Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือครู หลักภาษาฯ ม.6

คู่มือครู หลักภาษาฯ ม.6

Published by pearyzaa, 2021-05-18 02:40:38

Description: คู่มือครู หลักภาษาฯ ม.6

Search

Read the Text Version

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate ๒ ตวั อยา่ งการเขยี นบันเทิงคดี : เรอ � งสัน้ กระตนุ ความสนใจ เรือ่ งสนั้ เปน็ บนั เทิงคดปี ระเภทหน่ึง ซึ่งไดร้ บั อิทธพิ ลจากตะวนั ตก มีความยาวประมาณ ครูชวนนักเรียนสนทนาเก่ียวกบั ๑,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ ค�า ผู้เขียนเขียนขน้ึ โดยใช้จินตนาการของตนอยา่ งสมจรงิ มีขนาดสน้ั ตวั ละคร เร่อื งสัน้ ทต่ี นเองชน่ื ชอบหรอื รสู ึก ไม่มาก ด�าเนินเร่ืองด้วยความรวดเร็วและมีจุดมุ่งหมายเดียวโดยอาศัยศิลปะการเขียนท่ีชวนให้ ประทับใจ จากน้ันขออาสาสมคั ร นา่ อา่ นและชวนใหค้ ดิ นกั วชิ าการกา� หนดใหเ้ รอื่ งสน้ั มกี า� เนดิ ในสหรฐั อเมรกิ า ระหวา่ งป ี ค.ศ. ๑๘๑๙- ออกมาหนา ช้ันเรยี นเพื่อเลาเร่ืองยอ ๑๘๒๐ โดยนกั เขยี นชาวอเมรกิ นั คอื วอชงิ ตนั เออรว์ งิ (Washington Irving) ซง่ึ เขยี นลงในหนงั สอื ใหเ พื่อนๆ ฟง ครคู วรสนบั สนุนให The Sketch Book ตอ่ มาเอด็ การ ์ อัลเลน โป (Edgar Allen Poe) และนาธาเนยี ล ฮอวธ์ อร์น นักเรียนไดแลกเปลยี่ นประสบการณ (Nathaniel Hawthorne) ไดเ้ ขียนเรือ่ งส้ันจนเปน็ ทรี่ ูจ้ กั แพรห่ ลายของผูอ้ า่ น ระหวางกัน ในประเทศไทยกอ่ นหนา้ ทจ่ี ะมเี รอ่ื งสน้ั ตามแบบตะวนั ตก งานเขยี นบนั เทงิ คดรี อ้ ยแกว้ ของ ไทยเปน็ นิทานหรือตา� นานปรมั ปรา ในสมัยรัชกาลท ี่ ๕ ศลิ ปวทิ ยาการ ตลอดจนวรรณกรรมแบบ สาํ รวจคน หา ของยโุ รปได้เข้ามาในประเทศไทย กรมหมนื่ พชิ ติ ปรชี ากร ไดเ้ ขยี นเร่ือง “สนุกน์นิ กึ ” ลงในหนงั สือ วชิรญาณวิเศษ ซึ่งด�าเนินเร่ืองโดยใช้บทสนทนาเป็นหลักและใช้ฉากจริงคือวัดบวรนิเวศวิหาร นกั เรยี นแบง กลมุ ออกเปน 2 กลมุ นบั เปน็ เรือ่ งเล่าร่วมสมัยและมคี วามสมจริง ซ่ึงถือว่า “สนกุ น์นิ ึก” เป็นเรื่องสนั้ เรอื่ งแรกของไทย ในจํานวนเทา ๆ กัน หรือตามความ เหมาะสม จากน้นั ใหสงตวั แทนของ ๒.๑ ลักษณะเรอ่ื งสน้ั กลมุ ออกมาจับสลากประเดน็ สาํ หรบั การสืบคนความรู ดังนี้ การเขยี นเรอ่ื งส้นั ของไทยได้รับอิทธพิ ลมาจากนักเขยี นชาวตะวันตก เช่น โอ.เฮ็นร ี และ กยี ์ เดอ โมปสั ซงั ค ์ ทา� ใหเ้ กดิ เปน็ วรรณกรรมบนั เทงิ คดรี อ้ ยแกว้ แบบใหมข่ องไทยในราวป ี พ.ศ. ๒๔๗๒ หมายเลข 1 ลักษณะของเรือ่ งส้นั และนิยมเขยี นอย่างแพร่หลายจนถงึ ปจั จบุ ัน การเขียนเรอื่ งสน้ั ให้มีความสนกุ สนานนา่ ติดตามน้นั หมายเลข 2 ประเภทของเรื่องสนั้ เป็นความสามารถเฉพาะบุคคล ซงึ่ เรอื่ งสัน้ ทด่ี ีควรมลี ักษณะดงั ต่อไปนี้ โดยนักเรียนอาจสบื คนความรไู ด ๑) ความยาว เรอ่ื งสนั้ ควรมีความยาวพอประมาณ โดยทัว่ ไปนิยมก�าหนดความยาว จากหนงั สอื เรยี น หนา 77-78 หรือ ของเรือ่ งสัน้ จากเวลาทอ่ี ่าน คือ ภายในระยะเวลา ๕-๕๐ นาท ี หรือจากจ�านวนค�า จากเวบ็ ไซตท างการศึกษาทีเ่ ผยแพร ๒) โครงเรอ่ื ง เรอื่ งส้นั ท่ดี ีควรมีโครงเรอื่ งเดยี ว และเป็นโครงเรอ่ื งงา่ ยๆ ไม่ซับซอ้ น ผานเครือขา ยอินเทอรเ น็ต เพราะมขี อ้ จา� กดั เรื่องความยาว โครงเรอ่ื งทดี่ ีควรประกอบด้วยขอ้ ขดั แยง้ อุปสรรคและการต่อสู้ ๓) แก่นเรื่องหรือแนวคิด เรื่องส้ันท่ีดีควรมุ่งเสนอแนวคิดหรือแก่นของเร่ือง นกั เรยี นควรรู เพียงข้อเดยี ว ๔) ตัวละคร เรื่องสั้นที่ดีควรมีตัวละครน้อย โดยเฉพาะตัวละครที่มีบทบาทส�าคัญ สนกุ นนิ์ กึ เปน เรอื่ งสนั้ เรอื่ งแรกของ หรือเปน็ ตัวละครเอกมกั มีเพยี ง ๒-๓ ตวั ไทย ประพนั ธโ ดยพระเจา บรมวงศเ ธอ ๕) บทสนทนา เร่ืองส้ันควรมีบทบาทที่ใช้ภาษาได้สมจริงสอดคล้องกับบรรยากาศ พระองคเจา คคั ณางคยุคล กรมหลวง ของเรอื่ งและตวั ละคร พชิ ติ ปรีชากร ซง่ึ มเี น้ือหาเปน บทสนทนาของพระในวดั บวรนเิ วศ 77 จํานวน 4 รปู ถกเถียงถงึ การที่ พระรปู หนง่ึ จะสกึ ออกไปแตง งาน แตต ีพมิ พไดเ พยี งตอนเดยี วก็ตอ งยุติ ไป เนือ่ งจากถูกกลา วหาวา มเี น้อื หา กระทบกระเทยี บตอ ศาสนาในสมยั นน้ั นกั เรียนควรรู กรมหมน่ื พชิ ติ ปรีชากร หรือพระนามเตม็ วา พระเจา บรมวงศเธอ พระองคเจา คัคณางคยคุ ล กรมหลวงพิชิตปรีชากร พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจา อยหู ัว ประสตู ิแตเ จาจอมมารดาพึง่ เมอื่ วันจนั ทรท่ี 29 ตลุ าคม พ.ศ. 2398 ทรงเปน ตนราชสกุล คัคณางค คมู ือครู 77

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบบั นกั เรยี น 20%) ครใู หเวลานักเรยี นท้งั สองกลมุ ๖) ฉาก และบรรยากาศ ฉากและบรรยากาศ ควรมีความสัมพันธ์กันและควร แลกเปลีย่ นประสบการณ ความรู สอดคลอ้ งกับเน้ือเร่ืองและทีส่ า� คญั ท่สี ดุ คือ ต้องมีความสมจรงิ ระหวางกนั จากนนั้ นักเรยี นยืนใน ๗) ตอนจบของเรอ่ื ง เรอ่ื งสนั้ อาจมจี ดุ จบแบบธรรมดา คอื จดุ จบของเรอื่ งอาจเปน็ ไป ลักษณะวงกลมเพอ่ื รวมกนั อธิบาย ตามความคาดหมายของผอู้ า่ น หรือการจบเรอื่ งแบบพลิกความคาดหมาย ความรูแ บบโตตอบรอบวงเก่ยี วกบั ๘) ความแนน่ เรือ่ งสน้ั ท่ีดีควรมคี วามแนน่ พอด ี หมายถึง ต้องมีกลวิธกี ารสร้างบท ประเด็นทไ่ี ดรับมอบหมาย โดยครู สนทนา การพรรณนาฉาก บรรยากาศ และตัวละคร ให้มีความกระชบั รัดกมุ และมีประโยชนต์ อ่ ตง้ั คาํ ถามกบั นกั เรียน เชน การดา� เนนิ เรอื่ ง • นกั เรียนคดิ วา องคประกอบท่ี ๒.๒ ประเภทของเร่อื งสั้น ทาํ ใหเรอื่ งสนั้ มคี วามแตกตา ง ไปจากบันเทงิ คดีประเภท การแบง่ ประเภทของเรื่องสัน้ สามารถแบ่งได้เปน็ หลายรูปแบบ การใชเ้ กณฑ์การแบง่ ทม่ี ี นวนยิ ายคอื อะไร ความแตกตา่ งกนั ย่อมสง่ ผลให้การแบ่งประเภทของเร่ืองสนั้ มีความแตกต่างกันดว้ ย เช่น หากใช้ (แนวตอบ องคประกอบท่ที าํ ให จุดมุ่งหมายในการแต่งเป็นเกณฑ์ในการแบ่งจะแบ่งประเภทเร่ืองส้ันออกเป็น ๒ ประเภท คือ เร่อื งสนั้ แตกตางจากนวนิยาย เรื่องส้ันแนวประเทืองอารมณ์หรือเร่ืองส้ันท่ีให้ความเพลิดเพลินใจเป็นหลัก เรื่องสั้นแนว คอื ขนาดของความยาว ประเทอื งปญั ญาหรอื เรอ่ื งสนั้ ทผ่ี แู้ ตง่ มงุ่ ใหผ้ อู้ า่ นเกดิ ความร ู้ ความคดิ และเกดิ ความเขา้ ใจในเรอ่ื งราว โครงเรอื่ ง แกน เรอื่ งหรอื แนวคิด ความเปน็ ไปของชีวติ เป็นตน้ ซึง่ ในทีน่ ีจ้ ะแบ่งประเภทของเรื่องสั้นออกเป็น ๔ ประเภท โดยใช้ ตัวละคร บทสนทนา ฉาก องคป์ ระกอบท่ีโดดเดน่ ของเร่อื งสัน้ เปน็ เกณฑ ์ ดงั น้ี ตอนจบของเรือ่ ง ความแนน ๑) เรอ่ื งสน้ั ชนดิ ผกู เรอ่ื ง คือเร่ืองส้ันที่ให้ความส�าคัญกับโครงเรื่อง ผู้แต่งจะสร้าง เปนตน) สถานการณ์ท่ีซับซ้อนขึ้นภายในโครงเร่ือง ท�าให้ผู้อ่านเกิดความสงสัยและใคร่รู้ที่จะติดตามเร่ือง ต่อไปจนจบ เชน่ เรื่อง “สร้อยคอทีห่ าย” ของ ประเสรฐิ อักษร เรอ่ื ง “จบั ตาย” ของ มนัส จรรยงค์ • เร่ืองส้ันชนดิ เนน ทตี่ วั ละครมี เป็นตน้ ลักษณะทเี่ ฉพาะอยางไร พรอม ๒) เรอื่ งสน้ั ชนดิ เนน้ แนวความคดิ คือเรื่องสั้นท่ีผู้แต่งต้องการเสนอแนวคิดหรือ ยกตวั อยา งประกอบใหช ดั เจน ทรรศนะของเรอื่ งมายังผูอ้ า่ นเป็นหลัก เช่น เรือ่ ง “ถนนสายท่นี า� ไปสคู่ วามตาย” ของ วิทยากร (แนวตอบ เรือ่ งสัน้ ชนดิ เนน เชียงกลู ตวั ละคร คือ เร่อื งสนั้ ที่ผแู ตง ๓) เรอ่ื งสน้ั ชนดิ เนน้ ตวั ละคร คอื เรอื่ งสนั้ ทผี่ แู้ ตง่ ใหค้ วามสา� คญั กบั ตวั ละครมากกวา่ ใหค วามสาํ คญั กบั ตวั ละคร โครงเร่ืองเพราะถือว่าเหตุการณ์ในเร่ืองเกิดข้ึนจากพฤติกรรมของตัวละคร ผู้แต่งจึงสร้างลักษณะ มากกวา โครงเรอ่ื ง โดยถือวา นิสัยของตัวละครให้มีความเด่นชัด เพื่อชี้ให้ผู้อ่านเห็นว่าลักษณะนิสัยของตัวละครเอกส่งผลต่อ เหตกุ ารณท เ่ี กิดข้ึนภายในเร่ือง ตัวละครตัวอื่นภายในเร่ือง หรือเป็นการด�าเนินเรื่องตามพฤติกรรมของตัวละครเอก เช่น เรื่อง เปนผลมาจากพฤติกรรมของ “มอม” ของ ม.ร.ว.คึกฤทธ์ิ ปราโมช ตวั ละคร ผูแตงจงึ สรางลกั ษณะ ๔) เรอ่ื งสน้ั ชนดิ เนน้ บรรยากาศ คือเร่ืองสนั้ ทผี่ แู้ ตง่ ตอ้ งการสร้างบรรยากาศของ นิสัยของตวั ละครใหม ีความ เร่ืองให้มีความสมจริง ทา� ให้ผู้อ่านรสู้ ึกเหมือนได้รว่ มรับรู้อยูใ่ นสถานการณ์จรงิ เรือ่ งส้นั ประเภทน้ี โดดเดน เชน เร่ือง “มอม” ของ จะเกย่ี วกับการสบื สวน อาชญากรรม หรอื เป็นเหตกุ ารณ์ทีน่ า่ ตืน่ เต้น ระทกึ ใจ หมอมราชวงศ คกึ ฤทธ์ิ ปราโมท “ซาเกา ะ” ของมนสั จรรยงค 78 เปนตน) เกรด็ แนะครู นักเรยี นควรรู ครผู ูสอนอาจจดั กิจกรรมเพื่อให ม.ร.ว.คกึ ฤทธิ์ ปราโมช เปนบคุ คลทีม่ คี ุณูปการตอประเทศไทยในหลายดา น เม่อื วันที่ 23 ตลุ าคม นักเรยี นคนควาความรูเพม่ิ เตมิ ดว ย พ.ศ. 2552 องคก ารยเู นสโกไดประกาศยกยองเชดิ ชเู กยี รตเิ ปน บคุ คลสาํ คัญของโลกใน 4 สาขา ไดแก การมอบหมายใหน กั เรียนคนควา การศึกษา วฒั นธรรม สังคมศาสตร และสื่อสารมวลชน ในวาระครบรอบ 100 ป ชาตกาล พ.ศ. 2554 ขอ มลู เกยี่ วกับนักเขยี นที่รูจักและ โดยไดรบั การประกาศพรอมกับครูเอ้อื สุนทรสนาน ประทบั ใจ นํามาเลาใหเ พื่อนๆ ฟงหนา ชัน้ เรยี นเพ่อื แลกเปลยี่ น ประสบการณร ะหวางกัน 78 คูมือครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate การเขียนเร่อื งสนั้ มีหลายวธิ ี อยูท่ ีต่ ัวผู้เขยี นวา่ จะเลือกเขียนแบบใด ผู้เขียนอาจมีความ สาํ รวจคนหา คดิ สรา้ งสรรคส์ ิ่งใหมๆ่ ขึน้ มาเปน็ เอกลักษณข์ องตนเองไดเ้ ม่ือผ่านการฝกึ ฝนอย่างสม่�าเสมอ 1. นักเรยี นจบั คกู บั เพ่ือนรว มกนั ๒.๓ ตวั อย่างเรอ่ื งสั้น สาํ รวจในประเด็น ประวัตแิ ละ ผลงานของ วาณิช จรุงกิจอนนั ต เพลงใบไม้ วาณิช จรงุ กจิ อนนั ต 2. นกั เรยี นอานเรอื่ งส้ัน เพลงใบไม กรวดน้�าเสร็จ อุทิศส่วนกุศลให้ใครต่อใครแล้ว ยายก็ล้างขัน อีส้มเช้าหลานสาว จากหนังสือเรียน หนา 79-87 วัยสิบแปดของยายเดินมาเมียงๆ อยู่ ท่ามันจะกลัวยายเป็นลมจมน�้าตาย มันเคยบอกยาย รวมถึงบทวเิ คราะหกลวธิ ีการ บ่อยๆ ว่า ให้ล้างขันกรวดน้�าบนบ้านก็ได้ท�าไมจะต้องลงมาตีนท่าทุกวัน ยายก็ว่าตีนท่ามัน เขียน หนา 87-93 จากน้ันครูแบง ใกล้แค่นี้ท�าไมจะต้องไปใช้น้�าในตุ่มให้เปลืองยิ่งตอนน้ีน้�าหลากปร่ิมริมฝัง ไม่ต้องลงกระได นักเรียนเปน 9 กลุม สง ยิ่งสบาย ตวั แทนออกมาจบั สลากประเดน็ ยายไม่กลัวอย่างท่ีอีส้มเช้ามันกลัว ยายไม่กลัวเป็นลมจมน�้าตาย แม้จะเป็นเวลา สาํ หรบั การคน ควารวมกนั ดงั นี้ ทแี่ มน่ ้�าหลากกลา้ ยายสนิทกบั แม่นา้� สายนี ้ ยายเกิดจากแม่นา�้ สายนี้ หมายเลข 1 โครงเรอ่ื ง สมัยที่ยายเป็นสาวน้ัน ตีนท่าไม่ได้อยู่ตรงน้ี ยายจ�าได้ว่ายายต้องเดินจากเรือน หมายเลข 2 การเปด เรือ่ ง มาที่ตีนท่า เมื่อก่อนมีต้นฝร่ังใหญ่และต้นไทรใบหนาอยู่ตรงตีนท่าน้ี ตอนนี้มันหายไปแล้ว หมายเลข 3 การดาํ เนินเรื่อง หายไปตง้ั แตเ่ มอ่ื ไหรย่ ายก็ไมไ่ ด้จ�า ร้แู ต่ว่ามนั นานมาแลว้ หมายเลข 4 การปดเรือ่ ง น้า� แทงตลิง่ พังลงทุกป  ย่ิงเดือนสบิ เอด็ สบิ สองน้�าหลาก สายน้�าพุ่งแรงแทงเขา้ ตรง หมายเลข 5 ตัวละคร บ้านของยายพอดเี ชียว ฝงั ขะโนน้ ดินมันงอก แมน่ า�้ สุพรรณช่วงนคี้ ดกวา่ สมัยทีย่ ายเปน็ สาว หมายเลข 6 แนวคิด ตอนน้บี ้านทเ่ี คยอย่หู า่ งฝังของยายกอ็ ย่ตู ดิ แม่นา้� เสานอกชานนัน้ อยใู่ นน�า้ แลว้ หมายเลข 7 ฉาก มันคงจะพังลงมาสกั วัน ยายนึกในใจ หมายเลข 8 กลวิธีการเลา เร่ือง เปน็ หว่ งอสี ้มเช้ามัน ถา้ บา้ นนีพ้ งั มนั จะไปอยู่ทไี่ หน หมายเลข 9 ภาษา ยายเดินข้ึนจากท่าน�้า ไม่ลืมท่ีจะตักน้�ามาด้วยขันบาตรรดน�้ามะลิลาที่หัวกระได ยายไดด้ อกของมนั ไปรอ้ ยมาลยั รงุ่ รงิ่ บชู าพระเสมอ มาลยั รงุ่ รง่ิ นน้ั เปน็ คา� ประชดประเทยี ดของ อธบิ ายความรู อสี ม้ เช้ามัน มันว่ามาลยั ทีย่ ายร้อยนน้ั ไม่เป็นมาลัย ดูรุ่งริ่งเหมอื นอะไรไมร่ ู้ “กก็ ูไม่ใช่ชาววงั กูมนั ชาวบา้ น” ครสู ุมเรียกชื่อนักเรยี นเพื่ออธิบาย ยายบอกอีส้มเช้าไปอย่างน้ัน และร้อยมาลัยบูชาพระตามแบบของยายต่อไป ความรเู ก่ยี วกบั ประวตั แิ ละผลงาน วธิ รี อ้ ยมาลยั ของยายคือเหลาไมก้ ้านธูปให้เล็กแหลมตรงปลาย ดา้ นโคนน้นั ขว้ันเปน็ รอยบาก ของ วาณชิ จรงุ กจิ อนันต ไวน้ ดิ หน่ึงเพอ่ื ผูกดา้ ย อีส้มเช้าเคยบอกใหย้ ายใช้เข็ม ยายบอกมนั ว่ากูมองเหน็ รูเข็มเสยี ที่ไหน (แนวตอบ วาณชิ เกดิ เมือ่ วันท่ี 9 79 สิงหาคม พ.ศ. 2491 จบการศกึ ษา จากมหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร เรม่ิ มี นักเรยี นควรรู ช่อื เสยี งจากการเขียนบทความ ชือ่ “จดหมายถึงเพื่อน ” ตพี มิ พ วาณิช จรงุ กิจอนนั ต เปนนกั เขยี นทีไ่ ดร บั เปน ประจําในนติ ยสารลลนา การยกยอ งใหเ ปนกวซี ไี รตป ระจาํ ป 2527 ผลงานท่มี ชี ่ือเสยี งอกี เรือ่ งคือ จากผลงานเรอื่ งสน้ั ซอยเดียวกัน นวนยิ ายเรอ่ื ง แมเบี้ย วาณิช จรงุ กิจอนันต เสียชีวิตเมอ่ื วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ดวยโรคลูคีเมียเฉียบพลัน ตลอด ชวี ติ บนถนนนกั เขยี นวาณชิ ไดส รา ง ผลงานทีม่ ีคณุ ภาพไวมากมาย เชน ซอยเดยี วกัน (ไดร บั รางวัลซไี รต) เดก็ ชายกมลเทยี่ วบา นทุง เปนตน ) คูมือครู 79

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบับนักเรยี น 20%) นกั เรียนรว มกนั เลา เรื่องยอ ของ พอสม้ เชา้ บอกว่าจะสนเข็มให้ ยายก็ปฏเิ สธ พาลด่ามนั ไปว่าทไี อเ้ รอื่ งอยากให้ทา� เร่ืองส้นั เพลงใบไม จากนัน้ ครใู ห กลับไมท่ า� ทีเรือ่ งไม่เป็นเรื่องละชอบยงุ่ นักเรียนในแตล ะกลุมเตรยี มตวั ยายอยากให้อีส้มเช้ามันหัดเพลง แต่ส้มเช้ามันไม่เอา เคี่ยวเข็ญมันอย่างไร มันก็ ทบทวนความรูทีไ่ ดจากการวเิ คราะห ไมเ่ อา มันว่าเพลงของยายนนั้ หยาบ มนั อายเขา ไม่กลา้ รอ้ ง ยายวา่ ไมใ่ ช่มนั ไมก่ ล้าร้องหรอก รว มกัน นักเรียนกลุมท่ีจบั สลาก มันรอ้ งไมไ่ ด้ ยายพยายามจะหดั มนั มาหลายปจ นเลกิ พยายามแลว้ ไดห มายเลข 1 สงตวั แทนออกมา ยายเคยขึ้นเพลงใหม้ นั ตอ่ อธบิ ายผลการวเิ คราะหล กั ษณะ ยายขึน้ ว่า...“เอย ต้นแก้วตน้ เกา่ ดอกมันขาวเตม็ กิง่ ...” แล้วก็หยดุ รอวา่ เม่อื ไหร่ โครงเร่อื งของเรอ่ื งสนั้ เพลงใบไม อีสม้ เช้ามนั จะรอ้ งตอ่ มันกเ็ อาแต่หวั เราะ หรอื ไมก่ ็นงิ่ หนักเข้ามนั รา� คาญ บอกแลว้ ว่าไม่หัด พรอ มแสดงตัวอยา งประกอบให ก็ไม่หัด ไม่ชอบ ร้องไม่เป็น มันชอบเพลงลูกทุ่ง ก็ได้แต่ชอบมันเคยร้องเพลงอะไรได้ที่ไหน ชัดเจน ใชเวลาไมเ กนิ 5 นาที ไดแ้ ต่ครางหงุงหงงิ ไมเ่ ป็นภาษา พดู มนั กไ็ มค่ ่อยจะพดู จนคนเขาเรียกอีส้มเช้าใบก้ ม็ ี ยายก็เลยต้องร้องต่อของยายเอง “ต้นแก้วต้นเก่าดอกมันขาวเต็มก่ิง อยู่ใกล้ นักเรยี นควรรู ต้นกร่างลกู กล้งิ ออกเกลื่อนไป...” ยายจ�าเพลงอีแซวท่อนน้ีได้แม่นเชียวแม้จะนานตั้งเจ็ดสิบกว่าปมาแล้ว ตอนน้ัน เพลงอแี ซว มกี ําเนดิ ในจังหวดั ยายอายสุ ิบสองสบิ สาม หนีพ่อไปหดั เพลงกบั พอ่ เพชรบา้ นร้วั ใหญ ่ หลงั วัดลาวทอง พอ่ เพชร สุพรรณบรุ ี รอ งโตต อบกนั ดวยกลอน เขาลองข้นึ เพลงใหร้ อ้ ง เขาข้นึ อย่างนแี้ หละ ต้นแกว้ ตน้ เก่า ดอกมันขาวเต็มก่งิ ... มคี นไปหัด เพลงท่ลี งทายดวยสระเสียงเดียวกนั เพลงกับพ่อเพชรพร้อมยายสามคนไม่มีใครต่อได้สักคน ยายคนเดียวท่ีต่อได้ ก็ริมลานบ้าน “โอมาเถิดมา กระไรแมม า พ่อเพชรน้ันมีต้นแก้วต้นใหญ่ออกดอกขาว ต้นกร่างใหญ่อยู่ถัดลานบ้านออกไปลูกกร่าง ร่วงเตม็ ลานไปหมด ยายเลยตอ่ ได้ว่าอยู่ใกลต้ ้นกรา่ งลูกกลง้ิ ออกเกลอ่ื นไป สาวนอยอยาชา อยา ชาราํ่ ไร ยายเดินออกไปวางทัพพีและคว่�าขันบาตรไว้ริมนอกชาน นอกชานริมน้�าไหวโยก เมื่อยายเดินออกไปเก็บผ้านุ่งสีสดสองผืนที่ตากค้างมาแต่เม่ือคืน จับดูเห็นยังช้ืนอยู่ ยายเลย หากไดย ินเสียงนี้ เสยี งของพีไ่ วพจน พาดราวไม้รวกตากไว้อย่างเก่า คืนน้ีมีงานกฐินที่วัดป่า แม่ขวัญจิตเขาบอกยายไว้ต้ังแต่ เดือนท่ีแล้ว เขาหาเพลงอีแซวไปเล่น ยายถึงได้เตรียมผ้านุ่งพับเก็บเพราะว่างงานมานาน คนสพุ รรณเขารูหมด วาพเี่ ปน ใคร” หยิบมาดกู ลน่ิ มนั อบั นกั เลยเอามาซกั ยายสง่ั ส้มเช้าไวต้ งั้ แต่วาน ว่าคนื น้จี ะมีงานให้มันเตรยี มตวั มันก็ว่ายายสงั่ มันแลว้ นักเรยี นควรรู สั่งมันอีก เป็นสิบหนแล้ว ไม่ลืมหรอกส้มเช้าต้องไปด้วย ดีชั่วมันก็ยังเป็นลูกคู่ได้ ที่หวัง จะให้มนั เป็นคอสองคอสามนน้ั ยายท้อแล้ว มนั ไม่เอากช็ า่ งมัน แมข วัญจติ หรอื ขวญั จติ แม่น้�าสุพรรณยามนี้เงียบสงบ วันๆ มีเรือผ่านไปมาไม่กี่ล�า เมื่อไม่นานมาน้ีเอง ศรีประจันต เปนแมเพลงพนื้ บาน มันยังพลุกพล่านหนวกหูด้วยเสียงเรือไอเรือหางยาว เด๋ียวนี้ถนนลาดยางไปถึงไหนต่อไหน ชาวสุพรรณบรุ ี ทม่ี ีช่อื เสยี ง ไม่มใี ครใชเ้ รอื ไอเรือหางยาวอกี แล้ว มกี ็แต่เรือโยงของพวกคา้ ข้าว นานๆ จะผ่านมาสกั พวง เปน อยา งมาก ไดรบั ยกยองใหเปน ศลิ ปน แหง ชาติ สาขาศิลปะ การแสดง (เพลงพ้ืนบาน-อแี ซว) ประจําป 2539 80 80 คูมือครู

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธิบายความรู เมอื่ สมัยยายเปน็ สาวแม่น�า้ กเ็ งยี บอย่างนี ้ มแี ตเ่ รอื แจวเรอื พายนานๆ จะครกึ คร้ืน นักเรียนกลมุ ท่จี บั สลากได เอะอะกันสกั ท ี คอื ตอนมงี านวดั งานบญุ ตา่ งๆ ยงิ่ งานไหวห้ ลวงพอ่ โตวดั ป่าแลว้ ย่ิงสนกุ ยาย หมายเลข 2 สง ตัวแทนออกมา อยากจะหัดเพลงก็ตอนท่ีตามพวกบ้านเขาไปเล่นเพลงท่ีงานวัดป่านี่แหละ พวกบ้านของยาย อธบิ ายผลการวิเคราะหลกั ษณะ เขาพายเรือไปยังจังหวัดกัน ยายเป็นเด็กติดไปกับเขาด้วย พายจับหมู่กันไปเป็นสิบๆ ล�า การเปด เรื่องของเรือ่ งสั้น เพลงใบไม ร้องเพลงกันก้องแมน่ า้� ทีเดยี ว พรอมแสดงตวั อยา งประกอบให ชดั เจน ใชเวลาไมเกนิ 5 นาที หน้าบ้านเจ้าพระยายมราชริมน�้าเรือจอดกันแน่นเป็นแพ เล่นเพลงเรือให้ท่าน เจา้ ของบา้ นฟัง พวกบ้านของยายได้เงนิ ตกรางวลั บอ่ ยๆ ยายเองก็เคยได้ ตอนนั้นยายเป็นสาว เล่นเพลงคล่องแล้วยายยังจ�าได้ว่า มีเรือ เกร็ดแนะครู พวกผู้ชายจากอ่างทองเขามาเทียบเรือท้า พ่อเพลงฝ่ายน้ันเขาจะชื่ออะไรก็จ�าไม่ได้ จ�าได้ แต่วา่ ตัวเขาด�าเอาเสียจริงๆ ยายร้องตอบเขาไปว่า ครผู สู อนอาจมอบหมายชน้ิ งานยอ ย ใหแ กนักเรียนโดยใหนกั เรยี นรวบรวม “...เอย ได้ยินเสียงแจ้วแจ้วจึงเย่ียมหน้าออกมามอง ไหนพ่อคนอ่างทอง อยู่ สํานวนโวหารทีป่ รากฏในเรื่อง แลว ที่ไหน ปะหน้าแล้วงันงกแทบจะตกน�้าพ่อพี่ชายตัวด�าเหลือใจ บ้านอยู่อ่างทอง หรือพี่จา อธิบายความหมาย เชน เผาถา่ นหรือทา� นากันพช่ี าย...” ทา่ นเจ้าพระยาชอบใจตอนน้ีมาก ตกรางวัลให้ยายถงึ หา้ บาท • เรือนเทาแมวดนิ้ ตาย หรอื ท่ี ยายเล่นเพลงมาตลอดชีวิตขึ้นเหนือลงใต้ไปร้อยเจ็ดย่านน้�า อ่างทอง สิงห์บุรี เทาแมวดนิ้ ตาย หมายถงึ ทดี่ นิ หรอื อุทัย อยุธยา เคยไปมาทงั้ น้ัน เร่ืองเพลงยายไมก่ ลัวใครหรอก เพลงเรอื ฉอ่ ย อีแซว ทรงเคร่ือง เนอ้ื ทเ่ี พยี งเล็กนอ ย อะไรยายกเ็ ลน่ ได้ • ประคารม หมายถงึ ออกแสดง คารมโตต อบกนั อยา งคมคาย ยายเดินเข้าครัว คดข้าวใส่ชามนั่งเปิบกิน กับข้าวก็มีน้�าพริกท่ีต�าไว้แต่เมื่อวาน มผี กั บุ้งกบั ดอกโสนลวกน�้ารอ้ นแลว้ ก็ปลาเค็มท่สี ม้ เชา้ มันท�าไว ้ ยายเปิบขา้ วเข้าปาก หมดชาม ก็อม่ิ ลา้ งชามแลว้ ยายก็ตักนา้� ใส่ถังหยิบผา้ ขร้ี ้ิวหัวกระไดมาชบุ น้า� ถเู รอื น นกั เรยี นควรรู ยายถูเรือนทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น นั่งถัดถูไปประเดี๋ยวเดียวก็ท่ัว ส้มเช้ามันห้าม หดั เพลง การหดั เพลงพนื้ บา น ผทู มี่ ี ยายจนเบื่อและเลกิ หา้ มไปในทีส่ ุด มันวา่ ยายนะด้ือเหมือนเด็กๆ เพราะยายไมย่ อมฟังมนั ใจรกั ในศิลปะดานนสี้ ามารถหัดเพลง “กถู ูของกไู ด ้ เรือนเทา่ แมวด้ินตายแคน่ ้ี” ยายบอก ไดท ง้ั ในลกั ษณะท่เี รยี กวา หัดเองหรอื เรือนหลังน้ีเก่าแก่เต็มที พ่อแม่ของยายเป็นคนปลูก มันโย้จวนพังด้วยความเก่า “ครพู กั ลกั จํา” หรืออาจไปฝากตวั และความทด่ี ินรมิ ตลง่ิ พังเขา้ มาเร่ือยๆ เปน ศษิ ยกับครูเพลง ซง่ึ ขัน้ ตอนและ ยายเกิดที่บ้านหลังนี้ มีพ่ีน้องสามคน ล้มหายตายจากไปหมดแล้ว ยายเคยมีผัว ประเพณีฝก สอนของครูเพลง มดี ังนี้ เม่อื ตอนอายสุ ิบแปด ไอ้หนุ่มบา้ นมะขามลม้ พาพวกมาดกั ฉุด มันมาเห็นยายตอนไปเลน่ เพลง ท่ีวัดสวนหงส์ มีลูกด้วยกันคนหน่ึงก็แม่อีส้มเช้านี่แหละ แต่ยายอยู่กับผัวได้สองปเท่าน้ัน 1. การจับขอมือ คือ ศิษยน ํา มนั จะใหเ้ ลกิ เล่นเพลงท่าเดียว แตค่ วามรกั เพลงของยายน้นั หนักหนานกั ดอกไมธ ปู เทยี น เขม็ ดา ย สมดุ และเงินจาํ นวนเลก็ นอ ยใสพ าน นําไปหาครู ครูจับมือศษิ ยให ทาํ ทา รําพอเปนพธิ ี 81 2. การฝก ศษิ ย คอื เรม่ิ ตน การสอน โดยครูเปน ผรู อ งนําใหศิษย วาตาม ฝก ไปจนกวา ศิษยจ ะ จาํ เนอื้ รองและทาํ นองได 3. การทําพธิ ีไหวค รู ถือเปนพิธีสําคญั และทาํ เปน ทางการ นักเรียนควรรู เมอ่ื ครูเหน็ วาความสามารถของศษิ ยใชการได 4. การพาศิษยไปออกงานเพลงดวย เปด โอกาสใหศ ิษย เปบ เปนคํากริยาหมายถึง ใชปลายน้ิวมือขยุมขาว ไดร ับประสบการณตรงจากงานจรงิ ๆ เขาปากตนเอง เชน คณุ ยายเดนิ เขา ครัวคดขา วใสชาม น่ังเปบกินกบั นํา้ พรกิ คูม ือครู 81

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธิบายความรู (ยอ จากฉบับนักเรียน 20%) นกั เรยี นกลุมที่จับสลากได “...ถงึ ตกไปอยู่ในมือมาร ก็ยงั คดิ ถึงกนั อยู่ร่�าไป ไอเ้ รอ่ื งเลกิ กับผัว ฉนั ไม่กลวั เกรง หมายเลข 3 สง ตวั แทนออกมา แตใ่ หเ้ ลิกกับเพลงฉนั เลิกไม่ได.้ ..” อธิบายผลการวเิ คราะหลักษณะการ ยายยังจ�าเพลงท่ีร้องกับเพ่ือนร่วมวงตอนท่ีเลิกกับผัวใหม่ๆ ได้ดี ผัวของยาย ดาํ เนินเรอื่ งของเรอ่ื งสั้น เพลงใบไม มาตามกลับไปอยู่ด้วยกันใหม่หลายหนแต่ยายไม่ยอมกลับ เป็นตายยังไงก็ขอเล่นเพลง ลูก พรอมแสดงตัวอยางประกอบให ของยายผวั เขาเอาไปเล้ยี ง ชัดเจน ใชเวลาไมเ กิน 5 นาที แม่อีส้มเช้ากลับมาอยู่กับยายหลังจากผัวตาย แล้วก็มาตายตามผัวไปอีกคน ท้ิงส้มเช้าไว้กับยาย มันเสือกมีผัวตอนแก่เลยมีลูกไม่ทันใช้ยายบอกกับใครๆ ว่าอย่างน้ัน นักเรยี นควรรู ส้มเช้าอายุได้ห้าหกขวบตอนที่แม่ตาย ส้มเช้าอยู่กับยายสองคน ยายก็เล่นเพลงเล้ียงมันมา ไม่มีใครหาไปเลน่ ยายก็เก็บฝร่งั เกบ็ มะปรางขายเลยี้ งมนั พอ เพลง แมเพลง หรอื คนรอ ง ยายนึกเป็นห่วงมันอยู่บ่อยๆ ถ้าขาดยายไปเสียมันจะอยู่ยังไง ให้มันหัดเพลง คนขับเพลง มี 2 กลมุ คือ รอ ง มันก็ไม่เอาถา้ มนั เปน็ เพลงยงั พอจะมีอาชีพเลยี้ งตวั ดๆี ชัว่ ๆ ยังจะฝากกับแม่ขวญั จติ เขาได้ สมคั รเลน กับรอ งเปน อาชีพ คนรอ ง นม่ี นั เป็นแต่ลกู คู่ช่วยอะไรเขาไมไ่ ด้สกั เท่าไรเลย สมัครเลน คือ คนท่ชี อบรองราํ เลน เสร็จจากถูเรือนแล้วยายก็นอน ชีวิตที่เหลืออยู่ของยายน้ี เวลาตื่นและเวลานอน สนกุ เปน คร้งั คราว กลมุ นี้เรยี ก เกือบจะเท่ากัน ยายไม่เคยไปไหนไกลบ้านนอกจากการไปเล่นเพลง ยายมีเงินอยู่บ้าง ฝาก คาตอบแทนไมได เพราะไมม กี าร อีส้มเช้าไว้ บอกมันว่าให้เก็บไว้เป็นค่าท�าศพยาย เงินของยายได้มาจากไปเล่นเพลงมากกว่า วาจาง สว นกลมุ คนท่ีรอ งอาชีพตอ ง อย่างอื่น โดยเฉพาะปที่แล้วมะปรางสี่ห้าต้นของยายแทบจะสอยไม่ได้เอาเลย เงินท่ียาย ฝกฝนกับครเู พลงมากอ น รอ งหรอื เก็บๆ ไวเ้ ลยยิ่งร่อยหรอ ขบั เพลงตามทมี่ ผี มู าจา ง ซงึ่ ภาษา สมยั ที่เพือ่ นฝูงพอ่ เพลงแม่เพลงรนุ่ ๆ เดยี วกนั ยงั อยู่ครบ ยายเลน่ เพลงไดเ้ งินมาก เพลงพนื้ บา นจะเรียกคนรอ งหรอื เหมือนกันแต่ตอนน้ันยายไม่ได้คิดว่าจะอยู่มาถึงปูนน้ี ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเลี้ยงอีส้มเช้า คนขบั เพลงแตกตางกนั ออกไป เชน เงินไดม้ ายายกท็ า� บุญหมด ถงึ ตอนนย้ี ายต้องเขียมมาก ผา้ นงุ่ ผ้าถุงก็ไม่ค่อยอยากจะซื้อใหม่ ภาคกลางเรียกวา พอ เพลง แมเ พลง พอ่ เพลง แม่เพลงรนุ่ ยายตายไปเกอื บหมดแลว้ แมต่ ว่ น พพ่ี รหม อเี ช้อื นายตอ่ ม ภาคอีสานเรยี กวา หมอลํา ภาคเหนือ แม่น่ิง อีทองหล่อยังอยู่ อีทองอยู่ก็ยังอยู่ พูดมากนักอีน่ีแต่ก็อยากเจอมัน เจอกันก็ตอน เรยี กวา ชางซอ ภาคใตเ รียกวา แมคู เขามาตามไปเล่นเพลงเทา่ น้นั แหละ ท่ามันจะหง่อมเต็มทแี ล้วเหมอื นยาย และชาวโคราชเรียก หมอเพลง เวลายายนอนหลับ ส้มเช้ามันก็แวะไปบ้านใกล้ๆ หาหนังสือดารามาอ่านบ้าง ดูรูปบ้าง ไปตามประสา สม้ เชา้ มนั ตามยายไปเล่นเพลงทุกหน อย่างทีย่ ายบ่นๆ อยนู่ น่ั แหละ นกั เรียนควรรู ดีๆ ช่ัวๆ มันก็ยังเป็นลูกคู่ได้ ตีฉ่ิงตีกรับปรบมือไป มันยอมไปด้วยและยอมเล่นเพราะยาย ไปเท่านั้นแหละ ถ้ายายไม่ได้ไปมันยอมไปเสียท่ีไหน แต่น่ันแหละ ไม่เคยมีสักหนหรอก ฉิง่ เปน เครอ่ื งดนตรที ม่ี ีมาตง้ั แต ท่ีใครมาตามยายไปเล่นเพลงแล้วยายจะไม่ไป เคยมีอยู่หนเดียว ตอนนั้นยายลุกไม่ไหว สมยั โบราณของชาวเอเชยี สาํ หรับ แต่ทั้งๆ ท่ีไม่ไหวอย่างน้ัน ยายก็จะไป ส้มเช้าไม่ยอม บอกกับคนที่มาตามว่า จะให้ยาย ประเทศไทยปรากฏหลกั ฐานการนํา ไปตายหรือไง ฉงิ่ มาใชบ รรเลงตั้งแตสมัยสโุ ขทยั 82 ฉงิ่ เปน เครอ่ื งดนตรที ที่ าํ จากทองเหลอื ง วงดนตรไี ทยทกุ วงจะตองใชฉ ิง่ เปน ผบู รรเลงควบคมุ จงั หวะเปรยี บเสมอื น วาทยกร (Conductor) 82 คมู ือครู นักเรยี นควรรู กรบั เปนเครอ่ื งดนตรีทใี่ ชท าํ จังหวะรวมกับฉ่งิ เปน เครื่องดนตรีที่เกา แกของมนษุ ย โดยพฒั นามาจากการ ปรบมอื กรับท่ใี ชอยใู นวงดนตรไี ทยมีอยูหลายชนิด ไดแ ก กรบั คู กรบั พวงและกรับเสภา

กระตุน ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate ส้มเช้าไม่ค่อยพูด ไม่เคยสนใจเรื่องเพลงของยาย ใครจะมาชมยายว่าเป็น อธิบายความรู แม่เพลงชั้นครูอย่างไรมันไม่เคยสนใจ ส้มเช้าชอบเพลงลูกทุ่ง มันมีความฝันคิดจะตามเขา ไปเป็นหางเคร่ืองก็ได้แตฝ่ ันเทา่ นัน้ แหละ มันไม่ใช่คนสวยและอาจจะเปน็ ดว้ ยเป็นหว่ งยายอยู่ นักเรียนกลมุ ทีจ่ บั สลากได กเ็ ลยไม่ไดไ้ ปตามท่ใี จนึกอยาก หมายเลข 4 สง ตวั แทนออกมา ส้มเช้าเรียนจบปอส่ีที่โรงเรียนวัดมะนาว แล้วก็ไม่ได้เรียนต่อ ไม่ได้ท�างานอะไร อธิบายผลการวิเคราะหลักษณะ ท่ีไหน เคยมีคนมาชวนไปเป็นสาวโรงงาน ส้มเช้าอยากจะไปเหมือนกัน ตอนนั้นเพลง การปดเร่อื งของเรอ่ื งสั้น เพลงใบไม ฉันทนาท่ีรักก�าลังฮิต มันจะไปยายก็ไม่ว่า แต่ตอนหลังไม่รู้อย่างไรมันเปล่ียนใจเสียเฉยๆ พรอ มแสดงตวั อยางประกอบให อาจจะเปน็ เพราะพวกบา้ นเขาพูดกันก็ไดว้ ่าจะทงิ้ ยายไปไดย้ งั ไง ยายออกหง่อมอยา่ งนี้ ชัดเจน ใชเวลาไมเ กนิ 5 นาที แต่ยายกลับบอกสม้ เชา้ มันว่า “มงึ จะไปก็ไปเหอะ ไมต่ อ้ งห่วงกู” ตอนน้ันยายทา� ใจไดแ้ ล้ววา่ สม้ เช้ามันไมเ่ อาเพลงของยายแน่ ๆ นักเรยี นควรรู งานหลักของส้มเช้าคือท�าสวน ปลูกพริกปลูกมะเขือไป ไม่มีต้นหมากรากไม้ อะไรมากหรอก ที่ของยายมีอยู่นิดเดียว เม่ือก่อนโน้นมีมากกว่าน้ีหรอกแต่ดินริมแม่น�้า หางเครอื่ ง คอื กลมุ คนทอี่ อกมาเตน มันพังหายหดเข้ามาทุกป ในสวนมีต้นมะปรางอยู่สี่ห้าต้น มีมะม่วงทองด�าและละมุด ประกอบจงั หวะในการรอ งเพลงลกู ทงุ อีกไม่ก่ีตน้ หนา้ ผลไม้ยายกบั ส้มเชา้ ก็เกบ็ ผลไมไ้ ปส่งเขาที่จงั หวัดมรี ายได้เลี้ยงกันมา ซ่ึงวงดนตรีลูกทุงในปจจบุ นั ถอื วา รายได้อีกส่วนหน่ึงของยายก็มาจากการไปเล่นเพลง ซ่ึงเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ หางเคร่อื งมีความสําคญั ท่ีขาดไมได แม่ขวัญจิตมาตามยายไปร่วมวงเมื่อหลายปมาแล้ว วันที่แม่ขวัญจิตมาตามน้ัน ยายปลื้มใจ หางเครอื่ งในอดตี หมายถึง ดีใจจนนา้� ตาไหล ส้มเชา้ ตามยายไปดว้ ย แมข่ วัญจิตเลยหดั จังหวะเปน็ ลกู คู่ เครอ่ื งดนตรที ่เี คาะใหจงั หวะ แต ก่อนท่ีแม่ของส้มเช้าตายนั้น ยายอยู่ที่กรุงเทพ อยู่แถวเมืองนนท์พักอยู่กับ ตอ มาวงดนตรีลูกทงุ มกี ารแขง ขัน ญาติห่างๆ คนหนึ่ง ช่วยเขาดูแลเด็ก ยายไปอยู่เพื่อท่ีจะได้อยู่ใกล้เพื่อนฝูงพ่อเพลง กนั มากขนึ้ จงึ ตองสรา งความ แม่เพลงของยาย จะได้ตามกันสะดวกเวลามีงาน ระยะนั้นพอมีงานเล่นอยู่บ้างก็เล่นกันไป โดดเดน ใหแกว ง วงดนตรีลกู ทงุ ยายมีความสขุ ทสี่ ดุ แลว้ ท่ีไดเ้ ลน่ เพลงไดเ้ งนิ มาทา� บญุ เพลิน พรหมแดน เปนวงแรกท่นี ํา พอแม่ต่วนตาย พี่พรหมตาย ยายก็เริ่มว้าเหว่ เพ่ือนฝูงของยายที่ร่วมเล่นเพลง แฟช่ันจากประเทศตะวันตกเขามา กนั มาตายจากไปเร่อื ยๆ ทีต่ ายไปก่อนแมต่ ว่ น พพี่ รหมก็มี ทตี่ ายตามหลังไปกม็ ี จนในทส่ี ดุ โดยใชผเู ตนจาํ นวนมากและใชขนนก กแ็ ทบจะไม่เหลือเลย แต่ยายกย็ งั ทนอยูเ่ มอื งนนทจ์ นแม่ของส้มเชา้ ตายนั่นแหละ ยายถงึ กลับ ขนาดใหญมาประดบั บนศรี ษะ ซึง่ มาอยูส่ ุพรรณ หางเคร่ืองไดมีพฒั นาการอยา ง กลับมาสุพรรณยายก็เลี้ยงอีส้มเช้า ยายไม่มีญาติสนิทที่ไหนอีก มีก็แต่พวก ตอ เนือ่ งในดา นตางๆ จนถงึ ปจ จุบนั ชาวบ้าน ญาติสนิทรุ่นหลัง ไม่ได้มีความใกล้ชิดอะไรกับยาย ยายไม่ได้เป็นเศรษฐีมีสตางค์ เชน เสื้อผาเครื่องแตง กายท่มี ีสสี ัน ไมม่ ีใครอยากมารบกวนยายและยายก็ไม่ชอบท่จี ะไปรบกวนใครเขา สดใส ปรับเปลี่ยนใหเขากบั สมัยนยิ ม ยายก็เก็บผลไม้ขายและเล่นเพลงเร่ือยมา นานๆ ได้เข้ากรุงเทพหน ตอนเขามา เนน ความสวยงาม อลงั การ พฒั นา ตามไปเลน่ เพลง ไปออกโทรทัศน์ก็เคย ตอนหลังน่ีสุดแต่แม่ขวัญจติ เขาจะมาตาม พอ่ ไหวเขา ทา เตน ออกแบบใหส อดคลอ งกับ เนอ้ื หา มคี วามทนั สมยั นําการเตน 83 แบบแจส ลาติน มาผสมผสานจนมี การใชคําวา “แดนเซอร” แทนคาํ วา “หางเครื่อง” นักเรยี นควรรู คมู อื ครู 83 ลกู คู มหี นา ท่ชี วยใหก ารเลน เพลงพ้ืนบา นมคี วามครกึ ครืน้ สนุกสนาน การเลนเพลงแตล ะครงั้ ถาลูกคมู จี ํานวนมาก จะยิ่งสนกุ ลกู คจู ะทําหนา ท่ีตา งๆ ตามชนดิ ของเพลง เชน ชวยใหจ งั หวะแกพอเพลง แมเพลง ดว ยวิธกี ารปรบมือ ตีกรบั ฉิง่ รอ งรับ เชน ในเพลงเรอื จะรอ งรับวา “ฮาไฮ” หรือจะรองซํา้ ทั้งวรรค ทั้งตอน แบบในเพลงพวงมาลัย ซึ่ง การรอ งซํ้าของลกู คจู ะทําใหพอเพลง แมเพลง ไดมเี วลาในชวงนี้ใชปฏิภาณ ไหวพรบิ คิดเน้อื เพลงโตตอบอีกฝายหน่งึ

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธบิ ายความรู (ยอ จากฉบบั นักเรยี น 20%) นักเรยี นกลุมทจ่ี ับสลากได ก็มาตามบ้างเหมือนกัน ยายแก่ปูนน้ีแล้วยังประคารมเพลงกับเขาได้ ไม่มีกลัว ไม่มีจนเสียง หมายเลข 5 สงตัวแทนออกมา ของยายยงั ก้องกังวานไม่มแี หบหรอื พรา่ เสียงยายเป็นอยา่ งน้มี าต้งั แต่สาว อธบิ ายผลการวิเคราะหลกั ษณะการ ยายตื่นมาตอนบ่าย กินหมาก เคี้ยวไปได้สักครู่ยายก็คายรู้สึกว่าหมากค�าน้ี สรา งตัวละครของเรอื่ งส้นั เพลงใบไม ไม่อร่อย จะเป็นหมากดบิ หมากแหง้ พลูสด หรือพลูนาบยายกก็ ินได้อรอ่ ย แต่วันนี้ยายร้สู ึก พรอ มแสดงตัวอยา งประกอบให ว่าหมากมันไมอ่ ร่อย ยายลองค�าใหม่ใส่ปากแลว้ ขยบั จะลุกข้นึ ยนื แตล่ ม้ แผละลง ชดั เจน ใชเ วลาไมเ กนิ 5 นาที ยายคายหมากและรู้สึกตัวเองว่าไม่ค่อยสบาย ยายรู้ว่าคร้ังน้ีตัวเองไม่สบายหนัก เพราะเป็นการไม่สบายครั้งแรกท่ียายกินหมากแล้วไม่อร่อย แต่ยายก็ไม่ได้ต่ืนเต้นหรือ NET ขอ สอบ ป 53 ตื่นกลัว ความตายกับยายน้ันอยู่ใกล้กันมานานเต็มที อายุปูนยายคนรุ่นเดียวกันเขาตายไป จนแทบจะไม่เหลือเลย แล้วยายอยู่ใกล้กับความตายมาจนสนิทสนม ยายเตรียมตัวมา ขอ สอบถามวา คาํ ประพนั ธใ นขอ ใด นานแล้ว ต้งั ใจท�าบุญนา� หน้าไปนานแลว้ กลาวถึงสิง่ ที่แสดงวฒั นธรรมไทย ยายนึกถึงว่ารับงานเขาไว้ค่�าน้ีเลยแข็งใจลุกขึ้นมาน่ัง ยังดีหรอกท่ีจะได้น่ังรถไป สมัยก่อนต้องเดินไปเล่นเพลงท่ีไหนถ้าเป็นท่ีดอนก็ต้องเดิน บางทีเดินกันเป็นวัน ถ้าเป็น 1. ยาตรบาทหอนกระชน้ั งานเดือนสบิ เอ็ดสิบสองยงั พอจะพายเรอื ถ่อเรอื กันไปได้ ชวงเทาเทาเสมอ ยายนึกเจ็บใจตัวเองที่มาไม่สบายเอาตอนนี้ แข็งใจลุกขึ้น แต่วิงเวียนเต็มที พอลุกขึ้นได้ยายก็หัวซุนไป ดีแต่พิงฝาบ้านไว้ได้เรือนโยกทีเดียว ยายล้มตัวลงนอนหลับตา 2. แกว กองทองสลับลวน รสู้ ึกเหนื่อยจนคล้ายๆ วา่ ใจจะขาด รว งรุงเรืองแสง “กูทา่ จะไมไ่ ดไ้ ปออกเพลงกับเขาแล้วมงั ” ยายพดู กับตวั เองกอ่ นจะหลบั ไป ด้วยความคิดทีว่ า่ ไม่เป็นไร ยายฝากเงินอสี ม้ เชา้ 3. แหอยูสองขา งเขา ไวแ้ ลว้ มากพอเป็นค่าทา� ศพ คคู ลอ ยเคยี งไคล “เอย...ต้นแก้วต้นเก่าดอกมันขาวเต็มก่ิง อยู่ใกล้ต้นกร่างลูกกลิ้งออกเกลื่อนไป 4. บังแทรกสองคสู ลา ย โน่นสาเกแตกก้านแล้ว ใครเขากานต้นตะโกเหลือแต่ตอต้ังโด่อยู่ข้างกอหงอนไก่ ใบกร่าง สลับรวิ้ ฉัตรเรียง แก่แก่ไม่มใี ครแลเหมอื นเก่า พอลมพัดร่วงกราวลอยไปไกล...เอยลอยไปไกล” (วิเคราะหคําตอบ บังแทรกและ มเี พลงอแี ซวแวว่ ๆ เขา้ มาในหูของยาย ทา� ใหย้ ายลืมตาลุกขน้ึ มองไปทีห่ ัวกระได ฉตั รเปน เครือ่ งสงู หรอื เครอ่ื ง ก็ไม่เจอใครมองไปทั่วเรือนก็ไม่มีใคร หูของยายคงแว่วไปเอง แต่ก็ท�าให้ยายนึกได้ว่าค่�าน้ี แสดงเกยี รติยศของ จะต้องไปเลน่ เพลง ก่โี มงกยี่ ามแล้วไม่รู้ พระมหากษตั ริย ซ่ึงเปน สิง่ ท่ี ยายพยายามลุกข้ึนช้าๆ ยายไม่ต้องการให้อีส้มเช้าเห็นอาการเจ็บไข้ เด๋ียวมัน แสดงถึงวฒั นธรรมไทย ดงั นนั้ จะเจ้ากีเ้ จ้าการหา้ มยายไม่ใหไ้ ปเลน่ เพลงกบั เขาคืนนี้ จงึ ตอบ ขอ 4.) ยายตะโกนเรียกส้มเช้า ได้ยินมันขานแว่วๆ อยู่ท้ายเรือน ยายตะโกนส่ังมัน ให้เตรียมตัวเดี๋ยวรถเขาจะมารับไปวัดป่า จะได้เลยไปไหว้หลวงพ่อโตกันด้วยลืมแล้วหรือไร นกั เรยี นควรรู ว่าวนั นี้ต้องไปเลน่ เพลง สม้ เชา้ สง่ เสยี งมาวา่ จะรบี ไปท�าไม น่เี พ่ิงบา่ ยโมง 84 ตน แกว มชี ื่อวทิ ยาศาสตรว า Murraya paniculata เปน ไมย นื ตน นักเรยี นควรรู ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ใบออก เปน ชอ เปนแผงเรยี งสลับกนั ชอ หนงึ่ สาเก ในทนี่ ีห้ มายถึง ตน ไมชนดิ หน่งึ มีชอ่ื วิทยาศาสตรวา Artocarpus altilis มถี ่ินกําเนดิ อยทู ี่โพล-ิ ประกอบดว ยใบยอยประมาณ 4-8 ใบ นเี ซีย ตนสาเกจดั เปนไมผ ลทีม่ ปี ระโยชน สว นประกอบตา งๆ สามารถนํามาเปน ยารกั ษาโรคได เชน ดอกสีขาว มกี ลิน่ หอม แกวยงั ปรากฏ ดอกรักษาโรคเหงอื ก นํ้ายางแกท องเสีย นํา้ ตม จากใบลดความดนั เลือดและหอบหดื ในวรรณคดเี รื่อง กาพยหอโคลง ประพาสธารทองแดง พระนิพนธ เจาฟา ธรรมธเิ บศร “...หอมหวังวังเวงใจ วากลน่ิ แกวแลว เรยี มเหลียว” 84 คมู ือครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate ยายเลยนั่งลง มองเหม่อออกนอกชานไปที่แม่น้�า แม่น้�าสุพรรณเชี่ยวกรากอ้อม อธิบายความรู โค้งมามว้ นเปน็ เกลียวอยู่ตรงหนา้ บา้ นยาย กอสวะผักปอ่ งลอยมาเป็นระยะ บางกอมาวนอยู่ หน้าบ้านยายก่อนท่ีจะล่องไปตามน้�าต่อไป บางกอใหญ่มากทีเดียวถ้ามันปะทะเข้ากับเสา นกั เรยี นกลมุ ท่จี บั สลากได นอกชานเรือนของยาย เหน็ ทวี า่ บา้ นของยายจะพัง หมายเลข 6 สงตวั แทนออกมา เสียงชะชะฮ้าไฮ้ของเพลงเรือแว่วมาในความรู้สึกของยายเหมือนมันดังมาจาก อธบิ ายผลการวเิ คราะหล ักษณะ หวั คงุ้ โน้น แนวคดิ ของเรอ่ื งสั้น เพลงใบไม พรอมแสดงตัวอยา งประกอบให “...เอ่ยปากว่าจะลาน�้าตาจะรินจะร่วง อกเอยพ่อเอย ยังนึกเป็นห่วงพ่อพี่ชาย ชดั เจน ใชเวลาไมเ กนิ 5 นาที เดือนสิบสอง น�้านองสองฝั่งฟาก ต้องจ�าใจจ�าจาก นึกแล้วยังเสียดาย จะถ่อเรือคืนหลัง ระมัดระวงั หนอ่ ยเถดิ พอ่ ถ้าจบั ถ่อผิดถ่อประเดี๋ยวตกนา้� ตาย...” นักเรยี นควรรู เพลงจากดังมาขาดๆ หายๆ ยายมองเหม่อไปท่แี มน่ �้าย้มิ ออกมาคนเดยี ว ยายมาถึงวัดป่า ประแป้งแต่งตัวกับเขาจนได้ อีส้มเช้าเห็นอาการของยายแล้ว เพลงเรือ เปน ชื่อของเพลงพื้นบา น ไม่ยอมให้ยายมาท่าเดียว แต่ยายก็ยืนยันกับมันว่าไปได้ กูไม่เป็นอะไรกูไปได้ กูจะไปไหว้ ไทยภาคกลาง นิยมรองในเรอื หลวงพอ่ ด้วย ตอนฤดนู ํ้าหลาก มกี ารทอดกฐิน พอแต่งตัวเสร็จ ตวัดสไบเฉียงบ่า ดวงตาของยายดูแจ่มใสดูราวกับอาการไข้ ผา ปา และนมัสการพระตามวดั ของยายหายไปหมดสิ้น ส้มเช้ามันตามดูยายอย่างใกล้ชิดจึงค่อยสบายใจขึ้น แต่ส้มเช้า พอ เพลง แมเ พลง และลูกคจู ะลงเรือ มันรู้ว่ายายจะดูแข็งแรงหน้าแจ่มใสอย่างนี้ทุกทีท่ีจะเริ่มเล่นเพลง จึงไม่ค่อยวางใจนัก พรอ มเสบยี งไปยงั วดั เพอ่ื รอ งเพลงเรอื เพราะอาการของยายตอนทขี่ ้นึ รถไปรับน้นั ดูประหลาดอย ู่ ตอนท่สี ้มเชา้ มนั เขา้ ไปปลกุ น้ันยาย กนั อยางสนกุ สนาน นบั เปน ประเพณี ไม่รสู้ ึกตัวเสยี แลว้ ปล�า้ กันอยูน่ านเชียวกวา่ จะฟนื้ ทค่ี รึกครนื้ มากในสมยั กอ น เพลงเรือ ส้มเช้านัวเนียใกล้ยายมากเข้า ยายก็ไล่ให้มันไปเตรียมตัวของมัน ไม่ลืมที่จะส่ง เปน คําประพนั ธแบบกลอนหวั เดยี ว สายสร้อยข้อมือทองเส้นเล็กๆ ให้ ยายคิดว่าส้มเช้ามันเป็นสาวเป็นนางควรจะมีทองหยอง ท่ีใชในการดนสดในเพลงแหล ติดตัวออกแขกบ้าง ของยายนั้นไม่มีหรอก ยายบอกมันว่าไม่ต้องมาเป็นห่วงกู ส้มเช้าก็ เพลงลาํ ตดั ฯลฯ มสี มั ผสั ระหวา งวรรค แตง่ ตัวดว้ ยเส้อื ผา้ ออกงานสีสดชดุ เดียวที่มีอยู่เหมือนกับยาย และลกั ษณะเดน คือ คาํ ทา ยบาท ยายเดินออกไปหน้าเวที รู้สึกเหมือนเวทีแห่งน้ีเป็นท่ีเกิด เป็นที่ซ่ึงยายเกิดและ หรือคําสดุ ทายของบรรทดั จะลงทา ย โตมาจนเป็นสาวและแก่เฒ่า ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็คุ้นเคย จะร้องจะร�าดูมันช่างง่ายดาย ดว ยสระเสียงเดยี วกนั ทกุ บาท และแสนทจ่ี ะสนุก ทกุ เมด็ ฝุน่ บนพื้นท่แี หง่ น้เี ป็นของยาย ยายรู้จักฝนุ่ ทกุ เม็ดบนพ้นื ทแ่ี ห่งนี้ เครือ่ งดนตรีท่ใี ชประกอบเพลงเรอื ยายรสู้ กึ อยา่ งนัน้ จรงิ ๆ คอื ฉิ่ง ในบางครง้ั อาจมีกรบั รว มดวย “จบพานขึน้ เหนอื เศยี รธูปกะเทยี นวนั ทา นกั เรยี นควรรู ไหวพ้ ระตรัยรัตนาถวาย ลูกจะยกบายศรขี ึน้ สี่มมุ ไหว้พระภูมเิ จ้าท่ี ออกแขก หมายถงึ แสดงตอหนา ไหว้เทวดาองค์ดๆี ท้งั หลาย แขก แสดงตวั ในสงั คม 85 คูมอื ครู 85

กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธิบายความรู (ยอจากฉบับนกั เรียน 20%) นกั เรยี นกลุมท่ีจบั สลากได ไหวพ้ อ่ เพชรครูแก้วสอนอแี ซวให้กะฉนั หมายเลข 7 สงตวั แทนออกมา เป็นแม่เพลงเมืองสุพรรณชอ่ื กา� จาย...” อธบิ ายผลการวเิ คราะหล กั ษณะฉาก เสียงกังวานของยายข้ึนบทไหว้ครู สะกดคนฟังให้น่ิงได้ส่วนหน่ึง คนที่เขาไม่ได้ ของเรอ่ื งสน้ั เพลงใบไม พรอ มแสดง สนใจอะไรในเร่ืองเพลงเขาก็นั่งคุยกันไป กินเหล้าไป แต่ยายไม่เคยสนใจหรือจับสังเกต ตวั อยางประกอบใหชัดเจน ใชเวลา ว่าจะมีใครฟังหรือใครไม่ฟัง ความรู้สึกท้ังหมดของยายอยู่บนเวทีฟังฝ่ายพ่อเพลงเขาร้อง ไมเกนิ 5 นาที ดซู มิ นั จะวา่ ยงั ไง อย่าหลวมมาเชียวนะมงึ ยายไม่อยากมองไปที่คนดู เพราะยายก�าลังรู้สึกว่าตาของยายพร่า จนมองอะไร เกร็ดแนะครู ไมค่ อ่ ยเหน็ ยายก�าหนดใจขืนตัวเองไว้ม่ัน ฟังเสียงแม่เพลงพ่อเพลงเขาร้อง ยายตั้งใจฟัง ครผู สู อนอาจมอบหมายชน้ิ งานยอ ย เพ่อื รอจงั หวะของยาย ใหแกนักเรียน โดยใหศึกษาวา ยายออกไปร้องเกริน่ สั้นๆ และออกไปแกบ้ ทเกย้ี ว มเี สียงคนดูหวั เราะ ท้งั ขบขัน เรื่องส้นั เพลงใบไม สะทอนใหเ ห็น และเอ็นดูยายที่เดินร�าออกไปชนแม่เพลงด้วยกัน ยายไม่ได้สนใจ ส่ิงที่ยายคิดอยู่คือออกไป คุณคาทางสังคมอยางไร แกพ้ อ่ เพลงเขาใหไ้ ด้ คนดูคิดว่ายายเดินชนแม่เพลงด้วยกันเพราะเงอะงะด้วยความชราแต่ไม่ใช่หรอก นกั เรียนควรรู ตาของยายมองไม่เห็นแลว้ ต่างหาก ไม่มีใครบนเวทีสังเกตเห็นความผิดปรกติของยาย แม้แต่ส้มเช้าเอง เพราะสีหน้า “…โอพอจันทรกระจางดูทาดทู าง ของยายยิม้ และเสียงของยายก็กงั วานสดใส จบั จด หัวเคยโดนแพนดวยตะพด บางหรือไม มาจนุ จา นเอย วจชี างจจู ้ี “...โอ้พ่อจันทร์กระจ่างดูท่าดูทางจับจด หัวเคยโดนแพ่นด้วยตะพดบ้างหรือไม่ จุกจกิ พอตาพองผมหยิกดูหลุกหลิก มาจนุ้ จา้ นเอย่ วจชี ่างจูจ้ ้จี กุ จกิ พ่อตาพองผมหยิกดูหลุกหลกิ จัญไร...” จัญไร...” เน้ือรองท่ปี รากฏในเพลง ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปรกติของยาย แม้จนยายถอยหลังไปชนม้าน่ัง แล้ว พ้ืนบา นจะแสดงใหเห็นความฉลาด ยายจับม้านั่ง คล�าหาที่น่ังและนั่งลง ดูเหมือนจะเป็นส่ิงที่ยายท�าอยู่เสมอ ยายแก่มากแล้ว หลกั แหลมของผูร องในแตละทองถนิ่ ยนื นานไม่ไหว ใครๆ กค็ ิดเชน่ น้ัน โดยจะเลอื กใชคําใหส ่อื ความหมาย ส้มเช้าหยุดกรับเข้ามาถามยายว่าเป็นอย่างไร ยายยิ้มกับมันแล้วบอกว่า “กูจะ ไดง า ย ทส่ี าํ คัญคือ การใชค าํ ไทย กนิ หมาก” แทๆ เกอื บทง้ั บท ทงั้ ยังปรากฏคาํ ทมี่ ี ส้มเช้าพายายเดินมาข้างเวที ให้ยายน่ังลงบนเก้าอ้ีแล้วหยิบห่อหมากวางบน สมั ผัสคลอ งจองอกี ดวย ตักยาย ยายจัดหมาก ดวงตาแจ่มใสของยายจับนิ่งอยู่กับพ่อเพลงท่ีก�าลังประคารมกันอยู่ มเี สยี งหวั เราะเฮฮากับคารมของพ่อเพลงแม่เพลงเปน็ ระยะ ยายมองอะไรไม่เห็นแลว้ แต่ก็ยังมแี รงหยิบหมากเขา้ ปาก ยายไม่ได้เคี้ยวหมาก ยายไม่รู้รสของหมากอีกต่อไปแล้วว่าอร่อยหรือไม่อร่อย แต่ยายยงั นงั่ อยู่เช่นนัน้ 86 86 คูมอื ครู

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธบิ ายความรู นกั เรยี นกลมุ ทจ่ี ับสลากได หมายเลข 8 สง ตวั แทนออกมา สม้ เช้ามันสะดุดพื้นเวทคี ะม�า วางกรับในมอื แล้วกร็ า� ป้อออกไป อธบิ ายผลการวิเคราะหกลวิธีการ ถงึ ตอนชมดง ฝา่ ยชายพาเมยี กลบั บา้ น เลาเรื่องของเรือ่ งสัน้ เพลงใบไม พรอ มแสดงตัวอยางประกอบให “...ต้นแก้วต้นเก่าดอกมันขาวเต็มกิ่ง อยู่ใกล้ต้นกร่างลูกกล้ิงออกเกล่ือนไป โน่นสาเกแตกก้านแล้ว ใครเขากานต้นตะโก เหลือแต่ตอต้ังโด่อยู่ข้างกอหงอนไก่ ใบกร่าง แก่แก่ไมม่ ีใครแลเหมือนเกา่ พอลมพดั รว่ งกราวลอยไปไกล...” ชัดเจน ใชเวลาไมเกิน 5 นาที ส้มเช้ามันร้องได้เท่าน้ี พวกพ่อเพลงแม่เพลงตลอดจนอีท้ายป้อยท้ังหลายก็กราก เข้ามาจับตวั มนั ไว้ แมข่ วญั จิตหัวหน้าวงถลาเขา้ ไปหายาย ตะโกนเรียกชือ่ ยายเสียงลัน่ ก็เสยี งที่อีสม้ เชา้ ร้องน่ะ มันเสียงยายชัดๆ บรู ณาการสอู าเซยี น รางวลั วรรณกรรมสรางสรรค ยอดเยยี่ มแหง อาเซยี นหรอื รางวลั ซไี รต วาณชิ จรุงกจิ อนันต ์ เปน็ นักเขยี นท่มี ีช่ือเสียงในวงการวรรณกรรมไทย ผลงานของเขา (S.E.A.Write Award) คอื รางวัล ได้รับการยอมรับว่ามีความโดดเด่นในเร่ืองการใช้ภาษาเพ่ือสื่อแนวคิด อารมณ์ความรู้สึกของ ทมี่ อบใหแกน กั เขยี นวรรณกรรม ตวั ละคร บางเรอื่ งสะทอ้ นสภาพสงั คมอยา่ งตรงไปตรงมาและกระตนุ้ ใหเ้ กดิ การคดิ หรอื สามญั สา� นกึ ในกลุมประเทศอาเซยี น 10 ประเทศ ที่ดี ผลงานของเขาได้รับรางวัลทางวรรณกรรมท่ีนับว่ามีเกียรติคือ รางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ ไดแ ก อินโดนีเซยี มาเลเซยี ฟล ปิ ปน ส ยอดเย่ียมแหง่ อาเซียน (ซไี รต)์ จากผลงานเรอื่ ง “ซอยเดยี วกัน” ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ สงิ คโปร บรไู นดารซุ ซาลาม ลาว ผลงานเรอ่ื งสน้ั “เพลงใบไม”้ เปน็ อกี ผลงานของวาณชิ ทมี่ ลี กั ษณะการใชภ้ าษาทโี่ ดดเดน่ เวยี ดนาม เมียนมาร กมั พชู า และ การวางแนวคิดส�าคัญของเรื่องเพ่ือส่ือสารกับผู้อ่านอย่างสะเทือนอารมณ์และเกิดความซาบซ้ึง ไทย ครผู ูสอนอาจจัดกจิ กรรมการ ในขณะเดียวกัน กลวิธกี ารสรา้ งตวั ละครท่สี ่งผลต่อการดา� เนินเร่ือง โครงเรอ่ื งทีไ่ มม่ ีความซับซ้อน เรยี นการสอนเพ่อื บรู ณาการความรู ฉากและบรรยากาศภายในเรือ่ งมีความสอดคลอ้ งกบั เน้ือเรือ่ งและพฤตกิ รรม ความคิด ความเชื่อ สูค วามเขาใจ สรางเสริมใหนกั เรยี น และอารมณค์ วามร้สู ึกของตัวละคร มคี วามรเู ก่ียวกบั รางวัลวรรณกรรมซี การอ่านเรือ่ งส้นั มคี วามแตกตา่ งจากการเขียนเรอ่ื งสั้น กล่าวคอื ในขณะท่ผี อู้ ่านจะไดร้ บั ไรต เพื่อสงเสริมใหนักเรยี นมคี วาม “แนวคดิ ” หลงั การอา่ นจบ แต่ผ้เู ขยี นจะเรม่ิ การเขยี นจากการวาง “แนวคดิ ” โดยใชก้ ลวิธกี ารเขียน เขา ใจในอัตลกั ษณของชาตติ นและ แฝงแนวคิดของเรอื่ งไว้ภายใต้องค์ประกอบตา่ งๆ ของเรือ่ งส้นั รวมถงึ ชนชาตอิ าเซยี น เรื่องสั้น “เพลงใบไม้” มีขนาดความยาวของเรอ่ื งเหมาะสม สามารถอา่ นใหจ้ บไดภ้ ายใน ใหน ักเรียนรวมกนั จดั นิทรรศการ ระยะเวลาไม่นาน หากวิเคราะห์จากเน้ือหาของเรื่องจะพบว่าผู้เขียนเร่ิมต้นการเขียนด้วยการวาง “สัปดาหซ ไี รต” ภายในงานวชิ าการ แนวความคิดส�าคัญของเร่ือง คือ ความแตกต่างทางรสนิยมของคนสองช่วงวัยที่มีประสบการณ์ ของโรงเรยี น โดยเรม่ิ จากการแบง กลมุ ชีวิตและถูกหล่อหลอมมาในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามความแตกต่างดังกล่าว หาขอมูลประวตั ินักเขยี น เรื่องยอ สามารถมจี ดุ จบตรงกลางทพี่ อเหมาะพอดไี ดเ้ ชน่ เดยี วกบั ความแตกตา่ งของยายกบั สม้ เชา้ หลงั จาก ของผลงานทไ่ี ดรบั รางวัล นบั ตง้ั แต การวางแนวความคิดส�าคัญของเร่ืองไว้แล้ว ผู้เขียนจึงเร่ิมใช้กลวิธีในการเขียนเพ่ือวางโครงเร่ือง ประเทศนั้นเร่ิมมกี ารใหรางวัล เชน ในลักษณะก�าหนดให้ “ใคร ท�าอะไร อย่างไร ที่ไหน เมื่อไร” ซ่ึงโครงเร่ืองของเพลงใบไม้ คือ ประเทศไทยเริม่ ต้งั แตป พ.ศ. 2522 จนถึงปจจบุ นั จากนั้นจงึ นําขอมลู มาอภิปรายรว มกันเกีย่ วกบั ความ เชอ่ื มโยงของอัตลักษณระดับภมู ิภาค 87 อาเซียน เชน วรรณกรรมในภูมิภาค อาเซยี นมีบอ เกดิ เดียวกัน คอื รากเหงา ทางวัฒนธรรมของแตละ ชนชาติ วถิ ีชีวติ ชนบท การทาํ มาหากนิ มรดกทางวฒั นธรรมทคี่ วรหวงแหน เชน ลูกอีสาน (ไทย : 2522) มา กานกลวย (ไทย : 2538) ซนิ่ ไหมผืนเกา ๆ (ลาว : 2008) ซึง่ เปนเรื่องราวเกี่ยวกบั การอนุรกั ษผ า ซ่นิ ยาวด้งั เดิมของลาว อันเปน มรดกท่ปี ระชาชนเก็บรักษาไวใ นครอบครัวเปน เวลานาน ซง่ึ กิจกรรมดงั กลาวจะทาํ ใหน กั เรยี นเขาใจตนเอง เขา ใจผูอ่ืน ตระหนักและเหน็ คณุ คา ของอัตลักษณร ะดับภมู ิภาคอาเซียนโดยมองผา นผลงานวรรณกรรม อนั จะนําไปสเู ปา หมายของ ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม มคี วามรสู ึกเปนอนั หน่งึ อนั เดียวกนั คมู อื ครู 87

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate อธบิ ายความรู (ยอจากฉบบั นกั เรยี น 20%) นกั เรยี นกลุม ทจ่ี ับสลากได เมื่อยายรับปากกับแม่ขวัญจิตจะไปเล่นเพลงด้วยกัน ถึงก�าหนดยายป่วยกะทันหันแต่ถึงอย่างไรก็ หมายเลข 9 สง ตัวแทนออกมา ฝนื รา่ งกายไปรว่ มงาน ในขณะทยี่ ายกา� ลงั รอพอ่ เพลงโตก้ ลบั บทแกเ้ กยี้ ว ยายไมส่ ามารถฝนื รา่ งกาย อธบิ ายผลการวเิ คราะหล ักษณะ ต่อไปได้ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกติของยาย มีเพียงส้มเช้าเท่าน้ัน หมากค�าสุดท้ายที่ ภาษาของเรอื่ งสั้น เพลงใบไม พรอม สม้ เช้าหยบิ ให ้ ยายไม่รู้รสอะไรอกี แลว้ แน่นงิ่ อยเู่ ชน่ น้นั จากน้ันส้มเช้าก็ออกมาหนา้ เวทีร้องเพลง แสดงตัวอยางประกอบใหช ดั เจน ตอ่ จากยายซง่ึ เสียงทสี่ ้มเชา้ รอ้ งออกมาคอื เสยี งของยาย ใชเ วลาไมเกิน 5 นาที เมื่อผู้เขียนวางโครงเร่ืองไว้ท้ังหมดแล้ว จึงใช้กลวิธีการเขียนเพื่อสร้างตัวละครให้มี ความสอดคล้องกับแนวคิดส�าคัญของเร่ือง ซ่ึงเพลงใบไม้มีตัวละครเอกภายในเร่ืองเพียง ๒ ตัว เกร็ดแนะครู คอื ยายและสม้ เชา้ ผเู้ ขยี นสรา้ งตวั ละครทงั้ สองใหม้ ลี กั ษณะทแี่ ตกตา่ งกนั ทง้ั ชว่ งวยั และรสนยิ ม เมอื่ ตวั ละครมคี วามแตกตา่ งกนั จงึ กอ่ ใหเ้ กดิ การแสดงพฤตกิ รรมทแี่ ตกตา่ งกนั ดว้ ย ซงึ่ พฤตกิ รรมตา่ งๆ ครผู สู อนอาจมอบหมายชนิ้ งานยอ ย ที่ตัวละครได้แสดงออกมามีผลต่อการด�าเนินเรื่อง โดยผู้เขียนเปิดเรื่องให้ผู้อ่านรู้จักกับตัวละคร ใหแ กนกั เรียน โดยใหศกึ ษาวา ผ่านบทบรรยาย เรื่องสัน้ เพลงใบไม ใหแนวคดิ ที่เปน ประโยชนต อตัวนกั เรยี นอยา งไร กรวดน้�าเสร็จ อุทิศส่วนกุศลให้ใครต่อใครแล้ว ยายก็ล้างขัน อีส้มเช้าหลานสาว วยั สบิ แปดของยายเดนิ มาเมยี งๆ อย ู่ ทา่ มนั จะกลวั ยายเปน็ ลมจมนา้� ตาย มนั เคยบอกยายบอ่ ยๆ นกั เรยี นควรรู วา่ ใหล้ ้างขนั กรวดน้�าบนบา้ นก็ไดท้ �าไมจะตอ้ งลงมาตีนทา่ ทกุ วัน ยายก็ว่าตีนทา่ มนั ใกลแ้ ค่น้ี ทา� ไมจะตอ้ งไปใชน้ �้าในตมุ่ ใหเ้ ปลอื งย่ิงตอนนี้นา้� หลากปรม่ิ ริมฝงั ไม่ต้องลงกระไดย่งิ สบาย สรางตวั ละครใหมลี ักษณะสมจรงิ ยายไม่กลัวอย่างท่ีอีส้มเช้ามันกลัว ยายไม่กลัวเป็นลมจมน�้าตาย แม้จะเป็นเวลา คอื กลวธิ ีการเขยี นเร่อื งส้ันทส่ี ําคัญ ทแี่ มน่ ้า� หลากกลา้ ยายสนิทกบั แมน่ �า้ สายน ี้ ยายเกดิ จากแม่น้า� สายน้ี ประการหนงึ่ เพราะความสมจริงของ ตัวละครจะชวยสรางบรรยากาศให หลังจากที่ผู้เขียนแนะน�าตัวละครเอกให้ผู้อ่านรู้จักแล้ว ผู้เขียนได้เร่ิมต้นผูกปมขัดแย้ง แกเ ร่อื งและสง ผลใหผ ูอ า นสนใจ ของเรอ่ื ง โดยบรรยายใหเ้ หน็ ความขดั แยง้ ระหวา่ งยายกบั สม้ เชา้ ผเู้ ขยี นสรา้ งตวั ละครใหม้ ลี กั ษณะ ใครร แู ละอยากตดิ ตามจนจบ ซ่ึง สมจริง เป็นไปตามธรรมชาติมรี กั โลภ โกรธ หลง ดีใจ เสียใจ เหมือนทีย่ ายเสียใจ ผิดหวงั ท่ี ความสมจรงิ ของตวั ละคร อยทู ่ี ไมส่ ามารถฝกึ ฝนสม้ เชา้ ให้เปน็ แมเ่ พลงเหมือนยายได้ ผูเขยี นใชก ลวิธที างภาษาสราง ตัวละครใหม ลี ักษณะนิสยั พฤติกรรม ยายอยากให้อีส้มเช้ามันหัดเพลง แต่ส้มเช้ามันไม่เอา เค่ียวเข็ญมันอย่างไร มันก็ ที่สมเหตสุ มผลหรืออาจกลาวไดวา ไม่เอา มนั ว่าเพลงของยายนัน้ หยาบ มันอายเขา ไมก่ ล้ารอ้ ง ยายวา่ ไม่ใช่มันไมก่ ลา้ รอ้ งหรอก มพี ฤติกรรมใกลเ คียงกบั มนุษย มนั รอ้ งไม่ได ้ ยายพยายามจะหัดมันมาหลายปจ นเลิกพยายามแลว้ ในสังคมมากท่ีสดุ ไมใชต วั ละคร ยายเคยข้ึนเพลงให้มนั ต่อ ในอดุ มคติ ยายขึ้นวา่ ... “เอย ตน้ แก้วต้นเก่าดอกมนั ขาวเตม็ ก่งิ ...” แลว้ ก็หยดุ รอว่าเมือ่ ไหร่ อีส้มเชา้ มันจะร้องต่อ มนั ก็เอาแตห่ ัวเราะ หรอื ไมก่ น็ ง่ิ หนกั เข้ามนั รา� คาญ บอกแล้ววา่ ไม่หดั 88 88 คมู ือครู

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explain Engage Explore Expand Evaluate กไ็ มห่ ดั ไมช่ อบ รอ้ งไมเ่ ปน็ มันชอบเพลงลกู ทุ่ง ก็ได้แต่ชอบมันเคยร้องเพลงอะไรไดท้ ่ีไหน ได้ อธิบายความรู แตค่ รางหงงุ หงงิ ไม่เปน็ ภาษา พูดมันกไ็ มค่ อ่ ยจะพดู จนคนเขาเรียกอีส้มเช้าใบก้ ็มี 1. นักเรยี นยืนในลกั ษณะวงกลมเพอื่ ผเู้ ขยี นใชก้ ลวธิ ที างภาษาเพอ่ื ผูกปมขัดแยง้ ใหเ้ ข้มข้นขึน้ เรอ่ื ยๆ โดยให้ยายรับปากจะไป รว มกันอธบิ ายความรแู บบโตตอบ ว่าเพลงที่วัดป่าตามค�าเชิญของแม่ขวัญจิต ซึ่งยายได้เตรียมตัว แต่เมื่อใกล้ถึงเวลายายไม่สบาย รอบวง โดยครตู ง้ั คาํ ถามเพอ่ื และรู้สึกเหมอื นวา่ จะไปวา่ เพลงไมไ่ หว ตรวจสอบความรคู วามเขา ใจของ นกั เรยี นเกย่ี วกบั แนวทางการเขยี น ยายต่นื มาตอนบา่ ย กนิ หมาก เคยี้ วไปได้สักคร่ยู ายกค็ ายรู้สกึ วา่ หมากคา� นไี้ ม่อรอ่ ย ของผเู ขยี นเร่ืองส้นั เพลงใบไม จะเป็นหมากดิบ หมากแห้ง พลสู ด หรอื พลนู าบยายกก็ ินได้อร่อย แตว่ นั น้ยี ายรสู้ กึ ว่าหมาก มนั ไม่อร่อย ยายลองค�าใหม่ใส่ปากแลว้ ขยบั จะลกุ ขนึ้ ยนื แตล่ ้มแผละลง 2. ครตู ั้งคาํ ถามกับนกั เรยี นวา ยายคายหมากและรู้สึกตัวเองว่าไม่ค่อยสบาย ยายรู้ว่าคร้ังน้ีตัวเองไม่สบายหนัก • กลวธิ กี ารเขยี นเรื่องสนั้ เพราะเปน็ การไม่สบายครัง้ แรกทีย่ ายกนิ หมากแลว้ ไมอ่ ร่อย แตย่ ายก็ไมไ่ ด้ตื่นเตน้ หรือต่นื กลวั เพลงใบไม มีความเหมาะสมกับ ความตายกับยายนน้ั อย่ใู กลก้ ันมานานเต็มท ี อายุปนู ยายคนรุ่นเดยี วกันเขาตายไปจนแทบจะ โครงเรื่องหรอื ไม อยา งไร ไม่เหลือเลย แล้วยายอยู่ใกล้กับความตายมาจนสนิทสนม ยายเตรียมตัวมานานแล้ว ตั้งใจ (แนวตอบ นกั เรยี นสามารถตอบ ทา� บญุ น�าหนา้ ไปนานแลว้ ไดอ ยา งหลากหลาย คําตอบขน้ึ ยายนึกถึงว่ารับงานเขาไว้ค�่าน้ีเลยแข็งใจลุกขึ้นมาน่ัง ยังดีหรอกท่ีจะได้น่ังรถไป อยูกบั ดุลยพนิ จิ ของครูผสู อน) สมัยก่อนต้องเดินไปเล่นเพลงที่ไหนถ้าเป็นที่ดอนก็ต้องเดิน บางทีเดินกันเป็นวัน ถ้าเป็น งานเดือนสิบเอด็ สิบสองยงั พอจะพายเรอื ถ่อเรือกนั ไปได้ นกั เรยี นควรรู ยายนึกเจ็บใจตัวเองท่ีมาไม่สบายเอาตอนน้ี แข็งใจลุกขึ้น แต่วิงเวียนเต็มที พอ ลุกข้ึนได้ยายก็หัวซุนไป ดีแต่พิงฝาบ้านไว้ได้เรือนโยกทีเดียว ยายล้มตัวลงนอนหลับตารู้สึก ตัวละคร ขอ สาํ คัญทค่ี วรระวัง เหนือ่ ยจนคล้ายๆ ว่าใจจะขาด สําหรบั การสรางตัวละคร คอื “กทู า่ จะไม่ไดอ้ อกเพลงกับเขาแลว้ มัง” ประการแรก ตวั ละครจะตองมีการ ยายพูดกับตัวเองกอ่ นจะหลบั ไป ดว้ ยความคิดทว่ี ่าไม่เปน็ ไร ยายฝากเงนิ อสี ้มเชา้ กระทําท่ีสอดคลอ งกบั ลกั ษณะนสิ ัย ไว้แลว้ มากพอเป็นค่าทา� ศพ ของตน ประการที่สอง ตวั ละครจะ ตองมีสิง่ เราหรอื สง่ิ ย่ัวยทุ ่สี มเหตุ เม่ือปมขัดแย้งในเร่ืองมีความเข้มข้นเร่ือยๆ เพ่ือให้ผู้อ่านติดตามว่าเรื่องจะคลี่คลาย สมผลใหก ระทาํ การอยา งใดอยา งหนงึ่ อยา่ งไร ผ้เู ขยี นจึงคลายปมความขัดแยง้ ออกดว้ ยพฤตกิ รรมของตัวละคร โดยใหต้ ัวละครเอก คือ ลงไป โดยเฉพาะเมอื่ ตวั ละครมกี าร สม้ เช้า แสดงพฤตกิ รรมเพือ่ คลายปมความขัดแย้งดงั กลา่ วเพอ่ื จบเร่อื ง เปลยี่ นแปลงนสิ ยั ผอู า นจะตอ งเขา ใจ เหตุผลของการเปล่ียนแปลงน้นั ประการท่ีสาม ตวั ละครจะตอ ง เหมือนมชี ีวิตจริง ทมี่ ีท้งั ดีและไมดี ปะปนกนั 89 คูมือครู 89

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Engage Explore Explain Evaluate ขยายความเขาใจ (ยอ จากฉบับนกั เรยี น 20%) นกั เรียนในหองรว มกนั อภปิ ราย ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปรกติของยาย แม้จนยายถอยหลังไปชนม้านั่ง แล้ว วา เรอื่ งส้ัน เพลงใบไม ใหแ งคิดใด ยายจับม้าน่ัง คล�าหาที่นั่งและนั่งลง ดูเหมือนจะเป็นส่ิงท่ียายท�าอยู่เสมอ ยายแก่มากแล้ว กบั นกั เรยี นบางทสี่ ามารถนํามาปรับ ยืนนานไม่ไหว ใครๆ ก็คดิ เชน่ นน้ั ใชก ับชีวิตประจําวันของตนเอง ครู สม้ เช้าหยุดกรับเขา้ มาถามยายวา่ เป็นอย่างไร ยายยมิ้ กับมนั แลว้ บอกวา่ “กูจะกนิ สมุ เรียกชือ่ นกั เรียนเพอื่ บอกผลการ หมาก” อภิปราย จากนั้นนักเรยี นเขยี นสรปุ ส้มเช้าพายายเดินมาข้างเวที ให้ยายนั่งลงบนเก้าอ้ีแล้วหยิบห่อหมากวางบน เรอื่ งยอ เพลงใบไม และบรรยาย ตักยาย ยายจัดหมาก ดวงตาแจ่มใสของยายจับนิ่งอยู่กับพ่อเพลงที่ก�าลังประคารมกันอยู่ ความรคู วามเขา ใจท่ีไดร ับจากการฟง มเี สยี งหวั เราะเฮฮากับคารมของพ่อเพลงแมเ่ พลงเป็นระยะ เพือ่ นๆ ในแตล ะกลมุ ลงสมดุ ยายมองอะไรไมเ่ ห็นแล้ว แตก่ ็ยังมีแรงหยบิ หมากเขา้ ปาก สงครูผสู อน ยายไม่ได้เคี้ยวหมาก ยายไม่รู้รสของหมากอีกต่อไปแล้วว่าอร่อยหรือไม่อร่อย แตย่ ายยังน่ังอยู่เช่นนัน้ เกรด็ แนะครู ส้มเชา้ มันสะดดุ พน้ื เวทีคะม�า วางกรับในมือแลว้ ก็รา� ปอ้ ออกไป ถงึ ตอนชมดง ฝา่ ยชายพาเมยี กลบั บา้ น 1. ครูผสู อนอาจมอบหมายชิ้นงาน ยอยใหแกนักเรียน โดยจัดทาํ แบบ “...ต้นแก้วต้นเก่าดอกมันขาวเต็มกิ่ง อยู่ใกล้ต้นกร่างลูกกล้ิงออกเกล่ือนไปโน่น บนั ทกึ ความรเู กยี่ วกบั เพลงพน้ื บา น สาเกแตกก้านแล้ว ใครเขากานต้นตะโก เหลือแต่ตอตัง้ โด่อยขู่ ้างกอหงอนไก่ ใบกรา่ งแก่แก่ โดยใหนักเรียนเลอื กศกึ ษาเพลง ไมม่ ใี ครแลเหมือนเกา่ พอลมพัดรว่ งกราวลอยไปไกล...” พื้นบานคนละ 1 ประเภท ใน ส้มเช้ามันร้องได้เท่านี้ พวกพ่อเพลงแม่เพลงตลอดจนอีท้ายป้อยทั้งหลายก็กราก ประเดน็ ตอ ไปนี้ เขา้ มาจับตวั มนั ไว้ แม่ขวัญจติ หัวหนา้ วงถลาเข้าไปหายาย ตะโกนเรียกชือ่ ยายลน่ั • ลักษณะเฉพาะ กเ็ สยี งที่อีส้มเชา้ ร้องนะ่ มันเสียงยายร้องชัดๆ • สาํ นวนภาษา • คุณคา ของเพลงพืน้ บาน เพลงใบไม้เป็นเร่ืองส้ันท่ีผู้เขียนให้ความสนใจกับบทสนทนาค่อนข้างน้อย โดยใช้กลวิธี การเล่าเรื่องผ่านความคิดของตัวละครหลักคือ “ยาย” ซึ่งผู้อ่านจะทราบภูมิหลังชีวิตของตัวละคร 2. ครูอาจใหนกั เรียนจบั กลมุ กลมุ ละ หลกั ทง้ั สองคอื “ยาย” และ “สม้ เชา้ ” ลักษณะนิสยั ของตัวละคร รวมถึงจนิ ตนาการเกี่ยวกับฉาก 5 คน จากนั้นใหรว มกนั อภปิ ราย ซึ่งเปน็ สภาพแวดลอ้ มในชนบทของจังหวัดสุพรรณบุรี วา วธิ ีการใดบา งท่สี ามารถอนุรกั ษ เพลงพ้นื บา นใหคงอยูตอ ไป โดย สมัยที่ยายเป็นสาวนั้น ตีนท่าไม่ได้อยู่ตรงนี้ ยายจ�าได้ว่ายายต้องเดินจากเรือน แตล ะกลุมแสดงผลการอภปิ ราย มาท่ีตีนท่า เม่ือก่อนมีต้นฝรั่งใหญ่และต้นไทรใบหนาอยู่ตรงตีนท่านี้ ตอนน้ีมันหายไปแล้ว ลงบนแผนพลาสติกลูกฟูกจัดเปน หายไปตงั้ แตเ่ มอื่ ไหรย่ ายก็ไม่ได้จ�า รแู้ ตว่ ่ามันนานมาแลว้ ปา ยนเิ ทศ 90 90 คูม ือครู

กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Engage Explore Explain Evaluate ยายเองก็เคยได้ ตอนน้ันยายเป็นสาว เล่นเพลงคล่องแล้วยายยังจ�าได้ว่า มีเรือ ขยายความเขา ใจ พวกผู้ชายจากอ่างทองเขามาเทียบเรือท้า พ่อเพลงฝ่ายนั้นเขาจะช่ืออะไรก็จ�าไม่ได้ จ�าได้ แตว่ ่าตวั เขาด�าเอาเสยี จริงๆ ยายรอ้ งตอบเขาไปวา่ นักเรยี นเลอื กเรื่องส้นั ที่ตนเอง ประทับใจหรือสนใจ นํามาอา นเพ่อื “...เอย ได้ยินเสียงแจ้วแจ้วจงึ เย่ยี มหน้าออกมามอง ไหนพอ่ คนอา่ งทอง อยไู่ หน วเิ คราะหอ งคประกอบของเรื่องส้นั ปะหน้าแล้วงันงกแทบจะตกน้�า พ่อพ่ีชายตัวด�าเหลือใจ บ้านอยู่อ่างทองหรือพี่จา เผาถ่าน ดงั กลา ว โดยแสดงใหเ หน็ กลวธิ กี าร หรอื ทา� นากนั พี่ชาย” เขยี นของผเู ขียน ลงสมุดสงครูผสู อน ท่านเจ้าพระยาชอบใจตอนนมี้ าก ตกรางวลั ให้ยายถงึ ห้าบาท ยายเล่นเพลงมาตลอดชีวิตข้ึนเหนือลงใต้ไปร้อยเจ็ดย่านน้�า อ่างทอง สิงห์บุรี เกร็ดแนะครู อุทยั อยธุ ยา เคยไปมาทงั้ นน้ั เร่อื งเพลงยายไมก่ ลวั ใครหรอก เพลงเรือ ฉ่อย อแี ซว ทรงเครอื่ ง อะไรยายก็เล่นได้ ครผู สู อนอาจแนะนาํ เรอ่ื งสัน้ ใหแ ก ก่อนที่แม่ของส้มเช้าตายน้ัน ยายอยู่ที่กรุงเทพ อยู่แถวเมืองนนท์พักอยู่กับ นักเรียน เชน รวมเรอ่ื งสน้ั ลูกแกว ญาติห่างๆ คนหนึ่ง ช่วยเขาดูแลเด็ก ยายไปอยู่เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้เพื่อนฝูงพ่อเพลง สํารอง ของ ประชาคม ลุนาชัย แม่เพลงของยาย จะได้ตามกันสะดวกเวลามีงาน ระยะนั้นพอมีงานเล่นอยู่บ้างก็เล่นกันไป รวมเร่อื งสัน้ ดเี ดน พ.ศ. 2540 จาก ยายมีความสุขที่สดุ แล้วทไี่ ดเ้ ลน่ เพลงไดเ้ งนิ มาท�าบุญ คณะกรรมการพฒั นาหนงั สอื แหง ชาติ พอแม่ต่วนตาย พ่ีพรหมตาย ยายก็เริ่มว้าเหว่ เพ่ือนฝูงของยายท่ีร่วมเล่นเพลง หรือรวมเรือ่ งสนั้ เราหลงลมื อะไร กันมาตายจากไปเร่ือยๆ ทตี่ ายไปก่อนแม่ต่วน พีพ่ รหมก็ม ี ท่ตี ายตามหลงั ไปก็ม ี จนในท่สี ดุ บางอยาง ของ วชั ระ สจั จะสารสิน กแ็ ทบจะไม่เหลือเลย แต่ยายกย็ ังทนอย่เู มืองนนทจ์ นแมข่ องสม้ เชา้ ตายนนั่ แหละ ยายถงึ กลับ รางวลั ซีไรตป ระจาํ ป 2551 มาอยสู่ ุพรรณ นักเรียนควรรู จากเน้ือหาของเร่ืองผู้เขียนได้สร้างฉากให้มีความสมจริงด้วยกลวิธีทางภาษาที่เรียก วา่ “บรรยาย” เรอ่ื งเพลงใบไมเ้ ป็นเร่ืองราวท่ีเกิดขึ้นในจังหวดั สุพรรณบรุ ี ซ่งึ ตงั้ อยบู่ นพ้นื ท่ีราบล่มุ จังหวัดสุพรรณบุรี มคี าํ ขวญั วา ภาคกลาง ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ แม่น�้าสุพรรณซ่ึงหล่อเล้ียงทุกชีวิต ได้ สุพรรณบุรีเมืองยทุ ธหตั ถี วรรณคดี หลอ่ หลอมวถิ ีชวี ติ ของผูค้ นให้รกั ในเสยี งเพลง สืบทอดเป็นวัฒนธรรมพน้ื บ้านของชาวสุพรรณบรุ ี ข้นึ ชอื่ เลื่องลอื พระเครือ่ ง รงุ เรือง เกษตรกรรม สงู ลํา้ ประวัติศาสตร แหลง ปราชญศลิ ปน ภาษาถนิ่ ชวนฟง แม่น�้าสุพรรณยามน้ีเงียบสงบ วันๆ มีเรือผ่านไปมาไม่ก่ีล�า เมื่อไม่นานมานี้เอง มันยังพลุกพล่านหนวกหูด้วยเสียงเรือไอเรือหางยาว เดี๋ยวนี้ถนนลาดยางไปถึงไหนต่อไหน ไมม่ ใี ครใชเ้ รอื ไอเรือหางยาวอีกแล้ว ...มีแต่เรอื แจวเรอื พายนานๆ จะครึกครนื้ เอะอะกันสกั ที คือตอนมงี านวัดงานบญุ ต่างๆ ยง่ิ งานไหวห้ ลวงพอ่ โตวัดปา่ แลว้ ยิ่งสนุก ยายอยากจะหดั เพลง 91 คูม ือครู 91

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Engage Explore Explain Evaluate ขยายความเขาใจ (ยอ จากฉบับนักเรยี น 20%) ครูทบทวนความรคู วามเขาใจ ก็ตอนที่ตามพวกบ้านเขาไปเล่นเพลงที่งานวัดป่านี่แหละ พวกบ้านของยายเขาพายเรือไป เกย่ี วกบั แนวทางการเขียนบนั เทงิ คดี ยังจังหวดั กัน ยายเป็นเดก็ ติดไปกบั เขาด้วย พายจบั หมกู่ นั ไปสบิ ๆ ล�ารอ้ งเพลงกันกอ้ งแมน่ �า้ ประเภทเรอ่ื งสนั้ จากนั้นตง้ั คาํ ถามวา ทเี ดยี ว ถา นกั เรียนจะตองสรางสรรค ยายเองก็เคยได้ ตอนนั้นยายเป็นสาว เล่นเพลงคล่องแล้วยายยังจ�าได้ว่า มีเรือ เรือ่ งสนั้ ดว ยตนเอง นกั เรยี นจะวาง พวกผู้ชายจากอ่างทองเขามาเทียบเรือท้า พ่อเพลงฝ่ายน้ันเขาจะช่ืออะไรก็จ�าไม่ได้ จ�าได้ กรอบแนวคดิ เพอ่ื กาํ หนดทศิ ทางของ แต่วา่ ตวั เขาด�าเอาเสียจรงิ ๆ ยายร้องตอบเขาไปวา่ เร่อื งส้นั อยางไร เขยี นเหตผุ ลและวาง โครงเร่อื งครา วๆ ลงสมดุ สงครูผสู อน “...เอย ได้ยินเสียงแจ้วแจ้วจึงเยี่ยมหน้าออกมามอง ไหนพ่อคนอ่างทอง อยู่ ท่ีไหน ปะหน้าแล้วงันงกแทบจะตกน�้าพ่อพี่ชายตัวด�าเหลือใจ บ้านอยู่อ่างทอง หรือพี่จา เกรด็ แนะครู เผาถ่านหรือท�านากนั พ่ชี าย...” ทา่ นเจา้ พระยาชอบใจตอนนีม้ าก ตกรางวลั ให้ยายถงึ ห้าบาท ครผู ูสอนอาจคน ควาเกย่ี วกับ ยายเล่นเพลงมาตลอดชีวิตขึ้นเหนือลงใต้ไปร้อยเจ็ดย่านน้�า อ่างทอง สิงห์บุรี ชวี ประวัตขิ องวาณิช จรงุ กจิ อนนั ต อทุ ัย อยุธยา เคยไปมาท้ังนัน้ เรอื่ งเพลงยายไม่กลวั ใครหรอก เพลงเรอื ฉอ่ ย อแี ซว ทรงเครอื่ ง อยางละเอยี ดเกย่ี วกบั ภูมิหลังของ อะไรยายก็เล่นได้ ชีวติ ทัศนคติหรือคานิยมสว นตวั เพือ่ หาประเด็นสนทนากับนกั เรียนวา ฉากในเร่ืองเพลงใบไม้ท่ีผู้เขียนบรรยายให้เห็นบรรยากาศของชนบทที่ยังมีความชุ่มช้ืน ภมู ิหลงั ของผูเขยี นมสี ว นชวยผลกั ดนั อดุ มสมบรู ณ์สอดคลอ้ งกับอารมณข์ องเรอื่ ง ใหฉากของงานบนั เทงิ คดมี คี วาม เรอ่ื งสนั้ “เพลงใบไม”้ เปน็ เรอื่ งสนั้ ทม่ี กี ลวธิ กี ารใชภ้ าษาทมี่ คี วามโดดเดน่ คอื การใชภ้ าษา สมจรงิ และไดบ รรยากาศหรือไม ให้เหมาะสมกับสถานภาพของตัวละคร ซึ่งในเรื่องน้ีคือยายและส้มเช้าที่เป็นชาวชนบทจะใช้ อยางไร ภาษาปากสนทนากันในชวี ิตประจ�าวัน นักเรยี นควรรู แม่อีส้มเช้ากลับมาอยู่กับยายหลังจากผัวตาย แล้วก็มาตายตามผัวไปอีกคน ทิ้ง สม้ เช้าไว้กบั ยาย มันเสือกมผี วั ตอนแก่เลยมลี ูกไม่ทนั ใชย้ ายบอกกบั ใครๆ วา่ อย่างนั้น ส้มเชา้ ฉากในเร่อื ง เรอ่ื งสั้นและนวนยิ าย อายุไดห้ ้าหกขวบตอนที่แมต่ าย สม้ เชา้ อย่กู บั ยายสองคน ยายกเ็ ลน่ เพลงเล้ยี งมันมา ไมม่ ใี คร บางเรอื่ ง ฉากอาจไมม คี วามสาํ คญั นกั หาไปเลน่ ยายกเ็ ก็บฝรั่งเก็บมะปรางขายเล้ยี งมนั อาจเปลีย่ นแปลงไปเปนอยางอน่ื ได ยายตะโกนเรียกส้มเช้า ได้ยินมันขานแว่วๆ อยู่ท้ายเรือน ยายตะโกนสั่งมันให้ โดยไมไ ดท าํ ใหอ รรถรสของเรอ่ื ง เตรียมตัวเด๋ียวรถเขาจะมารับไปวัดป่า จะได้เลยไปไหว้หลวงพ่อโตกันด้วยลืมแล้วหรือไรว่า เปลยี่ นไป แตใ นเรื่องสัน้ และนวนยิ าย วนั นีต้ อ้ งไปเลน่ เพลง ส้มเช้าส่งเสยี งมาว่าจะรีบไปท�าไม น่ีเพงิ่ บ่ายโมง บางเร่อื งฉากมีความสําคญั มาก จะ เปล่ียนแปลงไปเปน อยา งอ่ืนไมได 92 เชน รวมเรอ่ื งสน้ั “คนในคลน่ื ในทะเล มีชวี ิต ในชีวติ ด่ังมีเกลยี วคล่ืน” ของ ไพชัฏ ภวู เชษฐ รวมเรอื่ งสั้นชุดนี้ ใชฉ ากทเี่ ปน ทอ งทะเลเพ่ือนําเสนอ ภาพการสูชวี ติ ของลกู เรือประมง ทีต่ อ งยนื หยดั ตอ สกู บั สภาพความ แปรปรวนของลม ฟา อากาศ ความ หว งหาและความอดอยาก หากเปลยี่ น ไปใชฉากอนื่ รวมเร่อื งส้ันชดุ น้ี ก็อาจไมเ กดิ ความสมจรงิ เปนตน 92 คมู อื ครู

กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Expand Evaluate Engage Explore Explain การเขียนบันเทิงคดีประเภทเรื่องส้ัน เป็นสิ่งท่ีสามารถฝึกฝนได้ หากเรียนรู้และฝึกฝน ขยายความเขาใจ การเขียนเป็นประจ�าก็จะท�าให้สามารถผลิตผลงานของตนเองได้ และเม่ือฝึกฝนจนเกิดความ ชา� นาญกจ็ ะพบแนวทางหรอื รปู แบบเฉพาะตน เรอื่ งสนั้ “เพลงใบไม”้ เปน็ เรอื่ งสนั้ ทม่ี ขี นาดความยาว นกั เรยี นสรางสรรคเ รอื่ งส้นั ดว ย พอเหมาะ มีกลวิธีในการเขียนที่โดดเด่น องค์ประกอบของเรื่องส้ันท่ีครบถ้วน ซ่ึงเหมาะสมที่ ตนเองตามโครงเรอ่ื งท่ไี ดว างไว จะน�ามาเป็นต้นแบบการวิเคราะห์เพ่ือให้นักเรียนได้เห็นองค์ประกอบต่างๆ ของเรื่อง กลวิธีการ โดยใชแ นวทางตามทไ่ี ดศ ึกษา บันทึก เขียนหรือการเรียบเรียงเร่ือง หากนักเรียนได้ศึกษาแนวทางการวิเคราะห์อย่างพินิจพิจารณาก็จะ ดวยลายมือของตนเองลงสมดุ หรอื สามารถแยกแยะองค์ประกอบของเร่ืองส้ันเร่ืองอื่นๆ ได้ มองเห็นกลวิธีในการเขียน เพ่ือน�า อาจประดิษฐเ ปนหนงั สอื ทาํ มือ แนวทางมาปรบั ใช้กับการผลติ งานเขยี นของตนเองได้ สง ครูผูสอน การเขยี นบนั เทงิ คดใี หน้ า่ สนใจและนา่ ตดิ ตามอา่ นเรอ่ื งราวโดยตลอด ผเู้ ขยี นตอ้ งคา� นงึ ตรวจสอบผล ถึงส่งิ ตา่ งๆ ท่ีเป็นส่วนประกอบส�าคัญในการเขียนบนั เทิงคด ี คอื การเลอื กเรื่อง การต้งั ชอ่ื เร่อื ง การถ่ายทอดจดุ ม่งุ หมาย และแนวคดิ สา� คญั การประมวลความร ู้ ความคิด การวางโครงเรอ่ื ง 1. ครูตรวจสอบความรูความเขาใจ และวิธีเขียน ซ่ึงงานเขียนบันเทิงคดี ย่อมมีลักษณะเฉพาะท่ีเป็นองค์ประกอบแตกต่างจาก และทกั ษะดา นการเขยี นบนั เทงิ คดี งานเขยี นประเภทอื่น จงึ ตอ้ งเขยี นใหค้ รบองคป์ ระกอบ มีความประณีตในการใช้ภาษา ประเภทเรอื่ งส้นั ของนักเรียนจาก ผลงานที่นาํ สง 2. นักเรียนตอบคําถามประจําหนว ย การเรยี นรู หแสลดักงฐผานลการเรยี นรู เรอื่ งสนั้ ผลงานการเขยี นของ นกั เรียนความยาวตง้ั แต 5-15 หนา B พ้ืนฐานอาชีพ B การเขียนบนั เทิงคดีประเภท เรอ่ื งส้นั เปน พ้นื ฐานของการเขียน บนั เทงิ คดีประเภทอนื่ ๆ ครูผูสอน อาจจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนใน หอ งเรยี นโดยใหน ักเรียนไดรจู กั และ อานเร่ืองสัน้ หลากหลายประเภท โดยเริ่มจากเร่ืองที่ครูแนะนําและ พัฒนาไปสูการเลอื กเรอื่ งตาม ความสนใจ ใหรูจักการแยกแยะ 93 องคป ระกอบเปนสวนๆ เพื่อวิเคราะห วา ผูเ ขียนใชกลวิธีการเขยี นอยางไร ซึง่ การฝก ปฏิบตั ดิ วยวิธีน้จี ะชว ยสรา ง ความเขา ใจทีเ่ กดิ จากการเลียนแบบ จากสิง่ ทถี่ กู ตอ งรวมถงึ สรา งแรง บนั ดาลใจและกระตนุ พลงั ความคิด ของนกั เรยี นพฒั นาไปสอู าชพี นกั เขยี น ที่ดใี นอนาคตได คมู อื ครู 93


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook