Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Ebook สันทนากร

Ebook สันทนากร

Published by จิณณะ สอนอุ่น, 2022-04-03 15:07:47

Description: Ebook นี้ทำไว้ใช้ส่วนตัว ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นดูนะครับ

Search

Read the Text Version

1อาวุธลบั กระบวนกร

อารมั ภบท จุดเริ่มตน้ ของหนงั สอื เล่มนี้ คอื การตงั้ คำ�ถามกบั ตวั เองว่า “ฉนั ทำ�อะไรได้ดี” ผเู้ ขียนมกั ต้งั ค�ำ ถามกบั ตวั เองเสมอว่า ถนดั เรื่องไหนอยากทำ�อะไร เปา้ หมายชีวติ ของตวั เอง คืออะไร เลยพาใหท้ ดลองเอาตวั เองไปอย่ใู นจุดต่าง ๆ จนร้ตู ัวอีกทีก็ถูกเรียกวา่ เป็น “เป็ด” ร้อู ะไรเยอะไปหมด แตไ่ มร่ ู้ลกึ หรอื เชี่ยวชาญสกั อยา่ ง หากมคี นมาถามว่า คณุ เชย่ี วชาญใน เร่ืองไหน ผเู้ ขยี นก็ยงั ตอบตวั เองไมไ่ ดจ้ นผู้เขียนไปอา่ นเจอคติหน่ึง ที่ทำ�ใหเ้ ร่ิมอยากหาจดุ Focus ของตวั เอง คตทิ ี่ว่า “สบิ รู้ ไม่เทา่ หนง่ึ เชี่ยวชาญ” เป็นคติสนั้ ๆ ทต่ี อกเขา้ มาท่จี ดุ สัน่ สะเทือนของตวั ผเู้ ขียนได้อย่างเจบ็ ปวด เมือ่ ลอง มาคดิ ดู ผ้เู ขียนมคี วามตอ้ งการหรือจะเรยี กวา่ เปา้ หมายชวี ิตเลก็ ๆ อย่อู ย่างหนึ่งคอื ผ้เู ขยี น อยากจะมีหนังสือสักเล่มเป็นของตัวเอง แต่พอจะเร่ิมเขยี นก็ไมร่ จู้ ะเขยี นอะไร จึงได้ลองไป ปรึกษาอาจารยห์ รอื ครหู ลายๆ ทา่ น ท่านแนะนำ�ให้เขียนมากอ่ นวา่ จะเขียนอะไร เริม่ จากสง่ิ ที่ ชอบและท�ำ ไดด้ ี ผ้เู ขยี นจึงกลับมามองตัวเองว่า ส่งิ ท่ชี อบจริง ๆ คืออะไร ท�ำ อะไรแล้วรู้สึกมีความสุข ปัจจบุ นั ผู้เขยี นยดึ เส้น ทางการเป็นกระบวนกร เป็นเสน้ ทางในการดำ�เนนิ ชีวิต การไดท้ ำ�งานดา้ นนข้ี อ้ ดคี อื เราได้เดนิ ทางรว่ มกบั ผูเ้ รยี น กระบวนกรไมไ่ ด้ต้ังตัวเองเป็นผรู้ ู้ แตอ่ ยใู่ นสถานะของผู้ ท่ีมที กั ษะในการอำ�นวยความสะดวกในการเรียนร้ใู หก้ บั ผูเ้ รยี น เหมือนกบั คนตาบอด ทถ่ี อื โคมไฟ ที่มีคนเข้ามาถามวา่ “ท่านเป็นคนตาบอดแลว้ จะถือโคมไฟไปทำ�ไม” คน ตาบอดเลยบอกวา่ “ก็เพื่อให้คนท่ีตาดีที่ผา่ นมาพบเขา้ สามารถเดินไปในเส้นทางทม่ี ดื มิดได้ อยา่ งนอ้ ยกร็ ะยะทางหนึ่ง” ผู้เขียนเชื่อว่า เราสามารถพฒั นาตวั เองได้ และการเข้า กระบวนการทำ�กิจกรรม ก็เป็นสิง่ ทท่ี ำ�ใหผ้ เู้ ขยี นทำ�แล้วรู้สกึ มีความสุขทกุ ครง้ั ท่ไี ด้อยู่กับมัน การท�ำ งานดา้ นการจัดกระบวนการน้ัน มหี ลากหลายแนวทาง ตามความถนดั และ ความชำ�นาญของตัวเอง ดังนัน้ ผู้เขยี นจงึ พยายามมองหาว่า ตัวเองจะลงลึกกับเร่ืองไหนได้บ้าง และทกุ ครงั้ ท่ีผ้เู ขยี นท�ำ กระบวนการ 2 อาวธุ ลับกระบวนกร

จดุ เด่นของผู้เขียนคือ ความสนกุ สนาน หรือการท�ำ กิจกรรมละลายพฤตกิ รรม หาก มองในมมุ มองของการเรียนรดู้ า้ นใน การนนั ทนาการเป็นเพยี งส่วนเล็ก ๆ ของการเรยี นรู้ผา่ น ประสบการณ์ตรงเทา่ นัน้ แตส่ �ำ หรบั ผูเ้ ขียน มองวา่ กจิ กรรมนันทนาการหรือเกมตา่ ง ๆ เป็น องค์ประกอบทสี่ ำ�คญั มาก ๆ ในการจัดอบรมหรอื การเรยี นรู้ ผเู้ ขยี นมองวา่ เกมหรือกิจกรรมนนั ทนาการ เป็นองคป์ ระกอบเลก็ ๆ ทีเ่ ช่ือมระหวา่ ง ผเู้ ข้ารว่ มกับการเรียนรู้ และเชอ่ื มผู้เขา้ รว่ มเขา้ กับกระบวนกรหรือวทิ ยากรเข้าดว้ ยกันไดเ้ ป็น อยา่ งดี อกี ทง้ั การทำ�นันทนาการน้ันทำ�ใหพ้ นื้ ทข่ี องความเป็นตัวตนระหวา่ งผ้เู ข้ารว่ มกันเอง แคบลง และน�ำ ไปสูพ่ นื้ ทข่ี องความปลอดภยั และมกี ารเชือ่ มโยงสัมพันธ์ทีด่ ยี ิง่ ข้นึ หนังสือเล่มนี้ จึงรวบรวมกจิ กรรมนนั ทนาการ ท่ีผ้เู ขยี นได้เก็บเกย่ี วมาตลอดระยะ เวลา 8 กวา่ ปี หากมีใครสกั คนที่ได้อ่านหนังสอื เล่มนีแ้ ล้ว สามารถจดจ�ำ และเข้าใจกจิ กรรม เหล่าน้ไี ด้ ผเู้ ขียนเชอื่ ว่า ผู้นั้นจะตอ้ งมคี วามมั่นใจเพ่ิมขน้ึ เมื่อถึงเวลาท่ีจะตอ้ งน�ำ กิจกรรม และทสี่ �ำ คัญ ส่ิงหนง่ึ ทผ่ี ู้เขยี นร้สู กึ กบั ตัวเองเมอ่ื สามารถจดจำ�กิจกรรมเหลา่ นไ้ี ด้คือ ผเู้ ขยี น รสู้ ึกว่า “พกอาวุธลบั ” อย่ตู ลอดเวลา หมายความว่า เม่อื ถงึ เวลาที่จะตอ้ งใชใ้ นสถานการณ์ ตา่ ง ๆ ทีเกดิ ขนึ้ อย่างไมท่ นั ต้ังตัว ก็สามารถน�ำ มาใช้ไดอ้ ย่างสะดวกสบาย คล้ายกบั พกอาวธุ ลับจึงเป็นเหตุใหห้ นงั สือเลม่ น้ี ชอื่ วา่ “50 เกมนันทนาการ” 3อาวธุ ลับกระบวนกร

สารบญั 07 บทท1ี่ ประเภทของเกมนันทนาการ 46 กิจกรรมระดับเบา 09 บทที2่ หลักการออกแบบกิจกรรม ประเภทของกจิ กรรม 48 ปรบมือ 1234 16 Grounding game 54 ปรบมอื เรยี กชือ่ กจิ กรรมแนวจิตปัญญา 56 นบั 1-100 58 นบั เลข เดาใจ 18 Check in 60 20 ค�ำ ถาม 20 Check in walk 62 ลกั กี้ นับเบอร์ 22 Common Ground 64 เสรจ็ ฉนั แหละเธอ 24 Socio Matrix 66 เลขมรณะ 26 บารอมเิ ตอร์ 68 ซ้ายทเุ รศ ขวาน่ารกั 28 เดนิ 3 เกียร์ 30 เดินหยุดพรอ้ มกนั 70 การใช้นำ�้ เสยี ง 8 แบบ 32 ระบำ�นิว้ มอื (บทแทรกท่ี 2) 34 ไพส่ ะท้อนตัวตน 74 กจิ กรรมระดับกลาง 36 เมอ่ื ฉนั อายุ 38 ตะกรา้ 4 ใบ หวั ใจ 4 ดวง 76 สวสั ดีรอบโลก 78 จา่ ยตลาด 40 หลกั การตงั้ คำ�ถาม (บทแทรกที่ 1) 80 แมเ่ หล็ก 44 Ice Breaking (เกมละลายพฤติกรรม) 82 กระจก 84 ประติมากรรมมนุษย์ 4 อาวุธลับกระบวนกร

สารบัญ 86 เปา่ ย้งิ ฉุบซามูไร 124 Experience learning game 88 เสือปืนไว กจิ กรรมส�ำ หรับเรยี นรู้ 90 เป่ายงิ้ ฉบุ สปชี สี ์ 126 เป็ดชิงพืน้ ที่ 92 เธอเป็นอสิ ระแล้ว (แปะแข็ง) 128 แม่น�้ำ พิษ 94 เฟอร์รารี่ 132 ภาพวาดปริศนา 96 เปา่ ยิ้งฉบุ รถไฟ 136 สามเหลี่ยมปริศนา 98 กจิ กรรมระดบั หนกั 138 Mission Impossible 100 ภเู ขาไฟระเบดิ 140 ตกุ๊ ตาล้มลกุ 102 กระรอกเปลยี่ นโพรง 142 ยกคนขึ้นฟา้ 104 มังกรรอดถ้ำ� 144 หนขี ึน้ เกาะ 106 งกู นิ หาง 146 ตาข่ายไฟฟ้า 108 ตามหารักแท้ 148 กิจกรรมเสริมความพรอ้ ม 110 แหจับปลา 155 กจิ กรรมส�ำ เรจ็ รปู 112 ฟรตุ สลดั 158 ตกผลกึ ประสบการณ์ 114 เสือกินวัว 174 บทสง่ ทา้ ย บนั ทึกของผเู้ ขียน 116 รถถัง 118 ปมมนุษย์ 120 การอ่านพลงั กลมุ่ (บทแทรกท่ี 3) 5อาวุธลับกระบวนกร

หากจะพูดวา่ ... คนทีเ่ ป็นผูน้ ำ�เล่น คอื “ตัวปัญหา” กค็ งไม่ผิดอะไร ผู้เขยี นรู้สกึ วา่ วา่ คนที่เป็นนนั ทนากร หรอื ผ้นู ำ�เลน่ คือ นักสรา้ งเง่อื นไข หรอื นักสรา้ ง ปัญหา... 6 อาวธุ ลับกระบวนกร

บทท่ี 1 ประเภทเกม เนื่องจากเกมหรือนันทนาการตา่ ง ๆ นนั้ มีอย่หู ลากหลายประเภท ในหนังสอื เลม่ นี้ ผู้เขยี นจะเน้นเกมหรอื กิจกรรมทไ่ี มใ่ ชอ้ ุปกรณ์เป็นหลัก ผเู้ ขียนเรยี กมนั ว่า The body play คือเกมท่ใี ชร้ า่ งกายในการเล่น ผู้เขยี นอา้ งองิ มาจาก การออกก�ำ ลังกายแบบ Body weight คือ การออกกำ�ลงั กายแบบไมต่ ้องใชอ้ ปุ กรณ์อะไรเลย ใช้เพยี งท่าทางท่ถี กู ตอ้ งเทา่ น้นั The body play จงึ เป็นกิจกรรมท่ใี ช้เงือ่ นไขและร่างกายของผูเ้ ขา้ ร่วมเท่าน้ันในการท�ำ กิจกรรม องค์ประกอบสำ�คัญของเกมนนั ทนาการคือ “เงอ่ื นไข” หรือ “ปัญหา” ดงั นั้น หากจะ พดู วา่ คนทเ่ี ป็นผ้นู �ำ เลน่ คอื “ตัวปัญหา” กค็ งไม่ผิดอะไร ผู้เขียนรูส้ ึกว่าว่าคนทเ่ี ป็นนนั ทนากร หรอื ผนู้ �ำ เล่น คอื นกั สร้างเง่อื นไข หรือนักสร้างปัญหา ผเู้ ขียนได้แบง่ และรวบรวมกิจกรรมต่าง ๆ ตามทต่ี วั ของผเู้ ขียนได้เคยทดลองใช้ และ ผ่านประสบการณข์ องตัวเองมาตลอดระยะเวลา5 ปี เป็นเกมหรอื กจิ กรรม ที่เนน้ ไปที่การ เป็นตัวเช่อื มระหวา่ งเน้อื หาหลักและการเตรยี มความพรอ้ ม โดยผู้เขยี นจะแบง่ ออกเป็นรูป แบบเกมดงั นี้ รูปแบบท่ี 1 Grounding game รูปแบบท่ี 2 Icebreaking game รปู แบบท่ี 3 Experience learning game เกมท้งั 3 รปู แบบนี้ต่างกนั ตรงเปา้ หมายท่ตี อ้ งการ Grounding game เป็นกิจกรรม ทเ่ี น้นให้เกดิ การใคร่ครวญกบั ตวั เอง การคอ่ ยๆกลับมาเหน็ ตวั เองอย่างชา้ ๆ Icebreaking game เป็นกิจกรรมทีเ่ นน้ ความสนุกสนานเตรียมความพร้อม โดยผเู้ ขยี นจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับคอื เบา กลางและหนกั สดุ ท้าย Experience learning game เป็นกจิ กรรมหรือเกม ทก่ี ระบวนการจติ ตปัญญาศึกษานยิ มนำ�มาใช้ เพอื่ สะท้อนการเรียนร้หู รือเป็นตวั เชือ่ มเข้าหา เนอ้ื หาหลกั ของการอบรม 7อาวุธลับกระบวนกร

. . . เปา้ หมาย เนอื้ หา กระบวนการ ถอดบทเรยี น . . . 8 อาวธุ ลับกระบวนกร

บทท่ี 2 หลกั การออกแบบกจิ กรรมใหป้ ระสบความส�ำ เรจ็ กิจกรรมในแต่ละกิจกรรมนน้ั ตา่ งมีเงื่อนไขท่ีน�ำ ไปสู่เปา้ หมายทแ่ี ตกตา่ งกัน หาก เปรียบเหมือนกับดอกไม้ กจิ กรรมแตล่ ะกิจกรรมเปรยี บเหมอื นกบั ดอกไมท้ ห่ี ลากหลายชนิด สง่ิ ส�ำ คญั เมอ่ื ตอ้ งน�ำ กิจกรรมไปใช้ คอื ผู้ใช้สามารถใช้ดอกไม้แต่ละชนิดไดถ้ กู ที่ถกู ทางหรือ ไม่ หลักคดิ อยา่ งหนึ่งที่ผ้ใู ชค้ วรจะรู้จัก คอื การใช้กิจกรรมตามหลัก สัปปุริสธรรม 7 คือ รู้เหตุ รู้ผล รตู้ น รู้ประมาณ รกู้ าล รูช้ มุ ชนและรบู้ คุ คล หากใช้ไม่ถกู ตามหลกั การเหลา่ น้ี คณุ ค่าของ กจิ กรรมกจ็ ะเกดิ ข้นึ ได้นอ้ ย ผู้เขยี นมองวา่ กจิ กรรมหรือกระบวนการนั้น เป็นเหมอื นภาชนะ ทีม่ ีขนาดและวธิ ีการใชท้ แ่ี ตกตา่ งกัน แต่สง่ิ ท่ีส�ำ คัญของกจิ กรรมคอื สิง่ ท่ีอยู่ในภาชนะนัน้ คือ อะไร มคี ุณคา่ อย่างไร และจะทำ�อยา่ งไรใหผ้ เู้ ข้ากจิ กรรมสามารถไดด้ ืม่ ดำ่�กบั เนื้อหาหรอื แก่น แท้ทอ่ี ยู่ในภาชนะนั้นไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ี หลกั การออกแบบกิจกรรม องค์ประกอบการออกแบบกจิ กรรม มีหลกั 4 อยา่ งคือ 1. เปา้ หมาย 2. เน้อื หา 3. กระบวนการ 4. ถอดบทเรียน (อ้างอิงมาจาก หลกั การออกแบบกระบวนการของเสมสกิ ขาลัย) เปา้ หมาย ค�ำ ถามสำ�คญั ของการท�ำ กจิ กรรมคอื “เราต้องการพาผู้เขา้ รว่ มไปไหน” หรอื เป้า หมายของการจัดกิจกรรมในครั้งน้ัน ตอ้ งการอะไร วตั ถปุ ระสงคห์ รือเป้าหมาย จะเป็นตัว 9อาวุธลับกระบวนกร

กำ�หนดทิศทางของกิจกรรม และองคค์ วามรทู้ ีเ่ ราต้องการให้ผเู้ ข้ารว่ มไดร้ ับ ดงั นั้นสงิ่ สำ�คญั ก่อนท่จี ะท�ำ กิจกรรม ผูน้ �ำ กิจกรรมจะต้องเห็นก่อนว่าตอ้ งการใหผ้ เู้ ข้ารว่ มเกิดอะไรขน้ึ กับ ตวั เอง เป้าหมายน้ันผูเ้ ขยี นแยกออกเป็น 2 อยา่ งคือ เป้าหมายหลักของการอบรมหรือ WIG (widely important goal) เป็นเปา้ หมาย ที่ต้องการจะไปถึง ทจ่ี ะทำ�ให้ทกุ อยา่ งเกดิ ข้ึน เพอื่ ให้ผูเ้ ข้ารว่ มเกิดส่งิ น้ัน ตวั อยา่ งเชน่ work- shop ของผู้เขียนคือ The body play เปา้ หมายสงู สดุ คือ ผเู้ ขา้ รว่ มสามารถเข้าใจแก่นของ การท�ำ กิจกรรมนนั ทนาการจากไมเ่ ข้าใจและทำ�ไมไ่ ด้ จนสามารถเข้าใจและนำ�ไปใชง้ านได้จริง ภายใน 2 วนั ของการอบรม เป็นตน้ เป้าหมายยอ่ ย หมายถึง เปา้ หมายทเ่ี มอื่ ท�ำ ส�ำ เรจ็ แลว้ จะท�ำ ใหป้ ระหมายใหญ่ สำ�เร็จดว้ ยเช่นกัน ความแตกตา่ งคอื เปา้ หมายยอ่ ย เป็นเป้าหมายทีเ่ ลก็ ๆ นอ้ ย ๆ เป็นเป้า หมายท่ีเป็นองคป์ ระกอบของเป้าหมายใหญ่ เปา้ หมายย่อยจึงเป็นเปา้ หมายของกิจกรรม แต่ละกจิ กรรม ตัวอย่างเชน่ เป้าหมายหลักของworkshop ของผ้เู ขยี นคือ The body play “ผูเ้ ขา้ ร่วมสามารถ เข้าใจแก่นของการท�ำ กจิ กรรมนนั ทนาการจากไม่เข้าใจและทำ�ไมไ่ ด้ จน สามารถเขา้ ใจ และไป ใชง้ านไดจ้ รงิ ภายใน 2 วันของการอบรม” เปา้ หมายย่อย ตวั อยา่ งเช่น 1. ผเู้ ข้าร่วมจะต้องเข้าใจหลกั การออกแบบกจิ กรรม 2. ผเู้ ขา้ ร่วมจะตอ้ งผ่านประสบการณ์ในการทำ�กจิ กรรม 3. ผู้เขา้ ร่วมจะต้องมีความสมั พันธ์ท่ีดตี อ่ ผูเ้ ข้ารว่ มด้วยกนั 4. ผู้เขา้ รว่ มจะต้องสามารถมองกิจกรรมผา่ นดวงตากระบวนกรได้ 5. ผเู้ ข้าร่วมจะตอ้ งไดท้ ดลองทำ�กิจกรรมจรงิ ในหอ้ ง เม่ือผูเ้ ขา้ รว่ มสามารถบรรลปุ ระสบการณท์ งั้ 5 ข้อของเป้าหมายย่อยแล้ว เปา้ หมาย หลักจะสำ�เร็จ หรือจะพดู งา่ ยๆคอื เปา้ หมายหลัก เป็นผลลัพธจ์ ากเป้าหมายย่อยนน่ั เอง 1 0 อาวธุ ลับกระบวนกร

เนอื้ หา เน้ือหานนั้ เป็นองคป์ ระกอบสำ�คัญ เป็นหลักการ ท่ีจะท�ำ ให้ไปถงึ เปา้ หมาย เนื้อหา โดยส่วนใหญ่ มักเป็นองค์ความร้ทู ี่เกดิ การตกผลึก หรอื ส่งิ ทีเ่ ราอยากใหผ้ ูเ้ รยี นร้จู ัก คำ�ว่า หลกั การ นั้นส�ำ คัญมาก ในความเป็นจริง หลักการน้ันอาจเกิดขึน้ จากการสอนหรอื จากการ เรียนรูข้ องผเู้ ข้ารว่ มเอง เนือ้ หาเป็นหลกั การท่ีจะทำ�ให้เป้าหมายนัน้ ส�ำ เรจ็ หรอื จะพดู งา่ ยๆ คอื เม่ือเรามเี ป้าหมายแลว้ ว่าจะท�ำ ให้ผเู้ รยี นเกดิ การเรียนรเู้ รื่องอะไร เราก็จะตอ้ งหาหลักการหรือ เน้ือหา ที่สามารถทำ�ใหผ้ ู้เรยี นไปถงึ เป้าหมายนัน้ ให้ได้ ตัวอย่างเชน่ workshop ของผเู้ ขียนคอื The body play เนอื้ หา ท่ผี ู้เขียนเตรียมไว้ นัน้ จะแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท 1. หลักการการออกแบบกิจกรรม เป็นเนอื้ หาท่เี กย่ี วกบั แนวคิดหรือทฤษฎี ทจ่ี ะชว่ ยใหก้ ารออกแบบกิจกรรมสามารถตอบสนอง ต่อเป้าหมายท่ผี ้เู ขยี นวางไว้ ตวั อย่างเนอ้ื หาเช่น ทฤษฎี ปัญญา3 ฐาน, หลักการออกแบบกจิ กรรม, เทคนิคการใชภ้ าษา,หลักการสอนเป็นต้น 2. หลักการของกิจกรรม เป็นเน้ือหาเกี่ยวกับกิจกรรม หรอื เกมตา่ งท่ีน�ำ ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการท�ำ กจิ กรรม เทคนคิ เคลด็ ลับ ของกจิ กรรม โดยหลกั การน้ี ผู้เขียนได้รวบรวมไวเ้ ป็นเอกสาร เพือ่ เป็น เนอื้ หาท่ีผเู้ ขา้ ร่วมสามารถจับตอ้ งได้ และเหน็ ภาพรวม กระบวนการหรอื กิจกรรม กระบวนการหรอื กจิ กรรมนั้น เป็นเหมอื นดอกไม้แต่ละชนิด ที่มีความหลากหลาย ใหเ้ ลือกใช้ สง่ิ ส�ำ คญั คือ การเลอื กใชด้ อกไม้แต่ละชนิดให้เหมาะสมกบั สถานะการณห์ รอื ให้เหมาะสมตามหลักสัปปรสิ ธรรม 7 คือ ตอ้ งร้เู หตุ รู้ผล รู้ตน รปู้ ระมาณ รูก้ าล รูบ้ ุคคล รูช้ มุ ชน ผ้จู ดั กจิ กรรมสว่ นใหญ่นั้น หากมองกิจกรรมแยกขาดออกจากเปา้ หมายและเนอ้ื หา กจ็ ะทำ�ให้กจิ กรรมนัน้ ไมส่ ามารถน�ำ พาไปส่กู ารเรยี นร้ทู ตี่ ้องการได้ ผู้เขียนเชอื่ วา่ กจิ กรรม แต่ละกจิ กรรมน้นั สามารถน�ำ พาผเู้ รียนให้ไปเรยี นร้ใู นหลากหลายประเดน็ ตามแตเ่ ปา้ หมาย 1 1อาวธุ ลับกระบวนกร

หลกั ของกระบวนการ เม่อื น�ำ ไปใช้ กระบวนกรหรือผจู้ ัดกจิ กรรมจะต้องตอบค�ำ ถามให้ได้ วา่ กจิ กรรมนีต้ ้องการอะไร และกิจกรรมจะสามารถตอบโจทย์เปา้ หมายย่อยไดอ้ ยา่ งไร โดยแตล่ ะเปา้ หมายยอ่ ยไมจ่ �ำ เป็นจะตอ้ งมกี ิจกรรมเดียว ขน้ึ อยกู่ ับการรอ้ ยเรียงกจิ กรรม ดังน้ันกิจกรรมหรือกระบวนการคือส่ิงที่จะทำ�ให้ผู้เรียนเข้าไปสัมผัสกับเนื้อหาใน กิจกรรม และเน้อื หาในกจิ กรรมนัน้ จะนำ�ไปสู่เป้าหมายแหง่ การเรียนรูน้ ัน่ เอง ตัวอยา่ งเชน่ เปา้ หมายย่อยบางช่วงของ workshop the body play ของผู้เขียน ต้องการใหผ้ เู้ ข้าร่วมรู้จกั กันและเกิดพน้ื ทป่ี ลอดภัย ทำ�อย่างไรละให้ทุกคนร้จู ักกัน ก็ตอ้ งพูด คุยกัน แล้วพดู คยุ กันอยา่ งไรโดยทที่ กุ คนยอมเปิดใจพดู คยุ กนั ผู้เขียนจึงวางกิจกรรมท่ีใหท้ ุก คน ได้ปฏิสมั พนั ธก์ นั ผา่ นการเลน่ กอ่ น โดยใชก้ ิจกรรม check in work ก่อน เพ่ือให้ทุกคนได้ เดนิ จากน้นั ค่อย ๆ ให้คุยกัน ให้แข่งกนั จน และภาพสุดทา้ ยคอื ให้ทุกคนไดน้ งั่ แบง่ ปันกัน โดย การจบด้วยกิจกรรม บารล์ อมิเตอร์ เป็นตน้ การถอดบทเรียน การถอดบทเรยี น เป็นเหมือนกับการสรุป 3 ขอ้ แรก โดยเนน้ การสรปุ จากกจิ กรรม เพื่อใหเ้ กดิ เน้อื หา หรือคน้ หาเนือ้ หาหรอื หลกั การจากกิจกรรมที่ท�ำ ไป ซงึ่ การถอดบทเรียนนนั้ ผ้นู ำ�กจิ กรรม ไมว่ า่ จะเป็นกระบวนกรหรือวิทยากร จะตอ้ งมที กั ษะในการถอดบทเรยี นอยูใ่ น ระดบั หนง่ึ โดยพ้ืนฐานแล้วจะต้องมี ทักษะการฟัง ทักษะการถามและจับประเด็น โดยแล้วแต่ เทคนิค แตล่ ะทา่ นจะใช้เทคนคิ ในการถอดบทเรยี นแบบไหน ดงั น้นั การถอดบทเรียนนน้ั ไม่วา่ จะใช้เทคนคิ หรือวธิ ีการไหน การถอดบทเรยี นจะ ตอ้ งเป็นหนงึ่ ในกระบวนการ คอื จะตอ้ งถอดออกจากกิจกรรม เพอ่ื ทำ�ใหเ้ นือ้ หาทวี่ างไว้ ปรากฏ ตอ่ ผู้เรียน และท�ำ ให้ผูเ้ รียน เกดิ การเรยี นรตู้ ามเป้าหมายที่วางไวน้ ่ันเอง ผเู้ ขียนมองวา่ เปา้ หมายเหมอื นสรรพคุณทผ่ี ู้เข้ารว่ มจะไดร้ ับ เนอื้ หาเหมอื นน�้ำ ท่ผี ู้ เข้าร่วมจะด่มื กิน กิจกรรมหรือกระบวนการเป็นเหมือนภาชนะ ท่ีบรรจเุ น้อื หาไว้ และการถอด บทเรยี นเป็น เหมอื นกับครูท่ีกลบั มาต้ังค�ำ ถามกบั เรา ให้เราไดเ้ ห็นสรรพคณุ ทแ่ี ตล่ ะคนได้ เรยี นรผู้ า่ นการด่ืมกนิ ครงั้ นั้น ดังนนั้ สง่ิ สำ�คัญของการออกแบบกจิ กรรมนัน้ คือการมี 1 2 อาวุธลบั กระบวนกร

หลกั การ4 ข้อนี้ไว้เป็นหลกั ยดึ ลักษณะ กิจกรรม 3 ฐานการเรยี นรู้ ในการออกแบบกิจกรรมนั้น โดยเฉพาะหากเป็นการจดั กจิ กรรมใหก้ บั ผู้เข้าร่วม นอกจากจะต้องค�ำ นึงถึงองค์ประกอบ 4 อย่าง เปา้ หมาย เนื้อหา กิจกรรมและการถอดบท เรยี นแล้ว สิ่งสำ�คัญของการท�ำ กจิ กรรมน้นั มีหลกั การในการจัดกิจกรรมใหเ้ หมาะสมอยเู่ ช่น กนั โดยยดึ หลักแนวคิดของปัญญา 3 ฐาน คอื ฐานหวั ฐานกาย ฐานใจ โดยกจิ กรรมในแตล่ ะ ฐานนน้ั จะมลี ักษณะทแี่ ตกต่างกนั กิจกรรมฐานหวั เป็นกิจกรรมท่เี นน้ การใชค้ วามคิดเชิงระบบ การวางแผนหรือเป็น กิจกรรมที่ เน้นตรรกะและเหตผุ ล จนิ ตนาการ ภาษา การเรยี นรู้เชงิ ขอ้ มูล ซงึ่ มคี วามเกี่ยวข้อง กับปัญญาฐานคิด ลักษณะกิจกรรมฐานหวั นัน้ จะเป็นการใช้ความคดิ ออกความคิดเห็น การ ไดโ้ ต้เถยี งกัน การพยายามทำ�ให้ผเู้ ข้ารว่ มไดอ้ อกความคดิ ออกไอเดยี ได้อยา่ งเตม็ ท่ี พูดง่ายๆ เป็นกิจกรรมท่ีท�ำ ให้ผ้เู ข้าร่วมได้คิดและเรียนรู้ ทั้งคิดกบั ตัวเอง คดิ กบั ผเู้ ขา้ รว่ มคนอน่ื และคิด ตามผสู้ อน กจิ กรรมฐานกาย เป็นกจิ กรรมท่เี น้นการลงมือท�ำ การเข้าไปสัมผสั กับประสบการณ์ ตรง การได้ปะทะ แข่งขนั การพยายามอยรู่ อด สัญชาตญิ าณ การทรงตวั ต่าง ๆ เหลา่ น้ี ท่ที ำ�ให้ เกดิ การปฏิสมั พันธ์ท้ังกับตัวเองและกับผ้อู น่ื ลกั ษณะของกจิ กรรมนั้น โดยตัวของกจิ กรรม นนั ทนาการนน้ั เน้นไปทก่ี จิ กรรมฐานกายและฐานคดิ เป็นสว่ นใหญ่ ทำ�ให้ผู้เขา้ รว่ มเกิดความ สนกุ หรือสร้างความตน่ื ตวั ตามเป้าหมายการเรยี นรู้ กจิ กรรมฐานใจ เป็นกิจกรรมที่เชอ่ื มโยงกับความรสู้ ึกโดยตรง การท�ำ ใหเ้ กดิ ความ ร้สู ึกบางอย่าง การเชือ่ มโยงกบั ความทรงจ�ำ การสัมผสั ความรสู้ กึ ทั้งบวกและลบ ลักษณะ ของกิจกรรมนนั้ จะเน้นไปทก่ี ารกลับมาอยกู่ ับเร่ืองใดเรื่องหนึง่ หรอื ใครค่ รวญกับความรู้สกึ นั้นๆ แล้วค่อยๆลงลกึ ไปเรียนรู้ ความตอ้ งการหรอื คุณคา่ บางอย่าง โดยมากแลว้ กิจกรรม นันทนาการจะขาดกจิ กรรมฐานใจอยา่ งมาก เพราะเม่อื เข้าไปสฐู่ านใจแลว้ พนื้ ท่ีเหล่านนั้ จะ ตอ้ งปลอดภยั เพียงพอ ท่ีจะตอ้ นรบั ความร้สู กึ หลายความรู้สึกทีเ่ กดิ ข้นึ ในแต่ละกิจกรรมน้ัน อาจมหี ลายฐานการเรยี นรู้อยใู่ นน้นั แต่ส่ิงทส่ี ำ�คญั คอื การจัด 1 3อาวุธลบั กระบวนกร

สมดลุ ของกจิ กรรมให้ครบท้ัง 3 ฐาน เพอ่ื ใหก้ ารเรยี นรคู้ ร้งั นน้ั ไมข่ าดมิตใิ ดมติ ิหนึ่งไป เพราะ หากหนกั ไปทีฐ่ านหวั โดยสว่ นเดียว กจ็ ะทำ�ให้ผ้เู ขา้ ร่วมรบั รเู้ พยี งข้อมลู แต่ไม่เกดิ การเรียนรู้ ด้านใน ตวั อย่างที่เหน็ ไดช้ ัดคอื การเข้าไปเรยี นในหอ้ งแลว้ มีครมู าสอนๆ สดุ ทา้ ยผลที่ไดค้ อื เขา้ ใจวา่ ครูสอนอะไร แต่ไมเ่ ขา้ ใจวา่ ตวั เองรู้สกึ อะไร เป็นตน้ หากเนน้ ไปทฐ่ี านกายอย่างเดียว ก็จะท�ำ ใหเ้ หนอ่ื ยล้า และเมอ่ื จบแลว้ จะรู้สกึ ว่า ไม่ได้เรียนรอู้ ะไร จับต้องไมไ่ ด้ เหมือนเลน่ ผ่านๆไป หรือหากหนกั ไปทฐี่ านใจมากเกนิ ไป ก็จะด�ำ ด่ิงกับความรู้สึกมากเกินไปจนไม่อาจ ถอนตวั เองข้ึนมาได้ หรอื อาจกลายเป็นสรา้ งบาดแผลใหม่ย้�ำ เขา้ ไปอกี ดงั น้นั สิ่งส�ำ คัญของการจดั กิจกรรมคอื การรอ้ ยเรยี งกิจกรรม ไม่มีกจิ กรรมใดขาด ออกจากกัน มกี จิ กรรมท่ีเร่มิ และมกี จิ กรรมทีจ่ บ หากสามารถคน้ หาสมดลุ ของกจิ กรรมน้ัน ได้ จะสามารถไปถงึ เป้าหมายทวี่ างไว้อย่างแนน่ อน 1 4 อาวุธลบั กระบวนกร

. . . ปัญญา 3 ฐาน ฐานกาย ฐานหัว ฐานใจ . . . 1 5อาวุธลับกระบวนกร

รูปแบบที่ 1 Grounding game เกมและกิจกรรมที่ทำ�ให้เกิดการ 1 “ใครค่ รวญ” ลักษณะและจุดเดน่ ของเกม ประเภทน้ีคือเน้นการกลับมาสะท้อนตัวเอง ผ่านกจิ กรรม ไมว่ า่ จะเป็นความรสู้ ึก ความคดิ ความต้องการ หรือแมก้ ระทัง่ คุณคา่ ทยี่ ดึ ถอื อยู่ ลกั ษณะกจิ กรรมนั้นจะเนน้ ไปท่กี ารส�ำ รวจ สนทนา ตกตะกอน แบง่ ปัน โดยกระบวนการ ลกั ษณะ Grounding game เป็นกิจกรรมหรือ กระบวนการแนวจิตตปัญญาศึกษา เนน้ การ เรยี นรู้เป็นพิเศษ เนือ่ งจาก ท�ำ ให้กลับมาเหน็ ตัวเอง ตระหนักรู้ในตัวเอง และท�ำ ให้เกดิ การ สนทนาอยา่ งแท้จริง 1 6 อาวธุ ลบั กระบวนกร

1 • Check in • Check in walk • Common ground • Socio-Matrix • บาร์ลอมิเตอร์ • เดนิ 3 เกยี ร์ • เดินหยุดพร้อมกัน • Fingers dance ระบ�ำ น้วิ มือ • ไพ่สะท้อนตวั ตน • เม่ือฉนั อายุ... • ตะกรา้ 4 ใบหัวใจ 4 ดวง 1 7อาวธุ ลบั กระบวนกร

CHECK IN 1 8 อาวธุ ลับกระบวนกร

กิจกรรมท่ี 1 : Check in วตั ถุประสงค์ เพอ่ื เป็นการเปิดวง และรับฟังตวั ตนของผูเ้ ขา้ ร่วม นิยมใช้เป็นกจิ กรรมแรก ในการ ท�ำ ความรูจ้ ักระหวา่ งผู้เข้าร่วมและกระบวนกร อีกทัง้ เป็นการเปดิ พื้นท่ีในการรบั ฟังอารมณ์ ความรสู้ ึก ความตอ้ งการ และเพื่อเป็นการสร้างพ้ืนทปี่ ลอดภยั และข้อตกลงรว่ มกนั ขั้นตอนการท�ำ กิจกรรม 1. อธบิ ายการ check in คอื อะไร 2. ก�ำ หนดโจทยท์ ีต่ ้องการ เช่น แนะน�ำ ตวั ชอื่ ทำ�อะไร ที่ไหน อย่างไร หรอื คาด หวงั อะไรจากการอบรม 3. เรียงไปตามลำ�ดับ ค�ำ แนะน�ำ การท�ำ Check in นอกจากจะท�ำ ใหก้ ระบวนกรรบั รขู้ อ้ มลู พน้ื ฐานของผ้เู ข้าร่วมแล้ว กจิ กรรมนีย้ งั สามารถท�ำ ให้รบั รูอ้ ารมณแ์ ละความรูส้ กึ ของผู้เข้าร่วมโดยเชน่ กัน ดังน้นั การ- check in ยังทำ�ไดห้ ลายรูปแบบ ผเู้ ขยี นไดร้ วบรวมให้มาเพอ่ื ให้เห็นภาพตัวอยา่ งดงั น้ี รูปแบบท่ี 1 Check in ท้องฟา้ หมายถึง ใหผ้ ู้เข้าร่วมอธิบายสภาวะความ รสู้ ึกของตวั เองหากเปรียบเป็นท้องฟา้ จะเป็นเชน่ ไร ตวั อย่างเชน่ ทอ้ งฟา้ ของผู้เขียนตอนนีม้ ี เมฆแหง่ ความกังวลนดิ หนอ่ ย แตก่ ม็ ีแสงแดดอยูบ่ า้ ง ทำ�ใหม้ พี ลังในการเรยี นรใู้ นวนั นี้เป็นตน้ รปู แบบท่ี 2 Check in time หมายถงึ หากเปรียบชวี ิตท้ังชวี ติ เรามี 24 ช่ัวโมง ตอนน้ี ชวี ติ ของเรา “กโ่ี มงแล้ว” รูปแบบที่ 3 Check in การเดินทาง หมายถึง หากชีวิตเปรียบเหมือนการเดินทาง ตอนนี้ การเดินทางของเราเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งนยี้ งั รวมไปถงึ สี คน สัตว์ ส่งิ ของ ไดอ้ ีกด้วย 1 9อาวุธลบั กระบวนกร

CHECK IN WALK 2 0 อาวธุ ลบั กระบวนกร

กิจกรรมท่ี 2 : Check in walk วัตถุประสงค์ 1.เพือ่ ให้ผูเ้ ขา้ รว่ มได้ทบทวนตวั เอง 2.เพื่อให้ผเู้ ข้าร่วมได้ปฏสิ ัมพนั ธ์ระหวา่ งกนั และกัน 3. เพ่อื สรา้ งพื้นท่ีปลอดภัย ขน้ั ตอนการทำ�กิจกรรม 1.ใหผ้ ู้เขา้ รว่ มลกุ ข้นึ เดินแบบอสิ ระ ในระหว่างทผ่ี ู้เข้ารว่ มกำ�ลงั เดนิ อยู่น้ัน กระบวนกรคอ่ ยๆ ชักชวนใหผ้ ู้เขา้ รว่ มกลบั มาอย่กู ับตวั เอง ตัวอยา่ งเช่นให้กลับมาสงั เกต และคดิ ทบทวนเรอื่ งราวของตวั เอง 2.เมื่อได้ยนิ สัญญาณระฆังใหห้ ยดุ และจับคกู่ บั คนท่อี ยู่ข้างๆ 3. เมอ่ื ได้ค่แู ล้วให้แบง่ ปันเรอ่ื งราว ตามประเดน็ ที่กระบวนกรกำ�หนดเชน่ - เร่ืองทพี่ ีคท่สี ดุ ในอาทิตยน์ ้ี - เรือ่ งท่ที ำ�ใหย้ มิ้ ได้ - ความทรงจ�ำ ท่มี ีคณุ ค่า เป็นต้น 4.เมือ่ คุยเสรจ็ แล้ว ก็ให้สัญญาณออกเดินตอ่ จากน้นั ใหเ้ ปลยี่ นคู่ เปลย่ี นโจทย์ไป ตามความเหมาะสม ค�ำ แนะนำ� กจิ กรรมนเี้ ป็นการปฏิสมั พันธ์กันระหว่างผูเ้ ข้ารว่ มกันเองในเบอ่ื งต้น ดงั นน้ั คำ�ถาม หรอื เน้อื หาทีใ่ ห้แบ่งปัน ควรสลับระหว่างสนุกสนาน และคำ�ถามเพ่ือการสบื ค้น และสามารถ จบั กลุม่ กนั ไดม้ ากกวา่ 2 คน ตามจ�ำ นวนท่ตี ้องการ 2 1อาวธุ ลบั กระบวนกร

COMMON GROUND กจิ กรรมท่ี 3 : Common ground วตั ถุประสงค์ มนษุ ยเ์ ราจะรสู้ ึกปลอดภัยมากขึ้น เม่ือเรารับรวู้ ่าคนตรงหนา้ มีอะไรเหมอื นกบั เรา บ้าง ดังนัน้ กิจกรรมน้ี ทำ�หนา้ ท่ีในการสร้างพื้นท่ปี ลอดภัย โดยท�ำ ใหท้ ุกคนเห็นว่าเรามอี ะไร เหมือนกัน และเป็นกจิ กรรมที่ชกั ชวนมาสำ�รวจตัวเองในเบื้องต้น จำ�นวนผเู้ ข้าร่วม ไม่จำ�กดั 2 2 อาวธุ ลับกระบวนกร

ขัน้ ตอนการทำ�กิจกรรม 1. ใหผ้ ูเ้ ขา้ ร่วมทุกคนยนื ล้อมกนั เป็นวงกลม 2. กระบวนกร จะบอกถงึ ลักษณะบางอยา่ งทีม่ อี ยูใ่ นตัวเอง ตัวอยา่ งเชน่ ใครเกดิ วนั จันทร์ ให้กา้ วออกมา 3. คนทม่ี คี ณุ สมบตั ติ ามทกี่ ระบวนกรบอกใหก้ า้ วออกมา 1 กา้ ว จากน้นั ให้สบตา และยิ้มให้กัน แล้วกลับทเี่ ดมิ (หรือสลบั ท่)ี ตัวอยา่ ง ประเภทท่ีใช้ในการถามคำ�ถาม 1. ส่ิงท่เี ห็นไดภ้ ายนอก ณ ตอนนน้ั ตวั อย่างเช่น สเี สื้อผา้ เครอ่ื งประดับ 2. ความชื่นชอบ หรอื สง่ิ ท่สี นใจ ตัวอยา่ งเชน่ ชอบท่องเที่ยว ชอบอาหารเมนใู ดหรอื สเปกท่ชี อบ 3. บุคลิกภาพ ตัวอย่างเชน่ เป็นคนหัวรอ้ น ขเ้ี กรงใจ ข้เี บื่อ 4. อนื่ ๆ เชน่ ภูมิลำ�เนา ล�ำ ดบั ญาติ คำ�แนะนำ� กจิ กรรมนี้ เม่อื กระบวนกรให้โจทย์ไปสองหรือสามข้อ กม็ กั จะลองให้ผเู้ ขา้ รว่ ม แต่ละคนไดห้ าจุดรว่ มของตัวเอง โดยใหเ้ ป็นผูก้ ำ�หนดหัวขอ้ เอง ท้งั นี้ กระบวนกรยังสามารถ ใช้สำ�รวจภูมลิ ำ�เนา หรอื ประสบการณ์ในอดีตของแต่ละคนไดอ้ ีกดว้ ย 2 3อาวธุ ลบั กระบวนกร

2 4 อาวธุ ลบั กระบวนกร

กจิ กรรมท่ี 4 Socio-Matrix วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ท่ีจะทำ�ให้เหน็ ถงึ ระยะเวลา หรือเรยี งล�ำ ดบั ต่าง ๆ จากมากไปหานอ้ ย และใน ฐานะกระบวนกร ทำ�ใหเ้ ห็นและสามารถประเมินผู้เข้ารว่ มไดเ้ ชน่ อายุ เป็นต้น จำ�นวน ไม่ จ�ำ กดั ข้นั ตอนการทำ�กิจกรรม 1. ยนื ล้อมเป็นวงกลม 2. กระบวนกรคือจุดศูนยก์ ลาง โดยแบง่ ออกเป็นสองฝัง่ คอื ฝั่งดา้ นซา้ ยของกระบวน กรคอื นอ้ ยสุด ฝั่งดา้ นขวาของกระบวนกรคอื มากสุด 3. ใหโ้ จทย์ผเู้ ข้าร่วมใหเ้ รยี งล�ำ ดบั น้อยสดุ ไปหามากสุด ยกตัวอยา่ งเช่น ใหเ้ รยี ง ลำ�ดบั คนท่มี ีอายุน้อยสุดไปหามากสุด ผู้ท่ีอายุน้อยท่สี ดุ จะตอ้ งยนื ดา้ นซา้ ยของกระบวนกร เรยี งไปเป็นลำ�ดบั จนถงึ มากที่สุดจะยืนอยู่ด้านขวามอื กระบวนกร ตัวอยา่ งโจทย์ - เดือนทงั้ 12 - ระยะเวลาการท�ำ งานในทีน่ น้ั ๆ - จ�ำ นวนพน่ี อ้ ง - อายุ - ส่วนสงู - จ�ำ นวนเพอื่ นในเฟสบุค๊ เป็นต้น ค�ำ แนะนำ� ในรอบแรกๆ นน้ั อาจให้สามารถใช้เสียงหรอื พดู คยุ กนั ได้ แตห่ ลังจากน้ัน เพ่อื เพิม่ ความท้าทายมากย่ิงข้ึน โดยการไม่ใหใ้ ชเ้ สียงพดู คุยกัน โดยมากกจิ กรรมน้ีจะใช้หรือทำ� กจิ กรรมในวันแรกๆ ผเู้ ขียนมองวา่ สามารถเป็นแบบประเมนิ ในการวัดระดบั อ่ืนๆไดอ้ ีก เช่น ความพงึ พอใจ หรือความรู้สึกตา่ งๆ จากมากไปหาน้อย แต่สง่ิ ทต่ี ้องพงึ ระวงั คอื ฝั่งท่ีให้น้อยจะ ต้องไมถ่ ูกมองวา่ ผดิ หรือดูแปลกแยก 2 5อาวธุ ลับกระบวนกร

บารอมิเตอร์ กิจกรรมท่ี 5 บารอมิเตอร์ วตั ถุประสงค์ 1.เพ่ือทำ�ใหผ้ ู้เข้ารว่ มได้เหน็ และส�ำ รวจตวั เองถึงความรสู้ ึกปัจจบุ ันของตเั อง 2.เพอ่ื ตรวจสอบและวดั ระดบั ความรูส้ กึ ความเข้าใจในเรอ่ื งต่าง ๆ 3.เพื่อใหเ้ ห็นมุมมองทแ่ี ตกตา่ งของผ้เู ข้ารว่ มแตล่ ะคน จำ�นวน ไม่จ�ำ กัด 2 6 อาวุธลับกระบวนกร

ขัน้ ตอนการท�ำ กิจกรรม 1. จัดหมายเลขไว้ 4 ระดับ คือ1-4 2. เขียนหมายเลขนน้ั แล้วน�ำ ไปวางไว้ทจ่ี ุดต่าง ๆ ตามห้อง นิยมวางเรยี งกนั เป็น วงกลม เพือ่ ให้เม่อื แชร์จะไดเ้ ห็นกันทง่ั หมด 3. จากน้ันกระบวนกรอธิบายและให้โจทย์ ตัวอย่างเชน่ ใหว้ ดั ความสุขของเราในชว่ ง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยก�ำ หนดให้ เลขมากสุด คอื 4 หมายถึง สขุ สดุ ๆ สว่ นหมายเลข 1 คือนอ้ ยสุด 4.เมื่อผเู้ ขา้ รว่ มคนไหนพรอ้ มกใ็ ห้เดนิ ไปอยตู่ รงจุดหมายเลขที่เลอื กไว้ 5.กระบวนกรอาจใหแ้ ชรใ์ นกลมุ่ ก่อนสกั 3 นาที วา่ ท�ำ ไมถึงมาอยูห่ มายเลขนี้ 6.กระบวนกรสมุ่ ถามแตล่ ะหมายเลขว่าท�ำ ไมถงึ ให้เทา่ น้ีเพราะอะไร ตวั อย่างโจทยใ์ นการวดั ระดบั ความสขุ ความทกุ ขใ์ นชว่ งน้ี แลว้ แต่กำ�หนดระยะเวลา ระดับความเขา้ ใจ ระดับความ พงึ พอใจ ระดบั ความรู้สกึ ต่อเร่อื งนั้น ๆ เป็นตน้ ค�ำ แนะนำ� การวัดระดับนั้น ส่ิงหนึ่งทจ่ี ะต้องพึงระวงั คือการตัดสินซงึ่ กันและกัน กระบวนกรจะ ต้องพดู ยำ้�อยูเ่ สมอว่า ระดับของแต่ละคนนน้ั ไมเ่ หมอื นกัน 1 ของแตล่ ะคนก็ไม่เท่ากนั ยง่ิ หาก เป็นประเด็นท่อี ่อนไหว ไมว่ ่าจะเป็นความเครยี ด ความออ่ นแอ หรือวัดความพงึ พอใจตา่ งๆ การใหพ้ น้ื ที่กบั คนทคี่ ะแนนน้อยนั้นส�ำ คญั มาก ในกรณีท่ีมจี �ำ นวนเยอะ อาจให้จบั กลุ่มคยุ กนั อยา่ งนอ้ ยกลุ่มละสองหรือสามคน คอ่ ยดงึ เขา้ กลุม่ ใหญ่ 2 7อาวุธลบั กระบวนกร

เดนิ 3 เกยี ร์ 2 8 อาวธุ ลบั กระบวนกร

กจิ กรรมที่ 6 เดิน 3 เกยี ร์ วตั ถุประสงค์ เพ่ือใหผ้ ู้เข้ารว่ มไดก้ ลับมาอยกู่ ับตวั เอง และเป็นกิจกรรมท่ีจะเชื่อมไปยังกจิ กรรม อน่ื ทตี่ อ้ งการความสงบ และต้องการคละกลุ่ม จำ�นวน ไมจ่ �ำ กัด ขั้นตอนการท�ำ กิจกรรม 1. ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มเดนิ อย่างอิสระ ด้วยความเรว็ ปกติแบบไมช่ นกนั 2. กระบวนกรพดู ว่า เกยี ร์ 2 ใหผ้ ้เู ข้ารว่ มเพิ่มความเรว็ ข้นึ 3. และพดู ว่าเกยี ร์ 3 เตมิ ความเร็วขน้ึ อกี ระดบั กจิ กรรมนีน้ ิยมใชเ้ พ่ือใหผ้ ู้เขา้ ร่วมได้คละกลุม่ กัน และท�ำ ใหผ้ ู้เขา้ ร่วมไดเ้ ตรียม พรอ้ มสู่กจิ กรรมตอ่ ไป ค�ำ แนะนำ� กิจกรรมนี้เป็นเหมอื นการเตรยี มเข้าสกู่ ิจกรรมตอ่ ไป โดยมากจะเป็นกิจกรรมที่เนน้ การพูดคยุ แบบจบั คหู่ รอื คละกลมุ่ การใหอ้ อกเดินสามเกียรโ์ ดยมากผเู้ ขยี นจะใชเ้ พือ่ เปลยี่ น อิรยิ าบท และต้องการให้เกิดการคละกล่มุ ดังนนั้ แม้จะเป็นกิจกรรมงา่ ย ๆ ในหลาย ๆ ครงั้ สามารถพาลงลึกหรือทำ�ให้ผเู้ ขา้ รว่ มกลบั มาอย่กู บั ตวั เองไดเ้ ช่นกนั ตัวอย่างเช่น การให้ผูเ้ ข้า ร่วมคอ่ ยๆ เดินแบบส�ำ รวจความคดิ ตัวเอง มีสตทิ ุกยา่ งก้าว และค่อยเพม่ิ ระดบั ความเรว็ ขน้ึ ไป เม่ือเสร็จกิจกรรมอาจลองถามผเู้ ขา้ รว่ มว่า จงั หวะไหนทพ่ี อดรี สู้ ึกสบาย เมอ่ื เดินเรว็ ข้ึนเกดิ อะไรข้นึ บ้าง เหน็ ตัวเองอยา่ งไร เป็นต้น ท้ังนี้ขนึ้ อยกู่ บั ทกั ษะการตง้ั คำ�ถามและการลงลึกของ กระบวนกร 2 9อาวธุ ลับกระบวนกร

เดินหยุด พร้อมกนั 3 0 อาวธุ ลับกระบวนกร

กิจกรรมท่ี 7 เดนิ หยุดพร้อมกัน วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ใหอ้ ยู่กบั ตวั เอง และไดส้ งั เกตผู้อ่ืน ข้นั ตอนการท�ำ กจิ กรรม 1. ใหท้ ุกคนเดนิ อยา่ งอสิ ระ 2. ผู้น�ำ เลน่ ให้โจทย์วา่ “เมื่อเหน็ คนใดคนหนง่ึ หยุด ใหห้ ยุดพรอ้ มกนั เมอ่ื เหน็ คนใดคนหนง่ึ เดนิ ใหเ้ ดนิ พร้อมกนั โดยให้จงั หวะของการหยดุ หรอื เดนิ พรอ้ มกันมากทส่ี ุดเท่าทีจ่ ะท�ำ ได้” 3. ในระหว่างท่ีเดนิ นนั้ ผนู้ ำ�เลน่ จะตอ้ งบอกผ้เู ขา้ ร่วมใหก้ ลบั มาสงั เกตตัวเอง วา่ เกิดความคดิ ความรู้สกึ อยา่ งไร 4. การถอดบทเรยี นในกิจกรรมนี้ มกั จะเนน้ ไปท่ีการสังเกตผูอ้ นื่ และสังเกต ความกลวั ของตวั เอง บางคนกลัวที่จะเป็นคนเร่ิมแต่บางคนชอบที่จะเป็น คนเริม่ ค�ำ แนะน�ำ โทนของกิจกรรมนจี้ ะนงิ่ ๆ มากกว่าสนกุ สนาน ดงั น้นั กอ่ นจะออกเดนิ เคล็ดลบั สำ�คญั คือ กระบวนกรจะต้องพากลับมาสงั เกตตัวเอง และตงั้ เงอ่ื นไขก่อนเลก็ น้อยวา่ ใหล้ อง สงั เกตตวั เองวา่ ขณะท่เี ลน่ เป็นอยา่ งไร ส่งิ สำ�คัญ คือ การให้เวลากับกิจกรรม หากน้อยเกิน ไปผเู้ รียนก็จะไมเ่ กิดการเรยี นรู้ หากมากเกินไปกจ็ ะเปล่ียนไปเป็นความรสู้ ึกอนื่ เช่นเหน่อื ย ระยะเวลาประมาณ 5-10 นาที กำ�ลงั พอเหมาะ อนั ที่จริงตอ้ งขนึ้ อยู่กับการประเมินกลมุ่ ของ กระบวนกร ดงั น้ันในระหวา่ งทีท่ �ำ กจิ กรรม กระบวนกรจะต้องสงั เกตผู้เขา้ รว่ มอยู่เสมอ ค�ำ ถาม ทผี่ ู้เขยี นมกั ใช้ในกิจกรรมนค้ี อื 1. เห็นตวั เองอยา่ งไรในขณะทท่ี ำ�กิจกรรม 2. ใครเห็นอารมณก์ ่อนขณะจะเป็นคนหยุดบา้ ง มีความคิดอะไรเกิดข้ึนบ้าง ก่อนจะหยุด 3 1อาวุธลบั กระบวนกร

ระบ�ำ นิ้วมอื 3 2 อาวธุ ลบั กระบวนกร

กิจกรรมที่ 8 Finger dance ระบ�ำ นิ้วมือ วัตถปุ ระสงค์ 1.เพอื่ ให้สงั เกตรูปแบบการท�ำ งานรว่ มกบั คนอ่ืน 2. เพือ่ สำ�รวจความร้สู ึกขณะเป็นผ้นู ำ�หรือผูต้ าม จำ�นวน ไม่จ�ำ กดั ขน้ั ตอนการท�ำ กิจกรรม 1. ใหผ้ ู้เขา้ รว่ มจับค่กู ัน ตกลงกนั ว่าใครคือ A ใครคือ B 2. ใหท้ งั้ คู่นำ�น้ิวช้ขี ึ้นมาสัมผสั กนั 3. จากน้ันกระบวนกรจะเปดิ เพลงและให้ A เป็นคนนำ�เต้น โดยขยบั นว้ิ ไปตาม จงั หวะและทศิ ทางต่าง ๆ Bจะตอ้ งตามและทำ�ตาม A 4. สง่ิ ส�ำ คัญคอื หา้ มให้นิ้วหลุดออกจากกัน 5. เมือ่ ผ่านไปสกั สองหรือสามนาที ให้สลับกัน เป็น B น�ำ A ตาม 6. รอบสดุ ทา้ ยคือรอบท ี่3 ให้รบั รกู้ นั เองว่าใครคอื คนน�ำ คนตาม หมายถงึ ผลดั กนั นำ� ผลดั กนั ตามโดยไม่ตอ้ งนัดแนะ ใหร้ บั รถู้ งึ สัมผัสผ่านปลายนิ้วมอื ของตวั เอง ในรอบนน้ั คำ�แนะน�ำ สง่ิ หน่ึงทีส่ ำ�คัญของ Finger dance คือเพลง ในขณะทท่ี �ำ กิจกรรมหากต้องการโทน น่ิงสงบ ลงลึกเห็นตัวเอง สะท้อนตัวเอง ทำ�นองของเพลงก็จะต้องเป็นเพลงบรรเลง เบาๆหรือ ตอ้ งการโทนสนกุ ก็สามารถใสเ่ พลงสนกุ ๆ ได้เชน่ กนั ข้ึนอยู่กบั เปา้ หมายของกจิ กรรม หาก ต้องการเล่นเพื่อเห็นตวั เอง คำ�ถามสำ�คัญทีม่ ักจะถามคือ 1. ในระหวา่ งท่เี ลน่ เป็นอยา่ งไรบ้าง เห็นตัวเองอยา่ งไร 2. ตอนน�ำ เป็นอย่างไร ตอนตามเป็นอย่างไร รสู้ กึ ผ่อนคลายตอนไหนบา้ ง 3 3อาวุธลับกระบวนกร

ไพตส่ วั ะตทน้อน 3 4 อาวุธลบั กระบวนกร

กิจกรรมที่ 9 ไพส่ ะท้อนตัวตน วัตถปุ ระสงค์ เพ่อื ใหผ้ ูเ้ ขา้ รว่ มเกดิ การเชอื่ มโยงตวั เองเข้ากับประสบการณ์บางอยา่ ง ตามภาพทีต่ วั เองเลอื ก เป็นกจิ กรรมพ้ืนฐานที่นยิ มใชเ้ พือ่ ให้ผูเ้ ข้ารว่ มกลับมาส�ำ รวจตัวเอง ขัน้ ตอนการท�ำ กิจกรรม 1. หาไพ่รปู ภาพหรอื ไพค่ �ำ ตามประเภทที่ตอ้ งการ 2. ให้ผ้เู ขา้ รว่ มดไู พ่ท้งั หมด 3. ให้โจทยต์ ามเปา้ หมายทตี่ อ้ งการเชน่ a. ไพท่ ่ีบง่ บอกความเป็นตวั เอง b. ไพ่ทส่ี ะทอ้ นความรสู้ กึ ของตวั เองในช่วงนี้หรอื ตอนน้ี 4. ให้แชร์ โดยการจับกลุ่มหรือแชร์ตรงกลาง ค�ำ แนะน�ำ การใชก้ าร์ดนนั้ คอ่ นขา้ งเป็นกิจกรรมท่คี ่อนขา้ งเช่ือมโยงกับผเู้ ข้าร่วมได้เป็นอย่าง ดี เป็นไดท้ ั้งกจิ กรรมหลกั หรอื กิจกรรมเสรมิ ดงั นั้น สิ่งส�ำ คญั คอื เปา้ หมายในการใชจ้ ะต้อง ชัดเจน และการด์ ทีค่ วรมีติดตัวทส่ี ามารถใช้ไดห้ ลากหลายกิจกรรมคอื การด์ รปู ภาพ ซง่ึ สามารถนำ�มาออกแบบและปรับใช้ได้อยา่ งหลากหลาย 3 5อาวธุ ลบั กระบวนกร

เม่อื ฉนั อาย.ุ .. 3 6 อาวธุ ลับกระบวนกร

กิจกรรมที่ 10 เมอ่ื ฉนั อายุ... วัตถุประสงค์ เพ่อื รับฟังมุมมองเกี่ยวกบั ช่วงเวลาของชวี ติ แต่ละคน ว่าในช่วงอายขุ องแต่ละคน ผ่านอะไรมาบ้าง หรือตอ้ งการทจ่ี ะมีเป้าหมายอยา่ งไรในอนาคต อกี ทงั้ เป็นกจิ กรรมที่สรา้ ง พ้นื ที่ปลอดภยั ไดอ้ กี ดว้ ย จำ�นวน 5-10 คน ขนั้ ตอนการท�ำ กจิ กรรม 1. ให้ทุกคนน่ังล้อมกันเป็นวงกลม 2. อธบิ ายกตกิ าวา่ “เดย๋ี ว เราจะเล่นกิจกรรม “เมื่อฉนั ยัง” โดยวธิ ีการเล่น จะเรม่ิ จาก กระบวนกรกอ่ นเป็นคนแรก โดยจะเรมิ่ นับจากอายุ 1 ขวบเกิดอะไรขึ้นกบั ตวั เอง คนตอ่ ไปกน็ บั ต่อว่า อายุ 2,3,4 เกิดอะไรขนึ้ โดยก่อนถงึ อายุจริงใหน้ กึ ถงึ อดีตและ หากเลยอายุจรงิ ไป ให้ต้ังเปา้ หมายวา่ อยากมีชวี ติ แบบไหนในอายุกบั ตวั เองบ้าง 3. ยกตัวอยา่ ง เชน่ เม่ือฉันอายุ 1 ขวบ ฉนั ปว่ ยบ่อยมาก คนต่อไป เมื่อฉันอายุ 2 ขวบ พ่อฉันไปตา่ งประเทศ เป็นต้น 4. หากวนไปจนถึงอายุทม่ี ากสุดแล้ว เมอ่ื มคี นวางแผนวา่ จะตายตอนไหน รอบตอ่ ไป ให้ขา้ มคนนัน้ ไปจนกว่าจะหมดวง 5. ตวั อยา่ งเชน่ เมอ่ื ฉนั อายุ 85 ฉนั จากโลกนไ้ี ปอย่างมคี วามสขุ รอบตอ่ ไป คนทตี่ าย แล้ว ก็ข้ามไปจนกว่าทกุ คนตัดสินใจว่าจะตายกนั ตอนอายุ คำ�แนะน�ำ หลังจากเล่นกิจกรรมนเี้ สรจ็ สามารถทจ่ี ะถอดบทเรยี นวา่ เห็นอะไรบา้ ง อีกทงั้ ยัง ทำ�ใหเ้ ป็นถงึ เปา้ หมายชวี ิตหรือวงจรชวี ิตของแตล่ ะคนได้ด้วยเช่นกนั ข้อควรระวงั หากเลน่ กจิ กรรมน้ีกับคนอายมุ าก คนทมี่ อี ายุ 60 ปีขนึ้ ไป อาจก�ำ หนดถงึ อายุท่ตี ้องการ เชน่ 80 ปี ไม่ ต้องเลน่ จนถงึ ตาย หากไม่ต้องการนำ�เร่ืองความตายมาเรียนรู้ 3 7อาวุธลับกระบวนกร

ตะกรา้ 4 ใบ หวั ใจ 4 ดวง 3 8 อาวธุ ลบั กระบวนกร

กิจกรรมท่ี 11 ตะกร้า 4 ใบ หรือ หวั ใจ4 ดวง วตั ถุประสงค์ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การปฏิสมั พันธ์และพูดคยุ กันมากขึน้ เพอื่ เขา้ ใจตวั เองและเขา้ ใจคนอ่นื อุปกรณ์ กระดาษ a4 1 แผน่ และดนิ สอหรอื ปากกา ขัน้ ตอนการท�ำ กจิ กรรม 1. ให้ทุกคนระดมความคดิ วา่ “หากเราอยากรู้จกั ใครสักคนเราจะถามคำ�ถามวา่ อยา่ งไร” 2. เขยี นคำ�ถามทร่ี ะดมความคดิ ออกมาจากกลุม่ 3. ใหพ้ บั กระดาษแบ่งออกเป็น สสี่ ว่ น (พับคร่งึ ) แลว้ เลือกคำ�ถามใดก็ไดเ้ ขียนลงไป 4. ใหเ้ วลา 15 นาที ในการไปหาคำ�ตอบจากเพอื่ นในห้อง โดยจดเพียง keyword และชอื่ ของผ้ตู อบมาให้ไดม้ ากทสี่ ดุ 5. จากนน้ั เมื่อหมดเวลา จบั กลุม่ ละ 5 คน (ตามสมควร) ใหแ้ ชร์วา่ ชอบคำ�ตอบ ไหนมากที่สุด และชอบคำ�ถามไหนมากที่สดุ (หรือให้แชร์ความรู้สกึ หรอื การเรียนร)ู้ ค�ำ แนะนำ� กจิ กรรมนีห้ ากเลน่ สนกุ ๆ อาจใช้ความเรว็ ในการทำ�กจิ กรรม บรรยากาศก็จะวุ่นวาย หรือหากอยากเพ่ิมความสนุกกเ็ ปิดเพลงและเรง่ ดว้ ยระยะเวลา แตผ่ ู้เขยี นมักใช้กจิ กรรมนี้ แบบเป็นรอบ ๆ คอื จะก�ำ หนดคำ�ถามท่เี หมอื นกนั ทุกคนประมาณ 2 ขอ้ เช่น ความสุขของ คุณคอื อะไร เปา้ หมายชีวิตคืออะไร ค�ำ ถามอีกสองคำ�ถามให้เขียนเองว่าจะถามอะไร จากนั้น จะให้ไปถามโดย แบ่งออกเป็น 4 รอบ รอบละ 5 -10 นาที ตอ่ หนึ่งคำ�ถาม ไมเ่ นน้ จ�ำ นวน แต่ เน้นคุณภาพของการพูดคยุ โทนของกจิ กรรมจะออกไปในทางนิ่ง ๆ นมุ่ นวล ไม่หวอื หวาหรอื สนกุ จนเกนิ ไป 3 9อาวธุ ลับกระบวนกร

หลกั การตั้งคำ�ถาม GROW model G = GOAL R = REALITY O = OPTION W = WILL อรยิ สัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค 4 0 อาวธุ ลับกระบวนกร

บทแทรก กิจกรรมในลกั ษณะของ Grounding game น้นั ส่งิ ส�ำ คญั คือการกลบั มาเห็นหรือ สะท้อนตัวเอง ดงั นั้น ไม่ว่าจะท�ำ กจิ กรรมในลกั ษณะแบบไหน จะต้องน�ำ มาซง่ึ การสะทอ้ น ตวั เองว่าเกิดความคดิ ความรสู้ กึ อย่างไร โดยจะเกิดขน้ึ ได้นัน้ กระบวนกรจะตอ้ งเป็นผู้ท่ีตัง้ คำ�ถามในการชวนกลับมาใครครวญ ดังน้ัน องค์ประกอบสำ�คญั ของการกลบั มาเห็นตัวเองคือ การตั้งคำ�ถาม ทักษะการต้ังคำ�ถามน้ันไม่ได้มีหลักการหรือทฤษฎีท่ีตายตัวว่าจะต้องถามอย่างไร ในมุมมองผู้เขยี น การตัง้ คำ�ถามน้นั จะต้องตงั้ จากธรรมชาตขิ องผู้เรยี น คือเป็นคำ�ถามทจ่ี ะพา ผ้เู รียนไปสอู่ ีกฝัง่ หนง่ึ โดยทว่ั ไปค�ำ ถามมักจะเร็วไปทีจ่ ะหาขอ้ สรปุ ว่ากจิ กรรมนสี้ อนเรื่องอะไร ได้อะไรจากกจิ กรรม ค�ำ ถามเหล่านพ้ี าให้ผ้เู รยี นกลับไปคิดและพยายามหาค�ำ ตอบที่ถกู ต้อง ของตัวเอง เมอ่ื ถามคำ�ถามที่ม่งุ ไปท่ขี อ้ สรุปหรือผลลัพธข์ องกจิ กรรม ค�ำ ตอบท่ีไดจ้ งึ มักออก มาเป็นหลักการหรือความคิดท่ีอยู่ในกรอบของความเชื่อของแต่ละคนที่ได้เคยได้เรียนได้ฟัง มาก แลว้ คำ�ถามทค่ี วรจะถามเป็นอย่างไร? ส�ำ หรบั คำ�ถามในขณะหลงั ท�ำ กจิ กรรม ค�ำ ถามทีด่ ีควรถามถงึ ประสบการณท์ ่ีท�ำ กิจกรรมกอ่ น อาจเป็นความคดิ ความรู้สกึ ขณะทำ�กิจกรรม เป็นคำ�ถามทส่ี ดใหม่ เนน้ ไปที่ ประสบการณ์ใหม่ท่ผี ้เู ขา้ ร่วมผา่ นมา แตถ่ า้ จะมหี ลกั การในการถาม เท่าที่ผเู้ ขยี นไดเ้ รียนไดฟ้ ัง มา และคิดว่างา่ ยต่อการน�ำ ไปใช้ คงเป็นหลกั การถามของการโค้ช ท่ีเรียกว่า GROW model และหลักของการถามแบบอริยสจั 4 หลักการเหล่านี้ เรยี นรแู้ ละท�ำ ความเขา้ ใจเพอ่ื เป็นเขม็ ทศิ ในการใชค้ �ำ ถามเพ่อื การเรียนรู้ แตส่ ่ิงส�ำ คัญคือ เราจะถามได้ดี กต็ อ่ เมือ่ เราฟังได้ดี หลักการถามแบบ GROW model G ยอ่ มาจาก Goal หมายถึง การถามไปทเ่ี ปา้ หมายของผ้เู ข้ารว่ มว่ามี เป้าหมายอะไรท่ตี ้องการบรรลุหรือไปถงึ เน่ืองจากหลักการนีม้ กั ใช้เพอื่ การโค้ช แตผ่ เู้ ขยี น มองวา่ สามารถใช้เพอื่ ถอดบทเรยี นได้เหมอื นกัน ตวั อยา่ งเช่น หลงั จากเล่นกจิ กรรมผา่ น 4 1อาวุธลบั กระบวนกร

ประสบการณ์ตรงเสร็จแลว้ ใชค้ ำ�ถามว่า “เป้าหมายในการเล่นกิจกรรมน้ีคอื อะไร” ซ่ึงเหมาะ กบั กิจกรรมท่ตี ้องทำ�ใหส้ ำ�เร็จร่วมกัน เช่น เป็ด แมน่ ำ้�พษิ ภาพปริศนา เป็นตน้ การถามเพ่ือ คน้ หาเป้าหมายนั้นทำ�ใหเ้ หน็ ว่า ผูเ้ ขา้ รว่ มใหค้ วามส�ำ คญั กับอะไร R ยอ่ มาจาก Reality ความจรงิ ที่เกิดข้นึ คืออะไร เม่ือถามให้ผู้เข้าร่วมเหน็ แล้ววา่ เป้าหมายคืออะไร หลงั จากไดค้ �ำ ตอบการกลับมาทีป่ ัจจุบนั วา่ เกิดอะไรข้นึ ตรงตามเปา้ หมายหรอื ไม่ หรือมเี หตกุ ารณ์อะไรเกิดข้นึ บ้าง เป็นการกลบั มาทบทวน ความจรงิ ทเี่ กิดข้ึน ขณะท�ำ กจิ กรรม ไม่ว่าจะเป็นพฤตกิ รรม ความคิด ความรสู้ ึก หรือความตอ้ งการ ตัวอย่างเช่น “เห็นตัวเองอย่างไรขณะทำ�กจิ กรรม หรอื เกดิ อะไรข้นึ ขณะท�ำ กจิ กรรมบา้ ง” เป็นตน้ O ย่อมาจาก Option หมายถึงทางเลอื ก ค�ำ ถามนีจ้ ะเริ่มกลบั ไปคน้ หา ทางออกหรือวธิ ีคิด ทตี่ อ้ งมองไปทเ่ี ปา้ หมายและความจรงิ ที่เกิดขนึ้ และตกผลกึ ผา่ น ประสบการณห์ รือการเรียนรู้ว่า มีเสน้ ทางไหนบา้ งที่ทำ�ได้ ตวั อย่างคำ�ถามเช่น มอี ะไรบา้ งที่ สามารถทำ�ไดใ้ นตอนน้ี แม้กระท่ังเป็นชว่ งทจ่ี ะตอ้ งระดมความคดิ ของผ้เู ข้าร่วมว่าจะแกป้ ัญหา นีอ้ ยา่ งไร หรอื จะทำ�อยา่ งไรตอ่ จากนี้เพือ่ เกดิ การแก้ไขและพฒั นาเป็นตน้ W ยอ่ มาจาก Will หมายถงึ ความมุง่ ม่นั ในที่นี้ผเู้ ขยี น ไดห้ มายถงึ สงิ่ ที่จะท�ำ หรอื แผนการที่จะทำ�ตาม Option ท่ีไดเ้ สนอ เป็นเหมอื นการถามเพื่อไปตอ่ หรือเพ่อื ทจ่ี ะหาสง่ิ ทส่ี ามารถลงมือทำ�ไดเ้ ลย การถามไปที่ will จึงเป็นการถามเพ่ือท่จี ะให้คดิ ไปขา้ ง หนา้ ตัวอยา่ งเชน่ “คิดว่าหลงั จากน้จี ะเร่มิ ท�ำ อะไรกอ่ น หรือ อะไรท่สี ามารถทำ�ได้เลยตอนน้ี” เป็นต้น หลักการถามแบบ อรยิ สจั 4 ทุกข์ หมายถงึ การถามไปทีป่ ัญหาหรอื ความจรงิ ท่เี กิดขึ้น มีเหตกุ ารณ์อะไรที่เกิดขึ้น จรงิ ณ ตอนน้นั การถามไปท่ที ุกขน์ ั้น เป็นการถามเพื่อใหก้ ลับไปอย่กู บั ความจรงิ ถามเพ่อื ให้ ออกจากความคาดหวัง เพอ่ื เป็นการดึงให้กลบั มาเหน็ ว่า จรงิ ๆ แล้ว สถานการณน์ น้ั เกิดอะไร ขนึ้ ความคดิ ความร้สู กึ เป็นอย่างไร อยา่ เพง่ิ หาคำ�ตอบ ตัวอยา่ งเชน่ “ในขณะที่ทำ�กิจกรรมนั้น เกิดอะไรขนึ้ ,ความร้สู ึก ตอนนน้ั เป็นอย่างไร” เป็นตน้ เป็นการถามไปทีป่ ระสบการณจ์ รงิ ของผู้ เขา้ ร่วมน่ันเอง 4 2 อาวธุ ลับกระบวนกร

สมทุ ัย หมายถงึ การถามไปทีต่ ้นเหตุหรอื ตน้ ต่อของ ทกุ ข์ ทีเ่ กิดข้ึนน่นั เอง เป็นการ ใคร่ครวญใหล้ กึ ซงึ้ มากยงิ่ ขึน้ ว่า เหตกุ ารณ์นัน้ เกดิ ขน้ึ เกดิ จากอะไร มที ม่ี าทไี่ ปอย่างไร ตัวอย่างเช่น ทร่ี สู้ กึ อึดอัดขณะท�ำ กจิ กรรมนน้ั เพราะคาดหวังอะไร หรอื อยากให้มันเป็นอย่างไร ” เป็นการถามเพอ่ื หาสาเหตขุ องทกุ ข์หรือปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ นิโรธ หมายถงึ การถามเพือ่ ตง้ั เป้าหมายเพ่อื ดับทุกข์ หมายความวา่ เมอ่ื เห็นชดั เจน แลว้ วา่ ทุกขค์ ืออะไรมที มี่ าอยา่ งไร ดงั นน้ั การตัง้ เป้าหมาย คือการไปหาผลลัพธส์ ดุ ทา้ ยหรือ ทางออกจากเรื่องนนั้ ก่อนที่จะมาถงึ การถามเพื่อต้ังเป้าหมายไดน้ น้ั เราจะตอ้ งท�ำ ใหเ้ ห็นจรงิ ๆก่อนวา่ ทุกข์คืออะไร และข้วั ตรงข้ามของทุกข์หรอื ปัญหาน้ันคอื อะไร ตัวอย่างเชน่ “ถา้ ไม่ คาดหวังจะทำ�ให้เราเป็นอยา่ งไรหรอื เราอยากเปล่ยี นแปลงไปเพอื่ อะไร” เป็นจดุ ๆ ทีผ่ ู้เข้ารว่ ม อยากไปถงึ ในเรอื่ งนั้น ๆ นั่นเอง มรรค หมายถงึ การถามหาวธิ กี ารที่จะท�ำ ให้สมุทัยหรือเหตุแหง่ ทุกขน์ ้ันหายไป หมายความวา่ เป็นการถามไปท่กี ารแก้ไขสาเหตุของความทกุ ขห์ รือสาเหตุของปัญหานั้นให้ ออกมาเป็นการกระทำ�บาง ตวั อย่างเชน่ “แล้วอะไรทเ่ี ราทำ�ได้เพอ่ื ลดความคาดหวงั ของตวั เอง หรอื อะไรทท่ี �ำ แล้วจะช่วยใหเ้ ราลดความคาดหวงั ของตวั เองได้” เป็นต้น หลักการเหล่าน้ีเป็นเพียงข้อมูลเพ่ือให้เราได้มีสิ่งยึดเกาะไว้เพียงเท่านั้น ส�ำ หรบั ผู้เขยี นเช่ือวา่ หากเราอยู่ หมายถงึ “อยู”่ กับคนตรงหนา้ อยา่ งมีคุณภาพอยา่ ง แทจ้ รงิ จะท�ำ ใหเ้ รารูว้ า่ เราจะถามอย่างไรเพอื่ ใหเ้ กดิ การเรียนรแู้ ละการเปลีย่ นแปลง “ค�ำ ถามท่ดี ีมีคุณค่ามากกวา่ คำ�แนะนำ�ทดี่ ี” 4 3อาวุธลับกระบวนกร

รูปแบบที่2 ICE BREAKING กิ จ ก ร ร ม นั น ท น า ก า ร ห รื อ ท่ี เ รี ย ก กั น ว่ า เ ป็ น กิ จ ก ร ร ม ล ะ ล า ย พฤติกรรม ซงึ่ ส�ำ หรบั ผเู้ ขียนนนั้ เชอ่ื ว่า “ นนั ทนาการ ไม่ใช่แค่เรอ่ื งเลน่ ๆ” เพราะ กิจกรรมนันทนาการคืองานท่ีสร้างความ สขุ จนท�ำ ให้ผเู้ ขา้ รว่ มหลงลืม “อัตตา” หรือตวั ตนตา่ ง ๆ และเข้าไปสูค่ วามเป็น ตัวตนเดยี วกนั ผา่ นกิจกรรม กฎกติกา เดียวกนั ท�ำ ใหป้ ระตแู ห่งความสุขเปิด ขนึ้ และพรอ้ มท่จี ะใหค้ นอ่นื เข้ามาใน พน้ื ทข่ี องความสขุ ของตัวเอง หรอื จะพดู งา่ ย ๆ วา่ กจิ กรรมนนั ทนาการทำ�ใหท้ กุ คนเป็นเหตุของความสุขของกันและกัน ก็ว่าได้ 4 4 อาวุธลับกระบวนกร

ผู้เขยี นได้แบ่งกิจกรรมนนั ทนาการ ไว้เป็น 3 ระดบั ระดบั เบา เป็นกจิ กรรมที่เนน้ เตรียมความ ระดบั กลาง พร้อมเบา ๆ ไมเ่ คล่ือนที่ ระดับหนกั เป็นกิจกรรมที่เนน้ เคลื่อนไหวเพือ่ คละกลุม่ หรือท�ำ ความรู้จกั กันทง้ั วง เป็นกิจกรรมทเ่ี คลอื่ นท่เี รว็ เน้นความ สนุกสนาน และความนวั แบบสุดๆ 4 5อาวุธลับกระบวนกร

ระดับเบา เป็นกจิ กรรมที่ เน้นการทำ�ความรู้จัก และไมเ่ คลื่อนที่ 4 6 อาวธุ ลบั กระบวนกร

• ปรบมือ 1234 • ปลาร้า ปลาทู • ปรบมือเรียกชื่อ • นับ 1-100 • นบั เลข เดาใจ • 20 คำ�ถาม • ลักกี้ นบั เบอร์ • เสรจ็ ฉนั ละเธอ • เลขมรณะ • ซ้ายทเุ รศ ขวาน่ารัก • รกั นะ....เชอะ 4 7อาวธุ ลบั กระบวนกร

ปรบมือ 1234 4 8 อาวธุ ลบั กระบวนกร

กิจกรรมที่ 1 ปรบมือ 1234 วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ เตรียมความพร้อมและเรยี กสติ จ�ำ นวนผเู้ ล่น ไม่จำ�กัด ขัน้ ตอนการทำ�กจิ กรรม 1. อธิบายกติกา a. เม่อื พดู ว่า 1 ใหป้ รบมอื 1 คร้ัง b. เม่ือพูดวา่ 2 ใหต้ บเข่า 1 ครัง้ c. เมือ่ พดู วา่ 3 ใหต้ บพ้นื 1 ครั้ง d. เม่ือพดู ว่า 4 ใหต้ บไหล่ 1 คร้ัง 2. จากน้ันทดลองตามลำ�ดับ 1234 3. เมอื่ 1234 เรม่ิ คล่องแลว้ ก็สลับเลข หรอื ทวนยอ้ นหลัง ตัวอย่างเชน่ 1234, 4321, 2134, 3424 และคอ่ ยๆ เพมิ่ จำ�นวนเป็น 5 ถงึ 8 จำ�นวน 4. สามารถจบั เป็นคู่ได้ โดยเปลย่ี นจากการตบไหล่เป็นตบมอื กนั คำ�แนะน�ำ กจิ กรรมนเี้ ป็นอกี หนงึ่ กิจกรรมฝกึ สติ แตโ่ ทนการเล่นจะออกมาแนวสนุกสนาน ก ารทำ�ให้เกดิ บรรยากาศของการแข่งขนั ตวั อยา่ งทผ่ี ู้เขยี นมกั ใช่บ่อย ๆ คือ การแบ่งออกเป็น ชาย และหญิง ให้ทำ�แข่งกัน ซ่ึงไม่ได้หาผู้ชนะ แตเ่ ราจะเหน็ วา่ เมอ่ื มกี ารแข่งขนั เกดิ ข้ึนเล็ก ๆ จะช่วยให้พลังงานหรือบรรยากาศของการเล่นดูสนุกและจริงจังมากย่งิ ข้นึ 4 9อาวุธลบั กระบวนกร

ปลาร้า ปลาทู 5 0 อาวธุ ลบั กระบวนกร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook