Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 28403_แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษชั้นป.2 ปีการศึกษา 2564

28403_แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษชั้นป.2 ปีการศึกษา 2564

Published by e57927231, 2021-05-08 08:46:15

Description: 28403_แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษชั้นป.2 ปีการศึกษา 2564

Search

Read the Text Version

12

แผนการจัดการเรียนรู้ Unit 1 Back to school รหสั วิชา/ชื่อรายวชิ า ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ช้ัน ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลาเรียน 6 ชว่ั โมง ปี การศึกษา 2564 ผ้สู อน นายบญุ เสริฐ จตุรธรมวาที โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชี้วดั สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมีเหตุผล ตวั ช้ีวดั 2. ระบุตวั อกั ษรและเสียง อ่านออกเสียงคา สะกดคา และอ่านประโยคง่ายๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน 3. เลือกภาพตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และประโยคท่ฟี ัง 4. ตอบคาถามจากการฟังประโยค บทสนทนา หรือนิทานง่ายๆ ท่มี ีภาพประกอบ มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ ตวั ช้ีวดั 4. พดู ขอและให้ขอ้ มลู ง่ายๆ เก่ียวกบั ตนเองตามแบบที่ฟัง มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่างๆ โดยการพูดและ การเขยี น ตวั ช้ีวดั 1. พดู ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเองและเร่ืองใกลต้ วั สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั 1. พดู และทาทา่ ประกอบ ตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา 3. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วยั มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั ภาษาและ วฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตวั ช้ีวดั 1. ระบุตวั อกั ษรและเสียงตวั อกั ษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั 1. ฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ทเี่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียน 13

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมอื พนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลยี่ นเรียนรู้ กบั สังคมโลก ตวั ช้ีวดั 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศ เพ่อื รวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งใกลต้ วั 2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด เรียนรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั อุปกรณ์การเรียนต่างๆ และจานวน 11-20 รวมถึงโครงสร้างประโยคคาถาม What have you got? และคาตอบ I’ve got ……………. และคาถาม-คาตอบ ที่ถามถึงจานวนของสิ่งของ คือ How many …..(plural nouns)…. are there? There is/are ……(number)…… noun. ซ่ึงเป็ นการเรียนรู้ ภาษาองั กฤษเพ่อื นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั และสามารถประยกุ ตใ์ ชก้ บั วิชาอ่ืนๆ เช่น วชิ าคณิตศาสตร์ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - คา กลุ่มคา และความหมายเก่ียวกบั อุปกรณ์การเรียนต่างๆ - ประโยคคาถาม และคาตอบ เช่น A: What have you got? B: I’ve got ……………. - จานวน 11-20 - คาและประโยคท่ีใชใ้ นการพดู และเขียนเพื่อถามและให้ขอ้ มลู บอกจานวนส่ิงของต่างๆ เช่น A: How many …..(plural noun)….. are there? B: There is/are …..(number)….. noun. - คานามเอกพจน์ และพหูพจน์ - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง - คาศพั ทท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ทีเ่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียน - การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศพั ทท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งใกลต้ วั จากส่ือต่างๆ 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - มีวนิ ยั - ใฝ่ เรียนรู้ 14

6. ชิน้ งาน/ ภาระงาน - การพดู ถาม-ตอบ ชื่ออุปกรณ์การเรียนต่างๆ - การพดู ถาม-ตอบ จานวนของสิ่งของ - การทากระป๋ องใส่อุปกรณก์ ารเรียน - การทาหุ่นกระบอกติดหัวดินสอ - การวาดภาพตามคาสงั่ - การรวบรวมคาศพั ทใ์ น Your word book 7. การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ประเมนิ การทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ - ประเมินการทาแบบฝึกหัด - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทากิจกรรม 7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ - ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ การพดู ถาม-ตอบ ชื่ออุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ - ประเมนิ การพดู ถาม-ตอบ จานวนของสิ่งของ - ประเมนิ การทากระป๋ องใส่อุปกรณ์การเรียน - ประเมนิ การทาหุ่นกระบอกติดหวั ดินสอ - ประเมนิ การวาดภาพตามคาสงั่ - ประเมนิ การรวบรวมคาศพั ทใ์ น Your word book 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ - กิจกรรมนาสู่การเรียน แนบมาพร้อมน้ี - กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ดงั - กิจกรรมรวบยอด 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป. 2 2. แบบฝึ กหดั Smile ป. 2 3. Audio CD Smile ป. 2 15

4. บตั รภาพ บตั รคา บตั รตวั เลข แถบประโยค 5. อุปกรณใ์ นการประดิษฐก์ ระป๋ องใส่อุปกรณก์ ารเรียน 6. อุปกรณ์ในการประดิษฐห์ ุ่นกระบอกติดหัวดินสอ 7. ส่ิงของและอุปกรณ์การเรียนต่างๆ 8. เกมต่างๆ 16

แผนการจดั การเรียนรู้ Unit 1 Back to school (Lesson 1) 1. สาระสาคญั การเรียนรู้คาศพั ทท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั อุปกรณ์การเรียนต่างๆ โครงสร้างประโยคคาถามและคาตอบ What have you got? I’ve got …..(noun)….. การใช้ article a/an และการร้องเพลงภาษาองั กฤษซ่ึงเป็นกิจกรรมทางภาษา และวฒั นธรรม ทาให้ผเู้ รียนสามารถพดู /เขียน เพือ่ ถาม-ตอบและให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั อุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ ของตนเอง ซ่ึง เป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพื่อนาไปใชส้ ื่อสารในชีวิตประจาวนั และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั รายวชิ าอื่นๆ 2. ตวั ชี้วดั / จุดประสงค์การเรียนรู้ - อ่านออกเสียง สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ ได้ - พดู /เขียนถาม-ตอบเกี่ยวกบั ช่ือเรียกของอุปกรณ์การเรียนต่างๆ - ใช้ article a/an ไดถ้ กู ตอ้ ง - เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษตามที่กาหนดได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - คา กลุ่มคา และความหมายเกี่ยวกบั อุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ - คาศพั ท์ และบทสนทนาท่ีใชข้ อและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั อุปกรณ์การเรียน A: What have you got? B: I’ve got …………. - คาศพั ท์ และประโยคทใ่ี ชใ้ นการพดู เพอ่ื ให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั อุปกรณ์การเรียน - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การร้องเพลง การเล่นเกม - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ที่เกิดข้ึนในห้องเรียน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ - 4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ 5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มวี ินยั 17

- ใฝ่ เรียนรู้ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ 6.1 ชั่วโมงท่ี 1-2 กจิ กรรมนำสู่กำรเรียน 1. ครูทกั ทายนกั เรียนในห้องเรียน และนกั เรียนทกั ทายครูโดยพร้อมเพรียงกนั 2. ครูทบทวนอกั ษร A-Z โดยใหน้ กั เรียนท้งั ช้นั พดู หรือร้องเพลง ABC 3. ครูเดินไปทโี่ ตะ๊ เรียนแถวหนา้ แลว้ ชดู ินสอของนกั เรียนคนหน่ึง แลว้ ถามท้งั ช้นั Teacher: What’s this? Students: It’s a pencil. Teacher: And what’s this? (ชูไมบ้ รรทดั ) Students: It’s a ruler. Teacher: Very good. 4. ครูบอกนกั เรียนวา่ ในบทเรียนน้ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ และส่ิงของใน ห้องเรียน รวมท้งั ไดฝ้ ึ กสนทนา เพ่ือถาม-ตอบเก่ียวกบั ส่ิงเหล่าน้ี 5. ครูทดสอบความรู้เดิมของนกั เรียนเก่ียวกบั อุปกรณ์การเรียน ดว้ ยแบบทดสอบ English Pre-Test 1 จากน้นั เฉลยคาตอบ และเกบ็ รวบรวมแบบทดสอบ เพื่อบนั ทกึ คะแนนของนกั เรียนแต่ละคน กจิ กรรมพฒั นำกำรเรียนรู้ 1. นกั เรียนดูรูปภาพในหนังสือเรียน หน้ำ 4 ข้อ 1 Listen and point. แลว้ ตอบครูวา่ เห็นอะไรบา้ งใน ภาพ Teacher: What do you see in this picture? Students: A teacher, scissors, school bag, students……… Teacher: Well done! So, there are scissors, crayons, school bag, eraser, cupboard, a teacher and students. (ครูชูหนงั สือและช้ีนิ้วไปตามภาพตา่ งๆ ทพี่ ดู ถึง) ครูเปิ ด CD/track 5 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 รอบ ใหน้ กั เรียนพดู ตาม แลว้ ช้ีไปตามภาพท่ไี ดย้ นิ โดยครู ช้ีใหน้ กั เรียนดูทลี ะภาพก่อน เพอ่ื ใหม้ น่ั ใจวา่ ออกเสียงตรงตามภาพ จากน้นั นกั เรียนและครูช่วยกนั บอกความหมายของภาพที่ไดฟ้ ังเสียงจาก CD นกั เรียนฟัง CD 2-3 คร้งั ช้ีภาพตามเสียง แลว้ ออกเสียงใหถ้ ูกตอ้ ง 2. ครูสอนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ครูเตรียมบตั รภาพตู้ และสิ่งของจริงในช้นั เรียนไดแ้ ก่ ยางลบ กระเป๋ าดินสอ สีเทยี น กรรไกร กระเป๋ านกั เรียน และเตรียมบตั รคาต่อไปน้ี eraser cupboard pencil case crayon scissors school bag ครูชูสิ่งของทีละส่ิง และติดบตั รคาบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงและสะกดคาตามครู 18

นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 4 ข้อ 2 Listen, point and say. จากน้นั ฟัง CD/track 6 แลว้ ช้ีไป ตามภาพต่างๆ ท้งั 6 ภาพ แลว้ ออกเสียงตาม CD eraser cupboard pencil case crayon scissors school bag นกั เรียนฟัง CD อีก 3-4 คร้ัง แลว้ ออกเสียงตามจนคล่อง จากน้นั จงึ อ่านพรอ้ มๆ กนั ครูสุ่มเรียก นกั เรียน 2-3 คน ใหย้ นื ข้นึ อ่าน (1 คน อ่านท้งั 6 คา) ครูทดสอบการจาคาศพั ทข์ องนกั เรียน โดยการสุ่มเรียกนกั เรียน 7 คน ให้ออกมาหนา้ ช้นั เรียน แลว้ ยน่ื อุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ ทีค่ รูเตรียมมาใหน้ กั เรียนคนละ 1 ชิ้น นกั เรียนแต่ละคนตอ้ งนา อุปกรณ์การเรียนท่ตี นเองไดร้ ับ วางไวบ้ นขอบกระดานใหต้ รงกบั บตั รคาขา้ งบน 3. นกั เรียนดรู ูปภาพในหนงั สือเรียน หน้ำ 5 ข้อ 3 Listen and match. โดยครูถามนกั เรียนว่ามีใครอยใู่ น ภาพบา้ ง Teacher: Who are in the picture? (ช้ีที่ภาพ ด.ช. และ ด.ญ.) Students: Jenny and Tommy. Teacher: What are they doing? Students: They are talking. Teacher: Excellent! ครูทบทวนคาศพั ท์ โดยการใหน้ กั เรียนท้งั ช้นั บอกชื่ออุปกรณ์การเรียนทเี่ ห็นท้งั 6 ชิ้น โดยครูช้ีที ละอยา่ ง นกั เรียนพดู โดยพรอ้ มเพรียงกนั Students: a book, a pen, a pencil case, a pencil, a ruler, an eraser นกั เรียนฟัง CD/track 9 อยา่ งต้งั ใจ 2-3 คร้ัง จากน้นั จึงวเิ คราะห์วา่ ส่ิงใดเป็นสมบตั ิของ Jenny ท่ีอยใู่ น กระเป๋ านกั เรียน โดยการโยงเสน้ จากส่ิงของทอี่ ยดู่ า้ นบนมาท่กี ระเป๋ านกั เรียนของ Jenny Jenny: Look! This is my school bag. Tommy: Jenny: What have you got? Tommy: I’ve got a pen, a book, a pencil. What have you got? I’ve got an eraser, a pencil case, a ruler. สุดทา้ ยครูจึงเฉลยคาตอบ ให้นกั เรียนทกุ คนตรวจงานของตนเองอยา่ งซ่ือสัตยส์ ุจริต ครูเขียนบนกระดานเพือ่ สรุป และใหน้ กั เรียนอ่านตามครู ดงั น้ี Jenny: Look! This is my school bag. Tommy: Jenny: What have you got? I’ve got a pen, a book, a pencil. What have you got? 19

Tommy: I’ve got an eraser, a pencil case, a ruler. ครูสุ่มนกั เรียน 2 คู่ ออกมาอ่านบทสนทนาบนกระดานให้เพอ่ื นๆ ในช้นั ฟัง 4. ครูบอกนกั เรียนว่า การท่เี ราจะบอกผอู้ ่ืนว่าเรามสี ิ่งใด เราสามารถใชร้ ูปแบบดงั น้ี ครูเขียนบนกระดาน I’ve got + (noun) . นกั เรียนแต่ละคนมองสิ่งของของตนบนโต๊ะ เพอ่ื เตรียมพดู คนละ 1 ประโยค ครูเดินไปรอบๆ หอ้ ง เมอื่ สุ่มไปท่ี นกั เรียนคนใด นกั เรียนคนน้นั ตอ้ งพดู อยา่ งรวดเร็ว เช่น Dome: I’ve got a school bag. Joy: I’ve got a ruler. Ploy: I’ve got a book. Kratae: I’ve got an eraser. (ครูสุ่มประมาณ 10 คน) 5. ครูทบทวนการใช้ article a/an ดงั ต่อไปน้ี a และ an ใชน้ าหนา้ คานามนบั ไดเ้ อกพจน์ (1 สิ่ง) เม่ือกล่าวถึงคานามน้นั โดยทว่ั ไปไม่เฉพาะเจาะจง - a + คานาม 1 ส่ิงทีข่ ้ึนตน้ ดว้ ยพยญั ชนะ เช่น a book a pen a box a teacher - an + คานาม 1 ส่ิง ท่ีข้ึนตน้ ดว้ ยสระ (a, e, i, o และ u) เช่น an eraser an apple an elephant an orange นกั เรียนแต่ละคนคิดหาคาศพั ท์ ส่ิงท่ขี ้ึนตน้ ดว้ ยพยญั ชนะ และสระ เม่อื คิดไดแ้ ลว้ จึงบอกครู ครูรวบรวมคาศพั ท์ แลว้ เขียนบนกระดาน จากน้นั นกั เรียนคดั ลอกคาศพั ทล์ งในสมุดของตนเอง แลว้ อ่านคาศพั ท์ เหล่าน้นั ตามครู ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝึ กหัด เติมคา article a/an 6. นกั เรียนฝึ กร้องเพลง “What have you got?” โดยก่อนอื่นนกั เรียนทุกคนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ หลบั ตา เพือ่ ต้งั ใจฟังเพลงจาก CD ครูเปิ ด CD/track 11 ให้นกั เรียนฟังก่อน 1 รอบ แลว้ ถามนกั เรียนว่าไดย้ นิ คาศพั ทอ์ ะไรบา้ ง Teacher: What do you hear in the song? Students: Book, school bag, pen, crayon … Teacher: Very good! นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 6 ข้อ 4 Listen and sing. เพื่อดูเน้ือเพลง นกั เรียนอ่านตามครูทลี ะ บรรทดั แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย จากน้นั จึงฟังเพลงจาก CD อีก 2-3 คร้ัง แลว้ รอ้ งตามจนคล่อง ครูให้ นกั เรียนชูหนงั สือหรืออุปกรณก์ ารเรียนตามเน้ือเพลง เมอ่ื ร้องถึงท่อนน้นั นกั เรียนแบง่ ออกเป็น 2 ทีม คือทีมนกั เรียนชาย และทีมนกั เรียนหญิง ให้แต่ละทมี ร้องเพลงโดยพร้อมเพรียงกนั ถูกตอ้ งตามจงั หวะ และเสียงดงั ฟังชดั จากน้นั ครูให้นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน (Group work) เพอ่ื แข่งขนั กนั ร้องเพลง โดยมกี ฎ กติกาคือตอ้ งดดั แปลงเพลง โดยเปลี่ยนเน้ือร้องเป็นอุปกรณ์การเรียนต่างๆ โดยเนน้ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ให้ ท้งั ช้นั คดั เลือกกรรมการออกมา 4 คน โดยคะแนนท่ีให้จะพิจารณาจาก 1. การเตรียมความพร้อม 2. ร้องเพลงเสียงดงั ฟังชดั 20

3. เน้ือเพลงดดั แปลงไดเ้ หมาะสม 4. มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 5. การแสดงท่าทางประกอบการร้อง นกั เรียนแต่ละกลุ่มต้งั ชื่อกลุ่มของตนเอง แลว้ ออกมาร้องเพลงหนา้ ช้นั ทีละกลุ่ม ตวั อยา่ ง กลุ่มทานตะวนั (Sunflower Team) I’ve got a ruler, a ruler, a ruler. I’ve got a ruler in my pencil case. I’ve got scissors, scissors, scissors. I’ve got scissors in my pencil case. I’ve got an eraser, an eraser, an eraser. I’ve got an eraser in my pencil case. กลุ่มที่ชนะเลิศจะไดข้ องรางวลั เป็นอุปกรณ์การเรียน คนละ 1 ชิ้น 7. ครูสอนนกั เรียนประดิษฐก์ ระป๋ องใส่อุปกรณ์การเรียน สาหรับจดั เกบ็ ส่ิงของใหเ้ ป็นระเบยี บ ซ่ึงมีข้นั ตอนการ ประดิษฐ์ ดงั น้ี 1) เตรียมอุปกรณ์ ไดแ้ ก่ กระป๋ อง 1 ใบ กระดาษห่อของขวญั กาว ริบบ้ิน 2) ลา้ งกระป๋ องใหส้ ะอาด ขนาดของกระป๋ องไม่ควรใหญ่ หรือเล็กเกินไป โดยอาจใชก้ ระป๋ องนมขน้ หวาน หรือกระป๋ องน้าอดั ลมกไ็ ด้ ถา้ ไม่มกี ระป๋ องนกั เรียนสามารถใชก้ ล่องแขง็ แทนได้ 3) ตดั กระดาษห่อของขวญั ให้พอดีกบั กระป๋ อง พนั กระดาษรอบกระป๋ อง แลว้ ใชก้ าวปิด 4) ตกแต่งกระป๋ องดว้ ยริบบ้ินให้สวยงาม เมือ่ นกั เรียนทกุ คนประดิษฐก์ ระป๋ องเสร็จ ครูคดั เลือกผลงานท่ีสวยงามและดีเด่น 5 ช้ิน เพ่อื นามาแสดงหนา้ ช้นั เรียน พร้อมติดช่ือของเจา้ ของผลงาน 8. นกั เรียนสารวจสิ่งของอุปกรณ์การเรียนของตนเองในกระเป๋ านกั เรียนว่ามอี ะไรบา้ ง จากน้นั จึงวาดภาพอุปกรณ์ การเรียนของตนเองอยา่ งนอ้ ย 6 ชิ้น ลงในกรอบตาราง ซ่ึงอยใู่ นหนงั สือเรียน หน้ำ 7 ข้อ 5 Draw the objects in your school bag. จากน้นั จึงระบายสีให้สวยงาม แลว้ เขียนประโยคอธิบายรูปภาพในเน้ือท่วี ่าง ใตภ้ าพ เช่น I’ve got a pencil, a ruler, an eraser, a book, a pencil case and scissors. นกั เรียนทกุ คนฝึกพดู ประโยคท่ีตนเขียน โดยครูช่วยนกั เรียนท่ีเรียนอ่อนใหอ้ ่านออกเสียงอยา่ งถกู ตอ้ ง ครูขอ อาสาสมคั รนกั เรียน 2-3 คน ใหอ้ ่านดงั ๆ ครูเฉลยคาตอบ และเกบ็ รวบรวมแบบทดสอบ เพอ่ื บนั ทกึ คะแนนของนกั เรียนแต่ละคน 9. ครูอธิบายนกั เรียนวา่ ในการท่เี ราจะถามเพ่อื นๆ ว่ามอี ุปกรณก์ ารเรียนอะไรบา้ ง และการตอบคาถาม เราจะใช้ โครงสร้างประโยคคาถามและคาตอบ ดงั น้ี ครูเขียนบนกระดานดา A: What have you got? B: I’ve got ………. and a ………. หมายเหตุ: I’ve got = I have got แปลว่า ฉนั มี 21

เช่น - What have you got? - I’ve got a book and a pencil. นกั เรียนดตู วั อยา่ งประโยคบทสนทนาในหนงั สือเรียน หน้ำ 7 ข้อ 6 Ask and answer with your friends. จากน้นั จึงอ่านบทสนทนาตามครูพร้อมๆ กนั แลว้ ช่วยกนั บอกความหมายของประโยค และฝึ กหัด อ่านดว้ ยตนเองจนคลอ่ ง นกั เรียนฝึ กฝนบทสนทนาขา้ งตน้ ดว้ ยเกม Music chairs โดยมวี ิธีการเล่นดงั ต่อไปน้ี 1) นกั เรียนยนื เป็นวงกลม โดยมเี กา้ อ้ีนอ้ ยกว่าจานวนนกั เรียน 2 ตวั เช่นถา้ มนี กั เรียน 30 คน จะมีเกา้ อ้ี 28 ตวั เกา้ อ้ีจะถกู วางเป็นวงกลมภายใน 2) นกั เรียนแต่ละคนเตรียมอุปกรณ์การเรียนคนละ 2 ช้ิน แลว้ ซ่อนไวใ้ นกระเป๋ าเส้ือหรือกางเกง 3) ครูเปิด CD เพลงเป็นจงั หวะเร้าใจ นกั เรียนทุกคนเดินรอบเกา้ อ้ี และเตน้ ราตามจงั หวะเสียงเพลง แต่สายตาต่างกจ็ อ้ งจบั จองเกา้ อ้ี 1 ตวั 4) เมื่อครูปิดเพลง นกั เรียนทกุ คนต่างวงิ่ ไปจบั จองเกา้ อ้ีคนละตวั แลว้ นง่ั ลง ผทู้ ่ไี ม่ไดเ้ กา้ อ้ี 2 คน เดินมายนื กลางวงกลม เพ่อื พดู บทสนทนา และทาทา่ ประกอบ ซ่ึงครูไดเ้ ขียนใหไ้ วเ้ ป็นแนวทางบน กระดาน ดงั ต่อไปน้ี A: What have you got? B: I’ve got ………. and a ………. And you? What have you got? A: I’ve got ………. and a/an ………. ในขณะน้ี ด.ช. โดม และ ด.ญ. พลอย เป็นนกั เรียนคู่แรกท่ีตอ้ งออกมายนื กลางวงกลม Dome: What have you got? Ploy: I’ve got scissors and an eraser. (ชูอุปกรณ์การเรียนท้งั 2 ชนิด) And you? What have you got? Dome: I’ve got a pen and a pencil. (แสดงอุปกรณ์การเรียนของตน) เม่ือ ด.ช. โดม และ ด.ญ. พลอย ทากิจกรรมน้ีเสร็จ ก็เดินออกจากวงไป ครูยกเกา้ อ้ี 2 ตวั ออกจาก วงกลม แลว้ นกั เรียนท่เี หลือตา่ งเล่นเกม Music Chairs กนั ตอ่ จนเหลือเป็นคูส่ ุดทา้ ย ในกรณีทเี่ กิดการ Jackpot นนั่ คอื นกั เรียนท้งั คู่ตา่ งเตรียมอุปกรณ์การเรียนมาเหมือนกนั ท้งั 2 ช้ิน นกั เรียนคู่น้นั จะไดร้ บั รางวลั เป็ นขนม หรืออุปกรณ์การเรียนเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ครูคอยสงั เกตการเรียนรูข้ องนกั เรียนแต่ละคน แลว้ จดบนั ทกึ ไว้ ถา้ นกั เรียนคนใดไม่สามารถพดู ประโยคคาถามและคาตอบเหล่าน้ีได้ ครูควรใหค้ วามช่วยเหลือ และช่วยแกไ้ ข หรือใหน้ กั เรียนคน น้นั ไปฝึกนอกเวลา อยา่ ปลอ่ ยใหน้ กั เรียนผนู้ ้นั เป็ นตวั ตลกของช้นั เรียน กจิ กรรมรวบยอด 22

1. ครูใหน้ กั เรียนสารวจดอู ุปกรณ์การเรียนต่างๆ ภายในหอ้ งรียน นอกเหนือจากทีไ่ ดเ้ รียนรู้มา ถา้ นกั เรียนคนใดไมท่ ราบคาศพั ท์ กส็ ามารถบอกครูเป็นภาษาไทยได้ เพราะครูตอ้ งการรวบรวมคาตอบจากนกั เรียน จากน้นั ครูจึงเขียนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั อุปกรณ์ต่างๆ ในห้องเรียนลงบนกระดาน clock computer notebook locker chalk paper calendar brush glue globe map poster wastepaper bin book shelf photograph etc. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทเ์ หล่าน้ีตามครู จากน้นั จึงช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ อธิบายไมไ่ ด้ ครูจึงจะบอกความหมาย สุดทา้ ยนกั เรียนคดั ลอกคาศพั ทเ์ หล่าน้ีลงในสมุดของตนเองใหถ้ ูกตอ้ ง หมายเหตุ: นกั เรียนไมจ่ าเป็นตอ้ งท่องคาศพั ทเ์ หล่าน้ี หรือเขียนสะกดไดถ้ ูกตอ้ ง ครูเพยี งแต่อยาก ให้นกั เรียนทราบไวเ้ ท่าน้นั 2. นกั เรียนดูลายเสน้ ทีเ่ ป็นจุดประของภาพอุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ 5 ภาพในแบบฝึ กหดั หน้ำ 4 ข้อ 1 Trace and say. โดยครูช้ีทีละภาพ แลว้ อ่านออกเสียงดงั ๆ ให้นกั เรียนอ่านตามครูซ่ึงนกั เรียน ต่างก็ทราบความหมายของแต่ละภาพตามลายเส้นทีป่ รากฏ จากน้นั นกั เรียนฝึกกลา้ มเน้ือมือมดั เล็ก โดยการ ลากเส้นตามจุดประ ท้งั 5 ภาพ แลว้ ระบายสีให้สวยงาม ผใู้ ดระบายสีเสร็จให้ฝึกหดั อ่านคาศพั ทท์ ้งั 5 คา จากน้นั นาชิ้นงานมาส่งครู แลว้ อ่านคาศพั ทท์ ้งั 5 คาใหค้ รูฟัง ครูใหค้ ะแนนและจดบนั ทกึ 3. นกั เรียนดูภาพแถวซา้ ยมอื ท้งั 5 ภาพในแบบฝึ กหดั หน้ำ 5 ข้อ 2 Listen and draw a line. ครูช้ีทีละภาพ จากภาพ 1-5 แลว้ ถามนกั เรียนว่าส่วนที่นกั เรียนเห็นน้ี เป็นส่วนที่ขยายของอุปกรณช์ ้ินใด Teacher: What’s this? (ช้ีภาพท่ี 1 ดา้ นซา้ ยมือ) Students: It’s a cupbpard. (ครูถามจนครบท้งั 5 ภาพ) ครูยงั ไมเ่ ฉลยคาตอบ เน่ืองจากตอ้ งการใหน้ กั เรียนฟังคาตอบจาก CD นกั เรียนฟัง CD 2/track 7 รอบ แลว้ ออกเสียงตามสาเนียงเจา้ ของภาษา Number one, cupboard Number two, pencil case Number three, crayon Number four, scissors Number five, school bag นกั เรียนโยงเส้นภาพทางซา้ ยมอื ให้สมั พนั ธ์กบั ภาพเต็มๆ ทางขวามอื ท้งั 5 ภาพ โดยใชด้ ินสอสีท่มี ีสีแตกต่าง กนั 5 สี เพือ่ จะไดเ้ ห็นชดั เจน และเส้นไมท่ บั สบั สนกนั ครูเฉลยคาตอบที่ถูกตอ้ ง นกั เรียนต่างตรวจงานของตนเอง และให้คะแนนดว้ ยความซ่ือสัตย์ นกั เรียนออกเสียงคาศพั ทต์ ามภาพที่ 1-5 อยา่ งพร้อมเพรียงกนั ครูสุ่มตวั อยา่ งนกั เรียนแถวหลงั 2-3 คน ให้ ยนื ข้ึนพดู ระบคุ าศพั ทข์ องภาพทลี ะคน คนละ 5 ภาพ 23

3. นกั เรียนสารวจคาศพั ทใ์ นแบบฝึ กหดั หน้ำ 6 ข้อ 3 Listen and draw. จากน้นั จึงฟัง CD/track 8 2-3 คร้ัง แลว้ ออกเสียงตามเจา้ ของภาษา ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนช้ีไปตามตวั อกั ษรท่ไี ดย้ นิ เพือ่ มน่ั ใจวา่ ออกเสียงคาศพั ท์ ถูกตอ้ งตามที่ไดฟ้ ังจาก CD 4. Number one, a school bag Number two, a pencil case Number three, scissors Number four, a crayon Number five, a cupboard นกั เรียนและครูช่วยกนั บอกความหมายคาศพั ทท์ ้งั 5 คา เหล่าน้ี แลว้ อ่านออกเสียงพร้อมๆ กนั นกั เรียนวาดภาพอุปกรณก์ ารเรียนท้งั 5 ชนิด ใหต้ รงตามทคี่ าศพั ทใ์ ตภ้ าพระบุ แลว้ ระบายสีให้สวยงาม จากน้นั นามาส่งครู ครูให้นกั เรียนท่ีนาช้ินงานมาส่งท่โี ต๊ะ อ่านคาศพั ทท์ ้งั 5 ทลี ะคน แลว้ จดบนั ทึกนกั เรียนบางคนท่ยี งั ไม่สามารถ อ่านออกเสียงได้ เพือ่ นดั มาสอนเสริมในชว่ั โมงวา่ ง ครูคดั เลือกผลงานที่เด่นของนกั เรียน 5 ชิ้น มาแสดงหนา้ ช้นั เรียน ผลงานทเ่ี ด่น พจิ ารณาจาก 1) ภาพชดั เจน สื่อถึงคาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 2) ลายเส้นประณีต บรรจง 3) ระบายสีไดส้ วยงาม 4) มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 5) นกั เรียนทางานเสร็จทนั เวลา นกั เรียนท้งั 5 คน จะไดร้ ับขนมเป็นรางวลั ซ่ึงถือว่าเป็นแรงจูงใจ 5. นกั เรียนดภู าพอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ทอี่ ยบู่ นโตะ๊ ในแบบฝึ กหดั หน้ำ 7 ข้อ 4 Follow and say the words. โดยข้นั ตน้ นกั เรียนออกเสียงคาศพั ทใ์ ห้ตรงกบั ภาพอุปกรณ์การเรียนท้งั 8 ชนิด โดยพร้อมเพรียงกนั Students: notebook, pencil, book, school bag, ruler, crayon, eraser, pen นกั เรียนใชด้ ินสอลากเสน้ ตามตวั อกั ษรของคาศพั ทแ์ ต่ละชนิดใหถ้ ูกตอ้ งตามลาดบั ก่อน-หลงั ท้งั 8 คาศพั ท์ แลว้ สะกดตวั อกั ษรพร้อมๆ กนั และบอกความหมาย เช่น Students: n - o - t - e - b - o - o - k notebook สมุดจดงาน p-e-n-c-i-l pencil ดินสอ 6. นกั เรียนเติมตวั อกั ษรท่ถี ูกตอ้ งลงในช่องว่าง เพ่ือให้เป็นคาศพั ทท์ ส่ี มบรู ณ์ท้งั 8 คา ซ่ึงกิจกรรมน้นั อยใู่ นแบบฝึ กหัด หน้ำ 7 ข้อ 5 Complete the words. Then match. นกั เรียนจบั คู่กบั เพอ่ื นขา้ งเคียง เพ่ือปรึกษาหารือกนั (Pair work) จากน้นั นกั เรียนจงึ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ โดยครูเขียนคาตอบบนกระดาน และช่วยแกไ้ ขให้บางขอ้ 24

pen school bag crayon pencil notebook eraser ruler book นกั เรียนตรวจคาตอบของตนเองดว้ ยความซ่ือสัตย์ แลว้ ใชด้ ินสอสีโยงเสน้ คาศพั ทแ์ ต่ละคู่ เส้นละ 1 สี โดย จบั คู่ให้ถูกตอ้ ง สุดทา้ ยจึงช่วยกนั เฉลยคาตอบกบั ครู 7. นกั เรียนสารวจสิ่งของอุปกรณ์การเรียนท่ตี นเองมีในกระเป๋ านกั เรียน แลว้ นาออกมาวางไวบ้ นโตะ๊ เรียน เพื่อเป็น แบบในการวาดภาพลงในกรอบท่ีกาหนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้ำ 8 ข้อ 6 Draw the objects in your school bag. โดยครูกาหนดให้นกั เรียนวาดภาพอุปกรณก์ ารเรียนอยา่ งนอ้ ย 6 ช้ิน (ผใู้ ดมีไมค่ รบ ขอให้จินตนาการในส่วนทีไ่ ม่ม)ี และระบายสีใหส้ วยงาม แลว้ เขียนบรรยายลงในทวี่ ่างใตภ้ าพ ครู กาชบั ใหน้ กั เรียนใช้ article a/an ให้ถกู ตอ้ ง ตวั อย่าง I’ve got a pen, a pencil, an eraser, a ruler, a pencil case and scissors. ครูสุ่มตวั อยา่ งนกั เรียน 5 คน ให้นาผลงานของตนเองออกมาแสดงหนา้ ช้นั เรียน และอ่านประโยคที่ตนเองเรียบ เรียง จากน้นั หัวหนา้ รวบรวมแบบฝึ กหดั ของนกั เรียนทกุ คนไปไวท้ ีห่ ้องพกั ครู เพ่ือครูจะไดต้ รวจเพอ่ื สารวจ พฤติกรรมการเรียนรู้ และจดบนั ทกึ ในเวลาวา่ ง 7. การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนการเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด - สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทากิจกรรม 7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ - ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ การพดู ถาม – ตอบ ชื่ออุปกรณ์การเรียนต่างๆ - ประเมนิ ความสามารถในการเขียนตวั อกั ษรเพอื่ ประกอบเป็นคาศพั ทอ์ ุปกรณก์ ารเรียน - ประเมนิ การประดิษฐก์ ระป๋ องใส่อุปกรณก์ ารเรียน - ประเมนิ การร้องเพลง และการแสดงออกดว้ ยท่าทางประกอบเพลง - ประเมินความสามารถในการเขียนตวั อกั ษรภาษาองั กฤษในรูปคา และประโยคต่างๆ 8. ส่ือ/ แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป. 2 25

2. แบบฝึ กหัด Smile ป. 2 3. Audio CD Smile ป. 2 4. บตั รภาพ บตั รคา แถบประโยค 5. อุปกรณ์ในการประดิษฐก์ ระป๋ องใส่อุปกรณก์ ารเรียน 6. อุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ 7. เกม Music chair 26

แผนการจัดการเรียนรู้ Unit 1 Back to school (Lesson 2) 1. สาระสาคญั การเรียนรู้จานวนตวั เลข 11-20 บทสนทนาเพ่อื ถาม-ตอบ จานวนสิ่งของต่างๆ เช่น How many .….(plural noun)….. are there? There are …..(number)….. + noun. คานามเอกพจน์และพหูพจน์ การใช้ There is ….. และ There are ….. การร้องเพลงซ่ึงเป็นกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เหล่าน้ีเป็นการ เรียนรู้ภาษาองั กฤษ เพอื่ นาไปใชส้ ่ือสารในชีวิตประจาวนั และสามารถประยกุ ตใ์ ชก้ บั รายวิชาอ่ืนๆ 2. ตวั ชี้วดั / จุดประสงค์การเรียนรู้ - อ่านออกเสียง สะกดคา และเขียนตวั อกั ษรของจานวน 11-20 ได้ - ฟัง พดู และระบุจานวนสิ่งของต่างๆ ได้ - พดู /เขียน ถาม-ตอบ ถึงจานวนของส่ิงต่างๆ - ระบคุ านามเอกพจน์ และพหูพจน์ สามารถเปลี่ยนคานามเอกพจนใ์ หเ้ ป็นพหูพจน์ - การใช้ There is และ There are - เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษตามทก่ี าหนดได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - คา และประโยคทใี่ ชใ้ นการพดู เพอ่ื ใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั จานวน 11-20 - คานามเอกพจน์ และพหูพจน์ - คาศพั ท์ และบทสนทนาท่ีใชข้ อและให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั จานวนสิ่งของ เช่น A: How many …..(plural noun)….. are there? B: There are ….. (numbers)….. + noun. - คาศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การร้องเพลง การเล่นเกม - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่ายๆ ที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ - 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ 27

- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มวี ินยั - ใฝ่ เรียนรู้ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ 6.1 ชั่วโมงท่ี 3-4 กจิ กรรมนำสู่กำรเรียน 1. ครูและนกั เรียนทกั ทายกนั ในช้นั เรียน ครูย้าให้นกั เรียนท่องคาศพั ทใ์ หม่ๆ และทบทวนส่ิงทไี่ ดเ้ รียนไปในชว่ั โมง ท่ี 1-2 เพราะการที่นกั เรียนจะเก่งวชิ าภาษาองั กฤษไดน้ ้นั ตอ้ งอาศยั เวลาในการสะสมความรู้ ครูจึงขอให้ นกั เรียนมวี ินยั และใฝ่เรียนรู้วชิ าภาษาองั กฤษตลอดเวลา มิใช่เฉพาะในช้นั เรียน 2. ครูทบทวนคาศพั ทห์ มวดอุปกรณก์ ารเรียนของบทเรียนท่ีผา่ นมา โดยการแสดงสิ่งของต่างๆ แลว้ ให้นกั เรียนระบุ ชื่อให้ถูกตอ้ ง 3. ครูทดสอบความรู้เดิม และความสามารถในการเขียนตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ ท้งั ตวั พิมพเ์ ลก็ และตวั พมิ พใ์ หญ่ โดย ครูแจกกระดาษ (Recycle) ให้นกั เรียนเขียนตวั อกั ษรภาษาองั กฤษท้งั 2 รูปแบบ ห้ามนกั เรียนคดั ลอกจากเพอื่ น หรือมองแผน่ โปสเตอร์ตวั อกั ษรทา้ ยหอ้ งเรียน ครูรวบรวมแบบทดสอบ A-Z เพอื่ นาไปตรวจนอกเวลาเรียน และเพ่อื จดบนั ทกึ พฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียนแต่ละคน 4. นกั เรียนเปิดหนงั สือเรียน หน้ำ 8 เพอื่ ดูรูปภาพอยา่ งคร่าวๆ ครูกาหนดใหน้ กั เรียนดรู ูปภาพ 1 นาที แลว้ ปิดหนงั สือเรียน จากน้นั จึงถามนกั เรียนว่าเห็นอะไรบา้ ง Teacher: What do you see on page 8? Students: Numbers, chairs, pens, books, scissors … (ช่วยกนั ตอบ) Teacher: Well done! ครูบอกนกั เรียนวา่ ในบทที่ 2 น้ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั จานวนตวั เลข 11-20 การถามและตอบเพ่ือทราบ จานวนตวั เลข และคานามเอกพจน์/พหูพจน์ กจิ กรรมพัฒนำกำรเรียนรู้ 1. ครูทบทวนจานวน 1-10 ดว้ ยการใหน้ กั เรียนร้องเพลง “Ten Little Indians” ครูเขยี นเน้ือเพลงบน กระดาน ดงั น้ี Ten Little Indians One little, two little, three little Indians, four little, five little, six little Indians, seven little, eight little, nine little Indians, ten little Indian boys 28

นกั เรียนร้องเพลงตามครูก่อน 1 รอบ จากน้นั จึงช่วยครูอธิบายความหมายของเพลง ครูอธิบายนกั เรียนวา่ “Indian” มิใช่ชาวอินเดียหรือชาวภารตะ แต่แปลว่าชาวอินเดียนแดงในอเมริกา ครูทบทวนความรู้เดิมของตวั เลข 1-10 ดว้ ยบตั รตวั เลข และบตั รคา โดยให้นกั เรียนพดู ระบุจานวนให้ตรงกบั ตวั เลข ครูทดสอบนกั เรียนโดยการติดบตั รตวั เลข และบตั รคารวมท้งั ส้ิน 20 ชิ้น อยา่ งกระจดั กระจายบนกระดาน แลว้ สุ่ม นกั เรียน 10 คน ให้ออกมาจบั คู่บตั รตวั เลขและบตั รคาให้ถกู ตอ้ ง แลว้ อ่านออกเสียงตวั เลข 1-10 ที่ตนจบั ได้ 2. นกั เรียนดูจานวนตวั เลข 11-20 ในหนงั สือเรียน หน้ำ 8 ข้อ 1 Listen and point. ครูเปิ ด CD/track 12 ใหน้ กั เรียน ฟัง 2-3 คร้ัง นกั เรียนช้ีตวั เลขตามทไ่ี ดย้ นิ จาก CD แลว้ ออกเสียงตามสาเนียงของเจา้ ของ ภาษาให้ถกู ตอ้ ง จากน้นั ครูคอยเดินสังเกต และกระตุน้ ให้นกั เรียนออกเสียงหรือขยบั ริมฝีปาก อีกท้งั บอกนกั เรียน ถา้ ช้ีระบหุ มายเลขผดิ ตาม CD Script eleven twelve thirteen fourteen nineteen fifteen sixteen twenty seventeen eighteen นกั เรียนทกุ คนอ่านออกเสียงตวั เลขโดยพร้อมเพรียงกนั และสะกดตวั อกั ษร เช่น Students: e - l - e - v - e - n eleven สิบเอด็ t- w - e - l - v - e twelve สิบสอง 3. นกั เรียนสารวจรูปภาพและกลุ่มคาต่างๆ ในหนังสือเรียน หน้ำ 8 ข้อ 2 Listen, point and say. ครูถามนกั เรียนวา่ เห็นอะไรในภาพ Teacher: What do you see in this picture? Student: Pens, pencils, erasers, books, rulers, cupboards, notebooks, scissors, chairs and schools bags. Teacher: Excellent! How many are there? Now, listen carefully. นกั เรียนฟัง CD/track 12 พร้อมช้ีนิ้วตามตวั อกั ษรท่ไี ดย้ นิ และเห็น แลว้ ออกเสียงตามใหถ้ กู ตอ้ ง ครูเตือนให้ นกั เรียนออกเสียง [s] ทา้ ยคานาม นกั เรียนฟัง CD อีกหลายๆ คร้ัง แลว้ พดู ตามจนคล่อง (Individual work) School, school, school. Back to school. Eleven chairs Twelve pens Thirteen rulers Fourteen pencils Fifteen scissors Sixteen school bags Seventeen books Eighteen erasers Nineteen notebooks Twenty cupboards School, school, school. This is my school. 29

ครูและนกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมายของสิ่งทีไ่ ดย้ นิ และตวั อกั ษรทเ่ี ห็นในหนงั สือเรียน จากน้นั จึงอ่านออก เสียงพร้อมๆ กนั และช้ีน้ิวให้ตรงตามภาพประกอบท้งั 10 ภาพ (ทวนเขม็ นาฬิกา) ครูสุ่มนกั เรียน 10 คน ใหล้ ุกข้ึนยนื เพื่ออ่านคนละ 1 หมายเลข และช้ีตามภาพประกอบแต่ละภาพให้ถูกตอ้ ง นกั เรียนท่ีเหลือดูตาม และทกั ทว้ งถา้ พบขอ้ ผดิ พลาด 4. นกั เรียนนบั จานวนส่ิงของอุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ ท้งั 6 ชนิด ซ่ึงอยใู่ นกรอบท้งั 6 ในหนังสือเรียน หน้ำ 9 ข้อ 3 Count and match the objects. โดยนบั ตามเขม็ นาฬิกา เริ่มจากกรอบภาพกระเป๋ า นกั เรียน 13 ใบก่อน นกั เรียนเริ่มตน้ นบั จาก 1-13 เช่น Students: (ช้ีที่ภาพกระเป๋ านกั เรียน 13 ใบ) one, two, three, four, five, six, seven, eight, nine, ten, eleven, twelve, thirteen, thirteen school bags. (เนน้ เสียง [s] ดว้ ย) เม่อื นกั เรียนนบั ภาพในกรอบจนครบทุกภาพแลว้ จึงใชด้ ินสอสีโยงเส้นจากภาพแต่ละภาพไปยงั จานวนตวั เลขท้งั 6 ใหถ้ ูกตอ้ ง โดยกาหนดใหใ้ ชส้ ีแตกต่างกนั ในการโยงเส้น เพอ่ื กนั การสบั สน นกั เรียนสามารถปรึกษากบั เพ่อื น ขา้ งเคียงได้ จากน้นั ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 5. ครูอธิบายนกั เรียนวา่ การทเี่ ราจะระบจุ านวนของส่ิงของต่างๆ เราใชโ้ ครงสร้าง ดงั น้ี ครูเขียนบน กระดาน number + plural noun * คานามพหูพจน์คือ นามทมี่ มี ากกวา่ 1 ข้ึนไป (จานวนตวั เลข + นามพหูพจน์) เช่น fourteen boys sixteen cups eleven crayons นกั เรียนช่วยกนั คิดหากลุ่มคาต่างๆ ทร่ี ะบจุ านวนตามโครงสร้างขา้ งตน้ คนละ 5 กลุ่มคา โดยสงั เกตจากส่ิงรอบๆ ตวั ภายในห้องเรียน แลว้ เขียนลงในสมุดของตนเอง ครูสุ่มนกั เรียน 2-3 คน ใหย้ นื ข้ึนอ่านดงั ๆ เช่น Joy: ten books, nine girls, eleven pens, thirteen students, eight rulers. ครูอธิบายคานามเอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ (Plural) ดงั น้ี 1) คานามเอกพจน์ (Singular) แสดงว่ามีคน สัตว์ ส่ิงของ อยเู่ พียงส่ิงเดียว หรืออนั เดียว ปรกตินาม Singular จะใช้ a หรือ an นาหนา้ คานาม เช่น a teacher an orange a book an egg 2) คานามพหูพจน์ (Plural) แสดงวา่ มคี น สตั ว์ สิ่งของ มากกวา่ หน่ึง ตามปรกตินาม Plural ใชร้ ูปเดียวกบั นาม Singular แต่จะเติม s ทา้ ยคา และไม่มี a/an นาหนา้ เช่น a student two students etc. an egg ten eggs an eraser fourteen erasers a pencil twenty pencils 30

หมายเหตุ: คานามพหูพจนอ์ าจเปลี่ยนรูปไปจากคานามเอกพจน์ไดห้ ลายวธิ ี ซ่ึงกฎการเปล่ียนรูปแบบ จะ อธิบายในภายหลงั เมื่อนกั เรียนไดศ้ ึกษาในระดบั ช้นั ที่สูงข้ึน ครูหาแบบฝึกหัดการเปล่ียนรูปคานามเอกพจนเ์ ป็นพหูพจนท์ ี่เหมาะสมกบั นกั เรียนระดบั ช้นั ป. 2 มาใหน้ กั เรียนฝึกฝน 6. นกั เรียนเล่นเกม My number เพอื่ คลายความตึงเครียดในระหว่างเรียน และฝึ กทกั ษะการฟังตวั เลข 1-20 ไป พร้อมๆ กนั วิธีการเล่นมีดงั ต่อไปน้ี 1) ครูเตรียมบตั รตวั เลข 1-20 ใบใหญ่ๆ 2) นกั เรียนเล่นเกมน้ี คร้ังละ 20 คน นกั เรียนท่ีเหลือคอยดูอยหู่ ่างๆ และช่วยครูจบั ผดิ นกั เรียนที่ เหลือจะไดเ้ ล่นเกมต่อไป เมอื่ กลุ่มแรกเล่นเสร็จ 3) ผเู้ ล่นยนื เป็นแถว หนั หนา้ เขา้ หากนั มีหมายเลขกากบั ไวบ้ นอก 4) นกั เรียนจาหมายเลขและช่ือของตน สายตามองผเู้ ลน่ ทอ่ี ยตู่ รงขา้ มตน 5) ครูจะเรียกช่ือผเู้ ล่นทีละ 1 ชื่อ ผทู้ ่ีถกู เรียกช่อื จะตอ้ งอ่านเลขของตนเองโดยเร็วท่ีสุด 6) ผเู้ ล่นคนใดตอบชา้ ตอ้ งออกจากการแข่งขนั 7) ผทู้ ีเ่ หลือเป็นคนสุดทา้ ย จะไดร้ ับรางวลั เลก็ นอ้ ยจากครู 7. นกั เรียนฝึ กฟัง และพดู บทสนทนา โดยดูประโยคคาพดู ของ Tommy และ Sam ในหนังสือเรียน หน้ำ 9 ข้อ 4 Listen, point and repeat. ครูถามนกั เรียนเพ่ือเกริ่นนาก่อน Teacher: How many persons are there in the picture? Students: Two. Teacher: Who are they? Students: Tommy and Sam. Teacher: Well done! นกั เรียนฟัง CD/track 14 แลว้ พดู ตามประโยคท่ไี ดย้ นิ และเห็นในหนงั สือเรียน โดยช้ีนิ้วไปตามตวั อกั ษรให้ ตรงกบั CD Script นกั เรียนฟัง CD 2-3 คร้ัง แลว้ พดู ตามจนคล่อง Tommy: How many pens are there? Sam: There are twelve pens. นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมายของบทสนทนาขา้ งตน้ จากน้นั ครูอธิบายโครงสร้างของประโยคคาถาม และ คาตอบของบทสนทนา ดงั น้ี การทเี่ ราจะถามผอู้ ื่นว่าสิ่งของต่างๆ มจี านวนเท่าใด และการตอบ เราใชโ้ ครงสร้างประโยค ดงั น้ี ครูเขียนรูปแบบ ถาม How many + (plural noun) + are there? ประโยคบน ตอบ There are + (number + plural noun) . กระดาน ถา้ มีของเพยี ง 1 สิ่งจะตอบวา่ เช่น A: There is + (singular noun) . B: How many books are there? There are sixteen books. 31

นกั เรียนจบั คู่กบั เพ่ือนคนโปรด (Pair work) เพื่อฝึ กฝนบทสนทนา โดยใชร้ ูปแบบประโยคคาถามและคาตอบ ตามท่คี รูไดอ้ ธิบายไวแ้ ลว้ ขา้ งตน้ ส่วนขอ้ มลู ของคานามทใี่ ชถ้ าม ใหน้ กั เรียนดูจาก สิ่งต่างๆ รอบตวั และ ส่ิงของภายในหอ้ งเรียน เมือ่ ไดเ้ วลาอนั สมควร ครูจึงสุ่มนกั เรียน 4-5 คู่ ให้ออกมาพดู บทสนทนาหนา้ ช้นั เรียนทลี ะคู่ เช่น Pancake: How many fans are there? Pinky: There is one fan. (ช้ีไปทพ่ี ดั ลมบนเพดานห้อง) หมายเหตุ: ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนทาทา่ ทางและสีหนา้ ประกอบในการพดู เช่นผถู้ ามให้ทาหนา้ ฉงน สงสยั หรือเลิกคิ้ว 8. นกั เรียนฝึ กร้องเพลง “How many … are there” โดยก่อนอื่นนกั เรียนดเู น้ือเพลงในหนงั สือเรียนหน้ำ 10 ข้อ 5 นกั เรียนอ่านเน้ือเพลงทีละบรรทดั แลว้ ช่วยกนั บอกความหมายพร้อมกบั ครู จากน้นั จึงทบทวนการอ่าน หมายเลขจากภาพประกอบรอบเน้ือเพลง โดยเริ่มจากหมายเลข 11-20 อ่านเป็นวงกลมตามเข็มนาฬิกา และใช้ น้ิวช้ีตามหมายเลขทอี่ ่าน Students: eleven, twelve, thirteen, ………… twenty. Teacher: Excellent! ครูเปิ ด CD/track 15 ใหน้ กั เรียนฟัง และร้องตามหลายๆ คร้ังจนคลอ่ ง จากน้นั ครูคอยเดินดูและ ช่วยเหลือนกั เรียนที่ยงั ร้องเพลงไมไ่ ด้ How many... are there? How many pens are there? How many pens are there? How many pens are there? How many pens are there? There are 11, 12, 13, 14, 15. How many books are there? How many books are there? How many books are there? How many books are there? There are 16, 17, 18, 19, 20 32

นกั เรียนทุกคนร้องเพลงโดยพร้อมเพรียงกนั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ใหร้ ้องคนเดียว นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่ม 5-6 คน (team work) เพือ่ แข่งกนั ร้องเพลง และดดั แปลงเน้ือเพลง โดย เปลี่ยนช่ืออุปกรณ์การเรียนเป็นชนิดอื่น ส่วนตวั เลข 11-20 ยงั คงไวไ้ มเ่ ปล่ียนแปลง ครูมขี องรางวลั มอบให้กบั ทีมท่รี ้องเพลงไดด้ ีทส่ี ุด คือเสียงดงั พร้อมเพรียงกนั และดดั แปลงเพลงไดอ้ ยา่ งมี ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 9. นกั เรียนฝึกฝนทกั ษะในการฟังสาเนียงของเจา้ ของภาษาจากหนังสือเรียน หน้ำ 11 ข้อ 6 Listen and match. โดยก่อนฟัง CD ให้นกั เรียนสารวจประโยคท้งั 4 และรูปภาพในกรอบส่ีเหลี่ยม 4 ภาพ แลว้ ฟัง CD/track 16 พร้อมท้งั ฝึ กพดู ตาม จากน้นั จึงลากเสน้ จากประโยคท้งั 4 มายงั รูปภาพให้ตรงกบั ความหมาย Teacher: How many pencils are there? Tina: There are fourteen pencils. Teacher: How many erasers are there? Tina: There are twenty erasers. Teacher: How many scissors are there? Tina: There are eleven scissors. Teacher: How many crayons are there? Tina: There are seventeen crayons. นกั เรียนอ่านประโยคท้งั 4 พร้อมๆ กนั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ ดว้ ยความเห็นชอบของครู 10. นกั เรียนจดั ทาหนงั สือคลงั คาศพั ทภ์ าษาองั กฤษเกี่ยวกบั อุปกรณก์ ารเรียน โดยดูวธิ ีการข้นั ตอนการทาในหนงั สือ เรียน หน้ำ 11 ข้อ 7 Make a stationery book. ซ่ึงมีวิธีการทาและข้นั ตอนดงั น้ี 1) นกั เรียนวาดภาพคาศพั ท์ อุปกรณ์การเรียนท่ไี ดเ้ รียนในบทน้ี ลงในหนงั สือคลงั คาศพั ทจ์ ากน้นั เขียน คาศพั ทอ์ ุปกรณ์การเรียนเหล่าน้ี เป็นภาษาองั กฤษใตภ้ าพ และระบายสีให้สวยงาม 2) นกั เรียนฝึ กฝนพดู บทสนทนากบั เพ่ือน โดยช้ีภาพท่ีตนเองวาด แลว้ ถามเพ่อื นวา่ James: How many rulers are there? Jim: There are seventeen rulers. 3) นกั เรียนสามารถเดินจากโตะ๊ ตนเอง เพอ่ื ไปถามเพือ่ นท่ีอยหู่ ่างออกไปได้ ครูคอยสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียน แลว้ จดบนั ทกึ ไว้ กจิ กรรมรวบยอด 1. ครูใหน้ กั เรียนสมมตุ ิตนเองว่ากาลงั เรียนอยใู่ นโรงเรียนนานาชาติ หรืออยใู่ นโรงเรียนทปี่ ระเทศองั กฤษ สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ เพราะวนั น้ีครูจะสอนนกั เรียนบวกและลบเลข 2 หลกั เป็นภาษาองั กฤษ ครูเขียนบนกระดาน นกั เรียนคดั ลอกลงในสมดุ ของตนเอง แลว้ ต้งั ใจฟังครูอธิบาย 45

บวก (+) ภาษาองั กฤษเรียกวา่ Plus ลบ (-) ภาษาองั กฤษเรียกวา่ minus เช่น 2 + 2 = 4  Two plus two is four. 6 + 4 = 10  Six plus four is ten. 11 + 9 = 20  Eleven plus nine is twenty. 10 - 5 = 5  Ten minus five is five. 16 - 7 = 9  Sixteen minus seven is nine. 19 - 8 = 11  Nineteen minus eight is eleven. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั 12 ขอ้ โดยคดั ลอกโจทยบ์ นกระดานลงในสมดุ ของตนเอง แลว้ บวกหรือลบเลขให้ถกู ตอ้ ง จากน้นั จึงเขียนเป็นตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ นกั เรียนสามารถปรึกษากบั เพ่อื นๆ ได้ Drill Find the correct number เช่น 16 + 3 = 19  Sixteen plus three is nineteen. 1. 2 + 3 =   …………………………………. 2. 5 + 6 =   …………………………………. 3. 7 + 8 =   …………………………………. 4. 8 + 5 =   …………………………………. 5. 10 + 2 =   …………………………………. 6. 12 + 7 =   …………………………………. 7. 16 + 4 =   …………………………………. 8. 18 - 9 =   …………………………………. 9. 20 - 5 =   …………………………………. 10. 19 - 6 =   …………………………………. เมือ่ เวลาท่กี าหนดสิ้นสุดลง ครูสุ่มนกั เรียนแถวหนา้ แถวกลางๆ และแถวหลงั อยา่ งละ 3 คน ใหอ้ อกมาเขียน โจทยเ์ ลข คาตอบ และตวั อกั ษรภาษาองั กฤษบนกระดาน คนละ 1 ขอ้ ครูเฉลยและอธิบายขอ้ ทนี่ กั เรียนทาผดิ นกั เรียนทกุ คนต่างตรวจคาตอบของตน และใหค้ ะแนนตนเอง ผใู้ ดถกู มากกว่า 8 ขอ้ ถอื วา่ ผา่ นเกณฑก์ ารเขา้ ใจ 2. นกั เรียนนบั จานวนอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ในแบบฝึ กหัด หน้ำ 9 ข้อ 7 Count and write the 46

numbers. ซ่ึงมีอุปกรณ์การเรียนท้งั หมด 5 ชนิด ให้นกั เรียนนบั รวม 5 ขอ้ ครูทบทวนคาศพั ทโ์ ดยให้ นกั เรียนอ่านคาศพั ทท์ ีละขอ้ ตามครู และช้ีตามคาศพั ทแ์ ต่ละตวั แลว้ ช่วยกนั บอกความหมาย Teacher: crayons, cupboards, school bags, scissors, pencil cases. Students: อ่านตามครู นกั เรียนทางานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน (Group work) เพ่ือช่วยกนั นบั จานวนส่ิงของต่างๆ ใน ภาพ แลว้ เขียนจานวนที่ถกู ตอ้ งลงในช่องว่างหนา้ คานามพหูพจน์ในแต่ละขอ้ นกั เรียนสามารถ เปรียบเทียบจานวนที่ตนนับไดก้ บั กลุ่มอ่ืนๆ จากน้นั จึงฝึ กฝนอ่านตวั เลขกบั คานามพหูพจนท์ ้งั 5 ขอ้ นกั เรียนอ่านขอ้ 1-5 พร้อมๆ กนั ทกุ คน เพ่อื เป็นการฉลอง ครูสุ่มนกั เรียนแถวหลงั 5 คน ใหย้ นื ข้ึนอ่านคน ละ 1 ขอ้ และระมดั ระวงั ในการออกเสียง [s] ทา้ ยคานามพหูพจน์ดว้ ย 3. นกั เรียนเขียนตวั เลขบางตวั ที่ขาดหายไปของภาพขบวนรถไฟในแบบฝึ กหัด หน้ำ 10 ข้อ 8 Write the missing numbers. โดยทาเป็นงานเด่ียว (Individual work) หา้ มดูกนั จากน้นั จึงอ่านหมายเลข 1-20 พร้อมๆ กนั และช้ีไปตามตวั เลขที่อ่านใหถ้ ูกตอ้ ง ครูคอยสังเกตนกั เรียน และกระตุน้ ใหอ้ อกเสียง นกั เรียนระบายสีภาพขบวนรถไฟ พร้อมตเู้ สบียง 20 ตู้ ตลู้ ะ 1 สี อยา่ งสวยงามแลว้ นามาส่งครู 4. นกั เรียนฝึ กทกั ษะจบั คู่ตวั เลขกบั ตวั อกั ษรใหถ้ กู ตอ้ งในแบบฝึ กหดั หน้ำ 11 ข้อ 9 Look and match. โดยจบั คู่ทางานกบั เพอ่ื นขา้ งเคียง (Pair work) เพ่อื ปรึกษาหารือกนั ครูเสนอแนะให้นกั เรียนใชด้ ินสอสี หลายๆ สี โยงเส้นจากตวั เลขมายงั ตวั อกั ษรให้ถกู ตอ้ ง แลว้ ฝึกหัดอ่านออกเสียง จากน้นั ครูเฉลยคาตอบบน กระดาน 5. นกั เรียนดูภาพอุปกรณ์การเรียนท้งั หลาย ซ่ึงมอี ยู่ 6 ชนิดในแบบฝึ กหัด หน้ำ 11 ข้อ 10 Count and match. นกั เรียนนบั จานวนอุปกรณ์ชนิดต่างๆ วา่ มีจานวนเท่าใดในแต่ละภาพ แลว้ โยงเสน้ ตวั เลขทางดา้ น ซา้ ยมือมายงั ตวั อกั ษรที่อยตู่ รงกลางหนา้ กระดาษ และโยงเส้นต่อไปถึงรูปภาพท่ถี ูกตอ้ ง ดงั ตวั อยา่ งในแบบฝึกหัด นกั เรียนเล่นเกม Matching เพอื่ ฝึกฝนทกั ษะสนทนาถาม-ตอบ จานวนตวั เลขไม่เกิน 20 ครูเตรียม อุปกรณ์การเล่น ไดแ้ ก่ ธงเขียว และธงแดง วธิ ีการเล่นมีดงั น้ี 1) นกั เรียนทุกคนยนื ข้ึน เพอื่ เตรียมความพร้อม สายตาทกุ คูจ่ อ้ งไปท่ีครู 2) เม่ือครูยกธงเขียว นกั เรียนทุกคนวง่ิ ไปจบั คูก่ บั นกั เรียนคนใดกไ็ ด้ ทน่ี ง่ั อยหู่ ่างออกไป อยา่ งนอ้ ย 5 แถว 3) เมื่อทุกคนไดค้ ูข่ องตนแลว้ ครูยกธงแดง เพอื่ ใหห้ ยดุ คุย แลว้ เริ่มตน้ สนทนา โดยทุกคู่ ตอ้ งผลดั กนั ถามและตอบ ดว้ ยขอ้ มูลในแบบฝึ กหัด หน้ำ 11 ข้อ 10 ท่ีไดท้ ามาขา้ งตน้ ครูเขียนรูปแบบการสนทนาบนกระดาน ดงั น้ี A: How many (plural noun) are there? B: There are (number + plural noun) . จากน้นั A และ B จึงสลบั บทบาทกนั ขณะน้ี ด.ญ. อ้มั จบั ค่กู บั ด.ช. ตา้ และใชข้ อ้ มลู ตวั เลขในแบบฝึกหดั Aum: How many books are there? Ta: There are sixteen books. 47

And how many erasers are there? Aum: There are eighteen erasers. Goodbye. 4) เมื่อครูยกธงเขียว ใหน้ กั เรียนทกุ คนวิ่งไปจบั คู่กบั เพื่อนใหม่ แลว้ เร่ิมตน้ สนทนาถาม- ตอบสลบั กนั 5) นกั เรียนจะเปล่ียนค่สู นทนาประมาณ 3-4 คน ครูคอยสงั เกตกิจกรรมน้ี และช่วยเหลือ นกั เรียนท่ีเรียนอ่อนวชิ าภาษาองั กฤษ หรืออายไม่กลา้ พดู 6.2 ช่ัวโมงท่ี 5-6 กจิ กรรมนำสู่กำรเรียน 1. ครูและนกั เรียนทกั ทายกนั ในช้นั เรียน ครูใหน้ กั เรียนทบทวนตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ โดยการทอ่ ง A-Z อยา่ งพร้อมเพรียงกนั 2. นกั เรียนร้องเพลง “Ten Little Indians” และเพลง “How many …….. are there? เพอื่ ทบทวน ตวั เลขทไี่ ดเ้ รียนมาในบทก่อน 3. นกั เรียนทดสอบความรู้ก่อนเรียนดว้ ยแบบทดสอบ English Pre- Test 2 เพอื่ ประเมินความสามารถ ทางภาษาองั กฤษทีไ่ ดเ้ รียนมา โดยลากเสน้ คาถามไปยงั คาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง ครูย้าใหน้ กั เรียนมีความ ซ่ือสัตยต์ ่อตนเอง ไมล่ อกเพ่อื น เพ่ือผลการประเมนิ จะไดเ้ ท่ียงตรง (Validity) ครูเฉลยคาตอบบนกระดาน นกั เรียนแลกบททดสอบกบั เพื่อนเพื่อตรวจ ผใู้ ดไดค้ ะแนนมากกว่า 7 คะแนน ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ หวั หนา้ หอ้ งรวบรวมแบบทดสอบไปให้ครู เพอื่ ทาการจดบนั ทกึ คะแนน (ไม่มผี ลใน การตดั เกรด) ครูคืนแบบทดสอบใหแ้ ก่นกั เรียนในภายหลงั 4. ครูบอกนกั เรียนว่าในชว่ั โมงน้ี นกั เรียนจะไดท้ บทวนคาศพั ท์ และตวั เลข กจิ กรรมพฒั นำกำรเรียนรู้ 1. นกั เรียนฟังเสียงของเจา้ ของภาษาจาก CD/track 17 ซ่ึงกล่าวถึงจานวนเลข 11-20 พร้อมดู ภาพประกอบท้งั 10 ภาพในหนงั สือเรียน หน้ำ 12 ข้อ 1 Listen and write the numbers. แลว้ จึงเขียนหมายเลขบอก จานวนทีไ่ ดย้ นิ ให้ตรงตามภาพทถี่ กู ตอ้ ง จากน้นั จึงอ่านออกเสียงดงั ๆ ตาม CD พร้อมๆ กนั Number one, eleven cupboards Number two, twelve school bags Number three, thirteen notebooks Number four, fourteen chairs Number five, fifteen books Number six, sixteen crayons Number seven, seventeen erasers Number eight, eighteen pens Number nine, nineteen pencils Number ten, twenty scissors 48

นกั เรียนช่วยกนั เฉลย และครูเขียนหมายเลขท่ีถกู ตอ้ งบนกระดาน ครูสุ่มนกั เรียน 3 คน ใหย้ นื ข้ึนอ่านดงั ๆ (1 คน ท้งั 10 หมายเลข) 2. นกั เรียนจบั คู่หมายเลข 11-20 กบั คา eleven-twenty ใหถ้ ูกตอ้ งในหนงั สือเรียน หน้ำ 12 ข้อ 2 Match the numbers with the words. โดยการใชด้ ินสอสีลากเสน้ จากตวั เลขไปยงั ตวั อกั ษร ให้แต่ ละเส้นมสี ีแตกต่างกนั เพ่ือกนั การสบั สน จากน้นั จึงตรวจคาตอบว่าเหมอื นเพ่ือนขา้ งเคียงหรือไม่ 3. นกั เรียนทุกคนนาอุปกรณ์การเรียนทุกช้ินที่อยใู่ นกระเป๋ านกั เรียน และใตโ้ ตะ๊ เรียนมาวางบนโต๊ะเรียนของตน (ครู บอกใหน้ กั เรียนเขียนช่ือเจา้ ของบนอุปกรณ์การเรียนน้นั ๆ เพอ่ื กนั การสบั สน หรือสูญหาย) แลว้ หันไปสนทนา กบั เพ่อื นขา้ งเคียงที่อยซู่ า้ ยมอื ตามโครงสร้างประโยค ดงั น้ี (นักเรียน) A: How many + (plural noun) are there? (เพอ่ื นทางด้านซ้าย) B: There are + number + noun. (ดอู ุปกรณ์บนโตะ๊ ของตน) is นกั เรียนสามารถดูรูปแบบการสนทนาไดจ้ ากหนังสือเรียน หน้ำ 13 ข้อ 3 Ask and answer. จากน้นั เพอ่ื น ทอ่ี ยขู่ วามอื ของนกั เรียนจะเป็นคนถามนกั เรียน (เพือ่ นทางด้านขวา) C: How many (plural) noun are there? (นักเรียน)A: are + number + noun. There is (ตอบตามจานวนส่ิงของจริงบนโตะ๊ ) จากน้นั นกั เรียนทุกคนมีอิสระในการเดินไปมาในห้องเรียน เพอื่ ฝึกบทสนทนาถาม-ตอบถึงจานวนสิ่งของต่างๆ ท่ี ตนเองและเพอื่ นคนอ่ืนครอบครอง 4. ครูใหน้ กั เรียนทกุ คนกลบั ไปนง่ั ที่เดิมและนาอุปกรณก์ ารเรียนท่อี ยบู่ นโตะ๊ ทกุ ชิ้นบรรจุลงในกระเป๋ านกั เรียน ถา้ กระเป๋ านกั เรียนใบโตเกินไป ให้บรรจุลงในถุงพลาสติกท่ีหา้ งสรรพสินคา้ แจก (ถุงก๊อบแกบ๊ ) ก็ยอ่ มได้ เมอื่ ทกุ คนพร้อมจึงลุกข้ึนยนื ในมือถือถุงอุปกรณก์ ารเรียนดว้ ย พอครูเป่ านกหวดี ใหน้ กั เรียนทกุ คนวิง่ ไปจบั ค่กู บั เพ่ือน ท่อี ยหู่ ่างออกไป 10 แถวของโตะ๊ เรียน แลว้ ผลดั กนั ถาม-ตอบบทสนทนาตามรูปแบบ ดงั น้ี A: What have you got in your bag? B: I have got (ตอบตามจริง และแสดงส่ิงของให้ด)ู . จากน้นั นกั เรียน A และ B จึงสลบั บทบาทกนั เมื่อครูเป่ านกหวีดอกี คร้ัง ใหน้ กั เรียนว่งิ ไปจบั ค่กู บั เพอ่ื นคนใหม่ แลว้ เริ่มตน้ สนทนาดงั รูปแบบขา้ งตน้ นกั เรียน สามารถดูตวั อยา่ งการสนทนาดงั กล่าวระหว่าง Tina และ Jimmy ไดใ้ น หนงั สือเรียน หน้ำ 13 ข้อ 4 Work in pairs. Ask and answer. โดยครูให้นกั เรียนอ่านบทสนทนาของท้งั 2 คน ก่อนทากิจกรรมน้ี 5. ครูสอนนกั เรียนเกี่ยวกบั วิธีประดิษฐห์ ุ่นกระบอกติดหวั ดินสอในหนงั สือเรียน หนา้ 14 โดยในทา้ ยชวั่ โมงที่ผา่ น มา ครูสง่ั นกั เรียนให้จดั เตรียมอุปกรณ์ ดงั ต่อไปน้ี 49

1) ดินสอดา 1 แทง่ 2) กระดาษแขง็ สีขาว 2-3 แผน่ 3) กรรไกรเล็ก 4) กาว หรือแป้ งเปียก 5) สีเทยี น 6) เศษไหมพรมสีดา หรือน้าตาล ครูสอนคาศพั ท์ “puppet” แปลว่า หุ่นกระบอก และ “My pencil puppet” แปลว่า หุ่นกระบอกติดหวั ดินสอของฉนั นกั เรียนออกเสียงดงั ๆ ตามครู และดบู ตั รคาประกอบ ครูบอกวิธีการ และข้นั ตอนการประดิษฐห์ ุ่นกระบอกติดหวั ดินสอ ดงั ต่อไปน้ี 1) ตดั กระดาษแขง็ เป็นรูปวงกลม ให้มีเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางประมาณ 1.5 – 2 ซ.ม. 2) วาดหนา้ ตาของหุ่นกระบอกให้สวยงามบนวงกลม และระบายสีดว้ ยสีเทยี น 3) นาไหมพรมมาติดเป็นผม โดยทาเป็นทรงต่างๆ เช่น ผมเปีย ผมบอ๊ บ ผมยาว ผมมา้ ฯลฯ ครูเนน้ ให้นกั เรียนมีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ 4) นาหุ่นกระบอกทป่ี ระดิษฐ์แลว้ มาติดปลายดินสอ ตรงตาแหน่งยางลบ นกั เรียนนาหุ่นกระบอกของตนแสดงให้เพอ่ื นๆ ดู ทุกคนในห้องช่วยกนั ตดั สินใจวา่ หุ่นกระบอกของผใู้ ดสวย ที่สุด จานวน 5 หุ่น นกั เรียนนาหุ่นกระบอกของตนเองไปแสดงบทสนทนากบั หุ่นตวั อ่ืนๆ ครูกาหนดรูปแบบการสนทนา โดยเขียน โครงสร้างบนกระดาน ดงั น้ี A: How many (ส่ิงของในหอ้ ง) are there? หุ่นกระบอกตวั ใดพดู ใหน้ กั เรียนขยบั หุ่นตวั น้นั B: There are (number + plural noun) . A: What have you got in your school bag? B: I have got (อุปกรณอ์ ยา่ งนอ้ ย 3 ช้ิน) . นกั เรียนนาหุ่นกระบอกของตนไปสนทนากบั หุ่นตวั ต่างๆ รอบห้องเรียน อยา่ งนอ้ ย 3-4 คร้ัง จนคล่อง จากน้นั ครูสุ่มตวั อยา่ งนกั เรียน 3 คู่ ให้นาหุ่นของตนมาสนทนาทห่ี นา้ ช้นั เรียน นกั เรียนพากยเ์ สียงให้ สมจริงสมจงั พร้อมกบั ขยบั ตวั หุ่นทีก่ าลงั พดู ดว้ ย 6. นกั เรียนเล่นเกมนบั ภาพในหนงั สือเรียน หน้ำ 15 ข้อ 1 Count and write the numbers. โดยครูจดั ให้ นกั เรียนนง่ั เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน แต่ละกลุ่มต้งั หัวหนา้ กลุ่ม 1 คน และเลขาฯ 1 คน การเล่นมดี งั น้ี 1) หวั หนา้ กลุ่มต้งั คาถามให้สมาชิกหาสิ่งของทีละอยา่ ง ดว้ ยประโยคคาถาม ดงั น้ี How many (อุปกรณก์ ารเรียน) are there? 2) ทกุ คนในกลุ่มช่วยกนั นบั จานวนสิ่งของทร่ี ะบใุ นขอ้ 1 เร่ิมจาก one, two …… Leader: How many pencils are there? Student Groups: One, two, three, four ………. fifteen pencils. 3) เลขาฯเขียนหมายเลข 15 บนกระดาษแผน่ ใหญ่ ขณะเดียวกนั ทุกคนก็เขียนหมายเลข 15 ลงในช่องวา่ งที่ กาหนด 4) เมือ่ ทุกคนนบั อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ท้งั 8 ชนิดจนครบ และไดเ้ ขียนจานวนหมายเลขลงในช่องวา่ ง แลว้ จึงอ่านออกเสียงพร้อมๆ กนั เช่น Student Groups: Fifteen pencils, sixteen crayons, … etc. 50

5) ครูสุ่มตวั อยา่ งนกั เรียน 3 กลุ่ม ใหย้ นื ข้ึนอ่านจานวนพร้อมๆ กนั กจิ กรรมรวบยอด 1. นกั เรียนเล่นเกม Dictate the numbers โดยครูแจกกระดาษท่ีมตี ารางหมายเลขให้นกั เรียนทุกคน ดงั น้ี 4 11 2 16 1 9 17 8 15 7 10 18 12 20 14 5 13 3 19 6 ตารางดงั กล่าวมีหมายเลข 1-20 ครูคิดหมายเลขไวใ้ นใจ 8 หมายเลข เมอ่ื ครูพดู ทีละหมายเลขดงั ๆ 2 คร้ัง ใหน้ กั เรียนวงกลมจานวนตวั เลขใหถ้ ูกตอ้ ง เมื่อวงกลมครบ 8 ตวั เลข นกั เรียนนากระดาษตารางหมายเลข ไปเทียบกบั เพ่ือนๆ วา่ ตรงกนั หรือไม่ ครูเฉลยคาตอบในข้นั ตอนสุดทา้ ย และพดู ใหน้ กั เรียนฟังอีก 1 คร้ัง 2. นกั เรียนทางานเป็นค่กู บั เพอื่ นท่ีตนเองโปรดปราน (Pair work) โดยการนบั จานวนอุปกรณ์การ เรียน และส่ิงของต่างๆ ในแบบฝึ กหดั หน้ำ 12 ข้อ 11 Count and write. แลว้ เขียนจานวนเป็น ตวั อกั ษรทถ่ี กู ตอ้ งลงในช่องว่างท้งั 5 ขอ้ แลว้ ผลดั กนั ถาม-ตอบจนคล่อง ครูสุ่มนกั เรียน 4 คู่ให้ออกมาถาม-ตอบ ค่ลู ะ 1 คาถาม 3. นกั เรียนฝึกคิดตวั เลขให้มีความสมั พนั ธก์ นั ในจานวน 1-20 ดว้ ยแบบฝึ กหดั หน้ำ 13 ข้อ 12 Complete the pattern. ครูกาหนดให้นกั เรียนทางานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เพื่อช่วยกนั คิดหา จานวนท่ถี ูกตอ้ ง แลว้ นาไปเติมในวงกลมทีก่ าหนดให้ จากน้นั จึงเขียนตวั อกั ษรบอกจานวนกากบั ใหห้ มายเลขทกุ จานวน เม่ือทุกกลุ่มทางานเสร็จแลว้ ครูจึงเฉลยลงบนกระดาน ดงั น้ี 1. 4 2. 5 3. 4 4. 9, 7 5. 12 6. 14, 18 51

7. 16 ครูสุ่มตวั อยา่ งนกั เรียน 7 กลุ่ม ใหอ้ ่านคนละ 1 ขอ้ พร้อมๆ กนั 7. การวดั และการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนการเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ประเมนิ การทาแบบฝึกหัด - สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทากิจกรรม 7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน - ประเมนิ การทาแบบทดสอบ - ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการพดู บทสนทนาเพ่อื ถาม – ตอบ จานวนสิ่งของต่าง ๆ - ประเมนิ การระบุตวั เลข 11 – 20 รวมท้งั การอ่านและเขียนตวั เลขเหล่าน้ี - ประเมินการประดิษฐห์ ุ่นกระบอกติดหวั ดินสอ - ประเมนิ การร้องเพลง และการแสดงออกดว้ ยท่าทางประกอบเพลง - ประเมนิ การรวบรวมคาศพั ทใ์ น Your word book 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป. 2 2. แบบฝึ กหดั Smile ป. 2 3. Audio CD Smile ป. 2 4. บตั รภาพ บตั รคา บตั รตวั เลข 5. อุปกรณก์ ารเรียนต่างๆ ในหอ้ งเรียน 6. อุปกรณใ์ นการประดิษฐห์ ุ่นกระบอกติดหวั ดินสอ 7. เกม My number 8. เกม Matching 52

English Pre-Test 1 What are these? l 1. p n 2. h ir 3. b o 4. t b e 5. d k 7. t c 6. e r d t 8. s English Pre-Test 2 Match the questions with correct answers. 1. How are you? a. orange 2. What’s your name? b. Ben Ten 3. What’s this? c. plus 4. What have you got? d. minus 5. I like to eat an ……. e. I’m fine. 6. There is …… on the desk. f. Twelve 7. There is ……… in the room. g. It’s a pen. 8. How many crayons are there? h. I’ve got a pencil and a book. 9. Two ……. two is four. i. a ruler 10. Ten …….. five is five. j. students 53

English Post-Test Choose the correct answer. 1. I write with a …………………… a. book b. chair c. pencil 2. We are ……………………. a. teacher b. students c. pens 3. They cut paper with ………………… a. scissors b. rulers c. tables 4. A: What have you got in your school bag? c. tables B: ……………………………….. . c. notebooks a. a pen and a pencil b. rulers 5. We write or our ………………. a. rulers b. erasers 6. A: How many students are there? B: ……………………………….. . a. A book b. Twenty c. It’s a box. 7. Ten + six = ……………….. a. six b. sixteen c. fourteen 8. Nineteen – eleven = ……………….. a. five b. seven c. eight 9. Nineteen – eight = ………………… c. 13 a. 11 b. 12 10 Twelve + eight = ………………… c. 20 a. 18 b. 19 54

แผนการจัดการเรียนรู้ Unit 2 At home รหัสวิชา/ช่ือรายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ช้ัน ประถมศกึ ษาปี ที่ 2 เวลาเรียน 6 ชว่ั โมง ปี การศึกษา 2564 ผู้สอน นายบุญเสริฐ จตรุ ธรรมวาที โรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตวั ชี้วดั สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต. 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น อย่างมีเหตุผล ตวั ช้ีวดั 2. ระบุตวั อกั ษรและเสียง อ่านออกเสียงคา สะกดคา และอ่านประโยคง่ายๆ ถูกตอ้ งตาม หลกั การอ่าน 3. เลือกภาพตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และประโยคทฟี่ ัง 4. ตอบคาถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานงา่ ยๆ ทม่ี ีภาพประกอบ มาตรฐาน ต. 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่างๆ โดย การพูดและการเขยี น ตวั ช้ีวดั 1. พดู ใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง และเร่ืองใกลต้ วั สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต. 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั 3. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะกบั วยั มาตรฐาน ต. 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตวั ช้ีวดั 1. ระบตุ วั อกั ษรและเสียงตวั อกั ษรของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต. 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้ังในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตวั ช้ีวดั 1. ฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่านๆ ทเ่ี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน มาตรฐาน ต. 4.2 สามารถใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมือพนื้ ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบ 55

อาชีพและการแลกเปลย่ี นเรียนรู้กบั สังคมโลก 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศ เพอ่ื รวบรวมคาศพั ทท์ ่เี กี่ยวขอ้ งใกลต้ วั 2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด การเรียนรูค้ าศพั ทเ์ ก่ียวกบั หอ้ งตา่ งๆ ภายในบา้ นท่พี กั อาศยั และสมาชิกในครอบครัว ประโยคบอก เล่า เช่น He(She)’s in …..(room)….. และประโยคคาถามเพอ่ื ขอทราบสถานทอ่ี ยู่ และคาตอบ เช่น Where’s ……? He (She)’s in the .....(room)….. รวมท้งั ประโยคคาถามท่ตี อ้ งการคาตอบ Yes/No เช่น Is he (she) in the …..(room)…..? Yes, he (she) is. หรือ No, he (she) isn’t. ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษ เพอื่ นาไปใชใ้ นการส่ือสารในชีวติ ประจาวนั 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - คา กลุ่มคา และความหมายเกี่ยวกบั บา้ นพกั ทอ่ี ยอู่ าศยั และสมาชิกในครอบครัว - โครงสรา้ งประโยคบอกเล่า Subject + V. to be + in + … (room)… . เช่น She’s in the kitchen. - ประโยคคาถาม และคาตอบ ที่ใชส้ นทนาเพอื่ ถามหาทอ่ี ยขู่ องบุคคล เช่น A: Where’s daddy? B: He’s in the living room. - ประโยคคาถามท่ีตอ้ งการคาตอบ Yes/No เช่น A: Is she in the kitchen? B: Yes, she is. (or No, she isn’t.) - Verb to be - Pronunciation [k] - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่าย ๆ ทเี่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียน - การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการรวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งใกลต้ วั จากสื่อต่าง ๆ 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ - 4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 56

4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - การคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - มีวนิ ยั - มุ่งมนั่ ในการทางาน 6. ชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - การพดู ถาม- ตอบเก่ียวกบั หอ้ งต่างๆ ภายในบา้ นพกั อาศยั และสมาชิกในครอบครวั - การอ่านคา กลุ่มคา และประโยค - การเขียน และระบคุ าศพั ทห์ อ้ งตา่ งๆ ภายในบา้ นพกั อาศยั และสมาชิกในครอบครัวได้ - การวาดภาพหอ้ งต่างๆ ภายในบา้ น รวมท้งั สมาชิกในครอบครวั และระบายสี - การสร้างบา้ นกระดาษ - การรวบรวมคาศพั ทใ์ น Your word book 7. การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ประเมินการทาแบบฝึกหดั - สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในช่วงการทากิจกรรม 7.3 การประเมินหลงั การเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ - ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการพดู ถาม-ตอบเกี่ยวกบั หอ้ งตา่ งๆ ภายในบา้ นพกั อาศยั และสมาชิกในครอบครวั - ประเมินการอ่านคา กลุ่มคา และประโยค 57

- ประเมินการเขียน และระบคุ าศพั ทห์ อ้ งตา่ งๆ ภายในบา้ นพกั อาศยั และสมาชิกใน ครอบครัวได้ - ประเมินการวาดภาพหอ้ งต่างๆ ภายในบา้ น รวมท้งั สมาชิกในครอบครวั และระบายสี - ประเมินการสรา้ งบา้ นกระดาษ - ประเมินการรวบรวมคาศพั ทใ์ น Your word book 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั แนบมาพรอ้ มน้ี - กิจกรรมนาสู่การเรียน - กิจกรรมพฒั นาการเรียน - กิจกรรมรวบยอด 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป.2 2. แบบฝึกหดั Smile ป.2 3. Audio CD Smile ป.2 4. บตั รภาพ บตั รคา 5. อุปกรณ์ในการประดิษฐบ์ า้ นกระดาษ 6. เกมตา่ งๆ 58

แผนการจดั การเรียนรู้ Unit 2 At home (Lesson 1) 1. สาระสาคญั การเรียนรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั หอ้ งเรียนต่างๆ ภายในบา้ นพกั อาศยั โครงสร้างประโยคบอกเล่าHe/She’s in the …(room)……. ประโยคคาถามและคาตอบท่ีผเู้ รียนสามารถระบุหอ้ งภายในบา้ นท่ผี ใู้ ดผหู้ น่ึงอยใู่ นน้นั ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพอ่ื ไปใชส้ ่ือสารในชีวติ ประจาวนั 2. ตวั ชี้วดั / จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - อ่านออกเสียงคา สะกดคา และบอกความหมายคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั บา้ นพกั ที่อยอู่ าศยั ได้ - พดู และเขยี นคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั หอ้ งตา่ งๆ ภายในบา้ นพกั ทีอ่ ยอู่ าศยั - พดู บทสนทนาเพอ่ื ถาม และใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั หอ้ งต่างๆ ภายในบา้ น - ฟัง และระบุภาพไดถ้ ูกตอ้ ง - เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษตามทก่ี าหนดได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - Verb to be และโครงสรา้ งประโยค Subject + Verb to be + in …..(room)….. เช่น He/She’s in the kitchen. - คา กล่มุ คา และความหมายเก่ียวกบั หอ้ งต่างๆ ภายในบา้ นพกั ทีอ่ ยอู่ าศยั - คาศพั ทแ์ ละบทสนทนาท่ใี ชถ้ าม และใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ท่อี ยขู่ องบุคคลในบา้ น เช่น A: Where’s mother? B: She’s in the bathroom. - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การรอ้ งเพลงภาษาองั กฤษ และการเล่นเกม - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน 3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ - 59

4. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - การคดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ - มีวนิ ยั - มุ่งมน่ั ในการทางาน 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ 6.1 ช่ัวโมงที่ 1- 2  กิจกรรมนำสู่กำรเรียน 1. ครูและนกั เรียนทกั ทายกนั พอสมควร 2. นกั เรียนทบทวนคาศพั ทอ์ ุปกรณ์การเรียน และจานวนตวั เลข 1 – 20 ตามทไ่ี ดเ้ รียนมาใน Unit 1 ดว้ ย บตั รภาพ บตั รคา และบตั รตวั เลข 3. ครูชูบา้ นตกุ๊ ตาพลาสติก (หรือกระดาษ) เล็กๆ แลว้ ถามนกั เรียน ดงั น้ี Teacher: What’s this? Students: It’s a house. Teacher: How many rooms are there in the house? Students: 3, 4, 5, many, I don’t know….. 4. ครูบอกนกั เรียนวา่ วนั น้ีนกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เรื่องบา้ น และหอ้ งต่างๆ ภายในบา้ น 5. นกั เรียนทาแบบทดสอบเพอ่ื วดั ความรูเ้ ดิมก่อนการเรียน (English Pre-Test) ครูบนั ทึกคะแนนของ นกั เรียนเพอื่ ดูการพฒั นาการ (ไม่ถือเป็ นคะแนนเก็บ)  กจิ กรรมพฒั นำกำรเรียนรู้ 1. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้ำ 16 ข้อ 1 Listen and point. เพอ่ื ดูภาพบา้ น ซ่ึงมีอยดู่ ว้ ยกนั ท้งั หมด 5 หอ้ ง จากน้นั ครูถามนกั เรียน Teacher: This is a house. How many rooms are there? 60

Students: There are five rooms. นกั เรียนฟัง CD/track 18 ซ่ึงระบุหอ้ งต่างๆ นกั เรียนช้ีทภี่ าพหอ้ งใหถ้ ูกตอ้ งตามท่ไี ดย้ นิ โดยช้ีตามครู dining room, living room, bathroom, kitchen, bedroom นกั เรียนฟัง CD อีก 2 – 3 คร้ัง แลว้ ช้ีหอ้ งต่างๆ ตามท่ไี ดย้ นิ จนสามารถจาชื่อหอ้ งได้ 2. นกั เรียนฟัง CD/track 19 ซ่ึงระบุหอ้ งท้งั 5 หอ้ งตามรูปภาพในหนังสือเรียน หน้ำ 16 ข้อ 2 Listen, point and say. โดยใตร้ ูปภาพท้งั 5 มีคาศพั ทข์ องหอ้ งตา่ งๆ ครูใหน้ กั เรียนช้ีทลี ะรูปใหถ้ ูกตอ้ งตาม CD Script แลว้ อ่านออกเสียงดงั ๆ dining room, living room, bathroom, kitchen, bedroom ใหน้ กั เรียนฝึกพดู ตาม CD และหดั อ่านตวั อกั ษรจนออกเสียงไดค้ ลอ่ งทกุ คาศพั ท์ แลว้ ออกเสียงหอ้ ง ท้งั 5 พร้อมๆ กนั จากน้นั ครูสุ่มตวั อยา่ งนกั เรียน 4 คน ใหย้ นื ข้ึนอ่านทลี ะคน (1 คนอ่านท้งั 5 คาศพั ท)์ 3. นกั เรียนฝึกฝนทกั ษะการฟังคาศพั ทห์ อ้ งตา่ งๆ ภายในบา้ นพกั อาศยั โดยก่อนอ่ืนครูใหน้ กั เรียนสารวจ รูปภาพและคาศพั ทก์ ่อนฟัง CD/track 20 ในหนังสือเรียน หน้ำ 17 ข้อ 3 Listen and write the numbers. นกั เรียนอ่านคาศพั ทพ์ ร้อม ๆ กนั แลว้ ช่วยกนั บอกความหมาย ซ่ึงในแต่ละภาพตา่ งกส็ ่ือ ความหมายใหอ้ ยแู่ ลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง 2-3 คร้ัง นกั เรียนต้งั ใจฟัง แลว้ เขยี นหมายเลขที่ ถูกตอ้ งลงในช่องวา่ ง Number one a living room, Number two a dining room, Number three a bedroom, Number four a kitchen, Number five a bathroom ครูเฉลยคาตอบบนกระดาน นกั เรียนแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง แลว้ ฟัง CD อีก 1 คร้ัง เป็ นคร้งั สุดทา้ ย 4. ครูขยายภาพหอ้ งครวั ให้เป็ นภาพขนาดใหญ่ แลว้ นาตุก๊ ตาผหู้ ญงิ มาวางไวห้ นา้ ภาพ เพอื่ ดึงดูดความ สนใจแลว้ บอกนกั เรียนวา่ Teacher: This is mummy. Mummy is mother, or mum. ครูอธิบายนกั เรียนวา่ ในภาษาองั กฤษมีคาทเี่ รียก “แม่” ไดห้ ลายคา เช่น mother, mum และ mummy 61

ในทานองเดียวกบั คาวา่ “พอ่ ” กม็ ีใชห้ ลายคา ไดแ้ ก่ father, dad, daddy ครูเขียนคาศพั ทเ์ หล่าน้นั ลง บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนคดั ลอกลงในสมุดของตนเอง ครูชูภาพหอ้ งครัว โดยมีตุก๊ ตาหญิงอยหู่ นา้ ภาพ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ Teacher: Where’s mummy? Students: She’s in the kitchen. Teacher: Very good! ครูอธิบายนกั เรียนวา่ การทีจ่ ะถามวา่ ใครอยทู่ ีไ่ หน เราสามารถต้งั คาถามดว้ ยโครงสร้างดงั น้ี Where’s …..(person)…..? (รูปเตม็ ของ Where’s คอื Where is) e.g. Where’s Somsri? และในการตอบคาถาม เราสามารถใชร้ ูปประโยค ดงั น้ี She’s in …..(room)….. (รูปเตม็ ของ She’s คือ She is) e.g. She’s in the garden. นกั เรียนสามารถดูรูปแบบ ตวั อยา่ งการถาม – ตอบ ในหนังสือเรียน หน้ำ 17 ข้อ 4 Ask and answer. โดยครูใหน้ กั เรียนอ่านพร้อมๆ กนั Students: Where’s mummy? She’ s in the kitchen. 5. นกั เรียนฝึกการต้งั คาถามดว้ ย Where’s และตอบดว้ ยการเล่นเกมเปลี่ยนคู่ โดยมีวธิ ีการเล่นดงั ตอ่ ไปน้ี (Dual work) 1) นกั เรียนวาดภาพหอ้ งภายในบา้ นพกั อาศยั 1 หอ้ ง หรืออาจตดั จากนิตยสารตา่ งๆ หรือ magazines แลว้ นาภาพใบหนา้ ผชู้ าย 1 คน หรือผหู้ ญิง มาติดบนภาพน้นั แลว้ พบั ใส่ ในกระเป๋ าเส้ือนกั เรียน 2) ครูจดั คู่เล่นเป็นคู่ ๆ โดยใหค้ นหน่ึงยนื ยตู่ รงกลางโดยไม่มีคู่ (ยนื อยบู่ นเกา้ อ้ีสูง) 3) เม่ือคนทไี่ ม่มีคูอ่ อกคาสงั่ “เปล่ียนคู่” ทกุ คนตอ้ งวงิ่ ไปเปลี่ยนคูก่ บั คนอื่น ท่ไี ม่ใช่คู่เดิม ของตน แลว้ ต่างเริ่มบทสนทนา ถาม – ตอบกนั ดงั น้ี Amy: Where’s he? (เอมี่ชูภาพของผชู้ าย 1 คน) Dan: He’s in the bathroom. Where’s she? (แดนชูภาพของตนบา้ ง) Amy: She’s in the dining room. หมายเหต:ุ ในขณะทีท่ กุ คนวงิ่ ไปเปลี่ยนคู่ คนทไ่ี ม่มีคู่และออกคาสง่ั แลว้ ตอ้ งวง่ิ ไปแยง่ คู่กบั คน อื่นๆ ดว้ ย สุดทา้ ยคนทไี่ ม่มีคู่คนใหมต่ อ้ งเป็นคนที่ออกคาสง่ั “เปลี่ยนคู่” เหมือนคนแรก 62

6. นกั เรียนดูภาพประกอบในหนังสือเรียน หน้ำ 18 ข้อ 5 Listen and sing. ครูถามนกั เรียนวา่ เห็นใคร บา้ งในภาพ Teacher: Who do you see on page 18? Students: Mother, father, brother, sister. Teacher: Excellent ! ครูบอกนกั เรียนวา่ วนั น้ีพวกเราจะมาฝึกร้องเพลง “In a house” แตก่ ่อนอื่นขอใหด้ ูเน้ือเพลงใหเ้ ขา้ ใจ ครูเขียนคาวา่ “house” และ “home” แลว้ อธิบายถึงความแตกตา่ งของคาศพั ทท์ ้งั 2 ดงั น้ี house = บา้ น ท่มี ีความหมายเพยี งวตั ถุส่ิงของ เป็ นอิฐหรือไม้ home = บา้ น ท่มี ีความรักและความอบอุ่นอยภู่ ายใน นกั เรียนคดั ลอกลงในสมุดของตนเอง จากน้นั อ่านเน้ือเพลงตามครูทีละประโยค แลว้ ช่วยกนั อธิบาย ความหมายท้งั ครูและนกั เรียน นกั เรียนฟัง CD/track 22 เพลง “In a house” แลว้ รอ้ งตามใหถ้ ูกจงั หวะทานอง โดยดูเน้ือเพลงใน หนงั สือเรียนประกอบแลว้ ช่วยกนั ปรบมือใหเ้ ขา้ จงั หวะ ใหน้ กั เรียนทาทา่ ประกอบตามเน้ือเพลง In a house นกั เรียนทาท่าปรุงอาหาร Where’s Mum? She’s in the kitchen. นกั เรียนทาทา่ อาบน้า นกั เรียนทาทา่ นอนหลบั In the kitchen. She’s cooking, cooking, cooking! นกั เรียนทาท่าทานอาหาร Where’s Dad? He’s in the bathroom. In the bathroom. He’s washing, washing, washing! Where’s brother? He’s in the bedroom. In the bedroom. He’s sleeping, sleeping, sleeping! Where’s sister? She’s in the dining room. In the dining room. She’s eating, eating, eating! นกั เรียนแบง่ ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ช่วยกนั แต่งเพลงข้ึนใหม่ โดยใชท้ านองเดิม แตเ่ ปลี่ยนช่ือ หอ้ ง และคากริยา ครูใหเ้ วลา 10 นาที จากน้นั แต่ละกลมุ่ จึงออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน เช่น Where’s Dang? She’s in the living room. In the living room. She’s playing, playing, playing! Where’s Ben? He’s in the bedroom. In the bedroom. He’s dreaming, dreaming, dreaming! นกั เรียนทุกคนทาทา่ ทางประกอบการรอ้ งเพลงดว้ ย 7. นกั เรียนฟัง CD/track 23 แลว้ จบั คูป่ ระโยคคาถามทางซา้ ยมือ ใหถ้ ูกตอ้ งกบั ภาพทางขวามือ 63

ซ่ึงกิจกรรมน้ีอยใู่ นหนังสือเรียน หน้ำ 19 ข้อ 6 Listen and match. โดยใหน้ กั เรียนโยงเสน้ ดว้ ยดินสอ Narrator: Where’s mum? Tommy: She’s in the kitchen. Narrator: Where’s dad? Tommy: He’s in the bathroom. Narrator: Where’s brother? Tommy: He’s in the bedroom. Narrator: Where’s sister? Tommy: She’s in the dining room. ครูเฉลย แลว้ ใหน้ กั เรียนพดู ประโยคตามครูพรอ้ มกนั โดยช้ีไปทีละภาพทางดา้ นซา้ ยมือ 8. นกั เรียนดูรูปภาพทางซา้ ยมือท้งั 5 ภาพ ในหนังสือเรียน หน้ำ 19 ข้อ 7 Look and match. แลว้ ใช้ ดินสอสีโยงภาพทางดา้ นซา้ ยมือไปยงั หอ้ งตา่ งๆ ทางขวามือ เสน้ ละ 1 สี โดยใหภ้ าพทางดา้ นซา้ ยมือ สมั พนั ธก์ บั หอ้ งทางขวามือ จากน้นั ครูจึงเฉลย A mirror - bedroom A table - dining room A bathtub - bathroom A television - living room A gas stove - kitchen นกั เรียนแต่งประโยคท้งั 5 ลงในสมุดของตนเอง ดงั ทค่ี รูทาใหด้ ูในขอ้ 1 ดงั น้ี ตวั อยา่ ง 1. A mirror is in the bedroom. 2. A table is in the dining room. 3. A bathtub is in the bathroom. 4. A television is in the living room. 5. A gas stove is in the kitchen. นกั เรียนฝึกพดู ประโยคดงั กล่าวจนคล่อง จากน้นั ครูสุ่มตวั อยา่ งนกั เรียน 5 คน ให้ยนื ข้ึนพดู คนละ 1 ประโยค 9. ครูอธิบายการใช้ Verb to “be” ซ่ึงเป็ นพ้นื ฐานของไวยากรณ์ของภาษาองั กฤษ ดงั น้ี ครูเขียนบน กระดานพร้อมอธิบาย Verb to “be” แปลวา่ “เป็ น, อย,ู่ คือ” ในปัจจุบนั กาล (Present Tense) ไดแ้ ก่ is, am, are “is” ใชก้ บั ประธานทีเ่ ป็น เอกพจน์ เช่น She is a girl. 64

He is in the bathroom. “are” ใชก้ บั ประธานท่ีเป็ น พหูพจน์ เช่น They are in the classroom. We are in the classroom. ฯลฯ ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม Grouping (จบั กลุ่ม) เกมน้ีครูขอเป็นผนู้ า สง่ั ใหผ้ เู้ ล่นซ่ึงยนื อยตู่ ามโตะ๊ เรียน จบั กลุ่มกบั เพอ่ื นๆ ตามแต่ครูจะสง่ั วธิ ีการเล่นมีดงั น้ี 1) ครูเป่ านกหวดี นกั เรียนหยดุ คุยกนั แลว้ ฟังคาสง่ั จากครู เช่น Teacher: Grouping Two! 2) นกั เรียนจบั กลุ่มกนั 2 คน แลว้ หาประโยคท่ใี ช้ V. to be มาบอกเล่ากบั เพอ่ื น A: I am a girl. B: It is a dog. 3) เมื่อครูเป่ านกหวดี แลว้ ออกคาสง่ั ใหจ้ บั กลุ่มเป็ นจานวนเทา่ ใด นกั เรียนตอ้ งรีบหากลุ่ม ใหม่ โดยสมาชิกในกลุ่มใหม่ไม่ควรซ้ากบั กลุม่ เก่า เช่น Teacher: Grouping five! นกั เรียนจบั กลุ่มกนั ใหไ้ ด้ 5 คน แลว้ ตา่ งคนต่างแตง่ ประโยคทม่ี ี V. to be มาเล่าสู่กนั ฟัง โดยนกั เรียน ทเี่ รียนเก่งสามารถช่วยนกั เรียนที่เรียนอ่อนในการแต่งประโยคดว้ ย V. to be  กจิ กรรมรวบยอด 1. เกมน้ีมิไดล้ ่อแหลมแก่เยาวชนไทยแต่อยา่ งไร แต่เป็ นเกมตอ่ ภาพ Jigsaw วธิ ีการเล่นมีดงั น้ี 1) ครูหากระดาษสีแขง็ ๆ มา 5 สี ตดั ใหเ้ ป็นรูปหวั ใจ 5 ดวงโต ๆ (ดวงละ 1 สี ) 2) ครูวาดรูปหอ้ งตา่ งๆ ในบา้ นท้งั 5 หอ้ ง ไดแ้ ก่ หอ้ งรับประทานอาหาร หอ้ งนอน หอ้ งครวั หอ้ งนงั่ เล่น และหอ้ งน้า ลงในกระดาษรูปหวั ใจ หรืออาจหาภาพตามนิตยสาร แลว้ นาไป ตดิ หวั ใจ หวั ใจละ 1 ภาพก็ได้ เม่ือกาวแหง้ แลว้ จึงตดั หวั ใจแต่ละดวงออกเป็ นชิ้นๆ ประมาณ 7 – 8 ชิ้น 3) นกั เรียนแบง่ ออกเป็ นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน จากน้นั ครูแจกชิ้นส่วนหวั ใจใหน้ กั เรียน กลุ่มละ 1 สี นกั เรียนตอ้ งพยายามตอ่ ชิ้นส่วนใหเ้ ป็นรูปหัวใจก่อน จึงจะทราบวา่ เป็ นหอ้ งอะไร กลุ่มใดสามารถตอ่ ภาพเสร็จไดเ้ ป็นกลุ่มแรก และบอกคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ งถือวา่ เป็ นผชู้ นะ 2. ครูถามความคดิ เห็นของนกั เรียนวา่ ใน 5 หอ้ ง ไดแ้ ก่ (ครูเขยี นบนกระดาน) dining room, living room, bathroom, kitchen และ bedroom ใครชอบหอ้ งใดมากท่สี ุด และทาไม ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มตามความชอบของแต่ละคน จานวนสมาชิกในกลุ่มอาจไม่เทา่ กนั จากน้นั ให้ สมาชิกในแต่ละกลุ่มออกความคิดเห็นวา่ ทาไมจงึ ชอบหอ้ งน้นั มาก โดยส่งตวั แทนออกมานาเสนอ หนา้ ช้นั เรียน 65

เช่น กล่มุ ที่ 1: We like the kitchen because we like to cook and eat. กล่มุ ที่ 5: พวกผมชอบ living room มากท่สี ุดครบั เพราะเป็ นท่ีทพ่ี วกผมได้ พกั ผอ่ น ดูโทรทศั น์ เล่นเกมคอมพวิ เตอร์ และคุยโทรศพั ทก์ บั เพอ่ื นๆ หมายเหต:ุ บางกลุ่มสามารถนาเสนอเป็นภาษาไทยก็ได้ เพราะครูตอ้ งการทราบความคดิ ของ นกั เรียน และกระตนุ้ ใหน้ กั เรียนคดิ เป็น 3. นกั เรียนฝึกทกั ษะในการเขยี นตวั อกั ษรในแบบฝึ กหัด หน้ำ 14 ข้อ 1 Trace the words and number the pictures. นกั เรียนฝึกการใชก้ ลา้ มเน้ือมือมดั เล็ก โดยการเขียนคาศพั ทห์ อ้ งท้งั 5 หอ้ ง ดว้ ยดินสอ ดงั น้ี dining room, living room, bathroom, kitchen และ bedroom ตามรอยประ จากน้นั นกั เรียนอ่าน คาศพั ทเ์ หล่าน้ีดงั ๆ พรอ้ มกนั เม่ือเขียนคาศพั ทเ์ สร็จแลว้ นกั เรียนดูภาพบา้ นและหอ้ งตา่ งๆ ใตค้ าศพั ทท์ ้งั 5 จากน้นั ใหน้ กั เรียนเขยี น หมายเลขลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง สุดทา้ ยครูเฉลยคาตอบบนกระดาน เพอ่ื ใหน้ กั เรียนตรวจดว้ ยตนเอง 4. นกั เรียนดูภาพอุปกรณ์ และส่ิงของท้งั หมด 8 ภาพเลก็ ๆ ในแบบฝึ กหัด หน้ำ 15 ข้อ 2 Where is it? Find and match. ครูช้ีทีละภาพเพอื่ ใหน้ กั เรียนบอกวา่ เป็นภาพอะไร Teacher: What’s this? (ครูช้ีไปที่ภาพ 1 ทางซา้ ยมือ) Students: It’s…………….. นกั เรียนลากเสน้ จากภาพเล็กๆ ท้งั 8 ซ่ึงเป็ นภาพอุปกรณ์ส่ิงของต่างๆ โดยพจิ ารณาวา่ ส่ิงใดควรจะ ไปอยทู่ ห่ี อ้ งใด ท้งั 5 หอ้ ง ไดแ้ ก่ bathroom, bed room, kitchen, dining room และ living room ถา้ นกั เรียนไม่แน่ใจกส็ ามารถปรึกษากบั เพอื่ นร่วมช้นั ได้ 5. นกั เรียนดูภาพหอ้ งต่างๆ ท้งั 5 ภาพทางซา้ ยมือ และหอ้ งต่างๆ 5 หอ้ งทางขวามือในแบบฝึ กหัด หน้ำ 16 ข้อ 3 Look and match. โดยก่อนอื่นครูช้ีทลี ะภาพ แลว้ ใหน้ กั เรียนพดู ระบุคาศพั ทอ์ อกมา จากน้นั นกั เรียนใชด้ ินสอโยงเสน้ ภาพทางซา้ ยมือมายงั ภาพขวามือใหภ้ าพท้งั 2 มีความสมั พนั ธก์ นั ดงั ตวั อยา่ งทใี่ ห้ นกั เรียนสามารถทางานกบั เพอ่ื นขา้ งเคียงได้ และปรึกษาหารือกนั เม่ือทกุ คนทางาน เสร็จแลว้ จงึ ช่วยกนั เฉลย โดยแต่งประโยคดว้ ย Verb to “be” ตามทไ่ี ดเ้ รียนมา แลว้ พดู พร้อมๆ กนั ดงั น้ี 1. A television is in the living room. 2. A table is in the dining room. 3. A bathtub is in the bathroom. 4. A gas stove is in the kitchen. 5. A mirror is in the bedroom. ครูเขยี นประโยคทีน่ กั เรียนเฉลยบนกระดาน นกั เรียนต่างคดั ลอกลงในสมุดของตนเอง 6. นกั เรียนดูภาพหอ้ งต่างๆ ท้งั 5 หอ้ ง ซ่ึงมีตวั อกั ษร a – e เขยี นกากบั ในแบบฝึ กหัด หน้ำ 7 ข้อ 14 66

Look and write the letters. นกั เรียนช้ีไปทลี ะภาพจาก a – e แลว้ ออกเสียงระบุภาพดงั ๆ จากน้นั จึง นาตวั อกั ษร a – e ไปเติมลงในช่องวา่ งทา้ ยคาศพั ทท์ ีใ่ ห้ 5 คา ซ่ึงอยใู่ ตภ้ าพท้งั 5 ภาพ แลว้ อ่านตาม ตวั อกั ษรของคาศพั ทเ์ หล่าน้นั พรอ้ มๆ กนั ครูเขยี นตวั เฉลยบนกระดาน 1. kitchen b 2. bedroom e 3. bathroom. a 4. living room c 5. dining room d 7. นกั เรียนสารวจภาพท้งั หมดในแบบฝึ กหัด หน้ำ 18 ข้อ 5 Listen and colour. ซ่ึงมีอยดู่ ว้ ยกนั ท้งั หมด 5 ขอ้ แต่ละขอ้ จะมีภาพใหเ้ ลือก 3 ภาพ แตกต่างกนั ไป นกั เรียนฟัง CD/track 24 แลว้ เลือกภาพทีส่ มั พนั ธก์ บั ส่ิงทไี่ ดย้ นิ เมื่อครูเฉลยคาตอบท่ถี ูก และ นกั เรียนแกไ้ ขแลว้ จงึ ระบายสีภาพทถ่ี ูกตอ้ งใหส้ วยงาม หวั หนา้ หอ้ งรวบรวมแบบฝึกหดั ไปให้ ครูตรวจท่ีหอ้ งพกั ครู Number one: There are three bananas in the kitchen. Colour the bananas yellow. Number two: There are two chairs in the bathroom. Colour the chairs blue. Number three: There are four books in the dining room. Colour the books green. Number four: There are five notebooks in the bedroom. Colour the notebooks pink. Number five: There are two dogs in the living room. Colour the dogs red. 7. การวัดและประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนการเรียน - ประเมินการทาแบบทดสอบ 7.2 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ประเมินการทาแบบฝึกหดั - สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ในช่วงการทากิจกรรม 7.3 การประเมินหลงั การเรียน 67

- ประเมินการทาแบบทดสอบ - ประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมินการพดู ถาม – ตอบ ช่ือหอ้ งตา่ งๆ ภายในบา้ นพกั ท่ีอยอู่ าศยั - ประเมินความสามารถในการเขียนตวั อกั ษรเพอื่ ประกอบเป็ นคาศพั ทห์ อ้ งต่างๆ ภายในบา้ น - ประเมินความสามารถในการสนทนาโตต้ อบ เพอ่ื ใหข้ อ้ มูลของบคุ คลกบั หอ้ งทอ่ี ยู่ - ประเมินการรอ้ งเพลง และการแสดงออกดว้ ยทา่ ทางประกอบเพลง - ประเมินความสามารถในการเขียนตวั อกั ษรภาษาองั กฤษในรูปคา และประโยคตา่ ง ๆ 8. ส่ือ/ แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน Smile ป. 2 2. แบบฝึกหดั Smile ป. 2 3. Audio CD Smile ป. 2 4. บตั รภาพ บตั รคา แถบประโยค 5. เกมเปลี่ยนคู่ 6. เกมหวั ใจสลาย (เกม Jigsaw) 68

แผนการจดั การเรียนรู้ Unit 2 At home (Lesson 2) 1. สาระสาคญั การเรียนรู้คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สมาชิกในครอบครวั การใชค้ าสรรพนาม โครงสรา้ งประโยคคาถาม Is mum in the kitchen? การออกเสียง [k] ตน้ คา (initial) ทาใหผ้ เู้ รียนสามารถพดู ถาม – ตอบ และใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั สมาชิกในครอบครัววา่ ผใู้ ดอยหู่ อ้ งใดในบา้ น ซ่ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพอ่ื นาไปใชส้ ่ือสารในชีวติ ประจาวนั 2. ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - อ่านออกเสียงคา สะกดคา และบอกความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สมาชิกในครอบครัว - พดู และเขียนคาศพั ท์ เก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั - พดู บทสนทนาเพอื่ ถาม และใหข้ อ้ มูล เก่ียวกบั สมาชิกในครอบครวั และหอ้ งตา่ งๆ ภายในบา้ น - ฟัง และระบภุ าพไดถ้ ูกตอ้ ง - เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษตามทกี่ าหนดได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - Pronunciation [k] - Pronoun - คา กลุ่มคา และความหมายเก่ียวกบั สมาชิกในครอบครัว - บทสนทนาประโยคคาถามทตี่ อ้ งการคาตอบ Yes หรือ No เช่น A: Is she in the bathroom ? B: Yes, she is. - ตวั อกั ษร และเสียงตวั อกั ษรของภาษาองั กฤษ และภาษาไทย - กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การร้องเพลงภาษาองั กฤษ และการเล่นเกม - การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ทเ่ี กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน 69

3.2 สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ - 4. สมรรถนะสาหรับผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - การคดิ วเิ คราะห์ - การคดิ อยา่ งสร้างสรรค์ 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - มีวนิ ยั - มุ่งมนั่ ในการทางาน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ 6.1 ช่ัวโมงที่ 3-4 กิจกรรมนำสู่กำรเรียน 1. ครูทกั ทายนกั เรียนในช้นั และนกั เรียนทกั ทายครู ครูขอใหน้ กั เรียนมีวนิ ยั โดยการเขา้ ช้นั เรียนให้ ตรงต่อเวลา เพราะการตรงตอ่ เวลาเป็ นมารยาทที่สาคญั ยง่ิ ของชาวตะวนั ตก และครูขอใหน้ กั เรียน มีความมุ่งมน่ั ในการทางานโดยขยนั หมน่ั อ่านทบทวน และทอ่ งคาศพั ทท์ ่บี า้ น 2. ครูทบทวนคาศพั ทใ์ นบทที่ 1 ดว้ ยบตั รภาพและบตั รคา และใหน้ กั เรียนร้องเพลง “ In a house” พรอ้ มๆ กนั 3. ครูทดสอบนกั เรียนเร่ือง “ Verb to be” ซ่ึงครูไดส้ อนไปแลว้ ในบทที่ 1 โดยแจกแบบทดสอบ English Test 1 ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ นกั เรียนทาแบบทดสอบดว้ ยตนเอง ไม่ลอกผอู้ ื่น แต่ สามารถดูในหนงั สือเรียนหรือแบบฝึกหดั ก่อนๆ ได้ (ครูไม่เกบ็ คะแนน) เมื่อทกุ คนทาแบบทดสอบ เสร็จแลว้ ครูจึงเฉลยคาตอบบนกระดาน นกั เรียนต่างตรวจแบบทดสอบของตนดว้ ยความซื่อสตั ย์ ผใู้ ดไดค้ ะแนนเกินกวา่ 7 ถือวา่ ผา่ น ผใู้ ดไดค้ ะแนนต่ากวา่ 5 จาเป็นตอ้ งปรบั ปรุงตนเอง 4. ครูสุ่มนกั เรียน 2 – 3 คน เพอ่ื ถามวา่ มีสมาชิกในบา้ นเป็นใครบา้ ง หรือใครมีภาพสมาชิกใน ครอบครัวใหน้ าออกมาแสดงใหเ้ พอื่ นๆ ดู 5. ครูบอกนกั เรียนวา่ ใน Lesson 2 นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้คาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สมาชิกในครอบครัว และไดฝ้ ึก พดู ถาม – ตอบ เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษ กิจกรรมพฒั นำกำรเรียนรู้ 70

1. นกั เรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้ำ 20 ข้อ 1 Listen and point. ครูถามวา่ นกั เรียนเห็นอะไรบา้ ง Teacher: What do you see on page 20? Students: Tommy, family, dad, mum……. Teacher: Very good. ครูสอนคาศพั ทห์ มวดหมู่เครือญาติ ดว้ ยบตั รคา และแผนภูมิตน้ ไม้ (Family tree) โดยนกั เรียนดู แผนภูมิตน้ ไมก้ อ่ น แลว้ จงึ จะสามารถบอกลาดบั ญาตติ ่างๆ ได้ ครูชูบตั รคา dad mum brother sister uncle aunt grandpa grandma ทลี ะใบเพอ่ื ใหน้ กั เรียนอ่าน แลว้ สะกดทีละตวั พร้อมบอกความหมาย โดยพรอ้ มเพรียงกนั Students: d – a – d dad พอ่ m–u–m mum แม่ b – r – o – t – h – e – r brother พหี่ รือนอ้ งชาย ฯลฯ ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน โดยติดบตั รคาท้งั 8 บนกระดานสลบั ทีก่ นั แลว้ สุ่มคนให้ นกั เรียนเดินหยบิ บตั รคาทค่ี รูออกเสียงทลี่ ะคน โดยเพอื่ น ๆ ในช้นั เรียนทส่ี ามารถช่วยกนั บอกได้ ครูบอกนกั เรียนถึงความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาองั กฤษและภาษาไทยวา่ (ครูเขยี นบนกระดาน) brother - พช่ี าย หรือ นอ้ งชาย sister - พส่ี าว หรือ นอ้ งสาว grandpa - คุณป่ ู หรือ คุณตา grandma- คุณยา่ หรือ คุณยาย คาศพั ทท์ ้งั 4 น้ี ไม่มกี ารแบง่ แยกเหมือนภาษาไทย 2. นกั เรียนดูภาพเดิมในหนังสือเรียน หน้ำ 20 อีกคร้งั เพอื่ ฟัง CD/track 25 แลว้ ช้ีตามตวั อกั ษรของ คาศพั ทท์ ่ไี ดย้ นิ โดยครูช้ีนาใหน้ กั เรียนดูก่อน ในการฟัง CD คร้งั แรก Tommy: Look! This is my family. Grandpa, grandma, dad, mum, aunt, uncle, brother, sister. 71

ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง 3 คร้งั เพอื่ ใหน้ กั เรียนคุน้ เคยกบั การฟังคาศพั ท์ และตวั อกั ษรที่เห็น จากน้นั ครูคอยเดินดูรอบๆ หอ้ งวา่ นกั เรียนช้ีคาศพั ทไ์ ดต้ รงตามทไ่ี ดย้ นิ หรือไม่ 3. ครูเปิ ด CD อีกคร้ังใหน้ กั เรียนดูภาพเดิม ช้ีน้ิวตามส่ิงทีไ่ ดย้ นิ และพดู ตาม นกั เรียนฝึกพดู ตามอกี หลายๆ คร้ังจนคล่อง จากน้นั จึงอ่านออกเสียงเอง ครูสุ่มตวั อยา่ งนกั เรียน 3 คน แถวหลงั ใหย้ นื ข้ึนอ่านคาศพั ทห์ มวดหมู่เครือญาติในหนังสือเรียน หน้ำ 20 ทีละคน 4. นกั เรียนฟัง CD/track 27 และดูภาพในหนังสือเรียน หน้ำ 21 ข้อ 3 Listen and write the numbers. Tommy: Number one, my brother is in the living room. Number two, my grandpa is in the bathroom. Number three, I am in the kitchen. Number four, my sister is in the bedroom. Number five, my mum is in the dining room. ครูเปิ ด CD ชา้ ๆ แลว้ หยดุ ทีละประโยคเพอื่ ใหน้ กั เรียนและครูช่วยกนั บอกความหมาย และเฉลย คาตอบที่ถูกตอ้ งใน ตอนทา้ ย 5. ครูอธิบายนกั เรียนในการสรา้ งประโยคคาถามของ Present Simple Tense ดงั น้ี ตามปรกตเิ ราสร้างประโยคคาถามไดโ้ ดยการนา is, am, are มาวางไวห้ นา้ ประโยค แลว้ เรียงส่วนท่ี เหลือเหมือนเดิม สุดทา้ ยจึงเขียน Question mark ทา้ ยประโยค เช่น (ครูเขยี นประโยคบนกระดาน) บอกเล่า She is a teacher. คาถาม Is she a teacher? บอกเล่า They are at school. คาถาม Are they at school? บอกเล่า I am a tall girl. คาถาม Am I a tall girl. * ใชต้ วั อกั ษรตวั ใหญ่ ข้ึนตน้ ประโยคเสมอ และไม่ลืมเตมิ “ ? ”ทา้ ยประโยค การตอบคาถาม ท้งั ตอบรับและปฏิเสธ ใหต้ อบรับแบบส้นั ดงั น้ี เช่น คาถาม Is she at home? คาตอบ Yes, she is หรือ No, she isn’t. คาถาม Are they in the garden? 72

คาตอบ Yes, they are. หรือ No, they aren’t. คาถาม Am I your friend? คาตอบ Yes, you are. หรือ No, you aren’t. คาถาม Are you a student? คาตอบ Yes, I am. หรือ No, I am not. หมายเหต:ุ ถาม I ตอบ You ถาม You ตอบ I รูปยอ่ is not = isn’t are not = aren’t am not = am not * ไม่มีรูปยอ่ แตส่ ามารถใช้ I’m not แทนได้ ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปทอ่ งจารูปยอ่ เหล่าน้ีเป็นการบา้ น นกั เรียนคดั ลอกประโยคตวั อยา่ ง ท้งั หมดลงในสมุดของตนเอง ครูหาแบบฝึกหดั ท่ีเหมาะสมมาใหน้ กั เรียนฝึกหดั ทาในสมุด หรืออาจมอบหมายให้เป็นการบา้ น สุดทา้ ยนกั เรียนอ่านประโยคคาถามและคาตอบในหนังสือเรียน หน้ำ 21 ช่วง Remember! พร้อมๆ กนั Students: Is mummy in the bedroom? Yes, she is. No, she isn’t. 6. นกั เรียนดูภาพบา้ นและหอ้ งต่างๆ ในหนังสือเรียน หน้ำ 21 แลว้ จบั คู่กบั เพอ่ื นขา้ งเคยี งเพอื่ สนทนา กนั ดงั ตวั อยา่ งประโยคคาถามและคาตอบทใี่ หใ้ นหนังสือเรียน หน้ำ 21 ข้อ 4 Ask and answer. นกั เรียนอ่านประโยคตวั อยา่ งพรอ้ มๆ กนั Is mummy in the bedroom? No, she isn’t. Is mummy in the dining room? Yes she is. ใหน้ กั เรียนใชข้ อ้ มูลจากในรูปภาพ เพอ่ื พดู สนทนาถาม- ตอบสลบั กนั คนละ 3 คาถาม เช่น Is grandpa in the bathroom? Yes, he is. 73


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook