1 โครงสร้างหลกั สตู รเวลาเรียนโรงเรยี นบา้ นแก้ง เวลาเรียน กลมุ่ สาระการเรยี นร้/ู กิจกรรม ระดบั ประถมศึกษา ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ป.๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ม. ๑ ม. ๒ ม. ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้(พนื้ ฐาน) ภาษาไทย ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) คณติ ศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) วทิ ยาศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) - ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม - หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนิน ชวี ติ ในสังคม - เศรษฐศาสตร์ - ภูมศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ศิลปะ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) การงานอาชพี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ภาษาตา่ งประเทศ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) รวมเวลาเรยี น (พ้นื ฐาน) ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๘๐ (๒๒ ๘๘๐ (๒๒ ๘๘๐ (๒๒ นก.) นก.) นก.) รายวิชา/กจิ กรรมทีโ่ รงเรียนจดั เพ่ิมเติม ตามความพรอ้ มและจุดเน้น - คณิตศาสตร์ - - ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) - เทคโนโลยสี ารสนเทศ - - ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) - การปอ้ งกันการทจุ รติ ๔๐ ๔๐ ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น - กจิ กรรมแนะแนว - กจิ กรรมนกั เรยี น ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ - ลกู เสือ ยุวกาชาด - ชุมนุม - กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ กจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพิม่ เวลารู้ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ รวมเวลาเรยี นทั้งหมด ไมน่ ้อยกวา่ ๑,๐๐๐ ชัว่ โมง/ปี ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑,๒๐๐ ชัว่ โมง/ปี
2 สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1. ความนำ ตวั ช้วี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.2560) น้ีไดก้ ำหนดสาระการเรยี นร้อู อกเปน็ 8 สาระ ได้แก่ สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ สำระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ สาระที่ 4 ชีววิทยา สาระที่ 5 เคมี สาระที่ 6 ฟิสิกส์ สาระที่ 7 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ และสาระท่ี 8 เทคโนโลยี ซ่ึงองค์ประกอบของหลักสูตร ท้ังในด้านของเน้ือหา การจัดการเรียนการสอนและ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้น้ัน มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของ ผู้เรียนในแต่ละระดับช้ันให้มีความต่อเน่ืองเช่ือมโยงกันต้ังแต่ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 จนถึงช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 สำหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้กำหนดตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ท่ีผู้เรียนจำเป็นต้อง เรียนเป็นพ้ืนฐาน เพ่ือให้สามารถนำความรนู้ ไี้ ปใชใ้ นการดำรงชีวติ หรือศกึ ษาต่อในวชิ าชพี ท่ีต้องใช้วทิ ยาศาสตร์ ได้ โดยจัดเรียงลำดับความยากง่าย ของเนื้อหาท้ัง 8 สาระ ในแต่ละระดับชั้นให้มีการเช่ือมโยงความรู้กับ กระบวนการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็น ผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญทั้งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะใน ศตวรรษที่ 21 ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วยกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่าง เป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ขอ้ มูลหลากหลายและประจกั ษ์พยานที่ตรวจสอบได้ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารตระหนักถงึ ความสำคัญของการจัดการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ที่มงุ่ หวงั ใหเ้ กิด ผลสมั ฤทธต์ิ อ่ ผเู้ รยี นมากทสี่ ุด จงึ มอบหมายให้สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์ (สสวท.) จดั ทำตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ขึ้น เพ่ือให้สถานศึกษา ครูผู้สอน ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ได้ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา หนังสือเรียน คู่มือครู สื่อประกอบการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและ ประเมินผล โดยตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ที่จัดทำขึ้นน้ีได้ปรับปรุงให้มี ความสอดคล้องและเช่ือมโยงกันภายในสาระการเรียนรู้เดียวกันและระหว่างสาระการเรียนรู้ในกลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตลอดจนการเชอื่ มโยงเน้ือหาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์ด้วย นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงเพ่ือให้มีความทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลง และความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการต่าง ๆ และ ทดั เทยี มกบั นานาชาติ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรส์ รุปเปน็ แผนภาพได้ดังนี้
3 แผนภาพ สาระ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ดั กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.2560) สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ - มาตรฐาน ว 2.1-ว 2.3 สาระท่ี 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ - มาตรฐาน ว 1.1-ว 1.3 - มาตรฐาน ว 3.1-ว 3.3 สาระที่ 4 เทคโนโลยี - มาตรฐาน ว 4.1-ว 4.2 วิทยาศาสตรเ์ พ่มิ เติม ⚫ สาระชีววทิ ยา ⚫ สาระเคมี ⚫ สาระฟสิ ิกส์ ⚫ สาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ สำหรับวิทยาศาสตรเ์ พิม่ เติม สาระชีววทิ ยา เคมี ฟสิ กิ ส์ และโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ จดั ทำขึ้น สำหรับผู้เรยี นในระดับชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรยี นวิทยาศาสตร์ ท่ีจำเป็นต้องเรยี น เพอ่ื เป็นพนื้ ฐาน สำคญั และเพียงพอสำหรบั การศึกษาต่อ และการประกอบอาชพี ด้านวิทยาศาสตร์
4 เป้าหมายของการจดั การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องของการเรียนรู้เก่ียวกับธรรมชาติ โดยมนุษย์ใช้กระบวนการสังเกต สำรวจ ตรวจสอบ และการทดลองเก่ียวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและนำผลมาจัดระบบ หลักการ แนวคิดและ ทฤษฎี ดังน้ันการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์จึงมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เป็นผู้เรียนรู้และค้นพบด้วยตนเองมากท่ีสุด น่ันคือให้ได้ท้ังกระบวนการและองค์ความรู้ ต้ังแต่วัยเร่ิมแรกก่อนเข้าเรียน เม่ืออยู่ในสถานศึกษาและเม่ือออก จากสถานศึกษาไปประกอบอาชีพแล้ว การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตรใ์ นสถานศึกษามีเป้าหมายสำคัญ ดังน้ี 1. เพ่อื ให้เข้าใจหลกั การ ทฤษฎีทเี่ ปน็ พน้ื ฐานในวทิ ยาศาสตร์ 2. เพื่อใหเ้ ขา้ ใจขอบเขต ธรรมชาติและข้อจำกัดของวทิ ยาศาสตร์ 3. เพื่อให้มีทกั ษะทีส่ ำคัญในการศกึ ษาคน้ ควา้ และคดิ ค้นทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. เพือ่ พัฒนากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจัดการ ทักษะในการส่ือสาร และความสามารถในการตดั สนิ ใจ 5. เพื่อใหต้ ระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนุษย์และ สภาพแวดล้อมในเชงิ ที่มีอิทธิพลและผลกระทบซึง่ กันและกนั 6. เพ่อื นำความรู้ความเข้าใจในเรื่องวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยไี ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ ตอ่ สงั คมและการดำรงชวี ติ 7. เพอ่ื ใหเ้ ป็นคนมจี ติ วิทยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยมในการใชว้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์ เรียนรูอ้ ะไรในวิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มงุ่ หวังให้ผู้เรียนได้เรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ท่เี น้นการ เชอ่ื มโยงความรู้ กบั กระบวนการ มที กั ษะสำคญั ในการคน้ คว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้ กระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้ และแก้ปัญหาท่ีหลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ทุกขั้นตอน มีการทำกิจกรรมด้วยการลงมือ ปฏิบัตจิ ริงอย่างหลากหลาย เหมาะสมกับระดบั ช้นั โดยกำหนดสาระสำคัญ ดงั นี้ ✧ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เก่ียวกับ ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต การดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์การดำรงชีวิตของพืช พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และ วิวัฒนาการของสง่ิ มชี วี ติ ✧ วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เก่ียวกับ ธรรมชาติของสาร การเปล่ียนแปลงของสาร การเคล่อื นท่ี พลงั งาน และคลืน่ ✧ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรียนรู้เก่ียวกับ องค์ประกอบของเอกภพ ปฏิสัมพันธ์ ภายใน ระบบสุริยะ เทคโนโลยีอวกาศ ระบบโลก การเปล่ียนแปลงทางธรณีวิทยา กระบวนการ เปล่ียนแปลงลมฟ้า อากาศ และผลตอ่ สิง่ มีชีวติ และส่งิ แวดล้อม
5 ✧ เทคโนโลยี ● การออกแบบและเทคโนโลยเี รียนรเู้ กย่ี วกับเทคโนโลยเี พื่อการดำรงชีวิต ในสังคมทม่ี ี การเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อ แก้ปญั หาหรือพัฒนางานอยา่ งมีความคดิ สร้างสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบ เชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยี อย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต สงั คม และส่ิงแวดล้อม ● วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับการคิดเชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา เป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ และการ ส่ือสาร ในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ติ จริงไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงไม่มีชีวิต กับส่ิงมีชีวิต และ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปล่ียนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ ประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ แก้ไขปญั หาสง่ิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลำเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงาน สัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ี ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทำงาน สัมพนั ธก์ นั รวมท้งั นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพันธุกรรมท่ีมีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลาย ทางชีวภาพและ วิวัฒนาการของส่ิงมชี วี ติ รวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการเปล่ียนแปลง สถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกิด ปฏกิ ริ ิยาเคมี มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะ การเคลื่อนท่ี แบบต่าง ๆ ของวตั ถุรวมทัง้ นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ ระหว่างสสารและพลงั งาน พลงั งานในชวี ติ ประจำวัน ธรรมชาติของ คลื่น ปรากฏการณ์ท่ี เก่ยี วข้องกับเสียง แสง และคล่นื แม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้ง นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
6 สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ท่ีส่งผลต่อ สง่ิ มชี ีวติ และการประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลง ภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้า อากาศและภูมิอากาศโลก รวมท้ังผลต่อสง่ิ มชี วี ิตและสงิ่ แวดล้อม สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพ่ือการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่าง รวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์และ ศาสตร์อ่ืน ๆ เพ่ือ แกป้ ญั หาหรอื พฒั นางานอย่างมีความคิดสรา้ งสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใชเ้ ทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ สังคม และสิ่งแวดล้อม มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหา ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รู้เท่าทนั และมจี รยิ ธรรม 3. คุณภาพผเู้ รยี น จบช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 ❖ เข้าใจลกั ษณะท่ปี รากฏ ชนิดและสมบตั ิบางประการของวสั ดทุ ่ีใชท้ ำวัตถุ และการเปล่ียนแปลงของ วัสดรุ อบตัว ❖ เข้าใจการดึง การผลัก แรงแม่เหล็ก และผลของแรงที่มีต่อการเปล่ียนแปลง การเคลื่อนที่ของ วตั ถุ พลังงานไฟฟา้ และการผลิตไฟฟา้ การเกิดเสยี ง แสงและการมองเห็น ❖ เข้าใจการปรากฏของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาว ปรากฏการณ์ข้ึนและตกของ 8 ดวง อาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืน การกำหนดทิศ ลักษณะของหิน การจำแนกชนิดดินและการใช้ประโยชน์ ลักษณะและความสำคัญของอากาศ การเกดิ ลม ประโยชนแ์ ละโทษของลม ❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรยี นรูต้ ามท่ีกำหนดให้หรือตามความสนใจสังเกต สำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย รวบรวมข้อมูล บันทึก และอธิบายผลการสำรวจตรวจสอบด้วยการ เขยี นหรอื วาดภาพ และสอื่ สารสิ่งทเี่ รียนรดู้ ้วยการเลา่ เร่อื ง หรอื ด้วยการแสดงทา่ ทางเพ่ือให้ผ้อู ่ืนเขา้ ใจ ❖ แก้ปญั หาอย่างง่ายโดยใชข้ ั้นตอนการแก้ปญั หา มที ักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ สอื่ สารเบอ้ื งต้น รักษาขอ้ มลู ส่วนตัว ❖ แสดงความกระตือรือร้น สนใจท่ีจะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องท่ีจะศึกษาตามที่ กำหนดให้หรอื ตามความสนใจ มสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเหน็ และยอมรับฟังความคิดเหน็ ผู้อืน่
7 ❖ แสดงความรับผิดชอบด้วยการทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมุ่งม่ัน รอบคอบ ประหยัด ซื่อสตั ย์ จนงานลลุ ว่ งเป็นผลสำเร็จ และทำงานรว่ มกับผูอ้ น่ื อย่างมีความสุข ❖ ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต ศกึ ษาหาความรเู้ พิ่มเตมิ ทำโครงงานหรือชน้ิ งานตามท่กี ำหนดใหห้ รอื ตามความสนใจ จบชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 ❖ เข้าใจโครงสร้าง ลกั ษณะเฉพาะและการปรบั ตัวของส่ิงมชี ีวิต รวมทัง้ ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ มีชวี ิต ในแหลง่ ที่อยู่ การทำหนา้ ท่ีของสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช และการทำงานของระบบยอ่ ยอาหารของมนุษย์ ❖ เข้าใจสมบัติและการจำแนกกลุ่มของวัสดุ สถานะและการเปลี่ยนสถานะของสสารการละลาย การเปลย่ี นแปลงทางเคมี การเปล่ียนแปลงทผ่ี นั กลับได้และผนั กลบั ไมไ่ ด้ และการแยกสารอย่างงา่ ย ❖ เขา้ ใจลกั ษณะของแรงโน้มถ่วงของโลก แรงลัพธ์ แรงเสียดทาน แรงไฟฟา้ และผลของแรงต่างๆ ผลทีเ่ กดิ จากแรงกระทำต่อวตั ถุ ความดนั หลักการทมี่ ตี ่อวตั ถุ วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย ปรากฏการณ์เบอ้ื งต้นของ เสียง และแสง ❖ เข้าใจปรากฏการณ์การขึ้นและตก รวมถึงการเปล่ียนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ องค์ประกอบของระบบสุริยะ คาบการโคจรของดาวเคราะห์ ความแตกต่างของดาวเคราะห์และ ดาวฤกษ์ การ ขน้ึ และตกของกล่มุ ดาวฤกษ์ การใช้แผนที่ดาว การเกดิ อปุ ราคา พฒั นาการและประโยชนข์ องเทคโนโลยอี วกาศ ❖ เข้าใจลักษณะของแหล่งน้ำ วัฏจักรน้ำ กระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง น้ำค้างแข็ง หยาด น้ำฟ้า กระบวนการเกิดหิน วฏั จักรหิน การใช้ประโยชน์หินและแร่ การเกดิ ซากดกึ ดำบรรพ์ การเกิดลมบก ลม ทะเล มรสุม ลักษณะและผลกระทบของภัยธรรมชาติ ธรณีพิบัติภัย การเกิดและผลกระทบของปรากฏการณ์ เรือนกระจก ❖ คน้ หาขอ้ มูลอย่างมีประสิทธิภาพและประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถือ ตัดสินใจเลอื กขอ้ มูลใช้เหตผุ ลเชิง ตรรกะในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการทำงานร่วมกนั เข้าใจสทิ ธิและหน้าที่ของ ตน เคารพสิทธิของผู้อ่ืน ❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาเกี่ยวกับสิ่งท่ีจะเรียนรู้ตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจ คาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานท่ีสอดคล้องกับคำถามหรือปัญหาท่ีจะสำรวจตรวจสอบ วางแผนและสำรวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม ในการเก็บ รวบรวมข้อมลู ทัง้ เชงิ ปรมิ าณและคณุ ภาพ ❖ วเิ คราะหข์ ้อมูล ลงความเห็น และสรุปความสัมพันธ์ของขอ้ มูลที่มาจากการสำรวจตรวจสอบใน รปู แบบทเี่ หมาะสม เพื่อสอื่ สารความรู้จากผลการสำรวจตรวจสอบได้อยา่ งมีเหตผุ ลและหลกั ฐานอา้ งองิ ❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งม่ัน ในส่ิงท่ีจะเรียนรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเร่ืองที่จะศึกษาตาม ความสนใจของตนเอง แสดงความคิดเห็นของตนเอง ยอมรับในข้อมูลที่มีหลักฐานอ้างอิง และรับฟังความ คิดเหน็ ผู้อืน่
8 ❖ แสดงความรับผิดชอบด้วยการทำงานท่ีได้รับมอบหมายอย่างมุ่งม่ัน รอบคอบ ประหยัด ซอื่ สตั ย์ จนงานลลุ ่วงเป็นผลสำเร็จ และทำงานรว่ มกับผอู้ ่นื อยา่ งสร้างสรรค์ ❖ ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใช้ความรู้และกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในการดำรงชีวิต แสดงความชื่นชม ยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้นและศึกษาหา ความรเู้ พิม่ เตมิ ทำโครงงานหรอื ชิน้ งานตามทก่ี ำหนดให้หรือตามความสนใจ ❖ แสดงถึงความซาบซ้ึง ห่วงใย แสดงพฤติกรรมเก่ียวกับการใช้ การดูแลรักษาทรัพยากร ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มอยา่ งรู้คณุ ค่า จบชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ❖ เข้าใจลักษณะและองค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์ส่ิงมีชีวิต ความสัมพันธ์ของการทำงานของ ระบบต่าง ๆ ในรา่ งกายมนษุ ย์ การดำรงชีวิตของพืช การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงของ ยีนหรือโครโมโซม และตัวอย่างโรคที่เกิดจากการเปล่ียนแปลงทางพันธุกรรม ประโยชน์และผลกระทบของ สงิ่ มีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ ปฏิสมั พันธข์ ององค์ประกอบของระบบนิเวศและการ ถ่ายทอดพลงั งานในสงิ่ มีชวี ิต ❖ เข้าใจองคป์ ระกอบและสมบัติของธาตุ สารละลาย สารบรสิ ุทธ์ิ สารผสม หลักการแยกสาร การ เปลย่ี นแปลงของสารในรูปแบบของการเปลยี่ นสถานะ การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี และสมบตั ิ ทางกายภาพ และการใช้ประโยชน์ของวสั ดุประเภท พอลเิ มอร์ เซรามิกส์และวัสดุผสม ❖ เข้าใจการเคล่ือนท่ี แรงลัพธแ์ ละผลของแรงลัพธ์กระทำต่อวัตถุ โมเมนต์ของแรง แรงที่ปรากฏ ในชีวิตประจำวัน สนามของแรง ความสัมพันธ์ของงาน พลังงานจลน์ พลังงานศักย์โน้มถ่วง กฎการอนุรักษ์ พลังงาน การถ่ายโอนพลังงาน สมดุลความร้อน ความสัมพันธ์ของปริมาณทางไฟฟ้า การต่อวงจรไฟฟ้าในบ้าน พลังงานไฟฟา้ และหลกั การเบอ้ื งต้นของวงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ❖ เข้าใจสมบัติของคลื่น และลักษณะของคล่ืนแบบต่าง ๆ แสง การสะท้อน การหักเหของแสง และทศั นปู กรณ์ ❖ เข้าใจการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ การเกิดฤดู การเคลื่อนที่ปรากฏของดวง อาทิตย์ การเกิดข้างขึ้นข้างแรม การขึ้นและตกของดวงจันทร์ การเกิดน้ำขึ้นน้ำลง ประโยชน์ของเทคโนโลยี อวกาศ และความก้าวหน้าของโครงการสำรวจอวกาศ ❖ เข้าใจลักษณะของช้ันบรรยากาศ องค์ประกอบและปัจจัยที่มีผลต่อลมฟ้าอากาศ การเกิดและ ผลกระทบของพายุฟ้าคะนอง พายุหมุนเขตร้อน การพยากรณ์อากาศ สถานการณ์ การเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ โลก กระบวนการเกิดเช้ือเพลิงซากดึกดำบรรพ์และการใช้ประโยชน์ พลังงานทดแทนและการใช้ประโยชน์ ลักษณะโครงสร้างภายในโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาบนผิวโลก ลักษณะชั้นหน้าตัดดิน กระบวนการเกิดดิน แหล่งน้ำผิวดิน แหล่งน้ำใต้ดนิ กระบวนการเกิดและผลกระทบของภัยธรรมชาติ และธรณี พิบัติภัย
9 ❖ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ความสมั พนั ธ์ระหว่างเทคโนโลยกี ับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ หรอื คณิตศาสตร์ วเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ และตัดสินใจเพ่ือเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และส่ิงแวดล้อม ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ และทรัพยากรเพ่ือออกแบบและสร้างผลงานสำหรับการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันหรือการประกอบ อาชีพ โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมทั้งเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย รวมทง้ั คำนึงถึงทรัพยส์ ินทางปญั ญา ❖ นำข้อมูลปฐมภูมิเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศได้ ตามวัตถปุ ระสงค์ ใชท้ ักษะการคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาท่พี บในชีวิตจรงิ และเขยี นโปรแกรมอย่างง่ายเพ่ือ ชว่ ยในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารอย่างรู้เท่าทันและรับผิดชอบต่อสงั คม ❖ ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาที่เช่ือมโยงกับพยานหลักฐาน หรือหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่มี การกำหนดและควบคุมตวั แปร คิดคาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สรา้ งสมมติฐานทีส่ ามารถนำไปสู่การสำรวจ ตรวจสอบ ออกแบบและลงมือสำรวจตรวจสอบโดยใช้วัสดุและเคร่ืองมือที่เหมาะสม เลือกใช้เครื่องมือและ เทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเหมาะสมในการเก็บรวบรวมข้อมูล ท้ังในเชิงปริมาณและคุณภาพที่ได้ผลเที่ยงตรงและ ปลอดภยั ❖ วิเคราะห์และประเมินความสอดคล้องของข้อมูลท่ีได้จากการสำรวจตรวจสอบจาก พยานหลักฐาน โดยใช้ความรู้และหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการแปลความหมายและลงข้อสรุปและส่ือสาร ความคิด ความรู้ จากผลการสำรวจตรวจสอบหลากหลายรูปแบบ หรือใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้ผู้อ่ืน เข้าใจได้อย่างเหมาะสม ❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งม่ัน รับผิดชอบ รอบคอบ และซ่ือสัตย์ ในส่ิงที่จะเรียนรู้ มีความคิด สร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องท่ีจะศึกษาตามความสนใจของตนเอง โดยใช้เคร่ืองมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้ ศึกษาค้นคว้าเพ่ิมเติมจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นของตนเองรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น และยอมรับการเปลีย่ นแปลงความรทู้ ่คี ้นพบ เมอ่ื มขี ้อมูลและประจักษพ์ ยานใหม่เพิ่มขนึ้ หรือโต้แย้งจากเดิม ❖ ตระหนกั ในคณุ คา่ ของความรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยที ่ใี ช้ในชีวติ ประจำวนั ใช้ความรู้ และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพ แสดงความช่ืนชม ยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงานของผู้คิดค้น เข้าใจผลกระทบท้ังด้านบวกและด้านลบของการพัฒนาทาง วิทยาศาสตร์ต่อสิง่ แวดล้อมและต่อบรบิ ทอื่น ๆ และศึกษาหาความรู้เพ่มิ เตมิ ทำโครงงานหรอื สรา้ งช้นิ งาน ตามความสนใจ ❖ แสดงถึงความซาบซ้ึง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชวี ภาพ
10 4. โครงสร้างเวลาเรียน กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ าพนื้ ฐาน ระดับประถมศกึ ษา รายวชิ า ระดบั ช้นั เวลาเรยี นรายปี (ชั่วโมง) ว 11101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประถมศึกษาปที ่ี 1 80 ว 12101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประถมศึกษาปที ่ี 2 80 ว 13101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประถมศึกษาปีที่ 3 80 ว 14101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 80 ว 15101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประถมศึกษาปีท่ี 5 80 ว 16101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประถมศึกษาปที ่ี 6 80 รายวิชาเพ่มิ เติมระดับประถมศกึ ษา -
11 รายวชิ าพื้นฐาน ระดับมธั ยมศึกษา รายวชิ า ระดับช้นั เวลาเรียนรายภาค/หน่วยกิต ว 21101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มัธยมศึกษาปีท่ี 1 60 ช่ัวโมง / 1.5 หน่วยกติ ว 21102 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 60 ช่ัวโมง / 1.5 หน่วยกติ ว 22101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธั ยมศึกษาปีที่ 2 60 ชว่ั โมง / 1.5 หนว่ ยกติ ว 22102 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 60 ชั่วโมง / 1.5 หน่วยกติ ว 23101 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 60 ชั่วโมง / 1.5 หนว่ ยกติ ว 23102 วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 60 ชั่วโมง / 1.5 หนว่ ยกติ รายวิชาเพ่มิ เติม ระดับมัธยมศกึ ษา โครงสรา้ งรายวชิ ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชน้ั รหสั ช่อื รายวิชา เวลาเรยี นรายภค(หน่วยกติ ) ช้ัน ม.1 ว 21201 เทคโนโลยี 1 40 ชั่วโมง / 1.0 หน่วยกติ ว 21202 เทคโนโลยี 2 40 ชั่วโมง / 1.0 หน่วยกติ ชั้น ม.2 ว 22201 เทคโนโลยี 3 40 ชว่ั โมง / 1.0 หน่วยกิต ว 22202 เทคโนโลยี 4 40 ช่วั โมง / 1.0 หน่วยกิต ชน้ั ม.3 ว 23201 เทคโนโลยี 5 40 ชว่ั โมง / 1.0 หน่วยกิต ว 23202 เทคโนโลยี 6 40 ชั่วโมง / 1.0 หนว่ ยกิต
12 คำอธิบายรายวิชา ว 11101 วิทยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 80 ช่ัวโมง .............................................................................................................................................................................. ศกึ ษา วิเคราะห์ พืชและสัตว์ที่อาศยั อยบู่ รเิ วณต่างๆ สภาพแวดลอ้ มท่เี หมาะสมกับการดำรงชวี ติ ของสัตวใ์ นบริเวณทอี่ าศัยอยู่ ระบุลกั ษณะและหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายมนุษย์ สัตว์และพชื รวมทัง้ การทำหน้าท่ีร่วมกันของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ อธิบายสมบัติท่ีสังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซ่ึงทำจาก วัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิดประกอบกัน ชนิดของวัสดุและจัดกลุ่มวัสดุตามสมบัติท่ีสังเกต การเกิดเสียงและ ทิศทางการเคลือ่ นทีข่ องเสียง ดาวท่ีปรากฏบนท้องฟ้าในเวลากลางวันและกลางคืน และสาเหตุทีม่ องไม่เหน็ ดาว ส่วนใหญ่ในเวลากลางวัน ลักษณะภายนอกของหินจากลักษณะเฉพาะตัวที่สังเกต โดยใช้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจาก หลกั ฐานเชิงประจักษ์ การอธิบาย อภิปราย และการสร้างแบบจำลอง เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวติ ประจำวัน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่ีเหมาะสม แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ การเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรือส่ือ การใช้เทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ คน้ หา จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูล การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และดูแลรักษาอุปกรณ์เบื้องต้น ใช้งานงานอย่าง เหมาะสม รหัสตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ว 1.1 ป.1/1 , ป.1/2 มาตรฐาน ว 1.2 ป.1/1 , ป.1/2 มาตรฐาน ว 2.1 ป.1/1 , ป.1/2 มาตรฐาน ว 2.3 ป.1/1 มาตรฐาน ว 3.1 ป.1/1 , ป.1/2 มาตรฐาน ว 3.2 ป.1/1 วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) มาตรฐาน ว 4.2 ป.1/1 , ป.1/2 , ป.1/3 , ป.1/4 , ป.1/5 รวม 15 ตัวชี้วดั
13 สาระ มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้ีวัดช้ันปี ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลางและสาระการเรียนร้ทู ้องถ่นิ สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสง่ิ ไม่มชี ีวติ กับส่ิงมีชีวิตและ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสง่ิ มชี วี ติ กบั สิง่ มชี วี ิตต่าง ๆ ในระบบนเิ วศ การถ่ายทอดพลงั งาน การ เปล่ยี นแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปญั หาและผลกระทบที่มตี ่อ ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไข ปญั หาสิง่ แวดลอ้ มรวมท้ังนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน ป.1 ว 1.1 ป 1/1 ระบชุ ื่อพืชและ - บริเวณตา่ ง ๆ ในทอ้ งถ่นิ เชน่ - พชื และสัตวท์ ี่อาศัยอยู่ สตั ว์ทีอ่ าศัยอย่บู รเิ วณตา่ ง ๆ สนามหญ้า ใตต้ ้นไม้ สวนหย่อม บริเวณต่าง ๆ ในท้องถ่นิ จากข้อมลู ท่ีรวบรวมได้ แหลง่ นำ้ อาจพบพืชและสัตว์ ของตน เชน่ สนามหญ้า หลายชนดิ อาศยั อยู่ ใตต้ ้นไมส้ วนหยอ่ ม ว 1.1 ป ½ -บริเวณท่ีแตกต่างกนั อาจพบพืช แหล่งน้ำ ฯลฯ บอกสภาพแวดลอ้ มที่ และสตั ว์แตกตา่ งกัน เพราะ - สภาพแวดล้อมใน เหมาะสมกับการดำรงชวี ติ สภาพแวดลอ้ มของแต่ละบริเวณ ทอ้ งถน่ิ เช่น ของสัตวใ์ นบรเิ วณทอ่ี าศัยอยู่ จะมี ความเหมาะสมตอ่ การ (บริเวณใกล้ ๆ โรงเรยี น ดำรงชีวติ ของพืชและสตั ว์ ท่ี ในชมุ ชน หรือภายใน อาศยั อย่ใู นแต่ละบรเิ วณ เช่น จังหวัด) สระนำ้ มีน้ำเป็นท่ีอยู่ อาศยั ของ หอย ปลา สาหรา่ ย เปน็ ทห่ี ลบภัย และมี แหล่งอาหารของหอยและ ปลา บรเิ วณต้นมะมว่ งมี ตน้ มะมว่ งเปน็ แหล่งท่ีอยู่ และมี อาหารสำหรับกระรอกและมด - ถ้าสภาพแวดลอ้ มในบริเวณท่ี พชื และสตั ว์อาศยั อยู่มกี าร เปล่ียนแปลง จะมผี ลตอ่ การ ดำรงชีวิตของพืชและสัตว์
14 สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัตขิ องสงิ่ มีชวี ติ หนว่ ยพ้ืนฐานของสิ่งมชี วี ติ การลำเลียงสารผ่านเซลล์ความสัมพนั ธ์ ของโครงสรา้ ง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสตั ว์และมนุษยท์ ่ีทางานสมั พันธ์กัน ความสัมพันธข์ องโครงสร้าง และหน้าทข่ี องอวยั วะต่าง ๆ ของพชื ที่ทำงานสมั พันธก์ ันรวมท้ัง นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ชั้น ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น ป.1 ว 1.2 ป 1/1 ระบุชือ่ - มนษุ ยม์ สี ว่ นตา่ ง ๆ ทม่ี ลี กั ษณะและ - ส่วนประกอบ และ บรรยายลักษณะและบอก หนา้ ท่ีแตกต่างกัน เพ่ือใหเ้ หมาะสมในการ หน้าทีข่ องอวัยวะ หน้าท่ขี องส่วนตา่ ง ๆ ของ ดำรงชวี ิต เช่น ตามีหนา้ ที่ ไวม้ องดู โดยมี ภายนอกของสัตวแ์ ละ รา่ งกายมนุษย์ สัตว์ และ หนงั ตาและขนตาเพื่อป้องกนั อันตราย พชื ที่พบบรเิ วณต่าง ๆ พืช รวมท้งั บรรยายการทำ ใหก้ ับตา หมู หี นา้ ที่รับฟงั เสียง โดยมีใบหู หน้าท่รี ว่ มกนั ของสว่ น และรหู ู เพื่อเป็นทางผา่ นของเสียง ปากมี ตา่ ง ๆ ของร่างกายมนุษย์ หน้าท่ีพูด กนิ อาหาร มีช่องปาและมรี มิ ในการทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ ฝีปากบนลา่ ง แขนและมือมหี น้าทย่ี ก หยิบ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้ จับ มีทอ่ นแขนและนว้ิ มือที่ขยับได้ สมอง มหี น้าทคี่ วบคุมการทำงานของส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นกอ้ นอยใู่ นกะโหลกศรี ษะ โดยส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายจะทำหนา้ ที่ ร่วมกนั ในการทำกิจกรรม ใน ชีวติ ประจำวัน - สตั ว์มหี ลายชนดิ แตล่ ะชนดิ มสี ่วนตา่ ง ๆ ท่ีมลี ักษณะและหนา้ ท่ีแตกต่างกนั เพื่อให้ เหมาะสม ในการดำรงชีวติ เชน่ ปลามี ครบี เป็นแผน่ สว่ นกบ เตา่ แมว มขี า 4 ขา และมเี ท้า สำหรบั ใช้ในการเคลอื่ นที่ - พืชมสี ่วนต่าง ๆ ทมี่ ีลักษณะและหนา้ ที่ แตกต่างกนั เพื่อให้เหมาะสมในการ ดำรงชวี ิตโดยทวั่ ไป รากมลี กั ษณะเรยี ว ยาว และแตกแขนงเป็นรากเล็ก ๆ ทำ หน้าทีด่ ูดนำ้ ลำตน้ มลี ักษณะเป็น ทรงกระบอกตัง้ ตรงและมีก่งิ ก้าน ทำ หนา้ ทช่ี กู ิง่ ก้าน ใบ และดอก ใบมลี กั ษณะ เปน็ แผ่นแบน ทำหนา้ ทีส่ ร้างอาหาร
15 ชน้ั ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ นอกจากนพ้ี ืชหลายชนิดอาจมีดอกที่มีสี รูปรา่ งต่าง ๆ ทำหน้าทส่ี ืบพนั ธุ์ รวมทัง้ มี ผลทม่ี ีเปลอื ก มเี นอ้ื ห่อหุ้มเมล็ด และมี เมล็ดซึง่ สามารถงอกเป็นต้นใหมไ่ ด้ ว 1.2 ป1/2ตระหนกั ถึง - มนษุ ย์ใช้ส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายในการ - ความสำคัญของส่วนต่าง ทำกิจกรรมตา่ ง ๆ เพือ่ การดำรงชีวิต ๆ ของร่างกายตนเอง โดย มนษุ ย์จึงควรใช้สว่ นตา่ ง ๆของรา่ งกาย การดแู ลส่วนต่างๆ อยา่ งถูกต้อง ปลอดภยั และรักษา ความ อย่างถูกต้อง ให้ปลอดภัย สะอาดอยู่เสมอ เช่น ใช้ตามองตัวหนงั สือ และรักษา ความสะอาดอยู่ ในที่ ๆ มีแสงสว่างเพยี งพอ ดูแลตาให้ เสมอ ปลอดภัยจากอนั ตราย และรักษาความ สะอาดตาอยู่เสมอ สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม สารพนั ธกุ รรม การเปล่ียนแปลงทางพนั ธุกรรมทมี่ ีผลตอ่ ส่ิงมชี วี ติ ความหลากหลายทางชีวภาพและ ววิ ฒั นาการของส่ิงมีชวี ิต รวมทงั้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ชน้ั ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ -- - -
16 สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหวา่ งสมบตั ขิ องสสารกบั โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะ ของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี ช้นั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ ป.1 ว 2.1 ป 1/1อธิบายสมบตั ิ -วัสดทุ ใี่ ชท้ ำวตั ถุที่เปน็ ของเล่น ของใช้ -วัสดทุ ีใ่ ชท้ ำอปุ กรณ์และ ทส่ี งั เกตได้ของวัสดุทใ่ี ช้ทำ มีหลายชนดิ เช่น ผา้ แกว้ พลาสติก เครื่องมือท่ีใชใ้ นชีวติ ประจำวัน วัตถุซึง่ ทำจากวัสดชุ นิด ยาง ไม้ อิฐ หนิ กระดาษ โลหะ วสั ดุ หรอื อาชีพต่าง ๆ เดียว หรือหลายชนดิ แตล่ ะชนิดมสี มบัติทส่ี ังเกตได้ตา่ ง ๆ ประกอบกันโดยใช้ เชน่ สี นุ่ม แข็ง ขรขุ ระ เรยี บ ใส ขุ่น หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ยดื หดได้ บิดงอได้ ว 2.1 ป 1/2ระบชุ นดิ ของ - สมบตั ทิ ีส่ งั เกตไดข้ องวสั ดแุ ต่ชนดิ อาจ วัสดุและจัดกลุ่มวัสดตุ าม เหมือนกัน ซ่ึงสามารถนำมาใชเ้ ป็น สมบตั ทิ ่ีสงั เกตได้ เกณฑ์ในการจดั กล่มุ วัสดุได้ วัสดุบางอยา่ งสามารถนำมาประกอบ กันเพื่อทำเป็นวัตถุต่าง ๆ เชน่ ผา้ และ กระดมุ ใช้ทำเสอ้ื ไมแ้ ละโลหะ ใชท้ ำ กระทะ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวิตประจำวนั ผลของแรงทกี่ ระทำต่อวัตถุ ลักษณะการเคลอื่ นที่ แบบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทงั้ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ชัน้ ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น -- --
17 สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปล่ียนแปลงและการถา่ ยโอนพลังงาน ปฏสิ มั พันธ์ ระหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาตขิ องคลนื่ ปรากฏการณ์ที่ เก่ียวขอ้ งกับเสียง แสง และคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทงั้ นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ ป.1 ว 2.3 ป 1/1บรรยายการเกดิ -เสียงเกิดจากการส่ันของวัตถุ วัตถุ เสียงและทศิ ทาง การเคลือ่ นที่ ท่ีทำให้เกดิ เสยี งเป็นแหล่งกำเนิด ของเสยี งจากหลกั ฐานเชิง เสยี งซงึ่ มที ง้ั แหลง่ กำเนิดเสยี งตาม ประจกั ษ์ ธรรมชาตแิ ละแหล่งกำเนิดเสียงท่ี มนษุ ยส์ ร้างข้นึ เสยี งเคล่ือนท่ีออก จากแหลง่ กำเนิดเสยี งทกุ ทิศทาง สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาว ฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตและการ ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศ ชั้น ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ ป.1 ว 3.1 ป 1/1ระบดุ าวที่ - บนท้องฟ้ามีดวงอาทิตย์ ดวง - ระบบดวงดาวจากหลกั ฐานเชงิ ปรากฏบนท้องฟา้ ในเวลา จนั ทร์ และดาว ซงึ่ ในเวลา ประจักษ์ในท้องถิ่นและชมุ ชนของ กลางวัน และกลางคืนจาก กลางวนั จะมองเหน็ ดวงอาทติ ย์ ตน ขอ้ มูลทร่ี วบรวมได้ และอาจมองเห็นดวงจันทร์บาง ว 3.1 ป 1/2อธบิ ายสาเหตทุ ี่ เวลาในบางวัน แตไ่ มส่ ามารถ หรือจากแหล่งเรยี นรู้ที่มี มองไม่เหน็ ดาวสว่ นใหญ่ ใน มองเห็นดาว ในท้องถนิ่ /จังหวัด เวลากลางวันจากหลักฐานเชงิ -ในเวลากลางวนั มองไม่เหน็ ดาว - ประจักษ์ สว่ นใหญเ่ นือ่ งจากแสงอาทิตย์ สวา่ งกว่าจงึ กลบแสงของดาว สว่ นในเวลากลางคืนจะมองเห็น ดาวและมองเห็นดวงจนั ทร์ เกือบ ทุกคนื
18 สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ และความสัมพนั ธข์ องระบบโลก กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก และบนผวิ โลก ธรณีพิบัติภยั กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมอิ ากาศโลกรวมท้ัง ผลต่อส่งิ มีชีวติ และสิ่งแวดล้อม ชน้ั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น ป.1 ว 3.2 ป 1/1อธิบายลกั ษณะ -หินท่ีอยู่ในธรรมชำตมิ ีลักษณะ -ลักษณะของหินที่พบ ภายนอกของหิน จาก ภายนอกเฉพาตัว ทีส่ งั เกตได้ เชน่ สี บรเิ วณโรงเรียน ในชมุ ชน ลกั ษณะเฉพาะตวั ทส่ี ังเกตได้ ลวดลาย น้ำหนกั ความแข็ง และเน้อื และแหลง่ ต่าง ๆ ในท้องถนิ่ หนิ /จงั หวดั สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพอ่ื การดำรงชวี ติ ในสงั คมท่มี ีการเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพ่ือแก้ปัญหา หรือ พฒั นางานอยา่ งมคี วามคดิ สรา้ งสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลอื กใช้ เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวติ สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน -- - - สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ติ จริงอยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนและ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทางาน และ การแก้ปัญหาได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ชัน้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ ท้องถิน่ ป.1 ว 4.2 ป 1/1แก้ปญั หาอย่างง่าย - การแก้ปญั หาให้ประสบความสำเร็จทำได้ - โดยใช้การลองผิดลองถูก การ โดยใชข้ ั้นตอนการแกป้ ญั หา เปรียบเทยี บ - ปัญหาอยา่ งง่าย เช่น เกมเขาวงกต เกมหา จุดแตกตา่ งของภาพการจดั หนงั สอื ใส่กระเป๋า ว 4.2 ป 1/2 แสดงลำดบั ขน้ั ตอน - การแสดงขั้นตอนการแกป้ ัญหาทำไดโ้ ดย - การทำงาน หรือ การแกป้ ญั หา การเขยี น บอกเลา่ วาดภาพ หรอื ใช้ อยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพ สญั ลักษณ์ สัญลกั ษณ์ หรอื ข้อความ - ปญั หาอย่างงา่ ย เช่น เกมเขาวงกต เกมหา จุดแตกตา่ งของภาพ การจัดหนงั สือใส่กระเป๋า
19 ชัน้ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ ท้องถิ่น ว 4.2 ป 1/3 เขยี นโปรแกรม - การเขยี นโปรแกรมเป็นการสร้างลำดับของ - อย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื คำสงั่ ให้คอมพิวเตอรท์ ำงาน สือ่ - ตวั อย่างโปรแกรม เชน่ เขยี นโปรแกรมสงั่ ให้ ตัวละครย้ายตำแหนง่ ย่อขยายขนาด เปลย่ี นรูปร่าง - ซอฟตแ์ วร์ หรือสื่อที่ใชใ้ นการเขยี น โปรแกรม เช่น ใชบ้ ัตรคำสัง่ แสดงการเขยี น โปรแกรม, Code.org ป.1 ว 4.2 ป 1/4ใช้เทคโนโลยีในการ - การใชง้ านอุปกรณ์เทคโนโลยเี บื้องตน้ เช่น - - สรา้ ง จัด เก็บ เรียกใชข้ ้อมลู ตาม การใชเ้ มาส์ คียบ์ อรด์ จอสมั ผัส การเปิด-ปิด วตั ถปุ ระสงค์ อปุ กรณ์เทคโนโลยี -การใช้งานซอฟตแ์ วร์เบื้องต้น เชน่ การเขา้ และออกจากโปรแกรม การสรา้ งไฟล์ การ จัดเก็บ การเรียกใชไ้ ฟล์ ทำได้ในโปรแกรม เช่น โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนำเสนอ -การสร้างและจัดเก็บไฟลอ์ ยา่ งเปน็ ระบบจะ ทำใหเ้ รียกใช้ ค้นหำขอ้ มูลได้ง่ายและรวดเรว็ ว 4.2 ป 1/5ใชเ้ ทคโนโลยี - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั สารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติ เช่น รจู้ กั ขอ้ มูลสว่ นตวั อันตรายจากการ ตามข้อตกลงในการใช้ เผยแพร่ข้อมลู ส่วนตวั และไม่บอกข้อมูล คอมพิวเตอรร์ ่วมกัน ดูแลรักษา ส่วนตัวกับบคุ คลอ่ืนยกเวน้ ผ้ปู กครอง หรือครู อุปกรณ์เบอ้ื งตน้ ใช้งานอย่าง แจ้งผเู้ กยี่ วขอ้ งเมื่อต้องการ ความช่วยเหลือ เหมาะสม เกยี่ วกบั การใชง้ าน - ข้อปฏิบตั ใิ นการใชง้ านและการดูแลรักษา อปุ กรณ์ เชน่ ไมข่ ดี เขียนบนอุปกรณ์ ทำความ สะอาด ใช้อปุ กรณอ์ ยา่ งถกู วธิ ี - การใชง้ านอยา่ งเหมาะสม เชน่ จัดทา่ นงั่ ให้ ถกู ต้อง การพกั สายตาเมือ่ ใชอ้ ปุ กรณ์เปน็ เวลานาน ระมดั ระวงั อุบตั เิ หตจุ ากการใชง้ าน
20 โครงสรา้ งรายวชิ า ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 เวลา 80 ช่วั โมง / ปี รหัสวิชา ว 11101 ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ เน้อื หา จำนวน น้ำหนัก 1. ตวั เรา พืชและสัตว์ ตวั ชี้วัด (ชว่ั โมง) คะแนน 2. พืชและสตั ว์ใน ว 1.1 ป1/1 -พืชและสัตว์ท่อี าศยั อยู่บริเวณต่างๆ ทอ้ งถิ่น ว 1.1 ป1/2 -สภาพแวดลอ้ มทีเ่ หมาะสมกับการดำรงชีวติ ของสัตว์ 12 10 ในบริเวณท่อี าศยั อยู่ 12 10 3. วัสดแุ ละการเกดิ ว 1.2 ป1/1 -ลกั ษณะและหนา้ ท่ขี องสว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย เสยี ง มนษุ ย์ สตั วแ์ ละพชื 18 10 4. หนิ และท้องฟ้า ว 1.2 ป1/2 -การทำหนา้ ทรี่ ่วมกนั ของส่วนตา่ งๆของร่างกาย 18 10 มนุษยใ์ นการทำกิจกรรมต่างๆ 5. วทิ ยาการคำนวณ ว 2.1 ป1/1 -ความสำคญั ของส่วนต่างๆของรา่ งกายตนเอง และ 20 20 การดูแลส่วนต่างๆอย่างถูกตอ้ งใหป้ ลอดภยั รวม ว 2.1 ป1/2 -สมบตั ทิ ่ีสังเกตไดข้ องวัสดทุ ่ใี ช้ทำวัตถุ ซ่ึงทำจากวัสดุ 80 60 ว 2.3 ป1/1 ชนดิ เดียวหรอื หลายชนดิ ประกอบกัน ว 3.1 ป1/1 -ชนดิ ของวสั ดุและจัดกลุ่มวัสดตุ ามสมบตั ทิ ส่ี งั เกตได้ -การเกิดเสียงและทิศทางการเคลื่อนท่ีของเสยี ง ว 3.1 ป1/2 -ดาวท่ปี รากฏบนท้องฟ้าในเวลากลางวนั และ กลางคืน ว 3.2 ป1/1 -สาเหตทุ ม่ี องไมเ่ หน็ ดาวส่วนใหญ่ในเวลากลางวัน ว 4.2 ป1/1 -ลักษณะภายนอกของหิน ว 4.2 ป1/2 -การแก้ปญั หาอย่างงา่ ยโดยใช้การลองผดิ ลองถูก การเปรียบเทียบ ว 4.2 ป1/3 -ขน้ั ตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดย ใช้ภาพ สญั ลักษณ์ หรือข้อความ ว 4.2 ป1/4 -การเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรอื สื่อ ว 4.2 ป1/5 -การใชเ้ ทคโนโลยใี นการสรา้ ง จัดเก็บ เรยี กใช้ข้อมูล 15 -การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย และ ดูแลรกั ษาอปุ กรณเ์ บอ้ื งตน้
21 60 10 คะแนนระหว่างเรียน 30 คะแนนสอบกลางปี 100 คะแนนสอบปลายปี รวมคะแนนท้ังปี
22 คำอธิบายรายวชิ า ว 12101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 80 ช่ัวโมง ............................................................................................................................. ................................................. ศึกษา วิเคราะห์ ความต้องการแสงและน้ำเพ่ือการเจริญเติบโตของพืช วัฏจักรชีวิตของพืชดอก ลกั ษณะของส่ิงมีชีวิตและส่ิงไม่มีชีวิต สมบัตขิ องวัสดุ สมบัติท่ีสงั เกตได้ของวัสดุที่เกิดจากการนำวัสดุมาผสมกัน และการนำสมบัติของวัสดุไปประยุกต์ใช้ในการทำวัตถุในชีวิตประจำวัน ประโยชน์ของการนำวัสดุท่ีใช้แล้ว กลับมาใช้ใหม่ การเคล่ือนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิดแสง การมองเห็นวัตถุ อันตรายจากการมองวัตถุท่ีอยู่ใน บริเวณท่ีมีแสงสว่างไม่เหมาะสม โดยเสนอแนะแนวทางการป้องกันอนั ตราย ส่วนประกอบของดิน ชนิดของดิน โดยใชล้ ักษณะเนอ้ื ดินและการจับตัวเปน็ เกณฑ์ การใช้ประโยชนจ์ ากดิน โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจ ตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมูล การเปรียบเทยี บข้อมูลจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ การอธิบาย อภิปราย และการสร้างแบบจำลอง เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงท่ี เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรอื การแกป้ ญั หาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลกั ษณ์ หรือขอ้ ความ การเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรือสือ่ การใชเ้ ทคโนโลยใี นการสร้าง จดั หมวดหมู่ คน้ หา จดั เก็บ เรียกใชข้ ้อมูล การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และดูแลรกั ษาอปุ กรณ์เบอ้ื งต้น ใช้ งานงานอย่างเหมาะสม รหสั ตัวชี้วัด มาตรฐาน ว 1.2 ป.2/1, ป.2/2 , ป.2/3 มาตรฐาน ว 1.3 ป.2/1 มาตรฐาน ว 2.1 ป.2/1, ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 มาตรฐาน ว 2.3 ป.2/1 , ป.2/2 มาตรฐาน ว 3.2 ป.2/1 , ป.2/2 วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) มาตรฐาน ว 4.2 ป.2/1 , ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 รวม 16 ตวั ชีว้ ดั
23 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลางและสาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสมั พันธร์ ะหว่างส่ิงไม่มีชวี ิตกบั สิง่ มชี วี ิตและ ความสัมพันธ์ระหวา่ งสง่ิ มีชีวิตกับส่งิ มชี วี ิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถา่ ยทอดพลังงาน การ เปลยี่ นแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อ ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแกไ้ ข ปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มรวมทั้งนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ช้นั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น -- - - สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 ขา้ ใจสมบตั ิของสิง่ มีชีวติ หนว่ ยพื้นฐานของสง่ิ มีชวี ติ การลำเลยี งสารผ่านเซลล์ความสัมพันธ์ ของโครงสรา้ ง และหนา้ ที่ของระบบต่าง ๆ ของสตั วแ์ ละมนุษย์ท่ีทำงานสมั พนั ธ์กัน ความสมั พนั ธ์ของโครงสรา้ ง และหนา้ ทขี่ องอวยั วะต่าง ๆ ของพชื ที่ทำงานสัมพันธก์ ันรวมทั้ง นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ ช้นั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการ เรียนรูท้ อ้ งถิ่น ป.2 ว 1.2 ป 2/1 ระบุวา่ พชื - พืชตอ้ งการน้ำ แสง เพ่ือการเจรญิ เติบโต - พืชจากแหลง่ ต้องการแสงและน้ำเพ่ือ ต่าง ๆ ใน การเจรญิ เติบโต โดยใช้ ท้องถ่ิน ข้อมลู จากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ว 1.2 ป 2/2 ตระหนัก ถึงความจำเป็นท่พี ชื ต้อง ได้รับนำ้ และแสงเพ่ือ การเจรญิ เตบิ โต โดย ดแู ลพืชใหไ้ ด้ รบั สิง่ ดงั กลา่ วอย่างเหมาะสม ว 1.2 ป 2/3 สร้าง - พืชดอกเม่ือเจรญิ เติบโตและมดี อก ดอกจะมี การสบื พันธ์ุ แบบจำลองที่ เปลี่ยนแปลงไปเป็นผล ภายในผลมีเมล็ด เมือ่ เมล็ดงอก ตน้ อ่อน บรรยายวัฏจกั รชวี ิตของ ทอี่ ย่ภู ายในเมลด็ จะเจริญ เติบโตเปน็ พืชตน้ ใหม่ พชื ต้นใหมจ่ ะ
ช้ัน ตวั ชี้วดั 24 สาระการ พืชดอก สาระการเรียนร้แู กนกลาง เรยี นร้ทู อ้ งถ่ิน เจริญเติบโต ออกดอกเพื่อสืบพันธม์ุ ีผลต่อไปได้อกี หมนุ เวียน ตอ่ เน่อื งเปน็ วฏั จักรชวี ติ ของพืชดอก สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลย่ี นแปลงทางพันธุกรรมท่ีมผี ลต่อสง่ิ มชี วี ติ ความหลากหลายทางชีวภาพและ ววิ ัฒนาการของสง่ิ มีชีวิต รวมท้ังนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ ชัน้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ ป.2 ว 1.3 ป 2/1เปรยี บเทียบ - ส่งิ ทีอ่ ยู่รอบตวั เรามีทัง้ ทเี่ ปน็ สิ่งมชี วี ติ และ -สง่ิ มีชวี ติ และ ลกั ษณะของสงิ่ มชี ีวติ และ สงิ่ ไม่มีชีวติ ส่ิงมชี ีวติ ต้องการอาหาร มีการ สิง่ ไม่มชี ีวติ ในท้องถน่ิ ส่งิ ไม่มีชีวิต จากข้อมูลที่ หายใจ เจริญเตบิ โต ขับถา่ ย เคลอ่ื นไหว บริเวณตา่ ง ๆ รวบรวมได้ ตอบสนองตอ่ ส่งิ เรา้ และสบื พันธไุ์ ดล้ ูกท่ีมี ลักษณะคล้ายคลึงกบั พอ่ แม่ สว่ นส่ิงไม่มีชวี ิต จะไม่มีลกั ษณะดังกล่าว สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะ ของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ ทอ้ งถิ่น ป.2 ว 2.1 ป 2/1 เปรยี บเทียบ - วสั ดแุ ต่ละชนดิ มสี มบัตกิ ารดูดซบั น้ำ - สมบัตกิ ารดูดซับน้ำของวัสดุโดย แตกตา่ งกนั จึงนำไปทำวตั ถุเพอ่ื ใช้ ใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ และ ประโยชนไ์ ด้แตกต่างกัน เชน่ ใช้ผ้ำทดี่ ูด ระบกุ ารนำสมบัติการดูดซับน้ำ ซับน้ำไดม้ ากทำผ้ำเชด็ ตัว ใช้พลาสติก ซงึ่ ของวสั ดไุ ปประยุกต์ใช้ ในการ ไม่ดดู ซบั น้ำทำรม่ ทำวตั ถใุ นชวี ิตประจำวัน ว 2.1 ป 2/2 อธิบายสมบตั ทิ ่ี - วสั ดุบางอย่างสามาถนำมาผสมกันซึง่ ทำ - สังเกตได้ของวสั ดุทีเ่ กิดจากการ ให้ได้สมบตั ิทเ่ี หมาะสมเพ่ือนำไปใช้ นำวสั ดมุ าผสมกัน โดยใช้ ประโยชน์ตามตอ้ งการ เช่น แป้งผสม หลักฐานเชิงประจกั ษ์ นำ้ ตาลและน้ำกะทิ ใชท้ ำขนมไทย ปนู
25 ชัน้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ ท้องถน่ิ ปลาสเตอร์ผสมเยื่อกระดาษใชท้ ำกระปุก ออมสิน ปนู ผสมหิน ทราย และนำ้ ใช้ทำ คอนกรีต ว 2.1 ป 2/3 เปรยี บเทียบ - การนำวสั ดุมาทำเป็นวัตถใุ นการใช้งาน สมบัติท่สี งั เกตได้ของวัสดุ เพื่อ ตามวัตถปุ ระสงค์ขึน้ อย่กู ับสมบตั ิของวัสดุ นำมาทำเปน็ วตั ถุในการใชง้ าน วัสดทุ ่ีใชแ้ ลว้ อาจนำกลบั มาใช้ใหมไ่ ด้ เช่น ตามวตั ถปุ ระสงค์ และอธิบาย กระดาษใชแ้ ล้ว อาจนำมาทำเปน็ จรวด การนำวสั ดทุ ใ่ี ช้แล้วกลบั มาใช้ กระดาษ ดอกไมป้ ระดิษฐ์ ถุงใสข่ อง เป็น ใหม่โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจักษ์ ตน้ ป.2 ว 2.1 ป 2/4ตระหนักถึง - วสั ดใุ นท้องถนิ่ ท่ี ประโยชนข์ องการนำวสั ดุท่ีใช้ สามารถนำมาใช้ แลว้ กลับมาใช้ใหม่ โดยการนำ ประโยชน์ได้ วัสดุที่ใชแ้ ลว้ กลบั มาใช้ใหม่ สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ติ ประจาวนั ผลของแรงทกี่ ระทำต่อวตั ถุ ลักษณะการเคล่ือนที่ แบบตา่ ง ๆ ของวัตถุ รวมท้งั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ชนั้ ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ ท้องถิ่น ป.2 ว 2.2 ป 2/1 ทดลองและอธิบาย - แมเ่ หลก็ มแี รงดึงดดู หรอื ผลักระหว่าง - แรงท่ีเกิดจากแมเ่ หล็ก แทง่ แม่เหล็ก รอบแท่งแมเ่ หลก็ มี สนามแมเ่ หล็กและสามารถดงึ ดดู วัตถุท่ี ทำด้วยสารแม่เหล็ก ว 2.2 ป 2/2 อธิบายการนำ - แมเ่ หล็กมีประโยชน์ในการทำของ - แม่เหลก็ มาใชป้ ระโยชน์ เล่น ของใช้ และนำไปแยกสาร แมเ่ หลก็ ออกจากวัตถุอน่ื ได้ ว 2.2 ป 2/3 ทดลองและอธบิ าย - เมือ่ ถวู ตั ถุบางชนิดแลว้ นำเข้าใกลก้ ัน - แรงไฟฟ้าท่ีเกิดจากการถวู ัตถุบาง จะดงึ ดดู หรือผลกั กนั ได้ แรงท่ีเกดิ ข้ึนนี้ ชนดิ เรียกว่าแรงไฟฟ้า และวตั ถนุ ้นั จะดึงดูด วตั ถุเบา ๆได้
26 สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ มั พันธ์ ระหวา่ งสสารและพลังงาน พลงั งานในชีวติ ประจำวัน ธรรมชาติของคล่นื ปรากฏการณ์ที่ เกยี่ วข้องกับเสียง แสง และคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ ทอ้ งถ่ิน ป.2 ว 2.3 ป 2/1 บรรยาย - แสงเคล่อื นท่จี ากแหลง่ กำเนิดแสงทกุ ทิศทาง แนวการเคลื่อนท่ีของ เป็นแนวตรง เม่ือมแี สงจากวัตถุมาเขา้ ตาจะทำให้ แสงจากแหลง่ กำเนดิ แสง มองเหน็ วตั ถนุ ้นั การมองเหน็ วตั ถทุ เ่ี ป็น และอธบิ ายการมองเหน็ แหล่งกำเนดิ แสง แสงจากวตั ถนุ น้ั จะเข้าสู่ตา วัตถจุ ากหลกั ฐานเชิง โดยตรงส่วนการมองเหน็ วัตถุท่ไี ม่ใช่แหล่งกำเนิด ประจักษ์ แสง ตอ้ งมีแสงจากแหลง่ กำเนิดแสงไป ว 2.3 ป 2/2 ตระหนัก กระทบวัตถุแลว้ สะท้อนเข้าตา ถ้ามแี สงทีส่ วา่ ง ในคณุ ค่าของความรู้ของ มาก ๆ เข้าสู่ตาอาจเกดิ อันตรายตอ่ ตาได้ จงึ ตอ้ ง การมองเห็นโดย หลีกเลย่ี งการมองหรือใชแ้ ผน่ กรองแสงทม่ี ี เสนอแนะแนวทางการ คุณภาพเมื่อจำเป็น และต้องจัดความสว่างให้ ปอ้ งกนั อันตราย จาก เหมาะสมกับ การทำกจิ กรรมต่าง ๆ เช่น การ การมองวัตถุที่อยใู่ น อ่านหนงั สือ การดจู อโทรทศั น์ การใช้โทรศพั ท์ บรเิ วณท่มี ีแสงสวา่ ง ไม่ เคล่อื นทีแ่ ละแทบ็ เล็ต เหมาะสม สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสรุ ยิ ะ รวมทั้งปฏสิ ัมพนั ธ์ภายในระบบสรุ ิยะท่สี ง่ ผลต่อส่ิงมชี ีวิตและการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ ชน้ั ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ -- - -
27 สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก และบนผวิ โลก ธรณพี ิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลกรวมทั้ง ผลตอ่ ส่งิ มีชวี ิตและสิง่ แวดล้อม ชัน้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่ ป.2 ว 2.3 ป 2/1 ระบสุ ่วนประกอบ - ดนิ ประกอบด้วยเศษหนิ ซากพืช - ลกั ษณะของดินจากแหลง่ ของดนิ และจำแนกชนดิ ของดิน ซากสตั วผ์ สมอยู่ในเนื้อดนิ มีอากาศ ต่าง ๆ โดยใช้ลกั ษณะเน้ือดนิ และการ และน้ำแทรกอยู่ตามชอ่ งวา่ ง ในเนื้อ - ดนิ ในทอ้ งถนิ่ และการ จับตวั เปน็ เกณฑ์ ดนิ ดนิ จำแนกเปน็ ดินร่วน ดิน นำไปใช้ประโยชน์ ว 2.3 ป 2/2อธิบายการใช้ เหนยี ว และ ดนิ ทราย ตามลักษณะ ประโยชนจ์ ากดิน จากข้อมลู ที่ เนื้อดินและการจับตัวของดนิ ซงึ่ มผี ล รวบรวมได้ ตอ่ การอุม้ นำ้ ท่แี ตกต่างกัน - ดนิ แต่ละชนดิ นำไปใช้ประโยชน์ได้ แตกตา่ งกนั ตามลักษณะและสมบัติ ของดิน สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพ่อื การดำรงชีวิตในสงั คมที่มีการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรแู้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สังคม และสงิ่ แวดล้อม ชัน้ ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถิ่น -- - -
28 สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปญั หาทีพ่ บในชวี ิตจริงอย่างเปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ชั้น ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ ทอ้ งถนิ่ ป.2 ว 4.2 ป 2/1 แสดงลำดบั ข้ันตอน - การแสดงข้ันตอนการแกป้ ญั หาทำได้โดยการ - การทำงาน หรือ การแก้ปัญหา เขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรอื ใชส้ ญั ลกั ษณ์ อย่างงา่ ยโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ - ปัญหาอยา่ งงา่ ย เช่น เกมตัวตอ่ หรอื ขอ้ ความ 6-12 ชน้ิ การแต่งตวั มาโรงเรียน ว 4.2 ป 2/2 เขียนโปรแกรม - ตัวอย่างโปรแกรม เชน่ เขียนโปรแกรมสัง่ ให้ อยา่ งงา่ ย โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือ ตัวละครทำงานตามท่ีต้องการ และตรวจสอบ ส่อื และตรวจหาข้อผิดพลาดของ ขอ้ ผิดพลาด ปรบั แก้ไขให้ไดผ้ ลลัพธ์ตามที่ โปรแกรม กำหนด - การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดทำไดโ้ ดยตรวจสอบ คำสง่ั ที่แจ้งข้อผดิ พลาด หรือหากผลลพั ธ์ไม่ เป็นไปตามทตี่ ้องการให้ตรวจสอบการทำงานที ละคำส่งั ซอฟต์แวร์ หรือส่อื ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น ใชบ้ ตั รคำสง่ั แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org ว 4.2 ป 2/3 ใช้เทคโนโลยใี นการ - การใช้งานซอฟต์แวร์เบอื้ งต้น เชน่ การเข้า สรา้ ง จดั หมวดหมู่ คน้ หา จดั เกบ็ และออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การ เรียกใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ จดั เกบ็ การเรียกใช้ไฟล์ กรแก้ไขตกแต่งเอกสาร ทำได้ ในโปรแกรม เช่น โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนำเสนอ - การสร้าง คดั ลอก ย้าย ลบ เปล่ยี นช่อื จัด หมวดหมู่ไฟล์และโฟลเดอร์อย่างเป็นระบบจะ ทำให้เรียกใช้ คน้ หำขอ้ มูลไดง้ ่ายและรวดเรว็ ป.2 ว 4.2 ป 2/4 ใช้เทคโนโลยี - การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏิบัติ เช่น รู้จกั ข้อมูลส่วนตวั อนั ตรายจากการ ตามข้อตกลงในการใช้ เผยแพรข่ ้อมลู ส่วนตวั และไม่บอกข้อมลู ส่วนตัว
29 ช้ัน ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ ท้องถิน่ คอมพิวเตอรร์ ่วมกัน ดแู ลรักษา กบั บคุ คลอื่นยกเวน้ ผู้ปกครอง หรอื ครู แจง้ อปุ กรณ์เบื้องตน้ ใชง้ านอย่าง ผเู้ กย่ี วข้องเม่ือต้องการ ความช่วยเหลอื เกี่ยวกบั เหมาะสม การใช้งาน - ข้อปฏบิ ัตใิ นการใช้งานและการดแู ลรกั ษา อุปกรณ์ เช่น ไม่ขดี เขยี นบนอุปกรณ์ ทำความ สะอาด ใช้อปุ กรณ์อยา่ งถูกวธิ ี - การใชง้ านอยา่ งเหมาะสม เชน่ จดั ท่าน่งั ให้ ถูกต้อง การพักสายตาเมือ่ ใชอ้ ุปกรณ์เปน็ เวลานาน ระมัดระวงั อุบตั ิเหตุจากการใช้งาน
30 โครงสร้างรายวิชา รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 รหัสวิชา ว12101 เวลา 80 ชวั่ โมง / ปี ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ เนื้อหา จำนวน นำ้ หนัก 1. วัฏจักรชีวติ ของพชื ตัวชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน ดอก ว 1.2 ป2/1 -พชื ต้องการแสงและนำ้ เพ่ือการเจรญิ เตบิ โต 2. สิ่งมชี วี ิตและ ว 1.2 ป2/2 -ความจำเป็นทพ่ี ชื ต้องได้รบั น้ำและแสงเพ่ือ 14 14 ส่งิ ไมม่ ชี ีวติ ว 1.2 ป2/3 การเจริญเติบโต 8 5 3. ธรรมชาตขิ องสสาร ว 1.3 ป2/1 -วฎั จกั รชีวติ ของพืชดอก 18 15 ว 2.1 ป2/1 -ลกั ษณะของส่งิ มีชีวติ และสิง่ ไม่มชี วี ิต 4. แสงและการเคลื่อนที่ 10 8 ว 2.1 ป2/2 -สมบตั กิ ารดูดซบั น้ำของวัสดุ และการนำ 10 8 5. ดนิ ว 2.1 ป2/3 สมบตั กิ ารดดู ซับน้ำของวัสดไุ ปประยกุ ต์ใช้ ในการทำวตั ถุในชวี ิตประจำวัน ว 2.1 ป2/4 -สมบตั ิที่สงั เกตได้ของวสั ดุทเี่ กดิ จากการนำ ว 2.3 ป2/1 วัสดมุ าผสมกนั ว 2.3 ป2/2 -สมบัตทิ ่สี งั เกตไดข้ องวสั ดเุ พ่ือนำมาทำเป็น ว 3.2 ป2/1 วตั ถใุ นการใช้งาน และการนำวัสดทุ ใี่ ชแ้ ล้ว ว 3.2 ป2/2 กลบั มาใช้ใหม่ -ประโยชน์ของการนำวัสดุท่ใี ชแ้ ลว้ กลับมา ใชใ้ หม่ แสงและการเคล่ือนทขี่ องแสงจาก แหลง่ กำเนดิ แสง -การมองเหน็ วตั ถแุ ละอนั ตรายจากการมอง วัตถทุ ีอ่ ยู่ในบริเวณทม่ี ีแสงสวา่ งไม่เหมาะสม -สว่ นประกอบของดิน และจำแนกชนดิ ของ ดินโดยใชล้ ักษณะเนือ้ ดินและการจับตัวเปน็ เกณฑ์ -การใช้ประโยชน์จากดิน
31 ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ เน้อื หา จำนวน น้ำหนัก 6. วิทยาการคำนวณ ตวั ชี้วดั (ช่ัวโมง) คะแนน รวม ว 4.2 ป2/1 -ข้นั ตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างงา่ ย 20 10 โดยใชภ้ าพ สัญลักษณ์ หรอื ข้อความ 80 60 60 ว 4.2 ป2/2 -การเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ 10 30 หรอื ส่อื 100 ว 4.2 ป2/3 -การใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง จัดหมวดหมู่ คน้ หา จัดเกบ็ และเรยี กใช้ข้อมูล ว 4.2 ป/4 -การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และดแู ลรักษาอุปกรณ์เบื้องต้น 15 คะแนนระหว่างเรยี น คะแนนสอบกลางปี คะแนนสอบปลายปี รวมคะแนนทั้งปี
32 คำอธิบายรายวิชา ว 13101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 80 ช่ัวโมง ............................................................................................................................. ................................................. ศึกษา วเิ คราะห์ ส่ิงท่จี ำเป็นต่อการดำรงชวี ติ การเจริญเติบโตของมนษุ ยแ์ ละสัตว์ ประโยชน์ ของอาหาร น้ำ และอากาศ การดูแลตนเองและสัตว์อย่างเหมาะสม วัฏจักรชีวิตของสัตว์และคุณค่าของสัตว์ ส่วนประกอบของวัตถุ การเปลี่ยนแปลงของวัสดุเม่ือทำให้ร้อนขึ้นหรือทำให้เย็นลง แรงทม่ี ีต่อการเปลี่ยนแปลง การเคล่ือนที่ของวัตถุ แรงสัมผัสและแรงไม่สัมผัส แรงกับการเคล่ือนที่ของวัตถุ การดึงดูดระหว่างแม่เหล็กกับ วัตถุ ข้ัวแม่เหล็ก การเปล่ียนพลังงาน การทำงานของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้า และแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า ประโยชน์และโทษของไฟฟ้า วิธีการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัย เส้นทางการขึ้นและตกของดวง อาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืน การกำหนดทิศ ความสำคัญของดวงอาทิตย์ต่อสิ่งมีชีวิต ส่วนประกอบของ อากาศ ความสำคัญของอากาศ ผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อส่ิงมีชีวิต การปฏิบัติตนในการลดมลพิษ ทางอากาศ การเกิดลม ประโยชน์และโทษของลม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ การอธิบาย อภิปราย และการสร้างแบบจำลอง เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถ ในการตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ เหมาะสม ใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา แสดงอลั กอริทึมในการทำงาน แกป้ ัญหาอย่างงา่ ย โดยใชภ้ าพ สญั ลักษณ์หรือข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างงา่ ยโดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรือสอ่ื ตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข ใช้ อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ รหสั ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ว 1.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 , ป.3/4 มาตรฐาน ว 2.1 ป.3/1 , ป.3/2 มาตรฐาน ว 2.2 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3, ป.3/4 มาตรฐาน ว 2.3 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 มาตรฐาน ว 3.1 ป.3/1 , ป.3/2 , ป.3/3 มาตรฐาน ว 3.2 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3 , ป.3/4 วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) มาตรฐาน ว 4.2 ป.3/1 , ป.3/2, ป.3/3 , ป.3/4, ป3/5 รวม 25 ตัวช้วี ัด
33 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลางและสาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่งิ ไม่มีชวี ิตกับสิ่งมีชีวิตและ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างสิ่งมชี วี ิตกบั สิ่งมีชีวติ ต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถา่ ยทอดพลงั งาน การ เปล่ยี นแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปญั หาและผลกระทบท่ีมีตอ่ ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการแก้ไข ปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มรวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ชัน้ ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่ -- -- สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบตั ิของสิ่งมีชีวติ หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวติ การลำเลียงสารผา่ นเซลล์ความสัมพันธ์ ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ทที่ ำงานสมั พันธ์กนั ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ท่ขี องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ที่ทางานสมั พันธก์ นั รวมทั้งนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น ป.3 ว 1.2 ป 3/1 บรรยายสิ่งที่จำเปน็ - มนุษยแ์ ละสัตวต์ ้องการอาหาร น้ำ - การดำรงชวี ิตและการ ตอ่ การดำรงชวี ติ และการ และอากาศ เพอ่ื การดำรงชีวติ และ เจรญิ เตบิ โตของส่ิงมีชีวิต เจรญิ เติบโตของมนษุ ย์และสตั ว์ การเจรญิ เติบโต ในท้องถ่นิ โดยใช้ขอ้ มลู ทร่ี วบรวมได้ ว 1.2 ป 3/2 ตระหนกั ถึง - อาหารชว่ ยให้ร่างกายแข็งแรงและ - ประโยชน์ของอาหาร นำ้ และ เจรญิ เติบโต นำ้ ชว่ ยใหร้ ่างกาย อากาศ โดยการดูแลตนเองและ ทำงานได้อย่างปกติ อากาศใช้ ใน สัตวใ์ ห้ได้รบั สง่ิ เหลา่ นอี้ ย่าง การหายใจ เหมาะสม ว 1.2 ป 3/3 สร้างแบบจำลองท่ี - สตั ว์เม่ือเป็นตัวเต็มวัยจะสบื พนั ธมุ์ ี - บรรยายวัฏจักรชวี ิต ของสัตว์ ลกู เม่อื ลูกเจริญเติบโตเปน็ ตัวเต็มวัย และเปรยี บเทยี บวฏั จกั รชีวิตของ ก็สบื พันธ์ุมลี กู ต่อไปได้อีกหมุนเวยี น สัตว์ บางชนดิ ตอ่ เนอ่ื งเปน็ วัฏจกั รชวี ติ ของสัตว์ ซ่งึ ว 1.2 ป ¾ ตระหนกั ถึงคณุ ค่า สตั ว์ แตล่ ะชนดิ เชน่ ผีเสอื้ กบ ไก่ - ของชีวติ สตั ว์ โดยไมท่ ำให้วัฏจกั ร มนุษย์จะมวี ฏั จกั รชีวิตทเ่ี ฉพาะ และ ชีวติ ของสัตว์เปลย่ี นแปลง แตกตา่ งกัน
34 สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม สารพันธกุ รรม การเปลย่ี นแปลงทางพันธุกรรมทม่ี ผี ลตอ่ สงิ่ มีชวี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและ ววิ ฒั นาการของสิ่งมชี วี ติ รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ชัน้ ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ ทอ้ งถิ่น -- -- สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสมบตั ิของสสารกับ โครงสรา้ งและแรงยึดเหนีย่ วระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาตขิ องการเปลย่ี นแปลงสถานะ ของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี ชั้น ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ ทอ้ งถิ่น ป.3 ว 2.1 ป 3/1อธบิ ายว่าวัตถุ - วัตถอุ าจทำจากชน้ิ สว่ นย่อย ๆ - ประกอบข้ึนจากชิ้นส่วนยอ่ ย ๆ ซ่งึ ซง่ึ แตล่ ะช้ินมีลักษณะเหมือนกันมาประกอบ สามารถแยกออกจากกนั ไดแ้ ละ เข้าด้วยกนั เม่ือแยกชิ้นสว่ นย่อย ๆ แต่ละช้นิ ประกอบกนั เปน็ วตั ถุช้นิ ใหมไ่ ด้ โดย ของวัตถุออกจากกนั สามารถนำชิน้ สว่ น ใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ เหล่านั้นมาประกอบเป็นวตั ถุชิ้นใหมไ่ ด้ เชน่ กำแพงบา้ นมีกอ้ นอิฐหลาย ๆ ก้อน ประกอบ เข้าด้วยกัน และสามารถนำก้อนอฐิ จากำแพง บา้ นมาประกอบเปน็ พน้ื ทางเดินได้ ว 2.1 ป 3/2 อธบิ ายการ - เมื่อให้ความร้อนหรือทำให้วัสดุรอ้ นขน้ึ และ - เปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อทำใหร้ อ้ น เม่ือ ลดความร้อนหรือทำให้วัสดุเย็นลง วสั ดุ ขนึ้ หรอื ทำให้เย็นลง โดยใช้ จะเกิด การเปลีย่ นแปลงได้ เช่น สเี ปลี่ยน หลกั ฐานเชิงประจักษ์ รปู รา่ งเปล่ียน ว 2.2 ป 3/1 ระบุผลของแรงทม่ี ตี ่อ - การดงึ หรือการผลกั เปน็ การออกแรง การเปล่ียนแปลง การเคลอ่ื นทีข่ อง กระทำต่อวตั ถุ แรงมผี ลต่อการเคลื่อนท่ีของ วัตถุจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ วตั ถุ แรงอาจทำให้วัตถุเกดิ การเคลื่อนทโ่ี ดย เปลี่ยนตำแหนง่ จากท่หี นึง่ ไปยงั อกี ท่ีหน่งึ - - การเปล่ียนแปลงการเคลือ่ นที่ของวัตถุ ไดแ้ ก่ วัตถุที่อยู่นิ่งเปลี่ยนเป็นเคลอื่ นที่ วัตถุทกี่ ำลัง เคลือ่ นทเี่ ปลยี่ นเป็นเคลือ่ นท่ีเร็วขึน้ หรือชำ้ ลง หรือหยุดนิ่ง หรือเปลยี่ นทิศทางการเคล่ือนท่ี
35 สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชวี ติ ประจำวนั ผลของแรงทีก่ ระทาต่อวัตถุ ลักษณะการเคลือ่ นท่ี แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ชน้ั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการ เรียนรทู้ อ้ งถิ่น ป.3 ว 2.2 ป 3/1 ระบผุ ลของ - การดึง หรอื การผลัก เปน็ การออกแรงกระทำตอ่ วัตถุ แรง - แรงทม่ี ีต่อการ มผี ลต่อการเคลือ่ นที่ของวัตถุ แรงอาจทำใหว้ ัตถุเกิดการ เปลยี่ นแปลง การ เคล่ือนทีโ่ ดยเปลีย่ นตำแหน่งจากทห่ี นงึ่ ไปยังอีกท่ีหน่งึ - - เคล่ือนท่ีของวตั ถจุ าก การเปล่ยี นแปลงการเคลื่อนท่ีของวัตถุ ได้แก่ วตั ถทุ ่ีอย่นู ง่ิ หลักฐานเชิงประจักษ์ เปลยี่ นเปน็ เคลื่อนท่ี วัตถุที่กำลงั เคลื่อนท่ีเปล่ียนเป็น เคลอ่ื นทีเ่ ร็วข้ึนหรือชำ้ ลงหรือหยดุ นิง่ หรือเปลยี่ นทศิ ทางการเคล่ือนท่ี ว 2.2 ป 3/2เปรียบเทยี บ การดึงหรือการผลักเปน็ การออกแรงที่เกดิ จากวัตถุหน่งึ และยกตวั อยา่ งแรงสัมผัส กระทำกบั อกี วัตถุหนงึ่ โดยวตั ถุทง้ั สองอาจสมั ผัสหรือไม่ต้อง และแรงไมส่ ัมผัสท่ีมผี ล สัมผสั กัน เชน่ การออกแรงโดยใชม้ ือดึงหรือการผลกั โต๊ะให้ ตอ่ การเคลื่อนท่ีของวตั ถุ เคลอ่ื นท่เี ป็นการออกแรงท่ีวตั ถุตอ้ งสัมผสั กัน แรงนจี้ งึ เป็น โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ แรงสมั ผสั สว่ นการท่ีแมเ่ หล็กดงึ ดดู หรอื ผลกั ระหว่าง ประจักษ์ แม่เหล็กเป็นแรงท่เี กดิ ขึ้นโดยแม่เหล็กไมจ่ ำเป็นต้องสมั ผัส กัน แรงแม่เหล็กนีจ้ ึงเปน็ แรงไม่สมั ผสั ว 2.2 ป 3/3 จำแนกวัตถุ - แมเ่ หลก็ สามารถดึงดดู สารแมเ่ หลก็ ได้ - โดยใชก้ ารดึงดูดกบั - แรงแมเ่ หลก็ เป็นแรงท่ีเกดิ ขึ้นระหว่างแม่เหล็ก กบั สาร แม่เหลก็ เป็นเกณฑ์จาก แม่เหลก็ หรอื แม่เหล็กกบั แม่เหลก็ แมเ่ หล็ก มี 2 ขว้ั คือ ข้วั หลักฐานเชิงประจกั ษ์ เหนอื และขวั้ ใต้ ข้ัวแมเ่ หล็กชนิดเดียวกนั จะผลักกนั ตา่ ง ว 2.2 ป 3/4 ระบุ ชนดิ กันจะดงึ ดดู กัน ขวั้ แมเ่ หลก็ และพยากรณ์ ผลท่ีเกิดขนึ้ ระหวา่ ง ขั้วแม่เหลก็ เม่ือนำมาเขา้ ใกล้กันจากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์
36 สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปล่ยี นแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏิสมั พนั ธ์ ระหว่างสสารและพลงั งาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาตขิ องคลืน่ ปรากฏการณ์ที่ เกย่ี วข้องกับเสยี ง แสง และคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้า รวมท้ังนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ชนั้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ ทอ้ งถิน่ ป.3 ว 2.3 ป 3/1 ยกตวั อย่าง - พลงั งานเปน็ ปรมิ าณท่แี สดงถึงความสามารถ ใน - การเปล่ียนพลงั งานหน่ึงไป การทำงาน พลังงานมหี ลายแบบ เช่น พลังงานกล เป็นอกี พลงั งานหนึง่ จาก พลังงานไฟฟา้ พลงั งานแสง พลังงานเสียง และ หลักฐานเชิงประจกั ษ์ พลังงานความร้อน โดยพลงั งานสามารถเปลย่ี น จากพลังงานหน่ึงไปเป็นอีกพลังงานหน่งึ ได้ เช่น การถูมือจนรสู้ กึ ร้อน เป็นการเปล่ยี นพลงั งานกล เป็นพลังงานความร้อน แผงเซลล์สรุ ยิ ะเปลี่ยน พลังงานแสง เป็นพลังงานไฟฟ้าหรือเครื่องใชไ้ ฟฟา้ เปล่ียนพลังงานไฟฟา้ เป็นพลงั งานอ่ืน ว 2.3 ป 3/2 บรรยายการ - ไฟฟ้าผลิตจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าซึ่งใช้พลังงาน - ทำงานของเคร่ืองกำเนดิ จากแหล่งพลังงานธรรมชาตหิ ลายแหลง่ เชน่ ไฟฟา้ และระบแุ หลง่ พลงั งานจากลม พลงั งานจากน้ำ พลังงานจากแก๊ส พลังงานในการผลิตไฟฟา้ ธรรมชำติ จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ ว 2.3 ป 3/3 ตระหนักใน - พลงั งานไฟฟา้ มคี วามสำคญั ตอ่ ชีวติ ประจำวนั - ประโยชนแ์ ละโทษของไฟฟ้า การใชไ้ ฟฟา้ นอกจากต้องใช้อยา่ งถกู วิธี ประหยัด โดยนำเสนอวธิ กี ารใชไ้ ฟฟ้า และคุ้มค่าแล้ว ยังตอ้ งคำนงึ ถึงความปลอดภัยดว้ ย อย่างประหยดั และ ปลอดภัย
37 สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และววิ ฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสรุ ิยะ รวมทัง้ ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุรยิ ะท่สี ่งผลต่อสง่ิ มชี ีวติ และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยอี วกาศ ช้นั ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ ทอ้ งถิน่ ป.3 ว 3.1 ป 3/1อธบิ ายแบบรูปเสน้ ทาง - คนบนโลกมองเหน็ ดวงอาทิตย์ - การขนึ้ และตก ของดวงอาทติ ย์โดย ปรากฏข้ึนทางด้านหน่งึ และตกทางอีก - ใชห้ ลักฐานเชิงประจกั ษ์ ด้านหนึง่ ทุกวัน หมนุ เวียนเป็นแบบรูป ซ้ำ ๆ - โลกกลมและหมนุ รอบตัวเองขณะ ว 3.1 ป 3/2 อธบิ ายสาเหตุการเกดิ โคจรรอบดวงอาทติ ย์ ทำใหบ้ ริเวณของ ปรากฏการณ์การขนึ้ และตกของดวง โลกได้รบั แสงอาทติ ย์ไม่พร้อมกนั โลก อาทิตย์ การเกดิ กลางวนั กลางคืน ดา้ นที่ไดร้ ับแสงจากดวงอาทิตยจ์ ะเปน็ กลางวัน สว่ นดา้ นตรงขา้ มที่ไมไ่ ด้รบั และการกำหนดทิศ โดยใช้ แสงจะเป็นกลางคนื นอกจากนค้ี นบน แบบจำลอง โลกจะมองเหน็ ดวงอาทิตย์ปรากฏข้ึน ว 3.1 ป 3/3 ตระหนักถึง - ความสำคัญของดวงอาทิตย์ โดย ทางดา้ นหนงึ่ ซ่งึ กำหนดให้เป็นทิศ บรรยายประโยชนข์ องดวงอาทติ ยต์ อ่ ตะวนั ออก และมองเห็นดวงอาทิตยต์ ก ทางอีกดา้ นหน่งึ ซึง่ กำหนดให้เป็นทศิ สงิ่ มชี วี ิต ตะวนั ตก และเม่ือใหด้ า้ นขวามืออยู่ ทางทิศตะวันออก ด้านซ้ายมืออยู่ทาง ทิศตะวันตก ด้านหนา้ จะเปน็ ทศิ เหนอื และด้านหลังจะเป็นทศิ ใต้ - ในเวลากลางวนั โลกจะได้รับพลังงาน แสงและพลังงานความร้อนจากดวง อาทติ ย์ ทำใหส้ ่ิงมีชวี ิตดำรงชีวติ อยู่ได้
38 สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสมั พนั ธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบตั ิภัย กระบวนการเปลย่ี นแปลงลมฟา้ อากาศและภมู ิอากาศโลกรวมทัง้ ผลตอ่ สิ่งมชี ีวิตและส่งิ แวดล้อม ชนั้ ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ ท้องถน่ิ ป.3 ว 3.2 ป 3/1 ระบุส่วนประกอบ - อากาศโดยท่ัวไปไม่มีสี ไม่มีกลน่ิ ของอากาศ บรรยายความสำคญั ประกอบด้วย แกส๊ ไนโตรเจน แก๊ส - ข้อมูลปัญหา ของอากาศ และผลกระทบของ ออกซิเจน แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ มลพิษทางอากาศ มลพิษทางอากาศตอ่ สงิ่ มีชีวติ แกส๊ อ่ืน ๆ รวมท้งั ไอน้ำ และ ฝุ่น ในชมุ ชน และ จากข้อมลู ทีร่ วบรวมได้ ละออง อากาศมคี วามสำคญั ต่อ แนวทางแก้ปัญหา ว 3.2 ป 3/2 ตระหนกั ถงึ สง่ิ มีชีวติ หากส่วนประกอบของ ความสำคญั ของอากาศ โดย อากาศไม่เหมาะสม เนอื่ งจากมีแกส๊ นำเสนอแนวทางการปฏิบตั ติ นใน บางชนิดหรอื ฝุน่ ละอองในปริมาณ การลด การเกิดมลพิษทางอากาศ มาก อาจเป็นอนั ตรายตอ่ สิ่งมีชวี ติ ชนดิ ต่าง ๆ จดั เป็นมลพิษ ทาง อากาศ - แนวทางการปฏิบัติตนเพื่อลดการ ปลอ่ ยมลพิษทางอากาศ เชน่ ใช้ พาหนะร่วมกนั หรือเลอื กใช้ เทคโนโลยที ่ลี ดมลพษิ ทางอากาศ ว 3.2 ป 3/3 อธบิ ายการเกิดลม - ลม คอื อากาศท่ีเคล่ือนที่ เกิดจาก - ทิศทางลมในเวลา จากหลกั ฐานเชิงประจักษ์ ความแตกต่างกนั ของอุณหภูมิอากาศ ตา่ ง ๆ (เช้า ว 3.2 ป ¾ บรรยายประโยชน์ และโทษของลม จากข้อมูลที่ บริเวณทีอ่ ยูใ่ กลก้ ัน โดยอากาศ กลางวนั ก่อนเลิก รวบรวมได้ บริเวณท่มี ีอุณหภูมิสูงจะลอยตวั เรียน ในบริเวณตา่ ง สูงขึน้ และอากาศบรเิ วณที่มีอุณหภมู ิ ๆ ต่ำกว่าจะเคลอ่ื นเข้าไปแทนท่ี -ลมสามารถนำมาใช้เปน็ แหลง่ - พลงั งานทดแทน ในการผลติ ไฟฟา้ และนำไปใช้ประโยชน์
39 สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พ่ือการดารงชวี ติ ในสังคมทมี่ ีการเปลยี่ นแปลงอยา่ ง รวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพ่ือ แก้ปัญหา หรือพัฒนางานอยา่ งมีความคิดสร้างสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชวี ติ สังคม และสิง่ แวดล้อม ชั้น ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ -- - - สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ติ จรงิ อยา่ งเป็นข้นั ตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ร้เู ทา่ ทัน และมจี ริยธรรม ชนั้ ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการ เรยี นรทู้ อ้ งถนิ่ ป.3 ว 3.2 ป 3/1แสดง - อลั กอรทิ ึมเป็นขั้นตอนท่ีใชใ้ นการแก้ปัญหา - อัลกอริทึมในการ - การแสดงอัลกอรทิ ึมทำไดโ้ ดยการเขียน บอกเล่า ทำงาน หรือ การ วาดภาพ หรือใช้สัญลักษณ์ แก้ปญั หาอย่างง่ายโดย - ตวั อยา่ งปัญหา เช่น เกมเศรษฐี เกมบนั ไดงู เกม ใช้ภาพ สญั ลักษณ์ Tetris เกม OX การเดนิ ไปโรงอาหาร การทำความ หรอื ขอ้ ความ สะอาดห้องเรียน ว 3.2 ป 3/2 เขยี น - การเขยี นโปรแกรมเป็นการสร้างลำดับของคำส่ัง ให้ - โปรแกรมอยา่ งง่าย คอมพิวเตอร์ทำงาน โดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือ - ตัวอยา่ งโปรแกรม เช่น เขยี นโปรแกรมท่สี ั่งให้ ตวั สือ่ และตรวจหำ ละครทำงานซ้ำไม่สน้ิ สุด ขอ้ ผิดพลาดของ - การตรวจหาขอ้ ผิดพลาดทำไดโ้ ดยตรวจสอบคำสัง่ ท่ี โปรแกรม แจ้งข้อผดิ พลาด หรือหากผลลัพธ์ไมเ่ ป็นไปตามที่ ต้องการให้ตรวจสอบการทำงำนทีละคำสง่ั - ซอฟต์แวรห์ รือสื่อที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เชน่ ใช้ บตั รคำสงั่ แสดงการเขยี นโปรแกรม, Code.org ว 3.2 ป 3/3 ใช้ - อนิ เทอรเ์ นต็ เป็นเครือขา่ ยขนาดใหญ่ชว่ ยให้ การ - อินเทอร์เนต็ คน้ หา ติดตอ่ ส่อื สารทำไดส้ ะดวกและรวดเรว็ และ เปน็ ความรู้ แหล่งขอ้ มลู ความรทู้ ่ีชว่ ยในการเรยี น และการดำเนนิ ชวี ิต
40 ช้นั ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ ป.3 ทอ้ งถิ่น ว 3.2 ป 3/4รวบรวม - เวบ็ เบราว์เซอร์เปน็ โปรแกรมสำหรับอ่าน - ว 3.2 ป ประมวลผล และนำเสนอ เอกสารบนเวบ็ เพจ 3/5 ข้อมูล โดยใชซ้ อฟต์แวร์ - การสืบค้นข้อมลู บนอินเทอร์เนต็ ทำไดโ้ ดยใช้ - ตามวัตถปุ ระสงค์ เว็บไซต์สำหรับสืบค้น และต้องกำหนด คำค้นที่เหมาะสมจึงจะไดข้ ้อมูลตามต้องการ 5. ใช้เทคโนโลยี – ขอ้ มลู ความรู้ เชน่ วิธที ำอาหาร วธิ ีพบั กระดาษ สารสนเทศอย่างปลอดภยั เปน็ รูปต่าง ๆ ข้อมลู ประวตั ศิ าสตร์ชาติไทย (อาจ ปฏบิ ัติตามข้อตกลงในการ เปน็ ความรู้ในวชิ าอืน่ ๆ หรือเรื่องที่เปน็ ประเดน็ ท่ี ใชอ้ นิ เทอร์เน็ต สนใจ ในช่วงเวลาน้นั ) - การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภัยควรอย่ใู น การดูแลของครู หรือผปู้ กครอง - การรวบรวมขอ้ มูล ทำได้โดยกำหนดหัวขอ้ ท่ี ตอ้ งการ เตรียมอุปกรณ์ในการจดบนั ทกึ - การประมวลผลอย่างง่าย เช่น เปรยี บเทียบ จดั กลุ่ม เรยี งลำดับ - การนำเสนอข้อมลู ทำไดห้ ลายลกั ษณะตาม ความเหมาะสม เช่น การบอกเลา่ การทำ เอกสารรายงาน การจดั ทำป้ายประกาศ - การใช้ซอฟตแ์ วร์ทำงานตามวตั ถุประสงค์ เช่น ใช้ซอฟต์แวร์นำเสนอหรือซอฟต์แวรก์ รำฟกิ สรา้ ง แผนภมู ิรูปภาพ ใช้ซอฟตแ์ วร์ประมวลคำ ทำป้าย ประกาศ หรอื เอกสารรายงาน ใช้ซอฟต์แวร์ ตารางทำงานในการประมวลผลขอ้ มูล - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย - ขอความชว่ ยเหลอื จากครู หรือผปู้ กครองเม่ือเกดิ ปัญหาจากการใช้งาน เม่ือพบขอ้ มูลหรือบุคคลท่ี ทำให้ไม่สบายใจ - การปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงในการใชอ้ ินเทอร์เน็ต จะทำให้ไมเ่ กดิ ความเสยี หายต่อตนเองและผู้อ่นื เชน่ ไมใ่ ช้คำหยาบ ล้อเลยี น ดำ่ ทอ ทำให้ผู้อืน่ เสยี หาย หรือเสียใจ
41 โครงสร้างรายวิชา รายวชิ า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3 ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 รหสั วิชา ว13101 เวลา 80 ช่ัวโมง / ปี ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ เนือ้ หา จำนวน น้ำหนกั 1. วัฏจักรชีวิตของ ตัวช้วี ัด (ชัว่ โมง) คะแนน สตั ว์ ว 1.2 ป.3/1 -สง่ิ ท่จี ำเปน็ ต่อการดำรงชวี ิตและ ว 1.2 ป.3/2 การเจริญเติบโตของมนุษยแ์ ละสัตว์ 10 9 2. วัสดุรอบตัว ว 1.2 ป.3/3 -ประโยชน์ของนำ้ และอาหาร 3. ธรรมชาติของแรง ว 1.2 ป.3/4 -วฏั จักรชวี ิตสตั ว์ คณุ คา่ ของสัตว์ 8 5 ว 2.1 ป3/1 -สว่ นประกอบของวตั ถุ 10 8 4. พลังงานและไฟฟ้า ว 2.1 ป3/2 -การเปลี่ยนแปลงของวสั ดุ ว 2.2 ป3/1 -แรงท่ีมีต่อการเปล่ียนแปลง 10 10 5. ปรากฏการณ์ ว 2.2 ป3/2 -การเคล่อื นท่ขี องวัตถุ ธรรมชาติ ว 2.2 ป3/3 -การดงึ ดดู กบั แม่เหล็ก 10 8 6. อากาศ ว 2.2 ป3/4 -ขัว้ แม่เหล็ก 12 10 ว 2.3 ป3/1 -การเปลี่ยนแปลงพลงั งาน ว 2.3 ป3/2, -เครอ่ื งกำเนิดไฟฟา้ ว 2.3 ป3/3 -แหล่งพลงั งานไฟฟ้า -ประโยชน์และโทษของไฟฟา้ ว 3.1 ป3/1 -วิธีการใชไ้ ฟฟา้ อย่างประหยดั ว 3.1 ป3/2 -การข้ึนและตกของดวงอาทิตย์ ว 3.1 ป3/3 -การเกดิ กลาวันกลางคืน ว 3.2 ป3/1 -การกำหนดทิศ ว 3.2 ป3/2 -สว่ นประกอบของอากาศ ว 3.2 ป3/3 -ตวามสำคญั ของอากาศ ว 3.2 ป3/4 -ผลกระทบของมลพิษ -การเกิดลม -ประโยชน์และโทษของลม
42 ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ เนื้อหา จำนวน น้ำหนกั 7. วิทยาการคำนวณ ตัวชี้วดั (ช่วั โมง) คะแนน ว 4.2 ป3/1 -แสดงอัลกอรทิ มึ ในการทำงานแกป้ ัญหา ว 4.2 ป3/2, -เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย 20 10 ว 4.2 ป3/3 -การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ว 4.2 ป3/4 -การใช้ซอฟแวรน์ ำเสนอขอ้ มลู ว 4.2 ป3/5 -การใช้เทคโนโลยอี ยา่ งปลอดภัย รวม 25 80 60 คะแนนระหวา่ งเรียน 60 คะแนนสอบกลางปี 10 คะแนนสอบปลายปี 30 รวมคะแนนท้งั ปี 100
43 คำอธบิ ายรายวิชา ว 14101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 80 ชว่ั โมง ........................................................................................................................................................................... . ศึกษา วเิ คราะห์ หน้าท่ขี องราก ลำต้น ใบ และดอกของพืชดอก ส่วนประกอบของพืชดอก ความแตกต่างชองลักษณะสง่ิ มีชวี ิตกลมุ่ พชื กลุ่มสัตว์ และกลมุ่ ทไี่ มใ่ ชพ่ ชื และสตั ว์ จำแนกพชื ออกเปน็ พชื ดอก และพชื ไม่มดี อก จำแนกสัตว์ออกเปน็ สัตว์มีกระดกู สันหลังและสัตว์ไมม่ ีกระดกู สนั หลัง ลักษณะเฉพาะของสตั ว์ มีกระดูกสนั หลงั ในกลุ่มปลา กลมุ่ สตั ว์สะเทนิ น้ำสะเทินบก กลมุ่ สตั วเ์ ลอ้ื ยคลาน กลมุ่ นก และกลมุ่ สัตวเ์ ลีย้ งลกู ด้วยนม ตัวอยา่ งของสตั ว์ในแตล่ ะกล่มุ สมบัตทิ างกายภาพของวัสดุ การนำสมบตั ขิ องวสั ดุไปใชใ้ น ชวี ติ ประจำวันสมบตั ิทางกายภาพของวสั ดุ ดา้ นความแขง็ ความยดื หยุ่น การนำความรอ้ น การนำไฟฟา้ สมบัติ ของสสาร มวล และปริมาตรของสสาร เคร่ืองมือทใ่ี ช้วดั มวลและปริมาตรของสสาร ผลของแรงโน้มถว่ งที่มีต่อ วตั ถุ การใช้เครื่องช่ังสปรงิ มวลของวตั ถุกบั การเคล่ือนท่ีของวัตถุ วตั ถทุ ีเ่ ป็นตวั กลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง วตั ถทุ ึบแสง และลักษณะการมองเห็นผา่ นวัตถุ แบบรปู เสน้ ทางการข้ึนและตกของดวงจนั ทร์ การเปล่ยี นแปลง และการพยากรณ์รูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ องคป์ ระกอบของระบบสุรยิ ะ และการโคจรของดาวเคราะห์ตา่ ง ๆ โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบคน้ ข้อมูล เปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ การอธิบาย อภปิ ราย และการสร้างแบบจำลอง เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถส่อื สารสิง่ ท่ีเรยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ นำความร้ไู ปใช้ใน ชวี ิตประจำวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ มจี ริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสม ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา การทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธจ์ ากปัญหาอยา่ งง่าย การออกแบบ การอธบิ าย และเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื ส่อื และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด และแก้ไขใช้อินเทอรเ์ น็ตคน้ หาความรู้ รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ที่ หลากหลาย เพ่อื แกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวนั ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เข้าใจสิทธแิ ละหนา้ ทขี่ อง ตน เคารพในสิทธิของผู้อืน่ รหสั ตัวช้ีวัด มาตรฐาน ว 1.2 ป.4/1 มาตรฐาน ว 1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 มาตรฐาน ว 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 มาตรฐาน ว 2.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 มาตรฐาน ว 2.3 ป.4/1 มาตรฐาน ว 3.1 ป.4/1 , ป.4/2, ป.4/3 วิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) มาตรฐาน ว 4.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5 รวม 21 ตัวชี้วดั
44 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลางและสาระการเรียนรูท้ ้องถ่ิน สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนเิ วศ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งส่ิงไมม่ ีชวี ติ กบั ส่งิ มชี ีวติ และ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปล่ียนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการแกไ้ ข ปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมท้งั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ชัน้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถน่ิ -- - - สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของสง่ิ มชี วี ิต หนว่ ยพืน้ ฐานของสิง่ มีชวี ิต การลำเลยี งสารผ่านเซลล์ความสัมพนั ธ์ ของโครงสรา้ ง และหนา้ ที่ของระบบตา่ ง ๆ ของสตั ว์และมนุษยท์ ี่ทำงานสมั พนั ธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ ง และหนา้ ที่ของอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพนั ธ์กนั รวมทงั้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ชัน้ ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่ ป.4 ว 1.2 ป 4/1 บรรยายหน้าทข่ี อง - สว่ นต่าง ๆ ของพืชดอกทำหนา้ ท่ี ราก ลำตน้ ใบ และดอกของพืช แตกตา่ งกัน - พชื ท่พี บในบรเิ วณต่าง ดอกโดยใชข้ ้อมลู ที่รวบรวมได้ - รากทำหน้าที่ดดู นำ้ และแร่ธาตขุ นึ้ ๆ เช่น ใกล้โรงเรียน ริม ไปยงั ลำตน้ ทะเล ฯลฯ ไดแ้ ก่ - ลำต้นทำหนา้ ทีล่ ำเลยี งนำ้ ต่อไปยงั ส่วนตา่ ง ๆ ของพืช - ใบทำหน้าทส่ี ร้างอาหาร อาหารที่ พืชสรา้ งข้นึ คือนำ้ ตาลซง่ึ จะ เปลี่ยนเปน็ แป้ง - ดอกทำหน้าทีส่ ืบพันธุ์ ประกอบดว้ ยส่วนประกอบต่าง ๆ ได้แก่ กลบี เลยี้ ง กลีบดอก เกสรเพศ ผู้ และเกสรเพศเมยี ซ่ึงสว่ นประกอบ แต่ละส่วนของดอก ทำหน้าท่ี แตกตา่ งกัน
45 สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคญั ของการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม สารพนั ธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธุกรรมที่มผี ลตอ่ ส่ิงมชี ีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและ วิวฒั นาการของสิง่ มีชวี ิต รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ชนั้ ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ ทอ้ งถิน่ ป.4 ว 1.3 ป 4/1จำแนกส่ิงมีชีวติ โดยใช้ - สิ่งมีชีวิตมีหลายชนิด สามารถ - สิง่ มชี วี ิตทพ่ี บ ความเหมอื นและ ความแตกต่างของ จดั กลมุ่ ไดโ้ ดยใช้ ความเหมอื น บรเิ วณโรงเรียน ลักษณะของส่งิ มีชวี ิตออกเปน็ กลุ่มพชื และความแตกตา่ งของลกั ษณะ ชมุ ชนโดยรอบ กลมุ่ สัตว์ และกลมุ่ ทีไ่ ม่ใช่พชื และสตั ว์ ต่าง ๆ เช่น กลุ่มพชื สรา้ งอาหาร และอ่นื ๆ เองได้ และเคลื่อนทดี่ ว้ ยตนเอง ไมไ่ ด้ กลมุ่ สตั ว์กนิ สงิ่ มชี ีวติ อืน่ เป็น อาหารและเคลื่อนทีไ่ ด้ กลมุ่ ที่ ไมใ่ ชพ่ ืชและสัตว์ เชน่ เห็ด รา จลุ นิ ทรยี ์ ว 1.3 ป 4/2 จำแนกพืชออกเปน็ พชื - การจำแนกพชื สามารถใช้การ - ขอ้ มลู พืช และ ดอกและพชื ไมม่ ีดอก โดยใช้การมดี อก มดี อกเป็นเกณฑ์ ในการจำแนก สตั ว์ ที่พบใน เป็นเกณฑ์ โดยใชข้ ้อมลู ท่ีรวบรวมได้ ไดเ้ ป็นพชื ดอกและพชื ไม่มีดอก บรเิ วณโรงเรียน ว 1.3 ป 4/3จำแนกสตั ว์ออกเป็นสตั ว์ -การจำแนกสัตว์ สามารถใชก้ ารมี ชมุ ชนโดยรอบ มกี ระดูกสันหลงั และสตั ว์ไม่มีกระดูก กระดูกสนั หลัง เป็นเกณฑใ์ นการ และอื่น ๆ สนั หลัง โดยใชก้ ารมกี ระดูกสันหลงั จำแนก ได้เป็นสตั ว์มีกระดกู สัน - เป็นเกณฑ์ โดยใชข้ ้อมูลท่ีรวบรวมได้ หลงั และสัตว์ไมม่ ีกระดูกสันหลงั ว 1.3 ป 4/4บรรยายลักษณะเฉพาะที่ - สัตวม์ ีกระดกู สันหลังมหี ลาย สงั เกตได้ของสัตวม์ ีกระดูกสนั หลังใน กล่มุ ไดแ้ ก่ กลุ่มปลา กลุ่มสัตว์ กล่มุ ปลา กลมุ่ สตั ว์สะเทินน้ำสะเทินบก สะเทนิ นำ้ สะเทนิ บก กลุ่ม กลุ่มสตั วเ์ ลอ้ื ยคลาน กลมุ่ นก และกลุม่ สัตว์เลอ้ื ยคลาน กล่มุ นก และ สัตว์เลยี้ งลกู ดว้ ยนำ้ นม และ กล่มุ สตั วเ์ ลย้ี งลกู ด้วยน้ำนม ซึ่งแต่ ยกตัวอยา่ งส่ิงมีชีวติ ในแต่ละกลุ่ม ละกลมุ่ จะมีลักษณะเฉพาะท่ี สังเกตได้
46 สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมบัตขิ องสสารกับ โครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะ ของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี ชัน้ ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ ทอ้ งถิ่น ป.4 ว 2.1 ป 4/1 เปรยี บเทยี บสมบตั ิทาง - วสั ดุแตล่ ะชนดิ มีสมบัตทิ าง - วสั ด/ุ อุปกรณ์ กายภาพดา้ นความแขง็ สภาพยืดหยุ่น กายภาพแตกต่างกัน วัสดทุ ม่ี ีความ ตา่ ง ๆ การนำความร้อน และการนำไฟฟ้าของ แข็งจะทนตอ่ แรงขดู ขดี วัสดทุ ่ีมี วัสดโุ ดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์จาก สภาพยดื หย่นุ จะเปลย่ี นแปลง การทดลองและระบกุ ารนำสมบตั ิเรอ่ื ง รูปรา่ งเม่อื มีแรงมากระทำและกลบั ความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนำความ สภาพเดิมได้ วสั ดุทนี่ ำความร้อนจะ ร้อน และการนำไฟฟ้าของวัสดไุ ปใชใ้ น รอ้ นได้เรว็ เม่ือได้รบั ความร้อน และ ชีวิตประจำวนั ผ่านกระบวนกำรออก วัสดุทน่ี ำไฟฟ้าได้ จะให้ แบบช้นิ งาน กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ ดงั น้ันจึง ว 2.1 ป 4/2 แลกเปลยี่ นความคิดกับ อาจนำสมบตั ิต่าง ๆ มาพิจารณา ผ้อู ่นื โดยการอภปิ รายเก่ยี วกับสมบตั ิ เพอ่ื ใชใ้ นกระบวนการออกแบบ ทางกายภาพของวสั ดุอย่างมเี หตุผล ชิน้ งานเพอ่ื ใช้ประโยชนใ์ น จากการทดลอง ชวี ิตประจำวัน ว 2.1 ป 4/3 เปรยี บเทียบสมบัติของ - วัสดเุ ปน็ สสารเพราะมีมวลและ สสารทง้ั 3 สถานะ จากข้อมูลที่ได้จาก ตอ้ งการท่ีอยู่ สสารมสี ถานะเป็น การสงั เกต มวล การต้องการท่อี ยู่ ของแขง็ ของเหลว หรอื แก๊ส รูปร่างและปริมาตรของสสาร ของแข็ง มปี ริมาตรและรูปร่างคงท่ี ว 2.1 ป 4/4ใช้เคร่อื งมือเพือ่ วัดมวล ของเหลวมปี ริมาตรคงท่ี แต่มี และปรมิ าตรของสสารท้ัง 3 สถานะ รปู รา่ งเปลย่ี นไปตามภาชนะเฉพาะ สว่ นท่บี รรจุของเหลว สว่ นแก๊สมี ปริมาตรและรปู ร่างเปลี่ยนไปตาม ภาชนะทบี่ รรจุ
47 สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชวี ติ ประจำวัน ผลของแรงที่กระทำตอ่ วตั ถุ ลกั ษณะการเคลอื่ นท่ี แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทัง้ นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ช้ัน ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ ท้องถิน่ ป.4 ว 2.2 ป 4/1ระบุผลของ - แรงโนม้ ถ่วงของโลกเปน็ แรงดึงดดู ที่ - แรงโน้มถ่วงที่มตี ่อวัตถจุ าก โลกกระทำต่อวตั ถุ มีทศิ ทางเขา้ สู่ หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ศนู ยก์ ลางโลก และเป็นแรงไม่สมั ผัส แรง ว 2.2 ป 4/2 ใชเ้ ครอ่ื งชง่ั ดึงดูดที่โลกกระทำกบั วัตถหุ นึ่ง ๆ ทำให้ สปรงิ ในการวดั นำ้ หนกั วตั ถตุ กลงสพู่ ้ืนโลก และทำให้วัตถุมี ของวตั ถุ น้ำหนัก วดั น้ำหนกั ของวัตถุได้จากเคร่ือง ชง่ั สปริง น้ำหนกั ของวตั ถุขนึ้ กับมวลของ วัตถุ โดยวัตถุทม่ี ีมวลมากจะมีน้ำหนัก มาก วตั ถทุ ่ีมีมวลน้อยจะมนี ้ำหนักนอ้ ย ว 2.2 ป 4/3บรรยายมวล - มวล คือ ปริมาณเนื้อของสารท้งั หมดที่ - ของวตั ถุที่มีผลตอ่ การ ประกอบกนั เปน็ วตั ถุ ซ่ึงมีผลตอ่ ความ เปลย่ี นแปลงการเคล่ือนที่ ยากง่ายในการเปล่ียนแปลง ของวัตถจุ ากหลกั ฐานเชงิ การเคลอ่ื นที่ของวัตถุ วตั ถุที่มีมวลมาก ประจกั ษ์ จะเปลีย่ นแปลงการเคล่ือนท่ไี ดย้ ากกว่า วัตถทุ ี่มมี วลน้อย ดังน้นั มวลของวัตถุ นอกจากจะหมายถึงเน้ือทัง้ หมดของวัตถุ นนั้ แลว้ ยงั หมายถงึ การตา้ นการ เปลยี่ นแปลง การเคล่ือนท่ีของวัตถนุ ้นั ด้วย
48 สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปลย่ี นแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏิสัมพนั ธ์ ระหว่างสสารและพลงั งาน พลงั งานในชีวติ ประจำวัน ธรรมชาตขิ องคลนื่ ปรากฏการณ์ ท่เี กี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทง้ั นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ ทอ้ งถ่นิ ป.4 ว 2.3 ป 4/1 จำแนกวตั ถเุ ปน็ - เม่ือมองส่งิ ต่าง ๆ โดยมีวตั ถุต่างชนดิ กันมา - ตัวกลางโปรง่ ใส ตวั กลางโปรง่ กนั้ แสง จะทำใหล้ ักษณะการมองเห็นส่งิ แสง และวตั ถทุ ึบแสง จาก น้นั ๆ ชดั เจนต่างกนั จึงจำแนกวัตถุทมี่ ากน้ั ลกั ษณะ การมองเหน็ ส่งิ ต่าง ออกเปน็ ตัวกลางโปรง่ ใส ซ่งึ ทำให้มองเหน็ ๆ ผา่ นวัตถุนัน้ เปน็ เกณฑ์โดย ส่ิงตา่ ง ๆ ได้ชัดเจน ตัวกลางโปรง่ แสงทำให้ ใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ มองเห็น ส่ิงตา่ ง ๆ ไดไ้ มช่ ดั เจน และ วัตถุ ทึบแสงทำให้มองไม่เหน็ สิง่ ต่าง ๆ นัน้ สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์และระบบสุรยิ ะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ีส่งผล ตอ่ สง่ิ มีชีวติ และการประยกุ ต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ ท้องถน่ิ ป.4 ว 3.1 ป 4/1 อธิบายแบบรปู - ดวงจันทรเ์ ป็นบรวิ ารของโลก โดยดวงจนั ทร์ - เส้นทางการขน้ึ และตก ของ หมนุ รอบตัวเอง ดวงจนั ทร์ โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ขณะโคจรรอบโลก ขณะทโ่ี ลกกห็ มนุ รอบตัว ประจักษ์ เองดว้ ยเชน่ กนั การหมุนรอบตัวเองของโลกจากทศิ ตะวนั ตก ไปทศิ ตะวันออกใน ทศิ ทางทวนเขม็ นาฬกิ าเมื่อมองจากขวั้ โลก เหนอื ทำใหม้ องเห็น ดวงจนั ทรป์ รากฏขน้ึ ทางดา้ นทิศตะวนั ออก และตกทางด้าน ทิศตะวนั ตกหมนุ เวยี นเป็นแบบรปู ซ้ำ ๆ
49 ว 3.1 ป 4/2 สรา้ ง - ดวงจันทร์เปน็ วัตถทุ ่เี ป็นทรงกลม แตร่ ูปรา่ ง - แบบจำลองที่อธิบายแบบรูป ของดวงจนั ทร์ที่ - การเปลี่ยนแปลงรปู รา่ ง มองเห็นหรือรปู รา่ งปรากฏของดวงจนั ทรบ์ น ปรากฏของดวงจันทร์ และ ท้องฟา้ แตกตา่ งกนั ไป พยากรณร์ ูปร่างปรากฏของ ในแตล่ ะวนั โดยในแต่ละวันดวงจันทรจ์ ะมี ดวงจันทร์ รปู ร่างปรากฏเป็นเสี้ยว ท่ีมขี นาดเพิม่ ข้นึ อย่างตอ่ เนอ่ื งจนเต็มดวง ว 3.1 ป 4/3 สรา้ ง จากนน้ั รปู ร่างปรากฏ แบบจำลองแสดง ของดวงจันทรจ์ ะแหวง่ และมขี นาดลดลง องค์ประกอบของระบบสรุ ิยะ อยา่ งต่อเนอ่ื งจนมอง และอธิบายเปรียบเทียบคาบ ไมเ่ ห็นดวงจันทร์ จากนั้นรปู ร่างปรากฏของ การโคจรของดาวเคราะหต์ า่ ง ดวงจนั ทร์จะเป็น ๆ จากแบบจำลอง เสย้ี วใหญ่ขน้ึ จนเต็มดวงอีกครั้ง การ เปลี่ยนแปลงเชน่ นเ้ี ป็นแบบรูปซำ้ กัน ทกุ เดือน - ระบบสรุ ิยะเปน็ ระบบท่ีมีดวงอาทติ ย์เป็น ศนู ยก์ ลางและมบี ริวารประกอบดว้ ย ดาว เคราะห์แปดดวงและบริวาร ซึ่งดาวเคราะห์ แต่ละดวงมีขนาดและระยะห่างจากดวง อาทิตยแ์ ตกตา่ งกัน และยังประกอบดว้ ย ดาว เคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็กอื่นๆ โคจรอยู่รอบดวงอาทติ ย์ วัตถุขนาดเล็กอนื่ ๆ เมื่อเข้ามาในชั้น บรรยากาศเนื่องจากแรงโนม้ ถ่วงของโลก ทำ ใหเ้ กดิ เปน็ ดาวตก หรือผีพุ่งไต้และอุกกาบาต
50 สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลย่ี นแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณพี ิบตั ภิ ัย กระบวนการเปลยี่ นแปลงลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศโลกรวมท้ัง ผลตอ่ ส่ิงมีชีวิตและส่ิงแวดลอ้ ม ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน -- -- สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมทม่ี ีการเปล่ยี นแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความร้แู ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และส่ิงแวดล้อม ชัน้ ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ -- - - สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชีวติ จริงอยา่ งเป็นขัน้ ตอนและเปน็ ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ร้เู ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม ชน้ั ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ ท้องถ่นิ ป.4 ว 4.2 ป 4/1 ใชเ้ หตผุ ล - การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเปน็ การนำ - เชิงตรรกะในการ กฎเกณฑ์ หรือเง่ือนไขที่ครอบคลุมทุกกรณีมา แกป้ ญั หา การอธิบาย ใช้พิจารณาในการแกป้ ญั หา การอธิบายการ การทำงาน การ ทำงาน หรือการคาดการณ์ผลลัพธ์ คาดการณผ์ ลลพั ธ์ จาก - สถานะเริม่ ต้นของการทำงานที่แตกตา่ งกนั ปญั หาอย่างง่าย จะให้ผลลัพธท์ ี่แตกตา่ งกนั - ตวั อย่างปญั หา เชน่ เกม OX, โปรแกรมทมี่ ี การคำนวณ, โปรแกรมท่มี ตี วั ละครหลายตวั และ มกี ารสง่ั งานท่แี ตกต่าง หรือมกี ารส่ือสาร ระหว่างกัน, การเดนิ ทางไปโรงเรยี นโดย วธิ ีการตา่ ง ๆ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198