั นภาพ (Scenario planning) การวจิ ยั อนาคต (Future Search) เปน็ ตน้ คมู่ อื การเปลย่ี นแปลง ฉบบั ตพี มิ พค์ รงั้ ทสี่ องของ เปก็ กี โฮลแมน, ทอม ดเี วน และสตเี วน แคดี ไดน้ ำ� เสนอวธิ กี ารมากวา่ 60 วธิ ใี นการเปลยี่ นแปลงระบบโดยรวม ทกุ วนั น้ี เรานำ� เทคโนโลยแี บบเหน็ หนา้ เหน็ ตากนั เหลา่ นมี้ าใชอ้ ยา่ งทรงพลงั ในโลกเสมอื นจรงิ การประชมุ ผา่ นหนา้ จอวดี โี อ เครอ่ื งมอื ทำ� งานรว่ มกนั แบบออนไลน์ ชมุ ชนแนวปฏบิ ตั แิ บบเสมอื น สอื่ ทางสงั คม เซคอนไลฟ์ (Second life) “การทำ� งานโดยฝงู ชน” และเครอ่ื งมอื ดจิ ติ อลทงั้ หลายที่ กำ� ลงั พฒั นาขน้ึ มาอยา่ งรวดเรว็ เหลา่ นี้ ลว้ นแลว้ แตร่ องรบั การสรา้ งชมุ ชน การพฒั นาองคค์ วามรู้ และการทำ� งานทซี่ บั ซอ้ นใหส้ อดประสานคลอ้ งจองกนั มากขน้ึ ภาวะผนู้ ำ� การสนทนานนั้ จำ� ตอ้ งเขา้ ใจเทคโนโลยที างสงั คมทใ่ี ชท้ ำ� งานรว่ มกนั ตา่ งๆ เหลา่ น้ี เพอ่ื ทจี่ ะสามารถเลอื กใชอ้ ยา่ งชาญฉลาดใหส้ อดคลอ้ งกบั เปา้ หมาย และผสานเขา้ กบั สถาปตั ยกรรม ของการสบื คน้ เครอื ขา่ ยและการปฏบิ ตั งิ านทเ่ี กย่ี วเนอ่ื ง
33 ไมค์ ซสิ แมนไซค์ กรรมการและผบู้ รหิ ารสงู สดุ ของกลมุ่ อลั เทรยี ไดใ้ ชห้ ลกั การของผนู้ ำ� การ สนทนาเหลา่ นกี้ บั บรษิ ทั เขาเองในการคน้ หาอนาคต เขาบอกเราวา่ : “ถา้ คณุ ตอ้ งการใชก้ ารสนทนาในฐานะกระบวนการหลกั คณุ ตอ้ งตงั้ ใจออกแบบโครงสรา้ งพนื้ ฐานทชี่ ว่ ยปลกุ ศกั ยภาพผคู้ นในการคดิ รว่ มกนั ในวถิ ที างใหมๆ่ ... เราไดท้ ำ� หลายสง่ิ หลายอยา่ งในหลาย ปที ผี่ า่ นมา เพอ่ื จดั ทำ� โครงสรา้ งพน้ื ฐานสำ� หรบั การสนทนา และการมสี ว่ นรว่ ม บางครงั้ เรากเ็ ลอื ก ทำ� ในสง่ิ ทดี่ เู หมอื นจะ “อยนู่ อกกรอบ” แตก่ พ็ บวา่ สงิ่ เหลา่ นน้ั สรา้ งความแตกตา่ งอยา่ งสน้ิ เชงิ ยก ตวั อยา่ งเชน่ ในชว่ งแรก เราพบยทุ ธวธิ ที เ่ี รยี กวา่ “เกม แพลน” (Game Plan) เปน็ การสนทนารว่ ม กนั และตง้ั คำ� ถามสบื คน้ โดยเนน้ ทก่ี ารคน้ หาคำ� ถามสำ� คญั ทเี่ ปน็ หวั ใจของการกอ่ รปู อนาคตและหา วธิ ปี ฏบิ ตั เิ ชงิ กลยทุ ธท์ เ่ี ปน็ ทางออกจากปญั หา เราประยุกต์ใช้สถาปัตยกรรมการสนทนาท่ีหลากหลายและสร้างแบบแผนการประชุมท่ี สรา้ งสรรคข์ น้ึ มา เพอ่ื ดแู ลการคดิ รว่ มกนั และคำ� ตอบเชงิ นวตั กรรมใหมๆ่ ในสว่ นของการเปลย่ี นแปลงระดบั ใหญข่ น้ึ เราไดน้ ำ� เอาการสนทนาแบบเวลิ ด์ คาเฟ วงสนุ ทรยี สนทนา การประชมุ แบบโอเพน่ สเปซ (Open Space) การวางแผนดว้ ยทศั นภาพ (Scenario Planning) การเรยี นรเู้ ชงิ ทดลองนอกหอ้ ง กระทง่ั การละคร มากระตนุ้ การสนทนาและการคดิ ใน ประเดน็ ปญั หาสำ� คญั เราใชก้ ารบนั ทกึ ภาพและภาษาภาพเปน็ หลกั ในการชว่ ยใหผ้ คู้ นคดิ อยา่ งเปน็ ระบบ เชอ่ื มโยง ความคดิ และทำ� ใหป้ ญั หายากๆ ปรากฏขนึ้ ... เรายงั สรา้ งสถานทป่ี ระชมุ พเิ ศษทใี่ ชเ้ ทคโนโลยสี อง จอภาพ เพอ่ื ชว่ ยใหท้ งั้ สองฝง่ั มองเหน็ ผรู้ ว่ มงานจากสถานทต่ี า่ งๆ และทำ� งานโดยใชภ้ าพทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กบั คำ� ถามหรอื โครงการทเ่ี รากำ� ลงั ดำ� เนนิ งานอย”ู่ เรอื่ งราวของอลั เทรยี และทอ่ี น่ื ๆ แสดงใหเ้ หน็ วา่ ผนู้ ำ� จำ� นวนมากมคี วามเขา้ ใจวธิ กี ารอนั หลาก หลาย และหลกั การออกแบบของพวกเขาทพี่ ฒั นาศกั ยภาพใหมๆ่ และสรา้ งสถาปตั ยกรรมของการ มสี ว่ นรว่ มทงั้ ภายในและขา้ มระดบั ชนั้ ตา่ งๆ ในองคก์ ร (ดู “หลกั การออกแบบเพอ่ื จดั การสนทนาที่ มคี วามหมาย”) ขณะทบ่ี อ็ บ เวสซี แหง่ ฮวิ เลต็ แพค็ คารค์ ไมเ่ คยจดั เวลิ ด์ คาเฟอยา่ งเปน็ ทางการ เขากลา่ ว วา่ “ในการทำ� งานเรอื่ งความปลอดภยั ผมถอื หลกั และแบบแผนของเวลิ ด์ คาเฟ เปน็ แบบอยา่ ง นำ� มาใชก้ บั รปู แบบการทำ� งานในองคก์ รทเี่ ปน็ ไปในปจั จบุ นั ” ความเขา้ ใจในหลกั การทลี่ กึ ซงึ้ ชว่ ยใหบ้ รรดา ผนู้ ำ� ผสานวธิ กี ารทแี่ ตกตา่ งอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และปรบั แปลงดว้ ยความเชอื่ มน่ั และชำ� นชิ ำ� นาญ
34 หลกั การออกแบบเพ่อื จัดการสนทนาที่มคี วามหมาย • เห็นบรบิ ทอย่างแจ่มชดั • สร้างพื้นทีแ่ หง่ ไมตรจี ิต • สบื คน้ คำ�ถามสำ�คญั และมีความหมาย • กระต้นุ ให้ทกุ คนมีส่วนรว่ ม • แลกเปลีย่ นและเช่ือมโยงมุมมองท่ีแตกต่าง • รบั ฟังร่วมกนั เพอื่ หารปู แบบ ปัญญาญาณ และคำ�ถามทีล่ ึกซงึ้ • เกบ็ เก่ียวและแลกเปล่ยี นการค้นพบรว่ มกนั ปราศจากเสยี ซง่ึ ทกั ษะในการใชเ้ ทคโนโลยที างสงั คม การสนทนามกั จะเบย่ี งเบนไปสกู่ ารแตกแยก และคำ� ตอบกจ็ ะถกู ครอบครองโดยคนทมี่ เี สยี งดงั ทสี่ ดุ หรอื มอี ำ� นาจมากทสี่ ดุ นำ� พาสตปิ ญั ญารว่ มไปสกู่ ารปฏบิ ตั ทิ มี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ “ผนู้ ำ� ในปจั จบุ นั จำ� ตอ้ งเปน็ เจา้ ภาพ – ผซู้ ง่ึ นำ� ความหลากหลาย มาประชุมกัน ผู้ซึ่งน�ำทัศนะความคิดเห็นมาพบปะชุมนุมกัน ด้วย กระบวนการทสี่ รา้ งสรรค์ และดงึ เอาสตปิ ญั ญารว่ มออกมาใหไ้ ด”้ มารก์ าเรต็ วตี ลยี ์ สถาบนั บารค์ านา ผลลพั ธข์ องกจิ กรรมเหลา่ นกี้ ค็ อื การลงมอื ทำ� อยา่ งชาญฉลาดและมปี ระสทิ ธภิ าพ เพอ่ื ตอบ สนองวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายเชงิ กลยทุ ธ์ ทนั ทที เ่ี หลา่ ผนู้ ำ� มองเหน็ องคก์ รหรอื ชมุ ชนเปน็ ดง่ั เครอื ขา่ ยของการสนทนาทม่ี ชี วี ติ พวกเขายอ่ มนำ� เครอื ขา่ ยนนั้ ไปสคู่ ำ� ถามสำ� คญั
35 นอกจากนี้ พวกเขายงั อาจออกแบบโครงสรา้ งพน้ื ฐาน อยา่ งกระบวนการ “เกม แพลน” ขอ งอลั เทรยี ทชี่ ว่ ยให้ “การเกบ็ เกย่ี วผลผลติ ” จากบทสนทนามาเชอื่ มโยงและเตมิ เตม็ แตล่ ะฝา่ ยในทกุ ระดบั ของระบบ เมอ่ื ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ทกุ ฝา่ ยเขา้ รว่ มพจิ ารณาประเดน็ ปญั หาสำ� คญั ไมว่ า่ จะโดยการสนทนาแบบ เห็นหน้าเห็นตากัน หรือ/และเทคโนโลยีออนไลน์ที่เหมาะสม ก็จะเกิดการมีส่วนร่วมอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ซงึ่ จะนำ� ไปสเู่ ปา้ หมายทจ่ี ะวางแผนยทุ ธศาสตร์ สรา้ งนวตั กรรม พฒั นากระบวนการ ในองคก์ ร หรอื บม่ เพาะความสมั พนั ธใ์ นชมุ ชน ในทางกลบั กนั ศกั ยภาพของปญั ญารว่ มหรอื การลงมอื ปฏบิ ตั การอยา่ งชาญฉลาดกอ็ าจจะ ขาดพรอ่ งหรอื ลดทอนตามสว่ น หากสว่ นผสมบางอยา่ งหายไป หรอื ดอ้ ยประสทิ ธภิ าพ พวกเราลว้ น ผา่ นประสบการณก์ ารประชมุ แทบ “ทกุ แบบ” กว็ า่ ได้ ทงั้ การสนุ ทรยี สนทนาทนี่ ำ� ขวั้ ตรงขา้ มไปสวู่ วิ า ทะการโตเ้ ถยี งทไี่ มพ่ ากนั ไปไหน ทงั้ ฉนั ทามตแิ บบคบั แคบของคนกลมุ่ เลก็ ทไ่ี มไ่ ดเ้ ปน็ ตวั แทนของคน สว่ นใหญ่ ตลอดจนการประชมุ ทอ่ี อกแบบมาอยา่ งดแี ตเ่ ฉไฉผดิ รปู เพราะผนู้ ำ� ขาดความชดั เจนใน วตั ถปุ ระสงค์ ไมม่ คี วามเชอ่ื มมน่ั หรอื ตดั สนิ ใจทจี่ ะใชอ้ ำ� นาจควบคมุ อยา่ งไมเ่ หมาะสม ปราศจากเสยี ซง่ึ ปญั ญารว่ ม และการลงมอื ทำ� อยา่ งชาญฉลาด และมปี ระสทิ ธภิ าพ อนาคตขององคก์ ร ชมุ ชน และโลกของเรา ยอ่ มตกอยใู่ นอนั ตราย ดแู ลพฒั นาศกั ยภาพเพอ่ื นำ� ไปสนู่ วตั กรรมใหม่ “เราจะเรมิ่ บม่ เพาะโครงสรา้ งพนื้ ฐานขององคก์ ร และศกั ยภาพ การเปน็ ผนู้ ำ� ของบคุ ลากร ทจี่ ำ� เปน็ ตอ่ การเขา้ ถงึ องคค์ วามรทู้ ม่ี อี ยแู่ ลว้ ในองคก์ รและชมุ ชนของเราอยา่ งไร?” เดวดิ ไอแซค็ ผรู้ ว่ มกอ่ ตง้ั เวลิ ด์ คาเฟ่
36 ในภาวะแวดลอ้ มปจั จบุ นั การพฒั นาศกั ยภาพสำ� หรบั ผนู้ ำ� การสอ่ื สารและดแู ล “กระบวนการ แหง่ สตปิ ญั ญา” ในทกุ ระดบั ชน้ั ของระบบ เปน็ การลงทนุ ทใ่ี หป้ ระโยชนโ์ ภชนผ์ ลมากทส่ี ดุ ทวา่ ระบบการศกึ ษาของเรา หลกั สตู รผบู้ รหิ าร ตลอดจนประสบการณจ์ ากการทำ� งาน ไม่ อาจสง่ เสรมิ ผนู้ ำ� ในปจั จบุ นั หรอื อนาคต ใหม้ แี บบแผนความคดิ อา่ น ศกั ยภาพเฉพาะตน หรอื ทกั ษะ เชงิ กระบวนการ ทจี่ ำ� เปน็ ตอ่ การตอบสนองปญั หาทท่ี วคี วามซบั ซอ้ นอยา่ งยง่ิ ในทกุ วนั นี้ (ดู “ศกั ยภาพ เฉพาะตนในการเปน็ ผนู้ ำ� การสอ่ื สาร”) เราจำ� ตอ้ งขยายมโนทศั นว์ า่ ดว้ ยการพฒั นาภาวะผนู้ ำ� – ซงึ่ รวมเอาทกั ษะ ความรู้ และ คณุ ภาพเฉพาะตน ในการสรา้ ง หรอื ใหแ้ นวทางกบั เครอื ขา่ ยความรว่ มมอื และระบบคน้ ควา้ วจิ ยั ที่ มศี กั ยภาพในการเรยี นรู้ ปรบั ตวั และสรา้ งคณุ คา่ ทางธรุ กจิ และสงั คมระยะยาว งานบกุ เบกิ การเปลย่ี นแปลงระบบสขุ ภาพ ในรฐั โอไฮโอ โดยฟลิ แคส และผรู้ ว่ มงานของเขา เปน็ ตวั อยา่ งของกระบวนการดงั กลา่ ว หลงั จากเขา้ รว่ มหลกั สตู รการจดั ยทุ ธศาสตรก์ ารสนทนาและ ภาวะผนู้ ำ� ในระบบเครอื ขา่ ย ทส่ี ถาบนั ชมั บาลาสำ� หรบั ผนู้ ำ� ทแี่ ท้ ฟลิ กไ็ ดเ้ สนอการพฒั นาศกั ยภาพให้ กบั บคุ ลากรของเขา ชว่ ยใหพ้ วกเขาเรยี นรวู้ ธิ กี ารจดั การสนทนาแบบเวลิ ด์ คาเฟ่ เรมิ่ วงจรเรยี นรใู้ น การสบื คน้ ความคดิ หลกั และออกแบบการประชมุ คณะทำ� งานใหมต่ ลอดจนการวางแผนเขา้ เงยี บ (retreat) เพอ่ื กระตนุ้ การแลกเปลยี่ นความรแู้ ละการคดิ แบบองคร์ วม ทขี่ า้ มพน้ เสน้ แบง่ ขององคก์ ร จากนน้ั เขากร็ ว่ มใหก้ ารสนนั บสนนุ การประชมุ เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารในชมุ ชน สำ� หรบั ผนู้ ำ� จากองคก์ รทเี่ กยี่ วขอ้ งและเยาวชน เพอื่ กอ่ ใหเ้ กดิ การเรยี นรแู้ ละการฝกึ เปน็ ผู้ ดำ� เนนิ การสนทนาอนั เปน็ หวั ใจของผนู้ ำ� การสนทนา ศกั ยภาพเฉพาะตนในการเปน็ ผนู้ ำ�การสื่อสาร • สร้างบรรยากาศของการคน้ พบและการผุดบังเกดิ สง่ิ ใหม่ ๆ • ปลกุ เรา้ และใหเ้ กียรติตอ่ มมุ มองท่ีหลากหลาย • ถามคำ�ถามท่ีทรงพลัง • ห้อยแขวนการตดั สนิ ล่วงหน้า • ตรวจสอบข้อสรปุ และความเชื่อ • โอบรับความคลมุ เครอื และความไมร่ ู้ • ฟงั ความเชือ่ มโยงระหว่างความคิด • จบั ประเดน็ หลักและเชอ่ื มโยงความเขา้ ใจร่วมกัน
37 ปราศจากเสยี ซงึ่ ศกั ยภาพผนู้ ำ� ทจ่ี ำ� เปน็ ในการตอ่ กรกบั ระบบปญั หาอนั ซบั ซอ้ นในปจั จบุ นั เรายอ่ มเหลอื แตเ่ พยี งทศั นะและวธิ กี ารจากอดตี ซงึ่ ขาดความเหมาะสมและบอ่ นทำ� ลายความตงั้ ใจดขี องเรา การกอ่ รปู อนาคตเชงิ บวก ผู้น�ำการสนทนาใช้การสนทนาในฐานะกระบวนการหลักเพื่อสร้างจุดพลิกผันสู่การ เปลยี่ นแปลง เปน็ การเชอ้ื เชญิ ใหเ้ ตมิ เตม็ วธิ กี ารดงั้ เดมิ ของเราในการพฒั นากระบวนการธรุ กจิ ดว้ ย การพดู คยุ และการคดิ รว่ มกนั อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพอ่ื พฒั นากระบวนการสงั คมไปพรอ้ มๆ กนั ซงึ่ เปน็ การสรา้ งคณุ คา่ สงู สดุ ทางธรุ กจิ และสงั คม หวั ใจของงานนก้ี ค็ อื การทำ� ความเขา้ ใจองคก์ รในฐานะเครอื ขา่ ยของการสนทนา และมคี วาม เชอื่ มน่ั ศรทั ธาในพลงั ของปญั ญากลมุ่ องคค์ วามรนู้ เี้ ชอ้ื เชญิ ใหบ้ รรดาผนู้ ำ� เปน็ เจา้ ภาพในการนำ� เสยี ง ทหี่ ลากหลายเขา้ รว่ มกำ� หนดปญั หาสำ� คญั โดยใชก้ ระบวนการแบบเหน็ หนา้ เหน็ ตากนั และเทคโนโลยี ออนไลนท์ มี่ อี ยู่ พลงั อำ� นาจเชงิ ปจั เจกและกลมุ่ ถกู ขยายใหเ้ ปน็ การ “คดิ รว่ มกนั ” ดว้ ยระบบวธิ แี ละเชอื่ มโยง บทสนทนาของเราไวด้ ว้ ยกนั เพอ่ื นำ� ไปสกู่ ารเปลยี่ นแปลงระบบขนาดใหญ่ “องคก์ รเรยี นรทู้ แ่ี ทเ้ ปน็ พนื้ ทข่ี องการสนทนาทสี่ รา้ งสรรค์ และผสานการลงมอื ทำ� ทสี่ รา้ งพน้ื ท่ี ความเชอ่ื มโยงซงึ่ เปน็ บอ่ เกดิ พลงั อำ� นาจในการคน้ พบความจรงิ ใหมๆ่ จากการสนทนา และนำ� ความ จรงิ ใหมน่ ไ้ี ปสกู่ ารปฏบิ ตั ”ิ ปเี ตอร์ เซง็ เก และเฟรด็ คอ็ ฟแมนเขยี นไว้ มเี พยี งภาวะผนู้ ำ� การสนทนาทน่ี ำ� องคก์ รไปสคู่ วามมชี วี ติ ชวี าได้ ในยคุ ทพ่ี วกเราทงั้ หมดถกู เรยี กรอ้ งใหก้ า้ วไปขา้ งหนา้ ดว้ ยความกลา้ หาญ ยอ่ มเปลย่ี นแปลงวธิ ที บี่ รรดาผนู้ ำ� ทำ� ความเขา้ ใจ องคก์ รทตี่ นเองรบั ใช้ วธิ ที บี่ รษิ ทั และชมุ ชนใชป้ ระโยชนจ์ ากปญั ญารว่ มของผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ทมี่ เี ปา้ หมายรว่ มกนั และวธิ ที พ่ี วกเราทง้ั หมดมสี ว่ นรว่ มในการ “คดิ รว่ มกนั เพอ่ื การเปลย่ี นแปลง”
38 การพฒั นาผู้นำ�การสนทนา • ผนู้ ำ�องค์กรของคุณมององคก์ รในฐานะเครือขา่ ยการสนทนาทมี่ ชี วี ติ ซ่ึง มกี ารทำ� “งานจริง” ใหเ้ กดิ ข้ึนไหม? • คณุ จะสร้างพลังแห่งการสนทนาในฐานะกระบวนการหลักของการคิด รว่ มกันในการออกแบบยทุ ธศาสตรก์ ารเปล่ียนแปลงอย่างไร? • คุณกับเพอ่ื นร่วมงานใช้เวลานานเพยี งใด เพื่อค้นหาและกำ�หนดคำ�ถามที่ ถูกตอ้ ง เม่ือเทียบกับการคน้ หาคำ�ตอบที่ถกู ตอ้ ง? • คุณกบั ผนู้ ำ�องคก์ รคนอืน่ ๆ มคี วามรูเ้ พียงใด เกี่ยวกับการใชเ้ ทคโนโลยี แบบเหน็ หน้าเหน็ ตา และแบบเสมอื นในการเรยี นร้รู ว่ มกนั ปัญญากล่มุ และการประสานงาน? • พน้ื ที่ทำ�งานเชิงกายภาพของคุณ และสถานท่ปี ระชุมถกู ออกแบบเพอ่ื กระตุ้นให้เกดิ ปฏิสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการทช่ี ว่ ยเอือ้ ใหเ้ กิดการสนทนา ทด่ี ีและการเรยี นร้รู ่วมกนั หรอื ไม่? • งบประมาณค่าใช้จ่ายในการพฒั นาภาวะผนู้ ำ�และศักยภาพ - ซ่ึงชว่ ยให้ บรรดาผนู้ ำ�คิดอย่างเปน็ ระบบ มองเหน็ ความเช่อื มโยงระหวา่ งกัน และ มีทักษะในการดำ�เนนิ การสนทนาที่ช่วยให้เกิดการคดิ ร่วมกันในประเด็น ปัญหาสำ�คญั - มีเทา่ ไหร่? • สถาปัตยกรรมในการสรา้ งความมีส่วนรว่ มระหวา่ งผู้มีส่วนได้เสียทง้ั ภายในและภายนอกมบี ทบาทสำ�คัญต่อผนู้ ำ�หรอื ไม่? • องคก์ รของคณุ ช่วยสง่ เสรมิ ผูน้ ำ�ให้บม่ เพาะศักยภาพท่ีจำ�เป็นต่อความ สำ�เรจ็ อย่างไร? เกยี่ วกบั ผเู้ ขยี น โธมสั เจ เฮอลยี ์ ดำ� รงตำ� แหนง่ ทป่ี รกึ ษาอาวโุ สและโคช้ ผบู้ รหิ ารสำ� หรบั ผนู้ ำ� ทคี่ น้ หาวถิ ที าง ใหมใ่ นการพฒั นายทุ ธศาสตรแ์ ละการเปลย่ี นแปลงระบบขนาดใหญ่ เขาเปน็ ผรู้ ว่ มกอ่ ตงั้ เคออรด์ คิ คมั มอนส์ (Chaordic Commons) องคก์ รทป่ี รกึ ษาโดยไมห่ วงั ผลกำ� ไรทที่ ำ� รว่ มกบั ดี ฮอ็ ค ผกู้ อ่ ตง้ั วซี า และทำ� งานในสถาบนั ศาสตรด์ า้ นโนเอตคิ องคก์ รชนั้ นำ� ระดบั โลกเกย่ี วกบั การพฒั นาศกั ยภาพ มนษุ ยแ์ ละอนาคตเชงิ บวก ปจั จบุ นั เขารบั หนา้ ทใี่ หแ้ นวทางเกย่ี วกบั ววิ ฒั นาการโดยรวมของเวลิ ด์ คาเฟ่
39 ฆวนนติ า บราวน์ เปน็ ผรู้ ว่ มใหก้ ำ� เนดิ เวลิ ด์ คาเฟ่ เธอรว่ มงานในฐานะนกั คดิ และทปี่ รกึ ษา ด้านการออกแบบร่วมกับผู้น�ำอาวุโสจากหลายภาคส่วนในการสร้างชุมชนแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับ ยุทธศาสตร์การสนทนาและการสร้างความร่วมมือหลากหลายระดับในประเด็นธุรกิจและสังคม หนงั สอื ของเธอทไ่ี ดร้ บั รางวลั “เวลิ ด์ คาเฟ:่ กอ่ รปู อนาคตของเราผา่ นการสนทนาทม่ี คี วามหมาย” ซง่ึ เขยี นรว่ มกบั เดวดิ ไอแซค็ และชมุ ชนเวลิ ด์ คาเฟ ไดร้ บั การแปลเปน็ ภาษาตา่ งๆ ถงึ 10 ภาษา อา่ นเพม่ิ เตมิ Juanita Brown and David Isaacs, “Conversation as a Core Business Process,” The System Thinker, December 1996/January 1997 Juanita Brown and David Isaacs, Eric Vogt, and Nancy Margulies, “Strategic Ques- tioning: Engaging People’s Best Thinking,” The System Thinker, November 2002 Eric E. Vogt, Juanita Brown and David Isaacs, The Art of Powerful Questions (Pega- sus Communications, 2003) Juanita Brown and David Isaacs, and the World Café Community, The World Café: Shaping Our Future through Conversations that Matter (Berret-Koehler, 2005) ก้าวตอ่ ไป • สะท้อนบทสรปุ ของคณะเก่ยี วกบั ภาวะผู้นำ� และวิธีที่จะพัฒนาใหเ้ กิด ขึ้นหากคุณตอ้ งการจะเรม่ิ ฝกึ ภาวะผ้นู ำ�ในการสนทนา • สร้างการมสี ว่ นรว่ มกับผ้คู นท่ีคณุ ขอ้ งเก่ยี วดว้ ย เพื่อค้นหาและสรา้ ง “คำ�ถามสำ�คัญ” สำ�หรบั อนาคตขององคก์ รหรือชุมชนของคณุ เรมิ่ ดำ�เนินการสนทนาโดยเนน้ คำ�ถามเหล่านี้ และสืบค้นหนทางในการ เช่ือมโยงบทสนทนาเพื่อผลทางยทุ ธศาสตร์ • เขา้ ร่วมชุมชนเวิลด์ คาเฟ่ ออนไลนใ์ นการสบื ค้นและฝกึ ฝนรว่ ม กับสมาชกิ จากทั่วโลกในการศึกษาแนวคิดและวธิ ีการเหล่าน้ี www.theworldcafecommunity.org
40 บทเรยี น “การหายใจ” จากการแสดงละครเวที กฤตยิ า สนิ ธพุ งษพ์ นั ธ์ (เก)๋ สวสั ดคี ะ่ อาจารยช์ ยั วฒั น์ ประสบการณ์ท่ีเก๋ได้จากการแสดงละครเวที เมอ่ื ตอนทเี่ รยี นอยมู่ หาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญั ปี 1 ซงึ่ ไม่ อยากเชอื่ แตก่ ต็ อ้ งเชอ่ื วา่ ผา่ นมาแลว้ 12 ปี แตก่ อ่ น อน่ื จะขอเกรน่ิ นำ� สกั เลก็ นอ้ ยวา่ ทไ่ี ดเ้ ขา้ ไปแสดงเพราะ วา่ เพอื่ นคนหนงึ่ เขาลงสมคั รคดั เลอื กตวั แสดงไว้ หรอื ทเี่ รยี กวา่ try out แลว้ เขาขอใหไ้ ปเปน็ เพอื่ นในวนั แขง่ ขนั ประกอบกบั ตวั เราเองกอ็ ยากรดู้ ว้ ยวา่ การ try out นนั้ เขาทำ� กนั อยา่ งไร แตจ่ บั พลดั จบั พลไู ป try out กบั เขาดว้ ย แลว้ ดนั ไดร้ บั คดั เลอื ก พอคดั เลอื กตวั ละครไดท้ งั้ หมดซงึ่ มปี ระมาณ 10 คน (เหน็ จะได)้ ทางผกู้ ำ� กบั และครฝู กึ จงึ แจง้ ให้ ทราบว่า เรื่องท่ีจะแสดงเป็นนวนิยายแนวปริศนา ฆาตกรรมทมี่ ชี อื่ วา่ Ten Little Indians ซง่ึ เปน็ ของ นกั เขยี นทห่ี ลายคนรจู้ กั กนั ดี คอื คณุ อากาธา ครสิ ตี้
41 ทกุ คนทไ่ี ดร้ บั คดั เลอื กในการแสดงครงั้ นน้ั กลา่ วไดว้ า่ ไมม่ ใี ครเคยเลน่ ละครเวทมี าเลย และตา่ ง กไ็ มเ่ คยรจู้ กั สนทิ สนมกนั มากอ่ น ทมี งานมเี วลาในการตระเตรยี มทกุ อยา่ งประมาณ 3 อาทติ ย์ สำ� หรบั ในสว่ นของนกั แสดงนน้ั จะทำ� การนดั หมายใหม้ าซอ้ มโดยเจอกนั ตอนเยน็ หลงั เลกิ เรยี น แต่ กอ่ นทจี่ ะเรม่ิ ซอ้ มในเนอ้ื หาของละครนนั้ กจ็ ะมกี ารเตรยี มความพรอ้ มของนกั แสดงกอ่ นทกุ ครง้ั ซง่ึ เรยี กทบั ศพั ทใ์ นภาษาองั กฤษวา่ warm up หรอื บางครง้ั กเ็ รยี กวา่ exercise แตต่ ามประสบการณ์ ของผเู้ ขยี นในครง้ั นนั้ ใชค้ ำ� วา่ warm up จงึ จะขอใชค้ ำ� นใ้ี นการเลา่ ตอ่ ไป การ warm up นนั้ อาจฟงั แลว้ คลา้ ยกบั เปน็ การออกกำ� ลงั กาย คอื เปน็ การออกกำ� ลงั ทาง กาย แตถ่ า้ เขา้ ใจเชน่ นนั้ จะไมใ่ ชก่ าร warm up ทแ่ี ทจ้ รงิ สำ� หรบั การเตรยี มความพรอ้ มของนกั แสดง เพราะการ warm up ทผ่ี เู้ ขยี นไดป้ ฏบิ ตั นิ นั้ มที ง้ั การออกกำ� ลงั ทางกาย และการออกกำ� ลงั ทางจติ ทงั้ ในแบบรายบคุ คล แบบคู่ และแบบเปน็ กลมุ่ ในการ warm up แตล่ ะครงั้ จะใชเ้ วลาเกอื บชว่ั โมง หรอื บางครง้ั ชวั่ โมงกวา่ จะเหน็ วา่ ไมไ่ ด้ ใชเ้ วลานานนกั แตเ่ อาเขา้ จรงิ ๆ สองสามวนั แรกทำ� เอานกั แสดงมอื ใหมท่ กุ คนออ่ นลา้ ไปตามๆ กนั เลยทเี ดยี ว การ warm up ทกุ ครงั้ จะเรม่ิ ตน้ จากการออกกำ� ลงั กาย แตเ่ ปน็ การออกกำ� ลงั กายทเี่ นน้ ไป ทก่ี ารฝกึ การเคลอื่ นไหวของรา่ งกาย ตง้ั แตก่ ารเคลอื่ นไหวโดยใชก้ ลา้ มเนอ้ื บนใบหนา้ สายตา คอ ไหล่ แขน เอว ขา ขอ้ มอื ขอ้ เทา้ เรอื่ ยไป จนครบทกุ สว่ น หลงั จากนนั้ จะเปน็ การฝกึ หายใจ โดยครู ฝกึ ใหเ้ อามอื หนง่ึ แตะทกี่ งึ่ กลางทอ้ งและอกี มอื หนง่ึ ไขวไ้ ปแตะไวข้ า้ งหลงั ในระดบั เดยี วกบั กงึ่ กลางทอ้ ง แลว้ สงั เกตวา่ หายใจถกู ตอ้ งหรอื ไม่ ซง่ึ จะสามารถสงั เกตไดจ้ ากการหายใจใหล้ กึ ๆ อากาศนน้ั สดู ผา่ น หลอดลมลงไปทที่ อ้ งจนทอ้ งปอ่ งออก แลว้ คอ่ ยๆ หายใจออกจนทอ้ งแฟบลง ครฝู กึ ไดต้ งั้ ขอ้ สงั เกตวา่ คนเรานนั้ สว่ นมากหายใจเพยี งแคค่ รงึ่ เดยี ว ซงึ่ เปน็ การหายใจทไ่ี ม่ ถกู ตอ้ ง และการหายใจทไี่ มถ่ กู ตอ้ งนน้ั กเ็ ปน็ สาเหตหุ นงึ่ ของปญั หาสขุ ภาพในคนหลายคน นอกจาก นน้ั การหายใจทดี่ ยี งี จะสง่ ผลถงึ ประสทิ ธภิ าพในการเปลง่ เสยี งอกี ดว้ ย ทงั้ นกี้ ารฝกึ หายใจนน้ั ทำ� ไป พรอ้ มๆ กบั การทำ� สมาธิ เมอื่ ฝกึ ลมหายใจและทำ� สมาธเิ รยี บรอ้ ยแลว้ ตอ่ มากจ็ ะเปน็ ขน้ั ตอนของ การฝกึ เปลง่ เสยี ง ในบางครง้ั การฝกึ การเปลง่ เสยี งนน้ั ครจู ะใหท้ กุ คนนง่ั เปน็ กลมุ่ แลว้ ใหท้ กุ คนคดิ วา่ ตวั เองเปน็ เครอื่ งดนตรชี นดิ ใดชนดิ หนงึ่ และใหค้ นใดคนหนงึ่ ในกลมุ่ เรม่ิ เปลง่ เสยี งตามชนดิ เครอ่ื ง ดนตรที ต่ี นคดิ ไว้ และทเี่ หลอื คอ่ ยเปลง่ ตามตอ่ ๆ กนั ไปแลว้ แตใ่ ครจะเปน็ เครอ่ื งดนตรชี นดิ ใด หรอื จะ หยดุ กไ็ ดแ้ ลว้ แตจ่ งั หวะ โดยใหเ้ สยี งทเี่ ปลง่ ออกมาของทกุ คนเปน็ ทว่ งทำ� นองเพลงเดยี วกนั แตบ่ าง ครง้ั กเ็ ปลย่ี นจากการเปน็ เครอื่ งดนตรใี หร้ อ้ งเพลงประสานเสยี งกนั เอง การฝึกในลักษณะน้ี ถ้าต่างคนต่างมองคนอ่ืนจะท�ำให้กลุ่มไม่สามารถต่อเพลงได้หรือ ทว่ งทำ� นองจะสะดดุ ลง วธิ ที ค่ี รฝู กึ แนะนำ� คอื ใหท้ กุ คนหลบั ตาและฟงั เสยี งทกุ เสยี งทด่ี ำ� เนนิ อยู่ แลว้
42 คอ่ ยๆ ตอ่ จงั หวะไป และแลว้ เมอ่ื นกั แสดงทงั้ สบิ คนหลบั ตาลง เสยี งทป่ี ระสานเสยี งกนั รวมทง้ั จงั หวะ ทรี่ บั สง่ กนั นน้ั มคี วามตวั มากขนึ้ อยา่ งประหลาด ผเู้ ขยี นเองในขณะทหี่ ลบั ตาอยนู่ น้ั จำ� ไดว้ า่ ไดย้ นิ จงั หวะทช่ี ดั เจนขน้ึ และเหมอื นจะสามารถเดาไดว้ า่ ใครจะตอ่ จงั หวะชว่ งไหน แลว้ ชว่ งไหนเปน็ จงั หวะ ของเรา ตอ่ จากนนั้ กเ็ ปน็ การฝกึ เทคนคิ การแสดง เทา่ ทจ่ี ำ� ความไดก้ ม็ กี ารฝกึ ในเรอ่ื งของการ give and take หรอื การรบั -สง่ บท นนั่ เอง ซงึ่ จะฝกึ เปน็ คสู่ ลบั กนั ไป แลว้ บางทกี ฝ็ กึ การแสดงโดยไมใ่ ช้ เสยี ง หรอื ละครใบ้ เปน็ ตน้ แลว้ จงึ จะทำ� การซอ้ มตวั บทจรงิ ดว้ ยความตงั้ ใจของทกุ คนในการทจี่ ะทำ� ใหล้ ะครเวทเี ลก็ ๆ เรอื่ งหนงึ่ ออกมาดที สี่ ดุ ยงิ่ ใกลว้ นั แสดงจรงิ เทา่ ไร ทกุ คนเรม่ิ เครยี ดและซอ้ มมากยง่ิ ขนึ้ เมอื่ วนั แสดงจรงิ มาถงึ การแสดงในรอบแรก นน้ั ถงึ จะเปน็ การปฏบิ ตั เิ หมอื นกบั ละครเวทที วั่ ไป คอื เปน็ รอบทเี่ ชญิ จะแขกคนสำ� คญั และนกั ขา่ วมา เขา้ ชม แตส่ ำ� หรบั ทกุ คน ไมว่ า่ จะทำ� หนา้ ทใี่ นสว่ นไหน หลงั เวที หนา้ เวที บนเวที หรอื นกั แสดง ฯลฯ ทกุ คนตน่ื เตน้ มาก ตงั้ แตย่ งั ทนั ไมเ่ หน็ ผชู้ ม นกั แสดงตา่ งคนตา่ งหามมุ ของตวั เองเพอื่ ทำ� สมาธกิ อ่ น ขน้ึ เวที และเมอ่ื ยง่ิ รวู้ า่ ผชู้ มเรม่ิ ทยอยกนั เขา้ มานง่ั แลว้ ทกุ คนกย็ ง่ิ มอี าการตนื่ เตน้ อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั แตก่ อ่ นทก่ี ารแสดงจะเรมิ่ ขน้ึ ผกู้ ำ� กบั ซง่ึ เปน็ ทง้ั ครผู ฝู้ กึ ดว้ ยเรยี กใหท้ กุ คนมารวมกนั หลงั เวทแี ลว้ กลา่ ว ใหก้ ำ� ลงั ใจ ในเวลานน้ั เอง เมอื่ ทกุ คนมายนื รวมกนั ผเู้ ขยี นรสู้ กึ วา่ ความตน่ื เตน้ หายไป แตก่ ลบั รสู้ กึ ถงึ พลงั บางอยา่ งในกลมุ่ ทยี่ นื รวมกนั อยใู่ นขณะนน้ั ผเู้ ขยี นเชอ่ื วา่ พลงั บางอยา่ งทผ่ี เู้ ขยี นรสู้ กึ นน้ั เปน็ พลงั ของความตง้ั ใจเดยี วกนั ซงึ่ นำ� ไปสคู่ วามเปน็ หนง่ึ เดยี วกนั ของทง้ั ทมี และพลงั ทเ่ี กดิ ขนึ้ นนั้ เกดิ จากคลนื่ ของแตล่ ะคนทสี่ ง่ ถงึ กนั ในทมี จนเกดิ เปน็ พลงั งานในรปู แบบหนงึ่ ทสี่ ามารถทำ� ใหเ้ กดิ แรง ขบั เคลอื่ นไดม้ ากมายเหลอื เกนิ ทผี่ เู้ ขยี นกลา่ วดงั น้ี เพราะในระยะเวลาเพยี งไมก่ อ่ี ดึ ใจทยี่ นื รวมกนั นน้ั สามารถทำ� ใหผ้ เู้ ขยี นพดู ในใจกบั ตวั เองเบาๆ วา่ “ฉนั พรอ้ มละ” ทงั้ ๆ ทกี่ อ่ นหนา้ นน้ั จะทำ� อยา่ งไร จะมดุ มมุ ไหน กร็ วบรวมสตไิ มไ่ ด้ ประสบการณข์ องผเู้ ขยี นทถี่ า่ ยทอดมานอี้ าจเปน็ เพยี งเศษเสยี้ วหนงึ่ ของกระบวนการการเต รยี มความพรอ้ มกอ่ นการขน้ึ แสดงละครเวทขี องนกั แสดงมอื อาชพี เทา่ นน้ั อยา่ งไรกด็ ี ในทา้ ยทสี่ ดุ น้ี ขอขอบคณุ อาจารยช์ ยั วฒั นม์ ากนะคะ ทใ่ี หโ้ อกาสผเู้ ขยี นไดเ้ ลา่ ประสบการณช์ วี ติ ทไี่ มค่ ดิ วา่ จะมใี คร สนใจหรอื สลกั สำ� คญั อะไรนกั แตถ่ า้ เรอื่ งราวเหลา่ นจ้ี ะเปน็ สว่ นหนง่ึ ทส่ี ามารถนำ� ไปทำ� ประโยชนอ์ ะไร ใหส้ งั คมไดบ้ า้ ง แมแ้ ตเ่ พยี งเลก็ นอ้ ยผเู้ ขยี นกด็ ใี จเปน็ ทสี่ ดุ แลว้ ดว้ ยความเคารพเสมอ กฤตยิ า สนิ ธพุ งษพ์ นั ธ์ (เก)๋
43 จากหลกั สตู รผนู้ ำ� ทแ่ี ท้ (Authentic Leadership) ปยิ นาถ ประยรู : เรยี บเรยี ง หนเู พยี ร แสนอนิ ทร์ : ภาพประกอบ ถา้ มกี ารตงั้ คำ� ถามวา่ หลายองคก์ รมผี บู้ รหิ ารและคณะกรรมการท่ี เปน็ ผเู้ ชย่ี วชาญมากมายหลายดา้ น “อะไรคอื สง่ิ ทม่ี คี า่ มากทสี่ ดุ ทผี่ บู้ รหิ าร ใหแ้ กอ่ งคก์ ร ความเปน็ ผเู้ ชย่ี วชาญ (expertise) แตย่ งั มขี อ้ กงั ขาเกย่ี วกบั ภาวะผนู้ ำ� ซงึ่ ดไู ด้ หรอื ภาวะผนู้ ำ� (leadership) จากเสยี งบน่ ความทอ้ แทเ้ หนอื่ ยใจ ความเครยี ด ความกงั วล ทเี่ กดิ ขนึ้ กบั คนทเ่ี ขา้ ไปเกยี่ วขอ้ ง ไมเคิล โอไบรอัน (Michael O’Brien) ประธานบรษิ ทั โอไบรอนั กรปุ๊ ซงึ่ ทำ� งานดา้ นการ การคน้ ควา้ หาคำ� ตอบจากผเู้ ชย่ี วชาญดา้ น โค้ชผู้น�ำระดับสูงและพัฒนาทีมผู้น�ำระดับสูง การบรหิ าร ตา่ งมบี ทสรปุ ตรงกนั วา่ ตอบวา่ “leadership” หรอื สภาวะผนู้ ำ� นน่ั เอง สงิ่ ทมี่ คี า่ ทส่ี ดุ สำ� หรบั องคก์ รคอื ภาวะผนู้ ำ� เพราะความรแู้ ละความสามารถเชงิ เทคนคิ และหวั ใจของความสำ� เรจ็ ขององคก์ รนน้ั อยทู่ ี่ เปน็ พน้ื ฐานทท่ี กุ คนตอ้ งมใี นการทำ� งานใหด้ ี การฟมู ฟกั (cultivate) ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ทง้ั ในสว่ นทเ่ี ปน็ ปจั เจกและเปน็ ทมี หลายคนมีประสบการณ์ที่ต้องรับฟัง “ผเู้ ชยี่ วชาญ” ใหข้ อ้ คดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะใน ดว้ ยเหตนุ ้ี ผนู้ ำ� องคก์ รสมยั ใหม่ จงึ ควรใสใ่ จ การทำ� งาน และมองเหน็ ความแตกตา่ งในบคุ ลกิ ขอ้ เสนอของ โอไบรอนั (O’Brien) ในเรอ่ื งของ ทา่ ทที แี่ สดงออกของผเู้ ชย่ี วชาญทมี่ ภี าวะผนู้ ำ� การฝกึ ปฏบิ ตั เิ พอ่ื บม่ เพาะภาวะผนู้ ำ� ทคี่ วรเนน้ กบั ผเู้ ชยี่ วชาญทไ่ี มม่ ี ซง่ึ เกยี่ วขอ้ งกบั ความฉลาด ทกั ษะใน 4 เรอ่ื ง คอื ทางอารมณ์ (EQ)
44 1. ฝกึ ฝนความรเู้ นอื้ รตู้ วั มสี ติ (Practice self-awareness) 2. ฝกึ ใชจ้ นิ ตภาพ (use imagery) 3. ฝกึ มองใหค้ วามหมายกรอบของเรอ่ื งราว และคิดวางกรอบใหม่ให้ความหมายใหม่กับ เหตกุ ารณ์ (Frame and reframe event) 4. ฝกึ ประสานมมุ มองโลกทศั นอ์ นื่ ๆ ในตน (Integrating the perspective of others) บทเรยี นทเี่ ปน็ จรงิ ทวั่ โลกพบวา่ การฝกึ ฝน ทกั ษะสำ� คญั 4 เรอื่ งน้ี ฝกึ ฝนไดผ้ า่ นการ ตนเองเพื่อเอาชนะตนเองและพัฒนาความ เรยี นรแู้ ละพฒั นาความสามารถพนื้ ฐานใน 4 ฉลาดทางอารมณเ์ ปน็ เรอื่ งคอ่ นขา้ งยาก เพราะ ดา้ นหลกั คอื ตอ้ งกา้ วขา้ มความเคยชนิ เดมิ ๆ อปุ นสิ ยั ทท่ี ำ� มา นาน แต่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเกินวิสัยท่ีจะท�ำได้ 1.การสรา้ งพลงั แหง่ ความเพยี ร (Capacity หากมคี วามมงุ่ มน่ั ตงั้ ใจและมวี นิ ยั ในตนเอง to Aspire) ทม่ี กี ารสรา้ งบรรยากาศและเงอื่ นไข ปจั จยั ทจ่ี ะชว่ ยฟมู ฟกั ใหเ้ กดิ ขน้ึ 2. การนำ� การสนทนาทคี่ รนุ่ คดิ พนิ จิ นกึ และ สนทนาทไ่ี ดข้ อ้ คดิ ใหมๆ่ (Reflective and Gen- erative Conversations) ทมี่ กี ารฝกึ ฝนการ สนทนาอยา่ งลมุ่ ลกึ กบั ผอู้ น่ื ทก่ี ลมุ่ เรยี นรแู้ ละ กลั ยาณมติ ร 3. หลักคิดและทักษะการเข้าใจระบบซับ ซอ้ นและความซบั ซอ้ นในโลกทเ่ี ปลยี่ นแปลงเรว็ และพลกิ ผนั งา่ ย (Understanding Complexity) 4. ทกั ษะการเรยี นรู้ (Learning) เพอื่ เทา่ ทนั อนาคตทก่ี ำ� ลงั จะเกดิ ขนึ้ (Becoming
45 “4 สนามการสนทนา” นำ� มาใชใ้ หเ้ กดิ พลงั จากหลกั สตู ร ภาวะผนู้ ำ� เรยี นรรู้ วมหมู่ (Team Learning & Mental Model) ปยิ นาถ ประยรู : เรยี บเรยี ง การสนทนาใหเ้ กดิ พลงั และไดป้ ระโยชนต์ าม เปน็ การรบั ขอ้ มลู รบั ความรเู้ ขา้ มา สนามนจ้ี ะ เปา้ หมายทตี่ อ้ งการ ใชไ้ ดผ้ ลดถี า้ ผฟู้ งั ตอ้ งการรบั ขอ้ มลู ความรบู้ าง อยา่ ง ทำ� อยา่ งไรไมใ่ หน้ า่ เบอ่ื กข็ น้ึ อยกู่ บั ผพู้ ดู วา่ การประชมุ หรอื การสนทนาจะทำ� ใหม้ พี ลงั ได้ จะพดู ไดเ้ รา้ ใจแคไ่ หน ถา้ เรารวู้ า่ เรากำ� ลงั เลน่ อยใู่ นสนามไหน ยงิ่ ทกุ วนั นเ้ี ปน็ การประชมุ แบบออนไลน์ ผเู้ ออ้ื อำ� นวย แตจ่ ะเกดิ จดุ ออ่ นขน้ึ ถา้ หากในวงสนทนาที่ การสนทนา (Facilitator) ยง่ิ ตอ้ งละเอยี ดและ ตอ้ งการใหท้ กุ คนไดแ้ ลกเปลย่ี นกนั แตม่ คี นท่ี ออกแบบการสนทนาใหเ้ กดิ พลงั ใหม้ ากทส่ี ดุ สนทนาเพยี งคนเดยี วแลว้ คนอนื่ ตอ้ งเปน็ ผฟู้ งั หรอื ในกลมุ่ ไมม่ ใี ครรว่ มแลกเปลย่ี น ทำ� ตวั เอง อดัม คาเฮน วิทยากรผู้ออกแบบ เปน็ คนดาวนโ์ หลดขอ้ มลู เพยี งอยา่ งเดยี ว การ กระบวนการสนั ตวิ ธิ ใี หก้ บั หลายพน้ื ทข่ี ดั แยง้ ใน สนทนากนั คยุ กนั กจ็ ะไมเ่ กดิ ขน้ึ วงคยุ กจ็ ะมี โลกเชน่ แอฟรกิ าใต้ กลา่ ววา่ การสนทนามี 4 พลงั นอ้ ยลง เวน้ แตว่ า่ คนในวงคยุ เหน็ รว่ มกนั ท่ี ลกั ษณะดว้ ยกนั คอื จะใหว้ งคยุ นเ้ี ปน็ วงทตี่ อ้ งการดาวนโ์ หลดเรอื่ งใด เรอื่ งหนงึ่ จรงิ ๆ 1. การสนทนาแบบรับข้อมูลฝ่ายเดียว (Downloading) หลายการประชมุ มลี กั ษณะ 2. การสนทนาแบบโตเ้ ถยี ง โตแ้ ยง้ (Debate) เชน่ นี้ คอื รายงานวา่ ใครทำ� อะไร เกดิ ผลอะไร มผี พู้ ดู หลายคน เปน็ การพดู ถงึ เรอ่ื งเดยี วกนั พดู ทลี ะคน หรอื อาจจะมเี พยี วคนเดยี วทพ่ี ดู แตล่ ะคนมมี มุ มองหรอื จดุ ยนื ทต่ี า่ งกนั จงึ ตอ้ ง บรรยายครองพน้ื ทก่ี ารสนทนา สว่ นคนอนื่ ๆ ก็ มาถกเถยี งกันเพอ่ื หาข้อสรปุ การสนทนาใน เปน็ ผฟู้ งั รบั ขอ้ มลู ความรู้ หรอื เรอื่ งราวนน้ั ๆ ผู้ สนามนี้ เชน่ การอภปิ รายในสภาผแู้ ทนราษฎร ฟังท�ำหน้าท่ีดูดรับข้อมูล เหมือนกับการ การโตว้ าที การตอบโตก้ นั ในศาล สนามนม้ี ี ดาวนโ์ หลดไฟลบ์ นอนิ เทอรเ์ นต็ หรอื ในชน้ั เรยี น
46 ขอ้ ดที ผี่ ฟู้ งั จะไดเ้ หน็ มมุ มองหลายดา้ น เปน็ การคน้ หาความจรงิ หาขอ้ สรปุ การนำ� เสนอมมุ มองทแ่ี ตกตา่ งเพอ่ื ใหว้ งสนทนาไมเ่ อนเอยี ง หรอื เออ ออตามๆ กนั ไป แลว้ ทำ� ใหว้ งคยุ ไมเ่ กดิ สงิ่ ใหม่ แตข่ อ้ เสยี ของวงสนทนาแบบดเี บทกค็ อื การพยายามเอาชนะกนั มาก เกนิ ไป ขาดเหตผุ ลทมี่ นี ำ�้ หนกั เพยี งพอ หรอื บางครงั้ ผสู้ นทนากข็ าดสติ ซง่ึ เรอ่ื งของสตนิ น้ั สำ� คญั มากในทกุ สนามการสนทนา 3. การสนทนาแบบใครค่ รวญ (Reflective) Presencing) เปน็ การสนทนาทต่ี อ่ ยอดจาก สนุ ทรยี สนทนา (Dialogue) บางคนอาจจะ ทกั ษะการสนทนาแบบ Dialogue ผสู้ นทนาไม่ เรียกสานเสวนา เป็นสนามการสนทนาที่ เพยี งเปดิ ใจรบั ฟงั อยา่ งเขา้ อกเขา้ ใจเทา่ นนั้ แต่ พฒั นาการอกี ขนั้ จาก Debating แตพ่ ฒั นาสกู่ าร ตอ้ งมที กั ษะความสามารถทจ่ี ะเชอื่ มโยงสง่ิ ตา่ งๆ คยุ กนั อยา่ งเปดิ ใจรบั ฟงั กนั เอาใจเขามาใสใ่ จเรา เรอ่ื งราวทส่ี นทนากนั ทงั้ ในมติ ทิ เ่ี หมอื นและตา่ ง ผา่ นการครนุ่ คดิ และใครค่ รวญ สะทอ้ นความคดิ กนั จนเกดิ ความเหน็ ใหม่ (ดวงตาใหม)่ เกดิ ความเหน็ กนั ดว้ ยสภาวะทพี่ รอ้ มจะพดู และฟงั ปญั ญารว่ มกนั ของวงสนทนา ไมเ่ พยี งเหน็ เรอ่ื ง กนั แกน่ ของการสนทนาแบบนค้ี อื สนทนาให้ ราวจากอดตี เชอื่ มกบั ปจั จบุ นั แตย่ งั สามารถ เกดิ ความหมาย เกดิ การเรยี นรู้ รวมไปถงึ เกดิ สนทนาใหเ้ หน็ แนวโนม้ ในอนาคตและชว่ ยกนั ความหมายและการเปลยี่ นแปลงภายในของผู้ กำ� หนดทา่ ทแี ละทศิ ทางตอ่ อนาคตไดด้ ว้ ย สนทนา การสนทนาแบบนตี้ อ้ งมสี ติ สมาธทิ งั้ การพดู และการฟงั ทผี่ า่ นการครนุ่ คดิ ใครค่ รวญ ทงั้ 4 สนามการสนทนาตา่ งกม็ ขี อ้ ดใี นตวั หากเราฝกึ คยุ กนั ในสนามสนทนานบี้ อ่ ยๆ จะ เอง ขนึ้ อยกู่ บั เปา้ หมายของการสนทนา ทำ� ใหก้ ารสนทนามพี ลงั และสามารถยกระดบั วงสนทนาไปสสู่ นามทส่ี ไ่ี ด้ ขอ้ ควรระวงั คอื การจดั วงสนทนานนั้ ตอ้ งไม่ เปน็ ไปเพอื่ เปา้ หมายของเราเพยี งฝา่ ยเดยี ว แต่ 4. การสนทนาใหเ้ กดิ ปญั ญารว่ ม เกดิ ความ ควรเปดิ โอกาสใหค้ นในวงสนทนาไดเ้ ขา้ ใจเปา้ หมายร่วมและสร้างอนาคต (Generative/ หมายของการสนทนารว่ มกนั กอ่ น
ฝกึ การฟงั ดว้ ยหวั ใจ 47 ได้ยินมากกว่าเสียง ไดย้ นิ หวั ใจของตนเองและผอู้ น่ื จากหลกั สตู ร ภาวะผนู้ ำ� เรยี นรรู้ วมหมู่ (Team Learning & Mental Model) ปยิ นาถ ประยรู หนเู พยี ร แสนอนิ ทร์ : เรยี บเรยี ง สว่ นใหญเ่ ราจะถนดั การพดู มากกวา่ การฟงั โดยเฉพาะการฟงั ใหไ้ ดย้ นิ สง่ิ ทนี่ อกเหนอื จากคำ� พดู ซง่ึ เปน็ เรอื่ งทย่ี ากขนึ้ ไปอกี เพราะตอ้ งใชส้ มาธิ ใชพ้ ลงั ในการวางอตั ตา วางความคดิ เหน็ ของตวั เองไว้ เปดิ ใจใหก้ วา้ ง ใหค้ วามคดิ ของคนอน่ื เขา้ มาอยใู่ นใจตวั เรา ลกั ษณะการฟงั อยา่ งตงั้ ใจ (สรปุ จากหนงั สอื บทเรยี นชวี ติ ทจ่ี ติ แพทยอ์ ยากบอกใหโ้ ลกรู้ The Road Less Traveled : A New Psychology of Love, Traditional Values and Spiritual Growth : นายแพทย์ เอม็ . สกอ็ ต เปค, วทิ ยากร เชยี งกลู แปล)
48 ลว่ งหนา้ อยใู่ นใจ และมกั พยายามดงึ หวั ขอ้ การ สนทนาให้เป็นไปในทางท่ีน่าพอใจส�ำหรับเรา 1. การฟงั อยา่ งแทจ้ รงิ การตง้ั ใจใหค้ วาม หรือหากเรารู้สึกเบื่อ เราก็จะหาทางยุติการ สนใจคนอน่ื อยา่ งแทจ้ รงิ เปน็ การแสดงถงึ ความ สนทนา รกั เสมอ 7. การฟงั อยา่ งแทจ้ รงิ คอื ความรกั ในทาง 2. ลกั ษณะสำ� คญั อยา่ งหนง่ึ ของการฟงั อยา่ ง ปฏิบัติ ดังนั้น การฟังจึงเป็นการฟังให้เกิด แทจ้ รงิ คอื การรจู้ กั เปดิ ใจกวา้ ง สลดั ทงิ้ หรอื ปญั ญา เหน็ ทางออกและทางใหมท่ เ่ี ชอื่ มความ วางอคตติ า่ งๆ ทต่ี วั เราเองมอี ยไู่ วช้ วั่ คราว รวม สมั พนั ธ์ กบั ครอบครวั เพอื่ น พนั ธมติ ร เครอื ทงั้ กรอบความคดิ ความรู้ ความปรารถนาของ ขา่ ย หลอมความรสู้ กึ รว่ มกบั สรรพสงิ่ อนั นำ� ไป ตวั เราเอง ทำ� ใจของเราใหเ้ ปน็ ใจของผพู้ ดู เพอ่ื สกู่ ารเปลย่ี นแปลงภายในตน และขยายสกู่ าร ทเ่ี ราจะเขา้ ถงึ โลกของเขาใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ กระทำ� ภายนอก การฟงั ดว้ ยสติ ปญั ญา และ หวั ใจ นำ� ทางไปสปู่ ฏบิ ตั กิ ารคลค่ี ลายทกุ ขข์ อง 3. การฟงั เปน็ การผสานเปน็ หนง่ึ เดยี วกบั ผู้ สรรพชวี ติ พดู และผฟู้ งั เปน็ การขยายความเปน็ ตวั ของตวั เราอยา่ งหนงึ่ และเรามกั ไดเ้ รยี นรสู้ ง่ิ ใหมๆ่ การฟัง จึงเป็นส่ิงท่ีส�ำคัญยิ่งส�ำหรับการ ดำ� เนนิ ชวี ติ การเรยี นรู้ และการประชมุ นนั่ คอื 4. การฟงั อยา่ งแทจ้ รงิ เราตอ้ งถอดตวั ตน การยกระดบั จติ ใหม้ สี ตแิ ละสมาธสิ งู สดุ เทา่ ทจ่ี ะ ของเราวางไว้ หมายถงึ การยอมรบั คนอน่ื อยา่ ง ทำ� ได้ และตอ้ งฝกึ การฟงั ไวใ้ หต้ ดิ ตวั เต็มที่ เม่ือผู้พูดรู้สึกว่าผู้ฟังยอมรับเขาอย่าง แทจ้ รงิ ความรสู้ กึ วา่ สง่ิ ทเี่ ขาพดู อาจไมถ่ กู หรอื “กอ่ นการประชมุ เราตอ้ งทำ� จติ ของเราใหม้ ี มผี ลเสยี กจ็ ะลดลง และเขายงิ่ เปดิ เผยความ คณุ ภาพ ใหม้ ศี กั ยภาพสงู สดุ เพอ่ื การประชมุ ที่ รสู้ กึ ภายในจติ ใจของเขาตอ่ ผฟู้ งั มากขนึ้ ผพู้ ดู มคี วามหมาย คณุ ภาพของจติ อยทู่ คี่ วามชา้ เรา และผู้ฟังต่างก็จะชื่นชมกันมากขึ้น น�ำไปสู่ ตอ้ งทำ� ใจใหช้ า้ ลง” บรรยากาศของความรกั ซง่ึ กนั และกนั กระบวนการลอ้ มวงสนทนา จงึ เปน็ กจิ กรรม 5. การทคี่ นเราจะรจู้ กั เปดิ ใจกวา้ ง ลดการ ทส่ี ามารถฝกึ การฟงั รวมไปถงึ การพดู ทจี่ ะนำ� ยดึ มน่ั อตั ตาของตนเองและเอาใจใสผ่ อู้ นื่ อยา่ ง ไปสู่การสนทนายกระดับความคิด ในการ แทจ้ รงิ ไดน้ น้ั ตอ้ งอาศยั พลงั อยา่ งมาก ซง่ึ มแี ต่ ประชมุ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ความรกั เทา่ นนั้ ทจ่ี ะสามารถทำ� สง่ิ นใ้ี หส้ ำ� เรจ็ ได้ 6. ในชวี ติ จรงิ เราขาดพลงั งานชนดิ นี้ สง่ิ ท่ี เราทำ� คอื การเลอื กฟงั โดยมแี นวคดิ บางอยา่ ง
49 การฟงั 4 ระดบั ทกั ษะสำ� คญั ของการสนทนา ใหเ้ กดิ ปญั ญารว่ ม จากหลกั สตู ร ภาวะผนู้ ำ� เรยี นรรู้ วมหมู่ (Team Learning & Mental Model) ปยิ นาถ ประยรู : เรยี บเรยี ง คณุ ภาพของการฟงั นนั้ มคี วามสำ� คญั มากในทกุ กจิ กรรมและทกุ ความสมั พนั ธ์ ทง้ั ในการประชมุ ตา่ งๆ การจดั วงคยุ วงสนทนา มคี วามหมายตอ่ การอยรู่ ว่ มกนั และตอ่ การเรยี นรขู้ องเรา อยา่ งที่ หลายคนพดู ถงึ “การฟงั อยา่ งลกึ ซง้ึ ” “การฟงั อยา่ งตง้ั ใจ” “การฟงั ดว้ ยหวั ใจ” และคงเคยไดย้ นิ คำ� กลา่ วทว่ี า่ “ฟงั แตไ่ มไ่ ดย้ นิ ” “ฟงั แตส่ ง่ิ ทอี่ ยากจะไดย้ นิ ” และ ฟงั แค่ “เสยี ง” แตไ่ มไ่ ดฟ้ งั “นำ้� เสยี ง” การฟงั เปน็ ทกั ษะสำ� คญั ของผนู้ ำ� ทกั ษะของโคช้ ผเู้ ออื้ อำ� นวยการประชมุ (Facilitator) ผทู้ ี่ สนใจพฒั นาศกั ภาพตนเอง การฟงั มคี วามหมายกบั ภาวะการนำ� มาก เพราะทำ� ใหเ้ ราไดร้ แู้ ละเขา้ ใจสง่ิ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในบรบิ ททเ่ี กยี่ วขอ้ ง ผนู้ ำ� ทไี่ มฟ่ งั หรอื ทกั ษะการรบั ฟงั ไมด่ จี ะตดั ขาดจากความเปน็ จรงิ ทเี่ กดิ ขน้ึ ออ็ ตโต ชาเมอร์ (Otto Scharmer) จากสถาบนั MIT ผเู้ ขยี นทฤษฎตี วั ยู (Theory U) และ ผกู้ อ่ ตง้ั สถาบนั Presencing กลา่ วถงึ การฟงั 4 ระดบั 1. การฟงั แบบดาวน์ โหลด (Download listening) การฟงั ในระดบั นคี้ อื ฟงั ใน สง่ิ ทคี่ นุ้ และรอู้ ยแู่ ลว้ เปน็ การยนื ยนั สงิ่ ทเี่ รารแู้ ลว้ จะฟงั ในสงิ่ ทร่ี แู้ ลว้ และอยากฟงั เทา่ นน้ั หากมสี งิ่ ใด ทฟี่ งั แลว้ เขา้ กบั ความคดิ ความเชอ่ื หรอื ประสบการณท์ เ่ี รามี เรากเ็ ลอื กทจี่ ะเหน็ ดว้ ยกบั เรอื่ งนนั้ แต่ หากไมเ่ ขา้ กบั ความคดิ ความเชอ่ื ของเรา เรากจ็ ะไมเ่ หน็ ดว้ ย ตอ่ ตา้ นหรอื ปฏเิ สธอยภู่ ายใน
50 การเปดิ ใจ (Open mind) ไมเ่ ลอื กฟงั แตส่ งิ่ ที่ ตนเองคดิ หรอื เชอื่ แตจ่ ะหยดุ ความคดิ ภายใน นนั่ เพราะวา่ เราฟงั แบบเอาตวั เองเปน็ ตวั ตง้ั ของตนและเปดิ รบั ขอ้ มลู ทเ่ี ราไมค่ นุ้ มากอ่ นได้ หรอื ตวั ฉนั เองเปน็ ศนู ยก์ ลาง เรยี กวา่ I-in-me จดจอ่ ในการฟงั มคี วามอยากรอู้ ยากเขา้ ใจใน มมุ มองของผพู้ ดู ทำ� ความเขา้ ใจกบั เนอื้ หานนั้ เราจะสงั เกตตวั เราเองไดจ้ ากการพดู คยุ ที่ แม้จะเป็นเร่ืองที่เคยมีประสบการณ์แต่จะไม่ เรามขี อ้ สรปุ อยใู่ นใจ หรอื การพดู คยุ ทเ่ี ราหยดุ เขา้ ไปตดั สนิ สง่ิ นนั้ วา่ ตอ้ งเปน็ แบบนนั้ แบบน้ี ใหค้ วามสนใจหรอื ฟงั แตไ่ มส่ นใจ รวมทง้ั การพดู คยุ ทเ่ี ราพอใจกบั สงิ่ ทเี่ ราเหน็ ดว้ ยเพราะมนั มา นน่ั เพราะเรา เอาเรอ่ื งทฟี่ งั มาเปน็ ตวั ตง้ั ยำ้� ความคดิ ความเชอ่ื เดมิ ของเรา หรอื เอาขอ้ มลู เนอ้ื หาเปน็ ศนู ยก์ ลาง เรยี กวา่ I-in-It ถา้ เราเปน็ ผสู้ งั เกตการสนทนา เราจะเหน็ ไดจ้ ากการสนทนาทตี่ า่ งคนตา่ งกอ็ ยากจะพดู ใน เราจะสงั เกตตวั เราเองไดจ้ ากการพดู คยุ สง่ิ ทตี่ นเองอยากพดู เปน็ การพดู คยุ กนั อยา่ ง กนั แบบมขี อ้ มลู และเหตผุ ลเปน็ หลกั อาจจะมี สภุ าพและผวิ เผนิ และในการพดู คยุ ทม่ี กี ารโต้ แหลง่ อา้ งองิ การเกบ็ ขอ้ มลู เชงิ สถติ ิ การวจิ ยั เถยี ง เนอ่ื งจากตา่ งฝา่ ยตา่ งเลอื กฟงั ในสงิ่ ทเี่ ชอ่ื ตา่ งๆ ทำ� ใหเ้ ราอยากเขา้ ใจวา่ เกดิ อะไรขนึ้ เกดิ ใจกจ็ ะมงุ่ ไปทก่ี ารตอบโตห้ รอื หาขอ้ ผดิ พลาด ขนึ้ ไดอ้ ยา่ งไร เพราะอะไร หรอื เปน็ ขอ้ มลู เฉพาะ ของผพู้ ดู ทเี่ ราไมเ่ คยรมู้ ากอ่ น 2. การฟังความเป็นจริง ถา้ เราเปน็ ผสู้ งั เกตการสนทนา จะเหน็ (Factual listening) เปน็ การฟงั ทอี่ าศยั การฟงั แบบนจี้ ากการสนทนาแบบอภปิ รายเพอ่ื แลกเปลย่ี นมมุ มองหาขอ้ สรปุ การแลกเปลย่ี น ระดมความคดิ ซง่ึ เปน็ การพดู คยุ กนั ดว้ ยเหตผุ ล 3. การฟังแบบเอาใจเขามา ใสใ่ จเรา (Empathetic listening) ฟงั ดว้ ยความรสู้ กึ (Open heart) เชอ่ื มหวั ใจและ ตวั ตนกบั คนทพี่ ดู หรอื สง่ิ ทไ่ี ดย้ นิ (ฟงั จากแหลง่ ทผ่ี พู้ ดู สะทอ้ นออกมา) เหน็ เรอ่ื งราวจากสายตา ของคนอน่ื ทำ� ใหเ้ ราวางตวั ตนของเราและอยกู่ บั คนอนื่ อยา่ งทเี่ ขารสู้ กึ ฟงั ความทกุ ข์ ความเดอื ด รอ้ นของเขา เขา้ ใจผพู้ ดู วา่ สง่ิ ทเี่ ขาพดู นน้ั สำ� คญั กับเขาอย่างไร แม้เราจะไม่มีความรู้หรือ ประสบการณใ์ นเรอ่ื งนนั้ แตเ่ รารบั รถู้ งึ ความรสู้ กึ ของผพู้ ดู ได้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232