การพัฒนาและการผลติ เฟอรน์ ิเจอร์ สมชาย บญุ พทิ กั ษ์ แนะนาวิธกี ารวัดและเจาะรูเดอื ย เตรียมผา่ เดอื ยไม้ ลองเดอื ยกบั รูเดอื ยเพือ่ ประกอบ ประกอบขากบั ผนงั 148องค์ความรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
ประกอบขากบั ผนัง ประกอบขากับผนังดว้ ยการใชส้ ลกั ไม้ เตรยี มประกอบเข้ากบั พ้ืน ประกอบเข้าพ้ืน 149 องคค์ วามรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การพัฒนาและการผลิตเฟอรน์ ิเจอร์ สมชาย บุญพทิ กั ษ์ ขดั แตง่ เตรยี มเคลือบผวิ ขดั พน้ื ดว้ ยเครือ่ งขัดกระดาษทราย ผสมสโี ป๊เพื่ออดุ รไู ม้ อุดโป๊ ชน้ิ งานดว้ ยเหลก็ โป๊ 150องค์ความร้สู ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
แนะนาวิธกี ารลงแป้งย้อมไม้ ยอ้ มสีไม้ ผสมสเี คลอื บผิวไม้ ทาเคลือบผิวไม้ 151 องคค์ วามร้สู ูภ่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
การพฒั นาและการผลติ เฟอรน์ ิเจอร์ สมชาย บญุ พทิ กั ษ์ 152องค์ความรูส้ ่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
153 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การพัฒนาและการผลิตเฟอร์นิเจอร์ สมชาย บุญพทิ ักษ์ สอบถามข้อมลู เพมิ่ เตมิ สมชาย บญุ พิทักษ์ คณะศิลปศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา ตาก โทรศัพท์ : 0-5551-5900-5 154องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
155 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การตดิ ตงั้ และบารงุ รกั ษา มอเตอร์ป๊ัมน้าเซลลแ์ สงอาทติ ยเ์ พื่อ การเกษตร 156องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
การตดิ ต้ังและบารงุ รักษามอเตอร์ปั๊มนา้ เซลลแ์ สงอาทิตย์เพือ่ การเกษตร บญุ ญฤทธ์ิ วังงอน ความเปน็ มา การสูบนา้ ในชนบทเพอื่ อปุ โภค บริโภค และเพ่อื การเกษตร ถอื ได้ว่าเป็นส่ิงสาคัญและจาเป็น มาก สาหรับประเทศไทย ท้ังน้ีเพื่อตอบสนองความต้องการพ้ืนฐานทางด้านอาหาร น้าดื่ม และเกษตรกรรม ปัจจุบัน เกษตรกรใช้เคร่ืองสูบน้าดีเซลเป็นส่วนใหญ่ มีบางท้องที่ใช้เครื่อง สูบน้าด้วยไฟฟ้า อย่างไรก็ตามในพื้นท่ีท่ีมี ไฟฟ้าใช้ การสูบน้าด้วยไฟฟ้าก็ยังมีข้อจากัด เฉพาะบริเวณท่ีมีสายส่งถึงส่วนบริเวณที่ไม่มีสายส่งถึง ท่ีเป็น บริเวณเพาะปลูกห่างหมู่บ้าน หลายกิโลเมตรและมีความตอ้ งการน้า จะไม่สามารถสูบนา้ ด้วยไฟฟา้ ได้ จาก เหตุผลดังกล่าว รวมท้ังการกระจัดกระจายของหมู่บ้านเกิดใหม่ ซึ่งมักอยู่ห่างไกลสายส่งไฟฟ้า และแนวโน้ม ของราคาน้ามันดีเซลจะเพ่ิมข้ึน ทาให้มีการวิจัยและพัฒนาเพ่ือนาเอาพลังงานทดแทน รูปแบบตา่ ง ๆ มาใช้ใน การสูบน้า เช่นพลงั งานลม พลังงานแสงอาทิตย์ กา๊ ซชีวภาพและก๊าซ สังเคราะห์ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีการ สูบน้าด้วยพลังงานทดแทนดังกล่าวได้รับการพัฒนา จนอยใู่ นระดบั ทส่ี ามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้โดยมีความ คุ้มทุนทางเศรษฐกิจในบางสถานท่ี และบางโอกาส 157 องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ด้ ว ย เ ห ตุ นี้ ใ น โ ค ร ง ก า ร ถ่ า ย ท อ ด ผลงานวิจัย “การติดต้ัง และ ดูแลรักษา มอเตอร์ป๊ัมน้าเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อ ก า ร เ ก ษ ต ร ” นี้ จ ะ ท า ติ ด ต้ั ง แ ล ะ ซ่อมแซมระบบสบู น้าด้วยโซล่าเซลล์ เพ่ือ แก้ไขปัญหาการเกษตรในพื้นท่ีจังหวัด พิษณุโลก ซ่ึงผู้วิจัยได้มีการถ่ายทอด เทคโนโลยีการใช้พลังงาน จากเซลล์แสง อาทิตย์ในการเกษตร และในพื้นท่ี ห่างไกลจากไฟฟ้า เพื่อให้สามารถนาไป ประยกุ ต์ใช้ประโยชน์ไดจ้ ริง หวั หน้าโครงการ บุญญฤทธ์ิ วงั งอน วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ถ่ายทอดองค์ความร้จู ากงานวิจัยต่อยอดจากงานวิจัยให้กบั เกษตรกร ประชาชน และผ้ทู ี่ สนใจนาผลงานวจิ ยั ไปใช้ประโยชนไ์ ด้จรงิ เพ่อื บรู ณาการงานวิจัย กบั การบริการวชิ าการและการเรียนการสอน เพือ่ ให้คาปรึกษาการการติดตัง้ และดูแลรกั ษาปม๊ั นา้ เซลล์แสงอาทติ ยม์ า ทดแทนไฟฟา้ และ พลงั งานเช้อื เพลิงในการเกษตร เพ่ือติดตามผลการถ่ายทอดงานวจิ ยั หลังจากการอบรม ผา่ นผูน้ าชมุ ชนและผู้เขา้ อบรมทนี่ า งานวิจัยท่ไี ด้รับการถา่ ยทอดไปใช้งานจริง 158องค์ความรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
ความรเู้ กี่ยวกับระบบโซล่าเซลล์ 1. แผงโซล่าเซลล์ผลติ ไฟฟา้ จากแสงของดวงอาทิตย์ ไม่ใช่จากความร้อนของแสงอาทิตย์ จะมีประสิทธิภาพที่สุดท่ีอุณหภูมิ 25 องศา(C) และจะลดลงประมาณ 0.5 % ทุก 1 องศาทีเ่ พ่มิ ขึ้น 2. การใช้กระจกเงาสะท้อนแสงเข้าหาโซล่าเซลล์ เพื่อเพิ่มวัตต์ จะทาให้แผงร้อนกว่า ปกติ อายกุ ารใช้งานจะสนั้ ลง (ไกย่ ่างพลังงานแสงอาทิตย์ คือการย่างไก่โดยใช้กระจก เงาหลายๆ แผงช่วยกันสะท้อนแสงเข้าหาไก่ ไม่ถึง 10 นาที ไก่ก็สุก แล้วถ้าเอามา สะท้อนแสงเขา้ แผงโซลา่ เซลล์ วนั หนึ่งต้ังหลายช่ัวโมงแลว้ Cell แผงจะเปน็ อยา่ งไร) 3. โซล่าเซลลช์ นิด อะมอฟสั มอี ายกุ ารใช้งานประมาณ 5 ปี แผงมีขนาดใหญ่ ติดตั้งยาก แตกง่าย แต่ราคาไมส่ ูงมากผลติ โวลท์ได้ดี แตไ่ ดก้ ระแสไฟฟ้าต่า 4. โซล่าเซลล์ ชนิด Mono และ Poly จะมีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี ขนาดแผงไม่ ใหญ่มาก ส่วนมากออกแบบมา ให้คงทนต่อแรงกระแทกและมีกระจกกันความร้อน (จากแสงอาทิตย์) กรอบอะลูมิเนียมแข็งแรง ซีลกันน้าอย่างดี ติดตั้งง่าย ผลิตโวลท์ และกระแสไดด้ ีมาก 5. โปรดระวงั แผงโซล่าเซลลม์ ีหลายเกรดคุณภาพ การซื้อโซล่าเซลล์ในราคาที่ถูกอาจใช้ งานได้ระยะหนึ่งแล้วพัง-เสีย (ซ่ึงจะกลายเป็นของแพงทันที) แต่การซื้อโซล่าเซลล์ คุณภาพ ราคาอาจแพงกว่า แต่ใช้งานได้มากกว่า 20 ปี ลงทุนคร้ังแรกอาจเยอะกว่า จงึ ควรดทู ่ีระยะยาวแล้วคุ้ม 6. แผงโซล่าเซลล์ ที่มขี ายในบ้านเราตอนนี้ สว่ นใหญ่มี 2 ประเภท คอื 1). ประเภทแผงโซล่าเซลล์ 24V คือ แผงเพื่อชาร์ตแบตเตอรี่ 24V จะมีแรงดันไฟ ออก จากแผงไมเ่ กิน 45V 2). แผงโซล่าเซลล์ 12V คือ แผงเพ่ือชาร์ตแบตเตอรี่ 12V จะมีแรงดันไฟออกจาก แผงไมเ่ กนิ 21V ดังนนั้ ในการใช้งานระบบโซล่าเซลล์ท่านควรเลือกอุปกรณ์ที่เข้า กันไดท้ ้งั ระบบ 159 องค์ความร้สู ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การตดิ ตั้งและบารุงรักษามอเตอรป์ ั๊มนา้ เซลล์แสงอาทิตยเ์ พอ่ื การเกษตร บญุ ญฤทธิ์ วงั งอน 7. ไฟฟ้าทุกชนิด มีความต่างจาก Inverter ชนิด Modifier Sine Wave ท่ีแปลงไฟ ออกมาให้ใช้กบั อุปกรณ์ไฟฟ้าไดไ้ ม่กี่ชนดิ เช่นหลอดไฟ ทีวี วิทยุ เคร่ืองชารจ์ ตา่ งๆ 8. แบตเตอร่ีที่เหมาะกับงานด้านไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และหาได้ง่าย ราคาไม่แพง มาก เรียกว่า แบตเตอร่ีชนิดDeep Cycle ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ออกแบบมาสาหรับงาน เกี่ยวกับไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีความต่างจากแบตเตอร่ีรถยนต์ตรงที่สามารถจ่าย กระแสไฟฟา้ ออกมาได้เยอะกวา่ และอายกุ ารใช้งานนานกว่า (ราคาก็แพงกว่าด้วย) แต่ ถ้าหาแบตเตอร่ีชนดิ นีไ้ มไ่ ด้ กส็ ามารถใช้แบตเตอร่รี ถยนตแ์ ทนไดเ้ หมอื นกนั 9. อุปกรณ์ประเภทมอเตอร์ DC ไม่ควรต่อกับแผงโซล่าเซลล์โดยตรง เพราะไฟที่ได้จาก แผงโซล่าเซลล์จะไม่น่ิงจะแปรผันตามความเข้มของแสงแดด ดังนั้น อาจมีบางช่วงท่ี แดดอ่อน กาลังไฟทไี่ ด้จะน้อยกว่าความต้องการของมอเตอร์จนไม่เพียงพอให้มอเตอร์ หมนุ ได้ 10. การพว่ งแผงโซล่าเซลล์เข้าหากัน หากเป็นการพ่วงแบบขนานจะทาให้ กระแสไฟฟ้า (I) รวมของชดุ แผงโซล่าเซลล์เพิม่ ขนึ้ แต่ถ้าเป็นการพว่ งแบบอนกุ รม จะทาใหค้ ่าความต่าง ศักด์ิ (V) รวม ของไฟฟ้าในระบบเพิ่มข้ึน การต่อพ่วงทั้ง 2 กรณี ล้วนทาให้ค่ากาลัง ไฟฟ้า (P) เพมิ่ ข้ึน 11. แผงโซล่าเซลล์ ออกแบบมาเพ่ือเสมือนเป็น เคร่ืองชาร์จแบตเตอร่ี เท่าน้ัน การที่จะนา ไฟฟ้าที่ได้จากการผลิตของแผงไปใช้เลยนั้น จึงมีความยุ่งยากอยู่บ้าง แต่ก็สามารถทา ได้ โดยการสรา้ งระบบควบคมุ กระแสและความดันไฟฟ้าให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ทีจ่ ะนามาตอ่ ใช้งาน 160องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การคานวณในงานโซล่าเซลล์ บ้านหลังหน่ึงต้องใช้ไฟฟ้าท่ีผลิตได้จากเซลล์แสงอาทิตย์ไปใช้กับหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ชนิดมีบัล ลาสตอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์ในตัว จานวน 2 ดวง (18W X 2 ) เป็นเวลา 6 ชั่วโมงต่อวัน, โทรทัศน์สี 21 นิ้ว (120 W) ประมาณ 3 ชว่ั โมงตอ่ วนั มีอปุ กรณ์ดังน้ี เซลล์แสงอาทติ ย์ (Solar cell) ขนาดของแผง = คา่ การใชพ้ ลงั งานรวมทัง้ หมด 5 ช่วั โมง แทนค่า = { ( 1 8 W X 2 ด ว ง ) X 6 ช่ั ว โ ม ง } + { ( 1 2 0 W) X 3 ช่ั ว โ ม ง } 5 ชวั่ โมง = 115.2 W ดังน้ัน ขนาดของเซลล์แสงอาทิตย์ที่ต้องใช้ คือ ขนาด 12V 115.2W แต่คงไม่มีแผงขนาดนี้ ให้ขยับ ไปใช้ 12V 120W เครือ่ งควบคมุ การประจกุ ระแสไฟฟา้ (Charge Controller) จะทาหน้าที่ควบคุมการประจุกระแสไฟฟ้าลงในแบตเตอร่ี จะทาให้ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ได้ ซ่ึงต้องมีขนาดเท่ากับหรือมากกว่า กระแสไฟฟ้า (Amp) ท่ีไหลผ่านจากแผงโซล่าร์เซลล์สู่ แบตเตอรี่ดังนั้น ทั้งน้ีขนาดของเคร่ืองควบคุมการประจุกระแสไฟฟ้า ควรมีขนาดเกินกระแสไฟฟ้า ของแผงโซล่าร์เซลล์ เช่น แผงโซล่าเซลล์ ขนาด 120W 8A ควรใช้ เครื่องควบคุมการ ประจุกระแสไฟฟ้า ขนาด 10 A 161 องคค์ วามร้สู ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
การติดต้ังและบารุงรกั ษามอเตอร์ป๊ัมนา้ เซลล์แสงอาทติ ยเ์ พ่ือการเกษตร บญุ ญฤทธ์ิ วงั งอน แบตเตอร่ี (Battery) จะทาหน้าท่ีเก็บสารองไฟฟา้ ในเวลาท่ีแผงโซลา่ เซลลไ์ ม่สามารถรบั แสงได้ (เวลากลางคนื ) แบตเตอรี่ท่ีเหมาะสมกบั การใชง้ านในระบบเซลลแ์ สงอาทิตย์ ทง้ั นี้ ควรใชแ้ บตเตอรีช่ นิด Deep Cycle แตจ่ ะมีราคาสูง ซึ่งเราสามารถเลอื กใช้กบั แบตเตอรช่ี นดิ อน่ื แทนได้ เช่น แบตเตอรีร่ ถยนต์ หรือ แบตเตอรแ่ี ห้ง (Sealed Lead Acid Battery) ได้ ซึ่งจะมรี าคาถกู กว่า สตู รคานวณ ขนาดกระแส/ช่ัวโมง ของแบตเตอรีส่ ามารถคานวณได้จาก Ah = ค่าพลงั งานรวม [แรงดนั ไฟฟ้าแบตเตอร่ี X 0.6 X 0.85 ] โดย 0.6 = ร้อยละของการใชง้ านกระแสไฟฟา้ ท่ีอยูใ่ นแบตเตอร่ี 0.85 = ประสิทธภิ าพของ Inverter แทนค่า = {( 18W X 2 ดวง) X 6 ชว่ั โมง} + {(120 W) X 3 ชัว่ โมง} [12 โวลต์ X 0.6 X 0.85] = 94.117 Ah ดังนน้ั ขนาดของแบตเตอรท่ี ีใ่ ชจ้ ะเปน็ ขนาด 12 โวลต์ 94.117 Ah หรอื มากกวา่ ฉะนน้ั ควรใช้ ขนาดรุ่น 12 โวลต์ 100Ah หรอื 125Ah เครื่องแปลงไฟฟ้า (Inverter) ไฟฟลอู อเรสเซนตช์ นิดมีบลั ลาสน์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ในตัว จานวน 2 ดวง (18W x 2) เปน็ เวลา 6 ชัว่ โมงต่อวนั และโทรทศั น์สี 21 น้ิว (120 W) ประมาณ 3 ชั่วโมงตอ่ วนั = (18 W X 2 ดวง) + (120 W) = 156 W ดง้ั นน้ั ขนาดของเคร่อื งแปลงกระแสไฟฟา้ ควรมขี นาด 156 W แต่ควรมขี นาดสงู กวา่ สาหรับ ขนาดท่เี หมาะควรใช้ ขนาด 200 W ซึง่ ใช้กับแบตเตอรีข่ นาด 12 โวลต์ โดยสรุปก็คือ บ้านหลงั นี้จะใชอ้ ุปกรณ์ระบบโซล่าเซลล์ ดังตอ่ ไปนี้ 1. แผงโซล่าร์เซลล์ ( Solar Cell Panel ) ขนาด 12V 120W 2. แบตเตอร่ี ( Battery ) ขนาด 12 V 100Ah หรือ 125Ah 3. เครอ่ื งควบคมุ ( Solar Charge Controller ) ขนาด 10A 4. เครอื่ งแปลงไฟ ( Power Inverter ) ขนาด 200W 162องคค์ วามร้สู ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
เทคนิคการติดต้งั และบารงุ รักษาปม้ั นา้ และระบบโซลา่ เซลล์ ควรมีการตรวจสอบระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ระดับครัวเรือน โดยพิจารณาจาก ตาแหน่งของแผงโซลาร์ การเชื่อมต่อของอุปกรณ์ การส่องแผง การทางานของ อินเวอร์เตอร์ แรงดันไฟของแผงโซล่าร์ จุดเชื่อมต่อสายไฟหลังแผงโซล่าร์ ระดับประจุใน แบตเตอร์ร่ี การดูแลรกั ษาแบตเตอร์ร่ี การตรวจสอบสายไฟฟ้า นอกจากนี้ควรตรวจสอบระบบโดยรวยการเชื่อมต่อและตาแหน่งติดตั้งอุปกรณ์ ได้แก่ จุด เชื่อมต่อทุกจุดบนอินเวอร์เตอร์ การแสดงขั้วต่อที่ถูกต้อง ความสะอาด ความแน่นทน ความปลอดภัยจากนา้ ร่วั จากแรงกระแทก และจากเดก็ ๆ และ การระบายอากาศ นอกเหนือจากน้ีแล้ว ยังควรดูแลการติดตั้งและบารุงรักษาเครื่องสูบน้าบาดาลอย่างถี่ถ้วน ควรตรวจสอบมอเตอร์ก่อนทาการติดตั้ง ตรวจดูความคล่องตัวของปั๊ม ความแน่นของการ ขนั ประแจ การป้องกนั การไหลหลบั ของนา้ และความลกึ ในการตดิ ตงั้ สรุปแลว้ จงึ ควรตรวจเชค็ รายการต่างๆ ต่อไปน้ี 1. ขอ้ มูลเฉพาะของบอ่ นา้ บาดาล ชนิดของบอ่ น้าบาดาล เช่น บ่อเปิด บ่อปิด ขนาดของบ่อบาดาล เช่น บ่อ 4 น้ิว, บ่อ 6 นิว้ ความลกึ ของบ่อบาดาล ระดับท่อกรองนา้ ปรมิ าณนา้ ระดับคงท่ี ระดบั น้าลด 2. ขอ้ มลู ของเครอื่ งสบู นา้ คุณสมบตั ิของเครอ่ื งสูบน้า และ วธิ ีการติดตั้ง 3. แรงเคลอื่ นไฟฟ้าที่มีแรงเคลอื่ นไฟฟ้าของเครอ่ื งสูบนา้ 163 องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การติดตงั้ และบารงุ รกั ษามอเตอรป์ ัม๊ นา้ เซลลแ์ สงอาทิตยเ์ พ่ือการเกษตร บญุ ญฤทธ์ิ วงั งอน เทคนิคการติดตั้งและบารุงรักษาปั้มนา้ และระบบโซลา่ เซลล์ 1. ไม่กาหนดตาแหน่งติดตั้งตรงท่อกรองน้า เพราะจะทาให้ตะกอนทราย หรือเศษหินเข้าบ่อน้าบาดาลเน่ืองจากแรงดูดของเครื่องสูบน้า และทา ให้น้าบาดาลไม่ได้ช่วยหล่อเย็นมอเตอร์ไฟฟ้าทาให้อายุการใช้งานของ มอเตอรส์ ้นั ลง 2. เครอื่ งสบู นา้ ทีต่ ิดตั้งกับบ่อน้าบาดาล ควรสูงกว่าท่อกรองน้าไม่น้อยกว่า 3 เมตร 3. ติดต้ังท่ีระดับต่ากว่าระดับสูบน้า (Pumping Water Level) ไม่น้อย กว่า 6 เมตร กระนั้น ถ้าไม่สามารถติดต้ังในข้อกาหนดได้เน่ืองจาก ความลกึ บ่อจากัดหรือระดับนา้ ลกึ จะต้องตดิ ตัง้ อุปกรณ์ช่วยในการหยุด เคร่ืองสูบน้า เม่ือน้าบาดาลแห้ง เช่น อุปกรณ์ตรวจวัดระดับน้า (Float less Controller) หรอื สวิตชน์ ้าไหล (Flow Switch) 4. กรณีบ่อน้าบาดาลมีท่อกรองน้าหลายช่วง หากมีความจาเป็นต้องติดตั้ง ลึกกว่าท่อกรองน้า ต้องติดตั้งระหว่างช่วงของท่อกรองน้าในตาแหน่ง ท่อกรบุ ่อ และหากมีตะกอนทรายข้ึนขณะทาการสูบต้องใช้ท่อครอบตัว เรอื นเครือ่ งสูบนา้ และมอเตอร์ นอกจากจะช่วยลดปริมาณตะกอนทราย เขา้ เครื่องสูบน้าแล้วจะช่วยใหก้ ารหล่อเย็นมอเตอรไ์ ดด้ ขี ึน้ 5. กรณีบ่อท่ีสร้างแบบเปิด (Open Hole) ต้องไม่ติดต้ังในตาแหน่งช่วง หนิ ผุกร่อนเพราะจะทาใหเ้ ศษหินเขา้ เครื่องสูบน้า 6. ระดับสูบน้าตื้นและบ่อน้าบาดาลมีความลึกมากน้ัน ไม่จาเป็นต้องติดตั้ง ในระดับลึกมาก เพราะนอกจากจะเป็นการเพ่ิมแรงดันในท่อส่งน้าแล้ว การถอนและการตดิ ตั้งจะมีความยงุ่ ยาก เพราะน้าหนักเครือ่ งสบู น้ามาก 164องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
ลาดับข้นั ตอนในการติดตงั้ เครื่องสบู นา้ บาดาล (Submersible pump) 1. ตรวจเช็คมอเตอร์ก่อนทาการติดต้ัง สาหรับมอเตอร์ไฟ 1 เฟส เน่ืองจากขดลวดภายใน มอเตอร์จะมีทั้งขดลวดหลักและขดประกอบความต้านทานของขดลวดจะมีค่าไม่เท่ากัน โดยปกตแิ ล้วสายไฟทตี่ อ่ จากตวั มอเตอร์ทาง ผู้ผลติ จะใช้สีแทนขดลวดแต่ละขดดงั นี้ 2. ตรวจสอบป๊ัม ในกรณีป๊ัมใหม่ตรวจสอบดูความคล่องตัว โดยการหมุนแกนเพลาปั๊มว่ามี ส่วนใดติดขัดหรือไม่ ถ้าเป็นป๊ัมเก่าหรือป๊ัมท่ีใช้แล้วก็ตรวจสอบโดยวิธีเดียวกัน แต่ถ้าจะ ให้ดีควรถอดปั๊ม ออกแล้วทาความสะอาด แล้วจึงตรวจสอบความสึกหรอของช้ินส่วน ภายใน 3. ต่อสายเคเบลิ เขา้ กบั ตัวมอเตอร์ โดยใช้ประแจขันให้แน่นพอสมควร ถ้าต้องต่อสายนอก ตัวมอเตอร์ จะต้องป้องกันไม่ให้น้าซึมเข้าถึงรอยต่อสายได้ โดยใช้น้ายาหล่อสายเคเบิล หรอื ใชเ้ ทปพนั สายไฟฟ้าชนดิ กันน้าเปน็ ตวั ปอ้ งกนั การตอ่ สายไฟจดุ ต่อท้ัง 3 จุด จะต้องไม่ อย่ใู นแนวเดียวกนั เพื่อปอ้ งกันการรัว่ ของกระแสไฟฟ้า 4. ติดตั้ง เมื่อทาการตรวจสอบและประกอบอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ก็ทาการติดตั้ง Sub- mersible pump ลงบ่อจนถึงระดับท่ีต้องการ ในขณะท่ีทาการติดต้ังควรใส่เช็ควาล์ว เพ่ือป้องกันการไหลกลับของน้า ซึ่งอาจจะทาให้มอเตอร์หมุนกลับทิศทางในขณะหยุด และตอ้ งรัดสายมอเตอร์แนบกับท่อทางส่งเพ่ือป้องกันไม่ให้เกิดการขูดขีดของสายไฟ ซ่ึง ทาใหก้ ระแสไฟฟา้ รวั่ ได้ โดยพันเทปใหเ้ ปน็ ชว่ ง ๆ ระดบั ความลึกในการติดต้ังตัวป๊ัมควร อยู่ต่ากว่าระดับน้าขณะสูบ ไม่น้อยกว่า 6 เมตร และจะต้องไม่ให้ลึกจนเกินความ จาเปน็ 5. ตรวจสอบ เม่ือทาการติดตั้งชุดเครื่อง สูบน้าเรียบร้อยแล้ว ก็ทาการติดต้ัง กล่องควบคุมและทาการทดสอบการ ทางานพร้อมท้ังตรวจสอบระดับน้า ของบ่อบาดาลขณะสูบ พร้อมทั้ง 165 องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
การตดิ ตง้ั และบารงุ รักษามอเตอรป์ มั๊ นา้ เซลล์แสงอาทิตย์เพอื่ การเกษตร บุญญฤทธิ์ วงั งอน การบารงุ รกั ษาเคร่ืองสบู น้าแบบจุ่มใต้น้า (Submersible Pump) เครอ่ื งสูบน้าบาดาล เมอื่ ใช้งานนานไปจะทาให้ประสิทธิภาพเครื่องสูบน้าลดลง ปริมาณน้าในการสูบลดลง โดยมีสาเหตุหลักคือ เกิดจากการสึกหรอช่องทาง น้าอดุ ตัน หรืออกี กรณี ปรมิ าณน้าในการสูบยงั เท่าเดมิ แต่พลังงานไฟฟ้ากลับ สูงข้ึน ซึ่งเกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้าและมอเตอร์ชารุด หรือเกิดจากการติดขัด และความฝืดเพมิ่ ขน้ึ การตรวจสอบเบื้องต้นโดยไม่ต้องถอนเคร่ืองสูบน้าน้ัน ทาได้โดยการวัดอัตรา การสูบน้า วัดระยะน้าลด วัดพลังงานไฟฟ้าในการสูบน้า จากน้ันจึงนามา เปรียบเทียบกับข้อมูลเดิม หรือคานวณหาประสิทธิภาพของเคร่ืองสูบน้า ถ้า ประสิทธิภาพรวมต่ากว่าร้อยละ 20 ต้องถอนเคร่ืองสูบน้าและทาการ ซ่อมแซมใหม่ การตรวจสอบโดยการถอนเครื่องสูบน้า ให้ทาการตรวจสอบและแก้ไขจุดที่ ชารดุ ของทอ่ สบู น้า หากตะกรันจับท่อสูบจนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กลง จะ ทาให้แรงดันสูญเสยี ขณะสูบน้ามากข้ึน เกลียวปลายท่อสูบสึกกร่อน ช่องทาง น้าเข้าออกเคร่ืองสูบน้าอุดตันหรือแคบลง ตะกรันจับใบพัด ใบพัดสึกหรอ ระบบรองลื่น (Bearing) ของมอเตอร์ชารุดเกิดการติดขัด ขดลวดมอเตอร์ เสื่อมสภาพ ทรายหยาบและกรวดติดค้างใบพัดเนื่องจากตะแกรงกรองชารดุ การแก้ไขปัญหาตะกรันจับใบพัดและช่องทางน้าเข้าออกเคร่ืองสูบน้า โดยการ นามาลา้ งด้วยน้ายาล้างตะกรัน สาหรับทอ่ สูบน้านั้นถ้าตะกรันเกาะจับมากควร เปล่ียนใหม่ สาหรับอุปกรณ์ท่ีชารุดจะพิจารณาเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนท่ีชารุด หรอื เปลย่ี นทง้ั ชดุ 166องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
167 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การตดิ ต้งั และบารงุ รักษามอเตอร์ปมั๊ นา้ เซลล์แสงอาทติ ยเ์ พื่อการเกษตร บุญญฤทธิ์ วังงอน สอบถามข้อมูลเพิ่มเตมิ บญุ ญฤทธ์ิ วังงอน คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก โทรศัพท์ : 0-5529-8438 168องค์ความรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
169 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
เทคนคิ การตรวจสอบคุณภาพ ทางประสาทสัมผัสสูค่ วามเปน็ มืออาชพี สาหรบั อตุ สาหกรรมกาแฟ 170องค์ความรสู้ ูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
เทคนคิ การตรวจสอบคุณภาพทางประสาทสัมผัสสูค่ วามเป็นมืออาชพี สาหรับอุตสาหกรรมกาแฟ วันเพ็ญ จิตรเจรญิ ความเป็นมา การทดสอบคุณภาพทางประสาทสัมผัสในอุตสาหกรรมอาหารน้ัน เป็นการตรวจวัดโดยใช้มนุษย์ใน การตรวจสอบ คู่ขนานไปกบั การตรวจสอบคุณภาพโดยใช้เครือ่ งมือ มักนิยมในอาหารและเคร่ืองด่ืม เฉพาะทาง เช่น ไวน์ และกาแฟ เป็นต้น สาหรับการทดสอบคุณภาพกาแฟตั้งแต่ต้นน้าจนถึงปลาย น้า มีวิธีการทดสอบท่ีสาคัญและถูกนามาใช้ในอุตสาหกรรมกาแฟทุกระดับอย่างกว้างขวางคือการ ทดสอบชิมกาแฟ โดยผู้ทดสอบชิม (coffee cupper) ต้องมีความชานาญและมีประสบการณ์ด้าน กาแฟอีกดว้ ย ซง่ึ กาแฟจะมีคณุ ภาพสงู เพียงไรน้ัน สามารถวดั ได้ด้วยการชิมเท่าน้ัน ปัจจุบันประเทศ ไทยยังมีหน่วยงานเอกชนจานวนไม่มากนัก ท่ีได้รับการรับรองจากสมาคมกาแฟพิเศษแห่งอเมริกา (SCAA) ให้เป็นหน่วยฝึกอบรมด้านกาแฟในย่านเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีค่าลงทะเบียน ค่อนข้างสูง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ไม่สามารถสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่สูงน้ีได้ และประเทศไทยยัง ขาดหน่วยงานของรัฐท่ีทาหน้าที่โดยตรงทั้งทางด้านการฝึกอบรมการ ทดสอบชิม อีกท้ังเป็นการ ช่วยรองรบั การขยายตวั งานธุรกิจด้านกาแฟทั้งขนาดเล็กซึ่งมีเป็นจานวนมากในประเทศไทย อันจะ เป็นการสรา้ งมูลค่าเพิ่มให้กับตลาดกาแฟสดในไทย 171 องคค์ วามรสู้ ่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
สาขาอุตสาหกรรมเกษตร คณะวิทยาศาสตร์ หัวหน้าโครงการ และเทคโนโลยีการเกษตรจากมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เขตพ้ืนท่ีลาปาง มี วันเพ็ญ จติ รเจรญิ ภาระหน้าท่ีในการผลิตกาลังคน ทางด้าน อุตสาหกรรมเกษตร จึงจดั ทาโครงการถ่ายทอด เทคโนโลยี เร่ืองเทคนิคการตรวจสอบคุณภาพ ของกาแฟโดยใช้ เครื่องมือCoffee Flavor wheel เ พ่ื อ ใ ห้ ผู้ รั บ ก า ร ฝึ ก ซ่ึ ง เ ป็ น ทั้ ง ผู้ประกอบการ วิสาหกิจ นักวิชาการ และ ประชาชนทว่ั ไป สามารถเรียนรู้เทคนิคเบื้องต้น ในการทดสอบ และเพิ่มทักษะการชิมกาแฟได้ อย่างถูกต้องจนสามารถพัฒนาเป็นมืออาชีพได้ อันจะเป็นการเตรียมความพร้อมนักทดสอบชิม กาแฟ ท่ีมีความชานาญ สาหรับใช้ในการ พัฒนาคุณภาพ ด้านการแปรรูปกาแฟ และยัง สามารถนาเน้ือหารายวิชามาประยุกต์ในการ บริการวิชาการแก่สถานประกอบการและ ประชาชน ท่วั ไป วตั ถุประสงค์ เพื่อให้บริการวิชาการแกส่ ถานประกอบการ วิสาหกจิ ชุมชน และประชาชนทัว่ ไป สามารถนาความรู้ ไปประกอบอาชีพได้ เพื่อฝึกปฏิบตั ิการใช้เทคนิคการตรวจสอบคุณภาพกาแฟ โดยใชเ้ ทคนคิ ทางประสาทสมั ผัส เฉพาะทางกาแฟตาม มาตรฐานสากล เพื่อใหน้ กั ศกึ ษาของสาขาอตุ สาหกรรมเกษตรและสาขาพฒั นาผลติ ภัณฑ์อาหารได้รับ ประสบการณ์การถา่ ยทอด งานบรกิ ารวชิ าการใหแ้ ก่สงั คม เพื่อเป็นการทวนสอบผลการเรียนการสอนของนักศกึ ษาในวชิ าปัญหาพิเศษ วิชาการทดสอบ คุณภาพทาง ประสาทสัมผัส และวชิ าเทคโนโลยกี ารผลิตไวน์ เพอ่ื สร้างเครือข่ายในการทางานระหวา่ งมหาวทิ ยาลัยและผูป้ ระกอบการด้านกาแฟ มีการ แลกเปลี่ยนความรู้ และมีความรว่ มมือทางวิชาการกันมากข้นึ 172องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
ผู้เกีย่ วข้องกบั กาแฟ ผ้ดู ื่ม เลือกซื้อกาแฟทถ่ี กู ใจสมเหตผุ ล พัฒนาทักษะเพื่อความสนุ ทรยี ์คมุ้ คา่ ผ้ปู ระกอบการ เลอื กซ้อื ขายกาแฟในราคาท่ีสมเหตุผล สามารถสอ่ื สารกับลกู ค้าให้เลือกใช้อปุ กรณอ์ ย่างเหมาะสม ผปู้ ลกู ศกึ ษาว่ากาแฟทตี่ นเองปลูกนั้นมรี สชาติอย่างไร ศกึ ษาว่าจะปรับวิธีการอย่างไรเพ่ือปรับปรงุ คุณภาพกาแฟของตน มือคว่ั เลอื กเมล็ดกาแฟคณุ ภาพ ราคาสมเหตุผล ปรับปรงุ และควบคมุ คณุ ภาพการคัว่ เสมอ บารสิ ต้า เลือกใชก้ าแฟท่ีชงแล้วถูกใจผดู้ ่มื ในราคาสมเหตผุ ล ตรวจสอบกาแฟทีม่ าจากโรงควั่ ชว่ ยให้ร้วู ่าการชงเป็นอย่างไร ต้องปรับอะไรบา้ ง เพ่ือให้รสชาติดีขน้ึ และผ้ดู ื่มพอใจ คณุ ลักษณะทางประสาทสัมผสั ของกาแฟ กาแฟมีคณุ ลกั ษณะทางประสาท สมั ผัส ได้แก่ ลกั ษณะปรากฏ กลน่ิ ลกั ษณะเนือ้ สมั ผสั ความข้นหนดื รส กลนิ่ รส เสยี ง 173 องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
เทคนิคการตรวจสอบคุณภาพทางประสาทสมั ผสั สคู่ วามเปน็ มอื อาชีพสาหรับอตุ สาหกรรมกาแฟ วนั เพญ็ จิตรเจรญิ การรับรสของลิ้น ส่วนของลน้ิ มรี ่องใหอ้ าหารกับของเหลว เชน่ น้าลาย ไหลลงไปในร่อง (Taste Porse) เพ่อื สัมผัสกับประสาทรบั รส ท่ีสาคัญการรบั รสของคนเราจะทาร่วมกบั ประสาทรับกลนิ่ และ นอกจากน้ี หากเปน็ หวัดหรอื ภูมแิ พ้ อาจทาใหก้ ารรับรู้รส ต่าลง กินอาหารไมอ่ ร่อย เพราะไดก้ ลน่ิ นอ้ ยลง สาหรับตอ่ มรับรสพน้ื ฐานนน้ั มี 5 รส กระจายอยใู่ นเซลลป์ ่มุ รับรส รส (Taste) รส มี 2 ประเภท ได้แก่ 1. รสพน้ื ฐาน ประกอบด้วย รสเปรย้ี ว รสหวาน รสเค็ม รสขม และ รสอูมามิ 2. รสทั่วไป ประกอบดว้ ย รสธรรมชาติ รสสกดั จากธรรมชาติ รสเทียม และ รสรบกวน รสเปรยี้ ว ความเปร้ียวข้นึ กบั ปรมิ าณ H+ และชนิดของกรด เกดิ จากสารประเภทกรด ซ่งึ สามารถแตกตวั ให้ไฮโดรเจนอิออน (H+) ระดับความเปรยี้ วของกรดอนิ ทรีย์ ซึ่ง เปรยี บเทียบกับกรดซิตรกิ ดงั นี้ ชนดิ กรด ระดับความเปร้ียว กรดซติ รกิ 1 กรดทารท์ าริก กรดมาลิก 0.80—0.85 กรดฟมู าริก 0.89—0.94 กรดแลก็ ทกิ 0.67—0.72 กรดแอซิติก ไมม่ ขี ้อมูล ไมม่ ขี อ้ มลู 174องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
รสหวาน เกิดจากสารในกลมุ่ นา้ ตาลเชิงเดี่ยวและเชงิ คู่ เชน่ น้าตาลกลูโคส ฟรกุ โทส ซูโครส และสารใหค้ วามหวานอ่ืนๆ สาหรบั ความหวานสมั พัทธ์ของนา้ ตาลชนิดตา่ งๆ เม่อื เปรยี บเทียบกบั น้าตาลซูโครส ชนิดของนา้ ตาล ความหวานสัมพทั ธ์ ซูโครส 100 ฟรักโทส 114 กาแล็กโทส 63 กลโู คส 69 แลก็ โทส 39 มอลโทส 46 รสเค็ม เกดิ จากสารทีม่ ีรสเค็ม คือ เกลอื และ เกลือโซเดยี มคลอไรด์ รสเค็มจากเกลอื นั้นเป็น ผลจากชนิดและความเข้มขน้ ของประจุบวกและลบ โดยระดบั ความเขม้ ข้นของเกลือ โซเดยี ม คลอไรด์ท่มี ีผลตอ่ รสชาติ มดี งั น้ี ระดบั ความเขม้ ข้น (M) รส 0.009 ไมม่ ีรส 0.010 หวานเลก็ น้อย 0.015 คอ่ นขา้ งหวาน 0.020 หวาน 0.030 หวานมาก 0.040 หวานเคม็ 0.050 เคม็ 0.500 เคม็ แท้ 175 องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
เทคนิคการตรวจสอบคณุ ภาพทางประสาทสัมผัสสคู่ วามเปน็ มืออาชีพสาหรับอุตสาหกรรมกาแฟ วันเพ็ญ จิตรเจรญิ รสขม สารที่มีรสขม เช่น quinine, caffeine รสชมจะเกิดข้ึนเมื่อเพ่ิมระดับ ความเข้มข้นของเกลือท่ีให้รสหวาน หรือเกลือที่ให้รสเค็ม การแยกรสขมทาได้ ยากกวา่ รสอืน่ ๆ รสอูมามิ อูมามิ (umami) เป็นภาษาญ่ีปุ่น หมายถึง สารท่ีมีรสดี เช่น เห็ดหอม สาหร่าย มะเขอื เทศ ถัว่ ลันเตา เน้อื สัตว์ น้าปลา น้าบูดู กะปิ ซีอิ๊ว ซอสถ่ัวเหลือง และ เคร่อื งปรงุ อืน่ ๆ การรับกลิ่นเกิดข้ึนได้เมื่อสารที่ให้กล่ินระเหยเข้าสู่โพลงจมูก และรับรู้โดยระบบ กลน่ิ ประสาทรับกลิ่น สารบางชนิดให้กล่ิน ต้องเป็นสารท่ีระเหยได้ ความรู้สึกในกลิ่น น้ัน จะมีความเม่ือยล้ารวดเร็วมาก ความเม่ือยล้าต่อกลิ่นหนึ่งจะมีผลต่อการรับ กล่ินอื่น และกล่ินชนิดหน่ึงสามารถที่จะฆ่าฤทธ์ิของกลิ่นอีกชนิดหน่ึงได้ กลิ่นมี ประเภทต่างๆ ดงั นี้ Odor กลนิ่ ท่ีตั้งใจสดู ดม Aroma กลิน่ ของผลติ ภณั ฑ์อาหาร Fragrance กลิ่นของน้าหอมเครอ่ื งสาอาง Smell กลิน่ ทต่ี ัง้ ใจสดู ดม (กล่ินไมพ่ ึงประสงค)์ สาหรับ กลนิ่ รส (Flavour) น้ัน หมายถึง ความรู้สึกรวมที่เกิดขึ้นในปาก เป็นผล จากการทางานรว่ มกันของการรบั กลนิ่ ด้วยจมกู และการรับรสชาตดิ ้วยลน้ิ ปจั จยั ทมี่ ีผลต่อการทดสอบชิม สถานท่ีตั้ง ควรเงียบ แสงสว่างพอเหมาะ การระบายอากาศดี ไม่มีกล่ินรสกวน นงั่ สบาย ควรเปน็ หอ้ งปรับอากาศ 22—25 องศาเซลเซียส ห้องทดสอบชิม ควรทาความสะอาดง่าย มีสีขาวหรือสีอ่อน มีแสงสว่าง เหมาะสม ไฟสีอ่อน สแี ดง เขยี ว น้าเงิน เพอ่ื ใช้บังสีของตัวอย่าง 176องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การเตรียมตัวอย่าง เพื่อประกันว่าผลการทดสอบชิม มาจากตัวอย่างกาแฟเท่านั้น ไม่ได้มาจากตัวแปรอื่นๆ การ เตรยี มตัวอยา่ ง ทาได้โดยการช่ังหรอื ตวงปริมาณของตัวอย่าง ควบคุมเวลา อุณหภูมิ เวลาท่ีใช้ใน การเก็บตัวอย่างก่อนเสิร์ฟ ภาชนะควรเป็นแก้วหรือถ้วยเคลือบ ผู้ทดสอบต้องได้รับตัวอย่างที่ เทา่ กัน การเสนอตวั อย่างบางชนดิ ตอ้ งเสริ ฟ์ กับส่งิ อ่นื และอุณหภูมิของตัวอย่างควรเป็นไปตามที่ กาหนด ผู้ทดสอบชิม ผู้ทดสอบชมิ ควรมสี ุขภาพดี มีความสนใจ กระตอื รือร้น มจี นิ ตนาการพอควร มีความสามารถใน การตรวจปัจจัยคุณภาพได้ดี มคี วามสามารถที่จะตดั สินใจได้แม่นยา มีความจาดี มีประสบการณ์ ดา้ นการชมิ พอควร และมีเวลาวา่ งท่จี ะมาทาการทดสอบชิมทกุ ครั้ง วงลอ้ แห่งรสชาติกาแฟ เป็นเคร่ืองมือที่มีประโยชน์อย่างย่ิงสาหรับนักชิมกาแฟ ใน การวิเคราะห์และอธิบายกลิ่นและรสชาติกาแฟ เพราะ บางครั้ง การชิมกาแฟมีหลากหลายขั้นตอนท่ีต้องทาเวลา และควบคุมอุณหภูมิ การจะวิเคราะห์รสชาติและกลิ่นน้ัน อาจอยู่ภายใต้การจิบเร็วๆ เพียงไม่กี่ครั้ง แต่ประโยชน์ที่ แท้จริงของวงล้อสีนี้ คือเป็น Guideline สาคัญที่จะทาให้ คนดมื่ กบั คนชง เข้าถงึ กาแฟ นวตั กรรมวงลอ้ และรสชาตกิ าแฟ เป็นความรว่ มมือในการพัฒนา ระหวา่ งสมาคมกาแฟชนดิ พิเศษแห่ง อเมริกา (SCAA) และองค์กรวจิ ัยกาแฟโลก (WCR) เพือ่ ให้ได้เครอ่ื งมือทช่ี ว่ ยนักชิมกาแฟ ในการวิเคราะห์และอธบิ ายกล่ินและรสชาตกิ าแฟ 177 องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
เทคนคิ การตรวจสอบคุณภาพทางประสาทสัมผัสสคู่ วามเป็นมอื อาชพี สาหรับอุตสาหกรรมกาแฟ วนั เพญ็ จิตรเจริญ ขน้ั ตอนการใช้วงล้อ ข้ันท่ี 1 ทาความเข้าใจวงล้อ ค้นหาความหมายของคาต่างๆ ในภาพ และค้นหาภาพ ของคาน้นั ๆ เพือ่ ใหเ้ กดิ จินตนาการขึ้น ขั้นท่ี 2 ลองชิมกาแฟ ควรเตรียมกาแฟสาหรับลองชิมเป็นอย่างดี โดยสังเกตหลายๆ ข้ันตอน เช่น กลิ่นหลังจากการบดเมล็ดกาแฟ / กล่ินหลังจากที่ผงกาแฟสัมผัสน้าแล้ว และรสชาติภายในปากหลังจากการชิม พยายามจดจากล่ินและรสชาติให้ได้ และนาไป เทยี บดทู ี่วงล้อ ข้ันที่ 3 เร่มิ จากตรงกลางของวงลอ้ เมอ่ื ชิมกาแฟ แล้วพบรสชาติทัว่ ๆ ไป กว้างๆ ให้ดู ที่หมวดนน้ั ๆ แลว้ ค่อยเจาะลึกหารสชาติตามทางเลือกที่ในช้ันท่ี 2 และ 3 เช่น ผู้ชิม ชิม กาแฟอราบริก้าไทยแล้ว พบรสชาติช็อคโกแล็ต ก็ดูท่ีหมวดถ่ัว / โกโก้ แล้วพิจารณาว่า เป็นชอ็ คโกแล็ต หรือ ดาร์ค ชอ็ คโกแล็ต ข้ันที่ 4 อ่านปทานุกรม WCR โดยปทานุกรม World Coffee Research Sensory Lexicon คืองานวิจัยที่รวบรวมคาศัพท์ที่อธิบายกล่ินและรสชาติไว้ถึง 110 ชนิด มี คาอธบิ ายโดยละเอยี ด พร้อมทงั้ แหลง่ กลน่ิ อ้างอิง ช่วยให้การค้นหากลิ่นและรสชาติโดด เด่น มีเอกลกั ษณ์ แม่นยาขึ้น ขั้นที่ 5 ตรวจสอบแหล่งกลิ่น ทุกรสชาติ สามารถหาได้ในตลาดสดและซุปเปอร์มาร์ เก็ต เอกประสบการณ์และจินตนาการมาใช้กับ Flavour Wheel โดยไล่ชิมผลไม้ ชิม อาหาร เครื่องปรุง วัตถดุ ิบต่างๆ ข้ัน 6 เร่ิมที่ตรงกลางอีกคร้ัง จะพบว่าในแต่ละส่วนของรสชาติ จะมีบางรสชาติ ใกล้เคียงกัน และมีช่องว่างที่ห่างกัน ตัวอย่างคือ กาแฟมีรสชาติแบบผลไม้เปร้ียว แต่ เปรี้ยวแบบไทย เช่น หมวด Citus ให้ดูท่ี เกรปฟรุ๊ต อยู่ติดกับ ส้ม อยู่ห่างจากมะนาว เหลอื งและมะนาวเขยี ว ข้ันท่ี 7 ใช้คาอธิบายง่ายๆ วงล้อกล่ินและรสชาติกาแฟน้ี ใช้คาง่ายๆ ในการอธิบายทา ใหน้ ักชิมกาแฟสมัครเล่นและมืออาชีพสามารถเข้าใจง่าย และช่วยสื่อสารกับคนท่ีอยู่ใน วงการกาแฟหรอื คนท่ไี ม่ไดอ้ ยู่ในวงการกาแฟ ให้จินตนาการไปยังทศิ ทางเดียวกนั ได้ ช้ันท่ี 8 สังเกตสี เชือ่ มโยงระหว่างสกี ับอาหาร จะทาให้จินตนาการได้ถึงรสชาติถ้าเร่ิมท่ี รสชาตใิ นกลุ่มผกั ผลไม้ ซึ่งเราเคยชมิ มากอ่ น กจ็ ะทาให้เห็นภาพง่ายขึ้น โดยลองเทียบสี ของผลไม้ เชน่ กาแฟมีรสเหมือนผลไม้สีส้ม กจ็ ะนึกถงึ สม้ หรือ มะนาวเหลอื ง 178องค์ความร้สู ภู่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
CUPPING คอื การชิมทดสอบคุณภาพนา้ กาแฟในถ้วย ผลการ Cupping ต้องเปน็ ความจรงิ ว่าดีหรอื ไม่ดี และบอกได้วา่ มขี อ้ บกพร่องอะไรบ้าง โดยพิจารณา กล่นิ รสชาติ บอด้ี ความสุนทรียท์ ค่ี งอยู่ กาแฟที่ดตี อ้ งสะอาด มีข้อบกพรอ่ งนอ้ ย ดม่ื แลว้ อรอ่ ย ถูกใจ ทั้งนคี้ วามรู้สึกชอบ หรือ ไม่ชอบ เปน็ เร่อื งของประสบการณ์และ รสนยิ ม ขั้นตอนการชิมทดสอบคณุ ภาพกาแฟ ขั้นท่ี 1 Fragrance ค้นหากล่นิ จากกาแฟบด ขัน้ ท่ี 2 Aroma เทนา้ ร้อน รอให้กาแฟตกตะกอน ข้ันที่ 3 Break Crust ใชช้ ้อนแหวกกากกาแฟทล่ี อยอยดู่ ้านบน ขั้นที่ 4 Slurp / Acidity สดู น้ากาแฟให้แรงพอ รูส้ ึกชมุ่ ฉา่ ของกรดผลไม้ ความ สดใส ความนมุ่ นวล ไม่ฝาด ไมแ่ ห้ง ไม่ขม ไม่เปรี้ยวเกินไป สามารถเผยความ หวานตามธรรรมชาตขิ องกาแฟไปพรอ้ มกัน ขนั้ ที่ 5 Flavor / Balance กลน่ิ และรสชาตขิ องกาแฟ พรรณนากลน่ิ รสโดยใช้ Coffee Flavor Wheel และพจิ ารณาความสมกุลลงตัวของรสเปร้ียว หวาน เค็ม ขม ไปพรอ้ มกนั ขัน้ ที่ 6 Body / Afteraste บอด้ีพอควร น่มุ นวล ไมบ่ าด ขนื่ ระคาย ลักษณะ สัมผสั กลน่ิ และรสเปร้ียว หวาน เคม็ ขม โดยรวมต้องดี คงอยไู่ ดย้ าวนาน 179 องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
เทคนิคการตรวจสอบคณุ ภาพทางประสาทสัมผัสสคู่ วามเปน็ มืออาชีพสาหรับอตุ สาหกรรมกาแฟ วนั เพ็ญ จติ รเจรญิ 180องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
181 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
เทคนิคการตรวจสอบคุณภาพทางประสาทสัมผสั สคู่ วามเปน็ มืออาชพี สาหรับอุตสาหกรรมกาแฟ วันเพญ็ จิตรเจริญ สอบถามขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ วนั เพญ็ จติ รเจริญ คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารเกษตร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา ลาปาง โทรศัพท์ : 0-5434-2547-8 182องคค์ วามรู้สูภ่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
183 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
กระบวนการผลิตกระดาษ จากใบตะไคร้ท่เี หลือทิ้งจากการเกษตรสู่ ผลติ ภัณฑท์ ่เี ป็นเอกลกั ษณข์ องชุมชน 184องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
กระบวนการผลติ กระดาษจากใบตะไคร้ทเี่ หลือทิง้ จากการเกษตรสู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน ชนิ านาฏ วทิ ยาประภากร ความเปน็ มา ปัจจุบันชาวบ้านในเขตเทศบาลตาบลแมป่ ง๋ั ได้หันมานิยมปลูกตะไคร้เพ่ือตัดหัว จาหน่ายอย่างแพร่หลาย เพราะมีตลาดรับซ้ือท้ังในเชียงใหม่ ภาคเหนือ และ ตลาดไทที่กรุงเทพฯ ซ่ึงมีความต้องการหัวตะไคร้สูงมาก ได้ราคาดี และสร้าง งานในหลายภาคส่วนท้ังเกษตรกรผู้ปลูก ผู้รับจ้างตัดหัวตะไคร้ คนกลางจัด จาหน่าย แตส่ ิ่งหน่งึ ที่ชมุ ชนเห็นวา่ เป็นเศษขยะทีไ่ ม่ได้ถูกนามาใช้ประโยชน์และ มีอย่เู ป็นปริมาณมาก คือ ใบตะไคร้ สว่ นก้านตะไครแ้ ละส่วนรากของตะไคร้ 185 องค์ความรู้สูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
คณะนักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หัวหน้าโครงการ เกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ลาปาง จึงได้คิดหาแนวทางในการกาจัดขยะวัสดุ ชินานาฏ วิทยาประภากร เหลือใช้เหล่านี้ โดยการพัฒนาสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ และพัฒนาสู่ เชิงพาณิชย์ต่อไป ตลอดจนเพ่ือสร้างองค์ความรู้ใน การจัดการผลิตภัณฑ์ จากเศษวัสดุเหลือใช้ของต้น ตะไคร้อย่างเป็นระบบและประสบความสาเร็จ จาก การพัฒนาโจทย์วิจัยของชุมชน เก่ียวกับการพัฒนา ผลิตภัณฑ์เพ่ือเพ่ิมมูลค่าเศษเหลือท้ิง ได้แก่ การทา กระดาษจากใบตะไคร้ ท่ีเหลือจากการตัดหัวตะไคร้ โดยพบว่ากระดาษท่ีทาจากใบตะไคร้มีคุณภาพ เทียบเคียงกับกระดาษสาที่มีในท้องตลาด และมี ต้นทุนการผลิตไม่สูง ซึ่งผลการวิจัยดังกล่าวได้รับ ร า ง วั ล ช น ะ เ ลิ ศ ก า ร น า เ ส น อ ง า น วิ จั ย ใ น ส า ข า วิทยาศาสตร์ ในงานประชุมวิชาการ 1st Confer- ence on Hands-on Research and Develop- ment of RMUTL 2014 จึงเห็นความสาคัญในการ ถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ต่อไป อันจะช่วยลดปัญหา ส่ิงแวดล้อม และปัญหาขยะ ท้ังยังช่วยเพิ่มมูลค่า ผลิตภัณฑ์ ด้วยการแปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์สาหรับ สินค้าชุมชน ผลิตภัณฑ์ และ ของที่ระลึก เช่น ดอกไม้จนั ทน์ ของท่ีระลึก ของชารว่ ยตา่ งๆ วัตถุประสงค์ เพือ่ ถ่ายทอดผลงานวิจัยการทากระดาษจากใบตะไคร้สชู่ มุ ชน เพอ่ื ถ่ายทอดการแปรรูปผลิตภัณฑจ์ ากกระดาษจากใบตะไคร้สูช่ มุ ชน 186องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
ประโยชนข์ องตะไคร้ ตะไคร้ (Lemongrass) ช่ือวทิ ยาศาสตร์ Doragag Staph ชื่อทอ้ งถ่ินคือ จะไคร (ภาคเหนือ) ไคร (ภาคใต้) คาหอม (แม่ฮ่องสอน) เชิดเกรย เหลออะเกรย (เขมร-สุรินทร์) ห่อวอตะโป่ (กะเหร่ียง-แม่ฮ่องสอน) เป็นพืชล้มลุก ความสูง ประมาณ 4-6 ฟุต ใบยาวเรยี ว ปลายใบมีขนหนาม ลาต้นรวมกันเป็นกอ มีกล่ิน หอม ดอกออกเป็นช่อยาวมีดอกเล็กฝอยเป็นจานวนมาก ตะไคร้เป็นพืชท่ี สามารถนาสว่ นต้นหวั ไปประกอบอาหาร และยังจัดเป็นพืชสมุนไพรด้วยตะไคร้ จัดเป็นสมุนไพรไทยชนิดหนึ่งที่นิยมนามาประกอบอาหาร โดยตะไคร้แบ่ง ออกเป็น 6 ชนิด ได้แก่ ตะไคร้หอม ตะไคร้กอ ตะไคร้ต้น ตะไคร้น้า ตะไคร้หางนาค และ ตะไคร้หางสิงห์ ซึง่ เปน็ สมนุ ไพรไทยที่นิยมปลกู ทั่วไป ตะไคร้ เป็นสมุนไพรเพ่ือสุขภาพ โดยประโยชน์ของตะไคร้และสรรพคุณของ ตะไคร้น้ันมีมากมาย สรรพคุณตะไคร้เป็นทั้งยา รักษาโรคและยังมีท้ังวิตามิน และแร่ธาตุท่ีมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เช่น วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุ ฟอสฟอรสั ธาตุเหล็ก เป็นตน้ สารเคมีท่ีพบ ในใบมีสารพวก Citral, Methylheptenone, Eugenol, Iso- orientin, Methylheptenol, Furfural, Luteolin,Phenolic substance, Cymbopogonol, Cymbopogone, Citral A, Citral B, Essential oil, Waxes, Nerol, Myrcene,l-Menthol, Linalool, Geraniol, Dipentene, d- Citronellic acid, Cymbopol, 1,4-Cineolie และอื่น ๆ น้ามันระเหยภายในต้นน้ัน จะมี ปริมาณสูงข้ึนเม่ือดินมีความช้ืนสูง และพบวา่ การคลุมดินกันน้าระเหยจะ ทาให้ไดน้ า้ มันหอมระเหยสูงเช่นกันซึ่ง การใส่ปุ๋ยนั้นมีผลน้อยกว่า และถ้าใส่ ปุ๋ยสูงเกินไปกลับจะทาให้ลดลงและ อุณหภูมิก็มีส่วนเช่นกันถ้าอุณหภูมิต่า ปรมิ าณของน้ามันก็ลดลง) 187 องคค์ วามร้สู ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
กระบวนการผลิตกระดาษจากใบตะไคร้ทเ่ี หลือทง้ิ จากการเกษตรสูผ่ ลิตภัณฑท์ ่ีเปน็ เอกลกั ษณข์ องชุมชน ชนิ านาฏ วทิ ยาประภากร สรรพคุณของใบตะไคร้ 1. มสี ่วนช่วยในการขบั เหง่อื 2. เป็นยาบารุงธาตไุ ฟให้เจริญ (ตน้ ตะไคร้) 3. มสี รรพคณุ เปน็ ยาบารงุ ธาตุ ชว่ ยในการเจริญอาหาร 4. ชว่ ยแก้อาการเบอื่ อาหาร (ตน้ ) 5. สารสกดั จากตะไครม้ ีสว่ นชว่ ยในการปอ้ งกันโรคมะเรง็ ลาไสใ้ หญ่ 6. แก้และบรรเทาอาการหวัด อาการไอ 7. ช่วยรกั ษาอาการไข้ (ใบสด) 8. ใช้เป็นยาแก้ไขเ้ หนือ (ราก) 9. น้ามันหอมระเหยของใบตะไคร้ สามารถบรรเทาอาการปวดได้ 10. ชว่ ยแก้อาการปวดศรี ษะ 11. ชว่ ยรกั ษาโรคความดันโลหิตสูง (ใบสด) 12. ใชเ้ ป็นยาแก้อาเจียน หากนาไปใช้ร่วมกบั สมุนไพรชนิดอืน่ ๆ (หัวตะไคร)้ 13. ชว่ ยแกอ้ าการกษัยเสน้ และแกล้ มใบ (หัวตะไคร้) 14. รักษาโรคหอบหดื ดว้ ยการใช้ตน้ ตะไคร้ 15. ชว่ ยแกอ้ าการเสยี ดแน่นแสบบริเวณหน้าอก (ราก) 16. ใช้เป็นยาแกอ้ าการปวดท้องและอาการท้องเสยี (ราก) 17. ช่วยแกแ้ ละบรรเทาอาการปวดท้อง 18. ช่วยรักษาอาการท้องอดื ท้องเฟอ้ (หวั ตะไคร)้ 19. ช่วยในการขบั นา้ ดีมาช่วยในการย่อยอาหาร 20. น้ามนั หอมระเหยจากตะไคร้ มีสว่ นช่วยลดการบีบตัวของลาไสไ้ ด้ 21. มฤี ทธ์ิช่วยในการขับปัสสาวะ 22. ช่วยแก้อาการปสั สาวะพิการ และรักษาโรคน่วิ (หัวตะไคร้) 188องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
กระดาษจากใบตะไคร้ กระดาษจากตะไคร้ ได้รบั รางวัลจากงานแสดงสิง่ ประดษิ ฐ์นักเรียนนานาชาติ ประเทศเกาหลี โดย ใช้ช่ือผลงานว่า “กระดาษตะไคร้เพ่ือการอนุรักษ์” เป็นผลงานจากโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบนั มกี ารแปรรูปกระดาษเพือ่ เศรษฐกิจอีกมาก ทาใหป้ ่าไม้ลดลงและเกิดผลกระทบต่อการนา วัตถุดบิ จากปา่ ไมม้ าทาเยื่อ แตก่ ระดาษก็ยงั มีความจาเปน็ ในชีวติ ประจาวนั และในอนาคต จากเหตุผลดังกล่าว จึงทาให้ น.ส.แก้วกาญจน์ ไทยประยูร ด.ญ.สุวพร พงศ์ธีระวรรณ น.ส.จีรนันท์ เพชรแก้ว นายนรเทพ พิกุลทอง และ น.ส. พัชรา ชูทอง นักเรียนจากโรงเรียนสุ ราษฎร์พิทยา อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนแกนนาของสถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้พยายามมองหาวัตถุดิบอื่นๆ ในธรรมชาติที่จะพบเห็นได้ โดยทั่วไปมาทดแทนเยือ่ กระดาษท่ขี าดแคลน การค้นคว้าพบว่า ลักษณะเส้นใยจากใบตะไคร้ มีลักษณะเป็นเส้นใยที่แข็งแรงและเหนียว ทนต่อ แรงดึงได้ เยอ่ื กระดาษมีความละเอียดและเรียบ มีช่องว่างระหว่างเส้นใยน้อย มีความสามารถใน การดูดซึมน้าได้ดี มีคุณสมบัติเป็นกลาง ไม่มีใครนามาใช้ประโยชน์ใด ๆ น่าจะนามาผลิตเป็น กระดาษทดแทนไม้ท่ีกาลังลดลงเรื่อยๆ ซ่ึงถือเป็นการอนุรักษ์ และ สงวนป่าไม้เอาไว้ได้อีกทาง หน่ึง นอกจากนัน้ ยังเป็นการนาเศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรมาพัฒนาให้เกิดคุณค่าในสงั คม การทาเยื่อกระดาษจากตะไคร้อาศัยพลังงานความร้อนและพลังงานเคมีเพื่อให้ได้เส้นใยที่ เหมาะสมต่อการนามาทากระดาษท่ีสวยงาม โดยขั้นตอนประกอบด้วย การศึกษาวิธีการในการ ผลิตกระดาษ และ ศึกษาอัตราส่วนของสารเคมีท่ีเหมาะสมในการทาเย่ือกระดาษจากตะไคร้ รวมถึงศึกษาระยะเวลาที่เหมาะสมในการทาเยื่อกะดาษ ศึกษาส่วนของใบตะไคร้ที่เหมาะสมต่อ การนามาทาเย่ือกระดาษ ศึกษาคุณสมบัติของเย่ือกระดาษที่ผลิตได้ และศึกษาการประยุกต์ใช้ กระดาษเปน็ ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับคุณสมบัติที่ ตรวจสอบได้ ส่วนวัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการทดลอง ได้แก่ บีกเกอร์ขนาด 100 และ 600 มิลลิลิตร แ ท่ ง แ ก้ ว ค น ชุ ด ต ะ เ กี ย ง แอลกกอฮอล์ เครื่องช่ัง คีมคีบเย่ือ กล่องพลาสติก ไม้บด แผ่นกระดาน กาละมัง ใบตะไคร้ และ ตะแกรงรอ่ นเยอ่ื กระดาษ 189 องค์ความรู้สู่ภาคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
กระบวนการผลิตกระดาษจากใบตะไคร้ท่ีเหลือทงิ้ จากการเกษตรสูผ่ ลิตภัณฑท์ ีเ่ ปน็ เอกลักษณ์ของชุมชน ชินานาฏ วทิ ยาประภากร กระบวนการทากระดาษจากใบตะไคร้ 1. การเตรมี วัตถุดบิ เริ่มจากสับตะไคร้ให้มีขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร นาใบตะไคร้สับ 3 กิโลกรัมมาต้มกับโซดาไฟ จานวน 500 กรัม นาน 2 ชว่ั โมง จากน้ันลา้ งใบตะไครด้ ว้ ยน้าเปลา่ หลายๆ รอบจนหมดความล่ืน 2. การทาเป็นเยื่อ หากต้องการเยื่อกระดาษแบบธรรมชาติ ก็ไม่ต้องป่ัน หรือทุบ แต่หากต้องการกระดาษท่ีมีความละเอียด ให้ใช้เคร่ืองช่วยปั่น หรือทุบให้ละเอียดตามความต้องการ เย่ือกระดาษจะมีสีเขียวออกคล้า ท้ังน้ี หากต้องการกระดาษสีขาวให้ใช้สารฟอกขาว เช่น ไฮเตอร์ 300 มิลลิลิตร ต่อส่วนผสม 1 ป๊ปี จากน้ันนามาล้างดว้ ยนา้ เปลา่ 2 ครัง้ 3. การทาเป็นแผ่นกระดาษ ให้นาเยื่อใส่ในอ่างหรือภาชนะที่เหมาะสม ใส่ น้าในระดับท่ีพอเหมาะ จากน้ันจึงใช้ไม้พายคนเยื่อในอ่างให้ท่ัว เพ่ือให้ เย่ือลอยตัว และกระจายออกจากกันสม่าเสมอ จากน้ันนาตะแกรง สาหรบั ทาแผน่ กระดาษมาซอ้ นเยื่อให้กระจายจนท่ัว ใช้มือเกล่ียกระจาย เยอ่ื บนแผน่ ให้สม่าเสมอ 4. การลอกกระดาษ ให้นาตะแกรงท่ีมีเยื่อกระดาษไปตากแห้ง แล้วจึงดึง ออกจากตะแกรง กระดาษจะแห้งติดกันเป็นแผ่น จะได้กระดาษจากใบ ตะไครต้ ามตอ้ งการ การประยุกตใ์ ชก้ ระดาษจากใบตะไคร้ กระดาษจากตะไคร้นัน้ สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชง้ านไดห้ ลากหลาย เช่น นาไป ประดิษฐ์ดอกไม้จนั ทน์ ดอกดารารตั น์ ดอกกุหลาบ ดอกแก้ว ดอกลีลาวดี ดอก ชบาหนู รวมถงึ สนิ ค้าอน่ื ๆ เช่น กระเป๋า โคมไฟ ร่ม กรอบรูป สมุด พัด โมบาย กลอ่ งกระดาษ 190องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
191 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
กระบวนการผลติ กระดาษจากใบตะไครท้ ี่เหลือท้งิ จากการเกษตรสูผ่ ลิตภณั ฑท์ ่เี ป็นเอกลักษณข์ องชมุ ชน ชินานาฏ วทิ ยาประภากร สอบถามข้อมูลเพม่ิ เติม ชนิ านาฏ วิทยาประภากร คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยกี ารเกษตร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา เชียงใหม่ โทรศัพท์ : 0-5392-1444 192องคค์ วามรู้สูภ่ าคประชาชนและอตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
193 องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การออกแบบด้วยโปรแกรม คอมพิวเตอรใ์ ห้แก่ภาคอุตสาหกรรมวิสาหกิจ ชุมชน SMEs 194องค์ความร้สู ู่ภาคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
การออกแบบดว้ ยโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ใหแ้ กภ่ าคอตุ สาหกรรมวิสาหกจิ ชมุ ชน SMEs ไกรลาศ ดอนชัย ความเป็นมา รถม้าถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดลาปาง ซึ่งในการสร้างรถม้าน้ัน ได้จัดสร้างขึ้นจากภูมิ ปัญญาของชาวบ้าน อย่างไรก็ตามน้ัน คนรุ่นใหม่ในปัจจุบันเห็นความสาคัญค่อนข้างน้อย ประกอบกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดสร้างรถม้าในจังหวัดลาปางเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ โดยพบว่าปัจจุบันนี้มีช่างประกอบรถม้าอยู่ประมาณ 5 คน และมีแนวโน้มว่าจะลดลงไปอีก ในภายภาคหน้า ประกอบกับการจัดสร้างรถม้านั้นมีความซับซ้อน เนื่องด้วยมีจานวน ชิ้นสว่ นคอ่ นข้างมาก ทง้ั ตอ้ งสอดแทรกศลิ ปวัฒนธรรมเข้าไปในการสร้างด้วย นอกจากนี้แล้ว ในการจัดสร้างช้ินส่วนแต่ละชิ้นก็ไม่มีแบบงานท่ีเป็นมาตรฐาน ขนาดต่างๆ ได้มาจากภูมิ ปัญญาของชาวบ้านที่ประยุกต์ขึ้นมาอย่างลงตัวและสวยงาม ดังน้ัน ในการจัดสร้างรถม้า จาเป็นต้องทราบรูปแบบของรถม้าแบบต่างๆ ส่วนประกอบของรถม้า ขั้นตอนการสร้าง ข้ันตอนการประกอบ วิธีการสร้างช้ินส่วน เทคนิคการสร้าง และส่ิงสาคัญอย่างมากคือ แบบ งานท่ีเปน็ แบบงานมาตรฐานท่ีสามารถนาไปจดั สร้างหรอื ดัดแปลงเป็นรถม้ามาตรฐานได้ 195 องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
ด้ ว ย เ ห ตุ นี้ ค ณ ะ นั ก วิ จั ย จ า ก ค ณ ะ วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช มงคลล้านนา จ.เชียงใหม่ จึงวิจัยการออกแบบ ร ถ ม้ า ด้ ว ย โ ป ร แ ก ร ม ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ใ ห้ แ ก่ อุตสาหกรรมวิสาหกิจชุมชน SMEs จนได้องค์ ความรู้ในหลายๆ ด้าน ทั้งในเรื่องการสร้างรถ ม้าจากภูมิปัญญา อีกทั้งชาวบ้านยังสามารถ จัดสร้างรถม้าได้อย่างประณีตสวยงาม และ เข้าใจการซ่อมบารุงรถม้า ที่สาคัญท่ีสุดคือ เข้าใจการออกแบบและเขียนแบบรถม้า ซึ่งนา โปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้ในการออกแบบ และเขียนแบบ จนได้มาตรฐานเพื่ออนุรักษ์ไว้ ใหช้ นรนุ่ หลงั ตอ่ ไป หวั หน้าโครงการ ไกรลาศ ดอนชัย วัตถปุ ระสงค์ เพือ่ การฝึกอบรมเชิงปฎิบัตกิ ารการออกแบบด้วยโปรแกรมคอมพวิ เตอรใ์ ห้แก่ ภาคอตุ สาหกรรม วิสาหกิจชุมชน SMEs เพอื่ บรู ณาการงานบริการวิชาการและงานวจิ ยั กบั การเรยี นการสอน เพ่อื สรา้ งความร่วมมอื ทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนากับ หนว่ ยงานภายนอก 196องคค์ วามรูส้ ูภ่ าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
โปรแกรม SolidWorks พ้ืนฐาน ปจั จุบันในงานออกแบบและเขยี นแบบมักใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ชว่ ยในการ ออกแบบและเขียนแบบเป็นส่วนใหญ่ เน่ืองจากสะดวก สวยงาม แกไ้ ขได้งา่ ย และยังสามารถสรา้ งแบบไดเ้ ปน็ จานวนมากๆ ตามท่ีต้องการ โปรแกรม SolidWorks เปน็ โปรแกรมหนึ่งที่ได้รับความนยิ มสาหรับเขียนแบบ เครื่องกลด้วยคอมพวิ เตอร์แบบ 3 มิติ โดยความสามารถของโปรแกรม Solid- Works จะสามารถเขยี นภาพ 3 มิติ จากน้นั สร้างเป็นแบบ 2 มติ ิ โดยอตั โนมัติ ส่วนประกอบของโปรแกรม SolidWorks 1. Menu Bar เปน็ แถบเมนทู ่ีรวมคาสงั่ ต่างๆทง้ั หมดเอาไว้ 2. Head-up View Toolbar เป็นแถบเครอื่ งมือแสดงมมุ มองต่างๆ ของ ชิ้นงาน 3. Command Manager เปน็ ส่วนแถบเครือ่ งมือที่รวมคาสง่ั ต่างๆ ทีไ่ ดใ้ ช้ บ่อย 4. Feature Manager Design Tree เป็นสว่ นท่รี วม Feature ท่ีใช้สรา้ ง ชิ้นงานน้ัน 5. Task Pane Icons เป็นสว่ นขยายสาหรบั ช้ินสว่ นมาตรฐาน การสร้าง ภาพเสมอื นจริง และค้นควา้ ขอ้ มลู เพม่ิ เติมจากอินเตอร์เนต็ 6. Graphics Area พ้ืนทีท่ ใ่ี ช้ สาหรบั วาดภาพชิ้นงาน 7. Status Bar เปน็ สว่ นทบี่ อก สถานะของชิน้ งานทเ่ี ขียนวา่ อยู่ ในสถานะใด 197 องคค์ วามรสู้ ่ภู าคประชาชนและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230