โครงการคณะบริหารธุรกิจ การ บ ริ ก า ร วิ ช า แ ก ่ เ ท ศ บ า ล น ค ร รั ง สิ ต ภายใต้โครงการเฉลิมพระเกียรติ ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ ท พ รั ต น ร า ช สุ ด า ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาส ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี คณะดำ� เนินงาน ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.นาถรพี ชยั มงคล ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. กสุ ุมา ด�ำพิทกั ษ์ นางสาวสลติ ตา สารบิ ุตร เนอ่ื งจากมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี มเี จตนารมณจ์ ดั บรกิ ารวชิ าการ แก่สังคม ภายใต้โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ด้วยวัตถุประสงค์ท่ีจะน�ำความรู้ ทางวิชาชพี ไปพฒั นาชมุ ชนอยา่ งยั่งยนื ต่อเนือ่ ง 5 ปี คณะบริหารธุรกิจ ถือได้ว่าเป็นคณะที่มีบุคลากร ท่ีมีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในศาสตรท์ างด้านบริหารธรุ กิจ อนั ไดแ้ ก่ การจัดการ การตลาด การเงนิ การบญั ชี การ บริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ภาษาอังกฤษธุรกิจ ระบบสารสนเทศ และเศรษฐศาสตร ์ ไดพ้ จิ ารณาแล้วเหน็ วา่ ศาสตร์ต่างๆ เหลา่ นี้ สามารถน�ำไปประยุกต์ใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ตอ่ ชมุ ชนอยา่ งยงั่ ยนื ได ้ จงึ ไดล้ งพนื้ ทเี่ พอื่ ปรกึ ษาหารอื กบั เทศบาลนครรงั สติ ถงึ ความตอ้ งการ ของชมุ ชน และความเปน็ ไปไดใ้ นการนำ� องคค์ วามร้ทู างบริหารธุรกิจดังกลา่ ว ไปใหค้ วาม รู้แก่คนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นวิสาหกิจชุมชน (ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก) นักเรียน นกั ศกึ ษา ผสู้ งู อาย ุ ขา้ ราชการในหนว่ ยงาน และผทู้ ส่ี นใจทว่ั ไป ซงึ่ ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการลงพน้ื ที่พบว่าทางชุมชนเทศบาลนครรังสิต มีความต้องการในองค์ความรู้ทางด้านบริหารธุรกิจ เปน็ อยา่ งมาก และมคี วามประสงคอ์ ยากใหท้ างคณะบรหิ ารธรุ กจิ เขา้ ไปใหค้ วามรแู้ กช่ มุ ชน ในด้านต่าง ๆ ดงั นี้ 100
60 ชมุ ชน ยกระดบั คุณภาพชวี ิตหมบู่ า้ นชุมชนแบบมสี ่วนรว่ ม เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจรญิ พระชนมายุครบ 60 พรรษา องค์ความรู้ กลุ่มเปา้ หมายท่ีมคี วามตอ้ งการ สาขาวิชาที่มีความ วตั ถุประสงค์ในการด�ำเนนิ โครงการ เชยี่ วชาญ เพอื่ สรา้ งความรแู้ ละความเขา้ ใจ ในด้านการจัดการ การตลาด การเงิน การ เศรษฐกิจพอเพียง กลมุ่ เยาวชน ของสภาเยาวชน สาขาวชิ าเศรษฐศาสตร์ บญั ชี ภาษาองั กฤษธรุ กจิ ระบบสารสนเทศ เทศบาลนครรังสิต การบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ และ เศรษฐศาสตร์ ทเี่ กยี่ วข้องกบั ชมุ ชน ให้แก่ การออม และการบรหิ ารเงิน นกั เรียน นกั ศกึ ษา และกลุ่มสภา สาขาวชิ าการเงนิ ผู้เข้าร่วมโครงการ เพื่อพัฒนาศักยภาพ สำหรับวยั รนุ่ เยาวชน เทศบาลนครรงั สติ ของคนในชุมชน และเสริมสร้างให้ชุมชน มคี วามเขม้ แข็ง หลักการบันทกึ บัญชี และหลกั กลุ่มสหกรณอ์ อมทรัพย์ กลุ่ม สาขาวิชาการบญั ชี วิธีการ การบญั ชีเบื้องต้น วิสาหกิจชุมชน ผทู้ สี่ นใจท่วั ไป การวางแผนการด�ำเนินการ (P_Plan) 1. แต่งตงั้ คณะกรรมการ ภาวะผนู้ ำ ข้าราชการระดบั หวั หนา้ หน่วยงาน สาขาวิชาการจัดการ 2. ขออนมุ ัติโครงการ ในเทศบาลนครรังสติ และหน่วย 3. ประชุมคณะกรรมการโครงการและผู้ งานทสี่ นใจ เกีย่ วขอ้ งเพื่อวางแผนดำ� เนินการ 4. สำ� รวจพ้ืนที่ ภาษาองั กฤษในชีวิตประจำวัน ผู้ทีส่ นใจทัว่ ไป สาขาวิชาการบรหิ ารธุรกิจ การดำ� เนินงานตามแผน (D_Do) และความรู้เก่ียวกบั AEC ระหว่างประเทศ 1.ทำ� แบบสำ� รวจพน้ื ทเ่ี ปา้ หมาย โดยใชแ้ บบ ส�ำรวจ และการสัมภาษณ์ การใช้ส่ือสังคมออนไลน์ ผู้สูงอายุ และผทู้ ส่ี นใจทว่ั ไป สาขาวิชาระบบสารสนเทศ 2. จดั เตรียมการ ติดตอ่ วิทยากร สถานท่ี (Social Media) เตรยี มเอกสาร และอุปกรณ์ตา่ ง ๆ 3. ดำ� เนินการตามตารางกำ� หนดการ การเขยี นแผนธรุ กิจสำหรับ วิสาหกจิ ชุมชน ทง้ั ขนาดกลางและ สาขาวชิ าการตลาด การติดตามและประเมนิ ผลการดำ� เนนิ วสิ าหกิจชุมชน ขนาดเล็ก รวมถงึ ผ้ทู สี่ นใจท่วั ไป งาน (C_Check) 1.การติดตามประโยชน์ท่ีเกิดขึ้นกับผู้เข้า จากความต้องการดังกล่าว ทางคณะบริหารธุรกิจ จึงได้จัดทำโครงการ “โครงการคณะ ร่วมโครงการ 2.การติดตามผลกระทบท่ีเกิดขึ้นกับ จบคบราราวรกิชหาหิ คสมาาุดรวรรู้ดาธาธฯรุังมุรกกสตลกิจยา่้อิจาวกงมากบกใรหารบาม้เรรรกดรกิ บดิ าาังขชรรกนึ้กวิกลแุมชิ าก่าาารแรช่วีวกมุ ิชเ่เชททนนาาือ่ศเแงงบทใคกาศนลณ่เบโทนอาะคกลศบรานบรสครงัทาริหสรลริตางังนเสรจภติคธราตุรญิรยากรพใมิจัตงรค้โสะวคชจิตารนมึงงมไกปภดาารายระ้จเุยสัดฉง6ใลทค0ติม์ข�ำ้พโอโพครคงระรชรรเมุงกษงกชียกานรา”าตรริสโเเดพฉม“ยือ่เลดมโเิคมส็จรี พระรพิยรงมระะกสะเเวาทรเล้ารพกงาครอียกตัณงารนครตะ์ ิ ชุมชน/องค์กร สดมำเดนนิ็จงพารนะตั้งเทแตพ่ เรดัตอื นเรมาษชาสยุดนา2ฯ55ส8ย-ามมถิ บนุ ารยมนร2า5ช5ก8ุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 3.การตดิ ตามตัวชว้ี ัดเป้าหมาย 60 พรรษา” เพ่ือเสริมสร้างองค์ความรู้ดังกล่าว ให้เกิดขึ้นแก่ชุมชนเทศบาลนครรังสิต ต-สชามุมมมถิชมคุนนตุ วทฐิาาีด่ายชมนีนุมแปใชนล2รนกะะ5เเาทนส5รศอื่ดง8บงคำจเาข์นาลกอินนมงโคคคีชรรวรุมงาังชกมสานหติ รลเาโปกดน็ หยชลมมุ าชรียนะในขยดนะ้าาเนดวปใลหราญะกช่ าามรกดกีรคา�ำร่อเบนนรขินหิ า้ งางารมนจาดักตกง้ั ไาแมร่วตท่าด่ี่ จีเะดทเนัอืปส็นนมเัยเมดษมก็ สีาววยยัสั นรด่นุ ิก2าผ5ร้สูใ5นูง8 อายุ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ และวสิ าหกจิ ชุมชน ย่อมมคี วามตอ้ งการทจ่ี ะพฒั นาตนเองในดา้ นต่างๆ ซง่ึ บาง สดม้ามนอุตาิฐจามนีควใานมกสาอรดดคลำ� ้อเนงกินับโอคงรคง์คกวาามรรู้ที่ทางคณะบริหารธุรกิจมี ดังนั้นจึงมีความเหมาะสมที่จะเลือก ชมุ ชนเทศบชามุลชนคนรเรทังศสติบาเปลน็ นชคมุ รชรนงัทส่ที ติ างเคปณน็ ะชบมุรหิชานรขธรุนกาจิ ดแใลหะลญง ่ไ ปมใกีหาบ้ รรบิการรหิ ทาางรวจิชดั ากกาารรทด่ี ี ทนั สมยั มววา่สี ัตจวถะสั ุปเดปรกะิ ็นสางรเคดใใ์น็กนชกวมุาัยรชรดนุ่นำทเนผด่ี นิ ูส้ี โแงูคลอระงากเยนา ุ รอ่ื ผงู้ปจารกะมกคีอวบาธมุรหกลิจาแกลหะลวาิสยาใหนกดิจา้ นชมุปชระนชยา่อกรมคมอ่ีคนวขามา้ งตมอ้ างกกาไมร่ ทจี่ ะพฒั นาตนเองในดา้ นตา่ งๆ ซง่ึ บางดา้ นอาจมคี วามสอดคลอ้ งกบั องคค์ วามรทู้ ท่ี างคณะ บริหารธุรกิจมี ดังนั้นจึงมีความเหมาะสมที่จะเลือกชุมชนเทศบาลนครรังสิต เป็นชุมชน ทท่ี างคณะบริหารธรุ กจิ และลงไปใหบ้ ริการทางวิชาการ 101
ผลการด�ำเนนิ งาน จากผลการด�ำเนินงาน โครงการดังกล่าวส้ินสุดลงในปีงบประมาณ 2558 ทาง คณะกรรมการบริการวชิ าการ คณะบริหารธรุ กิจ ไดจ้ ัดประเมินผลโครงการฯ พบว่ากล่มุ เปา้ หมายทเี่ ขา้ รว่ มโครงการทงั้ หมดไดร้ บั ความพงึ พอใจเปน็ อยา่ งดยี ง่ิ อกี ทงั้ ยงั ใหค้ วามรว่ ม มอื ตลอดระยะเวลาในการเขา้ รว่ มโครงการเปน็ อยา่ งดี และทส่ี ำ� คญั ทางเทศบาลนครรงั สติ ยงั ไดม้ ีการติดต่อประสานมายังคณะบรหิ ารธุรกจิ โดยจัดทำ� เปน็ โครงการเพอื่ ขอวทิ ยากร ไปให้ความรใู้ นระดับทส่ี งู ขึน้ ตอ่ ไป เช่น การอบรมภาษาองั กฤษเชิงธุรกิจ การจัดท�ำแผน ธรุ กิจสำ� หรับวสิ าหกิจชุมชน เปน็ ต้น จะเหน็ ไดว้ า่ ทางคณะบริหารธุรกิจ ได้น�ำศาสตร์ด้านการจดั การ การตลาด การ เงิน การบัญชี การบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ภาษาอังกฤษธุรกิจ ระบบสารสนเทศ และเศรษฐศาสตร์ เข้าไปให้บริการความรู้ในวิชาชีพของคณะบริหารธุรกิจแก่ชุมชนเพื่อ ใช้ประโยชนใ์ นการดำ� เนินชวี ิตแิ ละประกอบอาชพี ตลอดจนส่งเสรมิ การใหช้ มุ ชนสามารถ เพมิ่ รายได้ และมที กั ษะในการประกอบธรุ กจิ และ มเี ศรษฐกจิ ทเ่ี ขม็ แขง็ ยงั่ ยนื ซง่ึ ทางคณะ บรหิ ารธรุ กจิ ไดร้ บั ความรว่ มมอื เปน็ อยา่ งดยี ง่ิ จากทางเทศบาลนครรงั สติ จงั หวดั ปทมุ ธานี แนวทางการขยายผลการดำ� เนินงานใหเ้ กิดความยง่ั ยนื จากการเข้าให้ความรู้ทางด้านการเขียนแผนธุรกิจแก่วิสาหกิจชุมชน ทางคณะ กรรมการเห็นว่าเทศบาลนครรังสิต มีวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็งเป็นจ�ำนวนมาก อีกท้ังมี ความพร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มท่ี ดังนั้นอาจมีการต่อยอดในการ พฒั นาวสิ าหกจิ ชุมชนในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การจดั ท�ำบรรจภุ ณั ฑ์ การหาตลาดที่มี ศกั ยภาพ เป็นตน้ 102
60 ชุมชน ยกระดบั คุณภาพชีวิตหมบู่ า้ นชุมชนแบบมสี ว่ นรว่ ม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา โครงการวิจัยเชิงพื้นที่น�ำสู่การผลิตภัณฑ์ สู ต ร ส า ร ชี ว ภ า พ อั ด เ ม็ ด จ า ก วั ส ดุ เ ห ลื อ ใช้ชุมชน เพื่อการพัฒนาและอนุรักษ์ วิ ถี ชี วิ ต ก า ร ป ลู ก ข ้ า ว อิ น ท รี ย ์ ชุ ม ช น บึงกาสาม จงั หวดั ปทมุ ธานี มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี คณะดำ� เนนิ งาน ผศ.ดร.สกุ าญจน์ รัตนเลิศนสุ รณ์ และเครอื ข่ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี จากสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชนบึงกาสาม จังหวัดปทุมธานี พบ วา่ ดินมีสภาพเปน็ ดินกรด pH 3-4 ดนิ แข็งไม่รว่ นซยุ นำ้� มโี ลหะหนักปนเปื้อน เน่อื งจาก ผลการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเพ่ิมปริมาณธาตุอาหารหลักและรองในดิน ก�ำจัดโรคพืช ก�ำจัดศัตรู แมลง ทำ� ใหต้ น้ ทนุ สงู แตเ่ กษตรกรไดผ้ ลผลติ ตำ่� ผลผลติ ทางการเกษตรมสี ารโลหะหนกั ปน เปอ้ื น ไมไ่ ดต้ ามมาตรฐานผลผลติ เกษตรอนิ ทรยี ข์ องกรมวชิ าการเกษตร(GAP) เกษตรกรไม่ สามารถก�ำหนดราคาสินคา้ ได้ ประกอบกบั สกุ าญจน์ 2555 และ 2557 คิดคน้ นวตั กรรม ชีวภาพหัวเช้ือราอัดเม็ด กล้าเช้ือรา และหัวเช้ือชีวภาพอัดเม็ด อ่ืน ๆ จากความหลาก หลายทางชวี ภาพเชื้อราปฏิปกั ษ์จากดนิ ในชุมชนและจดสิทธิบัตร ดังภาพท่ี 1 ส�ำหรับแก้ ปัญหาและผลกระทบใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของชมุ ชน โดยการนอ้ มนำ� หลกั การปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพียงมาบูรณาการเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีชีวภาพด้วยนวัตกรรมชีวภาพจาก ความหลากหลายทางชวี ภาพเชอ้ื ราปฏปิ กั ษ์ และพฒั นาชมุ ชนใหม้ คี วามเขม้ แขง็ บนพน้ื ฐาน ของความมมี เี หตแุ ละมผี ล ภมู คิ มุ้ กนั และความพอประมาณ อนั นำ� ชมุ ชนไปสกู่ ารพฒั นาดา้ น สงิ่ แวดลอ้ ม สงั คม เศรษฐกจิ และวัฒนธรรมอย่างย่งั ยืน พรอ้ มจดั ตงั้ ชุมชนอินทรีย์ต้นแบบ (organic community model) ดว้ ยนวตั กรรมชวี ภาพจากความหลากหลายทางชวี ภาพ เชื้อราปฏิปกั ษช์ ุมชนบึงกาสาม จังหวดั ปทุมธานี ดงั นน้ั คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะวชิ าชพี ตา่ ง ๆ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ รี ว่ มกบั เครอื ขา่ ยมหาวทิ ยา ลยั ฯ (RMUTT Engagements) ไดแ้ ก่ ภาครฐั เอกชน สถานประกอบการ และชมุ ชน รว่ ม กนั บรหิ ารจดั การพฒั นาชมุ ชนแบบมสี ่วนร่วม ดงั ภาพท่ี 2 103
ภาพที่ 1 นวัตกรรมชวี ภาพจากความหลากหลายทางชวี ภาพเช้อื ราปฏิปักษ์ชมุ ชนเพอื่ การ ภาพทพ่ี 1ัฒนาวชตั มุ กชรนรตมามชปวี รภัชาญพาเจศารกษฐคกวิจาพมอหเพลียางกหลายทางชีวภาพเชื้อราปฏิปกั ษช์ ุมชนเพอ่ื การพัฒนาชุมชน เส แปขมอ้สนืง็มนไม้ําุตมมไมร่ฐิ มว่โีาุตไ่นลนดจิฐซหใต้ ายนุาากะจนกมตนสหาามาำใ้�ภกรนามนมาดตสโีกัพกปล�ำรภปปเฐหารนาาัญะนรัชินนพหดหญเผโปนปาคาํลาแกัือ้รเญัผเลปนงลนศกะนหินติ รผาเเาตปโษรลกแคอ้้นืกษฐลนรรตทกะงะรตนุิจทอกผน้ พสบนิาลทขทูงอรนุกอรเสผรยีงพงูชะขล์ ยีผุมอทผงลชงบลกผนิตรลขทมติทอ่ีผวทา่งาชิ านชงางมกกมุกาาาาชรรรไนเเดกเก้แกทษษกษตีผ่ต่ รรดา่ตม(ินนรGสีกมมAารPสีราดโ)าลไเpรกหดHโษะแ้ลหต3กหรน-4่กะกัดรปดหไนิ ินนมนก่ ักรปดกแว1นpตั.กาเ ถรHป้ปเศพุปัญื้อึกรอื่3นหะษถ-สา4่าาแงยวคลดทิจใ์ะัอินยนผดเกแชลเาขทิงกรพค็งรดื้ะนไโ�ำนมททเนโ่รบี่ลนิ่ว(ขยCโนอชีคSงีวซรRชภงุย)ุมกาพาชแรนสล�ำะหแกรลาับะร สาไมมาร่ไดถก้ตำ� าหมนมดาราตคราฐสานิ นคา้ผไลด้ผดลงั นติ น้ั เนกกัษวตจิ รยั แอลินะทเครรียอื ์ขา่อยงฯกจรงึ มมวแี ิชนวาคกดิ ากราเรกบษรหิตารรจ(Gดั กAาPร) วจิ ยั ระดบั อตุ สาหกรรม (Talent Mobility) ชมุ เชกนษบตงึ กรากสราไมมจ่สงั าหมวดัาปรถทมุกธําาหนนี ดดว้ ยรนาวคตั ากสรนิรมคต้าาไมดส้ ทิดธงั บิ นตั ้ันรหนวั กั เชวอื้ ิจรยั าอแดัลเะมด็เคกรลือา้ ขเช่าอื้ ยรฯา 2. เพ่ือถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสาร แนหmลวลoจด2ะัตังd5งึ้วหกกeม6ยาัวรlรรเีแ2)นชพมเนือ้วพชัฒชตัวอ่ืีวนวีคภใกภชาาิดรเ้แาพปรกพลชน็มาะุมอแบตรชนื่หบรานลิหๆมรง่แาพิหสกรรฒัะ้ปิทาจหรัญัดนธวจกาิบหา่ กาัดางัตราแกรพจรลาเัดห.ระศรตยี ตวั.ชั้นงร2เชุมรชง5ุมแู้กชื้อ5ลชับ8นระนค-าฝบ2ตวอกึ5า้นงึ 6ปัดมกแ2ฏตเบามบิ้อแสบ็ดงตัลาอกขิะมินากอถรทง่าลจขนรยา้อังียทกั เงห์เอชชร(วดoยีือุ้มเดันrชรทgปนาaคนแnทโกั แนiลศcมุลโกึะลธะcษยหตาoาีชรนัวmีววปเีภจชรmตาะ้ือพuิดชชnแตาีวชลiาtนภมะy าพ ชีวภาพอัดเม็ดด้วยนวัตกรรมกล้าเช้ือรา พทอ่ีฒัไน่ื ดน้มๆาาแตรลระะฐอหานนวรุ ก่ากั รงษมก์พวาิช.รศาปก.ลา2กู ร5ขทา้5ี่ดว8ินอ-ินสท�ำรหียร์ ับ 3. เพื่อประชาสัมพันธ์การบริหารจัดการ ไดแ้อยล่าะงถสอา่ ดยคทลอ้อดงกเทบั พคนั โนธกโจิลขยอีชงมีวหภาาวพิทแยาลละัยนเทวคัตโนกโรลรยมรี าชชีวมภงคาพลธชญั ุมบชรุ นี 4แดกา้ ้ปนญั ดงัหภาาแพละตชรมุ งชกนบั ตคน้ วแาบมบตอนิอ้ ทงรกยี า์(oรrขgอanงiชcมุ cชommu- ที่ น2 คแือละตรวจตดิ ตามหลังการพฒั นาและบริหารจดั การจัดตงั้ ชุมชนต้นแบบอnินitทyรmยี o์ (doerlg)ดaว้nยiนcวตั กรรมกลา้ เชอื้ รา b ilคปcitoอืyร)mะชmา312ช...u น nดดดไi้า้าา้ดtนนนy้อกกกยาmาารรร่าเบoวรงิจรียสdิกยันอeาเกชดรlาิง)วครพิชเสลืน้พาอก้อท่อืนาี่งใรCกชSโบัเ้ดRปยพแน็กนั ลาแธะรหถกกา่าลิจยร่งขวทพจิออยััฒดงรมเนะทหดคาับาโกนอวาโตุิทรลสยเยารชีาหยี ีวลกภนัยรารรเพม้แูทพลค(ฒั TะโaนนฝlาeโึกกnลปาtยรฏMผีรบิลาoิตชัต-มิขงอคงลนธักญั เรบียุรนี 4นดกั ศ้านกึ ษดางั ภาพท่ี 2 สารชีวภาพอัด1เ.ม็ดดด้าวนยกกลา้ารเชเร้ือียรานกส�ำาหรรสับอพนัฒนาการปลูกข้าวอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี แก้ ปญั หาดนิ กรด2.ลดดตน้า้ นทนุกาเพรมิ่วผจิ ลัยผเลชติงิ แพล้นื ะรทา่ียCไดS้R และการวจิ ยั ระดับอุตสาหกรรม (Talent Mobility) เพโื่อดกยารกอาน4รุร.ถ ัก 3ด่าษ.า้ ยด์นทนิดศอลิา้นปนดำ�้ ว เกอฒัทาาธคหรรโาบรนรมรปโิกนลลากัอยรศดีชกวึภวีษิชัยภาฉาไาลกดพอาเ้ รงรพยีวนันัฒรแนแู้มล่สาะู่วกอันานพรรุ อ่ผกั ขษลอว์ติ งถิ แสชี ผาวี น่รติ ดชกินาวี รภปาลพกู ขอา้ ดั วอเมนิ ด็ทรดยี ว้ ์ ยกลา้ เช้ือรา สาํ หรับพฒั นาการปลกู ขา้ วอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี แกป้ ญั หาดนิ กรด ลดต้นทนุ เพม่ิ ผลผลิตและรายได้ 4. ด้านศลิ ปวัฒธรรม 104นักศึกษาไดเ้ รียนร้แู ละอนรุ กั ษว์ ิถชี วี ติ การปลกู ขา้ วอินทรยี ์เพือ่ การอนรุ กั ษ์ดนิ นํา้ อาหารปลอดภัยฉลองวนั แมส่ ่วู ันพ่อของแผ่นดนิ
2. เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยกี ารผลติ สารชีวภาพอดั เมด็ ด้วยนวตั กรรมกล้าเชื้อราที่ได้มาตรฐานกรมวิชาการที่ ดนิ สําหรับพัฒนาและอนุรักษก์ ารปลกู ข้าวอินทรยี ์ 60 ชมุ ชน ยกระดับคุณภาพ3ช.ีวิตเหพมือ่ ู่บป้านรชะุมชชานสแบมั บพมันสี ่วธนก์ ราว่ มรบเฉรลหิมิ พารระจเกัดยี กราติสรมชเุมด็จชพนรตะเน้ทพแรบัตบนรอานิชสทุดราียฯ์(oสยrgามaบnรiมcราcชoกmมุ ารmี ทuรงnเจitรyญิ พระชนมายุครบ 60 พรรษา model)ดว้ ยนวัตกรรมกล้าเชอ้ื รา ขว้นั ธิ ตกี อานรการดําเนนิ โครงการ การสำรวจปญั หาและผลกระทบพื้นทช่ี ุมชน0 ดินกรด น้ำมีสารโลหะหนักปนเปือ้ น จุลลินทรียก์ อ่ โรค4 วสั ดเุ หลือใช้จากการทำนา อ่นื ๆ เช่น ฟางขา้ ว มลู สตั ว์ ซังขา้ ว แกลบ อน่ื ๆ4 แนวคดิ และเทคโนโลยีเพือ่ แกป้ ัญหาสิง่ แวดลอ้ ม สงั คม เศรษฐกจิ แบบยง่ั ยนื ตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง0 เพมิ่ การเตบิ โต เพิม่ ผลผลติ เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน4 แก้ปญั หาดินกรดน้ำมสี ารโลหะหนกั จลุ ลินทรยี ์กอ่ โรคปนเปื้อน นวตั กรรมกล้าเช้อื รา0 สทิ ธบิ ัตรสารละลายกลา้ เชอ้ื รา4 สิทธบิ ตั รผงกล้าเช้ือรา4 5. การตรวจติดตาม การเติบโต ผลผลิต ตน้ ทุน กำไร รายได้ คณุ ภาพดนิ นำ้ จลุ นิ ทรยี เ์ ชื้อราดนิ อ่นื ๆ4 1. การถ่ายทอดเทคโนโลยแี ละการศกึ ษาวจิ ยั การ ผลติ สารชีวภาพอดั เม็ดด้วยกลา้ เชอื้ ราของอาจารย์ และนกั ศกึ ษา4 4. การพัฒนาการปลูกและอนุรักษ์ข้าว อินทรยี ์ดว้ ยสารชีวภาพอดั เมด็ ทดแทน ปุ๋ยเคมี4 3. การเตรียมและปรับพืน้ ท่ี 2. การตรวจสอบคณุ ภาพสารชวี ภาพอัด ดินโดยสารชีวภาพอัดเม็ด4 เม็ดด้วยกลา้ เชื้อรา4 การเรยี นการสอน0 การวจิ ยั 0 การบริการ วฒั นธรรม0 วิชาการ0 แบบSTEM Education การพฒั นานวตั กรรมชีวภาพหวั สำหรบั นักศึกษาไทย เชอ้ื ราจากความหลากหลายทาง การผลติ สารปรบั ปรงุ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงสู่วถิ ี และต่างชาติสงิ คโปร์4 ชวี ภาพเชอื้ รา4 ชีวภาพดว้ ยกลา้ เชอื้ รา ชวี ิตอินทรยี ช์ มุ ชนเฉลมิ ฉลองวัน กรณีศกึ ษาวจิ ัยจาก การแยกเช้ือบริสทุ ธิ์และการอนุรักษ์ จากวัสดเุ หลือใชช้ มุ ชน4 พ่อและวนั แม่ของแผน่ ดนิ 4 พน้ื ท่ีจรงิ (CSR)4 ความหลากหลายทางชีวภาพเชอ้ื รา ปฏิปักษ์ เมลด็ พันธุ์ข้าว4 การพฒั นาและประชาสมั พันธ์ การผลติ สารปรับปรุง การเกษตรอินทรียข์ ้าวด้วยนวตั กรรม ชวี ภาพอัดเม็ดดว้ ยกล้าหวั ชวี ภาพใหม่ ๆ ทดแทนปุ๋ยเคมี4 เช้อื ราจากขยะ/การทำนา4 การพฒั นาการเพาะและปลูกข้าว การจดั ตงั้ ศูนยร์ ฐั วสิ าหกิจชมุ ชนเพ่ือ อนิ ทรยี ด์ ้วยนวตั กรรมชีวภาพใหม่ การนำทรพั ยากรชมุ ชนแปรรูปเป็น สารชีวภาพอัดเมด็ ทดแทนปยุ๋ เคมี4 ผลิตภัณฑ์ OTOP เชิงพาณชิ ย์4 การพฒั นาตอ่ ยอดกบั สถาน ประกอบการเพือ่ การผลิต ในระดับอุตสาหกรรม4 ภาพท่ี 2 หกาล ภราาบกพรหิหทลาา่ี รย2จทดักาชกางีวาชรภรวีบพภารฒัพาิหพนจาเาาชรชก้อืจมุ ครัดชาวกนาาบมรงึ หพกลาฒั สานากมาหชจลุมังาหชยวนทดั บาปงงึทชกมุ ีวาธภสานาามีพดเ้วจชยัง้ือนหรววาัตดั กปรรทมุมชธวี าภนาพี ดจว้ายกคนววาตั มกรรม 105
ผลการดำ� เนนิ งาน แนวทางการขยายผลการดำ� เนินงานให้เกิดความยั่งยืน การบรหิ ารจดั การชมุ ชนต้นแบบอินทรยี ์ (Organic community model) ตาม ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ชมุ ชนบงึ กาสาม จงั หวดั ปทมุ ธานี กอ่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาเทคโนโลยี สมยั ใหม่ ๆ จากการนำ� ทรัพยากรจากชมุ ชนมาแปรรปู เปน็ ผลิตภณั ฑ์ OTOP ชุมชน ของ เครือข่ายมหาวิทยาลัยฯ ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยฯ ได้น�ำนวัตกรรมชีวภาพ จากความหลากหลายทางชวี ภาพเชอื้ ราปฏปิ กั ษถ์ า่ ยทอดสชู่ มุ ชนทำ� ใหเ้ กดิ การพฒั นาชมุ ชน ตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งแบบ CSR และการพฒั นาการวจิ ยั ตอ่ ยอดการผลติ ในโรงงาน อุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีข้นั สงู และสมยั ใหม่ (Talents Mobility) นัน้ คือ 1. ชมุ ชน การตน่ื ตวั ในการทจี่ ะพฒั นาเปน็ ชมุ ชนตน้ แบบอนิ ทรยี ์ (organic com- munity model) ตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เนอื่ งจากหลงั การดำ� เนนิ การพฒั นา 2 ปี เกษตรกรลดตน้ ทุนการผลติ ข้าว 2,000 บาทต่อไร่ รายไดเ้ พิม่ ขน้ึ 2 ถงึ 3 เท่า สภาพดินมี ความเป็นกลาง ดนิ รว่ นซยุ ลดการเกดิ โรคพชื และแมลงศตั รูพชื สามารถลดปริมาณโลหะ หนกั ในดนิ สงู ถงึ 90 เปอรเ์ ซน็ ต์ ดงั ผลการศกึ ษาวจิ ยั เชงิ พน้ื ทขี่ องสกุ าญจนแ์ ละคณะ 2557 และการศกึ ษาวิจัยตอ่ ยอดอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ระยะเวลา 5 ปี 2. สถานประกอบการ น�ำนวัตกรรมชีวภาพไปพัฒนาต่อยอดและขยายผลร่วม กบั นกั วจิ ยั มหาวทิ ยาลยั ฯ เพอ่ื ดำ� เนนิ การการผลติ ในระดบั อตุ สาหกรรมดว้ ยเทคโนโลยขี นั้ สงู และสมยั ใหม่ (Talents Mobility) ทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศ ได้แก่ บรษิ ทั โอเวลธ์ จำ� กดั บริษทั ไทยยเู นยี นจ�ำกดั บริษัท HENRITEX รัฐบาลมาเลเซีย เพือ่ ทำ� ให้ผลติ ภัณฑ์ ใหม่ทปี่ ระสทิ ธภิ าพเพ่มิ ข้ึนและเป็นมติ รกับผ้บู รโิ ภคและส่ิงแวดลอ้ ม 3. นักศึกษา ใช้เป็นพื้นท่ีศึกษาประกอบการเรียนการสอนแบบ STEM Edu- cation เพื่อออกแบบแนวคิดใหม่ (concept) การออกแบบ (design thinking) และ เทคโนโลยี/นวัตกรรมชีวภาพ(Technology and Innovation) และการน�ำเทคโนโลยี/ นวัตกรรมชีวภาพไปใช้ประโยชน์เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงกับความต้องการ และส่งเสริมการ เรียนรู้แบบครบวงจรแบบ STEM Education ด้วยเทคโนโลยี ชีวภาพจากความหลาก หลายทางชีวภาพ 4. อาจารย์ ไดพ้ ัฒนางานวิจยั ต่อยอด นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ๆ ท่ี สามารถน�ำไปแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชนได้ตรงกับความต้องการ สอดคล้องกับพันธกิจ ของมหาวิทยาลยั 4 ด้าน ไดแ้ ก่ การเรียนการสอน การวจิ ยั การบริการวชิ าการ และทำ� นุ บำ� รุงศิลปวฒั นธรรม 106
60 ชมุ ชน ยกระดบั คุณภาพชีวิตหมู่บ้านชุมชนแบบมีสว่ นรว่ ม เฉลมิ พระเกยี รติสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจรญิ พระชนมายคุ รบ 60 พรรษา โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระ ปัจจุบันสังคมไทยเกิดการ เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช เปล่ยี นแปลงในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งอาจเกดิ กุ ม า รี ใ น โ อ ก า ส ฉ ล อ ง พ ร ะ ช น ม า ยุ ผลกระทบต่อคนในชุมชน ดังน้ันคนใน 5 รอบ : พฒั นาชุมชนบา้ นเอื้ออาทร ชุมชนจึงเป็นปัจจัยส�ำคัญในการแก้ไข ตลาดไท ปัญหาท่ีเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการ ศึกษา ด้านอาชีพ และคุณภาพชีวิต เพื่อ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี ก่อให้เกิดสภาพชีวิตที่ดีของคนในชุมชน นนั้ ๆ หลงั จากทท่ี างคณะวศิ วกรรมศาสตร์ คณะด�ำเนนิ งาน ดร.กลุ ยา สารชิ ีวิน มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี ได้ ดร.ศิรชิ ยั เตรยี มล�ำ้ เลศิ ประสบความส�ำเร็จจากโครงการยกระดับ ดร.เกียรตศิ ักด ิ์ แสงประดิษฐ์ คณุ ภาพชวี ติ ของหมบู่ า้ น ชมุ ชน แบบมสี ว่ น ดร.ฐนียา รงั ษีสรุ ิยะชัย รว่ ม 84 หมู่บ้าน ชุมชน เฉลมิ พระเกยี รติ นางปรางทอง โอเจรญิ โครงการย่อย ประจ�ำปงี บประมาณ 2554 นายมรกต ประเสริฐ - 2556 “ชุมชนตัวอย่างด้านการบริหาร นางสาวณัฐนนั ท์ คงเพช็ รศักด ์ิ จัดการคุณภาพชีวิต” จากต�ำบลอาษา นางสาวเมทกิ า หมั่นทองสุขพร อำ� เภอบา้ นนา จังหวัดนครนายก ซึ่งได้รบั นางสาวบุษราภรณ ์ จติ รจ�ำเนยี ร ผลตอบรับอย่างดีจากชุมชน และชุมชม ไดม้ คี วามเขม้ แขง็ ขึ้นตลอด 4 - 5 ปที ี่ผา่ น มา ทางคณะวศิ วกรรมศาสตรจ์ งึ ได้นำ� บท เรียนจากโครงการดังกล่าว มาพัฒนาและ ปรับปรุง โดยในปี 2557 ได้มีความร่วม มือกับชุมชนหมู่บ้านเอื้ออาทรตลาดไท (เทพกญุ ชร 34) อำ� เภอคลองหลวง จงั หวดั ปทมุ ธาน ี ซง่ึ เปน็ ลกั ษณะของชมุ ชนทอี่ ยใู่ น ตวั เมอื ง ทพี่ กั อาศยั เปน็ แบบอาคารชดุ 5 ชน้ั จ�ำนวน 808 หนว่ ย โดยมปี ระชาชนอาศัย อยใู่ นปจั จบุ นั ประมาณ 800 - 1000 คน และมีความต้องการในการสร้างชุมชน ที่เข้มแข็ง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึน โดย ต้องการองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีใน แขนงต่าง ๆ ที่ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ มอี ยู่ เพื่อพัฒนาการสรา้ งอาชีพเสรมิ และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมของชุมชนให้มี ความน่าอยู่ และมีคุณภาพท่ีดีข้ึน ดังน้ัน ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้มีการร่วม ปรึกษาหาความต้องการของชุมชนฯ และ 107
วิเคราะห์สรุปความต้องการจากการประชุมร่วมกัน จึงได้จัดการ จากการลงสำ� รวจพน้ื ท่ชี มุ ชน พบผูน้ ำ� ของชุมชน และสำ� รวจความ อบรมถา่ ยทอดองคค์ วามรตู้ ามศาสตรใ์ นแขนงตา่ ง ๆ ทางวศิ วกรรม ตอ้ งการของประชาชนในชมุ ชนบา้ นเออื้ อาทรตลาดไท (เทพกญุ ชร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของชุมชน เพ่ือสร้างให้ชุมชนเป็น 34) พบว่า ประชาชนท่ีอาศัยในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ “ชุมชนเมอื งต้นแบบดา้ นการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ” ได้ หลากหลาย อาทิเชน่ รับราชการ, พนักงานบริษัท/องคก์ รเอกชน, สมมตุ ิฐานในการด�ำเนินโครงการ อาชีพอสิ ระ, รบั จ้างทั่วไป, แมบ่ ้าน ฯลฯ ซงึ่ มคี วามหลากหลายใน ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ได้จัดท�ำโครงการบริการ ความต้องการองค์ความรู้ ซ่ึงจากผลการส�ำรวจได้น�ำมาจัดล�ำดับ วชิ าการ โดยเนน้ การน�ำองค์ความรู้และศาสตร์ทางดา้ นวศิ วกรรม ความตอ้ งการองคค์ วามรทู้ คี่ นในชมุ ชนตอ้ งการใหท้ างคณะฯ เขา้ ไป ในแขนงตา่ ง ๆ ไปถ่ายทอดให้กับชมุ ชนหมบู่ า้ นเอื้ออาทรตลาดไท อบรมถ่ายทอดองค์ความรูใ้ ห้ 5 ลำ� ดบั สูงสดุ ไดแ้ ก่ (เทพกุญชร 34) เพื่อให้ประชาชนในชุมชนฯ จะได้น�ำเอาความรู้ 1. การปลูกผกั ไฮโดรโปนิกในครัวเรือน ท่ีได้รับจากการถ่ายทอดไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและ 2. การท�ำธัญพชื ทอดกรอบ ชมุ ชนไดจ้ รงิ และนำ� มาซงึ่ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของคนในชมุ ชน 3. การพิมพซ์ ิลคส์ กรนี บนผา้ เมืองได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 4. การหลอ่ ตุก๊ ตาเรซ่ิน วธิ กี าร 5. การหมักปุ๋ยอนิ ทรยี ์ในตะกร้า ในการดำ� เนนิ โครงการครง้ั น ้ี ทางคณะวศิ วกรรมศาสตร์ ทางคณะฯ ไดจ้ ดั ทมี วทิ ยากรทม่ี คี วามรใู้ นศาสตรด์ า้ นดงั ได้มขี น้ั ตอนของการด�ำเนินโครงการ ดังแสดงในรูปท่ี 1 กลา่ ว โดยแบง่ ฐานการเรยี นรเู้ ปน็ 5 ฐาน เพอ่ื จดั อบรมถา่ ยทอดองค์ ความรู้ท่ีทางชุมชนต้องการ โดยจัดอบรมในอาคารส่วนกลางด้าน หนา้ ชุมชนบา้ นเออ้ื อาทรตลาดไท ชาวบา้ นทพ่ี กั อาศัยอยู่ในชุมชน บ้านเอื้ออาทรตลาดไท สามารถลงช่ือเข้าเรียนในหัวข้อที่ตนเอง ต้องการและสนใจ ซ่ึงแต่ละฐานการเรียนรู้จะรับจำ� นวนผู้เรียนได้ ประมาณ 25 คน โดยในแต่ละหัวข้อการอบรมจะมีการบรรยาย ทั้งในภาคทฤษฎแี ละภาคปฏบิ ัติ เพ่ือใหป้ ระชาชนไดเ้ ข้าใจและทำ� จริงเพื่อให้เกิดทักษะการเรียนรู้และสามารถน�ำเอาความรู้ท่ีได้รับ ไปตอ่ ยอดของตนเองได้ ฐานการเรียนรู้ที่ 1 : การปลกู ผักไฮโดรโปนิกในครัวเรอื น รปู ที่ 1 ข้ันตอนการด�ำเนนิ งาน 108
60 ชุมชน ยกระดบั คุณภาพชวี ติ หมู่บา้ นชมุ ชนแบบมสี ่วนรว่ ม เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ฐานการเรียนร้ทู ่ี 2 : การท�ำธัญพืชทอดกรอบ ผลการด�ำเนินงาน ฐานการเรียนรทู้ ี่ 3 : การพมิ พ์ซิลคส์ กรนี บนผา้ ผลการดำ� เนินงานโครงการฯ พบว่า ประชาชนในชมุ ชน ฐานการเรียนรทู้ ่ี 4 : การหล่อตุ๊กตาเรซน่ิ บา้ นเอื้ออาทรตลาดไท (เทพกญุ ชร 34) ไดใ้ หค้ วามสนใจในการ ฐานการเรียนรู้ท่ี 5 : การหมักปยุ๋ อินทรยี ์ในตะกรา้ เขา้ ร่วมการอบรมถา่ ยทอดองค์ความรใู้ นฐานการเรยี นรทู้ ง้ั 5 ฐาน ซึ่งผู้ที่เข้ารับการอบรมมีท้ังทุกระดับช่วงวัยท้ังเด็กเยาวชน ผู้ใหญ่ วยั ทำ� งาน รวมถึงผ้สู ูงอาย ุ ในฐานการเรยี นรทู้ ่ี 1 : การปลูกผักไฮโดรโปนิกในครวั เรอื น ชาวบา้ นสว่ นใหญจ่ ะสนใจทจ่ี ะนำ� เอาเทคนคิ วธิ กี ารปลกู ผกั ไฮ โดรโปนกิ ทีไ่ ดร้ ับจากการอบรม ซึง่ เปน็ วิธีท่งี ่ายและประยุกตท์ ำ� ได้ เองในครวั เรอื น ไปดำ� เนนิ การทำ� เองโดยจะใชพ้ นื้ ทรี่ ะเบยี งดา้ นหลงั ของหอ้ งชดุ ปลกู ผกั เพอื่ บรโิ ภคเองในครวั เรอื น บางคนมที ดี่ นิ ทอ่ี นื่ ก็ จะนำ� เอาวธิ กี ารทไ่ี ดร้ บั ไปปลกู พชื ไฮโดรโปนกิ ไดใ้ นปรมิ าณมากขน้ึ ซ่ึงน�ำไปทำ� ตอ่ ยอดเปน็ อาชพี เสรมิ ไดต้ อ่ ไป ในฐานการเรยี นรทู้ ่ี 2 : การทำ� ธญั พชื ทอดกรอบ กลมุ่ ชาว บ้านที่ให้ความสนใจมากได้แก่ กลุ่มแม่บา้ น ซึ่งการทำ� ธัญพชื ทอด กรอบ (ลูกเดือย) เป็นของรับประทานเล่นท่ีก�ำลังนิยมในกลุ่มคน รกั สขุ ภาพ เนอื่ งจากลูกเดอื ยมคี ณุ คา่ ทางโภชนาการสูง และทม่ี ี ขายในทอ้ งตลาดเมอื่ แปรรปู เปน็ ลกู เดอื ยทอดกรอบกท็ ำ� ใหม้ มี ลู คา่ สนิ คา้ ทส่ี งู ขนึ้ จงึ ไดร้ บั ความสนใจในกลมุ่ ของแมบ่ า้ นทม่ี แี นวความ คดิ อยากจะนำ� เอาเทคนคิ และวธิ กี ารทำ� ลกู เดอื ยทอดกรอบทไี่ ดร้ บั ไปตอ่ ยอดในเชิงธุรกิจ เปน็ รายไดเ้ สริมของครอบครัวอกี ทางหนงึ่ ในฐานการเรียนรู้ที่ 3 : การพิมพ์ซิลค์สกรีนบนผ้า กลุ่มชาวบ้านให้ความสนใจเรียนรู้เพ่ือที่จะน�ำเอาความรู้และ เทคนิคการสกรีนบนผ้าที่ได้รับไปเป็นแนวทางในการสกรีนผ้า ซึ่ง มีทงั้ แนวคดิ ทีจ่ ะท�ำเปน็ งานของกล่มุ ชุมชน เชน่ สกรีนเสือ้ ของทมี ฟตุ บอลของชมุ ชน หรอื สกรนี กระเปา๋ เพอื่ ขายเปน็ รายไดเ้ สรมิ และ มีแนวคิดที่อยากเรยี นรเู้ พื่อท�ำเปน็ งานอดิเรกในเวลาว่าง เป็นตน้ ในฐานการเรยี นรทู้ ี่ 4 : การหลอ่ ตกุ๊ ตาเรซน่ิ กลมุ่ ชาวบา้ น ให้ความสนใจและสนุกกับการเรียนรู้วิธีการหล่อตุ๊กตาเรซิ่น รวม ถึงเทคนิคการลงสีของช้ินงานเรซิ่นหลังจากที่หล่อเรซิ่นเสร็จแล้ว ชาวบ้านบางคนมีแนวความคิดในการอยากจะผลิตของที่ระลึกที่ เปน็ เรซน่ิ ทเี่ ปน็ เอกลกั ษณข์ องตวั เองเอาไวข้ ายในชมุ ชนเพอ่ื เปน็ ราย ไดเ้ สรมิ และมหี ลายคนทอ่ี ยากเรยี นรทู้ ำ� เปน็ งานอดเิ รกในเวลาวา่ ง ในฐานการเรียนร้ทู ่ี 5 : การหมกั ปุย๋ อินทรยี ์ในตะกร้า มีชาวบา้ น สนใจการท�ำปุ๋ยหมักโดยเทคนิคง่าย ๆ และท�ำเองได้ในครัวเรือน แต่ส่วนใหญ่อยากเรียนรู้และน�ำไปท�ำปุ๋ยหมักในพ้ืนท่ีอ่ืน เพราะ 109
เนื่องจากพื้นที่ของท่ีพักอาศัยในชุมชนบ้านเอ้ืออาทรมีค่อนข้างจ�ำกัด บางคนมาเรียนรู้เทคนิคการหมักปุ๋ยเพ่ือจะได้น�ำไปสอนให้กับญาติพ่ี น้องและคนรู้จกั ท�ำต่อ แตม่ หี ลายคนทมี่ ีความคิดอยากจะทำ� ปุย๋ หมกั ในชุมชนเอ้ืออาทร เนื่องจากสามารถหาวัสดุที่จะน�ำมาหมักได้ง่าย เพราะเนื่องจากอยู่ใกล้ตลาดไท ซึ่งสามารถหาเศษพืชและผักได้ง่าย เปน็ การลดปรมิ าณขยะทเ่ี กดิ ขนึ้ ทง้ั ในชมุ ชนของตนเอง และพน้ื ทใ่ี กล้ เคียงไดอ้ ีกดว้ ย แนวทางการขยายผลการด�ำเนนิ งานให้เกิดความย่งั ยนื ผู้เข้าร่วมโครงการอบรมฯ สามารถน�ำองค์ความรทู้ ีไ่ ดจ้ าก การอบรมท่ไี ด้จากการถา่ ยทอดเทคนิควธิ กี ารของทัง้ 5 ฐานการเรียน รู้ไปต่อยอดเพื่อสร้างรายได้เสริม หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนใน ชมุ ชนตลอดจนเปน็ การสรา้ งความเขม้ แขง็ ใหก้ บั ชมุ ชนของตน รวมทง้ั อาจมีการรวมกลุ่มกันของกลุ่มแม่บ้านร่วมกันผลิตสินค้าออกมาขาย อาทเิ ช่น ลกู เดอื ยทอดกรอบ ผักปลอดสารพษิ ของทรี่ ะลึกทท่ี ำ� จาก เรซน่ิ เป็นตน้ เป็นการสร้างรายได้ใหก้ ับตนเอง ครอบครัว และชุมชน ในอนาคต กลุ่มชาวบ้านที่เข้าร่วมการอบรมได้ตอบรับกับการน�ำเอา องคค์ วามรเู้ ทคนคิ ตา่ ง ๆ และเรยี กรอ้ งใหท้ างคณะฯ จดั โครงการอบรม ถา่ ยทอดความรใู้ นศาสตร์ด้านแขนงตา่ ง ๆ เชน่ การทำ� สบู่ แชมพไู วใ้ ช้ ในครวั เรอื น การท�ำผา้ มัดยอ้ ม เปน็ ตน้ ให้กบั ทางชุมชนอีกในปถี ัดไป 110
60 ชมุ ชน ยกระดบั คุณภาพชีวิตหมู่บ้านชุมชนแบบมีสว่ นร่วม เฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจริญพระชนมายคุ รบ 60 พรรษา โ ค ร ง ก า ร ก า ร ส ร ้ า ง ธุ ร กิ จ บ ริ ก า ร จึงมีความต้องการให้มีวิชาเลือกด้าน สุขภาพความงามและสปาให้กับนักเรียน ด้านสุขภาพและความงามให้แก่ชุมชน เพ่ือไปประกอบอาชีพหลังจากจบการ ศึกษาช้ันมัธยมศึกษา ซึ่งวิทยาลัยการ อย่างยั่งยนื แพทย์แผนไทยซึ่งเป็นวิทยาลัยที่มีความรู้ ความสามารถด้านสุขภาพความงามและ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี สปา และด้านภูมิปัญญาไทยที่สามารถ คณะด�ำเนินงาน นางสาวยามีละ ดอแม ถา่ ยทอดความรใู้ หก้ บั นกั เรยี นเพอื่ เปน็ การ นายนธิ ิพนั ธ์ บญุ เพิ่ม ส่งเสริมสุขภาพตนเอง ครอบครัวและ เป็นการอาชีพเสริมระหว่างเรียนและหลัง เ นื่ อ ง ด ้ ว ย ม ห า วิ ท ย า ลั ย ที่ 6 ไม่ได้ศกึ ษาตอ่ ทั้งหมด เน่ืองจากขาด จากจบการศกึ ษาชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 เพอื่ เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จะด�ำเนิน รายได้ต้องหยุดเรียนเพื่อช่วยเหลืองาน สรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ตนเองและนำ� ไปประกอบ โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตหมู่บ้าน ที่บ้านและไม่มีวิชาชีพท่ีจะไปประกอบ อาชีพได้ ชมุ ชน แบบมสี ่วนร่วม 60 หมู่บา้ น ชุมชน อาชีพได้ โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช ดงั นนั้ วทิ ยาลยั จงึ จดั ทำ� โครงการ เฉลิมพระเกียรติ เป็นโครงการต่อเนื่อง มงคลธัญบุรีเห็นความส�ำคัญในการช่วย การพัฒนาศักยภาพนักเรียนด้านสุขภาพ 5 ปี จะเริ่มจัดท�ำโครงการขึ้นในปีการ เหลือปัญหาที่เกิดกับนักเรียนโรงเรียน ความงามและสปาในโรงเรียนเพ่ือการ ศึกษา 2558 เป็นโครงการแรก จาก สุนทโรเมตตาประชาสรรค์ ต�ำบลบ่อเงิน ดูแลสุขภาพและสร้างรายได้เสริมเพ่ือเป็น การลงพื้นท่ีเพื่อศึกษาปัญหาของทาง อ�ำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี อีกทางท่ีสามารถช่วยให้นักเรียนมีรายได้ โรงเรียนและปัญหาหลักของทางโรงเรียน เนื่องจากโรงเรียนน้ีนักเรียนมีปัญหาเรื่อง มาเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาและน�ำไป น้ันคือขาดแคลนทุนทรัพย์ในการศึกษา การขาดแคลนทุนทรัพย์ในการเรียนและ ประกอบอาชีพหลงั จบการศกึ ษาปีที่ 6 ได ้ และเม่ือจบการศึกษาช้ันมัธยมศึกษาปี ขาดทุนทรพั ยใ์ นการศกึ ษาตอ่ ทางโรงเรียน สมมตุ ฐิ านในการด�ำเนินโครงการ เพ่ือใหน้ กั เรยี นสามารถนำ� ความ รู้ด้านสุขภาพความงามและสปาไปใช้กับ ตนเอง ครอบครวั สรา้ งรายไดเ้ สรมิ และนำ� ไปประกอบอาชีพได้ 1.นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามสามารถ ด้านสุขภาพความงามและสปา และ ภมู ปิ ญั ญาไทย 2.นักเรียนโรงเรียนสุนทโร เมตตาประชาสรรค์ ต�ำบลบ่อเงิน อ�ำเภอ ลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี สามารถ สร้างรายได้เสรมิ ให้กับตวั เอง 3.นักเรียนมีแนวทางในการ ประกอบอาชพี 111
วธิ ีการ ดำ� เนนิ การฝกึ อบรมโดยมีรายละเอียดเนอื้ หาในการฝึกอบรมมรี ายละเอียดดงั น้ี 1. เทคนคิ และวิธกี ารส�ำรวจการสำ� รวจสมุนไพรที่ใช้ในการดแู ลสุขภาพและความงาม 2. การแปรรูปวตั ถุดิบสมุนไพรเพื่อใชใ้ นการดูแลสุขภาพและความงาม 3. การดแู ลสขุ ภาพตนเองด้วยสมนุ ไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน 4. การทำ� ปา้ ยและติดรหสั พันธุพชื สมนุ ไพร 5. การดูแลสขุ ภาพตนเองด้วยสมนุ ไพรในงานสาธารณสขุ มลู ฐาน 6. การน�ำสมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐานน�ำมาใช้ประโยชน์ในการดูแลตนเองโดยการ สาธติ การทำ� ลกู ประคบหนา้ ใส 7. แปรรูปวัตถุดิบสมุนไพรเพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพและความงามโดยการสาธิตการท�ำ น้ำ� มันไพล 8. การรวบรวมพนั ธพ์ุ ชื สมนุ ไพรทม่ี อี ยใู่ นอยใู่ นชมุ ชน ขยายพนั ธ์ และปลกู เพอ่ื เตรยี มความ พรอ้ มในการนำ� มาใช้ดา้ นธุรกิจสปาเพ่อื สขุ ภาพ ผลการด�ำเนนิ งาน 1. ไดม้ กี ารถา่ ยทอดองคค์ วามรกู้ ารสรา้ งธรุ กจิ บรกิ ารดา้ นสขุ ภาพและความงาม ใหแ้ กช่ มุ ชนอยา่ งยัง่ ยนื ให้กบั นักเรียนและประชาชน ต�ำบลบอ่ เงนิ อ�ำเภอลาดหลุมแกว้ จงั หวัดปทมุ ธานี จ�ำนวน 40 คน ในวันท่ี 26-30มกราคม 2558 2. ไดม้ กี ารสำ� รวจสมนุ ไพรในตำ� บลบอ่ เงนิ และนำ� สมนุ ไพรทมี่ ใี นชมุ ชน มาอบรม การขยายพนั ธ์ุพืช การนำ� มาพัฒนาให้การอบรมการทำ� ผลิตภณั ฑ์สมนุ ไพรท้ังภาคทฤษฎี และสอนปฏบิ ตั ิ ไดแ้ ก่ เทคนคิ และวธิ กี ารสำ� รวจการสำ� รวจสมนุ ไพรทใี่ ชใ้ นการดแู ลสขุ ภาพ และความงาม แปรรปู วตั ถดุ บิ สมนุ ไพรเพอื่ ใชใ้ นการดแู ลสขุ ภาพและความงามโดยการสาธติ การทำ� ครมี มะขาม การนำ� สมนุ ไพรในงานสาธารณสขุ มลู ฐานนำ� มาใชป้ ระโยชนใ์ นการดแู ล ตนเองโดยการสาธติ การทำ� ยาดมสม้ โอมอื แปรรปู วตั ถดุ บิ สมนุ ไพรเพอื่ ใชใ้ นการดแู ลสขุ ภาพ และความงามโดยการสาธติ การทำ� นำ้� มนั ไพล การนำ� สมนุ ไพรในงานสาธารณสขุ มลู ฐานนำ� มาใชป้ ระโยชนใ์ นการดแู ลตนเองโดยการสาธติ การทำ� ลกู ประคบหนา้ ใส การรวบรวมพนั ธ์ุ 112
60 ชมุ ชน ยกระดบั คณุ ภาพชวี ิตหมู่บา้ นชุมชนแบบมสี ่วนรว่ ม เฉลิมพระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจรญิ พระชนมายคุ รบ 60 พรรษา พชื สมนุ ไพรทม่ี อี ยใู่ นอยใู่ นชมุ ชน ขยายพนั ธ์ และปลกู เพื่อเตรียมความพร้อม นอกจากนี้ยังมีการแนะน�ำวิธี การใช้ ประโยชน์ และวธิ ีการแนะนำ� ใหผ้ ู้อืน่ ใช้ซ่งึ กลุ่ม เปา้ หมาย กลมุ่ นเี้ ปน็ ประชาชน และนกั เรยี นที่ จำ� เปน็ จะตอ้ งนำ� สมนุ ไพรในชมุ ชนมามาพฒั นาเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ ในการดูแลสุขภาพและความงามของตนเองเป็นการ ดูแลสุขภาพเบ้ืองต้นก่อนมาโรงพยาบาลเพื่อช่วยลด จ�ำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลด้วยและด้านความงาม ช่วยประหยัดรายจ่ายในการซ้ือผลิตภัณฑ์จากร้านค้า โดยการน�ำสมุนไพรใกล้ตัวมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใช้ เองได้ 3. ในการดำ� เนนิ การจดั อบรมของโครงการ ได้มีการส�ำรวจสมุนไพรในชุมชน มีการ รวบรวมพันธุ์พืชสมุนไพรท่ีมีอยู่ในอยู่ใน ชุมชน ขยายพันธ์ และปลูกเพื่อเตรียม ความพร้อมส�ำหรับโครงการการสร้าง ธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงาม ส�ำหรับชุมชนอย่างยั่งยืน และมีการท�ำ ป้าย เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักเรียน และประชาชนที่เข้ามาเยี่ยมโรงเรียน และ เป็นการสร้างวัตถุดิบเพื่อลดต้นทุนในการ สร้างผลติ ภัณฑ์ 113
การท�ำอาหารจากผลผลิตของสวนเกษตร และการทำ� ปา้ ยคำ� คมและสภุ าษติ ตดิ ตน้ ไม้ เปน็ ภาษาตา่ งประเทศใหน้ กั เรยี นไดเ้ รยี นรู้ ภาษาต่างประเทศจากสวนเกษตร โดยจะ ทำ� เปน็ โครงการนำ� รอ่ งเพอื่ การศกึ ษาเรยี น รใู้ หก้ บั นกั เรยี นและประชาชนในชมุ ชนใกล้ เคียงได้เรียนรู้ และน�ำความรู้ไปใช้ในชีวิต ประจำ� วนั โ ค ร ง ก า ร เ ฉ ลิ ม พ ร ะ เ กี ย ร ติ ส ม เ ด็ จ สมมตุ ิฐานในการดำ� เนินโครงการ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญา ราชกุมารีในโอกาสฉลองพระชนมายุ ทชี่ แี้ นวทางการดำ� รงชวี ติ ทเี่ รยี บงา่ ยพออยู่ 5 รอบ พอกนิ เปน็ การลดรายจา่ ยเพมิ่ รายไดใ้ หก้ บั ครอบครัว แต่ในจุดเริ่มต้นจะต้องใช้ความ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี พยายามและอดทน เพราะต้องท�ำนอก เวลางาน เช่น การทำ� ผักสวนครัวรั้วกนิ ได้ คณะดำ� เนนิ งาน ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ฉลาด สวา่ งแจง้ การปลกู เหด็ และการจดั ทำ� บญั ชคี รวั เรอื น สิ่งท่ีเกิดขึ้นนี้จะต้องมีวินัยตนเองอย่างสูง แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่ช้ีแนวทางการด�ำรงชีวิต ท่ีพระบาท จึงจะท�ำได้ ดังน้ันจุดเริ่มต้นของโครงการ สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ 9 มพี ระราชดำ� รสั แกช่ าวไทยนบั ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2517 เปน็ ตน้ นี้คือสอนเศรษฐกิจพอเพียงให้กับนักเรียน มา และมลู นธิ สิ ง่ เสรมิ ยวุ เกษตรกรไทย ในพระราชปู ถมั ภข์ อง สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ในโรงเรียนเจริญวิทยา และสร้างโรงเพาะ สยามบรมราชกุมารี ก่อตง้ั เมือ่ วนั ที่ 31 ตลุ าคม 2536 ได้สืบสานเจตนารมณ์ของแนวทาง เหด็ ใหก้ บั โรงเรยี น เพอ่ื เปน็ แบบอยา่ งใหก้ บั เศรษฐกิจพอเพียงด้านการส่งเสริมการพัฒนากลุ่มหรือสมาชิกยุวเกษตรกรและเยาวชน ชุมชนได้ศึกษา โดยให้นักเรียนมีส่วนร่วม ชนบท โดยสนบั สนนุ ใหน้ กั เรยี น ทำ� เกษตรในโรงเรยี นเพอื่ นำ� ผลผลติ ทางเกษตรมาทำ� อาหาร ในการดูแลเห็ด เก็บเห็ด น�ำไปท�ำอาหาร กลางวัน และน�ำไปขายให้กับชุมชน ทั้งนี้ทางคณะ ดังน้ัน คณะศิลปศาสตร์ มีความต้องการน�ำความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียงและ ได้ให้อาจารย์ท่ีรับผิดชอบโรงเห็ดท�ำบัญชี ความรู้ด้านต่าง ๆของคณะศิลปศาสตร์ มาประยุกต์ใช้ในการท�ำเกษตรในโรงเรียน เช่น รายรบั รายจา่ ย เพอื่ เปรยี บผลผลติ วา่ คมุ้ คา่ กบั การลงทนุ หรือไม่ หากไดผ้ ลดีทางคณะ ศลิ ปศาสตรจ์ ะดำ� เนนิ การประชาสมั พนั ธใ์ ห้ ชมุ ชนต่อไป วตั ถุประสงค์ในการด�ำเนินโครงการ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ด้าน เศรษฐกจิ พอเพยี งใหก้ บั ชมุ ชนและโรงเรยี น รวมทั้งแหล่งเป็นส�ำหรับศึกษาดูงานให้กับ ชมุ ชน 114
60 ชุมชน ยกระดับคณุ ภาพชีวติ หมู่บา้ นชุมชนแบบมีสว่ นร่วม เฉลมิ พระเกยี รติสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา วธิ กี าร ผลการดำ� เนินงาน ดำ� เนินการฝึกอบรมเนื้อหา ดังนี้ การเพาะเห็ดนักเรยี นให้ความสนใจและซกั ถามการดแู ลเห็ด รวมมีประชาชน ผู้ 1. ใหค้ วามร้ดู ้านเศรษฐกจิ พอเพยี ง ปกครองเข้ามาดูงานด้วยความสนใจ และมีแนวคิดว่าถ้าโรงเรียนท�ำได้ผลดีจะน�ำไปท�ำที่ 2. ให้ความรู้การเตรียมความพร้อมของ บ้านดว้ ย สว่ นการทำ� อาหารจากผักต่าง ๆ กส็ าธติ ให้แมค่ รวั และนกั เรียนดู ซงึ่ อาหารงา่ ย ๆ ที่ทกุ คนสามารถทำ� ได้ เชน่ ผดั ผักเหด็ รวม เหด็ ชบุ แปง้ ทอด และยำ� เหด็ ซ่งึ นกั เรยี น แม่ พืน้ ท่ีการท�ำโรงเหด็ บา้ น และอาจารยท์ ไ่ี ปอบรมชว่ ยกนั ทำ� เปน็ อาหารกลางวนั สำ� หรบั นกั เรยี นทง้ั โรงเรยี นดว้ ย 3. การทำ� โรงเพาะเหด็ แนวทางการขยายผลการด�ำเนนิ งานให้เกิดความย่ังยืน เมื่อโรงเรียนเจรญิ วทิ ยาสามารถทจี่ ะบริหารงานไดด้ ว้ ยตนเอง คือ สามารถขาย ผลผลติ คอื เหด็ และผกั สวนครวั เลยี้ งตวั เองได้ และมรี ายไดเ้ หลอื เพยี งพอทจ่ี ะนำ� ไปใชใ้ นงาน อน่ื ๆ ทางคณะศลิ ปศาสตรจ์ ะประชาสมั พนั ธใ์ หป้ ระชาชนในชมุ ชนมาดเู ปน็ แบบอยา่ ง และ จดั โครงการอบรมพฒั นาตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี ง ใหก้ บั ประชาชนทสี่ นใจเพอื่ นำ� ไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ครอบครวั ตนเอง คอื มคี วามพอดี ไมม่ าก ไมน่ อ้ ยจนเกนิ ไป โดย ไม่เบียดเบียนตนเองและผอู้ น่ื ไดแ้ ก่ การบรโิ ภคท่อี ยใู่ นระดับทพ่ี อประมาณ 115
โครงการเสริมคุณภาพชีวิต สาน สมมุติฐานในการดำ� เนินโครงการ วัฒนธรรม สู่ชุมชนผู้มีรายได้น้อย แนวคิดหลักของโครงการคือ ภายใต้โครงการเฉลิมพระเกียรติ การส่งเสริม และพัฒนาความสามารถใน 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราช การพึ่งพาตนเอง จากศักยภาพ ความรู้ สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปีท่ี 1 ภูมิปัญญาพื้นบ้าน และความเข็มแข็งของ ประจำ� ปี 2558 วัฒนธรรมชุมชน ที่เป็นพ้ืนฐานดั้งเดมิ ของ สังคมไทย ที่ท�ำใหเ้ ราดำ� รงอยู่ มาได้จนถงึ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ทกุ วนั น้ี และดว้ ยเหตผุ ลดงั กลา่ วเมอื่ ชมุ ชน ผู้มีรายได้น้อยต้องการพึ่งพาตนเองเพื่อให้ คณะด�ำเนินงาน อาจารย์ กิติศกั ดิ์ วิทยาโกมลเลศิ และคณะ ด�ำรงอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง การหวนนึกย้อน กลับไปในพื้นฐานของตนในอดีต จึงเป็น ในอดตี ชมุ ชนในแถบคลองหกวาสายลา่ ง (คลองลำ� ลกู กา) เปน็ ชมุ ชนเกษตรกรรม อีกหนทางท่ีภาควิชาการสามารถเข้าไป ปลูกข้าว มีบ้านเรือนเกาะกระจายตัวไปตามแนวล�ำคลองแต่ในปัจจุบัน ชุมชนได้ ค้นคว้า วิเคราะห์ และพัฒนาปัจจัยพ้ืน เปลยี่ นแปลงทศิ ทางการพฒั นาเปน็ การเกาะกระจายตวั ไปตามแนวถนนสายหลกั และจาก ฐานที่มีศักยภาพของชุมชนเพ่ือเป็นทาง การพฒั นาทางเศรษฐกจิ สมยั ใหม่ และสงั คมแบบทนุ นยิ ม จงึ สง่ ผลใหพ้ น้ื ทชี่ มุ ชนในแถบน้ี เลือกในอนาคตท่ีเข้มแข็งของชุมชนต่อไป กำ� ลงั ประสบกบั ปญั หาเรอ่ื งการจดั การทอ่ี ยอู่ าศยั สำ� หรบั ผมู้ รี ายไดน้ อ้ ย ทกี่ ำ� ลงั ประสบกบั โดยได้ก�ำหนดประเด็นศึกษาในปที ี่ 1 ไว้ 4 ปญั หาในหลากหลายดา้ น ทง้ั จากการรบั ภาระจากคา่ ใชจ้ า่ ยในการเชา่ ทอี่ ยอู่ าศยั ไปจนถงึ ประการคอื ปัญหาการถูกไล่รอ้ื จากการตั้งบ้านเรอื นรุกล้ำ� ทดี่ ิน • การออกแบบเคร่ืองเรือนจากวัสดุ ด้วยการสนับสนุนโดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และเทศบาลต�ำบลล�ำลูกกา ไดร้ ว่ มกนั รเิ รม่ิ โครงการบา้ นมนั่ คงลำ� ลกู กา เพอื่ ชว่ ยเหลอื ดา้ นทอ่ี ยอู่ าศยั แกผ่ มู้ รี ายไดน้ อ้ ย เหลือใช้ และวัสดุธรรมชาติ และปจั จบุ นั ไดด้ ำ� เนนิ การมาไดถ้ งึ ระยะทหี่ นงึ่ แลว้ หากแตช่ มุ ชนฯ ยงั คงตอ้ งการชว่ ยเหลอื • การปรบั ปรงุ ภมู ทิ ศั น์ และสง่ิ แวดลอ้ ม ทงั้ ในดา้ นคณุ ภาพชวี ติ และการสง่ เสรมิ โอกาสในการมบี า้ นของผมู้ รี ายไดน้ อ้ ย ประกอบกบั การสนบั สนนุ ชมุ ชนใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจในดา้ นวฒั นธรรมและการจัดการวัฒนธรรมใน เพ่ือพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ทอ้ งถ่ินของตน เพอื่ เป็นการเรม่ิ ต้นจากการคิดและทำ� ดว้ ยฐานสิ่งทมี่ ีในตนเอง ยอ่ มทำ� ให้ • วัฒนธรรมชุมชน และออกแบบผลิต ชุมชนเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนของตนเอง ก�ำหนดความต้องการและการบริหาร จัดการได้ดว้ ยชมุ ชนเอง เพื่อให้เกดิ ประโยชน์สงู สุดตอ่ ชมุ ชนของตนอย่างแทจ้ รงิ วสั ดกุ ่อสรา้ งจากธรรมชาติ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นองค์กรที่รวบรวมผู้มีความรู้ในหลากหลายด้าน • การอบรมทักษะเชิงช่างจากวัสดุพื้น ทงั้ ดา้ นสถาปตั ยกรรม สถาปตั ยกรรมภายใน และวฒั นธรรมชมุ ชน สามารถใหค้ วามรู้ บรู ณ าการศาสตรต์ า่ ง ๆ และกระตนุ้ ใหช้ มุ ชนมสี ว่ นรว่ มในการชว่ ยเหลอื ตนเอง โดยมคี ณาจารย์ ถน่ิ โดยกระบวนการมสี ว่ นรว่ ม และนกั ศึกษาสนบั สนุนองคค์ วามรู้ และสง่ เสรมิ ใหช้ ุมชนเกดิ การพฒั นาทยี่ ัง่ ยนื ตอ่ ไป วตั ถปุ ระสงคใ์ นการดำ� เนนิ โครงการ 1.เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิต และ สรา้ งโอกาสในการมบี า้ นของชมุ ชนผมู้ รี าย ได้นอ้ ย 2.เพ่ือปลูกจิตส�ำนึกชุมชนใน การพึ่งพาตนเอง โดยการฟื้นฟูความรู้ ภูมิปัญญาพน้ื บา้ น และวัฒนธรรมชมุ ชน 116
60 ชมุ ชน ยกระดบั คณุ ภาพชีวิตหมบู่ ้านชมุ ชนแบบมีสว่ นร่วม เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจรญิ พระชนมายุครบ 60 พรรษา วธิ กี าร และสามารถน�ำมาใช้ประโยชน์เพ่ือเพิ่ม 4.3 วัฒนธรรมชุมชน และ 1.หารือกับผู้น�ำชุมชน และเครือข่ายเพื่อ คณุ ภาพชวี ติ ไดด้ ว้ ย โดยในขนั้ แรกน้ี คณะฯ ออกแบบผลิตวัสดุก่อสร้างจากธรรมชาติ ก�ำหนดแนวทางเบื้องต้นในการด�ำเนิน ไดเ้ ลอื กใชย้ างรถยนตเ์ กา่ มาดดั แปลงเปน็ ท่ี ด้วยภูมิปัญญาการใช้ประโยชน์วัสดุจาก โครงการ นัง่ ทสี่ วยงาม และมีประโยชน์ใชส้ อย ชว่ ย ธรรมชาติ ผนวกกับศักยภาพของพ้ืนที่ ๆ เปลย่ี นมมุ มองของชาวบา้ นในการ คดิ สรา้ ง เหมาะกับการปลูกแต่ถูกเว้นว่างไว้ “ไผ่” มลู คา่ เพม่ิ ใหก้ บั ขยะทมี่ ใี หม้ คี ณุ คา่ เพม่ิ มาก จึงถูกเลือกมาใช้ จากพ้ืนฐานความคิดที่ ข้ึน ว่า “เราสามารถปลูกบ้านของเราขึ้นมา ได้จากการปลูกไผ่เอง”ผนวกกับแนวคิด ทางการออกแบบทส่ี วยงาม และเทคโนโลยี การกอ่ สรา้ งทเี่ พม่ิ ความแขง็ แรง และความ ทนทาน เป็นทางเลอื กทมี่ คี วามย่งั ยืน 2.ส�ำรวจ และศกึ ษาศักยภาพของชมุ ชน 4.4การอบรมทักษะเชิงช่างจาก 4.2 การปรับปรุงภูมิทัศน์ และ วัสดุพ้ืนถ่ินโดยกระบวนการมีส่วนร่วม สิ่งแวดล้อมเพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วย ด้วยพ้ืนฐานของชุมชนท่ีปัจจุบัน ยังอยู่ 3.วเิ คราะห์ และวางแผนการดำ� เนนิ งาน กายภาพพื้นฐานของชุมชนท่ีมีพื้นที่โล่ง ระหวา่ งการก่อสร้าง และความชำ� นาญใน 4.ด�ำเนินการจัดกจิ กรรม กว้าง แต่ในปัจจุบันถูกปล่อยท้ิงเว้นว่าง ทางวิชาชีพสถาปัตยกรรมของคณะฯ จึง 4.1การออกแบบเครอ่ื งเรอื นจาก ไว้ ทางคณะฯ จึงได้น�ำเสนอแนวทางใน ชว่ ยพฒั นาความสามารถของชาวชมุ ชนใน วัสดุเหลือใช้ และวัสดุธรรมชาติ จากการ การสร้างประโยชน์พื้นที่ว่างที่ถูกปล่อย ทกั ษะเชงิ ชา่ ง ซงึ่ เพม่ิ ความสามารถในการ ส�ำรวจศักยภาพชุมชนนั้น พบว่าในแต่ละ ท้ิง โดยการปรับ ภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้ ท่ี ตรวจรับ การดูแลการก่อสร้างบา้ นของตน บ้าน มีการเก็บเศษวัสดุไว้เป็นจ�ำนวนมาก จะใหป้ ระโยชน์ท้งั ดา้ นความสวยงาม ด้าน ให้มีคุณภาพ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดใน โดยเป็นการเก็บเพื่อรอช่ังน้�ำหนักขาย คุณภาพส่ิงแวดล้อม และหากเลือกพันธุ์ อนาคต เป็นอาชพี ในสายงานการก่อสรา้ ง เท่านั้น คณะฯ จึงเกิดแนวคิดในการเพ่ิม ไม้ผลท่ีมีประโยชน์ ก็ยังสามารถเก็บรับ ท่ียังขาดแคลนช่างฝีมือ ช่วยสร้างอาชีพท่ี มูลค่าเศษวัสดุเหล่านั้นให้มีคุณค่ามากขึ้น ประทานเพอ่ื ลดคา่ ใชจ้ า่ ยในครวั เรอื นไดอ้ กี มีรายไดม้ ั่นคงได้ 117
ผลการดำ� เนนิ งาน 1.เกดิ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ และสรา้ งโอกาสในการมบี า้ น ของชุมชนผู้มีรายได้น้อย จัดท�ำเป็นแนวทางพัฒนาศูนย์พัฒนาการ ก่อสรา้ งท่ีอยู่อาศัยเพ่ือผู้มีรายได้น้อย 2.เกิดการปลูกจิตส�ำนึกชุมชนในการพึ่งพาตนเอง โดยการฟื้นฟคู วามรภู้ ูมิปญั ญาพื้นบ้าน และวฒั นธรรมชมุ ชน จัดทำ� เป็นเอกสารรวบรวมความรูภ้ ูมปิ ญั ญาพ้ืนบา้ น และวฒั นธรรมชุมชน แนวทางการขยายผลการดำ� เนนิ งานใหเ้ กิดความยัง่ ยืน แนวคดิ การสง่ เสรมิ และพฒั นาความสามารถในการพง่ึ พา ตนเอง จากศักยภาพ ความรู้ ภมู ปิ ญั ญาพน้ื บ้าน และความเขม็ แขง็ ของวัฒนธรรมชุมชน มีความส�ำคัญอย่างยิ่งต่อชุมชนในอนาคต ซง่ึ จากการด�ำเนนิ การท่ีผา่ นมา พบว่าชุมชนยังต้องการ ความรู้ และ การสนบั สนนุ ทางวชิ าการอกี มาก รวมถงึ การชว่ ยสรา้ งความเชอื่ มน่ั ใน ศักยภาพ ภูมิปญั ญาพน้ื ฐานทีช่ มุ ชนเคยมองขา้ มคณุ คา่ ไป การขยาย ผลการด�ำเนินการในข้ันต่อไป จึงควรเป็นการได้สัมผัสจากของจริง และได้รับรู้ ได้เห็นประสบการณ์จากผู้ใช้จริง ซึ่งจะช่วยสร้างความ มั่นใจ และพัฒนาความมุ่งมั่นของชาวชุมชนในความสามารถการ พ่ึงพาตนเอง ซ่ึงเป็นหนทางการพัฒนาที่มีความยั่งยืนตามเป้าหมาย ที่วางไว้ 118
60 ชุมชน ยกระดบั คณุ ภาพชีวิตหมูบ่ ้านชมุ ชนแบบมสี ว่ นรว่ ม เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจรญิ พระชนมายุครบ 60 พรรษา โครงการฝึกอบรมทักษะอาชีพสร้าง สอนสร้างประสบการณ์จริงของตามแบบ ชนชุมชนเข้มแข็ง เพ่ือเฉลิมพระเกียรติ ฉบบั “บณั ฑติ นกั ปฏิบัติ : Hands On” สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ครบรอบ กลุ่มเป้าหมายเป็นบุคลากรในสถานศึกษา 60 พรรษา ระดับประถม มัธยม ศูนย์การศึกษานอก โรงเรยี น และประชาชนท่วั ไป ในเขตพน้ื ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี อำ� เภอธญั บรุ ี จ�ำนวน 165 คน ระยะเวลา ในการจัดการฝึกอบรม 2 วัน ด�ำเนินการ คณะดำ� เนินงาน ดร.ทศพร แสงสว่าง จัดการฝึกอบรมให้บริการวิชาการแก่ ชุมชน ได้แบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมเป็น คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมได้มีความร่วมมือกับชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย 2 กลุ่มที่จะเป็นผู้ผลักดันให้เกิดชุมชนเข้ม เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีในพื้นท่ีอ�ำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งสอดคล้องนโยบาย แข็งข้ึน ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ประชาชนท่ัวไป ของคณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรม และยทุ ธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชมงคลธญั บุรี จึงจัดใหม้ ี ประกอบดว้ ย เยาวชน ผสู้ งู อายุ และกลมุ่ ท่ี โครงการฝกึ อบรมทกั ษะอาชพี เพอื่ สรา้ งชมุ ชนเขม้ แขง็ เพอ่ื เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพ 2 บคุ ลากรทางการศกึ ษา การจดั หลักสูตร รตั นราชสดุ าฯ ครบรอบ 60 พรรษา ในโครงการนขี้ น้ึ เพอ่ื เพม่ิ พนู ความรแู้ ละประสบการณ์ อบรมฝกึ อบรมทกั ษะอาชพี เพอ่ื สรา้ งชมุ ชน ใหแ้ กผ่ เู้ ขา้ รบั การอบรมใหส้ ามารถนำ� ความรทู้ ไี่ ดร้ บั ไปพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ลดปญั หาสงั คม เข้มแข็งในกลุ่มอาชีพ ได้แก่ หลักสูตร และปัญหาการว่างงาน ยกระดับทักษะความรู้ให้สามารถน�ำไปประกอบอาชีพอิสระได้ สร้างพลังงานแก๊สหุงต้มจากเศษอาหาร และพฒั นาการจดั การเรยี นการสอนไดอ้ กี ทางหนงึ่ การฝกึ ทกั ษะอาชพี สรา้ งรา้ ยไดส้ ำ� หรบั หลักสตู รการทำ� น�้ำหมกั ชีวภาพ เยาวชน ชุมชนใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัยฯโดยคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมจัดให้มีการ เครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ โครงการครงั้ น้ี บรกิ ารวชิ าการ โดยคณาจารย์ นกั ศกึ ษา ศษิ ยเ์ กา่ ในสายวชิ าชพี ไปถา่ ยทอดความรแู้ ละฝกึ เป็น แบบประเมินความพงึ พอใจและแบบ ทกั ษะทจ่ี ำ� เปน็ ในการสอนวชิ าชพี ทอ่ี ยใู่ นขอบขา่ ยศาสตรก์ ารสอนของคณะฯ จงึ ไดท้ ำ� การ สงั เกตพุ ฤตกิ รรมของผเู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรม สำ� รวจประชากรในพน้ื โดยรอบมหาวทิ ยาลยั ฯ พบวา่ ประชากรแสดงความตอ้ งการรอ้ ยละ ในโครงการฝึกอบรมทักษะอาชีพสร้าง 95 ตอ้ งการใหท้ างคณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ใี ห้ ชนชุมชนเข้มแข็ง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ บรกิ ารวชิ าการทม่ี งุ่ พฒั นาชมุ ชนเขม้ แขง้ เรอ่ื งการสรา้ งพลงั งานทดแทนทใ่ี ชใ้ นครวั เรอื นเพอ่ื สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ครบรอบ ช่วยชาวบ้านให้สามารถด�ำรงชีวิตความเป็นอยู่ท่ีดีข้ึนเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่�ำ ค่า 60 พรรษา ครองชีพสงู ขน้ึ ค่าแก๊สหงุ ตม้ ขึ้นราคา นอกจากนี้ยังมคี วามต้องการให้มกี ารฝึกทกั ษะทาง ผลลัพธ์ท่ีได้ท�ำให้ครูมีทักษะ อาชีพใหก้ ับเยาวชนเพื่อให้สามารถประกอบอาชพี เล้ียงตนเองไดร้ ้อยละ 95 ส่วนบคุ ลากร วิชาชีพท่ีใช้ในการจัดการเรียนการสอน ทางการศึกษาใหม้ ีความต้องการผลติ สอ่ื การเรยี นการสอนทใ่ี ชป้ ระกอบการเรียนการสอน ในรายวิชากลุ่มสาระการงานอาชีพและ ใหก้ ับนกั เรยี นและเยาวชนผู้ด้วยโอกาสทางสังคมรอ้ ยละ 85 และการสร้างทกั ษะอาชพี ท่ี เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงฝึกอบรมให้ เหมาะสมกบั ผสู้ งู อายใุ หส้ ามารถดำ� รงชวี ติ ไดอ้ ยา่ งมคี ณุ คา่ และมรี ายไดเ้ ลย้ี งดตู นเองไดร้ อ้ ย บุคคลในท้องถ่ินในชุมชน ท�ำให้นักศึกษา ละ 95 ซง่ึ การจดั ฝกึ อบรมครง้ั นเ้ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ ประชาชนทว่ั ไป เยาวชน บคุ ลากรทางการ เกิดความม่ันใจและครูผู้สอนมีความพร้อม ศกึ ษา นกั ศกึ ษา และคณาจารยค์ ณะครุศาสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าช ในการสอนวิชาชีพ และมีการบูรณาการ มงคลธัญบุรี ที่มีโอกาสใหบ้ ริการทางวชิ าการแก่สังคม ตลอดจนฝกึ ประสบการณ์โดยตรง กับการเรียนการสอนวิชาชีพในการเรียน ตอ่ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของคนในชมุ ชนโดยรอบมหาวทิ ยายาลยั และพฒั นาการเรยี นการ การสอนในรายวิชาการจัดการฝึกอบรม ได้มีการบูรณาการกับการเรียนการสอน วิชาชีพในการเรียนการสอนในลักษณะ ของการบรรยายและการสาธิตประกอบ 119
สื่อและเป็นการจ�ำลองสถานการณ์การจัดการฝึกอบรมเพื่อการถ่ายทอดทักษะวิชาชีพและการส่งเสริมการประหยัดพลังงาน ตลอดถึง การบรู ณาการการจัดการฝกึ อบรมให้สอดคลอ้ งกบั สถานการณใ์ นชวี ิตประจ�ำวนั และการฝึกให้ตระหนกั ถงึ ความมคี ณุ ธรรมและเสียสละ ท�ำจิตอาสาเพ่ือการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งเป็นการช่วยเหลือให้ประชาชนในชุมมีคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึนลดค่าใช้จ่ายในการครองชีพเพ่ือ เปน็ การเฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ ครบรอบ 60 พรรษา สมมตุ ิฐานในการด�ำเนินโครงการ 1. โครงการฝกึ อบรมทกั ษะอาชพี สรา้ งชนชมุ ชนเขม้ แขง็ เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ครบรอบ 60 พรรษา ใหบ้ รกิ ารฝกึ อบรมดา้ นทกั ษะวชิ าชพี ใหค้ รอู าจารยใ์ นสถานศกึ ษา และประชาชนทว่ั ไปในเขตพน้ื ทใ่ี กลเ้ คยี งกบั มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าช มงคลธญั บุรไี ด้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพรอ้ ยละ 80 2. โครงการฝกึ อบรมทกั ษะอาชพี สรา้ งชนชมุ ชนเขม้ แขง็ เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ครบรอบ 60 พรรษา พัฒนาคณุ ภาพชีวิตให้ผ้เู ข้ารบั การฝกึ อบรมมีวิชาชีพเป็นของตนเองไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิผลรอ้ ยละ 80 3. โครงการฝกึ อบรมทกั ษะอาชพี สรา้ งชนชมุ ชนเขม้ แขง็ เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ครบรอบ 60 พรรษา สร้างโอกาสให้คณาจารย์และนักศึกษาของคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม และคณะวิชาชีพ ได้น�ำความรู้ความสามารถไปให้บริการทาง วิชาการแก่สงั คมไดอ้ ยา่ งมีคณุ ภาพร้อยละ 80 4. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมโครงการฝึกอบรมทักษะอาชีพสร้างชนชุมชนเข้มแข็ง เพ่ือเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุ ดาฯ ครบรอบ 60 พรรษามีความพงึ พอใจตอ่ ประโยชน์ที่ไดร้ บั ในระดับพงึ พอมาก วัตถปุ ระสงค์ในการดำ� เนนิ โครงการ 1. เพอ่ื เฉลมิ พระเกยี รติสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ ครบรอบ 60 พรรษา ใหบ้ ริการฝึกอบรมด้านทักษะวิชาชพี ให้ครูอาจารย์ ในสถานศึกษา และประชาชนท่ัวไปในเขตพนื้ ที่ใกล้เคยี งกบั มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ไี ดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ 2. เพื่อพัฒนาคุณภาพชวี ติ ให้ผู้เขา้ รับการฝกึ อบรมมีวิชาชพี เปน็ ของตนเองได้อย่างมีประสทิ ธผิ ล 3. เพอื่ จดั ประสบการและสรา้ งโอกาสใหค้ ณาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษาของคณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรมถา่ ยทอดองคค์ วามรทู้ มี่ อี ยใู่ ห้ บรกิ ารทางวิชาการแกส่ งั คมไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ 4. เพ่อื ให้ผู้เข้ารับการฝกึ อบรมโครงการฝึกอบรมทกั ษะอาชีพสร้างชนชุมชนเข้มแขง็ เพื่อเฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรตั น ราชสุดาฯ ครบรอบ 60 พรรษา มคี วามพึงพอใจตอ่ ประโยชนท์ ่ไี ด้รบั จากการฝกึ อบรมฯ ในระดับมคี วามพึงพอมาก วิธกี าร 1. การวางแผนการด�ำเนนิ การ (P_Plan) 1.1 ส�ำรวจความตอ้ งการของชมุ ชนเขตพื้นใกลเ้ คยี งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี จงั หวัดปทุมธานี 1.2 แต่งตั้งคณะกรรมการ โดยสอบถามคณะกรรมการด�ำเนินการจัดท�ำโครงการด�ำเนินการประชุมคณะกรรมการด�ำเนินการ เพื่อกำ� หนดหน้าทก่ี ารดำ� เนนิ การ 1.3 ขออนุมัติโครงการ โดยปรึกษาคณะผู้บริหารครุศาสตร์อุตสาหกรรม และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีธัญบุรี เขียนโครงการ ดำ� เนนิ การและเสนอขออนมุ ัติโครงการ 1.4 ประชมุ คณะกรรมการโครงการและผเู้ กย่ี วขอ้ งเพอ่ื วางแผนดำ� เนนิ การโดยมกี ารประชมุ วางแผนการกำ� หนดตำ� แหนง่ หนา้ ที่ ในการด�ำเนนิ การกบั คณะกรรมการทีเ่ กย่ี วข้อง 1.5 ก�ำหนดหวั ขอ้ กลุม่ การฝกึ อบรม และวทิ ยากรวนั เวลาจัดฝกึ อบรม ก�ำหนดสถานที่ และการประสานงาน 120
60 ชุมชน ยกระดับคณุ ภาพชวี ติ หม่บู า้ นชมุ ชนแบบมสี ่วนรว่ ม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจรญิ พระชนมายคุ รบ 60 พรรษา 1.6 จดั ทำ� คมู่ อื การฝกึ อบรมแตล่ ะกลุ่ม 1.7 เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธข์ า่ วสารขอ้ มลู ใหม้ กี ารดำ� เนนิ การสมคั รเขา้ รบั การฝกึ อบรมตามวนั และเวลาทกี่ ำ� หนดประชาสมั พนั ธ์ ขา่ วสารขอ้ มลู ใหม้ กี ารดำ� เนนิ การรบั สมคั ร ประชมุ คณะกรรมการดำ� เนนิ การฝกึ อบรมเพอื่ เตรยี มความพรอ้ มตดิ ตอ่ ประสานงานผทู้ รงคณุ เพื่อเปน็ วทิ ยากรฝกึ อบรมจดั ทำ� ใบประกาศแกผ่ ูผ้ ่านการฝกึ อบรมจดั ทำ� รูปแบบเพอ่ื จัดพิมพแ์ ละเขา้ เลม่ 2. การดำ� เนนิ งานตามแผน (D_Do) 2.1 จัดเตรียมการ ติดตอ่ วทิ ยากร สถานที่ เตรียมเอกสาร และอุปกรณต์ า่ ง ๆ 2.2 ด�ำเนินการตามตารางก�ำหนดการ เช่น บรรยาย ประชมุ กลมุ่ อภปิ ราย ฝึกปฏิบตั ิ 2.3 จัดการฝึกอบรมโครงการฝึกอบรมทักษะอาชีพสร้างชนชุมชนเข้มแข็ง เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ครบรอบ 60 พรรษา จดั ฝกึ อบรมวันท่ี 29 - 30 มีนาคม 2558 หลักสตู รการทำ� การผลิตถังพลังงานทดแทน หลักสูตรการติดต้งั และล้าง แอร์ หลักสตู รผลิตน้ำ� หมักชวี ภาพจากวสั ดทุ างการเกษตรเหลือใช้ 3. การติดตามและประเมนิ ผลการด�ำเนนิ งาน (C_Check) 3.1 การตดิ ตามประโยชน์ที่เกิดขึน้ กบั ผเู้ ข้าร่วมโครงการ 3.1.1 สำ� รวจความตอ้ งการของชมุ ชน สถานประกอบการ หนว่ ยงานวชิ าชพี และหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การพฒั นาทรพั ยากร มนษุ ยเ์ พอ่ื ก�ำหนดทิศทางการดำ� เนินการฝกึ อบรมใหต้ อบสนองความต้องการ โดยใชแ้ บบส�ำรวจความตอ้ งการฝกึ อบรมในโครงการ ครบ รอบ 60 พรรษาภายในวันที่ 1-23 มกราคม 2558 3.1.2 ประสานความรว่ มมอื กบั ชมุ ชน สถานประกอบการ หนว่ ยงานวชิ าชพี และหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การพฒั นาทรพั ยากร มนษุ ยเ์ พอื่ กำ� หนดทศิ ทางการดำ� เนนิ การฝกึ อบรมใหต้ อบสนองความตอ้ งการ และนำ� ผลทไ่ี ดไ้ ปเปน็ สว่ นหนง่ึ ของการพฒั นาบคุ คลกรของ ชมุ ชน สถานประกอบการ หรอื หนว่ ยงานวชิ าชพี และหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ยเ์ พอื่ กำ� หนดทศิ ทางการดำ� เนนิ การฝกึ อบรม จดั ใหท้ กี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรใู้ หค้ ำ� ปรกึ ษา และใหค้ ำ� แนะนำ� และจดั ใหม้ กี ารสอ่ื สารทำ� ความเขา้ ใจรว่ มกบั ภาคอตุ สาหกรรม หรือรเ่ิ รมิ โครงการใหม่ๆในชมุ ชน 4. การตดิ ตามและประเมินผลการดำ� เนนิ งาน (A_Action) 4.1 การติดตามผลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้นกบั ชมุ ชน/องค์กร 4.1.1 ประเมินผลประโยชน์หรือผลกระทบของการให้บริการทางวิชาการต่อสังคม ด้วยแบบประเมินความพึงพอใจต่อการจัด ต้องการฝึกอบรมในโครงการฝึกทักษะอาชีพสร้างร้ายได้ส�ำหรับเยาวชน ชุมชนคลองหก ระยะเวลาในการติดตามผล ภายในวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ผลการส�ำรวจความพึงพอใจอยู่ที่ระดับความพึงพอใจระดับคะแนนร้อยละ 95 ในทุกด้าน และเสนอแนะให้มีการจัด ฝึกอบรมซ้�ำเพื่อขยายพื้นที่ในการสร้างองค์กรที่ประหยัดพลังงานเพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็งต่อไป ส่วนพฤติกรรมของผู้เข้ารับการฝึกอบรม มีความสนใจและมีความกระตือร้ือร้นทีจะเรียนรู้และมีทัศนคติเชิงบวกกับการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ชุมชนและต้องการจะเผยแพร่ความ รูท้ ีไ่ ด้รับน�ำไปเผยแพรต่ อ่ ท่ีระดบั คะแนนร้อยละ 95 ของผู้เขา้ รับการฝึกอบรมทง้ั หมด 4.1.2 นำ� ผลการประเมนิ โครงการฯ ไปพฒั นาการจัดฝึกอบรมครง้ั ต่อไปเพ่ือการจัดการฝึกอบรมซ้ำ� เพื่อขยายพ้ืนทใ่ี นการสรา้ ง องคก์ รทีป่ ระหยดั พลังงาน 4.1.3 ถ่ายทอดความรู้สู่ชมุ ชนโดยน�ำไปเผยแพร่ผา่ นสือ่ การเรยี นรู้เทคโนโลยสี ารสนเทศ 4.2 การตดิ ตามตวั ช้วี ัดเป้าหมายผลผลติ 4.3 เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการตดิ ตามผลแบบประเมนิ ความพงึ พอใจตอ่ การจดั ตอ้ งการฝกึ อบรมในโครงการฝกึ อบรมทกั ษะอาชพี สรา้ ง ชนชมุ ชนเขม้ แขง็ เพอ่ื เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ครบรอบ 60 พรรษาระยะเวลาในการตดิ ตามผล 31 พฤษภาคม 2558 121
4.4 ประเมินผลกระทบท่ีเกิดขึ้นกับหน่วยงาน/ชุมชน/องค์กร 4.4.1 วิธกี ารประเมิน 1.) แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ รบั การฝกึ อบรมในโครงการฝกึ อบรมทกั ษะอาชพี สรา้ งชนชมุ ชนเขม้ แขง็ เพอ่ื เฉลิมพระเกียรติสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ครบรอบ 60 พรรษา 2.) แบบสังเกตพฤติกรรมของผู้เข้ารับการฝึกอบรมในโครงการฝึกอบรมทักษะอาชีพสร้างชุมชนเข้มแข็ง เพ่ือ เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ครบรอบ 60 พรรษา ผลการด�ำเนนิ งาน ผลลพั ธท์ ไ่ี ดค้ รมู ที กั ษะวชิ าชพี ทใ่ี ชใ้ นการจดั การเรยี นการสอนในรายวชิ ากลมุ่ สาระการงานอาชพี และเทคโนโลยสี ารสนเทศ รวม ถึงฝึกอบรมใหบ้ ุคคลในทอ้ งถน่ิ ในชุมชน และการบรู ณาการกบั การเรยี นการสอนวชิ าชีพในการเรียนการสอน ดังน้ี 1. มีการบูรณาการกบั การเรยี นการสอนวิชาชีพในการเรยี นการสอนและมวี ิธีการบรู ณาการในรายวชิ าการจดั การฝกึ อบรม ได้ ในลกั ษณะของการบรรยายและการสาธติ ประกอบสอื่ และเปน็ การจำ� ลองสถานการณก์ ารจดั การฝกึ อบรมเพอื่ การถา่ ยทอดทกั ษะวชิ าชพี และการสง่ เสรมิ การประหยดั พลงั งาน ตลอดถงึ การบรู ณาการการจดั การฝกึ อบรมใหส้ อดคลอ้ งกบั สถานการณใ์ นชวี ติ ประจำ� วนั และการ ฝกึ ใหต้ ระหนกั ถงึ ความมคี ณุ ธรรมและเสยี สละ ทำ� จติ อาสาเพอ่ื การพฒั นาชมุ ชนใหเ้ ขม้ แขง็ เปน็ การชว่ ยเหลอื ใหป้ ระชาชนในชมุ มคี ณุ ภาพ ชวี ิตที่ดขี นึ้ ลดค่าใชจ้ า่ ยในการครองชพี 2. ผลการจัดการฝึกอบรมเป็นไปตามมาตรฐานตัวชี้วัดและเป้าหมายการบูรณาการโดยผลลัพธ์มีการจัดการฝึกอบรมเป็นการ จัดประสบการณ์และสถานการณ์ท�ำใหน้ กั ศกึ ษาเกิดความมน่ั ใจและมคี วามพรอ้ มในการสอนวชิ าชีพ บรรยายและสาธติ ให้มีการขยายไป ผลการสรา้ งชมุ ชนให้เข้มแขง็ ดว้ ยการประหยัดพลังงาน 3. การบรู ณาการกบั ฝกึ ทกั ษะวชิ าชพี โดยวธิ กี ารบรู ณาการบรรยายและสาธติ ใหม้ กี ารขยายไปผลการสรา้ งชมุ ชนใหเ้ ขม้ แขง็ ดว้ ย การสรา้ งรายได้ตามตัวชวี้ ดั และเปา้ หมายการบรู ณาการ 200 คนผลลัพธ์จากการบรู ณาการจัดโครงการครง้ั นี้ส่งผล ดังต่อไปน้ี 1.) ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการจ�ำนวน 200 คนอยูใ่ นกระบวนการของการจัดกิจกรรมครบถ้วน รอ้ ยละ 100 และผเู้ ขา้ ร่วมโครงการคาด วา่ จะนำ� ความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ร้อยละ 95 2.) ผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการมีความพงึ พอใจในกระบวนการจดั การโครงการ ร้อยละ 95 และตระหนกั ถึงคณุ คา่ ทไ่ี ดร้ บั จากการฝกึ อบรมไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำ� วนั รอ้ ยละ 95 3.) ผู้สอนได้รับพัฒนาหลักสูตรฝึกทักษะวิชาชีพในสาขาต่าง ๆ และน�ำไปบูรณาการในการจัดการเรียนการสอนโครงการฝึก อบรมทกั ษะอาชพี สร้างชนชมุ ชนเข้มแขง็ เพือ่ เฉลมิ พระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ครบรอบ 60 พรรษา เป็นโครงการบริการ วชิ าการแก่สังคมตามแผน การจดั ท�ำแผนการใช้ประโยชนจ์ ากการบรกิ ารวชิ าการเพอื่ ใหเ้ กิดผลต่อการพฒั นานกั ศกึ ษาชมุ ชน หรอื สังคม สามารถบรู ณาการในการจัดการเรยี นการสอนรว่ มกับชมุ ชน และสร้างชมุ ชนเขม้ แข็งได้ ดังต่อไปน้ี (1) ดา้ นการเรยี นการสอน มีการปรบั ปรงุ รายวิชา การจัดการการฝกึ อบรม หลกั สตู รศึกษาศาสตรบ์ ณั ฑติ สาขาเทคโนโลยแี ละ ส่ือสารการศึกษา และมีการตอ่ ยอดสหู่ นังสือตำ� รา คู่มือการฝึกอบรมวิชาชพี ระยะสั้นหลกั สตู รการฝึกทักษะอาชีพ (2) ด้านการวิจัย จะมีการสำ� รวจความความต้องการการจดั ฝึกอบรมทกั ษะอาชีพเพ่ือสร้างชนชมุ ชนเขม้ แข็ง แนวทางการขยายผลการดำ� เนินงานให้เกดิ ความยง่ั ยนื มกี ารทวนสอบในการจดั การโครงการฝกึ อบรมทกั ษะอาชพี สรา้ งชนชมุ ชนเขม้ แขง็ เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ครบรอบ 60 พรรษา ซ่งึ เปน็ โครงการทีบ่ รกิ ารสังคมแบบใหเ้ ปลา่ เม่ือประเมนิ ความส�ำเรจ็ ตามตวั บ่งชข้ี องแผนหรือพัฒนาการใหบ้ ริการ วชิ าการสังคมในข้อ 1 แลว้ ได้น�ำเสนอกรรมการประจำ� คณะฯ เพ่ือพจิ ารณาการประเมินทวนสอบและนำ� มาปรับปรงุ ตามตวั บ่งชขี้ องแผน และโครงการบรกิ ารวิชาการแก่สังคมให้คณะมสี ว่ นรว่ มในการบรกิ ารวิชาการแก่สงั คมในระดบั สถาบนั อย่างต่อเน่อื งตอ่ ไป 122
60 ชมุ ชน ยกระดบั คุณภาพชวี ติ หม่บู า้ นชมุ ชนแบบมสี ว่ นร่วม เฉลมิ พระเกยี รติสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ประกันคณุ ภาพการศกึ ษา ดา้ นการบรู ณา การงานการเรยี นการสอนกบั งานทำ� นบุ ำ� รงุ ศิลปวัฒนธรรม ใช้เป็นส่ือการเรียนเพ่ือ พฒั นารูปแบบทางศลิ ปะสืบตอ่ เยาวชนร่นุ หลงั รวมถงึ การสรา้ งประโยชนใ์ หก้ บั ชมุ ชน สงั คม ด้วยเชน่ กนั โครงการสร้างประติมากรรมลอยตัว สมมตุ ิฐานในการดำ� เนนิ โครงการ ต้นแบบพุทธอุทยานสังเวชนียสถาน สามารถสร้างพระพุทธเมตตา จำ� ลอง และพระพุทธปรินิพพานได้จิตวิญญาณ และอารมณ์ของงาน ตรงตามสกุลช่าง มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี ศิลปกรรมอินเดีย ยุคสมัยและเกิด สุนทรียภาพแก่ผู้พบเห็น น้อมน�ำจิตใจให้ คณะด�ำเนนิ งาน ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ไชยพจน ์ หวลมานพ ระลึกคณุ งามความดี ผชู้ ่วยคณบดีฝา่ ยวัฒนธรรม คณะศลิ ปกรรมศาสตร ์ วัตถุประสงค์ในการดำ� เนินโครงการ ภาควชิ าทศั นศิลป์ สาขาประตมิ ากรรม 1. เพอ่ื สบื สาน อนรุ กั ษ์ และทำ� นุ บ�ำรุงศาสนา ศิลปะวัฒนะธรรมเรื่องราว เนื่องด้วยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษา พระพุทธศาสนาการสร้างประติมากรรม อนั มพี นั ธกจิ หลกั 2 ใน 4 พนั ธกจิ ของสถาบนั อดุ มศกึ ษา ในการสง่ เสรมิ ทำ� นบุ ำ� รงุ พระพทุ ธ ลอยตวั ตน้ แบบพทุ ธอทุ ยานสงั เวชนยี สถาน ศาสนาศิลปวัฒนธรรมของชาติ สืบสาน อนุรักษ์ ตลอดจนการให้บริการทางวิชาการ จ�ำลอง แก่ ชุมชน สังคม และสงิ่ แวดลอ้ ม ในการนส้ี าขาประติมากรรม ภาควชิ าทศั นศลิ ป์ คณะ 2. เพื่อให้นักศึกษาได้ใช้ความ ศิลปกรรมศาสตร์ ซ่งึ มหี น้าทีใ่ นการจดั การเรยี นการสอนด้านศิลปวฒั นธรรมของชาติ โดย รู้และปฏิบัติงานในสาขาวิชาท่ีศึกษา มุ่งเน้นให้บุคลากรผู้สอนและนักศึกษาเรียนรู้ท้ังภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจากพ้ืนท่ีและ สู่การปฏิบัติจริงสนองต่อนโยบายของ สถานท่ีจริง เพ่ือให้เกิดอัตลักษณ์ตามที่มหาวิทยาลัยได้ก�ำหนดไว้คือ “บัณฑิตนักปฏิบัติ มหาวิทยาลัยท่ีมุ่งเน้นในการสร้างบัณฑิต เชย่ี วชาญเทคโนโลยี” ดังนน้ั เพอ่ื เป็นการสรา้ งประสบการณก์ ารเรยี นรรู้ ่วมกนั ทัง้ ในส่วน นกั ปฏิบตั ิ มีจติ สาธารณะ ของบุคลากรผู้สอนและนักศึกษา รวมทั้งการน�ำเสนอข้อมูลจากการศึกษา ลงพ้ืนท่ีดูงาน 3. เพอ่ื ประสานสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง อุทยานพุทธสถานจ�ำลองมาสร้างผลงานประติมากรรม เพื่อเป็นการสนองตอบตามการ วัดในชุมชนและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลธัญบุรีเป็นศูนย์รวมจิตใจ และ เผยแผ่ความรู้ ทางคุณธรรม จริยธรรมอัน ดีงาม 4.เพอ่ื สบื ทอดพระพทุ ธศาสนาให้ ยั่งยืนคู่บ้านเมืองตลอดไป โดยวัดคือศูนย์ รวมจิตใจและแหล่งเรยี นรู้ ประชาสัมพนั ธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ด้านศักยภาพของบุคลากรและเทคโนโลยี ที่มปี ระสิทธภิ าพขั้นมืออาชีพ 123
วิธขกีัน้ ตาอรนการดาํ เนนิ โครงการ แผนการดาํ เนนิ งานและการใชจ้ ่ายงบประมาณ ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. วางแผนการดาํ เนนิ การ (P_Plan) 2. การดาํ เนนิ งาน ตามแผน (D_DO) 3. ตดิ ตามและประเมินผลการดาํ เนินงาน (C_Check) 4. ปรบั ปรุง/พัฒนา/แก้ไขจากผลการตดิ ตามและประเมินผล(A_Act) ผลผลกกาารรดดาํำ� เเนนนิ นิงางนาน แนวทางการขยายผลการด�ำเนินงานให้เกดิ ความยงั่ ยืน ประชาชนและนสิ ติ นกั ศกึ ษาเหน็ ความสำ� คญั ของศาสนาพทุ ธทอ่ี ยใู่ นประเทศไทย มาอยา่ งยาวนานและตอ่ ไป วดั ปญั ญานนั ทารามเปน็ ทส่ี ง่ั สอนคณุ งามความดี อนั มคี ณุ คา่ ตอ่ เยาวชนงานพุทธศลิ ป์ทางคณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี รบั ผดิ ชอบเปน็ สว่ นหนงึ่ ในการสบื ทอดพทุ ธศาสนา เผยแพรศ่ ลิ ปะวฒั นธรรมใหเ้ จรญิ มนั่ คง ด�ำรงคงอยบู่ นผนื ดินประเทศไทย 124
60 ชุมชน ยกระดบั คณุ ภาพชวี ิตหมู่บา้ นชุมชนแบบมสี ่วนรว่ ม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจรญิ พระชนมายคุ รบ 60 พรรษา มหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยี ราชมงคล อสี าน โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของ หมบู่ า้ น ชมุ ชน แบบมสี ว่ นรว่ ม 60 หมบู่ า้ น เ ฉ ลิ ม พ ร ะ เ กี ย ร ติ ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ ท พ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายคุ รบ 60 พรรษา 125
โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่าย วธิ กี าร หมู่บ้านราชมงคลแบบมีส่วนร่วม คณะเทคโนโลยกี ารจดั การไดม้ กี ารกำ� หนด บา้ นดงมัน จังหวัดสุรนิ ทร์ กระบวนการท�ำงาน เพื่อให้เป็นไปตาม ความต้องการของชุมชนในการด�ำเนินการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ในกจิ กรรมตา่ งๆท่ี ชุมชนตอ้ งการ ได้แก่ 1. กจิ กรรมมงุ่ สกู่ ารพงึ่ พาตนเอง คณะผดู้ ำ� เนินงาน คณะเทคโนโลยกี ารจดั การ 2.กิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถ่ิน เจรียงซันตูล ตามทม่ี หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน ไดก้ ำ� หนดใหม้ กี ารดำ� เนนิ โครงการ และเจรยี งนอรแกว พัฒนาเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน : โครงการหมู่บ้านราชมงคลอีสาน โดยมี 3.กิจกรรมเรียนรู้การปลูกผัก วตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ใหเ้ กดิ การบรู ณาระหวา่ งสถาบนั การศกึ ษาและชมุ ชนทอ้ งถนิ่ พฒั นาและ ปลอดสารพิษให้ประสบความส�ำเร็จ เพื่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตของหมู่บ้านและศักยภาพบุคลากรของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช การพงึ่ พาตนเองตามแนวทางเศรษฐกจิ พอ มงคลอีสาน คณะเทคโนโลยกี ารจดั การไดเ้ ขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการดำ� เนินการในโครงการนี ้ เพยี ง จงึ ได้มกี ารคดั เลอื ก หมูบ่ า้ นดงมัน หมูท่ ่ี 8 ตำ� บลคอโค อ�ำเภอเมือง จังหวดั สรุ นิ ทร์ เป็น 4. กิจกรรมเทคนิคการเพาะเหด็ หมู่บ้านราชมงคลใน การจัดกิจกรรมพัฒนาตามแผนหมู่บ้าน เพื่อมุ่งสู่การพ่ึงพาตนเอง เพื่อเพิ่มรายได้ ให้เกิดความเข้มแข็งและย่ังยืน หมู่บ้านดงมันเป็นชุมชนเล็กๆ ท่ีอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัย 5.กจิ กรรมเทคนคิ การเลยี้ งไกพ่ นื้ ประมาณ 3 กโิ ลเมตรจากสภาพแวดลอ้ มของหมบู่ า้ นทมี่ คี วามพรอ้ มดา้ นชวี ภาพ มคี ลองสง่ เมอื งเพ่อื เพิ่มรายได”้ นำ�้ หลกั ทสี่ ำ� คญั ในการทำ� การเกษตร และเปน็ ทรี่ จู้ กั กนั มานานในชอื่ ของหมบู่ า้ นวฒั นธรรม 6.กิจกรรมการพัฒนาร้านค้า ซึ่งคณะเทคโนโลยกี ารจดั การได้ศึกษา บริบทของหมูบ่ ้าน เพ่ือหาจุดเด่น ของหมู่บา้ นเพือ่ ชมุ ชนซงึ่ ในแตล่ ะกจิ กรรมไดม้ กี ระบวนการ มาก�ำหนดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมอาชีพ สร้างกลุ่มอาชีพ เพ่ิมรายได้ ลดรายจ่าย เพื่อเพ่ิม ในการด�ำเนนิ กจิ กรรมตาม PDCA ไดแ้ ก่ คุณภาพชีวิตของคนในสังคมชุมชนในหมู่บ้านดงมันด้วยบูรณาการวิทยาการท้ังในด้าน การวางแผนการดำ� เนนิ การ (P_Plan) เศรษฐกิจ สงั คม วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศิลปวฒั นธรรม สรา้ งชุมชนแห่งภูมปิ ญั ญา • จดั ประชมุ บคุ ลากรในคณะเทคโนโลยี ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ครอบครวั เปน็ สขุ และชุมชนเข้มแขง็ พ่งึ ตนเองได้ ส่งเสรมิ ให้ หมบู่ ้านมกี ารพัฒนาแบบยงั่ ยืน การจดั การ สมมตุ ฐิ านในการดำ� เนินโครงการ • แต่งตั้งคณะกรรมการจดั ทำ� โครงการ คณะเทคโนโลยีการจัดการมีแนวทางในการพัฒนาศักยภาพและสร้างความเข้ม • ขออนมุ ตั โิ ครงการ แขง็ ใหก้ ับชมุ ชมไดอ้ ย่างไร การดำ� เนินงานตามแผน (D_Do) • ตดิ ตอ่ วทิ ยากร ในการจดั ฝกึ อบรม ให้ ความรู้ในเร่ืองตา่ งๆ • จัดเตรียม สถานที่ เอกสาร และ อปุ กรณต์ ่าง ๆ ในการฝกึ อบรม • ศกึ ษาดูงานนอกสถานที่ • การทำ� กิจกรรมต่างๆรว่ มกับชมุ ชน 126
60 ชุมชน ยกระดบั คุณภาพชีวติ หมบู่ า้ นชุมชนแบบมสี ว่ นรว่ ม เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจรญิ พระชนมายคุ รบ 60 พรรษา การติดตาม และประเมินผลการด�ำเนิน งาน มาใช้ในการประกอบอาชพี เช่น ความรู้ในเรอื่ งของโรคและแมลง การบรหิ ารจัดการ งาน (C_Check) น้ำ� และการศึกษาดูงานแหลง่ ผลิตผกั ส่งออกขนาดใหญ่ • เคร่ืองมอื ท่ีใชใ้ นการตดิ ตามผล 4. กจิ กรรมเทคนคิ การเพาะเห็ดเพื่อเพมิ่ รายได้ • แ บ บ ส อ บ ถ า ม ค ว า ม พึ ง พ อ ใ จ สมาชกิ ในกลมุ่ ไดม้ โี อกาสลงมอื ปฏบิ ตั ทิ ำ� กอ้ นเหด็ จรงิ จากวสั ดทุ ท่ี างโครงการจดั เตรียมไว้เพ่ือให้สมาชิกสามารถที่จะจดจ�ำรายละเอียดท่ีจ�ำเป็นในการเพาะเห็ดได้ โดยท่ี แบบสอบถามการน�ำผลการบริการ วทิ ยากรไดเ้ พมิ่ เตมิ ความรทู้ เ่ี กย่ี วกบั การปอ้ งการโรคทเี่ กดิ จากการเพาะเหด็ เชน่ การกำ� จดั วชิ าการไปใช้ประโยชน์ หนอนหรือแมลงที่มาทำ� ลายกอ้ นเห็ด อธบิ ายขน้ั ตอนในการดแู ลรักษาเห็ด รวมทงั้ ความรู้ • การสงั เกต เกย่ี วกับการจดั โรงเรือนทีเ่ หมาะสมกับการเพาะเห็ด • การสัมภาษณ์ 5.กจิ กรรมเทคนคิ การเลี้ยงไกพ่ ื้นเมอื งเพือ่ เพมิ่ รายได”้ การปรับปรุง/พัฒนา/แก้ไขจากผลการ สมาชิกไดน้ �ำเอาหลักวิชาการผสมผสานศาสตร์ด่ังเดมิ ในการเล้ียงไก่พื้นบา้ น ทำ� ใหก้ ลุ่ม ตดิ ตาม (A_Action) เกษตรกรสามารถปรบั และพฒั นาตนเองได ้ และทำ� ใหเ้ กดิ การยอมรบั เพอ่ื การเปลย่ี นแปลง • มกี ารนำ� ผลจากการจดั กจิ กรรมในทกุ มุง่ สู่การพฒั นา แตก่ ็ยงั มปี ัจจยั อน่ื ๆ ทเี่ ปน็ ปัญหาและยากตอ่ การควบคมุ เชน่ โรคและ โครงการมาปรับปรุง และพัฒนาต่อ การรักษาโรค ส�ำหรบั กิจกรรมปีต่อไป เม่ือเกษตรกรมีการผสมผสานและน�ำความรู้ตามหลักวิชาการมาพัฒนาผลผลิต ผลการดำ� เนินงาน ท�ำใหส้ ามารถเพิ่มผลผลติ ลดอตั ราความเสย่ี งตอ่ การสญู เสยี ลงได ้ เกษตรกรก็มกี ำ� ลงั ใจใน 1. กจิ กรรมมงุ่ สกู่ ารพง่ึ พาตนเอง การปรบั ปรงุ ดแู ลกจิ กรรมของตนเอง การเขา้ ไปเยยี่ มเยยี นของผดู้ แู ลโครงการอยา่ งใกลช้ ดิ สมาชิกในชุมชนมีองค์ความรู้ใน ท�ำให้เกษตรกรมีความผูกพันเพิ่มมากข้นึ และเป็นการง่ายต่อการส่ือถงึ วตั ถุประสงค์ของ การดำ� เนนิ ชวี ติ จากการไดเ้ หน็ ตวั อยา่ งของ โครงการ บุคคลที่ประสบความส�ำเร็จ เป็นแนวทาง 6.กิจกรรมการพัฒนาร้านคา้ ชมุ ชน ในการดำ� เนินชวี ิตได้ สมาชิกความรู้ทางด้านการบริหารจัดการร้านค้าชุมชนทั้งทางด้านการบริหาร 2.กิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรม โครงสรา้ งกลุ่ม การตลาด การบญั ชี และคอมพวิ เตอร์ ท่เี กย่ี วข้องกบั ศนู ย์สาธติ ทางการ ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น เจรียงซันตูล ตลาด และเจรียงนอรแกว แนวทางการขยายผลการดำ� เนินงานใหเ้ กดิ ความยั่งยนื มีการด�ำเนินการจัดกิจกรรม สมาชิกในชุมชน ได้ประชุมร่วมกันในการวางแผนกิจกรรมในปีต่อไป โดยมี การเรียนรู้อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี การนำ� ความรจู้ ากการดำ� เนนิ งานพผ่ี า่ นมามาเปน็ แนวทางในใหไ้ ดก้ จิ กรรรมทตี่ รงตามความ ภูมิปัญญาท้องถิ่น เจรียงซันตูลและเจรี ตอ้ งการของชมุ ชน โดยทส่ี มาชกิ ในชมุ ชนสมารถดำ� เนนิ ชวี ติ อยไู่ ดบ้ นพนื้ ฐานเดมิ ของชมุ ชน ยงนอรแกวร่วมกันระหว่าง กลุ่มเยาวชน เอง โดยที่ทางคณะจะคอยเปน็ พีเ่ ลย้ี งและประสานงานไปยังหน่วยต่างๆทเ่ี กี่ยวข้อง ซึง่ ใน กลมุ่ วยั รนุ่ และกลมุ่ ผสู้ งู อายุ มหี ลกั สตู รการ บางครง้ั ตามวถิ กี ารดำ� เนนิ ชวี ติ แลว้ สมาชกิ จะไมค่ อ่ ยกลา้ ทจี่ ะตดิ ตอ่ ประสานงาน และจาก แสดงเจรียงซันตลู และเจรยี งนอรแกว โดย ผลการด�ำเนินงานในแต่ละกิจกรรมท�ำให้มีแนวทางในการด�ำเนินงานต่อในกิจกรรมต่างๆ มีเน้อื รอ้ งท่ีค่อนขา้ งสมบรู ณ์ เชน่ 3.กิจกรรมเรียนรู้การปลูกผัก กลุ่มเห็ด สมาชิกในกลุ่มได้ประชุมร่วมกันในวางแผนแบ่งหน้าท่ีในการบริหาร ปลอดสารพิษให้ประสบความส�ำเร็จ เพื่อ จัดการเกี่ยวกับการดูแลโรงเรือนเพาะเห็ด หาแหล่งขายเพ่ิมเติม รวมทั้งหาความรู้เก่ียว การพง่ึ พาตนเองตามแนวทางเศรษฐกจิ พอ กับการแปรรูปเห็ดเปน็ ผลิตภณั ฑ์ต่างๆ เช่น แหนมเหด็ เห็ดทอด เปน็ ต้น กลุ่มอนรุ ักษ เพยี ง วัฒนธรรม มีการจัดท�ำโครงการวิจัยเพ่ือต่อยอดเรื่อง “ศิลปะการแสดงเจรียงนอรแกว สมาชิกได้น�ำความรู้ที่เกิดจาก โบราณในจังหวัดสุรินทร์” เพ่ือจะได้เป็นข้อมูลส�ำหรับการศึกษา เรื่องเจรียงนอรแกว การฝึกอบรม ฝึกปฏิบัติ และการศึกษาดู ตอ่ ไป ซ่งึ แตล่ ะกจิ กรรมสามรถดำ� เนนิ งานต่อไดโ้ ดยไดร้ บั ความร่วมมอื จากชุมชน 127
ข้อมูลอืน่ ๆ เปน็ ข้อมลู การสมั ภาษณ์ในกจิ กรรมอนุรักษ์วฒั นธรรมประเพณี ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ฯ เพราะจากการรายงานข้างตน้ หมบู่ า้ นดง มนั เป็นหมู่บา้ นท่ีมชี อ่ื เสียงในดา้ นของวฒั นธรรม หมายเหตุ : สัมภาษณโ์ ดย นายพิสุทธิ์พงศ์ เอน็ ดู ในสมัยก่อนนนั้ เจรยี งนอรแกวน้ันเป็นท่นี ิยมอย่างมาก แตห่ ลงั จากปีพุทธศักราช ๒๔๙๘ เปน็ ต้นมา ความนยิ มของเจรียงนอร แกวก็เรม่ิ ลดลงและเริม่ ไม่เปน็ ทรี่ ู้จักของคนทัว่ ไป ซง่ึ เปน็ ส่ิงทีน่ า่ เสียดายอยา่ งมาก (โฆสติ ดีสม.สมั ภาษณ์:9 สงิ หาคม 2559) เจรียงนอร แกวถอื วา่ เปน็ วฒั นธรรมประเพณกี ารละเลน่ ทด่ี งี ามของชาวสรุ นิ ทรม์ าเปน็ ระยะเวลายาวนาน บง่ บอกถงึ ความเปน็ รากเหงา้ ของลกู หลาน ชาวสรุ นิ ทรไ์ ดเ้ ปน็ อยา่ งด ี เนอ่ื งจากเจรยี งนอรแกวนสี้ ามารถบอกเลา่ ถงึ ประวตั คิ วามเปน็ มา ความเปน็ อยู่ วถิ ชี วี ติ ของบรรพชนชาวสรุ นิ ทร์ รุ่นก่อน แต่ในปัจจุบนั นีก้ �ำลังจะถูกลบเลอื นหายไปจากความทรงจำ� ไปเร่ือยๆ ซ่ึงเปน็ ท่ีน่าเสยี ดายถ้าหากวา่ ไมม่ ใี ครมาศึกษาและอนรุ กั ษ์ การละเล่นน้ีไว้ (พิรณุ อุ่นศรี.บรรยาย:8 สงิ หาคม 2558) ในสมยั กอ่ นเจรียงนอรแกวน้ันมกี ารละเล่นเพ่อื ต้อนรบั แขกบ้านแขกเมอื ง ยกตวั อย่างเช่นในสมัยหนง่ึ พลเอกอาทิตย์ ก�ำลงั เอก ไดเ้ ดนิ ทางมาจงั หวดั สรุ นิ ทร ์ เจรยี งนอรแกว้ กถ็ กู นำ� มาแสดงตอ่ หนา้ ทา่ น อยา่ งไรกต็ ามเจรยี งนอรแกวในอดตี นน้ั กบั เจรยี งนอรแกวในสมยั ปจั จุบนั นีแ้ ตกตา่ งกันมาก เจรยี งนอรแกวในอดตี มคี นสนใจเปน็ จ�ำนวนมาก ทุกคนอยากจะเรยี นรู้ อยากจะเล่น อยากจะแสดง อยากจะ รำ� เพราะว่าชมุ ชนในสมยั ก่อนเมือ่ เสรจ็ จากการไปไร่ไปทำ� นา เมอื่ ถงึ ตอนเยน็ ก็จะมารวมกลมุ่ ทำ� กจิ กรรมรว่ มกัน ซึง่ กิจกรรมเหล่านกี้ ็มี กิจกรรมร�ำนรแกวอย่ดู ว้ ย บรรดาครูเพลง ครรู ำ� กจ็ ะฝึกสอนและฝึกหดั ใหก้ บั คนทร่ี �ำและร้องไม่เป็น ซึ่งเปน็ กจิ กรรมที่สนุกสนานมาก แต่ เดย๋ี วนก้ี จิ กรรมแบบนไี้ มม่ เี หลอื อยอู่ กี แลว้ เจรยี งนอรแกวในปจั จบุ นั ไมม่ ใี ครสนใจ ไมม่ ใี ครอยากจะเรยี นรแู้ ละศกึ ษาเพอ่ื สบื ทอดใหค้ งอยู่ ย่ังยืนใหก้ บั อนุชนรนุ่ หลัง ในอนาคตทัง้ เนอื้ รอ้ ง ทำ� นอง จงั หวะลีลาการรำ� ชุดการแสดงเหลา่ นกี้ ็จะหายไปในไมช่ า้ (ประยูร สมหมายและ ยงค์ ล�ำ้ เลศิ :9 สงิ หาคม 2558) ส่ิงหนึ่งท่ีจะท�ำให้ศิลปะการแสดงเจรียงนอรแกวโบราณของชาวอีสานใต้ในจังหวัดสุรินทร์ให้ด�ำรงอยู่เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังหรือ คนรนุ่ ใหมไ่ ด้ใช้เป็นแหลง่ ศึกษาเรียนรู้ ใช้เปน็ ข้อมลู ส�ำหรบั การอ้างอิงและนำ� ไปฝกึ ฝนการแสดงเจรียงนอรแกวนไี้ วก้ ็คือ ต้องมีการศกึ ษา รวบรวมประวัติความเป็นมาอย่างละเอียดและเม่ือได้ข้อมูลท่ีละเอียดแล้วก็น�ำมาสร้างชุดการแสดงขึ้นพร้อมท้ังบันทึกภาพและเสียงการ แสดงชดุ นเ้ี อาไวเ้ พอ่ื ให้เกดิ การเรยี นรู้ทย่ี ง่ั ยืนตอ่ ไปในภายภาคหน้าได้ (ยทุ ธภมู ิ มพี รมดี: 9 สิงหาคม 2558) การทจ่ี ะทำ� ใหศ้ ลิ ปะการแสดงยงั่ ยนื นน้ั ทกุ ๆฝา่ ยจะตอ้ งรว่ มมอื กนั โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ครเู พลงทท่ี รงความรู้ มภี มู ปิ ญั ญาเกยี่ วกบั ศลิ ปะวฒั นธรรมการแสดงในทอ้ งถนิ่ นนั้ ๆ นกั วชิ าการ ชาวบา้ น องคก์ รทงั้ ภาครฐั และภาคเอกชน เจรยี งนอรแกวเปน็ ศลิ ปะการแสดงการ ละเล่นซ่ึงเด๋ียวน้ีคนส่วนมากไม่ค่อยรู้จักแม้กระทั่งคนในจังหวัดสุรินทร์เอง ดังน้ันเจรียงนอรแกวควรจะต้องมีการร่วมมือกันอนุรักษ์และ ศึกษาข้อมูลเพื่อใช้ส�ำหรับการถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาอย่างเป็นระบบ เน่ืองจากคนรุ่นเก่าที่มีความรู้เกี่ยวกับภูมิเจรียงนอรแกวน้ี นบั วนั จะเหลืออยนู่ อ้ ยแลว้ (ชยั วฒั น์ เปลา่ งด:ี 9 สิงหาคม 2558) 128
60 ชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวติ หมูบ่ า้ นชมุ ชนแบบมสี ว่ นรว่ ม เฉลิมพระเกยี รตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจรญิ พระชนมายคุ รบ 60 พรรษา โครงการ: เศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือ รว่ มท�ำ ร่วมตัดสนิ ใจ ร่วมดำ� เนินการ ร่วม ยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนบ้าน ประเมินผลและร่วมรับประโยชน์ รวมทั้ง ปรอื รูง บุคลากรของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลอีสาน มีองค์ความรู้หลากหลาย ซ่ึง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน เปน็ การบรู ณาการรว่ มกนั ของแตล่ ะศาสตร์ โดยร่วมมือกับชุมชน องค์การบริหารส่วน คณะด�ำเนินงาน นางสาวภรณ ี หลาวทอง และคณะ ท้องถิ่น และหน่วยงานต่างๆ มีเป้าหมาย เพ่ือร่วมพัฒนาศักยภาพของประชาชนให้ มีความพร้อมในด้านการด�ำรงชีวิตและมี อาชีพท่ีม่ันคง และพร้อมท่ีจะขับเคล่ือน ชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตบนรากฐานสังคม แห่งการเรียนรู้ ซ่ึงน�ำไปสู่การพัฒนาท่ี ย่งั ยนื จากนโยบายส�ำคัญของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนในชุมชนร่วมกันบริหาร สมมุติฐานในการดำ� เนินโครงการ จดั การและพฒั นาศกั ยภาพของตนเองทม่ี อี ยใู่ หม้ ศี กั ยภาพเพม่ิ มากขน้ึ เพอ่ื สรา้ งโอกาสและ 1. ภาพฝนั ของชมุ ชนบา้ นปรอื รงู ขดี ความสามารถการพฒั นาเศรษฐกจิ ระดบั ฐานรากใหก้ บั ชมุ ชน โดยยดึ หลกั แหง่ ทฤษฎใี หม่ คืออะไร อนั เน่ืองมาจากพระราชดำ� ริ เพอ่ื ก้าวสวู่ ถิ ีแห่งความพออยพู่ อกิน อนั สามารถนำ� ไปสู่การมี 2. แนวทางการระดับคุณภาพ วถิ ชี วี ติ ยง่ั ยนื ในทกุ มติ ิ ทง้ั การดำ� รงชพี บนพน้ื ฐานความพอมพี อกนิ การดำ� รงวถิ วี ฒั นธรรม ชีวิตของชุมชนบ้านปรือรูงตามแนวคิดพอ ประเพณี นำ� ไปสกู่ ารสรา้ งความเข้มแขง็ ใหส้ งั คมตง้ั แตร่ ะดบั ชมุ ชนไปจนถึงระดับประเทศ เพียงเพื่อเศรษฐกิจควรเป็นอยา่ งไร บ้านปรอื รงู ต�ำบลเช้อื เพลิง อ�ำเภอปราสาท จงั หวดั สุรนิ ทร์ มจี ำ� นวนครวั เรอื น 3. แนวทางการด�ำเนินงาน 161 ครัวเรือน มีประชากร 451 คน ประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาหลัก ให้เกิดความย่ังยืนของคุณภาพชีวิตของ อาชพี หลกั ของชมุ ชนคอื อาชพี เกษตรกรรม นอกฤดกู ารทำ� เกษตรกรรมประชากรสว่ นหนง่ึ ชมุ ชนบา้ นปรอื รงู ตามแนวคดิ พอเพยี งเพอื่ ประกอบอาชพี รบั จา้ งทว่ั ไป ภมู ปิ ระเทศมลี กั ษณะเปน็ ทร่ี าบ ลกั ษณะดนิ เปน็ ดนิ รว่ นปน เศรษฐกิจควรเปน็ อยา่ งไร ทราย จากการสอบถามประชากรในพื้นทพี่ บวา่ ในฤดแู ลง้ จะเกิดการขาดแคลนน้ำ� และใน วธิ กี าร ชว่ งหลงั การเกบ็ เกย่ี วประชากรสว่ นใหญจ่ ะวา่ งงาน เนอ่ื งจากขาดองคค์ วามรใู้ นการพฒั นา โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือ อาชีพเสริม ชุมชนบ้านปรือรูงได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงมีแนวคิดการปรับวิถีการ ยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนบ้านปรือ ประกอบอาชพี ของตน โดยมงุ่ เนน้ การดำ� รงชวี ติ แบบเศรษฐกจิ พอเพยี ง และประกอบอาชพี รูง มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับกระบวนทัศน์ เกษตรกรรมแบบเกษตรทฤษฎใี หม่ ดว้ ยการอาศยั หลกั การพงึ่ พงิ ความสมดลุ ตามธรรมชาติ เพ่ือการด�ำรงชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจ เพ่ือสร้างสรรค์ให้เกิดระบบนิเวศการเกษตรย่ังยืน การผสมผสานระบบการเกษตรทุก พอเพียงและเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของ ระบบทสี่ ง่ เสรมิ และปรบั ปรงุ สง่ิ แวดลอ้ ม และเศรษฐกจิ การผลติ อาหารและปจั จยั พนื้ ฐาน ชุมชน เพ่ือมุ่งสู่การพึ่งพาตนเองตาม การด�ำรงชพี ทม่ี คี วามปลอดภัยตอ่ ผู้บรโิ ภค รวมทั้งใชห้ ลกั การสรา้ งความหลากหลายทาง แนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง มีวธิ ีการด�ำเนิน ชีวภาพ ในระบบนิเวศนเ์ กษตรใหเ้ กิดการผสมผสานเกอ้ื กูลซ่งึ กันและกัน ชมุ ชนบา้ นปรือ โครงการ ดังน้ี รงู จงึ มคี วามเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั โครงการ เนอ่ื งจากชมุ ชนมคี วามพรอ้ มทจี่ ะรว่ มคดิ 129
การเตรียมชมุ ชน เปา้ หมาย : เพ่ือให้ชุมชนมคี วามพร้อมของการมสี ่วนรว่ มการพัฒนาชุมชน 1. การสรา้ งสัมพนั ธภาพ คอื การสร้างความคนุ้ เคย การสร้างความสมั พันธ์ทด่ี ตี อ่ กนั 2. การเตรียมทีมงาน เป็นการสร้างความเข้าใจทีต่ รงกันของนักวิจัย นักพฒั นา และชมุ ชน เพอ่ื ให้เกิดการประสานงานกันได้อย่างดี การศึกษาบรบิ ทชมุ ชน การศกึ ษาชมุ ชน : เพอ่ื ใหส้ ำ� รวจและศกึ ษาขอ้ มลู เบอื้ งตน้ ของชมุ ชน ไดแ้ ก่ 1) ขอ้ มลู ลกั ษณะ การวิเคราะหข์ อ้ มูลชมุ ชน ทางกายภาพของชมุ ชน 2) ขอ้ มูลแหลง่ ทรพั ยากรของชมุ ชน 3) ข้อมลู ดา้ นประชากรของ ชมุ ชน 4) ขอ้ มลู ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรมของชมุ ชน 5) ขอ้ มลู ดา้ นเศรษฐกจิ ของชมุ ชน และ 6) ขอ้ มูลด้านการส่ือสารของชมุ ชน การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ชมุ ชน : เพอ่ื วเิ คราะหข์ อ้ มลู เพอื่ คน้ หาสาเหตขุ องปญั หา การหาสาเหตุ และจดั การกับต้นตอที่ทำ� ให้เกดิ ปัญหาน้ัน การประชุมเชงิ ปฏิบตั ิการ การประชุมเชิงปฏบิ ัตกิ ารแบบการมีสว่ นร่วมของชุมชน : เพือ่ สรา้ งความรู้/เขา้ ใจ รว่ มมือ แบบการมสี ่วนร่วมของชมุ ชน คน้ หาศกั ยภาพ อุปสรรค จดุ อ่อน และโอกาสของชมุ ชน เพ่ือน�ำไปประยกุ ต์ใช้ส�ำหรับการ พัฒนาศักยภาพของชุมชนให้มีความพร้อมด้านการด�ำรงชีวิตมีอาชีพท่ีม่ันคง และพร้อม ส�ำหรับการขับเคลอ่ื นชุมชนใหม้ คี ณุ ภาพชีวิตบนรากฐานสังคมแห่งการเรยี นรู้ โดยเรมิ่ ต้น จากการตั้งคำ� ถามเพื่อใหช้ ุมชนรว่ มคิด ดังน ี้ ค�ำถามท่ี 1 ทา่ นอยากเห็นบา้ นปรือรูงเป็นอยา่ งไร คำ� ถามท่ี 2 บา้ นปรอื รูงมขี อ้ ดี และ ขอ้ ดอ้ ยอยา่ งไร คำ� ถามท่ี 3 เราจะทำ� อะไรใหส้ ิ่งท่ีเราอยากเห็นเปน็ จรงิ 130
60 ชุมชน ยกระดับคุณภาพชวี ติ หมู่บา้ นชมุ ชนแบบมีสว่ นร่วม เฉลมิ พระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา การประชมุ เชงิ ปฏบิ ัติการ เป้าหมาย : เพอ่ื รว่ มคน้ หา “แนวทางการสรา้ งอาชีพเสรมิ ของชมุ ชนบ้านปรือรูง” นำ� ไป แบบมีส่วนร่วมเฉพาะกล่มุ ประยกุ ต์ใชส้ ำ� หรับการพฒั นาศักยภาพของชมุ ชนดา้ นการดำ� รงชวี ติ มอี าชพี ที่มัน่ คง โดย เรม่ิ ตน้ จากการตัง้ คำ� ถามเพอ่ื ให้ชุมชนร่วมคดิ ดังนคี้ �ำถามท่ี 1 ท�ำไมจึงอยากมอี าชพี เสรมิ ค�ำถามท่ี 2 อาชีพที่ท่านสนใจมีอะไรบ้าง ค�ำถามท่ี 3 แนวทางการพัฒนาอาชีพเสริมมี อะไรบ้าง การท�ำแผนชมุ ชน เป้าหมาย : เพอื่ ใหเ้ กิดกระบวนการตัดสินใจรว่ มกนั เพ่ือคัดเลอื กโครงการและกจิ กรรมท่ี ต้องด�ำเนินการ การปรับกระบวนทัศน์เพอ่ื การดำ� รง เปา้ หมาย : เพอ่ื เรียนรู้การด�ำรงชีวติ และการส่งเสรมิ อาชพี ตามแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง ชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี ง และเพ่ือปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สู่วิถีเกษตรเดิมโดย พงึ่ พาตนเองและกนั เองในชุมชน โดยอาศัยปราชญ์ชาวบา้ น ไดแ้ ก่ พอ่ คำ� เด่อื ง ภาษี การปรับกระบวนทัศนเ์ พ่ือการดำ� รงชีวิต เปา้ หมาย : จดุ หมายปลายทางของสขุ ภาพพงึ่ ตน คอื ดบั เหตแุ หง่ ทกุ ข์ คอื สขุ ความสขุ ทาง ดา้ นสขุ ภาพพ่ึงตน ตามแนวทาง กายคือ ไม่ป่วย ความสุขทางใจคือ ไม่ทุกข์ ดับทุกข์ทางใจและทุกข์ทางกายไปพร้อมกัน แพทยว์ ิถธี รรม ไมป่ ว่ ย ไมท่ กุ ขแ์ ละสบายกายสบายใจ 131
การส่งเสรมิ อาชีพทางเลอื กตามแนว เป้าหมาย : เพื่อปรับกระบวนทัศน์ของการพึ่งตนเองด้วยการเกษตรที่ปลูกด้วยฝีมือตน เศรษฐกิจพอเพียง จากเลก็ ไปหาใหญ่ จากงา่ ยไปหายาก บนรากฐานการพึง่ ตนเอง มีความพอดี พอประมาณ ตามศกั ยภาพของตน รจู้ กั การใชเ้ หตผุ ล รจู้ กั การสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ดว้ ยการออม โดยการออมนำ้� (เกษตรประณตี 1 งาน ไมย่ าก ไมจ่ น) ออมความอดุ มสมบรู ณ์ของดนิ ออมสัตว์ ออมตน้ ไม้ยืนตน้ ท่หี ลากหลาย สั่งสมภมู ิปญั ญา ในการแก้ปัญหา ท�ำให้มีอยูม่ ีกิน เหลือกินไดแ้ จก เหลือแจกไดข้ าย ผลการดำ� เนนิ งาน จากการพัฒนาชุมชนตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของชมุ ชน นนั้ พบวา่ ชุมชนบ้านปรอื รูงเกิดกระบวนการรว่ มคิดรว่ มท�ำ รว่ มตัดสินใจ ร่วม ด�ำเนินการ ร่วมประเมนิ ผลมากข้นึ ทำ� ให้เกดิ การพฒั นาศักยภาพของชมุ ชน นำ� ไปสกู่ าร ด�ำรงชวี ิตของชุมชนบนพื้นฐานการพึ่งพาตนเองและกันเอง แนวทางการขยายผลการด�ำเนนิ งานใหเ้ กดิ ความยั่งยืน ควรมุ่งเน้นการปรับกระบวนทัศน์ของคนในชุมชนและส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะ การปรับกระบวนทัศน์ของคนจะท�ำให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง รวมท้ังการสร้างเครือ ข่ายขยายไปในชุมชนรอบข้างและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เช่น วัด โรงเรียน โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ องค์การบริหารส่วนต�ำบล เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างชุมชนให้เกิดการรวม ตวั อยา่ งเขม้ แข็ง มกี ารร่วมคดิ การเรียนรู้ การจดั การองคค์ วามรู้ในรปู แบบที่หลากหลาย เหมาะสม และสอดสอดกับการด�ำเนินชีวิตบนฐานทรพั ยากร ภมู ิปญั ญาและวิถีประเพณี วัฒนธรรมของชมุ ชน 132
60 ชุมชน ยกระดบั คณุ ภาพชีวิตหมูบ่ ้านชุมชนแบบมีสว่ นรว่ ม เฉลิมพระเกียรตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจริญพระชนมายคุ รบ 60 พรรษา โ ค ร ง ก า ร เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง เ พ่ื อ ภาพเปน็ สถานท่ยี ดึ เหนีย่ วจติ ใจของชมุ ชน ยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนบ้าน บ้านศาลา จากการสอบถามประชากรใน ศาลา พ้ืนท่ีบ้านศาลา พบว่าในฤดูฝนมักเกิดน�้ำ ท่วมและในฤดูแล้งจะเกิดการขาดแคลน มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน น�้ำส�ำหรับท�ำการเกษตร เนื่องจากน�้ำใน แม่น้�ำชีมีปริมาณน้อย และไม่สามารถน�ำ คณะดำ� เนนิ งาน ผศ.ดร.อรลดั า เจอื จันทร์ และคณะ น�้ำจากแม่น้�ำชีข้ึนมาใช้ได้ เน่ืองจากแม่น้�ำ ชีมีความลึกมาก ซ่ึงร้อยละ 99 ของการ ในการคัดเลือกหมู่บ้าน เริ่มต้นจากการสอบถามสภาพหมู่บ้านจากนักศึกษาใน ประกอบอาชีพการเกษตรต้องอาศัยน้�ำ สาขาวิชาอตุ สาหกรรมเกษตร ซง่ึ เปน็ สายวิชาของหัวหน้าโครงการสังกดั อยู่ เพ่อื พิจารณา ฝนเพียงอย่างเดียว รวมทั้งดินขาดความ เป็นเบ้ืองต้นว่าหมู่บ้านน่าสนใจหรือไม่ เช่น ถามเกี่ยวกับอาชีพของคนในหมู่บ้าน สภาพ สมบูรณ์ เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่เน้น หมบู่ า้ น ผู้ใหญบ่ า้ นเป็นอย่างไร ซ่ึงโดยปรกติก็จะสอบถามถงึ สภาพบา้ นของนกั ศึกษาเปน็ การใช้ประโยชน์จากดิน โดยมีการใส่ รายๆ ไป ในขณะทม่ี ชี วั่ โมงสอน แลว้ กอ็ ธบิ ายใหน้ กั ศกึ ษาฟงั เกย่ี วกบั โครงการหมบู่ า้ นราช ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้ต้นทุน มงคล เมอ่ื มขี อ้ มลู เบอื้ งตน้ แลว้ กใ็ หน้ กั ศกึ ษาประสานงานกบั ผปู้ กครองทบี่ า้ นกอ่ น เพอ่ื ให้ ทางการเกษตรสูง รวมท้ังหลังจากการท�ำ ผู้ปกครองของนักศึกษาประสานงานกับผู้ใหญ่บ้าน หลังจากน้ันก็โทรศัพท์หาผู้ใหญ่บ้าน นาประชาชนจะว่างงาน (ไม่มอี าชีพเสริม) นัดแนะเวลาลงไปหาผู้ใหญ่บ้านที่หมู่บ้าน โดยไปกับเพื่อนอาจารย์ท่ีมีใจรักในการท�ำงาน สมมุติฐานในการด�ำเนินโครงการ กับชุมชน ให้นักศึกษาพาไปท่ีหมู่บ้านและพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้าน ดูทัศนคติและวิสัยทัศน์ จากแนวทางการพัฒนาชุมชน ของผู้ใหญ่บ้านว่าเปน็ อย่างไร อยากจะพฒั นาชุมชนอย่างไร และถามสภาพโดยทว่ั ไปของ ต า ม โ ค ร ง ก า ร ย ก ร ะ ดั บ คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต ชุมชน เป็นตน้ แล้วจงึ เขียนโครงการเพื่อขอทุนสนบั สนนุ การท�ำโครงการ ของหมู่บ้าน ชุมชน แบบมีส่วนร่วม ข้อมลู หมูบ่ ้านโดยสังเขป บา้ นศาลาต้งั อยู่ หมูท่ ี่ 16 ตำ� บลทา่ สวา่ ง อ�ำเภอเมอื ง 60 หมู่บ้าน ชุมชน เฉลิมพระเกียรติ นั้น จงั หวดั สรุ นิ ทร์ ทางทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ของอำ� เภอเมอื งสรุ นิ ทร ์ ระยะหา่ งจากอำ� เภอ พบว่า ชุมชนบ้านศาลา ต�ำบลท่าสว่าง เมอื ง จงั หวดั สรุ นิ ทรป์ ระมาณ 20 กโิ ลเมตร จากการสำ� รวจขอ้ มลู เบอื้ งตน้ (ผใู้ หญบ่ า้ นเปน็ อ�ำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ มีความ ผใู้ หข้ ้อมูล) พบว่ามีจำ� นวนครวั เรอื นจำ� นวน 105 ครัวเรือน มีประชากรจ�ำนวน 520 คน เหมาะสมและสอดคล้องที่สามารถด�ำเนิน สว่ นใหญใ่ ชภ้ าษาเขมรเปน็ ภาษาหลกั อาชพี หลกั ของชมุ ชน คือ อาชพี เกษตรกรรม ไดแ้ ก่ โครงการหมู่บ้านราชมงคลได้ เน่ืองจาก ท�ำนา อาชีพรองของชมุ ชน คือ ท�ำไร่ ทำ� สวน ปลูกถั่ว ข้าวโพด แตงโม ทอผา้ และเลย้ี ง ชุมชนมีศักยภาพพร้อมจะพัฒนาและขับ สัตว์ และเกือบทุกบ้านมกี ารเลย้ี งววั ไวป้ ระมาณ 3 - 5 ตวั (เพอื่ จำ� หนา่ ย) จากการศกึ ษา เคลื่อนชุมชนให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ บรบิ ทชมุ ชนเบอื้ งตน้ พบวา่ บา้ นศาลามลี กั ษณะภมู ปิ ระเทศสว่ นใหญเ่ ปน็ ทร่ี าบลมุ่ ลกั ษณะ ของโครงการ เช่น ชุมชนมีการด�ำรงวิถี ดนิ เปน็ ดนิ รว่ นปนทราย ชมุ ชนมศี ักยภาพในด้านภมู ิประเทศเหมาะสำ� หรับการเพาะปลูก ความเปน็ อยบู่ นพน้ื ฐานของความพอเพยี ง เนือ่ งจากมแี มน่ ำ�้ ชไี หลผ่าน ซงึ่ ส่วนใหญ่เป็นพ้นื ทีท่ ำ� กนิ ของตนเอง (3 ถงึ 30 ไร)่ รวมทง้ั มี มีแนวคิดการปรับวิถีการประกอบอาชีพ ปา่ ชมุ ชน ซึง่ พื้นท่ปี ระมาณ 100 ไร่ มผี นู้ �ำทเ่ี ข้มแขง็ ได้แก่ ก�ำนันสมศกั ด์ิ สำ� ราญ (ก�ำนนั ของตน โดยมุ่งเน้นการด�ำรงชีวิตแบบ แหนบทองคำ� ) และนายแดง สขุ ยนิ ดี ผใู้ หญบ่ า้ นประจำ� บา้ นศาลา และมสี ำ� นกั สงฆพ์ ทุ ธานุ เศรษฐกจิ พอเพยี ง การอาศยั หลกั การพงึ่ พงิ ความสมดุลตามธรรมชาติ รวมท้ังมีความ พร้อมที่จะร่วมคิด ร่วมท�ำ ร่วมตัดสินใจ ร่วมด�ำเนินการ ร่วมประเมินผลและร่วม รบั ประโยชน์ อกี ทัง้ ยงั มีสภาพพ้นื ทเี่ หมาะ 133
สำ� หรบั การเกษตร เพยี งแตข่ าดองคค์ วามรทู้ จี่ ะนำ� ศกั ยภาพเหลา่ นนั้ ไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ สูงสุด ดังนั้นจึงได้จัดท�ำโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน บ้านศาลา โดยร่วมมือกับชุมชน องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานต่างๆ โดย มีเป้าหมายเพ่ือร่วมพัฒนาศักยภาพของประชาชนให้มีความพร้อมในด้านการด�ำรงชีวิต และมีอาชีพที่ม่ันคง และพร้อมที่จะขับเคล่ือนชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตบนรากฐานสังคม แห่งการเรียนรู้ สามารถพึ่งพาตนเองรวมท้ังพึ่งพากันเองได้ น�ำไปสู่การพัฒนาที่ย่ังยืน เน่ืองจากหมู่บ้านศาลายังมีปัญหาการท�ำนาแบบการใช้สารเคมีควบคู่ไปด้วย ถ้าได้ผ่าน การอบรมการปรับกระบวนทัศน์เพ่ือการด�ำรงชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของ ชุมชนบ้านศาลา ก็คาดว่าชุมชนบางส่วนจะมีการใช้สารเคมีลดลง ชาวบ้านเปล่ียนมาใช้ ปุ๋ยอนิ ทรยี แ์ ทน นบั ไดว้ า่ เปน็ การลดต้นทนุ ทางหนงึ่ ด้วย ซงึ่ ตรงกบั แนวทางของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และยงั สง่ ผลใหช้ มุ ชนมสี ุขภาพทดี่ ขี ้ึนจากการลดใช้สารเคมีและได้บรโิ ภคอาหาร ท่ีปราศจากสารพิษ เปน็ ต้น วิธีการ ในการด�ำเนินโครงการหมู่บ้านราชมงคล ในช่ือโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือ ยกระดับคุณภาพชีวิตของชมุ ชนบา้ นศาลา เป็นการดำ� เนนิ การในปีแรก (พ.ศ. 2558) จึง เป็นกระบวนการท�ำงานในลักษณะท่ีเน้นด้านการศึกษาบริบทชุมชนเป็นส่วนใหญ่ การ ปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของชุมชน ต้องท�ำความเข้าใจซึ่งกันและกัน สร้างความคุ้นเคย ใหช้ าวบ้านมีความไว้เน้อื เชื่อใจในเรา (คณะท�ำงาน) ในสว่ นของกระบวนการทำ� งานต้องมี การเตรยี มชุมชนก่อนทุกครั้ง เพ่ือใหช้ ุมชนได้มคี วามเข้าใจ และพรอ้ มจะเขา้ รว่ มโครงการ หวั หนา้ โครงการตอ้ งพาคณะทำ� งานลงพน้ื ที่ โดยตอ้ งนดั ชมุ ชนลว่ งหนา้ อยา่ งนอ้ ย 2 สปั ดาห์ เมอ่ื นัดชุมชนได้แลว้ ตอ้ งมกี ารนัดประชมุ คณะทำ� งานก่อนลงพ้ืนที่จริง เพ่ือปรึกษาหารือ ในส่วนของรายละเอียดต่างๆ ในการทำ� โครงการ เพอื่ ใหม้ ีความเข้าใจตรงกนั แล้วตอ้ งพา คณะทำ� งานลงพน้ื ทใี่ หไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ ในการดำ� เนนิ การครงั้ แรก เพอ่ื ใหม้ คี วามคนุ้ เคยกบั ชมุ ชน มกี ารพดู คุยอย่างไม่เป็นทางการกับชมุ ชน หรือมีการเขา้ ร่วมกจิ กรรมตา่ งๆ ของชุมชน ใน กจิ กรรมตา่ งๆ ทท่ี ำ� รว่ มกบั ชมุ ชน ตอ้ งพยายามศกึ ษาบรบิ ทชมุ ชนไปเรอ่ื ยๆ สำ� รวจและเกบ็ ขอ้ มลู เบอื้ งตน้ ของชมุ ชน หาขอ้ มลู มอื สองของชมุ ชน ซง่ึ ไดม้ าจากองคก์ ารบรหิ ารสว่ นทอ้ ง ถิ่นต�ำบลท่าสว่าง ซ่ึงมีรายละเอียดคร่าวๆ ของข้อมูลทางด้านกายภาพ แหล่งทรัพยากร ขอ้ มลู ดา้ นประชากรของชมุ ชน ขอ้ มลู ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรมของชมุ ชน ตลอดจนขอ้ มลู ดา้ นเศรษฐกจิ ของชมุ ชน แลว้ นำ� ขอ้ มลู มอื สองทง้ั หมดมาถา่ ยทอดใหก้ บั คณะทำ� งานทราบ กอ่ นการลงพนื้ ที่ และในการประชมุ คณะทำ� งานกอ่ นลงพนื้ ทจ่ี รงิ นนั้ ตอ้ งมกี ารกำ� หนดเวลา ก�ำหนดค�ำถาม ก�ำหนดตวั บุคคลให้ละเอยี ดว่าขัน้ ตอนน้ตี ้องท�ำอะไร ใครเป็นผู้ดำ� เนินการ หลกั (Main-fa) ใครเปน็ ผดู้ ำ� เนนิ การในกลมุ่ ยอ่ ย (Co-fa) ใครเปน็ ผจู้ ดบนั ทกึ (Note taker) ใครเปน็ ผ้สู ังเกตการณ์ (Observe) และใครจะด�ำเนนิ การในส่วนของสันทนาการ เปน็ ต้น และเมื่อลงไปพื้นท่ีเพ่ือท�ำกิจกรรมกลับมาแล้ว ต้องมีการถอดบทเรียนทุกคน เพ่ือให้ทุก 134
60 ชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวติ หม่บู ้านชุมชนแบบมสี ่วนร่วม เฉลมิ พระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายคุ รบ 60 พรรษา คนได้รู้จุดบกพร่องในหน้าท่ีของตน ให้แต่ละคนเป็นผู้บอกจุดบกพร่องของตัวเอง และให้ ผู้ร่วมทีมบอกจุดบกพร่องของคนๆ น้ันด้วย และจะได้แก้ไขข้อบกพร่องท่ีพบ เพ่ือการน�ำ ไปปรบั ใชต้ ่อไป ผลการด�ำเนนิ งาน ผลการดำ� เนินโครงการศกึ ษาบรบิ ทชมุ ชนบา้ นศาลา ในการด�ำเนนิ โครงงานศึกษาบรบิ ทชมุ ชน คณะทำ� งานมกี ารวางแผนการท�ำงาน โดยมชี ว่ งระยะเวลาต้งั แต่วันท่ี 5 – 7 มถิ นุ ายน 2558 มกี ารวางแผนการท�ำงาน ในวันท่ี ๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ ทีมงานคณะท�ำงานได้ประชุมกลุ่มก่อนลงพ้ืนที่จริง เพื่อหาแนวทาง ร่วมกันในการด�ำเนินงาน และให้มีทิศทางไปในทางเดียวกัน และมีการน�ำทีมคณะท�ำงาน ลงพ้ืนทส่ี ำ� รวจและทำ� ความคุน้ เคยกับชาวบา้ น ในวนั ที่ 6 – 7 มิถนุ ายน 2558 ลงพนื้ ที่ จรงิ โดยการนัดกลุม่ ผู้ทส่ี ามารถให้ขอ้ มูลมารวมกันทีส่ �ำนกั สงฆพ์ ทุ ธานภุ าพบา้ นศาลา ซงึ่ เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน และมีการสรุปงานหลังจากลงพ้ืนท่ีแล้ว ในการหาข้อมูล ชุมชนได้ส�ำรวจ 4 ด้าน คือ ด้านกายภาพ ด้านชีวภาพ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคมและ ด้านวฒั นธรรม ในดา้ นกายภาพได้สำ� รวจดนิ แหลง่ น�้ำ และโครงสร้างพื้นฐานของหมู่บา้ น ด้านชีวภาพเป็นการส�ำรวจเก่ียวกับพืชและสัตว์ที่มีในพื้นท่ี ด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ อาชีพ รายได้ รายจ่าย หน้ีสินท่ีเกิดข้ึน ด้านสังคม ได้แก่ จ�ำนวนครัวเรือน สมาชิกในครัวเรือน การศกึ ษา ประเพณี ปราชญ์ชาวบา้ น ผูน้ �ำชมุ ชน และประวัติของชุมชน เปน็ ตน้ จากการ ด�ำเนินโครงการโดยการสังเกต พบว่า ชุมชนมีความกระตือรือร้น และให้ความร่วมมือใน การใหข้ ้อมูลเปน็ อยา่ งดี ผลการด�ำเนินโครงการปรับกระบวนทัศน์เพ่ือการด�ำรงชีวิตตามแนวคิดเศรษฐกิจพอ เพียง ดำ� เนนิ งานระหวา่ งวนั ที่ 18– 20 กมุ ภาพนั ธ์ 2558 ณ ศนู ยเ์ รยี นรบู้ า้ นพอ่ คำ� เดอ่ื ง ภาษี บา้ นโนนเขวา ตำ� บลหวั ฝาย อำ� เภอแคนดง จงั หวดั บรุ รี มั ย์ โดยมผี เู้ ขา้ รว่ มอบรมจำ� นวน 12 คน ซ่งึ มผี ใู้ หญบ่ า้ นและกลุม่ ผู้นำ� ชุมชนของบ้านศาลาเข้ารว่ มการอบรม จากการตอบ แบบประเมินผลการฝึกอบรม พบว่า ก่อนการฝึกอบรมผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ใน เรอื่ งการอบรม 61.82 เปอรเ์ ซน็ ต์ หลังการฝกึ อบรมผูเ้ ข้ารบั การฝกึ อบรมมคี วามรู้ในภาพ รวมของเรื่องท่ีอบรม 87.27 เปอรเ์ ซน็ ต์ ผลการดำ� เนนิ โครงการศกึ ษาดูงาน ในกจิ กรรมโครงการศึกษาดูงาน ไดพ้ าชาวบ้านศาลา จำ� นวน 20 คน และคณะ ทำ� งานรวม 5 คน ในการไปศกึ ษาดงู านทสี่ วนเพชรพมิ าย ต.ทา่ หลวง อ.พมิ าย จ.นครราชสมี า ในวันที่ 25 มิถนุ ายน 2558 เปน็ ระยะเวลา 1 วนั โดยมวี ิทยากรคอื อาจารย์ทอง ธรรมดา หรือ อาจารย์วีรยุทธ ศรีเลอจันทร์ เป็นวิทยากรบรรยาย จากการตอบแบบประเมินผล การฝึกอบรม พบว่า ก่อนการฝึกอบรมผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ในเร่ืองการอบรม 135
62 เปอร์เซ็นต์ หลังการฝึกอบรมผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ในเร่ืองที่อบรม 90 เปอรเ์ ซ็นต์ ผลการดำ� เนินโครงการปฏิบัตกิ ารแบบมสี ่วนรว่ มของชมุ ชนบา้ นศาลา พบว่าชุมชนบ้านศาลาได้ให้ความร่วมมือในการด�ำเนินโครงการเป็นอย่างดี ใน กิจกรรมได้ถามถึงภาพฝันของชุมชน สิ่งท่ีชุมชนอยากเห็นร่วมกันคือ อยากให้หมู่บ้าน ของตนมคี วามอดุ มสมบรู ณ์ ปลอดสารเคมี ชมุ ชนมคี วามสามคั คีและมนี ้ำ� ใจใหแ้ กก่ นั พบ ว่าเรือ่ งท่ชี ุมชนบา้ นศาลาอยากให้แกป้ ัญหามากท่ีสุดเรียงตามล�ำดับ คอื การจัดการน้�ำใน ฤดแู ล้ง การท�ำเกษตรอินทรียแ์ ทนการใช้สารเคมี และ การสง่ เสรมิ อาชีพเสริมให้แก่คนใน ชุมชน และยงั มเี รือ่ งอืน่ ๆ ไดแ้ ก่ การคมนาคมสัญจรท่ีไม่สะดวก ขาดความรู้ในการจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติ การลดละเลกิ อบายมุข เป็นต้น แนวทางการขยายผลการดำ� เนนิ งานใหเ้ กิดความยัง่ ยนื จากผลการด�ำเนินงานท่ีผ่านมา พบว่าในการด�ำเนินโครงการแต่ละคร้ัง ชาว บ้านบ้านศาลาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ครบตามจ�ำนวนเป้าหมายตามท่ีได้วางแผนไว้ และส่ิงทนี่ ่าจะท�ำตอ่ ยอดของโครงการในปีหนา้ คอื การแก้ปัญหาเร่อื งน�ำ้ ไมพ่ อใช้สำ� หรับ การเกษตรในฤดูแล้ง (ความต้องการให้แก้ปัญหาในอันดับที่ 1) เรื่องของการท�ำเกษตร อนิ ทรีย์ (ปญั หาท่ีตอ้ งการใหแ้ ก้อนั ดบั ท่ี 2 : ลดการใชส้ ารเคม)ี ภาพท่ี 1 ตัวอยา่ งกิจกรรมการปฏบิ ัตกิ ารแบบการมสี ่วนร่วมและศึกษาบริบทชุมชน บา้ นศาลา นายมานพ พินัยรัมย์ (ชาวบ้านศาลา) กลา่ ววา่ “อยากใหว้ จิ ัยต่อเนื่องตลอดไป” นางสาวสพุ ล ดีม่นั (ชาวบา้ นศาลา) กล่าวว่า “อยากใหม้ กี ารพัฒนาต่อไป” 136
60 ชุมชน ยกระดบั คณุ ภาพชวี ิตหมู่บา้ นชุมชนแบบมสี ่วนรว่ ม เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายคุ รบ 60 พรรษา มหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยี ราชมงคล ลา้ นนา โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของ หมบู่ า้ น ชมุ ชน แบบมสี ว่ นรว่ ม 60 หมบู่ า้ น เ ฉ ลิ ม พ ร ะ เ กี ย ร ติ ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ ท พ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจรญิ พระชนมายคุ รบ 60 พรรษา 137
โ ค ร ง ก า ร ย ก ร ะ ดั บ คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต ตามท่ีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ของหมู่บ้านชุมชน แบบมีส่วนร่วม ราชมงคลล้านนา ได้ก�ำหนดแผนพัฒนา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตน กลยทุ ธเ์ พอื่ สรา้ งความเปน็ เลศิ ดา้ นวชิ าการ ราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรง การวิจัย และนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2557- เจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา 2563 เพื่อผลิตผลงานวิจัยที่ตอบสนอง “หมบู่ โาค้ รนงกาแรม“กก่ าราเรยีษนราูใ้ นหหมบู่มา้ นทู่ เพ่ี่ือ2เพิ่มตศกั ำย� ภบาพลบคุ แลมากรก่ ขอางษา ความต้องการของชุมชน เพิ่มขีดความ สามารถในการแข่งขันของประเทศและ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา” ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม ซึ่ง เป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพประชาชน อ�ำเภอแม่สอด จงั หวัดตาก”ประจำ�ปีงบประม�ณ2558 ในท้องถิ่นให้มีความพร้อมในการด�ำรง ชีพและมีอาชีพที่ม่ันคง ด้วยกระบวนการ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนาหมูบ่ ้�น แมก่ �ษ� หมทู่ ี่ 2 ตำ�บลแม่ก�ษ� อำ�เภอแมส่ อด จังหวัดต�ก แบบมีส่วนร่วมเพ่อื ใหค้ ณาจารย์ บุคลากร นักศึกษาและประชาชน ร่วมกันวิเคราะห์ คณะด�ำเนินงาน เนางแคทรยี า พร้อมเพรยี ง และคณะ ปัญหาและแก้ไขปัญหาด้วยการน�ำความ รู้เชิงวิชาการสมัยใหม่และเทคโนโลยีไป ประยุกต์ใช้กับองค์ความรู้เดิมของชุมชน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการส่งเสริมอาชีพ และสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน ในการ พฒั นาหม่บู ้าน ชุมชนมีคณุ ภาพชีวิตท่ดี ี มี อาชีพท่ีมนั่ คงและย่ังยืน ค ณ ะ ท� ำ ง า น ไ ด ้ มี ก า ร ท� ำ ประชาคมกบั ชาวบา้ น ฝา่ ยปกครอง และ ตัวแทนองค์การบริหารส่วนต�ำบล (สอบ ต.) ณ หมู่บ้านแมก่ าษา หมู่ 2 ต�ำบลแม่ กาษา อำ� เภอแมส่ อด จงั หวดั ตาก เมอื่ วนั ท่ี 9 พฤศจิกายน 2557 มีขอ้ มูลหม่บู า้ นโดย สรุปดังนี้ จ�ำนวนประชากรทั้งหมด 939 คน แยกเป็นชาย 501 คน หญงิ 438 คน ชมุ ชนมวี ถิ ีชีวิตเรียบง่าย ระบบการจดั การ กับผลิตภัณฑ์การเกษตรยังคงเป็นแบบ ลกั ษณะดงั้ เดมิ การประกอบอาชพี โดยสว่ น ใหญจ่ ะประกอบอาชพี ดา้ นเกษตรกรรม ทำ� ไร่ ทำ� นา คดิ เป็น 90 % รับราชการ 5 % และค้าขาย 5 % อาชีพเสริมเป็นอาชีพ ด้านหัตถกรรม เช่น ไม้กวาดดอกหญ้า ไมก้ วาดทางมะพรา้ ว ตะกรา้ สานจากเชอื ก 138
60 ชุมชน ยกระดับคณุ ภาพชีวิตหม่บู า้ นชุมชนแบบมีส่วนรว่ ม เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจรญิ พระชนมายุครบ 60 พรรษา ฟางชมุ ชนมปี ญั หาดา้ นนำ�้ อปุ โภคบรโิ ภคท่ี EDITORIAL ไมถ่ กู สขุ ลกั ษณะ ปญั หาราคาผลผลติ ตกตำ�่ PREFACE มีความต้องการพัฒนาอาชีพเสริมเพื่อ ACKNOWLEDGMENT เพิม่ รายได้ พัฒนาด้านการตลาด สง่ เสริม APPRECIATION ด้านการท่องเที่ยว และความช่วยเหลือใน ด้านเทคโนโลยีท่ีทันสมัยเพ่ือช่วยยกระดับ MAE K A S A ชีวิตคนในชุมชนให้ดีข้ึนอย่างย่ังยืน และ QUALITY OF LIFE ENHANCEMENT : The Case Study of ท่ีส�ำคัญ หัวหน้าโครงการเป็นคนเก่งคนดี Mae KaSa : Moo 2, Tak Province ส�ำนึกรักบ้านเกิด ได้ผลักดัน ท�ำโครงการ ณ ถ่ินฐานบา้ นตนเอง คือ พ.จ.อ. อำ� นาจ EDITORIAL ใจค�ำฟู ซ่ึงมีดิฉันเป็น หนึ่งในสมาชิกใน PREFACE ทีมงาน เห็นถึงความต้ังใจ มุ่งม่ัน พัฒนา ACKNOWLEDGMENT 2.1 ข้อมูลท่วั ไปของหมบู่ า้ น / ชุมชน ถ่ินฐานของตน แม้ระยะทางจะแสนไกล จากต้นสังกัด สถานท�ำงาน ก็ใช่จะเป็น APPRECIATION ชื่อหมู่บ้าน : หมู่บา้ นแม่กาษา หมทู่ ี่ 2 อุปสรรค ของทีมไม่ นี่คือ หัวใจหลัก ต้ังและอาณาเขต : หมู่ 2 ตำาบลแมก่ าษา อำาเภอ ในการ เลือกพื้นท่ีด�ำเนินงานในครั้งน้ี แม่สอด จงั หวดั ตาก หา่ งจากอำาเภอแมส่ อด 26 ด้วยหลักการ “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กโิ ลเมตร ไปทางทศิ เหนอื ถนนสายแมส่ อด-แม่ระมาด ปากทอ้ งปลอดภัย” และด้านศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมเน้ือที่ประมาณ 68,934 ไร่ หรอื เทา่ กับ 110.2944 ดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร ตารางกิโลเมตร โดยมี สมมตุ ฐิ านในการดำ� เนนิ โครงการ บุคลากรนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่จะให้การสนับสนุนและร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิต การทำ� งานของคณะทำ� งาน การ ชุมชน โดยจะน�ำองค์ความรู้ทีไ่ ด้จากการ บูรณาการ ผลงานวจิ ยั มาประยุกต์ใช้กบั การ บูรณาการ จากการเรียนการสอน ทั้ง 4 เรียนการสอนและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีท่ีทันสมัย มุ่งการน�ำวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้ให้เกิด คณะ 1 วทิ ยาลยั รว่ มกบั นกั ศกึ ษา สชู่ มุ ชน ผลลัพธ์ท่ีมีคุณภาพ วัดผลได้ เพื่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนที่แท้จริงและเกิด ในพ้ืนที่ หมู่บ้านแม่กาษา หมู่ 2 ต�ำบล ความยั่งยืน โดยในปีงบประมาณ 2558 คณะท�ำงานและชุมชนได้วิเคราะห์ร่วมกันแล้ว แม่กาษา อ�ำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จะ เห็นควรใหด้ ำ� เนินโครงการในประเด็นท่ีไดป้ ระชาคมล�ำดบั ท่ี 1 ลำ� ดบั ท่ี 2 และล�ำดบั ที่ 4 ประสบความส�ำเร็จหรือไม่ อย่างไร ภายใตห้ ลักการ “ลดรายจา่ ย เพ่มิ รายได้ ปากท้องปลอดภัย” ซง่ึ นำ� มาสู่กรอบแนวความ วธิ ีการ คดิ ในการยกระดับคุณภาพชวี ิตหมู่บ้าน ดงั ลักษณะโครงการยอ่ ย ดงั ตอ่ ไปน้ี คณะดำ� เนนิ โครงการไดว้ เิ คราะห์ 1.เวทีประชาคมเพือ่ ให้ได้ปัญหาชุมชน พรอ้ มสรปุ ผลปญั หาชมุ ชน สภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขที่ได้จาก 2.โครงการน�้ำดืม่ ชมุ ชน การประชาคมแล้ว สามารถบูรณาการ 3.โครงการพฒั นากลุ่มอาชีพถกั สานผลิตภณั ฑช์ ุมชนQUALITY OF LIFE ENHANCEMENT : The Case Study of ศาสตร์ทั้ง 4 ศาสตร์จากความช�ำนาญ การของคณาจารย์ทางด้านบริหารธุรกิจ Mae KaSa : Moo 2, Tak Province และศิลปศาสตร์ ด้านวิศวกรรม 4.โครงการสง่ เสรมิ และพฒั นาอาชพี กจิ กรรม “ผลติ ขา้ วขาว ขา้ วกลอ้ ง และขา้ ว ไรซ์เบอรร์ ่ี” 5.โครงการตดิ ตามและประเมินผลการด�ำเนินงาน 139
ผลการดำ� เนินงาน มากขึ้นเนื่องจากมีการลงทุนจากนักลงทุน แนวทางการขยายผลการด�ำเนนิ งานให้ ปจั จัยสนบั สนนุ ความส�ำเรจ็ คือ ต่างชาติหรือคนไทย ธุรกิจต่าง ๆ จะเกิด เกดิ ความยั่งยืน การน�ำหลักการผู้ริเร่ิมที่ช่ือว่า อัลเบิร์ต ข้ึนกับชุมชนมากมาย อาทิเช่น ธุรกิจการ ฮัมฟรี (Albert Humphrey) คือ SWOT ท่องเที่ยว การโรงแรม ร้านอาหาร และ จุดส�ำคัญ คือ พัฒนาด้าน Analysis มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สุขภาพ เป็นต้น ชาวต่างชาติส่วนใหญ่มี เศรษฐกจิ พฒั นาดา้ นสงั คม ศลิ ปวฒั นธรรม ชุมชนบ้านแม่กาษา หมู่ท่ี 2 เพื่อที่จะได้ ค่านิยมที่รักสุขภาพ โดยเฉพาะประเทศ และการศึกษา ซึ่งการพัฒนาโครงข่าย/ ทราบถึงต้นทุนเดิมของชุมชนอันได้แก่จุด ฝั่งยุโรปที่มีจ�ำนวนประชากรผู้สูงอายุเป็น สร้างภาคีความร่วมมือ จะสามารถลด แข็งและโอกาส รวมถึงทราบถึงจุดอ่อน สดั ส่วนท่มี าก หรือแมก้ ระท่ังฝงั่ เอเชยี เชน่ การผกู ขาดทางการตลาด และจะเป็นการ และอุปสรรคอันเกิดจากตัวชุมชนเองและ สงิ คโปร์ ญปี่ นุ่ หรอื จนี หากชมุ ชนสามารถ สร้างผู้น�ำการเปล่ียนแปลงของชุมชน สิ่งแวดล้อมรอบตัว ผลการวิเคราะห์นี้จะ ที่จะรวมกลุ่มสร้างผลิตภัณฑ์ท่ีรักสุขภาพ ได้แก่ อบต.โรงเรียน และภาคประชาชน เป็นเครื่องมือส�ำคัญท่ีจะเป็นการเปิดวิสัย อาทิ ข้าว ผกั หรือผลไม้ที่เป็นอินทรียแ์ ละ การขยายกลุ่มสนับสนุนผู้น�ำโดยมุ่งเป้าที่ ทศั น์ของผู้นำ� ชมุ ชน และชาวบา้ นใหท้ ราบ ได้มาตรฐานสากล สินค้าเหล่านี้ย่อมเป็น เยาวชน และกลุ่มอาชีพ การสร้างฐานวิถี ถงึ ทศิ ทางของชมุ ชนและแนวทางการแกไ้ ข ท่ีต้องการของชาวต่างชาติ ประกอบกับ วฒั นธรรมชมุ ชน ความหว่ งแหนทรพั ยากร ปญั หาและอปุ สรรอยใู่ นเขตพนื้ ทเ่ี ศรษฐกจิ ชุมชนมีตน้ ทนุ ทางธรรมชาติทดี่ ี ท�ำให้การ ส่ิงแวดล้อม รุ่นต่อรุ่น (คลังสมองชุมชน) พเิ ศษ บ้านแม่กาษา หมทู่ ่ี 2 เป็นหนึง่ เขต ด�ำเนินการเป็นไปได้ไม่อยาก นอกจากใน จากการร่วมร่างแผนพัฒนาอย่างเฉพาะ การปกครองของ ต�ำบลแม่กาษา อ�ำเภอ ส่วนของผลิตภัณฑ์แล้ว ชุมชนมีบ่อน้�ำพุ จงเจาะกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทาง แมส่ อด จังหวัดตาก ซ่งึ อยู่ภายในเขตพนื้ ท่ี ร้อน มนี ้�ำต�ำ มีเสน้ ทางปน่ั จักรยานเพอ่ื ชม ด้านเศรษฐกิจที่ต้องมีขบวนการเรียนรู้ เศรษฐกิจพิเศษ ซ่ึงเป็นยุทธศาสตร์การ ธรรมชาตแิ ละวถิ ชี วี ติ สงั คมแบบผสมผสาน การท�ำเกษตรแบบวิศวกรรมและมีความ พัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ ระหว่างไทย – พมา่ จะเป็นตน้ ทุนในการ เป็นมืออาชีพ ด้านสังคม การจัดการและ และการขนส่งของภูมิภาคเอเชียตะวัน ดงึ ดดู ความสนใจของหมบู่ า้ นคตา่ ง ๆ อยา่ ง การท่องเท่ียว ท่ีต้องมีกระบวนการศึกษา ออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นพัฒนาพื้นท่ีให้ แท้จรงิ ศิลปวัฒนธรรมและบันทึกร่องรอยเชิง เป็นเขตลงทุนอุตสาหกรรมและพาณิช วิชาการ ด้านการศึกษา ท่ีต้องมีหลักสูตร ยกรรม จะมีการส่งเสริมการลงทุนจาก TEAM ที่สนองความต้องการของชุมชน ด้านสา ประเทศเพื่อนบ้าน หรือจากนักลงทุนต่าง MAE KASA ธารสุข ต้องมีการสนับสนุนกิจกรรมการ ชาติ รวมท้งั นักลงทนุ ท้องถน่ิ ให้มาลงทุน OBSERVATION ออกกำ� ลงั กาย และกีฬาอย่างจรงิ จงั มีเวที ในบรเิ วณพนื้ ทซ่ี งึ่ รฐั บาลจะจดั สรรตามแนว KNOWLEDGE แลกเปล่ียนเรียนรู้จากการถอดบทบเรียน ชายแดน โดยการใช้ประโยชนจ์ ากแรงงาน และการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านเพอ่ื ปรบั ต่างด้าวที่จะสามารถเข้ามาท�ำงานได้แบบ แผนในปีต่อไป เช้าไปเย็นกลับ อีกทั้งจะสามารถน�ำเข้า วตั ถดุ บิ และสง่ ออกได้โดยเสรี ประชาคม ข้อมูลจากชุมชน ค�ำนิยมของ เศรษฐกิจอาเซียนมีก�ำหนดเริ่มขึ้นอย่าง ชุมชน จากโครงการฝังตัว ภายใต้ การ เป็นทางการในวันท่ี 31 ธันวาคม 2558 เชื่อมโยงกับโครงการยกระดับคุณภาพ ชุมชนจะไดร้ ับผลประโยชน ์ มากมายโดย ชวี ติ ชมุ ชน แบบมสี ว่ นรว่ ม หมู่ 2 ตำ� บลแม่ เฉพาะการท่ีชุมชนอยู่ไม่ไกลจากเขตพื้นท่ี กาษา อำ� เภอแม่สอด จังหวัดตาก ชายแดนไทย – พม่า สนิ ค้าในชุมชนจะมี การส่งออกเพิ่มมากขึ้น จะมีการจ้างงาน MAE K A S A 140
60 ชุมชน ยกระดบั คุณภาพชีวิตหมูบ่ า้ นชุมชนแบบมสี ่วนรว่ ม เฉลิมพระเกียรตสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจรญิ พระชนมายุครบ 60 พรรษา ค�ำนิยม จากผ้ใู หญบ่ า้ น ค�ำนยิ ม ผู้ชว่ ยผูใ้ หญบ่ า้ น ค�ำนิยม ชมุ ชน (หน่งึ ในผ้เู ข้าร่วม ผมในนามผใู้ หญบ่ า้ นหมู่ 2 ตำ� บล นับเป็นความโชคดีของชาวบ้าน โครงการ) แมก่ าษา อ�ำเภอแมส่ อด จงั หวดั ตาก รสู้ ึก หมู่ 2 ตำ� บลแม่กาษา ที่ทางคณะอาจารย์ หนังสือต�ำบลแม่กาษา หมู่ ยินดีและเป็นเกียรติ ท่ีทางคณะอาจารย์ มทร.ล้านนา ได้เลือกหมู่บ้านของเราใน 2 นับเป็นคร้ังแรกกับการจัดท�ำหนังสือ มหาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาได้ การส�ำรวจและวิจัยจัดท�ำข้อมูลทุกๆด้าน สรรพคดีท้องถ่ินของหมู่บ้านนับเป็นความ เข้ามาฝังตัวในหมู่บ้าน เพ่ือมาหาข้อมูล ของหมู่บ้านเป็นคร้ังแรกที่จัดท�ำหนังสือ มานะพยายามทนี่ า่ ชน่ื ชมอยา่ งยง่ิ ของกลมุ่ ทางด้านการท�ำเกษรตกรรม วัฒนธรรม ที่มีข้อมูลสมบูรณ์ครบถ้วนและอิงความ คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี การศึกษา สาธารณสุขและข้อมูลอื่นๆใน เป็นจริงมากที่สุด การลงพื้นที่หาข้อมูล ราชมงคลล้านนากลุ่มคณาอาจารย์จาก หมู่บ้านเพื่อน�ำข้อมูลเหล่าน้ันไปศึกษาใน นั้นย่อมไม่ง่ายนัก ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้าน การท�ำวิจัยและน�ำไปจัดท�ำเป็นหนังสือ มากมาย ทจ่ี ะขอขอ้ มูลในหนว่ ยตา่ งๆรวม นา เป็นกลุ่มคนทีอ่ ย่นู อกพืน้ ท่ี มกั จะมขี อ้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และรับทราบ ถึงการสอบถามข้อมูลของชาวบ้านและ จ�ำกัดหลายสิ่งหลายอย่างในการหาข้อมูล เรอื่ งราวตา่ งๆตง้ั แตอ่ ดติ จนถงึ ปจั จบุ นั ของ น�ำมาเผยแพร่เป็นหนังสือเล่มนี้ ต้องขอ และข้อเท็จจริงในการจัดท�ำหนังสือเล่มน้ี หมู่บ้านแม่กาษา จึงขอช่ืมชมทางคณะอา ขอบคุณในการสร้างความสนุกสนานเป็น แต่ท�ำงานออกมาได้ดีระดับหนึ่งซ่ึงถือว่า จารยที่มีความอดทนและเสียสระเวลาอัน กันเอง และความมุ่งมานะ ท�ำให้เห็นถึง ไม่ธรรมดาเป็นสื่งท่ีน่าสนับสนุนและน่าให้ มีค่าและขอขอบมหาวิทลัยเทคโนโลยีราช ความตง้ั ใจจรงิ ของคณะอาจารย์ ทรี่ ว่ มกนั ก�ำลังใจจริงอยู่การท�ำงานทุกอย่างเม่ือเร่ิม มงคลล้านนาท่ีมีโครงการ “การเรียนรู้ใน สร้างสรรค์ผลงานหนังสือเล่มน้ีให้สมบูรณ์ ต้นท�ำข้ึนมาโดยท่ีไม่มีใครท�ำขึ้นมาก่อนก็ ชมุ ชนเพอ่ื เพมิ่ ศกั ยภาพบคุ คลากร” ซงึ่ เปน็ และมีประโยชน์ต่อผู้ศึกษาหรือผู้ท่ีสนใจ มักจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง หนังสือต�ำบล มหาวิทยาลับแห่งแรกที่ได้จัดให้อาจารย์ หมบู่ า้ นของเราและหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ ทาง แม่กาษา หมู่ 2 เล่มน้ีก็เช่นกัน แต่ข้อบก เข้ามาเรียนรู้ร่วมรู้ร่วมกับชุมชนเพื่อให้เข้า มหาวทิ ยาเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนารวม พร่องเล็กๆน้อยๆ แต่น่ันก็ไม่สลักส�ำคัญ ถงึ ขอ้ มูลอย่างแทจ้ ริง ถงึ คณะอาจารยจ์ ะสรา้ งสรรคผ์ ลงานทเ่ี ปน็ อะไรนัก หากเทียบกับความต้ังใจท่ีจะน�ำ รณกร ตันมูล ประโยชน์แบบนี้กับอีกหลายๆหมู่บ้านอ่ืน เสนอเนื้อหาสาระของกลุ่มคณะอาจารย์ ( ผ้ใู หญ่บ้าน หมู่ 2 ) อีกอย่างตอ่ เนอื่ ง มทร. ซ่ืงเป็นผู้เขียนขอสนับสนุนขอเป็น มณฑลี ใจดี ก�ำลังใจหวังวา่ จะมีเล่มใหม่ออกมาอกี ( ผู้ชว่ ยผใู้ หญบ่ ้าน หมู่ 2 ) อศั วนิ อนิ หว่าง ( ตวั แทนชมุ ชน ) 141
โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของ ม ห า วิ ท ย า ลั ย เ ท ค โ น โ ล ยี หมู่บ้าน ชุมชน แบบมีส่วนร่วม ราชมงคลล้านนา ให้ความส�ำคัญกับการ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระเทพรัตน พัฒนาคนและสังคมไทยให้มีคุณภาพ ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรง มี โ อ ก า ส เ ข ้ า ถึ ง ท รั พ ย า ก ร แ ล ะ ไ ด ้ รั บ เจรญิ พระชนมายคุ รบ 60 พรรษากรณี ประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจและ หมู่บ้านป่าจี้ หมู่ที่2 ต�ำบลทุ่งหลวง สังคมอย่างเป็นธรรม รวมท้ังสร้างโอกาส อ�ำเภอพรา้ ว จังหวัดเชยี งใหม่ ประจ�ำ ทางเศรษฐกิจด้านฐานความรู้ เทคโนโลยี ปีงบประมาณ 2558 นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ บน พื้นฐานการผลติ และการบรโิ ภคทีเ่ ป็นมติ ร มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ต่อส่ิงแวดล้อม ขณะเดียวกันในปัจจุบัน เศรษฐกิจประชาคมอาเซียนได้มีบทบาท คณะผู้ทำ� งาน คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์คณะศิลปกรรมและ ระบบการค้าเสรีเปิดให้มีการแข่งขันโดย สถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีการเกษตร ไม่มีการกีดกันทางการค้าได้มีบทบาทเพิ่ม คณะวศิ วกรรมศาสตร ์ และวทิ ยาลัยเทคโนโลยีและสหวทิ ยาการ ข้ึนมาตลอด มีแนวโน้มการยอมรับเพิ่มสูง ขึ้นรวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศมีความ เจริญก้าวหน้าในการใช้งานทุกด้าน โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา มีโครงการสนับสนุนการบูรณาการร่วมกัน ระหว่างมหาวิทยาลัยกับหมู่บ้าน/ชุมชน เพ่ือยกระดับคุณภาพชีวิตของหมู่บ้าน ชมุ ชน แบบมสี ว่ นรว่ ม โดยมเี ปา้ หมายเพือ่ พัฒนาชุมชนในท้องถ่ินให้มีความพร้อมใน การดำ� รงชพี ยืนหยดั ไดด้ ว้ ยตัวเอง ซ่งึ งาน บรกิ ารวชิ าการ กองการศกึ ษา มทร.ลา้ นนา ได้เร่ิมต้นโครงการยกระดับคุณภาพชีวิต หมู่บ้านป่าจ้ี ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพยี งแบบมีส่วนร่วม ในปีงบประมาณ 2555 – 2557 สร้างเครือข่ายกับ เทศบาลเวียงพร้าว โดยมีแนวคิดเป็นไป ในทิศทางเดียวกันด้านการสร้างองค์ความ รู้ให้กับคนในชุมชน ด้านการการพัฒนา กลมุ่ ผลติ ภณั ฑ์ชุมชน ได้แก่ กลุม่ การผลิต ปุย๋ กลมุ่ การท�ำข้าวปลอดภัย เป็นตน้ ซึง่ ชุมชนหมู่บ้านป่าจ้ีมีความเข้มแข็งและมี ความพร้อมในการยกระดับคุณภาพชีวิต ใหส้ ามารถอยไู่ ด้อยา่ งยงั่ ยนื 142
60 ชุมชน ยกระดับคุณภาพชวี ิตหมูบ่ ้านชมุ ชนแบบมสี ว่ นร่วม เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา บริบทหมู่บ้านป่าจี้ หมู่ที่ 2 การขยายผลการลดรายจา่ ย และการสรา้ งรายไดใ้ หเ้ ปน็ รปู ธรรมสามารถวดั ผลเชงิ ปรมิ าณ ต�ำบลทุ่งหลวง อ�ำเภอพร้าว จังหวัด ออกมาอยา่ งชดั เจน โดยสรา้ งภาวะผนู้ ำ� ดา้ นการเปน็ พเี่ ลยี้ งจากกจิ กรรมขยายสมาชกิ กลมุ่ เชียงใหม่ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งนา มี ปยุ๋ ท่เี พมิ่ ขึน้ จากปีที่ผ่านมา การสรา้ งรายได้จากกจิ กรรมทางการตลาดขา้ วปลอดภยั โดย ประชากรทง้ั หมด 232 หลงั คาเรือน มี การวดั ขนาดการขยายตวั ทางการตลาดเปรยี บเทยี บกบั สองปที ผี่ า่ น รวมถงึ การวดั ความ ประชากรโดยรวมประมาณ 508 คน สำ� เรจ็ เพอื่ สรา้ งความยงั่ ยนื จาการถอดบทเรยี นปราชญช์ าวบา้ น เพอ่ื เปน็ ชมุ ชนตน้ แบบของ ซึ่งปัจจุบัน นายคณิต ตันติวา ด�ำรง การพัฒนาระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลกบั ชุมชน และหน่วยงานภาคีต่อไป ต�ำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านป่าจ้ี สภาพ สมมตุ ฐิ านในการดำ� เนนิ โครงการ เศรษฐกิจและอาชีพของประชากรส่วน ชมุ ชนบา้ นปา่ จมี้ ีสภาพเศรษฐกิจดี สังคมดี ส่ิงแวดล้อมดี ใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร ปลูกข้าว วธิ กี าร ทำ� นา ปลกู พชื ตามฤดกู าล เล้ยี งสตั ว์ ซงึ่ ปัจจุบันมีบางครอบครัวได้หันมาท�ำการ เกษตรแบบผสมผสาน ตามแนวทฤษฎี มกี รอบแนวคิดการด�ำเนนิ งานดงั น้ี ใหม่ โดยผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นสินค้าหลักของ จากกรอบแนวคิดขา้ งต้นได้ออกแบบกิจกรรมด�ำเนนิ งานแยกตามรายคณะดงั นี้ หมู่บ้านคือ ข้าว นอกจากนี้ยังมีอาชีพ คณะบริหารธุรกจิ และศิลปศาสตร์ เสริม เช่น การรับจา้ งทัว่ ไป จักสาน ไม้ไผ่ กจิ กรรมการตลาดเพ่อื ชมุ ชน บริโภคขา้ วปลอดภยั เป็นต้น ผลการด�ำเนินงานสองปีที่ผ่านมา กิจกรรมการประยกุ ต์ความร้คู วามเช่ียวชาญดา้ นการบัญชตี น้ ทุนการผลติ ภายใต้งบประมาณปี 2556 และ 2557 กิจกรรมระบบบัญชีทเ่ี หมาะสมส�ำหรบั กลุม่ ขา้ วปลอดภัย และกลุ่มปยุ๋ อนิ ทรยี ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา กิจกรรมการจดั การกลุ่มแบบยั่งยนื ผ่านการบูรณาการศาสตร์ทางการศึกษา คณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์ คณะ วิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยกี ารเกษตร และคณะศลิ ปกรรม และสถาปัตยกรรม โดยได้ด�ำเนินการ ประชาคมศึกษาปัญหาและความต้องการ ของคนในชมุ ชน ด�ำเนนิ การดา้ นกิจกรรม การสร้างองค์ความรู้ด้านการจัดการกลุ่ม การสร้างกจิ กรรมเสรมิ กลุม่ ผู้สงู อาย ุ การ ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และ การเกษตร การดำ� เนนิ งานสรา้ งเครอ่ื งจกั ร และอปุ กรณเ์ พอื่ สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ ดา้ น การจัดการปุ๋ยอินทรีย์และการจัดการข้าว ปลอดภยั ซง่ึ จากกจิ กรรมผลผลการดำ� เนนิ งานดังกล่าวข้างต้นตลอดระยะเวลาสองปี งบประมาณสง่ ผลทำ� ใหเ้ กดิ การลดรายจา่ ย สร้างรายไดใ้ หก้ บั ชมุ ชนบ้านป่าจ้ี ดังนัน้ ใน ปที สี่ ามคอื ปงี บประมาณ 2558 จะดำ� เนนิ 143
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการ ผลการด�ำเนนิ งาน เกษตร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา มีนโยบายดา้ นการบรกิ ารวิชาการแก่ กจิ กรรมการปรบั ปรงุ ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ ชมุ ชน โดยการสนับสนุนด้านงบประมาณ บุคลการ ทรพั ยากรผ่านกระบวนการดำ� เนิน และการผลิตปยุ๋ อินทรยี ์อดั เม็ด งานโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตของหมู่บ้านชุมชน แบบมีส่วนร่วม 60 หมู่บ้าน กิจกรรมถ่ายทอดเทคโนโลยดี า้ น เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีทรงเจริญพระชนมายุ การผลิตข้าวปลอดภัย ครบ 60 พรรษา กรณหี มบู่ ้านปา่ จ ้ี หมทู่ ่ี 2 ต�ำบลท่งุ หลวง อำ� เภอพร้าว จงั หวัด คณะวศิ วกรรมศาสตร์ เชยี งใหม ่ โดยมุ่งเป้าทค่ี วามย่ังยืนของชุมชน เลง็ ผลเลิศจากกลมุ่ ผลติ ภัณฑข์ ้าวปลอดภยั กิจกรรมวิศวกรรมศาสตร์เพ่ือ และกล่มุ ปยุ๋ อินทรยี ์ ระยะเวลาการดำ� เนินโครงการ การลงพนื้ ทีแ่ ล้วรวม 3 ปี โดยมแี นว การพัฒนาชุมชนอยา่ งยง่ั ยนื ปฏบิ ตั ทิ ด่ี เี ชอื่ มโยงหลกั ปรชั ญาพนื้ ฐานเศรษฐกจิ พอเพยี งดงั น ี้ ปที ี่ 1 การใหค้ วามรพู้ นื้ ฐาน คณะศลิ ปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ ดา้ นการบริหารจัดการตา่ งๆ ปที ี่ 2 การลงปฏบิ ตั ิ จดั ตั้งกลุ่มในชุมชนปที ่ี 3 การยกระดบั กิจกรรมพัฒนาบรรจุภัณฑ์ของ ความเป็นอยูอ่ ย่างยงั่ ยืนบนพื้นฐานปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ประการได้แก่ เศรษฐกิจ ขา้ วปลอดภยั และปยุ๋ อนิ ทรยี ์ สงั คม และชมุ ชน โดยระบุกิจกรรมเพือ่ ใหเ้ กิดรูปธรรมเพื่อสามารถชวี้ ัดในดา้ นต่าง ๆ ด้าน กิจกรรมพัฒนาส่ือสิ่งพิมพ์และ เศรษฐกจิ คอื การลดรายจา่ ย เพมิ่ รายได้ มกี ารดำ� เนนิ การผลติ แปรรปู จดั การ จดั ทำ� บญั ชี ประชาสมั พนั ธ์ ในกลุม่ ปยุ๋ อินทรีย์และข้าวปลอดภัย ด้านสงั คม คือ ชุมชนปลอดภยั ได้แก่ กล่มุ หรือคน วทิ ยาลยั เทคโนโลยีและสหวทิ ยาการ ต้นแบบ / มผี ูผ้ ลติ เพ่ิมขนึ้ มีผบู้ ริโภคเพ่มิ ข้นึ / มีการสร้างเครือข่าย / มกี ารขยายแนวคิด กิจกรรมการถ่ายทอดวิธีการจับ ตอ่ กลมุ่ คนหรอื ชมุ ชนอน่ื / เกดิ แหลง่ เรยี นรสู้ ำ� หรบั คนในและนอกชมุ ชน ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม ความรู้ การแลกเปล่ียน ความรู้ และการ คอื การจดั การสิ่งแวดลอ้ ม ได้แก่ ลดขยะ แยกขยะ/ สร้างมูลค่าเพิม่ ในการขายขยะ เศษ ถ่ายทอด ความรู้ใหแ้ ก่ชาว ชุมชนและ วัสดุ/ ส่ิงแวดลอ้ มดี/ อากาศดี นกั ศึกษา ทงั้ นกี้ ารดำ� เนนิ โครงการยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ เปน็ ทำ� งานแบบบรู ณการระหวา่ ง กิจกรรมจัดท�ำวิดีทัศน์ ป่าจ้ีโมเดล เพ่ือ ศาสตรท์ งั้ 4 คณะ คอื คณะบรหิ ารธรุ กจิ และศลิ ปศาสตร์ คณะวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เก็บองคค์ วามรขู้ องการถา่ ยทอด การแลก คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ และ 1 วิทยาลัยคือ เปล่ยี นเรยี นรู้ ระหวา่ ง มหาวทิ ยาลยั วิทยาลยั เทคโนโลยแี ละสหวิทยาการ ตามกิจกรรมและผลตวั ชีว้ ดั ผลการดำ� เนนิ งานตาม และชมุ ชนปา่ จ้ี กจิ กรรมยอ่ ย อกี ทงั้ เกดิ การเรยี นรปู้ ระสบการณ ์ และการมสี ว่ นรว่ มในกระบวนการดำ� เนนิ งานของกิจกรรมต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาอย่างเป็นระบบท�ำให้การเรียนรู้และการมีส่วน ร่วมนั้นน�ำไปสู่ความย่ังยืนทั้งตัวบุคคลและชุมชนอย่างแท้จริงและสอดรับกับยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา หมู่บ้านป่าจี้ หมูท่ ่ ี 2 ต�ำบลท่งุ หลวง อำ� เภอพร้าว จังหวดั เชยี งใหม่ มปี ราชญ์ ชุมชน คอื นางศริ ิพร สารแก่น มกี ารขยายผลการลดรายจา่ ยของชมุ ชนจากกลมุ่ ปยุ๋ อินทรีย์และรายได้จากการขยายส่วนแบ่งทางการตลาด กรณีท่ี1 การท�ำนาโดยใช้รถไถ ของ คดิ เป็นอัตรารอ้ ยละ 30.87 กรณที ี่ 2 การทำ� นาโดยจ้างรถไถทัว่ ไป คดิ เป็นอตั รา ร้อยละ 43.96% กรณที ี่ 3 การท�ำนาโดยจา้ งรถไถของโครงการ SML คิดเป็นอัตราร้อย ละ 49.79% จะเห็นได้ว่า การทำ� นามีต้นทุนการผลติ ที่ต่างกัน สง่ ผลตอ่ รายไดห้ รือผล กำ� ไรทชี่ าวนาจะได้รบั ซง่ึ ผลการวจิ ัยจะชว่ ยให้ชาวนาทราบถึง ตน้ ทุนในการผลิตที่เกดิ ขึ้น และสามารถน�ำไปปรับปรงุ เพือ่ ให้มีรายได้หรือก�ำไรสงู สุด การจดั ท�ำระบบบญั ชที ีเ่ หมาะ สมส�ำหรบั กลุม่ ข้าวปลอดภัย กลมุ่ อาชพี มคี วามร้คู วามเขา้ ใจ ในการจัดท�ำบญั ช ี อกี ท้ัง สมาชิกกลุ่มอาชีพเห็นความส�ำคัญของการจัดท�ำบัญชี เพื่อบูรณาการโครงการยกระดับ 144
60 ชมุ ชน ยกระดับคุณภาพชีวติ หมบู่ ้านชมุ ชนแบบมสี ว่ นรว่ ม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ทรงเจรญิ พระชนมายคุ รบ 60 พรรษา คุณภาพชีวิตหมู่บ้านป่าจี้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแบบมีส่วนร่วมกับภาคีเครือ ข่าย ถ่ายทอดเทคโนโลยีปุ๋ยอินทรีย์และการความรู้ความเข้าใจในมาตรฐานที่เก่ียวข้อง ถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการทางด้านการเกษตรรวมถึง การจัดการดูแลบ่อปลา แก่ กลุ่มชุมชนแนวทางการด�ำเนินงานกิจกรรมอันจะเป็นโครงการน�ำร่องในระดับอ�ำเภอและ จังหวัดต่อไป และเสวนาให้ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ เพ่ือเป็นการปรับเปลี่ยนทัศนคติ ในการท�ำนา เพื่อเพ่ิมผลผลิตและลดการใช้เคมี ในการท�ำการเกษตรเพ่ือให้ชุมชนมีส่ิง แวดลอ้ มท่ีดี ครอบครัวมีสุข มเี งินเหลอื ใช้ อนั เนื่องจากการนำ� นักศกึ ษารว่ มกิจกรรมการ วิจัยพฤติกรรมการบริโภคข้าวปลอดภัยให้กับชุมชน ด้านการตลาดจัดกิจกรรมให้ชุมชน ไดร้ บั ขอ้ มลู ทถี่ กู ตอ้ งเรอื่ งขา้ วทไ่ี มใ่ ชป้ ยุ๋ เคมแี ละยากำ� จดั ศตั รพู ชื ทเี่ ปน็ อนั ตรายตอ่ รา่ งกาย และผบู้ รโิ ภคขา้ วปลอดภยั จะมสี ขุ ภาพทดี่ ี การพฒั นาบรรจภุ ณั ฑแ์ ละตราสนิ คา้ ผลติ ภณั ฑ์ ข้าวปลอดภัยเพื่อออกแบบส่ิงพิมพ์ประชาสัมพันธ์การด�ำเนินงานกลุ่มข้าวปลอดภัยและ กลมุ่ ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ สรา้ งแนวทางการมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชนในการออกแบบและพฒั นาตราสนิ คา้ บรรจภุ ณั ฑ์ และ สงิ่ พิมพ์ประชาสัมพนั ธ์ ทำ� ให้กล่มุ ขา้ วปลอดภัย ไดต้ ราสนิ ค้าและ บรรจภุ ณั ฑข์ า้ วปลอดภยั ทเี่ หมาะสมทง้ั การจดั จำ� หนา่ ย และเปน็ ของฝากของทรี่ ะลกึ ของ หมบู่ า้ นปา่ จ ้ี สมาชกิ กลมุ่ ขา้ วปลอดภยั และกลมุ่ ปยุ๋ อนิ ทรยี ์ ไดส้ งิ่ พมิ พป์ ระชาสมั พนั ธเ์ ผย แพรข่ อ้ มลู องคค์ วามรตู้ ลอดจนวธิ กี ารดำ� เนนิ งานกจิ กรรมของกลมุ่ ฯ สามารถนำ� สงิ่ พมิ พฯ์ ไปใชภ้ ายในและภายนอกชมุ ชนไดส้ มาชกิ ชมุ ชนเกดิ การเรยี นรแู้ ลกเปลย่ี น และมสี ว่ นรว่ ม แสดงความคดิ เหน็ ในการพฒั นาบรรจภุ ณั ฑแ์ ละสงิ่ พมิ พป์ ระชาสมั พนั ธ์ เผยแพรข่ อ้ มลู การ ดำ� เนนิ งานของชมุ ชน การฝกึ อบรมใหค้ วามรใู้ นเรอ่ื งการบำ� รงุ รกั ษาเครอ่ื งจกั รใหแ้ กช่ มุ ชน ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการบ�ำรุงรักษาเคร่ืองจักรมากขึ้น ด้าน การจัดการกลุ่มอย่างยั่งยืนถ่ายทอดองค์ความรู้ในการด�ำเนินงานด้านกองทุนกลุ่มบ้านป่า จี ้ จัดท�ำคมู่ ือการบรหิ ารจัดการกองทนุ บา้ นป่าจ้ ี เพ่อื เปน็ แนวทางในการดำ� เนนิ งานดา้ น กองทนุ กลุม่ บ้านปา่ จ้ี อยา่ งเหมาะสม แนวทางการขยายผลการด�ำเนินงานให้เกิดความยัง่ ยืน 1. ชุมชนบ้านปา่ จเ้ี ป็นแหลง่ เรยี นรแู้ ละเป็นตัวอย่างท่ีดขี องชมุ ชนอนื่ 2. ปราชญช์ มุ ชนบา้ นปา่ จนี้ ำ� องคค์ วามรไู้ ปเผยแพรแ่ ละเปน็ ตน้ แบบทดี่ ใี นชมุ ชน ด้านเศรษฐกิจคือมีรายได้จากการขายข้าวปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ดา้ นสงั คมเปน็ ผนู้ ำ� ในการ จดั การกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของชมุ ชนดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มลดการเผาขยะ รู้จกั การนำ� ส่ิงเหลอื ใช้จากการเกษตรมาท�ำป๋ยุ อนิ ทรยี ์ 3. ก่อให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการและบริการวิชาการระหว่างคณะ มหาวทิ ยาลยั สอดคลอ้ งและสง่ เสรมิ ยทุ ธศาสตรม์ หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา 145
โ ค ร ง ก า ร ย ก ร ะ ดั บ คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต และส่งเสริมการจดั ตั้งกลมุ่ อาชพี ของหมู่บ้าน ชุมชน แบบมีส่วนร่วม ซ่ึงโครงการส่วนใหญ่ยังขาด เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเ ทพ ความต่อเนื่องและเช่ือมโยงกัน ดังนั้นเพ่ือ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้เกิดการเพ่ิมรายได้ลดรายจ่าย และเกิด ทรงพระชนมายคุ รบ 60 พรรษา กรณี ความยั่งยืนของชุมชนตามวัตถุประสงค์ หมู่บ้านอยู่ดี ต�ำบลวังจันทร์ อ�ำเภอ ของโครงการยกระดับ ในการด�ำเนินการ สามเงา จงั หวัดตาก ปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ลา้ นนาตาก จงึ มงุ่ เนน้ การตอ่ ยอดโครงการ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ผลิตถ่านอัดแท่ง ท่ีทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ สนับสนุนให้มีการพัฒนาสร้างเครื่องจักร คณะผดู้ �ำเนนิ งาน : มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ตาก ในการผลิตถ่านอัดแท่ง เพื่อช่วยเพิ่มขีด ความสามารถในการผลิตของชุมชน ซ่ึง ตามท่ีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก ได้จัดโครงการส่งเสริม เปน็ โครงการต้นนำ้� (ปที ี่ 1) ที่เน้นการลด และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างมีส่วนร่วมของหมู่บ้านอยู่ดี ต�ำบลวังจันทร์ อ�ำเภอ รายได้โดยน�ำเศษวัสดุเหลือท้ิงทางการ สามเงา จงั หวดั ตาก โดยไดน้ ำ� องคค์ วามรจู้ ากการวจิ ยั และความเชยี่ วชาญจากคณาจารย์ เกษตรมาท�ำเป็นผลิตภัณฑ์ถ่านอัดแท่งท่ี เจ้าหนา้ ทแ่ี ละนักศึกษา ทง้ั 4 คณะ ประกอบไปดว้ ย คณะบรหิ ารธรุ กิจและศิลปศาสตร์ ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะจากการเผาทิ้ง และ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร คณะศิลปกรรม ยังเป็นการหมุนเวียนทรัพยากรให้เกิดการ ศาสตร์และออกแบบเครื่องเรือน มาบูรณาการร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนา ใช้งานอย่างคุ้มค่า สู่โครงการกลางน้�ำ (ปี ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนหมู่บ้านอยู่ดีให้มีคุณภาพชีวิตดีท่ีข้ึน ตามเกณฑ์ ท่ี 2) โดยเนน้ การเพิ่มรายได้ให้แกช่ มุ ชน ดชั นีชว้ี ดั คุณภาพชวี ติ ด้วยการน�ำผลิตภัณฑ์จากถ่านอัดแท่งมา จากผลการติดตามโครงการโดยผู้ทรงคุณวุฒิและการด�ำเนินงานของมหาวิทยา แปรรูปอย่างครบวงจร และมีการด�ำเนิน ลยั ฯ ในปีที่ผา่ นมา พบว่า โครงการ ปีท่ี 1 สว่ นใหญ่ เป็นโครงการทเี่ น้นการลดรายไดข้ อง งานตามรูปแบบ Cipp Model เพื่อ ชุมชน ซง่ึ ประกอบด้วย เกิดความยั่งยืนกับชุมชน และเป็นความ 1.กระบวนการผลิตถา่ นอดั แทง่ เพอ่ื สรา้ งอาชีพเพม่ิ รายไดแ้ กช่ มุ ชน ต้องการของชุมชนต่อไป 2.อบรมการประดิษฐ์ดอกไม้จนั ทนจ์ ากวัสดุเหลือใช้ในท้องถนิ่ สมมุติฐานในการด�ำเนนิ โครงการ 3.การจัดการความรภู้ ูมิปญั ญาท้องถนิ่ ดา้ นการนวดแผนไทย ชุมชนบ้านอยู่ดี ต.วังจันทร์ 4.การพัฒนาสารสนเทศเว็บไซตเ์ พอ่ื การประชาสมั พันธช์ มุ ชนบ้านอยดู่ ี อ.สามเงา จ.ตาก มีความเข้มแข็งเพิ่มมา 5.การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร การจดั ทำ� บญั ชคี รวั เรอื น การคำ� นวณตน้ ทนุ ผลติ ภณั ฑ์ ขึ้น สามารถลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ใน ครัวเรือน มกี ลมุ่ วิสากจิ ชุมชนทย่ี ั่งยืน หลัง จากได้เข้าร่วมโครงการฝกึ อบรม 146
จากการดําเนนิ กจิ กรรมปที ่ี 1 คณะทาํ งานเนน้ การสร้างเครอื่ งมือท่ีช่วยอาํ นวยความสะดวกในการผลิต และการถา่ ยทอดองคค์ วามรูใ้ นการใช้เครื่องมอื ในการผลติ ผลิตภณั ฑ์ เชน่ การจดั สรา้ งเตาเผาถ่าน 200 ลติ ร, 60 ชุมชน ยกระดับคณุ ภกโาดพายรชีวใจชติ ัดหศ้ สมารบู่ ลา้า้ านงปชเคุมรรชะนอื่ ชแงาบบคบดมมสีบแว่ ้าลนนระ่วอเมคยรเู่ดฉ่ือลี งติมอพ.วรัดงัะถเจกา่ ันียนรทตเริสพ์มอ่ือเด.ใสจ็ ชพาใ้ รมนะเเกงทารพะรจตับ.นตวรานากชกสาดุ ราผฯลสิตยถามา่ บนรอมดัราแชทกมุ ่งารเีปท็นรงตเจน้ รญิ พระชนมายุครบ 60 พรรษา เปน็ สถานทดี่ ําเนนิ กจิ กรรมและจดั เกบ็ เครือ่ งมอื ตา่ งๆ ทาํ ให้ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมไดเ้ รียนรู้และนาํ ไปใช้ประโยชน์ได้จริง โดยมีรายละเอยี ดการดาํ เนนิ กจิ กรรมตามภาพประกอบ วิธกี าร จากการด�ำเนินกิจกรรมปที ่ี 1 คณะทำ� งาน เน้นการสร้างเคร่ืองมือที่ช่วยอ�ำนวยความ สะดวกในการผลิต และการถ่ายทอด องค์ความรู้ในการใช้เคร่ืองมือในการผลิต ผลิตภัณฑ์ เช่น การจัดสร้างเตาเผาถ่าน สาํ รวจพ้ืนทีบ่ า้ นอยดู่ ี จัดทําแผนชุมขนชุ มชน 200 ลติ ร, การจดั สร้างเครือ่ งบด และ กจิ กรรมโครงการ ตามความตอ้ งการของชุมชน เคร่ืองอัดถ่าน เพื่อใช้ในกระบวนการผลิต ถา่ นอดั แทง่ เปน็ ตน้ โดยใชศ้ าลาประชาคม บ้านอยู่ดี ต.วังจันทร์ อ.สามเงา จ.ตาก เป็นสถานท่ีด�ำเนินกิจกรรมและจัดเก็บ เครอ่ื งมอื ตา่ งๆ ทำ� ให้ผ้เู ข้ารว่ มกิจกรรมได้ เรียนรู้และน�ำไปใช้ประโยชน์ได้จริง โดยมี รายละเอียดการด�ำเนินกิจกรรมตามภาพ ประกอบ อบรมจดั สรา้ งเตาเผาถ่าน200 ลิตร จัดสรา้ งเครอื่ งบดถ่าน จดั สร้างเครื่องอัดถ่าน อบรมผลติ ถา่ นอดั แท่ง อบรมทําสบจู่ ากผงถา่ น และการออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ อบรมการทําถา่ นดดู กลนิ่ อบรมการทําเตาเศรษฐกจิ อบรมการทําบญั ชีคาํ นวณ ตน้ ทนุ และ การจัดต้งั กลมุ่ เกิดกลุ่มอาชพี กลุ่มกวลสิุ่มวาบสิ ห้าานหกอกจิยิจดู่ชชี มุมุ ชชนน บา้ นอยดู่ ี 147
ผลการด�ำเนินงาน จากการด�ำเนินกิจกรรมตามแผนงานภายใต้โครงการยกระดับคุณภาพชีวิตฯ เป็นการด�ำเนินงานโดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นหลัก คณะท�ำงานโครงการ เป็น ผู้สนับสนุนด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีตามแผนงานของโครงการ ต้ังแต่ กระบวนการใช้เคร่ืองมือ การผลิตผลิตภัณฑ์ การจัดเก็บดูแลรักษาเคร่ืองและอุปกรณ์ นอกจากนี้ ยงั ไดม้ กี ารจดั ทำ� ฐานขอ้ มลู องคค์ วามรเู้ พอื่ ใชเ้ ปน็ คลงั ความรเู้ พอื่ เผยแพรต่ อ่ ไป ในการดำ� เนนิ การถา่ ยทอดองคค์ วามรแู้ ละเทคโนโลยี คณะผทู้ ำ� งานโครงการ เรมิ่ จากกระบวนการถา่ ยทอดองคค์ วามรูใ้ นการใชเ้ ครอื่ ง วิธกี ารจัดเก็บดแู ลรกั ษา เช่น การใช้ เตาเผาถ่าน 200 ลติ ร, การใชเ้ ครอ่ื งบดถ่าน และการใชเ้ คร่ืองอดั ถา่ น เปน็ ตน้ จากนั้นจะ เป็นกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพ่ือให้ได้ผลิตภัณฑ์ คือ เริ่มจากการเผาถ่าน 200 ลิตร แลว้ น�ำถา่ นทไ่ี ดม้ าแบ่งเปน็ 2 ส่วน คือ ส่วนท1ี่ น�ำไปใชห้ ุงต้มในครัวเรือน สว่ นที่ 2 นำ� เศษถา่ นมาบดเพื่อนำ� ไปท�ำเปน็ ถา่ นอดั แทง่ ,ถา่ นดดู กล่ินและสบู่จากผงถา่ น คณะท�ำงานโครงการ มีการติดตามประเมินผลการด�ำเนินกิจกรรมต่างๆอย่าง ตอ่ เนอื่ ง วดั ความสัมฤทธิ์ของโครงการจากการจัดต้ังกลุ่มอาชพี ของชมุ เพื่อให้มรี ายไดเ้ พ่มิ ขึน้ จำ� นวน 1 กลมุ่ ซึง่ ขณะน้ี คณะผู้ท�ำงานโครงการและทางกลมุ่ ก�ำลังด�ำเนนิ การขอจัด ต้ังกลมุ่ โดยมีการลงหนุ้ ๆละ 20 บาท โดยใชช้ ื่อว่า “กลุ่มวสิ าหกจิ ชุมชนบ้านอยูด่ ”ี มี ผลติ ภณั ฑ์หลักของกลุ่ม คือ ถา่ นดดู กลิ่นวางจำ� หน่ายในลกั ษณะของของฝาก เชน่ ถา่ นดูด กลน่ิ รปู เขอ่ื นภมู พิ ล เปน็ ตน้ และทำ� เปน็ ตกุ๊ ตาถา่ นในรปู แบบตา่ งๆเพอื่ ใหเ้ ดก็ หรอื ผทู้ สี่ นใจ มาเพน้ ทส์ ีแล้วน�ำกลับไปใชด้ ดู กล่นิ ทีบ่ ้าน ผลติ ภณั ฑ์รองของกลุ่ม คอื ถา่ นหงุ ตม้ ,ถา่ นอดั แท่ง,เตาเศรษฐกิจและสบจู่ ากผงถ่าน ซ่งึ ทางกล่มุ จะผลิต ก็ต่อเมื่อมีการสั่งซอื้ เขา้ มา แนวทางการขยายผลการด�ำเนินงานให้เกดิ ความย่งั ยนื 1. ผลักดันผลิตภัณฑ์ให้เข้าสู่กลุ่ม OTOP โดยประสานความร่วมมือกับพัฒนา ชุมชนจงั หวัดตาก 2. ชว่ ยขยายช่องการตลาด เชน่ ขายงาน OTOP, ขายกาดนง่ั ยอง, ขายผา่ นสือ่ ออนไลน์ ฯลฯ 3. พัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ให้มีรูปแบบเป็นมาตรฐานสากล เป็นท่ียอมรับของ ตลาด 4. ศกึ ษาดูงาน เพือ่ ใหเ้ กดิ แรงผลกั ดัน และพัฒนาศักยภาพให้เขม้ แข็งมากยงิ่ ขน้ึ ขอ้ มูลอื่นๆ จากการประชุมตรวจติดตามผลการด�ำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการยกระดับ คณุ ภาพชวี ติ ฯ ในการสรปุ ผลการดำ� เนนิ กจิ กรรมทผี่ า่ นมา ระหวา่ ง คณะผดู้ ำ� เนนิ โครงการ กบั ผใู้ หญ่บ้านอยูด่ ี ประธานกลุม่ และสมาชกิ กล่มุ ทเี่ ขา้ ร่วมโครงการ โดยให้ทั้ง 2 ฝ่าย 148
60 ชุมชน ยกระดบั คุณภาพชวี ิตหม่บู ้านชมุ ชนแบบมสี ว่ นรว่ ม เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายคุ รบ 60 พรรษา แลกเปลยี่ นความคิดเห็นการดำ� เนินกจิ กรรม พบวา่ พกทเดเชOดจหพชึง่อรา้้าาราTน่่อืเะนนงือกงOปสคทบททชลขน็Pรณวา่วุม่ี่ี่ จเผดเชบดก รบอดแ อาชา้21ขงฟนงยไโาะ�ำลลต่ลอััดา้า้้างา้า้่อกวปด้ากทสผชสผหแนนนนนะตมิุ่รงถงันาพกชยศาว่ททกท่าาดู้กนบททารชนทททภอใา่อหรอ่ปรนนึกงล้ืนําาําําจสหวาาุ๊คว่นาผะ่าคยย่ีี่ี่ณยังรษปสใใงเุ่มคาํรทงว่2ย1เ้งนท1บยขหหลณมะกดุดู่ดู่อ่ืขหกญัาชวนฑก ขีห่ ิตินแสาวอมผ้้ลหเีคดีีไอาาุ้มา ะน ส พหผางนยทป์าปสทลโมุ่มตรีกงรูงมสอชวรผช่าชกาครนาสาาบกกาติแว่ชคม่ป่ีู่บรญัาคอืานดู้ผ่ยูอ่นราแอ่แรยนยคมากภนลมุะงวมิด์ลชีชาํไรรา้ลบงงลไหงกร–จชทวไ้คลขชา่ัณบ่มุเจปกในดซะทา้่อ่วติท้าะผขนาา้ไนาอ่นานอณําายอชไ้กวงนับัญขทอไฑงามลปภกินงาแมกหงร์บงมวานกทุมองอุปติคปรกตซัญะ์ทางณัทโลพหาต่กนทันา้กต่นั่วคยกชกบถณางสลัวผอ้รัญไี่ะรหฒัานา่าาติมฑหากด่ดูรรงอา่รมุ่ปนาาอูง้ดนงรยะอแเาอยหงรมกนงนรม้ยียรลรตยผส์พรกบผาผข�ำใกุปลย์กจคอืังาอผ่าจีคคาาับาม่ผูุ้ชุดนิชาเูด้อลอ่ื้าาดู่ขะขง�ำสสรันกมดัขนณุอื�ำลลปช้งรเีพรํางคนติเสีผาหออจูตบัสรหเแอชิตาิตจิผนเรมุภกดา้ถลรอหเนงจำ�รรปุนทพาน่นงุผงนู้ดำ�ชถโชณคากา้ิตแา่หงึยคนิแรลOผง่หลสคฒั่าาํย่นพา่่างไวลนนลผต์ลู่ดฑขโนกัเยติู้ดดรรนายแนTคา–เุ่มนคนะล้ังอบะี อทท์ภร้เา่งกมค�ำนOอือา่เ ชกราติินสคพดคัาเ้พกคยอง่าทเัณี่วแเณยงชุมปรวัดภนโนPนอืกัฒแทคือานกาจขามครุมาดคชฑแณัอน็งะินิน ทอี่ครณทเาม่นอนงโร้อชา้นว ไฟแทท์ทผรตดวฑคยงงไโ่วว ิตยางนมุยาบะนสจคปคี่ กรจ่งดู้าน้ยิธ้ผดกู่ณาํ์ขจยมทเ อผา้ะบวลางกีึรงกด�ำลปทอลจีแังค์นคนทชื่ำ�ู้ดรกนะไุค๊้างาเ้าติหนิงละร่มุำ�ดในืออว่ยดิากรๆผำ�ลขนอกคภหวะะไวไยชงผยก้เเินใอา้ดูุ่มรอลกปดัือเัณาสส่กนกผ้ผเนู่ดลุมนัครง่ทชโัตุ่มำ�ชตงจทาานลลลินติีกฑคจกรชเน่ชรอาำ�รมมุานกัน�ำต่อืุม่ิถลอะคโาร์ขนากแสอว่กีปชคดใคเงา่มุ่ภขสรชนิแงืออกงกบขวหนัญอนนนัแรกวปช่วาุมงนณัเโ้ไจา้นา้ดั้มว้ีงอลนผากขคมุยหบารจพชพําวนกถลฑมะัดลีรปลรผชผบารัห้าะจทน้ืนาา่ชอาาาแติตอุ่มรสนงญัท์า่นนเปาทนกบารเยว่ขทว่ยกภยมในดิบไกยี่อห่ารงหมยบี่ลไมาู้่้า่งดูด่ณัาขภส้ายน็กกย2งุาดคขีค้เใมุ่า้นพรมอนม้ีแปอ่ืแแหาฑาาดู่นแยไ้วือมจไอดงอือ้ืนตคีรตม็นอลรง้ราาปข์ลอผีกปีะ้ายยม่ะก่าณุ่ลสมทยแรอะต่อยปะาลนศชยัญ่ดูดู่ีชงูปะบัชซอกพนรง่ีบรู่ดวภติึกญัว่แาีอ่ดียอ่กแบัผดพงบห้ไีในัไฒั้ายนผลาษงเา้ขนงลบงัตลลหังซปนถาฒัเพทะผนลทสขนนามุ่ปชิตสบ้อานาอาน็สอาลเติาดอาี้น่วใถมานาทมัญ์คทมยะงตหงยตดงกัภูง่าผนราเใากอืกาดู่กา่เ้นหเ้กู่าดนชวัคด์ชตลวณั2ขางาทว–บันง้อณอสดีใาลรวันรมุตดิร้านกานคี่ฑดทแาดัจา้จยาอ่วาสจชภผ้าใอนฑฐนวนชาํแา้มนนตาา่าํข์ูผ่าานกมุลยณัารห์ททหนอกงท่วทงลกแ่อลจเนาติจเนกกกนวงี่กี่วง่ิตาฑแมชตงิะกา1สงัภดเรร่าลาลลา่ภกลกลนด่เ่นยวข์หาผายังกณัยงาุม่มุ่นัณลุ่มะลก์้าอยชวนลนไนิดจใตี้ชชเุม่ลนผวฑากงฑดันำ�ติอ้คา้้ีไงึง้ัมุุม้นกอู้ผดาปนตเ์ขส์เยกเรพปรพดชชลคอลอ้านิอเาออ่ืากิ่มา้นนนน็มุ่ติืกอกกจ่นืครงงนนิ ๆ้าทไป่ี 2 พร้อมทใหงั้ จ้เปัดน็ทํารปูปา้ แยบอบตั มราาตสว่รนาฐผาสนมสวาิธกีกลาร แดล้าะนขนั้ทตี่ 2อ น กการระทบําวถน่านกอาดัรแผทลง่ิตอยท่าางงลคะณเอะียดผตดู้ ิด�ำไเวนก้ ินบั โเคครรง่อื กงาร เพอื่ เพพม่ิ คัฒวนามาสสะูตดรวแกลใะนกกรารรผมลวติ ิธขีกอางรกผลลุม่ ิตสถว่ ่านนเคอรัดอ่ื แงทผล่งใติ หถ้ง่า่านยอแัดลแทะง่สะดวกในการผลิตเพ่ิม พร้อมท้ัง ทางคณจะัดผท้ดู �ำําปเน้าินยโคอรัตงกราารสจ่วะนนผาํ ไสปมปรวบั ิธปีกรางุ รแแกล้ไขะใขหั้น้สาตมอานรถกใาชร้งทาน�ำถได่า้งนา่ อยมัดาแกทย่งงิ่ อข้ึนย่างละเอียดติดไว้กับ เคจร่อืากงบเทพสอื่ รเปุ พปม่ิ ัญควหาามแลสะะอดปุ วสกรใรนคกตา่ารงผๆลทิตีเ่ กขดิ อขง้ึนกถลาุ้่มคณสะว่ ผนดู้ เคาํ เรน่อื นิ งโผคลรงติ กถา่ารนแกอ้ไัดขแปทญั ง่ หาทขาา้ งงคตณ้นไะดผ้ ู้ จะทาํ ใดหำ� ้กเลนุ่มินชโมุ คชรนงบก้าานรอจยะู่ดนมี �ำีรไาปยปไดรับเ้ พปิม่ รขงุ น้ึ แกจึงไ้ ขเปใ็นหแส้ นาวมทาารงถกใาชร้งเขานียนไดขง้้อา่เสยนมอาโกคยรง่ิงกขาึ้นรในปที ่ี 3 (ดา้ นค วามยง่ั ยืน)จใาหก้กบบั ทกลสุม่ รชุปมุ ชปนัญบหา้ นาแอยลู่ดะพีอัฒุปสนราตรคอ่ ไตป่างๆที่เกดิ ขน้ึ ถา้ คณะผ้ดู �ำเนนิ โครงการแกไ้ ข ปญั หาขา้ งตน้ ได ้ จะทำ� ใหก้ ลมุ่ ชมุ ชนบา้ นอยดู่ มี รี ายไดเ้ พม่ิ ขน้ึ จงึ เปน็ แนวทางการเขยี น ข้อเสนอโครงการในปที ่ี 3 (ดา้ นความย่งั ยนื ) ใหก้ บั กลุม่ ชมุ ชนบา้ นอยู่ดีพัฒนาตอ่ ไป 14 9
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250