Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ม.3

แผนการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ ม.3

Published by p_l_j0118, 2022-09-01 03:54:18

Description: แผนการสอน วิชาวิทยาการคำนวณ - รวมเล่ม

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ ซอฟตแ์ วรท์ ี่ใชใ้ นการพฒั นาแอปพลเิ คชนั ๕. จากขอ้ ๔ ให้นักเรียนนาแนวคดิ มาเขียนผังงาน (Flowchart) การทางานของโปรแกรม เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๔๕

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒ ซอฟต์แวร์ทใ่ี ชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชนั ๖. ให้นกั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ ๑. จากโปรแกรมตอ่ ไปน้ี ให้นักเรียนทาความเข้าใจการทางานของผงั งาน (Flowchart) จากน้นั เขยี นรหสั การทางานของโปรแกรมภาษาไพทอน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๔๖

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒ ซอฟต์แวรท์ ่ีใชใ้ นการพฒั นาแอปพลเิ คชัน ๒. จากโปรแกรมต่อไปน้ี หากต้องการเพม่ิ ระดับการแจ้งผลลพั ธ์จากทีม่ อี ยู่ ๔ ระดับ ให้เพมิ่ เป็น ๕ ระดับ โดยให้แจง้ ผลลัพธ์ว่า “ร้อนมาก” เม่ืออุณหภูมิมากกว่า ๔๐ องศาเซลเซยี ส จะสามารถเขียนรหัสคาสงั่ ได้ อย่างไร เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๔๗

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒ ซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชัน ๓. จากโปรแกรมต่อไปน้ี ให้นกั เรียนเขยี นรหัสคาสงั่ เพอื่ ให้โปรแกรมแสดงผลลพั ธเ์ ปลยี่ นจาก Hello Python เป็นการแสดงช่อื นักเรียนเองจานวน ๑๐ ครงั้ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๔๘

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒ ซอฟตแ์ วรท์ ใ่ี ชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชนั ๔. จากโปรแกรมต่อไปนี้ ใหน้ กั เรียนเขียนรหสั คาส่งั เพอ่ื แสดงเฉพาะจานวนค่ที ี่อย่รู ะหวา่ ง ๐-๑๐๐ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๔๙

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ ซอฟต์แวรท์ ใ่ี ช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชนั ๕. จากโปรแกรมการทางานดว้ ย for ตอ่ ไปนี้ ถ้าต้องการปรบั ชดุ ขอ้ มูลจากชือ่ สัตว์เป็นชื่อเดือน ๑๒ เดอื น แล้วให้โปรแกรมแสดงช่อื เดือนท่ีมตี วั อักษร “er” จะสามารถประยุกตใ์ ช้รหัสคาสงั่ ไดอ้ ย่างไร ๗. ให้นกั เรียนยกตวั อย่างแอปพลเิ คชนั ในชีวติ ประจาวัน พรอ้ มบอกประโยชนจ์ ากการใชง้ านแอปพลเิ คชนั แอปพลเิ คชนั Google Maps สามารถค้นหาสถานท่ีทต่ี อ้ งการเดนิ ทางไป สามารถคานวณระยะทาง และ เวลาในการเดนิ ทางเพอ่ื วางแผนในการเดนิ ทางได้ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๕๐

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชนั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ ซอฟต์แวรท์ ี่ใช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชัน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๕๑

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชนั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ ซอฟต์แวรท์ ี่ใช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชัน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๕๒

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒ ซอฟตแ์ วร์ที่ใช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชัน ๑๒. บันทึกผลหลังการสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)  ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่นหรอื พฤตกิ รรมทีม่ ปี ญั หาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )  ปญั หา/อุปสรรค  แนวทางการแก้ไข เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๕๓

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๓ ซอฟต์แวรท์ ใี่ ชใ้ นการพฒั นาแอปพลเิ คชนั (๒) แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๔ บูรณาการแอปพลิเคชนั เวลา ๕ ช่วั โมง เรอ่ื ง ซอฟต์แวร์ท่ีใชใ้ นการพฒั นาแอปพลเิ คชัน่ (๒) เวลา ๓ ชว่ั โมง รายวิชา เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด สาระท่ี ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ิตจรงิ อย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรู้ การทางาน และการแก้ปัญหา ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทันและมีจรยิ ธรรม ตัวช้ีวัด ม.๓/๑ พัฒนาแอปพลเิ คชนั ทีม่ กี ารบูรณาการกบั วชิ าอ่นื อยา่ งสร้างสรรค์ ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อธิบายหนา้ ที่การทางานของคาส่ังในการเขียนโปรแกรมดว้ ย Python ได้ (K) ๒. ออกแบบและเขียนโปรแกรมหรือแอปพลเิ คชันดว้ ยภาษา Pythonได้ (P) ๓. พัฒนาแอปพลิเคชันท่ีคานึงถึงประโยชน์ต่อชีวิตประจาวนั (A) ๓. สาระสาคญั ภาษาไพทอนเป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสาหรับผู้เริ่มต้นเขียนโปรแกรมไปจนถึงการ ประยุกตใ์ ช้งานในระดับสูง เนอื่ งจากโครงสรา้ งภาษาทีล่ ดความยุ่งยากเรือ่ งไวยากรณ์ในการเขียนโปรแกรมลง อา่ นแลว้ เข้าใจงา่ ย ไม่ซับซ้อน ๔. สาระการเรียนรู้ ๑. ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชน่ั ๕. รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน ๑. รปู แบบการสอนแบบบรรยาย (Lecture) ๒. วิธกี ารสอนโดยใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณ (Computational Thinking) ๖. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น  ความสามารถในการส่ือสาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการแก้ปัญหา  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๕๔

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ซอฟตแ์ วร์ทีใ่ ชใ้ นการพฒั นาแอปพลเิ คชนั (๒) ๗. ทักษะ ๔Cs  ทักษะการคิดวจิ ารณญาณ (Critical Thinking)  ทกั ษะการทางานร่วมกัน (Collaboration Skill)  ทักษะการสอ่ื สาร (Communication Skill)  ทักษะความคิดสรา้ งสรรค์ (Creative Thinking) ๘. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์  ซือ่ สตั ย์ สุจรติ  รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์  ใฝ่เรียนรู้  มวี นิ ัย  มุ่งม่นั ในการทางาน  อยู่อย่างพอเพียง  มจี ติ สาธารณะ  รกั ความเป็นไทย ๙. การจดั กระบวนการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี ๑ ขัน้ นา ๑. ครูบอกกบั นักเรียนว่าจากช่วั โมงท่ีผา่ นมาเราทราบดีว่าโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนาแอปแพลิเคชันมใี หเ้ ลือก หลากหลาย แตโ่ ปรแกรมทีน่ ิยมกนั และเรยี นรไู้ ดเ้ รว็ ซ่งึ Python เปน็ ตวั เลือกท่นี ่าสนใจ ๒. ครูสนทนากับนักเรียนว่า “จากตัวอย่างท่ีนักเรียนลองเขียนโปรแกรมแปลงค่าเงินด้วยโปรแกรมภาษา Python นกั เรียนคิดว่า ฟงั ก์ชันหรือคาสงั่ ทีน่ ักเรียนใช้ในการเขียนโปรแกรมข้างต้น เพียงพอสาหรบั การ พฒั นาแอปพลเิ คชนั ตามแนวคดิ ของนักเรยี นหรือไม่” ๓. ครูสนทนากบั นกั เรียนวา่ “หากเราตอ้ งการพฒั นาแอปแพลิเคชันด้วย Python จะตอ้ งเรยี นรู้อะไรบา้ ง (แนวคาตอบ โปรแกรมท่ีใชเ้ ขยี น เช่น Mu, คาส่ังใหโ้ ปรแกรมแสดงผล, เรียนรู้คาสงั่ if-else, คาสง่ั loop) ขัน้ สอน ๑. ครใู หน้ ักเรียนเปิดโปรแกรม Mu จากนัน้ ครอู ธิบายหน้าทีก่ ารทางานเครือ่ งมอื ของโปรแกรม (สามารถดาวนโ์ หลดโปรแกรมไดจ้ ากเวบ็ ไซต์ https://codewith.mu/en/download ) ๒. ครูทบทวนการเขยี นโปรแกรมคาส่ัง print เพื่อส่ังใหโ้ ปรแกรมแสดงผลตวั เลข และข้อความ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๕๕

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๓ ซอฟต์แวรท์ ใ่ี ชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชัน (๒) เชน่ Code ผลลัพธ์ได้ ๓. ครทู บทวนการเขยี นโปรแกรมโดยใช้ variable ด้วยตวั เลข และขอ้ ความเพ่ือการแสดงผล เชน่ Code ผลลัพธ์ท่ีได้ ๔. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา่ กรณีทีส่ ร้างตัวแปรของตัวเลข เช่น A = ๕ กับ C = “๕” แสดงผลออกมาเป็นเลข ๕ เหมือนกนั แตค่ วามหมายต่างกัน A เปน็ ตัวแปรของตวั เลข ส่วน C เปน็ ตัวแปรของตัวอักษรหรือข้อความ เพราะมสี ัญลักษณ์ “” เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๕๖

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓ ซอฟต์แวรท์ ี่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชนั (๒) ๕. จากนัน้ ครูทบทวนรูปแบบรหสั ขอ้ มลู (Format Code) เพมิ่ เตมิ จากที่เคยเรียนผ่านมาแลว้ ในระดบั ชั้นม.๒ ๖. ครใู หน้ ักเรยี นทาใบงาน เรือ่ ง ตวั แปรและตัวดาเนินการ ๗. ครูถามคาถามเพ่ือทบทวนนักเรียนว่าจากการเรียนเร่ืองการใช้งานตัวแปรเพื่อการดาเนินการทาง คณติ ศาสตร์ มีขอ้ มลู ตวั เลขแบบไหนบ้างทสี่ ามารถนามาดาเนนิ การทางคณติ ศาสตร์ได้ (แนวคาตอบ จานวนเงิน อุณหภูมิ น้าหนัก ส่วนสูง เป็นตัวเลขที่มีค่าสามารถนามาดาเนินการทาง คณิตศาสตรไ์ ด้ ) ๘. จากน้ันครทู บทวนการใช้งานคาส่งั การรบั ขอ้ มูลจากแป้นพิมพ์ input เชน่ Code ผลลัพธ์ทไี่ ด้ ๙. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด เรื่อง การเขียนใช้คาสั่งแสดงผล อินพุต และเอาต์พุต และแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๑๐. ครสู อบถามนักเรยี นว่าฟังก์ชัน input ทางานอย่างไร (แนวคาตอบ เป็นการรับขอ้ มลู จากแป้นพมิ พ์ หรอื นาเข้าข้อมลู จากแป้นพมิ พ์) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๕๗

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๓ ซอฟต์แวรท์ ี่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชนั (๒) ชว่ั โมงท่ี ๒ ข้ันสอน (๕๐ นาท)ี ๑๑. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขยี นโปรแกรมคาสั่งที่เรียนมา หากครูต้องการเขียนโปรแกรมจัดลาดับ ความนิยมของร้านอาหารโดยใช้ข้อมูลจากระดับความพอใจในการใช้บริการ ๕ ระดับ นักเรียนคิดว่า สามารถทาไดห้ รือไม่ (แนวคาตอบ ไมส่ ามารถทาไดเ้ นอื่ งจากเรียนคาสงั่ การดาเนินการแลว้ แตย่ งั ไม่มคี าส่งั ในการตรวจสอบคา่ ) ๑๒. ครสู อนนกั เรียนใช้งานคาส่งั if-else ๑๓. จากน้ันครูให้นักเรียนทาใบงาน เร่ือง การทางานแบบมีเงื่อนไข และแบบฝึกหัด เทคโนโลยี (วิทยาการ คานวณ) ๑๔. ครถู ามนักเรียนว่าสามารถนาความรู้ทเ่ี รียนไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้อย่างไรบา้ ง (แนวคาตอบ การเขยี นโปรแกรมตดั เกรด เขียนโปรแกรมBMI เป็นต้น) ๑๕. ครูถามนักเรียนว่าจากการเรียนเขียนโปรแกรมท่ีผ่านมา หากครูต้องการให้นักเรียนเขียนโปรแกรมเพ่ือ แสดงชื่อตนเอง ๑๐๐ บรรทัด นักเรียนคดิ วา่ ต้องเขยี นคาสั่งเยอะหรือไม่ (แนวคาตอบ เยอะ เนอ่ื งจากต้องเขยี นคาสั่งบรรทัดต่อบรรทดั ในการแสดงผล ) ๑๖. ครบู อกที่มาและอธบิ ายเรอ่ื งการใช้งานคาสง่ั ทาซ้าและคาสั่งอ่นื ๆ ไดแ้ ก่ while , for ๑๗. ครูสอนนักเรยี นใชง้ านคาส่งั while / for ๑๘. ครูให้นักเรียนทาใบงาน เรื่อง การทาซา้ แบบฝกึ หดั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๑๙. ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั บอกคาส่งั ในการเขียนโปรแกรมที่ได้เรียนทงั้ หมด พร้อมบอกหนา้ ท่ขี องแต่ละคาสัง่ ช่ัวโมงท่ี ๓ ๒๐. จากแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๒ ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะคู่นาเสนอแนวคิดและผังงาน (Flowchart) ของตนเอง หน้าช้ันเรียน ให้เพื่อนร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมทั้งครูคอยให้คาแนะนา จากน้ันให้นาไป ปรับปรงุ แก้ไข ๒๑. ในคาบน้ีครูให้นักเรียนนาแนวคิดที่ปรับปรุงแล้วมาพัฒนาต่อเพ่ือเขียนโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันด้วย ภาษา Python หรือนักเรยี นจะออกแบบแนวคิดการพฒั นาโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันใหม่ก็ได้ ๒๒. ครูให้นกั เรียนลงมอื เขยี นโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันดว้ ยภาษา Python ๒๔. ครใู หน้ ักเรยี นทดสอบโปรแกรมหรอื แอปพลิเคชนั เพ่อื ตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาด เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๕๘

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓ ซอฟตแ์ วร์ท่ใี ชใ้ นการพฒั นาแอปพลิเคชนั (๒) ขน้ั สรุป (๑๐ นาที) ๑. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละคู่นาเสนอโปรแกรมหรือแอปพลเิ คชัน ให้เพอื่ นร่วมกนั แลกเปลี่ยนความคิดเหน็ พรอ้ ม ทง้ั ครคู อยให้คาแนะนาเพิ่มเติม ๑๐. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ ๑. หนงั สือเรียนรายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.๒ ๒. โปรแกรม Mu ๓. ใบความรู้ เรื่อง การใชค้ าส่ังแสดงผลอินพตุ และเอาต์พตุ ๔. ใบความรู้ เรอ่ื ง ตวั แปรและตัวดาเนนิ การ ๕. ใบความรู้ เรื่อง การทางานแบบมเี งือ่ นไข ๖. ใบความรู้ เรอ่ื ง การทาซ้า ๗. ใบงานท่ี ๔.๓.๑ เรื่อง ตัวแปรและตวั ดาเนินการ ๘. ใบงานท่ี ๔.๓.๒ เรื่อง การใช้คาส่ังแสดงผลอินพุต และเอาตพ์ ุต ๙. ใบงานที่ ๔.๓.๓ เร่ือง การทางานแบบมีเงื่อนไข ๑๐. ใบงานที่ ๔.๓.๔ เรือง การทาซา้ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๕๙

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ ซอฟต์แวรท์ ใี่ ชใ้ นการพฒั นาแอปพลิเคชนั (๒) ๑๑. การวัดและการประเมนิ ผล ๑๑.๑ การประเมนิ ระหว่างการจัดกจิ กรรม จดุ ประสงค์ วิธกี ารประเมิน เคร่อื งมือการประเมิน เกณฑ์การประเมิน อธบิ ายได้ถกู ตอ้ งตาม ๑.อธิบายหน้าทก่ี าร อธิบายการทางานของ แบบประเมนิ ช้ินงาน หลักการ ๖๐% ขน้ึ ไปถือ วา่ ผา่ น ทางานของคาสั่งในการ โปรแกรมหรอื (ออกแบบและเขยี น ๑.ออกแบบและเขยี น เขียนโปรแกรมดว้ ย แอปพลิเคชันท่ีเขียนด้วย โปรแกรมหรอื โปรแกรมหรอื แอปพลิเคชัน ด้วยภาษา Python ได้ (K) ภาษา Python แอปพลเิ คชนั ดว้ ย Pythonได้ ในระดับ คณุ ภาพพอใช้ขน้ึ ไปถอื ภาษา Python) วา่ ผ่าน บอกประโยชนข์ อง ๒.ออกแบบและเขียน ๑.ตรวจโปรแกรมหรอื แบบประเมินชน้ิ งาน แอปพลิเคชนั ท่ี พฒั นาขนึ้ คานงึ ถงึ โปรแกรมหรือ แอปพลเิ คชนั ทเ่ี ขยี นดว้ ย (ออกแบบและเขยี น ประโยชนต์ อ่ ชีวติ ประจาวันได้ใน แอปพลิเคชนั ด้วยภาษา โปรแกรมภาษา Python โปรแกรมหรือ ระดับคุณภาพพอใชข้ น้ึ ไปถอื ว่าผา่ น Pythonได้ (P) แอปพลเิ คชันด้วยภาษา Python) ๓.พฒั นาแอปพลเิ คชัน บอกประโยชน์ของ แบบประเมิน ท่ีคานงึ ถงึ ประโยชนต์ ่อ แอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้น การนาเสนอ ชวี ติ ประจาวนั (A) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๖๐

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๓ ซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน (๒) ๑๑.๒ การประเมินชิน้ งาน (ออกแบบและเขยี นโปรแกรมหรอื แอปพลเิ คชันด้วยภาษา Python) ประเดน็ ในการประเมนิ ๓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ๑ ๒ ๑.ความสอดคล้องกบั อธิบายหนา้ ทกี่ ารทางาน อธิบายหน้าทกี่ ารทางาน อธิบายหน้าท่ีการทางาน เนอ้ื หา ของคาส่ังในการเขียน ของคาส่งั ในการเขียน ของคาสัง่ ในการเขยี น โปรแกรมดว้ ย Python โปรแกรมดว้ ย Python โปรแกรมด้วย Python ได้ถกู ต้องตามหลกั การ ได้ถูกตอ้ งตามหลกั การ ได้เพียงบางสว่ น สือ่ สาร ส่อื สารเข้าใจงา่ ยชัดเจน สอ่ื สารเข้าใจชัดเจนและ เขา้ ใจและตอบคาถามได้ และตอบคาถามได้ ตอบคาถามไดม้ ากกว่า นอ้ ยกวา่ ๕๐% ท้งั หมด ๕๐% ๒.ขนั้ ตอนการเขยี น เขยี นโปรแกรมหรือ เขยี นโปรแกรมหรอื เขยี นโปรแกรมหรือ โปรแกรมหรอื แอปพลิเคชนั ด้วยภาษา แอปพลิเคชนั ด้วยภาษา แอปพลิเคชนั ดว้ ยภาษา แอปพลเิ คชันดว้ ยภาษา Python ไดถ้ ูกต้อง ใช้ Python ไดถ้ ูก ใช้คาสง่ั Python ได้ ใชค้ าสั่ง Python คาส่งั เหมาะสมกับการ เหมาะสมกบั การทางาน เหมาะสมกับการทางาน ทางาน สามารถ สามารถตรวจสอบและ สามารถตรวจสอบและ ตรวจสอบและแก้ไข แก้ไขข้อผดิ พลาดของ แก้ไขขอ้ ผดิ พลาดของ ขอ้ ผิดพลาดของ โปรแกรมได้มากกวา่ โปรแกรมไดน้ อ้ ยกว่า โปรแกรมได้ ๕๐% ๕๐% ๓.มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ ในการออกแบบแอป แนวคดิ การพัฒนา แนวคดิ การพัฒนา แนวคิดการพัฒนา พลเิ คชัน แอปพลิเคชันได้น่าสนใจ แอปพลเิ คชันได้นา่ สนใจ แอปพลิเคชนั ไดน้ า่ สนใจ และสร้างสรรค์ มีความ และสร้างสรรค์ มีความ และสรา้ งสรรค์ มีความ เหมาะสมกับการใชง้ าน เหมาะสมกบั การใช้งาน เหมาะสมกบั การใชง้ าน มากกว่า๕๐% นอ้ ยกว่า๕๐% เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ๗–๙ ดี ๕–๖ พอใช้ น้อยกวา่ ๕ ปรบั ปรุง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๖๑

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓ ซอฟตแ์ วร์ท่ีใช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชนั (๒) ๑๑.๓ การประเมินการนาเสนอ (ออกแบบและเขยี นโปรแกรมหรือแอปพลเิ คชันด้วยภาษา Python) ท่ี รายการประเมิน คณุ ภาพผลงาน ๔ ๓ ๒๑ ๑ อธิบายหน้าทก่ี ารทางานของคาสั่งในการเขียนโปรแกรมด้วย Python ได้ ถูกตอ้ ง และตอบคาถามได้ ๒ บอกประโยชน์ของแอปพลิเคชนั ที่พฒั นาและคานึงถึงประโยชนต์ อ่ ชีวติ ประจาวัน ๓ มีวิธกี ารนาเสนอนา่ สนใจ ใช้ภาษาเหมาะสมเขา้ ใจงา่ ย ๔ การมีส่วนร่วมของสมาชกิ ในกลุม่ ๕ การรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผู้อน่ื รวม เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ๑๕ – ๒๐ ดี ๑๐ – ๑๔ น้อยกวา่ ๑๐ พอใช้ ปรบั ปรุง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๖๒

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ ซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชนั (๒) ๑๑.๔ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชีแ้ จง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง ท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น ๓๒ ๑ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ ๑.๑ ยืนตรงเคารพธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาติได้ กษตั ริย์ ๑.๒ เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีสรา้ งความสามคั คปี รองดองและเปน็ ประโยชน์ ตอ่ โรงเรียน ๑.๓ เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถือ ปฏบิ ตั ิตามหลักศาสนา ๑.๔ เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่เี กยี่ วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ตามทโี่ รงเรยี นจดั ขึ้น ๒. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต ๒.๑ ใหข้ อ้ มลู ทถี่ ูกต้องและเปน็ จรงิ ๒.๒ ปฏบิ ัติในสิ่งท่ถี กู ต้อง ๓. มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ ๓.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๔.๑ รจู้ ักใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์และนาไปปฏิบัติได้ ๔.๒ ร้จู ักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม ๔.๓ เชือ่ ฟังคาสง่ั สอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แยง้ ๔.๔ ต้ังใจเรยี น ๕. อยู่อยา่ งพอเพียง ๕.๑ ใชท้ รพั ย์สินและส่งิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั ๕.๒ ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรู้คุณคา่ ๕.๓ ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมีการเก็บออมเงิน ๖. มงุ่ ม่นั ในการทางาน ๖.๑ มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ด้รับมอบหมาย ๖.๒ มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสาเร็จ ๗. รักความเปน็ ไทย ๗.๑ มจี ติ สานกึ ในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย ๗.๒ เห็นคุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย ๘. มีจิตสาธารณะ ๘.๑ รจู้ ักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน ๘.๒ รจู้ กั การดแู ลรักษาทรพั ย์สมบัตแิ ละสง่ิ แวดล้อมของหอ้ งเรยี น และโรงเรียน ลงชอื่ ..................................................ผู้ประเมนิ ............/.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ ๕๑-๖๐ ดีมาก ๔๑-๕๐ ดี ๓๐-๔๐ พอใช้ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๖๓

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓ ซอฟต์แวร์ทใี่ ช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชนั (๒) พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ ๓ คะแนน ตา่ กว่า ๓๐ ปรบั ปรุง พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยครง้ั ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัตบิ างครงั้ ให้ ๑ คะแนน ใบความรู้ เรอื่ ง การใช้คาสั่งแสดงผลอินพตุ และเอาต์พุต คาส่ังแสดงผลด้วย print คอื การแสดงผลทางหน้าจอโดยใช้คาสง่ั print() ทาหนา้ ท่ใี นการแสดง ข้อมูลชนดิ อกั ขระ ตัวเลข ตัวแปร หรอื นพิ จน์ โคด้ ผลลพั ธ์ คาส่ังนาเขา้ ข้อมูลทางแปน้ พิมพ์ด้วย input Input คอื การรบั ขอ้ มูลจากภายนอกดว้ ยแป้นพมิ พ์โดยใชค้ าสง่ั input() ซง่ึ จะรบั ข้อมลู เข้ามาเก็บไว้ ในตัวแปร โคด้ ผลลพั ธ์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๖๔

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ ซอฟต์แวร์ท่ใี ชใ้ นการพฒั นาแอปพลิเคชนั (๒) ใบความรู้ เรอื่ ง ตัวแปร และตวั ดาเนินการ ตัวแปร คือ หนว่ ยความจาที่ใชจ้ ัดเกบ็ ขอ้ มูลเพ่ือนาไปใชใ้ นโปรแกรม ตัวแปรจะถกู เรยี กใช้ในการเก็บ ข้อมลู จากอินพตุ เก็บค่าคงที่ นาข้อมูลไปคานวณและเก็บผลลพั ธ์การกาหนด หรอื ประกาศตวั แปร ชนดิ ขอ้ มลู ตวั แปร ชนดิ การใช้งาน Int ข้อมูลชนดิ ตัวเลขจานวนเต็ม String ขอ้ มลู ทีเ่ ปน็ อกั ขระ หรือขอ้ ความ Float ข้อมลู ทีเ่ ป็นจานวนจรงิ ตวั ดาเนนิ การ หรอื โอเปอเรเตอร์ คอื สญั ลักษณ์ทบี่ อกใหด้ าเนินการอย่างใดอย่างหน่งึ กับขอ้ มลู ในตวั แปร และค่าคงท่ตี ่างๆ เชน่ การคานวณ โดยใชเ้ คร่อื งหมาย + - * / และการเปรยี บเทยี บที่ใชเ้ คร่อื งหมาย > < >= <= ๑) ตวั ดาเนนิ การทางคณิตศาสตร์ ตัวดาเนินการ ความหมาย ตัวอยา่ ง + การบวก x+y - การลบ x-y * การคูณ x*y / การหาร x/y % การหาร เอาเฉพาะเศษ x%y ** การยกกาลงั x ** y ๒) ตัวดาเนนิ การเปรียบเทยี บ ตัวดาเนนิ การ ความหมาย ตวั อย่าง == เท่ากบั x == y != ไม่เทา่ กับ x != y > มากกวา่ x>y < นอ้ ยกวา่ x<y เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๖๕

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน x >= y แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๓ ซอฟตแ์ วรท์ ่ใี ช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชนั (๒) x <= y >= มากกวา่ หรือเทา่ กบั <= น้อยกว่าหรือเทา่ กบั ใบความรู้ เร่ือง การทางานแบบมเี ง่อื นไข การใชง้ านคาสง่ั if if คือ คาสงั่ กาหนดเง่อื นไขเพ่อื ควบคุมใหโ้ ปรแกรมทางานเฉพาะคาส่งั ที่ตอ้ งการเมือ่ เงอ่ื นไขเป็นจรงิ ซึ่งเป็นการเลอื กทางานท่มี ที างเลอื กเดียว โคด้ ผลลพั ธ์ การใช้งานคาสงั่ if-else If-else คือ การกาหนดเง่อื นไขใหโ้ ปรแกรมเลอื กทา ๒ กรณี โดยเลือกทาคาสั่งในบลอ็ ก if เม่อื เงอื่ นไขเป็นจรงิ หรือเลือกทาคาส่ังในบลอ็ ก else เมือ่ เง่อื นไขเปน็ เท็จ โค้ด ผลลพั ธ์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๖๖

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชัน แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๓ ซอฟต์แวรท์ ใี่ ชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชนั (๒) ใบความรู้ เร่อื ง การทางานซ้า การใช้งานคาส่งั while while คือ การวนลูปโดยการตรวจสอบเงอ่ื นไขกอ่ นทางาน ซึ่งในขณะท่จี รวจสอบพบวา่ เงอื่ นไขเปน็ จรงิ คาส่งั ท่อี ยู่ภายในบล้อกจะถกู รันให้ทางานวนรอบไปเรื่อยๆ และจะหยดุ ทางานเมือ่ โปรแกรมตรวจสอบ พบวา่ เงื่อนไขเปน็ เท็จ คาส่ัง ผลลัพธ์ i=๐ while i <= ๑๐: print(i, end = ', ') i=i+๑ การใชง้ านคาส่ัง for for คอื การทางานแบบวนซ้าท่สี ามารถกาหนดจานวนคร้งั ท่แี นน่ อน โดยมีการกาหนดจุดเร่ิมตน้ จุด สุดทา้ ย และจานวนการทางานตามจานวนขอ้ มลู ท่มี ี คาส่ัง ผลลัพธ์ for num in (๒๗,๑๒,๒๕๓๗): print(num) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๖๗

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๓ ซอฟต์แวรท์ ่ใี ชใ้ นการพฒั นาแอปพลิเคชัน (๒) bp ='Lisa','Jisoo','Jennie','Rose' for bp in bp: print(bp) ใบงานท่ี ๔.๓.๑ เร่อื ง ตวั แปรและตัวดาเนินการ ๑.ให้นักเรยี นทาความเข้าใจเรอื่ งตัวแปรเพ่ือตอบคาถามตอ่ ไปน้ี ๑.๑ เขยี นผลลพั ธก์ ารทางานของโคด้ ต่อไปนี้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ “กิ้ฟขายแอปเปิ้ลไดเ้ งนิ มา ๔๒๕ บาท อรขายสม้ ได้เงนิ มา ๕๖๕ บาท ทศขายมะมว่ งงินมา ๔๕๖” ใหน้ กั เรียนเขยี นโปรแกรมเพ่ือแสดงรายไดจ้ ากการขายผลไม้ของแตล่ ะคน โดยใช้คาสง่ั “ตัวแปร” เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๖๘

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓ ซอฟต์แวรท์ ี่ใช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชัน (๒) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.ให้นกั เรียนทาความเข้าใจเร่ืองตวั แปรและการดาเนินการเพอ่ื ตอบคาถามตอ่ ไปนี้ ๒.๑ เขียนผลลพั ธ์การทางานของโคด้ ต่อไปนี้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.๒ เขยี นผลลพั ธ์การทางานของโคด้ ตอ่ ไปน้ี ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๖๙

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ซอฟตแ์ วร์ท่ใี ชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชัน (๒) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.๓ ใหน้ กั เรยี นเขยี นโปรแกรมเฉลี่ยคา่ อาหารรายคน โดยใหโ้ ปรแกรมรบั จานวนลูกค้า และค่าอาหาร ท้งั หมด จากน้ันแสดงค่าอาหารที่เฉลย่ี ต่อคนทางหนา้ จอ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.๔ เขยี นโปรแกรมประยุกตใ์ ช้ตัวดาเนินการเพ่อื แสดงผลลัพธ์ ดงั น้ี ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๗๐

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ ซอฟตแ์ วร์ทีใ่ ชใ้ นการพฒั นาแอปพลเิ คชัน (๒) ใบงานท่ี ๔.๓.๑ เฉลย เร่ือง ตวั แปรและตัวดาเนนิ การ ๑.ใหน้ กั เรยี นทาความเข้าใจเร่ืองตวั แปรเพอ่ื ตอบคาถามตอ่ ไปน้ี ๑.๑ เขยี นผลลพั ธก์ ารทางานของโค้ดตอ่ ไปนี้ …P…ri…ce……o…f M……an…g…o…=…๔…๕……………………………………………………………………………………………………………………… …P…ri…ce……o…f M……el…o…n…=…๘…๖……………………………………………………………………………………………………………………… …P…ri…ce……o…f B…a…n…an…a…=……๒…๔…………………………………………………………………………………………………………………… …P…ri…ce……o…f A…p…p…le……=…๖…๔……………………………………………………………………………………………………………………… …P…ri…ce……o…f W……at…e…rm…e…l…on……=…๘…๖…………………………………………………………………………………………………………… …/…/ต…วั …เล…ข…ใน……W…a…te…rm……el…o…n…ม…คี …่า=…๘…๖…เ…น…ื่อ…งจ…า…กใ…น…โค…้ด…โจ…ท…ย…์ได…้ใ…สต่…วั …แ…ป…ร…m…e…lo…n…ล…ง…ไป…แ…ท…น……………………… เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๗๑

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๓ ซอฟต์แวรท์ ใี่ ช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชัน (๒) ๑.๒ “กฟิ้ ขายแอปเปลิ้ ได้เงินมา ๔๒๕ บาท อรขายส้มไดเ้ งนิ มา ๕๖๕ บาท ทศขายมะมว่ งงนิ มา ๔๕๖” ใหน้ กั เรียนเขียนโปรแกรมเพื่อแสดงรายไดจ้ ากการขายผลไมข้ องแต่ละคน โดยใช้คาสัง่ “ตวั แปร” …g…if…t …=…๔…๒…๕……………………………………………………………………………………………………………………………………… …t…o…ss…=…๔…๕…๖……………………………………………………………………………………………………………………………………… …o…r…n …=…๕…๖…๕……………………………………………………………………………………………………………………………………… …p…r…in…t('…G…ift…=……%…d…'…%……gif…t)………………………………………………………………………………………………………………… …p…r…in…t('…T…os…s…=…%……d…' …%…t…o…ss…) …………………………………………………………………………………………………………… …p…r…in…t('…O…rn…=……%…d…'…%……or…n…) ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.ใหน้ กั เรยี นทาความเขา้ ใจเร่ืองตัวแปรและการดาเนินการเพือ่ ตอบคาถามตอ่ ไปน้ี ๒.๑ เขยี นผลลพั ธ์การทางานของโคด้ ต่อไปนี้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………๙……………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………๖…๐…………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.๒ เขยี นผลลพั ธ์การทางานของโค้ดต่อไปน้ี เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๗๒

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชัน แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๓ ซอฟต์แวร์ที่ใชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชนั (๒) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………Y…o…u…r …ag…e…=……๒…๕………………………………………………………………………………………………………………………… ………Y…o…u…r …BM……I =……๑…๙………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.๓ ใหน้ กั เรียนเขียนโปรแกรมเฉลี่ยคา่ อาหารรายคน โดยให้โปรแกรมรับจานวนลูกค้า และค่าอาหาร ทงั้ หมด จากนั้นแสดงค่าอาหารท่ีเฉล่ยี ต่อคนทางหนา้ จอ ………p…r…in…t(…'W…e…lc…o…m…e…t…o…R…e…st…u…ar…a…nt…')……………………………………………………………………………………………… ………b…i…ll…=…in…t…(in…p…u…t(…'E…n…te…r…b…ill…t…o…ta…l …: '…))………………………………………………………………………………………… ………r…e…gi…s …=…in…t…(in…p…u…t(…'E…nt…e…r …to…ta…l…c…u…st…om……er…:…')…) …………………………………………………………………………… ………a…v…e…rp…=……b…ill…/r…eg…is……………………………………………………………………………………………………………………… ………p…r…in…t(…'\\n…A…v…e…ra…ge……p…er…๑……=…%…d…'…%……a…ve…rp…)………………………………………………………………………………… ………p…r…in…t(…'T…h…an…k…y…o…u…:)…')………………………………………………………………………………………………………………… ๒.๔ เขยี นโปรแกรมประยุกตใ์ ช้ตัวดาเนินการเพ่อื แสดงผลลพั ธ์ ดังนี้ ………m……o…nt…h…๑…=…๒…๓…๕…๔……………………………………………………………………………………………………………………… ………m……o…nt…h…๒…=…๔…๕…๘…๔……………………………………………………………………………………………………………………… ………m……o…nt…h…๓…=…๒…๔…๖…๕……………………………………………………………………………………………………………………… ………m……o…nt…h…๔…=…๘…๕…๔…๖……………………………………………………………………………………………………………………… ………p…r…in…t(…'B…an…t…h…un…g…C…a…fe…')……………………………………………………………………………………………………………… ………p…r…in…t(…'*…**…**…*…*')…………………………………………………………………………………………………………………………… ………p…r…in…t(…'R…e…po…r…t …by……๔…m…o…nt…h…=……%…d…' %……(m……on…t…h…๑…+m……on…t…h…๒…+m……on…t…h…………………………………………… ………๓…+…m…o…n…t…h๔…)…) …………………………………………………………………………………………………………………………… เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๗๓

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๓ ซอฟตแ์ วรท์ ีใ่ ชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชนั (๒) ใบงานที่ ๔.๓.๒ เร่อื ง การใชค้ าสง่ั แสดงผลอินพุต และเอาตพ์ ตุ ๑.จงบอกหนา้ ที่การทางานของคาส่งั ต่อไปน้ี ๑.๑ print ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ input ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.ให้นักเรียนทาความเขา้ ใจคาสง่ั การแสดงผล print เพอ่ื ตอบคาถามตอ่ ไปนี้ ๒.๑ เขียนโคด้ คาสัง่ เพื่อแสดงผลลัพธ์ ดังน้ี ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๗๔

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ซอฟต์แวรท์ ่ีใช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชนั (๒) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.๒ ใหน้ ักเรยี นเขียนโปรแกรมเพือ่ แสดงประวตั ิส่วนตวั ของนักเรยี นที่สามารถเปิดเผยตอ่ สว่ นรวมได้ อย่างน้อย ๗ อย่างจากนั้นจดบนั ทกึ คาสงั่ จากโปรแกรมลงด้านลา่ ง(เฉพาะโคด้ ) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.๓ ให้นกั เรยี นเขยี นโปรแกรมรับช่ือ พรอ้ มน้าหนกั จากแปน้ พมิ พจ์ านวน๓คนจากนัน้ ใหโ้ ปรแกรม แสดงขอ้ มูลของแต่ละคนทางหน้าจอ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๗๕

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑ บูรณาการแอปพลิเคชัน แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๓ ซอฟตแ์ วร์ทีใ่ ชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชนั (๒) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใบงานที่ ๔.๓.๒ เฉลย เรอื่ ง การใช้คาสั่งแสดงผลอนิ พตุ และเอาต์พตุ ๑.จงบอกหนา้ ท่ีการทางานของคาสงั่ ต่อไปนี้ ๑.๑ print ……………ก…า…รแ…ส…ด…งผ…ล…ท…าง…ห…น…า้ จ…อ…โ…ดย…ใ…ช้ค…า…ส…งั่ …p…rin…t…()…ท…าห…น…า้ …ท…ใ่ี น…ก…า…รแ…ส…ด…งข…อ้ …ม…ูล…ชน…ดิ …อ…กั …ขร…ะ……………………… ……………ต…วั …เล…ข…ต…วั …แป…ร…ห…ร…ือ…น…พิ …จน…์……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ input ……………ก…า…รร…ับ…ข…อ้ ม…ลู…จ…า…กภ…า…ย…น…อก…ด…ว้ …ยแ…ป…้น…พ…มิ …พ…โ์ ด…ย…ใช…้ค…า…สง่ั…i…n…pu…t…()…ซ…ึ่งจ…ะ…ร…บั …ข้อ…ม…ลู …เข…า้ …มา…เก…บ็ …ไ…ว้……………… ……………ใ…น…ตัว…แ…ป…ร……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.ให้นกั เรยี นทาความเข้าใจคาสงั่ การแสดงผล print เพื่อตอบคาถามต่อไปน้ี ๒.๑ เขียนโคด้ คาส่ังเพ่อื แสดงผลลพั ธ์ ดงั นี้ ……………p…rin…t…('H…e…l…lo…')………………………………………………………………………………………………………………………… print('I am python') print('I was born in ๑๙๘๙ byเทRคoโsนsโoลยmี ('ว)ทิ ยาการคานวณ) print('My language base on ABC') ๗๖

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชนั แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๓ ซอฟต์แวรท์ ่ีใชใ้ นการพัฒนาแอปพลิเคชัน (๒) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.๒ ใหน้ กั เรยี นเขียนโปรแกรมเพ่ือแสดงประวตั ิส่วนตวั ของนกั เรียนท่สี ามารถเปิดเผยตอ่ ส่วนรวมได้ อยา่ งน้อย ๗ อย่างจากน้ันจดบนั ทึกคาส่งั จากโปรแกรมลงด้านล่าง(เฉพาะโค้ด) …………p…ri…nt…('M……y…n…am……e…is…P…a…tt…ha…r…a…R…a…ks…a…')……………………………………………………………………………………… …………p…ri…nt…('M……y…n…ic…k …n…am……e…is…G…if…t')…………………………………………………………………………………………………… …………p…ri…nt…('I…a…m……๒…๕…y…e…ar…s …o…ld…')……………………………………………………………………………………………………… …………p…ri…nt…('I…w…a…s…b…o…rn…i…n…K…h…on…k…a…en……') …………………………………………………………………………………………… …………p…ri…nt…('I…l…o…ve…B…l…ac…k…p…in…k …')………………………………………………………………………………………………………… …………p…ri…nt…('I…l…ik…e…to……ea…t…d…e…ss…e…rt…') ……………………………………………………………………………………………………. …………p…ri…nt…('I…l…iv…e…in……Ba…n…gk…o…k…') ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.๓ ใหน้ กั เรียนเขียนโปรแกรมรบั ชอ่ื พร้อมนา้ หนกั จากแป้นพิมพจ์ านวน๓คนจากนนั้ ใหโ้ ปรแกรม แสดงข้อมลู ของแต่ละคนทางหน้าจอ ……………n…am……e๑……=…in…p…u…t(…'E…n…te…r…n…am……e:…')…………………………………………………………………………………………… ……………w…e…ig…ht…๑…=……in…t(…in…p…ut…('…En…t…er…w…e…i…gh…t…: …'))………………………………………………………………………………… ……………n…am……e๒……=…in…p…u…t(…'E…n…te…r…n…am……e:…')…………………………………………………………………………………………… ……………w…e…ig…ht…๒…=……in…t(…in…p…ut…('…En…t…er…w…e…i…gh…t…: …'))………………………………………………………………………………… ……………n…am……e๓……=…in…p…u…t(…'E…n…te…r…n…am……e:…')…………………………………………………………………………………………… weight๓ %=sinwt(einigphutt=('E%ndte' r%w(enเiทgahคmโtนe:โ๑ล')ย,)wี (วeทิ๗igย๗hาtก๑าร))คานวณ) print('๑. print('๒. %s weight= %d' % (name๑,weight๑))

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๓ ซอฟต์แวรท์ ี่ใชใ้ นการพฒั นาแอปพลิเคชัน (๒) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใบงานท่ี ๔.๓.๓ เร่ือง การทางานแบบมเี ง่ือนไข ๑.ใหน้ ักเรยี นทาความเขา้ ใจการทางานคาสั่ง if-else แลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปนี้ ๑.๑ ใหน้ ักเรยี นเขยี นผลลัพธก์ ารทางานของโคด้ ต่อไปน้ี ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ใหน้ ักเรียนเขยี นผลลัพธ์การทางานของโค้ดต่อไปนี้ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๗๘

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลิเคชนั แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๓ ซอฟตแ์ วรท์ ่ีใช้ในการพัฒนาแอปพลเิ คชัน (๒) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.เขยี นโปรแกรมรบั ค่าอุณหภมู ิจากแป้นพมิ พจ์ ากนัน้ ใหแ้ สดงระดับอณุ หภมู ิ โดยใชเกณฑ์ ดงั น้ี เกณฑอ์ ณุ หภมู ิ(เซลเซยี ส) ๒๙ ขน้ึ ไป = ร้อน ๒๔-๒๘ = ปกติ ๑-๒๓ = เยน็ ๐ = เยือกแข็ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๗๙

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓ ซอฟต์แวร์ทใ่ี ช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน (๒) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใบงานที่ ๔.๓.๓ เฉลย เรอื่ ง การทางานแบบมีเง่ือนไข ๑.ให้นกั เรยี นทาความเข้าใจการทางานคาสงั่ if-else แล้วตอบคาถามต่อไปนี้ ๑.๑ ให้นักเรยี นเขยี นผลลพั ธก์ ารทางานของโคด้ ต่อไปน้ี ……………A …sa…m…e……B ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ใหน้ กั เรยี นเขียนผลลัพธก์ ารทางานของโค้ดต่อไปน้ี เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๘๐

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ ซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการพฒั นาแอปพลิเคชัน (๒) …………C…o…r…re…ct…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.เขยี นโปรแกรมรบั ค่าอุณหภูมิจากแปน้ พิมพ์จากนน้ั ใหแ้ สดงระดบั อุณหภมู ิ โดยใชเกณฑ์ ดังนี้ เกณฑอ์ ุณหภมู ิ(เซลเซยี ส) ๒๙ ขึ้นไป = ร้อน ๒๔-๒๘ = ปกติ ๑-๒๓ = เยน็ ๐ = เยือกแข็ง …………t…e…m…p…=…f…lo…a…t(…in…p…ut…('…En…t…er…t…e…m…p…er…a…tu…re……: '…))………………………………………………………………………… …………i…f t…e…m…p…>…=…๒๙…:………………………………………………………………………………………………………………………… ……………p…ri…n…t('…รอ้…น…')…………………………………………………………………………………………………………………………… …………e…li…f …te…m…p…>…=…๒…๔…a…n…d…te…m…p…<…=…๒…๘…: ………………………………………………………………………………………… ……………p…ri…n…t('…ป…กต…ิ'…) ………………………………………………………………………………………………………………………… …………e…li…f …te…m…p…>…=…๑…a…n…d…te…m…p…<…=…๒…๓…:…………………………………………………………………………………………… ……………p…ri…n…t('…เย…น็ …')…………………………………………………………………………………………………………………………… elif temp ==๐: print('เยือกแขง็ ') เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๘๑

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลเิ คชนั แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ ซอฟต์แวรท์ ใี่ ช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชัน (๒) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ใบงานท่ี ๔.๓.๔ เร่อื ง การทาซา้ ๑.ให้นักเรียนทาความเขา้ ใจการทางานของ while และ for และตอบคาถามตอ่ ไปน้ี ๑.๑ บอกผลลพั ธ์ของการทางานจากคาสง่ั while ตอ่ ไปนี้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๘๒

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ ซอฟต์แวรท์ ่ีใช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชัน (๒) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ให้ประยกุ ต์ใช้คาส่งั for เกบ็ ช่ือดารา นักรอ้ งท่ีชอบ๕คนจากน้นั ใหโ้ ปรแกรมแสดงรายชือ่ ทั้งหมด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.ใหบ้ อกประโยชน์ของโปรแกรม หรอื แอปพลเิ คชน่ั ในชีวิตประจาวัน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ใบงานที่ ๔.๓.๔ เฉลย เรอื่ ง การทาซ้า ๑.ให้นกั เรียนทาความเขา้ ใจการทางานของ while และ for และตอบคาถามต่อไปนี้ ๑.๑ บอกผลลพั ธข์ องการทางานจากคาสง่ั while ต่อไปน้ี …………H…e…llo……Py…t…ho…n…………………………………………………………………………………………………………………………… …………H…e…llo……Py…t…ho…n…………………………………………………………………………………………………………………………… Hello Python เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๘๓

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ บรู ณาการแอปพลิเคชัน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๓ ซอฟต์แวรท์ ี่ใชใ้ นการพัฒนาแอปพลเิ คชัน (๒) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑.๒ ให้ประยุกตใ์ ช้คาส่ัง for เกบ็ ชือ่ ดารา นักร้องที่ชอบ๕คนจากน้ันให้โปรแกรมแสดงรายชือ่ ทัง้ หมด …………m…y…p…o…p…=…'M……ill…a'…,'M…a…t…he…w…',…'P…a…nc…a…ke…',…'A…ri…an…a…','…T…ay…lo…r…' …………………………………………………………… …………p…rin…t…('T…h…is…i…s …m…y…p…o…p…ul…a…r')……………………………………………………………………………………………………… …………fo…r…m…y…p…o…p…in…m……yp…o…p…:…………………………………………………………………………………………………………… ………………p…rin…t…(m…y…p…o…p)……………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒.ให้บอกประโยชนข์ องโปรแกรม หรือแอปพลิเคช่ันในชีวติ ประจาวัน ........๑.....ส..ร..้า..ง..โ..ป..ร..แ...ก..ร..ม..ท...ีม่...ีป..ร..ะ..โ..ย..ช...น..ใ์..น..ช...ีว..ติ ..ป...ร..ะ..จ..า..ว..นั.............................................................................................. ........๒.....ท...า..โ.ป...ร..แ..ก...ร.ม...แ..ป...ล..ง..ส..ก...ุล..เ.ง..ิน........................................................................................................................... ........๓.....ท...า..ใ.ห...ช้ ..ีว..ิต...ส..ะ..ด...ว..ก..ส..บ...า..ย................................................................................................................................ ........๔.....ล...ด..เ.ว..ล...า.ใ..น...ก..า..ร..ท...า.ง..า..น...ข..อ...ง.ม...น..ุษ...ย...์ล..ง............................................................................................................. ๑๒. บันทกึ ผลหลังการสอน  ดา้ นความรู้  ด้านสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)  ด้านอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรอื พฤติกรรมท่ีมปี ัญหาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถา้ มี)) เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๘๔

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๑ บูรณาการแอปพลเิ คชัน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๓ ซอฟตแ์ วรท์ ีใ่ ช้ในการพฒั นาแอปพลเิ คชนั (๒)  ปญั หา/อปุ สรรค  แนวทางการแก้ไข เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๘๕

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ การบริการบนอินเทอรเ์ นต็ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ การบริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ เวลา ๕ ชัว่ โมง ๑. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้ีวัด ว ๔.๒ เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชวี ติ จริงอยา่ งเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทางานและการแก้ปัญหาได้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี ริยธรรม ว ๔.๒ ม.๓/๒ รวบรวมขอ้ มูล ประมวลผล ประเมนิ ผล นาเสนอข้อมลู และสารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรอื บริการบนอินเทอร์เนต็ ท่ี หลากหลาย ๒. สาระการเรยี นรู้ ๒.๑ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๑) การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ ประมวลผล สร้างทางเลือก ประเมินผล จะ ท าให้ ได้ ส าร ส น เท ศ เพ่ื อ ใช้ ใน ก าร แ ก้ ปั ญ ห า ห รื อ ก าร ตั ด สิ น ใจ ได้ อ ย่ าง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ๒) การประมวลผลเป็นการกระทากับข้อมูล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ท่ีมีความหมายและมีประโยชน์ต่อ การนาไปใชง้ าน ๓) การใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ีหลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมนิ ผล นาเสนอ จะชว่ ยให้แกป้ ัญหาได้อยา่ งรวดเร็ว ถูกต้อง และแมน่ ยา ๔) ตัวอย่างปัญหา เช่น การเลือกโปรโมชันโทรศัพท์ให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งาน สินค้าเกษตร ทต่ี ้องการและสามารถปลกู ไดใ้ นสภาพดินของทอ้ งถนิ่ ๓. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด การรวบรวมข้อมูล เป็นขั้นตอนที่สาคัญท่ีสุดของการจัดการข้อมูลและสารสนเทศ ดังน้ันควร มีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะและประเภทของข้อมูล ตลอดจนวิธีการรวบรวมข้อมูล เพ่ือจะได้นาไป ประยุกตใ์ ช้ได้ อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสมกบั งานของตน หากพิจารณาถงึ ประเภทของข้อมลู สามารถแบ่งได้ เป็น ๒ กลมุ่ ตามแหล่งที่มาของข้อมูล ได้แก่ ขอ้ มูลปฐมภูมแิ ละขอ้ มลู ทุติยภูมิ การประมวลผลข้อมูล หมายถึง วธิ ีการจัดการกับข้อมลู ด้วยการ คานวณหรือการเปรียบเทียบ เพ่ือให้ข้อมูลอยู่ในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ตรงตามความต้องการ โดยการประมวลผลข้อมูลสามารถ แบ่งตามอุปกรณ์ท่ีใช้ได้ ๓ ประเภท คือ การประมวลผลข้อมูลด้วยมือ การประมวลผลข้อมูลด้วย เครื่องจกั รกลและการประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๘๖

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ การบริการบนอนิ เทอร์เน็ต การจัดการข้อมูลและสารสนเทศมีการนาซอฟต์แวร์ต่าง ๆ มาช่วยในการจัดการข้อมูล โดยมีท้ังซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ซอฟต์แวร์ท่ีใช้ในการประมวลผลข้อมูล และซอฟต์แวร์ ทใี่ ชใ้ นการนาเสนอข้อมลู เพอ่ื การจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียนและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๑. มวี นิ ยั ๒. ความสามารถในการคิด ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๓. มงุ่ มัน่ ในการทางาน ๔. มีจิตสาธารณะ ๕. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง - ๖. การวัดและการประเมนิ ผล รายการวดั วิธีวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน - แบบทดสอบ ประเมนิ ตามสภาพ ๖.๑ การประเมินกอ่ นเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ ก่อนเรยี น จริง - แบบทดสอบก่อนเรียน ก่อนเรียน - แบบฝึกหัดรายวิชา ระดบั คณุ ภาพ ๒ พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เทคโนโลยี (วิทยาการ คานวณ) ม.๓ เรอ่ื ง การบริการบน - แบบประเมิน อนิ เทอร์เนต็ ใบงานท่ี ๑.๑.๑ เรื่อง อาชีพในอนาคต ๖.๒ การประเมินระหวา่ งการจดั - ตรวจแบบฝกึ หัด กจิ กรรม Exercise เรอื่ ง การ ๑) การรวบรวมขอ้ มูล รวบรวมข้อมลู - ตรวจใบงานที่ ๑.๑.๑ เร่อื ง อาชพี ในอนาคต - ประเมนิ การนาเสนอ เรอื่ ง การใช้เหตุผลเชิง ตรรกะในชีวิตประจาวนั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๘๗

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ การบริการบนอินเทอรเ์ น็ต รายการวัด วิธวี ัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ ๒) การประมวลผลข้อมูล - ตรวจแบบฝกึ หัด ระดบั คุณภาพ ๒ - แบบฝึกหัดรายวิชา ผา่ นเกณฑ์ ๓) การใช้ซอฟตแ์ วร์ Exercise เร่ือง การ พ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ในการจัดการข้อมลู ประมวลผลข้อมูล เทคโนโลยี (วิทยาการ และสารสนเทศ - ตรวจแบบฝกึ หัด คานวณ) ม.๓ ๔) คุณลกั ษณะ Activity เรอื่ ง การ - แบบประเมนิ อนั พงึ ประสงค์ จดั การขอ้ มลู และ การทาแบบฝกึ หดั สารสนเทศ ๖.๓ การประเมนิ หลังเรียน - การตอบคาถาม กิจกรรมฝึกทกั ษะที่ ๓.๑ ระดับคณุ ภาพ ๒ ๑) แบบทดสอบหลงั เรียน ตรวจแบบฝกึ ทักษะ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ กจิ กรรมฝึกทกั ษะที่ ๓.๒ ผา่ นเกณฑ์ เร่อื ง การบริการบน - สังเกตความมวี ินยั อินเทอร์เนต็ ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ ม่นั กจิ กรรมฝึกทักษะที่ ๓.๓ ๒) การประเมินช้ินงาน/ ในการทางาน และ ภาระงาน (รวบยอด) มีจติ สาธารณะ - แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ๒ เร่อื ง - - ตรวจแบบทดสอบ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ หลงั เรียน อันพึงประสงค์ - ตรวจชน้ิ งาน/ ภาระงาน (รวบยอด) - แบบทดสอบ รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ น หลงั เรียน เกณฑ์ - แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ - ระดบั คณุ ภาพ ๒ ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์ ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เรอ่ื ง การบรกิ ารบน อนิ เทอรเ์ นต็ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๘๘

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ การบริการบนอินเทอรเ์ น็ต เรอ่ื งที่ ๑ : การรวบรวมขอ้ มูล เวลา ๑ ชั่วโมง วิธกี ารสอนแบบการอภิปราย วิธกี ารสอนแบบกระบวนการกลุ่ม ขน้ั นา ๑. ครูสอบถามนกั เรยี นว่า “ในภาคเรียนที่ผ่านมา นักเรยี นชอบวชิ าไหนมากที่สุด เพราะอะไร” (ครูสมุ่ ถามนักเรียน ๔ – ๕ คน) ๒. จากน้ันครถู ามต่อว่า “คาถามที่ครูถามข้างตน้ เป็นลกั ษณะของขอ้ มลู ประเภทไหน” (แนวคาตอบ ข้อมูลปฐมภมู ิ) ขัน้ สอน ๑. ครูทบทวนความรนู้ กั เรยี น โดยการถามคาถาม ถา้ เราพิจารณาขอ้ มูลตามแหลง่ ทีม่ าของข้อมูล สามารถแบ่ง ขอ้ มูลได้ก่ปี ระเภท อะไรบา้ ง (นักเรยี นได้เรยี นเรอ่ื ง การจดั การข้อมลู และสารสนเทศในระดับชัน้ ม.๑) (แนวคาตอบ ๒ ประเภท คือ ขอ้ มูลปฐมภมู ิและข้อมูลทตุ ิยภมู ิ) ๒. ครูอธบิ ายกับนักเรียนวา่ ข้อมลู แต่ละประเภทมีลกั ษณะตา่ งกัน การรวบรวมขอ้ มูลจึงต่างกนั ๓. ครูอธบิ ายการรวบรวมข้อมลู ปฐมภูมิ สามารถทาได้ดังนี้ การสมั ภาษณ์สว่ นบุคคล การสมั ภาษณ์ทาง โทรศัพท์ การใช้แบบสอบถาม และการสังเกต ๔. ครถู ามนกั เรียนว่า ในตอนตน้ ชั่วโมงครูถามเร่ืองวิชาที่นกั เรยี นชอบมากที่สุด เพราะอะไร เป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู แบบใด (แนวคาตอบ การสัมภาษณ์ส่วนบคุ คล) ๕. ครูอธบิ ายการรวบรวมขอ้ มลู ทุตยิ ภูมิ ในการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งทตุ ยิ ภมู สิ ามารถแบง่ ออกได้ ๒ รูปแบบ ได้แก่ ข้อมลู จากแหลง่ ข้อมูลภายในและขอ้ มลู จากแหล่งข้อมูลภายนอก ๖. ครใู หน้ ักเรยี นทาแบบฝึก Exercise เร่อื ง การรวบรวมข้อมูล เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจ ๗. ครูสนทนากบั นกั เรยี นในการจดั การขอ้ มูลอย่างใดอยา่ งหนึง่ เราต้องเลือกวธิ ใี ห้เหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ท่ี เราจะใชง้ าน ต้งั แตเ่ ลอื กวิธกี ารรวบรวมขอ้ มลู วธิ กี ารประมวลผล และการนาเสนอขอ้ มูล จากนั้นครใู ห้ นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๔ – ๕ คน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๘๙

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ การบริการบนอินเทอรเ์ นต็ ๘. ครูแจกใบงานท่ี ๑.๑.๑ เรือ่ ง อาชพี ในอนาคต ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รวบรวมข้อมูลของนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ จานวน ๒๐ คน ขึ้นไป ตามหัวข้อท่กี าหนดให้ (กลมุ่ ประชากรที่แต่ละกลุ่มรวบรวมข้อมูล ไม่ควรซา้ กนั ) ๙. จากน้ันครใู หน้ ักเรียนวางแผนวธิ ีการรวบรวมขอ้ มลู ที่เหมาะสม โดยนกั เรียนสามารถเลือกเพอ่ื นต่างหอ้ งได้ ใชค้ าบพกั เทีย่ งในการรวบรวมขอ้ มูลกลมุ่ เป้าหมายทนี่ กั เรียนต้องการได้ เช่น นกั เรียนตา่ งหอ้ ง เพ่ือไม่ให้ กระทบการเรียนของนักเรียนห้องอนื่ ขัน้ สรปุ ๑. ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกนั อภิปรายถึงความสาคัญของวิธกี ารรวบรวมขอ้ มูล ๒. ครสู นทนากบั นกั เรยี นวา่ ถ้านกั เรียนรวบรวมขอ้ มลู เสร็จแล้ว ขัน้ ตอนต่อไปจะต้องนาข้อมลู ทร่ี วบรวมไดไ้ ป ประมวลผล ซ่ึงในคาบถัดไป เราจะมาเรยี นรูเ้ รือ่ ง การประมวลผลขอ้ มูล เพอื่ ให้ข้อมูลนน้ั อยูใ่ นรูปแบบท่มี ี ประโยชนแ์ ละตรงตามวตั ถุประสงค์การใช้งาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๙๐

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ การบริการบนอนิ เทอรเ์ น็ต เร่อื งท่ี ๒ : การประมวลผลข้อมูล เวลา ๒ ชวั่ โมง วิธกี ารสอนแบบการอภิปราย วธิ ีการสอนแบบกระบวนการกลมุ่ เทคนิคตามแนวคดิ เชิงคานวณ ขน้ั นา ๑. ครูสอบถามว่าจากการสารวจข้อมูลของกลุ่มตัวอย่างในคาบท่ีแล้ว แต่ละกลุ่มใช้วิธีการรวบรวมข้อมูล แบบใดบ้าง (แนวคาตอบ การสมั ภาษณ์สว่ นบคุ คล การสมั ภาษณท์ างโทรศพั ท์ การใชแ้ บบสอบถาม) ๒. ครสู นทนากบั นกั เรยี นว่า เราสามารถนาข้อมูลนั้นมาใช้เลยได้หรอื ไม่ (แนวคาตอบ ได้แตไ่ ม่สะดวกต่อการใชง้ าน เพราะฉะนัน้ เราจะต้องนาข้อมลู มาประมวลผลก่อน) ขน้ั สอน ๑. ครูอธิบายการประมวลผลข้อมูลในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ การประมวลผลข้อมูลเป็นวิธีการจัดการกับข้อมูล อาจเป็นการคานวณหรือการเปรียบลักษณะต่าง ๆ เพ่ือให้ข้อมูลน้ันอยู่ในรูปแบบที่มีประโยชน์ตรงกับจุดประสงค์ของผู้ใช้งาน ซึ่งการประมวลผลข้อมูล แบ่งออกตามอุปกรณ์ท่ีใช้ได้ ๓ ประเภท คือ การประมวลผลข้อมูลด้วยมือ การประมวลผลข้อมูลด้วย เครอ่ื งจักรกล และการประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ ๒. จากนั้นครูอธิบาย “การประมวลผลข้อมูลด้วยมือ” ในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๓ ๓. ครูสนทนาวา่ จากข้อมูลที่ใหไ้ ปรวบรวมขอ้ มูลในกิจกรรมอาชีพในฝัน ใหน้ ักเรียนนาขอ้ มูล อาชพี ท่ีอยากทา ในอนาคตมาจัดอันดับ โดยการนาข้อมูลของกลุ่มตนเองมาจัดอันดับอาชีพที่มีคนอยากทามากที่สุด ๕ อนั ดบั ๔. ครูให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนออาชีพ ๕ อันดับแรกจากการรวบรวมข้อมูลของกลุ่มตนเอง (ระหว่างท่ี นกั เรยี นนาเสนอ ครจู ดขอ้ มูลของแตล่ ะกลุม่ บนกระดาน หรอื พิมพล์ งบนExcel) ๕. ครูถามนักเรียนว่าวิธีการจัดการกับข้อมูลที่รวบรวมได้จากเพื่อน ๒๐ คนในคาบท่ีแล้วเปน็ การประมวลผล ประเภทใด เพราะอะไร (แนวคาตอบ การประมวลผลข้อมลู ดว้ ยมือ เพราะข้อมลู น้อยคานวณดว้ ยตนเองได้) เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๙๑

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ การบริการบนอินเทอรเ์ นต็ ๖. ครูสนทนากบั นักเรยี นว่า คาบทผ่ี ่านมานักเรียนไดป้ ระมวลผลข้อมลู ดว้ ยมอื เราทราบอยแู่ ล้วว่าการ ประมวลผลข้อมลู สามารถทาได้หลายวิธี จากนั้นครูอธิบาย “การประมวลผลขอ้ มลู ด้วยเคร่อื งจักรกล” ใน หนงั สือเรยี นวชิ า เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ๗. ครูยกตัวอย่างการประมวลผลข้อมูลด้วยเคร่ืองจักรกล เช่น เคร่ืองคิดเลขในมินิมาร์ทที่เป็นเครื่องทาบัญชี อาชพี นักบญั ชีทีต่ อ้ งมกี ารคานวณเกี่ยวกบั เงินซงึ่ ตอ้ งการความแม่นยาสูงจะมเี ครอ่ื งทาบัญชีเข้ามาชว่ ยทาให้ การคานวณแมน่ ยามากขึ้น โดยการทางานของเคร่ืองก็จะมีฟังกช์ น่ั ต่าง ๆ ที่สะดวกตอ่ การคานวณตวั เลข ๘. ครูตั้งคาถามวา่ หากขอ้ มลู ที่เราต้องการประมวลผลมีจานวนทม่ี ากข้ึน จนไมส่ ามารถประมวลได้เอง เราจะมี วธิ กี ารแก้ปัญหาอยา่ งไร (แนวคาตอบ ใชค้ อมพวิ เตอรม์ าชว่ ยในการประมวลผลข้อมลู ทาใหไ้ ด้ข้อมลู ทีร่ วดเร็ว) ๙. ครูยกตัวอย่างว่าในแต่ละเทอมเราจะต้องตัดเกรด และในขั้นตอนการตัดเกรดมคี ะแนนท่ีต้องคานวณหลาย อย่าง ซ่ึงครูส่วนใหญ่จึงจาเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการประมวลผลข้อมูล จะแม่นยากว่าและ ประมวลผลเร็วกว่า ๑๐. ครสู อบถามว่านกั เรยี นทราบหรือไมก่ ารประมวลผลขอ้ มูลดว้ ยคอมพวิ เตอรม์ ีลาดับขัน้ ตอนออยา่ งไร (แนวคาตอบ ขัน้ ตอนที่ ๑ การนาเข้าขอ้ มูล ขั้นตอนที่ ๒ การประมวลผลข้อมูล ขั้นตอนที่ ๓ การแสดงผล) ๑๑. จากนน้ั ครูอธิบายลาดบั การประมวลผลขอ้ มลู ด้วยคอมพิวเตอร์ ในหนังสอื เรียนวิชา เทคโนโลยี (วิทยาการ คานวณ) ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ๑๒. ครใู ห้นกั เรียนทาแบบฝึกหัด exersice เรอ่ื ง การประมวลผลขอ้ มูล เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจ ชว่ั โมงท่ี ๒ ขัน้ ส1อ.น ๑๓. ครูอธิบายวิธีการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ในหนังสือเรียนวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคานวณ) ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ซ่ึงวธิ ีการประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น ๒ วิธี ดังนี้ การประมวลผลแบบ แบตช์ และการประมวลผลแบบอินเทอรแ์ อ็กทิฟ (ครยู กตวั อยา่ งในหนังสือเรียน แลว้ ให้นักเรียนศึกษา เพิ่มเตมิ จากหนังสอื เรียน) ๑๔. จากนั้นครูอธิบายเน้ือหาในหนงั สือเรยี นวิชา เทคโนโลยี(วิทยาการคานวณ) ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๓ กรรมวิธี ในการประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ มีวิธีในการประมวลผลหลายวิธี ได้แก่ ๑) การคานวณ ๒) การจัดเรียงข้อมูล ๓) การจัดกลุ่มข้อมูล ๔) การสืบค้นข้อมูล ๕) การรวบรวมข้อมูล ๖) การสรุปผล ๗) เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๙๒

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ การบริการบนอนิ เทอร์เน็ต การทารายงาน ๘) การบันทึก ๙) การปรบั ปรุงขอ้ มูล ๑๐) การสาเนาขอ้ มูล ๑๑) การสารองข้อมูล ๑๒) การกขู้ อ้ มลู ๑๓) การส่ือสารข้อมลู ๑๔) การบบี อัดขอ้ มูล ๑๕. ครยู กตวั อย่างกรรมวธิ ใี นการประมวลผลขอ้ มูลด้วยคอมพิวเตอร์บางข้อให้นกั เรียนฟัง ๑) การคานวณขอ้ มลู เช่น การนาระดับเกรดของแตล่ ะวชิ ามาคานวณเพือ่ หาเกรดเฉล่ีย ๒) การจดั เรียงข้อมูล เช่น การเรียงลาดบั จากนอ้ ยไปมาก การเรยี งตัวอักษร ๓) การจัดกลุ่มข้อมูล เช่น สรุปข้อมูลผลการเรียนนักเรียนตามช้ันของนักเรียน เช่น เกรดเฉลี่ยนักเรียน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ๔) การสบื คน้ ขอ้ มลู เช่น ครูค้นหาขอ้ มูลผลการเรยี นนกั เรยี นจากชอื่ ค้นหาข้อมูลนักเรียจากรหัสนกั เรียน ๕) การรวมข้อมูล เช่น การนาประวัติการเข้าแถวมารวมกับประวตั ผิ ลการเรยี น ๑๖. ครูสนทนากับนักเรียนว่าจากคาบเรยี นทแ่ี ล้วเราพูดถงึ ขนั้ ตอนการประมวลผลข้อมูลมี ๓ ข้นั ตอน จากนั้น ใหน้ ักเรยี นศกึ ษารายละเอยี ดในหนังสอื เรยี นวชิ า เทคโนโลยี(วทิ ยาการคานวณ) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ๑๗. ครู ให้นักเรียนยกตัวอย่างประโยชน์ของการประมวลผลขอ้ มลู ด้วยคอมพิวเตอร์ ถา้ สมมติเราตอ้ งการเก็บ ข้อมูลเพ่ือทาโปรโมชันลูกค้าร้านสะดวกซื้อ เราควรรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง ควรจัดกลุ่มข้อมูลแบบไหน ประมูลผลข้อมูลออกมาในรปู แบบใด เพ่ือใหง้ า่ ยตอ่ การเรยี กใช้งาน ใหน้ ักเรียนตอบคาถามลงสมุด (แนวคาตอบ สร้างแบบสอบถามเพื่อให้ลูกค้ากรอกข้อมูลท่จี าเป็นต้องใช้ เช่น ช่ือ – นามสกุล อายุ ท่ีอยู่ ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ e-mail ความสนใจต่าง ๆ เช่น สนใจผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม สนใจ ผลิตภัณฑ์สุภาพ เป็นต้น จากน้ันเรานามาสร้างรหัสเพ่ือง่ายตอ่ การค้นหา เชน่ ลูกค้าที่สมัครคนแรกของ รา้ น S ตั้งรหัสเป็น S๖๒๐๐๐๑ หมายถึงสมัครปี๖๒คนที่๐๐๐๑ เป็นต้น แล้วนามากลุ่มข้อมูล เช่น เขต พื้นที่เดียวกัน กลุ่มช่วงอายุ กลุ่มความสนใจ เป็นต้น เวลาเรียกใช้งานสามารถพิมพ์ค้นหาตามคีย์เวิร์ด เช่น ต้องการส่งe-mail จัดโปรโมชันความสวยความงามให้กบั ลูกค้าท่ีสนใจผลิตภณั ฑ์ด้านน้ี เราสามารถ สืบค้นไดจ้ ากท่ีเราจดั กลุ่มลูกค้าไว้ ) ๑๘. ครูใหน้ ักเรยี นทาแบบฝึกหดั Activity เรือ่ ง การจัดการข้อมูลและสารสนเทศ เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ ๑๙. ครูถามคาถามนักเรียนว่า ในการเลือกศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับอุดมศึกษาเรา ควรต้องคานงึ ขอ้ มลู ดา้ นใดบ้าง (แนวคาตอบ วชิ าท่ีเราถนดั คณะทเ่ี ราสนใจใหส้ อดคล้องกับอาชพี ทเี่ ราอยากทา) ๒๐. ครูสนทนากับนักเรียนว่า จากข้อมูลท่ีนักเรียนจัดอันดับอาชีพที่มีคนอยากทามากที่สุด ๕ ให้นักเรียน สบื คน้ ข้อมลู วา่ ถ้าทางาน ๕ อาชพี นี้นกั เรยี นควรเรยี นคณะอะไร คา่ เทอมเทา่ ไร รวบรวมขอ้ มูลอย่างน้อย ๖ มหาวิทยาลัยข้ึนไป จากนั้นหาค่าเฉล่ียค่าเทอมว่าถ้าอยากทาอาชีพน้ี จะต้องเรียนคณะไหนและมี เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ๙๓

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๒ การบริการบนอนิ เทอร์เน็ต ค่าใช้จ่ายเฉล่ียเท่าไรต่อเทอม (เพื่อให้ให้นักเรียนได้เห็นความสาคัญการวางแผนค่าใชจ้ ่ายท่ีจะเกิดข้ึนใน อนาคตในการเรยี นคณะน้นั ๆ) ๒๑. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผน รวบรวมข้อมูล ประมวลผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ (นักเรียน สามารถเลอื กใชซ้ อฟต์แวรท์ เ่ี หมาะสมกับข้อมลู และความถนดั ได้ เป็นความรู้ในระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๑) ขน้ั สรปุ ๑. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายการประมวลผลข้อมูลแต่ละประเภท และวิธีการเลือกเคร่ืองมือในการ ประมวลผลให้เหมาะสมกบั ขอ้ มูล เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ๙๔


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook