Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศักราช 2563

หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศักราช 2563

Published by KroorachaneChanel, 2021-06-09 09:43:15

Description: หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศักราช 2563

Search

Read the Text Version

หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ พุทธศกั ราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ระดบั ประถมศกึ ษา สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสุรินทรเ์ ขต ๓ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร  ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ คำนำ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรที่คณะกรรมการ การศึกษาข้ันพื้นฐานได้ดำเนินการพฒั นาหลังจากการใชห้ ลักสูตรการศึกษา พุทธศักราช ๒๕๔๔ และจาก ข้อมูลของผลการศึกษาวิจัย ติดตามผลการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ กับ ข้อมูลจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑2 (พ.ศ.๒๕6๐ – ๒๕6๔) เพื่อให้มีความ เหมาะสม ชัดเจนยิ่งขึ้น ท้ังเป้าหมายของหลักสูตรในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และกระบวนการนำ หลักสูตรไปสู่การปฏบิ ัติ การกำหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่ชัดเจน โดยมอบหมายให้เขตพื้นที่และสถานศึกษาที่จัด การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ใช้หลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ เป็นกรอบและทิศทาง ในการพัฒนาหลักสูตรและจัดการเรยี นการสอน โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) จึงได้จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาสาระการเรียนรู้สังคม ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖3 นี้ขึ้นประกอบด้วย วิสัยทัศน์ เป้าหมาย สมรรถนะผู้เรียน โครงสร้างหลักสตู ร เกณฑ์การวัดและประเมินผล เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติและ จัดการเรียนรู้ ขอขอบคุณคณะครูและคณะผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมในการจัดทำทุกฝ่าย คณะกรรมการ สถานศึกษา นกั เรยี น และผู้ปกครองนักเรยี น ที่ทำให้การจัดทำหลกั สูตรสถานศึกษาของโรงเรยี นบ้านพลวง (พรหมบำรุงราษฎร)์ สำเร็จได้ดว้ ยดี คณะผ้จู ัดทำ กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หนา้ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ๑ ๑ สารบญั ๗ ๘ คำนำ ๘ สารบัญ ๘ บทนำ ๒๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๓๑ โครงสรา้ งเวลาเรยี น ๓๘ ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง ๔๗ ๕๒ รายวิชาพ้ืนฐาน ๕๒ สาระท่ี ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ๕๔ สาระท่ี ๒ หนา้ ทพี่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชีวติ ในสงั คม ๕๖ สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์ ๕๙ สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์ ๖๑ สาระที่ ๕ ภูมิศาสตร์ ๖๒ รายวชิ าเพม่ิ เติม หนา้ ที่พลเมือง ๙๑ จดุ เนน้ ที่ ๑ ความเป็นไทย ๑๔๗ จุดเนน้ ท่ี ๒ รักชาติ ยึดมน่ั ในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ ๑๗๒ จุดเนน้ ที่ ๓ ความเปน็ พลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยฯ ๑๗๓ จุดเนน้ ที่ ๔ ความปรองดอง สมานฉนั ท์ ๑๗๔ จดุ เน้นที่ ๕ ความมีวนิ ัยในตนเอง 175 รายวิชาเพ่ิมเติม การปอ้ งกันการทจุ ริต คำอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน โครงสรา้ งรายวชิ า อภธิ านศพั ท์ บรรณานุกรม ภาคผนวก คณะผู้จัดทำ - คำสั่งแตง่ ตัง้ คณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้าน พลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ ระดบั การศึกษาปฐมวยั และระดบั การศกึ ษา ขนั้ พื้นฐาน - คำสง่ั แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจดั ทำหลักสูตร - ประกาศให้ใช้หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุง ราษฎร์)พุทธศักราช ๒๕๖3  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กลุม่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม บทนำ โรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖3 ได้นำหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พศ.2560) และกรอบหลักสตู รท้องถ่ิน ของสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๓ มาใช้เป็นกรอบและทิศทางในการจัดทา หลักสูตรสถานศึกษา และจัดการเรียนการสอนเพ่ือพัฒนานักเรียนของโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุง ราษฎร์) ให้มีคุณภาพด้านความรู้ และทักษะที่จาเป็นสาหรับการดารงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปลี่ยนแปลง และแสวงหาความรเู้ พ่ือพัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เน่อื งตลอดชีวติ ความสำคัญของสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สังคมโลกมกี ารเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็วตลอดเวลา กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และ วฒั นธรรม ช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ว่ามนุษย์ดำรงชีวิตอย่างไร ทั้งในฐานะปัจเจกบุคคล และ การอยรู่ ว่ มกนั ในสังคม การปรับตวั ตามสภาพแวดล้อม การจัดการทรพั ยากรท่มี อี ยู่อย่างจำกดั นอกจากน้ี ยังช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจถึงการพัฒนา เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย กาลเวลา ตามเหตุปัจจัยต่างๆ ทำให้เกิด ความเข้าใจในตนเอง และผู้อ่ืน มีความอดทน อดกล้ัน ยอมรับในความแตกต่าง และมีคุณธรรม สามารถ นำความรูไ้ ปปรับใช้ในการดำเนินชวี ติ เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ และสงั คมโลก สาระสำคัญของกลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมว่าด้วยการอยู่ร่วมกันในสังคม ท่ีมีความ เชื่อมสัมพันธ์กัน และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกับบริบท สภาพแวดล้อม เปน็ พลเมืองดี มคี วามรับผดิ ชอบ มีความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม และคา่ นิยมท่ีเหมาะสม โดย ได้กำหนดสาระตา่ งๆไว้ ดงั นี้ • ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม แนวคิดพ้ืนฐานเก่ียวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือ การนำหลักธรรมคำสอนไปปฏิบัติในการพัฒนา ตนเอง และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เป็นผู้กระทำความดี มีค่านิยมที่ดีงาม พัฒนาตนเองอยู่เสมอ รวมทัง้ บำเพ็ญประโยชนต์ ่อสังคมและส่วนรวม • หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคม ปัจจุบันการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลักษณะและความสำคัญ การเป็นพลเมืองดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ปลูกฝังค่านิยม  ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๒ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ดา้ นประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพการดำเนินชีวติ อยา่ งสนั ติสุข ในสงั คมไทยและสงั คมโลก • เศรษฐศาสตร์ การผลิต การแจกจ่าย และการบริโภคสินค้าและบริการ การบริหารจัดการ ทรัพยากรที่มีอยอู่ ย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ การดำรงชีวิตอยา่ งมดี ุลยภาพ และการนำหลักเศรษฐกิจ พอเพยี งไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั • ประวัตศิ าสตร์ เวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ วธิ ีการทางประวัติศาสตร์ พัฒนาการของ มนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์และเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ผลกระทบที่เกิดจาก เหตุการณ์สำคัญในอดีต บุคคลสำคัญท่ีมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆในอดีต ความเป็นมาของชาติ ไทย วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย แหล่งอารยธรรมท่สี ำคัญของโลก • ภูมิศาสตร์ ลักษณะของโลกทางกายภาพ ลักษณะทางกายภาพ แหล่งทรัพยากร และ ภูมิอากาศของประเทศไทย และภูมิภาคต่างๆ ของโลก การใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธก์ ันของสิง่ ตา่ งๆ ในระบบธรรมชาติ ความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และสิ่งทม่ี นุษย์สรา้ งข้ึน การนำเสนอขอ้ มลู ภูมิสารสนเทศ การอนรุ ักษ์สง่ิ แวดลอ้ มเพอื่ การพัฒนาทีย่ ่ังยืน สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖3 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พศ.2560) มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตาม มาตรฐานการเรียนรู้ ซ่ึงการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดนั้นจะช่วยให้ผู้เรียนเกิด สมรรถนะสำคญั ๕ ประการ ดังน้ี ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรบั และส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ ภาษาถา่ ยทอดความคิด ความรู้ความเขา้ ใจ ความรูส้ ึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสาร และประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัด และลดปญั หาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รบั ขอ้ มูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผล และความถูกต้อง ตลอดจนการเลอื กใชว้ ิธกี ารสื่อสารทมี่ ีประสทิ ธภิ าพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทมี่ ตี อ่ ตนเองและสงั คม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสรา้ งสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพอ่ื นำไปสกู่ ารสร้างองค์ความรหู้ รือ สารสนเทศเพือ่ การตัดสินใจเก่ียวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ ท่ี เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรม และข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธ์และการเปลีย่ นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใชใ้ น การป้องกันและแก้ไขปญั หา และมีการตดั สนิ ใจทม่ี ีประสทิ ธิภาพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบท่ีเกิดขน้ึ ต่อตนเอง สงั คมและสิง่ แวดล้อม  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสตู รโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน การดำเนนิ ชวี ิตประจำวนั การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งต่อเน่ือง การทำงาน และการอยู่ร่วมกัน ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม และสภาพแวดล้อม และการรู้จัก หลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงค์ที่สง่ ผลกระทบต่อตนเองและผ้อู น่ื ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่อื การพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ ทำงาน การแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ งเหมาะสมและมีคณุ ธรรม คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) พุทธศักราช ๒๕๖3 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พศ.2560) ม่งุ พฒั นาผเู้ รียนใหม้ คี ณุ ลักษณะอัน พึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๑.๑ ร่วมกิจกรรมแสดงความรักชาติ เช่น เชิญธง ยืนตรงเคารพธงชาติ รอ้ งเพลงชาติ รกั ษาชือ่ เสียง และหวงแหนสมบตั ขิ องชาติ ๑.๒ ร่วมกิจกรรมทางศาสนา และปฏิบัติตามหลักธรรมของศาสนา เช่น รักษาศีล ปฏิบตั ธิ รรม ๑.๓ รว่ มกิจกรรมเพ่ือแสดงความจงรักภกั ดีตอ่ พระมหากษัตรยิ ์ ๒. ซ่ือสตั ยส์ ุจรติ ๒.๑ ใหข้ ้อมูลทีถ่ ูกต้องและเปน็ จรงิ ไม่โกหก ๒.๒ ไมถ่ ือเอาส่งิ ของหรอื ผลงานของผู้อน่ื มาเปน็ ของตนเอง ไม่ลักขโมย ๒.๓ ไม่หาผลประโยชนใ์ นทางท่ไี ม่ถกู ต้อง ไมค่ ดโกง ๓. มวี ินยั ๓.๑ ปฏิบัตติ นตามขอ้ ตกลง กฎระเบยี บของครอบครวั โรงเรยี นและสงั คม ๓.๒ ตรงต่อเวลาและรบั ผดิ ชอบในการเรียน การปฏิบตั งิ าน ๔. ใฝเ่ รียนรู้ ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรียน สนใจเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ๔.๒ แสวงหา ศกึ ษา ค้นคว้าความรจู้ ากแหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆ ๔.๓ บนั ทึกความรูว้ ิเคราะหต์ รวจสอบ แลกเปล่ียนเรียนรู้  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หนา้ ๔ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง ๕.๑ ใช้ทรัพย์สินของตนเองและของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า รวมทั้งใช้เวลาอย่าง เหมาะสม ๕.๒ ปฏบิ ตั ิตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบมเี หตุผล ๕.๓ วางแผนการเรียนการทำงานบนพ้ืนฐานของความรู้ ข้อมลู ขา่ วสาร มีภูมิคุม้ กันใน ตัวทีด่ ี ๖. ม่งุ มั่นในการทำงาน ๖.๑ ตง้ั ใจและรบั ผิดชอบในการทำงานให้สำเร็จ ๖.๒ ทุม่ เททำงาน อดทนไมย่ ่อทอ้ ต่อปญั หาและอปุ สรรค ๖.๓ ปรบั ปรงุ พฒั นาการทำงานและผลงานด้วยตนเอง ๗. รกั ความเปน็ ไทย ๗.๑ ปฏิบตั ติ ามขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย ๗.๒ ใชภ้ าษาไทย เลขไทยในการสือ่ สารได้อยา่ งถูกตอ้ ง ๗.๓ รว่ มกจิ กรรมทเี่ กี่ยวข้องกับภูมิปญั ญาไทย นำมาใช้ให้เหมาะสมในวถิ ีชีวิต ๘. มจี ิตสาธารณะ ๘.๑ ชว่ ยเหลือผู้อื่น แบ่งปันสง่ิ ของ อาสาทำงานให้ด้วยความเต็มใจ ไมห่ วงั ผลตอบแทน ๘.๒ เข้ารว่ มกิจกรรมทีเ่ ปน็ ประโยชน์ต่อโรงเรียน ชุมชนและสังคม ๘.๓ ดแู ลรักษาสาธารณสมบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมดว้ ย ความเต็มใจ โดยน้อมนำหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ๓ ห่วง ๒ เง่ือนไข  ห่วงที่ 1 คอื พอประมาณ หมายถงึ พอประมาณ ในทุกอย่าง ความพอดีไม่มากหรือว่าน้อยจนเกินไป โดยต้องไม่เบยี ดเบยี นตนเอง หรือผู้อื่นใหเ้ ดือดรอ้ น  ห่วงท่ี 2 คอื มีเหตุผล หมายถึง การตดั สินใจ เก่ียวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไป อย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดข้ึนจากการ กระทาน้ันๆ อยา่ งรอบคอบ  ห่วงที่ 3 คือ มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง หมายถึง การเตรียมตัวให้พ ร้อมรับผลกระทบและการ เปล่ียนแปลงด้านการต่างๆ ท่ีจะเกิดข้ึนโดยคำนึงถึง ความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะ เกดิ ข้ึนในอนาคตทั้งใกล้และไกล  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระท่ี ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตาม หลักธรรม เพ่อื อยู่ร่วมกนั อย่างสนั ตสิ ุข มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบตั ติ นเป็นศาสนิกชนทด่ี ี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนบั ถือ สาระที่ ๒ หนา้ ที่พลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวิตในสงั คม มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏิบัติตนตามหนา้ ทขี่ องการเป็นพลเมอื งดี มีค่านิยมทีด่ งี าม และ ธำรงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ สังคมโลกอยา่ งสันตสิ ุข มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธา และธำรง รักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส.๓.๑ เขา้ ใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลติ และการบรโิ ภคการใช้ ทรพั ยากรที่มอี ยู่จำกดั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและคุ้มคา่ รวมท้งั เข้าใจ หลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการดำรงชีวติ อย่างมีดลุ ยภาพ มาตรฐาน ส.๓.๒ เข้าใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกิจ และความจำเป็นของการรว่ มมือกันทางเศรษฐกจิ ในสังคมโลก สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถ ใชว้ ิธกี ารทางประวตั ิศาสตรม์ าวิเคราะห์เหตุการณต์ ่างๆ อย่างเปน็ ระบบ มาตรฐาน ส ๔.๒ เขา้ ใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจบุ ัน ในด้านความสัมพันธ์และ การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสำคัญและ สามารถ วเิ คราะหผ์ ลกระทบทีเ่ กิดขน้ึ มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความภูมใิ จและธำรงความเปน็ ไทย สาระท่ี ๕ ภมู ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๕.๑ เข้าใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพส่ิงซ่ึงมีผล ต่อ กันและกันในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการ ค้นหาวเิ คราะห์ สรุป และใช้ข้อมลู ภูมสิ ารสนเทศอย่างมปี ระสิทธภิ าพ มาตรฐาน ส ๕.๒ เขา้ ใจปฏสิ ัมพันธ์ระหว่างมนษุ ย์กบั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพท่กี ่อให้เกิด การสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรม มีจิตสำนึก และมีสว่ นรว่ มในการอนุรักษ์ ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เพอ่ื การพฒั นาที่ย่ังยนื  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หน้า ๖ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ คุณภาพผเู้ รยี น จบชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ ไดเ้ รียนรูเ้ ร่ืองเกี่ยวกับตนเองและผทู้ ่อี ยรู่ อบข้าง ตลอดจนสภาพแวดลอ้ มในท้องถ่ิน ทอ่ี ย่อู าศัย และเชอ่ื งโยงประสบการณไ์ ปสูโ่ ลกกว้าง • ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีทักษะกระบวนการ และมีข้อมูลที่จำเป็นต่อการพัฒนาให้เป็น ผมู้ คี ุณธรรม จริยธรรม ประพฤติปฏิบตั ิตามหลักคำสอนของศาสนาทต่ี นนับถือ มีความเป็นพลเมืองดี มี ความรบั ผิดชอบ การอยูร่ ่วมกันและการทำงานกับผอู้ ่นื มีสว่ นร่วมในกิจกรรมของห้องเรยี น และได้ฝึกหัด ในการตดั สนิ ใจ • ได้ศึกษาเร่ืองราวเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และชุมชนในลักษณะการบูรณาการ ผู้เรียนได้เข้าใจแนวคิดเก่ียวกับปัจจุบันและอดีต มีความรู้พื้นฐานทางเศรษฐกิจได้ข้อคิดเกี่ยวกับรายรับ- รายจา่ ยของครอบครวั เขา้ ใจถงึ การเปน็ ผผู้ ลิต ผู้บริโภค ร้จู กั การออมขั้นตน้ และวิธีการเศรษฐกจิ พอเพียง • ได้รับการพัฒนาแนวคิดพื้นฐานเก่ียวกับศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าท่ีพลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภมู ิปญั ญา เพ่ือเปน็ พน้ื ฐานในการทำความเขา้ ใจในขั้นที่สูงตอ่ ไป จบชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ • ได้เรียนรู้เรื่องของจังหวัด ภาค และประทศของตนเอง ทั้งเชิงประวัติศาสตร์ ลักษณะทาง กายภาพ สงั คม ประเพณี และวัฒนธรรม รวมทัง้ การเมืองการปกครอง สภาพเศรษฐกิจโดยเนน้ ความเป็น ประเทศไทย • ไดร้ ับการพฒั นาความร้แู ละความเขา้ ใจ ในเรอ่ื งศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ปฏิบัตติ นตามหลัก คำสอนของศาสนาทีต่ นนับถอื รวมทง้ั มสี ว่ นรว่ มศาสนพธิ ี และพิธกี รรมทางศาสนามากยิ่งข้นึ • ได้ศึกษาและปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิหน้าท่ีในฐานะพลเมืองดีของท้องถิ่น จังหวัด ภาค และประเทศ รวมทั้งได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ของ ท้องถน่ิ ตนเองมากย่งิ ข้ึน ได้ศึกษาเปรียบเทียบเรื่องราวของจังหวัดและภาคต่างๆของประเทศไทยกับประเทศเพ่ือนบ้าน ไดร้ ับการพฒั นาแนวคดิ ทางสงั คมศาสตร์ เก่ยี วกับศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม หน้าทพ่ี ลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์เพื่อขยายประสบการณ์ไปสู่การทำความเข้าใจ ในภูมิภาค ซีกโลก ตะวันออกและตะวันตกเก่ียวกับศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม การดำเนนิ ชีวติ การจัดระเบียบทางสังคม และการเปลยี่ นแปลงทางสงั คมจากอดีตส่ปู จั จุบัน  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๗ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ โครงสรา้ งเวลาเรียน กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชาพนื้ ฐาน รหสั วชิ า ชื่อรายวชิ า จำนวนชัว่ โมง/ปี/ภาค ระดบั ชัน้ ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ๔๐ ส๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ส๑๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๔๐ ประถมศึกษาปีที่ ๒ ส๑๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ส๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ๔๐ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ ส๑๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ ส๑๔๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ๘๐ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ส๑๔๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐ ส๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา ๘๐ ส๑๕๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐ ส๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษา ๘๐ ส๑๖๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐ รายวชิ าเพ่ิมเตมิ ระดับชน้ั รหสั วชิ า ชอื่ รายวิชา จำนวนชั่วโมง/ป/ี ภาค ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ส๑๑๒01 การปอ้ งกันการทุจรติ 40 ส๑๑๒๓๑ หน้าทีพ่ ลเมอื ง ๔๐ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ ส๑๒๒01 การป้องกนั การทุจรติ 40 ส๑๒๒๓๒ หน้าที่พลเมือง ๔๐ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ ส๑๓๒01 การป้องกนั การทจุ ริต 40 ส๑๓๒๓๓ หน้าทีพ่ ลเมือง ๔๐ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ ส๑๔๒01 การปอ้ งกนั การทุจริต 40 ส๑๔๒๓๔ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง ๔๐ ประถมศึกษาปีที่ ๕ ส๑๕๒01 การปอ้ งกนั การทจุ ริต 40 ส๑๕๒๓๕ หนา้ ท่ีพลเมือง ๔๐ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ส๑๖๒01 การปอ้ งกนั การทจุ ริต 40 ส๑๖๒๓๖ หน้าทพ่ี ลเมอื ง ๔๐ หมายเหตุ * จัดบูรณาการการเรียนรู้ร่วมกันตามความสอดคล้องของเน้ือหาและการจัดกิจกรรม การเรียนรู้  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๘ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ท่ีมา : อ้างอิงจากคู่มอื บริหารจัดการเวลาเรียน ตามนโยบาย “ลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลารู้ หนา้ ที่ ๗ - ๑๒ ของสำนักวิชาการ และมาตรฐานการศกึ ษา สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ท่มี า : อ้างอิง จาก ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ืองการบริหารจัดการเวลาเรียนภาษาอังกฤษ ชน้ั ประถมศึกษา ปที ี่ ๑ - ๓ ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ *วิชาหน้าที่พลเมือง จัดเปน็ รายวิชาเพิม่ เติม แตจ่ ัดการเรียนการสอน ให้บูรณาการลงสูก่ ิจกรรมที่ โรงเรียน ดำเนินการอยู่แล้ว โดยไม่เพ่ิมช่ัวโมงเรียน ได้แก่ กิจกรรมหน้าเสาธง กิจกรรมกีฬาสี กิจกรรม ประเพณี กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด เป็นต้น เพื่อปลูกฝังให้เกิดการปฏิบัติและกลายเป็น พฤติกรรมในชีวติ ประจำวัน วิชาการป้องกันการทุจริต ด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำส่ังท่ี ๖๔๖/๒๕๖๐ ลงวันท่ี ๒๖ เมษายน ๒๕๖๐ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำหลักสูตร หรือชุดการเรียนรู้และส่ือประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทจุ ริต ตัวชี้วดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลาง รายวิชาพืน้ ฐาน สาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ี ตนนบั ถอื และศาสนาอน่ื มีศรทั ธาท่ีถูกต้อง ยดึ มั่นและปฏิบัติตามหลักธรรมเพอ่ื อยรู่ ่วมกันอยา่ งสนั ติสขุ ชัน้ ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. บอกพุทธประวัติ หรือประวัติของ ➢ พุทธประวตั ิ ศาสดาท่ตี นนับถือโดยสังเขป  ประสูติ  ตรัสรู้  ปรินพิ พาน ๒. ช่ืนชมและบอกแบบอย่างการดำเนิน  สามเณรบณั ฑิต ชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/  วัณณปุ ถชาดก เรื่องเล่าและศาสนิกชนตัวอย่างตามท่ี  สุวณั ณสามชาดก กำหนด  พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช  เจา้ พระยาสุธรรมมนตรี (หนพู รอ้ ม) ๓. บอกความหมาย ความสำคัญ และ ➢ พระรตั นตรยั เคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตามหลักธรรม  ศรัทธา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โอวาท ๓ในพระพุทธศาสนา หรือหลักธรรม ➢ โอวาท ๓  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หนา้ ๙ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ของศาสนาทต่ี นนับถือตามที่กำหนด  ไมท่ ำชัว่ o เบญจศีล  ทำความดี o เบญจธรรม o สังคหวตั ถุ ๔ o ก ตั ญ ญู ก ต เวที ต่ อ พ่ อ แม่ แล ะ ครอบครวั o มงคล ๓๘ - ทำตวั ดี - ว่างา่ ย - รบั ใชพ้ ่อแม่  ทำจิตให้บรสิ ทุ ธ์ิ(บริหารจติ และเจริญปัญญา) ➢ พุทธศาสนสุภาษิต  อตฺตา หิ อตตฺ โน นาโถ ตนแลเป็นที่พง่ึ ของตน  มาตา มติ ฺตํ สเก ฆเร มารดาเป็นมิตรในเรอื นของตน ๔. เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตา ➢ ฝกึ สวดมนต์และแผเ่ มตตา มีสติท่ีเป็นพ้ืนฐานของสมาธิใพระพุทธ  รูค้ วามหมายและประโยชน์ของสติ ศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทาง  ฟังเพลงและรอ้ งเพลงอยา่ งมีสติ ของศาสนาทตี่ นนบั ถอื ตามทก่ี ำหนด  เล่นและทำงานอย่างมีสติ  ฝึกให้มีสติในการฟัง การอ่าน การคิด การ ถามและการเขยี น ป.๒ ๑. บอกความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา  พระพุทธศาสนาเป็นเอกลักษณ์ของ ชาติ หรอื ศาสนาทต่ี นนบั ถอื ไทย ๒. สรปุ พทุ ธประวตั ิตัง้ แต่ประสูติจนถงึ การ ➢ สรปุ พทุ ธประวตั ิ ออกผนวชหรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือ  ประสตู ิ ตามท่ีกำหนด o เหตุการณห์ ลงั ประสูติ o แรกนาขวญั o การศึกษา o การอภเิ ษกสมรส o เทวทูต ๔ o การออกผนวช ๓. ช่ืนชมและบอกแบบอย่างการดำเนิน  สามเณรราหุล ชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/  วรุณชาดก  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสูตรโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๑๐ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ช้ัน ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง เรื่องเล่าและศาสนิกชนตัวอย่างตามที่  วานรนิ ทชาดก กำหนด  สมเดจ็ พระญาณสงั วร (ศขุ ไก่เถอ่ื น)  สมเด็จพระญาณสงั วร สมเด็จพระสงั ฆราช (เจริญ สวุ ฑฺฒโน) ๔. บอกความหมาย ความสำคัญ และ ➢ พระรัตนตรัย เคารพพระรตั นตรัย ปฏิบตั ิตามหลักธรรม  ศรทั ธา โอ ว าท ๓ ในพระพุ ทธศาสนา ห รื อ ➢ โอวาท ๓ หลกั ธรรมของศาสนาท่ีตน  ไม่ทำชว่ั นบั ถือตามท่กี ำหนด o เบญจศลี  ทำความดี o เบญจธรรม o หิริ-โอตตปั ปะ o สงั คหวตั ถุ ๔ o ฆราวาสธรรม ๔ o กตัญญูกตเวทีต่อครู อาจารย์ และ โรงเรียน o มงคล ๓๘ - กตญั ญู - สงเคราะหญ์ าติพ่นี ้อง  ทำจิตให้บริสุทธ์ิ (บริหารจิตและเจริญ ปญั ญา) ➢ พุทธศาสนสภุ าษติ  นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ ก ตัญฺ ญ กตเวทิตา ความกตญั ญ กตเวทีเป็นเครอ่ื งหมาย ของคนดี  พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร มารดาบิดาเป็นพรหม ของบตุ ร ๕. ชื่นชมการทำความดีของตนเอง บุคคล  ตัวอย่างการกระทำความดีของตนเองและ ในครอบครัวและในโรงเรียน ตามหลัก บคุ คลในครอบครัว และในโรงเรียน (ตามสาระ ศาสนา ในขอ้ ๔) ๖. เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตา ➢ ฝกึ สวดมนตไ์ หวพ้ ระและแผเ่ มตตา มีสติท่ีเป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพุทธ-  รู้ความหมายและประโยชนข์ องสตแิ ละสมาธิ ศาสนา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทาง  ฝกึ สมาธเิ บอ้ื งตน้ ของศาสนาท่ีตนนับถือ ตามทก่ี ำหนด  ฝึกสติเบื้องต้นด้วยกิจกรรมการเคล่ือนไหว อยา่ งมีสติ  ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๑๑ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง  ฝกึ ให้มีสมาธิในการฟัง การอ่าน การคิด การ ถาม และการเขยี น ๗. บอกชื่อศาสนา ศาสดาและความสำคัญ ➢ ชื่อศาสนา ศาสดา และคัมภรี ์ของศาสนา ของคัมภีร์ของศาสนาท่ีตนนับถือและ ตา่ ง ๆ ศาสนาอืน่ ๆ  พระพุทธศาสนา o ศาสดา : พระพทุ ธเจ้า o คัมภีร์ : พระไตรปิฎก  ศาสนาอิสลาม o ศาสดา : มุฮมั มัด o คัมภรี ์ : อัลกรุ อาน  คริสตศ์ าสนา o ศาสดา : พระเยซู o คมั ภรี ์ : ไบเบิล  ศาสนาฮนิ ดู o ศาสดา : ไมม่ ศี าสดา o คมั ภรี ์ : พระเวท พราหมณะ o อุปนษิ ัท อารัณยกะ ป.๓ ๑. อธิบายความสำคัญของพระพุทธศาสนา  ความสัมพันธ์ของพระพุทธศาสนากับการ หรือศาสนาที่ตนนับถือ ในฐานะที่เป็น ดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การสวดมนต์ การ รากฐานสำคัญของวัฒนธรรมไทย ทำบุญ ใส่บาตร การแสดงความเคารพ การใช้ ภาษา  พระพุทธศาสนามีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ ผล ง า น ท า ง วัฒ น ธ รรม ไ ท ย อั น เกิ ด จ าก ค วา ม ศรัทธา เช่น วัด ภาพวาด พระพุทธรูปวรรณคดี สถาปัตยกรรมไทย ๒. สรุปพทุ ธประวัติตัง้ แต่การบำเพ็ญเพียร  สรุปพทุ ธประวัติ (ทบทวน) จนถึงปรินิพพาน หรือประวัติของศาสดาที่  การบำเพญ็ เพยี ร ตนนับถอื ตามท่กี ำหนด  ผจญมาร  ตรสั รู้  ปฐมเทศนา  ปรินพิ พาน ๓. ช่ืนชมและบอกแบบอย่างการดำเนิน  สามเณรสงั กิจจะ ชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก/  อารามทสู กชาดก เร่ืองเล่าและศาสนิกชนตัวอย่าง ตามที่  มหาวาณิชชาดก กำหนด  สมเด็จพระพฒุ าจารย์ (โต พรฺ หฺมรสํ )ี  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๑๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ชั้น ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง  สมเดจ็ พระเจ้าตากสนิ มหาราช ๔. บอกความหมาย ความสำคัญ ของ  ความสำคัญของพระไตรปิฎก เช่น เป็น พระไตรปิฎก หรือคัมภีร์ของศาสนาท่ีตน แหล่งอ้างองิ ของหลกั ธรรมคำสอน นบั ถือ ๕. แสดงความเคารพพระรัตนตรัย และ ➢ พระรตั นตรยั ปฏิบตั ิตามหลกั ธรรมโอวาท ๓ ใน  ศรทั ธา พระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของศาสนา ➢ โอวาท ๓ ท่ีตนนับถือตามที่กำหนด  ไมท่ ำชวั่ o เบญจศลี  ทำความดี o เบญจธรรม o สติ-สัมปชญั ญะ o สังคหวัตถุ ๔ o ฆราวาสธรรม ๔ o อัตถะ ๓ (อัตตตั ถะ,ปรัตถะ,อภุ ยัตถะ) o กตญั ญูกตเวทีต่อชุมชน, ส่ิงแวดลอ้ ม o มงคล ๓๘ - รูจ้ กั ให้ - พูดไพเราะ - อยใู่ นสิ่งแวดล้อมทดี่ ี  ทำจิตให้บริสุทธ์ิ (บริหารจิตและเจริญ ปัญญา) ➢ พุทธศาสนสุภาษิต  ททมาโน ปิโย โหติ ผใู้ ห้ย่อมเป็นทร่ี ัก  โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ เปล่งวาจาไพเราะ ใหส้ ำเร็จประโยชน์ ๖. เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตามสี ติ ➢ ฝึกสวดมนต์ ไหว้พระ สรรเสริญคุณพระ ทเ่ี ปน็ พ้ืนฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา รตั นตรยั และแผ่เมตตา หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนา  รู้ความหมายและประโยชน์ของสติและ ท่ีตนนับถอื ตามท่ีกำหนด สมาธิ  รูป้ ระโยชน์ของการฝึกสติ  ฝกึ สมาธิเบ้อื งตน้ ด้วยการนบั ลมหายใจ  ฝึกการยืน การเดนิ การนัง่ และการนอน อย่างมสี ติ  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสตู รโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๑๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง  ฝกึ ให้มสี มาธิในการฟงั การอา่ น การคิด การถาม และการเขยี น ๗. บอกช่ือ ความสำคัญและปฏิบัติตนได้  ชื่อและความสำคัญของศาสนวัตถุ ศาสน อย่างเหมาะสมต่อศาสนวัตถุ ศาสนสถาน สถานและ ศาสนบุคคล ในพระพุทธศาสนา และศาสนบุคคลของศาสนาอน่ื ๆ ศาสนาอิสลาม คริสตศ์ าสนา ศาสนาฮินดู  การปฏิบัติตนที่เหมาะสมต่อศาสนวัตถุ ศาสนสถานและศาสนบุคคลในศาสนาอนื่ ๆ ป.๔ ๑. อธิบายความสำคัญของพระพุทธศาสนา  พระพทุ ธศาสนา ในฐานะทเี่ ปน็ เครอ่ื งยึด หรือศาสนาที่ตนนับถือ ในฐานะเป็นศูนย์ เหนี่ยวจติ ใจ รวมจติ ใจของศาสนิกชน  เปน็ ศูนย์รวมการทำความดี และพัฒนาจิตใจ เชน่ ฝกึ สมาธิ สวดมนต์ ศึกษาหลักธรรม  เป็นทป่ี ระกอบศาสนพิธี (การทอดกฐิน การ ทอดผา้ ป่า การเวยี นเทยี น การทำบญุ )  เปน็ แหล่งทำกจิ กรรมทางสงั คม เช่น การจัด ประเพณีท้องถน่ิ การเผยแพรข่ ้อมูลข่าวสาร ชุมชน และการสง่ เสริมพฒั นาชมุ ชน ๒. สรุปพุทธประวัตติ ั้งแตบ่ รรลุธรรมจนถึง  สรปุ พทุ ธประวตั ิ (ทบทวน) ประกาศธรรม หรอื ประวัตศิ าสดาที่ตนนับ  ตรัสรู้ ถอื ตามทกี่ ำหนด  ประกาศธรรม ไดแ้ ก่ o โปรดชฎลิ o โปรดพระเจา้ พมิ พสิ าร o พระอคั รสาวก o แสดงโอวาทปาฏิโมกข์ ๓. เหน็ คณุ ค่า และปฏบิ ตั ิตนตาแบบอย่าง  พระอรุ เุ วลกสั สปะ การดำเนนิ ชีวติ และขอ้ คิดจากประวัตสิ าวก  กฏุ ทิ ูสกชาดก ชาดก / เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่าง  มหาอกุ กสุ ชาดก ตามทก่ี ำหนด  สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก  สมเดจ็ พระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนี ๔. แสดงความเคารพ พระรัตนตรยั ปฏิบตั ิ ➢ พระรัตนตรยั ตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท ๓ ใน o ศรัทธา ๔ พระพุทธศาสนา หรือหลักธรรมของ  พระพทุ ธ ศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามทีก่ ำหนด o พทุ ธคณุ ๓  พระธรรม o หลักกรรม  ระดับประถมศกึ ษา

หลกั สตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๑๔ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง  พระสงฆ์ ➢ ไตรสิกขา  ศีล สมาธิ ปัญญา ➢ โอวาท ๓  ไมท่ ำชัว่ o เบญจศีล o ทุจริต ๓  ทำความดี o เบญจธรรม o สุจรติ ๓ o พรหมวหิ าร ๔ o กตญั ญกู ตเวทตี ่อประเทศชาติ o มงคล ๓๘ - เคารพ - ถ่อมคน - ทำความดีให้พร้อมไวก้ ่อน  ทำจิตใหบ้ รสิ ทุ ธิ์ (บรหิ ารจติ และเจริญปัญญา) ➢ พทุ ธศาสนสภุ าษิต  สขุ า สงฺฆสฺส สามคฺคี ความพร้อมเพรียง ของหมใู่ ห้เกดิ สุข  โลโกปตฺถมฺภกิ า เมตฺตา เมตตาธรรม ค้ำ จุนโลก ๕. ช่ืนชมการทำความดีของตนเอง บุคคล ◆ ตัวอย่างการกระทำความดขี องตนเองและ ในครอบครัว โรงเรียนและชุมชนตามหลัก บคุ คลในครอบครัว ในโรงเรยี น และในชุมชน ศาสนา พร้อมท้ังบอกแนวปฏิบัติในการ ดำเนินชีวิต ◆ สวดมนต์ไหวพ้ ระ สรรเสรญิ คุณพระรัตนตรยั และแผเ่ มตตา  รู้ความหมายของสติสัมปชัญญะ สมาธิและ ปัญญา  รู้วิธีปฏิบัติของการบริหารจิตและเจริญ ปัญญา  ฝึกการยืน การเดิน การน่ัง และการนอน อย่างมสี ติ  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๑๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง  ฝึกการกำหนดรู้ความรู้สึก เม่ือตาเห็นรปู หู ฟังเสียง จมูกดมกลิน่ ลิน้ ลิ้มรส กายสัมผสั ส่ิง ที่มากระทบ ใจรบั รธู้ รรมารมณ์  ฝึกให้มีสมาธิในการฟัง การอ่าน การคิด การถาม และการเขยี น ๗. ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่  หลักธรรมเพื่อการอยรู่ ว่ มกันอย่างสมานฉนั ท์ ตนนับถือ เพ่ือการอยู่ร่วมกันเป็นชาติได้ o เบญจศลี – เบญจธรรม อยา่ งสมานฉันท์ o ทุจรติ ๓ – สจุ รติ ๓ o พรหมวหิ าร ๔ o มงคล ๓๘ - เคารพ - ถ่อมตน - ทำความดีให้พรอ้ มไว้ก่อน o พุทธศาสนสุภาษิต : ความพรอ้ มเพรยี ง ของหมใู่ ห้เกิดสขุ เมตตาธรรมค้ำจุนโลก  กตญั ญูกตเวทตี ่อประเทศชาติ ๘. อธิบายประวัติศาสดาของศาสนาอ่ืนๆ  ประวัติศาสดา โดยสังเขป o พระพุทธเจ้า o มุฮมั มดั o พระเยซู ป.๕ ๑. วิเคราะห์ความสำคญั ของพระพทุ ธ ➢ มรดกทางวัฒนธรรมท่ีไดร้ บั จากพระพุทธ ศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ ในฐานะท่ี ศาสนา เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและหลักในการ o มรดกทางด้านรปู ธรรม เช่น พฒั นาชาติไทย ศาสนสถาน โบราณวตั ถุ สถาปตั ยกรรม o มรดกทางด้านจิตใจ เชน่ หลักธรรม คำสง่ั สอน ความเชอื่ และคุณธรรมต่าง ๆ  การนำพระพุทธศาสนาไปใช้เป็นแนวทางใน การพฒั นาชาติไทย o พัฒนาดา้ นกายภาพ และส่ิงแวดลอ้ ม เช่น ภาวนา ๔ (กาย ศีล จิต ปัญญา) ไตรสิกขา (ศลี สมาธิ ปัญญา) และอรยิ สจั ส่ี o พัฒนาจิตใจ เช่น หลักโอวาท ๓ (ละความช่ัว ทำดี ทำจติ ใจใหบ้ ริสุทธิ์) และการ บรหิ ารจติ และเจรญิ ปญั ญา  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หน้า ๑๖ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ๒. สรปุ พทุ ธประวัตติ ง้ั แต่เสด็จ  สรุปพุทธประวัติ (ทบทวน) กรงุ กบิลพัสดจุ์ นถงึ พทุ ธกจิ สำคญั  โปรดพระพุทธบดิ า (เสด็จกรงุ กบิลพสั ด)์ุ หรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือตามที่  พุทธกิจสำคัญ ได้แก่ โลกัตถจริยา ญาตัตถ กำหนด จรยิ า และพทุ ธตั ถจรยิ า ๓. เห็นคุณ ค่า และประพ ฤติตนตาม  พระโสณโกฬิวิสะ แบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจาก  จฬู เสฏฐชิ าดก ป ร ะ วั ติ ส าว ก ช าด ก /เรื่อ งเล่ าแ ล ะ  วัณณาโรหชาดก ศาสนกิ ชนตวั อย่าง ตามทก่ี ำหนด  สมเด็จพระสังฆราช (สา)  อาจารย์เสถยี ร โพธินันทะ ๔. อธบิ ายองคป์ ระกอบ และความสำคัญ ➢ องคป์ ระกอบของพระไตรปฎิ ก ของพระไตรปิฎก หรอื คัมภีรข์ องศาสนาที่  พระสุตตันตปฎิ ก ตนนับถือ  พระวินัยปิฎก  พระอภธิ รรมปิฎก ➢ ความสำคญั ของพระไตรปฎิ ก ๕. แสดงความเคารพพระรตั นตรยั ➢ พระรตั นตรัย และปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรม o ศรัทธา ๔ โอวาท ๓ ใน พ ร ะ พุ ท ธ ศ าส น าห รื อ  พระพุทธ หลักธรรมของศาสนาทตี่ นนับถอื o พุทธจรยิ า ๓ ตามท่ีกำหนด  พระธรรม o อริยสจั ๔ o หลักกรรม  พระสงฆ์ ➢ ไตรสกิ ขา  ศลี สมาธิ ปัญญา ➢ โอวาท ๓  ไมท่ ำชว่ั o เบญจศลี o อบายมขุ ๔  ทำความดี o เบญจธรรม o บญุ กริ ยิ าวัตถุ ๓ o อคติ ๔ o อทิ ธบิ าท ๔ o กตญั ญกู ตเวทีต่อพระพทุ ธศาสนา o มงคล ๓๘  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๑๗ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง - ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน - การงานไมอ่ ากลู - อดทน  ทำจิตให้บริสุทธิ์ (บริหารจิตและเจริญ ปัญญา) ➢ พุทธศาสนสภุ าษิต  วิรเิ ยน ทกุ ฺขมจเฺ จติ คนจะลว่ งทุกข์ไดเ้ พราะความเพียร  ปญญฺ า โลกสมฺ ิ ปชโฺ ชโต ➢ ปญั ญา คอื แสงสวา่ งในโลก ๖. เหน็ คุณค่าและสวดมนตแ์ ผเ่ มตตา ➢ สวดมนต์ไหวพ้ ระ สรรเสริญ มีสติท่ีเป็นพน้ื ฐานของสมาธิในพระพุทธ คณุ พระรัตนตรัยและแผเ่ มตตา ศาสนา หรือการพฒั นาจิตตามแนวทาง  รู้ความหมายของสติสัมปชัญญะ สมาธิและ ของศาสนาท่ตี นนบั ถอื ตามทีก่ ำหนด ปัญญา  รู้วิธีปฏิบัติและประโยชน์ของ การบริหารจิต และเจริญปัญญา  ฝึ ก ก าร ยื น ก า ร เดิ น ก า ร นั่ ง แ ล ะ การนอน อยา่ งมีสติ  ฝึ ก ก าร ก ำห น ด รู้ ค ว าม รู้สึ ก เมื่ อ ต า เห็นรูป หูฟังเสียง จมูกดมกล่ิน ลิ้นล้ิมรส กายสมั ผัสสิ่งทม่ี ากระทบใจรับรู้ธรรมารมณ์ ➢  ฝึกให้มีสมาธิในการฟัง การอ่าน การคิด การถามและการเขยี น ๗. ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่  โอวาท ๓ (ตามสาระการเรียนรขู้ ้อ ๕) ตนนับถือ เพ่ือการพัฒ นาตนเองและ สิ่งแวดลอ้ ม ๑. วิเคราะห์ความสำคัญของพระพุทธ- ◆ พระพุทธศาสนาในฐานะเปน็ ศาสนาประจำ ศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ ชาติ เชน่ เป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย เปน็ หรอื ความสำคัญของศาสนาทตี่ นนับถือ รากฐานทางวัฒนธรรมไทย เปน็ ศูนย์รวมจิตใจ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทย และเปน็ หลัก ในการพฒั นาชาติไทย ๒. สรุปพุทธประวัติต้ังแต่ปลงอายุสังขาร  สรปุ พทุ ธประวัติ (ทบทวน) จนถงึ สังเวชนยี สถาน หรือประวตั ิศาสดาที่  ปลงอายสุ ังขาร ต น นั บ ถื อ ต า ม ที่ ก ำ ห น ด  ปจั ฉิมสาวก  ปรินพิ พาน  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กล่มุ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๑๘ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง  การถวายพระเพลงิ  แจกพระบรมสารรี ิกธาตุ  สงั เวชนยี สถาน ๔ ป.๖ ๓ . เห็น คุณ ค่าและป ระพ ฤติตน ตาม  พระราธะ แบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจาก  ทฆี ตี ิโกสลชาดก ป ระ วัติ สาว ก ช าด ก /เรื่อ งเล่ า แล ะ  สัพพทาฐิชาดก ศาสนิกชนตวั อย่างตามที่กำหนด  พอ่ ขนุ รามคำแหงมหาราช  สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรม-พระปรมานชุ ิต ชโิ นรส ๔ . วิเคราะ ห์ความสำคัญ และเคารพ ➢ พระรตั นตรยั พระรัตนตรัย ปฏิบัติตามไตรสิกขาและ o ศรทั ธา ๔ หลักธรรมโอวาท ๓ ในพระพุทธศาสนา  พระพุทธ หรอื หลกั ธรรมของศาสนาทต่ี น o พุทธกิจ ๕ นบั ถือตามทก่ี ำหนด  พระธรรม o อริยสจั ๔ o หลักกรรม  พระสงฆ์ ➢ ไตรสกิ ขา  ศลี สมาธิ ปัญญา ➢ โอวาท ๓  ไม่ทำชั่ว o เบญจศีล o อบายมุข ๖ o อกุศลมูล ๓  ทำความดี o เบญจธรรม o กศุ ลมลู ๓ o พละ ๔ o คารวะ ๖ o กตัญญกู ตเวทตี ่อพระมหากษัตริย์ o มงคล ๓๘ - มีวินัย - การงานไมม่ โี ทษ - ไม่ประมาทในธรรม  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๑๙ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ชัน้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง  ทำจิตให้บริสทุ ธิ์(บรหิ ารจิตและเจริญปัญญา) ➢ พทุ ธศาสนสภุ าษิต  สจฺเจน กติ ฺตึ ปปฺโปติ คนจะไดเ้ กียรติดว้ ยสจั จะ  ยถาวาที ตถาการี พดู เช่นไร ทำเช่นนัน้ ๕. ช่ืนชมการทำความดีของบุคคลใน  ตัวอย่างการกระทำความดีของบุคคลใน ประเทศตามหลักศาสนา พร้อมท้งั บอกแนว ประเทศ ปฏิบัติในการดำเนินชวี ติ ๖. เหน็ คุณค่าและสวดมนต์แผเ่ มตตา และ  สวดมนต์ไหวพ้ ระ สรรเสรญิ คุณพระ บริหารจิตเจริญปัญญา มีสติท่เี ป็นพ้ืนฐาน รัตนตรยั และแผ่เมตตา ของสมาธใิ นพระพทุ ธศาสนา หรือการ  รู้ความหมายของสติสัมปชัญญะ สมาธิและ พัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับ ปญั ญา ถอื ตามทกี่ ำหนด  รู้วธิ ีปฏบิ ัติและประโยชน์ของการบรหิ ารจติ และเจริญปัญญา  ฝึกการยืน การเดิน การนัง่ และ การนอน อยา่ งมีสติ  ฝกึ การกำหนดร้คู วามร้สู กึ เมอื่ ตาเหน็ รปู หู ฟังเสียง จมกู ดมกล่นิ ลิ้นลม้ิ รส กายสมั ผัสสง่ิ ที่มากระทบ ใจรบั รธู้ รรมารมณ์  ฝึกให้มีสมาธิในการฟัง การอ่าน การคิด การถาม และการเขียน ๗. ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา  หลักธรรม : อรยิ สัจ ๔ หลกั กรรม ท่ีตนนบั ถือ เพอ่ื แก้ปัญหาอบายมุขและ ส่ิง  โอ วาท ๓ : เบ ญ จศีล – เบ ญ จธรรม เสพติด อบายมุข ๖ อกุศลมูล ๓ กศุ ลมลู ๓ ๘. อธบิ ายหลักธรรมสำคญั ของศาสนาอืน่ ๆ ➢ หลกั ธรรมสำคญั ของศาสนาตา่ ง ๆ โดยสงั เขป  พระพุทธศาสนา : อริยสัจ ๔ โอวาท ๓ ฯลฯ  ศาสนาอิสลาม : หลักศรทั ธา หลักปฏบิ ตั ิ หลักจรยิ ธรรม  ครสิ ตศ์ าสนา : บญั ญตั ิ ๑๐ ประการ  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๒๐ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนกิ ชนทดี่ ี และธำรงรกั ษาพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับถือ ช้นั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๑ ๑. บำเพ็ญประโยชนต์ อ่ วดั หรอื ศาสน ➢ การบำเพญ็ ประโยชนต์ อ่ วดั หรือศาสน สถานของศาสนาทตี่ นนบั ถือ สถาน  การพัฒนาทำความสะอาด  การบรจิ าค  การรว่ มกิจกรรมทางศาสนา ๒. แสดงตนเปน็ พุทธมามกะ หรือแสดงตน ➢ การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เปน็ ศาสนกิ ชนของศาสนาทตี่ นนบั ถอื  ข้นั เตรยี มการ  ขั้นพธิ กี าร ๓. ปฏบิ ัติตนในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม และวนั ➢ ประวัติโดยสงั เขปของวันสำคญั ทาง สำคัญทางศาสนา ตามทกี่ ำหนดไดถ้ ูกตอ้ ง พระพุทธศาสนา  วันมาฆบูชา  วนั วสิ าขบชู า  วันอาสาฬหบูชา  วนั อฏั ฐมีบูชา ➢ การบชู าพระรัตนตรัย ป.๒ ๑. ปฏิบตั ิตนอยา่ งเหมาะสมต่อสาวกของ ➢ การฝกึ ปฏิบตั มิ รรยาทชาวพุทธ ศาสนาที่ตนนับถือ ตามทกี่ ำหนดไดถ้ ูกต้อง  การพนมมอื  การไหว้  การกราบ  การนง่ั  การยืน การเดนิ ๒. ปฏิบัติตนในศาสนพิธี พธิ กี รรม และ  การเขา้ ร่วมกิจกรรมและพิธกี รรม ท่ี วนั สำคัญทางศาสนา ตามทีก่ ำหนดได้ เกยี่ วเนอื่ งกับวันสำคญั ทางพทุ ธศาสนา ถกู ตอ้ ง  ระเบียบพิธกี ารบูชาพระรตั นตรยั  การทำบุญตักบาตร ป.๓ ๑. ปฏบิ ตั ติ นอยา่ งเหมาะสมตอ่ สาวก ➢ ฝึกปฏบิ ตั ิมรรยาทชาวพทุ ธ ศาสนสถาน ศาสนวตั ถุของศาสนาทีต่ นนบั  การลุกขนึ้ ยนื รบั ถอื ตามทก่ี ำหนดได้ถกู ต้อง  การต้อนรบั  การรบั – สง่ สงิ่ ของแกพ่ ระภกิ ษุ  มรรยาทในการสนทนา  ระดับประถมศกึ ษา

หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หนา้ ๒๑ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง  การสำรวมกิริยามารยาท การแตง่ กายที่ เหมาะสมเมอ่ื  อยู่ในวดั และพุทธสถาน  การดูแลรกั ษาศาสนวัตถุและ ศาสนสถาน ๒. เหน็ คณุ ค่า และปฏิบตั ิตนในศาสนพธิ ี  การอาราธนาศีล พธิ ีกรรม และวันสำคัญทางศาสนา ตามท่ี  การสมาทานศีล กำหนดได้ถกู ต้อง  เครือ่ งประกอบโตะ๊ หม่บู ูชา การจดั โตะ๊ หม่บู ูชา ๓. แสดงตนเปน็ พทุ ธมามกะ หรอื แสดงตน ➢ ความเปน็ มาของการแสดงตนเปน็ เปน็ ศาสนิกชนของศาสนาท่ตี นนบั ถือ พุทธมามกะ ➢ การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ  ขน้ั เตรียมการ  ขัน้ พิธกี าร ป.๔ ๑. อภปิ รายความสำคัญ และมีส่วนรว่ มใน  ความร้เู บ้ืองต้นและความสำคัญของ การบำรุงรักษาศาสนสถานของศาสนาท่ี ศาสนสถาน ตนนบั ถอื  การแสดงความเคารพต่อศาสนสถาน  การบำรงุ รักษาศาสนสถาน ๒. มีมรรยาทของความเปน็ ศาสนิกชนท่ีดี  การปฏบิ ัติตนทเ่ี หมาะสมตอ่ พระภกิ ษุ ตามท่กี ำหนด  การยนื การเดนิ และการน่ังท่ีเหมาะสม ในโอกาสตา่ ง ๆ ๓. ปฏบิ ัติตนในศาสนพธิ ี พิธีกรรมและวัน  การอาราธนาศีล สำคัญทางศาสนา ตามทก่ี ำหนดได้ถูกตอ้ ง  การอาราธนาธรรม  การอาราธนาพระปรติ ร  ระเบียบพธิ ีและการปฏบิ ัติตนในวันธรรม สวนะ ป.๕ ๑. จดั พิธีกรรมตามศาสนาท่ีตนนับถือ  การจัดพธิ ีกรรมที่เรยี บงา่ ย ประหยดั อย่างเรียบง่าย มีประโยชน์ และปฏบิ ัติตน มปี ระโยชน์ และถูกตอ้ งตามหลักทาง ถูกต้อง ศาสนาท่ีตนนบั ถือ ๒. ปฏิบตั ิตนในศาสนพธิ ี พิธีกรรม และวัน  การมีส่วนรว่ มในการจดั เตรยี มสถานที่ สำคญั ทางศาสนา ตามทก่ี ำหนด และ ประกอบศาสนพธิ ี พธิ กี รรมทางศาสนา อภิปรายประโยชน์ที่ได้รบั จากการเข้ารว่ ม  พิธถี วายสงั ฆทาน เครื่องสังฆทาน กิจกรรม  ระเบยี บพิธีในการทำบุญงานมงคล  ประโยชน์ของ การเขา้ รว่ มศาสนพธิ ี  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ หน้า ๒๒ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง พิธกี รรมทางศาสนา หรือกิจกรรม ในวันสำคญั ทางศาสนา ๓. มมี รรยาทของความเปน็ ศาสนิกชนที่ดี  การกราบพระรตั นตรัย ตามทีก่ ำหนด  การไหวบ้ ดิ า มารดา คร/ู อาจารย์ ผ้ทู ่เี คารพนับถอื  การกราบศพ ป.๖ ๑. อธบิ ายความรู้เกย่ี วกับสถานท่ตี า่ งๆ  ความร้เู บอ้ื งตน้ เกย่ี วกับสถานที่ต่าง ๆ ในศาสนสถาน และปฏิบัติตนได้อย่าง ภายในวดั เช่น เขตพทุ ธาวาส สงั ฆาวาส เหมาะสม  การปฏิบัติตนทเี่ หมาะสมภายในวดั ๒. มีมรรยาทของความเป็นศาสนกิ ชนท่ดี ี  การถวายของแกพ่ ระภกิ ษุ ตามทีก่ ำหนด  การปฏิบตั ติ นในขณะฟังธรรม  การปฏบิ ตั ิตนตามแนวทางของ พทุ ธศาสนกิ ชน เพือ่ ประโยชน์ตอ่ ศาสนา ๓. อธบิ ายประโยชนข์ องการเข้ารว่ มใน  ทบทวนการอาราธนาศลี อาราธนาธรรม ศาสนพธิ ี พธิ ีกรรม และกิจกรรมใน และอาราธนาพระปริตร วันสำคัญทางศาสนา ตามทก่ี ำหนด และ  พธิ ีทอดผา้ ป่า ปฏบิ ตั ิตนไดถ้ กู ต้อง  พธิ ีทอดกฐนิ  ระเบียบพธิ ใี นการทำบญุ งานอวมงคล  การปฏบิ ัติตนท่ีถูกต้องในศาสนพธิ ี พธิ กี รรม และวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วนั อฐั มบี ูชา วนั อาสาฬหบูชา วนั ธรรมสวนะ  ประโยชนข์ องการเข้าร่วมในศาสนพิธี/ พธิ ีกรรม และวันสำคญั ทางศาสนา ๔. แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ หรอื แสดงตน ➢ การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ เป็นศาสนกิ ชนของศาสนาทีต่ นนบั ถือ  ขั้นเตรยี มการ  ขน้ั พธิ ีการ  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๒๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระท่ี ๒ หนา้ ทีพ่ ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชีวติ ในสังคม มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏบิ ัติตนตามหน้าที่ของการเปน็ พลเมืองดี มคี ่านิยมที่ดงี ามและธำรงรักษา ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ิตอยู่ร่วมกันในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. บอกประโยชนแ์ ละปฏิบัติตนเปน็  การเป็นสมาชกิ ท่ดี ีของครอบครัวและโรงเรียน สมาชกิ ที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน เช่น − กตัญญูกตเวทีและเคารพรบั ฟังคำแนะนำ ของพอ่ แม่ ญาติผใู้ หญ่ และครู − รูจ้ ักกล่าวคำขอบคุณ ขอโทษ การไหว้ ผใู้ หญ่ − ปฏิบัตติ าม ขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ ของครอบครวั และโรงเรียน − มีส่วนร่วมในกจิ กรรมของครอบครวั และ โรงเรียน − มีเหตผุ ลและยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของ ผอู้ ่นื − มีระเบยี บ วนิ ัย มีน้ำใจ  ประโยชนข์ องการปฏิบัติตนเป็นสมาชกิ ท่ีดขี อง ครอบครวั และโรงเรยี น ๒. ยกตวั อยา่ งความสามารถและความดี  ลกั ษณะความสามารถและลักษณะ ความดีของ ของตนเอง ผูอ้ น่ื และบอกผลจากการ ตนเองและผู้อน่ื เชน่ กระทำนน้ั - ความกตญั ญกู ตเวที - ความมีระเบียบวนิ ยั - ความรบั ผิดชอบ - ความขยัน - การเอือ้ เฟอื้ เผ่ือแผแ่ ละชว่ ยเหลอื ผอู้ ื่น - ความซอื่ สัตย์สุจรติ - ความเมตตากรุณา  ผลของการกระทำความดี เช่น - ภาคภมู ใิ จ - มคี วามสขุ - ไดร้ บั การชื่นชม ยกย่อง  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๒๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๒ ๑. ปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ตกลง กติกา กฎ  ขอ้ ตกลง กติกา กฎ ระเบียบ หน้าท่ีทีต่ ้อง ระเบยี บและหนา้ ทที่ ต่ี ้องปฏิบัติใน ปฏิบตั ิในครอบครัว โรงเรียน สถานทส่ี าธารณะ ชีวติ ประจำวนั เช่น โรงภาพยนตร์ โบราณสถาน ฯลฯ ๒. ปฏบิ ัตติ นตนตามมารยาทไทย  มารยาทไทย เช่น การแสดงความเคารพ การยืน การเดิน การน่งั การนอน การทกั ทาย การ รับประทาน ๓. แสดงพฤตกิ รรมในการยอมรับความคิด  การยอมรับความแตกต่างของคนในสงั คม ใน ความเชือ่ และการปฏิบัติของบคุ คลอื่นท่ี เรอ่ื ง ความคิด ความเชอื่ ความสามารถและการ แตกตา่ งกันโดยปราศจากอคติ ปฏิบตั ิตนของบุคคลอนื่ ท่ี แตกต่างกัน เชน่ - บุคคลย่อมมีความคิดท่ีมเี หตุผล - การปฏิบัติตนตามพธิ กี รรมตามความ เชอื่ ของบุคคล - บุคคลยอ่ มมีความสามารถแตกต่างกนั - ไมพ่ ูดหรือแสดงอาการดูถกู รังเกียจผู้อ่นื ใน เรอ่ื งของรูปรา่ งหน้าตา สีผม สผี ิว ทแ่ี ตกตา่ งกัน ๔. เคารพในสิทธิ เสรภี าพของผู้อนื่  สิทธสิ ว่ นบุคคล เชน่ - สิทธิแสดงความคิดเห็น - สิทธิเสรีภาพในรา่ งกาย - สทิ ธใิ นทรัพยส์ นิ ป.๓ ๑. สรุปประโยชน์และปฏบิ ตั ิตนตาม  ประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัว ประเพณีและวฒั นธรรมในครอบครวั และ เชน่ การแสดงความเคารพและการเชื่อฟงั ผใู้ หญ่ ทอ้ งถิน่ การกระทำกจิ กรรมร่วมกนั ในครอบครัว  ประเพณีและวฒั นธรรมในท้องถน่ิ เช่น การเขา้ รว่ มประเพณที างศาสนา ประเพณีเก่ยี วกบั การ ดำเนนิ ชวี ติ ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ติ นตาม ประเพณแี ละวฒั นธรรมในครอบครัวและทอ้ งถ่นิ ๒. บอกพฤตกิ รรมการดำเนนิ ชีวิตของ  พฤตกิ รรมของตนเองและเพื่อน ๆ ในชวี ติ ตนเอง และผู้อ่ืนทอี่ ยใู่ นกระแสวัฒนธรรม ประจำวัน เชน่ การทักทาย การทำความเคารพ ท่ีหลากหลาย การปฏิบตั ติ าม ศาสนพิธี การรับประทานอาหาร การใชภ้ าษา (ภาษาถิ่นกบั ภาษาราชการ และภาษา อื่นๆ ฯลฯ )  สาเหตทุ ่ีทำใหพ้ ฤติกรรมการดำเนินชวี ติ ใน ปัจจุบันของนกั เรยี น และผู้อนื่ แตกตา่ งกัน  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๒๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ช้ัน ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ๓. อธิบายความสำคญั ขอวันหยดุ ราชการ  วนั หยุดราชการท่ีสำคญั เชน่ ท่สี ำคัญ - วันหยุดเกี่ยวกบั ชาติและพระมหากษัตริย์ เช่น วนั จกั รี วนั รฐั ธรรมนูญ วนั ฉัตรมงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา - วันหยดุ ราชการเก่ียวกับศาสนา เช่น วนั มาฆบูชา วันวสิ าขบูชา วนั อาสาฬหบูชา วันเขา้ พรรษา - วันหยุดราชการเกย่ี วกบั ประเพณแี ละ วัฒนธรรม เชน่ วนั สงกรานต์ วนั พชื มงคล ๔. ยกตัวอยา่ งบคุ คลซึ่งมีผลงานท่ีเปน็  บคุ คลทม่ี ีผลงานเปน็ ประโยชน์แก่ชุมชนและ ประโยชน์แกช่ มุ ชนและท้องถิน่ ของตน ท้องถน่ิ ของตน  ลักษณะผลงานทเ่ี ปน็ ประโยชน์แกช่ มุ ชนและ ทอ้ งถ่นิ ป.๔ ๑. ปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมอื งดีตามวถิ ี  การเขา้ รว่ มกิจกรรมประชาธิปไตยของชมุ ชน ประชาธิปไตยในฐานะสมาชิกที่ดขี อง เช่น การรณรงคก์ ารเลือกตัง้ ชมุ ชน  แนวทางการปฏิบตั ติ นเป็นสมาชกิ ที่ดีของ ชมุ ชน เชน่ อนรุ ักษส์ ่งิ แวดลอ้ ม สาธารณ สมบตั ิ โบราณวัตถแุ ละโบราณสถาน การพฒั นา ชุมชน ๒. ปฏบิ ตั ิตนในการเป็นผ้นู ำและผู้ตาม ที่  การเปน็ ผนู้ ำและผู้ตามที่ดี ดี - บทบาทและความรับผิดชอบของผูน้ ำ - บทบาทและความรบั ผิดชอบของผู้ตามหรอื สมาชกิ - การทำงานกลุ่มให้มีประสิทธผิ ลและ ประสิทธภิ าพ และประโยชน์ของการทำงาน เปน็ กลมุ่ ๓. วเิ คราะหส์ ทิ ธิพ้นื ฐานทเี่ ด็กทกุ คน  สิทธิพ้ืนฐานของเดก็ เช่น สทิ ธิทีจ่ ะมชี ีวิต สิทธิที่ พึงได้รบั ตามกฎหมาย จะไดร้ ับการปกป้อง สิทธิ ทีจ่ ะไดร้ ับการพฒั นา สิทธทิ ี่จะมีสว่ นร่วม ๔. อธบิ ายความแตกตา่ งทางวัฒนธรรม  วฒั นธรรมในภาคต่างๆ ของไทย ทีแ่ ตกตา่ งกนั ของกล่มุ คนในท้องถน่ิ เชน่ การแตง่ กาย ภาษา อาหาร ๕. เสนอวิธกี ารท่ีจะอยูร่ ่วมกันอยา่ ง  ปญั หาและสาเหตุของการเกดิ ความขัดแยง้ ใน สันติสขุ ในชวี ิตประจำวนั ชีวติ ประจำวนั  แนวทางการแก้ปัญหาความขดั แย้งด้วยสนั ตวิ ธิ ี  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หนา้ ๒๖ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ช้ัน ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๕ ๑. ยกตัวอย่างและปฏบิ ตั ติ นตาม  สถานภาพ บทบาท สทิ ธิเสรภี าพ สถานภาพ บทบาท สทิ ธิเสรีภาพ และ  หน้าที่ของพลเมอื งดี เช่น เคารพ เทิดทนู สถาบัน หนา้ ท่ีในฐานะพลเมืองดี ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ อนุรักษ์ทรพั ยากร ธรรมชาติ อนรุ กั ษ์ศิลปวฒั นธรรม ปฏิบตั ติ าม กฎหมาย  คุณลกั ษณะของพลเมืองดี เชน่ เห็นแก่ ประโยชน์ส่วนรวมมากกวา่ ประโยชน์ส่วนตน มี ความรบั ผดิ ชอบ เสียสละ ๒. เสนอวิธกี ารปกปอ้ งค้มุ ครองตนเอง  เหตกุ ารณท์ ่ีละเมิดสทิ ธเิ ดก็ ในสงั คมไทย หรือผู้อ่ืนจากการละเมิดสิทธเิ ดก็  แนวทางการปกปอ้ งคุ้มครองตนเองหรือผูอ้ นื่ จากการละเมิดสิทธเิ ด็ก  การปกป้องคมุ้ ครองสิทธเิ ด็กในสงั คมไทย ๓. เหน็ คณุ ค่าวฒั นธรรมไทยทม่ี ผี ลต่อการ  วัฒนธรรมไทย ท่มี ีผลตอ่ การดำเนินชีวติ ของคน ดำเนนิ ชวี ติ ในสงั คมไทย ในสังคมไทย  คณุ คา่ ของวฒั นธรรมกับการดำเนินชวี ิต ๔. มีสว่ นรว่ มในการอนุรักษ์และเผยแพร่  ความสำคัญของภูมิปญั ญาท้องถิ่น ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ ของชมุ ชน  ตัวอยา่ งภมู ิปัญญาท้องถน่ิ ในชุมชน ของตน  การอนุรักษแ์ ละเผยแพรภ่ มู ิปญั ญาท้องถิ่นของ ชมุ ชน ป.๖ ๑. ปฏิบัตติ ามกฎหมายท่เี ก่ยี วขอ้ งกับ  กฎหมายที่เก่ียวขอ้ งกบั ชวี ติ ประจำวนั เช่น ชีวติ ประจำวนั ของครอบครัวและชุมชน - กฎหมายจราจร - กฎหมายทะเบียนราษฎร - กฎหมายยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ - เทศบญั ญตั ิ ข้อบญั ญตั ิ อบต. อบจ.  ประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย ดังกลา่ ว ๒. วิเคราะหก์ ารเปล่ียนแปลงวัฒนธรรม  ความหมายและประเภทของวัฒนธรรม ตามกาลเวลาและธำรงรักษาวัฒนธรรม อนั  การเปลีย่ นแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาทีม่ ีผล ดีงาม ตอ่ ตนเองและสงั คมไทย  แนวทางการธำรงรกั ษาวฒั นธรรมไทย  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๒๗ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๓. แสดงออกถงึ มารยาทไทยได้เหมาะสม  ความหมายและสำคญั ของมารยาทไทย ถูกกาลเทศะ  มารยาทไทยและมารยาทสังคม เช่น การ แสดงความเคารพ การยืน การเดนิ การนัง่ การ นอน การรบั ของสง่ ของ การรบั ประทานอาหาร การแสดงกิริยาอาการ การทักทาย การสนทนา การใช้คำพดู ๔. อธิบายคุณคา่ ทางวฒั นธรรมท่แี ตกต่าง  ประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ทางวฒั นธรรม กันระหว่างกล่มุ คนในสงั คมไทย  ความแตกตา่ งทางวัฒนธรรมระหวา่ งกลุม่ คน ภาคตา่ งๆ ในสงั คมไทย  แนวทางการรักษาวัฒนธรรม ๕. ติดตามข้อมูล ข่าวสาร เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ  ข้อมลู ข่าวสาร เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ เชน่ วิทยุ ในชวี ติ ประจำวนั เลือกรบั และใช้ข้อมูล โทรทศั น์ หนงั สือพิมพ์ แหล่งข่าวต่าง ๆ ถานการณ์ ขา่ วสารในการเรียนรูไ้ ดเ้ หมาะสม จริง  ประโยชนจ์ ากการติดตามข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณต์ ่างๆ  หลักการเลอื กรบั และใช้ข้อมลู ขา่ วสารจากส่อื ตา่ งๆ รวมทัง้ สอื่ ท่ไี ร้พรมแดน  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๒๘ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ ๒ หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คม มาตรฐาน ส ๒.๒ เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสงั คมปจั จบุ ัน ยึดมั่น ศรทั ธาและธำรง รกั ษาไวซ้ ง่ึ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ชัน้ ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. บอกโครงสร้าง บทบาทและหนา้ ท่ขี อง  โครงสรา้ งของครอบครัวและความสมั พนั ธ์ของ สมาชิกในครอบครัวและโรงเรียน บทบาท หนา้ ท่ีของสมาชิกในครอบครวั  โครงสรา้ งของโรงเรียน ความสัมพันธข์ อง บทบาท หน้าท่ีของสมาชิกในโรงเรยี น ๒. ระบบุ ทบาท สทิ ธิ หน้าทข่ี องตนเองใน  ความหมายและความแตกต่างของอำนาจตาม ครอบครวั และโรงเรียน บทบาท สิทธิ หนา้ ที่ในครอบครวั และโรงเรยี น  การใชอ้ ำนาจในครอบครัวตามบทบาท สิทธิ หนา้ ท่ี ๓. มสี ว่ นร่วมในการตัดสินใจและทำ  กจิ กรรมตามกระบวนการประชาธปิ ไตยใน กิจกรรมในครอบครวั และโรงเรยี นตาม ครอบครัว เช่น การแบง่ หนา้ ทีค่ วามรับผิดชอบ กระบวนการประชาธิปไตย ในครอบครัว การรับฟังและแสดงความคิดเหน็  กจิ กรรมตามกระบวนการประชาธิปไตยใน โรงเรียน เชน่ เลือกหวั หนา้ หอ้ ง ประธานชุมนุม ประธานนกั เรียน ป.๒ ๑. อธบิ ายความสัมพันธข์ องตนเอง และ  ความสมั พนั ธ์ของตนเอง และสมาชิกใน สมาชิกในครอบครวั ในฐานะเปน็ ส่วนหนึง่ ครอบครวั กบั ชุมชน เชน่ การชว่ ยเหลือ ของชุมชน กิจกรรมของชมุ ชน ๒. ระบผุ มู้ บี ทบาท อำนาจในการตัดสินใจ  ผมู้ ีบทบาท อำนาจในการตัดสนิ ใจ ในโรงเรียน และชมุ ชน ในโรงเรียน และชมุ ชน เชน่ ผูบ้ ริหาร สถานศึกษา ผนู้ ำทอ้ งถิน่ กำนนั ผู้ใหญ่บ้าน ป.๓ ๑. ระบบุ ทบาทหนา้ ท่ีของสมาชิกของ  บทบาทหนา้ ทข่ี องสมาชิกในชุมชน ชุมชนในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง  การมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมต่าง ๆ ตาม ๆ ตามกระบวนการประชาธปิ ไตย กระบวนการประชาธปิ ไตย ๒. วเิ คราะหค์ วามแตกต่างของ  การออกเสียงโดยตรงและการเลือกตัวแทน กระบวนการการตัดสินใจในชั้นเรียน/ ออกเสียง โรงเรยี นและชมุ ชนโดยวธิ ีการออกเสยี ง โดยตรงและการเลือกตัวแทนออกเสยี ง  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สตู รโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หนา้ ๒๙ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ช้นั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ๓. ยกตวั อย่างการเปลย่ี นแปลงในชั้น  การตัดสินใจของบุคคลและกลมุ่ ทมี่ ผี ลตอ่ การ เรียน/โรงเรียนและชุมชนที่เปน็ ผลจากการ เปล่ยี นแปลงในช้ันเรียน โรงเรียน และชุมชน ตดั สนิ ใจของบุคคลและกลมุ่ - การเปลีย่ นแปลงในชนั้ เรียน เช่น การเลือกหวั หน้าหอ้ ง การเลือก คณะ กรรมการหอ้ งเรยี น - การเปล่ยี นแปลงในโรงเรยี น เช่น เลอื ก  ประธานนักเรยี น เลอื กคณะกรรมการนกั เรยี น  การเปลีย่ นแปลงในชุมชน เช่น การเลือก ผใู้ หญบ่ า้ น กำนัน สมาชิก อบต. อบจ. ป.๔ ๑. อธบิ ายอำนาจอธิปไตยและความสำคัญ  อำนาจอธปิ ไตย ของระบอบประชาธปิ ไตย  ความสำคัญของการปกครองตามระบอบ ประชาธปิ ไตย ๒. อธบิ ายบทบาทหน้าท่ีของพลเมอื งใน  บทบาทหน้าท่ขี องพลเมืองในกระบวนการ กระบวนการเลอื กตง้ั เลือกตง้ั ท้ังก่อนการเลือกตงั้ ระหวา่ งการ เลือกต้ัง หลังการเลือกตัง้ ๓. อธิบายความสำคญั ของสถาบัน  สถาบนั พระมหากษัตริย์ในสังคมไทย พระมหากษัตรยิ ์ตามระบอบประชาธปิ ไตย  ความสำคญั ของสถาบันพระมหากษัตริยใ์ น อนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ สังคมไทย ป.๕ ๑. อธิบายโครงสร้าง อำนาจ หน้าท่แี ละ  โครงสร้างการปกครองในท้องถน่ิ เช่น อบต. ความสำคญั ของการปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ. เทศบาล และการปกครองพเิ ศษ เชน่ พัทยา กทม.  อำนาจหน้าท่ีและความสำคัญของ การปกครองสว่ นท้องถิน่ ๒. ระบุบทบาทหน้าที่ และวธิ กี ารเขา้ ดำรง  บทบาทหน้าที่ และวธิ กี ารเขา้ ดำรงตำแหน่ง ตำแหนง่ ของผบู้ ริหารท้องถิ่น ของผู้บรหิ ารท้องถน่ิ เช่นนายก อบต. นายกเทศมนตรี นายก อบจ. ผู้วา่ ราชการ กทม. ๓. วเิ คราะหป์ ระโยชน์ท่ชี มุ ชน จะไดร้ ับ  องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ กับบริการ จากองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ สาธารณประโยชน์ในชุมชน ป.๖ ๑. เปรียบเทยี บบทบาท หน้าทขี่ อง  บทบาท หนา้ ท่ี ขององค์กรปกครองส่วน องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ และรัฐบาล ทอ้ งถนิ่ และรฐั บาล ๒. มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมตา่ งๆ ทส่ี ง่ เสรมิ  กิจกรรมตา่ งๆ เพื่อสง่ เสรมิ ประชาธิปไตย ใน ประชาธปิ ไตยในท้องถน่ิ และประเทศ ท้องถิ่นและประเทศ  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสูตรโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ หน้า ๓๐ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๓. อภปิ รายบทบาท ความสำคญั ในการใช้  การมีส่วนในการออกกฎหมาย ระเบียบ กตกิ า สิทธิออกเสยี งเลือกตงั้ ตามระบอบ การเลือกต้งั ประชาธปิ ไตย  สอดสอ่ งดแู ลผู้มพี ฤติกรรมการกระทำผดิ การ เลอื กตงั้ และแจง้ ต่อเจา้ หน้าท่ีผูร้ บั ผิดชอบ  ตรวจสอบคุณสมบัติ  การใชส้ ิทธิออกเสียงเลอื กตง้ั ตามระบอบ ประชาธิปไตย ๓. วเิ คราะห์รฐั ธรรมนญู ฉบับปจั จบุ ันใน  บทบญั ญตั ิของรฐั ธรรมนญู ในมาตราต่างๆ ที่ มาตราตา่ งๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การเลอื กตั้ง เกยี่ วขอ้ งกบั การเลอื กตง้ั การมสี ่วนรว่ ม การมีสว่ นรว่ ม และการตรวจสอบการใช้ และการตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรัฐ อำนาจรฐั  อำนาจหน้าทีข่ องรฐั บาล  บทบาทสำคญั ของรฐั บาลในการบริหาร ราชการแผน่ ดนิ  ความจำเป็นในการมีรัฐบาลตามระบอบ ประชาธิปไตย ๔. วิเคราะห์ประเดน็ ปญั หาที่เปน็  ประเด็น ปัญหาและผลกระทบที่เป็นอุปสรรค อปุ สรรคต่อการพฒั นาประชาธปิ ไตยของ ต่อการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทย ประเทศไทยและเสนอแนวทางแกไ้ ข  แนวทางการแก้ไขปัญหา  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๓๑ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส ๓.๑ เข้าใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ ทรพั ยากร ท่มี อี ย่จู ำกดั ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้งั เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียง เพอื่ การดำรงชวี ติ อย่างมดี ุลยภาพ ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. ระบสุ นิ คา้ และบรกิ ารทใ่ี ช้ประโยชนใ์ น  สนิ คา้ และบริการที่ใชอ้ ยใู่ นชีวิตประจำวัน ชวี ิตประจำวัน เชน่ ดนิ สอ กระดาษ ยาสีฟนั  สนิ ค้าและบริการทีไ่ ดม้ าโดยไม่ใช้เงิน เช่น มี ผูใ้ หห้ รือการใชข้ องแลกของ  สนิ ค้าและบริการทีไ่ ดม้ าจากการใชเ้ งินซ้ือ  ใช้ประโยชนจ์ ากสนิ ค้าและบรกิ ารให้ค้มุ คา่ ๒. ยกตวั อยา่ งการใชจ้ ่ายเงนิ ในชวี ิต  การใช้จา่ ยเงินในชวี ติ ประจำวนั เพื่อซ้ือสนิ ค้า ประจำวนั ที่ไมเ่ กินตวั และเหน็ ประโยชน์ และบริการ ของการออม  ประโยชน์ของการใชจ้ ่ายเงนิ ที่ไม่เกินตวั  ประโยชน์ของการออม  โทษของการใช้จ่ายเงนิ เกนิ ตัว  วางแผนการใชจ้ ่าย ๓. ยกตวั อยา่ งการใชท้ รัพยากรใน  ทรพั ยากรท่ีใชใ้ นชีวติ ประจำวนั เช่น ดินสอ ชีวติ ประจำวนั อย่างประหยดั กระดาษ เส้ือผ้า อาหาร  ทรัพยากรสว่ นรวม เชน่ โตะ๊ เก้าอ้ี นกั เรียน สาธารณปู โภคตา่ ง ๆ  วธิ ีการใช้ทรพั ยากรทง้ั ของส่วนตวั และ สว่ นรวมอย่างถกู ตอ้ ง และประหยัดและ คุม้ คา่ ป.๒ ๑. ระบุทรพั ยากรทีน่ ำมาผลิตสนิ ค้าและ  ทรัพยากรทนี่ ำมาใช้ในการผลติ สินค้าและ บรกิ ารท่ีใชใ้ นชีวิตประจำวัน บรกิ ารที่ใชใ้ นครอบครัวและโรงเรียน เช่น ดินสอและกระดาษทผ่ี ลิตจากไม้ รวมทง้ั เครือ่ งจกั รและแรงงานการผลิต  ผลของการใช้ทรัพยากรในการผลิตท่ี หลากหลายท่มี ีต่อราคา คุณคา่ และประโยชน์ ของสนิ ค้าและบริการ รวมท้ังสิ่งแวดล้อม ๒. บอกที่มาของรายได้และรายจา่ ยของ  การประกอบอาชพี ของครอบครัว ตนเองและครอบครวั  การแสวงหารายไดท้ สี่ จุ ริตและเหมาะสม  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๓๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ชั้น ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง  รายได้และรายจ่ายในภาพรวมของครอบครวั  รายได้และรายจา่ ยของตนเอง ๓. บันทึกรายรบั รายจ่ายของตนเอง  วธิ กี ารทำบญั ชรี ายรบั รายจา่ ยของตนเอง อยา่ งงา่ ย ๆ  รายการของรายรับท่เี ปน็ รายได้ท่เี หมาะสม และไม่เหมาะสม  รายการของรายจา่ ยทเ่ี หมาะสมและ ไมเ่ หมาะสม ๔. สรุปผลดขี องการใช้จา่ ยที่เหมาะสมกบั  ทีม่ าของรายได้ทส่ี ุจรติ รายไดแ้ ละการออม  การใช้จ่ายทเี่ หมาะสม  ผลดีของการใชจ้ ่ายที่เหมาะสมกับรายได้  การออมและผลดีของการออม  การนำเงนิ ท่ีเหลอื มาใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ เช่น การช่วยเหลอื สาธารณกุศล ป.๓ ๑. จำแนกความตอ้ งการและความจำเปน็  สนิ คา้ ที่จำเปน็ ในการดำรงชีวติ ที่ เรยี กว่า ในการใชส้ ินคา้ และบริการในการดำรง ปัจจยั ๔ ชวี ิต  สนิ ค้าที่เป็นความต้องการของมนุษย์อาจ เปน็ สนิ คา้ ท่ีจำเปน็ หรือไม่จำเป็นต่อการ ดำรงชวี ิต  ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของสินคา้ และบรกิ าร ทส่ี นองความตอ้ งการของมนุษย์  หลกั การเลือกสนิ คา้ ที่จำเป็น  ความหมายของผู้ผลติ และผู้บรโิ ภค ๒. วเิ คราะหก์ ารใช้จ่ายของตนเอง  ใช้บญั ชีรบั จ่ายวเิ คราะหก์ ารใชจ้ า่ ยที่จำเป็น และเหมาะสม  วางแผนการใช้จา่ ยเงนิ ของตนเอง  วางแผนการแสวงหารายไดท้ ่ีสจุ ริตและ เหมาะสม  วางแผนการนำเงนิ ทเ่ี หลือจ่ายมาใชอ้ ยา่ ง เหมาะสม  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสตู รโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๓๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชนั้ ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ๓.อธบิ ายได้ว่าทรัพยากรทมี่ อี ยจู่ ำกัดมีผล  ความหมายของผู้ผลิตและผู้บริโภค ต่อการผลติ และบรโิ ภคสินคา้ และบริการ  ความหมายของสินค้าและบริการ  ปัญหาพืน้ ฐานทางเศรษฐกจิ ทีเ่ กดิ จากความ หายากของทรัพยากรกับความต้องการของ มนุษยท์ ี่มไี ม่จำกัด ป.๔ ๑. ระบุปจั จยั ที่มีผลต่อการเลือกซอ้ื สนิ คา้  สินค้าและบรกิ ารทมี่ ีอยู่หลากหลายในตลาดท่ี และบริการ มีความแตกต่างดา้ นราคาและคุณภาพ  ปัจจยั ทม่ี ีผลตอ่ การเลอื กซอื้ สินค้าและบริการ ท่มี ีมากมาย ซง่ึ ขึ้นอยูก่ บั ผู้ซอื้ ผ้ขู าย และ ตวั สินคา้ เชน่ ความพึงพอใจของผู้ซือ้ ราคา สนิ ค้า การโฆษณา คุณภาพของสินคา้ ๒. บอกสทิ ธพิ ื้นฐานและรกั ษา  สทิ ธพิ น้ื ฐานของผู้บรโิ ภค ผลประโยชนข์ องตนเองในฐานะผ้บู ริโภค  สนิ คา้ และบรกิ ารทมี่ ีเครือ่ งหมายรบั รอง คุณภาพ  หลักการและวิธีการเลอื กบรโิ ภค ๓. อธิบายหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง  หลักการของเศรษฐกจิ พอเพียง และนำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ของตนเอง  การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพยี งในการ ดำรงชีวติ เช่น การแต่งกาย การกินอาหาร การใชจ้ ่าย ป.๕ ๑. อธบิ ายปัจจัยการผลิตสินค้าและบรกิ าร  ความหมายและประเภทของปัจจัยการผลติ ประกอบด้วย ท่ดี ิน แรงงาน ทุนและ ผปู้ ระกอบการ  เทคโนโลยีในการผลิตสนิ ค้าและบริการ  ปัจจยั อืน่ ๆ เช่น ราคานำ้ มนั วตั ถุดิบ  พฤติกรรมของผบู้ ริโภค  ตวั อย่างการผลติ สนิ คา้ และบริการท่มี อี ยู่ใน ทอ้ งถนิ่ หรือแหล่งผลิตสนิ ค้าและบรกิ ารใน ชุมชน ๒. ประยุกต์ใชแ้ นวคดิ ของปรัชญาของ  หลักการปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพียงในการทำกิจกรรม  การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ตา่ ง ๆ ในครอบครวั โรงเรยี นและชมุ ชน ในกิจกรรมตา่ ง ๆ ในครอบครวั โรงเรียนและ ชมุ ชน เชน่ การประหยัดพลังงานและ คา่ ใช้จ่ายในบ้าน โรงเรียน การวางแผนการ ผลิตสินค้าและบรกิ ารเพือ่ ลดความสญู เสยี ทุก ประเภท การใช้ภิปัญญาท้องถ่น  ระดับประถมศึกษา

หลกั สตู รโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๓๔ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุม่ งานบริหารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง  ตวั อยา่ งการผลิตสนิ คา้ และบริการในชมุ ชน เช่น หนึง่ ตำบลหน่ึงผลิตภัณฑห์ รอื โอท๊อป ๓. อธิบายหลกั การสำคัญและประโยชน์  หลกั การและประโยชน์ของสหกรณ์ ของสหกรณ์  ประเภทของสหกรณ์โดยสงั เขป  สหกรณ์ในโรงเรยี น (เนน้ ฝกึ ปฏบิ ตั ิจริง)  การประยุกต์หลกั การของสหกรณ์มาใช้ใน ชวี ติ ประจำวนั ป.๖ ๑. อธิบายบทบาทของผู้ผลิตทมี่ คี วาม  บทบาทของผู้ผลิตทีม่ ีคุณภาพ เช่น รบั ผิดชอบ คำนึงถึงสง่ิ แวดล้อม มีจรรยาบรรณ ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม วางแผนก่อนเริ่มลง มือทำกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือลดความผิดพลาด และการสูญเสีย ฯลฯ  ทัศนคติในการใชท้ รัพยากรอย่างมี ประสทิ ธิภาพและประสิทธิผล  ประโยชน์ของการผลติ สนิ ค้าท่ีมีคุณภาพ ๒. อธิบายบทบาทของผบู้ รโิ ภค  คุณสมบัติของผ้บู ริโภคท่ีดี ท่รี ู้เท่าทนั  พฤตกิ รรมของผูบ้ ริโภคทบี่ กพรอ่ ง  คุณค่าและประโยชน์ของผบู้ รโิ ภคที่รเู้ ทา่ ทนั ท่ี มีต่อตนเอง ครอบครวั และสงั คม  ระดับประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กลุ่มสาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๓๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระที่ ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส ๓.๒ เข้าใจระบบและสถาบันทางเศรษฐกิจตา่ ง ๆ ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจและความ จำเป็นของการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก ช้นั ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ป.๑ ๑. อธิบายเหตุผลความจำเป็นท่ีคนตอ้ ง  ความหมาย ประเภทและความสำคัญของ ทำงานอยา่ งสุจริต การทำงาน  เหตผุ ลของการทำงาน  ผลของการทำงานประเภทตา่ ง ๆ ท่มี ตี อ่ ครอบครวั และสังคม  การทำงานอย่างสุจรติ ทำให้สังคมสงบสุข ป.๒ ๑. อธบิ ายการแลกเปลย่ี นสินค้าและ  ความหมายและความสำคัญของการ บริการโดยวธิ ตี า่ ง ๆ แลกเปลีย่ นสินค้าและบริการ  ลกั ษณะของการแลกเปล่ียนสินค้าและ บรกิ ารโดยไม่ใชเ้ งิน รวมท้ัง การแบ่งปนั การช่วยเหลือ  ลกั ษณะการแลกเปล่ยี นสนิ คา้ และบรกิ าร โดยการใช้เงิน ๒. บอกความสมั พันธร์ ะหวา่ งผู้ซอ้ื และ  ความหมายและบทบาทของผซู้ ้อื และผู้ขาย ผขู้ าย ผู้ผลิตและผู้บริโภคพอสังเขป  ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผซู้ อ้ื และผูข้ ายในการ กำหนดราคาสนิ ค้าและบรกิ าร  ความสมั พันธ์ระหว่างผซู้ ้อื และผ้ขู าย ทำให้ สงั คมสงบสขุ และประเทศมน่ั คง ป.๓ ๑. บอกสินค้าและบริการท่ีรฐั จดั หาและ  สินคา้ และบรกิ ารท่ีภาครฐั ทกุ ระดับจัดหา ให้บรกิ ารแกป่ ระชาชน และให้บริการแก่ประชาชน เช่น ถนน โรงเรียน สวนสาธารณะ การสาธารณสุข การ บรรเทาสาธารณภัย ๒. บอกความสำคัญของภาษแี ละ  ความหมายและความสำคัญของภาษีท่ีรัฐ บทบาทของประชาชนในการเสียภาษี นำมาสรา้ งความเจริญและให้บรกิ ารแก่ ประชาชน  ตวั อยา่ งของภาษี เชน่ ภาษรี ายไดบ้ คุ คล ธรรมดา ภาษมี ลู คา่ เพ่มิ ฯลฯ  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หน้า ๓๖ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง  บทบาทหน้าทีข่ องประชาชนในการเสยี ภาษี ๓. อธบิ ายเหตุผลการแข่งขนั ทางการค้า  ความสำคัญและผลกระทบของการแขง่ ขนั ทมี่ ผี ลทำใหร้ าคาสินค้าลดลง ทางการคา้ ท่ีมีผลทำใหร้ าคาสินคา้ ลดลง ป.๔ ๑. อธบิ ายความสมั พันธ์ทางเศรษฐกจิ  อาชีพ สินค้าและบรกิ ารต่าง ๆ ท่ีผลิต ใน ของคนในชมุ ชน ชมุ ชน  การพ่งึ พาอาศยั กันภายในชมุ ชนทาง ด้าน เศรษฐกจิ เช่น ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผ้ซู ้อื ผขู้ าย การกู้หน้ียมื สิน  การสร้างความเขม้ แข็งให้ชมุ ชนด้วย การใชส้ ง่ิ ของท่ีผลติ ในชมุ ชน ๒. อธบิ ายหน้าท่ีเบื้องตน้ ของเงิน  ความหมายและประเภทของเงนิ  หนา้ ที่เบ้ืองต้นของเงนิ ในระบบเศรษฐกิจ  สกลุ เงินสำคัญท่ีใชใ้ นการซ้ือขาย แลกเปล่ียนระหว่างประเทศ ป.๕ ๑. อธิบายบทบาทหน้าที่เบอ้ื งตน้ ของ  บทบาทหนา้ ทขี่ องธนาคารโดยสังเขป ธนาคาร  ดอกเบ้ียเงินฝาก และดอกเบ้ยี กยู้ ืม  การฝากเงิน / การถอนเงนิ ๒. จำแนกผลดแี ละผลเสียของการกยู้ มื  ผลดแี ละผลเสียของการกู้ยมื เงินทัง้ นอก ระบบและในระบบทมี่ ีตอ่ ระบบเศรษฐกิจ เชน่ การเสยี ดอกเบย้ี การลงทนุ การซ้ือ ของอุปโภคเพ่มิ ขน้ึ ทน่ี ำไปสคู่ วามฟุ้งเฟอ้ ฟุ่มเฟอื ย เป็นต้น ป.๖ ๑. อธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่างผ้ผู ลิต  ความสมั พันธ์ระหว่างผ้ผู ลติ ผู้บริโภค ผู้บริโภค ธนาคาร และรัฐบาล ธนาคาร และรฐั บาล ทมี่ ตี ่อระบบเศรษฐกิจ อย่างสงั เขป เช่นการแลกเปลย่ี นสินคา้ และ บริการ รายไดแ้ ละรายจา่ ย การออมกับ ธนาคาร การลงทนุ  แผนผงั แสดงความสัมพนั ธข์ องหน่วย เศรษฐกจิ  ภาษีและหนว่ ยงานที่จดั เกบ็ ภาษี  สิทธิของผูบ้ รโิ ภค และสิทธขิ องผใู้ ช้แรงงาน  ระดับประถมศึกษา

หลักสตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กล่มุ สาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หน้า ๓๗ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ช้ัน ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ในประเทศไทย ๒. ยกตัวอยา่ งการรวมกลุ่มทาง  การหารายได้ รายจ่าย การออม การลงทนุ เศรษฐกิจภายในท้องถิ่น ซ่ึงแสดง ความสมั พนั ธ์ระหว่างผู้ผลติ ผูบ้ ริโภค และรัฐบาล  การรวมกลมุ่ เชิงเศรษฐกิจเพื่อประสาน ประโยชนใ์ นท้องถนิ่ เช่น กลมุ่ ออมทรพั ย์ กลมุ่ แม่บา้ น กองทุนหมบู่ า้ น  ระดับประถมศกึ ษา

หลกั สตู รโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หน้า ๓๘ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สาระท่ี ๔ ประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสำคัญของเวลา และยคุ สมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้ วิธกี ารทางประวัติศาสตรม์ าวิเคราะหเ์ หตกุ ารณต์ ่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ชัน้ ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๑ ๑.บอกวัน เดือน ปี และการนับชว่ งเวลา  ชอ่ื วัน เดือน ปี ตามระบบสุริยคตทิ ่ปี รากฏ ตามปฏทิ ินท่ีใช้ในชวี ติ ประจำวนั ในปฏทิ ิน  ชอื่ วนั เดอื น ปี ตามระบบจันทรคติใน ปฏิทนิ  ช่วงเวลาทใ่ี ชใ้ นชีวติ ประจำวนั เช่น เช้าวนั นี้ ๒. เรียงลำดับเหตุการณใ์ นชีวิตประจำวัน  เหตุการณ์ท่ีเกิดข้นึ ในชีวิตประจำวันของ ตามวนั เวลาท่ีเกิดข้นึ นกั เรยี น เช่น รบั ประทานอาหาร ตนื่ นอน เขา้ นอน เรียนหนังสอื เล่นกีฬา ฯลฯ  ใช้คำบอกชว่ งเวลา แสดงลำดับเหตกุ ารณ์ ทเ่ี กดิ ข้ึนได้ ๓. บอกประวัติความเปน็ มาของตนเองและ  วธิ ีการสืบคน้ ประวัตคิ วามเป็นมาของตนเอง ครอบครวั โดยสอบถามผู้เก่ียวขอ้ ง และครอบครวั อย่างง่าย ๆ  การบอกเล่าประวตั คิ วามเป็นมาของตนเอง และครอบครัวอยา่ งสั้น ๆ ป.๒ ๑. ใช้คำระบุเวลาท่ีแสดงเหตกุ ารณ์ในอดีต  คำทแี่ สดงชว่ งเวลาในอดีต ปจั จุบัน และ ปัจจบุ ัน และอนาคต อนาคต เชน่ วนั นี้ เม่อื วานนี้ พรงุ่ น้ี เดอื นน้ี เดอื นหน้า เดอื นกอ่ น  วันสำคัญทปี่ รากฏในปฏิทนิ ทีแ่ สดง เหตุการณ์สำคญั ในอดีตและปัจจุบัน  ใชค้ ำบอกชว่ งเวลา อดตี ปัจจบุ ัน อนาคต แสดงเหตุการณ์ได้ ๒. ลำดับเหตุการณ์ทเี่ กิดขน้ึ ในครอบครัว  วธิ กี ารสืบคน้ เหตกุ ารณ์ที่ผา่ นมาแลว้ หรือในชีวติ ของตนเองโดยใช้หลักฐาน ทีเ่ กิดขึ้นกบั ตนเองและครอบครวั ที่เก่ียวขอ้ ง โดยใชห้ ลักฐานที่เก่ยี วขอ้ ง เชน่ ภาพถ่าย  สตู ิบตั ร ทะเบียนบ้าน  ใชค้ ำทีบ่ อกชว่ งเวลาแสดงเหตกุ ารณ์ ท่ีเกิดขนึ้ ในครอบครัวหรือในชีวติ ตนเอง  ใช้เสน้ เวลา (Time Line) ลำดับเหตุการณ์ ที่เกิดขน้ึ ได้  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสูตรโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๓๙ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวชิ าการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ ช้ัน ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๓ ๑. เทยี บศกั ราชท่ีสำคญั ตามปฏิทนิ ที่ใช้ใน  ทม่ี าของศักราชท่ีปรากฏในปฏิทิน เช่น ชีวติ ประจำวนั พทุ ธศักราช คริสตศ์ ักราชอยา่ งสังเขป (ถ้าเป็นมุสลมิ ควรเรียนฮิจเราะห์ศกั ราชด้วย )  วิธีการเทยี บ พ.ศ. เป็น ค.ศ. หรือ ค.ศ. เปน็ พ.ศ.  ตัวอย่างการเทียบศกั ราช ในเหตุการณ์ ท่ีเกี่ยวข้องกบั นกั เรียน เช่น ปเี กิดของ นักเรียน เปน็ ต้น ๒. แสดงลำดบั เหตุการณ์สำคัญของโรงเรียน  วธิ กี ารสืบค้นเหตกุ ารณ์สำคัญของโรงเรยี น และชมุ ชนโดยระบุหลักฐานและแหลง่ ข้อมูล และชมุ ชนโดยใช้หลักฐาน และแหลง่ ข้อมูล ทเี่ ก่ยี วข้อง ท่เี กยี่ วขอ้ ง  ใช้เส้นเวลา (Time Line) ลำดับเหตกุ ารณ์ ที่เกิดข้นึ ในโรงเรียนและชมุ ชน ป.๔ ๑. นับชว่ ง เวลา เป็นทศวรรษ ศตวรรษ  ความหมายและช่วงเวลาของทศวรรษ และสหสั วรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ  การใช้ทศวรรษ ศตวรรษ และสหสั วรรษ เพอ่ื ทำความเขา้ ใจชว่ งเวลาในเอกสารเช่น หนงั สือพิมพ์ ๒. อธบิ ายยคุ สมัยในการศึกษาประวตั ขิ อง  เกณฑก์ ารแบง่ ยคุ สมยั ในการศกึ ษา มนษุ ยชาติโดยสังเขป ประวตั ิศาสตรท์ ่แี บง่ เป็นยุคก่อน ประวตั ศิ าสตรแ์ ละยคุ ประวัตศิ าสตร์  ยุคสมยั ที่ใชใ้ นการศึกษาประวตั ิศาสตรไ์ ทย เช่นสมัยก่อนสุโขทยั สมยั สโุ ขทยั สมัย อยุธยา สมยั ธนบุรี และสมยั รตั นโกสนิ ทร์ ๓. แยกแยะประเภทหลักฐานท่ีใช้ใน  ประเภทของหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ที่ การศึกษาความเป็นมาของทอ้ งถิน่ แบง่ เป็นหลักฐานช้นั ตน้ และหลกั ฐานชัน้ รอง  ตวั อยา่ งหลกั ฐานที่ใช้ในการศกึ ษา ความเปน็ มาของท้องถิน่ ของตน  การจำแนกหลกั ฐานของท้องถน่ิ เปน็ หลกั ฐานชั้นต้นและหลักฐานชั้นรอง   ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รโรงเรยี นบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร์) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ หน้า ๔๐ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กล่มุ งานบริหารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป.๕ ๑. สืบคน้ ความเป็นมาของท้องถน่ิ โดยใช้  วิธีการสืบค้นความเป็นมาของท้องถิน่ หลกั ฐานที่หลากหลาย  หลักฐานทางประวตั ิศาสตรท์ มี่ ีอยู่ในทอ้ งถิ่น ท่เี กดิ ขนึ้ ตามช่วงเวลาตา่ งๆ เช่น เครอื่ งมือ เครอื่ งใช้ อาวธุ โบราณสถาน โบราณวัตถุ  การนำเสนอความเปน็ มาของทอ้ งถ่ินโดย อา้ งอิงหลักฐานทีห่ ลากหลายด้วยวิธีการตา่ ง ๆ เชน่ การเล่าเรอ่ื งการเขียนอย่างงา่ ย ๆ การจัดนทิ รรศการ ๒. รวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งต่าง ๆ เพือ่  การต้งั คำถามทางประวัติศาสตรเ์ กยี่ วกบั ตอบคำถามทางประวตั ศิ าสตร์ อย่างมี ความเป็นมาของท้องถน่ิ เช่น มีเหตกุ ารณ์ เหตผุ ล ใดเกิดข้นึ ในชว่ งเวลาใด เพราะสาเหตุใด และมผี ลกระทบอยา่ งไร  แหล่งขอ้ มลู และหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ในทอ้ งถน่ิ เพอื่ ตอบคำถามดังกลา่ ว เชน่ เอกสาร เร่อื งเลา่ ตำนานทอ้ งถิน่ โบราณสถาน โบราณวัตถุ ฯลฯ  การใชข้ ้อมลู ท่ีพบเพอ่ื ตอบคำถามไดอ้ ย่างมี เหตผุ ล ๓. อธิบายความแตกต่างระหว่าง  ตัวอย่างเรื่องราวจากเอกสารตา่ งๆ ท่ี ความจรงิ กับข้อเทจ็ จริงเกี่ยวกับเรอ่ื งราว สามารถแสดงนยั ของความคดิ เห็นกบั ขอ้ มูล ในท้องถนิ่ เชน่ หนงั สือพมิ พ์ บทความจากเอกสาร  ตวั อย่างข้อมูลจากหลกั ฐานทาง ประวัติศาสตร์ ในทอ้ งถน่ิ ทีแ่ สดงความจริง กับข้อเทจ็ จริง  สรปุ ประเดน็ สำคัญเก่ียวกบั ข้อมูลในทอ้ งถน่ิ ป.๖ ๑. อธบิ ายความสำคญั ของวิธีการทาง  ความหมายและความสำคัญของวิธกี ารทาง ประวตั ิศาสตร์ในการศกึ ษาเรอ่ื งราวทาง ประวัติศาสตร์อยา่ งงา่ ย ๆ ท่ีเหมาะสมกบั ประวตั ิศาสตร์อยา่ งงา่ ย ๆ นกั เรยี น  การนำวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ไปใช้ศกึ ษา เรื่องราวในท้องถิ่น เช่น ความเป็นมาของ ภมู นิ ามของสถานทใี่ นทอ้ งถนิ่ ๒. นำเสนอขอ้ มูลจากหลักฐานที่หลากหลาย  ตวั อย่างหลกั ฐานทีเ่ หมาะสมกบั นกั เรียนที่ ในการทำความเขา้ ใจเรือ่ งราวสำคัญในอดตี นำมาใชใ้ นการศึกษาเหตกุ ารณ์สำคัญใน ประวัติศาสตร์ไทย สมยั รัตนโกสินทร์ เช่น พระราชหัตถเลขาของรชั กาลที่ ๔  ระดบั ประถมศกึ ษา

หลักสตู รโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓ หนา้ ๔๑ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ชัน้ ตัวช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง หรอื รชั กาลท่ี ๕ กฎหมายสำคัญ ฯลฯ ( เชื่อมโยงกบั มฐ. ส ๔.๓ )  สรปุ ข้อมูลท่ไี ดจ้ ากหลักฐานทัง้ ความจริง และข้อเท็จจริง  การนำเสนอข้อมลู ที่ไดจ้ ากหลกั ฐาน ทางประวตั ิศาสตร์ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ เชน่ การเล่าเรื่อง การจัดนทิ รรศการ การเขียน รายงาน  ระดับประถมศึกษา

หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หน้า ๔๒ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ สาระที่ ๔ ประวตั ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาตจิ ากอดีตจนถึงปัจจุบนั ในดา้ นความสมั พันธ์และ การเปลีย่ นแปลงของเหตุการณอ์ ยา่ งต่อเนอ่ื ง ตระหนักถงึ ความสำคญั และสามารถวิเคราะห์ ผลกระทบท่ีเกิดข้ึน ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๑ ๑. บอกความเปลีย่ นแปลงของสภาพ  ความเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดลอ้ ม สงิ่ ของ แวดล้อม ส่ิงของ เครอ่ื งใช้ หรอื การดำเนิน เคร่อื งใช้ หรอื การดำเนนิ ชวี ิตของอดีตกับ ชวี ติ ของตนเองกับสมยั ของพ่อแม่ ปู่ยา่ ปัจจุบันท่ีเป็นรูปธรรมและใกล้ตัวเดก็ เชน่ ตายาย การใช้ควาย ไถนา รถไถนา เตารีด ถนน เกวียน - รถอีแต๋น  สาเหตแุ ละผลของการเปลี่ยนแปลงของสง่ิ ตา่ งๆ ตามกาลเวลา ๒. บอกเหตุการณ์ที่เกดิ ขน้ึ ในอดตี  เหตกุ ารณส์ ำคญั ท่ีเกดิ ข้ึนในครอบครัว เช่น ท่มี ีผลกระทบต่อตนเองในปัจจบุ นั การยา้ ยบา้ น การหย่ารา้ งการสูญเสียบคุ คล ในครอบครวั ป.๒ ๑. สบื คน้ ถึงการเปลยี่ นแปลง  วธิ ีการสบื คน้ ขอ้ มูลอยา่ งง่าย ๆ เชน่ ในวิถีชวี ติ ประจำวนั ของคนในชุมชน ของ การสอบถามพอ่ แม่ ผรู้ ู้ ตนจากอดีตถึงปัจจบุ ัน  วถิ ชี วี ิตของคนในชมุ ชน เชน่ การประกอบอาชพี การแต่งกาย การสอ่ื สาร ประเพณีในชมุ ชนจากอดตี ถงึ ปัจจบุ นั  สาเหตขุ องการเปล่ยี นแปลงวถิ ีชวี ติ ของชุมชน ๒. อธบิ ายผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง  การเปล่ียนแปลงของวถิ ชี วี ติ ของคนในชุมชน ทางด้านต่าง ๆ ที่มตี อ่ วิถชี ีวิตของคน  ผลกระทบของการเปลย่ี นแปลงท่ีมตี ่อวถิ ชี ีวติ ในชมุ ชน ของคนในชุมชน ป.๓ ๑. ระบปุ ัจจัยท่มี อี ทิ ธพิ ลตอ่ การตัง้ ถนิ่ ฐาน  ปัจจัยการตั้งถนิ่ ฐานของชุมชนซึง่ ขึ้นอยู่กบั และพัฒนาการของชุมชน ปจั จัยทางภมู ิศาสตรแ์ ละปัจจัยทางสังคม เชน่ ความเจริญทางเทคโนโลยี การคมนาคม ความปลอดภัย  ปจั จยั ทม่ี ีอิทธิพลต่อพฒั นาการของชมุ ชนทั้ง ปจั จัยทางภมู ิศาสตร์ และปัจจยั ทางสังคม  ระดบั ประถมศึกษา

หลักสตู รโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๔๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ชนั้ ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๒. สรปุ ลักษณะท่ีสำคญั ของ  ขนบธรรมเนยี ม ประเพณแี ละวฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณี และวฒั นธรรม ชุมชนของตนที่เกิดจากปัจจัยทางภูมศิ าสตร์ ของชุมชน และปจั จยั ทางสังคม ๓. เปรยี บเทยี บความเหมอื นและความ  ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของ ต่างทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกบั ชมุ ชน อ่นื ๆ ทม่ี ีความเหมอื นและความตา่ ง ชมุ ชนอืน่ ๆ กับชมุ ชนของตนเอง ป. ๔ ๑. อธบิ ายการตง้ั หลักแหล่งและ  พฒั นาการของมนุษยย์ คุ ก่อนประวตั ิศาสตร์ พฒั นาการของมนุษยย์ คุ กอ่ น และยคุ ประวัตศิ าสตร์ ในดนิ แดนไทย ประวตั ศิ าสตร์และยุคประวัตศิ าสตร์  หลักฐานการตงั้ หลกั แหล่งของมนษุ ย์ ยคุ ก่อน โดยสังเขป ประวัตศิ าสตร์ในดนิ แดนไทยโดยสังเขป ๒. ยกตัวอย่างหลกั ฐานทาง  หลักฐานทางประวัตศิ าสตรท์ ี่พบในท้องถน่ิ ที่ ประวัติศาสตรท์ ่พี บในทอ้ งถิน่ ทีแ่ สดง แสดงพัฒนาการของมนษุ ยชาตใิ นดนิ แดน พัฒนาการของมนษุ ยชาติ ไทยโดยสงั เขป ป.๕ ๑. อธบิ ายอทิ ธพิ ลของอารยธรรมอนิ เดยี  การเขา้ มาของอารยธรรมอนิ เดยี และจีนใน และจีนทมี่ ีตอ่ ไทย และเอเชยี ตะวันออก ดนิ แดนไทยและภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียง เฉยี งใต้ โดยสังเขป ใตโ้ ดยสงั เขป  อิทธพิ ลของอารยธรรมอนิ เดยี และจนี ท่ีมตี อ่ ไทย และคนในภมู ิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ศาสนาและความเชือ่ ภาษา การแตง่ กาย อาหาร ๒. อภิปรายอทิ ธิพลของวัฒนธรรม  การเข้ามาของวัฒนธรรมตา่ งชาติในสงั คม ต่างชาติทมี่ ีตอ่ สังคมไทยปัจจบุ นั ไทย เชน่ อาหาร ภาษา การแตง่ กาย ดนตรี โดยสังเขป โดยระบุลักษณะ สาเหตุและผล  อทิ ธิพลท่ีหลากหลายในกระแสของ วัฒนธรรมตา่ งชาตติ อ่ สงั คมไทยในปัจจบุ ัน ป.๖ ๑. อธบิ ายสภาพสังคม เศรษฐกจิ และ  ใช้แผนที่แสดงท่ีตง้ั และอาณาเขตของ การเมอื งของประเทศเพือ่ นบ้านในปัจจบุ นั ประเทศตา่ ง ๆในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ๒. บอกความสัมพันธ์ของกลมุ่ อาเซยี น  สภาพสงั คม เศรษฐกิจและการเมืองของ ประเทศเพ่อื นบ้านของไทยโดยสังเขป โดยสงั เขป  ตัวอยา่ งความเหมอื นและ ความต่างระหว่าง ไทยกับประเทศเพอ่ื นบา้ น เช่น ภาษา ศาสนา  ความเป็นมาของกลมุ่ อาเซียนโดยสงั เขป  สมาชิกของอาเซยี นในปจั จบุ นั  ความสมั พนั ธ์ของกลุม่ อาเซยี นทางเศรษฐกจิ และสังคมในปัจจบุ ันโดยสงั เขป  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สตู รโรงเรียนบา้ นพลวง(พรหมบำรุงราษฎร์) กล่มุ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ หนา้ ๔๔ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลุม่ งานบรหิ ารวิชาการ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ สาระท่ี ๔ ประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๓ เขา้ ใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มคี วามรกั ความภมู ิใจและ ธำรงความเปน็ ไทย ช้นั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. อธิบายความหมายและความสำคญั ของ  ความหมายและความสำคญั ของสญั ลกั ษณ์ท่ี สัญลักษณ์สำคญั ของชาตไิ ทย และปฏิบตั ิตน สำคัญของชาตไิ ทย ไดแ้ ก่ ชาติ ศาสนา ได้ถูกตอ้ ง พระมหากษตั รยิ ์ (ธงชาติ เพลงชาติ พระพุทธรูป พระบรมฉายาลักษณ)์  การเคารพธงชาติ การรอ้ งเพลงชาติ และ เพลงสรรเสริญพระบารมี เคารพ ศาสนวตั ถุ ศาสนสถาน  เอกลักษณอ์ น่ื ๆ เช่น แผนทีป่ ระเทศไทย ประเพณีไทย อาหารไทย (อาหารไทย ท่ีตา่ งชาตยิ กย่อง เช่น ต้มยำกุง้ ผัดไทย) ท่มี ี ความภาคภูมิใจ และมีสว่ นร่วม ท่ี จะอนุรักษไ์ ว้ ๒. บอกสถานท่ีสำคญั ซึ่งเปน็ แหล่ง  ตัวอย่างของแหลง่ วัฒนธรรมในชุมชน วฒั นธรรมในชุมชน ทใ่ี กลต้ วั นกั เรยี น เช่น วดั ตลาด พิพิธภณั ฑ์ มสั ยิด โบสถ์คริสต์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ  คุณคา่ และความสำคัญของแหลง่ วัฒนธรรม ในชุมชนในดา้ นตา่ งๆ เชน่ เปน็ แหลง่ ท่องเทีย่ ว เป็นแหล่งเรยี นรู้ ๓. ระบุสงิ่ ที่ตนรกั และภาคภูมใิ จในท้องถนิ่  ตัวอยา่ งสิง่ ที่เปน็ ความภาคภูมิใจในท้องถน่ิ เชน่ สิง่ ของ สถานที่ ภาษาถิ่น ประเพณี และ วฒั นธรรม ฯลฯ ที่เปน็ สง่ิ ทีใ่ กล้ตวั นักเรียน และเปน็ รูปธรรมชัดเจน  คุณค่าและประโยชน์ของสิ่งตา่ งๆเหล่านน้ั ป.๒ ๑. ระบบุ คุ คลท่ที ำประโยชน์ต่อท้องถิน่ หรอื  บุคคลในทอ้ งถิ่นทท่ี ำคณุ ประโยชนต์ ่อการ ประเทศชาติ สร้างสรรคว์ ฒั นธรรม และความมน่ั คงของ ทอ้ งถ่นิ และประเทศชาติ ในอดีตที่ควร นำเป็นแบบอยา่ ง  ผลงานของบคุ คลในท้องถน่ิ ท่นี ่าภาคภมู ิใจ  ระดบั ประถมศึกษา

หลกั สูตรโรงเรยี นบา้ นพลวง(พรหมบำรงุ ราษฎร)์ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ หน้า ๔๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) กลุ่มงานบริหารวชิ าการ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ชน้ั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๒. ยกตัวอย่างวฒั นธรรม ประเพณี และภมู ิ  ตวั อยา่ งของวฒั นธรรมประเพณไี ทย เชน่ ปัญญาไทยทภ่ี าคภูมิใจและควรอนรุ กั ษ์ไว้ การทำความเคารพ อาหารไทย ภาษาไทย ประเพณีสงกรานต์ ฯลฯ  คุณค่าของวฒั นธรรม และประเพณีไทย ท่ีมี ต่อสงั คมไทย  ภูมปิ ญั ญาของคนไทยในท้องถิ่นของนักเรียน ป.๓ ๑. ระบพุ ระนามและพระราชกรณยี กิจ  พระราชประวตั ิ พระราชกรณียกจิ โดยสงั เขปของพระมหากษัตรยิ ์ไทยที่เป็นผู้ โดยสังเขปของพอ่ ขุนศรอี ินทราทติ ย์ สมเด็จ สถาปนาอาณาจักรไทย พระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจา้ อู่ทอง) สมเด็จ พระเจ้าตากสนิ มหาราช และพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ผู้ สถาปนาอาณาจกั รไทย สุโขทยั อยธุ ยา ธนบุรี และรตั นโกสนิ ทร์ตามลำดบั  อาณาจักรไทยอน่ื ๆทีผ่ นวกรวมเขา้ เป็นสว่ น หนึง่ ของชาตไิ ทย เชน่ ลา้ นนา นครศรธี รรมราช ๒. อธบิ ายพระราชประวตั แิ ละพระราช  พระราชประวัตแิ ละพระราชกรณยี กจิ ของ กรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ ในรัชกาล พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว ภมู พิ ลอ ปัจจบุ นั โดยสังเขป ดุลยเดช และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ โดยสงั เขป ๓. เลา่ วรี กรรมของบรรพบุรษุ ไทย  วรี กรรมของบรรพบุรษุ ไทยทีม่ สี ว่ นปกป้อง ท่ีมีส่วนปกปอ้ งประเทศชาติ ประเทศชาติ เช่น ทา้ วเทพสตรี ท้าวศรี สุนทร ชาวบ้านบางระจัน พระยา พชิ ัยดาบหัก สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช ป.๔ ๑. อธิบายพฒั นาการของอาณาจกั รสุโขทัย  การสถาปนาอาณาจกั รสุโขทัยโดยสังเขป โดยสงั เขป  พัฒนาการของอาณาจกั รสโุ ขทัยทางด้าน การเมืองการปกครอง และเศรษฐกิจ โดยสังเขป ๒. บอกประวตั แิ ละผลงานของบคุ คลสำคัญ  ประวตั ิ และผลงานของบุคคลสำคญั สมัยสโุ ขทยั สมยั สโุ ขทยั เช่น พ่อขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ พอ่ ขนุ รามคำแหงมหาราช  ระดับประถมศกึ ษา

หลักสูตรโรงเรียนบ้านพลวง(พรหมบำรุงราษฎร)์ กล่มุ สาระการเรียนร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม พุทธศักราช ๒๕๖๓ หน้า ๔๖ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) กลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ชนั้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง พระมหาธรรมราชา ท่ี ๑ (พระยาลิไทยโดยสงั เขป) ๓. อธบิ ายภูมปิ ญั ญาไทยท่ีสำคญั สมยั  ภมู ิปญั ญาไทยในสมัยสุโขทัย เช่นภาษาไทย สโุ ขทยั ทน่ี ่าภาคภมู ใิ จ และควรค่าแก่การ ศิลปกรรมสุโขทัยท่ีไดร้ ับ การยก อนุรักษ์ ย่องเปน็ มรดกโลก เครือ่ ง สงั คม โลก  คุณค่าของภมู ิปญั ญาไทยท่ีสืบต่อถงึ ปัจจุบนั ที่นา่ ภาคภมู ใิ จและควรค่า แกก่ าร อนุรกั ษ์ ป.๕ ๑. อธิบายพัฒนาการของอาณาจักรอยธุ ยา  การสถาปนาอาณาจักรอยุธยา โดยสังเขป และธนบุรีโดยสังเขป  ปัจจัยท่ีสง่ เสรมิ ความเจรญิ รงุ่ เรืองทาง ๒. อธิบายปจั จยั ที่ส่งเสริมความเจรญิ รงุ่ เรืองทางเศรษฐกิจและการปกครอง เศรษฐกิจ และการปกครองของอาณาจกั ร ของอาณาจักรอยุธยา ๓. บอกประวตั แิ ละผลงานของบคุ คลสำคญั อยธุ ยา สมยั อยธุ ยาและธนบรุ ที ี่น่าภาคภมู ใิ จ  พัฒนาการของอาณาจกั รอยธุ ยาการดา้ น การเมือง การปกครอง และเศรษฐกิจ โดยสงั เขป ๔. อธบิ ายภูมปิ ญั ญาไทยท่ีสำคัญ สมยั  ผลงานของบุคคลสำคัญในสมยั อยธุ ยา เช่น อยธุ ยาและธนบรุ ที น่ี า่ ภาคภมู ิใจและควรค่า สมเดจ็ พระรามาธิบดีท่ี ๑ สมเดจ็ พระบรม แกก่ ารอนรุ กั ษไ์ ว้ ไตรโลกนาถ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ชาวบ้าน บางระจัน เปน็ ตน้  ภมู ปิ ัญญาไทยสมยั อยุธยาโดยสังเขป เช่น ศิลปกรรม การคา้ วรรณกรรม  การกอบก้เู อกราชและการสถาปนา อาณาจกั รธนบรุ ีโดยสังเขป  พระราชประวัติ และผลงานของ พระ เจ้าตากสินมหาราชโดยสงั เขป  ภมู ิปญั ญาไทยสมัยธนบุรโี ดยสังเขป เชน่ ศลิ ปกรรม การคา้ วรรณกรรม  ระดบั ประถมศกึ ษา