คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 ๑ คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4–6 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ออกแบบการเรียนรู้โดยใช้มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวช้ีวดั ช่วงช้ันเป็ นเป้ าหมาย ออกแบบการจดั การเรียนรู้โดยเน้นผ้เู รียนเป็ นศูนย์กลาง ใช้แนวคดิ Backward Design ผสมผสานกบั แนวคดิ ทฤษฎกี ารเรียนรู้ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ออกแบบการเรียนรู้เพอื่ พฒั นาสมรรถนะสําคญั ของนักเรียนในการส่ือสาร การคดิ การแก้ปัญหา การใช้ทกั ษะชีวิต และการใช้เทคโนโลยี แบ่งแผนการจดั การเรียนรู้เป็ นรายช่ัวโมง สะดวกในการใช้ มีองค์ประกอบครบถ้วนตามแนวทางการจดั ทาํ แผนการจดั การเรียนรู้ของสถานศึกษา นําไปพฒั นาเป็ นผลงานทางวชิ าการเพอ่ื เลอื่ นวิทยฐานะได้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ๒ คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4–6 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สงวนลิขสิทธ์ิตามกฎหมาย ห้ามละเมิด ทาํ ซา้ํ ดัดแปลง และเผยแพร่ ส่วนใดส่วนหน่ึง เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ผู้เรียบเรียง สุเทพ จิตรช่ืน กศ.บ., กศ.ม. ชะออ้ น ศรีทอง ศษ.บ. จุลพงษ์ อดุ มพรพบิ ลู วท.บ., วท.ม. บรรณาธิการ สุระ ดามาพงษ์ กศ.บ., กศ.ม. ISBN 978–974–18–5901–6 พิมพ์ท่ี บริษทั โรงพมิ พ์วฒั นาพานชิ จํากดั นายเริงชยั จงพพิ ฒั นสุข กรรมการผจู้ ดั การ สื่อการเรียนรู้ระดบั ม. ต้น–ม. ปลาย กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หนังสือเรียน (ศธ. อนุญาต) แบบฝึ กทกั ษะ คู่มือการสอน แผนฯ (CD) ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) พระพุทธศาสนา ม. 1–3 ………………………………………….... … รศ. ดร.จรัส พยคั ฆราชศกั ด์ิ และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) หน้าที่พลเมืองฯ ม. 1–3 ………………………………….……….………….…. รศ.ธวชั ทนั โตภาส และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) เศรษฐศาสตร์ ม. 1–3 …………………………………….…………………..… ดร.ขวญั นภา สุขคร และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) ประวัติศาสตร์ ม. 1–3 …..………………....................................................… รศ. ดร.ไพฑรู ย์ มีกศุ ล และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) ภูมศิ าสตร์ ม. 1–3 …..………..…………………………….………………. ..… ผศ.สมมต สมบูรณ์ และคณะ หนงั สือเรียน สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ม. 1–3 …..……….……………………………………..………….…….. ..…รศ.ธวชั ทนั โตภาส และคณะ หนงั สือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม แผนฯ (CD) กฎหมายน่ารู้ ม. 1–3 …..………..…………………………………….…….. ..…ปรางคส์ ุวรรณ ศกั ด์ิโสภณกลุ หนงั สือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม แผนฯ (CD) เศรษฐกจิ พอเพยี ง ม. 1–3 …..………..…………………….………..……….…….. ..…ดร.พิษณุ และกสุ ุมาวดี หนงั สือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม แผนฯ (CD) โลกศึกษา ม. 1–3 …..………..…………………………….……….…….. ..…รศ. ดร.ไพฑรู ย์ มีกศุ ล และคณะ หนงั สือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) อาเซียนศึกษา ม. 1–3 …………………….…………..…… ดร.พษิ ณุ เพชรพชั รกลุ และคณะ หนงั สือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม แผนฯ (CD) หน้าทพี่ ลเมือง 1–6 ม. 1–3 …………………….…………………………..…… รศ.ธวชั ทนั โตภาส และคณะ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) พระพุทธศาสนา 1 ม. 4–6 ……….......................................................... รศ. ดร.จรัส พยคั ฆราชศกั ด์ิ และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) พระพทุ ธศาสนา 2 ม. 4–6 …………...................................................... รศ. ดร.จรัส พยคั ฆราชศกั ด์ิ และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) พระพุทธศาสนา 3 ม. 4–6 …………....................................................... รศ. ดร.จรัส พยคั ฆราชศกั ด์ิ และคณะ หนงั สือเรียน พระพทุ ธศาสนา ม. 4–6 …………............................................................................................................ ผศ. ดร.ธีระพงษ์ มีไธสง และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) หน้าที่พลเมอื งฯ ม. 4–6 เล่ม 1 .…………………………………………...….…. รศ.ธวชั ทนั โตภาส และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) หน้าท่พี ลเมืองฯ ม. 4–6 เล่ม 2 ………………………………….…………… … รศ.ธวชั ทนั โตภาส และคณะ หนงั สือเรียน หน้าทีพ่ ลเมืองฯ ม. 4–6 …………………………………………….......………………………….……………… รศ.ธวชั ทนั โตภาส และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) เศรษฐศาสตร์ ม. 4–6 …………………………………………….….………… ดร.ขวญั นภา สุขคร และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) ประวตั ิศาสตร์ ไทย ม. 4–6 ………………………………………….……...… รศ. ดร.ไพฑูรย์ มีกศุ ล และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) ประวัติศาสตร์ สากล ม. 4–6 ………….……………………………….……..… รศ. ดร.ไพฑูรย์ มีกศุ ล และคณะ หนงั สือเรียน แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 ……………………………………………………...……..… ผศ.สมมต สมบรู ณ์ และคณะ หนงั สือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม แผนฯ (CD) กฎหมายท่ีประชาชนควรรู้ ม. 4–6 …..………..………..……………..…….. ..…ปรางคส์ ุวรรณ ศกั ด์ิโสภณกลุ หนงั สือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม แผนฯ (CD) เศรษฐกจิ พอเพยี ง ม. 4–6 …..………..……………………………..….…….…….. ..…ดร.พษิ ณุ และกสุ ุมาวดี หนงั สือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม แผนฯ (CD) โลกศึกษา ม. 4–6 …..………..…………………………………….……... ..…รศ. ดร.ไพฑรู ย์ มีกศุ ล และคณะ หนงั สือเรียน รายวิชาเพ่ิมเติม แบบฝึ กทกั ษะ แผนฯ (CD) อาเซียนศึกษา ม. 4–6 …..………..………...……………… ดร.พิษณุ เพชรพชั รกุล และคณะ หนงั สือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม แผนฯ (CD) หน้าทีพ่ ลเมือง 1–4 ม. 4–6 …………………….…………………………..…… รศ.ธวชั ทนั โตภาส และคณะ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ๓ คาํ นํา คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 เล่มน้ีเป็นส่ือการเรียนรู้ที่จดั ทาํ ข้ึนเพือ่ ใชเ้ ป็น แนวทางในการจดั การเรียนรู้โดยยึดหลกั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคดิ Backward Design ที่ เน้นผ้เู รียนเป็ นศูนย์กลาง (Child-centered) ตามหลกั การเน้นผ้เู รียนเป็ นสําคญั ใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมใน กิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ สามารถสร้างองคค์ วามรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง ท้งั เป็นรายบุคคลและรายกลุ่ม บทบาทของครูมีหนา้ ท่ีเอ้ืออาํ นวยความสะดวกใหน้ กั เรียนประสบผลสาํ เร็จ โดยสร้างสถานการณ์การ เรียนรู้ท้งั ในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน ทาํ ใหน้ กั เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ อื่น ๆ ไดใ้ นเชิงบูรณาการดว้ ยวิธีการท่ีหลากหลาย เนน้ กระบวนการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และสรุป ความรู้ดว้ ยตนเอง ทาํ ใหน้ กั เรียนไดร้ ับการพฒั นาท้งั ดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ และดา้ น คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่ีดี นาํ ไปสู่การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งสนั ติสุข การจดั ทาํ คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 เล่มน้ีไดจ้ ดั ทาํ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ซ่ึงครอบคลุมทุกสาระภมู ิศาสตร์ ภายในเล่มไดน้ าํ เสนอแผนการ จดั การเรียนรู้เป็นรายชวั่ โมงตามหน่วยการเรียนรู้ เพื่อใหค้ รูนาํ ไปใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ไดส้ ะดวกยง่ิ ข้ึน นอกจากน้ีแต่ละหน่วยการเรียนรู้ยงั มีการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ท้งั 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นความรู้ ดา้ น คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ทาํ ใหท้ ราบผลการเรียนรู้แต่ละหน่วยการ เรียนรู้ของนกั เรียนไดท้ นั ที คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้นาํ เสนอเน้ือหาแบ่งเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 คาํ ชี้แจงการจัดแผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบดว้ ยแนวทางการใชแ้ ผนการจดั การ เรียนรู้ สญั ลกั ษณ์ลกั ษณะกิจกรรมการเรียนรู้ การออกแบบการเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design เทคนิคและวธิ ีการจดั การเรียนรู้–การวดั และประเมินผล ภมู ิศาสตร์ ตารางวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้ีวดั ช้นั ปี กบั สาระการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้ คาํ อธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน โครงสร้างรายวิชา พ้นื ฐาน และโครงสร้างเวลาเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ตอนที่ 2 แผนการจดั การเรียนรู้รายช่ัวโมง ไดเ้ สนอแนะแนวทางการจดั การเรียนรู้แต่ละหน่วยการ เรียนรู้ในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน แบ่งเป็นแผนยอ่ ยรายชวั่ โมง ซ่ึงแผนการจดั การเรียนรู้แต่ละแผนมี องคป์ ระกอบครบถว้ นตามแนวทางการจดั ทาํ แผนการจดั การเรียนรู้ของสถานศึกษา ตอนท่ี 3 เอกสาร/ความรู้เสริมสําหรับครู ประกอบดว้ ยแบบทดสอบต่าง ๆ และความรู้เสริมสาํ หรับ ครู ซ่ึงบนั ทึกลงในแผน่ ซีดี (CD) เพือ่ อาํ นวยความสะดวกใหค้ รูใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 เล่มน้ีไดอ้ อกแบบการเรียนรู้ดว้ ยเทคนิคและ วิธีการสอนอยา่ งหลากหลาย หวงั วา่ จะเป็นประโยชนต์ ่อการนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั การเรียนรู้ให้ เหมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มของนกั เรียนต่อไป คณะผู้จดั ทาํ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ๔ สารบัญ ตอนที่ 1 คาํ ชี้แจงการจดั แผนการจัดการเรียนรู้ ...........................................................................................1 1. แนวทางการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ ..........................................................................................2 2. สญั ลกั ษณ์ลกั ษณะกิจกรรมการเรียนรู้ ..........................................................................................5 3. การออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design .....................................................6 4. เทคนิคและวิธีการจดั การเรียนรู้–การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ..........................17 5. ตารางวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั กบั สาระการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้ 19 6. คาํ อธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ..............................................................................20 7. โครงสร้างรายวชิ าพ้นื ฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 .............................................................................21 8. โครงสร้างเวลาเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ............................................................22 ตอนท่ี 2 แผนการจัดการเรียนรู้ .................................................................................................................29 แผนปฐมนิเทศ ปฐมนิเทศและขอ้ ตกลงในการเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 ................30 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เคร่ืองมอื ในการศึกษาภูมศิ าสตร์ ..............................................................................35 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ....................................................35 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เครื่องมือในการศึกษาภมู ิศาสตร์ ..............36 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 แผนที่ ...................................................................................................38 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ ........................................................................42 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เทคโนโลยแี ละสารสนเทศในการศึกษาทางภมู ิศาสตร์ ........................46 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ปรากฏการณ์ทางภูมศิ าสตร์......................................................................................51 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ....................................................51 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์ .....................52 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 ลกั ษณะภมู ิประเทศของโลก .................................................................55 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 กระบวนการท่ีทาํ ใหเ้ กิดลกั ษณะภูมิประเทศของโลก ...........................60 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 ปัญหาทางกายภาพของประเทศไทยและของโลก ................................65 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 ภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติของประเทศไทยและของโลก ............................69 การทดสอบกลางภาค .....................................................................................................................73 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 วกิ ฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม...............................................74 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ....................................................74 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม .......................................75
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ๕ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 วกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มของประเทศไทย ........................................................78 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 วกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของโลก .............82 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การจดั การด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ................................................86 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ....................................................86 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การจดั การดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ ม ..............................................87 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 มาตรการในการจดั การวิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มของโลก ...........................................................................91 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 องคก์ รที่มีบทบาทในการจดั การวิกฤตการณ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม ..................................................................................95 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 กฎหมายท่ีเกี่ยวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ของประเทศไทย .................................................................................99 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก .................................................................104 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การใช้ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมเพอื่ การพฒั นาที่ยง่ั ยนื .........................109 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ..................................................109 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การใชท้ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม เพอ่ื การพฒั นาที่ยง่ั ยนื ............................110 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 การใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม ............................................................113 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15 การพฒั นาท่ียงั่ ยนื .............................................................................117 การทดสอบปลายภาค ..................................................................................................................121 ตอนที่ 3 เอกสาร/ความรู้เสริมสําหรับครู .................................................................................................122 ตอนท่ี 3.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี และสาระการเรียนรู้ ...............................................123 ตอนที่ 3.2 โครงงานและแฟ้ มสะสมงาน ......................................................................................125 ตอนท่ี 3.3 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้และรูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้รายชวั่ โมง ........130 ตอนที่ 3.4 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน ประจาํ หน่วยการเรียนรู้ ....................................132 ตอนท่ี 3.5 แบบทดสอบกลางภาค ................................................................................................152 ตอนท่ี 3.6 แบบทดสอบปลายภาค ...............................................................................................165 ตอนที่ 3.7 ใบงาน แบบบนั ทึก และแบบประเมิน ........................................................................178
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 1 ตอนที่ 1 คาํ ชี้แจงการจดั แผนการจดั การเรียนรู้ สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 2 1. แนวทางการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 เล่มน้ีจดั ทาํ ข้ึนเพอ่ื เป็นแนวทางใหค้ รูใช้ ประกอบการจดั การเรียนรู้ภมู ิศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4–6 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ซ่ึงการแบ่งหน่วยการเรียนรู้สาํ หรับจดั ทาํ แผนการจดั การเรียนรู้รายชวั่ โมงในคู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้เล่มน้ีแบ่งเน้ือหาเป็น 5 หน่วย สามารถใชค้ วบคู่กบั หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 และแบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ประกอบดว้ ยหน่วยการเรียนรู้ ดงั น้ี หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เคร่ืองมือในการศึกษาภมู ิศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ปรากฏการณ์ทางภมู ิศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 วกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การจดั การดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การใชท้ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มเพอ่ื การพฒั นาที่ยงั่ ยนื คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้น้ีไดน้ าํ เสนอรายละเอียดไวค้ รบถว้ นตามแนวทางการจดั ทาํ แผนการ จดั การเรียนรู้ นอกจากน้ียงั ไดอ้ อกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นาองคค์ วามรู้ สมรรถนะสาํ คญั และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคไ์ วอ้ ยา่ งครบถว้ นตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ครูควรศึกษาคู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้น้ีใหล้ ะเอียดเพ่ือปรับใชใ้ ห้ สอดคลอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ ม สถานการณ์ และสภาพของนกั เรียน ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้จะแบ่งแผนการจดั การเรียนรู้ออกเป็นรายชว่ั โมง ซ่ึงมีจาํ นวนมากนอ้ ยไม่ เท่ากนั ข้ึนอยกู่ บั ความยาวของเน้ือหาสาระ และในแต่ละหน่วยการเรียนรู้มีองคป์ ระกอบดงั น้ี 1. ผงั มโนทัศน์เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน แสดงขอบข่ายเน้ือหาการจดั การ เรียนรู้ที่ครอบคลุมความรู้ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ทกั ษะ/กระบวนการ และภาระงาน/ชิ้นงาน 2. ผงั การออกแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคดิ Backward Design (Backward Design Template) เป็นกรอบแนวคิดในการจดั การเรียนรู้ของแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้ แบ่งเป็น 3 ข้นั ไดแ้ ก่ ข้นั ท่ี 1 ผลลพั ธป์ ลายทางที่ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียน ข้ันท่ี 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็นหลกั ฐานท่ีแสดงวา่ นกั เรียนมีผลการ เรียนรู้ตามท่ีกาํ หนดไวอ้ ยา่ งแทจ้ ริง ข้นั ที่ 3 แผนการจดั การเรียนรู้ จะระบุวา่ ในหน่วยการเรียนรู้น้ีแบ่งเป็นแผนการจดั การเรียนรู้ก่ี แผน และแต่ละแผนใชเ้ วลาในการจดั กิจกรรมก่ีชวั่ โมง 3. แผนการจัดการเรียนรู้รายชั่วโมง เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ตามกรอบแนวคิดการออกแบบการ จดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design ประกอบดว้ ย 3.1 ชื่อแผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบดว้ ยลาํ ดบั ที่ของแผน ชื่อแผน และเวลาเรียน เช่น แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 แผนที่ เวลา 1 ชวั่ โมง
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 3 3.2 สาระสําคญั เป็นความคิดรวบยอดของเน้ือหาที่นาํ มาจดั การเรียนรู้ในแต่ละแผนการจดั การ เรียนรู้ 3.3 ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน เป็นตวั ช้ีวดั ที่ใชต้ รวจสอบนกั เรียนหลงั จากเรียนจบเน้ือหาท่ีนาํ เสนอในแต่ ละแผนการจดั การเรียนรู้น้นั ๆ ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ของหลกั สูตร 3.4 จุดประสงค์การเรียนรู้ เป็นส่วนท่ีบอกจุดมุ่งหมายท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนแก่นกั เรียนภาย หลงั จากการเรียนจบในแต่ละแผน ท้งั ในดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (A) ดา้ น ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ซ่ึงสอดคลอ้ งสมั พนั ธ์กบั ตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั และเน้ือหาในแผนการจดั การเรียนรู้น้นั ๆ 3.5 การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ เป็นการตรวจสอบผลการจดั การเรียนรู้วา่ หลงั จากจดั การ เรียนรู้ในแต่ละแผนการจดั การเรียนรู้แลว้ นกั เรียนมีพฒั นาการ มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ตามเป้ าหมายที่ คาดหวงั ไวห้ รือไม่ และมีส่ิงท่ีจะตอ้ งไดร้ ับการพฒั นาปรับปรุงส่งเสริมในดา้ นใดบา้ ง ดงั น้นั ในแต่ละ แผนการจดั การเรียนรู้จึงไดอ้ อกแบบวธิ ีการและเคร่ืองมือในการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นต่าง ๆ ของนกั เรียนไวอ้ ยา่ งหลากหลาย เช่น การทาํ แบบทดสอบ การตอบคาํ ถามส้นั ๆ การตรวจผลงาน การ สงั เกตพฤติกรรมท้งั ท่ีเป็นรายบุคคลและกลุ่ม โดยเนน้ การปฏิบตั ิใหส้ อดคลอ้ งและเหมาะสมกบั ตวั ช้ีวดั และมาตรฐานการเรียนรู้ วิธีการและเครื่องมือในการวดั และประเมินผลการเรียนรู้เหล่าน้ี ครูสามารถนาํ ไปใชป้ ระเมิน นกั เรียนได้ ท้งั ในระหวา่ งการจดั การเรียนรู้และการทาํ กิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนการนาํ ความรู้ไปใชใ้ น ชีวิตประจาํ วนั 3.6 สาระการเรียนรู้ เป็นหวั ขอ้ ยอ่ ยที่นาํ มาจดั การเรียนรู้ในแต่ละแผนการจดั การเรียนรู้ ซ่ึง สอดคลอ้ งกบั สาระการเรียนรู้แกนกลาง 3.7 แนวทางบูรณาการ เป็นการเสนอแนะแนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ในเรื่องท่ีเรียนรู้ ของแต่ละแผนใหเ้ ช่ือมโยงสมั พนั ธก์ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ไดแ้ ก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ เพื่อให้ การเรียนรู้สอดคลอ้ งและครอบคลุมสถานการณ์จริง 3.8 กระบวนการจดั การเรียนรู้ เป็นการเสนอแนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เน้ือหาในแต่ละ เรื่อง โดยใชแ้ นวคิดและทฤษฎีการเรียนรู้ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ท้งั น้ีเพื่อใหค้ รูนาํ ไปใชป้ ระโยชนใ์ น การวางแผนการจดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ซ่ึงกระบวนการจดั การเรียนรู้ประกอบดว้ ย 5 ข้นั ไดแ้ ก่ ข้นั ที่ 1 นาํ เขา้ สู่บทเรียน ข้นั ที่ 2 กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 3 ฝึกฝนผเู้ รียน ข้นั ที่ 4 นาํ ไปใช้ ข้นั ท่ี 5 สรุป 3.9 กจิ กรรมเสนอแนะ เป็นกิจกรรมเสนอแนะสาํ หรับใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นาเพ่ิมเติมในดา้ น ต่าง ๆ นอกเหนือจากท่ีไดจ้ ดั การเรียนรู้มาแลว้ ในชวั่ โมงเรียน กิจกรรมเสนอแนะมี 2 ลกั ษณะ คือ กิจกรรม
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 4 สาํ หรับผทู้ ี่มีความสามารถพิเศษและตอ้ งการศึกษาคน้ ควา้ ในเน้ือหาน้นั ๆ ใหล้ ึกซ้ึงกวา้ งขวางยงิ่ ข้ึน และ กิจกรรมสาํ หรับการเรียนรู้ใหค้ รบตามเป้ าหมาย ซ่ึงมีลกั ษณะเป็นการซ่อมเสริม 3.10 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ เป็นรายช่ือส่ือการเรียนรู้ทุกประเภทที่ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ ซ่ึงมีท้งั ส่ือธรรมชาติ สื่อสิ่งพมิ พ์ ส่ือเทคโนโลยี และส่ือบุคคล เช่น หนงั สือ เอกสารความรู้ รูปภาพ เครือข่าย อินเทอร์เน็ต วีดิทศั น์ ปราชญช์ าวบา้ น 3.11 บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ เป็นส่วนที่ใหค้ รูบนั ทึกผลการจดั การเรียนรู้วา่ ประสบ ความสาํ เร็จหรือไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคอะไรเกิดข้ึนบา้ ง ไดแ้ กไ้ ขปัญหาและอุปสรรคน้นั อยา่ งไร สิ่งท่ี ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผนมีอะไรบา้ ง และขอ้ เสนอแนะสาํ หรับการปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้คร้ังต่อไป นอกจากน้ียงั อาํ นวยความสะดวกใหค้ รู โดยจดั ทาํ เอกสารและความรู้เสริมสาํ หรับครูบนั ทึกลงใน แผน่ ซีดี (CD) ประกอบดว้ ย 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คม ศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระที่ 5 ภมู ิศาสตร์ (ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6) 2. โครงงาน (Project Work) และแฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) 3. ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้และรูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้รายช่ัวโมง ซ่ึงออกแบบตาม แนวคิด Backward Design 4. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนประจําหน่วยการเรียนรู้ เป็นแบบทดสอบเพอื่ ใชว้ ดั และ ประเมินผลนกั เรียนก่อนการจดั การเรียนรู้และหลงั การจดั การเรียนรู้ 5. แบบทดสอบกลางภาค เป็นแบบทดสอบเพ่อื ใชว้ ดั และประเมินผลการเรียนรู้กลางภาค 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ 5.1 ดา้ นความรู้ มีแบบทดสอบท้งั ที่เป็นแบบปรนยั และแบบอตั นยั 5.2 ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม เป็นตารางการประเมิน 5.3 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ เป็นตารางการประเมิน 6. แบบทดสอบปลายภาค เป็นแบบทดสอบเพ่อื ใชว้ ดั และประเมินผลการเรียนรู้ปลายภาค 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ 6.1 ดา้ นความรู้ มีแบบทดสอบท้งั ท่ีเป็นแบบปรนยั และแบบอตั นยั 6.2 ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม เป็นตารางการประเมิน 6.3 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ เป็นตารางการประเมิน 7. ใบความรู้ ใบงาน แบบบันทกึ และแบบประเมนิ ครูควรศึกษาแผนการจดั การเรียนรู้เพอ่ื เตรียมการสอนอยา่ งมีประสิทธิภาพ จดั กิจกรรมใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นาครบทุกสมรรถนะสาํ คญั ที่กาํ หนดไว้ ในหลกั สูตร กล่าวคือ สมรรถนะในการส่ือสาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชท้ กั ษะชีวิต และการใช้ เทคโนโลยี รวมถึงคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลกั สูตร หลกั สูตร ไดแ้ ก่ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสตั ยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียงมุ่งมนั่ ในการทาํ งาน รักความเป็นไทย และมีจิตสาธารณะ และกิจกรรมเสนอแนะเพื่อการเรียนรู้เพิ่มเติมใหเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพของนกั เรียนแต่ละคน ซ่ึงไดก้ าํ หนดไว้ ในแผนการจดั การเรียนรู้น้ีแลว้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 5 นอกจากน้ี ครูสามารถปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพความพร้อมของ นกั เรียน และสถานการณ์เฉพาะหนา้ ได้ ซ่ึงจะใชเ้ ป็นผลงานทางวิชาการเพื่อเลื่อนวทิ ยฐานะได้ แผนการ จดั การเรียนรู้น้ีไดอ้ าํ นวยความสะดวกใหค้ รู โดยไดพ้ ิมพโ์ ครงสร้างแผนการจดั การเรียนรู้ท่ีออกแบบการ จดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design ใหค้ รูเพิม่ เติมเฉพาะส่วนที่ครูปรับปรุงเองไวด้ ว้ ยแลว้ 2. สัญลกั ษณ์ลกั ษณะกจิ กรรมการเรียนรู้ คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 เล่มน้ีสามารถใชค้ ู่กบั แบบฝึกทกั ษะ รายวิชา พ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ซ่ึงไดก้ าํ หนดสญั ลกั ษณ์กาํ กบั กิจกรรมการเรียนรู้ไวท้ ุกกิจกรรม เพือ่ ช่วยใหค้ รู และนกั เรียนทราบลกั ษณะของกิจกรรมน้นั ๆ เพื่อการจดั กิจกรรมใหบ้ รรลุเป้ าหมาย สญั ลกั ษณ์ลกั ษณะ กิจกรรมการเรียนรู้มีดงั น้ี โครงงาน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพฒั นาการคิด การวางแผน และการแกป้ ัญหา การพฒั นากระบวนการคดิ เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนทาํ เพ่อื พฒั นากระบวนการคิดดา้ นต่าง ๆ การประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาํ วนั เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนนาํ ความรู้และทกั ษะไปประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวติ ประจาํ วนั ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด การทาํ ประโยชน์ให้สังคม เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิในการทาํ ประโยชน์เพื่อสงั คม เพ่ือ การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสุข การปฏิบัตจิ ริง/ฝึ กทักษะ เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนไดป้ ฏิบตั ิจริงหรือฝึกปฏิบตั ิเพื่อเกิดทกั ษะ อนั จะช่วยใหก้ ารเรียนรู้เป็นไปตามเป้ าหมายอยา่ งสมบูรณ์และเกิดความเขา้ ใจท่ีคงทน การศึกษาค้นคว้า/สืบค้น เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนศึกษาคน้ ควา้ หรือสืบคน้ ขอ้ มูลจากแหล่งการ เรียนรู้ต่าง ๆ เพ่ือสร้างองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเองจนเกิดเป็นนิสยั การสํารวจ เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนสาํ รวจ รวบรวมขอ้ มูลเพ่ือนาํ มาศึกษาวเิ คราะห์ หาเหตุ หาผล ฝึกความเป็นผรู้ อบคอบ การสังเกต เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนรู้จกั สงั เกตสิ่งท่ีตอ้ งการเรียนรู้จนสร้างองคค์ วามรู้ไดอ้ ยา่ ง เป็ นระบบและมีเหตุผล ทักษะการพูด เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นาทกั ษะการพดู ประเภทต่าง ๆ ทกั ษะการเขียน เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นาทกั ษะการเขียนประเภทต่าง ๆ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 6 กจิ กรรมสําหรับกล่มุ พเิ ศษ เป็นกิจกรรมสาํ หรับใหน้ กั เรียนใชพ้ ฒั นาการเรียนรู้เพม่ิ เติม เพอ่ื การพฒั นาใหเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ กจิ กรรมสําหรับซ่อมเสริม เป็นกิจกรรมสาํ หรับใหน้ กั เรียนใชเ้ รียนซ่อมเสริมเพ่ือใหเ้ กิดการ เรียนรู้ตามตวั ช้ีวดั 3. การออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคดิ Backward Design การจดั การเรียนรู้หรือการสอนเป็นงานท่ีครูทุกคนตอ้ งใชก้ ลวธิ ีต่าง ๆ มากมายเพอ่ื ใหน้ กั เรียนสนใจ ที่จะเรียนรู้และเกิดผลตามท่ีครูคาดหวงั การจดั การเรียนรู้จดั เป็นศาสตร์ท่ีตอ้ งใชค้ วามรู้ความสามารถ ตลอดจนประสบการณ์อยา่ งมาก ครูบางคนอาจจะละเลยเรื่องของการออกแบบการจดั การเรียนรู้หรือการ ออกแบบการสอน ซ่ึงเป็นงานท่ีครูจะตอ้ งทาํ ก่อนการเขียนแผนการจดั การเรียนรู้ การออกแบบการจัดการเรียนรู้ทาํ อย่างไร ทําไมจึงต้องออกแบบการจัดการเรียนรู้ ครูทุกคนผา่ นการศึกษาและไดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั การออกแบบการจดั การเรียนรู้มาแลว้ ในอดีตการ ออกแบบการจดั การเรียนรู้จะเร่ิมตน้ จากการกาํ หนดจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การวางแผนการจดั การเรียนรู้ การดาํ เนินการจดั การเรียนรู้ และการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ปัจจุบนั การเรียนรู้ไดม้ ีการเปล่ียนแปลง ไปตามสภาพแวดลอ้ ม เศรษฐกิจ และสงั คม รวมท้งั การเปลี่ยนแปลงดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยที ี่เขา้ มามีบทบาทต่อการเรียนรู้ของนกั เรียน ซ่ึงนกั เรียนสามารถเรียนรู้ไดจ้ ากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ท่ีมี อยรู่ อบตวั ดงั น้นั การออกแบบการจดั การเรียนรู้จึงเป็นกระบวนการสาํ คญั ท่ีครูจาํ เป็นตอ้ งดาํ เนินการให้ เหมาะสมกบั ศกั ยภาพของนกั เรียนแต่ละบุคคล แกรนต์ วิกกินส์ (Grant Wiggins) และเจย์ แมกไท (Jay McTighe) นกั การศึกษาชาวอเมริกนั ได้ เสนอแนวคิดเกี่ยวกบั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ ซ่ึงเรียกวา่ Backward Design อนั เป็นการออกแบบ การจดั การเรียนรู้ท่ีครูจะตอ้ งกาํ หนดผลลพั ธป์ ลายทางท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนก่อน โดยท้งั สองให้ ชื่อวา่ ความเขา้ ใจท่ีคงทน (Enduring Understanding) เม่ือกาํ หนดความเขา้ ใจที่คงทนไดแ้ ลว้ ครูจะตอ้ ง บอกใหไ้ ดว้ า่ ความเขา้ ใจท่ีคงทนของนกั เรียนน้ีเกิดจากอะไร นกั เรียนจะตอ้ งมีหรือแสดงพฤติกรรม อะไรบา้ ง ครูมีหรือใชว้ ธิ ีการวดั อะไรบา้ งท่ีจะบอกวา่ นกั เรียนมีหรือแสดงพฤติกรรมเหล่าน้นั แลว้ จากน้นั ครูจึงนึกถึงวิธีการจดั การเรียนรู้ที่จะทาํ ใหน้ กั เรียนเกิดความเขา้ ใจที่คงทนต่อไป แนวคดิ Backward Design Backward Design เป็นการออกแบบการจดั การเรียนรู้ท่ีใชผ้ ลลพั ธ์ปลายทางเป็นหลกั ซ่ึงผลลพั ธ์ ปลายทางน้ีจะเกิดข้ึนกบั นกั เรียนกต็ ่อเม่ือจบหน่วยการเรียนรู้ ท้งั น้ีครูจะตอ้ งออกแบบการจดั การเรียนรู้ โดยใชก้ รอบความคิดท่ีเป็นเหตุเป็นผล มีความสมั พนั ธก์ นั จากน้นั จึงจะลงมือเขียนแผนการจดั การเรียนรู้ ขยายรายละเอียดเพิ่มเติมใหม้ ีคุณภาพและประสิทธิภาพต่อไป กรอบความคิดหลกั ของการออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design มีข้นั ตอน หลกั ท่ีสาํ คญั 3 ข้นั ตอน คือ ข้นั ที่ 1 กาํ หนดผลลพั ธป์ ลายทางท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียน
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 7 ข้นั ที่ 2 กาํ หนดภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็นหลกั ฐานท่ีแสดงวา่ นกั เรียนมีผลการ เรียนรู้ตามที่กาํ หนดไวอ้ ยา่ งแทจ้ ริง ข้นั ท่ี 3 วางแผนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 กาํ หนดผลลพั ธ์ปลายทางท่ีต้องการให้เกดิ ขนึ้ กบั นักเรียน ก่อนที่จะกาํ หนดผลลพั ธ์ปลายทางท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนน้นั ครูควรตอบคาํ ถามสาํ คญั ตอ่ ไปน้ี 1. นกั เรียนควรจะมีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถทาํ สิ่งใดไดบ้ า้ ง 2. เน้ือหาสาระใดบา้ งท่ีมีความสาํ คญั ต่อการสร้างความเขา้ ใจของนกั เรียน และความเขา้ ใจที่คงทน (Enduring Understanding) ท่ีครูตอ้ งการจดั การเรียนรู้ใหแ้ ก่นกั เรียนมีอะไรบา้ ง เมื่อจะตอบคาํ ถามสาํ คญั ดงั กล่าวขา้ งตน้ ใหค้ รูนึกถึงเป้ าหมายของการศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้ ดา้ นเน้ือหาระดบั ชาติที่ปรากฏอยใู่ นหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 รวมท้งั มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั เขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือทอ้ งถิ่น การทบทวนความคาดหวงั ของหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน เนื่องจากมาตรฐานแต่ละระดบั จะมีความสมั พนั ธ์กบั เน้ือหาสาระต่าง ๆ ซ่ึง มีความแตกต่างลดหลนั่ กนั ไป ดว้ ยเหตุน้ีข้นั ท่ี 1 ของ Backward Design ครูจึงตอ้ งจดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั และเลือกผลลพั ธป์ ลายทางของนกั เรียน ซ่ึงเป็นผลการเรียนรู้ท่ีเกิดจากความเขา้ ใจที่คงทนต่อไป ความเข้าใจทค่ี งทนของนักเรียน ความเขา้ ใจที่คงทนคืออะไร ความเขา้ ใจที่คงทนเป็นความรู้ท่ีลึกซ้ึง ไดแ้ ก่ ความคิดรวบยอด ความสมั พนั ธ์ และหลกั การของเน้ือหาและวิชาท่ีนกั เรียนเรียนรู้ หรือกล่าวอีกนยั หน่ึงเป็นความรู้ที่อิง เน้ือหา ความรู้น้ีเกิดจากการสะสมขอ้ มลู ต่าง ๆ ของนกั เรียนและเป็นองคค์ วามรู้ท่ีนกั เรียนสร้างข้ึนดว้ ย ตนเอง การเขยี นความเข้าใจท่คี งทนในการออกแบบการจดั การเรียนรู้ ถา้ ความเขา้ ใจที่คงทน หมายถึง สาระสาํ คญั ของสิ่งท่ีจะเรียนรู้แลว้ ครูควรจะรู้วา่ สาระสาํ คญั หมายถึงอะไร คาํ วา่ สาระสาํ คญั มาจากคาํ วา่ Concept ซ่ึงนกั การศึกษาของไทยแปลเป็นภาษาไทยวา่ สาระสาํ คญั ความคิดรวบยอด มโนทศั น์ มโนมติ และสงั กปั แต่การเขียนแผนการจดั การเรียนรู้นิยมใชค้ าํ วา่ สาระสาํ คญั สาระสาํ คญั เป็นขอ้ ความท่ีแสดงแก่นหรือเป้ าหมายเก่ียวกบั เรื่องใดเร่ืองหน่ึง เพือ่ ใหไ้ ดข้ อ้ สรุปรวม และขอ้ แตกต่างเกี่ยวกบั เร่ืองใดเร่ืองหน่ึง โดยอาจครอบคลุมขอ้ เทจ็ จริง กฎ ทฤษฎี ประเดน็ และการสรุป สาระสาํ คญั และขอ้ ความที่มีลกั ษณะรวบยอดอยา่ งอ่ืน ประเภทของสาระสําคญั 1. ระดบั กวา้ ง (Broad Concept) 2. ระดบั การนาํ ไปใช้ (Operative Concept หรือ Functional Concept) ตวั อย่างสาระสาํ คัญระดับกว้าง การเลือกใชเ้ คร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ตัวอย่างสาระสาํ คัญระดับนาํ ไปใช้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 8 การรู้จกั ใชแ้ ผนที่และเคร่ืองมือในการคน้ หาขอ้ มลู ข่าวสารทางภมู ิศาสตร์ จะทาํ ใหเ้ ขา้ ใจวิชา ภมู ิศาสตร์ไดง้ ่ายข้ึน แนวทางการเขยี นสาระสําคญั 1. ใหเ้ ขียนสาระสาํ คญั ของทุกเร่ือง โดยแยกเป็นขอ้ ๆ (จาํ นวนขอ้ ของสาระสาํ คญั จะเท่ากบั จาํ นวน เรื่อง) 2. การเขียนสาระสาํ คญั ที่ดีควรเป็นสาระสาํ คญั ระดบั การนาํ ไปใช้ 3. สาระสาํ คญั ตอ้ งครอบคลุมประเดน็ สาํ คญั ครบถว้ น เพราะหากขาดส่วนใดไปแลว้ จะทาํ ให้ นกั เรียนรับสาระสาํ คญั ท่ีผดิ ไปทนั ที 4. การเขียนสาระสาํ คญั ที่จะใหค้ รอบคลุมประเดน็ สาํ คญั วธิ ีการหน่ึง คือ การเขียนแผนผงั สาระสาํ คญั ตวั อย่างการเขียนแผนผงั สาระสาํ คัญ แผนท่ีตามลกั ษณะการใช้ แผนท่ีอา้ งอิง แผนท่ีเฉพาะเร่ือง แผนที่เลม่ ชนิดของแผนที่ แผนที่ตามมาตราส่วน แผนท่ีมาตราส่วนขนาดใหญ่ แผนที่มาตราส่วนขนาดกลาง แผนที่มาตราส่วนขนาดเลก็ สาระสาํ คัญของชนิดของแผนท่ี: ชนิดของแผนที่แบ่งไดห้ ลายแบบ ไดแ้ ก่ แบ่งตามลกั ษณะการใช้ และแบ่งตามมาตราส่วนของแผนท่ี 5. การเขียนสาระสาํ คญั เกี่ยวกบั เร่ืองใดควรเขียนลกั ษณะเด่นท่ีมองเห็นไดห้ รือนึกไดอ้ อกมาเป็นขอ้ ๆ แลว้ จาํ แนกลกั ษณะเหล่าน้นั เป็นลกั ษณะจาํ เพาะและลกั ษณะประกอบ 6. การเขียนขอ้ ความที่เป็นสาระสาํ คญั ควรใชภ้ าษาท่ีมีการขดั เกลาอยา่ งดี เล่ียงคาํ ที่มีความหมาย กาํ กวมหรือฟ่ มุ เฟื อย
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 9 ตวั อย่างการเขียนสาระสาํ คัญ เร่ือง แมลง แมลง ลกั ษณะจําเพาะ ลกั ษณะประกอบ มีสี มี 6 ขา มีพษิ ร้องได้ มีปี ก ลาํ ตวั เป็นปลอ้ ง มีหนวดคลาํ ทาง 2 เสน้ เป็ นอาหารได้ ไม่มีกระดูกสนั หลงั สาระสาํ คัญของแมลง: แมลงเป็นสตั วไ์ ม่มีกระดูกสนั หลงั ลาํ ตวั ปลอ้ ง มี 6 ขา มีหนวดคลาํ ทาง 2 เสน้ มีปี ก ตวั มีสีต่างกนั บางชนิดร้องได้ บางชนิดมีพิษ และบางชนิดเป็นอาหารได้ ข้นั ท่ี 2 กาํ หนดภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซึ่งเป็ นหลกั ฐานทแี่ สดงว่านักเรียนมผี ลการ เรียนรู้ตามทก่ี าํ หนดไว้อย่างแท้จริง เมื่อครูกาํ หนดผลลพั ธ์ปลายทางที่ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนแลว้ ก่อนที่จะดาํ เนินการข้นั ต่อไป ขอใหค้ รูตอบคาํ ถามสาํ คญั ต่อไปน้ี นกั เรียนมีพฤติกรรมหรือแสดงออกในลกั ษณะใด จึงทาํ ใหค้ รูทราบวา่ นกั เรียนบรรลุผลลพั ธ์ ปลายทางตามท่ีกาํ หนดไวแ้ ลว้ ครูมีหลกั ฐานหรือใชว้ ิธีการใดที่สามารถระบุไดว้ า่ นกั เรียนมีพฤติกรรมหรือแสดงออกตาม ผลลพั ธป์ ลายทางที่กาํ หนดไว้ การออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design เนน้ ใหค้ รูรวบรวมหลกั ฐานการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ท่ีจาํ เป็นและมีหลกั ฐานเพียงพอท่ีจะกล่าวไดว้ า่ การจดั การเรียนรู้ทาํ ใหน้ กั เรียน เกิดผลสมั ฤทธ์ิแลว้ ไม่ใช่เรียนแคใ่ หจ้ บตามหลกั สูตรหรือเรียนตามชุดของกิจกรรมการเรียนรู้ที่ครูกาํ หนด ไวเ้ ท่าน้นั วิธีการของ Backward Design ตอ้ งการกระตุน้ ใหค้ รูคิดล่วงหนา้ วา่ ครูควรจะกาํ หนดและ รวบรวมหลกั ฐานเชิงประจกั ษอ์ ะไรบา้ งก่อนที่จะออกแบบหน่วยการเรียนรู้ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ หลกั ฐาน ดงั กล่าวควรจะเป็นหลกั ฐานท่ีสามารถใชเ้ ป็นขอ้ มลู ยอ้ นกลบั ท่ีมีประโยชน์สาํ หรับผเู้ รียนและครูไดเ้ ป็น อยา่ งดี นอกจากน้ีครูควรใชว้ ิธีการวดั และประเมินผลการเรียนรู้แบบตอ่ เนื่องอยา่ งไม่เป็นทางการและเป็น ทางการ ตลอดระยะเวลาท่ีครูจดั กิจกรรมการเรียนรู้ใหแ้ ก่นกั เรียน ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั แนวคิดที่ตอ้ งการใหค้ รู ทาํ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ที่เรียกวา่ สอนไปวดั ผลไป จึงกล่าวไดว้ า่ ข้นั น้ีครูควรนึกถึงพฤติกรรมหรือการแสดงออกของนกั เรียน โดยพจิ ารณาจากผลงาน หรือชิ้นงานท่ีเป็นหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นวา่ นกั เรียนเกิดผลลพั ธ์ปลายทางตามเกณฑท์ ี่
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 10 กาํ หนดไวแ้ ลว้ และเกณฑท์ ี่ใชป้ ระเมินควรเป็นเกณฑค์ ุณภาพในรูปของมิติคุณภาพ (Rubrics) อยา่ งไรก็ ตาม ครูอาจจะมีหลกั ฐานหรือใชว้ ิธีการอ่ืน ๆ เช่น การทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน การสมั ภาษณ์ การศึกษาคน้ ควา้ การฝึกปฏิบตั ิขณะเรียนรู้ประกอบดว้ ยกไ็ ด้ หลงั จากที่ครูไดก้ าํ หนดผลลพั ธ์ปลายทางท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนแลว้ ครูควรกาํ หนดภาระ งานและวธิ ีการประเมินผลการเรียนรู้ ซ่ึงเป็นหลกั ฐานที่แสดงวา่ นกั เรียนมีผลการเรียนรู้ตามผลลพั ธ์ ปลายทางที่กาํ หนดไวแ้ ลว้ ภาระงาน หมายถึง งานหรือกิจกรรมที่กาํ หนดใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิ เพอื่ ใหบ้ รรลุตามจุดประสงคก์ าร เรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั /มาตรฐานการเรียนรู้ที่กาํ หนดไว้ ลกั ษณะสาํ คญั ของงานจะตอ้ งเป็นงานท่ีสอดคลอ้ ง กบั ชีวติ จริงในชีวิตประจาํ วนั เป็นเหตุการณ์จริงมากกวา่ กิจกรรมที่จาํ ลองข้ึนเพอื่ ใชใ้ นการทดสอบ ซ่ึง เรียกวา่ งานที่ปฏิบตั ิเป็นงานที่มีความหมายต่อผเู้ รียน (Meaningful Task) นอกจากน้ีงานและกิจกรรม จะตอ้ งมีขอบเขตท่ีชดั เจน สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั /มาตรฐานการเรียนรู้ที่ ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียน ท้งั น้ีเมื่อไดภ้ าระงานครบถว้ นตามที่ตอ้ งการแลว้ ครูจะตอ้ งนึกถึงวธิ ีการและเครื่องมือท่ีจะใชว้ ดั และประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรียนซ่ึงมีอยมู่ ากมายหลายประเภท ครูจะตอ้ งเลือกใหเ้ หมาะสมกบั ภาระ งานท่ีนกั เรียนปฏิบตั ิ ตวั อยา่ งภาระงานเรื่อง แผนท่ี รวมท้งั การกาํ หนดวิธีการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรียน ดงั ตาราง
ตวั อย่าง ภาระงาน/ชิ้นงาน แผ สาระท่ี 5: ภูมศิ าสตร์ มาตรฐาน ส 5.1 เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพและความสมั พนั ธ์ของสรรพสิ่งซ ในการคน้ หา วเิ คราะห์ สรุ ป และใชข้ อ้ มูลภมู ิสารสนเทศอยา่ งมีประ จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ ีการ การว 1. ซกั ถาม การเรียนรู้ แผนที่ 1. การทาํ แบบทดสอบ 1. แ 1. ชนิดของ ก่อนเรี ยน ความรู ้ 1. อธิบาย แผนที่ 2. ตรวจผลงาน 2. แ ความหมาย 2. องคป์ ระกอบ 2. การสร้างประเดน็ ส และ ของแผนท่ี ในการศึกษา 3. สงั เกตการ องคป์ ระกอบ 3. แผนที่ ทาํ งานกลมุ่ 3. แ ของแผนที่ได้ ภมู ิประเทศ 3. การแสดงความ ก คิดเห็น ก 2. บอกประโยชน์ ของแผนที่ได้ 4. การบนั ทึกความรู้ 3. อ่านขอ้ มลู จาก แผนที่ได้ 4. นาํ แผนที่ไปใช้ ในชีวิต ประจาํ วนั ได้
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 11 ผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 แผนที่ ซ่ึงมีผลต่อกนั และกนั ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเครื่ องมือทางภมู ิศาสตร์ ะสิ ทธิ ภาพ วดั และประเมนิ ผล กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ เครื่องมอื เกณฑ์ ศึกษาความรู้ แสดงความ 1. แบบทดสอบ คิดเห็น สร้างประเดน็ ใน ก่อนเรี ยน แบบซกั ถาม 1. เกณฑค์ ุณภาพ การศึกษา สรุ ปความรู้ 2. แบบบนั ทึกความรู้ 4 ระดบั 3. แผนท่ีภมู ิประเทศ แบบตรวจ 2. เกณฑค์ ุณภาพ ของประเทศไทย 4. หนงั สือเรี ยน สอบผลงาน 4 ระดบั รายวชิ าพ้ืนฐาน แบบสงั เกต 3. เกณฑค์ ุณภาพ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 5. แบบฝึ กทกั ษะ การทาํ งาน 4 ระดบั รายวชิ าพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 กลมุ่ 6. คู่มือการสอน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 7. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวิชา พ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 12 ความเขา้ ใจที่คงทนจะเกิดข้ึนได้ นกั เรียนจะตอ้ งมีความสามารถ 6 ประการ ไดแ้ ก่ 1. การอธิบาย ชี้แจง เป็นความสามารถท่ีนกั เรียนแสดงออกโดยการอธิบายหรือช้ีแจงในส่ิงท่ีเรียนรู้ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สอดคลอ้ ง มีเหตุมีผล และเป็นระบบ 2. การแปลความและตคี วาม เป็นความสามารถท่ีนกั เรียนแสดงออกโดยการแปลความและตีความ ไดอ้ ยา่ งมีความหมาย ตรงประเดน็ กระจ่างชดั และทะลุปรุโปร่ง 3. การประยุกต์ ดดั แปลง และนําไปใช้ เป็นความสามารถที่นกั เรียนแสดงออกโดยการนาํ สิ่งท่ีได้ เรียนรู้ไปสู่การปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิผล มีประสิทธิภาพ และคลอ่ งแคล่ว 4. การมมี ุมมองทหี่ ลากหลาย เป็นความสามารถที่นกั เรียนแสดงออกโดยการมีมุมมองที่น่าเชื่อถือ เป็นไปได้ มีความลึกซ้ึง แจ่มชดั และแปลกใหม่ 5. การให้ความสําคญั และใส่ใจในความรู้สึกของผู้อน่ื เป็นความสามารถท่ีนกั เรียนแสดงออกโดย การมีความละเอียดรอบคอบ เปิ ดเผย รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น ระมดั ระวงั ที่จะไม่ใหเ้ กิดความ กระทบกระเทือนต่อผอู้ ื่น 6. การรู้จักตนเอง เป็นความสามารถที่นกั เรียนแสดงออกโดยการมีความตระหนกั รู้ สามารถ ประมวลผลขอ้ มลู จากแหล่งท่ีหลากหลาย ปรับตวั ได้ รู้จกั ใคร่ครวญ และมีความเฉลียวฉลาด นอกจากน้ีหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ไดก้ าํ หนดสมรรถนะสาํ คญั ของนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษาตามหลกั สูตรไว้ 5 ประการ ดงั น้ี 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวฒั นธรรมในการใชภ้ าษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเขา้ ใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ข่าวสารและ ประสบการณ์ อนั จะเป็นประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมท้งั การเจรจาต่อรองเพอื่ ขจดั และลด ปัญหาความขดั แยง้ ต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับขอ้ มูลข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผลและความถูกตอ้ ง ตลอดจน การเลือกใชว้ ธิ ีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ โดยคาํ นึงถึงผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสงั คม 2. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิดอยา่ ง สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และการคิดอยา่ งเป็นระบบ เพ่ือนาํ ไปสู่การสร้างองคค์ วามรู้หรือ สารสนเทศเพ่อื การตดั สินใจเกี่ยวกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้ อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมบนพ้นื ฐานของหลกั เหตุผล คุณธรรมและขอ้ มลู สารสนเทศ เขา้ ใจความสมั พนั ธ์และ การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรู้มาใชใ้ นการป้ องกนั และ แกไ้ ขปัญหา และมีการตดั สินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคาํ นึงถึงผลกระทบท่ีเกิดข้ึนต่อตนเอง สงั คม และ สิ่งแวดลอ้ ม 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ เป็นความสามารถในการนาํ กระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการ ดาํ เนินชีวติ ประจาํ วนั การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้อยา่ งต่อเน่ือง การทาํ งาน และการอยรู่ ่วมกนั ใน สงั คม ดว้ ยการสร้างเสริมความสมั พนั ธ์อนั ดีระหวา่ งบุคคล การจดั การปัญหาและความขดั แยง้ ต่าง ๆ อยา่ ง เหมาะสม การปรับตวั ใหท้ นั กบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการรู้จกั หลีกเลี่ยง พฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงคซ์ ่ึงจะส่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่ืน
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 13 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยดี า้ นต่าง ๆ มี ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพฒั นาตนเองและสงั คมในดา้ นการเรียนรู้ การส่ือสาร การ ทาํ งาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม นอกจากสมรรถนะสาํ คญั ของนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษาตามหลกั สูตรที่กล่าวแลว้ ขา้ งตน้ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ไดก้ าํ หนดคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคเ์ พือ่ ให้ สามารถอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุขในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซื่อสตั ยส์ ุจริต 3. มีวินยั 4. ใฝ่ เรียนรู้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 6. มุ่งมนั่ ในการทาํ งาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ ดงั น้นั การกาํ หนดภาระงานใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิ รวมท้งั การเลือกวิธีการและเคร่ืองมือประเมินผลการ เรียนรู้น้นั ครูควรคาํ นึงถึงความสามารถของนกั เรียน 6 ประการตามแนวคิด Backward Design สมรรถนะ สาํ คญั และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษาตามหลกั สูตรท่ีไดก้ ล่าวไว้ ขา้ งตน้ เพือ่ ใหภ้ าระงาน วิธีการ และเคร่ืองมือวดั และประเมินผลการเรียนรู้ครอบคลุมสิ่งท่ีสะทอ้ นผลลพั ธ์ ปลายทางที่ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนอยา่ งแทจ้ ริง นอกจากน้ีการออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward design ในข้นั ที่ 2 น้ี ครูจะตอ้ ง คาํ นึงถึงภาระงาน วิธีการ เคร่ืองวดั และประเมินผลการเรียนรู้ท่ีมีความเที่ยงตรง ความเชื่อถือได้ มี ประสิทธิภาพ ตรงกบั สภาพจริง มีความยดื หยนุ่ และใหค้ วามสบายใจแก่นกั เรียนเป็นสาํ คญั ข้นั ท่ี 3 วางแผนการจัดการเรียนรู้ เม่ือครูมีความรู้ความเขา้ ใจที่ชดั เจนเก่ียวกบั การกาํ หนดผลลพั ธป์ ลายทางท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียน รวมท้งั กาํ หนดภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็นหลกั ฐานท่ีแสดงวา่ นกั เรียนเกิดการ เรียนรู้ตามที่กาํ หนดไวอ้ ยา่ งแทจ้ ริงแลว้ ข้นั ต่อไปครูควรนึกถึงกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่จะจดั ใหแ้ ก่ นกั เรียน การท่ีครูจะนึกถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะจดั ใหน้ กั เรียนไดน้ ้นั ครูควรตอบคาํ ถามสาํ คญั ต่อไปน้ี ถา้ ครูตอ้ งการจะจดั การเรียนรู้ใหน้ กั เรียนเกิดความรู้เกี่ยวกบั ขอ้ เทจ็ จริง ความคิดรวบยอด หลกั การ และทกั ษะกระบวนการต่าง ๆ ที่จาํ เป็ นสาํ หรับนกั เรียน ซ่ึงจะทาํ ใหน้ กั เรียนเกิดผลลพั ธป์ ลายทาง ตามท่ีกาํ หนดไว้ รวมท้งั เกิดเป็นความเขา้ ใจท่ีคงทนต่อไปน้นั ครูสามารถจะใชว้ ิธีการง่าย ๆ อะไรบา้ ง กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีจะช่วยเป็นส่ือนาํ ใหน้ กั เรียนเกิดความรู้และทกั ษะท่ีจาํ เป็นมีอะไรบา้ ง สื่อและแหล่งการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมและดีท่ีสุด ซ่ึงจะทาํ ใหน้ กั เรียนบรรลุตามมาตรฐานของ หลกั สูตรมีอะไรบา้ ง กิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่กาํ หนดไวค้ วรจดั กิจกรรมใดก่อนและควรจดั กิจกรรมใดหลงั
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 14 กิจกรรมต่าง ๆ ออกแบบไวเ้ พอ่ื ตอบสนองความแตกต่างระหวา่ งบุคคลของนกั เรียนหรือไม่ เพราะเหตุใด การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ เพอื่ ใหน้ กั เรียนเกิดผลลพั ธป์ ลายทางตามแนวคิด Backward Design น้นั วกิ กินส์และแมกไทไดเ้ สนอแนะใหค้ รูเขียนแผนการจดั การเรียนรู้โดยใชแ้ นวคิดของ WHERETO (ไปท่ีไหน) ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี W แทน กิจกรรมการเรียนรู้ที่จดั ใหน้ ้นั จะตอ้ งช่วยใหน้ กั เรียนรู้วา่ หน่วยการเรียนรู้น้ีจะดาํ เนินไป ในทิศทางใด (Where) และส่ิงท่ีคาดหวงั คืออะไร (What) มีอะไรบา้ ง ช่วยใหค้ รูทราบวา่ นกั เรียนมีความรู้ พ้ืนฐานและความสนใจอะไรบา้ ง H แทน กิจกรรมการเรียนรู้ควรดึงดูดความสนใจนกั เรียนทุกคน (Hook) ทาํ ใหน้ กั เรียนเกิดความ สนใจในสิ่งที่จะเรียนรู้ (Hold) และใชส้ ิ่งท่ีนกั เรียนสนใจเป็นแนวทางในการจดั การเรียนรู้ E แทน กิจกรรมการเรียนรู้ควรส่งเสริมและจดั ให้ (Equip) นกั เรียนไดม้ ีประสบการณ์ (Experience) ในแนวคิดหลกั /ความคิดรวบยอด และสาํ รวจ รวมท้งั วินิจฉยั (Explore) ในประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจ R แทน กิจกรรมการเรียนรู้ควรเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดค้ ิดทบทวน (Rethink) ปรับ (Revise) ความเขา้ ใจในความรู้และงานที่ปฏิบตั ิ E แทน กิจกรรมการเรียนรู้ควรเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดป้ ระเมิน (Evaluate) ผลงานและสิ่งที่ เกี่ยวขอ้ งกบั การเรียนรู้ T แทน กิจกรรมการเรียนรู้ควรออกแบบ (Tailored) สาํ หรับนกั เรียนเป็นรายบุคคลเพอ่ื ให้ สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ ความสนใจ และความสามารถที่แตกต่างกนั ของนกั เรียน O แทน การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ใหเ้ ป็นระบบ (Organized) ตามลาํ ดบั การเรียนรู้ของ นกั เรียน และกระตุน้ ใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการสร้างองคค์ วามรู้ต้งั แต่เร่ิมแรกและตลอดไป ท้งั น้ีเพอ่ื การเรียนรู้ท่ีมีประสิทธิผล อยา่ งไรกต็ าม มีขอ้ สงั เกตวา่ การวางแผนการจดั การเรียนรู้ท่ีมีการกาํ หนดวธิ ีการจดั การเรียนรู้ การ ลาํ ดบั บทเรียน รวมท้งั ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ท่ีเฉพาะเจาะจงน้นั จะประสบผลสาํ เร็จไดก้ ต็ ่อเมื่อครูไดม้ ี การกาํ หนดผลลพั ธป์ ลายทาง หลกั ฐานและวธิ ีการวดั และประเมินผลที่แสดงวา่ นกั เรียนมีผลการเรียนรู้ ตามที่กาํ หนดไวอ้ ยา่ งแทจ้ ริงแลว้ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้เป็นเพยี งสื่อที่จะนาํ ไปสู่เป้ าหมายความสาํ เร็จที่ ตอ้ งการเท่าน้นั ดว้ ยเหตุน้ีถา้ ครูมีเป้ าหมายที่ชดั เจนกจ็ ะช่วยทาํ ใหก้ ารวางแผนการจดั การเรียนรู้และการจดั กิจกรรมการเรียนรู้สามารถทาํ ใหน้ กั เรียนเกิดผลสมั ฤทธ์ิตามท่ีกาํ หนดไวไ้ ด้ โดยสรุปจึงกล่าวไดว้ า่ ข้นั น้ีเป็นการคน้ หาส่ือการเรียนรู้ แหลง่ การเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้ที่ สอดคลอ้ งเหมาะสมกบั นกั เรียน กิจกรรมท่ีกาํ หนดข้ึนควรเป็นกิจกรรมที่จะส่งเสริมใหน้ กั เรียนสามารถ สร้างและสรุปเป็นความคิดรวบยอดและหลกั การที่สาํ คญั ของสาระที่เรียนรู้ ก่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจท่ีคงทน รวมท้งั ความรู้สึกและค่านิยมท่ีดีไปพร้อม ๆ กบั ทกั ษะความชาํ นาญ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 15 ผงั การออกแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design หน่วยการเรียนรู้ท่ี _________________________ ข้ันท่ี 1 ผลลพั ธ์ปลายทางที่ต้องการให้เกดิ ขึน้ กบั นักเรียน ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________ ความเข้าใจที่คงทนของนักเรียน คําถามสําคญั ทที่ ําให้เกดิ ความเข้าใจที่คงทน นักเรียนจะเข้าใจว่า… 1. ______________________________________ 1. ______________________________________ 2. ______________________________________ 2. ______________________________________ ความรู้ของนักเรียนทนี่ ําไปสู่ความเข้าใจที่คงทน ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนที่นําไปสู่ นักเรียนจะรู้ว่า… ความเข้าใจทคี่ งทน นักเรียนจะสามารถ... 1. ______________________________________ 1. ______________________________________ 2._______________________________________ 2._______________________________________ 3. ______________________________________ 3. ______________________________________ ข้นั ท่ี 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซึ่งเป็ นหลกั ฐานที่แสดงว่านกั เรียนมผี ลการเรียนรู้ ตามที่กาํ หนดไว้อย่างแท้จริง 1. ภาระงานท่ผี ู้เรียนต้องปฏิบตั ิ 1.1 _____________________________________________________________________________ 1.2 _____________________________________________________________________________ 2. วธิ ีการและเคร่ืองมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.1 วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ 2.2 เครื่องมือประเมินผลการเรียนรู้ 1) ________________________________ 1) ________________________________ 2) ________________________________ 2) ________________________________ 3. สิ่งท่ีมุ่งประเมนิ 3.1 _____________________________________________________________________________ 3.2 _____________________________________________________________________________ 3.3 _____________________________________________________________________________ ข้ันที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ ___________________________________________________________________________________ ___________________________________________________________________________________
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 16 รูปแบบแผนการจัดการเรียนรู้รายช่ัวโมง รูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้รายชวั่ โมงจากการออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิดBackward Design เขียนโดยใชร้ ูปแบบของแผนการจดั การเรียนรู้แบบเรียงหวั ขอ้ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี ชื่อแผน... (ระบุช่ือและลาํ ดบั ที่ของแผนการจดั การเรียนรู้) ช่ือเร่ือง... (ระบุชื่อเรื่องท่ีจะทาํ การจดั การเรียนรู้) สาระท่ี... (ระบุสาระที่ใชจ้ ดั การเรียนรู้) ช้ัน... (ระบุช้นั ท่ีจดั การเรียนรู้) หน่วยการเรียนรู้ท่ี... (ระบุลาํ ดบั ที่และชื่อของหน่วยการเรียนรู้) เวลา... (ระบุระยะเวลาที่ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ต่อ 1 แผน) สาระสําคญั ... (เขียนความคิดรวบยอดหรือมโนทศั นข์ องหวั เรื่องท่ีจะจดั การเรียนรู้) ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน ... (ระบุตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั ที่ใชเ้ ป็นเป้ าหมายของแผนการจดั การเรียนรู้) จุดประสงค์การเรียนรู้... (กาํ หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั สมรรถนะสาํ คญั และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ของนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ซ่ึง ประกอบดว้ ย ดา้ นความรู้ความคิด (Knowledge–K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (Affective–A) และดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Performance–P)) การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้... (ระบุวธิ ีการและเครื่องมือวดั และประเมินผลที่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ท้งั 3 ดา้ น) สาระการเรียนรู้... (ระบุสาระและเน้ือหาที่ใชจ้ ดั การเรียนรู้ อาจเขียนเฉพาะหวั เรื่องกไ็ ด)้ แนวทางบูรณาการ... (เสนอแนะและระบุกิจกรรมของกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นท่ีบูรณาการร่วมกนั ) กระบวนการจัดการเรียนรู้... (กาํ หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั ธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้และ การบรู ณาการขา้ มกลุ่มสาระการเรียนรู้) กจิ กรรมเสนอแนะ... (ระบุรายละเอียดของกิจกรรมที่นกั เรียนควรปฏิบตั ิเพิ่มเติม) สื่อ/แหล่งการเรียนรู้... (ระบุสื่อ อุปกรณ์ และแหลง่ เรียนรู้ที่ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้) บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้... (ระบุรายละเอียดของผลการจดั การเรียนรู้ตามแผนท่ีกาํ หนดไว้ อาจนาํ เสนอขอ้ เด่นและขอ้ ดอ้ ยใหเ้ ป็นขอ้ มลู ที่สามารถใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงของการทาํ วิจยั ในช้นั เรียนได)้ ในส่วนของการเขียนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้น้นั ใหค้ รูที่เขียนแผนการจดั การเรียนรู้นาํ ข้นั ตอน หลกั ของเทคนิคและวธิ ีการของการจดั การเรียนรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาํ คญั เช่น การเรียนแบบแกป้ ัญหา การศึกษาเป็นรายบุคคล การอภิปรายกลุ่มยอ่ ย/กลุม่ ใหญ่ การฝึกปฏิบตั ิการ การสืบคน้ ขอ้ มลู ฯลฯ มาเขียน ในข้นั สอน โดยใหค้ าํ นึงถึงธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การใชแ้ นวคิดของการออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design จะช่วยใหค้ รูมี ความมนั่ ใจในการจดั การเรียนรู้และใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ของ ในการจดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพต่อไป
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 17 4. เทคนิคและวิธีการจดั การเรียนรู้–การวดั และประเมินผล ภูมิศาสตร์ พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่ีแกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2553 มาตรา 24 (2) และ (3) ไดร้ ะบุแนวทางการจดั การเรียนรู้ โดยเนน้ การฝึกทกั ษะกระบวนการคิด การฝึ กทกั ษะการ แสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย การฝึกปฏิบตั ิจริง และการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้เพือ่ การป้ องกนั และแกป้ ัญหา ดงั น้นั เพอื่ ใหก้ ารจดั การเรียนรู้สอดคลอ้ งกบั นโยบายดงั กล่าวน้ี การจดั ทาํ แผนการจดั การเรียนรู้ใน คู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ ภูมศิ าสตร์ชุดน้ี จึงยดึ แนวทางการจดั การเรียนรู้ที่ เนน้ ผเู้ รียนเป็นศนู ยก์ ลาง (Child-centered) เนน้ การเรียนรู้จากการปฏิบตั ิจริง และเนน้ การเรียนรู้แบบบูรณา การที่ผสมผสานเช่ือมโยงสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ กบั หวั ขอ้ เร่ืองหรือประเดน็ ท่ีสอดคลอ้ งกบั ชีวิตจริง เพอื่ ใหน้ กั เรียนเกิดการพฒั นาในองคร์ วมอยา่ งเป็นธรรมชาติ สอดคลอ้ งกบั สภาพและปัญหาที่เกิดข้ึนในวิถี ชีวิตของผเู้ รียน แนวทางการจดั การเรียนรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาํ คญั ไดเ้ ปลี่ยนแปลงบทบาทของครูจากการเป็นผชู้ ้ีนาํ หรือถ่ายทอดความรู้ ไปเป็นผชู้ ่วยเหลือ อาํ นวยความสะดวก และส่งเสริมสนบั สนุนนกั เรียนโดยใชว้ ิธีการ ต่าง ๆ อยา่ งหลากหลายรูปแบบ เพอื่ ใหน้ กั เรียนเกิดการสร้างสรรคค์ วามรู้และนาํ ความรู้ไปใชอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ คู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ ภูมศิ าสตร์ชุดน้ีจึงไดน้ าํ เสนอ ทฤษฎี เทคนิค และวิธีการสอน ตา่ ง ๆ มาเป็นแนวทางในการจดั การเรียนรู้ เช่น การจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็ นฐาน (Brain-Based Learning–BBL) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้ที่ อิงผลการวจิ ยั ทางประสาทวิทยา ซ่ึงไดเ้ สนอแนะไวว้ า่ ตามธรรมชาติน้นั สมองเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งไร โดยได้ กล่าวถึงโครงสร้างที่แทจ้ ริงของสมองและการทาํ งานของสมองมนุษยท์ ่ีมีการแปรเปลี่ยนไปตามข้นั ของ การพฒั นา ซ่ึงสามารถนาํ มาใชเ้ ป็นกรอบแนวคิดของการสร้างสรรคก์ ารจดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ การจดั การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็ นฐาน (Problem-Based Learning–PBL) เป็นวธิ ีการจดั การ เรียนรู้ท่ีใชป้ ัญหาท่ีเกิดข้ึนเป็นจุดเริ่มตน้ และเป็นตวั กระตุน้ ใหเ้ กิดกระบวนการเรียนรู้ โดยใหน้ กั เรียน ร่วมกนั แกป้ ัญหาภายใตก้ ารแนะนาํ ของครู ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ต้งั คาํ ถามและช่วยกนั คน้ หาคาํ ตอบ โดยอาจ ใชค้ วามรู้เดิมมาแกป้ ัญหา หรือศึกษาคน้ ควา้ เพิม่ เติมสาํ หรับการแกป้ ัญหา นาํ ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากการคน้ ควา้ มา สรุปเป็นขอ้ มลู ในการแกป้ ัญหา แลว้ ช่วยกนั ประเมินการแกป้ ัญหาเพ่ือใชใ้ นการแกป้ ัญหาคร้ังต่อไป สาํ หรับข้นั ตอนการจดั การเรียนรู้ การจดั การเรียนรู้แบบพหุปัญญา (Multiple Intelligences) เป็นการพฒั นาองคร์ วมของนกั เรียนท้งั สมองดา้ นซา้ ยและสมองดา้ นขวา บนพ้ืนฐานความสามารถและสติปัญญาท่ีแตกต่างกนั ของแต่ละบุคคล มุ่งหมายจะใหน้ กั เรียนสามารถแกป้ ัญหาหรือสร้างสรรคส์ ิ่งต่าง ๆ ภายใตค้ วามหลากหลายของวฒั นธรรม หรือสภาพแวดลอ้ ม การจดั การเรียนรู้แบบร่วมมอื (Cooperative Learning) เป็นการจดั สถานการณ์และบรรยากาศให้ นกั เรียนเกิดการเรียนรู้ร่วมกนั ฝึกใหน้ กั เรียนท่ีมีลกั ษณะแตกต่างกนั ท้งั สติปัญญาและความถนดั ร่วมกนั ทาํ งานเป็นกลุ่ม และร่วมกนั ศึกษาคน้ ควา้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 18 การจัดการเรียนรู้แบบใช้หมวกความคดิ 6 ใบ (Six Thinking Hats) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้ท่ีให้ นกั เรียนฝึกต้งั คาํ ถามและตอบคาํ ถามที่ใชค้ วามคิดในลกั ษณะต่าง ๆ โดยสามารถอธิบายเหตุผลประกอบ หรือวิเคราะห์วิจารณ์ได้ การจดั การเรียนรู้สืบสวนสอบสวน (Inquiry Process) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้ที่ฝึ กใหน้ กั เรียน คน้ หาความรู้ดว้ ยตนเอง เพ่อื อธิบายส่ิงต่าง ๆ อยา่ งเป็นระบบและมีหลกั เกณฑ์ โดยนกั เรียนจะตอ้ งใช้ ความสามารถของตนเองคิดคน้ สืบเสาะ แกป้ ัญหาหรือคิดประดิษฐส์ ิ่งใหม่ดว้ ยตนเอง การจดั การเรียนรู้แบบกระบวนการแก้ปัญหา (Problem Solving) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้ที่มุ่งฝึก ใหน้ กั เรียนเรียนรู้จากการแกป้ ัญหาที่เกิดข้ึน โดยการทาํ ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา ดาํ เนินการ แกป้ ัญหา และตรวจสอบหรือมองยอ้ นกลบั การจดั การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Work) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้รูปแบบหน่ึงที่ส่งเสริมให้ นกั เรียนเรียนรู้ดว้ ยตนเองจากการลงมือปฏิบตั ิ โดยใชก้ ระบวนการแสวงหาความรู้หรือคน้ ควา้ หาคาํ ตอบ ในส่ิงท่ีนกั เรียนอยากรู้หรือสงสยั ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ อยา่ งหลากหลาย การจดั การเรียนรู้ทเี่ น้นการปฏิบัติ (Active Learning) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้ที่ใหน้ กั เรียนได้ ทดลองทาํ ดว้ ยตนเอง เพ่ือจะไดเ้ รียนรู้ข้นั ตอนของงาน รู้จกั วิธีแกป้ ัญหาในการทาํ งาน การจัดการเรียนรู้แบบสร้างผงั ความคดิ (Concept Mapping) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้ดว้ ยการจดั กลุ่มความคิดรวบยอด เพอ่ื ใหเ้ ห็นความสมั พนั ธ์กนั ระหวา่ งความคิดหลกั และความคิดรองลงไป โดย นาํ เสนอเป็นภาพหรือเป็นผงั การจดั การเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experience Learning) เป็นการจดั กิจกรรมหรือจดั ประสบการณ์ใหน้ กั เรียนเกิดการเรียนรู้จากการปฏิบตั ิ แลว้ กระตุน้ ใหน้ กั เรียนพฒั นาทกั ษะใหม่ ๆ เจตคติ ใหม่ ๆ หรือวธิ ีการคิดใหม่ ๆ การจดั การเรียนรู้โดยการแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้ที่ให้ นกั เรียนไดแ้ สดงบทบาทในสถานการณ์ท่ีสมมุติข้ึน โดยอาจกาํ หนดใหแ้ สดงบทบาทสมมุติที่เป็น พฤติกรรมของบุคคลอ่ืน หรือแสดงพฤติกรรมในบทบาทของตนเองในสถานการณ์ต่าง ๆ การจดั การเรียนรู้จากเกมจาํ ลองสถานการณ์ (Simulation Gaming) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้ท่ี คลา้ ยกบั การแสดงบทบาทสมมุติ แต่เป็นการใหเ้ ล่นเกมจาํ ลองสถานการณ์ โดยครูนาํ สถานการณ์จริงมา จาํ ลองไวใ้ นหอ้ งเรียน โดยการกาํ หนดกฎ กติกา เง่ือนไขสาํ หรับเกมน้นั ๆ แลว้ ใหผ้ เู้ รียนไปเล่นเกมหรือ กิจกรรมในสถานการณ์จาํ ลองน้นั การจดั การเรียนรู้แบบกลบั ด้านช้ันเรียน (Flipped Classroom) เป็นกระบวนการจดั การเรียนรู้ตาม แนวคิดวา่ เรียนที่บา้ น ทาํ การบา้ นท่ีโรงเรียน เป็นการกลบั มุมมองจากการใหบ้ ทบาทและความสาํ คญั ที่ครู ไปใหค้ วามสาํ คญั ต่อการเรียนรู้ของนกั เรียน จากเดิมส่ิงที่ทาํ ในช้นั เรียนนาํ ไปทาํ ที่บา้ น และนาํ ส่ิงท่ี มอบหมายใหท้ าํ ที่บา้ นมาทาํ ในช้นั เรียน โดยครูคอยใหค้ าํ แนะนาํ ช่วยเหลือ และตอบขอ้ สงสยั ในระหวา่ ง การทาํ งาน/กิจกรรมของนกั เรียน เพ่ือใหเ้ กิดการเรียนรู้อยา่ งมีประสิทธิภาพ การจดั การเรียนรู้ตอ้ งจดั ควบคู่การวดั และการประเมินผลตามภาระ/ชิ้นงานที่สอดคลอ้ งกบั ตวั ช้ีวดั แผนการจดั การเรียนรู้น้ีไดเ้ สนอการวดั และประเมินผลครบท้งั 3 ดา้ น คือ ดา้ นความรู้ ดา้ นคุณธรรม
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 19 จริยธรรม และค่านิยม และดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ เนน้ วิธีการวดั ที่หลากหลายตามสถานการณ์จริง การดู ร่องรอยต่าง ๆ ควบคู่ไปกบั การดูกระบวนการทาํ งาน และผลผลิตของงาน โดยออกแบบการประเมินก่อน เรียน ระหวา่ งเรียน หลงั เรียน และแบบทดสอบประจาํ หน่วยการเรียนรู้ พร้อมแบบฟอร์มและเกณฑก์ าร ประเมิน เพ่ืออาํ นวยความสะดวกใหค้ รูไวพ้ ร้อม ท้งั น้ีครูอาจเพ่มิ เติมโดยการออกแบบการวดั และประเมิน ดว้ ยมิติคุณภาพ (Rubrics) 5. ตารางวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั ช่วงช้ันกบั สาระการเรียนรู้ ในหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน มฐ. ส 5.1 มฐ. ส 5.2 หน่วยการเรียนรู้ 123412345 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เคร่ืองมอื ในการศึกษาภูมศิ าสตร์ * 1. แผนที่ 2. เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ * 3. เทคโนโลยแี ละสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ * หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ปรากฏการณ์ทางภูมศิ าสตร์ * 1. โครงสร้างของโลก 2. โลกกบั สิ่งแวดลอ้ ม *** 3. กระบวนการที่ทาํ ใหเ้ กิดลกั ษณะภมู ิประเทศของโลก *** 4. ปัญหาทางกายภาพของประเทศไทยและของโลก *** 5. ภยั พิบตั ิทางธรรมชาติของไทยและของโลก *** หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 วกิ ฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม * 1. ความสมั พนั ธข์ องทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 2. วิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม * ของประเทศไทย * 3. วกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ของโลก หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม * 1. มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากร * * ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลก 2. องคก์ รที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ * และส่ิงแวดลอ้ ม 3. กฎหมายที่เก่ียวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย 4. แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 20 มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน มฐ. ส 5.1 มฐ. ส 5.2 หน่วยการเรียนรู้ 123412345 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 การใช้ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมเพอื่ การพฒั นาท่ยี ง่ั ยืน 1. การใชป้ ระโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและ * ส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม 2. การพฒั นาที่ยงั่ ยนื * 6. คาํ อธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 คาํ อธิบายรายวชิ า ส30101 ภูมศิ าสตร์ รายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4–6 เวลา 40 ชั่วโมง ศึกษา วิเคราะห์ เลือกใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนาํ เสนอขอ้ มลู และ ข่าวสารภมู ิลกั ษณ์ ภมู ิอากาศ และภมู ิสงั คมของไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ทว่ั โลก ปัญหาทางกายภาพหรือภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติในประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก การเกิดภูมิสงั คมใหม่ของโลก การ เปล่ียนแปลงของพ้ืนท่ีซ่ึงไดร้ ับอิทธิพลจากปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ในประเทศไทยและทวปี ต่าง ๆ การ เปล่ียนแปลงธรรมชาติในโลก สถานการณ์การเปล่ียนแปลงลกั ษณะทางกายภาพในส่วนต่าง ๆ ของโลกที่ มีผลต่อการเกิดภมู ิสงั คมใหม่ ๆ ในโลก วิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของประเทศ ไทยและโลก มาตรการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในประเทศและนอก ประเทศ บทบาทขององคก์ ารและการประสานความร่วมมือท้งั ในประเทศและนอกประเทศ กฎหมาย ส่ิงแวดลอ้ ม การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก การใชป้ ระโยชนจ์ ากสิ่งแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมอนั เป็นเอกลกั ษณ์ของทอ้ งถ่ินท้งั ในประเทศไทยและโลก การแกป้ ัญหาและการดาํ เนินชีวิตตาม แนวทางการ อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มเพ่ือการพฒั นาท่ียง่ั ยนื โดยใชก้ ระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการสืบคน้ ขอ้ มลู กระบวนการกลุ่ม กระบวนการ แกป้ ัญหา เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ เห็นคุณค่า มีจิตสาํ นึก มีส่วนร่วมในการแกป้ ัญหาและการดาํ เนิน ชีวิตตาม แนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มเพ่ือการพฒั นาท่ียง่ั ยนื มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วดั ส 5.1 ม. 4–6/3 ส 5.1 ม. 4–6/4 ส 5.2 ม. 4–6/5 ส 5.1 ม. 4–6/1 ส 5.1 ม. 4–6/2 ส 5.2 ม. 4–6/3 ส 5.2 ม. 4–6/4 ส 5.2 ม. 4–6/1 ส 5.2 ม. 4–6/2 รวมท้ังหมด 9 ตวั ชี้วดั
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 21 7. โครงสร้างรายวิชาพนื้ ฐาน ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 โครงสร้างรายวิชา ส30101 ภูมศิ าสตร์ รายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 4–6 เวลา 40 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั เวลา นํา้ หนัก (ชั่วโมง) (คะแนน) 1. เคร่ืองมือในการศึกษาภมู ิศาสตร์ ส 5.1 ม. 4–6/1 2. ปรากฏการณ์ทางภมู ิศาสตร์ ส 5.1 ม. 4–6/2 ส 5.1 ม. 4–6/3 6 15 ส 5.1 ม. 4–6/4 3. วิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ 12 25 และสิ่งแวดลอ้ ม ส 5.2 ม. 4–6/1 4 20 4. การจดั การดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม ส 5.2 ม. 4–6/2 ส 5.2 ม. 4–6/3 8 20 5. การใชท้ รัพยากรธรรมชาติและ ส 5.2 ม. 4–6/4 ส 5.2 ม. 4–6/5 4 20 ส่ิงแวดลอ้ มเพ่อื การพฒั นาที่ยงั่ ยนื รวม 34 100 หมายเหตุ ส30101 รายวิชาพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 จดั เวลาเรียนใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนตลอดภาคเรียน เท่ากบั 40 ชวั่ โมง การจดั ทาํ โครงสร้างเวลาเรียนไดก้ าํ หนดเวลาเรียนไว้ 34 ชวั่ โมง เวลาปฐมนิเทศ 1 ชวั่ โมง และเวลาในการทดสอบกลางภาค 2 ชว่ั โมง และเวลาในการทดสอบปลายภาค 3 ชวั่ โมง
8. โครงสร้ างเวลาเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน ภูมศิ าสตร์ ม. 4–6 หน่ วยการเรี ยนร้ ู ท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ชั่วโมงที่ 1 ปฐมน หน่วยท่ี 1 เคร่ืองมอื ในการศึกษา แผนปฐมนิเทศ ชว่ั โมงท่ี 2 แผนท ภูมศิ าสตร์ แผนที่ 1 แผนท่ี 1. แผนท่ี (3 แผน) (2 ชวั่ โมง) 1.1 ชนิดขอ 1.2 องคป์ ระ แผนที่ 2 เคร่ื องมือทางภมู ิศาสตร์ (2 ชว่ั โมง) ชว่ั โมงท่ี 3 แผนท 1.3 แผนที่ภ แผนท่ี 3 เทคโนโลยแี ละ สารสนเทศทางภมู ิศาสตร์ ชวั่ โมงท่ี 4 เครื่ องม (2 ชว่ั โมง) 2. เครื่ องมือทา 2.1 เคร่ื องม ชว่ั โมงท่ี 5 เคร่ื องม 2.2 เคร่ื องม ชว่ั โมงที่ 6–7 เทค 3. เทคโนโลยแี 3.1 การรับร 3.2 ชนิดขอ 3.3 ระบบส
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 22 ชั่วโมงท่ี หมายเหตุ นิเทศและข้ อตกลงในการเรี ยน ท่ี (1) องแผนท่ี ะกอบของแผนท่ี ท่ี (2) ภมู ิประเทศ มือทางภมู ิศาสตร์ (1) างภมู ิศาสตร์ มือทางแผนท่ี มือทางภมู ิศาสตร์ (2) มือทางภมู ิอากาศ คโนโลยแี ละสารสนเทศภมู ิศาสตร์ และสารสนเทศทางภมู ิศาสตร์ รู้จากระยะไกล (remote sensing) องขอ้ มลู การรับรู้จากระยะไกล สารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System–GIS)
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ที่ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3.4 ระบบก 3.5 อินเทอร หน่วยที่ 2 ปรากฏการณ์ทาง แผนท่ี 4 ลกั ษณะภมู ิประเทศของ ภูมศิ าสตร์ โลก ชว่ั โมงท่ี 8–9 โคร (4 แผน) (4 ชว่ั โมง) 1. โครงสร้างข 1.1 ช้นั เปลือ แผนที่ 5 กระบวนการท่ีทาํ ใหเ้ กิด 1.2 ช้นั เน้ือโ ลกั ษณะภมู ิประเทศของโลก 1.3 ช้นั แก่น (4 ชว่ั โมง) ชวั่ โมงท่ี 10–11 โ 2. โลกกบั ส่ิงแ ชว่ั โมงท่ี 12 กระบ 3. กระบวนการ 3.1 กระบวน ชว่ั โมงที่ 13 กระบ 3.2 กระบวน 3.3 กระบวน ชวั่ โมงท่ี 14–15 ก 3.1 กระบวน 3.2 กระบวน 3.3 กระบวน
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 23 ช่ัวโมงท่ี หมายเหตุ กาํ หนดตาํ แหน่งบนพ้ืนโลก (Global Positioning System–GPS) ร์เน็ต (Internet) รงสร้างของโลก ของโลก อกโลก โลก นโลก โลกกบั สิ่งแวดลอ้ ม แวดลอ้ ม บวนการที่ทาํ ใหเ้ กิดลกั ษณะภมู ิประเทศของโลก (1) รที่ทาํ ใหเ้ กิดลกั ษณะภมู ิประเทศของโลก นการแปรสณั ฐาน บวนการท่ีทาํ ใหเ้ กิดลกั ษณะภมู ิประเทศของโลก (2) นการปรับระดบั ผวิ แผน่ ดิน นการจากภายนอกโลก การนาํ เสนอกระบวนการเกิดลกั ษณะภมู ิประเทศของโลก นการแปรสณั ฐาน นการปรับระดบั ผวิ แผน่ ดิน นการจากภายนอกโลก
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ที่ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี แผนท่ี 6 ปัญหาทางกายภาพของ ประเทศไทยและของโลก ชวั่ โมงท่ี 16 ปัญห (2 ชว่ั โมง) 4. ปัญหาทางก 4.1 ปัญหาท ชว่ั โมงที่ 17 ปัญห 4.2 ปัญหาท แผนที่ 7 ภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติของ ชวั่ โมงท่ี 18–19 ภ ประเทศไทยและของโลก 5. ภยั พบิ ตั ิทาง (2 ชวั่ โมง) 5.1 แผน่ ดิน 5.2 อุทกภยั 5.3 ภยั แลง้ 5.4 แผน่ ดิน 5.5 สึนามิ ( 5.6 ภเู ขาไฟ 5.7 พายหุ ม ช่ัวโมงที่ 20–21 กา
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 24 ชั่วโมงท่ี หมายเหตุ หาทางกายภาพของประเทศไทยและของโลก (1) กายภาพของประเทศไทยและของโลก ทางกายภาพของประเทศไทย หาทางกายภาพของประเทศไทยและของโลก (2) ทางกายภาพของโลก ภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติของประเทศไทยและของโลก งธรรมชาติของประเทศไทยและของโลก นถล่ม (landslide) ย (flood) (drought) นไหว (earthquake) (tsunami) ฟ (volcano) มุน (cyclone) ารทดสอบกลางภาค ปรับเปลี่ยนชวั่ โมงทดสอบ ตามความเหมาะสม
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ที่ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ชวั่ โมงท่ี 22–23 ค หน่วยท่ี 3 วกิ ฤตการณ์ด้าน แผนที่ 8 วกิ ฤตการณ์ดา้ น วิกฤตการณ์ดา้ นท ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่ งแวดล้ อม สิ่งแวดลอ้ มของประเทศไทย 1. ความสมั พนั (2 แผน) (2 ชวั่ โมง) 2. วิกฤตการณ์ด แผนท่ี 9 วิกฤตการณ์ดา้ น 2.1 วกิ ฤตกา ทรัพยากรธรรมชาติและ 2.2 วกิ ฤตกา สิ่งแวดลอ้ มของโลก (2 ชวั่ โมง) ชวั่ โมงที่ 24 สาเห โลก 3. วกิ ฤตการณ์ด 3.1 สาเหตุก ของโลก ชวั่ โมงที่ 25 วกิ ฤต ปัจจุบนั 3.2 วิกฤตกา ปัจจุบนั
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 25 ชั่วโมงท่ี หมายเหตุ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม และ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย นธ์ระหวา่ งทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของประเทศไทย ารณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ ารณ์ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม หตุการวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของ ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลก การเกิดวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม ตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของโลกใน ารณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของโลกใน
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ชว่ั โมงที่ 26–27 ม หน่วยที่ 4 การจัดการด้าน แผนท่ี 10 มาตรการในการจดั การ สิ่งแวดลอ้ มของโล ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ วิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากร ส่ิ งแวดล้ อม ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของโลก 1. มาตรการใน (4 แผน) (2 ชว่ั โมง) สิ่งแวดลอ้ มของโล แผนท่ี 11 องคก์ รท่ีมีบทบาทใน 1.1 อนุสญั ญ การจดั การทรัพยากรธรรมชาติ 1.2 อนุสญั ญ และสิ่งแวดลอ้ ม (Montreal Protoco (2 ชวั่ โมง) 1.3 อนุสญั ญ United Nations Fr 1.4 อนุสญั ญ Biological Divers 1.5 อนุสญั ญ ชวั่ โมงท่ี 28–29 อ สิ่งแวดลอ้ ม 2. องคก์ รท่ีมีบ 2.1 องคก์ รใ ส่ิงแวดลอ้ ม 2.2 องคก์ รต ส่ิงแวดลอ้ มของป
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 26 ชั่วโมงที่ หมายเหตุ มาตรการในการจดั การวิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและ ลก นการจดั การวิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและ ลก ญาไซเตส (CITES) ญาเวียนนา (Vienna Convention) และพธิ ีสารมอนทรี ออล ol) ญาสหประชาชาติวา่ ดว้ ยการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ (The ramework Convention on Climate Change–UNFCCC) ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on sity–CBD) ญาบาเซิล (Basel Convention) องคก์ รที่มีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ บทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ในประเทศท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ ต่างประเทศท่ีมีบทบาทในการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและ ประเทศไทย
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี แผนที่ 12 กฎหมายท่ีเกี่ยวกบั การ อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ ชว่ั โมงท่ี 30–31 ก ส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย สิ่งแวดลอ้ มของป (2 ชวั่ โมง) 3. กฎหมายท่ีเก แผนท่ี 13 แนวทางในการอนุรักษ์ ประเทศไทย ทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ 3.1 พระราช ของโลก 2535 (2 ชวั่ โมง) 3.2 พระราช ท่ี 2) พ.ศ. 2550 3.3 พระราช บา้ นเมือง พ.ศ. 25 3.4 พระราช 3.5 พระราช ชว่ั โมงที่ 32–33 แ ภมู ิภาคต่าง ๆ ของ 4. แนวทางในก ต่าง ๆ ของโลก
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 27 ชั่วโมงที่ หมายเหตุ กฎหมายท่ีเกี่ยวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและ ประเทศไทย กี่ยวกบั การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของ ชบญั ญตั ิส่งเสริ มและรักษาคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติ พ.ศ. ชบญั ญตั ิการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แกไ้ ขเพ่มิ เติม (ฉบบั ชบญั ญตั ิรักษาความสะอาดและความเป็ นระเบียบเรี ยบร้อยของ 535 ชบญั ญตั ิป่ าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ชบญั ญตั ิสงวนและคุม้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535 แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มใน งโลก การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในภมู ิภาค
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ที่ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ชวั่ โมงท่ี 34 การใ หน่วยที่ 5 การใช้ ทรัพยากร สร้างสรรคว์ ฒั นธ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมเพอ่ื แผนท่ี 14 การใชป้ ระโยชน์จาก การพฒั นาท่ียง่ั ยนื ทรัพยากรธรรมชาติและ 1. การใชป้ ระโ (2 แผน) สิ่งแวดลอ้ มในการสร้างสรรค์ สร้างสรรคว์ ฒั นธ วฒั นธรรม (2 ชว่ั โมง) 1.1 อิทธิพล ชวั่ โมงท่ี 35 การใ แผนท่ี 15 การพฒั นาท่ียง่ั ยนื สร้างสรรคว์ ฒั นธ (2 ชว่ั โมง) 1.2 อิทธิพล ชว่ั โมงท่ี 36 การพ 2. การพฒั นาท 2.1 ความหม 2.2 ความหม 2.3 หลกั การ ชว่ั โมงที่ 37 การพ 2.4 รูปแบบ ประเทศไทย ชั่วโมงที่ 38–40 กา
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 28 ชั่วโมงท่ี หมายเหตุ ใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในการ ธรรม (1) ปรับเปล่ียนชว่ั โมงทดสอบ โยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มในการ ตามความเหมาะสม ธรรม ลต่อการต้งั ถ่ินฐานและที่อยอู่ าศยั ใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในการ ธรรม (2) ลต่อการดาํ เนินชีวิตและการประกอบอาชีพ พฒั นาท่ียงั่ ยนื (1) ท่ียงั่ ยนื มายของการพฒั นาท่ียงั่ ยนื มายของการใชท้ รัพยากรเพ่ือการพฒั นาที่ยงั่ ยนื รและแนวทางปฏิบตั ิเพื่อนาํ ไปสู่การพฒั นาท่ียงั่ ยนื พฒั นาท่ียงั่ ยนื (2) บและแนวทางการใชท้ รัพยากรเพื่อการพฒั นาที่ยง่ั ยืนของ ารทดสอบปลายภาค
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 29 ตอนที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้ สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 30 แผนปฐมนิเทศ ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 สาระที่ 5 ภูมศิ าสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 4–6 ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียน เวลา 1 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 5.1 เขา้ ใจในลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพส่ิงซ่ึงมีผลต่อ กนั และกนั ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ีและเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ในการคน้ หา วิเคราะห์ สรุป และ ใชข้ อ้ มลู ภมู ิสารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งมนุษยก์ บั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพที่ก่อใหเ้ กิดการ สร้างสรรคว์ ฒั นธรรม มีจิตสาํ นึกและมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากรและสิ่งแวดลอ้ ม เพื่อการพฒั นาที่ ยง่ั ยนื 2. ตวั ชีว้ ดั ช่วงช้ัน 1. ใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนาํ เสนอขอ้ มลู ภมู ิสารสนเทศอยา่ งมี ประสิทธิภาพ (ส 5.1 ม. 4–6/1) 2. วิเคราะห์อิทธิพลของสภาพภมู ิศาสตร์ ซ่ึงทาํ ใหเ้ กิดปัญหาทางกายภาพหรือภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ ในประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก (ส 5.1 ม. 4–6/2) 3. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของพ้นื ท่ี ซ่ึงไดร้ ับอิทธิพลจากปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ในประเทศไทย และทวปี ต่าง ๆ (ส 5.1 ม. 4–6/3) 4. ประเมินการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติในโลกวา่ เป็นผลมาจากการกระทาํ ของมนุษยแ์ ละหรือ ธรรมชาติ (ส 5.1 ม. 4–6/4) 5. วิเคราะห์สถานการณ์และวิกฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของประเทศไทย และโลก (ส 5.2 ม. 4–6/1) 6. ระบุมาตรการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหาบทบาทขององคก์ ารและการประสานความร่วมมือท้งั ใน ประเทศและนอกประเทศเก่ียวกบั กฎหมายส่ิงแวดลอ้ ม การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม (ส 5.2 ม. 4–6/2) 7. ระบุแนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก (ส 5.2 ม. 4–6/3) 8. อธิบายการใชป้ ระโยชน์จากส่ิงแวดลอ้ มในการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม อนั เป็นเอกลกั ษณ์ของ ทอ้ งถ่ินท้งั ในประเทศไทยและโลก (ส 5.2 ม. 4–6/4) 9. มีส่วนร่วมในการแกป้ ัญหาและการดาํ เนินชีวติ ตามแนวทางการอนุรักษท์ รัพยากรและ ส่ิงแวดลอ้ มเพ่ือการพฒั นาท่ียงั่ ยนื (ส 5.2 ม. 4–6/5)
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 31 3. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด การจดั การเรียนรู้รายวิชาพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 เป็นไปตามนโยบายของสาํ นกั งาน คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน (สพฐ.) ท่ีไดใ้ หส้ ถานศึกษาจดั การเรียนรู้อีกรายวิชาหน่ึงในกลุ่มสาระ การเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม โดยไดก้ าํ หนดสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ของรายวิชา พ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 เป็น 2 มาตรฐาน และยงั ไดก้ าํ หนดตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั และสาระการเรียนรู้ท่ี สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ รวมท้งั ยงั ไดจ้ ดั ทาํ คาํ อธิบายรายวชิ า เพอื่ ใหส้ ถานศึกษานาํ ไปกาํ หนด เป็นหลกั สูตรสถานศึกษาของตนใหเ้ ป็นไปในทิศทางเดียวกนั 4. สาระการเรียนรู้ 1. เทคนิคและวิธีการจดั การเรียนรู้ รายวิชาพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ 2. แนวทางการวดั และประเมินผลการเรียนรู้รายวชิ าพ้นื ฐาน ภูมิศาสตร์ 3. ตารางวิเคราะห์ มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั กบั สาระการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้ 4. คาํ อธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 5. โครงสร้างรายวชิ าพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 6. โครงสร้างเวลาเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 5. สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซื่อสตั ยส์ ุจริต 3. มีวนิ ยั 4. ใฝ่ เรียนรู้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 6. มุ่งมนั่ ในการทาํ งาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ 7. ภาระงาน/ชิ้นงาน ภาระงานรวบยอด
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 32 – การตอบคาํ ถามเกี่ยวกบั การจดั การเรียนรู้รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ – การอภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การจดั การเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ 8. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ซกั ถามความรู้เรื่อง ปฐมนิเทศ ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ เป็นกลุ่มในดา้ นการสื่อสาร และขอ้ ตกลงในการเรียน ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ รายวชิ าพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ความมีวนิ ยั ความใฝ่ เรียนรู้ ม. 4–6 ฯลฯ 2. ตรวจผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลและเป็ นกลุ่ม 9. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นําเข้าสู่บทเรียน ชั่วโมงที่ 1 1. ครูสร้างบรรยากาศและส่ิงแวดลอ้ มในการเรียนรู้ที่เหมาะสมเพื่อกระตุน้ ให้นกั เรียนอยากเรียนรู้ เช่น จดั นงั่ เรียนแบบรูปตวั U นงั่ เรียนเป็นกลุ่ม นาํ นกั เรียนศึกษานอกหอ้ งเรียน เช่น หอ้ งประชุม หอ้ งโสต ทศั นศึกษา สนามหญา้ ใตร้ ่มไม้ 2. ครูแนะนําตนเอง แลว้ ให้นักเรียนแนะนําตนเองตามลาํ ดบั ตวั อกั ษร หรือตามลาํ ดบั หมายเลข ประจาํ ตวั หรือตามแถวที่นง่ั ตามความเหมาะสม 3. ครูให้ความรู้ท่ัว ๆ ไปเกี่ยวกับการจดั การเรียนรู้ รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ พร้อมซักถาม นกั เรียนในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) ทาํ ไมเราจึงตอ้ งเรียนสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 2) รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์มีความสาํ คญั และจาํ เป็นต่อเราหรือไม่ เพราะอะไร 4. ครูสรุปความรู้แลว้ เชื่อมโยงไปสู่เน้ือหาท่ีจะเรียน ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 5. ครูระบุสิ่งท่ีตอ้ งเรียนในรายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 โดยใช้ข้อมูลจากหน้าสารบญั ใน หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั จากน้นั อธิบาย เพื่อทาํ ความเขา้ ใจกบั นกั เรียนในเรื่องต่อไปน้ี (โดยใชข้ อ้ มูลจากตอนที่ 1) 1) คาํ อธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 2) โครงสร้างรายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 3) โครงสร้างเวลาเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 33 6. ครูบอกเทคนิคและวิธีการจดั การเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 โดยสรุปว่ามีเทคนิค และวิธีการเรียนรู้อะไรบา้ ง (โดยใชข้ อ้ มลู จากตอนท่ี 1) 7. ครูสนทนาและซกั ถามนกั เรียนเพื่อทาํ ความเขา้ ใจถึงแนวทางการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 (โดยใช้ข้อมูลจากตอนท่ี 1) รวมท้ังเกณฑ์ตดั สินผลการเรียนรู้ใน ประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) รายวชิ าพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 มีเวลาเรียนเท่าไร 2) รายวิชาน้ีจะสอบและเกบ็ คะแนนอยา่ งไร และเท่าไร 3) รายวิชาน้ีจะตดั สินผลการเรียนอยา่ งไร 8. ครูแนะนําสื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ที่จะใช้ประกอบการเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 โดยใชข้ อ้ มูลจากหนา้ บรรณานุกรมในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จาํ กดั นอกจากน้ีครูควรแนะนาํ แหล่งสืบคน้ ความรู้ขอ้ มูลเพ่ิมเติม เกี่ยวกบั เร่ืองต่าง ๆ ท่ีไดร้ ะบุไวใ้ นแต่ละหน่วยการเรียนรู้ในหนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4– 6 ของบริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั เพื่อทาํ ความเขา้ ใจถึงแหล่งสืบคน้ ความรู้แต่ละอยา่ ง 9. ครูสนทนากบั นกั เรียนและร่วมกนั ทาํ ขอ้ ตกลงในการเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ใน ประเดน็ ต่าง ๆ ดงั น้ี 1) เวลาเรียน ตอ้ งเขา้ เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนในรายวิชาน้ี หรือไม่ขาดเรียน เกิน ๓ คร้ัง กรณีป่ วยตอ้ งส่งใบลาโดยผปู้ กครองลงชื่อรับรองการลา 2) ควรเขา้ หอ้ งเรียนตรงเวลาและรักษามารยาทในการเรียน 3) เม่ือเร่ิมเรียนแต่ละหน่วยการเรียนรู้จะมีการทดสอบก่อนเรียน และหลงั จากเรียนจบแต่ละ หน่วยการเรียนรู้แลว้ จะมีการทดสอบหลงั เรียน 4) ในชวั่ โมงท่ีมีการฝึกปฏิบตั ิงาน ควรเตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือใหพ้ ร้อม โดยจดั หาไว้ ล่วงหนา้ 5) รับผดิ ชอบการเรียน การสร้างชิ้นงาน และการส่งงานตามเวลาที่กาํ หนด 6) รักษาความสะอาดบริเวณท่ีปฏิบตั ิกิจกรรม วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใชท้ าํ งานทุกคร้ัง ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 10. ครูให้นักเรียนร่วมกนั อภิปรายแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั แหล่งการเรียนรู้และแหล่งสืบคน้ ความรู้อื่น ๆ ท่ีจะนาํ มาใชใ้ นการจดั การเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 จากน้นั ครูและนกั เรียน ร่วมกนั สรุปและบนั ทึกผล ข้นั ที่ 4 นําไปใช้ 11. ครูให้นกั เรียนพิจารณาวา่ จากหัวขอ้ ท่ีเรียนมาและการปฏิบตั ิกิจกรรมมีเรื่องอะไรบา้ งท่ียงั ไม่ เขา้ ใจหรือมีขอ้ สงสยั ถา้ มีครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ 12. นักเรียนร่วมกนั ประเมินการปฏิบตั ิกิจกรรมว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และไดม้ ีการแก้ไข อยา่ งไรบา้ ง
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 34 13. ครูให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจากการเรียนหัวขอ้ น้ีและ การปฏิบตั ิกิจกรรม 14. ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยการใหต้ อบคาํ ถาม เช่น 1) รายวชิ าน้ีมีเกณฑต์ ดั สินผลการเรียนรู้อยา่ งไร 2) ขอ้ ตกลงในการเรียนมีอะไรบา้ ง 15. ครูให้นักเรียนนาํ ประโยชน์จากการเรียนรู้เร่ือง ปฐมนิเทศและขอ้ ตกลงในการเรียนรายวิชา พ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 ไปประพฤติปฏิบตั ิใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั การจดั การเรียนรู้ ข้นั ท่ี 5 สรุป 16. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง ปฐมนิเทศและขอ้ ตกลงในการเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 1 โดยใหน้ กั เรียนบนั ทึกขอ้ สรุปลงในแบบบนั ทึกความรู้ หรือสรุปเป็นแผนที่ความคิดหรือผงั มโนทศั นล์ งในสมุด พร้อมท้งั ตกแต่งใหส้ วยงาม 17. ครูมอบหมายให้นกั เรียนอ่านเน้ือหาเก่ียวกบั เครื่องมือในการศึกษาภูมิศาสตร์เร่ือง แผนที่ ใน หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 ของบริษทั สํานักพิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั เป็ นการบา้ น เพื่อเตรียมจดั การเรียนรู้ในคร้ังต่อไป 10. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 2. คู่มือการสอน ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 3. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวิชาพ้ืนฐาน ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 บริษทั สํานักพิมพ์วฒั นาพานิช จาํ กดั 11. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ _______________________________________________________ แนวทางการพฒั นา _________________________________________________________________ 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ ___________________________________________________ แนวทางแกไ้ ข ____________________________________________________________________ 3. สิ่งที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน ___________________________________________________________ เหตุผล __________________________________________________________________________ 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ____________________________________________________ ________________________________________________________________________________ ลงช่ือ ________________________ ผ้สู อน ___________ / __________ / __________
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม. 4–6 35 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เคร่ืองมอื ในการศึกษาภูมศิ าสตร์ เวลา 6 ช่ัวโมง ผงั มโนทัศน์เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ทกั ษะ/กระบวนการ ความรู้ คุณธรรม จริยธรรม 1. การสื่อสาร 1. แผนที่ และค่านิยม 2. การใชเ้ ทคโนโลยี 2. เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ 3. การคิด 3. เทคโนโลยแี ละสารสนเทศ 1. มีวนิ ยั 4. กระบวนการกลุ่ม 2. ใฝ่ เรียนรู้ ทาง 3. มีจิตสาธารณะ ์ 4. มีความรับผดิ ชอบ เคร่ืองมือในการศึกษา ภูมิศาสตร์ ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การทาํ แบบทดสอบ 2. การศึกษาคน้ ควา้ เกี่ยวกบั เคร่ืองมือในการศึกษาภมู ิศาสตร์ 3. การเลือกใชเ้ ครื่องมือในการศึกษาภมู ิศาสตร์และเกบ็ ขอ้ มลู ทางภมู ิศาสตร์ 4. การรายงานบนั ทึกผลการเกบ็ ขอ้ มลู ทางภมู ิศาสตร์ 5. การนาํ เสนอผลงานเกี่ยวกบั เคร่ืองมือในการศึกษาภมู ิศาสตร์
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 36 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เคร่ืองมือในการศึกษาภูมศิ าสตร์ ข้นั ท่ี 1 ผลลพั ธ์ปลายทางทตี่ ้องการให้เกดิ ขนึ้ กบั นักเรียน ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน ใชเ้ ครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนาํ เสนอขอ้ มลู อยา่ งมีประสิทธิภาพ (ส 5.1 ม. 4–6/1) ความเข้าใจทีค่ งทนของนักเรียน คาํ ถามสําคญั ทที่ ําให้เกดิ ความเข้าใจทค่ี งทน นักเรียนจะเข้าใจว่า... แผนท่ี เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ และเทคโนโลยี เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์มีความสาํ คญั อยา่ งไร และสารสนเทศทางภมู ิศาสตร์ เป็นเครื่องมือท่ีใชใ้ น การศึกษา รวบรวม วิเคราะห์ และนาํ เสนอขอ้ มลู ทางภมู ิศาสตร์ในดา้ นต่าง ๆ เพือ่ ใหผ้ ทู้ ่ีศึกษาไดร้ ับ ขอ้ มูลท่ีถูกตอ้ งและมีประสิทธิภาพ ความรู้ของนักเรียนทีน่ ําไปสู่ความเข้าใจที่คงทน ทกั ษะ/ความสามารถของนักเรียนท่ีนําไปสู่ นักเรียนจะรู้ว่า... ความเข้าใจท่คี งทน นักเรียนจะสามารถ... 1. คาํ สาํ คญั ไดแ้ ก่ แผนที่รัฐกิจ แผนท่ีธรณีวทิ ยา 1. อธิบายวิธีการใชง้ านเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์ ท่ีราบสูง ช่องแคบ เสน้ ช้นั ความสูง ระดบั ทะเล 2. เลือกใชเ้ คร่ืองมือในการศึกษาขอ้ มูลทาง ปานกลาง ความช้ืนสมั พทั ธ์ อุตุนิยมวทิ ยา ภมู ิศาสตร์มาใชใ้ นการศึกษา รวบรวม และ อุทกศาสตร์ วิเคราะห์ขอ้ มูลทางภมู ิศาสตร์ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. แผนท่ีเป็นเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ท่ีแสดง ขอ้ มูลต่าง ๆ ท่ีปรากฏบนพ้ืนผวิ โลกไวบ้ น วสั ดุแบนราบ โดยการยอ่ ลงตามมาตราส่วนท่ี ตอ้ งการ และใชส้ ญั ลกั ษณ์แทนส่ิงต่าง ๆ ที่ ปรากฏบนพ้ืนผวิ โลก แผนที่มีประโยชน์ใน การศึกษาขอ้ มลู เชิงพ้นื ท่ีเพ่อื ใชใ้ นการ วางแผนในดา้ นต่าง ๆ 3. เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ เคร่ืองมือทางแผนที่ เช่น เขม็ ทิศ เคร่ืองมือวดั ระยะทางในแผนที่ เครื่องมือวดั พ้นื ที่ และเครื่องมือทางภมู ิอากาศ เช่น บารอมิเตอร์ เทอร์โมมิเตอร์ ไซโครมิเตอร์ ไฮโกรมิเตอร์ มาตรวดั ลม เคร่ืองวดั ฝน
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ ม. 4–6 37 ซ่ึงเครื่องมือแตล่ ะชนิดกจ็ ะมีคุณสมบตั ิการให้ ขอ้ มลู แตกต่างกนั 4. เทคโนโลยแี ละสารสนเทศทางภมู ิศาสตร์เป็น เคร่ืองมือที่ใหข้ อ้ มูลทางภมู ิศาสตร์ที่ทนั สมยั ไดแ้ ก่ การรับรู้จากระยะไกล ระบบสารสนเทศ ภมู ิศาสตร์ ระบบกาํ หนดตาํ แหน่งบนโลก และ อินเทอร์เน็ต ข้ันท่ี 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็ นหลกั ฐานที่แสดงว่านักเรียนมผี ลการเรียนรู้ ตามท่ีกาํ หนดไว้อย่างแท้จริง 1. ภาระงานที่นักเรียนต้องปฏิบัติ 1.1 ศึกษาคน้ ควา้ เก่ียวกบั เครื่องมือในการศึกษาภมู ิศาสตร์ 1.2 เลือกใชเ้ ครื่องมือในการศึกษาภมู ิศาสตร์และเกบ็ ขอ้ มูลทางภมู ิศาสตร์ 1.3 รายงานบนั ทึกผลการเกบ็ ขอ้ มูลทางภมู ิศาสตร์ 1.4 นาํ เสนอผลงานเก่ียวกบั เครื่องมือในการศึกษาภมู ิศาสตร์ 2. วธิ ีการและเคร่ืองมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.1 วธิ ีการประเมินผลการเรียนรู้ 2.2 เคร่ืองมือประเมินผลการเรียนรู้ 1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน 2) การประเมินผลงาน/กิจกรรม 2) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม 3) การประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 3) แบบประเมินดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และค่านิยม 4) การประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 3. สิ่งทม่ี ุ่งประเมนิ 3.1 ความสามารถ 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การอธิบาย ช้ีแจง การแปลความและตีความ การประยกุ ต์ ดดั แปลง และนาํ ไปใช้ การมีมุมมองท่ีหลากหลาย การใหค้ วามสาํ คญั และใส่ใจในความรู้สึกของผอู้ ื่น และ การรู้จกั ตนเอง 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ เช่น การส่ือสาร การใชเ้ ทคโนโลยี การคิด การแกป้ ัญหา กระบวนการกลุ่ม 3.3 คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม เช่น มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง รักความเป็นไทย รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มีจิตสาธารณะ มีความรับผดิ ชอบ ซื่อสตั ยส์ ุจริต ข้ันที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 แผนท่ี เวลา 2 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เทคโนโลยแี ละสารสนเทศทางภมู ิศาสตร์ เวลา 2 ชว่ั โมง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220