Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนวิชาโครงการ-1

แผนวิชาโครงการ-1

Published by tptm123, 2021-08-19 12:26:42

Description: แผนวิชาโครงการ-1

Search

Read the Text Version

รายการตรวจสอบและอนุญาตใหใ้ ช้  บรู ณาการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง  บูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน  บรู ณาการการเงนิ พอเพยี ง  ควรอนุญาตให้ใชก้ ารสอนได้  ควรปรับปรุง. ........................................................................................................................ ลงช่อื ลงช่อื .............................................. (นายวลิ ัยพร ชนิ เกตุ) (นางสาวพนิดา น้อยศรี) วชิ าการระดบั ช้นั ปวช. หัวหน้าระดับ ปวช.  เหน็ ควรอนญุ าตให้ใช้การสอนได้  ควรปรบั ปรงุ  อืน่ ๆ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ลงชือ่ .............................................. (นายชนาธปิ กาละพันธ์) รองผู้อานวยการ  อนญุ าตใหใ้ ชก้ ารสอนได้  อน่ื ๆ ........................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................ ลงช่ือ.............................................. (นายประเวศ ทงั่ จันทร์แดง) ผ้อู านวยการ

คำนำ แผนจัดการเรียนรู้วิชา โครงงาน 1 รหัสวิชา 20204-8502 จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาดังกล่าว ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 โดยจัดแบ่งหน่วยการเรียนออกเป็น 9 หน่วย ใช้เวลาการเรยี นการสอนท้ังสิ้น 108 คาบ แต่ละหน่วยได้กาหนดหัวข้อการเรียนรู้ วัตถุประสงค์การเรียน สมรรถนะในการเรียนรู้ และ กิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้การบรรยายประกอบการสาธิต และการแบ่งกลุ่มทากิจกรรมตามงานท่ี มอบหมาย เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมสี ่วนรว่ มในการเรยี นทั้งในดา้ นการแสดงความคดิ เห็น การนาเสนอ และการ ทางานร่วมกัน ผู้จัดทาหวังว่าแผนการสอนนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอน และก่อให้เกิด ผลสัมฤทธ์ิท่ดี ีตอ่ การเรียนของนักเรยี น-นักศึกษา รวมทั้งเปน็ แนวทางนาไปปรบั ปรุงการเรียนการสอน ใหด้ ีขนึ้ ในโอกาสตอ่ ไป ปริยานชุ กลีบเอม

สารบัญ 1 กำหนดกำรสอนทีบ่ รู ณำกำรคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คำ่ นิยมและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1 15 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่บรู ณำกำรคณุ ธรรม จรยิ ธรรมคำ่ นยิ ม คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 24 38 และเศรษฐกจิ พอเพียง 46 แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 1 54 แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ 2 62 แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 3 69 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 4 77 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ 5 84 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 6 91 แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 7 94 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 8 100 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 9 106 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 10 112 แผนกำรจดั กำรเรียนร้ทู ี่ 11 118 แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี 12 123 แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 13 130 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 14 70 แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 15 แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี 16 แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ 17 แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ท่ี 18 ภำคผนวก

รายวชิ าโครงการพัฒนาทักษะวิชาชพี 20204-8502 โครงงาน 1 (Project 1) จดุ ประสงค์รายวิชา เพ่อื ให้ 1. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการวางแผนจัดทาโครงการสร้างและหรอื พฒั นางาน 2. ประมวลความรู้และทักษะในการสร้างและหรือพัฒนางานในสาขาวชิ าชพี ตามกระบวนการ วางแผน ดาเนนิ งาน แก้ไขปัญหา ประเมินผล ทารายงานและนาเสนอผลงาน 3. มเี จตคติและกจิ นิสัยในการทางานดว้ ยความรับผิดชอบ มีวินยั คุณธรรม จรยิ ธรรม ความคิด ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์และสามารถทางานร่วมกับผ้อู ื่น สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั การจดั ทาโครงการ และนาเสนอผลงาน 2. ดาเนินการจดั ทาโครงการ 3. รายงานผลการปฏิบัติงาน คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัตเิ กยี่ วกับ หลกั การจัดทาโครงการ การวางแผน การดาเนินงาน การแก้ไขปญั หา การประเมนิ ผล การจดั ทารายงานและการนาเสนอผลงาน โดยปฏบิ ัตจิ ดั ทาโครงการสร้างและหรอื พฒั นา งานท่ใี ชค้ วามร้แู ละทักษะในระดบั ฝีมือสอดคล้องกบั สาขาวิชาชพี ท่ีศกึ ษา ดาเนนิ การเป็นรายบุคคลหรือ กลมุ่ ตามลักษณะของงานให้แลว้ เสร็จในระยะเวลาทีก่ าหนด

3 แผนการสอน/แผนจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1 วชิ า 20204-8502 โครงการ 1 สัปดาห์ที่1 ชอ่ื หนว่ ย ความรู้เก่ียวกับการทาโครงงาน รวม 6 คาบ สาระสาคญั รายวชิ าโครงงาน ในหลักสตู รของอาชีวศึกษา จะเนน้ ความรูเ้ ก่ียวกบั การเขยี นโครงงานลกั ษณะ ต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิด หลักการ จุดมุ่งหมาย ให้ผู้เรียนได้ประมวลความรู้ และทักษะจาก รายวิชาต่างๆ มาประยุกต์ในการสร้างผลงานอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การศึกษาค้นคว้า การวิเคราะห์ การ วางแผน การลงมือปฏิบัติ การประเมินตนเอง การปรับปรุงการทางาน การเขียนรายงาน และการนาเสนอ ผลงาน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.อธบิ ายความหมายและลักษณะของโครงงานได้ 2.อธบิ ายความสาคัญของโครงงานได้ 3.มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผูส้ าเร็จการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่คี รสู ามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเรื่อง 3.1 ความมีมนุษยสมั พันธ์ 3.6 การประหยดั 3.2 ความมวี นิ ยั 3.7 ความสนใจใฝ่รู้ 3.3 ความรับผดิ ชอบ 3.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนัน 3.4 ความซ่อื สัตยส์ ุจริต 3.9 ความรกั สามัคคี 3.5 ความเชอื่ มัน่ ในตนเอง 3.10 ความกตัญญกู ตเวที สมรรถนะหลกั 101.วิเคราะห์หลักการและกระบวนการวางแผนจดั ทาโครงงาน สมรรถนะย่อย 101.1 ศึกษาความรเู้ บ้ืองต้นในการจัดทาโครงงาน และวางแผนตามกระบวนการจดั ทาโครงงาน ตัวบง่ ชี้ 101.101 อธบิ ายความหมาย ลกั ษณะ ความสาคัญ วตั ถปุ ระสงค์ และประโยชนข์ องโครงงาน 101.102 อธิบายและวเิ คราะห์โครงงานแตล่ ะประเภทได้ เน้อื หาสาระ 1.ความหมายและลกั ษณะของโครงงาน 2.ความสาคญั ของโครงงาน

4 การบูรณาการกบั หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอเพียง 1.1 ความพอประมาณ - รจู้ ักประเมนิ ความรู้ ความสามารถอย่างเหมาะสมกบั ลกั ษณะของโครงงานอาชีพ 1.2 ความมีเหตุผล - มีทกั ษะในการคดิ ความเปน็ เหตุเป็นผล และการตดั สนิ ใจในเร่อื งตา่ งๆ - นักเรียนได้นาความรู้ท่เี รียนมาพจิ ารณาปรับใช้ในการเรยี นรายวชิ าโครงงานอาชีพ 1.3 การมีภมู คิ ้มุ กันในตวั ทดี่ ี - นกั เรยี นศกึ ษารายละเอยี ดเกย่ี วกบั เน้ือหาของโครงงานอาชีพแต่ละประเภท - นกั เรยี นควรทาแบบฝึกหดั ทุกขอ้ ด้วยตนเอง 2. คณุ ธรรมกากับความรู้ 2.1 เงื่อนไขความรู้ - ใช้ความรู้ต่างๆ มีด้วยความรอบรู้ เชื่อมโยงส่ิงต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ในการทาแบบฝึกหัด และแบบทดสอบ - นาความรู้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั และในการทางานอย่างรอบคอบ 2.2 เงือ่ นไขคุณธรรม - มีความรับผิดชอบ อดทน เพียรพยายามในการทาแบบฝึกหัดด้วยตนเองอย่างสม่าเสมอ รวดเรว็ และถกู ต้อง กิจกรรมการเรียนการสอน ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1.ครูผ้สู อนชี้ให้ผเู้ รยี นได้เหน็ ความสาคญั ของโครงงาน จะช่วยทาใหผ้ ้เู รยี นมีทกั ษะและ ประสบการณใ์ นเขียนโครงงานประเภทต่าง ๆ มากข้ึน สามารถนาไปวางแผนการสรา้ งอาชพี ในอนาคตได้ 2.ครูบอกความหมายของโครงงาน (Project) หมายถึง การประดิษฐ์คิดค้น การสร้างผลงาน การ จดั การหรือบริการทางวิชาชพี ซ่ึงผู้เรียนเป็นผู้ตัดสินใจทาโดยนาเทคโนโลยี ความรู้และประสบการณ์มาบรู ณา การในการปฏิบัติงานด้วยตนเองหรือหมู่คณะโดยมีกระบวนการเป็นระบบชัดเจนและนาไปใช้ประโยชน์ได้ใน ชวี ติ จริง 3.ผเู้ รียนยกตวั อยา่ งโครงงานที่ร้จู ัก หรอื เคยพบเห็นมา และเล่าใหเ้ พอื่ นรว่ มชั้นเรยี นฟัง เพอ่ื ใหเ้ กิด การเรยี นรู้ซึ่งกนั และกนั

5 ขน้ั สอน 3.ครูผ้สู อนอธบิ ายความหมาย ลักษณะของโครงงาน และความสาคัญของโครงงาน โดยใชแ้ ผน่ ใส ประกอบเพ่ือสื่อความหมายให้งา่ ยขน้ึ ขอ้ มูลจาก โครงงาน “ตลาดอาชีพ ครั้งท่ี 16” UTCC JOB FAIR 2009 4.ครนู าตัวอย่างโครงงาน “ตลาดอาชพี (บางส่วน) ของมหาวทิ ยาลยั หอการคา้ มาประกอบการเรียน และให้ผู้เรียนเขยี นระบุว่าโครงงานทนี่ ามาเปน็ ตวั อยา่ งนี้มคี วามสาคัญตอ่ แผนการปฏิบตั ิงานอย่างไรบ้าง โดย ให้เขยี นระบเุ ปน็ ข้อ ๆ 5.ให้นกั เรยี น/นักศึกษา หาข่าวสารหรือการจดั งานเกีย่ วกบั การจัดทาโครงงาน หรือการประกวด โครงงานประเภทสิ่งประดษิ ฐ์ โครงงานประเภทจัดทาธรุ กจิ หรือบริการ และโครงงานประเภททดลองและวจิ ยั

6 จากสื่อประเภทตา่ งๆ โดยนาส่วนที่เปน็ เนื้อหาขา่ วสารมาติดลงในสมุดบันทึก และเขยี นสรุปสาระสาคญั ของ ขา่ วนนั้ ๆ คนละ 1 ข่าว ข้นั สรปุ และการประยกุ ต์ 6.ครสู ่มุ ตัวอย่างใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับโครงงาน 7.ครูและผเู้ รียนร่วมกนั สรุปความหมาย และความสาคญั ของโครงงาน 8.ครสู ุ่มตวั อยา่ งใหน้ ักเรยี นตอบคาถามเปน็ รายบุคคล ส่อื การเรยี นการสอน ใบความรู้ วิธีการวดั และการประเมนิ ผล วิธวี ัดผล 1. สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบคุ คล 2. สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 3. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นร้กู ่อนเรยี น หน่วยที่ 1 4. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมอื วัดผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบุคคล (ดภู าคผนวก ข) 2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (ดภู าคผนวก ค) 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้กอ่ นเรยี น หน่วยท่ี 1 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนกั เรยี น ร่วมกันประเมิน (ดูภาคผนวก ง) เกณฑก์ ารประเมนิ ผล 1. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิงานรายบคุ คล ต้องไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง 2. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้นั ไป) 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ก่อนเรยี น หน่วยท่ี 1 ไมก่ าหนดตายตวั ขน้ึ อยู่กับสภาพจริง ครูผสู้ อนควร เก็บคะแนนไว้เพื่อเปรียบเทยี บ หลงั จากผู้เรยี นจบในหน่วยนแ้ี ลว้ 4. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยกู่ ับการ ประเมนิ ตามสภาพจริง กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนค้นหาโครงงานทเี่ ขียนแลว้ นามาประกอบการเรยี นคนละ 1 โครงงาน โดย ไม่ให้ซ้ากัน 2.จากขอ้ 1. ใหน้ ักเรยี นเขยี นความสาคัญของโครงงานท่ตี นเองนามา โดยระบเุ ปน็ ข้อ ๆ

7 แบบประเมินผลการเรียนร้หู นว่ ยที่ 1 ตอนท่ี 1 จงตอบคาถามต่อไปนี้ 1. โครงงาน (Project) หมายถงึ อะไร …………………………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………………..………………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………………………………………………….………………………….…… 2. การดาเนินงานของโครงงานมีลกั ษณะเปน็ อย่างไรบา้ ง จงอธิบาย …………………………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………………..………………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………………………………………………….………………………….…… 3. จงอธบิ ายสาระสาคัญของการวางแผนในชั้นเรียนมาใหเ้ ขา้ ใจ …………………………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………………..………………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………………………………………………….………………………….…… 4. จงอธิบายสาระสาคัญการดาเนนิ งานตามโครงงานมาใหเ้ ข้าใจ …………………………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………………..………………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………………………………………………….………………………….…… 5. จงอธิบายสาระสาคัญของการตรวจสอบและกากับงาน …………………………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………………..………………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………………………………………………….………………………….…… 6. การจัดทาโครงงานมีวัตถุประสงค์อย่างไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………………..………………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………………………………………………….………………………….…… 7. จงบอกประโยชนข์ องการจัดทาโครงงาน …………………………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………………..………………………………………………………………………… ………………………………..……………………………………………………………………………….………………………….……

8 8. โครงงานสิง่ ประดิษฐ/์ ผลติ ผลผลติ (Invention Project) มีลักษณะอย่างไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………… …………..…………………………………………………………………………………………………………..………………………………… 9. โครงงานจัดทาธุรกิจหรือบริการ (Entrepreneurship Project) มีลักษณะอย่างไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………… ……….…………………………………………………………………………………………………………..…………………………………… ……………………………………………………………..…………………………………………………………………………………………… …………..………………………………………………………………………………………………………….………………………………… 10. โครงงานทดลองและวิจยั (Experimental Research Project) มีลกั ษณะอย่างไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………… ………….…………………………………………………………………………………………………………..………………………………… ………………………………………………………………………..………………………………………………………………………………… ………………………..…………………………………………………………………………………………………………..…………………… ……………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………… ……………………………………..………………………………………………………………………………………………………….. ตอนท่ี 2 จงเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ งที่สดุ เพยี งคาตอบเดยี ว 1. Full-scale Projects คอื ขอ้ ใด ก. โครงงานเต็มรูปแบบ ข. โครงงานย่อ ค. โครงงานวิชาชพี ง. โครงงาน 2. ผู้เรยี นและอาจารย์ผูส้ อนร่วมกันอภปิ รายเน้ือหาและขอบเขตโครงงานที่พัฒนาข้ึนและพิจารณา สาระสาคญั ที่จาเป็นในรายวิชาตา่ งๆ เพื่อนามาบูรณาการในการจัดทาโครงงาน คือข้อใด ก. การวางแผน ข. การดาเนินงาน ค. การตรวจสอบและกากับ ง. การประเมนิ ผลงาน

9 3. ขอ้ ใดคอื ลักษณะที่ผเู้ รียนและอาจารยผ์ ูส้ อนปฏบิ ตั ิงานตามโครงงานทว่ี างแผนไว้ ก. การวางแผนในชนั้ เรียน ข. การดาเนินงานตามโครงงาน ค. การตรวจสอบและกากับงาน ง. ประเมินและควบคุมงาน 4. ขัน้ ตอนใดตอ่ ไปนท้ี ่ีควรจัดให้มีการอภปิ รายและให้ขอ้ มลู ย้อนกลับ (Feed Back) ก. การวางแผนในช้ันเรยี น ข. การดาเนินงานตามโครงงาน ค. การตรวจสอบและกากับงาน ง. ประเมนิ และควบคุมงาน 5. ขอ้ ใดคือวัตถปุ ระสงคข์ องการจัดทาโครงงาน ก. สรา้ งความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ ข. ฝึกกระบวนการทางานดว้ ยตนเองหรอื เปน็ กลมุ่ ค. เพอื่ สง่ เสริมการทางานเปน็ ทีมอย่างมรี ะบบและตรวจสอบได้ ง. เพื่อใหผ้ ้เู รยี นนาความรู้ ทักษะไปบรู ณาการสร้างงานและปฏิบัติจริงได้ 6. ข้อใดคือประโยชนข์ องการจดั ทาโครงงาน ก. ฝกึ กระบวนการทางานด้วยตนเองหรอื เป็นกลมุ่ ข. เพ่อื สง่ เสรมิ การทางานเปน็ ทีมอย่างมีระบบและตรวจสอบได้ ค. เพื่อสง่ เสรมิ ใหผ้ ูเ้ รียนมีความคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ ง. เพ่ือสง่ เสริมผู้เรียนใหบ้ ูรณาการความรู้ ทกั ษะไปใช้ได้ 7. ข้อใดเป็นโครงงานสงิ่ ประดิษฐ์ ก. เปน็ โครงงานที่ต้องจดั ทาแผนธุรกิจ ข. เปน็ โครงงานทต่ี ้องเกิดจากการออกแบบขึ้นใหม่ ค. เป็นโครงงานที่ต้องเกิดจากการสร้างสมมุติฐาน ง. เป็นโครงงานทีต่ ้องคานวณหาจดุ ค้มุ ทนุ 8. ขอ้ ใดเปน็ โครงงานทดลองและวจิ ัย ก. เป็นโครงงานทต่ี ้องจัดทาแผนธรุ กจิ ข. เป็นโครงงานทต่ี ้องเกิดจากการออกแบบขน้ึ ใหม่ ค. เปน็ โครงงานที่ต้องเกิดจากการสรา้ งสมมุติฐาน ง. เป็นโครงงานทต่ี ้องคานวณหาจุดคุ้มทุน 9. ข้อใดเปน็ โครงงานจดั ทาธรุ กิจหรอื บริการ ก. เปน็ โครงงานที่ต้องจัดทาแผนธุรกิจ ข. เปน็ โครงงานทีต่ ้องเกิดจากการออกแบบขน้ึ ใหม่ ค. เป็นโครงงานที่ต้องเกิดจากการสรา้ งสมมตุ ิฐาน ง. เป็นโครงงานจะต้องเป็นชน้ิ งานสรา้ งสรรคแ์ ละพฒั นาใหเ้ กดิ ประโยชน์ในการใช้

10 10. ข้อใดคือกจิ กรรมเชอ่ื มโยง ก. Full-scale Projects ข. Self-monitoring ค. Bridging or Motivating Activities ง. Feed Back ................................................................................................ เฉลยแบบประเมินผลการเรียนรู้หนว่ ยที่ 1 ตอนที่ 1 จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. โครงงาน (Project) หมายถึงอะไร โครงงาน (Project) หมายถงึ การประดิษฐค์ ดิ ค้น การสร้างผลงาน การจัดการหรือการบริการทาง วิชาชีพ ซงึ่ ผเู้ รยี นเป็นผู้ตดั สนิ ใจในสง่ิ ท่จี ะทา โดยนาเทคโนโลยี ความรแู้ ละประสบการณ์มาบรู ณาการในการ ปฏบิ ัตงิ านด้วยตนเองหรือหมู่คณะ โดยมีกระบวนการที่เป็นระบบชัดเจนและสามารถนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ใน ชีวิตจริง 2. การดาเนินงานของโครงงานมลี ักษณะเปน็ อยา่ งไรบา้ ง จงอธิบาย การดาเนนิ งานของโครงงานโดยทั่วไปจะมี 3 ระยะ คอื ระยะเร่มิ ต้นในชน้ั เรียน จากนนั้ ก็จะกระจาย ไปสู่ภายนอกช้ันเรยี น และย้อนกลบั เขา้ สชู่ ้ันเรียน โดยอาจารยป์ ระจาวชิ าจะให้คาปรึกษาคาแนะนา โดย พยายามพฒั นาผเู้ รยี นให้สามารถนาโครงงานที่ตนคดิ /พฒั นาออกไปทาจรงิ นอกช้ันเรยี นได้ กิจกรรมจูงใจต่างๆ ทอ่ี าจารย์ประจาวชิ าจดั จะชว่ ยเตรียมให้ผูเ้ รยี นสามารถเตรียมโครงงานของตนเพ่ือขยายไปนอกชน้ั เรยี นไดเ้ ตม็ รปู แบบ ประกอบด้วย 3 ขนั้ ตอน คอื 1. การวางแผนในชน้ั เรยี น 2. ดาเนินงานตามโครงงาน 3. การตรวจสอบและกากับงาน 3. จงอธิบายสาระสาคัญของการวางแผนในชั้นเรียน มาใหเ้ ขา้ ใจ การวางแผนในชั้นเรยี นมีสาระสาคัญดงั น้ี ผเู้ รยี นรว่ มกบั อาจารยป์ ระจาวชิ า อภิปรายเน้ือหาและขอบเขตของโครงงานท่ีผูเ้ รยี นพัฒนาข้นึ และ พิจารณาสาระสาคัญทจี่ าเป็นในรายวชิ าต่างๆ ท่ีจะนามาบูรณาการในการจัดทาโครงงาน อภิปรายแนวทางตา่ งๆ วธิ กี ารรวบรวมสาระสาคญั ท่ีจาเปน็ จากเอกสารตา่ งๆ หรือวธิ ีการทาชน้ิ งานทต่ี นสนใจและนามาอภปิ ราย รว่ มกนั เพ่ือวางแผนโครงงานใหเ้ หมาะสม

11 4. จงอธิบายสาระสาคัญการดาเนนิ งานตามโครงงาน มาให้เข้าใจ การดาเนินงานตามโครงงานมีสาระสาคัญดงั นี้ ผู้เรียนและอาจารย์ประจาวชิ าจะปฏบิ ัตงิ านตามโครงงานที่วางแผนไว้ เชน่ สมั ภาษณ์ จดบันทกึ การ รวบรวมสือ่ สิง่ พิมพ์ ส่อื โสตทัศน์ หรือปฏิบัตชิ นิ้ งานทก่ี าหนด อาจเป็นงานรายบุคคลหรืองานกลุ่ม ซึ่งผู้เรียน จะต้องใช้ทักษะทั้งหมดในเชงิ บูรณาการท่ีเปน็ ธรรมชาติ 5. จงอธบิ ายสาระสาคัญของการตรวจสอบและกากับงาน การตรวจสอบและกากับงานมีสาระสาคัญ ดังน้ี ควรจดั ให้มกี ารอภปิ รายและให้ข้อมูลย้อนกลบั (Feed back) ท้งั ในขณะจัดทาโครงงานและเมื่อ โครงงานส้นิ สดุ ลง โดยอาจารย์จะให้คาแนะนา คาวพิ ากษ์ กล่มุ ชว่ ยกันวเิ คราะหง์ าน และผรู้ ว่ มโครงงานทุกคน ไดก้ ากบั ดูแลตนเอง (Self-monitoring) 6. การจดั ทาโครงงานมวี ตั ถปุ ระสงค์อยา่ งไรบ้าง วัตถุประสงค์ของการจัดทาโครงงาน มดี งั นี้ 1. เพ่อื สง่ เสรมิ ผูเ้ รียนให้บรู ณาการความรู้ความสามารถ ทกั ษะและประสบการณ์ สามารถสรา้ งงาน ประดิษฐค์ ิดค้น บรหิ ารจดั การหรือให้บริการและปฏิบัตงิ านจรงิ ได้ 2. เพอื่ ส่งเสริมการทางานเป็นทีม อยา่ งมรี ะบบ สามารถตรวจสอบได้ 3. เพอ่ื สง่ เสริมให้ผเู้ รยี น มีความคิดรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ สามารถแกป้ ญั หาและอปุ สรรคท่เี กดิ ขึน้ ได้ อนั จะเป็นการสร้างความเชอื่ ม่นั ในการประกอบอาชีพเมอ่ื สาเร็จการศกึ ษา 7. จงบอกประโยชนข์ องการจัดทาโครงงาน ประโยชน์ของการจัดทาโครงงาน มดี ังน้ี 1. สง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นนาความรู้ ทักษะ ไปบรู ณาการสรา้ งงานและปฏิบัตจิ รงิ ได้ 2. สามารถวางแผนการทางานอยา่ งเป็นระบบและสามารถตรวจสอบได้ 3. ฝึกกระบวนการทางานดว้ ยตนเองหรอื ร่วมกนั ทางานเปน็ กลมุ่ 4. สร้างความคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ 5. พัฒนาผเู้ รียนใหส้ ามารถแกป้ ัญหาและอปุ สรรคท่ีเกิดขนึ้ โดยไม่คาดคิดจากการทางาน ตลอดจนสามารถคิดป้องกันปัญหาท่ีอาจเกดิ ข้ึนไวล้ ่วงหน้า 8. โครงงานสง่ิ ประดิษฐ/์ ผลติ ผลผลติ (Invention Project) มีลกั ษณะอยา่ งไรบา้ ง โครงงานสง่ิ ประดิษฐ/์ ผลิตผลผลิต (Invention Project) มีลกั ษณะดังน้ี เป็นโครงงานท่ีศึกษาเกย่ี วกบั การประยุกต์ทฤษฎีหรอื หลกั การท่เี รยี นมาประดิษฐเ์ ปน็ เคร่ืองมือหรอื อปุ กรณ์เพื่อประโยชนก์ ารใช้สอยในชวี ติ ประจาวนั สิ่งประดิษฐ์ดงั กลา่ วอาจเป็นส่ิงใหม่ท่ผี ู้เริ่มเรียนคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรคข์ ้ึนเองหรืออาจเปน็ การปรับปรุงเปล่ยี นแปลงจากของเดิมท่มี ีอยู่แลว้ ใหม้ ีประสิทธภิ าพดยี ง่ิ ข้ึนกไ็ ด้ รวมถึงการสรา้ งแบบจาลองเพื่ออธบิ ายแนวความคดิ ต่างๆ ในบางคร้ังเมื่อสร้างสง่ิ ประดิษฐข์ นึ้ มาแลว้ อาจ

12 นาไปใชใ้ นการทดลองเรอื่ งใดเร่ืองหนึ่งโดยเฉพาะกไ็ ด้ โดยท่ัวไปผเู้ รียนวิชาชพี จะเลือกทาโครงงานประเภทน้ี เปน็ สว่ นใหญ่ 9. โครงงานจดั ทาธรุ กิจหรือบริการ (Entrepreneurship Project) มีลักษณะอย่างไรบ้าง โครงงานจัดทาธรุ กิจหรือบริการ (Entrepreneurship Project) มลี กั ษณะดังนี้ เปน็ โครงงานเก่ยี วกับการฝึกและสร้างประสบการณ์เพือ่ เตรียมความพร้อมในการเปน็ ผูป้ ระกอบการณ์ ในอนาคต เหมาะสาหรับผเู้ รยี นท่มี ีความคิดสรา้ งสรรค์ในการหาข้อมลู หรือช่องทางดาเนินธุรกิจมีบุคลกิ ภาพ และความรู้ความสามารถ ชอบงานบริหาร ขยนั อดทนต่อปญั หาตา่ งๆ 10. โครงงานทดลองและวจิ ัย (Experimental Research Project) มลี ักษณะอยา่ งไรบ้าง โครงงานทดลองและวิจัย (Experimental Research Project) มีลกั ษณะดังน้ี เปน็ โครงงานที่ทาการศึกษาค้นหาคาตอบของปัญหา โดยมีการออกแบบการทดลอง และดาเนินการ ทดลอง เพ่ือทดสอบสมตฐิ านทตี่ ้งั ไว้ โครงงานประเภทน้ตี ้องมีการจดั กระทากบั ตัวแปรอิสระหรือตัวแปรต้น ซง่ึ จะมีผลตอ่ ตวั แปรตามหรือตัวแปรท่ีต้องการศึกษา และต้องมีการควบคุมตวั แปรอนๆ ท่ไี มต่ อ้ งการศึกษาเอาไว้ ตอนที่ 2 จงเลอื กคาตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพียงข้อเดียว 1. Full-scale projects คอื ข้อใด ก. โครงงานเต็มรูปแบบ 2. ผู้เรยี นและอาจารย์ผู้สอนร่วมกนั อภปิ รายเนือ้ หาและขอบเขตโครงงานที่พฒั นาข้ึนและพิจารณา สาระสาคัญทจี่ าเปน็ ในรายวชิ าต่างๆ เพ่อื นามาบรู ณาการในการจดั ทาโครงงาน คอื ขอ้ ใด ก. การวางแผน 3. ข้อใดคือลักษณะทผ่ี เู้ รยี นและอาจารย์ผสู้ อนปฏบิ ตั งิ านตามโครงงานที่วางแผนไว้ ข. การดาเนินงานตามโครงงาน 4. ข้ันตอนใดตอ่ ไปนี้ท่ีควรจดั ให้มกี ารอภิปรายและให้ขอ้ มูลยอ้ นกลับ (Feed back) ค. การตรวจสอบและกากบั งาน 5. ข้อใดคอื วัตถปุ ระสงคข์ องการจดั ทาโครงงาน ค. เพ่อื สง่ เสริมการทางานเปน็ ทีมอย่างมรี ะบบและตรวจสอบได้ 6.ขอ้ ใดคือประโยชน์ของการจัดทาโครงงาน ก. ฝกึ กระบวนการทางานด้วยตนเองหรือเปน็ กลุ่ม 7.ขอ้ ใดเปน็ โครงงานสงิ่ ประดิษฐ์ ข. เป็นโครงงานทีต่ ้องเกดิ จากการออกแบบขน้ึ ใหม่ 8.ข้อใดเป็นโครงงานทดลองและวจิ ยั ค. เปน็ โครการท่ตี ้องเกดิ จากการสรา้ งสมมุตฐิ าน 9.ข้อใดเป็นโครงงานจดั ทาธรุ กิจหรอื บริการ ก. เป็นโครงงานท่ตี อ้ งจดั ทาแผนธรุ กจิ 10. ข้อใดคอื กจิ กรรมเช่อื มโยง ค. Bridging or Motivating Activities ..............................................................................................

13 เรอ่ื ง ความรู้เบ้ืองต้นในการจดั ทาโครงงาน ชอ่ื ........................................นามสกุล.................................เลขที.่ .............ชน้ั ................ จุดประสงค์การเรยี นรู้ : 1. อธบิ ายความหมายและลกั ษณะของโครงงานได้ 2. อธิบายความสาคัญของโครงงานได้ 3. บอกวัตถุประสงค์ของการจดั ทาโครงงานได้ คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียน/นักศกึ ษา หาข่าวสารหรือการจดั งานเก่ียวกับการจัดทาโครงงาน หรอื การประกวด โครงงานประเภทสิ่งประดษิ ฐ์โครงงานประเภทจัดทาธรุ กจิ หรือบรกิ ารและโครงงานประเภททดลองและวจิ ยั จากสื่อประเภทตา่ งๆ โดยนาสว่ นท่เี ปน็ เน้ือหาข่าวสารมาติดลงในสมุดบนั ทึกและเขยี นสรุปสาระสาคญั ของข่าว น้นั ๆ คนละ 1 ขา่ ว ............................................................................................................................. ......... ................................................................................................................. ................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ............................................................................................................................. .....................

14 บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. ปัญหาและอุปสรรคท่พี บ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื ...........................................ผู้สอน (นางสาวปรยิ านุช กลีบเอม) วันท.่ี ..........เดอื น..................พ.ศ............

15 แผนการสอน/แผนจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ 1 วชิ า 20204-8502 โครงการ 1 สปั ดาห์ท่ี 2 ช่ือหน่วย ความรเู้ กีย่ วกับการทาโครงงาน(ต่อ) รวม 6 คาบ สาระสาคัญ รายวิชาโครงงาน ในหลักสตู รของอาชีวศึกษา จะเน้นความรู้เก่ียวกับการเขียนโครงงานลักษณะต่างๆ เพื่อให้ สอดคล้องกับแนวคิด หลกั การ จดุ ม่งุ หมาย ให้ผู้เรียนไดป้ ระมวลความรู้ และทกั ษะจากรายวิชาต่างๆ มาประยกุ ต์ในการ สรา้ งผลงานอย่างเปน็ ระบบ ตั้งแต่การศกึ ษาค้นควา้ การวเิ คราะห์ การวางแผน การลงมอื ปฏบิ ัติ การประเมินตนเอง การ ปรับปรงุ การทางาน การเขยี นรายงาน และการนาเสนอผลงาน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.บอกวตั ถุประสงคข์ องการจดั ทาโครงงานได้ 4.บอกประโยชนข์ องการจดั ทาโครงงานได้ 5.อธิบายและวเิ คราะหโ์ ครงงานแตล่ ะประเภทได้ 6.มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผสู้ าเร็จการศึกษาสานกั งาน คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ที่ครสู ามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่ือง 6.1 ความมมี นษุ ยสมั พันธ์ 6.6 การประหยดั 6.2 ความมีวินัย 6.7 ความสนใจใฝ่รู 6.3 ความรับผดิ ชอบ 6.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 6.4 ความซ่อื สัตยส์ ุจรติ 6.9 ความรักสามคั คี 6.5 ความเชอ่ื ม่นั ในตนเอง 6.10 ความกตญั ญูกตเวที สมรรถนะหลกั 101.วิเคราะห์หลกั การและกระบวนการวางแผนจัดทาโครงงาน สมรรถนะย่อย 101.1 ศึกษาความร้เู บือ้ งตน้ ในการจดั ทาโครงงาน และวางแผนตามกระบวนการจดั ทาโครงงาน ตัวบง่ ช้ี 101.101 อธบิ ายความหมาย ลกั ษณะ ความสาคญั วตั ถปุ ระสงค์ และประโยชน์ของโครงงาน 101.102 อธิบายและวิเคราะห์โครงงานแต่ละประเภทได้ เนือ้ หาสาระ 3.วตั ถุประสงค์ของการจดั ทาโครงงาน 4.ประโยชน์ของการจดั ทาโครงงาน 5.ประเภทของโครงงานทีศ่ กึ ษา

16 การบรู ณาการกบั หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความพอเพียง 1.1 ความพอประมาณ - รูจ้ ักประเมนิ เวลาในการศกึ ษาความรู้ ในการทาโครงงานอาชีพ 1.2 ความมเี หตุผล - มที กั ษะในการคดิ ความเปน็ เหตุเป็นผล และการตดั สินใจในเร่อื งตา่ งๆ - นักเรยี นไดน้ าความรู้ที่เรียนมาพจิ ารณาปรับใช้ในการเรียนรายวิชาโครงงานอาชีพ 1.3 การมภี มู คิ ุ้มกนั ในตวั ที่ดี - นักเรยี นศึกษารายละเอยี ดเกี่ยวกบั เน้อื หา บุคลากร หนา้ ทข่ี องคณะกรรมการ คุณสมบัติ ของผู้เรยี นที่เลือกทาโครงการ ขั้นตอนตอนการดาเนินงาน และการประเมินผล โครงงานอาชีพ - นักเรียนควรทาแบบฝึกหัดทุกข้อดว้ ยตนเอง 2. คุณธรรมกากับความรู้ 2.1 เง่อื นไขความรู้ - ใช้ความรู้ต่างๆ มีด้วยความรอบรู้ เช่ือมโยงส่ิงต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ในการทาแบบฝึกหัด และแบบทดสอบ - นาความรมู้ าประยุกตใ์ ชใ้ นการเรยี น และในการทางานอย่างรอบคอบ 2.2 เงือ่ นไขคุณธรรม - มคี วามรับผิดชอบ อดทน เพียรพยายาม ความซอื่ สัตย์ในการทางาน กิจกรรมการเรยี นการสอน ข้นั นาเข้าสู่บทเรยี น 1.ครกู ล่าวถงึ โครงงานโดยท่ัวไปจะมี 3 ระยะ คือ ระยะเรม่ิ ต้นในชัน้ เรยี น ต่อจากนน้ั กจ็ ะกระจายไปสู่ ภายนอกชั้นเรียน และย้อนกลับเขา้ สชู่ น้ั เรยี น โดยอาจารย์ประจาวิชาจะเปน็ ผใู้ หค้ าปรึกษาในลักษณะการให้ คาแนะนา โดยพยายามพฒั นาผู้เรยี นให้สามารถนาโครงงานท่ีตนคิดหรือพัฒนาออกไปน้ันทาจรงิ นอกชั้นเรยี น ได้ กิจกรรมจงู ใจตา่ งๆ ที่อาจารย์ประจาวิชาจดั จะชว่ ยเตรียมใหผ้ ู้เรียนสามารถเตรียมโครงงานของตนเพ่ือ ขยายไปนอกชน้ั เรียนไดเ้ ต็มรูปแบบ (Full-scale Projects)

17 2.ผ้เู รยี นยกตัวอย่างโครงงานแต่ละประเภท ขั้นสอน 3.ครผู ูส้ อนอธบิ ายวัตถุประสงคข์ องการจดั ทาโครงงาน ประโยชนข์ องการจดั ทาโครงงาน และประเภท ของโครงงานทศ่ี ึกษา โดยใช้สื่อแผน่ ใส 4.ผ้เู รียนแตล่ ะคนมีความแตกตา่ งกนั ท้งั ด้านความถนัด ความสนใจ ความรู้ ทักษะ ดังน้นั กิจกรรม โครงงานอยา่ งเดียวอาจไมต่ อบสนองความต้องการท้ังหมดของผู้เรยี นเสมอไป ผู้เรยี นจึงควรจะไดร้ ่วมกิจกรรมอ่ืน ด้วย แต่ท่ีสาคัญท่สี ุด คือ ต้องนาความรู้ ทักษะและประสบการณ์ในการเรยี นวิชาชีพไปปฏิบตั ินอกช้ันเรยี นใน สถานการณจ์ ริง เป็นกิจกรรมเชือ่ มโยงหรอื จูงใจ (Bridging or Motivating Activities) อาจารย์ประจาวิชาจึง ต้องจัดการเรยี นการสอนให้มีการฝึกปฏิบัตหิ รอื ทางานโดยอาจารยค์ วบคุม แลว้ จดั กจิ กรรมเช่อื มโยงหรอื อาจารยค์ วบคุมนอ้ ยลง และปฏบิ ตั ิงานอสิ ระโดยให้จดั ทาโครงงานเตม็ รูปแบบดังกลา่ ว 5.ครูบอกประเภทของโครงงานแต่ละประเภท ดังน้ี  โครงงานสิ่งประดิษฐ์/ผลิตผลผลติ (Invention Project  โครงงานจัดทาธรุ กจิ หรอื บรกิ าร (Entrepreneurship Project)

18  โครงงานทดลองและวจิ ยั (Experimental Research Project) 7. ครนู ารูปภาพทีท่ าจากกระป๋องมาแสดงใหผ้ เู้ รียนพิจารณา เพอื่ นามาวเิ คราะห์ในการตอบคาถาม ดังน้ี (1) จากรูปภาพ นักเรยี น/นักศึกษาคิดว่าเปน็ โครงงานประเภทใด (2) นักเรียน/นักศึกษาคิดวา่ มีประโยชน์สาหรบั ตนเองอย่างไรบ้าง สรปุ และการประยุกต์ 8.ครแู ละผูเ้ รยี นช่วยกนั สรปุ วตั ถปุ ระสงคข์ องการจัดทาโครงงาน ประโยชนข์ องการจัดทาโครงงาน และประเภทของโครงงานที่ศึกษา 9.ครสู ุ่มตัวอย่างใหน้ ักเรยี นตอบคาถามเป็นรายบุคคล 10.ผ้เู รยี นวเิ คราะหเ์ นอื้ หาการเรยี นการสอนและหาข้อสรุปเปน็ ความคิดรวบยอดเพื่อนาไปประยกุ ต์ใช้ ตอ่ ไป พรอ้ มข้อเสนอแนะตนเอง สอ่ื การเรยี นการสอน ใบความรู้ วธิ ีการวัดและการประเมินผล วิธวี ัดผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล 2. สังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ก่อนเรยี น หนว่ ยท่ี 1 4. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัติงานรายบคุ คล (ดภู าคผนวก ข) 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (ดภู าคผนวก ค) 3. แบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 1

19 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและนกั เรียน ร่วมกนั ประเมิน (ดูภาคผนวก ง) เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรุง 2. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ข้ันไป) 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้กอ่ นเรยี น หน่วยท่ี 1 ไม่กาหนดตายตัวขึน้ อยู่กบั สภาพจรงิ ครผู ้สู อนควร เก็บคะแนนไว้เพื่อเปรยี บเทียบ หลังจากผูเ้ รยี นจบในหน่วยนีแ้ ล้ว 4. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึน้ อยู่กับการ ประเมินตามสภาพจริง แบบประเมนิ ผลการเรยี นรกู้ ่อนเรยี น หนว่ ยที่ 2 คาสัง่ จงใส่เครอื่ งหมาย  หนา้ ขอ้ ทถ่ี ูกและเคร่ืองหมาย  หน้าข้อท่ีผดิ 1. การเลอื กประกอบธรุ กิจให้คานงึ ถึงประสบการณ์มากกวา่ เร่ืองของเงินทุน 2. การทาธุรกจิ อย่ากลวั เร่ืองการแข่งขัน เพราะเราเปน็ ฝ่ายชนะเสมอ 3. การประกอบธุรกจิ ควรมีการวางเป้าหมายให้ชัดเจน 4. ทศั นคติ บุคลิกภาพ ความรคู้ วามสามารถ เป็นปจั จยั หนงึ่ ท่ีผปู้ ระกอบการจะตอ้ ง พิจารณา 5. หากไม่ทราบวา่ จะเลือกทาธุรกจิ ใด เพ่ือนก็เป็นแหล่งข้อมลู ไดแ้ หลง่ หนง่ึ 6. ผ้ปู ระกอบการต้องมีความพร้อมในการปฏิบตั งิ านเอง ไม่ใช่การวา่ จา้ ง 7. ผู้ประกอบการไม่ควรใชเ้ งินออมมาลงทุน เพราะจะทาให้ขาดเงนิ ทุนหมนุ เวียน 8. งบประมาณเป็นสิ่งท่ตี ้องคานึงถงึ ในการเลือกประกอบธรุ กิจ 9. เงินทนุ ทมี่ าจากการกมู้ ีต้นทนุ สูงกวา่ เงินออมเพราะจะต้องเสียดอกเบยี้ 10. โครงการวิชาชีพที่ผู้เรียนเลือกทา ต้องสอดคล้องกบั สาขาวิชาทเ่ี รยี น เฉลยแบบประเมินผลการเรยี นรู้ก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 2 1.  2.  3.  4.  5.  6.  7.  8.  9.  10. 

20 แบบประเมินผลการเรียนรู้หลังเรยี น หน่วยที่ 2 คาสัง่ จงเลอื กคาตอบท่ีถกู ต้องท่ีสดุ เพียงข้อเดียว 1. แนวทางการเลือกธรุ กจิ ขึ้นอยู่กบั ปัจจัยขอ้ ใด ก. ขนาดของเงินทุน ข. การแขง่ ขัน ค. คา่ นิยมของประชาชน ง. ถูกทกุ ข้อ 2. ศูนย์ให้คาปรกึ ษาทางการเงนิ สาหรบั วิสาหกจิ ขนาดกลาง ขนาดยอ่ ม และประชาชนใหแ้ นวทางในการ ลงทนุ ทาธุรกจิ โดย ขน้ั ตอนแรก ผู้ลงทุนจะต้องกระทาในข้อใด ก. หาเงนิ ทนุ ข. วิเคราะห์ข้อมลู ค. รวบรวมข้อมูล ง. ตรวจดูความพรอ้ มของตนเอง 3. ความพร้อมของผ้ปู ระกอบการหมายถึงข้อใด ก. พรอ้ มดา้ นข้อมลู ข. พร้อมท่ีจะปฏบิ ัตงิ านเอง ค. พรอ้ มทจ่ี ะร่วมงานกบั ลกู จา้ ง ง. พร้อมท่จี ะเสี่ยงกบั การขาดทุน 4. ศูนย์ให้คาปรกึ ษาทางการเงนิ สาหรบั วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดยอ่ ม และประชาชนใหแ้ นวทางในการ ลงทุนทาธุรกจิ โดย ขนั้ สดุ ทา้ ย ผลู้ งทุนจะต้องกระทาในข้อใด ก. เตรยี มความพรอ้ มของตนเอง ข. หาเงนิ ทนุ ค. ศึกษาเรื่องผลตอบแทน ง. ลงมอื ปฏบิ ตั ิ 5. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกีย่ วกับการตัดสินใจลงมือปฏบิ ัติ ก. ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมลู ก่อน ข. ตอ้ งมีการวเิ คราะหผ์ ลตอบแทนก่อน ค. ต้องมีการวิเคราะหแ์ หล่งท่ีมาของเงนิ ทุนก่อน ง. ตอ้ งวเิ คราะหท์ ุกข้อท่ีกลา่ วมาแลว้ จึงลงมือปฏบิ ตั ิ 6. การหาชอ่ งทางในการทาธรุ กิจหาไดจ้ ากคนในวงการ คาว่า “คนในวงการ” หมายถงึ ข้อใด ก. ญาติพ่ีน้อง ข. เพ่ือนฝงู ค. คนท่ีคลกุ คลีอยกู่ บั ธรุ กจิ ทเี่ ราสนใจ ง. คณาจารยท์ างธรุ กิจ 7. การหาข้อมลู จากแหล่งใดท่ตี อ้ งเสียค่าใช้จ่าย ก. หอ้ งสมุด ข. คณาจารย์ทางธุรกิจ ค. หนว่ ยงานของรฐั ง. บริษัททป่ี รึกษากิจการขนาดยอ่ ม 8. การพิจารณาว่าจะผลิตอะไร ขายใคร คุณภาพสนิ คา้ เป็นอย่างไร เปน็ การวเิ คราะห์ด้านใด ก. การตลาด ข. เทคนคิ ค. ผ้ปู ระกอบการ ง. การเงิน

21 9. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติ ก. สาวิตรเี ลอื กทาโครงการวชิ าชีพทีต่ นเองมีความรแู้ ละถนัด ข. ดวงดีเลือกทาโครงการวิชาชพี ท่เี หมาะกบั ท้องถิ่นของตน ค. นงเยาว์เลือกทาโครงการวิชาชพี ทตี่ นเองไม่มีความถนัด ง. สายชลใชร้ ะยะเวลาในการดาเนินงานโครงการวิชาชพี 1 ภาคเรยี น 10. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเกย่ี วกับการเลือกโครงการวชิ าชีพ ก. ตอ้ งมีความเหมาะสมกับเพศ วัยของผู้ทา ข. ต้องสอดคล้องกบั หลกั สตู รที่เรยี น ค. ต้องเหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น ง. กล่าวถกู ทกุ ขอ้ เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้หลังเรยี น หนว่ ยท่ี 2 1. ง 2. ค 3. ข 4. ง 5. ง 6. ค 7. ง 8. ก 9. ค 10. ง

22 เรอื่ ง ความรูเ้ บื้องต้นในการจัดทาโครงงาน ชอ่ื ........................................นามสกลุ .................................เลขท.ี่ .............ชัน้ ................ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ : 4. บอกประโยชน์ของการจัดทาโครงงานได้ 5. อธิบายและวิเคราะหโ์ ครงงานแตล่ ะประเภทได้ คาช้แี จง : ใหพ้ จิ ารณารปู ภาพทีท่ าจากกระป๋องดังต่อไปน้ี เพื่อนามาวิเคราะหใ์ นการตอบคาถาม 1. จากรปู ภาพ นกั เรียน/นักศึกษาคดิ ว่าเปน็ โครงงานประเภทใด ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………… …………………………………………...............…………………………………………………………………………………………………. 2. นักเรยี น/นักศกึ ษาคิดว่ามีประโยชน์สาหรับตนเองอย่างไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………… ………………………………………….………………………………………………………………………………………….…………………… ………………………………………….………………………………………………………………………………………….…………………… …………………………………………………………………………….…………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………

23 บนั ทึกหลงั การสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ปญั หาและอปุ สรรคทีพ่ บ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ ...........................................ผ้สู อน (นางสาวปริยานุช กลีบเอม) วันท.่ี ..........เดือน..................พ.ศ............

24 แผนการสอน/แผนจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ 2 วิชา 20204-8502 โครงการ 1 สัปดาหท์ ่ี 3 ชือ่ หน่วย กระบวนการจดั ทาโครงงาน รวม 6 คาบ สาระสาคญั การจัดทาโครงงาน เป็นพ้ืนฐานท่ีผู้เรียนสามารถเสริมสร้างประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง เพื่อให้เกิดแนวความคิด ทักษะ ตระหนักในสภาพการทางาน และมีเจตคติ กิจนิสัยที่ดีในการทางาน ก่อให้เกิดความคิดริเร่ิม พัฒนางาน สามารถวางแผน ดาเนินงาน วิเคราะห์ปัญหา และหาวิธีแก้ไขปัญหา รวมทงั้ การบนั ทึกขอ้ มลู สรุปผล จัดทารายงานและนาเสนอรายงาน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1.อธบิ ายและวางแผนจัดทาโครงงานได้ 2.อธิบายและขออนมุ ตั โิ ครงงานได้ 3.มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทีค่ รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทาการสอนในเรื่อง 3.1 ความมมี นษุ ยสัมพันธ์ 3.6 การประหยัด 3.2 ความมีวนิ ยั 3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 3.3 ความรับผดิ ชอบ 3.8การละเว้นสง่ิ เสพติดและการพนัน 3.4 ความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ 3.9 ความรักสามัคคี 3.5 ความเชื่อมั่นในตนเอง 3.10 ความกตัญญูกตเวที สมรรถนะหลัก 101.วเิ คราะห์หลกั การและกระบวนการวางแผนจดั ทาโครงงาน สมรรถนะย่อย 101.1 ศึกษาความรูเ้ บื้องตน้ ในการจัดทาโครงงาน และวางแผนตามกระบวนการจดั ทาโครงงาน ตวั บ่งช้ี 101.103 อธิบาย วางแผนจดั ทาโครงงาน ขออนุมตั ิโครงงาน ดาเนินงานตามโครงงานจัดทา รายงานและประเมินผลโครงงาน เนอ้ื หาสาระ 1.การวางแผนจัดทาโครงงาน 2.การขออนุมตั ิโครงงาน

25 การบรู ณาการกบั หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความพอเพียง 1.1 ความพอประมาณ - รจู้ กั ประเมินเวลา ความสามารถ งบประมาณ ในกระบวนการจดั ทาโครงงาน 1.2 ความมีเหตุผล - มที กั ษะในการคดิ ความเปน็ เหตเุ ปน็ ผล และการตดั สินใจในเร่ืองต่างๆ - นักเรยี นได้นาความรู้ทีเ่ รียนมาพจิ ารณาปรับใชใ้ นการเรียนรายวิชาโครงงานวิชาชีพ 1.3 การมีภมู คิ มุ้ กันในตัวทด่ี ี - นกั เรียนวิธีการเลอื กกระบวนการจัดทาโครงงานวชิ าชพี ใหเ้ หมาะสมกับตัวเอง - นกั เรียนศึกษากระบวนการจัดทาโครงงานอยา่ งละเอียดเพอื่ มาวิเคราะห์ความเหมาะสมท่ี จะเลือกหรือไม่เลอื กทาโครงงาน - นักเรยี นควรทาแบบฝกึ หดั ทุกข้อดว้ ยตนเอง 2. คุณธรรมกากบั ความรู้ 2.1 เงื่อนไขความรู้ - ใช้ความรู้ต่างๆ มีด้วยความรอบรู้ เชื่อมโยงส่ิงต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ในการ เลือก กระบวนการจัดทาโครงงานที่จะทาและทาแบบฝึกหดั แบบทดสอบ - นาความรมู้ าประยุกตใ์ ช้ในการเรยี น และในการทางานอย่างรอบคอบ 2.2 เงื่อนไขคณุ ธรรม - มคี วามรับผดิ ชอบ อดทน เพยี รพยายาม ความซ่ือสัตย์ ความมวี นิ ัยในการทางาน การบรู ณาการกับงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องจากพระราชดาริ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสานักในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ทรัพยากรชีวภาพ และกายภาพ โดยมีการสัมผัส การเรียนรู้ การสร้างและปลูกฝังคุณธรรม การเสริมสร้าง ปัญญาและภูมิปัญญา โดยโรงเรียนกาหนดใช้ “ข้าวไรเบอร์ร่ี” เป็นพืชศึกษาในงานสวนพฤกษศาสตร์ โรงเรยี น จึงใหน้ ักเรียนหาโครงการในการพฒั นาหรอื ใชป้ ระโยชนจ์ ากขา้ ไรเบอร์ร่ี กิจกรรมการเรียนการสอน ขนั้ นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.ครูเสนอแนะให้ผเู้ รียนควรมีการวางแผนการจัดทาโครงงาน โดยมอี าจารย์ประจาวชิ าให้คาแนะนา ปรกึ ษา ตัง้ แต่เร่มิ กาหนดโครงงานทเ่ี หมาะสมและสามารถปฏบิ ัตไิ ด้ ตลอดจนเขียนโครงร่างให้ชัดเจนเปน็ รปู ธรรม 2.สารวจผู้เรยี นวา่ มคี วามสนใจในการเขยี นโครงงานใดบ้าง

26 ขัน้ สอน 3. ครผู ู้สอนอธิบายและสาธิตการเขียนโครงรา่ งโครงงาน โดยวางแผนจดั ทาโครงงาน และขออนุมตั ิ 4. ผู้เรยี นสารวจความสนใจ ความพร้อมของตนเองดา้ นตา่ งๆ ตลอดจนความเปน็ ไปได้ ประกอบการ พิจารณาตดั สินใจเลือกหวั ข้อท่ีต้องการจัดทาโครงงาน โดยควรกาหนดโครงงานไวม้ ากกว่า 1 โครงงาน แลว้ ทาการศึกษารวบรวมข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง ดา้ นความถนดั ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ ทนุ แรงงาน สถานที่ ดาเนินการ การจัดการ ระยะเวลาการปฏิบัติงาน แล้วเลือกโครงงานที่เหมาะสมท่ีสุด 5.ให้ผู้เรียนสารวจความสนใจ ความพร้อมของตนเองด้านต่างๆ และความเปน็ ไปได้เพือ่ พิจารณาตดั สนิ ใจเลอื กหวั ข้อท่ตี ้องการจดั ทาโครงงาน โดยกาหนดไว้มากกว่า 1 โครงงาน แลว้ ศกึ ษารวบรวม ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง ด้านความถนัด ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ ทนุ แรงงาน สถานท่ี การจดั การ ระยะเวลา การปฏบิ ตั งิ าน แลว้ เลือกโครงงานที่เหมาะสมกบั ตนเองตามตารางวเิ คราะห์ 6.ครูอธิบายและสาธิตการเขียนโครงร่างโครงงาน เมื่อผู้เรียนตัดสินใจเลือกโครงงานแล้ว ควรจัดทา เอกสารโครงร่างของโครงงานพร้อมกาหนดแผนการดาเนินงาน เพ่ือนาเสนออาจารย์ประจาวิชาและอาจารย์ที่ ปรึกษาโครงงาน การเขียนโครงรา่ งโครงงาน มอี งค์ประกอบดังนี้ (1) ช่อื โครงงาน (2) หลกั การและเหตุผล ความเป็นมา และความสาคญั ของปญั หา (3) วตั ถุประสงค์ (4) เป้าหมาย (5) วธิ ีดาเนนิ งาน (6) ระยะเวลาและสถานท่ีดาเนินงาน (7) ค่าใช้จ่าย/งบประมาณ (8) ผลทคี่ าดว่าจะไดร้ บั (9) การตดิ ตามและประเมนิ ผล (10)ปญั หาหรืออปุ สรรคท่ีคาดว่าอาจเกิดขนึ้ (11)ผู้รบั ผดิ ชอบโครงงาน (12) ที่ปรกึ ษาโครงงาน

27 7. ครูอธบิ ายเกณฑก์ ารประเมิน “โครงร่างโครงงาน” เพ่ือพิจารอนุมตั ิโครงงาน โดยให้ อาจารย์ประจาวิชาท่ีสอน อาจารย์ท่ีปรึกษา และคณะกรรมการประเมินผลโครงงาน ร่วมกันพิจารณาอนุมัติ ดงั น้ี 1. องคป์ ระกอบ 1.1 ชอ่ื โครงงาน 1.2 หลักการและเหตผุ ล 1.3 วตั ถุประสงค์ 1.4 เป้าหมาย 1.5 การดาเนินงานและแผนปฏบิ ัติการ 1.6 ระยะเวลา 1.7 งบประมาณ 1.8 ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั 2. ตรงตามสาขาท่ีเรียน 3. มีความคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ 4. มีความนา่ สนใจ 5. มีความเป็นไปได้ 8.ผ้เู รียนเขยี นแบบขออนุมตั โิ ครงงานตามแบบฟอรม์ ทกี่ าหนดให้ ข้นั สรปุ และการประยกุ ต์ 9.ผเู้ รียนสรปุ การเขียนโครงรา่ งโครงงาน การวางแผนจัดทาโครงงาน และขออนุมัติแล้วบนั ทกึ การ สารวจดังนี้ -ปญั หาที่พบ -การปรับปรุง/แก้ไขปัญหา -ผลการปรบั ปรงุ /แก้ไข สื่อการเรียนการสอน ใบความรู้ วิธีการวัดและการประเมนิ ผล วิธวี ัดผล 1. สังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล 2. สงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ก่อนเรียน หน่วยท่ี 2

28 4. การสังเกตและประเมนิ ผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค์ เครอื่ งมือวัดผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล (ดูภาคผนวก ข) 2. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุม่ (ดภู าคผนวก ค) 3. แบบประเมินผลการเรียนรู้ก่อนเรยี น หน่วยท่ี 2 4. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและนกั เรียน ร่วมกันประเมิน (ดูภาคผนวก ง) เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ข้ันไป) 3. แบบประเมินผลการเรยี นรู้กอ่ นเรียน หนว่ ยที่ 2 ไมก่ าหนดตายตวั ข้ึนอยู่กบั สภาพจรงิ ครูผสู้ อนควร เกบ็ คะแนนไว้เพอ่ื เปรียบเทียบ หลังจากผู้เรียนจบในหน่วยน้แี ลว้ 4. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยกู่ ับการ ประเมินตามสภาพจรงิ ข้อเสนอแนะ ใหน้ กั เรยี นหาโครงการเกย่ี วกับการออมเงนิ หรอื การสรา้ งมูลค่าเพ่ิมจากเงินท่มี ีอยู่ (การเงนิ พอเพียง)

29 ตอนท่ี 1 จงตอบคาถามต่อไปน้ี 1. การวิเคราะหโ์ ครงงานเพ่ือตัดสนิ ใจเลือกโครงงาน มวี ิธีการเลอื กอย่างไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 2. การเขียนโครงร่างโครงงาน มีองคป์ ระกอบอะไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 3. การขออนุมัตโิ ครงงานพิจารณาจากเกณฑ์การประเมินใดบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 4. การดาเนนิ งานตามโครงงาน แบง่ ออกเปน็ กี่ขน้ั ตอน อะไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 5. การจัดทารายงาน มอี งค์ประกอบอะไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 6. การประเมนิ ผลโครงงานมกี ารพิจารณาประเมนิ อย่างไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 7. สว่ นใดบา้ งท่ถี ือเปน็ โครงรา่ งโครงงานในการประเมิน …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 8. สว่ นใดบ้างที่ถือเปน็ การดาเนินงานตามโครงงาน …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 9. ส่วนใดบ้างทเ่ี ปน็ ผลของโครงงานและการรายงาน …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………… 10. วตั ถุประสงค์ของโครงงาน ควรระบอุ ยา่ งไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………..………………………………………………

30 ตอนท่ี 2 จงเลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่ีสดุ เพยี งคาตอบเดยี ว 1. ขอ้ ใดเป็นการวเิ คราะหข์ ้อมลู ด้านผจู้ ดั โครงงาน ก. มแี หล่งข้อมลู ภายในท้องถิน่ ข. มีความรแู้ ละประสบการณ์ ค. มคี วามรูท้ างวิชาชีพ ง. มีสถานทีป่ ฏิบัติงานเหมาะสม 2. ขอ้ ใดเป็นการวเิ คราะห์ข้อมูลดา้ นสงั คมและสิง่ แวดล้อม ก. ความถนดั และความสนใจ ข. ความรู้และประสบการณ์ ค. ความพร้อมด้านเงินทุน ง. จดั หาอุปกรณ์ในท้องถ่นิ ได้ 3. ข้อใดเป็นการวเิ คราะห์ข้อมูลดา้ นความรแู้ ละความสามารถของผเู้ รยี น ก. ความรู้และประสบการณ์ ข. ความพร้อมดา้ นเงนิ ทุน ค. นาความรู้ ทกั ษะจากโครงงานไปประยุกต์ใช้ ง. ถกู ทุกข้อ 4. ขอ้ ใดคือการกาหนดชอ่ื เพ่ือส่ือให้ทราบวา่ ต้องการทาอะไร มีแนวทางปฏบิ ัติอยา่ งไร ก. ช่ือโครงงาน ข. วตั ถปุ ระสงค์ ค. เปา้ หมาย ง. หลกั การและเหตุผล 5. ข้อใดเปน็ การกลา่ วถงึ ความเป็นมาและความสาคัญของปญั หาในการจดั ทาโครงงาน ก. ช่อื โครงงาน ข. วัตถุประสงค์ ค. เป้าหมาย ง. หลักการและเหตผุ ล 6. ข้อใดคอื การระบุให้ทราบวา่ การจดั ทาโครงงานแตล่ ะโครงงานเพอ่ื อะไร ก. วตั ถุประสงค์ ข. เปา้ หมาย ค. หลักการและเหตผุ ล ง. วิธกี ารดาเนนิ งาน 7. ขอ้ ใดเป็นองคป์ ระกอบของการขออนุมัติโครงงาน ก. ความรู้และทักษะของผู้เรียน ข. ความพร้อมของผเู้ รียน ค. ความเปน็ ไปได้ ง. ถูกทุกข้อ 8. ขอ้ ใดคอื สว่ นนาของโครงงาน ก. ปก คานา สารบัญและภาคผนวก ข. ปก คานา สารบญั ค. ปก สารบัญ หลกั การและเหตุผล ง. วตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมาย 9. ขอ้ ใดคือองค์ประกอบของสว่ นเนอ้ื หา ก. ปก ข. คานา ค. สารบัญ ง. วตั ถปุ ระสงค์ 10. ขอ้ ใดจาเปน็ ต้องกาหนดปริมาณและคุณภาพใหช้ ดั เจน ก. หลักการและเหตุผล ข. วัตถุประสงค์ ค. เป้าหมาย ง. งบประมาณ

31 เฉลยแบบประเมินผลการเรียนรหู้ น่วยท่ี 2 ตอนที่ 1 จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. การวิเคราะห์โครงงานเพอื่ ตัดสินใจเลือกโครงงาน มีวธิ ีการเลอื กอย่างไรบา้ ง การวิเคราะหโ์ ครงงานเพ่อื ตัดสินใจเลอื กโครงงานมีวธิ ีการเลือก ดังนี้ 1. ด้านผจู้ ัดทาโครงงาน - ความถนดั และความสนใจ - ความร้แู ละประสบการณ์ - ความพร้อมด้านเงนิ ทุน - ความพร้อมในการจดั เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ - ความพร้อมดา้ นเวลา/แรงงาน 2. ด้านสงั คมและสิ่งแวดล้อม - เปน็ ประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม - สามารถจัดหาวสั ดุ อปุ กรณไ์ ด้ภายในทอ้ งถน่ิ - มแี หลง่ ความรู้ ข้อมูลต่างๆ ภายในท้องถนิ่ - มสี ถานท่ปี ฏิบัติงานที่เหมาะสม - มีผ้เู ช่ียวชาญใหค้ วามรู้และให้คาปรึกษา 3. ดา้ นความรู้และความสามารถของผเู้ รยี น - มีความรู้เก่ียวกับการปฏิบตั งิ านโครงงาน - มคี วามรู้ทางวิชาชพี ท่เี กีย่ วข้องกับการปฏบิ ตั งิ าน - วางแผนข้ันตอนการปฏิบตั ทิ ีส่ ามารถปฏิบัตไิ ด้ - นาความรู้ ทกั ษะท่ีได้รบั จากการปฏิบตั โิ ครงงานไปเปน็ ข้อมูลสาหรับการปฏิบตั ิงานอื่นหรือเป็น แนวทางการปฏบิ ัตงิ านโครงงานอน่ื ต่อไป 2. การเขียนโครงรา่ งโครงงาน มอี งค์ประกอบอะไรบ้าง การเขียนโครงรา่ งโครงงานมดี ังนี้ (1) ชือ่ โครงงาน (2) หลกั กการและเหตผุ ล ความเปน็ มา และความสาคญั ของปัญหา (3) วตั ถุประสงค์ (4) เปา้ หมาย (5) วิธีดาเนนิ งาน (6) ระยะเวลาและสถานที่ดาเนนิ งาน (7) ค่าใชจ้ ่าย/งบประมาณ (8) ผลทคี่ าดว่าจะได้รับ (9) การติดตามและประเมนิ ผล

32 (10) ปญั หาหรอื อุปสรรคที่คาดว่าอาจเกดิ ข้นึ (11) ผู้รบั ผดิ ชอบโครงงาน (12) ท่ีปรกึ ษาโครงงาน 3. การขออนุมัติโครงงานพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ใดบา้ ง การขออนุมัตโิ ครงงานพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมนิ ดังนี้ 1. องค์ประกอบ 1.1 ชอ่ื โครงงาน 1.2 หลกั การและเหตผุ ล 1.3 วตั ถุประสงค์ 1.4 เป้าหมาย 1.5 การดาเนนิ งานและแผนปฏิบัตกิ าร 1.6 ระยะเวลา 1.7 งบประมาณ 1.8 ผลทีค่ าดวา่ จะได้รับ 2. ตรงตามสาขาที่เรยี น 3. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 4. มีความน่าสนใจ 5. มีความเปน็ ไปได้ 4. การดาเนนิ งานตามโครงงาน แบ่งออกเป็นกี่ขั้นตอน อะไรบา้ ง การดาเนนิ งานตามโครงงาน การดาเนินงานตามโครงงาน แบ่งออกเปน็ 2 ขนั้ ตอน ดังนี้ 1. การปฏิบัตงิ านตามโครงงาน 2. การประเมินผู้ปฏบิ ัติงาน 5. การจดั ทารายงาน มอี งคป์ ระกอบอะไรบา้ ง การจดั ทารายงาน มอี งคป์ ระกอบ ดงั น้ี 1. การวิเคราะห์และสรปุ ผลการประเมนิ 2. การเขียนรายงาน 3. ภาคผนวกและบรรณานุกรม 6. การประเมินผลโครงงานมกี ารพิจารณาประเมนิ อยา่ งไรบ้าง การประเมนิ ผลโครงงานมกี ารพิจารณาประเมนิ อย่างไรบ้าง ระยะที่ 1 โครงร่างซงึ่ เปน็ ข้นั ตอนของการวางแผนโครงงาน ระยะท่ี 2 การดาเนินงานตามโครงงาน ระยะที่ 3 ผลของโครงงาน/รายงาน

33 7. ส่วนใดบ้างที่ถือเปน็ โครงร่างโครงงานในการประเมนิ สว่ นท่ี 1 โครงร่างโครงงาน 1. องคป์ ระกอบ - ช่ือโครงงาน - หลักการและเหตผุ ล - วตั ถปุ ระสงค์ - เป้าหมาย - การดาเนินงานและแผนปฏิบัตงิ าน - ระยะเวลาและสถานท่ี - งบประมาณ - ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั 2. ความตรงตามสาขาทเี่ รยี น 3. ความคดิ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์ 4. ความน่าสนใจ 5. ความเป็นไปได้ 8. สว่ นใดบา้ งทถี่ ือเปน็ การดาเนนิ งานตามโครงงาน การดาเนนิ งานตามโครงงาน ประกอบด้วย 1. การปฏิบัติงานตามขั้นตอนในแผนปฏบิ ตั ิการ - ปฏบิ ัตงิ านครบทุกขน้ั ตอน - ตรงตามเวลาทุกขั้นตอน 2. การรว่ มมอื กนั ในการปฏบิ ัตงิ านกลมุ่ - แบ่งงานใหส้ มาชิกเหมาะสม - ความรบั ผดิ ชอบของสมาชกิ กลมุ่ - มีการปรกึ ษาหารือในกลมุ่ สม่าเสมอ 3. การบนั ทกึ ความก้าวหนา้ และเก็บข้อมูลการทางานเปน็ ระบบ 4. การรายงานผลต่ออาจารย์ท่ปี รึกษาเปน็ ระยะๆ 5. ผลงานสาเร็จ 9. ส่วนใดบ้างทเ่ี ป็นผลของโครงงานและการรายงาน ผลของโครงงานและการรายงาน 1. ผลของโครงงาน - ตรงตามวตั ถุประสงค์ - ตรงตามเป้าหมาย (คุณภาพและปริมาณ) - งบประมาณทใ่ี ช้

34 - งานเสร็จทันเวลา 2. การเขียนรายงาน - องค์ประกอบการรายงานครบถว้ น - รายงานชัดเจน 10. วตั ถุประสงค์ของโครงงาน ควรระบุอยา่ งไรบา้ ง วัตถุประสงค์ของโครงงาน ควรระบใุ หท้ ราบว่าการจัดทาโครงงานแต่ละโครงงานเพ่ืออะไร ซึ่ง โดยทว่ั ไปจะมีสาเหตุ 2 ประการ คือ 1. แกป้ ญั หาการปฏบิ ตั ิงาน เช่น งานทีผ่ เู้ รียนไดร้ ับมอบหมายในชน้ั เรียน การปฏบิ ัตงิ านของ อาจารย์ บุคลากรในสถานศึกษาหรอื หนว่ ยงาน 2. พัฒนางานในหน้าทีร่ บั ผิดชอบ เช่น ผู้เรยี นจดั ทาโครงงานเพื่อนาความรู้ ทักษะทไ่ี ด้รับใน ช้ันเรยี น สถานศกึ ษา ไปพัฒนางานอาชีพในชีวิตจรงิ หรืออาจารย์จัดทาโครงงานเพื่อ พฒั นาผ้เู รยี นในดา้ นต่างๆ ตอนที่ 2 จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว 1. ขอ้ ใดเปน็ การวิเคราะห์ข้อมูลด้านผู้จัดโครงงาน ข. มคี วามรู้และประสบการณ์ 2. ข้อใดเป็นการวเิ คราะห์ข้อมลู ด้านสงั คมและสิง่ แวดล้อม ง. จดั หาอุปกรณใ์ นทอ้ งถิ่นได้ 3. ขอ้ ใดเปน็ การวิเคราะหข์ ้อมลู ด้านความรแู้ ละและความสามารถของผู้เรียน ค. นาความรู้ ทกั ษะจากโครงงานไปประยกุ ตใ์ ช้ 4. ข้อใดคือการกาหนดชอื่ เพือ่ สื่อให้ทราบว่าต้องการทาอะไร มแี นวทางปฏบิ ตั ิอย่างไร ก. ชื่อโครงงาน 5. ข้อใดเป็นการกลา่ วถงึ ความเป็นมาและความสาคญั ของปัญหาในการจดั ทาโครงงาน ง. หลกั การและเหตุผล 6. ขอ้ ใดคอื การระบใุ หท้ ราบวา่ การจัดทาโครงงานแตล่ ะโครงงานเพื่ออะไร ก. วัตถปุ ระสงค์ 7. ขอ้ ใดเป็นองคป์ ระกอบของการขออนุมตั ิโครงงาน ค. ความเปน็ ไปได้ 8. ข้อใดคือสว่ นนาของโครงงาน ข. ปก คานา สารบัญ 9. ข้อใดคือองคป์ ระกอบของสว่ นเนอ้ื หา ง. วัตถุประสงค์ 10. ข้อใดจาเป็นตอ้ งกาหนดปริมาณและคุณภาพให้ชดั เจน ค. เปา้ หมาย ........................................................................

35 เรื่อง กระบวนการจดั ทาโครงงาน ชื่อ........................................นามสกลุ .................................เลขท่.ี .............ชนั้ ................ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ : 1. อธบิ ายและวางแผนจดั ทาโครงงานได้ คาชแี้ จง : ให้ผู้เรยี นสารวจความสนใจ ความพรอ้ มของตนเองดา้ นตา่ งๆ และความเป็นไปไดเ้ พอื่ พจิ ารณาตัดสนิ ใจเลือกหัวข้อที่ตอ้ งการจัดทาโครงงาน โดยกาหนดไว้มากกว่า 1 โครงงาน แล้วศึกษารวบรวมข้อมูลเก่ียวกับตนเอง ด้านความถนดั ความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์ ทนุ แรงงาน สถานที่ การจัดการ ระยะเวลาการปฏบิ ัติงาน แล้วเลือก โครงงานที่เหมาะสมกับตนเองตามตารางวเิ คราะห์ ดงั น้ี รายการวิเคราะห์ขอ้ มูล โครงงานท่ี 1 โครงงานที่ 2 โครงงานที่ 3 432143214321 1. ด้านผู้จัดทาโครงงาน - ความถนัดและความสนใจ - ความรู้และประสบการณ์ - ความพรอ้ มด้านเงินทนุ - ความพรอ้ มในการจดั เตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์ - ความพรอ้ มดา้ นเวลา/แรงงาน 2. ดา้ นสงั คมและสิง่ แวดล้อม - เปน็ ประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครวั และสังคม - สามารถจดั หาวสั ดุ อุปกรณไ์ ดภ้ ายในทอ้ งถ่นิ - มีแหล่งความรู้ ขอ้ มูลต่างๆ ภายในท้องถน่ิ - มีสถานทป่ี ฏิบตั งิ านทเ่ี หมาะสม - มผี ูเ้ ชยี่ วชาญใหค้ วามรแู้ ละให้คาปรกึ ษา 3. ดา้ นความร้แู ละความสามารถของผู้เรียน - มคี วามรเู้ กี่ยวกับการปฏิบัตงิ านโครงงาน - มคี วามรู้ทางวิชาชพี ที่เกี่ยวข้องกับการ ปฏบิ ตั งิ าน - วางแผนข้ันตอนการปฏิบตั ทิ ี่สามารถปฏบิ ัตไิ ด้ - นาความรู้ ทักษะที่ได้รับจากการปฏิบัติ โครงงานไปเป็นข้อมลู สาหรับการปฏบิ ัติงานอ่นื

36 หรือเป็นแนวทางการปฏิบัติงานโครงงานอื่น ตอ่ ไป รวม - เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนเพอ่ื ตัดสนิ ใจเลือกโครงงานมดี งั น้ี 4 หมายถึง มคี วามพรอ้ มและเหมาะสมมากทสี่ ุด 3 หมายถงึ มคี วามพร้อมและเหมาะสมมาก 2 หมายถึง มีความพรอ้ มและเหมาะสมปานกลาง 1 หมายถงึ มีความพรอ้ มและเหมาะสมนอ้ ย - รวมคะแนนทกุ รายการ โครงงานใดไดค้ ะแนนมากทส่ี ุด ก็ควรเลือกทาโครงงานน้นั

37 บนั ทกึ หลงั การสอน 1. ผลการจัดการเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ปัญหาและอุปสรรคท่ีพบ ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................... ................... ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ...........................................ผู้สอน (นางสาวปริยานุช กลบี เอม) วันท.ี่ ..........เดือน..................พ.ศ............

แผนการสอน/แผนจัดการเรยี นรู้ 38 วชิ า 20204-8502 โครงการ 1 หนว่ ยท่ี 2 ช่อื หน่วย กระบวนการจัดทาโครงงาน (ตอ่ ) สปั ดาหท์ ่ี 4 รวม 6 คาบ สาระสาคญั การจัดทาโครงงาน เป็นพื้นฐานที่ผู้เรียนสามารถเสริมสร้างประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง เพื่อให้เกิดแนวความคิด ทักษะ ตระหนักในสภาพการทางาน และมีเจตคติ กิจนิสัยท่ีดีในการทางาน ก่อให้เกิดความคิดริเร่ิม พัฒนางาน สามารถวางแผน ดาเนินงาน วิเคราะห์ปัญหา และหาวิธีแก้ไขปัญหา รวมท้งั การบนั ทกึ ขอ้ มูล สรุปผล จัดทารายงานและนาเสนอรายงาน จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.อธิบายและดาเนนิ งานตามโครงงานได้ 4.อธิบายและจดั ทารายงานได้ 5.อธิบายและประเมินผลโครงงานได้ 6.มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผูส้ าเร็จการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่คี รสู ามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรื่อง 6.1 ความมีมนุษยสมั พันธ์ 6.2 ความมวี ินัย 6.3 ความรบั ผดิ ชอบ 6.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 6.5 ความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง 6.6 การประหยัด 6.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 6.8 การละเวน้ สงิ่ เสพติดและการพนัน 6.9 ความรักสามัคคี 6.10 ความกตัญญูกตเวที สมรรถนะหลัก 101.วิเคราะหห์ ลักการและกระบวนการวางแผนจัดทาโครงงาน สมรรถนะย่อย 101.1 ศกึ ษาความรเู้ บื้องตน้ ในการจัดทาโครงงาน และวางแผนตามกระบวนการจัดทาโครงงาน ตวั บ่งชี้ 101.103 อธบิ าย วางแผนจัดทาโครงงาน ขออนุมัตโิ ครงงาน ดาเนนิ งานตามโครงงานจัดทา รายงานและประเมินผลโครงงาน

39 เน้อื หาสาระ 3.การดาเนนิ งานตามโครงงาน 4.การจดั ทารายงาน 5.การประเมนิ ผลโครงงาน การบรู ณาการกับหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความพอเพียง 1.1 ความพอประมาณ - รจู้ ักประเมนิ เวลา ความสามารถ งบประมาณ ในกระบวนการจดั ทาโครงงาน 1.2 ความมีเหตุผล - มีทักษะในการคดิ ความเปน็ เหตุเปน็ ผล และการตัดสนิ ใจในเรอื่ งตา่ งๆ - นักเรยี นไดน้ าความรู้ท่ีเรยี นมาพิจารณาปรับใชใ้ นการเรียนรายวชิ าโครงงานวชิ าชีพ 1.3 การมภี ูมคิ ุม้ กันในตัวทดี่ ี - นกั เรียนวิธีการเลือกกระบวนการจัดทาโครงงานวิชาชีพใหเ้ หมาะสมกบั ตัวเอง - นักเรยี นศึกษากระบวนการจัดทาโครงงานอยา่ งละเอยี ดเพอ่ื มาวิเคราะห์ความเหมาะสมที่ จะเลือกหรือไม่เลอื กทาโครงงาน - นกั เรยี นควรทาแบบฝกึ หัดทุกขอ้ ดว้ ยตนเอง 2. คณุ ธรรมกากับความรู้ 2.1 เงือ่ นไขความรู้ - ใช้ความรู้ต่างๆ มีด้วยความรอบรู้ เช่ือมโยงสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ในการเลือก กระบวนการจดั ทาโครงงานทจ่ี ะทาและทาแบบฝึกหดั แบบทดสอบ - นาความรู้มาประยุกตใ์ ช้ในการเรยี น และในการทางานอย่างรอบคอบ 2.2 เงื่อนไขคณุ ธรรม - มีความรับผิดชอบ อดทน เพยี รพยายาม ความซือ่ สัตย์ ความมวี นิ ยั ในการทางาน การบูรณาการกบั งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองจากพระราชดาริ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสานักในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ทรัพยากรชีวภาพ และกายภาพ โดยมีการสัมผัส การเรียนรู้ การสร้างและปลูกฝังคุณธรรม การเสริมสร้าง ปญั ญาและภูมปิ ัญญา โดยโรงเรียนกาหนดใช้ “ขา้ วไรเบอร์ร่ี” เป็นพืชศึกษาในงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน จึงไดเ้ พ่ิมเติมเรอ่ื งช่องทางการจัดจาหน่ายกล้วย เขา้ ในหน่วยนี้

40 กิจกรรมการเรยี นการสอน ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1.ครูช้แี จงการปฏิบตั งิ านตามโครงงาน เม่ือโครงงานไดร้ ับการอนุมตั ิใหด้ าเนนิ การได้แลว้ ผเู้ รียนควร ทบทวนลาดับขั้นตอนการปฏิบตั ิงานใหเ้ ขา้ ใจก่อนเรมิ่ ปฏิบัตงิ านตามแผน โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางานจน สาเรจ็ ด้วยความขยนั อดทน ประหยัด จนงานสาเร็จตามวัตถุประสงค์ 2.นกั เรียนเล่าถงึ การทางานต่าง ๆ ต้องดาเนินไปตามขึ้นตอน เชน่ ในชีวิตประจาวัน การหงุ ข้าวตอ้ งมี กระบวนการอยา่ งไรบา้ ง โดยเร่ิมตน้ ต้งั แต่การเร่มิ ลา้ งข้าวสาร นาไปหุงจนถงึ ขั้นตอนสดุ ท้าย ข้ันสอน 3. ครูสอนโดยใช้รปู แบบการเรียนแบบ TAI (Team Assisted Individualization) เพื่อเนน้ การเรยี น ของแตล่ ะบุคคล ให้มคี วามรู้ ความเข้าใจและนาทักษะการเรียนรไู้ ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ในเร่อื งต่อไปนี้ (1).การดาเนินงานตามโครงงาน (2).การจดั ทารายงาน (3).การประเมินผลโครงงาน 4.ครูแนะนากอ่ นการลงมือปฏบิ ัติงานตามแผน ผเู้ รียนตอ้ งบันทกึ ผลการปฏิบัติงานเปน็ ระยะๆ เพื่อรายงาน ความก้าวหนา้ ของโครงงานต่อผ้สู อนตามขอ้ ตกลงรว่ มกนั ระหว่างผูเ้ รยี นกับผ้สู อน โดยผู้สอนลงลายมอื ชื่อ ข้อคิดเห็นไว้เปน็ หลกั ฐานในสมดุ หรอื แบบฟอร์มบันทึกดว้ ย ดงั ตวั อย่างต่อไปนี้ ที่ กจิ กรรม ผลการ ปัญหา/อุปสรรค ผสู้ อน ขอ้ คดิ เหน็ ของ ปฏบิ ตั งิ าน และการแกไ้ ข รบั ทราบ ผสู้ อน ว.ด.ป. 1. เขยี นโครงงาน 2. แผนปฏิบัติงาน 3. ศึกษาขอ้ มูลท่จี าเป็น 4. 5. 5.ครูอธิบายการประเมนิ ผู้ปฏิบัตงิ าน เมอ่ื ผเู้ รียนดาเนนิ การปฏิบัตงิ านตามโครงงานตามข้ันตอนที่ กาหนดแลว้ ควรวางแผนเกบ็ ขอ้ มลู เพอ่ื ประเมนิ โครงงานแต่ละประเภท ซงึ่ ผูเ้ รยี นจะต้องดาเนินการประเมินแต่ ละส่วนใหช้ ดั เจน 6.ครูอธบิ ายการจดั ทารายงานเป็นขั้นตอนท่ีผู้เรยี นตอ้ งให้ความสาคัญ เพราะเปน็ ขนั้ ตอนที่จะสอื่ สาร ใหอ้ าจารย์ผู้สอนและผ้เู กย่ี วข้องทราบผลการจัดทาโครงงานของผเู้ รียนไดช้ ัดเจน ตลอดจนเป็นประโยชนต์ ่อ ผูส้ นใจท่ีสามารถนาผลของโครงงานไปใช้ประโยชนห์ รอื พฒั นาตอ่ ไป 7.ครอู ธบิ ายการประเมินผลโครงงาน โดยอาจารยผ์ ู้รับผดิ ชอบการประเมินผลโครงงานของผู้เรียน ควร พจิ ารณาประเมนิ ให้ครบทั้ง 3 ระยะของโครงงาน ไดแ้ ก่

41 ระยะที่  โครงร่างซงึ่ เป็นขน้ั ตอนของการวางแผนโครงงาน ระยะที่  การดาเนนิ งานตามโครงงาน ระยะท่ี  ผลของโครงงาน/รายงาน โดยกาหนดสดั สว่ นการใหค้ ะแนนท่ีเหมาะสมตามธรรมชาติของโครงงานแต่ละประเภท 8.ให้ผูเ้ รียนหาโครงงานมาคนละ 1 เร่ืองจากแหล่งต่างๆ ที่สามารถหามาได้ แล้วปฏิบตั ิดังน้ี 8.1.บอกองค์ประกอบของโครงร่างของโครงงานทหี่ ามาได้ ใหผ้ ้เู รียนหาโครงงานมาคนละ 1 เรื่องจากแหล่งตา่ งๆ ทส่ี ามารถหามาได้ 8.2. บอกองคป์ ระกอบของโครงร่างของโครงงานทห่ี ามาได้ ข้ันสรุปและการประยุกต์ 9.สรปุ การดาเนินงานตามโครงงาน การจัดทารายงาน และการประเมนิ ผลโครงงานโดยการถาม-ตอบ และนาไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ ส่ือการเรียนการสอน ใบความรู้ วธิ กี ารวัดและการประเมินผล วธิ ีวัดผล 1. สังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ัตงิ านรายบคุ คล 2. สังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้กอ่ นเรียน หนว่ ยท่ี 2 4. การสังเกตและประเมินผลพฤติกรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เคร่ืองมือวัดผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั งิ านรายบุคคล (ดภู าคผนวก ข) 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ (ดภู าคผนวก ค) 3. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้กอ่ นเรยี น หน่วยที่ 2 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและนกั เรยี น รว่ มกันประเมิน (ดูภาคผนวก ง) เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานรายบุคคล ตอ้ งไม่มีชอ่ งปรบั ปรุง 2. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ขั้นไป) 3. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้กอ่ นเรียน หน่วยที่ 2 ไมก่ าหนดตายตัวขึ้นอยู่กับสภาพจรงิ ครผู ูส้ อนควร เกบ็ คะแนนไว้เพ่อื เปรยี บเทียบ หลงั จากผ้เู รยี นจบในหน่วยนี้แล้ว 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยกู่ บั การ ประเมินตามสภาพจริง

42 แบบประเมนิ ผลการเรียนรูก้ อ่ นเรยี น หนว่ ยที่ 4 คาสง่ั จงใสเ่ ครอื่ งหมาย  หน้าข้อทีถ่ ูก และเคร่ืองหมาย  หน้าข้อท่ผี ิด 1. ชอื่ โครงการต้องสอ่ื ความหมายได้วา่ จะทาอะไร 2. การทาโครงการวิชาชพี อาจทาเป็นกลมุ่ หรือรายบุคคลได้ 3. หลกั การและเหตผุ ลไม่จาเป็นต้องแสดงใหเ้ หน็ ถึงความสาคญั หรอื ภมู หิ ลงั ในการจดั ทา โครงการ 4. วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการตอ้ งเป็นไปได้ 5. ในหลกั การและเหตผุ ลจะประกอบดว้ ยเหตผุ ลและความจาเป็นที่ต้องมโี ครงการนัน้ ๆ 6. วธิ กี ารดาเนนิ งานต้องทาตามลาดับข้นั ตอนต้ังแตเ่ ริ่มตน้ จนสิ้นสุดโครงการ 7. ระยะเวลาและสถานทไ่ี ม่จาเปน็ ตอ้ งระบใุ นโครงการเพราะอาจมีการเปลยี่ นแปลงได้ 8. การใชท้ รัพยากรควรคานึงถึงความประหยัด 9. ผลทคี่ าดว่าจะไดร้ บั จะแสดงถึงผลประโยชนท์ ่ีผู้ดาเนินโครงการและผทู้ ่ีเก่ียวข้องจะไดร้ ับ 10. ดาเนนิ การตามโครงการมักไม่คอ่ ยมอี ปุ สรรคเพราะการเขยี นโครงการชว่ ยลดอปุ สรรคได้ เฉลยแบบประเมินผลการเรยี นรกู้ ่อนเรยี น หนว่ ยท่ี 4 1.  2.  3.  4.  5.  6.  7.  8.  9.  10.  แบบประเมนิ ผลการเรยี นร้หู ลงั เรียน หนว่ ยที่ 4 คาสัง่ จงตอบคาถามต่อไปนี้ 1. ช่อื ของโครงการควรมลี ักษณะ 2. ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ หมายถงึ 3. หลกั การและเหตผุ ลแสดงใหเ้ หน็ ถึง 4. หลักการและเหตผุ ลประกอบดว้ ยส่วนสาคัญ 3 ส่วน คือ 5. เป้าหมายของโครงการเป็นการคาดหวังเก่ยี วกับ 6. วธิ กี ารดาเนนิ งานแสดงถึง 7. การใช้งบประมาณและทรัพยากรควรคานึงถึง 8. หัวขอ้ การประเมนิ ผลควรสอดคล้องกับ 9. ผลทค่ี าดว่าจะได้รับแสดงถึง 10. ส่ิงท่ีคาดว่าจะเกดิ ข้ึนและจะทาให้การดาเนินโครงการไมเ่ ป็นไปตามข้ันตอนคือ

43 เฉลยแบบประเมนิ ผลการเรยี นร้หู ลังเรยี น หน่วยท่ี 4 1. ช่อื ของโครงการควรมีลกั ษณะ สัน้ กระชบั ชัดเจน เฉพาะเจาะจง และส่ือความหมายไดว้ ่าจะทาอะไร 2. ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ หมายถงึ บุคคลหรอื กลุ่ม ซึ่งผู้ดาเนินงานตามโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงคแ์ ละเปา้ หมาย 3. หลักการและเหตผุ ลแสดงให้เหน็ ถึง ความจาเป็น ความสาคญั หรอื ภูมหิ ลังในการจัดทาโครงการ 4. หลักการและเหตผุ ลประกอบด้วยส่วนสาคญั 3 สว่ น คอื 1. ความเปน็ มาของโครงการย่อๆ 2. เหตุผลและความจาเปน็ ท่ีตอ้ งมีโครงการน้นั ๆ 3. วธิ กี ารดาเนนิ โครงการย่อๆ 5. เปา้ หมายของโครงการเปน็ การคาดหวงั เก่ียวกบั ผลผลติ ที่จะได้รบั เม่อื ดาเนนิ การตามโครงการ 6. วิธกี ารดาเนนิ งานแสดงถึง แนวทางและวธิ กี ารท่ีจะตอ้ งทาตามลาดับข้นั ตอนตัง้ แตเ่ ริม่ ตน้ จนสิน้ สุดโครงการโดยกาหนดเปน็ แผนปฏิบตั งิ าน แสดงรายละเอียดของกิจกรรมและระยะเวลาทจ่ี ะดาเนนิ การ 7. การใชง้ บประมาณและทรัพยากรควรคานงึ ถึง ความประหยดั ความมีประสิทธภิ าพ ประสิทธิผล และความยุตธิ รรม 8. หัวขอ้ การประเมนิ ผลควรสอดคล้องกับ วตั ถุประสงค์ของโครงการ 9. ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับแสดงถึง ผลประโยชน์ท่ีผู้ดาเนนิ โครงการและผู้ที่เกีย่ วข้องจะได้รับหลังสิ้นสดุ โครงการท้ังทางตรงและ ทางอ้อม 10. สิ่งที่คาดวา่ จะเกิดข้นึ และจะทาให้การดาเนินโครงการไม่เปน็ ไปตามขน้ั ตอนคือ

44 เร่ือง กระบวนการจัดทาโครงงาน ชื่อ........................................นามสกลุ .................................เลขท่ี..............ช้ัน................ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ : 2. อธบิ ายและขออนมุ ตั ิโครงงานได้ 3. อธิบายและดาเนินงานตามโครงงานได้ 4. อธบิ ายและจดั ทารายงานได้ 5. อธบิ ายและประเมนิ ผลโครงงานได้ คาชี้แจง : ให้ผู้เรียนหาโครงงานมาคนละ 1 เร่ืองจากแหลง่ ตา่ งๆ ที่สามารถหามาได้ แล้วปฏบิ ัตดิ ังนี้ 1. บอกองค์ประกอบของโครงร่างของโครงงานที่หามาได้ ……………………………………………………………………….………………………………………………………………………………… ……………….………………………………………………………………………………………………….…………..............……………… ……………………………………………………………………….………………………………………………………………………………… ……………….………………………………………………………………………………………………….…………..............……………… 2. เขียนแบบขออนมุ ัติโครงงานของเร่ืองนัน้ ……………………………………………………………………….………………………………………………………………………………… ……………….………………………………………………………………………………………………….…………..............……………… ……………………………………………………………………….………………………………………………………………………………… ……………….………………………………………………………………………………………………….…………..............……………… ……………………………………………………………………….………………………………………………………………………………… ……………….………………………………………………………………………………………………….…………..............………………

45 บนั ทึกหลงั การสอน 1. ผลการจดั การเรียนการสอน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. ปัญหาและอปุ สรรคท่พี บ ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................... ................... ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ............................................................................ 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................ ...... ลงชื่อ...........................................ผู้สอน (นางสาวปริยานชุ กลีบเอม) วันที.่ ..........เดอื น..................พ.ศ............

46 แผนการสอน/แผนจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 3 วชิ า 20204-8502 โครงการ1 สัปดาหท์ ี่ 5 ชอ่ื หนว่ ย การเลอื กหัวขอ้ โครงงาน รวม 6 คาบ สาระสาคัญ การเลือกโครงงานขึน้ อยู่กับความตอ้ งการของผู้เรียน แต่วิธีทท่ี าใหโ้ ครงงานประสบความสาเร็จ คือ การเลือกหวั ข้อโครงงานท่ผี ู้เรยี นน้นั ถนดั อย่แู ล้ว หรืออาจจะเลือกจากการมองเห็นปญั หาในระบบงานเดิม ซ่ึงโครงงานมักจะเกิดจากปัญหาบางประการ หรือเป็นการต่อยอด/ปรับปรุงของท่ีมีอยู่แล้วเพื่อให้ดีข้ึน ผู้เรียนต้องมองปัญหาในระบบงานเดิมให้ออกว่ามีปัญหาอะไร มีปัญหาตรงจุดไหน วิธีแก้คืออะไร เพ่ือ ออกแบบระบบงานให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ให้มากท่ีสุด การได้มาซึ่งปัญหาท่ีดีที่สุดคือ การเก็บ รวบรวมรายละเอียดต่างๆ เพื่อหาข้อสรุปท่ีชัดเจนที่เกี่ยวกับความต้องการระหว่างผู้พัฒนาระบบกับ ผูใ้ ชง้ าน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.บอกเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกหัวข้อโครงงานได้ 2.อธิบายและเลือกโครงงานประเภทสิ่งประดิษฐไ์ ด้ 3.อธบิ ายและเลือกโครงงานจัดทาธุรกจิ หรือบริการได้ 4.มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ของผสู้ าเร็จการศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทีค่ รสู ามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเร่ือง 4.1 ความมมี นษุ ยสัมพันธ์ 4.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 4.2 ความมวี นิ ยั 4.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนัน 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.9 ความรักสามัคคี 4.4 ความซ่ือสัตย์สุจรติ 4.10 ความกตัญญูกตเวที 4.5 ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง 4.6 การประหยัด สมรรถนะหลัก 101.วิเคราะหห์ ลักการและกระบวนการวางแผนจดั ทาโครงงาน สมรรถนะย่อย 101.1 ศกึ ษาความรูเ้ บ้ืองต้นในการจดั ทาโครงงาน และวางแผนตามกระบวนการจัดทาโครงงาน ตวั บ่งชี้ 101.104 บอกเกณฑพ์ จิ ารณาเลือกหวั ข้อโครงงาน 101.105 ตดั สนิ ใจเลือกโครงงานสิง่ ประดษิ ฐ์ เลอื กโครงงานจัดทาธรุ กิจหรอื บริการและเลือก โครงงานทดลองและวจิ ัย

47 เนอ้ื หาสาระ 1.เกณฑ์ในการพจิ ารณาเลือกหัวข้อโครงงาน 2.การเลือกโครงงานประเภทสง่ิ ประดษิ ฐ์ 3.การเลือกโครงงานจัดทาธุรกจิ หรอื บรกิ าร การบรู ณาการกบั หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอเพียง 1.1 ความพอประมาณ - รูจ้ ักประเมนิ เวลา คน งบประมาณ ในการทาโครงงานประเภทส่งิ ประดิษฐห์ รอื โครงงาน จดั ทาธรุ กิจหรือบริการ 1.2 ความมเี หตุผล - มที ักษะในการคิด ความเปน็ เหตุเป็นผล และการตัดสินใจในเร่ืองการทาโครงงานวิชาชีพ แบบทดลองและวิจัย - นกั เรียนได้นาความรู้ทีเ่ รียนมาพจิ ารณาปรบั ใชใ้ นการเรียนรายวิชาโครงงานวชิ าชีพ 1.3 การมภี ูมิคมุ้ กันในตัวทีด่ ี - นกั เรยี นศึกษารายละเอยี ดเก่ยี วกับโครงงานประเภทสิ่งประดษิ ฐ์หรอื โครงงานจดั ทาธุรกจิ หรอื บรกิ าร - นักเรยี นควรทาแบบฝึกหดั ทุกข้อดว้ ยตนเอง 2. คุณธรรมกากบั ความรู้ 2.1 เง่ือนไขความรู้ - ใช้ความรู้ต่างๆ มีด้วยความรอบรู้ เชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ในการทาแบบฝึกหัด และแบบทดสอบ - นาความรูม้ าประยุกตใ์ ช้ในการเรยี น และในการทางานอย่างรอบคอบ 2.2 เง่อื นไขคณุ ธรรม - มคี วามรับผิดชอบ อดทน เพยี รพยายาม ความซื่อสตั ย์ในการทางาน กจิ กรรมการเรียนการสอน ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1.ครผู ู้สอนช้ีแจงใหผ้ ู้เรียนทกุ คนเห็นว่าการตัดสินใจเลือกโครงงาน ควรมีความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ ความถนัดและความสนใจในโครงงานที่เลอื ก และโครงงานมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับหลกั สูตรท่ีเรียน สามารถนาความรจู้ ากการเรียนมาบรู ณาการในการปฏบิ ตั งิ านและแก้ไขปัญหาในระหว่างการทาโครงงานได้ 2.นักเรียนยกตัวอย่างโครงงานทาดอกไม้จากถุงน่อง แล้วให้เพื่อนร่วมห้องเรียนช่วยกันต้ังหลักเกณฑ์ ในการพจิ ารณาการตัดสินใจเลอื กโครงงานประมาณ 10 ขอ้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook