Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

แผนจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

Published by Mussaya Hongsibpad, 2021-09-08 15:44:04

Description: วิทยาการคำนวณ ป.2 ปีการศึกษา 1/2564

Search

Read the Text Version

ข้นั สอน ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หำ (Exploration) 2. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 2-3 คน เพือ่ ดาเนินการศกึ ษาเนื้อหาเก่ยี วกบั การจดั เรยี งและ แยกประเภทไฟล์จากหนังสอื เรียนรำยวิชำพ้นื ฐำน เทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำนวณ) ป.2 หน่วยกำรเรยี นรู้ท่ี 3 กำรจัดกำรไฟลอ์ ย่ำงมรี ะบบ หรอื จากอินเทอรเ์ นต็ และปฏบิ ัติตามที่ ไดศ้ ึกษามากบั เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ของตนเอง ข้นั ท่ี 3 อธิบำยควำมรู้ (Explanation) 3. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนออกมาอภปิ รายหนา้ ชั้นเรียนเก่ยี วกบั เรื่องทด่ี าเนนิ การศกึ ษา 4. ครอู ธิบายเพิ่มเติมกับนกั เรยี นว่า“นอกจากวิธกี ารจดั เรียงและแยกประเภทไฟล์ตามขน้ั ตอน จากหนังสอื เรยี นแล้ว ยังมีการจดั เรยี งและแยกประเภทไฟล์ได้รวดเร็วมากยิ่งขนึ้ ดังนี้ 1. ให้คลิกปุ่มขวาของเมาส์ทห่ี นา้ ตา่ งใด ๆ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ 2. คลกิ เลือกคาส่งั Sort by 3. เลอื กประเภทของการจดั เรียง และแยกประเภทของไฟล์ ไดแ้ ก่ Name (การจดั เรียงตามตวั อักษร) Date Modified (การจัดเรียงตามวันที่สร้าง/แก้ไข) Type (การจัดเรียงตามชนิดของไฟล์) และ Size (การจัดเรียงตามขนาดของไฟล์)” 5. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ กับนักเรียนเกย่ี วกับประโยชนข์ องการจัดเรียงและแยกประเภทไฟล์ว่า “การจดั เรียงและแยกประเภทของไฟล์มีประโยชนเ์ ป็นอย่างมากสาหรับในการทางานผา่ นทาง คอมพวิ เตอร์ เพราะจะสง่ ผลใหส้ ามารถค้นหาไฟล์ไดส้ ะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึน้ ” 6. ครูต้ังคาถามกระต้นุ ความคดิ ของนักเรียนวา่ “ถ้าในคอมพิวเตอร์มีไฟลแ์ ละโฟลเดอรบ์ รรจอุ ยู่ เปน็ จานวนมาก และนักเรียนตอ้ งการค้นหาได้อย่างรวดเรว็ นกั เรยี นจะมวี ธิ กี ารอยา่ งไร” (แนวตอบ : คาตอบของนกั เรียนขึ้นอย่กู ับดลุ ยพินิจของครูผู้สอน) 7. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมกบั นกั เรยี นเก่ยี วกับการคน้ หาไฟลข์ ้อมลู ว่า“สญั ลักษณ์ท่ีใช้แทนการคน้ หา คือ สญั ลกั ษณแ์ วน่ ขยาย เม่ือพบสญั ลักษณน์ ้ีกส็ ามารถพมิ พ์ส่ิงที่ตอ้ งการค้นหาลงไปเพ่ือให้ได้สิ่งที่ ตอ้ งการ หรือสามารถค้นหาไฟล์ข้อมูลได้อย่างรวดเรว็ จากการกดปุ่มคยี ์ลัด โดยกดปุม่ Ctrl ค้างไว้ และกดปุ่ม F” ขั้นท่ี 4 ขยำยควำมเข้ำใจ (Elaboration) 8. นกั เรยี นทากิจกรรมฝกึ ทักษะจากหนงั สือเรยี นและบันทึกคาตอบลงในสมุดประจาตวั 9. ครูเขียนคาว่าประโยชนข์ องการจดั เรียงไฟล์และแยกประเภทไฟล์บนกระดานหน้าชัน้ เรยี น จากนนั้ ครสู มุ่ ให้นักเรียน 4-5 คน ออกมาเติมคาตอบบนกระดานหนา้ ช้ันเรยี น โดยเพือ่ นร่วมช้ัน สามารถรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ ได้

10. นกั เรยี นทาใบงำนท่ี 3.6.1 เรอ่ื ง กำรจัดเรียงไฟล์ และประเมนิ ผลตนเองหลงั เรียนจบหน่วย ใหต้ รงกับระดับความสามารถของตนเอง Note วตั ถุประสงค์ของกจิ กรรมเพื่อให้นกั เรียน - มที ักษะการทางานรว่ มกนั โดยใช้กระบวนการกล่มุ ในการทากิจกรรม และ เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสอ่ื สาร ถา่ ยทอดความคิด และแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ร่วมกันในการสบื ค้น ข้อมลู ต่าง ๆ จากทางอินเทอร์เนต็ - มีทักษะการแก้ปญั หาเฉพาะหนา้ ทเ่ี กิดขึ้นขณะปฏิบตั ิตามขั้นตอนการจดั เรยี ง และแยกประเภทไฟล์ - มที ักษะการสงั เกตขน้ั ตอนและวธิ ีการจดั เรยี งและแยกประเภทไฟล์ ตามหนงั สือเรยี นไดอ้ ย่างถูกต้อง ขนั้ สรปุ ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 11. ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และนาเสนอหน้าชนั้ เรยี น 12. ครตู รวจสอบผลการทาใบงาน และกจิ กรรมฝกึ ทักษะ 13. นกั เรียนและครรู ่วมกันสรุปเกีย่ วกบั เน้อื หาหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 การจดั การไฟล์อย่างมีระบบ ทแ่ี บ่งออกเป็น 2 หัวขอ้ ใหญ่ ได้แก่ การใชง้ านซอฟต์แวรเ์ บือ้ งตน้ และการจดั การกับไฟล์ 14. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง การจัดการไฟลอ์ ยา่ งมรี ะบบ 15. นกั เรยี นทากจิ กรรมเสริมสรา้ งการเรียนรู้จากหนงั สือเรียน และทาช้นิ งาน/ภาระงาน(รวบยอด) เร่ือง การจดั การไฟลอ์ ยา่ งมีระบบ จากนั้นบันทึกคาตอบลงในสมดุ ประจาตวั และนามาสง่ ในช่ัวโมงถัดไป

7. กำรวัดและประเมนิ ผล วิธีวดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ำรประเมิน รำยกำรวดั - ตรวจใบงานที่ 3.6.1 - ใบงานท่ี 3.6.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 7.1 ประเมนิ ระหวา่ งการจัดกิจกรรม - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2 ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ การเรยี นรู้ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 1) การจดั เรยี งไฟล์ การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 2) การนาเสนอผลงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ 3) พฤตกิ รรมการทางาน - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 รายบคุ คล ความรบั ผิดชอบ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั่ อันพงึ ประสงค์ 4) พฤติกรรมการทางานกลมุ่ ในการทางาน ประเมนิ ตามสภาพจริง - แบบทดสอบหลังเรียน 5) คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - ตรวจแบบทดสอบ ระดับคุณภาพ 2 หลงั เรียน - แบบประเมนิ ช้นิ งาน ผ่านเกณฑ์ 7.2 การประเมินหลงั เรียน /ภาระงาน (รวบยอด) - แบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจชนิ้ งาน/ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การจัดการไฟล์ อย่างมรี ะบบ - การประเมินชิน้ งาน /ภาระงาน (รวบยอด) เรือ่ ง การจัดการไฟล์ อยา่ งมีระบบ 8. สื่อ/แหลง่ กำรเรียนรู้ 8.1 ส่ือกำรเรยี นรู้ 1) หนังสือเรียนรายวชิ าพื้นฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง การจัดการไฟลอ์ ย่างมีระบบ 2) ใบงานท่ี 3.6.1 เรือ่ ง การจัดเรยี งไฟล์ 3) เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ 4) ใบรายช่อื 8.2 แหลง่ กำรเรยี นรู้ 1) อนิ เทอร์เนต็ 2) เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์

ใบงำนที่ 3.6.1 เรื่อง กำรจดั เรยี งไฟล์ คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นแสดงขัน้ ตอนกำรจดั เรียงไฟล์ในแบบต่ำง ๆ จำกขอ้ มลู ท่ีกำหนดให้ Name Date Modified Type Size 16 KB แผ่นพบั สง่ ครู 1/2/62 13:09 File Folder 93 KB 42 KB การบ้านที่ 1 23/11/62 09:43 File Folder 109 KB 7 KB แบบฝึกหัด 9/10/61 07:48 File Folder รายงานวชิ าคอมพิวเตอร์ 23/11/62 12:50 File Folder ABC 7/3/62 17:30 File Folder 1. กำรจดั เรียงไฟล์แบบ Name (กำรจัดเรยี งตำมตวั อกั ษร) Type Size Name Date Modified 2. กำรจดั เรยี งไฟล์แบบ Date Modified (กำรจดั เรยี งตำมวนั ท่สี รำ้ ง/แก้ไข) Size Name Date Modified Type 3. กำรจดั เรยี งไฟลแ์ บบ Type (กำรจัดเรยี งตำมชนิดของไฟล์) Type Size Name Date Modified 4. กำรจัดเรยี งไฟล์แบบ Size (กำรจดั เรียงตำมขนำดไฟล์) Type Size Name Date Modified

ใบงำนท่ี 3.6.1 เฉลย เรอื่ ง กำรจดั เรียงไฟล์ คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนแสดงข้นั ตอนกำรจดั เรยี งไฟล์ในแบบต่ำง ๆ จำกขอ้ มลู ที่กำหนดให้ Name Date Modified Type Size 16 KB แผน่ พับส่งครู 1/2/62 13:09 File Folder 93 KB 42 KB การบ้านท่ี 1 23/11/62 09:43 File Folder 109 KB 7 KB แบบฝกึ หัด 9/10/61 07:48 File Folder รายงานวชิ าคอมพิวเตอร์ 23/2/62 12:50 File Folder ABC 7/3/62 17:30 File Folder 1. กำรจัดเรียงไฟล์แบบ Name (กำรจดั เรียงตำมตวั อักษร) Name Date Modified Type Size 7 KB ABC 7/3/62 17:30 File Folder 93 KB 109 KB การบา้ นที่ 1 23/11/62 09:43 File Folder Size รายงานวิชาคอมพิวเตอร์ 23/2/62 12:50 File Folder 42 KB 16 KB 2. กำรจัดเรียงไฟล์แบบ Date Modified (กำรจดั เรยี งตำมวันทสี่ รำ้ ง/แกไ้ ข) 109 KB Name Date Modified Type Size 42 KB แบบฝึกหดั 9/10/61 07:48 File Folder 16 KB 109 KB แผน่ พบั สง่ ครู 1/2/62 13:09 File Folder Size รายงานวิชาคอมพิวเตอร์ 23/2/62 12:50 File Folder 7 KB 16 KB 3. กำรจัดเรียงไฟล์แบบ Type (กำรจัดเรยี งตำมชนดิ ของไฟล์) 42 KB Name Date Modified Type แบบฝกึ หัด 9/10/61 07:48 File Folder แผ่นพับส่งครู 1/2/62 13:09 File Folder รายงานวิชาคอมพิวเตอร์ 23/2/62 12:50 File Folder 4. กำรจัดเรียงไฟลแ์ บบ Size (กำรจัดเรียงตำมขนำดไฟล)์ Name Date Modified Type ABC 7/3/62 17:30 File Folder แผน่ พบั สง่ ครู 1/2/62 13:09 File Folder แบบฝึกหดั 9/10/61 07:48 File Folder

ชิน้ งำน/ภำระงำน (รวบยอด) เรอ่ื ง กำรจดั กำรไฟลอ์ ย่ำงมรี ะบบ คำชแ้ี จง : จำกสถำนกำรณ์ดังตอ่ ไปน้ีให้นักเรียนเลอื กประเภทของโปรแกรมทกี่ ำหนดให้ตอ่ ไปนี้ เติมลงในช่องว่ำงทีห่ ำยไป โดยมตี ัวเลอื กดังนี้ โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกรำฟกิ โปรแกรมนำเสนอ เด็กชายมงุ่ มัน่ ต้งั ใจ เรียนอยู่ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนแห่งหน่ึง ทุกวันหลังเลิกเรียน เด็กชาย มงุ่ มนั่ มักจะช่วยงานพ่อแมท่ ปี่ ระกอบอาชีพขายขา้ วมันไก่ โดยชว่ ยเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้า เช็ดโต๊ะ เก็บโต๊ะ และ ช่วยล้างจานอยู่เป็นประจาทุกวัน เพราะเด็กชายมุ่งมั่นเข้าใจดีว่ารายได้ของครอบครัวมาจากอาชีพน้ีหากไม่ช่วย พ่อแม่กจ็ ะต้องไปเสียเงินจ้างลูกจ้างทาให้มีค่าใช้จ่ายเพ่ิมข้ึนส่งผลให้รายได้ของครอบครัวลดลง และอาจมีเงินไม่ พอสง่ เด็กชายมุ่งม่นั เรยี นหนงั สอื และจ่ายคา่ ใชจ้ ่ายต่าง ๆ ภายในครอบครัวได้ อยู่มาวนั หนึ่งมรี ้านขา้ วมันไกเ่ ปดิ ใหมม่ าตัง้ ตรงขา้ มกบั ร้านของครอบครัวเด็กชายมุ่งม่ัน ทาให้มีลูกค้าเข้า ร้านนอ้ ยลง เพราะลกู ค้าอยากลองทานรา้ นใหม่ ๆ เดก็ ชายมุ่งมั่นเป็นเด็กท่ีมีไหวพริบดีจึงคิดอยากทาอะไรใหม่ ๆ เพอื่ ดงึ ดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้าร้านมากขึ้น เขาจึงคิดไอเดียในการสร้างตัวการ์ตูนรูปไก่ข้ึนมาเป็นโลโก้ของ ร้านและเป็นมาสคอตประจารา้ น เดก็ ชายมุ่งมนั่ จึงเลือกใช้ ................................. วาดการ์ตูนรูปไก่ จากน้ันจึงไป ให้ร้านทาป้ายพิมพ์รูปไก่ท่ีเขาวาดมาตั้งท่ีหน้าร้าน วันต่อมามีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้นเพราะลูกค้าชื่นชอบการ์ตูนที่ เด็กชายมุ่งม่ันวาด เม่ือลูกค้ามากขึ้นก็เกิดปัญหาการส่ังอาหารที่ลูกค้าจะถามทุกครั้งว่ามีเมนูอะไรบ้าง เด็กชาย มุ่งม่ันก็ต้องแจ้งลูกค้าทุกคร้ัง เขาจึงคิดไอเดียในการสร้างเมนูรายการอาหารข้ึนมาเพื่อให้ลูกค้าเลือกได้ง่ายข้ึน เขาจึงเลือกใช้ .................................... ในการสร้างเมนรู ายการอาหาร และนาไปใหร้ า้ นทาป้ายพิมพ์ออกมา ทาให้ ลกู คา้ สะดวกในการเลอื กเมนรู ายการอาหาร ส่งผลให้รา้ นของครอบครวั เดก็ ชายม่งุ ม่นั ขายดียง่ิ ข้นึ เมอ่ื ใกลส้ อบเพื่อน ๆ ต้องการให้เดก็ ชายมุง่ มน่ั ทบทวนบทเรียนใหก้ ับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนเพราะเขาเป็น เด็กต้ังใจเรียน เพ่ือน ๆ จึงอยากให้เขาทบทวนบทเรียนให้ เขาจึงเลือกใช้ ....................... เพ่ือทบทวนบทเรียน วชิ าตา่ ง ๆ ใหเ้ พือ่ น ๆ ไดน้ า่ สนใจ ส่งผลใหเ้ พื่อน ๆ เขา้ ใจในบทเรียนนน้ั มากยง่ิ ขน้ึ

คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นเขียนคำตอบลงในช่องวำ่ ง 1. ไฟล์กับโฟลเดอร์ต่ำงกันอย่ำงไร 2. เม่ือนักเรยี นเผลอลบไฟล์งำนทง้ิ ไปโดยไม่ตั้งใจ นกั เรียนควรแก้ปัญหำอย่ำงไร 3. เมอื่ นักเรียนต้องกำรคน้ หำไฟล์งำนลำ่ สุด นักเรยี นจะมีวิธกี ำรอย่ำงไร เพอ่ื ให้ค้นหำไฟลไ์ ดร้ วดเรว็ ที่สดุ 4. กำรคดั ลอกไฟลต์ ำ่ งจำกกำรยำ้ ยไฟลอ์ ยำ่ งไร 5. เม่ือพบว่ำไฟล์มชี ่ือซำ้ กัน ควรแกป้ ัญหำอย่ำงไร

ชนิ้ งำน/ภำระงำน (รวบยอด) เร่อื ง กำรจัดกำรไฟลอ์ ย่ำงมีระบบ คำช้แี จง : จำกสถำนกำรณ์ดงั ต่อไปน้ีให้นกั เรียนเลือกประเภทของโปรแกรมท่กี ำหนดให้ตอ่ ไปนี้ เตมิ ลงในชอ่ งว่ำงทีห่ ำยไป โดยมตี ัวเลือกดังนี้ โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกรำฟิก โปรแกรมนำเสนอ เด็กชายมุ่งม่ัน ต้ังใจ เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ทุกวันหลังเลิกเรียน เด็กชาย มุง่ มั่นมกั จะช่วยงานพอ่ แมท่ ีป่ ระกอบอาชีพขายข้าวมนั ไก่ โดยช่วยเสริ ฟ์ อาหารให้กับลูกค้า เช็ดโต๊ะ เก็บโต๊ะ และ ช่วยล้างจานอยู่เป็นประจาทุกวัน เพราะเด็กชายมุ่งมั่นเข้าใจดีว่ารายได้ของครอบครัวมาจากอาชีพน้ีหากไม่ช่วย พอ่ แม่กจ็ ะต้องไปเสียเงินจ้างลูกจ้างทาให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มข้ึนส่งผลให้รายได้ของครอบครัวลดลง และอาจมีเงินไม่ พอสง่ เดก็ ชายมุ่งมั่นเรยี นหนังสอื และจ่ายคา่ ใช้จ่ายตา่ ง ๆ ภายในครอบครัวได้ อยมู่ าวนั หนง่ึ มีรา้ นข้าวมันไกเ่ ปิดใหมม่ าต้ังตรงขา้ มกบั ร้านของครอบครัวเด็กชายมุ่งมั่น ทาให้มีลูกค้าเข้า ร้านน้อยลง เพราะลกู ค้าอยากลองทานร้านใหม่ ๆ เด็กชายมุ่งมั่นเป็นเด็กที่มีไหวพริบดีจึงคิดอยากทาอะไรใหม่ ๆ เพ่ือดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้าร้านมากขึ้น เขาจึงคิดไอเดียในการสร้างตัวการ์ตูนรูปไก่ข้ึนมาเป็นโลโก้ของ ร้านและเป็นมาสคอตประจาร้าน เด็กชายมุ่งม่ันจึงเลือกใช้โปรแกรมกรำฟิก วาดการ์ตูนรูปไก่ จากนั้นจึงไปให้ ร้านทาป้ายพิมพ์รูปไก่ท่ีเขาวาดมาตั้งที่หน้าร้าน วันต่อมามีลูกค้าเข้าร้านมากข้ึนเพราะลูกค้าช่ืนชอบการ์ตูนที่ เด็กชายมุ่งม่ันวาด เม่ือลูกค้ามากขึ้นก็เกิดปัญหาการส่ังอาหารที่ลูกค้าจะถามทุกครั้งว่ามีเมนูอะไรบ้าง เด็กชาย มุ่งม่ันก็ต้องแจ้งลูกค้าทุกครั้ง เขาจึงคิดไอเดียในการสร้างเมนูรายการอาหารขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าเลือกได้ง่ายข้ึน เขาจงึ เลอื กใช้โปรแกรมประมวลคำ ในการสร้างเมนูรายการอาหาร และนาไปให้ร้านทาป้ายพิมพ์ออกมา ทาให้ ลกู คา้ สะดวกในการเลือกเมนูรายการอาหาร สง่ ผลให้ร้านของครอบครัวเดก็ ชายมุ่งมั่นขายดียิ่งขนึ้ เมอ่ื ใกลส้ อบเพอ่ื น ๆ ต้องการใหเ้ ด็กชายมงุ่ ม่ันทบทวนบทเรยี นให้กบั เพ่ือน ๆ ในห้องเรียนเพราะเขาเป็น เด็กตงั้ ใจเรยี น เพ่อื น ๆ จึงอยากใหเ้ ขาทบทวนบทเรียนให้ เขาจึงเลือกใช้โปรแกรมนำเสนอเพื่อทบทวนบทเรียน วชิ าตา่ ง ๆ ให้เพื่อน ๆ ไดน้ า่ สนใจ ส่งผลให้เพื่อน ๆ เขา้ ใจในบทเรยี นนน้ั มากย่ิงขึน้

คำช้แี จง : ให้นักเรียนเขยี นคำตอบลงในช่องวำ่ ง 1. ไฟลก์ ับโฟลเดอร์ต่ำงกนั อยำ่ งไร ไฟล์ คอื ชิน้ งำนทส่ี ร้ำงขึน้ มำจำกซอฟต์แวร์ เชน่ ไฟล์รูปภำพสร้ำงมำจำกโปรแกรมกรำฟกิ ไฟลห์ นังสือนทิ ำนสร้ำงมำจำกโปรแกรมประมวลคำ และไฟล์ทใี่ ช้สำหรับนำเสนอสร้ำงมำจำก โปรแกรมนำเสนอ เปน็ ต้น ส่วนโฟลเดอร์ คือ แฟ้มสำหรบั เก็บไฟลช์ นิ้ งำนต่ำง ๆ ไว้ด้วยกันเป็น หมวดหมู่ โดยมำกจะนยิ มต้ังชื่อโฟลเดอรใ์ ห้สอดคล้องกบั ไฟล์ช้นิ งำนเพ่อื ควำมสะดวกในกำรสบื ค้น 2. เมอ่ื นักเรยี นเผลอลบไฟล์งำนท้ิงไปโดยไม่ต้งั ใจ นักเรียนควรแก้ปัญหำอยำ่ งไร เปดิ Recycle Bin หรือถังขยะข้นึ มำ จำกนน้ั เลอื กไฟล์งำนทตี่ ้องกำรกู้คืน และคลกิ ปุ่มขวำของเมำส์ บนชอื่ ไฟลท์ ตี่ ้องกำรกคู้ ืน แล้วเลอื กคำสง่ั Restore เพอื่ กูค้ ืนไฟล์ 3. เม่ือนกั เรียนต้องกำรค้นหำไฟลง์ ำนล่ำสดุ นกั เรียนจะมีวิธกี ำรอยำ่ งไร เพือ่ ให้คน้ หำไฟลไ์ ดร้ วดเร็วทสี่ ุด ค้นหำไฟล์โดยเรียงลำดับจำกวันที่ล่ำสดุ ก่อน 4. กำรคัดลอกไฟล์ตำ่ งจำกกำรยำ้ ยไฟล์อย่ำงไร กำรคัดลอก คือ กำรทำสำเนำไฟล์ใหม้ ไี ฟล์เดยี วกนั อยู่ซ้ำกนั มำกกวำ่ 1 ที่ กำรย้ำยไฟล์ คอื กำรย้ำยตำแหน่งเก็บไฟล์ ทำให้ไฟลเ์ ดิมถูกย้ำยตำไนง่ ไปยงั ตำแหน่งใหม่ 5. เมอื่ พบวำ่ ไฟล์มชี ่ือซำ้ กนั ควรแกป้ ญั หำอยำ่ งไร 1) เปลยี่ นช่ือไฟล์ 2) ยำ้ ยไฟล์ไปยังโฟลเดอร์ใหม่

แบบประเมินกำรนำเสนอผลงำน คำช้ีแจง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถูกตอ้ งของเน้ือหา   2 ความคดิ สร้างสรรค์   3 วิธีการนาเสนอผลงาน   4 การนาไปใช้ประโยชน์   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............/................./................... เกณฑ์กำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน เกณฑ์กำรตัดสินคณุ ภำพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ 14–15 ดีมำก 11–13 ดี 8–10 พอใช้

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล คำช้ีแจง : ให้ผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดบั ที่ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคดิ เหน็   2 การยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื   3 การทางานตามหน้าที่ท่ีได้รบั มอบหมาย   4 ความมีน้าใจ   5 การตรงต่อเวลา   รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............/.................../................ เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง เกณฑ์กำรตดั สินคณุ ภำพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภำพ 14–15 ดมี ำก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน กำรแสดง กำรทำงำน กำรมี ควำม ตำมท่ไี ด้รับ ลำดับที่ ชอื่ –สกลุ คดิ เหน็ กำรยอมรบั มอบหมำย ควำมมีน้ำใจ สว่ นรว่ มใน รวม ของนกั เรียน ฟงั คนอ่ืน กำรปรบั ปรงุ 15 คะแนน ผลงำนกลมุ่ 321321321321321 ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............./.................../............... เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ำรตัดสนิ คุณภำพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ 14–15 ดีมำก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงค์ดำ้ น 32 1 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ กษตั ริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี รา้ งความสามัคคีปรองดอง และเป็นประโยชนต์ ่อ โรงเรียน 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏิบัติตามหลกั ศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เก่ยี วกบั สถาบนั พระมหากษัตริย์ตามทีโ่ รงเรียนจดั ข้นึ 2. ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต 2.1 ให้ขอ้ มลู ท่ีถูกตอ้ งและเปน็ จริง 2.2 ปฏิบัตใิ นสิ่งท่ถี ูกต้อง 3. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครัว มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่างๆ ในชวี ิตประจาวัน 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รู้จักใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัติได้ 4.2 รู้จักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชอื่ ฟังคาส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง 4.4 ตัง้ ใจเรียน 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและส่ิงของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรู้คุณคา่ 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน 6. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานที่ไดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพ่อื ให้งานสาเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รูจ้ กั ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดูแลรักษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของห้องเรยี นและ โรงเรียน ลงช่อื ..................................................ผปู้ ระเมนิ ............/.................../................ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภำพ พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน 51–60 ดมี ำก พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติบางครงั้ 41–50 ดี 30–40 ตา่ กว่า 30 พอใช้ ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ ชนิ้ งำน/ภำระงำน (รวบยอด) ว 4.2 ป. 2/3 ใช้เทคโนโลยีในการสรา้ ง จดั หมวดหมู่ คน้ หา จดั เก็บ เรยี กใชข้ ้อมลู ตามวตั ถุประสงค์ รำยกำร เกณฑ์กำรประเมนิ (ระดับคุณภำพ) ระดบั ประเมิน คุณภำพ ดีมำก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) 1. การจัดการไฟลอ์ ย่างมี ดมี าก ระบบ สามารถจดั การไฟล์ สามารถจัดการไฟล์ สามารถจัดการไฟล์ ไมส่ ามารถจัดการไฟล์ อย่างมีระบบไดอ้ ย่าง อยา่ งมรี ะบบไดอ้ ย่าง อยา่ งมีระบบไดค้ อ่ นข้าง อยา่ งมีระบบได้ ดี 2. ความสมบรู ณข์ องผลงาน ถกู ต้อง ถกู วธิ ีดีมาก ถูกตอ้ ง ถกู วิธีดี ดี พอใช้ ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมีความครบถว้ น ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถว้ น สมบูรณ์ดมี าก สมบูรณ์ค่อนข้างดี สมบรู ณด์ เี ปน็ บางสว่ น สมบูรณน์ ้อย 3. สง่ งานตรงเวลา สง่ ภาระงานภายในเวลา ส่งภาระงานช้ากวา่ สง่ ภาระงานช้ากว่า สง่ ภาระงานช้ากวา่ ปรับปรุง กาหนด 2 วนั กาหนดเกนิ 3 วนั ขน้ึ ไป ที่กาหนด กาหนด 1 วัน เกณฑ์กำรตดั สินคุณภำพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภำพ 10 - 12 ดีมำก 7 - 9 ดี 4 - 6 พอใช้ 1 - 3 ปรับปรุง

9. ควำมเหน็ ของผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำหรือผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมำย ) ....... ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ( ตำแหนง่ 10. บนั ทึกผลหลงั กำรสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคานวณ)  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข

หน่วยกำรเรยี นรูท้ ี่ 4 กำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศอย่ำงปลอดภัย เวลำ 5 ชั่วโมง 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวติ จริงอยา่ งเป็นขน้ั ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ รูเ้ ท่าทัน และมีจรยิ ธรรม ว 4.2 ป.2/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ปฏบิ ัติตามข้อตกลงในการใช้ คอมพวิ เตอร์รว่ มกัน ดแู ลรักษาอปุ กรณ์เบ้อื งตน้ ใชง้ านอย่างเหมาะสม 2. สำระกำรเรยี นรู้ 2.1 สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง 1) การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย เช่น รูจ้ กั ข้อมลู ส่วนตัว อันตรายจากการเผยแพร่ข้อมลู สว่ นตวั และไม่บอกข้อมลู ส่วนตัวกับบคุ คลอืน่ ยกเว้นผ้ปู กครองหรือครู แจ้งผูเ้ ก่ียวข้องเมื่อตอ้ งการ ความช่วยเหลอื เก่ยี วกับการใช้งาน 2) ขอ้ ปฏิบัติในการใช้งานและการดูแลรักษาอุปกรณ์ เช่น ไม่ขีดเขยี นบนอปุ กรณ์ ทาความสะอาด ใชอ้ ปุ กรณ์อย่างถูกวิธี 3) การใชง้ านอย่างเหมาะสม เช่น จดั ท่าน่ังใหถ้ ูกต้อง การพักสายตาเมอ่ื ใช้อุปกรณ์เปน็ เวลานาน ระมดั ระวังอบุ ตั เิ หตุจากการใช้งาน 2.2 สำระกำรเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น (พิจารณาตามหลักสตู รสถานศึกษา) 3. สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศจะต้องคานงึ ถึงความปลอดภยั ของผใู้ ช้งาน โดยเฉพาะข้อมลู สว่ นตวั ซึ่งเป็นข้อมูลเฉพาะบุคคล จงึ ไมค่ วรเผยแพร่ให้บุคคลอ่ืนรบั รู้ และตอ้ งมกี ารใส่รหสั ผ่านเพ่ือป้องกันผู้ที่ ไม่หวังดีแอบอา้ งนาข้อมลู ส่วนตัวไปใช้โดยไมไ่ ด้รับอนุญาต และในการใชง้ านอปุ กรณเ์ ทคโนโลยคี วรเรยี นรู้ ข้อปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบั การใช้อปุ กรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ ดแู ลและรักษาเคร่ืองคอมพิวเตอร์ให้ถูกวธิ ีและเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแกผ่ ้ใู ช้งานได้

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี นิ ยั รับผิดชอบ - ทกั ษะการแลกเปลย่ี นข้อมลู 2. ใฝเ่ รยี นรู้ - ทกั ษะการส่ือสาร 3. ม่งุ ม่ันในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - ทักษะการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ทักษะการสงั เกต - ทักษะการแสวงหาความรู้ - ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรูม้ าใช้ในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - ทกั ษะการสารวจ - ทักษะการทางานร่วมกัน 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ทักษะการสบื คน้ ข้อมูล 5. ชนิ้ งำน/ภำระงำน (รวบยอด) - ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่ือง การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย 6. กำรวัดและกำรประเมนิ ผล วธิ ีวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์กำรประเมิน - ตรวจชิ้นงาน/ภาระ รำยกำรวัด งาน (รวบยอด) - แบบประเมนิ ชิน้ งาน ระดบั คุณภาพ 2 /ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์ 6.1 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน - ตรวจแบบทดสอบ (รวบยอด) เรือ่ ง การใช้งาน กอ่ นเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมินตามสภาพจรงิ เทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างปลอดภยั 6.2 การประเมินก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่อื ง การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศอย่างปลอดภยั

รำยกำรวัด วิธวี ดั เครื่องมือ เกณฑ์กำรประเมนิ 6.3 ประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรม - ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 - ใบงานที่ 4.1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การเรยี นรู้ - ตรวจใบงานท่ี 4.1.2 - ใบงานที่ 4.1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 1) มารจู้ กั ขอ้ มูลส่วนตวั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 2) ข้อมูลส่วนตัวของเรา ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3) อนั ตรายจากการเผยแพร่ - ตรวจใบงานท่ี 4.2.1 - ใบงานท่ี 4.2.1 ขอ้ มลู สว่ นตัว 4) การใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยี - ตรวจใบงานท่ี 4.3.1 - ใบงานที่ 4.3.1 5) การดแู ลรักษาอุปกรณ์ - ตรวจใบงานที่ 4.4.1 - ใบงานท่ี 4.4.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เทคโนโลยี - ตรวจใบงานที่ 4.5.1 - ใบงานที่ 4.5.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 6) ขั้นตอนการใชง้ านอปุ กรณ์ เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมิน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 7) การนาเสนอผลงาน ผลงาน การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์ 8) พฤติกรรมการทางาน การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 9) พฤติกรรมการทางานกลุม่ การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ 10) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ - สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมิน ประเมนิ ตามสภาพจริง ความรับผดิ ชอบ คุณลกั ษณะ 6.4 การประเมนิ หลังเรียน ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ัน อนั พึงประสงค์ - แบบทดสอบหลังเรียน ในการทางาน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่ือง การใชเ้ ทคโนโลยี - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น สารสนเทศอย่างปลอดภัย หลังเรียน 7. กิจกรรมกำรเรียนรู้ นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั

8. สอ่ื /แหล่งกำรเรียนรู้ 8.1 ส่ือกำรเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.2 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอื่ ง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั 2) ใบงานที่ 4.1.1 เร่ือง มารจู้ ักขอ้ มูลส่วนตวั 3) ใบงานที่ 4.1.2 เร่ือง ข้อมูลสว่ นตวั ของเรา 4) ใบงานที่ 4.2.1 เร่ือง อันตรายจากการเผยแพรข่ ้อมลู สว่ นตวั 5) ใบงานที่ 4.3.1 เรื่อง การใชง้ านอุปกรณเ์ ทคโนโลยี 6) ใบงานท่ี 4.4.1 เร่ือง การดูแลรักษาอปุ กรณ์เทคโนโลยี 7) ใบงานท่ี 4.5.1 เรื่อง ข้ันตอนการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม 8) ใบความรู้ เร่ือง การใช้อนิ เทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภยั 9) คลปิ วดิ โี อ เร่ือง การใชง้ านคอมพิวเตอร์ทีถ่ ูกตอ้ ง 10) เคร่ืองคอมพิวเตอร์ 8.2 แหล่งกำรเรยี นรู้ 1) อินเทอรเ์ นต็ 2) หอ้ งคอมพิวเตอร์

แบบทดสอบ หน่วยกำรเรยี นรู้ท่ี 4 คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดถือวา่ เป็นข้อมลู ส่วนตัว 7. ถา้ มบี คุ คลแปลกหน้ามาขอหมายเลขโทรศัพท์ ก. ชือ่ จังหวดั ผปู้ กครองของนักเรียน นักเรียนควรปฏิบตั ิ ข. จานวนครูในโรงเรียน อยา่ งไรจงึ จะเหมาะสมมากทีส่ ุด ค. เบอรโ์ ทรศัพท์ ก. ให้หมายเลขโทรศัพท์และรีบแจง้ ผปู้ กครอง ข. ไม่ใหห้ มายเลขโทรศพั ทแ์ ละรบี แจ้งผูป้ กครอง 2. การตดิ ตอ่ รับบริการกบั หน่วยงานราชการ ให้เร็วท่ีสุด จาเปน็ ต้องใช้เอกสารใด ค. ให้หมายเลขโทรศพั ทโ์ ดยกาชบั ว่าห้ามบอก ก. ตารางเรยี น ผ้ปู กครอง ข. บัตรประจาตัวนักเรียน ค. ชอ่ื ครูประจาช้นั 8. เพราะเหตใุ ดจึงต้องศึกษาวธิ กี ารใชง้ านอุปกรณ์ เทคโนโลยตี ่าง ๆ ให้ละเอียดก่อนการใช้งาน 3. เมอื่ ใชง้ านคอมพิวเตอรเ์ สร็จแล้ว ควรปฏิบตั ิ ก. ป้องกันไมใ่ ห้อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีเสื่อมสภาพ อย่างไร ข. ประหยัดคา่ ใชจ้ า่ ยในการซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยี ก. ปดิ คอมพิวเตอรห์ ลังการใช้งาน ค. เพอ่ื การใช้อยา่ งถกู วธิ แี ละยดื อายุการใช้งาน ข. เปดิ โปรแกรมท้ิงไว้เพื่อสะดวกตอ่ การใช้งาน ใหย้ าวนานมากยิง่ ขึน้ ค. ถอดปล๊ักไฟและใชผ้ า้ คลุมคอมพิวเตอรไ์ ว้ 9. ข้อใดเป็นการดแู ลรกั ษาอุปกรณ์เทคโนโลยี 4. ส่ิงทไี่ มค่ วรปฏบิ ัตเิ มื่อมีการใชง้ านอปุ กรณ์ ได้อย่างเหมาะสม คอมพิวเตอร์คือขอ้ ใด ก. ใช้ผา้ ชุบน้าบิดให้หมาดเช็ดทาความสะอาด ก. ปรับแสงหนา้ จอให้พอดีกับสายตา แผ่นซดี ี ข. เปิดใชง้ านซอฟตแ์ วร์รักษาความปลอดภยั ข. วางอปุ กรณท์ ี่มคี ล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้า เพือ่ ปอ้ งกนั ไวรสั คอมพิวเตอร์ ให้หา่ งจากจอคอมพิวเตอร์ ค. รับประทานอาหารขณะใช้งานคอมพิวเตอร์ ค. เคลื่อนยา้ ยเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ขณะใช้งาน ดว้ ยความระมัดระวงั 5. ข้อใดคือข้อดีของการใสร่ หัสผา่ นกอ่ นเขา้ ใช้งาน ก. ปอ้ งกันการขโมยขอ้ มลู สว่ นตัว 10. การป้องกนั ฝุ่นไม่ให้เข้าไปภายในเมาส์ ข. เพอ่ื การเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว มีวธิ กี ารแก้ไขอย่างไร ค. สามารถเผยแพร่ข้อมลู ได้อยา่ งทว่ั ถึง ก. ใช้ผ้าชุบน้าเชด็ ข. ใช้แผ่นรองเมาส์ขณะใช้งาน 6. เมอ่ื นักเรยี นพบปญั หาจากการเผยแพร่ข้อมูล ค. เคาะกับพนื้ เพอื่ เอาฝนุ่ ออก ควรปฏบิ ตั สิ ิ่งใดเปน็ ลาดบั แรก ก. แจ้งผ้ปู กครองทราบ เฉลย ข. เกบ็ เรือ่ งน้ีไว้เป็นความลับ ค. แกป้ ัญหาด้วยตนเอง 1. ค 2. ข 3. ก 4. ค 5. ก 6. ก 7. ข 8. ค 9. ข 10. ข

แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 1 รจู้ กั ข้อมูลส่วนตวั เวลำ 1 ชั่วโมง 1. มำตรฐำน/ตัวชว้ี ดั 1.1 ตัวช้วี ัด ว 4.2 ป.2/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการใชค้ อมพิวเตอร์ รว่ มกนั ดแู ลรักษาอุปกรณเ์ บ้ืองตน้ ใช้งานอยา่ งเหมาะสม 2. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของข้อมูลสว่ นตวั ไดถ้ กู ต้อง (K) 2. จาแนกข้อมูลส่วนตวั ได้อย่างถูกต้อง (K) 3. เขยี นวิธีการขอความชว่ ยเหลอื เมือ่ พบปญั หาจากการเผยแพร่ข้อมูลสว่ นตวั ได้ (P) 4. เห็นความสาคัญของข้อมูลส่วนตัวและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวได้เปน็ อยา่ งดี (A) 3. สำระกำรเรียนรู้ สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง สำระกำรเรียนรทู้ ้องถิ่น การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั เชน่ รู้จกั พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา ข้อมูลส่วนตัว อนั ตรายจากการเผยแพร่ข้อมลู ส่วนตัว และไมบ่ อกข้อมูลส่วนตัวกบั บุคคลอน่ื ยกเวน้ ผปู้ กครอง หรอื ครู แจง้ ผูเ้ กี่ยวข้องเมื่อต้องการความช่วยเหลอื เก่ยี วกบั การใชง้ าน 4. สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด ข้อมลู ส่วนตัว เป็นขอ้ มูลเฉพาะบคุ คลท่ีใช้ในการยนื ยันตัวตนของบุคคลใดบุคคลหนึง่ จงึ ไมค่ วรเผยแพร่ ใหบ้ ุคคลอน่ื รบั รู้ และเพ่อื ความปลอดภัยของข้อมลู สว่ นตัว แต่ถา้ มบี ุคคลท่ีไม่หวงั ดีแอบนาขอ้ มูลสว่ นตวั ไปใช้ โดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต ผ้ใู ช้สามารถขอความชว่ ยเหลอื จากผู้ท่ีมสี ว่ นเกี่ยวข้องได้

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินยั รับผิดชอบ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ - ทกั ษะการแลกเปลีย่ นข้อมลู 3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน - ทักษะการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ - ทกั ษะการสารวจ - ทักษะการทางานรว่ มกัน 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. กิจกรรมกำรเรยี นรู้  วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงที่ 1 ข้นั นา ขนั้ ที่ 1 กระต้นุ ควำมสนใจ (Engagement) 1. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างปลอดภยั เพ่ือวัดความรู้เดมิ ของนักเรียนก่อนเข้าส่กู จิ กรรม 2. ครถู ามคาถามเพ่ือกระตุน้ ความสนใจของนกั เรียนวา่ “นกั เรียนคดิ วา่ ขอ้ มลู สว่ นตัวทเ่ี ปน็ ข้อมูล เฉพาะบคุ คลมีอะไรบ้าง” (แนวตอบ : ข้อมลู เบอรโ์ ทรศัพท์ ข้อมูลรหสั ผา่ น ข้อมลู เลขบัตรประชาชน เป็นต้น) 3. จากน้ันครูถามคาถามประจาหัวข้อกบั นักเรียนว่า“นกั เรียนคดิ ว่าการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว ให้แกผ่ ้อู นื่ จะทาใหเ้ กิดโทษอย่างไร” (แนวตอบ : คาตอบขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของนักเรยี นแต่ละคน โดยข้ึนอยู่กับดุลยพินิจ ของครผู สู้ อน เช่น ผู้ทไี่ ม่หวงั ดนี าข้อมลู ไปใช้ในทางท่ผี ดิ นาเลขบตั รประชาชนไปสวมรอย ทาใหเ้ กดิ อันตรายในการใช้ชีวิตประจาวนั เชน่ การลกั ขโมย การลกั พาตัว เป็นต้น)

ขัน้ สอน ขนั้ ท่ี 2 สำรวจค้นหำ (Exploration) 4. ครใู ห้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน และศึกษาเน้ือหาร่วมกนั เกี่ยวกบั เร่ือง ข้อมลู สว่ นตวั จากหนังสือเรยี นรำยวิชำพื้นฐำน เทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำนวณ) ป.2 หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี 4 กำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศอย่ำงปลอดภยั หรือสืบคน้ จากอนิ เทอร์เนต็ 5. ครเู ขยี นคาวา่ “ข้อมลู ส่วนตัว” ลงบนกระดานหนา้ ช้ันเรยี น และให้นกั เรียนออกมาเตมิ คาตอบ โดยนกั เรียนทอ่ี อกมาเติมคาตอบจะต้องตอบคาถามได้ว่าข้อมูลส่วนตัวน้ันมคี วามสาคัญอยา่ งไร และเพราะเหตใุ ดจงึ ไม่ควรเผยแพรข่ ้อมูลใหบ้ ุคคลอื่นรบั รู้ ขน้ั ที่ 3 อธิบำยควำมรู้ (Explanation) 6. ครูอธิบายกบั นักเรียนวา่ “การติดต่อเข้ารบั บรกิ ารของหน่วยงานราชการและหน่วยงานเอกชนตา่ งๆ จาเปน็ ตอ้ งใช้ข้อมูลสว่ นตวั ในการตดิ ต่อสอื่ สาร ไมว่ ่าจะเปน็ เลขประจาตวั ประชาชน ชือ่ ผู้ใช้และ รหสั ผ่านในการเข้าสรู่ ะบบ เลขบญั ชีธนาคาร รายละเอยี ดการฝาก-ถอนในสมดุ บัญชีธนาคาร เบอร์โทรศัพท์ รปู ถ่ายสว่ นตัว เลขทีห่ นังสือเดินทาง ที่อยทู่ ี่สามารถติดต่อได้ เปน็ ตน้ ” 7. นกั เรียนทากจิ กรรมฝกึ ทักษะจากหนังสอื เรียน โดยใหน้ กั เรียนพจิ ารณาข้อมูลและบอกได้ว่าขอ้ มลู ใดถือว่าเป็นข้อมูลส่วนตวั และข้อมูลใดไมใ่ ชข่ ้อมลู สว่ นตัว โดยบันทกึ ลงในสมดุ ประจาตวั 8. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ อภิปรายร่วมกนั เกีย่ วกับวธิ กี ารขอความช่วยเหลอื เมื่อพบปัญหา จากการเผยแพรข่ ้อมลู หรอื มีผ้ทู ี่ไม่หวังดีแอบอ้างนาข้อมลู สว่ นตวั ไปใช้ในทางที่ผิด 9. ครูสุม่ นกั เรียน 4-5 คน ออกมาเขยี นวธิ กี ารขอความช่วยเหลอื เม่ือพบปัญหาจากการเผยแพร่ ข้อมลู สว่ นตวั บนกระดานหน้าชั้นเรียน (แนวตอบ : แจง้ ให้ผู้ปกครองทราบ เปลย่ี นรหัสผ่าน แจง้ ตารวจเพ่อื ดาเนนิ การ แจ้งไปยังผู้ดแู ล เวบ็ ไซต์ นาหลักฐานที่เกี่ยวข้องแจง้ กับธนาคารเพ่ือยืนยนั ตัวตน เป็นตน้ ) 10. ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ กับนักเรียนเกยี่ วกบั ความสาคญั ของขอ้ มูลสว่ นตวั ว่า“ขอ้ มูลสว่ นตวั เกีย่ วขอ้ ง กบั เรื่องต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวันดงั นี้ 1. การเขา้ รับบริการทางการแพทย์ เชน่ การไปโรงพยาบาลจะต้องมปี ระวตั ิการรกั ษา ของผูป้ ่วยซ่ึงนน่ั ก็ถือวา่ คอื ข้อมูลสว่ นตัว 2. การเข้าใชบ้ ริการกับทางธนาคารจาเปน็ ตอ้ งมกี ารระบุตวั ตนเจา้ ของบัญชีโดยให้ สมดุ บัญชธี นาคารกับเจ้าหนา้ ที่เพ่ือทาการฝาก-ถอนหรือทารายการอืน่ ๆ 3. การเข้าใช้ข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศทางออนไลนม์ ีความจาเปน็ ต้องระบตุ วั ตน โดยการระบุ Username และ Password เพื่อความปลอดภยั สาหรบั เจ้าของ ขอ้ มลู เป็นตน้ ”

11. ครูอธบิ ายเกร็ดน่าร้กู ับนกั เรียนว่า“การป้องกนั การถกู ขโมยข้อมลู ส่วนตวั จากการเปน็ สมาชกิ ของเว็บไซต์ต่าง ๆ ไมว่ า่ จะเปน็ เว็บแชทออนไลนห์ รอื เวบ็ เมลต่าง ๆ เพื่อรกั ษาความปลอดภัย ผใู้ ช้ควรเปลีย่ นรหสั ผา่ นทกุ ๆ 2-3 เดอื น และหากเกิดการขโมยข้อมูลสว่ นตัวขึน้ ผู้ใช้จะต้อง รีบแจ้งกับหนว่ ยงานท่ีดแู ลเกี่ยวกบั การกระทาความผิดทางเทคโนโลยี คือ ปอท. หรอื กองบังคับ การปราบปรามการกระทาความผิดเก่ยี วกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” ขัน้ ท่ี 4 ขยำยควำมเข้ำใจ (Elaboration) 12. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ระดมความคดิ ในการทาใบงำนที่ 4.1.1 เรื่อง มำรจู้ กั ข้อมูลส่วนตวั และ ใบงำนที่ 4.1.2 เร่อื ง ข้อมูลส่วนตวั ของเรำเพ่ือขยายความเขา้ ใจ 13. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลลัพธจ์ ากการทาใบงานหน้าชั้นเรยี น 14. นักเรียนทากจิ กรรมฝึกทักษะ โดยการพูดคยุ แลกเปลยี่ นความคดิ เห็นกับเพ่ือนรว่ มช้ันและ พจิ ารณาภาพพร้อมทาเครื่องหมายถกู ในข้อท่นี ักเรียนคิดวา่ เปน็ บคุ คลท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องในการ ชว่ ยเหลอื เมอื่ พบปัญหาจากการเผยแพร่ข้อมูลสว่ นตวั Note วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพ่อื ใหน้ กั เรยี น - มีทกั ษะการทางานรว่ มกันโดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทางานเพื่อใหน้ ักเรียนได้ ส่อื สารและแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ รว่ มกันในการตอบคาถามและการทาใบงาน - มีทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ในการพจิ ารณาข้อมลู ต่าง ๆ วา่ ขอ้ มลู ใดจัดเปน็ ขอ้ มลู ส่วนตัว และเมื่อพบปัญหาจากการเผยแพรข่ ้อมลู สว่ นตัวจะมีวิธกี ารขอความช่วยเหลอื ไดอ้ ย่างไร - มที กั ษะการสารวจ โดยการเปิดโอกาสให้นกั เรียนได้สารวจส่ิงตา่ ง ๆ รอบตวั และบอกได้ว่าสิ่งใด คือ ข้อมลู ส่วนตวั และในชวี ติ ประจาวนั มีการใชข้ ้อมูลสว่ นตวั ในด้านใดบา้ ง ข้ันสรปุ ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 15. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และจากการนาเสนองานหน้าช้นั เรยี น 16. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลการทากจิ กรรมฝึกทักษะและการทาใบงาน 17. นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปเกย่ี วกับ เรอ่ื ง ข้อมลู ส่วนตวั และการขอความชว่ ยเหลือเมื่อพบปัญหา จากการเผยแพรข่ ้อมลู สว่ นตวั ใหน้ กั เรยี นเข้าใจถึงความสาคัญของข้อมลู ส่วนตวั ของแตล่ ะบุคคล และหาทางป้องกันไม่ใหเ้ กดิ การเผยแพร่ข้อมลู สว่ นตวั ให้ผู้อื่นทราบ

7. กำรวัดและประเมินผล วธิ วี ดั เคร่ืองมอื เกณฑก์ ำรประเมนิ รำยกำรวดั 7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมินตามสภาพจริง - แบบทดสอบก่อนเรยี น ก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 - ใบงานท่ี 4.1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ เร่ือง การใชเ้ ทคโนโลยี - ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 สารสนเทศอยา่ ง ปลอดภยั 7.2 การประเมนิ ระหว่างการ จดั กจิ กรรม 1) มารู้จกั ข้อมลู ส่วนตวั 2) ข้อมูลส่วนตัวของเรา - ตรวจใบงานท่ี 4.1.2 - ใบงานท่ี 4.1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ 4) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 รายบุคคล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 5) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2 กล่มุ การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ 6) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี ินัย - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 อนั พงึ ประสงค์ ความรับผิดชอบ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมน่ั อนั พึงประสงค์ ในการทางาน 8. สอ่ื /แหล่งกำรเรียนรู้ 8.1 ส่ือกำรเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่ือง การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั 2) ใบงานที่ 4.1.1 เร่ือง มารูจ้ กั ข้อมูลสว่ นตัว 3) ใบงานที่ 4.1.2 เร่ือง ข้อมูลส่วนตัวของเรา 8.2 แหลง่ กำรเรียนรู้ - อินเทอรเ์ นต็

ใบงำนท่ี 4.1.1 เร่อื ง มำรูจ้ ักข้อมลู ส่วนตัว คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นสงั เกตภำพดังต่อไปนีแ้ ละจับคู่กบั ข้อควำมด้ำนลำ่ งให้ถูกต้อง ภำพที่ 1 ภำพที่ 2 ภำพที่ 3 ภำพที่ 4 ภำพที่ 5 ภำพท่ี 6 1. รหัสเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ภำพที่ 2. รปู ถำ่ ยสว่ นตวั ภำพที่ 3. ทะเบียนบำ้ น/ ทอ่ี ยู่ ภำพที่ 4. หมำยเลขโทรศพั ท์ ภำพที่ 5. สมดุ บัญชเี งินฝำก ภำพที่ 6. บัตรประจำตัวประชำชน ภำพท่ี

ใบงำนท่ี 4.1.1 เฉลย เรอ่ื ง มำรจู้ ักขอ้ มูลส่วนตัว คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนสังเกตภำพดังต่อไปนแี้ ละจับคู่กบั ข้อควำมด้ำนลำ่ งให้ถกู ต้อง ภำพที่ 1 ภำพที่ 2 ภำพท่ี 3 ภำพท่ี 4 ภำพที่ 5 ภำพที่ 6 1. รหสั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ ภำพท่ี 2 2. รปู ถำ่ ยส่วนตวั ภำพท่ี 3 3. ทะเบยี นบำ้ น/ ทีอ่ ยู่ ภำพท่ี 4 4. หมำยเลขโทรศัพท์ ภำพที่ 5 5. สมุดบัญชเี งินฝำก ภำพท่ี 6 6. บตั รประจำตวั ประชำชน ภำพที่ 1

ใบงำนที่ 4.1.2 เรื่อง ข้อมูลสว่ นตัวของเรำ คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนพิจำรณำภำพดังตอ่ ไปนี้ โดยถำ้ รปู ใดเปน็ ข้อมูลส่วนตวั ให้ใสเ่ คร่อื งหมำยถูก √ ลงใน และถำ้ รปู ใดไม่ใช่ข้อมลู ส่วนตัวใหใ้ ส่เครื่องหมำยผิด X ลงใน

ใบงำนที่ 4.1.2 เฉลย เรอื่ ง ขอ้ มูลสว่ นตัวของเรำ คำชี้แจง : ให้นักเรยี นพจิ ำรณำภำพดงั ตอ่ ไปนี้ โดยถำ้ รปู ใดเปน็ ข้อมลู ส่วนตวั ให้ใสเ่ ครือ่ งหมำยถกู √ ลงใน และถำ้ รปู ใดไมใ่ ชข่ ้อมูลสว่ นตวั ใหใ้ ส่เครือ่ งหมำยผดิ X ลงใน √X √√ √X X√

9. ควำมเหน็ ของผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำหรือผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมำย ) ....... ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ( ตำแหนง่ 10. บนั ทึกผลหลงั กำรสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคานวณ)  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข

แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 2 อนั ตรำยจำกกำรเผยแพรข่ อ้ มูลส่วนตวั เวลำ 1 ชว่ั โมง 1. มำตรฐำน/ตัวช้ีวดั 1.1 ตวั ชี้วดั ว 4.2 ป.2/4 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลงในการใชค้ อมพิวเตอร์ ร่วมกัน ดูแลรักษาอปุ กรณเ์ บื้องตน้ ใชง้ านอย่างเหมาะสม 2. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 1. บอกถงึ อนั ตรายจากการเผยแพร่ข้อมลู ส่วนตวั ได้ (K) 2. อธบิ ายวิธีการใช้อินเทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภัยได้ (K) 3. เขยี นแนวทางการปฏบิ ตั เิ ม่ือพบอนั ตรายจากการเผยแพร่ข้อมูล (P) 4. เห็นความสาคญั ของอนั ตรายจากการเผยแพรข่ ้อมูลสว่ นตวั (A) 3. สำระกำรเรียนรู้ สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง สำระกำรเรยี นร้ทู ้องถิ่น การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เช่น รจู้ ัก พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา ขอ้ มูลส่วนตวั อันตรายจากการเผยแพรข่ ้อมูลส่วนตวั และไมบ่ อกข้อมลู สว่ นตัวกบั บุคคลอืน่ ยกเว้นผู้ปกครอง หรอื ครู แจง้ ผู้เก่ยี วข้องเมื่อต้องการความช่วยเหลอื เก่ียวกับการใชง้ าน 4. สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด การใชง้ านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ใชง้ านจาเปน็ ตอ้ งใชข้ ้อมลู สว่ นตัวในการยนื ยนั ตัวตนเพ่ือเขา้ ใชง้ าน ดงั นน้ั จึงต้องมีการใส่รหัสผ่านเพ่อื ป้องกันผูท้ ีไ่ มห่ วงั ดแี อบอ้างนาข้อมูลสว่ นตัวไปใช้โดยไม่ไดร้ ับอนุญาต นอกจากนน้ั ถา้ มีความจาเป็นต้องใชง้ านอินเทอร์เนต็ ผู้ใช้จะตอ้ งรู้วิธีการใชอ้ ินเทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภยั เพื่อไม่ให้เกิดความเสยี หาย

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ 2. ใฝเ่ รียนรู้ - ทกั ษะการส่ือสาร 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน - ทกั ษะการแลกเปลยี่ นข้อมูล 2. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ทักษะการสงั เกต - ทกั ษะการประยุกต์ความรู้มาใชใ้ นการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - ทักษะการทางานร่วมกนั 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. กิจกรรมกำรเรยี นรู้  วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชว่ั โมงท่ี 1 ขน้ั นา ขน้ั ท่ี 1 กระตุ้นควำมสนใจ (Engagement) 1. ครถู ามคาถามเพ่ือทบทวนความร้ขู องนักเรียนวา่ “ถา้ ข้อมลู ส่วนตัวถูกเผยแพร่โดยไม่ได้ รบั อนญุ าต จะสง่ ผลอย่างไร” (แนวตอบ : คาตอบขึน้ อยู่กบั ประสบการณ์ของนกั เรียน โดยพจิ ารณาจากดลุ ยพินิจ ของครผู ู้สอน เชน่ ผู้ทีไ่ มห่ วังดนี าข้อมูลไปใชใ้ นทางทผ่ี ิด นาเลขบัตรประชาชนไปสวมรอย ทาใหเ้ กดิ อนั ตรายในการใชช้ วี ิตประจาวนั ) 2. ครูถามคาถามเพื่อกระต้นุ ความสนใจของนกั เรยี นว่า“นักเรียนมวี ธิ กี ารปอ้ งกนั ข้อมลู ส่วนตวั ของตนเองอยา่ งไร” (แนวตอบ : คาตอบของนกั เรียนขนึ้ อยู่กับดุลยพนิ จิ ของครูผูส้ อน เชน่ ไม่บอกรหัสผา่ นการเขา้ สู่ เวบ็ ไซต์ของตนเองให้ผู้อ่นื รับรู้ ไม่ใหข้ ้อมูลส่วนตวั กบั บุคคลแปลกหน้า เป็นตน้ )

ข้นั สอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหำ (Exploration) 3. ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 2-3 คน จากน้ันร่วมกันวิเคราะหว์ า่ “ในปัจจุบนั นักเรยี นนิยม ใชง้ านอนิ เตอร์เนต็ ในด้านใดบ้าง เชน่ เลน่ เกม สอ่ื สารออนไลนผ์ า่ นเฟซบุก๊ หรอื ดคู ลิปวิดโี อ จาก YouTube โดยเปิดโอกาสให้นักเรยี นไดแ้ ลกเปลยี่ นข้อมลู รว่ มกันภายในกลุ่ม จากนั้น ให้นักเรียนแต่ละกล่มุ ออกมาอภปิ รายหน้าชน้ั เรียน ขน้ั ที่ 3 อธิบำยควำมรู้ (Explanation) 4. นักเรียนศกึ ษา เร่ือง อันตรายจากการเผยแพรข่ ้อมลู ส่วนตวั จากสถานการณต์ ัวอย่าง ทั้ง 2 สถานการณใ์ นหนังสือเรียน รำยวชิ ำพนื้ ฐำน เทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) ป.2 หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ 4 กำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศอยำ่ งปลอดภยั และพิจารณาร่วมกัน เกย่ี วกับแนวทางการปฏบิ ตั ิเม่ือพบอันตรายจากการเผยแพร่ข้อมูล 5. ครูสมุ่ นกั เรียนออกมาอภิปรายหนา้ ชัน้ เรียนเกีย่ วกับอันตรายทเ่ี กิดขน้ึ จากสถานการณ์และ แนวทางการปฏิบัติเม่อื พบอนั ตรายจากการเผยแพร่ข้อมลู (แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามการระดมความคิดเห็นร่วมกันภายในกลมุ่ โดยข้ึนอยู่กบั ดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน) 6. ครอู ธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับอันตรายจากการเผยแพรข่ ้อมูลส่วนตวั ว่า“ในปจั จุบนั คนนิยมใช้ เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์ค่อนข้างมาก ซึ่งเครือขา่ ยสงั คมออนไลน์น้ีทาให้เกดิ อันตรายจาก การเผยแพร่ข้อมลู ส่วนตัว เนอ่ื งจากผใู้ ช้งานจะต้องกรอกข้อมลู สว่ นตวั บางอย่างก่อนการใชง้ าน ซึ่งการทีผ่ ู้ใชเ้ ผยแพร่ข้อมลู สว่ นตัว ทาให้ขอ้ มลู สว่ นตัวเกดิ ความเส่ียงทจี่ ะโดนแอบอ้างหรือ ขโมยความเป็นส่วนตวั ดงั นัน้ จงึ ตอ้ งป้องกนั ไมใ่ ห้เกิดอันตรายจากการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว” 7. ครอู ธิบายเกรด็ น่ารูก้ บั นักเรียนว่า“การสง่ ต่อข้อมลู ส่วนตัวของผู้อืน่ โดยไม่ได้รับอนญุ าต ไปยงั คนอื่น ถือเปน็ การละเมิดสิทธิส่วนบคุ คล ตอ้ งได้รบั โทษทางกฎหมาย” ขนั้ ที่ 4 ขยำยควำมเขำ้ ใจ (Elaboration) 8. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มศึกษาเนื้อหาจากใบควำมรู้ เร่ือง กำรใชอ้ ินเทอร์เนต็ อยำ่ งปลอดภัย หรืออนิ เทอร์เนต็ และลงมือทาใบงำนท่ี 4.2.1 เรอื่ ง อนั ตรำยจำกกำรถกู เผยแพร่ข้อมลู สว่ นตัว เพ่ือขยายความเขา้ ใจ 9. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ได้แลกเปลย่ี นประสบการณ์ร่วมกันเกย่ี วกับอันตรายที่พบ จากการเผยแพรข่ ้อมลู

10. นักเรียนแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอผลงานจากการทาใบงานท่ี 4.2.1 หนา้ ชัน้ เรียน โดยครคู อยชแ้ี นะความถูกต้องตามความเหมาะสม 11. นกั เรียนทากจิ กรรมฝกึ ทักษะในหนังสอื เรียน โดยรว่ มกนั วิเคราะห์สถานการณ์ และตอบคาถาม ให้ถูกต้องจากนั้นนามาส่งในชัว่ โมงถัดไป Note วตั ถุประสงค์ของกิจกรรมเพื่อใหน้ ักเรียน - มีทกั ษะการทางานร่วมกนั โดยใช้กระบวนวการกล่มุ ในการทากจิ กรรม เพื่อสอ่ื สาร และแลกเปล่ยี นข้อมลู รว่ มกันเกยี่ วกบั อนั ตรายที่พบจากการเผยแพรข่ ้อมลู - มีทักษะการสงั เกตสถานการณ์ตวั อยา่ งตัวอยา่ งในหนงั สือเรยี น โดยใช้ทกั ษะ การคดิ วิเคราะห์ในการพจิ ารณาสถานการณ์และอันตรายที่เกิดขึ้น พรอ้ มแนวทางการแกไ้ ข เมอ่ื พบอนั ตรายจากการเผยแพร่ข้อมลู ส่วนตัว - มีทักษะการประยกุ ตค์ วามรู้มาใช้ในการแกป้ ัญหา โดยการหาแนวทางการแก้ปัญหา เม่ือพบอันตรายจากการเผยแพรข่ ้อมลู ส่วนตัวตามประสบการณข์ องนกั เรยี นแต่ละบคุ คล ขั้นสรปุ ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 12. ครปู ระเมินผลนกั เรยี นโดยการสังเกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และการนาเสนองาน หน้าช้นั เรยี น 13. ครตู รวจสอบความถูกต้องจากการทากิจกรรมฝกึ ทักษะในหนงั สอื เรียน 14. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปถงึ การใชง้ านอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยอันตรายจากการเผยแพร่ ขอ้ มูลสว่ นตวั การปอ้ งกันและการแกไ้ ขดว้ ยเหตุผลเชงิ ตรรกะอย่างเปน็ ระบบ

7. กำรวัดและประเมินผล รำยกำรวัด วิธีวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ำรประเมนิ 7.1 การประเมินระหวา่ ง - ใบงานที่ 4.2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ การจดั กิจกรรม 1) อนั ตรายจากการ - ตรวจใบงานท่ี 4.2.1 ระดับคุณภาพ 2 เผยแพรข่ ้อมูล ผา่ นเกณฑ์ สว่ นตวั ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 2) การนาเสนอ - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมิน ผลงาน ผลงาน การนาเสนอผลงาน 3) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล 4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ทางานกลมุ่ การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ 5) คุณลกั ษณะอนั - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 พงึ ประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์ ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มน่ั อนั พงึ ประสงค์ ในการทางาน 8. สื่อ/แหล่งกำรเรยี นรู้ 8.1 ส่อื กำรเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.2 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรือ่ ง การใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั 2) ใบความรู้ เร่อื ง การใชอ้ ินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั 3) ใบงานที่ 4.2.1 อันตรายจากการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว 8.2 แหล่งกำรเรียนรู้ - อินเทอรเ์ นต็

ใบควำมรู้ เร่ือง กำรใชอ้ ินเทอร์เน็ตอยำ่ งปลอดภยั การใช้อินเทอร์เนต็ เป็นเทคโนโลยที ไี่ ดร้ ับความนยิ มอย่างมาก เพื่อแสวงหาความรู้ ความบันเทงิ เช่น การ เล่นเกม ส่ือสารออนไลนผ์ ่านเฟซบุ๊กหรือดคู ลิปวิดีโอจากYouTube โดยการใชง้ านอินเทอร์เนต็ อาจมี ภยั อนั ตรายทแ่ี อบแฝงเขา้ มา เช่น ภัยจากการเล่นเกมออนไลน์ ซึง่ การเล่นเกมออนไลน์เปรยี บเสมือนกับ ยาเสพตดิ ชนดิ หน่ึง เพราะเมื่อตดิ เกมออนไลน์แล้วทาใหไ้ ม่อยากหยุดเล่น อยากทาคะแนนเยอะ ๆ อยากชนะ ใหไ้ ดเ้ ล่นในด่านต่อไปท่ีสงู ขนึ้ ปัจจุบนั เกมออนไลน์มีอยู่มากมาย บางเกมมีการซอ้ื -ขายของทีอ่ ยู่ภายในเกม หรือมีการโฆษณาที่แอบแฝงมาภายในเกม ให้เขา้ ไปยังเวบ็ ไซต์ทไี่ ม่เหมาะสม และผเู้ ลน่ อาจตกเป็นเหยอื่ หรือโดนหลอกใหซ้ ้ือ-ขายของทีอ่ ยู่ภายในเกม โดยการหลอกถามขอ้ มูลส่วนตัว เช่น ช่อื -นามสกุล ท่อี ยู่ บตั รประจาตัวประชาชน รหัสบัตรเงินสด หรอื บัตรเครดิตของผ้ปู กครอง ดงั นั้นเพื่อการใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต อยา่ งปลอดภัยควรทาดงั น้ี 1. ไม่ใหข้ ้อมลู ส่วนตวั กับบุคคลอ่ืนก่อนได้รบั อนุญาตจากผ้ปู กครอง เชน่ ทีอ่ ยู่ เบอร์โทรศัพท์ เลขบตั รประจาตวประชาชน เป็นตน้ 2. ไมส่ ง่ รายละเอียดของบัตรเงินสด บตั รเครดิต บัญชีธนาคาร หรือข้อมูลอนื่ ๆ โดยไม่ไดร้ ับอนญุ ำต จำกผู้ปกครอง 3. ปอ้ งกนั รหสั ผา่ น (Password) ในการเขา้ ใช้งานอินเทอร์เนต็ 4. ไมส่ นทนาหรือตดิ ต่อสื่อสารกับบุคคลท่ีพูดหรอื เขยี นในสง่ิ ท่ีทาให้ตนเองรู้สกึ กังวลหรอื ไม่สบายใจ และแจ้งให้ผู้ปกครองรับทรำบถงึ เหตุกำรณเ์ หล่ำน้นั เสมอ 5. แจง้ ผูป้ กครองหรือบุคคลทีเ่ ชื่อถอื ได้ หากเจอภาษาท่ีไม่สภุ าพหรอื ภาพทไี่ ม่เหมาะสมขณะใช้งาน อนิ เทอร์เน็ต 6. ระมัดระวังข้อควำมทไี่ มร่ ู้จกั หรือมีลกั ษณะทีแ่ ตกต่ำงไปจำกเดมิ เพรำะอำจไดร้ ับไวรัส คอมพิวเตอร์จำกกำรใช้งำนอนิ เทอร์เน็ต

ใบงำนที่ 4.2.1 เรือ่ ง อนั ตรำยจำกกำรเผยแพร่ขอ้ มลู ส่วนตวั คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถำมดังต่อไปนใี้ ห้ถูกต้อง 1. นกั เรยี นเคยพบปญั หาการถกู เผยแพรข่ ้อมูลส่วนตวั หรอื ไม่ ถา้ นักเรยี นเคยพบ ปญั หาดังกล่าวมีลักษณะเป็นอย่างไร คุณ............. คอื ผโู้ ชคด!ี คุณคอื ผู้โชคดีได้รบั รำงวลั 100,000 บำท เพยี งคณุ กรอกเลขบัญชีธนำคำรลงในช่องวำ่ ง X-XXX-XXXXX-X 2. ขณะทนี่ ักเรียนกาลังเล่นเกมออนไลน์ ปรากฎวา่ มีข้อความดังน้ีเดง้ ขึ้นมา ดังนนั้ 2.1 ส่งิ ท่ีนกั เรยี นควรทาคอื 1. 2. 3. 2.2 สิง่ ทีน่ กั เรยี นไมค่ วรทาคอื 1. 2. 3. 3. สมศรีถูกเพ่ือนร่วมช้นั นาข้อมูลส่วนตัวไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต และเขียนข้อความหยาบคายจงึ ทาให้ สมศรเี สยี ชื่อเสียงและมีคนอน่ื เขา้ ใจผิด จากสถานการณด์ ังกลา่ วสิง่ ท่ีสมศรคี วรทาคือ

ใบงำนที่ 4.2.1 เฉลย เรอื่ ง อนั ตรำยจำกกำรเผยแพรข่ ้อมลู สว่ นตัว คำช้แี จง : ให้นักเรยี นตอบคำถำมดงั ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง เคย/ไม่เคย 1. นกั เรียนเคยพบปญั หาการถกู เผยแพร่ข้อมลู สว่ นตวั หรือไม่ ถ้านักเรยี นเคยพบ ปัญหาดังกล่าวมลี ักษณะเปน็ อย่างไร พจิ ารณาจากคาตอบของนักเรียน คุณ............. คอื ผโู้ ชคด!ี คณุ คือผโู้ ชคดีไดร้ ับรำงวลั 100,000 บำท เพียงคุณกรอกเลขบญั ชธี นำคำรลงในช่องวำ่ ง X-XXX-XXXXX-X 2. ขณะทนี่ กั เรียนกาลงั เล่นเกมออนไลน์ ปรากฎวา่ มีขอ้ ความดังนี้เดง้ ขึ้นมา ดังนัน้ 2.1 สิง่ ทนี่ ักเรยี นควรทาคอื 1. ไมส่ ่งเลขบญั ชธี นาคารลงไปโดยเดด็ ขาด 2. รบี แจง้ พ่อแม่ ผปู้ กครอง หรือบคุ คลที่นักเรยี นไวว้ างใจ 3. บันทกึ ภาพไว้เป็นหลักฐาน 2.2 สิ่งที่นักเรยี นไมค่ วรทาคือ 1. กรอกเลขบัญชลี งในชอ่ งว่างเพราะคาดหวังจะได้รับรางวัล 2. แนะนาเพ่ือน ๆ หรอื คนรูจ้ ักเขา้ ไปกรอกเลขบัญชธี นาคาร 3. ส่งต่อไปยงั บุคคลอืน่ ๆ ให้ร่วมทากิจกรรม 3. สมศรีถกู เพ่ือนรว่ มชน้ั นาข้อมูลสว่ นตวั ไปเผยแพร่ทางอนิ เทอร์เนต็ และเขียนข้อความหยาบคายจึงทาให้ สมศรเี สียชือ่ เสียงและมคี นอื่นเขา้ ใจผดิ จากสถานการณด์ ังกลา่ วสิง่ ทสี่ มศรีควรทาคือ แจ้งใหผ้ ูป้ กครองรับทราบ และดาเนนิ การตามปฎหมายโดยแจง้ ความต่อเจ้าหนา้ ท่ตี ารวจ และ นาหลกั ฐานแจง้ ไปยังผู้ดูแลเว็บไซต์เพื่อระงบั การเผยแพร่ข้อมลู ดังกลา่ ว

9. ควำมเหน็ ของผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำหรือผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมำย ) ....... ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ( ตำแหนง่ 10. บนั ทึกผลหลงั กำรสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคานวณ)  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข

แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ 3 ขอ้ ควรปฏบิ ตั ิในกำรใชง้ ำนอปุ กรณ์เทคโนโลยี เวลำ 1 ช่วั โมง 1. มำตรฐำน/ตัวช้ีวดั 1.1 ตวั ชี้วัด ว 4.2 ป.2/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการใชค้ อมพวิ เตอร์ รว่ มกนั ดแู ลรกั ษาอปุ กรณเ์ บื้องตน้ ใชง้ านอย่างเหมาะสม 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. อธบิ ายขอ้ ควรปฏิบัตใิ นการใช้งานอุปกรณเ์ ทคโนโลยีได้ (K) 2. ปฏิบตั ติ ามข้อควรปฏิบตั ิในการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (P) 3. เหน็ ประโยชน์ของการปฏิบัติตนตามข้อควรปฏบิ ตั ิในการใชง้ านอปุ กรณ์เทคโนโลยี (A) 3. สำระกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรยี นรทู้ ้องถ่นิ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง ข้อปฏิบตั ใิ นการใช้งานและการดแู ลรักษาอุปกรณ์ เชน่ ไมข่ ดี เขียนบนอปุ กรณ์ ทาความสะอาด ใช้ อุปกรณ์อย่างถูกวิธี 4. สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด อปุ กรณ์เทคโนโลยี เป็นอุปกรณ์ที่นามาใช้ในการทางานดา้ นตา่ ง ๆ ดงั น้ัน ผู้ใช้ควรเรยี นรู้เกย่ี วกบั ขอ้ ควรปฏิบัติ วธิ กี ารดูแลรกั ษา และการใชง้ านอุปกรณเ์ ทคโนโลยีให้ถกู วธิ ี เพื่อยืดอายกุ ารใชง้ านอุปกรณ์ เทคโนโลยีตา่ ง ๆ ได้นานขึ้น

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ - ทักษะการสื่อสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้ - ทกั ษะการแลกเปลีย่ นข้อมลู 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 2. ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ทกั ษะการแสวงหาความรู้ 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - ทกั ษะการทางานร่วมกัน 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. กิจกรรมกำรเรยี นรู้  วธิ ีการสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่วั โมงที่ 1 ขนั้ นำ ข้นั ที่ 1 กระต้นุ ควำมสนใจ (Engagement) 1. ครถู ามคาถามเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียนวา่ “ถ้านักเรียนตอ้ งการใหเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์ มีอายุการใช้งานทีย่ าวนาน นักเรียนจะมวี ิธีการอยา่ งไรบ้าง” (แนวตอบ : คาตอบขน้ึ อยู่กบั ประสบการณ์ของนักเรยี น โดยพิจารณาตามดลุ ยพินิจ ของครูผสู้ อน) 2. ครอู ธบิ ายกบั นักเรียนวา่ “เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ถอื วา่ เปน็ อปุ กรณ์เทคโนโลยที ่พี ัฒนาขึ้นเพื่อช่วย ในการรบั -สง่ ข้อมลู ประมวลผลขอ้ มลู ทาให้มนุษย์สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมี โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถอื วทิ ยุ แทบ็ เลต็ และกล้องดิจิทัล เป็นต้น ดังนั้น จงึ ควรศึกษาข้อควรปฏบิ ัติ การดแู ลรักษา และการใชง้ านอุปกรณเ์ ทคโนโลยอี ยา่ งถูกต้อง และเหมาะสม” 3. จากน้นั ครูถามคาถามประจาหัวขอ้ กับนักเรียนว่า“การใช้งานอปุ กรณเ์ ทคโนโลยอี ยา่ งถกู วิธี มขี อ้ ดีอยา่ งไร” (แนวตอบ : ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณเ์ ทคโนโลย)ี

ขน้ั สอน ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หำ (Exploration) 4. ครใู ห้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 2-3 คนเพ่อื ศึกษาเกยี่ วกับข้อควรปฏิบตั แิ ละการดูแลรักษา อปุ กรณ์เทคโนโลยีในหนงั สือเรียนรำยวิชำพืน้ ฐำน เทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) ป.2 หน่วยกำรเรยี นร้ทู ี่ 4 กำรใช้เทคโนโลยีสำรสนเทศอยำ่ งปลอดภยั หรอื อินเทอร์เน็ต ขัน้ ที่ 3 อธิบำยควำมรู้ (Explanation) 5. ครสู ุ่มนกั เรียนออกมาอภิปรายความรหู้ น้าช้นั เรียนเกย่ี วกับข้อควรปฏบิ ตั แิ ละการดูแลรักษา อุปกรณ์เทคโนโลยี (แนวตอบ : ปดิ โปรแกรมทุกครัง้ หลงั ไมใ่ ชง้ าน ก่อนการใชง้ านควรศึกษาค่มู ือการใชง้ าน ให้เข้าใจ ดาวน์โหลดข้อมลู จากแหลง่ ข้อมลู ท่ีน่าเช่ือถือ ไม่นาอาหารและเครื่องดมื่ มา รับประทานขณะใชง้ าน เปดิ ใชง้ านซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย และไมเ่ ปิด-ปดิ เคร่อื ง คอมพวิ เตอรบ์ ่อยเกนิ ความจาเปน็ ) 6. ครอู ธิบายเพิ่มเติมเกย่ี วกบั ขอ้ ควรปฏบิ ตั ใิ นการใชง้ านอุปกรณ์เทคโนโลยีว่า“นอกจากข้อปฏบิ ตั ิ ในการใชอ้ ปุ กรณ์เทคโนโลยีทีม่ ีอยใู่ นหนังสือเรยี นแลว้ ยังมีส่ิงสาคัญอีกประการหนงึ่ ท่ีควร ปฏบิ ตั คิ อื ไมค่ วรใชอ้ ุปกรณเ์ ทคโนโลยที ่ีชารุดเสียหายหรือไม่ไดม้ าตรฐาน เพราะอาจก่อใหเ้ กดิ อันตรายแก่ผูใ้ ช้ได้เช่นกัน” 7. ครอู ธิบายเกร็ดน่ารู้ให้นกั เรยี นไดเ้ ขา้ ใจวา่ “การเปดิ -ปิดเคร่ืองคอมพวิ เตอร์บ่อย ๆ สง่ ผลให้เกดิ การสิน้ เปลืองพลงั งานไฟฟา้ เนื่องจากในการเปิดเครือ่ งคอมพวิ เตอร์แตล่ ะครงั้ จาเปน็ ตอ้ งใช้ พลังงานไฟฟา้ มาก” ขน้ั ที่ 4 ขยำยควำมเขำ้ ใจ (Elaboration) 8. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ลงมือทาใบงำนท่ี 4.3.1 เร่ือง กำรใชง้ ำนอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี และกิจกรรม ฝกึ ทักษะเพอ่ื ขยายความเขา้ ใจของนักเรยี น จากนั้นให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาอภปิ ราย หน้าชน้ั เรยี น 9. ครสู ่มุ ถามนักเรยี น 2-3 คนร่วมกันตอบคาถามว่า“หากนกั เรยี นไม่ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ควรปฏิบัติ ในการใชง้ านอุปกรณ์เทคโนโลยีแลว้ จะเกิดผลกระทบอยา่ งไรบ้าง” (แนวตอบ : อุปกรณเ์ ทคโนโลยเี กิดความเสยี หายและมีอายุการใช้งานท่สี ัน้ ลง) Note วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพอื่ ใหน้ กั เรยี น - มีทักษะการทางานรว่ มกันโดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการทากิจกรรมเพ่ือให้นักเรียน ได้สื่อสารและแลกเปลยี่ นขอ้ มูลร่วมกันภายในกลมุ่ - มีทกั ษะการแสวงหาความรใู้ นการศกึ ษาข้อควรปฏิบัติและการดูแลรกั ษาอุปกรณ์ เทคโนโลยีจากหนังสอื เรียนและอนิ เทอรเ์ นต็ - มีทกั ษะการคดิ อย่างมีวิจารณญาณในการพิจารณาข้อควรปฏบิ ัติในการใช้งาน อปุ กรณ์เทคโนโลยี

ขน้ั สรุป ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 10. ครปู ระเมินผลนักเรียนโดยการสงั เกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และจากการนาเสนองาน หนา้ ชัน้ เรียน 11. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรุปเก่ยี วกบั ข้อควรปฏิบัตแิ ละการดูแลรักษาอุปกรณเ์ ทคโนโลยี ท่ถี ูกต้องและผลกระทบจากการไมป่ ฏบิ ตั ติ ามข้อปฏิบตั ิ 7. กำรวัดและประเมินผล วธิ ีวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์กำรประเมิน รำยกำรวดั - ใบงานที่ 4.3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 7.1 การประเมนิ ระหว่างการจดั - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ กจิ กรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 1) การใช้งานอปุ กรณ์ - ตรวจใบงานท่ี 4.3.1 - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 เทคโนโลยี การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 2) การนาเสนอผลงาน - ประเมินการนาเสนอ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์ อนั พึงประสงค์ ผลงาน 3) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม รายบุคคล การทางานรายบุคคล 4) พฤตกิ รรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม กลุ่ม การทางานกลุ่ม - สงั เกตความมวี ินยั 5) คณุ ลักษณะ ความรบั ผิดชอบ อันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่น ในการทางาน 8. ส่ือ/แหลง่ กำรเรียนรู้ 8.1 ส่อื กำรเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.2 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย 2) ใบงานที่ 4.3.1 เร่อื ง การใช้งานอปุ กรณ์เทคโนโลยี 8.2 แหล่งกำรเรียนรู้ - อนิ เทอร์เนต็

ใบงำนที่ 4.3.1 เรอ่ื ง กำรใชง้ ำนอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี คำช้ีแจง : ให้นักเรียนเขยี นข้อควรปฏิบตั ิในการใชง้ านอุปกรณ์เทคโนโลยดี งั ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง จอภำพ (Monitor) แปน้ พมิ พ์ เมำส์ (Mouse) (Keyboard) เมำส์(Mouse) แป้นพมิ พ(์ Keyboard) จอภำพ(Monitor)

ใบงำนที่ 4.3.1 เฉลย เรื่อง กำรใช้งำนอปุ กรณ์เทคโนโลยี คำชี้แจง : ให้นกั เรียนเขยี นข้อควรปฏบิ ัติในการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยดี ังต่อไปนีใ้ หถ้ ูกต้อง จอภำพ (Monitor) แปน้ พมิ พ์ เมำส์ (Mouse) (Keyboard) จอภำพ(Monitor) เมำส์(Mouse) แป้นพมิ พ(์ Keyboard) - ควรใช้งานขณะมแี สงสวา่ ง - ใชแ้ ผน่ รองเมาส์ทุกครงั้ - ไมค่ วรนาขวดนา้ มาวางไว้ใกล้ ๆ ทเ่ี พยี งพอ เพื่อป้องกนั กันสิ่งสกปรกเขา้ ไป แปน้ พิมพ์ เพราะจะทาใหน้ ้า - ไมค่ วรจ้องหนา้ จอเปน็ เวลานาน ภายในเมาส์ หกใส่ ส่งผลให้อปุ กรณ์ เพราะจะสง่ ผลเสียต่อสายตา - ทาความสะอาดเมาสโ์ ดยเช็ด เกดิ ความเสยี หาย - ทาความสะอาดโดยการใชผ้ ้าชบุ ด้วยผา้ แหง้ อยา่ งสม่าเสมอ - ควรปดั ฝุ่นและทาความสะอาด นา้ บิดให้แหง้ เพอ่ื ลดการสะสมของเชอื้ โรค แป้นพิมพ์อยา่ งเป็นประจา - ใช้ผ้าคลมุ หน้าจอหลังการใช้งาน - ไมค่ วรนาเมาส์กระแทกกบั พน้ื - ควรใช้ผ้าคลุมทกุ ครง้ั หลัง เพ่อื ป้องกนั ฝุน่ ละออง การใช้งานเพ่ือปอ้ งกันฝุ่นละออง - ไม่ควรเปิดจอภาพทิ้งไว้นาน ๆ โดยที่ไม่มกี ารใชง้ าน จะสง่ ผลให้ จอภาพเสอ่ื มลง

9. ควำมเหน็ ของผบู้ ริหำรสถำนศกึ ษำหรือผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมำย ) ....... ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ( ตำแหนง่ 10. บนั ทึกผลหลงั กำรสอน  ดา้ นความรู้  ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น  ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  ด้านความสามารถทางเทคโนยี (วทิ ยาการคานวณ)  ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))  ปัญหา/อุปสรรค  แนวทางการแกไ้ ข

แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 4 กำรดูแลรกั ษำอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี เวลำ 1 ชว่ั โมง 1. มำตรฐำน/ตวั ชีว้ ดั 1.1 ตัวช้วี ดั ว 4.2 ป.2/4 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ปฏิบัตติ ามข้อตกลงในการใชค้ อมพิวเตอร์ รว่ มกนั ดูแลรกั ษาอปุ กรณ์เบื้องต้น ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. อธิบายวิธกี ารดแู ลรกั ษาอุปกรณ์เทคโนโลยีไดอ้ ย่างถกู ต้อง (K) 2. ปฏิบตั ติ ามขน้ั ตอนการดูแลอปุ กรณ์เทคโนโลยีได้อย่างถูกตอ้ ง (P) 3. เห็นประโยชนข์ องการดูแลรักษาอุปกรณ์เทคโนโลยี (A) 3. สำระกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรยี นรู้ท้องถิน่ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง ข้อปฏบิ ตั ิในการใช้งานและการดูแลรักษาอุปกรณ์ เชน่ ไมข่ ีดเขยี นบนอปุ กรณ์ ทาความสะอาด ใช้อุปกรณ์อย่างถกู วิธี 4. สำระสำคญั /ควำมคดิ รวบยอด อปุ กรณ์เทคโนโลยี เปน็ อปุ กรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ทมี่ ีความสลบั ซับซอ้ นและมีราคาค่อนข้างสงู จงึ ควร ใช้งานด้วยความระมดั ระวัง นอกจากน้นั อปุ กรณแ์ ต่ละชนิดมคี วามแตกต่างกนั จงึ จาเปน็ ต้องศึกษาเก่ยี วกับ วธิ กี ารดแู ลบารุงรักษาอุปกรณแ์ ตล่ ะชนิดเพื่อการใชง้ านท่ีถูกต้อง และเพื่อยดื อายุการใช้งานของอุปกรณ์ เทคโนโลยี

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียนและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี นิ ยั รบั ผิดชอบ - ทกั ษะการแลกเปลีย่ นข้อมูล 2. ใฝเ่ รยี นรู้ - ทกั ษะการส่ือสาร 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน 2. ความสามารถในการคิด - ทักษะการคิดวิเคราะห์ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ทกั ษะการสงั เกต 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - ทักษะการทางานร่วมกัน 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี - ทกั ษะการสืบค้นข้อมลู 6. กิจกรรมกำรเรียนรู้  วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ช่ัวโมงท่ี 1 ขน้ั นำ ขน้ั ท่ี 1 กระตนุ้ ควำมสนใจ (Engagement) 1. ครูทบทวนเนื้อหาการเรยี นจากชว่ั โมงทีแ่ ล้ว โดยครูเขียนคาวา่ “อุปกรณก์ ารเรยี น” ลงบน กระดานหน้าช้นั เรียน จากนั้นครสู ุม่ ให้นักเรยี นออกมาเขยี นคาตอบภายใต้คาถามวา่ “อปุ กรณ์เทคโนโลยไี ด้แก่อะไรบ้าง” (แนวตอบ : นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของนกั เรยี น โดยข้นึ อย่กู ับดลุ ยพินจิ ของครผู ู้สอน เช่น คอมพวิ เตอร์ โทรศัพท์ วทิ ยุ กล้องดิจิทอล เปน็ ตน้ ) 2. ครถู ามนักเรียนวา่ “นกั เรยี นคิดวา่ การดแู ลรกั ษาอปุ กรณเ์ ทคโนโลยีมคี วามสาคญั อย่างไร” (แนวตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยขน้ึ อยกู่ ับดุลยพินิจของครผู ้สู อน ชว่ ยรกั ษาความสะอาดให้แก่อุปกรณ์ ชว่ ยยดื อายกุ ารใช้งานของอปุ กรณ์ เป็นตน้ )

ข้นั สอน ขัน้ ที่ 2 สำรวจค้นหำ (Exploration) 3. ครนู ารูปภำพอุปกรณเ์ ทคโนโลยีแตล่ ะชนิดให้นักเรยี นดูและถามนักเรียนวา่ “ถ้านักเรยี น ดแู ลรักษาอุปกรณ์เทคโนโลยเี หล่านผ้ี ิดวธิ ีจะทาใหเ้ กดิ ผลอย่างไร” โดยเปิดโอกาสให้นกั เรียน สืบค้นขอ้ มลู จากเครื่องคอมพิวเตอรข์ องตนเอง (แนวตอบ : พจิ ารณาคาตอบของนักเรยี น โดยขนึ้ อยู่กบั ดลุ ยพินิจของครผู สู้ อน เช่น สง่ ผลให้ อปุ กรณ์เสือ่ มสภาพเร็วและมีอายุการใชง้ านท่สี ้ันลง เป็นต้น) 4. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน(กลุ่มเดิม) เพ่ือศึกษาเนอื้ หาเกยี่ วกบั การดูแลรกั ษาอปุ กรณ์ เทคโนโลยีในหนงั สอื เรยี นรำยวิชำพน้ื ฐำน เทคโนโลยี (วิทยำกำรคำนวณ) ป.2 หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 4 กำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศอยำ่ งปลอดภยั ข้นั ที่ 3 อธบิ ำยควำมรู้ (Explanation) 5. ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมาอภิปรายหน้าช้นั เรยี นเกีย่ วกับการดูแลรกั ษาอุปกรณ์เทคโนโลยี 6. ครูอธิบายเพิ่มเติมเก่ยี วกับการดูแลรกั ษาอุปกรณเ์ ทคโนโลยวี า่ “หากมีการดูแลรักษาอุปกรณ์ เทคโนโลยแี ต่ละชนดิ อย่างถูกวิธี จะทาให้อุปกรณเ์ หล่าน้ันไมช่ ารดุ เสียหายง่าย และมีอายุ การใช้งานที่ยาวนานมากข้นึ แตถ่ า้ อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เกิดชารุดหรือเสียหาย ควรนาไปให้ ช่างเฉพาะทางหรือผ้เู ชยี่ วชาญซอ่ มแซมอุปกรณ์ให้” 7. ครูถามคาถามท้าทายการคดิ ขั้นสูงของนักเรยี นวา่ “ในการใช้งานอุปกรณเ์ ทคโนโลยี ถ้านกั เรียน ไมศ่ ึกษาคูม่ ือการใชง้ านและการดูแลรักษากอ่ นการใชง้ านจะส่งผลกระทบอยา่ งไร” (แนวตอบ : ใชอ้ ปุ กรณเ์ ทคโนโลยอี ยา่ งผิดวธิ ี อุปกรณเ์ กิดการชารดุ และเสียหาย เป็นต้น) 8. ครอู ธิบายเกร็ดน่ารู้เพื่อใหน้ ักเรียนเข้าใจมากย่ิงขึ้นวา่ “อปุ กรณ์ทีม่ คี ล่นื แม่เหล็กไฟฟ้า คือ อปุ กรณ์ทใี่ ช้คลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าในการติดต่อสือ่ สาร มักจะอยใู่ นอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนกิ สต์ ่าง ๆ เช่น โทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ี วทิ ยุ โทรทศั น์” ขัน้ ที่ 4 ขยำยควำมเขำ้ ใจ (Elaboration) 9. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ลงมือทาใบงำนที่ 4.4.1 เรือ่ ง กำรดแู ลรักษำอปุ กรณเ์ ทคโนโลยี จากน้นั ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอหน้าชนั้ เรยี น 10. นักเรยี นทากจิ กรรมฝกึ ทักษะเพือ่ ขยายความเขา้ ใจ โดยพิจารณาจากขอ้ ความท่ีกาหนดให้ และ ตอบคาถามให้ถูกต้อง

Note วัตถุประสงค์ของกิจกรรมเพื่อใหน้ กั เรยี น - มีทักษะการสืบค้นข้อมลู โดยใช้ความรู้ ความสามารถจากการใชเ้ ทคโนโลยี แสวงหาความรู้เพ่ือตอบคาถามเก่ียวกับการดแู ลรกั ษาอุปกรณ์เทคโนโลยี - มีทักษะการทางานร่วมกนั โดยใชก้ ระบวนการกลุม่ ในการทางาน เพ่ือการสื่อสาร และการแลกเปลี่ยนข้อมูลขณะทากิจกรรมและการทาใบงาน - มีทักษะการคดิ วิเคราะหจ์ ากการสังเกตแนวทางในการดแู ลรักษาอุปกรณ์ เทคโนโลยจี ากหนงั สือเรยี น ข้ันสรปุ ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 11. ครูประเมินผลนกั เรยี นโดยการสังเกตการตอบคาถาม การทาใบงาน และจากการนาเสนองาน หน้าชัน้ เรยี น 12. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมฝกึ ทักษะและการทาใบงาน 13. นกั เรยี นและครูร่วมกันสรุปเกยี่ วกับวธิ ีการดแู ลรักษาอุปกรณ์เทคโนโลยีแต่ละชนิด ตลอดจน ผลกระทบท่ีอาจเกิดข้ึนหากไม่ดูแลรักษาอปุ กรณ์เทคโนโลยี 7. กำรวดั และประเมินผล วิธีวัด เครื่องมอื เกณฑ์กำรประเมนิ รำยกำรวัด รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 7.1 การประเมนิ ระหว่างการ - ตรวจใบงานท่ี 4.4.1 - ใบงานท่ี 4.4.1 ระดับคุณภาพ 2 จัดกจิ กรรม ผ่านเกณฑ์ 1) การดูแลรักษา - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2 อปุ กรณ์เทคโนโลยี ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คุณภาพ 2 2) การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์ 3) พฤตกิ รรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม รายบุคคล การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล 4) พฤตกิ รรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม กลมุ่ การทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม