“องคค์ วามร้สู ่ภู าคประชาชน” มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ท่ปี รึกษา อาจารย์ ชยั ยง เอื้อวริ ิยานกุ ูล อธิการบดมี หาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา บรรณาธิการบรหิ าร ผศ.ประพฒั น์ เชอ้ื ไทย รองอธิการบดฝี า่ ยวิจยั และพัฒนา บรรณาธกิ ารวิชาการ ดร.ภาสวรรธน์ วัชรดำ� รงคศ์ ักด์ิ ผู้อำ� นวยการสถาบนั วจิ ยั และพฒั นา อาจารยภ์ ฤศพงศ์ เพชรบุล ผู้อ�ำนวยการสถาบันถ่ายทอดเทคโนโลยสี ู่ชุมชน ผู้ช่วยบรรณาธิการ อาจารยศ์ รีธร อปุ ค�ำ อาจารยก์ ิตชิ ัย ระมงิ ค์วงศ์ ผศ.ยทุ ธนา เขาสุเมรุ ผศ.ธานี อดิศยั พัฒนะกุล กองบรรณาธกิ าร พิศาล หลา้ ใจ, เสงีย่ ม คนื ดี, สกลวัฒน์ เศวตรตั นกุล, ประภา สนั่นกอ้ ง, รชั ต์พงษ์ หอชยั รตั น,์ อ�ำนาจ อุ้ยฟูใจ, พิษณุ พรมพราย ศิลปกรรม เจษฎา สภุ าพรเหมินทร์ , สธุ าสนิ ี ผู้อยสู่ ขุ พสิ ูจน์อักษร นำ�้ ผง้ึ ชราชติ , กุลนิ า ใจค�ำปัน, เสาวลักษณ์ วชริ นคร “องค์ความรสู้ ่ภู าคประชาชน” ผจู้ ดั พมิ พ์ : มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา พมิ พค์ รง้ั ที่ : 1 จำ� นวนพิมพ์ : 1,500 เลม่ พมิ พ์ที่ : โรงพิมพ์จรสั ธุรกจิ การพมิ พ์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ตดิ ต่อผปู้ ระสานงาน นายพิศาล หลา้ ใจ สถาบนั วิจัยและพัฒนา 98 หมู่8 ต�ำบลปา่ ป้อง อำ� เภอดอยสะเกด็ จงั หวดั เชียงใหม่ 50220 เบอร์โทรศพั ท์ 053-266518 โทรสาร 053-266522 “องค์ความรู้สภู่ าคประชาชน” มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
สารบัญ • สารจากอธกิ ารบดี 5 • บทนำ� 6 • การผลิตเรือพายคอนกรตี จากคอนกรตี มวลเบา 10 • การออกแบบลวดลายบนบรรจภุ ณั ฑ์ ผลติ ภณั ฑก์ ะเหรย่ี ง ณ เทศบาล 28 46 ต�ำบลบา้ นทากาศเหนอื อ�ำเภอบา้ นทา จงั หวดั ลำ� พนู 78 • วิจัยพัฒนาเนื้อดินสีเพ่ือเลียนแบบสีผิวของมนุษย์ ส�ำหรับใช้ในการ 92 106 ผลติ ตกุ๊ ตาเซรามกิ • การซ่อมบ�ำรงุ เครือ่ งจกั รกลทางการเกษตรและเคร่อื งยนตเ์ ล็ก 122 • การผลติ ถั่วเน่าจากหัวเชื้อ Bacillus subtilis เพือ่ ใชใ้ นการผลติ เครื่อง 134 แกงอนิ ทรีย์ 144 • ผา้ สฟี า้ จากเมลด็ คอคอเดา๊ ะตอ่ การพฒั นาแฟชนั่ ในระบบเศรษฐกจิ เชงิ 156 172 สรา้ งสรรค์ ณ กลมุ่ ผ้าฝ้ายย้อมสธี รรมชาติ (ตา่ กญี ะ) เลขท่ี 64 บา้ น ป่าปุ๊ หมู่ 2 ต�ำบลผาบอ่ ง อ�ำเภอเมืองจงั หวัดแม่ฮอ่ งสอน • การติดต้ังใช้งาน และการบ�ำรุงรักษาเครื่องประจุแบตเตอร่ี ณ ศนู ยพ์ ัฒนาโครงการหลวงแม่ทาเหนือ “บา้ นแม่ต๋ง ม.1 ต.ทาเหนอื กง่ิ อ. แมอ่ อน จ.เชียงใหม”่ • ข้าวแต๋นก่งึ ส�ำเร็จรปู ส�ำหรบั เตาไมโครเวฟ • การผลิตและใช้เชือ้ ราป้องกนั กำ� จดั โรคพชื แบบพง่ึ พาตนเอง • การแก้ปัญหากล่ินเหม็น และน้�ำเสียในโรงเลี้ยงสัตว์ขนาดเล็กด้วย เทคโนโลยกี ๊าซชีวภาพแบบถงุ • นโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั ของชาติ ฉบบั ที่ 8 (พ.ศ. 2555 - 2559) “องคค์ วามรูส้ ู่ภาคประชาชน” มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
“องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชน” 4มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
สารจากอธกิ ารบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา องค์ความรู้จากผลงานวิจัยที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาได้ด�ำเนินการ แล้วเสร็จ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีจำ� นวนมากและหลากหลายสาขาท่ีประสบผลส�ำเร็จ ตามเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ของงานวิจัย แต่ยังขาดการน�ำเอาองค์ความรู้ท่ีได้จากผลงาน วิจัยนำ� ไปขยายผลและเผยแพร่สภู่ าคประชาชน เพือ่ ชว่ ยให้ประชาชนสามารถนำ� เอาไปประยุกต์ ใช้กับการด�ำเนินชีวิตแก้ปญั หาพฒั นาอาชพี เกดิ ประโยชน์ต่อสงั คมอย่างแท้จริง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จึงได้ร่วมกับส�ำนักงานคณะกรรมการ วจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) จดั ท�ำโครงการ “ถา่ ยทอดนโยบายยทุ ธศาสตรก์ ารวจิ ยั และน�ำผลงานวจิ ยั สู่ภาคประชาชนร่วมกับส�ำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลลา้ นนา ดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี” เพือ่ ผลกั ดนั ผลงานวิจัยสภู่ าคประชาชน ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น และสามารถสร้างความมั่นคงในการด�ำรงชีวิต ขจัดความ ยากจน และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างย่ังยืน โดยหนังสือองค์ความรู้สู่ภาคประชาชน เป็นอีก หนงึ่ ชอ่ งทางทีม่ หาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนาสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ เพอื่ เปล่ยี นผลงาน วจิ ยั และองค์ความรทู้ ่ีนกั วิชาการผลติ ขึ้น ใหเ้ ปน็ เหมอื นคู่มือที่ภาคประชาชนสามารถนำ� ไปศึกษา และประยุกตใ์ ชใ้ นการประกอบอาชีพ ลดรายจา่ ยเพิ่มรายได้ ไม่เปน็ เพยี งต�ำราอา้ งองิ ทางทฤษฎี แตเ่ พยี งอยา่ งเดยี ว โอกาสนี้ ผมขอขอบคณุ คณะผบู้ รหิ าร คณาจารยน์ กั วจิ ยั พนกั งานเจา้ หนา้ ทแี่ ละนกั ศกึ ษา ตลอดจนภาคประชาชน ทีไ่ ดส้ ละเวลา แรงกายแรงใจ ใหค้ วามร่วมมอื ผลติ และถ่ายทอดผลงาน วจิ ยั ท่ีมีคุณภาพ จนประสบผลสำ� เรจ็ ด้วยดีมาโดยตลอด ขออำ� นาจแหง่ คณุ ความดีของทา่ น และ อ�ำนาจแห่งพระบารมขี องพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช จงดลบนั ดาลใหท้ กุ ทา่ นประสบแต่ความสุขความเจรญิ ตลอดไป อาจารย์ ชยั ยง เอื้อวิริยานุกูล อธกิ ารบดี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 5 “องค์ความรสู้ ่ภู าคประชาชน” มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
บทนำ� แนวทางการพัฒนาประเทศมุ่งเน้นการบูรณาการด้านการวิจัยที่สอดคล้องกับ นโยบายและยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศควบคกู่ บั การวจิ ยั เพอื่ ความเปน็ เลศิ ทางวิชาการ และสอดรับบนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการพัฒนา งานวิจัยท่ีสมดุลและยั่งยืน สร้างฐานความรู้ที่มีคุณค่า ประยุกต์ใช้วิทยาการท่ี เหมาะสมตอ่ ยอดภูมิปัญญาท้องถิน่ เพ่ือใหเ้ กดิ การยกระดบั คุณภาพชวี ติ ตาม วสิ ยั ทศั นก์ ารวิจัยของชาติ คือ “ประเทศไทยมแี ละใชง้ านวจิ ัยที่มีคณุ ภาพ เพอื่ การพฒั นาทส่ี มดลุ และยง่ั ยนื ” เปน็ การ “พฒั นาศกั ยภาพและขดี ความสามารถ ในการวิจัยของประเทศให้สูงข้ึน และสร้างฐานความรู้ท่ีมีคุณค่า สามารถ ประยุกต์และพัฒนาวิทยาการท่ีเหมาะสมและแพร่หลายรวมทั้งให้เกิดการ เรยี นรู้และตอ่ ยอดภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ิน ดังนัน้ ยุทธศาสตรก์ ารวจิ ัยของชาติ ฉบับ ที่ ๘ จึงระบยุ ทุ ธศาสตรก์ ารวิจัยไว้ ๕ ประเด็นด้วยกนั คอื ๑. การพฒั นาสังคม ให้มคี วามเข้มแข็ง และยกระดบั คณุ ภาพชีวติ ของประชาชนใหม้ คี วามผาสขุ ๒. การพัฒนาทางเศรษฐกจิ อยา่ งยั่งยนื และสมดุล ๓. การอนุรกั ษ์ เสรมิ สร้าง และ พฒั นาตน้ ทุนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ๔. การสรา้ งศกั ยภาพและ พฒั นานวตั กรรมบคุ ลากรทางการวจิ ยั และ ๕. ปฏริ ปู การวจิ ยั เพอ่ื บรหิ ารจดั การ ความรู้ (ส�ำนักงานคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติ,นโยบายและยุทธศาสตร์ การวจิ ัยของชาติ ฉบับท่ี ๘ (พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙) “องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชน” 6มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
ดังนั้นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา เป็น “มหาวิทยาลยั แห่งนวัตกรรมเพื่อชุมชน” (Hands-on, Project Based Learning, Professional)” ซึ่งให้ความส�ำคัญกับการวิจัยท่ีสอดคล้องตามยุทธศาสตร์ การวิจยั ของกระทรวงศึกษาธกิ ารทเี่ น้น “การสร้างทุนปญั ญาของชาตเิ พ่อื ให้ เกดิ เครือข่าย และใหส้ ามารถพ่ึงพาตนเองได้ ตามเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม” มหาวิทยาลัยจึงมุ่งศึกษาวิจัยตามความต้องการของสังคมชุมชนและท้อง ถ่ิน หรือผู้ที่น�ำผลงานไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง โดยมียุทธศาสตร์ ใน ๓ มติ ิ ประกอบไปด้วย มติ มิ หาวทิ ยาลยั : มงุ่ มน่ั สง่ เสรมิ สนบั สนนุ บคุ ลากรในองคก์ รทำ� วจิ ยั เพอื่ พฒั นานกั วจิ ยั ในแตล่ ะระดบั ใหม้ คี วามเชยี่ วชาญ ตามความตอ้ งการของ สงั คม ชมุ ชน และทอ้ งถนิ่ เนน้ การบรหิ ารจดั การงานวจิ ยั แบบครบวงจรคอื การ การจดั การตน้ ทาง การจดั การกลางทาง และการจดั การปลายทาง มิติสังคม : มุ่งสู่ความเป็นเลิศการวิจัยเพื่อชุมชน เพื่อยกระดับ คณุ ภาพชวี ติ โดยมหาวทิ ยาลยั นำ� เอาปญั หาของสงั คม ชมุ ชน และทอ้ งถน่ิ มา เป็นโจทย์ในการวจิ ัยเพ่ือน�ำผลการวิจยั มาใช้ประโยชน์กลบั ลงสสู่ งั คม ชมุ ชน และทอ้ งถิน่ ผ่านเครือขา่ ยถา่ ยทอดความรู้ ซึง่ จะสามารถสะทอ้ นผลการใช้ องค์ความรู้ และน�ำเสนอปัญหากลับมาเป็นโจทย์ให้มหาวิทยาลัยและเครือ ขา่ ยไดท้ �ำการวจิ ัยตอ่ ไป มิตนิ านาชาติ : มุ่งก้าวเป็นผู้น�ำในการนำ� องค์ความร้สู ู่การตอ่ ยอด ด้านวิชาชีพ เพ่ือชุมชนท้ังในและต่างประเทศ เป็นการพัฒนาให้เกิดสถาบัน หรือหนว่ ยงานดา้ นการทำ� วิจัยเฉพาะทางและมีความเชอื่ มโยงการทำ� วจิ ัยใน ระดบั นานาชาติ ตลอดจนการถา่ ยทอดองคค์ วามรขู้ องมหาวิทยาลยั ท่ีเปน็ ประโยชน์ต่อสงั คมในวงกว้างระดบั โลก ในการด�ำเนินงานที่ผ่านมาได้เกิดการส่งเสริมให้เกิดการวิจัยเชิงบูรณาการ มุ่งสร้างการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชนในการพัฒนา สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่นเชิงบูรณาการ และสรา้ งองค์ความรใู้ หม่ใหม้ ีความเชอื่ มโยงไปสกู่ ารบรกิ ารวิชาการ การเผย แพรผ่ ลงานวจิ ยั และการถา่ ยทอดผลงานวจิ ยั สชู่ มุ ชน รวมถงึ การผลกั ดนั และ ส่งเสรมิ ผลงานวิจยั ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนอ์ ย่างเป็นรปู ธรรม และสามารถนำ� ผลงานไปใชป้ ระโยชนใ์ นการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของคนในสงั คม ชมุ ชน ทอ้ ง ถ่นิ ให้มีความเป็นอยูท่ ี่ดขี น้ึ 7 “องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
“องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชน” 8มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
9 “องค์ความรู้สูภ่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
องคค์ วามรูเ้ พ่ือการเผยแพร่ การผลติ เรือพายคอนกรตี จากคอนกรตี มวลเบา
องค์ความร้เู พ่อื การเผยแพร่ การผลิตเรือพายคอนกรตี จากคอนกรตี มวลเบา วตั ถุประสงค์และท่ีมา ปัจจุบันวิกฤตการณ์น้�ำท่วมเกิดข้ึนทุกปี และทวีความรุนแรงมากข้ึนเร่ือยๆ ในแต่ละ ปีมีผู้ที่ต้องประสบกับสภาวะน้�ำท่วมเป็นจ�ำนวนมาก บางแห่งอาจท่วมอยู่นานนับเดือน และ ระดับน้�ำอาจสูงถึง 0.5 – 3.0 เมตร ท�ำให้ประชาชนในพื้นท่ีประสบภัย ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ โดยมีท้ังเรือไม้ เรือยาง และเรือไฟเบอร์กลาส แต่เน่ืองจากเรือเหล่าน้ีมีราคาแพง และใน ช่วงท่ีเกิดน้�ำท่วม อาจไม่สามารถหาซื้อได้เพราะมีความต้องการจ�ำนวนมาก ดังน้ันกลุ่มวิจัย วิศวกรรมโยธาเพื่อชุมชนและอุตสาหกรรม ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก จึงด�ำเนินการวิจัยเพ่ือออกแบบและพัฒนาเทคนิคการก่อสร้างเรือพายคอนกรีต จาก คอนกรีตมวลเบาข้ึน เพื่อน�ำองค์ความรู้ที่ได้ ไปถ่ายทอดให้กับประชาชนท่ีอยู่ในพ้ืนที่เสี่ยงภัย น้�ำท่วม เพื่อให้ประชาชนสามารถสร้างเรือขึ้นใช้เองได้ ด้วยต้นทุนต่�ำ และวิธีการผลิตที่ไม่ยุ่ง ยากซับซ้อน การถ่ายทอดผลงานวิจัยเรื่อง “การผลิตเรือพายคอนกรีตจากคอนกรีตมวล เบา” ในคร้ังน้ี เป็นการน�ำเสนอเทคนิคการสร้างเรือแบบง่ายๆ ประชาชนทั่วไปท่ีไม่มีความรู้ ทางช่าง สามารถสร้างเรือข้ึนใช้เองได้ เรือพายคอนกรีตท่ีน�ำเสนอมีขนาดความกว้าง 1.04 เมตร ยาว 2.20 เมตร ลึก 0.38 เมตร เรือมีน�้ำหนักประมาณ 63 กก. สามารถรับน�้ำ หนักสูงสุดได้ 240 กก. และน�้ำหนักบรรทุกปลอดภัยท่ีแนะน�ำคือ 150 กก. ที่ระยะจม 30 ซม.ต้นทุนการผลิตเรอื ประมาณ 650 บาทต่อลำ� เรือทไี่ ด้มีเสถยี รภาพและสามารถน�ำ ไปใช้งานไดจ้ ริง “องคค์ วามรสู้ ่ภู าคประชาชน” 12มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
กรรมวธิ กี ารสรา้ งเรือพายคอนกรตี งานวจิ ัยนส้ี ร้างแบบเรอื จากไมอ้ ดั แล้วฉาบสว่ นผสมลงบนแบบ เพื่อให้ได้ เรือท่ีสวยงามและมีความหนาสม�่ำเสมอ อย่างไรก็ตามสามารถสร้างเรือโดยการ ฉาบลงบนโครงเรอื ไดเ้ ลยโดยไมต่ อ้ งใชแ้ บบหลอ่ โครงสรา้ งของเรอื ใชร้ ะบบเฟอรโ์ ร ซเี มนต์ ซง่ึ วสั ดทุ ใ่ี ชป้ ระกอบดว้ ย ปนู ซเี มนตป์ อรต์ แลนดป์ ระเภทท่ี 1 เมด็ โฟมขนาด 3.5 มม. (สำ� หรบั งานคอนกรตี ) ลวดตะแกรงเหลก็ (ลวดกรงไก)่ และเหลก็ เสรมิ ขนาด 6 มม. อตั ราสว่ นนำ�้ ตอ่ ปนู ซเี มนตเ์ ทา่ กบั 0.35 ขนั้ ตอนการสรา้ งเรอื โดยสงั เขปแสดง ดังรปู ที่ 1 รปู ท่ี 1 ขนั้ ตอนการสร้างเรอื โดยสงั เขป 13 “องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
วสั ดุส�ำหรับการสร้างเรือ 1 ลำ� การสรา้ งเรอื พายคอนกรตี มี 2 ข้นั ตอนหลกั คอื 1. การสรา้ งแบบเรอื ไมอ้ ดั (หากมคี วามชำ� นาญ สามารถ สรา้ งเรอื ไดโ้ ดยไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งสรา้ งแบบเรอื ไมอ้ ดั กอ่ น จะทำ� ใหป้ ระหยดั ตน้ ทนุ ในการสรา้ งเรอื ไดม้ าก) วสั ดทุ ี่ ใชแ้ สดงดังตารางท่ี 1 2. การสร้างเรือพายคอนกรีต วัสดุที่ใช้ท้ังสองขั้นตอน แสดงดังตารางที่ 2 โดยสว่ นผสมทใ่ี ชส้ ำ� หรับฉาบเรือ สรุปในตารางที่ 3 “องคค์ วามร้สู ่ภู าคประชาชน” 14มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
หมายเหตุ : เม็ดโฟมท่ีใช้ท�ำเรือ ต้นแบบเป็นชนิด EPS (Expanded Polystyrene Foam) มีช่ือทางการ ค้าคือ Politerm Energy ของบริษัท ซีเบาอุตสาหกรรม จ�ำกัด ซึ่งเป็นเม็ด โฟมท่ีใช้ในงานก่อสร้าง การจ�ำหน่าย จะบรรจุถุง ถุงละ 420 ลิตร น�้ำหนัก ประมาณ 4.6 กิโลกรัม (1 ถุงผลิตเรือ ได้ประมาณ 7 ล�ำ) เม็ดโฟมสามารถ จดั หาไดจ้ ากบรษิ ทั ผผู้ ลติ เมด็ โฟม EPS สำ� หรบั งานกอ่ สรา้ ง ซงึ่ มหี ลายบรษิ ทั ใน ประเทศไทย รปู ท่ี 2 เมด็ โฟมขนาดเส้นผ่านศนู ยก์ ลาง 3.5 มม. รูปท่ี 3 ลวดตะแกรง 6 เหลีย่ ม (ลวดกรงไก)่ 15 “องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชน” มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
รายละเอยี ดการสร้างเรอื พายคอนกรตี การสร้างเรือพายคอนกรีตในงานวิจัยน้ีใช้วิธีการสร้างแบบเรือจากไม้อัด แล้วฉาบ สว่ นผสมลงบนแบบ เพอื่ ใหไ้ ดเ้ รอื ทสี่ วยงามและมคี วามหนาสมำ�่ เสมอ อยา่ งไรกต็ ามสามารถ สรา้ งเรอื โดยการฉาบลงบนโครงเรอื ได้เลยโดยไม่ตอ้ งใชแ้ บบหลอ่ ส่วนผสมท่ีใช้สรา้ งเรือ ใช้ ส่วนผสมทม่ี เี พียงปนู ซเี มนต์ เม็ดโฟม และน�ำ้ เทา่ นน้ั ข้นั ตอนการสร้างเรอื โดยสังเขปมดี งั น ี้ 1. สรา้ งแบบเรอื จากไมอ้ ดั เพอ่ื ใชส้ ำ� หรบั ฉาบขน้ึ รปู ตวั เรอื พรอ้ มทง้ั ทาสแี บบเรอื และ ปูด้วยพลาสติก เพอื่ ให้แกะแบบไดง้ ่าย ปอ้ งกันแบบไมอ้ ัดสมั ผัสกับน้�ำ วสั ดทุ ใ่ี ช้ ทำ� แบบเรอื แสดงดังตารางที่ 2 2. ท�ำโครงเหล็กเสรมิ เพ่อื เพิม่ ความแข็งแรงทนทานและหมุ้ ด้วยลวดตะแกรงเหล็ก 3. เตรียมสว่ นผสมและฉาบขึน้ รปู เรือบนแบบไม้อดั ต้องควบคุมให้เรอื มีความหนา ใกลเ้ คียงกนั ตลอดทงั้ ล�ำเรอื เมื่อฉาบเสรจ็ แลว้ ทิง้ ไวป้ ระมาณ 1 ช่วั โมง แลว้ โรย ปนู ซเี มนต์ท่ีผิว แลว้ ขดั มัน 4. คลุมเรือที่ฉาบและขัดมันเสร็จแล้วด้วยพลาสติก เพ่ือป้องกันน�้ำระเหยออก ทง้ิ ไว้ 3 วนั แลว้ จงึ ถอดแบบ 5. ตกแตง่ ผวิ เรือให้สม่�ำเสมอเพอื่ ความสวยงาม 6. ทดสอบการลอยตัว เสถียรภาพ และน้ำ� หนักบรรทุกของเรอื “องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชน” 16มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
รายละเอียดการสร้างเรือพายคอนกรีต 1.ข้นั ตอนการสรา้ งแบบเรอื ไมอ้ ัด (หากผฉู้ าบเรอื มคี วามชำ� นาญในการฉาบปนู ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งสรา้ งแบบเรอื กไ็ ด้ สามารถ ฉาบเรอื จากโครงเหล็กท่ตี ิดตะแกรง 6 เหลีย่ มแล้วไดเ้ ลย) 1.เตรียมแบบแปลนส�ำหรับสรา้ งแบบเรอื ไม้อัด โดยกำ� หนดขนาด ดังรูป 17 “องค์ความรสู้ ภู่ าคประชาชน” มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
2 . ว า ด แ บ บ แ ป ล น ท่ี เตรียมไว้ลงบนแผ่นไม้อัด หนา 4 มม. โดยจะใช้ไมอ้ ัด ขนาด 4x8 ฟุต จ�ำนวน 1 แผน่ พอดี 3. นำ� แผ่นไม้อดั ที่ร่างแบบไว้ไป ตัดแยกช้ินส่วน สามารถตัดด้วย เคร่ืองหรือเลื่อย ด้วยมือ เมื่อตัด แล้วจะได้ไม้อัด จำ� นวน 5 ช้ินดัง รูป 4.ประกอบช้นิ ส่วนที่ 1 เขา้ กับไมเ้ น้อื อ่อนดงั รปู 5. ประกอบช้นิ สว่ นที่ 1, 2 และ 5 เขา้ ดว้ ยกันดงั รปู “องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชน” 18มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
6. ประกอบชิ้นส่วนที่ 3 และ 4 เข้ากับโครงท่ีได้ จากขอ้ 5 โดยการยดึ กบั โครงไมด้ ้านในดังรูป 7. ยึดโครงเรือเข้ากับ ไมอ้ ัดหนา 10 มม. แลว้ โป๊วรอยต่อด้วยสีโป๊ว รถยนต์ เพ่ือปิดชอ่ งวา่ ง 8. ทาสีแบบดว้ ยสีน้ำ� มนั เพื่อให้แบบกันน้�ำและ เพิ่มอายุการใช้งานของ แบบ 19 “องคค์ วามร้สู ภู่ าคประชาชน” มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
2.ข้นั ตอนการสร้างเรือพายคอนกรตี ในข้ันตอนน้แี บ่งเป็นสองสว่ นหลกั คือ 1) การเตรียมโครงเหล็กและ 2) การฉาบโครงเหลก็ ดว้ ยสว่ น ผสมคอนกรีตมวลเบา ในการเตรียมโครงเหล็กนั้นสามารถทำ� ได้ท้ังการตัดและดัดเหล็กให้ได้ขนาด แล้วน�ำมาขึ้นโครงดงั รปู หรือสามารถท�ำโครงเหลก็ ได้โดยการดัดเหลก็ ไปตามแบบเรือไม้อัดที่เตรียม ไว้ ซง่ึ ในเอกสารชดุ นจ้ี ะใชว้ ธิ กี ารดดั เหลก็ ไปตามแบบเรอื ไมอ้ ดั ทเ่ี ตรยี มไว้ ขน้ั ตอนการสรา้ งเรอื มดี งั น้ี 1) ดดั เหลก็ เสน้ กลมขนาด 6 มม. โดยสามารถดดั เหลก็ กบั แบบเรอื ไดโ้ ดยตรง โดยใหม้ จี �ำนวนเสน้ และ ลกั ษณะดังรูป แลว้ ประกอบโครงเหลก็ เขา้ ด้วยกันโดยทำ� การยดึ ดว้ ยลวดผกู เหลก็ เบอร์ 18 “องคค์ วามรู้สู่ภาคประชาชน” 20มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
2) ตดิ ขอบด้านนอกด้วยไม้เนอ้ื ออ่ น เพ่ือทำ� ขอบของเรือ 3) ห้มุ โครงเหลก็ ด้วยลวดตะแกรงหกเหล่ียม โดยหุ้มสองช้นั ทัง้ ด้านในและดา้ นนอก 21 “องคค์ วามรสู้ ูภ่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
4. หมุ้ แบบเรอื ไมอ้ ดั ดว้ ยแผน่ พลาสตกิ เพอ่ื ปอ้ งกนั แบบ 6. ฉาบเรอื ดว้ ยสว่ นผสมทเ่ี ตรยี มไว้ โดยพยายามกดให้ ไม้อัดบวมหากถูกน้�ำ และยืดอายุการใช้งานของแบบ ส่วนผสมเข้าไปท่ีตะแกรงเหล็กด้านใน และฉาบให้มี น�ำโครงเหล็กที่หุ้มด้วยลวดตะแกรงหกเหล่ียมสวมลง ความหนาสม�่ำเสมอ บนแบบไมอ้ ดั จัดโครงเหล็กและตะแกรงให้มีระยะห่าง จากแบบไมอ้ ัดดา้ นในเทา่ ๆ กัน 7. เมื่อฉาบเสร็จแล้ว ท้ิงไว้ให้ส่วนผสมเริ่มก่อตัว ประมาณ 1 ช่ัวโมง (ทิ้งไว้พอหมาดๆ) แล้วขัดมันที่ผิว โดยการโรยผงปูนซีเมนต์ทีผ่ ิว แลว้ ขดั ผิวด้วยเกรียง 5. เตรียมส่วนผสมส�ำหรับสร้างเรือพายคอนกรีต ดัง ตารางที่ 3 แลว้ ผสมใหเ้ ขา้ กนั ซงึ่ สามารถผสมดว้ ยเครอื่ ง หรอื ดว้ ยมอื กไ็ ด้ หากพบวา่ สว่ นผสมแหง้ เกนิ ไปสามารถ เติมน�้ำเพิ่มเติมได้ ครั้งละ 0.25 กก. แต่ไม่ควรผสมให้ ส่วนผสมเหลวเกนิ ไป เนือ่ งจากจะทำ� ใหส้ ว่ นผสมไมต่ ดิ กบั โครงเหลก็ และไหลลงด้านลา่ ง “องคค์ วามร้สู ู่ภาคประชาชน” 22มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
8. เมื่อขัดมนั เสร็จแล้ว คลุมเรอื ดว้ ยพลาสตกิ เพื่อบม่ 10. เรือพายคอนกรตี มวลเบาพร้อมใช้งาน คอนกรีตด้วยความชนื้ เป็นเวลา 3 วนั 9. น�ำเรือออกจากแบบ เม่ือครบ 3 วัน แล้วตกแต่งผิว ด้านในใหเ้ รยี บ และอุดช่องว่างท้ังหมด 23 “องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
การทำ� ไมพ้ ายจากท่อพวี ีซี โดยทว่ั ไปไมพ้ ายมกั จะทำ� จากไมเ้ นอื้ แขง็ หรอื เปน็ ไมพ้ ายสำ� เรจ็ รปู ทใ่ี ชว้ ธิ ฉี ดี ขนึ้ รปู ดว้ ย พลาสตกิ ซง่ึ ตอ้ งทำ� จากโรงงาน แตเ่ พอื่ ใหป้ ระชาชนสามารถทำ� ไมพ้ ายไดเ้ อง โครงการ น้จี งึ เสนอวธิ กี ารทำ� ไม้พายจากทอ่ พีวซี ี เนอื่ งจากท�ำได้งา่ ย ราคาไมแ่ พง และมีความ แข็งแรงเพียงพอในการใช้งาน โดยมีขนั้ ตอนดังน้ี 1. ตดั ทอ่ พวี ซี ขี นาด 4 นว้ิ ยาว 30 ซม. แลว้ บบี ทอ่ พวี ซี ใี หแ้ บนเรยี บ โดยการใชค้ วามรอ้ น 2. ตัดแต่งปลายด้านหนึ่งให้มีลักษณะปลายมน พร้อมทั้งเตรียมท่อพีวีซีขนาด 1 น้ิว ยาวประมาณ 1.20 ม. แล้วผา่ ปลายด้านหนง่ึ ใหเ้ ป็นรอ่ งส�ำหรบั เสยี บใบพาย 3) ยึดใบพายเขา้ กบั ด้ามพวี ซี ดี ้วยตะปเู กลยี ว “องค์ความรู้สู่ภาคประชาชน” 24มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ค�ำถามยอดฮติ คูค่ ิดมติ รชุมชน คำ� ถาม : เฟอรโ์ รซีเมนตค์ อื อะไร ? ค�ำถาม : แบบเรือไมอ้ ดั สามารถใช้ผลติ เรือพาย ตอบ : เฟอร์โรซเี มนต์ คอื โครงสรา้ งเปลือกบางชนดิ คอนกรีตไดก้ ค่ี รั้ง ? หนง่ึ ทท่ี ำ� ขนึ้ ดว้ ยมอรต์ าร์ และลวดตะแกรง โดย มอรต์ าร์ ตอบ : หากใช้อย่างระมดั ระวงั ไม่ทบุ หรือกระแทกจน จะใชป้ ูนซเี มนต์ปอรต์ แลนดป์ ระเภทที่ 1 ทรายละเอียด แบบไมอ้ ดั เสียหาย มีการบ�ำรุงรกั ษาอยา่ งต่อเนอื่ งและ และน้�ำเป็นส่วนผสม ใช้เหล็ก เส้นและลวดตะแกรงใน ป้องกันไม่ให้สีกันน้�ำท่ีทาไว้หลุดลอก แบบเรือไม้อัด การขนึ้ รูป สามารถใช้สร้างเรือไดม้ ากกวา่ 15 ครง้ั ค�ำถาม : ปรมิ าณนำ้� ท่ีแนะน�ำสามารถเพิ่มหรือลด ค�ำถาม : เรือพายคอนกรีตสามารถใช้ในกระแสน�ำ้ ไดห้ รอื ไม่ ? เชย่ี วไดห้ รือไม่ ? ตอบ : สามารถเพมิ่ หรอื ลดไดต้ ามความเหมาะสม โดย ตอบ : ไมเ่ หมาะ เนอ่ื งจากเรอื ทพ่ี ฒั นาขนึ้ นยี้ งั คงมนี ้�ำ ดูจากความข้นเหลวของส่วนผสมท่ีได้ แต่ไม่ควรใส่น�้ำ หนกั มาก จงึ เหมาะสำ� หรบั สถานการณน์ ำ�้ ทว่ มขงั หรอื ใน มากเกินไป เพราะอาจท�ำให้ส่วนผสมเหลวและไหลลง บริเวณทีน่ ำ้� ไหลชา้ เทา่ น้ัน ดา้ นล่าง ยดึ เกาะโครงเหล็กได้ไม่ดี คำ� ถาม : น�้ำสามารถซึมผ่านตัวเรอื จนทำ� ใหเ้ รือ ค�ำถาม : สามารถหาซื้อเมด็ โฟมส�ำหรับสรา้ งเรอื พายคอนกรีตจมได้หรือไม่ ? พายคอนกรตี ไดจ้ ากท่ใี ด ? ตอบ : นำ�้ ซมึ ผา่ นคอนกรตี ได้ แตใ่ นปรมิ าณทนี่ อ้ ยมาก ตอบ : หาซอ้ื เมด็ โฟมไดจ้ ากบรษิ ทั ทข่ี ายเมด็ โฟม EPS และใชเ้ วลานาน หากการฉาบทำ� ไดด้ ี ไมเ่ กดิ โพรงอากาศ สำ� หรบั งานกอ่ สรา้ งทว่ั ไป เชน่ บรษิ ทั ซเี บา อตุ สาหกรรม นำ้� อาจใชเ้ วลานานหลายปกี อ่ นทจี่ ะซมึ ผา่ นคอนกรตี ได้ จ�ำกดั (http://www.cebau.com/product.html) คำ� ถาม : สามารถใช้เม็ดโฟมท่ีขายตามท้องตลาด คำ� ถาม : หากตอ้ งการฝกึ อบรมการสรา้ งเรอื พาย ทั่วไปหรือเม็ดโฟมที่ได้จากการย่อยโฟมเหลือทิง้ คอนกรตี มวลเบา ตอ้ งท�ำอย่างไร ? แทนเม็ดโฟมทแี่ นะนำ� ในค่มู ือนไี้ ด้หรือไม่ ? ตอบ : สามารถติดตอ่ โดยตรงที่ สาขาวิศวกรรมโยธา ตอบ : ใชไ้ ด้ แตค่ วรใชท้ รายเปน็ สว่ นผสมรว่ มดว้ ย เพอ่ื และสง่ิ แวดลอ้ ม มทร.ลา้ นนา ตาก ป้องกันเม็ดโฟมลอยข้ึนที่ผิว เน่ืองจากเม็ดโฟมส�ำหรับ งานโยธาจะผลิตข้ึนมาเฉพาะ จึงมีความหนาแน่น มากกว่าโฟมท่วั ไป 25 “องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชน” มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
การถ่ายทอดเทคโนโลยีการสร้างเรอื พายคอนกรีตมวลเบา สำ� หรับผู้ประสบภยั น�้ำท่วม ณ. บ้านยางโองน้ำ� ต.แม่สลดิ อ.บ้านตาก จ.ตาก การถ่ายทอดเทคโนโลยีการสรา้ งเรอื พายคอนกรตี มวลเบา สำ� หรบั ผปู้ ระสบภยั นำ้� ท่วม ณ. บ้านห้วงกระได ต.ชมุ แสงสงคราม อ.บางระก�ำ จ.พิษณุโลก “องค์ความรู้สู่ภาคประชาชน” 26มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
สอบถามองค์ความรเู้ พิ่มเตมิ สถานที่ติดตอ่ : กล่มุ วิจยั วศิ วกรรมโยธาเพ่อื ชุมชนและอตุ สาหกรรม สาขาวิศวกรรมโยธาและสิง่ แวดลอ้ ม คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก โทรศัพท์ 055-540945 โทรสาร 055-511833 หรอื ตดิ ตอ่ โดยตรงที่ : อ.อศั วนิ คณุ าแจม่ จรัส โทรศพั ท์ 083-9511208 E-mail: [email protected] ดร.สนธยา ทองอรุณศร ี โทรศพั ท์ 089-6353425 E-mail [email protected] อ.รงุ่ โรจน์ จกั ภริ ะ โทรศพั ท์ 081-9532733 E-mail [email protected] 27 “องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
องค์ความรู้เพอ่ื การเผยแพร่ การออกแบบลวดลาย บนบรรจภุ ณั ฑ์ ผลติ ภัณฑ์กะเหรีย่ ง ณ เทศบาลต�ำบลบ้านทากาศเหนือ อ�ำเภอบ้านทา จงั หวดั ล�ำพนู
องค์ความรเู้ พื่อการเผยแพร่ การออกแบบลวดลายบนบรรจภุ ัณฑ์ ผลติ ภัณฑ์กะเหรีย่ ง ณ เทศบาลตำ� บลบา้ นทากาศเหนอื อำ� เภอบา้ นทา จงั หวดั ลำ� พูน วัตถปุ ระสงค์และทมี่ าของแนวคิด ความเจริญทางวัตถุนิยมท่ีเข้ามายังกลุ่มกะเหร่ียง ท�ำให้เกิดการ ขยายตัวด้านสังคมและเศรษฐกิจ การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับความเจริญ และความเปล่ียนแปลงในทุกด้านท่ีจะเข้ามา โดยเฉพาะการน�ำอัตลักษณ์ ภูมิปัญญาผ้าทอมือกะเหรี่ยงมาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยบรรจุภัณฑ์ แต่ยังคงให้กลุ่มกะเหรี่ยงมีการด�ำรงไว้ซ่ึงวิถีเดิมโดยสืบทอดความรู้ลาย ผ้าทอกะเหร่ียงมาออกแบบลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์เชิงเศรษฐกิจ เพื่อสรา้ งรายได้สืบต่อไป “องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชน” 30มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
กะเหร่ียงปกาเกอะญอในมิติความหมายการแต่งกาย ประยุทธ วงศ์แปง (2549) ใช้เพื่อปกปิดร่างกายและสร้างบุคลิกท่ีดีบ่งบอกสถานะทางเศรษฐกิจ ความเป็นเผ่าพันธุ์ และแสดงถึงความเชี่ยวชาญของผู้สร้างสรรค์งานทอ เป็นส่ิงที่สื่อแทน ความหมายแสดงความรม่ เยน็ สมบรู ณ์ และการสง่ วญิ ญาณของคนตาย เชน่ เสอ้ื เซหงอ เปน็ ชุดสีขาวสำ� หรบั เด็กหญิง สว่ น เซซู เป็นเสอื้ สแี ดงหรือด�ำและผ้าซิ่น (หน่ีค)ิ สำ� หรับผหู้ ญงิ ที่ แตง่ งานแลว้ และเสอ้ื สแี ดงส�ำหรบั กะเหรย่ี งผชู้ าย สว่ นเครอื่ งประดบั กาย เชน่ ตา่ งหู (หนา่ ต)ิ สรอ้ ยลกู ปดั หลากส(ี แพ) กลมุ่ ชาตพิ นั ธช์ นเผา่ ปกาเกอะญอ (พพิ ธิ ภณั ฑอ์ อนไลน)์ มคี วามเชอ่ื เรอื่ งสีที่เป็นมงคล คือสีแดงและสขี าว เชือ่ วา่ สีแดงเปน็ สีแหง่ ความเจริญ ความมั่นคง ความ ส�ำเรจ็ ความแขง็ แกร่ง การมชี ยั ส่วนสีขาวเป็นสีท่ีสอื่ ถึงความบริสุทธิ์ ส่วนสดี �ำเป็นสแี ห่ง ความหายนะ หมายถงึ ความมดื มัว ความลล้ี ับ ซบั ซอ้ น ความอับเฉา นอกจากน้ยี งั มี ออ่ื ธา บทกวลี ำ� นำ� เพลงปกาเกอะญอ ทพี่ ดู ถงึ ทกุ สรรพสงิ่ รอบตวั ผเู้ ฒา่ พะตจี อนิ โอโ่ ดเชา บา้ นหนอง เตา่ อ.แมว่ าง จ.เชียงใหม่ เล่าว่า อ่ือธามมี ากกว่าใบไม้ในปา่ เพราะเพยี งแค่ความร้สู กึ นกึ คดิ ก็สามารถส่อื ออกมาเป็นค�ำรอ้ งท�ำนองขับขาน เชน่ “ขันโตกเอ๋ย ขันโตกเอ๋ย นางกระแทก น่ี กระแทกโน่น” อื่อธา เป็นการเลียนเสียงธรรมชาติขับร้องในโอกาสต่างๆ แยกบทร้อง ชายหญิง ยามขับอื่อธาจะเอ้ือนเอ่ยเสียงออกมาจากภายในร่างกายประกอบเครื่องดนตรี “เตหนา่ ” เสมือนเสยี งจากธรรมชาตทิ สี่ ือ่ ถึงความเศรา้ ใจ ความสนกุ สนาน วรี ะศักด์ิ จุลดา ลัย และคณะ (2550) การเพิ่มมูลคา่ ภูมิปัญญาการทอผา้ ไทโส้ง ด้วยการออกแบบลายและ กระบวนการทอเป็นสื่อสมัยใหม่และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม เช่น ละโกลปูนเจ (หมอนสี่เหลย่ี ม) ละโกลไปเจ (หมอนสามเหลยี่ ม) เญอ (ผา้ ตมุ้ หรือผา้ ห่ม) เปรจะนวน(ผ้าปู นอน) จะกดั หม่ี (ผ้ามดั หมี)่ เปรตะลอง (ผา้ ขาวม้า) เปรแกบ๊ (ผ้ายกดอกพาดบา่ ) เปรจุบกรี อาม (ผ้าฝา้ ยยอ้ มคราม) จะเหน็ ไดว้ า่ แตล่ ะกล่มุ ชาตพิ ันธจุ์ ะมีกระบวนการคิดและถา่ ยทอด เชงิ สอื่ ตามวถิ คี วามเชอ่ื และความเปน็ อยู่ ซง่ึ แฝงดว้ ยภมู คิ วามรู้ หากไมไ่ ดร้ บั การสบื ทอดและ พฒั นาใหเ้ กดิ การขบั เคลอื่ นเชงิ เศรษฐกจิ อาจสง่ ผลใหภ้ มู คิ วามรลู้ ายทอหมดไป การพฒั นา และเพ่ิมมูลค่าผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาด้วยการน�ำลวดลายดั้งเดิมมาออกแบบบนบรรจุภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์กะเหร่ียง จะช่วยสานต่อเพื่อก่อให้เกิดการตระหนักถึงชาติพันธ์และวัฒนธรรม ท่ี สามารถน�ำมาเปน็ ตน้ ทุนทางวัฒนธรรม ทีก่ อ่ ให้เกิดรายได้อยา่ งยั่งยนื ด้วยเหตผุ ลขา้ งตน้ จงึ มแี นวคดิ พฒั นาและเพม่ิ มลู คา่ ผลติ ภณั ฑก์ ะเหรยี่ ง เพอ่ื อนรุ กั ษแ์ ละความคงอยขู่ องกลมุ่ ชาติ พนั ธก์ ะเหร่ยี งที่มีความเช่ือในคตนิ ิยม“ผหู้ ญงิ ทอผ้า ผู้ชายจกั สาน อตั ลกั ษณ์ วฒั นธรรม และธรรมชาติ ตามวิถีความเช่ือกะเหรย่ี ง ” โดยการถา่ ยทอดองคค์ วามร้ดู า้ นการจัดวาง ลวดลายบนบรรจุภัณฑ์เพ่ือเป็นต้นแบบทางความคิดในการสร้างสรรค์ สร้างความแตกต่าง ใหก้ บั ผลิตภัณฑก์ ะเหรี่ยง เกิดการต่อยอดทางธุรกจิ ขยายชอ่ งทางเศรษฐกจิ ของชุมชน โดย ใช้กระบวนการ Participatory Action Research จดั ฝกึ อบรมเชงิ ปฏบิ ัติการแบบมสี ว่ นรว่ ม ถ่ายทอดองค์ความรูก้ ารออกแบบลวดลาย ทีม่ งุ่ เนน้ ให้ชมุ ชนเกิดกระบวนการเรยี นรู้ มที กั ษะ สามารถน�ำมาใชป้ ระโยชนส์ รา้ งเศรษฐกจิ ชมุ ชน ทต่ี อ่ ยอดธรุ กจิ สตู่ ลาดระดบั อาเซยี น เพอื่ ให้ ชมุ ชนพง่ึ ตนเองและเตบิ โตยงั่ ยนื ตามยทุ ธศาสตรก์ ารสรา้ งความเขม้ แขง็ เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพ ของชุมชนให้อยู่รว่ มกับธรรมชาติและเก้อื กลู 31 “องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
โครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการออกแบบลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ กะเหรยี่ งเปน็ การสง่ เสรมิ อนรุ กั ษ์ ลวดลายทอทเี่ ปน็ อตั ลกั ษณก์ ะเหรย่ี ง เปน็ สอ่ื ปรากฏบน บรรจุภัณฑผ์ ลิตภณั ฑก์ ะเหรีย่ ง ใหม้ ีความสอดคลอ้ งกับความต้องการของผูบ้ รโิ ภคในยคุ วตั ถนุ ยิ ม เปน็ การขยายโอกาสใหช้ มุ ชนสมู่ ติ กิ ารสรา้ งสรรค์ อกี ทงั้ เปน็ การน�ำผลการวจิ ยั สู่ สงั คมระดบั ชมุ ชน เพอื่ ใหช้ มุ ชนเขม้ แขง็ และภาคภมู ใิ จในอตั ลกั ษณก์ ะเหรย่ี ง ทเี่ ปน็ สมบตั ิ ทางชาติพันธ์ อนั จะสง่ ผลให้พึ่งตนเองไดอ้ ยา่ งยงั่ ยนื รูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยี ด�ำเนินการโดยฝึกอบรมเชิง ปฏิบัติการ กลุ่มชุมชนกะเหร่ียงบ้านทากาศเหนือ อ�ำเภอแม่ทา จังหวัดล�ำพูน ทต่ี ระหนกั และเหน็ ความสำ� คญั ของลวดลายทอทเ่ี ปน็ อตั ลกั ษณก์ ะเหรยี่ งเพอ่ื สรา้ งโอกาส ทางการตลาดในอนาคต จากการมีส่วนร่วมของชุมชนและนักวิจัยคณะศิลปกรรมและ สถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ที่มุ่งเน้นถ่ายทอดและ อนรุ ักษเ์ ชิงสร้างสรรคอ์ ัตลักษณข์ องชุมชน โดยเผยแพร่และสร้างความเข้าใจนำ� ไปสกู่ าร ปฏิบัติ ทั้งน้ีในการด�ำเนินโครงการมีวัตถุประสงค์หลัก เพ่ือสร้างกลุ่มน�ำร่องออกแบบ ลวดลายสู่บรรจุภัณฑ์ให้กับชุมชนกะเหรี่ยง ให้เกิดความภาคภูมิใจในลวดลายทอ สร้างสรรค์บนบรรจุภณั ฑ์สกู่ ารสร้างรายไดจ้ ากตน้ ทนุ ทางวัฒนธรรมกะเหร่ียง ทสี่ ามารถ เตบิ โตไดอ้ ยา่ งยง่ั ยนื ดว้ ยการตอบสนองความตอ้ งการสงั คมวตั ถนุ ยิ มทสี่ รา้ งโอกาสทางการ ตลาด และขับเคล่ือนเศรษฐกิจชมุ ชนได้อยา่ งแทจ้ ริง “องค์ความรูส้ ู่ภาคประชาชน” 32มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
กระบวนการและขน้ั ตอน การออกแบบลวดลายบนบรรจภุ ณั ฑ์ผลติ ภัณฑก์ ะเหรี่ยง 1.อัตลกั ษณ์กะเหรี่ยง : ผหู้ ญงิ ทอผา้ - ผชู้ ายจกั สาน 33 “องค์ความร้สู ภู่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
2.อตั ลกั ษณล์ วดลายทอผา้ กะเหรย่ี งสบู่ รรจภุ ณั ฑท์ เี่ พม่ิ มลู ค่าภมู ิปัญญาผา้ ทอมอื สู่ผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจชุมชน อัตลักษณ์ลวดลายผ้าทอมือกะเหรี่ยงและกระบวนการ ถา่ ยทอดสกู่ ารสรา้ งแบรนดแ์ ละบรรจภุ ณั ฑเ์ พอ่ื เพมิ่ มลู คา่ การสอ่ื อตั ลกั ษณล์ วดลายทอภมู คิ วามรตู้ ามวถิ คี วามเชอื่ กะเหรยี่ งปกาเกอะญอ เปน็ การทอลวดลายบนผลติ ภณั ฑจ์ ะทอในลกั ษณะลายขดั หนง่ึ (Pain weave)ผสมผสานกบั ลายสอง (Twin weave)และลายยกขดั ดอกหรอื ลวดลาย (Satin weave) โดยมแี รงบนั ดาลใจจากสง่ิ รอบขา้ ง เชน่ หมู ไก่ ดอกไม้ ต้นไม้ ลูกเดือยปกั สายน�้ำ ภเู ขา คน ตัวอย่างดังภาพ “องคค์ วามรูส้ ู่ภาคประชาชน” 34มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
3.การออกแบบลวดลาย การออกแบบลวดลาย บนบรรจภุ ัณฑ์ ลวดลายต้นแบบ ครอบครวั ภเู ขา แม่น�ำ้ แนวคิดการออกแบบ: ไดน้ �ำวิถีชีวติ กะเหรยี่ งในการด�ำรงชีวติ ทีม่ คี วามผกู พนั กบั ปา่ และการนำ� วสั ดธุ รรมชาตมิ าประยกุ ตใ์ นลวดลายทม่ี ลี กั ษณะเดน่ มาออกแบบให้ ดูมีภาพลักษณ์ทแ่ี ปลกใหมป่ ระกอบด้วย สายน้�ำ ภเู ขา และคนในครอบครวั เป็นการ จัดวางองค์ประกอบลายท่ีเรียบง่าย (Simply) น�ำมาจัดวางตามหลักการวางลวดลาย ต้นแบบของลวดลายมีทมี่ าคอื 1. ครอบครัว ได้จาก ลักษณะการอยรู่ วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ 4-8 คน 2. ป่า หรือ ภูเขา ได้จาก การอย่รู วมกันของธรรมชาตทิ ่ีอดุ มสมบรู ณ์ 3. แมน่ ้�ำ ไดจ้ าก การเก้อื หนุนกนั ทางนเิ วศวิทยาทีว่ ่า “ป่าอยรู่ ว่ มกับนำ้� ” ขนั้ ตอนการจัดวางลวดลาย 1.น�ำลวดลายต้นแบบมาจัดวางบนโปรแกรม power point เพ่ือฝึกทักษะ ในการจัดวางลายแบบงา่ ยๆ ท่ชี าวบ้านสามารถเขา้ ใจและทำ� ได้จริง 35 “องค์ความรสู้ ู่ภาคประชาชน” มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
2.นำ� ลวดลายต้นแบบมาจดั วางตามรูปแบบการจดั วางลายได้ดงั น้ี 2.1 การจดั วางลวดลายแบบ Combination เป็นการจดั วางลายโดยการใช้สี และนำ้� หนกั ทแ่ี ตกตา่ ง หรอื ตรงขา้ มกนั เปน็ การออกแบบลวดลายจากอตั ลกั ษณล์ าย ทอผา้ กะเหรย่ี งการเคลอ่ื นไหวของน�ำ้ และดอกไม้เลก็ ๆในสายนำ้� และภเู ขาแทนด้วยสี แดงเพ่ิมความแตกตา่ งและมพี ลัง Combination เป็นการจัดวางลายโดยการใช้สีและน�้ำหนักท่ีแตกต่างกัน หรือ วางแบบตรงข้ามกันเป็น ลวดลาย จากแรงบันดาลใจ อัตลักษณ์ลายทอผ้ากะเหรี่ยง เป็นการเคล่ือนไหวของนำ้� และดอกไม้เล็กๆ ในสายน�ำ้ และภเู ขาแทนดว้ ยสแี ดงเพิม่ ความแตกต่างและมีพลัง ตัวอย่างผลงานการฝกึ ปฏิบัตกิ ารจดั วางลวดลายแบบ Combination “องคค์ วามรสู้ ู่ภาคประชาชน” 36มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
2.2 การจดั วางลวดลายแบบ Repetition เปน็ การจดั วางลายลกั ษณะวางเรยี งแบบซ้�ำ เวน้ ชอ่ งตาราง แบบขนั้ บนั ไดเปน็ การผสมผสานระหวา่ งลายเดมิ นำ� มาจดั วางในรปู แบบ การท�ำซ้ำ� เพอ่ื เกิดลวดลายใหมข่ นึ้ และใช้สี ทสี่ อื่ ความหมายถงึ น้�ำ ภูเขา และดอกไม้ ซง่ึ เปน็ ลกั ษณะเด่นของป่าธรรมชาติ Repetition เปน็ การจดั วางลายลกั ษณะวางเรยี งแบบซำ้� เวน้ ชอ่ งตาราง แบบขน้ั บนั ไดเปน็ การผสมผสาน ระหวา่ งลายเดมิ นำ� มาจดั วางในรปู แบบการทำ� ซำ�้ เพอ่ื เกดิ ลวดลายใหมข่ นึ้ และใชส้ ี ทส่ี อื่ ความหมายถงึ น�้ำ ภูเขาและดอกไม้ ซง่ึ เป็นลกั ษณะเด่นของปา่ ธรรมชาติ ตัวอย่างผลงานการฝกึ ปฏิบัติการจัดวางลวดลายแบบ Repetition 37 “องคค์ วามรู้ส่ภู าคประชาชน” มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
2.3 ลวดลาย Progression เป็นการจัดวางลายลักษณะวางเรียงแบบแผ่ขยายที่ ประยุกต์ลายตามข้ันตอนการออกแบบลวดลายจากจุดเร่ิมการขึ้นลวดลายจนถึงข้ัน สดุ ทา้ ยของลวดลายทสี่ อื่ ความหมายการเคลอ่ื นที่ การเพมิ่ ทไ่ี ดล้ ายแบบสมบรู ณช์ ดั เจน Progression เป็นการจัดลายลักษณะวางเรียบแบบแผ่ขยายที่ประยุกต์ลายตามขึ้นตอนการออกแบบ ลวดลายจากจุดเริ่มการขึ้นลวดลายจนถึงข้ันสุดท้ายของลวดลายท่ีมีความหมายเคลื่อนที่การเพ่ิมทีได้ ลายแบบสมบูรณช์ ดั เจน ตวั อยา่ งผลงานการฝกึ ปฏิบตั ิการจัดวางลวดลายแบบ Progression “องคค์ วามรู้สูภ่ าคประชาชน” 38มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
2.4 ลวดลาย Border lace เปน็ การจดั วางลายเชิง ลายแถบหรือลายมมุ Border lace เป็นการจดั วางลายในลักษณะ เปน็ แถบหรือลายเชงิ หรือเขา้ มมุ เปน็ การจัดวางลายไดห้ ลาก หลายวธิ ี ตวั อย่างผลงานการฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารจดั วางลวดลายแบบ Border lace 39 “องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
2.5 ลวดลาย Alternation เป็นการจัดวางลายแบบอสิ ระหรอื เลอื กวางแบบผสมผสาน ทิศทางการจดั วางเพอ่ื ให้เกดิ ลวดลายใหม่ Alternation เป็นการจัดวางลายแบบอิสระหรือเลือกวางแบบผสมผสานทิศทางการจัดวางเพื่อให้เกิด ลวดลายใหม่ โดยประยุกต์ลวดลายท่ีส่ือความหมายของป่าต้นน้�ำกะเหร่ียงท่ีมีความอุดมสมบูรณ์และ แฝงความเช่ือปา่ น�ำ้ คอื ชีวิต ตัวอย่างผลงานการฝึกปฏบิ ตั กิ ารจัดวางลวดลายแบบ Alternation “องคค์ วามรู้สภู่ าคประชาชน” 40มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
4. กระบวนการสรา้ งบรรจภุ ัณฑ์ สื่อบรรจุภัณฑ์ท่ีแสดงถึงอัตลักษณ์กะเหร่ียงปกาเกอะญอ ประกอบด้วย กระดาษห่อ (Wrapping) กล่องกระดาษ (Gift-packaging) ถุงกระดาษ(Shopping bag) ทเี่ พม่ิ มลู คา่ ผลติ ภณั ฑผ์ า้ ทอมอื กะเหรยี่ ง จากคำ� สอนกะเหรยี่ ง “ดา้ ยเสน้ เดยี วไม่ เปน็ เสอื้ คนตอ้ งมพี นี่ ้อง”เปน็ วถิ วี ฒั นธรรมกะเหรย่ี งทผ่ี กู พนั กบั ผา้ ทอตงั้ แตเ่ กดิ ถงึ ตาย ตามความเช่ือกะเหรย่ี ง สแี ดงเป็นสญั ลักษณ์(Color Symbolic) ทส่ี ่ือถึงการต่อสู้ การ สร้างพลงั ความซื่อสตั ย์ทีม่ ตี อ่ สงั คมครอบครวั และถ่นิ ทอี่ ย่อู าศัย การออกแบบบรรจุ ภัณฑ์ด้วยลวดลายผ้าทอเพ่ือเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ผ้าทอกะเหร่ียง เป็นการน�ำแนวคิด ทางวฒั นธรรมผสมผสานกบั การสรา้ งสรรค์ ดงั ท่ี ปนุ่ คงเจรญิ เกยี รติ ไดใ้ หแ้ นวคดิ วา่ บรรจุภัณฑ์เป็นศาสตร์และศิลป์ที่สนองความต้องการผู้ซื้อด้วยต้นทุนท่ีเหมาะ สม มหี นา้ ทค่ี มุ้ ครอง สรา้ งภาพลกั ษณ์ เพม่ิ มลู คา่ สะดวกตอ่ การขนสง่ ดงั ภาพ ตวั อยา่ ง 4.1 การนำ� ลวดลายมาจดั เรยี งลงบน แผน่ คลี่ (pattern) บรรจภุ ณั ฑ์ โดยใช้โปรแกรม Illustrator และการทำ� แบบและตน้ แบบตวั อยา่ งบรรจภุ ัณฑ์ : ถงุ บรรจุผ้าทอกะเหรี่ยง 41 “องค์ความรสู้ ูภ่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
4.2 ขน้ั ตอนการฝกึ ปฏบิ ตั ขิ น้ึ รปู บรรจภุ ณั ฑ์ การขึน้ รูปถงุ บรรจุตามตัวอยา่ ง 1. น�ำภาพคล่ีท่ีมีลวดลายการจัด วางบนบรรจุภัณฑ์มาขึ้นรูปตาม รอยพับ 2. ตดิ ผนึกกาวด้านข้าง 3. พับจีบตามรอยส้นประด้านล่าง สว่ นทเ่ี ป็นกน้ ถงุ 4. เจาะรูด้านส�ำหรับผูกเชือกท�ำหู หวิ้ หรือแขวนปา้ ยฉลาก การขนึ้ รปู กลอ่ งบรรจตุ ามตัวอย่าง 1. นำ� แผน่ คล่ที ีม่ ีลวดลายบนกลอ่ งบรรจมุ าตดั ตามรอยกรอบดา้ นนอกท่ีเปน็ เสน้ ทบึ 2. พับขึ้นรปู ตามรอยเสน้ ประและตดิ กาว ตัวอยา่ งผลงานการออกแบบลวดลายบนบรรจุภัณฑผ์ ลิตภัณฑก์ ะเหร่ยี ง “องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชน” 42มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
5. การน�ำไปใชป้ ระโยชน์ มี 3 ลกั ษณะ คือ 1. เปน็ สอ่ื สญั ลกั ษณ์ สรา้ งคณุ คา่ เชงิ ปรชั ญาของกะเหรยี่ งทสี่ อื่ ถงึ วธิ คี ดิ ลายทอผา้ ท่สี รรค์สร้างตามวิถคี วามเปน็ อยู่ตามแนวคิดของ วิรุณ ตงั้ เจริญ “สญั ลกั ษณ์ ใช้สื่อความหมายในลักษณะแผนภาพ (Ideogram &Pictogram) เป็นทัศน สญั ลกั ษณ์ (Visual form) ทม่ี รี ปู ลกั ษณ(์ Character) ดงึ ดดู ความสนใจ(Attract attention)สร้างความชดั เจนทีแ่ ตกตา่ ง(True &Contrast ) 2. บรรจุภัณฑ์ที่ส่ือแนวคิดสร้างสรรค์จากอัตลักษณ์กะเหรี่ยงเป็นรูปธรรมท่ีเพิ่ม มูลค่าผลิตภณั ฑ์ผา้ ทอกะเหรยี่ งทีน่ ำ� ไปตอ่ ยอดสู่เศรษฐกิจชมุ ชน 3. เปน็ การนำ� รอ่ งสรา้ งกลุ่มกะเหรยี่ งตน้ แบบในการพฒั นาเชงิ สรา้ งสรรค์ 6. ขอ้ แนะนำ� ทคี่ วรอนรุ กั ษใ์ หค้ งอยู่ ในบทบาทของนกั วชิ าการควรมกี ระบวนการ ถ่ายทอดอย่างไร ! อัตลักษณ์กะเหร่ียง ด้านการแต่งกาย เส้ือผ้า และสิ่งของเคร่ืองใช้ เป็นส่ิงบ่งบอกความเป็นเผ่าพันธุ์ ท่ีสื่อความหมายตามความเชื่อเรื่องวิญญาณ บรรพบุรุษท่ีคอยปกป้องคนในหมู่บ้าน ใช้สัญลักษณ์สีขาวส่ือถึงความบริสุทธ์ิด้วย ชดุ เซวาสขี าวสำ� หรบั เดก็ หญงิ สแี ดงหมายถงึ เลอื ดเนอ้ื เชอื้ ไขชาตพิ นั ธก์ุ ะเหรยี่ ง สอ่ื ดว้ ย เส้ือเซหงอ ส�ำหรับเด็กชาย และสีด�ำหมายถึงการอยู่ร่วมกันหรือมีครอบครัว สื่อด้วย เส้อื เซซู และผา้ ซ่นิ (หน่ีค)ิ เครื่องแต่งกาย เช่น ต่างหู (หน่าต)ิ ลกู ปดั หลากส(ี แพ) และ คตคิ วามเชอื่ สแี ดงเปน็ สแี หง่ ความเจรญิ มน่ั คง ความแขง็ แกรง่ และมชี ยั มอี อ่ื ธาบทกวีคำ� สอนลำ� นำ� เพลงปกาเกอะญอ ทพ่ี ดู ถงึ ทกุ สรรพสง่ิ รอบตวั ในปา่ ตามความรสู้ กึ เพอื่ สอ่ื เปน็ คำ� รอ้ งทำ� นองขบั ขานดว้ ยการเลยี นเสยี งธรรมชาตใิ นโอกาสตา่ งๆ แยกบทรอ้ งชายหญงิ ประกอบเคร่ืองดนตรี “เตหนา่ ” เสมือนเสยี งจากธรรมชาติ 43 “องคค์ วามรสู้ ภู่ าคประชาชน” มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
คำ� ถามยอดฮิตค่คู ิดมติ รชุมชน คำ� ถาม: การทำ� บรรจภุ ณั ฑแ์ บบงา่ ยๆทำ� ไดอ้ ยา่ งไร? ค�ำถาม : การท�ำบรรจุภัณฑ์มีผลท�ำให้สินค้า คำ� ตอบ : แพงขนึ้ ? 1. ใช้กระดาษห่อ ปิดทับด้วยฉลากแสดงตราสินค้า ค�ำตอบ : ใช่ แต่ในเชิงการตลาดเรียกว่า “การเพิ่ม พร้อมเบอร์โทรศัพท์ มูลคา่ สินคา้ ” 2. ถุงพิมพ์ตราสินค้า ท่ีอยู่ เบอร์โทรศัพท์ จัดวาง ลวดลายหรอื ภาพประกอบ 3. กล่องกระดาษ ห่อด้วยกระดาษ ปิดทับด้วย สตกิ เกอร์ คำ� ถาม: เรือ่ งราวบนบรรจุภัณฑค์ อื อะไร? ค�ำถาม : การทำ� กลอ่ งและถุง ราคาเทา่ ไหร่ คดิ ค่าออก ค�ำตอบ: คือ ส่ิงที่ต้องการบอกกล่าว สามารถสร้าง แบบด้วยรเึ ปล่า ? คุณค่าและภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ในเชิงบวกคือ ค�ำตอบ : การสั่งกลอ่ งและถุงแยกเปน็ 2 สว่ น คอื การ ประวัติศาสตร์ ต�ำนาน เร่ืองเล่าที่มีคุณค่าและสร้าง ออกแบบและท�ำตัวอย่างต้นแบบ และการพิมพ์ตาม มูลค่าเพ่ิมให้ผลิตภัณฑ์ คือ ความแตกต่างที่เป็นอัต จำ� นวนทส่ี ง่ั หลงั จากลงลายมอื ยนื ยนั ตวั อยา่ งตน้ แบบทง้ั ลกั ษณ์ของผลิตภณั ฑ์ รปู แบบและรายละเอยี ดทปี่ รากฏบนถงุ และกลอ่ ง สว่ น ค่าออกแบบคิดรวมกับการส่ังพิมพ์ตามจ�ำนวนท่ีพิมพ์ ราคาข้ึนกับจ�ำนวนและกระดาษที่ใช้ จ�ำนวนที่คิดเร่ิม ค�ำถาม: ภาพลักษณ์ที่ดีของบรรจุภัณฑ์เป็น จาก 200 ชนิ้ ขั้นต่ำ� และสที ีพ่ มิ พ์ อย่างไร? ค�ำตอบ: มี 2 ภาพลักษณ์ คือ 1. ภาพลกั ษณ์ดา้ นนอกทีเ่ ป็นรปู ธรรม :ใช้วัสดทุ เี่ หมาะสม :มรี ปู ลกั ษณ์โดดเดน่ สะดดุ ตา :แสดงข้อมลู ชดั เจน 2. ภาพลกั ษณด์ ้านในที่เปน็ นามธรรม :มคี วามรู้สึกประทบั ใจ โดนใจ :มีความรู้สึกภาคภูมิใจ ศรัทธาเชื่อม่ันใน ผลิตภัณฑ์วา่ ดี มคี ุณภาพ “องค์ความรูส้ ู่ภาคประชาชน” 44มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา
สอบถามองค์ความร้เู พม่ิ เติม สถานที่ติดตอ่ : หลักสูตรเทคโนโลยีบรรจุภณั ฑ์ สาขาเทคโนโลยีการพิมพ์และบรรจภุ ณั ฑ์ คณะศลิ ปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลล้านนา ภาคพายพั 95 ถนนซปุ เปอร์ไฮเวย์-เชยี งใหม่ลำ� ปาง อำ� เภอเมอื ง จังหวดั เชียงใหม่ 50300 โทรศัพท์ : (053) 414250-2 โทรสาร: (053) 414253 หรอื ตดิ ต่อโดยตรงที่ : อ.ณงค์ณุช นทีพายัพทศิ สาขาเทคโนโลยกี ารพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ คณะศลิ ปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยี ราชมงคลลา้ นนา ภาคพายัพ E-mail: [email protected] 45 “องคค์ วามรูส้ ู่ภาคประชาชน” มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา
องคค์ วามรูเ้ พ่อื การเผยแพร่ วจิ ยั พัฒนาเนอ้ื ดินสเี พื่อ เลยี นแบบสีผวิ ของมนษุ ย์ สำ� หรบั ใช้ในการผลติ ตุก๊ ตาเซรามิก
องคค์ วามร้เู พอ่ื การเผยแพร่ วจิ ยั พัฒนาเนื้อดนิ สีเพือ่ เลียนแบบสีผิวของ มนษุ ย์ สำ� หรบั ใช้ในการผลติ ตุ๊กตาเซรามิก วตั ถปุ ระสงค์และท่มี า ผลิตภัณฑ์เคร่ืองปั้นดินเผาท้องถิ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างข้ึน จากภมู ปิ ญั ญาพน้ื บา้ น และใชท้ รพั ยากรภายในทอ้ งถนิ่ ในการสรา้ งงาน อันอาจถือได้ว่าเป็นการใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างคุ้มค่า สามารถสร้าง มลู คา่ เพม่ิ ใหก้ บั วตั ถดุ บิ ภายในทอ้ งถนิ่ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี โดยใชภ้ มู ปิ ญั ญา ท่ีสืบทอดกันมาหลายช่ัวอายุคน หากแต่ผู้ผลิตเคร่ืองปั้นดินเผาท้อง ถิ่นเหล่าน้ี ยังขาดการสนับสนุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถ่ินให้ เกิดมูลค่ามากกว่าเดิมได้ ดังนั้นในปัจจุบันนี้ผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผา ท้องถ่ิน ยังคงผลิตเคร่ืองปั้นดินเผาในรูปแบบด้ังเดิมอยู่ ท�ำให้ผู้ผลิต เครื่องปั้นดินเผาท้องถิ่น ไม่สามารถน�ำสินค้าออกสู่ตลาดในระดับท่ี สูงกวา่ ได้ “องค์ความรสู้ ่ภู าคประชาชน” 48มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลลา้ นนา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178