บนั ทกึ หลังการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะและแนวทาง ผลการจัดการเรียนรู้ แก้ปัญหา ผลการจดั การเรียนรู้ นักเรยี นสามารถ 1. นักเรยี นร้อยละ 93 รูแ้ ละ อธบิ ายความสำคัญ เข้าใจ สามารถอธิบาย ของปฏทิ ินในการ ความสำคญั ของปฏทิ นิ ในการ บอกวนั สำคัญได้ บอกวนั สำคัญได้ (K) 2. นักเรียนร้อยละ98 นำ ความร้เู กีย่ วกับความสำคัญของ ปฏทิ นิ ในการบอกวันสำคัญไป ใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ (P) 3. นักเรียนรอ้ ยละ 99 เหน็ ความสำคญั ของปฏิทิน (A) (นางสาวสุกัญญา ผาสุข) ครูประจำวิชา
ภาคผนวก 1. หนงั สือเรียนวชิ าประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. ใบงานที่ 4.1 3. แบบประเมิน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุ่ม ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารช้แี จง สมาชกิ ชัดเจน และ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน มกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ งชดั เจน อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน พร้อมกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน เป็นระยะ ๆ
แผนการจดั การเรยี นรู้ สัปดาห์ที่ 9 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ : สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั : ประถมศึกษาปีที่ 1 ชือ่ รายวิชา : ประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า: ส 11102 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 รูจ้ กั ปฏทิ ิน เวลา : 1 ช่ัวโมง เร่ือง: ปฏิทินใชช้ ่วยเตือนความจำของเรา 1. สาระ/มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยคุ สมยั ทางประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้ วธิ ีการทางประวัติศาสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตุการณ์ต่างๆ อย่างเปน็ ระบบ ตวั ชี้วัด ส 4.1 ป.1/1 บอกวัน เดือน ปี และการนับช่วงเวลาตามปฏิทินท่ีใช้ในชีวิตประจำวนั 2. สาระสำคญั ปฏิทินมีความสำคัญในการบอกวัน เดือน ปี และการนับช่วงเวลาเพือ่ เตอื นความจำในชวี ิตประจำวัน 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. รู้และเขา้ ใจ สามารถอธบิ ายความสำคญั ของปฏิทินที่ใช้ช่วยเตือนความจำของเราได้ (K) 2. นำข้อคิดที่ไดจ้ ากการศึกษาเร่ืองเดือนจนั ทรคติไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ (P) 3. เหน็ คุณค่าและความสำคญั ของปฏิทินทใ่ี ชช้ ว่ ยเตือนความจำของเรา(A) 4. สาระการเรียนรู้ - ชอ่ื วนั เดอื น ปี ตามระบบสรุ ยิ คตทิ ป่ี รากฏในปฏิทนิ - ชอ่ื วนั เดอื น ปี ตามระบบจนั ทรคติท่ีปรากฏในปฏทิ ิน 5. ทักษะกระบวนการ 1. ทักษะการเช่ือมโยง 2. ทกั ษะการอา่ น การเขยี น การพดู และการฟงั 3. การทำงานเป็นทมี 6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซ่ือสตั ย์ สุจรติ 2. มีวินยั รบั ผิดชอบ
3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. บรู ณาการสาระท้องถิน่ /สวนพฤษศาสตร์ - 9. หลกั ฐานการเรยี นร(ู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน - แบบฝึกหดั ทา้ ยบทเรยี น 10.สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นประวตั ิศาสตร์ ป.1 2. You tube 11. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 1 เรือ่ ง : ปฏทิ ินใชช้ ่วยเตือนความจำของเรา ขั้นท1ี่ ข้ันเตรยี มกิจกรรม 1. ครูให้นกั เรียนดปู ฏทิ ินเดือนเมษายนตามเอกสารประกอบการสอน แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นตาม ประเดน็ ท่ีกำหนด ดังนี้ 1) เดอื นเมษายนตามปฏทิ ินนี้มีวันหยุดพเิ ศษก่วี นั อะไรบา้ ง 2) วนั หยุดพิเศษน้นั ๆ ตรงกับวันแบบสุริยคติและจนั ทรคตทิ ี่เท่าไร 3) วนั หยุดพิเศษนั้นๆ มีความสำคัญอยา่ งไร ขนั้ ท2่ี ข้ันนำเขา้ สูบ่ ทเรียน 2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ • นักเรยี นคดิ ว่า ปฏิทินช่วยเตือนความจำไดห้ รอื ไม่ จงอธิบาย (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน) 3. ครูอธิบายให้นักเรียนเขา้ ใจวา่ ปฏิทนิ ทำให้เรารูว้ ่าเรือ่ งราวใดเกิดข้ึนเมื่อใด ชว่ ยให้เราลำดบั เร่ืองราวท่เี กิดขึน้ ไดอ้ ย่างถูกต้อง และเป็นเคร่ืองชว่ ยเตือนความจำของเราได้
ขั้นท่ี 3 ขนั้ ดำเนนิ การสอน 4. ครแู บง่ นักเรียนเปน็ กล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน และอ่อนแลว้ ให้สมาชิกแต่ละคนกำหนดหมายเลขประจำตัว เป็นหมายเลข 1-4 5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศกึ ษาความรู้เรือ่ ง ความสำคัญของปฏทิ ิน : ปฏิทนิ ใชช้ ว่ ยเตือนความจำของเรา จากหนงั สือเรยี น แล้วทำ ใบงานที่ 5.1 เร่ือง ปฏิทินชว่ ยเตอื นความจำ โดยใหน้ ักเรยี น แต่ละกลุ่มช่วยกนั อธิบายคำตอบให้เพื่อนในกลุ่มฟงั จนทุกคนมคี วามรู้ความเขา้ ใจทีถ่ ูกต้อง ชัดเจน 6. ครสู มุ่ เรียกนักเรยี นหมายเลขใดหมายเลขหนงึ่ ในแตล่ ะกลุม่ ออกมาอธิบายและนำเสนอคำตอบในใบงานท่ี 5.1 หน้าช้ันเรยี น 7. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด • นกั เรยี นคดิ วา่ ปฏทิ ินแบบใดเหมาะสมกบั การเตอื นความจำของตนเอง (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) ข้นั ที่ 4 ขั้นสรุป 8. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปความรู้เรอื่ ง ความสำคัญของปฏทิ ิน : ปฏิทนิ ใช้ช่วยเตอื นความจำของเรา 9. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ • นกั เรยี นมีวิธกี ารใชป้ ฏิทนิ ช่วยเตอื นความจำของตนเองอย่างไร (พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน) การวัดและการประเมนิ ผล เปา้ หมาย วิธีวดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. รู้และเข้าใจ สามารถอธบิ าย สังเกตพฤตกิ รรมการ แบบประเมินตามสภาพ แบบประเมนิ ตาม ความสำคัญของปฏิทนิ ทใี่ ช้ชว่ ย ทำงานกลุ่ม จรงิ สภาพจริง เตอื นความจำของเราได้ (K) 2. นำข้อคดิ ท่ีไดจ้ ากการศกึ ษา เร่ืองเดือนจนั ทรคติไปใช้ใน ชีวติ ประจำวันได้ (P) 3. เห็นคุณค่าและความสำคัญ สงั เกตความซ่ือสตั ย์ ของปฏทิ ินทใี่ ชช้ ่วยเตือน สจุ ริต มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ ความจำของเรา(A) ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่ันใน การทำงาน
บันทึกหลังการสอน ปัญหาและอปุ สรรค ข้อเสนอแนะและแนวทาง ผลการจัดการเรียนรู้ แก้ปัญหา ผลการจัดการเรียนรู้ นกั เรียนสามารถนำ 1. นกั เรยี นร้อยละ 97 รู้และ ข้อคิดทไี่ ด้จาก เข้าใจ สามารถอธบิ าย การศึกษาเรื่องเดือน ความสำคญั ของปฏทิ ินท่ใี ชช้ ว่ ย จันทรคติไปใชใ้ น เตือนความจำของเราได้ (K) ชีวติ ประจำวนั ได้ 2. นกั เรียนร้อยละ93 นำ ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการศึกษาเรื่อง เดือนจันทรคติไปใชใ้ น ชีวิตประจำวนั ได้ (P) 3. นกั เรยี นร้อยละ 98 เห็น คุณคา่ และความสำคญั ของ ปฏิทินท่ีใช้ช่วยเตือนความจำ ของเรา(A) (นางสาวสกุ ญั ญา ผาสุข) ครูประจำวิชา
ภาคผนวก 1. หนงั สือเรียนวชิ าประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. ใบงานที่ 5.1 3. แบบประเมิน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุ่ม ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารช้แี จง สมาชกิ ชัดเจน และ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน มกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ งชดั เจน อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน พร้อมกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน เป็นระยะ ๆ
แผนการจดั การเรยี นรู้ สัปดาห์ท่ี 10 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ : สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้น : ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ช่อื รายวิชา : ประวัติศาสตร์ รหสั วชิ า: ส 11102 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 รจู้ กั ปฏทิ ิน เวลา : 1 ช่ัวโมง เรอ่ื ง: การแบง่ ช่วงเวลาใน 1 วนั 1. สาระ/มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ สามารถใช้ วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะหเ์ หตุการณ์ต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ ตัวชว้ี ดั ส 4.1 ป.1/1 บอกวนั เดือน ปี และการนบั ช่วงเวลาตามปฏิทินที่ใช้ในชวี ิตประจำวนั 2. สาระสำคญั การเรยี งลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขนึ้ ในชีวติ ประจำวนั จะต้องแบ่งชว่ งเวลาใน 1 วัน โดยอาศยั ปฏทิ นิ บอกวัน เดือน ปี และการนบั ชว่ งเวลาตามปฏทิ ินที่ใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. ร้แู ละเข้าใจ สามารถ อธบิ ายการแบง่ ช่วงเวลาใน 1 วนั ได้ (K) 2. นำข้อคดิ ที่ไดจ้ ากการศึกษาเร่ืองการแบง่ ช่วงเวลาไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ (P) 3. เห็นคุณค่าและความสำคัญของปฏิทินท่ีใช้ชว่ ยเตอื นความจำของเรา (A) 4. สาระการเรยี นรู้ - ชว่ งเวลาท่ใี ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั เช่น วนั นี้ ตอนเชา้ ตอนเยน็ - เหตุการณท์ เ่ี กิดขนึ้ ในชวี ิตประจำวนั ของนักเรียน เช่น ตื่นนอน เข้านอน เรียนหนังสือ เลน่ กีฬา รบั ประทาน อาหาร ฯลฯ - ใช้คำบอกชว่ งเวลา แสดงลำดับเหตกุ ารณ์ทเ่ี กดิ ข้นึ ได้ 5. ทักษะกระบวนการ 1. ทกั ษะการเช่ือมโยง 2. ทกั ษะการอา่ น การเขยี น การพดู และการฟงั 3. การทำงานเป็นทมี
6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซื่อสัตย์ สจุ รติ 2. มีวินัย รบั ผิดชอบ 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 8. บรู ณาการสาระท้องถน่ิ /สวนพฤษศาสตร์ - 9. หลกั ฐานการเรยี นร(ู้ ชิน้ งาน/ภาระงาน - แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน 10.ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. You tube 11. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 เรือ่ ง : การแบ่งช่วงเวลาใน 1 วนั ขน้ั ท1ี่ ขน้ั เตรียมกจิ กรรม 1. ครูสนทนากับนกั เรียนเก่ียวกบั กจิ วัตรประจำวันของนักเรียนตง้ั แตต่ ืน่ นอนตอนเช้าจนกระทั่งถึงเข้านอนตอน กลางคืน 2. ครูอธิบายให้นกั เรยี นเขา้ ใจว่า การแบ่งช่วงเวลาใน 1 วัน ตาม คำบอกชว่ งเวลาจะทำให้เรารลู้ ำดับเรือ่ งราวได้ ชัดเจน และสามารถปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสมและสอดคล้องกบั ชว่ งเวลา ข้ันท2่ี ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน 3. นกั เรียนรวมกล่มุ เดิม แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มร่วมกันศึกษาความรเู้ รือ่ ง การแบ่งช่วงเวลาใน 1 วัน จากหนังสอื เรียน 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ทำใบงานท่ี 6.1 เร่อื ง การแบ่งชว่ งเวลาใน 1 วัน โดยใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนคดิ หา คำตอบดว้ ยตนเองกอ่ น จากน้ันจับคูก่ บั เพ่ือนในกล่มุ แล้วผลดั กันอธบิ ายคำตอบของตนเองใหเ้ พอ่ื นฟัง
ข้ันที่ 3 ขน้ั ดำเนินการสอน 5. นกั เรยี นรวมกลมุ่ เดิม 4 คน แล้วผลัดกนั อธิบายคำตอบของคตู่ นเองให้เพ่ือนอีกคู่หน่งึ ฟงั เพื่อหาข้อสรุปของ กลมุ่ 6. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอคำตอบในใบงานท่ี 6.1 หนา้ ชั้นเรียน โดยครเู ป็นผู้ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และอธบิ าย เพมิ่ เติมในส่วนท่ีบกพร่อง 7. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ • นกั เรยี นเหน็ ดว้ ยกับการแบ่งชว่ งเวลากลางวัน 12 ช่วั โมง และกลางคืน 12 ช่ัวโมง หรือไม่ อย่างไร (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู ูส้ อน ข้นั ท่ี 4 ข้นั สรุป 8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ความร้เู รอื่ ง การแบ่งช่วงเวลาใน 1 วัน 9. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด • การปฏิบตั ิกิจกรรมท่ีถกู ต้อง เหมาะสมกับช่วงเวลาในแต่ละวันมีประโยชน์อย่างไร (ช่วยใหเ้ ราสามารถลำดับเรื่องราวต่างๆ ได้ชัดเจน รวู้ า่ สง่ิ ใดควรทำเวลาใด และสามารถจดั สรรเวลาในแตล่ ะวัน ไดอ้ ย่างลงตวั ) • ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนทำปฏิทนิ ชวี ิตบนั ทึกเหตุการณส์ ำคญั ในอดีต แลว้ นำมาเขยี นเป็นเร่ืองราว โดยให้ครอบคลุมประเดน็ ตามท่ีกำหนด ดงั นี้ การวัดและการประเมินผล เป้าหมาย วธิ ีวดั เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน แบบประเมนิ ตาม 1. รแู้ ละเขา้ ใจ สามารถ อธบิ าย สงั เกตพฤติกรรมการ แบบประเมินตามสภาพ จริง สภาพจริง การแบง่ ชว่ งเวลาใน 1 วันได้ ทำงานกล่มุ (K) 2. นำข้อคิดทไี่ ด้จากการศกึ ษา เร่อื งการแบ่งช่วงเวลาไปใชใ้ น ชีวิตประจำวนั ได้ (P) 3. เหน็ คณุ คา่ และความสำคญั สังเกตความซื่อสัตย์ ของปฏิทนิ ทใี่ ช้ชว่ ยเตือน สุจริต มีวินยั รบั ผดิ ชอบ ความจำของเรา (A) ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั่ ใน การทำงาน
บันทกึ หลังการสอน ปัญหาและอปุ สรรค ข้อเสนอแนะและแนวทาง ผลการจดั การเรียนรู้ แก้ปัญหา ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรยี นสามารถ 1. นกั เรียนรอ้ ยละ 96 ร้แู ละ อธิบายการแบ่ง เข้าใจ สามารถ อธบิ ายการแบ่ง ชว่ งเวลาใน 1 วันได้ ช่วงเวลาใน 1 วันได้ (K) 2. นกั เรยี นรอ้ ยละ95 นำ ข้อคิดท่ีไดจ้ ากการศึกษาเรื่อง การแบง่ ชว่ งเวลาไปใช้ใน ชีวิตประจำวนั ได้ (P) 3. นกั เรยี นรอ้ ยละ 95เห็น คณุ คา่ และความสำคญั ของ ปฏิทนิ ท่ีใช้ช่วยเตือนความจำ ของเรา (A) (นางสาวสุกัญญา ผาสขุ ) ครปู ระจำวิชา
ภาคผนวก 1. หนงั สือเรียนวชิ าประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. ใบงานที่ 6.1 3. แบบประเมิน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุ่ม ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารช้แี จง สมาชกิ ชัดเจน และ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน มกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ งชดั เจน อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน พร้อมกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน เป็นระยะ ๆ
สปั ดาหท์ ี่ 10 สอบกลางภาค ภาคเรียนท่ี 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ สัปดาห์ท่ี 11 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ : สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั : ประถมศึกษาปีท่ี 1 ช่อื รายวิชา : ประวัตศิ าสตร์ รหสั วชิ า: ส 11102 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ความเปน็ มาของเรา เวลา : 1 ช่ัวโมง เร่อื ง: เราเปน็ ใคร 1. สาระ/มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัดมาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้ วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์มาวิเคราะหเ์ หตุการณ์ตา่ งๆ อย่างเป็นระบบ ตัวช้ีวัด ส 4.1 ป.1/3 บอกประวัติความเปน็ มาของตนเองและครอบครวั โดยสอบถามผเู้ กยี่ วข้อง 2. สาระสำคญั การสบื คน้ ประวตั คิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครวั โดยสอบถามผเู้ ก่ียวข้องจะทำให้เรารู้สกึ ผูกพนั และ ภูมใิ จในครอบครวั ของเรา 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. รูแ้ ละเขา้ ใจ สามารถ บอกวธิ กี ารสบื คน้ ประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครวั อย่างง่ายได้(K) 2. นำข้อคดิ ท่ีได้จากการศึกษาเร่ืองการวธิ ีการสบื คน้ ประวตั ิความเป็นมาของตนเองไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ (P) 3. เหน็ คณุ ค่าและความสำคญั ของวิธีการสบื คน้ ประวัตคิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครัว (A) 4. สาระการเรียนรู้ - วธิ ีการสืบคน้ ประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครัวอย่างง่ายๆ 5. ทักษะกระบวนการ 1. ทักษะการเช่ือมโยง 2. ทกั ษะการอ่าน การเขียน การพูด และการฟงั 3. การทำงานเปน็ ทมี 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ซ่อื สตั ย์ สุจริต
2. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 8. บรู ณาการสาระท้องถิน่ /สวนพฤษศาสตร์ - 9. หลักฐานการเรียนร(ู้ ช้ินงาน/ภาระงาน - แบบฝึกหัดท้ายบทเรียน 10.ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. You tube 11. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 เรอ่ื ง : เราเปน็ ใคร ขน้ั ท1่ี ข้นั เตรยี มกิจกรรม 1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ ง ความเป็นมาของเรา ขน้ั ท2่ี ขั้นนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น 2. ครถู ามคำถามนักเรียนเก่ียวกับภาพถ่ายในอดีต เชน่ - นักเรียนเคยเห็นภาพถา่ ยของพอ่ แมต่ อนเด็กๆ หรือไม่ และภาพถ่ายนั้นมลี ักษณะอย่างไร - นกั เรยี นเคยเห็นภาพถา่ ยของตนเองตอนเด็กๆ หรือไม่ และภาพถา่ ยนนั้ มลี ักษณะอยา่ งไร - เมอื่ นกั เรยี นเหน็ ภาพถา่ ยในอดีตแลว้ นกั เรยี นมคี วามรู้สึกอย่างไร 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ • ภาพถา่ ยในอดีตมีคุณค่าต่อนักเรียนอยา่ งไร (พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน) 4. ครสู ่มุ เรยี กนักเรียน 2-3 คน ออกมาเล่าประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครัวให้เพื่อนฟงั หนา้ ช้ัน เรียนพอสงั เขปคำถามกระตนุ้ ความคดิ
ขั้นที่ 3 ขั้นดำเนนิ การสอน 5. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ • นกั เรียนจะทราบประวตั คิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครวั ได้อยา่ งไร (สอบถามจากพอ่ แม่ ผใู้ หญ่ บุคคลในครอบครวั ดูจากภาพถ่าย สงิ่ ของต่างๆ ของครอบครัวที่ ตกทอดมา ทะเบยี นบา้ น สูติบัตร เป็นตน้ ) 6. นักเรียนแบง่ กลุม่ กล่มุ ละ 4 คน ตามความสมคั รใจ แล้วใหแ้ ตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ศึกษาความรเู้ รอ่ื ง เราเปน็ ใคร จากหนังสอื เรียน 7. นักเรียนแตล่ ะคนในกลุ่มนำความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษามาเปน็ พนื้ ฐานในการตอบคำถาม เช่น - ปู่ ยา่ ตา ยายของนักเรียนช่ือวา่ อะไร และประกอบอาชีพอะไร - พ่อ แมข่ องนกั เรียนเกดิ ที่ไหน และเรยี นทไี่ หน - นักเรยี นมีญาติพ่นี ้องก่ีคน และอยู่ท่ีไหนบา้ ง - นักเรยี นเกิดท่ีไหน และใครเป็นคนต้ังช่อื ใหน้ ักเรยี น - พ่อ แมข่ องนักเรยี นทำงานท่ีไหน และทำงานเกย่ี วกบั อะไร 8. ครสู มุ่ เรียกตัวแทนของแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอคำตอบหน้าชัน้ เรียน 9. นักเรียนแต่ละคนทำใบงานท่ี 1.1 เรื่อง ช่อื นั้นสำคัญไฉน 10. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ • ช่อื ของนักเรยี นมาจากภาษาอะไร และมคี วาม หมายว่าอะไร (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน) ขน้ั ที่ 4 ขั้นสรุป 11. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสกั ถามข้อสงสยั 12. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปองค์ความรู้
การวัดและการประเมนิ ผล เป้าหมาย วิธีวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมนิ แบบประเมินตาม 1. รูแ้ ละเข้าใจ สามารถ บอก สังเกตพฤติกรรมการ แบบประเมนิ ตามสภาพ จรงิ สภาพจรงิ วิธีการสืบค้นประวัติความ ทำงานกลมุ่ เปน็ มาของตนเองและ ครอบครัวอยา่ งง่ายได้ (K) 2. นำข้อคดิ ที่ไดจ้ ากการศึกษา เรอื่ งการวธิ กี ารสบื ค้นประวัติ ความเปน็ มาของตนเองไปใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ (P) 3. เห็นคณุ คา่ และความสำคัญ สังเกตความซื่อสัตย์ ของวธิ ีการสบื คน้ ประวัติความ สจุ ริต มวี ินัย รับผิดชอบ เป็นมาของตนเองและ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมนั่ ใน ครอบครัว (A) การทำงาน
บันทึกหลังการสอน ปัญหาและอปุ สรรค ข้อเสนอแนะและแนวทาง ผลการจัดการเรียนรู้ แก้ปัญหา ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรยี นสามารถ 1. นักเรียนรอ้ ยละ 96 ร้แู ละ บอกวิธีการสืบค้น เขา้ ใจ สามารถ บอกวิธีการ ประวตั คิ วามเปน็ มา สบื คน้ ประวัตคิ วามเปน็ มาของ ของตนเองและ ตนเองและครอบครวั อยา่ งงา่ ย ครอบครัวอย่างง่าย ได้ (K) ได้ 2. นกั เรียนรอ้ ยละ 98 นำ ข้อคิดที่ไดจ้ ากการศึกษาเร่ือง การวธิ ีการสืบค้นประวตั ิความ เปน็ มาของตนเองไปใช้ใน ชีวิตประจำวนั ได้ (P) 3. นักเรยี นร้อยละ 95 เห็น คณุ ค่าและความสำคญั ของ วธิ ีการสืบค้นประวตั คิ วาม เป็นมาของตนเองและ ครอบครวั (A) (นางสาวสกุ ญั ญา ผาสขุ ) ครปู ระจำวิชา
ภาคผนวก 1. หนงั สือเรียนวชิ าประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. ใบงานที่ 1.1 3. แบบประเมิน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุ่ม ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารช้แี จง สมาชกิ ชัดเจน และ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน มกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ งชดั เจน อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน พร้อมกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน เป็นระยะ ๆ
แผนการจดั การเรียนรู้ สัปดาห์ท่ี 12 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ : สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั : ประถมศึกษาปีท่ี 1 ชอ่ื รายวิชา : ประวัติศาสตร์ รหัสวชิ า: ส 11102 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ความเปน็ มาของเรา เวลา : 1 ช่ัวโมง เรอื่ ง: เราเปน็ ใคร (ต่อ) 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์ สามารถใช้ วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตุการณ์ต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ ตัวช้วี ัด ส 4.1 ป.1/3 บอกประวัตคิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครัวโดยสอบถามผเู้ กยี่ วข้อง 2. สาระสำคญั การสบื ค้นประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครัวโดยสอบถามผ้เู กีย่ วขอ้ งจะทำให้เรารู้สกึ ผูกพนั และ ภูมใิ จในครอบครวั ของเรา 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. รู้และเขา้ ใจ สามารถ บอกวธิ ีการสบื ค้นประวัติความเปน็ มาของตนเองและครอบครวั อย่างง่ายได้(K) 2. นำขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการศึกษาเรื่องการวธิ กี ารสบื คน้ ประวัติความเป็นมาของตนเองไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ (P) 3. เหน็ คณุ ค่าและความสำคัญของวิธีการสืบคน้ ประวตั คิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครัว (A) 4. สาระการเรียนรู้ - วธิ ีการสืบคน้ ประวัติความเป็นมาของตนเองและครอบครัวอยา่ งง่ายๆ 5. ทักษะกระบวนการ 1. ทกั ษะการเชื่อมโยง 2. ทักษะการอ่าน การเขยี น การพดู และการฟงั 3. การทำงานเป็นทีม 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซ่อื สัตย์ สุจริต
2. มวี นิ ยั รับผิดชอบ 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 8. บูรณาการสาระท้องถ่ิน/สวนพฤษศาสตร์ - 9. หลักฐานการเรยี นร(ู้ ช้นิ งาน/ภาระงาน - แบบฝกึ หัดท้ายบทเรียน 10.สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนประวตั ศิ าสตร์ ป.1 เรื่อง : เราเป็นใคร (ตอ่ ) 2. You tube 11. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 ขัน้ ท1ี่ ข้ันเตรียมกิจกรรม 1. ครแู ละนักเรยี นทบทวนความรเู้ ดมิ ขน้ั ท2ี่ ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น 2. นักเรยี นแตล่ ะคนผลัดกนั นำเสนอคำตอบในใบงานท่ี 1.1 ใหส้ มาชกิ ภายในกลุ่มฟัง แล้วผลดั กันอธิบายความรู้ ที่ได้จากการศึกษาให้สมาชกิ ทุกคนในกลมุ่ มคี วามเข้าใจตรงกนั ขั้นท่ี 3 ขน้ั ดำเนนิ การสอน 3. นักเรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง เราเปน็ ใคร โดยครเู ปน็ ผู้ตรวจสอบความถูกต้อง และอธบิ ายเพ่มิ เตมิ ในส่วน ทีบ่ กพร่อง 4.นกั เรยี นแต่ละคนออกมานำเสนอคำตอบในใบงานที่ 1.1 หนา้ ชน้ั เรยี น 5.ครูมอบหมายให้นักเรยี นนำความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษาเรื่องเราเปน็ ใคร ไปประยุกต์ใช้ในการเรยี นรู้เกี่ยวกับ ความเป็นมาของตนเองและครอบครัวในช่ัวโมงตอ่ ไป 6.นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ
• การรปู้ ระวัตคิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครวั มีประโยชนอ์ ยา่ งไร (ทำให้เราร้สู กึ ผูกพัน ภูมิใจในครอบครวั รสู้ กึ ว่าเปน็ ส่วนหนึง่ ในครอบครัว และทำใหเ้ ราทำความดีเพ่ือรกั ษา ช่ือเสียงของวงศ์ตระกูล) ข้นั ที่ 4 ขั้นสรุป 7. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นสกั ถามข้อสงสัย 8. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปองค์ความรู้ การวดั และการประเมินผล เปา้ หมาย วธิ วี ดั เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ แบบประเมินตาม 1. รู้และเขา้ ใจ สามารถ บอก สงั เกตพฤติกรรมการ แบบประเมนิ ตามสภาพ จรงิ สภาพจริง วธิ กี ารสืบคน้ ประวัตคิ วาม ทำงานกลุม่ เป็นมาของตนเองและ ครอบครัวอย่างง่ายได้ (K) 2. นำข้อคิดทีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษา เรอ่ื งการวิธีการสืบค้นประวตั ิ ความเปน็ มาของตนเองไปใชใ้ น ชวี ติ ประจำวันได้ (P) 3. เหน็ คณุ ค่าและความสำคัญ สังเกตความซื่อสัตย์ ของวธิ กี ารสืบคน้ ประวตั คิ วาม สจุ ริต มวี ินยั รับผดิ ชอบ เป็นมาของตนเองและ ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มัน่ ใน ครอบครวั (A) การทำงาน
บนั ทกึ หลังการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะและแนวทาง ผลการจดั การเรียนรู้ แก้ปัญหา ผลการจดั การเรียนรู้ นักเรียนสามารถนำ 1. นกั เรียนร้อยละ 97 รู้และ ข้อคิดทไ่ี ดจ้ าก เขา้ ใจ สามารถ บอกวธิ ีการ การศึกษาเรื่องการ สบื ค้นประวตั คิ วามเป็นมาของ วิธกี ารสบื คน้ ประวตั ิ ตนเองและครอบครวั อย่างงา่ ย ความเป็นมาของ ได้ (K) ตนเองไปใชใ้ น 2. นกั เรียนรอ้ ยละ95 นำ ชวี ติ ประจำวนั ได้ ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากการศึกษาเรื่อง การวิธกี ารสบื ค้นประวตั ิความ เปน็ มาของตนเองไปใชใ้ น ชีวติ ประจำวันได้ (P) 3. นักเรยี นร้อยละ 96 เหน็ คุณคา่ และความสำคัญของ วธิ ีการสบื คน้ ประวัติความ เปน็ มาของตนเองและ ครอบครวั (A) (นางสาวสุกัญญา ผาสขุ ) ครปู ระจำวิชา
ภาคผนวก 1. หนงั สือเรียนวชิ าประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. ใบงานที่ 1.1 3. แบบประเมิน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุ่ม ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารช้แี จง สมาชกิ ชัดเจน และ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน มกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ งชดั เจน อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน พร้อมกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน เป็นระยะ ๆ
แผนการจัดการเรยี นรู้ สัปดาห์ท่ี 13 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ : สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้น : ประถมศึกษาปที ี่ 1 ชือ่ รายวิชา : ประวตั ิศาสตร์ รหสั วิชา: ส 11102 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ความเป็นมาของเรา เวลา : 1 ชั่วโมง เร่อื ง: ความเปน็ มาของตนเอง (ต่อ) 1. สาระ/มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้ วธิ ีการทางประวัติศาสตรม์ าวิเคราะหเ์ หตุการณ์ตา่ งๆ อย่างเป็นระบบ ตวั ชวี้ ัด ส 4.1 ป.1/3 บอกประวัตคิ วามเปน็ มาของตนเองและครอบครวั โดยสอบถามผเู้ ก่ียวข้อง 2. สาระสำคญั การบอกประวตั ิความเป็นมาของตนเองทำใหเ้ ราร้จู ักตนเอง 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. รู้และเขา้ ใจ สามารถ บอกประวตั คิ วามเปน็ มาของตนเองได้ (K) 2. นำข้อคิดที่ได้จากการศึกษาเร่ืองประวตั ิความเปน็ มาของตนเองไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ (P) 3. เหน็ คณุ คา่ และความสำคญั ของวิธีการสบื คน้ ประวตั ิความเป็นมาของตนเองและครอบครวั (A) 4. สาระการเรยี นรู้ - การบอกเลา่ ประวัติความเปน็ มาของตนเอง 5. ทักษะกระบวนการ 1. ทกั ษะการเชื่อมโยง 2. ทกั ษะการอ่าน การเขียน การพดู และการฟงั 3. การทำงานเปน็ ทมี 6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซอื่ สตั ย์ สจุ รติ 2. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ 3. ใฝ่เรยี นรู้
4. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 8. บรู ณาการสาระท้องถิน่ /สวนพฤษศาสตร์ - 9. หลักฐานการเรยี นรู้(ช้ินงาน/ภาระงาน - แบบฝกึ หดั ทา้ ยบทเรยี น 10.สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียนประวัติศาสตร์ ป.1 2. You tube 11. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี 1 เรื่อง : ความเป็นมาของตนเอง (ตอ่ ) ข้ันท1่ี ข้นั เตรียมกิจกรรม 1. ครูให้นกั เรยี นออกมาเลา่ เรื่องของตนเองหนา้ ชัน้ เรยี น ตามประเด็นท่ีกำหนด ดงั นี้ 1) ช่อื -นามสกลุ 2) วนั เดือน ปีเกิด 3) ท่อี ยปู่ ัจจุบนั 4) สมาชิกในครอบครัว 5) อาหารที่ชอบรับประทาน 6) สตั วท์ ช่ี อบ 7) สีที่ชอบ 8) งานอดเิ รก 2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ • ประวัติความเปน็ มาของตนเองมคี วามสำคัญต่อบคุ คลอ่นื หรือไม่ อย่างไร (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยูใ่ นดุลยพินิจของครผู ู้สอน) ข้ันท2่ี ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น 2. นกั เรียนรวมกลุ่มเดมิ แลว้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ ร่วมกนั ศึกษาความร้เู รอ่ื ง ความเป็นมาของตนเองจากหนงั สือเรยี น 3. นักเรยี นแต่ละคนทำใบงานท่ี 2.1 เรื่อง ประวตั ิของฉัน เสร็จแลว้ นำส่งครูตรวจ ขั้นที่ 3 ขน้ั ดำเนนิ การสอน 4.นักเรยี นแตล่ ะคนนำความรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษามาอธบิ ายร่วมกนั ภายในกลุ่ม
5. ครูใหน้ ักเรยี นดสู ตู บิ ัตรและบัตรประจำตวั ประชาชนของครู จากน้ันใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันวเิ คราะห์ แล้วตอบคำถามตามประเด็นทกี่ ำหนด ดังน้ี 1) นกั เรียนรจู้ กั ส่งิ ท่ีครูนำมาใหด้ ูหรอื ไม่ คืออะไร 2) สงิ่ ที่ครูนำมาใหด้ มู คี วามสำคัญอยา่ งไร 3) สิ่งท่ีครนู ำมาให้ดูสามารถบอกอะไรได้บ้าง 6. ตวั แทนนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอคำตอบหน้าช้ันเรยี น 7.นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ • บัตรประจำตวั ประชาชนมคี วามสำคญั กับตนเองอยา่ งไร (พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) ขั้นท่ี 4 ขั้นสรุป 8. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนสกั ถามข้อสงสัย 9. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ องค์ความรู้ การวดั และการประเมนิ ผล เป้าหมาย วิธวี ัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ แบบประเมนิ ตาม 1. รู้และเขา้ ใจ สามารถ บอก สังเกตพฤตกิ รรมการ แบบประเมนิ ตามสภาพ จริง สภาพจรงิ ประวตั ิความเปน็ มาของตนเอง ทำงานกลุ่ม ได้ (K) 2. นำข้อคดิ ท่ไี ด้จากการศกึ ษา เรอื่ งประวตั ิความเปน็ มาของ ตนเองไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ (P) 3. เหน็ คุณค่าและความสำคญั สงั เกตความซื่อสตั ย์ ของวิธีการสบื ค้นประวตั คิ วาม สุจรติ มีวนิ ยั รับผิดชอบ เป็นมาของตนเองและ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ใน ครอบครวั (A) การทำงาน
บันทึกหลังการสอน ปัญหาและอปุ สรรค ข้อเสนอแนะและแนวทาง ผลการจัดการเรียนรู้ แก้ปัญหา ผลการจัดการเรียนรู้ นักเรียนสามารถ 1. นกั เรียนร้อยละ 96 ร้แู ละ เห็นคณุ ค่าและ เขา้ ใจ สามารถ บอกประวัติ ความสำคัญของ ความเป็นมาของตนเองได้ (K) วธิ ีการสบื ค้นประวัติ 2. นักเรียนร้อยละ 97 นำ ความเป็นมาของ ขอ้ คิดท่ไี ด้จากการศึกษาเรื่อง ตนเองและ ประวตั ิความเป็นมาของตนเอง ครอบครวั ไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ (P) 3. นักเรียนร้อยละ 96 เห็น คุณคา่ และความสำคญั ของ วิธกี ารสบื คน้ ประวัติความ เปน็ มาของตนเองและ ครอบครัว (A) (นางสาวสกุ ญั ญา ผาสุข) ครูประจำวิชา
ภาคผนวก 1. หนงั สือเรียนวชิ าประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. ใบงานที่ 2.1 3. แบบประเมิน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุ่ม ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารช้แี จง สมาชกิ ชัดเจน และ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน มกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ งชดั เจน อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน พร้อมกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน เป็นระยะ ๆ
แผนการจัดการเรยี นรู้ สัปดาห์ท่ี 14 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ : สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้น : ประถมศึกษาปที ี่ 1 ชือ่ รายวิชา : ประวตั ิศาสตร์ รหสั วิชา: ส 11102 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ความเป็นมาของเรา เวลา : 1 ชั่วโมง เร่อื ง: ความเปน็ มาของตนเอง (ต่อ) 1. สาระ/มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใช้ วธิ ีการทางประวัติศาสตรม์ าวิเคราะหเ์ หตุการณ์ตา่ งๆ อย่างเป็นระบบ ตวั ชวี้ ัด ส 4.1 ป.1/3 บอกประวัตคิ วามเปน็ มาของตนเองและครอบครวั โดยสอบถามผเู้ ก่ียวข้อง 2. สาระสำคญั การบอกประวตั ิความเป็นมาของตนเองทำใหเ้ ราร้จู ักตนเอง 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. รู้และเขา้ ใจ สามารถ บอกประวตั คิ วามเปน็ มาของตนเองได้ (K) 2. นำข้อคิดที่ได้จากการศึกษาเร่ืองประวตั ิความเปน็ มาของตนเองไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ (P) 3. เหน็ คณุ คา่ และความสำคญั ของวิธีการสบื คน้ ประวตั ิความเป็นมาของตนเองและครอบครวั (A) 4. สาระการเรยี นรู้ - การบอกเลา่ ประวัติความเปน็ มาของตนเอง 5. ทักษะกระบวนการ 1. ทกั ษะการเชื่อมโยง 2. ทกั ษะการอ่าน การเขียน การพดู และการฟงั 3. การทำงานเปน็ ทมี 6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ซอื่ สตั ย์ สจุ รติ 2. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ 3. ใฝ่เรยี นรู้
4. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 8. บูรณาการสาระทอ้ งถ่ิน/สวนพฤษศาสตร์ - 9. หลักฐานการเรียนรู้(ช้ินงาน/ภาระงาน - แบบฝกึ หัดทา้ ยบทเรียน 10.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนประวตั ศิ าสตร์ ป.1 เร่อื ง : ความเปน็ มาของตนเอง (ต่อ) 2. You tube 11. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ 1 ขั้นท1่ี ข้ันเตรียมกจิ กรรม 1. ครูและนักเรียนทบทวนความรเู้ ดิม ข้นั ท2่ี ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 2. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วเิ คราะหค์ วามสำคญั ของการสืบคน้ ประวตั ิความเป็นมาของตนเอง 3. ตัวแทนนกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอผลการวเิ คราะห์หน้า ชนั้ เรยี น โดยครเู ป็นผูต้ รวจสอบความ ถกู ต้อง และเสนอแนะเพ่ิมเติมในส่วนท่บี กพร่อง ขั้นที่ 3 ข้นั ดำเนินการสอน 4.นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ • นักเรยี นคิดวา่ การรปู้ ระวัตคิ วามเปน็ มาของตนเองมคี วามจำเปน็ หรือไม่ อย่างไร (พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน) 5.ครอู ธบิ ายให้นกั เรียนเข้าใจถงึ ความสำคัญและความจำเป็นที่เราจะต้องรู้จักตนเองและทีม่ าของตนเอง 6.ครปู ระเมินผลนกั เรยี นจากการทำใบงานที่ 2.1 7. นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้เกีย่ วกับความเปน็ มาของตนเอง โดยครูเปน็ ผู้ตรวจสอบความถูกต้อง และอธบิ าย เพ่ิมเติมในสว่ นท่ีบกพร่อง
ข้นั ท่ี 4 ข้นั สรุป 8. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นสกั ถามขอ้ สงสยั 9. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปองค์ความรู้ การวัดและการประเมนิ ผล เป้าหมาย วิธวี ดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน แบบประเมนิ ตาม 1. ร้แู ละเขา้ ใจ สามารถ บอก สังเกตพฤตกิ รรมการ แบบประเมนิ ตามสภาพ จริง สภาพจริง ประวตั คิ วามเป็นมาของตนเอง ทำงานกลุ่ม ได้ (K) 2. นำขอ้ คดิ ที่ไดจ้ ากการศกึ ษา เร่อื งประวตั ิความเปน็ มาของ ตนเองไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ (P) 3. เห็นคุณค่าและความสำคญั สงั เกตความซื่อสตั ย์ ของวิธีการสืบค้นประวตั คิ วาม สุจรติ มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ เป็นมาของตนเองและ ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มั่นใน ครอบครวั (A) การทำงาน
บันทกึ หลังการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะและแนวทาง ผลการจัดการเรียนรู้ แก้ปัญหา ผลการจดั การเรียนรู้ นักเรยี นสามารถ 1. นักเรียนร้อยละ 98 รแู้ ละ บอกประวตั ิความ เข้าใจ สามารถ บอกประวตั ิ เป็นมาของตนเองได้ ความเปน็ มาของตนเองได้ (K) 2. นกั เรียนร้อยละ 96 นำ ขอ้ คิดทไี่ ดจ้ ากการศึกษาเรื่อง ประวตั ิความเป็นมาของตนเอง ไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ (P) 3. นักเรียนรอ้ ยละ 95 เหน็ คุณคา่ และความสำคญั ของ วธิ กี ารสบื คน้ ประวตั คิ วาม เปน็ มาของตนเองและ ครอบครวั (A) (นางสาวสุกัญญา ผาสุข) ครูประจำวชิ า
ภาคผนวก 1. หนงั สือเรียนวชิ าประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. ใบงานที่ 2.1 3. แบบประเมิน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุ่ม ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารช้แี จง สมาชกิ ชัดเจน และ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน มกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ งชดั เจน อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน พร้อมกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน เป็นระยะ ๆ
แผนการจดั การเรยี นรู้ สัปดาห์ที่ 15 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ : สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้น : ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ช่ือรายวชิ า : ประวัตศิ าสตร์ รหัสวิชา: ส 11102 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 ความเปน็ มาของเรา เวลา : 1 ช่ัวโมง เร่ือง: ความเปน็ มาของครอบครัว 1. สาระ/มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัดมาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้ วธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์มาวเิ คราะหเ์ หตุการณ์ต่างๆ อย่างเปน็ ระบบ ตัวชว้ี ดั ส 4.1 ป.1/3 บอกประวัติความเปน็ มาของตนเองและครอบครวั โดยสอบถามผู้เกีย่ วข้อง 2. สาระสำคญั การบอกประวัติความเป็นมาของครอบครัวสามารถทำไดโ้ ดยการสอบถามจากผู้ใหญ่ในครอบครัว 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. รู้และเข้าใจ สามารถ บอกประวัตคิ วามเป็นมาของครอบครัวได้ (K) 2. นำขอ้ คดิ ท่ีได้จากการศึกษาเร่ืองประวตั ิความเปน็ มาของครอบครวั ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ (P) 3. เห็นคุณค่าและความสำคญั ของวธิ กี ารสบื ค้นประวัตคิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครัว (A) 4. สาระการเรียนรู้ - การบอกเลา่ ประวตั คิ วามเป็นมาของครอบครวั 5. ทกั ษะกระบวนการ 1. ทักษะการเช่ือมโยง 2. ทักษะการอา่ น การเขียน การพดู และการฟัง 3. การทำงานเปน็ ทมี 6. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ซื่อสตั ย์ สุจริต 2. มวี ินัย รบั ผดิ ชอบ 3. ใฝเ่ รยี นรู้
4. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 8. บรู ณาการสาระท้องถ่ิน/สวนพฤษศาสตร์ - 9. หลกั ฐานการเรยี นรู้(ชิน้ งาน/ภาระงาน - แบบฝึกหดั ท้ายบทเรียน 10.สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนประวตั ศิ าสตร์ ป.1 2. You tube 11. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 เรือ่ ง : ความเปน็ มาของครอบครัว ขน้ั ท1่ี ข้ันเตรยี มกิจกรรม 1. ครใู หน้ กั เรียนดูภาพถ่ายครอบครัวของครู แลว้ เลา่ เรื่องเก่ียวกับประวตั ิความเป็นมาของครอบครวั ให้นักเรยี น ฟงั 2. ครถู ามคำถามให้นกั เรียนช่วยกันตอบ เชน่ - นักเรียนเคยเห็นภาพถา่ ยของพอ่ แม่ตอนเด็กๆ หรือไม่ - ภาพถ่ายนน้ั มลี ักษณะอยา่ งไร - นักเรยี นมคี วามรสู้ ึกอยา่ งไร เมอ่ื เหน็ ภาพถา่ ยเหล่านนั้ - ครอบครวั ของนักเรียนมญี าติพี่น้องกค่ี น ใครบ้าง - ครอบครวั ของนักเรียนตงั้ ถิ่นฐานอยทู่ ี่ใด ข้ันท2่ี ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น 3. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ • ครอบครัวมคี วามสำคัญต่อนกั เรียนอยา่ งไร (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครผู ้สู อน)
4.นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ แลว้ ให้แตล่ ะกลุ่มร่วมกันศึกษาความรเู้ รือ่ ง ความเป็นมาของครอบครัว จาก หนงั สือเรียน หรอื สอบถามความรู้เพ่ิมเตมิ จากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ข้นั ท่ี 3 ขน้ั ดำเนนิ การสอน 5. นกั เรยี นแตล่ ะคนผลัดกันอธิบายความรทู้ ่ีตนไดไ้ ปศึกษามาใหเ้ พื่อนในกล่มุ ฟัง จนทุกคนในกลมุ่ มีความร้คู วาม เขา้ ใจท่ีถกู ต้องตรงกัน 6. ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ ให้นักเรียนเข้าใจเกย่ี วกับความสำคัญของการ รปู้ ระวตั ิความเป็นมาของครอบครวั ขนั้ ท่ี 4 ขัน้ สรุป 8. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนสกั ถามข้อสงสยั 9. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ องค์ความรู้ การวดั และการประเมินผล วธิ วี ัด เครอื่ งมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน เป้าหมาย สังเกตพฤตกิ รรมการ แบบประเมนิ ตาม ทำงานกลุ่ม แบบประเมนิ ตามสภาพ 1. รู้และเข้าใจ สามารถ บอก จริง สภาพจรงิ ประวตั ิความเปน็ มาของ สงั เกตความซื่อสัตย์ ครอบครัวได้ (K) สุจรติ มีวินัย รับผิดชอบ 2. นำขอ้ คิดทไี่ ด้จากการศึกษา ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมัน่ ใน เรอื่ งประวัติความเปน็ มาของ การทำงาน ครอบครัวไปใชใ้ น ชวี ติ ประจำวนั ได้ (P) 3. เหน็ คณุ คา่ และความสำคัญ ของวธิ ีการสบื คน้ ประวัตคิ วาม เป็นมาของตนเองและ ครอบครัว (A)
บันทกึ หลังการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะและแนวทาง ผลการจดั การเรียนรู้ แก้ปัญหา ผลการจดั การเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถ 1. นกั เรยี นรอ้ ยละ 93 รู้และ ขอ้ คิดทีไ่ ด้จาก เข้าใจ สามารถ บอกประวัติ การศึกษาเรื่อง ความเปน็ มาของครอบครัวได้ ประวตั ิความเปน็ มา (K) ของครอบครวั ไปใช้ 2. นกั เรยี นรอ้ ยละ94 นำ ในชวี ิตประจำวันได้ ข้อคิดทีไ่ ดจ้ ากการศึกษาเร่ือง ประวัติความเปน็ มาของ ครอบครวั ไปใชใ้ น ชีวิตประจำวนั ได้ (P) 3. นกั เรียนรอ้ ยละ 95 เห็น คุณค่าและความสำคัญของ วิธีการสืบคน้ ประวัตคิ วาม เป็นมาของตนเองและ ครอบครวั (A) (นางสาวสุกญั ญา ผาสขุ ) ครูประจำวิชา
ภาคผนวก 1. หนังสือเรียนวิชาประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. แบบประเมนิ แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 432 1 ทำงานกล่มุ ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารช้แี จง สมาชกิ ชัดเจน และ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน มกี ารชแี้ จงเป้าหมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย ปฏบิ ัติงานร่วมกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ งชดั เจน อยา่ งรว่ มมือรว่ มใจ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน พรอ้ มกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน เป็นระยะ ๆ
แผนการจัดการเรยี นรู้ สัปดาห์ที่ 16 กลุ่มสาระการเรียนรู้ : สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั : ประถมศึกษาปีที่ 1 ช่ือรายวิชา : ประวัติศาสตร์ รหสั วชิ า: ส 11102 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ความเป็นมาของเรา เวลา : 1 ช่ัวโมง เรอ่ื ง: ความเปน็ มาของครอบครัว (ต่อ) 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัดมาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวตั ศิ าสตร์ สามารถใช้ วิธกี ารทางประวัติศาสตรม์ าวิเคราะห์เหตุการณต์ า่ งๆ อยา่ งเป็นระบบ ตัวชี้วัด ส 4.1 ป.1/3 บอกประวัตคิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครัวโดยสอบถามผเู้ ก่ยี วขอ้ ง 2. สาระสำคญั การบอกประวัติความเปน็ มาของครอบครวั สามารถทำไดโ้ ดยการสอบถามจากผู้ใหญ่ในครอบครัว 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. รแู้ ละเข้าใจ สามารถ บอกประวัตคิ วามเปน็ มาของครอบครัวได้ (K) 2. นำข้อคิดที่ได้จากการศึกษาเรื่องประวตั ิความเป็นมาของครอบครวั ไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้ (P) 3. เห็นคุณคา่ และความสำคญั ของวิธีการสืบค้นประวัตคิ วามเป็นมาของตนเองและครอบครวั (A) 4. สาระการเรยี นรู้ - การบอกเลา่ ประวัตคิ วามเป็นมาของครอบครวั 5. ทกั ษะกระบวนการ 1. ทักษะการเชื่อมโยง 2. ทักษะการอา่ น การเขยี น การพดู และการฟงั 3. การทำงานเป็นทมี 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ 2. มีวนิ ยั รับผิดชอบ 3. ใฝเ่ รยี นรู้
4. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 8. บรู ณาการสาระท้องถ่นิ /สวนพฤษศาสตร์ - 9. หลกั ฐานการเรยี นรู้(ชิน้ งาน/ภาระงาน - แบบฝกึ หัดทา้ ยบทเรียน 10.สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนประวัติศาสตร์ ป.1 เรอ่ื ง : ความเปน็ มาของครอบครัว (ต่อ) 2. You tube 11. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงที่ 1 ข้นั ท1ี่ ข้ันเตรียมกิจกรรม 1. ครูและนกั เรยี นทบทวนความรูเ้ ดมิ ขน้ั ท2่ี ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรยี น 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ทำใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง ความเปน็ มาของครอบครวั โดยให้นักเรียนแต่ละคนคิดหา คำตอบดว้ ยตนเองก่อน เสร็จแลว้ จับคู่กับเพื่อนในกลุ่มผลดั กันอธบิ ายคำตอบของตนเองให้เพ่อื นฟงั 3. นักเรียนรวมกลมุ่ 4 คน แล้วผลัดกันอธบิ ายคำตอบของคู่ตนเองใหเ้ พอ่ื นอีกคู่หน่งึ ในกลุ่มฟังจนไดม้ ติของกลุ่ม เขียนคำตอบลงใน ใบงานที่ 3.1 ขนั้ ที่ 3 ข้นั ดำเนินการสอน 4. ตวั แทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอคำตอบในใบงานที่ 3.1 หนา้ ช้นั เรยี น โดยครเู ปน็ ผูต้ รวจสอบความ ถกู ต้อง 5. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ ก่ยี วกับความเป็นมาของครอบครวั 6.นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด •การรปู้ ระวัติความเป็นมาของครอบครัวทำใหน้ กั เรยี นภมู ิใจในครอบครวั อยา่ งไร จงอธบิ าย (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู ้สู อน)
• ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนทำสมุดเลม่ เลก็ เร่ือง ความเปน็ มาของเรา โดยให้ครอบคลุมประเด็น ตามทีก่ ำหนด ดงั น้ี 1)การบอกประวตั คิ วามเปน็ มาของตนเอง ขนั้ ท่ี 4 ข้ันสรุป 7. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนสกั ถามข้อสงสัย 8. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปองค์ความรู้ การวดั และการประเมินผล เปา้ หมาย วิธวี ัด เคร่ืองมือวัด เกณฑ์การประเมิน แบบประเมนิ ตาม 1. ร้แู ละเขา้ ใจ สามารถ บอก สังเกตพฤตกิ รรมการ แบบประเมนิ ตามสภาพ จริง สภาพจริง ประวตั คิ วามเปน็ มาของ ทำงานกลมุ่ ครอบครัวได้ (K) 2. นำข้อคิดที่ไดจ้ ากการศึกษา เร่อื งประวัติความเป็นมาของ ครอบครัวไปใชใ้ น ชวี ติ ประจำวันได้ (P) 3. เหน็ คณุ ค่าและความสำคญั สงั เกตความซ่ือสัตย์ ของวิธีการสืบค้นประวัตคิ วาม สจุ รติ มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ เปน็ มาของตนเองและ ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มน่ั ใน ครอบครัว (A) การทำงาน
บันทกึ หลังการสอน ปัญหาและอุปสรรค ข้อเสนอแนะและแนวทาง ผลการจัดการเรียนรู้ แก้ปัญหา ผลการจัดการเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถ96 1. นกั เรยี นร้อยละ 99 รู้และ เห็นคณุ ค่าและ เข้าใจ สามารถ บอกประวัติ ความสำคญั ของ ความเป็นมาของครอบครวั ได้ วิธีการสบื คน้ ประวตั ิ (K) ความเป็นมาของ 2. นักเรยี นรอ้ ยละ 94 นำ ตนเองและ ข้อคิดที่ได้จากการศึกษาเรื่อง ครอบครวั ประวัตคิ วามเปน็ มาของ ครอบครวั ไปใชใ้ น ชวี ิตประจำวันได้ (P) 3. นักเรียนร้อยละ 96 เห็น คณุ คา่ และความสำคญั ของ วิธีการสืบคน้ ประวตั คิ วาม เป็นมาของตนเองและ ครอบครัว (A) (นางสาวสกุ ญั ญา ผาสุข) ครูประจำวชิ า
ภาคผนวก 1. หนงั สือเรยี นวชิ าประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. ใบงานที่ 3.1 3. แบบประเมิน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics) รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 432 1 ทำงานกล่มุ ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารช้แี จง สมาชกิ ชัดเจน และ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน มีการชี้แจงเปา้ หมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย ปฏิบัตงิ านรว่ มกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ งชดั เจน อยา่ งร่วมมือรว่ มใจ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน พร้อมกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน เป็นระยะ ๆ
แผนการจัดการเรียนรู้ สัปดาห์ท่ี 17 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ : สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั : ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ชอื่ รายวชิ า : ประวัตศิ าสตร์ รหสั วิชา: ส 11102 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดล้อม เวลา : 1 ชั่วโมง เรอ่ื ง: ความเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดล้อม 1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนษุ ยชาติจากอดีตจนถึงปัจจบุ นั ในด้านความสมั พันธแ์ ละการ เปล่ียนแปลงของเหตกุ ารณอ์ ย่างต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสำคญั และสามารถ วเิ คราะห์ผลกระทบที่เกดิ ขนึ้ ตวั ช้วี ัด ส 4.2 ป.1/1 บอกความเปลีย่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ หรอื การดำเนนิ ชีวติ ของตนเอง กบั สมัยของพ่อแม่ ปยู่ ่า ตายาย 2. สาระสำคัญ ชีวติ ของคนในแต่ละชว่ งเวลามคี วามแตกต่างกันและเปล่ียนแปลงไดต้ ลอดเวลาตามวนั เวลาทผ่ี า่ นไป เราจงึ ตอ้ งปรับตัวใหท้ นั ส่งิ ใหม่ๆ และยอมรับความเปลี่ยนแปลงเพ่ือให้ชีวติ มีความสุข 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. รู้และเข้าใจ สามารถ อธบิ ายความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ส่ิงของ เครือ่ งใช้ หรือการดำเนนิ ชวี ติ ของตนเองกบั สมัยของ พอ่ แม่ ปยู่ ่า ตายายได้ (K) 2. นำข้อคิดที่ได้จากการศึกษาเร่ืองความเปล่ียนแปลงของสภาพแวดลอ้ ม สิ่งของ เครือ่ งใช้ หรอื การดำเนนิ ชวี ติ ของตนเองกบั สมัยของ พ่อแม่ ปู่ย่า ตายายไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ (P) 3. เห็นคุณค่าและความสำคัญของของสภาพแวดล้อม หรือการดำเนินชีวติ ของตนเองกบั สมยั ของ พ่อแม่ ป่ยู า่ ตายาย (A) 4. สาระการเรียนรู้ - ความเปล่ียนแปลงของสภาพแวดลอ้ ม สิ่งของ เครื่องใช้ หรือการดำเนนิ ชวี ิตของอดีตกับปจั จุบนั ทเ่ี ป็น รูปธรรมและใกลต้ วั เด็ก เชน่ การใชค้ วายไถนา รถไถนา เตารดี ถนน เกวียน รถอีแตน๋ 5. ทักษะกระบวนการ 1. ทกั ษะการเช่ือมโยง
2. ทกั ษะการอา่ น การเขียน การพดู และการฟงั 3. การทำงานเป็นทมี 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ซื่อสัตย์ สจุ รติ 2. มีวินยั รบั ผิดชอบ 3. ใฝเ่ รียนรู้ 4. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 8. บูรณาการสาระท้องถิ่น/สวนพฤษศาสตร์ - 9. หลักฐานการเรียนรู(้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน - แบบฝกึ หัดท้ายบทเรียน 10.สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนประวตั ิศาสตร์ ป.1 เรอื่ ง : ความเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม 2. You tube 11. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 ขั้นท1่ี ข้นั เตรยี มกิจกรรม 1. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด • การดำเนนิ ชีวติ ของมนษุ ย์ในอดตี และปจั จุบนั มีความแตกตา่ งกนั หรือไม่ เพราะเหตุใด (มีความแตกต่างกัน เพราะมีการสรา้ ง พฒั นาและรบั สง่ิ ใหมๆ่ เทคโนโลยี นวตั กรรมต่างๆ มากมายเพ่ือตอบสนองความต้องการของมนษุ ย์) ขัน้ ท2่ี ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรียน 2. ครใู หน้ ักเรียนดบู ัตรภาพการดำเนนิ ชวี ิตของคนในชุมชนเมือง และการดำเนินชวี ิตของคนในชุมชนชนบท แลว้ รว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ตามประเด็นท่ีกำหนด ดังน้ี
1) การดำเนินชีวติ ของคนในชุมชนเมืองมคี วามแตกต่างกับการดำเนนิ ชีวิตของคนในชุมชนชนบทหรอื ไม่ อยา่ งไร 2) การดำเนินชีวติ ของคนในชุมชนเมอื งในปจั จบุ ันมคี วามแตกตา่ งไปจากอดตี หรือไม่ อย่างไร 3) การดำเนนิ ชีวิตของคนในชมุ ชนชนบทในปัจจบุ นั มีความแตกต่างไปจากอดตี หรือไม่ อยา่ งไร ข้ันที่ 3 ขั้นดำเนินการสอน 3. ครูแบง่ นกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลางค่อนข้างเกง่ ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน และอ่อน แล้วให้แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ศึกษาความรูเ้ ร่ือง ความเปล่ียนแปลงของสภาพแวดล้อม จาก หนงั สือเรยี น 4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั สนทนาและอธิบายความรู้เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ตาม ประเดน็ ที่กำหนด ดงั นี้ 1) ของเลน่ 2) การเดินทาง 3) ท่ีอยู่อาศัย 4) ยานพาหนะ 5. ครอู ธิบายความรูเ้ กย่ี วกับความเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดล้อมเพ่ิมเติมจนนักเรยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจ 6.นักเรียนตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ • นกั เรยี นคิดวา่ ความเปลยี่ นแปลงของสภาพ แวดล้อมเรอ่ื งใด มีผลกระทบต่อนกั เรียน มากทสี่ ุด (พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครผู ู้สอน) 7. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั แนวทางการปรับตัวให้เข้ากบั สภาพแวดลอ้ มที่ เปลีย่ นแปลง พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ 8. ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอความคิดเหน็ ของกลุ่มหน้าช้ันเรียน แลว้ ใหน้ ักเรียนกลุ่มอ่ืนทมี่ ี ความคดิ เห็นแตกตา่ งกันออกไปแสดงความคิดเหน็ เพิ่มเตมิ 9.นักเรียนตอบคำถามกระตุน้ ความคิด • ทำไมนกั เรียนตอ้ งปรับตัวให้เข้ากับสภาพ แวดล้อม (เพ่ือจะได้ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสขุ ขนั้ ท่ี 4 ข้นั สรุป 10. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นสักถามข้อสงสัย 11. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้
การวัดและการประเมินผล เป้าหมาย วธิ วี ดั เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ แบบประเมินตาม 1. รู้และเข้าใจ สามารถ อธบิ าย สังเกตพฤตกิ รรมการ แบบประเมินตามสภาพ จรงิ สภาพจริง ความเปลี่ยนแปลงของ ทำงานกลมุ่ สภาพแวดล้อม สงิ่ ของ เครื่องใช้ หรือการดำเนนิ ชวี ติ ของตนเองกับสมัยของ พ่อแม่ ปูย่ า่ ตายายได้ (K) 2. นำขอ้ คิดทีไ่ ด้จากการศกึ ษา เร่อื งความเปลยี่ นแปลงของ สภาพแวดล้อม ส่งิ ของ เครือ่ งใช้ หรือการดำเนนิ ชีวิต ของตนเองกับสมัยของ พ่อแม่ ปยู่ ่า ตายายไปใช้ใน ชีวิตประจำวนั ได้ (P) 3. เห็นคณุ คา่ และความสำคัญ สงั เกตความซ่ือสัตย์ ของของสภาพแวดลอ้ ม หรือ สุจริต มีวินัย รบั ผดิ ชอบ การดำเนนิ ชวี ิตของตนเองกบั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มั่นใน สมัยของ พอ่ แม่ ปู่ย่า ตายาย การทำงาน (A)
บนั ทึกหลังการสอน ปัญหาและอปุ สรรค ข้อเสนอแนะและแนวทาง ผลการจัดการเรียนรู้ แก้ปัญหา ผลการจดั การเรียนรู้ นักเรียนสามารถนำ 1. นกั เรียนร้อยละ 95 รู้และ ขอ้ คิดที่ไดจ้ าก เขา้ ใจ สามารถ อธิบายความ การศกึ ษาเร่ืองความ เปลยี่ นแปลงของ เปลย่ี นแปลงของ สภาพแวดลอ้ ม สิง่ ของ สภาพแวดล้อม เครอ่ื งใช้ หรือการดำเนินชีวติ ส่งิ ของ เครื่องใช้ ของตนเองกบั สมัยของ พ่อแม่ หรอื การดำเนนิ ชีวิต ป่ยู า่ ตายายได้ (K) ของตนเองกับสมยั 2. นักเรียนรอ้ ยละ 99 นำ ของ พอ่ แม่ ปยู่ า่ ตา ข้อคิดที่ได้จากการศึกษาเร่ือง ยายไปใชใ้ น ความเปลี่ยนแปลงของ ชีวิตประจำวนั ได้ สภาพแวดล้อม สิ่งของ เครอ่ื งใช้ หรือการดำเนินชีวิต ของตนเองกับสมัยของ พ่อแม่ ปู่ยา่ ตายายไปใช้ใน ชวี ติ ประจำวันได้ (P) 3. นักเรียนรอ้ ยละ 94 เห็น คณุ ค่าและความสำคญั ของของ สภาพแวดลอ้ ม หรอื การดำเนิน ชีวติ ของตนเองกบั สมยั ของ พ่อ แม่ ปยู่ า่ ตายาย (A) (นางสาวสกุ ญั ญา ผาสุข) ครปู ระจำวิชา
ภาคผนวก 1. หนังสือเรียนวิชาประวัตศิ าสตร์ ป.1 2. แบบประเมนิ แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน กระบวนการ 432 1 ทำงานกล่มุ ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไม่มกี ารช้แี จง สมาชกิ ชัดเจน และ สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหน้า เป้าหมาย สมาชกิ ต่างคนต่างทำงาน มกี ารชแี้ จงเป้าหมาย มีการชแี้ จงเปา้ หมาย ไมม่ ีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชดั เจนและ เป้าหมาย ปฏบิ ัติงานร่วมกัน ปฏิบตั ิงานร่วมกนั อยา่ งชดั เจน อยา่ งรว่ มมือรว่ มใจ แต่ไม่มกี ารประเมิน ปฏบิ ตั งิ านร่วมกัน พรอ้ มกับการประเมิน เป็นระยะ ๆ ไม่ครบทกุ คน เป็นระยะ ๆ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220