Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิต

คู่มือการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิต

Description: Star1

Search

Read the Text Version

          คมู อื การจัดกิจกรรมลูกเสือเสรมิ สรางทกั ษะชีวติ ประเภทลูกเสือสํารอง หลักสูตรเตรียมลูกเสอื สํารอง และดาวดวงที่ 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ 1  

คํานํา สมาคมวางแผนครอบครัวแหงประเทศไทย ในพระราชูปถัมภสมเด็จพระศรีนครินทราบรม ราชชนนี ไดรับการสนับสนุนงบประมาณจากสํานักงานกองทุนสนับสนุนการสรางเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อจัดทําโครงการลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิต มีวัตถุประสงคเพื่อเสริมสรางทักษะชีวิตให เด็กและเยาวชนในสถานศึกษาดวยกระบวนการลูกเสือ โดยใหเด็กและเยาวชนลงมือปฏิบัติดวย ตนเองในการทํากิจกรรมอยางครบวงจร ตั้งแตการศึกษา วิเคราะห วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมิน และปรับปรุงการจัดกิจกรรม รวมถึงการทํางานเปนระบบหมูตามกระบวนการลูกเสือ ซึ่ง กิจกรรมดังกลาวเปนการพัฒนาความเปนมนุษยแบบองครวม ท้ังดานรางกาย จิตใจ สังคม และ สติปญญา ทําใหเด็กและเยาวชนมีระเบียบวินัย มีจิตสํานึกในการทําความดี เพ่ือทําประโยชนใหกับ ครอบครัว ชมุ ชน สังคม และประเทศชาติ ตอ ไป เร่ิมจากการศึกษาความเปนไปได ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เก่ียวของท้ังในและ ตางประเทศ จัดประชุมผูเช่ียวชาญท้ังดานลูกเสือ ดานทักษะชีวิต รวมทั้งดานการพัฒนาเด็กและ เยาวชน เพื่อกําหนดกรอบโครงสรางหลักสูตรลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิต ท่ีสอดคลองกับปญหา ตามวยั และพฒั นาการดา นตาง ๆ ของลูกเสอื แตล ะประเภท คูมือการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิต ฉบับทดลอง ไดเร่ิมใชในป พ.ศ.2553 มี โรงเรียนจากทุกภูมิภาคของประเทศเขารวมโครงการ จํานวน 26 โรงเรียน โดยไดดําเนินการควบคู ไปกับการวิจัยและประเมินผลการใชคูมือ และทําการปรับปรุงคูมือคร้ังแรกเมื่อ เมษายน พ.ศ. 2554 โดยไดเพมิ่ เติม เพลง เกม นทิ าน เรื่องส้นั และเนอ้ื หาใหค รบถว นยิ่งขนึ้ การปรับปรุงครั้งที่สอง มิถุนายน พ.ศ. 2559 เกิดข้ึนตามขอเสนอแนะจากการประชุม ปฏบิ ตั ิการ “การขับเคลอ่ื นกจิ กรรมพัฒนาผูเรียนดวยกระบวนการลูกเสือ” ซึ่งจัดโดยสํานักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สํานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยยึดขอบังคับคณะลูกเสือ แหงชาติวาดวยการปกครอง หลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ และเพ่ิมจํานวนแผนการจัดกิจกรรมให ครบ 40 ชั่วโมง เพ่ือครอบคลุมสาระท่ีจําเปนอยางครบถวน เปนการเตรียมการขยายผลในโรงเรียน สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ท่ัวประเทศ และไดแบงคูมือออกเปน 11 เลม สําหรับลูกเสอื แตละช้นั ป เพอื่ ความสะดวกของผูส อน สมาคมวางแผนครอบครัวแหงประเทศไทยฯ ขอขอบพระคุณหนวยงานและบุคลากรทุกทาน ทมี่ ีสวนรวมในโครงการใหสําเร็จลุลวง ณ โอกาสนี้ ต้ังแตการริเร่ิมโครงการและสนับสนุนงบประมาณ จากสํานักงานกองทุนสนับสนุนการสรางเสริมสุขภาพ (สสส.) การจัดทําหลักสูตรและคูมือ การ ทดลองวิจยั และประเมนิ ผลการใชค มู อื รวมท้ังการปรบั ปรุงคูมือท้ัง 2 คร้ัง หวังเปนอยางยิ่งวาคูมือชุด น้ีจะชวยสงเสริมใหกิจการลูกเสือของประเทศไทย ซึ่งดําเนินมาครบวาระ 105 ป ในป พ.ศ. 2559 นี้ ไดเ ปน เครือ่ งมือสําคัญและกอ ใหเกดิ ประโยชนสูงสดุ ตอ การพฒั นาเด็กและเยาวชนของชาติตอ ไป สมาคมวางแผนครอบครัวแหงประเทศไทย ในพระราชปู ถัมภส มเด็จพระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนี กรกฎาคม 2559

สารบญั หนา 1 คําชีแ้ จงการใชค มู ือ 5 แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือสํารอง ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1 8 หนว ยท่ี 1 เตรียมลูกเสือสํารอง 11 แผนการจัดกจิ กรรมที่ 1 ปฐมนเิ ทศ 18 แผนการจัดกจิ กรรมที่ 2 นิทานเมาคลี 22 แผนการจัดกิจกรรมท่ี 3 เลยี นแบบตวั ละครเร่อื งเมาคลี 29 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 4 ประวตั กิ ารเริม่ กิจกรรมลกู เสอื สาํ รอง 35 แผนการจัดกิจกรรมที่ 5 การทําความเคารพเปนหมู (แกรนดฮ าวล) 46 แผนการจัดกจิ กรรมที่ 6 ระเบียบแถวเบอื้ งตน 50 แผนการจดั กิจกรรมที่ 7 การทาํ ความเคารพเปน รายบคุ คลและการจบั มือซา ย แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 8 คาํ ปฏญิ าณและกฎของลูกเสอื สาํ รอง 55 65 ดาวดวงที่ 1 68 หนวยท่ี 2 อนามยั แผนการจัดกิจกรรมที่ 9 รูทนั ปอ งกันโรค 70 แผนการจดั กจิ กรรมที่ 10 อาหารดีมคี ุณคา แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 11 สวมสะอาด 74 หนวยท่ี 3 ความสามารถในเชงิ ทักษะ 77 แผนการจดั กิจกรรมที่ 12 ความสามารถในเชงิ ทกั ษะ หนวยที่ 4 การสาํ รวจ 80 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 13 กจิ กรรมสาํ รวจ แผนการจดั กิจกรรมท่ี 14 นาทวี ิกฤต 84 หนว ยท่ี 5 การคนหาธรรมชาติ 88 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 15 รูจ กั และสัมผสั ธรรมชาติ 94 หนว ยท่ี 6 ความปลอดภยั แผนการจัดกิจกรรมที่ 16 ความปลอดภยั ในบา น 96 แผนการจัดกิจกรรมท่ี 17 การเดนิ ขามถนนอยางปลอดภัย แผนการจดั กิจกรรมท่ี 18 รูเทาทันโฆษณาชวนเช่ือ 101 หนว ยที่ 7 บริการ แผนการจดั กจิ กรรมที่ 19 ลกู เสือสํารองบรกิ าร หนวยที่ 8 ธงและประเทศตาง ๆ แผนการจดั กิจกรรมที่ 20 รกั และศรทั ธาสถาบันชาติ ศาสน กษตั รยิ 

สารบญั (ตอ ) หนา 104 แผนการจัดกิจกรรมที่ 21 ประวตั ธิ งชาตไิ ทย หนว ยท่ี 9 การฝมือ 107 แผนการจดั กิจกรรมที่ 22 มหศั จรรยจ ากจากเศษวสั ดุ 110 หนว ยที่ 10 กิจกรรมกลางแจง 114 แผนการจดั กจิ กรรมที่ 23 สะกดรอย 118 หนวยที่ 11 การบนั เทงิ 120 แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 24 วิถไี ทยและภมู ิปญญาทอ งถน่ิ แผนการจดั กิจกรรมท่ี 25 การแสดงเงียบ 124 หนวยท่ี 12 การผกู เงือ่ น 127 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 26 การผูกเงือ่ นตอเชือก 131 หนว ยที่ 13 คาํ ปฏญิ าณและกฎของลูกเสือสาํ รอง 134 แผนการจดั กิจกรรมที่ 27 การวเิ คราะหต นเอง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 28 หลีกเลย่ี งความรุนแรงตอ สตั ว 138 แผนการจดั กจิ กรรมที่ 29 ทกั ษะการส่ือสาร แผนการจัดกจิ กรรมที่ 30 การรบั รอู ารมณ 152 หนวยท่ี 14 ประเมนิ ผล แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 31 การประเมินผล 156 หนว ยที่ 15 พธิ กี าร 157 แผนการจัดกิจกรรมที่ 32 พธิ ีเขา ประจํากองและพิธปี ระดบั ดาวดวงท่ี 1 171 ภาคผนวก ภาคผนวก ก แนวคิดเร่ืองทกั ษะชีวติ ภาคผนวก ข กิจกรรมลกู เสือเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ บรรณานกุ รม

คําชแี้ จงการใชค มู ือ คูมือการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิตชุดน้ี จัดทําข้ึนสําหรับผูกํากับลูกเสือใชเปน แนวทางในการจัดกิจกรรมลูกเสือ มีจํานวน 11 เลม แยกตามช้ันป สําหรับลูกเสือ 4 ประเภท คือ ลูกเสือสํารอง ลกู เสือสามัญ ลกู เสอื สามัญรุน ใหญ และลูกเสือวิสามญั หลักสูตรลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิต มีเนื้อหาท่ีสอดคลองกับปญหาตามวัยและพัฒนาการ ดานตาง ๆ ของลูกเสือแตละประเภท นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาครบถวน เปนไปตามขอบังคับคณะ ลูกเสือแหง ชาติ วาดว ยการปกครองหลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือสํารอง ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญ รนุ ใหญ และลูกเสอื วิสามัญ อีกดวย แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสรางทักษะชีวิตในคูมือชุดนี้ ไดออกแบบโดยบูรณาการ กิจกรรมที่เสริมสรางทักษะชีวิตเขากับวิธีการลูกเสือ คือการใชระบบหมูหรือกลุมยอย โดยใหเด็กเปน ศูนยก ลาง และมีผูใหญทําหนาที่ชวยเหลือและสงเสริมใหเกิดกระบวนการเรียนรูในกลุม แนะนํา สั่งสอน และฝกอบรมใหสามารถพึ่งตนเองได มีจิตอาสา รับผิดชอบตอสวนรวม ยึดม่ันในคําปฏิญาณและกฎของ ลกู เสอื เสรมิ สรางคุณคาในตนเอง รวมท้ังใชระบบเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณทางลูกเสือและเคร่ืองหมาย วิชาพเิ ศษ เปน แรงกระตนุ ไปสูเปาหมายในการพัฒนาตนเอง การเรียงลําดับแผนการจัดกิจกรรม จัดเรียงลําดับเนื้อหาสาระตามหลักสูตรในขอบังคับคณะ ลกู เสือแหงชาติ วา ดวยการปกครองหลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือสํารอง ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญ รุนใหญ และลูกเสือวิสามัญ การนําไปใชข้ึนกับดุลยพินิจของสถานศึกษาในการเลือกวาแผนการจัด กิจกรรมใดควรใชเ มอ่ื ใด องคประกอบในการประชุมกอง เนนการใชชีวิตกลางแจง นอกหองเรียน ใกลชิดธรรมชาติ เรียนรูจากการลงมือปฏิบัติดวยตนเอง เกม และการบริการผูอื่น ซึ่งถือเปนหัวใจของกิจกรรมลูกเสือ ทกุ ประเภท โดยกจิ กรรมทีใ่ ช แบง ออกเปน 5 ประเภท คือ การแสดงออก การสาํ รวจและการรายงาน การวิเคราะหและการประเมิน เกมและการแขงขัน การบําเพ็ญประโยชน มีการออกแบบกิจกรรม เพื่อใหลูกเสือไดใชกระบวนการกลุมในการแลกเปล่ียนประสบการณ แลกเปลี่ยนความคิดความเชื่อ สรางองคความรูและสรุปความคิดรวบยอด รวมท้ังเปดโอกาสใหลูกเสือไดประยุกตใชสิ่งที่ไดเรียนรู ในชวี ิตจริงอกี ดว ย เน้ือหาสาระในแผนการจดั กจิ กรรมประกอบดว ย 1. กิจกรรมตามขอบังคับของคณะลูกเสือแหงชาติ (ไมรวมกิจกรรมทดสอบเพ่ือรับ เคร่อื งหมายหรือสญั ลกั ษณท างลูกเสอื และเครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ) 2. กิจกรรมตามขอบังคับของคณะลูกเสือแหงชาติที่ชวยเสริมสรางทักษะชีวิตดานคุณธรรม จริยธรรม ความภาคภมู ใิ จในตนเอง ความรับผิดชอบตอสวนรวม 3. กิจกรรมเสรมิ สรางทักษะชวี ิต เพ่อื สรางภมู ิคมุ กันทางสังคมตอเหตุการณและสภาพปญหา ของเดก็ แตล ะวัย คมู อื การจัดกิจกรรมลูกเสือสํารองเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ช้ันประถมศึกษาปท ่ี 1 1

คูมอื แตละเลม ไดจ ัดทําตารางหนว ยกิจกรรม และแผนการจัดกจิ กรรม 40 ช่ัวโมง เพื่อใหเห็น ภาพรวมของการจดั กิจกรรมลกู เสือเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิตของลูกเสอื ในแตละระดบั ช้ัน และมีหมายเหตุ บอกไวในตารางชอ งขวาสุด วา เปนแผนการจัดกจิ กรรมเสริมสรา งทักษะชวี ติ แผนการจดั กิจกรรมประกอบดวย จดุ ประสงคการเรียนรู เนอ้ื หา สือ่ การเรยี นรู กิจกรรม การ ประเมินผล องคประกอบทักษะชีวิตสําคัญที่เกิดจากกิจกรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจัด กิจกรรม (เพลง เกม ใบงาน ใบความรู เรือ่ งทีเ่ ปนประโยชน) จดุ ประสงคการเรียนรู ผูสอนควรทําความเขาใจใหชัดเจนวาเปนจุดประสงคการเรียนรูดานความรู เจตคติ หรือ ทกั ษะ เพ่ือจดั กิจกรรมไดตรงตามจุดประสงคก ารเรยี นรูแตละดาน จุดประสงคการเรียนรูดานความรู มีจุดเนนที่การต้ังประเด็นใหวิเคราะห สังเคราะหเนื้อหา ความรู ใหเขา ใจอยางถองแท และสามารถนําไปใชไดในชีวิตจริง จุดประสงคการเรียนรูดานเจตคติ มีจุดเนนท่ีอารมณความรูสึก และการต้ังประเด็นใหผูเรียน ไดแ ลกเปล่ียนและตรวจสอบความคดิ ความเช่อื ของตนเองกับสมาชกิ กลุม คนอนื่ ๆ จดุ ประสงคการเรียนรูดานทักษะ เนนท่ีการทําความเขาใจในข้ันตอนการลงมือทําทักษะ และ ไดทดลองและฝก ฝนจนชาํ นาญ บางแผนการจัดกิจกรรมมีจุดประสงคการเรียนรูซอนกันมากกวา 1 ดาน ใหเนนดานที่เปน จุดประสงคห ลักของแผนการจัดกจิ กรรม เนือ้ หา เปนผลการเรียนรูที่เกิดขึ้นหลังการสอน ผูสอนควรตรวจสอบวาผูเรียนไดเน้ือหาครบถวน หรือไม สอื่ การเรยี นรู เปน สอื่ อปุ กรณ ทใ่ี ชในการจัดกจิ กรรม เชน แผนภูมิเพลง เกม ใบงาน ใบความรู และเร่ืองท่ี เปน ประโยชน ซงึ่ มีรายละเอยี ดอยใู นภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรม กิจกรรม กิจกรรมลูกเสือยังคงแบบแผนของลูกเสือไว คือ การเปดประชุมกอง/ปดประชุมกอง และ เพลง เกม นิทาน เรือ่ งทเ่ี ปนประโยชน ซึ่งใสไ วใ นทุกแผนการจัดกิจกรรม โดยผูกํากับลูกเสือสามารถ ปรบั เปลยี่ นไดตามความเหมาะสม ผูสอนควรจัดกิจกรรมตามที่ไดออกแบบไวเรียงตามลําดับขั้นตอน การจัดกิจกรรม นอกจากน้ีกอนการจัดกิจกรรมควรศึกษาแผนการจัดกิจกรรมใหเขาใจอยางถองแท ทกุ ขั้นตอน ศกึ ษาใบความรูสําหรับผูสอน และใบงานสําหรับผูเรียน เพื่อที่ผูสอนจะไดจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนใหไ ดเนือ้ หาตรงตามจุดประสงคก ารเรยี นรูม ากท่ีสดุ ท้งั นีผ้ ูกํากับควรทําความเขาใจแนวคิดเรอื่ งทกั ษะชวี ติ และกจิ กรรมลูกเสอื เสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ใหถ อ งแทดว ย โดยศกึ ษาไดจ ากภาคผนวก ก และภาคผนวก ข 2 คูมือการจัดกิจกรรมลูกเสือสํารองเสริมสรางทกั ษะชีวิต ดาวดวงท่ี 1 ช้นั ประถมศึกษาปท ่ี 1

การประเมินผล สามารถประเมินไดท้ังระหวางการจัดกิจกรรม และหลังการสอนจบแลว ตามแนวทางที่ไดใหไว ในแตล ะแผนการจดั กิจกรรม องคป ระกอบทกั ษะชีวิตสาํ คญั ที่เกดิ จากกจิ กรรม ทักษะชีวิตเกิดข้ึนไดหลายองคประกอบในการจัดกิจกรรมแตละคร้ัง ในท่ีน้ีไดระบุเพียง องคป ระกอบทกั ษะชวี ติ สําคัญท่ีเกดิ ขน้ึ เทา น้ัน ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรม เปนส่ือ อุปกรณ ตามรายการท่ีระบุไวในส่ือการเรียนรู เชน เพลง เกม บัตรคํา ใบงาน ใบความรู และเรื่องทีเ่ ปน ประโยชน ฯลฯ หากมขี อ เสนอแนะเพ่ือการปรบั ปรงุ คมู อื ชุดน้ี กรณุ าตดิ ตอ ที่ สมาคมวางแผนครอบครวั แหง ประเทศไทย ฯ เลขที่ 8 วภิ าวดีรังสิต 44 แขวงลาดยาว เขตจตุจกั ร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท 0-2941-2320 ตอ 151 โทรสาร 0-2561-5130 คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสํารองเสริมสรางทกั ษะชีวิต ดาวดวงท่ี 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปที่ 1 3



แผนการจัดกจิ กรรม ลูกเสือสาํ รองดาวดวงท่ี 1 ชน้ั ประถมศึกษาปท ่ี 1 คมู ือการจดั กจิ กรรมลกู เสอื สํารองเสริมสรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 5

แผนการจดั กิจกรรมลูกเสอื สํารอง ดาวดวงท่ี 1ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 1 ชื่อหนว ยกิจกรรม ชอื่ แผนการจัดกิจกรรม จาํ นวน หมายเหตุ ตามหลกั สูตรขอ บังคบั ช่ัวโมง คณะลกู เสอื แหง ชาติ 1. ปฐมนิเทศ 1.เตรียมลูกเสือสาํ รอง 2. นิทานเมาคลี 1 3. เลียนแบบตวั ละครเรื่องเมาคลี 2 ดาวดวงที่ 1 4. ประวัติการเร่ิมกิจการลกู เสือสํารอง 1 2.อนามัย 5. การทําความเคารพเปนหมู (แกรนด 1 ฮาวล) 1 3.ความสามารถใน 6. ระเบยี บแถวเบ้ืองตน เชงิ ทกั ษะ 7. การทําความเคารพเปนรายบคุ คล 3 4.การสํารวจ และการจับมือซาย 1 5.การคน หาธรรมชาติ 8. คาํ ปฏิญาณและกฎของลูกเสือสาํ รอง 6.ความปลอดภยั 1 9. รูทนั ปองกันโรค 7.บริการ 10. อาหารดีมีคณุ คา 2 ทักษะชวี ติ 11. สว มสะอาด 1 ทักษะชวี ติ 12. ความสามารถในเชิงทกั ษะ 1 ทกั ษะชวี ติ 2 13. กจิ กรรมสํารวจ 14. นาทีวกิ ฤต 2 15. รูจักและสัมผสั ธรรมชาติ 1 ทักษะชีวติ 16. ความปลอดภยั ในบา น 1 17. การเดินขามถนนอยา งปลอดภยั 1 ทักษะชวี ติ 18. รเู ทา ทนั โฆษณาชวนเชอ่ื 1 19. ลูกเสือสํารองบริการ 1 ทักษะชีวติ 2 6 คูม ือการจัดกจิ กรรมลูกเสือสํารองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1

แผนการจดั กจิ กรรมลกู เสอื สํารอง ดาวดวงท่ี 1 ชนั้ ประถมศึกษาปท่ี 1 ช่อื หนว ยกิจกรรม ชอ่ื แผนการจดั กิจกรรม จาํ นวน หมายเหตุ ตามหลกั สตู รขอ บงั คบั ช่วั โมง คณะลูกเสือแหงชาติ 20. รกั และศรทั ธาสถาบันชาติ ศาสน 8.ธงและประเทศตางๆ กษตั ริย 1 21. ประวตั ธิ งชาติไทย 9.การฝมือ 22. มหัศจรรยจากเศษวัสดุ 1 10.กจิ กรรมกลางแจง 23. สะกดรอย 1 11.การบันเทงิ 24. วิถีไทยและภูมปิ ญญาทอ งถน่ิ 2 25. การแสดงเงยี บ 1 12.การผกู เงื่อน 26. การผูกเงอ่ื นตอ เชอื ก 1 13.คาํ ปฏิญาณและกฎของ 27. การวิเคราะหต นเอง 1 ลูกเสือสํารอง 28. หลกี เลีย่ งความรนุ แรงตอ สตั ว 1 ทักษะชีวติ 29. ทกั ษะการส่ือสาร 1 ทักษะชวี ติ 14.ประเมนิ ผล 30. การรบั รอู ารมณ 1 ทักษะชวี ติ 15.พธิ กี าร 31.การประเมนิ ผล 1 ทักษะชวี ติ 32.พธิ เี ขา ประจํากองและ 1 รวม 15 หนวยกิจกรรม พิธีการประดบั ดาวดวงที่ 1 1 รวม 32 แผนการจัดกจิ กรรม 40 คมู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื สาํ รองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 1 7

แผนการจัดกจิ กรรมเตรยี มลูกเสอื สาํ รองช้ันประถมศกึ ษาปท ี่ 1 หนวยที่ 1 เตรียมลูกเสือสาํ รอง แผนการจัดกิจกรรมที่ 1 การปฐมนเิ ทศ เวลา 1 ชั่วโมง 1. จดุ ประสงคการเรยี นรู : 1.1 ลกู เสอื สามารถจดั แบง หมูแ ละเลอื กนายหมแู ละรองนายหมู 1.2 ลกู เสอื สามารถแตง เครอ่ื งแบบลูกเสอื ไดถ ูกตอ ง 2. เนื้อหา 2.1 การจดั หมโู ดยแบง เปนหมสู ี 2.2 การจดั กองลูกเสือสาํ รอง 2.3 การแตง กายสําหรบั การรว มกจิ กรรมลกู เสอื 3. ส่ือการเรียนรู 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 รูปภาพการแตง กายเคร่ืองแบบลกู เสอื สํารอง 3.3 ใบความรเู กี่ยวกับการแบง หมู/ จดั กองลกู เสอื สาํ รอง 4. กิจกรรม 4.1 ผูกํากับลกู เสอื และลูกเสือสาํ รองทุกคนพรอ มกนั ท่หี องประชุม, บริเวณสนาม, ใตร มไม หรือบริเวณทีเ่ หมาะสม 4.2 ผูกํากับลกู เสือนํารองเพลง 4.3 ผกู าํ กับลกู เสอื อธบิ ายถงึ การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สํารอง - การจดั แบง หมูโ ดยใชส ตี างๆ เปนสัญลกั ษณของหมู เชน หมูส แี ดง หมูสีเหลือง หมสู ีเขียว หมูสฟี า ฯลฯ โดยจัดหมูละ 6 – 8 คน - การเลือกนายหมแู ละรองนายหมู - การจัดกองลูกเสอื สํารอง - การแตงกายเครื่องแบบลกู เสือสํารอง - การแตงกายเคร่อื งแบบลกู เสอื สาํ รอง เมื่อรวมกจิ กรรมลกู เสอื ในแตละสัปดาห - ผูกาํ กบั ลูกเสือนํารองเพลงประกอบทา ทางกอ นเลิกการประชมุ 5. การประเมินผล สงั เกตความรว มมือและความสนใจในการรวมกิจกรรม 8 คูม ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสาํ รองเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกิจกรรมท่ี 1 เพลง ยนิ ดที ี่รูจกั วันนย้ี ินดที เ่ี ราไดม าพบกนั (ซ้ํา) ยนิ ดี ยนิ ดี ยนิ ดี มาเถดิ มาเรามารวมสนุก ปลดเปล้อื งความทกุ ขใ หม นั สนิ้ ไป มาเถดิ มาเรามารวมจติ ชว ยกันคดิ ทาํ ใหก ารลกู เสอื เจริญ สวัสดี สวสั ดี สวสั ดี วันน้ีเรามาพบกนั (ซํา้ ) เธอกับฉันพบกันสวัสดี ใบความรู การจดั กองและการแบงหมลู ูกเสือสาํ รอง กองลูกเสอื สํารอง 1 กอง มจี ํานวนลกู เสอื 8-36 คน (ระดบั ประถมศกึ ษาปท 1่ี -3) โดยแบง ลกู เสอื ออกเปน หมู ๆ ละ 4-6 คน รวมหานายหมู และรองนายหมู ลกู เสือ 1 กอง ตองมีลูกเสอื อยา งนอย 2 หมู ไมเกนิ 6 หมู เคร่อื งแบบและเครอ่ื งหมายลูกเสือสาํ รอง คมู อื การจดั กจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสริมสรา งทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1 9

เครือ่ งแบบลกู เสือสํารอง ประกอบดว ย 1. หมวกทรงกลม มีกระบังหนาหมวกทําดวยผาสีกรมทา ตัวหมวกเย็บดวยผา 6 ชิ้น แนวตะเข็บระหวางช้ินและขอบหมวกโดยรอบทาบดวยดายหรือไหมถักสีเหลือง เมื่อเขาพิธีประจํา กองแลว มีตราหนาหมวกรูปหนาเสือ และอักษรใตหนาเสือวา “ลูกเสือ” สีเหลือง บนผาสีกรมทา ขลบิ สกี รมทา รปู ไข ยาว4ซม. กวาง3.5ซม. 2. เส้ือแขนสั้น แบบและสีตามที่ผูบังคับบัญชาลูกเสือแตละโรงเรียนกําหนด ใหสอดชายเส้ือ อยูภ ายในกางเกง 3. ผาผูกคอรูปสามเหลี่ยมหนาจ่ัว ดานฐาน 90 ซม. ดานตั้ง 65 ซม. สีตามที่บังคับบัญชา ลกู เสือแตล ะโรงเรียนกาํ หนด และมีหว งซ่งึ ไมใชห ว งกลิ เวลลสวมผา ผูกคอ 4. กางเกงขาส้นั แบบและสีตามท่ผี บู ังคับบัญชาลูกเสอื แตละโรงเรียนกาํ หนด 5. เขม็ ขดั หนังสนี ้าํ ตาล กวา งไมเ กิน 3 ซม. หัวชนดิ หวั ขดั ทําดวยโลหะสีทองมีลายดุนตรา คณะลูกเสอื แหง ชาติ ภายในกรอบชอชัยพฤกษ 6. ถงุ เทา รองเทา ชนิดและสีตามท่ผี ูบงั คับบญั ชาลกู เสอื แตละโรงเรียนกาํ หนด เครอ่ื งหมายประกอบเครอ่ื งแบบลกู เสอื 1. เคร่อื งหมายลูกเสือทําดว ยผา สกี รมทา รูปไขย าว4 ซม. กวา ง 3.5ซม. มรี ูปหนา เสือและ คาํ วา “ลูกเสือ” สีเหลืองขลบิ ริมสกี รมทา ตดิ ทอี่ กขางซา ยเหนือกระเปา 2. เครื่องหมายหมู ทําดวยผาสีตามที่ผูบังคับบัญชาลูกเสือแตละโรงเรียนกําหนดรูป สามเหลีย่ มดา นเทายาว ดานละ 3.5ซม. ตดิ ทแี่ ขนเสอื้ ใตต ะเขบ็ ไหลซา ย 1ซม. ใหม มุ แหลมขน้ึ 3. เคร่ืองหมายนายหมูและรองนายหมู ทําดวยแถบผาสีเหลืองกวาง 1 ซม. เย็บติดรอบ แขนเสื้อขางซา ยเหนือปลายแขนเส้อื 5 ซม. นายหมู 2 แถบ เวนระยะระหวางแถบ 1 ซม. รองนาย หมู 1แถบ เคร่ืองหมายสังกดั 1. ช่ือกลุมหรือกอง ทําดวยผาสีแดง รูปส่ีเหลี่ยมผืนผา ยาว 7 ซม. กวาง 1.5 ซม. ขลิบสี ขาว มชี ื่อกลุมหรอื กองสขี าว 2. เลขกลุมและเลขกอง ทําดวยผาสีแดง รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสยาวดานละ 3.5ซม. ขลิบสีขาว มตี ัวเลขอารบกิ เลขกลมุ สขี าวสงู 1.5 ซม. อยูขางบน และเลขกองสีขาวสูง 1ซม. อยูขางลาง ติดใต เครือ่ งหมายชอ่ื กลมุ หรือกอง กองลกู เสือทจ่ี ัดกลุมไมไ ด ใหมเี ลขกองอยา งเดียว 10 คูมือการจัดกจิ กรรมลกู เสอื สํารองเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1

แผนการจัดกิจกรรมเตรียมลูกเสอื สาํ รองช้นั ประถมศึกษาปท ่ี 1 หนวยท่ี 1 เตรียมลูกเสือสาํ รอง แผนการจัดกิจกรรมที่ 2 นทิ านเมาคลี เวลา 2 ชว่ั โมง 1. จุดประสงคก ารเรยี นรู : 1.1 ลูกเสือมคี วามรูเ กยี่ วกบั นิทานเมาคลี 1.2 ลูกเสอื สามารถวเิ คราะหล กั ษณะนสิ ยั ของตัวละครในเรอ่ื งเมาคลไี ด 1.3 ลูกเสือรจู กั สงั เกตและจดจาํ 2. เนื้อหา 2.1 นิทานเรื่อง เมาคลี - ตอนกาํ เนดิ เมาคลี (เมาคลีลูกหมาปา ) - ตอนเมาคลเี ขา ฝงู (เมาคลที ผี่ าประชุม) - ตอนเมาคลีถกู ลักพาตวั - ตอนเมาคลอี อกจากปา - ตอนเมาคลีพบแม 2.2 นิสัยตัวละครเมาคลี 3. สือ่ การเรียนรู 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 รูปภาพ(พอหมาปา แมหมาปา และลูก ๆ 4 ตัว)เมาคลี แชรคาน (เสือโครงขาเก) บาลู (หมีเฒาสีนํ้าตาล) บาเคียรา (เสือดํามีรอยสีขาวรอบ ๆ คอ) ปนดาโลก (ลิงปา) คา (งู เหลือมขนาดใหญ) จิล (พญาเหย่ียว) ตาบากิ (สุนัขจ้ิงจอก) อาเคลา (หมาปา) อ๊ิกก้ี (เมน) มัง (คางคาว) 3.3 ใบความรู เรอื่ ง นทิ านเมาคลี 3.4 เรอื่ งท่เี ปนประโยชน 4. กจิ กรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ท่ี 1 1) พธิ เี ปดประชมุ กอง (แกรนดฮาวล ชกั ธง สวดมนต สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลงหรือเกม 3) กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรยี นรู (1) ผูกํากบั ลกู เสือเลา นทิ านเมาคลปี ระกอบรปู ภาพ พรอมใหลกู เสอื สังเกตนสิ ัยตัวละครที ละตอน - ตอนกําเนิดเมาคลี (เมาคลลี กู หมาปา ) - ตอนเมาคลีเขาฝงู (เมาคลที ผ่ี าประชุม) - ตอนเมาคลีถกู ลักพาตัว คมู ือการจดั กจิ กรรมลูกเสอื สาํ รองเสริมสรางทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1 11

(2) ผูกํากบั ลูกเสอื และลกู เสอื รว มกนั สรปุ เรื่องราว โดยใชภาพตวั ละครประกอบ (3) ลกู เสอื รว มกันวเิ คราะหน ิสัยตัวละคร - เปนสัตวอะไร - มนี สิ ยั อยางไร ( นิสยั ดี – ไมด ี บอกเหตผุ ล) 4) ผกู าํ กบั ลูกเสือเลา เรือ่ งทเี่ ปนประโยชน 5) พธิ ปี ด ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ แกรนดฮ าวล ชกั ธง เลิก) 4.2 กิจกรรมคร้งั ท่ี 2 1) พธิ เี ปดประชมุ กอง (แกรนดฮาวล ชักธง สวดมนต สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลงหรือเกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคการเรียนรู (1) ผกู ํากับลกู เสือเลา นทิ านเมาคลปี ระกอบรปู ภาพ พรอมใหล กู เสอื สังเกตนสิ ัยตัวละครที ละตอน - ตอนเมาคลอี อกจากปา - ตอนเมาคลีพบแม (2) ผูกํากับลกู เสอื และลกู เสอื รวมกันสรปุ เร่ืองราว โดยใชภ าพตวั ละครประกอบ (3) ผกู ํากบั ลกู เสือสอบถามและชว ยเพม่ิ เตมิ ขอคดิ จากนสิ ัยตวั ละคร * เมาคลี เปน ผูมีจติ ใจโอบออ มอารี สุขภาพออนนอม และเชื่อฟงคําสงั่ สอน ของบาลูและบาเคียรา จงึ เปนมิตรกบั สตั วท กุ ตวั * บาลู เปน หมเี ฒา ท่ีมีความรเู รอ่ื งปา เปน ผกู ํากับลูกเสอื ของฝงู หมาปา มเี หตผุ ล ยตุ ธิ รรม (มเี กียรติ เช่อื ถอื ได) * บาเคียรา เปนเสอื ดาํ เปนผูทฝี่ งู หมาปาใหความเคารพนับถือเปนผคู วบคุมกฎ ของปา มคี วามยตุ ธิ รรม มเี กียรติเชอ่ื ถือได * ลิงปน ดาโลก เปน ลิงสกปรก ไมม รี ะเบยี บและเปน ท่ีรงั เกียจของสตั วอนื่ ๆ ไมร ักษา คําพดู ของตน เชอ่ื ถอื ไมไ ด ไรเ กยี รติ * อาเคลา เปนหัวหนาฝงู หมาปา เปนประธานการประชมุ ของสตั วป า จะอยู บนผาสงู กวา สตั วอ น่ื ๆ ในการประชมุ เปน ผูร ับฟงความคดิ เหน็ ของ ผูอ่นื เปน ประชาธปิ ไตย * แชรค าน เปนเสือโครงขาเก ขี้โกง โกหก ชอบยุแหย ใสรา ยปายสใี หส ตั วป า แตกแยกความสามคั คี และเหน็ แกประโยชนส วนตวั จติ ใจชวั่ ราย * จลิ และคา จลิ คอื พญาเหย่ียวและคาคอื พญางเู หลอื ม เปน ผูม จี ิตใจดี ชว ยเหลอื ผูอ น่ื ทีเ่ ดอื ดรอ น (4) มอบหมายใหหมูลูกเสือสํารองจดจําลักษณะของสัตวในละคร แลวฝกซอมเลียนแบบ ทา ทางของสัตวมาแสดงใหลกู เสอื ในกองไดชม หรือทายชอื่ สตั ว 12 คูมอื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสํารองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1

4) ผูกาํ กบั ลกู เสอื เรือ่ งที่เปน ประโยชน 5) พธิ ปี ด ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแบบ แกรนดฮ าวล ชกั ธง เลิก) 5. การประเมนิ ผล 5.1 สอบถามความเขาใจเรอื่ งราวนิทานเมาคลี 5.2 สังเกตการวเิ คราะหล กั ษณะนิสัยของตัวละครของกลุมลูกเสอื 5.3 สงั เกตความสามารถของลูกเสอื ในการสังเกตและจดจําตวั ละคร คมู ือการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สาํ รองเสรมิ สรางทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1 13

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมท่ี 2 เพลง จลี จลี จะ ชว ยบอกบาลูที วาตัวฉนั นถี้ กู ลงิ พาไป ถาแมไ มช ว ย ตอ งมวยชวี า (ซํา้ ) โปรดกรุณาแกเ มาคลเี ทอญ เมาคลี เมาคลเี ขาเปน มนษุ ย รกั กันสุดๆ อาเคลา หมาปา บาลูหมสี นี า้ํ ตาลเดินมา กับบาเคียรา สวสั ดีทกั ทาย บนั ดาโลก ลิงปา ก็มี คาเปน งูเหลอื มทข่ี นาดใหญๆ จลิ พญาเหย่ยี วโผบินไป ตาบากวิ งิ่ ไวสนุ ขั จิ้งจอก อิ้กกเ้ี มน มังคางคาว อาศัยอยูภูเขาซโิ อน่ี ลกู เสอื จดจาํ ใหด ี สัตวป า กบั เมาคลเี ขาเปน เพื่อนกัน รักกัน รกั กัน รกั กัน 14 คมู อื การจัดกจิ กรรมลกู เสือสํารองเสรมิ สรางทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1

ใบความรู นทิ านเมาคลี ตอนที่ 1 กําเนดิ เมาคลี มสี ามภี รรยาคูหน่ึง อาศัยอยูแถวเทือกเขาซิโอนีในประเทศอินเดีย วันหนึ่งสามีภรรยาคูนี้เขา ไปตัดฟนในปาโดยพาลูกนอยไปดวย พอถึงกลางคืนก็กอไฟขึ้น ตกดึกมีเสือโครงช่ือ “แชรคาน” หรือ “ไอขาเก” ผา นมาพบเขา เสอื โครงจึงกระโดดตะครุบใสแ ตพ ลาดตกลงไปในกองไฟ จึงรอ งดว ยความ เจ็บปวดและว่งิ หนีไป สว นสองสามีภรรยาก็ตกใจวิง่ หนไี ปเชนกันคงท้งิ ลูกนอ ยไวในปาคนเดียว เด็กนอยเดินเตาะแตะไปจนถึงถ้ําที่ครอบครัวฝูงหมาปาอาศัยอยู ฝูงหมาปานี้มีพอแมและลูก 4 ตัว และเคยไดยินหมาจ้ิงจอกชื่อคาบากิ หรือ “อายเลียจาน” บอกวา แชรคานกําลังเขามาหากินอยู ในถ่ินน้ี เม่อื แชรคานตามมาถงึ หนา ถ้าํ หวงั จะกินเดก็ พอ แมหมาปาจึงเขาขัดขวาง ทําใหแชรคานตอง หนีไปดวยความโกรธแคน พอ แมหมาปาจงึ ไดรับเอาเด็กนอยไวเล้ียง และตั้งช่ือใหวา เมาคลี ซ่ึงแปลวา ลกู กบ เพราะเห็นวา ไมม ขี นเชน เดยี วกบั ลูกกบตัวนอย ๆ ตอนที่ 2 เมาคลเี ขาฝงู คืนวันพระจันทรเต็มดวง ฝูงหมาปาประชุมกันท่ีผาประชุม มีหัวหนาฝูงหมาปาชื่อ อาเคลา นั่งอยูบนลานหินและมีหมาปาอื่นๆ นั่งลอมวงอยูกอนเปดการประชุมสมาชิกหมาปาจะสงเสียงเหา หอนแสดงความเคารพตอ อาเคลา หวั หนา ฝูงหมาปา ผูเปน ประธานผาประชุม การประชุมคราวนี้ ครอบครัวหมาปาไดพาเมาคลีมาใหท่ีประชุมรับรองเปนสมาชิกใหมของ ฝงู ดวย หมาปา บางตัวถกู แชรค านยแุ หยไ วจ งึ ไมย อมรบั เมาคลเี ขา เปน สมาชิกใหมของฝูง ตามกฎของปาบอกไววา “ถามีการขัดแยงในการรับรองสมาชิกใหม จะตองมีสมาชิกที่ไมใช พอแมของลูกสตั วน้ันมารบั รอง 2 ตัว ฝงู จึงจะรบั ลกู สัตวนนั้ เปนสมาชกิ ได” หมเี ฒา “บาล”ู ซึง่ เปนผกู ํากบั ลกู เสือของฝูงหมาปา และเสือดํา “บาเคยี รา” ซึง่ เปน ที่นับถือของ ฝูงหมาปา ไดใหการรับรองเมาคลี เมาคลจี งึ ไดเ ขาเปนสมาชิกของฝูงได เมาคลีอาศัยอยูกับฝูงหมาปาดวยความสุขและปลอดภัย โดยมีหมีเฒาบาลูคอยชวยสอนกฎ ของปา และมเี สือดําบาเคียราคอยสอนวธิ กี ารลา สตั ว การว่งิ เงียบ และอื่นๆ อีกมาก เมาคลีทําตัวเปนผูมีจิตใจโอบออมอารี สุภาพออนนอมและเชื่อฟงคําส่ังสอนของบาลูและ บาเคียรา เมาคลจี ึงเปนที่รักของฝูงสัตว แมพวกลงิ บนั ดาโลก ซง่ึ เปน ลงิ สกปรก ไมมีระเบยี บ และเปน ท่ีรงั เกยี จของสัตวอื่นๆ เมาคลีก็คบหาดวยท้งั ๆ ทบ่ี าลแู ละบาเคียรา หา มแลว กไ็ มเ ชอื่ ฟง คูมือการจัดกิจกรรมลกู เสอื สาํ รองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1 15

ตอนท่ี 3 เมาคลีถกู ลกั พาตวั วันหน่ึง ขณะท่ีเมาคลี บาลู และบาเคียรา กําลังนอนหลับอยูใตตนไม พวกลิงบันดาโลกมา ลักพาตัวเมาคลีไปเพื่อจะใหเมาคลีเปนหัวหนาของพวกตน เมาคลีถูกลิงโยนจากตนไมตนหนึ่งไปยัง อีกตนหน่ึงตอๆกัน โดยมีลิงคอยสงคอยรับ ทําใหเมาคลีตกใจมาก พอดีเมาคลีมองเห็นพญาเหย่ียว จิลบนิ ผา นมา จึงรองบอกใหจ ิลชวยไปบอกบาลแู ละ บาเคยี รา ใหมาชว ย เม่ือบาลูและบาเคียราไดทราบขาวจากจิล จึงไปขอความชวยเหลือจากพญางูช่ือ คา ซึ่งพวก ลิงบันดาโลกกลัวมาก เพราะคาชอบเลื้อยข้ึนตนไมจับลิงพวกนี้กินเปนอาหารอยูบอยๆ คาซ่ึงเคยฟง เรื่องราวของเมาคลีจากเมน ชอ่ื “อิ๊กก”้ี มากอ นกย็ ินดชี วยเหลือ บาลู บาเคียรา และคาไดพากันไปวังนํ้าเย็น ซ่ึงเปนเมืองรางอยูในปา และเปนท่ีพวกลิง บันดาโลก ชอบไปสิงสูอยู เม่ือไปถึงก็ไดตอสูกับพวกลิง ลิงถูกฆาตายไปหลายตัว และชวยเมาคลี ออกมาได จากน้ัน เมาคลีก็ถูกเสือดําบาเคียราทําโทษตามกฎของปา แลวพากันเดินทางกลับท่ีพัก ของตน ตอนท่ี 4 เมาคลีออกจากปา เม่ือเมาคลีมีอายุ 12-13 ป แชรคานไดยุแหยใหหมาปารุนหนุมเลิกนับถืออาเคลา หัวหนาฝูง หมาปา เพราะเปน หมาแกและยังเปน ผเู อามนุษยเ ขามาอยใู นฝงู รวมทง้ั ยแุ หยใหเกลยี ดเมาคลอี ีกดว ย บาเคยี รา ไดทราบขา ววาแชรค านยังมงุ รา ยเมาคลีอยู จึงบอกใหเมาคลีระวังตัว และแนะนําให ไปหาดอกไมแดง (ไฟ) ท่ีอยูขางกระทอมของคนมาไว เมาคลีก็ทําตาม เมื่อแชรคานจะมาทําราย เมาคลกี ใ็ ชไ ฟไลใหหนีไป และประกาศวา จะเอาหนังของแชรค านมาปนู อนใหไ ด ตอมามีการประชุมฝูงหมาปาที่ผาประชุมอีก หมาปาสวนใหญซึ่งเชื่อคํายุแหยของแชรคาน กไ็ มย อมใหเ มาคลีอยูในฝงู อกี เมาคลีจงึ โกรธและบอกท่ีประชุมวาจะไปอยกู ับคน ตอนท่ี 5 เมาคลพี บแม เมาคลีออกจากปาดวยความจําใจเมื่อเขามาในหมูบาน ก็ไดพบกับหญิงคนหน่ึงชื่อนางเมซซัว ซ่ึงจําไดวาเมาคลี คือ นาธู ลูกชายของนางที่หายไปเม่ือคราวเขาไปตัดฟนในปา นางจึงรับเมาคลีไวเลี้ยงดู สอนใหรูจักนุงผา และพูดภาษาคน เมาคลีชวยทํางานดวยการตอนควายของหมูบานไปเล้ียงท่ีชาย ปาทกุ วัน จึงไดพบกับเกรย ลูกหัวปของพอแมหมาปาอยูบอยๆ เมาคลีไดรูจากเกรยวาแชรคานจะมา ดกั ฆาตน และเพ่ือปอ งกนั ตนเอง เขาจงึ ไดวางแผนฆา แชรคานเสยี กอน 16 คูมือการจดั กิจกรรมลูกเสอื สาํ รองเสริมสรางทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 1

เรือ่ งท่เี ปนประโยชน เมาคลเี ด็กดี น.ส. จุฑามาส ชุมเมอื งปก เรยี บเรียง ท่ีปาแหงหนึ่งในประเทศอินเดีย มีเด็กชายตัวเล็กชื่อเมาคลี อาศัยอยูกับฝูงหมาปาอยางมี ความสุข มีสัตวตางๆ ชวยสอนการใชชีวิตในปา คือ บาลูหมีสีนํ้าตาลสอน เรื่อง กฎของปา บาเคียรา เสือดําสอนวิธีการลาสัตว ว่ิงเงียบและอื่นๆ เมาคลีทําตัวเปนผูมีจิตใจโอบออมอารี ออนนอมถอมตน และเช่ือฟงคาํ สอนของผูใหญ ทาํ ใหเ ปนทร่ี ักของบรรดาสัตวต า งๆ ลกู เสอื สาํ รองก็เชนเดียวกัน หากเปนผูที่รูจักออนนอม สุภาพ และเช่ือฟงผูกํากับลูกเสือ หรือ ผใู หญก จ็ ะเปน ทีร่ ักของบุคคลทัว่ ไปเชน กัน เรอื่ งน้ีสอนใหร ูวาผทู ีม่ ีความสุภาพออ นนอม มีสมั มาคารวะตอ ผใู หญ จะทาํ ใหเปนทรี่ กั ของคนทว่ั ไป คมู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสาํ รองเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1 17

แผนการจัดกจิ กรรมเตรียมลกู เสอื สํารองช้ันประถมศึกษาปท่ี 1 หนว ยที่ 1 เตรียมลกู เสอื สาํ รอง แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 3 เลยี นแบบตัวละคร เรอ่ื ง เมาคลี เวลา 1 ชัว่ โมง 1. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ลกู เสือสามารถ สงั เกต จดจํา และแสดงทาทางเลียนแบบตวั ละครในเร่อื งเมาคลไี ดอยาง เหมาะสม 2. เนอื้ หา 2.1 ลกั ษณะและเสียงของเมาคลี บาลู บาเคียรา อาเคลา คา (งเู หลือม) หมาปา สุนขั จงิ้ จอก แชรค าน และลิงบันคาโลก 2.2 นทิ านเรอื่ งเมาคลี ตอนอวสานแชรค าน เมาคลชี ว ยแมใหพนภัยและกลบั สูสังคมมนุษย 3. ส่อื การเรียนรู 3.1แผนภูมิเพลง 3.2 ภาพสัตวจ ากนทิ านเมาคลี 3.3 ใบความรู เรอ่ื ง นทิ านเมาคลี (ตอนอวสานแชรค าน, เมาคลีชวยแมใหพนภัยและเมาคลี กลับสูสังคมมนษุ ย) 3.4 เร่ืองทเี่ ปนประโยชน 4. กิจกรรม 1) พิธเี ปด ประชุมกอง (แกรนดฮ าวล ชักธง สวดมนต สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจุดประสงคก ารเรียนรู (1) ผูกาํ กับลกู เสอื สนทนาเพื่อทบทวนถงึ เร่อื งราวและตวั ละครในนทิ านเมาคลีในชั่วโมง กอ น (2) หมูลูกเสอื รว มกันเลียนแบบทาทางและเสยี งของตวั ละครในเรอ่ื งเมาคลี ตามทเ่ี ลือกและ ฝกซอ มมาแลว เชน แชรค านตะครบุ เหยอื่ บนั ดาโลกแยงเมาคลี ฯลฯ (3) ผูกํากบั ลกู เสอื เปรียบเทยี บบทบาทของตัวละครกบั กองลูกเสอื สาํ รอง - กองลกู เสือมหี วั หนา เปน ผนู ํา เปน ประธานการประชมุ เรียกวา อาเคลา - กองลกู เสือมหี มขู องตน เชนเดียวกบั สตั วห ลาย ๆ ชนิด แตล ะชนดิ กม็ ีนายหมูของ ตนเปนผูนาํ เชน นายหมสู แี ดง นายหมูสีเหลอื ง สเี ขยี ว ทําหนาที่ควบคุมดูแลรกั ษากฎกตกิ าหรือ ขอตกลงของหมู - ลกู เสือสาํ รองตอ งทาํ ตามลกู เสือรนุ พี่ ปฏิบัตติ ามคําสอนของผกู ํากับลกู เสือ เชน เมา คลี เช่ือฟงบาลูและอาเคยี ลา ผูส อนกฎแหง ปา - ลูกเสือสํารองตองเฉลียวฉลาด รูจ ักสังเกต จดจํา กลาหาญและมีความกตญั ู ดังเชน เมาคลี 18 คมู อื การจัดกจิ กรรมลกู เสอื สาํ รองเสริมสรางทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 1

- ลกู เสอื สาํ รองตองมนี ํา้ ใจชว ยเหลอื ผอู ่นื เชน จิลกับคา และเปน ผูโอบออ มอารี สุภาพ เรยี บรอ ย เชน เมาคลี ไมทาํ ตนเปนแบบแชรค าน (4) ผกู ํากับลูกเสือเลาเร่ืองเมาคลีทีเ่ หลืออีก 3 ตอน (อวสานแชรคาน, เมาคลีชวยแมใหพน ภยั และเมาคลีกลับสูสงั คมมนษุ ย) (5) ผกู าํ กับลูกเสือตั้งคําถามชวนคิดชวนคุยและเพิม่ เตมิ ขอคดิ ที่ลูกเสอื ควรไดรบั - ใครคอื ผูท่ีถกู เรยี กวา “ลูกหมาปา” - หมาปา ในนทิ านเมาคลมี ีลกั ษณะนิสัยเปน อยา งไร (ฉลาด วอ งไว มีวินัย เปนนกั สอดแนมและเช่อื ฟง หัวหนา) - นกั เรยี นควรฝก นสิ ัยตนเองอยา งไรจึงจะเปนลูกเสือสาํ รองท่ีฉลาด วองไว เปนนักสอดแนม 4) ผูกาํ กบั ลูกเสือเลา เรือ่ งทเี่ ปน ประโยชน 5) พิธปี ด ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครือ่ งแบบ แกรนดฮ าวล ชักธง เลิก) 5. การประเมนิ ผล 5.1 สงั เกตความสามารถในการจดจาํ และแสดงทา ทางสัตวใ นนิทานเมาคลี 5.2 ซกั ถามใหแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั ลักษณะนิสยั ของสัตวต วั ละครและการเปรยี บเทียบ การกระทาํ ของตนเองกบั สตั วในนิทานเมาคลี เพือ่ สงั เกตความสามารถในการคดิ เชอื่ มโยง ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 3 เพลง หมาปาใจดี อาเคลา หมาปา หวั หนาฝงู ผูมีจิตใจสูง จะอยูบนหนาผา เปน ประธานการชมุ นุมของสตั วป า มีจิตใจเมตตาเปนประชาธิปไตย รับฟง ความคดิ ของคนอ่ืน ทกุ วนั ทกุ คืนของเหลาสตั วป า ถกู ยกยองฝใหเ ปนหัวหนา ทานอาเคลา เราจะทําดที ส่ี ดุ คมู ือการจดั กิจกรรมลูกเสอื สํารองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1 19

ใบความรู นิทานเมาคลี ตอนที่ 6 อวสานแชรคาน วนั หนึง่ โอกาสเหมาะเมาคลีขค่ี วายช่อื รามา ไลตอ นฝงู ควายเพื่อไลแชรคานเขาไปในชองเขา โดยขอใหอาเคลาตอนควายอีกฝูงหน่ึงไปปดชองเขาอีกขางหน่ึงไวไมใหแชรคานออก แชรคานจึงถูก ฝงู ควายเหยยี บตายในชองเขานัน้ เอง เมื่อแชรคานตาย เมาคลีจึงถลกหนังแชรคานออก พอดีกับมีนายพรานชื่อ บันดาโอ ผานมาพบ กจ็ ะเขาไปแยงผนื หนังจากเมาคลี แตถกู เกรยขัดขวางไว นายพรานจงึ จากไปพรอมกบั โกรธเมาคลีมาก บันเดโอ เขามายุแหยคนในหมูบานใหเกลียดชังเมาคลีโดยใสรายวาเมาคลีเปนพอมดหมอผี เมาคลจี ึงถูกขบั ออกจากหมูบ านและกลบั มาอยูกับฝงู หมาปา อีกครง้ั เม่ือมีการประชุมฝูงหมาปาทผ่ี าประชุมอีก เมาคลกี เ็ อาหนังแชรคานไปคลุมลานหินไว และให เอาเคลา ขนึ้ น่ังบนหนังแชรคาน ฝงู หมาปาจึงเลอื กเอาเคลาเปน หวั หนา ฝงู ตามเดิมตอ ไป จากวนั น้นั มา เมาคลีกอ็ ยูกับครอบครวั หมาปาอยางสงบสขุ ตอนท่ี 7 เมาคลชี ว ยแมใ หพ นภัย ฝายนายพรานบันเดโอ ก็พยายามติดตามจะมาฆาเมาคลีถึงในปา แตเมาคลีรูตัวเสียกอนจึง หลบซอ นไดท ุกครัง้ วันหน่ึง เมาคลีแอบไดยินบันเดโอพูดกับคนตัดฟนวา นางเมซซัวและสามีถูกจับขังไวเพ่ือรอ ประชาทัณฑ ก็คิดชวย จึงไปบอกฝูงหมาปา ใหชวยกันสงเสียงขูและไลบันเดโอจนหนีขึ้นไปอยูบน ตนไม สวนตวั เมาคลเี องกร็ บี เขา ไปในหมบู าน ชว ยแกมดั นางเมซซัวและสามี และใหแมห มาปา คุมกัน พาหนีไปยังเมืองขา นหิวาระ เมื่อเมาคลีกลับมาอยูในปาดังเดิม ก็วางแผนลงโทษพวกชาวบานท่ีหูเบาและใจพาลทั้งหลาย จึงไปขอรองให พญาหัตถี (ชาง) นําฝูงสัตวปาเขาทําลายหมูบาน ก็ไดรับความรวมมือ เพราะพญา หตั ถเี องกเ็ คยถกู นายพรานบนั เดโอทํารา ย เม่ือพญาหัตถีและฝูงสัตวปาเขามาในหมูบาน ชาวบานก็ตกใจและพากันหนีไป บานชองและ เรอื กสวนไรนากถ็ กู ทําลายจนหมด กลายเปนหมบู า นรางไป 20 คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1

ตอนที่ 8 สูสงั คมมนุษย เม่ือเมาคลีอายุ 17 ป เขาไดพบกับนางเมซซัวอีกที่หมูบานแหงหน่ึง นางเมซซัวขอใหเมาคลี กลบั มาอยดู วย เมาคลจี ึงนาํ เรอื่ งนี้กลบั มาปรึกษากบั พ่ีนอ งหมาปาทัง้ ส่ี หมีบาลู และเสือดําบาเคยี รา สตั วทุกตัวก็สนับสนุนใหเ มาคลไี ปอยกู บั นางเมซซัว เพราะรูวาเมาคลีเปนมนุษย ก็ตองอยูกับ มนุษยจึงจะมคี วามสุข เมาคลจี ึงตัดสนิ ใจกลับมาอยกู ับนางเมซซัวท่ีหมูบานอีกคร้ังหน่ึง ตอมาเขาก็ไดเปนเจาหนาที่ รกั ษาปา ไมข องราชการและไดแตงงานกับหญงิ งามคนหนง่ึ ทงั้ สองอยดู วยกันอยางมีความสุขตลอดมา เร่อื งทเ่ี ปนประโยชน อนั โดรคัส ทาสคนหนึง่ ชื่อ อนั โดรคสั ไดห ลบหนจี ากนายเขา อยูไปในปา ขณะท่ีเขากําลังทองไปอยางไร จุดหมายก็พบสิงหโตนอนรองครวญครางอยางเจ็บปวด ทีแรกเขาคิดจะว่ิงหนีแตแลวก็พบวาสิงหโต นั้นบาดเจ็บไมอาจทําอันตรายเขาไดเมื่อเขาเดินเขาไปใกล ๆ สิงหโตก็ยื่นอุงเทาของมันท่ีบวมและมี เลอื ดออกใหเขาดู อันโดรคัสจึงมองเห็นวามีหนามใหญตําอยูในอุงเทาขางน้ัน ซ่ึงทําใหมันเจ็บปวดเขารีบดึง หนามออกมาและเอาผาพันอุงเทา ใหสิงหโต ไมนานมันก็ลุกข้ึนยืนได มันเลียมือของอันโดรคัสราวกับ เปนสุนขั ตวั หนึง่ สิงหโตไดพาอันโดรคัสไปยังถํ้าของมัน หาเน้ือมาใหเขาทุกวันแตไมนานท้ังสองก็ถูกจับได อันโดรคสั ถูกตัดสินโทษโดยจะนําไปโยนใหสงิ หโ ตกนิ สว นสงิ หโตถูกขังใหหวิ โหยเปนเวลาหลายวนั วันลงโทษ จักรพรรด์ิและขุนนางทั้งหลายตางพากันมาดูเหตุการณอันนาต่ืนเตนน้ีอันโดรคัส ถูกพาออกมาอยูกลางสนามกีฬาจากนั้นสิงหโตก็ถูกปลอยออกมาจากกรงขังมันรีบกระโจนเขาหา เหย่ืออยางรวดเร็วพรอมกับรองคํารามแตพอเขาไปใกลอันโดรคัส มันก็จําผูเปนเพ่ือนของมันได จึง หมอบลงและเลียมือของเขาราวกับสุนัขเช่ืองๆ ตัวหน่ึง จักรพรรดิ์ประหลาดใจกับส่ิงที่เกิดขึ้นจึงเรียก อันโดรคัสเขาพบและถามเรื่องราวทั้งหมด เขาไดรับการอภัยโทษและเปนอิสระสวนสิงหโตถูกนําไป ปลอยในปาตามเดมิ เร่อื งนสี้ อนใหรวู า ความกตัญเู ปนสญั ลกั ษณข องผมู ีจิตวญิ ญาณสงู สง ทมี่ า http://xn--o3cdbi8era7aon.net/p=24 คมู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื สาํ รองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1 21

แผนการจัดกจิ กรรมเตรยี มลูกเสอื สํารองชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1 หนว ยที่ 1 เตรียมลูกเสือสํารอง แผนการจัดกิจกรรมที่ 4 ประวตั ิการเรมิ่ กิจการลกู เสือสาํ รอง เวลา 1 ช่วั โมง 1. จุดประสงคการเรียนร:ู 1.1 ลูกเสือเลา ประวตั ิการเร่มิ กจิ การลูกเสือสาํ รองได 1.2 ลกู เสือบอกประโยชนของการเปนลูกเสือสํารองไดอยา งนอย 2 ขอ 1.3 ลกู เสือแตง เคร่ืองแบบลกู เสอื สํารองไดถูกตอ ง 2. เนอ้ื หา 2.1 ประวตั กิ ารลกู เสือสาํ รอง 2.2 ประโยชนของการเปน ลกู เสือสํารอง 2.3 เครือ่ งแบบและเคร่อื งหมายลูกเสอื สํารอง 3. สอื่ การเรียนรู 3.1แผนภูมิเพลง, เกม 3.2 บตั รคํา, ภาพ ลอรด เบเดน เพาเวลล (บ.ี พ.ี ), เครอ่ื งแบบลูกเสือสาํ รอง 3.3 ใบความรู 1) เรอ่ื ง ประวัติการเริม่ กจิ การลูกเสอื สํารอง 2) เร่อื ง เครอ่ื งแบบและ เคร่อื งหมายลูกเสอื สาํ รองและเนตรนารีสาํ รอง 3.4 เรือ่ งท่เี ปน ประโยชน 4. กิจกรรม 4.1 พธิ ีเปด ประชมุ กอง (แกรนดฮาวล ชกั ธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม(ควรเลน เกมแตงตวั เจา ปา) 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคการเรยี นรู 1) ผกู าํ กบั ลกู เสอื เลา ประวัตคิ วามเปนมาของการลกู เสอื สํารองใหลกู เสือสาํ รองฟง อยางเปนลําดับขั้นตอน 2) ผูกํากบั ลกู เสอื สนทนาเก่ยี วกบั จุดประสงคของบ.ี พ.ี ในการตงั้ กองลกู เสอื สํารองใน พ.ศ. 2459 ในประเทศองั กฤษ นับถึงปจ จุบนั เปน เวลากวา 94 ป ท่วี า “เพ่ือใหเด็กที่มีอายุ 8 ป ไดรับการฝกใหมีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับลูกเสือ ตามนิยาย เรอ่ื งเมาคลีทมี่ ฝี งู หมาปา เปน สตั วท ่ีฉลาดวองไว มวี นิ ยั เปน นักสอดแนมและเชื่อฟงหวั หนา ” และจุดประสงคของประเทศไทยที่ตั้งกองลูกเสือสํารองข้ึนในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2507 นบั ถงึ ปจจบุ ันเปน เวลากวา 46 ปมาแลว ทว่ี า “เพื่อใหเด็กท่ีมีอายุ 8 – 11 ป ที่เขารับการฝกอบรมใหรูจักปรับตนเองใหเปนผูมีระเบียบ วินัย ฉลาดวอ งไว เปน นกั สอดแนมและเช่อื ฟง หวั หนา รว มทํากจิ กรรมและทาํ งานกนั เปนหมูคณะ” 3) ผูกาํ กบั ลูกเสอื ต้งั ประเด็น “คดิ ” ใหกบั ลูกเสอื สาํ รอง “เด็กๆ คิดวาการเปนลูกเสือสํารองจะเปนประโยชนตอตัวเองและโรงเรียนอยางไรบาง ชว ยกันคดิ หมลู ะ 2 ขอ” 22 คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สาํ รองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1

4) ผูกาํ กับลูกเสือสอบถามความคดิ เหน็ ของหมลู ูกเสอื และสรปุ รว มกนั - มีระเบยี บและวนิ ยั ในตนเอง - ไดท ํางานรวมกนั เปน หมคู ณะ - มีจิตใจรา เริง แจมใส สนุกสนาน - มีรางกายแข็งแรง อดทน - เปนลูกเสือของพระบาทสมเด็จพระเจา อยหู ัว และไดแตง เคร่ืองแบบทีส่ งา งาม - ไดบาํ เพญ็ ประโยชนต อผอู ่ืน - ไดเ ปนคนฉลาด แคลว คลอ งวองไว - ไดเ ปน นกั สังเกต มไี หวพริบในการสอดแนม สํา รวจ - ไดเปนลูกเสือที่ทําประโยชนแ ละชื่อเสยี งใหก บั โรงเรียน ฯลฯ 5) ผูก ํากบั ลกู เสือช้แี จงวา ผทู ่ีเปน ลกู เสอื ทด่ี จี ะไดร บั อนุญาตใหแ ตง เครอื่ งแบบลูกเสอื และลูกเสือสํารองก็เชน เดียวกนั 6) ผูกํากับลูกเสอื นาํ เครอ่ื งแบบลกู เสอื สํารองมาใหดู โดยใหลูกเสือรุนพ่ีมาสาธติ การ แตง เครอื่ งแบบ 4.4 ผกู ํากับลกู เสอื เลาเรอ่ื งทีเ่ ปนประโยชน 4.5 พิธีปด ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ แกรนดฮ าวล ชักธง เลกิ ) 5. การประเมนิ ผล 5.1 สังเกตความสนใจและการมีสวนรวมในหมู 5.2 ตรวจสอบความเขาใจ ประวัติของการลูกเสือสํารอง และความสามารถในการคิด และ การรปู ระโยชนข องการเปนลกู เสือสํารองของแตล ะหมู 5.3 สังเกตความถกู ตอ งของการแตงเคร่อื งแบบลูกเสอื สํารอง องคป ระกอบของเครอื่ งแบบลกู เสอื สํารอง 1) เส้ือ กางเกง หรือกระโปรง (เนตรนารี) 2) การพันและผกู ผา ผูกคอ 3) หมวกและการสวมหมวก 4) เขม็ ขดั และการคาดเขมคัด 5) รองเทา ถุงเทา และการผกู เชือกรองเทา 6) การติดเคร่ืองหมายประกอบเครอ่ื งแบบ คูมือการจดั กิจกรรมลูกเสอื สํารองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1 23

ภาคผนวกประกอบแผนการจัดกจิ กรรมที่ 4 เพลง ดอกไมแดนไพร แดนปาเขา หนนู อ ยเริงใจ เด็ดดอกไม สอดใสแซมผม ดอกมะลิวัลย กรรณิการ ลั่นทม เฝาเด็ดดม นยิ มแดนไพร ชวนกันรองเพลง เพลนิ เดนิ ไป นาชนื่ ใจ ดอกไมในดง เจี๊ยก เจ๊ียก เจีย๊ ก ล.ลงิ ลงิ มนั อยูไ มน่ิงมันชอบวิ่งกนั อยไู ปมา เปนเสยี งเรยี กของลิง เจีย๊ ก เจี๊ยก เจยิ๊ กมนั รอ งเรียกพวกมา ครน้ั พอถงึ เวลาออกเท่ียวหาผลไมกนิ . เกม เกมแตง ตวั เจาปา อุปกรณก ารเลนเกม 1. ผาผกู คอ 2. หว งผาผกู คอ 3. หมวก 4. เข็มขัดลกู เสือ 5. ถุงเทา 6. รองเทา 7. ลกู บอล 8. นกหวดี วธิ เี ลน กติกาการเลน 1. ใหล กู เสือยืนลอ มเปนวงกลม 2. ผูกํากับลูกเสือสงอุปกรณถือไวโดยใหอุปกรณกระจายไปในวงลอมลูกเสือ (ซ่ึงไมครบ จาํ นวนคน) 3. ใหลูกเสือสงของในมือใหเวียนไปรอบวงขณะที่มีเสียงเพลง ใหหยุดสงของเม่ือไดยินเสียง นกหวีด 4. ลูกเสือท่ีถือบอลไวในมือใหเปนเสมือนเจาปา สวนลูกเสือที่ถืออุปกรณอื่นๆเปรียบเสมือน สัตวปาท่ีนําของมามอบใหเจาปา โดยแตงตัวเจาปาใหถูกตองตามแบบลูกเสือสํารองดวย การสวมทบั ชุดเดิม 5. เลน ซา้ํ 2-3 รอบเพม่ิ ความเขาใจเรอื่ งการแตงกายของลกู เสอื สํารอง 24 คูม ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสํารองเสรมิ สรา งทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1

ใบความรู ประวตั ิการเริม่ กจิ การลกู เสือสาํ รอง พ.ศ. 2427 ประเทศอังกฤษไดสง ลอรดเบเดน เพาเวลล หรือที่ เรียกกันโดยยอวา บี.พี. ไปดูแลเมืองขึ้นของอังกฤษในทวีปแอฟริกา และ ทหารอังกฤษตอ งสรู บกับชาวพ้นื เมอื งอยเู สมอ ในการสูรบทเ่ี มืองมัฟฟคิง บี.พี.ไดรวบรวมเด็กชายชาวอังกฤษใน แอฟริกาจํานวนหนึ่ง จัดตั้งเปนกองทหารเยาวชน มีอายุตั้งแต 9 ขวบขึ้น ไป ทําหนาที่สืบขาวสอดแนมความเคล่ือนไหวของขาศึก กองทหาร เยาวชนปฏิบัตงิ านไดดีมากมสี วนชว ยใหทหารอังกฤษมีชัยชนะ โดยเฉพาะ อยางย่ิงกูดเยียรซ่ึงเปนเด็กคนหน่ึงในกองทหารเยาวชน ปฏิบัติงานดีมี ความกลาหาญจนไดร บั เหรียญกลา หาญเปน การตอบแทนความดี ลอรดเบเดน เพาเวลล เห็นวาเด็กเปนผูที่มีความรู ภาพ ลอรด เบเดน เพาเวลล (บี.พี.) ความสามารถที่จะทําประโยชนใหแกสวนรวมได จึงคิดท่ีจะตั้ง ผกู อตงั้ ลกู เสอื โลก กองลูกเสือข้ึน ใน พ.ศ.2450 บี. พี. ไดทดลองนําเด็กชาย จํานวน 20 คน ไปฝกอยูคายพักแรมท่ีเกาะบราวนซีเกาะเล็ก ๆ ใกลเ กาะองั กฤษ หลังจากทดลองแลว บี.พี. เห็นวาไดรับผลดี จึงถือกันวา พ.ศ.2450 เปนการ เร่ิมตนปเร่ิมแรกของกิจการลูกเสือโลก ประเทศตาง ๆ เปนจํานวนมาก รวมท้ังประเทศไทยเห็นวา ลกู เสือเปน กิจการทมี่ ีประโยชน จึงไดก อ ต้ังกองลูกเสือข้นึ ลอรดเบเดน เพาเวลล เห็นวา มเี ด็กจํานวนมากที่มีอายุไมถึงเกณฑที่จะเปนลูกเสือสามัญได จึงไดตั้งกองลูกเสือสํารองข้ึนใน พ.ศ.2459 สําหรับใหเด็กท่ีมีอายุต้ังแต 8 ปขึ้นไปไดเปนสมาชิก เพ่ือฝกใหมีความรูเกี่ยวกับลูกเสือตามนิยายเรื่องเมาคลี มีฝูงหมาปาเปนสัตวที่ฉลาดวองไว มีวินัย เปนนักสอดแนมและเช่ือฟงหัวหนา ดังนั้น บี. พี. จึงเรียกช่ือลูกเสือสํารองวา “คับ (Cub)” แปลวา “ลกู หมาปา ” ประเทศไทยไดจดั ต้ังกองลูกเสอื สํารองข้นึ เม่ือ วันท่ี 5 สงิ หาคม พ.ศ.2507 ลูกเสือสํารองและเนตรนารีสํารอง คือ เด็กชายและเด็กหญิงท่ีมีอายุต้ังแต 8 – 11 ป ท่ีสมัครเขารับการฝกอบรมเพ่ือใหรูจักปรับตนเองใหเปนผูมีระเบียบวินัย ฉลาด วองไว เปนนักสอด แนมและเชอ่ื ฟง หัวหนา มกี ารเขา รวมกจิ กรรมและทาํ งานรว มกนั เปน หมคู ณะ ลูกเสือสํารองและเนตรนารีสํารองหมูหน่ึงมีจํานวน 4 – 6 คน ซ่ึงรวมท้ังนายหมูและรอง นายหมูดวย การเขาแถวของลูกเสือสํารองและเนตรนารีสํารองแตละหมูใหนายหมูยืนเปนคนแรก แลวใหลูกหมูเขาแถวเรียงหนากระดานไปทางดานซายของนายหมูและใหรองนายหมูยืนเปนคน สดุ ทา ย ในกิจกรรมพัฒนาผูเรียน กิจกรรมลูกเสือสํารองในชวงชั้นที่ 1 หลักสูตรลูกเสือสํารอง (ช้ันประถมศึกษาปที่ 1–3) ใหหมายความรวมถึงเนตรนารีสํารองดวยเพราะใชหลักสูตรและพิธีการ เดยี วกันกบั ลูกเสือสาํ รอง คูมอื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสริมสรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1 25

ประโยชนข องการเปน ลกู เสือสํารอง – เนตรนารีสาํ รอง การเขารว มในกจิ กรรมลูกเสือสํารอง – เนตรนารีสาํ รอง สง ผลดตี อ ตนเอง ดงั นี้ 1. แตงเครอ่ื งแบบสงา งาม 2. ทําใหร า งกายแข็งแรงอดทน 3. มจี ิตใจราเริง แจม ใส สนุกสนาน 4. มีระเบยี บและวินัยในตนเอง 5. มีความเชอ่ื มั่นในตนเอง 6. มคี วามสามคั คี ทํางานรวมกันเปนหมูคณะได 7. รูจักแกปญหา พ่งึ ตนเอง 8. รจู ักเสียสละและบําเพญ็ ประโยชนแ กผ อู ืน่ 9. รูจักคดิ รเิ ริม่ สรางสรรค และใชเ วลาวา งใหเปนประโยชน ฯลฯ เคร่ืองแบบและเคร่อื งหมายลูกเสอื สํารองและเนตรนารีสํารอง เครอ่ื งแบบลกู เสอื สํารองและเนตรนารีสาํ รอง เคร่ืองแบบของลกู เสอื สํารองและเนตรนารีสาํ รอง ประกอบดวย 1. หมวกทรงกลม เปนหมวกทรงกลมสีกรมทา ทําดวยผามีกะบังหนา ตัวหมวกเย็บดวยผา 6 ช้ิน แนวตะเข็บระหวางผาแตละชิ้นและขอบหมวกโดยรอบ ทาบดวยดายหรือเสนไหมสีเหลือง (สาํ หรับเนตรนารีใชส แี ดง)เมอ่ื ลูกเสอื สํารองและเนตรนารีสํารองเขาพิธีประจํากองแลว จะตองติดตรา หนาหมวกเปนรูปหนาเสือ (เนตรนารี) และมีอักษรสีเหลืองใตหนาเสือวา “ลูกเสือ (เนตรนารี)” ตรา หนา หมวกมพี นื้ สีกรมทา เปนรูปไขย าว 4 เซนติเมตร และกวา ง 3.5 เซนติเมตร 2. เสื้อแขนสั้น แบบและสีของเส้ือลูกเสือและเนตรนารีสํารองแตละโรงเรียนใหเปนไปตามที่ ผบู งั คบั บัญชาโรงเรยี นน้นั กาํ หนด ปกติใชช ุดนกั เรียนของโรงเรยี นนน้ั ๆ 3. ผาผูกคอรูปสามเหลี่ยมหนาจ่ัว ดานฐานของผาผูกคอกวาง 90 เซนติเมตร ดานต้ังกวาง 65 เซนตเิ มตร สีของผา ผูกคอของแตละโรงเรียนใหเ ปนไปตามที่กาํ หนดและตองมหี วงสวมผาผูกคอดว ย 4. กางเกงขาสน้ั สาํ หรบั ลูกเสอื สํารอง แบบและสีของกางเกงขาส้ันตามท่ีโรงเรียนกําหนด 5. กระโปรงสาํ หรบั เนตรนารีสาํ รอง แบบและสขี องกระโปรงเปน ไปตามท่โี รงเรยี นกําหนด 6. เข็มขัดหนังสีนํ้าตาล ความกวางของเข็มขัดไมเกิน 3 เซนติเมตร หัวเข็มขัดทําดวยโลหะ สีทอง มีลายดุนตราคณะลูกเสือแหงชาติภายในกรอบชอชัยพฤกษ สวนเนตรนารีสํารองไมตองมี เข็มขดั ถา เครอื่ งแบบนักเรียนไมม เี ข็มขดั 7. รองเทาและถุงเทา ชนิดและสีของรองเทาลูกเสือสํารอง-เนตรนารีสํารองใหเปนไปตามที่ โรงเรยี นกาํ หนด เคร่ืองหมายลกู เสอื สํารอง-เนตรนารีสํารอง เครื่องหมายประกอบเครอื่ งแบบลูกเสือสํารอง-เนตรนารี ประกอบดว ย 1. เครอ่ื งหมายลูกเสอื ทาํ ดวยผา สกี รมทาเปน รปู ไขย าว 4 เซนติเมตร กวาง 3.5 เซนติเมตร มีรูปหนาเสือและคําวา “ลูกเสือ (เนตรนารี)” สีเหลือง ขลิบริมดวยสีกรมทา ของลูกเสือสํารองทําดวยผา ของเนตรนารสี ํารองทําดวยโลหะสีทอง ใชส าํ หรบั ติดท่หี นา อกซา ยเหนือกระเปา 26 คูมือการจัดกจิ กรรมลูกเสือสํารองเสริมสรา งทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1

2. เคร่ืองหมายหมู ทําดวยผาเปนรูปสามเหลี่ยมดานเทายาวดานละ 3.5 เซนติเมตร สีของ แตละหมูใหเปนไปตามที่ผูบังคับบัญชาลูกเสือของแตละโรงเรียนกําหนด ใชสําหรับติดแขนเสื้อ ดานซายใตตะเขบ็ ไหล 1 เซนติเมตร ใหม ุมแหลมขน้ึ 3. เคร่ืองหมายนายหมูและรองนายหมู ทําดวยแถบผาสีเหลืองกวาง 1 เซนติเมตร ติดรอง แขนเสื้อขางซาย เหนือปลายแขนเส้ือ 5 เซนติเมตร นายหมูติดสองแถบ เวนระยะระหวางแถบ 1 เซนติเมตร รองนายหมใู หต ดิ 1 แถบ 4. ช่ือกลุมหรือกอง ทําดวยผาสีแดงเปนรูปส่ีเหล่ียมผืนผา ยาว 7 เซนติเมตร กวาง 1.5 เซนตเิ มตร ขลบิ ริมสขี าว ชอื่ กลมุ หรือกองสีขาวติดท่ีแขนเส้อื ขา งขวาใตตะเข็บไหล 5. เลขกลุมและเลขกอง ทําดวยผาสีแดง รูปสี่เหล่ียมจัตุรัสยาวดานละ 3.5 เซนติเมตร ขลิบริมสีขาว มีตัวเลขอารบิกบอกเลขกลุมสีขาวสูง 1.5 เซนติเมตรอยูดานบน และมีตัวเลขอารบิก บอกเลขกองสีขาวสูง 1 เซนติเมตรอยูขางลาง เครื่องหมายเลขกลุมและเลขกองนี้ใหติดใตชื่อกลุม หรือกอง ถา กองลูกเสอื หรอื เนตรนารีใดไมไ ดจ ัดกลุม กใ็ หตดิ เฉพาะเลขกองอยา งเดยี ว รปู ภาพ เคร่ืองแบบลกู เสือสํารอง คูมอื การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สาํ รองเสริมสรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1 27

เรื่องท่ีเปนประโยชน สุนขั ผซู ือ่ สตั ย บา นหลงั หนึง่ เลย้ี งสุนัขเอาไวเฝาบาน สุนัขตัวนั้นซื่อสัตยมาก ในยามกลางคืนขณะท่ีมันนอน หลับหากไดยินเสียงผิดปกติมันก็จะลุกขึ้นมาเหาเสมอ เพ่ือเตือนภัยเเกเจาของบาน คืนหนึ่ง มันไดยินเสียงฝเทาคนย่ําใบไมดังกรอบเเกรบเเผวเบาที่ใกลร้ัวบาน เเมจะไมเห็นวา เปนใครมันก็สงเสียงเหาคํารามขูไวกอน เจาหัวขโมยจึงโยนเน้ือชุบยาเบื่อช้ินหนึ่งเขามาในร้ัว สุนัข เฝาบานเดินเขาไปดมๆ เเตก็ไมกิน มันยังคงเหาตอไปจนกระทั่งเจาของบานออกมาดู เเลวก็ชวยกัน จับขโมยไดใ นทีส่ ุด เร่อื งน้สี อนใหรวู า อามสิ สนิ บนนน้ั ซอ้ื ความซื่อสัตยภ กั ดไี มได สนุ ขั จิ้งจอกในดงหนาม สุนัขจ้ิงจอกตัวหน่ึงชอบไปขโมยลูกไกเเละเเมไกของชาวบานมากินเปนประจํา วันหนึ่งพวก ชาวบานใหพรานดักซุมรอเลนงาน เเตสุนัขจ้ิงจอกเห็นเขากอนจึงรีบว่ิงหนีออกจากหมูบานโดยเร็ว พรานยังคงไลลาตามมาติดๆ สุนัขจ้ิงจอกจึงกระโดด เขาไปซอนตัวในดงหนามที่ชายปา หนามอนั เเหลมคมทิ่มตาํ สนุ ขั จ้ิงจอกจนเจ็บปวดไปท้ังตัว มันตัดพอดงหนามวา \"ทําไมตองทํารายเรา ดวย ในเมื่อเราไมเคยทํารายเจา\" ดงหนามจึงตอบวา “ลูกไกเเละเเมไกก็ไมเคยทํารายเจาเชนกันเเละ การทเี่ จา กระโดดเขา มาเองก็ทําใหก ่ิงกานของขาแตกหกั เสียหายไปไมน อ ย” เร่ืองนีส้ อนใหร ูวา กอ นจะตําหนิวา ใคร ควรยอนดตู นเสียกอ นวา เคยทาํ ผิดเชนนน้ั มากอ นหรอื ไม ที่มา http://xn--o3cdbi8era7aon.net/p=24 28 คูมือการจดั กิจกรรมลูกเสือสาํ รองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1

แผนการจัดกิจกรรมเตรยี มลูกเสอื สํารอง ช้ันประถมศึกษาปท ่ี 1 หนว ยท่ี 1 เตรยี มลูกเสอื สาํ รอง แผนการจัดกิจกรรมท่ี 5 การทาํ ความเคารพเปนหมู (แกรนดฮาวล ) เวลา 1 ชวั่ โมง 1. จุดประสงคการเรียนรู ลกู เสอื แสดงการทาํ ความเคารพเปนหมู (แกรนดฮาวล) ได 2. เนอ้ื หาการทําความเคารพเปน หมู (แกรนดฮ าวล) 3. สอื่ การเรียนรู 3.1 แผนภูมิเพลง 3.2 ใบความรู 1) นิทานเร่ือง เมาคลี ตอนผาประชุม 2) เรอ่ื ง การทาํ ความเคารพเปน หมู 3.3เร่ืองที่เปนประโยชน 4. กจิ กรรม 4.1 พธิ ีเปด ประชมุ กอง (แกรนดฮ าวล ชกั ธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลงหรอื เกม 4.3กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1) ผกู ํากบั ลูกเสือทบทวนเร่อื งเมาคลตี อนผาประชุม เมื่ออาเคลาหัวหนาฝงู หมาปา กระโดด ขน้ึ ยนื บนลานหินสงู สมาชกิ หมาปาอื่นๆท่ีนั่งลอมวงอยูจะสง เสยี งเหาหอนแสดงความเคารพ โดยเนน ใหลูกเสือสํารองเห็นถงึ การแสดงความเคารพตอหัวหนาฝูงหมาปาผูเปน ประธานการประชุม 2) ผกู าํ กับลูกเสอื ชีแ้ จงความหมายในการทาํ แกรนดฮาวล - เพอื่ เปน การเตือนวาลกู เสือสํารองไดใ หสัญญาวา จะทําดที ี่สุด - เพือ่ เปน การตอนรับและแสดงความเคารพตอหัวหนา 3) ผกู าํ กบั ลกู เสือเรยี กแถวใหล กู เสือสาํ รองเขาแถวเปน รูปวงกลมแลวผูกาํ กบั ลกู เสอื อธิบายประกอบการสาธิตการทําความเคารพเปน หมแู บบลูกเสือสาํ รองตามลาํ ดับข้ันตอน 4) ใหลกู เสอื สํารองฝกการทาํ ความเคารพเปน หมูโดยมีนายหมูควบคุมการฝก 4.4ผกู ํากบั ลกู เสอื เลาเร่ืองทเ่ี ปนประโยชน 4.5พิธีปด ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแบบ แกรนดฮ าวส ชกั ธง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สังเกตความพรอมเพรียงในการเขา แถว 5.2 ตรวจสอบความถกู ตองในการทําแกรนดฮาวล - การเขา แถววงกลมเลก็ - การทําตามคาํ ส่ังสญั ญาณมอื ของอาเคลา - การรอ ง อา-เค-ลา-เรา-จะ-ทาํ -ด-ี ท-ี่ สดุ - การกระโดดเทา ชดิ น้ิวชชี้ ิดนวิ้ กลางมอื แนบติดเหนอื หู คูม อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสํารองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 29

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมที่ 5 เพลง แกรนดฮ าวล แพ็คแพ็คแพค็ ขานแพค็ แลว ทาํ วงกลม ผายมอื ขยายวงกลม งอมอื ชื่นชม ลงน่ังยองๆ หงายมอื แลวก็รอง อาเคลา เราจะทําดีทสี ดุ กระโดดขึ้นยืนตรง มือจงแตะขา งศีรษะ บอกนะวา จงทําดี น่คี ือหนา ที่ หมบู รกิ าร ทุกคนกข็ าน เราจะทําดี เสร็จส้ินพิธี แกรนดฮ าวล แพ็ค แพ็ค แพ็ค แพ็ค เด็ก ๆ เขาชอบกนั นักทกุ คนรจู ัก คําวา แพค็ แพ็ค แพค็ แพ็ค แพ็ค แพค็ ไดยนิ แลว ขาน แพค็ รับ รีบว่งิ ย่ืนมอื กันจับ แลวทาํ เปนวงกลมเลก็ 30 คูม อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสํารองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 1

ใบความรู เมาคลี ตอนผาประชุม ถึงกําหนดเวลาประชุมของฝูงหมาปาเพื่อลงมติรับลูกหมาปาเขาฝูง พอและแมหมาปาไดพา ลูกทงั้ 4 กบั เมาคลไี ปยังเนินเขาซง่ึ เรยี กวา “ผาประชุม” หมาปาอาวุโสมีขนสีเทาเปนมันชื่ออาเคลา เปนหัวหนาฝูง น่ังทําหนาท่ีเปนประธานการ ประชุม หมาปาทุกตัวนั่งเงียบหยุดการเหาหอน เพื่อแสดงความเคารพและเช่ือฟง เตรียมพรอมที่จะ ทาํ หนา ทีเ่ ขา ไปดมกล่นิ หมารุนเล็ก ๆ เพอ่ื รับเขาฝูง เปนการปอ งกันสัตวอ ่นื แปลกปลอมเขา มาอยูใ นฝงู อาเคลา เปน หมาปา ท่ฉี ลาดมาก ทําหนา ท่หี วั หนา ฝูงมาไดหน่ึงปเต็ม สมัยหนุม ๆ เคยติดกับ นายพรานถึงสองคร้ังแตร อดชวี ติ กลบั มาได มนั จงึ รูท นั เลห เหลี่ยมของนายพรานและชาวบา น พอถึงเวลา หมารุนใหญผลัดกันเขาดมกล่ิน เมาคลีถูกเข่ียออกไปอยูกลางวงเพื่อการพิจารณา ขณะนั้นเอง แชรคาน เสือโครงก็คํารามกึกกองสนั่นปาทั่วบริเวณผาประชุม ตะโกนบอกใหฝูงหมาปารู วา เมาคลเี ปนลูกคนไมควรเล้ียงไวในฝูง อาเคลาไมสนใจ บอกหมาปาทั้งหลายใหทําหนาท่ีพิจารณาใหรอบคอบ ไมตองฟงคําพูดของ ใครท้งั สิ้นนอกจากเขา ซึ่งเปนหัวหนา หมาปาตัวหนึ่งลุกข้ึนประกาศคัดคานวาไมควรเล้ียงลูกคนอยางเมาคลี เพราะไมมีประโยชน แกฝ งู ตามกฎของท่ีประชุม ถาลูกหมาปาตัวใดถูกคัดคานตองมีหมาปาในฝูงรับรองตั้งแตสองตัวข้ึนไป จงึ จะใหอ ยูรวมฝูงได ฝายแมหมาปาเมื่อไดยินเสียงคัดคานก็โกรธจนขนลุกเกรียว กลามเนื้อเกร็ง เตรียมพรอมท่ี จะรับเหตกุ ารณร าย หากเมาคลไี มไ ดรบั เขา ฝูง ผาประชุมเงียบกริบ เพ่ือรอฟงการพิจารณา แชรคานกระหย่ิมที่จะไดเมาคลีเปนอาหาร ฝงู หมาปา กเ็ ตรยี มจะกินเนื้อเมาคลีเปน อาหารอนั โอชะเชนกนั ทันใดนั้นก็ปรากฏรา งของหมเี ฒาขนสี นํ้าตาลชื่อบาลู ซึง่ บรรดาหมาปายอมรับนบั ถอื ใหเ ขา รวมฝงู ในฐานะสมาชิกชั้นผูใหญ บาลูเปนผูสอน กฎแหงปาและวิธีการดาํ รงชีวิตในปาใหกับลูกหมาปาทั้งหลาย บาลูไดเปนผูรับรองเมาคลี หมาปาใน ที่ประชมุ ตา งไมพ อใจและโตเถยี งกนั วา การรับรองตองมีสองเสียงขึน้ ไป เวลาน้นั เอง อีกดา นหนง่ึ ของผาประชมุ บาเคียรา เสือดาํ ผสู ุภาพออนนอ ม ไดก า วเขามาในท่ี ประชุมอยางสงา อา งกฎของปาท่อี นุญาตใหมีผูเสนอซือ้ ชวี ติ ลกู หมาปา ได โดยมไิ ดระบุวา ผูซ้อื ตองเปน ใคร บาเคยี รา จึงเสนอขอรบั รองเมาคลดี วยการแลกดว ยวัวปา อวนพตี วั หนง่ึ ฝงู หมาปากว็ ง่ิ เขาไปรมุ กินววั ปา กนั อยา งเอรด็ อรอย ลานประชมุ คงเหลอื อาเคลา บาลู บาเคยี รา พอ และแมหมาปา กับลูกทัง้ 4 และเมาคลี แชร คานไดเหน็ เหตกุ ารณแปรผันไปเชน น้ันก็โกรธ และจากผาประชุมไปดวยความผิดหวัง บาเคียรา รูสึกรําคาญจึงคํารามวา “ไอเสือถอย อีกหนอยเด็กนอยน้ีจะทําใหเจาไดรับความ เจบ็ ปวดแสนสาหัส เจายงั รฤู ทธข์ิ องมนุษยนอยไป อา ยถอย ขารูดี – ขา รดู ี” คูมือการจัดกจิ กรรมลกู เสอื สํารองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ี่ 1 31

ครอบครัวหมาปา พาเมาคลีกลบั ไปเลีย้ งที่ถ้ําดวยความผาสุก เมาคลีไดชื่อวาลูกหมาปาตั้งแต บดั นน้ั ผูกาํ กบั ลกู เสอื ขยายความจากเร่ืองในนิทาน ดงั นี้ การประชุมของหมาปา มันจะนั่งรอบผาประชุมเปนรูปวงกลม และเม่ืออาเคลา ซึ่งเปน หวั หนาฝูงเขา ประจาํ ทีห่ มาปา ทกุ ตัวจะชหู วั ขึน้ รองตอนรบั อาเคลา ในการประชุมกองลูกเสือสํารองเราก็ปฏิบัติเชนเดียวกับหมาปา คือเมื่อผูกํากับลูกเสือมาถึง ที่ ประชุมตองแสดงความเคารพโดยน่ังยอง ๆ เปนวงกลมเหมือนหมาปา แลวทําแกรนดฮาวล เพื่อเปน เกยี รติแก อาเคลา การทําแกรนดฮาวล ถือเปนการเคารพหมู นอกจากแสดงตัวตอผูกํากับลูกเสือแลว ตอง แสดงตอแขกผูมีเกียรติที่มาเยือนดวย นอกจากน้ียังใชในการทําพิธีปฏิญาณตน และเปนการแสดง ความพรอ มเพรยี งของกองดว ย การทําความเคารพเปน หมู การทําความเคารพเปนหมู เรียกวาแกรนดฮาวล เปนการทําความเคารพของลูกเสือสํารอง เนตรนารีสํารอง พรอมกันท้ังกอง เพ่ือสงเสริมใหมีระเบียบวินัยและเตือนใจใหระลึกถึงคําที่สัญญา ไววา “จะทําดีท่ีสุด” ซ่ึงไดทําพรอมกันในพิธีเปดและพิธีปดการประชุมกองลูกเสือสํารอง-เนตรนารี สํารอง ขัน้ ตอนการทาํ ความเคารพเปนหมู (แกรนดฮาวล) มีขัน้ ตอนในการปฏิบตั ิ ดงั นี้ 1. ผูกํากับลูกเสือเรียกลูกเสือสํารอง-เนตรนารีสํารองมาเขาแถว โดยการเปลงเสียงดังๆ วา “แพ็ค…. แพ็ค...แพ็ค” ใหทุกคนขานพรอมกันวา “แพ็ค” แลวรีบวิ่งมายังบริเวณท่ี ผูกํากับลูกเสือยืน อยู 2. ผูกํากับลูกเสือแกวงมือรอบตัวในลักษณะวงกลม 2 – 3 คร้ัง ใหลูกเสือสํารอง-เนตรนารี สํารองเขา แถวเปน รปู วงกลมรอบตวั ผกู ํากบั ลูกเสอื ใหไหลชดิ กนั แลว เงยี บ 32 คูมือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1

3. ผูกํากับลูกเสือผายมือสองขางออกไปเล็กนอย นิ้วทั้งหาชิดกัน ฝามือแบหงายแลวลดมือ ลง ใหทุกคนรีบจับมือกันใหแนนแลวรีบขยายแถววงกลมออกไป โดยกาวถอยหลังใหเปนรูป วงกลมจนแขนตึง จัดแถวใหเปน รูปวงกลม แลวรีบลดมือลง 4. ผูกํากับลูกเสือกางแขนท้ังสองขางออกไปขางๆยกมือเสมอไหลใหตั้งฉากกับลําตัว หงายฝา มือข้ึน นิ้วท้ังหาชิดกันแลวพลิกควํ่าฝามือลงและงองุมเปนสัญญาณทุกคนนั่งลงโดยเร็วพรอมกัน โดยใหลูกเสือสํารอง-เนตรนารีสํารองนั่งลงบนสนเทา แยกเขาเล็กนอย แขนทั้งสองขางเหยียดตรงลง ระหวางเขา มือท้ังสองหางกันพอสมควร นิ้วช้ีและนิ้วกลางของท้ังสองมือเหยียดชิดกันแตะพื้น นว้ิ อนื่ ๆ งอไวใ นอุงมือ (หวั แมม อื กดนว้ิ นางกับนิ้วกอยไว) แหงนหนามองผกู าํ กบั ลกู เสอื 5. ผูกํากับลูกเสือ(ตรวจความเรียบรอยแลว) พลิกฝามือหงายขึ้นท้ังสองขาง เมื่อเห็น สัญญาณใหทุกคนรองวา “อา-เค-ลา-เรา-จะ-ทํา-ดี-ท่ี-สุด” แลวใหรีบกระโดดขึ้นยืน เทาชิดกัน ยกมือ ทัง้ สองขางแนบชดิ หู นว้ิ ชี้และนว้ิ กลางชดิ กนั ใชห วั แมม ือกดน้ิวนางและนว้ิ กอยไวใ นฝา มือ คมู ือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสาํ รองเสรมิ สรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 33

6. ใหตัวแทนของสมาชิกหมูที่ 1 ซึ่งทําหนาท่ีเปนหมูบริการหันหนาไปทางซายแลวรองวา “จงทําดี” หันหนากลับมองตรงแลวรองวา “จงทําดี” และหันหนาไปทางขวา แลวรองวา “จงทําดี” แลวหนั หนามองตรง 7. เมื่อสิ้นสุดคําวา “จงทําดี” ครั้งท่ีสาม ใหทุกคนลดมือซายลงแนบขางลําตัว มือขวาทํา วันทยหตั ถ แลว รองขน้ึ พรอ มกนั วา “เราจะทําดี จะทําดีจะทําดี” แลวลดมือขวาลงแนวขางลําตัว ขณะ ลูกเสือสาํ รอง-เนตรนารีสาํ รองรอ งตอบ ผูกํากบั ลูกเสือทาํ วันทยหตั ถ 8. เมื่อทําแกรนดฮาวล ชักธง สวดมนต สงบนิ่ง และตรวจแถวเสร็จแลว ผูกํากับลูกเสือจะ ส่ังวา “แพ็ค...แยก” ใหท กุ คนทาํ ขวาหนั แลว เดินแยกไป โอกาสในการทาํ ความเคารพเปน หมู 1. พธิ เี ปด พธิ ีปด การประชุมกอง 2. พธิ เี ขาประจํากองลูกเสอื สํารอง-เนตรนารสี ํารอง 3. พิธีประดับดาวดวงท่ี 1 4. พิธปี ระดับดาวดวงท่ี 2 5. พิธปี ระดับดาวดวงท่ี 3 6. พธิ ีสงลูกเสอื สาํ รอง-เนตรนารสี ํารองไปเปน ลูกเสือสามัญ-เนตรนารีสามญั เรอื่ งทเี่ ปน ประโยชน พอกบั ลกู ครอบครัวหน่ึงมีลูกหลายคน ลูกเหลานั้นมักจะทะเลาะกันอยูเสมอ วันหน่ึงพอจึงเรียกลูกๆ ทุกคนมาพรอมกัน และพอไดนําไมมัดหนึ่งยื่นใหลูกแตละคนหักดู ก็ไมมีใครหักได พอจึงแกเชือก แลวสงไมใหคนละอัน ใหหักดูใหมก็สามารถหักไดงายดาย พอจึงกลาววานี่แนะลูกเอยไมแตละอัน น้ันเปรียบเหมือนพวกเจา ถาพวกเจารวมกันเหมือนมัดไม ก็จะไมมีใครมาทําลายพวกเจาได แตถาพวกเจาไดแตทะเลาะกัน ก็เหมือนกับทอนไมแตละทอนแยกกันอยู บุคคลอ่ืนก็เลือกทําลายที ละคนไดง า ยดาย เรื่องนสี้ อนใหร ูวา การแตกสามคั คี เปน บอเกิดใหม กี ารแตกแยกในหมคู ณะ 34 คูมอื การจัดกิจกรรมลกู เสอื สาํ รองเสริมสรางทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1

แผนการจัดกิจกรรมเตรียมลูกเสอื สาํ รอง ชั้นประถมศึกษาปท ่ี 1 หนวยท่ี 1 เตรยี มลกู เสือสาํ รอง แผนการจัดกจิ กรรมท่ี 6 ระเบยี บแถวเบอื้ งตน เวลา 3 ชัว่ โมง 1. จดุ ประสงคก ารเรยี นร:ู 1.1 ลูกเสือปฏบิ ัตติ ามสัญญาณนกหวดี และสญั ญาณมือได 1.2 ลกู เสือปฏบิ ตั ริ ะเบียบแถวเบ้ืองตนได 2. เน้อื หา 2.1 สญั ญาณนกหวีด และสญั ญาณมือ 2.2 เขาแถวตามหมูของตน แถวหนากระดานเรยี งเดีย่ ว และแถวตอนเรยี งหน่งึ 2.3ทาตรง ทาพกั 2.4 ทา หันอยกู ับท่ี 2.5 เขาแถวรอบวงกลมและแถวรูปครึ่งวงกลม 3. ส่อื การเรียนรู 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 อปุ กรณใ นการฝกระเบยี บแถว 3.3 ใบความรู 1)เร่ือง สญั ญาณนกหวีด และสัญญาณมอื 2) เรือ่ ง ระเบียบแถวเบอ้ื งตน 3.4 เร่ืองทเ่ี ปน ประโยชน 4. กจิ กรรม 4.1 กจิ กรรมครง้ั ที่ 1 1) พิธีเปดประชมุ กอง (แกรนดฮ าวล ชกั ธง สวดมนต สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรือเกม 3) กิจกรรมตามจุดประสงคก ารเรยี นรู (1) ผูกํากับลกู เสอื ชวนสนทนาถึงความสาํ คญั ของระเบยี บแถว และความเปนระเบียบ เรยี บรอยในกองลูกเสอื และการใชส ัญญาณทเ่ี ปน สากล (2) ฝก ทักษะการฟงสัญญาณนกหวดี (เรยี กแถวรวมกอง, เรียกนายหม,ู สัญญาณชัก ธงชาตขิ ึน้ สยู อดเสา, สญั ญาณชักธงชาตลิ งจากยอดเสา) (3) ฝก ปฏบิ ตั ติ ามสัญญาณนกหวดี (4) ฝกทกั ษะสังเกตการใชส ญั ญาณมอื ความหมายของสัญญาณมอื และสาธิตการ ปฏิบัตติ ามสญั ญาณมอื 4) ผูก ํากับลูกเสอื เรอื่ งท่ีเปน ประโยชน 5) พธิ ีปดประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ แกรนดฮ าวล ชักธง เลกิ ) คูมอื การจัดกิจกรรมลูกเสอื สํารองเสริมสรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1 35

4.2 กิจกรรมครั้งที่ 2 1) พธิ ีเปด ประชมุ กอง (แกรนดฮ าวลช ักธง สวดมนต สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรือเกม 3) กิจกรรมตามจดุ ประสงคการเรียนรู (1) ผูก ํากับลกู เสือชแ้ี จงถงึ ความสําคัญหรอื ประโยชนของการฝก ระเบยี บแถวท่ลี กู เสอื ไดร บั เชน การมีสขุ ภาพรางกายแขง็ แรง ความอดทน ความสงา งาม ความเปนระเบยี บ เรยี บรอ ยของกองลกู เสือ (2) สาธิตและฝกปฏบิ ัติ - การเขา แถวหนา กระดานเรยี งเดย่ี ว ปด ระยะ และเปดระยะ - แถวตอนเรยี งหน่ึง และแถวตอนหมู - ทาตรง ทา พกั (ทาพกั ตามปกติ ทา พักตามระเบยี บ ทา พกั ตามสบายและทาพัก นอกแถว (3) นายหมนู ําฝก ผูกํากบั ลูกเสือใหคาํ แนะนาํ แกไข 4) ผูกาํ กับลกู เสอื เลาเรื่องทเ่ี ปนประโยชน 5) พธิ ีปด ประชุมกอง (นดั หมายตรวจเครอื่ งแบบ แกรนดฮ าวล ชักธงเลกิ ) 4.3 กิจกรรมครั้งที่ 3 1) พิธีเปดประชุมกอง (แกรนดฮ าวลช กั ธง สวดมนต สงบนิง่ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรือเกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก ารเรยี นรู (1) ฝกปฏบิ ัตกิ ารหนั อยกู บั ที่ (ขวาหัน ซายหนั กลบั หลังหนั ) (2) ผกู าํ กบั ลกู เสือสาธติ และฝกปฏบิ ตั กิ ารเขาแถวรปู ครงึ่ วงกลม และรปู วงกลม โดยผู กํากบั ลูกเสือฝก ทงั้ กองและนายหมนู าํ ฝกทลี ะหมู (3) หมูลกู เสือประเมินตนเอง และกาํ หนดวธิ กี ารปรบั ปรุงแกไขในหมูของตน 4) ผูกํากับลกู เสือเลา เร่อื งทเี่ ปนประโยชน 5) พธิ ปี ด ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจเครื่องแบบ แกรนดฮาวล ชกั ธง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สังเกตการปฏิบัตติ ามคาํ สั่งในการจัดแถวดวยสัญญาณนกหวดี และสัญญาณมอื 5.2สงั เกตและตรวจสอบความวอ งไว กระฉบั กระเฉง ความถูกตอ งและความเปนระเบียบ เรียบรอยในการปฏิบตั ิระเบยี บแถว 36 คูมือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรมท่ี 6 เพลง สัญญาณนกหวดี เปายาวหนึง่ ครั้ง ฟง ไดความวา “หยดุ ” เปายาวเปนชดุ ใหรีบรุดทาํ ตอ ไป ส้นั ติดตอกนั เรว็ พลัน เขาแถวทันใด สั้นยาวนนั้ ไซร จงึ ใสใ จเพราะเกดิ เหตุการณ นายหมูมาน่ี ฟงซี สนั้ สามยาวหนึ่ง ลูกเสอื เราถึงจดจาํ คํานึ่ง นี่คือสัญญาณ มือซาย มือขวาอยไู หน(ใหท าํ ทาทางประกอบ) มือซา ย (ขวา) อยูไหน มือซาย (ขวา) อยูไหน อยูน่จี ะ อยนู ี่จะ สขุ สบายดีหรอื ไร สุขสบายทงั้ กายใจ ไปกอ นละ สวสั ดี ซา ยหัน – ขวาหนั (ใหท ําทาทางประกอบ) ซายหนั ขวาหัน สน เทาชดิ กนั ปลายเทา แยกออกไป จะหนั กันคร้งั ใด จะหันกันครั้งใด นึกไวในใจซา ยขวาของเรา ซา ยหนั มีสองจังหวะ ปะเทงปะ ๆ หนง่ึ สอง หนึง่ สอง ขวาหันมสี องจงั หวะ ปะเทงปะ ๆ หนงึ่ สอง หนึง่ สอง คมู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสํารองเสริมสรางทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1 37

ใบความรู สญั ญาณนกหวดี และสญั ญาณมอื สญั ญาณนกหวีด สัญญาณนกหวดี จะใชเ มอ่ื ไร 1. เม่อื ผเู รียนอยูไ กลซง่ึ อาจจะมองไมเหน็ กนั 2. เพือ่ ใหเ กิดความสนใจขณะทผี่ ูเรยี นกาํ ลงั ทาํ งาน กาํ ลงั คุย กาํ ลงั เดนิ หรอื ทํากจิ กรรมอื่น การเตรยี มตวั สญั ญาณการเปา นกหวดี เปา ยาว 1 ครง้ั ความหมาย เตรยี มตวั หยดุ ฟง เงียบ รอฟง สัญญาณตอไป สญั ญาณนจ้ี ะเปากอ นทุกคร้ังที่จะเรยี กสัญญาณตอ ไป เรียกนายหมู สญั ญาณการเปา นกหวดี เปา สั้น 3 คร้ัง เปา ยาว 1 คร้ัง ความหมาย เรียกนายหมูของทกุ ๆหมู เรยี กรวมทกุ คน สัญญาณการเปานกหวดี เปา ส้นั ติดกันหลายครง้ั ความหมาย เรยี กรวมทกุ คน เรยี กรวมกอง เชิญธงชาตลิ ง สญั ญาณการเปา นกหวดี เปา ยาว 3 คร้ัง เมื่อธงลงสดุ แลว ( พอดี 3 คร้ัง ) เปา ส้นั 1 ครัง้ ความหมาย เชญิ ธงชาตลิ งจากยอดเสาเมอื่ เวลา 18.00 น สรปุ สญั ญาณนกหวดี 1. หวีดยาว 1 คร้ัง ( -------) ถาเคล่อื นท่ี ใหห ยุด ถาหยดุ อยู เตอื น เตรยี มตวั หรือคอยฟงคําสัง่ 2. หวดี ยาว ๆ 2 คร้งั (-------- ------- ) เดินตอไป เคลอื่ นทีต่ อ ไป ทาํ งานตอไป 3. หวีดสน้ั 1 ครง้ั และยาว 1 ครัง้ สลับกนั ไป (--- -------- --- --------- ) เกดิ เหตุ มีอันตราย 4. หวีด ส้นั 3 คร้งั ยาว 1 ครั้ง สลบั กันไป ( --- --- --- --------- --- --- --- -------) เรียก นายหมมู ารับคําส่งั 5. หวีดสน้ั ตดิ ตอ กันหลาย ๆ ครั้ง (--- --- --- --- ---) ประชมุ รวม หมายเหตุ เมือ่ จะใชสญั ญาณ 2 – 5 ใหใชสญั ญาณ 1 นํากอ นทกุ คร้ัง 38 คูม ือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสาํ รองเสริมสรางทักษะชวี ติ ดาวดวงท่ี 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1

สัญญาณมือ ใชแ ทนคาํ บอกขณะทอ่ี ยหู า งไกลจากลูกเสือ หรือไมสามารถใชค ําบอกใหลูกเสือไดย นิ ท่ัวถึง หรือในกรณีท่ตี องการความสงบเงยี บ 1. เตรียม คอย ฟงคําสัง่ หรอื หยุด เหยยี ดแขนขวาขึ้นตรงเหนอื ศรี ษะ มือแบหันฝา มอื ไป ขางหนา หานิ้วชดิ กัน การปฏิบัติ : ลกู เสือนิง่ คอยฟง คําส่ัง โดยหนั หนา ไปทางผูบังคับบัญชา ถาอยูในแถวใหยืนทา ตรง 2. รวม หรือกลับมา เหยยี ดแขนขวา แบมอื แลว หมุนเปน วงกลมเหนอื ศรี ษะจากซายไป ขวาการปฏบิ ตั ิ : ลูกเสือรวมกองรีบมาเขาแถวรวมกัน 3. จัดแถวหนา กระดานเหยยี ดแขนท้งั สองไปดา นขางเสมอแนวไหล ฝา มอื แบไปดา นหนา การปฏบิ ัติ : ลกู เสอื จดั แถวหนา กระดานหันหนา เขาหาผูใหสัญญาณ 4. จดั แถวตอน เหยียดแขนทงั้ สองไปขา งหนาเสมอแนวไหล แขนขนานหนั ฝามือแบเขาหากนั การปฏบิ ัติ : ลกู เสือเขาแถวตอน หนั หนา ไปหาผูใ หสัญญาณ 5. เคลอ่ื นทีไ่ ปยังทิศทางท่ตี องการ หนั หนา ไปยงั ทศิ ทางทต่ี องการ ชแู ขนขวาขึน้ เหนือ ศรี ษะ ฝามอื แบไปขางหนา น้ิวชดิ กัน แลว ลดแขนลงขา งหนาเสมอแนวไหล การปฏิบตั ิ : ลูกเสอื วิง่ ไปยงั ทศิ ทางทม่ี ือผูใหส ญั ญาณชี้ไป 6. นอนลง หรือเขา ท่ีกําบงั แขนขวาเหยียดตรงไปขางหนา เสมอแนวไหล ฝามอื แบควํา่ ลงนิ้วชิดกนั พรอมกับลดแขนลงขา งหนา แลว ยกขึน้ กลับทเ่ี ดิม ทาํ ซํา้ หลาย ๆ ครง้ั การปฏบิ ตั ิ : ลกู เสือรบี นอนหรือเขา ท่ีกาํ บงั ทนั ที 7. เรง จังหวะ หรือเร็วขน้ึ งอศอกขวาใหม อื มากาํ อยูเสมอบา แลว ชูขนึ้ เหนอื ศรี ษะ ลดลง ชูขึน้ หลาย ๆ คร้งั การปฏิบตั ิ : ลกู เสอื รบี วง่ิ หรอื เรงจงั หวะส่ิงทีท่ ําอยใู หเ รว็ ข้ึน หมายเหตุ เมือ่ จะใชสญั ญาณ 2 – 7 ใหใชส ญั ญาณ 1 นาํ กอ นทุกคร้งั คูม ือการจดั กจิ กรรมลูกเสอื สํารองเสรมิ สรางทักษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1 39

ระเบียบแถวเบื้องตน การฝกระเบียบแถวจะชวยใหลูกเสือสํารอง – เนตรนารีสํารองมีระเบียบวินัย รูจักฟงและ ปฏิบตั ิตามคําสั่ง รูจ กั ความอดทน มีรา งกายเขง็ แรง องอาจ เคลื่อนไหวรา งกายไดคลองแคลว มคี วาม สามัคคี และรูจักใหเกียรติผูอ่ืนระเบียบแถวเบ้ืองตนที่ลูกเสือสํารอง-เนตรนารีสํารองตองฝก คือ ทา ตรง ทา พัก ทาหันอยูกบั ท่ี และการจัดแถวรูปตา งๆ ลูกเสือสาํ รอง-เนตรนารีสํารอง หมหู นึ่งมีจํานวนสมาชกิ 4 – 6 คน ประกอบดว ยนายหมู 1 คน รองนายหมู 1 คน และมีลกู หมูอีก 2 – 4 คน แถวหนา กระดาน แถวตอน แถวหนากระดานแถวเดย่ี ว เมื่อไดยินคําสั่งวา “แถวหนากระดานมาหาขาพเจา” หรือเรียกแถว โดยเปลงเสียง “แพ็ค” กอนแลวเหยียดแขนทั้งสองขางออกไปดานขางขนานพ้ืน แบมือหันฝามือไปขางหนา นิ้วมือเรียง ชิดติดกัน ใหล ูกเสอื สาํ รอง-เนตรนารสี าํ รองปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ยืนเขาแถวหนากระดานแถวเดี่ยวหนาผูเรียก หันหนาเขาหาผูกํากับลูกเสือและอยูหาง ประมาณ 6 กา ว 2. ถามีหมูเดียว ใหกลางแถวอยูตรงกับผูเรียก ใหนายหมูยืนตรงทางซายมือของผูเรียก (ทางขวาของแถว) ลูกหมูยืนตอทางซายมือของนายหมู เรียงกันไปจนคนสุดทาย และปดทายดวย รองนายหมู 3. จัดแถวใหตรง โดยลูกหมูและรองนายหมูแลขวา การจัดระยะเคียง “ปดระยะ” ประมาณ 1 ศอก คือ ใหยกมือซายทาบสะโพก น้ิวเหยียดชิดกัน นิ้วกลางอยูตามแนวตะเข็บกางเกง แขนขวา แนบกับตัว และเม่ือผูกํากับลูกเสือตรวจแถวแลวส่ังวา “นิ่ง” ใหทุกคนลดมือลงพรอมสะบัดหนามาอยู ในทา ตรงและน่งิ 40 คมู อื การจัดกิจกรรมลูกเสอื สาํ รองเสรมิ สรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ่ี 1

ถาเปนการจัดระยะเคียง “เปดระยะ” ประมาณ 1 ชวงแขน คือ ใหยกแขนซายข้ึน คว่ําฝามือ ใหปลายนิ้วมือซา ยจรดไหลขวาของคนตอไป กรณีมีหลายหมู แตละหมูปฏิบัติเหมือนแถวหนากระดาน แถวเด่ียวเพียงแตใหมีระยะเคียง ระหวา งหมูเทา กบั ระยะเคยี งระหวา งบคุ คล แถวตอน เมื่อไดยินคําส่ังวา “แถวตอน....มาหาขาพเจา” หรือผูเรียกอาจเปลงเสียงวา “แพ็ค” แลว เหยียดแขนทง้ั สองขา งออกไปขางหนา ขนานกับพื้นน้ิวมือชิดติดกัน แบฝามือเขาหากัน ผูเรียกยืนใน ทา ตรง ใหลูกเสือสํารอง – เนตรนารสี ํารองปฏิบตั ดิ งั นี้ กรณีหมูเดียว ใหนายหมูยืนตรงเปนหลักขางหนาผูเรียก และอยูหางประมาณ 6 กาว ลูกหมู เขา แถวดานหลังนายหมู ทกุ คนยนื ใหต รงคนขา งหนา ระยะตอ ระหวา งบุคคล 1 ชวงแขน ปด ทา ยดวย รองนายหมู กรณีหลายหมู เรียกวา “แถวตอนหมู” แตละหมูปฏิบัติเหมือนแถวตอนเรียงหนึ่งแตมีการ ปฏบิ ตั ิเพมิ่ ข้นึ คอื 1. ใหหมูแรกเขาแถวทางซายมือของผูกํากับลูกเสือ ใหแนวกึ่งกลางแถวท้ังหมดอยูตรงหนา ผูกํากับลูกเสือ เชน ถามี 9 หมู ใหหมูท่ีอยูตรงกลางคือ หมูที่ 5 ยืนเปนหลักท่ี 5 อยูตรงหนาผูกํากับ ลูกเสือ ใหหัวแถวหรือคนหนาสุดอยูหางผูกํากับลูกเสือประมาณ 6 กาว โดยหมูที่ 4 หมูที่ 3 หมูที่ 2 และหมูที่ 1 อยูทางซายมือผูเรียก สวนหมูท่ี 6-9 อยูทางขวามือผูเรียก และอยูในแนวเดียวกันมีระยะ เคยี งระหวางหมปู ระมาณ 1 ชว งศอก 2. ใหน ายหมหู รือหัวหนาหมยู ืนตรงเปน หลักอยูห นาสุด คนอื่นเขาแถวตอไปขางหลัง จัดแถว ใหคอตรงกัน ระยะระหวางคนที่อยูขางหนา กบั คนทีอ่ ยูขา งหลังประมาณ 1 ชวงแขน (ไมตอ งยกแขน) 3. ถากลุมน้ันมี 9 หมู ใหหมูท่ี 2–9 แลขวา จัดแถวใหตรงกับแถวทางขวามือเม่ือไดยินคําสั่ง วา “นง่ิ ” ใหท ุกคนสะบัดหนา กลบั และตรงอยูในทา ตรงและน่ิง ทาอยกู บั ท่ี - ทาตรง เปนทาเบือ้ งตน ทีเ่ ปน รากฐานการปฏบิ ตั ทิ า อนื่ ๆ และใหเ ปน ทา แสดงการเคารพ ทาหนง่ึ เม่อื ไดยินคําสง่ั วา “ตรง” ใหลกู เสอื สาํ รอง-เนตรนารสี าํ รองปฏิบตั ิ ดงั น้ี 1. สนเทา ชดิ กัน และอยูในแนวเดียวกัน ปลายเทา แยกหา งจากกันประมาณ 1 คืบเขา เหยยี ด ตึงและบบี ขาเขาหากนั 2. ลําตัวยดื ตรง อกผาย ไหลตงึ เสมอกนั 3. แขนท้ังสองขางหอยและเหยียดตรงแนบลําตัว พลิกขอศอกไปขางหนาเล็กนอย นิ้วมือ เหยยี ดชิดกนั นว้ิ กลางของท้ังสองมอื แตะขาท่กี ่งี กลางตามแนวตะเขบ็ กางเกง เปด ฝา มือเล็กนอ ย คูมือการจัดกิจกรรมลูกเสือสํารองเสริมสรา งทักษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศกึ ษาปท ี่ 1 41

4. ลาํ คอยดื ตรง ไมย ื่นคาง ตามองตรงขา งหนาไดระดับ นํ้าหนกั อยบู นเทาทงั้ สองเทากัน ยืน นง่ิ ไมเคลือ่ นไหวรา งกาย ทา ตรงดา นหนา -ทา พัก เปนทา พกั เปล่ียนอริ ยิ าบถจากทา ตรง เพื่อผอนคลายความเครียดในโอกาสตา งๆ คอื พกั ตามปกติ ใชในโอกาสฟง คาํ อธิบาย ดูการแสดงตวั อยาง พกั ตามระเบยี บ ใชใ นโอกาสรอพิธีการตา งๆ อยูใ นแถวเกียรตยิ ศ พักตามสบาย ใชใ นโอกาสรองคําส่งั เพ่ือรอการปฏิบตั ติ อ ไป พักนอกแถว ใชใ นโอกาสตอ งรอคาํ ส่งั ระยะเวลานานกวาปกติ ทาพกั ตามปกติ เม่อื ไดย นิ คําสง่ั วา “พัก” ใหล ูกเสือสาํ รอง-เนตรนารสี าํ รองปฏบิ ัติ ดังนี้ 1. หยอ นเขา ขวาลงกอน เทาท้งั สองอยกู ับท่ี หลังจากนอี้ าจเปลย่ี นเปนหยอนเขา ซา ยก็ได 2. หามพูดคยุ แตเ คลอ่ื นไหวสวนตางๆ ของรา งกายได 3. เม่อื ไดย นิ คาํ ส่ังวา “แถว” ใหยืดตัวขึ้นจัดทุกสวนของรางกายใหอยูในทาตรง แตใหหยอน เขาขวาไวเหมือนตอนเร่ิมพัก และเมื่อไดยินคําสั่งวา “ตรง” ใหกระตุกเขาขวากลับไปอยูในทาตรง โดยเรว็ ทา พกั ตามระเบยี บ เมอ่ื ไดย นิ คําสง่ั วา “ตามระเบยี บ...พกั ” ใหล กู เสือสํารอง-เนตรนารีสาํ รองปฏิบตั ิ ดังน้ี 1. แยกเทาซายออกไปทางซายประมาณ 1 ฟุต หรือเกือบคร่ึงกาวปกติอยางแข็งแรงและ รวดเรว็ 2. ยกมือไขวหลังไวใตเข็มขัดเล็กนอยในแนวกึ่งกลางหลัง หลังมือซายแนบลําตัว มือขวาทับ มอื ซาย นิ้วหัวแมม อื ขวาทบั นวิ้ หัวแมม อื ซา ย 3. ขาสองขางตึง น้ําหนักตัวอยูบนเทาท้ังสอง ตามองตรงขนานกับพ้ืน นิ่งไมเคล่ือนไหว รางกาย 4. เมื่อไดยินคําส่ังวา “แถว...ตรง” ใหชักเทาซายมาชิดเทาขวาโดยเร็ว พรอมกับมือท้ังสอง กลับมาอยูใ นทา ตรงตามเดิม 42 คมู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสาํ รองเสริมสรา งทักษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1

ทาพักตามสบาย เมือ่ ไดย นิ คําสั่งวา “ตามสบาย...พัก” ใหล กู เสอื สํารอง-เนตรนารีสํารองปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ใหหยอ นเขา ขวากอ นเหมอื นกับการพกั ทา ปกติใหพ ูดคยุ กันได เคล่ือนไหวรา งกายไดตาม สบาย แตต อ งใหเ ทา ขา งหนง่ึ อยูกบั ที่ 2. หา มนั่งหากผูกํากบั ลูกเสอื ไมอนญุ าต 3. เม่ือไดยนิ คาํ สั่งวา “แถว...ตรง” ใหปฏบิ ัติเหมือนกบั ทาพกั ตามปกติ ทาพกั นอกแถว เม่ือไดยินคําส่งั วา “พกั นอกแถว” ใหลูกเสอื สาํ รอง-เนตรนารีสํารองปฏบิ ตั ดิ งั นี้ 1. ใหแ ยกออกจากแถวทันที 2. ใหท กุ คนอยูในบรเิ วณใกลเ คียงกบั ทเี่ ขาแถว เพ่ือจะไดก ลับมาเขา แถวโดยรวดเรว็ เมอื่ ได ยนิ เสียงเรียกใหก ลับมาเขาแถวอีก เมื่อแยกแถวแลว ไมทาํ เสียงดงั ใหร บกวนผูอน่ื 3. เม่ือไดย นิ คาํ สง่ั วา “แถว” ใหท กุ คนกลบั มาเขา แถวท่ีเดมิ โดยจัดแถวใหเรียบรอ ย เหมือนเดิมและอยใู นทา ตรง - ทา หนั อยกู ับท่ี ทา ขวาหันเม่ือไดย นิ คาํ ส่งั วา “ขวา…หัน” ใหลูกเสอื สํารอง – เนตรนารสี าํ รองปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ใหเปดปลายเทาขวา ยกสนั เทาซา ย และหมนุ ตวั ไปทางขวา 90 องศา ใหสนั เทา ขวา และปลายเทาซายอยูตดิ กับพ้นื ขณะทห่ี มนุ ตวั ใหน ํ้าหนักตัวอยูทเี่ ทาขวาเม่ือหมุนตวั แลว ใหข าซา ย เหยยี ดตรง บดิ สนั เทา ออกขางนอกพอตงึ 2. ซกั เทาซา ยมาชิดเทา ขวาใหอยใู นทา ตรงโดยเร็ว ทา ซายหันเมื่อไดยินคําส่งั วา “ซาย…หนั ” ใหล ูกเสอื สาํ รอง – เนตรนารสี ํารองปฏิบัติ ดังน้ี 1. ใหเปดปลายเทาซาย ยกสันเทาขวา และหมุนตัวไปทางซาย 90 องศา ใหสันเทาซาย และ ปลายเทาขวาอยูติดกับพื้น ขณะที่หมุนตัวใหนํ้าหนักตัวอยูที่เทาซายเม่ือหมุนแลวใหขาขวา เหยยี ดตรง บดิ สนั เทาออกขา งนอกพอตงึ 2. ชกั เทา ขวามาชดิ เทา ซายใหอยูในทา ตรงโดยเรว็ ทา กลบั หลงั หนั เมอ่ื ไดย นิ คําส่ังวา “กลับหลงั …หัน” ใหล กู เสอื สํารอง – เนตรนารสี ํารองปฏิบตั ิ ดังนี้ 1. ใหเปดปลายเทาขวา ยกสันเทาซาย และหมุนตัวไปทางขวา 180 องศา ใหสันเทาขวา และปลายเทาซายอยูติดกับพ้ืน ขณะท่ีหมุนตัวใหน้ําหนักตัวอยูที่เทาขวา เมื่อหมุนตัวแลวใหขาซาย เหยยี ดตรง บิดสันเทา ซา ยออกขา งนอกใหตงึ 2. ชกั เทา ซา ยมาชิดเทา ขวาใหอ ยใู นทา ตรงโดยเร็ว คมู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสาํ รองเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงท่ี 1 ชั้นประถมศึกษาปท ี่ 1 43

-แถวรปู ครงึ่ วงกลม เมื่อไดยินคําสั่งวา “แถวครึ่งวงกลม มาหาขาพเจา” หรือผูกํากับลูกเสืออาจเรียกดวยสัญญา โดยเปลงเสียงวา “แพ็ค” แลว แบมือท้ังสองขางเหยยี ดตรงลงขา งลา ง คว่ําฝามือเขาหาตัว โบกมือผาน ลําตวั ประสานกนั ดานหนาชาๆ ไปมา เปน รูปครึง่ วงกลมประมาณ 2 - 3 ครงั้ ใหลูกเสอื สาํ รอง-เนตรนารีสํารองปฏิบตั ดิ ังน้ี 1. ใหหมูแรกยืนทางซายมือของผูกํากับลูกเสือ ใหนายหมูของหมูแรกยืนอยูเปนแถว เดียวกับผูเรียก หมูอ่ืนเขาแถวเรียงลําดับไปทางดานซายของหมูแรกตามลําดับเปนรูปคร่ึงวงกลม ใหคนสุดทายของหมูสุดทายยืนอยูในแนวเสนตรงเดียวกับผูเรียก และนายหมูหรือหัวหนาหมูหมู แรก โดยถือวาผูเรียก(ผูกํากบั ลกู เสือ) เปนจุดศูนยก ลางของลกู เสือสํารอง-เนตรนารสี าํ รองทกุ คน 2. ใหทุกคน(ยกเวนนายหมู หมูแรก และรองนายหมูหมูสุดทาย) ยกมือ เทาสะโพก เพ่ือ จัดระยะหา งระหวางกนั และสะบัดหนาไปทางขวา (แลขวา) 3. เมื่อผูกํากับลูกเสือตรวจแลว ส่ังวา “นิ่ง” ใหทุกคนลดแขนลง พรอมกับสะบัดหนามาอยู ในทา ตรงและนง่ิ -แถวรปู วงกลม เมือ่ ไดย นิ คาํ สงั่ วา “แถววงกลม...มาหาขาพเจา” หรือผูกํากับลูกเสืออาจเรียกแถวดวยสัญญาณ โดยเปลง เสียงวา “แพ็ค” กอนแลวแบมือทั้งสองขางเหยียดแขนลง ขางลา ง ควาํ่ ฝามือเขา หาตัว โบกมือผา นลาํ ตัวประสานกนั ทาง ดา นหนา จรดดานหลงั ไปมาชาๆเปนรูปวงกลมประมาณ 2 – 3 คร้ัง ใหลูกเสือสาํ รอง-เนตรนารีสํารองปฏิบตั ิ ดงั นี้ 1. ใหหมูแรกยืนทางซายมือของผูกํากับลูกเสือโดยใหนายหมูหรือหัวหนาหมูของหมูแรก ยืนแนว เดียวกับผูกํากับลูกเสือ ใหหมูอื่นคนอ่ืนเขาแถวตอไปเร่ือยๆ ไปทางซายของหมูแรก ตามลาํ ดบั ใหคนสุดทายของหมูสุดทา ยอยูจรดกบั นายหมูห รือหัวหนาหมูของหมูแรก จัดแถวใหผูกํากับ ลูกเสอื เปนศนู ยก ลางของวงกลม 2. ใหทุกคนยกมือซายเทาสะโพก เพื่อจัดระยะระหวางกัน และใหทุกคนสะบัดหนาไป ทางขวา (แลขวา) 3. เมื่อผูกํากับลูกเสือตรวจการจัดแถวเรียบรอย แลวสั่งวา “น่ิง” ใหทุกคนลดแขนลง พรอม กบั สะบดั หนามาอยูในทา ตรงและนิ่ง 44 คูมอื การจดั กิจกรรมลูกเสอื สาํ รองเสริมสรา งทกั ษะชวี ิต ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศึกษาปท ่ี 1

เร่ืองทเ่ี ปนประโยชน ลูกหมเี รยี นรู ลูกหมีเขามาในเมืองเห็นหลายสิ่งหลายอยางไมมีท่ีบานจึงอยากรูวาส่ิงนั้นสิ่งน้ีมีไวทําไมเชน ทางมาลายมีไวทําไมสะพานลอยมีไวทําไมแมจึงบอกลูกหมีวาทางมาลายมีไวใชในการเดินขามถนน การขา มถนนตอ งมองซา ยมองขวาใหด ีถาไมระวงั อาจเกิดอบุ ัติเหตไุ ดแ ละลกู หมีตองเขาแถวเพ่ือไมให เดินชนกันสวนสะพานลอยปลอดภัยกวาทางมาลายลูกหมีไดเห็นข้ันรางรถไฟท่ีกีดขวางอยูตรงกลาง ถนนก็ถามแมแมก็บอกวาเปนสัญญาณเตือนใหรถหยุดชวยใหปลอดภัยแมหมีปลูกฝงใหลูกหมีเปน คนดมี ีวินัย เร่อื งนส้ี อนใหร วู า การมีวนิ ัยตองสรา งตง้ั แตว ัยเดก็ นครไรวินยั เด็กชายแผนเปน เด็กทไี่ มม รี ะเบียบวนิ ัยเยน็ วันหน่งึ หลังเลิกเรยี น แผนขามถนนไมระวังจงึ ถกู รถชนจนหมดสติไปเม่ือต่ืนข้ึนมาก็พบวาตนเองมาอยูที่นครไรวินัยที่น่ีผูคนไมมีระเบียบวินัยจนแผน ทนไมไดและวันหน่ึงแผนไปโรงเรียนกับเพื่อนชื่อหูกางรูจักที่นครไรวินัยโดยขับยานอวกาศไปแตหู กางขับอยางนาหวาดเสียวจนไปชนกับยานอีกลําหนึ่ง ทําใหแผนสลบไปเมื่อต่ืนข้ึนมาแผนก็พบวา ตนเองอยทู ี่โลกและไมอ ยากเปน คนไรว นิ ัยอีกแลว เร่ืองนีส้ อนใหร วู า การขาดวนิ ัยทําใหเกิดอบุ ตั ิเหตุ คูมอื การจัดกิจกรรมลูกเสือสํารองเสรมิ สรางทกั ษะชวี ติ ดาวดวงที่ 1 ชัน้ ประถมศกึ ษาปท ่ี 1 45