Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมเล่มค่ายวิทย์

รวมเล่มค่ายวิทย์

Published by bbo_ chaleawkit, 2021-05-17 04:39:55

Description: รวมเล่มค่ายวิทย์

Search

Read the Text Version

ห น้ า | 240 ใบความรสู้ าหรบั ผจู้ ดั กจิ กรรม เรอื่ ง ระบบนิเวศ ระบบนิเวศ (Ecosystem) หมายถึง กลุ่มสิ่งมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์ หรือจุลินทรีย์ ท่ีอาศัยอยู่ร่วมกันใน บรเิ วณใดบรเิ วณหนง่ึ โดยส่ิงมีชีวิตทง้ั หลายมีความสัมพันธเ์ ก่ียวข้องกันอยา่ งเป็นระบบและนอกจากน้สี ่ิงมชี วี ิตยังมี ความสัมพันธ์กับสิ่งไม่มีชวี ิตที่อยู่ในบรเิ วณนั้น ๆ ด้วยระบบนิเวศอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ บางคร้ังระบบนิเวศ ขนาดเล็กอาจซ้อนอยู่ภายในระบบนิเวศขนาดใหญ่ เช่น แอ่งน้าเป็นระบบนิเวศขนาดเล็ก ซ่ึงอาจซ้อนอยู่ในป่าซึ่ง เปน็ ระบบนเิ วศขนาดใหญ่ บอ่ นา้ เป็นระบบนเิ วศขนาดเล็กอย่ใู นบา้ น บ้านจัดเป็นเป็นระบบนิเวศขนาดใหญเ่ ปน็ ต้น โลกเป็นระบบนเิ วศท่ีมีขนาดใหญ่ทสี่ ดุ หรอื อาจเรยี กกวา่ “ชีวลยั (Biosphere)” ซึ่งประกอบไปดว้ ยระบบ นเิ วศตา่ ง ๆ จานวนมาก ในแตล่ ะระบบนเิ วศมจี านวนและชนิดของสิง่ มีชีวิตแตกตา่ งกัน และในระบบนิเวศ ทแ่ี ตกต่างกนั สิ่งแวดล้อมย่อมแตกต่างกันดว้ ย ประเภทของระบบนิเวศ ระบบนเิ วศบนโลกมหี ลายระบบตง้ั แต่ขนาดใหญจ่ นกระทง่ั ขนาดเล็ก ซงึ่ แบ่งออกตามระบบทม่ี ีขนาดใหญ่ บนโลกไดเ้ ป็น 2 ประเภท ดงั น้ี ระบบนิเวศตามธรรมชาติ เปน็ ระบบนเิ วศทีเ่ กดิ ข้นึ และเปน็ ไปตามธรรมชาติ ซึง่ แบ่งออกไดเ้ ปน็ 2 ระบบ คือ ระบบนเิ วศบนบก (Terrestrial Ecosystem) เปน็ ระบบนเิ วศทมี่ ีดินเป็นสิ่งแวดล้อมที่ สาคัญในการดารงชีวิตของสิง่ มชี ีวิต ซง่ึ ก็คอื ระบบนเิ วศปา่ ไม้โดยลกั ษณะของปา่ ไม้มหี ลายประเภท เชน่ ป่าดบิ ชน้ื ป่าสนเขา ปา่ พรุ เปน็ ต้น ป่าไม้เหลา่ นี้จดั เป็นทรัพยากรธรรมชาตทิ ส่ี าคญั มาก และเป็นแหลง่ รวมของระบบนเิ วศ ยอ่ ยๆ จานวนมากประกอบด้วยกลุม่ สง่ิ มีชีวิตทมี่ ีแหลง่ ทอ่ี ยแู่ ตกต่างกัน เชน่ แหลง่ นา้ บนภเู ขา พ้ืนราบ เปน็ ต้น

ห น้ า | 241 ระบบนเิ วศในนา้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดงั น้ี ระบบนเิ วศแหล่งน้าจดื -บรเิ วณชายฝ่ัง เปน็ บริเวณท่ีอยตู่ ิดพน้ื ดนิ และห่างไหลจากฝ่งั ไม่มากนกั บรเิ วณน้ีพบว่าเปน็ แหล่งน้า ตน้ื ๆ มกั จะมีพชื นา้ จาพวกรากหยง่ั ลกึ ในดนิ และพืชทล่ี อยน้าอยู่จานวนมาก -บริเวณผิวน้า เปน็ บริเวณท่อี ยู่ถัดออกมาจากฝายฝ่ัง มีบริเวณทผี่ ิวน้าสมั ผัสกับอากาศและไดร้ ับ แสงอาทติ ย์ที่สอ่ งลงมากระจายอยา่ งทวั่ ถึงพน้ื ทผ่ี ิวน้า -บรเิ วณนา้ ชั้นลา่ ง ต่าลงมาจากผิวน้าจนถึงพ้ืนที่ทอ้ งน้าและเป็นบริเวณที่แสงอาทติ ย์ส่องไมถ่ ึง ระบบนิเวศแหลง่ นา้ กร่อย เปน็ ระบบนเิ วศทเี่ กิดขึน้ ตรงรอยต่อระหวา่ งน้าจดื กบั นา้ เคม็ มักเปน็ บรเิ วณที่เปน็ ปากแม่นา้ ตา่ งๆ จะมี ตะกอนมากจงึ มีป่าไม้กลุม่ ป่าชายเลนขนึ้ จงึ เรยี กวา่ ระบบนิเวศป่าชายเลน แตบ่ างพนื้ ท่ีอาจเปน็ แอ่งนา้ ขนาดใหญ่ เช่น ทะเลสงขลาตอนกลางก็จะมลี ักษณะเปน็ ทะเลสาบน้ากร่อยมพี ืชน้าสลบั กบั ปา่ โกงกาง ระบบนิเวศแหล่งนา้ เค็ม -บริเวณชายฝ่งั ทะเล เป็นบรเิ วณที่อยู่ติดกบั พนื้ ดิน ที่มีความลาดชันน้อยและค่อนข้างอุดมสมบรู ณ์ -บรเิ วณทะเลเปิด เปน็ บรเิ วณที่อยหู่ า่ งจากชายฝ่งั พ้ืนท่ีมคี วามลาดชันขึ้นตามระดับความลึกของน้า

ห น้ า | 242 ระบบนิเวศท่ีมนษุ ย์สร้างขนึ้ มีทัง้ ขนาดใหญ่และขนานเล็ก เช่น ระบบนเิ วศบา้ นเรอื น ระบบนเิ วศตปู้ ลา ระบบนิเวศแหลง่ อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม จัดเป็นระบบนเิ วศทม่ี นุษย์สรา้ งขึ้นไม่มใี นธรรมขาติ องค์ประกอบของระบบนเิ วศ การจาแนกองค์ประกอบของระบบนิเวศแยกตามหน้าท่ีในระบบ ได้แก่พวกท่ีสร้างอาหารได้เอง (autotroph) และส่ิงมีชีวิตได้รับอาหารจากสิ่งมีชีวิตอื่น (heterotroph) อย่างไรก็ตามการจาแนกองค์ประกอบ ของระบบนิเวศโดยทว่ั ไปมักประกอบไปดว้ ยองค์ประกอบท่มี ีชวี ติ (biotic) และองคป์ ระกอบท่ีไม่มีชวี ติ (abiotic) องค์ประกอบทีม่ ชี วี ติ (biotic component) ได้แก่ ผผู้ ลิต (producer or autotrophic) ได้แก่สงิ่ มชี วี ิตทสี่ รา้ งอาหารเองได้ จากสารอนินทรยี ์ ส่วนมากจะเปน็ พืชที่มคี ลอโรฟิลล์ ผู้บริโภค (consumer) ได้แก่ส่ิงมีชีวิตท่ีไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ (heterotroph) ส่วนใหญ่ เป็นสัตว์ที่กินสิ่งมีชีวิตอ่ืนเป็นอาหาร เนื่องจากสัตว์เหล่านี้มีขนาดใหญ่จึงเรียกว่า แมโครคอนซูมเมอร์ (macroconsumer) แบ่งออกเปน็ ก. ผบู้ รโิ ภคพืช (Herbivoe) ส่งิ มีชวี ติ ทก่ี ินแต่พืชเปน็ อาหาร เช่น วัว ควาย ช้าง มา้ ยีราฬ ฯลฯ ซ่งึ เปน็ สัตว์ท่ีไม่ดรุ า้ ย ข. ผูบ้ รโิ ภคสัตว์ (Carnivore) สิ่งมีชวี ติ ที่กนิ แตเ่ น้ือสัตว์ เปน็ ผ้ลู ่าในระบบนิเวศ มี ลกั ษณะดุรา้ ย ตัวใหญ่ เชน่ สตั ว์ สงิ โต ถา้ ตวั เลก็ จะหากินเปน็ ฝงู หมาใน ปลาปิลนั ยา ค. ผบู้ รโิ ภคท้ังพืชและสัตว์ (Omnivore) สงิ่ มชี วี ติ ที่กนิ ทงั้ พืชและสตั วเ์ ปน็ อาหาร เชน่ คน เป็ด ไก่ สนุ ขั แมว ฯลฯ ง. ผูบ้ รโิ ภคซากพชื ซากสตั ว์ (Scavenger) ส่งิ มชี ีวิตท่ีกินซากเป็นอาหาร เชน่ แร้ง ไส้เดอื น มด ปลวก ฯลฯ ผูย้ ่อยสลายซาก (decomposer, saprotroph, osmotroph หรอื microconsumer) ได้แก่ สง่ิ มชี ีวิตขนาดเลก็ ทีส่ ร้างอาหารเองไมไ่ ด้ เชน่ แบคทเี รีย เห็ด รา (fungi) และแอกทีโนมัยซีท (actinomycete) ทาหน้าทยี่ อ่ ยสลายซากสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วในรปู ของสารประกอบโมเลกลุ ใหญ่ใหก้ ลายเป็นสารประกอบโมเลกลุ เล็กในรูปของสารอาหาร (nutrients) เพื่อใหผ้ ผู้ ลติ นาไปใช้ไดใ้ หมอ่ ีก

ห น้ า | 243 องค์ประกอบทไี่ ม่มีชีวิต (abiotic component) ไดแ้ ก่ สารอนินทรยี ์ (inorganic substances) ประกอบด้วยแรธ่ าตแุ ละสารอนนิ ทรียซ์ ึง่ เปน็ องค์ประกอบสาคัญในเซลลส์ ง่ิ มีชวี ติ เชน่ คารบ์ อน ออกซเิ จน คารบ์ อนไดออกไซด์ และน้าเป็นต้น สารเหลา่ นี้มี การหมุนเวยี นใช้ในระบบนิเวศ เรียกว่า วัฏจักรของสารเคมีธรณีชีวะ (biogeochemical cycle) สารอินทรีย์ (organic compound) ได้แกส่ ารอนิ ทรยี ์ที่จาเป็นต่อชีวิต เช่นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมนั และซากสิง่ มีชีวิตเน่าเป่ือยทับถมกันในดนิ (humus) เป็นต้น สภาพภูมิอากาศ (climate regime) ได้แก่ปัจจัยทางกายภาพท่ีมีอิทธิพลต่อสง่ิ แวดล้อม เช่น อณุ หภมู ิ แสง ความช้นื อากาศ และพ้นื ผวิ ท่ีอยู่อาศยั (substrate) ซ่ึงรวมเรยี กวา่ ปัจจยั จากดั (limiting factors) ห่วงโซ่อาหาร (Food chain) เมื่อสง่ิ มชี ีวติ หนึ่งกินส่ิงมชี วี ติ หนง่ึ เป็นอาหารแลว้ กอ็ าจถกู สตั ว์อ่นื ๆ กนิ เป็นอาหารต่อไปอีก ทาให้เกิด การถ่ายทอดพลงั งาน จากธาตุอาหาร ผ่านจากชวี ิตหน่ึง ไปสู่อกี ชวี ิตหนงึ่ การถา่ ยทอดนี้กค็ ือ ระบบของห่วงโซ่ อาหาร ทีเ่ กิดข้ึนในระบบนิเวศ ซ่ึงเป็นการถ่ายทอดพลังงาน และการหมนุ เวียนธาตุอาหาร ไปตามลาดบั ขัน้ ตอนของการบริโภคห่วงโซอ่ าหารในระบบนเิ วศนนั้ แบ่งออกได้เปน็ ๓รปู แบบด้วยกนั คอื โซอ่ าหารแบบการลา่ เหย่ือ เปน็ ขนั้ ตอนของโซอ่ าหารจากพืชตา่ สดุ และจากสัตว์เล็กไปยังสตั ว์ท่ีใหญ่กว่าเปน็ ลกั ษณะของผ้บู รโิ ภคที่ เป็นสตั ว์กินเหยือ่ แบบกดั กินหรอื ฆ่ากินซงึ่ ผู้ล่าจะมีขนาดใหญก่ ว่าเหย่อื เสมอและหากผู้ลา่ เหยื่อมีขนาดเลก็ กว่า เหยือ่ กจ็ ะมเี ข้ียวเล็บแหลมคมทชี่ ่วยให้มีความสามารถในการตะปบกัดหรือออกล่าเหยอ่ื เป็นกลมุ่ โซอ่ าหารแบบปรสติ เปน็ โซอ่ าหารที่เรม่ิ ตน้ จากสตั วใ์ หญไ่ ปหาสตั วเ์ ลก็ ตามลาดบั โซอ่ าหารแบบซากอนิ ทรีย์ เปน็ โซ่อาหารท่เี รม่ิ ตน้ จากซากชีวติ ทต่ี ายแลว้ ไปยงั สิง่ มีชวี ิตเล็กๆ

ห น้ า | 244 แตเ่ นื่องจากในระบบของห่วงโซอ่ าหาร ในระบบของการถ่ายทอด จะถา่ ยทอดโดยตรง จากชวี ติ หน่งึ ไปสู่อีกชีวติ หนง่ึ เนอ่ื งจากสง่ิ มชี วี ติ หน่งึ อาจกนิ อาหารหลายชนดิ หลายระดบั และเหยื่อชนิดเดยี วกัน กอ็ าจถูกสง่ิ มชี ีวติ หลาย ชนดิ กิน จนไม่อยูใ่ นลาดับ และขั้นตอนของหว่ งโซอ่ าหาร ลักษณะดังกล่าว โดยทีไ่ ด้เกิดความซับซอ้ นกนั ในระบบ ของห่วงโซอ่ าหาร ซงึ่ เรยี กว่า สายใยของหว่ งโซ่อาหาร (Food web) ซ่ึงสายใยของห่วงโซอ่ าหาร จะประกอบดว้ ย หว่ งโซอ่ าหารหลายสายที่เชือ่ มโยงกนั อันแสดงถงึ ความสัมพนั ธ์อนั สลบั ซับซ้อนของสงิ่ มีชีวิต ในชมุ ชนของระบบ นเิ วศ ซ่ึงยงิ่ สายใยของห่วงโซ่อาหารมคี วามสลบั ซับซอ้ นมากเพียง ใด ก็ได้แสดงให้เห็นถงึ ระบบนิเวศ ทม่ี ีระบบ ความสมดุลสูง อนั เนื่องมาจากมคี วามหลากหลายของชีวิตในระบบ

ห น้ า | 245 ใบความรสู้ าหรับผรู้ ับบริการ เรือ่ ง ระบบนิเวศ ระบบนิเวศ (Ecosystem) หมายถึง กลุ่มส่ิงมีชีวิตไม่ว่าจะเป็นพืช สัตว์ หรือจุลินทรีย์ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันใน บริเวณใดบริเวณหน่งึ โดยส่ิงมีชีวติ ท้งั หลายมีความสัมพันธ์เกย่ี วข้องกนั อยา่ งเป็นระบบและนอกจากนสี้ ิ่งมีชวี ิตยังมี ความสัมพันธ์กับสิ่งไม่มีชีวิตที่อยู่ในบรเิ วณนั้น ๆ ด้วยระบบนิเวศอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ได้ บางคร้ังระบบนเิ วศ ขนาดเล็กอาจซ้อนอยู่ภายในระบบนิเวศขนาดใหญ่ เช่น แอ่งน้าเป็นระบบนิเวศขนาดเล็ก ซ่ึงอาจซ้อนอยู่ในป่าซึ่ง เปน็ ระบบนเิ วศขนาดใหญ่ บอ่ น้าเป็นระบบนเิ วศขนาดเลก็ อยใู่ นบา้ น บา้ นจดั เป็นเป็นระบบนิเวศขนาดใหญ่เป็นต้น โลกเป็นระบบนิเวศทมี่ ขี นาดใหญ่ทส่ี ดุ หรอื อาจเรียกกว่า “ชวี ลยั (Biosphere)” ซง่ึ ประกอบไปด้วยระบบ นเิ วศต่าง ๆ จานวนมาก ในแต่ละระบบนิเวศมีจานวนและชนิดของส่ิงมีชวี ติ แตกต่างกัน และในระบบนิเวศ ทีแ่ ตกต่างกนั ส่งิ แวดล้อมยอ่ มแตกตา่ งกนั ดว้ ย ประเภทของระบบนเิ วศ ระบบนเิ วศบนโลกมีหลายระบบตัง้ แต่ขนาดใหญ่จนกระท่งั ขนาดเล็ก ซึ่งแบ่งออกตามระบบที่มขี นาดใหญ่ บนโลกได้เป็น 2 ประเภท ดังน้ี ระบบนิเวศตามธรรมชาติ เป็นระบบนเิ วศที่เกดิ ขึน้ และเปน็ ไปตามธรรมชาติ ซง่ึ แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 2 ระบบ คือ ระบบนิเวศบนบก (Terrestrial Ecosystem) เป็นระบบนิเวศท่ีมดี นิ เป็นสิ่งแวดลอ้ มที่ สาคัญในการดารงชวี ติ ของส่งิ มชี วี ิต ซง่ึ ก็คอื ระบบนิเวศปา่ ไมโ้ ดยลกั ษณะของป่าไม้มีหลายประเภท เช่น ป่าดิบชนื้ ปา่ สนเขา ปา่ พรุ เป็นตน้ ป่าไม้เหลา่ นี้จัดเป็นทรัพยากรธรรมชาตทิ ่สี าคัญมาก และเปน็ แหล่งรวมของระบบนเิ วศ ยอ่ ยๆ จานวนมากประกอบด้วยกลุ่มสงิ่ มีชวี ิตท่ีมีแหล่งทีอ่ ยแู่ ตกต่างกนั เช่น แหล่งน้าบนภูเขา พ้นื ราบ เป็นตน้

ห น้ า | 246 ระบบนเิ วศในนา้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังน้ี ระบบนเิ วศแหล่งน้าจดื -บรเิ วณชายฝ่ัง เปน็ บริเวณท่ีอยตู่ ิดพน้ื ดนิ และหา่ งไหลจากฝัง่ ไม่มากนกั บรเิ วณน้ีพบว่าเปน็ แหล่งน้า ตน้ื ๆ มกั จะมีพชื นา้ จาพวกรากหยง่ั ลกึ ในดนิ และพืชทล่ี อยน้าอยจู่ านวนมาก -บริเวณผิวน้า เปน็ บริเวณท่อี ยู่ถัดออกมาจากฝายฝ่ัง มีบรเิ วณทผ่ี ิวน้าสมั ผัสกับอากาศและไดร้ ับ แสงอาทติ ย์ที่สอ่ งลงมากระจายอยา่ งทวั่ ถึงพน้ื ทผ่ี ิวน้า -บรเิ วณนา้ ชั้นลา่ ง ต่าลงมาจากผิวน้าจนถึงพื้นท่ที อ้ งน้าและเปน็ บริเวณที่แสงอาทติ ย์ส่องไม่ถึง ระบบนิเวศแหลง่ นา้ กร่อย เปน็ ระบบนเิ วศทเี่ กิดขึน้ ตรงรอยต่อระหวา่ งน้าจดื กบั นา้ เคม็ มักเปน็ บรเิ วณที่เปน็ ปากแม่นา้ ตา่ งๆ จะมี ตะกอนมากจงึ มีป่าไม้กลุม่ ป่าชายเลนขนึ้ จงึ เรยี กวา่ ระบบนิเวศป่าชายเลน แตบ่ างพนื้ ท่ีอาจเปน็ แอ่งนา้ ขนาดใหญ่ เช่น ทะเลสงขลาตอนกลางก็จะมลี ักษณะเปน็ ทะเลสาบน้ากร่อยมีพชื นา้ สลบั กับป่าโกงกาง ระบบนิเวศแหล่งนา้ เค็ม -บริเวณชายฝ่งั ทะเล เป็นบรเิ วณที่อยู่ติดกบั พื้นดิน ทม่ี ีความลาดชันน้อยและค่อนข้างอุดมสมบรู ณ์ -บรเิ วณทะเลเปิด เปน็ บรเิ วณที่อยหู่ า่ งจากชายฝง่ั พ้ืนท่ีมีความลาดชนั ขึ้นตามระดับความลึกของน้า

ห น้ า | 247 ระบบนิเวศท่ีมนษุ ย์สร้างขึ้น มีทัง้ ขนาดใหญ่และขนานเล็ก เช่น ระบบนเิ วศบา้ นเรอื น ระบบนเิ วศตปู้ ลา ระบบนิเวศแหลง่ อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม จัดเป็นระบบนิเวศทม่ี นุษย์สรา้ งขนึ้ ไม่มใี นธรรมขาติ องค์ประกอบของระบบนเิ วศ การจาแนกองค์ประกอบของระบบนิเวศแยกตามหน้าท่ีในระบบ ได้แก่พวกท่ีสร้างอาหารได้เอง (autotroph) และส่ิงมีชีวิตได้รับอาหารจากสิ่งมีชีวิตอื่น (heterotroph) อย่างไรก็ตามการจาแนกองค์ประกอบ ของระบบนิเวศโดยทั่วไปมักประกอบไปดว้ ยองค์ประกอบท่มี ชี ีวติ (biotic) และองคป์ ระกอบท่ีไม่มีชวี ติ (abiotic) องค์ประกอบทีม่ ชี วี ติ (biotic component) ไดแ้ ก่ ผผู้ ลิต (producer or autotrophic) ไดแ้ ก่สงิ่ มชี วี ติ ทสี่ รา้ งอาหารเองได้ จากสารอนินทรีย์ ส่วนมากจะเปน็ พืชที่มคี ลอโรฟิลล์ ผู้บริโภค (consumer) ได้แก่ส่ิงมีชีวิตท่ีไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ (heterotroph) ส่วนใหญ่ เป็นสัตว์ที่กินสิ่งมีชีวิตอ่ืนเป็นอาหาร เนื่องจากสัตว์เหล่าน้ีมีขนาดใหญ่จึงเรียกว่า แมโครคอนซูมเมอร์ (macroconsumer) แบ่งออกเปน็ ก. ผบู้ รโิ ภคพืช (Herbivoe) ส่งิ มีชวี ติ ทก่ี ินแต่พืชเปน็ อาหาร เช่น วัว ควาย ช้าง มา้ ยีราฬ ฯลฯ ซ่งึ เป็นสัตว์ท่ีไม่ดรุ า้ ย ข. ผู้บรโิ ภคสัตว์ (Carnivore) สิ่งมีชวี ติ ที่กนิ แตเ่ น้ือสัตว์ เปน็ ผ้ลู ่าในระบบนิเวศ มี ลกั ษณะดุรา้ ย ตวั ใหญ่ เชน่ สัตว์ สงิ โต ถา้ ตวั เลก็ จะหากินเปน็ ฝงู หมาใน ปลาปิลนั ยา ค. ผบู้ รโิ ภคท้ังพืชและสัตว์ (Omnivore) สงิ่ มชี วี ติ ท่กี นิ ทงั้ พืชและสตั วเ์ ปน็ อาหาร เชน่ คน เป็ด ไก่ สนุ ขั แมว ฯลฯ ง. ผูบ้ รโิ ภคซากพืชซากสัตว์ (Scavenger) ส่งิ มชี ีวติ ท่ีกินซากเป็นอาหาร เชน่ แร้ง ไส้เดอื น มด ปลวก ฯลฯ ผูย้ ่อยสลายซาก (decomposer, saprotroph, osmotroph หรอื microconsumer) ได้แก่ สง่ิ มชี ีวิตขนาดเลก็ ทีส่ ร้างอาหารเองไมไ่ ด้ เชน่ แบคทีเรีย เห็ด รา (fungi) และแอกทีโนมัยซีท (actinomycete) ทาหน้าท่ยี อ่ ยสลายซากสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วในรปู ของสารประกอบโมเลกลุ ใหญ่ใหก้ ลายเป็นสารประกอบโมเลกลุ เล็กในรูปของสารอาหาร (nutrients) เพื่อใหผ้ ผู้ ลิตนาไปใช้ไดใ้ หม่อีก

ห น้ า | 248 องค์ประกอบทไี่ ม่มีชีวิต (abiotic component) ไดแ้ ก่ สารอนินทรีย์ (inorganic substances) ประกอบด้วยแรธ่ าตแุ ละสารอนนิ ทรียซ์ ึง่ เป็น องค์ประกอบสาคัญในเซลลส์ งิ่ มีชวี ติ เช่น คารบ์ อน ออกซเิ จน คารบ์ อนไดออกไซด์ และน้าเป็นต้น สารเหล่านี้มี การหมุนเวยี นใช้ในระบบนิเวศ เรียกว่า วัฏจักรของสารเคมีธรณีชีวะ (biogeochemical cycle) สารอินทรีย์ (organic compound) ได้แกส่ ารอนิ ทรยี ์ที่จาเป็นต่อชีวิต เชน่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมนั และซากส่งิ มีชีวิตเน่าเป่ือยทับถมกันในดนิ (humus) เป็นต้น สภาพภูมิอากาศ (climate regime) ได้แก่ปัจจัยทางกายภาพท่มี ีอิทธิพลต่อส่ิงแวดล้อม เช่น อณุ หภมู ิ แสง ความช้นื อากาศ และพ้นื ผวิ ท่ีอยู่อาศยั (substrate) ซ่ึงรวมเรยี กวา่ ปจั จัยจากดั (limiting factors) ห่วงโซ่อาหาร (Food chain) เมื่อสง่ิ มชี ีวติ หน่ึงกนิ สง่ิ มชี วี ติ หนง่ึ เป็นอาหารแลว้ กอ็ าจถกู สตั ว์อื่นๆ กนิ เปน็ อาหารต่อไปอีก ทาใหเ้ กดิ การถ่ายทอดพลงั งาน จากธาตอุ าหาร ผ่านจากชวี ิตหน่ึง ไปสู่อกี ชวี ิตหนงึ่ การถา่ ยทอดนี้ก็คือ ระบบของห่วงโซ่ อาหาร ทีเ่ กิดข้ึนในระบบนิเวศ ซ่ึงเป็นการถ่ายทอดพลังงาน และการหมนุ เวียนธาตุอาหาร ไปตามลาดบั ขัน้ ตอนของการบริโภคห่วงโซ่อาหารในระบบนเิ วศนนั้ แบ่งออกได้เปน็ ๓รปู แบบดว้ ยกนั คอื โซอ่ าหารแบบการล่าเหย่ือ เปน็ ขนั้ ตอนของโซอ่ าหารจากพืชตา่ สดุ และจากสัตว์เล็กไปยังสตั ว์ท่ีใหญ่กว่าเปน็ ลกั ษณะของผู้บรโิ ภคท่ี เป็นสตั ว์กินเหยือ่ แบบกดั กินหรอื ฆ่ากินซงึ่ ผู้ล่าจะมีขนาดใหญก่ ว่าเหย่อื เสมอและหากผู้ลา่ เหยื่อมขี นาดเลก็ กว่า เหยือ่ กจ็ ะมเี ข้ียวเล็บแหลมคมทชี่ ่วยใหม้ ีความสามารถในการตะปบกัดหรือออกล่าเหยอ่ื เป็นกลมุ่ โซอ่ าหารแบบปรสิต เปน็ โซอ่ าหารที่เรม่ิ ต้นจากสตั วใ์ หญไ่ ปหาสตั วเ์ ลก็ ตามลาดบั โซอ่ าหารแบบซากอินทรีย์ เปน็ โซ่อาหารท่เี รม่ิ ตน้ จากซากชีวติ ทต่ี ายแลว้ ไปยงั สิง่ มีชวี ิตเล็กๆ

ห น้ า | 249 แตเ่ นื่องจากในระบบของห่วงโซ่อาหาร ในระบบของการถ่ายทอด จะถ่ายทอดโดยตรง จากชวี ติ หน่งึ ไปสอู่ ีกชีวติ หนง่ึ เนอ่ื งจากสง่ิ มชี วี ติ หน่งึ อาจกินอาหารหลายชนดิ หลายระดับ และเหยื่อชนิดเดยี วกัน กอ็ าจถูกสิ่งมชี ีวติ หลาย ชนดิ กิน จนไม่อยูใ่ นลาดับ และข้ันตอนของหว่ งโซอ่ าหาร ลักษณะดงั กลา่ ว โดยทีไ่ ด้เกิดความซับซอ้ นกนั ในระบบ ของห่วงโซอ่ าหาร ซงึ่ เรยี กว่า สายใยของหว่ งโซ่อาหาร (Food web) ซ่ึงสายใยของห่วงโซอ่ าหาร จะประกอบดว้ ย หว่ งโซอ่ าหารหลายสายที่เชือ่ มโยงกนั อันแสดงถงึ ความสัมพนั ธ์อนั สลบั ซับซ้อนของสงิ่ มีชีวิต ในชมุ ชนของระบบ นเิ วศ ซ่ึงยงิ่ สายใยของห่วงโซ่อาหารมคี วามสลบั ซับซอ้ นมากเพียง ใด ก็ได้แสดงให้เห็นถงึ ระบบนิเวศ ที่มีระบบ ความสมดุลสูง อนั เนื่องมาจากมคี วามหลากหลายของชีวิตในระบบ

ห น้ า | 250 ใบกิจกรรม เร่ือง ระบบนเิ วศ วัตถุประสงค์ 1. อธบิ ายความหมายของระบบนิเวศ 2. จาแนกประเภทของระบบนิเวศ 3. สามารถสารวจระบบนิเวศท้ังในแหล่งน้าและบนบกได้ เน้ือหา 1. ความหมายของระบบนเิ วศ 2. ประเภทของระบบนเิ วศ 3. สารวจระบบนเิ วศท้ังในแหลง่ น้าและบนบก คาชี้แจง ตอนท่ี 1 ให้ผูร้ บั บริการ ตอบคาถามต่อไปนใี้ ห้ถูกตอ้ ง ตอนท่ี 2 กจิ กรรมการสารวจระบบนเิ วศบนบก ตอนที่ 1: ใหผ้ ู้รับบริการ ตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถูกต้อง 1. เมอ่ื กลมุ่ สงิ่ มีชีวติ มาอาศยั อยรู่ ว่ มกันในบริเวณแหล่งท่ีอยูเ่ ดยี วกนั และมคี วามสัมพันธเ์ กี่ยวข้องกัน อยา่ งเปน็ ระบบ เรียกวา่ อะไร ตอบ....................................................................................... .............................................................. 2. ตามท่ผี รู้ บั บริการได้ศึกษาประเภทของระบบนเิ วศ สามารถแบง่ ไดก้ ีป่ ระเภท อะไรบ้าง ตอบ.............................................................................................................. ....................................... 3.ระบบนเิ วศในนา้ (Aquatic Ecosystems) มกี ี่ประเภท อะไรบ้าง ตอบ.......................................................................................................................... ..........................

ห น้ า | 251 ตอนท่ี 2 กิจกรรมการสารวจระบบนเิ วศบนบก วิธที า 1. ให้นกั เรียนศึกษาระบบนิเวศตามบรเิ วณท่ีกาหนดให้ 2. ให้สารวจลักษณะสภาพทางชีวภาพโดยระบชุ ่อื กลุ่มสง่ิ มชี ีวติ จานวน และลักษณะโครงสร้างภายนอกของ สงิ่ มชี ีวิตในระบบนิเวศบนดิน 3. วดั อุณหภมู ิท่พี น้ื ผวิ ดนิ และระดบั ต่ากว่าพื้นผวิ ของบรเิ วณท่ศี ึกษาลกึ ลงไป ประมาณ 20-25 เซนตเิ มตร 4. วดั ความเปน็ กรด-เบสของบริเวณทศี่ กึ ษาด้วยกระดาษลิตมัสหรอื กระดาษพเี อช (pH paper) ถ้าเป็น ระบบนิเวศบนดนิ ใหล้ ะลายดินเล็กน้อยในน้ากลัน่ แลว้ จึงวัดค่าความเปน็ กรด-เบสดว้ ยกระดาษลิตมสั ตารางบันทกึ ผลการทากจิ กรรม รายละเอยี ดของสง่ิ มชี ีวติ แหลง่ ที่พบ การสารวจสงิ่ มีชีวิตบนบก ลกั ษณะเดน่ ของ จานวน รายละเอยี ดขอส่งิ ไม่มชี ีวติ สง่ิ มีชีวติ ลักษณและ ความเป็น สิง่ มีชีวติ ที่พบ อุณหภมู ิท่ีผิว กรดเบสของ ดิน ( C ) ดิน ( pH) สรปุ และอภิปรายขอ้ มลู ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ห น้ า | 252 แนวทางการตอบกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ระบบนิเวศ ตอนที่ 1: คาช้แี จง ใหผ้ ู้บรกิ าร ตอบคาถามตอ่ ไปน้ีใหถ้ กู ตอ้ ง 1. เมอ่ื กล่มุ สงิ่ มชี วี ิตมาอาศัยอยู่ร่วมกันในบริเวณแหลง่ ท่ีอยู่เดียวกนั และมคี วามสัมพนั ธ์เก่ียวข้องกัน อยา่ งเป็นระบบ เรยี กวา่ อะไร ตอบ........ระบบนิเวศ......................................................................................................... .................................... 2. ตามที่ผู้รบั บริการได้ศึกษาประเภทของระบบนิเวศ สามารถแบง่ ไดก้ ี่ประเภท อะไรบ้าง ตอบ.......2 ประเภท ได้แก่ ระบบนิเวศตามธรรมชาติ และระบบนเิ วศทม่ี นุษยส์ ร้างขึ้น....................................... 3.ระบบนิเวศในน้า (Aquatic Ecosystems) มกี ี่ประเภท อะไรบา้ ง ตอบ...3 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. ระบบนิเวศแหลง่ นา้ จืด 2. ระบบนิเวศแหล่งน้ากร่อย 3. ระบบนเิ วศแหลง่ น้าเค็ม

ห น้ า | 253 คณะผ้จู ัดทา ทีป่ รึกษา ผู้อานวยการ นางยวุ ดี แจ้งกร ครูชานาญการพิเศษ นายแสง โตศรสี วัสด์ิเกษม ครู นางสาววิรชา อนิ ทร์สขุ ผอู้ านวยการ คณะทางาน ครชู านาญการพิเศษ นางยุวดี แจ้งกร ครู นายแสง โตศรีสวัสด์ิเกษม นักวิชาการศกึ ษา นางสาววริ ชา อินทร์สขุ นกั วชิ าการคอมพวิ เตอร์ นายอาพร ทองอาจ นักวิชาการวทิ ยาศาสตรศ์ ึกษา นางสาวนุชนาถ นงค์พรมมา นักวิชาการวิทยาศาสตรศ์ ึกษา นางปาลิตา โตศรีสวัสดเ์ิ กษม นักวชิ าการวิทยาศาสตร์ศึกษา นางสาวกันติชิ ภ่มู ี นักวิชาการวิทยาศาสตรศ์ ึกษา นางสาวสกุ ัญญา ศรภี มู ิ นักวชิ าการวทิ ยาศาสตร์ศึกษา นางสาวกนกวรรณ จิปภิ พ ผู้ช่วยนักวิชาการศึกษา นางสาวเยาวลกั ษณ์ กลว้ ยนอ้ ย พนกั งานขบั รถยนต์ นายเทวัญ เทียมเขา นายอนนท์ ยาคา ออกแบบปกและรูปเล่ม นักวิชาการศึกษา นายอาพร ทองอาจ นกั วิชาการคอมพิวเตอร์ นางสาวนุชนาถ นงค์พรมมา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook