Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 026-55(1)

026-55(1)

Published by tan_za_, 2016-11-26 02:35:19

Description: 026-55(1)

Search

Read the Text Version

-199- การวิเคราะหเ์ พื่อ ทดสอบความสัมพันธด์ า้ นส่วนประสมทางการตลาดดา้ นการสง่ เสริมการตลาด ในดา้ นการจดั คอรส์ อบรมเก่ยี วกบั งานฝมี ือในตาํ หนัก และการตดั สินใจเข้าเย่ยี ม ชมพิพิธภณั ฑต์ ําหนักสายสทุ ธานภดล โดยมีสมมติฐานเพอื่ การทดสอบดงั น้ี Ho : ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดดา้ นการสง่ เสริมการตลาด ในดา้ นการจดั คอรส์ อบรมเกี่ยวกบั งานฝีมือในตาํ หนัก และการตดั สินใจเข้าเยย่ี ม ชมพิพธิ ภัณฑต์ าํ หนักสายสุทธานภด ล ไม่มีความสัมพนั ธ์กนั H1 : ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาดด้านการส่งเสรมิ การตลาด ในด้านการจัดคอรส์ อบรมเกีย่ วกับงานฝมี ือในตาํ หนกั และการตัดสินใจเข้าเย่ียม ชมพพิ ิธภณั ฑ์ตําหนกั สายสุทธานภด ล มีความสมั พนั ธ์กนั อยา่ งมีนัยสําคัญตารางที่ 4. 70 การทดสอบความสมั พนั ธ์ด้าน ปจั จยั สว่ นประสมทางการตลาดด้านการส่งเสรมิการตลาด ในด้านการจัดคอร์สอบรมเกย่ี วกับงานฝมี อื ในตาํ หนกั และการตัดสนิ ใจเขา้ เยยี่ ม ชมพิพธิ ภัณฑ์ตําหนกั สายสุทธานภดล Value df Asymp. Sig. (2-sided)สมั ประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ 28.267(a) 8 0.000*เพียรส์ ัน (Pearson Chi- 17.371 8 0.026Square) 5.254 1 0.022อตั ราส่วนความเป็นไปได้ 153(Likelihood Ratio)ความสมั พนั ธเ์ ชงิ เส้น(Linear-by-LinearAssociation)จาํ นวนตัวอย่าง (N ofValid Cases)* ระดบั นัยสาํ คัญทางสถิติ 0.05 www.ssru.ac.th

-200- จากตารางท่ี 4 .70 พบวา่ คา่ ที่ไดจ้ ากการทดสอบสมมตฐิ านดว้ ย Chi-Square ทมี่ ีระดบันัยสาํ คญั ทางสถติ ิที่ 0.05 มคี า่ Sig. เท่ากบั 0.000 ซง่ึ น้อยกวา่ 0.05 จงึ ยอมรับสมมตฐิ านหลกั (H1)ซ่งึ หมายความว่า ปจั จัย สว่ นประสมทางการตลาดดา้ นการสง่ เสรมิ การตลาด ในดา้ นการจัดคอร์สอบรมเก่ียวกับงานฝมี ือในตําหนกั และการตัดสนิ ใจเข้าเยยี่ ม ชมพพิ ิธภณั ฑต์ าํ หนักสายสุทธานภด ล มีความสัมพันธก์ นั อยา่ งมีนยั สําคัญ การวิเคราะหเ์ พอ่ื ทดสอบความสมั พันธด์ า้ นสว่ นประสมทางการตลาดดา้ นการสง่ เสริมการตลาด ในด้านการมีการพัฒนาในรปู แบบทัวร์เสมอื นจรงิ (Virtual Tour) หรือถา่ ยภาพสถานท่ีจรงิและนํามาสรา้ งในมติ ิ 360 องศา ลงในเวบ็ ไซต์ และการตดั สินใจเขา้ เยีย่ ม ชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ตาํ หนักสายสุทธานภดล โดยมสี มมติฐานเพ่ือการทดสอบดงั นี้ Ho : ปัจจยั สว่ นประสมทางการตลาดด้านการสง่ เสรมิ การตลาด ในดา้ น การมกี ารพัฒนาในรูปแบบทัวร์เสมอื นจริง (Virtual Tour) หรือถา่ ยภาพสถานทจ่ี ริงและนํามาสรา้ งในมิติ 360 องศา ลงในเวบ็ ไซต์ และการตดั สินใจเข้าเย่ียมชมพิพธิ ภณั ฑต์ าํ หนักสายสทุ ธานภดล ไมม่ คี วามสัมพันธก์ ัน H1 : ปัจจยั สว่ นประสมทางการตลาดดา้ นการส่งเสริมการตลาด ในดา้ น การมกี ารพัฒนาในรูปแบบทัวรเ์ สมอื นจริง (Virtual Tour) หรอื ถ่ายภาพสถานทจ่ี ริงและนาํ มาสรา้ งในมติ ิ 360 องศา ลงในเว็บไซต์ และการตัดสนิ ใจเข้าเยี่ยม ชมพพิ ิธภณั ฑต์ าํ หนักสายสทุ ธานภด ล มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนยั สาํ คญัตารางท่ี 4. 71 การทดสอบความสมั พนั ธ์ดา้ น ปจั จัยสว่ นประสมทางการตลาดด้านการสง่ เสริมการตลาด ในด้านการมกี ารพัฒนาในรปู แบบทวั ร์เสมือนจริง (Virtual Tour) หรือถ่ายภาพสถานท่ีจริงและนํามาสร้างในมิติ 360 องศา ลงในเวบ็ ไซต์ และการตดั สนิ ใจเขา้ เย่ยี ม ชมพิพิธภัณฑต์ าํ หนกั สายสุทธานภดล Value df Asymp. Sig. (2-sided)สัมประสิทธส์ิ หสมั พันธ์ 15.758(a) 6 0.015*เพียร์สนั (Pearson Chi- 10.943 6 0.090Square)อตั ราส่วนความเปน็ ไปได้(Likelihood Ratio) www.ssru.ac.th

(ตอ่ ) -201- 0.075 ความสมั พันธ์เชงิ เสน้ (Linear-by-Linear 3.167 1 Association) จาํ นวนตวั อย่าง (N of 153 Valid Cases) * ระดบั นัยสําคญั ทางสถติ ิ 0.05 จากตารางท่ี 4 .71 พบว่า ค่าท่ไี ด้จากการทดสอบสมมติฐานด้วย Chi-Square ทีม่ ีระดับนัยสาํ คัญทางสถิติที่ 0.05 มีคา่ Sig. เทา่ กบั 0.015 ซง่ึ น้อยกว่า 0.05 จงึ ยอมรบั สมมตฐิ านหลกั (H1)ซึง่ หมายความว่า ปจั จยั สว่ นประสมทางการตลาดดา้ นการส่งเสรมิ การตลาด ในดา้ น การมกี ารพฒั นาในรูปแบบทวั รเ์ สมอื นจรงิ (Virtual Tour) หรอื ถา่ ยภาพสถานท่จี รงิ และนํามาสร้างในมติ ิ 360 องศาลงในเว็บไซต์ และการตัดสินใจเข้าเยยี่ มชมพพิ ิธภณั ฑ์ตําหนักสายสทุ ธานภดล มีความสัมพันธ์กันอยา่ งมนี ัยสาํ คญั การวเิ คราะหเ์ พอื่ ทดสอบความสัมพนั ธด์ า้ นสว่ นประสมทางการตลาดด้านการส่งเสริมการตลาด ในด้านการมีการพัฒนาของท่รี ะลกึ ทีเ่ ป็นสญั ลักษณ์ของพพิ ธิ ภัณฑ์ และการตดั สินใจเขา้เยย่ี มชมพิพธิ ภัณฑ์ตําหนกั สายสทุ ธานภดล โดยมสี มมตฐิ านเพ่อื การทดสอบดังน้ี Ho : ปจั จัยส่วนประสมทางการตลาดด้านการส่งเสรมิ การตลาด ในดา้ นการมกี ารพัฒนาของท่ีระลึกท่ีเปน็ สญั ลักษณข์ องพพิ ธิ ภณั ฑ์ และการตัดสินใจเข้าเยี่ยม ชมพิพธิ ภัณฑต์ าํ หนักสายสุทธานภด ลไมม่ ีความสัมพันธ์กนั H1 : ปัจจยั สว่ นประสมทางการตลาดด้านการสง่ เสรมิ การตลาด ในดา้ นการมีการพฒั นาของที่ระลึกท่ีเป็นสัญลักษณข์ องพพิ ธิ ภณั ฑ์ และการตัดสินใจเขา้ เยีย่ ม ชมพิพธิ ภณั ฑ์ตําหนักสายสุทธานภด ลมีความสมั พันธก์ ันอยา่ งมีนัยสาํ คญั www.ssru.ac.th

-202-ตารางที่ 4. 72 การทดสอบความสัมพันธ์ดา้ น ปจั จัยส่วนประสมทางการตลาดดา้ นการสง่ เสรมิการตลาด ในด้านการมกี ารพฒั นาของท่ีระลึกที่เป็นสัญลกั ษณข์ องพิพธิ ภณั ฑ์ และการตัดสินใจเข้าเย่ยี มชมพิพิธภณั ฑ์ตําหนกั สายสุทธานภดล Value df Asymp. Sig. (2-sided)สัมประสทิ ธิ์สหสัมพนั ธ์ 14.160(a) 6 0.028*เพยี รส์ นั (Pearson Chi- 13.210 6 0.040Square) 7.862 1 0.005อัตราส่วนความเป็นไปได้ 153(Likelihood Ratio)ความสมั พนั ธเ์ ชงิ เสน้(Linear-by-LinearAssociation)จาํ นวนตัวอย่าง (N ofValid Cases)* ระดบั นัยสําคัญทางสถติ ิ 0.05 จากตารางที่ 4 .72 พบว่า คา่ ท่ีไดจ้ ากการทดสอบสมมติฐานดว้ ย Chi-Square ท่มี รี ะดับนยั สําคัญทางสถติ ิที่ 0.05 มีคา่ Sig. เทา่ กบั 0.028 ซง่ึ น้อยกวา่ 0.05 จงึ ยอมรับสมมติฐานหลกั (H1)ซงึ่ หมายความวา่ ปัจจัย สว่ นประสมทางการตลาดดา้ นการส่งเสรมิ การตลาด ในด้านการมกี ารพัฒนาของท่รี ะลึกทเ่ี ปน็ สญั ลกั ษณ์ของพพิ ิธภณั ฑ์ และการตัดสนิ ใจเข้าเยย่ี ม ชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ตําหนักสายสทุ ธานภดล มีความสมั พันธก์ นั อย่างมนี ยั สาํ คัญ การวิเคราะห์เพอื่ ทดสอบความสมั พันธด์ ้านสว่ นประสมทางการตลาดดา้ นการสง่ เสริมการตลาด ในดา้ นการมี การจดั ทวั รต์ วั อยา่ งใหแ้ กอ่ งค์กรตา่ ง ๆ เพือ่ เชญิ ชวนให้มาเย่ยี มชม และการตดั สนิ ใจเข้าเย่ียมชมพิพิธภัณฑ์ตําหนกั สายสทุ ธานภดล โดยมีสมมตฐิ านเพอ่ื การทดสอบดงั นี้ www.ssru.ac.th

-203- Ho : ปัจจยั ส่วน ประสมทางการตลาดดา้ นการสง่ เสริมการตลาด ในด้านการมี การจัดทัวร์ตวั อยา่ งให้แกอ่ งค์กรต่าง ๆ เพือ่ เชิญชวนให้มาเยี่ยมชม และการตดั สนิ ใจเข้าเยย่ี ม ชมพพิ ิธภณั ฑ์ตาํ หนกั สายสทุ ธานภดล ไมม่ คี วามสัมพันธ์กัน H1 : ปจั จัยส่วนประสมทางการตลาดดา้ นการสง่ เสรมิ การตลาด ในด้านการมี การจดั ทัวร์ตวั อยา่ งให้แกอ่ งคก์ รตา่ ง ๆ เพือ่ เชญิ ชวนใหม้ าเยีย่ มชม และการตัดสนิ ใจเขา้ เยี่ยม ชมพพิ ิธภัณฑ์ตาํ หนักสายสทุ ธานภดล มีความสมั พนั ธก์ นั อย่างมนี ยั สําคญัตารางท่ี 4. 73 การทดสอบความสมั พันธ์ดา้ น ปจั จยั สว่ นประสมทางการตลาดด้านการสง่ เสรมิการตลาด ในดา้ นการมี การจัดทวั รต์ ัวอย่างให้แกอ่ งคก์ รตา่ ง ๆ เพือ่ เชิญชวนให้มาเย่ียมชม และการตดั สินใจเขา้ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑต์ าํ หนกั สายสุทธานภดล Value df Asymp. Sig. (2-sided)สมั ประสิทธ์ิสหสมั พนั ธ์ 23.536(a) 8 0.003*เพยี ร์สัน (Pearson Chi- 23.450 8 0.003Square) 9.489 1 0.002อัตราสว่ นความเป็นไปได้ 153(Likelihood Ratio)ความสมั พันธเ์ ชงิ เส้น(Linear-by-LinearAssociation)จํานวนตัวอยา่ ง (N ofValid Cases)* ระดับนยั สาํ คญั ทางสถติ ิ 0.05 จากตารางท่ี 4 .73 พบว่า คา่ ทีไ่ ด้จากการทดสอบสมมตฐิ านด้วย Chi-Square ทีม่ ีระดบันยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ ี่ 0.05 มคี ่า Sig. เท่ากบั 0.003 ซง่ึ นอ้ ยกวา่ 0.05 จงึ ยอมรับสมมติฐานหลัก ( H1)ซึ่งหมายความว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดดา้ นการส่งเสริมการตลาด ในดา้ นการมี การจัดทวั ร์ตวั อยา่ งให้แก่องคก์ รตา่ ง ๆ เพ่ือเชิญชวนใหม้ าเยยี่ มชม และการตดั สินใจเข้าเยี่ยม ชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ตําหนกั สายสทุ ธานภดล มคี วามสมั พนั ธ์กนั อย่างมนี ัยสําคัญ www.ssru.ac.th

-204- การวิเคราะห์เพ่ือ ทดสอบความสัมพันธ์ด้านส่วนประสมทางการตลาดดา้ นการส่งเสริมการตลาด ในด้าน การจัดสัมมนา หรอื การเสวนาทางวชิ าการ ท่เี กี่ยวข้องกับงานพพิ ธิ ภัณฑ์ และการตดั สนิ ใจเข้าเย่ียมชมพพิ ธิ ภัณฑต์ าํ หนกั สายสทุ ธานภดล โดยมสี มมตฐิ านเพอื่ การทดสอบดงั น้ี Ho : ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาดด้านการสง่ เสรมิ การตลาด ในด้าน การจัดสัมมนาหรอื การเสวนาทางวชิ าการ ที่เก่ยี วข้องกับงานพพิ ธิ ภณั ฑ์ และการตดั สินใจเข้าเยยี่ ม ชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ตาํ หนักสายสุทธานภดล ไมม่ ีความสมั พันธก์ นั H1 : ปัจจยั สว่ นประสมทางการตลาดดา้ นการส่งเสรมิ การตลาด ในด้านการจดั สัมมนาหรอื การเสวนาทางวิชาการ ทเี่ กี่ยวข้องกบั งานพิพิธภณั ฑ์ และการตดั สนิ ใจเขา้ เย่ียม ชมพิพิธภัณฑ์ตาํ หนกั สายสุทธานภดล มีความสมั พันธก์ ันอยา่ งมีนัยสาํ คัญตารางที่ 4. 74 การทดสอบความสัมพนั ธ์ด้าน ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาดด้านการส่งเสรมิการตลาด ในด้าน การจดั สัมมนา หรอื การเสวนาทางวิชาการ ทีเ่ กี่ยวข้องกับงานพพิ ธิ ภณั ฑ์ และการตดั สนิ ใจเข้าเยี่ยมชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ตาํ หนกั สายสุทธานภดลสมั ประสทิ ธิ์สหสมั พันธ์ Value df Asymp. Sig. (2-sided)เพยี ร์สัน (Pearson Chi- 33.415(a) 8 0.000*Square) 18.828 8 0.016อัตราส่วนความเปน็ ไปได้ 1 0.002(Likelihood Ratio) 9.932ความสัมพันธ์เชิงเส้น 153(Linear-by-LinearAssociation)จาํ นวนตวั อยา่ ง (N ofValid Cases) * ระดบั นยั สาํ คญั ทางสถติ ิ 0.05 www.ssru.ac.th

-205- จากตารางท่ี 4 .74 พบว่า คา่ ทีไ่ ด้จากการทดสอบสมมติฐานดว้ ย Chi-Square ทมี่ ีระดับนัยสําคญั ทางสถิติท่ี 0.05 มคี ่า Sig. เทา่ กับ 0.000 ซง่ึ น้อยกวา่ 0.05 จงึ ยอมรบั สมมตฐิ านหลกั ( H1)ซึง่ หมายความว่า ปัจจัย ส่วนประสมทางการตลาดด้านการส่งเสริมการตลาด ในด้าน การจดั สัมมนาหรอื การ เสวนาทางวชิ าการ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั งานพพิ ิธภัณฑ์ และการตดั สินใจเขา้ เย่ยี ม ชมพิพิธภณั ฑ์ตาํ หนักสายสทุ ธานภดล มีความสัมพนั ธก์ นั อยา่ งมีนยั สําคัญ www.ssru.ac.th

-206- บทท่ี 5 สรปุ ผลการวจิ ัย การอภิปราย และข้อเสนอแนะ5.1 สรุปผลการวิจัย 5.1.1 สรปุ ขอ้ มลู ดา้ นประชากรศาสตร์และพฤตกิ รรมการเท่ียว ในการศึกษาวิจัยครั้งน้ี ผลด้าน ประชากรศาสตร์ พบว่า จํานวนกลุ่มตัวอยา่ งมี ทั้งหมด 153 คน แยกเป็นเพศชายจาํ นวน 37 คน คดิ เป็นสดั สว่ นร้อยละ 24.2 ของจาํ นวน กล่มุ ตวั อยา่ งทง้ั หมด และเปน็ เพศหญงิ จาํ นวน 115 คน คดิ เป็นสัดสว่ นร้อยละ 75.2 อายขุ อง กลุม่ ตวั อยา่ งพบว่า ส่วนใหญเ่ ป็นกลมุ่ อายุ ระหวา่ งตํ่ากวา่ 20 – 20 ปี มจี ํานวน 100 คน คิด เปน็ สดั สว่ นร้อยละ 6 5.4 รองลงมาคอื กลมุ่ อายรุ ะหว่าง 21- 30 ปี มีจาํ นวน 23 คน คดิ เปน็ สดั สว่ นร้อยละ 15 ระดับการศึกษา พบว่ากลมุ่ ตัวอยา่ งมรี ะดบั การศึกษาในระดับปรญิ ญาตรี จํานวน 94 คน คิดเปน็ สดั ส่วนร้อยละ 61.4 รองลงมาคือ ระดบั ตาํ่ กว่าปริญญาตรี จํานวน 48 คน คดิ เป็นสดั สว่ นรอ้ ยละ 31.4 ในด้านระดบั รายได้เฉล่ยี ตอ่ เดอื นของกลุม่ ตวั อยา่ งพบว่า สว่ นใหญ่มีรายไดต้ ่อเดอื นอยู่ระหวา่ งนอ้ ยกวา่ 5,000 บาท – 5,000 บาท จาํ นวน 96 คน คิด เปน็ สัดสว่ นรอ้ ยละ 62.7 รองลงมา คอื ระหวา่ ง 5,001 บาท – 10,000 บาท จํานวน 27 คน คิดเปน็ สัดส่วนรอ้ ยละ 17.6 สว่ นใหญอ่ าศัยอยใู่ นกรุงเทพมหานคร มีจาํ นวน 114 คน คดิ เปน็ สัดสว่ นร้อยละ 74.5 และจงั หวัดนนทบรุ ี จํานวน 14 คน คิดเป็นสดั สว่ นรอ้ ยละ 9.2 จังหวัด อื่น ๆ มักเป็นจงั หวัดที่อยูใ่ กลก้ รุงเทพมหานคร ไดแ้ ก่ จังหวัดสมุทรปราการ นครปฐม สมุทรสาคร และอยธุ ยา ส่วนจงั หวัดอืน่ ๆ ทอี่ ยูไ่ กลกรงุ เทพมหานคร คืออยใู่ นภาคอน่ื ๆ เชน่ ภาคตะวันตก ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ คิดเปน็ สดั สว่ นทนี่ ้อยมาก ในดา้ นอาชีพ ของผตู้ อบแบบสอบถาม ส่วนใหญเ่ ป็นกลุ่มนกั ศึกษา มีจาํ นวน 120 คน คิดเป็นสดั ส่วนร้อย ละ 78.4 อาชีพอ่ืน ๆ ได้แก่ ครู อาจารย์ ข้าราชการ พนักงานรัฐวสิ าหกิจ พนักงานเอกชน เจ้าของกิจการ และอ่นื ๆ เช่น มัคคเุ ทศก์ แต่คดิ เปน็ สัดสว่ นที่น้อยมาก ในด้านพฤติกรรมการเทย่ี วพพิ ธิ ภณั ฑข์ องผ้ตู อบแบบสอบถาม ในดา้ นความถ่ีของ การเทีย่ วพพิ ธิ ภณั ฑ์ พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญ่ เทย่ี วพิพธิ ภณั ฑป์ ีละ 1 ครัง้ มี จํานวน 93 คน คิดเปน็ สัดสว่ นรอ้ ยละ 60.8 รองลงมา คือ 2- 3 คร้งั ต่อปี มจี าํ นวน 45 คน คิดเป็นสัดสว่ นร้อยละ 45 ช่องทางที่ผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่มกั ใชใ้ นการหาขอ้ มลู ใน การเทย่ี วพิพิธภัณฑ์ ได้แก่ เวบ็ ไซต์เกย่ี วกับพพิ ิธภณั ฑ์ มจี ํานวน 81 คน คดิ เปน็ สัดสว่ นรอ้ ย ละ 52.9 รองลงมาคือนติ ยสารหรือส่อื สิง่ พิมพ์อนื่ ๆ และการสอบถามจากคนอ่นื ๆ มจี าํ นวน ใกล้เคียงกัน คือ 55 คน และ 51 คน ตามลําดบั คดิ เป็นสัดส่วนรอ้ ยละ 64.1 และ 33.3 www.ssru.ac.th

-207-ตามลําดับ ผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ไมเ่ คยรูจ้ กั พิพธิ ภัณฑ์สายสทุ ธานภดลมาก่อน มีจํานวน 114 คน คดิ เป็นสดั สว่ นรอ้ ยละ 74.5 ในด้านการรบั ขอ้ มลู ขา่ วสารเก่ียวกับพิพิธภณั ฑ์สายสุทธานภดล พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญไ่ ด้รบั ขา่ วสารจากการประชาสัมพันธใ์ นเว็บไซต์ของมหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีจํานวน 60 คน คิดเปน็ สดั สว่ นร้อยละ 39.2รองลงมาคอื จากการบอกกลา่ วของคนรู้จกั มีจาํ นวน 58 คน คิดเป็นสดั ส่วนร้อยละ 37.9และจากการมาเยีย่ มเยอื นมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสุนนั ทา จํานวน 44 คน คดิ เปน็ สดั สว่ นร้อยละ 28.8 ส่วนวัตถปุ ระสงค์ในการเข้าเยยี่ มชมพิพิธภัณฑส์ ายสุทธานภดล พบว่า ผ้ตู อบแบบสอบถามสว่ นใหญเ่ ลือกตอบวตั ถุประสงคด์ ้านการมาดงู านมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสุนันทา มีจาํ นวน 56 คน คดิ เป็นสัดส่วนร้อยละ 36.6 รองลงมาคอื มาฟงั บรรยายและการสัมมนาท่ีมหาวทิ ยาลยั จดั มีจาํ นวน 46 คน คดิ เปน็ สัดสว่ นรอ้ ยละ 30.1 รองลงมาคือต้งั ใจมาเย่ยี มชมพพิ ิธภัณฑ์สายสทุ ธานภดลและมาเพอื่ ศกึ ษาขอ้ มลู เกยี่ วกบั ประวตั ิศาสตร์ ศลิ ปะและวัฒนธรรม มจี ํานวน 39 คนทั้งสองวตั ถปุ ระสงค์ คดิ เปน็ สดั สว่ นร้อยละ 25 ในดา้ นความคดิ เหน็ ด้านการพัฒนาพิพิธภณั ฑ์ พบวา่ ในการพฒั นาแตล่ ะดา้ น ผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่ใหค้ วามคิดเหน็ ใหม้ ีการพฒั นาสิ่งต่อไปน้ี ได้แก่ การมีที่น่ังพักผ่อน มีจํานวน 87 คน จากจํานวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 153 คน คดิ เปน็ สัดสว่ นรอ้ ยละ 56.9ภัตตาคารอาหารชาววัง จาํ นวน 86 คน จากจํานวนผูต้ อบแบบสอบถาม 153 คน คิดเป็นสัดสว่ นรอ้ ยละ 56.2 รา้ นขายของทีร่ ะลกึ ท่เี ชือ่ มโยงกบั พพิ ิธภณั ฑ์ มจี ํานวน 77 คน จากจาํ นวนผตู้ อบแบบสอบถามทง้ั หมด 153 คน คิดเป็นสัดสว่ นร้อยละ 50.3 ส่วนอ่ืน ๆ มีผูเ้ ลอื กให้พัฒนาในจาํ นวนทนี่ ้อยลงไป อนั ได้แก่ การจัดแสดงแสงสเี สียง /นิทรรศการหมุนเวียน /ละคร รา้ นกาแฟเครือ่ งดื่มใกล้ตวั ตําหนัก การบริการที่จอดรถ การบริการชดุ แตง่ กายสาวชาววงั สมยั รัตนโกสนิ ทรแ์ ละถ่ายรปู และการบริการจากมัคคุเทศกห์ รือยุวมัคคุเทศก์ โดยทส่ี งิ่ ท่ีเลอื กให้มกี ารพฒั นาเป็นอันดับสุดท้าย คอื การพฒั นาการเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเท่ยี วอ่ืนที่มีอยใู่ กล้เคียง ในดา้ น การตัดสินใจกลับมาเทยี่ วอีกครงั้ พบว่า หากมกี ารพฒั นาพพิ ธิ ภัณฑส์ ายสทุ ธานภดล ผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญ่จะกลบั มาเท่ียวอีก มีจํานวน 121 คน คดิ เป็นสัดส่วนร้อยละ 79.1 หากมกี ารเก็บคา่ ธรรมเนยี มเข้าชม พบว่าส่วนใหญ่ยงั กลบั มาเขา้ ชม มีจํานวน 72 คน คดิ เป็นสัดส่วนรอ้ ยละ 47.1 แต่กม็ จี าํ นวนถึง 54 คน คิดเปน็ สัดส่วนรอ้ ยละ35.3 ที่ยังไมแ่ นใ่ จว่าจะกลบั มาเท่ยี วอกี ครัง้ หรือไมห่ ากมีการเกบ็ คา่ เข้าชม อยา่ งไรกต็ ามคําถามว่าผู้ตอบแบบสอบถามจะกลบั มาเที่ยวอีกครัง้ หรอื ไม่ พบว่า สว่ นใหญจ่ ะกลับมาเท่ยี วอกี ครัง้ มจี าํ นวน 103 คน คิดเปน็ สัดสว่ นร้อยละ 67.3 และจะแนะนาํ ให้คนร้จู กั มาเทย่ี ว มีจํานวน 142 คน คดิ เปน็ สดั สว่ นร้อยละ 92.8 www.ssru.ac.th

-208- ในด้านความสําคญั ของปจั จัยส่วนประสมทางการตลาดของพพิ ิธภณั ฑส์ ายสุทธานภดล ท่มี ีอทิ ธพิ ลตอ่ การตัดสินใจเข้าเย่ียมชมพิพธิ ภัณฑ์ พบวา่ ปจั จัยสว่ นประสมทางการตลาดทกุ ดา้ นมีระดับความสาํ คญั ในระดบั มาก แตห่ ากเรยี งลาํ ดับความสําคัญตามค่าเฉลี่ยจากมากไปหานอ้ ย พบวา่ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดด้านการสง่ เสริมการตลาด มคี วามสาํ คัญเป็นลาํ ดบั ที่ 1 ปจั จัยส่วนประสมทางการตลาดด้านราคา มีความสาํ คัญเปน็ ลาํ ดบั ท่ี 2 ปจั จยัส่วนประสมทางการตลาดด้านผลติ ภัณฑ์ มคี วามสําคญั เปน็ ลาํ ดบั ที่ 3 และ ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาดด้านช่องทางการจดั จําหนา่ ย มคี วามสาํ คญั เปน็ ลาํ ดับท่ี 4 ในดา้ นความสําคญั ของปจั จยั ส่วนประสมทางการตลาดของพพิ ธิ ภณั ฑส์ ายสทุ ธานภดลทม่ี อี ทิ ธิพลต่อการตัดสินใจเข้าเยยี่ มชมพิพิธภณั ฑ์ แยกตามแตล่ ะสว่ นประสมทางการตลาด พบว่า ส่วนประสมทางการตลาดดา้ นผลติ ภัณฑ์ 10 ปัจจัย พบว่า ปัจจยั ท่ีมีความสาํ คญั 5 ลาํ ดบั แรก ได้แก่ ลาํ ดบั ที่ 1 ไดแ้ ก่ สถาปัตยกรรมตาํ หนักสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ลาํ ดบั ที่ 2 ไดแ้ ก่ ความมชี อื่ เสยี งที่เปน็ วงั เก่าแก่ ลาํ ดับที่ 3 ไดแ้ ก่ ความมีช่ือเสยี งของมหาวิทยาลัย ลําดบั ท่ี 4 ได้แก่ ความมีช่อื เสยี งในดา้ นการพัฒนาตํารบั อาหารชาววัง และลาํ ดับที่ 5 ได้แก่ ความมีชือ่ เสยี งด้านการอบรมศลิ ปะและวัฒนธรรมไทย สว่ นประสมทางการตลาดด้านราคา 4 ปจั จยั พบวา่ ปจั จัยที่มคี วามสาํ คญั ลาํ ดบั ท่ี 1 ไดแ้ ก่ การเปิดเขา้ ชมโดยไมเ่ สียคา่ ใช้จ่าย และลาํ ดับที่ 2 ได้แก่ ความคุม้ คา่ ของการใชจ้ า่ ยเพื่อมาเท่ียวพิพิธภัณฑน์ ้ีสว่ นประสมทางการตลาดดา้ นชอ่ งทางการจดั จาํ หนา่ ย 11 ปัจจยั พบวา่ ปัจจยั ทม่ี ีความสําคัญ 5 ลาํ ดับแรก ไดแ้ ก่ ลําดับที่ 1 ไดแ้ ก่ การท่ีพิพธิ ภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้สถานทรี่ าชการสาํ คัญอื่น ๆ ลําดับท่ี 2 ไดแ้ ก่ การที่พิพธิ ภณั ฑ์ต้งั อย่ใู จกลางเมอื งกรุงเทพ ลําดับที่ 3 ได้แก่การมคี วามเช่อื มโยงในการท่องเท่ียวอืน่ ๆ ลาํ ดบั ท่ี 4 ได้แก่ ความสะดวกในการเดินทางมาโดยรถประจาํ ทาง และลําดับที่ 5 ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ของมหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสุนนั ทา ส่วนประสมทางการตลาดด้านการส่งเสริมการตลาด 9 ปัจจยั พบวา่ ปัจจัยท่ีมีความสําคญั 5 ลําดบั แรก ได้แกล่ าํ ดบั ท่ี 1 ไดแ้ ก่ การมโี ปรแกรมหรือแพ็คเกจร่วมกบัพระราชวังวิมานเมฆ ลําดับท่ี 2 ได้แก่ การพัฒนาของทรี่ ะลึกท่ีเป็นสญั ลักษณ์ของพิพธิ ภณั ฑ์ลําดบั ที่ 3 ได้แก่ การจดั งานเทศกาลประจําปภี ายในมหาวิทยาลยั ลาํ ดบั ที่ 4 ไดแ้ ก่ การจดัทัวรต์ ัวอยา่ งใหแ้ กอ่ งคก์ รตา่ ง ๆ เพอ่ื เชญิ ชวนใหม้ าเยี่ยมชมพพิ ธิ ภัณฑ์ และลาํ ดับท่ี 5 ได้แก่การจดั คอร์สอบรมเกี่ยวกับงานฝีมือในตาํ หนัก www.ssru.ac.th

-209-5.1.2 สรุปผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลเพอ่ื ทดสอบสมมุตฐิ าน 1) ผลการวิเคราะหส์ มมตุ ิฐานท่ี 1 การเ ปรยี บเทยี บ ความแตกตา่ งของ พฤติกรรมการตัดสนิ ใจเขา้ เย่ยี มชม พิพธิ ภัณฑต์ าํ หนกั สายสทุ ธานภดลในวงั สวนสุนันทา ด้านความถีใ่ นการเท่ียว พิพิธภัณฑ์ ด้านชอ่ งทางการหาข้อมูลเกี่ยวกับพิพิธภณั ฑ์ ดา้ นการรบั ขอ้ มูลข่าวสาร เกี่ยวกบั พพิ ิธภณั ฑ์สายสุทธานภดล ดา้ นวัตถปุ ระสงค์ในการเขา้ เยี่ยมชมพพิ ิธภัณฑ์ สายสุทธานภดล ดา้ นการตัดสนิ ใจมาเทย่ี วอกี หากมกี ารพฒั นาพิพิธภัณฑ์ ดา้ นการ ตดั สนิ ใจมาเทยี่ วอีกหากมีการเก็บคา่ ธรรมเนียมเข้าชม ด้านการกลับมาเทย่ี ว พิพิธภัณฑ์นอี้ กี ครั้ง และด้านการแนะนาํ ใหผ้ ูท้ รี่ ู้จักใหม้ าเทย่ี วพิพธิ ภัณฑ์ โดยจาํ แนก ตามเพศ จากการทดสอบสมมติฐานดว้ ย t-test เพอื่ เปรียบเทยี บความแตกตา่ งของ พฤตกิ รรมการตดั สินใจเขา้ เยี่ยมชมพพิ ิธภัณฑต์ ําหนกั สายสทุ ธานภดลในวังสวนสุนัน ทา จําแนกตามเพศ พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามเพศชายและเพศหญงิ มคี วาม แตกตา่ งกันในดา้ นพฤติกรรมการรบั ข่าวสารเก่ยี วกับพิพิธภัณฑ์สายสุทธานภดล โดย ปจั จยั ท่ีแตกต่างกันคอื การรับข่าวสารการประชาสมั พันธใ์ นสื่อส่ิงพมิ พ์ และจากการ มาเยยี่ มเยือนมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ผ้ตู อบแบบสอบถามเพศชายและเพศหญิง มี ความแตกตา่ งกนั ในด้านวตั ถุประสงค์ในการเขา้ เยย่ี มชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ โดยปัจจัยที่ แตกต่างกนั คือ การมาฟงั บรรยายและการสมั มนาท่ีมหาวทิ ยาลัยจดั การมาเพ่ือ ศกึ ษาหาข้อมลู เก่ยี วกับประวตั ศิ าสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรม และการมาถ่ายภาพ อดั วดิ ิโอ รายการโทรทศั นห์ รอื ภาพยนตร์ และอืน่ ๆ นอกจากน้ี ในการตดั สนิ ใจมาเท่ยี ว อีกคร้ังหากมีการเก็บคา่ ธรรมเนียมเขา้ ชม พบวา่ มคี วามแตกตา่ งระหว่างผู้ตอบ แบบสอบถามเพศชายและเพศหญิง 2) ผลการวเิ คราะหส์ มมุติฐานท่ี 2 การเ ปรยี บเทยี บ ความแตกตา่ งของ พฤตกิ รรมการตัดสินใจเขา้ เยย่ี มชม พิพธิ ภัณฑ์ตําหนกั สายสุทธานภดลในวงั สวนสุนันทา ดา้ นความถใี่ นการเทีย่ ว พิพิธภัณฑ์ ด้านช่องทางการหาข้อมลู เกย่ี วกบั พิพธิ ภัณฑ์ ดา้ น การรบั ข้อมูลข่าวสาร เกยี่ วกบั พิพธิ ภัณฑ์สายสุทธานภดล ด้านวัตถปุ ระสงค์ในการเขา้ เย่ยี มชมพิพธิ ภณั ฑ์ สายสทุ ธานภดล ด้านการตัดสนิ ใจมาเทยี่ วอีกหากมีการพัฒนาพพิ ธิ ภัณฑ์ ดา้ นการ ตัดสนิ ใจมาเท่ยี วอีกหากมกี ารเกบ็ ค่าธรรมเนียมเข้าชม ดา้ นการกลับมาเท่ียว www.ssru.ac.th

-210-พพิ ิธภัณฑน์ ี้อีกคร้ัง และด้านการแนะนาํ ใหผ้ ู้ทรี่ ูจ้ กั ใหม้ าเทย่ี วพพิ ธิ ภัณฑ์ โดยจาํ แนกตามอายุ จากการทดสอบสมมตฐิ านด้วย One Way ANOVA: F- test เพ่อืเปรยี บเทียบความแตกตา่ งของพฤติกรรมการตัดสินใจเขา้ เย่ียมชมพพิ ธิ ภัณฑต์ ําหนักสายสทุ ธานภดลในวังสวนสุนันทา จําแนกตามอายุ 5 กลุ่ม พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามท่ีอยใู่ นกลุ่มอายทุ ่ีแตกต่างกนั มี พฤตกิ รรมการเท่ยี วพิพธิ ภณั ฑแ์ ตกต่างกนั ในด้านความถี่ของการเทีย่ ว ในด้านการหาขอ้ มลู เท่ียวพิพธิ ภณั ฑ์ โดยปัจจยั ที่แตกตา่ งกัน คอื การหาขอ้ มูลจากเว็บไซตด์ ้านการศกึ ษา การหาขอ้ มลู จากการสอบถามจากคนอื่น ๆ และการหาข้อมลู จากช่องทางอื่น ๆ ในดา้ นการรบั ขอ้ มลูเกี่ยวกับพิพธิ ภณั ฑ์ พบว่าปจั จยั ท่ีแตกต่างกนั คอื การรับขา่ วสารจากการมาเยี่ยมเยอื นมหาวทิ ยาลยั นอกจากนี้ ในดา้ นวตั ถปุ ระสงคก์ ารมาเยีย่ มชม พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่อยใู่ นกล่มุ อายทุ ีแ่ ตกตา่ งกัน มคี วามแตกต่างกันในดา้ นวตั ถปุ ระสงค์การมาเพอ่ื ฟงั บรรยายและการสมั มนาทมี่ หาวิทยาลยั จดั และการมาเข้าคอร์สอบรมงานฝีมอื ในด้านการตดั สนิ ใจมาเท่ยี วอกี ครัง้ พบวา่ ผูต้ อบแบบสอบถามทีอ่ ยู่ในกลุ่มอายุที่แตกตา่ งกัน มีความแตกต่างกนั ในพฤตกิ รรมการตัดสนิ ใจมาเที่ยวซา้ํ การตดั สินใจมาเทยี่ วหากมกี ารพฒั นาพพิ ธิ ภัณฑ์ และหากมีการเกบ็ ค่าธรรมเนียมเขา้ ชม3) ผลการวเิ คราะห์สมมุตฐิ านท่ี 3 การเ ปรยี บเทียบ ความแตกตา่ งของ พฤตกิ รรมการตดั สินใจเข้าเย่ียมชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ตําหนกั สายสทุ ธานภดลในวงั สวนสุนนั ทา ดา้ นความถ่ีในการเท่ยี วพพิ ธิ ภัณฑ์ ดา้ นช่องทางการหาขอ้ มลู เกี่ยวกับพิพธิ ภณั ฑ์ ด้าน การรับขอ้ มลู ข่าวสารเกย่ี วกับพพิ ิธภัณฑส์ ายสุทธานภดล ด้านวัตถปุ ระสงคใ์ นการเข้าเย่ียมชมพิพธิ ภณั ฑ์สายสุทธานภดล ด้านการตดั สนิ ใจมาเทย่ี วอกี หากมกี ารพัฒนาพิพิธภัณฑ์ ดา้ นการตัดสนิ ใจมาเที่ยวอีกหากมกี ารเกบ็ คา่ ธรรมเนยี มเขา้ ชม ดา้ นการกลับมาเท่ียวพิพธิ ภณั ฑน์ อี้ กี ครง้ั และด้านการแนะนําใหผ้ ู้ท่รี จู้ ักให้มาเทยี่ วพิพิธภณั ฑ์ โดยจาํ แนกตามระดับการศกึ ษา จากการทดสอบสมมติฐานดว้ ย One Way ANOVA: F- test เพอ่ืเปรียบเทยี บความแตกต่างของพฤติกรรมการตัดสนิ ใจเขา้ เยีย่ มชมพพิ ิธภัณฑต์ าํ หนกัสายสทุ ธานภดลในวังสวนสนุ ันทา จําแนกตามระดับการศกึ ษา 3 กลมุ่ พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามทมี่ รี ะดับการศึกษา ทีแ่ ตกต่างกนั มี พฤตกิ รรมการเที่ยวพิพิธภัณฑ์ www.ssru.ac.th

-211-แตกตา่ งกันในดา้ นการรับขา่ วสารจากการมาเย่ียมเยอื นมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ในดา้ นวัตถุประสงค์การมาเยี่ยมชม พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามทมี่ ีระดบั การศึกษา ที่แตกตา่ งกนั มีความแตกต่างกนั ในดา้ นวตั ถปุ ระสงค์การมาเพ่อื ฟงั บรรยายและการสัมมนาทีม่ หาวทิ ยาลยั จดั ในด้านการตดั สินใจมาเท่ยี วอกี ครั้ง พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดบั การศึกษา ทแ่ี ตกตา่ งกัน มคี วามแตกต่างกนั ในพฤตกิ รรมการตัดสินใจมาเที่ยวซ้าํ4) ผลการวิเคราะหส์ มมตุ ิฐานท่ี 4 การเ ปรียบเทียบ ความแตกตา่ งของ พฤติกรรมการตดั สนิ ใจเข้าเยยี่ มชมพพิ ธิ ภัณฑต์ าํ หนักสายสทุ ธานภดลในวังสวนสนุ นั ทา ดา้ นความถ่ใี นการเท่ียวพพิ ธิ ภณั ฑ์ ดา้ นชอ่ งทางการหาข้อมลู เกีย่ วกบั พพิ ธิ ภัณฑ์ ดา้ น การรบั ข้อมลู ข่าวสารเกีย่ วกับพพิ ิธภัณฑ์สายสุทธานภดล ดา้ นวัตถุประสงค์ในการเขา้ เยีย่ มชมพพิ ธิ ภัณฑ์สายสุทธานภดล ด้านการตัดสนิ ใจมาเที่ยวอกี หากมีการพฒั นาพพิ ิธภณั ฑ์ ดา้ นการตัดสนิ ใจมาเท่ียวอีกหากมกี ารเก็บคา่ ธรรมเนียมเข้าชม ดา้ นการกลับมาเทีย่ วพพิ ธิ ภัณฑ์นี้อีกครง้ั และดา้ นการแนะนําให้ผทู้ รี่ ้จู กั ใหม้ าเทยี่ วพพิ ิธภัณฑ์ โดยจาํ แนกตามระดบั รายได้ จากการทดสอบสมมติฐานด้วย One Way ANOVA: F- test เพือ่เปรียบเทียบความแตกต่างของพฤตกิ รรมการตดั สินใจเขา้ เย่ยี มชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ตําหนักสายสุทธานภดลในวงั สวนสนุ ันทา จาํ แนกตามระดับรายได้ 6 กล่มุ พบว่า ผตู้ อบแบบสอบถามที่มีระดับรายได้ ทแี่ ตกตา่ งกันมีพฤตกิ รรมการเทย่ี วพพิ ธิ ภณั ฑแ์ ตกตา่ งกันในด้านความถ่ขี องการเที่ยว ในดา้ นการหาข้อมลู เทีย่ วพิพิธภัณฑ์ โดยปจั จยั ท่ีแตกตา่ งกัน คอื การหาข้อมลู จากช่องทางอน่ื ๆ ในดา้ นการรับขอ้ มลู เกยี่ วกบัพพิ ิธภณั ฑ์ พบวา่ ปัจจยั ที่แตกต่างกัน คือ การรับข่าวสารจากการมาเยยี่ มเยือนมหาวทิ ยาลยั นอกจากน้ี ในด้านวัตถปุ ระสงค์การมาเยีย่ มชม พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามทมี่ ีระดับรายได้ ทแ่ี ตกตา่ งกนั มี วัตถปุ ระสงคก์ ารเทย่ี วพพิ ธิ ภณั ฑ์แตกตา่ งกัน โดยปัจจยั ทแ่ี ตกตา่ งกัน คือ การมาเขา้ คอรส์ อบรมงานฝีมอื และการมาศกึ ษาข้อมูลประวัติศาสตร์ ศิลปะและวฒั นธรรม นอกจากน้ี พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีระดับรายได้ ท่ีแตกต่างกัน มคี วามแตกต่างกนั ในพฤติกรรมการตัดสนิ ใจมาเทีย่ วอกี ครัง้ หากมีการเก็บคา่ ธรรมเนียมเข้าชม www.ssru.ac.th

-212-5) ผลการวิเคราะหส์ มมุตฐิ านที่ 5 การเปรยี บเทียบความสมั พนั ธ์ของ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ของพิพธิ ภัณฑ์สายสุทธานภดลดา้ นผลิตภณั ฑ์และการตัดสินใจเขา้ เยยี่ มชม พพิ ิธภณั ฑ์สายสุทธานภดล โดยมสี มมติฐานว่า มีส่วนประสมด้านผลิตภัณฑ์ อยา่ งนอ้ ย 1 ตวั มีความสมั พนั ธ์กันอย่างมนี ยั สําคญั กบั พฤตกิ รรมการตัดสินใจมาเยีย่ มชมพพิ ธิ ภัณฑ์ตําหนักสายสุทธานภดลในวังสวนสนุ นั ทา จากการทดสอบสมมติฐานด้วย Chi Square เพื่อทดสอบความสมั พนั ธ์ของปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาด ของพพิ ิธภัณฑส์ ายสุทธานภดลด้านผลติ ภัณฑแ์ ละการตดั สินใจเข้าเยย่ี มชม พพิ ธิ ภณั ฑส์ ายสุทธานภด ล พบว่า สว่ นประสมทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ 4 ตัว มคี วามสมั พันธ์อยา่ งมีนัยสาํ คัญกบั พฤตกิ รรมการตัดสินใจมาเย่ียมชม พิพธิ ภณั ฑต์ าํ หนักสายสุทธานภดลในวั งสวนสุนันทา โดยส่วนประสมทางการตลาดดา้ นผลิตภณั ฑ์ทพ่ี บวา่ มคี วามสมั พันธอ์ ยา่ งมนี ยั สาํ คญั กบัพฤติกรรมการตดั สินใจมาเยยี่ มชม พิพธิ ภณั ฑ์ตําหนกั สายสุทธานภดลในวั งสวนสนุ ันทา ได้แก่ (1) ดา้ นวทิ ยากรนําชมของพพิ ธิ ภณั ฑ์ที่มีความรู้และตอบคาํ ถามได้ (2) ความมีชอื่ เสยี งของพิพธิ ภณั ฑใ์ นดา้ นการอบรมเก่ียวกบั ศิลปะและ วัฒนธรรมไทย (3) ความมีชอื่ เสียงของพพิ ิธภัณฑ์ในฐานท่ีเคยเป็นวงั เก่าแก่ (4) ความมชี อื่ เสยี งดา้ นการพฒั นาตํารบั อาหารชาววงั6) ผลการวิเคราะห์สมมุตฐิ านท่ี 6 การเปรยี บเทียบความสมั พันธข์ อง ปัจจยั สว่ นประสมทางการตลาด ของพิพิธภณั ฑ์สายสทุ ธานภดลด้านราคาและการตดั สนิ ใจเข้าเยีย่ มชม พิพธิ ภัณฑ์สายสทุ ธานภด ล โดยมสี มมติฐานว่า มีสว่ นประสมด้านราคา อยา่ งน้อย 1 ตวั มีความสัมพนั ธ์กันอยา่ งมนี ัยสําคญั กบั พฤติกรรมการตดั สินใจมาเยย่ี มชมพิพิธภัณฑ์ตําหนักสายสุทธานภดลในวังสวนสุนันทา จากการทดสอบสมมตฐิ านด้วย Chi Square เพอ่ื ทดสอบความสมั พนั ธข์ องปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาด ของพิพิธภัณฑส์ ายสทุ ธานภดลดา้ นราคาและการตดั สนิ ใจเข้าเยีย่ มชม พิพธิ ภัณฑส์ ายสุทธานภด ล พบวา่ สว่ นประสมทางการตลาด www.ssru.ac.th

-213-ด้านราคาทุกตัวไม่มคี วามสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตดั สนิ ใจมาเยี่ยมชม พิพิธภณั ฑ์ตําหนักสายสุทธานภดลในวังสวนสนุ ันทา7) ผลการวเิ คราะห์สมมตุ ิฐานท่ี 7 การเปรยี บเทียบความสัมพันธ์ของ ปจั จัยสว่ นประสมทางการตลาด ของพิพธิ ภณั ฑส์ ายสุทธานภดลดา้ นช่องทางการจดั จาํ หน่ายและการตัดสินใจเข้าเยยี่ มชมพพิ ธิ ภัณฑ์สายสุทธานภด ล โดยมีสมมตฐิ านว่า มีสว่ นประสมด้านชอ่ งทางการจดัจาํ หน่าย อยา่ งนอ้ ย 1 ตวั มคี วามสมั พันธ์กันอยา่ งมีนัยสาํ คัญกับ พฤติกรรมการตัดสินใจมาเยยี่ มชมพพิ ิธภัณฑ์ตาํ หนักสายสุทธานภดลในวังสวนสุนนั ทา จากการทดสอบสมมตฐิ านดว้ ย Chi Square เพ่อื ทดสอบความสมั พนั ธข์ องปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาด ของพิพิธภัณฑ์สายสทุ ธานภดลดา้ นชอ่ งทางการจัดจําหน่ายและการตัดสินใจเข้าเยี่ยมชมพพิ ิธภัณฑ์สายสทุ ธานภดล พบว่า สว่ นประสมทางการตลาดด้านชอ่ งทางการจดั จาํ หนา่ ย 5 ตวั มคี วามสมั พนั ธ์อย่างมนี ยั สําคัญกบัพฤตกิ รรมการตัดสินใจมาเยยี่ มชม พิพธิ ภัณฑ์ตําหนกั สายสุทธานภดลในวั งสวนสนุ นัทา โดยส่วนประสมทางการตลาดดา้ นชอ่ งทางการจดั จาํ หนา่ ยที่พบว่ามีความสัมพันธอ์ ย่างมนี ัยสําคญั กบั พฤติกรรมการตดั สินใจมาเย่ยี มชม พพิ ธิ ภณั ฑ์ตาํ หนกั สายสทุ ธานภดลในวังสวนสนุ นั ทา ได้แก่ (1) การที่พิพิธภัณฑต์ ้ังอยใู่ นใจกลางเมอื งกรุงเทพ (2) การเชือ่ มโยงในการทอ่ งเทย่ี วอน่ื ๆ (3) ความสะดวกในการเดินทางมายงั พิพิธภัณฑโ์ ดยรถประจําทาง (4) ความสะดวกในการเดินทางมายงั พพิ ธิ ภัณฑโ์ ดยเรอื (5) การส่งจดหมายทางอีเมลล์เพื่อเชญิ เย่ียมชมพพิ ิธภัณฑ์ในโอกาสพิเศษ8) ผลการวเิ คราะหส์ มมุตฐิ านที่ 8 การเปรยี บเทียบความสัมพันธ์ของ ปจั จัยสว่ นประสมทางการตลาด ของพพิ ธิ ภณั ฑส์ ายสุทธานภดลด้านการส่งเสรมิ การตลาดและการตดั สินใจเขา้ เย่ียมชมพิพิธภัณฑ์สายสทุ ธานภด ล โดยมีสมมติฐานว่า มสี ว่ นประสมด้านการสง่ เสรมิการตลาด อยา่ งน้อย 1 ตวั มีความสัมพันธก์ นั อย่างมนี ยั สาํ คัญกับ พฤติกรรมการตัดสนิ ใจมาเยย่ี มชมพิพิธภณั ฑต์ าํ หนกั สายสทุ ธานภดลในวังสวนสนุ ันทา www.ssru.ac.th

-214- การทดสอบสมมติฐานด้วย Chi Square เพ่อื ทดสอบความสมั พนั ธข์ อง ปจั จัยสว่ นประสมทางการตลาด ของพิพธิ ภณั ฑส์ ายสทุ ธานภดลดา้ นการส่งเสรมิ การตลาดและการตัดสนิ ใจเข้าเยี่ยมชม พพิ ิธภณั ฑ์สายสทุ ธานภด ล พบวา่ สว่ น ประสมทางการตลาดด้านการส่งเสรมิ การตลาด 5 ตวั มคี วามสัมพันธอ์ ย่างมี นัยสําคญั กบั พฤติกรรมการตัดสนิ ใจมาเยย่ี มชมพิพิธภัณฑ์ตําหนกั สายสุทธานภดลใน วังสวนสนุ นั ทา โดยส่วนประสมทางการตลาดด้านการส่งเสริมการตลาดทพี่ บว่ามี ความสัมพนั ธ์อยา่ งมนี ัยสําคัญกบั พฤตกิ รรมการตดั สินใจมาเยยี่ มชม พิพธิ ภณั ฑ์ ตาํ หนักสายสทุ ธานภดลในวังสวนสุนันทา ได้แก่ (1) การจัดคอร์สอบรมเกีย่ วกบั งานฝีมอื ในตาํ หนกั (2) การพฒั นารูปแบบทัวร์เสมือนจรงิ (Virtual Tour) หรอื ถา่ ยภาพสถานที่จริง และนาํ มาสร้างในมติ ิ 360 องศา ลงในเวบ็ ไซต์ (3) การพัฒนาของทร่ี ะลึกทเ่ี ป็นสัญลกั ษณ์ของพิพิธภณั ฑ์ (4) การจดั ทวั รต์ ัวอย่างให้แก่องค์กรต่าง ๆ เพอื่ เชญิ ชวนให้มาเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ (5) การจดั สัมมนาหรือเสวนาทางวชิ าการท่เี กี่ยวข้องกบั งานพพิ ธิ ภณั ฑ์5.2 การอภปิ รายผลการวิจัย จาก การศึกษา พฤติกรรม และ การตดั สินใจเข้าเยีย่ มชมพิพธิ ภัณฑต์ าํ หนกั สาย สทุ ธานภดลในวังสวนสนุ นั ทาของนักท่องเท่ยี วชาวไทย และปัจจยั สว่ นประสมทางการตลาดที่ มีอิทธิพลตอ่ การตัดสินใจ พบว่า นกั ทอ่ งเท่ยี วชาวไทยส่วนใหญ่เป็นเพศหญงิ มากกว่าเพศชาย มีช่วงอายุตํา่ กวา่ 20 – 20 ปี มกี ารศกึ ษาอยใู่ นระดบั ปรญิ ญาตรี สว่ นใหญ่มรี ายได้เฉลยี่ ตอ่ เดือนนอ้ ยกวา่ 5,000 บาท – 5,000 บาท สว่ นใหญ่เป็นนักเรยี นและนกั ศกึ ษา และอาศยั อยู่ ในกรงุ เทพมหานคร จากผลการวเิ คราะห์ข้อมูลพบว่า ในกล่มุ คนที่มาเยยี่ มชมพพิ ิธภัณฑ์ ตําหนักสายสทุ ธานภดล เพศทแ่ี ตกตา่ งกันมพี ฤติกรรมและการตัดสนิ ใจเทย่ี วท่ีแตกต่างกัน สอดคลอ้ งกับงานวจิ ัยของฟอดเนส (Fodness, 1992) นโิ คลและสเนปเปนเกอร์ (Nichols and Snepenger, 1988) และของมายเยอรแ์ ละมอนเครียฟ (Myers and Moncrief, 1978) โดยเฉพาะอย่างย่ิงในดา้ นการหาข้อมูลท่องเทยี่ ว อยา่ งไรกต็ าม ในด้านความถ่ีในการเท่ียว งานวิจัยน้ใี หผ้ ลท่ีแตกตา่ งจากงานวิจยั ของ ศริ วิ รรณ (2551) ท่ีพบว่า นักท่องเที่ยวทีม่ ีเพศ แตกต่างกัน มผี ลต่อพฤติกรรมการท่องเทีย่ วดา้ นความถีใ่ นการเดนิ ทางมาทอ่ งเทีย่ ว แตกตา่ ง www.ssru.ac.th

-215-กัน อยา่ งมีระดบั นัยสาํ คัญทางสถิติ ขณะทงี่ านวิจยั ชิ้นน้ี พบว่า เพศทต่ี า่ งกนั ไมม่ ีความแตกตา่ งกันในดา้ นความถีใ่ นการเทีย่ ว ในดา้ นอายุ งานวจิ ยั ชน้ิ นพ้ี บว่า นกั ท่ องเที่ยวทม่ี อี ายุที่แตกตา่ งกัน มีความแตกต่างกันในดา้ นความ ถใ่ี นการเท่ยี ว ซ่ึงสอดคล้องกบั ผลของงานวจิ ัยของศิรวิ รรณ (2551) ในดา้ นการให้ความสําคญั ของการพฒั นาพพิ ธิ ภัณฑ์ งานวิจยั แสดงให้เห็นวา่ ผู้เขา้ ชมพพิ ิธภัณฑ์ต้องการใหพ้ ฒั นาของทร่ี ะลกึ ซ่ึงตรงกบั งานของศิริพร (2552) และมหาวทิ ยาลัยราชภฏั ศรสี ะเกษ (2553) ทพี่ บว่า ผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญ่ ใหค้ วามสนใจในเรอื่ งของการซอ้ื สนิ คา้ ของที่ระลกึ เปน็ ส่วนมาก และมคี วามพึงพอใจต่อการซ้ือสนิ คา้ ของฝากของทรี่ ะลกึ สิง่ ท่นี ่าสนใจ คือ งานวจิ ยั แสดงใหเ้ หน็ ว่า ไมว่ ่าจะเปน็ นักท่องเทีย่ วคนไทยหรือตา่ งชาติ ต่างกต็ อ้ งการ บรรยากาศ ทร่ี ื่นรมย์ นา่ เดินเลน่ หรอื นั่งพกั ผ่อน ในพพิ ิธภัณฑ์ หรือบรเิ วณใกล้ ๆ เชน่ เดยี วกบั งานวจิ ัยของฮีรูซและซแี พ็ค (Heroux & Csipak, 2008) และของศิรจิ รรยาและคณะ (2553) โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคทเี่ ป็นเพศหญิงทม่ี กี ารตดั สินใจในการบริโภคท่อี ยู่บนพื้นฐานของความคมุ้ คา่ ของการจ่าย ซึง่ แสดงผลในงานวจิ ัยชิน้ น้ี และการตดั สนิ ใจของผหู้ ญงิ ทีเ่ ก่ียวข้องกับความบันเทงิ สนกุ สนาน และความแปลกใหม่ หรือการไปเทย่ี วเพ่ือพกั ผ่อนหรอื ผ่อนคลายเป็นหลัก สอดคล้องกับผลวจิ ัยท่กี ล่าวถงึ ความสมั พันธอ์ ย่างมีนยั สาํ คัญระหว่างการตดั สินใจเทย่ี วพิพธิ ภณั ฑก์ บั โอกาสในการได้รบั การอบรมงานฝมี ือ และการพฒั นารปู แบบทัวรเ์ สมอื นจริง (Virtual Tour) ซ่งึ ถือเปน็ จดุ ดึงดูดท่ีแปลกใหม่ และความตอ้ งการพ้ืนท่ีพักผ่อนใกล้บริเวณพิพิธภัณฑ์ นอกจากน้ี การพฒั นาวิทยากรนําชมของพิพธิ ภัณฑท์ ม่ี คี วามร้แู ละตอบคาํ ถามได้ ซงึ่ เปน็ ปจั จัยหนึ่งในส่วนประสมทางการตลาดดา้ นผลติ ภณั ฑ์ที่มีความสัมพนั ธอ์ ยา่ งมีนยั สําคญั กบั พฤติกรรมการตัดสินใจมาเยยี่ มชม พพิ ธิ ภัณฑ์ในงานวิจยั ช้นิ น้ี สอดคล้องกับ งานวจิ ัยของฮรี ูซและซแี พ็ค (Heroux & Csipak, 2008) ท่ีพบว่า นักท่องเที่ยวมคี วามเห็นวา่ นักภัณฑารักษ์ในพิพิธภณั ฑ์ ควรมี บคุ ลกิ ของความเป็นนกั วิชาการ การแต่งกาย และการให้ความรู้ รวมไปถงึ การต้ังใจฟงั คาํ ถามของผเู้ ข้าชมและตอบอย่างผรู้ ู้นัน้ และสอดคล้องกับงานวิจัยของศิริจรรยาและคณะ (2553) ทผี่ ู้ตอบแบบสอบถามใหค้ วามสําคญั กบั การบรกิ ารมัคคุเทศกห์ รือวิทยากรนาํ เทีย่ ว www.ssru.ac.th

-216-5.3 ข้อเสนอแนะในการพัฒนาสว่ นประสมทางการตลาดของพพิ ิธภัณฑต์ าหนกั สายสทุ ธานภ ดล จากผลการวิจยั พบวา่ การสง่ เสรมิ การตลาดเปน็ สว่ นประสมทางการตลาดที่ นักทอ่ งเทยี่ วให้ความสําคญั เป็นลาํ ดบั แรก โดยท่ีปัจจัยที่สําคัญหา้ อนั ดบั ต้น ๆ ในกลมุ่ น้ี ไดแ้ ก่ การทําโปรแกรมทัวร์หรือแพค็ เกจรว่ มกบั พระราชวงั วมิ านเมฆ การพัฒนาของที่ระลกึ ท่ี เป็นสญั ลกั ษณ์ของพพิ ิธภัณฑ์ การจัดงานเทศกาลประจาํ ปีของมหาวทิ ยาลัย การจัดทวั ร์ ตัวอยา่ งให้แก่องคก์ รเพ่อื เชิญชวนให้มาเย่ียมชม และการจัดคอร์ส อบรมเกยี่ วกับงานฝีมือใน ตาํ หนกั จากผลท่ีได้นี้ ทาํ ใหเ้ ห็นวา่ พิพธิ ภัณฑ์ตําหนกั สายสทุ ธานภดลควรมกี ารพัฒนาปจั จัย เหล่านี้ เนือ่ งจากมีผลกระทบโดยตรงตอ่ การพจิ ารณามาเยยี่ มชมของนักท่องเท่ียว ทัง้ นี้ พิพธิ ภณั ฑ์ตําหนกั สายสทุ ธานภดลมีจดุ แข็งอย่แู ล้วในด้านประวตั ิศาสตร์และวฒั นธรรม รัตนโกสนิ ทร์ และความเปน็ วงั ในมาก่อน ภาพลกั ษณข์ องตาํ หนกั ที่มีอยู่จะมีส่วนชว่ ยในการ ส่อื สารทางการตลาดให้นกั ทอ่ งเทย่ี วไดร้ ับรู้ อย่างไรก็ตาม พพิ ิธภัณฑ์อาจพิจารณาออกแบบ สว่ นประสมทางการตลาดตอ่ ไปน้ี ผลติ ภัณฑ์ (1) การจดั ทาํ โปรแกรมหรือการออกแบบเสน้ ทางนําชมภายในพพิ ธิ ภัณฑ์ โดยใช้หลักการ จดั ทําโปรแกรมนําเทีย่ วในธุรกจิ การทอ่ งเทีย่ ว เราไมส่ ามารถขายผลติ ภณั ฑ์ทางการ ท่องเท่ยี วน้ันอย่างแยกสว่ นได้ เนือ่ งจากผลติ ภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ ประสบการณ์ เปน็ การสรา้ งประสบการณใ์ หน้ ักทอ่ งเที่ยว พพิ ิธภณั ฑไ์ ม่ไดถ้ กู ตกี รอบว่า เป็นสถานทเ่ี ก็บสะสมของโบราณอยา่ งเดยี วอกี ตอ่ ไป แต่โจทยก์ ค็ อื พิพธิ ภัณฑ์จะ ออกแบบการนาํ เท่ยี วพพิ ธิ ภณั ฑ์อยา่ งไรทจี่ ะทําใหผ้ ู้มาเยี่ยมชมน้ัน สัมผสั และเรียนร้สู ่ิงท่ี พิพธิ ภัณฑ์ต้องการส่อื ความหมายไมใ่ ชก่ ารท่นี ักท่องเทีย่ วมาเดนิ ชมอย่างเดียว ดงั นั้น พพิ ธิ ภณั ฑ์สายสทุ ธานภดลควรออกแบบกจิ กรรมการนาํ เทีย่ วโดยเปิดโอกาสให้ นักทอ่ งเท่ียวได้มสี ่วนร่วมในการออกแบบประสบการณ์การเที่ยวพพิ ิธภณั ฑข์ องเขาเอง (Museum Co- Creation) และไดล้ งมือปฏิบตั ิสง่ิ ทเี่ ชื่อมโยงกบั เนือ้ หาสาระของ พพิ ธิ ภัณฑไ์ ด้ เชน่ การออกแบบการส่ือความหมายภายในพิพิธภัณฑ์ใหเ้ ปน็ ส่วนหนง่ึ ของ ความเป็นรัตนโกสินทร์ การออกแบบการส่อื ความหมายในพพิ ิธภณั ฑ์ให้เพิม่ ความสามารถในการเข้าถึงในด้านอารมณ์ (Emotional Accessibility) ของผ้เู ข้าชม พิพธิ ภณั ฑ์ตําหนักสายสทุ ธานภดล เปน็ พพิ ธิ ภณั ฑแ์ สดงเร่ืองราวในรัว้ ในวงั ในอดตี ดังนนั้ การจะทําให้พพิ ิธภณั ฑ์ประเภทนีเ้ ข้าถึงความเข้าใจ ความซาบซ้งึ สําหรับคนในยคุ www.ssru.ac.th

-217- สมัยปัจจุบันนั้น เปน็ เร่ืองทา้ ทายอยา่ งยิง่ แตเ่ ปน็ ความท้าทายที่มโี อกาสท่จี ะพฒั นาไป ได้ เนือ่ งจากยคุ สมัยได้นําพาเรามาจดุ ทศ่ี ลิ ปวัฒนธรรมเกา่ แกท่ ี่ลา้ํ คา่ และเคยถกู ละเลย ไดถ้ กู นํามาสร้างให้มีชวี ติ อีกครง้ั เพ่ือววิ ฒั ไปกบั ความโหยหาอดตี กาลของคนยุคปจั จบุ ัน ท่ีมชี วี ิตทเ่ี รง่ รบี นอกจากนี้ การพัฒนาการส่ือความหมายควรใหเ้ ช่ือมโยงกับพระราชวงั อ่นื ๆ ที่ใกลเ้ คยี ง การสรา้ งประสบการณ์ให้ผเู้ ท่ยี วชม อาจเป็นลกั ษณะการจดั โปรแกรม ฝึกอบรมต่าง ๆ ท่มี สี าระสาํ คญั ทเี่ ชื่อมโยงกับประวัติศาสตรข์ องพิพิธภัณฑ์ (2) การพัฒนา Museum Foyer หรือ ห้องโถงด้านหน้าก่อนเขา้ จุดแสดง พพิ ิธภณั ฑ์ โดย ควรนําเทคนิคการสร้างจดุ ที่ให้ภาพรวมของเนื้อหาสาระทพ่ี พิ ิธภัณฑต์ ้องการสื่อ ความหมาย (Big Picture) ซึง่ อาจเป็นบริเวณดา้ นลา่ งของตาํ หนกั Museum Foyer ทาํ หน้าท่เี ป็นทง้ั จดุ ต้อนรบั จุดเปดิ เรื่อง จดุ นัง่ พกั จุดที่ใหผ้ มู้ าเยี่ยมชมขอขอ้ มลู และจุดปิด เรือ่ งราวของพพิ ิธภัณฑ์ ดงั นนั้ พิพธิ ภัณฑต์ าํ หนักสายสทุ ธานภดลควรมกี ารปรบั พน้ื ที่ หรอื ขยายบางส่วนออกไปด้านขา้ งเพือ่ เพ่มิ พนื้ ที่สําหรับ Museum Foyer เพอ่ื เปิด เรอ่ื งราว จากนั้น จงึ ออกแบบเทคนิคสอื่ ความหมาย เพื่อนาํ ผ้ชู มเขา้ ส่เู นื้อหาหลกั ที่ เก่ียวข้องกบั ประวัติศาสตรเ์ ก่ียวกบั วถิ ชี ีวติ ของชาววงั ฝา่ ยใน และเรอื่ งราวของตัว ตาํ หนกั ที่เป็นท่ีอยู่อาศยั ของเจ้าจอมมารดาทด่ี ูแลการเรอื นฝ่ายใน รวมถงึ อาหารที่โดด เดน่ และภาพเขยี น หรือสงิ่ อน่ื ๆ ทเ่ี กย่ี วเนอื่ งกบั ผ้ทู อ่ี าศยั ในตําหนักน้ี อาจรวมถงึ สถาปัตยกรรมท่ีโดดเดน่ (3) การฝกึ อบรมเจ้าหนา้ ทีน่ ําชมทัง้ ภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยการฝกึ อบรมด้าน ทกั ษะการนาํ ชม การสอื่ ความหมาย และการส่อื สารโดยใช้ภาษาอังกฤษราคา พพิ ิธภณั ฑ์ตาํ หนกั สายสุทธานภดล ในขณะนี้ ยงั ไม่อาจท่ีจะเก็บค่าเข้าชมได้ เนือ่ งจากพพิ ธิ ภณั ฑ์ควรมกี ารพฒั นาให้มากกวา่ น้ี ในด้านการสรา้ งประสบการณ์ท่นี า่ ประทับใจให้แก่ผ้เู ขา้ ชม ซ่งึ ยงั ไม่โดดเดน่ เท่าทีค่ วร นอกจากนี้ ดว้ ยความเปน็ มหาวทิ ยาลัย พิพธิ ภณั ฑ์ทตี่ งั้ อยูใ่ นมหาวทิ ยาลัยจงึ ยังคงมีภาพลักษณข์ องการเปน็ แหล่งเรยี นรแู้ ละค้นคว้า ข้อมลู โดยไมค่ ิดคา่ ธรรมเนียม www.ssru.ac.th

-218-ชอ่ งทางการจดั จาหน่าย การปรับปรงุ เวบ็ ไซต์ของพิพธิ ภัณฑ์ให้น่าสนใจและมกี ารเพิ่มข้อมูล รวมถงึ ปรับข้อมลู ใหท้ ันเหตุการณ์ (updated content) เน่ืองจากผลการวจิ ยั พบว่า ผ้ตู อบแบบสอบถามส่วนใหญ่หาข้อมูลจากเว็บไซต์ เว็บไซตท์ ี่นาํ เสนอเรื่องราวตา่ ง ๆ ในพพิ ิธภัณฑ์ถือเปน็ ชอ่ งทางการจัดจาํ หนา่ ยสาํ หรับพพิ ธิ ภณั ฑ์อย่างหนึง่ (ชอ่ งทางการสื่อสารทางการตลาด )นอกเหนือจากการจดั นทิ รรศการหมุนเวียน และงานแสดง ต่าง ๆ เว็บไซตม์ บี ทบาทในการสือ่ สารทางการตลาดและบง่ บอกตัวตนของพพิ ิธภัณฑไ์ ดด้ ี เน่อื งจากสามารถตกแต่ง ปรับแตง่ดว้ ยสื่อดิจิตัล ภาพและเสยี ง และคาํ บรรยายต่าง ๆ นอกจากนี้ ยงั สามารถปรับเปล่ียนเนือ้ หาไดท้ ันกับความเปล่ียนแปลงตา่ ง ๆ รวมถึงกลุ่มตลาดท่ีหลากหลาย ปัจจุบัน มกี ารพฒั นาในรูปแบบทัวรเ์ สมอื นจรงิ (Virtual Tour) ทําให้คนเขา้ ไปดแู ละเห็นสง่ิ ต่าง ๆ ในพิพิธภัณฑ์เสมือนหนงึ่ วา่ ไดไ้ ปทัวรใ์ นพิพิธภัณฑจ์ ริง ๆ นอกจากน้ี เว็บไซต์มปี ระโยชนใ์ นด้านการส่งสารเกย่ี วกับการทาํ การสง่ เสรมิ การตลาดของพพิ ิธภณั ฑไ์ ด้อกี ด้วย การทปี่ ล่อยให้เวบ็ ไซต์กระด้าง(static page) ไมม่ กี ารเปล่ียนแปลง หรือนาน ๆ เปลยี่ นแปลงที เช่น หน้าโฮมเพจ(Homepage) กระด้าง เว็บไซตจ์ ะไมส่ ามารถข้นึ มาอยูใ่ นหนา้ ต้น ๆ ของเสริ ์ช เอ็นจิ้น(Search Engine) โดยเฉพาะเมื่อมคี นสืบคน้ พพิ ธิ ภัณฑต์ าํ หนกั สายสุทธานภดลนัน้ ถอื วา่ได้เปรียบหากมีการทาํ optimize คําสาํ คัญท่ีเกยี่ วข้องกบั พิพิธภัณฑ์ ทงั้ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เนอ่ื งจากคู่แขง่ น้อย ปัจจุบัน เม่ือลองสืบค้นดว้ ยคาํ ว่า “Museum Dusit”หรือหากใช้คาํ ว่า Museum old Bangkok หรอื Museum Rattanakosin หรอื royalmansion King Rama 5th จะข้ึนผลลพั ธ์เพยี งไม่กแี่ ห่ง เชน่ Museum of Siam, JimThompson Museum, Vimanmek Museum แตค่ ําตรง ๆ อยา่ ง Suan Sunandhapalace นั้นไดแ้ สดงผลไปยงั เวบ็ ไซต์ suansunandhapalace.net ในภาษาไทยนน้ั หากลองสืบคน้ ด้วยคาํ วา่ “วงั เก่าในกรงุ เทพ รชั กาลท่ี 5 ยา่ นดสุ ติ ” ผลท่ีแสดงนนั้ เป็นเว็บไซต์ดา้ นข่าว (manager.co.th) นอกจากนั้น ยังไมม่ ีในเว็บไซต์ท่ีเก่ียวขอ้ งโดยตรงกบั วงั เก่าและพพิ ธิ ภัณฑ์ ดงั นัน้ ทางผู้วจิ ัยแนะนําใหท้ างมหาวทิ ยาลยั หรอื สาํ นักศิลปะและวัฒนธรรมพิจารณาการพัฒนาเวบ็ ไซต์ท่สี วยงาม มเี น้ือหาที่ประกอบไปด้วยคําสาํ คญั ต่าง ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้องกับสิ่งท่ีพิพธิ ภณั ฑ์ต้องการนาํ เสนอหรือวางตาํ แหนง่ ทางการตลาด เช่น วังเกา่ สวนสนุ นั ทาพิพิธภณั ฑย์ า่ นดุสติ พพิ ธิ ภัณฑใ์ นเขตเกาะรัตนโกสินทร์ พิพธิ ภณั ฑต์ าํ รบั อาหารในวงั การใช้ชือ่ เฉพาะของบุคคลรว่ มกับชื่อหรือตําแหน่งที่คดิ ว่าคนจะใช้สืบค้น หรอื บางทคี นก็สบื คน้ ดว้ ยคาํ ทว่ั ไปท่กี วา้ ง ๆ เชน่ “เทยี่ ววังเก่า” หรือบางคนอาจตอ้ งการเรยี นหรือฝกึ การแกะสลกั การจัดดอกไม้ ทางสาํ นักศลิ ปะและวัฒนธรรมอาจตอ้ งเพิ่ม section นีเ้ ขา้ ไปในเว็บไซตแ์ ละoptimize คําสาํ คัญประเภท “ฝึกอบรม” หรอื “เวิร์คชอ็ ป” เชน่ “ฝกึ อบรมการจดั ดอกไม้ ” www.ssru.ac.th

-219-“เวริ ค์ ช็อปแกะสลกั ” เปน็ ตน้ นอกจากน้ี การจดั ทาํ โบรชวั รท์ ีส่ วยงาม ใชก้ ระดาษทด่ี ี ย่อมจงูใจให้คนท่ีมาเท่ียวได้เก็บไว้เปน็ ทร่ี ะลึกเพ่อื เผยแพรต่ อ่ ไปเมอ่ื มีโอกาสการสง่ เสรมิ การตลาด(1) การออกแบบเส้นทางการทอ่ งเท่ยี วระหว่างพพิ ธิ ภณั ฑ์ตาํ หนักสายสุทธานภดลกบั แหล่ง ทอ่ งเที่ยวในละแวกใกลเ้ คียงทมี่ ลี กั ษณะรว่ ม (Corbos and Popescu, 2011) เช่น การ สรา้ งธมี การทอ่ งเที่ยว เชน่ วัง/ตาํ หนกั ฝา่ ยในและแมน่ ้ํา การเทีย่ วทางเรือ การจัด food and wine tourism หรอื การทอ่ งเทยี่ วจบิ ไวนแ์ ละชมิ อาหารตาํ รบั ชาววงั และเรมิ่ ต้น การสอ่ื สารการตลาดดว้ ยการตดิ ตอ่ องคก์ รต่าง ๆ เข้าร่วมเท่ยี วใน ทวั ร์ตัวอย่างท่ีทาง มหาวิทยาลัยจดั เพือ่ เชญิ ชวนใหม้ าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์(2) การจดั งาน และเทศกาลตา่ ง ๆ เช่น การจัดเทศกาลอาหารตาํ รับชาววงั การจดั แถลง ข่าว การจัดงานฟังดนตรีแจส๊ ในสวน ท้ังนี้ งานหรือเทศกาลตอ้ งเชือ่ มโยงกบั การดึงผ้คู น เขา้ ไปเย่ียมชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ นอกจากนี้ การจัดงานเฉพาะกจิ เพือ่ จัดแสดงคอลเล็กช่ัน (Collection) ทพ่ี พิ ิธภณั ฑ์มี หรือทไี่ ด้รับบรจิ าคมาใหม่ (และสามารถหาท่มี าหรอื ประวัตไิ ด้) เพือ่ ให้ผสู้ อื่ ขา่ ว หรือผ้ทู ่ีสนใจเข้ารว่ มงาน พร้อมกบั มีการเสวนา นา่ จะเปน็ การส่งเสรมิ การตลาดพพิ ธิ ภัณฑ์ทน่ี ่าสนใจ (Corbos and Popescu, 2011) สว่ นการ เชิญผเู้ ขา้ ร่วมงานนนั้ ควรสง่ จดหมายเชิญกลมุ่ ทีม่ ีผลกระทบต่อการส่อื สารข่าวไปให้ กลมุ่ ทเี่ ราต้องการประชาสมั พันธพ์ พิ ธิ ภณั ฑต์ ําหนกั สายสุทธานภดล อย่างไรก็ตาม การ จดั งานเทศกาลตา่ ง ๆ ควรคํานึงถงึ ภาพลักษณ์ท่มี หาวทิ ยาลัยยงั คงต้องการรักษาไว้ มิ เช่นนัน้ การจัดงานเทศกาลทไ่ี ม่เขา้ กับบริบท การจัดขายของทขี่ ัดกับภาพลกั ษณ์ของ ตาํ หนกั อาจทําใหภ้ าพลกั ษณข์ องตาํ หนักบดิ เบือนไปและทําใหค้ ณุ คา่ ลดลงไปได้ นอกจากนี้แล้ว ตาํ หนักยังคงไม่สามารถสร้างตราสินค้า (Place Branding) ของการเปน็ พิพิธภณั ฑ์ตามที่มหาวทิ ยาลยั คาดหวงั ไว้(3) การพัฒนาของทร่ี ะลึกทีเ่ ชื่อมโยงกับความเป็นพิพธิ ภณั ฑส์ ายสทุ ธานภดล ทมี งาน พพิ ธิ ภณั ฑ์ตอ้ งรว่ มกนั คิดว่า พิพิธภัณฑ์กําลงั สือ่ อะไรหรือในภาษาการตลาด คือ พพิ ธิ ภัณฑก์ ําลังขายอะไร หรอื มอี ะไรเปน็ จุดขาย เพอ่ื ที่จะได้นาํ ส่งิ นไ้ี ปตอ่ ยอดการ พฒั นาสงิ่ ทจี่ บั ต้องไดใ้ ห้แก่นักท่องเทีย่ วติดตัวกลับไป เพอื่ ได้ระลกึ ถงึ หรอื จําภาพของ ความเปน็ พพิ ิธภัณฑ์สายสทุ ธานภดลได้ การพฒั นาของท่ีระลกึ เปน็ สว่ นหน่ึงของการ สรา้ งตราสนิ ค้าเช่นกัน www.ssru.ac.th

-220- อยา่ งไรก็ตาม การทพ่ี ิพธิ ภณั ฑ์จะสามารถดึงดดู นกั ทอ่ งเที่ยวใหเ้ ข้ามาเยีย่ มชมนน้ัปจั จัยสําคญั คือ พิพธิ ภณั ฑม์ อี ะไรเป็นจุดสนใจและน่าดึงดูด แนน่ อนวา่ ประวตั ศิ าสตร์น้ันย่อมมคี ณุ ค่าในตัวเอง แตเ่ นื่องจากกาลเวลา ทาํ ให้สิง่ ทีม่ ีคุณค่าเหลา่ นเ้ี ลอื นไป และไมอ่ าจเชอื่ มโยงกับคนในยุคปัจจุบนั ได้ ดังนน้ั จงึ เห็นได้วา่ พิพิธภัณฑด์ า้ นสังคมและวัฒนธรรมตา่ ง ๆ มีความพยายามท่ีจะออกแบบพพิ ธิ ภณั ฑ์และการนาํ ชมดว้ ยเทคนิคท่ีนา่ สนใจและเขา้ ถงึ ง่าย ผ่านเทคโนโลยที ี่ทันสมัย เพื่อเชอ่ื มโยงสง่ิ ท่เี ป็นประวตั ศิ าสตร์กบั นักท่องเทย่ี วหรอืผคู้ นในยุคปัจจบุ ัน นอกจากน้ี พพิ ิธภัณฑ์ยงั ทําหน้าท่เี ปน็ เสมือนสัญลักษณข์ องเมอื ง (Corbos andPopescu, 2011) กลา่ วอกี นยั หนึง่ พิพธิ ภณั ฑ์สายสุทธานภดลควรทาํ หนา้ ท่ีเชงิ สญั ลักษณ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสนุ ันทา ส่วนการจะเป็นสญั ลกั ษณใ์ นเชิงไหนน้ัน ย่อมอยู่ท่วี ่ามหาวิทยาลัยมคี วามประสงค์จะวางตําแหนง่ ของพพิ ธิ ภัณฑส์ ายสทุ ธานภดลอยา่ งไร อาจจะเป็นในเชิงของศิลปะและวัฒนธรรมของวังฝา่ ยใน การบา้ นการเรอื น หรอื ศนู ย์การเรียนรู้ศิลปะวฒั นธรรมรัตนโกสินทร์ เน่อื งจากสินคา้ ทางการทอ่ งเทย่ี วเป็นสนิ ค้าทจ่ี ับต้องไม่ได้ดังน้นั “ภาพ/ภาพลกั ษณ์” (Image) จึงมคี วามสาํ คญั กวา่ ความเปน็ จรงิ จากผลวจิ ัย พบวา่ภาพลกั ษณ์ของพพิ ิธภัณฑจ์ ะเปน็ ด้านตาํ รบั อาหารและงานฝมี ือ ดงั นนั้ การวางตาํ แหนง่ทางการตลาดของพพิ ิธภัณฑค์ วรตอกย้าํ ไปในดา้ นนี้ เพื่อให้ภาพลักษณน์ ีเ้ ดน่ ชัดขน้ึ และเปน็ ท่ีตระหนกั รู้ต่อผ้คู นภายนอก หากมองในมมุ ของการหารายได้ มหาวทิ ยาลยั อาจตอ้ งพฒั นาพิพิธภณั ฑ์ตําหนักสายสทุ ธานภดลใหส้ ามารถเป็นสถานทีใ่ ห้เช่าจัดรายการหรือถา่ ยทําละครหรอื ภาพยนต์ หรอืแม้แต่การพฒั นาของที่ระลกึ (Souvenirs) และใชช้ อ่ งทางอินเทอรเ์ น็ตจําหนา่ ยสนิ ค้าเหล่านี้รวมไปถึงการจดั เวริ ค์ ชอ็ ปทม่ี คี า่ ธรรมเนยี ม นีเ่ ป็นชอ่ งทางหนงึ่ ของการหารายได้ ในกรณที ่ีมหาวิทยาลยั เลือกทจี่ ะไม่เก็บคา่ เขา้ ชมพพิ ิธภณั ฑ์ ปจั จบุ ัน พิพิธภณั ฑก์ ลายเปน็ แหล่งทอ่ งเทย่ี วประเภทหน่ึง โดยเฉพาะพิพธิ ภณั ฑ์ที่ตัง้ อยใู่ นเมืองใหญ่ จงึ มีความเปน็ ไปไดข้ องการเปน็ ส่วนหนง่ึ ของประสบการณ์การทอ่ งเที่ยวในเมือง (Urban Tourism) และรองรบั การท่องเท่ียวเชงิ มรดกทางวัฒนธรรม (Cultural/Heritage Tourism) เม่ือถอื วา่ พพิ ธิ ภัณฑเ์ ป็นแหล่งทอ่ งเที่ยว นอกเหนอื จากความรู้และสาระทน่ี กั ท่องเทีย่ วจะได้รบั องคป์ ระกอบอีกอยา่ งหนึ่งทแี่ หล่งท่องเที่ยวตอ้ งมอบใหน้ ักทอ่ งเทยี่ วคอื ความรนื่ เรงิ และการพักผอ่ น เราจะสงั เกตได้ในปัจจุบันวา่ สนิ ค้าทางการทอ่ งเทีย่ วและบริการนน้ั มีความหลากหลายและตีความกวา้ งขึ้นไปทุกขณะ ทงั้ ผู้ประกอบการธรุ กจิ การท่องเทยี่ วและบริการ รวมถงึ องคก์ รดา้ นการจดั การการท่องเท่ยี ว ให้ความสาํ คัญกบั การตลาดเชิงอารมณเ์ ป็นอย่างมาก เพอื่ ให้ลกู ค้าหรอื นกั ทอ่ งเท่ียวมีความรู้สึกที่เชื่อมโยงกบั ตวั สินคา้ www.ssru.ac.th

-221-บริการ รวมถึงตราสนิ ค้า การท่องเทยี่ วไมใ่ ชอ่ ตุ สาหกรรมท่ีอยไู่ ดด้ ้วยตวั เอง สนิ ค้าทางการท่องเทย่ี ว หรอื แมแ้ ตส่ นิ ค้าอุปโภคทั่วไป ปัจจุบนั มักถกู เสริมด้วยสินค้าควบหรือสนิ ค้า หนุนเนื่อง (Augmented Product) ท้งั น้นั เพอื่ เพม่ิ ความสามารถในการแข่งขนั พพิ ิธภณั ฑก์ ็เช่นเดยี วกนั เน่อื งจากพพิ ธิ ภัณฑ์ไม่ใช่เป็นแคต่ ัวอาคารเอาไว้เกบ็ ของเก่า มนั จะไมม่ คี า่ อะไรจนกวา่ พพิ ธิ ภัณฑจ์ ะสามารถดึงดูดผู้คนให้เขา้ ชมไดเ้ รอื่ ย ๆ และมีคนทเ่ี ขา้ ชมแล้วกลับมาชมอีก (ซึง่ เปน็ ส่ิงท่นี า่ ท้าทาย ) นั่นหมายความว่าพิพธิ ภัณฑ์อาจตอ้ งมคี วามเคลอื่ นไหวอยู่เรื่อย ๆ เช่น มีการจัดงาน นทิ รรศการหมนุ เวยี น (Traveling Exhibition) เป็นธมี อยู่เรอ่ื ยๆการจัดนิทรรศการเคลอื่ นท่ี (Mobile Museum) หรืออาจเพ่ิมสินคา้ ควบ เช่น การเท่ยี วพพิ ิธภณั ฑ์ควบกบั การนวดแบบราชสํานัก ประกอบกับการสอ่ื สารทางการตลาดเปน็ ประจําเป็นตน้ ในการพัฒนาด้านอืน่ ๆ เชน่ การเปิดให้บ ริการชุด แตง่ กายของสาวชาววังสมยัรตั นโกสินทร์และถ่ายรูปนนั้ พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามเลอื กให้มีการพัฒนาน้อย อาจเป็นดว้ ยวา่ ภาพลกั ษณข์ องพิพธิ ภณั ฑ์ตาํ หนกั สายสุทธานภดลยงั คงเปน็ ภาพลักษณ์ของความเปน็ วงัเก่าและเปน็ มหาวิทยาลัย การท่จี ะพัฒนาให้เปน็ แหลง่ ท่องเท่ยี วที่สร้างความบันเทิงท้งั หมดย่อมเปน็ ไปไม่ได้ ด้วยความเป็นตําหนกั เกา่ ไม่ใช่ตึกอาคารใหมท่ ส่ี รา้ งมาด้วยวตั ถุประสงค์หลักในการเปน็ แหล่งท่องเท่ียว ดงั น้นั หากต้องการพฒั นากิจกรรมลกั ษณะน้ใี นมหาวิทยาลยัอาจตอ้ งรว่ มกบั คณะทเ่ี กย่ี วข้องกบั ศลิ ปะและการละคร และจดั กิจกรรมจาํ ลองการแตง่ กายและถา่ ยรูปเป็นที่ระลกึ ทั้งน้ี ควรอิงกบั ประวตั ขิ องความเปน็ ตําหนักฝ่ายใน และไม่ทาํ จนกลายเป็นการบิดเบือนความเปน็ จริง หรอื สูญเสยี คุณคา่ ของตวั ตาํ หนักและวฒั นธรรม ในยคุ ของเทคโนโลยเี วบ็ 3.0 นี้ เราไมอ่ าจละเลยทีจ่ ะต้องกลา่ วถึงรปู แบบทวั ร์เสมือนจริงที่เรียกว่า Virtual Tour ปัจจุบนั เวบ็ ไซตส์ นิ คา้ และบริการมกี ารพัฒนา รูปแบบทัวร์เสมือนจรงิ ในลักษณะการนําถ่ายภาพสถานทจี่ ริงมาสร้างใหส้ ามารถมองเห็นในมติ ิ 360องศา ในเวบ็ ไซต์ เชน่ พระบรมมหาราชวัง (www.p4panorama.com/panos/grandpalace/index.html) หรอื virtual tour ในเวบ็ ไซตข์ องพระบรมมหาราชวัง http://palaces.thai.net/night/index_gp.htm ซ่ึงจะมมี มุ มอง 33 มิตขิ องพระบรมมหาราชวังพระทีน่ งั่ วิมานเมฆ พระราชวงั บางปะอนิ พระตําหนกั ภูพิงคราชนเิ วศน์ พระราชวังสนามจนั ทร์ และพระตําหนกั ปากพนัง ในอนาคต ทางมหาวทิ ยาลยั อาจพิจารณาพฒั นาเว็บไซตท์ มี่ ีลูกเลน่ ลักษณะนี้ หรือเพ่มิ เตมิ ให้เป็น virtual tour ทผ่ี ้ชู มสามารถปฏสิ ัมพันธ์กบั สิง่ ที่แสดงในพพิ ธิ ภัณฑ์ ซ่ึงทางผู้วจิ ยั เห็นว่า ทางมหาวิทยาลัยสามารถทาํ ได้ โดยอาจใหน้ กั ศกึ ษาท่ศี ึกษาดา้ น animation ทดลองสรา้ ง www.ssru.ac.th

-222- ในการพฒั นากลมุ่ ตลาดของพพิ ิธภณั ฑ์ตําหนกั สายสุทธานภดล แม้ว่างานวิจัยชิ้นนี้ อาจยังไมส่ ามารถที่จะระบไุ ดช้ ดั เจนว่ากลุ่มใดเปน็ กล่มุ ตลาดของพพิ ธิ ภัณฑต์ ําหนกั สาย สทุ ธานภดล อยา่ งไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัย หรือสํานกั ศิลปะและวัฒนธรรมอาจให้ ความสําคญั กับกล่มุ ผู้ทมี่ าพพิ ิธภณั ฑ์เพ่อื มาศึกษาหาความรเู้ กย่ี วกบั ประวตั ศิ าสตร์ กลุ่มทีม่ าดู งานและฝกึ อบรมท่ีเกยี่ วกับศิลปะและวัฒนธรรม โดยในการจัดกจิ กรรมน้นั ควรจดั ให้ ตอ่ เน่อื งเพื่อเพม่ิ ความถี่ในการมาเยอื นถงึ ทขี่ องผู้ท่จี ะเขา้ อบรม และอาจให้ความสาํ คัญกับ การแบง่ กลุม่ ผ้ทู ีม่ าร่วมกิจกรรม เนอื่ งจากงานวจิ ยั ชใ้ี ห้เหน็ ว่ากลมุ่ เพศ อายุ ระดับการศกึ ษา และระดับรายได้ทตี่ ่างกนั นั้น มพี ฤติกรรมการมาเท่ยี วพพิ ิธภณั ฑ์ท่ตี ่างกนั เช่น ความถข่ี อง การเทย่ี ว วัตถปุ ระสงค์ของการมา เชน่ มคี วามแตกต่างในวัตถุประสงค์การมาฟงั บรรยาย และสมั มนา และการเขา้ คอรส์ อบรม นอกจากนี้ ทางสํานักศลิ ปะและวฒั นธรรมควรเพ่ิมชอ่ ง ทางการจัดจาํ หน่าย หรอื ในกรณีน้ี หมายถึงชอ่ งทางการสื่อสารทางการตลาด ให้หลากหลาย มากขนึ้ เพ่อื ใหเ้ กิดการรับรูก้ ับกล่มุ คนทีห่ ลากหลายมากข้นึ โดยเฉพาะช่องทางอนิ เทอรเ์ นต็ เชน่ เวบ็ ไซตท์ เ่ี กยี่ วกบั การศกึ ษา (เพือ่ ส่งสารทางการตลาดว่าพพิ ิธภัณฑ์เป็นแหล่งเรียนรู้ ) และเวบ็ ไซตเ์ กยี่ วกบั พิพิธภัณฑ์โดยตรง ซงึ่ อาจจะมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัย หรอื สาํ นกั ศลิ ปะและวัฒนธรรมควรให้ความสาํ คัญกบั จดุ บรกิ ารข้อมูล เกย่ี วกับพิพิธภัณฑ์ให้มคี วามชดั เจนมากขึ้น นอกจากการมผี ใู้ ห้ขอ้ มลู แล้ว นิทรรศการท่แี สดง ภาพที่สวยงามและสอื่ สง่ิ พิมพ์เก่ยี วกบั พิพิธภณั ฑ์ตําหนกั สายสุทธานภดล ก็เป็นสิ่งท่คี วรจัดให้ มี ณ บริเวณหอ้ งโถงกอ่ นข้นึ ตําหนัก5.4 ขอ้ เสนอแนะในการทาวจิ ยั คร้ังตอ่ ไป 1) ควรมีการศกึ ษาเกี่ยวกับ การรับรขู้ องนักท่องเที่ยว ชาวไทยท่ีมีต่อพิพธิ ภัณฑ์ตําหนกั สาย สทุ ธานภดล เนอ่ื งจากในงานวิจัยชิ้นนี้ มีขอ้ จํากัด คือ ผู้ท่มี าเยี่ยมชมยังมีจํานวนนอ้ ย ทาํ ให้มีกลุม่ ตวั อย่างน้อย ดังนัน้ การศึกษาถึงการรับรเู้ กี่ยวกบั พพิ ธิ ภณั ฑ์ตาํ หนกั สาย สุทธานภดลของผคู้ น จงึ น่าจะเป็นประโยชนใ์ นด้านการเพิม่ กจิ กรรมการสอื่ สารทาง การตลาด 2) ควรมีการศกึ ษาในหัวข้อเก่ยี วกับปัจจยั ทางการตลาดของพิพิธภัณฑ์อน่ื ๆ ท่มี ีความโดด เด่นและมีความใกล้เคยี งในด้านเนือ้ หากับพิพธิ ภณั ฑ์ตําหนักสายสทุ ธานภดล ร่วมกับ ปัจจยั ทางการตลาดการท่องเทยี่ วและบริการ โดยใช้กลุ่มประชากรทเ่ี ปน็ นักท่องเท่ียว ชาวไทย www.ssru.ac.th

-223-3) ควรมกี ารศึกษาศักยภาพของพพิ ิธภณั ฑต์ าํ หนกั สายสทุ ธานภดล ในการพฒั นาต่อไปเปน็ แหล่งท่องเทย่ี วเตม็ รูปแบบในเขตดสุ ติ4) ควรมกี ารศึกษาเก่ียวกบั พฤตกิ รรมการเดนิ ชมในพิพธิ ภัณฑ์ หรือระยะเวลาท่ีผูเ้ ขา้ ชมใช้ ในแต่ละจดุ ชมภายในพิพธิ ภณั ฑ์ ซ่ึงอาจเริ่มตน้ โดยใชก้ ลมุ่ ประชากรทเี่ ป็นนกั ศกึ ษา เพอ่ื นาํ มาเป็นแนวทางในการวาง แผนพัฒนาและออกแบบเส้นทางเดิน การสือ่ ความหมาย จุดการศกึ ษาหาข้อมลู และการเรยี นรู้ รวมไปถงึ การจัดนิทรรศการเพิม่ เติมในแต่ละ ช่วงเวลา เช่น ในแตล่ ะเดอื น หรอื ในชว่ งเทศกาล เปน็ ต้น ท้ังน้ี นกั ศึกษาจะได้ มคี วาม ตระหนกั วา่ พพิ ธิ ภัณฑน์ นั้ ได้สรา้ งคณุ คา่ ในเชิงความร้สู กึ เป็นเจา้ ของวฒั นธรรมและภมู ิ ปญั ญาทเี่ กิดขึ้นในยคุ สมยั หนึง่ และทีส่ บื ตอ่ มาถงึ ปัจจุบัน ให้แกพ่ วกเขา โดยใช้คณุ ค่า ด้านการศกึ ษามาช่วย www.ssru.ac.th

-224-บรรณานกุ รมการดี เลยี วไพโรจน์. (2011). ‘Effects on Creative Economy’ สืบค้นจาก http://www.creat iveokmd.com.กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของธรุ กิจโรงแรม. iHotel Marketer. สืบคน้ จาก http://www.ihotel marketer.com.ขอ้ มลู เผยแพรศ่ ิลปวฒั นธรรมรตั นโกสินทร์. สาํ นกั ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสุนัน ทา. 2555. สบื คน้ จาก http://www.culture.ssru.ac.th.จกั รกฤษณ์ แยม้ ย้มิ . (ไมพ่ บปี). กลยทุ ธก์ ารประชาสมั พันธ์และภาพลกั ษณ์ของพพิ ธิ ภัณฑ์ มหาวิทยาลัยหวั เฉยี วเฉลมิ พระเกยี รติ ในทศั นะของนกั ศกึ ษาระดับปริญญาตรี มหาวทิ ยาลัยหวั เฉยี วเฉลมิ พระเกยี รติ. มหาวิทยาลยั หัวเฉยี ว. การจัดการพิพธิ ภณั ฑ์.ฉัตยาพร เสมอใจ . (2550). พฤติกรรมผบู้ ริโภค Consumer Behavior. กรุงเทพมหานคร : บริษัท วี. พร้นิ ท์.ชกู ลิน่ อนุ วิจติ ร และคณะ. (2553). รายงานการศึกษาเพ่ือประเมินผลการจัดงาน “ชิมชา ซากุระ บาน อาหารชนเผา่ ดอยแมส่ ลอง ”. รายงานการวจิ ัยได้รับทุนอุดหนุน จากองคก์ ารบริหาร ส่วนตาบลแม่สลองนอกและ ศูนยศ์ กึ ษาและพฒั นาการท่องเท่ยี ว มหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงราย.ชชู ัย สมทิ ธไิ กร. (2553). พฤติกรรมผ้บู ริโภค. พิมพ์คร้งั ที่ 1. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท วี. พริน้ ท์.นฐั พร เกิดกลาง, ชมพูนทุ โกสลากร เพม่ิ พนู วิวฒั น์ และพิศมยั จารจุ ติ ตพิ ันธ์ . (2553). พฤตกิ รรม การท่องเทยี่ วในกรุงเทพมหานครของผเู้ ยย่ี มเยือนชาวไทย . วารสารพฤติกรรมศาสตร์เพือ่ การพฒั นา ปีท่ี 2. มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ วิโรฒ. สถาบนั วิจัยพฤติกรรมศาสตร์.บรุ ิม โอทกานนท์. (2553). ‘Creative City พิพิธภัณฑ์มีชีวติ แมฮ่ อ่ งสอน ’. ประชาชาตธิ รุ กิจ คอลัมน์ กรณีศกึ ษา SMEs. สบื ค้นจาก http://inside.cm.mahidol.ac.th.ปรญิ ลกั ษิตานนท.์ (2544). Psychology & Consumer Behavior จิตวิทยาและพฤตกิ รรม ผบู้ รโิ ภค. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ หจก. เหรยี ญบญุ การพิมพ์.พรทิพย์ สมั ปตั ตะวนชิ . (2546). แรงจงู ใจกับการโฆษณา . พมิ พ์คร้งั ท่ี 1. กรงุ เทพมหานคร : โรง พิมพ์มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์.พพิ ิธภัณฑสถาน, สบื คน้ จาก วิกพิ เี ดีย สารานกุ รมเสรี, http://th.wikipedia.org. www.ssru.ac.th

-225-มหาวิทยาลยั ราชภฏั ศรีสะเกษ . (2553). พฤติกรรมและความพึงพอใจของผ้บู รโิ ภคในการซ้อื สินคา้ ของฝากของทร่ี ะลกึ ในเขตอาเภอเมือง จังหวดั ศรสี ะเกษ . สบื คน้ จาก http://www.kana.sskru.ac.th.วญิ ญู วีรยางกรู และคณะ. (2549). โครงการ “กลยทุ ธด์ ้านราคาของผลติ ภัณฑ์การทอ่ งเทยี่ วเชิง ศลิ ปวฒั นธรรมของจงั หวดั ภเู กต็ พังงา และกระบี่ ”. รายงานการวิจยั ได้รับทุนอดุ หนนุ จากสํานักงานกองทุนสนบั สนนุ การวิจัย (สกว.).วณี า เอ่ยี มประไพ. (2551). ภาพลักษณ์สวนสนุ ันทา: วาทกรรมเกยี่ วกบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์. ขอ้ มลู เผยแพร่ศลิ ปวัฒนธรรมรัตนโกสนิ ทร์. สาํ นักศลิ ปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสุนันทา. สบื ค้นจาก http://www.culture.ssru.ac.th.วนิ ัย หม่ันคติธรรม . (2551). เรอื่ งโครงการพฒั นาผงั แมบ่ ทของมหาวทิ ยาลัยราชภฎั สวนสนุ นั ทาเพื่อเปน็ ศูนย์กลางทางด้านศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงรัตนโกสนิ ทร์ . รายงานการวจิ ยั ไดร้ บั ทนุ อดุ หนุน จากโครงการอุดหนุนงานวิจยั มหาวิทยาลัยราชภฏั สวนสนุ นั ทา.ศริ พิ ร คุ้มกลํา่ . (2552). การส่อื สารทางการตลาดท่มี ผี ลตอ่ การตดั สินใจซอื้ สนิ ค้าทรี่ ะลกึ ของ นกั ท่องเทยี่ ว กรณศี ึกษา : โบราณสถานจงั หวดั อ่างทอง . มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลธญั บุรี. คณะบริหารธุรกจิ .ศิริวรรณ ปิติวรรณ . (2551). ปัจจยั ท่สี ง่ ผลตอ่ พฤติกรรมการทอ่ งเทย่ี วของนกั ท่องเทยี่ วชาวไทย กรณศี กึ ษา : บงึ ฉวากเฉลิมพระเกียรติ จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี . มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าช มงคลธญั บรุ ี. คณะบริหารธรุ กจิ .สมบญุ รุจขิ จร. (2544). Last Dollar form SOUVENIR. สบื คน้ จาก http://www.brand age.comอดุลย์ จาตุรงคกลุ และดลยา จาตรุ งคกุล . (2549). พฤติกรรมผ้บู รโิ ภค Consumer Behavior. พมิ พค์ รงั้ ที่ 1. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์. . (2550). พฤติกรรมผู้บรโิ ภค Consumer Behavior. พมิ พค์ รงั้ ที่ 8. กรงุ เทพ มหานคร : โรงพมิ พ์มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์.อัศม์เดช วานชิ ชินชยั . (2553). เพิม่ กาไรในธรุ กจิ บรกิ ารดว้ ย Yield Management. สบื คน้ จาก http://dllibrary.spu.ac.th.About Museums, สบื คน้ จาก http://www.thaimuseums.com.Alexander, E. P. and Alexander, M. (2008). Museums in Motion: An Introduction to the History and Functions of Museums. Plymounth: A Division of Rowman and Littlefield Publishers, Inc. www.ssru.ac.th

-226-Ambrose, T. and Paine, C. (2006). Museum Basics. New York: Routledge.Bhadu, S. S. and Harsha, P. P. (2010). “Effect of creative and innovative marketing strategies on buying process of consumers of electronic goods- a case study of Jodhpur market”, Lachoo Management Journal. Vo. 1, (online available from www.lachoomemorial.org/lmj/vol1/lmj2.pdf)Bitgood, S. (2000). “The Role of Attention in Designing Effective Interpretive labels”, Journal of Interpretation Research, Vo. 5.Corbos, R. A. and Popescu, R. I. (2011). “Museum, marketing, tourism and urban development. The British Museum- A successful model for Romanian museums”, Management and Marketing, Vo. 9.Dellaert, B. GC., Ettema, D. F., and Lindh, C. (1998). “Multi-faceted tourist travel decisions: a constraint based conceptual framework to describe tourists’ sequential choices of travel components”, Tourism Management, Vo. 19.Echtner, C. and Ritchie, J. B. (2003). “The meaning and measurement of destination image”, The Journal of Tourism Studies, Vo. 14.England, B. L. (2003). “Relationship of motivations, decision making, and satisfaction in museum visitor behaviour”, Thesis, Master of Science in Recreational Studies, University of Florida.European Commission. (2000). Towards quality urban tourism: integrated quality management (IQM) of urban tourist destinations. Enterprise Directorate- General, Tourism Unit, BrusselsFodness, D. (1992). “The impact of family life cycle on the vacation decision making process”, Journal of Travel Research, Vo. 31.Farahani, B. M., Mohamed, B. and Mat Som, A. P. (2011). “Photograph, information search and tourism marketing”, Asian Social Science, Vo. 7.Frey, B. S. and Meier, S. (2003). “The Economics of Museums”, Working Paper No. 149, Institute for Empirical Economic Research.Gilmore, A and Rentschler, R. (2002). “Changes in museum management: a custodial or marketing emphasis?”, The Journal of Management Development, Vo. 21. www.ssru.ac.th

-227-Goodrich, J. N. (1978). “The relationship between preferences for and perceptions of vacation destinations: application of a choice model”, Journal of Travel Research, Vo. 17.Govers, R. (2005). “Virtual tourism destination image, glocal identities constructed, perceived and experienced”, Rotterdam School of Management, Erasmus University, Erasmus Research Institute of Management. (online available from http://repub.eur.nl/res/pub/6981/EPS2005069MKT _9058921077_GOVERS.PDF).Gunn, C. A. (1988). Vacationscape, Designing Tourist Regions. New York: Van Nostrand Reinhold.Gursoy, D. and McCleary, K.W. (2003). “An integrative model of tourists’ information search behavior”, Annals of Tourism Research, Vo. 31.H.C. Hsu, C., Kang, S. K., and Wolfe, K. (2002). “Segmenting travel information center visitors by vacation decision making”, Proceedings, June 23-26, Arlington.Heroux, L. and Csipak, J. (2008). “Marketing strategies of museums in Quebec and Northeastern United States: an exploratory comparative study”, Nouveaux Musées, Nouveaux Tourismes, Autumn.Huge, E. F. (1979). The Modern Manager. New York: West Publishing Company.Jeng, J. and Fesenmaier, D. R. (2002). “Conceptualizing the travel decision- making hierarchy: a review of recent developments”, Tourism Analysis, Vo. 7.Jitima Kiatrasamee. (2008). “The management plan of historical building: Saisuddha- Nobhadol Building in Suan Sunandha Rajabhat University”, An Independent Study, Master of Arts, Silpakorn University.Kelly, L. (2002). Exhibitions as Contested Sites. retrieved from http://australian museum.net.auKotler, P. and Armstrong, G. (2008). Principles of Marketing. Prentice-Hall of India.Kozak, M. and Decrop, A. (2009). Handbook of Tourist Behavior: Theory and Practice. New York: Routledge. www.ssru.ac.th

-228-Molina, A., Gomez, M., and Martin, C. D. (2010). “Tourism marketing information and destination image management”, African Journal of Business Management, Vo. 4.Moutinho, L. (1987). “Consumer behavior in tourism”, European Journal of Marketing, Vo. 21.Museum Audience Insight. Visitors? Or Audiences? Or Both?. (online available from http://reachadvisors.typepad.com/museum_audience_insight/2010/08/visitors- or-audiences-or-both.html).Myers, P. B., and Moncrief, L.W. (1978). “Differential leisure travel decision making between spouses”, Annals of Tourism Research, Vo. 5.Nichols, C. M., and Snepenger, D.J. (1998). “Family decision making and tourism behaviour and attitudes”, Journal of Travel Research, Vo. 26.Page, S. J. and Hall, C.M. (2003). Managing urban tourism. Essex: Pearson Education.Pearce, P. L. (1982). “Perceived changes in holiday destinations”, Annals of Tourism Research, Vo. 9.Pearce, P. L. (2005). Tourist Behaviour: Themes and Conceptual Schemes. Clevedon: Cromwell Press.Prayag, G. (2007). “Exploring the relationship between destination image & brand personality of a tourist destination- an application of projective techniques”, Journal of Travel and Tourism Research, Fall.Robbins, S. P. (1994). Management. New Jersey: Prentice Hall, Inc., (online available from http://www.pol.cmu.ac.th/OnlineDoc/elearning/128737%20pwp %206.pdf)Saensak Siriphanich. (2007). “International visitors’ perception of cultural heritage for tourism development on the Island of Phuket, Thailand: A marketing mix approach”, Thesis, Doctor of Philosophy, Oklahoma State University.Schutte, H. and Ciarlante, D. (1998). Consumer Behaviour in Asia. Hampshire and London: Mcmillan Press.Sekaran, U. (2003). Research Methods for Business: A Skill Building Approach. New Jersey: John Wiley & Sons, Inc. www.ssru.ac.th

-229-Selby, M. and Morgan, N. (1996). “Reconstructing place image: a case study of its role in destination market research”, Tourism Management, Vo. 17.Shim, S. (1996). “Adolescent consumer decision- making styles: the consumer socialization perspective”, Psychology and Marketing, Vo. 13.Sirijanya Kuawiriyapan, Apisit Kaewcha, Kulkanya Napomech and Duangnapa Prodprakon. (2010). “Behaviors and factors that affect Thai tourists traveling to historical parks”, International Journal of Arts and Sciences, Vo. 3.Swarbrooke, J. and Horner, S. (2005). Consumer Behaviour in Tourism. Oxford: Elsevier Butterworth- Heinemann.The American Association of Museums, ‘What is a museum?’, http://aamftp.aam- us.org/The International Council of Museums (ICOMOS), ‘Museum Definition’, http://icom. museum/the-vision/museum-definition/The United Nations Educational, Scientific and Cultural Organisation (UNESCO). (1963). Temporary and Travelling Exhibitions. Düsseldorf, Germany.Vincent, W. M. and Gianfranco, W. (2004). “Gender differences in German consumer decision-making styles”, Journal of Consumer Behaviour, Vo. 3.Warada Pumpaka. (2003). “A study of the content and form of Thai museum web sites”, Thesis, Master of Arts (Cultural Studies), Mahidol University.Williams, A. (2002). Understanding the Hospitality Consumer. Oxford: Elsevier Butterworth- Heinemann.Woodside, A. G. and Lysonski, S. (1989). “A general model of traveler destination choice”, Journal of Travel Research, Vo. 27.Wu, K.L. (2006). “What do families with children need from a museum?”, (online available from http://culturalpolicyjournal.org/past-issues/issue-no-2/do- families-need-a-museum).Yamane, T. (1973). Statistics : an introductory analysis. New York: New York Harper and Row.Zorzi, E. (ไมพ่ บปี). “Publicity for exhibitions in museums of modern and contemporary art”, Thesis, Master of Arts, Erasmus University Rotterdam. www.ssru.ac.th

-230-ภาคผนวก ก www.ssru.ac.th

-231- แบบสอบถาม แบบสอบถามงานวจิ ยั เร่อื งพฤติกรรมและการตดั สนิ ใจเข้าเยีย่ มชมพิพธิ ภัณฑ์ตาหนักสายสุทธานภดลในวังสวนสุนนั ทาของ นักทอ่ งเทย่ี วชาวไทย และปัจจยั สว่ นประสมทางการตลาดทมี่ อี ิทธิพลต่อการตดั สินใจDecision Making and Behaviour of Thai Tourists in Visiting Saisuddha Nobhadol Mansion in Suan Sunandha Palace and Marketing Mix Factors that Influence Their Decision ขอขอบพระคณุ ท่านเปน็ อยา่ งสูงท่ีท่านกรุณาใหค้ วามรว่ มมอื ในการตอบแบบสอบถามน้ีส่วนที่ 1 คาํ ถามเกีย่ วกับขอ้ มลู พื้นฐานของผตู้ อบแบบสอบถามคาช้ีแจง โปรดทําเครื่องหมาย  ลงในช่อง  หนา้ ข้อความทีต่ รงกบั สภาพความเป็นจรงิ ของทา่ น1. เพศ  ชาย  หญิง2. อายุ  ตํ่ากวา่ 20 – 20 ปี  21-30 ปี  31-40 ปี  41-50 ปี  มากกว่า 50 ปี  สูงกว่าปริญญาตรี3. ระดับการศึกษา  ปริญญาตรี  ตา่ํ กว่าปรญิ ญาตรี www.ssru.ac.th

-232-4. อาชพี  นักเรียน/ นกั ศกึ ษา  ครู อาจารย์  ข้าราชการ  พนักงานรฐั วสิ าหกจิ  พนกั งานเอกชน  เจา้ ของกจิ การ  อ่นื ๆ (โปรดระบุ) …………………………………….5. ระดับรายได้ต่อเดอื น  น้อยกวา่ 5,000 – 5,000 บาท  5,001 – 10,000 บาท  10,001 – 15,000 บาท  15,001 – 20,000 บาท  20,001 – 25,000 บาท  มากกว่า 25,000 บาท6. ปัจจุบนั ท่านอาศัยอยู่ในจังหวัด ……………………………………………………..ส่วนที่ 2 คาํ ถามเกยี่ วกบั พฤติกรรมการตัดสินใจเทยี่ วพิพิธภัณฑ์คาชแ้ี จง โปรดทาํ เคร่ืองหมาย  ลงในช่อง  หน้าขอ้ ความทตี่ รงกบั สภาพความเป็นจริงของทา่ น7. โดยทัว่ ไป ทา่ นเที่ยวพิพิธภณั ฑ์บอ่ ยแคไ่ หนใน 1 ปี  มากกวา่ 4 คร้ัง  ปีละ 1 ครงั้  2 -3 ครง้ั  3 – 4 ครัง้8. ช่องทางใดท่ีทา่ นมักใชใ้ นการหาข้อมลู ในการเท่ียวพิพิธภณั ฑ์โดยทัว่ ไป (เลือกไดห้ ลาย คาํ ตอบ)  นิตยสารหรอื สื่อสงิ พมิ พอ์ น่ื ๆ  เวบ็ ไซตเ์ กย่ี วกบั พพิ ธิ ภณั ฑ์  เว็บไซต์ด้านการศึกษา  สอบถามจากคนอ่ืน ๆ  อนื่ ๆ (โปรดระบุ) ………………………………………………………………….9. ท่านรจู้ กั พิพิธภณั ฑส์ ายสทุ ธานภดลมาก่อนหรือไม่  ใช่  ไมใ่ ช่10. ทา่ นได้รับขอ้ มูลขา่ วสารเกีย่ วกับพพิ ิธภัณฑส์ ายสุทธานภดลจากทางใดบา้ ง (เลอื กไดห้ ลาย คําตอบ)  จากการบอกกลา่ วของคนรู้จกั เช่น เพอ่ื น เพ่อื นรว่ มงาน ครอบครวั  จากการประชาสัมพันธ์ในส่ือสิงพมิ พ์ เชน่ โบรชัวร์  จากการประชาสมั พนั ธ์ในเวบ็ ไซตข์ องมหาวทิ ยาลัยราชภฎั สวนสุนันทา  จากการประชาสมั พันธใ์ นเว็บไซต์อืน่ ๆ (โปรดระบุ) …………………………………………………………  จากการมาเยย่ี มเยอื นมหาวทิ ยาลัยราชภฎั สวนสนุ ันทา www.ssru.ac.th

-233-  จากเจา้ หน้าทปี่ ระจาํ พิพธิ ภัณฑ์  อ่ืน ๆ (โปรดระบุ) ……………………………………………………………..11. โปรดระบุวัตถุประสงค์ในการเขา้ เย่ียมชมพพิ ิธภณั ฑ์สายสทุ ธานภดลในครงั้ นี้ (กรุณาใส่ เครื่องหมาย ลงในช่องวา่ งท่ตี รงกับความคดิ เห็นของทา่ น (เลอื กไดห้ ลายคาํ ตอบ)  มาดงู านมหาวิทยาลัยราชภฎั สวนสนุ ันทา  มาฟังบรรยายและการสมั มนาทม่ี หาวิทยาลยั จดั  ตั้งใจมาเยี่ยมชมพพิ ิธภณั ฑต์ าํ หนกั สายสทุ ธานภดล  มาเขา้ คอรส์ อบรมงานฝีมอื เชน่ งานร้อยมาลัย งานเย็บปกั โดยศนู ยศ์ ิลปะและวฒั นธรรม  มาเพือ่ ศึกษาหาข้อมูลเก่ยี วกับประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวฒั นธรรม  มาเที่ยวกับครอบครวั  มาเท่ยี วกับเพ่ือน  มาถ่ายภาพ อัดวิดิโอ รายการโทรทศั น์ หรือภาพยนต์  อ่นื ๆ (โปรดระบุ) …………………………………………………………………สว่ นที่ 3 คาํ ถามเกี่ยวกับความคดิ เห็นดา้ นอทิ ธพิ ลของปจั จยั ส่วนประสมทางการตลาดท่ีมีต่อการตดั สนิ ใจเข้าเยย่ี มชมพิพธิ ภณั ฑ์ตาํ หนักสายสุทธานภดลคาชีแ้ จง โปรดตอบแบบสอบถาม โดยเลือกคาํ ตอบตามลําดับความสําคญั ทีต่ รงกบั ความคิดเหน็ ของท่าน5 = สําคญั มากท่ีสุด 4 = สําคญั มาก 3 = สาํ คญั ปานกลาง 2 = สําคญั น้อย 1 = สําคญั น้อยที่สดุ12. ท่านคดิ วา่ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดตอ่ ไปน้ี มีความสาํ คัญมากนอ้ ยเพียงใดในพิจารณา ตัดสนิ ใจเขา้ เยี่ยมชมพิพธิ ภัณฑต์ าํ หนักสายสุทธานภดล ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาด ระดบั ความสาคญั 543 21ผลิตภณั ฑ์ (product)1.1 ความหลากหลายของนิทรรศการและส่ิงที่จัดแสดง1.2 การมปี า้ ยบรรยายให้ข้อมูลครบถ้วนในแต่ละจดุ1.3 ความดง้ั เดิมของส่งิ ทจ่ี ัดแสดง1.4 ตวั ตาํ หนกั ที่มีสถาปตั ยกรรมทสี่ วยงามและเปน็ เอกลักษณ์1.5 การอาํ นวยความสะดวกดา้ นที่จอดรถ www.ssru.ac.th

1.6 วิทยากรนาํ ชมทม่ี ีความรแู้ ละตอบคาํ ถามได้ -234-1.7 ความมีชือ่ เสยี งด้านการอบรมเกยี่ วกับศลิ ปะและวัฒนธรรมไทย1.8 ความมชี ่อื เสียงทเี่ คยเปน็ วังเก่าแก่ www.ssru.ac.th1.9 ความมชี ือ่ เสยี งด้านการพัฒนาตาํ รับอาหารชาววัง1.10 ความมชี ือ่ เสียงของมหาวทิ ยาลัย2 ราคา (price)2.1 การเปดิ บริการใหเ้ ขา้ ชมตําหนกั โดยไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ยใด ๆ2.2 หากมีการเปิดบริการใหเ้ ข้าชมตําหนกั โดยคิดคา่ เขา้ ชมเพยี งเลก็ นอ้ ย2.3 หากมสี ว่ นลดสาํ หรบั การเย่ยี มชมเปน็ กลุ่มคณะ2.4 ความคุ้มคา่ ของการใช้จ่ายเพือ่ ทจี่ ะมาเยีย่ มพิพิธภณั ฑ์แห่งนี้3 ช่องทางการจดั จาหน่าย (place)3.1 การทพ่ี พิ ิธภณั ฑ์ตงั้ อยูใ่ นใจกลางเมืองกรุงเทพ3.2 การมีความเชอ่ื มโยงในการท่องเท่ยี วอนื่ ๆ เช่น การตงั้ อยใู่ กลแ้ หลง่ ท่องเท่ียวอ่นื ๆ3.3 การที่พพิ ิธภัณฑ์ตง้ั อยู่ใกล้สถานที่ราชการทีส่ ําคญั อ่นื ๆ เชน่ หอสมุด แหง่ ชาติ3.4 ความสะดวกในการเดินทางมาย่านนี้โดยรถประจาํ ทาง3.5 ความสะดวกในการเดินทางมายา่ นน้ีโดยทางเรอื เช่น เรือด่วนเจา้ พระยา3.6 การประชาสมั พันธใ์ นเวบ็ ไซต์ของมหาวทิ ยาลัยราชภฎั สวนสนุ นั ทา3.7 การพดู ปากตอ่ ปาก3.8 การประชาสมั พนั ธใ์ นโซเช่ียลเน็ตเวิร์ค (Social Network)3.9 การประชาสมั พนั ธ์ผา่ นแผ่นพับหรือโบรชวั ร์3.10 การแนะนําจากเจ้าหน้าท่ีประจาํ พิพธิ ภัณฑ์ใหเ้ ขา้ เยี่ยมชม3.11 หากมีการสง่ จดหมายทางอเี มลล์ เชญิ เยยี่ มชมพิพิธภณั ฑใ์ นโอกาสพิเศษ เชน่ เทศกาลต่าง ๆ4 การสง่ เสริมการตลาด (promotion)4.1 หากมกี ารทาํ โปรแกรมหรอื แพค็ เกจทัวรร์ ่วมกับพระท่ีนัง่ วิมานเมฆ4.2 หากมีการจดั นิทรรศการเคลอื่ นที่ (Traveling Exhibition)4.3 หากมกี ารจัดนทิ รรศการหมนุ เวยี นภายในตาํ หนัก4.4 การจัดงาน เทศกาลประจําปี ภายในมหาวทิ ยาลัย4.5 การจัดคอร์สอบรมเก่ยี วกับงานฝมี อื ในตําหนัก4.6 หากมีการพฒั นาในรูปแบบทวั รเ์ สมอื นจรงิ (Virtual Tour) หรือถา่ ยภาพ สถานท่ีจรงิ และนาํ มาสรา้ งในมิติ 360 องศา ลงในเวบ็ ไซต์4.7 หากมกี ารพัฒนาของทร่ี ะลึกท่ีเป็นสญั ลกั ษณ์ของพพิ ธิ ภณั ฑ์

-235-4.8 หากมีการจดั ทัวร์ตวั อยา่ งใหแ้ กอ่ งค์กรตา่ ง ๆ เพือ่ เชิญชวนให้มาเยีย่ มชม4.9 การจัดสัมมนา / เสวนาทางวชิ าการท่ีเก่ียวขอ้ งกับงานพพิ ธิ ภัณฑ์สว่ นท่ี 4 คําถามอนื่ ๆ เพื่อการปรับปรงุ และข้อเสนอแนะคาช้แี จง โปรดทําเคร่ืองหมาย  หรือเรียงลําดับความสาํ คญั ลงในชอ่ งวา่ ง  หน้าขอ้ ความที่ตรง กบั สภาพความเปน็ จรงิ ของท่าน 13. กรุณาระบุโดยทําเคร่อื งหมาย  หน้าข้อท่ที ่านเห็นว่าพพิ ิธภณั ฑต์ ําหนักสายสทุ ธานภดลควร มีการพฒั นา (เลอื กไดห้ ลายคาํ ตอบ)  ภตั ตาคารชาววัง  ร้านกาแฟและเครอ่ื งดม่ื ใกลต้ วั ตําหนัก  ร้านขายสนิ คา้ ท่ีระลึกท่ีเช่ือมโยงกับพิพิธภัณฑ์  การจดั แสดงแสง สี เสยี ง นทิ รรศการหมนุ เวยี น การแสดงละครกลางแจง้  การมีพ้นื ทน่ี ั่งพกั ผ่อน  บรกิ ารที่จอดรถ  การเชอื่ มโยงกบั แหล่งทอ่ งเทีย่ วทางศลิ ปวัฒนธรรมทม่ี อี ยูเ่ ดมิ เชน่ พระท่ีนั่งวมิ านเมฆ พระราชวังดุสติ และแหล่งท่องเทย่ี วต่อเน่ืองอื่น ๆ ทีอ่ ยู่ใกลเ้ คยี ง  บริการชดุ แต่งกายของสาวชาววงั สมยั รัตนโกสินทร์และถา่ ยรูป  บรกิ ารจากมคั คุเทศก์/ ยวุ มัคคเุ ทศก์14. หากมกี ารพฒั นาสง่ิ ต่าง ๆ ทีท่ า่ นไดเ้ ลอื กใน ขอ้ 13 ท่านจะพิจารณามาเท่ียวชมพพิ ิธภณั ฑ์ตาํ หนกั สายสุทธานภดลหรือไม่ มาแน่นอน  ไมม่ า  ไมแ่ น่ใจ15. หากพิพธิ ภัณฑม์ กี ารเก็บคา่ ธรรมเนียมการเขา้ ชม ทา่ นจะเข้าชมพิพิธภัณฑ์หรอื ไม่ เข้าชม  ไมเ่ ขา้ ชม  ไมแ่ นใ่ จ16. หากมโี อกาส ท่านจะกลบั มาเยี่ยมชมพพิ ิธภัณฑ์ตําหนกั สายสทุ ธานภดลอีกหรือไม่ มาแน่นอน  ไม่มา  ไม่แน่ใจ www.ssru.ac.th

-236-17. ทา่ นจะแนะนําผู้ท่ที ่านรู้จักมาเยยี่ มชมพิพิธภณั ฑ์ตาํ หนักสายสทุ ธานภดลหรอื ไม่ แนะนาํ  ไมแ่ นะนาํ18. ข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… www.ssru.ac.th

-237-ประวัติผู้เขยี น1. ชอ่ื - นามสกลุ ภาษาไทย: นางสาวศริ ิเพญ็ เยี่ยมจรรยา ภาษาองั กฤษ: Ms. Siripen Yiamjanya เลขหมายบตั รประจําตวั ประชาชน – 35299001609242. ประวตั ิการศึกษา ระดับ สาขา สถาบันปรญิ ญาตรี B.A. (English- English Literature) Chiang Mai University, Thailandปริญญาโท M.A. (TRM- Tourism Management) Assumption University,3. ตาแหนง่ และสถานทท่ี างาน Thailand ตาแหนง่ ปัจจุบนั - อาจารย์ประจําสาขาวชิ าอตุ สาหกรรมทอ่ งเที่ยว วิทยาลยั นานาชาติ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฎสวนสนุ นั ทา หน่วยงานและสถานท่ีอยทู่ ่ตี ิดตอ่ ได้สะดวกพรอ้ มหมายเลขโทรศพั ท์ โทรสาร และไปรษณีย์ อิเล็กทรอนกิ ส์ (e-mail) วิทยาลยั นานาชาติ อาคารศรีจุฑาภามหาวิทยาลยั ราชภัฎสวนสุนันทาเลขท่ี 1 ถนนอู่ทองนอก เขตดสุ ติ กรงุ เทพฯ 10300หมาเลขโทรศพั ท์ 02- 160-1196โทรศัพท์มอื ถือ : 086- 9007971 โทรสาร 02- 160- 1199 Email: [email protected]. ประสบการณ์ ผลงานทางวิชาการ รางวลั หรือทนุ การศกึ ษา เฉพาะท่ีสาคญั (ถ้าม)ี งานวจิ ัยทที่ ําเสร็จแลว้ : (1) พฤติกรรม และการตดั สินใจเข้าเยยี่ มชมพพิ ิธภัณฑต์ ําหนักสายสุทธานภดลในวงั สวน สนุ ันทาของนกั ทอ่ งเทย่ี วชาวไทย และปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาดทีม่ อี ิทธพิ ลต่อ การตัดสนิ ใจ (Decision Making and Behaviour of Thai Tourists in Visiting Sai Suttha Naphadol Mansion in Suan Sunandha Palace and and Marketing www.ssru.ac.th

-238- Mix Factors that Influence their Decision) (ทนุ ของมหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวน สุนนั ทา ปี 2555)(2) พฤตกิ รรมการบรโิ ภค และความพึงพอใจด้านสินค้า บริการ และความปลอดภัยของ นกั ทอ่ งเทยี่ วชาวตา่ งชาติท่ีตลาดนดั สวนจตุจกั ร (Consumer Behaviors and Satisfactions of Product, Service, and Safety of Foreign Tourists at Jatujak Market) (มสี ่วนรว่ มในการทาํ วิจัย 50%) (ทนุ ของมหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวน สุนันทา ปี 2555)(3) A Study of Relationship of the Selected Health – Vacation Attributes and the International Tourists’ Selection of Chiang Mai as Health - Vacation Destination, Case Study: Chiang Mai Ram Hospital ปีที่พิมพ์ 2548 (วทิ ยานพิ นธ์ ปริญญาโท)บทความทางวิชาการท่ีจะเผยแพร่ในงานประชมุ วิชาการระดับนานาชาติ :(1) Food Safety and Perceived Risk: A Case Study of Khao San Road, Bangkok, Thailand เผยแพร่ในงานประชมุ วชิ าการระดับนานาชาติ จดั โดย WASET ระหว่างวนั ท่ี 14- 15 มกราคม พ.ศ. 2556 เมอื งซูรคิ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ www.ssru.ac.th


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook