Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม (2560)

องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม (2560)

Published by RMUTL Knowledge Book Store, 2020-07-29 21:08:30

Description: องค์ความรู้จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
1) การพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชนผ่านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางการจัดการ
2) การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพข้าวโดยใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาไวเรนส์
3) เครื่องกลั่นน้ำมันหอมระเหยขนาดเล็กสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรพื้นบ้าน
4) การส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานในโรงงานแป้งขนมจีนด้วยอุปกรณ์ทุ่นแรงเพื่อลดความสูญเปล่าในกระบวนการทำงาน
5) การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการฝานเปลือกมะพร้าวน้ำหอมด้วยเครื่องฝานแบบกึ่งอัตโนมัติ
6) การพัฒนากระบวนการหยอดส้มลิ้ม
7) การส่งเสริมอาชีพช่างเชื่อมให้แก่ชุมชน
8) การจัดการการขายสินค้าแบบออนไลน์
9) การสร้างโปรแกรมจำลองด้านวิศวกรรมด้วยฟังก์ชั่น GUI ของโปรแกรม MATALB
10) การอนุบาลต้นกล้ากล้วยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชน
11) การใช้กิจกรรมบทบาทสมมติในการพัฒนาความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษของหมอนวดแผนโบราณ
12) การพัฒนาและการผลิตเฟอร์นิเจอร์
13) การติดตั้งและบำรุงรักษามอเตอร์ปั๊มน้ำเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร
14) เทคนิคการตรวจสอบคุณภาพทางประสาทสัมผัสสู่ความเป็นมืออาชีพสำหรับอุตสาหกรรมก

Keywords: 9789746257855,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา,สถาบันวิจัยและพัฒนา

Search

Read the Text Version

การจัดการการขายสินค้าแบบออนไลน์ ไพรพนั ธ์ ธนเลศิ โศภติ 3. การเริ่มต้นทาเว็บไซต์ ในการเร่ิมต้นทาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เม่ือ ผู้ประกอบการมีความรู้ มคี วามเขา้ ใจเก่ียวกับวิธีการค้าขายทางออนไลน์ และประเภทของสินค้าแล้ว ในการดาเนินการซ้ือขายสินค้า และบริการ ผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตนั้น หลักการดาเนินธุรกิจก็เป็นเหมือนกรณีการทา ธุรกจิ ทั่วๆ ไปคอื ต้องวเิ คราะหต์ น้ ทนุ คา่ ใช้จา่ ย และวิธีการพฒั นาเว็บไซต์ ดว้ ย เพอื่ ใชว้ างแผนการดาเนนิ การด้วย 4. การตลาดออนไลน์ รูปแบบของการทาตลาดออนไลน์ท่ีนิยมใช้ใน ปัจจุบันนั้น มีอยู่หลายรูปแบบซึ่งการที่จะเลือกใช้การตลาดออนไลน์ใน รูปแบบใดน้ัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและเหมาะสมในการนาไปใช้ของ ผู้ประกอบการเปน็ หลกั 5. การวัดผล และการประเมินผลการดาเนินการ ถือเป็นส่ิงสาคัญในการชี้ วัดผลการดาเนินงานของธุรกิจว่าจะประสบความสาเร็จในการ ดาเนินการได้อย่างไร ในการประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หลักเกณฑ์ของการประเมินผลการดาเนินการก็มีลักษณะเหมือนกันกับ กรณีการทาธุรกิจโดยทั่วๆ ไป การประเมินผลการดาเนินงานพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์น้ัน สามารถประเมินได้จากตัวชี้วัดต่างๆ ที่สาคัญ เช่น จานวนผู้เข้าเว็บไซต์ แหล่งท่ีมาของผู้ท่ีเข้าเว็บไซต์ การเข้าเว็บไซต์ด้วย อะไร 6. การลงมือทา การพัฒนาเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E- Commerce) ดังที่กล่าวมาในเบ้ืองต้นนั้นจะเห็นได้ว่าวิธีการจัดทาและ พัฒนาเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) นั้นมีหลายวิธี อยา่ งไรกต็ ามเม่อื ผูป้ ระกอบการสามารถจัดทาและพัฒนาเว็บไซต์ได้แล้ว ในการพัฒนาและดูแลเว็บไซต์ท่ีพัฒนาขึ้นนั้น ถือเป็นข้ันตอนที่สาคัญ สาหรับผู้ประกอบการเช่นกัน ในการลงมือทา พัฒนาและดูแลเว็บไซต์ที่ พัฒนาขนึ้ 98องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

การเติบโตของ E-Commerce กับ นโยบายไทยแลนด์ 4.0 วิสัยทัศน์เชิงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย มีหลักการคือเปล่ียนจากการผลิต สินค้าโภคภัณฑ์ไปสู่สินค้าเชิงนวัตกรรม และยังปรับเปล่ียนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วย ภาคอุตสาหกรรม ไปสู่การขับเคล่ือนด้วยเทคโนโลยี กับความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม นอกจากนย้ี ังไดเ้ ปลี่ยนจากการเน้นภาคผลิตสินคา้ ไปสกู่ ารบรกิ ารใหม้ ากขึน้ ดังน้ันแนวคิดการทาให้เกิดผู้ประกอบการใหม่ต้องปรับเปล่ียนจากผู้ประกอบการแบบเดิม (Traditional SMEs) ที่รัฐบาลต้องช่วยเหลือตลอดเวลา เป็นผู้ประกอบการใหม่ที่มีศักยภาพสูง (Smart Enterprises) ส่งิ หน่ึงทตี่ อ้ งใช้คอื ความรู้ ความเช่ยี วชาญและทกั ษะ สาหรับการเป็นผู้ประกอบการในยุค ไทยแลนด์ 4.0 ส่ิงสาคัญท่ีต้องใช้ในการประกอบกิจการ ไดแ้ ก่ การใช้ระบบสารสนเทศเพ่ือการบรหิ ารจัดการแบบออนไลน์ ซ่ึงเป็นระบบสารสนเทศที่ใช้ เพ่ือให้การทางานมีประสิทธิภาพโดยเช่ือมโยงกับระบบอินเตอร์เนต ซ่ึงทาให้ผู้บริหารใช้ ประโยชน์จากข้อมลู ในระบบในการตัดสินใจ วางแผน ควบคุม และการปฏิบัติการในหน่วยงาน ของตนเองโดยระบบสารสนเทศจะมีระบบย่อย ได้แก่ ระบบประมวลผลรายการ ระบบจัดการ รายงาน ระบบสนับสนุนการตดั สินใจ และ ระบบสารสนเทศสานักงาน จากความก้าวหนา้ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทาให้เกิดการพัฒนาส่ิงอานวยความสะดวก ที่มีคุณภาพมาตรฐานดี ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค สินค้าและบริการมีราคาลดลง การติดต่อสื่อสารดีข้ึน อีกท้ังเทคโนโลยีสารสนเทศยังช่วยเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุน ประสิทธิภาพการทางานดีขึ้น เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ตลอดจนอุตสาหกรรมมี ความก้าวหน้า จากรายงานผลการสารวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2559 (Value of E-Commerce Survey in Thailand 2016) พบว่า ประชากรท่ีเป็นผู้ประกอบการ E-Commerce ของประเทศไทยนั้นมี ท้ังส้ิน 527,324 ราย จากการคาดการณ์ พ บ ว่ า ปี พ . ศ . 2 5 5 9 มู ล ค่ า E-Commerce ในประเทศไทย จะมีมูลค่า 2,523,994 ล้านบาท เป็นร้อยละ 40.08 ของมูลค่าขายสินค้าและบริการทั้งหมดโต เพิ่มจากปี 2558 ถ้อยละ 12.42 99 องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

การจดั การการขายสินค้าแบบออนไลน์ ไพรพันธ์ ธนเลิศโศภิต สาหรบั ปัจจัยหลกั ๆ ท่สี นับสนุนให้เกิดการเตบิ โตของธรุ กิจ E-Commerce ได้แก่ 1. มีผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาด E-Commerce มากขึ้น นอกจากน้ียังพบว่าผู้บริโภคมี พฤติกรรมการเข้าถึงอินเตอร์เนตตลอดเวลา ผ่านทางอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย เช่น สมาร์ต โฟน และแท๊ปเล็ต เป็นต้น อีกทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่เติบโตพร้อมกับเทคโนโลยีการส่ือสาร และนวัตกรรมสมัยใหม่ ทาให้พฤติกรรม หรือรูปแบบการอุปโภค และบริโภค เปลย่ี นแปลง ส่งผลให้ธรุ กรรมทางออนไลน์ภายในประเทศเตบิ โตขึ้น 2. นโยบายของภาครัฐมีส่วนสาคัญในการผลักดันให้ธุรกิจ E-Commerce ภายใน ประเทศ โดยมุ่งให้สนับสนุนผู้ประกอบการ E-Commerce ไทยให้ขยายตลาดไปสู่อาเซียนและ ตลาดโลก เน้นการส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่นในชุมชนให้มีความเข้าใจและสามารถเข้าถึงช่อง ทางการทาธรุ กรรมออนไลน์ผ่านการฝึกอบรมและบม่ เพาะดา้ นการขายท่ีทางรัฐบาลเป็นผู้ จัดหาและสนับสนุน อีกท้ังยังได้เน้นการใช้ระบบดิจิทัล ในการรองรับการให้บริการของ ภาคธุรกิจการเงินและบริการ โดยเฉพาะภาคการส่ือสารและบันเทิง รวมถึงสนับสนุน ธุรกิจขนาดกลางและย่อม (Small & Medium Enterprises: SMEs) ของประเทศให้ สามารถเข้าถึงเศรษฐกิจดิจทิ ลั ไดอ้ ยา่ งเท่าเทียมกนั 3. รูปแบบการทาธุรกรรมทางการเงินท่ีเปล่ียนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทาให้หน่วยงานทั้งของ รัฐบาล ภาคเอกชนและภาคประชาชน เล็งเห็นความสาคัญในการกาหนดนโยบายและ แผนสนบั สนนุ ธรุ กิจ E-Commerce อยา่ งเป็นรูปธรรม เช่นการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) และให้ความสาคัญกับระบบชาระเงินออนไลน์ ซึ่งส่งผลต่อการขับเคล่ือน เศรษฐกิจให้มีความก้าวหน้า และเป็นไปตามมาตรฐาน สากล การขยายการใช้บัตร อิเล็กทรอนิกส์ ระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และมาตรฐานกลาง ข้อความการชาระเงิน (National Payment Message Standard) กลา่ วโดยสรปุ ระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การออนไลน์นั้น จะมีส่วนสนับสนุนธุรกิจให้สามารถ ขายสินค้าและจัดการธุรกิจบนอินเตอร์เนต ซ่ึงระบบจะต้องถูกวิเคราะห์ ทดลองและทดสอบ โดยผู้เช่ียวชาญกับเจ้าของร้าน เนื่องจากการจะขายสินค้าบนอินเตอร์เนตต้องใช้ท้ังศาสตร์และ ศิลป์ในการขาย แต่อย่างไรก็ตาม ในเบ้ืองต้น การทดลองขายสินค้าบนอินเตอร์เนต สามารถใช้ ระบบตลาดออนไลน์เดิมท่ีมีพื้นท่ีจาหน่าย เช่น Lazada, Alibaba express หรือ ช่องทางของ Social Media เชน่ Facebook, Youtube, Line เป็นต้น ก่อนจะลงทุนในระบบบริหารจัดการ ออนไลน์ต่อไป 100องคค์ วามรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

101 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การจดั การการขายสินค้าแบบออนไลน์ ไพรพันธ์ ธนเลิศโศภติ สอบถามข้อมูลเพม่ิ เตมิ ไพรพันธ์ ธนเลิศโศภิต คณะบรหิ ารธุรกจิ และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เชยี งใหม่ โทรศัพท์ : 0-5392-1444 102องคค์ วามรสู้ ่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

103 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การสร้างโปรแกรมจาลอง ด้านวศิ วกรรมดว้ ยฟังก์ชนั่ GUI ของ โปรแกรม MATALB 104องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การสรา้ งโปรแกรมจาลองด้านวศิ วกรรมด้วยฟงั กช์ น่ั GUI ของโปรแกรม MATALB พินิจ เน่อื งภริ มย์ ความเป็นมา ปัจจุบันโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ได้มีบทบาทต่อการพัฒนาทางด้านวิศวกรรมเป็นอย่าง สูง โดยเฉพาะในด้านของการออกแบบและจาลองการทางาน ท่ียังช่วยวิเคราะห์และ จาลองสถานการณ์ของผลลัพธ์ท่ีคาดว่าจะเกิดข้ึนก่อนท่ีจะสร้างของจริงข้ึนมา ซ่ึงช่วย ประหยัดทรัพยากร ลดการลองผิดลองถูก และเพิ่มประสิทธิภาพของการพัฒนาวงจร หนึ่งในนั้นคือ โปรแกรม Matlab ซ่ึงมีฟังก์ชันย่อย ท่ีเรียกว่าฟังก์ชัน GUI (Graphical User Interface) เหมาะสาหรับการแสดงผลทางภาพที่ประสานงานกับผู้ใช้ได้โดยตรง ในลกั ษณะโปรแกรมจาลองท่ีสามารถออกแบบ คานวณ และวิเคราะห์ผลตามหลักการ ทางทฤษฎี ที่ข้ึนอยู่กับผู้ออกแบบและพัฒนา นับว่าเป็นอีกทางเลือกหน่ึงสาหรับ นักพัฒนาโปรแกรม ท่ีต้องการสร้างโปรแกรมใช้งานที่มีความสะดวกและสื่อสารกับ ผู้ใช้งานได้ และยังสามารถดาเนินการตามลักษณะของการควบคุมในรูปแบบการ เช่ือมต่อกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ได้ ซ่ึงนับว่าเป็นทางเลือกและจุดเร่ิมต้นในการพัฒนา นวัตกรรมและงานวิจัยท่ีจะมีผลต่อการพัฒนาประเทศ ตามรูปแบบของการพัฒนาให้ อยู่ในยคุ ของประเทศไทย 4.0 อกี ด้วย 105 องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

อย่างไรก็ตามน้ัน พบว่านักศึกษาในกลุ่ม หัวหน้าโครงการ หลักสูตรอิเล็กทรอนิกส์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ส่วน พินจิ เน่ืองภิรมย์ ใหญ่นั้นยังไม่รู้จักโปรแกรมจาลองที่พัฒนาข้ึน ด้วยฟังก์ชัน GUI ของโปรแกรม MATLAB อีก ทั้งยังไม่รู้จักการประยุกต์ใช้งานโปรแกรม GUI อีกด้วย ทาให้ผู้จัดทาโครงการตระหนักถึงการ ส่งเสริม และพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ แก่ นักศึกษา และเยาวชน ที่จะมีผลต่อการพัฒนา ประเทศชาติในอนาคต ดังน้ัน โครงการน้ี จึง เกิดข้ึนเพื่อเป็นการสนับสนุนองค์ความรู้ใหม่ และ ส่งเสริมเป็นสื่อทางเลือก สาหรับการ พัฒนานวัตกรรมทาง ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และวิศวก รรม อิเลก็ ทรอนิกสต์ อ่ ไป วัตถุประสงค์  เพ่อื จัดฝกึ อบรมเชิงปฏิบตั กิ ารสาหรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี เรอ่ื งการสร้างโปรแกรมจา ลองดา้ นวศิ วกรรมด้วยฟังกช์ นั GUI ของโปรแกรม MATLAB สาหรบั ภาคอุตสาหกรรม ประชาชน และผู้ที่สนใจ  เพ่ือหาความพึงพอใจของผเู้ ข้ารบั การบริการ 106องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

โปรแกรม MATLAB เบือ้ งต้น MATLAB เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ชั้นสูง (High-level Language) สาหรับการคานวณ ทางเทคนคิ ทป่ี ระกอบด้วยการคานวณเชงิ ตัวเลข การแสดงภาพกราฟิก และการจาลอง แบบ เพือ่ ให้มองเห็นภาพได้ง่ายขึ้น โดยชื่อของ MATLAB ย่อมาจาก “MATrix LABor- atory” เดิมโปรแกรม MATLAB ได้เขียนขึ้นเพื่อใช้ในการคานวณทาง Matrix และได้ พัฒนาจากการแก้ปัญหาจากผู้ใช้งานมาเป็นระยะเวลาหลายปี จึงทาให้โปรแกรม MATLAB มีฟังก์ชันต่างๆ ให้เลือกใช้มากมายสาหรับใช้เป็นพ้ืนฐานในการศึกษา ทางด้านคณติ ศาสตร์ วิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และด้านอุตสาหกรรมได้ใช้เป็นเครื่องมือ ในการทางานวิจยั เป็นตน้ GUI ย่อมาจาก Graphical User Interface หรือท่ีเรียกในภาษาไทยว่า ส่วนต่อ ประสานกราฟิกกับผใู้ ช้ เปน็ ส่วนประกอบของโปรแกรม MATLAB ที่ช่วยให้ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาและผู้ท่ีสนใจ สามารถใช้ออกแบบโครงสร้างทางกราฟิกและสร้าง เป็นนวัตกรรมท่ีสะดวกต่อการใช้งาน โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้โปรแกรมจาลองทาง คณิตศาสตร์ที่มีข้ันตอนการคานวณท่ียุ่งยากและเสี่ยงต่อความผิดพลาด หรือการ คานวณในลักษณะของการกระทาซ้าๆ หลายๆ รอบ ซ่ึงต้องใช้เวลามากหากต้อง คานวณด้วยมือ ดังน้ันโปรแกรม MATLAB ที่ทางานร่วมกับฟังก์ชัน GUI จึงเหมาะสม สาหรับผทู้ ่ีตอ้ งการพฒั นาและแกป้ ญั หางานเหลา่ นี้ อีกท้ังชว่ ยสนับสนุนในด้านการเรียน การสอน งานวิจัย และงานท่เี กยี่ วข้องกับการคานวณต่างๆ ให้สามารถพัฒนาผลงานได้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพมากข้ึน โดยทั่วไป ผู้ใช้งานสามารถเขียนโค้ดคาสั่งโปรแกรมได้โดยตรงในโปรแกรม MATLAB ในลักษณะของ M-File หรือเขียนผ่าน Command Window แต่ทั้งน้ีหากอนาคตมี การประยุกต์หรือแก้ไขตัวแปร รวมไป ถึงการขยายผลสู่การเรียนรู้ของผู้เรียน ย่อมเกิดความไม่สะดวกต่อการใช้งาน ดังน้ันฟังก์ชันการทางานของ GUI จึง เป็นทางเลือกหน่ึงท่ีจะช่วยพัฒนาและ แก้ปญั หาในด้านประเดน็ น้ไี ด้ดี 107 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การสร้างโปรแกรมจาลองดา้ นวิศวกรรมดว้ ยฟงั กช์ ั่น GUI ของโปรแกรม MATALB พินจิ เนอ่ื งภิรมย์ การเขียน M-File พนื้ ฐานทีส่ าคัญของการสร้าง GUI คอื การเขียนโปรแกรมในลักษณะของ Script ท่อี ยู่ ในรูปแบบของ Text เพ่ือตรวจสอบการทางานของโปรแกรม แลว้ จงึ พัฒนาใหเ้ ปน็ GUI ตอ่ ไป ทง้ั นี้ พ้ืนฐานและภาษาท่ใี ช้ในการเขียนโปรแกรมสามารถศึกษาเพิ่มเตมิ จากคู่มือ MATLAB ทม่ี ีอยู่โดยท่ัวไปได้ ซง่ึ หากเป็นโปรแกรมพื้นฐานโดยท่ัวไปแลว้ ภาษาท่ใี ชใ้ นการเขยี นโปรแกรมผ่าน MATLAB โดยสามารถใช้คาสง่ั พน้ื ฐานที่เพยี งพอ ในระดบั หน่งึ จากนน้ั หากตอ้ งการเขยี นโปรแกรมเฉพาะทางสามารถค้นคว้าเพม่ิ เติม ในด้านนน้ั ๆ ได้ เข้าท่ีเมนู Home >> New >> Script จะปรากฏหนา้ ต่าง Editor ข้นึ มา และเขียนโปรแกรมไดโ้ ดยตรงผ่านหน้าต่างนี้ เม่อื เขยี นโปรแกรมแสดงให้ทาการบนั ทกึ และสั่ง RUN โปรแกรม คา่ ตวั แปรท่ีคานวณจะปรากฏในหน้าต่าง Command Window ในทนี่ ี้จะยกตัวอยา่ งการเขียนโปรแกรม M-File เพอื่ หาค่าความต้านทานรวม (RT) และกระแสทไ่ี หลผ่านวงจร (IT) ของวงจรตวั ต้านทานอนุกรม 3 ตัว ท่ีต่อกบั แหลง่ จ่ายแรงดัน 12 โวลต์ ดงั น้ี ตวั อย่างวงจรตวั ตา้ นทานท่ีจะนาไปเขยี น M-File แสดงดงั ภาพ ตวั อยา่ งสมการทใ่ี ช้คานวณ ดงั ภาพ 108องคค์ วามร้สู ูภ่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

เนื่องจากตัวแปรท่ีจะใช้เขียนโปรแกรม ในบางคร้ังไม่สามารถพิมพ์ให้ตรงกันกับตัวแปรจริงที่ กาหนดจากโจทย์ได้ เช่น ตัวแปร RT ในวงจร เมื่อนาไปเขียนโปรแกรม M-File จะพบว่าไม่ สามารถพิมพต์ ัว ห้อยได้ แต่จะกลายเป็น RT แบบน้ีแทน ดังนั้นในการเขียนโปรแกรมทุกคร้ังควร กาหนดตัวแปรจริงที่โจทย์กาหนด ให้สอดคล้องกับตัวแปรท่ีจะใช้เขียนโปรแกรม จากน้ันทาการ เขยี นโปรแกรมในหนา้ ตา่ ง Editor clc; %เคลียร์หนา้ จอ clear all; %เคลยี ร์ตัวแปร %____________Input parameter___________________ k=1000; %กาหนดหน่วยกิโล R1=1*k; %กาหนดค่าตวั ตา้ นทาน R1 R2=2*k; %กาหนดค่าตวั ตา้ นทาน R2 R3=3*k; %กาหนดค่าตวั ต้านทาน R3 V=12; %กาหนดคา่ แรงดนั V %____________Output parameter___________________ RT=R1+R2+R3 %คานวณหาค่าความตา้ นทานรวม I=V/RT %คานวณหาคา่ กระแส เมอื่ เขยี นโปรแกรมแสดงดังภาพ ให้ทาการบันทึกและสั่ง RUN โปรแกรม หลังจากการบันทึกและ กดปุ่ม Run ค่าตัวแปรท่ีคานวณจะปรากฏในหน้าต่าง Command Window ซึ่งผลจากการ คานวณจะพบว่า ค่าตัวแปร RT จะมีค่าเท่ากับ 6,000 โอห์ม (ดังภาพ) และตัวแปร i มีค่าเท่ากับ 0.002 แอมป์ ซึ่งความเป็นจริง หากเขียนโปรแกรม GUI เพื่อใช้งาน ผู้เขียนโปรแกรมควรต้ังค่า สาหรับการแปลงหน่วยท่ีเหมาะสมให้กับตัวต้านทาน และกระแส โดยการนาตัวเลขไปหารหรือ คณู กับคาตอบท่ไี ด้ ก่อนทีจ่ ะนาไปแสดงผลน่ันเอง ผลลพั ธ์จากการ RUN โปรแกรม 109 องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

การสร้างโปรแกรมจาลองด้านวิศวกรรมด้วยฟงั กช์ น่ั GUI ของโปรแกรม MATALB พินิจ เนอ่ื งภิรมย์ การเขยี น Function M-File นอกเหนือจากการเขียนโปรแกรม M-File ในลักษณะของ Text Editor ในหัวข้อท่ีผ่านมาแล้ว น้ัน ส่วนการเขียนในหัวข้อน้ีจะกล่าวถึงการเขียนโปรแกรมในลักษณะของฟังก์ชัน เปรียบเสมือนการเขียนโปรแกรมย่อย เหมาะสาหรับกรณีที่เขียนโปรแกรมรับข้อมูลผ่าน โปรแกรมหลัก แล้วส่งค่าตัวแปรมาคานวณผ่านฟังก์ชันย่อยเหล่านี้ แล้วจึงส่งกลับตัวแปรที่ คานวณได้จากฟังก์ชันย่อย และไปแสดงผลท่ีโปรแกรมหลักอีกที ดังน้ันการเขียนโปรแกรม ด้วย Function M-File จึงเป็นเร่ืองท่ีสาคัญอีกเรื่องหน่ึงในการพัฒนา GUI ในอนาคต ข้นั ตอนการเขียน มดี ังน้ี เข้าสู่เมนู HOME >> New >> Function จะปรากฏ หน้าต่าง Editor สาหรับการเขียนโปรแกรม รูปแบบ การกาหนดชื่อ Function เป็นเร่ืองที่สาคัญผู้เขียนควร กาหนดชื่อตัวแปร จานวนตัวแปร ให้ตรงกันในทุกๆ ครั้ง เพ่ือกันข้อผิดพลาดในการเรียกใช้หรืออ้างถึง ฟงั ก์ชนั ในครัง้ ตอ่ ไป ดงั ตัวอย่าง function [ output1,output2 ] = name_funciton( input1,input2,input3,input4 ) ขั้นตอนการเขียน Function M-File มีขน้ึ ตอนคลา้ ยกับการเขียน M-File ในหัวข้อก่อนหน้าน้ี แต่ต่างกันตรงท่ีรูปแบบการกาหนดชื่อฟังก์ชันเท่านั้นโดยในที่น้ีจะยกตัวอย่างการเขียน โปรแกรมเพือ่ วเิ คราะห์หาคา่ เดยี วกนั กบั ก่อนหน้านี้ รปู แบบการต้งั ช่อื Function มีดังน้ี function [ RT,IT ] = serie3R( R1,R2,R3,V ) เมอื่ เปรยี บเทยี บกบั รปู แบบการตั้งช่ือฟังก์ชันมาตรฐาน จะพบว่าตัวแปรเอาต์พุต มี 2 ตัวแปร ได้แก่ RT และ IT โดยใชช้ ือ่ ฟังกช์ นั serie3R และตัวแปรอินพุตมี 4 ตัวแปร ดังนี้ R1, R2, R3 และตัวแปร V นั่นเอง จากน้ันจึง ทาการเขียน โ ป ร แ ก ร ม ใ น ห น้ า ต่ า ง Editor 110องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

โดยแตล่ ะบรรทดั สามารถอธบิ ายการทางานได้ดังน้ี %ต้ังชอื่ ฟงั กช์ นั %คานวณหาค่า RT function [ RT IT ] = serie3R( R1,R2,R3,V ) %คานวณหาคา่ IT RT=R1+R2+R3; %จบฟังกช์ ัน IT=V/RT; end ทาการบันทึกไฟล์ ซึ่งโปรแกรมจะตั้งช่ือตามช่ือฟังก์ชันให้อัตโนมัติ (seire3R.m) การเรียกใช้ ฟังก์ชัน ทาได้โดยพิมพ์คาส่ังตามรูปแบบฟังก์ชันท่ีหน้าต่าง Command Window โดยรูปแบบ การพมิ พ์ต้องสอดคลอ้ งกบั การต้งั ช่อื ฟงั ก์ชนั และจานวนตวั แปรขาออกของโปรแกรมหลกั และตัว แปรขาเข้าของฟังก์ชันต้องเท่ากัน และชื่อฟังก์ชัน ต้องพิมพ์ตรงกันทุกประการกับชื่อไฟล์ท่ีได้ บนั ทึกไว้ โดยจะพบวา่ รูปแบบการเรยี กใชฟ้ งั ก์ชนั เป็นดังนี้ [ RT,IT ] = serie3R ( 1000, 2000, 3000, 12 ) 1. ตวั แปรเอาตพ์ ตุ มี 2 ตัว คือ RT และ IT 2. ชื่อฟังกช์ ัน คอื sereis3R 3. ตัวแปรอินพุตมี 4 ตัวแปร ซ่ึงการระบุเรียกฟังก์ชันผ่าน Command Window ให้ทาการ ใส่ค่าตัวแปรนั้นๆ ไปตามลาดับเลย (อันน้ีสาคัญมาก ผู้ใช้จะต้องทราบลาดับตัวแปร ก่อนหลังให้ตรงกัน) ซ่งึ ในท่นี ีจ้ ะเห็นว่า ผใู้ ชก้ าหนดตวั แปร ( 1000, 2000, 3000, 12 ) นั่น หมายถงึ เป็นการกาหนดคา่ R1, R2, R3 และ V ตามลาดบั นัน่ เอง 4. เมื่อพิมพ์คาสั่งใน Command Window แล้วEnter จะปรากฏ ค่าตัวแปร R และ I ที่ได้ คือ 6000 และ 0.020 ออกมาตาม ล า ดั บ ท้ั ง น้ี ผู้ ใ ช้ ส า ม า ร ถ ปรับเปลยี่ นคา่ ตวั แปรดา้ นขาเข้า ทั้ง 4 ตวั แปรได้ตามต้องการ 111 องค์ความรู้สูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การสร้างโปรแกรมจาลองดา้ นวศิ วกรรมดว้ ยฟังกช์ ัน่ GUI ของโปรแกรม MATALB พินจิ เน่อื งภิรมย์ ตวั อย่าง จงเขียน M-File และ Function M-File ของการคานวณหาคา่ ความต้านทาน รวม และกระแสทไ่ี หลผา่ นตัวตา้ นทานแต่ละตัว ของวงจรดงั ภาพ จากตัวอยา่ ง ทาการนิยามตวั แปรใหม่ใหส้ อดคลอ้ งกับรูปแบบการเขยี นโปรแกรม จะได้ สามารถเขยี นโปรแกรม M-File ไดด้ งั นี้ clc; %เคลียรห์ นา้ จอ clear all; %เคลียรต์ ัวแปร %____________Input parameter___________________ k=1000; %กาหนดหน่วยกิโล R1=1*k; %กาหนดค่าตวั ต้านทาน R1 R2=2*k; %กาหนดค่าตัวต้านทาน R2 R3=3*k; %กาหนดค่าตวั ต้านทาน R3 V=12; %กาหนดค่าแรงดนั V %____________Output parameter___________________ RT=1/((1/R1)+(1/R2)+(1/R3)) %คานวณหาคา่ ความตา้ นทานรวม IT=V/RT %คานวณหาค่ากระแส IT I1=V/R1 %คานวณหาค่ากระแส I1 I2=V/R2 %คานวณหาค่ากระแส I2 I3=V/R3 %คานวณหาคา่ กระแส I3 112องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

เม่ือบันทึกและ Run โปรแกรมจะปรากฏตัวแปรในช่อง Command Window จะได้ค่าดังนี้ RT=545.45, IT=0.022, I1=0.012, I2=0.006 และ I3=0.004 เขยี น Function M-File clc; %เคลียรห์ น้าจอ clear all; %เคลียรต์ วั แปร function [ RT IT I1 I2 I3 ] = parallel3R ( R1,R2,R3,V ) RT=1/((1/R1)+(1/R2)+(1/R3)) %คานวณหาคา่ ความตา้ นทานรวม IT=V/RT %คานวณหาคา่ กระแส IT I1=V/R1 %คานวณหาค่ากระแส I1 I2=V/R2 %คานวณหาค่ากระแส I2 I3=V/R3 %คานวณหาค่ากระแส I3 end ทาการบนั ทึกและเรยี กใชฟ้ งั กช์ นั ผ่านช่อง Command Window จะได้ผลลพั ธด์ งั น้ี [ RT, IT, I1, I2, I3 ] = parallel3R( 1000,2000,3000,12 ) RT=545.45, IT=0.022, I1=0.012, I2=0.006 และ I3=0.004 จากที่ไดก้ ล่าวมาขา้ งตน้ สามารถสรุปเปน็ แนวทางปฏบิ ตั ิ ได้ดังนี้ 1. ลักษณะเบื้องต้นของโปรแกรม MATLAB ซ่ึงเป็นหน้าต่างพ้ืนฐานท่ีผู้อ่านจะต้องทา ความคุ้นเคย ในการใช้งานเบื้องต้น ท่ีต้องอาศัยการฝึกฝนทาตามบ่อยๆ จนชิน โดยใน คู่มือเล่มน้ีจะไม่ได้เน้นพื้นฐานการใช้งาน โปรแกรม MATLAB มากนัก แต่จะมุ่งเน้น ไปท่ีการพฒั นาโปรแกรม GUI มากกว่า แต่ ถึงอย่างไรก็ตามหากผู้อ่านไม่มีพื้นฐาน ทางการใช้งาน MATLAB มาก่อนจะ สามารถอ่านและทาตามจากหนังสือเล่มนี้ ได้อยา่ งงา่ ยดายทกุ ขั้นตอน 113 องค์ความร้สู ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การสรา้ งโปรแกรมจาลองด้านวิศวกรรมดว้ ยฟงั กช์ นั่ GUI ของโปรแกรม MATALB พนิ จิ เนอ่ื งภิรมย์ 2. การเริ่มต้นใช้งานเบ้ืองต้น ท่ีผ่านมาผู้เขียนได้กล่าวถึงวิธีการเข้าถึงเมนู และฟังก์ชันต่างๆ ที่จาเป็นต่อการเขียน GUI ในอนาคต ซึ่งอาจยังไม่ ครอบคลุมเน้ือหาของโปรแกรม MATLAB ทั้งหมด แต่ก็เพียงพอต่อการ ประยุกต์ใช้งาน 3. รูปแบบคาส่ังพื้นฐานของโปรแกรม MATLAB ที่ผู้อ่านไม่ต้องจดจาแต่ ควรทราบแหล่งอ้างอิงหรือตาแหน่งของหน้าที่ใช้ระบุคาสั่งพื้นฐาน เพราะหากผู้อา่ นฝึกฝนจนชานาญจะพบว่าคาสั่ง ท่ีเก่ียวข้องล้วนสัมพันธ์ และใกล้เคียงกับกับคาสั่งพ้ืนฐานทางคณิตศาสตร์ และหากต้องการ ทราบรายละเอียดการใช้งานคาสั่งไหนก็สามารถทาได้โดยการค้นหา เพ่ิมเติมใน Help 4. การเขียน M-File รูปแบบการเขียนแบบน้ีไม่ซับซ้อน สามารถเขียน ตรงๆ ตามลักษณะของการคานวณตามธรรมชาติของมนุษย์ได้ นั่นคือ กาหนดตัวแปรทางด้านขาเข้า แล้วส่งไปคานวณเพื่อเก็บในตัวแปรด้าน ขาออกตามปกติ เหมาะสาหรับการคานวณท่ีไม่ซับซ้อน มีสมการหลักๆ เพียงสมการเดียว หรือจานวนตัวแปรที่ใช้มีไม่มาก และไม่ต้องคานวณ รว่ มกับสมการอน่ื ๆ 5. การเขียนฟังก์ชัน M-File รูปแบบการเขียนโปรแกรมแบบน้ีจะเหมาะ สาหรับการคานวณท่ีมีสมการท่ีหลากหลาย และจาเป็นต้องส่งตัวแปร จากสมการหน่ึง ไปยังอีกสมการหน่ึง เพื่อลดเวลาและความยุ่งยากใน การคานวณ เพราะในอนาคต การเขียนโปรแกรม GUI บางครั้ง GUI จะ ทาหน้าท่ีแค่รับตัวแปรทางด้านขาเข้า เข้ามาเท่านั้น จากนั้นแล้วค่อยส่ง ตัวแปรเหล่าน้ันไปคานวณท่ีฟังก์ชันย่อยท่ีได้สร้างไว้อีกท่ี เพราะหาก เขียนโปรแกรมสมการโดยตรงในฟังก์ชัน GUI จะทาให้ขนาดของไฟล์มี ขนาดใหญ่ และยากต่อการตรวจสอบ หากโปรแกรมมีการทางานที่ ผดิ พลาด 114องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

115 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การสรา้ งโปรแกรมจาลองดา้ นวศิ วกรรมดว้ ยฟังกช์ ่นั GUI ของโปรแกรม MATALB พินิจ เนื่องภริ มย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พินจิ เนอื่ งภริ มย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชยี งใหม่ โทรศพั ท์ : 0-5392-1444 116องคค์ วามร้สู ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

117 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การอนุบาลต้นกล้ากลว้ ย จากการเพาะเลย้ี งเน้ือเย่ือเพือ่ สรา้ ง รายได้สชู่ ุมชน 118องค์ความรูส้ ่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การอนุบาลตน้ กล้ากล้วยจากการเพาะเล้ียงเน้อื เย่ือเพ่อื สรา้ งรายไดส้ ูช่ ุมชน ศกั ดิ์ดา สุขวฒั นา ความเป็นมา “กล้วย” เป็นพืชเศรษฐกิจท่ีสาคัญในปัจจุบัน จุดเด่นของกล้วยคือเป็นพืชท่ีตลาดรองรับที่ ค่อนขา้ งกวา้ ง สามารถจาหน่ายไดท้ ง้ั ในและต่างประเทศ ไม่วา่ จะเป็นกลว้ ยหอม กลว้ ยไข่ กล้วย น้าวา้ ซึง่ มตี ลาดรองรบั และมีความต้องการท่ีสูงท้ังตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ จึงทา ให้มีเกษตรกรปลกู กลว้ ยเป็นอาชีพกระจายอยู่ในหลายพื้นท่ี มีการรวม กลุ่มเกษตรท่ีเข้มแข็งใน รูปสหกรณ์เพ่ือส่งออกไปยังต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่น และ จีน สร้างรายได้มากมายให้กับ ชาวสวน อย่างไรกต็ าม ความต้องการของตลาดยังมีอีกมาก ผล ผลิตกล้วยไม่เพียงพอ ส่งผลทา ให้มีความต้องการหน่อพันธุ์กล้วยสูงตามไปด้วย ท้ังกล้วยน้าว้า กล้วยหอม และ กล้วยไข่ การ ขยายพนั ธกุ์ ล้วยโดยใชห้ น่อธรรมชาตินัน้ มีขนาดและอายุแตกต่างกนั เม่ือนาไปปลูกจะได้ผลผลิต ไม่สม่าเสมอ ส่งผลให้การจัดการผลผลิตทีไ่ มม่ ีประสทิ ธิภาพเท่าทคี่ วร นอกจากนี้หน่อพันธ์ุกล้วย จากแหล่งตา่ งๆ น้ันยงั อาจจะมเี ชื้อรา fusarium Oxysporum สาเหตุโรคตายพราย ซึ่งเป็นโรค ที่สาคัญของกล้วยน้าว้าแฝงในหน่อ การใช้ต้นพันธ์ุจากวิธีการเพาะเล้ียงเนื้อเยื่อสามารถ แกป้ ัญหาดังกล่าวได้ 119 องคค์ วามร้สู ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

การเพาะเน้ือเยื่อยังส่งผลให้อัตราการเติบโต ของ หวั หน้าโครงการ ผลผลิตสูงกว่าการปลูกด้วยหน่อพันธุ์ชนิดอื่น อีกท้ัง ต้นกล้ากล้วยจากการเพาะเลี้ยงเน้ือเยื่อ ยังเป็นต้น ศักด์ิดา สุขวฒั นา กล้าท่ีปลอดโรค ขนาด และ อายุของต้นกล้า ใกล้เคียงกัน ซ่ึงทาให้วางแผนการปลูกและปฏิบัติ ดูแลแปลงได้โดยง่าย ทาให้ได้ผลผลิตคุณภาพสูง มี ปริมาณผลผลิตแน่นอน คาดการณ์ปริมาณได้แน่ นอน อายุของหน่อเท่ากัน การจัดการเรื่องการให้น้า ใหป้ ุ๋ยงา่ ยกวา่ ปัจจุบัน การเพาะเลี้ยงเนื้อเย่ือเพ่ือขยายพันธุ์ต้นกล้า กล้วยปลอดโรคแพร่หลายไปอย่างมาก ตามความ ต้องการขยายพื้นที่ปลูกของเกษตรกร แต่มีปัญหา ประการหนึ่งคือ ต้นกล้ากล้วยที่ได้จากการเพาะเลี้ยง เน้ือเย่ือมีอัตรารอดชีวิตหลังย้ายต้นกล้าออกปลูกต่า เพราะการสูญเสียน้าจากการคายน้าผ่านทางปากใบ และผิวใบ และข้อจากัดในการดูดซับน้าของรากพืช ดังนั้น องค์ความรู้ในการปรับสภาพต้นกล้ากล้วยใน การย้ายปลกู จึงมีบทบาทท่ีสาคัญย่ิง ในการเพิ่มอัตรา การรอดตายสูงของต้นกล้ากล้วยจากการเพาะเลี้ยง เน้ือเยื่อ ซึ่งจะช่วยให้สามารถลดต้นทุนการผลิตและ สามารถผลิตพืชในระดับอุตสาหกรรมได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ วัตถปุ ระสงค์  เพอื่ ให้ผ้รู ับกาฝกึ อบรมมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ขอ้ ดขี องการใชต้ ้นกล้ากล้วยปลอดโรคจากการ เพาะเลี้ยงเนื้อเย่อื แปลงปลกู  เพือ่ ให้ผู้รับการฝกึ อบรมมีความรคู้ วามเขา้ ใจ สร้างความม่ันใจ มีทกั ษะและเสรมิ สรา้ ง ประสบการณ์ในการอนุบาลตน้ กลา้ กลว้ ยทีไ่ ด้จากการเพาะเลี้ยงเนือ้ เยื่อเพ่ือสร้างธรุ กิจการค้า พันธุ์ตน้ กล้ากล้วยจากการเพาะเลีย้ งเนอ้ื เยือ่  เพื่อส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เข้ารับการฝึกอบรมไดน้ าเทคนิคความรูท้ ีได้รบั ไปประยุกต์ใช้เพื่อประกอบ อาชีพตอ่ ไป 120องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

การอนุบาลตน้ กล้ากล้วยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเย่อื ต้นกล้ากล้วยท่ีได้จากการขยายพันธ์ุโดยเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือ จะมีรูปร่างทรงต้น ปกติคล้ายกับตน้ ในสภาพธรรมชาติ เพียงแต่มีขนาดเลก็ โดยเฉลี่ยควรจะมีความ สูงประมาณ 2-4 นิ้ว มีใบไม่ต่ากว่า 4 ใบ จานวนรากไม่ต่ากว่า 4 -5 เส้น ความยาวรากอยู่ระหว่าง 3-5 ซม. เมื่อนาต้นกล้าออกจากขวดเพาะเล้ียง เน้ือเย่ือ จึงจาเป็นจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเน่ืองจากต้นกล้วยยังมีการ สร้างไขเคลือบใบ หรือสารคิวติน (cutin) ทาหน้าท่ีควบคุมการสูญเสียน้าจาก ใบน้อย ในขณะที่ปากใบยังเปิดกว้าง เมื่อออกสัมผัสกับอากาศที่มีสภาพ แวดล้อม ทั้ง แสง อุณหภูมิ ความชื้นไม่สม่าเสมอตลอดเวลา พืชจะคายน้ามาก ข้ึนทาให้เห่ียวเฉาและตายได้ง่าย ดังน้ันการย้ายต้นกล้ากล้วย จากอาหารวุ้น เพ่ือปลกู ในสภาพธรรมชาติ ต้องระมดั ระวังเร่อื งอัตราการสูญเสียน้าของพืชเป็น พิเศษ ควรใหค้ วามสมดุลระหว่าง อัตราการสูญเสียน้ากับอัตราการดูดน้าข้ึนมา ใช้ใหม้ ากทีส่ ดุ จึงจะสามารถทาใหต้ ้นพืชรอดชีวิตอยูไ่ ด้ 121 องค์ความรูส้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

การอนบุ าลตน้ กล้ากลว้ ยจากการเพาะเลี้ยงเนอื้ เย่ือเพือ่ สร้างรายได้สู่ชุมชน ศักด์ิดา สขุ วัฒนา ขนั้ ตอนการนาพืชเพาะเล้ียงเน้ือเย่ือออกปลกู ก่อนเขา้ ถึงข้ันตอนการดูแลหรืออนุบาลพืชเนื้อเย่ือระยะต่างๆ ควรมีการปรับสภาพให้เร่ิมเรียนรู้ และค่อยๆ ปรบั ตวั อยกู่ ับสภาพแวดลอ้ มทเ่ี ป็นธรรมชาติได้ โดยเพ่ิมความเข้มแสง ลดความชื้นใน ภาชนะลง อาจใช้วิธีนาขวดเนื้อเย่ือพืชออกมาวางในสภาพอุณหภูมิ ห้องท่ีมีอากาศถ่ายเทได้ สะดวกแตไ่ ม่ควรให้เนอ้ื เยื่อพชื ไดร้ ับแสงแดดโดยตรงในช่วงเวลา 2-3 วนั แรกตามลาดับ ดงั นี้ 1. ปรับสภาพเนื้อเยื่อพืช 2-3 วัน ก่อนปลูกในสภาพอุณหภูมิห้องปกติที่มีอากาศถ่ายเท สะดวก 2. นาพืชออกจากภาชนะทไ่ี ดจ้ ากการเพาะเล้ยี งด้วยปากคบี 3. ลา้ งอาหารวนุ้ ที่ติดอยบู่ รเิ วณรากออกใหห้ มดด้วยนา้ สะอาด 4. นาต้นพชื แช่ในสารป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย เป็นเวลา 3-5 นาที ก่อนปลูก เพ่ือป้องกัน โรคต้นเนา่ เน่ืองจาก พชื ยงั ออ่ นแอต่อการทาลายของเชื้อโรค แบง่ ช่วงเวลาการอนุบาลต้นกล้ากล้วยจากการเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือท่ีเพิ่งนาออกมาปลูกออกเป็น 2 ระยะ คอื การอนุบาลระยะท่ี 1 เป็นระยะที่ต้นกล้ากล้วยต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยการควบคุม ปัจจัยท่ีเกี่ยวข้อง ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้น และความเข้มแสงให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต ของพืชชนิดน้ันๆ เป็นช่วงเวลาการดูแลประมาณ 3-4 สัปดาห์ต้ังแต่ย้ายปลูกทาการเพาะชาต้น กล้ากล้วยในถาดหลุมดาขนาด 104 หลุมต่อถาด วัสดุปลูกที่ใช้ ได้แก่ ขุยมะพร้าวแช่น้าก่อน 1 คืน : พีทมอส อตั ราส่วน 2 : 1 ขั้นตอนการย้ายเนื้อเยื่อออกปลูกในระยะอนุบาล 1 ทาหลุมเล็กๆ ในวัสดุปลูกภายในถาดหลุม ใช้ปากคีบจับโคนต้นพืช นาลงปลูก กลบวัสดุปลูกให้มิดรากหรือมิดโคนต้นพอดี เพราะ ถ้าราก โผล่พน้ วสั ดุปลูกสมั ผัสกับอากาศ อาจทาใหร้ ากและต้นพืชเหีย่ วได้ 122องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การดแู ลต้นพืชในระยะอนุบาล 1 1. อุณหภูมิ ปรับสภาพภายในโรงเรือนให้มีระดับอุณหภูมิประมาณ 28-30 องศาเซลเซียส 2. ความเข้มแสง ความเขม้ แสงไมเ่ กิน 60% เพราะพืชยังมขี นาดเลก็ 3. ความชื้นสัมพัทธ์ ในช่วง 30 วนั แรกของการย้ายปลูกควรรักษาความช้ืน ภายในโรงเรือนไวท้ ี่ 85-90% 4. การให้น้า หลังจากปลูกต้นเนื้อเย่ือ 2-3 วันแรก ไม่ต้องให้น้าอีกจนกว่า วัสดจุ ะแห้ง เพราะในโรงเรอื น มคี วามช้ืนสูง 85-90% 5. การใหป้ ยุ๋ วสั ดปุ ลูกทใ่ี ชใ้ นระยะอนบุ าล 1 จะเนน้ เรื่องคุณสมบัติของการ ระบายน้าที่ดี นิยมใช้ทรายผสมข้ีเถ้าแกลบ ซึ่งวัสดุดังกล่าวมีธาตุอาหาร น้อยมากไมเ่ พียงพอต่อความต้องการ จะใหป้ ยุ๋ เสริมทางใบโดยเฉพาะธาตุ ไนโตรเจน เพ่ือการเจริญเติบโตทางลาต้นความเข้มของปุ๋ย ใช้เพียง 1/4 หรอื 1/2 ของการแนะนา 123 องค์ความร้สู ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

การอนุบาลต้นกล้ากล้วยจากการเพาะเล้ียงเนอ้ื เย่ือเพ่ือสร้างรายไดส้ ชู่ ุมชน ศกั ดด์ิ า สุขวฒั นา การอนุบาลระยะท่ี 2 ทาการย้ายตน้ กลา้ กล้วยจากถาดหลุมท่ีมีอายุ 4 สัปดาห์ แลว้ เพาะเล้ยี งในถุงดาขนาดกว้าง 2.5 น้ิว ยาว 5 น้ิว อีก 2-4 สัปดาห์ ระยะน้ี พืชจะมีความแขง็ แรงและปรับตวั เขา้ กบั สภาพแวดล้อมได้มากขึ้น เม่ือผ่านการ อนุบาลระยะที่ 2 แล้ว รวมท้ังส้ินประมาณ 2 เดือนจึงสามารถย้ายปลูกใน สภาพปลูกเล้ียงปกติได้ การดูแลต้นกล้าในสภาพโรงเรือนเปิดเพื่อปรับสภาพ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทีจ่ ะนาไปปลูกในสภาพธรรมชาติ การอนุบาลต้นกล้ากล้วยที่ได้จากการเพาะเล้ียงเน้ือเยื่อตลอดระยะเวลา 2 เดอื นนับเปน็ กระบวนการทม่ี ีความสาคญั มาก 124องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

125 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การอนุบาลตน้ กลา้ กลว้ ยจากการเพาะเล้ยี งเนือ้ เย่ือเพอื่ สร้างรายไดส้ ู่ชมุ ชน ศักดดิ์ า สุขวัฒนา สอบถามขอ้ มลู เพ่ิมเตมิ ศักดิ์ดา สขุ วฒั นา สถาบันวิจัยเทคโนโลยีเกษตร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา โทรศพั ท์ : 0-5434-2550 126องคค์ วามรูส้ ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

127 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การใช้กจิ กรรมบทบาทสมมติ ในการพฒั นาความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ของหมอนวดแผนโบราณ 128องคค์ วามร้สู ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การใชก้ ิจกรรมบทบาทสมมติในการพัฒนาความสามารถด้านภาษาองั กฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกดิ ศริ ิ ชมภกู าวิน ความเป็นมา นวดแผนไทยเป็นภูมิปัญญาท่ีดารงอยู่ในสังคมไทยมาช้านาน และยังเป็นบริการท่ีได้รับ ความนิยมจากนักท่องเท่ียวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีแนวโน้มว่าจะ ขยายตัวมากขึ้นเพ่ือรองรับความต้องการของนักท่องเท่ียวที่จะมาใช้บริการในอนาคต ด้วย เหตนุ ้เี อง บุคลาการท่ีมีความสามารถด้านการฟัง พูดภาษาอังกฤษจึงมีบทบาทสาคัญในการ ให้บริการและสร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติในด้านธุรกิจท่องเที่ยว ดังนั้นหาก ผู้ประกอบการอาชีพนวดแผนไทยมีความสามารถทางด้านการฟัง พูดภาษาอังกฤษก็จะ ส่งเสรมิ การให้บริการทางธุรกจิ ทอ่ งเทย่ี วประเภทน้ีได้ดียิ่งขึ้นไป แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ ประกอบอาชพี นวดแผนไทย พบวา่ ปญั หาดา้ นการฟงั พูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างประเทศที่ เข้ามาใช้บริการการนวดแผนไทย เช่น ไม่สามารถคุยโต้ตอบกับผู้มาใช้บริการได้ เพราะไม่ เข้าใจคาถาม หรือแม้แต่เข้าใจก็ไม่สามารถพูดโต้ตอบได้ ซ่ึงปัญหาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการ ใชท้ กั ษะการฟัง พูดภาษาองั กฤษ และสาเหตุของปัญหาเกิดจากการขาดพ้ืนฐานในการเรียน และการใชภ้ าษาองั กฤษ 129 องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

คณาจารย์จาก คณะบริหารธุรกิจและศิลป หวั หนา้ โครงการ ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา จึงได้ศึกษาการใช้กิจกรรมบทบาท เกดิ ศิริ ชมภกู าวนิ สมมติ ในการพัฒนาความสามารถด้านการพูด ภาษาอังกฤษ เพ่ือทาให้ผู้ประกอบการสามารถ พัฒนาทักษะในการส่ือสารได้ดีขึ้น และ นา ผลงานวจิ ัยดงั กล่าวมาถ่ายทอดสผู่ ปู้ ระกอบการ นวดแผนไทยในเขตอาเภอบ้านโฮ่ง จังหวัด ลาพูน และ ในเขตอาเภอจอมทอง จังหวัด เชียงใหม่ ให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาในการ สื่อสารได้ โดยใช้ภาษาเป็นส่ือในหน้าที่ต่าง ๆ เช่น การทักทาย การโต้แย้ง การซื้อขายของ และ ใช้ให้เหมาะสมตามสภาพสังคม โดย ผู้เรียนสามารถนาความรู้ดังกล่าวไปใช้จริง และเกิดความเข้าใจเม่ือมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ พูดกับผู้ฟัง ซ่ึงการใช้แนววิธีการสอนโดยใช้ กิจกรรมบทบาทสมติ ช่วยเพ่ิมบรรยากาศที่ดี ต่อการเรียนภาษาอังกฤษและช่วยส่งเสริม ความเช่ือมั่นในตนเองแก่ผู้เรียนในการสื่อสาร ให้มปี ระสิทธิภาพ วัตถุประสงค์  เพอื่ การศกึ ษาการใชก้ จิ กรรมบทบาทสมมตใิ นการพัฒนาความสามารถดา้ นการพูด ภาษาอังกฤษของผปู้ ระกอบอาชีพนวดแผนโบราณ 130องค์ความรู้สภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

การแนะนาตนเอง (Self – Introduction) การแนะนาตนเอง (Self – Introduction) สานวนท่ีนยิ มใช้ แนะนาตวั เอง เรม่ิ จาก May I introduce myself ? (เมย์ ไอ อนิ ทโร ดยชู มาย เซ็ลฟ์) ผม/ดิฉันขอแนะนาตวั เองครบั /ค่ะ My name is ….....(name – surname)…….. (มาย เนม อสิ ………(เนม – เซอร์ เนม)………) ผม/ดฉิ ันช่ือ-นามสกุล ….....ครบั /คะ่ I am …..…..(nationality)…….… (ไอ แอม……(แนช ชั่น แนล ลิทิ)……) ผม/ดิฉนั เปน็ ชาว.…(เช้ือชาต)ิ … I come from / I am from ……...(city / country)………. (ไอ คัม ฟรอ์ ม/ไอ แอม ฟร์อม…(ซิทิ / คนั ทริ)…) ผมมาจาก.…(เมอื ง /ประเทศ).… I am a ………..(career)…….…. (ไอ แอม เอ………(แค เรยี )………) ผม/ดฉิ นั เปน็ ..…(อาชพี )…… 131 องคค์ วามร้สู ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

การใชก้ ิจกรรมบทบาทสมมติในการพฒั นาความสามารถด้านภาษาองั กฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกิดศริ ิ ชมภูกาวนิ การทักทาย (Greetings) การทักทาย (Greetings) เปน็ มารยาทอย่างหนึง่ ในสังคมซึง่ แต่ละทอ้ งถิ่นหรอื แตล่ ะประเทศตา่ งมคี าทักทายท่ีแตกตา่ งกันออกไป แบง่ ออกเปน็ การทกั ทาย อยา่ งเป็นทางการ และ การทกั ทายอย่างไม่เป็นทางการ หรอื แบบเป็นกนั เอง Good morning (ก๊ดู มอรน์ ิ่ง) ใชท้ กั ทายตง้ั แต่ตอนเช้าถึงก่อนเท่ียง Good afternoon (กดู๊ แอ๊ฟ เทอ่ ะ นนู ) ใชท้ ักทายในชว่ งบ่าย Good evening (กู๊ด อีฝ น่ิง) ใช้ทกั ทายในตอนเย็นจนถึงก่อนเทยี่ งคนื How are you? (ฮาว อาร์ ยู) สบายดีหรอื เปล่าคะ I am all right. (ไอ แอม ออล ไรท้ ์) สบายดี I am not so well today. (ไอ แอม น็อต โซ เวลล์ ทเู ดย์) วนั น้ีดิฉันไมค่ อ่ ยสบายคะ่ 132องค์ความรูส้ ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การพดู คยุ เก่ยี วกบั สุขภาพ การพดู คุยเกย่ี วกับสุขภาพ โดยประโยคทใ่ี ชส้ อบถาม ประโยคทีใ่ ชต้ อบ ดงั ตอ่ ไปนี้ Is your health all right ? (อสิ ยอร์ เฮล็ ธ์ ออลล์ ไรท้ ์) สุขภาพของคุณดีใช่ไหมคะ Do you have any disease? (ดู ยู แฮฟ เอ-นิ ด-ิ ซสิ ) คณุ มีโรคประจาตัวหรอื เปลา่ ครบั Did you have any operations? (ดดิ๊ ยู แฮฟ เอ-นิ ออพ-เพอ่ ะเร-ฌั่นส์) คณุ เคยรบั การผา่ ตัดมาหรือเปล่าครบั Do you have any health problems? ( ดู ยู แฮฟ เอ-นิ เฮล็ ธ์ พร็อบ-เบลิ้มส์ ) คุณมปี ญั หาสุขภาพหรือเปลา่ ครับ Do you feel pain around this area ? (ดู ยู ฟลี เพน เอ-ราวด์ ธีส แอ-เรีย) ร้สู ึกเจบ็ (ปวด)บริเวณน้ไี หมครบั 133 องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

การใช้กจิ กรรมบทบาทสมมตใิ นการพัฒนาความสามารถดา้ นภาษาองั กฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกิดศิริ ชมภกู าวนิ การเชิญชวนให้ใช้บริการนวดแผนไทย ในการให้บริการนวดแผนไทยแก่ชาวต่างชาตินั้น เราสามารถ นาประโยคสนทนา ภาษาอังกฤษมาใช้กับผู้รับบริการชาวต่างชาติได้ โดยเริ่มต้ังแต่การกล่าวทักทายกันในครั้ง แรก การเชื้อเชิญและเสนอ ให้บริการ การสอบถามความต้องการ ความพึงพอใจของ ผ้รู ับบรกิ าร การให้ข้อมูลตา่ งๆ ของสถานประกอบการนวดแก่ผรู้ บั บริการนวด เป็นต้น Massage, Sir ? (มาส ซาจ เซอ๊ ะร)์ คณุ ตอ้ งการรับบรกิ ารนวดไหมครับ/คะ Massage, Mister ? (มาส ซาจ มสิ เต๊อร)์ คณุ (ผชู้ าย)ต้องการรบั บริการนวดไหมครับ/คะ Massage, Miss ? (มาส ซาจ มิส) คณุ (ผหู้ ญิง)ต้องการรบั บริการนวดไหมครบั /คะ Would you like a massage, Sir? (วู๊ด ยู ไลค้ ์ เอ มาส ซาจ เซ๊อะร)์ คณุ ต้องการรับบรกิ ารนวดไหมครบั /คะ Would you like a massage, Mister? (วู๊ด ยู ไล้ค์ เอ มาส ซาจ มสิ เตอร)์ คุณ(ผู้ชาย)ต้องการรบั บริการนวดไหมครบั /คะ Would you like a massage, Madam? (วดู๊ ยู ไลค้ ์ เอ มาส ซาจ แม เด๊ิม) คณุ (ผูห้ ญิง)ต้องการรบั บรกิ ารนวดไหมครับ/คะ 134องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การสอบถามข้อมูล และการแนะนาบรกิ ารนวดแผนไทย ตวั อย่างบทสนทนา เช่น A massage will relax you. (เอ มาส ซาจ วิล ริ-แล็กซ์ ยู) การนวดน้ีจะชว่ ยใหค้ ุณผ่อนคลายไดค้ ะ่ I will give you a good massage. (ไอ วิล กฟิ ยู เอ กดู๊ มาส ซาจ) ผมจะให้บรกิ ารนวดทดี่ ีแกค่ ุณครับ I will give you special price for a Thai massage. (ไอ วิล กฝิ ยู สะเพ-เชี่ยล ไพร๊ซ์ ฟอร์ เอ ไท มาส ซาจ) ดฉิ ันจะให้ราคาพิเศษแก่คุณในการนวด(แผนไทย) ครัง้ น้ีค่ะ Guaranteed satisfaction or your money back. (แก-รนั -ทีด แซท๊ -ทชิ -แฟค-เชิล่ ออร์ ยอร์ ม๊ัน-นิ แบค) รับรองความพึงพอใจ ไมอ่ ย่างนนั้ เรายินดีคนื เงินให้คุณค่ะ Guaranteed satisfaction (แก-รัน-ทดี แซท๊ -ทิช-แฟค-เชล่ิ ) รบั ประกนั ความพงึ พอใจ 135 องคค์ วามร้สู ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

การใช้กจิ กรรมบทบาทสมมตใิ นการพฒั นาความสามารถด้านภาษาอังกฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกิดศริ ิ ชมภูกาวิน การสอบถาม/ให้ขอ้ มลู บริการนวดแผนไทย Have you ever tried Traditional Thai Massage ? (แฮฟ ยู เอฝ-เว่อะ ไทรด์ เทริ่ด-ด๊ิ-เชนิ่ -เนล้ิ ไท มาส-ซาจ) คุณเคย(ใช้บรกิ าร)นวดแผนไทยมาบ้างหรอื เปล่าครับ How often do you have Thai massage ? (ฮาว ออฟ-เฟ่ิล ดู ยู แฮฟ ไท มาส-ซาจ) คณุ นวดแผนไทยบ่อยแคไ่ หนค We open from Tuesday to Sunday and from 8.30 a.m to 9.00 p.m. (วี โอ-พลึ่ ฟอร์ม ทวิ ซ์-เดย์ ทู ซัน-เดย์ แอนด์ ฟอร์ม ฮาฟ พารท์ เอท เอ เอ็ม ทู ไนน์ พี เอม็ ) เราเปดิ บริการวันอังคารถึงวันอาทติ ย์ ตัง้ แต่ 8.30 น. ถึง สามทุม่ คะ่ การสอบถามความต้องการใชบ้ รกิ ารของลกู ค้า I can give you a foot massage and a body massage. Which one do you prefer? (ไอ เค่นิ กิฟ ยู เอ ฟุท มาส ซาจ แอนด์ เอ บาดิ มาสซาจ วชิ วัน ดู ยู พริ เฟอร์) ดฉิ ันมบี ริการนวดเทา้ และนวดตัว คุณจะรบั บรกิ าร แบบไหนดีคะ We can give you a back massage, an oil massage and a herbal massage. Which one do you prefer? (วี เคิ่น กิฟ ยู เอ แบค็ มาสซาจ แอน ออยล์ มาส ซาจ แอนด์ เอ เฮอ เบิล้ มาส ซาจ วชิ วัน ดู ยู พริ เฟอร์) เรามีบรกิ ารนวด คลายเครียด (นวดหลงั และคอ) นวดน้ามัน และนวดประคบสมนุ ไพร คณุ ต้องการรบั บริการแบบไหนดคี ะ 136องค์ความรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การถามตอบเก่ียวกบั คา่ บริการนวด 200 baht for foot massage, Miss. (ทู ฮนั -เดร็ด บาท ฟอร์ ฟทุ มาส-ซาจ มสิ ) ราคา 200 บาทสาหรับการนวดเทา้ ค่ะคุณผู้หญงิ 300 baht per hour. (ธรี ฮัน-เดรด็ บาท เพอ อาวร)์ ราคาช่ัวโมงละ 300 บาทครบั Can you give me a discount? (เคนิ่ ยู กฟี มี เอ ดิส-เค๊าท์) คณุ สามารถให้ส่วนลดแกด่ ฉิ นั ไดบ้ า้ งไหมคะ Yes, I can. 200 baht, Madam. (เยส ไอ เคนิ่ ทู ฮนั -เดรด็ บาท แม เดิ้ม) ลดได้(เหลอื ) 200 บาทคะ่ คุณผหู้ ญงิ No, I cannot, Mister. This is the final price. (โน ไอ เค่นิ น็อท มสิ เตอร์ ธีส อสิ เธอะ ไฟ-เนิ่ล ไพรซ้ )์ ดฉิ นั ไม่สามารถลดราคาใหค้ ณุ ได้ น่ีเป็นราคาสุดทา้ ยแล้วคะ่ 137 องค์ความรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

การใช้กจิ กรรมบทบาทสมมตใิ นการพัฒนาความสามารถด้านภาษาองั กฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกิดศริ ิ ชมภูกาวนิ การใหค้ าแนะนา แก่ลกู ค้าก่อนใหบ้ รกิ ารนวดแผนไทย Take off your shoes, please. (เทค ออฟ ยอร์ ชสู ์ พลีส) กรณุ าถอดรองเท้า(ของคุณ)ด้วยครบั Take off any jewelry, please. (เทค ออฟ เอ-นิ จ-ู แอ็ล-ริ พลีส) กรณุ าถอดเคร่อื งประดับ(ที่สวมใสอ่ ย)ู่ ดว้ ยคะ่ Please change your clothes in this room. (พลสี เชน้ จ์ ยอร์ โคลทส์ อนิ ธีส รูม) กรุณาเปล่ยี นเสอื้ ผา้ ท่ีห้องนคี้ ะ่ การแนะนาลกู ค้าหลังรบั บรกิ ารนวด Please drink a big glass of warm water after being massaged. (พลีส ดร้ิง เอ บ๊กิ กลา๊ ส ออฟ วอรม์ วอ เท่อะร์ อาฟ-เทอะ บ-ี อิ้ง มาสซาจด์ ) กรณุ าดืม่ น้าอนุ่ แกว้ ใหญ่ๆหลังจากการนวด Please get plenty of rest. (พลีส เก็ท เพลน-ทิ ออฟ เรสท์) กรุณาพักผอ่ นให้เพยี งพอ Please don’t take any cold shower an hour after being massaged. (พลีส ด๊นท์ เทค เอ-นิ โคลด์ ชาว-เออ่ ะร์ แอน อาวร์ อาฟเทอ่ ะ บิ-อ้งิ มาสซาจด์ ) ภายใน 1 ชัว่ โมงหลงั จากการนวด กรณุ าอย่าอาบนา้ เยน็ นะครบั 138องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

139 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การใชก้ ิจกรรมบทบาทสมมติในการพัฒนาความสามารถด้านภาษาองั กฤษของหมอนวดแผนโบราณ เกดิ ศิริ ชมภูกาวนิ สอบถามข้อมูลเพ่ิมเติม เกดิ ศิริ ชมภูกาวนิ คณะบริหารธุรกจิ และศลิ ปศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชยี งใหม่ โทรศพั ท์ : 0-5392-1444 140องคค์ วามรูส้ ่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

141 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การพฒั นาและการผลิต เฟอร์นเิ จอร์ 142องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

การพฒั นาและการผลติ เฟอร์นิเจอร์ สมชาย บุญพิทกั ษ์ ความเปน็ มา ปัจจุบัน ประเทศไทยมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดย่อม ดังจะเห็นได้จาก กลุ่มผู้ผลิตสินค้า OTOP รวมทั้งสินค้าพื้นเมืองต่างๆ เป็นการส่งเสริมให้ ประชาชนมีงานทาและเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน ประกอบกับปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพ้ืนที่ตาก มีนโยบายในการ ช่วยเหลือสนับสนุนส่งเสริมเทคโนโลยีและแก้ปัญหาให้แก่ชุมชน คณะผู้ ดาเนินงานจึงทาการลงพื้นท่ีสอบถามปัญหาต่างๆ กับกลุ่มสหกรณ์เครือข่าย ออมทรัพย์คลองน้าไหล จากัด จังหวัดกาแพงเพชร ซ่ึงเป็นกลุ่มผู้ผลิตสินค้า OTOP ประเภทเฟอร์นิเจอร์ ที่กาลังประสบปัญหาในการพัฒนารูปแบบ และ กระบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์ โดยรูปแบบท่ีกลุ่มทาการผลิตอยู่ในปัจจุบัน ค่อนข้างล้าสมัย ประกอบกับในกระบวนการผลิตนั้น ยังไม่เข้าใจในการเข้า ปากไม้ และการเคลอื บผิวเทา่ ทคี่ วร จงึ ส่งผลทาให้ช้ินงานที่ออกมา ไม่สวยงาม และสอดคลอ้ งตามความต้องการของทอ้ งตลาด 143 องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ คณะผู้ดาเนินโครงงานได้ เห็นถึงความสาคัญของปัญหาดังกล่าว จึงมี แนวคิดในการพัฒนารูปแบบ และการผลิต เฟอร์นิเจอร์ เพื่อ ให้ชุมชนได้ผลิตสินค้าที่มี รูปแบบสวยงาม ดูน่าใช้สอย และตอบสนอง ตามความต้องการของตลาด เป็นการเพ่ิม มลู ค่าของสินคา้ ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพมากยง่ิ ขน้ึ หัวหน้าโครงการ สมชาย บญุ พิทักษ์ วัตถุประสงค์  เพื่อการพัฒนารูปแบบและการผลติ เฟอรน์ ิเจอรใ์ หก้ ับกลมุ่ สหกรณ์เครอื ขา่ ยออมทรพั ย์ คลองน้าไหล จากดั  เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์จากเศษหนังสไู่ มแ้ ละการฝกึ อบรมการ กระบวนการผลิต เฟอรน์ เิ จอร์และการเคลือบผิวอย่างถกู วธิ ี 144องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

หลกั การออกแบบเฟอร์นเิ จอร์ หลักการออกแบบน้ันเป็นพ้ืนฐานสาหรับการสร้างสรรค์งาน ไม่ใช่กฎเกณฑ์ตายตัว แต่ใช้เป็นแนวคิด สาหรบั ผูอ้ อกแบบ เพื่อใช้สร้างสรรค์งานออกแบบ โดยการออกแบบจะต้องมาจากความมุ่งหมายที่วาง ไว้ อีกทั้งในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์นั้น รูปทรงที่ได้มักจะยึดจุดประสงค์หรือความมุ่งหมายในการใช้ งานในการใช้งานเปน็ หลกั สาคัญ ซึง่ ความมุ่งหมายหรือหนา้ ทีใ่ ช้สอยดังกลา่ วมักมีความมุ่งหมายออกเป็น สองประเด็นหลักๆ ซ่ึงได้แก่ ความมุ่งหมายหรือการใช้สอยเพื่อประโยชน์หรือความสุขทางกายหรือ กายภาพ อาทิเช่นสัดส่วนท่ีสอดรับและเหมาะสมกับสะรีระของผู้ใช้ มีความแข็งแรงและเหมาะสมกับ การใช้งาน ทั้งยงั สามารถสร้างความสะดวกสบายในการใช้งาน และความมุ่งหมาย หรือการใช้สอยเพื่อ ประโยชน์หรือความสุขทางใจ ซึ่งได้แก่ รูปทรงที่ความสวยงาม รูปทรงที่สร้างความภาคภูมิใจหรือสง่า งามแก่ผู้ใชเ้ ปน็ ตน้ ปจั จยั ที่ต้องคานงึ ถึงในการออกแบบเฟอรน์ ิเจอร์ ประกอบดว้ ยสง่ิ ต่างๆดังตอ่ ไปน้ี 1. หนา้ ทีใ่ ช้สอย การออกแบบเฟอรน์ ิเจอร์ หรือเคร่ืองเรือน จาเป็นเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้และเข้าใจ ของหน้าที่ใช้สอยของเฟอรน์ ิเจอร์หรอื เคร่ืองเรอื นแตล่ ะชนิดและประเภทของเคร่ืองเรือน ให้เข้าใจ กอ่ นทาการออกแบบ 2. ความแข็งแรง ความแข็งแรงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งท่ีผู้ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ หรือ เคร่ืองเรือนต้อง คานงึ ถงึ เครื่องเรือนท่ีมีโครงสร้างใหญ่โตแข็งแรงเกินไปก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นการใช้โครงสร้าง ทีด่ ี เพราะเปน็ การสิน้ เปลอื งวัสดแุ ละทาให้ราคาเกนิ ความเหมาะสม 3. ความปลอดภัย การออกแบบเฟอรน์ เิ จอร์ หรอื เครื่องเรือนตอ้ งคานึงถงึ ความปลอดภัยต่อผ้ใู ช้ 4. สัดส่วนการใช้งานท่ีเหมาะสม สัดส่วนการใช้งานเป็นปัจจัยที่มีความจาเป็นอย่างมากในการ ออกแบบ 5. ค ว า ม ส ว ย ง า ม ก า ร อ อ ก แ บ บ เฟอร์นิเจอร์ หรือเคร่ืองเรือนเป็น ธรรมดาท่ีต้องคานึงถึงความงาม เพ่ือ เป็นเสน่ห์และแรงจูงใจท่ีจะทาให้มี ความต้องการอยากไดเ้ ปน็ เจ้าของ 145 องค์ความรู้สูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การพฒั นาและการผลติ เฟอรน์ ิเจอร์ สมชาย บุญพทิ กั ษ์ 6. การใชว้ ัสดุทเี่ หมาะสม การออกแบบทด่ี ตี ้องคานงึ ถึงวัสดุท่ีเหมาะสมกับ การใชง้ าน 7. กรรมวิธกี ารผลติ การรแู้ ละเข้าใจกรรมวิธีการผลติ 8. ราคาท่เี หมาะสม ควรมกี ารต้งั ราคาทสี่ มเหตุสมผลและสอดคลอ้ งกบั ตลาด หรือ กลุ่มเป้าหมาย 9. การขนสง่ นักออกแบบควรคานงึ ถึงการขนสง่ ด้วย และความเสียหาย อนั เกดิ จากการขนสง่ 10. การดูแลและบารุงรกั ษา ข้ันตอนการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ เตรยี มไม้ท่จี ะผลติ เฟอรน์ ิเจอร์ วัดหน้าไม้เตรียมโกรกตามขนาด โกรกไมต้ ามขนาด 146องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

ไสปรับ 2 ด้าน เพื่อจะในไปเพาะเป็น ไมพ้ น้ื เพาะไม้พนื้ อัดพ้นื ดว้ ยสกรู เตรยี มขาโตะ๊ 147 องคค์ วามร้สู ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook