Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรปวช 56 - การตลาด

หลักสูตรปวช 56 - การตลาด

Published by Rattikan Youtsook, 2019-06-28 03:22:08

Description: หลักสูตรปวช 56 - การตลาด

Search

Read the Text Version

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ศ3110๒ วิชาโสตศลิ ป์ ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศิลปะ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ ๒ เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกิต เหตุผลท่คี นต่างวฒั นธรรมสรา้ งสรรค์งานดนตรีท่ีแตกตา่ งกัน งานดนตรที ีม่ าจากวัฒนธรรมตา่ งกัน การ ประยุกตใ์ ช้ดนตรีในงานอื่น ๆ การสร้างเกณฑส์ าหรบั ประเมนิ คุณภาพการประพนั ธแ์ ละการเล่นดนตรขี องตนเอง และผอู้ ื่น สถานะทางสังคมของนกั ดนตรใี นวฒั นธรรมตา่ ง ๆ บทบาทของดนตรีในการสะทอ้ นแนวความคิดและ ค่านยิ มทเ่ี ปล่ยี นไปของคนในสังคม แนวทางในการสง่ เสริมและอนุรักษด์ นตรีในฐานะมรดกของชาติ ฝกึ ปฏิบัตทิ กั ษะกระบวนการทางดนตรี วเิ คราะห์ อธิบาย จาแนก สบื เสาะแสวงหาความรู้ สบื คน้ ขอ้ มลู และการอภปิ ราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารส่งิ ทีเ่ รยี นรู้ มีความสามารถใน การตดั สินใจ เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถสอ่ื สารส่งิ ท่เี รียนรู้ มคี วามสามารถในการตดั สนิ ใจ รกั และภาคภมู ิใจในมรดกทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาไทยและสากล เห็นคุณค่าของการนาความรู้ดา้ นดนตรีไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มวี ินยั รับผดิ ชอบ มีคุณธรรม จริยธรรม มีความมงุ่ ม่ัน ขยัน ซื่อสัตย์ และมีคา่ นิยมท่ี เหมาะสม เพอื่ ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถส่อื สารส่ิงทีเ่ รียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ รกั และภาคภูมใิ จในมรดกทางวัฒนธรรมภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล เหน็ คณุ ค่าของการนาความร้ดู ้านดนตรีไปใช้ ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีวินัย รับผิดชอบ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มีความมงุ่ มัน่ ขยัน ซอ่ื สตั ย์ และมคี ่านยิ มท่ี เหมาะสม รหัสตัวช้ีวดั ศ 2.1 ม.6/3, ม.6/6, ม.6/7, ม.6/8 ศ 2.2 ม.6/2, ม.6/4, ม.6/5

คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน ง31๑01 การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ ๑ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๒0 ชัว่ โมง ............................................................................................... ............................................................... ............ ศึกษาและอธิบายวธิ ีการทางานเพ่อื การดารงชวี ติ สรา้ งผลงานอยา่ งมีความสรา้ งสรรค์ใน 4 ลกั ษณะ ได้แก่ ความคิดรเิ ร่ิม ความคล่องในการคิด ความยดื หยุ่นในการคิด และความคดิ ละเอียดลออ เกยี่ วกบั งานบา้ น งานประดิษฐ์ของใช้ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย หน้าทแี่ ละบทบาทของตนเองท่มี ีต่อสมาชกิ ในครอบครัว โรงเรียน และ ชมุ ชน อธิบายและเชือ่ มโยงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเทคโนโลยกี บั ศาสตร์อ่ืน ๆ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ วเิ คราะห์ ระบบเทคโนโลยี สรา้ งและพัฒนาสงิ่ ของเครอ่ื งใช้ หรอื วธิ กี ารตามกระบวนการเทคโนโลยีอยา่ งปลอดภยั โดย ถ่ายทอดความคิดเป็นภาพฉายและแบบจาลองเปน็ ภาพรา่ ง 2 มติ เิ พื่อนาไปสกู่ ารสรา้ งชิน้ งานหรอื ถ่ายทอด ความคดิ ของวิธกี ารเปน็ แบบจาลองความคดิ และการรายงานผลโดยใชซ้ อฟต์แวร์ชว่ ยในการออกแบบหรือนาเสนอ ผลงานโดยคานึงถงึ หลักการวชิ าคณติ ศาสตร์เบื้องต้น มีความคิดแปลกใหม่ ไม่ละเมิดความคิดผอู้ ่ืน อภปิ ราย แนวทางเข้าสู่อาชีพท่สี นใจ เลือกและใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรคต์ ่อชีวติ สงั คม สิง่ แวดล้อม และเหมาะสมกบั อาชีพด้วยการลดการใช้ทรัพยากรหรอื เลือกใช้เทคโนโลยที ีไ่ มม่ ีผลกระทบต่อสง่ิ แวดลอ้ มโดยใช้กระบวนการทกั ษะ การทางาน การจัดการ กระบวนการทางานกลุ่ม มคี ุณลกั ษณะทีด่ ีต่ออาชพี ซื่อสตั ย์ ไมล่ ะเมิดความคิดผู้อนื่ รับผดิ ชอบ มีมารยาทในการทางานร่วมกับ ผูอ้ ่ืนและมีจิตสานึกในการใช้ทรพั ยากรอย่างประหยดั และคุ้มค่า รหัสตวั ช้ีวดั ง 1.1 ม. 4/1, ม. 4/2, ม. 4/3, ม. 4/4, ม. 4/5, ม. 4/6, ม. 4/7 ง 2.1 ม. 4/1, ม. 4/2, ม. 4/3, ม. 4/4, ม. 4/5 ง 4.1 ม. 4/1, ม. 4/2, ม. 4/3, ม. 4/4, รวมตัวชีว้ ัด 16 ตวั ช้ีวัด

คาอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน ง31๑0๒ การงานอาชีพและเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ ๒ จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต เวลา ๒0 ชวั่ โมง ............................................................................................... ........................................................................... ศึกษาและอธิบายองคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศและหลักการทางานของคอมพิวเตอร์ ไดแ้ ก่ ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ ขอ้ มูลบุคลากร และขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิงาน การรบั สง่ ข้อมูลระหว่างหนว่ ยต่าง ๆ จะผ่านระบบทางขนส่งข้อมูลหรอื บัสระบบสอื่ สารข้อมลู สาหรับเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ บอกคุณลกั ษณะของคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ตอ่ ร่วม การแกป้ ญั หาดว้ ยกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมี ประสทิ ธภิ าพ โดยใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาอย่างเปน็ ขนั้ ตอน การจดั การทางาน การแสวงหาความรู้ มเี จตคตทิ ี่ดีต่องานอาชีพ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มารยาท และขอ้ บังคับในการใช้อนิ เตอรเ์ น็ตและเทคโนโลยี รหัสตวั ชี้วดั ง 3.1 ม. 4/1, ม. 4/2, ม. 4/3, ม. 4/4, ม. 4/5, ม. 4/6, ม. 4/7 ม. 4/8, ม. 4/9, ม. 4/10, ม. 4/11, ม. 4/12, ม. 4/13 รวมตัวชีว้ ัด 13 ตวั ชี้วัด

คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน อ31101 ภาษาอังกฤษ กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เข้าใจ น้าเสยี ง ความรู้สึกของผูพ้ ดู คาส่ัง คาขอร้อง คาแนะนา ความแตกต่างด้านภาษา วฒั นธรรม ประเพณี อ่านออกเสยี งบทอ่านไดถ้ ูกต้องตามหลกั การอ่านออกเสียงและเหมาะสมกับเน้ือหาท่ีอ่านตีความ วิเคราะห์ ข้อความ ข้อมูล ขา่ วสาร บทความ สารคดี บันเทิงคดี ส่ือที่เปน็ ความเรียงและไม่ใชค่ วามเรียงในรูปแบบ ตา่ ง ๆ จากสอ่ื ส่งิ พมิ พ์ หรือส่ืออีเล็กทรอนิกส์ หวั ขอ้ ต่าง ๆ เก่ยี วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน อาหาร สงิ่ แวดล้อม เคร่ืองดืม่ ใชภ้ าษาตามมารยาททางสังคมสรา้ งความความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลแสดงความคิดเห็น ความต้องการ อธิบาย บรรยาย แลกเปล่ยี นความรู้ และให้เหตผุ ลเกีย่ วกับเร่ืองราวต่าง ๆ เหตกุ ารณใ์ นอดีต ปัจจบุ ัน และอนาคตโดยใชป้ ระโยชน์จากสอื่ เทคโนโลยี สอ่ื การเรยี นทางภาษา และผลจากการฝึกทักษะตา่ ง ๆ แสวงหาวิธีการเรียนที่เหมาะสมกับตนเอง สามารถนาเสนอข้อมูล ความคิดรวบยอด และความคิดเห็น เจรจา โนม้ น้าวตอ่ รองเก่ยี วกับประสบการณ์ เหตุการณ์ต่าง ๆ ในท้องถนิ่ ดว้ ยวิธกี ารท่ีหลากหลายอยา่ งสร้างสรรค์และมี ประสทิ ธภิ าพนาเสนอบทกวีหรือบทละครส้นั โดยใชเ้ คา้ โครงตามแนวคิดของเจ้าของภาษาดว้ ยความเพลิดเพลนิ เขา้ ร่วมกิจกรรมเปรียบเทยี บและนาความรดู้ ้านภาษาวัฒนธรรมประเพณคี วามเช่ือ ไปใช้อย่างมีวจิ ารณญาณ เห็น ประโยชนข์ องการรภู้ าษาองั กฤษในการแสวงหาความรู้ เพือ่ ขยายโลกทัศนจ์ ากแหลง่ ข้อมูลที่หลากหลาย การเข้าสู่ สงั คมและอาชีพ สามารถใช้ภาษาสอ่ื สารในรปู แบบต่าง ๆ ตามสถานการณใ์ นสถานศึกษาและชมุ ชน รหัสตวั ชี้วัด ต. 1.1 ม .4/3 , ต. 1.1 ม .4/4 ต. 1.2 ม .4/1 ต. 1.3 ม .4/1 ,ต. 1.3 ม .4/2 ต. 2.1 ม .4/1 ต. 3.1 ม .4/1 ต. 4.2 ม .4/2 ต. 4.1 ม .4/1 รวมทั้งหมด 9 ตวั ชว้ี ดั

คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน อ31102 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เขา้ ใจ น้าเสียง ความรูส้ กึ ของผ้พู ูด คาสง่ั คาขอร้อง คาแนะนา ความแตกต่างด้านภาษา วัฒนธรรม ประเพณี อ่านออกเสียงบทอ่านไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การอ่านออกเสียงและเหมาะสมกบั เนื้อหาท่ีอ่าน ตีความ วเิ คราะห์ ข้อความ ข้อมลู ขา่ วสาร บทความ สารคดี บนั เทิงคดี สอื่ ที่เป็นความเรียงและไม่ใช่ความเรียงในรปู แบบ ตา่ ง ๆ จากส่ือสิ่งพมิ พ์ หรอื สื่ออเี ล็กทรอนิกส์ หวั ข้อตา่ งๆเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน อาหาร สงิ่ แวดลอ้ ม เครื่องดืม่ ใช้ภาษาตามมารยาททางสงั คมสร้างความความสมั พนั ธร์ ะหว่างบุคคล แสดง ความคดิ เหน็ ความต้องการ อธิบาย บรรยาย แลกเปลย่ี นความรู้ และใหเ้ หตผุ ลเก่ยี วกบั เรื่องราวต่าง ๆ เหตุการณใ์ นอดีต ปจั จุบัน และอนาคตโดยใช้ประโยชนจ์ ากส่ือเทคโนโลยี ส่อื การเรยี นทางภาษา และผลจากการ ฝกึ ทกั ษะตา่ ง ๆ แสวงหาวธิ ีการเรยี นทเ่ี หมาะสมกบั ตนเอง สามารถนาเสนอขอ้ มลู ความคิดรวบยอด และความ คดิ เห็น เจรจาโนม้ น้าวตอ่ รองเกย่ี วกับประสบการณ์ เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ในท้องถ่ินด้วยวิธีการที่หลากหลายอยา่ ง สรา้ งสรรคแ์ ละมปี ระสิทธิภาพนาเสนอบทกวีหรอื บทละครส้นั โดยใช้เคา้ โครงตามแนวคดิ ของเจา้ ของภาษาดว้ ย ความเพลดิ เพลิน เขา้ รว่ มกจิ กรรมเปรยี บเทยี บและนาความรดู้ า้ นภาษาวัฒนธรรมประเพณคี วามเชอื่ ไปใชอ้ ย่างมี วิจารณญาณ เหน็ ประโยชนข์ องการรู้ภาษาอังกฤษในการแสวงหาความรู้ เพ่อื ขยายโลกทัศนจ์ ากแหลง่ ข้อมลู ที่ หลากหลาย การเข้าสู่สังคมและอาชีพ สามารถใช้ภาษาส่ือสารในรปู แบบตา่ ง ๆ ตามสถานการณใ์ นสถานศึกษา และชุมชน รหสั ตวั ชี้วดั ต. 1.1 ม .4/1,ม .4/3 ,ม .4/4 ต. 1.2 ม .4/1, ม .4/3 ต. 1.3 ม .4/1, ม .4/2 ต. 1.4 ม .4/1 ต. 2.1 ม .4/1, ม .4/3 ต. 3.1 ม .4/1 ต. 4.2 ม .4/1,ม .4/2 รวมทั้งหมด 13 ตวั ชี้วัด

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ท41201 การใชห้ อ้ งสมุด สาระการเรียนรวู้ ิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต ศึกษาหลักการใช้ห้องสมุด ระเบียบมารยาท การเปน็ สมาชิก รู้ความหมาย ความสาคัญและบทบาทการ ใช้ห้องสมดุ เข้าใจวตั ถุประสงค์ องคป์ ระกอบ ประเภทของห้องสมุด รู้บรกิ ารต่าง ๆ ของห้องสมุดและกจิ กรรม หอ้ งสมุด เข้าใจประวตั หิ ้องสมุดในประเทศไทยและห้องสมุดของสถาบันศึกษา สามารถจัดระบบจดั เกบ็ ทรพั ยากร ได้ถูกตอ้ ง ศึกษาแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ในเร่ืองเศรษฐกจิ พอเพียง เพศศึกษา และสวนพฤกษาศาสตรใ์ น โรงเรยี น รู้ความหมายของวสั ดุตีพมิ พ์ และไม่ตีพิมพ์ สว่ นประกอบของหนงั สือ วธิ ีการบารงุ ดแู ลรกั ษาหนังสือให้ คงสภาพดี รคู้ วามหมายของหนงั สอื อา้ งอิง เขา้ ใจลักษณะของหนงั สืออา้ งองิ เข้าใจประเภทของหนังสืออ้างอิง และวิธีคน้ คว้าจนถึงพฒั นาประสบการณ์เรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 1. เขยี นและอธิบาย ความหมาย วัตถปุ ระสงค์ และความสาคญั ของห้องสมดุ ได้ 2. สามารถเลือกใช้วสั ดุหอ้ งสมดุ ค้นคว้าหาความรไู้ ด้ตามความต้องการ 3. สามารถเลือกหนังสือที่มีคุณภาพดี เอาไว้ศึกษาคน้ ควา้ ได้ 4. สามารถอธิบายจุดมงุ่ หมายสาคัญของระเบียบและมารยาทการใช้ห้องสมุด 5. จดบนั ทึกย่อหลงั จากอา่ นหนังสือเล่มหนึ่งหรอื ตอนหน่ึงได้ 6. นกั เรยี นหาหนงั สอื จากชน้ั ได้ถูกต้อง 7. นักเรียนสามารถเรียงหนงั สือขน้ึ ช้นั ตามหมวดหมู่ได้ถูกต้อง 8. บอกความหมายและลกั ษณะพิเศษของหนังสืออา้ งอิงได้ถูกต้อง 9. สามารถค้นคว้าหาคาตอบจากหนังสอื อ้างองิ ได้ 10. นักเรยี นสามารถเขยี นรายงานการค้นควา้ ได้ถูกต้องตามแบบแผน 11. สามารถเขยี นบันทกึ การอา่ นได้ 12. ค้นหาหนงั สอื สงิ่ พิมพ์ และโสตทศั นวัสดุอน่ื ๆ เพ่อื นามาใช้ประกอบการเขยี นรายงานได้ 13. เขยี นบรรณานกุ รมจากรายชอื่ ที่กาหนดได้ถูกต้อง รวมท้ังหมด 13 ผลการเรียนรู้

ท31202 การใช้ห้องสมุด 2 คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทยช้ัน เวลาเรียน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวน 0.5 หน่วยกิต ห้องสมดุ 2 บรกิ ารและกจิ กรรม ประชาสัมพันธ์ ความหมาย ความสาคัญและประโยชนจ์ ากงานบรกิ าร ตา่ งๆ ของหอ้ งสมุด งานทหี่ อ้ งสมดุ จดั ทาขึน้ เพอ่ื อานวยความสะดวกให้กับผมู้ าใช้บรกิ าร เพราะเปน็ งานท่ี เกยี่ วกับผูใ้ ชบ้ ริการโดยตรงสาหรับงานบรกิ ารของห้องสมุดโรงเรยี น มสี ่วนสาคัญท่ีทาให้นักเรียน และครู- อาจารย์มาใชห้ ้องสมุดมากขนึ้ เป็นการประชาสันพนั ธใ์ หบ้ ุคลากรภายในและภายนอกเห็นความสาคญั ของงาน บริการหอ้ งสมุด ประเภทของงานบริการต่าง ๆ ของห้องสมุด บริการพนื้ ฐาน บริการตอบคาถาม บริการแนะแนว การอา่ น บริการข่าวสารทนั สมยั บริการบรรณานุกรม บรรณนิทศั ฯ บริการแนะนาการใชห้ อ้ งสมุด บริการอื่น ๆ เช่น บรกิ ารห้องสมุดเคลื่อนที่ศาลาเรอื นคา ตะกร้าหนงั สือสหู่ อนอน บริการห้องสมุดนอกเวลา ฯลฯ งานกิจกรรม หอ้ งสมดุ บอกความหมายของกจิ กรรมส่งเสริมความรู้เรอ่ื งการใช้หอ้ งสมุดได้ บอกวัตถุ ประสงคแ์ ละกิจกรรมส่งเสรมิ ความรู้ บอกประเภทและกจิ กรรมสง่ เสรมิ ความรู้ จัดกิจกรรมเกมส่งเสริมความรู้ เรื่องการใชห้ ้องสมดุ ได้ เพื่อสนบั สนนุ และสง่ เสริมให้นกั เรยี นอ่าน และมาใชบ้ รกิ ารห้องสมุดมากข้นึ จงึ จัดทา กิจกรรมดึงดดู ใจในรปู แบบต่าง ๆ เชน่ กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กจิ กรรมสง่ เสริมการใชห้ ้องสมดุ กิจกรรรม ส่งเสริมการเรยี นการสอน กจิ กรรมสง่ เสริมความรู้ทั่วไปและการใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ เปน็ การเปดิ โอกาสให้ นักเรยี นทางานร่วมกัน และช่วยหอ้ งสมุดจดั กจิ กรรมได้อย่างมีหลักเกณฑแ์ ละสนกุ สนาน การประชาสมั พนั ธ์งานห้องสมดุ เป็นวธิ ีการสร้างความสนั พันธ์อันดรี ะหวา่ งผู้ใช้บรกิ ารกับห้องสมุด ด้วย การแนะนา เชิญชวนใหผ้ ู้ใชห้ อ้ งสมดุ มีความรคู้ วามเข้าใจในการดาเนินงานบริการบรกิ ารของห้องสมดุ เห็นคุณคา่ และรู้คุณคา่ และประโยชนข์ องห้องสมุด ผลการเรยี นรู้ 1. ความหมายความสาคญั ของบริการ ประเภทงานบริการ 2. ความหมาย ประเภทของกิจกรรมหอ้ งสมุด 3. ความหมาย วตั ถปุ ระสงค์ ประเภทของงานประชาสัมพันธ์ภายในและภายนอก 4. วธิ ีการประชาสัมพันธห์ ้องสมุด 5. ส่ือประชาสัมพันธ์ รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ค31201 คณติ ศาสตร์เพ่ิมเตมิ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ จัดประสบการณ์หรือสรา้ งสถานการณ์ใกลต้ ัวใหผ้ ้เู รยี นได้ศึกษาค้นควา้ ฝึกทักษะ ปฏิบัติจรงิ สรปุ รายงานผลโดยอาศยั สาระการเรยี นรเู้ ก่ียวกับตรรกศาสตร์เบ้อื งตน้ ประพจน์ การหาคา่ ความจริงของประพจน์ การสร้างตารางคา่ ความจรงิ รูปแบบของประพจนท์ สี่ มมลู กัน การอ้างเหตผุ ล ข้อความท่ีมีตัวบ่งปรมิ าณและค่า ความจริงของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณระบบจานวนจริง จานวนจริง การแก้สมการพหุนามตัวแปรเดียว สมบตั ิ การไม่เทา่ กัน ช่วงและการแก้สมการ ค่าสัมบรู ณ์ การแก้สมการและอสมการในรปู ค่าสมั บูรณ์ เพ่ือพฒั นาความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ ในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งมรี ะบบ มรี ะเบียบวนิ ยั มีความรบั ผิดชอบ รอบคอบ มี วจิ ารณญาณ ใชก้ ารวดั และประเมินผลด้วยวธิ ที ี่หลากหลายเนน้ การประเมนิ ตามสภาพจริง ท้งั ด้านความรู้ ทักษะ/ กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรม ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ผลการเรยี นรู้ 1. หาค่าความจรงิ ของประพจน์ รปู แบบของประพจน์ท่สี มมูลกัน และบอกไดว้ ่าการอา้ งเหตุผลที่กาหนดให้ สมเหตุสมผลหรือไม่ 2. มีความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั ระบบจานวนจริง 3. นาสมบัตติ ่าง ๆ เก่ียวกับจานวนจรงิ การดาเนนิ การไปใช้ได้ 4. แกส้ มการและอสมการพหุนามตัวแปรเดียวดีกรไี มเ่ กนิ สองได้ 5. แกส้ มการและอสมการในรปู ค่าสัมบรู ณ์ได้ รวมทั้งหมด 5 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม ค31202 คณติ ศาสตรเ์ พมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ จัดประสบการณห์ รอื สรา้ งสถานการณ์ใกล้ตวั ใหผ้ เู้ รยี นได้ศึกษา ค้นควา้ ฝึกทักษะ ปฏิบัตจิ ริง สรุป รายงานผลโดยอาศัยสาระการเรยี นร้เู ก่ยี วกับเรขาคณติ วิเคราะห์ ระยะระหวา่ งจุดสองจุด จุดกงึ่ กลางระหวา่ งจุด สองจุด ความชันของเส้นตรง เสน้ ขนาน เสน้ ตง้ั ฉาก ความสมั พันธซ์ ึ่งมีกราฟเปน็ เสน้ ตรง ระยะหา่ งระหวา่ ง เสน้ ตรงกบั จดุ เมทริกซ์และดเี ทอร์มินันต์ สัญลักษณ์ของเมทริกซ์ สมบัติของเมทริกซ์ ดเี ทอร์มนิ นั ต์ และ การแกร้ ะบบสมการเชิงเส้นโดยวิธดี เี ทอรม์ ินนั ต์ หรือโดยวธิ กี ารดาเนินการตามแถวเบอื้ งตน้ เพอ่ื พฒั นาความรู้ ทักษะ/กระบวนการ ในการคดิ คานวณ การแกป้ ัญหา การให้เหตุผล การสื่อ ความหมายทางคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างมีระบบ มรี ะเบียบวินยั มคี วามรับผดิ ชอบ รอบคอบ มี วจิ ารณญาณ ใชก้ ารวดั และประเมนิ ผลด้วยวิธที ี่หลากหลายเน้นการประเมนิ ตามสภาพจริง ทั้งด้านความรู้ ทักษะ/ กระบวนการ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและลักษณะที่พึงประสงค์ ผลการเรียนรู้ 1. หาระยะระหวา่ งจุดสอง จดุ ก่ึงกลาง ระยะห่างระหว่างเสน้ ตรงกับจุดได้ 2. หาความชนั ของเสน้ ตรง สมการเสน้ ตรง เส้นขนาน เส้นต้งั ฉาก และนาไปใช้ได้ 3. เขยี นความสัมพนั ธท์ ีม่ ีกราฟเปน็ ภาคตดั กรวย เมื่อกาหนดส่วนต่าง ๆ ของภาคตัดกรวยให้ และเขยี นกราฟ ของความสัมพันธน์ ้นั ได้ 4. นาความรู้เรอ่ื งการเลอ่ื นแกนทางขนานไปใช้ในการเขียนกราฟได้ 5. นาความร้เู รอ่ื งเรขาคณติ วิเคราะห์ไปใช้แกป้ ญั หาได้ 6. มคี วามคิดรวบยอดเกย่ี วกับเมทรกิ ซ์ และการดาเนินการของเมทริกซ์ 7. หาดีเทอรม์ ินันตข์ องเมทรกิ ซ์ n  n เมอื่ n เป็นจานวนเต็มไม่เกนิ สาม 8. วิเคราะหป์ ละหาคาตอบของระบบสมการเชิงเสน้ ได้ รวมทั้งหมด 8 ผลการเรยี นรู้

ว3024๗ พฤกษศาสตร์ คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ช้นั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ เวลา 20 ช่วั โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษา กาหนดขอบเขตพื้นที่ศึกษา สารวจพรรณไม้ ทาและติดป้ายรหัสประจาต้น บันทึกภาพพรรณไม้ หรือวาดภาพทางพฤกษศาสตร์ ต้ังช่ือหรือสอบถามข้อมูลพรรณไม้ ทาป้ายช่ือพรรณไม้ชั่วคราว ทาผังแสดง ตาแหน่งพรรณไม้ ศึกษาลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ทาตัวอย่างพรรณไม้ เปรียบเทียบข้อมูลกับเอกสาร เรียนรู้ชื่อ ท่ีเป็นสากล ทาทะเบียนพรรณไม้ ตรวจสอบความถูกต้องของทะเบียนพรรณไม้ และจัดทาป้ายชื่อพรรณไม้ สมบูรณ์ เพื่อให้รจู้ ัก รู้ประโยชน์ของพรรณไม้ เรียนรู้พืชพรรณ และสภาพพนื้ ท่ี วิเคราะหพ์ ้ืนที่ พิจารณาคุณ และ สุนทรียภาพพรรณไม้ ทาผังภูมิทัศน์ จัดหาพรรณไม้ ปลูก ดูแลรักษา และออกแบบบันทึกการเปล่ียนแปลง เพื่อให้เห็นคุณ รู้ค่า ของพืชพรรณ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจ ตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและการอภปิ ราย เพอ่ื ใหเ้ กิดความรคู้ วามคิดความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารสงิ่ ที่เรียนรู้ มี ความสามารถในการตัดสินใจ นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรมและ ค่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. มีการจัดทาป้ายชอ่ื พรรณไม้โดย กาหนดพื้นทศี่ กึ ษาสารวจพรรณไมใ้ นพน้ื ท่ศี ึกษา ทาและติดปา้ ยรหัสประจา ต้นต้ังชอื่ หรอื สอบถามช่ือ และศกึ ษาข้อมลู พนื้ บ้าน (ก7-003 หนา้ 1) ทาผงั แสดงตาแหนง่ พรรณไมศ้ ึกษา และบันทึกลักษณะทางพฤกษศาสตร์ (ก.7-003 หนา้ 2-7)บันทึกภาพหรือวาดภาพทางพฤกษศาสตร์ทา ตวั อย่างพรรณไม้(แห้ง/ ดอง/ เฉพาะสว่ น)เปรยี บเทยี บข้อมูลทสี่ รปุ (ก.7-003 หนา้ 8) กับข้อมูลท่ีสืบค้น จากเอกสาร แลว้ บนั ทึกใน ก.7-003 หนา้ 9 – 10จัดระบบขอ้ มลู ทะเบียนพรรณไม้ (ก.7-005) ทาร่าง ป้ายชอื่ พรรณไม้สมบรู ณ์ ตรวจสอบความถูกต้องทางวชิ าการด้านพฤกษศาสตร์ ทาป้ายชอื่ พรรณไมส้ มบูรณ์ ๒. มกี ารรวบรวมพรรณไมเ้ ขา้ มาปลกู ในโรงเรียนโดยศึกษาข้อมูลจากผงั พรรณไม้เดมิ และศึกษาธรรมชาตขิ อง พรรณไมส้ ารวจ ศึกษา วเิ คราะห์สภาพพน้ื ท่พี จิ ารณาคุณ และสนุ ทรยี ภาพของพรรณไม้กาหนดการใช้ ประโยชนใ์ นพื้นที่กาหนดชนิดพรรณไมท้ ่ีจะปลูกทาผังภูมิทัศนจ์ ัดหาพรรณไม้ วสั ดุปลกู ปลูก และดูแลรกั ษา ศกึ ษาคุณ ประโยชน์ของพืชพรรณทีป่ ลูก ออกแบบบนั ทึกการเปลีย่ นแปลง รวมท้ังหมด ๒ ผลการเรยี นรู้

ว30248 พฤกษศาสตร์ คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เวลา 20 ช่วั โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษา วิเคราะห์เห็นความต่างรู้ความหลายหลากการนาทรัพยากรธรรมชาติมาเป็นปัจจัยในการเรียนรู้ โดยการใช้ปัจจัยหลายปัจจัยในชนิดเดียวกันหรือต่างชนิดกันเพ่ือให้เห็นความต่างเมื่อเห็นความต่างก็จะเกิด จินตนาการอันจะนาไปสู่การใช้ประโยชน์ในงานแต่ละด้านรวบรวมผลการเรียนรู้วิเคราะ ห์เรียบเรียงสาระจัด ระเบียบข้อมูลสาระแต่ละด้านจัดลาดับสาระหรือกลุ่มสาระเรียนรู้รูปแบบการเขียนรายงานวิธีการรายงานผลใน รูปแบบต่างๆเพ่ือสื่อผลการเรียนรู้อย่างเป็นระบบการเผยแพร่องค์ความรู้ การสร้างการใช้การดูแลรักษาและ พฒั นาแหล่งเรียนรเู้ พ่ือการใชป้ ระโยชนอ์ งคค์ วามรู้ในวงกว้างโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหา ความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ความคิดความเข้าใจ สามารถ สือ่ สารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ นาความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั มีจิตวทิ ยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านยิ มทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาพรรณไมใ้ นสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน(ก.7-003)ครบตามทะเบยี นพรรณไม้ 2. ศึกษาพรรณไม้ทส่ี นใจ โดยศึกษาลกั ษณะภายนอกภายในของพืชแต่ละสว่ นโดยละเอยี ด กาหนดเรอ่ื งที่ จะเรียนรูใ้ นแต่ละสว่ นของพืช เรียนรูแ้ ตล่ ะเรือ่ งแตล่ ะสว่ นขององคป์ ระกอบย่อย โดยนาขอ้ มลู มา เปรียบเทยี บความต่างในแต่ละเรอ่ื งในชนดิ เดยี วกนั 3. มกี ารเผยแพร่องคค์ วามรูจ้ ากการศึกษาพรรณไม้ท่ีสนใจ 4. มกี ารจดั แสดงนิทรรศการ ประกอบบรรยายสรปุ จัดนทิ รรศการเฉพาะเรื่อง/ประเภท 5. มกี ารจัดสร้างแหลง่ เรยี นรู้การจัดแสดงพิพธิ ภัณฑ์ การจดั แสดงพิพิธภัณฑเ์ ฉพาะเร่อื ง การจดั แสดง พิพธิ ภณั ฑ์ธรรมชาตวิ ทิ ยา รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ส31201 พระพทุ ธศาสนา กล่มุ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ …………………………………………………….......................……………………………………………………………………………… ศึกษาในเรื่องสังคมชมพทู วปี และคติความเชอ่ื ทางศาสนาสมัยก่อนพระพุทธเจ้า พระพทุ ธเจา้ ในฐานะเป็น มนุษย์ผ้ฝู กึ ตนไดอ้ ยา่ งสูงสุดในการตรสั รู้ การก่อตั้ง วิธีการสอน และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา วเิ คราะหเ์ ร่ือง พุทธประวตั ิด้านการบรหิ ารและการธารงรักษาศาสนา รวมท้ังข้อปฏบิ ตั ทิ างสายกลางในพระพทุ ธศาสนา วเิ คราะห์การพัฒนาศรัทธาและปัญญาท่ีถกู ตอ้ งในพระพุทธศาสนา รวมทัง้ ความสาคญั ของ พระพทุ ธศาสนาเกี่ยวกบั การศกึ ษาท่ีสมบรู ณ์ การเมืองและสันติภาพ วิเคราะหห์ ลักธรรมในกรอบอรยิ สจั 4 ข้อคิดและแบบอยา่ งการดาเนินชวี ติ จากประวตั ิสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง ตามที่กาหนด วเิ คราะหค์ ุณคา่ และความสาคัญของการสังคายนาพระไตรปิฎก เหน็ คุณคา่ เชอ่ื มัน่ และมุ่งมัน่ พัฒนาชีวิตด้วยการ พฒั นาจิตและพฒั นาการเรียนรู้ด้วยวธิ ีคดิ แบบโยนิโสมนสิการหรอื การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตนเปน็ ศาสนิกชนทดี่ ตี ่อสาวก สมาชิกในครอบครวั และคนรอบขา้ ง ปฏิบัติตนถกู ตอ้ งตาม ศาสนพิธีและการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ วเิ คราะห์หลกั ธรรม คติธรรมทีเ่ กยี่ วเน่ืองกบั วันสาคญั ทางศาสนาและ เทศกาลท่สี าคัญและปฏิบตั ิตนไดถ้ ูกต้อง รวมทงั้ วิเคราะห์สัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธารงรกั ษาศาสนา ทตี่ นนบั ถือ อันสง่ ผลถึงการพัฒนาตน พัฒนาชาติและโลก ผลการเรียนรู้ ๑. วิเคราะห์สงั คมชมพทู วปี และคติความเชอ่ื ทางศาสนาสมยั ก่อนพระพุทธเจา้ หรอื สังคมสมัยของศาสดาท่ี ตนนับถือ ๒. วิเคราะห์พระพุทธเจ้าในฐานะเป็นมนษุ ย์ผฝู้ ึกตนได้อย่างสูงสุดในการตรสั รู้ การก่อตัง้ วิธีการสอนและการ เผยแผ่พระพทุ ธศาสนาหรือวเิ คราะหป์ ระวัตศิ าสดาท่ีตนนบั ถอื ตามที่กาหนด ๓. วเิ คราะห์พุทธประวัติดา้ นการบรหิ ารและการธารงรักษาศาสนา หรอื วเิ คราะหป์ ระวตั ศิ าสดาท่ีตนนับถือ ตามท่ีกาหนด ๔. วิเคราะหข์ ้อปฏบิ ัติทางสายกลางในพระพุทธศาสนา หรอื แนวคดิ ของศาสนาที่ตนนบั ถือตามทก่ี าหนด ๕. รู้และเขา้ ใจหลักธรรมพระพุทธศาสนา ไดแ้ ก่ พระรตั นตรัย อรยิ สจั ๔ ภาษาบาลี พทุ ธศาสนาสุภาษติ พระไตรปฏิ กและคาศัพท์ทางพระพุทธศาสนา นาไปปฏบิ ัติใชใ้ นชวี ิตประจาวัน ๖. รหู้ นา้ ทช่ี าวพุทธ มรรยาทชาวพทุ ธ ชาวพทุ ธตัวอย่าง ปฏบิ ตั ิตนต่อพระสงฆ์ สามเณร ทางกาย วาจา ใจ ๗. รู้และเขา้ ใจ การนาวิธบี ริหารจติ และเจรญิ ปัญญาไปใชใ้ นการพัฒนาการเรยี นรู้ คุณภาพชวี ติ และสังคม ๘. รู้และเข้าใจการปฏบิ ัติตนในวันสาคัญทางพระพุทธศาสนาและเทศกาลสาคัญ ๙. สัมมนาพระพุทธศาสนาเพ่ือการแกป้ ญั หาและพฒั นาสงั คมได้ รวมท้ังหมด 9 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม ส ๓๑๒๐๓ อาเซียนศึกษา 1 กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา สืบค้น และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับอาเซียนในเรื่องกาเนิดอาเซียน สมาชิกอาเซียน สัญลักษณ์ อาเซียน ธงอาเซียน คาขวัญของอาเซียน เพลงประจาอาเซยี น ภาษาอาเซียน ปฏญิ ญาอาเซียน วิสัยทัศน์อาเซียน กฎบัตรอาเซียน ประเทศสมาชิกอาเซียนในเร่ืองธงชาติและตราประจาแผน่ ดินของประเทศสมาชิกอาเซียนแต่ละ ประเทศ สภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัติความเป็นมา การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับไทย ภูมิหลังประชาคมอาเซียน สาเหตุ ความจาเป็นที่ต้องมีหรือจัดต้ังประชาคม อาเซียน และเปา้ หมายของการจดั ต้งั ประชาคมอาเซยี น โดยใช้ทักษะการส่ือสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการ สังคม การนาเสนอข้อมลู และวิธีการทางประวัตศิ าสตร์ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ คิดวิเคราะห์ สร้างองค์ความรู้ใหม่ ตระหนัก เห็นคุณค่า มีความภาคภูมิใจ ในความเป็นไทยและความเปน็ อาเซยี น ร่วมกันรับผิดชอบต่อประชาคมอาเซียน มีวิถีชีวิตประชาธิปไตย ยึดมนั่ ใน หลักธรรมาภิบาล สันติวธิ ี/สันติธรรม ยอมรับความแตกต่างในการนับถอื ศาสนา และดาเนินชีวติ ตามหลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพยี ง ผลการเรยี นรู้ 1. รู้และเข้าใจเก่ียวกับสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ ลักษณะการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและ วัฒนธรรมของประเทศสมาชิกอาเซียน 2. วเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งและความคลา้ ยคลึงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซยี นในดา้ นต่าง ๆ 3. ร้แู ละเข้าใจเก่ียวกบั ความเปน็ มาของอาเซียน โครงสร้างและความร่วมมอื ของอาเซียนในดา้ นตา่ ง ๆรู้ 4. และเขา้ ใจเกี่ยวกบั จุดมุ่งหมายของประชาคมอาเซียนและกฎบตั รอาเซียน รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ส31202 พระพุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชั่วโมงจานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ ฝกึ ปฏบิ ตั ิ สรา้ งความคิดรอบยอด นาภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น สภาพปัญหาชีวิต สภาพแวดลอ้ ม เข้ามาเปน็ สว่ นหน่งึ ของกระบวนการเรยี นรู้ เพือ่ ให้มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจ ตระหนกั และเห็นคณุ คา่ ในเรือ่ งพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ เพอ่ื ให้เกดิ ศรัทธาอย่างย่ิงต่อพระรตั นตรัย และรกั การเรยี นรูพ้ ระพทุ ธศาสนา ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตนเปน็ พทุ ธศาสนิกชนที่ดีมีคุณธรรม จรยิ ธรรมในการอยรู่ ่วมกันในสังคม และสามารถนาหลักธรรมไปใช้เปน็ เคร่อื งมือในการเรียนรู้ การทางานอย่างมคี ุณคา่ ต่อชวี ติ ตนเองและสังคมโดยส่วนรวม ปฏิบัติตนเปน็ ศาสนกิ ชนทดี่ ตี ่อสาวก สมาชิกในครอบครัว และคนรอบขา้ ง ปฏบิ ัตติ นถกู ต้องตาม ศาสนพธิ แี ละการแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ วเิ คราะหห์ ลกั ธรรม คติธรรมท่ีเกยี่ วเนื่องกบั วันสาคญั ทางศาสนาและ เทศกาลท่สี าคญั และปฏบิ ัตติ นได้ถูกตอ้ ง รวมทงั้ วิเคราะหส์ มั มนาและเสนอแนะแนวทางในการธารงรักษาศาสนา ทีต่ นนับถือ อนั ส่งผลถึงการพัฒนาตน พัฒนาชาติและโลก ผลการเรยี นรู้ 1. รู้และเขา้ ใจเก่ยี วกบั ประวัติความสาคัญของพระพทุ ธศาสนา 2. รแู้ ละเขา้ ใจพทุ ธประวตั ิ และคณุ ธรรมของพุทธสาวก พุทธสาวกิ าและชาวพทุ ธตวั อย่าง 3. เหน็ คุณคา่ และความสาคัญของหลักธรรม สามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ 4. ร้แู ละเขา้ ใจเก่ยี วกับตัวอักษรในภาษาบาลี สามารถอา่ นภาษาบาลไี ด้อย่างถูกต้อง 5. รู้และเขา้ ใจ เห็นคณุ ค่าและความสาคญั ของการบริหารจติ และการเจรญิ ปัญญา 6. รแู้ ละเข้าใจบทบาทหน้าทข่ี องพระสงฆ์อย่างถกู ตอ้ ง เกดิ ความศรัทธาเลือ่ มใสในพระสงฆ์ 7. วิเคราะหห์ นา้ ท่ชี าวพุทธและกาหนดแนวทางในการปฏิบัติตนตอ่ สงั คมได้อยา่ งเหมาะสม 8. ปฏบิ ัติตนในศาสนพธิ ีและวันสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม รวมทั้งหมด 8 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ พ3๑20๑ วอลเลยบ์ อล กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา 20 ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หนว่ ยกิต การเคล่ือนไหวอยา่ งสรา้ งสรรค์ เครอื ข่ายการออกกาลงั กายและการเล่นกฬี านนั ทนาการ การเลน่ กฬี า ไทยหรอื สากล การวางแผนการออกกาลังกายและเลน่ กีฬาเพอื่ พัฒนาบคุ ลิกภาพและสมรรถภาพของตนเอง การ เลน่ กฬี าเป็นประจาสมา่ เสมอ การสร้างวิถชี ีวิตที่มสี ขุ ภาพดีตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักการและวธิ ี ประยกุ ต์การรกุ และการป้องกันในการเล่นและแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลความรู้เกีย่ วกบั สทิ ธิ กฎ กตกิ า ความ ปลอดภัย การใหค้ วามรว่ มมอื ในการเลน่ การแขง่ ขนั และในระหวา่ งการเข้ารว่ มกจิ กรรมทางกาย ความมีนา้ ใจ นกั กฬี า มีจิตวิญญาณและมสี ุนทรียภาพในการเล่น การแข่งขันกีฬา และมีมารยาทในการดูกฬี าบาสเกตบอล โดยนากระบวนกลมุ่ การปฏบิ ตั ิ และทกั ษะทางกลไกการเคล่อื นไหวมาใชใ้ นการออกกาลังกาย การเลน่ กีฬา และกจิ กรรมนนั ทนาการ การสร้างเสรมิ สมรรถภาพทางกาย เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ มี มารยาทในการดกู ารเล่นและการแข่งขันดว้ ยความมีน้าใจนักกีฬา สามารถเล่นกฬี า และสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพ ได้อย่างถกู ต้องสม่าเสมอด้วยความช่นื ชมและสนุกสนาน เหน็ คณุ ค่าของการนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ในชวี ิตประจาวนั มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านิยมทเี่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. ทราบประวตั ิกีฬาวอลเลย์บอล กฎ และกฏกิ าวอลเลย์บอล ๒. ฝกึ ทกั ษะการเคลื่อนไหวในกีฬาวอลเลยบ์ อล ๓. เรียนรทู้ กั ษะการเล่นลกู สองมือล่าง ๔. เรยี นรทู้ ักษะการเล่นลกู สองมือบน ๕. เรียนรูท้ กั ษะการโตล้ ูก ๖. เรยี นรูท้ กั ษะการเสิร์ฟลูกมือบน –มอื ลา่ ง ๗. เรียนรทู้ ักษะการเลน่ ทมี รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ พ3๑20๒ รักบฟี้ ตุ บอล กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา 20 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หน่วยกิต การเคลอื่ นไหวอยา่ งสร้างสรรค์ เครอื ขา่ ยการออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬานันทนาการ การเลน่ กีฬา ไทยหรอื สากล การวางแผนการออกกาลังกายและเล่นกีฬาเพอ่ื พฒั นาบุคลิกภาพและสมรรถภาพของตนเอง การ เล่นกีฬาเป็นประจาสมา่ เสมอ การสร้างวิถีชีวติ ที่มสี ุขภาพดีตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักการและวิธี ประยกุ ต์การรุกและการป้องกันในการเล่นและแขง่ ขันกีฬารักบีฟ้ ตุ บอล ความรูเ้ กย่ี วกับสิทธิ กฎ กติกา ความ ปลอดภัย การให้ความร่วมมอื ในการเลน่ การแขง่ ขนั และในระหวา่ งการเข้ารว่ มกิจกรรมทางกาย ความมีนา้ ใจ นกั กีฬา มีจิตวญิ ญาณและมีสุนทรยี ภาพในการเล่น การแข่งขันกีฬา และมีมารยาทในการดูกีฬารักบ้ีฟุตบอล โดยนากระบวนกลมุ่ การปฏบิ ตั ิ และทักษะทางกลไกการเคล่อื นไหวมาใช้ในการออกกาลังกาย การเลน่ กีฬา และกิจกรรมนนั ทนาการ การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ มีมารยาทในการดูการเล่นและการแข่งขันด้วยความมนี า้ ใจนกั กฬี า สามารถเลน่ กีฬา และสรา้ งเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ ได้อย่างถูกต้องสม่าเสมอด้วยความชน่ื ชมและสนกุ สนาน เห็นคุณค่าของการนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ในชีวติ ประจาวัน มีคุณธรรมจรยิ ธรรม ค่านิยมทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ทราบประวตั ิกีฬารกั บี้ฟุตบอล และกฎกติกา ๒. ฝึกทกั ษะการเคล่ือนไหวกีฬารักบฟ้ี ตุ บอล ๓. ทกั ษะการส่งลูกรกั บ้ีฟตุ บอล ๔. เรยี นรกู้ ารเข้าสกรัมท่ีถูกต้อง ๕. เรียนรู้การแท็กเกิลท่ีถูกต้อง ๖. เรยี นรู้การทารคั การทามอลท่ีถกู ต้อง ๗. เรยี นรกู้ ารทารายเอาท์ที่ถกู ต้อง ๘. เรียนรู้ทกั ษะการเลน่ ทมี กีฬารักบี้ฟตุ บอล รวมทั้งหมด ๘ ผลการเรยี นรู้

พ3๑20๔ เพศศกึ ษา ๔ คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา เวลา 20 ชัว่ โมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาวิเคราะห์สื่อและอทิ ธพิ ลของสอ่ื ทม่ี ีต่อภาพลักษณ์และการใช้ชีวิตของวยั รุ่น อธบิ าย ความแตกตา่ งของแตล่ ะแนวคดิ ในการจาแนก “เพศ” และผลกระทบของอคติทางเพศ ท่ีมตี อ่ การตัดสนิ คุณค่า ของมนุษย์ การแสดงออกซึ่งการเคารพ ให้เกยี รติซงึ่ กันและกัน อารมณ์และความต้องการทางเพศและวธิ ีจัดการ อารมณ์เพศท่ีปลอดภัยสาหรับวัยรนุ่ บอกโอกาสทจ่ี ะนาไปสู่การมเี พศสัมพันธบ์ นเงอ่ื นไขชวี ติ วยั รุน่ ในปัจจบุ นั ข้อดีข้อเสยี ของแต่ละทางเลือกในการตัดสนิ ใจเรอ่ื งสัมพนั ธ์ภาพทางเพศของวยั รุน่ ระบุผลท่ตี ามมาหากมี เพศสมั พนั ธโ์ ดยไม่พรอ้ ม วธิ ปี ้องกนั การตัง้ ครรภ์ท่ีไม่พร้อม ความเหมือนและความแตกต่างของการติดเช้ือเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธอ์ น่ื ๆ และวิธสี ังเกตอาการ และวิธกี ารรกั ษาโรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์ ผลกระทบ ของความคิดเห็นท่ีหลากหลายของสังคมต่อการจัดบริการอุปกรณ์คุมกาเนดิ และ การป้องกนั ใหว้ ยั รุ่น แหล่งบริการท่วี ัยรุ่นสามารถขอขอ้ มลู และอุปกรณเ์ พ่อื การป้องกนั คา่ นิยมและการอบรมสง่ั สอนของสังคมทเี่ กย่ี วกับความสัมพันธ์ในชว่ งวัยรุ่น และผลของค่านิยมและการอบรมดังกล่าวตอ่ พฤตกิ รรมของ วัยรุน่ ความเหมอื นและความตา่ งทางความคิดของชายและหญงิ เก่ยี วกับพฤติกรรมทางเพศ ค่านยิ มในสังคมท่ี สง่ ผลต่อโอกาสเสี่ยงและเปน็ อุปสรรคในการป้องกนั ตนเองของหญิงชาย และระบสุ าเหตุท่ีทาใหค้ นสองคนเขา้ ใจ ตา่ งกันในเร่ืองเดียวกัน บอกสถานการณ์หรือการแสดงออกทอ่ี าจนาไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ไดต้ ั้งใจ การแก้ไข ปัญหาเมื่อผดิ หวังในความรกั รปู แบบการใชค้ วามรุนแรงที่อาจเกิดขน้ึ ในความสัมพันธ์ใกล้ชิดของคนสองคน วิธี จัดการหรือแกป้ ญั หาหากเผชิญกบั การใช้ความรนุ แรงทางเพศ บอกสาเหตุของอคติ การเลอื กปฏิบตั ิ หรือการ รงั เกียจ ตอ่ คนบางกลุ่มในสงั คม เชน่ คนรักเพศเดยี วกนั คนตดิ เชื้อเอชไอวี คนใชย้ าเสพติด ฯลฯ และปจั จัยที่ จะชว่ ยให้เกิดการยอมรับความหลากหลายของคนในสงั คมโดยไมด่ ่วนตดั สนิ คุณคา่ โดยนากระบวน การสืบค้นขอ้ มลู การอภิปราย กระบวนการกลุ่ม แสดงบทบาทสมมุติ กระบวนการ เรียนรู้ผา่ นประสบการณ์ เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ แสดงออกถึงความรักความเอื้ออาทร ความเขา้ ใจใน อิทธิพลของครอบครวั เพ่ือน สังคม และวฒั นธรรมท่ีมีตอ่ พฤตกิ รรม ทางเพศ การดาเนินชีวติ และวิถีชวี ติ ทีม่ สี ขุ ภาพดี เห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในชีวติ ประจาวัน มีคุณธรรมจริยธรรม คา่ นยิ มท่ีเหมาะสม

ผลการเรยี นรู้ ๑. สามารถอธบิ ายอทิ ธิพลของครอบครัว เพ่ือน สงั คม และวัฒนธรรมทม่ี ีต่อพฤติกรรมต่อการใชช้ วี ติ ของวัยรนุ่ ๒. สามารถวเิ คราะห์ อธิบายสถานการณ์หรอื การแสดงออกท่ีอาจนาไปสกู่ ารมีเพศสัมพนั ธท์ ี่ไม่ไดต้ ้งั ใจ พรอ้ มแนวทางในการแก้ไขปัญหา ๓. มีความรู้ และเขา้ ใจเกย่ี วกบั ผลกระทบจากการมเี พศสมั พันธ์ ต่อตนเองและครอบครัว ๔. มคี วามรู้ และเข้าใจโรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์พรอ้ มแนวทางการแก้ไข ๕. สามารถระบผุ ลทต่ี ามมาหากมเี พศสัมพนั ธโ์ ดยไม่พร้อม วธิ ปี ้องกันการต้ังครรภท์ ่ไี ม่พร้อม ๖. อธบิ ายความแตกต่างของแต่ละแนวคิดในการจาแนก “เพศ” และผลกระทบของอคติทางเพศ ท่ีมี ตอ่ การตัดสนิ คณุ ค่าของมนุษย์ ๗. วิเคราะห์สอ่ื และอิทธพิ ลของส่ือทม่ี ีต่อภาพลักษณแ์ ละการใชช้ ีวิตของวยั รุ่น รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม ศ31201 – ศ31202 ดนตรีสากลตามความถนัด 1 -2 กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ช่วั โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาทฤษฎีการดนตรี หลักการฝกึ หดั เบื้องตน้ หลักการฟังดนตรี ศพั ทส์ งั คีต และหลักการใชเ้ ครอ่ื ง ดนตรี ฝกึ ปฏิบัติเครือ่ งดนตรีสากลที่ถนดั และมีทักษะในการบรรเลงดนตรสี ากลทีถ่ นัดได้อย่างถูกต้อง ไพเราะ เพลดิ เพลิน หลากหลายรปู แบบ สามารถจัดแสดงดนตรีเป็นครัง้ คราว ดูแลเก็บรักษาเครอื่ งดนตรีได้อยา่ งถูกต้อง เพอ่ื ให้มีความรู้ความเขา้ ใจ เหน็ คณุ ค่า สามารถบรรเลงดนตรตี ามความถนัดตามโนต้ ท้งั เด่ยี วและเป้นก ลุ่ม มีวินัย ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น มุ่งมนั่ ในการทางาน ปฏบิ ตั งิ านสรา้ งสรรค์งานแสดงดนตรีอยา่ งชืน่ ชมและเหน็ คณุ คา่ ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถอธิบายถึงทฤษฎโี น้ตสากลในการปฏิบัติและบรรเลงดนตรีได้ 2. อธิบายถึงศพั ทส์ งั คตี ท่ีใชใ้ นการบรรเลงดนตรีสากลได้ 3. สามารถเลอื กปฏิบัตเิ ครื่องดนตรีสากลตามความถนัดได้ 1 ชน้ิ 4. นกั เรยี นสามารถฝกึ ทักษะเบ้อื งตน้ และบรรเลงเครื่องดนตรสี ากลทถี่ นัดได้ 5. สามารถบรรเลงดนตรีตามเพลงทก่ี าหนด และเพลงเลือกได้ 6. นักเรียนสามารถเขา้ ร่วมร่วมจดั การแสดงดนตรีท้ังเดี่ยวและวงได้ 7. นักเรยี นรูถ้ ึงวิธีการดูแล บารุงรักษาเครือ่ งดนตรไี ด้อยา่ งถูกต้อง รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม ศ31203,ศ31204 ดนตรีไทยปฏบิ ัตติ ามความถนัด 1 -2 กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ภาคเรียน จานวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษาทฤษฎีการดนตรี หลักการฝกึ หดั เบ้ืองต้น หลกั การฟังดนตรี ศพั ทส์ งั คีตและหลกั การใช้เคร่ือง ดนตรี ฝึกปฏิบตั ิทฤษฎีการดนตรีไทยท่ีถนัด ประวตั เิ พลง การดแู ลรกั ษาเคร่ืองดนตรี ฝึกปฏิบัตเิ ครื่องดนตรี ไทยอย่างนอ้ ย 1 ชน้ิ ฝึกบรรเลงเพลงอัตรา ชั้นเดยี วสองชน้ั และเพลงเถา ฝึกบรรเลงทงั้ เด่ียวและกลุ่ม จดั การ แสดงเป็นครัง้ คราว เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ มีวินัย ใฝร่ ้ใู ฝ่เรยี น มุ่งม่นั ในการทางาน และมีทักษะเกี่ยวกบั การบรรเลง ดนตรไี ทยท่ีถนดั ได้อย่างถกู ต้อง ไพเราะ เพลดิ เพลนิ นาภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ มาผสมผสานได้อยา่ งกลมกลนื มี ความสขุ ในการเรยี นและเกดิ ความช่ืนชมเห็นคุณค่าในความเปน็ ไทย แหนหวงศิลปะประจาชาติและมุ่งอนรุ ักษ์ ใหม้ ีสืบต่อไป ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถอธบิ ายถึงโน้ตเพลงไทย โน้ตเพลงสากลได้ 2. บอกถึงหลักการอ่านโน้ตเพลงไทย เพลงสากลได้ 3. นกั เรยี นสามารถอธบิ ายถึงหลักการฟังดนตรีไทยและการปฏบิ ัตติ นได้ 4. อธิบายถึงประวัติของเพลงท่บี รรเลงและความสาคญั ได้ 5. สามารถเลอื กปฏบิ ัติเคร่ืองดนตรีไทยไดอ้ ย่างน้อย 1 ชน้ิ 6. สามารถบรรเลงเครอ่ื งดนตรีไทยในอตั ราจงั หวะชนั้ เดยี วได้ 7. สามารถบรรเลงเครื่องดนตรไี ทยในอตั ราจังหวะสองชั้นและเพลงเถาได้ 8. นักเรียนรว่ มจดั การแสดงดนตรไี ทยเบื้องต้นได้ 9. นกั เรียนรู้ถงึ วิธกี ารดูแล บารงุ รักษาเคร่ืองดนตรไี ทยได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งหมด 9 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเติม ศ31205 – ศ31206 ช่างเขียนการต์ นู 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชวั่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษาหลักและวธิ ีการเขยี นภาพการต์ ูน การใช้เสน้ สี รปู ร่างและรปู ทรง การจดั ภาพและการเขยี น ภาพการ์ตูนประกอบเรื่อง ฝึกปฏบิ ตั ิการเขียนภาพการต์ ูนตามรปู แบบและจินตนาการเขียนภาพการ์ตนู ประกอบ เร่ือง สร้างสรรคง์ านด้วยเทคนคิ ท่นี ่าสนใจ เปรยี บเทียบผลงานของตนเองและของผู้อื่นด้วยเกณฑง์ ่าย ๆ เพ่ือ นามาปรับปรุงผลงานตนเอง เพอ่ื ให้มีความรู้ความเข้าใจ ชน่ื ชม มวี ินยั ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น มุง่ มัน่ ในการทางาน มีทกั ษะและเห็นคณุ ค่า ในการเขียนภาพการ์ตูน ตามรปู แบบ ตามจนิ ตนาการและการเขยี นภาพการต์ ูนประกอบเรื่อง สามารถนามา ประยุกตใ์ ชใ้ ห้เกดิ ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั เพ่อื ใหม้ คี วามรคู้ วามเข้าใจ มีวนิ ัย ใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น มงุ่ ม่ันในการทางาน สามารถแสดงผลงานตาม ความคดิ และสรา้ งสรรค์งานเป็นขั้นตอน ทางานระบบกล่มุ ระบบทีม อย่างเปน็ ขบวนการคิด สรา้ งปฏิบตั งิ าน รว่ มกนั ได้ อย่างมีความสุข ประหยดั ปลอดภัยและได้ช้นิ งานท่สี มบูรณ์นาไปใช้ประโยชน์ได้ ผลการเรียนรู้ ๑. มีความร้คู วามเขา้ ใจในการเขียนภาพการต์ ูน การใช้เส้น สี รูปร่างและรปู ทรง การจัดภาพและการเขียน ภาพการต์ นู ประกอบเรอ่ื ง ๒. มีทกั ษะในการเขียนภาพการ์ตูนตามรปู แบบและจินตนาการเขียนภาพการต์ ูนประกอบเร่ืองสร้างสรรค์ งานดว้ ยเทคนิคทนี่ ่าสนใจ ๓. บอกหลักและวธิ ีการเขียนภาพการ์ตนู การใช้เสน้ สี รปู ร่างและรูปทรง การจัดภาพและการเขียนภาพ การต์ ูนประกอบเร่ืองอย่างถกู ตอ้ ง ๔. ฝกึ ปฏิบัตกิ ารเขยี นภาพการต์ ูนโดยการใชเ้ ส้น สี รูปรา่ งและรูปทรงตามจินตนาการและการเขียนภาพ การ์ตูนประกอบเร่ืองสามารถนามาประยุกต์ใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในชีวิตประจาวนั ได้ ๕. สามารถแสดงผลงานตามความคิดและสร้างสรรคง์ านเปน็ ข้ันตอนทางานระบบกลมุ่ ระบบทีมอย่างเปน็ ขบวนการคิด สรา้ งปฏบิ ัติงานร่วมกันได้ อย่างมีความสขุ ๖. มีวินัย ใฝ่รูใ้ ฝเ่ รยี น มุ่งมั่นในการทางาน และเห็นคณุ คา่ ในการเขียนภาพการต์ นู ตามรูปแบบประหยดั ปลอดภยั และได้ชนิ้ งานทส่ี มบูรณน์ าไปใช้ประโยชนไ์ ด้ ๗. เปรียบเทียบผลงานของตนเองและของผู้อ่นื ด้วยเกณฑ์งา่ ย ๆ เพือ่ นามาปรับปรุงผลงานตนเองได้ รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ ศ31207- ศ31208 โครงงานศิลปะ1 -2 กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ช่ัวโมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษาหลักการและวิธกี ารเกย่ี วกบั โครงงานศิลปะ วิเคราะห์วางแผนลงมือผลติ ชิ้นงานและ เพื่อให้ ทางานได้อย่างถกู ต้องตามขบวนการ ประหยดั ปลอดภัย มคี วามพอเพียงและนาชิ้นงานไปใชเ้ ปน็ ประโยชน์ได้ใน ชีวิตประจาวันและสังคมในท้องถนิ่ ประเมนิ และเปรียบเทียบผลผลิตช้ินงานของตนเองและผอู้ ืน่ เพ่ือนามา ปรับปรงุ ผลงานและการทางานเปน็ ทีมสมั พันธไ์ ดก้ บั สาระการเรยี นรู้หลายกลมุ่ สาระ เพ่ือใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจ มีวินัย ใฝ่รู้ใฝ่เรยี น มงุ่ มนั่ ในการทางาน สามารถแสดงผลงานตาม ความคิดและสร้างสรรค์งานเปน็ ข้นั ตอน ทางานระบบกลมุ่ ระบบทมี อยา่ งเปน็ ขบวนการคิด สรา้ งปฏิบตั ิงาน ร่วมกันได้ อย่างมีความสขุ ประหยดั ปลอดภัยและไดช้ ้ินงานท่ีสมบูรณน์ าไปใช้ประโยชน์ได้ ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกบั โครงงานศลิ ปะในเร่ือง หลักการและวธิ ีการเกย่ี วกับโครงงานศิลปะ ๒. การวิเคราะหว์ างแผนลงมอื ผลิตชนิ้ งานและปรบั ปรงุ การทางานตามความคดิ และสรา้ งสรรคง์ านอยา่ ง เปน็ ขั้นตอน ๓. นักเรยี นสามารถอธิบายและเขียนโครงงานไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การและวิธกี ารเก่ียวกบั โครงงาน ศลิ ปะ ๔. นกั เรียนสามารถวิเคราะห์วางแผนลงมอื ผลิตชน้ิ งานและปรับปรุงการทางานได้อย่างถกู ต้องตาม ขบวนการ ประหยัด อยูอ่ ยา่ งพอเพยี งและปลอดภัย ๕. นักเรยี นมีทักษะการผลิตชนิ้ งานได้อย่างถูกตอ้ งและสวยงาม สามารถนาชน้ิ งานไปใชเ้ ปน็ ประโยชน์ ได้ในชวี ติ ประจาวันและสังคมในท้องถน่ิ ๖. นกั เรียนสามารถประเมินและเปรยี บเทยี บผลผลติ ชน้ิ งานของตนเองและผู้อ่นื เพือ่ นามาปรบั ปรุง ผลงานได้ ๗. นักเรียนสามารถทางานเป็นทีมสมั พนั ธ์ได้กับสาระการเรียนรู้หลายกลุ่มสาระ ๘. นกั เรียนมวี นิ ัย ใฝร่ ใู้ ฝ่เรียน มุ่งมัน่ ในการทางานอย่างเปน็ ขน้ั ตอน ทั้งการทางานระบบกลุม่ ระบบทีม อยา่ งเปน็ ขบวนการคดิ สร้างปฏิบตั ิงานร่วมกันได้ อยา่ งมีความสขุ ๙. นักเรยี นมีความชน่ื ชมเห็นคุณคา่ และภาคภูมิใจ ในผลงานท้ังของตนและผู้อนื่ ๑๐.นกั เรียนมีความตระหนักทจ่ี ะถ่ายทอดและสร้างสรรค์งานได้อย่างชื่นชมนา่ สนใจ รวมทั้งหมด ๑๐ ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ศ31209 – ศ31210 จิตรกรรม 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ิลปะ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชวั่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษาความรู้เบือ้ งต้นและฝึกปฏิบัติเก่ียวกับ การจัดองค์ประกอบศลิ ป์ วัสดุอปุ กรณ์ท่ีใช้ในการเขยี น และกระบวนการเขียนภาพ การเขยี นภาพเหมือนด้วยวัสดตุ า่ ง ๆ ตามความเหมาะสม และพอเพียงเพื่อให้มี ความรู้ความเข้าใจ เหน็ ประโยชน์และคุณค่า ช่นื ชม มวี นิ ัย ใฝ่รใู้ ฝเ่ รียน มงุ่ มั่นในการทางานมที ักษะสามารถ ถ่ายทอดสิ่งทม่ี องเหน็ ออกมาเปน็ ภาพตามความเปน็ จริง สรา้ งสรรคง์ านเขียนภาพได้อยา่ งอสิ ระ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรคู้ วามเขา้ ใจความร้เู บื้องต้นเก่ยี วกับการจัดองคป์ ระกอบศลิ ป์ วสั ดุอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการเขยี น และกระบวนการเขียนภาพ การเขยี นภาพเหมือนด้วยวสั ดุต่าง ๆ ๒. ฝึกปฏิบัติเกยี่ วกบั การเขียนภาพโดยใชอ้ งค์ประกอบศิลป์ วสั ดุอุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการเขยี นภาพพาณิชย์ศลิ ป์ เบ้ืองตน้ ตามความเหมาะสม และพอเพยี ง ๓. มที ักษะ สามารถถ่ายทอดส่งิ ท่ีมองเห็นออกมาเป็นภาพตามความเป็นจรงิ สรา้ งสรรค์งานเขียนภาพ ไดอ้ ยา่ งอสิ ระ ๔. มีวนิ ัย ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มงุ่ มนั่ ในการทางาน ๕. เห็นประโยชนแ์ ละคุณค่า เกดิ ความชนื่ ชมในผลงานศิลปะ การสรา้ งสรรค์งานเขยี นภาพอยา่ งอสิ ระ และนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั รวมท้ังหมด 5 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ศ31211 – ศ31212 ออกแบบ 1 -2 กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชั่วโมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษาหลกั การออกแบบ ประเภทของงานออกแบบ การร่างแบบ การอา่ นแบบ และการสรา้ งงาน 2 มิติ 3 มิติ และฝกึ ปฏบิ ัติเก่ียวกบั การออกแบบผลิตภณั ฑ์ต่าง ๆ การเลือกใช้วสั ดุอุปกรณ์ใหเ้ หมาะสมกับ ผลติ ภณั ฑ์ ยดึ หลักความพอเพยี ง ฝกึ ปฏบิ ัตอิ อกแบบวสั ดุ เครือ่ งใช้เพ่อื ให้มีความรูค้ วามเขา้ ใจ มวี นิ ัย ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น มุ่งมั่นในการทางาน มที ักษะในการออกแบบและสามารถสร้างผลติ ภณั ฑ์ตามทอ่ี อกแบบ ใหป้ ระณีตสวยงามและมี ประโยชน์ ตรงตามความต้องการของผู้บรโิ ภค เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและประโยชน์ใชส้ อยโดยใช้ภมู ิปัญญา ทอ้ งถ่นิ มาประยกุ ต์ใช้ ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้ความเขา้ ใจสามารถอธิบายความหมายการออกแบบประเภทของงานออกแบบ การร่างแบบ การอ่านแบบ และการสร้างงาน 2 มิติ 3 มติ ไิ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ๒. ฝกึ ปฏบิ ัตเิ กีย่ วกบั การออกแบบผลิตภณั ฑ์การเลือกใช้วสั ดุอุปกรณใ์ หเ้ หมาะสมกับผลติ ภณั ฑ์ ๓. ฝกึ ปฏิบตั อิ อกแบบวัสดุ เคร่ืองใช้ ยึดหลักความพอพยี ง ๔. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ มงุ่ มน่ั ในการทางาน ในการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ได้เหมาะสม 5. มี ๕. ทกั ษะเบื้องตน้ ในการออกแบบได้เหมาะสมกบั ประโยชนใ์ ช้สอย โดยใชภ้ มู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ มาประยุกต์ใช้ ๖. มที กั ษะในการออกแบบและสามารถสร้างผลติ ภณั ฑ์ตามท่ีออกแบบ ใหป้ ระณีตสวยงามและมีประโยชน์ ตรงตามความตอ้ งการของผู้บริโภค รวมทั้งหมด 6 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม ศ31211 – ศ31212 ออกแบบ 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษาหลักการออกแบบ ประเภทของงานออกแบบ การรา่ งแบบ การอา่ นแบบ และการสรา้ งงาน 2 มิติ 3 มิติ และฝกึ ปฏิบัติเกีย่ วกบั การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ต่าง ๆ การเลอื กใช้วัสดุอุปกรณใ์ หเ้ หมาะสมกบั ผลิตภณั ฑ์ ยึดหลักความพอเพยี ง ฝึกปฏบิ ตั อิ อกแบบวัสดุ เคร่อื งใช้ เพ่อื ใหม้ ีความรู้ความเข้าใจ มวี นิ ยั ใฝ่รูใ้ ฝเ่ รียน มงุ่ มน่ั ในการทางาน มที ักษะในการออกแบบและ สามารถสรา้ งผลิตภัณฑต์ ามท่ีออกแบบ ให้ประณตี สวยงามและมีประโยชน์ ตรงตามความต้องการของ ผู้บรโิ ภค เหมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มและประโยชน์ใชส้ อยโดยใช้ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ มาประยกุ ต์ใช้ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรคู้ วามเขา้ ใจสามารถอธิบายความหมายการออกแบบประเภทของงานออกแบบ การร่างแบบ การอ่านแบบ และการสร้างงาน 2 มติ ิ 3 มติ ิไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ๒. ฝกึ ปฏบิ ตั ิเก่ยี วกบั การออกแบบผลิตภณั ฑ์การเลือกใชว้ ัสดุอุปกรณใ์ หเ้ หมาะสมกับผลิตภัณฑ์ ๓. ฝกึ ปฏิบัติออกแบบวัสดุ เครื่องใช้ ยดึ หลักความพอพียง ๔. มีความรู้ความเขา้ ใจ ม่งุ มั่นในการทางาน ในการออกแบบผลิตภณั ฑ์ ได้เหมาะสม ๕. มที กั ษะเบื้องต้นในการออกแบบไดเ้ หมาะสมกับประโยชนใ์ ชส้ อย โดยใช้ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นมาประยุกต์ใช้ ๖. มที กั ษะในการออกแบบและสามารถสรา้ งผลิตภัณฑ์ตามท่ีออกแบบ ใหป้ ระณตี สวยงามและมี ประโยชน์ ตรงตามความต้องการของผบู้ รโิ ภค รวมท้ังหมด 6 ผลการเรียนรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม ศ31213 – ศ31214 ศิลปะการละครเบอื้ งต้น 1 -2 กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 - 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ภาคเรียน จานวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษาศิลปะการละครเบอื้ งต้นในเร่อื ง ความหมาย จดุ มงุ่ หมาย ความเปน็ มา ความเป็นเอกลักษณ์ ประจาชาติ ความสมั พันธก์ ับชีวติ ประเภทและลกั ษณะ องคป์ ระกอบ หลกั การสรา้ งสรรค์และวจิ ารณ์ สามารถฝกึ ปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับการแสดงละคร จัดการแสดงละครง่าย ๆ เปน็ ครัง้ คราว ประยุกตก์ ารแสดงอย่าง เหมาะสม ยึดหลกั ความพอเพียง เพอื่ ให้มคี วามรคู้ วามเข้าใจ เห็นคุณค่า มวี นิ ัย ใฝ่รู้ใฝเ่ รยี น มงุ่ ม่นั ในการทางาน และภาคภูมิใจ เกีย่ วกบั ศลิ ปะการละครและมีทักษะสามารถจดั การแสดงในโอกาสต่าง ๆ ได้ มีความตระหนัก ท่ีจะถ่ายทอด และอนุรักษ์ใหส้ บื ทอดต่อไป ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกับศิลปะการละครเบ้ืองตน้ ในเรื่อง ความหมาย จุดม่งุ หมาย ความเป็นมา ความเปน็ เอกลักษณ์ประจาชาติ ความสัมพนั ธก์ ับชีวิต ๒. นักเรียนสามารถบอกและอธิบาย ประเภทและลักษณะ องค์ประกอบ หลกั การสรา้ งสรรคแ์ ละ วจิ ารณไ์ ด้ ๓. นักเรียนสามารถนา องคป์ ระกอบ หลักการสร้างสรรค์และวจิ ารณ์ มาฝกึ ปฏิบตั ิเกยี่ วกับการแสดง ละครได้ ๔. นักเรยี นสามารถประยุกต์การแสดงอยา่ งเหมาะสม ยึดหลกั ความพอเพยี งและจัดการแสดงละคร งา่ ย ๆ เป็นครง้ั คราวได้ ๕. นกั เรียนมีทักษะสามารถจัดการแสดงในโอกาสตา่ ง ๆ ได้ ๖. นกั เรียนมวี ินัย ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รียน มงุ่ ม่ันในการทางาน ๗. นักเรียนเหน็ คณุ ค่าและภาคภมู ิใจ เกย่ี วกบั ศลิ ปะการละครมคี วามตระหนัก ท่จี ะถ่ายทอดและอนรุ ักษ์ให้ สบื ทอดต่อไป รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ศ31215 – ศ31216 นาฏศิลปพ์ น้ื เมือง 1 -2 กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชัว่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษานาฏศิลปพ์ ้ืนเมืองในเรื่อง ประวตั คิ วามเปน็ มา การแตง่ กาย ลีลาทา่ รา เพลงประกอบการรา ฝกึ แสดงนาฏศิลปพ์ ืน้ เมือง การละเลน่ พน้ื เมือง รอ้ งและราเพลงพ้ืนเมืองตามความสนใจ การจดั ประเภทของการ แสดงพ้นื เมือง ประวตั บิ ุคคลในท้องถิ่นทป่ี ระสบผลสาเร็จในการสร้างศิลปะพ้ืนบา้ น สามารถจดั การแสดง พนื้ บ้านของจังหวดั อ่างทอง และศิลปะพืน้ บ้านของภาคอ่ืน ๆ ของประเทศไทยเป็นคร้งั คราวเพื่อให้มี ความรู้ความเข้าใจ เหน็ คณุ คา่ มวี นิ ัย ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รียน มงุ่ มน่ั ในการทางาน และมีทักษะเกีย่ วกับการแสดงพื้นบา้ น สารวจและทาความเข้าใจ ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน สามารถอนรุ ักษ์และนามาประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวนั ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั นาฏศลิ ป์พื้นเมืองในเร่ือง ประวตั คิ วามเป็นมา การแตง่ กาย ลลี าท่ารา เพลงประกอบการรา ๒. นักเรยี นสามารถบอกและอธิบาย ประเภทของการแสดงพ้ืนเมอื ง ประวตั บิ คุ คลในทอ้ งถ่ินท่ปี ระสบ ผลสาเร็จในการสรา้ งศลิ ปะพ้ืนบ้านได้ ๓. นกั เรียนสามารถฝึกแสดงนาฏศลิ ป์พื้นเมือง การละเลน่ พืน้ เมือง รอ้ งและราเพลงพน้ื เมืองตามความ สนใจได้ ๔. นกั เรียนมที ักษะและสามารถจดั การแสดงพ้ืนบา้ นของจงั หวดั อ่างทอง และศลิ ปะพื้นบา้ นของภาค อนื่ ๆ ของประเทศไทยเปน็ ครั้งคราวได้ ๕. นกั เรียนสามารถสารวจและทาความเขา้ ใจ ภูมิปญั ญาท้องถ่ินได้ ๖. นักเรียนมวี ินยั ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น มงุ่ มั่นในการทางาน ๗. นักเรียนมคี วามช่ืนชมเหน็ คุณค่าและภาคภูมิใจในศิลปะการแสดงพน้ื บา้ น ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ มคี วามตระหนกั ทีจ่ ะถา่ ยทอดและอนรุ ักษแ์ ละนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ต่อไป รวมท้ังหมด 7 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ศ31217 – ศ31218 ร้องเพลงไทยสากล – ไทยลูกทุง่ 1 -2 กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 - 2 เวลา 40 ชั่วโมง / ภาคเรียน จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษาเกี่ยวกบั อวยั วะและระบบที่เกี่ยวข้องในการออกเสียง เทคนิคการออกเสียงและการร้องเพลง ทฤษฎีโนต้ สากล การออกอักขระและสาเนยี ง การแสดงทา่ ทางประกอบ ลักษณะวิธสี รา้ งอารมณ์การพดู และการ ขบั ร้องเพลงไทยสากลและหรือไทยลูกทุง่ โดยการรอ้ งเดีย่ ว รอ้ งหมู่ หลกั การปฏบิ ัติตนฝกึ การบรหิ ารรา่ งกาย ใน การออกเสียหายใจเขา้ ออกและควบคมุ อวัยวะในการออกเสียง อา่ นโน้ตทานอง เนื้อร้อง ขับรอ้ งเพลงไทยสากล และหรอื เพลงลกู ทุ่ง โดยการร้องเดย่ี ว ร้องหมู่ ร้องประกอบดนตรี แสดงทา่ ทางและสรา้ งอารมณใ์ นเสยี งเพลงให้ตรงกับเน้ือหาของเพลงเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ มวี ินยั ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน มุ่งมน่ั ในการทางาน และมที ักษะเกี่ยวกบั ลักษณะและคณุ สมบัตขิ องเสยี ง สามารถ ขับรอ้ งเพลง ประกอบดนตรไี ดอ้ ย่างมคี วามสขุ ในการเรยี น นาภมู ิปัญญาท้องถนิ่ มาผสมผสานไดอ้ ยา่ งกลมกลืนและเหน็ คณุ ค่า เกิดความช่ืนชม ผลการเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นบอกถงึ องค์ประกอบและอวัยวะและการกาเนิดเสียงเบ้อื งตน้ ได้ ๒. อธบิ ายถงึ เทคนคิ การออกเสียง และการเปลง่ เสียงตามหลักการได้ ๓. นักเรยี นอธิบายถึงการขบั ร้องเพลงเบื้องต้นได้ ๔. สามารถอธบิ ายถึงทฤษฎโี น้ตสากลได้ ๕. สามารถแสดงท่าทางประกอบ ลักษณะวธิ ีสรา้ งอารมณ์การพดู และการขบั ร้องเพลงไทยสากลและหรือ ไทยลูกทุ่งได้ ๖. สามารถขับร้องเพลงเด่ียว และประกอบดนตรีได้ ๗. สามารถขบั ร้องเพลงหมู่ และประกอบดนตรไี ด้ ๘. นกั เรียนร่วมจัดการแสดงขับร้องเพลงได้ รวมทั้งหมด 8 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ง3๑๒0๒ คอมพวิ เตอร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ จานวน ๑.๐ หน่วยกติ เวลา ๔0 ชั่วโมง ............................................................................................... ........................................................................... ศกึ ษา ข้อมลู สารสนเทศ หลักการและวิธีการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ซอฟต์แวรใ์ นการจดั การข้อมูล การประมวลผลข้อมูลใหเ้ ป็นสารสนเทศ สารสนเทศในการตัดสินใจ ระบบคอมพิวเตอร์ ฮารด์ แวร์ ซอฟต์แวร์ การ สอ่ื สารขอ้ มูล เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ การเลอื กใชเ้ ครื่องมือในการสืบคน้ ข้อมลู ปฏบิ ตั ิการ เลอื กใชเ้ ครื่องมือทางเทคโนโลยสี ารสนเทศในการรวบรวมขอ้ มลู การประมวลผลข้อมูล นาเสนอ ประยุกต์ใช้งานในชีวิตประจาวัน เขา้ ใจและเหน็ คุณค่าของเทคโนโลยสี ารสนเทศ มีความเข้าใจในเรือ่ งข้อมูล สารสนเทศ การประมวลผล ข้อมลู ให้เป็นสารสนเทศ รูจ้ กั ใชข้ อ้ มูลและสารสนเทศเข้ามาช่วยในการตดั สนิ ใจ สามารถเลอื กเคร่ืองมือทาง เทคโนโลยสี ารสนเทศในการทางานได้อย่างเหมาะสม เข้าใจระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ รวบรวม สบื ค้นข้อมลู จากระบบเครอื ข่ายและแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ ประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศใน ชวี ติ ประจาวันอย่างมจี ติ สานึกและรบั ผดิ ชอบ ผลการเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความรู้เก่ียวกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศได้ 2. อธบิ ายความรู้เก่ียวกับระบบคอมพิวเตอรไ์ ด้ 3. อธิบายความร้เู ก่ียวกบั ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 4. ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจาวันได้ รวมทั้งหมด 4 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ง3๑๒0๔ คอมพวิ เตอร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ จานวน ๑.๐ หน่วยกิต เวลา ๔0 ช่วั โมง ............................................................................................... ........................................................................... ศึกษา ความหมายและหลกั การของเทคโนโลยีส่ือประสม (Multimedia) การใช้เทคโนโลยสี อื่ ประสม นาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ปฏิบตั ิการ ศึกษาการสรา้ งและการใชเ้ ทคโนโลยีสื่อประสมนาเสนอข้อมูลขา่ วสาร ในระดับพน้ื ฐาน เพือ่ ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ และมที ักษะ ในการสรา้ งและการใชง้ านเทคโนโลยสี ือ่ ประสม นาเสนอขอ้ มลู ขา่ วสาร ในระดบั พน้ื ฐาน ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมายและหลกั การของเทคโนโลยีส่อื ประสม (Multimedia) ได้ 2. ใชเ้ ทคโนโลยีสอื่ ประสม (Multimedia) นาเสนอข้อมูลข่าวสารได้ 3. สรา้ งและใชเ้ ทคโนโลยีสื่อประสมนาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ในระดับพืน้ ฐานได้ รวมท้ังหมด 3 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ รหัสวิชา ง312๐1 ข้าวไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔0 ชว่ั โมง จานวน ๑.0 หนว่ ยกติ ............................................................................................................................. ............................................. ศึกษาความสาคัญทางเศรษฐกจิ ของขา้ ว ประเพณี ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ปจั จัยและสง่ิ แวดล้อมทม่ี ีอิทธิพล ตอ่ การเจริญเตบิ โตของขา้ ว พันธุ์ขา้ ววิธกี ารปลกู การดแู ลบารุงรกั ษา การเก็บเกย่ี ว การสขี า้ ว การแปรรูปผลผลิต การบรรจภุ ณั ฑ์ โดยใชก้ ระบวนการเทคโนโลยี การบริโภค การตลาด และการสหกรณ์ เศรษฐกจิ การคา้ ข้าวภายในและระหว่างประเทศ ปฏิบัตกิ ารเตรียมดนิ ปลูก ดแู ลบารุงรักษา เกบ็ เกีย่ ว การจัดการหลังการเก็บเกย่ี วผลผลิต คานวณ คา่ ใชจ้ ่าย กาหนดราคาขาย จัดจาหนา่ ย จดบันทึกการปฏบิ ัตงิ าน ทาบญั ชีรายรับรายจา่ ย ประเมนิ ผล วิเคราะห์ ตลาดขา้ วในท้องถ่ินในประเทศและต่างประเทศ ร่วมกันอภิปราย แกไ้ ขปัญหา และกาหนดแนวทางพฒั นาการทา นาขา้ ว การสหกรณ์และการตลาด เพือ่ ให้มคี วามรู้ความเข้าใจสภาพการปลูกขา้ วในปัจจุบัน และมีทักษะในการปลูก ดแู ลบารุงรักษา เกบ็ เก่ยี วผลผลติ สามารถพัฒนาการผลติ การสหกรณ์ และการตลาดในท้องถ่นิ ได้ มีความซอื่ สัตย์ สุจริต รักชาตศิ าสนา พระมหากษัตริย์ มีวินยั ใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น ม่งุ มัน่ ในการทางาน รักความเปน็ ไทยและมีจติ สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความสาคญั และประโยชนข์ องขา้ วทางการเกษตรได้ 2. บอกภมู ปิ ญั ญาและประเพณีทีเ่ กยี่ วกับข้าวในท้องถน่ิ ได้ 3. บอกลกั ษณะทางพฤกษาศาสตร์ของข้าวในทอ้ งถน่ิ ได้ 4. บอกชนิดของพันธ์ขุ า้ วและวธิ กี ารปลกู ข้าวได้ 5. บอกปจั จยั และอิทธพิ ลตอ่ การเจริญเติบโตของข้าวได้ 6. บอกการเตรียมดินและวสั ดุอปุ กรณ์การปลูกขา้ วและการเก็บเกี่ยวข้าวได้ 7. บอกการใชเ้ ทคโนโลยีการเพม่ิ ผลผลิตขา้ วได้ 8. บอกวิธีการการบารงุ รกั ษาขา้ วได้อย่างถกู วธิ ี 9. บอกวิธกี ารเก็บเก่ียวขา้ วได้ 10.บอกการจัดการหลักการเก็บเกี่ยวโดยภูมิปัญญาไทย เทคโนโลยีการสีข้าวการแปรรูปแบบและ กระบวนการเทคโนโลยกี ารบรรจภุ ณั ฑข์ ้าวไทย 11.วเิ คราะห์การตลาดสหกรณ์การเกษตร โรงสีข้าวและสถานการณข์ ้าวไทยได้ 12.ปฏบิ ตั กิ ารเตรียมดนิ ปลกู ขา้ วไดด้ ว้ ยการไถ คราด กาจดั วชั พชื ไดถ้ กู วธิ ี 13.ปฏบิ ัตกิ ารดแู ละบารุงรกั ษาและกาจัดศัตรพู ืชในแปลงขา้ วได้ 14.คานวณค่าใชจ้ า่ ยและกาหนดราคาขายได้ 15.บนั ทกึ การปฏบิ ตั งิ านได้ 16.ทาบัญชรี ายรบั รายจ่ายและประเมินผลได้

17.วเิ คราะหต์ ลาดขา้ วไทยในท้องถนิ่ ในประเทศและตา่ งประเทศ 18.อภิปรายสรุปปญั หาอุปสรรคและแนวทางการพัฒนาขา้ ว การสหกรณแ์ ละการตลาดขา้ วไทยได้ 19.มีความซื่อสัตย์สุจริต รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู่ ใฝ่เรียน มุ่งม่ันในการทางาน รักความเป็นไทยและมีจติ สาธารณะ รวมทั้งหมด 19 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ ง312๐๖ เศรษฐกจิ พอเพียง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔0 ช่ัวโมง จานวน ๑.0 หนว่ ยกติ .................................................................................................................................................................. ศึกษาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นามาประยุกต์ใช้ในการทาการเกษตร โดยยึดหลักการ พ่ึงตนเอง ลดรายจ่าย เพ่ิมรายได้ ไม่ทาลายส่ิงแวดล้อม ด้วยการปลูกพืชเล้ียงสัตว์ ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ย ชวี ภาพ นา้ ส้มควันไม้และสารสกดั สมุนไพรทาการเกษตร ปฏิบัติการปลูกพืชและเล้ียงสัตว์ ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ น้าส้มควันไม้ และสารสกัดสมุนไพร นาไปใช้ในการเกษตร และประเมินผลงานได้ เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะ การปลูกพืชไม่ใช้ดิน นาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ มีความ ซื่อสตั ย์ สุจรติ รักชาตศิ าสนา พระมหากษัตรยิ ์ มวี นิ ยั ใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น มุง่ มั่นในการทางาน และมีจิตสาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. บอกหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง นามาประยุกตใ์ ช้ในการทาการเกษตร ได้ 2. วิเคราะห์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยยึดหลักการพึ่งตนเอง ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ไม่ ทาลายส่งิ แวดล้อม ดว้ ยการปลกู พชื และเลยี้ งสัตว์ 3. ปฏบิ ตั ิการปลูกพชื และเลี้ยงสัตว์ ผลติ ปยุ๋ อนิ ทรีย์ ปุ๋ยชวี ภาพ น้าสม้ ควันไม้ และสารสกดั สมนุ ไพร ได้ 4. ประเมินผลและพฒั นางานได้อย่างเหมาะสม 5. มีความซื่อสัตย์สุจริต รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู่ ใฝ่เรียน มุ่งมั่นในการทางาน และมจี ิตสาธารณะ รวมทัง้ หมด 5 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม อ31203 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ ฟังและพูดเก่ียวกับข้อมูล ข่าวสารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในท้องถิ่น รวมทั้งการขอและให้ข้อมูล เสนอ ให้บริการและความต้องการ อภิปราย และแสดงความคิดเห็น เช่น ความรู้สึก รวมทั้งการเล่าเหตุการณ์และ กิจกรรมในชีวิตประจาวันจากประสบการณ์ตนเองได้อย่างเหมาะสมกับระดับบุคคล กาลเทศะและสถานการณ์ ต่าง ๆ เพ่ือให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม สามารนามาประยุกต์ใช้ในการ พัฒนาตนเอง ครอบครวั และสงั คม อ่าน เขียน คาแนะนา คาบรรยาย บทอ่าน ข่าวสาร บทความต่างๆ ที่เป็นความเรียงและไม่เป็นความ เรียง ให้เข้าใจ สามารถตีความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน โดยใช้ภาษาเพื่อ การสื่อสารตามสถานการณ์ รวมทัง้ การถ่ายโอน ข้อมูล และการนาเสนอขอ้ มลู ในรูปแบบต่าง ๆ เข้าใจ อธิบาย ตีความหรือแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับสื่อท่ีเป็นความเรียงและไม่เป็นความเรียง ในหัวข้อ เก่ียวกับชีวิตประจาวัน ส่ิงใกล้ตัว ความรู้ท่ัวไป ความบันเทิง ข้อมูลท้องถ่ิน วัฒนธรรมประเพณี รวมท้ังเน้ือหา สาระท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ใช้ส่ือเทคโนโลยี ส่ือการเรียน ทางภาษา ในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อขยายโลกทัศน์ จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษา ส่ือสาร นาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และนาเสนอข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ อันเป็นพื้นฐานในการพัฒนา ตนเองและศกึ ษาต่อ ผลการเรยี นรู้ 1. ฟัง พดู สนทนาโตต้ อบ แสดงบทบาทสมมติ เลา่ ประสบการณ์เกี่ยวกับตนเอง ใช้ภาษาเพ่ือการสอ่ื สารใน สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เก่ียวกับชีวิตประจาวัน สังคมและสิ่งแวดล้อมซึ่งอยู่ใกล้ตน เหมาะกับบุคคลและโอกาส ตาม มารยาทสงั คม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา 2. อ่านข้อความ บทอา่ น บทสนทนาแลว้ สรปุ ใจความสาคัญและ/หรอื ตอบคาถามได้ 3. ตอบคาถามหรือมเี หตผุ ลในการพดู โต้ตอบจากเร่ืองที่ ฟัง พดู อ่าน เขยี นโดยอิสระได้ 4. เขียนคา ประโยค บทสนทนา ขอ้ ความตามเรื่องหรอื หวั ขอ้ ท่ีกาหนดให้ได้ 5. ปฏิบตั ิตามคาขอรอ้ ง คาแนะนาคาชแ้ี จง และคาอธิบายท่ีฟงั และอา่ น 6. ระบุและเขยี นสอื่ ทไี่ ม่ใช่ความเรยี งรปู แบบต่างๆ ให้สมั พนั ธ์กับประโยคและข้อความทีฟ่ งั หรืออ่าน 7. มีความมนั่ ใจในการใชภ้ าษาองั กฤษได้ถกู ต้องตามกาลเทศะและบุคคล 8. ใชภ้ าษาองั กฤษเปน็ เครอ่ื งมือในการเรียนรูส้ าระอ่นื อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 9. นักเรยี นวิเคราะห์ จาแนก และเขยี นประโยคที่มโี ครงสรา้ งทางไวยากรณ์เก่ยี วกบั เร่ือง Tenses ได้ 10. นักเรียนวเิ คราะห์ จาแนก และเขยี นประโยคท่ีมีโครงสรา้ งทางไวยากรณเ์ ก่ียวกบั เร่ือง Agreement of Subject and Verb ได้ รวมท้งั หมด 10 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ อ31204 ภาษาอังกฤษ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยกติ ฟังและพูดเก่ียวกับข้อมูล ข่าวสารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในท้องถิ่น รวมทั้งการขอและให้ข้อมูล เสนอ ให้บริการและความต้องการ อภิปราย และแสดงความคิดเห็น เช่น ความรู้สึก รวมท้ังการเล่าเหตุการณ์และ กิจกรรมในชีวิตประจาวันจากประสบการณ์ตนเองได้อย่างเหมาะสมกับระดับบุคคล กาลเทศะและสถานการณ์ ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม สามารนามาประยุกต์ใช้ในการ พัฒนาตนเอง ครอบครัว และสงั คม อ่าน เขียน คาแนะนา คาบรรยาย บทอ่าน ข่าวสาร บทความต่างๆ ท่ีเป็นความเรียงและไม่เป็นความ เรียง ให้เข้าใจ สามารถตีความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน โดยใช้ภาษาเพื่อ การส่อื สารตามสถานการณ์ รวมทง้ั การถ่ายโอน ข้อมูล และการนาเสนอขอ้ มูลในรูปแบบตา่ ง ๆ เข้าใจ อธิบาย ตีความหรือแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั สื่อที่เป็นความเรียงและไม่เป็นความเรียง ในหัวข้อ เก่ียวกับชีวิตประจาวัน สิ่งใกล้ตัว ความรู้ท่ัวไป ความบันเทิง ข้อมูลท้องถ่ิน วัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งเน้ือหา สาระที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ใช้ส่ือเทคโนโลยี ส่ือการเรียน ทางภาษา ในการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อขยายโลกทัศน์ จากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย สามารถใช้ภาษา สื่อสาร นาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และนาเสนอข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ อันเป็นพ้ืนฐานในการพัฒนา ตนเองและศกึ ษาตอ่ ผลการเรียนรู้ 1.นกั เรยี นพดู และใชศ้ ัพท์ สานวน โครงสรา้ งประโยคเพ่ือการทกั ทาย แนะนาตวั เอง แนะนา ผอู้ ื่นให้รจู้ กั กนั และการอาลาได้ 2. นักเรยี นพูดและใช้ศัพท์ สานวน โครงสร้างประโยคเพื่อการเชอ้ื เชญิ การเสนอแนะ การขอร้อง 3. นกั เรียนพูดและใช้ศพั ท์ สานวน โครงสร้างประโยคเพ่ือการเสนอให้ความช่วยเหลือ การขออนุญาต การกล่าวขอโทษ 4. นักเรียนอา่ นข่าว บทความ ขอ้ ความตา่ งๆจากหนังสือพมิ พ์ นติ ยสาร Internet แล้วบอก รายละเอยี ดและจับใจความสาคัญได้ 5. นักเรยี นอา่ นบทประพันธ์ แลว้ บอกรายละเอียดและจับใจความสาคัญได้ 6. นักเรียนเขียนประวตั ิสว่ นตัวและประวัติย่อได้ 7. นักเรียนสามารถกรอกแบบฟอร์มต่างๆได้ 8. นกั เรยี นสามารถเขยี นจดหมายสว่ นตวั และจดหมายธุรกิจได้ 9. นกั เรยี นวเิ คราะห์ จาแนก และเขยี นประโยคทีม่ ีโครงสร้างทางไวยากรณเ์ ก่ียวกับ เร่ือง Tenses ได้ 10. มคี วามมนั่ ใจในการใช้ภาษาอังกฤษได้ถกู ต้องตามกาลเทศะและบคุ คล 11. ใชภ้ าษาอังกฤษเป็นเคร่ืองมือในการเรียนร้สู าระอื่นอยา่ งมีประสิทธิภาพ รวมท้ังหมด 11 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ อ31201 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จานวน 1 หน่วยกติ ฟังและพูดเก่ียวกับข้อมูล ข่าวสารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในท้องถ่ิน รวมทั้งการขอและให้ข้อมูล เสนอ ให้บริการและความต้องการ อภิปราย และแสดงความคิดเห็น เช่น ความรู้สึก รวมทั้งการเล่าเหตุการณ์และ กิจกรรมในชีวิตประจาวันจากประสบการณ์ตนเองได้อย่างเหมาะสมกับระดับบุคคล กาลเทศะและสถานการณ์ ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม สามารนามาประยุกต์ใช้ในการ พัฒนาตนเอง ครอบครวั และสังคม อ่าน เขียน คาแนะนา คาบรรยาย บทอ่าน ข่าวสาร บทความต่าง ๆ ที่เป็นความเรียงและไม่เป็นความ เรียง ให้เข้าใจ สามารถตีความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน โดยใช้ภาษาเพ่ือ การสือ่ สารตามสถานการณ์ รวมท้ังการถ่ายโอน ข้อมลู และการนาเสนอข้อมูลในรปู แบบตา่ ง ๆ เข้าใจ อธิบาย ตีความหรอื แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั สื่อท่ีเป็นความเรียงและไม่เป็นความเรียง ในหัวข้อ เกี่ยวกับชีวิตประจาวัน สิ่งใกล้ตัว ความรู้ทั่วไป ความบันเทิง ข้อมูลท้องถิ่น วัฒนธรรมประเพณี รวมท้ังเนื้อหา สาระท่ีเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ใช้สื่อเทคโนโลยี ส่ือการเรียน ทางภาษา ในการแสวงหาความรู้เพ่ิมเติม เพ่ือขยายโลกทัศน์ จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษา ส่ือสาร นาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และนาเสนอข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ อันเป็นพ้ืนฐานในการพัฒนา ตนเองและศึกษาตอ่ ผลการเรียนรู้ 1. ฟัง พูด สนทนาโต้ตอบ แสดงบทบาทสมมติ เล่าประสบการณ์เก่ียวกับตนเอง ใช้ภาษาเพ่ือการส่อื สาร ในสถานการณ์ต่างๆ ท่ีเก่ียวกับชีวิตประจาวนั สังคมและสง่ิ แวดล้อมซ่ึงอย่ใู กล้ตน เหมาะกับบุคคลและโอกาส ตาม มารยาทสงั คม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา 2. อา่ นข้อความ บทอา่ น บทสนทนาแลว้ สรุปใจความสาคัญและ/หรือตอบคาถามได้ 3. ตอบคาถามหรือมเี หตผุ ลในการพดู โตต้ อบจากเร่ืองท่ี ฟัง พูด อ่าน เขยี นโดยอิสระได้ 4. เขียนคา ประโยค บทสนทนา ขอ้ ความตามเร่ืองหรือหัวข้อทีก่ าหนดใหไ้ ด้ 5. ปฏบิ ัตติ ามคาขอร้อง คาแนะนาคาช้ีแจง และคาอธบิ ายที่ฟงั และอ่าน 6. ระบแุ ละเขียนส่อื ทีไ่ มใ่ ช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพนั ธ์กบั ประโยคและข้อความที่ฟังหรืออ่าน 7. มคี วามมัน่ ใจในการใชภ้ าษาอังกฤษได้ถูกต้องตามกาลเทศะและบุคคล 8. ใช้ภาษาอังกฤษเปน็ เครอ่ื งมอื ในการเรยี นรสู้ าระอนื่ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 9. นักเรียนวิเคราะห์ จาแนก และเขียนประโยคที่มีโครงสร้างทางไวยากรณ์ เก่ียวกับเรื่อง Tenses ได้ 10. นักเรียนวิเคราะห์ จาแนก และเขียนประโยคที่มีโครงสร้างทางไวยากรณ์เก่ียวกับเร่ือง Agreement of Subject and Verbได้ รวมทัง้ หมด 10 ผลการเรยี นรู้

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ อ31202 ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1 หน่วยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฟงั และพูดเกยี่ วกบั ข้อมูล ข่าวสารเหตุการณต์ ่าง ๆ ในทอ้ งถิน่ รวมทั้งการขอและให้ข้อมูล เสนอ ให้บริการและความต้องการ อภิปราย และแสดงความคิดเห็น เช่น ความรู้สึก รวมทั้งการเล่าเหตุการณ์และ กิจกรรมในชีวิตประจาวันจากประสบการณ์ตนเองได้อย่างเหมาะสมกับระดับบุคคล กาลเทศะและสถานการณ์ ต่าง ๆ เพ่ือให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าความแตกต่างของภาษาและวัฒนธรรม สามารนามาประยุกต์ใช้ในการ พฒั นาตนเอง ครอบครวั และสังคม อ่าน เขียน คาแนะนา คาบรรยาย บทอ่าน ข่าวสาร บทความต่างๆ ที่เป็นความเรียงและไม่เป็นความ เรียง ให้เข้าใจ สามารถตีความ ข้อมูล ข่าวสาร บทความท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน โดยใช้ภาษาเพื่อ การสอื่ สารตามสถานการณ์ รวมทัง้ การถ่ายโอน ขอ้ มูล และการนาเสนอข้อมูลในรูปแบบตา่ ง ๆ เข้าใจ อธิบาย ตีความหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสื่อท่ีเป็นความเรียงและไม่เป็นความเรียง ในหัวข้อ เกี่ยวกับชีวิตประจาวัน ส่ิงใกล้ตัว ความรู้ท่ัวไป ความบันเทิง ข้อมูลท้องถ่ิน วัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งเนื้อหา สาระที่เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน เห็นประโยชน์ของการรู้ภาษาอังกฤษ ใช้สื่อเทคโนโลยี สื่อการเรียน ทางภาษา ในการแสวงหาความรู้เพ่ิมเติม เพื่อขยายโลกทัศน์ จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถใช้ภาษา สื่อสาร นาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และนาเสนอข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ อันเป็นพ้ืนฐานในการพัฒนา ตนเองและศกึ ษาต่อ ผลการเรียนรู้ 1. นกั เรียนพดู และใช้ศัพท์ สานวน โครงสรา้ งประโยคเพื่อการทกั ทาย แนะนาตวั เอง แนะนา ผอู้ ่นื ใหร้ จู้ ักกันและการอาลาได้ 2. นักเรียนพดู และใช้ศพั ท์ สานวน โครงสร้างประโยคเพ่ือการเช้ือเชญิ การเสนอแนะ การขอรอ้ ง 3. นกั เรียนพูดและใช้ศัพท์ สานวน โครงสร้างประโยคเพื่อการเสนอให้ความช่วยเหลอื การขออนญุ าต การกล่าวขอโทษ 4. นกั เรยี นอ่านข่าว บทความ ขอ้ ความตา่ งๆจากหนงั สอื พิมพ์ นติ ยสาร Internet แลว้ บอก รายละเอยี ดและจบั ใจความสาคญั ได้ 5. นักเรียนอา่ นบทประพนั ธ์ แลว้ บอกรายละเอียดและจับใจความสาคัญได้ 6. นักเรยี นเขยี นประวัตสิ ว่ นตวั และประวัติย่อได้ 7. นกั เรยี นสามารถกรอกแบบฟอร์มต่างๆได้ 8. นกั เรียนสามารถเขยี นจดหมายส่วนตวั และจดหมายธรุ กิจได้ 9. นักเรียนวเิ คราะห์ จาแนก และเขียนประโยคท่มี โี ครงสรา้ งทางไวยากรณเ์ ก่ียวกับ เร่ือง Tenses ได้ 10. มีความมัน่ ใจในการใช้ภาษาองั กฤษได้ถูกต้องตามกาลเทศะและบุคคล 11. ใช้ภาษาอังกฤษเปน็ เคร่ืองมอื ในการเรยี นร้สู าระอนื่ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รวมทั้งหมด 11 ผลการเรยี นรู้

โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๕๖ ระดบั ช้นั เรียน ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ภาคเรยี น) รายวิชาพนื้ ฐาน ๓๐๐ ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทย ๔๐ ค๓๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔๐ ว๓๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๖๐ ส๓๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔๐ ส๓๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๒๐ พ๓๒๑๐๑ สุขศกึ ษาและ พลศกึ ษา ๒๐ ศ๓๒๑๐๑ ศิลปะ ๒๐ ง๓๒๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๒๐ อ๓๒๑๐๑ องั กฤษ ๔๐ รายวิชาเพิม่ เติม ๒๘๐ ง๓๒๒๐๕ งานเกษตร ๔๐ ง๓๒๒๐๑ คอมพวิ เตอร์ ๔๐ ค๓๒๒๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔๐ อ๓๒๒๐๓ ภาษาอังกฤษ ๒๐ พ๓๒๒๐.... สขุ ศกึ ษาและ พลศกึ ษา ๒๐ ส๓๒๒๐..... ศาสนาวัฒนธรรม และอาเซียนศึกษา ๔๐ ท๓๒๒๐๑ การเขยี น ๑ ๒๐ ง๓๑๒๐.... งานอาชีพ ๘๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น ๖๐ ๑. แนะแนว ๒๐ ๒. กิจกรรมชมุ นุม ๒๐ ๓. กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๒๐ กจิ กรรมเพมิ่ เติม ๑,๓๑๐ ๑. กิจกรรมส่งเสรมิ สขุ นิสัย ๒๘๐ ๒. กจิ กรรมส่งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย ๗๐ ๓. กจิ กรรมหลักโภชนาการ ๓๗๐ ๔. กจิ กรรมหลักไตรรงค์ ๑๕๐ ๕. กจิ กรรมส่งเสริมภาวะผู้นา ๑๔๐ ๖. กิจกรรมอนรุ กั ษพ์ ลังงานและสง่ิ แวดลอ้ ม ๒๒๐ ๗. กิจกรรมสง่ เสรมิ อาชีพทอ้ งถิน่ ๔๐ ๘. กจิ กรรมพัฒนาสนุ ทรยี ภาพ ๔๐ รวมเวลาเรียนทั้งหมด ๑,๙๕๐

โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๕๖ ระดบั ช้นั เรียน ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ภาคเรยี น) รายวิชาพื้นฐาน ๓๐๐ ท๓๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔๐ ค๓๒๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๔๐ ว๓๒๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ ๖๐ ส๓๒๑๐๓ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐ ส๓๒๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๒๐ พ๓๒๑๐๒ สขุ ศึกษาและ พลศกึ ษา ๒๐ ศ๓๒๑๐๒ ศิลปะ ๒๐ ง๓๒๑๐๒ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๒๐ อ๓๒๑๐๒ องั กฤษ ๔๐ รายวิชาเพมิ่ เติม ๒๘๐ ง๓๒๒๐๖ งานเกษตร ๔๐ ง๓๒๒๐๓ คอมพิวเตอร์ ๔๐ ค๓๒๒๐๒ คณติ ศาสตร์ ๔๐ อ๓๒๒๐๔ ภาษาองั กฤษ ๒๐ พ๓๒๒๐..... สุขศกึ ษาและ พลศึกษา ๒๐ ส๓๒๒๐..... ศาสนาวฒั นธรรม และอาเซียนศึกษา ๔๐ ท๓๒๒๐๒ การเขยี น ๒ ๒๐ ง๓๑๒๐..... งานอาชพี ๘๐ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๖๐ ๑. แนะแนว ๒๐ ๒. กิจกรรมชุมนุม ๒๐ ๓. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๒๐ กิจกรรมเพ่ิมเติม ๑,๓๑๐ ๑. กจิ กรรมสง่ เสริมสขุ นิสัย ๒๘๐ ๒. กิจกรรมส่งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย ๗๐ ๓. กิจกรรมหลักโภชนาการ ๓๗๐ ๔. กจิ กรรมหลักไตรรงค์ ๑๕๐ ๕. กจิ กรรมส่งเสริมภาวะผู้นา ๑๔๐ ๖. กจิ กรรมอนรุ กั ษพ์ ลงั งานและสิ่งแวดลอ้ ม ๒๒๐ ๗. กิจกรรมส่งเสริมอาชีพทอ้ งถ่นิ ๔๐ ๘. กิจกรรมพัฒนาสุนทรียภาพ ๔๐ รวมเวลาเรียนทัง้ หมด ๑,๙๕๐

คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน ท32101 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย จานวน 1.0 หน่วยกิต ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง ศกึ ษาหลักการตีความ แปลความ และขยายความเรอื่ งท่ีอ่าน วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์เร่ืองที่อา่ นในทุกๆ ด้านอย่างมีเหตผุ ล วเิ คราะห์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้งกับเร่ืองที่อ่าน เสนอความคิดใหม่อยา่ งมีเหตุผล เขยี นสอ่ื สารในรูปแบบตา่ งๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โดยใช้ภาษาเรียบเรียงถูกตอ้ งมขี ้อมูลและสาระสาคัญ ชดั เจน เขียนเรยี งความ เขยี นย่อความจากส่อื ที่มรี ูปแบบและเน้ือหาหลากหลาย พูดในโอกาสตา่ ง ๆ พูดแสดง ทรรศนะ โต้แย้ง โนม้ นา้ วใจ เสนอแนวคดิ ใหม่ อธบิ ายและวิเคราะห์หลักการสร้างคาในภาษาไทย วเิ คราะห์และ วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณเ์ บือ้ งต้น วเิ คราะหล์ ักษณะเดน่ ของวรรณคดเี ช่ือมโยงกบั การ เรียนรูท้ างประวตั ศิ าสตร์และวิถชี วี ิตของสังคมในอดตี วิเคราะหแ์ ละประเมนิ คณุ ค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ของวรรณคดี และวรรณกรรมในฐานะท่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรมของชาติ สงั เคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพ่ือ นาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการคิด ทักษะการใช้ภาษา ทักษะการส่ือสาร การ สืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ วิเคราะห์วิจารณ์ ประเมินคา่ ฝึกฝนทกั ษะการฟัง การพดู การเล่าเรอื่ ง และการแสดงความคดิ เห็นตามเจตนารมณ์ทีต่ ้องการสื่อสาร สามารถนาความรู้ไปใช้ในการตัดสินใจและการดาเนินชีวิตประจาวัน มีจิตสาธารณะ ตระหนักถึงคุณค่าของ คณุ ธรรมจริยธรรม ใช้ความรภู้ าษาไทยเพอื่ การจรรโลงจติ ใจ ธารงและพฒั นาสังคมได้เต็มศกั ยภาพของผเู้ รยี น ตวั ชี้วดั ท 1.1 ม.5/2 ท 1.1 ม.5/3 ท 1.1 ม.5/5 ท 5.1 ม.5/4 ท 2.1 ม.5/1 ท 2.1 ม.5/2 ท 2.1 ม.5/3 ท 3.1 ม.5/5 ท 4.1 ม.5/6 ท 5.1 ม.5/2 ท 5.1 ม.5/3 ท 5.1 ม.5/1 รวม 12 ตวั ชี้วัด

คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน ท32102 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชว่ั โมง ศึกษาหลักการวิเคราะหแ์ ละวิจารณเ์ ร่ืองทอ่ี ่านในทุกๆ ด้านอย่างมเี หตุผล วิเคราะหว์ ิจารณ์ แสดง ความคิดเห็นโตแ้ ย้งกับเรื่องที่อา่ น เสนอความคดิ ใหมอ่ ยา่ งมเี หตุผล เขียนสือ่ สารในรูปแบบต่างๆ ได้ตรงตาม วัตถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงถูกต้อง มขี ้อมลู และสาระสาคญั ชัดเจน ผลิตงานเขยี นของตนเองในรูปแบบ ตา่ งๆ พูดในโอกาสต่างๆ พดู แสดงทรรศนะ โต้แยง้ โน้มนา้ วใจ และเสนอแนวคดิ ใหมด่ ว้ ยภาษาถกู ต้องเหมาะสม ใชค้ าและกลุ่มคาสร้างประโยคตรงตามวตั ถุประสงค์ แต่งบทร้อยกรอง วเิ คราะห์อิทธพิ ลของภาษาต่างประเทศ และภาษาถิ่น วิเคราะห์และประเมินการใช้ภาษาจากส่ือสิ่งพิมพแ์ ละสื่ออิเล็กทรอนิกส์ วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์ วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบ้ืองตน้ วิเคราะหล์ กั ษณะเด่นของวรรณคดีเชอ่ื มโยงกบั การเรียนรู้ ทางประวัติศาสตรแ์ ละวิถีชีวิตของสังคมในอดตี วิเคราะห์และประเมินคณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีและ วรรณกรรมในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ สงั เคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดแี ละวรรณกรรมเพื่อนาไป ประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จริง รวบรวมวรรณกรรมพ้นื บา้ นและอธิบายภมู ิปญั ญาทางภาษา โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการคิด ทักษะการใชภ้ าษา ทักษะการสื่อสาร การ สืบค้นข้อมูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมูล และการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ วิเคราะห์วิจารณ์ ประเมินค่า ฝึกฝนทักษะการฟัง การพูด การเล่าเร่ือง และการแสดงความคิดเห็นตามเจตนารมณ์ที่ต้องการ สือ่ สาร สามารถนาความร้ไู ปใชใ้ นการตัดสินใจและการดาเนินชีวิตประจาวัน มีจติ สาธารณะ ตระหนักถึงคุณค่า ของคุณธรรมจริยธรรม ใช้ความรู้ภาษาไทยเพ่ือการจรรโลงจิตใจ ธารงและพัฒนาสังคมได้เต็มศักยภาพของ ผเู้ รยี น ตัวชี้วัด ท 1.1 ม.5/3 ม.5/5 ท 2.1 ม.5/1 ม.5/4 ท 3.1 ม.5/5 ท 4.1 ม.5/2 ม.5/4 ม.5/5 ม.5/7 ท 5.1 ม.5/1 ม.5/2 ม.5/3 ม.5/4 ม.5/5 รวม 14 ตวั ช้ีวัด

คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ค32101 คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาเร่ือง ความสัมพนั ธแ์ ละฟงั กช์ ัน ความสมั พนั ธ์และฟงั กช์ นั กราฟของความสัมพนั ธ์ และฟงั กช์ นั โดยจดั ประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวนั ทใ่ี กลต้ วั ให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า โดยการปฏบิ ตั ิจรงิ สรุป รายงาน และนาเสนอ เพือ่ พฒั นาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแกป้ ัญหา การให้เหตุผล การ สอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนาประสบการณด์ า้ นความรู้ความคิดทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการ เรียนรูส้ ่งิ ต่าง ๆ และในชีวติ ประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์ การเห็นคณุ ค่าและมเี จตคตทิ ่ีดีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเปน็ ระบบระเบยี บ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และเชอ่ื ม่ันในตนเอง มคี วามรกั ชาติ ศาสตร์ กษตั รยิ ์ มคี วามซื่อสตั ย์สจุ ริต มี วินัย ใฝเ่ รียนรู้ รูจ้ กั ใช้ชีวติ อยา่ งพอเพยี ง มีความมุ่งม่ันในการทางาน รักความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ รหสั ตัวชี้วดั ค 4.1 ม.5/3 , ค4.2 ม.5/4 , ค 4.2 ม.5/5 , ค 6.1 ม.5/1 , ค 6.1 ม.5/2 , ค 6.1 ม.5/3 , ค 6.1 ม.5/4 , ค 6.1 ม.5/5 , ค 6.1 ม.5/6 รวมทั้งหมด 9 ตวั ชี้วดั

คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน ค32101 คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาเรื่อง อตั ราส่วนตรีโกณมติ ิและการนาไปใช้ และ ลาดับและอนกุ รม ลาดบั ลาดบั เลขคณิต ลาดบั เรขาคณิต อนุกรมเลขคณิต อนุกรมเรขาคณิต การหาผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิตและอนกุ รม เรขาคณิต โดยจัดประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ในชีวติ ประจาวันทใี่ กล้ตวั ใหผ้ ู้เรียนได้ศกึ ษา ค้นคว้าโดยการ ปฏบิ ัติจรงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพอ่ื พฒั นาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปญั หา การใหเ้ หตผุ ล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะ กระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรยี นรู้สิง่ ต่างๆ และในชีวติ ประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์ รวมทั้งเหน็ คุณค่าและมีเจต คตทิ ด่ี ตี ่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มคี วามรับผดิ ชอบ มีวิจารณญาณ และ เชอื่ มัน่ ในตนเอง การเหน็ คณุ ค่าและมเี จตคติที่ดีต่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มี ความรับผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณ และเช่ือมน่ั ในตนเอง มคี วามรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ มีความซอ่ื สัตย์สุจรติ มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ รูจ้ ักใช้ชีวติ อยา่ งพอเพยี ง มคี วามมุ่งม่นั ในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมจี ิตสาธารณะ รหัสตัวช้ีวัด ค2.1 ม.5/1 , ค2.2 ม.5/1 , ค4.1 ม.5/4 , ค4.1 ม.5/5 , ค 4.2 ม.5/6 , ค6.1 ม.5/1 , ค6.1 ม.5/2 , ค6.1 ม.5/3 , ค6.1 ม.5/4 , ค6.1 ม.5/5 , ค6.1 ม.5/6 รวมทั้งหมด 11 ตวั ชีว้ ดั

คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ว32101 วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หน่วยกิต อธิบายการรักษาดุลยภาพของส่งิ มีชวี ิต การเคลื่อนท่ีของสารผ่านเข้าออกจากเซลล์ การลาเลยี งสารโดย วธิ ีการแพร่ การออสโมซสิ การลาเลียงแบบฟาซิลเิ ทต และการลาเลยี งแบบใช้พลงั งาน การลาเลียงสารขนาดใหญ่ เขา้ และออกจากเซลล์ การลาเลียงของสิง่ มชี วี ติ เซลล์เดยี วและหลายเซลล์ กลไกในการรักษาดลุ ยภาพของน้าใน พืช การคายน้าผา่ นปากใบ การดูดนา้ ทีร่ าก โครงสรา้ ง หน้าที่ การางานในการขบั ของเสียจากกระบวนการเม แทบอลิซึมของไต การกาจัดน้าและของเสียของสิ่งมีชวี ติ เซลลเ์ ดยี วและหลายเซลล์ การรกั ษาดุลยภาพของนา้ แร่ ธาตขุ องปลานา้ จืดและปลาน้าเค็ม กลไกการควบคุมอุณหภมู ใิ นรา่ งกายของสตั วแ์ ละมนุษย์ ระบบภูมิคุ้มกันและ การรักษาดุลยภาพในร่างกายของมนุษย์ การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม โครงสรา้ งและองค์ประกอบของ DNA การเกิดมิวเทชนั การแปรผันทางพันธกุ รรม ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยชี ีวภาพ ผลท่เี กิดจากการใช้ เทคโนโลยที างชีวภาพ ความหลากหลายของสงิ่ มีชวี ติ ประโยชนข์ องความหลากหลายทางชวี ภาพของสิง่ มีชีวิต ระบบนิเวศ สมดลุ ของระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงแทนท่ี ความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งสง่ิ มีชีวติ และส่ิงมีชีวิตกับสงิ่ แวดลอ้ ม ผลทเ่ี กดิ จากการเพิ่มของประชากรมนษุ ย์ การใช้ ทรัพยากรธรรมชาติทีม่ ีอยอู่ ย่างจากดั ให้คมุ้ คา่ แนวทางป้องกันแก้ไขฟนื้ ฟสู ภาพแวดล้อม การอนุรกั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งย่ังยืน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสบื ค้นข้อมลู บันทึก จัดกลุ่มขอ้ มูล และการอภิปรายเพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถนาเสนอ สอื่ สารสงิ่ ท่ี เรยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เหน็ คณุ คา่ ของการนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวันมีจติ วิทยาศาสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ มท่ีเหมาะสม รหัสตวั ชี้วดั ม.4-6/ 3 ม.4-6/4 ว1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3 ม.4-6/4 ว1.2 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ว2.1 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ม.4-6/3 ว2.2 ม.4-6/1 ม.4-6/2 ว8.1 ม.4-6/1 - 12 รวม 26 ตัวช้ีวดั

คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน ว32102 วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หนว่ ยกิต ศึกษาวเิ คราะห์โครงสร้างทางธรณวี ทิ ยาของโลก แผน่ เปลือกโลก การเคล่ือนทขี่ องแผน่ เปลือกโลก การ เคล่อื นท่ีของแผน่ เปลือกโลก ปรากฏการณ์ทางธรณี การหาอายขุ องหิน ลกั ษณะและอายุของซากดึก ดาบรรพ์ เปรียบเทียบลาดับชั้นหินและอายุของหนิ เพอ่ื ศึกษาความเป็นมาของโลก การเกดิ และววิ ัฒนาการ ของระบบ สรุ ิยะ กาแลกซีและเอกภพ พลงั งานของดาวฤกษ์ ปฏิกิริยาฟิชชนั ตาแหน่งของโลกในระบบสุรยิ ะ กาแลกซีและ เอกภพ การใช้เทคโนโลยอี วกาศในการศึกษาปรากฏการณ์ตา่ ง ๆ บนโลกและในอวกาศ ใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสังเกตสืบคน้ ขอ้ มูล การอภิปราย และการสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สอ่ื สารส่ิงทเ่ี รยี นรู้ มคี วามสามารถในการตดั สินใจ นา ความรู้ไป ใช้ในชวี ิตประจาวัน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านิยม รหสั ตวั ช้ีวดั ว 6.1 ม5/1, ม5/2, ม5/4, ม5/5, ม5/6 ว 7.1 ม5/1, ม5/2 ว 7.2 ม5/1, ม5/2, ม5/3, ว8.1 ม.4-6 /1-12 รวม 22 ตัวชี้วดั

คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ส 32101 สงั คมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จานวนหนว่ ย 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษาหาความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั หลกั ศรทั ธาและปญั ญาท่ถี ูกต้องเกีย่ วกพั ระพทุ ธศาสนา ศึกษา ลักษณะประชาธิปไตยในพระพทุ ธศาสนา พระรัตนตรัย อริยสจั 4 มงคล 38 ประการ ศึกษาพทุ ธศาสน สุภาษิต ประวตั พิ ุทธสาวก พทุ ธสาวกิ าและศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง ชาดก นาข้อคิดท่ีได้มาเป็นแบบอยา่ งในการ ปฏิบัตติ น ศึกษาค่านยิ ม จรยิ ธรรมทเี่ ป็นตัวกาหนดความเช่อื และพฤติกรรมทีแ่ ตกต่างกันของศาสนกิ ชน ปฏบิ ตั ิ ตามหลักศาสนพธิ ีในทางพระพทุ ธศาสนา และมคี วามรเู้ ก่ียวกบั วันสาคัญและเทศกาลสาคัญในพทุ ธศาสนาและ ศาสนาอ่นื ท่ีตนนบั ถือมาปรับใช้ในชวี ติ ประจาวนั ศกึ ษาคุณลักษณะพลเมืองดีของประเทศชาติ และสงั คมโลก เข้ารว่ มกจิ กรรมทางการเมืองการปกครอง มสี ว่ นร่วมในการปอ้ งกนั แก้ไขปญั หาเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง การปกครอง สิ่งแวดล้อม มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมเป็นหลักในการดาเนนิ ชวี ติ ศกึ ษาความหมาย ความสาคัญ แนวคิด และหลกั การของสทิ ธิมนษุ ยชน ศึกษาบทบาทขององค์กรระหวา่ งประเทศในเวทโี ลก ที่มผี ลต่อประเทศไทยและ สาระสาคัญของปฏญิ ญาสากล ศึกษาระบบสหกรณ์ ความสาคญั ของระบบสหกรณ์ในการพฒั นาเศรษฐกจิ หลกั การสหกรณ์ ตัวอยา่ งและประเภทของสหกรณ์ ศึกษาปญั หาเศรษฐกิจในชมุ ชน แนวทางการพัฒนา เศรษฐกจิ ในชุมชน การรวมกลุม่ เพือ่ แก้ไขปญั หาของเศรษฐกิจในชมุ ชนและการเปล่ียนแปลงของพืน้ ท่ีซึ่งไดร้ ับ อทิ ธิพลจากปจั จัยทางภูมิศาสตร์ในประเทศไทยและทวปี ต่าง ๆ โดยใช้กระบวนการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ คิดหาเหตุและผล แลว้ ทาการสารวจตรวจสอบขอ้ มูล เพอ่ื ให้ เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอสอ่ื สารสงิ่ ทีเ่ รียนรู้ มาปรบั ใช้ในชีวติ ประจาวัน พรอ้ มท้ังเหน็ คุณค่าของการปฏบิ ัตติ นเป็นศาสนิกชนทีด่ ี ใหม้ ีคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เกดิ ความรกั และหวงแหนชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ และเป็นบุคคลแหง่ การเรียนรู้ทีม่ ีคุณภาพ รหัสตวั ช้ีวดั ส1.1ม.5/5, ส1.1ม.5/6, ส1.1ม.5/13, ส1.1ม.5/14, ส1.1ม.5/18,ส1.2ม.5/2, ส1.2ม.5/3, ส1.2ม.5/4,ส 2.1 ม 5/3,ส 2.1 ม.5/4, ส 3.1 ม5/3,ส 3.1 ม.5/4,ส 5.1 ม 5/3 รวมท้ังหมด 13 ตวั ชว้ี ดั

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ส3210๒ ประวัติศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวนหน่วย 0.5 หนว่ ยกติ ศกึ ษาความเปน็ มาของชนชาตไิ ทย และอาณาจกั รโบราณในดินแดนไทย สถานการณ์ของไทยตงั้ แตส่ มยั รชั กาลท่ี 5 ถึงสมยั การเปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 บคุ คลสาคัญทงั้ ชาวไทยและชาวตา่ งประเทศท่ีมี ส่วนสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและประวตั ิศาสตรไ์ ทย วิเคราะห์บทบาทของสถาบนั พระมหากษัตริยใ์ นการพัฒนาชาตไิ ทย อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกทมี่ ี ต่อวัฒนธรรมไทย บุคคลสาคัญทง้ั ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทมี่ สี ว่ นสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและ ประวตั ศิ าสตร์ไทย จนเกดิ การตระหนกั และเหน็ คุณค่าความสาคญั ของการศึกษาประวัตศิ าสตร์ไทย รหัสตัวช้วี ัด ส 4.3 ม.5/1, ส 4.3 ม.5/2,ส 4.3 ม.5/4 รวมทงั้ หมด 3 ตวั ชวี้ ัด

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ส 3210๓ สงั คมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศกึ ษาหลักการของพระพุทธศาสนากบั หลกั วิทยาศาสตรห์ รือศาสนาที่ตนนบั ถือ ศึกษาหลักในการฝึกและ พัฒนาตนเอง การพ่งึ ตนเองและการม่งุ อสิ รภาพทางพระพุทธศาสนา ศกึ ษาพระรัตนตรัย อรยิ สจั 4 มงคล 38 พทุ ธศาสนสภุ าษิต ประวตั พิ ทุ ธสาวก พุทธสาวิกาและศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง ชาดก นามาเป็นแบบอยา่ งในการ ดาเนินชีวติ ศึกษาวิธีคิดแบบโยนโิ สมนสิการ ความหมาย ความสาคญั คติธรรมในพิธกี รรมของบทสวดมนต์ นักเรียน เหน็ ความสาคญั ของการปกป้องคุ้มครอง ธารงรักษาพระพุทธศาสนาของพทุ ธบรษิ ัทในสงั คมไทย ศึกษาบทบญั ญัติของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน เกี่ยวกับสิทธิมนษุ ยชน ปัญหาสิทธิ มนษุ ยชนในประเทศ และแนวทางแก้ไขและพฒั นา ความหมาย และความสาคญั ของวัฒนธรรม ลักษณะและ ความสาคัญของวัฒนธรรมไทยทีส่ าคัญ การปรับปรุง เปลี่ยนแปลงและอนรุ ักษ์วัฒนธรรมไทย ศึกษานโยบาย การเงนิ การคลังของรัฐบาลรายรับและรายจา่ ยของรฐั ทม่ี ผี ลต่องบประมาณ หนี้สาธารณะ การพัฒนาเศรษฐกจิ และคุณภาพชีวิตของประชาชน มาตรการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดล้อม บทบาทของ องค์การและการประสานความร่วมมอื ท้ังในประเทศและนอกประเทศ เกยี่ วกบั กฎหมายสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มและเข้าใจแนวทางการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม ในภมู ิภาคต่างๆ ของโลก โดยใช้กระบวนการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ คิดหาเหตุและผล แล้วทาการสารวจตรวจสอบข้อมูล เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาเสนอสื่อสารส่ิงทเ่ี รยี นรู้ มาปรบั ใชใ้ นชีวิตประจาวัน พร้อมท้งั เหน็ คุณคา่ ของการปฏิบัตติ นเป็นศาสนิกชนท่ีดี ให้มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เกิดความรักและหวงแหนชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ และเปน็ บคุ คลแห่งการเรยี นรู้ทีม่ ีคณุ ภาพ รหสั ตัวชี้วดั ส1.1ม.5/7, ส1.1ม.5/8, ส1.1ม.5/13, ส1.1ม.5/14, ส1.1ม.5/19, ส1.2ม.5/2, ส1.2ม.5/5, ส 2.1 ม.5/5,ส 3.2 ม.5/1, ส 5.2ม.5/2,ส 5.2ม.5/3 รวมท้ังหมด 11 ตัวชี้วดั

คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน ส 32104 ประวัตศิ าสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาภมู ปิ ัญญาไทยวัฒนธรรมไทย วิถชี ีวติ คนไทย ในสมัยต่างๆ ปจั จัยที่สง่ เสรมิ การสร้างสรรค์ ภูมิปญั ญาไทยและวฒั นธรรมไทย อิทธิพลของวฒั นธรรมตะวนั ตกและตะวันออกซึ่งมผี ลตอ่ สังคมไทยในยคุ ปัจจบุ ัน การสืบทอด การเปลี่ยนแปลง แนวทางการอนรุ กั ษ์ และการมสี ่วนรว่ ม ในภูมิปัญญาไทยและ วฒั นธรรมไทย โดยใช้กระบวนการและวิธกี ารทางประวัติศาสตร์ในการศกึ ษา ภมู ิปญั ญาไทยและวฒั นธรรมไทย จนเกิดการตระหนักและเหน็ คุณคา่ ความสาคญั ของการศึกษาประวัตศิ าสตร์ไทยมีความรักความภาคภมู ใิ จและ ธารงความเปน็ ไทย รหสั ตัวชีว้ ัด ส 4.3 ม.5/3, ส 4.3 ม.5/5 รวมทง้ั หมด 2 ตัวชีว้ ัด

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน พ3๒101 สขุ ศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษาวเิ คราะห์อทิ ธิพลของครอบครวั เพ่ือน สังคม และวัฒนธรรม ที่มีผลต่อพฤติกรรมทางเพศและการ ดาเนนิ ชวี ติ คา่ นยิ มในเร่อื งเพศ ตามวัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมอื่น ๆ เลอื กใช้แนวทางในการเลือกใชท้ กั ษะ การสือ่ สารและสร้างสมั พนั ธภาพ ทักษะการต่อรอง ทกั ษะการปฏิเสธ ทกั ษะการคิด วเิ คราะห์ ทกั ษะการตดั สินใจ และแก้ไขปัญหาในการปอ้ งกัน ลดความขดั แย้ง และแกป้ ัญหาเร่อื งเพศและครอบครวั วิเคราะห์สาเหตแุ ละผล ของความขัดแย้งท่ีอาจเกดิ ขน้ึ ระหวา่ งนักเรยี น หรอื เยาวชนในชุมชน และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา โดยนากระบวน การสืบค้นขอ้ มูล การอภปิ ราย กระบวนการกลมุ่ แสดงบทบาทสมมุติ กระบวน การเรยี นรผู้ า่ นประสบการณ์ เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเข้าใจ แสดงออกถงึ ความรักความเออ้ื อาทร ความเข้าใจใน อทิ ธพิ ลของครอบครัว เพอ่ื น สงั คม และวฒั นธรรมที่มีต่อพฤตกิ รรมทางเพศ การดาเนนิ ชีวติ และวิถชี วี ิตท่ีมี สขุ ภาพดี เห็นคุณคา่ ของการนาความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน มีคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมท่ีเหมาะสม รหัสตวั ช้ีวัด พ 2.1 ม. 5/1 ,พ 2.2 ม. 5/2 , พ 2.2 ม. 5/3 , พ 2.2 ม. 5/4 , พ 2.2 ม. 5/5 รวมท้ังหมด 5 ตัวชี้วัด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook