แผนการจดัการเรยีนรู้ การออกแบบและเทคโนโลยี ผสู้อน:นายณฐัพงศ์ไชยโคตร ตวัชว้ีดัและสาระการเรยีนรู้ คำอธบิายรายวชิา โครงสรา้งรายวชิา โครงสรา้งแผนการจดัการเรยีนรู้ แผนการจดัการเรยีนรู้ -เทคโนโลยใีนชวีติประจำวนั -ผลกระทบและการเปลย่ีนแปลงของเทคโนโลยี -วสัดแุละเครอ่ืงมอืชา่งพน้ืฐาน -กลไกไฟฟา้อเิลก็ทรอนกิส์ -กระบวนการออกแบบ -เชงิวศิวกรรม -กรณศีกึษา -Project
ตัวชวี้ ดั และสาระการเรียนรู้ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พือ่ การดารงชีวติ ในสังคมที่มกี ารเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความร้แู ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ่นื ๆ เพ่ือแก้ปญั หาหรอื พัฒนางาน อย่างมีความคิดสรา้ งสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลอื กใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างเหมาสม โดยคานงึ ถึงผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และส่งิ แวดล้อม สาระการเรียนรู้ 1. อธิบายแนวคดิ หลักของเทคโนโลยี เทคโนโลยีเปน็ สงิ่ ท่มี นษุ ย์สรา้ งหรอื พัฒนาข้นึ ซง่ึ อาจเปน็ ได้ ในชวี ิตประจาวันและวิเคราะห์สาเหตุ ทง้ั ชน้ิ งานหรือวิธีการ เพ่ือใชแ้ ก้ปญั หา สนองความต้องการ หรอื ปจั จัยทสี่ ง่ ผลต่อการเปล่ียนแปลง หรอื เพม่ิ ความสามารถ ในการทางานของมนุษย์ ของเทคโนโลยี ระบบทางเทคโนโลยเี ปน็ กลุม่ ของสว่ นตา่ ง ๆ ตง้ั แตส่ องสว่ น ขึน้ ไปประกอบเข้าด้วยกนั และ ทางานร่วมกันเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์โดย ในการทางานของระบบทางเทคโนโลยจี ะ ประกอบ ไปด้วยตัวปอ้ น (input) กระบวนการ (process) และ ผลผลติ (output) ทส่ี มั พันธ์กัน นอกจากนี้ ระบบทางเทคโนโลยี อาจมขี ้อมูลย้อนกลับ (feedback) เพื่อใช้ปรับปรงุ การทางานได้ ตาม วตั ถุประสงคซ์ ่ึงการวเิ คราะหร์ ะบบทาง เทคโนโลยชี ่วยให้ เข้าใจองค์ประกอบและ การทางานของเทคโนโลยรี วมถงึ สามารถ ปรบั ปรุงให้เทคโนโลยที างานได้ตามต้องการ เทคโนโลยมี กี ารเปลยี่ นแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดตี จนถงึ ปจั จบุ ัน ซ่ึงมสี าเหตหุ รอื ปจั จัยมาจาก หลายดา้ น เชน่ ปญั หา ความต้องการความก้าวหน้า ของศาสตร์ตา่ ง ๆ เศรษฐกจิ สงั คม
ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้ 2. ระบุปญั หาหรือความตอ้ งการ ในชีวิตประจาวนั รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู ปญั หาหรือความตอ้ งการในชีวิตประจาวนั และแนวคดิ ที่เกีย่ วข้องกบั ปญั หา พบได้จากหลายบริบทขึน้ กับสถานการณ์ทปี่ ระสบ เชน่ การเกษตร การอาหาร 3. ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ การแก้ปัญหาจาเป็นต้องสบื ค้น รวบรวมขอ้ มลู เปรยี บเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมลู ที่ ความรจู้ ากศาสตร์ตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนาไปสู่ จาเปน็ นาเสนอแนวทางการแกป้ ัญหา การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หา ใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจ วางแผนและดาเนนิ การ แก้ปญั หา การวเิ คราะหเ์ ปรียบเทยี บ และตัดสินใจเลือกข้อมูล ท่จี าเป็น โดยคานึงถึงเงือ่ นไข และทรัพยากรที่มีอยู่ 4. ทดสอบ ประเมนิ ผล และระบขุ ้อบกพร่อง ชว่ ยใหไ้ ดแ้ นวทางการแกป้ ญั หาทเี่ หมาะสม ที่เกดิ ขนึ้ พร้อมทง้ั หาแนวทางการปรับปรงุ การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทาได้หลากหลายวธิ ี แก้ไข และนาเสนอผลการแก้ปัญหา เช่น การร่างภาพ การเขยี นแผนภาพการเขยี นผงั งาน การกาหนดขน้ั ตอนและระยะเวลาในการทางาน ก่อนดาเนินการแกป้ ญั หาจะช่วยใหท้ างานสาเรจ็ ไดต้ ามเปา้ หมาย และลดข้อผิดพลาดของการทางานท่อี าจเกดิ ข้นึ การทดสอบ และประเมินผลเป็นการตรวจสอบ ชิน้ งานหรือวธิ ีการวา่ สามารถแก้ปญั หาได้ตามวัตถุประสงค์ ภายใตก้ รอบของปัญหา เพ่ือหาขอ้ บกพร่อง และดาเนนิ การ ปรบั ปรงุ โดยอาจทดสอบซา้ เพือ่ ใหส้ ามารถแกป้ ญั หาได้ การนาเสนอผลงานเปน็ การถ่ายทอดแนวคิด เพือ่ ใหผ้ ูอ้ น่ื เข้าใจเก่ียวกับกระบวนการทางานและช้ินงานหรือ วธิ ีการท่ีไดซ้ ึ่งสามารถทาไดห้ ลายวธิ เี ชน่ การเขียนรายงาน การ ทาแผ่นนาเสนอผลงาน การจัดนิทรรศการ การนาเสนอผ่านสือ่ ออนไลน์
ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรู้ 5. ใช้ความร้แู ละทักษะเก่ียวกับวสั ดุอปุ กรณ์ วัสดุแตล่ ะประเภทมสี มบตั ิแตกต่างกัน เชน่ ไม้ เคร่อื งมอื กลไก ไฟฟ้า หรืออิเล็กทรอนิกส์ โลหะ พลาสติก จงึ ตอ้ งมีการวเิ คราะห์สมบตั ิเพ่ือเลอื กใช้ เพ่ือแกป้ ญั หาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ให้เหมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน และปลอดภัย การสร้างชน้ิ งานอาจใช้ความรู้เรื่องกลไก ไฟฟา้ อเิ ล็กทรอนิกสเ์ ชน่ LED บซั เซอรม์ อเตอรว์ งจรไฟฟ้า อุปกรณ์และเคร่อื งมอื ในการสรา้ งช้นิ งานหรือ พฒั นาวิธกี ารมหี ลายประเภท ต้องเลือกใชใ้ ห้ถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทงั้ รจู้ ักเก็บรกั ษา
คาอธบิ ายรายวชิ า เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 40 ชัว่ โมง / ปี ศึกษา อธบิ ายความหมายของเทคโนโลยี วิเคราะห์สาเหตุ หรอื ปจั จัย ทส่ี ่งผลตอ่ การ เปลย่ี นแปลง ของเทคโนโลยี เลือกใช้เทคโนโลยีโดยคานึงถงึ ผลกระทบทเี่ กดิ ขน้ึ ตอ่ ชวี ิต สังคม และส่งิ แวดล้อม เข้าใจกระบวนการทางานของระบบทางเทคโนโลยี ประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ ทักษะ และทรัพยากร โดยวิเคราะหเ์ ปรียบเทียบและเลือกข้อมลู ที่จาเป็นเพ่อื ออกแบบวิธีการแก้ปญั หา ในชวี ิตประจาวัน เลอื กใชว้ สั ดุอุปกรณ์ เครอื่ งมือในการแกป้ ัญหาได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั สรา้ งชิ้นงานหรือพฒั นาวิธกี ารโดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม ตัวชว้ี ดั ว. 4.1 เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี 1. อธิบายแนวคิดหลักของเทคโนโลยใี นชีวติ ประจาวันและวิเคราะหส์ าเหตหุ รือปัจจัยทส่ี ง่ ผลตอ่ การ เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี 2. ระบปุ ญั หาหรอื ความต้องการในชวี ิตประจาวนั รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมูลและแนวคดิ ท่ีเกี่ยวกบั ปญั หา 3. ออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะหเ์ ปรยี บเทียบ และตดั สินใจเลือกข้อมลู ท่ีจาเป็น นาเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาให้ผ้อู ืน่ เขา้ ใจ วางแผนและดาเนนิ การแก้ปัญหา 4. ทดสอบ ประเมินผล และระบขุ ้อบกพร่องท่ีเกิดขึ้น พร้อมทง้ั หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และนาเสนอผลการแกป้ ัญหา 5. ใช้ความรู้และทักษะเก่ียวกับวสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า หรืออิเลก็ ทรอนิกสเ์ พ่ือแกป้ ญั หา ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสมและปลอดภยั รวมท้ังหมด 5 ตวั ชี้วัด
โครงสร้างรายวิชา เทคโนโลยี วิทยาการคานวณ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง/ ปี ลาดับท่ี หน่วยการเรยี นร/ู้ เร่อื ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา คะแนน การเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั (ชั่วโมง) 10 1 เทคโนโลยีในชวี ิตประจาวนั ว 4.1 ม.1/1 - เทคโนโลยี คอื สงิ่ ที่มนษย์ 3 10 สรา้ งขนึ้ เพื่อแกป้ ญั หา และเพม่ิ 10 ความสามารถในการทางาน 2 ของมนุษย์ - เขา้ ใจแนวคิดหลัก 3 ของเทคโนโลยี - ระบบทางเทคโนโลยี ประกอบดว้ ย ตวั ป้อน กระบวนการ ผลผลติ และข้อมลู ยอ้ นกลับ 2 ผลกระทบและการเปลยี่ นแปลง ว 4.1 ม.1/1 - การเปลยี่ นแปลงของ ของเทคโนโลยี เทคโนโลยี - ผลกระทบของเทคโนโลยี ด้านบวก - ผลกระทบของเทคโนโลยี ด้านลบ 3 วสั ดุและเครือ่ งมอื ช่างพน้ื ฐาน ว 4.1 ม.1/5 - วสั ดุ - สมบัตลิ และการเลือกใชว้ ัสดุ - เครอ่ื งมอื ช่างพ้นื ฐาน
ลาดบั ท่ี หนว่ ยการเรยี นร/ู้ เรอื่ ง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา คะแนน 4 กลไกไฟฟ้าอิเลก็ ทรอนิกส์ การเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด (ชัว่ โมง) 10 5 กระบวนการออกแบบ ว 4.1 ม.1/5 - ไฟฟา้ นามาใช้ประโยชน์โดย 2 10 เชงิ วศิ วกรรม การเปลยี่ นเป็นพลังงานรูปแบบ ว 4.1 ม.1/2 อนื่ 5 10 6 กรณีศึกษา ว 4.1 ม.1/3 - อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เปน็ การควบคมุ 20 ว 4.1 ม.1/4 กระแสไฟฟา้ ให้เคล่อื นทต่ี าม 2 20 7 Project ต้องการ 100 สอบปลายภาค - การรวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ รวม ที่เกีย่ วขอ้ งกบั การแกป้ ัญหา - ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา - วางแผนและดาเนินการ แกป้ ัญหา - ทดสอบ ประเมนิ ผล และ ปรับปรุงแกไ้ ข - นาเสนอวิธีการแกป้ ัญหา ว 4.1 ม.1/2 - ศึกษาตัวอย่างการนา ว 4.1 ม.1/3 กระบวนการออกแบบเชิง ว 4.1 ม.1/4 วศิ วกรรมมาใช้ในการ ว 4.1 ม.1/5 สรา้ งสรรค์ช้ินงาน ว 4.1 ม.1/2 - นากระบวนการออกแบบเชงิ 3 ว 4.1 ม.1/3 วศิ วกรรมมาใชใ้ นการ ว 4.1 ม.1/4 สร้างสรรคช์ น้ิ งาน ว 4.1 ม.1/5 20
โครงสรา้ งแผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การ วธิ ีการจดั กจิ กรรม ทักษะทไี่ ด้ การประเมนิ เวลา เรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 1.ความสามารถใน 1.ตรวจใบงานท่ี เทคโนโลยี แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ การส่อื สาร 1.1 1 ในชีวิตประจาวนั เรยี นรู้ท่ี 1 สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน 2.ความสามารถใน 2.ตรวจใบงานท่ี ความหมาย (Creativity-Based การคดิ 1.2 ของเทคโนโลยี Learning : CBL) 3.ความสามารถใน 2.ทักษะการเรยี นรู้ การแก้ปัญหา และนวัตกรรม 4.ความสามารถใน (Learning and การใช้ทักษะชีวติ Innovation Skills) 5.ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ 1.ตรวจใบงานท่ี 1 เรยี นรทู้ ี่ 2 สร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน 1.ความสามารถใน 1.3 แนวคิดหลัก (Creativity-Based การส่อื สาร 2.แบบประเมนิ ของเทคโนโลยี Learning : CBL) 2.ความสามารถใน พฤตกิ รรม 2.ทกั ษะการเรยี นรู้ การคิด รายบุคคล และนวัตกรรม 3.ความสามารถใน (Learning and การแก้ปญั หา Innovation Skills) 4.ความสามารถใน การใช้ทักษะชวี ติ 5.ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัดการ วิธกี ารจดั กจิ กรรม ทักษะทีไ่ ด้ การประเมนิ เวลา เรยี นรู้ การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 1.ความสามารถใน 1.ตรวจใบงานท่ี ผลกระทบ แผนการจดั การ 1.วิธกี ารสอนแบบ การส่ือสาร 1.4 1 และการเปลยี่ นแปลง เรยี นรูท้ ี่ 3 สร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน 2.ความสามารถใน 2.แบบประเมิน ของเทคโนโลยี ระบบทาง (Creativity-Based การคดิ พฤติกรรม เทคโนโลยี Learning : CBL) 3.ความสามารถใน รายบุคคล 2.ทักษะการเรียนรู้ การแก้ปัญหา และนวัตกรรม 4.ความสามารถใน (Learning and การใชท้ กั ษะชวี ติ Innovation Skills) 5.ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ 1.ตรวจใบงานที่ 1 เรียนรทู้ ี่ 4 สรา้ งสรรคเ์ ปน็ ฐาน 1.ความสามารถใน 2.1 การเปลย่ี นแปลง (Creativity-Based การสื่อสาร 2.แบบประเมนิ ของเทคโนโลยี Learning : CBL) 2.ความสามารถใน พฤติกรรม 2.ทักษะการเรยี นรู้ การคดิ รายบุคคล และนวัตกรรม 3.ความสามารถใน (Learning and การแก้ปญั หา Innovation Skills) 4.ความสามารถใน การใช้ทกั ษะชวี ติ แผนการจดั การ 1.วิธีการสอนแบบ 5.ความสามารถใน 1.ตรวจใบงานท่ี 1 เรยี นรู้ท่ี 5 สรา้ งสรรคเ์ ปน็ ฐาน การใชเ้ ทคโนโลยี 2.2 ผลกระทบ (Creativity-Based 2.แบบประเมิน ของการพฒั นา Learning : CBL) 1.ความสามารถใน พฤตกิ รรม เทคโนโลยี 2.ทักษะการเรยี นรู้ การสอ่ื สาร รายบคุ คล และนวัตกรรม 2.ความสามารถใน (Learning and การคิด Innovation Skills) 3.ความสามารถใน การแกป้ ญั หา 4.ความสามารถใน การใชท้ กั ษะชีวิต 5.ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจัดการ วธิ กี ารจัดกจิ กรรม ทกั ษะทไ่ี ด้ การประเมนิ เวลา เรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 1.ความสามารถใน 1.ตรวจใบงานท่ี วัสดุและเคร่อื งมือช่าง แผนการจดั การ 1.วธิ ีการสอนแบบ การส่ือสาร 3.1 1 พืน้ ฐาน เรยี นรทู้ ี่ 6 สรา้ งสรรคเ์ ป็นฐาน 2.ความสามารถใน 2.แบบประเมนิ ประเภท (Creativity-Based การคดิ พฤติกรรม ของวัสดุ Learning : CBL) 3.ความสามารถใน รายบุคคล 2.ทักษะการเรียนรู้ การแกป้ ญั หา และนวัตกรรม 4.ความสามารถใน (Learning and การใช้ทกั ษะชวี ติ Innovation Skills) 5.ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี แผนการจดั การ 1.วิธีการสอนแบบ 1.ตรวจใบงานท่ี 1 เรียนรทู้ ่ี 7 สร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน 1.ความสามารถใน 3.2 สมบัติและการ (Creativity-Based การส่ือสาร 2.แบบประเมนิ เลอื กใชว้ ัสดุ Learning : CBL) 2.ความสามารถใน พฤตกิ รรมกลุม่ 2.ทักษะการเรยี นรู้ การคดิ และนวตั กรรม 3.ความสามารถใน (Learning and การแกป้ ัญหา Innovation Skills) 4.ความสามารถใน การใช้ทกั ษะชีวติ แผนการจดั การ 1.วิธกี ารสอนแบบ 5.ความสามารถใน 1.ตรวจใบงานที่ 1 เรียนร้ทู ่ี 8 สรา้ งสรรคเ์ ปน็ ฐาน การใชเ้ ทคโนโลยี 3.3 เครือ่ งมือช่าง (Creativity-Based 2.แบบประเมนิ พ้ืนฐาน Learning : CBL) 1.ความสามารถใน พฤตกิ รรม 2.ทกั ษะการเรยี นรู้ การสอ่ื สาร รายบคุ คล และนวัตกรรม 2.ความสามารถใน (Learning and การคดิ Innovation Skills) 3.ความสามารถใน การแกป้ ัญหา 4.ความสามารถใน การใช้ทกั ษะชีวติ 5.ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การ วิธีการจัดกิจกรรม ทักษะท่ีได้ การประเมิน เวลา เรียนรู้ การเรียนรู้ (ชั่วโมง) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 1.ความสามารถใน 1.ตรวจใบงานท่ี กลไกไฟฟา้ แผนการจดั การ 1.วธิ ีการสอนแบบ การสื่อสาร 4.1 1 อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เรยี นรู้ที่ 9 สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน 2.ความสามารถใน 2.แบบประเมิน กลไกไฟฟา้ (Creativity-Based การคิด พฤตกิ รรมกลมุ่ Learning : CBL) 3.ความสามารถใน 2.ทกั ษะการเรียนรู้ การแกป้ ญั หา และนวตั กรรม 4.ความสามารถใน (Learning and การใชท้ กั ษะชวี ิต Innovation Skills) 5.ความสามารถใน การใชเ้ ทคโนโลยี แผนการจดั การ 1.วธิ ีการสอนแบบ 1.ตรวจใบงานที่ 1 เรยี นรู้ที่ 10 สร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน 1.ความสามารถใน 4.2 อิเล็กทรอนิกส์ (Creativity-Based การสอื่ สาร 2.แบบประเมิน Learning : CBL) 2.ความสามารถใน พฤตกิ รรม 2.ทักษะการเรียนรู้ การคดิ รายบคุ คล และนวตั กรรม 3.ความสามารถใน (Learning and การแก้ปญั หา Innovation Skills) 4.ความสามารถใน การใช้ทักษะชวี ติ 5.ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การ วธิ ีการจัดกิจกรรม ทกั ษะที่ได้ การประเมนิ เวลา เรียนรู้ การเรียนรู้ (ชั่วโมง) หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 5 1.ความสามารถใน 1.ตรวจใบงานที่ กระบวนการออกแบบ แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ การสอื่ สาร 5.1 1 เชิงวิศวกรรม เรียนรู้ท่ี 11 สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน 2.ความสามารถใน 2.แบบประเมนิ กระบวนการ (Creativity-Based การคดิ พฤติกรรม ออกแบบเชงิ Learning : CBL) 3.ความสามารถใน รายบุคคล วศิ วกรรม 2.ทักษะการเรียนรู้ การแกป้ ัญหา และนวตั กรรม 4.ความสามารถใน (Learning and การใช้ทกั ษะชวี ิต Innovation Skills) 5.ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ 1.ตรวจผลงาน 1 เรียนรทู้ ่ี 12 สรา้ งสรรคเ์ ป็นฐาน 1.ความสามารถใน กจิ กรรมทา การรวบรวม (Creativity-Based การส่ือสาร แบบสอบถาม ขอ้ มลู Learning : CBL) 2.ความสามารถใน 2.แบบประเมนิ 2.ทักษะการเรียนรู้ การคิด พฤติกรรม และนวตั กรรม 3.ความสามารถใน รายบคุ คล (Learning and การแกป้ ัญหา Innovation Skills) 4.ความสามารถใน การใช้ทักษะชวี ิต แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ 5.ความสามารถใน 1.ตรวจใบงานท่ี เรยี นรู้ท่ี 13 สรา้ งสรรคเ์ ป็นฐาน การใช้เทคโนโลยี 5.2 ออกแบบวิธกี าร (Creativity-Based 2.แบบประเมนิ แก้ปัญหา Learning : CBL) 1.ความสามารถใน พฤติกรรม 2.ทกั ษะการเรยี นรู้ การสื่อสาร รายบุคคล และนวัตกรรม 2.ความสามารถใน (Learning and การคิด Innovation Skills) 3.ความสามารถใน การแกป้ ญั หา 4.ความสามารถใน การใชท้ ักษะชวี ิต 5.ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการจดั การ วิธกี ารจดั กิจกรรม ทกั ษะท่ไี ด้ การประเมนิ เวลา เรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 6 1.ทักษะความคดิ 1.ตรวจใบงานที่ กรณศี กึ ษา แผนการจดั การ 1.วธิ กี ารสอนแบบ สร้างสรรค์ 5.3 1 เรยี นรทู้ ่ี 14 สรา้ งสรรคเ์ ปน็ ฐาน 2.ทกั ษะการสือ่ สาร 2.แบบประเมนิ วางแผนและ (Creativity-Based 3.ทกั ษะการคิดอย่าง พฤติกรรม 1 ดาเนินการ Learning : CBL) เปน็ ระบบ รายบคุ คล แกป้ ัญหา 2.ทกั ษะการเรียนรู้ 4.ทกั ษะการคิด 1 และนวตั กรรม วเิ คราะห์ แผนการจดั การ (Learning and 5.ทกั ษะการ เรียนรทู้ ี่ 15 Innovation Skills) แก้ปัญหา ทดสอบ ประเมนิ ผล 1.วิธีการสอนแบบ 1.ทกั ษะความคดิ 1.ตรวจใบงานท่ี ปรับปรุงแกไ้ ข สร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน สรา้ งสรรค์ 5.4 และนาเสนอ (Creativity-Based 2.ทกั ษะการส่อื สาร 2.แบบประเมนิ Learning : CBL) 3.ทกั ษะการคดิ อยา่ ง พฤติกรรม แผนการจดั การ 2.ทักษะการเรียนรู้ เป็นระบบ รายบุคคล เรยี นรทู้ ี่ 16 และนวตั กรรม 4.ทกั ษะการคิด ห่นุ ยนต์ปากกา (Learning and วเิ คราะห์ Innovation Skills) 5.ทักษะการ แกป้ ัญหา 1.วธิ ีการสอนแบบ สร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน 1.ทกั ษะความคดิ 1.ตรวจใบงานที่ (Creativity-Based สร้างสรรค์ 6.1 Learning : CBL) 2.ทักษะการสื่อสาร 2.แบบประเมิน 2.ทักษะการเรยี นรู้ 3.ทกั ษะการคิดอย่าง พฤตกิ รรมกล่มุ และนวตั กรรม เป็นระบบ (Learning and 4.ทกั ษะการคดิ Innovation Skills) วิเคราะห์ 5.ทักษะการ แก้ปัญหา
หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการ วิธกี ารจดั กิจกรรม ทักษะทไี่ ด้ การประเมิน เวลา เรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 1.ทักษะความคดิ 1.ตรวจใบงานท่ี Project แผนการจดั การ 1.วิธกี ารสอนแบบ สรา้ งสรรค์ 6.2 1 เรยี นรูท้ ี่ 17 สรา้ งสรรคเ์ ป็นฐาน 2.ทักษะการสื่อสาร 2.ตรวจผลงาน นาเสนอ (Creativity-Based 3.ทกั ษะการคดิ อยา่ ง 3.แบบประเมนิ 1 กรณศี ึกษา Learning : CBL) เป็นระบบ พฤตกิ รรมกลมุ่ 2.ทักษะการเรยี นรู้ 4.ทักษะการคดิ 1 แผนการจดั การ และนวตั กรรม วเิ คราะห์ เรยี นรู้ท่ี 18 (Learning and 5.ทกั ษะการ ปัญหาที่พบเจอ Innovation Skills) แก้ปัญหา ในชวี ิตประจาวนั 1.วธิ กี ารสอนแบบ 1.ทกั ษะความคิด 1.ตรวจใบงานท่ี แผนการจดั การ สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน สรา้ งสรรค์ 7.1 เรยี นร้ทู ่ี 19 (Creativity-Based 2.ทกั ษะการสอ่ื สาร 2.แบบประเมนิ การแก้ปัญหา Learning : CBL) 3.ทกั ษะการคดิ อย่าง พฤตกิ รรมกลุ่ม ทพี่ บเจอในชิวต 2.ทกั ษะการเรยี นรู้ เป็นระบบ ประจาวัน และนวตั กรรม 4.ทักษะการคิด ด้วยกระบวนการ (Learning and วเิ คราะห์ ออกแบบเชงิ Innovation Skills) 5.ทกั ษะการ วศิ วกรรม แก้ปญั หา 1.วธิ กี ารสอนแบบ สร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน 1.ทักษะความคิด 1.แบบประเมิน (Creativity-Based สรา้ งสรรค์ พฤติกรรมกลมุ่ Learning : CBL) 2.ทกั ษะการส่ือสาร 2.ทักษะการเรียนรู้ 3.ทกั ษะการคดิ อย่าง และนวัตกรรม เป็นระบบ (Learning and 4.ทักษะการคดิ Innovation Skills)) วิเคราะห์ 5.ทกั ษะการ แกป้ ัญหา
หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การ วิธีการจดั กจิ กรรม ทักษะทไี่ ด้ การประเมิน เวลา เรียนรู้ การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) แผนการจดั การ 1.วิธกี ารสอนแบบ 1.ทักษะความคิด 1.แบบ 1 เรียนรู้ที่ 20 สร้างสรรคเ์ ป็นฐาน สร้างสรรค์ ประเมินผลงาน นาเสนอ (Creativity-Based 2.ทักษะการสื่อสาร 2.แบบประเมิน Learning : CBL) 3.ทักษะการคิดอยา่ ง พฤตกิ รรมกลมุ่ 2.ทกั ษะการเรียนรู้ เป็นระบบ และนวตั กรรม 4.ทกั ษะการคิด (Learning and วิเคราะห์ Innovation Skills) 5.ทักษะการ แก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 6 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เทคโนโลยใี นชวี ติ ประจาวนั แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1 ความหมายของเทคโนโลยี เวลาเรยี น 2 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพ่ือการดารงชวี ิตในสังคมท่ีมีการเปลยี่ นแปลง อย่างรวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อ่นื ๆ เพือ่ แกป้ ัญหา หรอื พฒั นางาน อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาสม โดยคานึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวติ สังคม และสงิ่ แวดลอ้ ม 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด เทคโนโลยี (Technology) คอื การใช้ความรู้ เคร่อื งมอื ความคดิ หลกั การ เทคนคิ ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการตลอดจน ผลงานทางวทิ ยาศาสตร์ ทง้ั สง่ิ ประดษิ ฐแ์ ละวิธีการ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นระบบงาน เพอ่ื ช่วยให้ เกดิ การเปลยี่ นแปลงในการทางานใหด้ ยี ่งิ ขึ้น และเพอ่ื เพมิ่ ประสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลของงานให้มมี ากยิ่งขึน้ 3. ตวั ชว้ี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั ว 4.1 ม.1/1 อธิบายแนวคดิ หลักของเทคโนโลยใี นชวี ติ ประจาวนั และวิเคราะหส์ าเหตุหรอื ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี จุดประสงค์ 1. อธบิ ายไดว้ ่าเทคโนโลยีคืออะไร (K) 2. เลือกใชเ้ ทคโนโลยที เ่ี หมาะสมเพอ่ื ชว่ ยแก้ปญั หาในชวี ิตประจาวันได้ (P) 3. เห็นความสาคัญของเทคโนโลยีทีใ่ ช้ในชวี ติ ประจาวนั (A)
4. สาระการเรยี นรู้ 1. เทคโนโลยีเปน็ สิ่งทีม่ นุษย์สร้างหรือพฒั นาขนึ้ ซง่ึ อาจเปน็ ไดท้ ั้งชน้ิ งานหรอื วธิ ีการ เพ่ือใช้แกป้ ัญหา สนองความตอ้ งการ หรอื เพมิ่ ความสามารถ ในการทางานของมนษุ ย์ 2. ระบบทางเทคโนโลยเี ปน็ กล่มุ ของส่วนต่าง ๆ ตั้งแตส่ องสว่ นขน้ึ ไปประกอบเข้าดว้ ยกนั และ ทางานรว่ มกัน เพ่ือใหบ้ รรลุวัตถุประสงคโ์ ดย ในการทางานของระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบ ไปด้วยตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ทสี่ ัมพนั ธก์ นั นอกจากน้ี ระบบทางเทคโนโลยอี าจมีขอ้ มูล ยอ้ นกลับ (feedback) เพือ่ ใช้ปรบั ปรงุ การทางานได้ตาม วัตถปุ ระสงค์ซ่งึ การวิเคราะห์ระบบทาง เทคโนโลยชี ว่ ยใหเ้ ขา้ ใจองค์ประกอบและ การทางานของเทคโนโลยรี วมถงึ สามารถ ปรบั ปรุงให้เทคโนโลยี ทางานไดต้ ามต้องการ 3. เทคโนโลยีมีการเปลยี่ นแปลงตลอดเวลาต้งั แตอ่ ดีต จนถงึ ปจั จุบนั ซง่ึ มีสาเหตหุ รอื ปัจจัยมาจาก หลายดา้ น เช่น ปญั หาความตอ้ งการความก้าวหน้า ของศาสตรต์ า่ ง ๆ เศรษฐกจิ สังคม 5. สมรรถนะสาคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 1.1 เทคโนโลยีเครอื ขา่ ยไรส้ าย 2. ใบงานท่ี 1.2 รปู แบบของเทคโนโลยี 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. วธิ กี ารสอนแบบสรา้ งสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรยี นรูแ้ ละนวตั กรรม (Learning and Innovation Skills)
ชัว่ โมงท่ี 1 ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ผสู้ อนถามผู้เรยี นเพือ่ เป็นการทบทวนความร้เู ดิม และเพ่อื กระตุน้ ความสนใจของผูเ้ รียน เช่น “ในชวี ิตประจาวนั นกั เรยี นนกั เรยี นคิดวา่ สง่ิ ใดบา้ งทเ่ี ปน็ เทคโนโลยี” ผู้สอนให้ผูเ้ รยี นแต่ละคน ยกตัวอยา่ งสิ่งของรอบตวั ทค่ี ิดว่าเปน็ เทคโนโลยี แนวคาตอบ : แวน่ ตา : ถกู สรา้ งและพฒั นาขึ้นเพ่ือช่วยให้มนษุ ยท์ มี่ ีปัญหาสายตามองเห็นได้ชดั เจนข้นึ ปากกา : ถูกสรา้ งและพัฒนาข้นึ เพื่อตอบสนองความตอ้ งการของมนษุ ย์ในการเขยี น Notebook : ถูกสร้างและพฒั นาข้ึนเพอื่ อานวยความสะดวกของมนุษยใ์ นการทางานและเกบ็ ชอ้ มลู ขนั้ สอน 2. ผู้สอนอธิบายความหมายของเทคโนโลยี วา่ ในชวี ิตประจาวนั มนษุ ยใ์ ชส้ ิง่ อานวยความสะดวก ในหลายๆดา้ น ซ่ึงส่งิ อานวยความสะดวกเหล่านี้ อาจจะอยใู่ นรูปแบบของชนิ้ งาน (product) หรือวิธีการ (process) ทถ่ี ูกออกแบบโดยมนุษย์ และมวี ัตถปุ ระสงค์เพือ่ ใชแ้ ก้ปัญหาทเี่ กยี่ วข้อง กับมนุษยท์ ี่เกดิ ขนึ้ ในแต่ละวนั 3. ผ้สู อนยกตัวอย่างววิ ัฒนาการของการสื่อสาร
4. ผู้สอนอธบิ ายเพ่ิมเตมิ วา่ มนุษย์พัฒนาเครอื่ งมอื ที่ใชใ้ นการสอ่ื สาร เพอ่ื แกป้ ญั หาตอบสนองความ ตอ้ งการของมนษุ ย์ด้านการติดตอ่ สอื่ สาร หากพจิ ารณาภาพรวมของวิวัฒนาการการสื่อสารเร่อื ยมา ตงั้ แตย่ ุคโบราณ จนถึงปจั จบุ นั จะเหน็ ได้วา่ การสื่อสารมปี ระสิทธภิ าพมากข้นึ เรอื่ ยๆ เพอ่ื อานวยความ สะดวกดา้ นการสอ่ื สารให้เป็นไปอยา่ งรวดเร็ว และยังคงพัฒนาตอ่ ไปอย่างไม่หยุดน่ิง 5. ผูส้ อนแจกใบงานที่ 1.1 เทคโนโลยเี ครือขา่ ยไร้สาย ใหผ้ ู้เรยี นหาข้อมลู เพอ่ื อธิบายเก่ียวกับ วิวัฒนาการของเทคโนโลยีเครอื ขา่ ยไร้สาย 6. ผสู้ อนให้เวลาผ้เู รยี นในการทาใบงาน โดยผ้สู อนคอยดแู ลความเรยี บร้อยและคอยใหค้ าแนะนาเพ่ิมเตมิ ชว่ั โมงที่ 2 ขน้ั สอน (ต่อ) 1. ผสู้ อนเฉลยใบงานที่ ใบงานที่ 1.1 เทคโนโลยีเครอื ข่ายไร้สาย พร้อมกบั ใหผ้ ู้เรียนชว่ ยกันแลกเปลีย่ น เรียนรู้ 2. ผู้สอนแจกใบความรูท้ ่ี 1 รูปแบบของเทคโนโลยี พรอ้ มอธบิ ายใบความรู้ รปู แบบของเทคโนโลยี สามารถจาแนกออกได้เปน็ 3 รปู แบบ คือ 1. เทคโนโลยใี นลักษณะของผลผลติ (product) หมายถงึ วสั ดุและอุปกรณท์ ่ีเป็นผลมาจาก การใช้กระบวนการทางเทคโนโลยี เชน่ ปากกาพูดได้ 2. เทคโนโลยีในลกั ษณะของกระบวนการ (process) เปน็ การใช้อยา่ งเปน็ ระบบของวิธีการ ทางวทิ ยาศาสตร์ หรือความรูต้ ่างๆที่ไดร้ วบรวมไว้ เพอ่ื นาไปส่ผู ลในทางปฏบิ ัติ โดยเช่อื ว่า เปน็ กระบวนการทเ่ี ชื่อถือได้และนาไปส่กู ารแก้ปญั หาต่าง ๆ เชน่ กระบวนการขนส่งสินค้า 3. เทคโนโลยใี นลกั ษณะผสมของกระบวนการและผลผลติ (process and product) เป็นการ ทางานร่วมกนั ของผลิตภณั ฑ์และกระบวนการ เชน่ ระบบคอมพวิ เตอรซ์ ่งึ มีการทางานเป็นปฏิสัมพนั ธ์ ระหว่างตัวเครื่องกับโปรแกรม 3. ผู้สอนแจกใบงานที่ 1.2 รปู แบบของเทคโนโลยี พร้อมอธบิ ายวธิ กี ารทาใบงาน คือ ใหผ้ ูเ้ รียน ยกตัวอย่าง เทคโนโลยใี นลกั ษณะของผลผลิต (product) เทคโนโลยีในลกั ษณะของกระบวนการ (process) และ เทคโนโลยใี นลกั ษณะผสมของกระบวนการและผลผลิต (process and product) พร้อมบอกจุดประสงคข์ องการใชง้ าน
4. ผสู้ อนอธิบายเพิ่มเติมวา่ เมอ่ื มนษุ ย์พบปัญหาในชวี ิตประจาวนั มนุษยก์ จ็ ะหาวธิ ีแก้ปัญหา เพ่ือนามาสร้างส่ิงทีใ่ ช้แกป้ ญั หา เชน่ เทคโนโลยี วคั ซีน Covid-19 ที่แตล่ ะบริษัทไดค้ ดิ ค้นและผลติ ขึน้ มาเพอ่ื ใชใ้ นการรักษามนุษย์ จากการเจบ็ ป่วยด้วยโรคไวรสั โคโรนา (Covid-19) ขนั้ สรุป 5. ผสู้ อนสรุปให้ผเู้ รยี นเขา้ ใจวา่ เทคโนโลยี (Technology) คอื การใชค้ วามรู้ เครอ่ื งมอื ความคิด หลกั การ เทคนคิ ความรู้ ระเบียบวิธี กระบวนการ ตลอดจน ผลงานทางวทิ ยาศาสตร์ ทงั้ สง่ิ ประดิษฐ์ และวธิ ีการ มาประยุกตใ์ ช้ในระบบงาน เพอื่ ช่วยใหเ้ กดิ การเปลีย่ นแปลงในการทางานให้ดีย่ิงขึ้น และเพอื่ เพิม่ ประสิทธภิ าพและประสิทธผิ ลของงานให้มีมากย่ิงขึน้ 6. ผสู้ อนเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนสอบถามเพมิ่ เติม 9. ส่ือการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ท่ี 1 รูปแบบของเทคโนโลยี 2. ใบงานที่ 1.1 เทคโนโลยเี ครอื ขา่ ยไรส้ าย 3. ใบงานที่ 1.2 รูปแบบของเทคโนโลยี 0 10. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑ์ แบบประเมินผลงาน ตรวจใบงานท่ี 1.1 เทคโนโลยี คุณภาพอยูใ่ นระดบั ดี เครอื ขา่ ยไรส้ าย แบบประเมนิ ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 1.2 รูปแบบ แบบประเมนิ พฤตกิ รรม คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ของเทคโนโลยี รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ ประเมินพฤตกิ รรมรายบุคคล คุณภาพอยใู่ นระดบั ดี จากการทากจิ กรรม ผา่ นเกณฑ์ ในหอ้ งเรียน
แบบบันทกึ หลังแผนการสอน ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 จานวน 6 ชวั่ โมง เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยใี นชีวิตประจาวัน เวลาเรยี น 2 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 ความหมายของเทคโนโลยี ผลการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะแนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………….…………….ผสู้ อน (…………………………………) ตาแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………….ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา (…………………..…………………………) ตาแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 6 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยใี นชีวิตประจาวนั แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 แนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยี เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พ่อื การดารงชวี ิตในสังคมท่มี กี ารเปลยี่ นแปลง อย่างรวดเรว็ ใชค้ วามรแู้ ละทกั ษะทางด้านวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพ่อื แกป้ ญั หา หรอื พัฒนางาน อย่างมีความคดิ สร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยี อย่างเหมาสม โดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สังคม และสง่ิ แวดล้อม 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด แนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยี ประกอบด้วย 1. การพฒั นาแนวทางปฏิบตั ิในการแกป้ ญั หา 2. การตอบสนองความจาเป็นและความต้องการของมนษุ ย์ 3. ประเภทของเทคโนโลยี 3. ตวั ชีว้ ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตัวชวี้ ัด ว 4.1 ม.1/1 อธบิ ายแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยใี นชวี ติ ประจาวนั และวเิ คราะห์สาเหตหุ รือปัจจัย ทส่ี ง่ ผลต่อการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี จุดประสงค์ 1. อธิบายไดว้ ่าแนวคิดหลักของเทคโนโลยีมีอะไรบา้ ง (K) 2. เลอื กใชเ้ ทคโนโลยที เ่ี หมาะสมเพือ่ ช่วยแก้ปัญหาในชวี ติ ประจาวันได้ (P) 3. เห็นความสาคญั ของเทคโนโลยีที่ใช้ในชวี ติ ประจาวัน (A)
4. สาระการเรียนรู้ 1. เทคโนโลยเี ป็นส่งิ ที่มนุษยส์ รา้ งหรือพัฒนาขึ้น ซึ่งอาจเป็นได้ทง้ั ชน้ิ งานหรอื วธิ กี าร เพ่ือใชแ้ กป้ ัญหา สนองความตอ้ งการ หรือเพ่มิ ความสามารถ ในการทางานของมนษุ ย์ 2. ระบบทางเทคโนโลยีเปน็ กลมุ่ ของสว่ นตา่ ง ๆ ตง้ั แตส่ องสว่ นข้ึนไปประกอบเข้าดว้ ยกนั และ ทางานร่วมกนั เพือ่ ให้บรรลุวตั ถุประสงคโ์ ดย ในการทางานของระบบทางเทคโนโลยจี ะประกอบ ไปด้วยตัวปอ้ น (input) กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ทสี่ มั พันธ์กนั นอกจากนี้ ระบบทางเทคโนโลยีอาจมขี อ้ มูล ยอ้ นกลับ (feedback) เพอ่ื ใช้ปรับปรงุ การทางานไดต้ าม วัตถุประสงคซ์ งึ่ การวิเคราะห์ระบบทาง เทคโนโลยีชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจองคป์ ระกอบและ การทางานของเทคโนโลยีรวมถึงสามารถ ปรบั ปรงุ ใหเ้ ทคโนโลยี ทางานไดต้ ามต้องการ 3. เทคโนโลยมี ีการเปลย่ี นแปลงตลอดเวลาตัง้ แต่อดตี จนถึงปัจจบุ ัน ซ่ึงมีสาเหตหุ รือปัจจยั มาจาก หลายดา้ น เชน่ ปัญหาความตอ้ งการความก้าวหน้า ของศาสตรต์ ่าง ๆ เศรษฐกจิ สงั คม 5. สมรรถนะสาคัญ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 1.3 ความจาเปน็ หรอื ความต้องการ 2. กิจกรรมการอภปิ ราย ในหวั ข้อ “อนิ เทอรเ์ น็ตและโทรศพั ท์มือถือ คือความจาเปน็ หรือ ความต้องการ ในยคุ ปัจจุบนั ”
8. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสรา้ งสรรค์เปน็ ฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills) ชั่วโมงที่ 1 ข้นั นาเขา้ สบู่ ทเรียน 1. ผู้สอนเปิดคลปิ วดิ โี อ แมบ่ ้านยคุ 5G (ความยาวประมาณ 3 นาท)ี เมื่อจบคลปิ ผสู้ อนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการกระตนุ้ ให้เกิดการเรยี นรู้ เชน่ “อปุ กรณต์ า่ งๆในคลิป ถกู สรา้ งขึ้นมาเพ่ืออานวยความสะดวก และช่วยแก้ปัญหาในชวี ิตประจาวัน ถา้ นกั เรียนจะสรา้ ง อุปกรณ์ทีช่ ว่ ยแก้ปญั หาในชวี ติ ประจาวัน นกั เรยี นอยากจะสร้างอปุ กรณท์ แ่ี กป้ ญั หาในด้านใด? และจะตง้ั ช่ืออุปกรณช์ น้ิ นัน้ ว่าอยา่ งไร?” ข้ันสอน 2. ผสู้ อนแจกใบความรูท้ ่ี 2 แนวคิดหลักของเทคโนโลยี พรอ้ มอธิบายใบความรู้ แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ประกอบด้วย 1. การพัฒนาแนวทางปฏบิ ตั ใิ นการแก้ปญั หา การใชเ้ ทคโนโลยีชว่ ยในการแกป้ ัญหา เช่น ลซิ ่าทาแจกันดอกไม้แตก และไม่มีแจกนั สาหรบั ใส่ ดอกไม้ ลซิ ่าจงึ ใชก้ รรไกรตดั ขวดพลาสตกิ เพื่อทาเปน็ แจกนั จากเหตุการณต์ วั อยา่ ง ถือ ว่าเป็นการใช้ เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหา ซ่ึง กค็ ือ กรรไกร นัน่ เอง 2. การตอบสนองความจาเปน็ และความต้องการของมนษุ ย์ ความจาเปน็ (Needs) สิ่งทม่ี นษุ ยข์ าดแล้วจะไมส่ ามารถดารงชวี ติ อยไู่ ด้ เช่น ปจั จยั ส่ี ซง่ึ ได้แก่ อาหาร ท่อี ยู่อาศยั เครื่องนงุ่ ห่ม ยารักษาโรค ความต้องการ (Wants) สง่ิ ท่ีไมม่ ีความจาเปน็ ในการดารงชีวิตของมนุษย์ แต่เป็นสิง่ ที่ตอ้ งการเพื่อ ทาใหก้ ารดารงชวิ ิตสะดวกสบายมากข้ึน เชน่ เครอื่ งบิน โทรศัพท์ เครอื่ งประดบั
3. ประเภทของเทคโนโลยี เทคโนโลยกี ารศกึ ษา (Educational Technology) เป็นการพฒั นาการเรียนร้ใู ห้มปี ระสิทธภิ าพมากข้ึน ดว้ ยการนาเอาเทคโนโลยีเขา้ มาประกอบ การเรยี นการสอน เทคโนโลยีส่งิ แวดล้อม (Green Technology) ชว่ ยวางแผนแกไ้ ข ฟนื้ ฟสู ภาพแวดล้อม และชว่ ยลดมลภาวะ เชน่ รถยนต์ไฮบริดท่ีเครอื่ งยนต์ ช่วยลดการเผาไหม้ของน้ามันเชื้อเพลงิ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Information and Communication Technology) เป็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยที ี่ทาให้เกิดช่องทางการส่อื สารใหม่ ทส่ี ะดวกและประหยัดเวลา เทคโนโลยีการเกษตร (Agricultural Technology) เป็นเทคโนโลยีทีช่ ว่ ยให้เกษตรกรทางานได้ง่าย รวดเรว็ และสร้างผลผลติ ท่มี ปี ระสิทธภิ าพ ให้กบั เกษตรกร เชน่ อุปกรณต์ รวจสอบความชื้นของดินและนา้ เทคโนโลยกี ารเงนิ และการธนาคาร (Financial Technology) เปน็ เทคโนโลยีทเี่ ข้ามามสี ่วนชว่ ยทาให้ธรุ กรรมทางการเงนิ สะดวกและมปี ระสิทธิภาพมากข้นึ เทคโนโลยกี ารแพทย์ (Healthcare Technology) อานวยความสะดวกให้กบั ผปู้ ว่ ย ทาใหก้ ารรกั ษามคี วามงา่ ยและรวดเร็ว อกี ท้ังยงั ช่วยลด ความเสี่ยงทจี่ ะเกดิ ขนึ้ จากการรกั ษาพยาบาล เช่น การผา่ ตดั สอ่ งกลอ้ ง ฟ้ืนตัวเร็ว แผลขนาดเล็ก 3. ผูส้ อนแจกใบงานที่ 1.3 ความจาเปน็ หรือ ความต้องการ พร้อมอธิบายวิธีการทาใบงาน คอื ให้ผู้เรยี นพจิ ารณาภาพและตอบคาถามวา่ เป็น ความจาเปน็ หรือ ความตอ้ งการ ถ้าเป็นความจาเป็น ให้บอกเหตผุ ลความจาเปน็ 4. ผสู้ อนให้เวลาผเู้ รียนในการทาใบงาน โดยผูส้ อนคอยดแู ลความเรยี บรอ้ ยและคอยใหค้ าแนะนาเพม่ิ เตมิ
ชั่วโมงที่ 2 ข้นั สอน (ต่อ) 1. ผู้สอนเฉลยใบงานท่ี 1.3 ความจาเปน็ หรอื ความตอ้ งการ พร้อมกับใหผ้ ู้เรยี นรว่ มกนั แลกเปล่ยี น เรียนรู้ 2. ผสู้ อนให้ผ้เู รยี นร่วมกนั อภปิ รายในหวั ขอ้ “อินเทอรเ์ น็ตและโทรศัพทม์ ือถือ คือความจาเปน็ หรอื ความตอ้ งการ ในยุคปจั จบุ ัน” 3. ผู้สอนอธิบายเพ่มิ เตมิ ว่า ปจั จุบนั อนิ เทอร์เนต็ และโทรศัพทม์ อื ถือ เปน็ สว่ นหนึ่งทส่ี าคัญของชวี ิต ของเรามากข้ึน โดยเฉพาะในสถานการณท์ ม่ี กี ารแพรร่ ะบาดของโรคไวรสั โคโรนา โควดิ -19 ท่ีตอ้ งใช้ อนิ เทอรเ์ นต็ และโทรศาทม์ อื ถอื ในการทางาน การเรยี นการสอน จึงถือวา่ มคี วามจาเปน็ ส่วนฟงั ก์ช่นั ของโทรศัพทม์ อื ถอื เช่น ถ่ายรปู คมชัดความละเอียดสูง ถือเปน็ ความต้องการมากกว่าความจาเปน็ ซงึ่ เทคโนโลยีของอนิ เทอร์เน็ตและโทรศัพท์ มกี ารพัฒนาอยา่ งรวดเร็ว เพื่อตอบสนองการใชง้ าน ให้กับมนษุ ย์ จงึ ไมแ่ ปลกทท่ี ้งั สองส่ิงจะกลายเป็นปัจจัยท่ีจาเป็นในการใช้ชวี ติ แตอ่ าจจะตอ้ งพจิ ารณา ว่า เวลาท่ีเราใชไ้ ปในโลกอินเทอร์เนต็ และเวลาที่ใชไ้ ปกับโทรศพั ท์มือถอื มันคุม้ ค่ามากนอ้ ยแค่ไหน ข้ันสรปุ 4. ผ้สู อนสรปุ ให้ผู้เรียนเข้าใจวา่ แนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยี ประกอบด้วย 1. การพฒั นาแนวทางปฏิบัตใิ นการแกป้ ัญหา 2. การตอบสนองความจาเป็นและความต้องการของมนุษย์ 3. ประเภทของเทคโนโลยี 5. ผู้สอนเปดิ โอกาสให้ผเู้ รียนสอบถามเพิ่มเติม
9. สือ่ การเรยี นรู้ 1. คลิปวิดโี อ แม่บา้ นยุค 5G 2. ใบความรู้ที่ 2 แนวคิดหลกั ของเทคโนโลยี 3. ใบงานที่ 1.3 ความจาเปน็ หรอื ความตอ้ งการ 4. กจิ กรรมการอภิปราย ในหัวข้อ “อนิ เทอร์เนต็ และโทรศัพทม์ อื ถอื คอื ความจาเป็น หรอื ความตอ้ งการ ในยุคปจั จุบัน” 0 10. การวัดและประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์ แบบประเมินผลงาน คณุ ภาพอยใู่ นระดับ ดี ตรวจ ใบงานท่ี 1.3 ความจาเป็น แบบประเมนิ พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ หรอื ความต้องการ รายบุคคล คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ดี ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ จากการทากจิ กรรมการ อภปิ ราย ในหวั ขอ้ “อินเทอร์เน็ตและ โทรศพั ทม์ ือถอื คอื ความ จาเปน็ หรอื ความต้องการ ใน ยุคปัจจุบนั ”
แบบบันทึกหลังแผนการสอน ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 จานวน 6 ช่ัวโมง เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เทคโนโลยใี นชีวิตประจาวนั เวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ผลการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………….…………….ผู้สอน (…………………………………) ตาแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคิดเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….ผบู้ ริหารสถานศึกษา (…………………..…………………………) ตาแหนง่ ……………………………………… ………………/…………....../……………
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1 เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 6 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เทคโนโลยีในชีวิตประจาวนั แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 ระบบทางเทคโนโลยี เวลาเรียน 2 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพื่อการดารงชวี ิตในสงั คมทมี่ กี ารเปลย่ี นแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรแู้ ละทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อน่ื ๆ เพอื่ แกป้ ญั หา หรือพัฒนางาน อย่างมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อยา่ งเหมาสม โดยคานงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ระบบทางเทคโนโลยปี ระกอบไปด้วย ตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ทีส่ มั พันธก์ นั นอกจากนีร้ ะบบทางเทคโนโลยีอาจมีข้อมูลยอ้ นกลับ (feedback) เพอ่ื ควบคมุ การทางาน ให้ไดต้ ามวตั ถุประสงค์ 3. ตัวชี้วดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัด ว 4.1 ม.1/1 อธบิ ายแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยใี นชีวติ ประจาวนั และวเิ คราะหส์ าเหตหุ รอื ปจั จัย ที่สง่ ผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี จุดประสงค์ 1. อธิบายได้ว่าแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีมอี ะไรบา้ ง (K) 2. เลอื กใชเ้ ทคโนโลยที เ่ี หมาะสมเพอ่ื ชว่ ยแกป้ ญั หาในชีวติ ประจาวันได้ (P) 3. เห็นความสาคัญของเทคโนโลยีทใ่ี ช้ในชวี ติ ประจาวนั (A)
4. สาระการเรียนรู้ 1. เทคโนโลยีเปน็ ส่ิงท่ีมนุษย์สรา้ งหรอื พฒั นาขน้ึ ซ่งึ อาจเป็นไดท้ ัง้ ชน้ิ งานหรอื วธิ ีการ เพื่อใชแ้ กป้ ญั หา สนองความต้องการ หรอื เพมิ่ ความสามารถ ในการทางานของมนุษย์ 2. ระบบทางเทคโนโลยีเปน็ กลุ่มของสว่ นตา่ ง ๆ ตง้ั แต่สองส่วนขนึ้ ไปประกอบเข้าด้วยกันและ ทางานรว่ มกัน เพอ่ื ใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์โดย ในการทางานของระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบ ไปด้วยตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) ที่สัมพนั ธ์กนั นอกจากนี้ ระบบทางเทคโนโลยีอาจมีข้อมูล ย้อนกลับ (feedback) เพอ่ื ใชป้ รบั ปรงุ การทางานได้ตาม วัตถุประสงคซ์ ึ่งการวิเคราะห์ระบบทาง เทคโนโลยชี ว่ ยใหเ้ ข้าใจองคป์ ระกอบและ การทางานของเทคโนโลยีรวมถึงสามารถ ปรบั ปรุงให้เทคโนโลยี ทางานไดต้ ามต้องการ 3. เทคโนโลยมี ีการเปลยี่ นแปลงตลอดเวลาตง้ั แต่อดีต จนถงึ ปัจจุบนั ซงึ่ มีสาเหตุหรอื ปัจจยั มาจาก หลายดา้ น เชน่ ปญั หาความต้องการความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ต่าง ๆ เศรษฐกิจ สังคม 5. สมรรถนะสาคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 1.4 ระบบทางเทคโนโลยี 2. กิจกรรมการนาเสนอใบงานท่ี 1.4 ระบบทางเทคโนโลยี 8. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทกั ษะการเรยี นรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)
ช่วั โมงที่ 1 ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ผู้สอนถามผเู้ รยี น เพื่อเป็นการทบทวนความรเู้ ดมิ เช่น “รา่ งกายมนษุ ยป์ ระกอบดว้ ยระบบหลักๆ กร่ี ะบบ และ แต่ละระบบมีหน้าท่ีอย่างไรบา้ ง? แนวคาตอบ : รา่ งกายมนษุ ย์ประกอบดว้ ยระบบหลกั ๆ 11 ระบบ ระบบทางเดินอาหาร - การดดู ซมึ สารอาหาร และขับถา่ ยกากอาหารออก ระบบโครงกระดกู - เป็นโครงร่างของร่างกายและการเคล่อื นไหว ผลติ เมด็ เลอื ดขาวชนิดลิมโฟไซต์ ระบบกลา้ มเน้อื - เปน็ โครงรา่ งของร่างกายและการเคลอ่ื นไหว สรา้ งความรอ้ น ระบบประสาท - เปน็ ศูนย์รวมและประสาทการทางานโดยสญั ญาณทางไฟฟ้าเคมี ระบบตอ่ มไรท้ ่อ - เป็นศนู ยร์ วมและประสาทการทางานโดยฮอร์โมน ระบบไหลเวียนโลหิต - ขนส่งสารอาหารภายในร่างกาย ระบบหายใจ - กาจัดคาร์บอนไดออกไซด์และดูดซมึ แกส๊ ออกซเิ จน ระบบสืบพันธ์ุ - ผลติ ลกู หลานเพ่อื ดารงเผา่ พันธ์ุ ระบบปกคลุมรา่ งกาย - ปกคลมุ รา่ งกายภายนอก ระบบนา้ เหลือง - ควบคุมของเหลวในรา่ งกาย และทาหนา้ ที่เกี่ยวกบั ระบบภูมคิ ้มุ กนั ระบบขบั ถ่ายปัสสาวะ - ขบั ถา่ ยของเสีย และควบคุมสมดลุ เกลอื แร่ 2. ผสู้ อนถามผู้เรยี นเพ่อื เปน็ การกระตุ้นความสนใจของผเู้ รยี น เช่น “นอกจากระบบในร่างกายมนษุ ย์ใน ชวี ิตประจาวนั นกั เรียนรูจ้ ักระบบอะไรบา้ ง?” แนวคาตอบ : ระบบการทางานของคอมพวิ เตอร์ ระบบการขนส่งสินค้า
ข้นั สอน 3. รู้สอนอธบิ ายให้ผูเ้ รยี นเขา้ ใจวา่ ระบบ (System) คือ การทางานร่วมกนั ของส่วนแต่ละส่วนท่ีมคี วาม เกยี่ วข้องและความสมั พันธก์ นั สามารถจาแนกได้ 2 ประเภท คอื 1. ระบบของธรรมชาติ หมายถึง ระบบที่เป็นไปตามธรรมชาติ เช่น ระบบนิเวศ ระบบรา่ งกายมนุษย์ 2. ระบบทม่ี นษุ ยส์ รา้ งขน้ึ หมายถึง ระบบตา่ งๆทมี่ นุษยส์ รา้ งขึ้นมาเพอ่ื ตอบสนองความต้องการ หรือเป็นเครอื่ งมอื เครอ่ื งใชเ้ พ่อื อานวยความสะดวกในชวี ิตประจาวนั เช่น ระบบคอมพวิ เตอร์ 4. ผู้สอนแจกใบความรทู้ ่ี 3 ระบบทางเทคโนโลยี พร้อมอธบิ ายใบความรู้ ระบบทางเทคโนโลยี (technological system) คือ มนษุ ยป์ ระดิษฐ์หรอื สรา้ งเทคโนโลยขี ้ึนมา เพ่อื ใช้ในกระบวนการแก้ปัญหา หรอื สนองความต้องการ เพือ่ ใหบ้ รรลุวตั ถปุ ระสงค์ ซ่งึ กล่าวได้ว่า เทคโนโลยีนน้ั จะตอ้ งทางานอยา่ งเปน็ ระบบ ระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบไปด้วย ตัวปอ้ น (input) กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ทส่ี มั พันธก์ นั นอกจากนร้ี ะบบทางเทคโนโลยอี าจมีข้อมลู ย้อนกลับ (feedback) เพื่อควบคมุ การทางานใหไ้ ดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์ ตัวป้อน (input) คอื ส่ิงทีป่ อ้ นเขา้ สรู่ ะบบซึง่ อาจมมี ากกว่า 1 อยา่ ง กระบวนการ (process) คอื กจิ กรรมหรอื การดาเนนิ การทีเ่ กดิ ขึน้ ในระบบ เพอ่ื ทาให้เกิดผลผลิต ตามวัตถุประสงค์ ผลผลติ (output) คอื ผลทไ่ี ด้จากการทางานร่วมกันของตัวป้อน และกระบวนการของระบบ ผลผลติ ยังรวมถึงสง่ิ ท่เี ป็นผลพลอยไดจ้ ากระบบซ่ึงอาจเป็นสงิ่ ที่เราตอ้ งการหรือไม่กไ็ ด้ ขอ้ มลู ยอ้ นกลับ (feedback) คือ ขอ้ มลู ที่ใชใ้ นการควบคมุ หรือปอ้ นกลบั ใหร้ ะบบทางาน ไดบ้ รรลุตามวัตถปุ ระสงคซ์ ่งึ อาจมไี ดใ้ นบางระบบ
5. ผ้สู อนยกตวั อยา่ งระบบการทางานของหม้อหุงขา้ ว 6. ผู้สอนแจกใบงานที่ 1.4 ระบบทางเทคโนโลยี พรอ้ มอธิบายวธิ กี ารทาใบงาน คือ ให้ผู้เรียนวาด แผนผังอธบิ ายการทางานของระบบทพ่ี บเจอในชีวิตประจาวนั และอธบิ ายวา่ แต่ละสว่ นมี ความสัมพันธ์กับระบบทางเทคโนโลยอี ยา่ งไร 7. ผ้สู อนใหเ้ วลาผู้เรยี นในการทาใบงาน โดยผ้สู อนคอยดูแลความเรยี บรอ้ ยและคอยใหค้ าแนะนาเพม่ิ เตมิ ช่วั โมงท่ี 2 ขน้ั สอน (ตอ่ ) 1. ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแต่ละคนนาเสนอใบงานท่ี 1.4 ระบบทางเทคโนโลยี พรอ้ มกบั ให้ผู้เรยี นร่วมกัน แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ 2. ผู้สอนอธบิ ายเพ่ิมเติมวา่ การท่รี ะบบจะทางานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ จาเปน็ ต้องวเิ คราะห์การทางาน ของระบบเทคโนโลยี คือ การตรวจสอบประเมนิ ผลการทางานของระบบเทคโนโลยใี นทกุ องค์ประกอบ วา่ มกี ารทางานอย่างเป็นระบบหรอื ไม่ มีขอ้ บกพร่องอยา่ งไร
3. ผู้สอนถามผูเ้ รยี นเพ่ือเป็นการประเมนิ ความเขา้ ใจของผู้เรียน เพือ่ กระตุ้นให้เกิดการตัง้ คาถาม และหาข้อมูลเรยี นรเู้ พิม่ เติม โดยผสู้ อนยกกรณีตัวอย่าง เพอ่ื ตงั้ คาถาม เช่น การทาฝนเทยี ม เป็นวธิ ีการดดั แปลงสภาพอากาศทาให้เกิดฝน โดยทาจากเมฆท่ีมลี ักษณะพอเหมาะทจี่ ะเกดิ ฝนได้ จากน้ันใช้สารเคมีช่วยเร่งให้เมฆเกดิ การควบแนน่ และเกดิ การกล่ันตวั กลายมาเป็นฝน จากระบบทาง เทคโนโลยขี องฝนเทยี ม อะไร คอื ตวั ป้อน (input) อะไรคอื กระบวนการ (process) และอะไรคือ ผลผลติ (output) แนวคาตอบ ขั้นสรปุ 4. ผู้เรยี นและผู้สอนรว่ มกนั สรุปสาระสาคญั ของระบบทางเทคโนโลยี โดยเน้นประเด็นระบบทาง เทคโนโลยี มีองค์ประกอบ คือ ตัวปอ้ น กระบวนการ ผลผลิต และบางระบบมีขอ้ มลู ยอ้ นกลับ ท่ีทางานสัมพันธก์ ัน เพอ่ื ใหเ้ ทคโนโลยที างานสาเร็จตามวตั ถุประสงค์ 5. ผสู้ อนเปดิ โอกาสให้ผูเ้ รียนสอบถามเพมิ่ เตมิ 9. สื่อการเรียนรู้ 1. ใบความรู้ท่ี 3 ระบบทางเทคโนโลยี 2. ใบงานที่ 1.4 ระบบทางเทคโนโลยี 3. กิจกรรมการนาเสนอใบงานที่ 1.4 ระบบทางเทคโนโลยี 0
10. การวดั และประเมินผล เครือ่ งมือ เกณฑ์ แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยใู่ นระดบั ดี วธิ กี าร แบบประเมนิ พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ ตรวจ ใบงานที่ 1.4 รายบคุ คล ระบบทางเทคโนโลยี คุณภาพอยู่ในระดบั ดี ผา่ นเกณฑ์ ประเมินพฤตกิ รรมรายบุคคล จากการทากจิ กรรม การนาเสนอใบงานที่ 1.4 ระบบทางเทคโนโลยี
แบบบันทึกหลังแผนการสอน ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 จานวน 6 ชั่วโมง เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยใี นชวี ิตประจาวนั เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 ระบบทางเทคโนโลยี ผลการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปญั หาอปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผสู้ อน (…………………………………) ตาแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคิดเหน็ ของผ้บู ริหารสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา (…………………..…………………………) ตาแหนง่ ……………………………………… ………………/…………....../……………
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 4 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ผลกระทบและการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พอื่ การดารงชีวิตในสงั คมท่ีมีการเปลยี่ นแปลง อยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามรแู้ ละทกั ษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่นื ๆ เพอื่ แก้ปัญหา หรอื พัฒนางาน อยา่ งมีความคิดสร้างสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใชเ้ ทคโนโลยี อย่างเหมาสม โดยคานงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สังคม และสงิ่ แวดลอ้ ม 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การเปล่ยี นแปลงของเทคโลยมี ีสาเหตุปัจจัยมาจากหลายดา้ น เชน่ ปัญหา ความต้องการ ความก้าวหน้า ของศาสตร์ต่างๆ เศรษฐกจิ สังคม โดยอาจเปน็ การปรบั ปรุงกระบวนการผลิต ลักษณะทางกายภาพ วสั ดุ หน้าทใี่ ช้ สอย ระบบกลไกการทางาน การใขง้ าน รวมถึงประสิทธภิ าพของวธิ ีการ สิ่งของเคร่อื งใช้ หรอื ผลิตภณั ฑ์ 3. ตัวชีว้ ดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตัวชวี้ ดั ว 4.1 ม.1/1 อธบิ ายแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยใี นชวี ิตประจาวนั และวิเคราะห์สาเหตุหรอื ปจั จัย ท่สี ่งผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี จดุ ประสงค์ 1. วิเคราะหไ์ ดว้ า่ อะไรคือสาเหตปุ ัจจัยการเปลี่ยนของเทคโนโลยี (K) 2. เลือกใชเ้ ทคโนโลยที ี่เหมาะสมเพอื่ ช่วยแกป้ ัญหาในชีวิตประจาวนั ได้ (P) 3. เห็นความสาคญั ของเทคโนโลยที ี่ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน (A)
4. สาระการเรียนรู้ 1. เทคโนโลยีเป็นสงิ่ ทีม่ นษุ ย์สรา้ งหรือพฒั นาขนึ้ ซ่ึงอาจเปน็ ไดท้ ้ังช้นิ งานหรอื วธิ กี าร เพ่ือใชแ้ ก้ปัญหา สนองความต้องการ หรอื เพมิ่ ความสามารถ ในการทางานของมนุษย์ 2. ระบบทางเทคโนโลยีเป็นกลุ่มของสว่ นต่าง ๆ ตง้ั แต่สองส่วนขน้ึ ไปประกอบเขา้ ด้วยกนั และ ทางานร่วมกัน เพอ่ื ใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงคโ์ ดย ในการทางานของระบบทางเทคโนโลยจี ะประกอบ ไปด้วยตัวป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) ท่ีสัมพันธ์กนั นอกจากนี้ ระบบทางเทคโนโลยีอาจมขี อ้ มูล ย้อนกลบั (feedback) เพือ่ ใชป้ รบั ปรุงการทางานได้ตาม วัตถุประสงคซ์ ่ึงการวเิ คราะหร์ ะบบทาง เทคโนโลยีช่วยใหเ้ ข้าใจองค์ประกอบและ การทางานของเทคโนโลยีรวมถึงสามารถ ปรบั ปรงุ ให้เทคโนโลยี ทางานได้ตามต้องการ 3. เทคโนโลยมี ีการเปลย่ี นแปลงตลอดเวลาต้งั แตอ่ ดตี จนถึงปจั จบุ ัน ซึง่ มีสาเหตหุ รอื ปัจจยั มาจาก หลายดา้ น เช่น ปัญหาความต้องการความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ตา่ ง ๆ เศรษฐกิจ สงั คม 5. สมรรถนะสาคัญ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 2.1 การวิเคราะหก์ ารเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี 2. กจิ กรรมการนาเสนอใบงานท่ี 2.1 การวิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี 8. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. วิธกี ารสอนแบบสร้างสรรคเ์ ป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรยี นรแู้ ละนวตั กรรม (Learning and Innovation Skills)
ชัว่ โมงท่ี 1 ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ผสู้ อนเปดิ คลปิ วิดีโอ การออกแบบเครอ่ื งกรองนา้ ของแมห่ ญงิ การะเกด เพอ่ื เปน็ การกระตนุ้ ความ สนใจของผู้เรยี น 2. เมอื่ จบคลปิ ผสู้ อนอธิบายเพ่ิมเติม ว่า จากคลิป แม่การะเกดสงั่ จีนฮงให้ทาอุปกรณท์ ่ีใช้สาหรบั กรอง นา้ ให้สะอาดข้ึน และวธิ ีการดังกล่าวกย็ งั ใชก้ ับเครื่องกรองน้าในปัจจบุ ัน แต่มีการพัฒนาใหม้ ี ประสทิ ธภิ าพมากขน้ึ ย่งิ แสดงให้เห็นวา่ เทคโนโลยีมกี ารเปลียนแปลงตลอดเวลา ตัง้ แตอ่ ดตี ถึงปจั จุบัน ซง่ึ มสี าเหตหุ รอื ปัจจัยมาจากหลายดา้ น เช่น ปญั หา ความต้องการ ความกา้ วหนา้ ของศาสตรต์ ่าง ๆ เศรษฐกจิ สังคม ขนั้ สอน 3. ผูส้ อนแจก ใบความร้ทู ี่ 4 การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี พรอ้ มอธิบายใบความรู้ ตั้งแตส่ มัยโบราณมนษุ ยร์ จู้ กั ประดิษฐ์สิง่ ของเครือ่ งใช้หรอื คดิ วธิ ีการเพ่อื ชว่ ยแก้ปญั หา หรือสนองความต้องการในการดารงชีวติ ซ่งึ สิ่งของเคร่ืองใชห้ รือวิธีการน้ันไดร้ บั การพัฒนาอยา่ ง ตอ่ เนื่องใหเ้ หมาะสมกับแตล่ ะยคุ สมัย
สาเหตุหรือปจั จัยของการเปลี่ยนทางเทคโนโลยี มี 5 ปจั จัย คอื 1. แกป้ ญั หาสนองความตอ้ งการและเพ่ิมความสามารถของมนุษย์ 2. ความก้าวหนา้ ของศาสตร์ตา่ ง ๆ โดยเฉพาะวิทยาศตร์และคณิตศาสตร์ 3. เศรษฐกิจหรือฐานะทางการเงิน 4. สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ 5. สังคมและวฒั นธรรมความนยิ มแพร่หลาย 4. ผู้สอนยกตัวอย่าง ตารางวเิ คราะห์การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีเตา จาก ใบความรทู้ ่ี 4 การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี 5. ผู้สอนแจกใบงานที่ 2.1 การวเิ คราะห์การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี พร้อมอธบิ าย วธิ ีการทาใบงาน คือ ให้ผเู้ รยี นยกตวั อย่างเทคโนโลยีทีม่ ีการใชง้ านตั้งแต่อดตี จนถงึ ปจั จุบัน แลว้ ตอบคาถามลงในตารางวเิ คราะห์ พร้อมกับตอบคาถามในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 1. ปัญหาหรอื ความตอ้ งการทท่ี าให้เกดิ เทคโนโลยีในเร่อื งน้นั 2. การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี เปน็ ส่ิงของเคร่ืองใชห้ รือวิธกี าร 6. ผู้สอนให้เวลาผูเ้ รยี นในการทาใบงาน โดยผูส้ อนคอยดแู ลความเรยี บรอ้ ยและคอยใหค้ าแนะนาเพิ่มเตมิ ชั่วโมงท่ี 2 ขั้นสอน (ต่อ) 1. ผสู้ อนใหผ้ ูเ้ รียนแตล่ ะคนนาเสนอใบงานท่ี 2.1 การวเิ คราะห์การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี พร้อมกับให้ผเู้ รยี นร่วมกนั แลกเปลี่ยนเรียนรู้ 2. ผสู้ อนอธิบายเพ่มิ เตมิ ว่า เทคโนโลยีมีการเปล่ยี นแปลงอยูต่ ลอดเวลา และตัวนักเรียนเอง อาจจะเป็น สว่ นหน่งึ ท่ที าให้เกิดการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี การเปล่ียนแปลงท่รี วดเรว็ ของเทคโนโลยี สง่ ผลตอ่ การดารงชวี ติ ของมนุษย์ การศึกษาและวเิ คราะห์การเปลยี่ นแปลงของสิ่งของเคร่อื งใช้ หรอื วิธีการ จะทาให้ไดเ้ รียนรถู้ ึงสาเหตุ หรอื ปจั จัย ที่ทาให้เกดิ การเปล่ยี นแปลง เพือ่ ใหส้ ง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ หรือวิธกี าร สามารถแก้ปัญหา หรือ สนองความตอ้ งการ หรือ เพม่ิ ความสามารถในการทางาน ของมนษุ ย์
ขนั้ สรุป 3. ผสู้ อน และผเู้ รยี นร่วมกนั สรปุ สาเหตุหรอื ปัจจัยของการเปลยี่ นทางเทคโนโลยี มี 5 ปัจจยั คอื 1. แก้ปญั หาสนองความตอ้ งการและเพิ่มความสามารถของมนุษย์ 2. ความกา้ วหนา้ ของศาสตรต์ า่ ง ๆ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์ 3. เศรษฐกิจหรือฐานะทางการเงิน 4. สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ 5. สังคมและวฒั นธรรมความนิยมแพร่หลาย 4. ผ้สู อนเปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นสอบถามเพิ่มเตมิ 9. สื่อการเรยี นรู้ 1. คลิปวดิ โี อ การออกแบบเครอื่ งกรองนา้ ของแม่หญิงการะเกด 2. ใบความรู้ท่ี 4 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 3. ใบงานที่ 2.1 การวิเคราะห์การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี 4. กจิ กรรมนาเสนอใบงานท่ี 2.1 การวเิ คราะห์การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี 0 เครอ่ื งมอื เกณฑ์ 10. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร ตรวจ ใบงานที่ 2.1 แบบประเมนิ ผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี การวเิ คราะห์การเปล่ียนแปลง ผ่านเกณฑ์ ของเทคโนโลยี แบบประเมินพฤตกิ รรม รายบุคคล คณุ ภาพอยใู่ นระดับ ดี ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ จากการทากจิ กรรม นาเสนอใบงานที่ 2.1 การวิเคราะห์การเปลย่ี นแปลง ของเทคโนโลยี
แบบบันทกึ หลังแผนการสอน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 จานวน 4 ช่วั โมง เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ผลกระทบและการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ผลการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………….…………….ผู้สอน (…………………………………) ตาแหนง่ ……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคดิ เหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา (…………………..…………………………) ตาแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 4 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ผลกระทบและการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 5 ผลกระทบของการพฒั นาเทคโนโลยี เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พอ่ื การดารงชวี ิตในสังคมที่มกี ารเปลยี่ นแปลง อยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้และทกั ษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อน่ื ๆ เพ่ือแกป้ ัญหา หรอื พัฒนางาน อยา่ งมคี วามคิดสรา้ งสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อยา่ งเหมาสม โดยคานงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชวี ิต สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี แบง่ ได้เปน็ 4 ด้าน คอื ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ด้านเศรษฐกจิ ดา้ น วฒั นธรรม ดา้ นการเมอื ง ซงึ่ ความเจริญก้าวหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยีมผี ลกระทบตอ่ ความตอ้ งการและการสร้าง เทคโนโลยที งั้ ในทางบวก และ ทางลบ 3. ตัวช้ีวดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตวั ช้ีวัด ว 4.1 ม.1/1 อธิบายแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยใี นชวี ิตประจาวันและวเิ คราะห์สาเหตุหรอื ปจั จัย ทสี่ ง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี จุดประสงค์ 1. วเิ คราะหไ์ ด้ว่าอะไรคือผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี (K) 2. เลอื กใชเ้ ทคโนโลยที ีเ่ หมาะสมเพอื่ ช่วยแกป้ ญั หาในชวี ิตประจาวันได้ (P) 3. เห็นความสาคัญของเทคโนโลยีที่ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั (A)
4. สาระการเรียนรู้ 1. เทคโนโลยีเปน็ สิ่งท่มี นุษย์สร้างหรือพฒั นาขึ้น ซงึ่ อาจเปน็ ไดท้ ัง้ ชิ้นงานหรอื วธิ กี าร เพ่อื ใชแ้ ก้ปัญหา สนองความตอ้ งการ หรือเพม่ิ ความสามารถ ในการทางานของมนษุ ย์ 2. ระบบทางเทคโนโลยีเปน็ กลมุ่ ของส่วนตา่ ง ๆ ตงั้ แตส่ องส่วนขนึ้ ไปประกอบเขา้ ดว้ ยกนั และ ทางานร่วมกนั เพ่อื ให้บรรลวุ ตั ถุประสงคโ์ ดย ในการทางานของระบบทางเทคโนโลยจี ะประกอบ ไปดว้ ยตวั ป้อน (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) ท่ีสมั พนั ธ์กนั นอกจากนี้ ระบบทางเทคโนโลยอี าจมีขอ้ มูล ย้อนกลบั (feedback) เพอ่ื ใช้ปรับปรงุ การทางานได้ตาม วัตถุประสงค์ซ่งึ การวเิ คราะห์ระบบทาง เทคโนโลยีชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจองคป์ ระกอบและ การทางานของเทคโนโลยีรวมถงึ สามารถ ปรบั ปรุงให้เทคโนโลยี ทางานไดต้ ามตอ้ งการ 3. เทคโนโลยีมีการเปลย่ี นแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดตี จนถงึ ปัจจบุ ัน ซึ่งมสี าเหตุหรอื ปัจจัยมาจาก หลายดา้ น เชน่ ปญั หาความต้องการความก้าวหนา้ ของศาสตร์ตา่ ง ๆ เศรษฐกิจ สังคม 5. สมรรถนะสาคัญ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานท่ี 2.2 ผลกระทบของการพฒั นาเทคโนโลยี 8. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. วธิ กี ารสอนแบบสร้างสรรค์เปน็ ฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรยี นรแู้ ละนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)
ช่วั โมงท่ี 1 ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ผู้สอนเปิดคลปิ วิดีโอ สปอยหนังเร่อื ง Passengers เพื่อเปน็ การกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=UG45AmqCGC4 2. หลังจากจบคลปิ ผ้สู อนถามผู้เรียนเพือ่ กระตุ้นใหเ้ กดิ การเรียนรู้ เชน่ “นักเรยี นคิดวา่ เทคโนโลยีจะมี การพัฒนาจนเหมอื นกับในภาพยนต์ได้หรอื ไม่ และถา้ เป็นไปได้นักเรยี นคิดวา่ จะมีผลกระทบอะไร เกดิ ขึ้นบ้าง” ขัน้ สอน 3. ผสู้ อนแจก ใบความรทู้ ่ี 5 ผลกระทบของการพฒั นาเทคโนโลยี พร้อมอธิบายใบความรู้ ปจั จุบันเทคโนโลยีเขา้ มามบี ทบาทตอ่ การดาเนนิ ขีวติ ของมนษุ ย์ในหลายด้าน มีการพัฒนา และ สร้างเทคโนโลยใี หเ้ จรญิ ก้าวหนา้ อยา่ งไมห่ ยุดยัง้ เพ่ือตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ทมี่ อี ยูอ่ ย่าง ไม่จากดั เทคโนโลยชี ่วยอานวยความสะดวกให้กับมนุษยใ์ นหลายๆด้าน และเทคโนโลยกี ส็ ง่ ผลกระทบ ตอ่ การดารงชวี ิตของมนษุ ยใ์ นหลายๆดา้ นเช่นเดียวกนั ซ่งึ ผลกระทบของการพฒั นาเทคโนโลยี แบง่ ได้ เป็น 4 ด้าน คือ ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม มผี ลในด้านบวกและด้านลบต่อส่ิงแวดล้อมในธรรมชาติ ดา้ นเศรษฐกจิ มีผลกระทบกบั ระบบธรุ กรรมทางการเงิน ด้านวฒั นธรรม สิ่งประดิษฐห์ รอื นวัตกรรม ไดเ้ ปล่ียนวิถกี ารดารงชีวติ และวธิ กี ารทางาน ของมนุษย์ ดา้ นการเมอื ง จะแสดงออกมาในลักษณะส่ิงประดิษฐ์ หรอื นวตั กรรม มีอทิ ธิพลกับการตดั สินใจ ทางการเมือง และนโยบาย กฎเกณฑ์ หรือ ขอ้ บังคบั ของรัฐ 4. ผู้สอนยกตัวอยา่ ง ผลกระทบในทางบวกของการพัฒนาเทคโนโลยี คอื 1. ช่วยสง่ เสริมดา้ นความสะดวกสบายของมนุษย์ 2. ช่วยส่งเสรมิ สติปัญญาของมนุษย์ 3. ช่วยทาใหก้ ารผลติ ในอตุ สาหกรรมดขี นึ้
4. ช่วยส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยใหม้ คี วามสะดวกและมีประสิทธภิ าพมากขึน้ 5. ชว่ ยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ใหด้ ขี ้ึน 6. ชว่ ยเพมิ่ ความสะดวกสบายในการติดต่อสือ่ สาร 5. ผสู้ อนยกตวั อย่าง ผลกระทบในทางลบของการพฒั นาเทคโนโลยี คอื 1. ทาให้มนุษยสมั พันธเ์ สื่อมถอย 2. ทาให้เสยี สขุ ภาพ 3. เกดิ ขยะอเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ มี่ สี ว่ นประกอบทางเคมีที่เป็นพิษตอ่ สิ่งแวดลอ้ มขึน้ อยา่ งรวดเรว็ 4. ทาให้เกิดอาวุธร้ายแรงชนิดใหมๆ่ 6. ผสู้ อนใหผ้ ู้เรียนรว่ มกนั อภิปราย ว่า ผลกระทบของการพฒั นาเทคโนโลยี ในทางบวก และในทางลบ มีอะไรอกี บา้ ง ชว่ั โมงที่ 2 ขัน้ สอน (ตอ่ ) 1. ผู้สอนแจกใบงานที่ 2.2 ผลกระทบของการพฒั นาเทคโนโลยี พร้อมอธิบายวิธกี ารทาใบงาน คือ ให้ผเู้ รียนยกตวั อย่างเทคโนยที ่ีพบเจอในชีวิตประจาวันและทาการวิเคราะห์ วา่ เทคโนโลยดี งั กล่าว ส่งผลกระทบในด้านใด สง่ ผลกระทบในทางบวก และ ทางลบอย่างไร พร้อมบอกแนวทางการปอ้ งกัน และแก้ไข 2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการทาใบงาน โดยผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยใหค้ าแนะนาเพม่ิ เติม 3. เมือ่ ครบกาหนดเวลา ผ้สู อนสุ่มใหผ้ ู้เรียนนาเสนอใบงาน โดยใหผ้ เู้ รียนคนอ่ืนๆชว่ ยกนั เสนอแนะ แสดง ความคิดเหน็ 4. ผู้อธิบายเพ่มิ เตมิ ใหผ้ ู้เรยี นเข้าใจ โดยยกตัวอย่างผลกระทบท่เี กดิ จากโครงการแกล้งดิน
ข้นั สรปุ 5. ผ้สู อน และผเู้ รยี นร่วมกันสรปุ เทคโนโลยีมคี วามสาคัญต่อการดารงชวี ิต ซึ่งมนุษยม์ ีการพฒั นาคิดค้นสิ่ง อานวยความสะดวกสบาย เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพน้ื ฐานการดารงชีวติ เทคโนโลยมี ีผลกระทบ ท้ังทางตรงและทางออ้ ม ในหลายๆดา้ น ท้งั ด้านสิ่งแวดลอ้ ม ดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นวัฒนธรรม และด้าน การเมือง ซงึ่ เป็นผลกระทบทม่ี ีทั้งในทางทเ่ี ป็นบวก และในทางท่ีเปน็ ลบ 6. ผู้สอนเปดิ โอกาสให้ผูเ้ รยี นสอบถามเพิม่ เตมิ 9. สอ่ื การเรียนรู้ 1. คลปิ วิดโี อ สปอยหนังเรื่อง Passengers 2. ใบความรทู้ ี่ 5 ผลกระทบของการพัฒนาเทคโนโลยี 3. ใบงานที่ 2.2 ผลกระทบของการพฒั นาเทคโนโลยี 0 เครอ่ื งมือ เกณฑ์ 10. การวัดและประเมินผล คณุ ภาพอยูใ่ นระดบั ดี ผา่ นเกณฑ์ วิธีการ คณุ ภาพอยู่ในระดบั ดี ตรวจ ใบงานท่ี 2.2 แบบประเมนิ ผลงาน ผ่านเกณฑ์ ผลกระทบของการพฒั นา เทคโนโลยี แบบประเมินพฤตกิ รรม รายบุคคล ประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล จากการมีสว่ นรว่ ม ในห้องเรียน
แบบบันทกึ หลงั แผนการสอน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 จานวน 4 ช่วั โมง เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ผลกระทบและการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 5 ผลกระทบของการพฒั นาเทคโนโลยี ผลการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………….…………….ผู้สอน (…………………………………) ตาแหนง่ ……………………………………… ………………/…………....../…………… ความคดิ เหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………….ผูบ้ ริหารสถานศึกษา (…………………..…………………………) ตาแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 6 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 วัสดแุ ละเครอ่ื งมอื ชา่ งพนื้ ฐาน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6 ประเภทของวสั ดุ เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยีเพ่อื การดารงชวี ิตในสังคมที่มกี ารเปลย่ี นแปลง อย่างรวดเรว็ ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ่ืน ๆ เพอ่ื แกป้ ัญหา หรอื พฒั นางาน อย่างมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยี อย่างเหมาสม โดยคานงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ สังคม และสงิ่ แวดลอ้ ม 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด วัสดมุ ีหลายประเภท โดยวสั ดทุ น่ี ามาทาส่งิ ของเครื่องใชท้ ี่เราพบในชีวติ ประจาวันส่วนใหญ่ ไดแ้ ก่ วัสดุ ประเภท ไม้ โลหะ พลาสติก ยาง ซง่ึ แตล่ ะประเภทมีสมบัตแิ ละการนาไปใชง้ านท่แี ตกต่างกัน เชน่ ความแขง็ ความ เหนียว สภาพยดื หยุ่น ความร้อน การนาไฟฟา้ 3. ตัวชีว้ ดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตัวช้วี ดั ว 4.1 ม.1/5 ใช้ความรแู้ ละทกั ษะเกี่ยวกบั วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟา้ หรือ อเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ พ่อื แก้ปัญหาได้อยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสมและปลอดภัย จดุ ประสงค์ 1. อธิบายลกั ษณะของวัสดแุ ตล่ ะประเภทได้ (K) 2. เลือกใชว้ ัสดทุ ่เี หมาะสมกบั งาน (P) 3. เห็นความสาคัญของการเลอื กใชง้ านวสั ดใุ นการสรา้ งสรรค์เทคโนโลยี (A)
4. สาระการเรยี นรู้ 1. วัสดุแต่ละประเภทมสี มบัติแตกต่างกนั เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก จงึ ต้องมีการวิเคราะหส์ มบตั ิเพ่ือเลอื กใช้ ใหเ้ หมาะสมกบั ลักษณะของงาน 2. การสร้างชนิ้ งานอาจใชค้ วามรู้เร่อื งกลไก ไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ ช่น LED บัซเซอร์มอเตอรว์ งจรไฟฟ้า 3. อุปกรณแ์ ละเคร่อื งมอื ในการสร้างช้นิ งาน หรอื พัฒนาวิธีการมหี ลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั รวมทงั้ รู้จักเกบ็ รักษา 5. สมรรถนะสาคัญ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน 7. ภาระงาน 1. ใบงานที่ 3.1 ประเภทของวัสดุ 2. กจิ กรรมนาเสนอสมบัติของวัสดุ 8. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. วธิ ีการสอนแบบสร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152