Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนเพศวิถี มัธยมศึกษาปีที่6

แผนเพศวิถี มัธยมศึกษาปีที่6

Published by arms0827784830, 2021-07-06 03:23:10

Description: แผนเพศวิถี มัธยมศึกษาปีที่6

Search

Read the Text Version

เมอื่ หนทางต่างบบี คน้ั เข้ามา เธอจึงไปทำแท้ง แฟนของรันพารันไปทำแท้งท่ีคลินิกแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรี รันเล่าว่า การทำแท้ง คร้ังนั้นเป็นความรู้สึกที่แย่มาก และในชีวิตน้ีจะไม่ขอทำแท้งอีก เธอรู้สึกไม่ดีกับสถานที ่ แ ห่งน้ัน รนั สลบไปดว้ ยฤทธิย์ า เมอ่ื เธอต่ืนมา ชวี ติ เลก็ ๆ ทีก่ ำลังจะกอ่ กำเนิดกจ็ ากไป รนั ตกอย่ใู นความเศร้าเป็นเวลานาน จวบจน ๒ เดอื นถดั มา รนั ต้งั ทอ้ งอีกครัง้ กบั แฟน คนเดิม ชีวิตใหม่ทำให้รันมีความหวังขึ้นมาบ้าง เธอตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า จะประคับ ประคองและทะนุถนอมชีวิตนี้ไว้ และวางแผนให้กับตัวเองว่า จะดร็อปเรียนไปหนึ่งปี เม่ือ ค ลอดลกู แลว้ คอ่ ยกลับมาเรยี นตอ่ แตค่ รง้ั นี้ แม่ของรันรบั ไมไ่ ด้ แมต่ อ้ งการใหร้ นั เอาเดก็ ออก เมือ่ รันปฏิเสธ แม่ให้พีช่ าย ม าตบตี ทำร้าย หวงั ให้รันไปเอาเด็กออก รนั ตอ้ งหนอี อกจากบา้ นเพอ่ื รกั ษาลกู เอาไว ้ เมื่อคลอดลกู แลว้ รนั กลับไปเรียนต่อจนจบ สว่ นแมข่ องรนั ทแี่ มแ้ รกๆ จะไมช่ อบใจกับ เร่ืองน้ี และแทบจะตัดแม่ตัดลูกไป ก็เริ่มใจอ่อนเม่ือเห็นหลานชายน่าเอ็นดู แม้ชีวิตคู่ ระหว่างรันกับแฟนมีอันตอ้ งเลิกลา แตเ่ ม่ือถามว่า ยังรักเขาไหม เธอตอบอย่างไม่ต้องคดิ ว่า เ ธอยังรัก และดใี จที่ได้มลี กู กับเขา ความเจ้าเสน่ห์ของรัน ทำให้หลังจากนั้นมีคนเข้ามาในชีวิตมากมาย แต่รันบอกว่า การมลี ูกทำให้เธอมชี วี ิตท่ี “นิง่ ” มากขึน้ การทีเ่ ธอได้เล้ียงดู ใหน้ ม คอยเอาใจใส่ ไปรับไป ส่งลูก นับเป็นช่วงเวลาท่ีดีของชีวิต เพราะลูกเป็นเหตุผลให้รันมีกำลังใจและวางแผนใน อ นาคตทีเ่ วลาทำอะไรจะคดิ ถงึ ลูกเปน็ อนั ดบั แรก เวลานี้รันคบอยู่กับหนุ่มน้อยลูกคร่ึงไทย-ญ่ีปุ่น แต่เมื่อถามถึงเร่ืองนี้ น้ำเสียงของรัน 142 คูม่ ือการจดั เศร้าลงเล็กน้อย เพราะเธอเล่าว่า ความรักระหว่างเธอกับแฟนคงเป็นไปได้ยาก เพราะ ครอบครวั ของแฟนมีอคติกบั คนไทยและตอ้ งการให้เขาแต่งงานกับคนญป่ี ่นุ เท่านนั้ กระบวนการเรียนรู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นกั เรียนชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ ๖

ขณะเดียวกนั กม็ ขี ่าวไม่สูด้ ีเกยี่ วกับร่างกายของเธอ เมื่อคณุ หมอบอกว่า รันอาจมีเวลา 143 สำหรับต้ังครรภ์ได้ในเวลาอีกเพียงไม่ก่ีปี เพราะคุณหมอตรวจพบว่า รันมีเนื้อร้ายบริเวณ ม ดลกู หรือเปน็ มะเร็งระยะเริ่มแรก แผนการเรียนร้ทู ่ี ๘ เร่อื งของรนั รนั รันบอกว่า เธออยากมีลูกกับแฟนหนุ่มคนน้ี เพราะอนาคตอาจมีลูกไม่ได้อีก อีกอย่าง คือ เธอคิดว่า แม้ความรักครั้งนี้จะไม่สมหวัง แต่การได้เป็นแม่ของลูกที่มาจากคนท่ีเธอรัก กเ็ ป็นความสขุ เหนือสงิ่ อน่ื ใด เปน็ ชีวติ ใหม่ที่จะเตบิ โตไปเคียงขา้ งเธอ

การศกึ ษา คือสงิ่ ท่เี หลืออย ู่ หลงั จากเราลมื ทกุ อยา่ ง ที่เรยี นมาจากโรงเรียน “Education is what remains after one has forgotten everything one learned in school.” Albert Einstein

แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๙ ทีเลน่ ทจี รงิ

แผนการเรียนรู้ท่ี ๙ ทเี ลน่ ทจี รงิ สาระสำคัญ การใช้ความรุนแรงทางเพศและการล่วงละเมิดทางเพศเป็นปัญหาท่ีปรากฏชัดเจน ในสังคมไทย มีหลายรูปแบบและอาจเกิดข้ึนกับทุกเพศ ทุกวัย บ่อยครั้งก็เกิดใน การดำเนนิ ชวี ิตประจำวัน คนในสงั คมก็อาจจะไม่เท่าทนั รวมท้ังหลายกรณกี ม็ ิได้ บัญญัติไวใ้ นกฎหมาย ดังนน้ั การรเู้ ท่าทนั การใช้ความรนุ แรง รู้จกั แหลง่ ช่วยเหลือ หากเผชิญปัญหา และการมีส่วนร่วมในการยุติความรุนแรงทุกรูปแบบเป็นสิ่งท่ี เยาวชนสามารถทำได ้ จดุ ประสงค ์ ๑. บอกบอกได้ว่าพฤติกรรมแบบใดเป็นการใช้ความรุนแรง/การล่วงละเมิดทาง เพศ ๒. บอกแนวทางการจัดการหากต้องเผชิญปัญหาความรุนแรง/การล่วงละเมิด ทางเพศ ๓. บอกส่ิงที่ตัวเองทำได้ เพื่อไม่เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ความรุนแรง/การล่วง 146 ละเมดิ ทางเพศกบั คนอื่น กระคบมู่วนือกกาารรเจ รดั ยี นร ู้ เพศศกึ ษา สำหรับนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖

อปุ กรณ์ และสอื่ 147 ๑. แผน่ กจิ กรรม ตัดเปน็ ข้อๆ จำนวน ๔ - ๖ ชดุ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๙ ทเี ล่น ทจี รงิ ๒. กระดาษฟลปิ ชาร์ท กระดาษกาว ปากกาเคม ี ขั้นตอนการดำเนนิ กิจกรรม ๑. ผู้ดำเนินกิจกรรมช้ีแจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ว่า กิจกรรมนี้เป็นการเรียนรู้เรื่องพฤติกรรมการ ล่วงละเมดิ ทางเพศ และพฤติกรรมแบบใดท่ถี ือเป็นการใชค้ วามรุนแรงทางเพศ ๒. แบง่ กลุ่มผเู้ รียนเปน็ กล่มุ ๆ ละ ๖-๘ คน แจกขอ้ ความท่เี ตรียมไว้ ให้กบั ทกุ กลมุ่ และให้ในกล่มุ ไดพ้ ดู คุยแลกเปล่ียนกนั ตามประเดน็ ดงั น้ี • การกระทำที่ได้ในแต่ละข้อถือเป็นการใช้ความรุนแรง หรือการล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ อย่างไร และให้ใสเ่ ครอ่ื งหมายท่คี ดิ วา่ อยใู่ นข้อดังกล่าวลงในชอ่ งตาราง ลำดบั ขอ้ ความรุนแรง ลว่ งละเมดิ ไม่แนใ่ จ ไมใ่ ช่ทงั้ ๒ กรณ ี ทางเพศ ทางเพศ • เกณฑ์ที่กลุ่มใช้ในการพิจารณาว่าล่วงละเมิดทางเพศหรือเป็นความรุนแรงทางเพศหรือไม่ คอื อะไร • ในกรณีที่กลุ่มคิดว่าไม่แน่ใจ/หรือไม่ใช่ทั้งความรุนแรงทางเพศ/ล่วงละเมิดทางเพศ พิจารณาจากอะไร ๓. ให้เวลาแลกเปลี่ยนในกลุ่มย่อย ๑๕ นาที จากน้ัน ผู้ดำเนินกิจกรรมถามให้ตัวแทนแต่ละกลุ่ม นำเสนอ

๔. ให้กลุ่มอาสาสมัครนำเสนอ หลังจากนั้นให้กลุ่มอื่นๆ พิจารณาว่า กลุ่มตนเองมีความเห็นท ่ี แตกตา่ งหรอื ไม่ และนำเสนอเพิ่มเตมิ ผดู้ ำเนนิ กิจกรรมชวนคยุ โดยใชค้ ำถาม ดังนี ้ คำถามชวนคิด • คิดว่าเป็นเพราะเหตุใด จึงเกิดการใช้ความรุนแรงทางเพศ/หรือล่วงละเมิด ทางเพศ • คิดว่าคนท่ถี กู ลว่ งละเมดิ ทางเพศหรือใชค้ วามรนุ แรงทางเพศ รสู้ กึ อยา่ งไร • หลงั จากพดู คยุ ในกลมุ่ ยอ่ ยแลว้ ความเขา้ ใจในเรอื่ งการใชค้ วามรนุ แรงทางเพศ หรอื ล่วงละเมดิ ทางเพศแตกตา่ งไปจากเดิมท่เี คยเขา้ ใจหรอื ไม่ อย่างไร • ใครเคยมีประสบการณ์พบเห็นเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงทางเพศ หรือ การลว่ งละเมิดทางเพศบ้าง ให้ยกตวั อยา่ ง • ให้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ท่ีผู้เรียนเคยประสบ แต่ไม่แน่ใจว่าการกระทำ ดงั กลา่ วถือเป็นการล่วงละเมิดทางเพศหรือเป็นการใช้ความรุนแรงทางเพศ หรือไม่ ไม่ว่าจะในฐานะผู้ถูกกระทำหรือผู้กระทำ โดยต้ังใจหรือไม่ก็ตาม และใหก้ ลุ่มช่วยกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ • หากเกดิ เหตุการณ์ทถ่ี กู ลว่ งละเมิด ผูท้ ถี่ กู กระทำควรทำอย่างไร ๕. ผู้ดำเนินกจิ กรรมชวนผู้เรยี นสรุปวา่ เราไดอ้ ะไรจากกจิ กรรมวนั นี้ และเพิ่มเตมิ ประเด็น ดังน ้ี • การละเมดิ คือ การไมย่ นิ ยอมจากอกี ฝา่ ย • การละเมิด/การใช้ความรุนแรงทางเพศ เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน และหลายครั้งสังคมก็ มักจะมองเป็นเร่ืองปกติหรือธรรมดา แต่บุคคลที่ถูกกระทำมีความรู้สึกไม่ยินยอม และไม่ กลา้ ทำอะไร 148 • สถานการณ์การถูกล่วงละเมิดทางเพศ/ความรุนแรงทางเพศบ่อยครั้งเกิดข้ึนต่อภาวะทาง จิตใจมากกวา่ ทางกายซ่งึ เปน็ การกระทำทเี่ ห็นไดช้ ัดเจนและมกั จะมกี ฎหมายรองรบั คู่มอื การจัด กระบวนการเรยี นรู้ เพศศกึ ษา สำหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖

• ในหลายกรณีการใช้ความรุนแรงทางเพศ/ล่วงละเมิดทางเพศก็ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง เช่น 149 การทำร้ายจิตใจด้วยวาจา หรือการฉวยโอกาสใช้อำนาจ ตำแหน่งหน้าท่ี หรือความใกล้ชิด บบี บงั คบั ฯลฯ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๙ ทเี ล่น ทจี รงิ ข้อเสนอแนะสำหรบั ผู้ดำเนนิ กิจกรรม ผู้เรียนอาจจะนำเสนอประสบการณ์ที่คิดว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ/ใช้ความรุนแรงทางเพศ ซึ่ง คนอ่ืนๆ อาจจะมองเป็นเร่ืองธรรมดา/ปกติ เช่น ถูกเพ่ือนเรียกว่า “น้องจอแบน” (หน้าอกเล็ก) ฯลฯ แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือ ผู้ถูกล้อเลียนไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีและไม่ยินยอมให้ถูกเรียกอย่างน้ัน (แม้จะเป็นการหยอกล้อระหว่างเพือ่ นก็ตาม) ผู้ดำเนนิ กิจกรรมจำเป็นตอ้ งสรา้ งความเข้าใจในเร่อื งนี้ ให้กับผูเ้ รียนด้วยเชน่ กนั การวดั และประเมนิ ผล • สังเกตการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมกลมุ่ และการอภปิ รายแลกเปลย่ี น คำถามทา้ ยบท • เมอ่ื พบเหน็ เหตุการณ์การลว่ งละเมดิ ทางเพศ จะทำอยา่ งไร

ขอ้ มูลเพม่ิ เติมสำหรับผดู้ ำเนนิ กิจกรรม ความรุนแรงทางเพศ ครอบคลุมถึงผลของการกระทำท่ีเกิดจากความสัมพันธ์เชิง อำนาจ รวมทั้งการคุกคามหรือการข่มขู่ด้วย การใช้อำนาจยังหมายรวมถึงการละเว้นไม่ ปฏิบตั หิ รอื การปล่อยปละละเลย ไมป่ ฏบิ ัติ ยังผลทำให้เกดิ ความรุนแรงอยา่ งเหน็ ได้ชดั จาก การกระทำน้ัน ดังนั้น การใช้อำนาจ หรือการใช้กำลังทางกาย จึงควรหมายรวมถึงการ ละเว้นไม่กระทำหรือการกระทำทุกประเภทท่ีก่อให้เกิดผลเสีย ทั้งต่อร่างกาย จิตใจ และ เพศของผ้อู ่ืน อาจแบ่งความรุนแรงทางเพศ ไดด้ งั น ้ี ๑. ความรุนแรงต่อร่างกาย จิตใจ และเพศที่เกิดข้ึนในครอบครัว ซ่ึงหมายรวมถึงการ ทุบตีภรรยา (Battering) ความรุนแรงทางเพศต่อเด็กหญิงในบ้าน ความรุนแรงต่อ เด็กและคนชราในบ้าน ความรุนแรงท่ีเกิดจากสินสอดของฝ่ายหญิง (Dowry - related violence) การขม่ ขนื โดยคสู่ มรส (Marital rape) การขลบิ อวยั วะเพศหญงิ (Female genital multilation) และการปฏิบัติตามประเพณีอื่นๆ ที่เป็นอันตราย ต่อผหู้ ญงิ ความรุนแรงที่เกดิ จากคนอื่นท่ไี มใ่ ชค่ ูส่ มรส (Non - spousal violence) และความรุนแรงจากการหาประโยชนบ์ นรา่ งกายผ้หู ญงิ โดยการอนาจาร (Violence related to exploitation) ๒. ความรุนแรงทางร่างกาย ทางเพศ และทางจิตใจท่ีเกิดข้ึนในชุมชนท่ัวไปหรือที่ สาธารณะ รวมท้ังการข่มขืนกระทำชำเรา การถูกลวนลามล่วงละเมิดทางเพศหรือ ทำอนาจาร (Sexual harassment) ในที่ทำงาน ในสถานศกึ ษาและทีอ่ ่ืนๆ การค้า ผู้หญิงข้ามถิ่นหรือข้ามชาติ (Trafficking) และการบังคับค้าประเวณี (Forced 150 prostitution) คู่มือการจัด กระบวนการเรียนร ู้ เพศศกึ ษา สำหรับนกั เรียนชั้น มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖

๓. ความรุนแรงทางร่างกาย ทางเพศ และทางจิตใจ ท่ีเกิดจากการกระทำของรัฐ ไม่ 151 ว่าจะเกิดข้ึนท่ีใดก็ตามหรือเกิดจากการปล่อยปละละเลยของรัฐในการแก้ปัญหา อย่างจริงจัง การกระทำรุนแรงต่อผู้หญิงยังหมายรวมถึงการทำหมันหรือบังคับให้ แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๙ ทเี ล่น ทจี รงิ ทำแท้ง การขืนบังคับหรือใช้กำลังให้ใช้วิธีการป้องกันการต้ังครรภ์โดยที่ผู้หญิงไม่ เต็มใจ หรอื การเลอื กเพศทารกโดยการฆ่าทารกเพศหญงิ เปน็ ต้น ที่มา: รายงานวิจัย “การพัฒนาระบบฐานข้อมูลและสังเคราะห์งานวิจัยด้านความรุนแรงในสังคม ไทย” (The Development of Violence Research Database and the Synthesis of Research on Violence Issues in Thai Society) โดย ผศ.ดร.นนั ทพันธ์ ชินลำ้ ประเสรฐิ , Ph.D., R.N. คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โครงการนี้ได้รับทุนอุดหนุนจากสถาบันวิจัย

แผ่นกิจกรรม ให้แต่ละคนพิจารณาว่าการกระทำต่อไปน้ี ถือเป็นการใช้ความรุนแรง หรือการล่วง ล ะเมดิ ทางเพศหรือไม่ เพราะเหตุใด และหากเกิดเหตกุ ารณ์เชน่ น้ี ควรทำอยา่ งไร ๑. การ forward mail หรอื clipping ภาพบคุ คล ๒. ผู้บริหารชายพูดกบั พนกั งานหญงิ ว่า “คณุ ทำงานได้ถกู ใจผมมาก ถ้าคณุ ยอมมีอะไรกบั ผม ผมจะเตรียมเลือ่ นตำแหนง่ ให้คุณ” ๓. ชายหนมุ่ พูดกับแฟนสาวว่า “วันนี้คณุ แต่งตวั เซก็ ซี่มากเลย จนผมแทบจะอดใจไมไ่ หว” ๔. อาจารย์สอนปริญญาโท พูดทีเล่นทีจริงกับกลุ่มนักศึกษาว่า “ผมไม่เข้าใจว่าพวกคุณท่ี เปน็ ผู้หญิงจะมาเรยี นโทกนั ทำไม นา่ จะใช้เวลาอยู่บา้ นดแู ลลกู ดแู ลสามีมากกว่านะ” ๕. เมือ่ เลขานกุ ารสาวเดินผา่ นโตะ๊ ผจู้ ัดการชายทักทายดว้ ยการจับกน้ ๖. ครูหนุ่มชวนผู้เรียนชายคนหน่ึงไปที่บ้านตอนกลางคืนโดยบอกว่าจะติวหนังสือเตรียม สอบเขา้ มหาวทิ ยาลยั ให้ เมอ่ื ผู้เรยี นคนนนั้ ไปถงึ บา้ น ครูพาเข้าไปที่หอ้ งทำงาน ซง่ึ เปิด ไฟสลวั ๆ และมีดนตรเี ปิดเบาๆ และชวนให้ผ้เู รียนด่มื เคร่ืองดื่มดว้ ยกันก่อน ๗. เป็นที่ร่ำลือกันในกลุ่มนักศึกษาชายว่า อรทัยเป็นสาวฟรีเซ็กส์ ชอบนอนกับผู้ชายและ ไม่ได้ปิดบังเร่ืองนี้กับเพื่อนๆ ในงานเล้ียงวันเกิดพลที่บ้าน พลชวนอรทัยไปด้วย ระหว่างท่ีทุกคนกำลังสนุกกับการดื่มและการเต้นรำ อรทัยซึ่งด่ืมแอลกอฮอล์และเร่ิม เมามาก จึงเดินไปห้องน้ำ พลเห็นดังนั้น จึงเดินตามไปรอ และชวนอรทัยขึ้นไปท ี่ หอ้ งนอนบอกวา่ จะพาไปนอนพกั พลถอื โอกาสมเี พศสมั พนั ธก์ บั อรทยั ขณะทอ่ี รทยั หลับๆ ตน่ื ๆ และไปบอกเพอ่ื นๆ ผ้ชู ายอีก ๓-๔ คนให้ไปมีเพศสัมพนั ธด์ ว้ ย ๘. โตและนิด แต่งงานกันมา ๒ ปี ท้ังสองคนช่วยกันทำงานเพ่ือหาเงินเตรียมไว้สำหรับ การมีลูก เวลาที่โตกลับบ้านดึกๆ และนิดหลับไปแล้ว โตมักปลุกนิดให้มีเพศสัมพันธ์ 152 ด้วย หลายคร้ังที่นิดบอกโตว่าเหนื่อยมาก และไม่มีอารมณ์ แต่โตไม่สนใจและยังคงมี เพศสัมพันธ์กบั นิดทุกครั้ง คู่มือการจัด กระบวนการเรยี นรู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๖

๙. ชาติ อายุ ๑๗ ยงั ไมเ่ คยมีเพศสมั พนั ธก์ ับใครเลย และเพือ่ นๆ มกั ลอ้ เลียนชาติในเรอ่ื ง 153 นี้ บางคร้ังก็พูดว่าชาติคงเป็นกะเทย ไม่ใช่ผู้ชาย คืนหนึ่ง เพื่อนๆ ชวนชาติไปเที่ยว เธค และแนะนำให้ชาติรู้จักหญิงสาวคนหนึ่ง และคะยั้นคะยอให้ชาติพาสาวคนน้ันไป แผนการเรยี นร้ทู ี่ ๙ ทเี ล่น ทจี รงิ มีอะไรด้วยที่บ้านเพ่ือนคนหนึ่ง ชาติไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนั้น แต่เพื่อนๆ พยายาม หวา่ นลอ้ มและยวั่ ยวุ า่ ถา้ ไมม่ กี ไ็ มแ่ นจ่ รงิ สดุ ทา้ ยชาตไิ มอ่ าจปฏเิ สธได้ และมเี พศสมั พนั ธ์ กบั สาวคนนัน้ ๑๐. หลังจากคบกันได้ ๖ เดือน อ้ัมรู้สึกว่าก้องไม่ค่อยมีเวลาให้เหมือนก่อน เม่ือถามก็มัก แสดงอาการโมโห อั้มจึงเร่ิมคิดเรื่องขอเลิก แต่ก้องมักพูดเสมอๆ ว่า ถ้าอ้ัมจะเลิกกับ เขา และไปมแี ฟนใหม่ เขาจะนำคลปิ ทีถ่ า่ ยภาพส่วนตวั ของอ้มั กับเขา ไปลงเวบ็ และส่ง ต่อใหเ้ พอื่ นๆ ๑๑. พนกั งานสอบสวนชายแสดงความเหน็ ตอ่ กรณขี ม่ ขนื รายลา่ สดุ วา่ หากฝา่ ยหญงิ ไมแ่ ตง่ ตวั โป๊ขนาดน้ัน กค็ งไมเ่ กดิ กรณีแบบน้ ี ๑๒. บอยเล่าเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับเพ่ือนร่วมโรงเรียนให้แบ๊งค์ ซ่ึงเป็น เพอ่ื นรักกันมากฟัง โดยจะกำชบั แบง๊ คว์ ่าอยา่ ไปเลา่ ให้ใครฟังอีก ๑๓. นักข่าวแอบถ่ายภาพโคโยต้ีที่มาเต้นตามที่ต่างๆ และนำไปผลิตเป็นสกู๊ปทางรายการ โทรทัศน์ ๑๔. ต้นมีเพศสรีระเป็นชายแต่จิตใจอยากเป็นผู้หญิง ต้นมักจะถูกเพ่ือนผู้ชายแกล้งรุมกอด หอมหรอื ไซซ้ อกคอเป็นประจำ บางครงั้ กแ็ อบปีนห้องน้ำดเู มอื่ ตน้ จะเขา้ ห้องนำ้ ๑๕. น้ำตาลโมโหท่ีชวนหนุ่มมีอะไรกันแล้วถูกหนุ่มปฏิเสธ แม้จะพยายามท้าทายหนุ่มแล้ว ว่าเป็นผู้ชายจริงหรือเปล่า เม่ือหนุ่มยืนยันที่จะไม่มีอะไร น้ำตาลจึงเอาเรื่องน้ีไปเล่าให้ เพอ่ื นๆ ฟงั และบอกวา่ หนุ่มเป็นเกย ์ ๑๖. มีการนำเสนอข่าวเด็ก/ผู้หญิงท่ีถูกละเมิดทางเพศทางสื่อ โดยใช้การคลุมหน้าหรือปิด คาดหนา้ ไว ้

ประสบการณค์ อื โรงเรยี นท่ีสำคญั ของชวี ติ แต่ตอ้ งจา่ ยค ่าเรยี นท่แี พง “Experience is a good school, but the fees are high.” Heinrich Heine

แผนการเรียนรูท้ ่ี ๑๐ โอกาส เป็นของทุกคน

แผนการเรียนรูท้ ี่ ๑๐ โอกาสเปน็ ของทุกคน สาระสำคญั การแบ่งแยกกีดกันผู้ติดเช้ือเอชไอวี สะท้อนถึงพฤติกรรมท่ีใช้อคติส่วนบุคคลท่ี อาจเกิดจากความไม่รู้ และไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ท่ีมีสิทธิเสมอกัน ผลกระทบที่เกิดข้ึน คือ ผู้ติดเชื้อได้รับการปฏิบัติท่ีไม่เท่าเทียม ซ่ึงส่งผลกระทบ ต่อสุขภาพร่างกาย จิตใจและสังคมของผู้ติดเช้ือ สังคมก็ขาดโอกาสที่จะพัฒนา และใชศ้ ักยภาพของบุคคล จุดประสงค ์ ๑. บอกสาเหตุของการรังเกียจกดี กนั ผูต้ ดิ เช้ือเอชไอวี ๒. ระบแุ นวทางการสร้างความเขา้ ใจเรอื่ งการอยูร่ ว่ มกบั ผู้ตดิ เชอื้ เอชไอว ี อปุ กรณ์ และส่ือ ๑. กระดาษฟลิปชารท์ กระดาษกาว ปากกาเคม ี ๒. โจทย์สำหรบั กจิ กรรม (ผู้ดำเนินกจิ กรรมเขยี นไวบ้ นฟลปิ ชาร์ทล่วงหนา้ ) 156 ค่มู อื การจัด กระบวนการเรยี นรู้ เพศศึกษา สำหรับนกั เรยี นช้ัน มธั ยมศึกษาปีท่ี ๖

ขน้ั ตอนการดำเนนิ กจิ กรรม 157 ๑. ชแ้ี จงวัตถุประสงคก์ ารเรียนรวู้ ่า กจิ กรรมวันน้เี ปน็ การรว่ มกันวเิ คราะห์ถึงสาเหตุของการรังเกยี จ แผนการเรียนรู้ท่ี ๑๐ โอกาสเป็นของทุกคน และเลือกปฏิบัติต่อผู้ท่ีมีชีวิตอยู่ร่วมกับเช้ือเอชไอวี และหาแนวทางในการสร้างความเข้าใจเพ่ือ ส่งเสรมิ การอย่รู ่วมกนั ๒. ถามผู้เรียนว่า คิดว่าผู้ติดเช้ือเอชไอวีได้รับการปฏิบัติจากคนรอบข้างอย่างไรบ้าง และได้รับ โอกาสในเร่ืองต่างๆ เช่น การรักษาพยาบาล การศึกษา การทำงาน ท่ีเหมือนหรือต่างจาก คนอ่นื ๆ ในสังคมอย่างไร ๓. ผู้ดำเนินกิจกรรมติดกระดาษฟลิปชาร์ทท่ีเขียนโจทย์ “จะให้ยาต้านไวรัสกับใคร?” เป็นข้อมูล บุคคล ๖ คนไวบ้ นกระดาน และอธิบายดังนี ้ • มีบุคคลอยู่ ๖ คนที่อยู่ในเกณฑ์ท่ีจะได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ แต่เนื่องจากมีโควต้าท่ีจะให้ได้ เพียง ๒ คน ผู้เรยี นในฐานะกรรมการจะให้ใคร และไม่ใหใ้ ครเพราะอะไร • อ่านรายละเอยี ดของบุคคลทง้ั ๖ คน • ให้เวลาแตล่ ะคนคิด ๓ นาที ๔. จากนั้น แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อยกลุ่มละไม่เกิน ๗ คน ให้สมาชิกกลุ่มแต่ละคนบอกว่าตนเอง เลอื กจะใหใ้ คร/ไมใ่ หใ้ ครเพราะอะไร จากนนั้ ใหก้ ลมุ่ ชว่ ยกนั ตดั สนิ ใจ วา่ กลมุ่ จะใหใ้ ครเพยี ง ๒ คน พร้อมเหตุผล ใหเ้ วลากลุ่มยอ่ ย ๑๐ นาที ๕. ใหแ้ ต่ละกลุ่มนำเสนอ จนครบทุกกลมุ่ ๖. ผดู้ ำเนินกิจกรรมถามว่า • การตกลงกันในกลมุ่ เพอ่ื เลอื ก ๒ คน งา่ ยหรอื ยาก อยา่ งไร • เกณฑ์ทีแ่ ต่ละกลมุ่ ใชใ้ นการพิจารณาว่าจะใหย้ าใคร มอี ะไรบ้าง • แมจ้ ะตกลงกนั ในกลมุ่ แล้ว มใี ครท่รี ู้สึกว่าตนเองยังไม่เห็นดว้ ยกบั มตขิ องกลมุ่ เพราะเหตใุ ด ๗. ถามผู้เรียนทุกคนว่า หากมีคนที่ ๗ เพิ่มเข้ามา ซึ่งเป็นพี่ชายหรือพี่สาวของผู้เรียน ใครจะ เปล่ียนให้ ๑ ใน ๒ คนที่จะได้รับยาให้เป็นพี่สาว/พ่ีชายของตนเองบ้าง ถามเหตุผลท้ังคนท่ี เปล่ยี นและคนท่ไี มเ่ ปลยี่ น ๘. จากนน้ั ผดู้ ำเนินกิจกรรมใชค้ ำถามชวนคดิ เพือ่ ใหเ้ กิดการแลกเปลี่ยน ดงั น้ ี

คำถามชวนคดิ • การเลอื กวา่ จะใหย้ าใครในกจิ กรรมนี้ สะทอ้ นทศั นะทม่ี ตี อ่ ผตู้ ดิ เชอื้ อยา่ งไรบา้ ง • ผู้เรียนคดิ วา่ สาเหตกุ ารรงั เกียจหรือการเลอื กปฏิบัตติ ่อผูต้ ดิ เชอ้ื คืออะไร • ทัศนคติในทางลบที่มีต่อผู้ติดเช้ือเอชไอวี สามารถปรับเปล่ียนได้หรือไม่ อย่างไร • ผู้เรียนรู้สึกอย่างไร หากญาติพี่น้องของผู้เรียนที่ติดเช้ือ ถูกปฏิเสธการ รักษาจากโรงพยาบาล และจะทำอยา่ งไร • มขี ้อเสนอในการสร้างการยอมรบั การอยูร่ ว่ มกันกับผ้ตู ดิ เชอ้ื เอชไอวอี ย่างไร ๙. ผูด้ ำเนินกิจกรรมชวนผู้เรียนสรุปวา่ เราได้อะไรจากกจิ กรรมวันน้ี และเพม่ิ เติมประเด็น ดงั นี ้ • ทัศนะในทางลบต่อผู้ติดเชื้อ ที่ผูกโยงกับสาเหตุการติดเชื้อ หรืออาชีพ หรือพฤติกรรม ส่วนบคุ คล เปน็ สาเหตสุ ำคัญทีท่ ำให้เกดิ การรังเกยี จและเลือกปฏิบตั ิตอ่ ผูต้ ดิ เชื้อ • ทุกชีวิตมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์โดยเท่าเทียมกัน และมีคุณค่าอย่างน้อยกับคนท่ีรักเขา และเขารัก เราไมส่ ามารถตดั สนิ คุณคา่ ความเปน็ มนษุ ยข์ องใครได ้ ข้อเสนอแนะสำหรบั ผู้ดำเนนิ กิจกรรม • หากมีเรื่องจริงท่ีเคยเกิดขึ้นในชุมชนท่ีเกี่ยวข้องกับการอยู่ร่วมกันกับผู้ติดเชื้อ ผู้ดำเนินกิจกรรม อาจเลือกใชก้ รณเี หล่าน้ันมาพดู คยุ แลกเปลีย่ นกับผู้เรียน • หากผู้ดำเนินกิจกรรมรู้จักหน่วยงานท่ีทำงานด้านเอดส์ หรือกลุ่มผู้ติดเช้ือเอชไอวีท่ีมีกิจกรรม สร้างความเข้าใจเรื่องเอดส์ อาจประสานให้เป็นวิทยากรร่วมพูดคุยแลกเปล่ียนกับผู้เรียน ทั้งน้ี ผู้ดำเนินกิจกรรมควรเตรียมประเด็นล่วงหน้า โดยยึดวัตถุประสงค์ในการสร้างความเข้าใจและ 158 ยอมรับการอยู่ร่วมกันเป็นหลัก คู่มือการจดั กระบวนการเรียนร ู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖

การวดั และประเมนิ ผล 159 สงั เกตการมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมกลมุ่ และการอภปิ รายแลกเปล่ียน แผนการเรียนรู้ท่ี ๑๐ โอกาสเป็นของทุกคน คำถามทา้ ยบท • โรงเรียนท่ีเด็กติดเช้ือสามารถเรียนร่วมกับเด็กทั่วไปได้ ต้องเป็นอย่างไร หรือควรมีลักษณะ อยา่ งไร

แผ่นกจิ กรรม จะให้ยาต้านไวรสั กับใคร ? “น้องโอ๋” เดก็ หญงิ อายุ ๙ เดอื น เกิดจากแม่ทตี่ ิดเชอ้ื เอชไอว ี “อร” หญิงสาวอายุ ๒๕ ปี ทำงานอยู่ท่ีห้างสรรพสินค้าแห่งหน่ึง ติดเชื้อเอชไอวีจาก การมเี พศสัมพันธ์ อรอย่ดู ว้ ยกนั กับลูกอีก ๒ คน หลังจากทีส่ ามีฆา่ ตวั ตาย อรดแู ลสุขภาพ อ ยา่ งดี และไปตรวจร่างกายเป็นประจำ “บอล” หนุ่มใหญ่วัย ๓๕ จบปริญญาตรี ขณะน้ีเป็นพนักงานบริษัทแห่งหน่ึง ติดเช้ือ เอชไอวีจากการรับเลือดเม่ือประสบอุบัติเหตุ ๓ ปีก่อน ขณะน้ีสุขภาพแย่มาก บอลอยู่กับ ภ รรยาและลูกเล็กๆ อกี ๓ คน “จูน” นักศึกษามหาวิทยาลัยปี ๒ เคยใช้ยาเสพติดสมัยเรียนมัธยม พบว่าติดเชื้อ เอชไอวีคาดว่าจากการใช้เขม็ รว่ มกบั เพื่อนๆ “แอน” สาวน้อยอายุ ๑๘ เรียนมหาวิทยาลัยปี ๑ ขายบริการทางเพศเป็นครั้งคราว รายได้ท่ีได้นอกจากใช้สำหรับการเรียน ยังส่งกลับให้พ่อแม่และน้องท่ีบ้าน แอนรู้ตัวว่า ต นเองติดเชอ้ื เอชไอวแี ล้ว “ดำ” ครูวัยกลางคนอายุย่าง ๔๕ ปี จบปริญญาตรี สอนหนังสืออยู่ท่ีโรงเรียนมัธยม แห่งหนึ่ง เป็นที่รู้กันว่า เป็นรักเพศเดียวกัน ดำรู้ว่าตัวเองติดเชื้อเอชไอวีมา ๓-๔ ปีแล้ว สุขภาพยังดีเพราะดูแลตนเองสม่ำเสมอ ดำมีแม่อายุ ๘๐ ปี อาศัยอยู่ด้วยกัน ดำเป็น ลูกคนเดยี ว 160 คู่มอื การจัด กระบวนการเรยี นร้ ู เพศศึกษา สำหรับนกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๖

แผนการเรียนรู้ท่ี ๑๑ มหาวิทยาลัย ชีวติ

แผนการเรยี นรทู้ ่ี ๑๑ มหาวิทยาลัยชวี ติ สาระสำคญั การเรียนรู้จากกลุ่มคนในสังคมท่ีมีความเป็นมา ความคิด ความเชื่อ ที่แตกต่าง หลากหลาย ตามประสบการณ์ชีวิตและบริบททางสังคมวัฒนธรรมจะช่วยให ้ เปิดใจกว้าง และตระหนักถึงสิทธิในการดำรงชีวิต และการได้รับการปฏิบัติอย่าง มศี ักด์ิศรี และมีคุณคา่ โดยเทา่ เทียมกนั จดุ ประสงค ์ ๑. นำเสนอมุมมองความแตกต่างหลากหลายของวิถีชีวิตท่ีตนเองศึกษาโดยไม่ ตัดสนิ ถูกผิด ๒. ระบุการเลือกปฏิบัติ และอคติท่ีมีกับกลุ่มคนที่ตนศึกษาต้องเผชิญ หรือถูก ปฏบิ ัตอิ ย่างไมเ่ ปน็ ธรรม ๓. ยกตวั อยา่ งอคติของตนเองทมี่ ีตอ่ คนอืน่ ทแี่ ตกต่าง อุปกรณ์ และสือ่ 162 ๑. รายงานบนั ทกึ การสัมภาษณ ์ กระคบมู่วนือกกาารรเจ รดั ีย นร ู้ ๒. ตวั อย่างบทสมั ภาษณท์ นี่ ่าสนใจจากนติ ยสาร เพศศึกษา สำหรบั นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖

เวลา ๒ คาบเรยี น 163 คาบท่ี ๑ คุยเพื่อหากรอบคนท่ีเราจะไปสัมภาษณ์ อาชีพท่ีถูกยกย่อง/ไม่ถูกยกย่อง และคุณค่า แผนการเรียนรู้ท่ี ๑๑ มหาวทิ ยาลยั ชวี ติ ของชีวติ /อาชพี สจุ ริต การบ้าน ศึกษา โดยการสัมภาษณ์ (ความรู้สกึ ตอ่ อาชพี , งานที่เขาทำส่งผลกับครอบครวั ของเขา หรือสงั คมอยา่ งไร มีความฝันอะไรบ้าง) คาบท่ี ๒ นำเสนอ/แลกเปล่ียน คาบที่ ๑ ขัน้ ตอนการดำเนนิ กจิ กรรม ๑. ช้ีแจงวตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้ตามที่ระบขุ า้ งตน้ ๒. ให้ผู้เรียนจับคู่ (หรือเป็นกลุ่มๆ ละไม่เกิน ๕ คน) และให้เลือกว่าจะค้นหา ศึกษา และ สัมภาษณบ์ คุ คลในกล่มุ ตา่ งๆ ดังนี้ • คนที่อยู่ในอาชีพที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสำคัญ เช่น ภารโรง คนกวาดขยะ สัปเหร่อ คนขายของริมถนน คนเก็บขยะ แมค่ า้ ยาม คนขี่สามลอ้ กรรมกรก่อสร้าง ฯลฯ • คนท่ีเราเห็นว่ามีความคิด วัฒนธรรม หรือความเช่ือ และการปฏิบัติที่แตกต่างไปจากคน ส่วนใหญ่ โดยท่ีการปฏิบัติน้ันไม่ได้ก่อผลร้ายต่อส่วนรวม แต่กลับต้องเผชิญกับอคติ และ การปฏิบัติต่ออย่างไม่เป็นธรรม คนกลุ่มน้ีอาจได้แก่ คนท่ีใช้ยาเสพติด, คนท่ีขายหรือซื้อ บริการทางเพศ, คนท่ีติดเช้ือเอชไอวี หรือมีสมาชิกในครอบครัวท่ีติดเชื้อ หรือได้รับผล กระทบ, คนท่ีรักเพศเดียวกัน, คนที่เปลี่ยนคู่นอนเสมอ หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่คิดจะ ผูกพันในระยะยาว, คนท่ีเคยทำผิดพลาดแต่ได้กลับตัวแล้ว เช่น คนท่ีเคยผ่านการติดคุก หรอื เคยอยใู่ นสถานพนิ จิ , คนทเ่ี ปน็ คนกลมุ่ นอ้ ย และไดร้ บั โอกาสไมเ่ ทา่ เทยี ม เชน่ คนพกิ าร คนท่ีเป็นแรงงานต่างด้าว คนชนเผ่าต่างๆ ฯลฯ

๓. ให้แต่ละคู่ปรึกษาเพ่ือตกลงว่าสนใจที่จะสัมภาษณ์ใคร และมีแผนจะไปสัมภาษณ์อย่างไร ผู้ดำเนินกิจกรรมอาจเปิดโอกาสให้ลองอ่านบทสัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารต่างๆ ท่ี นำมาเป็นตวั อยา่ ง ๔. ในการสมั ภาษณ์ ตอ้ งขออนญุ าต และไดร้ บั คำยนิ ยอมจากผใู้ หส้ มั ภาษณ์ และในการนำเรอื่ งราว มาเผยแพรต่ อ้ งไม่ระบขุ ้อมูลท่ีจะทำให้บอกได้ว่าเจ้าของเร่ืองเปน็ ใคร ๕. ประเดน็ สมั ภาษณต์ ้องเก่ียวข้อง และตอบโจทยท์ ก่ี ำหนดไวใ้ นวัตถุประสงค์ของบทเรยี น นนั่ คอื • คนเหล่านี้รู้สึกอย่างไรกับอาชีพของตนเอง หรือรู้สึกอย่างไรกับการที่มีความเชื่อ หรือ ธรรมเนียมปฏิบตั ิ หรือวิถชี วี ิตทต่ี า่ งไปจากคนสว่ นใหญ่คิดหรือปฏิบตั ิอยทู่ ั่วไป • คิดหรือรสู้ ึกอย่างไรกบั ส่ิงที่คนอื่นปฏบิ ตั ิต่อเขา • ประสบการณ์ทเี่ ผชิญกับการถูกเลอื กปฏิบตั ิ เพราะความแตกต่าง คืออยา่ งไร (ระบุให้ชดั วา่ คือ การถกู พดู ถงึ หรอื ปฏบิ ัติ หรือกีดกนั อยา่ งไร) • คิดอย่างไรต่อการถูกเลือกปฏิบัติ และหากเปล่ียนแปลงได้เขาต้องการให้สังคม หรือ คนส่วนใหญ่ปฏิบตั ิอยา่ งไร ๖. ช้ีแจงว่า แต่ละคู่มีเวลา ๑ อาทิตย์ในการไปหากรณีศึกษาเพ่ือทำการสัมภาษณ์ และต้อง เรยี บเรยี งเปน็ รายงาน รวมทงั้ เตรยี มนำเสนอในชนั้ เรยี นไมเ่ กนิ ๕ นาทตี อ่ กรณศี กึ ษาในชวั่ โมงหนา้ และเปดิ โอกาสใหเ้ พื่อนซกั ถามข้อมูลเพม่ิ เตมิ อีกไม่เกิน ๓-๕ นาทีตอ่ คู่ 164 คูม่ ือการจดั กระบวนการเรยี นรู้ เพศศึกษา สำหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖

ค าบที่ ๒ 165 ขน้ั ตอนการดำเนนิ กิจกรรม แผนการเรียนรู้ท่ี ๑๑ มหาวทิ ยาลยั ชวี ติ ๑. ถามผเู้ รยี นถงึ การไปสมั ภาษณ์ โดยขออาสาสมคั ร ๓-๔ คนบอกความรสู้ กึ และการเรยี นรทู้ ไ่ี ดร้ บั ๒. ให้ทุกคสู่ ่งรายงาน ๓. จากน้ัน ขอใหท้ กุ คู่นำเสนอ โดยเรม่ิ จากคนทีพ่ ร้อม ย้ำวา่ มเี วลา ๕ นาทใี นการเลา่ ถึงบคุ คลที่คู่ ของตนไปสมั ภาษณ์ เปดิ ใหซ้ กั ถาม ๓-๕ นาทตี อ่ ๑ กรณี ๔. เมอ่ื ทุกกลมุ่ นำเสนอแลว้ ผู้ดำเนนิ กิจกรรมชวนคุย โดยใชค้ ำถาม ดังนี้ คำถามชวนคิด • หลังจากฟังเรื่องอคติ หรือการถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จากกรณี ศึกษาตา่ งๆ ท่เี พื่อนได้นำเสนอ ผเู้ รียนเห็นว่า เรื่องราวเหลา่ นี้เกดิ ข้ึนบอ่ ย ครง้ั เพยี งไรในชวี ติ จรงิ • เราแต่ละคน มักจะอยู่ในสถานการณ์ หรือมีส่วนร่วมในการมีอคติต่อคนที่ แตกตา่ งจากเราในสงั คมหรอื ไม่ เพราะอะไร • ผู้เรียนคิดว่า เราจะทำอย่างไรจึงจะทำให้คนในสังคมปฏิบัติต่อกันอย่าง เท่าเทียม แม้จะมคี วามคดิ พฤตกิ รรม และธรรมเนยี มปฏิบัตทิ ีต่ า่ งกนั ๕. ผ้ดู ำเนนิ กิจกรรมชวนผเู้ รียนสรุปวา่ เราได้อะไรจากกจิ กรรมวันน้ี และเพ่ิมเติมประเด็น ดงั น้ี • คนเรามักไม่สะดวกใจกับความแตกต่าง หลากหลาย และมักต้องการให้คนประพฤติ เหมือนๆ กัน ทั้งที่จริงแล้ว การอยู่ร่วมกันโดยอดทนต่อความแตกต่างของวิถีชีวิตอันเป็น ความหลากหลายตามธรรมชาติ โดยสามารถรักษาสมดุลท่ีทำให้สมาชิกในสังคมต่างรู้สึกว่า ได้รับโอกาส และการปฏิบัติท่ีเท่าเทียมและเป็นธรรม จะนำไปสู่การสร้างสังคมท่ีมีสันติ ร่มเยน็ และปรองดอง

• การทำให้แตล่ ะคนตระหนักรถู้ ึงอคตขิ องตนท่มี ตี ่อผ้อู นื่ ทมี่ วี ถิ ีชีวิตต่างกบั ตน และการปฏบิ ตั ิ ต่อผู้อ่ืนอย่างมีอคติ (โดยเราอาจไม่รู้ตัว) จากการได้ฟังเร่ืองราว เสียงสะท้อนจากคนที่ถูก ปฏิบัติอย่างมีอคติ อาจทำให้เราได้ทบทวนตนเอง พยายามลดอคติ เริ่มยอมรับและอดทน ตอ่ ความแตกต่างได้ดขี ึน้ ข้อเสนอแนะสำหรับผ้ดู ำเนนิ กจิ กรรม เวลาท่ีมีการเสนอกรณีศึกษาท่ีไปสัมภาษณ์มา ผู้ดำเนินกิจกรรมควรช่วยถามให้เจาะจงถึง ประเด็นของอคติและการเลือกปฏิบัติที่เกิดข้ึน เพื่อสะท้อนให้ผู้เรียนมองเห็นการกระทำบางอย่างซ่ึง อาจเป็นไปโดยเจตนาหรือไม่เจตนา แต่ได้ก่อให้เกิดความรู้สึกของผู้ถูกกระทำว่า เป็นการเลือก ปฏิบัติโดยมีอคติ ย่ิงสามารถถามให้เกิดความกระจ่างว่า การกระทำอย่างไรหรือคำพูดอย่างไรที่ก่อ ให้เกิดความรู้สึกดังกล่าว ผู้เรียนในช้ันก็จะได้ประโยชน์ และข้อคิดในการทบทวน และปรับปรุง วธิ ีคดิ คำพูด หรือการกระทำของตนเองในอนาคต การวัดและประเมนิ ผล • สงั เกตการมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมกลมุ่ และการอภปิ รายแลกเปลย่ี น • ความลมุ่ ลกึ และตรงประเด็นกบั วตั ถปุ ระสงค์ของกรณีศกึ ษาท่ีนำมาเสนอ • นำเสนอโดยไมต่ ดั สนิ ถูกผิด แตแ่ สดงให้เห็นว่ามคี วามแตกต่างหลากหลายดำรงอยู่ในสงั คม • เสยี งสะท้อนของผู้เรียน ที่เข้าใจถงึ ประเด็นของการเลือกปฏิบัติ หรอื มีอคตติ ่อผู้อ่ืนว่ากอ่ ให้เกิด ความไมป่ รองดอง สมานฉันท์ในสงั คมอยา่ งไร คำถามท้ายบท • ระบุสาเหตุหลักที่ทำให้คนในสังคมมีการเลือกปฏิบัติ แสดงความรังเกียจ ต่อบุคคลที่ประกอบ อาชีพ มีสถานภาพ หรอื แตกตา่ งจากตนเอง 166 คมู่ อื การจัด กระบวนการเรยี นร ู้ เพศศึกษา สำหรับนักเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖

แผนการเรียนรู้ท่ี ๑๒ พลงั คน หนมุ่ สาว

แผนการเรยี นรู้ท่ี ๑๒ พลงั คนหนุม่ สาว สาระสำคัญ เยาวชนมีศักยภาพในการร่วมคิด ร่วมวางแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาเรื่อง เพศทเี่ ก่ียวข้องกับวิถชี วี ิตของเยาวชน จุดประสงค ์ ๑. อธิบายเหตุผลและความสำคัญของประเด็นท่ีเลือกในการทำโครงงานรณรงค ์ กบั เพอ่ื นเยาวชนในโรงเรียน ๒. ระบุวัตถปุ ระสงค์ เนื้อหาสำคัญ และวธิ กี ารในการรณรงค ์ ๓. บอกผลท่คี าดหวังจากแผนงานรณรงค์ ๔. บอกปัจจัยความสำเร็จ และอปุ สรรคของการรณรงค์ใหเ้ ข้าถึงกลมุ่ เป้าหมาย อปุ กรณ์ และส่ือ ๑. ตวั อย่างโปสเตอรก์ ารรณรงค์ในประเดน็ เยาวชน ๒. กระดาษฟลิปชาร์ท กระดาษกาว ปากกาเคมี 168 ๓. เอกสารอ่านประกอบ “การทดสอบส่อื ” กระคบ่มูวนือกกาารรเจ รัดีย นรู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรียนชั้น มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖

เวลา ๒ คาบเรียน 169 แผนการเรียนร้ทู ่ี ๑๒ พลงั คนหน่มุ สาว คาบที่ ๑ ข้ันตอนการดำเนนิ กิจกรรม ๑. ชแี้ จงวตั ถปุ ระสงค์การเรยี นร้วู ่า กิจกรรม ๒ คาบเรียนนีจ้ ะเป็นการออกแบบการรณรงคส์ ง่ เสรมิ ความเข้าใจและตระหนกั ในเรอ่ื งเพศที่เก่ยี วข้องกับวถิ ชี วี ติ วัยรนุ่ ๒. ใหผ้ เู้ รยี นแบง่ กลุ่มยอ่ ยเพ่อื ทำงานรว่ มกนั กลุ่มละ ๕-๗ คน ๓. อธบิ ายว่า แตล่ ะกลุ่มจะสวมบทบาทเปน็ ทีมครีเอทีฟ (creative) ของบรษิ ทั โฆษณา ที่เขา้ มารบั งานออกแบบโครงการรณรงค์เพ่ือส่งเสริมการส่ือสารเร่ืองเพศและ/หรือเรื่องเอดส์ในโรงเรียน ทั้งน้ี แตล่ ะกลมุ่ จะตอ้ งส่งผลงานเข้าประกวด ดังนี้ • แบบฟอรม์ การนำเสนอโครงการและกรอบแนวคิด • โปสเตอรห์ ลัก ทีจ่ ะใชใ้ นการรณรงค์ ๔. ผดู้ ำเนนิ กจิ กรรมแจกแบบฟอรม์ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ และนำตวั อยา่ งแบบฟอรม์ ทเี่ ขยี นไวบ้ นฟลปิ ชารท์ ติดไวบ้ นกระดาน และอธิบายเพมิ่ เติมหากผู้เรยี นมคี ำถามในแต่ละประเด็น ๕. ผ้ดู ำเนนิ กิจกรรมอธบิ ายข้ันตอนการทำงานหลกั ๆ ดงั น้ี • สมาชิกกลุ่มปรึกษากัน ว่าจะเลือกนำเสนอประเด็นใด โดยอาจมีการสำรวจปัญหาหรือ ความคิดเหน็ จากเพ่อื นๆ ในโรงเรียนประกอบการตดั สนิ ใจ • วางแผนออกแบบโปสเตอร์ สโลแกนที่จะใช้ องค์ประกอบในโปสเตอร์ เนื้อหา/สารท่ี ต้องการสอื่ ฯลฯ • อธิบายเร่ืองขั้นตอนการทดสอบสื่อ (ดูเอกสารประกอบ) ว่า หลังจากท่ีกลุ่มมีแนวคิด และ โครงร่างของโปสเตอร์แล้ว ควรจะนำร่างโปสเตอร์ที่ออกแบบไปสุ่มถามความคิดเห็นจาก กล่มุ เป้าหมาย เพอ่ื นำมาปรบั ปรุงก่อนการผลติ จรงิ • กิจกรรมการรณรงค์อ่ืนๆ นอกจากโปสเตอร์ (หากม)ี

๖. ชี้แจงว่าแต่ละกลุ่มมีเวลาในการเตรียมทำงาน ๑ อาทิตย์ และให้นำเสนอผลงานในช่ัวโมงหน้า โดยให้ตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอโปสเตอร์ที่ออกแบบไว้ พร้อมอธิบายแนวคิดเบ้ืองหลังของ แผนงาน กลุ่มละ ๕ นาที จากนนั้ จะนำโปสเตอรข์ องทกุ กลุ่มไปจัดนิทรรรศการเพ่อื ให้เพ่อื นๆ และคุณครูในโรงเรียนชม ๗. ใหเ้ วลากลุม่ ในการพดู คยุ และเตรียมงาน ค าบที่ ๒ ข้นั ตอนการดำเนนิ กจิ กรรม ๑. ให้ผู้เรียนสะท้อนถึงกระบวนการทำงานที่ผ่านมา มีสิ่งใดที่คิดว่าเป็นความท้าทาย ส่ิงใดท่ีได้ เรยี นรู้ และสงิ่ ท่ีรู้สกึ ประทับใจ ใช้เวลาไม่เกนิ ๑๐ นาท ี ๒. จากนนั้ ให้แตล่ ะกล่มุ นำเสนอผลงาน และตดิ โปสเตอร์ไว้หนา้ กระดานหรือในพ้นื ท่ที ่เี ตรียมไว ้ ๓. เมื่อทกุ กลุม่ นำเสนอแล้ว ถามความคดิ เหน็ ของทุกคนในห้องว่า หากเราเปน็ กรรมการทีค่ ำนงึ ถึง วัตถปุ ระสงคโ์ ครงการทตี่ อ้ งการให้เยาวชนตืน่ ตัว สนใจ และตระหนกั ในเรอ่ื งเพศและเอดส์ เรา จะให้คะแนนกับโปสเตอร์ชิ้นใด ให้แต่ละคนลงคะแนนสำหรับโปสเตอร์ท่ีตนเองชอบและส่ง คะแนน ๔. ผู้ดำเนินกิจกรรมขออาสาสมคั ร ๓-๔ คนบอกว่าลงคะแนนใหโ้ ปสเตอร์ชนิ้ ใด เพราะเหตใุ ด ๕. ผูด้ ำเนนิ กจิ กรรมชวนคยุ โดยใชค้ ำถาม ดังน ี้ 170 คู่มอื การจดั กระบวนการเรียนร ู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖

คำถามชวนคิด 171 • จากการไปพูดคุยสอบถามความเห็นหรือในกระบวนการทดสอบส่ือ ผู้เรียน แผนการเรียนร้ทู ่ี ๑๒ พลงั คนหน่มุ สาว เห็นวา่ เพอ่ื นๆ เยาวชนส่วนใหญม่ คี วามเข้าใจ หรอื สนใจเรื่องเพศมากนอ้ ย เพียงใด ให้ยกตัวอย่างประกอบ • ประเดน็ สำคัญในเรือ่ งเพศท่ีคดิ วา่ ควรรณรงค์กบั วัยรุ่น คอื อะไร • หากต้องทำส่ือรณรงค์ให้วัยรุ่นสนใจ ต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง และม ี ข้อเสนออย่างไร ๖. ผู้ดำเนินกจิ กรรมชวนผเู้ รียนสรุปว่า เราได้อะไรจากกจิ กรรมออกแบบการรณรงค ์ ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ดำเนินกิจกรรม • หากผู้ดำเนินกิจกรรมสามารถจัดการเรียนแผนน้ีให้สอดคล้องกับช่วงเทศกาล จะทำให้ผลงาน ของผู้เรียนได้รับการนำเสนอและนำไปใช้จริงในการรณรงค์ เช่น วันวาเลนไทน์ วันเอดส์โลก วนั เด็ก หรือเป็นส่วนหนงึ่ ของกจิ กรรมอ่ืนๆ ในโรงเรียน • ผ้ดู ำเนินกจิ กรรมอาจเสนอใหผ้ ู้เรยี นมาปรกึ ษาระหว่างการทำงานได้ในช่วง ๑ สปั ดาห์ การวัดและประเมินผล • สงั เกตการมีสว่ นร่วมในกิจกรรมกลมุ่ และการอภปิ รายแลกเปล่ยี น • ดรู ายละเอยี ดกระบวนการทำงานของกลุม่ • ดคู วามลมุ่ ลึก ความสอดคล้องกับวัตถปุ ระสงคข์ องเน้ือหาทนี่ ำเสนอ

แบบฟอร์มการเสนอโครงการ โครงการรณรงคส์ ่งเสรมิ ความเข้าใจและตระหนักในเร่อื งเพศสำหรับวยั ร่นุ ๑. ช่ือโครงการ ๒. ประเดน็ ปัญหา ๓. เหตุผลทเ่ี ลอื กเร่ืองนี้ ๔. กลมุ่ เป้าหมาย ๕. วัตถุประสงค ์ ๖. เน้ือหาสำคัญ ๗. กจิ กรรมรณรงคอ์ น่ื ๆ (หากมี) ๘. ผลที่คาดหวัง รายชอ่ื สมาชกิ ในกลมุ่ 172 คูม่ อื การจัด กระบวนการเรียนร ู้ เพศศกึ ษา สำหรับนกั เรียนชั้น มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕

เอกสารประกอบ การทดสอบส่ือ 173 ผศ.รจุ น์ โกมลบุตร แผนการเรียนร้ทู ่ี ๑๒ พลงั คนหน่มุ สาว คณะวารสารศาสตร์และสอ่ื สารมวลชน มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร ์ การทดสอบส่ือ เป็นขน้ั ตอนหนึ่งของกระบวนการผลิตส่ือ ๑. ความหมายและจดุ ประสงค์ของการทดสอบสือ่ การทดสอบสื่อเป็นการทดสอบแนวคิด เน้ือหาของส่ือกับผู้ร่วมงาน และตัวแทนกลุ่ม เปา้ หมายกอ่ นที่จะนำสือ่ ไปผลติ จริง การทดสอบสอ่ื มีจุดประสงคด์ งั ตอ่ ไปน ้ี • เพอื่ ใหเ้ กดิ ความม่นั ใจว่าผรู้ บั สารเขา้ ใจเนื้อหาของสือ่ ตามเปา้ หมาย • เพ่ือสะท้อนให้เห็นปัญหาของสื่อล่วงหน้าก่อนท่ีจะนำไปผลิต การปรับปรุงสื่อให้ดี ข้นึ จะทำให้สือ่ ทีผ่ ลิตจริงมคี วามคุ้มค่า ชว่ ยประหยดั เวลาและค่าใช้จา่ ยในการผลติ ๒. วิธีทดสอบสอ่ื วิธีทดสอบสื่อสามารถทำได้ในหลายมิติและหลายระดับ ทั้งนี้โดยการนำสื่อต้นแบบท่ี ใกล้เคยี งกับส่อื ทีผ่ ลติ จรงิ ทสี่ ดุ ไปให้บุคคลทเ่ี ก่ียวขอ้ งช่วยตรวจสอบ สื่อต้นแบบเหล่านั้นได้แก่ บทละคร ข่าว บทความ ร่างช้ินงานโฆษณา บทวิทยุ ฯลฯ ส่อื ต้นแบบเหลา่ นี้ สามารถนำไปทดสอบจากบคุ คลเหลา่ น้ี • การให้ผู้ร่วมงานในหน่วยงานได้ดู คำแนะนำจากผู้ร่วมงานอาจช่วยให้ผู้ส่งสารเห็น ปัญหาหลักๆ ของสือ่ • การให้ผู้เช่ียวชาญช่วยดู ในบางประเด็นที่มีความซับซ้อน เช่น เร่ืองยาต้านไวรัส ฯลฯ ผู้ส่งสารอาจนำสื่อต้นแบบไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในด้านน้ันๆ เพ่ือให้ข้อมูลมี ความถูกตอ้ งแมน่ ยำ

• การใหต้ ัวแทนกลุ่มเปา้ หมายช่วยดู ท้งั น้ีอาจใช้การสมั ภาษณ์ การสนทนากลุม่ หลัง จากทต่ี วั แทนกลุ่มเปา้ หมายไดท้ ดลองใชส้ อ่ื ต้นแบบนน้ั แลว้ สำหรับประเดน็ ทจี่ ะทดสอบสือ่ กบั ตัวแทนกลุ่มเป้าหมาย มีดังนี้ • ความเข้าใจ เพ่ือดูว่าผู้รับสารเข้าใจ สามารถเข้าใจจุดประสงค์ของส่ือ และจดจำ เน้อื หาหลกั ไดห้ รอื ไม่ เน้ือหาหลกั เป็นสงิ่ ท่ีปฏบิ ตั ไิ ดจ้ ริงในบริบทของผรู้ บั สาร ภาษา ท่ีใชส้ อดคล้องกบั ผู้รับสารหรือไม่ ขอ้ เสนอแนะเพอ่ื ปรบั ปรุงให้ดขี ้นึ คอื อะไร • ความยอมรับ เพื่อดูว่าผู้รับสารยอมรับหรือไม่ยอมรับสิ่งใดในส่ือ เช่น มีข้อความท่ี ตัดสินหรอื เหมารวมผ้หู น่ึงผใู้ ด (ทส่ี ำคญั คอื ตดั สินกล่มุ เปา้ หมาย) หรอื มีสงิ่ ใดที่อาจ ไม่สอดคลอ้ งกบั ค่านยิ มหรือการยอมรับของสมาชกิ ในชุมชน • ความเช่ือมโยง เพ่ือดูว่าผู้รับสารมองเห็นตัวเองในสื่อ หรืออีกนัยหน่ึงคือผู้รับสาร สามารถรูว้ า่ สอื่ น้อี อกแบบมาเพอ่ื ผรู้ ับสารกลมุ่ ใด หากไม่ชัดเจนวา่ กลมุ่ เป้าหมายคือ ใคร มีอะไรตอ้ งปรับปรุงบา้ ง • ความน่าสนใจ เพ่ือดูว่าผู้รับสารชอบส่ือน้ีหรือไม่ เพราะอะไร มีสิ่งใดสมควร ปรับปรงุ ใหน้ ่าสนใจมากขน้ึ • ความดึงดูดใจ เพื่อดูว่าส่ือสามารถดึงดูดใจให้ผู้รับสารคล้อยตามจุดประสงค์ของ ส่ือหรือไม่ มสี ิง่ ใดสมควรปรับปรงุ ใหด้ ขี ้นึ หลังจากได้รับฟังความคิดเห็นของตัวแทนกลุ่มเป้าหมายในจำนวนท่ีคิดว่าเพียงพอแล้ว ให้ผู้ผลิตสื่อนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาวิเคราะห์ เพื่อหาข้อสรุปในการปรับปรุงส่ือให้ดีข้ึน ต่อไป 174 คูม่ ือการจดั กระบวนการเรียนร ู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖

แผนการเรียนร้ทู ่ี ๑๓ ธรรมนูญ เรอื่ งเพศ

แผนการเรยี นรู้ที่ ๑๓ ธรรมนูญเรือ่ งเพศ สาระสำคญั เร่ืองเพศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทัศนคติ ข้อมูลและวิถีชีวิต การที่คนๆ หน่ึงจะมี สุขภาวะทางเพศได้ เก่ียวข้องกับการได้โอกาสเรียนรู้ รับข้อมูลท่ีรอบด้าน มีทาง เลือกในชีวิตทางเพศท่ีดีที่สุด ได้รับการเคารพคุ้มครองสิทธิทางเพศ มีแหล่ง บรกิ ารทเ่ี ออ้ื ต่อการมีสุขภาพทางเพศท่ดี ี ซ่ึงสิง่ เหล่านี้เปน็ ความจำเป็นพื้นฐานของ มนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะเพศใดหรือมีรสนิยมทางเพศแบบใด และเป็นสิ่งที่พลัง เยาวชนสามารถรว่ มสร้างสรรคใ์ ห้เกดิ ขน้ึ เพือ่ ประโยขน์ต่อคนในสงั คม จดุ ประสงค ์ ๑. บอกประโยชนข์ องการเคารพและยอมรับในเร่ืองสทิ ธทิ างเพศ ๒. บอกกติกา/ข้อตกลง/เงอื่ นไขสำคญั ทีจ่ ะส่งผลให้คนมีสุขภาวะทางเพศ ๓. บอกส่ิงท่ีระดับบุคคลทำได้ เพ่ือเป็นการส่งเสริมให้เกิดสุขภาวะทางเพศทั้ง ของตนเองและคนรอบข้าง 176 คมู่ ือการจัด กระบวนการเรียนร ู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นักเรยี นช้ัน มธั ยมศึกษาปที ่ี ๖

อุปกรณ์ และสือ่ 177 ๑. กระดาษฟลิปชารท์ กระดาษกาว ปากกาเคม ี แผนการเรียนรู้ท่ี ๑๓ ธรรมนญู เร่อื งเพศ ๒. กระดาษเขียนช่ือกิจกรรมเพศศึกษาตั้งแต่ช่ัวโมงแรกจนถึงชั่วโมงสุดท้ายท ่ ี ผูเ้ รยี นไดเ้ รียน ข้ันตอนการดำเนนิ กจิ กรรม ๑. ผู้ดำเนินกิจกรรมช้ีแจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ว่ากิจกรรมนี้เป็นการประมวลการเรียนรู้เร่ืองเพศ ต้ังแต่คาบแรกจนจบคาบสุดท้ายและสรุปได้ว่า ผู้ท่ีจะมีสุขภาวะทางเพศท่ีดีต้องมีองค์ประกอบ ใดบ้าง ๒. ทบทวนกิจกรรมต้ังแต่ชั่วโมงแรกจนถึงช่ัวโมงล่าสุด โดยใช้เวลาไม่เกิน ๑๐ นาทีเพ่ือให้ผู้เรียน ไดท้ บทวนสิ่งที่ได้เรยี นรู้ ๓. ผู้ดำเนินกจิ กรรมถามผเู้ รียนว่า รูจ้ กั รัฐธรรมนูญหรือธรรมนูญหรอื ไม่ และรัฐธรรมนญู /ธรรมนูญ มีไวเ้ พ่อื อะไร ๔. ผู้ดำเนินกิจกรรมสรุปให้เห็นว่า รัฐธรรมนูญ/ธรรมนูญ โดยหลักการเป็นข้อตกลงท่ีสำคัญท่ีสุด เพอื่ คุม้ ครอง/สง่ เสริมคนในสังคมให้ดำเนินชีวิตได้อยา่ งปกตแิ ละมีความสุข ๕. แบ่งกลุ่มผู้เรียนกลุ่มละประมาณ ๖-๘ คน และแจกกระดาษฟลิปชาร์ท โดยให้ผู้เรียนช่วยร่าง “ธรรมนญู เรอ่ื งเพศ”วา่ • ประเด็นสำคญั ทีส่ ุดในเรอื่ งเพศ ๕ เรื่องท่ีควรมอี ยใู่ นธรรมนญู • ประเด็นท่ีสำคัญ ๕ เร่ืองนั้นควรมีเน้ือหาอะไรบ้างที่บรรจุอยู่ ให้ระบุมาพร้อมเหตุผลว่า ทำไมตอ้ งมเี นือ้ หาอยา่ งนั้น ไมจ่ ำเป็นตอ้ งเนน้ ใหเ้ ปน็ ภาษากฎหมาย ๖. ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอจนครบทุกกลุ่ม โดยผู้ดำเนินกิจกรรมจดประเด็น ๕ เรื่อง ท่แี ต่ละกลมุ่ เสนอวา่ มปี ระเด็นอะไรบา้ งและประเดน็ ใดทถี่ กู นำเสนอมากทส่ี ดุ ๗. ผู้ดำเนินกจิ กรรมชวนคุยในประเด็นต่อไปนี้

คำถามชวนคิด • ประเด็น/เน้อื หาที่แต่ละกลุม่ เสนอใหอ้ ยใู่ นธรรมนูญเร่ืองเพศน้ัน เรอื่ งใดถูก นำเสนอมากท่ีสุด เพราะอะไร • ธรรมนูญเร่ืองเพศที่นำเสนอ มีประเด็น/เน้ือหาใดบ้างท่ีจะส่งผลให้คนใน สังคมมีสุขภาพทางเพศที่ดี และประเด็น/เนื้อหาใดบ้างท่ีจะส่งผลในด้าน ลบตอ่ คนบางคนหรือบางกลุ่มในสังคม • เยาวชนจะได้ประโยชน์อะไรหรือไม่จากธรรมนูญเรื่องเพศของเรา ถ้ายัง ไมม่ ี ควรเพมิ่ เร่อื งอะไรอกี ที่มผี ลต่อสขุ ภาวะทางเพศของเยาวชน • คิดว่าประเด็นหรือเนื้อหาท่ีนำเสนอเร่ืองใดอาจถูกต่อต้านจากคนในสังคม บ้าง คิดว่าการต่อต้านเป็นเพราะเหตุใด และในฐานะผู้ร่างธรรมนูญ จะ วางแผนรองรบั อยา่ งไร ๘. ผดู้ ำเนินกิจกรรมชวนผเู้ รยี นสรปุ วา่ เราไดอ้ ะไรจากกจิ กรรมวนั นี้ และเพ่ิมเติมประเดน็ ดังน้ ี • เร่อื งเพศเป็นเรอื่ งทอ่ี ยใู่ นวิถชี ีวิตของทกุ คน • ทศั นคติในเรอื่ งเพศ เป็นเรอ่ื งสำคัญที่จะสง่ ผลให้คนมสี ขุ ภาวะหรือไม่ • ในสถานการณ์ท่ีเป็นจริง การคุ้มครองหรือการส่งเสริมให้บุคคลมีสุขภาพทางเพศท่ีดียังอาจ จะมีข้อจำกัดเน่ืองจากทัศนคติเร่ืองเพศท่ีไม่เอื้ออำนวยการเรียนรู้หรือปิดกั้นการเข้าถึง บริการสุขภาพทางเพศ กลายเป็นกรอบกดดันการใช้ชีวิตในหลายด้าน เลือกปฏิบัติหรือ ลว่ งละเมิดสิทธิพน้ื ฐานตอ่ กนั เชน่ ความเปน็ หญิง-เปน็ ชาย คนรักเพศเดยี วกนั ฯลฯ • แต่ในระดับบุคคลก็ยังมีทางเลือกอีกหลายอย่างที่สามารถจัดการและส่งเสริมให้ตนเองมี สุขภาพทางเพศท่ีดีได้ โดยไม่ต้องรอเง่ือนไขให้สังคมหรือกฎหมายมารองรับ ซ่ึงการเห็น 178 คุณค่า ภูมิใจ และรักตนเองเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญท่ีจะทำให้ค้นหาและตัดสินใจเลือกวิถีทาง เพศท่ีทำใหต้ นเองปลอดภัยและมคี วามสุข คมู่ ือการจดั กระบวนการเรยี นรู ้ เพศศึกษา สำหรบั นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖

ขอ้ เสนอแนะสำหรบั ผดู้ ำเนนิ กิจกรรม 179 กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ต้องการสรุปความคิดรวบยอดของผู้เรียนหลังจากเรียนเพศศึกษามา แผนการเรียนรู้ท่ี ๑๓ ธรรมนญู เร่อื งเพศ ตลอดท้ังปีว่า ผู้เรียนประมวลและสรปุ ออกมาเป็นธรรมนญู อย่างไร ดังนั้นการทบทวนกิจกรรมต้ังแต่ แรกจนถึงกิจกรรมสุดท้ายจะเอ้ือให้ผู้เรียนได้ทบทวนเน้ือหาที่ได้เรียนรู้มาท้ังหมดได้ ผู้ดำเนิน กจิ กรรมอาจจะต้องเตรียมมาทุกกจิ กรรม ไมว่ า่ จะเป็นผู้สอนเองหรือไมใ่ นบางกิจกรรม การวดั และประเมนิ ผล • สังเกตการมีส่วนร่วมในกจิ กรรมกลุม่ และการอภปิ รายแลกเปล่ยี น • การใชเ้ หตผุ ลและการคิดถึงสิทธิของผู้อื่นของตัวผเู้ รียน คำถามทา้ ยบท • ธรรมนูญเรอ่ื งเพศท่ดี ีควรอยู่บนพ้นื ฐานอะไรบ้าง

ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรบั ผูด้ ำเนนิ กิจกรรม จากเอกสาร “แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ ๑” เผยแพร่โดยมูลนิธิสร้างความ เขา้ ใจเร่ืองสุขภาพผหู้ ญิง (สคส.) ไดร้ ะบุสถานการณส์ ุขภาพทางเพศในประเทศไทย ดงั นี้ • คนไทยวัยแรงงานเสียชีวติ เพราะเอดส์มากย่ิงกวา่ สาเหตอุ น่ื • วยั รุ่นไทยเปน็ กลมุ่ ทีต่ ิดเชื้อเอชไอวีสูงกว่ากลมุ่ อายอุ ่ืน • จำนวนแม่วยั รนุ่ เพิ่มข้นึ ทกุ ป ี • คดีทางเพศเพ่ิมสูงขึน้ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง โดยมีผกู้ ระทำผดิ ท่อี ายนุ อ้ ยลง • ความรนุ แรงในชวี ติ ค่เู ป็นปัญหาทพี่ บบอ่ ยถึงร้อยละ ๔๔ ของคนมคี ู่ • รัฐต้องใช้งบประมาณปีละไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ ล้านบาทต่อปีเพ่ือรักษาผู้ป่วยจากการ ทำแทง้ ท่ผี ดิ กฎหมาย • การเรยี นรเู้ รือ่ งเพศผดิ ๆ ผ่านสือ่ โป๊ มผี ลใหเ้ กดิ พฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัย สถานการณ์ข้างต้นได้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการมองปัญหาสุขภาวะทางเพศ ให้รอบด้านยงิ่ ขน้ึ อาทิ เมอื่ กลา่ วถงึ “เพศสัมพันธท์ ่ไี ม่ปลอดภัย” ก็ครอบคลุมทง้ั ในแง่ทไี่ ม่ ปลอดภัยจากเช้ือโรค จากท้องท่ีไม่พร้อม และที่ไม่ปลอดภัยจากความรุนแรง ซึ่งส่งผล กระทบท้ังในด้านสขุ ภาพกายและใจ 180 ๑ เนอื้ หาบางสว่ นจากเอกสาร “แผนงานสร้างเสรมิ สขุ ภาวะทางเพศ” โดย มูลนธิ สิ รา้ งความ เข้าใจเร่ืองสุขภาพผู้หญิง (สคส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คมู่ อื การจัด (สสส.), ๒๕๕๐. กระบวนการเรยี นรู้ เพศศกึ ษา สำหรบั นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๖

181 ปจั จยั ทน่ี ำไปสปู่ ัญหาทางเพศมหี ลากหลายมิตเิ ช่นกัน ได้แก ่ แผนการเรียนรู้ท่ี ๑๓ ธรรมนญู เร่อื งเพศ ๑. ด้านบุคคล ที่มีทัศนคติเชิงลบต่อเร่ืองเพศและการเรียนรู้เร่ืองเพศจึงไม่เกิดการ เรียนร้สู ่สู ุขภาวะทางเพศ มีค่านยิ มความเช่อื บางประการทนี่ ำไปสคู่ วามไมป่ ลอดภยั มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศ ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลสุขภาพทาง เพศและเคร่ืองมือ/อุปกรณ์ เช่น ถุงยางอนามัย (หญิง/ชาย) เข้าไม่ถึงบริการ สุขภาพทางเพศเพราะความยากจนหรือความอายที่จะรับการตรวจหรือซักถามเร่ือง เพศ ฯลฯ ๒. ด้านสังคมวัฒนธรรม บรรทัดฐานทางสังคมบางส่วนท่ีมองเรื่องเพศในทางลบ จึง ปิดกั้นการเรียนรู้ทถ่ี กู ต้อง ค่านิยมสองมาตรฐาน (double standard) ในเร่ืองเพศ ท่ีทำให้ผู้ชายและผู้หญิงต่างเผชิญความเส่ียงทางเพศ ผู้หญิงเสี่ยงเพราะความไม่รู้ ขณะท่ีผู้ชายเสี่ยงเพราะความรู้ที่ไม่ถูกต้อง ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างเพศท่ีต้ัง อยู่บนพื้นฐานของการควบคุมนำไปสู่ปัญหาความรุนแรงทางเพศ ตลอดจนการไม่ ตระหนักและเคารพสิทธิทางเพศและสิทธิมนุษยชนของบุคคล เช่น คนที่รักเพศ เดยี วกนั คนท่รี กั สองเพศ เป็นตน้ ๓. ด้านโครงสร้างทางสังคม ขาดนโยบายสาธารณะทใี่ ส่ใจสขุ ภาพทางเพศ ขาดระบบ บริการสุขภาพทางเพศท่ีมีความละเอียดอ่อนต่อผู้รับบริการ มีกฎหมาย/นโยบายท่ี เอ้ือให้ปัญหาเพศสัมพันธ์ท่ีไม่ปลอดภัยดำเนินต่อไป มีการสื่อสารเร่ืองเพศต่อสังคม ท่ไี ม่ละเอียดอ่อนและไมน่ ำไปสู่สุขภาวะทางเพศ ฯลฯ นอกจากนัน้ เอกสารดังกลา่ วยังได้ระบุถึงนิยามของ “คนทมี่ สี ุขภาวะทางเพศ” และ “สงั คมทม่ี สี ุขภาวะทางเพศ” ไวด้ ังน้ี

คนท่ีมีสุขภาวะทางเพศ คือ คนที่มีความคิดเชิงบวกต่อเร่ืองเพศและสัมพันธภาพ ทางเพศ สามารถแสดงออกและตัดสินใจด้วยตนเองโดยอิสระและไม่เบียดเบียนผู้อื่น มี ความเคารพต่อวิถีทางเพศของคนอื่นท่ีแตกต่างจากตัวเอง มีชีวิตทางเพศที่ปลอดภัยโดยมี ความสขุ ความพงึ พอใจ ไม่ถูกบังคับ ไม่ถกู เลือกปฏิบตั ิ ไม่ถกู กระทำความรุนแรง สังคมทมี่ สี ุขภาวะทางเพศ คอื สังคมที่... • มีรัฐบาลท่ีตระหนักว่า สุขภาวะทางเพศเป็นสิทธิพื้นฐานของบุคคลและแสดงความ รับผิดชอบท่ีจะสนับสนุนสุขภาวะทางเพศ โดยกำหนดนโยบายและกฎหมายที่ ค้มุ ครองสิทธิทางเพศของพลเมืองอย่างชดั เจน • มกี ารใหก้ ารศึกษาเร่ืองเพศทเ่ี หมาะสมกบั วัยและเพศตลอดชว่ งอาย ุ • มีโครงสรา้ งพน้ื ฐานท่เี พยี งพอต่อการให้บริการทางสงั คมและสขุ ภาพ • มีการศึกษาวิจัยและระบบเฝ้าระวังท่ีรอบด้านและเพียงพอให้เกิดการป้องกันปัญหา สุขภาพอย่างเหมาะสม • และเป็นสังคมที่เปิดกว้างและให้ความสำคัญแก่สุขภาวะทางเพศของสมาชิก ทกุ คนในสงั คม 182 คู่มือการจัด กระบวนการเรยี นร้ ู เพศศึกษา สำหรับนักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖

บรรณานกุ รม กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร.์ กรงุ เทพฯ: องคก์ ารรับสง่ สนิ คา้ และพัสดุภัณฑ์, ๒๕๔๕. กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและพสั ดภุ ัณฑ,์ ๒๕๔๕. กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย. กรงุ เทพฯ: องค์การรับส่งสนิ คา้ และพสั ดภุ ณั ฑ์, ๒๕๔๕. กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนร ู้ การงานอาชพี และเทคโนโลยี. กรงุ เทพฯ: องค์การรับสง่ สนิ คา้ และพสั ดภุ ณั ฑ์, ๒๕๔๕. กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ. กรุงเทพฯ: องคก์ ารรบั ส่งสินคา้ และพสั ดุภณั ฑ์, ๒๕๔๕. กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาตา่ งประเทศ. กรุงเทพฯ: องค์การรับสง่ สินค้าและพัสดุภณั ฑ์, ๒๕๔๕. กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา. กรุงเทพฯ: องค์การรับสง่ สินคา้ และพสั ดภุ ัณฑ์, ๒๕๔๕. กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. การจัดสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ พลศึกษา ตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔. กรุงเทพฯ: กรมวิชาการ, ๒๕๔๖. ไตรรงค์ เจนการ. นิยาม : การประเมนิ ผลการเรยี นรู้. กรุงเทพฯ: สำนักวิชาการและมาตรฐานการ ศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน, ๒๕๔๙. ภาวนา เหวียนระวี. เยาวชนไม่มีปัญหา แต่อยากมีโอกาส. ใน ไขความลับ รุ่นเรา เราเลือก เรา รับผิดชอบได้ บันทึกประสบการณ์สองปีแรกของเยาวชนและคนทำงานในโครงการก้าวย่าง อยา่ งเขา้ ใจ. ๗๓-๗๘. องค์การแพธ โครงการก้าวย่างอย่างเขา้ ใจ. กรุงเทพฯ: พี.เอส.ซพั พลาย, ๒๕๔๙. - 183 - บรรณานุกรม

สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ และกรมควบคมุ โรค กระทรวง สาธารณสขุ . แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พศศกึ ษา ชว่ งชนั้ ที่ ๓ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑-๓. กรุงเทพฯ: ชุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั , ๒๕๕๐. สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน. การประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔. กลุ่ม ส่งเสริมการเรียนการสอนและประเมินผล สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน, ๒๕๔๘. องค์การแพธ โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ. คู่มือการจัดกระบวนการเรียนรู้ “เพศศึกษา” สำหรับ เยาวชนในช่วงชั้น ๒-๔ ประถมศึกษาปีที่ ๖ ถึง มัธยมศึกษาปีท่ี ๖. กรุงเทพฯ: ณัฐรันต์การ พิมพ์, ๒๕๔๗. องค์การแพธ โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ. คู่มือการจัดกิจกรรมเยาวชนเสริมหลักสูตรเพศศึกษา. กรุงเทพฯ: ม.ป.พ., ๒๕๕๐. องค์การแพธ โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ. แนวคิดในการออกแบบการจัดการเรียนรู้สำหรับครูและ ผู้ปฏบิ ตั งิ านด้านเพศศึกษาสำหรบั เยาวชน. กรงุ เทพฯ: ม.ป.พ., ๒๕๕๐. องค์การแพธ โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ. แนวทางการจัดการเรียนรู้เพศศึกษารอบด้านใน สถานศึกษา สำหรบั ผู้บริหารสถานศกึ ษา. กรุงเทพฯ: เออรเ์ จนท์ แทค จำกัด, ๒๕๕๐. The Sexuality Information and Education Council of the United States. Guidelines for Comprehensive Sexuality Education. 2nd ed. New York: 1996. เวบ็ ไซต ์ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวง ศึกษาธิการ. อ้างอิง ณ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๐. http://academic.obec.go.th. องค์การแพธ โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ. อ้างอิง ณ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๐. จาก www. teenpath.net - 184 - คมู่ อื การจดั กระบวนการเรยี นรูเ้ พศศึกษา สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖

ภาคผนวก

๖ มิติ เพศศึกษาแบบรอบด้าน กบั พฤติกรรมทพ่ี งึ ประสงค ์ การจัดการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาโดยใช้หลักสูตรท่ีพัฒนามาจากมิติทั้ง ๖ ด้านในเร่ืองเพศ ของมนุษย์ ที่พัฒนาโดย SIECUS Comprehensive Sexuality Education ๑ โดยจัดให้เป็นการ เรยี นร้อู ย่างตอ่ เนื่อง และสอดคลอ้ งกับช่วงวัย มเี ปา้ ประสงคเ์ พอื่ พฒั นาผู้เรียนใหส้ ามารถเตบิ โตเปน็ ผู้ใหญ่ท่ีมีสุขภาวะทางเพศ โดยสาระที่พัฒนาข้ึนต้องสอดรับกับวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ ที่เน้น การบ่มเพาะคุณลักษณะ และพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ของเยาวชน ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ีมีสุขภาวะ ทางเพศในมิตติ ่างๆ อยา่ งรอบด้าน ดังน ้ี มติ ิการพัฒนาตามธรรมชาติของชว่ งวยั มนษุ ย์ (Human Development) เราคาดหวังให ้ • บุคคลรสู้ ึกพอใจ ภูมิใจ ไม่เกดิ ปมด้อยกบั เรือนรา่ ง สรรี ะของตน • ร้จู กั แสวงหาความรู้ ความเขา้ ใจ ในเรื่องเพศ และการขยายเผา่ พนั ธุ์ ได้ตามประสงค ์ • เห็นคุณค่าว่าเรื่องเพศเป็นพัฒนาการธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ และไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นไป เพ่ือการสืบเผ่าพันธุ์หรือไม่ และไม่จำเป็นว่ามนุษย์ทุกคนจะต้องผ่านประสบการณ์การม ี เพศสัมพันธ์ในชวี ิต • มีปฏิสัมพันธ์กับทุกเพศอย่างเหมาะสม และเคารพในคุณค่าของแต่ละบุคคล โดยปราศจาก อคตติ ่อความแตกตา่ งระหว่างเพศ • ยอมรบั รสนยิ ม และความพงึ ใจทางเพศท่ตี นเองเป็นอยู่ โดยเคารพความพงึ ใจทางเพศของผ้อู ่นื ซง่ึ อาจเหมือนหรอื แตกตา่ งจากตน ๑ The Sexuality Information and Education Council of the United States. Guidelines for Comprehensive Sexuality Education: Kindergarten - 12th Grade. 3rd ed. New York: SIECUS, 2004. - 186 - คู่มอื การจดั กระบวนการเรียนร้เู พศศึกษา สำหรับนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๖

• ยอมรับความเป็นตัวตนทางเพศและเพศสภาพของตน เคารพความเป็นตัวตนและเพศสภาพ ของผ้อู ่นื เช่นกนั มิติของการมีสัมพนั ธภาพกบั ผอู้ น่ื (Relationship) เราคาดหวังให้ • บคุ คลสามารถแสดงออกถงึ ความรกั และความผกู พันลึกซง้ึ ท่ตี นมีไดต้ ามความเหมาะสม • บคุ คลสามารถพัฒนา และรักษาสมั พนั ธภาพในความสมั พนั ธท์ ตี่ นใหค้ ุณค่า • บุคคลสามารถหลกี เลยี่ งท่จี ะถูกกระทำจากสมั พนั ธภาพทีเ่ อาเปรียบ หลอกลวง ทำรา้ ย • บุคคลสามารถจะตัดสินใจโดยมีข้อมูลรอบด้านในการสร้างครอบครัว และสร้างสัมพันธภาพกับ ผู้อน่ื • บุคคลสามารถใช้ทกั ษะต่างๆ ที่จะเอ้ือให้ตนเกดิ สมั พันธภาพที่ดี และมั่นคงกบั ผูอ้ น่ื มติ ิของการพัฒนาทกั ษะสว่ นบคุ คล (Personal Skills) เราคาดหวงั ให ้ • บุคคลมีทักษะในการร้จู ัก เข้าใจตนเอง และใช้ชวี ติ ท่สี อดคล้องกบั ความปรารถนา และคา่ นิยม ของตน • บุคคลสามารถรบั ผดิ ชอบกบั พฤติกรรม และส่ิงท่ีตนได้กระทำ • บคุ คลไดฝ้ ึกฝนการตดั สินใจอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ • บคุ คลไดพ้ ัฒนาทักษะของการคดิ วเิ คราะห์ แยกแยะ อยา่ งรอบดา้ น • บุคคลสามารถสอ่ื สารอย่างมีประสิทธภิ าพกบั ครอบครัว คนใกล้ชิด เพือ่ นฝงู และคนรัก มติ ิของพฤติกรรมทางเพศ (Sexual Behavior) เราคาดหวังให้ • บคุ คลได้รับความพึงใจ และสามารถแสดงตวั ตนในเรอ่ื งเพศของตนตลอดการดำเนนิ ชีวิต • บุคคลสามารถแสดงออกในวิถีเพศตามที่ตนเองให้คณุ ค่า • บุคคลสามารถสร้างความรู้สึกสุขใจ พอใจทางเพศ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องลงมือปฏิบัติตาม ความรูส้ กึ ความคดิ เหลา่ น้ัน - 187 - ภาคผนวก

• บุคคลสามารถแยกแยะการกระทำทางเพศที่ทำให้ชีวิตมีสุขภาวะกับการกระทำท่ีเป็นผลร้ายต่อ ตนเองและผอู้ น่ื • บคุ คลสามารถแสดงออกในเรอ่ื งเพศของตน โดยเคารพตอ่ สิทธิของผูอ้ ่นื • บุคคลสามารถแสวงหาข้อมูล และการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาสขุ ภาวะทางเพศของตน • บุคคลมีความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่ โดยความยินยอมพร้อมใจ และสุขใจทั้งสองฝ่ายอย่าง ปลอดภัย จรงิ ใจ ไม่หลอกลวง เอาเปรยี บ ทำรา้ ย มิติของสขุ ภาพทางเพศ (Sexual Health) เราคาดหวงั ให้ • บุคคลมีพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพที่เอ้ือต่อสุขภาวะทางเพศ อาทิ การตรวจสุขภาพอย่าง สม่ำเสมอ ทง้ั การตรวจเตา้ นม ตอ่ มลูกหมาก ดว้ ยตนเอง และสามารถบอกได้ถงึ สญั ญาณของ ความผิดปกตไิ ดแ้ ต่เน่นิ ๆ • บคุ คลสามารถเลอื กทจี่ ะคุมกำเนดิ ไดต้ ามปรารถนา เม่อื ไม่พร้อมจะมบี ุตร • บุคคลสามารถป้องกนั ตนเองจากโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ และโรคเอดส์ • บุคคลสามารถเลอื กท่จี ะจัดการกบั ชวี ิต ตามคา่ นยิ มของตนในกรณที ตี่ ้งั ครรภโ์ ดยไมพ่ รอ้ ม • บุคคลสามารถแสวงหาการดแู ลท่ีเหมาะสมเม่อื เรม่ิ ตง้ั ครรภ ์ • บคุ คลช่วยกนั ปอ้ งกนั และระงบั การทำรา้ ย การล่วงละเมดิ ทางเพศ มิตขิ องสงั คม วฒั นธรรม (Society and Culture) เราคาดหวังให้ • บุคคลมคี วามเคารพตอ่ ความแตกตา่ งของค่านิยมในเรอ่ื งเพศ • บุคคลใช้สิทธิตามกระบวนการประชาธิปไตย ในการสร้างกติกาทางสังคม และกฎหมายที่เอื้อ ตอ่ การสร้างสุขภาวะทางเพศแก่สมาชกิ ของสงั คมท่ีตนเป็นสว่ นหนง่ึ • บคุ คลสามารถประเมนิ ได้ว่า การเล้ียงดูในครอบครัว วัฒนธรรม สอ่ื และขอ้ มลู ขา่ วสารทตี่ นได้ รับจากสงั คมท่ตี นอยู่ สง่ ผลตอ่ ความคดิ ความรู้สึก ความเช่ือ คา่ นยิ ม และการกระทำในเรือ่ ง เพศของตนอยา่ งไร - 188 - คู่มือการจัดกระบวนการเรยี นรเู้ พศศกึ ษา สำหรับนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๖

• บุคคลสามารถวิเคราะห์ความเป็นไปของโลก และสิ่งแวดล้อมทางสังคมของตน ที่ก่อให้เกิด อคติในเร่ืองเพศ อันเนื่องมาจากความแตกต่างทางความคิดต่อบทบาทหญิงชายในเร่ืองเพศ รสนิยมทางเพศ วฒั นธรรม ประเพณี เชอื้ ชาติ เผ่าพนั ธ์ุ ผวิ ส ี • บุคคลสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การไดร้ ับข้อมลู ขา่ วสารในเร่อื งเพศทถี่ ูกตอ้ ง และชัดเจน • บุคคลไม่แสดงพฤติกรรมท่ีเหยียดหยาม ดูแคลนผู้อ่ืนท่ีคิดเห็น หรือปฏิบัติตนในเรื่องเพศท่ ี แตกตา่ งจากตน • บุคคลไม่ยอมรับต่อการตีตรา ปรักปรำ หรือเหมารวม ว่ากลุ่มประชากรใดมีแนวปฏิบัติในเรื่อง เพศอย่างนั้น อยา่ งนี้ เพราะเรอื่ งเพศเปน็ วิถีของปัจเจกไม่อาจเหมารวม - 189 - ภาคผนวก

กระบวนการจดั การเรยี นรู้ทีม่ ีผเู้ รยี นเปน็ ศนู ยก์ ลาง เปน็ หวั ใจของเพศศกึ ษา แม้จะเปน็ เรอื่ งท่พี ดู ถงึ กนั อยู่มากมายมาโดยตลอดวา่ ปจั จยั สำคัญของการปฏิรูปการศกึ ษา ไทยให้สำเร็จ ก็คือการเปล่ียนแปลงปรัชญา แนวคิดของการจัดการศึกษาที่ได้ยึดเอาผู้เรียนเป็น ศูนย์กลางอยา่ งแทจ้ รงิ โดยเฉพาะเมอื่ พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ ในหมวดท่ี ๔ แนวทางการจดั การศึกษา มาตรา ๒๒ ไดใ้ หค้ วามสำคญั ในเรอื่ งน้ี โดยระบุวา่ “การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่า ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และ พัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษา ตอ้ งสง่ เสริมใหผ้ เู้ รยี นสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ” แม้แนวคิดดังกล่าวจะเสมือนเป็นท่ียอมรับกันอย่างกว้างขวาง แต่ความเข้าใจถึงแนวทาง ปฏิบัติว่าการจัดการเรียนรู้ท่ีมีผู้เรียนเป็นศูนย์กลางว่าต้องทำอย่างไร ยังไม่มีความชัดเจน ความ พยายามเชิงระบบที่จะดำเนินการพัฒนาครูให้เกิดความสามารถดังกล่าวอย่างเป็นเอกภาพและ ทั่วถึง ยังเผชิญความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะการก้าวข้ามความท้าทายที่สำคัญ คือการ เปลี่ยนบทบาทของผู้สอน จากการเป็นผู้บอกความรู้ให้จบไปในแต่ละคร้ังที่เข้าสอน มาเป็นผู้เอื้อ อำนวย (Facilitator) ในการเรียนรูใ้ หแ้ ก่ผู้เรียน กลา่ วคอื เป็นผ้กู ระตนุ้ ส่งเสรมิ สนบั สนนุ จดั สิง่ เร้า และจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาให้เต็มตามศักยภาพ ความสามารถ ความถนัด และความ สนใจของแต่ละบุคคล ซึ่งมีการพิสูจน์มาจากประสบการณ์ของการจัดการศึกษาในหลายประเทศท่ัว โลกวา่ กระบวนการเรยี นรู้ที่มีประสทิ ธิภาพ ตอ้ งเป็นการจดั กจิ กรรมท่ผี เู้ รียนไดค้ ดิ วเิ คราะห์ วิจารณ์ สรา้ งสรรค์ ศึกษา คน้ ควา้ และไดล้ งมือปฏิบัติจนเกิดการเรยี นร้แู ละค้นพบความรู้ด้วยตนเอง รักท่ี จะคน้ คว้า รักการเรยี นรู้อันจะนำไปสู่การเรียนรู้ตลอดชวี ติ (Long-life Education) และเปน็ บคุ คล - 190 - ค่มู ือการจดั กระบวนการเรียนรู้เพศศึกษา สำหรบั นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๖

แหง่ การเรียนรู้ (Learning Man) ผสู้ อนจึงตอ้ งสอนวธิ ีการแสวงหาความรู้ (Learn how to learn) มากกว่าสอนตัวความรู้ สอนการคิดมากกว่าสอนให้ท่องจำ สอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมากกว่า เน้นท่ีเนื้อหาวิชา การจัดกระบวนการเรียนรู้เร่ืองเพศศึกษาคือ การเรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้จัดการเรียนรู้และ ผู้เรียน เพ่ือสามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตทางเพศท่ีมีสุขภาวะ และสัมพันธภาพท่ีสร้างสรรค์ ระหว่างบคุ คล ดงั นนั้ ผจู้ ดั การเรยี นรจู้ ึงต้องมที กั ษะ มีความเข้าใจ และสามารถออกแบบการเรียนรู้ เพ่ือสร้างให้ผู้เรียนเกิดการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ใคร่ครวญในเรื่องเพศวิถี ทัศนะ ค่านิยม วัฒนธรรม การหล่อหลอมทางสังคมที่มีต่อ “อคติ” ทางเพศทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในสังคม สร้าง ความเข้าใจในเร่อื งสิทธเิ ยาวชน สรา้ งความเชอื่ ม่นั ต่อศักยภาพของเยาวชนทจี่ ะเรียนรู้ และตดั สินใจ ในส่ิงท่ีเป็นผลดีต่อชีวิต และจิตใจของตน โดยไม่ถูกล้อมกรอบ กดดัน จากความคาดหวังของ ครอบครัว หรอื สงั คม จนไม่สามารถพฒั นาศักยภาพในตัวเอง หรอื สญู เสยี ความเคารพตนเอง ครูผู้จัดการเรียนรู้เร่ืองเพศศึกษามีหน้าที่เช่นเดียวกับผู้จัดการเรียนรู้ (Facilitator) คือการ ติดตามกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งไม่ได้หมายความว่า จะต้องนำพาผู้เรียนไปสู่ข้อสรุปท ่ี ผู้จัดการเรียนรู้ต้องการให้เป็นไป แต่เป็นบทบาทของการสร้างพ้ืนท่ี หรือบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนมีโอกาสได้แลกเปล่ียนถกเถียง ความคิดเห็น ประสบการณ์ระหว่างกัน และสร้างข้อสรุป รว่ มกนั ในทง้ั ความเห็นรว่ ม และเหน็ ต่าง หนา้ ที่สำคัญของผ้จู ัดการเรยี นร้คู ือ การสรา้ งบรรยากาศใหผ้ ้เู รยี นรู้สกึ ปลอดภัย พงึ ใจท่จี ะ แลกเปล่ียนเรียนรู้ระหว่างกัน โดยพร้อมจะรับฟังซ่ึงกันและกัน ไม่ต้องเกรงการถูกตัดสินว่าดี ว่า ด้อย โง่ หรือฉลาด กว่ากัน แต่รับรู้ร่วมกันว่า ทุกความคิดเห็นมีคุณค่า และพร้อมที่จะบอกความ คดิ เห็น ความรูส้ กึ ของตนแก่ผอู้ ืน่ - 191 - ภาคผนวก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook