Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

แผนจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

Published by Mussaya Hongsibpad, 2021-09-08 15:40:29

Description: วิทยาการคำนวณ ป.1 ปีการศึกษา 1/2564

Search

Read the Text Version

คำอธบิ ำยรำยวิชำ ช้ันประถมศกึ ษำปีที่ 1 รำยวชิ ำพื้นฐำนวทิ ยำศำสตร์ เทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) กล่มุ สำระกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตร์ เวลำ 20 ชัว่ โมง ศึกษาการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ขั้นตอนการแก้ปัญหา การแสดงลาดับข้ันตอนการทางาน หรือ การ แก้ปัญหาโดยใช้ ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ ตลอดจนการเขียนโปรแกรมสร้างลาดับของคาสั่งให้คอมพิวเตอร์ ทางาน ศึกษาการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีเบ้ืองต้น การใช้ซอฟต์แวร์เบื้องต้น การสร้างและจัดเก็บไฟล์อย่างเป็น ระบบและการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้การคิดเชิงคานวณและปัญหาเป็นฐาน (Problem – based Learning) เพื่อเน้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ จากการฝึกแก้ปัญหาต่าง ๆ ผ่านกระบวนการคิด การปฏิบัติอย่างมีระบบ และสร้าง องค์ความรใู้ หม่จากการใช้ปัญหาท่เี กดิ ขึ้นจรงิ ในชีวิตประจาวันได้ เพอื่ ให้ผูเ้ รียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจ มีทกั ษะการคดิ เชิงคานวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ รักษาข้อมูลส่วนตัว และการสื่อสารเบ้ืองต้นในการแก้ปัญหาท่ีพบใน ชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนนาความรู้ความเข้าใจในวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ต่อสังคม และการดารงชีวิต จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการ แก้ปัญหาและการจัดการทักษะในการสื่อสาร และความสามารถในการตัดสินใจ และเป็นผู้ท่ีมีจิตวิทยาศาสตร์ มี คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มในการใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์ ตวั ช้วี ัด ว. 4.2 ป.1/1 ป.1/2 ป.1/3 ป.1/4 ป.1/5 รวม 5 ตวั ช้วี ัด

โครงสรำ้ งแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ รำยวิชำพน้ื ฐำนว หนว่ ยกำรเรียนรู้ แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ วิธีสอน/วิธีกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ 1. การใชง้ านเทคโนโลยี เบื้องต้น แผนที่ 1 การใชง้ านอปุ กรณ์ แบบกระบวนการปฏบิ ตั ิ เทคโนโลยี เบ้อื งตน้ แผนท่ี 2 การใช้งาน แบบกระบวนการปฏิบัติ ซอฟต์แวร์เบือ้ งตน้ 2. การแก้ปญั หาอยา่ งเปน็ แผนที่ 1 การแกป้ ัญหา ลองผิดลองถกู ขั้นตอน

วิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) ป.1 เวลำ 20 ชว่ั โมง ทักษะทไ่ี ด้ กำรประเมิน เวลำ (ชั่วโมง) - ทักษะการสอ่ื สาร - สงั เกตการใชง้ านอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี 2 - ทกั ษะการทางานรว่ มกัน - ตรวจใบงาน เรอื่ งการใชง้ านอปุ กรณ์ - ทักษะการสังเกต - ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ เทคโนโลยีเบอ้ื งต้น - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - ทักษะการสอ่ื สาร - ตรวจชนิ้ งานการใชโ้ ปรแกรม 3 - ทักษะการทางานร่วมกนั Microsoft Word และโปรแกรม Paint - ทกั ษะการสังเกต - ทกั ษะการนาความร้ไู ปใช้ - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น - ทกั ษะการคดิ เชงิ คานวณ - ตรวจขน้ั ตอนและวิธกี ารการแกป้ ญั หา 2 - ทกั ษะการสังเกต - ตรวจใบงาน เรื่องการเปรยี บเทยี บ - ทักษะการแกป้ ัญหา - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - ทักษะการสอ่ื สาร - ทกั ษะการทางานรว่ มกนั - ทักษะการนาความรไู้ ปใช้

หน่วยกำรเรยี นรู้ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ วิธีสอน/วิธีกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ แผนท่ี 2 การแสดงขัน้ ตอน การแก้ปญั หา (Problem การแกป้ ัญหา Solving Method) แผนท่ี 3 การแกป้ ัญหา กระบวนการคดิ คานวณ อยา่ งง่าย (Computational Thinking Process) 3. การเขยี นโปรแกรม แผนท่ี 1 หลักการเขียน การแก้ปัญหา (Problem เบอ้ื งต้น โปรแกรมเบือ้ งตน้ Solving Method)

ทกั ษะทไ่ี ด้ กำรประเมนิ เวลำ (ชวั่ โมง) - ทักษะการคิดเชิงคานวณ - ตรวจผลใบงาน เรอื่ ง ไข่ตกไม่แตก 2 - ทักษะการสังเกต - ตรวจชน้ิ งานการแสดงขัน้ ตอนการ - ทักษะการสือ่ สาร แก้ปญั หาด้วยการวาดภาพ - ทกั ษะการแกป้ ญั หา - ทักษะการทางานรว่ มกัน - ทักษะการนาความรไู้ ปใช้ - ทักษะกระบวนการคิด - ตรวจผลงานการแก้ปญั หาอย่างงา่ ย 3 g อย่างมีวิจารณญาณ - ตรวจการปฏิบตั ิกจิ กรรมเสรมิ สร้างการ - ทักษะการสงั เกต เรยี นรหู้ น่วยท่ี 2 - ทกั ษะการสือ่ สาร - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น - ทักษะการแก้ปัญหา - ทกั ษะการทางานร่วมกัน - ทักษะประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ - ทักษะการคิดเชิงคานวณ - ตรวจชิน้ งานเรื่องเขยี นโปรแกรมโดยใช้ 2 - ทกั ษะการสงั เกต บตั รคาส่งั - ทกั ษะการสื่อสาร - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ทกั ษะการให้เหตผุ ล - ทกั ษะการทางานรว่ มกัน

หนว่ ยกำรเรยี นรู้ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ วธิ สี อน/วธิ กี ำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ แผนที่ 2 ซอฟต์แวรห์ รือสอ่ื กระบวนการปฏิบัติ ท่ใี ช้ในการเขียน โปรแกรม แผนที่ 3 ตัวอย่างการเขยี น กระบวนการปฏบิ ตั ิ โปรแกรม

ทกั ษะทีไ่ ด้ กำรประเมิน เวลำ (ชั่วโมง) - ทกั ษะการคิดเชิงคานวณ - ตรวจชนิ้ งานเร่อื งการเขยี น - ทกั ษะการส่อื สาร โปรแกรมโดยใชส้ ่อื ในเว็บไซต์ 2 - ทักษะการแกป้ ญั หา Code.org - ทักษะการทางานรว่ มกนั - ทักษะประยุกต์ใช้ความรู้ - สงั เกตการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมใน เว็บไซต์ Code.org - ทักษะการคดิ เชิงคานวณ - สังเกตการปฏิบตั ิกจิ กรรมใน 2 - ทักษะการสอ่ื สาร เวบ็ ไซต์ Code.org - ทกั ษะการแก้ปญั หา - ทักษะการทางานรว่ มกนั - ตรวจผลงานตวั อยา่ งเขยี น - ทักษะประยกุ ต์ใชค้ วามรู้ โปรแกรมสแครตช์ - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น

โครงสรา้ งเวลา รายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ประถมศกึ ษาปที ่ี 1

โครงสร้างเวลา รายวิชา รายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ประถมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 20 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ เวลา (ชั่วโมง) หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 การใช้งานเทคโนโลยีเบอื้ งต้น 2 - แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 การใชง้ านอปุ กรณ์เทคโนโลยีเบ้อื งตน้ 3 - แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 การใชง้ านซอฟต์แวร์เบ้อื งตน้ 5 รวม หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 กำรแกป้ ญั หำอยำ่ งเปน็ ข้ันตอน 2 - แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 การแกป้ ญั หา 2 - แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 การแสดงขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา 3 - แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 การแก้ปัญหาอยา่ งง่าย 7 รวม 1 สอบกลางภาคเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี 3 กำรเขียนโปรแกรมเบื้องตน้ 2 - แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 หลักการเขยี นโปรแกรมเบื้องต้น 2 - แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 ซอฟตแ์ วรห์ รือสอื่ ทใ่ี ช้ในการเขียนโปรแกรม 2 - แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 ตวั อย่างการเขยี นโปรแกรม 6 รวม 1 สอบปลายภาคเรยี น 20 รวมเวลาท้ังหมด

หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ 1 กำรใช้งำนเทคโนโลยีเบื้องตน้ รำยวชิ ำพนื้ ฐำนวทิ ยำศำสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำนวณ) ระยะเวลำ 5 ช่ัวโมง กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ วิทยำศำสตร์ ชั้นประถมศึกษำปที ี่ 1 1. มำตรฐำนกำรเรยี นร้/ู ตวั ชีว้ ดั ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร้เู ทา่ ทัน และมจี ริยธรรม ว 4.2 ป. 1/4 ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดเก็บ เรียกใชข้ อ้ มลู ตามวัตถปุ ระสงค์ ว 4.2 ป. 1/5 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษาอปุ กรณ์เบ้อื งตน้ ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม 2. สำระกำรเรียนรู้ 2.1 สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง 1) การใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีเบ้ืองต้น เช่น การใช้เมาส์ คีย์บอร์ด จอสัมผัส การเปิด -ปิด อุปกรณ์ เทคโนโลยี 2) การใช้งานซอฟต์แวร์เบ้ืองต้น เช่น การเข้าและออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การจัดเก็บ การเรียกใช้ไฟล์ ทาได้ในโปรแกรม เชน่ โปรแกรมประมวลคา โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนาเสนอ 3) การสรา้ งและจัดเก็บไฟล์อย่างเป็นระบบจะทาใหเ้ รียกใช้ คน้ หาข้อมลู ไดง้ ่ายและรวดเร็ว 4) ข้อปฏิบัติในการใช้งานและการดูแลรักษาอุปกรณ์ เช่น ไม่ขีดเขียนบนอุปกรณ์ ทาความสะอาด ใช้ อุปกรณอ์ ย่างถกู วธิ ี 5) การใชง้ านอย่างเหมาะสม เช่น จัดท่าน่ังให้ถูกต้อง การพักสายตาเมื่อใช้อุปกรณ์เป็นเวลานาน ระมัดระวัง อบุ ตั ิเหตจุ ากการใชง้ าน 2.2 สำระกำรเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ (พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา) 3. สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด การใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีเบื้องต้น เช่น การใช้เมาส์ คีย์บอร์ด จอสัมผัส การเปิด-ปิดอุปกรณ์เทคโนโลยี อย่าง ถูกต้อง ทาให้สามารถใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีเหล่าน้ี เพ่ืออานวยความสะดวก สร้างประโยชน์ในชีวิตประจาวัน และการ

เรียนได้ การใช้งานโปรแกรมประมวลคา โปรแกรมกราฟิก และโปรแกรมนาเสนอเบื้องต้น เช่น การเข้าและออกโปรแกรม การสร้างไฟล์ การจัดเก็บ การเรยี กใช้ไฟล์ อยา่ งถูกต้อง ทาให้สามารถใช้งานโปรแกรมเหล่าน้ีเพื่ออานวยความสะดวก สร้าง ประโยชน์ในชีวิตประจาวันและการเรียนได้ การสร้างและจัดเก็บไฟล์อย่างเป็นระบบ ทาให้สามารถเรียกใช้และค้นหา ข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว การใช้งานและการดูแลรักษาอุปกรณ์เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมก่อให้เกิดความปลอดภัยท้ัง ร่างกายและทรัพย์สิน 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียนและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1) ทักษะการสื่อสาร 3. มุ่งม่ันในการทางาน 2) ทกั ษะการทางานร่วมกัน 3) ทักษะการสงั เกต 4) ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ 5) ทักษะกระบวนการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. ชิ้นงำน/ภำระงำน (รวบยอด) - ใบงาน เร่ือง การใช้และการดแู ลอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี - การเปิด-ปิดอปุ กรณ์เทคโนโลยี - พิมพ์ข้อความโดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft word - วาดภาพโดยใชโ้ ปรแกรม Paint - นาเสนองานโดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft PowerPoint 6. กำรวดั และกำรประเมนิ ผล วิธวี ดั เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมิน - ตรวจแบบทดสอบ รำยกำรวดั กอ่ นเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ประเมนิ ตามสภาพจริง 6.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น - แบบทดสอบก่อน เรยี น หนว่ ยการ เรียนรูท้ ่ี 1 เรือ่ ง การใช้งาน เทคโนโลยเี บ้ืองต้น

รำยกำรวัด วธิ วี ดั เครื่องมอื เกณฑก์ ำรประเมิน 6.2 ประเมินระหวา่ ง การจัดกิจกรรม การเรยี นรู้ 1) การใช้อุปกรณเ์ ทคโนโลยี - ประเมนิ ผลงาน - แบบประเมินผลงาน - ระดับคุณภาพ ดี ผา่ น เบื้องต้น เกณฑ์ 2) การใช้และดูแลรกั ษาอุปกรณ์ - ตรวจใบงาน เร่อื ง - ใบงาน เร่ืองการใช้และ - ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์ เทคโนโลยี การใช้และดูแลรักษา ดแู ลรักษาอุปกรณ์ อปุ กรณ์เทคโนโลยี เทคโนโลยี 3) การใชง้ านซอฟแวร์เบ้ืองต้น - ประเมินผลงาน -แบบประเมนิ ผลงาน ระดับคุณภาพ ดี ผ่าน เกณฑ์ 4) พฤตกิ รรมการทางาน - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม รายบคุ คล - ระดับคณุ ภาพ ดี ผ่าน ของนักเรยี น ของนักเรียน เกณฑ์ 6.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น - ร้อยละ 50 ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบหลังเรียน หลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื ง การใช้งานเทคโนโลยี เบอ้ื งต้น 7. กิจกรรมกำรเรียนรู้  แผนที่ 1 : กำรใช้งำนอุปกรณ์เทคโนโลยีเบอื้ งต้น เวลำ 2 ชั่วโมง แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : แบบกระบวนการปฏิบัติ  แผนท่ี 2 : กำรใช้งำนซอฟต์แวรเ์ บือ้ งตน้ เวลำ 3 ชวั่ โมง แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : แบบกระบวนการปฏิบัติ (รวมเวลำ 5 ช่ัวโมง) 8. สื่อ/แหล่งกำรเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 การใชง้ านเทคโนโลยีเบื้องต้น 2) ใบงาน เร่อื ง การใช้และการดแู ลอุปกรณเ์ ทคโนโลยี 4) หอ้ งปฏิบตั กิ ารคอมพิวเตอร์ 3) บัตรภาพอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ 5) คอมพวิ เตอร์

แบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 1 คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1.อปุ กรณ์ใดใช้พิมพต์ ัวเลข ก. ข. ค. 2.ถ้านักเรยี นพิมพ์คาวา่ “New” แลว้ เลือกใชค้ าสง่ั จะได้ผลตามขอ้ ใด ก. New ข. New ค. New 3.ชดุ คาส่งั ใดใชเ้ ปล่ยี นสขี ้อความ ข. ค. ก. 4.นกั เรียนต้องการบนั ทึกไฟล์งานตอ้ งกดท่ีคาส่ังใด ค. ก. ข. 5.ถ้านกั เรยี นต้องการเติมสดี าวใหเ้ ตม็ จะใชค้ าส่งั ใด ในโปรแกรม Paint ก. ข. ค. 6.ถา้ นักเรยี นใช้โปรแกรมกราฟฟิกสรา้ งบา้ นหลังนจ้ี ะใช้คาสั่งใด ก. ข. ค.

7.โปรแกรมใดใช้นาเสนองานตา่ งๆ ข. ค. ก. ค. ค. 8.โปรแกรมใดใช้พิมพ์เอกสาร ข. ค. ก. 9.โปรแกรมใดใช้วาดภาพและบายสี ข. ก. 10.ใครปฏบิ ัตไิ ด้ถูกต้อง ในการใช้อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีใหป้ ลอดภยั ก. ข. เฉลย 1.ค 2.ค 3.ก 4.ก 5.ค 6.ข 7.ข 8.ก 9.ค 10.ข

แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 1 คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1.อปุ กรณ์ใดใช้พิมพ์ตัวเลข ก. ข. ค. 2.ถา้ นกั เรียนพิมพ์คาวา่ “New” แล้วเลอื กใช้คาสง่ั จะไดผ้ ลตามขอ้ ใด ก. New ข. New ค. New 3.ชดุ คาสงั่ ใดใชเ้ ปลย่ี นสขี อ้ ความ ข. ค. ก. 4.นกั เรยี นตอ้ งการบันทึกไฟล์งานตอ้ งกดท่ีคาส่ังใด ค. ก. ข. 5.ถา้ นกั เรียนต้องการเติมสีดาวให้เต็มจะใช้คาสั่งใด ในโปรแกรม Paint ก. ข. ค. 6.ถา้ นกั เรยี นใช้โปรแกรมกราฟฟิกสร้างบ้านหลังนจ้ี ะใชค้ าสง่ั ใด ก. ข. ค.

7.โปรแกรมใดใช้นาเสนองานตา่ งๆ ข. ค. ก. ค. ค. 8.โปรแกรมใดใช้พิมพ์เอกสาร ข. ค. ก. 9.โปรแกรมใดใช้วาดภาพและบายสี ข. ก. 10.ใครปฏบิ ัตไิ ด้ถูกต้อง ในการใช้อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีใหป้ ลอดภยั ก. ข. เฉลย 1.ค 2.ค 3.ก 4.ก 5.ค 6.ข 7.ข 8.ก 9.ค 10.ข

แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทู ี่ 1 เร่อื ง กำรใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีเบ้อื งตน้ หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ี่ 1 กำรใชเ้ ทคโนโลยีเบอื้ งต้น ระยะเวลำ 2 ชว่ั โมง กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ (เทคโนโลยวี ิทยำกำรคำนวณ) ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 1 1. มำตรฐำน/ตัวชี้วัด 1.1 ตัวช้ีวดั ว 4.2 ป. 1/4 ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดเก็บ เรยี กใชข้ อ้ มลู ตามวตั ถุประสงค์ ว 4.2 ป. 1/5 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแล รกั ษาอปุ กรณเ์ บอื้ งตน้ ใช้งานอยา่ งเหมาะสม 2. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 1. อธิบายการใช้งานและการดูแลรกั ษาอปุ กรณ์เทคโนโลยีเบ้ืองต้นได้ (K) 2. เปิด-ปดิ อุปกรณ์เทคโนโลยีได้ (P) 3. ยกตวั อย่างการใช้งานและดูแลรักษาอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ในชีวิตประจาวัน (A) 3. สำระกำรเรยี นรู้ การใชง้ านอุปกรณเ์ ทคโนโลยเี บอื้ งต้น เช่น การใช้เมาส์ คยี บ์ อรด์ จอสัมผสั การเปดิ -ปิดอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี ข้อปฏิบัติในการใช้งานและการดูแลรักษาอุปกรณ์ เช่น ไม่ขีดเขียนบนอุปกรณ์ ทาความสะอาด ใช้อุปกรณ์ อย่างถกู วธิ ี การใช้งานอย่างเหมาะสม เช่น จัดท่าน่ังให้ถูกต้อง การพักสายตาเมื่อใช้อุปกรณ์เป็นเวลานาน ระมัดระวัง อบุ ตั ิเหตุจากการใช้งาน 4. สำระสำคัญ/ควำมคิดรวบยอด การใชง้ านอุปกรณ์เทคโนโลยีเบื้องต้น เช่น การใช้เมาส์ คีย์บอร์ด จอสัมผัส ซีพียู การรู้จักหน้าท่ีของอุปกรณ์ ตา่ ง ๆ ทาให้เราสามารถใชง้ านได้อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสมกับลักษณะของอุปกรณ์ การเปิด-ปิดอุปกรณ์เทคโนโลยีอย่าง ถูกตอ้ ง ทาให้สามารถใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีเหล่านี้ เพ่ืออานวยความสะดวก สร้างประโยชน์ในชีวิตประจาวันและ การเรียนได้

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินัย 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 1) ทกั ษะการส่ือสาร 2) ทักษะการทางานรว่ มกัน 3) ทกั ษะการสังเกต 4) ทกั ษะการนาความร้ไู ปใช้ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. กิจกรรมกำรเรียนรู้  แนวคิด/รูปแบบกำรสอน/วธิ ีกำรสอน/เทคนคิ : กระบวนกำรปฏบิ ัติ ชัว่ โมงท่ี 1 ขนั้ นำ (15 นำที) 1.นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 10 ขอ้ 3 ตัวเลอื ก เวลา 10 นาที 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตุน้ ความคิดว่า นักเรียนคดิ ว่าคอมพวิ เตอรม์ ีความประโยชนต์ อ่ มนษุ ยเ์ ราอย่างไร (แนวคำตอบ พจิ ำรณำคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน) 3. ครูนาบัตรภาพคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ มาให้นักเรียนดู แล้วถามนักเรียนว่ารู้จักอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ภาพใดบ้าง โดยให้นักเรียนบอกชื่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ท่ีนักเรียนรู้จัก และครูช่วยตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง หากนักเรยี นตอบผิด ใหช้ ่วยกนั ตอบอกี คร้ัง ครูช่วยแนะนาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่นักเรียน ไมร่ ู้จัก 4. ครูถามนักเรยี นวา่ แล้วอุปกรณ์ตา่ งๆ ท่ีครูนามาใช้งานอย่างไร (แนวคำตอบ พิจำรณำคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน)

ข้นั สอน ขน้ั ที่ 1 สงั เกต (30 นำที) 1. ครูนานักเรียนเข้าห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ โดยคุณครูเปิดโปรแกรม Microsoft Word ไว้ และพิมพ์ ตวั หนังสือ ตัวเลข หรือสัญลักษณไ์ ว้ แลว้ ให้นกั เรยี นจบั คู่กบั เพอื่ น เพือ่ ร่วมกันปฏิบตั กิ จิ กรรม 2. นักเรียนสารวจอุปกรณ์ต่างๆ ของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ 3. ครูให้นักเรยี นมองท่จี อมอนเิ ตอร์ แล้วครูถามนักเรียนว่า นักเรยี นเห็นอะไรในจอนน้ั บา้ ง (แนวคำตอบ เหน็ ภำพ เห็นตัวหนงั สือ) 4. ครถู ามนักเรยี นวา่ จอมอนเิ ตอรม์ ีความสาคญั หรอื มหี นา้ ท่อี ย่างไร (แนวคำตอบ พิจำรณำคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า จอมอนิเตอร์เป็นอุปกรณ์แสดงผลข้อมูลตัวอักษรหรือข้อมูลภาพต่างๆ ให้ผู้ใช้รับรู้ ในขณะใช้งานเคร่ืองคอมพิวเตอร์ 5. ครูถามนกั เรยี นว่า ตวั หนังสือท่ีปรากฏขน้ึ บนจอมอนเิ ตอร์ มาจากการท่เี ราใชอ้ ปุ กรณใ์ ด (แนวคำตอบ จำกคบี อร์ด เพรำะเปน็ อุปกรณป์ ้อนข้อมลู ซ่ึงทำหน้ำทีร่ ับส่งข้อมูลทีเ่ ปน้ ตัวอักษรตัวเลข หรอื สญั ลกั ษณต์ ำ่ งๆ ) 6. ครูให้นักเรียนสังเกตคีบอร์ดหรือหนังสือ หน้า 4 แล้วครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า คีบอร์ดประกอบด้วย 5 ส่วน หลกั ๆ ได้แก่ 1. แป้นฟังก์ชัน 2. แป้นควบคุม 3. แปน้ ตัวเลข 4. แปน้ อักษร 5. แป้นนาทาง 7. ครใู หน้ กั เรยี นลองจับเลื่อนเมาสไ์ ปมา แล้วให้นักเรียนสังเกตบนจอมอนิเตอร์ ให้นักเรียนลองเลื่อนเม้าส์ไป ท่ี × จากน้นั ใหน้ ักเรยี นคลิกปุ่มดา้ นซา้ ย 1 ครง้ั 8. ครถู ามนักเรียนวา่ เม่ือนกั เรียนคลิกตรง × เกดิ อะไรขึ้นบนหนา้ จอ (แนวคำตอบ โปรแกรมนั้นปดิ ลงไป) 9. นักเรยี นคดิ วา่ เมาสเ์ ป็นอุปกรณ์ทีใ่ ช้งานเพ่ืออะไร (แนวคำตอบ เปน็ อปุ กรณร์ ับข้อมลู ที่ใชใ้ นกำรควบคุมกำรทำงนของคอมพิวเตอร์ โดยกำรกดทีป่ ุ่มเมำส์) หมำยเหตุ ครูใหน้ กั เรียนดูหนงั สือหนา้ 5 พร้อมอธบิ ายวธิ ีการใชง้ านเมาส์

10. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยสงสัยไหมว่า คนเราก็จะมีสมองส่ังการ เวลาเราได้ยินเสียงสมองก้จะ ประมวลผลออกมา ทาใหเ้ รารู้ว่าเสียงท่ีได้ยินคืออะไร และบางครั้งเราอาจมีพูดโต้ตอบ แล้วนักเรียนคิดว่าถ้า คอมพวิ เตอรเ์ ปรียบเสมือนเรา อปุ กรณ์ใดท่ีทาหน้าทค่ี ล้ายๆ สมอง (แนวคำตอบ CPU เปน็ อปุ กรณป์ ระมวลผลขอ้ มูลท่ีรบั เข้ำมำ แล้วแสดงออกไปยังจอมอนิเตอร์ ซีพียจู ะทำ หนำ้ ทค่ี ลำ้ ยสมองคน ) 11. ครใู ห้นักเรยี กสักเกตสญั ลักษณ์ บนจอมอนเิ ตอรแ์ ละ CPU 12.คณุ ครูสาธิตขัน้ ตอนการเปิดปดิ ใหน้ กั เรียนดูพรอ้ มอธิบายทลี ะข้นั ตอนดงั นี้ 1.ใหก้ ดป่มุ เปิดตรงซีพยี ูก่อน จากนั้นคอ่ ยกดปมุ่ เปดิ ตรงจอมอนิเตอร์ 2.เม่ือปิด คลกิ ที่ปุ่ม Start หรือเร่มิ ตน้ คลิกปมุ่ Power หรือ จากนั้นจะมีแถบคาส่งั ขน้ึ มา 3.เลือกคาสง่ั Shut Down จากนั้น 1 นาที ซพี ียแู ละหนา้ จอจึงจะดับ 4. กดปุ่มเปิด-ปิด ทีห่ นา้ จอภาพเพื่อปิดคอมพวิ เตอร์อย่างสมบรู ณ์ ขั้นท่ี 2 ทำตำมแบบ (15 นาท)ี 13. ครูใหน้ กั เรียนลองทาตามขัน้ ตอน โดยครูคอยบอกเป็นขนั้ เปน็ ขัน้ ไปดงั นี้ 1.ให้กดปุม่ เปิดตรงซีพียูก่อน จากนน้ั คอ่ ยกดป่มุ เปิดตรงจอมอนเิ ตอร์ 2.เมอื่ ปดิ คลิกท่ีปุ่ม Start หรอื เรม่ิ ต้น คลกิ ปมุ่ Power หรอื จากนั้นจะมแี ถบคาสงั่ ข้ึนมา 3.เลือกคาสงั่ Shut Down จากนั้น 1 นาที ซพี ียแู ละหน้าจอจึงจะดบั 4. กดปมุ่ เปิด-ปิด ทห่ี นา้ จอภาพเพ่อื ปิดคอมพิวเตอรอ์ ย่างสมบรู ณ์ ชั่วโมงท่ี 2 ข้นั สอน(ตอ่ ) ข้นั ท่ี 3 ทำเองโดยไม่มแี บบ (20 นำท)ี 14.ครใู ห้นกั เรยี นลองเปดิ -ปดิ เครอื่ งเอง ตามขนั้ ตอนทน่ี กั เรียนเคยทาในชว่ั โมงทีแ่ ลว้ โดยครูคอยสังเกตการณ์ และใหค้ าแนะนาสาหรบั นกั เรยี นที่ยังทาไมไ่ ด้ ข้ันที่ 4 ฝกึ ทำให้ชำนำญ (10 นำท)ี 15.ครูให้นักเรียนลองเปิด-ปิดอีกครั้ง จนทุกคนเกิดความชานาญและสามารถเปิด-ปิดได้เอง โดยที่ครูไม่ต้อง แนะนา

ขั้นสรุป (40 นำท)ี 1. ครถู ามนักเรยี นว่า นกั เรยี นสามารถเปิดปิดเครือ่ งเองไดแ้ ล้วหรือยงั นกั เรยี นเปิด-ปิดอยา่ งไร (แนวคำตอบ เปิด-ปิดได้แล้ว โดยมขี ัน้ ตอนดังน้ี เปิดโดยกดปุ่มเปิดตรงซีพยี ูก่อน จำกนน้ั คอ่ ยกดปมุ่ เปิดตรง จอมอนิเตอร์ วธิ ีปดิ คลิกทป่ี ุ่ม Start หรอื เรม่ิ ตน้ คลกิ ปมุ่ Power จำกนนั้ จะมแี ถบคำส่ังขึน้ มำ เลอื ก คำสัง่ Shut Down กดปุ่มเปิด-ปดิ ทหี่ น้ำจอภำพ) 2. ครูถามนักเรียนว่า หากนักเรียนใช้คอมพิวเตอร์ไปนานๆ จะรู้สึกแสบตา ปวดตา เราควรมีวิธีใช้งาน อุปกรณ์เหลา่ น้ีอยา่ งไร (แนวคำตอบ - ควรพักสำยตำหำกใช้เครื่องคอมพวิ เตอร์นำนๆ - ไมน่ ัง่ ใกล้หรอื ไกลจอใอนเิ ตอร์มำกเกินไป - ใชเ้ กำ้ อี้ทมี่ ีขนำดเหมำะสม - แสงสว่ำงเพียงพอ) 3. ครูถามนักเรียนว่าถ้าเวลานักเรียนเข้ามาใช้คอมพิวเตอร์นักเรียนมีวิธีปฏิบัติอย่างในการใช้งานอุปกรณ์ เทคโนโลยีเหล่านี้และนกั เรยี นจะมีวิธีการดูแลอุปกรณเ์ ทคโนโลยอี ยา่ งไร (แนวคำตอบ พจิ ำรณำคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 4. ให้นักเรยี นทาใบงาน เร่อื ง การใชแ้ ละการดแู ลอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี 5. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยใบงาน เร่อื ง การใช้และการดแู ลอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี ครูให้นกั เรยี นดูหนังสือ หน้า 66-68 พร้อมอธิบายเพิ่มเตมิ เกีย่ วกับการการใชแ้ ละการดแู ลอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี 7. กำรวัดและประเมนิ ผล วิธกี ำร เคร่อื งมอื เกณฑ์ ทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรียน 10 ข้อ รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล แบบสงั เกตพฤติกรรม คณุ ภาพอยูใ่ นระดับ ดี ผา่ นเกณฑ์ ตรวจผลงานและกระบวนการ ทางาน เรือ่ ง การใชง้ านอุปกรณ์ แบบประเมนิ ผลงาน คุณภาพอยใู่ นระดบั ดผี า่ นเกณฑ์ เทคโนโลยีเบ้อื งตน้

8. สอ่ื /แหล่งกำรเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.1 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เร่อื งการใช้งาน เทคโนโลยีเบ้อื งตน้ 2. ใบงาน เรอื่ ง การใช้และการดูแลอุปกรณเ์ ทคโนโลยี 3. บตั รภาพอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ 4. หอ้ งปฏิบัติการคอมพวิ เตอร์ 5. คอมพวิ เตอร์

ใบงำน เร่อื งกำรใชแ้ ละกำรดแู ลอปุ กรณ์เทคโนโลยี คำช้แี จง ให้ใสเ่ ครื่องหมาย √ ลงใน ถา้ สงิ่ น้ันควรปฏบิ ตั ิ ให้ใสเ่ ครอื่ งหมาย × ลงใน ถา้ ส่ิงนน้ั ไม่ควรปฏิบตั ิ 1.นำอำหำรหรือเครอื่ งดื่มมำ 2. เปดิ -ปดิ เคร่ืองคอมบ่อยเกิน รบั ประทำนในขณะใช้คอมพิวเตอร์ ควำมจำเป็น 3.เวลำปิดเคร่ืองส่ัง Shut down 4.หม่ันทำควำมสะอำด ก่อนเสมอ จอมอนเิ ตอร์ 5.วำงเรอ่ื งหำ่ งจำกผนังอยำ่ ง 6.ใช้แผ่นรองเมำส์เพ่ือ น้อย 30 เซนติเมตร ป้องกนั สิ่งสกปรก 7.หำผ้ำหรือพลำสตกิ คลุม 8.ขดี เขียนใชข้ องแหลมจิ้ม เครอ่ื งคอมพิวเตอรไ์ ว้ บนจอมอนเิ ตอร์ 9.ปดั ฝนุ่ ละอองทีต่ ิดอยู่ที่ 10.ดึงสำยไฟเชอื่ มตอ่ กับอุปกรณ์ อปุ กรณ์ คอมพิวเตอร์ออกระหว่ำงท่ีเปดิ ใชง้ ำน

เฉลยใบงำน เรอ่ื งกำรใชแ้ ละกำรดแู ลอุปกรณ์เทคโนโลยี คำช้แี จง ถ้าสิง่ นัน้ ควรปฏบิ ตั ิ ให้ใส่เครื่องหมาย √ ลงใน ถ้าส่งิ น้ันไม่ควรปฏิบตั ิ ใหใ้ สเ่ ครื่องหมาย × ลงใน 1.นำอำหำรหรือเครอ่ื งดื่มมำ 2. เปดิ -ปิดเครื่องคอมบ่อยเกิน รับประทำนในขณะใช้คอมพิวเตอร์ ควำมจำเป็น 3.เวลำปิดเคร่อื งสั่ง Shut down 4.หม่ันทำควำมสะอำด กอ่ นเสมอ จอมอนิเตอร์ 5.วำงเรือ่ งห่ำงจำกผนังอย่ำง 6.ใช้แผ่นรองเมำสเ์ พ่ือ น้อย 30 เซนติเมตร ปอ้ งกนั สิ่งสกปรก 7.หำผ้ำหรือพลำสตกิ คลุม 8.ขดี เขียนใชข้ องแหลมจ้ิม เครอื่ งคอมพิวเตอรไ์ ว้ บนจอมอนเิ ตอร์ 9.ปดั ฝุ่นละอองท่ตี ดิ อยู่ที่ 10.ดึงสำยไฟเชอ่ื มตอ่ กับอุปกรณ์ อุปกรณ์ คอมพิวเตอรอ์ อกระหว่ำงท่ีเปดิ ใชง้ ำน

บัตรภาพ เร่อื ง กำรใชง้ ำนอุปกรณ์เทคโนโลยีเบ้อื งต้น 

แบบประเมนิ ผลงำน วชิ ำ เทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 1 หนว่ ยท่ี 1 กำรใชง้ ำนเทคโนโลยีเบอื้ งตน้ เรือ่ ง กำรใช้อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีเบอ้ื งต้น คำช้แี จง : โปรดแสดงความคิดเห็นของท่าน และทาเครื่องหมาย () ลงในชอ่ งว่าง ระดับคะแนน 3 21 ขอ้ ที่ เกณฑก์ ำรวัดและประเมนิ ผล 1. เปิด-ปิดอุปกรณ์เทคโนโลยี 2. การใชง้ านอปุ การณ์เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม 3. อธิบายวธิ กี ารดูแลรักษาอุปกรณเ์ ทคโนโลยี 4. ยกตวั อยา่ ง การใช้งานและดูแลอุปกรณ์เทคโนโลยีในชีวิตประจาวนั รวม เกณฑก์ ำรตัดสินคุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 10-12 ดมี าก 7-9 ดี 5-6 พอใช้ ตา่ กว่า 5 ปรบั ปรุง

เกณฑก์ ำรแบบประเมนิ ผลงำนของนกั เรียน หวั ข้อประเมนิ เกณฑก์ ำรให้คะแนน 321 สามารถเปิด-ปิด สามารถเปดิ -ปิด สามารถเปดิ ได้ แต่การ อุปกรณ์ได้ถูกต้องตาม อปุ กรณ์ได้ไม่ค่อย การปดิ อาจมกี ารติดขัด 1. เปิด-ปิดอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี หลกั การ และทาได้ ถกู ต้องตามหลักการ หลายข้ันตอน ต้อง อย่างชานาญ แต่ยงั มีตดิ ขดั บา้ งบาง ได้รับคาแนะนา ขั้นตอน เพิ่มเติมจากครู สามารถใช้งานอุปกรณ์ สามารถใช้งานอปุ กรณ์ สามารถใช้งานอปุ กรณ์ เทคโนโลยีได้ถกู ตอ้ ง เทคโนโลยีได้เหมาะสม เทคโนโลยีได้เหมาะสม 2. การใช้งานอปุ กรณ์เทคโนโลยี เหมาะสม และทราบ และทราบสงิ่ ที่ควร แตไ่ ม่รู้ส่งิ ทค่ี วรปฏิบัติ อยา่ งเหมาะสม สงิ่ ท่คี วรปฏบิ ตั ิและไม่ ปฏบิ ตั ิและไม่ควร และไม่ควรปฏิบัตใิ น ควรปฏบิ ตั ิในการใช้ ปฏบิ ตั ใิ นการใช้ การใช้อปุ กรณ์ อุปกรณ์เทคโนโลยีเป็น อุปกรณ์เทคโนโลยีบา้ ง เทคโนโลยี จงึ ไดร้ บั อยา่ งดี บางข้อ คาแนะนาจากครผู สู้ อน อธบิ ายวธิ ีการดูแล อธบิ ายวิธกี ารดแู ล อธิบายวิธกี ารดแู ล 3. อธบิ ายวิธกี ารดแู ลรักษา รักษาอปุ กรณ์ รกั ษาอปุ กรณ์ รักษาอุปกรณ์ อปุ กรณ์เทคโนโลยี เทคโนโลยีไดถ้ ูกต้อง เทคโนโลยีได้ถูกตอ้ ง เทคโนโลยไี ด้ แต่อาจ เหมาะสม นาไปใช้ได้ อาจนาไปใช้ได้จริง นาไปใช้ไมไ่ ด้จริง จริง สามารถยกตัวอย่าง สามารถยกตัวอยา่ ง สามารถยกตัวอยา่ ง 4. ยกตัวอย่าง การใชง้ านและดแู ล การใช้งานและดูแล การใชง้ านและดแู ล การใชง้ านและดแู ล อุปกรณ์เทคโนโลยีใน อุปกรณ์เทคโนโลยีใน อุปกรณ์เทคโนโลยใี น อปุ กรณ์เทคโนโลยีใน ชวี ิตประจาวนั ชวี ิตประจาวันของ ชีวติ ประจาวันของ ชวี ติ ประจาวันของ นักเรียนได้ และเปน็ นกั เรียนได้ และเปน็ นักเรยี นได้ แต่วิธกี าร วิธีการท่ีถูกต้อง วธิ ีการท่ีถกู ต้อง แต่ อาจไม่เหมาะสม เหมาะสม อาจไม่เหมาะสมกับวยั เท่าท่คี วร ตอ้ งไดร้ บั หรอื อุปกรณ์ชนดิ น้ัน คาแนะนาจากครูผูส้ อน

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน ป.1 ช่อื ............................................................เลขที่................ช้ันประถมศกึ ษำปีท่ี 1 หอ้ ง.................... คำชแี้ จง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด √ ลงในช่องท่ตี รงกับระดบั คะแนน ขอ้ กำรสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียน ระดับควำมคิดเหน็ 321 มีวนิ ัย 1 ปฏิบัติตามข้อตกลงในการเรียนสม่าเสมอ 2 ปฏบิ ตั ิตามคาตักเตือนของครู 3 ทางานที่ไดร้ ับมอบหมายอยา่ งต้ังใจ ใฝ่เรียนรู้ 4 รว่ มทากจิ กรรมต่างๆ ท่ีครจู ัดให้อย่างตงั้ ใจ 5 หมน่ั ซกั ถาม เมื่อเกดิ ขอ้ สงสยั 6 เอาใจใส่งานที่ได้รบั มอบหมาย มงุ่ มั่นในกำรทำงำน 7 สนใจทากจิ กรรมกับเพ่อื นอย่างกระตือรือร้น 8 ปฏบิ ัตหิ นา้ ทีท่ ไ่ี ด้รบั มอบหมายอย่างตั้งใจ 9 ส่งงานอย่างสม่าเสมอ เกณฑ์ใหค้ ะแนน เกณฑก์ ำรตดั สนิ คณุ ภำพ ปฎบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ (100%) ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 2 คะแนน ปฎบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง(70%) ให้ 1 คะแนน 23-27 ดมี าก ปฎบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ (50%) ให้ 18-22 ดี 13-17 พอใช้ ตา่ กว่า 13 ปรบั ปรุง

แบบบันทึกหลังแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้  ด้านความรู้  ด้านสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน  ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)  ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ปี ญั หาของนกั เรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงช่อื ..............................................ผู้บนั ทกึ (................................................) ควำมเหน็ ของผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำหรอื ผู้ทีไ่ ด้รบั มอบหมำย ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ................................................ (................................................) ตาแหนง่ .................................................

แผนกำรจัดกำรเรียนรูท้ ่ี 2 เร่ือง กำรใช้ซอฟต์แวร์เบื้องต้น หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 1 กำรใช้เทคโนโลยีเบือ้ งต้น ระยะเวลำ 3 ช่ัวโมง กลมุ่ สำระกำรเรียนร้วู ทิ ยำศำสตร์ (เทคโนโลยวี ิทยำกำรคำนวณ) ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 1 1. มำตรฐำน/ตวั ชี้วัด 1.1 ตัวชี้วัด ว 4.2 ป. 1/4 ใชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั เก็บ เรยี กใชข้ อ้ มลู ตามวัตถุประสงค์ 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. อธิบายและใชง้ านโปรแกรม ไมโครซอฟต์เวริ ด์ (Microsoft word)ได(้ K) (P) 2. อธบิ ายการใชง้ านโปรแกรมไมโครซอฟต์เพาเวอร์พอยต์ (Microsoft PowerPoint)ได้ (K) 3. นาเสนองานโดยใช้(Microsoft PowerPoint)ได(้ P) 4. วาดภาพโดยใช้โปรแกรมเพนต์ (Paint)ได้(P) 5. ยกตวั อย่างการเลอื กใช้โปรแกรมซอฟแวรใ์ นชวี ิตประจาวันได้ (A) 6. ตอบคาถามเกี่ยวกับการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในชีวติ ประจาวนั ให้ปลอดภยั ได้ (A) 3.สำระกำรเรยี นรู้ การใชง้ านซอฟตแ์ วรเ์ บื้องตน้ เช่น การเข้าและออกจากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การจัดเก็บ การเรียกใช้ไฟล์ ทาได้ในโปรแกรม เชน่ โปรแกรมประมวลคา โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนาเสนอ การสร้างและจดั เกบ็ ไฟลอ์ ยา่ งเปน็ ระบบจะทาใหเ้ รียกใช้ คน้ หาขอ้ มูลได้งา่ ยและรวดเรว็ 4. สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด การใช้งานโปรแกรมประมวลคา โปรแกรมกราฟิก และโปรแกรมนาเสนอเบ้ืองต้น เช่น การเข้าและออก โปรแกรม การสร้างไฟล์ การจัดเก็บ การเรียกใช้ไฟล์ อย่างถูกต้อง ทาให้สามารถใช้งานโปรแกรมเหล่านี้เพ่ืออานวย ความสะดวก สร้างประโยชน์ในชีวิตประจาวัน และการเรียนได้ การสร้างและจัดเก็บไฟล์อย่างเป็นระบบ ทาให้ สามารถเรียกใชแ้ ละค้นหาข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทักษะการส่ือสาร 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 2) ทักษะการสงั เกต 3) ทกั ษะการนาความร้ไู ปใช้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. กิจกรรมกำรเรยี นรู้  แนวคดิ /รปู แบบกำรสอน/วิธกี ำรสอน/เทคนิค : กระบวนกำรปฏิบัติ ชัว่ โมงที่ 1 ข้ันนำ (5 นำท)ี 1.ครูทบทวนความรู้เดิมทีเ่ รยี นมาในช่ัวโมงทแ่ี ล้วโดยถามนักเรียนวา่ ชัว่ โมงท่แี ล้วเราเรยี นเร่อื งอะไรไปบา้ ง และนกั เรยี นสามารถตอบคาถามต่อไปนี้ของครูได้หรือไม่ • จอมอนเิ ตอรม์ ลี กั ษณะอยา่ งไร และทาหนา้ ท่ีอะไร • คยี บ์ อร์ดหรือแป้นพิมพ์มลี ักษณะอย่างไร และทาหน้าท่ีอะไร • ให้นกั เรียนอธบิ ายวธิ ีการเปิด-ปิดของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ (แนวคำตอบ พิจำรณำคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน) 2. ครถู ามนกั เรยี นว่า วา่ นกั เรียนร้จู กั โปรแกรมคอมพิวเตอร์อะไรบา้ ง (แนวตอบ : โปรแกรม Microsoft Word , Microsoft PowerPoint , Microsoft Excel)

ขน้ั สอน ข้นั ที่ 1 สงั เกต รบั รู้ (15นำท)ี บนหนา้ Desktop แลว้ ดบั เบิ้ลคลิกเพ่ือเข้าใช้งานโปรแกรม 1. ครใู ห้นักเรียนหาสญั ลกั ษณ์ 2. ครูอธิบายเพมิ่ เต่ิมเกย่ี วกับโปรแกรมประมวลคาหรอื Microsoft Word ว่าเปน็ โปรแกรมท่ีใชใ้ นการพิมพ์ งานเอกสาร 3.ครใู หน้ ักเรยี นทากจิ กรรมฝึกทักษะหน้า 13 โดยครอู ธบิ ายพร้อมสาธติ วิธกี ารใช้งาน Microsoft Word ก่อน ใหน้ ักเรยี นลงมือปฏบิ ตั ิ ดังนี้ 3.1 ครูอธบิ ายชุดคาส่ังโปรแกรมพมิ พ์เอกสาร ใหน้ ักเรียนดูชดุ คาสงั่ ในหนังสอื หนา้ 11 หรือบน จอมอนิเตอร์ของนักเรียนประกอบไปด้วย สรำ้ ง (New) ใชส้ ร้างเอกสารใหม่หรือไฟล์ใหม่ เปิด (Open) ใช้เปิดเอกสารหรือเรยี กใชไ้ ฟลท์ ีจ่ ัดเกบ็ ไว้ บนั ทึก (Save) ใชบ้ ันทึกเอกสารเพือ่ จดั เกบ็ ไฟล์ พมิ พ์ (Print) ใช้พมิ พเ์ อกสารออกทางเคร่ืองพิมพ์ แบบอักษร (Font) ใชเ้ ปลี่ยนหนา้ ตาแบบอักษร ขนำดแบบอักษร (Font Size) ใช้เปล่ยี นขนาดแบบอักษร สแี บบอกั ษร (Font Color) ใชเ้ ปลี่ยนสีข้อความ ตวั หนำ (Bold) ทาข้อความทเ่ี ลือกใหเ้ ป็นตวั หนา ขดี เส้นใต้ (Underline) ใชข้ ีดเสน้ ใตข้ อ้ ควมทีเ่ ลือก 3.2 พมิ พช์ ื่อ-นามสกุล จากนน้ั กดสรา้ งไฟล์ โดยใชเ้ มาส์คลิกด้านซ้าย 1 ครัง้ ที่ปมุ่ File คลิกที่ Save

3.3 ทาการสร้างโฟลเดอร์ โดยมขี นั้ ตอนดังน้ี ขั้นตอนท่ี 1 คลกิ ขวาบนหน้าจอ ขั้นตอนที่ 2 เลอ่ื นเมาส์ไปชท้ี ี่คาส่ัง New คลิกเลือกคาสงั่ Folder ข้ันตอนที่ 3 จะเห็นโฟลเดอร์สีเหลอื ง และคาวา่ New Folder ท่มี แี ถบน้าเงินคุม พิมพช์ ื่อ โฟลเดอรใ์ หม่ลงไปแทนท่ี โดยใหต้ ้งั ช่อื โฟลเดอรว์ า่ “ขอ้ มลู ของฉนั ” ขน้ั ตอนท่ี 4 เมื่อพมิ พ์เรียบร้อยแลว้ ให้กดปมุ่ Enter บนคีบอร์ด เป็นอันสร้างไฟล์เสรจ็ สมบูรณ์ 3.4 ใหน้ ักเรียนคลกิ โฟลเดอร์ที่ช่อื ขอ้ มลู ของฉนั กด Open 3.5 แกไ้ ขชอ่ื ไฟล์งานที่แถบ File ดา้ นลา่ ง แล้วกด Save 3.6 คลิก เพ่ือปิดใช้งานโปรแกรม ขน้ั ที่ 2 ทำตำมแบบ (15 นำท)ี 4. ครูใหน้ กั เรยี นทาตามขัน้ ตอนท่คี รสู าธิตโดยครูอธิบายที่ละขั้นตอนดงั น้ี 4.1ครพู ิมพช์ ือ่ -นามสกลุ จากนั้นกดสรา้ งไฟล์ โดยใช้เมาสค์ ลกิ ด้านซ้าย 1 ครัง้ ท่ปี ุม่ File คลกิ ท่ี Save 4.2 ทาการสรา้ งโฟลเดอร์ โดยมีขัน้ ตอนดงั นี้ ขั้นตอนท่ี 1 คลิกขวาบนหน้าจอ ขัน้ ตอนที่ 2 เลือ่ นเมาส์ไปชท้ี ี่คาสง่ั New คลิกเลือกคาสัง่ Folder ขัน้ ตอนที่ 3 จะเห็นโฟลเดอร์สเี หลือง และคาวา่ New Folder ที่มแี ถบน้าเงนิ คุม พิมพ์ช่ือ โฟลเดอรใ์ หม่ลงไปแทนที่ โดยให้ตั้งชอื่ โฟลเดอร์วา่ “ข้อมูลของฉนั ” ขั้นตอนท่ี 4 เมอื่ พมิ พ์เรียบร้อยแล้ว ใหก้ ดปุ่ม Enter บนคบี อรด์ เป็นอันสรา้ งไฟลเ์ สร็จ สมบรู ณ์ 4.3 ให้นักเรยี นคลกิ โฟลเดอร์ท่ชี อื่ ข้อมลู ของฉนั กด Open 4.4 แก้ไขชอ่ื ไฟล์งานทแี่ ถบ File ด้านลา่ ง แล้วกด Save 4.5 คลกิ เพื่อปิดใชง้ านโปรแกรม ขัน้ ท่ี 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ (15 นำท)ี 5.ครูใหน้ ักเรยี นเปิดโปรแกรมพมิ พเ์ อกสารขึน้ มา จากน้นั ให้นกั เรยี นปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนท่ีครพู าทา โดยครอู าจ แนะนานกั เรยี นคนทีย่ งั ไมส่ ามารถทาเองได้

ขน้ั ที่ 4 ฝกึ ทำให้ชำนำญ (10 นำท)ี 6. ครใู ห้นกั เรยี นฝึกใชโ้ ปรแกรมพมิ พเ์ อกสารจนกวา่ นักเรียนจะสามารถทาดิอย่างถูกตอ้ ง โดยไมต่ ้องมีคน บอก 7. ครูให้นักเรียนปดิ เครื่องคอมพิวเตอร์ ชว่ั โมงท่ี 2 ขั้นสอน ต่อ ขน้ั ที่ 1 สงั เกต รบั รู้ (25 นำท)ี 1.ครทู บทวนความรเู้ ดิมช่วั โมงท่แี ลว้ เรอ่ื งชุดคาส่งั โปรแกรมพิมพเ์ อกสาร โดยครูให้สัญลักษณ์มา แลว้ นกั เรยี นอธบิ ายชุดคาสงั่ นั้นว่าคอื อะไร ใช้ทางานอย่างไร มชี ุดคาส่งั ดงั นี้ 1.1 สรา้ ง (New) ใชส้ ร้างเอกสารใหม่หรอื ไฟล์ใหม่ 1.2 เปิด (Open) ใชเ้ ปิดเอกสารหรอื เรยี กใช้ไฟลท์ ี่จดั เกบ็ ไว้ 1.3 บนั ทกึ (Save) ใช้บนั ทึกเอกสารเพื่อจดั เกบ็ ไฟล์ 1.4 ตัวหนา (Bold) ทาขอ้ ความทเ่ี ลือกใหเ้ ป็นตวั หนา 1.5 ขนาดแบบอกั ษร (Font Size) ใชเ้ ปลี่ยนขนาดแบบอักษร 2.ครูให้นักเรยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะหน้า 15 โดยถามนักเรยี นว่า 2.1 นกั เรียนจะวาดรปู ส้มนักเรยี นจะทาอย่างไร (แนวคำตอบ ใชด้ นิ สอวำดเป็นรปู วงกลมและวำดใบ ใชส้ ีระบำยใหส้ วยงำม) 2.2 ถ้าครใู หน้ กั เรยี นใชค้ อมพิวเตอรว์ าดรูปสม้ นักเรียนจะทาอยา่ งไร (แนวคำตอบ พิจำรณำคำตอบตำมดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน) 3. ใหน้ กั เรยี นมองหาสญั ลกั ษณ์ ท่หี นา้ จอมอนิเตอร์ ใหเ้ ปดิ โปรแกรม Paint ข้นึ มาครู ถามนกั เรยี นวา่ นกั เรียนรู้จักโปรแกรม Paint หรือไม่ แล้วโปรแกรมน้ใี ช้งานเกี่ยวกบั เร่ืองอะไร

(แนวคำตอบ พิจรำณำคำตอบนักเรียนตำมดลุ ยพิจของครูผูส้ อน อำจอธบิ ำยเพ่มิ เติมว่ำ โปรแกรม Paint เป็น โปรแกรมที่สรำ้ ง ตกแตง่ แกไ้ ข และจดั กำรเก่ยี วกบั โปรแกรมรูปภำพ) 4.ครอู ธิบายชุดคาส่งั โปรแกรมกราฟฟิกดังนี้ เลอื กใช้สี วาง/ตัด/คดั กล่องเครอื่ งมอื รปู ร่างแบบต่างๆ ปรับขนาดภาพ/หมุนภาพ แปรงพู่กัน ปรบั ขนาด 5.ครูใหน้ ักเรียนลองใช้ชุดคาสั่งตา่ งๆ ดว้ ยตวั เอง 6.ครูสาธิตวิธีการวาดสม้ ใหน้ กั เรยี นดู โดยมีขัน้ ตอนดังน้ี 6.1 ใชแ้ ถบคาสั่งรูปร่างแบบต่างๆ ให้เลอื กวงกลมแลว้ วาดรูปวงกลม ใชแ้ ถบกลอ่ งเครอ่ื งมือเดมิ สี โดยเลือกสีทแ่ี ถบสี 3.เลอื กเตมิ สลี งในวงกลม 1.เลอื กรปู วงกลม 2.เลอื กสี 6.2 ใช้คาสงั่ แปรงพูก่ ันวาดรปู ใบไม้สีเขยี ว ใช้ เติมสเี ขียวใบไม้ใหเ้ ต็ม

7. กด save ภาพทีส่ รา้ ง ข้นั ที่ 2 ทำตำมแบบ (10 นำที) 8. ให้นักเรยี นวางรปู สม้ ตามข้ันตอนทีค่ รูสาธติ ไป โดยครเู ร่ิมทาทลี ะขัน้ ตอนพร้อมนักเรยี น จนนกั เรยี น สามารถวาดรปู สม้ ไดส้ าเรจ็ ขน้ั ท่ี 3 ทำเองโดยไม่มแี บบ (5 นำท)ี 9.ครูใหน้ ักเรียนลองใช้ Paint วาดรูปส้มเอง โดยท่คี รูไม่ไดอ้ ธบิ ายทีละขัน้ ตอน แต่อาจให้คาแนะนาบางคร้ัง ตอนทน่ี ักเรยี นยงั ทาไม่ได้ ขั้นท่ี 4 ฝึกทำให้ชำนำญ (20 นำท)ี 10. ใหน้ กั เรียนวาดรปู ตามจินตนาการของตนเองโดยใช้โปรแกรม Paint เลอื กรูปแบบตา่ งๆ จากชุดคาสง่ั โปรแกรม พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม 11. บันทึกภาพไวใ้ นโฟลเดอร์ ข้อมลู ของฉนั ทีส่ ร้างไวช้ ว่ั โมงท่ีแล้ว 12. นกั เรยี นปดิ เครือ่ งคอมพิวเตอร์

ช่วั โมงที่ 3 ข้ันสอน (ตอ่ ) ขนั้ ที่ 1 สงั เกต รับรู้ (15 นำที) 1.ทบทวนเรือ่ งการใช้โปรแกรม Paint โดยใชค้ าถามวา่ ถ้าครจู ะวาดดวงอาทติ ย์ครูตอ้ งใชช้ ดุ คาสง่ั ใดบา้ ง (แนวคำตอบ เลือกชดุ คำสั่งรูปแบบต่ำงๆ เลือกวงกลม วำดวงกลม แลว้ เตมิ ส)ี 2. ครูถามนกั เรียนจากชั่วโมงท่ีแล้วนักเรยี นวาดภาพตามจินตนาการ ถา้ ครูให้นักเรียนนาภาพนน้ั มานาเสนอ พร้อมทั้งนาเสนอชอ่ื ตัวเองดว้ ย นกั เรยี นคิดว่าควรทาอย่างไรดี ต้องใชโ้ ปรแกรมอะไร (แนวคำตอบ พจิ ำรณำ คำตอบตำมดุลยพนิ ิจของผ้สู อน) 3. ครใู หน้ ักเรยี นสงั เกตสัญลักษณ์ บนหนา้ จอเดสกท์ ็อป แลว้ เปิดโปรแกรม 4. ใหน้ ักเรียนสงั เกตหน้าแรก (Home) ครูอธิบายการทางานของชุดคาสง่ั โปรแกรมนาเสนอข้อมูล เช่น แบบ อักษร ขนาดแบบอกั ษร เปน็ ต้น 5.นักเรยี นสงั เกตหน้าแทรก (Insert) ครอู ธบิ ายเพม่ิ เติมว่าใช้แทรกหนา้ เปล่า ตาราง รปู ร่าง หรือ รปู ภาพ ต่างๆที่ต้องการนาเสนอ 6. นักเรียนคลกิ ไปที่ ออกแบบ (Design) ครอู ธิบายว่าเปน็ รูปแบบของงานนาเสนอ

7.นกั เรียนคลกิ ไปที่หน้า การนาเสนอภาพนิง่ (Slide Show) ครูอธบิ ายว่า เมื่อสรา้ งงานนาเสนอเสรจ็ เรียบรอ้ ยแล้ว สามารถแสดงผลงานทง้ั หมดได้ โดยใช้คาสง่ั น้ี ขั้นท่ี 2 ทำตำมแบบ (10 นำที) 8.ครสู นทนากับนักเรยี นแล้วถามวา่ สิ่งทีน่ ักเรียนต้องทาวันนค้ี อื อะไร (แนวคำตอบนำภำพทตี่ ัวเองสร้ำงมำนำเสนอ) 9.ถา้ เราจะแทรกภาพใส่ นกั เรียนจะใชช้ ดุ คาสั่งใด (แนวคำตอบ ใชค้ ำสง่ั หน้ำ Insert คลิกสัญลักษณ์ เลอื กภำพทตี่ ้องกำรนำเสนอ กดแทรก ) 10.ครถู ามวา่ ถา้ ตอ้ งการเพิ่มสไลด์ เพือ่ ท่จี ะพิมพ์ช่อื -นามสกลุ นกั เรียนจะทาอย่างไร (แนวคำตอบ เลอื กหนำ้ แรก (Home) เลือก New Slide ให้พมิ พ์ช่ือ-นำมสกุลท่สี ไลด์) 11.นกั เรียนลงมือปฏิบัตแิ ทรกรูปภาพ เพ่ิมสไลด์ และพิมพช์ ่อื -นามสกุล 12.ครูให้นกั เรียนเลือกท่ีคาส่ัง ที่ หน้าการนาเสนอ คลกิ เพื่อนาเสนอ ข้ันที่ 3 ทำเองโดยไมม่ ีแบบ (10 นำท)ี 13. ครใู ห้นกั เรยี นสร้างงานนาเสนอเอง โดยครูคอยให้คาชี้แนะ ใหน้ กั เรียนแทรกภาพ เพมิ่ สไลด์ พมิ พ์ชือ่ แลว้ นาเสนอ ขนั้ ที่ 4 ฝึกทำใหช้ ำนำญ (10 นำท)ี 14. ให้นักเรียนแทรกภาพ เพ่ิมสไลด์ พมิ พ์ชอ่ื แล้วนาเสนอเอง โดยที่ครูไมไ่ ดช้ ่วยเหลอื หรือใหค้ าแนะนา สรปุ (15 นำท)ี 1.ครถู ามนักเรียนวา่ นักเรียนรู้จกั และใชง้ านโปรแกรมซอฟตแ์ วรใ์ ดบา้ ง (แนวคำตอบ โปรแกรม Microsoft Word , Microsoft PowerPoint และPaint) 2.ครถู ามนักเรยี นว่า ถ้าครูให้นกั เรียนพมิ พ์งาน เน้ือหาเรื่องอาหารทชี่ อบ นักเรยี นจะใช้โปรแกรมซอฟตแ์ วร์ ใด เพราะอะไรถึงใชโ้ ปรแกรมซอฟต์แวร์น้ี (แนวตอบ เลอื กใช้โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ด์ (Microsoft Word) เพรำะเป็นโปรแกรมประมวลผลคำ ท่ชี ่วยให้สรำ้ งเอกสำรแบบมืออำชีพอย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพและ ประหยัด เช่น เหมำะกบั งำนด้ำนกำรพิมพ์เอกสำรทกุ ชนดิ สำมำรถพมิ พ์เอกสำรออกมำเป็นชดุ ๆ ซ่ึงเอกสำร อำจเป็นจดหมำย บนั ทกึ ข้อควำม รำยงำน บทควำม ประวตั ิย่อ และยังสำมำรถตรวจสอบ แกไ้ ข ปรบั ปรงุ ควำมถกู ต้องในกำรพมิ พ)์

3.ครถู ามจากคาถามข้อท่ีแล้ว ถา้ ให้นกั เรียนนาเสนออาหารทชี่ อบ นักเรยี นจะเลอื กใช้โปรแกรมซอฟต์แวรใ์ ด ในการนาเสนอ พรอ้ มเหตผุ ลท่เี ลือกโปรแกรมซอฟต์แวร์น้ี (แนวคำตอบ เลือกใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint เป็นโปรแกรมนำเสนอข้อมูลที่ชว่ ยถำ่ ยทอดข้อมลู ใหเ้ ข้ำใจงำ่ ยมำกขน้ึ ด้วยข้อควำมรูปภำพ เสยี ง และวีดโี อ) 4.ครถู ามต่อวา่ แล้วถ้านกั เรียนจะวาดรูปอาหารที่ตนเองชอบ นกั เรยี นจะเลือกใชโ้ ปรแกรมซอฟแวรใ์ ด (แนว คำตอบ ใช้โปรแกรม Paint เพรำะเป็นโปรแกรมสรำ้ ง ตกแตง่ แกไ้ ข และจดั กำรเก่ยี วกบั รปู ภำพ) 5. ครสู นทนากับนกั เรยี นไดส้ รา้ งโฟลเดอร์ข้อมลู สว่ นตวั ถา้ นักเรียนพมิ พข์ ้อมูลส่วนตวั บางอย่างลงไป เชน่ ที่ อยู่ แลว้ บงั เอญิ โชครา้ ยมจิ ฉาชพี มาเหน็ เขาเลยเอาข้อมูลไปแอบอ้าง สง่ ผลทาให้นักเรียนคนนัน้ เดือดร้อนถา้ นักเรยี นเจอเหตุการณ์อยา่ งนี้จะทาอย่างไรดี 6. ครถู ามนักเรียนวา่ เทคโนโลยีมที ัง้ ข้อดีและข้อเสีย นักเรียนคิดวา่ เราจะใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างไรให้ปลอดภัย (แนวคำตอบ 1.ไมเ่ ปดิ เผยข้อมลู ส่วนตัว เชน่ ตั้งรหสั ผำ่ น 2.แจง้ ผู้เก่ยี วขอ้ งเม่ือต้องกำรควำมชว่ ยเหลอื ในกำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศ เชน่ แจง้ ผปู้ กครอง หรือครู) 7.นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น 10 ขอ้ 3 ตัวเลือก ภายในเวลา 10 นาที 7. กำรวดั และประเมนิ ผล วิธีกำร เคร่อื งมือ เกณฑ์ ร้อยละ 50 ผา่ นเกณฑ์ ทดสอบหลงั เรียนเรยี น แบบทดสอบก่อนเรียน 10 ข้อ คุณภาพอยใู่ นระดบั ดี ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรม คุณภาพอยใู่ นระดบั ดี ผ่านเกณฑ์ ตรวจผลงานและกระบวนการ ทางาน เรื่อง การใช้งานโปรแกรม แบบประเมินผลงาน ซอฟต์แวร์เบอ้ื งตน้ 8. สอื่ /แหล่งกำรเรียนรู้ 1. คอมพิวเตอร์ 2. หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารคอมพิวเตอร์

แบบประเมินผลงำน วชิ ำ เทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) ระดับชั้นประถมศึกษำปีท่ี 1 หนว่ ยที่ 1 กำรใช้เทคโนโลยเี บอ้ื งต้น เรอื่ ง กำรใช้ซอฟต์แวร์เบื้องตน้ คำชีแ้ จง : โปรดแสดงความคิดเห็นของท่าน และทาเครื่องหมาย () ลงในช่องว่าง ข้อท่ี เกณฑก์ ำรวัดและประเมนิ ผล ระดบั คะแนน 3 21 1. พิมพข์ ้อความโดยใช้ชดุ คาสงั่ ในโปรแกรม Microsoft word 2. วาดภาพโดยใชโ้ ปรแกรม Paint 3. ใช้ชดุ คาสัง่ ในโปรแกรม Paint 4. แทรกรูปภาพและเพ่ิมสไลด์ โดยใช้โปรแกรม Microsoft PowerPoint 5. นาเสนองานโดยใช้ชุดคาส่ังในโปรแกรม Microsoft PowerPoint 6. ยกตัวอย่างการเลือกใชโ้ ปรแกรมซอฟตแ์ วรใ์ นชวี ติ ประจาวัน 7. ตอบคาถามเกย่ี วกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชวี ิตประจาวันให้ ปลอดภัย รวม เกณฑก์ ำรตดั สินคุณภำพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 19-21 ดมี าก 15-18 ดี 11-14 พอใช้ ปรบั ปรุง ตา่ กว่า 10

เกณฑ์กำรแบบประเมินผลงำนของนกั เรียน หวั ข้อประเมิน เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน 321 พมิ พ์ข้อความโดยใช้ พิมพ์ข้อความโดยใช้ พิมพข์ ้อความโดยใช้ โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft 1. พมิ พข์ ้อความโดยใช้ชดุ คาสง่ั ใน word ได้ถกู ตอ้ ง และ word ไดถ้ ูกตอ้ ง และ word ไดบ้ า้ ง และใช้ โปรแกรม Microsoft word ใชง้ านชดุ คาสง่ั ได้ ใช้งานชุดคาสั่ง งานชุดคาส่งั บางอย่าง ถกู ต้องเหมาะสมกับ บางอย่างไดถ้ ูกต้อง ไดเ้ ลก็ น้อย ต้องไดร้ บั ลักษณะงานทตี่ ้องการ เหมาะสมกับลกั ษณะ คาแนะนาจากครู งานทีต่ อ้ งการ สามารถวาดภาพโดยใช้ สามารถวาดภาพโดยใช้ สามารถวาดภาพโดยใช้ โปรแกรม Paint ได้ โปรแกรม Paint ได้ โปรแกรม Paint ได้แต่ 2. วาดภาพโดยใช้โปรแกรม Paint เลือกใชช้ ดุ คาสง่ั ใน เลือกใช้ชดุ คาสัง่ ใน ไม่สมบูรณ์ เลือกใช้ โปรแกรมไดเ้ หมาะสม โปรแกรมบางอย่างได้ ชดุ คาสั่งในโปรแกรมได้ กบั งาน เหมาะสมกับงาน ไมค่ ่อยเหมาะสมกับ งาน สามารถใช้ชดุ คาสั่งใน สามารถใชช้ ดุ คาส่ัง สามารถใช้ชดุ คาสงั่ ใน โปรแกรมทุกอยา่ งได้ บางส่วนในโปรแกรมได้ โปรแกรมได้เล็กน้อย 3. ใช้ชดุ คาสง่ั ในโปรแกรม Paint และเลือกใช้ชุดคาส่ัง และเลือกใชช้ ดุ คาสัง่ และเลือกใชช้ ุดคาสง่ั ยัง ตรงกับการใช้งานของ ตรงกับการใช้งานของ ตรงกบั การใชง้ านของ ชิน้ งานนน้ั ทาให้ได้ ช้ินงานนั้น ทาให้ได้ ชิ้นงานนัน้ ทาใหท้ า ชิ้นงานที่ถกู ต้อง ชิน้ งาน ชิ้นงานไม่สาเร็จ ใชช้ ุดคาส่ังแทรก ใช้ชุดคาส่ังแทรก ใช้ชดุ คาส่งั แทรก รูปภาพโดยใช้ รปู ภาพโดยใช้ รปู ภาพโดยใช้ 4. แทรกรูปภาพโดยใช้โปรแกรม โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft โปรแกรม Microsoft Microsoft PowerPoint PowerPoint ได้ PowerPoint ได้ PowerPoint ไมค่ ่อย ถกู ต้อง โดยไม่ต้อง ถูกต้อง แตต่ ้องไดร้ บั ได้ ตอ้ งได้รบั คาแนะนา ไดร้ บั คาชี้แนะจาก คาแนะนาจากครผู ู้สอน จากครผู ู้สอน ครูผ้สู อน บา้ งเลก็ นอ้ ย

หัวข้อประเมิน เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน 321 นาเสนองานโดยใช้ นาเสนองานโดยใช้ นาเสนองานโดยใช้ ชดุ คาส่ังในโปรแกรม ชุดคาสง่ั ในโปรแกรม ชุดคาส่งั ในโปรแกรม Microsoft Microsoft Microsoft 5.นาเสนองานโดยใชช้ ุดคาสั่งใน PowerPoint ได้ PowerPoint ได้ PowerPoint ไดบ้ า้ ง โปรแกรม Microsoft PowerPoint ถกู ต้อง และใช้งาน ถูกต้อง และใช้งาน และใช้งานชดุ คาสงั่ ชุดคาสั่งไดถ้ ูกต้อง ชดุ คาส่ังบางอย่างได้ บางอยา่ งได้เลก็ น้อย เหมาะสมกบั ลักษณะ ถูกต้องเหมาะสมกบั ตอ้ งได้รับคาแนะนา งานท่ีตอ้ งการ ลักษณะงานทต่ี ้องการ จากครู ตอบคาถามการ ตอบคาถามการ ตอบคาถามการ เลือกใชโ้ ปรแกรม เลือกใชโ้ ปรแกรม เลือกใช้โปรแกรม 6.ตอบคาถามการเลือกใชโ้ ปรแกรม ซอฟแวรใ์ น ซอฟต์แวรใ์ น ซอฟต์แวรใ์ น ซอฟต์แวรใ์ นชวี ติ ประจาวัน ชีวติ ประจาวนั ถูกต้อง ชีวติ ประจาวันถกู ต้อง ชีวิตประจาวนั ไดย้ งั ไม่ เหมาะสม และนาไปใช้ และอาจนาไปใช้ได้จริง ถกู ต้องเทา่ ท่คี วร และ ได้จรงิ ไม่สามารถนาไปใช้ได้ จรงิ ตอบคาถามบอก ตอบคาถามบอก ตอบคาถามบอก วิธกี ารใชเ้ ทคโนโลยี วธิ ีการใช้เทคโนโลยี วิธีการใช้เทคโนโลยี 7.ตอบคาถามเกย่ี วกับการใช้ สารสนเทศใน สารสนเทศใน สารสนเทศใน เทคโนโลยสี ารสนเทศใน ชีวิตประจาวันให้ ชวี ติ ประจาวันให้ ชวี ติ ประจาวันให้ ชีวิตประจาวนั ให้ปลอดภยั ปลอดภยั ได้ถูกต้อง ปลอดภัยได้ อาจ ปลอดภัยได้ แต่อาจ เปน็ วธิ ีทีด่ ี ปฏิบัตไิ ด้ ปฏิบัติไดจ้ รงิ ปฏบิ ัติไมไ่ ด้จริง จริง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียน ป.1 ช่อื ............................................................เลขที่................ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี 1 หอ้ ง.................... คำชแี้ จง : ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด √ ลงในช่องท่ตี รงกับระดบั คะแนน ขอ้ กำรสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียน ระดับควำมคิดเหน็ 321 มีวนิ ัย 1 ปฏิบัติตามข้อตกลงในการเรียนสม่าเสมอ 2 ปฏบิ ตั ิตามคาตักเตือนของครู 3 ทางานที่ไดร้ ับมอบหมายอยา่ งต้ังใจ ใฝ่เรียนรู้ 4 รว่ มทากจิ กรรมต่างๆ ท่ีครจู ัดให้อย่างตงั้ ใจ 5 หมน่ั ซกั ถาม เมื่อเกดิ ขอ้ สงสยั 6 เอาใจใส่งานที่ได้รบั มอบหมาย มงุ่ มั่นในกำรทำงำน 7 สนใจทากจิ กรรมกับเพ่อื นอย่างกระตือรือร้น 8 ปฏบิ ัตหิ นา้ ทีท่ ไ่ี ด้รบั มอบหมายอย่างตั้งใจ 9 ส่งงานอย่างสม่าเสมอ เกณฑ์ใหค้ ะแนน เกณฑก์ ำรตดั สนิ คณุ ภำพ ปฎบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ (100%) ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 2 คะแนน ปฎบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง(70%) ให้ 1 คะแนน 23-27 ดมี าก ปฎบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ (50%) ให้ 18-22 ดี 13-17 พอใช้ ตา่ กว่า 13 ปรบั ปรุง

แบบบันทึกหลังแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้  ด้านความรู้  ด้านสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน  ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์  ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)  ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ปี ญั หาของนกั เรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข ลงช่อื ..............................................ผู้บนั ทกึ (................................................) ควำมเหน็ ของผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำหรอื ผู้ทีไ่ ด้รบั มอบหมำย ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ................................................ (................................................) ตาแหนง่ .................................................

หน่วยกำรเรียนรูท้ ่ี 2 กำรแก้ปญั หำอย่ำงเป็นขนั้ ตอน รำยวิชำพื้นฐำนวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) ระยะเวลำ 7 ชวั่ โมง กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปีท่ี 1 1. มำตรฐำนกำรเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมจี ริยธรรม ว 4.2 ป. 1/1 แก้ปญั หาอย่างง่ายโดยใชก้ ารลองผิดลองถกู การเปรียบเทียบ ว 4.2 ป. 1/2 แสดงลาดับข้ันตอนการทางาน หรือการแกป้ ญั หาอย่างงา่ ยโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือขอ้ ความ 2. สำระกำรเรียนรู้ 1) การแก้ปัญหาให้ประสบความสาเร็จทาไดโ้ ดยใชข้ นั้ ตอนการแกป้ ัญหา 2) การแสดงขั้นตอนการแกป้ ัญหาทาได้โดยการเขยี น บอกเล่า วาดภาพ หรอื ใชส้ ญั ลักษณ์ 3) ปัญหาอย่างงา่ ย เช่น เกมเขาวงกต เกมหาจุดแตกตา่ งของภาพ การจดั หนงั สือใสก่ ระเปา๋ 3. สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฝึกทักษะการคิด เชงิ คานวณ การคดิ วเิ คราะห์ และการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ การแสดงขน้ั ตอนการแก้ปัญหา สามารถทาได้โดยการเขียนบอกเล่า วาดภาพ หรือใช้สญั ลกั ษณ์ การแกป้ ัญหาอยา่ งง่ายโดยใช้ข้ันตอนการแก้ปัญหาสามารถฝึกฝนผ่านเกมเขาวงกต เกมหาจุดแตกต่างของภาพ และการจัด กระเปา๋ นักเรียนได้ ทาให้สามารถแก้ปัญหาที่พบในชีวติ จรงิ ได้อย่างเปน็ ข้นั ตอนและเป็นระบบ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ ม่ันในการทางาน 1) ทักษะการคิดเชงิ คานวณ 2) ทักษะการสงั เกต 3) ทักษะการสื่อสาร 4) ทกั ษะการทางานรว่ มกัน

5) ทักษะการนาความรู้ไปใช้ 6) ทกั ษะการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. ชนิ้ งำน/ภำระงำน (รวบยอด) - ใบงานเรอื่ ง การเปรยี บเทยี บ - ใบงานเรื่อง ไขต่ กไม่แตก - กิจกรรมหาจุดแตกต่างของภาพหนา้ 39 หนงั สอื เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.1 - กิจกรรมหนา้ 41 หนงั สอื เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.1 - กิจกรรมในแบบฝึกหดั เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.1 หนา้ 29 6. กำรวัดและกำรประเมนิ ผล รำยกำรวดั วธิ ีวัด เคร่ืองมือ เกณฑก์ ำรประเมนิ 6.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - ประเมินตามสภาพจริง - แบบทดสอบก่อน กอ่ นเรยี น - รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์ เรยี น หน่วยการ - รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์ เรียนรูท้ ่ี 2 เรอื่ งการ -ตรวจใบงาน เรอ่ื งการ -ใบงาน เรอ่ื งการ แก้ปัญหาอยา่ งเป็นขัน้ ตอน 6.2 ประเมินระหวา่ ง เปรียบเทียบ เปรียบเทียบ การจัดกจิ กรรม การเรียนรู้ -แบบประเมนิ ผลงาน -แบบประเมนิ ผลงาน 1) ผลงานเร่อื งการแก้ปัญหา 2) ผลงานเรื่อง การแสดง ตรวจใบงาน เรอื่ ง ไข่ ใบงาน เรื่อง ไขต่ กไม่ ขน้ั ตอนการแก้ปัญหา ตกไม่แตก แตก 3) การแก้ปัญหาอย่างงา่ ย ตรวจกิจกรรมหาจุด -กิจกรรมหาจุดแตกตา่ ง - รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์ แตกตา่ งของภาพหน้า ของภาพหน้า 39 หนังสือ 39 หนงั สอื เทคโนโลยี เทคโนโลยี (วทิ ยาการ (วทิ ยาการคานวณ) คานวณ) ป.1

รำยกำรวดั วิธวี ัด เครือ่ งมอื เกณฑ์กำรประเมนิ 4) พฤติกรรม ป.1 -กิจกรรมหน้า 41 - ระดับคุณภาพ ดี ผา่ น การทางานรายบุคคล เกณฑ์ -กจิ กรรมหนา้ 41 หนังสือเทคโนโลยี หนังสือเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.1 (วทิ ยาการคานวณ) ป. -กิจกรรมในแบบฝึกหัด 1 เทคโนโลยี (วิทยาการ -กจิ กรรมใน คานวณ) ป.1 หนา้ 29 แบบฝึกหัดเทคโนโลยี (วทิ ยาการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางาน การทางาน รายบคุ คล 6.3 การประเมนิ หลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน - รอ้ ยละ 50 ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบหลงั หลงั เรียน เรียน หน่วยการ เรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่องการ แก้ปญั หาอย่างเปน็ ข้ันตอน 7. กจิ กรรมกำรเรียนรู้  แผนที่ 1 : กำรแกป้ ัญหำ เวลำ 2 ชัว่ โมง แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : การลองผดิ ลองถูก  แผนท่ี 2 : กำรแสดงข้นั ตอนกำรแกป้ ัญหำ เวลำ 2 ชว่ั โมง แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนคิ : การแก้ปญั หา (Problem Solving Method)  แผนที่ 3 : กำรแก้ปัญหำอยำ่ งงำ่ ย เวลำ 3 ช่วั โมง แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนคิ : กระบวนการคดิ คานวณ Computational Thinking Process (รวมเวลำ 7 ชั่วโมง)

8. สอื่ /แหล่งกำรเรียนรู้ 1. บลอ็ กรปู ทรงเรขาคณติ และกรอบสี่เหลี่ยม 2. บัตรภาพ เร่ือง เปรยี บเทียบความแตกตา่ งของภาพ 3. ใบงานเรือ่ ง การเปรียบเทียบ 4. สีไม้ 5. ใบงาน เรอ่ื ง ไข่ตกไม่แตก 6. ไข่ไกห่ รือไข่นกกระทาดิบ 7. กระดาษ 8. หนังยาง 9. ฟองน้า 10. กง่ิ ไม้หรือตะเกียบ 11. หนังสือเรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื ง การแกป้ ญั หาอย่างเปน็ ขั้นตอน 12. หนังสอื แบบฝึกหดั รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง การแก้ปัญหาอย่างเป็น ขนั้ ตอน 13. ใบงานเรื่อง เกมเขาวงกต 14. ภาพ เกมจุดแตกต่างของภาพ

แบบทดสอบ หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 2 กำรแกป้ ญั หำอย่ำงเปน็ ขน้ั ตอน เวลำ 10 นำที คาชีแ้ จง : ให้นกั เรียนวง  ลอ้ มรอบตัวอกั ษร ก,ข และ ค หน้าคาตอบทถ่ี กู ต้อง 1. จากภาพ ภาพใดเปน็ ภาพเตม็ ของภาพน้ี ก. ข. ค. 2. จากภาพดา้ นลา่ ง ภาพใดแตกต่างจากภาพอื่น ก. ข. ค. 3. กลอ่ งใดมีขนาดเท่ากับกล่องนี้ ค. ค. โมโห ก. ข. 4. สญั ลกั ษณ์น้ี แสดงถงึ อารมณ์ใด ก. ดีใจ ข. เสียใจ