ถงึ กบั น่งั รถจบี๊ ไปรบั บาตรอยางทเ่ี คยเห็นในกรงุ เทพฯ) แมแตน ้ําดื่มซึง่ เคยเปนน้าํ ฝนหรอื น้ําบอก็ เปลี่ยนไปเปน นา้ํ อัดลม ทา นสมภารวัดหน่ึงในจงั หวัดอดุ รฯ ทานเทศนแ ลวเทศนเลาวา นํ้าขวดกําลัง จะทวมพระกมั มัฏฐานตายอยแู ลว ท่ีบรรยายมานเี้ ปน อนั ตรายอยา งใหมท ่กี ําลังเรม่ิ ตน และเพ่ิงมเี ฉพาะในบางวดั หวงั วา ทา นพอ แม ครูอาจารยจ ะชวยลูกของทานดว ยการใหสตทิ างฝา ยรบั ใหย ึดหลกั ที่ครอู าจารยแ ตกอน ๆ ไดวางไว และเตอื นฝายผใู ห ใหสํานึกวากําลังถวายยาเบ่อื แกพระปา ความหวงั ของพระปา พระปาเพยี รบําเพญ็ ธรรมดว ยอทิ ธบิ าทและสมั มปั ธาน ทา นตองอดทนตอความเปน อยูซ งึ่ ลว น แลวแตต รงกันขา มกบั สขุ สบายในสายตาของคนท่วั ไป ทา นตองระมดั ระวังทกุ ฝก า ว ไมท ําผิดวนิ ัย และผิดระเบยี บของวดั ระเบยี บเชน นนั้ เปน อยางไรอาจเหน็ ไดจ ากที่คัดมาพมิ พไ วต อ ไปน้ี เปน ระเบยี บของวัดทม่ี ชี ่ือวัดหนง่ึ ในจงั หวดั เลย ขอ ๑. เวลาออกบณิ ฑบาตหามคยุ กัน ใหภ าวนากําหนดจติ ของใครของมนั จงตัง้ อยใู นความไม ประมาททุกเม่อื ขอ ๒. กลับจากบณิ ฑบาตมาถึงวดั แลว ขณะนง่ั จัดบาตรอยูบ นศาลาหามคุยกนั จะทาํ ใหเ สีย ระเบยี บของครอู าจารย ขอ ๓. เม่อื ไดยนิ เสยี งระฆงั สญั ญาณ จงพรอมกนั ออกมาทํากจิ วตั รปด กวาด อยาเมนิ เฉย ขอ ๔. ถาหมเู ดียวกนั ทําผดิ ศลี ธรรม ใหวากลา วตกั เตือนกันได ถา วาไมไดใ หร องเรียนใหค รูอาจารย ทราบโดยดว น อยา ถือวา เปน การฟอ งรองกัน ขอ ๕. เมื่อผูอ ื่นทา นนง่ั ภาวนากําหนดจติ ใจของทา นอยู อยา ไปเพง โทษทานวา หมรู ังเกยี จตน จะทาํ ใหเราเปน บาป ขอ ๖. เมอื่ ทาํ กิจวัตรสรงน้ําเสรจ็ แลว หา มไมใหคุยกนั ตามกุฏิ เวน ไวแ ตไปศึกษาธรรมและไปดูแล ความเจบ็ ปว ยของกนั และกนั ขอ ๗. เม่อื มีกจิ ของสงฆเ กดิ ขน้ึ อยา เมนิ เฉย ตอ งเอาธรุ ะชว ยดแู ล ถา ใครไมเ อาใจใส ทา นปรบั อาบัติ ทุกกฎ ขอ ๘. หามมใิ หแอบเกบ็ อาหารไวฉนั ตอนเพล เพราะจะทาํ ใหเสียระเบียบของพระธดุ งคก ัมมฏั ฐาน 51
ขอ ๙. เวลาไปตอนรบั แขกทม่ี าสูวัด ตอ งหม จีวรใหเ รยี บรอย ตลอดจนเวลาไปรบั แขกชวยครบู า อาจารยก็ตอ งหม จีวร ขอ ๑๐. เม่อื ไดยนิ สญั ญาณ ที่ศาลาการเปรยี ญตองรบี ไปใหถงึ ภายใน ๑๐ นาที เมื่อถึงแลว หามคุย กันในกิจที่ไมจ ําเปน ใหน่งั ภาวนากําหนดจิตใจของใครของมันจงึ จะจดั วา เปนผไู มป ระมาท เมือ่ เหน็ ผอู ื่นไมพ ดู ดวย อยา หาวาทา นรังเกยี จ ใหเ ขาใจวา ทานกําหนดจิตของทา นอยู ขอ ๑๑. จงชว ยกันรักษาของสงฆท มี่ ีอยตู ามศาลาและกุฏิ ใครไมเ อ้อื เฟอ ในของสงฆท า นปรบั อาบตั ิ เทา กับละเมดิ ของสงฆ ขอ ๑๒. ของสง่ิ ใดท่ีเขาเอามาถวายครอู าจารยแ ละพระหรือเณรหรอื ผา ขาวเก็บไว ถาจะใช ตอง ไดร บั อนญุ าตจากผูเกบ็ เสยี กอน นอกจากตองระวังตัวไมทาํ ผดิ วนิ ัยและไมผ ดิ ระเบยี บของวดั พระปา ยังตอ งพากเพยี รฝก อบรมจติ ของตนเอง เพื่อยงั กเิ ลสใหเบาบางลงไปเร่ือย ๆ จดุ หมายปลายทางที่สุดยอดคือความหลุดพน จาก การเวียนวายตายเกิด ถาพลาดจากนน้ั ก็ขอใหไ ดอ ริยธรรมชน้ั ใดชนั้ หนึง่ ตงั้ แตโ สดาบนั ขน้ึ ไปถึง อนาคามี ซ่งึ จะเปนการประกนั วาจะไมต องไปเกดิ ในแดนทคุ ติ ความมงุ มาดดงั กลา วมาน้ีเปนเรอ่ื งจริงจังสาํ หรับพระปา ไมใ ชความเพอฝน ทั้งนเ้ี พราะทา นมีบุคคล ตัวอยา งท่ีเหน็ ๆ อยู เปน ตัวอยางสาํ หรบั ความสําเร็จชนั้ เยย่ี ม คอื อรหตั ผล ผทู ่ไี ดศกึ ษาจรงิ จงั และ อยางใกลชดิ ตองยอมรบั วาพระอรหนั ตมีจริง แมในสมยั วทิ ยาศาสตรเชน ปจ จบุ นั นพี้ ระอรหันตก ็มไี ด และไดบ ังเกิดแลวคอื ทานพระอาจารยมน่ั ภรู ิทตั โต ตนสายและแบบฉบับการปฏบิ ัตขิ องพระปาท่ี เรากําลังกลาวถงึ ทานพระอาจารยม ั่น ภรู ิทตั โต เปน สักขพี ยานรายแรกในสมัยนที้ ส่ี นบั สนนุ พระพทุ ธวจนะวา ตราบ ใดทีย่ ังมผี ปู ฏบิ ัตธิ รรมของพระองคอ ยู ตราบนนั้ โลกก็จะยังไมป ราศจากพระอรหันต ความสาํ เร็จ แหง ทานพระอาจารยม น่ั และสานศุ ษิ ยของทานอกี หลายองค เปน เครือ่ งกระตนุ ใหพระปา ละท้ิงบา น ชอ งและภาวะแหง ผคู รองเรือนมาเปนคนไมม บี า นและคนปา ดว ยความเตม็ ใจ เพราะเหน็ วาทาง ขางหนานน้ั สวางไสว ขอแตใ หไ ดเ ดนิ โดยถูกทางและโดยไมหยุด โดยไมยอทอ ตอความอดอยาก ยากแคนและอุปสรรคทัง้ หลายท้ังมวล เพ่ือใหถึงดนิ แดนแหง ความสวา งอนั เปนจดุ หมายปลายทาง สาํ หรบั พระปาทกุ องค หลายตอ หลายองคตองหยุดเสยี แคก ลางทาง บางองคเพราะหมดบารมี บาง องคเ พราะหมดอายุ แตองคท ีย่ ังเหลืออยูกย็ งั เดนิ ตอไปโดยไมค รน่ั ครา มหรอื ทอ แท เดนิ ตอ ไป เพราะทา นแนใ จวา ผลท่ไี ดจ ะคุม กบั ความเหนื่อย ผลน้ันคือความไมต องกลบั มาทนทุกขแ หง ความ เกดิ อกี ตอ ไป. ..................................... 52
ภพอนื่ - เรอื่ งควรคาํ นงึ รวบรวมโดย ศจ.นพ.อวย เกตสุ งิ ห อารมั ภบท คพฺเมเก อปุ ปชฺชนฺติ นิรยํ ปาปกมมฺ ิโน สคคํ สุคติโน ยนตฺ ิ ปรนิ พิ พฺ นตฺ ิ อนาสวา คาํ แปล บางจาํ พวกยอ มเกิดในครรภ ผูมีกรรมเปน บาปยอ มไปนรก ผูม กี รรมเปน เหตุแหง สคุ ตยิ อมไป สวรรค ผูไมม อี าสวะยอ มปรนิ พิ พาน. (ปาปวรรค ธรรมบท) ปญ หาขอ หนง่ึ ซง่ึ จะตอ งเกดิ ขน้ึ ในความคดิ ของคนทกุ คนทรี่ จู กั คดิ อยางนอยก็ในตอนใดตอน หนงึ่ ของชีวิต คือ “ความตายเปน อยา งไร” หรือ “เมอื่ ตายแลว เราไปไหน” โดยลําพังคนธรรมดา ยอ มไมอาจตอบคําถามนี้ได เพราะ “ยงั ไมเคยตาย” หรอื จาํ ไมไ ดวาเคยตายมาแลว และคนท่พี อจะ ติดตอกันไดแ ละตายไปแลว ก็ยงั ไมปรากฏอยางนาเช่อื โดยสมบรู ณวา มีใครกลบั มาบอกเลา ใหท ราบ รายละเอียด มผี ทู ่ีตายไปชว่ั ระยะ แลวฟน ขนึ้ มาเลา เหตกุ ารณแ ปลกๆ แตก ็ไมล วงพนขอสงสัยวา ท่ี เลานั้นเปนเรอื่ งท่ี “ปรากฏ” ขึน้ เองเน่ืองจากสมองขาดออกชิเจนระหวางที่ “ตายไปชว่ั ขณะ” ทม่ี าอกี แหง หนึ่งเกีย่ วกบั ความรูเ รอ่ื งความตายคือ คนทรี่ ะลกึ ชาตไิ ดและ “จาํ ” เหตุการณร ะหวา ง การตายกบั การเกิดใหมมาเลาใหฟ ง แตก ม็ ีขอ สงสัยอยเู สมอวา ผนู ั้นพดู เอาเองหรอื พดู ตามที่ผูอ นื่ สอน หรอื พดู ตามท่ีเขา ใจวา เปน ความจรงิ เรอ่ื งระลกึ ชาตทิ ป่ี รากฏบอยๆ ในหนาหนังสือพิมพ บางเร่ืองก็เหลอื เช่ือ สถาบันวทิ ยาศาสตรบ าง แหงในประเทศฝา ยตะวนั ตก มีความสนใจในเรอ่ื งการกลบั ชาติมาก จนถงึ กบั ลงทนุ อยางไมจ ํากดั เพื่อสบื เสาะและสอบสวน แตก ็ยงั ไมอ าจใหข อ ยุตปิ ระการใด เพราะเหตทุ ีย่ งั ไมส นิ้ ความสงสัยใน ถอ ยคําของผใู หการน่ันเอง 53
เมอ่ื คนธรรมดาไมอ าจจะตอบปญ หาได คนสวนมากกต็ อ งหนั ไปหาความรจู ากทา นตา งๆ ทเี่ ปน ศาสดา ชาวพทุ ธกต็ องอาศัยพระพทุ ธเจา พระพทุ ธศาสนาสอนวา คนเรามกี รรมเปน ของๆ ตน เปน ผูร ับผลของกรรม มีกรรมเปน กําเนิด มกี รรมเปน ทพ่ี ่งึ อาศัย หากทํากรรมใดไว จะดีหรอื ชัว่ ก็ตาม ยอ มตองรบั ผลของกรรมนนั้ กรรมเปน ปจ จยั จาํ แนกสตั วต า งๆ ตราบใดท่เี รายังไมห มดกิเลส ตราบ นัน้ กรรมก็จะสงใหไ ปเกดิ ในท่ีดหี รอื ชัว่ แลว แตก รรมทท่ี ําไว ตอเม่ือหมดสน้ิ กิเลสอาสวะแลว จงึ ไม ตอ งเกดิ อีกตอไป คอื เขา สปู รนิ พิ พาน ถา ใครเชอื่ ตามนโี้ ดยสนทิ ใจ กเ็ ปนอนั หมดหวงได ไมต องสงสัยวาตายแลว เปน อยางไร เพราะพระ บรมศาสดาทรงบอกไวอ ยา งแจงชดั แลว วาตอ งไปเกดิ ตามกรรม กรรมของใครผนู น้ั ยอ มรูดีกวาผอู นื่ เพราะฉะน้นั กร็ ดู ดี ว ยวา ตายแลวจะไปไหน อยา งนอยก็รูวา ไปดีหรือไปช่วั ในสมัยกอ นคนท่วั ไปเชือ่ มน่ั ในขอ น้ี ไมกลาทําบาปเพราะกลัวไปตกนรก และเพยี รทําบญุ เพ่อื จะไดไป สวรรค อาชญากรรมรา ยแรงจงึ มีนอย มาถงึ สมัยน้คี นหนั มาถอื คติวัตถนุ ิยมตามวทิ ยาศาสตร ยอมรบั แตสิ่งทีเ่ หน็ ได พสิ จู นไ ด เลยชกั สงสยั ในความเชอ่ื ถอื แตคตเิ ดมิ กลับไปนยิ มในทางทีว่ าตาย แลวอะไรๆ ก็สลายแยกแยะไปตามรางกายที่เนา เปอ ย แมพ ระภกิ ษบุ างรปู กป็ รบั ตนเขากบั สมยั นยิ ม สอนไปในเชิงวานรกสวรรคมอี ยูแตใ นปจจบุ นั เปน เรอื่ งรอู ยแู กใจบาง เปนเร่อื งความทกุ ขห รอื ความสขุ ตามคตโิ ลกบา ง เรือ่ งปรโลกไมม กี ลาวถึง ผลของการผันแปรเชน นคี้ อื คนไมกลัวบาป เกรงแตกฎหมาย เมอื่ ใดเห็นวามอื ของกฎหมายจบั ไมไดไลไมท นั กก็ ระทําการทต่ี องหามตามแตค นจะไดป ระโยชนห รือไดค วามพอใจ บานเมอื งจงึ มาก ไปดว ยเรอ่ื งประทษุ รา ย แมฆากนั ดว ยเหตุเพียงเล็กนอ ย หรอื เรอ่ื งทุจริตคดโกงฉอราษฎรบ งั หลวง โดยไมกลัวตกนรก สังคมก็ปน ปวน เพราะคนไมเหน็ ผูทาํ ชวั่ ตอ งรบั ผลรา ย และไมเชอ่ื เหมอื นแต กอ นวาผทู าํ บาปนนั้ แมไมไดร บั ผลในชาตนิ ที้ ่อี าจเหน็ ได กจ็ ะตอ งไดร บั ในชาตติ อๆ ไป เรอ่ื งทาํ ความ ดีกห็ มดความเชือ่ ถอื โดยทาํ นองเดยี วกัน หากคดิ ดูเพียงเลก็ นอยก็จะเหน็ ไดวา วิธหี นงึ่ ท่จี ะแกภ าวการณเ สอ่ื มโทรมเชนนี้คือการชกั นําใหค น กลับไปเชอื่ ในเรื่องตายแลวเกดิ จะไดก ลวั บาปกลวั นรกซง่ึ หนีไมพน ไมเ หมือนกบั การลงโทษทางโลก ซึ่งมที างหลบเล่ียงไดมากมาย ผูเขียนซ่งึ เปนผูร วบรวมเรอื่ งทง้ั หลายในหนงั สือนี้ ไดร บั การศึกษามาในทางแพทยแ ละทาง วทิ ยาศาสตร ในสมัยหนุมๆ กม็ คี วามเขา ใจคลายคนหนมุ สาว (และคนแกบ างคน) ในปจ จบุ ันนวี้ า เมือ่ เราตายแลวกจ็ บเรือ่ งของเราไปตอนหนง่ึ ตอนตอ ไปเปน เร่ืองของลูก ซงึ่ รบั ทอดรางกายและ จติ ใจไปจากเราและคขู องเรา ถา ไมม ีลูกเรอื่ งกจ็ บถึงท่สี ดุ เคยคิดวา พระพทุ ธศาสนานนั้ ก็คลาย ศาสนาอนื่ ๆ คอื เปน ระบบปฏบิ ตั เิ พอื่ ใหเปน คนดมี ปี ระโยชนแกสงั คม นรกสวรรคน ั้นเปน เรื่องสมมตุ ิ เพ่ือขูหรอื จูงใจคนท่มี กี ารศึกษานอย หรือไมม ีความรทู างวิทยาศาสตร โดยเฉพาะการเรยี นวิชา ภูมศิ าสตรเก่ยี วกบั ประวตั ขิ องโลก ชีววทิ ยาเก่ียวกับววิ ฒั นาการของตน ไมแ ละสตั ว และอนิ ทรยี เ คมี 54
เกี่ยวกับการหมนุ เวียนของสารประกอบสิง่ มีชวี ติ สง เสรมิ ความเขา ใจดังกลา วน้ี ผเู ขยี นเชื่อวาผทู ่ีรู วทิ ยาศาสตรท ัว่ ๆ ไปกค็ งเขาใจอยางเดยี วกนั ตอมาเมือ่ ผเู ขียนเปน ผูใหญข ึ้น ไดร ูเรอ่ื งสวนตวั ของนกั วิทยาศาสตรช น้ั สูงๆ หลายคน ทง้ั โดยสวนตัว และโดยทางเอกสาร ไดท ราบวา ทานเหลา นนั้ ยกยอ งวาพระพทุ ธศาสนาเปนคาํ สอนที่ดที สี่ ดุ และถูก หลกั เหตุผลทางวิทยาศาสตรมากท่ีสดุ ก็เกดิ ความสนใจหนั มาศกึ ษาหาเหตผุ ลแหง ความเหน็ นนั้ ๆ โดยเฉพาะอยางย่งิ เม่ือไดบวชเรยี นในสาํ นักท่ีมกี ารอบรมส่ังสอนอยางดีท้งั ในทางปริยัตแิ ละปฏบิ ัติ ประกอบกบั ไดศ กึ ษากบั พระอาจารยกัมมฏั ฐานชน้ั สูงๆ อกี หลายทาน กไ็ ดเปล่ยี นความเห็นไปในทาง ที่ถกู ตอ ง กลา วคอื เหน็ วา คําสอนของพระพทุ ธเจานัน้ เปนสจั จะเท่ยี งแท และลกึ ลํา้ เหนอื วิทยาศาสตร วธิ ขี องวทิ ยาศาสตรน ั้นอาศัยสัมผสั ทัง้ หา แมจะใชเ ครอ่ื งชว ยเหลอื อยางดีวเิ ศษ เพียงไร ก็ยังตองแปลผลดวยสมั ผสั ทง้ั หา นนั่ เอง อะไรทที่ าํ ใหตาเหน็ ไมไ ด หฟู ง ไมไ ดยิน จมกู ดมไมไ ดก ลนิ่ ล้ินชมิ ไมร รู ส ผิวหนงั แตะตองไมร สู ึก วิทยาศาสตรกร็ ับรไู มไดเ พราะไมมวี ัตถพุ ยานหรอื ทําซ้ําพิสจู นกันไมได แตวิธขี องพระพทุ ธศาสนานนั้ ใชส มั ผสั ท้ังหก มีการใชการงานของจติ ดว ยซึง่ ใชไดใ นเมอ่ื สมั ผสั อน่ื ๆ ไมส ามารถรบั รู จรงิ อยู ผลการศึกษาดว ยจติ นเี้ ปนเรือ่ งเฉพาะตวั ใครทาํ ไดค นนัน้ รู แตว ิธนี นั้ สอนกันไดและใครท่ี ปฏบิ ตั ติ ามอยางจรงิ จงั กจ็ ะไดผ ลเหมือนๆ กบั อาจารยผ ูส อน นบั วา มีการถายทอดและมกี ารพิสูจน โดยทาํ ชํา้ ไดเ หมอื นกัน ผเู ขยี นยงั ปฏบิ ัตไิ มไ ดถงึ ขน้ั ที่จะรเู หน็ เองไปหมดทุกๆ อยาง แตเทา ทท่ี าํ ได แมเพียงเลก็ นอ ย ก็รสู ึก วาผลเปนทีน่ า อัศจรรย และถกู ตองตามทีพ่ ระพทุ ธเจาทรงสง่ั สอนไว ทง้ั ในดานความรูแ ละดา น ประยกุ ต ดงั นั้นแมว า จะยังไมส ามารถพสิ ูจนด วยตนเองไดห มดทุกๆ ขอ โดยเหตุผลกเ็ หน็ สมควรรบั วา หลักสําคัญๆ ของพระพทุ ธศาสนานั้นคงจะไมผ ดิ ไปจากความจริง หลกั สาํ คญั ประการหนง่ึ คอื การท่ีคนธรรมดา ทีย่ งั ไมส น้ิ อาสวะ จะตอ งเกิดอกี เม่อื ตายไปแลว แต เร่ืองน้ีเปน เรอื่ งพิสูจนยากดังที่กลาวแลวขางตน ตามธรรมดากต็ อ งอาศัยความศรทั ธาในพระ สัมโพธิญาณเปน สําคญั อยา งไรก็ดี ผูเขยี นมคี วามเห็นวา เหตกุ ารณท เี่ กดิ ขนึ้ แกบุคคลบางคน ซ่ึงได เผชิญกบั “อมนษุ ย” ผสู ิงสอู ยูใ นภพอนื่ ๆ ก็ดี หรอื ผูท ี่เคยผา นเขา ไปในภพดังกลาวแลวกลบั มาไดก็ดี อาจจะชวยสงเสริมความเชอื่ ถือในเรอ่ื งเหตกุ ารณภายหลังตายได โดยเฉพาะถาการเลา เรอื่ งนนั้ ๆ มี หลักฐานท่นี า เชอ่ื ถือ 55
ผเู ขยี นจงึ ไดใชความพยายามรวบรวมเรอื่ งเชน วาน้ี ตดิ ตอมาเปน เวลารว มยส่ี บิ ป โดยตง้ั ขอ จาํ กดั ไว อยางหนกั แนนวา บคุ คลผเู ปนตน ตอของเร่ืองทง้ั หลายจะตอ งมตี ัวมตี น เปน ผูเ ชอ่ื ถอื ได มีสติปญ ญา ในเกณฑปกติ และเรอ่ื งทีเ่ ลาจะตอ งมขี ออางอิงพอสมควร ไมใ ชกลา วขึน้ มาลอยๆ ในชน้ั ตนนม้ี ีเรอื่ ง เสนอไดร วม ๑๕ หัวขอ จากผเู ลา ๑๒ คน (รวมทัง้ ผเู ขยี นเองดวย) ผเู ขียนรูจกั ผูเ ลา อยา งดที กุ คน นอกจากคนเดียว คอื คณุ สุวรรณา แจงมงคล ซงึ่ รจู กั หลงั จากท่ีไดร บั เรอ่ื งแลว แตท านผนู ้กี ็เปนผู คุนเคยอยางสนิทกบั ทานเจาคณุ พระธรรมจินดาภรณ ซง่ึ ผเู ขยี นเคารพนบั ถืออยา งยิ่ง ผูเ ขียนไดแ จง ตาํ บลทอี่ ยขู องผเู ลา ทุกคนไวด ว ย เพอ่ื วาทานผใู ดประสงคจ ะติดตอ กจ็ ะกระทาํ ได มียกเวน อยูแต ทานเจา ของเรือ่ งทีส่ อง (ญ. บ.) ผเู ดยี ว ซึง่ ไมป ระสงคจะใหเ ปด เผยตัวทานดวยเหตผุ ลเฉพาะ ในการเสนอเรือ่ งตางๆ น้ี ทง้ั ผูเ ลาและผูร วบรวมมีความตงั้ ใจท่ีจะเสนอขอ ความจรงิ โดยไมพ ยายาม แสดงความเหน็ อะไรนอกเหนือไปจากเหตผุ ลธรรมดา ใหทา นผูอ า นพจิ ารณาเอาเอง ผูรวบรวม (คือ ผเู ขยี นบทนําน)้ี ไดเ พ่มิ เติม “หมายเหต”ุ ลงในตอนทายของเรือ่ งทุกเรื่อง เพ่ือชข้ี อ ทีค่ วรเอาใจใส หรอื จุดทมี่ นี ้ําหนกั มาก หรอื น้าํ หนักนอยใหเ หน็ งายข้นึ ไมไดม ีความประสงคจะกลอ มเกลาจิตใจของ ทา นผใู ด ตองการเพยี งเพม่ิ ความกระจางขนึ้ เทานั้น การเรยี งลาํ ดับเรอื่ ง ถอื ความสะดวกเปนใหญ. อวย เกตสุ งิ ห ผรู วบรวม ๑๖ ซอย พระราชครู ถนนพหลโยธนิ กทม. ๔ เมษายน ๒๕๑๒ 56
ภพอน่ื - เรอ่ื งควรคาํ นงึ รวบรวมโดย ศจ.นพ.อวย เกตสุ งิ ห เรอ่ื งที่ ๑ พระเมตตาของทลู กระหมอ ม โดย เอนิ ศรี เกตสุ งิ ห (นางสาวเอินศรี เกตสุ ิงห เปน นองของผรู วบรวม สําเร็จวิชาพยาบาลผดุงครรภ จากศิรริ าชพยาบาล เมอื่ พ.ศ.๒๔๘๘ เคยรบั ราชการในโรงพยาบาลศริ ิราช และโรงพยาบาลหญงิ ในปจจุบนั นที้ ํางานอยู กับบรษิ ทั ตา งประเทศ อายหุ าสบิ ป เปน ผูไมเ คยมปี ระวัติเหลวไหล ตําบลทอี่ าจตดิ ตอได คือ บานเลขท่ี ๑๖ ซอยพระราชครู ถนนพหลโยธนิ กทม.) เมอื่ ประมาณยส่ี บิ ปเ ศษมานี้ ขาพเจาซ่งึ จบการศกึ ษาวชิ าพยาบาลผดุงครรภม าใหม ๆ จากศิริราชพยาบาล ไดไ ปพบผปู ว ยดวยโรคเนื้องอกในมดลกู ทา นหนง่ึ ซึ่งเปน มารดาของครขู อง ขาพเจาผหู น่ึง ปรากฏวา ทานสงู อายมุ ากแลว และไดร บั การทรมานจากโรคนจ้ี นกระทง่ั ถายปส สาวะ ไมออก เพราะทานไมย อมรบั การรกั ษาดวยวธิ ีผา ตดั ดวยความกลวั แมจ ะไดร บั การแนะนาํ จาก แพทยผชู ํานาญหลายโรงพยาบาล ทานก็ไมย อม เมอ่ื ขา พเจา เคยทราบขาวจากบตุ รชายของทาน ซึง่ มาออ นวอนใหข า พเจาไปชวยพูดขอรอ งใหท า น รบั การผาตดั ขา พเจาไดพดู ออ นวอนทานอยูป ระมาณสองชวั่ โมงกวา ทานกข็ อคําม่ันสญั ญาจาก ขาพเจาหลายขอ เชน ๑. ขอใหขา พเจาพูดใหอ าจารย พญ.มรว. สง ศรี เกตสุ ิงห เปน ผทู าํ ผา ตดั ๒. ขาพเจา ตอ งอยูกบั ทานตลอดเวลาทีผ่ าตัด และพยาบาลจนกระทง่ั ทานหาย ๓. รับรองวา ไมเ ปน อันตรายถึงชวี ติ (ซงึ่ ขา พเจา ไมย อมรบั แตก ป็ ลอบใจทาน) ในที่สดุ ทานยนิ ยอมไปตรวจ และรบั การผาตดั ที่ศิรริ าชพยาบาล โดยเขาอยใู นตึกมหดิ ลวรานุสรณ หอ งเลขท่ี ๑๖ กอ นวนั ผา ตดั หนงึ่ วนั ขา พเจาแนะนาํ ใหท านบชู าทูลกระหมอมสมเดจ็ พระราชบดิ า ฯ ดว ยพวงมาลยั และขอใหท า นทรงชวยคุมครองใหปลอดภยั จากการผา ตัด เพ่อื เปน กําลงั ใจแกผ ปู วย ทา นกป็ ฏบิ ตั ติ าม โดยทไ่ี มเ คยรูจกั หรอื ทราบพระประวตั ิอยา งใด ๆ มากอนเลย พระรปู ก็ไมเ คยเห็น เพราะวันทที่ า นเขาไปอยทู า นกาํ ลังออ นเพลยี จากการทรมานของโรคราย (สมยั นน้ั ยังไมไ ดส รา งพระ รปู อนสุ าวรีย) 57
ในคืนวนั ผาตดั ขา พเจาและบตุ รสาวของทานนง่ั เฝาตลอดคืน และใหล กู ๆ ผชู ายทกุ คนกลบั กอ น ๑๘ น. ตามกฎของโรงพยาบาล รงุ ขนึ้ เชาทานตน่ื ดว ยความแจม ใส หลงั จากทขี่ า พเจาไดเ ช็ดตวั ให ทานแลว ก็พดู คุยกนั ถงึ เหตกุ ารณเ ม่ือวาน ขา พเจาเลา ใหท านฟง วา ทา นบรภิ าษขา พเจา เสียมากมาย หาวาหลอกลวงวา ผาตดั แลว ไมเ จบ็ และ ทานดน้ิ มากจับกนั ไมไ หว เพราะทานรา งใหญมาก แพทยผ ผู าตดั ก็กลวั โรคแทรกซอนเพราะอายกุ ็ มากดวย พวกเราไมไวใจ ไดอดตาหลับขบั ตานอนน่ังเฝา กนั ตลอดคืน ทานขอโทษและขอบอกขอบใจ แลว ถามวา “เมอื่ คนื นี้ ใครมาหาแมต อนหัวคาํ่ เปน ผชู าย รปู รา งเลก็ ๆ บาง ๆ แตสงาผา เผยมาก งามนารกั เหลอื เกนิ ไมเ คยเหน็ มาแตก อน” ขา พเจา ถามวา มาเมือ่ ใดไมมใี ครเห็นเลย ขา พเจากบั ลูกสาวทานนงั่ เฝาคนละขา งเตยี งตลอดเวลา ไมไ ดง บี เลย หมอทม่ี าเยยี่ มกม็ แี ตห มอผูหญิงและพยาบาล ผูชายไมม ีใครมา ทานก็ยนื ยันวา “มแี น มายืนตรงหวั เตียงและบอกกับแมว า ไมต องกลวั นะ จะชว ยใหห ายเรว็ ๆ หายแลว เอาไขตม น้าํ ปลา มะนาว พริกขห้ี นูและซอยหอมแยะ ๆ มาใหก นิ บาง แลว ก็เดนิ ออกไป” ขา พเจา ตวั เยน็ ขนลกุ แตไมก ลาบอกทานวาทา นผูนนั้ คือใคร เพราะไมแนใจถงึ รอ ยเปอรเ ซน็ ต และ เกรงทา นจะกลัว ตอ มาหลงั ผาตดั ไดส ามวนั ขา พเจาเขน็ รถใหท านนงั่ ออกไปเที่ยวนอกหอ ง พอรถถึงหนาประตู ทา นก็ ชม้ี อื ไปที่พระรูปสมเด็จพระราชบดิ า ฯ ที่ตดิ ไวเ หนอื บันได และรองเอะอะวา “นนั่ ไง คนนแี้ หละทม่ี าหาแมคนื วนั นน้ั ” ขา พเจา ขนลุกอีกและบอกวา “ทา นคอื ทลู กระหมอ มสมเดจ็ พระราชบิดา ฯ ทรงพระกรณุ ามาเยย่ี ม คุณแมแ ลว ” ทา นยกมือประนมและอธษิ ฐานอยนู าน แลวสง่ั ใหข าพเจา ไปจัดหาไขตม น้าํ ปลามะนาวพริกขหี้ นู ซอยหอมแยะมาถวายเด๋ยี วน้ัน แมว าจะเปน การไมเ หมาะสมนัก แตข าพเจากไ็ ดท าํ ตามทนั ที เหตุการณนแ้ี มเวลาจะไดผานมากวายี่สิบป แตข าพเจายงั ไมเคยลมื พระเมตตาของทลู กระหมอ ม สมเด็จพระราชบดิ า ฯ เลย และไดเ คารพคารวะทกุ ครั้งทผ่ี า นพระรปู ตลอดจนไดอ ทุ ิศสว นกุศลที่ได บาํ เพญ็ ทุกครงั้ แกพระองคท า น ผปู วยคนนี้ มีชีวิตยนื ยาวอยา งเปน สุขอยูตอ มาอกี สบิ ปเศษ และถึง แกกรรมท่ีวัดเขาวงั จงั หวดั เพชรบรุ ี. 58
หมายเหตขุ องผรู วบรวม จดุ สาํ คญั ในเรอ่ื งนค้ี อื (๑) คนไขเหน็ ผูมาเย่ยี มโดยทผี่ นู ่ังเฝาสองคนไมเหน็ ทัง้ ๆ ที่ไมไดน อนเลยตลอดคืน (๒) รปู รางทีค่ นไขบ รรยายคลา ยคลงึ กบั พระลกั ษณะของสมเดจ็ พระราชบดิ า ฯ (๓) เม่ือเหน็ พระรูป คนไขจาํ ไดว า เปน คนทไี่ ปเยี่ยมในตอนกลางคนื ทง้ั ๆ ทไี่ มเคยเหน็ พระรูปมา กอ น และไมเ คยรูจ ักพระองคเ ลย และผพู ยาบาลกไ็ มไดถามนาํ แตอ ยา งใด คนไขท ่ีกลา วถึงในเร่อื งน้ีคอื นางพุก มณไทวงษ เคยอยบู า นตําบลถนนสพ่ี ระยา พระนคร (ไดรบั อนุญาตจากบตุ รชาย นายวิชติ มณไทวงษ ใหเ ผยแพรได ขอขอบคุณอยางยง่ิ ) เมอ่ื ปลาย พ.ศ. ๒๕๑๑ ผรู วบรวมไดม โี อกาสเขา เฝาสมเด็จพระราชชนนี ฯ เพอ่ื ขอประทานพระ อนุญาตใหเ ผยแพรเ รอ่ื งนี้ และไดท ลู ถามเรอื่ งไขต มปรุงดงั กลาวในเรือ่ งขา งตน ทรงรบั สงั่ วา จาํ ไมไ ด วาสมเด็จพระราชบดิ า ฯ ทรงโปรดเปน พิเศษหรอื ไม ...................................... 59
เรอื่ งท่ี ๒ สามเณรระลกึ ชาตไิ ด โดย ญ.บ. (ทาน ญ.บ. เปน พระภกิ ษผุ ทู รงคณุ ธรรมสงู ยิ่งองคห น่งึ เปนพระอาจารยก มั มฏั ฐานในสายของพระ อาจารยม ั่น แหงจงั หวัดสกลนคร ทา นมีผเู คารพนบั ถืออยแู ทบทั่วประเทศไทย การทีไ่ มใสน ามจริง ของทา น ก็เพื่อมใิ หเ ปน การเอิกเกรกิ เกนิ สมควรโดยฐานะของทาน ผรู วบรวมยนื ยนั ในศีลบรสิ ทุ ธิ์ ของทานผนู ไี้ ดอยางเตม็ ที่ ทานเปน ผมู คี วามจาํ เปน เยยี่ ม เทศนเกงและเขยี นหนงั สือดียิง่ ผูรวบรวม ขอแสดงความขอบพระคณุ อยางยงิ่ สําหรับความกรณุ าท่ีทา นไดเจยี ดเวลาเขยี นเลาเร่อื งตอไปนี้ ดวยมอื ของทานเองจนตลอด เรอื่ งเดมิ คือทานไปงานศพของพระอาจารยม ่นั ทจ่ี งั หวดั สกลนคร และไดร ับคาํ บอกเลา จากพระภกิ ษอุ น่ื ๆ วา มสี ามเณรทรี่ ะลึกชาติไดมาในงานนน้ั ดว ยองคห นึง่ ทา น จงึ หาตวั มาพบ และถามเรอ่ื งราว ไดรบั คาํ บอกเลาดงั ทบ่ี นั ทึกไวต อไปน)้ี การเลา เรอื่ งเณรระลกึ ชาตไิ ด จะขอเลา ตามทไ่ี ดย นิ ตอ ปากเณรผรู ะลึกชาติไดเ ลาใหฟง เทา นน้ั สวนจะผิดถกู ประการใดนน้ั โปรดทา นผูอานพจิ ารณาตามเณรผเู ลา สาํ หรบั ผเู ขยี นซึง่ เปน ผฟู ง มาจากเณรดว ยตนเอง จะไมใ หม ีการเพ่ิมเติมและตัดออกแตอ ยา งใด จะผดิ หรอื ถกู ก็คงไวตาม รูปเดมิ ไมม กี ารแกไ ขเปล่ยี นแปลงใด ๆ ทั้งส้นิ เร่ิมแรกท่จี ะไดท ราบวา มเี ณรระลึกชาติไดน ้นั ผเู ขียนไดทราบจากพระอาจารยร ปู หนึ่ง ซง่ึ ไปรวมใน งานฌาปนกิจศพของทา นพระอาจารยม นั่ ภรู ทิ ัตตเถระ ณ วดั ปา สทุ ธาวาส จงั หวัดสกลนคร เมอ่ื เดือนกมุ ภาพนั ธ พ.ศ.๒๔๙๓ มาเลา ใหฟ ง วา มเี ณรรปู หนง่ึ ช่อื เลย่ี ม อยบู านน้าํ ก่ํา อาํ เภอพระธาตุ พนม จงั หวัดนครพนม ระลึกชาตไิ ด เธอจะมาในงานนีด้ วย ผมเคยไปถามเธอครง้ั หนง่ึ แลวทีว่ ัดบาน นาํ้ กํา่ ซึ่งเปน บา นเกดิ ของเธอ เหตทุ จ่ี ะถามกเ็ น่ืองจากเวลาผมไปพักที่วดั นนั้ มีพระเณรมาเลาใหฟง วา เธอระลกึ ชาตไิ ด เลยเกิดความสนใจคิดอยากจะถาม เม่ือถามกไ็ ดร บั คําตอบจากเธออยา งจับใจ และนาฟงมาก เธอบอกวา จะมาในงานนด้ี วย ถาเธอมาจรงิ ๆ ผมไดพ บจะพาเธอมาหาทานให สอบถามดู แตต ามปรกตเิ ธอไมเลาใหใ ครฟงงาย ๆ เพราะเวลาเลา แลวเธอตอ งเปนไขท กุ ๆ คร้ังท่ี เลา ฉะนนั้ เธอถึงไมอ ยากเลาอยางงาย ๆ พอดวี นั เรม่ิ งานศพ เธอมาจรงิ ๆ พระอาจารยท ีเ่ คยบอกเลาเร่ืองเณรใหฟง ก็พาเธอมาหาถึงทพ่ี ัก ของเรา ในปา บริเวณวดั สทุ ธาวาส จังหวดั สกลนคร ซึง่ เปน สถานทท่ี ําฌาปนกจิ ศพของทา นพระ อาจารยม น่ั เราก็เรมิ่ ถามเรือ่ งราวตา ง ๆ จนเขาถงึ จุดทตี่ องการ เม่อื ถูกถามถงึ เรอื่ งระลกึ ชาติ เธอก็ อกึ อักไมอ ยากจะตอบ โดยใหเ หตุผลวา เมอื่ เลาใหใ ครฟง แลว ตวั เองตอ งเปน ไขท ุก ๆ ครงั้ จงึ รูสกึ ระอาไมอยากจะเลา แตเพราะความเคารพและเกรงใจ เธอกเ็ ร่มิ เลา เปน ใจความดังตอ ไปนี้ 60
ชาติกอ นผมเกิดทบ่ี า นโคกเลาะ อาํ เภอ... จงั หวัดอบุ ลราชธานี พอผมชื่อ... แมชอื่ ... สว น ผมชอื่ บวั (ทท่ี าํ จดุ ไวจ าํ คําเธอบอกไมไ ด) เวลานนั้ ผมกําลงั เปนหนมุ มพี ระธุดงค (พระกรรมฐาน) องคหนึง่ ชอื่ พระอาจารยท อง เปน หวั หนาพระธดุ งคหลายรปู ดวยกนั เท่ยี วจาริกสั่งสอนประชาชน ไป บา นที่ผมอยนู น้ั เวลาเยน็ ๆ ญาตโิ ยมพากนั ไปรบั การอบรมกบั ทานเสมอ ผมก็ถือโอกาสไปดวย ทานพักอยทู นี่ นั้ นานพอสมควร ผมก็ไดร บั การอบรมกบั ทา นเสมอจนเกดิ ความเช่ือ เล่ือมใสในพระ ธดุ งค และธรรมทที่ า นอบรมสัง่ สอน และถวายตวั เปน ลกู ศษิ ยติดตามทา นไป จนไดอปุ สมบทเปน พระและเท่ยี วจารกิ ไปในที่ตาง ๆ กับทาน จนถงึ วาระสุดทา ยชีวติ ในชาตนิ นั้ ทา นอาจารยพาจารกิ ไป จําพรรษาทบี่ า นสามผง จังหวัดนครพนม ซงึ่ เปน ปา ทบึ และมีไขชุกชมุ มาก ในพรรษานั้นมพี ระเปน ไข ปา และตายไปกอนหนา ผมสององค โดยระยะหา งกันไมกวี่ นั จากนน้ั ผมก็เริ่มปว ยลง และมอี าการหนักขนึ้ ทุกวัน ทาํ ใหร สู ึกตัววาจะไปไมต ลอด จนทสี่ ดุ กร็ วู าตวั จะตายในวนั นแี้ นน อน เพราะทกุ สวนในรางกายไดก ลายเปน กองเพลงิ ไปหมดแลว พอจวนตัวและรชู ัดวาจะตายในขณะนน้ั จรงิ ๆ ก็ตั้งใจใหด ี มสี ตปิ ระคองจติ กลัววาจะเผลอตวั ในขณะดบั คอื ตาย พอถึงเวลาจะดบั จริง ๆ แทนทจี่ ะดบั ไปหมดไมม อี ะไรเหลืออยเู ลย แตจ ิตทอี่ ยู ประจาํ รางกายกลบั ออกจากรางกาย แลว กลายเปน เรา คือพระบวั ขึ้นอีกองคห นง่ึ จากพระบวั ท่ี กาํ ลงั นอนตายอยูบนทน่ี อนในขณะนน้ั ออกไปยนื ดูพระบวั ท่ีตายอยแู ลว และดพู ระเณรตลอดจน ประชาชนทม่ี าเยยี่ มอาการปวยและตายของพระบัว โดยผมมีสบงจีวรทน่ี งุ หม คลุมอยางเรียบรอย บา ขางหนึ่งสะพายบาตร อีกขางหนึง่ แบกกลด คลายกบั จะออกเดนิ ทางไปเพ่อื เดนิ วปิ ส สนา แตใ น ความรูสกึ เวลานน้ั มไิ ดมงุ จะไปไหน เปน แตยนื ดพู ระเณรและประชาชนจดั การศพและเผาศพของตน อยูเ ทานน้ั และหามใี ครทราบวา เราคอื พระบวั ไดอ อกจากรา งไปยนื ดูศพของตนอยทู น่ี ่ันดว ยไม ทงั้ ไมมีใครสนใจกบั พระบัวองคย นื ดูศพอยูนนั่ เลย เราผูย นื กม็ ิไดแ สดงอาการใด ๆ ใหเขาทราบเชน กัน เปนแตย ืนรอคอยดูศพของตนอยู จนกระท่ังถูกเผาจนเปน เถา ถานไปหมดไมมชี น้ิ เหลอื แลว จากนัน้ เริม่ คิดวาเราตายแลว แมร า งกายก็ถูกเผาไปหมดแลว จะอยหู าประโยชนอ ะไร หนจี ากท่นี ่ี ดีกวา แลว กเ็ รมิ่ ออกเดนิ ทางโดยไมม ใี ครรูใครเหน็ เลยวาพระบวั องคใ หมไ ดเ ตรยี มตัวออกธุดงค วิปสสนา เหมอื นคราวทีย่ งั เปน พระบวั องคเ กาอยู ซึ่งไปทางไหนมีคนมาตอ นรับและทักทาย ถวาย อาหารบณิ ฑบาต โดยมุงหนา ไปทางดานตะวันออก บนบา ขางหนึ่งสะพายบาตร ขา งหนึง่ แบกกลด เดนิ เร่อื ยไปแบบไมม จี ุดหมายปลายทาง ไปถึงทแ่ี หง หนึ่งมศี าลาหลังหน่ึงใหญโตมาก ไมเคยเหน็ ในเมืองมนษุ ยเรา และเต็มไปดวยผคู นหญงิ ชายเปน จาํ นวนมากมาย ซึ่งลวนแตมีเครือ่ งแตงตัวตาง ๆ กนั ในลักษณะของคนเจาทกุ ขท ัง้ นน้ั มี อาการเศรา สรอ ยหงอยเหงามาก ไมม คี วามยม้ิ แยมแจม ใสอยใู นหนา เลย ทามกลางศาลามีโตะ ใหญห นึง่ ตัวตงั้ อยแู ละมีเกา อน้ี ่งั ทาํ งานหลายตวั แตมิไดเหมอื นโตะ และเกาอ้ี ในเมอื งมนษุ ยเรา มีหนงั สอื วางอยบู นโตะ สองกอง ๆ หนงึ่ ใหญไ ดม าก อีกกองหน่ึงเล็กนดิ เดียว มี เจา หนา ที่ประจาํ อยูทนี่ นั้ ประมาณ ๓๐ คน มีเครอื่ งแตง ตัวและแบบตาง ๆ กนั ไมซ ้ํากัน เจาหนา ท่แี ต 61
ละคนมีนยั นตาเปน ประกายนา กลัวมาก มองไปทางไหน บรรดาคนทอ่ี ยใู นศาลานนั้ หลบตาไปตาม ๆ กัน ไมม ีใครกลามองสบสายตาของเจาหนาที่เหลา นน้ั ไดเ ลย รูสกึ วา กลัวกันมาก มีพระองคเดยี ว เฉพาะผมเทา นัน้ ที่ขน้ึ ไปอยูท นี่ ้ันโดยเจตนาของตวั เองไมม ใี ครมาบังคบั และไมนกึ กลัวเจาหนา ที่ ดงั ทเ่ี ขาทั้งหลายกลวั กัน ในคนทั้งหมดนั้นลวนแตย นื กนั ทั้งนนั้ ไมมคี นนงั่ แมคนเดยี ว ผมเองก็ยืนฟง เขาเรยี กชือ่ คนในศาลานนั้ ซงึ่ เรยี กเปน ชดุ ๆ และสงไปเปน พวก ๆ และเปน ชุด ๆ ใน ชดุ หนงึ่ ๆ มปี ระมาณรอ ยคนบา ง กวารอ ยบาง ต่ํากวารอ ยบาง การสง คนไปแตล ะชุด มเี จาหนาที่ ควบคุมไปเพียงคนเดียวเทา น้ัน คนที่ถกู เรยี กช่อื และสงไปเหลานนั้ ดูอาการกลวั นายคมุ มากทสี่ ุด เฉพาะนายคุมแตล ะนายมมี ือถอื อาวุธแปลกและนากลัวมาก เมือ่ เรยี กชอ่ื และสง ผตู อ งหาไปหมดแลว ยังมีเจาหนาท่ีเหลอื อยูบนศาลาเพียงสองสามคนทานนั้ คน ที่ถูกเรียกชื่อแลว ยงั เหลอื อยูเพียงผหู ญิงคนเดียว วัยราว ๖๐ ป ผทู ขี่ าดไมม ารบั ขานชือ่ มีสามคน เปนชายสองหญิงหนง่ึ เมื่อเสรจ็ ธรุ ะที่จัดคนสง ไปหมดแลว เจาหนาที่ทยี่ ังเหลอื อยูทนี่ น้ั กร็ อ งเชอ้ื เชญิ ใหห ญงิ น้ัน ลงไปที่สระนา้ํ หนาศาลา โดยคําสุภาพออ นโยนวา “เชญิ คณุ แมลงไปทสี่ ระนาํ้ นน้ั กอนลงไปโปรดแกเ ครอ่ื งนงุ หม ออกใหหมด แลวลงไปในสระนํ้าและ เดนิ ตดั ไปข้นึ ทางฝงโนน จะมรี ถทพิ ยมาคอยรบั และนาํ เครื่องนงุ หม และเครอ่ื งประดบั ตา ง มา เปลย่ี นใหคณุ แมห มดทั้งชุด” หญงิ น้นั ก็เดนิ ลงจากศาลาดวยมารยาทอนั สวยงามและสงบเสงี่ยม ประหนง่ึ อบุ าสกิ าเดนิ ลงศาลา วดั ฉะนน้ั สวนเจา หนา ที่ผคู อยบริการก็เดินตามและคอยแนะใหค วามสะดวกแกห ญงิ นน้ั ประหนึง่ อบุ าสกวัดคอยใหความสะดวกแกป ระชาชนผเู ขามาวดั เพ่ือแสวงบญุ ฉะน้นั พอหญิงนนั้ เดินลงจากศาลาไปถึงสระนา้ํ แลว ก็เปลอ้ื งเคร่อื งนุงหม ออกหมด แลว ลงไปในสระนํ้าซงึ่ มี นา้ํ ลกึ ประมาณหน่งึ เมตร รถทพิ ยค นั หน่ึงกเ็ หาะลอยลงมาจากอากาศพอดี มาจอดคอยอยทู ฝ่ี งฟาก โนน แลว รอ งเชอ้ื เชญิ หญงิ นน้ั ใหเ ดินบกุ นาํ้ ไปตรงทร่ี ถทพิ ยท จี่ อดคอยอยู พรอ มทงั้ ขนเครื่องนงุ หม และเครอื่ งประดบั ตกแตง ตา ง ๆ ออกมารอหญงิ นน้ั ดว ยอาการอันยิ้มแยม และออ นโยนจับใจ พอหญิงนน้ั ไปถึงฝง ทั้งสองคนท่ขี บั รถมากช็ วยกันนุง หม และประดบั ตกแตง ใหห ญงิ นน้ั อยาง สวยงามราวกบั นางฟาบนสวรรค ดว ยความเคารพและเออื้ เฟอ ออ นโยนอยางยงิ่ ณ ฝงสระทพิ ยอนั เตม็ ไปดว ยน้าํ ทิพย ดอกไมทพิ ย มปี ระเภทกล่นิ สี และดอกตา ง ๆ กัน ซงึ่ ดแู ลว จบั ตาจบั ใจใครช ม อยตู ลอดเวลาไมจ ดื จาง เมอ่ื เสรจ็ เรียบรอ ยแลว เชญิ ขึ้นบนรถทพิ ยพาทะยานเหาะขึน้ บนอากาศ ประหน่งึ สาํ ลที อ่ี อ นนมุ ถกู ปลวิ วอนขึน้ ไปบนอากาศดวยแรงพายุพดั ฉะนน้ั แตร ถทิพยค นั นน้ั ไมม ีพายมุ าแตะตอ ง หากแตเ หาะ 62
ขน้ึ ดว ยฤทธ์ขิ องบญุ ไมปรากฏมเี สียงเครอ่ื งยนตแสดงออกเหมือนรถในแดนมนษุ ยเ รา คอยเหนิ ขน้ึ เปนลําดบั จนสุดสายตาของผมทีย่ นื ดูอยทู ุกระยะ พอรถทิพยพาผหู ญงิ นั้นเหาะขน้ึ แดนสวรรคแ ลว กม็ าหวนระลกึ ถงึ เหตกุ ารณท ่ีเพิ่งผา นไปวา ทําไม เขาจึงเรียกชอ่ื และจบั คนสง ไปเปน ชดุ ๆ และใชก ิริยาทา ทางนา กลวั ตอ คนพวกนน้ั ๆ เอาหนกั หนา และกลบั ใชก ริ ยิ าเอื้อเฟอออ นโยนตอ หญงิ คนนน้ั จนนา พิศวงหลงใหลไปตามเหลอื ประมาณ จึงถาม เขาวา ทีเ่ รยี กช่อื คนมาก ๆ และจัดสง ไปเปน พวก ๆ น้นั เพอื่ อะไร และหนงั สอื ทมี่ ีสองกองวางอยบู น โตะนน้ั เพ่อื อะไรบาง เขาบอกวา ทเ่ี รยี กช่ือน้ันเพื่อทราบใครมาแลว ใครยังไมม า ทีจ่ บั สงไปเปนชดุ ๆ โดยมีเจา หนา ท่ี ควบคุมไปพวกละคน ๆ นน้ั เพอื่ สง ไปยังทีต่ า ง ๆ ตามแตก รรมช่วั ที่เขาทาํ ไวห นกั เบาตางกนั เพราะ มคี นทาํ กรรมช่ัวหลายประเภท บางพวกฆาบดิ า บางพวกฆามารดา บางพวกฆาทงั้ บิดาและมารดา บางพวกฆา สมณชพี ราหมณ บางพวกฆา ควาย ววั ซงึ่ เปน สัตวม ีบญุ คณุ ตอมนุษยมาก ตลอดจนฆา สตั วตาง ๆ ไมม ีเมตตาปรานี บางพวกฉกลักขโมยเงนิ ทองของมีคา บางพวกปลนจี้ บางพวก หลอกลวงตม ตนุ เพอ่ื นมนุษยใ หเ กิดความเดอื ดรอนฉิบหาย บางพวกมชี จู ากสามีภริยา บางพวก ขโมยสามีภรรยาเขา บางพวกหลอกลวงเอาลูกสาวเขาไปตม ตุนจนเสียรปู โฉมอนั เปน สมบัตมิ ีคา ของ หญงิ บางพวกทาํ ความช่ัวรอยแปดพันประการ กรรมจําตองจัดสง เขาไปเสวยผลของกรรม สวน หนังสอื สองกองนน้ั กองใหญสําหรบั เรยี กช่ือคนทําความชั่ว กองเล็กสาํ หรับเรยี กชือ่ คนทท่ี าํ ความดี ผมถามอีกวา ผทู ่ถี กู เรียกชอื่ แตย ังไมเหน็ มานนั้ จะทําอยา งไรตอ ไป เขาตอบวา แมวา จะยงั ไมมากจ็ าํ ตอ งมาในไมชา ทง้ั คนดแี ละคนทาํ ชั่วจะขัดขนื ไมไดเ มอื่ ถกู เรยี กช่อื แลว ผมถามวา สว นผหู ญงิ ท่มี รี ถทพิ ยมารับเหาะลอยไปนน้ั เขาจะไปไหน เขาตอบวา ไปสวรรค เพราะคุณแมคนน้ีเปน คนมบี ุญมากและเคยทาํ บญุ ใหท านตลอดมา ไมเคยทํา ผใู ดใหเดอื ดรอน เพราะฉะนนั้ บุญถึงชว ยใหท า นไดไ ปสคุ ตโิ ลกสวรรค ผมถามเขาวา สว นอาตมาเลา ไมเห็นเรียกชอ่ื เลยจะใหอาตมาไปไหน เขาตอบวา ทา นยงั ไมมชี อ่ื ในบัญชี เขายังไมสง มา ถาทา นตอ งการไปสวรรคก ข็ อนมิ นตล งไปที่สระ นํา้ ทีค่ ณุ แมลงไปแลว นน้ั รถทพิ ยจ ะมารบั ทานไปอกี ในไมช า เชน เดียวกบั คณุ แมค นกอ นนน้ั ถา ทา น อยากไปเกดิ ในมนษุ ย กข็ อนมิ นตก ลบั ไปตามทางเดิมทท่ี า นมา จะไดเกดิ เปนมนษุ ยดงั ใจหมาย 63
ผมตอบเขาวา สวรรคอ าตมาก็ไมไ ป มนุษยก็ยงั ไมไป เพราะอาตมากระหายนา้ํ มาก จะไปหาฉนั นํา้ ใหอ ม่ิ สบายเสยี กอ น จะไปทไ่ี หนถึงจะไปทหี ลงั เขาตอบวา ตามแตท า นสะดวก วา แลว ก็ลาเขาลงจากศาลาไปตามทางเดิมโดยบา ขางหนึ่งสะพายบาตร ขา งหน่ึงแบกกลด เดนิ ไป เร่อื ย ๆ ดว ยความมงุ หวงั จะไปหาน้าํ ฉนั พอไปถึงหมบู านทีผ่ มเกดิ ทกุ วนั นี้ คอื บานน้ํากา่ํ กพ็ บผหู ญิงคนหน่งึ กาํ ลงั เดนิ ออกไปตกั นํ้าทบ่ี อนาํ้ กลางทุง นา ผมจงึ ขอบิณฑบาตน้ําฉันกบั ผูหญงิ คนนน้ั เขาบอกกบั ผมวานมิ นตท า นไปนั่งรอคอยอยทู บ่ี านหลงั นั้นชวั่ คราวกอน ดฉิ ันจะตักนํ้าไปถวายทา นท่ี บานหลงั นนั้ เด๋ยี วนีเ้ อง พอไดรบั คาํ ตอบจากเขาแลว ผมกเ็ ดนิ ตรงไปท่ีบา นหลงั นน้ั ซง่ึ ไมอ ยหู า งไกลจากบอ นา้ํ นกั และ มองเหน็ บานนน้ั อยอู ยางชัดเจน พอขน้ึ ไปบา นหลงั น้ันแลวนง่ั ลงบนหนาบา นเขา รสู ึกเหนอ่ื ยมากและ มีความโงกงว งเปน กาํ ลัง นึกจะเอนหลงั ลงพักสกั นดิ เพอื่ คอยหญิงคนนนั้ หาบน้ํามาถึง ดมื่ นํ้ากบั เขา พอสบายแลวจะเดนิ ทางตอ ไป พอลมตัวลงนอนปรากฏวา หลับไปสักงบี หนึ่งเทานนั้ ตนื่ ขนึ้ มาท่ไี หนได เกิดใหมเสียแลว ขณะที่ตกตลอดออกมากร็ สู กึ ตวั ทนั ทวี า เกดิ ใหมเ สยี แลว แตไ มส ามารถจะทําตามความรสู ึกไดด วย ทางกายเพราะยังออ นอยมู าก และมคี วามเจบ็ ปวดรวดรา วไปหมดทวั่ รา งกาย ความรสู กึ ในขณะท่ี ตกตลอดออกมาเปน เดก็ นนั้ ยงั มสี ัญญาอดีตของความเคยเปนพระตดิ มาอยอู ยา งไมเ ลือนลางแม จะเปน ทารกตัวแดง ๆ ก็รสู กึ วา ตวั ยงั ครองจวี รและสะพายบาตรแบกกลดอยใู นรา งของเด็กนนั้ และ ยงั สามารถระลึกยอ นหลงั ไปไดโ ดยลาํ ดับ จนกระทง่ั บานทเ่ี กดิ ในภพกอ น สถานที่อยู พอ แม วงศา คณาญาตจิ าํ ไดหมด แตพ ดู อะไรไมอ อก พอหัดพูดไดบ าง กพ็ ยายามพดู แบบพระที่เรียกตัวเองวา “อาตมา ๆ” เพราะความรสู กึ ทกุ ระยะที่ เปนเด็ก เปน ความรูว าตนยังเปน พระอยูตลอดเวลาไมเ ปล่ยี นแปลงไปตามรางกายและวยั ของเดก็ เลย พอพูดไดบ าง กเ็ ริม่ พดู “อาตมา ๆ” เปน ประโยคแรกทต่ี ิดนสิ ัยมาดั้งเดมิ และพยายามหดั พดู จนออกเสยี งชดั เจนดวยความถนัดใจ จนผอู นื่ ฟงเขา ใจวาเดก็ พดู เปนคาํ “อาตมา ๆ” เหมอื นพระพูด กับญาตโิ ยม พอ แม ญาติวงศถึงกับหา มไมใหพ ดู เพราะเหน็ เปน เด็กไมใ ชพ ระจะพดู วา อาตมา ๆ อยา งนัน้ ไมได เนื่องจากเปน คาํ แสลงหแู ละสะดดุ ใจโลกไมน ยิ มกนั แตเ ดก็ กพ็ ูดเชน นนั้ เสมอไมยอม ลดละ พอ แมกด็ แุ ละตวาดเอาบา งวา แกจะพดู อาตมา ๆ อะไรอยา งนนั้ เพราะแกเปนเดก็ นน่ี า ดูตวั 64
ของแกซิ เปน เด็กหรอื เปน พระ ทาํ ไมถึงขนื พูดวา อาตมา ๆ อยทู ํานองนไี้ มยอมลดละ เดี๋ยวบาปตาย จรงิ ๆ นะ เดก็ เลยเกดิ ความตกใจและเสยี ใจขน้ึ ในเวลานน้ั ความรูสกึ ท่ีวา ตัวเปน พระ ตลอดถงึ เพศของพระที่ อยใู นความทรงจาํ มาดั้งเดมิ เลยหลดุ หายไปหมด เหลอื แตต ัวของเดก็ เทา นัน้ ท่ีเปน ความรูสึกใน ขณะนน้ั หลงั จากพอแมด ุดาหา มไมใหพูดตอไปแลว ผมกอ็ ดเอาไมพ ูดท้ังที่อยากพูด พอโตข้นึ มาบางเกดิ ความคดิ ถงึ พอแม ญาตวิ งศท างบานเกาท่ีเปน บา นเคยเกดิ และบนใหพอ แมใ หมฟ ง วา อยากไปเยี่ยม พอแมญาตวิ งศท างบา นเกา พอ แมก็ดเุ อาอกี หาวาพูดหาเร่ืองรา ยใสตัว (ตามธรรมดาเรอื่ งเชน นี้ เขาถอื กนั ) จงึ ตดั สนิ ใจลงไปวา คราวนี้เราตอ งพูดความจรงิ ภายในใจใหพอแมฟ งอยางชดั เจน แลว พูดวา แตกอนผมเคยเกดิ อยบู า นโนน เมอื งโนน พอ แมของผมชอื่ นั้นช่ือนัน้ ชาติกอนผมเคยบวชเปน พระ เทีย่ วธุดงคก รรมฐานมาจําพรรษาบานสามผง มาเปน ไขแ ละตายอยูท บี่ า นน้ัน จากนนั้ จึงมาเกิดทีน่ ี่ น่ีไมใ ชพอแมอ นั ดัง้ เดิมของผม พอ แมด ้ังเดมิ ของผมอยบู านโคกเลาะ จงั หวดั อบุ ลราชธานโี นน ผม คิดถึงพอ แมญ าตวิ งศท างโนน ผมถึงไดบน และอยากกลับไปเย่ยี มพอใหสบายใจบา ง ไมใ ชผ มพูด แกลงไปตาง ๆ ดงั ท่พี ากนั เขาใจ พอ แมใหมไ ดฟง เด็กพูดเปน เรอื่ งเปน ราวจรงิ ๆ แลว ตางกเ็ กดิ ความสลดสงั เวชและรอ งไหไ ปตาม ๆ กนั และพรอ มกนั เห็นโทษที่ไดด ุดา ผมแตคราวเปน เด็ก แมข อโทษผมวา “อยาใหพอแมเปนบาปเปนกรรมไปดว ยนะ ลูกรกั ทนู หวั ของแม ทหี่ า มและดดุ า นนั่ ก็เพราะความรักนนั้ เอง กลวั วาจะเปน คําพูดทส่ี งั หรณป ากบนั ดาลใจลูกใหพดู ออกมาอนั เปน คาํ เสนยี ดจญั ไรอาจเปน ภยั แกตวั ลกู เอง พอแมจ ึงไดหามไวไ มใ หพูด เหน็ หา มไมฟง กด็ ดุ าเอาบางตาม ประสาของพอแมกบั ลกู ทแ่ี สนรกั กนั ขอลกู อยาไดถ ือสาพอ แมนะลกู รักของแม การไปเยีย่ มบานเกาเมอื งหลงั ของลกู นน้ั แมไมห าม แตเ วลานี้ยังเดก็ อยมู าก ลกู อยา ดวนสนใจ พอ แมน ี้กค็ ือพอ แมของลูกนน่ั เอง มิใชเ ปน พอ แมข องใครทไี่ หน จะทุกขจนหรือม่ังมอี ยา งไรแมก ถ็ อื วา เปน ลูกของแม และรกั ยิ่งกวาชวี ิตของแมเ ปน ไหน ๆ การเล้ียงดแู มก ็เอาชีวติ ของแมเขาประกนั ถา ลูกของแมอ ิม่ แมวา แมจะอด แมก พ็ อใจ ถา ลกู อด แมว าแมจ ะตาย แมกย็ อมสละชวี ติ แทนได แต จะใหแ มย อมเสียสละลูกรกั ของแมใ หผหู นง่ึ ผูใ ดนน้ั แมทาํ ไมได แมทําไมล งเลย ขอใหล ูกรักจงเหน็ ใจ แมท ่แี สนรกั ลูก ลกู จะจากแมไ ปหาแมท ไี่ หนกันอกี แมวาแมจ ะจนแสนจนถึงกับจะไมม อี ะไรรับประทานกต็ าม แต ความรกั ของแมท ีม่ ตี อ ลูกตลอดมานบั แตอยูในทอง แมไมเคยจนและไมเคยลดละลงเลยแมแ ตน อย 65
ความรักของแมท ี่มตี อลกู ยิ่งกวานํา้ ในมหาสมทุ รทะเลหลวงเปน ไหน ๆ แมวานํา้ ในมหาสมุทรจะ ลดลงตามเวลาของมนั แตค วามรกั ของแมไ มเ คยมวี นั และเวลาลดเลยแมน ิดเดยี ว ขอใหล กู รักจงคดิ เหน็ หวั ใจแมท ่ีใหญก วาน้ํามหาสมทุ ร แมต วั ของแมจ ะเล็กกเ็ ล็กเถิดนะ ลกู รัก อยางไรขอใหแ มตายกอ นเถิดนะลูกรกั แลวลูกจะแยกความเปนลกู เปน แมกนั ไปทางใดทิศใด แม สุดวสิ ัยท่ีจะรบั รแู ตเ วลานแ้ี มย งั ไมตาย ขอลูกอยา ไดคิดจะผาหวั อกแม โดยจะจากแมไ ปหาแมอนื่ ใด เลยนะลูกนะ เวลาแมตายแลว หมดความรสู ึกใด ๆ เปน สง่ิ สุดวิสัย แตข ณะทีแ่ มยงั มชี ีวิตอยนู ้ี แม ขอฝากศพของแมไ วกบั ลกู รกั ขอลูกของแมจงรบั ทราบไว วา แมฝากความเปน แมเ ปนลกู ตอ กันไวท งั้ คราวเปน และคราวตาย หวังวาลูกรักของแมจะเปน ที่แนใ จและมัน่ ใจวาแมคนนีก้ ค็ อื แมข องลูกแท ไมป ลอมแปลงมาจากทไ่ี หน” นเี่ ปน คาํ แมพดู กบั ผม ตอนตน พอก็พูดบาง แตตอมามแี ตแมพูดเสียคนเดยี ว ผมกอ็ ดสงสารแม ไมไ ด เรือ่ งอยากไปเยี่ยมบานเกา กเ็ ลยตอ งงด เกรงแมใ หมจะเสยี ใจมากและอกแตกตายเสีย กย็ ิ่ง จะยงุ และเปน กรรมหนกั เพ่มิ เขา อกี ผเู ขยี น (ญ.บ.) ถามเธอตอไปวา บานสามผงซง่ึ เปน ทต่ี ายของเณรในภพกอ นนน้ั ในชาตนิ เ้ี ณรเคยไป บา นนน้ั หรอื ยัง เธอตอบวายงั ไมเ คยไป สวนทา นอาจารยท องทีเ่ คยเปน อาจารยเดิมของเณรคราวเปนพระภพกอ น ไดเ คยพบทา นหรือยงั ใน ชาตนิ ี้ เธอตอบวา ยงั ไมเ คยพบทา นเลย ถาไดพ บทา นโดยไมมใี ครบอกเลย เณรจะจาํ ทา นไดไ หม เธอตอบวา จําได เพราะความจาํ ไมลบเลอื นไปตามรางกายทส่ี ลายไปในภพกอน ยังเปน ความจําเรา ดี ๆ อยูนเ่ี อง เชนเดียวกับเราจาํ เพือ่ นหรอื จาํ ครอู าจารยท จ่ี ากกันไปนาน แมจะไมไดพ บกันแตก็กย็ งั แนใจวาตองจาํ ไดท นั ทที พี่ บปะกันโดยทย่ี งั ไมทนั ไดส นทนากันเลย ผูเขียนเตอื นเธอไวว า เวลาทา นอาจารยทองมาในงานน้ี เราจะพาเธอไปดูทาน เณรจะจาํ ทา นไดไ หม เณรตอบวา ตอ งจาํ ไดแน ผูเขียนวา ไดโอกาสเราจะมาหาเณร แลวพาไปดทู า น แตเ วลานใี้ หเณรกลับทพ่ี ักกอน 66
จากนัน้ ผเู ขยี นก็ไปเทยี่ วตระเวนดทู า นอาจารยท อง ตามบรเิ วณทพ่ี กั ในปารอบ ๆ ที่ ๆ พระกรรมฐาน ชอบพกั ก็พอดไี ปเจอทานอาจารยท องจรงิ ๆ ซึง่ กําลังสนทนาธรรมะกบั ญาตโิ ยมอยเู วลานน้ั ผูเขยี น กร็ บี กลบั มา แลว เลยไปหาสามเณรเลีย่ มผรู ะลกึ ชาตไิ ด โดยพาเธอเท่ยี วตระเวนไปทอี่ ่ืน ๆ กอ นเพื่อ ดอู าจารยตา ง ๆ ซึ่งมาในงานเปน จํานวนมาก โดยวธิ ซี อ นกลอุบายอนั เปนเคล็ดลบั ชนดิ หนึ่งในการ จบั ขอ เทจ็ จริงจากเณร พรอ มกบั ถามเธอวา องคน ี้ใชห รอื เปลา เมอื่ พาเธอไปดูอาจารยแ ตละองค กอ นท่ีจะไปถึงองคจริงคอื อาจารยทอง เณรกต็ อบวาไมใช ๆ ไป เปนลําดบั จนไปถึงองคจ ริง ๆ คือทานอาจารยทองเขา ซงึ่ ขณะนน้ั ทานกาํ ลังคุยธรรมะกบั แขกอยู ก็ ถามเธอวาองคน ใี้ ชไ หม ทาํ นองเดียวกันกบั องคอ ืน่ ๆ เธอก็ตอบทนั ทีวา ใชแ ลว องคน้ีแหละคอื ทา น อาจารยท องท่เี คยเปนอาจารยข องผมแตภพกอน ผูเขียนซ้าํ อกี วา ใชจ รงิ ๆ หรือ ไมใ ชโ กหกเราหรอื ทง้ั ๆ ที่รอู ยูวาเปนอาจารยท องแท ๆ เธอตอบวาองคนีเ้ องคอื อาจารยทองทีเ่ คยเปน อาจารยข องผมในภพกอน แตอาจารยทององคอน่ื ๆ ท่มี ชี อ่ื เหมือนกนั นน้ั ผมไมร ูจ กั ทาน พอทราบเรอ่ื งราววา เณรจําทา นอาจารยท องไดแ มน ยําดงั ทเ่ี ธอเคยพดู แลว จากนน้ั ก็พาเธอกลบั ท่ี พักโดยมิไดบอกเธอวาเปน อาจารยท องหรือเปน อาจารยอ งคใ ด ๆ เลย เธอก็มไิ ดถ ามผเู ขยี นวาเปน อาจารยท องจรงิ ดงั เธอบอกหรอื เปลา แตด อู าการของเธอรูสึกวาตอบดวยความม่ันใจจรงิ ๆ ใครจะ เชอ่ื หรือไมเ ธอคงไมเปน ปญหากับใคร ๆ ท้งั นนั้ ตามปกตนิ สิ ัยของเธอกเ็ ปน คนไมช อบพดู อีกดว ย มี นสิ ยั สงบและพดู นอ ยท่สี ุด ทีผ่ เู ขยี นมไิ ดพ าเธอเขาไปกราบนมสั การทา นอาจารยท องในขณะน้ัน เนื่องจากมแี ขกมากซึง่ กาํ ลัง สนใจฟงธรรมะจากทานอยา งกระหาย เพราะนาน ๆ จะไดพบกันครง้ั หนึง่ ในเวลามงี าน จงึ ไมกลา รบกวนทา นในเวลาเชน นัน้ ทง้ั เกรงวาจะเปน เรอื่ งโกลาหลอลหมานขน้ึ ในท่ีนนั้ เพราะตางกไ็ มเ คยได ยินไดฟงเรอ่ื งแปลก ๆ เชน นนั้ แตก ย็ งั คดิ อยูวาโอกาสวา งจะพาเณรไปกราบนมสั การและเลา เรอื่ ง ถวายทาน ตอ จากนนั้ งานกเ็ ร่ิมขึ้น และตา งคนตางยงุ เลยไมม เี วลาตดิ ตอ กนั อีก เรอ่ื งจึงมไิ ดตอปาก ตอ คาํ กนั กับทา นอาจารยท อง ผเู ขยี นจงึ รสู ึกเสียใจในตอนเขา ดา ยเขาเขม็ ซ่ึงเปนตอนสําคัญของเรอ่ื งท้งั มวล จึงขออภยั จากทาน ผอู า นทกุ ทานดวย ความจริงบา นสามผงซึง่ เปน ทต่ี ายของพระบัวนน้ั มีจรงิ ๆ ผเู ขยี นเคยไปพักหลาย ครง้ั แลว กอนหนา เณรเลา ประวัตขิ องเธอใหฟง เหน็ เพยี งทราบวาเคยมพี ระธดุ งคมาตายทนี่ ่ีถึงสาม องคเ พราะไขป า ชุกชมุ เทานน้ั บานสามผงนี้ไดท ราบทหี ลงั วาเปน ตําบลสามผง อาํ เภอศรีสงคราม จงั หวดั นครพนม เขตตดิ ตอกบั อาํ เภอทา อเุ ทน จงั หวดั เดยี วกนั 67
วดั ทพ่ี ระบวั ตายนน้ั แตก อ น ๆ รสู กึ จะเปน ดงหนาปาทบึ มาก แตท กุ วนั น้ีเขาทําการบุกเบกิ ทําไรท าํ นา กนั มาก คงไมเหมอื นแตก อนเทาไรนัก เพราะคนมากข้นึ ทกุ วนั ๆ ไมวา ทไี่ หน ๆ ปาไมค อ ยจะมเี หลือ ไดกลายเปน บา นและเปน ไรเ ปน นาไปหมด หลงั จากท่พี บและสอบถามเณรแลวใน พ.ศ.เดยี วกันก็ไดพบทานพระอาจารยท อง ท่ีเคยเปน อาจารยข องพระบัวองคท ี่ตาย และไดเรยี นถามถึงการจาํ พรรษาบานสามผง ทา นบอกวา เคยไป และเคยจาํ พรรษาทนี่ ้ันดวยซงึ่ เปน ปท ่พี ระบัวตายนน่ั เอง ปน น้ั มพี ระตายในพรรษาเพราะไขปาถงึ สามองค พระบวั เปน องคส ดุ ทาย จากน้นั ผเู ขยี นเรยี นถวายทานเกี่ยวกบั พระบัว กอนทเี่ ธอจะติดตามทานมา จนไดบ วชเปนพระ และ มาตายที่บา นสามผง จนกลายเปน เณรในภพใหมข ้ึนมา จากคําบอกเลา ของเณร ทา นรบั รองวาเปน ความจริงทันที ทานบอกวา องคท ่ีตายบานสามผงนน่ั แล เดิมผมรบั เธอมาบวช เปน พระ แลวพาเธอเท่ียวมาจาํ พรรษาทน่ี น้ั ปท เี่ ธอตายนนั้ เธอบวชได ๓ พรรษาพอดี เมื่อเธอยังมี ชีวิตอยู เธอมคี าถาขบั ไลผ ีเกง ผกี ลวั เธอมาก ความเพยี รทางจติ เธอก็ดแี ละมคี วามขยนั หมนั่ เพยี ร มาก นา เสียดายทีพ่ ระดี ๆ อยา งเธอแตอ ายุสนั้ พลนั ตายเสียกอ น ไมเชน น้นั เธอจะเปน ประโยชนแ ก ประชาชนและพระศาสนามากมาย ผมไมเ คยทราบเลยวา เธอตายแลวกลบั มาเกดิ ทบี่ า นนํ้ากํ่า และ ยังไมเ คยพบกบั เธอเลย รปู รา งหนาตาจะเหมอื นชาตกิ อนหรอื ไม เธอตายมานานเทาไรแลว ผูเขยี นเรียนถาม ตายมาได ๑๖ ปน ้เี อง ทา นตอบ อายเุ ณรในป พ.ศ.๒๔๙๓ เธอบอกกบั ผูเ ขียนวาได ๑๕ ป ซงึ่ เปน ปเ ดยี วกันกบั ผูเขียนพบทา นอาจารย ทอง ขอเขยี นเหลานผ้ี ูเขียนจาํ ไดไ มห มด อาจมีตกหลน อยไู มน อ ย หวังวา คงไดร บั อภัยจากทา นผอู า น ทว่ั ไป เทาทจ่ี ําไดก น็ าํ มาเขียนเรยี นใหท ราบ สวนจะมีมลู ความจรงิ และเหตุผลเพยี งใดน้นั ขนึ้ อยกู ับเณรซึ่ง เปน ผเู ลา เพราะผเู ขยี นมไิ ดตดั ออกและเพิม่ เติมแตอยางไรเลย ปลอยใหย ังคงเสน คงวาอยูตามเดิม เพราะเรือ่ งเชนนเ้ี ราตอ งการความจริงตามรปู เดิม ไมต องการอะไรมาสงเสริม แตใหเ ปน รส ธรรมชาตขิ องเรอื่ งลวน ๆ เทา ทม่ี ีอยูในเร่ืองเทา นน้ั หากผเู ขยี น ๆ ผดิ พลาดไปกห็ วงั วา คงไดร บั อภัย จากทานผูอานโดยท่วั กนั เหตผุ ลทน่ี าพจิ ารณาก็คอื 68
๑. เม่ือผเู ขยี นพาไปดูองคของทานอาจารยท อง ซ่งึ เคยเปน อาจารยใ นภพกอนของเธอ เธอตอบได แมน ยํา ๒. บานสามผงที่เณรอา งถึงน้ัน มีจรงิ ๓. ทง้ั ทางบานและทางวดั ยนื ยันวาเคยมีพระมาตายในพรรษานนั้ ถึง ๓ องค ซึ่งไมเคยมมี ากอน นับตั้งแตเ ริ่มสรา งหมบู านและสรา งวดั มา ๔. เณรไมเคยไปบานสามผงนบั แตเ กิดใหมในภพน้ี ทาํ ไมจงึ พูดถูกวาเคยตายทีน่ ้ัน ๕. ทา นพระอาจารยทอง ทีเ่ คยเปนอาจารยซึง่ สามเณรอา งถงึ กร็ ับวา เปน ความจรงิ ดงั ทเี่ ณรพูด ตลอดจนบาน ชอ่ื พอ แม และชอ่ื ของเณรในภพกอ น ทา นบอกโดยตลอด ๖. พ.ศ.๒๔๙๓ ซง่ึ เปน ปพบกันกบั เณร ผูเขยี นถามถึงอายุ เธอบอกวา ได ๑๕ ป และในปเ ดียวกนั ผเู ขยี นไดพบกบั ทานพระอาจารยท อง เรียนถามการตายของพระบวั ทานบอกวา พระบวั ตายได ๑๖ ปน ี้พอดี โดยทที่ านไมเ คยทราบอายขุ องเณรทเี่ กดิ ใหมม ากอ นเลย. หมายเหตขุ องผรู วบรวม พระอาจารย ญ.บ. ไดต ้ังขอสงั เกตท่คี วรพิจารณาไวเ องแลว ผูร วบรวมขอเพ่มิ เตมิ แตเพียงวา เรื่อง การระลกึ ชาตไิ ดน ี้มปี รากฏขาวอยบู อ ย ๆ บางเร่อื งกด็ เู ขา ที บางเร่อื งกเ็ หลอื เชือ่ สาํ หรบั เร่ืองน้ที าน ผถู ามประวัตแิ ละบนั ทึกเรอ่ื งไวเปน พระภกิ ษผุ ูทรงคณุ ธรรมในขน้ั สูงสดุ เปน ทป่ี รากฏในหมูชน จํานวนมาก ไมม คี วามจําเปน ทจ่ี ะตอ งเสาะหาชอื่ เสียงหรือลาภสักการะใด ๆ อีกตอ ไป และทานให เรอ่ื งนีแ้ กผูรวบรวมซ่งึ มบี ญุ ไดเปน ศษิ ยท ่ใี กลชดิ ของทานคนหนงึ่ คงจะไมมาพดู เลน ใหเสื่อมศรทั ธา สวนตวั ผูเลา เร่ืองก็เปนสามเณรซ่ึงอยูในศลี และรจู กั เกียรติคุณของทานผูซักถามประวตั เิ ปน อยางดี วาเปน บุคคลชน้ั ไหน คงจะไมก ลาเลา เรือ่ งไมจ ริงใหฟ ง ทงั้ หลกั ฐานดานทองถ่นิ และบุคคลก็ถูกตอง และเร่อื งราวกม็ ีพระอาจารยช ้ันผใู หญ (พระอาจารยท อง) อกี รปู หนึง่ สนบั สนุน นํา้ หนักของเรอื่ งน้ี จงึ นา จะมีมากกวาเรือ่ งท่ีไดฟ งอยูบ อย ๆ พระอาจารย ญ.บ.บอกวา เขาใจวา เวลาน้ี “สามเณร” เลยี่ ม ยังมีชวี ิตอยู และอาจจะอยทู ี่วัดบา นนาํ้ กํา่ นั้นเอง สวนพระอาจารยท องนนั้ ไมแ นใจวา ส้นิ เสยี แลวหรอื ยัง อาจจะยังอยูดว ยก็ได ผรู วบรวมเคยคดิ จะไปสืบหาตวั ทานทง้ั สองน้ี แตบงั เอิญตาํ บลที่ ทา นอยใู นแดนทีไ่ มส งบ จึงยงั ไมอ าจไปได .................................... 69
เรอ่ื งที่ ๓ ภาพนมิ ติ โดย อาํ ภาศรี ขจรบญุ (คณุ หมออําภาศรี ขจรบญุ เปน แพทยศาสตรบ ณั ฑิต เรียนสาํ เรจ็ จากคณะแพทยศาสตรแ ละศิรริ าช พยาบาลเมื่อย่สี บิ ปเ ศษมาแลว หลังจากท่ีเปน อาจารยอ ยูใ นแผนกสรรี วทิ ยาหลายปไดยา ยไปรบั ราชการในกรมแพทยท หารเรอื ในปจ จบุ ันมยี ศเปน นาวาโท เปน คนใจเยน็ เขมแขง็ ไมต กใจงา ย ตําบลติดตอ คอื แผนกสตู กิ รรม ฯ โรงพยาบาลสมเดจ็ พระปน เกลา ธนบรุ ี) เมอ่ื วนั ท่ี ๑๑ ตลุ าคม พ.ศ.๒๔๙๗ แผนกสรรี วทิ ยาเปน เจา ภาพสว นพระอภธิ รรมใหแ กศ พ คณุ พอของคณุ หมอจําลอง แพงสภา ทว่ี ัดมกฏุ กษตั รยิ าราม ในคืนวนั ทสี่ ามหลังจากทที่ า นถงึ แก กรรม พวกเรานดั พรอ มกันเวลาหกโมงครงึ่ ขา พเจาไดไ ปถึงคอ นขา งจะเรว็ ไปหนอ ย ยงั สวางอยู ปรากฏวาพวกเรายงั ไมม ีใครไปเลย หลงั จากทไี่ ดยนื รออยูค รูห น่ึงท่ีหนา วดั ขา พเจา ก็ไดเ ขาไปในลานวัดหนา เมรุ เพราะคดิ วา พวก เจา ภาพคงจะมใี ครมาแลวบา ง ขาพเจา มงุ ไปทศ่ี าลาแรกทางซา ยมอื เพราะทราบวา ทน่ี นั่ เปนท่ีตัง้ ศพ ของคณุ พอคณุ หมอจาํ ลอง ขา พเจา มองไปทหี่ บี ศพ ไดเหน็ วา มรี ปู ถายของทานผูตายต้งั ไวต รงกลางดานหนาของหบี ในหมู เครือ่ งบูชา แตไ มใ ชเ ปนรปู ใสก รอบอยางที่ใชกนั ตามธรรมดา เปน รปู ฉลแุ บบทีเ่ คยเหน็ เขาทํา เลียนแบบรปู ปน คอื เอารปู ติดบนไมกระดานแลว เลื่อยสวนรอบ ๆ ออกเสยี ใหเ หลือแตส วนทสี่ าํ คัญ รปู ของคณุ พอ คณุ หมอจาํ ลองทข่ี าพเจา เหน็ ก็เปน แบบนั้น แตเปนรปู ขยายขนาดเทา ตวั คนจริง ๆ ลกั ษณะเปน คนอายุกลางคน คอนขางศรี ษะลาน ดคู ลาย ๆ โผลข ้นึ มาจากกลุมโตะ หมคู รึ่งตัว ขา พเจา พจิ ารณาดูรปู แลวก็เดนิ หาพวกเจาภาพ แตไ มพ บใครเลยสกั คนเดียว ชักรสู กึ กลัวข้ึนมา จึง เดินกลบั ออกไปคอยทหี่ นา วัด สกั พกั หนง่ึ คนอ่นื ๆ จงึ ไปถึง รวมทง้ั คณุ หมอจําลองดวย ขาพเจาไดพ ูดกบั คณุ หมอจาํ ลองวา ทาํ ไมจงึ ใชรปู คณุ พอ อยา งนั้นมาตงั้ หนาศพ คณุ หมอจาํ ลองทํา หนา ประหลาดใจแลวบอกวา ไมไดต งั้ รปู สกั หนอย พอดเี ราเดนิ ไปถงึ ทีศ่ าลา ขา พเจา เขา ไปดูอกี กไ็ ม เห็นมีรปู คณุ หมอจาํ ลองและญาติ ๆ ยืนยนั วาไมไ ดต้ังรปู และไมเคยมรี ปู อยา งนน้ั เลย เมอื่ ขา พเจาเลา ลกั ษณะของภาพทเ่ี หน็ ใหเ ขาฟง (ขา พเจา ไมเ คยพบคณุ พอคุณหมอจําลอง แลว ไมเ คยเห็นรปู ของ ทานมากอนเลย) เขาก็รบั วารปู ทข่ี า พเจาเหน็ น้นั เหมือนกบั ลกั ษณะของคณุ พอคณุ หมอจาํ ลอง ไมม ี 70
ใครอธบิ ายไดว าขาพเจา เหน็ ภาพของทา นไดโ ดยวิธีใด แตขาพเจา ยืนยนั วาขา พเจาไดเ หน็ เชน นน้ั แนนอน ท้งั เวลาก็ยงั วนั อยู ยังสวา ง ไมตอ งเปด ไฟฟา. อาํ ภาครี ขจรบญุ ๑๕ ตลุ าคม ๒๔๙๗ หมายเหตขุ องผรู วบรวม เรือ่ งนี้จุดสําคญั อยทู ีร่ ปู รา งของผตู ายเหมือนกับภาพทคี่ ณุ หมออําภาศรไี ดเหน็ และคณุ หมออําภา ศรไี มเ คยเหน็ ผตู ายหรอื รูปของผูตายมากอ นเลย ถา ไมม สี องขอน้ี ก็อาจตงั้ ขอสงสยั ได วาคณุ หมอ อําภาศรอี าจตาลายหรอื ตาฝาดไป เหน็ เปน วามรี ูปตง้ั อยู ซ่งึ อาจเปน เรื่องคดิ เอาเอง แตก ารที่เหน็ รูปเหมือนผูต ายชวนใหเชอื่ วาคงไดเหน็ จริง คนโบราณทา นเชอ่ื กันวาผทู ต่ี ายไปแลวอาจมาแสดงรปู กายใหคนทยี่ ังอยมู องเหน็ ได ในโอกาสที่ เหมาะหรอื ในเมื่อจติ ใจของผเู หน็ นนั้ เหมาะกัน ในเรื่องนท้ี า นผตู ายอาจจะตอ งการแสดงอาการ ตอ นรบั ผทู ่ตี ง้ั ใจไปทาํ บญุ ใหทา นกไ็ ด และลมฟาอากาศในขณะนัน้ อาจเหมาะดว ย ......................................... 71
เรอื่ งที่ ๔ คณุ พระชว ย โดย นนั ทพร นลิ วเิ ศษ (คณุ หมอนนั ทพร นลิ วิเศษ สาํ เร็จแพทยศาสตรบ ัณฑิตจากคณะแพทยศาสตรแ ละคริ ริ าชพยาบาล และสอบไดแ พทยศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑิตจากมหาวทิ ยาลัยเกอตตงิ เกน็ ประเทศเยอรมนี ในปจจบุ ัน เปน อาจารยเอกอยทู ศ่ี ริ ริ าชพยาบาล ตําบลทจ่ี ะติดตอไดค ือแผนกเภสชั วทิ ยา คณะแพทยศาสตร และศริ ิราชพยาบาล ธนบรุ ี กทม.) เมอ่ื หยดุ พกั รอ นป พ.ศ.๒๕๐๓ ผเู ขยี นไดลอ งใตพ รอ มกับผูรวมงานเจ็ดแปดคนดว ยกัน ใน ระหวางเดินทางคนื หนึ่งไดไปพักอยทู โี่ รงแรมซ่ึงไมไ กลจากสถานยี ะลามากนกั ในหองพักมีเตยี งใหญ อยูสองเตยี ง ผเู ขียนนอนกบั คณุ หมอ พ. เตยี งหน่งึ สวนอีกเตยี งหน่งึ นน้ั อาจารยห มอ ช. และ อาจารยหมอ ฉ. นอนอยดู วยกัน เราสคี่ นดับไฟเขา นอนพรอมกนั ประมาณตหี น่งึ เหน็ จะได ผูเขยี นหลับไปไดพกั ใหญกร็ สู ึกมอี ะไรมา กระทุงทข่ี า เขา ใจวาคุณหมอ พ. คงจะพลิกมาโดนจงึ เขยบิ หนี พอเคลม้ิ หลบั กร็ ูสกึ เชน เดิมอีก จงึ ลุก ขนึ้ มองดคู ณุ หมอ พ. กเ็ หน็ วา เราตางคนนอนหนั หลงั ใหกนั และอยหู า งกนั พอสมควร และคุณหมอ พ. ก็หลบั สนทิ ผเู ขียนจึงจัดผาหนนุ เทาเสียใหมแลวลงนอนตอ พอเคล้ิมหลับกร็ สู ึกวามีอะไรมากระทงุ อกี คราวน้ผี เู ขยี นไมลกุ ข้นึ ไดแ ตพลกิ ตวั และลืมตาขึน้ เพอื่ ดู ไปทางคณุ หมอ พ. พอตัวพลิกข้นึ ตรง ทา นอนหงาย ก็ตกตะลึง คิดพดู และทําอะไรไมถกู เพราะที่ ปลายเตียงเหน็ เงาลาง ๆ ของผหู ญงิ สาวคนหน่งึ ผมยาวแคบ า ใสเ สอื้ แขนยาว นงุ ผา ถงุ ลาย ๆ ไดย นิ เธอพดู ขนึ้ วา “อยากกินไสค นขาว แตกลวั เพราะเขามพี ระองคด าํ อยใู นกระเปา” แลว ภาพก็เลอื นหายไป ตอนนนั้ ผูเขยี นไมไ ดน กึ กลัวเลย เพราะเขาใจวาตนเองเพลยี จากการเดินทางมากและนอนดกึ เกินไป จงึ เกิดภาพหลอนขึน้ ไดหลบั ตานอนตอไป แตพ อเคลม้ิ จะหลบั ลงกร็ ูสกึ มีคนเขยา ขาอกี คราวนี้ ผเู ขยี นไมย อมลมื ตาและไมยอมลุกขนึ้ คงนอนนง่ิ ในทาเดมิ และสวดมนตแ ผสว นกศุ ลใหเรอื่ ยไปจน หลับ ในเชา วนั รุง ขนึ้ เม่ือเลาสกู นั ฟงก็ไดท ราบวาอาจารยห มอ ช. (ซึง่ เปน คนผวิ ขาวกวาคนอื่น ๆ ทไ่ี ป ดว ยกนั ) มีพระพุทธรปู องคเล็ก ๆ สดี าํ สนทิ อยใู นกระเปาจรงิ ๆ เธอเลา วา มีคนใหกอนหนา จะออก เดินทาง และเธอเอาใสกระเปาไวแลวก็ไมไ ดเ อาใจใสอ กี จนกระทัง่ ลืมเสียสนทิ ผเู ขียนไมเคยได 72
ทราบเรือ่ งพระองคน น้ั เลย เมอ่ื ลงไปขา งลางไตถามพนกั งานของโรงแรมเกย่ี วกบั หอ งทพี่ กั ก็ได รบั คําบอกเลา วา ในหองทเ่ี ราพักนนั้ ไดม ีผูหญิงไปผูกคอตายอยกู อ นหนาทีเ่ ราไปพกั ไมน านนกั และ หองนน้ั กเ็ พ่ิงเปด ใชหลงั จากที่เกิดเหต.ุ หมายเหตขุ องผรู วบรวม นา เสียดายท่ีคณุ หมอนนั ทพรไมไ ดป ลุกเพือ่ น ๆ ทน่ี อนอยดู วยกันลกุ ข้นึ และเลา เรอ่ื งใหฟงในทันทที ่ี เหตเุ กิด เพราะมผี ทู ี่ฟงเรอ่ื งในภายหลงั แลวสงสยั วา เธอจะฝนไปมากกวา จะไดเ หน็ จรงิ ๆ เคราะหดี ทอ่ี าจารย ช. มพี ระพทุ ธรปู สดี าํ อยูดว ยจริง ๆ และคณุ หมอนนั ทพรไมไ ดท ราบเรอื่ งอยกู อ น แมแ ต อาจารย ช. เจา ของพระเองก็มไิ ดน ึกถงึ เรือ่ งจงึ มีนํา้ หนักตรงนี้ และไดร บั กาสนบั สนนุ ข้นึ อีกจากการ ทม่ี ีผหู ญิงผูกคอตายในหองที่เกดิ เร่ือง ........................................... 73
เรอ่ื งท่ี ๕ วญิ ญาณอาํ ลา โดย นนั ทพร นลิ วเิ ศษ เมอื่ ปลายเดอื นมนี าคม พ.ศ.๒๕๐๘ นองชายผเู ขยี นไดข อรองใหผ ูเขียนชว ยไปเยี่ยมไขบ ิดา ของเพื่อนเขาท่บี าน เปนผทู ีผ่ เู ขยี นเคยรจู ักอยูกอ นแลว ผูเขยี นไดไปตามขอรอ งและไดท ราบวาทา น เปนมะเรง็ ของกลองเสยี งในระยะทา ยและโรงพยาบาลไดข อใหกลบั บาน ผปู วยอยใู นระยะเจบ็ ปวด ทรมานมาก พดู กไ็ มม เี สยี ง กลืนอาหารกไ็ มไดเ ลย ผเู ขยี นไดใ หค วามชวยเหลือและทาํ การรกั ษา ทานจนสังเกตไดว าผปู ว ยมีความศรทั ธาและความนิยมในตวั ผเู ขยี นอยางคอนขา งมาก ครน้ั ถึงวนั ที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๐๘ ผเู ขียนไดไปเยี่ยมคนไขอ กี และฉีดยาให แลวก็ลากลับ เมอ่ื ถึงบา น ผูเขยี นทาํ ภารกิจสว นตัวเรียบรอ ยแลวถงึ เวลาประมาณสามทมุ ก็ออกไปรว มวงสนทนากบั สมาชกิ ใน ครอบครัวรวมกันหาคนอยูทรี่ ะเบียงหนา บา น เราคยุ กันถงึ เรื่องตา ง ๆ อยา งเพลิดเพลนิ ไดสักครู หนึ่ง ทุกคนกไ็ ดย นิ เสยี งผชู าย มาเรยี กเบา ๆ ทางหนา บานวา “คุณหมอ คณุ หมอ” และ “หมอนนั หมอนนั ” เรยี กอยูเ ชน นหี้ ลายครัง้ นองชายผเู ขยี น (ร.อ.วชิ ยั ) จงึ ลกุ ขนึ้ และลงไปเปดประตู แตกไ็ มพบใครเลย ทง้ั ที่หนา ประตูกม็ แี ม ครัวน่ังอยูและเธอกบ็ อกวาไมไดย นิ ใครเรียก เราหาคนไดย ินทุกคนและจําไดว า เสยี งนนั้ คลายกันกบั เสียงของผปู ว ยทีก่ ลา วถึงอยนู ้ี (คงแตสมัยยงั พูดออกเสียงได) เม่ือไมพบตวั คนเรยี ก เรากน็ ั่งสนทนา กนั ดวยเร่อื งตา ง ๆ ตอไป อกี สกั ครูกม็ เี สียงเรยี กอีก ผเู ขยี นจึงรองบอกใหแ มค รวั ไปเปด ประตู พรอมกับตอ วา ไปดว ยวา น่ังอยูใกลประตูยงั ทําเฉยอยูได แมค รวั เธอกว็ า เธอไมไ ดยนิ และเม่ือไป เปด ประตดู กู ไ็ มม ีใคร พวกเราทง้ั หา คนเลยแยกยา ยกันเขาหอ งของตนไป ในวันรงุ ขน้ึ ลกู ชายของผปู วย (เพอื่ นของนอ งชาย) มาที่บา นเราตั้งแตย งั ไมส วางดี เพ่อื ขอใหเ ราไป ชวยจดั การเรอื่ งงานศพบิดาของเขา ซ่ึงไดเ สียตงั้ แตเ มื่อตอนกลางคืน ในเวลาสามทมุ สบิ หานาที เขา ไมไดมาหาเราตง้ั แตตอนนน้ั เพราะเห็นวา คา่ํ มากแลว คงจดั การอะไรไมไ ด จึงไดรอถงึ รงุ สาง หมายเหตขุ องผรู วบรวม นา้ํ หนักของเรอ่ื งนีอ้ ยตู รงทไ่ี ดยนิ เสยี งพรอมกนั ถงึ หาคนและฟงเปน เสียงเรียกชดั เจน จนคนหน่ึงลกุ ข้นึ ไปเปด ประตู แลว ยงั ไดย นิ อีกเปน ครงั้ ที่สอง อีกขอหน่งึ คือ เวลาที่ไดยนิ เสียงน้นั ใกลเ คียงกบั เวลา ทค่ี นไขถึงแกกรรม ซ่งึ ถอื กันวาเปน เวลาที่ วญิ ญาณออกจากรา ง ................................... 74
เรอ่ื งท่ี ๖ วญิ ญาณวนเวยี น โดย เอนิ ศรี เกตสุ งิ ห (ผเู ลาเรือ่ งนี้เปน คนเดยี วกบั ทเ่ี ลา เรื่องท่หี นงึ่ ) เมอ่ื วนั ท่ี ๒๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๐๒ วงการแพทยแหง ประเทศไทย ไดสญู เสียแพทยผชู าํ นาญ ทางสตู นิ รีเวชไปหนง่ึ ทา นคอื นายแพทยประพนธ เสรรี ตั น แหง กรมการแพทย กระทรวงสาธารณสขุ โดยทขี่ า พเจาไดเ คยปฏบิ ัตริ าชการในฐานะผอู ยใู ตบังคบั บญั ชาของทาน อยา งใกลช ดิ มาเปนเวลา หลายป และไดร บั ความรคู วามชาํ นาญจากทานอยา งอเนกประการ จงึ มแี รงดนั ไมใ หข าพเจา ทอดทง้ิ ครอบครัวของทา นในระยะเศราโศกนน้ั ได ขา พเจาไดไปมาหาสูต ลอดเวลาทย่ี งั ตง้ั ศพบาํ เพญ็ กุศล กุศลท่ีบานจนครบรอ ยวัน จึงไดรบั ทราบเรอื่ งทเี่ กยี่ วกับทานหลังจากถึงแกกรรมแลวเปนอยางดี วนั หนงึ่ หลงั จากทานถึงแกก รรมไปแลวไดป ระมาณเดือนเศษ ไดมคี นไขเกา แกซงึ่ ใกลช ดิ กบั ทานมาก คนหนึ่ง ไปหาภรรยาทานและเลาวา เมอื่ คืนนีฝ้ น ถึงคุณหมอ ในขณะฝนนน้ั ระลกึ ไดวา ทา นไดตายไป แลว แตก ไ็ มไดนึกกลัวอะไร ไดส นทนากนั ดงั ตอไปนี้ คุณหมอ “นค่ี ณุ ชวยไปบอก จ. (ภรรยาของคณุ หมอ) เขาทีซวิ าผมอยากรบั ประทานไสต นั ตม ผักกาดดอง ใหเ ขาทําแลวนาํ ไปวางไวในหองท่ผี มนอนเจบ็ ขา งลา ง ผมจะมาคอยรบั ประทานวนั น”้ี (ฝน ตอนกลางคนื ) ผฝู น “ดฉิ ันจะทําใหเ อง” คุณหมอ “ไมต อ ง ไปบอก จ. เขากแ็ ลวกนั บอกเขาวาใหท ําวนั น้นี ะ เพราะผมวา ง จะไปคอยกนิ ” (วันนนั้ เปน วนั พระ) ผูฝน “เอะ ! ทําไมวา งวนั นี้เลาคะ” คุณหมอ “วันน้เี ขาปลอยตวั ก็มาได” ผฝู น “ทาํ ไมคณุ หมอไมใสเ สือ้ ” คุณหมอ “ก็ผมไมม นี ”ี่ (เมอ่ื ตอนถึงแกก รรมไมไ ดใสเ สอ้ื เพยี งแตม ีผาหม คลมุ ไว) ผูฝ น “คุณหมอเสียใจไหมคะท่คี ณุ หมอตายน”่ี 75
คณุ หมอ “ไมเสยี ใจเลย เพราะผมหมดอายุ จะทาํ อยา งไร ๆ ผมก็อยูไ มไ ด หมดอายแุ ลว ท่คี ณุ ไป เย่ยี มผมเมอ่ื วนั เสารต อนบา ยนน้ั ผมยังจาํ ได คุณยนื อยปู ลายเทาเตยี งผมพรอ มกบั หมอประเสรฐิ (คณุ หมอประเสรฐิ กงั สดาลย) คนื นน้ั แหละผมไปแลว ผมไปต้งั แตค ืนวนั นน้ั นี่คุณชว ยไปบอก จ. เขาดว ยนะวา การใชจ ายในบานนะ บางส่ิงบางอยางทคี่ วรลดลงไดบางกย็ งั ไม ลดลง ควรจะตดั ลงใหม ากกวา น้ี งานการกเ็ หมือนกัน ถาใครเขาสง การดทีค่ วรใหกใ็ ห ทีไ่ มควรใหก ็ ไมตอ งให คณุ ตองไปบอกเขาใหไ ดน ะ บอกวาผมสั่งใหบ อก” ผูฝ น “ทาํ ไมคณุ หมอไมไ ปบอกพี่ จ. เขาเองละคะ” คณุ หมอ “เขาอยเู สยี เมือ่ ไหรล ะ คณุ รไู หม หมนู ้เี ขาไมคอ ยอยบู านหรอก ออกนอกบานทกุ วนั เลย คณุ ไปบอกเขากแ็ ลว กนั รบี ไปบอกเขาเร็ว ๆ นะ อยาลมื คณุ เองก็เหมือนกนั พกั ผอ นใหม าก ๆ หนอย อีกอยางหนึง่ สาํ หรบั ท่ีบานผมนัน้ เคยอยา งไรกข็ อใหเ ปนอยางนัน้ ไปบางซิ ตงั้ แตผ มตาย แลว คุณไมเ คยไปเลย” ตอมาเมอื่ ครบกาํ หนดทาํ บญุ หา สิบวนั ในเยน็ วันสกุ ดบิ ขา พเจาไปชวยจดั สถานทแ่ี ละเร่ืองอนื่ ๆ ได ยนิ เสยี งโทรศัพทม าจึงไปรบั ฝายโนน บอกวา อยากขอพูดกบั คุณหมอประพนธ เสรรี ตั น ขา พเจาย้ํา ถามถงึ สองครง้ั เขาก็ยงั บอกวา ขอพดู กบั คณุ หมอประพนธ ซํา้ ยงั บอกดวยวา “หมอจา ยนะ คะ” (ช่อื เดิมของทา น) ขา พเจา ประหลาดใจมากจึงตอบวา “อาจารยถ ึงแกก รรมมาจนครบกําหนดหา สบิ วนั วนั นแี้ ลว คณุ ไม ทราบหรือคะ” ทางโนน บอกวา “อะไร เม่อื วานนีย้ งั มาหาทบี่ านเลย” ขา พเจาถามวา “ท่ีบา นไหนคะ” “บานทีพ่ ญาไทนีแ้ หละ” ขา พเจาถาม “ไปหาเวลาเทาไรคะ” “ประมาณพลบคํ่า” “แตงตัวอยางไรคะ” “นุงกางเกงสเี ทา ๆ ใสเสอื้ เช้ิตสีฟา ๆ เดินเขามา มาถึงกร็ อ งถามวา สบายดีหรอื มาเยี่ยม ดฉิ ันเชิญ ใหขนึ้ บา นก็ไมยอมขึ้นบอกวา ไมม ธี รุ ะอะไรหรอก มาเยี่ยมเทา นนั้ ลาละ ดิฉนั ยังถามวา ทําไมไม เอารถเขา มาดว ย ทา นบอกวา ขีเ้ กียจ จอดรถไวหนา บา น แลวกไ็ ป” 76
ขาพเจา บอกวา “อาจารยท า นเสยี แลว จริง ๆ เวลาน้ศี พยงั อยทู ีบ่ าน ขณะน้ีดฉิ นั ยืนพดู โทรศพั ทอยู ใกล ๆ หองไวศพทาน ไมเชอ่ื เชญิ คณุ มาดู วนั นีก้ ําลงั จะบาํ เพญ็ กุศลครบรอบสัตมวารท่ีเจด็ เชญิ คณุ มาสคิ ะ” เสยี งทางโนน รอ งอยางตกใจเตม็ ที่ แลว วางหูเลย ขา พเจาจะถามวา เปนใครกไ็ มท นั จงึ เปน ความลับอยจู นเดยี๋ วนี้ นอกจากนนั้ ทานยังไปเทยี่ วเขาฝน เพื่อน ๆ ทสี่ นทิ สวนมากตอวา วา ไมไ ปเยีย่ มทบ่ี า นเชน เคย กบั เพ่ือนคนหนง่ึ ทา นไปขอบใจทีไ่ ปเยี่ยมเวลาเจ็บหนัก (ทา นอยูในสภาพไมร สู กึ ตัวหลายวันกอนถึงแก กรรม) บอกวา เม่ือตอนทคี่ ณุ ไปเยีย่ มนน้ั ผมไปแลว ใคร ๆ ไปผมเหน็ หมด คณุ หมอประเสรฐิ ไป เยยี่ มผมกเ็ หน็ แตภรรยาและบตุ รธดิ าทา นไมเ คยเขา ฝน นอกจากลูกชายคนโตที่กาํ ลงั เรยี นอยทู ี่ ประเทศเยอรมนี บุตรคนนัน้ เลา วาฝน เห็นคณุ พอเดนิ จงู มอื นองรุจาอยู ฝน กอนจะไดรบั ขา วเกีย่ วกบั นองคนนนั้ ซงึ่ ไดเสียชวี ิตในคราวทนี่ ักศึกษาทันตแพทยไปเรือลมที่จังหวดั กาญจนบรุ ี (หลงั จากคณุ หมอถงึ แกก รรมประมาณสองป) อนึ่งในคราวทีเ่ กดิ อบุ ตั เิ หตเุ รอื ลม น้ัน ในวนั รงุ ขึ้นทางบา นยงั ไมท ราบแนชดั วาลกู สาวคนเลก็ (รจุ า) นน้ั จะเสียชวี ติ หรอื เปลา เพราะมผี ูยืนยันวาไดด งึ ออกมาพน ใตท อ งเรอื แลว และเดก็ กว็ า ยนํ้าเปน ขณะทขี่ าวคราวยงั สบั สนวนุ วายอยู กม็ ผี ไู ปเยี่ยมแสดงความเสยี ใจกับภรรยาของคณุ หมอ โดย เขาใจวาลกู คนทเ่ี สยี ชวี ิตคือลกู สาวคนโตตามขาวหนงั สือพมิ พ ขา พเจาเองกไ็ ดเ ชอ่ื เชน นน้ั ผทู ีไ่ ป แสดงความเสียใจนน้ั แอบกระซบิ เลา ใหข า พเจา ฟงวา “เมื่อคืนฝน ถงึ คณุ หมอ เหน็ จงู มอื นอ งคนเลก็ เดนิ อยทู ห่ี นาครวั ในบา นน”ี้ (หมายความถงึ ลูกคนเลก็ ) ในขณะท่เี ลานน้ั แกก็ยงั ไมทราบความจรงิ วา ลูกคนเลก็ คอื คนทหี่ ายไปในนํา้ จรงิ ๆ ในขณะนน้ั พวก เรายังมหี วังเพราะเขาใจวา มชี าวบา นชวยไว จึงไดออกติดตามหาอยเู ปนเวลาหลายสัปดาห แตก็ หมดหวัง. หมายเหตขุ องผรู วบรวม เกยี่ วกบั เรื่องแรกมขี อสังเกตตอ ไปน้ี ๑. ไสต ันตม ผกั ดอง เปน ของชอบของคณุ หมอ ตามทีภ่ รรยารับรอง ๒. เวลาคณุ หมอถึงแกก รรมไมไดสวมเสอ้ื ผูพยาบาลเพยี งแตเ ช็ดตวั แลว เอาผาคลมุ ไว ๓. คณุ หมอหมดสตอิ ยหู ลายวนั กอ นถึงแกกรรม การทเี่ หน็ ผไู ปเยย่ี ม ตอ งไมใ ชเ หน็ อยางธรรมดา ๔. หลงั จากคณุ หมอถงึ แกก รรมแลว ภรรยาตองออกจากบา นบอ ย ๆ เพ่อื ตดิ ตอ การงาน 77
อยา งไรกด็ ี ยังไมส น้ิ สงสัยวา ผูเลาเร่อื งฝน นนั้ อาจแตง เรอื่ งข้นึ เพอื่ ตักเตอื นภรรยาของคุณหมอ เร่อื งคนพดู โทรศพั ทม าถามหาคณุ หมอ อาจจะเปนการแกลงเพ่ือใหกลัวก็ได เร่อื งความฝน ของลกู ชายที่ตางประเทศ ซ่ึงฝน เหน็ บดิ าจงู นอ งสาวคนทต่ี าย ควรจะสนใจ แตบ ังเอญิ ผูฝนจํารายละเอยี ดตลอดจนวนั เวลาไมไ ด ไมอาจจะสอบเทียบอบุ ัติเหตุทเ่ี กิดขน้ึ ....................................... ก 78
เรอื่ งท่ี ๗ เหตอุ บุ ตั บิ นทางหลวง โดย สมุ น สมสาร (คณุ สุมน สมสาร เปน ขาราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร ในขณะน้ีประจําอยูในกองการลกู เสอื ใน ตาํ แหนง ผูจดั การวารสาร “ลูกเสือ” นอกจากความรูในหนา ท่ีการงานประจําแลว ยังมีความรู เก่ียวกับวชิ าลูกเสือเปนพเิ ศษ สามารถทาํ หนาที่อาจารยอบรมผูกาํ กับลกู เสอื อื่น ๆ ได เปน ผทู ่มี ี ความสามารถและความเขม แขง็ ไมแ พผูช ายคนหน่งึ ตําบลทตี่ ิดตอ คอื กองการลูกเสอื ศาลา วชิราวุธ ถนนพระรามท่ี ๑ เขตพระนคร) ทา นศาสตราจารยน ายแพทยอ วย เกตสุ งิ ห ผเู ปน ที่เคารพนับถือแจง วา ทานกาํ ลังรวบรวม เรอ่ื งเกี่ยวกบั ผสี างหรอื วญิ ญาณมจี ริงหรือไม และทราบวา ดิฉนั ไดประสบอุบตั เิ หตบุ นทางหลวงดวย เหตกุ ารณทีง่ นุ งงสงสยั จงึ ขอใหดิฉันไดเ ขยี นเลา สูกนั ฟง ความจรงิ เรอื่ งผหี รอื วญิ ญาณอะไรเหลา น้ี ดิฉนั เองก็ไมค ิดวา จะมจี รงิ ทงั้ ๆ ทเ่ี มือ่ เด็ก ๆ ดฉิ นั กจ็ ดั วา เปน ยอดนกั กลัวผคี นหน่งึ เพราะผใู หญมักจะมเี รือ่ งเลาใหฟ งอยูเสมอ ทีผ่ า นจากหนงั สือทมี่ ผี ูเขยี น เลากม็ ากมาย ท้งั ๆ ท่ีกลัวกอ็ ยากฟง อยากเหน็ คณุ แมก ็เคยเลาใหฟ ง ถงึ เร่อื งทท่ี า นไดป ระสบกบั ตัวเองใหฟ ง แตด ิฉนั จะไมน ํามาเลา ตอ เพราะสิง่ ใดถา ไมเกดิ ขนึ้ กบั ตัวเองแลว ก็ไมก ลายนื ยนั แลวไม ทราบวาเปน ไง เลา เรือ่ งน้ีทไี ร เปน ตอ งเลา กนั ในตอนกลางคืนทุกที ท้ังนเ้ี หน็ จะเปน เพราะทาํ อะไรก็ ใหถ กู กาละเทศะนั่นเอง บา นทอ่ี ยูสมยั กอนก็ไมเหมือนกบั สมัยนี้ เพราะเปน เรือนไมกระดานหาง ๆ เมื่อฟงแลว กต็ อ งโดดนง่ั กระดานแผน เดยี ว ดว ยกลัวจะมอี ะไร ๆ โผลข น้ึ มาเสยี บตัวเราเขา เรอื่ งผที ใ่ี คร ๆ เลา กม็ กั บอกวา เปน เรื่องจริงกันท้งั น้นั แมแตเรอ่ื งแมน าคพระโขนงเขาก็เลา วา เปน เรื่องจรงิ เกดิ ข้ึนทว่ี ดั มหาบศุ ย พระโขนงจรงิ ๆ เมื่อสามสบิ ปก อ นโนน ภาพยนตรเ ร่อื งแมน าคพระโขนงก็ไดฉ ายมาครั้งหนึ่งแลว คร้ังสมัยหนังเงยี บ ดิฉนั ไดตดิ ตามคณุ ยายไปดทู โี่ รงภาพยนตรน างเล้งิ กําลงั ฉายถึงตอนแมน าคอาละวาด พอดไี ฟฟา เสียดบั พรบึ ลง ทกุ คนก็พรอ มใจกนั กลวั แมน าคจะออกมาอาละวาดนอกจอ ตา งวิ่งหนีกนั แทบจะ เหยยี บกันตาย ทง้ั ดิฉันและคณุ ยายก็วงิ่ หนกี นั ไปคนละทาง กลับถึงบานยังนอนหวั ใจส่ันระรกิ อยจู น คอนคนื คลมุ โปงจนเหง่ือซกิ ไปทั้งตวั 79
น่ีแหละอทิ ธพิ ลของความกลัว แมกระท่ังเด๋ียวนี้ เมอื่ ผา นหนา วดั มหาบศุ ยทีไรก็อดที่จะมองสอด สายพรอมทง้ั จิตประหวัดถึงแมน าคไมได เม่ือดฉิ ันโตข้ึนแลว จงึ ไดห ายกลัวในเรือ่ งผี ทั้งน้เี หน็ จะเปน ดว ยไดเ คยประสบกับความตายของญาติ ผูใหญห ลายทา น ไดเ หน็ ศพไดจบั ศพ (เวลาแตง ตวั คนตาย) จงึ หายกลัวไปได ดวยเหตผุ ลทาง วิทยาศาสตรป ระกอบทําใหค ิดไดวา อนั ทจ่ี รงิ เหน็ จะกลัวความมดื กับความเงียบมากกวา ฉะนน้ั จงึ ไมปลงใจเชอ่ื วา ผีหรอื วญิ ญาณนั้นจะมจี ริง แตท ้งั ๆ ท่ีไมป ลงใจเชอ่ื ดฉิ ันกไ็ ดประสบกบั เหตกุ ารณท น่ี า อัศจรรยไ มนอ ยถงึ ๒ ครง้ั จนกระทงั่ คดิ วาไมอาจวินิจฉัยไดเสยี แลว วา ผีหรือวิญญาณนนั้ มจี ริงหรอื ไม เม่อื สมัยสงครามโลกครง้ั ทส่ี อง ครอบครวั ดฉิ นั ไดอ พยพจะไปอยเู พชรบรู ณ วนั แรกที่ขน้ึ รถไฟไป เรา กไ็ ปกนั ท้งั ๆ ท่ไี มท ราบวาจะไปพักกนั ท่ไี หน ที่ไปกเ็ พราะแรงกลัวลกู ระเบิดนะแหละ ลงรถไฟทตี่ ะพานหนิ เกรอ ยูท ี่สถานพี ักใหญ คณุ พอ ไปติดตอหาเชา ทพ่ี ัก เพราะเราตกลงวา จะอยูท่ี ตะพานหนิ ดทู ที าสักเดอื นหน่งึ กอน ประมาณสัก ๕ โมงเยน็ คุณพอ จงึ กลบั มาบอกวา ไดห องแถวทใ่ี น ตลาดหองหนงึ่ มี ๒ ชนั้ และบงั เอญิ มอี ยเู พียงหองเดียว เห็นจะตองอยไู ปกอ น จึงไดข นขา วของไป พัก เปนหองทบึ ๆ ลกึ ยาวพอดู เม่ือเรากาวเขาไปกด็ ูเยือกเยน็ อยา งไรชอบกล หองมสี ภาพเหมอื นไม เคยมีใครอยูม านาน หยากไยรกรงุ รังไปหมด หอ งนํ้าหอ งสวมใชร วมกันท้งั แถว อยหู างจากหองพัก ของเราไป ๓ ชวงเสาร้ัว ขณะนนั้ เยน็ มากแลว จวนคํ่า เราจึงเก็บกวาดเฉพาะชน้ั ลางเพอ่ื หลบั นอนใน คนื แรกไปกอน ดิฉันไดส ังเกตเหน็ เสาหองเสาหนง่ึ มีลกั ษณะแปลก ตอนบนสุด ของเสามมี นั เยิ้ม เหมอื นน้ํามันหก มาจากขา งบน ถามคณุ พอดู คณุ พอบอกวา ไมมีอะไร เจาของเขาคงทาน้ํามนั ไว คณุ พอรแู ลววาเสา น้นั ตกน้ํามนั แตค ณุ พอไมก ลา บอกพวกเรา เกรงวาจะกลัวกัน ตอนโพลเ พลจวนคํา่ แลว ดฉิ นั ออกไปทางหลงั บา นเพ่ือจะหาทางไปยังหองนาํ้ ขณะแรกทีม่ องออกไป ยงั รัว้ ลวดหนามซ่งึ อยูไมห า งหลงั หอ งเทา ไรนัก กไ็ ดเ ห็นเด็กคนหน่ึงเปนผชู ายน่งั อยบู นหัวเสา คดิ เอา วาเด็กคนนี้ซนเอาการทีเดียว แตเมอื่ เงยหนาขนึ้ อีกทีกลับเหน็ เดก็ คนน้ันไมม หี วั มแี ตตวั นงั่ อยู และ เพียงชั่วกระพรบิ ตาครงั้ เดียวก็กลบั หายไปหมด ไมเ หน็ มเี ด็กทไ่ี หนและในบรเิ วณน้ันก็เงยี บไมเห็นมี ผูคนทีไ่ หนอีก 80
อยา งชนดิ ท่วี า ไมกลัวก็ยังวิง่ กลบั เขา ไปหนา บา นแบบไมท นั ใจสั่นตัวสนั่ งนั งก คณุ แมถามวาเปน อะไร กพ็ ูดไมอ อกบอกไมถ ูก กวา จะควบคมุ สตไิ ดก ็นานโข แตก็ไมกลาพดู ใหใ ครฟง เกรงจะ หวาดกลัวกันไปทัง้ บาน คืนนน้ั เรานอนรวมกนั ในมุง เดยี วหมด ๖ คน เพราะเอามงุ ใหญอ อกใชเ พียงหลังเดยี วกอน ประมาณ สกั ๕ ทมุ เหน็ จะได เรานอนอยูยงั ไมห ลับไดยินเหมอื นเสยี งฝเทาคนเดนิ อยชู นั้ บน ทีแรกกค็ ิดวาหอ ง ขางเคียงคงยังไมนอนและคงยังทาํ ธรุ กจิ ใด ๆ อยู หองแถวก็เปน เชน น้ี เวลาเดนิ ทกี ระเทอื นถึงกนั หมด แตย ิ่งดึกกไ็ มเ หน็ หยุดหลบั นอนสักที ทนี ีม้ เี สยี งเดนิ แลวมาหยดุ อยหู วั บนั ไดทาํ ทา เหมอื นจะลง มาขางลา ง แตกไ็ มเ หน็ มอี ะไรลงมา พอมาหยุดทีห่ ัวบนั ไดทีหนงึ่ พวกเรากจ็ อ งตาเปง ไปทบี่ นั ไดทกุ ที พวกเราแนใ จวาไมใ ชค นแน คุณพอสวดมนตอ ยตู ลอดเวลา เสียงเดินกย็ ังคงมอี ยูเร่อื ย ๆ จนรงุ เชา จึงเงียบหายไป ตกลงคนื นน้ั พวกเราไมมใี ครไดห ลบั กนั เลยจนงบี เดียว พอรุง เชาก็ไมฟ ง เสยี งละ ขนขาวของออก ทีเดียว อยไู มไ ดเ สยี แลว ไปขอเชา หอ งโรงแรมอยูเ ปน เดอื น ตอนสายไปรบั ประทานอาหารที่ในตลาด จีนขายของท่อี ยหู องแถวใกล ๆ กันถามวา “เปน ไง ! อา นาย เม่อื คนื ถกู ผหี ลอกเหรอ” จนี คนนน้ั เลา วา หองน้ีมผี ดี ุมาก คนแถวนไี้ มมีใครกลามาอยูเลย พวกเราตอ งสวดอติ ิปโส ฯ ตอไป อกี นาน เพราะกลัวผจี ะตามไปทักทายที่โรงแรมอีก หลงั จากนแี้ ลวดฉิ นั กไ็ มไดประสบเรอ่ื งผี ๆ อีกเลย จนกระทั่งเมอ่ื วนั ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๑๐ ดฉิ นั ไดรบั คาํ ส่งั จากผบู งั คบั บญั ชา ใหไ ปทําการอบรมวิชาผกู าํ กับลกู เสือสํารองชน้ั เบ้ืองตน แกน ักศกึ ษา วทิ ยาลยั พลศึกษา ณ คา ยลกู เสอื วชริ าวธุ อาํ เภอศรรี าชา จังหวัดชลบรุ ี ซึ่งจะเปดการอบรมวันที่ ๒๕ - ๒๗ สงิ หาคม ๒๕๑๐ คณะใหญเขาเดนิ ทางไปคายในตอนบา ยของวนั ที่ ๒๔ แลว แตบงั เอญิ เยน็ วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๑๐ (ตรงกับวนั พฤหสั บดี) เปนวนั ฌาปนกิจศพ คณุ วัชรี เอ่ยี ม สกุล ภรรยาคณุ เกรียง เอ่ยี มสกลุ อธบิ ดีกรมสามญั ศึกษา ดิฉนั จึงอยูเผาศพเสียกอ น แลวคิดจะขบั รถสวนตวั ไปเองในตอนคา่ํ หลงั จากเสร็จงานแลว ดฉิ ันไดช วนคณุ กมล ดิฐกมล ศกึ ษานิเทศกเ อก กรมสามัญศกึ ษาใหไ ปเปน เพ่ือนกนั (ขณะนน้ั คณุ กมล รบั ราชการอยทู างจงั หวัดชลบรุ ี แตม บี า นอยกู รุงเทพ ) ทแี รกคณุ กมล ตัง้ ใจจะไปตอนเชา วนั รุงขน้ึ สว นดฉิ นั ถา จะรอไปตอนเชากเ็ กรงจะไมท นั เพราะการอบรมเปด ๘.๐๐ น. และจะตองไปเตรียมงานกอนดว ย ฉะนนั้ จงึ ยนื ยันจะไปใหไ ดใ นคืนนี้ 81
คณุ กมลเหน็ ดฉิ ันจะไปคนเดยี วแนกเ็ ลยกลบั ใจไปเปน เพ่ือนดวย เราออกจากกรุงเทพ ๑๙.๔๐ น. ไมไ ดห ยดุ พักทใ่ี ด ประมาณ ๒๑.๐๐ น. ว่งิ มาถงึ กิโลเมตรที่ ๘๑.๕ ทางตรงนน้ั เปน ทางโคงนดิ ๆ และ มสี ะพานเตี้ย ๆ ตรงโคงพอดี ดิฉนั เปด ไฟสูง วง่ิ ไปดวยความเรว็ ประมาณ ๖๐ ไมล ตามปกตดิ ิฉนั ขบั รถระมดั ระวังมากและถนนนี้กเ็ คยไปมาเสมอแมกลางคนื รถก็อยูใ นสภาพดีพรอ มทกุ อยา ง ขณะนน้ั ถนนโลง ปลอดรถ เพราะเปดไฟสูงซง่ึ เหน็ ทางไดในระยะไกลมาก รถบรรทุกคันหนึ่งกําลังวง่ิ สวนทางมา ทางสวนกป็ ลอดรถเชน กนั เมอ่ื ใกลจะถึงโคงและใกลจะสวนทางกนั มองดแู ลว ก็ทาง ปลอดภยั ดว ยกนั ทง้ั คู ดฉิ นั จงึ ลดไฟสูงลงเหลอื แตไฟใหญ แตในพรบิ ตานน้ั เอง ไมท ราบวา รถจักรยานยนต มาจากทางใครมาลม ขวางอยูในทางของดิฉัน ลกั ษณะเหมอื นวา มนั นอนอยใู นทาง นน้ั นานมาแลว ซ่ึงเมือ่ ครูนีด้ ฉิ นั กเ็ หน็ ถนนวางอยูและพอเหน็ รถก็เปน เวลาจวนตวั เสียแลว เปน จงั หวะทจี่ ะตอ งสวนกับรถบรรทกุ ตรงนน้ั พอดี รถบรรทุกว่ิงมาถงึ สะพานแลว กําลงั เขา โคง ไมไ ดแน ขืนสวนกันตรงนน้ั กต็ องยบั ไปดวยกันอยา งไมม ี ปญหา จะหักหลบไปทางซา ยก็จะพงุ ลงคู และขอ สาํ คญั ไมเ หน็ เลยวามคี นยนื อยแู ถวนน้ั หรอื ไม ถา เฉี่ยวโดนคนละกม็ หี วังไป “หองกรง” แนเ ทียว มนั เปน วินาทที ฉ่ี กุ ละหกุ ทสี่ ุด ทางเดียวที่จะแกไ ขไดค อื ชนมอเตอรไ ซค เมอ่ื จะชนสิ่งทก่ี ดี ขวาง ขา งหนาจริงแลว กอ็ ดท่จี ะเบรกไมไ ด เพือ่ เปน การชวยใหช นอยา งเบาทส่ี ดุ แตท ่ไี หนไดการเบรกใน ขณะทรี่ ถกาํ ลังซึ่งใชค วามเร็วทําใหห ยุดหมดทัง้ ๔ ลอ โดยกะทันหนั หรอื ท่ีเรียกวา ลอตาย ทาํ ใหร ถ ลื่นปรา ดแฉลบออกทางขวามือ (ซง่ึ ที่จริงจังหวะนัน้ ควรจะชนมอเตอรไซคแลว ดวยซา้ํ แตกลบั ไมไ ด ชน) เปนเวลาเดยี วกบั ทรี่ ถบรรทุกวง่ิ มาถงึ ในความรสู ึกเหมือนกําลังทะยานเขาหาอะไรอยางหนึ่งท่ีมหึมาจรงิ ๆ แตด ฉิ นั สติดตี ลอดเวลา ได พยายามหักพวงมาลยั หลบมาทางซายเตม็ กาํ ลงั แตพ วงมาลยั แข็งทือ่ ดูไมขยบั เขยือ้ นเอาเสียเลย ไมมเี วลาคิดอะไรอกี แลว เสียงดงั โครมใหญกระทบกันทางดานขวาเตม็ แรง รถถูกเหวยี่ งถอยหลังกลบั ไปประมาณ ๑๐ เมตร แลว ตกทา ยหอยอยใู นคู เดชะบญุ ไมพลกิ ควา่ํ ดิฉนั น่ังอยูในลกั ษณะมือกําพวงมาลัยแนน และพวงมาลยั นั้นบดิ เบ้ียวหกั คามือ ดิฉันยังมีสตดิ ที กุ อยางขณะท่ีกระแทกลงไปหยุดอยูในคู ฉบั พลนั นนั้ ไมท ราบวามีอะไรอยา งหนงึ่ ทําใหดฉิ ันหนั ไปทางทา ยรถดานซา ยมอื (รถทน่ี งั่ ขบั ขวา) ก็ พอดีเหน็ ชายคนหนึง่ มาจากทางไหนก็ไมท ราบ มาโผลหนา อยูที่หลงั กระจกขา งทา ยรถ ใสเ สื้อลาย เปน รวิ้ ๆ สีเทาดาํ หนาตาขมุกขมอมผมยงุ เหยงิ กาํ ลงั มองมาทางดฉิ นั แลว พูดอะไรกไ็ มทราบ เห็น แตป ากผะงาบ ๆ 82
ดฉิ นั จงึ หนั มาเปดประตูรถ ออกมานอกรถเพอื่ จะสอบถามเรอ่ื งราวกันใหแนว าพดู อะไรไมร เู รอื่ ง ก็ พอดีมีคนท่ปี ระสบเหตกุ ารณและรถตดิ ไปกนั ไมไ ด เพราะรถบรรทกุ และเศษเหลก็ ทช่ี นขวางกนั อยู บนถนน ไดเ ขามาไตถ ามวา มีใครไดร บั อันตรายอยางใดบาง เหน็ รถแลวก็คดิ วา อยา งนอยก็คาง เหลือง แตเ ดชะบุญทงั้ ดฉิ นั และคณุ กมลไมเปน อะไรเลย (ตา งมีหลวงพอดดี ว ยกันทงั้ คู) คณุ กมล เพียงแตเจบ็ หัวเขานดิ หนอ ยและดฉิ นั กข็ อมือเจาะเลก็ นอ ย เนื่องจากถูกหชู างกระแทก ดิฉันหนั ไปช้ใี หด รู ถมอเตอรไ ซคว าเปน ตน เหตุ แตรถมอเตอรไ ซคก ไ็ มม เี สยี แลว หายไป ทัง้ ชายคนท่ี เห็นเมื่อครกู ห็ ายไปดวย ขณะทเี่ กิดเหตุ ก็เปนระยะเวลาเพียง ๒-๓ นาทเี ทานน้ั เสยี งสตารทรถ มอเตอรไ ซคก ็ไมไ ดย นิ ไมท ราบวาหายไปอยางไรไดร วดเรว็ มาก อกี สัปดาหห นง่ึ ตอมา ตรงกับวนั พฤหัสบดอี ีกเหมือนกนั มีบัณฑติ หนุมกลบั จากพาเพ่ือนชาว อินโดนีเชยี ไปเท่ยี วพัทยา ขณะจอดรถคอยรถสวนอยูทายรถบรรทกุ คนั หน่ึง มรี ถบรรทุกวง่ิ มาขา ง หลังชนอัดกอปปก ับรถบรรทุกคันหนา บัณฑิตหนุมคนขบั ตายคาพวงมาลัย เหตุเกดิ ตรงระหวาง กโิ ลเมตรท่ี ๘๑.๕ - ๘๒ ซ่ึงเปน จุดทหี่ างกบั ที่ดิฉนั ประสบเหตุเพยี งไมถ งึ ครึง่ กิโลเมตร เพื่อน ๆ ที่เมืองชลเลา ใหฟ ง ในภายหลงั วา มีมอเตอรไซคเ กาะทา ยกนั ควาํ่ ตายคาทที่ งั้ คใู นบริเวณนน้ั แตก ไ็ มไดยืนยนั จุดทีแ่ นน อน ตอมาก็ไดม รี ถควาํ่ ตายกนั ไปหลายศพแลว ในละแวกเดยี วกนั น้ี เรื่องนี้ทาํ ใหดิฉันรสู ึกเหมอื นวา ตายแลวเกดิ ใหม แตว นิ ิจฉัยไมอ อกวา สงิ่ ทเี่ หน็ ในคราวนนั้ เปน คน จริง ๆ หรอื เปน ภาพลวงตาทีเ่ กดิ จากผีสางหรอื ดวงวิญญาณกันแน อยางไรกด็ ี ดิฉนั กไ็ ดท ําบญุ กรวดน้ําอทุ ิศสวนกศุ ลไปใหผทู ่ีลวงลบั แลว เพราะเปน ทางเดยี วท่ีทาํ ใหจ ิตใจสบายและหายหว ง เม่ือ ดฉิ นั ขบั รถผา นท่ตี รงนั้นทไี ร เปน ตองแจงรอ งบอกเหตกุ ารไปมาดวยเสียงแตรเปนการคารวะทกุ ทไี ป (ตามแบบทชี่ าวรถเขาทาํ กัน) กไ็ มทราบวาท่ีเราทําดังนน้ี ะ เชือ่ หรือไมเชื่อวาผหี รอื วญิ ญาณมจี ริง หรือไม. หมายเหตขุ องผรู วบรวบ ตอนตน ของเรอื่ งนี้ ทเี่ กีย่ วกบั หอ งแถวทีต่ ะพานหนิ เร่อื งแรกอาจเปน ไดวา คณุ สมุ น “ตาฝาด” ไป เพราะเหนด็ เหน่ือยและตื่นเตน และภาพเดก็ ทเ่ี ห็นน้ันก็เปน อยชู ัว่ ขณะเดยี ว สว นเรอื่ งท่สี อง ท่ไี ดยนิ เสียงคนเดินอยูบนชนั้ สองของหอ งพกั นนั้ ถาหากไดมคี นใจกลา ขนึ้ ไปดูวา ไมม ีคนจรงิ ๆ และเวลาขนึ้ ไปเสยี งเงยี บ แตพอลงมาเสียงกลับมาใหม เชน นค้ี งจะเพมิ่ นา้ํ หนักของ เรอื่ งยิง่ ขึน้ อีกมาก คําถามของคนจีนเพื่อนบานนนั้ อาจจะเปน ดว ยความสจุ ริตใจหรือไมกไ็ ด เคยมี ตัวอยางคนแกลง ทําใหส ถานทบ่ี างแหง มชี อ่ื เสียงวา ผดี ุ เพื่อเหตผุ ลของตนเอง เชน เพ่ือความสนกุ หรอื เพอ่ื แผนการทจุ รติ บางอยาง 83
เรื่องอบุ ัติเหตุบนถนนกรุงเทพ-ชลบรุ ี ทาํ ใหน กึ ถงึ เรอ่ื งทเ่ี คยเลา ๆ กนั มาวา ผตี ายโหงนนั้ ตอง วนเวยี นอยูใ นบริเวณท่ตี ายจนกวาจะมีคนมาตาย ณ ที่นน้ั อีก จงึ จะไปผดุ ไปเกิดได เพราะนน้ั จะตอ ง คอยชักจงู หรือชักชวนใหม คี นตายดว ยเหตุคลา ย ๆ กัน ถานกั จักรยานยนตที่คณุ สุมนเห็นนั้นเปน ผจี รงิ กค็ งไดก ระทําอุบายใหเหน็ จักรยานยนตล มขวางหนา อยู เพื่อใหคณุ สุมนหักรถหลบไปทางขวา จะไดช นกบั รถบรรทกุ อยางจงั และคงจะตองเกิดการตาย ขึน้ บา ง แตบ ังเอญิ คณุ สมุ น “มีหลวงพอ ด”ี และมีสติ ตัดสนิ ใจถูกตอ ง จึงรอดตายมาได เรอ่ื งนี้ยังจะตองตั้งปญหาวา คณุ สมุ นไดเ หน็ จักรยานยนตจ รงิ หรอื ตาฝาดไปเพราะงว ง ฯลฯ การที่มี อบุ ัติเหตุเก่ยี วกบั จักรยานยนต กอ นหนา นัน้ คงจะชวน ๆ ใหน กึ ถึงผอี ยูบาง แตก ต็ อ งรบั วา สาย สัมพันธออกจะเลือน ๆ อยู เพราะไมร จู ดุ แนน อน อบุ ตั เิ หตคุ นตายทีเ่ กดิ ขึน้ ภายหลังก็เชนเดียวกนั ไดสอบถามเพม่ิ เติมวา คณุ กมลซึง่ นัง่ คไู ปกับคุณสมุ นน้นั ไดเหน็ จกั รยานยนตแ ละคนทม่ี าพดู ดวย ทางทา ยรถหรอื เปลา ไดรบั คาํ ตอบวา คณุ กมลไดเ หน็ จักรยานยนต แตไมเ ห็นคน (ทีจ่ ริงไมอ าจเหน็ ไดเพราะคนโผลท าง กระจกขา งหลงั ซึง่ มีสว นของรถบงั ตาคุณกมลไว) ขอนแ้ี สดงวาการทีค่ ณุ สุมนเหน็ จกั รยานยนตลม ขวางหนาอยูนั้น ไมใชเปน เพราะตาฝาดเนื่องจากงวงหรืออะไรทํานองนน้ั .......................................... 84
เรอ่ื งที่ ๘ เจา พอ นนทรยี โดย ศจ.นพ.อวย เกตสุ งิ ห (เร่อื งนแี้ ละเรื่องที่ ๙ เขยี นขนึ้ ตามประสบการณข องผรู วบรวมเอง สําหรบั ทานผูอานซึ่งไมรูจัก ขอ เรยี นวา ผรู วบรวมสําเร็จวชิ าแพทย และวชิ าเคมใี นประเทศไทย และประเทศเยอรมนีตามลาํ ดับ และเปนอาจารยส อนวทิ ยาศาสตรอยใู นโรงเรยี นแพทยเ ปน เวลาประมาณสามสิบหกป มคี วามสนใจ ในพระพุทธศาสนา และชอบศึกษาหาความจริงเก่ียวกับเรอื่ งชวี ติ และธรรมชาตทิ ว่ั ไป ตําบลทีต่ ดิ ตอ คอื บานเลขที่ ๑๖ ซอยพระราชครู ถนนพหลโยธิน กทม.) ในประมาณเดอื นพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๑ ผูเขยี นปรบั ปรงุ อาคารในบริเวณบา นทซ่ี อยพระ ราชครู เพอ่ื กอสรา งโรงเรียนสวนบวั มคี วามจาํ เปน จะตองตดั ตนนนทรตี น หนงึ่ ซง่ึ ปลูกมาเกือบเจด็ ป แลว และกาํ ลงั แผก ่งิ กานสาขาสวยงามมาก ผเู ขยี นรสู กึ เสียดายจึงคิดจะทาํ การยา ยไปปลูกทใี่ หม เมื่อคนอืน่ ไดท ราบเขา ก็บอกวา ตายแนท ้ังน้นั เพราะตนใหญม ากแลว สว นลําตน มีขนาดคนตัวใหญ ๆ และสาขาก็กวา งไมน อ ยกวา สบิ เมตร ผูเ ขยี นอดเสยี ดายไมได และนึกถงึ ทเ่ี คยมคี นเลา ใหฟง วา ตน ไมใหญ ๆ บางทมี รี ุกขเทวดาอาศยั อยู ในตอนค่ําวนั หนึง่ จึงไดไปทตี่ น ไมและพูดขน้ึ วา หากมเี ทวดาอาศัยอยทู ตี่ น ไมน ้ี กข็ อใหชวยใหยา ยที่ ไปไดโดยไมต าย แลวผเู ขียนกใ็ หทําการยา ย ชนั้ ตน ขุดดนิ เปน รอ งลงไปโดยรอบโคนตน ขนาดกวา ง พอสมควร แลว ทง้ิ ไวเ ชน นนั้ เจ็ดวนั เพอื่ ใหต น ไมร ูตัว พอถงึ วนั พฤหัส ฯ เปน วนั หยุดงาน (เร่ืองอะไร จาํ ไมไ ด) กจ็ ดั การยา ยโดยขดุ ดินลกึ ลงไปโดยรอบ ตนไมน ้ันข้ึนอยรู มิ บอ นํา้ หนาบาน พอขุดดนิ ลึกลงไปก็เลยลม ลงไปทอดลําตนอยูในบอ (ซึ่งตรงนนั้ กวา งประมาณหา หกเมตร) กิง่ ทอี่ ยใู นนาํ้ กท็ ิ่มลงไปในดนิ กน บอ คนงานสห่ี าคนชวยกันฉุดลาก อยางไรก็ไมเขยอื้ น ผเู ขยี นจงึ ใหร านก่ิงเลก็ ๆ ออกจนหมดเพ่อื ใหเบาเขา แตก ย็ งั ลากไมไ ป ในทส่ี ดุ ก็รานหมดเหลอื แต กงิ่ ใหญก ลางตน สองกิง่ ซ่งึ ส้ันกดุ เพียงสักสามเมตร แมกระนั้นกล็ ากไมไ ป เพราะก่ิงขา งลางตาํ ติด อยกู บั ดิน ในทีส่ ุดกต็ อ งเลิกเพราะเห็นวาไมม ที าง ตนไมนน้ั ก็แชน ํ้าจมอยใู นบอ มีแตก ง่ิ เอกโผลพ น นํา้ ขนึ้ มาสักครงึ่ เมตรเทา น้นั ผเู ขียนคิดวาทิ้งเอาไวก อ น วนั หลังน้าํ นอ ยลงแลว จึงคอยตดั ทอนเอา ข้ึนมาทําฟน ในวันเสารตอ มา (หลงั จากนน้ั ประมาณสบิ วัน) ขณะโพลเ พลเ ขาไตเขาไฟ ผเู ขยี นไปเดนิ เลน แถวบอ นัน้ มองเหน็ กิ่งไมโผลพนน้ําขนึ้ มา ก็อดนกึ เสยี ดายไมไ ด พรอมกับนกึ วา รกุ ขเทวดาคงจะไมมีแน 85
ถา มีกค็ งไมไ ดอยทู ต่ี นไมนนั้ ในทนั ใดนน้ั เอง กม็ คี วามคดิ ผลุดขึ้นมา คลาย ๆ กบั มีคนมาบอกให วา “ทาํ ไมไ มใชเครอื่ งชวยแรง” ผูเขียนไมย ืนยนั วามเี หตกุ ระตนุ มาจากภายนอก หรอื นกึ คดิ ข้นึ มาไดเอง แตเวลานน้ั รสู กึ ขนลกุ และ นึกไดวา พ่เี ขยซึง่ อยบู านติดกนั นน้ั เปน ชางกอสราง มรี อกทนุ แรงใชหลายขนาด สมควรจะขอยมื เขาเอามาลองยกดู พอรงุ ขนึ้ ก็จัดการดังทน่ี กึ เอารอกตดิ ตั้งเขาบนสะพาน หางจากปลายตน ไมท ่ี โผลพ นนา้ํ สหี่ าเมตร แลว กเ็ อาเชอื กผกู กับตอนกลางตนและดงึ ดว ยรอก ปรากฏวา ดึงกิ่งท่ที ม่ิ ดินอยู หลดุ ขน้ึ มาได กเ็ ลยใชร อกน้นั เอง ดงึ ใหต ้ังตน ขน้ึ แลวใหค นประคองขามบอ ไปปกลงในหลมุ ทขี่ ุด เตรยี มรบั ไวบ นตล่งิ ตรงขาม ระยะหางจากที่จมน้าํ อยปู ระมาณสบิ เมตร เม่ือปกเรียบรอยแลว ตนนนทรยี ต น นั้นกม็ แี ตลาํ ตน กก็ ิ่งใหญสองกง่ิ และกงิ่ ขนาดยอมอกี สองก่ิง สามกง่ิ ดู ๆ ไมนาจะรอดอยไู ด แตป รากฏวา ตน ไมนน้ั งอกวันงอกคืน และภายในไมก เ่ี ดอื นกเ็ ปน ตน ไมอ ยางปกติ เวนแตเ ตีย้ ลงไปกวา เกา โดยท่ไี ดจ ดั การขดุ หลมุ ลึกเมตรเศษในตอนปลกู ใหม เพราะ กลวั วา จะลม ตอ มาไดจ ัดการถมบอ และปรบั ปรุงที่บริเวณนัน้ ใหมห มด เพ่ือประโยชนข องโรงเรียนท่ี สรา งขนึ้ ใหม ถงึ กลางป พ.ศ. ๒๕๐๒ ผูเขียนแกไขถนนเขา และออกจากโรงเรียนสวนบวั มคี วามจาํ เปน จะตอ งยาย ศาลพระภมู ิ ซ่งึ ปลูกอยทู างดานหนาโรงเรยี น ในระยะทกี่ ําลังครนุ คิดจะไปปรกึ ษาผูชาํ นาญในเรื่อง ตงั้ ศาลพระภูมิ ก็พอดวี นั หนงึ่ ขณะทนี่ ่ังรับประทานขาวหนา ไก ที่รา นใกลห า แยกพลบั พลาไชย ได เหน็ คณุ หมอ ส.น. แพทยแ ผนปจจุบนั เขา นง่ั ท่โี ตะ ไมห างกนั นัก คณุ หมอผนู ี้ ผูเขียนทราบกิตศิ พั ทว า เปนผปู ฏบิ ัติทางจติ ตามวิธขี องพระพทุ ธศาสนาไดในขน้ั สงู มาก และเปนผมู คี วามสามารถในการทํา พธิ ตี าง ๆ รวมท้งั ต้งั ศาลพระภมู ดิ ว ย มคี วามยินดที ไี่ ดพบโดยบังเอญิ จงึ ไดล กุ ขนึ้ ไปน่งั ดว ย แลวออกปากขอความชวยเหลือ คณุ หมอ ส.น. ทาํ ทา เสียใจแลวบอกวา “ขอประทานโทษทานอาจารย ตอนน้ีผมเลิกยงุ เรอ่ื งพรรณนเ้ี สยี แลว” ผเู ขียนรสู ึกผดิ หวงั นดิ หนอย แตก เ็ ขาใจไดดี เพราะรวู า การใชอ าํ นาจจติ ในเชงิ ท่ีพดู กนั อยนู นี้ เปน การไมถ กู ตอ งนกั แตแลว ในขณะตอไปน้นั เอง คณุ หมอ ส.น. ก็พูดตอ ไปวา “แตผมคดิ วา ทบ่ี านทา นอาจารยน น้ั หากปลูกศาลเทพารกั ษข นึ้ สักศาลหนงึ่ ละกจ็ ะดีมากทีเดยี ว” ผเู ขียนยังไมท นั คิดอะไร ก็ไดถ ามตอ ไปวา ปลูกทตี่ รงไหนถงึ จะดี 86
คุณหมอ ส.น. พูดตอ ไปวา “ปลกู ตรงตน ไมใ หญทข่ี า งขวาของโรงรถ และหันหนา ศาลไปทางทศิ ตะวันออก” ผเู ขียนไดยนิ เชนนน้ั แลว กข็ นลกุ เพราะตนไมทีเ่ ธอหมายถงึ นนั้ กค็ อื ตนนนทรยี ท ี่ยายไปน่นั เอง และ ในบรเิ วณน้นั กม็ ตี น ไมใหญอ ยูตน เดยี ว ไมม ที างเขา ใจผดิ แน ทง้ั ที่ใหห นั หนา ศาลไปทางทิศตะวันออก นั้นกพ็ อเหมาะ คอื เปน ทางถนนทผี่ านหนาโรงรถ ถา หนั ไปทางทศิ อ่ืนกไ็ มเ หมาะแน ผเู ขยี นบอกกับคุณหมอ ส.น. วา “ผมขออนญุ าตไหวความรูของคุณหมอสกั ทีหนึง่ ” และก็ไดไ หวจ ริง ทง้ั ๆ ที่คณุ หมอ ส.น. ไดเ ปน ลูกศษิ ยมากอน ผเู ขียนไหวว ิชาความรขู องเธอ ซึง่ เห็นวาสูงกวาวิชาท่ี ผเู ขียนเองมีอยอู ยา งมาก ผูเขียนไมส ามารถจะอธบิ ายไดว าคณุ หมอ ส.น. สามารถรูเ รื่องตนไมนนั้ ไดอยา งไร เพราะเธอไม เคยไปทบ่ี านผเู ขยี น ทน่ี าประหลาดกค็ ือ จําเพาะบอกใหต ง้ั ศาลทต่ี น ไมต น น้นั จะวาเธอไดร บั การ บอกเลา ทางจติ ( เทเลปาธยี ) ไปจากผเู ขยี นนน้ั เปน ไปไมไ ดแน เพราะขณะนนั้ ผเู ขียนกําลงั นึกถึง แตศ าลพระภมู ิ ไมไดน กึ ถึงเทพารกั ษ และไมไ ดน กึ ถงึ การตงั้ ศาลเทพารักษเ ลย จากเร่อื งที่เกิดขนึ้ น้ี ผเู ขียนเหน็ วา นา จะสรปุ วา คณุ หมอ ส.น. มีญาณวเิ ศษทท่ี ําใหเ หน็ ไปถงึ ที่บาน ผูเขยี นไดในขณะทเ่ี ธอนง่ั อยทู ใี่ นรา นใกลห า แยกพลับพลาไชย และเหน็ มเี ทวดาอาศยั อยทู ต่ี น นนทรีย ผซู ง่ึ สมควรจะมีศาลเปน ทอี่ าศยั ตน นนทรียทีก่ ลา วถงึ นี้ ยังอยใู นที่ ๆ ไดย ายไปปลูก มสี าขาแผก วา งพอใช แตตน ไมส งู ใหญเ ทาที่ควร จะเปน คงจะเน่อื งดวยตอนปลูกใหมไ ดฝ ง ลงไปลกึ มากเกนิ ไปดงั กลา วแลว ศาลเทพารกั ษก็ยังอยทู ี่ ใตตนไมนนั้ . หมายเหตขุ องผรู วบรวม การทตี่ น นนทรียจะกลบั งอกขน้ึ มาใหมไ ดห ลงั จากถกู ทอนกงิ่ เกือบหมด (ซง่ึ เปน ประโยชนในการฟน ตวั ) และแชอ ยูในนํ้าถึงสิบวนั ไมใ ชเ ปน เรอื่ งพิสดาร อาจจะเปน ไปได เพราะธรรมชาตขิ องตน ไม บางตนทนทานมาก ท่ีแปลกในเร่อื งก็คอื การทีค่ ุณหมอ ส.น.แนะนาํ ใหป ลกู ศาลเทพารกั ษแ ทนจะ แนะนําเรอื่ งศาลพระภมู ิ และใหป ลกู ตรงตน นนทรียนนั้ เสียดว ย .......................................... 87
เรอื่ งที่ ๙ เจา แมส าล่ี โดย ศจ.นพ.อวย เกตสุ งิ ห เมอ่ื ประมาณกลางป พ.ศ.๒๕๐๑ หมอม ก. ญาตฝิ ายภรรยาของผเู ขยี นไดประสบเคราะห รา ย ถกู สงั่ ใหพกั งานโดยมไิ ดค าดหมายและดวยเหตุผล ซงึ่ ทีจ่ รงิ มิใชความผิดของเธอเลย ญาตมิ ติ ร ไดพ ากนั ไปเยย่ี มเยอื นเพื่อถามขา วและเพอ่ื แสดงความเสียใจดวย เมือ่ ผเู ขยี นและภรรยาไปเยี่ยม เธอก็ไดเลาใหฟ ง วา กอ นหนา ทจ่ี ะถูกพักงานไมเ ทาใดนกั ระหวา งไปพกั ผอนทห่ี วั หิน ภรรยาของเธอ ไดเหน็ ปศาจตนหนง่ึ เลยคดิ วา ทเี่ กิดเคราะหร า ยภายหลงั อาจจะเปนเพราะเหตุนน้ั ผเู ขียนไดยินกติ ิศพั ทที่เกยี่ วกับความสามารถในเร่อื งผสี างและอนื่ ๆ ของคณุ หลวง ส. มามาก และ ไดส นทิ สนมกับทา นในระหวางท่ีไปชวยราชการทหารเรอื ในตอนสงครามอาเซยี บูรพา จงึ ไดช ักชวน ใหคณุ พหี่ มอ ม ก. ไปหา และก็ไดไ ปพบทา นในเชา วนั หน่งึ หลังจากนน้ั ไมน านนกั เมอ่ื ไดแนะนําใหร ูจักกันแลว หมอม ก. และคณุ พ่ี ช. ภรรยาของเธอก็ไดช วยกันเลา เรือ่ งใหค ณุ หลวง ส. ฟง กลา วโดยสงั เขปคือครอบครวั ของเธอไดไ ปพักทบี่ า นของทานพอ ทห่ี มบู า นตะเกียบ ตําบล หนองแก เลยไปจากหัวหนิ เลก็ นอย เปนบานที่สรางข้นึ เองต้ังแตสมัยสามสิบปมาแลวและเคยไปพกั กนั ทุก ๆ ป โดยไมเ คยมวี ่ีแววอะไรผดิ ปกติ เชามืดวันหน่ึงคุณพ่ี ช. ตนื่ ขนึ้ รูสึกวามคี นมายนื อยูทป่ี ลายเทา เขาใจวา เปนคุณพ่อี กี คนหน่งึ แตพ อ เพง ดกู ็เหน็ เปน หญงิ แปลกหนา คอนขางสาว สวมเสอ้ื กางเกงแบบจีนสขี าว ผมสยาย ยนื จอ งหนา เธออยเู ฉย ๆ เธอเหน็ วาเปน ผีกห็ ลบั ตาลงพอลมื ขน้ึ ใหมก ็ไมเหน็ รปู นนั้ อกี คุณพ่ี ช. ไมไดเลา เรอื่ ง ใหใ คร ๆ ฟง เพราะเกรงเด็ก ๆ จะกลวั ในเวลาตอมา คนขับรถของเธอนอนพกั ตอนกลางวันอยูใ นหอ งใหญห นา บานคนเดียว ขณะท่คี นอนื่ ๆ ไปเท่ียวกัน เขาตกใจตนื่ ขน้ึ ก็มองเหน็ ผูหญิงแบบเดยี วกับทก่ี ลา วนี้ยนื จองหนา อยู พอเขาหลบั ตา ลงแลวลืมขน้ึ ใหมกห็ ายไป คุณพห่ี มอ มสงสัยวาปศ าจที่เหน็ นนั้ อาจจะมาใหโทษ จงึ ตองถกู พกั งาน โดยไมมคี วามผิด เมอ่ื เลา จบลงแลวคณุ หลวง ส. พูดขนึ้ วา “หนองแกผมไมเ คยไป” แลว ก็น่ังสงบอยขู ณะหนึง่ คลา ย ๆ กับทาํ บริกรรมอะไรสักอยาง ทนั ใดน้นั ทา นพดู ขน้ึ วา “มเี รอื มีเรอื อะไร” 88
ผูเขียนไดยนิ แลว ก็งงและนกึ ในใจวา คราวนีค้ ุณหลวงเหน็ จะพลาดเสยี แลว เพราะผูเ ขียนและ ครอบครัวไดไ ปอาศัยพักอยทู บี่ านเดยี วกันนัน้ เพิ่งกลบั มา และไมเ หน็ มเี รอื อะไรสกั อยา ง แตค ุณพหี่ มอมพดู ขนึ้ วา มเี รอื โปะ ซ่งึ แตกระหวางพายุใหญเมื่อตอนหางไตฝ นุ ผา นเขามา ( ผา นเขา มาถงึ กรุงเทพ ฯ แตไ มรนุ แรงมาก กอ นกรณี แหลมตะลมุ พกุ ) คลน่ื ชดั มาติดทชี่ ายหาดหนาบา น คนเฝา บา นเห็นวาเกะกะ จึงไดชว ยกันลากขึน้ ไปไวท างดา นใตของบา นใกลไ ปทางร้ัวชายบา น คณุ หลวง ส. ชแี้ จงตอ ไปวา ผูหญงิ ทเ่ี หน็ นนั้ เปน แมยานางเรือลาํ ทแี่ ตกและตดิ มากบั เรอื จากเมืองชล เห็นวาบา นนา อยูจ ึงไปอาศยั อยูดวย เขามาดี เขาไมไดม าราย ท่ตี องถกู พกั งานนนั้ เปน เร่อื งเคราะห ของเราเอง ไมไ ดเ ก่ยี วกบั การท่ีเหน็ แมย านางเรอื แตถ าจัดการตอนรบั เขาดี เขากอ็ าจชวยทํา ประโยชนใ หไ ด ทานไดแ นะนาํ ใหจ ดั ตงั้ ศาลขน้ึ ในบริเวณบาน ทําแบบบานไทย เขยี นปายตดิ วา “เจา แมส าล”ี่ และใหเ ชิญแมยา นางเรอื ไปสงิ สถติ ท่ีนนั่ ถาขอใหเขาชว ยเหลือ เขากอ็ าจชว ยได คุณพไี่ ดไ ปจัดการตามคาํ แนะนํา ตอ มาไมช า ก็กลบั เขา ทาํ งานในตําแหนงใหม มีเรอ่ื งแถมทา ย คอื คนขบั รถทีไ่ ดเ หน็ “เจา แม” นน้ั ไดข อลาภจากเจาแม และถกู ลอตเตอรี่ ไดเงนิ หา รอ ยบาทในเวลา ตอ มา ผูเ ขียนไมอาจทราบวา “เจา แมสาล”่ี จะมตี ัวตนจรงิ หรอื ไม และการท่ีคณุ พห่ี มอ ม ก. ไดก ลบั เขา ทาํ งานอกี กด็ ี หรอื การทค่ี นขบั รถถกู ลอตเตอรีก่ ็ดี เปน เพราะอทิ ธฤิ ทธข์ิ องเจาแมหรอื มิใช แตผ เู ขยี น รูแนว า คณุ หลวง ส. ทานสามารถเหน็ ไปถงึ หนองแก หวั หนิ ไดข ณะทนี่ ั่งอยูใ นบานที่ใกลป ากคลอง บางกอกนอ ย และเห็นชดั เจนถูกตอ งดีกวา ผูเขยี นซึง่ ไดไปอยใู นสถานท่นี น้ั ดวยตนเอง ความสามารถเหน็ อยา งพเิ ศษน้ี ทานวาเปน อํานาจจิตท่ีเกิดจากการทาํ สมาธิตามหลกั พระพุทธศาสนา อาํ นาจพิเศษน้ีตอ งอาศยั จติ ทบ่ี รสิ ทุ ธ์ิจากกเิ ลสคือโลภ โกรธ หลง ถา จติ ไมบ รสิ ทุ ธิ์ อาํ นาจเชน น้ีกไ็ มเ กิด หรอื ถา หากมอี ยูแลวกเ็ สื่อมเสียไปได ผูเ ขยี นเองยงั ไมเคยปฏบิ ตั ิไดผ ลถงึ ขน้ั ท่ี กลา วน้ี จึงไมส ามารถจะยืนยันอะไรได หมายเหตขุ องผรู วบรวม จดุ นาทงึ่ ในเร่อื งนม้ี ดี ังนี้ ๑. ภรรยาหมอ ม ก. และคนรถเหน็ “ปศาจ” มีลกั ษณะตรงกัน แมเ ห็นคนละครง้ั และไมร เู รื่องกนั นาจะไมใชความฝน (เพราะเลาวาตน่ื แลวทั้งสองคน) และคงจะไมใชเหน็ เพราะตาฝาด ๒. คณุ หลวง ส. เห็นเรอื แตกอยทู หี่ นองแก ขณะทที่ านนั่งอยทู ่ีธนบุรี ๓. คนรถขอลาภจากเจา แม และถกู ลอตเตอรี่ .......................................... 89
เรอื่ งท่ี ๑๐ คนตายมาเขา ฝน คนเปน โดย บรรจบพนั ธุ นวรตั น ณ อยธุ ยา (คุณบรรจบพันธุ นวรตั น ณ อยธุ ยา เปนนกั การศึกษาชนั้ นํา โดยเฉพาะเกี่ยวกับอนบุ าลศกึ ษา และ นกั เขยี นมชี ่อื ตลอดจนนักเผยแพรสารคดีทางวิทยุ เปน ผเู ช่อื มน่ั ในพระพุทธศาสนาและถอื การ กระทําคุณความดเี ปน หลกั ของชีวติ ผูเ ขยี นไดร จู ักและสนทิ สนมกบั ทา นผนู เ้ี ปน พิเศษ ก็เพราะเธอ ชว ยเปน กาํ ลงั และเปนหลักสําคญั ในการกอ รางสรา งตัวของโรวงเรียนสวนบัวของผูเขียน ตําบลท่จี ะ ติดตอไดค อื โรงเรยี นสวนเด็ก ถนนนามบัญญตั ิ ใกลว ดั มกฎุ กษตั รยิ าราม พระนคร) เรอื่ งของคนทตี่ ายไปแลว และมาเขาฝนคนทยี่ ังอยู แลว ก็เปนความฝนทตี่ รงกบั ความจรงิ นี่ ก็เปนเร่อื งแปลกทีน่ าคน ควา ขา พเจา มีเรอ่ื งทปี่ ระจกั ษกบั ใจตนเองมาเลาสกู นั ฟงสองเรอื่ ง เรอื่ งที่ ๑ เรอ่ื งนี้ เปน เรือ่ งของคณุ พอ ของขาพเจาเอง ตามปกตแิ ลว คณุ พอ (พระพจิ ติ รจาํ นง แจง สังขดลุ ย) เมอื่ ครง้ั ยังมีชีวิตอยู ทานไดใชเวลาในบน้ั ปลายของทานใหห มดไปดวยการไปสนทนา ธรรมกบั บรรดาพระภิกษสุ งฆ ซงึ่ เปน ทเ่ี คารพและคุน เคยกับทานในพระอารามตา ง ๆ ตอมาเมอื่ ทานถงึ แกก รรมลง บรรดาลูก ๆ กไ็ ดร ว มกันประกอบพธิ ีการกุศลใหกบั ทานตามประเพณี ส่งิ ท่พี วก ลกู ตั้งใจเปน พิเศษก็คือการนิมนตพ ระเถระซึ่งเปนทีเ่ คารพชอบพอของทา นมารวมพิธที างศาสนา ในกาลครง้ั น้ี พวกเราคนหน่ึงรบั หนา ทีไ่ ปนมิ นตท านเจา อาวาสวดั โสมนสั วิหาร เจาคณุ ธรรมวราลงั การ ซง่ึ เวลานนั้ ทา นยังดาํ รงสมณศกั ด์ิเปน เจา คณุ อมรมนุ ี เม่ือทา นทราบวา เราเปน ใครแลว ทานก็ ไดเ ลา เร่อื งทท่ี า นฝน เหน็ คณุ พอ ใหฟง ทา นวาในฝนนัน้ คณุ พอไดไ ปหาทานที่กฏุ ิ ทา นจึงถามคณุ พอ วา “คณุ พระมาไดอยา งไร ?” คณุ พอตอบวา “มาโดยรา งใหม” ทานถามตอไปวา “ปากคณุ พระทําไมถงึ บบุ บบั อยา งนนั้ ” คณุ พอตอบวา “ไมทราบวา เขาทํากนั อยา งไร” แลว ทานเจา คณุ จงึ ไดเลาเรื่องฝน ท่เี ก่ยี วกับคุณพอ เรอ่ื งอน่ื ๆ ตอ ไป แตเรื่องท่สี ะกิดใจพวกเรากค็ อื ที่ ทา นฝน เหน็ คณุ พอ ไมไดใสฟ น ซึง่ ตรงกับความเปน จรงิ 90
ในคืนท่คี ณุ พอ จากเราไปนนั้ หลังจากท่ไี ดจดั ใหท า นไดร บั ประทานอาหารเยน็ แลว พวกเราลง ความเหน็ วา ไมควรใสฟนใหท า น เพราะอาจจะไมป ลอดภยั บังเอญิ ทานกม็ าสิน้ ในคืนวนั นน้ั โดยท่ีไม มีฟน อยใู นปาก เพราะฉะน้ันความฝน ของทานเจาคณุ อมรมนุ ที เ่ี ลาใหเราฟง ซงึ่ เปน ที่อศั จรรยใ จแก พวกเราเปน อยา งยิง่ . เรอื่ งที่ ๒ เรื่องนี้เปน เรอื่ งของสามขี าพเจาซง่ึ ถงึ แกก รรมไปแลว สามขี า พเจา คอื ม.ร.ว.นมิ ิตรมงคล นวรตั น ในระยะที่ปว ยใกลจ ะถงึ แกกรรมน้ัน ทงั้ ตัวเธอและขาพเจา เองไมเคยมคี วามนกึ คดิ วา การ ปว ยครง้ั นจี้ ะหมายถึงความตาย เพราะคนปวยเองกม็ กี าํ ลงั ใจเขม แขง็ และขา พเจาเลา กย็ งั อยใู นวยั ท่ีไมเ คยเหน็ ไมเ คยรูจกั กับคนไขท มี่ ลี กั ษณะอาการของคนใกลตาย ฉะนั้นขาพเจาจึงนกึ อยูตลอดเวลาวา ขาพเจาอยูกบั คนดที ปี่ กตไิ มใชค นปว ยไขหนกั แตป ระการใดเลย คนื วันหน่ึง จําไดด วี า เปน คนื วนั ศกุ ร เรานงั่ สนทนากนั อยเู ชน เคย หมอมแมข องคณุ ชายไดอ ยู ณ ท่ี นนั้ ดว ย ทานปรารภข้ึนวา ในชวี ติ ของคณุ ชายท่ผี า นมานนั้ “ชงิ บวช” เสียทกุ ที ตามความหมายของ ทา น ทานวา ไดเ ตรยี มทจ่ี ะบวชคณุ ชายถงึ สองครงั้ และคณุ ชายเองก็ไดไปหดั ขานนาคแลว แตคร้ัน เมื่อถึงคราวทจ่ี ะบวช ก็ใหม เี หตุเปน ไป ฉะนน้ั ทานจึงขอรอ งแกมแนะนาํ วา ชวี ิตตอนน้ไี มม ีอปุ สรรค อนั ใดแลว หายเจบ็ นน่ี า จะบวชเสยี คณุ ชายจงึ หนั มาถามขาพเจาวา ขาพเจาจะวา อยางไร ขา พเจาตอบโดยไมต องคดิ วา “อนโุ มทนาคะ ” คณุ ชายทวงขน้ึ วา “ตงั้ สามเดอื นนะฮะ” ขาพเจา ตอบวา “สามเดอื นกส็ ามเดือน จะเปน อะไรไป จบก็กลับไปทานขา วกบั คณุ พอ ดังแตกอ น” คณุ ชายจงึ ตอบวา “ถา อยางนนั้ กต็ กลง” หมอมแมเ มื่อไดยนิ คณุ ชายรับปากคําดังนน้ั จงึ สง ดอกไมธ ปู เทียนใหค ุณชายจบ บนตวั เองวา “หาย เจ็บแลวจะบวช” ตอ มาอกี สองวนั คอื ในตอนกลางวนั วนั อาทิตย คณุ ชายเกดิ มอี าการปว ยโดยกะทันหนั ในระยะแรก ตวั เธอเองยังมผี ัสสะอยางสมบูรณ คือตายงั มองเห็น หูยงั คงไดย นิ และปากก็ยงั คงพดู จา ตอ มาอาการคอย ๆ หนักขนึ้ คือพูดไมไ ด แตตายังคงสายมองขาพเจาได และใชม ือทําอาการคลาย จะบอกใหท ราบวา ใกลเวลาเต็มทแ่ี ลว ขา พเจาไดส ตแิ ละเขาใจอาการทนั ที จงึ พดู กบั เธอวา 91
“ไมตอ งหวงอะไรทง้ั หมด ขอใหน ึกอยอู ยา งเดียววา หายนแี้ ลวจะบวช จะบวช” คุณชายดบั ไปพรอมกบั คําวา “บวช บวช” ของขา พเจา ในคนื วนั นน้ั เองญาตผิ ใู หญข องเธอคนหน่งึ ซง่ึ อยหู า งกนั กฝ็ น เหน็ เธอ ทานผูนนั้ เลา วา พอสวดมนต ไหวพระเสรจ็ แลว กเ็ ขานอนและกห็ ลบั ทนั ที พอหลบั กฝ็ น เหน็ ขบวนแหบ วชนาค ดูเหมอื นวา กําลัง เวยี นนาครอบโบสถ นาคนน้ั นัง่ คานหาม มสี ปั ทนกัน้ ทานจึงอยากจะดูวา นาคนนั้ เปน ใคร แตพอมองไป ในฝน นน้ั ก็บอกตวั เองวา “เอะ นนั่ นมิ ิตร นนี่ ะ” ฉะนัน้ ทานจงึ มองดูอกี ทีวาแตงตัวอยางไร ก็ปรากฏวานงุ กางเกงจนี สขี าว ใสเสื้อผา ปา นขาว และ สวมเสือ้ นาคทบั เมื่อคุณชายสน้ิ นนั้ กน็ งุ กางเกงจนี สขี าวแลวสวมเสอื้ ผา ปา นสขี าว ขอ ความในฝน ทที่ านผใู หญท านน้เี ลา ใหขา พเจาฟง ทาํ ใหขาพเจางงงนั เพราะทา นผูนไี้ มท ราบ เรอื่ งราวใด ๆ ของเราเลย ไมท ราบวาเราบอกหนทางแกผตู ายวาอยา งไร และกม็ ิไดม าเหน็ ภาพของ คุณชายขณะทีใ่ กลจ ะตาย ไฉนจงึ บอกเลาถงึ เรื่องเครอื่ งแตง กายของคณุ ชายทสี่ วมใสใ นขณะนนั้ ได ถูกตอง. หมายเหตขุ องผรู วบรวม โดยธรรมชาตเิ รือ่ งฝน เปน เรอื่ งทมี่ ีคณุ คานอ ยสาํ หรับการอา งหลกั ฐาน เนอื่ งดวยมตี นเหตไุ ดหลาย อยาง เชนธาตเุ สียหรือมคี วามคิดจดจอ ในเรอ่ื งเฉพาะ เปน ตน แตเ รื่องความฝน ท้ังสองท่ีเสนอนม้ี คี ณุ คามากกวาธรรมดา เพราะผฝู น ทง้ั สองทานไมไ ดร ูเรอ่ื ง เก่ยี วกับรายละเอยี ดในความฝน มากอ น (ฟน ปลอมในกรณแี รก และการบนตัวจะบวชในกรณีหลัง) และฝน เขา เรื่องกบั เหตกุ ารณท ีไ่ ดเ กดิ ขนึ้ จรงิ ๆ กอ นมรณกรรมที่เกีย่ วขอ งท้งั สองราย ผูรวมรวมเคยไดยนิ เร่อื งทาํ นองเดียวกบั เรือ่ งแรก (ญาตลิ ืมใหข องจําเปน บางอยางไปกับศพ หรอื ลืมเครอื่ งประกอบบางอยา งในการทาํ บุญอทุ ิศให) แตไ มไดรายละเอียดโดยมหี ลกั ฐานเชน ทค่ี ณุ บรรจบพนั ธบุ นั ทกึ ใหน ้ี .......................................... 92
เรอื่ งท่ี ๑๑ บชู าพระ พระคมุ โดย พ.พ. (คณุ พ.พ. เปน นกั วทิ ยาศาสตรซ่งึ ทาํ งานสอนในสถาบันขน้ั สงู มากวาสามสบิ ปแ ลว ขณะเดยี วกัน ก็ เปนผมู ีศลี มสี ตั ย และตัง้ ใจประกอบกรรมที่เปนกศุ ลอยเู สมอ เปนท่ีไวว างใจของหัวหนา และเปน ที่ เคารพนบั ถอื ของลูกนอ ง การทใ่ี ชน ามแฝงกเ็ ปนเพราะเหตผุ ลทางดานอาชีพ สําหรบั ผรู วบรวมน้ี ไม มีความสงสยั ในความนาเชอื่ ถือของผเู ขยี นเร่ืองนเี้ ลย ถา หากผใู ดประสงคจะตดิ ตอ กับคณุ พ.พ. เปน สวนตัว กข็ อเชญิ แจง ท่ผี รู วบรวม ยนิ ดีจะจดั การใหเ สมอ) ขา พเจา คงบา นเรอื น อยทู ี่ตําบล...... อ.ภาษีเจรญิ จ.ธนบุรี หนา โรงเรยี นใหญแ หงหน่งึ ซงึ่ เปน เขตเนื้อทีข่ องวัด....... ตามปกตขิ า พเจาทาํ กิจบชู าพระในตอนพลบค่าํ หลังจากรับประทาน อาหารเสร็จแลว ก็เตรยี มเคร่อื งสกั การบชู า มีธปู และดอกไมนาํ ไปบูชาพระคุณทาน ในอันดับแรก บูชาท่ีนอกบา น ซ่งึ มที ้งั หมด ๕ ท่ีบชู า ดังนี้ ๑. พระชัยมงคล พระภมู ิเจา ท่ี ๒. เจาพอ ตน ไมใ หญ ๓. เจา แมตะเคียน ๔. ฮวงซยุ ซ่ึงบรรจอุ ฐั ิไมม ญี าติ ๕. เจาทข่ี องฮวงซุย ในอนั ดับตอ มาบชู าภายในบา นอีก ๕ ที่ คือ :- ๑. หลวงพอ พระนาคปรก (พระประจาํ วันของขาพเจา) ๒. หลวงพอ พระครูฤๅษี ๓. เสด็จปูดาํ ทุง ๔. หลวงพอ หนู ๕. พระกําแพงเขยง (พระกําแพงศอก) ในการบูชาพระตอ งสํารวมจติ ใหเ ปน สมาธิ เกิดการระลกึ ถึงคุณพระรตั นตรัยแลว กลา วคาํ ไหวพระ ใชบทพระพทุ ธคณุ พระธรรมคณุ และพระสงั ฆคณุ กลาวคํานอบนอ มใชบ ท นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพทุ ธสสฺ กลาว ๓ จบ ตอไปจึงกลาวคาํ บูชาดงั น้ี “อมิ นิ า สกฺกาเรน (ระบุช่ือท่ี ตองการบชู า เชน พระชยั มงคล) ปูเชม”ิ 93
เมือ่ กลาวบชู าเสรจ็ แลว ก็เปน การอธิษฐานของตนเอง จบแลว กราบ ๓ นน้ั เปน เสร็จการบชู าแตล ะ แหง การบชู าสบิ ท่ี สน้ิ เวลาประมาณสามสิบนาทีเศษ ตอมาถงึ พิธกี ารกอ นเขานอน คอื นงั่ สาํ รวมจิตให เกดิ สมาธิ แลวกลา วคํากราบพระ ระลึกถงึ พระพทุ ธคณุ พระธรรมคุณ และพระสงั ฆคณุ ตอไปขอ คารวะนอบนอมโดยกลา วบท นะโม ๓ จบ แลวรําลึกถงึ พระคณุ ของพระพทุ ธเจา โดยเปลง คําวา “อติ ิปโส” จนถงึ “พุทฺโธ ภควาต”ิ ระลกึ ถึงพระคณุ ของพระธรรมวา “สฺวากขฺ าโต” จนถึง”วิ ฺ หู ตี ”ิ ระลึกถึงพระคณุ ของพระสงฆว า “สปุ ฏิปนฺโน” จนถงึ “โลกสสฺ าต”ิ ตอ ไปเปน บทกรวดน้ํา แผเ มตตา ใหก ับบิดามารดา ครู อาจารย และผูม ีพระคณุ ทั้งหลาย ตลอดจนสตั วโ ลก อันดบั สุดทา ยเปน คาํ อธิษฐาน รวมเวลาทใี่ ชป ระมาณ ๑๐-๑๕ นาที เปน อันเสรจ็ พธิ ีการกราบไหว พระ เริ่มเขา นอนได การปฏิบัตกิ จิ บชู าพระนี้ไดก ระทําเปน ประจาํ ทุกคนื ตลอดมา คืนหนง่ึ ในเดอื นพฤษภาคม ๒๕๐๐ เวลาประมาณ ๐๒.๐๐ น. เศษ ขา พเจา กาํ ลงั นอนหลบั สนทิ แต ตอ งสะดุง ตน่ื คลา ยกบั วามีผมู าปลุกโดยกระตุกขา พอรูส ึกตวั ก็คิดวาไมม อี ะไร จึงนอนตอไป พอรูส กึ เคลมิ้ เกือบหลบั กต็ อ งสะดุงตนื่ ขน้ึ อีก ในตอนนค้ี ลา ยกับมผี มู าดึงขา ขา พเจาตกใจ รสู ึกกลัว จนหัวใจเตน แรง พอดไี ดยนิ เสยี งกลอนประตเู หล็กภายในบา นถกู งดั ดังแกรกๆ จงึ ไดลุกขน้ึ ไปเปด ไฟฟา ไดร ทู นั ทวี า คนงัดกลอนประตูเผน หนี ขา พเจา หยิบอาวธุ ปน พรอ มทง้ั รสู กึ ตกใจจนขนลุกท้งั ตวั และใจสัน่ เม่อื ไดเ ห็นกลอนประตูลา งถูกงัดออกแลว คงเหลือแตก ลอนบนอกี เล็กนอ ยเทา นน้ั กจ็ ะ เปดประตไู ด ขาพเจา ไดเ ปด ประตูออกไป ปรากฏวา ประตดู า นครวั และประตุร้วั หลงั บานถกู งัดเปด โลง ไดไลตาม คนรายออกไป พรอ มท้งั ยิงปน ขขู นึ้ ฟา ๒ นดั ซอน ๆ กนั ไดเ หน็ คนรายวงิ่ หนี สะดดุ รากจามจรุ ีลม ลง แลวคลานครง่ึ ว่ิงคร่ึงตอ ไป ปรากฏวาคนรายมีจํานวน ๓ คน สนั นษิ ฐานวา ดตู น ทาง ๑ คน เขา งดั ประตู ๒ คน ขณะนนั้ ชาวบาน ใกลเคยี งไดต น่ื ขน้ึ มาชวยเหลอื ครงั้ นเ้ี ปนเหตเุ กดิ ขึน้ ครั้งแรก ครงั้ ที่ ๒ ในเดือนตุลาคม ๒๕๐๗ คนื หน่ึงฝนตกหนกั เวลาประมาณ ๒๔ น. เศษ ขา พเจา ยงั ไมห ลบั ไดย ินเสียงเรือยนตหางยาวมาจอดหนาบา น และมเี สยี งคนขน้ึ มา ๓ คน ขา พเจาแอบดจู งึ รูวา เปน คนขยั เรือหางยาวซง่ึ รจู กั อยู ไมสงสยั วาจะเปนคนราย ก็เขานอนตอไปจนถงึ เวลาประมาณ ๐๒.๐๐ น. เศษ 94
ขณะขา พเจานอนหลบั สนิท ก็ไดส ะดงุ ตกใจคลายกับมีผมู าปลุกและกระซบิ วา “ต่ืนขนึ้ ๆ” และดงึ ขา อยางแรง เมือ่ ขาพเจารสู กึ ตัว ก็ไดย นิ เสยี งไมข ดั ประตกู ั้นระหวางหอ งตกดังปง ขา พเจา ตกใจจนตัว สนั่ รไู ดทนั ทีวา มคี นรา ยมางัดประตูดานหลงั บา น เขา มาขา งในบา นได จวนจะถงึ ตวั อยแู ลว ขา พเจาหยบิ อาวธุ ปน แลวตองคลาน เพราะเกรงวาคนรายจะยงิ สวนทางออกมา เมอื่ คลานถงึ ประตู ทคี่ นรา ยงดั ภายในบา น จึงไดยินสวนทางออกไป ๓ นัดซอน ๆ กัน คนรายไดวิง่ ไปทางหลงั บานบาง หนาบา นบา ง ขาพเจาสงสยั คนเรอื ยนต ๓ คนทข่ี น้ึ มานอนพักเมือ่ ฝนตกหนักเวลา ๒๔.๐๐ น. นน่ั เอง พอดีไดยนิ คนเรอื กลา วกันวา “ไปกนั เถอะโวย ” ขา พเจาจึงตอบไปวา “ยงั ไปไมได เพราะพวกคณุ ไดม างัดบา น ผม” ขาพเจาก็เปด ไฟสวา งไปทั่วบานแลว เปด ประตูใหเ ขา มาดรู อยงดั สังเกตไดท นั ทีวาหนาตาซดี ตกใจ กนั ทกุ คน ปรากฏวางดั ประตทู างเขา บานและงดั ภายในบา นจนไมข ดั ประตตู กดงั ขนึ้ ความเสยี หายมี เพียงฝาขา งประตู สวนสิ่งของยังนาํ ออกไปไมไ ด ขณะนน้ั เปน เวลา ๓ น. เศษแลว ขา พเจา ตองซอมประตกู ลางดึก แตแ ลวก็ไมไดน ําไปแจง ตอ เจา หนา ท่ี เพราะไมอ ยากใหมเี วรกรรมเกิดข้นึ ตอ ภายหลงั สังเกตไดวา เหตุเกดิ ข้นึ ท้ังสองคราวนี้ หา งกันชว่ั ระยะ ๕ - ๖ ปเ ทานั้น และกน็ ับไดว าเปน กศุ ลอยา งหน่งึ ทไ่ี มม อี นั ตรายใด ๆ เกดิ ขึ้นกบั ตวั ขา พเจา รวมท้ังสง่ิ ของดวย ตอมาเมอ่ื ประมาณเดอื นสงิ หาคม ๒๕๐๘ ทางบา นหลังบานเจริญขน้ึ มาก มบี า นเกิดขนึ้ มถี นน รถยนตเขา มาไดสะดวก ทางโรงเรียนกไ็ ดส รา งโรงเก็บรถขนึ้ ขา พเจาจึงไดน อนตาหลบั ไมเปล่ียว แต ดวยการเปลย่ี นแปลงเหลานี้ทาํ ใหก ารบูชาพระชัยมงคลกับเจา พอตน ไมใหญ เจา แมต ะเคยี นและ ฮวงซยุ เขาไปกระทําไดย ากลําบากขึ้น จึงจําตอ งลาสกั การบชู าทา น เวน แตในเทศกาลตรษุ สารทของ คนจนี จงึ ไดไปปฏบิ ัตทิ ําพธิ เี ซน และกราบไหว ในปน ้ันขาพเจาไดบ รรจุอฐั บิ ิดา ชวด ปู ยา ตา ยาย มารวมเปน องคเจดียเ ดียวกันที่วดั ดา นหลังพระ พุทธบาทจําลอง ฉะนน้ั การปฏบิ ตั ิบชู าขางนอกบา นคงเหลอื ๓ ท่ี ดงั นี้ :- ๑. หลวงพอหนพู ระขรรคท อง ทา นมศี าลตัง้ อยูใ ตต น มะขามใหญข า งเมรุ ๒. เจดยี บ รรจอุ ฐั บิ ดิ า ชวด ปู ยา ตา ยาย ๓. เจดยี บรรจอุ ฐั ินอ งเขย ซงึ่ ถือวา เมือ่ ครง้ั มชี วี ติ อยูไดร ูจกั รักใครก นั ดี และไดอ ุปการะเมอ่ื เจ็บปวย จนหมดชีวติ ยงั ไดบ ูชาภายในบานอีก ๓ แหง ดังน้ี 95
๑. หลวงพอ พระนาคปรก ๒. หลวงพอพระครฤู ๅษี ๓. กมิ อวนเนีย้ อาเนี้ย และ เจเ นีย้ ซึ่งมศี าลตั้งอยตู ําบลโคกสําโรง จ.นครปฐม มบี ุคคลไปเคารพ กันมาก ทา นรบั ประทานอาหารเจ ผทู ่ไี ปเคารพตอ งรบั ประทานอาหารเจดว ย ๔. เสด็จปูดําทงุ กบั พระประทานพร ๕. หลวงพอผอ ง เจา อาวาสวดั คหู าสวรรค ๖. หลวงพอ หนู ๗. หลวงพอ พระกําแพงเขยง (กําแพงศอก) ๘. หลวงพอ ดาํ ๙. หลวงพอ ๑๐๘ พระองค เปน รปู พระ ๑๐๘ องค สวนกิจการสักการะอนื่ เชน หลวงพอดํากับหลวงพอ ๑๐๘ พระองค ไดท าํ การถวายขาวพระทกุ ๆ เชา เปน ประจํา การปฏบิ ตั ิกจิ การกราบไหวบ ูชาพระนี้ ขา พเจาเรมิ่ ทาํ การบชู าตดิ ตอ กันทกุ ๆ คนื ตั้งแต พ.ศ.๒๔๙๐ - ๒๕๑๑ รวมจาํ นวนป ๒๑ ป ขา พเจา เชอ่ื วาพระคุณของการบชู าทา นเหลานีไ้ ด สง ผลใหข าพเจา รอดพน อนั ตรายมาไดดงั เหตกุ ารณข างตน น้นั จนมาถงึ ปจ จุบนั นี้ ขาพเจาจงึ ไดเ ห็น วา การกราบไหวบชู าพระเปน ผลบุญใหไดร ับสุขกายสบายใจ คลายทุกข คลายโศก ทําใหจติ สงบซ่ึง ไดม าจากพระคณุ ของทานทกุ ๆ พระองค. หมายเหตขุ องผรู วบรวม เรอ่ื งน้ีอาจจะออ นไปในเรอ่ื งหลักฐาน เพราะเปน เรื่องเฉพาะตวั แตเร่ืองทาํ นองนเี้ ราไดย นิ คนเลากัน เสมอ ๆ โดยมผี ูม าปลกุ หรือมาเตอื นขณะทีจ่ ะเกดิ เหตรุ ายหรืออนั ตราย นกั จติ วิทยาอาจจะบอกปด ไปวาเรือ่ งเชน นี้เปนผลของ “จติ ใตสํานกึ ” หรอื “สญั ชาตญาณ” แตก ค็ งพิสูจนไ มไ ดเ ชน กัน อยางไรก็ ดีการไหวพ ระและบูชาผมู พี ระคณุ ไมม ที างเสยี เปลา อยางนอยก็ไดผลทางใจ ถาไดท างวตั ถดุ วยดัง เรอ่ื งท่ีแสดงมานี้ ก็ควรถือวา เปน ผลพลอยไดท น่ี ายินดี .......................................... 96
เรอื่ งท่ี ๑๒ จติ อาลัย โดย บญุ เรอื ง บญุ มา (นางสาวบญุ เรือง บุญมา เปน บุตรนายลว น บญุ มา บา นอยูตําบลแหลมไมร วก อาํ เภอบางละมงุ จงั หวดั ชลบรุ ี เมื่ออายุ ๑๑ หรือ ๑๒ ป ไดเ ขา มาเรียนหนังสือในกรงุ เทพ ฯพรอ มกับนองสาวซือ่ บุญ เรอื ง ซงึ่ อายนุ อยกวา สามป โดยอยูใ นความอปุ การะของผรู วบรวมหนังสอื น้ี ถึง พ.ศ. ๒๕๐๔ จําเรียงอายุไดป ระมาณสบิ เจด็ ป ไดก ลบั ไปอยทู บี่ า นและไดถงึ แกกรรมอยา งกะทันหนั ในป พ.ศ. ๒๕๐๖ นา เสียดายท่เี ดก็ สาวทรี่ ปู รางหนาตาสะสวย ใจคอออ นโยน และกิรยิ าเรียบรอ ยละมนุ ละมอม ตอ งสนิ้ อายลุ งดวยเหตทุ ีไ่ มนาจะเปน เม่อื ถงึ คราวปลงศพ ผูเขียนไปรว มงานดวย พอ แมพ ่ี นองเลาใหฟ ง วาจาํ เรียงมาเขา เด็กทบี่ า นหลายครัง้ ตอมาบญุ เรอื งนองสาวมาเยี่ยมผูเขียนท่บี าน จงึ ไดเ ลาเรอื่ งใหฟ ง และบนั ทึกเสียงไว เรอ่ื งตอไปนผี้ ูเ ขียนถอดจากเทปดวยตนเอง) จาํ เรยี งมาเขา คนทบ่ี า น พจ่ี าํ เรยี งเขาตายไปแลวเกอื บป จงึ มเี ดก็ มาทบี่ าน ช่อื เลน วา เล็ก ชอื่ จรงิ มาเรยี ม อายุ ๑๖ ป มีนสิ ยั ไมคอ ยดนี ัก เปน คนชอบเท่ยี ว ชอบอะไร ๆ บานเขาอยทู ี่พระโขนง หรือพระประแดง เขาไมร เู รอื่ งพีจ่ าํ เรียงเลย ตอนแรกเขาไมสบายกอน ไปนวดขาวกัน เขาเกดิ แนน ข้ึนมาและก็กลบั ไปบาน ไปนอนอยูในหอ งทพี่ ่จี าํ เรยี งเคยนอน ถาม : เขารหู รอื เปลา วาในหองนัน้ เปน หอ งของคนตาย เขารู แตเขาเคยนอนเปน ประจาํ นอนมานานแลว ตั้งแตม าอยู แลว เกดิ แนนขนึ้ มา พอ (ของผเู ลา ) ก็เลยเอาออกมานอนขา งนอก นอนในนน้ั ไมไ ด ตอนนนั้ เปน เวลากลางวัน ราวเกอื บเทย่ี งแลว และ พอ กไ็ ปหาหมอผมี าไล ถาม : ทาํ ไมถงึ ไดร วู าเขาเปนหมอผลี ะ เขาเปน หมอตําแยเกา ถาม : ทาํ ไมจึงไดส งสัยวา ผีเขา มนั มอี าการแปลก ๆ ตาแดง กเ็ ลยลองไลด ู ก็มอี าการส่นั ไปทัง้ ตวั ก็เลยชวยกนั ถาม เหมอื นทถี่ าม คนเขา ทรง เขาบอกวา ตอนทไ่ี ปนวดขาว (เล็ก) ไปเหยยี บหลุมฝงศพของเขา (ผมู าเขา ) เดิมนน้ั เขา จมนาํ้ ตาย แลวคนเอาเขาไปฝง ไวต รงนน้ั 97
พอก็เลยใหจดุ ธูปเทยี นใหบ อกเสีย สักประเด๋ยี วกเ็ งยี บหายไป พอตกเยน็ ก็กลับตาแดงอกี ถา ยทอ ง หนัก จะกินแตนาํ้ เดี๋ยวกน็ อนฟง วทิ ยเุ หมือนกับคนสบาย ๆ นอนฟง นยิ าย ลเิ กอะไร ๆ แตพอสักพกั รูสึกวาหายดี ไปถามกไ็ มร ูเรอื่ งวาฟง เรือ่ งอะไร เขาบอกวาเขาไมไ ดฟ ง ไมรเู ร่ืองเลย พอบายส่ีหา โมงก็เปน อีกแลว ตอนนวี้ า คิดถึงพอ อยากกินน้าํ ตาแดง ตวั สนั่ หงกึ ๆ พดู พลาม คิดถงึ พอ คิดถงึ แม ก็ไมมผี ูใ หญเ ขาเช่อื มแี ตพ วกหนูเชอื่ กัน กล็ องถามเรือ่ งทีเ่ ขาไมเคยเห็น ไมเคย ผา นมา เชน ถามวาเสอ้ื ตัวน้เี สอื้ ของใคร คือเปนเสอ้ื พเี่ รียงเขาเคยชอบและซ้ือมาใหม ๆ แตไ มเคยใส เขา (เล็ก) ก็บอกวา เสื้อของหนูเอง เอาไปกอดไวแ ลวกห็ ัวเราะ แลว กพ็ ูดบอกใหพวกหนไู ปทาํ บุญที่ วดั บา ง ไมไ ดไ ปทาํ ตงั้ หลายวันพระแลว ใหไ ปทาํ บญุ ทว่ี ดั บอกวาอยากเหน็ แลว ลองถามชอื่ คนที่ไปดู ใหตอบ ก็เรยี กชอ่ื ถูกทุกคนเลย บางคนเล็กกไ็ มเคยเห็น ก็บอกถูก บอกเปน พป่ี า นาอาลงุ ถูกดวย แตถาหากคนมที องเขาไปใกล เขาบอกวาอยา เขา มา เด๋ยี วเขาจะเกดิ ไปเขา ทอ งเขาอกี ไมใหเ ขา ให อยหู าง ๆ เขาจําพอแมไ ด พดู กับพอ และแมแ ลวรอ งไห บอกวาคิดถงึ ถามเขาวา (ในเมอื งผี) เจอคนท่ยี ิงเขา ไหม เขาบอกวาเจอ ถามวา ทาํ ไมไมต อวา เขาละ ทมี่ ายงิ เรา (จําเรยี ง) ตาย บอกวา ไปวาเขาไมไ ด มี คนคมุ เขาอยูอ กี ทหี นงึ่ ถา ไปวา เขาก็บาป ถามเขาวา ใครเปน คนคมุ เขาบอกวา ตัวเขาเองกม็ ีคนคุม แตเ ขายงั สบาย แตคนที่ยงิ นนั้ เขาไปพบ เขาไมไ ด ยังเขาไปท่ีเขาอยไู มไ ด คลา ย ๆ กบั วา เขาบาปมาก ไปอยคู นละชน้ั กนั พ่ี (จาํ เรียง) เขายัง สบายกวา ถามเขาวา ตอ งทาํ งานกําการอะไรหรือเปลา ไมไดต อบ เขาวาแตวาเขาสบายดแี ลว และบอกวา คิดถึงใคร ๆ แลว กไ็ ป แลว กล็ มื สงั่ ถงึ พ่อี ไุ รอกี คนหน่ึง ก็กลับมาอีก บอกวาเมือ่ ก้ลี มื ส่ังบอกใหพ อ่ี ุไร ไปทาํ บุญทว่ี ัด บอกวา ไมเคยเหน็ เลย ถาม : เดก็ คนนั้นรูจักพอี่ ุไรหรอื เปลา ? รูจัก ถาม : แลว ทําไมทแี รกทเี ดียวถงึ ไดส งสัยวาเปน พจ่ี ําเรียง? ตอนแรกเขายงั ไมบอกและกย็ ังไมร ู สงสัยวา เปน (ผี) คนทบี่ อกวา เลก็ ไปเหยยี บหลมุ เขา ตอนหลงั เขาถึงไดบ อก เขาบอกวา เขาปวดหวั เขาโดนยงิ ทขี่ มบั และปวดหวั เปน กําลงั ใหเ อาผา นวมมาหม แลว กว็ าปวดขมบั แลว กเ็ ลาถงึ ทเ่ี ขาโดนยิง เลาถูกหมด วาตอนทยี่ งิ นน้ั ยงิ ทห่ี ลังกอน และยงิ หัว 98
ขมองอีกที มายิงท่ีขมับอกี ที เขาวาเพราะเขาปวดมาก เขากเ็ ลยตาย เลา ถกู หมดถึงตอนท่ยี งิ เราก็ เลยรวู า พจี่ ําเรียง ถาม : เขาบอกหรอื เปลา วาตายแลวเขาไปไหน? ไมไ ดถาม ความดใี จอยากถามอะไรตอ อะไร คราวหลงั มาเขา อกี สองหน เม่อื ทาํ บญุ ขน้ึ บา นใหม กบั เมอื่ กอ นจะเผาศพ เขา คน ๆ เดียวกัน เขา บอกวาไมใ หเล็กไป (จากบา น) ถา เผอื่ เลก็ ไปเสยี แลว เขาไมรูจะมาเขาใคร ถามวา อาว ทาํ ไมไมม าเขา พี่ ๆ นอ ง ๆ ละ เขาบอกวา เขา ไมไ ด เขา แลวก็เพลีย ไมมแี รง ผอม เดนิ ไมไหว มาเขา แคช วั่ โมงเดยี ว เล็กยังผอม ตาแดงกํา่ คราวหลงั ทีม่ าเขา อกี กินเหลา นาดู แกวหนึง่ กนิ หมดเลย ธรรมดา (พ่จี ําเรียง) ไมกินเหลา พอมา เขา เลก็ แลว คนโนน กส็ ง (เหลา ) ให คนนก้ี ส็ งให กนิ หมดเลยเปน ขวด ตอนแรกนน้ั ยังไมร ูวา มาเขา พอ เขาเหน็ เมา เขาก็วา อา ยเล็กเมา ที่แท เปลา ผีมนั จะเขา เหน็ เลก็ เขาวา พจ่ี าํ เรียงมาเดินรอบ ๆ ตัวเขา และชมี้ อื เขาก็หนั หนไี ปรอบ ๆ ตัว ตามองดรู อบ ๆ ตัว คลาย กบั วา มาเวยี นอยู มคี นหนึ่งช่ือนาเชงิ แกถามวา คนนใี้ คร มนั วา ยายเชิง เมยี ตาหยุดเขาละ ที่จริงเขาเปน นา แตอ า ย เล็กไมรูจกั และไมเคยเห็นดวย พอพี่จําเรียงมาเขากร็ ูจกั และบอกถูก คราวนีไ้ มไดค ยุ อะไร คยุ แต เรอื่ งเกา ๆ เพราะวา เลก็ มนั เมา พูดไมค อยรเู รื่อง เขาวา คดิ ถึงพ่ี คิดถึงนอง คดิ ถงึ หลาน เขาบอกวา ลูกหนู (ลูกผูเลา ) คนโตทีช่ ือ่ เขียว วาเดก็ คนน้ีมนั มีบุญ เขารกั มนั มาก เขาคิดถึง เขาวา ใครอยา มารงั แกคนน้นี ะ เขารักมาก ไมใหใ ครรงั แก และเวลา เขาพูด เสยี งเหมอื นจาํ เรยี ง เสียงไมเหมอื นเล็ก แตเ มือ่ เวลาจวนจะออก ใครไปขวางปลายเทาไมไ ด เขายกเทาฟาดกระดาน ตงึ แลวกเ็ หยยี ดตรง ตอนกาํ ลังเขา เขานอนพูดทกุ ที พอจะออก ตอนน้กี เ็ หยียดตัวตรง มอื ไมแขง็ เลย แลว กห็ ลับไปสัก ประเด๋ียว ก็ลุกขนึ้ มา ถามเล็กเขาบอกวา ไมร ูเร่อื งเลย เขาบอกวาเหนอื่ ยเหมอื นไปเทยี่ วไหน ๆ มา เมือ่ พระอาทติ ยต กดินแลวตองกลบั ไมร ูวาเขากลบั ไปไหน กลางวันไปไหน ๆ ได 99
ครง้ั ทสี่ าม มาเขาท้ังวัน ตอนนนั้ ยังไมไดเ ผา เขาบอกวา ถา เผ่ือพระอาทติ ยจะตกดนิ ใหป ลกุ เขาดวย คลา ย ๆ กบั มานอนพักใหห ลบั อยางนน้ั ลุกแลวก็ออก แคน ัน้ เอง คราวหน่ึง เขามาคุยเรือ่ งสมัยเกา เม่ือเขาเปน เดก็ เขาไดไ ปผา เทา เลาถูกหมด เรือ่ งนี้เล็กเขาไมรู หรอก เขา (จาํ เรยี ง) เปน ตะมอยทีห่ ัวแมเ ทา นิว้ โปง พเี่ ขยหนเู ขาพาไปสง ขี่จักรยานไป พน่ี ึก (พี่เขย) กท็ ําซมึ พูดตลก ๆ หวั เราะกนั แทบตกทายรถจักรยาน เลา ถกู หมดเลย ไปผา ทสี่ ขุ ศาลานา เกลอื ตอนนน้ั กลับไปจากกรงุ เทพฯ ไดไมเทา ไร เขาเลา และกห็ วั เราะไปดวย แลว เขาก็ถามกนั วา ทายกันเอย ศพของเขาเนาแลว หรอื ยัง เปอ ยเหลือ แตก ระดกู หรือยงั เนอื้ หมดแลวหรือยงั ใคร ๆ กบ็ อกวา ไมรู กเ็ ลยถามเขาดู เขาก็ไมย อมบอก เขา เฉยเสยี และก็เลยเลาไปถงึ เรอ่ื งพอ ตอนนนั้ พอไปซอื้ ววั ถามเขาวา พอกลบั มาจากซอ้ื วัวหรอื ยงั เขาบอกวา มาแลว กาํ ลงั บกุ น้าํ ไลว ัวมาโนน แนะ เขาวา ตอนท่ีเขาหลบั ไปนนั้ เขาไปชว ยพอ ไลวัว วา พอ เดนิ มาบาง บุกนาํ้ มาบาง ตรงไปเดนิ มาไมไ ด กต็ องจา งเขาชวยไลววั มา แลวพอกข็ ้ึนรถ เขาวา พอ อว นจงั เลย พอ กาํ ลงั ไปตลาด ตอนนนั้ มนั ยงั เชา อยู บอกเขาวา พ่เี รียงไปเทย่ี วตลาดกนั ไหม บอก วา ไป แลว กอ็ อก อา ยเล็กลมตึงเลย เด๋ยี วเดยี วมาเขาอกี แลว วา กลับจากตลาด เขาวาเขาเบยี ดกบั พอ พอ พุงใหญ พูดไปหวั เราะไป บางคนท่นี นั่ เขาก็ไมเชอ่ื เขาวาอายเล็กมนั แกลง ทํา แตมนั นา เชื่อเพราะวา เลก็ ไมรูเรือ่ ง มนั กน็ าเช่อื เปน บางอยาง อา ยของอะไรทมี่ ันเหน็ ได เราก็ไมถาม อายอะไรทเี่ หน็ ไมไ ด เราจงึ ถาม มนั กต็ อบได ถูกตอ ง แลวเขาทวงเอาเสอ้ื ที่อายเล็กมันใสอ ยู (มันเปนเสอื้ ของเขา) เขาไมใ หเ ล็กใส พ่ีนอ งใสได คน อน่ื ใสไมได แลวเขาใหอ า ยเลก็ เอาเสื้อตัวทีใ่ สก บั สม ลกู หนง่ึ น้ําสม ขวดหนงึ่ ไปไหวทห่ี ลุมท่ฝี งเขาไว เวลาเขาหวิ เขาจะมากนิ ตอนหลังทเี่ ล็กเขากลบั ไปบาน (ทีก่ รงุ เทพฯ) แลว และต้ังแตเผาศพแลว ก็ไมม าเขา อีกเลย แตกม็ คี น ฝนถงึ อยเู ร่ือย ๆ พอใกลวนั พระก็ฝนเหน็ ฝน วา ไปเท่ยี ว ฝน ทกุ ทไี มเ คยเหน็ หนา เหน็ แคแตง ตัวสวย ไปเท่ียวทําบญุ คนอื่นก็ฝน กนั ทุกคน พอใกลว นั พระก็ฝน เพราะวาเขาปลอ ยผวี นั พระ พอวันโกนจะ ถึงวันพระก็ฝน แลว ฝน แตว นั พระ ๑๕ คาํ่ วันธรรมดาไมคอ ยฝน ตอนท่ีเผาแลวนี่ ไมม มี ายงุ อีกเลย และเดย๋ี วนกี้ ไ็ มฝน แลว เมื่อกอ นน้คี ลา ย ๆ วา เขายงั กังวลอยู ทม่ี าเขา น้หี นเู ชอ่ื พอ แมกเ็ ช่อื พน่ี อ งเชอื่ ทุกคน ผูใหญห องกม็ าดู ผใู หญห อ งเขาเปนพวกหมอทางน้ี (หมอผี) โดยตรง แกนงั่ ทางในได พอเหน็ ผูใหญห อ ง เขา (จําเรยี ง) เปน ไมย อมใหเขาใกล คอยหนี เพราะเขามวี ชิ า ผูใหญห อ งมาถงึ ก็บอกวา ใหไ ปเสยี เขาบอกวา เขาคิดถงึ พอ คิดถงึ แม มาเยย่ี มบาง ไมไดหรอื แลวก็รองไห 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261