Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E01_หลังพิงต้นโพธิ์_PDF_(อัพเดท14

E01_หลังพิงต้นโพธิ์_PDF_(อัพเดท14

Description: E01_หลังพิงต้นโพธิ์_PDF_(อัพเดท14

Search

Read the Text Version

i ปกนอก หลังพงิ ตนโพธ์ิ

ii ขออทุ ิศเปนธรรมทานบารมแี ด แม ตอ มารดาผมู คี ณุ ประเสริฐทุกทาน และบดิ า ครูบาอาจารย ทานผูมีคุณอนั ย่ิงแกแผน ดิน ตลอดถึงเพอื่ นสหธรรมิก และผองสรรพสัตวส ง่ิ มีชีวติ ใหญน อ ย ทเ่ี ปน เพ่ือนรว มเกดิ แกเ จบ็ ตายในสงั สารวฏั ทว่ั ท้ังแสนโกฏจักรวาลน้ี ทาสโพธญิ าณ

iii สารบัญ คํานํา v เปลยี่ นมายดเ ซต็ ๑. แกว ท่ีมคี ณุ คา 1 ๒. เปล่ยี นความคดิ ... ชีวติ เปลยี่ น 8 ๓. ปลดปลอยตัวเองใหเ ปน อสิ ระ 15 ๔. ผาตัดระบบความคิด 22 ๕. ถอดรหสั ‘บัลลงั กศรทั ธา’ 29 ๖. ทุกขทง้ิ ในอดีต สุขไดในปจ จุบัน 36 ๗. ไฟสองทางชวี ติ 42 ๘. กอ นเมฆในจอกชา 50 ๙. กฎแหง การใชชวี ิตใหส ุขสงบสําเรจ็ 57 ปรบั พฤติกรรม 80 ๑๐. ไขรหสั ลับสคู วามสาํ เรจ็ 65 ๑๑. ในวงลอ มกลั ยาณมติ ร 72 ๑๒. ตน ไมป ระธานาธบิ ดีในสวนพทุ ธธรรม ๑๓. ศลิ ปะแหงการปฏเิ สธ 86 หลงั พงิ ตนโพธ์ิ

iv ๑๔. ปกธงประกาศศักยภาพ ‘บนเวทีโลก’ 93 ๑๕. เรียบงา ยแตทรงพลัง 100 ๑๖. นกั ดบั เพลงิ & นักดับฝน 107 ๑๗. เดอะคีย ติดอาวธุ ทางปญ ญา 115 ๑๘. กองทัพตอ งเดินดวยทอ ง 121 ๑๙. เรือ่ งท่ีไมควรอดทน 128 ๒๐. กุศโลบายปน คนใหดีข้นั เทพ 136 ยกระดบั จติ วิญญาณ ๒๑. หยุดพัก...ลบั คม 143 ๒๒. รแู ลววาง ไดอยา งนํ้า 150 ๒๓. พลงั แหง จนิ ตนาการ 157 ๒๔. พลังจิตใตส าํ นึก กบั คาํ สอนเปลีย่ นโลก 164 ๒๕. หยุดคดิ เนรมิตชวี ิตได 171 ทาสโพธิญาณ

v คาํ นํา การใชชีวิตไดอยางสมดุลยอดเยี่ยมไมม ีสตู รสําเร็จ แตมีสวนผสมที่ เปนเคล็ด(ไม)ลับ ผานการน่ังสมาธิหลังพิงตนโพธ์ิอยูเพียงลําพังของ พระพุทธเจา แลว เกดิ การตรัสรธู รรมขึ้นมา กวา ๒,๖๐๐ ปแลวท่ีภิกษุสาวก และบรรดาพุทธบริษัทผูทรงภูมิ ท้ังหลาย ไดชวยกันเผยแผ แบงปน บอกตอ ถึงวิธีดําเนินชีวิตให สอดคลอ งตามกฎท่ธี รรมชาตอิ อกแบบไว พระพทุ ธองคไดทรงคนพบ แลว นํามาบอกกลาวสั่งสอนผานหลักการ ๓ หลักใหญ ใครก็ตามหากนําไป ปฏิบัติ มันก็จะไดผลเปนความจริงปรากฏทุกเมื่อ ไมมีวันเสื่อมคลาย เปล่ียนแปลง เพราะหลักการดังกลาวน้ีเปนสัจธรรม ที่ประกอบไปดวยกฎ ๓ ขอ ใหญ ๆ คือ ๑. การไมท าํ บาปทัง้ ปวง ๒. การทาํ กศุ ลใหถงึ พรอม ๓. การทาํ จิตของตนใหผอ งใส หลักการดังกลาวนี้ ภาษาพระเรียกรวมกันวา “โอวาทปาฏิโมกข” หนังสือเลมน้ีจะนําทานลงลึกสูรายละเอียด ซึ่งจะทําใหทานย้ิมได ผาน กรอบการตีความรวมสมัย ผสมผสานความรูทางจิตวิทยา วิทยาศาสตร และประสาทวิทยา ไวดวยกันอยางไมนาเช่ือวา จะฮาได...แตไมไรสาระ หลงั พงิ ตน โพธ์ิ

vi ในการปรับเปล่ียน Mindset พฤติกรรม และยกระดับจิตวิญญาณของเรา ใหท ะยานข้นึ สดู วงดาว คําถามคือ ทานมีสวนผสมสําคัญท้ังสามประการนี้แลวหรือยัง ? ถามีแลวทานกไ็ มจําเปนตองเสยี เวลากบั หนังสือเลมน้ี แตถาไม! รับรองวา เนอื้ หาในหนงั สือเลมน้ี จะเหมาะกับทานอยา งทส่ี ุด ขอใหสนกุ กบั การอาน และรืน่ รมยก ับการใชชีวติ อนั สขุ สงบสาํ เรจ็ เปย มพลัง ทาสโพธิญาณ ตลุ าคม 2561 ทาสโพธิญาณ

1 ๑ แกว ทีม่ คี ณุ คา “บางครั้งเราอาจจะถูกทอดท้ิง ถกู ใครตอใครซํ้าเติม ดถู กู เหยียดหยาม เพราะความผดิ พลาดในการดําเนนิ ชีวิต ทาํ ใหเ กดิ รูสกึ ตนเองไรค า แตร ไู หม ไมว าจะเกิดอะไรขึ้นกับชวี ติ ก็ตาม ยังไงซะ! เรากย็ ังมีคุณคา ในความเปน คน” ขอเพียงอยาประเมินคุณคา หรือตีราคาตัวเองต่ําเกินจากความเปนจริง คนอน่ื จะดูถูกเหยียดหยามยังไงก็ชาง เพราะเราไมส ามารถไปหา มความคิด ใครได แตเราจะตองไมดูถูกดูแคลนตัวเอง ตราบใดที่เรายังมิไดแสดง ศักยภาพออกมาเต็มที่ ใหโอกาสตัวเองลุกข้ึนพิสูจนคุณคาของตนอีกคร้ัง อยาลืมวาคนจะดีมคี ณุ คา หรือเลวทรามตํ่าชา ไมเ ก่ียวกบั ชาติตระกูล ไม สาํ คัญวาเราจะเคยเปนใคร เคยผิดพลาดลมเหลวมาแลวแคไหน ทส่ี ําคัญ หลงั พิงตนโพธิ์

2 คือ หากลมแลวตองกลาท่ีจะลุกข้ึนใหม เพ่ือสรางคุณคาใหกับตนเองและ ผอู ื่น บทพสิ ูจนค ุณคา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานระบุวา “คุณคา ” หมายถึง “สง่ิ ท่ีมีประโยชนหรือมีมูลคาสูง” แตถาแยกศัพทออกมาเปนคํา ก็จะเห็น ความหมายชดั ขน้ึ คณุ หมายถงึ ลักษณะประโยชนใ ชส อยภายใน คา หมายถึง ประโยชนใ ชสอยภายนอก ตวั อยา งเชน นํ้า คณุ ของนํ้าคือความเย็น คาของนา้ํ คือใชดับความ กระหาย ใชชําระรางกาย ใชลางคราบสกปรก วัตถุสงิ่ ของทุกชนดิ ยอมมี ทั้งคุณและคา อยใู นตัวเอง เหมอื นท่ีกวีผกู เปนกลอนภาษติ ไว “คุณคาของไฟอยูท่คี วามรอน คณุ คา ของคอ นอยทู ี่น้ําหนกั คุณคา ของผักอยทู ่ีวติ ามิน คุณคา ของดินอยทู ี่ความอุดมสมบูรณ” ชีวิตก็เชนเดียวกัน การไดสิทธ์ิเกิดมาเปนมนุษย อยางนอยที่สุด เราก็มีคุณคาในความเปนคน คิดดูสิ แมแตพระโพธิสัตวกอนจักตรัสรู สําเร็จเปนพระพุทธเจาได ก็ยงั ตองเกิดมาเปนมนุษย ดังนั้นการไดเกิดมา ทาสโพธิญาณ

3 เปนคนจึงมีคณุ คามหาศาล เพราะกวา จะไดเกิดมาเปน คนนั้นยากแสนยาก ดังท่ีพระพุทธองคตรัสไวใน พาลปณฑิตสูตร พระไตรปฎก เลม ๑๔ ใจความวา “บรุ ุษโยนแอก(หว งยาง) ทมี่ ีรูเดียวลงไปในมหาสมุทร ลอยเทง เตง อยูกลางมหาสมุทร อีกท้ังลมทะเลทั้งสี่ทิศก็พัดไปมา ๑๐๐ ปจะมีเตาตา บอดตัวหนึ่งโผลข ้ึนมาเหนือนํ้า เปนไปไดไหมวา เตาตาบอดตัวนั้นจะเอา คอสวมเขาไปในหวงยางน้ันไดพอดี ? แนนอนวา ชวงเวลาท่ีบรรจบลงตัว กันพอดี เปะ! แบบนี้มันยากมาก ยากมาก ๆ ท่ีเตาตาบอดตัวนั้น จะเอา คอสวมเขา ไปในหว งยาง ลกั ษณะเชนนี้วา ยากแลว แตพระพุทธองคตรสั วา การไดเกิดเปน มนษุ ยน นั้ ยงั ยากแสนยากยง่ิ กวา ” หากพูดดวยตรรกะในเชงิ วิทยาศาสตร ลองหลับตานึกภาพ ตอนท่ี ยังเปนเซลลสเปรม อยใู นอสจุ ิของพอ เราเปนสเปรมตัวแรกทวี่ ายนา้ํ นําหนา ใคร ๆ ว่งิ เขาไปเจาะไขแม เราเปนหน่ึงเดียวที่เปน ผชู นะ ในจํานวนพนี่ อง ในรูปเซลลสเปรมกวา 200 - 300 ลานตัว น่ันหมายความวา เราเกิดมา พรอมกบั ความสําเรจ็ หรือชัยชนะตัง้ แตวนิ าทีแรกแลว ดังนั้นกอ นท่ีจะลกุ ขึ้นสู เปลย่ี นแปลง ปฏิวัติวงจรชีวติ แบบเดิม มงุ ไปขางหนาเพื่อพิสจู นคุณคา หรือเพ่ิมมลู คา ใหก ับตัวเอง อันดับแรกใหเช่ือ กอนวา ตนเองมีคุณคา มีความหมาย มีศักดิ์ศรีเทาเทียมผูอ่ืน มีสทิ ธิ์ มี โอกาสท่จี ะประสบความสําเรจ็ ไดร บั ส่งิ ทีม่ งุ หวงั มคี วามสขุ ไดเชน เดยี วกับ หลงั พิงตน โพธิ์

4 ผอู นื่ มีคุณคา คคู วรไดรับการดูแลปกปอ งใหเ กยี รติอยางดี พรอมท้งั ไดรับ การยอมรับจากผอู ่นื เรียกงาย ๆ วา “เราตองเหน็ คุณคา ของตัวเองกอน” ฉะนั้น ไมวาเราจะบริสุทธิ์ผุดผองหรือยับยูย่ี ตัวเราก็มีคาที่สุดเสมอ ดัง ตวั อยางจากนทิ านชวนอา นเรือ่ งตอไปนี้ เชา วันท่อี ากาศแจม ใส ในมหาวทิ ยาลัยทม่ี ชี ่ือเสียงอนั ดับตน ๆ ของ ประเทศ อาจารยคนหน่ึง เริม่ บทสนทนาในชั้นเรยี น ดวยการควักธนบัตร ใบละ 1,000 บาท ออกมาใหนักศกึ ษาดู แลว ถามวา “มีใครอยากไดบางไหม?” นักศึกษาทกุ คนยกมือขึ้นเกือบพรอมกัน นอกจากจะไมใหแลว อาจารยย ังขยําธนบตั รใบน้ันเสียยับยูย่ี แลวถามอีก ครั้งวา “มีใครยังอยากไดธนบัตรใบน้ีอยูอีกหรือไม?” ปรากฏวา นักศึกษา ทุกคนกย็ ังยกมอื ขึน้ เหมอื นเดมิ อาจารยถามตอไปอีก “ถาสมมุติวา ธนบัตรใบน้ีถูกทิ้งไวบนพ้ืน แลวมีคนมาเหยียบย่ํามันสกปรก ยังจะมีใครอยากไดอีกหรือไม?” นกั ศกึ ษาทุกคนก็ตอบเหมือนกันวา “ยังอยากได!!!” อาจารยจึงสรุปวา “นั่นคือสิ่งมีคุณคา ที่พวกเธอไดเรียนรูในวันนี้ ไมว า เธอจะทําอะไรกับธนบตั รใบนี้ มันก็ยงั มีราคา 1,000 บาทอยูเสมอ” จับคติเอาประโยชนจากนทิ านเร่ืองน้ี ไมว า เราจะโดนใครตอใคร ดู ถูกเหยียบยํ่า ซํ้าเติม จากการกระทําที่ผิดพลาดลมเหลวในชีวิตอยางไรก็ ทาสโพธญิ าณ

5 ตาม เราก็ยงั มีคณุ คาอยูในตัวเองเสมอ จาํ ใหไดวาเราเคยเปนใคร ประสบ ความสําเรจ็ มามากมายขนาดไหน อยายอมใหเ หตุการณเล็ก ๆ นอ ย ๆ มัน มีผล มีอิทธิพลตอชีวิตของเรา ในชีวิตจริงของเราทุกคน เราเคยชนะมาแลวนับคร้ังไมถวน เร่ิม ต้ังแตตอนเปนเด็กตัวเล็ก ๆ เราหัดตั้งไข พอลม ปบุ ก็ลุกข้ึนใหม เคยหัด ผลิกตัว หัดเดิน หัดวายน้ํา ปน จักรยาน เราลมแลวก็ลกุ ข้ึนใหมเปนรอ ย เปนพันครั้ง แลวในท่ีสุดเราก็ชนะ เพราะทํามันได พวกเราทุกคนถือวา เปน คนที่ประสบความสําเร็จมาแลวนบั ครงั้ ไมถว น ผชู นะไมเคยยอมแพ เราไมไดเปน เหมือนผูใหญคนนี้ที่ชอบอางนนู น่ี นั่น สารพัดขออาง เพ่ือท่ีจะบอกกับตัวเองวา “ฉนั ทาํ ไมได ยอมแพแ ลว ลม เลิกดีกวา” การที่ใครสักคนปาลูกบอลใสเรา แลวเรารับไมได น่ันไมใชความ ลม เหลว ถา เราไมยอมแพ ก็แคเ อย ปากบอกวา “โอเค...เมื่อก้ีฉันพลาดไป ไหนลองปามาใหมอีกครั้งสิ” รับรองไดวา ถาไมยอมแพ และใชเวลากับ มันสกั หนอ ย ไมนานเรากต็ องรบั ลกู บอลไดแ น หลังพงิ ตน โพธิ์

6 ความพรอมตองอาศัยเวลา เวลาเปนสิ่งสําคัญที่จะชวยขัดเกลา ความไมดี ความไรคุณคา ความอัปลักษณใ นพฤติกรรมอนั นารังเกียจของ ตนออกไป ในมหาสมุทร มเี ศษแกวแตก ขวดแตก ส่ิงไรค า ท่ีถกู โยนทง้ิ มาจาก เรือ แตนานวนั เขาสิ่งไรค าเหลา น้ี กลบั กลายเปนของมีคาข้ึนมาได พรอม กบั ชื่อใหมทน่ี กั สะสมเรยี กวา “แกวทะเล” แกวงามจากทองทะเลเปนส่ิงมีคาของนักสะสม ท้ังท่ีเดิมทีแกว ทะเลเหลาน้ี เกิดจากพลาสติก ไฟทายรถยนต หรอื เศษขวดแตกแกวแตก เกา ๆ เปนเศษขยะทค่ี นมองขาม สสี ันสดใสท่ถี ูกทรายและนํ้าทะเลขัดถูกัด เซาะ กระท่งั เหลยี่ มรอยแหลมคมหายไป กลายเปน แกวใสมันวาว ไมม ีพษิ มีภัยกบั ใคร แตกวาจะมาเปน แกวช้ินงามไดนั้น เศษแกวเหลา นลี้ วนเร่ิมตนจาก การเปนของไรคาไมนาเก็บ เปนขยะทีต่ องจมอยูในนํา้ หลายป แนน อนมัน ตอ งอาศัยเวลาขดั เกลาอยูนาน กวาจะกลายเปนแกวทะเลทห่ี มดจดงดงาม มีคณุ คา นา สะสม ตัวเราเองก็เชนกัน ในฐานะชาวพุทธ กอนที่เราจะกลายเปนแกว แวววาวทรงคุณคา ก็ตองมีการปรบั ปรงุ ยกระดับขัดเกลาตัวเอง ดวยทาน ศีล สมาธิ และปญ ญา เพ่อื ใหเ กดิ คณุ คา เพื่อความเจรญิ งอกงาม สขุ สงบ ทาสโพธญิ าณ

7 สําเร็จ รมเย็น อิ่มเอมใจ ปราศจากความทุกขอยางยั่งยืนเหมือนท่ี นกั ปราชญกลาวไว “คาของคน อยูทผ่ี ลงาน คณุ ของคน อยทู ีก่ ารฝกฝนนํา ตนใหพนจากทุกข” “เศษแกว ในทะเล ขดั เกลานานเขา ยงั กลายเปน แกว ทะเลมคี านา สะสม เศษคนในทะเลชีวิต ขดั เกลามากเขา ยอ มกลายเปน แกวทรงคณุ คา ในมหาสมุทรแหงพทุ ธธรรม” จาํ ไววา ไมวา จะเกิดอะไรขนึ้ กบั ชีวิตก็ตาม อยา งนอ ยท่ีสุด เราก็ยงั มีคุณคา ในความเปนคน แมค นอ่ืนจะไมรู ไมเ ห็นคุณคา แตในโลกนี้มีบุคคลผูหนึ่ง ซึ่งยอมเสียสละความสุขสวนตัวทุกอยาง ไปนั่งแสวงหาทางออกจากทุกข อยใู ตตนโพธลิ์ ําพัง หลังพงิ ตนโพธผ์ิ จญมาร เพื่อการตรสั รูแจง ธรรม มหาบรุ ุษหนึ่งเดียวผนู ้นั การนั ตีวา การไดเกดิ เปนมนุษยเปน สิ่งที่ ประเสริฐสุด และหาโอกาสไดเกิดมาเปนคนน้ัน ยากแสนยากอยางย่ิง แตในตอนน้ีเรากําลังครองโอกาสนัน้ อยู หลังพิงตนโพธิ์

8 ๒ เปลย่ี นความคดิ ชวี ิตเปล่ยี น “เราคือนวตั กรรมจากความประพฤตซิ า้ํ ๆ ของตวั เอง ดังน้นั จงระวังความคิด(ลบ) มนั จะกลายเปน การกระทาํ จงระวังการกระทํา มันจะกลายเปนนสิ ยั จงระวงั นิสัย มนั จะกลายเปน บคุ ลิกภาพ” ทุกส่ิงที่เราคิด พดู ทาํ หรือสรา งสรรคนวัตกรรมขึ้นมา ลวนมีผลกระทบ ตอผูอื่น ดังนน้ั ไมวาจะทําอะไรก็ตาม ตองนึกถึงอกเขาอกเรา เพราะโดย ธรรมชาติแลว มนุษยลวนตองการเสพสิ่งดี มีคุณภาพ เลิศหรูกันทั้งน้ัน ไมว าจะเปนอาหารอรอย ๆ เคร่อื งเสยี งชั้นยอด มือถือรุนใหมสุดจาบ ไป ถงึ บานหลังโตโออา บนทําเลทอง ผลผลิตหรือนวัตกรรมเหลานี้ ไมสามารถยอมแมวขายกันไดใน ระยะยาว สังเกตงาย ๆ ก็คือ “ของดีมคี ุณภาพ ของจริงของแท ตองทน ตอ การพสิ จู น และทนตอกาลเวลา” ทาสโพธญิ าณ

9 เฉกเชน หลักธรรมทางพุทธศาสนา ท่ียืนยงมาอยางยาวนาน เพราะทนทานตอการพสิ ูจน นับต้ังแตพระพทุ ธเจานั่งสมาธิหลังพิงตนโพธ์ิ แลวตรสั รูกฎแหงธรรมชาติ แกนแทของธรรมท้งั หมดก็ถูกเปด เผย ตั้งแต ระดับเล็กจ๋วิ สุดในอะตอมไปถึงใหญสดุ ในระดับจกั รวาล พระพุทธองคท รงรู แจงหมดทุกสรรพสิ่ง แตสิ่งที่พระองคทรงนํามาสอนและเนนยํ้า วาดวย เร่ืองของ “การดบั ทุกข” ภาษาพระเรียกวา “อรยิ สจั ส”ี่ เราจะไมมุงเนนไปท่ี ทําไมพระพุทธเจาจึงใหความสําคัญกับหลัก อริยสัจส่ี มากกวาดวงดาวบนทองฟา เพราะใจความสําคัญของอริยสัจส่ี คอื “ถา ดับทกุ ขได เรากจ็ ะมคี วามสขุ ” รเู ร่อื งดวงดาวหมดทงั้ แกแล็คซีก็ ยังไมแนว า เราจะมคี วามสุขหรอื ไม แตท ่แี น ๆ ถาดับทกุ ขไ ดเ รามีความสุข อยูแลวชัวร ประเด็นก็คือพระพุทธองคชี้บอกหนทางแหงการดับทุกข เพื่อใหเราเปล้ืองตนออกจากความทกุ ข ไมใชใหเ ราจมจอ มแชอยกู ับความ ทุกข หรือยอมจํานนกับโชคชะตา โดยขอปฏิบัติเบ้ืองตนงาย ๆ คือ หา สาเหตุแหงทกุ ขใหเ จอ ซึง่ สอดคลองกบั ทนี่ กั จติ วิทยาเชอ่ื วา ... “อยากเปล่ียนผลลัพธ ก็ตองเปล่ียนสาเหตุใหไ ด น่ันเพราะเหตเุ ปล่ยี น... ผลเปล่ยี น อยากเปล่ียนชวี ติ กต็ อ งเปลี่ยนความคดิ ใหไ ด นน่ั เพราะเปล่ียนความคดิ ... ชวี ติ เปลีย่ น” หลังพงิ ตนโพธ์ิ

10 เราคอื นวัตกรรมจากความคดิ ตัวเอง เราไมอาจเปลย่ี นคนภายนอกได ตราบใดทย่ี ังไมสามารถเปลี่ยนคน ที่อยูภายในตัวเอง บุคลิกภาพเปนตัวตนภายนอก ความคิดเปนตัวตน ภายใน เหมือนท่ีไอนสไตนกลาวไว “มีแตคนโงหรือคนบาเทาน้ัน ท่ีมัว เสียเวลาทําซํ้า ๆ ดวยวิธีการเดิม ๆ แลวหวังวา มันจะใหผลลัพธที่ตาง ออกไป” ธรรมชาตสิ อนเราอยเู สมอดวยวิธีงา ย ๆ เพียงแคเปด ใจสังเกต เชน ปลกู ตนมะมว ง ผลมนั ก็ตองเปนมะมวง เปนไปไมไดท ี่ผลมันจะออกมาเปน เงาะ ทเุ รยี น หรือลําไย ฉะนั้น หากตองการเปลี่ยนผลลัพธในชีวิต เราก็ ตองเปล่ียนเมล็ดพนั ธคุ วามคิดทอี่ ยูภ ายในตัวเรา และกระบวนการเปลยี่ น นนั้ ตองประกอบไปดว ยสวนตา ง ๆ หลายสว นรวมกัน ดังที่ทะไลลามะ องค ที่ 14 พระผูเปนดุจมหาสมทุ รแหง ปญ ญาชาวทเิ บตกลาวไว “กระบวนการเปล่ยี นแปลงเกดิ ขึน้ จากการเรยี นรู เพราะความรูจะชว ยใหเ กดิ ความเช่อื หรอื ความศรทั ธาในศักยภาพของตนเอง จากน้ันความเช่อื จะชว ยใหเ กดิ เปนแรงจงู ใจใฝกระทํา” ทาสโพธญิ าณ

11 ดังเชนเด็กนักเรียนคนหน่ึงอยากเรียนเกง แตไมเคยอานหนังสือสักเลม หรือหญิงสาวอวนตุตะที่ปรารถนาเรือนรางทรงเสนห แตยังไมทิ้งนิสัยกิน ตลอดเวลา ทั้งสองคนนี้คงไปไดไ มถ ึงฝน หากไมปรบั เปลย่ี นตวั เอง เชนเดียวกับคนที่อยากรํ่ารวยเปนเศรษฐี แทนที่จะมุมานะทํางาน เก็บออมสะสมทรัพยสิน แตกลับใชชีวิตแบบชนิดที่ตองมาน่ังจายหนี้บัตร เครดติ ตลอดเวลา เพราะไมย ับยัง้ ช่งั ใจในการใชจ า ย แบบนีบ้ นั ไดเศรษฐคี ง ไมมีทางทอดมาหา ไดโปรดอยาเช่ือ และม่ันใจตัวเองเกินไปนัก เพราะ หากส่ิงทเ่ี ราเคยทาํ มาตลอดมันถูกตอ ง ปานนม้ี นั คงสาํ เร็จไปแลว ความศรัทธาเช่ือม่ันในตัวเองเปนส่ิงดี ยกเวนแตเราจะเช่ือมั่นในส่ิง ผิด แลวตัวเองก็หลงไปยึดติดถือมั่นกับความเชื่อนั้นอยางไมลืมหูลืมตา ครน้ั “เม่ือเหตุผิด...ผลยอ มผดิ ” ตามไปดว ยเปน ธรรมดา มเี รอื่ งเลาตอกัน มาเปนโจก ขาํ ขนั ในกองทัพเรือสหรฐั อเมรกิ า วา เปลีย่ นทิศ 20 องศา ดวน! ในคืนเดือนมืด ทามกลางมหาสมุทรอันเว้ิงวาง เรือรบลําหน่ึงถูก มอบหมายใหซอมรบในทะเล ซ่ึงมีพายุโหมกระหน่ํารุนแรงนานหลายวัน บนเรอื มผี บู ังคับบญั ชา คอยเฝาสงั เกตอยูบ นหอบังคบั การอยางแข็งขนั หลังพงิ ตน โพธิ์

12 ตอนนี้เปนเวลาพลบคํ่า เนื่องจากทัศนวิสัยไมคอยแจมชัดนัก เพราะเตม็ ไปดว ยมา นหมอกทลี่ งจัด ดังนน้ั กัปตนั จึงตอ งอยบู นหอบงั คบั การ เพอ่ื คอยสังเกตเหตุการณตาง ๆ ท่ีจะเกดิ ข้ึน ขณะที่เรือแลนฝาเกลียวคลื่นมา จู ๆ เสียงยามรักษาการณก็ รายงานข้ึนวา “มีแสงมาจากทิศทางกราบขวาของหัวเรือครับ” กัปตันถาม ไปวา “มนั มุง มาขางหนาหรือถอยไปขางหลัง” “มนั พงุ ตรงมาทางเรา” ยามรักษาการณต อบ “ดูเหมือนมันกําลงั จะ ชนเรือของเราครบั ” กปั ตนั จงึ ออกคาํ สัง่ ดว ยเสียงเฉียบขาด “ใหสง สัญญาณบอกเรอื ลําที่ มีแสงนน้ั ใหเปลี่ยนทิศทาง 20 องศา” แตกลับไดรับสัญญาณตอบกลับมาวา ใหเรือของกัปตันเปลี่ยน ทิศทาง 20 องศาแทน กัปตันจึงสงสัญญาณออกไปอีกคร้ังวา “นี่คือกัปตัน ขอใหเรือของ ทานเปลีย่ นทิศทาง 20 องศา” คําตอบท่ีไดรับคือ “ผมคือชาวทะเล ขอใหทานเปลี่ยนทิศทาง 20 องศาไปจะดีกวา ” ตอนน้ีกัปตันรสู ึกฉุนก๊ึกข้ึนมา จงึ สง่ั เสียงแข็งใหสงสัญญาณออกไป ใหมวา “น่ีเปนเรอื รบ รบี เปลย่ี นทิศทาง 20 องศาเดย๋ี วน”้ี มีสัญญาณตอบกลับมาในทันทีวา “สัญญาณน้ีสงมาจาก ประภาคาร จงึ ไมส ามารถเปลี่ยนทศิ ทางได” ทาสโพธิญาณ

13 ในท่สี ดุ เรอื รบกจ็ ําตอ งยอมเปน ฝา ยหันหวั เรือจากไป!! ลองนําเร่ืองของกัปตันผูน้ีมาเทียบกับตัวเรา ขณะที่บางอยางเรา สามารถเปลี่ยนได เชน การเปล่ียนองศาทิศทางเดินเรือ(ตัวเอง) แต บางอยา งเราก็ไมสามารถเปล่ียนได อยางประภาคาร(คนอ่นื ) ดังนัน้ แทนท่ี เราจะเสียเวลามุงไปเปลี่ยนคนอ่ืน ก็หันหัวเรือมาเปลี่ยนตนเองดีกวา บางครั้งเหตุที่เรายังไมเปล่ียนก็เพียงเพราะถูกมานหมอกแหงอวิชา คือ “ความไมรู” ปกคลุมอยู แตเมื่อใสความรูที่ถูกตองลงไป ก็จะเกิด ความเขา ใจทถี่ กู ตองตอระบบความคิดหรอื ทัศนคติของเรา คดิ ดูหากดาราดังอยา ง แบรด พติ ต อดตี สามีสดุ รักของ แองเจลีนา โจลี ไมยอมเปล่ียนทิศทางตัวเอง จากอดีตที่เคยแตงตัวเปนไกกระพือปก และคอยตอนรับลูกคาเขาสูราน เพ่ือใหตัวเองมีเงินไวซ้ือส่ิงของและเล้ียง ขาวสาว ๆ หากแบรดพอใจกับชีวิตเด็กบริการเชนน้ี โลกคงไมมีวันรูจัก ดาราสดุ เทห ผ นู อ้ี ยางแน หรอื จอหนนี่ เดปป กับอดีตเซลแมนเรข ายปากกา ซ่ึงตัวเขาเองก็ ยอมรบั วา ไมมีทักษะทางดานการขาย ดังนั้นหากดันทุรงั ยึดอาชีพนี้ตอไป ฮอลลวี ดู คงขาดดวงดาวทสี่ ุกสกาวแสงอยา งทุกวันน้ี แตเพราะทัง้ แบรดและ จอหนนี่ ยอมเปลี่ยนทิศทางตัวเอง ชีวิตของทั้งคูจึงเปลี่ยนไป กลายเปน ดาวดวงใหญท ่ีโคจรอยใู นโลกมายา หลังพงิ ตนโพธ์ิ

14 สรุปวาความคิดหรือทัศนคติท่ีถูกตองนั่นเองท่ีเราควรเปลี่ยน หาก ตองการชีวติ ในแบบท่ีเจริญรงุ เรอื งถูกตองดงี าม เหมาะสมกบั ศกั ยภาพของ ตน เหตุนี้เองพระพุทธองคจึงตรัสให “สัมมาทิฏฐิ” คือ ความเห็นถูก เห็นตรง เปนธรรมหมายเลขหนึ่งในอริยมรรคมีองคแปด โปรดจาํ ใหขึ้นใจ อีกครงั้ ... “เหตุเปลีย่ น... ผลเปลี่ยน เปล่ยี นความคิด... ชวี ติ เปลย่ี น” ทาสโพธญิ าณ

๓ ปลดปลอ ย ‘ตัวเอง’ ใหเ ปน อสิ ระ เราทุกคนลวนมีชุดความรูเดิม ซ่ึงถูกฝงโปรแกรมอยูในสมองมาต้ังแตเด็ก ทง้ั จากคนรอบขาง สภาพแวดลอม โดยที่เราเองไมรูตัว และไมทันไดคิด วิเคราะหแยกแยะขอมูลตาง ๆ เหลานั้นดวยวา มันเปนความจริง หรือไม อยา งไร เพราะตอนน้นั เรายงั เดก็ เกินไปทีจ่ ะเลือกไดวา อะไรควรเชื่อ อะไร ไมค วรเช่อื ! ประเด็นก็คือ ถาชุดความรูเกา ๆ เหลานั้นมันดีมีประโยชน สรา งสรรค สงเสรมิ ใหชีวติ ของเราดีขนึ้ อันน้ันก็ไมเปนไร ตรงกันขาม ถา มันเปนชุดความรูท่ถี ว งความเจรญิ เราไว อันนี้แหละทีเ่ ปน ปญหา ซ่ึงเราจะ มาแชรก ันในคลิปนี้ ทาสโพธิญาณ

16 กลไกมหัศจรรยแหง สมอง หนังสือ NLP ภาษาสมองมหัศจรรยของ ดร. วิศิษฐ ศรีพิบูลย ระบุ การคนพบระบบการทํางานของสมอง ซึ่งนักจิตวิทยาเรียกศาสตรชนิดวา NLP (Neuro Linguistic Programming) ดวยคําจํากัดความวา การ โปรแกรมสมอง ดวยภาษาพูดแบบงาย ๆ จากชดุ ความรใู หมที่เราใสเขาไป โปรแกรมใหก บั ตวั เอง กลไกงาย ๆ เวลาที่สมองของเราทํางานก็คือ ทันทีทเี่ ราคิดอะไรสัก อยา ง ในสมองของเรามันจะมีการยิงประจุไฟฟา นวิ รอนไปตามเสนประสาท ท่ีเปนโครงขา ยตาง ๆ ในสมอง นเ่ี ปนกลไกขนั้ พื้นฐานตามปกติ ทส่ี าํ คัญไม วา เราจะคิดอะไรกแ็ ลวแต ทุกครั้งท่ีคิดในระบบประสาทก็จะมีการสรางเสนสายของความคิด เสนหนง่ึ ขึ้นมา เสนสายชนดิ น้ีถาเกดิ เราคดิ บอย ๆ ยํา้ ๆ ซาํ้ ๆ มันก็จะเกิด เปนพฤติกรรม “ทําซ้ํา” ท่ีเปนระบบอัตโนมัติ เชน เวลาทหี่ ัดขับรถ พอ ขบั เปน แลว เราก็ไมตองพยายามทําอะไรมากแลว เพราะมนั เกิดเปน ระบบ ออโตอัตโนมัติ นั่นคือระบบของเรามีการยํ้าซํ้า ๆ กระท่ังกลายเปน พฤตกิ รรมตามปกติ ทเี่ ราไมต องใชค วามพยายามอะไรเลย ทุกเรอ่ื งในชีวติ ของเราก็เกิดจากสิ่งนี้ เชน อกหักซ้ํา ๆ ไดแฟนนสิ ัย แย ๆ แบบเดิม เปะ! หรือเราเกลียดเจานายแบบนี้ เกลียดงานอยางนี้ ทาสโพธญิ าณ

17 ลาออกมาหางานใหม พอไดงานใหมก็เหมือนเดิม เปะ!! นี่แหละคือ ประเด็น เปนเสนทางเดิม ๆ ท่ีคนสวนใหญเปนกัน มันเกิดจากระบบ ความคิดในสมองท่ีเราเช่ือฝงใจอยู ยิ่งนานวันมันก็ย่ิงกลายเปนเสนสายท่ี แขง็ แรง โยงใยกันเปนโครงขา ยภายในระบบประสาท ซ่ึงสาเหตุสวนใหญ ก็มาไดหลายรูปแบบ จากความหว งใยของคน ใกลช ิด มันอาจเปนคาํ พดู ที่รเู ทา ไมถ ึงการณ หรือคําวิพากษวจิ ารณ ตดั สิน จากคนที่หวังดีเกินเหตุ หรือผูที่ไมหวังดีแบบชอบเตะตัดขาดวยวาจาก็ได เชน “อยาไปพยายามเลย มันไมสําเร็จหรอก” หรือ “เรามันคนจนก็อยู อยางคนจนตอไปดีกวา” หรือ “หนาอยางแกนะ หรือจะมาเปนดารา” อะไรทาํ นองเน๊ียะ! อยาลืมวา ที่จริงน้ันมนั เปนคําตัดสินที่มาจากชดุ ความรขู องเขา ซึ่ง บางครัง้ ขอมูลอาจยังไมค รบ เขายงั ไมร ูจริง ไมร ลู ึก ไมเขา ใจความตอ งการ ท่ีแทจริงของเราวาคืออะไร แตเขาก็มาดวนตัดสิน โลกน้ีไมมีใครรูหรอกวา “หัวใจดวงน้ีเตนอยูเพื่อส่ิงใด” นอกจากตัวเราเทานนั้ จะเปนผูคน พบได เอง ดังทไ่ี อนส ไตนกลา วไว “ทุกคนเปน อัจฉรยิ ะ แตถา คณุ ตดั สนิ ปลาดวยความสามารถในการปน ตนไม ทั้งชีวติ มันกจ็ ะคดิ วา ตวั เองโงอ ยอู ยางนั้น” หลงั พงิ ตนโพธ์ิ

18 เพราะอะไรนะหรือ ? ก็เพราะวา ปลามันปนตนไมไมได การให ปลามาปนตนไม จะตางอะไรกับการใหนกมาแหวกวายนํ้า เหมือนใหไท เกอร วูดส มาฟาดแขงแทนเดวิด เบ็คแฮม ใหเรย คร็อก มาขายขนม ครก แทนที่จะขายแฮมเบอรเกอร หรือใหผูพันแซนเดอรมาทอดปลา แทนทจี่ ะเปนทอดไก ดังนนั้ คําพิพากษาจากสมมตุ ิฐานอันซ้ีซ้ัวแบบนี้ เรา จะยกใหม าเปนคําตัดสนิ คดีชีวิตของเราไดไง ในเม่อื ทศั นคติของเขายังเอียง อยางนี้ ฉะน้ัน อยา ไปเชื่ออยาไปฟง คําคนพวกน้ี เรื่องความเช่ือเน๊ียะ ใคร ที่หูเบาเช่ือคนงาย ในทางพุทธศาสนาถือวา “งมงาย” เพราะเช่ืองาย เกินไปอยางน้ีอันตราย ในนคโรปมสูตร พระพุทธองคถึงกับตรัส เปรยี บเทียบเรื่องความเชอื่ ไววา “เปน เสมือนเสาหลกั เมอื งที่ขดุ หลุมฝกลึก เพื่อใชเปนเคร่ืองปองกันนครของพระราชา ประการแรกสุด” เห็นหรือ ยังวา “ความเชื่อ” เปนเสมือนเสาแหงชีวิตของเรา นอกจากน้ี พระพทุ ธเจายังไดอนุเคราะหเ คร่ืองมือในการวินิจฉัยความเช่ือไวว า “อยา เช่อื เพราะฟง ตาม ๆ กนั มา อยา เช่ือเพราะอา งคมั ภีรตํารา อยาเชอ่ื เพราะเหน็ วา ผูพูดเปนครขู องเรา เปนตน” และนิทานเร่ืองตอไปน้ี คือกุญแจสําคัญ ท่จี ะชวยปลดล็อก คืนอสิ รภาพ ใหก บั ทานผอู า นทุกทา น ทาสโพธิญาณ

19 กุญแจปลดลอ็ ก เชาวนั หนงึ่ ท่อี ากาศแจม ใส เด็กชายบอยดีใจมาก เมื่อรูวา พอ จะพา ไปดูโชวชางลากซุง เพราะชา งเปน สตั วทเี่ ขาชอบมากเปนพเิ ศษ... ไมนานบอยกับพอก็เดินทางมาถึงปางชาง ในระหวางดูโชววิธีการ ลากซุงของชาง เจาชางตวั ยักษไดแสดงใหเ หน็ ถึงพละกําลังอันมหาศาลของ มัน แตเมื่อแสดงจบถึงชวงพักเบรก คนเลี้ยงชางก็นํามันมาลามไวกับเสา หลัก บอยสังเกตเห็นวา ขาขางหนึ่งของมันถูกลามโซไวก ับเสา ซึ่งเสาตน น้ันเปนเพียงทอนไมเล็ก ๆ ตอกลงพื้นลึกเพียงไมก่ีนิ้ว แมโซจะเสนใหญ แตเขาก็ม่ันใจวา ชางซ่ึงลม ตนไมไ ดสบายดว ยแรงของตน อยา งชา งเชือกน้ี ยอมปลดปลอยตัวเองใหเปนอิสระจากเสาตนน้ัน และหนีไปไดแน ๆ แต ทาํ ไมมันไมไป เด็กนอ ยเก็บความสงสยั ไวในใจ ‘อะไรกนั แนที่เหนี่ยวร้ังไว ทําไมชา งจงึ ไมห นีไป’ อาทิตยตอมาในโรงเรียน บอยเอยถามครู และคนอื่น ๆ เกี่ยวกับ ความสงสัยขอนี้ ทุกคนตอบคลายกันวา ‘ที่ชา งไมหนี เพราะมันถูกฝกให เชอ่ื ง’ “ถามันเชื่อง แลวทําไมยังตองลามโซมันอีก?” บอยโพลงออกไป อยางน้นั “.............?” หลงั พงิ ตน โพธิ์

20 เมื่อบอยโตเปนหนุม เขาก็ลืมเร่ืองนี้ไป อยูมาวันหน่ึง บังเอิญ บอยก็มาไดยินทานผูรู ซ่ึงกําลังตอบคําถามเดียวกันนี้ ใหกับเด็กนอยคน หนึง่ วา “ทชี่ า งไมหนี เพราะมันถูกลา มกบั เสาอยา งนี้ มาต้งั แตเล็ก” คําตอบนี้เองท่ีชวยคลายความสงสัยใหบอย ชายหนุมหลับตาเห็น ภาพ ชา งแรกเกิดทไี่ มม ที างสู ถูกลา มไวกับเสา บอยแนใจวา ตอนนัน้ ชาง ตัวนอยคงตองทั้งผลัก ท้ังดึง ฉุดกระชาก เพื่อด้ินรนใหตัวเองเปนอิสระ มันสูอยูแบบน้ันกระทั่งเหง่ือทวมตัว แมมันจะพยายามอยางไรก็ไมสําเร็จ เสาตนนั้นแข็งแกรงเกินไปสําหรับมัน และวันตอ ๆ มา มันก็พยายามอีก วันแลว วันเลา...กระทั่งในท่ีสุด เจาชางนอยตัวนั้นก็ยอมจํานนรับความ พายแพ ยอมตนผกู ตดิ อยูกบั เสาตนน้ันตลอดมา บอยสรุปใหก ับตัวเองวา “เหตุท่ีชา งตัวใหญมีแรงมหาศาล ตอ งทน ลาํ บากทํางานลากซุง แถมยังถูกลามไวก ับเสาอยางไรอิสรภาพ แตมันก็ไม ยอมหนี นนั่ เพราะมันเชอ่ื วา หนไี มไ ดน่นั เอง!” ลองโยงนิทานเร่ืองน้ี มาเทียบกับตัวเราดู อะไรบางท่ีทําใหเราไม กลา ไมเชื่อวา ตัวเองทาํ ได อะไรคือส่ิงท่ยี ังฝงใจกับความออนแอของตนใน อดีต แลว เราก็เช่ือถือยึดติดอยูอยางนั้น ทง้ั ทีเ่ ราไมเคยไดตั้งขอ สงสยั กับ การเติบโตของตนเองในปจจุบันเลย เราไมใชชางนอยอีกตอไปแลว ทาํ ไม ไมลองทดสอบพละกําลังของตนอีกครั้ง อยาลืมวา “เราในวันน้ี ไม เหมือนคนเกา ในวันนัน้ ” ทาสโพธิญาณ

21 ฉะน้ัน จงมีศรัทธา เช่ือม่ัน เลือกทําในส่ิงท่ีตัวเองรัก มองใหเห็น ภาพวา ตัวเองกําลังมีความสุขประสบความสําเร็จ เมื่อไดทําในสิ่งท่ีรัก ทนั ทีที่เราตัดสนิ ใจเชื่อวา “ตัวเองทําได” ภาพในสมองของเราก็จะปรากฏ ขึน้ และนิวรอนกจ็ ะยิงประจุไฟฟาออกไป พรอ มกบั สรา งเสน ขน้ึ ใหม เปน ชดุ คาํ สงั่ ในการขบั เคล่อื นตัวเอง ใหต ่ืนขนึ้ มาทกุ เชา เพื่อทําส่งิ น้นั หลังพงิ ตน โพธ์ิ

22 ๔ ผาตัดระบบความคิด โรคในปจจุบันเกิดขน้ึ มากมาย แตโรครายที่ฮอตและฮิตเปนกันมากในบา น เราคือ “โรคคิดลบ” โรคคิดลบคือสาเหตุท่ที าํ ใหคนมีชีวิตแคระแกร็น ไม เจริญเติบโตคนสวนใหญในปจจุบนั มองไมอ อกวา อะไรกันแนท่ีผูกลา มเขา ไวใหว นเวียนอยูกับท่ี ไมก าวหนาไปไหน ขณะที่คนอ่ืน เชนเพ่ือนรุนนอง กลบั แซงหนาตวั เองไปไกลลบิ ล่วิ และการท่ีชวี ติ ของเขาตองเปนเชนน้ี กไ็ ม เกี่ยวกบั เรือ่ งทีพ่ วกเขาเอาแตบ นนูน โทษน่ไี ปเรื่อย แตม นั เกี่ยวกับ “ระบบความคิด” ของเขา ใช!... ความคิดเขาติดลบ คิดเรื่องดี ๆ เร่ืองที่สรางสรรค ใหต นเองและสงั คมเจรญิ ขนึ้ ไมเปน ขณะทตี่ วั เองย่ําตอก วนเวียนอยูกับท่ี เขามักจะมองเห็นตัวเองเหมือนเตาตวมเต้ียม อยูใน ปจจบุ นั อยา งไรจ ุดหมาย นั่นคอื สงิ่ ทเี่ ขามองเห็นตัวเองตามทเ่ี ปน จริง ทาสโพธญิ าณ

23 แตเขาไมเคยมองออกไปขางหนา ในอนาคตอันสดใส มองใหเห็นสิ่ง ท่ีตัวเองตองการเปน เขาเอาแตจองมองความรันทดของชีวิตในปจจุบัน วิตกกังวลกับเรื่องท่ีตนเองคิดลบย้ําคิดยํ้าทํา แลวก็เอาแตบน จากน้ันก็ โยนความผิดไปท่ีคนอนื่ แทนทจ่ี ะรบั ผิดชอบชวี ติ ตัวเอง แลวหาทางแกไ ข นานเขามันจึงกลายเปนวา ตัวเองหมดแรงบันดาลใจ ตกอยูใน สภาพอันขมข่ืนนั้นจริง ๆ สรุปก็คือการที่เขาไมมีแรงบันดาลใจ ไรซ่ึง จุดหมายน่ีแหละท่ีเปน ปญ หา ซ่ึงมีสาเหตมุ าจาก “ความคิด” ปรับเปล่ยี นความคดิ ลองนกึ ภาพทีวเี ครื่องหน่งึ ดูไดบาง ไมไดบาง เดี๋ยวภาพลม เดีย๋ ว สีหาย อาการดับ ๆ ติด ๆ มีเหตุมาจากไอซีบางตัวของระบบวงจร อิเลก็ ทรอนกิ สในเคร่ืองทาํ งานผิดพลาดเสยี หาย เมอ่ื ยกไปซอ ม ชางกเ็ พียง ถอดมันออก แลวเปล่ียนไอซีตัวใหมใสเขาไปแทน คราวน้ีทีวีเคร่ืองนั้นก็ ทํางานไดด ดี งั เดมิ ตามปกติ เชนเดียวกันคนท่ีย้ําคิดยํ้าทํากับความลมเหลว ชอบคิดลบวิตก กงั วลฟุงซาน แลวเอาแตเ ทีย่ วบนดา ตําหนิติเตียนตนเอง หรือสิ่งรอบขา ง บน เก่ียวกับเงนิ เดือนคาตอบแทนท่ีนอยเกินไป บน เก่ยี วกับเพ่ือนหวยแตก หลังพิงตน โพธิ์

24 ทีอ่ ยูขางบาน บนเกี่ยวกับคาครองชีพท่ีแพงขึ้นทุกวัน การที่เขาเอาแตบน ตอกยาํ้ กับตัวเองแบบน้ัน มันคือ ‘วงจรคดิ ลบ’ ทีต่ อ งกําจัดทงิ้ หรือผา ตัด ปรับเปลยี่ นออกไปจากระบบประสาทภายใน คนนอกศาสนาน้นั เวลามปี ญ หาชีวิตแกไ มต กคิดไมออก พวกเขาก็ จะไปหาหมอหรอื พบจติ แพทย ในขณะทค่ี นพุทธอยางเราถือวาโชคดีสุด ๆ เกิดมาก็ไดพบหลักธรรมคําสอน เรื่องทจี่ นปญญา หนักหนาสาหัสยังไงให เอาหลังพิงตนโพธิ์ไวก อน เพราะเราเชื่อวา ปญหาทกุ อยางยอมมีทางออก เสมอ ภายหลังจากที่พระพุทธเจาตรัสรูหยั่งเห็นความจริงในเร่ืองนี้ แลว พระองคจงึ แนะนําใหล ดละเลิกคิดช่ัว พูดช่วั ทาํ ช่ัว แลวหันมาคิดดี พูดดี ทําดี และการที่เราหันมายํ้าคิดย้ําทําอยูกับสามสิ่งนี้แหละคือ เคร่ืองหมายของผูเจรญิ บันดาลใหจิตของผูก ระทําเกิดเปน “กุศล” ทค่ี น ในปจ จุบนั เรียกวา “ความดี” ทุกสรรพสิ่งลว นมีจดุ เริ่มตน ความดีก็เร่ิมตนมาจากคิดดี คิดบวกที่ ตวั เรากอน ยา้ํ คดิ ยํ้าทาํ อยูกับส่ิงดที ่ีเปน กุศล ดวยความเช่ือมน่ั เหมอื นกับ อาแปะยอดคนคิดบวกในนทิ านเร่ืองน้.ี .. ทาสโพธญิ าณ

25 ยอดคนคิดบวก กาลครั้งนั้นนานมาแลว มีอาแปะคนหนึ่ง เลี้ยงมา ตัวเมียไว 1 ตัว อาชีพของแกก็คือ ผสมพันธุมาขาย โดยมีตนทุนอยูวา แกตองนํามาตัว เมยี ไปจางมา ตัวผูผสมพันธุ และเมื่อไดลกู มา แกกจ็ ะนาํ ลูกมา ไปขาย อยมู าวันหน่งึ มา ตัวเมียหายไป ชาวบานผูมีนาํ้ ใจรขู า ว จึงมาแสดง ความเสยี ใจกับอาแปะกันอยางมากมาย อาแปะไดกลาวขอบคุณ และตอบ กลบั ไปดวยนาํ้ เสยี งราบเรียบ สาํ เนียงชาวจีนวา “มนั อาจจาลีกล็ า ย” ตอมาอีก 2-3 วัน มาตัวเมียน้ันก็ไดกลับมาพรอมกับมาตวั ผอู กี หนึ่ง ตัวเปนของแถม เม่ือชาวบานรูขาว ตางก็มาแสดงความยินดีกับอาแปะ เพราะตอไปน้ีอาแปะจะมีลูกมาขาย โดยท่ีไมตองเสียเงินจางพอมาผสม พนั ธุ อยูมาอีกไมนาน ลูกชายคนเดียวของอาแปะไมรูทําอีทาไหน กระโดดข้ึนข่ีมาตกลงมาขาหัก ชาวบานรูขาวเกิดนึกสงสาร จึงมาแสดง ความเสียใจ แตอ าแปะกลับตอบดว ยสหี นา ราบเรยี บตามปกติ ดว ยน้าํ เสียง ออ นโยนเชนเคยวา “มันอาจจาลีก็ลา ย” หลงั พิงตนโพธิ์

26 ชาวบานบางคนไดยินก็นึกในใจ ‘สงสัยอาแปะคงเสียใจสติแตกไป แลวแหง ๆ ลูกชายขาหักแท ๆ ยงั มีหนามาบอก มันอาจจะดีกไ็ ด!’ ลับหลังอาแปะไปไมเทาไหร ชาวบานบางคนก็ตั้งกลุมซุบซิบนินทา กระท่ังเร่ืองนี้แววมาถึงหูอาแปะ ครั้งแรกท่ีไดยินแกก็รูสึกเสียใจ แตจู ๆ อาแปะก็มีใบหนาสดช่ืนข้ึน แลวบอกกับตัวเองวา “เอาเถอะ..ยังไงซะ อั๊ว กเ็ ซอื่ วา มันอาจจาลกี ล็ า ย” ผานไปไมนานเทาไหร ทางการก็ติดปายประกาศออกมาวา ขณะน้ี บานเมืองอยูในภาวะศึกสงคราม และกองทัพก็ขาดกําลังพล ขอใหชาย หนมุ ทกุ บานเขาไปรายงานตวั สูศกึ ในสงครามคร้งั นี้ แตทวาลูกชายของอา แปะเปน ชายหนุม พิการขาหัก จึงถูกยกเวนไมตองไปเปนทหาร กเ็ ลยไดอยู บา นดูแลอาแปะอยา งมีความสุขตอไป พอชาวบานทราบขาว จึงมาแสดง ความยนิ ดี คราวน้ีอาแปะแกหัวเราะเสียงดัง ยักค้ิวหลวิ่ ตาเอย “อ๊วั บอก แลว ไง มนั อาจจาลกี ล็ าย” สิง่ ดี ๆ มจี ุดกําเนิดมาจาก “คดิ ดี” คิดบวกทต่ี ัวเรากอน จากน้ันจึง คอยขยายพ้ืนที่ออกสูวงกวางตอไป ดังท่ีปราชญชาวจีนกลาวไว “รอยลี้ ตองมกี า วแรก” การทาํ ความดกี เ็ ริ่มมาจากคิดดเี ปน กาวแรกเชน กัน ทาสโพธิญาณ

27 กาวแรกสูการคิดใหญ แตการคิดดีเปนแคกาวแรกเทาน้ัน เพราะบางคร้ังในบางคน “คิด ดี” เพียงอยางเดียวก็ยังไมชวยใหเกิดแรงบันดาลใจ ดังนั้นกาวตอไปก็คือ คดิ ใหญ หรอื คดิ ขยาย หรอื คดิ แบบ “พลงั ทวี” แมคโดนัลด เปน ตัวอยางทช่ี ัดเจนในการคิดขยาย หรือคดิ แบบพลัง ทวี เม่ือ เรย คร็อก ตัดสินใจซ้ือรานแฮมเบอรเกอรจากพ่ีนองตระกูลแมค โดนัลด จากนั้นเขาก็สรางระบบแฟรนไชสข้ึนมา น่ันหมายถึงเขาไดคิด ขยาย เพราะคร็อกรูด ีวา ธุรกิจแฮมเบอรเกอรน้ัน สามารถทําไดไมวาเขา จะมเี วลาขายหรือไม และในท่ีสุดแมคโดนัลดก็เปนที่รูจักโดงดังไปทั่วโลก “ระบบแฟรน ไชส” น่ันเองทเ่ี ปนพลังทวีใหแมคโดนัลดขยับขยายสาขาไปไดท่วั โลก ซ่ึงก็ มีผลมาจาก “ความคิด” เปนจุดเริ่มตน สอดคลองกับท่ีนักจิตวิทยา สมัยใหมเช่อื วา “ความสําเร็จไมไดมาจากการทํางานหนัก แตมันเปนส่ิงท่ีเกิดข้ึน เพราะสมอง รวมถึงส่ิงท่ีเขาแสดงออก และความเช่ือม่ันในตัวเอง คุณสมบตั ิท้งั หมดน้ีคือ เหตุผลสาํ คัญทท่ี ําใหคนประสบความสําเร็จ หรือไม ประสบความสาํ เรจ็ ” หลังพงิ ตนโพธิ์

28 แตในทางพุทธศาสนาไปไกลกวานั้น พระพุทธองคเช่ือวา “จิตเปน นาย กายเปนบาว” สมองเปนเร่ืองของกาย ดังน้ันสมองจึงเปนลูกนอง ของจิต ดังท่ีพระพทุ ธองคตรัสวา “จติ เปนใหญ เปนประธาน ทุกอยาง สําเร็จไดดวยใจ” การท่ีเราจะควบคุมความคิด ใหคิดดี คิดบวก คิด เปนกุศล พระองคท รงคนพบวา เราตองอาศัย “สติ” พระพทุ ธองคได ใหเ คร่ืองมือชั้นเยี่ยม สําหรับการเจริญสติโดยเฉพาะ ท่ีเรียกวา “วิปสสนา กรรมฐาน” การน่ังวิปสสนาชวยใหเรามองยอนกลับไปดูไดวา เกิดอะไรขึ้นใน ความคิดของเรา แลวเราจะคนพบวา ตนเหตุของปญหาท่ีแทจริงน้ัน ทุก อยา งเกิดขึ้นมาจากจิตของเราปรงุ แตงสรางมนั ข้นึ มา ไมวาจะเปนความคิด หรือคําพูดทีเ่ ราพูดกับตัวเอง และที่สาํ คัญการน่ังกรรมฐานนี่เอง ที่ชวยให เราไดเรยี นรวู ิธคี วบคุมความคิดของตน ชา งซอมทีวีรูวงจรอเิ ล็กทรอนกิ ส สามารถถอดสบั เปลย่ี นไอซีตัว ใหมเขาไปแทนไอซีตัวเกาท่ีเสียหายได ฉันใด วิปสสนากรรมฐานเมื่อ เจริญมาถึงจุดหนึ่งแลว เราก็จักรูระบบความคิด สามารถผาตัด ปรับเปลีย่ นความคดิ บวกเขา ไปแทนท่คี วามคิดลบได ฉันนั้น ทาสโพธิญาณ

29 ๕ ถอดรหัส ‘บัลลงั กศรัทธา’ อาณาจกั รภายนอก นอยคนนกั จะไดเ กิดเปน “ราชา” ครองความยงิ่ ใหญ อยูในอาณาจักร แวดลอมไปดวยเหลาเสนาอํามาตย ขุนพล นางสนม กํานัล แตทวาอาณาจักรภายใน ไดแกเซลลประสาทในรางกายของมนุษย เราทุกคน คือ “ราชา” ผูครองบัลลังกเปนใหญอยูในอาณาจักรภายใน ตัวเอง น่ีไมใชแนวคิดชวนเชื่อเพอฝน ในหนังสือเดอะซีเคร็ต รอนดา เบิรน ผูเขียนระบุวา “ไมวาในหัวจะคิดถึงสิ่งใดก็ตาม จิตยอมสามารถ บรรลสุ ิง่ นน้ั ไดเสมอ” สอดคลอ งกบั ท่ีพระพทุ ธเจาตรัสวา “บุคคลคดิ ถงึ สิ่งใด ก็นับไดวา เขาถงึ ส่งิ นน้ั ไมค ิดถงึ สิง่ ใด กน็ บั วา ไมเขาถงึ ส่ิงนนั้ ” ทาสโพธิญาณ

30 มาดูตัวอยางหลักฐานจาก เอ็ดวิน บารนส หุนสวนคนสําคัญ ของ โทมัส เอดิสัน บิดาแหงหลอดไฟดวงแรก สองผูยิ่งใหญที่ทําใหโลกนี้ สวางไสวดวยความคิดของเขา โลกรูจักบุคคลทั้งสองในนามคูหูนักคิดนัก ขายวา “เอดิสันประดิษฐ บารนสขาย” หนังสืออมตะขายดีระดับโลก อยาง “คิดแลวรวย” (Think & Grow Rich) ผูเขียนจารึกเร่ืองราวของ บารนสไววา ในนิวเจอรซยี คร้ังอดีต เม่ือบารนสกาวลงจากรถไฟ เพ่อื มาขอเปน หุนสวนทางธุรกิจกับเอดิสัน สภาพของเขาตอนน้ันไมตางจากคนเรรอน แตบารนสไมคิดอยางนน้ั เพราะเขาเชื่อวา ตัวเองทาํ ได และเขามาท่ีน่ีเพ่ือ มาเปนราชา แลวในที่สุดเขาก็ประสบความสําเร็จอยางยิ่งใหญ ม่ังค่ัง รํา่ รวย มชี ีวิตสุขสบายไมตางจากราชาทีเ่ มืองแหงนไี้ ด เพราะอะไร ? จดุ กาํ เนิดความยงิ่ ใหญ จากงานวจิ ยั และผลการศกึ ษามาอยา งยาวนานของนักสรีรวทิ ยา ท่ี เหน็ พอ งตองกันวา มนุษยเ ริม่ ตนชวี ิตมาจากเซลลเดียว ซ่งึ มีขนาดเลก็ กวา หัวเข็มหมุด เปนเซลลปฏิสนธิระหวางเซลลพอคือ “อสุจิ” รวมกับเซลล แมคือ “ไข” จากนน้ั จะแบงเซลลเพ่ิมจํานวนมากขึ้นอยางรวดเร็วลองโยง ทาสโพธญิ าณ

31 สองเร่ืองน้ีมาเทียบกันดูเพื่อความกระจาง ในการเติบโตของสองคูหนู ักคิด นกั ขายสะทา นโลก บารน สเร่ิมตนจากตัวคนเดียว เดินทางมาพบเอดิสัน เพ่ือทําธุรกิจ กบั ส่งิ ประดิษฐตา ง ๆ ที่เอดสิ นั ผลติ มนั ข้นึ มา ถาเปนคนอ่นื อาจไมใ หโ อกาส แตเอดิสนั มองเห็นอะไรบางอยา งในแววตาของเขา เมอื่ ไดโอกาสในทส่ี ุดเขา ก็ผลิกชีวิตประสบความสําเร็จสมความต้ังใจ ทามกลางความคลางแคลง ของใครหลายคนวา มันเปนเรือ่ งบงั เอิญ ท่ีบารนสโชคดีไดขายสิ่งประดิษฐ ของเอดิสนั ท่ีไมมใี ครขายมันไดในสมัยนั้น แตบารนสขายได นับจากนน้ั มา ชื่อเสียงเงินทอง ความเจริญรุง เรอื งก็หลัง่ ไหลมาสูชวี ิตของเขา เมอ่ื นักขาย ช้ันยอดมาเจอกับนักประดิษฐช้ันเซียน โลกน้ีก็ไมมีใครหยุดพวกเขาไดอีก ตอ ไป เชนเดียวกับเซลลปฏิสนธขิ องพอตัวเดียว เมื่อว่งิ มารวมกับเซลลไข ของแม เพ่อื กอ กําเนิด “ชวี ิต” จากนน้ั กเ็ จริญเตบิ โตขึน้ มาเปน ตัวเรา และ ที่ยิ่งกวานั้น เมื่อถึงกําหนดคลอดจากครรภมารดา เราก็คลอดออกมา พรอมกับระบบประสาทท่ียอดเย่ียม ประกอบไปดวยเซลลตาง ๆ มากมาย รวมถึงสมองท่ที รงประสทิ ธิภาพอันสุดมหัศจรรย นน่ั เพราะ... สมองประกอบดวยเซลลป ระสาทหลายพันลานเซลล ท่ี สามารถสงขาวไปยังเซลลที่อยูใกลหรือหางออกไปได โดยการทํางานที่ ซับซอน วิถีทางของกระแสประสาทที่วิ่งผานไปในสมอง กอใหเกิด หลงั พงิ ตน โพธิ์

32 ความรูสึก ความคิด และพฤติกรรม นักประสาทวิทยากลาว วา “ความสามารถเหลานี้ เกิดขึน้ จากสมองเปน ผูบงการ” ขณะที่นักจิตวิทยาช่ือกองโลก บิดาแหงทฤษฎีจิตวิเคราะห อยาง “ซิกมันด ฟรอยด” กลับเห็นตาง ฟรอยดเชื่อวาความคิดและ พฤติกรรมของมนุษยเปนผลมาจาก “จิต” เปนผูบงการ ไมใชสมองอยา งท่ี นักประสาทวิทยาเขาใจ และฟรอยดยังแบงจิตของมนุษยออกเปนระดับ ดว ยวธิ เี ปรียบเทยี บเพอ่ื ความเขา ใจงายข้นึ กบั กอ นนํา้ แข็งในมหาสมทุ ร โดยให “จิตสํานึกเปรียบเหมือนสวนบนของกอนนํ้าแข็ง ท่ีลอย อยูเหนือนํา้ ทะเล สว นจิตใตสํานกึ เปรียบเหมอื นสวนลา งของกอ นนาํ้ แข็ง ที่จมอยูในทะเล” นอกจากน้ี ฟรอยดยังฟนธงวา “จิตใตสํานึกมีอทิ ธพิ ล ตอความคิดและพฤติกรรมของมนุษยมากกวาจิตสํานึก อีกท้ังจิตก็เปน พลังงานชนิดหน่ึง” ตามกระบวนการของ “คลื่น” เม่ือพลังงานถูกสง สัญญาณออกไป มันกจ็ ะกลายรปู เปนคลนื่ อยางเชนคลน่ื โทรศัพท เชนเดียวกัน “ความเชื่อ” ก็เปนคล่ืนพลังงานชนิดหนึ่ง ที่จิตเปน ตวั กําหนดสง สญั ญาณออกไป และผลทต่ี อบกลบั มันก็จะเปน อยางทเ่ี ราเช่ือ เชอื่ ไหมวา ... ทาสโพธิญาณ

33 “เราสามารถขับเคล่ือนตัวเองไปยังพื้นที่วางในอวกาศได ดวยการ เร่ิมตนจากจุดเล็ก ๆ คือ เชื่อวาเราทําได เม่ือเช่ือวาตัวเองทําได เราก็จัก ทาํ ได เฉกเชนที่นักบินอวกาศทาํ ใหดูเปน ตวั อยา ง” ‘จิตใตสํานึก’ ขมุ พลังอันลิมิเตด็ ทกุ วันน้ีโลกคนพบแลววา “ความคิด” เปนพลังงานที่มีแรงดึงดูด มหาศาล ซึ่งมีอยูแลวในจิตของมนุษยทุกคน แตมนุษยก ลับใชพลังงาน ดังกลา วน้ีเพียง 7 เปอรเซ็นต เพราะผูค นสวนใหญควบคุมความคิดตัวเอง ไมเปน มันจึงแสสายเปะปะไรพลัง ในทางพุทธศาสนากลาววา ความคิด (สังขาร) เปนเพียงอาการแสดงออกอยางหน่ึงของจิตในขันธหาเทานั้น ความคิดแบบฟุงซานแสสายอยูในระดับจิตสํานึก แตจินตนาการหรือ ความคดิ สรางสรรค โดยเฉพาะปญญาญาณ ทท่ี รงพลังดึงดูดจะอยูในจติ ใต สํานึก ซึ่งถูกสงวนเก็บแชแข็งไวในจิตใตสํานึก ดุจกอนน้ําแข็งจมอยูใน มหาสมุทร ซ่ึงถูกปกปดประหน่ึงความลับมาอยางยาวนาน ผูรูจึงกลาว วา “หากบุคคลใดสามารถนําขุมพลังดังกลาวนี้ออกมาใชได เขาก็จะมี พลงั อํานาจอยเู หนือมนษุ ย” โชคดีท่ีนักจิตวิทยารุนใหม คนพบความลับแลววา “ความ ศรัทธา” นั่นเองท่ีเปนเสมือน “เหล็กเจาะนํ้าแข็ง” เปนเคร่ืองมือชวยให เรากะเทาะกอนน้าํ แข็งที่หอหุม ขุมพลังอันมหาศาลนไ้ี ด หลงั พิงตน โพธ์ิ

34 อยา งไรกต็ าม แมความศรัทธาจะเปนสิ่งดี แตการเช่อื อยางไมลมื หู ลืมตาตรวจสอบขอเท็จจริงเลย กลับเปนโทษมหันต ท่ีเรียกกันวา “งม งาย” ฉะน้ันกอนเช่ือสิ่งใด เราควรศึกษาเรียนรูจากผูอื่นดวย ขณะท่ี ตรวจสอบแลวพบวา ส่งิ ที่ตัวเองเชื่อน้ันถูกตองเปน ประโยชนอยางแทจริง เชนน้ีจึงคอยเช่ือ อีกท้ังความเชื่อที่ผานกระบวนการตรวจสอบมาแลว จัดเปนความเช่ือในระดับ “ศรัทธา” ท่ีม่ันคงไมคลอนแคลนงอนแงน ใน นคโรปมสูตรวา ดวยเร่ืองเครอ่ื งปองกันนคร ๗ ประการ พระพทุ ธเจาตรสั อุปมาระหวา ง “เสาหลกั เมือง” กบั “ศรทั ธา” ไว “ในเมืองของพระราชานนั้ ตองมีเสาหลักเมอื ง ขดุ หลุมฝงลกึ ม่ันคง ไมหวั่นไหว น้ีเปนเครอ่ื งปองกันนครประการท่ีหนึ่ง สําหรบั คุมภัยปองกัน อันตรายทั้งภายในและภายนอกนคร ฉันใด บุคคลผูเปยมดว ยศรทั ธา ก็ฉัน นั้น” ศรัทธา ถอดรหัสอีกครั้งก็คือ ความเช่อื มั่น มั่นใจในตัวเอง ลอง คิดถึงพระพุทธเจาซ่ึงเปนเพียงพระนักเทศนผูหนึ่ง ภายหลังตรัสรูแลว เดนิ ทางไปประกาศหลักธรรมคําสอนยังสถานท่ตี าง ๆ ทวั่ ชมพทู วปี แลวใน ท่สี ุดดูสิวา ความศรัทธาในสงิ่ ที่พระองคคนพบ นําพาใหพระพุทธศาสนา ของพระองค เผยแผออกไปไดก วางไกลมหาศาลเพยี งใด ทาสโพธิญาณ

35 เชนเดียวกัน ความมั่นใจเชื่อม่ันวา ตัวเองทําได หากไดทาํ ในส่ิงที่ รักและหลงใหลอยากใชชีวิตอยูกับมัน ความรูสกึ เชนนี้เองท่ีจะถูกฝงลงไป ในจิตใตสาํ นึก แลว บม เพาะข้ึนมาดวยการฝกทํามันทุกวนั ซ้ํา ๆ กลายเปน บคุ ลิกภาพใหมที่มคี วามมาดม่ัน ภาคภูมิใจในตัวเอง ประหน่งึ ราชาผูค รอง บัลลังกศรัทธาอันมั่นคง อยางท่ีใคร ๆ ก็ไมอาจทําใหความศรัทธาในตัวเอง ของเรา คลอนแคลนงอ นแงน ลงไปได และทงั้ หมดน้ีคือคําตอบทีจ่ ่วั หัวไวใ นตอนตนวา อะไรทําให เอด็ วิน บารนส ประสบความมง่ั ค่ังรํ่ารวยประหน่ึงราชาคนหน่งึ ในสหรฐั อเมริกาได สําเร็จในฐานะนักขายระดับโลก “ความเชื่อมั่นศรัทธาในส่ิงที่อยูในหัว ของเขาน่ันเอง คือส่ิงที่นําเขามาสูจุดนี้” ถาบารนสทําได มันก็ไมมี เหตผุ ลใดท่ีเราจะทาํ ไมได เพราะความศรัทธาเชือ่ ม่ัน ก็มอี ยูแลว ในดวง จิตดวงใจของมนุษยทกุ คนเหมือนกนั . หลงั พิงตน โพธิ์

36 ๖ ทกุ ขท้ิงในอดตี สุขไดในปจ จุบัน มนษุ ยยุคแรกนาํ ใบไมมาทําเส้ือผา ปกปดรางกาย แมว าจะรอ ยเปน พวงดวย ความประณีตอยางไร แตใบไมก็ยังไมใชเสื้อผาอยูดี ทฤษฎีที่บันดาลให มนุษยสามารถผลิตเสอ้ื ผา ออกมาไดก็คือ “หลักแหงการถักทอ” ดวยการ นําฝายหรือใยจากไหม จากหมอน เอามาปนแลวก็ถักทอออกมาเปนผา จากนนั้ จงึ เขาสกู ระบวนการตัดเยบ็ ปจ จุบันนมี้ นษุ ยสามารถออกแบบเสือ้ ผาไดอยา งหลากหลาย ตงั้ แต เส้ือกลาม สูท จีวร ชุดนักประดานํ้า ชุดของกัปตัน ยันไปถึงชุดมนุษย อวกาศ แถมผลติ ออกมาดวยดีไซดท่ที นั สมัย ไปไกลเกินกวา มนุษยยุคแรก มากโขแลว ประเด็นก็คือเราคงไมคิดกลบั ไปนุงหมใบไม เพื่อใสไปโรงเรียน ไป ทีท่ ํางาน หรอื ไปธนาคารใชม๊ัย! เรื่องน้ีก็ช้ีชดั แลววา เราไมสามารถยดึ ติด อยูกับสิ่งเดิม ๆ ไมวา จะเปนเสื้อตัวเกา หรือวิธคี ิดเกา ๆ หรืออดีตเดิม ๆ ทาสโพธญิ าณ

37 หรืออะไรก็แลว แตทม่ี ันผานไปแลว ความจรงิ ที่ประจักษในปจจุบันคือ “สิ่ง ใหม ๆ ที่ดีกวายอมเกิดข้ึนแทนท่ีส่ิงเกาไดเสมอ” เหมือนใบไมที่มนุษย เคยใชน ุงหมปกปดรางกาย ถูกแทนทด่ี วยเสอื้ ผา อาภรณท่ผี า นกระบวนการ ตัดเยบ็ อยา งดี ระลอกคล่ืนชีวิต ลองนึกภาพตวั เองกําลงั มีความสุขดื่มดาํ่ อยบู นเรอื สําราญลาํ โตกลาง มหาสมุทร ขณะท่ีเรือแลนผานเกลียวคล่ืนไป เม่ือมองไปที่ทายเรือก็จะ เห็นวา เรือไดท้ิงรองรอยท่ีผานไปแลว เปนระลอกคล่ืนเอาไวเบ้ืองหลัง เราตางก็รูวา ส่ิงสําคัญท่ีทําใหเรือแลนไปขางหนานั้นคือ ใบพัด กับ เคร่ืองยนต ระลอกคล่ืนเหลาน้ีไมไดชวยใหเรือแลนไปขางหนา มันเปน เพยี งรอ งรอยท่ีถกู ทง้ิ ไวเบ้ืองหลงั เทา น้ัน ระลอกแหงอดีตในชีวิตก็เชนเดียวกัน เราทุกคนตางมีอดีตที่เคย ลมเหลว ผิดพลาด ผิดหวัง อกหัก แพพ า ย ทกุ ข เจบ็ ปวด ระทมขมข่ืน แตอดีตเหลาน้ีไมใชสิ่งสําคัญในการนําพาชีวิตใหมุงไปขางหนา ปจจุบัน ขณะน้ีตางหากที่เปน ของจริง ซ่ึงขับเคลื่อนชีวิตใหกาวตอไป ความทรงจํา ในอดีตไมวาจะขมข่ืนปวดรา วเพียงใด มันจบลงแลว และเปนเพียงสิง่ ท่ีถูก ทิ้งไวขา งหลัง เหมอื นกบั ระลอกคล่ืนทถี่ กู เรือทิ้งไวเ บือ้ งหลงั หลังพิงตนโพธ์ิ

38 สมมุติวา อดตี คือปากกาเมจกิ ดามหนง่ึ และปจ จุบันคือเสอื้ กัปตันสี ขาว ตัวที่เราใสอยูบนเรือชีวิตลํานี้ ทุกครั้งท่ีคิดถึงอดีตใหเขียนปากกาเม จิกลงไปบนเส้ือขาวตัวนี้ คิดถึงอดีตที ก็เขียนที หากเราไมยอมเปดใจให โอกาสตัวเองไดมีความสุขอยูกับปจจุบัน แลว เอาแตจมจอ มตัวเองติดอยูกับ อดีตท่ีปวดราว เส้ือขาวอยางปจจุบันตัวนี้ ก็คงสกปรกหมองคลํ้าเต็มไป ดวยรอยขดี เขยี นอันโศกเศราของอดีต โบราณกลา วไวว า “สวรรคอยูในอก นรกอยูในใจ” น่ันหมายถึงมแี ตปจ จบุ ันนเ้ี ทาน้นั ทเี่ ปน ประตเู ปด ใจของเรา ไปสูความสขุ หรือความทุกข “เสื้อตัวนอก ซักใหส ะอาดดวยผงซักฟอก เสอ้ื ตวั ในคอื จติ ใจ ซักฟอกไดด วยธรรม” ความตางระหวา งเสื้อตัวนอกกับเสอ้ื ตวั ในคือ เส้ือผา นน้ั หากมันเกาเลอะเท อะสีหมองคลํา้ เราก็แคถอดท้งิ แลวไปซอื้ ตัวใหมมาแทน แตเสอื้ ตัวในคือ จิตใจ ทําไมไดอยางน้ัน เพราะไมสามารถไปซ้ือหาที่ไหนได ดังน้ันทาง เดียวท่ีจะดูแลรักษาใหเส้ือตัวในของเรามีสีสดใหมนาสวมใสอยูเสมอคือ ถอดออกมาซักใหสะอาดแลวยอมสี ดวยกรรมวิธีท่ีพระพุทธองคตรัสไวใน วตั ถปู มสูตร วา “ดกู อนทา นผูเจรญิ ผาทีเ่ ศรา หมองมลทินจับ ไมวาชางยอมจะหยอ นลงในนํ้ายอ มสีอะไรกต็ าม ผา กจ็ ะมสี มี ัวหมองอยูนั่นเอง เพราะผานนั้ ไมสะอาด ฉนั ใด เม่ือจติ เศรา หมองแลว ทคุ ติกเ็ ปน อันหวงั ได ฉันนน้ั ตรงกันขาม ผาท่สี ะอาดบริสทุ ธ์ิ ไมว าชา งยอมจะหยอนลงในนา้ํ ยอมสีอะไรก็ตาม ทาสโพธิญาณ

39 ก็จะเปน ผา สสี วยสด เพราะผานนั้ บริสุทธห์ิ มดจด ฉนั ใด เม่ือจิตไมเศราหมองแลว สคุ ตกิ ็เปน อนั หวงั ได ฉันน้ัน” คติ แปลวา วถิ ี หรือหนทางทจี่ ติ แลน ไป ดังนัน้ คําวา สุคติ ถอดรหสั อกี ครั้ง ก็คือ หนทางที่นําไปสูความสุข ความเจริญฝายเดียว สวน ทุคติ ก็เปน หนทางที่ทุกคนไมอยากไปอยางแน สังเกตไดวาท้ังทุคติและสุคติน้ี พระ พทุ ธองคท รงเนน มาท่จี ติ ใจ เหมอื นกบั นิทานชวนหัวเรอ่ื งตอ ไปนี้ สขุ ทกุ ขอยทู ี่ใจ...ใชภ ายนอก กาลคร้ังนั้น มีพระเจาแผนดินองคหน่ึง พระองคทรงมีความทุกข มากเหลือเกิน เพราะบรรทมไมหลับ ปรากฏวารักษาอยางไรก็ไมหาย หมอมากีห่ มอกร็ กั ษาไมหาย วันหน่ึงมีคนมาบอกวา “ขอเดชะ มีเคล็ดลับอยูอยางหนึ่ง ถา พระองคอยากจะบรรทมหลับแลวมีความสุข พระองคจะตองสวมเสื้อของ คนทม่ี คี วามสขุ รบั รองวาตองนอนหลบั สนทิ ไดแนน อน” พระเจา แผน ดนิ ตรสั วา “เห็นทานนายกรฐั มนตรีมีความสขุ เหลือเกนิ ขอลองยมื เสื้อใสหนอ ยซ”ิ นายกรฐั มนตรีทูลตอบวา “ขาพระองคปวดหัวจะแยอ ยูแลวพระเจา ขา ไมทราบวาจะถูกอภปิ รายไมไ วว างใจ ไลร ฐั บาลขา พระองคออกเม่อื ไหร” หลังพิงตนโพธ์ิ

40 ในเมื่อมีความกังวลอยูอยางน้ี รัฐมนตรีก็ไมมีความสุข แมแต รัฐมนตรีก็ไมยอมรับวา ตัวเองมีความสุข เจาหนาท่ีถามก่ีคน ๆ วาจะขอ ยมื เส้ือแหง ความสุขไปถวายพระเจาแผน ดิน แตก็ไมมีใครยอมใหยืมสกั คน ในท่ีสุดก็หาไมไ ด ทางเจาหนาท่ีในวัง กะวาจะเอาใจพระเจาแผนดิน เลยตั้งหนวย เฉพาะกิจลาเสื้อแหงความสุข จึงสงกองสอดแนมไปนอกกําแพงเมือง ขณะท่หี วั หนาหนวยกําลังเดินดุมอยูท ีก่ าํ แพงเมืองนน้ั พลันไดย ินเสยี งคนอีก มุมหน่งึ ตะโกนล่นั วา “สุขจรงิ โวย ๆ” หัวหนาหนวยไดยินดังนั้น จึงบอกวา “ไดการละ หามานานแลว กวา จะไดยินคนทบ่ี อกวา มคี วามสขุ จรงิ โวย !” จงึ บอกทหารใหรบี ไปจบั ตัว ถอดเส้ือมาเลยโดยไมตองขออนุญาต กลุมทหารก็วิ่งกรูนําหนาไป ตัว หัวหนาหนวยเองกเ็ ดินตามหลัง พักเดียวเทานั้นแหละ กลุมทหารก็ว่ิงสวนกลับมามือเปลา “อาว! ไหนเสื้อละ?” หัวหนาหนวยถาม “ตามมันไมท ันหรอื ไง ว่ิงแคนี้ตามไมทนั หรือ?” “ทนั ครบั ” ทหารนายหน่ึงนน้ั ตอบ “อา ว! แลวจับตัวเขามาไดหรอื เปลา ?” “จบั ตวั ไดค รบั ” “แลว ทําไมไมถ อดเสื้อมาละ? ในเมอื่ เขามคี วามสขุ ” พลทหารตอบวา “ขอโทษครับ! แกไมมีเส้ือใสนะครับ แกเปน ขอทาน วันน้ีเปนวันขึ้นปใหม แกขอไดไกยางมาขาหน่ึง กําลังเดินแทะ ทาสโพธญิ าณ

41 อยางมีความสุขเหลือเกิน ก็เลยเปลงอุทานออกมาวา สุขจริงโวย ๆ คนมี ความสุข แตไมมีเส้ือจะใส ผมจึงกลับมามือเปลาอยางท่ีทานเห็นนี่แหละ ครับ” หัวหนาหนวยเฉพาะกิจจึงไปกราบทูลพระเจาแผนดิน พระเจา แผนดินตรสั วา “ออื ...ความสุขนี่ไมไ ดเกีย่ วกบั เรื่องภายนอกนะ ความสุขมัน อยูท ใ่ี จตา งหากละ ” นิทานเรื่องนี้มีคติสอนใจ สอดคคลอ งกับที่นักปราชญผกู เปนกลอน ภาษิตไววา “สุขและทุกขอ ยทู ีใ่ จมใิ ชห รือ ถา ใจถอื กเ็ ปนทุกขไ มส กุ ใส ถา ไมถ ือก็ไมท ุกขพบสขุ ใจ เราอยากไดค วามสขุ หรือทุกขก ัน” ยํ้าอีกคร้ังวา อยายึดติดอยูกับอดีต ปจจุบันนี้ตางหากที่กัปตันอยางเราใช ขับเคล่ือนเรือชีวิตลําน้ี ใหแลนตอไปไดจริง ตราบใดท่ีเรือชีวิตของเรายัง แลน ฝา มรสุมแหง โชคชะตาออกไปขางหนา โอกาสที่เสอ้ื ของกปั ตันจะเปอ น เปรอะก็มีบา งเปนธรรมดา ฉะนนั้ เสอื้ เปรอะก็ควรทาํ ความสะอาด เวลาท่ี เราถอดเสอื้ ออกมาซกั อยาลืมถอดใจออกมาลางใหสะอาดเอี่ยมอองผอ งใส ดว ยพทุ ธธรรม หลงั พิงตน โพธ์ิ

42 ๗ ไฟสองทางชวี ิต “แกนของชวี ิต เปน เรอ่ื งนา สนใจใครศกึ ษา เพราะย่งิ เรยี นรมู ากเทา ใด คําตอบกป็ รากฏแกเ รามากขน้ึ เทา นน้ั ยามใดท่แี สงปรากฏ ความมดื กม็ ลายหายพลนั เมอื่ ยงั ไมพบสัจธรรมหรือคําตอบ เราก็จะหลงงมอยใู นความมืด แตพ อไดพบคําตอบซึง่ เปนความจรงิ เราก็ออกจากทมี่ ดื มาพบแสงสวา งทนั ที” ในแตละวันชวงของโมงยามทั้งมืดและสวางมีอยูเทากัน แตถาเปนตอน กลางวันคงไมมีใครนึกถึงไฟอยางแน ยกเวน “สมเด็จพระพุฒาจารย โต” แหงวัดระฆังองคเดียว ทานเคยจุดไตเดินดุมเขาไปท่ีจวนเจาพระยา ตอนกลางวนั แสก ๆ เพอื่ เตอื นสติสมเดจ็ เจา พระยาบรมมหาศรีสรุ ิยวงศ( ชวง บนุ นาค) ซ่งึ ในสมัยนั้นถอื วา มีอาํ นาจมาก ทาสโพธญิ าณ

43 เพราะบานเมืองเวลาน้ัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา เจาอยูหัวรัชกาลท่ี 5 ขึ้นครองราชยขณะยังทรงพระเยาว เปนเหตุใหเจา ประคุณสมเด็จโต เปนหวงเรอื่ งงานบริหารจัดการแผน ดนิ เกรงวา บานเมือง จะเขาสูยุคมืด ทานจึงสะกิดกันแบบนกั ปราชญเตือนบัณฑิต น่ีคือการจุด ไฟระดับชาติ ท่ีเคยเกิดขน้ึ มาแลวในกรงุ รัตนโกสินทร เพ่ือเรียกรองให ชวี ติ โดยรวมในแผนดนิ เปนไปในทศิ ทางทคี่ วรเปน ทันตแพทยสม สุจีรา เขียนไวในหนังสือมรดกไอนสไตนวา “นกั เรียนไมใชภาชนะที่มาใหคุณเติมเต็ม แตเปนไฟฉายท่ีคุณตองเปดมัน ข้ึนมา ปจจุบันจํานวนขอมูลในกูเกิลและยูทูปมีมากมหาศาล แตครูใน โรงเรียนก็ยงั พยายามใสขอมูลเขาไปในสมองนักเรียน อยางไรก็ไมมีทางถึง หน่ึงในลานของขอมูลท้ังหมดบนโลกนี้ ดังน้ันสิ่งท่ีครูควรสอนนักเรียนคือ ทักษะในการแสวงหาความรูอยางตอเน่ืองในส่ิงที่ตนสนใจ ไมใชสอนแบบ ครอบจักรวาล และคอยใหท ิ้งสิ่งท่ีไมไดใช เมือ่ นักศึกษามีไฟฉาย เขาจะ เดินไปตามทางของเขา และมองหารายละเอยี ดในสิ่งนัน้ เอง วิธีการเปดไฟฉายก็คือ การสรางแรงบันดาลใจนั่นเอง เชน การ ทศั นศึกษา การเชญิ บคุ คลทปี่ ระสบความสําเรจ็ ในอาชีพตา ง ๆ มาบรรยาย ในโรงเรียน การคนหาความถนัดของนักเรียน การโตวาที อภิปราย การ ทํากิจกรรม การแสดงใหเห็นถึงความสุข ความม่ันคงเม่ือบรรลุเปาหมาย ทางวิชาชีพ” นี่คือไฟฉายในระบบการศกึ ษา ท่ีถูกกดปุมเปดสวิตซโดย หมอฟน เพื่อสองทางใหระบบสถาบันการศึกษายุคปจจุบัน มุงไปใน ทศิ ทางท่คี วรเปน หลังพงิ ตน โพธิ์

44 แจค แคนฟลด นักเขียนและนักพูดสรางแรงบันดาลใจใหผูคนทั่ว โลก ไดแนะนําวา “ลองนึกภาพรถทว่ี ่ิงฝาความมืดยามค่ําคืน แสงไฟหนา รถสองไปไกลไมเกินสองรอยฟุต แตคุณก็ยังขับรถจากแคลิฟอรเนียถึง นิวยอรกไดในความมืดนั้น นั่นเปนเพราะวาคุณตองการเพียงมองเห็นทาง ในระยะสองรอยฟุตขางหนาเทาน้ัน เสนทางชีวิตก็มักจะเผยใหคุณเห็น เฉพาะสว นทอี่ ยูตรงหนา เชน กนั ถา คุณเพยี งเชื่อม่นั วา หลงั จากน้ีไปคุณจะมองเหน็ ระยะทางอกี สอง รอยฟุต และอีกสองรอยฟุตตอไปจากนน้ั ชวี ิตคุณก็จะมหี นทางตอไปเรอื่ ย ๆ กระทั่งในที่สุด ชีวิตก็จะนําพาคุณไปสูจุดหมายของอะไรก็ตามที่คุณ ตอ งการจริง ๆ เพราะวาคุณตอ งการส่ิงน้ัน” นคี่ ือการเปด ไฟสองทางแหง ความสาํ เร็จในระดับบคุ คล เพื่อขับเคลอ่ื นชีวติ ใหมุงไปสูจดุ มุงหมาย ควรเปนใคร...ในจดุ ทีย่ นื อยู ถึงตรงน้ีจะเห็นวา ไมวาชีวิตของเราจะยืนอยูในจุดไหน อยูใน ระดับใด ก็จะมีบุคคลเพียงสองประเภทเทาน้ันที่สรางสรรค คือ ผูท่ีบอก ทางชแี้ นะ ซ่ึงเปรียบเสมือนดวงไฟสอ งทาง กับผูทไ่ี ดรับคําชี้แนะแลวเกิด สวางปง! ขึ้นมาในหัว วาตัวเองควรเลือกใชชีวิตไปในทิศทางไหน ดังที่ นักปราชญกลาวไว ทาสโพธิญาณ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook