ในหว้ งเวลานน้ั จงึ รังแตจ่ ะใหผ้ ลเสยี ต่อสภาพจติ ใจอยา่ งมาก ขณะท่ีการด�ำเนินการในชั้นศาล ฝ่ายจ�ำเลยและเจ้าหน้าที่บางคนใน กระบวนการยุติธรรมยังคงมีความพยายามอย่างมากท่ีจะให้เกิดการถอนฟ้องยุติ การดำ� เนนิ คดคี วาม อาจดว้ ยคดนี มี้ ตี วั ละครพยานบคุ คล ขา้ ราชการการเมอื ง หรอื แม้แตเ่ จา้ หนา้ ที่ตำ� รวจหลายระดับเข้ามายงุ่ เกย่ี วเปน็ จำ� นวนมาก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ท้ังหมดท�ำให้ระยะเวลาการต่อสู้ใน หนทางของกระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนได้รับอุปสรรคจากระยะเวลาท่ีเพ่ิม มากขนึ้ ด้วย หากแตส่ งิ่ ทผ่ี มรบั ไมไ่ ดท้ สี่ ดุ คอื เหตกุ ารณเ์ มอ่ื วนั ท่ี 17 กรกฎาคม 2561 เท้าความเพ่ิมเติมอีกสักนิด ภายหลังจากที่ผม และช็อป ลูกชายของ ผม เพิ่งได้หยุดพักจากการสืบพยานคดีฝ่ายโจทก์และฝ่ายจ�ำเลย เมื่อวันท่ี 3-4 กรกฎาคม 2561 ทศ่ี าลจังหวัดปราจนี บุรนี ั้น ดาบตำ� รวจกติ ผซู้ ึง่ เป็นจ�ำเลยที่ 7 เดมิ ในคดีที่ ฤทธิรงค์ ลกู ชายของ ผมเปน็ โจทก์ ฟอ้ งร้องต่อศาลจังหวดั ปราจนี บุรี กรณีเจ้าหนา้ ที่ตำ� รวจชุดสบื สวน รุมซ้อมทรมานท�ำร้ายร่างกายตน เพ่ือบังคับสารภาพว่า ลูกชายของผมเป็น ผกู้ ระทำ� การวง่ิ ราวสรอ้ ยคอทองคำ� ของนางวเิ มอื่ ปี 2552 แตศ่ าลมคี ำ� สงั่ ใหย้ กฟอ้ ง ดาบตำ� รวจกติ จ�ำเลยที่ 7 ในชน้ั ไตส่ วนมูลฟ้อง เนอ่ื งจากข้อหาท�ำร้ายตบหัวและ ดา่ ทออย่างรุนแรงตอ่ เปน็ เพียงข้อหาลหโุ ทษท่ีขาดอายุความแลว้ เทา่ นนั้ แต่ดาบต�ำรวจกิตคนดังกล่าวน้ี กลับเอาข้อหาท่ีขาดอายุความนี้มา ฟอ้ งกลับเป็นคดีอาญาตอ่ ศาลจังหวดั ปราจนี บรุ ี ฐานฟ้องเทจ็ และเบกิ ความเทจ็ ซง่ึ ศาลจงั หวดั ปราจนี บรุ กี ไ็ ดร้ บั ฟอ้ งเปน็ คดหี มายเลขดำ� ท่ี 1285/2561 อนั ที่จรงิ เหตุแห่งการฟ้องกลับของดาบตำ� รวจกิตคนนี้ ไม่ได้ทำ� ใหผ้ ม รสู้ ึกผิดคาดนีเ้ สียเทา่ ไหร่ แตเ่ หตุท่เี ป็นเช่นนน้ั เพราะว่า… เหตุการณก์ ่อนหนา้ น้ี เมอื่ วนั ที่ 29 พฤษภาคม 2561 134 | เม่อื ผมถูกทรมาน…ผมจึงมาตามหาความยตุ ธิ รรม
6 วันก่อนก�ำหนดการนัดเจรจาไกล่เกล่ียตามท่ีศาลจังหวัดปราจีนบุรี กำ� หนด พ.ต.ท.หนมุ่ จำ� เลยที่ 3 และ พ.ต.ท.เหนง่ จำ� เลยท่ี 4 พรอ้ มดว้ ยภรรยา ได้เดนิ ทางเข้ามายังบ้านของผม ในพื้นทอ่ี ำ� เภอบ้านสรา้ ง จังหวัดปราจนี บุรี เพือ่ มาขอพบและเจรจาพูดคุยกับแม่ของช็อป ลูกชายของผม แต่จนแล้วจนรอด การเจรจาครั้งนั้นก็ไม่สามารถด�ำเนินการให้ส�ำเร็จเป็นไปด้วยดีได้ เน่ืองจาก พ.ต.ท.หนุ่ม จำ� เลยท่ี 3 และ พ.ต.ท.เหน่ง จำ� เลยท่ี 4 ไมย่ อมพูด เปิดปาก หรอื แม้แต่ให้จดบันทึกข้อเท็จจริงถึงเร่ืองราวท่ีเกิดข้ึนเม่ือวันท่ี 28 มกราคม 2552 ซึ่ง ช็อป ลูกชายของผมถูกท�ำร้ายซ้อมทรมานโดยกลุ่มเจ้าหน้าที่ต�ำรวจในห้อง สอบสวนเพอ่ื บงั คบั ใหร้ บั สารภาพวา่ ลกู ชายของผมไปวงิ่ ราวทรพั ยส์ รอ้ ยคอทองคำ� ของ นางวิ ตามทเ่ี จ้าหน้าทีก่ ลุ่มนี้ตอ้ งการ สิ่งที่นายต�ำรวจสองนายนี้พูดถึงในการเจรจาครั้งนี้ กลับมีเพียงการ เสนอให้ช็อป ลูกชายของผมถอนฟ้อง เพื่อแลกกับเงินเยียวยาให้กับลูกชายและ ครอบครวั ของผม โดย พ.ต.ท.หนมุ่ จ�ำเลยที่ 3 เสนอเงนิ เยยี วยาเปน็ จำ� นวนเงนิ 1 ลา้ นบาท และ พ.ต.ท.เหนง่ จ�ำเลยที่ 4 เสนอเงินเยยี วยาเปน็ จ�ำนวนเงิน 5 แสน บาท กอปรกับการบวชพระภิกษตุ ามระยะเวลาทต่ี �ำรวจทง้ั สองตอ้ งการ กลา่ วคอื พ.ต.ท.หนุ่ม จ�ำเลยที่ 3 ระบุว่าจะบวชภิกษุให้ระยะเวลา 1 พรรษา ขณะที่ พ.ต.ท.เหนง่ จำ� เลยที่ 4 ระบวุ ่า จะบวชใหเ้ ป็นระยะเวลา 1 เดอื น แตส่ ง่ิ ทผ่ี มและลกู ชายทกี่ ำ� ลงั นงั่ ฟงั อยา่ งเหมอ่ ๆ ถงึ กบั ตอ้ งเงยหนา้ ขน้ึ มามองกนั กค็ อื นายตำ� รวจทงั้ สองไดย้ น่ื เงอ่ื นไขวา่ หากลกู ชายของผมไมถ่ อนฟอ้ ง พ.ต.ท.หนมุ่ จ�ำเลยท่ี 3 และ พ.ต.ท.เหนง่ จำ� เลยที่ 4 ในคดเี จ้าหน้าทตี่ �ำรวจชดุ สบื สวนทำ� รา้ ยทรมานรา่ งกาย กอ็ าจทำ� ให้ ดาบตำ� รวจกติ จำ� เลยที่ 7 ซง่ึ ถกู ยกฟอ้ ง กอ่ นหน้านี้ในชั้นไตส่ วนมลู ฟอ้ ง กลับมาดำ� เนินการฟอ้ งรอ้ งดำ� เนนิ คดีชอ็ ปได้ ท้ายท่ีสดุ ผลการเจรจาคร้ังนัน้ กไ็ มเ่ ป็นผลสำ� เรจ็ เนื่องจากผม ภรรยา ของผม และชอ็ ปไมย่ นิ ยอมรบั การเยยี วยา รวมทง้ั ขอ้ ตกลงใดๆ ทง้ั สนิ้ และหากจะ มฟี อ้ งคดกี ลบั จากดาบตำ� รวจกติ จำ� เลยที่ 7 จรงิ ครอบครวั ของผมกไ็ มไ่ ดเ้ กรงกลวั มลู นิธผิ สานวฒั นธรรม | 135
หรือวติ กกังวลแต่อย่างใด เนือ่ งจากในชน้ั ไตส่ วนมลู ฟ้องคดฟี อ้ งรอ้ งเจา้ หน้าที่ชุด สบื สวน 7 นาย ทั้งศาลช้ันต้นและศาลช้นั อทุ ธรณ์ไดพ้ ิจารณาและเหน็ วา่ ข้อเท็จ จริงเกี่ยวกบั พฤตกิ ารณก์ ารท�ำรา้ ยรา่ งกายของ ดาบตำ� รวจกติ จำ� เลยท่ี 7 เป็นไป ตามทีช่ อ็ ปฟอ้ ง แตเ่ ปน็ ขอ้ หาทีห่ มดอายุความไปแล้วเทา่ น้นั และแล้ว การฟ้องร้องกลับก็ได้เกิดขึ้นจริง ขณะท่ีคดีความหลักอย่าง คดีเจา้ หน้าทต่ี ำ� รวจชดุ สบื สวนทั้ง 7 นาย อยูใ่ นชั้นไต่สวนมูลฟอ้ ง ดาบตำ� รวจกติ ก็ไดฟ้ อ้ งกลบั ชอ็ ป โดยอา้ งว่าลกู ชายผมฟ้องร้องดว้ ยข้อความอนั เป็นเทจ็ ท้ังๆ ที่ ขอ้ หาทช่ี อ็ ป ลกู ชายของผมฟอ้ งรอ้ งนายตำ� รวจชดุ สบื สวนทงั้ 7 คน ตอ่ ศาลจงั หวดั ปราจนี บรุ นี น้ั เปน็ สงิ่ ทเี่ กดิ ขน้ึ จรงิ รวมทงั้ ขอ้ หาทำ� รา้ ยรา่ งกายของ จำ� เลยที่ 7 ทไ่ี ด้ กระทำ� การตบทหี่ วั และดา่ ทอดว้ ยถอ้ ยคำ� รนุ แรง ซง่ึ คำ� วนิ จิ ฉยั ของศาลชนั้ ตน้ และ ศาลชน้ั อทุ ธรณ์ ศาลไดพ้ จิ ารณาและเหน็ วา่ ขอ้ เทจ็ จรงิ เรอ่ื งการทำ� รา้ ยรา่ งกายของ จำ� เลยท่ี 7 เปน็ ไปตามทล่ี กู ชายของผมฟอ้ ง หากแตท่ ศี่ าลมคี ำ� สง่ั ใหย้ กฟอ้ ง จำ� เลย ที่ 7 กเ็ พราะวา่ ข้อหาดังกลา่ วหมดอายคุ วามไปแล้วเท่านน้ั และมนั ไดเ้ กดิ ขนึ้ กบั ครอบครวั ผมแลว้ สำ� หรบั สง่ิ นี้ สง่ิ ทเี่ รยี กวา่ “ฟอ้ ง แกเ้ ก้ยี ว” ก้าวทหี่ ก: ตดั สนิ คดคี วาม 7 ต�ำรวจ ภายหลังท่ีศาลจังหวัดปราจีนบุรี ได้นัดสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และ จำ� เลยแลว้ ศาลไดม้ คี ำ� พพิ ากษาออกมาเมอื่ วนั ท่ี 28 กนั ยายน 2561 วา่ การกระทำ� ของจำ� เลยท่ี 3 คอื พ.ต.ท.หนมุ่ มคี วามผดิ จรงิ ตามคำ� ฟอ้ งของผเู้ ปน็ โจทกว์ า่ ในวนั เวลาดงั กลา่ วมเี หตกุ ารณท์ ผ่ี ตู้ อ้ งสงสยั คอื ฤทธริ งค์ ถกู ทำ� รา้ ยรา่ งกายซอ้ มทรมาน จริง ขณะท่ี พ.ต.ท.เหนง่ จ�ำเลยที่ 4 ศาลมีค�ำพพิ ากษาใหย้ กฟ้อง เนื่องจากมเี หตุ ควรใหส้ งสยั จงึ ยกประโยชนใ์ หจ้ ำ� เลยที่ 4 โดยคำ� พิพากษาดงั กล่าวระบวุ ่า พ.ต.ท.หนุม่ มคี วามผิดตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 200 วรรคสอง มาตรา 295 มาตรา 296 136 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
มาตรา 309 วรรคสอง มาตรา 310 วรรคหน่งึ และมาตรา 83 เป็นกรรมเดียว ผดิ ต่อกฎหมายหลายบท ใหล้ งโทษฐานความผิดเปน็ เจ้าพนักงานมอี ำ� นาจหนา้ ที่ สืบสวนสอบสวนคดีอาญากระท�ำการเพ่ือจะแกล้งให้บุคคลหน่ึงบุคคลใดต้องรับ โทษ อันเป็นกฎหมายบทท่มี ีโทษหนักทส่ี ุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ ใหล้ งโทษจ�ำคกุ 2 ปี และปรับ 12,000 บาท แตเ่ นอื่ งจากทผี่ ่านมา จ�ำเลย ที่ 3 ให้การเปน็ ประโยชนแ์ ก่การพิจารณา ศาลลดโทษ 1 ใน 3 เหลอื จำ� คกุ 1 ปี 4 เดอื น และปรับ 8,000 บาท ประกอบกบั คณุ ความดขี องวชิ าชีพจ�ำเลย และไม่ ปรากฏว่าจ�ำเลยเคยถูกลงโทษทางอาญามาก่อน ท�ำให้ศาลมีค�ำสั่งให้จ�ำเลยท่ี 3 รอลงอาญา 2 ปี ด้วยความเคารพต่อศาล ผลค�ำพิพากษาที่เกิดขึ้น น�ำมาซึ่งข้อข้องใจ ให้กับประชาชนอย่างผม และลูกชายของผมอย่างมาก เพราะในฐานะที่ผมเป็น พ่อของผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว การที่ต้องเห็นลูกชายเปล่ียนไปต่อหน้า ตอ่ ตา จากเด็กทรี่ า่ เรงิ มคี วามชอบความต้องการที่จะวงิ่ ตามความฝนั ดว้ ยหวงั จะ มชี วี ติ ทดี่ ขี นึ้ ในอนาคต กลบั ตอ้ งมาจมดงิ่ ใหก้ บั อาการ PTSD อนั มผี ลมาจากความ ทรงจำ� เลวรา้ ย จนสง่ ผลกระทบตอ่ การเรยี น การงาน และการใชช้ วี ติ ในระยะยาว คำ� พพิ ากษาทเี่ กดิ ขน้ึ จงึ ทำ� ใหผ้ มไมม่ นั่ ใจเชน่ กนั วา่ ศาลมมี มุ มองวา่ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ มนษุ ยค์ นหนง่ึ ทต่ี อ้ งพบเจอหลงั เกดิ เรอ่ื งสะเทอื นขวญั รนุ แรงนนั้ มคี วามสำ� คญั มากน้อยเพียงใด เมอื่ เทยี บกบั คณุ งามความดีของวิชาชพี ต�ำรวจ เม่ือคดิ ไตร่ตรองอย่างถถ่ี ว้ น กอปรกับปรึกษาทนายเอก ทนายสญั ญา และทนายติว ผมกับลูกชายจึงได้ตัดสินใจท�ำการย่ืนอุทธรณ์ ด้วยความหวังว่า ความยุตธิ รรมทคี่ าดหวังจะยงั ดำ� รงอยู่ในกระบวนการศาลไทย แต่ก็อาจไม่เป็นเช่นนั้น เม่ือท้ายที่สุดแล้ว ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีค�ำ พิพากษาอีกคร้ัง เม่ือวันที่ 7 สิงหาคม 2562 โดยข้อความตอนหนึ่งจากคำ� พพิ ากษา ของศาลอทุ ธรณ์ภาค 2 ระบวุ ่า “ศาลเชอ่ื วา่ พยานโจทกท์ ง้ั สองตา่ งเบกิ ความไปตามขอ้ เทจ็ จรงิ ทต่ี นรเู้ หน็ มูลนธิ ผิ สานวฒั นธรรม | 137
พยานหลกั ฐานทโ่ี จทกน์ ำ� สบื มามนี �้ำหนกั รับฟงั ไดว้ ่า จ�ำเลยท่ี 3 กระทำ� ความผดิ จรงิ ตามคำ� พพิ ากษาชนั้ ตน้ ขณะที่จ�ำเลยที่ 4 เบิกความว่า ขณะจ�ำเลยท่ี 3 ก�ำลังด�ำเนินการ สอบสวนโจทก์ จ�ำเลยท่ี 4 มิได้ร่วมสอบสวนด้วยในเวลาดังกล่าว ส่วนจ�ำเลย ที่ 5 และที่ 6 กำ� ลงั สอบขอ้ มลู จากบคุ คลอนื่ อยดู่ ว้ ย จำ� เลยที่ 4 มไิ ดอ้ ยดู่ ว้ ยในหอ้ ง สอบสวนตลอดเวลา โดยได้ไปติดต่อประสานงานท่ีศูนย์วิทยุช้ัน 2 เพื่อรวบรวม ผลปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดตามที่ได้รับมอบหมายจาก ผู้บังคับบัญชา เม่ือกลับไปห้องท�ำงานก็ได้รายงานให้จ�ำเลยที่ 6 ทราบ หลัง จากน้ันได้ออกไปยังห้องธุรการท่ีอยู่ตรงข้าม เพ่ือรายงานผลการกวาดล้างกับ เจา้ พนักงานต�ำรวจอ่ืนอีก การท่ีโจทก์น�ำสืบว่า จ�ำเลยที่ 4 สอบถามจ�ำเลยที่ 3 ว่าโจทก์รับ สารภาพหรอื ไม่ โดยจำ� เลยท่ี 4 มไิ ดร้ ่วมสอบถามดว้ ยและไมป่ รากฏว่าจำ� เลยที่ 4 อย่ดู ้วยขณะจำ� เลยที่ 3 ท�ำรา้ ยโจทก์พยานหลักฐานโจทกจ์ ึงไม่มีน้�ำหนักรบั ฟงั ได้ วา่ จำ� เลยที่ 4 กระท�ำความผิดตามที่โจทกย์ ่ืนฟอ้ งอทุ ธรณ์ของโจทก์ และการขอ อุทธรณ์ของจ�ำเลยที่ 3 น้นั ฟงั ไม่ขนึ้ ปญั หาทจ่ี ะวนิ จิ ฉยั ตามอทุ ธรณข์ องโจทกข์ อ้ สดุ ทา้ ยวา่ มเี หตสุ มควรรอ การลงโทษจ�ำเลยที่ 3 หรือไม่ เห็นวา่ แมก้ ารกระท�ำของจำ� เลยที่ 3 ในฐานะเจา้ พนกั งานตำ� รวจจะเปน็ การกระทำ� ทไี่ มช่ อบดว้ ยกฎหมาย แตเ่ มอ่ื พจิ ารณารอ่ งรอย บาดแผลทโี่ จทกไ์ ดร้ บั คงเปน็ เพยี งรอยชำ้� แดง ซง่ึ แพทยผ์ ตู้ รวจใหค้ วามเหน็ วา่ ใช้ เวลารกั ษา 3 วัน เมอ่ื คำ� นึงถงึ ประวตั อิ าชพี และสภาพความผิดแล้ว การที่ศาลช้ัน ตน้ ใช้ดลุ พินิจรอการลงโทษจำ� เลยที่ 3 มาน้ัน ด้วยความเห็นของศาลอทุ ธรณ์ภาค 2 นน้ั อุทธรณข์ องโจทกข์ อ้ นฟ้ี ังไมข่ ึน้ ” ศาลอุทธรณ์ ทงั้ หมดจึงเปน็ ผลให้ คำ� พิพากษาของศาลอุทธรณภ์ าค 2 ยืนตามศาล ช้ันตน้ พรอ้ มมีค�ำสง่ั ให้คดีถึงที่สดุ ในศาลอทุ ธรณ์ และไมใ่ หฎ้ กี าตอ่ อืืม… ดููเหมืือนว่่า ผมคงจะหมดหวัังแล้้ว กัับการเฝ้้าหวัังว่่ากระบวน 138 | เม่อื ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ิธรรม
การยุุติิธรรมในประเทศนี้ �จะยัังคงธำำ�รงรัักษาความยุุติิธรรมให้้แก่่ประชาชนผู้ �ไม่่มีี ยศถาบรรดาศักั ดิ์�หรืืออำำ�นาจใดได้้ จริงอยู่ท่ีว่า ท้ังศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะยอมเชื่อด้วยหลักฐาน วา่ พ.ต.ท.หนุม่ จ�ำเลยที่ 3 มพี ฤตกิ ารณก์ ระท�ำความผดิ จรงิ และเหน็ สมควรได้ รบั โทษตามประมวลกฎหมายอาญาตามทโ่ี จทก์ คอื ชอ็ ป ลกู ชายของผมไดร้ อ้ งทกุ ข์ กล่าวโทษแก่ศาล หากเป็นคนนอกก็คงออกปากพูดแล้วว่า หากศาลเล็งเห็นถึง พฤตกิ ารณไ์ มช่ อบของจำ� เลยผเู้ ปน็ เจา้ พนกั งานตำ� รวจ และมคี ำ� สง่ั ลงโทษ กน็ า่ จะ เพยี งพอแล้ว ไมค่ วรตอ่ ความยาวให้ตวั เองลำ� บาก แตถ่ า้ ใครไมม่ ายนื อยจู่ ดุ เดยี วกบั ทผ่ี มและลกู ชายตอ้ งเผชญิ มาตลอด 10 ปี นบั ตง้ั แตเ่ กดิ เรอ่ื งในวนั นนั้ กค็ งจะไมเ่ ขา้ ใจความรสู้ กึ ทผี่ มตอ้ งเหน็ ลกู ชายคนเดมิ ของตวั เองเปลย่ี นไปเปน็ คนละคน พรอ้ มทง้ั อนาคตความกา้ วหนา้ ทางการเรยี นและ การงานทีห่ ายไปตลอดกาลจากอาการ PTSD หากศาลนำ� หลักฐานข้อมลู ทีแ่ สดง ถึงภาวะความเจ็บปวดทางจิตใจและผลกระทบท่ีส่งผลต่อการใช้ชีวิตระยะยาว น่คี ือราคาที่ไมส่ ามารถประเมินไดก้ บั ความสญู เสีย แต่ทว่าผมคงโน้มน้าวให้ศาลมารับฟงั ความเหน็ ใจเพิม่ เติมไม่ไดแ้ ลว้ และวันน้ผี มคงต้องยอมรบั ในคำ� ตดั สินเช่นนนั้ ก้้าวที่่�เจ็็ด: การต่่อสู้�ในฐานะจำำ�เลย ขณะที่ คดคี วามทต่ี ำ� รวจกติ ฟอ้ งกลบั ชอ็ ป ลกู ชายของผม ฐานฟอ้ งเทจ็ และเบกิ ความเทจ็ จากคดหี ลกั ทช่ี อ็ ปฟอ้ ง 7 ตำ� รวจชดุ สบื สวน ซงึ่ ชอ็ ปไดก้ ลา่ ววา่ ดาบตำ� รวจกิต จ�ำเลยท่ี 7 ไดต้ บศรี ษะช็อป และดา่ ทอดว้ ยค�ำพดู ท่รี นุ แรง แตศ่ าล ยกฟ้อง เนื่องจากคดขี าดอายคุ วามไปแล้วนนั้ หลงั จาก ดาบตำ� รวจกติ จำ� เลยท่ี 7 ไดย้ น่ื ฟอ้ งตอ่ ศาลจงั หวดั ปราจนี บรุ ี เมือ่ วนั ที่ 17 กรกฎาคม 2561 แลว้ ศาลไดม้ คี ำ� ส่งั ใหร้ บั ฟอ้ งเมอื่ วันท่ี 27 มีนาคม 2562 และนดั สืบพยานสว่ นของคดีน้ี วันท่ี 9 กรกฎาคม 2562 เป็นผลใหพ้ ยาน ทงั้ ฝ่ายโจทก์และจ�ำเลย จำ� เป็นตอ้ งเข้าใหก้ ารสืบพยานกับศาลจังหวดั ปราจนี บรุ ี มูลนิธิผสานวฒั นธรรม | 139
อกี คร้งั โดยครั้งน้ีช็อป ลูกชายของผม ได้พบกับผู้พิพากษาในองค์คณะที่เคย เป็นคณะไกล่เกลี่ยและเป็นผู้พิจารณาคดี เม่ือคร้ังช็อปเป็นโจทก์ฟ้อง 7 ต�ำรวจ ชุดสืบสวน หากแต่สถานการณ์ในคดีนี้ ผู้พิพากษาในองค์คณะท่านน้ีกลับมีท่าที บรเิ วณดา้ นหนา้ ศาลจังหวัดปราจนี บรุ ี (อาคารใหม่) 140 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
เปลย่ี นไป จากความพยายามไกล่เกล่ียทีเ่ คยมแี ตเ่ ดมิ เม่ือครงั้ คดฟี อ้ งร้อง 7 นาย ต�ำรวจชดุ สบื สวน กรณีซ้อมทรมานชอ็ ป ลกู ชายของผม บดั นคี้ วามพยายามเหลา่ นน้ั ไดแ้ ปรเปลย่ี นเปน็ ความนงิ่ เฉยและเครง่ ขรมึ อกี ทง้ั คำ� พดู ในชนั้ ศาลของคณะผู้ พพิ ากษาศาลชดุ นก้ี ลบั มลี กั ษณะทำ� ใหผ้ มและลกู รสู้ กึ ขวญั เสยี วา่ “อยา่ งนี้ ตดิ คกุ 5 ปนี ะ” ก็ยง่ิ สง่ ผลกระทบให้ช็อป ลูกชายของผมอยใู่ นภาวะเครยี ดสั่งสมมากขึ้น ทา่ ทีท่ไี มพ่ ดู ถึงในแง่มมุ ของศลี ธรรม การอภัยทาน หรอื กฎแห่งธรรม ของคณะผู้พิพากษาเหมือนแต่ก่อน ท�ำให้ผมคาดคะเนได้ว่า ท้ายที่สุดแล้วค�ำ พพิ ากษาอาจไมน่ �ำพามาซ่ึงความยตุ ธิ รรมใหก้ ับลกู ชายของผมเปน็ แน่ และแลว้ กเ็ ปน็ เชน่ นน้ั เมอ่ื คำ� พพิ ากษาศาลชนั้ ตน้ ใน คดดี าบตำ� รวจกติ ฟอ้ งกลับ นายฤทธิรงค์ ลูกชายของผม ข้อหาฟอ้ งเทจ็ และเบกิ ความเท็จ ในวันที่ 27 สิงหาคม 2562 ได้มคี �ำสัง่ วา่ นายฤทธริ งค์ จำ� เลย มคี วามผิดจริงตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 175 และมาตรา 177 วรรคสอง โดยการกระทำ� ของลกู ชาย ของผมเปน็ ความผดิ หลายครง้ั ต่างกัน ต้องลงโทษทุกครัง้ ทกุ กรรมเป็นรายกระทง ความผิดไป ซงึ่ พิจารณาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ขอ้ 1.1 ฐาน ฟอ้ งเทจ็ ตอ้ งจำ� คกุ 2 ปี ปรบั 40,000 บาท และขอ้ 1.3 ฐานเบกิ ความเทจ็ ตอ้ งจำ� คกุ 3 ปี ปรับ 60,000 บาท รวมโทษท้ังหมดเป็น จ�ำคกุ 5 ปี ปรบั 100,000 บาท ทั้งนี้ ศาลพิจารณาและเห็นว่า จ�ำเลยไม่เคยได้รับโทษจ�ำคุกมาก่อน เหน็ ควรใหโ้ อกาสจ�ำเลยกลบั ตนเปน็ พลเมืองดี โทษจ�ำคกุ ใหร้ อการลงโทษไว้ 2 ปี และหากไม่ชำ� ระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30 แลว้ ให้กักขังแทนค่าปรบั ได้ไมเ่ กิน 1 ปี ผมร้สู ึกตัวสั่นและชอ็ กไปชั่วขณะเมื่อยืนฟงั คำ� พพิ ากษาในศาล เพราะ เกิดความรู้สกึ ข้ึนมาทนั ทวี า่ คดที ี่ช็อปลกู ชายผมถกู ซ้อมทรมานแทบตาย ต�ำรวจ ท่ีกระท�ำผิดถูกตัดสินลงโทษเพียงเล็กน้อยเม่ือเทียบกับความรุนแรงท่ีลูกของผม ถูกกระท�ำเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่คดีที่ลูกชายของผมถูกฟ้องกลับเพียงเพราะ กล่าวหาว่าดาบต�ำรวจนายหน่ึงตบศีรษะหน่ึงครั้งและศาลยกฟ้องเพราะคดีขาด อายุความ ลกู ชายของผมตอ้ งถูกตัดสนิ ลงโทษจ�ำคุกถงึ 5 ปีและปรบั ถงึ 100,000 บาท แมว้ ่าจะรอการลงโทษกต็ าม มูลนิธผิ สานวฒั นธรรม | 141
คำำ�พิิพากษาที่ �ออกมานำำ�พาให้้ภาวะความเครีียดของช็็อปถึึงกลัับทิ้ �งดิ่ � งลงไปอีีกครั้�ง มวลอารมณ์แ์ ห่ง่ ความเครีียด สิ้้�นหวััง และโศกเศร้้าเริ่�มแผ่ป่ กคลุมุ พร้้อมกัับคำำ�พููดเชิิงตััดพ้้อต่่อว่่าตนเองต่่างๆ นานา ทั้้�งหมดนี้�เป็็นอาการของโรค PTSD ที่่�กำำ�เริบิ กลับั ขึ้�นมาด้ว้ ย ความทกุ ขย์ ากทช่ี อ็ ป ลกู ชายของผมตอ้ งเผชญิ ยงั ผลใหไ้ มว่ า่ ทง้ั แมแ่ ละ ภรรยาของเขาต่างก็ได้รับผลกระทบจากสภาวะความเป็นทุกข์ของเขาอย่างมาก และมนั ทำ� ให้ผมอดรนทนไมไ่ ด้ตอ่ คำ� พพิ ากษาศาลท่ไี ม่ดำ� รงซึ่งความยุติธรรมเช่น น้ี ผมจงึ ตดิ ตอ่ ขอคำ� ปรกึ ษากบั ทมี ทนายความจากมลู นธิ ผิ สานวฒั นธรรมอกี ครงั้ วา่ เราจะยงั สามารถยน่ื อทุ ธรณไ์ ดห้ รอื ไม?่ เนอื่ งจากคำ� พพิ ากษาคดใี นศาลชนั้ ตน้ น้ี สง่ ผลใหช้ อ็ ป ลกู ชายของผมไมส่ ามารถใชช้ วี ติ ไดด้ งั เดมิ อนั เปน็ ผลมาจากอาการของ โรค PTSD ท่มี ีอยู่แตเ่ ดมิ ไดก้ �ำเริบขนึ้ มาอีกคร้งั จนตอ้ งเข้าพบกับจติ แพทยอ์ ย่าง เร่งดว่ น โดยจิตแพทยไ์ ด้วินิจฉัยและเหน็ ควรวา่ ต้องปรับเปลี่ยนยาใหใ้ หม่เพอ่ื ยงั คงรักษาสมดลุ ทางด้านอารมณใ์ ห้กับลูกชายของผม การขอค�ำปรึกษากับทีมทนาย น�ำไปสู่การประชุมทีมทนายอีกครั้ง เพื่อวางแผนยุทธศาสตร์คดีกันเสียใหม่ เพื่อเตรียมส�ำนวนค�ำร้องขออุทธรณ์ คำ� พพิ ากษา เปน็ ผลใหเ้ มอื่ เอกสารทกุ อยา่ งถกู เตรยี มพรอ้ ม ลกู ชายของผมจงึ เดนิ ทางไปขออทุ ธรณโ์ ตแ้ ยง้ คำ� พพิ ากษาของศาลจงั หวดั ปราจนี บรุ ตี อ่ ศาลอทุ ธรณภ์ าค 2 เพือ่ ขอความเปน็ ธรรมใหก้ ับชอ็ ป ลกู ชายของผม จ�ำเลยในคดีทดี่ าบตำ� รวจกิต ฟอ้ งวา่ ชอ็ ปไดเ้ บกิ ความเทจ็ ระหวา่ งการไตส่ วนมลู ฟอ้ งของศาลจงั หวดั ปราจนี บรุ ี คดฟี อ้ ง 7 นายต�ำรวจวา่ “ดาบตำ� รวจกิต (จ�ำเลยท่ี 7) ได้ใช้มือตบศีรษะของตน” ซ่ึงดาบต�ำรวจกิตกล่าวอ้างต่อศาลว่า ช็อป ลูกชายของผมรู้ความจริงอยู่แล้วว่า ดาบต�ำรวจกิตไม่ได้ใช้มือตบศีรษะของตน และค�ำเบิกความของช็อปถือเป็นข้อ สำ� คญั ในคดนี ้นั เป็นเหตุใหด้ าบตำ� รวจกิตด�ำเนินการฟ้องกลบั ลกู ชายของผม ในค�ำให้การคร้ังก่อนหน้าต่อศาลช้ันต้น ดาบต�ำรวจกิตเบิกความ ยืนยันว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 ดาบต�ำรวจกิตกับพวกได้รับ มอบหมายให้น�ำตัวนายฤทธิรงค์ หรือช็อป ชื่นจิตร ไปขยายผลค้นหาสร้อยคอ ทองค�ำของกลางท่ีบ้านของนายบี ระหว่างเดินทางดาบต�ำรวจกิตน่ังประกบข้าง 142 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
ตัวช็อป ลูกชายของผมตลอดเวลาท้ังขาไปและขากลับ และดาบต�ำรวจกิตไม่ได้ ทำ� รา้ ยรา่ งกายลูกชายของผมแตอ่ ย่างใด ภายหลงั เกดิ เหตปุ ระมาณ 3 ถงึ 4 วนั ดาบต�ำรวจกิตได้พบกับผมและช็อป ลูกชายของผมอีกคร้ัง ซึ่งช็อปได้ชี้ไปที่หน้า ดาบต�ำรวจกิตและบอกต่อผม ผู้เป็นพ่อว่า ดาบต�ำรวจคนนี้เป็นผู้ที่น่ังรถไปกับ ตนในวันเกิดเหตุ แต่ส่ิงที่สร้างความฉงนใจให้ผมนับต้ังแต่การนัดให้การต่อศาลในคร้ัง กอ่ น คอื ดาบตำ� รวจกติ ไดพ้ าเพอ่ื นนายตำ� รวจ 2 คน มาเบกิ ความทำ� นองเดยี วกนั วา่ ระหวา่ งนำ� ตวั จำ� เลยไปขยายผลนน้ั ไมม่ กี ารทำ� รา้ ยรา่ งกาย ซง่ึ พยานสองปากนี้ แมจ้ ะเปน็ เพอ่ื นสนทิ สนมและรว่ มงานกบั ดาบตำ� รวจกติ มาเปน็ ระยะเวลากวา่ 20 ปี แตพ่ ยานทงั้ สองปากน้ี กลบั ไมเ่ คยถกู ดาบตำ� รวจกติ อา้ งองิ วา่ เปน็ พยานผรู้ เู้ หน็ ใน เหตกุ ารณ์ระหวา่ งท่คี ดีดังกล่าวอย่ใู นชั้นพนกั งานสอบสวน หรือชัน้ ป.ป.ท. หรอื ชนั้ ไตส่ วนมลู ฟอ้ งของศาล คดีฟอ้ งเจา้ หนา้ ท่ตี ำ� รวจชดุ สืบสวนทั้ง 7 นายมาก่อน จริงอยู่ท่ีว่า พยานท้ังสองปากนี้ร่วมอยู่ด้วยระหว่างควบคุมตัวช็อป ลูกชายของผมเพื่อไปขยายผลหาของกลาง โดยท้ังสองน่ังอยู่ในรถยนต์คันเดียว กับดาบต�ำรวจกิตและช็อป ระหว่างที่ช็อปถูกดาบต�ำรวจกิตท�ำร้ายตบศีรษะน้ัน เปน็ ท่ีแน่นอนอยแู่ ลว้ ว่า พยานทั้งสองปากนยี้ ่อมต้องเบิกความยนื ยันวา่ ไมม่ ีการ ท�ำรา้ ยลกู ชายของผมเพ่อื ชว่ ยเหลือดาบต�ำรวจกิต ดงั นน้ั พยานสองปากนจี้ ึงไมม่ ี น�ำ้ หนักเพยี งพอใหร้ ับฟังดว้ ยเหตุและผลที่ควรจะเป็น ประกอบกับเมื่อพิจารณาค�ำพิพากษาในคดีเดิมอย่าง คดีฟ้องร้องเจ้า หนา้ ทช่ี ดุ สบื สวน 7 นาย หรอื แมแ้ ตค่ ำ� สงั่ ในชนั้ ไตส่ วนมลู ฟอ้ งเอง ศาลไดใ้ หม้ มุ มอง ต่อประเด็นท่ีช็อปถูกดาบต�ำรวจกิต ท�ำร้ายร่างกายด้วยการใช้มือตบที่ศีรษะนั้น ศาลชัน้ ต้นและศาลอทุ ธรณ์ภาค 2 รับฟังและมีคำ� ส่ังเปน็ ขอ้ ยุตแิ ล้วว่า “การทจี่ ำ� เลยท่ี 7 (ดาบตำ� รวจกติ ) ตบศรี ษะโจทก์ (นายฤทธริ งค)์ เพยี ง ครั้งเดียว ไม่น่าจะท�ำให้นายฤทธิรงค์ ได้รับบาดเจ็บจนเป็นอันตรายต่อจิตใจได้ การกระท�ำของจ�ำเลยท่ี 7 (ดาบต�ำรวจกิต) จึงเป็นเพียงการใช้ก�ำลังท�ำร้ายโดย ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้อันตรายต่อจิตใจ เป็นความผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 แต่ความผิดข้อหาดังกล่าวขาดอายุความแล้ว ศาลจึงมีค�ำพิพากษา มูลนธิ ผิ สานวฒั นธรรม | 143
ยกฟอ้ งจ�ำเลยที่ 7” เม่ือเปน็ เชน่ น้ีหมายความวา่ คดีฟอ้ งรอ้ งเจ้าหนา้ ทช่ี ุดสืบสวน 7 นาย ศาลชนั้ ตน้ และศาลอทุ ธรณไ์ ดแ้ สดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ดงั กลา่ วแลว้ วา่ ขอ้ เทจ็ จริงกรณดี าบต�ำรวจกติ ทำ� รา้ ยตบศีรษะฤทธริ งค์ ลูกชายของผมไดถ้ กู รับฟังและมี ค�ำสงั่ ถงึ ทส่ี ดุ วา่ ดาบต�ำรวจกติ ไดท้ ำ� ร้ายรา่ งกายลกู ชายของผมตามท่ีลูกชายฟ้อง จริง รวมทั้งดาบต�ำรวจกิตเองก็ไม่มีพยานหลักฐานอ่ืนใดที่สามารถน�ำสืบหักล้าง ผลของค�ำสั่งชน้ั ไตส่ วนมลู ฟอ้ งและค�ำพพิ ากษาศาลอทุ ธรณภ์ าค 2 ได้ ด้วยข้อมูลทั้งหมดที่ผมกล่าวมาท้ังหมดนี้ ประกอบกับการที่ศาล อทุ ธรณ์ภาค 2 ไดป้ ระชุมเพ่อื ตรวจสำ� นวนคำ� พิพากษาคดฟี อ้ งรอ้ ง 7 ต�ำรวจชดุ สบื สวน เปน็ ผลใหค้ ำ� พพิ ากษาในคดนี ้ขี องศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไมเ่ หน็ พ้องกับคำ� พพิ ากษาศาลชั้นตน้ และได้มคี ำ� พิพากษาออกมาเมอ่ื วนั ที่ 27 ตุลาคม 2563 โดย สรุปวา่ “พิจารณาตามค�ำฟ้องของคดีอาญาหมายเลขด�ำท่ี 925/2558 ซ่ึง นายฤทธิรงค์ ผู้เป็นโจทก์ได้ฟ้องเบิกความว่า เมื่อวันท่ี 28 มกราคม 2552 ดาบตำ� รวจกติ คนนที้ ำ� รา้ ยรา่ งกายตนโดยใชม้ อื ตบศรี ษะ ศาลเหน็ วา่ คดมี มี ลู ตามท่ี จำ� เลยกลา่ วหา แตเ่ ปน็ การใชก้ ำ� ลงั ทำ� รา้ ยรา่ งกายผอู้ น่ื แตไ่ มถ่ งึ กบั เปน็ เหตใุ หเ้ กดิ อนั ตรายแกก่ ายหรอื จติ ใจ เปน็ ความผดิ ตอ่ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 จำ� คกุ ไมเ่ กนิ หนงึ่ เดอื นหรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนงึ่ พนั บาท หรอื ทงั้ จำ� ทง้ั ปรบั แตค่ วามผดิ ขอ้ หา ดังกลา่ วมอี ายคุ วาม 1 ปี แต่เนือ่ งจากเหตุเกดิ เมื่อวนั ที่ 28 มกราคม 2552 แต่ นายฤทธริ งคน์ ำ� คดมี าฟอ้ งในปี 2558 จงึ เกนิ กวา่ อายคุ วามทม่ี าตรานกี้ ำ� หนด สทิ ธิ ในการน�ำคดีอาญามาฟ้องยอ่ มระงบั ไป” ดังนัน้ เมอื่ พิจารณาตามขอ้ เทจ็ จรงิ ย่อมรบั ฟังไดว้ ่า การทีน่ ายฤทธิรงค์ ฟอ้ งคดดี าบตำ� รวจกติ ตามขอ้ หาดงั กลา่ วจงึ เปน็ การฟอ้ งตามขอ้ เทจ็ จรงิ ยอ่ มไมผ่ ดิ ฐานฟอ้ งเทจ็ และเบกิ ความเทจ็ ศาลอทุ ธรณจ์ งึ มคี ำ� สงั่ กลบั คำ� พพิ ากษาศาลชน้ั ตน้ โดยมคี ำ� ส่ังใหจ้ ำ� เลยไมม่ คี วามผิดตามค�ำฟอ้ งของโจทกแ์ ละให้คดนี ้ถี ึงทสี่ ดุ 144 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
มรสมุ ได้พัดผา่ นไปแล้ว… ท้องฟ้าที่ทอประกายแสงแห่งวันใหม่ เป็นเหมือนสัญญาณท่ีแสดงให้ เห็นว่า อุปสรรคขวากหนามได้ผ่านพ้นไปแลว้ และเปน็ ดงั เครอ่ื งยนื ยันว่า ลูกชาย ของผมไมใ่ ชบ่ ุคคลผู้มีมลทินใดๆ อยา่ งท่ีนายต�ำรวจเหลา่ น้ันกลา่ วอา้ ง หากแตค่ รอบครวั ชื่นจิตรยงั คงมีเรือ่ งราวอีกมากมายทต่ี ้องสะสาง สิ่งเหล่านั้น มาในรูปแบบของคดีความที่งอกเงยข้ึนมา เพื่อทวงถาม ความยตุ ธิ รรมจากกลมุ่ คนทรี่ ว่ มมอื กบั นายตำ� รวจชดุ สบื สวนดงั กลา่ ว และสมอา้ ง ตนเองข้นึ มาเป็นพยานปากเท็จในช่วงเวลาก่อนหนา้ นี้ หน่ึงในคดีท่ีส�ำคัญคือ คดีฟ้องกลับนายเชษฐ์ อดีตนายกเทศมนตรี ตำ� บลบา้ นสรา้ ง หนงึ่ ในนกั การเมอื งทอ้ งถน่ิ ทมี่ อี ทิ ธพิ ลกวา้ งขวางในพนื้ ที่ แตก่ ลบั เลอื กนำ� มือของตวั เองเขา้ มาแปดเปอ้ื นโคลนแห่งความผิดครัง้ น้ี ก้้าวที่่�แปด: ว่่ากันั ด้ว้ ยความผิิดของนายเชษฐ์์ บอรด์ ตารางงานและตารางประชมุ มลู นธิ ผิ สานวฒั นธรรม มูลนธิ ิผสานวฒั นธรรม | 145
ย้อนกลบั มาเมอื่ ช่วงเดอื นพฤษภาคม ปี 2560 เมือ่ ครง้ั ที่ทีมทนายของ มลู นผิ สานวฒั นธรรมไดป้ ระชมุ หารอื คดเี พม่ิ เตมิ พรอ้ มกบั เชญิ ผมและชอ็ ป ใหไ้ ป เข้าร่วมประชุมด้วยน้ัน ทางทีมทนายได้เสนอทางเลือกในการด�ำเนินคดีคือ การ ฟอ้ งรอ้ งตอ่ สำ� นกั งานตำ� รวจแหง่ ชาตใิ นคดแี พง่ เพอื่ เรยี กรอ้ งคา่ เสยี หายผลกระทบ ที่เกิดข้ึน จากเหตุการณ์เม่ือวันที่ 28 มกราคม 2552 ซ่ึงผมก็ได้ตอบรับในการ ฟอ้ งรอ้ งคดดี งั กลา่ วไปเปน็ ทเี่ รยี บรอ้ ย แตเ่ นอื่ งจากคดดี งั กลา่ วจำ� เปน็ ตอ้ งรอใหค้ ำ� พพิ ากษาคดหี ลกั อยา่ ง คดฟี อ้ ง 7 ตำ� รวจมคี ำ� สงั่ ถงึ ทส่ี นิ้ สดุ เสยี กอ่ น จงึ จะมกี ารนดั เพื่อไตส่ วนในคดีแพง่ ตอ่ ไป ในวันเดียวกันนั้นเอง ผมจึงเสนอทีมทนายว่า เราควรจะมีการฟ้อง กลับพยานปากเท็จต่างๆ เพื่อเรียกร้องความบริสุทธ์ิให้กับช็อป ลูกชายของผม ท่ีชื่อเสียงต้องมาแปดเปื้อนจากค�ำครหาที่คนเหล่าน้ันกล่าวอ้าง โดยผมได้น�ำ หลักฐานตา่ งๆ ทเ่ี คยไดร้ วบรวมไว้ก่อนหนา้ นีส้ ่งมอบให้กับทีมทนาย ยังผลให้ทมี ทนายความต้องปรึกษาหารือกันอีกคร้ังถึงความเหมาะสมในการรับคดีฟ้องกลับ พยานเทจ็ มาดูแล ซงึ่ ทา้ ยทีส่ ดุ แล้ว ทางมลู นธิ ผิ สานวฒั นธรรมก็ได้ตกลงว่า จะรบั ดแู ลในสว่ นของคดฟี อ้ งกลบั นายเชษฐ์ อดตี นายกเทศมนตรตี ำ� บลบา้ นสรา้ ง และ เรมิ่ รา่ งสำ� นวนคดฟี อ้ งร้อง เปน็ ผลให้ เมอ่ื วนั ที่ 19 พฤษภาคม 2560 ชอ็ ปและผม ไดเ้ ดนิ ทางไปยงั ศาลจงั หวดั ปราจนี บรุ อี กี ครง้ั เพอ่ื ยน่ื คำ� ฟอ้ งถงึ นายเชษฐต์ อ่ ศาลจงั หวดั ปราจนี บรุ ี โดยศาลรับค�ำฟ้องและรับเป็นคดีหมายเลขด�ำที่ 1009/2560 ฐานไปให้ถ้อยค�ำ เท็จ ใหก้ ารพยานเท็จแก่พนกั งานผู้กระทำ� ตามหน้าที่ ใหจ้ ดข้อความอันเปน็ เท็จ ลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการท่ีน่า จะเกิดความเสยี หายแก่ผูอ้ นื่ หรือประชาชน จากการให้ถ้อยคำ� เปน็ พยานเทจ็ ของ นายเชษฐ์ ตามปรากฏในเอกสารคำ� ใหก้ ารของ นายเชษฐ์ เมอ่ื คร้งั ใหก้ ารตอ่ คณะ กรรมการไตส่ วนข้อเทจ็ จริงของ ป.ป.ท. เร่ืองเลขด�ำที่ ป.ป.ท. ท่ี 520/2553 โดย ใจความตอนหน่ึงของข้อความเทจ็ ของ นายเชษฐ์ กล่าววา่ “...ต่อ่ มานายสมศัักดิ์์� ได้้มาหาข้้าฯ (นายเชษฐ์)์ และบอกกัับข้้าฯ ว่า่ 146 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
ให้้ข้า้ ฯ พาไปพบและพููดคุยุ กัับนายเกริกิ นายกเทศมนตรีีเมือื งปราจีีนบุรุ ีขี ณะนั้�น เพราะเป็็นคนกว้้างขวางและรู้้�จักกัับตำำ�รวจชุุดจัับกุุม เพื่�อจะได้้พููดคุุยหรืือ เจรจากัับตำำ�รวจชุุดนี้้� จากนั้�นข้า้ ฯ ก็ไ็ ด้พ้ านายสมศักั ดิ์์� ไปหานายเกริกิ ที่่�บ้า้ นพักั และนายเกริกิ ได้บ้ อกให้ข้ ้า้ ฯ พานายสมศักั ดิ์�ไปพบที่่�ห้อ้ งทำำ�งานสำำ�นักั งานเทศบาล เมืืองปราจีนี บุุรีี โดยขา้ ฯ เข้าใจวา่ นายสมศักด์ิต้องการจะไปเจรจากับต�ำรวจ เพอ่ื ให้ เลิกแล้วต่อกันโดยไม่มีการเรียกร้องเงินกันแต่อย่างใด แต่เม่ือไปถึงนายสมศักดิ์ ไดพ้ ดู คยุ กบั นายเกริกในลักษณะท่ีตอ้ งการใหช้ ดใช้ค่าเสียหายจากต�ำรวจชุดท่ถี ูก รอ้ งเรยี น คนละเปน็ แสนๆ บาท ขา้ ฯ เหน็ วา่ มกี ารเรยี กรอ้ งเงนิ จงึ ไมอ่ ยากยงุ่ เกยี่ ว ดว้ ย ผลการเจรจาจึงตกลงกันไมไ่ ด”้ นายเชษฐ์ จากข้อความของนายเชษฐ์ข้างต้นน้ี เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่คณะ กรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ท. สั่งยุติการด�ำเนินเรื่อง กรณีพนักงาน ต�ำรวจท�ำร้ายซ้อมทรมานช็อป ลูกชายของผม เพื่อให้รับสารภาพว่าไปว่ิงราว ทรัพยส์ ร้อยคอทองคำ� ของผู้อนื่ สิ่งท่ีนายเชษฐ์กล่าวมา ท้ังหมดล้วนเป็นความเท็จ เพราะผมไม่เคย ติดต่อกับนายเชษฐ์ เพ่ือให้มีการพูดคุยเจรจากับกลุ่มต�ำรวจท่ีท�ำร้ายร่างกาย ลูกชายของผม และผมไม่เคยเรียกร้องเงนิ ผมยนื ยันจะด�ำเนินคดกี บั นายตำ� รวจ ชดุ ทท่ี ำ� รา้ ยลกู ชายของผมจนกวา่ จะถงึ ทส่ี ดุ จะมกี น็ ายเชษฐเ์ พยี งคนเดยี วทน่ี า่ จะ รจู้ กั และค้นุ เคยกับนายต�ำรวจเหลา่ น้ี อีกทั้งเขาคือคนเดยี วทคี่ อยประสานงานนัดหมายมายังผมวา่ ผู้บงั คบั บัญชาต�ำรวจอยากทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์การซ้อมท�ำร้ายร่างกาย และกรณีการสั่งไมฟ่ อ้ งของอัยการ ด้วยความบรสิ ทุ ธใิ์ จและหวังวา่ จะได้รบั ความ ยตุ ิธรรม ผมจงึ เขา้ ไปพบตามนัดหมาย เมอื่ ผมเขา้ ไปพบกบั นายเกรกิ นายกเทศมนตรเี มอื งปราจนี บรุ ี กไ็ ดพ้ ดู คยุ ในลกั ษณะทต่ี อ้ งการใหต้ ำ� รวจชดุ ทซ่ี อ้ มทำ� รา้ ยชอ็ ป ลกู ชายของผม ยอมรบั ผดิ และสำ� นกึ ในความผดิ ทไ่ี ดก้ ระทำ� ลงไป โดยไมม่ กี ารพดู คยุ เรยี กรอ้ งคา่ เสยี หายจาก มลู นิธิผสานวัฒนธรรม | 147
ตำ� รวจชดุ ที่ถกู ร้องเรยี นคนละเปน็ แสนๆ บาท ตามความเทจ็ ท่นี ายเชษฐใ์ หก้ าร แตแ่ ลว้ ภายหลงั ศาลจงั หวดั ปราจนี บรุ นี ดั ไตส่ วนมลู ฟอ้ ง คดหี มายเลข ดำ� ที่ 1009/2560 คดหี มายเลขแดงท่ี 2117/2560 เมอ่ื วนั ที่ 16 พฤศจกิ ายน 2560 ซงึ่ ผลการไตส่ วนมลู ฟอ้ ง ศาลมคี ำ� สง่ั ไมร่ บั ฟอ้ ง เนอ่ื งจากคดไี มม่ มี ลู โดยคำ� สง่ั ศาล มีใจความตอนหน่ึงว่า “ศาลเหน็ วา่ ขอ้ ความทนี่ ายเชษฐ์ จำ� เลย ใหไ้ วต้ อ่ คณะกรรมการไตส่ วน ข้อเท็จจริงตามค�ำสั่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ น้ัน เป็นการรับฟังมาจากบุคคลอีกคร้ังหน่ึง และเล่าให้การไปตามข้อเท็จจริงท่ี ตนรู้เห็นมา มิได้เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงแต่อย่างใด พยานหลักฐานท่ีโจทก์ท้ัง สองไต่สวนมา จึงยังฟังไม่ขึ้นว่า จ�ำเลยมีเจตนาที่จะให้คณะอนุกรรมการไต่สวน ผู้กระท�ำการตามหน้าท่ีจดข้อความเป็นเท็จ ส�ำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน อัน เป็นการแจ้งข้อความเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานที่จะท�ำให้ผู้อื่น หรือประชาชนเสีย หายแตอ่ ยา่ งใด คดจี ึงไมม่ ีมลู ” ค�ำพิพากษาศาลช้ันต้นที่ออกมา ท�ำให้เราสองพ่อลูกไม่เห็นพ้องด้วย อย่างมาก เนื่องจากการให้ถ้อยค�ำของนายเชษฐ์ต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อ เทจ็ จรงิ สว่ นใหญม่ ลี กั ษณะเปน็ ขอ้ ความทน่ี ายเชษฐก์ ลา่ วอา้ งวา่ เขาเปน็ ผปู้ ระสบ เหตกุ ารณต์ ามขอ้ ความดว้ ยตนเอง มใิ ชก่ ารรบั ฟงั มาจากบคุ คลอกี ทหี นง่ึ ตามทศี่ าล วินิจฉัย ทั้งการให้ถ้อยค�ำของนายเชษฐ์ในข้อความท่ีกล่าวอ้างเป็นการยืนยันข้อ เท็จจริงแล้ว ซึ่งข้อเท็จจริงที่ยืนยันน้ันขัดแย้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เป็นผล ให้ต่อมาเราสองพ่อลูกต้องเข้าย่ืนอุทธรณ์เพ่ือคัดค้านค�ำพิพากษาของศาลชั้นต้น จงั หวดั ปราจนี บรุ อี ีกครง้ั ซ่ึงศาลอุทธรณ์ก็ได้รับคดีไปพิจารณา ก่อนจะค�ำพิพากษารับคดีกลับ ไปวนิ จิ ฉยั เพม่ิ เติม เม่ือวนั ที่ 25 มกราคม 2561 ของศาลอุทธรณ์ภาค 2 โดยมี ข้อความสว่ นหนงึ่ จากค�ำพพิ ากษาของศาลอุทธรณ์ความว่า “ศาลพิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ทั้ง สองวา่ คดีโจทก์ทั้งสองมมี ลู หรือไม่ โดยศาลเหน็ วา่ โจทก์ท้ังสองอ้างตนเองเปน็ พยานเบิกความยนื ยนั ขอ้ เท็จจรงิ วา่ เร่อื งโจทกท์ ่ี 1 ถกู จับกุมและถูกเจา้ พนกั งาน 148 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
ตำ� รวจทำ� รา้ ยรา่ งกายจนไดร้ บั บาดเจบ็ โดยมภี าพถา่ ยรอ่ งรอยบาดแผลหลายแหง่ ตามรา่ งกายของโจทกท์ ี่ 1 และสำ� เนาใบรบั รองแพทยม์ านำ� สบื สนบั สนนุ ซง่ึ พอบง่ ช้ี ไดว้ า่ โจทก์ท่ี 1 ได้รบั บาดเจบ็ จากการถกู ทำ� รา้ ย ไม่นา่ จะเปน็ การสรา้ งหลกั ฐาน โดยทำ� รา้ ยตนเอง ประกอบกบั โจทก์ท่ี 2 ยืนยนั วา่ ไม่เคยบอกจำ� เลยในเร่อื งดังกลา่ ว ซ่ึง ตามสภาพอาการบาดเจ็บของโจทก์ท่ี 1 ย่อมไม่มีเหตุผลที่จะต้องสร้างหลักฐาน การบาดเจบ็ อกี เบอ้ี งตน้ มเี หตผุ ลใหเ้ ชอื่ ไดว้ า่ โจทกท์ ี่ 2 ไมไ่ ดพ้ ดู กบั จำ� เลยวา่ โจทก์ ทั้งสองสร้างหลักฐานท�ำให้โจทก์ท่ี 1 ได้รับบาดเจ็บ เพื่ออ้างว่าเป็นการกระทำ� ของเจ้าพนักงานต�ำรวจ ส่วนท่ีจ�ำเลยให้ถ้อยค�ำว่าโจทก์ท่ี 2 ประสงค์เรียกร้อง เงินค่าเสียหายจากเจ้าพนักงานต�ำรวจท่ีถูกร้องเรียนนั้น โจทก์ท้ังสองมีหลักฐาน แผ่นซีดีบันทึกการเจรจาตามแผ่นซีดี ซ่ึงบันทึกเหตุการณ์ระหว่างการเจรจามา นำ� สบื เมอื่ สบื แลว้ ปรากฏวา่ โจทกท์ ่ี 2 ไมไ่ ดเ้ รยี กรอ้ งคา่ เสยี หายจากเจา้ พนกั งาน ต�ำรวจแตอ่ ย่างใด ซ่งึ จ�ำเลยกอ็ ยูใ่ นเหตกุ ารณน์ น้ั ดว้ ย เมื่อโจทก์ทัง้ สองมหี ลักฐาน แสดงชดั เจนวา่ ไมไ่ ดห้ วงั เรยี กรอ้ งคา่ เสยี หายเปน็ สำ� คญั ยอ่ มไมม่ เี หตผุ ลทโ่ี จทกท์ ่ี 2 ตอ้ งปล่อยข่าววา่ มีการใหเ้ งินแก่นายเกริกและจ�ำเลยแล้ว แต่ไมม่ อบใหโ้ จทก์ท่ี 2 ดังนั้นการที่จ�ำเลยให้ถ้อยค�ำต่ออนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของ คณะกรรมการ ป.ป.ท. ว่า โจทก์ที่ 2 บอกจ�ำเลยว่า โจทก์ท่ี 2 สร้างหลักฐาน ท�ำให้โจทก์ท่ี 1 บาดเจ็บเพ่ืออ้างว่า ถูกเจ้าพนักงานต�ำรวจท�ำร้ายเพื่อบังคับให้ รับสารภาพ และโจทก์ที่ 2 ประสงค์จะเรียกรอ้ งเงนิ จากเจา้ พนกั งานต�ำรวจทีถ่ กู รอ้ งเรยี น และโจทกท์ ่ี 2 ปลอ่ ยขา่ ววา่ จำ� เลยกบั นายเกรกิ รบั เงนิ มาแลว้ ไมม่ อบให้ โจทก์ทั้งสอง จึงเป็นการแจ้งข้อความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่เจ้าพนักงาน ผมู้ ีอ�ำนาจสืบสวนคดอี าญา และเป็นการแจง้ ใหเ้ จา้ พนกั งานผ้จู ดข้อความ บันทึก ข้อความเท็จลงในเอกสารราชการ ซ่ึงมีวัตถุประสงค์เพ่ือใช้เป็นพยานหลักฐาน ทำ� ใหโ้ จทกท์ งั้ สองไดร้ บั ความเสยี หายจากการถกู ดำ� เนนิ คดฐี านทำ� พยานหลกั ฐาน อนั เปน็ เทจ็ คดโี จทกท์ ง้ั สองจงึ มมี ลู ทศ่ี าลชนั้ ตน้ พพิ ากษายกฟอ้ งโจทกท์ ง้ั สอง ศาล อทุ ธรณภ์ าค 2 ไมเ่ ห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ทัง้ สองจึงฟังขึ้น” ต่อมาวันที่ 20 สิงหาคม 2561 ศาลจังหวัดปราจีนบุรีนัดสอบให้ค�ำ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม | 149
การจ�ำเลยให้การต่อศาล ในคดีหมายเลขด�ำท่ี 1009/2560 คดีหมายเลขแดง ที่ 2117/2560 ครั้งน้ีนายเชษฐ์ ได้ให้ค�ำให้การปฏิเสธ และขอให้ศาลพิพากษา ยกฟอ้ งโจทก์และปล่อยจำ� เลยพน้ ขอ้ หาไปดว้ ย แตต่ อ่ มา เมือ่ วนั ที่ 18 ธนั วาคม 2561 ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ นายเชษฐ์กลับค�ำให้การเดิมท่ีปฏิเสธเป็นรับ สารภาพว่า กระท�ำผิดตามค�ำฟ้อง โดยปรากฏข้อความตามรายงานกระบวน พจิ ารณา ตอนหนึ่งว่า “จำ� เลยแถลงขอถอนคำ� ใหก้ ารเดมิ ทเ่ี คยใหก้ ารปฏเิ สธไวต้ ามฟอ้ ง และ ขอให้การใหม่เป็นว่าให้การรบั สารภาพตามฟอ้ งโจทก์ ตามค�ำใหก้ ารทยี่ ่ืนตอ่ ศาล ฉบบั ลงวนั ท่ีวนั น้”ี นายเชษฐ์ และเปน็ ผลให้ศาลมีค�ำพพิ ากษาให้ นายเชษฐม์ ีความผดิ ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 137 มาตรา 172 และ มาตรา 267 ประกอบมาตรา 90 ใหล้ งโทษตามกฎหมายทม่ี โี ทษหนกั ทสี่ ดุ คอื ฐานแจง้ ใหเ้ จา้ พนกั งานจดขอ้ ความอนั เปน็ เทจ็ ลงในเอกสารราชการ เปน็ กรรมเดยี วผดิ ตอ่ กฎหมายหลายบทตามมาตรา 90 ใหจ้ ำ� คกุ 1 ปี และปรบั 6,000 บาท โดยจำ� เลยใหก้ ารรบั สารภาพเปน็ ประโยชน์ แก่การพิจารณา เปน็ เหตบุ รรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้ ลดโทษก่ึงหนงึ่ คอื 6 เดือน และปรบั 3,000 บาท ขณะทไ่ี มป่ รากฏวา่ จำ� เลยไดร้ บั โทษจำ� คกุ มากอ่ นใหร้ อการลงโทษจำ� คกุ 2 ปี คมุ ความประพฤตจิ ำ� เลย โดยใหจ้ ำ� เลยไปรายงานตวั ตอ่ พนกั งานคมุ ประพฤติ 6 เดือนต่อคร้งั ภายในกำ� หนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 และ หากไม่ชำ� ระค่าปรับให้จดั การตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30 ก้า้ วที่่�เก้้า: เมื่�อกรรมตามทันั นางเปิ้�้ล อันที่จริง ผมและลูกชายเคยได้คุยกันอยู่ถึงการด�ำเนินการทางคดีกับ พยานปากเท็จรายท่ีช่ือ นางเป้ิล วา่ เราต้องดำ� เนินการฟ้องกลบั นางเปล้ิ เพอ่ื ให้ เป็นบรรทัดฐานเฉกเช่นเดียวกับที่เคยย่ืนฟ้องต่อนายเชษฐ์ อดีตนายกเทศมนตรี 150 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
เมืองบา้ นสรา้ ง ท่ีกา้ วขาลงมามสี ว่ นเอีย่ วกบั เรอื่ งดังกลา่ ว ต่อมา เจ้าพนักงานสอบสวนสถานีต�ำรวจภูธรระเบาะไผ่ อ�ำเภอ ศรีมหาโพธ์ิ จังหวัดปราจีนบุรี ท่ีด�ำเนินคดีนางเปิ้ลตามที่ช็อปได้แจ้งความ ร้องทุกข์ ได้สรุปส�ำนวนส่ังฟ้องย่ืนต่อส�ำนักงานอัยการจังหวัดปราจีนบุรีในคดีน้ี โดยเจา้ พนกั งานสอบสวนมหี ลกั ฐานทส่ี ามารถพสิ จู นไ์ ดว้ า่ นางเปล้ิ ไดแ้ จง้ ขอ้ ความ อันเป็นเท็จในฐานะพยานคดีความผิดอาญา แก่เจ้าพนักงานไต่สวนข้อเท็จจริง ของ ป.ป.ท. เขต 2 ซึ่งเปน็ เจา้ พนกั งานผู้มอี ำ� นาจสบื สวนคดีอาญา และเปน็ ผลให้ เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการอันเป็นพยานหลักฐาน เพอื่ ก่อให้เกดิ ความเสียหายแก่ผอู้ ่ืนหรือประชาชน ในส่ว่ นของนางเปิ้�ล เธอคือื พี่�สาวของนางวิ ิคู่�กรณีใี นเหตุกุ ารณ์เ์ มื่�อวันั ที่่� 28 มกราคม 2552 ที่�ได้ช้ ี้้�ตัวั ช็อ็ ป ลูกู ชายของผม ในฐานะผู้้�ร้ายวิ่�งราวทองคำำ�ของเธอ และถือื เป็น็ ปฐมบทของเรื่�องราวการซ้อ้ มทรมานในห้อ้ งสอบสวนโดยกลุ่�มเจ้า้ หน้า้ ที่่�ตำำ�รวจชุุดสอบสวนวัันนั้�น ก่่อนที่�ทั้�งนางวิิ และเจ้า้ หน้้าที่�สอบสวนชุุดดัังกล่า่ วจะ ร่่วมมือื กัันปกปิดิ ความผิิดระหว่่างปฏิิบัตั ิิหน้า้ ที่� ผลท�ำให้ ต่อมา พนักงานอัยการจังหวัดปราจีนบุรีได้ยื่นฟ้องต่อศาล จังหวดั ปราจีนบุรี เมอ่ื วันท่ี 1 ธนั วาคม 2560 ในขอ้ หาความผดิ แจ้งข้อความอนั เป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซ่ึงอาจท�ำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และยังผลให้ วนั ท่ี 24 เมษายน 2561 ศาลจงั หวดั ปราจนี บุรีมีคำ� สั่งนัดสบื พยาน คดหี มายเลข ดำ� ท่ี อ.2106/2560 ระหวา่ ง พนักงานอยั การจังหวัดปราจนี บุรี โจทก์ กับ นาง เป้ลิ จ�ำเลย โดยวนั นนั้ ผมกบั ชอ็ ป ลกู ชายของผมไดเ้ ขา้ รว่ มฟงั คำ� ไตส่ วนในชน้ั ศาล ด้วย เมอ่ื ไปถึงขน้ั ไต่สวนพยานในชน้ั ศาลแลว้ ช็อป ลกู ชายของผม ไดย้ ืน่ ค�ำรอ้ ง ขอเขา้ รว่ มเปน็ โจทก์ รว่ มกบั พนกั งานอยั การจงั หวดั ปราจนี บรุ ี ในฐานะผเู้ สยี หาย จากค�ำให้การเท็จของนางเปิ้ล ซ่ึงศาลก็ได้อนุญาต จนกระทั่งเม่ือถึงคราไต่สวน ค�ำใหก้ ารเลย นางเป้ลิ จึงไดใ้ หก้ ารรับสารภาพวา่ “ขา้ ฯ ในฐานะจำ� เลย ขอถอนคำ� ใหก้ ารเดมิ ทเี่ ปน็ การปฏเิ สธขอ้ หา เปน็ ใหก้ ารรับสารภาพตามฟอ้ งของโจทกท์ ุกประการ” นางเปล้ิ มลู นธิ ผิ สานวัฒนธรรม | 151
เมอ่ื เป็นเชน่ นี้ ศาลจังหวัดปราจนี บุรจี ึงมคี ำ� พิพากษา คดีหมายเลขดำ� ท่ี อ.2106/2560 และคดีหมายเลขแดงท่ี 666/2561 โดยมใี จความตอนหนึ่ง ใน ค�ำพพิ ากษาหน้า 4 และ 5 ว่า “อกี ทง้ั จำ� เลยและนางวิ กไ็ มไ่ ดอ้ ยภู่ ายในหอ้ งสบื สวนในเวลาดงั กลา่ ว แต่อยา่ งใด และหอ้ งสอบสวนขณะนน้ั ก็ไม่มีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปเี ศษ ถูกจับในคดียาเสพติดแตอ่ ย่างไร ประกอบกับข้อความที่จ�ำเลยเคยให้ถ้อยค�ำว่า พ่อของผู้เสียหายได้ เข้าไปพูดกับผู้เสียหายในวันเกิดเหตุว่า “มึงท�ำอย่างไรให้เขาจับได้” นั้น บิดา ของผเู้ สยี หายกไ็ มไ่ ดพ้ ดู แตอ่ ยา่ งใด การทจ่ี ำ� เลยไดใ้ หถ้ อ้ ยคำ� อนั เปน็ เทจ็ ดงั กลา่ วตอ่ คณะอนกุ รรมการไตส่ วนขอ้ เทจ็ จรงิ ของ ป.ป.ท. กรณเี จา้ หนา้ ทข่ี องรฐั กระทำ� การ ทุจรติ ในภาครฐั จึงเปน็ การแจ้งขอ้ ความอนั เป็นเทจ็ แกเ่ จา้ พนกั งานสอบสวน อัน ส่งผลให้ผูเ้ สยี หายได้รับความเสียหาย อันมีสถานทีเ่ กดิ เหตุ (สถานทแ่ี จ้งข้อความ เทจ็ ) คอื สถานตี ำ� รวจภธู รระเบาะไผ่ ตำ� บลหนองโพรง อำ� เภอศรมี หาโพธิ์ จงั หวดั ปราจีนบุรี ศาลจึงมีคำ� พิพากษา ให้จำ� เลยมคี วามผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 (เดมิ ) จ�ำคกุ 2 เดือน และปรบั 1,000 บาท โดยจำ� เลยได้ใหก้ ารรบั สารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงบรรเทาโทษให้ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 78 คอื กึ่งหน่ึง คงเหลือโทษจ�ำคกุ 1 เดอื น และปรับ 1,000 บาท ท้ังน้ีศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จ�ำเลยประกอบอาชีพและมีท่ีอยู่อาศัย เปน็ หลกั แหลง่ และมผี อู้ ยใู่ นอปุ การะอยอู่ กี การจำ� คกุ จำ� เลยในระยะสนั้ จงึ ไมเ่ ปน็ ผลดีกบั สังคมโดยรวมและจ�ำเลย ประกอบทางโจทก์รว่ มไม่ตดิ ใจจะด�ำเนินคดกี ับ จำ� เลยอกี ตอ่ ไป ประกอบกบั ไมป่ รากฏใหเ้ หน็ วา่ จำ� เลยเคยไดร้ บั โทษจำ� คกุ มากอ่ น เห็นสมควรให้โอกาสจ�ำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป โทษจ�ำคุกจึงให้รอการ ลงโทษไว้ 1 ปตี ามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 และหากจำ� เลยไมช่ ำ� ระคา่ ปรบั ใหจ้ ัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29และ 30” และแล้ว 152 | เม่อื ผมถูกทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ิธรรม
คดีพยานปากเท็จรายน้ีก็ถงึ ทส่ี ุดเสยี ที อันที่จริง ผมและลูกชายไม่ได้มีจิตคิดผูกใจเจ็บกับนางเปิ้ล เมื่อเห็น ว่า นางเปิ้ลมีท่าทีไม่ต่อต้าน และยอมรับผลในการกระท�ำเดิมอันเป็นความผิด ในทางอาญา ประกอบกับข้อหาของนางเปิ้ลเป็นความผิดที่มีโทษเพียงเล็กน้อย เท่านั้น หากนางเปิ้ลเองยืนยันว่า จะกลับตัวกลับใจเป็นพลเมืองดีต่อไป พร้อม ทง้ั ตอ้ งปฏบิ ตั คิ ำ� สง่ั ศาลอยา่ งเครง่ ครดั ผมกพ็ รอ้ มยนิ ดกี บั ผลคำ� พพิ ากษาของศาล และใหโ้ อกาสเขา ส�ำหรับคดีฟ้องกลับบุคคลท่ีเป็นพยานเท็จอีกสองคน ผมเองก็ยังไม่ แนใ่ จเชน่ กนั ว่า ในท้ายทีส่ ุดจะเดนิ หน้าตอ่ อีกครั้งเม่อื ไร เน่อื งจาก คดที ฟี่ ้องนาง วิถูกจ�ำหน่ายเอาไว้โดยศาลจังหวัดปราจีนบุรี เพ่ือรอให้ผลการพิจารณาคดีหลัก คือคดฟี ้อง 7 นายต�ำรวจ แต่จนถงึ ขณะนี้ คดหี ลกั ดงั กล่าวได้มคี ำ� พพิ ากษาถงึ ท่ี สดุ แลว้ ทมี ทนายความจงึ ขอใหศ้ าลดำ� เนนิ การพจิ ารณาคดขี องนางวติ อ่ จนถงึ ทสี่ ดุ สว่ นพยานปากเทจ็ อกี หนง่ึ คนคอื นางพมิ พ์ ปจั จบุ นั คดนี พ้ี นกั งานสอบสวนไดส้ รปุ สำ� นวนและอยู่ในช้ันอัยการจังหวัดนนทบรุ ีแลว้ มลู นิธผิ สานวฒั นธรรม | 153
154 | เม่อื ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ิธรรม
บทส่งท้าย 12 ปี การตอ่ สู้ และชีวิตที่ เปล่ียนแปลงไปตลอดกาล หากจะให้ผมนิยามค�ำวา่ “แพะรบั บาป” เร่ืองราวของ “แพะรับบาป” ท่ีเกิดข้ึนกับครอบครัวชื่นจิตรนี้ ไม่ใช่ บทนยิ ายหรอื ดวงชะตาฟา้ ลขิ ติ ทกี่ ำ� หนดใหเ้ กดิ ขนึ้ และเปน็ ไป หากแตเ่ ปน็ ผลของ การกระทำ� บนความเหน็ แกต่ วั ของคนบางคนและเจา้ หนา้ ทบ่ี างกลมุ่ ทรี่ วมหวั กนั กระทำ� การ “จบั ผดิ ตวั ” และท�ำใหล้ ูกชายคนโตของครอบครวั น้ีต้องตกเปน็ ผโู้ ชค รา้ ยทร่ี บั เคราะห์เป็น “แพะรบั บาป” และจำ� เลยสงั คม ตลอดระยะเวลาการตอ่ สู้ เพอื่ ทวงคืนความบริสุทธขิ์ องตนเองกว่า 12 ปีท่ีผ่านมา และจนถึงบัดนี้ ครอบครัวก็ยังไม่ใช่ครอบครัวสุดท้ายที่ต้องสังเวย โอกาส เวลา และทนุ ทรัพยเ์ กอื บทง้ั หมดไปใหก้ ับคำ� ว่า “แพะรบั บาป” สกู่ ารเป็นนักกฎหมายชาวบา้ น - พ่อสมศักด์ิ – ตลอดระยะเวลา 12 ปีท่ีชีวิตของช็อป และเราครอบครัวชื่นจิตร ได้ เปลยี่ นไปและไมเ่ คยไดพ้ บเจอกบั ความชน่ื จติ ชนื่ ใจอกี เลย นบั ตงั้ แต่ ชอ็ ป ลกู ชาย ของผมต้องมาโดนหางเลขเป็น “แพะ” ในคดีว่ิงราวทรัพย์สร้อยคอทองค�ำของ หญิงสาวคนหนึ่งในพ้ืนท่ีอ�ำเภอเมืองปราจีนบุรี ซ่ึงเขาไม่ได้เป็นผู้กระท�ำและมีที่ อยชู่ ดั เจนในวันเวลาดังกล่าว แต่กระนน้ั เสยี งของเยาวชนอายเุ พยี ง 18 ปี กลับ มูลนธิ ิผสานวฒั นธรรม | 155
กลายเปน็ เสยี งทถี่ กู ทำ� เปน็ ไมไ่ ดย้ นิ และไมไ่ ดใ้ สใ่ จ จนกระทง่ั เขาถกู นำ� ตวั เขา้ ไปยงั ห้องสอบสวนและได้รบั การทรมานโดยเจ้าหนา้ ท่ชี ดุ สบื สวน เพยี งเพือ่ ตอ้ งการให้ รบั สารภาพตามทีพ่ วกเขาต้องการ ท้ังหมดยังผลให้ นับต้ังแต่วันเกิดเรื่อง ช็อปและผมผู้เป็นพ่อจ�ำเป็น จะต้องออกเดินสู้เพื่อให้ได้รับความยุติธรรมและความบริสุทธิ์กลับคืนมาสู่ตนเอง และครอบครวั จนตอ้ งออกไปแลกดว้ ยราคาทตี่ อ้ งจา่ ยอยา่ งมากมาย ไมว่ า่ จะเปน็ ทรพั ยส์ ินเงินทองที่ตอ้ งจ่ายไประหวา่ งการรอ้ งทกุ ข์ ดำ� เนินการทางคดตี ่างๆ หรอื แมแ้ ตเ่ วลาทต่ี ้องเสียไปกับการย่นื เรอื่ งร้องเรียน การดำ� เนินคดี และการเดินสาย รณรงคเ์ พื่อต่อต้านการกระท�ำทรมานต่างๆ เวลาท่ีสญู เสียไปทั้งหมดนน้ั กเ็ ป็นผล ใหผ้ มตอ้ งปดิ กจิ การอ่ซู ่อมรถของผมลงไปในเวลาตอ่ มา การตอ่ สนู้ บั จากวนั นนั้ มาจนถงึ ตอนนี้ ตลอดระยะเวลา 12 ปี และคดที ่ี งอกเงยขนึ้ มาอยา่ งมากมายใหผ้ มและทมี ทนายความตอ้ งชว่ ยกนั สะสาง แมว้ า่ ทกุ วนั นจ้ี ะเหลอื เพยี งคดเี ลก็ ๆ นอ้ ยๆ ทต่ี อ้ งตามเกบ็ ตกในชน้ั พจิ ารณาคดขี องศาลแลว้ แตส่ ่งิ ทีผ่ ม ลูกชายของผม และครอบครัวได้ประสบกท็ �ำให้ผมค่อนขา้ งเชอื่ อย่าง สุจริตใจวา่ สงั คมไทยจะไม่มี “แพะรบั บาป” ตวั สุดท้าย มีแคเ่ พยี งใครจะโชคร้าย และถกู ลากมาเปน็ “แพะ”ตวั ต่อไป ตราบใดที่เรายงั ไม่มกี ารปฏิรูปกระบวนการ ตดิ ตามผกู้ ระทำ� ความผดิ จรงิ ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ ไมม่ กี ารปฏริ ปู กระบวนการยตุ ธิ รรม ไมม่ กี ารปฏริ ปู ระบบของตำ� รวจและทหาร หรอื แมก้ ระทง่ั ไมม่ กี ฎหมายทร่ี องรบั ให้ ความผดิ ในการทรมานและการกระทำ� ใหบ้ คุ คลสญู หายเปน็ ความผดิ ในทางอาญา เพื่อนำ� ตวั ผู้กระทำ� ความผดิ มาลงโทษ เมอ่ื ไมม่ กี ารปฏริ ปู ใดๆ กค็ งเปน็ เรอ่ื งยาก หากจะใหเ้ ชอื่ ลมปากของเจา้ หนา้ ทรี่ ฐั คนใดกต็ ามทอ่ี อกมาบอกตอ่ หนา้ สอื่ ทง้ั หลายวา่ “มนั จะไมเ่ กดิ เหตกุ ารณ์ เชน่ นีอ้ กี ” แม้ว่าวันน้ี ทุกคร้ังที่ยังนึกย้อนไปถึงวันที่เกิดเหตุกับลูกชายของผม ผมจะยังคงร้สู กึ เจบ็ ปวดและพยายามขอให้ทกุ ครงั้ ที่หลับตาลงนอน เม่อื ต่ืนนอน ข้ึนมาแลว้ จะคน้ พบวา่ ทกุ สงิ่ เปน็ เพยี งแคฝ่ ันไป 156 | เม่อื ผมถกู ทรมาน…ผมจึงมาตามหาความยุติธรรม
แตเ่ มอ่ื ชวี ติ ไมม่ อี ะไรทเ่ี ปน็ ดง่ั หวงั ได้ ผมจงึ ตอ้ งพยายามหาทกุ วถิ ที างท่ี จะท�ำใหผ้ มสามารถดบั ไฟร้อนทส่ี ุมอยทู่ รวงอกของผมให้หายไปได้ หากวา่ น้ำ� เปน็ สิ่งเดียวท่ใี ชด้ ับไฟได้ การพบเจอกับเรื่องราวที่อธรรมก็อาจจะต้องใช้กระบวนการทาง กฎหมายเข้าสู้ เพียงแต่การจะเข้าถึงกระบวนการทางกฎหมายได้ ก็จำ� เป็นอย่างย่ิงท่ี ผมจะต้องรูก้ ฎหมายเสียกอ่ น เม่ือคิดได้ดังน้ัน ผมจึงใช้เวลาทุกๆ วันในการเพิ่มพูนความรู้เรื่อง กฎหมาย ไมว่ า่ จะเปน็ คน้ ควา้ หาขอ้ มลู ความรดู้ ว้ ยตวั เอง หรอื ปรกึ ษาผรู้ กู้ ฎหมาย ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทีมทนายความท่ีร่วมกันฟันฝ่าในคดีฟ้องเจ้าหน้าท่ีชุดสืบสวน ท้งั หมด 7 คน และคดฟี ้องกลบั พยานปากเท็จทัง้ หมด หรอื แม้แตผ่ ูพ้ ิพากษาทเ่ี ขา มคี วามสนใจในเรอ่ื งราวการซ้อมทรมานของลกู ชายของผม และมคี วามยนิ ดที ี่จะ ใหค้ วามรใู้ นเรอื่ งของตวั บทกฎหมาย เพอื่ ใหผ้ มสามารถนำ� ชดุ ขอ้ มลู ความรเู้ หลา่ น้ี ไปปรับใชก้ บั ชีวิตประจ�ำวันได้ ด้วยความท่ีผมเปน็ ผู้ดำ� เนินการคดขี องช็อป ลกู ชายของผมตลอดกวา่ สิบปที ่ีผ่านมา การตอ้ งตระเตรยี มเอกสาร การเกบ็ บนั ทกึ ข้อมลู ข้อเท็จจริงต่างๆ หรอื แมแ้ ตก่ ารดำ� เนนิ การตามขนั้ ตอนกระบวนการยตุ ธิ รรมกลายเปน็ เรอ่ื งทผ่ี มทำ� จนคลอ่ งแคลว่ และเคยชนิ การไดร้ ำ่� เรยี นวชิ ากฎหมายจงึ เปน็ ตวั ชว่ ยอยา่ งมากใน การพจิ ารณาวา่ หากพบเจอกระทำ� เชน่ นี้ จะมคี วามผดิ ในลกั ษณะเดยี วกบั มาตรา ไหน ในประมวลกฎหมายหรือพ.ร.บ.ฉบบั ใด และเมื่อผมได้ร่�ำเรียนไปเรื่อยๆ ผมจึงมีความคิดว่า ถ้าหากผมไม่น�ำ ความรทู้ ่ไี ดม้ าเหลา่ น้ไี ปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ตอ่ สังคม ทา้ ยทีส่ ดุ มันกจ็ ะไมน่ �ำพาให้ สงั คมไปสจู่ ดุ ทจี่ ะเกดิ ความเปลยี่ นแปลงในเรอื่ ง การสรา้ งความตระหนกั รใู้ นสทิ ธิ เสรภี าพและสงิ่ ทส่ี ามารถพงึ กระทำ� ไดต้ ามกลไกของกฎหมายได้ และเปน็ ผลใหก้ าร ทำ� รา้ ย ซอ้ มทรมานโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐจะยงั ถูกส่งทอดต่อไปเรอื่ ยๆ เปน็ แน่ มูลนธิ ิผสานวัฒนธรรม | 157
ผมจงึ เปิดรับใหค้ ำ� ปรกึ ษาทางด้านกฎหมาย ในฐานะพอ่ ของผู้ประสบ เหตกุ ารณซ์ อ้ มทรมานและตอ้ งดำ� เนนิ การตามกลไกของกฎหมายและกระบวนการ ยตุ ธิ รรมมาตลอด 12 ปีท่ผี ่านมา โดยมีเปา้ หมายใหผ้ ู้คนท่ตี า่ งตกเปน็ ผู้ถูกกระทำ� โดยเจ้าหน้าที่รัฐทุกรูปแบบ ได้รับความรู้ในเร่ืองการจัดการคดีตามข้ันตอนทาง กฎหมาย และดำ� เนินการฟอ้ งร้องต่อศาลตามกระบวนการยุติธรรมกบั เจ้าหนา้ ท่ี ท่ีประพฤตปิ ฏบิ ัตมิ ชิ อบ เพื่อสร้างค่านยิ มใหม่ใหก้ ับสงั คมไทย ใหเ้ ปน็ สงั คมทปี่ ระชาชนไมย่ อมกม้ หวั ใหเ้ จา้ หนา้ ทรี่ ฐั ทแี่ สดงพฤตกิ รรม ยำ่� ยศี ักด์ศิ รคี วามเปน็ มนษุ ยด์ ้วยกนั เอง หลงั จากนนั้ ไมน่ าน กไ็ ดม้ หี ญงิ สาวคนหนง่ึ ในอำ� เภอบา้ นสรา้ งเขา้ มาขอ คำ� ปรกึ ษาเร่ืองคดกี ู้ยมื เงินกับผม โดยหญิงสาวรายน้ีเลา่ ให้ฟงั ว่า เม่อื 18 ปกี ่อน เธอได้ให้เจ้าหน้าท่ีต�ำรวจยศนายสิบคนหนึ่งกู้ยืมเงินไปเป็นจ�ำนวน 2 แสนบาท ขณะตกลงกู้ยืมกันท้ังสองไม่ได้ท�ำหนังสือสัญญากู้ยืม แต่มีเงื่อนไขว่า ให้น�ำเงิน ดงั กล่าวกลบั มาคืนภายในเวลา 3 เดือน แตเ่ มอื่ เวลาผ่านไป 3 เดอื น เธอกลบั ไม่ ได้เงนิ คนื หญิงสาวคนน้ีจึงได้น�ำเร่ืองฟ้องต่อศาลแพ่ง กรณีที่นายต�ำรวจผู้ขอกู้ ยมื เงนิ และผดิ สญั ญากยู้ มื เงนิ จำ� นวน 2 แสนบาท จนเปน็ เหตใุ หผ้ ใู้ หก้ ไู้ ดร้ บั ความ ลำ� บาก โดยศาลไดร้ บั ฟอ้ งคดดี งั กลา่ วและดำ� เนนิ การตามขน้ั ตอนจนมคี ำ� พพิ ากษา ถงึ ทสี่ ดุ ใหน้ ายตำ� รวจคนดงั กลา่ วมีความผดิ จริง และต้องชดใชเ้ งินทง้ั หมดตามท่ี ศาลระบเุ ปน็ จำ� นวนกวา่ 2 แสนบาท พรอ้ มดอกเบยี้ สว่ นหนง่ึ โดยแบง่ จา่ ยเปน็ งวด แตส่ ดุ ทา้ ยกย็ งั ไมไ่ ดร้ บั เงนิ ผอ่ นชำ� ระคนื ตามจำ� นวน เธอจงึ ตอ้ งนำ� เรอื่ งไปบงั คบั คดี เน่ืองจากผกู้ ยู้ ืมไมม่ ีการติดตอ่ มาเพอื่ ขอเจรจาพดู คยุ ประนอมหนี้ จนกระทั่งเวลา ล่วงเลยเกิน 10 ปี คดีนี้จึงขาดอายุความ ผ่านไปหลายปี นายต�ำรวจคนน้ีได้กลับมาบรรจุเป็นต�ำรวจประจ�ำ สภ.ระเบาะไผ่ จังหวัดปราจีนบุรี อีกคร้ัง เธอจึงลองเขียนจดหมายร้องขอความ เป็นธรรมถึงผู้ก�ำกับการสภ.ระเบาะไผ่ ในฐานะผู้บังคับบัญชานายต�ำรวจที่เป็น ลกู หนขี้ องเธอ ให้คืนเงินท่ยี ืมไปดว้ ย 158 | เม่อื ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยุตธิ รรม
จากนั้นไม่นาน เธอก็ได้รับหมายเรียกจากนายต�ำรวจคนน้ี ให้ไป รายงานตวั ที่ สภ.ระเบาะไผ่ ฐานหมน่ิ ประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 เธอจงึ เขา้ มาปรกึ ษาผมวา่ จะสามารถทำ� อยา่ งไรกบั คดที เ่ี ธอถกู กระทำ� ซำ้� จาก นายต�ำรวจคนนไ้ี ด้อกี บ้าง เม่ือผมทราบข้อเท็จจริงเบ้ืองต้นจากเธอ ผมจึงมีความคิดเห็นว่า การกระท�ำของหญิงสาวคนน้ี เป็นสง่ิ ทีก่ ระท�ำไดเ้ พ่อื ปอ้ งกนั ตน หรอื ปอ้ งกนั สว่ น ได้เสยี ของตน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (1) เป็นผลใหก้ ารกระทำ� ดงั ข้างตน้ ของเธอ ไมถ่ ือเปน็ ความผิดตามขอ้ กลา่ วหาของนายตำ� รวจลกู หนี้ ผมจึงพาเธอไปการติดต่อกับร้อยเวรต�ำรวจ สภ.ระเบาะไผ่ เพ่ือถอน หมายฟ้องหญิงคนดังกล่าว เน่ืองจากข้อหาท่ีแจ้งความนั้นไม่ถูกต้องและไม่มี หลักฐานยืนยันท่ีแน่ชัดได้ในฐานความผิด อีกทั้งหนังสือร้องขอความเป็นธรรมก็ ไมเ่ ขา้ ขา่ ยนำ� มาใชเ้ ปน็ หลกั ฐานขอ้ หาหมนิ่ ประมาทได้ ดงั นน้ั หากรอ้ ยเวรยงั ดงึ ดนั จะด�ำเนนิ คดตี ่อ ก็เสี่ยงตอ่ การถกู หญงิ คนน้ีฟ้องกลบั ขอ้ หาแจง้ ความเท็จดว้ ย เมื่อร้อยเวรต�ำรวจได้ฟังดังนั้น ก็มีท่าทีไม่สบายใจจึงได้สั่งไม่ฟ้องและ ส่งส�ำนวนคดีไปยังอัยการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นผลให้เวลาต่อมา อัยการมีค�ำส่ัง ไม่ฟอ้ ง เนือ่ งจากพยานหลกั ฐานไม่เพียงพอเชน่ กนั ต่อมา ผู้ก�ำกับการ สภ.ระเบาะไผ่ ได้ขอกับพูดคุยเจรจาผมกับหญิง สาวคนดังกล่าวเก่ียวกับข้อพิพาททางคดี ซึ่งผมกับหญิงสาวคนนี้ยืนยันว่า ถ้ามี การยินยอมใช้หน้ี จะไม่มีการฟ้องกลับใดๆ ในส่วนคดีท่ีนายต�ำรวจลูกหนี้ฟ้อง หมน่ิ ประมาทเทจ็ ผมสรปุ เจรจาครง้ั นั้นคือ นายต�ำรวจคนนี้ยินยอมชดใช้หนส้ี ิน ดงั กลา่ วบางส่วน และถอื วา่ เลิกแล้วต่อกนั แม้คดีดังกล่าวจะไม่ถือว่าประสบความส�ำเร็จมากนัก เน่ืองจากนาย ต�ำรวจคนดังกล่าวไม่ได้คืนเงินครบตามจ�ำนวน แต่อย่างน้อยคดีดังกล่าวก็ได้ดัน เพดานข้ึนไปว่า ประชาชนมีสิทธิฟ้องเจ้าหน้าท่ีรัฐหากได้รับความเดือดร้อนโดย ถูกการเอารดั เอาเปรียบได้ มลู นิธิผสานวัฒนธรรม | 159
นอกจากนีผ้ มยงั ไดเ้ ข้าไปชว่ ยเหลือคดีอ่ืนๆ อกี มากมายทผ่ี มได้ย่ืนมือ เข้าไปช่วยเหลอื ไมว่ า่ จะเปน็ คดียดั ยาเสพตดิ กบั ชายหนุ่มคนหน่งึ ในท้องท่ีอ�ำเภอ เมอื งปราจนี บรุ ี หรือแม้แตค่ ดโี กงพนิ ยั กรรม ซ่ึงทงั้ หมดน้คี ือการขับเคลอ่ื นกลไก ทางกฎหมายของผมให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิที่พวกเขาเคยไม่ทราบให้ได้มีความ เข้าใจมากยิ่งขน้ึ ได้ และผมกห็ วงั วา่ การเดนิ หนา้ ชว่ ยเหลอื ผอู้ นื่ ในการตอ่ สคู้ ดขี องผมนน้ั จะ นำ� พามาซงึ่ บรรทดั ฐานใหมใ่ นสงั คมปราจนี บรุ ี บรรทดั ฐานทไี่ มว่ า่ เจา้ หนา้ ทร่ี ฐั คน ใดก็ไม่กลา้ กระท�ำตอ่ ประชาชนได้อีก แดค่ วามชอบ ตัวตน และหนทางใหม่ของผม - ชอ็ ป - ช็อป ขณะถ่ายภาพภรรยาของและลกู ชายของเขา 160 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
หลังจากที่คดีหลักอย่างคดีฟ้องเจ้าหน้าที่ต�ำรวจชุดสืบสวน 7 คนสิ้น สุดลง เวลาที่ผมได้ใช้กับโรงกับศาลก็ลดลงไปมาก แต่กระน้ันภาวะอารมณ์ของ ผมเองกย็ ังไม่ไดด้ ขี ึ้นไปกวา่ เดมิ วันเวลาผ่านไปกับการเล้ียงลูกท้ังสองคน ช่วยท่ีบ้านท�ำธุรกิจขาย อะไหล่รถยนต์ แม้หน้าท่ีหลักๆ เวลาช่วยงานท่ีบ้านคือ การให้แนะน�ำและคอย ตรวจเชค็ เครอื่ งยนตใ์ ห้กบั เหลา่ ลูกค้าท่มี าซือ้ ของ แมก้ จิ กรรมเหลา่ นี้จะท�ำใหผ้ ม ได้พอพบปะหรือพูดคยุ กับผ้คู นบ้าง ดีกว่านง่ั แกว่ ๆ อยใู่ นห้องนอนขนาดสี่เหล่ียม ภายในบ้าน แต่ถึงอย่างน้ัน ก็ยังไม่มีสิ่งใดเข้ามาท�ำให้ผมรู้สึกจรรโลงใจ และ หายขาดจากสภาวะเครียดและวิตกกังวล หรือแม้แต่อาการหวาดผวาจากเร่ือง ราวเก่าๆ ในบางค�่ำคืนไดเ้ ลย และแน่นอน ผมยังคงต้องเข้ารับการรักษาและรับยาจากจิตแพทย์ท่ี สถาบนั กัลยาณร์ าชนครินทรอ์ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งทุกๆ เดือน จากอาการ PTSD จนกระทัง่ วนั หนึง่ … ระหวา่ งทผ่ี มกำ� ลงั ไถมอื ถอื ดว้ ยความเบอ่ื หนา่ ยอยนู่ น้ั ผมกไ็ ดเ้ หน็ กลอ้ ง ดจิ ิทลั แบรนดห์ นง่ึ ออกรุน่ ใหมม่ า ใช่แล้ว… ผมรู้สึกสนใจมันเป็นอย่างมาก ผมจึงค่อยๆ เปิดหาข้อมูล เก่ียวกบั กลอ้ งรุน่ ดงั กลา่ วว่า ถ้าผมอยากจะเลน่ กลอ้ งรุ่นน้ี ส่งิ ทีผ่ มควรรเู้ บ้อื งต้น คอื อะไร และวธิ กี ารในการใชก้ ลอ้ งรนุ่ นเี้ ปน็ อยา่ งไร ไปจนถงึ เทคนคิ การถา่ ยภาพ เบอ้ื งตน้ ผมจงึ คน้ หาวิธกี ารเล่นกลอ้ งตวั น้ใี น Youtube และเมือ่ ผมหาขอ้ มลู ไป เรอ่ื ยๆ ผมกม็ คี วามรู้สกึ ว่า ‘ผมอยากลองหันมาเล่นกลอ้ ง’ ช็อป ผมจึงได้ทักไปหาเพื่อนสมัย ม.ปลายคนหน่ึง ซึ่งเป็นช่างภาพถ่าย ฟรีแลนซ์ เพ่ือปรึกษาเก่ียวกับกล้อง Digital ที่ผมสนใจ ซึ่งเพื่อนคนน้ีก็ยินดีให้ คำ� ปรกึ ษา และยง่ิ ไปกว่านนั้ ยังให้ผมได้ทดลองใช้กล้อง Digital ทเ่ี ขาใชอ้ ยู่ และ ชว่ ยฝึกสอนวิธีการใชก้ ลอ้ งในเบื้องตน้ กอ่ นทผี่ มจะตดั สินใจซือ้ กลอ้ งจรงิ ๆ แมว้ ่า มลู นธิ ิผสานวัฒนธรรม | 161
กล้องทีไ่ ดท้ ดลองเลน่ นัน้ จะคนละรุ่นกับทผ่ี มสนใจก็ตาม จากการทดลองเล่นกล้องกับเพ่ือนสักระยะหนึ่ง ย่ิงท�ำให้ผมมั่นใจว่า ผมชื่นชอบเวลาได้กดชัตเตอร์ และบันทึกเรื่องราวต่างๆ ผ่านเลนส์กล้องจริงๆ และท�ำให้ผมมสี มาธิ นิง่ สงบ มีความมั่นคง และมีอสิ ระมากข้ึน อกี ทง้ั ผมรสู้ กึ วา่ ภาพถา่ ยเหลา่ นสี้ ามารถสะทอ้ นมมุ มอง ความคดิ หรอื แมก้ ระทง่ั ความรสู้ กึ บางอยา่ งของผมออกมาแทนการพดู ดว้ ย ซง่ึ ทกุ คนนา่ จะรกู้ นั ว่า ปกตแิ ลว้ ผมเป็นคนไม่ชอบพดู และผมคาดหวงั ว่า “กล้อง อาจจะเป็นสิง่ ทเ่ี ข้ามาเยยี วยาจิตใจผมได้” ช็อป และมันความสนใจของผมในคร้ังน้ีมันจะไม่ใช่ความสนใจเพียงแค่ครั้ง คราว 162 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
คณุ พอ่ นกั สู้ และการตอ่ ส้ทู ย่ี งั ไม่ส้นิ สดุ -พ่อสมศกั ด-์ิ การตอ่ ส้ทู แ่ี สนยาวนานน้ีมนั ยงั ไมจ่ บ” พอ่ สมศกั ด์ิ เสยี งเข้มๆ เปรยเอย่ ข้ึนมา ขณะทีท่ รดุ ตัวลงนง่ั กบั โต๊ะทำ� งานท่ียังคงมี กองเอกสารคดีต่างๆ จดั เรยี งอยูร่ ายรอบ จวบจนถึงตอนน้ี กว่า 12 ปีที่ครอบครัวชื่นจิตรต้องว่ิงขึ้นว่ิงลงอยู่ ระหว่างทางเข้าศาลจังหวัดปราจีนบุรี หน่วยงานต่างๆ ของรัฐ องค์กรระหว่าง ประเทศ เพื่อด�ำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรม ต่อสู้คดีหลายต่อหลายคดี ท่ีเป็นผลสืบเนื่องจากเหตุการณ์ซ้อมทรมานช็อป ลูกชายของผม อันเป็นเหตุ อาชญากรรมร้ายแรงซึ่งเป็นคร้ังแรกของครอบครัวช่ืนจิตรต้องประสบ และเหตุ แหง่ คดที เี่ ปน็ อาชญากรรมซำ�้ ซอ้ น ทเ่ี พม่ิ ทงั้ ความซบั ซอ้ นและความวนุ่ วายในการ ด�ำเนินคดีให้กับครอบครัวช่ืนจิตร อย่างพฤติการณ์การปั้นแต่งพยานปากเท็จว่า เป็นผู้อยู่และรู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับเจ้าหน้าท่ีต�ำรวจ ชุดสบื สวนพ้นผิดลอยนวล จากการพจิ ารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ท. เขต 2 แม้ว่าตอนนี้คดีฟ้องพยานปากเท็จ 2 ราย อย่างนายเชษฐ์ และนาง เปิ้ลนั้น ศาลจะมีค�ำพิพากษาให้ท้ังสองมีความผิดจริง และมีค�ำสั่งให้คดีดังกล่าว ถงึ ทสี่ ุดแล้ว แต่กระนั้นการด�ำเนินคดีนางพิมพ์ พยานปากเท็จอีกหนึ่งราย หรือ แม้แต่คดีแพ่งที่ฟ้องส�ำนักงานต�ำรวจแห่งชาติเองก็ยังคงไม่มีความคืบหน้าไปถึง ไหน เน่ืองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือไวรัสโควิด-19 ท่ีเข้ามายัง ประเทศไทยตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ส่งผลให้การนัดฟังค�ำฟ้อง ถกู เลอื่ นต่อมาเรื่อยๆ เพ่อื รอคอยสถานการณใ์ หด้ ีขน้ึ ขณะทค่ี ดฟี อ้ งกลบั นางวิ เมอ่ื วนั ท่ี 25 พ.ค. 2564 ทผ่ี า่ นมา ศาลจงั หวดั ปราจนี บรุ ไี ดน้ ดั สบื พยานในครง้ั แรกสำ� หรบั คดนี ้ี และดเู หมอื นวา่ นางวจิ ะมที า่ ทที ี่ โอนอ่อนลงมากจากผลการพพิ ากษาคดพี ยานปากเทจ็ 2 รายกอ่ นหนา้ นี้ ซ่ึงหนงึ่ มลู นธิ ผิ สานวฒั นธรรม | 163
164 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
ในนนั้ คอื คดนี างเปลิ้ พสี่ าวของนางวิเอง แตผ่ มก็ยังถอื วา่ คดีนี้ยงั คงตอ้ งจับตามอง ตอ่ ไปว่า ท่าทีของคณะผพู้ ิพากษาศาลทน่ี งั่ บลั ลงั กใ์ นคดีนีจ้ ะนำ� พาคดีดงั กล่าวไป ในทิศทางใด ถงึ อยา่ งนน้ั ทงั้ หมดทผี่ มวา่ มาจนกระทง่ั บทสง่ ทา้ ยน้ี กถ็ อื เปน็ หลกั ฐาน อันประจักษ์แจ้งแล้วว่า ความเป็นรัฐพันลึกท่ีเร้นกายซ่อนแอบอยู่ภายใต้รัฐไทย มนั สามารถสำ� แดงฤทธกิ์ บั ใครกไ็ ด้ และทง้ั หมดถกู ทำ� ขนึ้ เพอ่ื สรา้ งความชอบธรรม ในหนา้ ทกี่ ารงานและยศถาบรรดาศกั ด์ิ เพอื่ เบกิ เสน้ ทางดาวรงุ่ ใหก้ บั เจา้ หนา้ ทร่ี ฐั บางกลุ่มบางพวกบนความทุกข์ยาก ความล�ำบาก และความสูญเสียในทุกส่ิงทุก อย่างของปุถชุ นคนธรรมดาทว่ี ันดีคนื ดถี ึงคราวซวยกต็ ้องเขา้ ไปพัวพันโดยตกเปน็ เหยอ่ื หรอื ผถู้ กู กระทำ� ขณะเดียวกัน วิถีและอัตลักษณ์ท่ีถูกส่งทอดต่อกันมานานอย่าง “ระบบเส้นสายอุปถัมภ์” ยังคงเป็นเน้ือร้ายที่คอยยังผลให้ระบบกระบวนการ ยตุ ธิ รรมในประเทศไทยไรซ้ ง่ึ ความเปน็ ธรรมและความนา่ เชอื่ ถอื จากสายตานานา อารยประเทศ ซึ่งเรื่องราวที่เกิดข้ึนก็ได้น�ำเสนอถึงการท�ำงานของระบบเส้นสาย อปุ ถมั ภข์ องหนว่ ยงานราชการทร่ี ว่ มมอื กนั อยา่ งเปน็ องคาพยพเพอ่ื ใหน้ ายตำ� รวจ ชดุ สืบสวนท้งั หมด 7 คนน้รี อดพ้นจากความผิดทีพ่ วกเขาไดก้ ่อไว้ได้ ความ “อยตุ ิธรรม” จงึ คล้ายเปน็ เครอื่ งหมายถูกตอ้ งสำ� หรับประเทศ ท่ีระบบอุปถัมภ์ยังคงเหนียวแน่นไปด้วยพันธนาการแห่งผลประโยชน์ที่โยงใยกัน อยา่ งแยกไมอ่ อก และความเจบ็ ปวด นำ้� ตา และความผดิ กค็ ลา้ ยจะเปน็ สง่ิ ทไ่ี มอ่ าจ หลีกเลี่ยงส�ำหรับประชาชนคนธรรมดาผู้ถูกกระท�ำ ตลอดระยะเวลาการต่อสู้ใน กระบวนการศาล กระบวนการเดยี วในประเทศนที้ ค่ี นทว่ั ไปตา่ งคดิ วา่ จะสามารถ ฝากความหวังเพ่ือให้ไดม้ าซง่ึ ความยุติธรรมได้ แตเ่ รื่องราวท่ีเกดิ ข้ึนกับครอบครวั ผมกเ็ ปน็ เครอื่ งสะทอ้ นแลว้ วา่ หากพลาดทา่ แมแ้ ตค่ รง้ั เดยี ว ความเสยี เปรยี บกอ็ าจ ถกู ยัดเยียด และความพ่ายแพ้ก็อาจเกดิ ขน้ึ ได้อย่างไมค่ าดฝัน คดคี วามเชน่ นจ้ี งึ ตอ้ งมที นายความทม่ี คี วามเขา้ ใจในดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน เท่าน้ันที่จะสามารถแนะน�ำแนวทางการต่อสู้คดีท่ีถูกต้องได้ แม้ว่าท้ายที่สุดอาจ ไมพ่ บเจอกบั ค�ำตอบท่ีวา่ มลู นธิ ผิ สานวฒั นธรรม | 165
อะไรกันแนท่ ่หี มายถงึ “ความยตุ ธิ รรม” ในบ้านเมอื งน้ี ก็ตาม แตอ่ ย่างนอ้ ยผมกห็ วงั ว่าคดซี อ้ มทรมาน “ฤทธริ งค์ ชื่นจิตร” ลกู ชาย ของผมน้ี จะถอื เปน็ บทเรยี น เครอ่ื งเตอื นใจ ไปจนถงึ การผลกั ดนั กรอบและเพดาน ในการต่อสู้คดีกับเจ้าหน้าที่รัฐผู้ประพฤตินอกเหนือกฎหมายให้ได้รับโทษติดตัว กลบั ไปได้ และนคี่ ือเรือ่ งราวครอบครวั “ชนื่ จติ ร” ครอบครวั นกั สู้ ผูต้ ่อสทู้ ุกวถิ ี ทางในกระบวนการยตุ ธิ รรมตราบเทา่ ทที่ ำ� ได้ ในวนั ทอี่ าชญากรรมรา้ ยแรงทเ่ี รยี ก วา่ “การซอ้ มทรมาน” ยงั ไม่ถูกระบุเปน็ ความผิดทางอาญาในราชอาณาจักรไทย 166 | เมอ่ื ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
มลู นิธผิ สานวฒั นธรรม | 167
168 | เมอ่ื ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
มลู นิธผิ สานวฒั นธรรม | 169
170 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
ข้อเสนอแนะ จากผูเ้ สียหาย เป็นโจทก์ และตกเปน็ จำ� เลย หนทางท่ียากลำ� บากของฤทธริ งค์ ชื่นจิตร ปีนีี้้� 2564 ปีคี รบรอบ 14 ปีทีี่�ประเทศไทยลงนามและให้ส้ ัตั ยาบันั เป็น็ รัฐั ภาคีีในอนุุสััญญาต่่อต้า้ นการทรมานและการปฏิบิ ัตั ิอิ ย่า่ งไร้ม้ นุุษยธรรม ครบรอบ 37 ปีี จุุดกำำ�เนิิดของอนุุสััญญาต่่อต้้านการทรมานขององค์์การสหประชาชาติิ และเป็น็ ปีที ี่่� 40 ของกองทุนุ ช่ว่ ยเหลือื ผู้�เสียี หายจากการทรมาน United Nations Voluntary for Torture Victims โดยปีนีี้้� องค์ก์ ารสหประชาชาติิ (United Nations) แถลงการณ์เ์ น้น้ ย้ำำ��ว่า่ “ทุุกประเทศจะต้้องปล่่อยให้้บุุคคล หรืือองค์์กรที่่�ทำำ�งานกัับผู้�เสีียหายจากการ ทรมานสามารถทำำ�งานได้้ เพื่�อให้้ผู้�เสีียหายเข้้าถึึงการช่่วยเหลืือทางด้้านสุุขภาพ กาย สุขุ ภาพจิติ และการเข้า้ ถึงึ ความยุตุ ิธิ รรมโดยไม่ไ่ ด้ร้ ับั การโต้ต้ อบกลับั จากรัฐั ” ทำำ�ไมข้้อเสนอจึึงเป็็นเช่่นนี้�? สิ่่�งที่�เกิิดขึ้�นกัับ ฤทธิิรงค์์ ชื่่�นจิิตร น่่าจะสะท้้อนได้้ดีีว่่า ผู้้�เสีียหายจากการทรมานต้้องได้้รับั การคุ้�มครองและปราศจ ากการถูกู โต้้ตอบกลัับข้้อหาฟ้้องเท็จ็ เมื่�อเขามาร้้องเรียี นเรื่�องการทรมาน เมอ่ื วันท่ี 10 มิถนุ ายน 2558 ดาบตำ� รวจนายหนง่ึ เป็นโจทก์ ฟ้องกลบั นายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร เป็นจ�ำเลย ในความผิดฐานฟ้องเท็จและเบิกความเท็จต่อ ศาลจังหวดั ปราจีนบรุ ี เปน็ คดหี มายเลขดำ� ท่ี อ.1285/2561 สาเหตุเนือ่ งมาจาก กรณนี ายฤทธริ งคไ์ ด้เป็นโจทกฟ์ ้องต่อศาลจงั หวัดปราจนี บุรี เป็นคดีหมายเลขด�ำ ที่ 925/2558 ว่า เมอ่ื วนั ที่ 28 มกราคม 2552 เจา้ หน้าทต่ี ำ� รวจหลายนายรว่ ม กันท�ำร้ายร่างกายเพ่ือให้รับสารภาพ (ซ้อมทรมาน) และในค�ำฟ้องนายฤทธิรงค์ ได้กล่าวหาว่า ดาบต�ำรวจนายหน่ึงท�ำร้ายร่างกายตนโดยใช้มือตบศีรษะอย่าง มูลนธิ ผิ สานวัฒนธรรม | 171
รุนแรง เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ โดยดาบต�ำรวจนายน้ีได้ ฟ้องกลับนายฤทธิรงค์ ขณะที่คดีหมายเลขด�ำท่ี 925/2558 ยังอยู่ระหว่างการ นดั สืบพยานในชนั้ ศาล นายฤทธริ งค์ ชน่ื จติ ร จากผู้เสยี หายตกเป็นจ�ำเลยของตำ� รวจผูก้ ระท�ำ การท�ำร้ายร่างกายเขา และเปน็ ผลให้ นายฤทธิรงค์ ตกเป็นจ�ำเลยเป็นเวลา 4 ปี ต่อมา เม่ือวันท่ี 27 สงิ หาคม 2562 ศาลจงั หวัดปราจีนบุรี (ชัน้ ตน้ ) พิพากษาว่า นายฤทธิรงค์มีความผิดฐานฟ้องเท็จและเบิกความเท็จตามค�ำฟ้อง ของดาบต�ำรวจดังกลา่ ว และมคี ำ� ส่งั ใหจ้ ำ� คุก 5 ปี และปรับ 100,000 บาท โดย โทษจ�ำคุกให้รอลงอาญาไว้มีก�ำหนด 2 ปี เป็นผลให้คู่ความท้ังสองฝ่ายต่างยื่น อุทธรณ์คดีต่อศาลอทุ ธรณ์ภาค 2 การกำ� หนดบทลงโทษของผพู้ พิ ากษาศาลจงั หวดั ปราจนี บรุ ตี อ่ คดฟี อ้ ง เท็จและเบิกความเท็จ สูงกว่าการก�ำหนดบทลงโทษของผู้พิพากษาศาลจังหวัด ปราจนี บุรตี อ่ นายต�ำรวจทีท่ �ำร้ายร่างกายนายฤทธริ งค1์ แม้จะเป็นคนละบัลลังก์ นายฤทธิรงค์ ต้องใช้เวลากว่า 11 เดือน เพ่ือรอการพิจารณาของ ศาลอุทธรณ์ และเปลยี่ นสถานะจากจ�ำเลยเปน็ ผบู้ ริสุทธิ์ จนกระท่ัง เมื่อวนั ท่ี 27 ตุลาคม 2563 ศาลจังหวัดปราจนี บรุ ีอ่านค�ำพิพากษาศาลอทุ ธรณ์ภาค 2 ซ่ึงศาล รับฟงั ขอ้ เท็จจรงิ ได้ว่า ดาบต�ำรวจนายหนง่ึ (โจทก)์ ท�ำร้ายร่างกาย นายฤทธิรงค์ 1 “พยานหลักฐานโจทกท์ ีน่ �ำสืบมีน�ำ้ หนกั รบั ฟังได้ วา่ พ.ต.ท.หนุ่ม จ�ำเลย กระทำ� ความผิดจริง ตามค�ำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงพิพากษายืน กล่าวคือ มีความผิดตามประมวลอาญา มาตรา 157, 200 วรรคสอง, 295, 296, 309, 310 วรรคหนึง่ ประกอบมาตรา 83 เป็นกรรมเดยี วผดิ ตอ่ กฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จงึ ลงโทษฐาน “เปน็ เจา้ พนกั งาน มอี ำ� นาจหนา้ ทสี่ บื สวนสอบสวนคดอี าญา กระทำ� การเพอื่ จะแกลง้ ใหบ้ คุ คลหนง่ึ บคุ คลใดตอ้ งรบั โทษ” ซึง่ เปน็ บททีม่ ีโทษหนกั ท่ีสดุ โดยศาลลงโทษจำ� คุก 2 ปี และปรบั 12,000 บาท แตศ่ าล ลดโทษให้โดยเห็นวา่ ค�ำใหก้ ารของจำ� เลยเป็นประโยชนแ์ กก่ ารพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำ� คกุ 1 ปี 4 เดือน และปรบั 8,000 บาท เมือ่ ค�ำนงึ ถึงประวตั ิ อาชพี และสภาพความ ผิดแล้ว และไม่ปรากฏว่าจ�ำเลยเคยได้รับโทษจ�ำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษเพื่อให้โอกาส จ�ำเลยตัว กลา่ วคอื รอลงอาญาไว้เปน็ เวลา 2 ป”ี คำ� พิพากษาศาลชน้ั ต้นอ่านเมอื่ เมอ่ื วนั ท่ี 28 กันยายน 2561 172 | เมอ่ื ผมถูกทรมาน…ผมจึงมาตามหาความยตุ ธิ รรม
(จำ� เลย) โดยใชม้ อื ตบทศ่ี รี ษะของนายฤทธริ งคจ์ รงิ ดงั นนั้ การท่ี นายฤทธริ งค์ ฟอ้ งคดี กลา่ วหาวา่ ดาบตำ� รวจนายนน้ั ทำ� รา้ ยรา่ งกายอยา่ งรนุ แรง เปน็ เหตใุ ห้ นายฤทธริ งค์ ไดร้ บั อนั ตรายแกก่ ายและจติ ใจ จงึ เปน็ การฟอ้ งทเี่ ปน็ ไปตามขอ้ เทจ็ จรงิ การกระทำ� ของ นายฤทธิรงค์ ย่อมไม่เป็นความผิดฐานฟ้องเท็จ และเมื่อไม่มีความผิดฐาน ฟ้องเท็จแล้ว การเบิกความไปตามท่ีฟ้องน้ันจึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ ตามทีศ่ าลชั้นตน้ วนิ ิจฉยั มา ศาลอทุ ธรณ์ภาค 2 ไมเ่ หน็ พอ้ งดว้ ย จึงพิพากษากลบั คำ� และยกฟอ้ งโจทก์ แมจ้ ะเปน็ ทนี่ า่ สงั เกตวา่ คดที นี่ ายตำ� รวจฟอ้ งกลบั นายฤทธริ งค์ ระหวา่ ง ทศี่ าลนดั สบื พยานในคดหี ลกั น้ี ซง่ึ นายฤทธริ งคฟ์ อ้ งวา่ ตนถกู ตำ� รวจหลายนายซอ้ ม ทรมานตนในหอ้ งสอบสวนของกองกำ� กบั การสบื สวนตำ� รวจภธู รจงั หวดั ปราจนี บรุ ี ซ่ึงมีนายต�ำรวจชั้นผู้ใหญ่ยศพันต�ำรวจโทรวมอยู่ด้วย การฟ้องกลับจึงเข้าข่าย เป็นการฟอ้ งคดีเพอื่ ปดิ ปากประชาชน (SLAPPs) เพราะดาบตำ� รวจนายนีท้ ราบดี อยแู่ ลว้ วา่ ศาลใหต้ นพน้ ความผดิ เพราะคดนี ม้ี อี ายคุ วามเพยี ง 1 ปี โดยศาลเหน็ วา่ มกี ารทำ� รา้ ยรา่ งกาย นายฤทธริ งค์ จรงิ แตเ่ มอื่ มาฟอ้ งภายหลงั เกดิ เรอื่ ง 1 ปี จงึ ขาด อายคุ วาม มขี อ้ นา่ สงั เกตวา่ กอ่ นทศี่ าลจะสบื พยานคดหี ลกั นน้ั ไดม้ คี วามพยายาม จะไกล่เกล่ียให้นายฤทธิรงค์ถอนฟ้องต�ำรวจท่ีตกเป็นจ�ำเลย ซึ่งนายฤทธิรงค์ กลา่ วหาวา่ ซอ้ มทรมาน แตน่ ายฤทธริ งคไ์ มถ่ อนฟอ้ ง ตอ่ มาดาบตำ� รวจนายนจ้ี งึ ฟอ้ ง กลบั นายฤทธริ งค์ ตอ่ มาคดหี ลกั ดงั กลา่ วทงั้ ศาลชน้ั ตน้ และชนั้ อทุ ธรณไ์ ดพ้ พิ ากษา ลงโทษจ�ำคุกและปรับต�ำรวจชั้นผู้ใหญ่นายหนึ่ง ซ่ึงเป็นผู้ลงมือซ้อมทรมาน นายฤทธริ งค์ แต่มโี ทษจำ� คกุ ใหร้ อลงอาญา การทรมานเป็นปัญหาใหญ่ในกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นของ ประเทศไทย ดงั กรณนี ายฤทธริ งค์ กวา่ จะไดม้ าซง่ึ คำ� พพิ ากษาศาลลงโทษเจา้ หนา้ ที่ ผู้กระท�ำความผิดน้ัน ยุ่งยากล�ำบากและยาวนานในการดิ้นรนเรียกร้องหาความ ยตุ ธิ รรม กลา่ วคอื ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2552 เป็นตน้ มา นายสมศกั ด์ิ ชน่ื จติ ร บิดาของ นายฤทธริ งค์ ชนื่ จติ ร ไดพ้ าลกู ซงึ่ ตกเปน็ เหยอ่ื ซอ้ มทรมาน เดนิ ทางไปรอ้ งเรยี นตอ่ หนว่ ยงานของรัฐหลายสิบหนว่ ยงาน รวมทั้ง ป.ป.ช. ป.ป.ท. ดว้ ย แต่กไ็ ม่เป็นผล จนกระทง่ั เมอ่ื ปี พ.ศ. 2558 จงึ ไดร้ อ้ งขอความชว่ ยเหลอื ตอ่ มลู นธิ ผิ สานวฒั นธรรม มูลนิธิผสานวัฒนธรรม | 173
เพ่ือจัดหาทนายความมาช่วยด�ำเนินคดีให้นายฤทธิรงค์เป็นโจทก์ฟ้องคดีเอง นอกจากนยี้ งั มปี ระชาชนอกี จำ� นวนมากทวั่ ประเทศทย่ี งั ไมอ่ าจเขา้ ถงึ ความยตุ ธิ รรม จากการถูกซอ้ มทรมาน และมิได้มีการน�ำเจ้าหน้าท่ีผกู้ ระท�ำความผิดมาลงโทษ ถึงเวลาแล้วที่รัฐต้องตระหนักและจริงจังกับปัญหาการละเมิดสิทธิ มนุษยชนร้ายแรงในปัญหาการทรมานมิให้เจ้าหน้าที่รัฐกระท�ำความผิดดังเช่น คดีน้ี รวมถึงกรณกี ารบังคับใหบ้ ุคคลสูญหายด้วย ซึ่งปัจจบุ ันมูลนธิ ิฯและองคก์ ร เครือข่ายภาคประชาชนได้พยายามผลักดันให้รัฐตรากฎหมายป้องกันและปราบ ปรามการทรมานและการบังคับให้บุคคลสูญหาย โดยมีร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ ท่ีรฐั สภาแลว้ ก็อยากเรยี กร้องใหร้ ฐั สภาได้เรง่ พจิ ารณาเพ่ือตรากฎหมายดังกลา่ ว ให้ออกมาใช้บังคับโดยเร็วต่อไป พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอู้ �ำนวยการมลู นิธผิ สานวัฒนธรรม 174 | เมอื่ ผมถูกทรมาน…ผมจึงมาตามหาความยตุ ิธรรม
ขอ้ เสนอแนะ คดีซอ้ มทรมานนายฤทธิรงค์ ชน่ื จติ ร ตอ้ งไม่สูญเปล่า โรคระบาดในกระบวนการยุตธิ รรมไทย ทีต่ อ้ งการวัคซีนมาปอ้ งกนั จดั โครงสรา้ ง เปล่ยี นระบบ โดยเรง่ ด่วน จากเรอ่ื งราวทงั้ หมดทมี่ ลู นธิ ผิ สานวฒั นธรรมจดั หาทนายความใหค้ วาม ช่วยเหลอื คดีน ้ี รวมท้ัง Amnesty International Thailand และสื่อตา่ งๆ ท่ี คอยตดิ ตามและเผยแพรเ่ รอ่ื งราวการถกู ซอ้ มทรมานของนายฤทธริ งค์ ชน่ื จติ ร หรอื ชอ็ ป อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เพอ่ื ใหเ้ ปน็ บทเรยี นทจ่ี ะนำ� ไปสทู่ างออก ผา่ นประสบการณอ์ นั เจบ็ ปวดแสนสาหสั ของครอบครวั “ชน่ื จติ ร” มาสกู่ ารปฏริ ปู กระบวนการยตุ ธิ รรม ในประเทศไทย ดงั นี้ 1. เปน็ ทน่ี า่ สงั เกตวา่ การทำ� งานของพนกั งานตำ� รวจบางราย หากเรมิ่ ตน้ จากการฟงั ความขา้ งเดยี ว และมอี คตติ อ่ เยาวชนหรอื ผถู้ กู กลา่ ว หาทไ่ี มม่ ีสถานะทางสงั คม มักจะน�ำมาซึง่ ความลำ� เอยี ง เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ปักใจเชื่อผู้เสียหายหรือพยานบุคคลท่ีช้ีตัวผู้ต้องหาเป็น หลกั แลว้ ดว่ นสรปุ วา่ ผตู้ อ้ งหา (นายฤทธริ งค์ ชน่ื จติ ร) คอื ผกู้ ระทำ� ความผิดตัวจริง โดยไม่สนใจพยานแวดล้อม และหลักฐานทาง วิทยาศาสตร์ รวมถงึ การไมป่ ฏบิ ัตหิ น้าท่อี ย่างมืออาชีพ เป็นผลให้ เกดิ ความเสยี หายท่ีเรียกคืนกลับมาได้ยากยงิ่ 2. กรณีนี้เป็นอีกกรณีหนึ่งท่ีเห็นได้ชัดว่า ต�ำรวจไทยยังไม่เคารพ สิทธิของผู้ต้องหา ต้องการรวบรัดปิดคดีด้วยการซ้อมทรมานให้ ผตู้ อ้ งหายอมรบั สารภาพ ในขณะทฝี่ า่ ยผเู้ สยี หายจากการถกู วง่ิ ราว ทรัพย์ (นางวิ) เองก็ต้องการได้รบั การชดใช้ไม่สนใจวา่ บคุ คลทตี่ น ช้รี ะบตุ วั ตนนน้ั เป็นผกู้ ระทำ� ผิดตวั จริงหรอื ไม่ ทั้งต�ำรวจและผู้เสีย มลู นธิ ผิ สานวัฒนธรรม | 175
ทรัพย์ (นางวิ) ล้วนแล้วแตข่ าดความรบั ผดิ ชอบ เห็นแก่ตวั ละเมิด สิทธมิ นุษยชนอยา่ งร้ายแรง ไมว่ า่ จะเป็นการตบหน้า ตบทา้ ยทอย ขว้างสมดุ ปกเหลืองใส่ ใส่กุญแจมอื ไขวห้ ลงั เอาเทา้ เหยยี บ ต่อยตี และคลุมหัวด้วยถุงด�ำให้ขาดอากาศหายใจ ล้วนแต่เป็นการใช้ ความรนุ แรงลดทอนศกั ด์ศิ รคี วามเป็นมนษุ ยท์ ง้ั สิน้ 3. ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายป้องกันการทรมานและการบังคับให้ สูญหาย ทั้งท่ีได้ลงนามเป็นภาคีในอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้าน การทรมานและการประติบัติ หรือการลงโทษอ่ืนท่ีโหดร้าย ไร้ มนุษยธรรม หรือย่ำ� ยศี ักดศ์ิ รี ของสหประชาชาติ (Convention Against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment : CAT) และอนุสัญญาระหว่าง ประเทศวา่ ดว้ ยการคมุ้ ครองบคุ คลทกุ คนจากการบงั คบั ใหส้ ญู หาย (International Convention for the Protection of all Per- sons from Enforced disappearance : CED) แล้ว เปน็ ผลให้ ประเทศไทยไม่มีบทลงโทษทางอาญาโดยตรงกรณีท่ีต�ำรวจไทย ใช้วิธีการซ้อมทรมานผู้ต้องหากันจนถูกมองว่า เป็นส่วนหน่ึงของ กระบวนการสืบสวนสอบสวนท่ีเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของต�ำรวจ ไทยเพอ่ื ให้มผี ลงานคดี หรอื ท่เี รียกว่า “ปดิ คดี” ได้ 4. การซ้อมผู้ต้องหาในกรณีน้ีอาจพลาดพลั้งจนผู้ถูกกระท�ำการซ้อม ทรมานเสียชวี ิตได้ แมม้ ุมหนึง่ จะถูกมองว่า พ.ต.ต.หนุม่ (จำ� เลยที่ 3) อาจพูดไปเพอื่ ขู่นายฤทธริ งค์เท่านัน้ ว่า “หากยังไมร่ บั สารภาพ และเกิดขาดอากาศหายใจตาย จะเอาร่างไปปล่อยท้ิงไว้ท่ี “เขา อีโต้” และท�ำเหมือนว่า คดีน้ีเป็นคดีคนหายเท่าน้ัน” เท่ากับว่า หากเปน็ เชน่ นัน้ จริง คดีนจี้ ะกลายเปน็ คดีผูส้ ูญหายอีกหนงึ่ คดี ซึง่ หมายถึงโศกนาฏกรรมก็จะตามมา และท�ำให้คดีมีความซับซ้อน มากยิ่งขึ้น เพ่ิมภาระ เพ่ิมความยุ่งยากให้ครอบครัวช่ืนจิตรตาม มาอีกมากมาย 176 | เม่อื ผมถูกทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยุตธิ รรม
5. เจ้าหน้าที่ต�ำรวจที่ท�ำร้ายนายฤทธิรงค์นั้นมีความจงใจ มีการ วางแผน เตรยี มการซอ้ มทรมาน ไดล้ งมือกระทำ� และความผดิ ก็ ส�ำเร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ต�ำรวจกลุ่มน้ีคงเคยชินและลืมไปว่าส่ิงท่ีตน พยายามคาดค้ันให้คนสารภาพน้ัน ได้ผลักตนเองและเจ้าหน้าท่ี ต�ำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าไปอยู่ในสถานะอาชญากรก่อคดีอาญาร้าย แรง โดยเจ้าหน้าท่ีต�ำรวจอีกหลายนายท่ีท�ำงานในส�ำนักงาน เดียวกนั ตา่ งรับรูเ้ ร่ืองดังกล่าวดว้ ย 6. ความจงใจปิดบังการจับกุม ท�ำร้ายร่างกายนายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร โดยไม่แจ้งให้ผู้ปกครองหรือญาติให้ทราบการจับกุมคุมตัวไว้น้ัน เป็นการกระท�ำที่ผิดเก่ียวกับหน้าท่ีราชการอีกฐานหน่ึงด้วย ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ทรี่ ะบวุ า่ ผใู้ ดเปน็ เจา้ พนกั งาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าท่ีโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความ เสยี หายแก่ผ้หู นึง่ ผู้ใด หรอื ปฏบิ ตั หิ รือละเวน้ การปฏิบตั หิ นา้ ท่ีโดย ทจุ ริต ตอ้ งระวางโทษจำ� คุกตง้ั แต่ 1-10 ปี หรอื ปรับตงั้ แต่ 2,000 -20,000 บาท (ใชโ้ ทษปรบั นเ้ี นอ่ื งจากเกดิ เหตเุ มอื่ ปี พ.ศ. 2552 แต่ เมื่อ 21 มีนาคม 2560 เปน็ ต้นมาถงึ ปจั จบุ นั โทษปรับคอื 20,000 – 200,000 บาท) หรอื ทั้งจำ� ทง้ั ปรับ 7. เป็นการสะท้อนกระแสสังคมท่ีเรียกร้องให้การสอบสวนของ พนักงานสอบสวน มิควรให้อ�ำนาจเบ็ดเสร็จในการสอบสวนเป็น ของตำ� รวจแตฝ่ า่ ยเดยี ว แตค่ วรมอี ยั การเขา้ มาทำ� หนา้ ทตี่ รวจสอบ ถ่วงดุลในการเก็บพยานหลักฐานคดีต่างๆ ตั้งแต่เร่ิมแรก ถือเป็น เร่อื งท่ีตอ้ งปฏิรูปโดยเรง่ ดว่ น 8. เป็นคดีท่ีสะท้อนให้เห็นว่า หากมีการปฏิรูปต�ำรวจจนสามารถ น�ำไปสู่การปฏิบัติจริงได้ การสืบสวนสอบสวน จ�ำเป็นจะต้องมี กล้องวงจนปิดหรือการบันทึกภาพและเสียงไว้ และตรวจสอบได้ อยา่ งโปรง่ ใส ก็เป็นอีกแนวทางหน่ึงที่อาจปอ้ งปรามมใิ หม้ กี ารก่อ อนั ตรายตอ่ ผตู้ อ้ งหาเพอ่ื บงั คบั ใหร้ บั สารภาพ เมอ่ื การปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี มูลนธิ ผิ สานวัฒนธรรม | 177
ผู้ก�ำกับการ สภ. หรือผู้บังคับบัญชาของต�ำรวจแห่งใด ยอมให้ พนกั งานตำ� รวจนำ� ตัวผถู้ กู จบั หรือผู้ต้องหาไปในสถานทีอน่ื (safe house) หรอื หอ้ งอนื่ ๆทไี่ มใ่ ชห่ อ้ งสอบสวนเพอื่ กระทำ� การนอกรดี บงั คับใหร้ ับสารภาพ ในหลายกรณไี ดน้ �ำตวั ไปต่อรอง เรียกรบั เงิน ยัดยาเสพตดิ หรือนำ� ไปกระท�ำช�ำเรา การสอบสวนท่ีละเมดิ สทิ ธิ มนษุ ยชนเชน่ นจ้ี ำ� ควรยกเลกิ เสยี ที รวมทง้ั การยกเลกิ บทกฎหมาย ที่เปดิ ช่องให้เจ้าหนา้ ทีก่ ระทำ� เช่นนนั้ ด้วย เขน่ กฎหมายเกย่ี วกับ การปราบปรามยาเสพติด 9. ระหว่างการด�ำเนินคดี ควรมีการคุ้มครองพยาน ผู้ต้องหา โจทก์ จำ� เลย และญาติ ทตี่ กอยใู่ นสภาวะเสยี่ งตอ่ ความไมป่ ลอดภยั หรอื ฝา่ ยใดฝา่ ยหนงึ่ ทพี่ ยายามสคู้ ดเี รยี กรอ้ งความเปน็ ธรรม มใิ หเ้ ผชญิ กับอำ� นาจมดื หรือการข่มขคู่ กุ คาม 10. การรับเร่ืองพิจารณาตรวจสอบของอัยการ ตลอดจนส�ำนักงาน คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ แหง่ ชาติ (ป.ป.ช.) หรอื สำ� นกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ ใน ภาครฐั (ป.ป.ท.) ควรไตรต่ รองในรายละเอยี ดและตรวจสอบพยาน หลกั ฐานของคดอี ยา่ งถถี่ ว้ นรอบคอบ กอ่ นมคี ำ� วนิ จิ ฉยั หรอื มคี ำ� สงั่ สรุปคดี อีกทั้งควรท�ำงานเชิงรุก เพื่อหาพยานหลักฐานแวดล้อม และหลกั ฐานทางนติ วิ ทิ ยาศาสตรม์ าประกอบการพจิ ารณาสง่ ฟอ้ ง หรอื ไม่ฟอ้ ง และเพ่ือให้คดมี คี วามสมบูรณม์ ากข้นึ ดังเช่น คดีของนายฤทธิรงค์ที่ต�ำรวจถูกกล่าวหาว่าซ้อม ทรมาน มขี บวนการสรา้ งพยานเทจ็ โดยนำ� บคุ คลไปใหก้ ารเทจ็ ตอ่ ป.ป.ท. ในทสี่ ดุ ป.ป.ท. เช่ือว่าไมม่ กี ารซอ้ มทรมานและวนิ ิจฉยั คดี วา่ ไมม่ มี ูล จนเป็นภาระของนายฤทธริ งค์ตอ้ งดิ้นรนขอความช่วย เหลือกับองค์กรภาคประชาชนจึงได้มีทนายความเข้าช่วยเหลือให้ นายฤทธริ งค์ฟ้องคดีต่อศาลเอง ท้ังศาลชัน้ ตน้ ศาลอุทธรณ์ และ ศาลฎกี า เชอื่ ในพยานหลกั ฐานโจทกพ์ พิ ากษาลงโทษตำ� รวจทซ่ี อ้ ม 178 | เม่อื ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ิธรรม
ทรมานนายฤทธริ งค ์ และนายฤทธริ งคย์ งั ไดด้ ำ� เนนิ คดกี บั บคุ คลท่ี ไปเปน็ พยานเทจ็ จนมคี ำ� พพิ ากษาถงึ ทสี่ ดุ ลงโทษพยานเทจ็ ไปแลว้ 2 ราย คอื นางวิ ผ้กู ล่าวหาวา่ นายฤทธริ งค์กระชากสร้อยคอของ ตนกเ็ ปน็ พยานเทจ็ อกี คนหนงี่ ทนี่ ายฤทธริ งคร์ อ้ งทกุ ขด์ ำ� เนนิ คดจี น กระทั่งคดขี ้นึ สศู่ าล ปจ้ จุบันอย่รู ะหวา่ งศาลนัดสืบพยาน นอกจาก นี้ยังมีพยานเท็จอีกรายที่นายฤทธิรงค์ร้องทุกข์แล้ว พนักงาน สอบสวนมีความเห็นควรฟ้องส่งส�ำนวนคดีไปยังพนักงานอัยการ แล้ว 11. การปฏิบัติหน้าท่ีของศาลต้องด�ำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรม ควรท�ำ หน้าที่อย่างเคร่งครัดตามประมวลจริยธรรมข้าราชการตุลาการ ผู้พิพากษาไม่สมควรท�ำหน้าที่เป็นคนไกล่เกลี่ยให้มีการยอมความ ให้จบคดีโดยเฉพาะในคดอี าญารา้ ยแรง เช่น คดนี ายฤทธิรงค์ การ ซ้อมทรมานถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง อัน เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน เป็นภัยร้ายแรงต่อสาธารณชนและ กระบวนการยตุ ธิ รรม ยงิ่ ไมค่ วรมกี ารไกลเ่ กลยี่ เพอื่ ขอใหน้ ายฤทธริ งค์ ถอนฟ้อง อีกท้ังคดีน้ีศาลช้ันต้นไต่สวนว่าคดีมีมูลและประทับรับ ฟ้องไว้แลว้ นอกจากนี้ ในที่สุดแล้วโทษอาญาที่ต�ำรวจผู้กระท�ำความผิด ไดร้ บั คอื จำ� คกุ 1 ปี 4 เดอื น และปรบั 8,000 บาท โดยโทษจำ� คกุ ให้ รอการลงโทษไว้ นัน้ ถือวา่ เปน็ โทษทน่ี อ้ ยมาก เพราะเจ้าพนกั งาน ตำ� รวจผมู้ หี นา้ ที่ป้องกนั ปราบปรามอาชญากรรม ใช้อำ� นาจหน้าที่ กระท�ำความผิดเป็นอาชญากรเสียเอง ท้ังยังเป็นนายต�ำรวจชั้น ผู้ใหญ่ และพฤติการณ์ท่ีซ้อมทรมานนายฤทธิรงค์เป็นเวลาหลาย ชั่วโมง มีการชกต่อย เตะ กระทืบ ใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะไม่ ให้มีอากาศหายใจจนนายฤทธิรงค์ต้องดิ้นทุรนทุรายกัดถุงให้ขาด เพือ่ หายใจได้ นน้ั ในสายตาประชาชนเห็นวา่ ต�ำรวจผูก้ ระท�ำผิด ดงั กลา่ วควรไดร้ บั โทษสถานหนกั อยา่ งไมค่ วรมเี หตปุ รานเี สยี ดว้ ยซำ�้ มลู นิธิผสานวัฒนธรรม | 179
12. จากการร้องเรียนเพ่ือความยุติธรรมที่บิดานายฤทธิรงค์ คือ นาย สมศักด์ิ ช่นื จติ ร ไดพ้ าลกู ชายไปร้องทกุ ข์มาหมดแลว้ ท้ังในระดบั จังหวัด ระดับภูมิภาค และระดับชาติ มากว่า 30 แห่งน้ัน ได้ สะท้อนให้เห็นว่าไม่มีหน่วยงานรัฐแห่งใดท่ีสามารถให้ความช่วย เหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเพื่อน�ำต�ำรวจผู้กระท�ำความผิดมาลงโทษ ได้เลย กลับกลายเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนท่ีรับเร่ืองในภายหลัง จัดหาทนายความช่วยด�ำเนินคดีจึงท�ำให้คดีนายฤทธิรงค์ไปสู่ศาล และตดั สนิ ลงโทษในทส่ี ดุ องคก์ รสอื่ ตา่ ง ๆ ทใี่ หค้ วามสนใจ กระพอื ขา่ วดงั กลา่ วไปทว่ั ประเทศ จงึ เหน็ วา่ ทกุ หนว่ ยงานตอ้ งทบทวนการ ท�ำงานเพอื่ ประชาชนเสียใหม่ 13. ใหห้ นว่ ยงานของรฐั ทำ� งานเปน็ อสิ ระตอ่ กนั มกี ารตรวจสอบถว่ งดลุ โดยเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนผู้เสียภาษีให้ข้าราชการเป็น ส�ำคญั ทางมลู นธิ ผิ สานวฒั นธรรมจงึ เหน็ วา่ ถงึ เวลาทป่ี ระเทศไทยจะตอ้ งปฏริ ปู กระบวนการยตุ ธิ รรมท้ังระบบอยา่ งจรงิ จงั เสียที สมศรี หาญอนนั ทสุข รองประธานมลู นิธิผสานวัฒนธรรม 180 | เมอ่ื ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
ขอ้ เสนอแนะ ความเปน็ มาและสาระสำ� คัญ (ร่าง) พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและ การกระทำ� ให้บคุ คลสูญหาย พ.ศ. ... ตามหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย ทุกคนมีสิทธิในชีวิต เน้ือตัว รา่ งกาย ผใู้ ดแมเ้ ปน็ เจ้าหนา้ ทจี่ ะละเมดิ มิไดก้ ารท�ำรา้ ยร่างกายผ้อู ืน่ เป็นความผดิ อาญา ผู้กระท�ำผิดต้องรับโทษ แต่ส�ำหรับเจ้าหน้าท่ีทรมานผู้ต้องหาหรือผู้ต้อง สงสยั ดว้ ยวธิ กี ารต่างๆ มักลอยนวลพน้ ผดิ เสมอ เนอื่ งจากสาเหตุตา่ งๆ เช่น 1. เจา้ หนา้ ทก่ี ระทำ� ในทลี่ บั ตา ไมม่ ผี พู้ บเหน็ หรอื ผพู้ บเหน็ ไมก่ ลา้ เปน็ พยานเนอื่ งจากกลัวเกรงเจ้าหนา้ ท่ี 2. เจ้าหน้าที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีหรือได้รับการถ่ายทอดวิชา มารจากเจา้ หนา้ ทร่ี นุ่ พตี่ อ่ ๆ กนั มา จงึ มกี รรมวธิ ใี นการทรมานทไ่ี ม่ ปรากฏร่องรอยบาดแผล เช่น คลมุ หวั ด้วยถุงดำ� ตดี ว้ ยไม้นวมแม้ ชำ�้ ในแตไ่ มป่ รากฎร่องรอยบาดแผลภายนอก ใหย้ ืนขาเดียว ขงั ใน หอ้ งเยน็ ๆ นานหลายชวั่ โมง รบกวนไมใ่ หน้ อนหลบั เปน็ เวลาหลาย วนั ขงั เดย่ี วหา้ มเยย่ี มหา้ มประกนั ขม่ ขู่ คกุ คามวา่ จะฆา่ จะขม่ ขนื ผู้ นนั้ หรอื บคุ คลทผี่ นู้ นั้ รกั หรอื ดหู มน่ิ เหยยี ดหยามศกั ดศ์ิ รขี องความ เป็นมนุษย์ด้วยวธิ ีการตา่ งๆ จนเกิดความคบั แค้นเจบ็ ปวดทรมาน ทางด้านจติ ใจ บางกรณีถึงกบั ฆา่ ตวั ตายก็มี 3. พนักงานสอบสวนมักบ่ายเบ่ียงไม่รับแจ้งความจากผู้ท่ีถูกทรมาน เพราะผกู้ ระทำ� การทรมานเปน็ เจา้ หนา้ ทต่ี ำ� รวจดว้ ยกนั อยั การสงั่ ไม่ฟ้องเจ้าหน้าท่ีและศาลมักยกฟ้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณี ที่ผู้เสียหายไม่มีแพทย์นิติเวชที่ช�ำนาญการตรวจร่างกาย ไม่มีท้ัง มลู นิธิผสานวัฒนธรรม | 181
จติ แพทยแ์ ละแพทยจ์ ติ เวชตรวจสภาพจติ ใจผเู้ สยี หายมาเปน็ พยาน ยืนยันต่อศาล ย่ิงเม่ือผู้ท่ีกระท�ำผิดเป็นเจ้าหน้าท่ีชั้นผู้ใหญ่หรือ กระท�ำผิด โดยมีผู้บังคับบัญชารู้เห็นเป็นใจหรือให้ท้าย พนักงาน สอบสวน อยั การ หรอื แมก้ ระทั่งศาลจะเกรงอกเกรงใจเจา้ หนา้ ท่ี ที่กระทำ� ผดิ เสมอ 4. บางหนว่ ยงานมกี ารทรมานกันเปน็ ประจำ� จนเปน็ วัฒนธรรม เปน็ ระบบ หรือเป็นนโยบายของรัฐบาล โดยเจ้าหน้าท่ีเชื่อว่า การ ทรมานเป็นวิธีการท่ีได้ผลในการปราบโจรผู้ร้าย การแข็งขืนต่อ ต้าน หรือการก่อความไม่สงบ แท้จริงมีคนบริสุทธิ์เป็นแพะของ กระบวนการยุติธรรมถกู ทรมานจนตอ้ งรบั สารภาพ ต้องตดิ คุกติด ตะรางจ�ำนวนมาก แต่อาชญากรตัวจริงยังลอยนวล และกระท�ำ การอาชญากรรมในสังคมตอ่ ไป ในสถานการณ์ความขัดแย้งทางเช้ือชาติ ศาสนา หรือการเมือง นอกจากการทรมานแล้ว เจ้าหน้าท่ียังกระท�ำผิดอ่ืนๆ อีกมากอย่างเป็นระบบ เชน่ ทรมานแลว้ สงั หาร (อมุ้ ฆา่ ) หรอื บงั คบั ใหส้ ญู หาย (อมุ้ หาย) โดยกระทำ� อยา่ ง กว้างขวาง เป็นระบบถึงข้ันเป็นอาชญากรรมล้างเผ่าพันธุ์ หรืออาชญากรรมต่อ มนษุ ยชาติ การกอ่ อาชญากรรมดงั กลา่ วแทนทจี่ ะสามารถรกั ษาความสงบได้ กลบั ทำ� ใหค้ วามขดั แยง้ ขยายตวั รนุ แรงยง่ิ ขนึ้ จนถงึ ขนั้ เปน็ สงครามกลางเมอื ง และเกดิ การแบ่งแยกดนิ แดน แบ่งแยกประเทศกันในทีส่ ดุ ดังทเ่ี กิดข้นึ ในหลายเหตกุ ารณ์ ในประวัตศิ าตร์ ท้งั ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครง้ั ที่ 2 รวมท้ัง สงครามกลางเมืองท่ีเกิดขึ้นในอดีตประเทศยูโกสลาเวีย หรือท่ีเกิดกับประเทศ กัมพูชาในยุคการปกครองของเขมรแดง และทเี่ กดิ กบั ประเทศพม่าในขณะนี้ จากเหตดุ งั กลา่ ว องคก์ ารสหประชาตจิ งึ จดั ทำ� “อนสุ ญั ญาตอ่ ตา้ นการ ทรมานและการประตบิ ัติ หรือการลงโทษอ่นื ทโ่ี หดรา้ ย ไรม้ นุษยธรรมหรือทย่ี �่ำยี ศักด์ิศรี” ขึ้นเมื่อปี 2527 และ “อนุสัญญาระหวา่ งประเทศว่าด้วยการคุม้ ครอง บคุ คลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสญู ” เมื่อปี 2549 ประเทศไทยได้ลงนาม เขา้ เปน็ ภาคขี องอนสุ ญั ญาฉบบั แรกเมอื่ ปี 2550 และลงนามแสดงเจตจำ� นงที่จะ 182 | เมอื่ ผมถกู ทรมาน…ผมจงึ มาตามหาความยตุ ธิ รรม
เข้าเปน็ ภาคีอนุสัญญาฉบับหลังเม่อื ปี 2555 โดยประเทศไทยมีพันธะผกู พนั ทจ่ี ะ ตอ้ งตรากฎหมายภายในประเทศ เพอื่ นำ� พนั ธกรณที มี่ อี ยภู่ ายใตก้ ฎหมายระหวา่ ง ประเทศท้งั สองฉบบั มาปฏบิ ัติ หรอื ท่ีเรยี กวา่ “กฎหมายอนวุ ตั กิ าร” ขนึ้ กลุ่มองค์กรสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และองคก์ ารสหประชาชาติ ไดก้ ระตนุ้ เตอื นใหร้ ฐั บาลไทยรบี ออกกฎหมาย อนุวัติการเพ่ือป้องกันและปราบปรามการทรมานและการอุ้มหาย มูลนิธิผสาน วฒั นธรรม และองคก์ รตา่ งๆ กไ็ ดร้ ว่ มกนั จดั ทำ� รา่ งกฎหมายอนวุ ตั กิ าร ชอื่ วา่ “(รา่ ง) พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระท�ำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ...” เพื่อเสนอให้ คณะกรรมาธิการการยตุ ิธรรม การกฎหมายและสทิ ธมิ นุษยชน สภาผูแ้ ทนราษฎร และพรรคการเมืองตา่ งๆ น�ำร่าง พ.ร.บ.ดังกลา่ ว เขา้ มาสู่สภา ผู้แทนราษฎร เป็นผลให้สมาชิกสภาผู้แทนทั้งต่างพรรคและพรรคเดียวกันน�ำไป ปรับปรงุ ในรายละเอยี ด แล้วเขา้ ชอ่ื กนั เสนอรา่ งกฎหมายเข้าสูร่ ฐั สภา1 แต่ความ พยายามของภาคประชาสงั คมและทด่ี ำ� เนนิ การมานานเกอื บ 10 ปี แตย่ งั ไมเ่ ปน็ ที่ สำ� เรจ็ เนอ่ื งจากตอ้ งรอรา่ งกฎหมายของรฐั บาลทจี่ ดั ทำ� โดยกระทรวงยตุ ธิ รรม ซงึ่ ถกู หนว่ ยงานรฐั บาลบางแหง่ หนว่ งเหนยี่ วจนตอ้ งยอ้ นพจิ ารณากลบั ไปมาหลายครง้ั กระทง่ั แมเ้ มอื่ รา่ งกฎหมายดงั กลา่ วไดผ้ า่ นความเหน็ ชอบของคณะรฐั มนตรไี ปแลว้ ก็ตาม แตย่ ังคงตดิ คา้ งอยทู่ ีว่ ปิ รฐั บาล ร่างกฎหมายอนวุ ตั กิ ารของรฐั บาลและรา่ งๆ อ่นื ทั้ง 4 ฉบับ มีหลกั การท่ตี รงกนั คอื 1. ให้ถือว่าการกระท�ำต่อไปนี้โดยเจ้าหน้าท่ีเป็นความผิดอาญาฐาน กระทำ� ทรมานคอื การทำ� ใหผ้ อู้ น่ื เกดิ ความเจบ็ ปวดหรอื ความทกุ ข์ ทรมานอย่างรา้ ยแรงแกร่ ่างกายหรอื จิตใจ เพ่อื วัตถปุ ระสงค์อย่าง ใดอย่างหน่งึ คือ 1 ปัจจุบันมี ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระท�ำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ... ทถ่ี ูกเสนอโดย สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรทงั้ หมด 3 รา่ ง ไดแ้ ก่ รา่ งฉบบั พรรคพลังประชารัฐ รว่ มกบั พรรคกา้ วไกล รา่ งฉบับพรรคประชาธปิ ตั ย์ และรา่ งฉบบั พรรคประชาชาติ มูลนธิ ผิ สานวัฒนธรรม | 183
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207