Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ครูกานดา แผนการสอนเคมี 4 2-63

ครูกานดา แผนการสอนเคมี 4 2-63

Published by กานดา วุฒิเศลา, 2021-03-12 09:35:47

Description: ครูกานดา แผนการสอนเคมี 4 2-63

Search

Read the Text Version

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงที่ 1 ขน้ั นำ ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟา้ เคมี และ Understanding Check เพือ่ วดั ความร้เู ดมิ ของนักเรยี นกอ่ นเขา้ สูก่ จิ กรรม 2. ครถู ามคำถาม BIG QUESTION จากหนงั สือเรียนรายวิชาเพ่ิมเตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟา้ เคมี ดงั นี้ • ปฏกิ ริ ยิ ารดี กั ชัน ปฏกิ ริ ยิ าออกซิเดชัน และปฏกิ ิรยิ ารีดอกซค์ อื อะไร • เซลลไ์ ฟฟา้ เคมีประกอบดว้ ยอะไรบ้าง และแต่ละองคป์ ระกอบมีหน้าทอ่ี ยา่ งไร • เซลล์กัลวานกิ และเซลล์อเิ ล็กโทรไลติกสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวันได้ อย่างไร จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นในห้องรว่ มกนั ตอบและแสดงความคิดเห็น โดยครยู ังไม่ต้องเฉลย ซ่ึงเม่อื เรียน จบในเนื้อหาที่สามารถเฉลยคำถามขอ้ น้นั ๆ ได้ ให้ครูถามคำถามขอ้ นั้น แล้วให้นักเรยี นตอบอีก คร้ังหนึง่ 3. ครูและนักเรียนร่วมกนั ทบทวนความร้เู ดมิ เก่ยี วกับความหมายของเลขออกซเิ ดชัน และการหาเลข ออกซิเดชนั ของธาตใุ นสารประกอบหรอื ไอออนต่าง ๆ ขนั้ สอน ข้ันท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 1. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสอื เรียนรายวชิ าเพมิ่ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟา้ เคมี ว่า“เลขออกซเิ ดชันของธาตุชนิดต่าง ๆ มคี ่าเท่ากนั หรอื ไม่ อยา่ งไร” แล้วใหน้ ักเรยี นรว่ มกันตอบคำถาม จากนน้ั ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภิปราย (แนวตอบ : ไมเ่ ท่ากัน ขึ้นอยกู่ บั ชนิดของธาตุ หมู่ของธาตุ และชนดิ ของสารประกอบของธาตุ นนั้ ๆ) 2. นกั เรียนจับคกู่ ับเพื่อน โดยแต่ละคู่ศกึ ษาเก่ยี วกับวิธกี ารหาเลขออกซิเดชันของธาตุในสารประกอบ หรือไอออน และร่วมกนั ฝึกการคำนวณเลขออกซเิ ดชนั ของธาตุในสารประกอบหรอื ไอออนจาก ตัวอย่างที่ 5.1 ในหนังสือเรียนรายวชิ าเพมิ่ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าเคมี (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ ) ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 3. ครูอธบิ ายเกยี่ วกับวธิ กี ารหาเลขออกซิเดชันของธาตใุ นสารประกอบ หรือไอออนและการคำนวณ เลขออกซิเดชันของธาตุในสารประกอบหรอื ไอออนจากตวั อย่างที่ 5.1 จากน้นั ตรวจสอบความ ถูกตอ้ ง และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ในกรณีทน่ี ักเรียนมีความเข้าใจท่ีคลาดเคลอ่ื น จนนักเรียนเกดิ ความ เข้าใจทีต่ รงกัน 4. ครูตั้งคำถามใหน้ ักเรยี นร่วมกันอภปิ ราย เรอ่ื ง เลขออกซเิ ดชนั ดงั นี้

1) ธาตุอสิ ระทกุ ชนิดจะมีเลขออกซิเดชันเท่ากับเท่าใด (แนวตอบ : ศนู ย)์ 2) เลขออกซิเดชนั ของออกซเิ จนในสารประกอบซเู ปอร์ออกไซด์และสารประกอบเปอร์ ออกไซด์มคี ่าเทา่ กนั หรือไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ : ไม่เทา่ กัน ในสารประกอบซูเปอร์ออกไซด์ ออกซิเจนจะมเี ลขออกซิเดชนั เทา่ กบั - 1 ส่วนในสารประกอบเปอร์ออกไซด์ ออกซเิ จนจะมเี ลขออกซเิ ดชันเท่ากบั 2 -1) 3) ธาตุแทรนซชิ นั ทุกตวั จะมเี ลขออกซิเดชันไดห้ ลายคา่ ใช่หรอื ไม่ (แนวตอบ : ไมใ่ ช่ Ag Zn และ Sc จะมเี ลขออกซิเดชนั ได้ค่าเดยี ว โดย Ag มเี ลข ออกซิเดชนั เท่ากบั +1 Zn มเี ลขออกซเิ ดชนั เท่ากับ +2 และ Sc มเี ลขออกซเิ ดชัน เท่ากับ+3) 4) สารประกอบจะมผี ลรวมของเลขออกซิเดชันเปน็ เทา่ ใด (แนวตอบ : ศนู ย์) (หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล) ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 5. ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสัยในเนือ้ หา เร่อื ง เลขออกซเิ ดชัน วา่ มีส่วนไหนทยี่ งั ไม่ เข้าใจ และให้ความรเู้ พมิ่ เติมในสว่ นน้ัน เพ่ือจะใช้เปน็ ความรเู้ บื้องตน้ สำหรับการเรียนในเนอื้ หา ต่อ ๆ ไป 6. นักเรยี นทำใบงานที่ 5.1.1 เรอื่ ง เลขออกซเิ ดชัน 7. นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด ในหนงั สอื แบบฝึกหัดรายวิชาเพ่ิมเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟ้าเคมี 8. นักเรยี นทำ Topic Question จากหนงั สอื เรียนรายวชิ าเพมิ่ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าเคมี ลงในสมุดประจำตัว (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล) ขน้ั สรปุ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครปู ระเมินผลนักเรยี น โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล พฤติกรรมการทำงานกลมุ่ 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟา้ เคมี 3. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 5.1.1 เร่อื ง เลขออกซิเดชนั 4. ครูตรวจสอบผลจากการทำแบบฝกึ หัด 5. ครูตรวจสอบผลจากการทำ Topic Question

7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวดั วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมนิ 7.1 การประเมินก่อน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน - ประเมินตามสภาพจริง เรียน กอ่ นเรยี น หน่วยการ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 - แบบทดสอบกอ่ น เรียนรทู้ ่ี 5 ไฟฟา้ เคมี ไฟฟา้ เคมี - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เรยี น หนว่ ยการ - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ - ตรวจใบงานท่ี 5.1.1 - ใบงานที่ 5.1.1 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เคมี - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั - ระดับคณุ ภาพ 2 7.2 ประเมินระหวา่ ง - ตรวจสมุดประจำตัว - สมุดประจำตัว ผา่ นเกณฑ์ การจัดกจิ กรรม - ระดับคุณภาพ 2 การเรียนรู้ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ 1) เลขออกซเิ ดชนั การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล - ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 2) พฤติกรรม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทำงาน รายบุคคล การทำงานกลมุ่ การทำงานกลมุ่ 3) พฤติกรรมการ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ ทำงานกล่มุ รบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รียนรู้ คุณลกั ษณะ 4) คุณลักษณะ อันพงึ ประสงค์ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน อนั พึงประสงค์ 8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 8.4 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี นรายวิชาเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟ้าเคมี 2) หนังสอื แบบฝกึ หัดรายวชิ าเพ่มิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าเคมี 3) ใบงานที่ 5.1.1 เร่ือง เลขออกซิเดชัน 4) สมดุ ประจำตวั 8.2 แหล่งการเรียนรู้ -

9. กิจกรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................. (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ผู้เขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................... (นางกมลชนก เทพบ)ุ หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ...................................................... (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผู้อำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................... (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

ใบงานที่ 5.1.1 เรอื่ ง เลขออกซเิ ดชัน คำชีแ้ จง : ตอบคำถามเกี่ยวกบั เลขออกซิเดชนั 1. ไอออนธาตหุ มู่ 1A และหมู่ 2A มเี ลขออกซเิ ดชันเทา่ กบั เทา่ ใด ตามลำดับ 2. จงระบเุ ลขออกซิเดชนั ของแต่ละธาตใุ นสารประกอบ NH4Cl 3. จงระบุเลขออกซิเดชนั ของแตล่ ะธาตุในสารประกอบ KMnO4 4. สารตอ่ ไปนี้ P4 S2- NH3 S8 CO32- CO2 NO2- และ CO สารใดมเี ลขออกซเิ ดชันเทา่ กับศูนย์ 5. ธาตุ O และ Cr ในสารประกอบ OF2 และ K2Cr2O7 มีเลขออกซิเดชันเท่ากับเท่าใด ตามลำดบั 6. สารตอ่ ไปน้ี O2 CO2 H2O และ H2O2 สารใดทอี่ อกซเิ จนมีเลขออกซเิ ดชนั เทา่ กบั ศูนย์ 7. สารต่อไปนี้ NH3 H2O NaH และ HClO3 สารใดท่ีไฮโดรเจนมีเลขออกซิเดชนั เท่ากบั -1 8. สารตอ่ ไปนี้ HCl HClO HClO2 และ HClO3 สารใดที่คลอรีนมีเลขออกซิเดชันสูงท่สี ุด 9. เลขออกซเิ ดชันของ X ใน KX(SO4)2 [X(NH3)6]Cl2 K2X(CN)6 และ [X(H2O)6]Br3 มคี ่าเทา่ ใด ตามลำดับ 10. เลขออกซิเดชันของ Cr ใน Cr2O3 Cr2O72- CrO42- PbCrO4 KCr(SO4)2 K3Cr(CN)6 และ(NH4)2Cr2O7 มีคา่ เท่าใด ตามลำดับ

ใบงานที่ 5.1.1 เฉลย เรือ่ ง เลขออกซิเดชัน คำชี้แจง : ตอบคำถามเกย่ี วกบั เลขออกซเิ ดชัน 1. ไอออนธาตุหมู่ 1A และหมู่ 2A มเี ลขออกซิเดชนั เท่ากับเทา่ ใด ตามลำดบั +1 และ +2 ตามลำดับ 2. จงระบุเลขออกซเิ ดชันของแตล่ ะธาตใุ นสารประกอบ NH4Cl N มเี ลขออกซิเดชันเทา่ กับ -3 H มีเลขออกซิเดชันเท่ากบั +1 และ Cl มีเลขออกซเิ ดชนั เท่ากบั -1 3. จงระบุเลขออกซเิ ดชนั ของแตล่ ะธาตุในสารประกอบ KMnO4 K มีเลขออกซเิ ดชนั เท่ากบั +1 Mn มเี ลขออกซิเดชนั เทา่ กบั +7 และ O มีเลขออกซิเดชนั เท่ากบั -2 4. สารต่อไปน้ี P4 S2- NH3 S8 CO32- CO2 NO2- และ CO สารใดมเี ลขออกซเิ ดชนั เทา่ กับศูนย์ P4 NH3 S8 CO2 และ CO 5. ธาตุ O และ Cr ในสารประกอบ OF2 และ K2Cr2O7 มเี ลขออกซิเดชันเทา่ กบั เท่าใด ตามลำดบั +2 และ +6 ตามลำดบั 6. สารตอ่ ไปนี้ O2 CO2 H2O และ H2O2 สารใดท่ีออกซิเจนมีเลขออกซเิ ดชนั เท่ากับศูนย์ O2 7. สารต่อไปน้ี NH3 H2O NaH และ HClO3 สารใดท่ีไฮโดรเจนมีเลขออกซเิ ดชนั เท่ากับ -1 NaH 8. สารต่อไปน้ี HCl HClO HClO2 และ HClO3 สารใดทคี่ ลอรนี มเี ลขออกซเิ ดชันสูงที่สุด HClO3 9. เลขออกซเิ ดชนั ของ X ใน KX(SO4)2 [X(NH3)6]Cl2 K2X(CN)6 และ [X(H2O)6]Br3 มคี า่ เท่าใด ตามลำดับ +3 +2 +4 และ +3 ตามลำดบั 10.เลขออกซเิ ดชันของ Cr ใน Cr2O3 Cr2O72- CrO42- PbCrO4 KCr(SO4)2 K3Cr(CN)6 และ(NH4)2Cr2O7 มคี า่ เทา่ ใด ตามลำดบั +3 +6 +6 +6 +3 +3 และ +6 ตามลำดบั

วช-ร 06 แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ชือ่ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 11 เรอ่ื ง เคมไี ฟฟา้ แผนการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง เลขออกชเิ ดชัน รายวิชา เคมี 4 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 รหัสวชิ า ว 32204 ครูผู้สอน นางสาวกานดา วุฒเิ ศลา ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย เวลาทใ่ี ช้ 1 ชว่ั โมง ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ ค้นพบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทม่ี กี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของผเู้ รยี น ลงช่ือ ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วุฒิเศลา) ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 11 เรือ่ ง เคมไี ฟฟา้ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 2 เรอื่ ง ปฏกิ ิรยิ ารดี อกช์ รายวชิ า เคมี 4 รหัสวชิ า ว 32204 ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 น้ำหนักเวลาเรียน 1.5 หน่วยกจิ เวลาเรยี น 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาที่ใช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 2 ชั่วโมง 1. ผลการเรยี นรู้ 1. คำนวณเลขออกซิเดชัน และระบปุ ฏกิ ริ ยิ าทเี่ ปน็ ปฏกิ ริ ิยารดี อกซ์ 2. วิเคราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงเลขออกซเิ ดชันและระบุตัวรีดิวซแ์ ละตวั ออกซไิ ดส์ รวมทง้ั เขียนครึ่งปฏกิ ิรยิ า ออกซเิ ดชนั และคร่งึ ปฏกิ ิรยิ ารดี กั ชันของปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซ์ 3. ทดลอง และเปรยี บเทยี บความสามารถในการเปน็ ตัวรดี ิวซ์หรือตวั ออกซิไดส์ และเขียนแสดงปฏกิ ิรยิ ารี ดอกซ์ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายการถา่ ยโอนอิเลก็ ตรอนระหวา่ งโลหะกบั โลหะไอออนในปฏิกิรยิ าได้ (K) 2. อธิบายความหมายของปฏิกิริยาออกซเิ ดชนั ปฏกิ ริ ยิ ารดี กั ชนั และปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ได้ (K) 3. อธบิ ายความหมายของตัวรีดวิ ซแ์ ละตัวออกซิไดสไ์ ด้ (K) 4. เปรียบเทยี บความสามารถในการเปน็ ตวั ออกซไิ ดส์และตัวรดี วิ ซไ์ ด้ (K) 5. เขียนสมการแสดงปฏิกริ ยิ าออกซิเดชนั ปฏกิ ริ ิยารีดักชัน และปฏกิ ริ ิยารดี อกซ์ได้ (P) 6. ทำการทดลองเพอื่ ศึกษาปฏกิ ิริยาระหวา่ งโลหะและไอออนในสารละลายได้ (P) 7. ใชเ้ คร่อื งมือและอปุ กรณท์ างวิทยาศาสตร์ไดอ้ ย่างถูกต้อง (P) 8. ปฏิบตั ติ ามขัน้ ตอนการทดลองได้อยา่ งถูกต้อง (P) 9. ตั้งใจเรียนรแู้ ละแสวงหาความรู้ รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทที่ ่ีได้รับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้เพิ่มเติม สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน - เคมไี ฟฟ้าเปน็ การศึกษาเก่ียวกับการเปล่ียนแปลง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา ระหวา่ งพลงั งานไฟฟา้ และการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี ทม่ี ีการถ่ายโอนอิเลก็ ตรอนแล้วทําใหเ้ กิดการ เปลีย่ นแปลงเลขออกซเิ ดชัน ซงึ่ เป็นเลขทีแ่ สดง ประจุไฟฟา้ หรอื ประจไุ ฟฟา้ สมมติของอะตอม ธาตเุ รยี กปฏิกริ ยิ าชนิดน้ีว่า ปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์ - ปฏกิ ิริยารีดอกซ์มีทั้งครง่ึ ปฏิกิริยาท่มี กี ารให้ อิเลก็ ตรอน เรยี กว่า คร่ึงปฏิกริ ยิ าออกซเิ ดชัน และครง่ึ ปฏกิ ิริยาทมี่ ีการรับอิเลก็ ตรอน เรยี กวา่ ครึง่ ปฏกิ ิริยารดี ักชนั โดยสารท่ีให้อิเล็กตรอน

สาระการเรยี นรู้เพิ่มเติม สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่ จะมีเลขออกซิเดชนั เพิม่ ขึ้น เรยี กวา่ ตวั รีดิวซ์ ส่วนสารทรี่ ับอเิ ล็กตรอนจะมเี ลขออกซิเดชนั ลดลง เรยี กว่า ตวั ออกซไิ ดส์ - การเปรียบเทยี บความสามารถในการเปน็ ตัวรีดวิ ซห์ รอื ตวั ออกซไิ ดสส์ ามารถพิจารณา ไดจ้ ากผลการทดลองของปฏิกิรยิ ารดี อกซ์ 4. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด ปฏิกิริยาที่สารจ่ายอิเลก็ ตรอน เรียกวา่ ปฏิกิรยิ าออกซิเดชัน โดยสารทใ่ี ห้อเิ ลก็ ตรอนกบั สารอ่ืน แล้วมี เลขออกซเิ ดชนั เพ่ิมข้ึน เรียกวา่ ตวั รีดิวซ์ ปฏกิ ิรยิ าทส่ี ารรบั อเิ ล็กตรอน เรยี กว่า ปฏิกริ ยิ ารดี ักชัน โดยสารทีร่ บั อิเลก็ ตรอนจากสารอื่น แล้วมีเลข ออกซิเดชันลดลง เรยี กวา่ ตัวออกซไิ ดส์ ปฏิกิรยิ าออกซิเดชันและปฏกิ ริ ยิ ารดี กั ชันจัดเป็นครงึ่ ปฏกิ ิรยิ า เม่ือรวมทั้งสองปฏกิ ริ ิยาเขา้ ด้วยกัน จะได้ ปฏิกิรยิ าที่เรยี กวา่ ปฏกิ ริ ิยารดี อกซ์ 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินัย รบั ผิดชอบ 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 1) ทักษะการสังเกต 2) ทกั ษะการสำรวจค้นหา 3) ทักษะการทำงานรว่ มกัน 4) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 5) ทักษะการทดลอง 6) ทกั ษะการตคี วามหมายและลงขอ้ สรุป 7) ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชั่วโมงที่ 1 ขน้ั นำ ขั้นที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนงั สอื เรียนรายวชิ าเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 ไฟฟ้าเคมี วา่ “ธาตุแตล่ ะชนดิ สามารถมเี ลขออกซเิ ดชนั ได้หลายคา่ หรือไม่” แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั ตอบคำถาม จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภิปราย

(แนวตอบ : ธาตบุ างชนิดจะมเี ลขออกซเิ ดชันได้เพียงคา่ เดียว แตธ่ าตบุ างชนดิ สามารถมเี ลข ออกซเิ ดชันไดห้ ลายค่า) 2. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ทบทวนความรเู้ ก่ียวกบั เลขออกซเิ ดชนั จากน้นั ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ ว่า “ใน ปฏิกริ ยิ าบางปฏกิ ริ ิยาธาตชุ นิดหน่งึ อาจมเี ลขออกซเิ ดชันเพิ่มขน้ึ ได้ ส่วนธาตุอีกชนิดหน่ึงอาจมเี ลข ออกซเิ ดชันลดลงได้ ซึง่ เรียกปฏิกิริยาทีม่ ีการเปล่ียนแปลงเลขออกซิเดชนั ของธาตุนวี้ า่ ปฏิกิรยิ ารีดอกซ์” ขั้นสอน ขนั้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน เพือ่ ทำการทดลอง เรื่อง ปฏกิ ริ ยิ าระหวา่ งโลหะและไอออนใน สารละลาย จากหนังสอื เรยี นรายวิชาเพมิ่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรู้ ท่ี 5 ไฟฟ้าเคมี 2. ครูใช้รูปแบบการเรยี นรแู้ บบร่วมมือ เทคนิค LT มาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชิก แตล่ ะคนภายในกลมุ่ มีบทบาทหน้าทข่ี องตนเอง ดังนี้ • สมาชิกคนที่ 1 : ทำหน้าท่ีเตรียมวัสดุ-อุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการทดลอง เร่ือง ปฏกิ ริ ยิ าระหวา่ ง โลหะและไอออนในสารละลาย • สมาชิกคนที่ 2 : ทำหนา้ ท่อี า่ นวิธกี ารทดลอง ทำความเข้าใจ และอธิบายให้สมาชกิ ในกลมุ่ ฟัง • สมาชิกคนท่ี 3 : ทำหน้าทีบ่ ันทกึ ผลการทดลอง • สมาชกิ คนที่ 4 และ 5 : ทำหน้าทนี่ ำเสนอผลการทดลอง 3. สมาชิกทกุ คนในกลมุ่ ชว่ ยกันลงมอื ทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม) ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 4. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ สง่ ตัวแทน (สมาชกิ คนท่ี 4 และ 5 ของกลมุ่ ) ออกมานำเสนอผลการทดลอง หลังจากนั้นใหน้ กั เรยี นทุกคนร่วมกนั อภปิ รายผลการทดลองจนมคี วามเขา้ ใจทตี่ รงกนั (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบประเมินปฏิบัติการ) 5. นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ ผลจากการทำการทดลอง ซ่ึงไดข้ อ้ สรปุ ดังน้ี • สารละลาย CuSO4 มสี ีฟ้า และในสารละลายมี Cu2+ ส่วนสารละลาย ZnSO4 ไม่มีสี และ ในสารละลายมี Zn2+ • การทดลองท่เี กดิ ปฏกิ ิรยิ า คือ Zn จมุ่ อยู่ในสารละลาย Cu2+ และมี Cu กบั Zn2+ เกดิ ข้ึน แสดงว่า มกี ารถ่ายโอนอิเลก็ ตรอนระหว่าง Zn กบั Cu2+ หลังเกดิ ปฏิกิรยิ าแลว้ ใน สารละลายจะมี Zn2+ เพิ่มขึน้ ส่วน Cu2+ ลดลง ส่งผลใหส้ ารละลายมีสฟี ้าจางลง (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ) ชว่ั โมงท่ี 2 ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 6. นักเรียนจบั ค่กู ับเพือ่ น โดยแตล่ ะคู่ศกึ ษาเก่ียวกบั ปฏิกิริยา จากหนงั สอื เรียนรายวิชาเพ่มิ เติม วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ไฟฟา้ เคมีแลว้ รว่ มกันแสดงความคดิ เห็นจน เกดิ ความเข้าใจทต่ี รงกัน (หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ )

7. ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกนั ระบุตวั รีดวิ ซ์ ตัวออกซไิ ดส์ และเลขออกซิเดชนั ที่เปลีย่ นแปลง จากตวั อย่างที่ 5.2-5.5 ในหนังสือเรียนรายวชิ าเพ่มิ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 ไฟฟ้าเคมีจากนน้ั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และอธิบายเพ่ิมเติมในกรณี ทนี่ กั เรียนมีความเขา้ ใจทคี่ ลาดเคลอื่ น จนนกั เรียนเกดิ ความเข้าใจท่ตี รงกนั 8. ครตู ง้ั คำถามให้นักเรยี นรว่ มกันอภปิ ราย เรื่อง ปฏกิ ริ ยิ ารีดอกซ์ ดงั น้ี 1) จงระบุวา่ ปฏกิ ริ ิยาท่ีกำหนดใหต้ อ่ ไปนจ้ี ดั เปน็ ปฏิกริ ยิ ารดี อกซห์ รือไม่ เพราะเหตุใด • CO2 + H2O → H2CO3 (แนวตอบ : ไมเ่ ป็นปฏกิ ิริยารดี อกซ์ เนอ่ื งจากเลขออกซิเดชันของสารไม่ เปล่ียนแปลง) • 2CeO2 + 8HCl → 2CeCl3 + Cl2 + 4H2O (แนวตอบ : เปน็ ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซ์ เนือ่ งจากเลขออกซเิ ดชันของสารเปล่ียนแปลง) • CH4 + 2O2 → CO2 + 2H2O (แนวตอบ : เปน็ ปฏกิ ิริยารดี อกซ์ เนือ่ งจากเลขออกซิเดชันของสารเปลีย่ นแปลง) • SO2 + 2NaOH → Na2SO3 + H2O (แนวตอบ : ไมเ่ ปน็ ปฏิกริ ิยารดี อกซ์ เนือ่ งจากเลขออกซเิ ดชันของสารไม่ เปล่ยี นแปลง) 2) จงเขยี นสมการแสดงครงึ่ ปฏิกริ ิยาทเ่ี ปน็ ปฏกิ ิรยิ าออกซิเดชันและคร่งึ ปฏิกริ ิยาที่เป็น ปฏกิ ิรยิ ารีดกั ชันของปฏิกิรยิ ารีดอกซท์ ่ีกำหนดให้ พรอ้ มท้ังระบตุ วั ออกซไิ ดสแ์ ละ ตวั รีดิวซ์ • Mg (s) + 2H+ (aq) → Mg2+ (aq) + H2 (g) (แนวตอบ : ปฏิกริ ยิ าออกซเิ ดชนั คอื Mg (s) → Mg2+ (aq) + 2e- ปฏิกริ ิยารดี กั ชัน คอื 2H+ (aq) + 2e- → H2 (g) ตวั ออกซิไดส์ คือ H+ (aq) ตวั รดี ิวซ์ คอื Mg (s) ) • Zn (s) + 2Ag+ (aq) → Zn2+ (aq) + 2Ag (s) (แนวตอบ : ปฏกิ ริ ิยาออกซเิ ดชนั คอื Zn (s) → Zn2+ (aq) + 2e- ปฏกิ ิรยิ ารดี ักชนั คือ Ag+ (aq) + e- → Ag (s) ตวั ออกซไิ ดส์ คอื Ag+ (aq) ตวั รดี ิวซ์ คือ Zn (s) ) • Ca (s) + Cl2 (aq) → Ca2+ (aq) + 2Cl- (aq) (แนวตอบ : ปฏกิ ิรยิ าออกซิเดชัน คอื Ca (s) → Ca2+ (aq) + 2e- ปฏกิ ิรยิ ารีดักชัน คือ Cl2 (aq) + 2e- → 2Cl- (aq) ตวั ออกซไิ ดส์ คอื Cl2 (aq) ตัวรดี วิ ซ์ คือ Ca (s) )

9. นกั เรยี นและครูรว่ มกันอภิปรายเพือ่ หาข้อสรุปเกย่ี วกบั ปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ ซ่ึงได้ขอ้ สรปุ ดังน้ี • ปฏิกิริยาทสี่ ารจ่ายอเิ ล็กตรอน เรยี กว่า ปฏิกิรยิ าออกซเิ ดชัน โดยสารทใี่ หอ้ เิ ลก็ ตรอนกับ สารอ่นื แลว้ มีเลขออกซิเดชันเพิม่ ขน้ึ เรยี กวา่ ตวั รีดวิ ซ์ • ปฏิกิรยิ าทสี่ ารรับอิเล็กตรอน เรยี กว่า ปฏกิ ิรยิ ารดี ักชนั โดยสารที่รบั อิเลก็ ตรอนจากสาร อื่น แลว้ มีเลขออกซเิ ดชันลดลง เรียกวา่ ตัวออกซิไดส์ • ปฏิกริ ิยาออกซิเดชันและปฏิกิริยารีดกั ชนั จดั เปน็ คร่ึงปฏกิ ิรยิ า เมือ่ รวมท้ังสองปฏกิ ริ ยิ าเข้า ดว้ ยกัน จะไดป้ ฏิกริ ิยาที่เรยี กว่า ปฏกิ ริ ยิ ารีดอกซ์ (หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล) ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 10. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนซกั ถามขอ้ สงสยั ในเนอื้ หา เรื่อง ปฏิกิริยารีดอกซ์ ว่ามีส่วนไหนที่ยงั ไม่ เข้าใจ และให้ความรู้เพมิ่ เตมิ ในส่วนน้นั เพื่อจะใชเ้ ปน็ ความรเู้ บอื้ งต้นสำหรับการเรียนในเนอื้ หา ต่อ ๆ ไป 11. นักเรียนทำใบงานท่ี 5.2.1 เร่ือง ปฏกิ ิริยารีดอกซ์ 12. นักเรียนทำแบบฝกึ หัด ในหนงั สอื แบบฝึกหัดรายวชิ าเพ่ิมเตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 ไฟฟา้ เคมี 13. นกั เรียนทำ Topic Question จากหนงั สอื เรียนรายวิชาเพม่ิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 ไฟฟ้าเคมี ลงในสมุดประจำตัว (หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมนิ นกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ขัน้ สรปุ ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมินผลนกั เรยี น โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 5.2.1 เร่อื ง ปฏิกริ ิยารดี อกซ์ 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำแบบฝกึ หัด 4. ครตู รวจสอบผลจากการทำ Topic Question 5. ครวู ัดและประเมนิ ผลจากนำเสนอผลการทดลอง เร่อื ง ปฏิกิรยิ าระหว่างโลหะและไอออนใน สารละลาย 7. การวัดและประเมนิ ผล รายการวัด วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 7.1 ประเมนิ ระหว่าง - ตรวจใบงานท่ี 5.2.1 - ใบงานท่ี 5.2.1 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การจัดกจิ กรรม - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การเรยี นรู้ - ตรวจสมุดประจำตวั - สมุดประจำตวั - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 1) ปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ์

รายการวดั วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 2) การทดลอง เรือ่ ง - ประเมนิ การปฎบิ ัตกิ าร - แบบประเมิน - ระดับคุณภาพ 2 ปฏกิ ริ ยิ าระหวา่ ง การปฎบิ ัติการ ผา่ นเกณฑ์ โลหะและไอออน ในสารละลาย - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2 การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 3) พฤตกิ รรม การทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2 รายบุคคล ผ่านเกณฑ์ การทำงานกลุม่ การทำงานกลุ่ม - ระดับคณุ ภาพ 2 4) พฤตกิ รรมการ ผ่านเกณฑ์ ทำงานกลุ่ม - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมนิ 5) คุณลักษณะ รับผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ คณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ และมุ่งมั่นในการทำงาน อันพึงประสงค์ 8. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 8.5 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรียนรายวชิ าเพมิ่ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ เคมี 2) หนงั สอื แบบฝึกหัดรายวิชาเพ่มิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าเคมี 3) ใบงานท่ี 5.2.1 เร่อื ง ปฏิกิริยารีดอกซ์ 4) วสั ดุ-อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง เร่ือง ปฏิกิริยาระหวา่ งโลหะและไอออนในสารละลาย 5) สมดุ ประจำตัว 8.2 แหล่งการเรียนรู้ - ห้องเรียน 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชือ่ .................................................. (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ผ้เู ขียนแผนการจัดการเรยี นรู้

ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................... (นางกมลชนก เทพบ)ุ หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ...................................................... (นายวิเศษ ฟองตา) รองผู้อำนวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ ข้อเสนอแนะของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชือ่ .................................................... (นายอดิศร แดงเรอื น) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

ใบงานท่ี 5.2.1 เร่อื ง ปฏกิ ริ ิยารดี อกซ์ คำชี้แจง : ตอบคำถามเกีย่ วกับปฏิกิริยารีดอกซ์ 1. พิจารณาปฏกิ ิริยารีดอกซ์ที่กำหนดให้ แลว้ ตอบคำถาม ปฏิกิริยาที่ 1 : 2FeS + 3O2 → 2FeO + 2SO2 ปฏิกิริยาที่ 2 : 5ClO3- + 3I2 + 3H2O → 6IO3- + 6H+ + 5Cl- ปฏิกิริยาท่ี 3 : 2HCl + Na2S2O3 → 2NaCl + SO2 + H2O + S ปฏกิ ริ ยิ าที่ 4 : SO2 + Ag2CO3 + H2O → 2Ag + CO2 + H2SO4 ปฏกิ ริ ิยาที่ 5 : 2MnO4- + 6H+ + 5SO32- → 2Mn2+ + 3H2O + 5SO42- 1) ปฏกิ ริ ิยาท่ี 1 ตัวรดี ิวซ์ คอื มกี ารเปล่ยี นแปลงเลขออกซิเดชนั ไปเท่ากับ ตวั ออกซไิ ดส์ คือ มีการเปลย่ี นแปลงเลขออกซิเดชันไปเทา่ กับ 2) ปฏิกริ ิยาท่ี 2 ตวั รดี วิ ซ์ คอื มีการเปลยี่ นแปลงเลขออกซิเดชันไปเทา่ กบั มกี ารเปลย่ี นแปลงเลขออกซิเดชนั ไปเท่ากบั ตวั ออกซไิ ดส์ คอื มกี ารเปลย่ี นแปลงเลขออกซเิ ดชันไปเทา่ กับ 3) ปฏกิ ิริยาท่ี 3 ตวั รีดิวซ์ คือ มกี ารเปลย่ี นแปลงเลขออกซิเดชนั ไปเทา่ กบั ตัวออกซไิ ดส์ คือ มีการเปลย่ี นแปลงเลขออกซิเดชันไปเท่ากับ 4) ปฏิกริ ยิ าที่ 4 ตวั รีดวิ ซ์ คือ มกี ารเปลย่ี นแปลงเลขออกซิเดชนั ไปเท่ากับ ตวั ออกซิไดส์ คอื มกี ารเปลย่ี นแปลงเลขออกซิเดชนั ไปเทา่ กับ 5) ปฏกิ ริ ยิ าที่ 5 ตัวรดี ิวซ์ คอื มกี ารเปลี่ยนแปลงเลขออกซิเดชนั ไปเทา่ กบั ตัวออกซไิ ดส์ คอื 2. จงระบวุ ่าปฏกิ ิริยาทกี่ ำหนดให้เปน็ ปฏิกิริยารีดอกซห์ รอื ไม่ ถา้ เปน็ ปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ์ ให้ระบุว่าสารใดเปน็ ตัวรีดวิ ซ์ และสารใดเปน็ ตวั ออกซิไดส์ ปฏกิ ิรยิ า ปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์ ตวั รดี ิวซ์ ตัวออกซไิ ดส์ เปน็ ไม่เป็น Sn2+ + 2Fe3+ → Sn4+ + 2Fe2+ 2CrO42- + 2H3O+ → Cr2O72- + 3H2O CS2 + 3Cl2 → CCl4 + S2Cl2 CH4 + 2O2 → CO2 + 2H2O PCl3 + 3H2O → 3HCl + H3PO3 NaH + H2O → NaOH + H2 Zn + 2HCl → ZnCl2 + H2 Cr2O72- + 2OH- → 2CrO42- + H2O 2CuCl → CuCl2 + Cu

ใบงานที่ 5.2.1 เฉลย เรื่อง ปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ คำชีแ้ จง : ตอบคำถามเก่ยี วกบั ปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์ 1. พิจารณาปฏิกริ ยิ ารดี อกซท์ ก่ี ำหนดให้ แลว้ ตอบคำถาม ปฏกิ ริ ิยาท่ี 1 : 2FeS + 3O2 → 2FeO + 2SO2 ปฏกิ ริ ยิ าท่ี 2 : 5ClO3- + 3I2 + 3H2O → 6IO3- + 6H+ + 5Cl- ปฏกิ ิริยาท่ี 3 : 2HCl + Na2S2O3 → 2NaCl + SO2 + H2O + S ปฏกิ ริ ยิ าที่ 4 : SO2 + Ag2CO3 + H2O → 2Ag + CO2 + H2SO4 ปฏิกริ ยิ าท่ี 5 : 2MnO4- + 6H+ + 5SO32- → 2Mn2+ + 3H2O + 5SO42- 1) ปฏกิ ริ ยิ าท่ี 1 ตัวรดี วิ ซ์ คอื FeS มกี ารเปล่ยี นแปลงเลขออกซิเดชนั ไปเท่ากับ 6 ตวั ออกซไิ ดส์ คือ O2 มีการเปล่ียนแปลงเลขออกซิเดชันไปเท่ากับ 2 2) ปฏิกิรยิ าที่ 2 ตวั รดี ิวซ์ คอื I2 มกี ารเปลี่ยนแปลงเลขออกซเิ ดชนั ไปเท่ากับ 5 ตวั ออกซิไดส์ คือ ClO3- มีการเปลี่ยนแปลงเลขออกซเิ ดชันไปเท่ากบั 6 3) ปฏกิ ิรยิ าที่ 3 ตัวรีดวิ ซ์ คอื Na2S2O3 มกี ารเปล่ียนแปลงเลขออกซิเดชันไปเทา่ กับ 2 ตัวออกซไิ ดส์ คือ Na2S2O3 มกี ารเปลี่ยนแปลงเลขออกซเิ ดชนั ไปเท่ากับ 2 4) ปฏิกริ ิยาท่ี 4 ตวั รดี ิวซ์ คือ SO2 มีการเปล่ยี นแปลงเลขออกซเิ ดชันไปเท่ากบั 2 ตัวออกซิไดส์ คือ Ag2CO3 มีการเปล่ยี นแปลงเลขออกซเิ ดชนั ไปเท่ากบั 1 5) ปฏกิ ริ ยิ าท่ี 5 ตวั รีดิวซ์ คอื SO32- มีการเปลย่ี นแปลงเลขออกซิเดชันไปเท่ากบั 2 ตวั ออกซิไดส์ คอื MnO4- มีการเปลย่ี นแปลงเลขออกซิเดชันไปเท่ากับ 5 2. จงระบวุ ่าปฏิกริ ยิ าทก่ี ำหนดให้เปน็ ปฏิกิรยิ ารีดอกซห์ รือไม่ ถา้ เปน็ ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซ์ ใหร้ ะบุวา่ สารใดเปน็ ตัวรดี ิวซ์ และสารใดเป็นตัวออกซิไดส์ ปฏิกิรยิ า ปฏิกริ ิยารีดอกซ์ ตวั รีดิวซ์ ตวั ออกซไิ ดส์ เป็น ไม่เป็น Sn2+ + 2Fe3+ → Sn4+ + 2Fe2+ ✓ Sn2+ Fe3+ 2CrO42- + 2H3O+ → Cr2O72- + 3H2O - - CS2 + 3Cl2 → CCl4 + S2Cl2 ✓ CS2 Cl2 CH4 + 2O2 → CO2 + 2H2O ✓ CH4 O2 PCl3 + 3H2O → 3HCl + H3PO3 - - NaH + H2O → NaOH + H2 ✓ H2O Zn + 2HCl → ZnCl2 + H2 ✓ NaH HCl Cr2O72- + 2OH- → 2CrO42- + H2O ✓ Zn - 2CuCl → CuCl2 + Cu - ✓ CuCl CuCl ✓

วช-ร 06 แบบบนั ทกึ หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ช่อื หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 11 เรอ่ื ง เคมีไฟฟา้ แผนการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง ปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์ รายวชิ า เคมี 4 ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 รหัสวชิ า ว 32204 ครูผู้สอน นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา ตำแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย เวลาทใ่ี ช้ 2 ชั่วโมง ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาท่พี บ แนวทางแกไ้ ข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เนอ้ื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมีส่วนรว่ มของผเู้ รียน ลงชือ่ ครูผู้จดั กิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วุฒิเศลา) ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 11 เรอ่ื ง เคมไี ฟฟ้า แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง การดุลสมการรีดอกซ์ รายวิชา เคมี 4 รหัสวชิ า ว 32204 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 น้ำหนกั เวลาเรยี น 1.5 หนว่ ยกจิ เวลาเรียน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาทีใ่ ชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 3 ช่ัวโมง 1. ผลการเรียนรู้ ดลุ สมการรีดอกซด์ ้วยการใช้เลขออกซเิ ดชันและวิธคี ร่ึงปฏกิ ริ ิยา 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายหลักการดุลสมการรดี อกซ์โดยใช้เลขออกซิเดชันและครงึ่ ปฏิกิรยิ าได้ (K) 2. ตรวจสอบการดุลสมการรดี อกซโ์ ดยใช้เลขออกซเิ ดชนั ได้ (P) 3. ตรวจสอบการดุลสมการรดี อกซ์โดยใชค้ รึง่ ปฏิกริ ิยาได้ (P) 4. ต้ังใจเรียนรูแ้ ละแสวงหาความรู้ รบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ที ี่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้เพม่ิ เติม สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถิ่น - ปฏิกริ ิยารดี อกซเ์ ขียนแทนได้ด้วยสมการรีดอกซ์ พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา ซ่ึงการดุลสมการรีดอกซ์ทําไดโ้ ดยการใช้เลข ออกซเิ ดชันและวธิ ีคร่ึงปฏิกริ ิยา 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์ เปน็ ปฏิกริ ิยาทีม่ ีการเปล่ยี นแปลงเลขออกซิเดชนั ของธาตุทอี่ ยู่ในสารประกอบ ในสมการเคมี หรือปฏิกิริยาท่ีมีการรับและจ่ายอิเลก็ ตรอน การดลุ สมการรดี อกซ์ มี 2 วธิ ี คือ การดุลสมการรีดอกซโ์ ดยใช้เลขออกซิเดชนั ท่ีเปลี่ยนแปลง และการดุลสมการรีดอกซ์โดยใชค้ รึง่ ปฏิกริ ยิ า 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินัย รบั ผิดชอบ 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน 1) ทกั ษะการสังเกต 2) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา 3) ทักษะการวเิ คราะห์ 4) ทักษะการเชื่อมโยง 5) ทักษะการทำงานร่วมกนั

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. กิจกรรมการเรยี นรู้  แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนิค : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชวั่ โมงที่ 1 ขนั้ นำ ขนั้ ท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engage) 1. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียนรายวิชาเพ่มิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ เคมี วา่ “การดลุ สมการคอื อะไร” แล้วให้นักเรยี นรว่ มกนั ตอบ คำถาม จากนน้ั ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย (แนวตอบ : การทำให้จำนวนอะตอมของธาตหุ รอื สารแต่ละชนิดในปฏกิ ิริยาเกิดความสมดุล ระหวา่ งสารตง้ั ต้นและผลิตภัณฑ์ตามหลักการของกฎทรงมวล) 2. ครูยกตวั อยา่ งสมการเคมีของปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ์และไมใ่ ชป่ ฏิกิรยิ ารดี อกซ์ จากนัน้ ให้นกั เรยี น ร่วมกนั ดลุ สมการ และอภปิ รายเพือ่ เชอ่ื มโยงเข้าสู่การดุลสมการรีดอกซโ์ ดยการใช้เลขออกซเิ ดชัน และวธิ คี รึ่งปฏกิ ริ ิยา ขน้ั สอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 1. นักเรยี นจับคู่กับเพือ่ น โดยให้แต่ละค่ศู ึกษาเกย่ี วกับหลักการดุลสมการรีดอกซ์โดยใช้เลข ออกซิเดชนั ที่เปลย่ี นแปลง และร่วมกนั ฝึกการดุลสมการรีดอกซ์โดยใชเ้ ลขออกซเิ ดชนั ท่ี เปลีย่ นแปลง จากตวั อย่างท่ี 5.6-5.10 ในหนังสือเรียนรายวชิ าเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 ไฟฟา้ เคมี (หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ) ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 2. ครูส่มุ นกั เรียน 5 คู่ ออกมาแสดงวธิ ีการดุลสมการจากตวั อย่างแต่ละขอ้ หนา้ ช้ันเรยี น จากน้ัน ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ในกรณีท่นี ักเรียนมีความเข้าใจท่ีคลาดเคลือ่ น จน นกั เรยี นเกิดความเข้าใจท่ตี รงกัน 3. ครูยกตวั อยา่ งโจทย์เก่ียวกบั การดุลสมการรดี อกซ์โดยใชเ้ ลขออกซเิ ดชนั ท่ีเปล่ยี นแปลง โดยครู เขียนโจทยแ์ ละแสดงวิธีทำให้นักเรยี นดูบนกระดาน ดังนี้ จงดลุ สมการรดี อกซ์ต่อไปนี้ Fe2O3 + C → Fe + CO2 โดยใช้เลขออกซิเดชนั วธิ ที ำ เพมิ่ ขน้ึ 4 × 3 = 12 +3 0 0 +4 Fe2O3 + C → Fe + CO2 ลดลง 3 × 4 = 12 ↓ 2Fe2O3 + 3C → 4Fe + 3CO2

ช่วั โมงท่ี 2 ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) 4. นกั เรยี นจบั คกู่ บั เพ่อื น โดยใหแ้ ต่ละคูศ่ ึกษาเก่ียวกับหลกั การดุลสมการรดี อกซ์โดยใช้คร่ึงปฏิกริ ิยา และรว่ มกันฝกึ การดลุ สมการรดี อกซ์โดยใช้ครึง่ ปฏกิ ริ ยิ าจากตัวอย่างที่ 5.11-5.16 ในหนังสือเรยี นรายวชิ าเพม่ิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟา้ เคมี (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม) 5. ครูส่มุ นักเรยี น 6 คู่ ออกมาแสดงวธิ กี ารดลุ สมการจากตัวอยา่ งแต่ละข้อหน้าชัน้ เรียน จากนน้ั ตรวจสอบความถูกต้อง และอธิบายเพิม่ เติมในกรณที ่ีนกั เรียนมคี วามเข้าใจท่ีคลาดเคลือ่ น จนนักเรียนเกิดความเข้าใจทีต่ รงกัน 6. ครูยกตวั อย่างโจทยเ์ ก่ียวกบั การดุลสมการรีดอกซ์โดยใช้คร่งึ ปฏิกริ ิยา โดยครูเขียนโจทย์และ แสดงวิธีทำให้นักเรยี นดูบนกระดาน ดงั นี้ 1) จงดลุ สมการรดี อกซ์ต่อไปนี้ NO2- + Al → NH3 + AlO2- โดยใช้ครง่ึ ปฏิกริ ิยาในกรด วิธีทำ ปฏกิ ริ ยิ ารีดกั ชัน : +3 -3 NO2- → NH3 NO2- + 6e- → NH3 NO2- + 6e- → NH3 + 2H2O NO2- + 6e- + 7H+ → NH3 + 2H2O ….. (1) ปฏกิ ริ ยิ าออกซิเดชัน : 0 +3 Al → AlO2- Al → AlO2- + 3e- Al + 2H2O → AlO2- + 3e- 2(Al + 2H2O → AlO2- + 3e- + 4H+) 2Al + 4H2O → 2AlO2- + 6e- + 8H+ ….. (2) (1) + (2) NO2- + 2Al + 4H2O → NH3 + 2AlO2- + H+) 2) จงดุลสมการรดี อกซ์ตอ่ ไปนี้ Fe2+ + MnO4- → Fe3+ + Mn2+ โดยใช้คร่ึงปฏิกริ ิยาในเบส วิธีทำ: ปฏิกริ ยิ ารดี กั ชัน : +7 +2 MnO4- → Mn2+ MnO4- + 5e- → Mn2+ MnO4- + 5e- → Mn2+ + 4H2O MnO4- + 5e- + 8H+ → Mn2+ + 4H2O ….. (1) ปฏกิ ิรยิ าออกซิเดชนั : +2 +3 Fe2+ → Fe3+ 5(Fe2+ → Fe3+ + e-) 5Fe2+ → 5Fe3+ + 5e- ….. (2) (1) + (2) 5Fe2+ + MnO4- + 8H+ → 5Fe3+ + Mn2+ + 4H2O 5Fe2+ + MnO4- + 8H+ + 8OH- → 5Fe3+ + Mn2+ + 4H2O + 8OH-

5Fe2+ + MnO4- + 8H2O → 5Fe3+ + Mn2+ + 4H2O + 8OH- 5Fe2+ + MnO4- + 4H2O → 5Fe3+ + Mn2+ + 8OH- ) 7. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายเพอ่ื สรปุ ความรเู้ กี่ยวกบั วิธีการดลุ สมการรดี อกซ์โดยใชเ้ ลข ออกซิเดชันทีเ่ ปล่ยี นแปลงและวธิ คี รงึ่ ปฏิกริ ยิ า โดยครคู วรชใี้ ห้นกั เรยี นเห็นว่าการดุลสมการรี ดอกซท์ งั้ 2 วิธนี ้ี จะใหค้ ำตอบทเี่ หมอื นกนั (หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล) ช่ัวโมงที่ 3 ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate) 8. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรียนซักถามขอ้ สงสยั ในเนอ้ื หา เร่ือง การดลุ สมการรีดอกซ์ วา่ มีสว่ นไหนท่ยี ัง ไม่เข้าใจ และให้ความรูเ้ พิม่ เตมิ ในส่วนนนั้ เพอื่ จะใชเ้ ปน็ ความรูเ้ บื้องตน้ สำหรบั การเรยี นในเนอื้ หา ตอ่ ๆ ไป 9. นกั เรยี นทำใบงานที่ 5.3.1 เร่ือง การดุลสมการรีดอกซโ์ ดยใชเ้ ลขออกซิเดชันท่ีเปลี่ยนแปลง 10. นักเรียนทำใบงานท่ี 5.3.2 เรือ่ ง การดุลสมการรีดอกซ์โดยใชค้ ร่ึงปฏกิ ิริยา 11. นกั เรียนทำแบบฝึกหัด ในหนังสือแบบฝกึ หัดรายวิชาเพ่ิมเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 ไฟฟ้าเคมี 12. นักเรยี นทำ Topic Question จากหนังสอื เรียนรายวชิ าเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าเคมี ลงในสมดุ ประจำตวั (หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ข้นั สรปุ ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมนิ ผลนกั เรียน โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล พฤติกรรมการทำงานกล่มุ 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 5.3.1 เรือ่ ง การดุลสมการรดี อกซโ์ ดยใชเ้ ลขออกซิเดชนั ท่ี เปลย่ี นแปลง 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 5.3.2 เรอ่ื ง การดุลสมการรีดอกซโ์ ดยใชค้ ร่งึ ปฏกิ ริ ิยา 4. ครูตรวจสอบผลจากการทำแบบฝกึ หัด 5. ครูตรวจสอบผลจากการทำ Topic Question 7. การวดั และประเมนิ ผล รายการวัด วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 7.1 ประเมินระหวา่ ง - ใบงานท่ี 5.3.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ใบงานท่ี 5.3.2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การจัดกิจกรรม - แบบฝกึ หัด - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - สมดุ ประจำตวั - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การเรยี นรู้ 1) การดุลสมการ - ตรวจใบงานท่ี 5.3.1 รีดอกซ์ - ตรวจใบงานที่ 5.3.2 - ตรวจแบบฝกึ หัด - ตรวจสมุดประจำตัว

รายการวดั วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 2) พฤติกรรม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2 การทำงาน การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ รายบุคคล - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2 3) พฤตกิ รรมการ ผา่ นเกณฑ์ ทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม การทำงานกลุ่ม - ระดบั คณุ ภาพ 2 4) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ อันพึงประสงค์ รับผดิ ชอบ ใฝ่เรยี นรู้ คุณลกั ษณะ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน อันพึงประสงค์ 8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 8.6 ส่อื การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียนรายวชิ าเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 5 ไฟฟ้าเคมี 2) หนังสือแบบฝึกหัดรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟ้าเคมี 3) ใบงานที่ 5.3.1 เรอ่ื ง การดุลสมการรดี อกซโ์ ดยใช้เลขออกซิเดชนั ทเี่ ปลี่ยนแปลง 4) ใบงานท่ี 5.3.2 เรอื่ ง การดุลสมการรดี อกซโ์ ดยใชค้ รึง่ ปฏิกริ ิยา 5) สมุดประจำตัว 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ - 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................. (นางสาวกานดา วุฒิเศลา) ผเู้ ขียนแผนการจัดการเรียนรู้ ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................................... (นางกมลชนก เทพบ)ุ หัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์

ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ...................................................... (นายวิเศษ ฟองตา) รองผู้อำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ขอ้ เสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรียน ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................... (นายอดิศร แดงเรอื น) ผอู้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

ใบงานที่ 5.3.1 เรือ่ ง การดลุ สมการรีดอกซโ์ ดยใช้เลขออกซิเดชนั ทีเ่ ปล่ยี นแปลง คำช้ีแจง : ดลุ สมการรดี อกซ์ทีก่ ำหนดให้โดยใชเ้ ลขออกซิเดชนั ทเี่ ปลี่ยนแปลง 1. SnCl2 + H2SO4 + HCl → SnCl4 + H2S + H2O 2. I2 + KOH → KIO3 + KI + H2O

3. Fe2+ + Cr2O72- + H+ → Fe3+ + Cr3+ + H2O 4. KIO3 + KI + H2SO4 → KI3 + K2SO4 + H2O

ใบงานท่ี 5.3.1 เฉลย เรอื่ ง การดุลสมการรดี อกซ์โดยใชเ้ ลขออกซิเดชันท่ีเปล่ียนแปลง คำชแ้ี จง : ดุลสมการรดี อกซ์ทีก่ ำหนดให้โดยใช้เลขออกซิเดชนั ที่เปลย่ี นแปลง 1. SnCl2 + H2SO4 + HCl → SnCl4 + H2S + H2O เพิม่ ขึ้น 2 × 4 = 8 +2 +6 +4 -2 SnCl2 + H2SO4 + HCl → SnCl4 + H2S + H2O ลดลง 8 × 1 = 8 ↓ 4SnCl2 + H2SO4 + HCl → 4SnCl4 + H2S + H2O ↓ 4SnCl2 + H2SO4 + 8HCl → 4SnCl4 + H2S + H2O 2. I2 + KOH → KIO3 + KI + H2O เพ่ิมข้นึ 5 × 2 × 1 = 10 0 0 +5 -1 I2 + I2 + KOH → KIO3 + KI + H2O ลดลง 1 × 2 × 5 = 10 ↓ I2 + 5I2 + KOH → 2KIO3 + 10KI + H2O ↓ I2 + 5I2 + 12KOH → 2KIO3 + 10KI + 6H2O ↓ 6I2 + 12KOH → 2KIO3 + 10KI + 6H2O

3. Fe2+ + Cr2O72- + H+ → Fe3+ + Cr3+ + H2O เพ่มิ ข้นึ 1 × 3 × 2 = 6 +2 +6 +3 +3 Fe2+ + Cr2O72- + H+ → Fe3+ + Cr3+ + H2O ลดลง 3 × 2 = 6 ↓ 6Fe2+ + Cr2O72- + H+ → 6Fe3+ + 2Cr3+ + H2O ↓ 6Fe2+ + Cr2O72- + 14H+ → 6Fe3+ + 2Cr3+ + 7H2O 4. KIO3 + KI + H2SO4 → KI3 + K2SO4 + H2O เพิ่มข้นึ 2 × 3 × 3 × 8 = 48 3 +5 -1 -1 -1 33 KIO3 + KI + H2SO4 → KI3 + KI3 + K2SO4 + H2O ลดลง 16 × 3 × 3 = 48 3 ↓ KIO3 + 8KI + H2SO4 → 13KI3 + 83KI3 + K2SO4 + H2O ↓ KIO3 + 8KI + 3H2SO4 → 31KI3 + 83KI3 + 3K2SO4 + 3H2O ↓ KIO3 + 8KI + 3H2SO4 → 3KI3 + 3K2SO4 + 3H2O

ใบงานท่ี 5.3.2 เรือ่ ง การดุลสมการรดี อกซ์โดยใช้ครึ่งปฏิกิรยิ า คำชี้แจง : ดุลสมการรีดอกซ์ทีก่ ำหนดให้โดยใชค้ รงึ่ ปฏิกริ ิยา 1. H2MoO4 + Cr2+ → Mo + Cr3+ (ใช้ครึ่งปฏกิ ริ ิยาในกรด) 2. Mn2+ + NaBiO3 → Bi3+ + MnO4- + Na+ (ใช้ครึ่งปฏกิ ิรยิ าในกรด)

3. Al + NO2- → NH3 + Al(OH)4- (ใชค้ ร่งึ ปฏิกริ ิยาในเบส) 4. Br2 → BrO3- + Br- (ใชค้ รง่ึ ปฏิกิริยาในเบส)

ใบงานท่ี 5.3.2 เฉลย เรอ่ื ง การดลุ สมการรีดอกซโ์ ดยใช้ครงึ่ ปฏิกิริยา คำชแี้ จง : ดุลสมการรีดอกซ์ที่กำหนดให้โดยใชค้ รึง่ ปฏกิ ิรยิ า 1. H2MoO4 + Cr2+ → Mo + Cr3+ (ใช้คร่ึงปฏกิ ริ ิยาในกรด) ปฏิกริ ิยารดี กั ชนั : +6 0 H2MoO4 → Mo H2MoO4 + 6e- → Mo H2MoO4 + 6e- → Mo + 4H2O H2MoO4 + 6e- + 6H+ → Mo + 4H2O ….. (1) ปฏิกิริยาออกซเิ ดชนั : +2 +3 Cr2+ → Cr3+ 6(Cr2+ → Cr3++ e-) 6Cr2+ → 6Cr3++ 6e- ….. (2) (1) + (2) H2MoO4 + 6Cr2+ + 6H+ → Mo + 6Cr3+ + 4H2O 2. Mn2+ + NaBiO3 → Bi3+ + MnO4- + Na+ (ใช้ครงึ่ ปฏิกิริยาในกรด) ปฏิกริ ยิ ารดี กั ชนั : +5 +3 NaBiO3 → Bi3+ NaBiO3 + 2e- → Bi3+ + Na+ NaBiO3 + 2e- → Bi3+ + Na+ + 3H2O 5(NaBiO3 + 2e- + 6H+ → Bi3+ + Na+ + 3H2O) 5NaBiO3 + 10e- + 30H+ → 5Bi3+ + 5Na+ + 15H2O ….. (1) ปฏกิ ิริยาออกซเิ ดชัน : +2 +7 Mn2+ → MnO4- Mn2+ → MnO4- + 5e- Mn2+ + 4H2O → MnO4- + 5e- 2(Mn2+ + 4H2O → MnO4- + 5e- + 8H+) 2Mn2+ + 8H2O → 2MnO4- + 10e- + 16H+ ….. (2) (1) + (2) 2Mn2+ + 5NaBiO3 + 14H+ → 5Bi3+ + 2MnO4- + 5Na+ + 7H2O

3. Al + NO2- → NH3 + Al(OH)4- (ใช้ครง่ึ ปฏกิ ิรยิ าในเบส) ปฏกิ ิรยิ ารดี ักชนั : +3 -3 NO2- → NH3 NO2- + 6e- → NH3 NO2- + 6e- → NH3 + 2H2O NO2- + 6e- + 7H+ → NH3 + 2H2O ….. (1) ปฏกิ ริ ิยาออกซเิ ดชัน : 0 +3 Al → Al(OH)4- Al → Al(OH)4- + 3e- Al + 4H2O → Al(OH)4- + 3e- 2(Al + 4H2O → Al(OH)4- + 3e- + 4H+) 2Al + 8H2O → 2Al(OH)4- + 6e- + 8H+ ….. (2) (1) + (2) 2Al + NO2- + 6H2O → NH3 + 2Al(OH)4- + H+ 2Al + NO2- + 6H2O + OH- → NH3 + 2Al(OH)4- + H+ + OH- 2Al + NO2- + 6H2O + OH- → NH3 + 2Al(OH)4- + H2O 2Al + NO2- + 5H2O + OH- → NH3 + 2Al(OH)4- 4. Br2 → BrO3- + Br- (ใชค้ รง่ึ ปฏิกริ ยิ าในเบส) ปฏกิ ริ ยิ ารดี ักชัน : 0 -1 Br2 → Br- Br2 + e- → Br- 5(Br2 + 2e- → 2Br-) 5Br2 + 10e- → 10Br- ….. (1) ปฏิกิริยาออกซิเดชัน : 0 +5 Br2 → BrO3- Br2 → BrO3- + 5e- Br2 → 2BrO3- + 10e- Br2 + 6H2O → 2BrO3- + 10e- Br2 + 6H2O → 2BrO3- + 10e- + 12H+ ….. (2) (1) + (2) 6Br2 + 6H2O → 2BrO3- + 10Br- + 12H+ 6Br2 + 6H2O + 12OH- → 2BrO3- + 10Br- + 12H+ + 12OH- 6Br2 + 6H2O + 12OH- → 2BrO3- + 10Br- + 12H2O 6Br2 + 12OH- → 2BrO3- + 10Br- + 6H2O

วช-ร 06 แบบบันทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ที่ 11 เรอ่ื ง เคมไี ฟฟา้ แผนการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การดลุ สมการรีดอกซ์ รายวิชา เคมี 4 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 รหัสวชิ า ว 32204 ครผู ู้สอน นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย เวลาทใี่ ช้ 3 ชัว่ โมง ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหวา่ ง ปญั หาท่พี บ แนวทางแกไ้ ข ทม่ี ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนรว่ มของผเู้ รยี น ลงชอื่ ครูผ้จู ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วฒุ ิเศลา) ตำแหน่ง ครูผูช้ ่วย

แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 11 เรอ่ื ง เคมไี ฟฟ้า แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 เรื่อง เซลล์กัลป์วานิก รายวิชา เคมี 4 รหสั วชิ า ว 32204 ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 นำ้ หนกั เวลาเรยี น 1.5 หน่วยกิจ เวลาเรียน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาทใี่ ช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 6 ช่ัวโมง 1. ผลการเรียนรู้ 1. ระบอุ งค์ประกอบของเซลลเ์ คมไี ฟฟ้า และเขยี นสมการเคมีของปฏิกิรยิ าทแี่ อโนดและแคโทด ปฏกิ ิรยิ ารวม และแผนภาพเซลล์ 2. คำนวณคา่ ศกั ย์ไฟฟา้ มาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของเซลลเ์ คมีไฟฟา้ ขว้ั ไฟฟา้ และ ปฏิกริ ยิ าเคมีท่ีเกิดขนึ้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายการเกิดกระแสไฟฟ้าในเซลล์กัลวานิกและบอกได้ว่าขั้วไฟฟ้าใดเป็นขั้วแอโนดหรือขั้วแคโทด รวมทง้ั บอกหน้าท่ขี องสะพานเกลือได้ (K) 2. อธิบายวิธีการหาค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครงึ่ เซลล์ และความหมายของค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของ ครงึ่ เซลล์ได้ (K) 3. เปรยี บเทียบความสามารถในการเป็นตวั ออกซไิ ดสแ์ ละตวั รดี วิ ซ์ของสารจากคา่ E0 ของคร่ึงเซลล์ได้ (K) 4. อธิบายการเกิดปฏิกริ ิยาเม่อื นำครึง่ เซลลท์ ท่ี ราบค่าศักยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของครงึ่ เซลลม์ าต่อกับคร่ึงเซลล์ ไฮโดรเจนมาตรฐานได้ (K) 8. คำนวณหาค่าศกั ยไ์ ฟฟา้ มาตรฐานของเซลล์โดยใช้คา่ E0 ของครง่ึ เซลล์ได้ (K) 6. เขยี นสมการแสดงปฏิกริ ิยาที่เกดิ ข้ึนที่ข้ัวแอโนด ขวั้ แคโทด และปฏกิ ิรยิ ารดี อกซไ์ ด้ (P) 7. เขยี นแผนภาพเซลลก์ ลั วานิกได้ (P) 5. ทำการทดลองเพ่อื ศึกษาการถา่ ยโอนอเิ ลก็ ตรอนในเซลลก์ ัลวานกิ ได้ (P) 10. ใชเ้ ครื่องมือและอปุ กรณ์ทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างถกู ต้อง (P) 11. ปฏบิ ตั ิตามขัน้ ตอนการทดลองได้อย่างถูกตอ้ ง (P) 12. ตัง้ ใจเรยี นรแู้ ละแสวงหาความรู้ รับผิดชอบตอ่ หนา้ ที่ท่ีไดร้ ับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเตมิ สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ - เซลล์เคมีไฟฟา้ ประกอบด้วยแอโนด แคโทด พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา และสารละลายอเิ ลก็ โทรไลต์ ซึ่งอาจเชอ่ื มต่อกนั ด้วยสะพานเกลือ โดยที่แอโนดเกิดปฏกิ ริ ิยา ออกซเิ ดชันและแคโทดเกดิ ปฏกิ ริ ยิ ารีดักชนั

สาระการเรียนรู้เพ่มิ เติม สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ ทาํ ให้อเิ ล็กตรอนเคลื่อนท่ีจากแอโนดไปแคโทด เซลลเ์ คมีไฟฟ้าสามารถเขียนแสดงได้ดว้ ย แผนภาพเซลล์ - คา่ ศกั ย์ไฟฟา้ มาตรฐานของเซลล์คํานวณไดจ้ าก ค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครง่ึ เซลล์ ถ้าค่าศักยไ์ ฟฟ้าของเซลลเ์ ป็นบวก แสดงว่า ปฏิกิรยิ ารีดอกซเ์ กิดข้ึนไดเ้ อง ซ่ึงทําให้เกดิ กระแสไฟฟ้าเรียกเซลลช์ นิดน้ีว่า เซลลก์ ัลวานกิ แตถ่ า้ ค่าศักยไ์ ฟฟ้าของเซลลเ์ ปน็ ลบ แสดงวา่ ปฏิกิรยิ ารีดอกซ์ไม่สามารถเกิดได้เอง ต้องมีการ ให้กระแสไฟฟ้าจงึ จะเกดิ ปฏกิ ิรยิ าได้เซลลช์ นิดนี้ เรียกว่า เซลล์อิเลก็ โทรลิติก 4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เซลล์กลั วานิก หรือเซลล์โวลตาอกิ เปน็ เซลลไ์ ฟฟา้ เคมที เี่ ปล่ยี นพลงั งานเคมีเปน็ พลังงานไฟฟา้ เกดิ จากสารเคมีทำปฏกิ ิรยิ ากนั ในเซลล์ แล้วเกิดกระแสไฟฟ้ากระแสตรงมากขน้ึ โดยทวั่ ไปเซลล์กลั วานิกจะ ประกอบดว้ ยครึ่งเซลล์ 2 ครงึ่ เซลล์มาตอ่ กนั และเช่อื มใหค้ รบวงจรด้วยสะพานเกลอื ท่ีต่อไวใ้ นสารละลายใน แต่ละคร่ึงเซลล์ ค่าศักยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของครึง่ เซลล์ (E0) เปน็ คา่ ทีแ่ สดงความสามารถในการรบั อิเลก็ ตรอนของธาตหุ รือ ไอออน เม่อื เปรียบเทยี บกบั กบั ครึง่ เซลล์ไฮโดรเจนมาตรฐานท่ีมคี ่า E0 เป็นศนู ย์ ค่า E0 ท่มี ีเครอ่ื งหมายเป็น บวก แสดงวา่ ธาตุหรอื ไอออนในคร่งึ เซลล์น้ันมคี วามสามารถในการรบั อิเล็กตรอนสงู กว่า H+ ในครึ่งเซลล์ ไฮโดรเจนมาตรฐาน ถา้ ค่า E0 มีเคร่อื งหมายเปน็ ลบ แสดงว่า ธาตหุ รอื ไอออนในครงึ่ เซลล์นัน้ มีความสามารถ ในการรบั อิเลก็ ตรอนต่ำกวา่ H+ ในครง่ึ เซลล์ไฮโดรเจนมาตรฐาน 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทักษะการสงั เกต 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน 2) ทกั ษะการสำรวจค้นหา 3) ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 4) ทักษะการวิเคราะห์ 5) ทักษะการทดลอง 6) ทักษะการตคี วามหมายและลงข้อสรุป 7) ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงที่ 1 ขัน้ นำ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูถามคำถาม Prior Knowledge จากหนังสือเรียนรายวชิ าเพิ่มเตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 5 ไฟฟา้ เคมี ว่า “ถ่านไฟฉายกับแบตเตอร่มี ีหลกั การทำงานอย่างไร” แล้ว ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั ตอบคำถาม จากนัน้ ครูและนักเรียนร่วมกนั อภิปราย (แนวตอบ : ถ่านไฟฉายและแบตเตอรเ่ี ป็นอุปกรณ์ทเ่ี ปลี่ยนพลงั งานเคมีไปเป็นพลังงานไฟฟ้า โดย อาศยั การเกดิ ปฏิกิริยาเคมขี องสารเคมที ่บี รรจอุ ยู่ภายใน ทำใหเ้ กิดการเคล่อื นทีข่ องอิเลก็ ตรอน ซึง่ สง่ ผลให้เกิดกระแสไฟฟ้า) 2. ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายเกยี่ วกับชนดิ ของแหล่งพลังงานและปฏิกริ ยิ าที่เกิดขน้ึ ในอปุ กรณ์ และเครื่องใชต้ า่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวนั และรถยนต์ เปรยี บเทยี บกบั ปฏกิ ิรยิ าและแหลง่ พลังงานท่ี ใชใ้ นการทดลองแยกน้ำ การชบุ โลหะ เพื่อนำไปสู่การศกึ ษาเรื่องเซลลไ์ ฟฟ้าเคมี ซง่ึ จะแบง่ ออกได้ เป็น 2 ประเภท คอื เซลล์กลั วานกิ และเซลลอ์ เิ ล็กโทรไลติก 3. ครูยกตวั อย่างปฏิกริ ิยารีดอกซ์ในชีวิตประจำวัน จากนนั้ นำเข้าสู่ปฏิกิริยารีดอกซ์ในเซลล์เคมไี ฟฟา้ ขน้ั สอน ขั้นท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore) 1. นกั เรียนแต่ละคนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกบั องค์ประกอบของเซลลไ์ ฟฟ้าเคมี จากหนงั สอื เรยี นรายวิชา เพ่ิมเตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 ไฟฟา้ เคมี จากนน้ั นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายและลงข้อสรุปเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบของเซลลไ์ ฟฟา้ เคมี หนา้ ท่ีของสะพานเกลอื ความหมายของครึง่ เซลล์ 2. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 5 คน เพอ่ื ทำการทดลอง เรอ่ื ง การถ่ายโอนอเิ ล็กตรอนในเซลล์ กัลวานิก จากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าเพิม่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ เคมี 3. ครูใชร้ ูปแบบการเรยี นร้แู บบรว่ มมือ เทคนิค LT มาจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกำหนดใหส้ มาชกิ แต่ละคนภายในกลุ่มมีบทบาทหนา้ ทขี่ องตนเอง ดังน้ี • สมาชกิ คนท่ี 1 : ทำหน้าท่เี ตรยี มวัสด-ุ อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการทดลอง เรื่อง การถา่ ยโอน อเิ ล็กตรอนในเซลล์กลั วานิก • สมาชิกคนท่ี 2 : ทำหนา้ ท่ีอา่ นวิธกี ารทดลอง ทำความเข้าใจ และอธบิ ายให้สมาชิกในกลมุ่ ฟัง • สมาชิกคนที่ 3 : ทำหน้าทีบ่ ันทึกผลการทดลอง • สมาชกิ คนที่ 4 และ 5 : ทำหนา้ ทนี่ ำเสนอผลการทดลอง 4. สมาชกิ ทุกคนในกลุ่มชว่ ยกันลงมอื ทำการทดลอง (หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ) 5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทน (สมาชิกคนที่ 4 และ 5 ของกล่มุ ) ออกมานำเสนอผลการทดลอง หลังจากน้นั ใหน้ กั เรียนทกุ คนร่วมกันอภปิ รายผลการทดลองจนมีความเข้าใจทตี่ รงกนั (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบประเมินปฏบิ ตั ิการ)

6. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั อภปิ รายผลการทดลอง ซง่ึ ไดข้ ้อสรุปวา่ “เมอื่ นำ 2 ครง่ึ เซลลต์ ่างชนดิ กัน มาตอ่ ด้วยสะพานเกลอื แลว้ ต่อเข้ากบั โวลตม์ ิเตอร์ พบวา่ เขม็ ของโวลต์มิเตอรเ์ บนไปจากขดี ศูนย์ แสดงว่า มกี ารถา่ ยโอนอิเล็กตรอนจากข้วั โลหะหนึ่งไปยังอกี ข้วั โลหะหนง่ึ ซง่ึ มศี ักยไ์ ฟฟ้าไมเ่ ทา่ กัน และเมอื่ นำหลอดไฟมาตอ่ เข้ากบั วงจร พบวา่ หลอดไฟจะสวา่ ง แสดงวา่ มกี ระแสไฟฟ้าไหลใน วงจร และเรยี กเซลล์ไฟฟา้ เคมีลักษณะนี้วา่ เซลล์กลั วานิก” ชว่ั โมงท่ี 2 ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 7. นกั เรียนจบั คู่กับเพ่ือน โดยแตล่ ะคู่ศึกษาเกยี่ วกบั วิธีเขยี นแผนภาพเซลล์กัลวานกิ ทแ่ี สดงปฏิกริ ยิ า ท่เี กดิ ข้ึนในเซลลไ์ ฟฟา้ เคมี และร่วมกันฝึกการคำนวณตัวอย่างที่ 5.17 ในหนงั สอื เรยี นรายวิชา เพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 ไฟฟ้าเคมี 8. ครสู มุ่ นกั เรยี น 1 คู่ ออกมาแสดงวิธีการคำนวณตัวอย่างแต่ละข้อหน้าชัน้ เรยี น จากนนั้ ตรวจสอบ ความถูกต้อง และอธบิ ายเพ่ิมเติมในกรณีทนี่ ักเรียนมคี วามเขา้ ใจทคี่ ลาดเคลือ่ น จนนักเรียนเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน 9. ครูยกตัวอยา่ งเพ่มิ เตมิ เกีย่ วเซลล์ไฟฟา้ เคมี แล้วให้นกั เรียนฝกึ เขียนสมการเคมที ี่แสดงปฏิกริ ิยาท่ี แอโนด แคโทด ปฏิกริ ิยารวม และแผนภาพเซลล์ทแี่ สดงปฏิกิรยิ าที่เกดิ ข้นึ จากนั้นตรวจสอบ ความถูกต้อง และอธิบายเพ่มิ เติมในกรณที ีน่ ักเรยี นมีความเข้าใจที่คลาดเคลอื่ น จนนักเรียนเกิด ความเขา้ ใจท่ีตรงกนั 10. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ กี่ยวกับองคป์ ระกอบของเซลล์ไฟฟ้าเคมี การเขยี นสมการเคมี แสดงปฏกิ ริ ยิ าทีแ่ อโนดและแคโทด ปฏกิ ิรยิ ารวม และแผนภาพเซลล์ ชั่วโมงที่ 3 ขน้ั ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 11. ครวู าดรูปเซลล์เคมไี ฟฟ้าของ Zn (s)| Zn2+ (aq, 1 M) ∥ Cu2+ (aq, 1 M)| Cu (s) บนกระดาน พรอ้ มกบั อภิปรายร่วมกนั เก่ยี วกบั คา่ ศกั ย์ไฟฟา้ ของเซลล์ ทศิ ทางการเคลอ่ื นท่ีของ อเิ ลก็ ตรอนคร่ึงปฏกิ ิริยาท่ีเกิดขนึ้ ในขว้ั แอโนด แคโทด ปฏิกริ ิยารีดอกซ์ 12. ครอู ธิบายวา่ “ค่าที่วัดจากโวลต์มิเตอร์เปน็ ค่าศกั ย์ไฟฟ้าของเซลล์ จากนนั้ ถามนักเรยี นวา่ แลว้ นักวทิ ยาศาสตร์จะมีวิธกี ารหาคา่ ศักย์ไฟฟา้ ครึ่งเซลล์ของ Zn (s)| Zn2+ (aq, 1 M) ∥ Cu2+ (aq, 1 M)| Cu (s) ได้อย่างไร” เพ่อื นำเขา้ สู่เร่ืองและศกั ย์ไฟฟ้ามาตรฐานของคร่ึงเซลล์ 13. นักเรียนจับคูก่ ับเพอ่ื น เพ่ือศึกษาเกีย่ วกับค่าศกั ย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครง่ึ เซลล์ และการนำค่า ศกั ยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของคร่งึ เซลลร์ ดี กั ชันไปใช้ในการเปรยี บเทยี บความสามารถในการเป็นตวั ออก ซไิ ดส์และตวั รดี ิวซข์ องสาร จากนนั้ ร่วมกนั ฝึกการคำนวณจากตัวอยา่ งที่ 5.18-5.21 จากหนงั สือเรยี นรายวชิ าเพมิ่ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 ไฟฟา้ เคมี (หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม) 14. นักเรียนและครูรว่ มกันอภปิ รายเกี่ยวกับศักยไ์ ฟฟา้ ของเซลล์ วิธวี ัดศกั ยไ์ ฟฟ้าของเซลล์ และการ คำนวณหาค่าศกั ยไ์ ฟฟา้ ของคร่ึงเซลล์เมอ่ื นำไปเปรยี บเทยี บกบั คร่ึงเซลลไ์ ฮโดรเจนมาตรฐาน ซึง่ ได้ขอ้ สรุป ดังนี้ • ครึ่งเซลล์ท่รี ับอเิ ลก็ ตรอนมศี กั ยไ์ ฟฟา้ สูงกวา่ ครง่ึ เซลลท์ ีใ่ หอ้ เิ ลก็ ตรอน ดงั นนั้ ศักยไ์ ฟฟ้าที่ ขัว้ แคโทดจึงสูงกวา่ ศักยไ์ ฟฟา้ ท่ีข้ัวแอโนด

• ค่าศกั ย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์เปน็ ผลต่างระหวา่ งศกั ย์ไฟฟา้ ของคร่ึงเซลลท์ ่มี ีศักยส์ งู กบั ศักย์ไฟฟา้ ของครง่ึ เซลล์ทม่ี ีศักย์ต่ำ เขยี นแสดงได้ ดงั น้ี Ec0ell = Ec0athode - Ea0node • ถ้าวดั ศกั ยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของเซลลใ์ ด ๆ ไดเ้ ทา่ กับศูนย์ แสดงวา่ ครึง่ เซลลท์ ง้ั สองมี ศกั ย์ไฟฟ้าเทา่ กัน 15. นักเรยี นและครูรว่ มกนั อภิปรายเก่ยี วกบั ความหมายของค่าศกั ยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของครง่ึ เซลล์ (E0) ซ่งึ ไดข้ ้อสรปุ ดงั นี้ • ค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของครง่ึ เซลล์ (E0) เปน็ ค่าท่ีแสดงความสามารถในการรับ อเิ ล็กตรอนของธาตหุ รอื ไอออน เมอ่ื เปรียบเทียบกับกับครึ่งเซลล์ไฮโดรเจนมาตรฐานทมี่ คี า่ E0 เป็นศูนย์ ค่า E0 ท่มี ีเคร่อื งหมายเป็นบวก แสดงว่า ธาตหุ รอื ไอออนในครึ่งเซลลน์ ้ันมี ความสามารถในการรับอเิ ลก็ ตรอนสูงกว่า H+ ในคร่ึงเซลลไ์ ฮโดรเจนมาตรฐาน ถ้าคา่ E0 มีเคร่ืองหมายเปน็ ลบ แสดงวา่ ธาตุหรือไอออนในครงึ่ เซลล์นัน้ มีความสามารถใน การรบั อิเล็กตรอนต่ำกว่า H+ ในครึ่งเซลลไ์ ฮโดรเจนมาตรฐาน • จากตารางค่าศกั ย์ไฟฟา้ มาตรฐานของครึ่งเซลลร์ ีดักชนั พบวา่ ธาตุหรือไอออนในปฏกิ ริ ยิ า ครงึ่ เซลล์ที่อยเู่ หนือกว่าสามารถรบั อเิ ล็กตรอนได้ดกี ว่าธาตหุ รือไอออนในปฏิกริ ยิ าครึง่ เซลลท์ ีอ่ ยู่ถัดลงมา แสดงวา่ F2 เป็นตวั ออกซไิ ดส์ท่ีดีท่ีสดุ สว่ นธาตหุ รือไอออนในปฏกิ ริ ิยา คร่งึ เซลลท์ อ่ี ยตู่ ่ำกว่าจะใหอ้ ิเล็กตรอนได้งา่ ยกวา่ ธาตหุ รอื ไอออนที่อย่เู หนือข้นึ ไป แสดงว่า Li เปน็ ตวั รีดิวซ์ทด่ี ีทส่ี ุด 16. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายเกยี่ วกบั การนำคา่ ศักยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของครึง่ เซลล์รดี ักชัน (Er0) ไปใชเ้ ปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตวั ออกซไิ ดสแ์ ละตัวรดี วิ ซข์ องสาร ซง่ึ ได้ข้อสรุปว่า “สารท่มี ีคา่ ���������0��� มากกวา่ แสดงว่า เป็นตวั ออกซิไดส์ที่ดีกวา่ และเมือ่ อยใู่ นรปู ของตวั รดี ิวซ์ ความสามารถในการเปน็ ตวั รดี วิ ซจ์ ะน้อยกว่า” (หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล) ช่ัวโมงท่ี 4 ขั้นท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 17. ครูต้ังประเด็นคำถามว่า “นอกจากค่า E0 จะนำไปใช้เปรยี บเทยี บความสามารถในการเปน็ ตัวออก ซิไดสแ์ ละตัวรีดวิ ซข์ องสารได้แลว้ คา่ E0 ยงั สามารถนำไปใชป้ ระโยชน์อะไรไดอ้ ีกบา้ ง” (แนวตอบ : สามารถนำค่า E0 ไปใช้ในการคำนวณคา่ ศักยไ์ ฟฟา้ ของเซลล)์ 18. ครใู ห้นักเรียนร่วมกันทำนายว่า “ถา้ ต่อเซลล์เคมีไฟฟ้าของ Zn (s) Zn2+ (aq,1 M) Ag1+ (aq, 1 M) Ag (s) จะได้คา่ ศกั ยไ์ ฟฟา้ ของเซลลเ์ ทา่ ใด” 19. นักเรียนจบั คู่กับเพ่อื น (คู่เดมิ ) จากช่ัวโมงทผ่ี ่านมา แลว้ รว่ มกันฝกึ การคำนวณคา่ ศกั ยไ์ ฟฟา้ ของ เซลลจ์ ากตัวอยา่ งที่ 5.22-5.26 ในหนงั สือเรยี นรายวิชาเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ไฟฟา้ เคมี 20. ครูสมุ่ นักเรยี น 5 คู่ ออกมาแสดงวธิ ีการคำนวณตวั อย่างแต่ละข้อหนา้ ชน้ั เรียน จากน้นั ตรวจสอบความถกู ต้อง และอธิบายเพม่ิ เติมในกรณีทน่ี กั เรยี นมคี วามเข้าใจท่คี ลาดเคลอ่ื น จนนักเรียนเกิดความเข้าใจท่ีตรงกัน

ชว่ั โมงท่ี 5 ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Explore) 21. ครูใหค้ วามรูก้ ับนกั เรียนวา่ “เซลล์ไฟฟา้ เคมีที่มีคา่ ศักยไ์ ฟฟา้ ของเซลล์เปน็ บวก แสดงว่า ปฏิกิรยิ า รีดอกซ์เกดิ ขึ้นไดเ้ อง ซ่งึ ทำใหเ้ กิดกระแสไฟฟ้าได้ เรียกเซลล์ไฟฟ้าเคมีชนิดน้วี ่า เซลล์กลั วานิก แตถ่ ้าเซลลไ์ ฟฟา้ เคมีท่ีมีค่าศกั ยไ์ ฟฟ้าของเซลลเ์ ป็นลบ แสดงวา่ ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซไ์ ม่ สามารถเกดิ ข้ึนไดเ้ อง” 22. นกั เรียนจับคกู่ บั เพื่อน (คูเ่ ดมิ ) จากชั่วโมงท่ีผ่านมา แล้วร่วมกันฝกึ ทำโจทย์การทำนายทิศทางของ ปฏิกิริยารดี อกซ์ จากตวั อย่างท่ี 5.27-5.32 ในหนังสือเรยี นรายวิชาเพมิ่ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม. 5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ เคมี 23. ครูใหค้ วามร้กู บั นักเรียนเก่ยี วกบั เซลล์ความเข้มข้น จากนนั้ ให้นักเรียนแต่ละคู่ แลว้ ร่วมกนั ฝึก คำนวณความต่างศักยข์ องเซลล์ความเขม้ ข้น จากตวั อยา่ งที่ 5.33-5.34 ในหนังสอื เรยี นรายวชิ า เพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟ้าเคมี ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) 24. ครูสมุ่ นกั เรียนอีก 8 คู่ ออกมาแสดงวธิ ีการคำนวณตัวอยา่ งแตล่ ะขอ้ หน้าชน้ั เรียน จากนนั้ ตรวจสอบความถกู ต้อง และอธบิ ายเพิม่ เตมิ ในกรณีที่นกั เรยี นมคี วามเขา้ ใจท่ีคลาดเคลอื่ น จนนกั เรยี นเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน 25. นักเรียนและครูร่วมกนั อภิปรายเก่ยี วกบั การนำคา่ E0 มาใชป้ ระโยชน์ ซ่ึงได้ขอ้ สรุป ดังนี้ • คา่ E0 สามารถนำมาคำนวณหาคา่ ศักยไ์ ฟฟ้ามาตรฐานของเซลลไ์ ด้ ดังนี้ Ec0ell = Ec0athode - Ea0node โดยค่าที่ได้จะมคี า่ เป็นบวกเสมอ เพราะเป็นเซลล์ที่ใหก้ ระแสไฟฟ้า • ค่า E0 ของเซลล์ หรอื E0 ของปฏกิ ิรยิ าท่ีคำนวณได้ สามารถนำมาใชท้ ำนายไดว้ า่ ปฏกิ ริ ิยารี ดอกซ์ เกิดขึ้นไดห้ รอื ไม่ และทิศทางของปฏิกริ ิยาดำเนินไปในทศิ ทางใด ถ้าคา่ E0 ของ ปฏกิ ิริยามีค่าเป็นบวก แสดงว่า ปฏิกริ ยิ าเกดิ ขน้ึ ไดจ้ รงิ ตามสมการ ซ่ึงทำให้เกดิ กระแสไฟฟา้ ได้ เรียกเซลลช์ นิดนี้วา่ เซลลก์ ลั วานกิ แตถ่ า้ ค่า E0 ของปฏิกริ ยิ ามีค่าเปน็ ลบ แสดงวา่ ปฏกิ ิรยิ าไม่สามารถเกิดข้ึนได้เอง ต้องให้กระแสไฟฟา้ จึงจะเกิดปฏกิ ิริยาได้ เรยี ก เซลล์ชนิดนว้ี า่ เซลลอ์ เิ ล็กโทรลิตกิ ช่ัวโมงท่ี 6 ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate) 26. ครูถามคำถาม BIG QUESTION จากหนังสอื เรยี นรายวชิ าเพิ่มเตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 ไฟฟ้าเคมีอีกครั้ง ดงั น้ี • เซลล์ไฟฟา้ เคมีประกอบด้วยอะไรบา้ ง และแต่ละองคป์ ระกอบมหี น้าทอี่ ยา่ งไร (แนวตอบ : เซลล์ไฟฟา้ เคมปี ระกอบดว้ ยองคป์ ระกอบสำคญั 3 สว่ น ดงั น้ี • ขั้วไฟฟา้ โดยในเซลล์ไฟฟ้าเคมี 1 เซลล์ จะประกอบดว้ ยข้ัวไฟฟ้า 2 ขัว้ คือ ขั้วแอโนด ซึ่งเป็นขั้วทเี่ กดิ ปฏกิ ริ ยิ าออกซิเดชัน (จา่ ยอิเล็กตรอน) และขว้ั แคโทด ซึ่งเป็นขวั้ ท่ี เกิดปฏิกิรยิ ารดี ักชัน (รับอเิ ลก็ ตรอน) • สารอเิ ล็กโทรไลต์ เปน็ สารที่สามารถแตกตวั เป็นไอออนไดด้ ี เคลอ่ื นที่และนำไฟฟ้าได้ • สะพานเกลอื เป็นตวั เชือ่ มให้เซลลไ์ ฟฟา้ เคมีครบวงจร)

27. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรยี นซกั ถามข้อสงสัยในเนือ้ หา เรอ่ื ง เซลลก์ ัลวานกิ ว่ามีส่วนไหนทยี่ ังไมเ่ ข้าใจ และให้ความรูเ้ พิ่มเติมในสว่ นน้ัน เพือ่ จะใชเ้ ปน็ ความรเู้ บอ้ื งต้นสำหรับการเรียนในเนื้อหา ต่อ ๆ ไป 28. นกั เรยี นทำใบงานที่ 5.4.1 เรอ่ื ง การเขียนแผนภาพเซลลก์ ลั วานกิ 29. นักเรียนทำใบงานที่ 5.4.2 เรอ่ื ง ศกั ยไ์ ฟฟา้ ของเซลลก์ ัลวานิก 30. นักเรียนทำแบบฝกึ หัด ในหนังสือแบบฝกึ หัดรายวิชาเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ เคมี 31. นักเรียนทำ Topic Question จากหนงั สือเรียนรายวิชาเพม่ิ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 ไฟฟา้ เคมี ลงในสมดุ ประจำตวั (หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนกั เรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล) ขน้ั สรุป ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครูประเมินผลนักเรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคำถาม พฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล พฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ 2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 5.4.1 เรอ่ื ง การเขียนแผนภาพเซลล์กัลวานกิ 3. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 5.4.2 เร่ือง ศักยไ์ ฟฟา้ ของเซลลก์ ลั วานิก 4. ครูตรวจสอบผลจากการทำแบบฝกึ หัด 5. ครูตรวจสอบผลจากการทำ Topic Question 6. ครูวัดและประเมนิ ผลจากนำเสนอผลการทดลอง เรอื่ ง การถา่ ยโอนอเิ ล็กตรอนในเซลลก์ ลั วานกิ 7. การวดั และประเมินผล รายการวดั วิธกี าร เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน 7.1 ประเมนิ ระหวา่ ง - ตรวจใบงานท่ี 5.4.1 - ใบงานท่ี 5.4.1 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การจัดกจิ กรรม - ตรวจใบงานที่ 5.4.2 - ใบงานที่ 5.4.2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ การเรียนรู้ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 1) เซลลก์ ัลวานิก - ตรวจสมุดประจำตวั - สมดุ ประจำตัว - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - ประเมินการปฎบิ ตั กิ าร - แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพ 2 2) การทดลอง เร่อื ง ผา่ นเกณฑ์ การถา่ ยโอน - สังเกตพฤติกรรม การปฎิบัติการ อเิ ลก็ ตรอนใน การทำงานรายบุคคล - ระดับคณุ ภาพ 2 เซลลก์ ัลวานกิ - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ การทำงานรายบุคคล 3) พฤตกิ รรม การทำงาน รายบคุ คล

รายการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 4) พฤตกิ รรมการ - ระดับคุณภาพ 2 - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ ทำงานกลุ่ม การทำงานกลมุ่ การทำงานกล่มุ - ระดับคณุ ภาพ 2 5) คุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ อันพงึ ประสงค์ - สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมนิ รบั ผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ คุณลกั ษณะ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน อนั พึงประสงค์ 8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้ 8.7 สอ่ื การเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาเพมิ่ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 5 ไฟฟา้ เคมี 2) หนังสือแบบฝกึ หัดรายวชิ าเพ่ิมเตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5 ไฟฟ้าเคมี 3) ใบงานที่ 5.4.1 เรื่อง การเขียนแผนภาพเซลล์กัลวานิก 4) ใบงานที่ 5.4.2 เรอื่ ง ศักยไ์ ฟฟา้ ของเซลลก์ ัลวานกิ 5) วสั ด-ุ อปุ กรณท์ ีใ่ ช้ในการทดลอง เรื่อง การถา่ ยโอนอิเล็กตรอนในเซลล์กลั วานิก 6) สมดุ ประจำตวั 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ - หอ้ งเรยี น 9. กจิ กรรมเสนอแนะ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกานดา วุฒเิ ศลา) ผูเ้ ขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................... (นางกมลชนก เทพบุ) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์

ข้อเสนอแนะของรองผ้อู ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่อื ...................................................... (นายวิเศษ ฟองตา) รองผอู้ ำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................... (นายอดิศร แดงเรอื น) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

ใบงานที่ 5.4.1 เรอ่ื ง การเขยี นแผนภาพเซลล์กัลวานิก คำชแ้ี จง : ตอบคำถามเก่ียวกับการเขียนแผนภาพเซลล์กัลวานิก 1. เขยี นแผนภาพเซลลก์ ัลวานกิ จากสมการแสดงปฏิกิริยารีดอกซท์ ่ีกำหนดให้ 1) Ni (s) + Ag+ (aq) → Ni2+ (aq) + Ag (s) 2) Mg (s) + 2Fe3+ (aq) → Mg2+ (aq) + 2Fe2+ (aq) 3) Sn2+ (aq) + 2Cr3+ (aq) → Sn4+ (aq) + 2Cr2+ (aq) 4) Fe2+ (aq) + MnO4- (aq) → Fe3+ (aq) + Mn2+ (aq) 5) Zn (s) + H+ (aq) → Zn2+ (aq) + H2 (g) 2. เขยี นสมการแสดงปฏิกิริยารดี อกซ์จากแผนภาพเซลล์กลั ปว์ านกิ ทกี่ ำหนดให้ 1) Zn (s) | Zn2+ (aq) ∥ Pb2+ (aq) | Pb (s) 2) Cr (s) | Cr3+ (aq) ∥ Fe2+ (aq) | Fe (s) 3) Pt (s) | Cu+ (aq), Cu2+ (aq) ∥ Ag+ (aq) | Ag (s) 4) Mg (s) | Mg2+ (aq) ∥ H+ (aq) | H2 (g) | Pt (s) 5) Pt (s) | Fe2+ (aq), Fe3+ (aq) ∥ Ag+ (aq) | Ag (s)

ใบงานท่ี 5.4.1 เฉลย เรือ่ ง การเขยี นแผนภาพเซลลก์ ัลวานิก คำช้แี จง : ตอบคำถามเกยี่ วกบั การเขยี นแผนภาพเซลลก์ ัลวานกิ 1. เขยี นแผนภาพเซลลก์ ัลวานกิ จากสมการแสดงปฏิกริ ิยารดี อกซท์ ีก่ ำหนดให้ 1) Ni (s) + Ag+ (aq) → Ni2+ (aq) + Ag (s) Ni (s) | Ni2+ (aq) ∥ Ag+ (aq) | Ag (s) 2) Mg (s) + 2Fe3+ (aq) → Mg2+ (aq) + 2Fe2+ (aq) Mg (s) | Mg2+ (aq) ∥ Fe3+ (aq), Fe2+ (aq) | Pt (s) 3) Sn2+ (aq) + 2Cr3+ (aq) → Sn4+ (aq) + 2Cr2+ (aq) Pt (s) | Sn2+ (aq), Sn4+ (aq) ∥ Cr3+ (aq), Cr2+ (aq) | Pt (s) 4) Fe2+ (aq) + MnO4- (aq) → Fe3+ (aq) + Mn2+ (aq) Pt (s) | Fe2+ (aq), Fe3+ (aq) ∥ MnO4- (aq), Mn2+ (aq) | Pt (s) 5) Zn (s) + H+ (aq) → Zn2+ (aq) + H2 (g) Zn (s) | Zn2+ (aq) ∥ H+ (aq) | H2 (g) | Pt (s) 2. เขยี นสมการแสดงปฏกิ ริ ยิ ารีดอกซจ์ ากแผนภาพเซลล์กัลป์วานิกทก่ี ำหนดให้ 1) Zn (s) | Zn2+ (aq) ∥ Pb2+ (aq) | Pb (s) Zn (s) + Pb2+ (aq) → Zn2+ (aq) + Pb (s) 2) Cr (s) | Cr3+ (aq) ∥ Fe2+ (aq) | Fe (s) 2Cr (s) + 3Fe2+ (aq) → 2Cr3+ (aq) + 3Fe (s) 3) Pt (s) | Cu+ (aq), Cu2+ (aq) ∥ Ag+ (aq) | Ag (s) Cu+ (aq) + Ag+ (aq) → Cu2+ (aq) + Ag (s) 4) Mg (s) | Mg2+ (aq) ∥ H+ (aq) | H2 (g) | Pt (s) Mg (s) + 2H+ (aq) → Mg2+ (aq) + H2 (g) 5) Pt (s) | Fe2+ (aq), Fe3+ (aq) ∥ Ag+ (aq) | Ag (s) Fe2+ (aq) + Ag+ (aq) → Fe3+ (aq) + Ag (s)

ใบงานที่ 5.4.2 เร่อื ง ศักย์ไฟฟ้าของเซลล์กลั วานิก คำชี้แจง : ตอบคำถามเกย่ี วกับศกั ย์ไฟฟา้ ของเซลล์กลั วานิก 1. เรียงลำดับความสามารถในการรบั และเสียอเิ ล็กตรอนของตวั ออกซไิ ดส์และตัวรดี วิ ซจ์ ากน้อยไปมาก 1) กำหนดคา่ E0 ของครงึ่ เซลลร์ ีดักชันให้ ดังนี้ Ag+ + e- → Ag E0 = +0.80 V Fe2+ + 2e- → Fe E0 = -0.44 V Au3+ + 3e- → Au E0 = +1.50 V Mn2+ + 2e- → Mn E0 = -1.18 V ความสามารถในการรับอิเล็กตรอนของตวั ออกซไิ ดส์ ความสามารถในการเสียอิเล็กตรอนของตวั รีดวิ ซ์ 2) กำหนดแผนภาพเซลล์กลัวานิกให้ ดังนี้ W (s) | W2+ (aq) ∥ X2+ (aq) | X (s) X (s) | X2+ (aq) ∥ Z2+ (aq) | Z (s) Y (s) | Y2+ (aq) ∥ W2+ (aq) | W (s) ความสามารถในการรบั อิเลก็ ตรอนของตวั ออกซิไดส์ ความสามารถในการเสยี อเิ ล็กตรอนของตวั รีดวิ ซ์ 3) กำหนดปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ให้ ดังน้ี 2B- + C2 → B2 + 2C- B2 + 2D- → 2B- + D2 2A- + 2D2 → 2D- + A2 ความสามารถในการรับอิเล็กตรอนของตัวออกซิไดส์ ความสามารถในการเสยี อเิ ล็กตรอนของตวั รดี วิ ซ์ 4) แผ่นโลหะ Pt ท่ีเคลือบผิวดว้ ยโลหะ Ni เปน็ ช้ันบาง ๆ เมือ่ นำไปจมุ่ ในสารละลาย HNO3 โลหะ Ni จะ ละลายออกหมด เหลอื แต่แผน่ โลหะ Pt ความสามารถในการรบั อิเล็กตรอนของตวั ออกซิไดส์ ความสามารถในการเสยี อิเล็กตรอนของตวั รดี วิ ซ์ 5) ในการศกึ ษาเร่อื งเซลล์ไฟฟา้ เคมี เม่อื นำโลหะ Al มาพนั กับ Sn ปรากฏว่าโลหะ Al เกดิ การผุกรอ่ น ความสามารถในการรบั อเิ ลก็ ตรอนของตวั ออกซไิ ดส์ ความสามารถในการเสยี อเิ ลก็ ตรอนของตวั รดี ิวซ์

2. ใชต้ ารางค่าความต่างศกั ยข์ องเซลล์ไฟฟ้าเคมีทกี่ ำหนดให้ ตอบคำถามขอ้ 1) – 5) เซลลไ์ ฟฟา้ เคมี ความต่างศักยท์ ่ี 25◦C (V) -0.13 Pt | H2 (1 atm) | H+ (1 M) ∥ Pb2+ (1 M) | Pb (s) Pt | H2 (1 atm) | H+ (1 M) ∥ Cd2+ (1 M) | Cd (s) -0.40 Pt | H2 (1 atm) | H+ (1 M) ∥ Mn2+ (1 M) | Mn (s) -1.18 Pt | H2 (1 atm) | H+ (1 M) ∥ Mg2+ (1 M) | Mg (s) -2.37 1) เมื่อต่อเซลลไ์ ฟฟ้าเคมี ดังน้ี Mg (s) | Mg2+ (aq) ∥ Cd2+ (aq) | Cd (s) ความต่างศักยข์ องเซลลจ์ ะมคี ่า เทา่ ใด 2) เมื่อต่อเซลล์ไฟฟ้าเคมี ดงั น้ี Mn (s) | Mn2+ (aq) ∥ Pb2+ (aq) | Pb (s) ความตา่ งศกั ยข์ องเซลล์จะมีค่า เทา่ ใด 3) เมอ่ื ต่อเซลล์ไฟฟ้าเคมี ดงั น้ี Mn (s) | Mn2+ (aq) ∥ Cd2+ (aq) | Cd (s) ความต่างศักย์ของเซลล์จะมีค่า เทา่ ใด 4) เมื่อต่อเซลลไ์ ฟฟ้าเคมี ดังน้ี Cd (s) | Cd2+ (aq) ∥ Pb2+ (aq) | Pb (s) ความต่างศักย์ของเซลลจ์ ะมคี ่า เท่าใด 5) เมอ่ื ตอ่ เซลล์ไฟฟา้ เคมี ดงั นี้ Mg (s) | Mg2+ (aq) ∥ Mn2+ (aq) | Mn (s) ความตา่ งศักยข์ องเซลลจ์ ะมคี า่ เท่าใด

ใบงานที่ 5.4.2 เฉลย เรอื่ ง ศกั ย์ไฟฟา้ ของเซลลก์ ลั วานกิ คำชี้แจง : ตอบคำถามเกย่ี วกบั ศักย์ไฟฟ้าของเซลลก์ ัลวานกิ 1. เรียงลำดับความสามารถในการรับและเสียอิเล็กตรอนของตวั ออกซไิ ดสแ์ ละตวั รดี ิวซจ์ ากน้อยไปมาก 1) กำหนดค่า E0 ของครง่ึ เซลลร์ ดี กั ชันให้ ดังนี้ Ag+ + e- → Ag E0 = +0.80 V Fe2+ + 2e- → Fe E0 = -0.44 V Au3+ + 3e- → Au E0 = +1.50 V Mn2+ + 2e- → Mn E0 = -1.18 V ความสามารถในการรับอเิ ลก็ ตรอนของตัวออกซไิ ดส์ Mn2+ < Fe2+ < Ag+ < Au3+ ความสามารถในการเสียอิเล็กตรอนของตวั รดี วิ ซ์ Au < Ag < Fe < Mn 2) กำหนดแผนภาพเซลลก์ ลัวานิกให้ ดงั นี้ W (s) | W2+ (aq) ∥ X2+ (aq) | X (s) X (s) | X2+ (aq) ∥ Z2+ (aq) | Z (s) Y (s) | Y2+ (aq) ∥ W2+ (aq) | W (s) ความสามารถในการรบั อเิ ลก็ ตรอนของตวั ออกซิไดส์ Y2+ < W2+ < X2+ < Z2+ ความสามารถในการเสียอิเลก็ ตรอนของตวั รดี วิ ซ์ Z < X < W < Y 3) กำหนดปฏิกริ ิยารีดอกซใ์ ห้ ดงั น้ี 2B- + C2 → B2 + 2C- B2 + 2D- → 2B- + D2 2A- + 2D2 → 2D- + A2 ความสามารถในการรบั อเิ ล็กตรอนของตัวออกซิไดส์ C2 < B2 < D2 < A2 ความสามารถในการเสยี อเิ ลก็ ตรอนของตัวรีดวิ ซ์ A- < D- < B- < C- 4) แผน่ โลหะ Pt ทเี่ คลือบผวิ ดว้ ยโลหะ Ni เป็นชน้ั บาง ๆ เมื่อนำไปจุ่มในสารละลาย HNO3 โลหะ Ni จะ ละลายออกหมด เหลอื แต่แผน่ โลหะ Pt ความสามารถในการรับอิเลก็ ตรอนของตัวออกซิไดส์ Ni2+ < H+ < Pt ความสามารถในการเสยี อเิ ลก็ ตรอนของตวั รดี วิ ซ์ Pt < H2 < Ni 5) ในการศกึ ษาเร่ืองเซลล์ไฟฟา้ เคมี เมื่อนำโลหะ Al มาพนั กบั Sn ปรากฏวา่ โลหะ Al เกิดการผกุ ร่อน ความสามารถในการรบั อิเลก็ ตรอนของตัวออกซิไดส์ Al3+ < Sn2+ ความสามารถในการเสียอเิ ลก็ ตรอนของตวั รดี วิ ซ์ Sn < Al

2. ใชต้ ารางค่าความต่างศักยข์ องเซลลไ์ ฟฟ้าเคมีทกี่ ำหนดให้ ตอบคำถามข้อ 1) – 5) เซลลไ์ ฟฟา้ เคมี ความตา่ งศักยท์ ี่ 25◦C (V) -0.13 Pt | H2 (1 atm) | H+ (1 M) ∥ Pb2+ (1 M) | Pb (s) Pt | H2 (1 atm) | H+ (1 M) ∥ Cd2+ (1 M) | Cd (s) -0.40 Pt | H2 (1 atm) | H+ (1 M) ∥ Mn2+ (1 M) | Mn (s) -1.18 Pt | H2 (1 atm) | H+ (1 M) ∥ Mg2+ (1 M) | Mg (s) -2.37 1) เมอื่ ตอ่ เซลล์ไฟฟา้ เคมี ดังน้ี Mg (s) | Mg2+ (aq) ∥ Cd2+ (aq) | Cd (s) ความต่างศกั ยข์ องเซลล์จะมีค่า เทา่ ใด ความตา่ งศักยข์ องเซลล์ = -0.40 – (-2.37) = 1.97 V ดงั น้นั ความตา่ งศักย์ของเซลล์ Mg (s) | Mg2+ (aq) ∥ Cd2+ (aq) | Cd (s) มีค่าเทา่ กบั 1.97 โวลต์ 2) เมื่อต่อเซลล์ไฟฟา้ เคมี ดงั น้ี Mn (s) | Mn2+ (aq) ∥ Pb2+ (aq) | Pb (s) ความตา่ งศักย์ของเซลลจ์ ะมีค่า เทา่ ใด ความต่างศกั ย์ของเซลล์ = -0.13 – (-1.18) = 1.05 V ดังนัน้ ความต่างศกั ยข์ องเซลล์ Mn (s) | Mn2+ (aq) ∥ Pb2+ (aq) | Pb (s) มีค่าเท่ากับ 1.05 โวลต์ 3) เมือ่ ต่อเซลลไ์ ฟฟา้ เคมี ดังน้ี Mn (s) | Mn2+ (aq) ∥ Cd2+ (aq) | Cd (s) ความต่างศักย์ของเซลล์จะมีค่า เทา่ ใด ความต่างศกั ยข์ องเซลล์ = -0.40 – (-1.18) = 0.78 V ดงั นน้ั ความต่างศกั ย์ของเซลล์ Mn (s) | Mn2+ (aq) ∥ Cd2+ (aq) | Cd (s) มคี ่าเทา่ กับ 0.78 โวลต์ 4) เมื่อตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าเคมี ดงั นี้ Cd (s) | Cd2+ (aq) ∥ Pb2+ (aq) | Pb (s) ความต่างศักยข์ องเซลล์จะมีค่า เท่าใด ความต่างศักยข์ องเซลล์ = -0.13 – (-0.40) = 0.27 V ดงั นั้น ความตา่ งศกั ย์ของเซลล์ Cd (s) | Cd2+ (aq) ∥ Pb2+ (aq) | Pb (s) มีคา่ เท่ากบั 0.27 โวลต์ 5) เม่ือต่อเซลลไ์ ฟฟา้ เคมี ดงั นี้ Mg (s) | Mg2+ (aq) ∥ Mn2+ (aq) | Mn (s) ความตา่ งศักยข์ องเซลล์จะมคี ่า เทา่ ใด ความต่างศกั ยข์ องเซลล์ = -1.18 – (-2.37) = 1.19 V ดงั นัน้ ความตา่ งศักย์ของเซลล์ Mg (s) | Mg2+ (aq) ∥ Mn2+ (aq) | Mn (s) มคี ่าเท่ากบั 1.19 โวลต์

วช-ร 06 แบบบันทกึ หลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชอ่ื หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 11 เรอ่ื ง เคมีไฟฟา้ แผนการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง เซลลก์ ลั วานิก รายวิชา เคมี 4 ชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 รหัสวิชา ว 32204 ครูผู้สอน นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา ตำแหนง่ ครูผูช้ ว่ ย เวลาทใ่ี ช้ 6 ชว่ั โมง ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ ค้นพบระหว่าง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทม่ี กี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เน้ือหา กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของผเู้ รยี น ลงชื่อ ครูผจู้ ัดกิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวกานดา วฒุ เิ ศลา) ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 11 เรอื่ ง เคมีไฟฟ้า แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 เรื่อง ประเภทของเซลล์กลั วานิกส์ รายวิชา เคมี 4 รหสั วชิ า ว 32204 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 น้ำหนกั เวลาเรยี น 1.5 หน่วยกิจ เวลาเรียน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาที่ใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ชั่วโมง 1. ผลการเรียนรู้ อธบิ ายหลกั การทำงาน และเขียนสมการแสดงปฏกิ ิรยิ าของเซลล์ปฐมภมู แิ ละเซลล์ทตุ ิยภูมิ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมายของเซลลก์ ลั วานิก เซลลป์ ฐมภูมิ และเซลล์ทุตยิ ภมู ไิ ด้ (K) 2. บอกส่วนประกอบและหลักการทำงานของเซลลป์ ฐมภูมแิ ละเซลล์ทตุ ยิ ภมู ิชนิดต่าง ๆ ได้ (K) 3. เขยี นสมการแสดงปฏกิ ิริยาท่ีเกดิ ขึ้นในเซลล์ปฐมภูมแิ ละเซลล์ทตุ ิยภมู ชิ นดิ ต่าง ๆ ได้ (P) 4. ต้งั ใจเรียนรูแ้ ละแสวงหาความรู้ รับผิดชอบต่อหนา้ ทท่ี ไี่ ดร้ ับมอบหมาย (A) 3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้เพิ่มเตมิ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน - เซลล์เคมีไฟฟ้าสามารถนําไปใช้ประโยชนไ์ ด้ใน พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา ชวี ติ ประจาํ วัน เช่น แบตเตอรี่ ซ่ึงมีท้งั เซลล์ปฐม ภมู ิและเซลล์ทุตยิ ภูมิ โดยปฏิกิริยาเคมีที่เกิดข้ึน ภายในเซลล์ปฐมภูมไิ ม่สามารถทาํ ให้ เกิดปฏิกริ ิยายอ้ นกลับได้โดยการประจุไฟ จึงไมส่ ามารถนํากลบั มาใชไ้ ดอ้ กี ปฏิกริ ิยาเคมีที่ เกดิ ขนึ้ ภายในเซลล์ทุติยภูมิสามารถทําให้ เกิดปฏกิ ริ ิยาย้อนกลบั ไดโ้ ดยการประจุไฟ จงึ นาํ กลับมาใชไ้ ด้อกี 4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เซลล์ปฐมภมู เิ ป็นเซลล์กลั วานกิ ทีป่ ฏิกิริยาเคมภี ายในเซลลเ์ กิดขึ้นอยา่ งสมบรู ณ์ เมอ่ื ใช้หมดแลว้ จะไม่ สามารถนำมาอดั ไฟและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เซลลท์ ุติยภมู เิ ป็นเซลลก์ ัลวานิกท่ีปฏกิ ิรยิ าเคมภี ายในเซลล์เกิดขนึ้ แลว้ สามารถทำให้เกดิ ปฏกิ ิริยา ยอ้ นกลับไดอ้ กี โดยการอัดไฟเขา้ ไปใหม่

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวินัย รบั ผิดชอบ 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 1) ทักษะการสังเกต 2) ทกั ษะการสำรวจคน้ หา 3) ทกั ษะการวิเคราะห์ 4) ทกั ษะการเชือ่ มโยง 5) ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : แบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงที่ 1 ขั้นนำ ขน้ั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครูและนกั เรียนร่วมกันทบทวนความรู้เก่ยี วกับส่วนประกอบ หลกั การทำงาน และปฏกิ ริ ิยาที่ เกิดขนึ้ ภายในเซลลก์ ัลวานิก 2. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภิปรายเก่ยี วกบั ประเภทของเซลลก์ ลั วานกิ ท่ีพบในชีวติ ประจำวันวา่ “เซลลก์ ัลวานิกท่พี บในชวี ิตประจำวนั บางชนดิ เมื่อใชง้ านแล้วสามารถนำมาประจไุ ฟและใช้งาน ใหม่ได้ สว่ นบางชนดิ เมื่อใช้แลว้ ไม่สามารถประจไุ ฟเพื่อใชง้ านใหม่ได้ เชน่ ถ่านไฟฉายหรอื เซลล์ แหง้ กับเซลลน์ ิกเกิล-แคดเมียม” เพอื่ นำไปสูก่ ารสรุปวา่ เซลล์กัลวานกิ มี 2 ประเภท คือ เซลล์ปฐม ภมู ิและเซลล์ทุติยภมู ิ ข้ันสอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Explore) 1. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน เพือ่ ศกึ ษาเกย่ี วกับเซลล์ปฐมภูมชิ นิดต่าง ๆ ตามรายละเอียดใน หนังสือเรียนรายวชิ าเพม่ิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี ม.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 ไฟฟา้ เคมี โดยศึกษาตามหวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี • ส่วนประกอบและหลกั การทำงาน • ปฏกิ ริ ยิ าทเี่ กิดข้ึนภายในเซลล์ • คา่ ศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และการนำไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจำวนั 2. นักเรียนนำข้อมลู ที่ได้จากการค้นคว้าทำเปน็ รปู แบบต่าง ๆ ตามความคิดเหน็ ของแต่ละกลุ่ม เชน่ แผนภาพ แผนผัง เขยี นบรรยาย (หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook