วช-ร 06 แบบบนั ทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชอ่ื หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 10 เรอื่ ง กรด-เบส แผนการเรยี นรทู้ ี่ 7 เรอ่ื ง อนิ ดิเคเตอร์สำหรับกรด-เบส รายวิชา เคมี 4 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5 รหสั วชิ า ว 32204 ครูผู้สอน นางสาวกานดา วุฒเิ ศลา ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย เวลาทีใ่ ช้ 1 ช่ัวโมง ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขอ้ ค้นพบระหว่าง ปัญหาที่พบ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื ประกอบการเรยี นรู้ พฤตกิ รรม/การมสี ว่ นร่วมของผ้เู รียน ลงชอื่ ครูผจู้ ดั กิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วุฒิเศลา) ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย
แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 10 เร่ือง กรด-เบส แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7 เรื่อง ปฏกิ ิริยาระหวา่ งกรด-เบส รายวชิ า เคมี 4 รหสั วชิ า ว 32204 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 นำ้ หนักเวลาเรียน 1.5 หนว่ ยกจิ เวลาเรียน 3 ชัว่ โมง/สัปดาห์ เวลาที่ใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 6 ช่ัวโมง 1. ผลการเรยี นรู้ 1. เขียนสมการเคมีแสดงปฏิกิรยิ าสะเทิน และระบคุ วามเปน็ กรด-เบสของสารละลายหลงั การสะเทิน 2. เขยี นปฏิกริ ยิ าไฮโดรลซิ สิ ของเกลือ และระบคุ วามเปน็ กรด-เบสของสารละลายเกลือ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายการเกดิ ปฏิกิรยิ าระหว่างกรดกับเบส และปฏิกิริยาระหว่างกรดหรอื เบสกับสารอื่นได้ (K) 2. อธบิ ายความหมายของเกลอื และวิธกี ารเตรยี มเกลอื จากปฏิกริ ิยาระหว่างกรดกับเบสและกรดหรือเบส กบั สารอนื่ ได้ (K) 3. อธิบายความหมายของปฏิกริ ิยาสะเทิน ปฏิกริ ยิ าไฮโดรลซิ ิส พรอ้ มทั้งเขยี นสมการได้ (K) 4. บอกไดว้ ่าเกลือชนิดใดเกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส พรอ้ มทงั้ บอกสมบัติความเปน็ กรด-เบสของสารละลาย เกลือชนดิ นั้นได้ (K) 5. ทดลองเพื่อศกึ ษาปฏิกิรยิ าระหว่างกรดซัลฟวิ รกิ และแบเรยี มไฮดรอกไซดไ์ ด้ (P) 6. ทดลองเพอ่ื ศึกษาปฏิกิริยาระหวา่ งกรดซลั ฟวิ รกิ และโซเดียมไฮดรอกไซด์ได้ (P) 7. ทดลองเพ่ือศึกษาปฏิกริ ยิ าระหวา่ งกรดหรือเบสกับสารบางชนิดได้ (P) 8. ทดลองเพอื่ ศึกษาการวดั pH ของสารละลายเกลอื โดยใชย้ ูนิเวอร์ซัลอินดิเคเตอรไ์ ด้ (P) 9. ใชเ้ ครือ่ งมอื และอปุ กรณ์ทางวทิ ยาศาสตรไ์ ด้อย่างถูกตอ้ ง (P) 10. ปฏบิ ัติตามขั้นตอนการทดลองไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง (P) 11. ตั้งใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้ รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรเู้ พิ่มเติม สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น - ปฏิกริ ยิ าสะเทนิ ระหว่างกรดแกแ่ ละเบสแก่ให้ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา สารละลายที่เปน็ กลาง ปฏิกริ ยิ าสะเทินระหวา่ ง กรดแก่และเบสออ่ น ให้สารละลายที่เป็นกรด ส่วนปฏกิ ิรยิ าสะเทนิ ระหวา่ งกรดออ่ นและเบส แก่ ใหส้ ารละลายท่ีเปน็ เบส - เกลอื ท่ีไดจ้ ากการสะเทนิ ของกรดแกด่ ว้ ยเบส ออ่ น เมื่อละลายในน้ำจะเกิดปฏิกิรยิ าไฮโดรลิซิส ไดส้ ารละลายทมี่ สี มบัติเป็นกรด ส่วนเกลอื ทไ่ี ด้ จากการสะเทนิ ของกรดออ่ นดว้ ยเบสแก่ เม่ือ
สาระการเรียนรูเ้ พิม่ เตมิ สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ ละลายในน้ำจะเกิดปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลิซสิ ได้ สารละลายท่ีมสี มบัติเปน็ เบส 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การแตกตัวของกรดแกแ่ ละเบสแก่ เมื่อสารละลายมี H3O+ และไอออนลบ สว่ นสารละลายเบสมีไอออน บวก และ OH- ปฏิกริ ยิ าระหวา่ งกรดและเบสจึงเปน็ ปฏกิ ิรริ ยาการถ่ายโอน H+ ระหว่าง H3O+ กบั OH- เรยี กว่าปฏิกริ ิยาสะเทนิ ซง่ึ ได้ผลิตภัณฑเ์ ปน็ เกลอื กบั น้ำ ปฏกิ ิรยิ าระหว่างกรดหรอื เบสกับสารบางชนิด เมื่อกรดกบั เบสจะทำปฏิกริ ยิ ากนั ไดแ้ ลว้ กรดหรือเบสยัง สามารถทำฏิกิริยากบั สารประเภทอื่นได้อีกหลายชนดิ ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส เป็นปฏิกริ ิยาทเ่ี กดิ จากไอออนบวกหรือไอออนลบของเกลอื ทำปฏิกิรยิ ากบั นำ้ ได้ผลิตภัณฑ์เป็น H3O+ หรือ OH- 5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี นและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี นิ ัย รับผิดชอบ 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทกั ษะการสงั เกต 3. มุ่งม่ันในการทำงาน 2) ทักษะการสำรวจคน้ หา 3) ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั 4) ทกั ษะการวิเคราะห์ 5) ทักษะการทดลอง 6) ทกั ษะการตีความหมายและลงข้อสรุป 7) ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชวั่ โมงท่ี 1 ขน้ั นำ ขั้นที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียนรายวชิ าเพ่มิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 กรด-เบส วา่ “เมื่อนำสารละลายกรดมาทำปฏิกิรยิ ากบั สารละลาย เบสจะเกดิ การเปล่ียนแปลงเช่นใด” ให้นักเรียนร่วมกันตอบคำถาม จากนัน้ ครูและนกั เรียน ร่วมกันอภปิ ราย (แนวตอบ : เม่อื กรดทำปฏกิ ริ ิยากบั เบสจะเกิดเกลือกับน้ำเป็นผลิตภัณฑ)์ 2. ครูและนกั เรียนร่วมกันทบทวนความร้เู กย่ี วกับไอออนทแี่ สดงสมบตั ิของกรด คอื ไฮโดรเนยี ม ไอออน และไอออนทแ่ี สดงสมบัติของเบส คอื ไฮดรอกไซด์ไอออน แล้วอภิปรายถงึ ความเก่ยี วข้อง
ของไอออนทัง้ สองชนิดน้กี ับปฏกิ ิรยิ าของกรดและเบส เพื่อนำเข้าสู่เรอื่ งปฏกิ ริ ิยาระหวา่ งกรดกบั เบส 3. จากน้ันครูและนักเรียนรว่ มกนั ทบทวนความรู้เกีย่ วกบั การแตกตัวเป็นไอออนของกรดและเบส ตามทฤษฎีกรด-เบสอาร์เรเนียส และการถา่ ยโอนโปรตอนระหวา่ งกรดกบั เบสตามทฤษฎีกรด-เบส เบรินสเตด-ลาวรี แล้วอภิปรายเกยี่ วกับปฏกิ ิรยิ าที่ควรจะเกดิ ข้นึ เมอื่ นำสารละลายกรดและ สารละลายเบสมาผสมกนั ข้ันสอน ขัน้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน เพอ่ื ทำการทดลอง เร่ือง ปฏิกิรยิ าระหวา่ งกรดซัลฟวิ รกิ และ แบเรยี มไฮดรอกไซด์ จากหนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ย การเรยี นร้ทู ่ี 4 กรด-เบส 2. ครูใชร้ ูปแบบการเรียนรแู้ บบร่วมมือ เทคนคิ LT มาจดั กระบวนการเรยี นรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชกิ แต่ละคนภายในกลมุ่ มบี ทบาทหน้าทขี่ องตนเอง ดังนี้ • สมาชิกคนท่ี 1 : ทำหน้าทีเ่ ตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการทดลอง เรื่อง ปฏกิ ริ ิยาระหวา่ ง กรดซลั ฟิวริกและแบเรยี มไฮดรอกไซด์ • สมาชิกคนที่ 2 : ทำหนา้ ท่ีอ่านวธิ กี ารทดลอง ทำความเขา้ ใจ และอธิบายให้สมาชิกในกลุ่ม ฟงั • สมาชิกคนที่ 3 : ทำหนา้ ท่ีบันทกึ ผลการทดลอง • สมาชกิ คนท่ี 4 และ 5 : ทำหนา้ ท่ีนำเสนอผลการทดลอง 3. สมาชกิ ทุกคนในกลมุ่ ชว่ ยกันลงมอื ทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนกั เรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม) 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทน (สมาชกิ คนที่ 4 และ 5 ของกล่มุ ) ออกมานำเสนอผลการทดลอง หลังจากนน้ั ให้นักเรียนทกุ คนร่วมกันอภปิ รายผลการทดลองจนมีความเข้าใจทต่ี รงกนั (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมินปฏิบตั ิการ) 5. ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายและหาขอ้ สรุปจากการปฏิบตั กิ ารทดลอง โดยใช้แนวคำถาม ดงั น้ี 1) สารละลายกรดซัลฟิวรกิ และสารละลายแบเรียมไฮดรอกไซด์นำไฟฟ้าได้หรอื ไม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร (แนวตอบ : สารละลายทง้ั สองนำไฟฟ้าได้ เนือ่ งจากทำให้หลอดไฟสวา่ งได)้ 2) ผลติ ภัณฑท์ ่ีเกดิ จากปฏกิ ริ ยิ าระหว่างสารละลายกรดซลั ฟวิ รกิ กบั สารละลาย แบเรยี มไฮดรอกไซดค์ ืออะไร และมสี มบตั ิอย่างไร (แนวตอบ : แบเรยี มซลั เฟต ซง่ึ เป็นเกลอื ที่ไมล่ ะลายนำ้ และนำ้ ) 3) เม่ือนำสารละลายกรดซัลฟวิ ริกมาทำปฏกิ ิรยิ ากับสารละลายแบเรยี มไฮดรอกไซด์ จดุ ท่ีสารละลายทงั้ สองทำปฏกิ ิรยิ าพอดีกนั สารละลายจะมีสีใด และความสว่างของ หลอดไฟจะเปน็ อย่างไร เพราะเหตุใดจึงเปน็ เช่นนน้ั (แนวตอบ : สารละลายจะมสี ีเขียว และหลอดไฟสวา่ งนอ้ ยท่ีสดุ เน่ืองจากแบเรยี มซลั เฟต ทเี่ กิดขน้ึ ไมส่ ามารถละลายนำ้ ได้ จงึ ทำใหค้ วามเข้มข้นของไอออนในสารละลายลดลง สารละลายจงึ นำไฟฟา้ ได้ลดลง หลอดไฟจึงสวา่ งนอ้ ยลง)
6. นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรุปผลจากการทำการทดลอง ซึง่ ได้ขอ้ สรุปว่า “ปฏิกิริยาระหว่าง สารละลายกรดแกก่ ับสารละลายเบสแก่ จะเป็นการเกิดปฏกิ ิรยิ าระหวา่ ง H3O+ จากกรด และOH - จากเบส เกิดเป็นเกลอื และน้ำ เรียกวา่ ปฏิกริ ยิ าการสะเทนิ ” (หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมินนกั เรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล) ชัว่ โมงที่ 2 ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 7. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน (กลมุ่ เดิม) จากชั่วโมงทผี่ า่ นมา เพอ่ื ทำการทดลอง เร่ือง ปฏิกริ ิยาระหวา่ งกรดซลั ฟิวรกิ และโซเดยี มไฮดรอกไซด์ จากหนังสอื เรยี นรายวชิ าเพิม่ เติม วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 กรด-เบส 8. ครใู ช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมอื เทคนคิ LT มาจดั กระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชกิ แต่ละคนภายในกลุม่ มบี ทบาทหนา้ ท่ีของตนเอง ดังนี้ • สมาชิกคนท่ี 1 : ทำหนา้ ท่เี ตรียมวสั ดุ-อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการทดลอง เรื่อง ปฏกิ ิริยาระหวา่ ง กรดซัลฟิวริกและโซเดียมไฮดรอกไซด์ • สมาชิกคนที่ 2 : ทำหน้าท่ีอ่านวธิ กี ารทดลอง ทำความเขา้ ใจ และอธบิ ายให้สมาชิกในกลมุ่ ฟงั • สมาชิกคนท่ี 3 : ทำหน้าทีบ่ นั ทึกผลการทดลอง • สมาชิกคนท่ี 4 และ 5 : ทำหน้าทนี่ ำเสนอผลการทดลอง 9. สมาชกิ ทุกคนในกล่มุ ช่วยกันลงมือทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม) 10. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทน (สมาชิกคนที่ 4 และ 5 ของกลุ่ม) ออกมานำเสนอผลการทดลอง หลงั จากนัน้ ให้นักเรียนทกุ คนร่วมกันอภปิ รายผลการทดลองจนมีความเขา้ ใจท่ีตรงกัน (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบประเมินปฏบิ ัตกิ าร) 11. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั อภิปรายและหาข้อสรปุ จากการปฏบิ ัตกิ ารทดลอง โดยใช้แนวคำถาม ดังน้ี 1) ผลการทดลองของการทดลองน้มี อี ะไรที่แตกตา่ งไปจากการทดลองทผ่ี ่านมา (แนวตอบ : ความสวา่ งของหลอดไฟ โดยในการทดลองที่ผ่านมาเม่ือสารละลายทำ ปฏกิ ิริยากนั หลอดไฟจะค่อย ๆ สว่างน้อยลง จากนน้ั จงึ คอ่ ย ๆ สวา่ งข้ึน จนสว่างเท่า ตอนเริ่มต้น แต่ในการทดลองน้ี เม่อื สารละลายทำปฏกิ ิริยากัน หลอดไฟจะสว่างเทา่ เดิม ตลอด) 2) นกั เรียนคดิ วา่ เพราะเหตุใดในการทดลองน้ี หลอดไฟจึงสว่างเทา่ เดิมตลอด (แนวตอบ : เน่อื งจากผลิตภัณฑ์ที่เกดิ ข้นึ จากการทดลองน้ี คือ โซเดียมซัลเฟต ซง่ึ เป็น เกลอื ทีส่ ามารถละลายน้ำได้ ทำให้ความเข้มขน้ ของไอออนในสารละลายมคี ่าคงที่ สารละลายจึงนำไฟฟ้าได้เทา่ เดมิ หลอดไฟจึงสวา่ งเท่าเดมิ ) 3) การเปล่ยี นสีของสารละลายในการทดลองนีแ้ ละการทดลองท่ีผ่านมาเหมอื นหรอื แตกตา่ ง กันอยา่ งไร (แนวตอบ : เหมือนกัน คือ สารละลายจะเปลี่ยนเปน็ สีฟา้ สเี ขียว สีชมพูอ่อน และสชี มพู เขม้ ตามลำดับ)
12. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ ผลจากการทำการทดลอง ซึ่งไดข้ ้อสรุปว่า “ในปฏกิ ริ ิยาการสะเทิน อาจจะเกดิ เกลือท่ีละลายนำ้ หรือไมล่ ะลายน้ำก็ได้ โดยถา้ เกิดเกลือท่ไี มล่ ะลายนำ้ จะสามารถบอก ภาวะท่กี รดและเบสทำปฏิกิริยากันพอดี ไดโ้ ดยการสงั เกตการเปล่ยี นสขี องยูนิเวอร์ซลั อนิ ดิเคเตอร์ และสงั เกตความสวา่ งของหลอดไฟ แต่ถา้ เกดิ เกลือที่ละลายน้ำได้ จะสามารถบอก ภาวะท่กี รดและเบสทำปฏิกิริยากนั พอดี ได้โดยการสงั เกตการเปลย่ี นสขี องยูนเิ วอร์ซัล อนิ ดเิ คเตอรเ์ ท่านัน้ ” (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) ช่วั โมงท่ี 3 ข้นั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore) 13. ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน (กลุม่ เดิม) จากช่วั โมงท่ีผา่ นมา เพ่ือทำการทดลอง เรื่อง ปฏกิ ิรยิ าระหว่างกรดหรอื เบสกบั สารบางชนิด จากหนงั สือเรยี นรายวิชาเพ่มิ เติม วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 กรด-เบส 14. ครูใช้รปู แบบการเรยี นรแู้ บบร่วมมอื เทคนคิ LT มาจัดกระบวนการเรยี นรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชิก แตล่ ะคนภายในกลมุ่ มีบทบาทหน้าทข่ี องตนเอง ดังนี้ • สมาชิกคนที่ 1 : ทำหน้าที่เตรยี มวัสด-ุ อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการทดลอง เรอื่ ง ปฏกิ ิรยิ าระหวา่ ง กรดหรอื เบสกบั สารบางชนิด • สมาชกิ คนท่ี 2 : ทำหนา้ ทอ่ี า่ นวิธีการทดลอง ทำความเข้าใจ และอธบิ ายให้สมาชกิ ในกล่มุ ฟัง • สมาชิกคนท่ี 3 : ทำหนา้ ที่บันทกึ ผลการทดลอง • สมาชิกคนท่ี 4 และ 5 : ทำหนา้ ทนี่ ำเสนอผลการทดลอง 15. สมาชกิ ทกุ คนในกลุม่ ชว่ ยกันลงมือทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม) 16. นกั เรียนแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทน (สมาชกิ คนที่ 4 และ 5 ของกล่มุ ) ออกมานำเสนอผลการทดลอง หลงั จากนั้นใหน้ กั เรียนทกุ คนร่วมกันอภปิ รายผลการทดลองจนมีความเข้าใจที่ตรงกัน (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ ปฏบิ ัติการ) 17. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภิปรายและหาข้อสรปุ จากการปฏบิ ัติการทดลอง โดยใช้แนวคำถาม ดังน้ี 1) ผลิตภัณฑท์ เ่ี กดิ จากปฏิกิริยาระหว่างสารละลาย HCl กบั CaCO3 และปฏิกิริยาระหว่าง สารละลาย NaOH กับ FeCl3 มสี มบัติอยา่ งใด (แนวตอบ : ผลติ ภัณฑ์ที่เกดิ ขน้ึ เป็นเกลอื ) 2) เกลือที่เกิดจากปฏกิ ิริยาระหว่างสารละลาย HCl กับ CaCO3 และปฏกิ ริ ิยาระหวา่ ง สารละลาย NaOH กบั FeCl3 สามารถละลายนำ้ ได้หรือไม่ (แนวตอบ : เกลอื ทเ่ี กิดจากปฏกิ ริ ยิ าระหวา่ งสารละลาย HCl กับ CaCO3 สามารถ ละลายนำ้ ได้ สว่ นเกลอื ทีเ่ กิดจากปฏกิ ิรยิ าระหวา่ งสารละลาย NaOH กับ FeCl3 ไม่สามารถละลายนำ้ ได้) 18. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ ผลจากการทำการทดลอง โดยได้ขอ้ สรุปว่า “กรดและเบสสามารถทำ ปฏกิ ิริยากับสารอื่น แลว้ เกดิ เกลือตามชนิดของกรดและเบส หรือสารตัง้ ต้นที่เข้าทำปฏกิ ิริยากันได้ ซงึ่ เกลือท่เี กิดขึ้นอาจจะเป็นเกลอื ทไ่ี ม่ละลายนำ้ ก็ได้ หรือเป็นเกลอื ท่ีสามารถละลายนำ้ ได้”
19. ครตู ั้งคำถามใหน้ ักเรยี นร่วมกันอภปิ ราย เรื่อง ปฏกิ ริ ิยาสะเทิน เช่น 1) จงเขียนปฏิกริ ิยาสะเทนิ ระหวา่ งกรดกบั เบสต่อไปน้ี • HCl กบั Ca(OH)2 • HNO3 กบั NaOH (แนวตอบ : HCl กับ Ca(OH)2 เมือ่ ละลายน้ำจะแตกตัวเปน็ ไอออน ดังนี้ HCl (aq) + H2O (l) → H3O+ (aq) + Cl- (aq) H2O Ca(OH)2 (s) → Ca2+ (aq) + 2OH- (aq) ปฏกิ ริ ิยาสะเทิน คอื H3O+ (aq) + OH- (aq) ⇌ 2H2O (l) HNO3 กบั NaOH เมื่อละลายนำ้ จะแตกตัวเปน็ ไอออน ดงั นี้ HNO3 (aq) + H2O (l) → H3O+ (aq) + NO3- (aq) H2O NaOH (s) → Na+ (aq) + OH- (aq) ปฏกิ ริ ยิ าสะเทนิ คอื H3O+ (aq) + OH- (aq) ⇌ 2H2O (l) ) 2) จงเขยี นสมการแสดงปฏิกริ ิยาระหวา่ งกรดกับเบสต่อไปนี้ • H2SO4 กับ KOH • H2CO3 กับ NaOH (แนวตอบ : H2SO4 (aq) + 2KOH (aq) → K2SO4 (aq) + 2H2O (l) H2CO3 (aq) + 2NaOH (aq) → Na2CO3 (aq) + 2H2O (l) ) (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) ช่วั โมงท่ี 4 ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 20. ครูให้นักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5 คน (กลมุ่ เดมิ ) จากชัว่ โมงทผ่ี า่ นมา เพือ่ ทำการทดลอง เรือ่ ง การวัด pH ของสารละลายเกลือโดยใช้ยูนิเวอรซ์ ลั อินดิเคเตอร์ จากหนงั สือเรียนรายวิชา เพิม่ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 กรด-เบส 21. ครูใชร้ ปู แบบการเรียนรแู้ บบร่วมมอื เทคนิค LT มาจัดกระบวนการเรยี นรู้ โดยกำหนดให้สมาชกิ แตล่ ะคนภายในกล่มุ มีบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ดังน้ี • สมาชิกคนที่ 1 : ทำหนา้ ท่ีเตรยี มวสั ดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง เรอื่ ง การวดั pH ของ สารละลายเกลอื โดยใชย้ ูนิเวอรซ์ ัลอินดิเคเตอร์ • สมาชกิ คนท่ี 2 : ทำหนา้ ทอ่ี า่ นวธิ ีการทดลอง ทำความเขา้ ใจ และอธบิ ายให้สมาชิกในกลุ่ม ฟัง • สมาชกิ คนที่ 3 : ทำหน้าท่บี นั ทึกผลการทดลอง • สมาชกิ คนท่ี 4 และ 5 : ทำหนา้ ที่นำเสนอผลการทดลอง 22. สมาชกิ ทุกคนในกล่มุ ช่วยกันลงมือทำการทดลอง
23. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทน (สมาชกิ คนท่ี 4 และ 5 ของกลุ่ม) ออกมานำเสนอผลการทดลอง หลังจากน้ันให้นักเรียนทุกคนรว่ มกันอภปิ รายผลการทดลองจนมคี วามเข้าใจทตี่ รงกนั (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ ปฏิบัตกิ าร) 24. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายและหาข้อสรุปจากการปฏิบตั กิ ารทดลอง โดยใช้แนวคำถาม ดังน้ี 1) เกลือทไ่ี ดจ้ ากการทดลองแต่ละชนดิ มคี ่า pH เทา่ กันหรอื ไม่ (แนวตอบ : ไมเ่ ท่ากัน) 2) เกลอื ทไ่ี ด้จากการทดลองแต่ละชนิดมีสมบัติความเป็นกรด-เบสอยา่ งไร (แนวตอบ : NaCl มีสมบัติเป็นกลาง NH4Cl มีสมบตั เิ ป็นกรด และ CH3COONa มสี มบัติ เป็นเบส) 25. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปผลจากการทำการทดลอง ซงึ่ ไดข้ อ้ สรปุ วา่ “เกลอื ทลี่ ะลายน้ำได้อาจมี สมบตั เิ ปน็ กรด เบส หรือกลางกไ็ ด้ ขึน้ อยู่กบั ไอออนบวกและไอออนลบท่ีทำปฏิกิริยากัน” (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล) ชว่ั โมงท่ี 5 ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 27. นกั เรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 3 คน โดยแต่ละกลุ่มศึกษาเกี่ยวกบั ปฏกิ ิริยาสะเทนิ และปฏิกิรยิ าไฮโดร ลซิ ิส จากหนงั สือเรียนรายวิชาเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 กรด- เบส แล้วรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ จนเกิดความเข้าใจท่ีตรงกนั 28. นักเรยี นนำขอ้ มลู ทีไ่ ด้จากการคน้ ควา้ ทำเป็นรูปแบบตา่ ง ๆ ตามความคิดเหน็ ของแตล่ ะกล่มุ เช่น แผนภาพ แผนผงั เขียนบรรยาย (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) ขั้นที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 29. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนมานำเสนอเรื่องทีไ่ ดศ้ กึ ษาค้นควา้ ขอ้ มูลและผลงานการจัดทำข้อมลู ของกลุ่มตนเองหน้าชั้นเรยี นทลี ะกล่มุ เพือ่ แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ กนั จนครบทกุ กลุม่ (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน) 30. ครูตงั้ คำถามใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ ราย เรือ่ ง ปฏกิ ิรยิ าไฮโดรลซิ ิส ดงั นี้ 1) ไอออนใดในสารประกอบเกลือ Na2CO3 KNO3 (NH4)3PO4 และ NH4Cl สามารถ เกิดปฏิกริ ยิ าไฮโดรลซิ ิสได้ (แนวตอบ : Na2CO3 = CO32- KNO3 = ไม่มี (NH4)3PO4 = NH4+ และ PO43- NH4Cl = NH4+) 2) เมอื่ เกลือ KI Na2S และ Al2(SO4)3 ละลายในน้ำ สารละลายทไ่ี ดจ้ ะมสี มบัตเิ ปน็ กรด เบส หรือกลาง (แนวตอบ : KI เมอ่ื ละลายนำ้ สารละลายจะมีสมบัตเิ ป็นกลาง Na2S เมือ่ ละลายนำ้ สารละลายจะมีสมบัติเปน็ เบส Al2(SO4)3 เมื่อละลายนำ้ สารละลายจะมีสมบัติเป็นกรด)
6. ครูยกตวั อย่างโจทย์เกยี่ วกบั ปฏิกิรยิ าไฮโดรลซิ ิส โดยครเู ขียนโจทยแ์ ละแสดงวิธีทำให้นกั เรียนดู บนกระดาน ดงั นี้ เม่ือนำเกลอื KNO3 NH4Cl NaF NH4NO2 และ NH4CN มาละลายในนำ้ เกลือชนดิ ใดจะ เกิดปฏกิ ิริยาไฮโดรลิซิส ถา้ เกิดแลว้ สารละลายเกลือเหล่าน้ีมีสมบัติเปน็ กรด เบส หรอื กลาง พร้อม เขียนสมการแสดงปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลซิ ิสท่ีเกดิ ขน้ึ วิธีทำ KNO3 ไม่เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลิซิส เพราะ K+ และ NO3- มาจากเบสแก่และกรดแก่ ตามลำดบั NH4Cl เกดิ ปฏิกิริยาไฮโดรลซิ สิ ได้ สารละลายทม่ี ีสมบตั เิ ปน็ กรด ดงั สมการ H2O NH4Cl (aq) → NH4+ (aq) + Cl- (aq) NH4+ (aq) + H2O (l) ⇌ NH3 (aq) + H3O+ (aq) NaF เกดิ ปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลซิ ิสได้ สารละลายท่ีมีสมบัติเปน็ เบส ดงั สมการ H2O NaF (aq) → Na+ (aq) + F- (aq) F- (aq) + H2O (l) ⇌ HF (aq) + OH- (aq) NH4NO2 เกดิ ปฏกิ ิรยิ าไฮโดรลซิ สิ ได้ สารละลายท่ีมสี มบตั เิ ป็นกรด เนอ่ื งจากคา่ Kb ของ สารละลาย NO2- มีค่าน้อยกวา่ Ka ของสารละลาย NH4+ ในสารละลายมี H3O+ มากกวา่ OH- จึงมสี มบัติกรด เขียนสมการแสดงปฏิกิริยาได้ ดงั สมการ H2O NH4NO2 (aq) → NH4+ (aq) + NO2- (aq) NH4+ (aq) + H2O (l) ⇌ NH3 (aq) + H3O+ (aq) …. Ka = 5.6 × 10-10 NO2- (aq) + H2O (l) ⇌ HNO2 (aq) + OH- (aq) …. Kb = 2.2 × 10-11 NH4CN เกดิ ปฏิกริ ยิ าไฮโดรลิซิสได้ สารละลายทีม่ ีสมบตั ิเป็นเบส เน่ืองจากค่า Ka ของ สารละลาย NH4+ มีค่าน้อยกว่า Kb ของสารละลาย NO2- ในสารละลายมี OH- มากกว่า H3O+ จงึ มสี มบัตเิ บสเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาได้ ดังสมการ H2O NH4CN (aq) → NH4+ (aq) + CN- (aq) NH4+ (aq) + H2O (l) ⇌ NH3 (aq) + H3O+ (aq) …. Ka = 5.6 × 10-10 CN- (aq) + H2O (l) ⇌ HCN (aq) + OH- (aq) …. Kb = 2.0 × 10-5) 31. นักเรียนและครูรว่ มกันอภิปรายเพื่อหาขอ้ สรปุ เก่ยี วกบั ปฏิกริ ิยาไฮโดรลิซสิ ซ่ึงไดข้ ้อสรุปว่า “เกลือท่เี กิดจากไอออนของกรดแก่กบั ไอออนของเบสแกจ่ ะไมท่ ำปฏกิ ริ ยิ ากบั นำ้ จงึ ไม่ เกดิ ปฏกิ ริ ิยาไฮโดรลิซิส สว่ นเกลือทเี่ กดิ จากไอออนของกรดออ่ นหรือเบสอ่อนจะทำปฏิกิรยิ ากับ น้ำ จงึ เกดิ ปฏิกิรยิ าไฮโดรลซิ สิ ”
ช่วั โมงท่ี 6 ข้ันท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 30. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซักถามขอ้ สงสยั ในเนอื้ หา เรอ่ื ง ปฏกิ ิรยิ าระหวา่ งกรดและเบส วา่ มีสว่ น ไหนที่ยงั ไม่เขา้ ใจ และให้ความรเู้ พิ่มเตมิ ในสว่ นน้นั เพอ่ื จะใช้เปน็ ความรเู้ บื้องตน้ สำหรับการเรยี น ในเนื้อหาต่อ ๆ ไป 31. นักเรยี นทำใบงานที่ 4.8.1 เรือ่ ง ปฏกิ ิริยาระหว่างกรดและเบส 32. นักเรียนทำแบบฝึกหัด ในหนังสอื แบบฝกึ หัดรายวชิ าเพม่ิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 กรด-เบส 33. นกั เรียนทำ Topic Question จากหนังสอื เรียนรายวชิ าเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 กรด-เบส ลงในสมดุ ประจำตัว (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล) ข้ันสรุป ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล พฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 4.8.1 เรอ่ื ง ปฏกิ ิรยิ าระหว่างกรดและเบส 3. ครตู รวจสอบผลจากการทำแบบฝึกหัด 4. ครตู รวจสอบผลจากการทำ Topic Question 5. ครวู ดั และประเมินผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เร่ือง ปฏิกิรยิ าระหว่างกรดซลั ฟิวรกิ และ แบเรยี มไฮดรอกไซด์ 6. ครูวัดและประเมนิ ผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เร่อื ง ปฏกิ ิริยาระหวา่ งกรดซัลฟวิ รกิ และ โซเดยี มไฮดรอกไซด์ 7. ครูวัดและประเมินผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เรือ่ ง ปฏกิ ิรยิ าระหวา่ งกรดหรือเบสกับสาร บางชนดิ 8. ครูวดั และประเมนิ ผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เรื่อง การวัด pH ของสารละลายเกลือโดย ใช้ยูนเิ วอรซ์ ัลอินดิเคเตอร์ 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 7.1 ประเมินระหวา่ ง การจดั กิจกรรม การเรยี นรู้ 1) สารละลายอเิ ล็ก - ตรวจใบงานท่ี 4.8.1 - ใบงานท่ี 4.8.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ โทรไลตแ์ ละ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นอนอเิ ล็กโทรไลต์ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมดุ ประจำตัว - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การทดลอง เรอ่ื ง - ประเมินการปฎิบตั ิ - แบบประเมนิ การปฎบิ ัติ - ระดับคุณภาพ 2 ปฏกิ ริ ิยาระหว่าง การ การ ผา่ นเกณฑ์ กรดซลั ฟวิ ริกและ
รายการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ แบเรยี มไฮดรอก - ประเมนิ การปฎิบัติ - แบบประเมินการปฎบิ ตั ิ - ระดับคณุ ภาพ 2 ไซด์ การ การ ผา่ นเกณฑ์ 3) การทดลอง เร่อื ง - ประเมนิ การปฎบิ ัติ - แบบประเมินการปฎิบัติ - ระดับคุณภาพ 2 ปฏกิ ิริยาระหว่าง การ การ ผา่ นเกณฑ์ กรดซลั ฟวิ รกิ และ โซเดยี มไฮดรอก - ประเมนิ การปฎิบัติ - แบบประเมนิ การปฎิบตั ิ - ระดับคณุ ภาพ 2 ไซด์ การ การ ผา่ นเกณฑ์ 4) การทดลอง เรอ่ื ง - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมนิ การเสนอ - ระดับคณุ ภาพ 2 ปฏกิ ริ ยิ าระหว่าง ผลงาน ผลงาน ผา่ นเกณฑ์ กรดหรือเบสกับ สารบางชนดิ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2 การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ 5) การทดลอง เร่อื ง การวดั pH ของ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2 สารละลายเกลือ ผา่ นเกณฑ์ โดยใช้ยูนิเวอร์ซัล การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม อนิ ดิเคเตอร์ - ระดบั คุณภาพ 2 - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ 6) การนำเสนอ ผลงาน รับผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้ คณุ ลกั ษณะ 7) พฤติกรรม การทำงาน รายบคุ คล 8) พฤตกิ รรมการ ทำงานกลุ่ม 9) คุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ และมุง่ มนั่ ในการทำงาน อันพึงประสงค์ 8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพมิ่ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 กรด-เบส 2) หนังสือแบบฝึกหัดรายวชิ าเพ่มิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 กรด-เบส 3) ใบงานท่ี 4.8.1 เร่ือง ปฏิกริ ิยาระหว่างกรดและเบส 4) วสั ดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง เรือ่ ง ปฏกิ ริ ิยาระหวา่ งกรดซลั ฟิวรกิ และแบเรยี มไฮดรอกไซด์ 5) วัสดุ-อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการทดลอง เรอ่ื ง ปฏิกริ ยิ าระหวา่ งกรดซัลฟวิ รกิ และโซเดียมไฮดรอกไซด์ 6) วสั ดุ-อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นการทดลอง เรอื่ ง ปฏกิ ิรยิ าระหวา่ งกรดหรือเบสกบั สารบางชนดิ 7) วสั ดุ-อุปกรณท์ ใ่ี ช้ในการทดลอง เรื่อง การวดั pH ของสารละลายเกลอื โดยใชย้ นู ิเวอร์ซลั อินดิเคเตอร์ 8) สมดุ ประจำตวั
8.2 แหลง่ การเรียนรู้ - ห้องเรยี น 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................. (นางสาวกานดา วุฒเิ ศลา) ผู้เขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................... (นางกมลชนก เทพบุ) หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ขอ้ เสนอแนะของรองผอู้ ำนวยการกล่มุ บริหารงานวชิ าการ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ...................................................... (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผู้อำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ขอ้ เสนอแนะของผอู้ ำนวยการโรงเรียน ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................... (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
ใบงานท่ี 4.8.1 เบส เร่อื ง ปฏิกริ ิยาระหวา่ งกรดและเบส คำชแ้ี จง : ตอบคำถามเกี่ยวกบั ปฏกิ ริ ยิ าระหว่างกรดและเบส 1. จงอธิบายเกย่ี วกับปฏิกริ ิยาสะเทนิ 2. จงเขียนสมการแสดงปฏกิ ิรยิ าระหวา่ งกรดกบั เบสที่กำหนดใหต้ ่อไปน้ี 1) H2SO4 กับ Ca(OH)2 2) HBr กบั NaOH 3) HNO3 กับ Al(OH)3 3. เกลอื ทีก่ ำหนดใหต้ อ่ ไปนี้ เกิดจากกรดกบั เบสชนิดใด เกลอื กรด KI CaCO3 KCN Na2SO4 (CH3COO)2Ca 4. จงอธบิ ายเกย่ี วกับปฏกิ ิรยิ าไฮโดรลซิ ิส 5. จงเขียนสมการแสดงการดเกดิ ปฏิกิรยิ าไฮโดรลซิ ิสของเกลือทกี่ ำหนดให้ต่อไปน้ี 1) NH4Cl 2) CH3COOK 3) KNO3
ใบงานท่ี 4.8.1 เฉลย เรอ่ื ง ปฏิกริ ยิ าระหวา่ งกรดและเบส คำชี้แจง : ตอบคำถามเกยี่ วกับปฏิกิริยาระหวา่ งกรดและเบส 1. จงอธิบายเกยี่ วกับปฏกิ ริ ยิ าสะเทนิ ปฏกิ ริ ยิ าสะเทนิ คือ ปฏิกริ ิยาการถา่ ยโอน H+ ระหว่าง H3O+ จากกรด และ OH- จากเบส ได้ผลิตภัณฑ์ เปน็ เกลือกับนำ้ 2. จงเขยี นสมการแสดงปฏิกริ ิยาระหว่างกรดกบั เบสท่กี ำหนดใหต้ ่อไปนี้ 1) H2SO4 กบั Ca(OH)2 H2SO4 (aq) + Ca(OH)2 (aq) → CaSO4 (s) + 2H2O (l) 2) HBr กับ NaOH HBr (aq) + NaOH (aq) → NaBr (aq) + H2O (l) 3) HNO3 กบั Al(OH)3 3HNO3 (aq) + Al(OH)3 (aq) → Al(NO3)3 (aq) + 3H2O (l) 3. เกลือท่ีกำหนดให้ต่อไปนี้ เกดิ จากกรดกบั เบสชนดิ ใด เกลือ กรด เบส KI HI KOH CaCO3 H2CO3 Ca(OH)2 KCN HCN KOH Na2SO4 H2SO4 NaOH (CH3COO)2Ca CH3COOH Ca(OH)2 4. จงอธิบายเกย่ี วกบั ปฏิกริ ยิ าไฮโดรลซิ สิ ปฏิกริ ิยาไฮโดรลซิ สิ คือ ปฏกิ ริ ยิ าที่เกิดจากไอออนบวกหรือไอออนลบของเกลอื ทำปฏกิ ิริยากับนำ้ ได้ ผลติ ภัณฑ์เปน็ H3O+ หรอื OH- 5. จงเขยี นสมการแสดงการดเกิดปฏกิ ิริยาไฮโดรลซิ สิ ของเกลอื ทก่ี ำหนดให้ต่อไปนี้ 1) NH4Cl NH4Cl (s) → NH4+ (aq) + Cl- (aq) NH4+ (aq) + H2O (l) ⇌ NH3 (aq) + H3O+ (aq) 2) CH3COOK CH3COOK (s) → K+ (aq) + CH3COO- (aq) CH3COO- (aq) + H2O (l) ⇌ CH3COOH (aq) + OH- (aq) 3) KNO3 ไมเ่ กดิ ปฏกิ ิรยิ าไฮโดรลิซิส
วช-ร 06 แบบบันทึกหลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 10 เรอ่ื ง กรด-เบส แผนการเรยี นรู้ที่ 8 เรอ่ื ง ปฏิกิริยาระหวา่ งกรด-เบส รายวชิ า เคมี 4 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 รหัสวิชา ว 32204 ครผู ้สู อน นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา ตำแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย เวลาทีใ่ ช้ 6 ช่วั โมง ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ ค้นพบระหวา่ ง ปัญหาที่พบ แนวทางแกไ้ ข ท่ีมกี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ พฤตกิ รรม/การมีสว่ นรว่ มของผเู้ รียน ลงชื่อ ครผู ู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ตำแหนง่ ครูผูช้ ่วย
แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 เรื่อง กรด-เบส แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 9 เรอื่ ง การไทเทรตกรด-เบส รายวชิ า เคมี 4 รหสั วิชา ว 32204 ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 นำ้ หนกั เวลาเรยี น 1.5 หนว่ ยกจิ เวลาเรยี น 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 6 ช่ัวโมง 1. ผลการเรยี นรู้ 1. ทดลอง และอธบิ ายหลกั การการไทเทรต และเลอื กใช้อนิ ดเิ คเตอรท์ ่ีเหมาะสมสำหรับการไทเทรตกรด- เบส 2. คำนวณปริมาณสารหรือความเข้มข้นของสารละลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายของการไทเทรต สารละลายมาตรฐาน และจดุ สมมูลได้ (K) 2. คำนวณหาปรมิ าณกรดหรอื เบสท่ที ำปฏิกิริยาพอดกี นั โดยใช้ขอ้ มลู จากการไทเทรตได้ (K) 3. บอกประเภทของกรด-เบสที่ทำปฏิกริ ยิ ากนั โดยพิจารณาจากกราฟของการไทเทรตได้ (K) 4. ทดลองเพอ่ื ศึกษาการไทเทรตหาจุดยตุ ขิ องปฏิกริ ิยาระหว่างกรดแก่กบั เบสแกไ่ ด้ (P) 5. ทดลองเพื่อศึกษาการไทเทรตหาจุดสมมูลของปฏกิ ิรยิ าระหวา่ งกรดแก่กับเบสแกไ่ ด้ (P) 6. ทดลองเพอื่ ศกึ ษาการเลอื กอนิ ดิเคเตอร์ในการไทเทรตกรด-เบสได้ (P) 7. ใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์ทางวทิ ยาศาสตรไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง (P) 8. ปฏบิ ตั ติ ามข้ันตอนการทดลองไดอ้ ย่างถูกต้อง (P) 9. ตง้ั ใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้ รับผิดชอบต่อหนา้ ที่ทไี่ ด้รบั มอบหมาย (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรูเ้ พมิ่ เตมิ สาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่ - การไทเทรตเปน็ เทคนคิ ในการวิเคราะห์หา พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา ปริมาณ หรอื ความเขม้ ข้นของสารท่ีทำปฏิกริ ยิ า พอดีกัน จดุ ท่ีสารทำปฏกิ ิรยิ าพอดีกนั เรียกว่า จุดสมมูล ในทางปฏบิ ัติจดุ สมมูลของปฏิกิรยิ า อาจไม่สามารถสังเกตเหน็ ได้ จึงสงั เกตจากการ เปล่ียนสขี องอนิ ดเิ คเตอร์ เพือ่ บอกจดุ ยุตขิ อง การไทเทรต ดงั น้ันอนิ ดเิ คเตอร์ทเ่ี หมาะสมใน การไทเทรตกรด-เบสควรเปน็ อินดเิ คเตอรท์ ี่ เปลย่ี นสใี นชว่ ง pH ตรงกบั หรือใกล้เคยี งกบั pH ของสารละลาย ณ จดุ สมมลู - ปริมาณกรดและเบสท่ที ำปฏิกริ ยิ าพอดีกนั จาก การไทเทรตกรด-เบส สามารถนำไปคำนวณ
สาระการเรยี นรูเ้ พิม่ เติม สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน ความเข้มขน้ ของกรดหรอื เบสทตี่ อ้ งการทราบ ความเขม้ ขน้ ได้ 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การไทเทรตเป็นการหาปริมาณกรดและเบสทไี่ มท่ ราบคา่ ความเข้มข้น โดยการนำมาทำปฏิกิรยิ ากบั สารละลายมาตรฐานท่ีทราบความเข้มขน้ ซึ่งอาจเปน็ สารละลายกรดหรอื เบสก็ได้ จดุ ยุติ คือ จุดที่อนิ ดิเคเตอรเ์ ปลีย่ นสี จุดสมมูล คือ จดุ ท่ีสารละลายกรดและเบสทำปฏกิ ิรยิ าพอดกี ัน จดุ สมมูลจพมีค่าใกล้เคียงจุดยตุ เิ มื่อ เลือกใช้อิเนดเิ คเตอรท์ ่เี หมาะสมในการไทเทรต การไทเทรตระหวา่ งกรดแก่กับเบสแก่ ที่จุดสมมูล pH ของสารละลายมีค่าประมาณ 7 ความชนั ของ กราฟมีค่า pH 3-11 เลอื กใชอ้ ินดิเคเตอรท์ ่ีเปลย่ี นสใี นช่วงนี้ไดห้ ลายชนิด คือ เมทิลออเรนจ์เมทิลเรด โบรไทมอลบลู และฟินอล์ฟทาลีน การไทเทรตระหวา่ งกรดอ่อนกบั เบสแก่ ทจ่ี ดุ สมมูล pH ของสารละลายมีค่ามากกว่า 7 ความชนั ของ กราฟมคี า่ pH 7-11 เลอื กใชอ้ ินดเิ คเตอรท์ เี่ ปล่ยี นสใี นชว่ งน้ีได้ คอื ฟินอล์ฟทาลีน การไทเทรตระหว่างกรดแก่กับเบสอ่อน ทีจ่ ดุ สมมูล pH ของสารละลายมีค่าน้อยกวา่ 7 ความชันของ กราฟมีค่า pH 3-7 เลือกใชอ้ ินดเิ คเตอร์ที่เปลย่ี นสีในช่วงนีไ้ ด้ คอื เมทลิ ออเรนจ์ เมทลิ เรด 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินัย รับผิดชอบ 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 1) ทักษะการสงั เกต 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 2) ทักษะการสำรวจคน้ หา 3) ทกั ษะการทำงานร่วมกัน 5) ทักษะการวเิ คราะห์ 6) ทกั ษะการทดลอง 7) ทักษะการตคี วามหมายและลงข้อสรุป 8) ทกั ษะการลงความเห็นจากข้อมูล 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงท่ี 1 ขั้นนำ ข้ันที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครถู ามคำถาม Prior Knowledge จากหนงั สอื เรียนรายวิชาเพ่มิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5
เลม่ 2 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 กรด-เบส ว่า “การติดตามการทำปฏิกริ ยิ าระหวา่ งกรด-เบสสามารถ ทำได้โดยวิธีการใดบ้าง” ใหน้ ักเรียนร่วมกนั ตอบคำถาม จากนน้ั ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย เพ่ือนำไปสขู่ ้นั สอนตอ่ ไป (แนวตอบ : การไทเทรต) 2. ครูและนกั เรียนรว่ มกันทบทวนความร้เู กยี่ วกบั ปฏิกริ ยิ าระหวา่ งกรดซัลฟวิ ริกกบั แบเรียม ไฮดรอกไซด์ และกรดซลั ฟวิ ริกกบั โซเดียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งใชว้ ธิ ีตรวจการนำไฟฟา้ และ การเปล่ียนสขี องอินดเิ คเตอรเ์ พือ่ บอกจดุ ยุติ แล้วนำเขา้ ส่กู ารหาจดุ ยตุ ิของปฏิกริ ยิ าระหว่างกรด ไฮโดรคลอริกกับโซเดียมไฮดรอกไซด์ด้วยวธิ กี ารไทเทรต ข้ันสอน ขนั้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. นักเรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 5 คน เพอื่ ทำการทดลอง เรื่อง การไทเทรตหาจดุ ยุติของปฏกิ ริ ยิ า ระหวา่ งกรดแกก่ บั เบสแก่ จากหนังสือเรยี นรายวิชาเพ่มิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ย การเรียนรทู้ ่ี 4 กรด-เบส 2. ครใู ช้รปู แบบการเรียนรู้แบบรว่ มมือ เทคนิค LT มาจัดกระบวนการเรยี นรู้ โดยกำหนดให้สมาชิก แต่ละคนภายในกลมุ่ มีบทบาทหน้าทข่ี องตนเอง ดังน้ี • สมาชิกคนที่ 1 : ทำหน้าทเี่ ตรยี มวัสด-ุ อปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการทดลอง เร่ือง การไทเทรตหา จุดยตุ ิของปฏิกริ ิยาระหว่างกรดแกก่ ับเบสแก่ • สมาชกิ คนท่ี 2 : ทำหนา้ ทีอ่ ่านวธิ ีการทดลอง ทำความเข้าใจ และอธิบายให้สมาชิกในกลุ่ม ฟัง • สมาชกิ คนท่ี 3 : ทำหนา้ ทีบ่ ันทกึ ผลการทดลอง • สมาชิกคนที่ 4 และ 5 : ทำหน้าที่นำเสนอผลการทดลอง 3. สมาชิกทกุ คนในกล่มุ ช่วยกันลงมอื ทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ ) 4. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ สง่ ตวั แทน (สมาชิกคนที่ 4 และ 5 ของกลุ่ม) ออกมานำเสนอผลการทดลอง หลงั จากนนั้ ให้นกั เรยี นทุกคนร่วมกนั อภปิ รายผลการทดลองจนมีความเข้าใจท่ตี รงกัน (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบประเมนิ ปฏิบัตกิ าร) 6. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปผลจากการทำการทดลอง ซงึ่ ไดข้ ้อสรปุ วา่ “สารละลาย HCl มีสมบตั ิ เป็นกรด เมอ่ื หนดฟนี อล์ฟทาลีนลงไปจึงไม่เกิดการเปลย่ี นสี แต่เมอื่ หยด NaOH ลงไป OH- จาก NaOH จะไปทำปฏกิ ิริยากบั H3O+ จาก HCl สง่ ผลให้ pH ของสารละลายเพิ่มข้นึ เรอ่ื ย ๆ จนใน ตอนทา้ ยของการทดลอง อนิ ดเิ คเตอร์จะเปลย่ี นเป็นสชี มพูอ่อน เรียกภาวะน้ีวา่ จดุ ยุติ หรือ จดุ ส้ินสดุ การทดลอง ซ่ึงจะทราบปรมิ าตรของ NaOH ทท่ี ำปฏิกิริยาพอดกี บั HCl” 5. ครูอธิบายเกี่ยวกับความหมายของการไทเทรต สารละลายมาตรฐาน และจดุ สมมูล จากหนังสือ เรยี นรายวชิ าเพมิ่ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 กรด-เบส (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล)
ชว่ั โมงที่ 2 ข้ันที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 7. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ 5 คน เพื่อทำการทดลอง เรอื่ ง การไทเทรตหาจดุ สมมูลของปฏกิ ริ ยิ า ระหวา่ งกรดแก่กับเบสแก่ จากหนังสอื เรยี นรายวิชาเพ่มิ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ย การเรยี นรทู้ ี่ 4 กรด-เบส 8. ครูใช้รปู แบบการเรยี นรู้แบบรว่ มมือ เทคนคิ LT มาจัดกระบวนการเรยี นรู้ โดยกำหนดให้สมาชกิ แตล่ ะคนภายในกล่มุ มบี ทบาทหน้าท่ีของตนเอง ดังนี้ • สมาชิกคนที่ 1 : ทำหน้าทเ่ี ตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการทดลอง เรอื่ ง การไทเทรตหา จุดสมมลู ของปฏิกิรยิ าระหวา่ งกรดแก่กบั เบสแก่ • สมาชกิ คนท่ี 2 : ทำหนา้ ทอี่ ่านวธิ กี ารทดลอง ทำความเข้าใจ และอธิบายให้สมาชกิ ในกลุ่ม ฟัง • สมาชิกคนท่ี 3 : ทำหน้าทีบ่ ันทึกผลการทดลอง • สมาชิกคนที่ 4 และ 5 : ทำหนา้ ท่ีนำเสนอผลการทดลอง 9. สมาชิกทุกคนในกลุ่มช่วยกนั ลงมือทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม) 10. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทน (สมาชกิ คนที่ 4 และ 5 ของกลุ่ม) ออกมานำเสนอผลการทดลอง หลังจากนั้นให้นักเรยี นทุกคนรว่ มกนั อภปิ รายผลการทดลองจนมคี วามเข้าใจที่ตรงกนั (หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบประเมินปฏบิ ตั ิการ) 11. นกั เรยี นและครูร่วมกันอภปิ รายจนไดข้ อ้ สรปุ จากการทดลอง ดงั น้ี • จากกราฟ จะได้ pH ทจี่ ุดสมมูลของการไทเทรตระหว่างสารละลาย HCl กบั สารละลาย NaOH ประมาณ7 ซ่งึ ใกล้เคยี งกบั ค่า pH ที่จุดสมมูลของปฏิกิรยิ าระหว่างกรดแก่และเบส แก่ • จากกราฟสารละลาย NaOH ที่ทำปฏิกริ ิยาพอดีกบั สารละลาย HCl มีปรมิ าตรประมาณ 25 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร • จากผลการทดลองและจากกราฟของการไทเทรต สามารถบอกจดุ ยุติและจดุ สมมูลสำหรับ การไทเทรตสารละลายคูน่ ไ้ี ด้ โดยปรมิ าตรของสารละลาย NaOH ที่ใช้ ณ จดุ ยุติและจุด สมมูลมคี ่าใกล้เคยี งกันมาก จนถือว่าเป็นจดุ เดียวกัน ซง่ึ จุดยุติและจดุ สมมูลของการ ไทเทรตระหวา่ งกรดแกแ่ ละเบสแก่ค่อู นื่ ๆ กน็ า่ จะไดผ้ ลเชน่ เดยี วกัน (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล) ชว่ั โมงที่ 3 ขนั้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore) 12. นักเรียนแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 3 คน โดยแต่ละกลุม่ ศึกษาเก่ียวกบั การไทเทรตระหวา่ งกรดกับเบส จากหนงั สือเรยี นรายวชิ าเพ่ิมเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 กรด-เบส แล้วรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ จนเกดิ ความเข้าใจทตี่ รงกนั 13. นักเรยี นนำข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากการคน้ ควา้ ทำเปน็ รูปแบบตา่ ง ๆ ตามความคิดเหน็ ของแตล่ ะกลมุ่ เชน่ แผนภาพ แผนผัง เขยี นบรรยาย (หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ )
14. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนมานำเสนอเร่ืองที่ได้ศกึ ษาค้นควา้ ขอ้ มูลและผลงานการจดั ทำข้อมูล ของกลมุ่ ตนเองหน้าชัน้ เรียนทลี ะกลมุ่ เพ่อื แลกเปลี่ยนความคดิ เห็นกนั จนครบทกุ กลุ่ม (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ การนำเสนอผลงาน) 15. ครตู ง้ั คำถามใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั อภปิ ราย เร่ือง การไทเทรตระหว่างกรดกบั เบส เชน่ 1) ถ้าในนำ้ สม้ สายชมู ีกรดแอซตี ิกอยเู่ พยี งชนดิ เดียว จะมีวิธีการหาความเขม้ ข้นของกรด แอซตี กิ ได้อยา่ งไร (แนวตอบ : การจะทราบวา่ กรดแอซตี กิ มีความเข้มข้นเทา่ ใด จะตอ้ งทำนำ้ สม้ สายชชใู ห้ เจือจางแล้วนำมาไทเทรตกับสารละลายมาตรฐาน NaOH โดยใชฟ้ นี อลฟ์ ทาลีนเปน็ อินดิ เคเตอร์ เมือ่ ทราบปริมาตรของสารละลาย NaOH ทใี่ ช้ในการทำปฏิกิริยา ก็จะสามารถ นำมาคำนวณหาความเขม้ ข้นของกรดแอซีตกิ ในน้ำสม้ สายชูได)้ 2) กราฟของการไทเทรตระหว่างสารละลายกรดมอนอโปรติก A และ B ซงึ่ มคี วามเขม้ ข้น และปรมิ าตรเทา่ กนั กบั สารละลาย NaOH ได้ผลดังกราฟ A B • pH ท่จี ดุ สมมลู ของการไทเทรตสาร A และ B มีค่าเท่าใด (แนวตอบ : pH ทจ่ี ดุ สมมูลของการไทเทรตสาร A มคี ่าประมาณ 8 pH ทจี่ ุดสมมูลของการไทเทรตสาร B มีคา่ ประมาณ 6) • ถา้ การไทเทรตของ A แสดงด้วยกราฟเสน้ ประ และการไทเทรตของ B แสดงดว้ ย กราฟเส้นทบึ จงเปรียบเทยี บความแรงของกรด A และ B (แนวตอบ : ความแรงของกรด B มากกว่ากรด A) 16. นกั เรียนและครูร่วมกนั อภปิ รายเกีย่ วกับการไทเทรตระหว่างกรดกบั เบส ซึง่ ไดข้ ้อสรปุ ว่า “pH ณ จดุ สมมูลของการไทเทรตระหวา่ งสารละลายกรดและสารละลายเบสแต่ละคูข่ ึ้นอยู่กับชนิดของ สารละลายกรดและสารละลายเบสที่นำมาไทเทรตกัน ดังนี้ • จุดสมมลู ของการไทเทรตระหว่างสารละลายกรดแกก่ บั เบสแก่ ควรมี pH ประมาณ 7 • จดุ สมมูลของการไทเทรตระหว่างสารละลายกรดอ่อนกบั เบสแก่ ควรมี pH มากกวา่ 7 • จดุ สมมลู ของการไทเทรตระหว่างสารละลายกรดแกก่ บั เบสออ่ น ควรมี pH นอ้ ยกว่า 7 • จุดสมมูลของการไทเทรตระหวา่ งสารละลายกรดอ่อนกบั เบสอ่อน อาจมี pH มากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ หรือเท่ากับ 7 กไ็ ด้ ข้นึ อยู่กับค่า Ka และ Kb ของกรดกับเบสทีท่ ำปฏกิ ิริยา กัน” (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล)
ชวั่ โมงที่ 4 ขนั้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 17. ครตู ั้งคำถามเพ่อื กระต้นุ ความสนใจนกั เรียนว่า “ในการไทเทรตสารละลาย CH3COOH กบั สารละลาย NaOH ถ้าใชอ้ ินดิเคเตอรต์ ่างชนิดกนั จะให้ผลตา่ งกันหรอื ไม่” ซงึ่ ครูยังไมต่ อ้ งเฉลย คำตอบท่ถี กู ตอ้ งกบั นกั เรยี นเพอ่ื นำเขา้ สู่การทดลอง 18. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน เพ่ือทำการทดลอง เรือ่ ง การเลอื กอนิ ดเิ คเตอรใ์ นการไทเทรต กรด-เบส จากหนงั สอื เรียนรายวชิ าเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 กรด-เบส 19. ครูใช้รูปแบบการเรียนรูแ้ บบรว่ มมอื เทคนคิ LT มาจดั กระบวนการเรยี นรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนภายในกล่มุ มีบทบาทหนา้ ท่ีของตนเอง ดังน้ี • สมาชกิ คนที่ 1 : ทำหนา้ ทเี่ ตรยี มวสั ด-ุ อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการทดลอง เรื่อง การเลือกอนิ ดิเค เตอรใ์ นการไทเทรตกรด-เบส • สมาชกิ คนท่ี 2 : ทำหน้าทอ่ี า่ นวธิ กี ารทดลอง ทำความเข้าใจ และอธบิ ายให้สมาชกิ ในกลมุ่ ฟัง • สมาชิกคนที่ 3 : ทำหนา้ ทบี่ ันทึกผลการทดลอง • สมาชกิ คนท่ี 4 และ 5 : ทำหน้าทีน่ ำเสนอผลการทดลอง 20. สมาชกิ ทุกคนในกล่มุ ชว่ ยกนั ลงมอื ทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ) 21. นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทน (สมาชกิ คนที่ 4 และ 5 ของกลุม่ ) ออกมานำเสนอผลการทดลอง หลงั จากน้นั ใหน้ ักเรียนทุกคนรว่ มกนั อภิปรายผลการทดลองจนมีความเขา้ ใจทีต่ รงกนั (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบประเมนิ ปฏิบตั กิ าร) 22. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ ผลจากการทำการทดลอง ซึ่งไดข้ อ้ สรปุ วา่ “ในการไทเทรตกรด-เบส แต่ละคู่จำเปน็ ตอ้ งเลอื กใชอ้ นิ ดิเคเตอร์ท่ีเหมาะสม จึงจะสามารถบอกจุดยตุ ิที่ใกลเ้ คยี งกบั จดุ สมมลู มากทส่ี ดุ ” (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) ชัว่ โมงที่ 5 ข้นั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 23. นกั เรียนจับค่กู ับเพ่ือน โดยแต่ละคู่ศกึ ษาเกี่ยวกบั การเลอื กอนิ ดเิ คเตอรใ์ นการไทเทรตกรด-เบส จากหนังสือเรยี นรายวิชาเพมิ่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 กรด-เบส แล้วร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ จนเกิดความเข้าใจท่ีตรงกัน (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ ) ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 24. ครูตั้งคำถามใหน้ ักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย เรอื่ ง การเลือกอินดิเคเตอรใ์ นการไทเทรตกรด-เบส เช่น 1) จงบอกจดุ สมมูลของการไทเทรตสารละลายกรดกับเบสคตู่ ่อไปน้ี และสามารถใช้อนิ ดิ-เค เตอร์ชนดิ ใดไดบ้ ้าง เพราะเหตุใด • NH3 ดว้ ย HBr
(แนวตอบ : การไทเทรต NH3 ด้วย HBr เป็นการไทเทรตระหวา่ งเบสอ่อนกบั กรดแก่ จดุ สมมูลของปฏิกิรยิ าน้ีมี pH ต่ำกวา่ 7 จงึ ควรใช้อนิ ดเิ คเตอร์ท่ีเปลีย่ นสีในช่วงท่ีมี pH ต่ำกว่า 7 เช่น เมทิลออเรนจ์ เมทิลเรด) • CH3COOH ดว้ ย KOH (แนวตอบ : การไทเทรต CH3COOH ด้วย KOH เป็นการไทเทรตระหว่างกรดออ่ นกับ เบสแก่ จุดสมมูลของปฏกิ ริ ยิ านีม้ ี pH สงู กว่า 7 จึงควรใช้อนิ ดเิ คเตอร์ท่ีเปลย่ี นสีในชว่ ง ทีม่ ี pH สูงกวา่ 7 เช่น ฟนี อล์ฟทาลนี ) • H2SO4 ด้วย NaOH (แนวตอบ : การไทเทรต H2SO4 ด้วย NaOH เปน็ การไทเทรตระหว่างกรดแกก่ ับเบส แก่ จดุ สมมูลของปฏิกริ ิยาน้มี ี pH เท่ากับ 7 จึงควรใช้อินดเิ คเตอร์ที่เปลยี่ นสใี นช่วงท่ีมี pH ใกล้เคยี ง 7 เช่น โบรโมไทมอลบูล) 25. นักเรียนและครรู ่วมกันอภิปรายเพ่ือหาข้อสรปุ เกีย่ วกบั การเลือกอินดิเคเตอร์ในการไทเทรตกรด- เบส ซึง่ ได้ขอ้ สรปุ ดังน้ี • เลอื กอินดเิ คเตอรท์ ่มี ีช่วง pH ของการเปลยี่ นสตี รงกัน หรือใกลเ้ คยี งกับ pH ของ สารละลายของผลิตภัณฑ์ • พจิ ารณาจากกราฟของการไทเทรตกรด-เบส โดยดูช่วงของการเปลยี่ นแปลง pH ตรงส่วน ท่ชี ันทีส่ ุดว่ามีคา่ เทา่ ใด แล้วเลือกอินดิเคเตอร์ที่เปลีย่ นสใี นชว่ ง pH นัน้ (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล) ชัว่ โมงที่ 6 ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 26. ครูถามคำถาม BIG QUESTION จากหนังสอื เรยี นรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 กรด-เบส อกี คร้งั ดังน้ี • เม่อื นำสารละลายกรดและเบสมาทำปฏกิ ริ ยิ ากนั จะทราบได้อยา่ งไรวา่ สารทง้ั สองทำ ปฏกิ ิริยาพอดกี นั (แนวตอบ : นำสารทั้งสองมาทำการไทเทรตกนั จุดที่อินดเิ คเตอร์เปล่ยี นสี คอื จุดที่สารทั้ง สองทำปฏิกริ ิยาพอดีกนั ) 27. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั ในเนอื้ หา เรื่อง การไทเทรตกรด-เบส วา่ มีส่วนไหนท่ียงั ไมเ่ ข้าใจ และให้ความรเู้ พิ่มเติมในส่วนน้นั เพ่อื จะใช้เป็นความรู้เบือ้ งต้นสำหรบั การเรียนในเนอ้ื หา ตอ่ ๆ ไป 28. นักเรยี นทำใบงานที่ 4.9.1 เร่อื ง การไทเทรตกรด-เบส 29. นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ในหนงั สอื แบบฝึกหัดรายวชิ าเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 กรด-เบส 30. นักเรยี นทำ Topic Question จากหนงั สือเรยี นรายวชิ าเพิม่ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 กรด-เบส ลงในสมดุ ประจำตัว (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล)
ขัน้ สรปุ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครปู ระเมินผลนักเรยี น โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล พฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 4.9.1 เรอ่ื ง การไทเทรตกรด-เบส 3. ครตู รวจสอบผลจากการทำแบบฝกึ หัด 4. ครตู รวจสอบผลจากการทำ Topic Question 5. ครูวดั และประเมินผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เรอ่ื ง การไทเทรตหาจดุ ยุติของปฏิกริ ยิ า ระหวา่ งกรดแกก่ บั เบสแก่ 6. ครวู ัดและประเมินผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เรื่อง การไทเทรตหาจุดสมมลู ของปฏิกิรยิ า ระหว่างกรดแก่กับเบสแก่ 7. ครูวัดและประเมนิ ผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เร่อื ง การเลือกอนิ ดเิ คเตอรใ์ นการไทเทรต กรด-เบส 7. การวัดและประเมินผล รายการวดั วธิ ีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 ประเมนิ ระหวา่ ง การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) การไทเทรตกรด- - ตรวจใบงานท่ี 4.91 - ใบงานท่ี 4.9.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เบส - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมดุ ประจำตวั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การทดลอง เร่ือง - ประเมนิ การปฎิบัติ - แบบประเมินการปฎบิ ัติ - ระดบั คุณภาพ 2 การไทเทรตหาจุด การ การ ผา่ นเกณฑ์ ยตุ ขิ องปฏกิ ริ ิยา ระหว่างกรดแก่กับ เบสแก่ 3) การทดลอง เร่อื ง - ประเมินการปฎบิ ัติ - แบบประเมินการปฎบิ ัติ - ระดบั คณุ ภาพ 2 การ ผ่านเกณฑ์ การไทเทรตหาจุด การ สมมูลของ ปฏกิ ริ ยิ าระหว่าง กรดแกก่ ับเบสแก่ 4) การทดลอง เร่อื ง - ประเมินการปฎบิ ัติ - แบบประเมนิ การปฎบิ ัติ - ระดบั คณุ ภาพ 2 การ ผ่านเกณฑ์ ศกึ ษาการเลอื ก การ - แบบประเมนิ การเสนอ - ระดบั คุณภาพ 2 อนิ ดเิ คเตอร์ในการ ผลงาน ผ่านเกณฑ์ ไทเทรตกรด-เบส 5) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ ผลงาน ผลงาน
รายการวัด วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์การประเมิน 6) พฤติกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2 การทำงาน การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2 7) พฤติกรรมการ ผ่านเกณฑ์ ทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกล่มุ - ระดบั คุณภาพ 2 8) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมีวนิ ัย - แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ อันพงึ ประสงค์ รับผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้ คุณลักษณะ และมงุ่ มั่นในการทำงาน อนั พงึ ประสงค์ 8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 8.1 ส่อื การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรียนรายวชิ าเพมิ่ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 กรด-เบส 2) หนังสือแบบฝกึ หัดรายวิชาเพ่มิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 กรด-เบส 3) ใบงานท่ี 4.9.1 เรอ่ื ง การไทเทรตกรด-เบส 4) วัสดุ-อุปกรณท์ ใี่ ชใ้ นการทดลอง เร่อื ง การไทเทรตหาจดุ ยตุ ิของปฏิกิริยาระหวา่ งกรดแกก่ ับเบสแก่ 5) วสั ดุ-อปุ กรณท์ ี่ใช้ในการทดลอง เรอ่ื ง การไทเทรตหาจุดสมมลู ของปฏกิ ิรยิ าระหว่างกรดแกก่ ับเบส แก่ 6) วัสดุ-อุปกรณท์ ีใ่ ชใ้ นการทดลอง เร่ือง ศกึ ษาการเลอื กอนิ ดิเคเตอรใ์ นการไทเทรตกรด-เบส 7) สมุดประจำตวั 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ - ห้องเรยี น 9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ผเู้ ขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................... (นางกมลชนก เทพบ)ุ หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์
ขอ้ เสนอแนะของรองผ้อู ำนวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ...................................................... (นายวิเศษ ฟองตา) รองผ้อู ำนวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ ขอ้ เสนอแนะของผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชอื่ .................................................... (นายอดิศร แดงเรอื น) ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
ใบงานท่ี 4.9.1 เรื่อง การไทเทรตกรด-เบส คำชีแ้ จง : ตอบคำถามเก่ียวกับการไทเทรตกรด-เบส 1. นำน้ำสม้ สายชูจำนวน 10 กรัม มาไทเทรตกบั สารละลาย NaOH เข้มข้น 0.2 โมล/ลกู บาศกเ์ ดซเิ มตร เมอ่ื ถึงจดุ ยตุ ใิ ช้สารละลาย NaOH ไป 40 ลกู บาศก์เซนติเมตร ในนำ้ สม้ สายชูนี้จะมีกรดแอซีตกิ เข้มข้นคิดเป็น ร้อยละเทา่ ใดโดยมวล
2. สารละลาย HCl เข้มข้น 0.5 โมล/ลกู บาศก์เดซเิ มตร จำนวน 50 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร เมือ่ นำมาไทเทรตด้วย สารละลาย NaOH เข้มข้น 0.5 โมล/ลูกบาศกเ์ ดซิเมตร จำนวน 49.99 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร สารละลายผสม จะมคี ่า pH เทา่ ใด (กำหนดให้ log 5 = 0.6990)
3. สารละลาย Ca(OH)2 เขม้ ขน้ 0.25 โมล/ลกู บาศกเ์ ดซเิ มตร ไทเทรตพอดกี บั สารละลาย HCl เขม้ ข้น 0.5 โมล/ ลกู บาศก์เดซเิ มตร จำนวน 20 ลกู บาศก์เซนติเมตร สารละลาย Ca(OH)2 ทใี่ ช้มีปรมิ าตรเท่าใด 4. ยาลดกรดชนดิ หนึ่งมีแป้ง และ Mg(OH)2 เปน็ องค์ประกอบ เมอ่ื นำยาลดกรดชนดิ นจ้ี ำนวน 0.5 กรัม มาบดละเอยี ดแล้วผสมกบั น้ำ และนำมาไทเทรตด้วยสารละลาย HCl เข้มข้น 0.25 โมล/ลูกบาศก์เดซเิ มตร จนถงึ จุดยุติ ปรากฏวา่ ตอ้ งใช้สารละลายกรด HCl ปรมิ าตร 10 ลกู บาศกฌ์ ซนตเิ มตร หากต้องการนำยาลด กรดชนดิ น้ีมาทำปฏิกิรยิ ากบั กรดแอซตี กิ จำนวน 5 × 10-3 โมล จะตอ้ งใช้ยาลดกรดจำนวนกี่กรมั
5. ผสมสารละลาย CH3COOH เข้มข้น 0.01 โมล/ลูกบาศกเ์ ดซิเมตร จำนวน 250 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร เข้ากับ สารละลาย KOH เข้มขน้ 0.04 โมล/ลูกบาศกเ์ ดซเิ มตร จำนวน 400 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร สารละลายผสมท่ไี ด้ จะมีเกลือเข้มขน้ เท่าใด และสารละลายมีค่า pH เทา่ ใด (กำหนดให้ มวลอะตอมของ C = 12 H = 1 และ O = 16 Ka ของ CH3COOH = 1.8 × 10-5 และ log 1.35 = 0.1303)
ใบงานที่ 4.9.1 เฉลย เร่อื ง การไทเทรตกรด-เบส คำชแ้ี จง : ตอบคำถามเกย่ี วกับการไทเทรตกรด-เบส 1. นำนำ้ ส้มสายชจู ำนวน 10 กรมั มาไทเทรตกับสารละลาย NaOH เข้มขน้ 0.2 โมล/ลกู บาศกเ์ ดซิเมตร เม่อื ถงึ จดุ ยตุ ใิ ช้สารละลาย NaOH ไป 40 ลกู บาศก์เซนติเมตร ในนำ้ สม้ สายชนู จี้ ะมกี รดแอซีติกเข้มข้นคิดเป็น ร้อยละเท่าใดโดยมวล สารละลายผสม 1000 cm3 มี NaOH อยู่ 0.2 mol 0.2 × 40 สารละลายผสม 40 cm3 มี NaOH อยู่ 1000 = 8 × 10-3 mol CH3COOH (aq) + NaOH (aq) → CH3COONa (aq) + H2O (l) อัตราส่วนโดยโมลของ NaOH : CH3COOH = 1 : 1 ดังน้นั ใช้ CH3COOH ไป 8 × 10-3 mol CH3COOH 1 mol มีมวลโมเลกลุ 60 g CH3COOH 8 × 10-3 mol มมี วลโมเลกุล 60 × 8 × 10-3 = 0.48 g น้ำส้มสายชู 10 g มี CH3COOH อยู่ 0.48 g 0.48 × 100 นำ้ สม้ สายชู 100 g มี CH3COOH อยู่ 10 = 4.8 g ดงั นัน้ ในน้ำสม้ สายชนู จ้ี ะมี CH3COOH เขม้ ขน้ ร้อยละ 4.8 โดยมวล 2. สารละลาย HCl เขม้ ขน้ 0.5 โมล/ลกู บาศก์เดซเิ มตร จำนวน 50 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร เมอ่ื นำมาไทเทรตด้วย สารละลาย NaOH เขม้ ข้น 0.5 โมล/ลกู บาศก์เดซิเมตร จำนวน 49.99 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร สารละลายผสม จะมคี ่า pH เท่าใด (กำหนดให้ log 5 = 0.6990) สารละลาย HCl 1000 cm3 มี HCl 0.5 mol 0.5 × 50 สารละลาย HCl 50 cm3 มี HCl 1000 = 0.025 mol สารละลาย NaOH 1000 cm3 มี NaOH 0.5 mol 0.5 × 49.99 สารละลาย NaOH 49.99 cm3 มี NaOH 1000 = 0.024995 mol HCl (aq) + NaOH (aq) → NaCl (aq) + H2O (l) NaOH ทำปฏกิ ิรยิ าพอดกี ับ HCl ในอตั ราส่วน 1 : 1 ดงั นั้น เหลอื HCl = 5 × 10-6 mol/dm3 สารละลายปรมิ าตร 99.99 cm3 มี H3O+ อยู่ 5 × 10-6 mol 10-6 × สารละลายปริมาตร 1000 cm3 มี H3O+ อยู่ 5 × 99.99 1000 = 5 × 10-5 mol [H3O+] = 5 × 10-5 mol/dm3 pH = -log [H3O+] = -log (5 × 10-5) = 5 – log 5 = 5 – 0.699 = 4.301
3. สารละลาย Ca(OH)2 เขม้ ขน้ 0.25 โมล/ลูกบาศก์เดซเิ มตร ไทเทรตพอดีกบั สารละลาย HCl เข้มขน้ 0.5 โมล/ ลูกบาศก์เดซิเมตร จำนวน 20 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร สารละลาย Ca(OH)2 ทใ่ี ชม้ ปี รมิ าตรเทา่ ใด สารละลาย HCl 1000 cm3 มี HCl เหลืออยู่ 0.5 mol 0.5 × 20 สารละลาย HCl 20 cm3 มี HCl เหลืออยู่ 1000 = 0.01 mol 2HCl (aq) + Ca(OH)2 (aq) → CaCl2 (aq) + 2H2O (l) สารละลาย HCl 2 mol ทำปฏิกิริยาพอดีกับ Ca(OH)2 1 mol 1 × 0.01 สารละลาย HCl 0.01 mol ทำปฏิกริ ิยาพอดกี บั Ca(OH)2 2 = 5 × 10-3 mol สารละลาย Ca(OH)2 0.25 mol ละลายในสารละลาย 1000 cm3 10-3 สารละลาย Ca(OH)2 5 × 10-3 mol ละลายในสารละลาย 1000 ×5 × = 20 cm3 0.25 ดังน้ัน สารละลาย Ca(OH)2 ท่ีใชม้ ีปริมาตรเท่ากบั 20 ลกู บาศก์เซนติเมตร 4. ยาลดกรดชนิดหนง่ึ มแี ป้ง และ Mg(OH)2 เป็นองค์ประกอบ เม่ือนำยาลดกรดชนิดน้จี ำนวน 0.5 กรมั มาบดละเอยี ดแล้วผสมกบั น้ำ และนำมาไทเทรตด้วยสารละลาย HCl เขม้ ขน้ 0.25 โมล/ลกู บาศก์เดซเิ มตร จนถึงจุดยุติ ปรากฏวา่ ตอ้ งใช้สารละลายกรด HCl ปรมิ าตร 10 ลกู บาศก์ฌซนตเิ มตร หากตอ้ งการนำยาลด กรดชนิดนีม้ าทำปฏกิ ิริยากับกรดแอซตี กิ จำนวน 5 × 10-3 โมล จะต้องใช้ยาลดกรดจำนวนกกี่ รมั สารละลาย HCl 1000 cm3 มี HCl เหลืออยู่ 0.25 mol 0.25 × 10 สารละลาย HCl 10 cm3 มี HCl เหลอื อยู่ 1000 = 2.5 × 10-3 mol 2HCl (aq) + Mg(OH)2 (aq) → MgCl2 (aq) + 2H2O (l) จากสมการ HCl 2 mol ทำปฏกิ ิรยิ าพอดกี บั Mg(OH)2 1 mol 1 ×2.5 × 10-3 HCl 2.5 × 10-3 mol ทำปฏกิ ิริยาพอดีกับ Mg(OH)2 2 = 1.25 ×10-3 mol ดังนั้น ยาลดกรด 0.5 g มี Mg(OH)2 อยู่ 1.25 ×10-3 mol 2CH3COOH (aq) + Mg(OH)2 (aq) → (CH3COO)2Mg (aq) + 2H2O (l) จากสมการ CH3COOH 2 mol ทำปฏิกิริยาพอดกี ับ Mg(OH)2 1 mol 1 × 5 × 10-3 CH3COOH 5 × 10-3 mol ทำปฏกิ ิรยิ าพอดีกับ Mg(OH)2 2 = 2.5 ×10-3 mol Mg(OH)2 1.25 ×10-3 mol อยู่ในยาลดกรด 0.5 g × 10-3 Mg(OH)2 2.5 ×10-3 mol อยูใ่ นยาลดกรด 0.5 × 2.5 10-3 = 1 g 1.25 × ดงั นน้ั จะต้องใชย้ าลดกรดจำนวน 1 กรัม
5. ผสมสารละลาย CH3COOH เขม้ ข้น 0.01 โมล/ลูกบาศกเ์ ดซิเมตร จำนวน 250 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร เข้ากับ สารละลาย KOH เข้มข้น 0.04 โมล/ลูกบาศกเ์ ดซเิ มตร จำนวน 400 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร สารละลายผสมท่ไี ด้ จะมเี กลือเขม้ ขน้ เท่าใด และสารละลายมีคา่ pH เทา่ ใด (กำหนดให้ มวลอะตอมของ C = 12 H = 1 และ O = 16 Ka ของ CH3COOH = 1.8 × 10-5 และ log 1.35 = 0.1303) สารละลาย CH3COOH 1000 cm3 มี CH3COOH อยู่ 0.01 mol 0.01 × 250 สารละลาย CH3COOH 250 cm3 มี CH3COOH อยู่ 1000 = 2.5 × 10-3 mol สารละลาย KOH 1000 cm3 มี KOH อยู่ 0.04 mol 0.04 × 400 สารละลาย KOH 400 cm3 มี KOH อยู่ 1000 = 0.016 mol CH3COOH (aq) + KOH (aq) → CH3COOK (aq) + H2O (l) ความเขม้ ข้นเร่มิ ตน้ 2.5 × 10-3 0.016 - mol/dm3 ความเขม้ ข้นท่ีใช้ไปหรือเกิดขึ้น 2.5 × 10-3 2.5 × 10-3 2.5 × 10-3 mol/dm3 2.5 × 10-3 mol/dm3 ความเขม้ ขน้ คงเหลือ - 0.0135 สารละลายผสม 650 cm3 มี CH3COOK อยู่ 2.5 × 10-3 mol × 10-3 ×1000 สารละลายผสม 1000 cm3 มี CH3COOK อยู่ 2.5 650 = 3.846 × 10-3 mol ดังนนั้ สารละลายผสมมี CH3COOK เขม้ ข้น 3.846 × 10-3 mol/dm3 สารละลายผสม 650 cm3 มี KOH เหลืออยู่ 0.0135 mol 0.0135 × 1000 สารละลายผสม 1000 cm3 มี KOH เหลืออยู่ 650 = 0.0207 mol ดงั น้นั สารละลายผสมมี KOH เหลอื อยูเ่ ขม้ ข้น 0.0207 mol/dm3 KOH เป็นเบสแก่ แตกตวั ให้ OH- ไดม้ ากกวา่ เกลือ CH3COOK ดังน้ัน [OH-] = [KOH] = 0.0135 mol/dm3 pOH = -log [OH-] = -log (0.0135) = 2 – log 1.35 = 2 – 0.1303 = 1.8697 pH = 14 – pOH = 14 – 1.8697 = 12.1303
วช-ร 06 แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชื่อหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 10 เรอ่ื ง กรด-เบส แผนการเรยี นรทู้ ่ี 9 เรอ่ื ง การไทเทรตกรด-เบส รายวิชา เคมี 4 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 รหสั วชิ า ว 32204 ครูผ้สู อน นางสาวกานดา วุฒเิ ศลา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย เวลาที่ใช้ 6 ช่ัวโมง ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ทีม่ ีการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนรว่ มของผูเ้ รียน ลงชอ่ื ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวกานดา วฒุ ิเศลา) ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย
แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 10 เรื่อง กรด-เบส แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 เร่ือง สารละลายบัฟเฟอร์ รายวชิ า เคมี 4 รหสั วิชา ว 32204 ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 นำ้ หนกั เวลาเรยี น 1.5 หน่วยกิจ เวลาเรยี น 3 ชวั่ โมง/สัปดาห์ เวลาทีใ่ ช้ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 4 ช่ัวโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายสมบัติ องค์ประกอบ และประโยชนข์ องสารละลายบฟั เฟอร์ 2. สบื ค้นข้อมูล และนำเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชนแ์ ละการแกป้ ญั หาโดยใช้ความรเู้ กีย่ วกับกรด–เบส 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1 บอกส่วนประกอบของสารละลายบัฟเฟอรไ์ ด้ (K) 2. อธิบายสมบัติของสารละลายบฟั เฟอรไ์ ด้ (K) 3. อธบิ ายการเปลยี่ นแปลงทเ่ี กดิ ขึน้ กบั ระบบบัฟเฟอรใ์ นร่างกายและในธรรมชาตไิ ด้ (K) 4. ทดลองเพอ่ื ศึกษา pH ของสารละลายบัฟเฟอร์ เมื่อเติมกรดหรือเบสลงไปได้ (P) 5. ใช้เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ทางวิทยาศาสตรไ์ ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (P) 6. ปฏบิ ัตติ ามข้ันตอนการทดลองได้อยา่ งถูกต้อง (P) 7. ตัง้ ใจเรียนรู้และแสวงหาความรู้ รับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีทไ่ี ด้รับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพ่มิ เตมิ สาระการเรยี นร้ทู ้องถนิ่ - สารละลายบฟั เฟอร์เป็นสารละลายของกรดอ่อน พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา กับเกลอื ของกรดอ่อนน้ัน หรอื เบสออ่ นกับเกลอื ของเบสอ่อนนัน้ เมื่อเติมกรด เบส หรือนำ้ จะมีผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงค่า pH นอ้ ยกว่า สารละลายทวั่ ไป สมบัตเิ ฉพาะของสารละลาย บฟั เฟอรเ์ ป็นประโยชน์ต่อการควบคุม pH ของระบบในส่ิงมชี ีวติ และส่งิ แวดล้อม - ความรูเ้ ก่ียวกับกรด-เบส สามารถนำมาใช้ ประโยชน์ และแก้ปัญหาในชีวิตประจำวนั เกษตรกรรม อตุ สาหกรรม และการแพทย์ 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด สารละลายบัฟเฟอร์ เปน็ สารละลายทมี่ ีสมบัตใิ นการควบคุม pH ของสารละลายให้คงท่ี เมือ่ มีการเติม กรดแก่หรอื เบสแก่ลงไปเล็กนอ้ ย ประกอบดว้ ยกรดออ่ นกบั เกลอื ของกรดอ่อน หรือเบสออ่ นกับเกลือของเบส อ่อน
สารละลายทมี่ ีกรดออ่ นกับเกลือของกรดออ่ นชนิดนนั้ หรือกรดอ่อนกับคูเ่ บสของกรดออ่ น เรียกวา่ บฟั เฟอรก์ รด เมอ่ื เตมิ H+ จากกรดแกล่ งไป คเู่ บสจะทำปฏิกิริยากับ H+ ทเ่ี ตมิ ลงไป ทำให้ pH ลดลงไม่เกิน 0.01 ซึ่งถือว่าคงท่ี เม่อื เติม OH- จากเบสแก่ลงไป กรดอ่อนจะทำปฏกิ ริ ิยากบั OH- ที่เติมลงไป ทำให้ pH เพ่ิมข้นึ ไมเ่ กิน 0.01 ซ่งึ ถอื วา่ คงท่ี สารละลายท่ีมีเบสออ่ นกบั เกลือของเบสออ่ นชนิดนน้ั หรือเบสออ่ นกบั คูก่ รดของเบสอ่อน เรียกว่า บัฟเฟอร์เบส เมื่อเตมิ H+ จากกรดแก่ลงไป เบสอ่อนจะทำปฏิกริ ยิ ากบั H+ ทีเ่ ติมลงไป ทำให้ pH ลดลง ไมเ่ กนิ 0.01 ซึ่งถอื วา่ คงที่ เมอ่ื เติม OH- จากเบสแกล่ งไป คู่กรดจะทำปฏิกริ ยิ ากับ OH- ท่ีเตมิ ลงไป ทำให้ pH เพ่ิมขึน้ ไม่เกนิ 0.01 ซง่ึ ถอื วา่ คงที่ 5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย รับผิดชอบ 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทักษะการสังเกต 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 2) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา 3) ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 4) ทักษะการวเิ คราะห์ 5) ทกั ษะการทดลอง 6) ทักษะการตคี วามหมายและลงขอ้ สรุป 7) ทักษะการลงความเหน็ จากข้อมูล 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชั่วโมงที่ 1 ขั้นนำ ขน้ั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครถู ามคำถาม Prior Knowledge จากหนงั สือเรียนรายวชิ าเพ่มิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 กรด-เบส วา่ เพราะเหตใุ ดสารละลายกรดหรอื เบสตา่ งชนิดกนั จงึ มีค่า pH ตา่ งกัน ให้นกั เรียนรว่ มกันตอบคำถาม จากนั้นครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั อภิปราย (แนวตอบ : เน่ืองจากสารละลายกรดหรือเบสแต่ละชนิดจะมีความเข้มข้นของ H3O+ และ OH- ไมเ่ ทา่ กัน จึงทำใหม้ ีค่า pH ตา่ งกัน) 2. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ทบทวนความรจู้ ากการศกึ ษาที่ผา่ นมาเมอื่ หยดกรดหรอื เบสลงใน สารละลาย จะทำให้ pH ของสารละลายเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ เน่ืองจากความเขม้ ข้นของ H3O+ และ OH- เปลี่ยนแปลง
ข้นั สอน ข้ันที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน เพ่อื ทำการทดลอง เรอ่ื ง การเปลีย่ นแปลง pH ของสารละลาย บางชนดิ จากหนังสอื เรยี นรายวิชาเพ่ิมเตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 กรด-เบส 2. ครูใช้รปู แบบการเรียนรูแ้ บบรว่ มมือ เทคนคิ LT มาจัดกระบวนการเรยี นรู้ โดยกำหนดให้สมาชกิ แต่ละคนภายในกลมุ่ มบี ทบาทหน้าทข่ี องตนเอง ดังน้ี • สมาชกิ คนท่ี 1 : ทำหนา้ ที่เตรยี มวัสด-ุ อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการทดลอง เรอ่ื ง การเปลย่ี นแปลง pH ของสารละลายบางชนดิ • สมาชิกคนท่ี 2 : ทำหน้าท่อี า่ นวธิ ีการทดลอง ทำความเข้าใจ และอธิบายให้สมาชกิ ในกลุ่ม ฟัง • สมาชกิ คนท่ี 3 : ทำหนา้ ทีบ่ นั ทกึ ผลการทดลอง • สมาชิกคนท่ี 4 และ 5 : ทำหนา้ ทีน่ ำเสนอผลการทดลอง 3. สมาชิกทุกคนในกลุม่ ชว่ ยกนั ลงมือทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม) 4. นักเรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทน (สมาชกิ คนที่ 4 และ 5 ของกลุ่ม) ออกมานำเสนอผลการทดลอง หลงั จากนน้ั ใหน้ กั เรียนทุกคนร่วมกันอภิปรายผลการทดลองจนมีความเข้าใจท่ีตรงกัน (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ ปฏิบัตกิ าร) 5. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ผลจากการทำการทดลอง ซึง่ ไดข้ ้อสรปุ วา่ “เมื่อเตมิ สารละลาย NaOH หรอื สารละลาย HCI จำนวนเล็กน้อยลงในน้ำกลั่น ทำให้คา่ pH ของน้ำเปลย่ี นไปอยา่ ง มาก สังเกตไดจ้ ากการเปลย่ี นสขี องอนิ ดเิ คเตอร์ แต่เม่ือเตมิ สารละลาย NaOH หรอื สารละลาย HCI จำนวนเทา่ กนั ลงในสารละลายผสมของ CH3COOH กับ CH3COONA ค่า pH ของ สารละลายผสมจะเปลย่ี นแปลงไปนอ้ ยมาก จงึ กลา่ วได้วา่ สารละลายผสมของ CH3COOH กับ CH3COONA มสี มบตั ใิ นการควบคมุ pH” ชั่วโมงที่ 2 ข้ันที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 6. นักเรยี นจับค่กู ับเพอ่ื น โดยแต่ละคู่ร่วมกันศึกษาเรื่อง สารละลายบฟั เฟอร์ จากหนังสอื เรยี น รายวชิ าเพ่มิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 กรด-เบส แลว้ ร่วมกนั แสดง ความคิดเหน็ จนเกดิ ความเขา้ ใจทตี่ รงกนั (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม) 7. ครสู มุ่ ตวั แทนนักเรียน 1 คู่ ออกมาอธิบายเร่อื งทไ่ี ดศ้ ึกษาให้เพ่ือนฟังหน้าช้ันเรียน โดยครูคอย เสริมความรู้เพิ่มเตมิ เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจทถ่ี ูกต้อง 8. ครูต้งั คำถามให้นักเรียนรว่ มกันอภปิ ราย เรอ่ื ง สารละลายบฟั เฟอร์ ดงั น้ี 1) สารละลายบฟั เฟอร์หมายถงึ อะไร (แนวตอบ : สารละลายท่มี ีสมบตั ิในการควบคุม pH ของสารละลายให้คงท่ี เมอื่ มกี าร เติมกรดแก่หรอื เบสแก่ลงไปเลก็ นอ้ ย ประกอบด้วยกรดอ่อนกบั เกลือของกรดอ่อน หรอื เบสออ่ นกับเกลอื ของเบสออ่ น)
2) เพราะเหตุใดเม่ือเติมกรดแกป่ ริมาณเลก็ นอ้ ยลงไปในระบบทป่ี ระกอบด้วยสารละลาย CH3COOH และ CH3COONa ค่า pH ของสารละลายจึงเกิดการเปลีย่ นแปลงน้อยมาก (แนวตอบ : ไอออนต่าง ๆ ทอ่ี ยูใ่ นระบบ มีดังน้ี CH3COOH (aq) + H2O (l) ⇌ CH3COO- (aq) + H3O+ (aq) CH3COONa (aq) → Na+ (aq) + CH3COO- (aq) เมอื่ เติม H3O+ ลงไปเล็กน้อย CH3COO- จะไปทำปฏกิ ิริยากบั H3O+ เกดิ เปน็ CH3COOH ซ่ึงทำใหค้ วามเข้มขน้ ของ H3O+ ในสารละลายเปลี่ยนแปลงไปนอ้ ยมาก ค่า pH ของสารละลายจึงเปล่ยี นแปลงนอ้ ยมาก) 3) จงเขียนสมการแสดงปฏกิ ริ ิยาการควบคมุ pH ของสารละลายบัฟเฟอร์เม่อื เตมิ กรดหรือ เบสลงไป • เมอื่ เตมิ กรดลงในสารละลายบฟั เฟอร์ HCN/CN- (แนวตอบ : H3O+ (aq) + CN- (aq) ⇌ H2O (l) + HCN (aq) ) • เมือ่ เตมิ เบสลงในสารละลายบฟั เฟอร์ HCN/CN- (แนวตอบ : OH- (aq) + HCN (aq) ⇌ H2O (l) + CN- (aq) ) (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล) ชัว่ โมงที่ 3 ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 9. นักเรยี นจบั คกู่ บั เพอ่ื น โดยแตล่ ะค่รู ว่ มกันศกึ ษา เรื่อง สารละลายบฟั เฟอรใ์ นรา่ งกายและใน ธรรมชาติ จากหนังสอื เรยี นรายวชิ าเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 กรด-เบส (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม) ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) 10. ครูสุ่มตวั แทนนักเรียน 1 คู่ ออกมาอธบิ ายเรอื่ งทไี่ ด้ศึกษาให้เพอ่ื นฟังหนา้ ชนั้ เรยี น โดยครูคอย เสรมิ ความรู้เพม่ิ เตมิ เพ่อื ให้นักเรียนเกิดความเข้าใจที่ถกู ต้อง 11. ครูตงั้ คำถามให้นกั เรียนร่วมกนั อภปิ ราย เรอ่ื ง สารละลายบัฟเฟอรใ์ นร่างกายและในธรรมชาติ ดงั น้ี 1) คนไข้รายหนง่ึ ถกู ตรวจพบว่า มี pH ของเลอื ดสงู กวา่ ปกติ แพทยจ์ งึ ให้คนไข้หายใจ เข้า-ออกในถงุ กระดาษเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แพทย์ทำเชน่ น้เี พื่ออะไร (แนวตอบ : การหายใจเข้า-ออกในถงุ กระดาษเป็นระยะเวลาสั้น ๆ จะชว่ ยเพมิ่ ความ เขม้ ขน้ ของ CO2 ในถงุ กระดาษ เมื่อคนไข้หายใจเขา้ จะทำให้ความดนั ยอ่ ยของ CO2 ในเลอื ดเพม่ิ ข้นึ CO2 จะละลายในเลอื ดเกิดเป็นกรด H2CO3 เพ่มิ ขน้ึ สง่ ผลให้ pH ของเลอื ดลดลง) 2) เพราะเหตุใดน้ำทะเลจึงมคี ่า pH ค่อนข้างคงทอ่ี ยู่ที่ประมาณ 8.1-8.2 (แนวตอบ : เนือ่ งจากนำ้ ทะเลมีสารและไอออนทค่ี อยควบคุมบฟั เฟอร์ เชน่ กรดคารบ์ อนกิ (H2CO3) ไฮโดรเจนคาร์บอเนตไอออน (HCO3-) และคารบ์ อเนตไอออน (CO32-) ดงั นัน้ เมอ่ื นำ้ ทะเลถกู รบกวน เชน่ เตมิ กรดลงไป จึงทำให้เกิดการเปล่ยี นแปลง ไปเลก็ นอ้ ย ดงั สมการ HCO3- (aq) + H3O+ (aq) ⇌ H2CO3 (aq) + H2O (l)
CO32- (aq) + H3O+ (aq) ⇌ HCO3- (aq) + H2O (l) นอกจากน้ใี นนำ้ ทะเลยงั มี CaCO3 ซงึ่ สามารถกำจัด H3O+ ได้ ดงั สมการ CaCO3 (s) + H3O+ (aq) → Ca2+ (aq) + HCO3- (aq) + H2O (l) ) (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ชวั่ โมงท่ี 4 ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 12. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสยั ในเนื้อหา เรอื่ ง สารละลายบัฟเฟอร์ วา่ มีส่วนไหนทีย่ งั ไม่ เข้าใจ และให้ความรู้เพิ่มเติมในสว่ นนนั้ เพอ่ื จะใชเ้ ปน็ ความรเู้ บอ้ื งต้นสำหรบั การเรียนในเน้อื หา ตอ่ ๆ ไป 13. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 4.10.1 เร่ือง สารละลายบฟั เฟอร์ 14. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด ในหนงั สอื แบบฝึกหดั รายวชิ าเพ่มิ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 กรด-เบส 15. นักเรยี นทำ Topic Question จากหนงั สอื เรยี นรายวิชาเพ่ิมเตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 กรด-เบส ลงในสมดุ ประจำตัว 16. นักเรียนอ่าน summary ประจำหน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 กรด-เบส จากหนังสอื เรียนรายวชิ าเพิ่มเติม วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 กรด-เบส เพื่อเป็นการทบทวนความเข้าใจใน เนือ้ หาท่ีเรยี นมา 17. นักเรียนทำ Self Check จากหนังสือเรียนรายวชิ าเพิม่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วย การเรียนรทู้ ่ี 4 กรด-เบส ลงในสมดุ ประจำตัว เพ่ือตรวจสอบตนเอง 18. นักเรียนทำ Unit Question 4 จากหนงั สือเรยี นรายวชิ าเพม่ิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 กรด-เบส ลงในสมุดประจำตัว 19. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 กรด-เบส (หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) ขน้ั สรุป ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครปู ระเมินผลนกั เรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล พฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ 2. ครตู รวจสอบผลการทำแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 กรด-เบส 3. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 4.10.1 เรอื่ ง สารละลายบฟั เฟอร์ 4. ครตู รวจสอบผลจากการทำแบบฝกึ หัด 5. ครตู รวจสอบผลจากการทำ Topic Question 6. ครตู รวจสอบผลจากการทำ Self Check 7. ครูตรวจสอบผลจากการทำ Unit Question 8. ครูวัดและประเมินผลจากการนำเสนอผลการทดลอง เรอ่ื ง การเปลี่ยนแปลง pH ของสารละลาย บางชนิด
7. การวดั และประเมินผล รายการวดั วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 7.1 ประเมินระหว่าง การจัดกิจกรรม การเรยี นรู้ 1) สารละลาย - ตรวจใบงานที่ 4.10.1 - ใบงานที่ 4.10.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ บัฟเฟอร์ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตัว - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) การทดลอง เรื่อง - ประเมนิ การปฎิบัติ - แบบประเมนิ การปฎบิ ัติ - ระดบั คุณภาพ 2 การเปลี่ยนแปลง การ การ ผ่านเกณฑ์ pH ของ สารละลายบาง ชนดิ 3) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2 การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ การทำงาน การทำงานรายบุคคล รายบคุ คล 4) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2 ทำงานกลมุ่ การทำงานกลมุ่ การทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์ 5) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี ินยั - แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพ 2 อันพงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ รบั ผิดชอบ ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ 7.2 การประเมินหลงั และม่งุ ม่ันในการทำงาน อนั พึงประสงค์ เรียน - แบบทดสอบหลัง - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลงั เรยี น - ประเมินตามสภาพจริง เรียน หนว่ ยการ หลังเรยี น หนว่ ยการ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรยี นรู้ที่ 4 กรด- เรยี นรทู้ ่ี 4 กรด-เบส กรด-เบส เบส 8. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียนรายวิชาเพม่ิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 2) หนังสอื แบบฝึกหัดรายวชิ าเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 กรด-เบส 3) ใบงานที่ 4.10.1 เรอื่ ง สารละลายบฟั เฟอร์ 4) วสั ดุ-อปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการทดลอง เรอ่ื ง การเปล่ียนแปลง pH ของสารละลายบางชนิด 5) สมุดประจำตัว 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ - ห้องเรยี น
9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกานดา วุฒเิ ศลา) ผเู้ ขียนแผนการจัดการเรยี นรู้ ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................... (นางกมลชนก เทพบ)ุ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ...................................................... (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ข้อเสนอแนะของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชือ่ .................................................... (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31
ใบงานที่ 4.10.1 เรือ่ ง สารละลายบฟั เฟอร์ คำชแ้ี จง : ตอบคำถามเกี่ยวกับสารละลายบฟั เฟอร์ 1. จงพจิ ารณาว่าสารละลายทก่ี ำหนดให้ตอ่ ไปน้ี จดั เป็นสารละลายบัฟเฟอรห์ รือไม่ พร้อมเหตุผลประกอบ 1) สารละลาย CH3COOH เข้มข้น 2.0 โมล/ลูกบาศก์เดซิเมตร ปริมาตร 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร ผสมกับ สารละลาย CH3COONa เขม้ ขน้ 0.5 โมล/ลูกบาศก์เดซิเมตร ปรมิ าตร 100 ลกู บาศกเ์ ซนตเิ มตร 2) สารละลาย NH3 เขม้ ขน้ 0.4 โมล/ลูกบาศก์เดซิเมตร ปริมาตร 100 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร ผสมกบั สารละลาย NH4Cl เข้มขน้ 0.2 โมล/ลกู บาศก์เดซเิ มตร ปริมาตร 250 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร 3) สารละลาย NH3 เข้มขน้ 0.2 โมล/ลกู บาศก์เดซเิ มตร ปรมิ าตร 100 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร ผสมกบั สารละลาย HCl เขม้ ข้น 0.5 โมล/ลูกบาศก์เดซเิ มตร ปริมาตร 200 ลกู บาศก์เซนติเมตร 4) สารละลาย CH3COOH เข้มข้น 0.1 โมล/ลูกบาศก์เดซิเมตร ปริมาตร 500 ลูกบาศก์เซนติเมตร ผสมกับ สารละลาย NaOH เข้มข้น 0.1 โมล/ลูกบาศก์เดซิเมตร ปริมาตร 200 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร 2. เพราะเหตใุ ดเม่อื เติมกรดแก่ปริมาณเลก็ น้อยลงไปในระบบท่ีประกอบด้วยสารละลาย CH3COOH และ CH3COONa ค่า pH ของสารละลายจงึ เกิดการเปลยี่ นแปลงนอ้ ยมาก
3. สารละลายบัฟเฟอร์ซึ่งประกอบดว้ ย CH3COOH เข้มขน้ 1 โมล/ลกู บาศก์เดซิเมตร ปรมิ าตร 1 ลูกบาศก์ เดซเิ มตร และสารละลาย CH3COONa เข้มข้น 0.5 โมล/ลูกบาศกเ์ ดซิเมตร จะมคี ่า pH เท่าใด (กำหนดให้ ค่า Ka ของ CH3COOH = 1.8 × 10-5 mol/dm3 log 1.8 = 0.2553 และ log 2 = 0.3010) 4. เมอื่ เติมสารละลาย HNO3 เข้มขน้ 0.05 โมล/ลกู บาศก์เดซเิ มตร ปริมาตร 1 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร ลงใน สารละลายในขอ้ 3. สารละลายใหม่จะมีคา่ pH เท่าใด (กำหนดให้ log 1.8 = 0.2553 และ log 2 = 0.3010)
ใบงานที่ 4.10.1 เฉลย เร่ือง สารละลายบฟั เฟอร์ คำชแ้ี จง : ตอบคำถามเกยี่ วกับสารละลายบฟั เฟอร์ 1. จงพจิ ารณาว่าสารละลายที่กำหนดใหต้ ่อไปนี้ จดั เป็นสารละลายบัฟเฟอรห์ รอื ไม่ พรอ้ มเหตุผลประกอบ 1) สารละลาย CH3COOH เข้มข้น 2.0 โมล/ลูกบาศก์เดซิเมตร ปริมาตร 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร ผสมกับ สารละลาย CH3COONa เขม้ ข้น 0.5 โมล/ลกู บาศก์เดซิเมตร ปรมิ าตร 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร เปน็ สารละลายบฟั เฟอร์ เน่ืองจากในระบบประกอบดว้ ยกรดอ่อนและเกลอื ของกรดออ่ นนน้ั 2) สารละลาย NH3 เข้มข้น 0.4 โมล/ลกู บาศกเ์ ดซเิ มตร ปรมิ าตร 100 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร ผสมกับสารละลาย NH4Cl เข้มข้น 0.2 โมล/ลูกบาศกเ์ ดซิเมตร ปรมิ าตร 250 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร เป็นสารละลายบฟั เฟอร์ เนอ่ื งจากในระบบประกอบดว้ ยเบสอ่อนและเกลอื ของเบสออ่ นนน้ั 3) สารละลาย NH3 เข้มข้น 0.2 โมล/ลกู บาศกเ์ ดซเิ มตร ปรมิ าตร 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร ผสมกับสารละลาย HCl เขม้ ขน้ 0.5 โมล/ลูกบาศกเ์ ดซเิ มตร ปริมาตร 200 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร NH3 + HCl → NH4Cl จำนวนโมลเร่ิมตน้ 0.02 0.1 - mol จำนวนโมลทใี่ ช้ไปหรอื ที่เกดิ ขน้ึ 0.02 0.02 0.02 mol จำนวนโมลคงเหลือ - 0.08 0.02 mol ไม่เป็นสารละลายบัฟเฟอร์ เน่อื งจากในระบบไมไ่ ดป้ ระกอบด้วยกรดออ่ นและเกลอื ของกรดอ่อนนัน้ 4) สารละลาย CH3COOH เข้มข้น 0.1 โมล/ลูกบาศก์เดซิเมตร ปริมาตร 500 ลูกบาศก์เซนติเมตร ผสมกับ สารละลาย NaOH เข้มข้น 0.1 โมล/ลูกบาศกเ์ ดซเิ มตร ปริมาตร 200 ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร CH3COOH + NaOH → CH3COONa + H2O จำนวนโมลเริ่มตน้ 0.05 0.02 - mol จำนวนโมลทใี่ ชไ้ ปหรอื ที่เกิดข้นึ 0.02 0.02 0.02 mol จำนวนโมลคงเหลอื 0.03 - 0.02 mol เปน็ สารละลายบัฟเฟอร์ เนื่องจากในระบบประกอบด้วยกรดออ่ นและเกลือของกรดออ่ นท่ีเกดิ ขน้ึ จาก ปฏกิ ริ ยิ า 2. เพราะเหตใุ ดเมือ่ เติมกรดแกป่ รมิ าณเลก็ น้อยลงไปในระบบทป่ี ระกอบดว้ ยสารละลาย CH3COOH และ CH3COONa ค่า pH ของสารละลายจงึ เกิดการเปลยี่ นแปลงนอ้ ยมาก ไอออนตา่ ง ๆ ทอ่ี ยู่ในระบบ มีดังน้ี CH3COOH + H2O ⇌ CH3COO- + H3O+ CH3COONa → Na+ + CH3COO- เมอื่ เติม H3O+ ลงไปเลก็ น้อย CH3COO- จะไปทำปฏิกิริยากับ H3O+ เกิดเปน็ CH3COOH ซ่ึงทำให้ความ เข้มขน้ ของ H3O+ ในสารละลายเปล่ยี นแปลงไปนอ้ ยมาก ค่า pH ของสารละลายจึงเปลี่ยนแปลงน้อยมาก
3. สารละลายบัฟเฟอร์ซงึ่ ประกอบดว้ ย CH3COOH เขม้ ข้น 1 โมล/ลูกบาศกเ์ ดซิเมตร ปริมาตร 1 ลูกบาศก์ เดซเิ มตร และสารละลาย CH3COONa เข้มข้น 0.5 โมล/ลกู บาศกเ์ ดซเิ มตร จะมคี ่า pH เท่าใด (กำหนดให้ คา่ Ka ของ CH3COOH = 1.8 × 10-5 mol/dm3 log 1.8 = 0.2553 และ log 2 = 0.3010) (K1a.8–×lo1g0-[5[CC)HH–33ClCoOOgOO0NH1.a5]] pH = -log = log - = 5 – log 1.8 – log 2 = 5 – 0.2553 – 0.3010 = 4.4437 4. เม่ือเตมิ สารละลาย HNO3 เข้มข้น 0.05 โมล/ลูกบาศก์เดซเิ มตร ปริมาตร 1 ลูกบาศก์เซนตเิ มตร ลงใน สารละลายในขอ้ 3. สารละลายใหม่จะมีค่า pH เทา่ ใด (กำหนดให้ log 1.8 = 0.2553 และ log 2 = 0.3010) สารละลาย HNO3 เขม้ ขน้ 0.05 mol/dm3 ปริมาตร 1 cm3 สารละลาย 1000 cm3 มี HNO3 อยู่ 0.05 mol 0.05 ×1 สารละลาย 1 cm3 มี HNO3 อยู่ 1000 = 5 × 10-5 mol กรด HNO3 แตกตัวให้ H3O+ = 5 × 10-5 mol ทำปฏกิ ิริยากบั CH3COO- ดังสมการ CH3COO- (aq) + H3O+ (aq) ⇌ CH3COOH (aq) + H2O (l) ณ ภาวะสมดุล มี CH3COO- คิดเป็น 0.5 – (5 × 10-5) = 0.49995 mol มี CH3COOH คิดเป็น 1 + (5 × 10-5) = 1.00005 mol สารละลาย 1001 cm3 มี CH3COO- อยู่ 0.49995 mol 0.49995 ×1000 สารละลาย 1000 cm3 มี CH3COO- อยู่ 1001 = 0.4995 mol ดังนนั้ สารละลายผสมมี [CH3COO-] = 0.4995 mol/dm3 สารละลาย 1001 cm3 มี CH3COOH อยู่ 1.00005 mol 1.00005 ×1000 สารละลาย 1000 cm3 มี CH3COOH อยู่ 1001 = 0.9990 mol ดงั นน้ั สารละลายผสมมี [CH3COOH] = 0.9990 mol/dm3 (K1a.8–×lo1g0[-[5CC)HH–33CCloOOgOOH00-]..]49999950 pH = -log = log - = 5 – log 1.8 – log 2 = 5 – 0.2553 – 0.3010 = 4.4437
วช-ร 06 แบบบนั ทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ชอื่ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 10 เรอื่ ง กรด-เบส แผนการเรยี นร้ทู ่ี 10 เรอ่ื ง สารละลายบัฟเฟอร์ รายวิชา เคมี 4 ช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 รหัสวิชา ว 32204 ครผู สู้ อน นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย เวลาทใี่ ช้ 4 ชว่ั โมง ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนอ้ื หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนร่วมของผูเ้ รียน ลงช่อื ครูผ้จู ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ตำแหนง่ ครูผู้ชว่ ย
แบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบทีถ่ กู ตอ้ งทส่ี ุดเพยี งขอ้ เดียว 1. ปฏกิ ิรยิ าในขอ้ ใดจดั เปน็ ปฏิกิรยิ ารีดักชนั 5. ปฏกิ ิรยิ า HNO3 + H2S → NO + S + H2O เม่อื ดุล 1. Fe (s) → Fe2+ (aq) + 2e- สมการแล้ว ตวั เลขสมั ประสิทธห์ิ นา้ โมเลกุลของ H2O จะมี 2. Cu2+ (aq) + 2e- → Cu (s) ค่าเทา่ ใด 3. Cu (s) + 2Ag+ (aq) → Cu2+ (aq) + Ag (s) 1. 1 2. 2 4. Zn (s) + 2HCl (aq) → ZnCl2 (aq) + H2 (g) 3. 3 4. 4 5. CH3COOH (aq) + NaOH (aq) → CH3COONa 5. 5 (aq) + H2O (l) 6. จงเขียนแผนภาพเซลลไ์ ฟฟา้ เคมขี องปฏกิ ริ ยิ าต่อไปน้ี 2. สารทีข่ ีดเสน้ ใตใ้ นปฏกิ ิริยาในข้อใดที่เป็นตัวออกซิไดส์ Zn (s) + Pb2+ (aq) → Zn2+ (aq) + Pb (s) 1. 4Al (s) + 3O2 (g) → 2Al2O3 (s) E0 = +0.63 V 2. CS2 (s) + 3Cl2 (g) → CCl4 (l) + S2Cl2 (l) 1. Zn (s) /Pb2+ (aq) ∥ Zn2+ (aq) /Pb (s) 3. SO2 (aq) + NO2 (aq) → SO3 (aq) + NO (aq) 2. Pb (s) /Pb2+ (aq) ∥ Zn2+ (aq) /Zn (s) 4. MnO2 (s) + 4HCl (aq) → MnCl2 (aq) + 2H2O (l) + Cl2 (g) 3. Zn (s) /Zn2+ (aq) ∥ Pb2+ (aq) /Pb (s) 5. 2K2Cr2O7 (aq) + 2H2O (l) + 3S (s) → 3SO2 (g) 4. Zn2+ (aq) /Zn (s) ∥ Pb (s) /Pb2+ (aq) + 4KOH (aq) + 2Cr2O3 (s) 5. Pb2+ (aq) /Pb (s) ∥ Zn (s) /Zn2+ (aq) 3. จากปฏิกริ ยิ า 2KMnO4 + 3H2C2O4→ K2CO3 + 2MnO2 + 5CO2 + 3H2O สารทเ่ี ป็นตัวรดี ิวซ์มีเลข 7. กำหนดคา่ ศักยไ์ ฟฟา้ มาตรฐานของครึ่งเซลล์ให้ ดงั น้ี ออกซเิ ดชันเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก. Ca2+ + 2e- → Ca E0 = -2.87 V ข. O2 + 4H+ + 4e- → 2H2O E0 = 1.23 V ค. 2H2O + 2e- → H2 + 2OH- E0 = -0.83 V 1. +3 ไปเปน็ +4 2. +4 ไปเป็น +3 ง. O2 + 2H2O + 2e- → 4OH- E0 = 0.40 V 3. +2 ไปเปน็ +7 4. +7 ไปเป็น +2 จ. ClO4- + 8H+ + 7e- → 21Cl2 + 4H2O E0 = 1.55 V เซลล์กลั วานิกจะเกดิ ขึ้นไดเ้ มอ่ื ใด 5. +5 ไปเป็น +7 1. คร่งึ ปฏกิ ิรยิ า ข. เกิดทีแ่ อโนด ครงึ่ ปฏิกริ ิยา ง. 4. พจิ ารณาปฏกิ ริ ิยารดี อกซ์ท่ีกำหนดให้ต่อไปนี้ K2Cr2O7 เกดิ ที่แคโทด 2. คร่ึงปฏกิ ริ ยิ า ข. เกิดทแ่ี อโนด ครง่ึ ปฏิกริ ยิ า จ. + 14HCl → 2KCl + 2CrCl3 + 7H2O + 3Cl2 ข้อสรปุ เกิดท่แี คโทด ใดถกู ตอ้ ง 3. คร่งึ ปฏิกิรยิ า ง. เกิดทีแ่ คโทด ครงึ่ ปฏกิ ริ ิยา จ. 1. HCl ถกู รีดิวซ์ เกดิ ที่แอโนด 2. HCl เกิดรีดักชัน 4. คร่ึงปฏิกิรยิ า ก. เกดิ ที่แคโทด คร่งึ ปฏกิ ิริยา ค. เกดิ ที่แอโนด 3. K2Cr2O7 ถูกออกซไิ ดส์ 4. K2Cr2O7 เกดิ ออกซเิ ดชนั 5. Cr ใน K2Cr2O7 เป็นตัวออกซไิ ดส์ 5. ครึง่ ปฏิกิรยิ า ก. เกดิ ท่ีแคโทด ครง่ึ ปฏิกิรยิ า ข. เกดิ ทีแ่ อโทด
8. กำหนดคา่ ศักยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของคร่ึงเซลล์ในสารละลาย 9. ในการแยกสารประกอบโพแทสเซียมโบรไมด์ทห่ี ลอมเหลว ด้วยกระแสไฟฟ้าในเซลล์อเิ ลก็ โทรไลต์ปฏกิ ิรยิ าทเี่ กิดขนึ้ ท่ี กรด ที่อณุ หภมู ิ 298 เคลวนิ ให้ดงั น้ี แอโนดเปน็ ไปตามข้อใด 1. K+ + e- → K Ag+ + e- → Ag E0 = +0.80 V 2. K → K+ + e- 3. Br2 + 2e- → 2Br- Na+ + e- → Na E0 = -2.71 V 4. 2Br- → Br2 + 2e- 5. K+ + Br- → KBr Cu2+ + 2e- → Cu E0 = +0.34 V 10. ถา้ ตอ้ งการชุบเหรยี ญทองแดงดว้ ยโลหะเงิน ควรใช้สารใด Zn2+ + 2e- → Zn E0 = -0.76 V เปน็ อิเล็กโทรไลต์ และสารใดเป็นแอโนด ตามลำดับ 1. สารละลายทมี่ ี Ag+ และโลหะเงิน Fe2+ + 2e- → Fe E0 = -0.41 V 2. สารละลายทม่ี ี Cu2+ และโลหะเงิน 3. สารละลายที่มี Ag+ และเหรยี ญทองแดง Fe3+ + e- → Fe2+ E0 = +0.77 V 4. สารละลายทีม่ ี Cu2+ และเหรยี ญทองแดง 5. สารละลายทม่ี ี Ag+ และ Cu2+ และโลหะเงนิ ทำการทดลองจุม่ โลหะตา่ งๆ ลงในสารละลายหลายชนิดท่ี ภาวะมาตรฐาน ดังนี้ ก. จ่มุ Cu ลงในสารละลาย Ag ข. จมุ่ Ag ลงในสารละลาย Fe3+ ค. จ่มุ Fe ลงในสารละลาย Zn2+ ง. จมุ่ Zn ลงในสารละลาย Na+ การทดลองใดทท่ี ำให้โลหะเกิดการสึกกร่อน 1. การทดลอง ก. เท่าน้นั 2. การทดลอง ก. และ ข. 3. การทดลอง ก. และ ค. 4. การทดลอง ข. ค. และ ง. 5. การทดลอง ก. ค. และ ง. เฉลย 1. 2 2. 3 3. 1 4. 5 5. 4 6. 3 7. 2 8. 1 9. 4 10. 1
แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำตอบที่ถกู ตอ้ งทีส่ ุดเพียงข้อเดียว 1. ปฏิกิริยาในข้อใดจดั เป็นปฏิกริ ยิ าออกซเิ ดชนั 5. ปฏิกริ ยิ า aNa2S2O3 + bI2 → cNaI + dNa2S4O6 เมื่อ 1. Na+ (aq) + e- → Na (s) ดลุ สมการแล้ว a b c และ d จะมีค่าเท่าใด ตามลำดับ 2. Mg (s) → Mg2+ (aq) + 2e- 1. 1 2 1 และ 2 2. 1 1 2 และ 2 3. HNO3 (aq) + NH3 (aq) → NH4NO3 (aq) 3. 2 1 2 และ 1 4. 2 2 2 และ 1 4. Zn (s) + Cu2+ (aq) → Zn2+ (aq) + Cu (s) 5. 2 1 1 และ 2 5. 2Ag (s) + H2SO4 (aq) → Ag2SO4 (aq) + H2(g) 6. เซลลไ์ ฟฟา้ เคมีชนิดหนงึ่ เขยี นแผนภาพเซลล์ไฟฟา้ เคมไี ด้ 2. สารท่ีขีดเสน้ ใต้ในปฏกิ ิริยาในข้อใดทเี่ ป็นตัวรีดวิ ซ์ ดังน้ี Sn (s) /Sn2+ (aq) ∥ Zn2+ (aq) /Zn (s) ปฏกิ ิริยา รวมของเซลล์ไฟฟา้ เคมเี ซลลน์ ค้ี วรเป็นไปตามข้อใด 1. N2 (g) + 3H2 (g) → 2NH3 (g) 1. Sn2+ (s) + Zn (s) → Zn2+ (s) + Sn (s) 2. Zn2+ (s) + Sn (s) → Sn2+ (s) + Zn (s) 2. Zn (s) + Pb(NO3)2 (aq) → Zn(NO3)2 (aq) + Pb (s) 3. Sn2+ (aq) + Zn (s) → Zn2+ (aq) + Sn (s) 4. Zn2+ (s) + Sn (aq) → Sn2+ (s) + Zn (aq) 3. 2Ag(NO3)2 (aq) + BaCl2 (aq) → 2AgCl (s) + 5. Zn2+ (aq) + Sn (s) → Sn2+ (aq) + Zn (s) Ba(NO3)2 (aq) 4. Cu (s) + 4HNO3 (aq) → Cu(NO3)2 (aq) + 2NO (g) + 2H2O (l) 5. 2FeCl3 (aq) + SnCl2 (aq) → 2FeCl2 (aq) 7. กำหนดคา่ ศกั ยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของครง่ึ เซลลใ์ ห้ ดังน้ี + SnCl4 (aq) W+ (aq) + e- → W (s) E0 = -0.15 V 3. จากปฏิกิรยิ า 3Na2SnO2 + KClO3 → KCl + X+ (aq) + e- → X (s) E0 = -0.42 V 3Na2SnO3 สารทเ่ี ป็นตัวออกซไิ ดส์มีเลขออกซิเดชัน Y+ (aq) + e- → Y (s) E0 = -0.78 V Z+ (aq) + e- → Z (s) E0 = -1.14 V เปลย่ี นแปลงอยา่ งไร 1. X (s) + Y+ (aq) → Y (s) + X+ (aq) 1. +2 ไปเป็น +4 2. +4 ไปเป็น +2 2. Y (s) + Z+ (aq) → Z (s) + Y+ (aq) 3. -1 ไปเป็น +5 4. +5 ไปเป็น -1 5. +5 ไปเป็น +2 3. Y (s) + W+ (aq) → W (s) + Y+ (aq) 4. W (s) + Z+ (aq) → Z (s) + W+ (aq) 4. พจิ ารณาปฏิกริ ิยารดี อกซ์ทีก่ ำหนดให้ต่อไปนี้ 2MnO4- 5. W (s) + X+ (aq) → X (s) + W+ (aq) + H2O + 3NO2- → 2MnO2 + 3NO3- + 2OH-ข้อสรุป ใดไม่ถกู ตอ้ ง 1. NO2- ถกู ออกซไิ ดส์ด้วย MnO4- 2. ปฏกิ ิริยานม้ี กี ารให้หรือรับอิเล็กตรอน 3 ตัว 3. ธาตุ N ใน NO2- มีการเปลย่ี นเลขออกซเิ ดชันไป 2 4. ธาตุ Mn ใน MnO4- มีการเปลย่ี นเลขออกซิเดชันไป 3 5. ครง่ึ ปฏิกริ ยิ าออกซเิ ดชันเขยี นไดเ้ ป็น NO2- + 2OH- → NO3- + H2O + 2e-
8. กำหนดคา่ ศกั ยไ์ ฟฟา้ มาตรฐานของครึ่งเซลล์ในสารละลาย 9. ในการแยกสารละลาย Na2SO4 ด้วยกระแสไฟฟ้า โดยใช้ กรด ที่อณุ หภูมิ 298 เคลวนิ ให้ดังนี้ แท่งคารบ์ อนเปน็ อเิ ล็กโทรดจะได้สารใดเกิดข้นึ ท่ีแอโนด Ag+ + e- → Ag E0 = +0.80 V และแคโทด ตามลำดบั กำหนดค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของ Cu2+ + 2e- → Cu E0 = +0.34 V คร่งึ เซลลต์ า่ งๆ ให้ ดงั นี้ Sn2+ + 2e- → Sn E0 = -0.14 V Na+ + e- → Na E0 = -2.71 V Ni2+ + 2e- → Ni E0 = -0.23 V S2O82- + 2e- → 2SO42- E0 = +2.01 V Cd2+ + 2e- → Cd E0 = -0.40 V O2 + 4H+ + 4e- → 2H2O E0 = +1.23 V Fe2+ + 2e- → Fe E0 = -0.41 V 2H2O + 2e- → H2 + 2OH- E0 = -0.83 V Cr3+ + 3e- → Cr E0 = -0.74 V 1. O2 และ H2 Zn2+ + 2e- → Zn E0 = -0.76 V 2. H2 และ O2 Al3+ + 3e- → Al E0 = -1.71 V 3. O2 และ Na K+ + e- → K E0 = -2.93 V 4. S2O82- และ Na 5. Na และ S2O82- เมอ่ื นำโลหะ Sn มาจุ่มในสารละลายใด โลหะ Sn จงึ จะไม่ เกดิ การสึกกร่อน 10. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งเม่อื ต้องการชบุ แท่งเหลก็ ดว้ ยโครเมียม 1. ใชโ้ ลหะโครเมียมเป็นแคโทด หรอื ข้ัวลบ ก. สารละลายซงิ ค์ซลั เฟต 2. ใชแ้ ท่งเหลก็ เป็นแอโนด หรือเป็นขั้วบวก ข. สารละลายซลิ เวอรไ์ นเตรต ค. สารละลายไอรอ์ อน (II) ไนเตรต ง. สารละลายโพแทสเซยี มโบรไมด์ 3. ใชแ้ ทง่ เหลก็ เปน็ แคโทด หรือเป็นขั้วบวก 4. ใช้โลหะโครเมียมเปน็ แอโนด หรือขั้วบวก 1. สารละลาย ก. เทา่ นน้ั 5. สารละลายอิเล็กโทรไลตต์ ้องมไี อออนของเหลก็ 2. สารละลาย ข. เท่าน้นั 3. สารละลาย ก. และ ข. 4. สารละลาย ก. ค. และ ง. 5. สารละลาย ข. ค. และ ง. เฉลย 1. 2 2. 1 3. 4 4. 2 5. 3 6. 5 7. 3 8. 4 9. 1 10. 4
แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 11 เรือ่ ง เคมีไฟฟ้า แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง เลขออกชิเดชัน รายวชิ า เคมี 4 รหสั วชิ า ว 32204 ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 น้ำหนกั เวลาเรยี น 1.5 หน่วยกจิ เวลาเรยี น 3 ช่วั โมง/สัปดาห์ เวลาท่ใี ชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1 ช่ัวโมง 1. ผลการเรยี นรู้ คำนวณเลขออกซิเดชัน และระบุปฏกิ ริ ิยาทเ่ี ป็นปฏิกริ ิยารดี อกซ์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ระบุเลขออกซิเดชนั ของธาตุต่าง ๆ ได้ (K) 2. ตรวจสอบค่าเลขออกซิเดชันของธาตุในสารประกอบหรือไอออนได้ (P) 3. ตง้ั ใจเรยี นรู้และแสวงหาความรู้ รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าทท่ี ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพ่มิ เติม สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ - เคมไี ฟฟา้ เปน็ การศึกษาเกีย่ วกบั การเปลีย่ นแปลง พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา ระหว่างพลังงานไฟฟ้าและการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี ท่มี ีการถา่ ยโอนอเิ ลก็ ตรอนแลว้ ทําให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงเลขออกซเิ ดชัน ซึง่ เป็นเลขท่ีแสดง ประจไุ ฟฟา้ หรอื ประจุไฟฟา้ สมมติของอะตอม ธาตเุ รียกปฏิกิรยิ าชนิดนี้ว่า ปฏิกิรยิ ารีดอกซ์ 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เลขออกซเิ ดชนั เปน็ คา่ ประจุไฟฟา้ ที่สมมติข้ึนมาของไอออนหรืออะตอมของธาตุ โดยคำนวณจากการรับ หรือการจ่ายอเิ ล็กตรอน หรือการใช้พันธะรว่ มกนั ซง่ึ การเขยี นเลขออกซเิ ดชนั จะเขียนเครอื่ งหมาย + หรอื – ไวห้ นา้ ตวั เลขเสมอ 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ัย รับผิดชอบ 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทักษะการสงั เกต 3. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน 2) ทักษะการสำรวจค้นหา 3) ทักษะการวิเคราะห์ 4) ทักษะการเช่อื มโยง 5) ทักษะการทำงานรว่ มกนั 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244