Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม (2560)

องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม (2560)

Published by RMUTL Knowledge Book Store, 2020-07-29 21:08:30

Description: องค์ความรู้จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
1) การพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชนผ่านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทางการจัดการ
2) การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพข้าวโดยใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาไวเรนส์
3) เครื่องกลั่นน้ำมันหอมระเหยขนาดเล็กสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรพื้นบ้าน
4) การส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานในโรงงานแป้งขนมจีนด้วยอุปกรณ์ทุ่นแรงเพื่อลดความสูญเปล่าในกระบวนการทำงาน
5) การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการฝานเปลือกมะพร้าวน้ำหอมด้วยเครื่องฝานแบบกึ่งอัตโนมัติ
6) การพัฒนากระบวนการหยอดส้มลิ้ม
7) การส่งเสริมอาชีพช่างเชื่อมให้แก่ชุมชน
8) การจัดการการขายสินค้าแบบออนไลน์
9) การสร้างโปรแกรมจำลองด้านวิศวกรรมด้วยฟังก์ชั่น GUI ของโปรแกรม MATALB
10) การอนุบาลต้นกล้ากล้วยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชน
11) การใช้กิจกรรมบทบาทสมมติในการพัฒนาความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษของหมอนวดแผนโบราณ
12) การพัฒนาและการผลิตเฟอร์นิเจอร์
13) การติดตั้งและบำรุงรักษามอเตอร์ปั๊มน้ำเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร
14) เทคนิคการตรวจสอบคุณภาพทางประสาทสัมผัสสู่ความเป็นมืออาชีพสำหรับอุตสาหกรรมก

Keywords: 9789746257855,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา,สถาบันวิจัยและพัฒนา

Search

Read the Text Version

เทคโนโลยเี ครือ่ งกลั่นน้ามนั หอมระเหยขนาดเลก็ สาหรบั อตุ สาหกรรมแปรรูปสมุนไพรพ้ืนบ้าน จริ พฒั น์พงษ์ เสนาบุตร สอบถามขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ จิรพฒั น์พงษ์ เสนาบุตร คณะวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีการเกษตร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา เชยี งราย โทรศพั ท์ : 0-5372-3979 48องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

49 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การสง่ เสรมิ ประสทิ ธิภาพการทางาน ของพนักงานโรงงานแป้งขนมจีนด้วยอุปกรณ์ทนุ่ แรง เพื่อลดความสญู เปลา่ ในกระบวนการทางาน 50องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

การสง่ เสรมิ ประสิทธภิ าพการทางานของพนักงานโรงงานแป้งขนมจีนด้วยอุปกรณ์ทุ่น แรงเพื่อลดความสูญเปล่าในกระบวนการทางาน อมรรตั น์ ปน่ิ ชัยมลู ความเป็นมา เน่ืองจากผู้ประกอบการให้ความสนใจและพัฒนากรรมวิธีการผลิตแป้งขนมจีน หมักมากข้ึน ส่งผลให้เกิดการแข่งขันทางตลาดสูงขึ้นตามไปด้วย สถาน ประกอบการจึงจาเป็นท่ีจะต้องหาแนวทางในการพัฒนากระบวนการผลิตเพ่ือ เพ่ิมโอกาสทางการตลาด เช่น การลดต้นทุน การลดความสูญเสีย รวมถึงการ ลดแรงงานคน และ อ่ืน ๆ ที่เก่ียวข้องกับกระบวนการผลิต โดยการออกแบบ อุปกรณ์ที่สามารถทุ่นแรงในการทางานเพื่อลดอาการเม่ือยล้าจากการทางานใน ข้ันตอนการล้างข้าวและการบรรจุและช่ังน้าหนัก โดยเคร่ืองมือที่ใช้ในการ ทางานจะช่วยให้พนักงานประหยัดแรงและเหมาะสมกับการทางานมากข้ึน ให้ สามารถลดกิจกรรมในการทางานที่ไม่จาเป็นและทาให้การทางานง่ายข้ึน อัน จักส่งผลใหป้ ระสิทธิภาพของกระบวนการผลิตแปง้ ขนมจนี หมักมากขึ้น 51 องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

ส า ข า วิ ศ ว ก ร ร ม อุ ต ส า ห ก า ร ค ณ ะ หัวหนา้ โครงการ วิศวกรรมศาสตร์ จึงได้ส่งเสริมการบริการ วิชาการจากผลงานวิจัย สู่การถ่ายทอด อมรรัตน์ ปิ่นชัยมูล เท คโ น โ ล ยี แ ล ะ อง ค์ คว า มรู้ เ หล่ า น้ี แ ก่ ผู้ประกอบการท่ีมีความร่วมมือ ณ โรงงานแป้ง ขนมจีนนวลจันทร์ตราเทวดา อาเภอพาน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นผู้ผลิต และ จาหน่าย แป้งขนมจีนหมัก โดยทาการผลิตในรูปแบบ ของอุตสาหกรรมครัวเรือนที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่ รุ่นนั้น มีกรรมวิธีการผลิตแบบด้ังเดิม ให้ได้รับ องค์ความรู้ในการจัดการระบบโรงงาน และ การลดเวลาสูญเปล่าจากการทางาน โดยจะ สอดคล้องกับอุปกรณ์ทุ่นแรง ท่ีออกแบบตาม หลักวิศวกรรมทม่ี ีผลต่อลกั ษณะการทางานของ พนักงานท่ีดียิ่งขึ้ นก ว่าเดิม เพื่อให้เพิ่ม ประสิทธิภาพในการทางาน และ เพิ่มผลผลิต ให้มี แ น วโ น้ มท่ี สูงข้ึ นต ามแ นว ทาง ข อ ง ผ้ปู ระกอบการและมหาวทิ ยาลัยตอ่ ไป วัตถุประสงค์  เพ่ือถ่ายทอดเทคโนโลยีงานวิจัยทางด้านนวัตกรรมทางด้านวิศวกรรมท่ีตอบสนองต่อการ เพ่ิมประสิทธิภาพการทางานของกระบวนการผลิตแป้งขนมจีนหมัก และ ลดความสูญ เปลา่ ท่เี กดิ ข้นึ จากการวิธกี ารทางานของพนักงานในกระบวนการผลิตแปง้ ขนมจนี หมกั  เพื่อพัฒนาศักยภาพความรู้ด้านงานวิจัย และ การบริการวิชาการ ให้แก่คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และผปู้ ระกอบการ ใหเ้ กดิ เป็นนวัตกรรมที่สามารถพัฒนาประเทศในอนาคต 52องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

ความหมายของหลักการไคเซน็ ไคเซ็น (Kaizen) หมายถึงการปรับปรุงงานโดยการทางานลดลง และเป็นการปรับปรุงงานอย่าง ต่อเนอื่ งตลอดเวลาในทกุ ๆ ระดับชัน้ ขององคก์ ร นบั แตร่ ะดับผู้บริหารจนถึงระดับปฏิบัติการ ทั้งนี้ การทาไคเซนต์นั้นถือเป็นการเพ่ิมประสิทธิภาพในการทางาน โดยประสิทธิภาพท่ีแท้จริงน้ัน หมายถึง การลดความสูญเปล่าท่ีเกิดขึ้นจากการทางาน ซึ่งจาเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อ แสวงหาวิธีการทางานแบบใหม่ ๆ ท่ีช่วยให้ทางานได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น และ เร็วข้ึน ตลอดจน ประหยัดพลังงานและเวลา นอกจากนี้แล้วยังสามารถทาไคเซนต์โดยการพิจารณากระบวนการ ทางานและใช้หลักการ เลิก-ลด-เปล่ียน ลักษณะ ไคเซนต์ที่ดีคือการแก้ไขปัญหาแบบง่าย ๆ สามารถปฏบิ ตั ิไดท้ นั ทแี ละเริม่ ต้นจากจดุ เล็กๆ ของปญั หากอ่ น ข้นั ตอนการทาไคเซ็น การใช้หลักการไคเซน็ มี 7 ขัน้ ตอน ท่เี ป็นวธิ ีการเชิงระบบ (System approach ) หรือปรัชญาใน การสร้างคุณภาพงานของเดมมิ่ง ที่เรียกว่า PDCA (Plan – Do – Cheek – Action) ที่นาไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นทุกงานทกุ กิจกรรมหรอื ทกุ ระบบการปฏบิ ัตงิ าน ได้แก่ 1. คน้ หาปัญหาและกาหนดหวั ขอ้ แกไ้ ขปัญหา 2. วิเคราะหส์ ภาพปัจจุบนั ของปัญหาเพ่อื รูส้ ถานการณ์ของปัญหา 3. วเิ คราะห์หาสาเหตุ 4. กาหนดวิธกี ารแกไ้ ข สิ่งท่ตี ้องระบคุ อื ทาอะไร อย่างไร เมอื่ ไร อยา่ งไร ใครทา 5. กาหนดผรู้ ับผิดชอบ 6. ลงมือดาเนินการ 7. ตรวจดูผลท่ีไดแ้ ละผลกระทบ 53 องคค์ วามรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การสง่ เสริมประสทิ ธภิ าพการทางานของพนกั งาน โรงงานแป้งขนมจีนด้วยอปุ กรณท์ ่นุ แรงเพ่อื ลดความสูญเปล่าในกระบวนการทางาน อมรรัตน์ ป่นิ ชยั มลู ความสญู เสยี 7 ประการ ความสูญเสีย หมายถึง การสูญเสียทรัพยากรการผลิตท่ีส่งผลกระทบโดยตรง ต่อตน้ ทุน คุณภาพ และ การส่งมอบ โดยส่ิงที่เป็นอาการบ่งบอกให้ทราบว่าจะ เกดิ ความสญู เสยี มี 7 ประการดงั น้ี 1. ความสูญเสียเนื่องจากการผลิตเกินจาเป็น (Overproduction) เพราะ การผลิตสินค้าในปริมาณมากเกินจาเป็นหรือผลิตไว้ล่วงหน้าเป็นเวลานาน มา จากแนวความคิดด้ังเดิมที่ต้องการให้แต่ละกระบวนการผลิต จะต้องผลิต ชิ้นงานออกมาให้มากที่สุดในกระบวนการผลิตเป็นจานวนมากเพื่อให้ต้นทุน การผลิตต่อหน่วยต่าสุดโดยไม่ได้คานึงว่าจะทาให้มีงานระหว่างทา (Work in Process: WIP) จึงทาให้กระบวนการผลิตขาดความยืดหยุ่น หรือเมื่อแต่ละ สถานงี านทีอ่ ยู่ในสายงานการผลติ เดียวกันจาเป็นต้องทางานต่อเน่ืองกันโดยไม่ สามารถผลิตช้ินงานได้อย่างสมดุลก็จะเกิดงานระหว่างทา การผลิตยิ่งมาก กจ็ ะทาใหง้ านระหว่างทาในกระบวนการผลิตมากขึน้ ตามไปด้วย 2. ความสูญเสียเนื่องจากการเก็บวัสดุคงคลัง (Inventory) การซ้ือวัสดุครั้ง ละจานวนมากเพื่อรับประกันว่าจะมีวัสดุสาหรับการผลิตเพียงพอตลอดเวลา หรือการสงั่ ซอื้ วสั ดตุ ามปรมิ าณการสั่งซอื้ ท่ปี ระหยัด (EOQ) หรือส่ังซ้ือวัสดุตาม ปริมาณการส่ังซ้ือที่ประหยัดในกรณีมีส่วนลดด้านราคา จะส่งผลให้มีปริมาณ วสั ดอุ ยู่ในคลงั มากเกนิ ความตอ้ งการใชง้ านอยูเ่ สมอ 3. ความสญู เสียเนื่องจากการขนส่ง (Transportation) การขนส่ง หมายถึง กิจกรรมท่ีทาให้วัสดุแต่ละชนิดภายในโรงงานเกิดการเคล่ือนย้ายเปล่ียนแปลง สถานท่ีเพื่อทาให้การผลิตดาเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ถ้าการบริหารจัดการและ ควบคุมการขนส่งไม่เหมาะสมก็จะทาให้ต้นทุนการขนส่งสูงขึ้น เช่น การขน ถ่ายวัสดุซ้าซ้อน การเลือกเส้นทางการขนส่งไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงต้องควบคุม และลดระยะทางการขนส่งวัสดุให้เหลือน้อยที่สุดเท่าท่ีจาเป็นเพราะการขนส่ง เป็นกิจกรรมท่ีไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และในกรณีน้ีจะไม่พิจารณาการขนส่ง ภายนอกโรงงาน 54องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

4. ความสูญเสียเนื่องจากการเคล่ือนไหว (Motion)การเคลื่อนไหวด้วยท่าทางการ ทางานไม่เหมาะสม เช่น ต้องเอื้อมหยิบของที่อยู่ไกลตัว ก้มตัวยกของหนักที่วางอยู่บนพื้น หรือการทางานกับเคร่ืองมือหรืออุปกรณ์ท่ีมีขนาด น้าหนัก และสัดส่วนที่ไม่เหมาะสมกับ ร่างกายของผู้ปฏิบัติงานเป็นระยะเวลานานจะทาให้เกิดความเมื่อยล้าต่อร่างกาย และยัง เกิดความลา่ ชา้ ในการทางานอกี ดว้ ย 5. ความสูญเสียเนื่องจากการผลิตมากขั้นตอน (Excess Processing) การมีขั้นตอน การผลิตที่มากเกินความจาเป็นหรือกระบวนการผลิตที่มีการทางานซ้ากันหลายข้ันตอน เกินความจาเป็นจะทาให้เกิดความล่าช้าในการผลิตเพราะงานเหล่าน้ันไม่ทาให้เกิด มูลค่าเพิม่ กบั ผลิตภัณฑ์ รวมท้งั กระบวนการผลิตท่ีไม่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีขึ้น เช่น กระบวนการตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งไม่ทาให้เกิดมูลค่าเพิ่มกับผลิตภัณฑ์ ดังนั้นการ ตรวจสอบคณุ ภาพควรจะรวมอยใู่ นกระบวนการผลติ โดยให้พนักงานผลิตเป็นผู้ตรวจสอบ ไปพร้อมกบั การทางานหรอื ขณะคอยเคร่ืองจกั รทางาน 6. ความสูญเสียเนื่องจากการรอคอย (Delay) การรอคอยเกิดจากเคร่ืองจักรหรือ พนักงานหยุดทางานเนอ่ื งจากต้องรอคอยปัจจัยการผลิต เช่น วัตถุดิบ ช้ินส่วน เคร่ืองจักร ขัดข้อง จัดสายงานการผลิตไม่สมดุล การเปลี่ยนรุ่นผลิต เป็นต้น ซ่ึงจะทาให้การผลิต เป็นไปด้วยความลา่ ชา้ ไม่เต็มกาลังการผลติ และการส่งมอบสินคา้ อาจไม่ทนั กาหนด 7. ความสูญเสียเน่ืองจากการผลิตของเสีย (Defects) การค้นหาของเสียหรือปรับปรุง คุณภาพ คือ การตรวจสอบ แต่ไม่สามารถกาจัดสาเหตุของการผลิตของเสียได้ เพียงแต่ เป็นข้ันตอนในการเลือกของเสยี ออกจากกระบวนการผลิตเท่าน้ัน ต้นทุนท่ีเกิดขึ้นจากการ ผลิตของเสียก็ยังคงอยู่ และหากตรวจสอบไม่รัดกุมพอก็อาจมีของเสียหลุดรอดไปถึงมือ ลูกค้า ทาให้ภาพลักษณ์ขององค์กร เสียหาย ขาดความน่าเชื่อถือในคุณภาพ ของสินค้า และเมื่อเกิดของเสียก็จะต้อง นาไปแก้ไขให้มีคุณลักษณะถูกต้องตาม ความต้องการของลูกค้าหรือกาจัดท้ิงทา ให้ตน้ ทนุ การผลติ สูงขึน้ 55 องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

การส่งเสรมิ ประสทิ ธภิ าพการทางานของพนักงาน โรงงานแป้งขนมจนี ดว้ ยอปุ กรณ์ท่นุ แรงเพือ่ ลดความสญู เปลา่ ในกระบวนการทางาน อมรรตั น์ ปิ่นชยั มลู การลดความสูญเสียด้วยหลักการ ECRS หลักการ ECRS เป็นหลักการที่ประกอบด้วย การกาจัด (Eliminate) การรวมกัน (Combine) การจัดใหม่ (Rearrange) และ การทาให้ง่าย (Simplify) ซ่ึงเป็นหลักการง่ายๆ ที่สามารถใช้ใน การเริ่มต้นลดความสูญเปล่าหรือ MUDA ลงได้เป็นอย่างดีในองค์กรธุรกิจทั่วไปจะสามารถแบ่ง รูปแบบของกระบวนการหน่วยงานออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วนของงานโรงงานและส่วน ของงานสนบั สนุน ทง้ั 2 ส่วนน้สี ามารถกอ่ ให้เกดิ ความสญู เปล่าได้ ซ่งึ อธบิ ายเปน็ ตัวอยา่ งได้ดังนี้ ส่วนแรกคือส่วนของงานโรงงาน คือส่วนท่ีเก่ียวข้องโดยตรงกับการผลิตสินค้าของบริษัท การลด ความสูญเปล่าในการผลิตเป็นสิ่งจาเป็นและควรให้ความสาคัญเป็นอย่างมาก เพราะความสูญ เปล่าที่เกิดข้ึนจะหมายถึงต้นทุนของสินค้าท่ีเพ่ิมสูงข้ึน หากสามารถลดความสูญเปล่าลงได้ ก็จะ ส่งผลให้ประหยัดต้นทุนการผลิตลงด้วย ส่วนผลที่ตามมาก็คือมีความสามารถในการแข่งขันกับ คู่แขง่ สงู ข้ึน โดยแนวทางการลด MUDA ลงสามารถทาไดโ้ ดยใชห้ ลกั การ ECRS ดังน้ี การกาจัด (Eliminate) หมายถึง การพิจารณาการทางานปัจจุบันและทาการกาจัดความสูญ เปล่าทง้ั 7 ทพ่ี บในการผลิตออกไป คือการผลิตมากเกินไป การรอคอย การเคล่ือนที่/เคล่ือนย้าย ที่ไม่จาเป็น รวมถึงการทางานที่ไม่เกิดประโยชน์ การเก็บสินค้าที่มากเกินไป การเคลื่อนย้ายที่ไม่ จาเป็น และ ของเสยี การรวมกัน (Combine) สามารถลดการทางานท่ีไม่จาเป็นลงได้ โดยการพิจารณาว่าสามารถ รวมขั้นตอนการทางานให้ลดลงได้หรือไม่ เช่น จากเดิมเคยทา 5 ข้ันตอนก็รวมบางขั้นตอนเข้า ด้วยกัน ทาให้ขั้นตอนท่ีต้องทาลดลงจากเดิม การผลิตก็จะสามารถทาได้เร็วขึ้นและลดการ เคล่ือนทรี่ ะหว่างข้ันตอนลงอกี ดว้ ย เพราะถา้ มีการรวมขั้นตอนกัน การเคล่ือนที่ระหว่างขั้นตอนก็ ลดลง การจัดใหม่ (Rearrange) คือการจัดขั้นตอนการผลิตใหม่เพ่ือให้ลดการเคล่ือนที่ท่ีไม่จาเป็น หรือ การรอคอย เช่นในกระบวนการผลิต หากทาการสลับข้ันตอนท่ี 2 กับ 3 โดยทาขั้นตอนท่ี 3 กอ่ น 2 จะทาให้ระยะทางการเคลือ่ นท่ีลดลง เปน็ ต้น การทาให้ง่าย (Simplify) หมายถึง การปรับปรุงการทางานให้ง่ายและสะดวกขึ้น โดยอาจจะ ออกแบบจ๊ิก (jig) หรือ fixture เข้าช่วยในการทางานเพื่อให้การทางานสะดวกและแม่นยามาก ขึ้น ซึ่งสามารถลดของเสียลงได้ จึงเป็นการลดการเคลื่อนท่ีที่ไม่จาเป็นและลดการทางานท่ีไม่ จาเปน็ 56องค์ความร้สู ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

สาหรับส่วนของงานสนับสนุนน้ัน จะหมายถึง หน่วยงานท่ีไม่ได้มีความ เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการผลิต แต่จะช่วยสนับสนุนการผลิตนั่นเอง ใน ส่วนของการสนับสนุนน้ี งานหลักของส่วนสนับสนุนจะเป็นเรื่องที่เก่ียวกับงาน ด้านเอกสาร และ ข้อมูลเป็นหลัก เพราะจะต้องมีการจัดทาเอกสารหรือการ บันทึกต่างๆ อีกมากมายเพื่อเก็บเป็นข้อมูลในการสอบกลับได้ และ เพื่อ ประโยชน์ในการทางาน ย่ิงหากองค์กรใดมีการนาระบบคุณภาพ ISO 9000 หรือ TS 16949 เข้ามาใช้ด้วยแล้ว ย่ิงไม่ต้องพูดถึงเพราะในข้อกาหนดหลายๆ ข้อของ ISO 9000 และ TS 16949 จะมีข้อบังคับในเรื่องงานการควบคุม เอกสาร และขอ้ มลู อยู่ด้วยแต่ในบรรดาเอกสารที่มีอยู่มากมายเป็นภูเขารอบตัว นี้เหล่านี้ เราอาจจะคิดว่าเป็นเอกสารท่ีมีความจาเป็นในการใช้งาน แต่ไม่แน่ เสมอไปนัก เพราะเอกสารเหล่าน้ันอาจจะมีเอกสารท่ีไม่จาเป็น และเป็น เอกสารที่มีการจัดทาที่ซ้าซ้อนมากมายก็เป็นได้ ซึ่งหากเราไม่ได้เคยมีการให้ ความสาคญั กับเอกสารเหล่านน้ั เลย แต่เดิมเคยมีการใช้งานอย่างไรก็จะยังคงใช้ งานต่อกันมาเร่ือยๆ โดยไม่คิดที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเอกสารเหล่าน้ัน ผลเสีย ของเอกสาร หากมีมากเกินไป ก็จะทาให้วุ่นวายในการเก็บรักษา ส้ินเปลือง พื้นท่ีในการเก็บเอกสาร และสิ้นเปลืองเวลาในการพิจารณาเอกสารและจัดทา เอกสารเหล่าน้ัน นอกจากนี้ยังเป็นการส้ินเปลืองทรัพยากรคือกระดาษโดย เปลา่ ประโยชน์อกี ด้วย ดงั นนั้ เราควรมาเหลียวมองรอบๆ ตัว และเร่ิมทาการลด ปรมิ าณเอกสารลงกันเถอะ ช่วยกันกาจัดเอกสารขยะท่ีไม่มีความจาเป็นออกไป เราสามารถใช้หลักการ ECRS นี้ในการลดเอกสารที่ไม่จาเป็นลงได้กล่าวคือถ้า สามารถลดความสูญเปล่าทั้ง 7 ท่ี เกิดขึ้นได้ จะทาให้โรงงานมี ประสิทธิภาพการผลิตท่ีดีขึ้น ลด ความยุ่งยากและความวุ่นวายใน การผลิตลง ซงึ่ จะส่งผลให้มีต้นทุน การผลิตทล่ี ดลงอย่างแน่นอน 57 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

การส่งเสรมิ ประสิทธิภาพการทางานของพนักงาน โรงงานแป้งขนมจีนดว้ ยอปุ กรณ์ทนุ่ แรงเพอ่ื ลดความสูญเปลา่ ในกระบวนการทางาน อมรรตั น์ ปน่ิ ชยั มลู การปรบั ปรงุ ข้ันตอนการลา้ งข้าว ทาการปรับปรุงประสิทธิภาพการทางานในข้ันตอนการล้างข้าว โดยการออกแบบถังล้างข้าวใหม่ ตามหลักการ ECRS คือ การกาจัด (Eliminate) ในส่วนของการใช้ถังใบเล็กตักข้าวออกจากถังใบ ใหญ่ และการทาให้ง่ายขึ้น (Simplify) ให้สามารถลดการเคลื่อนไหวท่ีไม่จาเป็น ลดการออกแรง ของพนักงาน และทาให้พนกั งานทางานได้งา่ ยขึ้น แสดงดังตอ่ ไปน้ี การนาถังข้าวไปยังบ่อแช่ข้าว การทางานแบบเดิมพนักงานจะใช้แรงในการผลักถังใส่ข้าวท่ีมี น้าหนักมากถึง 150 กิโลกรัม ซึ่งทาให้พนักงานเกิดความเม่ือยล้าจากการทางาน จึงทาการ ปรบั ปรุงโดยออกแบบถงั ลา้ งข้าวให้มลี ้อ สามารถเคล่ือนย้ายถงั ล้างข้าวไดง้ ่ายข้นึ การนาข้าวออกจากถังลงไปในบอ่ แชข่ ้าว วิธีการทางานแบบเดิมพนักงานจะใช้ถังใบเล็กเพ่ือตัก ข้าวออกจากถงั ลา้ งประมาณ 11 คร้งั ตอ่ ถงั ใชเ้ วลา 40 วนิ าที/ถงั ซ่ึงจะทาให้เกิดการสูญเสียเวลา ในการทางาน และ ทาให้พนักงานเกิดความเม่ือยล้าจากการทางานซ้าๆ เป็นระยะเวลานาน จึง ทาการปรับปรุงให้ถังลา้ งข้าวสามารถเทขา้ วออกจากถงั ไดใ้ นครงั้ เดยี ว ใชเ้ วลา 8 วนิ าท/ี ถัง การปรับปรุงข้ันตอนการบรรจแุ ละชั่งน้าหนัก ทาการหาแนวทางในการปรับปรุงเพ่ือลดความสูญเปล่าท่ีเกิดข้ึนในขั้นตอนการบรรจุและช่ัง น้าหนักของกระบวนการทาแปง้ ขนมจีนหมักโดยใช้หลักการ ECRS ได้แก่ การกาจัด (Eliminate) คือ การขจัดงานท่ีไม่จาเป็นออก ลดระยะทางการขนส่ง และการทาให้ง่ายขึ้น (Simplify) โดย แสดงกิจกรรมของข้นั การทางานหลงั ปรบั ปรุง ดงั ต่อไปน้ี วิธีการขนยา้ ยแป้งโดยใช้รถเข็น จากเดิมทาการขนย้ายแป้ง 2 รอบ เนื่องจากรถเข็นไม่สามารถ บรรจแุ ปง้ ได้หมดภายในคร้งั เดียว ใช้เวลาในการทางานท้ังหมด 18 วินาที จึงทาการขจัดงานที่ไม่ จาเป็นออก และลดระยะทางการขนส่ง โดยทาการออกแบบและสร้างรถเข็นข้ึนมาใหม่ให้มีขนาด ใหญก่ วา่ เดมิ สามารถบรรจแุ ป้งได้หมดภายในครงั้ เดียว ไม่ตอ้ งเสียเวลาในการขนย้ายแป้ง 2 รอบ ใช้เวลาในการทางาน 6 วินาที วิธีการย้ายถุงแป้งที่บรรจุและช่ังน้าหนักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปยังจุดรอจาหน่ายโดยพนักงาน จะทายกถุงแป้งแล้วบิดเอี้ยวลาตัวเพ่ือที่จะนาถุงแป้งไว้ท่ีจุดรอจาหน่าย ถุงแป้งมีน้าหนัก ถุงละ 10 กิโลกรัม ใช้เวลาในการทางาน 3 วินาที จึงปรับปรุงให้การทางานง่ายขึ้น โดยออกแบบและ สร้างลกู กล้งิ (Roller) ลาเลียงถงุ แปง้ ไปยังจุดรอจาหนา่ ย ใช้เวลาในการทางาน 2 วนิ าที 58องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

59 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การสง่ เสริมประสทิ ธภิ าพการทางานของพนกั งาน โรงงานแปง้ ขนมจีนดว้ ยอปุ กรณ์ทุน่ แรงเพ่ือลดความสูญเปล่าในกระบวนการทางาน อมรรัตน์ ปิน่ ชัยมลู สอบถามขอ้ มูลเพ่มิ เติม อมรรตั น์ ป่ินชัยมลู คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา เชยี งราย โทรศพั ท์ : 0-5372-3979 60องคค์ วามร้สู ่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

61 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การเพ่ิมประสิทธภิ าพกระบวนการ ฝานเปลอื กมะพร้าวน้าหอมดว้ ยเคร่อื งฝานแบบ กง่ึ อตั โนมัติ 62องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพกระบวนการฝานเปลือกมะพรา้ วนา้ หอมด้วยเคร่อื งฝานแบบกึง่ อัตโนมตั ิ ณฐั พล ศริ ริ กั ษ์ ความเปน็ มา มะพรา้ วน้าหอม เปน็ พืชสาคญั ท่ีมอี นาคตในด้านการส่งออก และแปรรูปในอุตสาหกรรม เครอ่ื งดื่มมากยงิ่ ข้ึน จนทาให้การเพาะปลูกมะพร้าวน้าหอมของเกษตรกรมีความขยายตัว มากขึ้นโดยเฉพาะ ในเขตพ้ืนที่ภาคเหนือที่กาลังนิยมทาเป็นรายได้เสริมทดแทนการปลูก พืชเศรษฐกิจตัวอ่ืน ท้ังราคาของมะพร้าวน้าหอมในปัจจุบันน้ีมีราคาตกลูกละ 25-30 บาท ปรับข้ึนจากเดิมราคาลูกละ 15-20 บาท จึงทาให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่กาลังได้รับ ความนิยมมากขึ้น แต่เป็นท่ีทราบกันดีว่ากว่าจะรับประทานน้ามะพร้าว เนื้อมะพร้าว จะต้องทาการฝานเปลือกมะพร้าวออกด้วยมีดในการฝานออกด้วยแรงคน จึงทาให้เกิด ความยุ่งยากในการบริโภค เกิดความเมื่อยล้ากับคนงานในการฝานและผลที่ได้ทาให้ ปริมาณมะพร้าวฝานสาเร็จรูปไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค เกิดของเสียจาก การฝานด้วยแรงคน จึงทาให้ผู้ประกอบการมะพรา้ วน้าหอมฝาน ต้องการคิดหาวิธีในการ เพ่มิ กระบวนการผลติ มะพรา้ วน้าหอมฝานสดด้วยการหาเคร่ืองจักร ท่ีช่วยทุ่นแรงงานคน และเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการการทางานเพ่ือลดความสูญเสียที่เกิดจากการ ทางานแบบเดิม 63 องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

ส า ข า วิ ศ ว ก ร ร ม อุ ต ส า ห ก า ร ค ณ ะ หวั หนา้ โครงการ วิศวกรรมศาสตร์ จึงได้สร้างเครื่องฝานเปลือก มะพร้าวนา้ หอมขึ้น โดยใชห้ ลกั การกลงึ และยัง ณัฐพล ศิรริ กั ษ์ ได้ทาการทดลองฝานเปลือกมะพร้าวน้าหอม ด้วยเครื่องท่ีสร้างขึ้น โดยในเร่ิมแรก ได้นา เครอ่ื งไปทดลองฝานเปลือกมะพร้าว ณ ร้านใบ หยกตลาดนาสวัสด์ิ ซ่ึงเป็นร้านท่ีฝานเปลือก มะพร้าวเพ่ือจาหน่าย ผลการทดลองเป็นที่พึง พอใจท้ังผู้สร้างและร้านใบหยก ประกอบกับ ทางสาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มีแนวคิด ส่งเสริมการบริการวิชาการจากผลงานวิจัย สู่ การถ่ายทอดเทคโนโลยี แก่ผู้ค้าปลีกมะพร้าว น้าหอม รวมถึงประชาชนที่สนใจ และสถาน ประกอบการร้านใบหยกมะพร้าวน้าหอม ณ อ.เมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นผู้ผลิตและ จาหน่ายมะพรา้ วนา้ หอมผลสดแบบฝานเปลือก โ ด ย เ ค ร่ื อ ง ฝ า น เ ป ลื อ ก ม ะ พ ร้ า ว น้ า ห อ ม ที่ ออกแบบน้ี ได้เพ่ิมประสิทธิภาพในการฝาน เปลือกมะพร้าวให้มีความรวดเร็วมากย่ิงข้ึน เพื่อให้ผู้ประกอบการ ตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าและเพ่ิมผลกาไรได้ในเชิงพาณิชย์ ตอ่ ไปในอนาคต วตั ถุประสงค์  เพือ่ ถ่ายทอดเทคโนโลยีงานวิจัยทางด้านนวตั กรรมทางดา้ นวิศวกรรมท่ีตอบสนองตอ่ การ เพ่มิ ผลผลิตสาหรบั การฝานเปลอื กมะพร้าวน้าหอมเพ่ือเพิม่ ประสิทธิภาพในการทางานท่ี สามารถเพิ่มผลกาไรในเชงิ พาณิชย์  เพื่อพัฒนาศักยภาพความรดู้ ้านงานวจิ ยั และการบริการวิชาการ ให้แก่ คณาจารย์ ผูป้ ระกอบการ รวมถึงผทู้ ่ีมีความสนใจ ให้เกดิ เป็นนวัตกรรมทีส่ ามารถพฒั นาประเทศใน อนาคต 64องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

สว่ นประกอบของเคร่อื งฝานเปลอื กมะพร้าว เครื่องฝานเปลือกมะพร้าว เครื่องเหลาเปลือกมะพร้าว เครื่องปอกมะพร้าว มี หลกั การทางานคล้ายกบั กบเหลาดนิ สอ ส่วนประกอบไดแ้ ก่ 1. มอเตอร์ไฟฟ้า มอเตอร์บรรจุอยู่ภายในตัวเคร่ืองเหลามะพร้าว เม่ือเปิด การทางานของมอเตอรก์ ็จะทาใหฐ้ านเหล็กสาหรับการเหลาหมุน 2. คันโยกกดหมวกมะพร้าว เม่ือผู้ใช้กดคันโยกลงสวมบนมะพร้าว ก็จะทา หน้าท่เี ปน็ เสมอื นใบมดี กบเหลา 3. ใบมีดตดั ข้วั มะพรา้ ว เมื่อผู้ใชด้ นั ใบมีดออก ก็จะชว่ ยตดั ตน้ ขว้ั มะพรา้ วได้ อย่างงา่ ยดาย 4. คันโยกฝานเปลอื กมะพรา้ ว เม่ือผู้ใช้โยกคันโยก ก็จะทาหน้าที่ฝานเปลือก ดา้ นข้างของมะพร้าว 65 องคค์ วามรสู้ ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพกระบวนการฝานเปลอื กมะพรา้ วนา้ หอมดว้ ยเคร่ืองฝานแบบกง่ึ อัตโนมตั ิ ณัฐพล ศริ ิรกั ษ์ ฐานเหลก็ เสียบขั้วมะพร้าว คนั โยกสาหรับชว่ ยกดตวั เหลา ใบมีดตดั ขั้วมะพรา้ ว คันโยกฝานดา้ นข้างของ มะพร้าว 66องคค์ วามรสู้ ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

วธิ ใี ช้เคร่ืองฝานเปลอื กมะพร้าว โดยปกติ บริเวณที่เป็นขั้วมะพร้าว เรียกกันว่า \"หัวมะพร้าว\" เป็นส่วนท่ีจะต้อง ตัดออก สาหรับบริเวณ “ก้นมะพร้าว” เป็นส่วนท่ีจะต้องเหลาให้แหลม และ บรเิ วณ “ผวิ มะพรา้ วด้านขา้ ง” เปน็ สว่ นทจ่ี ะต้องฝฝานเปลอื กออก ข้ันตอนการใชง้ านเคร่ืองฝานเปลือกมะพร้าว มีดังน้ี ขั้นท่ี 1 นาลูกมะพร้าววางต้ังบนเครื่อง โดยหันข้ัวของมะพร้าวลงวางลงบน ตะปู และกดลงไป ข้ันท่ี 2 โยกกา้ นบงั คบั กดลงมาเพื่อสวมหมวกให้มะพร้าว จากน้ันใช้เท้าเหยียบ ปุ่มเปดิ เครอ่ื ง เพื่อให้ลกู มะพร้าวหมนุ 67 องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การเพิ่มประสทิ ธภิ าพกระบวนการฝานเปลอื กมะพรา้ วนา้ หอมดว้ ยเคร่ืองฝานแบบก่ึงอัตโนมตั ิ ณัฐพล ศิรริ ักษ์ ขั้นที่ 3 ออกแรงโยกกา้ นบงั คับกดลงมา เพื่อเฉือนผิวด้านบนของมะพร้าวให้เป็นมมุ แหลม ขนั้ ที่ 4 ระหวา่ งทเ่ี ครื่องกาลงั หมุน ให้โยกคนั บงั คับเพื่อฝานเปลือกดา้ นขา้ ง ขนั้ ท่ี 5 เลอื่ นใบมดี ตดั เฉือนก้นมะพรา้ ว 68องคค์ วามรู้สูภ่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

69 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การเพม่ิ ประสิทธิภาพกระบวนการฝานเปลอื กมะพร้าวน้าหอมด้วยเคร่อื งฝานแบบกึง่ อตั โนมัติ ณฐั พล ศิรริ กั ษ์ สอบถามขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ ณัฐพล ศิริรักษ์ คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เชียงราย โทรศัพท์ : 0-5372-3979 70องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

71 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การพัฒนากระบวนการ หยอดสม้ ลิ้ม 72องคค์ วามรูส้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การพัฒนากระบวนการหยอดสม้ ลิ้ม ชยันต์ คาบรรลอื ความเปน็ มา ชุมชนบ้านวังหิน หมู่ 5 ตาบลวังหิน อาเภอเมือง จังหวัดตาก ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ เกษตรกรรม เช่น การทานา ทาไร่และทาสวน ซึ่งผลผลิตท่ีได้จากการทาเกษตรมีจานวน มาก ต่อมาเกษตรกรจึงได้มีแนวคิดท่ีจะนาผลผลิตที่เหลือจากความต้องการของตลาดมา แปรรูปเพ่ือเป็นการถนอมอาหาร เช่น การดอง การแช่อิ่ม การฉาบ การกวน การอบ ซึ่ง การถนอมอาหารโดยการแปรรูปต่างๆ ชุมชนบ้านวังหินจึงได้จัดต้ังกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ทิพยศ์ ิลาเพอ่ื ผลิตมะม่วงกวนหรือเรียกอีกอย่างว่าส้มลิ้ม ขายเป็นรายได้เสริมให้กับชุมชน (รหัส OTOP 653010056 ระดับ 4 ดาว) และส่งจาหน่ายภายในจังหวัดตากและ ตา่ งจังหวัด 73 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

อย่างไรก็ตาม กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรทิพย์ศิลา หัวหน้าโครงการ ใช้ระยะเวลาในกระบวนการหยอดส้มล้ิม เป็น เวลาค่อนข้างนาน โดยการใช้ช้อนตักเน้ือ ชยนั ต์ คาบรรลือ มะม่วงที่กวน หยอดลงบนแผ่นพลาสติกใสให้ เป็นก้อนๆ ทาให้ส้มล้ิมมีขนาดไม่เท่ากัน และ ใช้เวลาในการทางานมาก เกิดความเมื่อยล้า คณาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา จึงได้มีแนวคิดในการถ่ายทอด เทคโนโลยี โดยประยุกต์กับหลักการไคเซน และหลักการ 4M (Man Machine Material and Method) เพ่ือให้เกิดการระดมสมอง พัฒนา และนามาประยุกต์ใช้ในการจัดทา อุปกรณ์ช่วยในกระบวนการหยอดส้มลิ้ม ทั้ง เป็นเครื่องมือช่วยในการทางานของผู้ท่ีทาการ หยอดส้มลิ้ม ให้ทางานได้ง่ายย่ิงขึ้น และลด เวลาในการผลิตส้มลิ้ม และยังวิเคราะห์การลด เวลาในกระบวนการหยอดส้มลิ้มโดยวิธีด้ังเดิม เปรียบเทยี บกบั กระบวนการหยอดส้มลิ้มโดยใช้ อุปกรณ์ช่วยในการหยอด และเห็นควรให้นา องค์ความรู้ดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อไป ยังกลุ่ม แม่บา้ นเกษตรทิพย์ศิลา อ.เมอื ง จ.ตาก วัตถปุ ระสงค์  เพอื่ ช่วยลดเวลาในกระบวนการหยอดส้มลิม้ ใหก้ ับกลุ่มแม่บา้ นเกษตรทพิ ยศ์ ลิ า  เพื่อใหค้ วามร้หู ลกั การไคเซนในการนามาประยุกตใ์ ชใ้ นการลดเวลาการหยอดส้มล้มิ ทางานไดส้ ะดวกและรวดเร็ว  เพ่อื ลดความเม่ือยล้าของผู้ท่ที าการหยอดส้มลมิ้ ได้ 74องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

หลกั การออกแบบผลิตภณั ฑ์ การออกแบบ หมายถึง การรู้จักวางแผนจดั ตัง้ ขั้นตอน และร้จู ักเลอื กใชว้ สั ดุ วิธกี ารเพื่อทาตามท่ีตอ้ งการน้ัน โดยใหส้ อดคล้องกับลกั ษณะรปู แบบและ คุณสมบตั ขิ องวสั ดุแตล่ ะชนิดตามความคดิ สร้างสรรค์ และการสร้างสรรค์ส่งิ ใหม่ขน้ึ มา ทั้งนีก้ ารออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design) ท่ขี อรบั สิทธิบัตรได้ ตอ้ ง ประกอบดว้ ยลกั ษณะ 2 ประการ คือ 1. ตอ้ งเปน็ การออกแบบผลติ ภณั ฑใ์ หม่ 2. ต้องเป็นการออกแบบผลติ ภัณฑเ์ พ่อื อตุ สาหกรรมหรือหตั ถกรรมการ ออกแบบผลิตภณั ฑท์ ใ่ี หม่ การออกแบบมกี ารใช้ความคิดเชงิ สรา้ งสรรค์ 4 ลกั ษณะ ได้แก่ 1. ความคดิ รเิ ร่ิม 2. ความคล่องในการคิด 3. ความยดื หย่นุ ในการคิด 4. ความคิดละเอียดลออ ปจั จยั ที่เกยี่ วกบั การออกแบบผลิตภัณฑท์ ่ีเกี่ยวขอ้ ง 4 ประการ คือ 1. การออกแบบผลติ ภัณฑ์ทส่ี ัมพนั ธ์กบั คุณภาพของผลิตภณั ฑ์ 2. การออกแบบที่สมั พนั ธ์กับวัสดุและกระบวนการผลิต 3. การออกแบบท่ีสัมพันธ์กบั ความตอ้ งการของผู้บรโิ ภค 4. การออกแบบทมี่ ีคุณค่าทางความสวยงาม 75 องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

การพฒั นากระบวนการหยอดสม้ ลม้ิ ชยันต์ คาบรรลอื สาหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์น้ัน ต้องคานงึ ถึงหลักการต่างๆ ได้แก่ 1. หนา้ ท่ใี ชส้ อย (Function) 2. ความสวยงามนา่ ใช้ (Aesthetics or sales appeal) 3. ความสะดวกสบายในการใช้ (Ergonomics) 4. ความปลอดภัย (Safety) 5. ความแขง็ แรง (Construction) 6. ราคา (Cost) 7. วัสดุ (Materials) 8. กรรมวิธกี ารผลติ (Production) 9. การบารุงรักษาและซ่อมแซม (Maintenance) 10. การขนส่ง (Transportation) นอกจากน้ี แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตอ้ งคานึงถึง 1. สแี ละรูปแบบของฉลากและตราสินค้า 2. รปู ร่าง รูปทรง ขนาด และรูปลกั ษณ์ของผลติ ภัณฑ์ 3. รปู แบบ ความสวยงาม ความสะดวก และการขนยา้ ยเคลอื่ นทข่ี องบรรจุ ภณั ฑ์ อย่างไรก็ตาม การพฒั นาบรรจุภณั ฑ์มักประสบปัญหาและอปุ สรรค ตา่ งๆ ได้แก่ 1. ปญั หาคน (Man) บคุ ลากรขาดความรู้ การตัดสินใจ จานวนพนักงานไม่ เพยี งพอ 2. ปญั หากระบวนการ (Method) กระบวนการผลิตยงั เปน็ รูปแบบเดมิ ที่ ส้นิ เปลอื งเวลาในการผลติ 3. ปญั หาเครือ่ งจักร (Machine) ขาดเทคโนโลยที ี่ทันสมยั 4. ปัญหาวัสดุ (Material) มรี าคาแพง หายาก ไมเ่ พียงพอต่อความต้องการ 76องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

หลักการไคเซน็ “ไคเซ็น” เป็นเทคนิควิธีอันหน่ึงที่จะช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพและประสิทธิผลใน การทางานขององคก์ ร วา่ “Kaizen” เปน็ ศัพท์ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า การปรับปรุง ซึง่ หากแยกความหมายตามพยางคแ์ ลว้ จะแยกได้ 2 คา คอื “Kai” แปลว่า การเปลยี่ นแปลง (change) “Zen” แปลว่า ดี (good) ดังนนั้ การเปล่ียนแปลงในทางที่ดีก็คือการปรับปรุงน่ันเอง ซ่ึงโดยหลักการแล้ว เป็นการปรับปรุงงานโดยการทางานให้น้อยลง ไคเซ็นเป็นเทคนิควิธีในการ ปรับปรุงงานโดยมุ่งเน้นที่จะลดข้ันตอนในการทางานลง เพ่ือให้ได้ทั้ง ประสิทธิภาพและประสิทธิผลท่ีสูงขึ้นและมุ่งปรับปรุงในทุกๆ ด้านขององค์กร เพือ่ ยกระดับชีวติ การทางานของผู้ปฏบิ ัติงานใหส้ งู ขึน้ ตลอดเวลา กล่าวคือ การปรับปรุงสมัยเก่า มักจะเน้นแต่การปรับปรุงใหญ่ ๆ ท่ีต้องลงทุน เป็นหลัก หรือต้องผ่านงานวิจัยและพัฒนา (R&D: Research & Develop- ment) เชน่ ใชเ้ ทคโนโลยใี หม่ เครื่องไม้เครอ่ื งมอื ใหม่ กระบวนการแบบใหม่ ซึ่ง การปรับปรุงลักษณะนี้ก็คือ “Innovation” หรือ “นวัตกรรม” และมักเป็น ภารกิจของระดับบริหารหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่วนพนักงานท่ัวไปก็เป็น เพียงผู้ท่ี “คอยรักษาสภาพ” ให้เป็นไปตามท่ีหัวหน้ากาหนดไว้ไม่ค่อยมีส่วน ร่วมในการปรบั ปรงุ มากนกั แต่ในความเปน็ จริง การรักษาสภาพก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสภาพทด่ี มี ักจะคอ่ ยๆ ลดลง และจะกลับมาดขี นึ้ เม่ือเกิด Innovation ใน คร้ังถัดไป 77 องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การพัฒนากระบวนการหยอดสม้ ลิ้ม ชยันต์ คาบรรลอื หลกั ในการเร่มิ ต้นแนวคิดไคเซน (Kaizen) ประกอบด้วย ดงั นี้ 1. ความคิดสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์มากสาหรับการแก้ไขปัญหา บางครั้ง หากว่าเราแก้ไขปัญหาโดยใช้หลักเหตุผลธรรมดาซ่ึงเป็นการแก้ไขปัญหา แบบตรงๆ หนทางแก้ไขอาจจะมีราคาแพงไม่คุ้มค่าและอาจจะไม่ได้ผลก็ เป็นได้ 2. ใชห้ ลัก “เลิก-ลด-เปลี่ยน” การทาไคเซนเพ่ือปรับปรุงงานวิธีหนึ่งคือใช้ หลักการ “เลกิ -ลด-เปล่ียน” ดงั ตอ่ ไปนี้ การเลกิ หมายถงึ การวิเคราะห์ว่าขนั้ ตอนการทางานหรือสิ่งทเ่ี ปน็ อยู่ บางอย่างนั้นสามารถท่จี ะตัดออกไปได้หรือไม่ โดยพิจารณาจากความจาเป็น การลด หมายถงึ การพิจารณาว่าในการทางานน้นั มีกิจกรรมใดบา้ งท่ีต้อง กระทาซา้ ๆ กนั ไปมา หากว่าเราไมส่ ามารถยกเลิกกจิ กรรมนน้ั ออกได้ ก็ตอ้ ง พยายามลดจานวนคร้งั ในการกระทา เพ่ือจะได้ไมต่ ้องทางานแบบซา้ ๆ กนั โดยที่ไมเ่ กดิ ประโยชนอ์ ันใด การเปลยี่ น หมายถึง หากเราพิจารณาแลว้ วา่ ไมส่ ามารถเลกิ และลด กจิ กรรมใดได้แล้ว เราก็อาจจะเปลีย่ นแปลงได้ โดยการเปล่ียนวิธีการทางาน เปลีย่ นวัสดุ เปลย่ี นทิศทาง หรือเปล่ยี นองคป์ ระกอบ เปน็ ตน้ 78องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

การประยุกตแ์ นวคิดไคเซน็ การแข่งขันทางธรุ กิจ เปน็ ปัจจัยสาคัญในการผลักดันให้ผู้บริหารต้องสร้างสรรค์ กลยุทธ์ในการบริหารงานอยู่เสมอ การบริหารเชิงกลยุทธ์ในรูปแบบของไคเซน จึงถูกนามาใช้อย่างแพร่หลายในธุรกิจ เนื่องจากสามารถทาได้ง่าย ช่วยลด ต้นทุนในการบริหารจัดการงาน แต่อย่างไรก็ตาม การนาหลักการไคเซ็นมาใช้ ในองค์กรให้ประสบผลสาเรจ็ น้ัน ผบู้ รหิ ารจะตอ้ งมีบทบาท ดงั นี้ 1. เป็นผู้นาและริเริ่มการเปลี่ยนแปลงด้วยไคเซ็น โดยการประกาศ แถลง เป็นนโยบาย การดาเนินการอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง เพื่อให้องค์กร เข้าใจวตั ถปุ ระสงค์ของการเปลี่ยนแปลงนี้ 2. เป็นประธานในการนาเสนอผลงานความคิดของพนักงานในองค์กร โดย ต้องมีเวทีให้นาเสนอผลงาน สร้างการมีส่วนร่วมให้พนักงานคิดกันเอง เชน่ การจัดประกวด ความคดิ (Idea Contest) 3. นาเสนอรางวลั และให้คารับรอง เพ่ือให้เกิดการยอมรบั (Recognition) 4. มีการติดตามการดาเนินการอย่างสม่าเสมอโดยใช้หลัก Visualization เชน่ Visual Board ตา่ งๆ การปรับปรุงอย่างต่อเน่ืองตามแนวคิดของไคเซ็น นอกจากจะทาให้เกิดผลิต ภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยส่งเสริมศักยภาพในการปฏิบัติงาน ช่วยให้ธุรกิจสามารถ เติบโตภายใตก้ ารแข่งขันที่รนุ แรงได้เป็นอย่างดี 79 องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การพฒั นากระบวนการหยอดสม้ ลิ้ม ชยันต์ คาบรรลอื การประยุกต์แนวคดิ ไคเซน็ ระดมสมองและความคิดร่วมกัน โดยใช้หลักการง่ายๆ เพ่ือแก้ไข โดยไม่ต้องใชต้ น้ ทุนสงู พัฒนาบรรจุภัณฑ์ สลาก และตราสินค้า ให้ทันสมยั สวยงามยิ่งขนึ้ พัฒนากระบวนการผลิตให้เป็น มาต รฐานยิ่งข้ึน ด้ วยก ารใช้ แม่พิมพ์ แทนที่วิธีเก่า ท่ีต้อง หยอดส้มล้ิมทลี ะชิน้ นาส้มลิ้มไปตากในท่ีมิดชิด เพื่อให้สะอาด ถูกสุขอนามัย แทนที่การวิธีตากแบบเก่า ซงึ่ อาจมีแมลงมาตอมสม้ ลิ้มได้ 80องค์ความรู้สภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

81 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การพัฒนากระบวนการหยอดสม้ ล้มิ ชยนั ต์ คาบรรลอื สอบถามขอ้ มูลเพิ่มเติม ชยันต์ คาบรรลอื คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา ตาก โทรศพั ท์ : 0-5551-5900-5 82องค์ความร้สู ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

83 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การส่งเสริมอาชพี ช่างเชอ่ื ม ให้แกช่ ุมชน 84องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การสง่ เสริมอาชีพช่างเชอ่ื มใหแ้ ก่ชมุ ชน นพรตั น์ เตชะพันธ์รตั นกลุ ความเป็นมา งานเช่ือม เป็นอีกสายงานท่ีมุ่งเน้นในการลงมือปฏิบัติซึ่งก่อให้เกิดงานมากมาย โดยจะ เห็นได้ว่าในปัจจุบันมุมมองของคนท่ีจะมาทางานสายงานเชื่อม จะมองเข้ามาโดยคิดว่า เป็นงานท่ีหนัก งานท่ีเหน่ือย ต้องอยู่กับความร้อน ต้องอยู่กับความสกปรก ซึ่งเป็น ต้นทนุ ในการทท่ี าใหผ้ ้คู นไม่อยากมาเรียนหรือทางานในทางดา้ นงานเชื่อม ซึ่งจริงๆ แล้ว นั้น ถา้ ผคู้ นได้เข้ามาร้ใู นศาสตรข์ องงานเช่ือม จะพบได้ว่า มีหลายแขนงงานที่สามารถ สร้างรายได้ท่ดี ีข้นึ และ เกดิ ความม่ันคงในชวี ิต เช่น งานเช่ือมเหล็กดัด เม่ือทุก ๆ คน ต้องการความปลอดภัยทั้งทางร่างกาย ชีวิต ทรัพย์สิน จึงเกิดแนวทางในการออกแบบ ป้องกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัย งานเหล็กดัดก็เป็นส่วนหน่ึงท่ีจะช่วยสร้างความ เชื่อมั่นให้กับผู้คนเม่ือเข้าพักอาศัยในบ้านเรือนสถานที่ต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ทั้งน้ีเมื่อมองเรื่องความปลอดภัยแล้วนั้นถ้าเราจะเพ่ิมมูลค่าในตัวของเหล็กดัด เรา สามารถออก แบบลวดลายให้ทันสมัย มีไอเดียในการสร้างสรรค์ ให้งานเหล็กดัด ออกมาดูทนั สมยั และตอบโจทยส์ าหรบั ผใู้ ช้งาน 85 องคค์ วามรสู้ ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

จากผลงานการวิจัย “การพัฒนาทักษะวิชาชีพด้าน หัวหนา้ โครงการ ช่างเช่ือม โดยบูรณาการการเรียนการสอน บริการ วิชาการและการวจิ ยั กรณีศึกษา : โรงเรียนบ้านแม่ นพรัตน์ เตชะพนั ธ์รัตนกุล ปั๋ง ตาบลแม่ปั๋ง อาเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่” คณะผู้วิจัยได้หลักสูตรในการฝึกอบรม ซึ่ง ประกอบด้วย เนื้อหาภาคทฤษฎี (ประกอบด้วย ความปลอดภัยในงานเชื่อมไฟฟ้า องค์ประกอบ ของการเชื่อมไฟฟ้า เทคนิคการเช่ือมไฟฟ้า และ หลักการตาแหน่งที่เช่ือมและท่าเชื่อม) รวมท้ัง เนื้อหาภาคปฏิบัติท่ีเก่ียวกับงานเช่ือมเบ้ืองต้น (ประกอบด้วย การเชื่อมจุด การเริ่มต้นอาร์ค และ ควบคุมแนวเชื่อมท่าราบ การเชื่อมเดินรอยเช่ือม ยาวส่ายและไม่ส่ายลวดเชื่อม การเชื่อมต่อชนท่า ราบ การเชื่อมต่อเกยท่าราบ การเชื่อมต่อมุมท่า ราบ และ การเชื่อมต่อตัวทีท่าราบ) และ จากการ ขาดแคลนแรงงานด้านช่างเชื่อมท่ีมีฝีมือ ทาง คณะผู้วิจัย เห็นว่าควรมีการนาหลักสูตรฝึกอบรม ทักษะวิชาชีพด้านช่างเชื่อมที่ได้จัดทาไว้ มาพัฒนา เพื่อใช้ฝึกอบรมให้แก่ผู้ที่สนใจด้านงานเชื่อม เพื่อ เป็นการเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ ความเช่ียวชาญ ทางด้านการเช่ือม ตลอดจนนาทักษะการเชื่อมที่ ได้รับไปเป็นพ้ืนฐานในการประกอบอาชีพ โดย อาศัยการบูรณาการการเรียนการสอนสาหรับ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา รวมถึงการบริการ วิชาการสชู่ ุมชน วตั ถปุ ระสงค์  เพอื่ เพิ่มพูนทกั ษะ ทางดา้ นการเชอื่ มให้กับผทู้ ีส่ นใจ  เพือ่ สง่ เสริมอาชีพช่างเชอื่ มให้แกช่ ุมชน 86องค์ความรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

ขน้ั ตอนและการสร้างสรรคง์ านเชื่อมเหล็กดดั จัดเตรียมเคร่ืองมือและอุปกรณ์ วัดขนาด ของงานที่จะทาการติดต้ังเหล็กดัด และ ออกแบบลวดลายของเหล็กดัดทีต่ อ้ งการ ตัดเหลก็ ตามขนาดที่ได้ออกแบบไว้ โดย ควรตัดเป็นชุดๆ เพราะงานแต่ละชิ้น จะมขี นาดทไี่ มเ่ ท่ากัน เมอ่ื ได้เหล็กที่ตัด มาแล้วน้ันจึงนามาดัดเหล็กให้เป็นไป ต า ม แ บ บ ด้ ว ย ก า ร ใ ช้ อุ ป ก ร ณ์ จั บ ยึ ด และมือเสือ ช่วยในการดัดแต่งให้ สวยงาม เม่ือได้เหล็กที่ผ่านการดัดแต่งมาแล้ว จึง นามาทาการเชื่อมเหล็กดัดโดยว่างเหล็กดัด บนแบบงานที่ออกแบบไว้ ใช้วิธีการเช่ือมจุด เชื่อมท้ังสองข้างของชิ้นงานทุกๆจุดที่มี รอยต่อระหว่างช้ินงานเพื่อให้เกิดความ แข็งแรง 87 องคค์ วามรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

การสง่ เสริมอาชีพช่างเชื่อมใหแ้ กช่ ุมชน นพรัตน์ เตชะพันธร์ ตั นกลุ ขั้นตอนต่อมาให้นามาทาการทดลองใส่กับ ขนาดขอบงานท่เี ราทาการวัดมาว่าเป็นอย่างไร ถ้ามีปัญหาในเรื่องหลวมหรือคับเกินไปก็ให้ทา การแก้ไขกอ่ นทาข้นั ตอนต่อไป เมอ่ื ไดช้ ้นิ งานทท่ี าการแกไ้ ขให้สมบูรณ์แล้วจึงนาช้ินงานนั้น มาลงสีด้วยวิธีการทาหรือพ่น เพ่ือความสวยงามโดย ขั้นตอนนี้จะต้องทิ้งไว้ให้สีแห้งสนิทก่อนนาไปประกอบ หรอื ตดิ ตง้ั ประกอบชิ้นงานเหล็กดัดเข้ากับบ้านจาลอง ในข้ันตอนนี้ เป็นขั้นตอนสุดท้าย ต้องนาเหล็กดัดเข้าติดตั้ง ด้วยความ ระมดั ระวัง เพ่ือไม่ให้สีช้ินงานน้ันเกิดการชารุดและต้องทา การซอ่ มแซมซงึ่ จะทาใหเ้ กดิ ความไม่สวยงาม เมื่อได้ติดต้ังเสร็จส้ินจะได้งานเหล็กดัดท่ีสมบูรณ์ โดยมีความสวยงามแข็งแรงนอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมอบรมสามารถสร้างงานท่ีมีมูลค่าเพิ่มให้กับงานเหล็กดัดได้ เช่น ออกแบบเป็น ลวดลายต่างๆ อาทิ เช่น โลโก้ ตราสัญลักษณ์ รูปลายเส้นจากเหล็กดัด และอื่นๆ ได้อีก มากมายเพื่อเพ่มิ มูลคา่ งานนนั้ ๆ สรุปได้ว่า งานเช่ือมเหล็กดัดก็เป็นอีกช่องทางหน่ึง ในการ ท่ีสามารถสร้างรายได้ หากเรามีใจรักหม่ันฝึกฝนฝีมือ และมีไอเดียในการต่อยอดงานนั้นๆ จะทาให้เราประสบความสาเร็จไดอ้ ย่างดี 88องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

89 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การสง่ เสรมิ อาชพี ช่างเชื่อมให้แก่ชุมชน นพรตั น์ เตชะพันธ์รตั นกลุ สอบถามขอ้ มูลเพ่มิ เติม นพรัตน์ เตชะพันธร์ ตั นกลุ คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยกี ารเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชยี งใหม่ โทรศัพท์ : 0-5392-1444 90องคค์ วามรูส้ ูภ่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

91 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา

การจัดการการขายสนิ ค้า แบบออนไลน์ 92องค์ความรูส้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

การจดั การการขายสินค้าแบบออนไลน์ ไพรพันธ์ ธนเลิศโศภติ ความเปน็ มา ศูนย์เรียนรู้การใช้ประโยชน์และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญา ท้องถิ่น ตาบลแมท่ า อาเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในศูนย์เรียนรู้ท่ีมีความโดด เด่นด้านวัตถุดิบสมนุ ไพรมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ มีผลิตภัณฑ์ท่ีน่าสนใจ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ เครื่องดื่มเพ่ือสุขภาพ ทั้งรูปแบบชาตารับและชาเด่ียว อาทิ ชามะตูม ชาผักคาวตอง ชาเชียงดา และชาตารับมะรุม ชาตารับคาวตอง ท่ีได้มาตรฐานรับรองจาก อย. และ ผลิตภัณฑ์สบู่จากสมุนไพร ซ่ึงได้ดาเนินการจัดต้ังแล้วเสร็จในปี 2559 และมีความพร้อม ในการให้บริการ ในการเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการใช้ประโยชน์และอนุรักษ์ความ หลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถ่ิน แหล่งจัดแสดง/จาหน่ายผลิตภัณฑ์ แหล่ง ท่องเท่ียว แหล่งประสานความร่วมมือ และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเครือข่าย นักเรียน นักศึกษา ประชาชนท่ัวไป รวมท้ังเป็นศูนย์เรียนรู้ขยายผลไปยังชุมชนอ่ืนๆ กระน้ัน เจ้าหน้าท่ีและสมาชิกของศูนย์ฯ พบว่า มีความต้องการองค์ความรู้และการจัดการสินค้า แบบออนไลน์เป็นอย่างมาก เพื่อประโยชน์ให้แก่เกษตรกร สมาชิกของศูนย์ที่เข้าร่วม โครงการ เพ่อื ที่จะขายและประชาสัมพันธ์สนิ ค้าของศนู ยใ์ หเ้ ป็นทีร่ ู้จักใหแ้ พร่หลาย 93 องคค์ วามรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

คณาจารยค์ ณะบริหารธุรกิจและศิลปศาสตร์จึง หัวหนา้ โครงการ ได้จัดทาโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการ สร้างต้นแบบการขายสินค้าท้องถิ่นของศูนย์ ไพรพนั ธ์ ธนเลศิ โศภิต เรียนรู้การใช้ประโยชน์และอนุรักษ์ความ หลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น เนื่องจากเทคโนโลยีเพื่อการจัดการธุรกิจ และ การสร้างการตลาดของผู้ประกอบการ การขาย สินค้าออนไลน์ยังนับเป็นอีกหน่ึงทางเลือกที่จะ ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้โดยง่าย อีกทั้ง การขายสินค้าออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทอย่าง มาก เพราะเข้าถึง และสะดวกสบาย มี ตัวเลือกให้เปรียบเทียบ ท่ีมากมายหลากหลาย แ ล ะ มี ข้ อ มูล ใ นก าร สืบ ค้น เ พ่ือ นา มา ใ ช้ ประกอบการตัดสินใจได้ดีข้ึน จึงส่งผลให้ ผู้บริโภค ตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการผ่าน ช่องทางออนไลน์รวมท้ังการทางานเพ่ือชุมชน ส่งเสริมให้ชุมชนจาหน่ายสินค้าของตนเองบน ระบบออนไลน์ เปน็ สว่ นหน่ึงของทนุ ทางปัญญา ของทอ้ งถนิ่ อย่างย่งั ยนื วตั ถปุ ระสงค์  เพื่อถา่ ยทอดผลงานทางวิชาการของนกั วิจยั มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนาสู่ เกษตรกร และประชาชนท่ีสนใจ  เพ่อื อบรมและให้ความรู้แก่เกษตรกรใหม้ คี วามรู้ด้านการจัดการสินค้าแบบออนไลน์  เพ่อื สง่ เสรมิ การขายให้แก่เกษตรกรท่เี ป็นสมาชิกศูนย์เรียนรู้การใชป้ ระโยชน์และอนุรกั ษ์ ความหลากหลายทางชวี ภาพและภมู ิปัญญาท้องถ่นิ ตาบลแมท่ า อาเภอแม่ออน จังหวัด เชียงใหม่ 94องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา

ความหมายของ E-Commerce e-Commerce หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือการทา ธุรกิจทางส่ืออิเล็กทรอนิกส์ในเชิงพาณิชย์ ท้ังในระดับองค์กรและระดับส่วน บุคคล บนพื้นฐานของการประมวลและการส่งต่อข้อมูลดิจิทัล ในรูปแบบของ ข้อความ เสียง และภาพ รวมถงึ การขายสนิ คา้ และบรกิ ารด้วยสอื่ อิเลคทรอนิกส์ หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นเน้ือหาข้อมูลแบบดิจิทัลในระบบอินเตอร์เน็ต หรือระบบออนไลน์ เช่น การโอนเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ การซื้อขายหุ้นทาง อิเล็กทรอนิกส์ การประมูลสินค้าออนไลน์ และการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ การใหบ้ ริการหลงั การขาย เปน็ ตน้ ปัจจุบันนั้นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโดยเฉพาะเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ตได้ขยายตัวออกไปกันอย่างแพร่หลาย จากข้อมูลสถิติจานวนผู้ใช้ อินเตอรเ์ นต็ ทว่ั โลก จะเหน็ ได้ว่าปัจจบุ ันนน้ั จานวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตน้ันมีจานวน เพมิ่ ขึ้นอย่างมาก และอีกทง้ั ยังมีอัตราขยายตัวเพิ่มข้ึนอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผล ก่อให้เกิดการเติบโตของการค้าสินค้าและบริการด้วยสื่ออิเลกทรอนิกส์อย่าง กว้างขวาง ดังน้ัน ผู้ประกอบธุรกิจจึงควรต่ืนตัว มีการศึกษาและเตรียมความ พร้อมเพื่อรองรับการนาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการ ป ร ะ ก อ บ ธุ ร กิ จ พ า ณิ ช ย์ อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ แ ล ะ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง เ ข้ า สู่ ยุ ค สงั คมสารสนเทศในปจั จุบัน 95 องค์ความรู้สูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

การจัดการการขายสนิ ค้าแบบออนไลน์ ไพรพันธ์ ธนเลศิ โศภติ ประโยชนข์ อง E-Commerce ประโยชนข์ อง E-Commerce ต่อผปู้ ระกอบการหรอื ผขู้ าย มีดังน้ี 1. เป็นการสร้างและเพิ่มช่องทางการขายและจัดจาหน่ายมากข้ึนจากตลาด ภายในพนื้ ที่สู่ตลาดโลกไดอ้ ยา่ งง่ายดาย 2. เปิดบรกิ ารให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันไมม่ ีวนั ปิด 3. ลดค่าใชจ้ ่ายและตน้ ทใุ นการบรหิ ารและจดั การได้อย่างมหาศาล ทาให้ สามารถปรับเปล่ียนราคาสินคา้ เพ่ือทาการแขง่ ขันไดด้ ขี ึ้น 4. สรา้ งโอกาสให้เกดิ การทาธุรกจิ ในรปู แบบใหมม่ ากมาย 5. เปน็ ชอ่ งทางที่สามารถเข้าถึงกลมุ่ ลูกคา้ ไดโ้ ดยตรงและมีประสทิ ธิภาพ 6. เพ่มิ ความสัมพันธก์ ับลูกคา้ ใหด้ ีขึน้ 7. การใหบ้ ริการหลงั การขาย ให้คาปรกึ ษาเร่ืองผลิตภัณฑ์หรือการแกไ้ ข เบือ้ งตน้ อย่างรวดเร็ว 8. ช่วยทาการวจิ ัยทางการตลาดและการพัฒนาสินคา้ ไดอ้ ย่างรวดเร็ว นอกจากนี้E -Commerce ยังมปี ระโยชน์ตอ่ ผ้บู ริโภคอกี ดว้ ยโดยประโยชน์ของ E-Commerce ตอ่ ผูบ้ รโิ ภคหรอื ผซู้ ือ้ มีดงั น้ี 1. เลือกซ้อื สินคา้ ได้ในราคาถูกกว่าท่วั ไป 2. เลือกซ้อื สนิ คา้ และบริการได้จากรา้ นคา้ ตา่ งๆ จากทั่วทกุ มมุ โลก 3. มีโอกาสเลอื กและสามารถเปรียบเทียบราคาสนิ ค้าได้มากขึ้น 4. ประหยดั เวลาไมต่ ้องเดินทางไปซือ้ สินคา้ ถงึ ท่ี 5. สามารถรบั สินค้าได้ทันที(หากเป็นสนิ ค้าประเภทสื่อดิจติ อล เช่น เพลง โปรแกรม และไม่มีค่าขนสง่ ) 6. สามารถดูขอ้ มูลสินคา้ ไดล้ ะเอียดมากข้ึนจากแหล่งข้อมูลตา่ งๆทั่วโลก 7. ไดร้ บั ความสะดวกในการจัดสง่ เนอ่ื งจากสนิ ค้าส่วนใหญส่ ่งถึงบา้ น 96องค์ความรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา

ข้นั ตอนของ E-Commerce ข้ันตอนของการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) โดยท่ัวไป จะมีข้ันตอน ทง้ั ส้นิ 6 ข้นั ตอน คอื 1. มีความรู้ ความเข้าใจ วัตถุประสงค์ของการใช้งานด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดาเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซ่ึงการใช้ ประโยชน์จากเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีให้เลือกมากมายหลายวิธี ทั้งน้ีขึ้นอยู่ กับความต้องการ และ ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการจัดทาของแต่ละเว็บไซต์ของ ผู้ประกอบการว่าจะมีรูปแบบเป็นอย่างไร ในเบื้องต้น ผู้ประกอบการจึงควรศึกษา ความร้เู กยี่ วกับรูปแบบเวบ็ ไซต์พาณชิ ย์อิเล็กทรอนิกส์แบบต่าง ๆ เพื่อนาไปสู่การวาง แผนการดาเนนิ ในขั้นตอ่ ไป 2. สินค้า – บริการ ที่ขายผ่านทางอินเตอร์เน็ต เม่ือผู้ประกอบการมีความรู้เก่ียวกับ การใช้ประโยชน์จากรูปแบบเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้วนั้น ผู้ประกอบการ จาเป็นต้องทราบถึงคุณลักษณ์ของสินค้าท่ีจะนามาซ้ือขายผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตด้วย โดยทั่วไปน้ันเราสามารถแบ่งสินค้าที่ทาการซ้ือขายผ่านทางสื่ออินเตอร์เน็ตเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ สินค้าดิจิทัล (Digital Goods) สินค้าดิจิทัล คือ สินค้าที่มี ลักษณะเป็นสื่อดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ท่ีมีลักษณะเป็นไฟล์ และยังสามารถส่งผ่าน ช่องทางสือ่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ได้ เช่น เพลง ภาพยนตร์ รูปภาพ เป็นต้น สินค้าจับต้องได้ (Physical Goods) สินค้าจับต้องได้ (Physical Goods) คือ สินค้าท่ีมีลักษณะทาง กายภาพหรือตัวตนท่ีสามารถจับต้องได้ หรือมีน้าหนัก เช่น หนังสือ ดอกไม้ รองเท้า เส้ือผ้า เป็นต้น สินค้าประเภทน้ีเมื่อลูกค้าทาการเลือกซ้ือสินค้าแล้ว ผู้ขายจะต้องส่ง สินค้าผ่านช่องทางการขนส่งต่างๆ เพื่อให้สินค้าน้ันไปถึงมือลูกค้า บริการ (Service) คือ การให้บริการในรูปแบบต่างๆ โดยการให้บริการบางอย่างสามารถ ให้บริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือ ทางเว็บไซต์ได้ เช่น บริการลง ประกาศรูปภาพหรือบริการค้นหา ข้อมลู สินค้า เป็นต้น 97 องค์ความรูส้ ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook