Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนเพศวิถี มัธยมศึกษาปีที่6

แผนเพศวิถี มัธยมศึกษาปีที่6

Published by arms0827784830, 2021-07-06 03:23:10

Description: แผนเพศวิถี มัธยมศึกษาปีที่6

Search

Read the Text Version

คำถามชวนคดิ • เกณฑข์ องแตล่ ะคนทใี่ ช้พจิ ารณาหรอื ตัดสนิ วา่ ยอมรบั ไดห้ รอื ไม่ คืออะไร • เปน็ ไปไดห้ รอื ไมว่ า่ เหตผุ ลแตล่ ะขอ้ อาจเปน็ ไดท้ ง้ั บวกและลบ เพราะเหตใุ ด • เราสามารถใชเ้ กณฑ์ของเราไปตัดสินคนอน่ื ได้หรือไม่ เพราะเหตุใด • การมีเพศสัมพันธ์ในกรณีใดบ้างที่อาจนำไปสู่โอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ไม่ พึงประสงค์ การติดเชอ้ื เอชไอวี หรือการใช้ความรนุ แรง • กรณีใดบ้างท่ีสะท้อนถึงเพศสัมพันธ์ท่ีไม่ได้เกิดจากการยินยอมทั้งสองฝ่าย มีวธิ ีแกไ้ ข หรอื หลีกเลี่ยงหรือไม่ อย่างไร • จำเปน็ หรอื ไม่ ทเี่ มอ่ื เปน็ สามภี รรยากนั แลว้ เปน็ หนา้ ทท่ี จี่ ะตอ้ งมเี พศสมั พนั ธ์ แม้ไม่ต้องการ • ควรสอื่ สารเรอื่ งเหตผุ ลในการมีเพศสมั พนั ธก์ บั คู่หรือไม่ ควรคุยเม่อื ไร และ คยุ อยา่ งไร ๑๐. ผูด้ ำเนินกจิ กรรมใหผ้ เู้ รียนแตล่ ะคน ตอบคำถามโดยเขยี นลงในสมดุ /กระดาษ ดงั นี้ • หากจะตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์ ส่ิงท่ีผู้เรียนจะคำนึงถึงมากท่ีสุด และเป็นเหตุผลในการ ตัดสนิ ใจ คืออะไร เพราะอะไร • ส่ิงทผ่ี ู้เรียนตั้งใจจะไมท่ ำกับคนอนื่ ในเรือ่ งการมเี พศสัมพันธ์ คือ.... ๑๑. ผดู้ ำเนนิ กจิ กรรมชวนผู้เรยี นสรปุ วา่ เราได้อะไรจากกิจกรรมวันนี้ และเพม่ิ เตมิ ประเด็น ดงั นี้ • เพศสัมพันธ์เป็นส่วนหน่ึงของชีวิตมนุษย์ เพศสัมพันธ์อาจเป็นไปเพ่ือการสืบพันธ์ุหรือไม่ก็ได้ และเพศสัมพันธ์นำมาซึ่งความรื่นรมย์ให้กับคู่หากเกิดขึ้นจากการยินยอมพร้อมใจทั้งสอง ฝ่าย 92 • บางคนอาจมีเหตุผลอ่ืนๆ อยู่ภายใต้เง่ือนไข และความจำเป็นท่ีต้องตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์ คูม่ ือการจดั ท่ีแตกต่าง หรอื ขดั แย้งกบั บรรทัดฐานของสังคม และอาจถกู ตดั สนิ คุณคา่ จากคนรอบขา้ ง กระบวนการเรียนร ู้ เพศศึกษา สำหรบั นกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖

• การไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ หรือถูกบังคับ โดยไม่ยินยอมพร้อมใจในเรื่องเพศสัมพันธ์ 93 อาจนำมาซึ่งความเส่ียง และไมส่ ามารถควบคุมดแู ลเร่ืองความปลอดภยั ใหต้ นเองได ้ แผนการเรียนร้ทู ่ี ๓ ตา่ งคน ต่างเหตผุ ล • การใช้อำนาจในการบังคับขืนใจผู้อ่ืนเพื่อมีเพศสัมพันธ์เป็นเร่ืองไม่สมควรกระทำ ดังนั้น สังคมจึงมีการกำหนดกติกาหรือกฎหมาย เพ่ือช่วยปกป้องสิทธิทางเพศของคน เช่น มีบท ลงโทษการลว่ งละเมดิ ทางเพศ เปน็ ตน้ • การตัดสินใจในทุกเร่ืองล้วนมีผลติดตามมา รวมทั้งการตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้น จึง เป็นเรื่องสำคัญที่แต่ละคนควรคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ และพร้อมรับผิดชอบต่อผลท่ีจะ ตามมา ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ดำเนนิ กิจกรรม • การแสดงออกว่าการพูดคุยเร่ืองเพศเป็นเร่ืองธรรมดาของผู้ดำเนินกิจกรรมจะช่วยให้บรรยากาศ ปกติ ย้ำกติกาเรื่องการไม่นำเร่ืองที่เรียนไปล้อเล่นภายหลัง และการรับฟังความคิดเห็นท่ี แตกตา่ งกัน และควรช้ีประโยชนแ์ ละวตั ถุประสงคข์ องแผนการเรียนร้ตู งั้ แตแ่ รกเรมิ่ กจิ กรรม • ผู้ดำเนินกิจกรรมควรสังเกตท่าทีผู้เรียนที่อาจไม่สะดวกใจหรือรู้สึกอึดอัดในการแสดงความ คิดเห็น และควรแนะนำผู้เรียนทุกคนว่า หากมีคนรู้จักหรือตัวเองมีความกังวลใจหรือลังเลใจ เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรขอคำปรึกษาจากผู้ใหญ่หรือคนท่ีเราไว้ใจ หรือจากผู้ให้คำ ปรึกษาดา้ นวยั รุ่นจากหน่วยงานต่างๆ การวดั และประเมินผล • สังเกตการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมกลุ่ม และการอภปิ รายแลกเปล่ียน คำถามท้ายบท • การมีเพศสัมพันธ์ในกรณีแบบใด ท่ีนักเรียนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับตนเอง และจะมีวิธีการ หลกี เล่ยี งอย่างไร

แผ่นกจิ กรรม เหตุผลในการมีเพศสัมพันธ์ ทำเคร่ืองหมาย 3 ลงในช่องท่ีตรงกับความเห็นของตนเองมากที่สุด และเขียนเหตุผล ใ นการมเี พศสมั พันธ์เพมิ่ เติมพร้อมระบคุ วามเหน็ เหตผุ ลในการมีเพศสมั พันธ ์ บวก ลบ ไมแ่ น่ใจ ๑. ตอ้ งการมลี ูก ๒. ต้องการผูกมดั ๓. หารายได้ ๔. แสดงความรกั ๕. แสดงบทบาททางเพศของตนเอง ๖. ตอบสนองความตอ้ งการทางเพศ ๗. ผอ่ นคลายความเครียด ๘. สนุก ชอบ มัน ๙. อยากลอง ๑๐. ตอบสนองตอ่ สงิ่ เร้า ๑๑. เปน็ หนา้ ท ่ี ๑๒. ตอ้ งการใหค้ ู่มคี วามสขุ ๑๓. แลกเปลยี่ นกับบางอยา่ งทจ่ี ำเป็น ๑๔. ไดร้ ู้จักค่มู ากข้นึ ๑๕. ประชด หรือแกแ้ ค้น 94 ๑๖. ทดแทนบญุ คุณ ค่มู อื การจดั กระบวนการเรียนรู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรียนชั้น มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖

เหตุผลในการมีเพศสัมพนั ธ ์ บวก ลบ ไมแ่ น่ใจ ๑๗. 95 ๑๘. ๑๙. แผนการเรียนร้ทู ่ี ๓ ตา่ งคน ต่างเหตผุ ล ๒๐. ๒๑. ๒๒. ๒๓. ๒๔. ๒๕. ๒๖. ๒๗. ๒๘. ๒๙. ๓๐.

ครูทีเ่ กง่ ปานกลางน้ันใชว้ ธิ ี “บอก” ครูที่เกง่ ข้นึ มาอกี หนอ่ ย ใช้วธิ ี “อธิบาย” ครทู เี่ ก่งเหนอื ชัน้ ขึ้นอกี ใช้วธิ ี “สาธติ ” และครูท่ยี อดเย่ยี มนน้ั “สร้างแรงบันดาลใจ” The mediocre teacher tells. The good teacher explains. The superior teacher demonstrates. The great tea cher inspires. William Arthur Ward 96 คู่มอื การจัด กระบวนการเรยี นร ู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖

97แผนการเรียนร้ทู ่ี ๓ ตา่ งคน ต่างเหตผุ ล แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๔ เรือ่ ง ของเงาะ

แผนการเรียนร้ทู ี่ ๔ เร่ืองของเงาะ สาระสำคัญ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันในวัยรุ่นเป็นเรื่องท่ีเกิดขึ้นได้แม้จะมีความรู้ เรอ่ื งโรคตดิ ตอ่ และการตงั้ ครรภ์ การเขา้ ใจปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ การตดั สนิ ใจของตนเอง จะช่วยให้เห็นแนวทางในการเตรียมการป้องกัน และการรู้แหล่งช่วยเหลือ ย่อม ทำให้มที างเลือก หากต้องเผชิญผลกระทบทไ่ี ม่พึงประสงค ์ จุดประสงค ์ ๑. อธบิ ายถงึ ปจั จัยท่ีมีอิทธพิ ลต่อการตดั สินใจมีเพศสมั พนั ธ์โดยไม่ป้องกัน ๒. บอกวิธีแสดงความเห็นใจ ปลอบโยนผู้ที่อยู่ในภาวะวิกฤติทางอารมณ์ให้เกิด สติเพ่อื คิดหาทางแก้ไข ๓. บอกแหลง่ ขอ้ มูลและแหลง่ ชว่ ยเหลือหากมปี ัญหาท่ีเก่ียวกบั สุขภาพทางเพศ อปุ กรณ์ และสอ่ื ๑. แผน่ กจิ กรรม “เรอื่ งของเงาะ” (ถ่ายเอกสารเท่าจำนวนกลุ่ม) 98 ๒. กระดาษฟลิปชารท์ กระดาษกาว ปากกาเคมี กระคบู่มวนือกกาารรเจ รัดยี นรู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖

ขั้นตอนการดำเนินกิจกรรม 99 ๑. ชี้แจงว่า กิจกรรมวันนี้เป็นการให้ผู้เรียนช่วยกันหาทางออกและหาความช่วยเหลือให้กับรุ่นน้อง แผนการเรียนร้ทู ่ี ๔ เร่อื งของเงาะ ซง่ึ กำลงั เผชญิ ปญั หาจากการมเี พศสมั พนั ธท์ ไ่ี มไ่ ดป้ อ้ งกนั วา่ จะมที างออกใหก้ บั ปญั หาไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ๒. แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อยกลุ่มละไม่เกิน ๗ คน แจกแผ่นกิจกรรม “เร่ืองของเงาะ” ให้กลุ่มละ ๑ แผน่ และให้แตล่ ะกลมุ่ อา่ น และชว่ ยกันระดมสมองเพ่อื ตอบคำถาม ดังน้ี (๑๐ นาท)ี • ถา้ เงาะเป็นน้องชายของเรา เราจะรูส้ ึกอยา่ งไร • มีทางออกใหเ้ งาะอยา่ งไรบา้ ง • หากจะปอ้ งกนั ไม่ให้เกิดเหตกุ ารณน์ ตี้ ้ังแตต่ น้ เงาะมที างเลอื กอย่างไรบา้ ง ๓. ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนอทางออกในการแก้ปัญหาชีวิตของเงาะ กลุ่มละไม่เกิน ๒ นาที ระหว่างที่แต่ละกลุ่มนำเสนอ ให้ผู้ดำเนินกิจกรรมรวบรวมทางออกสำหรับเงาะท่ีแต่ละกลุ่ม นำเสนอ และเขยี นไว้บนฟลปิ ชารท์ หรอื บนกระดาน ๔. เม่ือทุกกลุ่มนำเสนอแล้ว ผู้ดำเนินกิจกรรมนำเสนอทางออกท้ังหมดที่ได้จากทุกกลุ่ม และถาม ความเห็นจากทุกคนว่า หากเป็นตัวเอง คิดว่าจะเลือกทางออกใด เพราะเหตุใด (สุ่มถาม เหตุผลของคนทเ่ี ลอื กแต่ละทางเลือก โดยเน้นการซักถามถึงขอ้ ด/ี ข้อเสียของแต่ละทางเลือก) ๕. จากนั้น ผู้ดำเนนิ กจิ กรรมใชค้ ำถามชวนคิดเพอื่ เปิดโอกาสใหม้ กี ารแลกเปลีย่ นในกลุ่มใหญ่ คำถามชวนคดิ • เราจะมวี ธิ ดี แู ลหรอื ปลอบใจ “นอ้ งเงาะ” ในสถานการณ์แบบน้อี ยา่ งไร • เหตกุ ารณข์ องเงาะอาจขน้ึ จรงิ กบั ตวั เราหรอื เพอื่ นของเราไดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร • หากประสบปัญหาเดียวกับเงาะ เราจะสามารถขอความช่วยเหลือจากที่ใด ได้บา้ ง นอกจากการปรึกษากบั คนใกลช้ ิด หรอื จากที่แต่ละกลุ่มเสนอแลว้ • อะไรเปน็ เงือ่ นไขสำคญั ที่สุดในการมเี พศสมั พันธ์ครั้งแรกของวัยรุ่นชายและ วัยรุ่นหญิง มีข้อเสนออย่างไรให้เพศสัมพันธ์คร้ังแรกเป็นเพศสัมพันธ์ที่ ปลอดภัย

๖. ผู้ดำเนนิ กจิ กรรมชวนผเู้ รียนสรุปว่า เราได้อะไรจากกิจกรรมวันนี้ และเพิม่ เติมประเด็น ดงั น้ี • มีพฤติกรรมหลายอย่างท่ีอาจนำวัยรุ่นไปสู่การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เช่น การด่ืมสุรา การรวมกลุ่มไปเที่ยวสถานเริงรมย์ ความไว้วางใจคู่ ความม่ันใจว่าจะไม่เกิดปัญหาใดๆ ตามมา เป็นต้น อย่างไรก็ดี แม้วัยรุ่นจะมีความรู้เรื่องการป้องกัน และคิดเร่ืองความ ปลอดภัยของตนเอง แต่หากไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้าก่อนที่จะไปอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น อาจอยู่ในภาวะท่ีไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ หรือปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ได้ยาก ด้วยแรง กดดนั ของกลมุ่ บรรยากาศ และขาดอปุ กรณใ์ นการปอ้ งกนั • การป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยเป็นเร่ืองท่ีแต่ละคนควรดูแลตนเอง มากกว่าท่ีจะฝากความ ปลอดภัยไว้ที่คนอ่ืน เช่น คิดว่าคู่คงเตรียมถุงยาง หรือคิดว่าคู่คงไม่มีความเส่ียงใดๆ เปน็ ตน้ เพราะหากมีผลใดๆ เกิดขึน้ กบั ตัวเราตามมา เปน็ สิ่งท่ีไม่มีใครมารว่ มรับผิดชอบกบั เรา ในขณะเดียวกัน การป้องกันการต้ังครรภ์และการติดเช้ือเอชไอวี ยังเป็นการแสดงให้ เหน็ ความรบั ผดิ ชอบทั้งตอ่ ตนเองและคนท่ีเราไปเกี่ยวขอ้ งดว้ ย • เมื่อประสบปัญหา เราอาจรู้สึกกลัว กังวลได้ แต่อย่าปล่อยให้ความกลัวมีอิทธิพลเหนือเรา จนคิดอะไรไม่ออก ควรทำใจให้หนักแน่นและคิดว่าปัญหายังพอมีทางออก เพียงแต่เราอาจ ยังขาดข้อมูล ทำให้ไม่เห็นทางเลือกต่างๆ เพื่อนๆ อาจจะช่วยปลอบใจเราได้แต่อาจช่วย คดิ หาทางแกไ้ ขปัญหาให้เราไดไ้ ม่รอบด้าน • การปรกึ ษากบั ผใู้ หญ่ทเี่ ราไวว้ างใจ เชน่ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู หรือญาติ เพอ่ื ขอคำแนะนำ เป็นวิธีหน่ึงท่ีช่วยให้เราสามารถหาทางออกได้ นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานของรัฐและเอกชน ในพ้ืนที่ใกล้เคียงกับชุมชนของเราที่พร้อมให้ข้อมูลและให้ความช่วยเหลือวัยรุ่นที่ประสบ ปญั หาทางเพศ 100 คมู่ ือการจดั กระบวนการเรยี นร้ ู เพศศึกษา สำหรับนกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖

ขอ้ เสนอแนะสำหรับผดู้ ำเนนิ กจิ กรรม 101 กรณีศึกษานี้อาจใกล้เคียงกับชีวิตจริงของผู้เรียนบางคน ดังนั้น ผู้ดำเนินกิจกรรมต้อง แผนการเรียนร้ทู ่ี ๔ เร่อื งของเงาะ ระมัดระวังและแสดงท่าทีต่อ “เร่ืองของเงาะ” ว่าเป็นเร่ืองท่ีอาจเกิดข้ึนได้ ไม่ด่วนตัดสินว่าเป็นการ กระทำที่ผิด เพราะจะทำใหผ้ ู้เรยี นท่ีมปี ญั หาคล้ายคลงึ กนั ไมก่ ลา้ มาขอคำปรกึ ษา การวัดและประเมินผล • สงั เกตการมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมกลมุ่ และการอภิปรายแลกเปลย่ี น คำถามท้ายบท • หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันและกังวลว่าจะติดเชื้อเอชไอวี นักเรียนจะเลือกปรึกษาใคร หรือทำอย่างไร

แผ่นกจิ กรรม เร่อื งของเงาะ เงาะเป็นเด็กหนุ่มอายุ ๑๖ ปีน้ีเรียนอยู่ชั้น ม.๔ เป็นครั้งแรกท่ีเงาะได้เรียนโรงเรียน สหศกึ ษา และมเี พ่อื นผู้หญิง เงาะเรม่ิ ร้สู ึกตนื่ เตน้ เวลาเจอผู้หญิง และชอบท่จี ะมองหน้าอก ของผหู้ ญงิ ไมว่ า่ จะเปน็ เพอื่ นนกั เรยี นหรอื ผหู้ ญงิ ทพี่ บเหน็ ตามปา้ ยรถเมล์ เงาะเรม่ิ จนิ ตนาการ ถงึ การร่วมเพศทีเ่ คยเห็นตามรปู ภาพในการต์ ูนโป๊ที่เพ่อื นผู้ชายเอามาแอบอ่านทโี่ รงเรียน เงาะแอบสนใจแหม่ม นักเรียนหญิงห้องเดียวกัน เงาะรู้สึกเลือดข้ึนหน้าทุกคร้ังที่ถูก เพื่อนในกลุ่มพูดล้อเลียน ถึงขนาดชกหน้าเบนที่ล้อว่าเงาะเป็นหมาเห่าเคร่ืองบิน แต่แหม่ม ไม่สนใจเพือ่ นรุ่นเดยี วกัน เพราะมีพ่ี ม.๖ เดนิ ตามกลับบา้ นทุกวนั พ่อกับแม่เงาะทำงานบริษัทและมักกลับบ้านดึก เงาะจึงมีเวลาค่อนข้างมากตอนเย็น หลังเลิกเรียนแล้วก็ไม่ต้องกลับบ้านเร็ว เงาะบอกพ่อกับแม่ว่าต้องซ้อมฟุตบอลทุกเย็น แต่ บางวันท่ีไม่ได้เล่นฟุตบอล เงาะและเพ่ือนมักไปต่อกันที่แฟลตของชัยซ่ึงพ่อแม่เช่าไว้ให้อยู่ กับพชี่ าย แต่พีช่ ายชยั มกั ไปคา้ งบ้านเพอื่ น แฟลตของชยั จงึ เปน็ ทสี่ ิงสหู่ ลงั เลกิ เรียนหรอื หลงั เล่นบอล ที่นค่ี อื โรงเรยี นเรื่องเพศของเงาะ เพราะมกี ารต์ นู วิดีโอเรอื่ งเพศใหด้ ไู ด้ไมร่ เู้ บือ่ มี เพื่อนบางคนในกลุ่มเริ่มเอาบุหรี่มาสูบกัน แต่เงาะยังไม่ลองเพราะกลัวแม่จับได้ วันหนึ่ง เพอื่ นๆ เงาะห้าคนตกลงกันวา่ จะไปเท่ยี วผับท่ี อาร์ ซี เอ แถมชยั ยนื ยนั วา่ งานนี้มแี หม่ม กับเพ่ือนไปด้วยแน่ๆ เงาะโกหกแม่ว่าจะค้างกับเพื่อนเพื่อทำรายงาน เป็นคร้ังแรกของเงาะ ทีจ่ ะมีโอกาสได้เทยี่ วผบั และหวงั จะไดใ้ กล้ชดิ แหมม่ 102 คู่มอื การจดั กระบวนการเรยี นร ู้ เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๖

คืนนั้น มีเด็กผู้หญิง ๓ คน มารวมกับกลุ่มของเงาะ แต่ไม่มีแหม่ม เม่ือผับเลิก เด็ก 103 ผหู้ ญิงกลมุ่ นน้ั กต็ ามกลบั มาทีแ่ ฟลต เงาะรู้วา่ จะตอ้ งมกี ารร่วมเพศเกิดขนึ้ และนึกเร่อื งความ ปลอดภยั กามโรค เอดส์ แตก่ ็ไมก่ ล้าเอ่ยปากเร่ืองถุงยางเพราะกลัวจะถูกหาวา่ เปน็ ไกอ่ ่อน แผนการเรียนร้ทู ่ี ๔ เร่อื งของเงาะ คืนนั้นเพื่อนๆ เงาะตกลงจะแบ่งกันนอนกับผู้หญิง เงาะรู้สึกไม่สบายใจมาก จะขอกลับ บ้านก็กลัวเสียหน้าและรู้ว่าจะต้องถูกล้อไปอีกนาน และกลัวว่าจะมาเข้ากลุ่มอีกไม่ได ้ ในทส่ี ุดเงาะก็นอนกบั ผูห้ ญิงเป็นคร้งั แรก แมจ้ ะกงั วลเรอ่ื งติดโรค ตอนเช้า เงาะต่ืนมาเจอผู้หญิงท่ีตัวเองนอนด้วยกำลังแต่งตัวจะออกไปจากห้อง เงาะ ถามว่าเคยเป็นโรคไหม เด็กผู้หญิงหัวเราะใส่หน้าบอกว่าสายไปแล้ว ทำไมเพ่ิงจะมาถาม ไม่ร้หู รอื วา่ เราเป็นเอดส์ ตดิ มาจากผชู้ ายคนก่อนๆ น่ีแหละ เงาะตกใจจนพูดไม่ออก ได้แต่ ถามว่าล้อเล่นใช่ไหม เด็กผู้หญิงไม่ตอบบอกว่าแล้วแต่จะคิด เงาะทั้งโกรธ ทั้งอาย โทษ ตัวเอง โทษเพ่ือน และก็กลัวมากว่าที่เด็กผู้หญิงคนนั้นพูดเป็นเร่ืองจริง เม่ือเงาะบอก เพอ่ื นๆ ก็ไมม่ ใี ครเชื่อ แต่เงาะกลมุ้ ใจและเรยี นหนงั สือไม่รูเ้ รอื่ ง

เอกสารอา้ งอิง เบอรโ์ ทรศพั ท์สายดว่ น ให้ความชว่ ยเหลือ ด้านเด็ก เยาวชน สตรี ครอบครวั และเอชไอว/ี เอดส ์ ปรกึ ษาชว่ ยเหลอื ด้านเด็ก เยาวชน สตรี และครอบครัว • Teenline ๐๘-๑๙๒๐-๒๕๒๑ (๒๔ ชัว่ โมง) • Hotline วยั รุ่นโรงพยาบาลรามาธิบดี ๐๘-๗๐๕๓-๕๕๐๐ (๒๔ ชั่วโมง) • สถาบันกัลยาราชนครินทร์ กรมสุขภาพจติ ๐-๒๘๘๙-๙๑๙๑ (๒๔ ชวั่ โมง) • ฮอตไลน์คลายเครยี ด ๑๖๖๗ • มูลนธิ ปิ วีณา หงสกลุ เพ่ือเดก็ และสตรี ๐-๒๙๗๒-๕๔๘๙-๙๐ (ทุกวนั ๐๙.๐๐-๑๗.๐๐ น.) • บ้านพักฉุกเฉนิ สมาคมส่งเสรมิ สถานภาพสตรีฯ ๐-๒๙๒๙-๒๒๒๒ (๒๔ ช่ัวโมง) • ศูนย์ปรึกษาปญั หากฎหมายทางโทรศัพท์ ๑๑๕๗ • ศนู ย์ประชาบดี ๑๓๐๐ กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์ • ศูนยบ์ รกิ ารชว่ ยเหลือเด็กและสตรีในภาวะวิกฤต ิ ๑๖๖๙ จากความรุนแรง (ศนู ยพ์ ่งึ ได้ กรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ ) 104 คมู่ อื การจัด กระบวนการเรยี นรู้ เพศศึกษา สำหรับนกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖

• กองสังคมสงเคราะห์ สำนกั สวสั ดกิ ารสงั คม ๐-๒๒๔๗-๘๑๘๔ กรงุ เทพมหานคร (จนั ทร-์ ศุกร์ ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น.) 105 ปรกึ ษาเรื่องเอชไอว/ี เอดส ์ แผนการเรียนร้ทู ่ี ๔ เร่อื งของเงาะ • มลู นิธิเขา้ ถึงเอดส ์ ๐-๒๓๗๒-๒๒๒๒ (ทุกวนั ๑๐.๐๐ - ๒๐.๐๐ น.) • ศูนยว์ จิ ยั โรคเอดส์ สภากาชาดไทย ๑๖๖๓ (ถามปญั หา รกั ษาเอดส์) • สมาคมแนวรว่ มภาคธรุ กิจไทยต้านภยั เอดส ์ ๑๖๔๕ หมายเหตุ โทรศพั ท์สายด่วน ๔ หมายเลข สามารถโทรได้โดยไมเ่ สียคา่ โทรศัพท ์ (ดูรายละเอยี ดหนว่ ยงานใหบ้ ริการสขุ ภาพและสังคม ในภาคผนวกทา้ ยเลม่ )

ผูท้ ่ีถอื ว่ามีการศึกษาท่แี ทน้ ัน้ คอื ผู้ทเี่ รยี นรวู้ า่ จะสร้างการเรียนรแู้ ก่ตน และสร้างการเปล ี่ยนแปลงอยา่ งไร The only person who is educated is the one who has learned how to learn and ch ange. Carl Rogers

แผนการเรยี นรู้ที่ ๕ No Condom, No Sex

แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๕ No Condom, No Sex สาระสำคัญ เพศสัมพันธ์เป็นเร่ืองการยินยอมพร้อมใจของคนสองคน การตัดสินใจว่าจะม ี เพศสัมพันธ์หรือไม่ และการมีเพศสัมพันธ์ท่ีปลอดภัย เป็นท้ังสิทธิและความ รบั ผดิ ชอบของแต่ละบุคคล และตอ้ งเคารพความคิดเหน็ ความตอ้ งการของคู่ดว้ ย จดุ ประสงค ์ ๑. บอกปัจจัยที่จะช่วยในการยนื ยนั ทางเลอื กในการไม่มเี พศสมั พันธ ์ ๒. ระบอุ ุปสรรคในการใช้ถุงยางอนามยั ของวัยร่นุ อุปกรณ์ และสอ่ื ๑. เตรียมเขยี นหัวข้อสำหรบั กล่มุ ย่อยลงบนกระดาษการ์ด สำหรบั ๔ กลุม่ ๒. กระดาษฟลปิ ชารท์ กระดาษกาว ปากกาเคม ี 108 คู่มอื การจดั กระบวนการเรยี นรู้ เพศศึกษา สำหรบั นักเรยี นช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖

ข้ันตอนการดำเนินกิจกรรม 109 ๑. ชีแ้ จงวัตถุประสงค์การเรียนรวู้ ่า กจิ กรรมนี้เป็นการแลกเปล่ียนความคิดเหน็ ในเรื่องขอ้ ดี ขอ้ เสีย แผนการเรียนร้ทู ่ี ๕ No Condom, No Sex และอปุ สรรคของการใช้ถงุ ยางอนามยั ๒. แบง่ กลุ่มผู้เรียนเปน็ ๔ กลุ่มเท่าๆ กนั โดยคละหญงิ ชายในแตล่ ะกล่มุ ๓. มอบหมายให้แต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั แสดงความคดิ เหน็ ตามหัวขอ้ ดงั น้ ี • กล่มุ หญงิ ๑ ให้ช่วยกันคดิ ถงึ เหตผุ ล ในกรณีทเี่ ราเป็นผ้หู ญิงทีต่ ้องการใช้ถงุ ยาง • กล่มุ หญิง ๒ ใหช้ ว่ ยกันคิดถงึ เหตุผล ในกรณที ี่เราเป็นผ้หู ญงิ ท่ไี ม่ตอ้ งการใชถ้ งุ ยาง • กลุ่มชาย ๑ ใหช้ ่วยกันคิดถงึ เหตุผล ในกรณีท่ีเราเปน็ ผูช้ ายทต่ี อ้ งการใช้ถุงยาง • กล่มุ ชาย ๒ ใหช้ ว่ ยกนั คิดถงึ เหตผุ ล ในกรณที เ่ี ราเปน็ ผู้ชายท่ไี ม่ต้องการใชถ้ ุงยาง ใหเ้ วลากลุ่มยอ่ ย ๕ นาที ๔. เม่ือหมดเวลา อธิบายว่าจะมีการแสดงบทบาทสมมติ โดยแต่ละกลุ่มจะสวมบทบาทเป็นหญิง และชายตามบทบาทที่ไดช้ ว่ ยกนั คิดเหตุผลไวแ้ ลว้ ให้กลมุ่ เตรยี มเลือกตัวแทน ๑ คน เพือ่ แสดง บทบาทสมมตใิ นฉากท่ีตอ้ งตอ่ รองกนั ตามสถานการณส์ มมติ ดังน้ี “ทั้งคู่เป็นแฟนที่รักและคบหาดูใจกันมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งสองอยู่ในสถานการณ์ท่ีเอื้อต่อการมี เพศสัมพันธ์ ซึ่งแต่ละฝ่ายคิดว่าจะตัดสินใจมี หากการพูดคุยต่อรองกับอีกฝ่ายในเรื่องการใช ้ ถุงยางเปน็ ไปตามท่ีตั้งใจ” ๕. ผู้ดำเนินกิจกรรมขอให้คู่แรก คือ กลุ่มชาย ๑ และกลุ่มหญิง ๒ ส่งตัวแทนมาแสดงบทบาท สมมติ โดยให้เวลาไม่เกิน ๑๐ นาที และอีก ๒ กลมุ่ ให้สังเกตการณ์ และให้ขอ้ คิดเห็นหลงั การ แสดง ผู้ดำเนินกิจกรรมควรจดประเด็นสำคัญท่ีแต่ละฝ่ายใช้ในการต่อรอง เพื่อประกอบการ แลกเปลย่ี นตอนทา้ ย ๖. หลังจากที่คูแ่ รกแสดงเสรจ็ แลว้ ผดู้ ำเนินกิจกรรมชวนพดู คุย ประมาณ ๕ นาที ดงั น้ี • ถามผ้แู สดงท้งั สองฝ่ายว่ารู้สกึ อย่างไรกบั การพูดคุย และผลท่ีเกิดขน้ึ ความรสู้ กึ ท่มี ีต่อคนรกั เป็นอย่างไร • ถามอีกสองกลุ่มที่สังเกตการณ์ ว่ามีข้อสังเกต หรือข้อคิดเห็นอย่างไรบ้าง ต่อสถานการณ์ สมมตคิ แู่ รก • ถามความเหน็ จากกลมุ่ ผู้แสดงเพ่ิมเติมอีกกลมุ่ ละ ๑-๒ คน

๗. จากนั้น ให้คู่ท่ี ๒ ออกมาแสดงบทบาทสมมติ คือ กลุ่มชาย ๒ และกลุ่มหญิง ๑ ให้เวลา ไมเ่ กนิ ๑๐ นาที และ ๒ กลมุ่ แรกทแ่ี สดงไปแลว้ ใหส้ งั เกตการณ์ และใหข้ อ้ คดิ เหน็ หลงั การแสดง ๘. หลังการแสดงบทบาทสมมติ ผดู้ ำเนนิ กิจกรรมชวนพดู คุย ตามประเดน็ ในขอ้ ๖ ๙. จากน้ัน ผู้ดำเนินกิจกรรมชวนผเู้ รียนวิเคราะห์ โดยใช้คำถามชวนคิด ดงั น้ี คำถามชวนคดิ • การแสดงบทบาทสมมตทิ งั้ ๒ กรณี เหมอื นหรอื แตกตา่ งจากสถานการณจ์ รงิ ของหนมุ่ สาวอยา่ งไร • ผลทต่ี ามมาจากการตอ่ รองทไ่ี มป่ ระสบผลสำเรจ็ ในเรอ่ื งการใชถ้ งุ ยางอนามยั คอื อะไรบา้ ง • จากบทบาทสมมติ เหตุผลใดที่คิดว่าได้ผลที่สุดในการยืนยันว่าจะไม่ม ี เพศสมั พนั ธ์ หากไมใ่ ชถ้ งุ ยางอนามยั • การพดู คยุ หรอื ตอ่ รองแบบใด ทอ่ี าจนำไปสกู่ ารตอ้ งยอมมเี พศสมั พนั ธโ์ ดยไม่ ใชถ้ งุ ยางอนามยั • ปจั จยั อะไรบา้ งทสี่ ง่ ผลตอ่ การสอ่ื สารตอ่ รองของหญงิ /ชาย • อุปสรรคสำคัญในการส่ือสารเร่ืองการใช้ถุงยาง หรือการค้นหาทางเลือก ในการมเี พศสมั พนั ธท์ ป่ี ลอดภยั ของครู่ กั คอื อะไรบา้ ง • หากตอ้ งการพดู คยุ หรอื ตอ่ รองเรอื่ งการใชถ้ งุ ยางกบั แฟนหรอื ครู่ กั ควรพดู คยุ เมอ่ื ใด 110 คมู่ อื การจัด กระบวนการเรยี นรู ้ เพศศกึ ษา สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๖

๑๐. ผดู้ ำเนินกจิ กรรมชวนผเู้ รยี นสรุปว่า เราไดอ้ ะไรจากกิจกรรมวันน้ี และเพม่ิ เตมิ ประเดน็ ดงั นี ้ 111 • การส่ือสารต่อรองในเรื่องสัมพันธภาพ รวมทั้งเพศสัมพันธ์ท่ีปลอดภัย มีปัจจัยหลายอย่างท่ี เข้ามาเก่ียวข้อง นอกจากเหตุผลท่ีแต่ละฝ่ายใช้ในการพูดคุย อาทิ ความชัดเจนในสิ่งท่ี แผนการเรียนร้ทู ่ี ๕ No Condom, No Sex ตนเองเลือกและต้ังใจ เช่น ถ้าไม่ใช้ถุงยางจะไม่มีเพศสัมพันธ์เด็ดขาด ความม่ันใจที่จะ ส่ือสารหรือยืนยันความต้องการของตนเอง พื้นฐานความสัมพันธ์กับคู่ว่าเปิดใจรับฟังความ คิดเห็นทแี่ ตกต่างกันมากนอ้ ยเพยี งใด หรือเปน็ ความสัมพันธ์ทีม่ เี พียงฝ่ายหน่งึ ฝ่ายใดเป็นคน กำหนดหรือตัดสินใจ อีกฝ่ายต้องตามใจหรือคล้อยตามโดยไม่มีข้อยกเว้น วิธีการสื่อสาร ภาวะอารมณ์ขณะท่ีพูดคยุ กนั • กรณีที่อาจทำให้ผู้หญิงหลายคนจำต้องยอมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ปลอดภัย หรือไม่ได้ป้องกัน เพราะความกลัวว่าคู่จะท้ิงไป หรือไปมีคนอื่น หรือความไม่มั่นใจหรือไม่กล้าที่จะบอกหรือ ยืนยันความตอ้ งการของตนเอง หรือไมก่ ล้าพดู เรือ่ งถุงยางอนามัย หรอื การคดิ ว่าถงุ ยางเปน็ เรอื่ งของผูช้ าย ผ้หู ญงิ ไม่ควรเปน็ คนเตรยี มตวั หรือเปน็ ฝ่ายพก เป็นตน้ • สำหรับผู้ชาย การตัดสินใจว่าจะใช้ถุงยางหรือไม่ อาจขึ้นอยู่กับการประเมินคนท่ีจะม ี เพศสัมพันธ์ด้วยว่าสามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้เพียงใด เช่น หากเป็นการซ้ือบริการ ทางเพศ อาจจะใช้ถุงยาง แต่หากเป็นแฟน หรือเพ่ือน หรือคนคุ้นเคย อาจรู้สึกเช่ือใจ ซึง่ การประเมนิ แบบนี้ ทำให้มโี อกาสเส่ยี งต่อการมกี ารมเี พศสัมพันธท์ ีไ่ มป่ ลอดภยั ได้ • การพูดคุยหรือต่อรองถึงทางเลือกในการมีเพศสัมพันธ์ท่ีปลอดภัย รวมท้ังการใช้ถุงยาง อนามัย ควรเป็นการพูดคุยกันก่อนที่จะอยู่ในสถานการณ์ เพื่อเป็นการช่วยประเมินคู่ว่ามี ความคิดเห็นอย่างไร และจะทำให้เราสามารถคิด ไตร่ตรอง และเตรียมตัวได้มากขึ้น เพ่ือ ความปลอดภัยของตวั เราเอง • การต่อรองเพ่ือการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย เป็นการพูดคุยเพ่ือหาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ ท้ังสองฝ่าย ไม่ใช่การพยายามเอาชนะกัน ทั้งนี้ ในเรื่องของสัมพันธภาพทางเพศ มีปัจจัย หลายอย่างท่ีเข้ามาเก่ียวข้องและส่งผลต่อการพูดคุยส่ือสารกัน ท้ังด้านอารมณ์ ความรู้สึก ความคาดหวงั ทีม่ ตี อ่ กนั ทศั นะความเชื่อในเรือ่ งเพศของแต่ละฝา่ ย

ข้อเสนอแนะสำหรับผ้ดู ำเนนิ กิจกรรม การเรียนรู้ในแผนนี้ เป็นการสร้างสถานการณ์จำลอง เพ่ือสร้างการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ตระหนัก ถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อการส่ือสารในเรื่องเพศกับคู่ ผู้ดำเนินกิจกรรมจึงควรกระตุ้นให้ผู้เรียนคิดให้ รอบด้านถึงโอกาสหรือสถานการณ์ต่างๆ ท่ีอาจเกิดขึ้นและวิธีจัดการหากต้องอยู่ในสถานการณ์ท่ีไม่ พึงประสงค์ การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตการมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมกล่มุ และการอภิปรายแลกเปลีย่ น คำถามท้ายบท • การมีเพศสมั พนั ธ์แบบรับผดิ ชอบหมายถึงอะไร • เมื่อฝา่ ยใดฝา่ ยหนงึ่ ปฏเิ สธการใช้ถุงยางอนามยั จะทำอย่างไร 112 คู่มือการจดั กระบวนการเรยี นรู้ เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชั้น มธั ยมศึกษาปีที่ ๖

แผนการเรยี นรู้ที่ ๖ ใบอนุญาต การเปน็ พอ่ แม ่

แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๖ ใบอนญุ าตการเป็นพอ่ แม่ สาระสำคัญ ความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นเร่ืองสำคัญและ ตอ้ งการความพร้อมของคนทต่ี ัดสนิ ใจเปน็ พ่อแม่ จุดประสงค ์ ๑. ระบกุ ารเปลีย่ นแปลงในชีวิตที่วยั รนุ่ หญิงชายตอ้ งเผชิญ หากมลี ูก ๒. บอกสิ่งที่หญงิ ชายควรคำนงึ ถึง หากต้องการมลี ูก อุปกรณ์ และส่อื ๑. แผ่นกจิ กรรม “ข้อเสนอประกอบการพิจารณาการเป็นพ่อแม”่ ๒. กระดาษฟลิปชารท์ กระดาษกาว ปากกาเคม ี 114 คู่มอื การจดั กระบวนการเรียนรู ้ เพศศึกษา สำหรบั นักเรยี นชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖

ขั้นตอนการดำเนนิ กจิ กรรม 115 ๑. ชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ว่า กิจกรรมนี้เป็นการวิเคราะห์ร่วมกันว่า การตัดสินใจมีลูก หรือ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๖ ใบอนญุ าตการเปน็ พ่อแม ่ การเป็นพ่อแม่ สง่ิ ท่ีจะต้องคำนึงถงึ มเี รอ่ื งอะไรบ้าง ๒. ถามผเู้ รยี นวา่ “การเป็นพ่อแม่” หมายถึงอะไร มีความสำคญั อยา่ งไร ๓. แจกแผ่นกิจกรรมให้ผู้เรียนแต่ละคน และอธิบายว่า สมมติว่ามีการออกกฎหมายเพ่ือควบคุม คุณภาพของประชากร โดยจะมีเกณฑ์ในการพิจารณาการเป็นพ่อแม่ ในฐานะกรรมการในการ เสนอร่างเกณฑ์การพิจารณา ผู้เรียนมีสิทธิที่จะเสนอความคิดเห็น ให้เวลาแต่ละคนตอบ แบบสอบถาม ๕-๑๐ นาท ี ๔. จากนนั้ ผู้ดำเนินกิจกรรมอ่านคำถามทลี ะขอ้ และถามความคดิ เหน็ ของผเู้ รียน โดย • ข้อ ๑-๓ ถามวา่ ใครเห็นด้วยหรือไมเ่ ห็นด้วยในการใช้ อายุ, การศึกษา, รายไดห้ รอื สถานะ ทางการเงิน เป็นเงื่อนไขในการพิจารณาการเป็นพ่อแม่ โดยให้ยกมือ จากนั้นผู้ดำเนิน กิจกรรมขออาสาสมคั รจากแตล่ ะฝา่ ยให้ความคดิ เห็นสนับสนนุ ฝ่ายละ ๓-๔ คน ในแตล่ ะข้อ • ข้อ ๔ ถามความคิดเห็นของทุกคน พร้อมเหตุผล โดยให้เสนอเฉพาะความคิดเห็นที่ไม่ซ้ำ กบั เพือ่ น ๕. ผดู้ ำเนนิ กจิ กรรมชวนคุย โดยใช้คำถาม ดังน ้ี

คำถามชวนคิด • รู้สึกอย่างไร หากมีกฎหมายที่กำหนดให้คนท่ีต้องการเป็นพ่อแม่ ต้องขอ ใบอนุญาตเพราะเหตใุ ด • จากการฟังข้อคิดเห็นของทุกคนในห้องน้ี คิดว่าส่ิงสำคัญสำหรับคนที่ ต้องการเปน็ พ่อแม่ ควรคำนงึ ถงึ คือเร่อื งอะไร • อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้บางคนต้องกลายเป็นพ่อแม่ โดยไม่ได้ตั้งใจหรือ วางแผนลว่ งหนา้ • การไม่ได้วางแผนสำหรับการมีลูกหรือการเป็นพ่อแม่ อาจส่งผลอย่างไรได้ บ้าง • มีทางเลือกอะไรบา้ ง สำหรับคนทตี่ ง้ั ครรภ์โดยไม่พร้อม • หากวัยรุ่นคนหน่ึงหรือคู่หนึ่งต้องทำหน้าที่พ่อแม่ ในขณะที่ยังเป็นนักเรียน ด้วย นักเรียนคิดว่า คนๆ น้ัน หรือคนคู่นั้น ต้องเผชิญกับเรื่องอะไรบ้าง ฝ่ายหญงิ หรอื ฝ่ายชายท่ตี อ้ งเผชญิ ผลกระทบมากกวา่ กนั อยา่ งไร • คนเราสามารถเป็นพ่อแม่ โดยไมต่ ้องมลี กู เองได้หรือไม่ อยา่ งไร ๖. ผู้ดำเนนิ กิจกรรมชวนผเู้ รยี นสรุปวา่ เราไดอ้ ะไรจากกจิ กรรมวันน้ี และเพิม่ เตมิ ประเด็น ดังน ี้ • ความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูเด็กๆ ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นเรื่องสำคัญและต้องการ ความพร้อมของคนท่ีตัดสินใจเป็นพ่อแม่ในหลายๆ ด้าน อาทิ ความพร้อมด้านสุขภาพ รา่ งกาย การตรวจสขุ ภาพหญิงชายก่อนการตงั้ ครรภ์ ระหวา่ งการตั้งครรภ์ ความพรอ้ มดา้ น จิตใจที่จะเผชิญกับความเปล่ียนแปลงหลายอย่างในวิถีชีวิต และการวางแผนเร่ืองการดูแล และเล้ียงดลู ูก ทั้งด้านเศรษฐกจิ และการตกลงบทบาทหน้าท่รี ะหว่างหญงิ ชาย เป็นตน้ • เป็นไปได้ที่หญิงชายอาจมีความสัมพันธ์ทางเพศ แต่ยังไม่ต้องการมีลูก จึงเป็นเร่ืองสำคัญที่ 116 ทั้งหญิงและชายควรมีความรู้และพูดคุยกันในเร่ืองวิธีการคุมกำเนิดหรือป้องกันการ ตั้งครรภ ์ คมู่ อื การจดั กระบวนการเรยี นรู ้ เพศศึกษา สำหรบั นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖

• ความสำคัญของบทบาทการเป็นพ่อแม่ คือ การให้ความรัก ดูแล และเล้ียงดูเด็กๆ ให้ 117 เติบโตอย่างมีความสุขและมีคุณภาพ โดยท่ีอาจมิได้หมายถึงการต้องมีลูกเอง หลายคน เลอื กทจ่ี ะมีชวี ติ โสด หรือครู่ กั เพศเดยี วกนั อาจขอรบั เดก็ มาอุปการะเป็นลูกกไ็ ด้ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๖ ใบอนญุ าตการเปน็ พ่อแม ่ • การต้ังครรภ์ในขณะเรียนหนังสือ อาจมีผลกระทบที่ตามมาหลายด้าน และอาจส่งผลกับ เพศหญิงมากกว่าเพศชาย เพราะสังคมยังมีทัศนะและให้คุณค่าในเร่ืองเพศของหญิงชาย ตา่ งกนั • ผู้ดำเนินกิจกรรมควรให้ข้อมูลเรื่องหน่วยงานที่รับปรึกษาหรือช่วยเหลือในกรณีตั้งครรภ ์ ไมพ่ รอ้ ม ๗. ให้เตรียมการบา้ นสำหรับแผนที่ ๗ ข้อเสนอแนะสำหรับผดู้ ำเนนิ กจิ กรรม กิจกรรมน้ีต้องการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์เรื่องการเป็นพ่อแม่ ท่ีเกี่ยวโยงกับเร่ืองการมี เพศสมั พันธข์ องวัยรุ่น และตอ้ งการใหผ้ ้เู รียนสามารถเสนอความคดิ เห็นได้อย่างเต็มท่ี โดยไม่จำเปน็ ต้องเห็นคล้อยตามกัน ดังนั้นผู้ดำเนินกิจกรรมจึงควรระวังท่าทีและการแสดงทัศนะในเชิงตัดสิน ผิดถูกต่อเร่ืองน้ี สิ่งสำคัญคือการกระตุ้นให้เห็นมุมมองท่ีแตกต่าง และทางเลือกท่ีหลากหลายใน วถิ ีชีวิต และการชวนให้เชื่อมโยงกับการนำไปปรับใช้ในวิถีชวี ติ ของผเู้ รยี นเอง การวดั และประเมนิ ผล • สงั เกตการมีส่วนรว่ มในกิจกรรมกลุม่ และการอภปิ รายแลกเปลีย่ น คำถามท้ายบท • บอกแผนการของตนเองเร่ืองการมชี ีวติ ครอบครัว

แผน่ กจิ กรรม ข้อเสนอประกอบการพิจารณา “การเปน็ พอ่ แม”่ ให้จินตนาการว่าหากมีการผ่านร่างกฎหมายท่ีกำหนดให้คนท่ีต้องการเป็นพ่อแม่ ต้อง ผา่ นการพิจารณาก่อนว่ามคี ุณสมบตั ิเหมาะสมหรือไม่ คุณได้รับเชิญให้เป็นหน่ึงในคณะกรรมการที่จะกำหนดคุณสมบัติและเง่ือนไขการเป็น พ่อแม่ โดยคณุ สามารถเสนอความคิดเหน็ ไดต้ ามแบบฟอรม์ น ้ี ๑. ควรกำหนด “อายุ” เป็นเง่ือนไขประกอบการพิจารณาการเป็นพ่อแม่หรือไม่ เพราะเหตใุ ด ในกรณที ี่คดิ ว่าควรกำหนดอายุ ให้ระบชุ ่วงอายุ พรอ้ มเหตผุ ล ๒. “การศึกษา” ควรเปน็ คุณสมบตั หิ น่ึงของการเปน็ พอ่ แมห่ รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ถา้ เห็นด้วย ให้ระบุว่าการศึกษาด้านใดบ้าง ที่คนเป็นพ่อแม่ควรมี/ควรเรียน พร้อม เหตผุ ล ๓. “รายได้หรือสถานะทางการเงิน” ควรเป็นหนึ่งในคุณสมบัติประกอบการ พิจารณาการเป็นพ่อแม่หรือไม่ เพราะเหตุใด ถ้าเห็นด้วย ให้ระบุว่าควรมีรายได้ หรือฐานะการเงนิ อยา่ งไร ๔. ให้ระบุ คุณสมบัติ ทักษะ ความรู้หรือความสามารถอื่นๆ ท่ีคนที่จะเป็นพ่อแม่ ควรมี พรอ้ มเหตผุ ล 118 คู่มือการจัด กระบเวพนศกศาึกรษเรายี นร้ ู สมำัธหยรมับศนกึ ักษเราียปนที ชี่ ๖นั้

แผนการเรียนรู้ท่ี ๗ วฒั นธรรมไทย กับเรอื่ งเพศ

แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๗ วฒั นธรรมไทยกบั เรอ่ื งเพศ สาระสำคญั วัฒนธรรม คือแบบแผนในการดำเนินชีวิตท่ีคนหมู่มากในสังคมถือปฏิบัติเป็น ธรรมเนียมสืบมา อย่างไรก็ตาม เม่ือสังคมเปล่ียนแปลงไป การดำเนินชีวิต และ วิถีปฏิบัติก็อาจเปล่ียนตามการดำเนินชีวิตของคนส่วนใหญ่ แต่ระยะท่ีกำลัง เปลี่ยนผ่านก็อาจจะเห็นความขัดแย้งของวิถีปฏิบัติ ท่ีมักเป็นท่ีถกเถียงกันว่าไม่ เป็นไปตามวัฒนธรรม หรอื ธรรมเนยี มปฏิบัตทิ ี่เคยยดึ ถือกันมา บทเรียนนต้ี อ้ งการ ให้ผู้เรียนได้มีโอกาสใคร่ครวญถึงความขัดแย้งของวิถีปฏิบัติ โดยเฉพาะที่เก่ียวกับ เรื่องเพศ ให้ผู้เรียนได้มองเห็นและสามารถวิเคราะห์ได้ถึงท่ีมาท่ีไปของความ ขัดแย้ง และสามารถมีข้อเสนอต่อการปฏิบัติของตนที่จะดำรงตนอยู่ได้โดยเป็น สว่ นหน่ึงของสงั คม ชุมชน โดยไมแ่ ปลกแยก แต่กย็ ังดำรง “ตัวตน” ของตนเอง ไดอ้ ย่างมคี วามสุข จดุ ประสงค ์ ๑. วิเคราะห์วิถีหรือแบบแผนทางวัฒนธรรมไทยที่เก่ียวกับธรรมเนียมปฏิบัติเรื่อง เพศ 120 คมู่ ือการจ ัด ๒. บอกค่านิยมเร่ืองเพศ ที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมการเรียนรู้เพศศึกษาใน กลมุ่ เยาวชน กระบวนการเรียนร ู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นกั เรยี นช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖

อปุ กรณ์ และสอ่ื 121 ๑. ตัวอย่างบทความ เพลงรัก วรรณกรรม นวนิยาย เรื่องย่อภาพยนตร ์ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๗ วัฒนธรรมไทยกับเร่อื งเพศ ตัวละครในวรรณกรรม หรือภาพยนตร์ หรือบทกวี ท่ีมีเนื้อหาเก่ียวกับเรื่อง เพศ ๒. เอกสารอ่านประกอบ ปาฐกถานำ “เพศศึกษา วัฒนธรรม และคุณธรรม- เราจะบอกอะไรแก่เยาวชน” โดย ศ.ดร.นิธิ เอยี วศรีวงศ์ เวลา ๒ คาบเรียน การเตรียมการ สำหรับคาบท่ี ๑ ก่อนถงึ คาบเรียน มอบหมายให้ผเู้ รยี นจับคู่กันไปหาบทความ เพลงรกั วรรณกรรม ตวั ละครใน นวนิยาย หรือภาพยนตร์ บทกวี หรือเร่ืองย่อภาพยนตร์ ท่ีสะท้อนวิถีชีวิต หรือวัฒนธรรมในเร่ือง เพศ หรือสัมพันธภาพระหว่างหญิงชาย หรือความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่กับเยาวชนในการควบคุมชีวิต ทางเพศของเยาวชน ท่คี ู่ตนเองเหน็ ด้วย ๑ ช้ิน และไมเ่ หน็ ดว้ ย ๑ ช้นิ (เลือกตดั ตอนมาท่อนส้ันๆ) และเตรียมนำเสนอ โดยให้แต่ละคู่เขียนบทวิเคราะห์ส้ันๆ ต่อสื่อท่ีเลือกมา ว่าสะท้อนเรื่องเพศ อยา่ งไร รวมท้ังเหตผุ ลที่เห็นด้วย และไม่เห็นดว้ ยในส่อื แตล่ ะชิ้น คาบที่ ๑ คา่ นยิ มหรอื ฆา่ นิยม ขัน้ ตอนการดำเนนิ กิจกรรม ๑. ชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ว่า ต้องการให้ผู้เรียนแลกเปล่ียนการวิเคราะห์วัฒนธรรมในเร่ือง เพศท่ีสะท้อนอยูใ่ น บทความ เพลงรกั วรรณกรรม นวนยิ าย บทกวี ทตี่ นเองเลอื กมา โดยให้ บอกเหตผุ ลของความพอใจ หรือไม่พอใจในวิถี หรือวฒั นธรรม ทีส่ ะท้อนจากส่อื ชนิ้ นั้นๆ ๒. ถามผูเ้ รยี นวา่ มใี ครเลอื กสอ่ื ประเภทใดมาบ้าง เพื่อดปู ระเภทของงานท่ีผู้เรยี นเลอื กมานำเสนอ ๓. ขออาสาสมคั รท่พี รอ้ มนำเสนอ โดยใหเ้ วลานำเสนอคู่ละ ๓ นาท ี

๔. ผู้ดำเนินกิจกรรมจัดให้คู่ที่เลือกส่ือท่ีแตกต่าง ออกมานำเสนอก่อน เช่น กลุ่มที่เลือกเพลง ละคร ภาพยนตร์ บทกวี นวนิยาย ฯลฯ และอาจถามผู้เรียนว่าต้องการฟังการวิเคราะห์ของ เรื่องใดอกี ๕. ใหเ้ วลาในการนำเสนอ ๒๕ นาที (อาจนำเสนอได้ไมค่ รบทกุ ค)ู่ ๖. จากน้ัน ขอให้ทุกคู่ส่งการบ้านการเขียนบทวิเคราะห์ และผู้ดำเนินกิจกรรมชวนคุย โดยใช้ คำถาม ดงั น้ี คำถามชวนคดิ • ผู้เรียนคิดอย่างไร เมื่อได้ยินสิ่งท่ีเพ่ือนเลือกมานำเสนอ มีส่วนที่เรา เห็นดว้ ย ไมเ่ ห็นด้วยอยา่ งไร • มีความคิดเร่ืองเพศเร่ืองใดบ้างจากเร่ืองที่เพื่อนๆ เลือกมานำเสนอแล้วเรา เหน็ วา่ สอดคลอ้ งกบั วฒั นธรรมในความเหน็ ของผใู้ หญ่ แตไ่ มเ่ ขา้ กบั ความคดิ ของเยาวชนส่วนใหญใ่ นยุคปจั จุบนั - คิดวา่ ความคดิ ต่อวิถวี ัฒนธรรมทแ่ี ตกต่างน้ัน เกิดจากอะไร • การเลือกทำตามวิถีของคนส่วนใหญ่ในสังคม แม้จะรู้สึกขัดแย้ง มีผลด ี ผลเสยี อย่างไร • การเลือกทำตามความคิด วิถีปฏิบตั ิทีถ่ กู ใจเรา แต่คนสว่ นใหญ่ไมเ่ ห็นดว้ ย และถือเปน็ เรอ่ื งประหลาด มีผลดี ผลเสีย อยา่ งไร • ที่สุดแล้ว การเลือกยึดถือปฏิบัติ แบบแผนในการดำเนินชีวิต และความ สัมพันธ์ในเรื่องเพศ ต้องคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง จึงจะทำให้เกิดความพอดี ทำใหต้ นเองและคนทเี่ ราห่วงใยมคี วามสขุ 122 คู่มอื การจดั กระบวนการเรียนร ู้ เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖

๗. ผู้ดำเนินกจิ กรรมชวนผู้เรียนสรุปว่า เราได้อะไรจากกจิ กรรมวนั น้ี และเพม่ิ เติมประเด็น ดงั นี ้ 123 • วัฒนธรรมคือวิถีปฏิบัติท่ีเป็นแบบแผน แต่อาจเป็นคนละเร่ืองกับ “การมีคุณธรรม” เพราะ มักเกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นเร่ืองเดียวกัน เช่น เชื่อว่าการแต่งกายที่ถูกระเบียบแบบแผน แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๗ วัฒนธรรมไทยกับเร่อื งเพศ ตามวัฒนธรรม คือการส่งเสริมคุณธรรม ทั้งๆ ที่แบบแผนเหล่าน้ันอาจเปล่ียนแปลง ตามกาลเวลาและส่ิงแวดล้อมได้ เช่น การนิยมอาหารจานด่วน (อาทิ ข้าวราดแกง) แทนการรบั ประทานอาหารแบบครบสำรับตามแบบในอดีต • ถึงที่สุดแล้วเราพึงให้ความสำคัญกับเร่ืองของ “คุณธรรม” จึงจะเกิดวิถีของการอยู่ร่วมกัน ทางสังคมอย่างมีความสุข แม้จะมีแบบแผนย่อยทางวัฒนธรรมที่ต่างกัน และเม่ือพูดถึง วัฒนธรรมของการปฏิบัติต่อกันระหว่างเพศ หรือความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่กับเยาวชน หัวใจสำคัญคอื ต้องยึดถอื ใหป้ ฏบิ ัติตอ่ กันอย่างมี “คุณธรรม” ให้เกยี รติต่อกนั เอาใจเขามา ใสใ่ จเรา ไม่ทำร้าย หลอกลวงหรือปฏบิ ตั ติ อ่ หน้าดีแต่ลับหลงั ทำร้าย หรือนินทา เปน็ ตน้ ๘. ผ้ดู ำเนนิ กิจกรรมใหก้ ารบ้านเพ่ือเตรยี มสำหรบั คาบต่อไป ซ่งึ เปน็ แผนการเรยี นรเู้ รอื่ งเพศจากส่ือ: “จับผดิ โฆษณา” ข้อเสนอแนะสำหรบั ผ้ดู ำเนนิ กิจกรรม ผู้ดำเนนิ กิจกรรมควรอ่านบทความเรือ่ ง “เพศศึกษา วฒั นธรรม และคุณธรรม-เราจะบอกอะไร แก่เยาวชน” โดย ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ การวัดและประเมินผล • สงั เกตการมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ และการอภปิ รายแลกเปล่ียน • ดูความลุ่มลึก และการให้เหตุผลในการเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยของบทความ/ส่ือต่างๆ ท่ีผู้เรียน เลอื กมา

เอกสารอา่ นประกอบ ปาฐกถานำ “เพศศกึ ษา วฒั นธรรม และคุณธรรม-เราจะบอกอะไรแกเ่ ยาวชน” โดย ศ.ดร.นิธิ เอียวศรวี งศ ์ จาก การประชุมเชงิ ปฏบิ ัติการคณะทำงานและวทิ ยากรหลัก Master Trainers โครงการก้าวย่างอยา่ งเขา้ ใจ วนั ท่ี ๑๑ มถิ นุ ายน ๒๕๔๗ จากหวั ขอ้ ทตี่ งั้ ไว้ ผมขอใหค้ ำตอบที่ถามมาว่า ผมตอบไมไ่ ด้ แตแ่ คน่ น้ั ไม่พอ เราต้อง พูดให้แรงข้ึนว่า เราไม่ควรบอกอะไรแก่เยาวชน ตรงกันข้าม เราควรจะทำอะไรในเร่ืองน้ี เ พราะเราไมต่ อ้ งการคำตอบสำเรจ็ รปู เวลาพูดถงึ เรือ่ งเพศ กามารมณใ์ นวัฒนธรรมไทยโบราณ เราพูดเหมอื นเราสามารถชใี้ ห้ ดูง่ายๆ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อเรากลับไปดู เราจะพบว่า ครอบครัวกับกามารมณ์ เป็นเร่ืองท่ีแยกไม่ออก ไม่ได้หมายความว่าคนโบราณไม่มีเพศสัมพันธ์นอกการสมรส แต่ ก ลับมเี ยอะมาก ขนุ แผนได้เสยี กบั เมยี ทกุ คนก่อนจะยกย่องเปน็ เมยี ทัง้ นั้น คำว่า “การแตง่ งาน” ในวฒั นธรรมไทยโบราณไม่ใชก่ ารทำพธิ ีรดนำ้ สงั ข์ การแต่งงาน เปน็ เรอ่ื งท่เี กดิ โดยไมม่ ีพิธกี รรม เชน่ หนตี ามกันไป ลกั พาตัว รวมท้ังการท่ีผู้หญงิ มีช้กู ็เป็น เร่ืองท่ีเกิดขึ้นมากในสมัยโบราณ และเม่ือสามีรู้ว่ามีชู้ ก็สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายผ่าน ศาลจากชายชู้ และมีทางเลือกว่าจะเลิกกับภรรยา หรือรับภรรยากลับมา ดังน้ัน แม้แต ่ เ พศสมั พันธ์ในการมีชู้กย็ ังสัมพันธ์กับครอบครวั อ.ธาวติ สขุ พานิช เคยกล่าวไวว้ า่ ผูช้ ายสมยั ก่อนนอนกบั ผู้หญงิ คนไหน กถ็ ือวา่ คนน้ัน เป็นเมียแล้ว ไม่เหมือนกับคนสมัยน้ีท่มี ีความคดิ ตา่ งไป 124 คมู่ อื การจัด กระบวนการเรยี นรู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖

การพูดว่า ครอบครัวแยกไม่ออกกับกามารมณ์ ยังหมายถึงความสัมพันธ์ในกลุ่ม 125 เครือญาติ ภาระทางเศรษฐกิจของครอบครัว ผู้ชายไทยสมัยก่อนแต่งงานแล้วจะเข้าไปอยู่ บ้านผู้หญิง นั่นแสดงว่า ก็ต้องไปสร้างทรัพย์สมบัติขึ้นใหม่ เพราะไม่มีมรดกเก่าติดตัว แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๗ วัฒนธรรมไทยกับเร่อื งเพศ ไ ปดว้ ย จนกวา่ พอ่ ตาจะไวว้ างใจและอุดหนนุ ใหไ้ ปบกุ เบกิ ท่นี าใหม ่ ดังน้ัน ผชู้ ายท่จี ะเอาผูห้ ญิงเปน็ เมียยอ่ มตอ้ งคิดถงึ พอ่ ตาวา่ มีกำลงั ในการทำใหต้ นเองมี ท นี่ าใหม่ไดห้ รอื ไม ่ การกีดกันคนจนถือเป็นของปกติธรรมดา ไม่ใช่เรื่องแปลกเหมือนที่เห็นในละคร ถ้า ใครมีที่ดินมากและมีลูกชาย ก็ย่อมต้องคำนึงถึงลูกสะใภ้ที่เข้ามา เน่ืองจากการแต่งงาน หมายถึงมรดก ดังนั้น คนสมัยก่อนถึงต้องทำให้พวกคนจนกลายเป็นผีปอบ เพ่ือให้ลูก ตวั เองไมไ่ ปข้องแวะด้วย ความสัมพันธ์ในกลุ่มเครือญาติ หรือกลุ่มบารมี จึงเข้ามาเป็นปัจจัยทางสังคมในการ กำกับการเลือกคู่ของคน คนโบราณไม่อาจตัดสินใจที่จะนอนหรือไม่นอนจากความต้องการ ของตวั เองคนเดียว มีแต่คนรวยเท่านั้นทีส่ ามารถมเี มียน้อยได้ ภาระทางเศรษฐกิจจงึ เข้ามา มีความเกี่ยวขอ้ งที่จะต้องคำนงึ ถึงในการมีค่ ู ถ้าเช่นนนั้ เพศศกึ ษาแบบโบราณคอื อะไร ย่อมไมใ่ ช่กามารมณเ์ พียงอยา่ งเดยี ว เพราะเป็นเพยี งปัจจยั เดยี วเทา่ นน้ั แต่ต้องรวมถงึ บทบาทของผู้ชายในครอบครัว ผู้หญิงในครอบครัว ซ่ึงบทบาทพวกนี้เปล่ียนแปลงไป ต ลอดเวลา เช่น การสอนใหผ้ หู้ ญงิ เก็บหอมรอมริบทรัพย์ท่ีเป็นเงนิ หรือแลกเปน็ เงินได้ ทำไมต้องสอน

เพราะในสังคมโบราณ ทรัพย์ที่เป็นเงินน้ันผู้หญิงเป็นคนเก็บ ผู้ชายทำหน้าท่ีออกไป สร้างเกียรติยศนอกบ้าน ผู้ชายไทยได้เงินมาเท่าไหร่ ก็ให้เมียหมด และขอเงินเมียใช้ไป เรอ่ื ยๆ ผหู้ ญงิ จงึ เปน็ ฝา่ ยดแู ลทรพั ยส์ นิ (และอาจเปน็ เหตผุ ลทที่ ำใหผ้ ชู้ ายไทยใชเ้ งนิ ไมเ่ ปน็ ) การทีเ่ ดก็ ผหู้ ญงิ ต้องออกไปทำงานในนา ถอื เป็นส่วนหนึง่ ของเพศศกึ ษา เพราะชาวนา ย่อมตอ้ งทำนาให้เป็น ดังน้นั เราจึงควรมองเพศศกึ ษาในความหมายที่กว้างกวา่ กามารมณ ์ กามารมณ์บนโลกนี้ไม่ได้เกิดข้ึนลอยๆ นอกจากในหนังโป๊ มันมีเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ สงั คม ท่ีแวดลอ้ มกามารมณต์ ลอดเวลา การสอนเพศศึกษาทีน่ กึ ถึงแตก่ ามารมณ์จึงเป็นการ บิดเบือนความจริง การพูดถึงแต่ความปลอดภัย อายุที่จะมีจึงยังไม่พอท่ีจะใช้เป็นเง่ือนไข สอนเดก็ ถงึ เรอื่ งนี้ ควรสอนเงอ่ื นไขท่ีรอบดา้ นมากกวา่ น้ี ไม่เนน้ เพยี งแตด่ า้ นรา่ งกายเท่านัน้ คนที่จะเรียนเรื่องเพศศึกษาจำเป็นต้องเข้าใจเง่ือนไขทางวัฒนธรรมไปพร้อมๆ กัน การท่ีผมใช้คำว่า วัฒนธรรมไทยโบราณ อาจฟังดูไม่คุ้นหู เพราะปัจจุบัน เราสร้าง คำใหมๆ่ ขน้ึ มา ซงึ่ ไมเ่ คยเกดิ ในสงั คมโบราณ เชน่ คตเิ รอ่ื งการรกั นวลสงวนตวั ซง่ึ เพง่ิ เกดิ ขนึ้ ในเขตรอบกรงุ เทพฯ เมื่อต้นรตั นโกสินทรม์ านีเ้ อง ในวรรณกรรมสมยั ปลายอยธุ ยา เช่น กฤษณาสอนน้องนัน้ สอนเรือ่ งการเปน็ เมยี ทดี่ ี แตไ่ ม่เคยสอนเร่ืองรกั นวลสงวนตวั แตห่ ลงั จากทคี่ วามแตกตา่ งทางเศรษฐกจิ มมี ากขน้ึ คนในสงั คมจงึ จำเปน็ ตอ้ งสอน ตอ้ งสรา้ งเงอ่ื นไข ใหมๆ่ ขน้ึ ลองกลับมาดเู รื่องความเปลีย่ นแปลงในปจั จุบัน เรามกั ใชค้ ำว่า อทิ ธพิ ลทางตะวนั ตก คำๆ นี้ไม่ช่วยให้เราเข้าใจความเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นในสังคมไทยแต่อย่างใด ความ เปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึนและเห็นได้ชัดคือ ความเป็นปัจเจกซึ่งมีมากกว่าสมัยโบราณ เช่น ใน กฎหมายตราสามดวง มีการลงโทษให้เอามะพร้าวห้าวยัดปากผู้ท่ีเรียกช่ือเดิมของผู้ที่มี 126 คู่มือการจดั ตำแหน่งหน้าท่ีการงานใหม่ เป็นต้น นี่สะท้อนให้เห็นว่าสำนึกคนสมัยก่อนในเร่ืองปัจเจก ของตนเองไมห่ นกั แน่นมากเทา่ ทุกวนั น้ี กระบวนการเรยี นรู ้ เพศศึกษา สำหรับนักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖

การปลูกฝังเรื่องความเป็นปัจเจก จึงลดทอนความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่แวดล้อมใน 127 ครอบครัว ให้กลายเป็นเรื่องของคนสองคนท่ีไม่ต้องคิดถึงเร่ืองใดๆ ไม่ว่าจะเป็นท่ีนา พ่อ แม่ ฐานะ ปรากฏการณ์น้ีมีให้เห็นมากข้ึน ความสำคัญของความรู้สึกของบุคคลกลายมา แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๗ วัฒนธรรมไทยกับเร่อื งเพศ เป็นสิ่งท่ีอยู่เหนือความสัมพันธ์ของคนอ่ืนๆ เช่น ในนวนิยายยุคแรกๆ ซึ่งพระเอกเป็นคน ขับรถแล้วมาหลงรักนางเอกท่ีมีฐานะสูงกว่า แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญอีกต่อไป ซึ่งเป็นการ เร่ิมให้ความสำคัญกับปัจเจก สะท้อนให้เห็นว่าความรักได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของสังคม แบบใหม ่ ครอบครัวคนปัจจุบันกลายเปน็ ครอบครัวเด่ยี ว แยกบา้ นอยตู่ า่ งหากจากพอ่ แมป่ ู่ยา่ ซึง่ ส่งเสริมความเป็นปัจเจกของคนสองคนให้เป็นอิสระจากความสัมพันธ์เครือญาติ อิทธิพล ของชุมชนแม้แต่ในชนบทเอง ก็เปล่ียนไป เพราะคนที่ไม่มีที่นาเป็นของตนเองมีมากขึ้น เกิดความหลากหลายทางอาชีพมากข้ึน ความเปล่ียนแปลงนี้เกิดอย่างรวดเร็วจนคนตาม ไม่ทัน ฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญของครอบครัวจากที่เคยให้ผู้หญิงท่ีเป็นเมียทำหน้าท่ีเก็บ ทรัพย์สินนั้นจงึ เปล่ยี นมาเป็นว่ามีเงินฝากในธนาคารมากหรอื นอ้ ย นอกจากนั้น ยังเกิดความเปล่ียนแปลงด้านเพศสภาพขึ้นมาว่า ความเป็นหญิง เป็น ชาย ไม่ได้เกิดจากสภาวะธรรมชาติเพียงอย่างเดียวแล้ว หากเกิดจากเง่ือนไขแวดล้อมทาง สงั คมดว้ ย คนสองคนท่ีตัดสินใจอยู่ร่วมกันแต่งงานกันแต่ก็ไม่ได้เป็นคนเดียวกันอย่างแท้จริง ต่าง กม็ อี าชีพ มเี งินของตนเอง การจะทำให้ครอบครัวอยู่รอดจงึ ข้ึนอย่กู ับคนสองคนเท่านน้ั จงึ เกดิ อดุ มคตใิ หม่ โลกทรรศนใ์ หมเ่ ขา้ มาเปลยี่ นความคดิ ของคน เชน่ เรอ่ื งปจั เจกดงั ทก่ี ลา่ วมา เมื่อเป็นเช่นน้ี วัฒนธรรมเร่ืองเพศท่ีเราเคยถือกันมา จึงไม่สามารถนำกลับมาใช้เป็น มาตรฐานวัดได้ สังคมไทยขาดศีลธรรม คุณธรรม ที่เหมาะสมกับสภาพสังคมในปัจจุบัน แมห้ ลกั ศาสนธรรมเชน่ เรือ่ งนิพพานจะยงั คงเป็นสากลอยู่ แต่ก็ทำไดไ้ มง่ า่ ยอีกแล้ว

เราพยายามยัดเยียดกฎเกณฑ์ท่ีเคยใช้กับคนโดยไม่คิดจะปรับเปล่ียนประยุกต์เลย กามารมณ์ที่แยกออกจากครอบครัวในปัจจุบันจึงไม่สามารถใช้กฎเกณฑ์เดิมๆ ได้ เช่น เรื่องพรหมจรรย์ผู้หญิง เราจะอธิบายอย่างไรหากมองในสายตาของปัจเจก ก็คือเรื่องเดียว กบั การทำแทง้ เพราะสทิ ธิเสรภี าพของผู้หญงิ อย่เู หนือร่างกายของตวั เธอ น่าแปลกที่วัฒนธรรมปัจจุบันให้สิทธิกับผู้หญิงมากขึ้น แต่เราไม่เคยพูดเร่ือง พรหมจรรย์ผู้ชายเลย ผู้ชายไทยถือว่านอนกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ แต่คนที่มาเป็นเมียต้อง เป็นพรหมจรรย์ (ซึ่งขัดแย้งกันมากเพราะจะเหลือผู้หญิงแบบน้ันได้อย่างไร) กลายเป็นการ หนา้ ไหว้หลังหลอก เราสอนในส่งิ ที่เราไมเ่ ช่อื แลว้ คิดหรอื ว่าเดก็ จะเชือ่ ระบบการลงโทษของสังคมเช่น เรื่องผี หมดไป ทำให้เราต้องสร้างวินัยแก่คนที่เป็น ปัจเจก วินัยในสังคมไทย เรามักนึกถึงกฎข้อบังคับที่มาจากภายนอก ไม่ใช่ส่ิงที่เกิดข้ึนใน ตัวเองทั้งท่ีในความเป็นจริงมันเป็นเร่ืองตรงกันข้าม ซึ่งเกิดมาตั้งแต่สมัย ร.๕ นับแต่เข้า เรยี นวนั แรกจนถงึ มหาวิทยาลัยปีหน่ึง เราก็ยงั คิดเองไม่เปน็ ตอ้ งมีรนุ่ พี่มาบังคบั กำหนด ซงึ่ วนิ ยั ในเรอื่ งเพศตอ้ งเกิดจากคิดไดเ้ องเทา่ น้ัน ปญั หาในตอนนขี้ องสังคมไทยคือ เราลอกของเก่าก็ไมไ่ ด้ ลอกฝร่ังก็ไม่ได ้ เราทกุ คนไมม่ ีคำตอบตายตวั เราจงึ ไม่ควรจะบอกอะไรแก่เยาวชน แต่เราต้องมาคิดว่า อะไรคือมาตรฐานทางเพศของสองโลกในปจั จุบนั มีเรอื่ งส่เี รอื่ งทีส่ ำคัญตอ้ งคำนงึ หรอื เป็นเปา้ หมายคือ หนึ่ง มาตรฐานทม่ี คี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองกับคนอนื่ สอง มาตรฐานท่มี คี วามรับผดิ ชอบต่อสงั คม ทัง้ สองอย่างทำให้เราต้องรจู้ กั ตนเองใหด้ ี รู้จักคนอื่นให้ดี และของสงั คมให้ดีดว้ ย 128 คมู่ ือการจัด กระบวนการเรียนรู้ เพศศึกษา สำหรับนกั เรยี นช้ัน มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖

สาม คนต้องมีความคิดวิพากษ์ ไตร่ตรองถึงเร่ืองถูกผิด ดีชั่ว โดยสำนึกถึงความ 129 เปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนในสังคมเสมอ ถ้าไม่คิดถึงเร่ืองถูกผิดดีชั่วด้วยตนเองก็จะไม่เข้าใจ มาตรฐานสังคม แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๗ วัฒนธรรมไทยกับเร่อื งเพศ สี่ ความเปลี่ยนแปลงเป็นส่ิงท่ีเกิดข้ึนตลอดเวลา ถึงเราไม่ชอบความเปล่ียนแปลง แต่ เราต้องเข้าใจวา่ คนอนื่ คิดอยา่ งไร นอกจากน้ัน ผมอยากเสริมว่าเราต้องรู้จักศาสนธรรมในเชิงวิพากษ์ ไม่ใช่เป็นการเช่ือ อย่างยัดเยียด ยกตัวอย่าง เวลาพระสอนเร่ืองอย่าเอาของที่เขาไม่ได้ให้น้ัน พระอาจคิดถึง แค่กล้วยหวีเดียว แต่ปัจจุบัน มีการโกงกันเป็นร้อยล้าน การซื้อหุ้น การอยากรวยมากกว่า ปกตินั้น การทำให้ตัวเองรวยโดยที่คนอ่ืนมีเงินน้อยลงถือเป็นการขโมยหรือไม่ เราควรตั้ง คำถามเร่ืองนก้ี ันสกั นิด กาเมสมุ จิ ฉา ซ่ึงสอนใหไ้ ม่ประพฤติผิดในกามน้นั โบราณสอนวา่ หา้ มล่วงละเมิดผู้หญงิ ประมาณ ๒๐ ประเภทนั้น แล้วการท่ีผู้ชายเท่ียวโสเภณีถือเป็นการทำผิดศีลหรือไม่ ที่ เปลีย่ นจากการขม่ ขนื โดยใชก้ ำลงั มาเป็นใช้เงินแทน โลกปัจจุบันไม่เหมือนเม่ือก่อน แล้วการสนับสนุนให้ไปทำสงครามนั้นถือเป็นการฆ่า สตั ว์ตัดชีวติ หรอื ไม่ เราจึงควรสอนให้เดก็ คดิ อย่างสัมพันธก์ ับปรากฏการณข์ องสังคม เราไม่ควรมีคำตอบเดียวในการสร้างมาตรฐานทางศีลธรรมทางเพศ ไม่ควรให้คำตอบ สำเร็จรูป แตค่ วรดึงเงื่อนไขต่างๆ เขา้ มาเก่ียวโยงเพอื่ ให้เด็กคดิ ไดเ้ อง เช่น การท่ีเด็กมีเพศสัมพันธ์กันในวัยเรียน เราไม่ควรใช้วิธีห้าม แต่ควรทำให้เด็กมอง ถึงสง่ิ ทจี่ ะเกิดข้นึ อยา่ งถ่ีถ้วนว่าจะก่อผลกระทบกบั ใครบ้าง

การขายบริการทางเพศผิดหรือถูก ผมไม่รู้ แต่เราควรจะทำให้เด็กรู้ว่ามีเง่ือนไขอะไร บ า้ งทที่ ำให้คนมาขายบรกิ ารทางเพศ และเงื่อนไขน้ันหลกี เล่ยี งได้หรอื ไม ่ การสอนเรื่องเพศศึกษาจึงไม่ใช่การสอนเรื่องกามารมณ์ แต่เป็นการสอนเร่ือง พ ฤติกรรมทกุ อยา่ งในสังคมซึง่ ตอ้ งมองให้รอบดา้ นวา่ ไมใ่ ช่เพียงเร่อื งทางกายล้วนๆ ผมขอจบเพยี งเท่านี ้ 130 คู่มอื การจดั กระบวนการเรยี นรู ้ เพศศกึ ษา สำหรบั นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๖

คาบที่ ๒ เรียนรเู้ รอ่ื งเพศจากสื่อ: “จับผิดโฆษณา” 131 แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๗ วัฒนธรรมไทยกับเร่อื งเพศ การเตรยี มการกอ่ นคาบเรียน ให้ผ้เู รยี นแบง่ กลุ่ม ๕ คน ให้เลอื กโฆษณาท่ีมกี ารใชเ้ ร่อื งเพศ อาทิ ความงาม ความหล่อเหลา รูปลักษณ์ เรือนร่าง การจีบกัน อารมณ์รัก การเป็นท่ีปรารถนา ความโรแมนติก ในการโฆษณา สินค้า โดยให้แต่ละกลมุ่ เลอื กมา ๑ ชิ้น อาจเป็นสปอตโฆษณาทางโทรทัศน์ หรอื โฆษณาในส่งิ พิมพ์ ก็ได้ ให้แต่ละกลุ่มเขียนวิเคราะห์ว่า “ความลวง” ที่ปรากฏอยู่ในโฆษณาช้ินน้ันๆ คืออะไร มี “ความไมส่ อดคลอ้ งกบั ความจรงิ ” หรอื มี “ความเปน็ ไปไม่ได้” อย่างไรบา้ ง ขัน้ ตอนการดำเนินกิจกรรม ๑. ช้ีแจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ว่า เราต่างได้รับอิทธิพลความคิดเร่ืองเพศจากการปฏิสัมพันธ์ของ คนในสังคม เม่ือมีการพัฒนาด้านธุรกิจการตลาด การแข่งขันทางการค้า ผู้ขายผลิตภัณฑ์ ต่างๆ ต่างอาศัยการโฆษณาเพ่ือให้คนสนใจสินค้าหรือบริการของตนเอง เร่ืองเพศมักจะสร้าง ความสนใจแก่คนได้ทุกเพศทุกวัย ผู้ผลิตโฆษณาจึงมักจะนิยมใช้เร่ืองเพศ ความงาม ความ หล่อเหลา รูปลักษณ์ เรือนร่าง การจีบกัน อารมณ์รัก การเป็นท่ีปราถนา มาเป็นแรงจูงให้ใช้ สินค้า การโฆษณาจึงมักจะมีความ “เหนือจริง” ในการเสนอเรื่องราว เพราะต้องการจูงใจ ชวนเช่ือ เราจงึ ต้องสรา้ งความสามารถในการแยกแยะ “ความจริง” และ “ความลวง” ของสิง่ ที่ ถกู นำเสนอ ๒. ใหผ้ ู้เรียนนำการบา้ นท่เี ตรยี มมานำเสนอ โดยการเล่าเรอ่ื งของโฆษณาโทรทศั น์ (ถ้าเป็นโฆษณา ท่ีทุกคนคุนเคยก็ไม่ต้องเล่าเร่ืองย่อ เพื่อประหยัดเวลา) หรือแสดงภาพหากเป็นภาพโฆษณาท่ี ตัดมาจากนิตยสาร/หนังสอื พมิ พ์ แลว้ ใหเ้ สนอประเด็นตามทีเ่ ตรยี มมา ๓. เมือ่ ทุกกลมุ่ นำเสนอแล้ว ผู้ดำเนนิ กจิ กรรมชวนคุย โดยใช้คำถาม ดงั น้ ี

คำถามชวนคิด • เหตใุ ดการโฆษณาจึงมกี ารนำเสนอเชน่ นั้น • สิ่งที่ปรากฏในโฆษณาสอดคล้องกับ “วัฒนธรรมไทย” หรือแบบแผนใน เรือ่ งเพศ ทีค่ นส่วนใหญ่คาดหวังให้เยาวชนปฏิบตั หิ รอื ไม่ อย่างไร • เราคิดวา่ ผชู้ มสว่ นใหญ่สามารถแยกแยะไดห้ รือไม่วา่ มีความลวงอยูเ่ พยี งใด • มีตัวอยา่ งโฆษณาใดอกี บา้ งทผ่ี ้เู รียนเห็นว่า หากไม่เท่าทันอาจสง่ ผลกระทบ ตอ่ เรา • ขอ้ คิดสำหรับผู้บรโิ ภคสือ่ ต่อโฆษณาเหล่าน้ี ควรเป็นอยา่ งไร ๔. ผดู้ ำเนนิ กิจกรรมชวนผ้เู รียนสรุปว่า เราไดอ้ ะไรจากกจิ กรรมวันนี้ และเพม่ิ เตมิ ประเดน็ ดงั น้ ี • เราอาจจะควบคุมการโฆษณาได้ยาก ที่สำคัญเราต้องสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเราว่า การ โฆษณา มีวตั ถปุ ระสงค์หลกั ในการดึงดูดความสนใจ เพ่ือจะไดน้ ำความสนใจนัน้ ไปเก่ียวพัน กับสินค้า/บริการท่ีผู้โฆษณาต้องการจะขาย เมื่อเราถูกแวดล้อมด้วยส่ือเหล่านี้ เราจึงต้อง เสพอย่างระมดั ระวังว่า ไม่มีอะไรท่เี ชือ่ ไดเ้ ช่นน้ัน ๑๐๐% เชน่ ถา้ ใชผ้ ลิตภัณฑ์นนั้ ก็จะเป็นที่ น่าปรารถนาดังเช่นโฆษณา หรือวิถีปฏิบัติในการแสดงออกเร่ืองเพศเช่นที่ปรากฏในโฆษณา ก็อาจจะไมเ่ ปน็ ทยี่ อมรบั เมือ่ นำมาใช้ในชีวิตประจำวนั เพราะตอ้ งคำนงึ ถงึ กาลเทศะ เป็นต้น • การจะเช่ือถือเพียงใด จึงต้องหม่ันตรวจสอบความคิดของตนเองว่า เราถูกจูงใจได้ง่าย คล้อยตามได้ง่าย เพราะต้องการมีภาพลักษณ์ หรือต้องการเป็นที่ปรารถนาดั่งในโฆษณาใช่ หรือไม่ และพึงตระหนักว่าสิ่งท่ีปรากฏในโฆษณา มักเป็นการเสนอข้อมูลด้านเดียว เพราะ ต้องการจูงใจให้บริโภคหรือซ้ือผลิตภัณฑ์น้ันๆ เราจึงต้องหาข้อมูล และเรียนรู้ข้อเท็จจริงใน เรอื่ งน้ันๆ จากแหล่งอื่นๆ ด้วย 132 คมู่ อื การจัด กระบวนการเรียนร้ ู เพศศกึ ษา สำหรบั นกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๖

ข้อเสนอแนะสำหรบั ผู้ดำเนินกจิ กรรม 133 ผู้ดำเนินกิจกรรมอาจเตรียมสอ่ื อื่นๆ ทเ่ี ห็นประเดน็ ชดั เจน หรือเปน็ ทก่ี ลา่ วถงึ ในช่วงน้นั ๆ เพ่ือ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๗ วัฒนธรรมไทยกับเร่อื งเพศ นำมาชปี้ ระเด็นเรอื่ งเพศที่ปรากฏให้ผูเ้ รยี นได้แลกเปลีย่ นเรียนรู้เพม่ิ เตมิ การวัดและประเมนิ ผล • สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมกลุ่ม และการอภปิ รายแลกเปลย่ี น • ดูความลุ่มลกึ และการใหเ้ หตุผลในการเห็นดว้ ย กบั ไม่เหน็ ด้วยของบทความ ที่ผู้เรยี นเลอื กมา คำถามท้ายบท • อธิบายข้อดีและข้อเสียจากการดูโฆษณา ละคร สื่อต่างๆ ในแง่มุมท่ีเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ค่านยิ ม

ทา่ นไมอ่ าจสอนอะไรใครได้ ท่านทำไดเ้ พยี งช่วยให้เขาค้นพบ จากภายใน ตวั เขาเอง กาลิเลโอ You cannot teach a man anything; you can only help him find it within h imself. Galielo Galilei

แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๘ เรื่องของ รนั รัน

แผนการเรยี นรู้ที่ ๘ เรอ่ื งของรนั รัน สาระสำคัญ เยาวชนทุกคนต้องได้รับข้อมูลที่จำเป็นอย่างรอบด้านและเข้าถึงบริการต่างๆ ท ี่ ส่งเสริมความเข้าใจเร่ืองเพศและการป้องกันการตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม โรคติดต่อ ทางเพศสัมพนั ธ์ และความรุนแรงทางเพศ เพื่อการมีสขุ ภาพทางเพศทด่ี ี จุดประสงค ์ ๑. ระบุข้อมูล บริการ และทักษะที่วัยรุ่นควรมี เพ่ือสามารถดูแลและป้องกัน ตวั เองจากผลทไี่ มพ่ ึงประสงคจ์ ากเพศสัมพนั ธ ์ ๒. ระบุอปุ สรรคสำคัญต่อสุขภาวะทางเพศของวยั รนุ่ อุปกรณ์ และสอ่ื ๑. แผน่ กิจกรรม “เรื่องของรนั รนั ” ๒. กระดาษฟลปิ ชาร์ท กระดาษกาว ปากกาเคม ี 136 คู่มอื การจดั กระบวนการเรยี นรู ้ เพศศกึ ษา สำหรับนักเรยี นชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖

ขน้ั ตอนการดำเนินกจิ กรรม 137 ๑. ช้ีแจงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมวันนี้ว่าเป็นการวิเคราะห์ปัจจัยท่ีส่งผลต่อสุขภาวะทางเพศของ แผนการเรียนร้ทู ่ี ๘ เร่อื งของรนั รนั วัยรุ่น ๒. ถามผู้เรียนว่า “สุขภาวะทางเพศ” หมายถึงอะไร ผู้ดำเนินกิจกรรมบันทึกคำตอบ และสรุป ความหมายรว่ มกนั โดยผู้ดำเนินกจิ กรรมเพม่ิ เติมใหส้ มบรู ณ์ ดังน้ี สุขภาวะทางเพศ หมายถึง ภาวะที่เป็นสุขในการดำเนินชีวิตทางเพศ ซ่ึงหมาย รวมถึงการท่ีคนๆ หนึ่งเข้าใจว่าเรื่องเพศเป็นส่วนหน่ึงของชีวิต เข้าใจพัฒนาการทาง เพศ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สังคมและจิตวิญญาณ มีสัมพันธภาพที่ดีกับคนรอบข้าง สามารถเลือกใช้ชีวิตตามการให้คุณค่าของตนเอง มีความรับผิดชอบต่อการกระทำใน สงิ่ ทต่ี นเองเลือก/ตดั สินใจ ร้จู กั วิธดี แู ลปอ้ งกันสขุ ภาพทางเพศ สามารถจดั การผลที่ไม่ พึงประสงค์ในชีวติ ตลอดจนเขา้ ถึงแหล่งบริการสุขภาพทป่ี ลอดภัยได ้ ๓. แจกเร่ือง “ชีวิตของรันรัน” ให้ทุกคน ให้เวลาอ่าน ๕ นาที ถามความเห็นของผู้เรียนว่าอ่าน เรื่องของรนั รันแล้ว “รสู้ กึ อยา่ งไรกับชีวิตของรัน” บ้าง ๔. แบ่งผู้เรยี นเป็นกลมุ่ ย่อยกลุ่มละไม่เกิน ๗ คน และให้พดู คยุ แลกเปลย่ี นกันในประเดน็ ต่อไปนี ้ • “รนั ” เป็นเยาวชนท่มี สี ุขภาวะทางเพศหรือไม่ อย่างไร เพราะอะไร • พฤติกรรมใดของรนั ทีแ่ สดงถงึ การมีสุขภาวะทางเพศของรนั • พฤตกิ รรมใดของรนั ที่เป็นพฤติกรรมเสยี่ งต่อสขุ ภาพทางเพศ • ใครทเ่ี ก่ยี วขอ้ งและมผี ลตอ่ วถิ ีชีวติ และสขุ ภาพทางเพศของรันบา้ ง อย่างไร ๕. ใหเ้ วลาอภปิ รายในกลุ่มย่อย ๑๕ นาที และส่งตวั แทนนำเสนอกลุ่มละ ๓ นาที ในการนำเสนอ หลังจากกลุ่มแรกนำเสนอแลว้ ใหก้ ล่มุ หลังใช้วธิ ีเพมิ่ เติมประเด็นทีแ่ ตกตา่ ง ๖. เมอ่ื ทกุ กลุม่ นำเสนอ ผู้ดำเนินกิจกรรมชวนคยุ โดยใชค้ ำถาม ดงั นี้

คำถา มชวนคิด • หากเปลี่ยนเรื่องได้ เรื่องท่ีไม่อยากให้เกิดขึ้นกับ “รัน” คือเร่ืองอะไร เพราะอะไร และจะตอ้ งทำอย่างไรเพือ่ ไม่ใหเ้ กดิ เรอื่ งเช่นนั้น • หากต้องการให้จัดบริการท้ังข้อมูล อุปกรณ์การป้องกัน การให้คำปรึกษา เพื่อใหว้ ยั รุ่นสนใจและเข้าถงึ ง่าย ควรจดั บริการแบบใด • หากไม่ต้องการให้เร่ืองแบบรันเกิดข้ึน หญิงและชายควรได้เรียนรู้ในเร่ือง อะไรบา้ ง ควรไดเ้ รยี นรู้เหมอื นหรอื ต่างกันอยา่ งไร • อุปสรรคสำคญั ต่อการเรยี นร้เู รอื่ งเพศท่ีรอบดา้ นของวยั รนุ่ คอื อะไร ๗. ผูด้ ำเนินกจิ กรรมชวนผู้เรียนสรปุ วา่ เราได้อะไรจากกจิ กรรมวันนี้ และเพิ่มเตมิ ประเดน็ ดังน ี้ • การขาดโอกาสในการเรียนรู้เร่ืองเพศที่ถูกต้อง ขาดโอกาสในการได้รับข้อมูลและบริการ สุขภาพทางเพศท่ีมีคุณภาพและตรงกับความต้องการ อาจทำให้วัยรุ่นต้องเผชิญกับปัญหา สุขภาพทางเพศและการตดั สนิ ใจเลือกวิถีชวี ติ ทางเพศของวัยรุ่น • อุปสรรคสำคัญของการมีสุขภาพทางเพศท่ีดีของวัยรุ่นคือทัศนคติและค่านิยมเรื่องเพศใน สังคม เช่น ความเชื่อท่ีว่า “เร่ืองเพศเป็นเร่ืองธรรมดาของผู้ชายแต่เป็นเร่ืองเสียหายสำหรับ ผู้หญิง” ส่งผลให้โอกาสการเรียนรู้เร่ืองเพศของหญิงชายต่างกัน ในขณะท่ีทัศนคตินี้ให้ เสรีภาพเรื่องเพศกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ผู้ชายจะสามารถแสวงหาข้อมูลความรู้เร่ืองเพศ ตามท่ีตนเองสนใจได้อย่างอิสระมากกว่า แต่ผู้หญิงถูกทำให้เห็นว่าการสนใจเร่ืองเพศเป็น เร่อื งน่าอาย ไมเ่ หมาะสม • หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยท่ีเก่ียวกับเรื่องสุขภาพทางเพศ วัยรุ่นควรปรึกษาหน่วยงานท่ี ทำงานด้านนีห้ รอื ปรกึ ษาผูใ้ หญท่ ่ีไว้วางใจ 138 คมู่ ือการจัด กระบวนการเรยี นรู้ เพศศึกษา สำหรับนกั เรยี นชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖

ขอ้ เสนอแนะสำหรับผูด้ ำเนนิ กิจกรรม 139 ผูด้ ำเนินกิจกรรมควรเตรียมขอ้ มลู เรอื่ งแหลง่ บริการสุขภาพและแหล่งเรยี นรเู้ รื่องเพศ แผนการเรียนร้ทู ่ี ๘ เร่อื งของรนั รนั เพอ่ื เสนอแนะใหก้ ับผู้เรยี นทส่ี นใจหาข้อมูลเพ่ิมเตมิ การวดั และประเมินผล • สงั เกตการมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลุ่ม และการอภิปรายแลกเปล่ียน คำถามทา้ ยบท • นกั เรียนสามารถมีบทบาทในการสง่ เสริมสขุ ภาวะทางเพศให้กบั เพอื่ นๆ ได้อย่างไรบา้ ง

แผน่ กจิ กรรม เรือ่ งของรนั รนั (Run Run’s Story) สดใส รา่ เรงิ ม่ันใจ ตรงไปตรงมา เปน็ ตวั ของตัวเอง ท้ังหมดน้ีคือบุคลิกอนั โดดเดน่ ที่ สังเกตได้ตงั้ แตแ่ รกเจอกับ “รนั ” แต่ชีวติ ของรนั มรี ายละเอียดมากเกนิ กว่าทีต่ ามองเห็น รัน หญิงสาววัย ๒๓ ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีความสนใจด้านดนตรีและ การแสดง เวลานร้ี นั ตง้ั เป้าหมายชีวติ ตวั เองไว้วา่ จะไปเรยี นตอ่ ดา้ นดนตรที ีป่ ระเทศญีป่ ุน่ กระแสวัฒนธรรมแนวญี่ปุ่นเป็นเร่ืองที่รันสนใจมาแต่ไหนแต่ไร รันเล่าด้วยน้ำเสียง สดใสว่า เธอเป็นคนแรกๆ ที่เอาแฟช่ันญี่ปุ่นเข้าไปในโรงเรียนสมัยมัธยมฯ ทั้งเรื่องเครื่อง แต่งกาย ดนตรี IDOL ในดวงใจ จนปัจจุบัน แฟนคนท่ีกำลังคบหากัน ก็เป็นลูกคร่ึงไทย- ญ ่ปี ่นุ แต่คงยากท่ีจะให้รสนิยมของรันตรงกับรสนิยมของแม่ แม่ของรันอาจจะไม่นิยมแนว ตะวันออกจา๋ คร้งั หนึ่งสมัยรันเดก็ กว่าน้ี แมเ่ คยถามวา่ อยากไปเรยี นภาคฤดูรอ้ นท่ีไหน รนั บอกแม่ว่าอยากไปญี่ปุ่น ซ่ึงแม่ไม่พูดอะไร จัดแจงธุระการเดินทางให้เรียบร้อย ส่งเธอขึ้น เ ครื่องบินไปปลายทางท่ี…สหรัฐอเมรกิ า แม่ของรันเป็นคนขี้บังคับมาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งรันเป็นลูกสาวคนสุดท้อง (จากพ่ีน้องส่ีคน ญ-ช-ช-ญ) รันเลยตกอยู่ในอาณัติของแม่มาแต่เด็ก แม่ของรันมักให้รันไปทำกิจกรรมต่างๆ โ ดยไม่สนใจถงึ ความสมัครใจของรนั เชน่ จบั ไปแข่งประกวดร้องเพลง ใหเ้ รียนเปียโน ผลจากการบังคับ นำไปสู่การแหกคอก รันเร่มิ ด้ือกบั แม่ และทำในสงิ่ ท่ตี รงกันขา้ มกบั ทีแ่ มต่ ้องการ เชน่ แม่ให้เรยี นเปยี โน แต่รันไปเลอื กเรยี นตกี ลองแทน ! 140 คมู่ อื การจัด กระบวนการเรยี นร ู้ เพศศึกษา สำหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖

ตอนน้ี อีกบทบาทหนงึ่ ของรนั คอื เปน็ คณุ แม่ลกู หน่งึ ลกู ของรันอายุราว ๕ ขวบ เธอ 141 ตง้ั ทอ้ งลกู คนน้ีตอนอายุ ๑๘ ปี หรือสมัยเรยี นมหาวทิ ยาลัยปีท่ี ๑ และลูกคนน้ี เป็นท้องที่สอง หลังจากเธอไปทำแท้งมาเมอ่ื สองเดือนก่อนหน้า แผนการเรียนร้ทู ่ี ๘ เร่อื งของรนั รนั “รันเป็นคนท่ีมีเพื่อนผู้ชายเยอะ จนเพื่อนส่วนใหญ่เข้าใจว่า รันน่าจะ “เสร็จ” ไปแล้ว ตงั้ แต่ ม.๒ - ม.๓ แตจ่ ริงๆ ทุกคนท่คี บกเ็ ปน็ เพอ่ื นกนั ทงั้ นน้ั ” รนั เลา่ ให้เราฟงั กวา่ เธอจะ ม แี ฟนคนแรกก็ประมาณ ม.๖ - ปี ๑ แฟนคนแรกนีเ้ อง ก็คือพ่อของลกู ท้งั ทอ้ งแรกท่ที ำแทง้ ไป และท้องทีส่ อง ซ่งึ เวลานอี้ ายุ ราว ๕ ขวบ เปน็ ดังแกว้ ตาดวงใจของรัน รันคบหากับแฟนคนน้ี รักเขามาก แม้เวลาน้ีจะเลิกลากันไปแล้วก็ยังรักอยู่ ครั้งหนึ่งท่ี รันกับแฟนมีเซ็กส์กันแล้วแฟนไม่ได้ใส่ถุงยาง ส่วนเธอเองก็หายาคุมฉุกเฉินไม่ทัน ท้องแรก จ ึงกำเนิดข้นึ สำหรับรันแล้ว การไดม้ ีลูกกบั ผชู้ ายทีเ่ ธอรกั ถือเป็นเรอื่ งดี รันย้ำวา่ “การตัง้ ทอ้ งไม่เปน็ อ ปุ สรรคตอ่ การเรยี น” แตส่ งิ่ ทเ่ี ธอเจอ กลบั เป็นอุปสรรคตอ่ การตั้งท้อง ตอนรันตั้งท้องคร้ังแรก ครอบครัวของแฟนไม่ต้องการให้รันเก็บเด็กเอาไว้ รันถูกบีบ บังคับให้ไปทำแท้ง เธอถูกใช้กำลังเข้าทำร้ายเมื่อถกเถียงเร่ืองนี้กับครอบครัวของแฟน ภ าวะทง้ั หลายกดดันใหเ้ ธอตอ้ งไปเอาเดก็ ออก ในช่วงเดียวกันของชีวิต รันกำลังจะเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ซึ่งเป็นงานท่ีเธอวางแผนให้กับ ตวั เองวา่ อยากจะทำในชว่ งหนงึ่ ของชวี ติ และในชว่ งเวลาทตี่ ง้ั ทอ้ งนน้ั เปน็ จงั หวะทเี่ หมาะสม สำหรับการเริ่มต้นงานเชียร์ลีดเดอร์ แต่หากต้องกระโดดโลดเต้น จะกระทบถึงชีวิตเล็กๆ ในครรภ ์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook