ลำดับ เรือ่ ง โครงสร้างหลกั สูตร ท่ี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑ ความรเู้ บือ้ งต้นเกี่ยวกบั การทำขนมไทย 1. เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นบอกชนิดของวัสดุ 1. ความ และอุปกรณ์ท่ใี ชใ้ นการทำขนมไทยได้ ขนมไทย ๒ การทำขนมไทย - การเต - การคดั 1. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นสามารถบอก -การทำ ส่วนผสมของการทำขนมไทย (ขนมช่อ - ส่วนผส ม่วง/สาคูไส้หม)ู ได้ 2. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นสามารถทำขนม ไทย ได้ 3. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นสามารถบรรจุขนม ไทยไดอ้ ย่างเหมาะสมและสวยงาม 3. การบริหารจัดการ 1. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นสามารถคำนวณ 1. การบ - การกำ ตน้ ทนุ และการกำหนดราคาขาย - การหา 2. เพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถแสวงหา - ทำบญั ตลาดในการจำหนา่ ยสินค้าได้ 3. เพื่อให้ผเู้ รยี นสามารถทำบญั ชี จาก การประกอบอาชีพได้
103 รการทำขนมไทย วิธกี ารจดั การเรียนการสอน จำนวนชวั่ โมง เน้อื หา ทฤษฎี ปฏบิ ัติ 1 ชม. 1 ชม. มรู้เบอ้ื งต้นเก่ียวกับการทำ 1. วิทยากรบรรยายเรื่อง ย - การเตรยี มวสั ดแุ ละอุปกรณ์ 1 ชม. 4 ชม. ตรยี มวัสดุและอปุ กรณ์ - การคดั เลอื กวสั ดุ ดเลือกวัสดุ ำขนมไทยจำนวน 2 ชนดิ 1. วิทยากรบรรยายและสาธติ สมของขนมไทย 2 ชนิด ข้นั ตอนการทำขนมไทยจำนวน 2 ชนดิ - ส่วนผสมของขนมไทย 2 ชนิด -ข้นั ตอนการทำขนมไทย - การบรรจขุ นมไทย 2.ให้ผ้เู รียนฝึกปฏิบัติการทำขนม ไทย จำนวน 2 ชนดิ บริหารจัดการ 1. วิทยากรบรรยายในหวั ข้อ 1 ชม. 2 ชม. ำหนดราคาขาย าตลาดเพ่ือจำหน่ายสินค้า - การคำนวนต้นทนุ และกำหนด ญชีจากการประกอบอาชพี ราคาขาย - การ หาตลาดเพ่อื จำหนา่ ยสนิ คา้ - ทำบัญชีจากการประกอบ
ลำดบั เรื่อง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เน้อื ท่ี
104 อหา วิธกี ารจัดการเรียนการสอน จำนวนชวั่ โมง ทฤษฎี ปฏิบตั ิ อาชีพ 2. ใหผ้ ้เู รียนฝึกปฏิบัติการค านวณตน้ ทุน การก าหนดราคา ขาย และการท าบัญชีจาก การประกอบอาชพี 30 นาที รวม 37 รวมท้ังสิน้ 1๐
105 ส่ือการเรยี นรู้ 1. ศกึ ษาจากเอกสาร / ใบความรู้ 2. สอื่ VDO 3. ตัวอยา่ งของจรงิ 4. วสั ดอุ ุปกรณท์ ี่ใช้ฝึกปฏบิ ตั ิ การวัดผลและประเมินผล 1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎรี ะหว่างเรยี นและจบหลักสูตร 2. การประเมนิ ผลระหว่างเรียน จากการปฏบิ ตั งิ านทม่ี ีคณุ ภาพเพียงพอ สามารถสร้างรายไดใ้ หก้ บั ตนเอง ความสำเรจ็ ของการจบหลกั สตู ร เงื่อนไขการจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรียนและฝกึ ปฏิบตั ติ ามหลักสูตร ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมินผา่ นตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3. มีผลงานผา่ นการทดสอบทีม่ คี ุณภาพตามหลกั เกณฑ์การทำขนมไทย เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทจี่ ะไดร้ ับหลงั จากจบหลักสูตร - ใบประกาศ การเทยี บโอน - ในหมวดวิชา ทกั ษะการประกอบอาชีพ
106 หลกั สูตรการศกึ ษาต่อเนอ่ื ง ชื่อหลกั สตู รการถนอมอาหาร(มะยมเชื่อม/มะยมแชอ่ ม่ิ ) จำนวน 1๐ ช่ัวโมง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอสงั ขะ ………………………………………………………………………………………..…………………………………………… ความเป็นมา การจดั การศกึ ษาอาชพี ในปัจจบุ นั มีความสำคัญมาก เพราะจะเปน็ การพฒั นาประชากรของประเทศ ให้ มี ความรู้ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความ เข้มแข็ง ให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ตลอดจนกำหนดภารกิจที่จะยกระดับการจัดการศึกษา เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีด ความ สามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ ที่มั่นคง โดยเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับ ศักยภาพ ด้านต่างๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพ่ือพฒั นาอาชีพ และการมีงานทำอย่างมี คุณภาพ ทั่วถึงและเท่า เทียมกัน ประชาชนมีรายไดม้ ั่นคง มั่งคั่ง และมีงานทำอย่างยั่งยนื จากการสำรวจข้อมูลประชาชนในพื้นที่อำเภอ สังขะ พบว่า การประกอบอาชีพหลัก ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทางการเกษตรทำนา ทำไร่ ปลูกยางพารา รองลงมาคอื รบั จ้าง แตด่ ว้ ยสภาวะเศรษฐกจิ ตกต่ำ ราคาผลผลิตทางการเกษตรลดตำ่ ลง ส่งผลใหป้ ระชาชนมรี ายได้ ไม่เพียงพอการถนอมอาหารจงี เป็นทางเลอื กในการเก็บรกั ษาอาหารหรือแปรรูปอาหารทำใหอ้ ย่ไู ดน้ านโดยไมบ่ ดู เสีย และผลของการถนอมอาหารจะช่วยยดื อายอุ าหาร การเปลยี่ นแปลงทง้ั ในดา้ นสี กลนิ่ รส เนือ้ สมั ผัส และ ยงั คงคณุ คา่ ทางโภชนาการของอาหารไว้ การถนอมอาหารเป็นกระบวนการของการแปรรปู ด้วยวธิ ีหลายอย่าง ได้แก่ การดอง การแช่อ่ิม การตากแหง้ และการเชื่อม เป็นต้น จากข้อมูลดังกล่าวการส่งเสริมให้ประชาชนร้จู ัก การถนอมอาหาร มีช่องทางในการประกอบอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้เสริมให้กับคนในชุมชน มีแนวทางในการ รวมกลุ่มอาชีพและพฒั นาอาชีพ กศน.อำเภอสังขะ จึงไดก้ ำหนดการจัดทำหลักสตู รการถนอมอาหาร(มะยมเช่ือม/ มะยมแชอ่ ิม่ ) เพ่อื ใหก้ ลมุ่ เป้าหมายมีทกั ษะและสร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครวั ชุมชนต่อไป หลักการของหลกั สตู ร 1. เปน็ หลกั สูตรเพอ่ื พฒั นาอาชีพและสบื ทอดภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น 2. เปน็ หลกั สูตรที่ส่งเสริมใหผ้ ้เู รยี นรู้จากการลงมอื ปฏบิ ตั ิจรงิ 3. เปน็ หลกั สูตรท่มี ีโครงสร้างยดื หยนุ่ ท้งั ด้านสาระเวลา และการจัดการเรียนรู้ 4. เปน็ หลักสตู รท่ีสามารถนำความรู้และประสบการณท์ ่ไี ดร้ ับไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน จุดมงุ่ หมาย เพือ่ ให้ผ้เู รียนมีคณุ ลักษณะดงั นี้ ๑. กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจถึ งการถนอมอาหาร(มะยมเชื่อม/มะยมแช่อิ่ม) บอกประโยชน์ คุณคา่ ของการถนอมอาหาร(มะยมเช่อื ม/มะยมแชอ่ ม่ิ )ได้ 2. กล่มุ เป้าหมายมเี ทคนคิ วธิ ีการคดั เลือกวัตถุดิบ ในการถนอมอาหาร(มะยมเช่ือม/มะยมแช่อ่ิมได้ 3. กลุ่มเป้าหมายมคี ุณธรรมจรยิ ธรรมและเหน็ ชอ่ งทางในการพฒั นาอาชีพ กลุม่ เป้าหมาย 2 ช่วั โมง ประชาชนทั่วไป 8 ชว่ั โมง 10 ชั่วโมง ระยะเวลา จำนวน 10 ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี จำนวน ภาคปฏบิ ัติ จำนวน รวม
107 โครงสรา้ งหลกั สูตร ที่ เร่ือง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หา การจดั จำนวนชั่วโมง กระบวนการเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบัติ 1 การถนอม - สามารถบอกความหมาย - ความหมายของการถนอมอาหาร บรรยายให้ความรู้ 30 อาหาร ของการถนอมอาหารได้ - ประโยชน์ คุณค่าการถนอมอาหาร ผ้เู รยี นและวทิ ยากร นาที - สามารถบอกประโยชน์ การเชื่อม คือ การใช้นำ้ และน้ำตาลใส่ ร่วมสนทนา คุณค่าการถนอมอาหารได้ ภาชนะตั้งไฟเค่ียวให้ละลายกลายเปน็ แลกเปลีย่ นข้อมลู -สามารถบอกวิธีการถนอม น้ำเชื่อมก่อนแล้วจึงใส่อาหารลงเคี่ยว ความคิดเหน็ สรปุ อาหารได้ ต่อไปด้วยไฟอ่อนๆ จนอาหารอิ่มชุ่ม ความรู้ ด้วยน้ำเชื่อม เป็นวิธีการถนอมอาหาร โดยใช้น้ำตาลไปคลุกเคล้าหรือผสมใน อาหารที่เราต้องการเพื่อให้น้ำตาลไป ยบั ย้งั การเจรญิ เติบโตของจุลินทรีย์ใน อาหาร ซ่ึงจะทำให้อาหารคงสภาพอยู่ ไดน้ านไม่เน่าเสียง่าย การแช่อิ่ม เป็นวิธีการถนอมผลไม้ และผักบางชนิดโดยแช่ในน้ำเชื่อม หลักการคือ ต้องทำให้ผัก ผลไม้ที่จะ แช่อิ่มคายรสขม รสเปรี้ยวก่อนด้วย การแช่น้ำเกลือ แล้วจึงแช่น้ำเชื่อม น้ำตาลจะคอ่ ยซมึ เข้าไปในเน้ือเยื่อของ ผัก ผลไม้จนอิ่มตัว มีรสหวานข้ึน ผลไม้ทน่ี ิยมใชว้ ิธแี ช่อิม่ 2 การเลือก เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ 1. การเลือกวัตถุดิบการถนอมอาหาร บรรยาย สาธิต ฝึก 30 5 วัตถุดิบและ ทักษะในการการถนอม (มะยมเช่ือม/มะยมแช่อิม่ ) ปฏิบัติจรงิ นาที ชวั่ โมง การถนอม อาหาร(มะยมเชื่อม/มะยม - การถนอมอาหาร(มะยมเชื่อม/มะยม วิทยากรประเมินผล อาหาร(มะยม แช่อิ่ม) รู้จักเครื่องมือ แช่อ่ิม) การถนอมอาหาร เช่ือม/มะยม อุปกรณ์สามารถเลือกใช้ - เทคนิคเกีย่ วกบั การเลือกวัตถดุ บิ (มะยมเชื่อม/มะยม แชอ่ ม่ิ ) วัตถุดิบการถนอมอาหาร - วัสดุอุปกรณ์และส่วนผสมของการ แช่อิ่ม)ตรวจสอบ (มะยมเชื่อม/มะยมแช่อิ่ม) ถนอมอาหาร(มะยมเชื่อม/มะยมแช่ อธิบายเพิม่ เติม ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง อ่มิ ) - สตู รของการถนอมอาหาร (มะยมเชื่อม/มะยมแช่อิ่ม) 2. สาธิต/ฝึกปฏิบัติการถนอมอาหาร (มะยมเชอื่ ม/มะยมแช่อม่ิ ) 3 การบรรจุ เพื่อสร้างบรรจุภัณฑ์ให้ 1.การเลอื กบรรจุภัณฑร์ ว่ มถงึ การ บรรยายให้ความรู้ 30 2 ภณั ฑ์และการ สามารถเอื้อประโยชน์ได้ดี รักษาระดบั คุณภาพของอาหารน้นั ๆ ผเู้ รียนและวิทยากร นาที ช่วั โมง เกบ็ รกั ษาเพือ่ มีความปลอดภัย ประหยัด ให้ไว้ในระดบั คงท่แี ละยาวนานทีส่ ดุ ที่ ร่วมสนทนา การบริโภค และมีประสทิ ธิภาพ จะเปน็ ได้ โดยการลดหรอื กำจัดปัจจัย แลกเปล่ียนข้อมลู หรือจำหน่าย ต่างๆ ทมี่ ีผลกระทบตอ่ การเสอื่ ม ความคิดเหน็ สรปุ คุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหาร ใน ความรู้ ขณะเดียวกนั กย็ งั รกั ษาคุณภาพเป็นที่ ตอ้ งการไว้ไดจ้ นกระท่ังสง่ ถงึ มอื ผ้บู ริโภค
108 ที่ เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจัด จำนวนชว่ั โมง กระบวนการเรยี นรู้ 4 การบรหิ าร -เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนสามารถคิด ๑. การคิดราคาต้นทนุ การผลติ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ จัดการอาชพี บรรยายใหค้ วามรู้ อย่างมี ราคา ต้นทุนการผลติ ๒. เทคนิค กลยทุ ธ์ และวธิ กี ารขาย ผูเ้ รยี นและวทิ ยากร 30 1 ประสทิ ธภิ าพ รว่ มสนทนา นาที ชั่วโมง และมี แลกเปลี่ยนขอ้ มูล คุณธรรม -เพื่อใหผ้ ู้เรียนบอกเทคนคิ ๓. ปจั จยั เสยี่ งในการประกอบอาชพี ความคดิ เห็น สรปุ ความรแู้ ละวิเคราะห์ กลยุทธ์ วิธีการขายด้วย แนวทางในการป้องกันแก้ไข ปจั จยั เสี่ยงในการ ประกอบอาชีพการ ชอ่ งทางท่หี ลากหลาย ๔. คุณธรรมจรยิ ธรรมท่ีดใี นการ ถนอมอาหาร(มะยม เชื่อม/มะยมแชอ่ ่ิม) -เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นสามารถ ประกอบ อาชีพ วเิ คราะห์ ปจั จยั เสีย่ งในการ ประกอบอาชพี และ สามารถกำหนดแนวทางใน การปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หา -เพื่อใหผ้ ู้เรยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการประกอบ อาชพี รวม 28 10 ช่วั โมง รวม (ทฤษฎีและปฏบิ ตั )ิ สอื่ การเรียนรู้ ๑. ใบความรู้/ใบงานการถนอมอาหาร(มะยมเช่ือม/มะยมแช่อ่มิ ) ๒. ศึกษาจากสื่อ website /วดิ ทิ ศั น์ ๓. ตวั อย่างช้ินงาน/วัสดุอปุ กรณ์การถนอมอาหาร(มะยมเชอื่ ม/มะยมแชอ่ ิ่ม) การวัดผลและประเมินผล ๑. การประเมินความรู้ภาคทฤษฎรี ะหวา่ งเรยี นและจบหลกั สตู ร ๒. การประเมินจากการทดสอบ การสงั เกต ๓. การตรวจผลงาน เกณฑ์การจบหลักสตู ร ๑. ผู้เรยี นมเี วลาเรยี นไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ๒. ผเู้ รียนมผี ลการประเมินชนิ้ งานไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ เอกสารหลักฐานการศึกษาที่จะได้รับหลงั จากจบหลักสตู ร 1. ทะเบียนคุมเกยี รติบตั ร 2. เกยี รตบิ ตั รออกโดยสถานศกึ ษา การเทยี บโอน -
109 ชือ่ หลกั สูตร การทำแคบหมโู บราณและการทำน้ำพรกิ แคบหมู จำนวน 10 ช่ัวโมง กลมุ่ อาชพี พาณิชยกรรมและบริการ กิจกรรมศนู ยฝ์ ึกอาชพี ชุมชน รปู แบบกลุ่มสนใจไมเ่ กนิ 30 ช่วั โมง ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอสงั ขะ จังหวัดสุรนิ ทร์ ความเป็นมา ด้วยนโยบายของรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับสำนกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ไดม้ อบหมาย ให้สำนักงานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จดั การศกึ ษาและพฒั นาคนทุกช่วงวัย โดยส่งเสริมการเรยี นร้ตู ลอดชวี ติ ดังนัน้ เพ่ือเป็น การปฏิบตั งิ านตาม นโยบายดงั กลา่ ว จึงไดจ้ ดั ทำหลักสตู รการทำแคบหมโู บราณและการทำนำ้ พริกแคบหมูนข้ี ้นึ เพื่อเปน็ การกระตนุ้ ให้ ประชาชนในชมุ ชนเกิดการเรียนรูต้ ามท่ีตนสนใจ อกี ท้ังยังเป็นการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ และสามารถใชเ้ ป็น ชอ่ งทางในการนำไปประกอบเปน็ อาชพี หลักหรืออาชพี เสรมิ ได้ อกี ทางหน่ึง แคบหมู เป็น อาหารไทยประเภทหนึ่ง ที่มีวิธีการทำที่ไม่ยาก แต่ต้องใช้เวลาและความชำนาญในการทำ ส่วนใหญ่ใช้รับประทานคู่กับส้มตำ หรือน้ำพริกต่างๆ นอกจากนั้นยังสามารถนำมาดัดแปลงเป็นเมนูอื่นๆได้อีก โดยเฉพาะเมนูที่นิยมรับประทานกัน คือน้ำพริกแคบหมู ซึ่งเป็นอาหารที่ถูกคิดค้นมาจากการต่อยอดของการทำ แคบหมู มีวิธีการทำทหี่ ลากหลายกว่าการทำแคบหมู ต้องใส่ส่วนผสมหลายอย่างตามส่วนประกอบหลายอยา่ งลงไป เชน่ กากหมู หอมเจียว กระเทียมเจียว พริกป่น เป็นต้น นยิ มรบั ประทานเปน็ คกู่ ับข้าวสวยหรือรบั ประทานเป็นของ ทานเลน่ ปจั จบุ ันกำลงั เปน็ ทีน่ ยิ มของกลุม่ คนทวั่ ไป และยังเปน็ ผลิตภณั ฑ์สง่ ขายท้งั ในและต่างประเทศได้ ศนู ย์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสังขะ ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเรียนรู้ ตลอด ชีวิตและให้ชุมชนได้มงี านทำ จึงได้จดั ทำหลกั สูตรการทำแคบหมโู บราณและการทำน้ำพริกแคบหมู ขน้ึ หลักการของหลักสูตร เปน็ หลักสตู รท่ีเน้นการฝึกปฏิบัตจิ รงิ โดยใช้กระบวนการเปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นไดฝ้ ึกทกั ษะ และเปน็ หลักสตู รท่ีผูเ้ รียนสามารถนำความร้ไู ปปรบั ใช้ได้จริงเพ่มิ ช่องทางในการประกอบอาชีพ วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมที กั ษะในการทำแคบหมูโบราณและการทำนำ้ พริกแคบหมู 2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมีเทคนคิ วธิ กี ารคัดเลือกวัตถุดิบ การทำแคบหมโู บราณและการทำน้ำพริกแคบหมูให้มี รสชาติที่อรอ่ ย 3. เพอ่ื เพิม่ ช่องทางในการประกอบอาชีพให้กับตนเอง กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนท่วั ไปในพ้นื ทอ่ี ำเภอสังขะ จังหวัดสรุ นิ ทร์ 1. ผทู้ ี่ไม่มอี าชพี 2. ผูท้ มี่ ีอาชพี และต้องการพัฒนาอาชพี ระยะเวลา 1. ภาคทฤษฎี จำนวน 4 ช่วั โมง 2. ภาคปฏิบัติ จำนวน 6 ชว่ั โมง 10 ชวั่ โมง รวม จำนวน
110 โครงสร้างเน้อื หา ท่ี เรอ่ื ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนอ้ื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำนวนชวั่ โมง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 1 ช่องทางการทำ 1. เพื่อให้ผ้เู รยี นบอก 1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี 1. วิทยาการให้ความรู้และ 1 2 แคบหมสู ูตร ความสำคัญของการ 2. ความเปน็ ไปไดข้ องการ สาธิต โบราณ ประกอบอาชพี การทำ ประกอบอาชพี 2. ใหผ้ ูเ้ รียนฝกึ ปฏิบตั ิ แคบหมูสูตรโบราณ - จัดหาวตั ถดุ บิ และอปุ กรณ์ 3. วทิ ยากรตรวจสอบ 2. เพ่ือให้ผู้เรยี นมี - การลงทุน อธิบายเพิ่มเติม ความรู้ ความเขา้ ใจ 3. การเลือกทำเลที่ต้งั 4. สรปุ และแลกเปล่ียน ความเปน็ ไปได้ของการ ประสบการณ์/ความรู้ ประกอบอาชีพ ร่วมกนั 2 ช่องทางการทำ เพือ่ ให้ผู้เรยี นมี ความรู้ 1. ความรูเ้ บอื้ งตน้ เกี่ยวกับ 1. วทิ ยาการให้ความรู้และ 1 1 นำ้ พรกิ แคบหมู เก่ียวกบั การทำนำ้ พรกิ น้ำพริกแคบหมู สาธติ แคบหมู และการเลอื ก 2. การเลือกวัตถดุ บิ ทจี่ ะ 2. ให้ผู้เรียนฝกึ ปฏิบตั ิ วัตถุดิบที่จะนำมาใชใ้ น นำมาใชใ้ นการทำนำ้ พริก 3. วทิ ยากรตรวจสอบ การทำน้ำพริกแคบหมู แคบหมู อธิบายเพิ่มเตมิ 4.สรปุ และแลกเปล่ียน 3. การเลอื กทำเลท่ีตั้ง ประสบการณ/์ ความรู้ ร่วมกนั 3 ทกั ษะการ 1. เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รยี น 1. การทำนำ้ พรกิ แคบหมู 1. วทิ ยาการให้ความรู้ 12 ประกอบอาชพี สามารถทำน้ำพรกิ 2. เครอ่ื งปรงุ และสดั สว่ นใน 2. สาธิต การทำนำ้ พริก แคบหมไู ดอ้ ย่างถูกต้อง การใช้ 3. ให้ผู้เรียนฝกึ ปฏิบตั ิ แคบหมูโบราณ ตามสัดสว่ น 3. การเติมแตง่ รสชาติให้ 4. วิทยากรตรวจสอบ 2. เพือ่ ให้ผเู้ รียน เหมาะสม และการประยกุ ต์/ อธบิ ายเพม่ิ เติม สามารถประยกุ ต์/ ดัดแปลงหนา้ ตาหรอื รสชาตขิ อง 5. สรุปและแลกเปลี่ยน ดดั แปลงหน้าตาหรือ นำ้ พริกแคบหมใู ห้มีความ ประสบการณ์/ความรู้ รสชาติของน้ำพริก หลากหลาย ร่วมกนั แคบหมใู ห้มีความ หลากหลายมากขน้ึ
111 ท่ี เรอ่ื ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนอ้ื หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำนวนช่ัวโมง ทฤษฎี ปฏบิ ัติ 4 การคำนวณ ปริมาณราคา 1. เพ่ือใหผ้ ู้เรยี น 1. การคำนวณ ปริมาณราคา 1. วิทยาการให้ความรู้ 11 อาหาร การ บรรจุ ภณั ฑ์ สามารถคำนวณ อาหาร การบรรจุ ภัณฑ์เพื่อการ 2. สาธิต และ การขาย การส่งเสริม ปรมิ าณราคา อาหาร ขาย 3. ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การ ขายทาง ออนไลน์ การบรรจุ ภณั ฑเ์ พ่ือ 2. การโพสตข์ าย สินคา้ ผา่ นทาง 4. วทิ ยากรตรวจสอบ การขาย ช่องทาง facebook และ line อธบิ ายเพมิ่ เติม 2. เพือ่ ให้ผเู้ รียน 5. สรปุ และแลกเปล่ยี น สามารถโพสตข์ าย ประสบการณ์/ความรู้ สนิ คา้ ผ่านช่องทาง ร่วมกนั Facebook และlineได้ รวม 4 6 การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. ศึกษาข้อมลู จากเอกสาร/ภูมิปญั ญา 2. การศกึ ษาดงู านจากแหลง่ เรยี นรู้ 3. แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ 4. ฝึกปฏิบตั ิจริง ส่อื /วสั ดุอปุ กรณ์การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการเรียนรเู้ รือ่ งความรู้เกย่ี วกบั การทำแคบหมูโบราณและการทำน้ำพริกแคบหมู 2. ภูมิปัญญาท้องถ่นิ , สื่อบุคคล, วทิ ยากรผู้ชำนาญ 3. เนอ้ื หาวิชาความรู้เกย่ี วกบั การทำแคบหมโู บราณและการทำนำ้ พริกแคบหมู 4. ใบความรู้เกีย่ วกบั ความรูเ้ กยี่ วกับการทำแคบหมโู บราณและการทำน้ำพรกิ แคบหมู 5. อุปกรณป์ ระกอบกลุ่มสนใจระยะสนั้ การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎีระหว่างเรียนและจบหลกั สตู ร 2. การประเมินผลระหว่างเรยี นจากการปฏิบัตงิ านท่ีมคี ุณภาพเพยี งพอ สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเอง ความสำเรจ็ ของการปฏบิ ตั ิและจบหลกั สูตร การจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรียนและฝกึ ปฏิบตั ิตามหลักสูตรไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ผ่านตลอดหลักสูตร ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 3. มผี ลงานผ่านการประเมินทดสอบท่ีมคี ุณภาพตามหลกั เกณฑ์
112 เอกสารหลักฐานการศกึ ษาทจ่ี ะได้รบั หลงั จากจบหลักสตู ร 1. หลักฐานการประเมินผล 2. เกยี รติบัตรออกโดยสถานศึกษา การเทยี บโอน สามารถนำความรูแ้ ละประสบการณ์ ไปเทียบโอนผลการเรยี นรกู้ บั หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี รายวิชา เลอื กท่ีสถานศกึ ษาได้จดั ทำขึน้ ใน ระดับใดระดับหนึง่
113 หลกั สูตรการศกึ ษาตอ่ เนือ่ ง ชื่อหลกั สูตร วชิ าการทำแหนมหมู จำนวน 1๐ ช่วั โมง ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอสังขะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความเปน็ มา ในสภาพปัจจุบันประชาชนต้องประสบปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายได้ทีห่ าเลี้ยงครอบครัวไม่เพียงพอ กับรายจ่าย เกิดปัญหาการกู้หนี้ยืมสินและปัญหาการว่างงาน จากการสำรวจข้อมูลประชาชนในพื้นที่ตำบลเทพ รักษา พบว่า การประกอบอาชีพหลักส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทางการเกษตร แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ราคาผลผลิตทางการเกษตรลดต่ำลง ส่งผลให้ประชาชนมีรายได้ไม่เพยี งพอกับปัจจุบนั หนทางหนงึ่ ของการพัฒนา ชุมชนคือ การส่งเสริมอาชีพและให้ความรู้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยในชุมชน เพื่อจะได้นำความรู้ไปใช้ในการ ประกอบอาชพี หลักหรืออาชพี เสรมิ เพอื่ เพ่มิ รายได้ใหก้ ับครอบครวั อาชีพค้าขายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้มนุษย์ดำรงชีพได้อย่างม่ันคงและยังเพิ่มรายได้ที่มากมายโดยเกิด จากภูมปิ ัญญาและความสามารถในการประกอบอาชีพค้าขาย ซงึ่ ในปัจจบุ นั สงั คมไทยในเรอ่ื งของอาหารการกินถือ เป็นเรื่องสำคญั ในชวี ิตประจำวนั การรบั ประทานอาหารทง่ี ่ายและสะดวก วตั ถุดิบหาซอื้ ได้ง่ายตามท้องตลาดและ ยงั เปน็ การถนอมอาหาร น้นั กค็ อื การทำแหนมหมู มขี ้ันตอนในการทำน้ันไม่ยาก อีกทัง้ ยังชว่ ยลดรายจ่ายเพ่ิมรายได้ และสามารถนำไปประกอบอาชพี ได้ จากข้อมลู ดังกล่าว การสง่ เสริมให้ประชาชนประกอบอาชีพเสริม โดยนำวฒั นธรรมการบริโภค ภมู ิปัญญา ท้องถิ่น ทมี่ อี ยมู่ าพัฒนาปรบั ปรุงสง่ เสรมิ การผลติ เพอ่ื สรา้ งรายไดใ้ หก้ ับคนในชมุ ชน มชี ่องทางในการประกอบ อาชีพ มีแนวทางในการรวมกลุ่มอาชีพ และพฒั นาอาชพี โดยใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ละมี ประสทิ ธภิ าพ กศน.ตำบลเทพรักษา จงึ ได้กำหนดการจัดทำหลกั สูตรการทำแหนมหมู เพ่อื ใหก้ ล่มุ เป้าหมายมี ทกั ษะและสร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครวั ชุมชน และสง่ เสริมให้ประชาชนยดึ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึง่ เปน็ ปรชั ญาทีช่ ี้แนวทางปฏิบตั ิตน โดยคำนงึ ถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผลและการสรา้ งภิคุ้มกันท่ีดี เป็น การแกไ้ ขปัญหาความยากจนและลดปัญหาการวา่ งงาน หลกั การของหลักสูตร 1. เป็นหลกั สูตรเพ่อื พฒั นาอาชีพและสืบทอดภมู ิปญั ญาท้องถิ่น 2. เปน็ หลักสูตรท่ีส่งเสริมให้ผูเ้ รยี นรจู้ ากการลงมือปฏิบัตจิ ริง 3. เป็นหลกั สูตรท่สี ามารถนำความรแู้ ละประสบการณท์ ี่ไดร้ บั ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั จดุ มุ่งหมาย 1. เพอื่ ใหผ้ ้เู รยี นมีความรู้และทกั ษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายไดท้ ี่มนั่ คง 2. เพ่ือให้ผูเ้ รียนตดั สินใจประกอบอาชีพให้สอดคลอ้ งกบั ศักยภาพของตนเอง ชมุ ชน สงั คม และ สิง่ แวดลอ้ มอย่างมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ๓. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมีความรูค้ วามเข้าใจและฝกึ ทกั ษะการบรหิ ารจัดการในอาชพี ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทัว่ ไป ในพน้ื ที่อำเภอสังขะ จงั หวัดสุรินทร์ ระยะเวลา ระยะเวลา จำนวน 1๐ ชวั่ โมง(ทฤษฎี ๔ ช่ัวโมง ปฏบิ ตั ิ จำนวน ๖ ชวั่ โมง)
ลำดบั ที่ เรื่อง โครงสรา้ งห จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑ ชอ่ งทางการ - เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู้ วามเข้าใจเกยี่ วกบั - คว ประกอบอาชีพ การทำแหนมหมู - ปร - เพ่อื ให้มีความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั การเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ในการทำ แหนมหมู ๒ ทกั ษะการ - เพอ่ื ให้ผู้เรยี นสามารถเลือกซอ้ื วัสดุ 1. ก ประกอบอาชีพ อปุ กรณไ์ ด้อย่างมีคุณภาพ - การเตรยี ม อปุ กรณ์ อปุ ก ๓ ทักษะการ - เพื่อใหป้ ระชาชนไดเ้ รยี นร้กู ารทำ วิธีกา ประกอบอาชพี แหนมหมู ๑. ว -การทำแหนมหมู ๒. ว 5 การบรหิ ารจดั การ -เพือ่ ให้ประชาชนมีการพัฒนาอาชีพ การจ ในการประกอบ เพือ่ การมีงานทำ -การ อาชพี -การ
114 หลกั สตู ร วธิ ีการจัดการ จำนวนช่วั โมง เนือ้ หา เรียนการสอน ทฤษฎี ปฏบิ ัติ วามเปน็ มาของการทำแหนมหมู - การบรรยาย ๑ ชม. 1 ชม. ระโยชนข์ องการทำแหนมหมู - การสาธติ การเตรียมวัสดอุ ุปกรณ์ที่ใช้ในการแหนมหมู - การบรรยาย 1.1 วัสดุอปุ กรณ์ที่ใช้ในการทำแหนมหมู - การสาธิต 1 ชม. 2 ชม. 1.2 งบประมาณในการจดั ซอ้ื วัสดุ - การฝึกปฎิบัติ 1 ชม. 2 ชม. ๑ ชม. ๑ ชม. กรณ์ ๔๖ 1.3 สถานท่ีจำหนา่ ยวัสดุอุปกรณ์ 1๐ ารทำแหนมหมู - การบรรยาย วิทยากรสาธติ ข้นั ตอนใน การทำแหนมหมู - การสาธิต วิธีการและขั้นตอนในการทำแหนมหมู - การฝกึ ปฎิบัติ จัดการตลาดในวชิ าการทำแหนมหมู - การบรรยาย รจำหนา่ ย - การสาธิต รวางแผนการตลาด - การฝกึ ปฎบิ ัติ รวม รวมท้งั สน้ิ
115 สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน/แผน่ ผับ/เอกสารประกอบการเรยี นรู้ 2. สือ่ VDO 3. ตวั อยา่ งของจริง 4. วสั ดุอปุ กรณ์ท่ีใช้ฝกึ ปฏิบตั ิ การวดั ผลและประเมนิ ผล การประเมินผลการศกึ ษาเป็นข้นั ตอนหนงึ่ ในกระบวนการจดั การศกึ ษา เพราะการประเมนิ ผลจะเปน็ ตัวบ่งชี้ ใหเ้ หน็ ถึงความสำเร็จในการดำเนินงานและเป็นส่ิงสะท้อนให้เหน็ ถึงปญั หา อปุ สรรคและข้อขดั ข้อง ตลอดจนสิง่ ท่ีต้องปรับปรุงแกไ้ ข 1. ผเู้ รยี นมคี วามรูค้ วามเข้าใจเรื่องการทำแหนมหมู 2 มอี าชีพเปน็ ของตนเอง 3. สามารถลดรายจ่ายเพม่ิ รายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว เงือ่ นไขการจบหลักสตู ร - อธบิ ายการทำแหนมหมูให้เหมาะสมและเลือกใช้วสั ดุ อุปกรณไ์ ด้ - อธิบายกระบวนการตลาดแรงงาน วิเคราะหก์ ารตลาด ชอ่ งทางการประกอบอาชพี การทำแหนมหมู ได้ - อธิบายปญั หาอุปสรรคในการเรยี นร้วู ิชาการทำแหนมหมู เช่น ปญั หาดา้ นกระบวนการและปัญหา ดา้ นการฝึกปฎิบัติ เอกสารหลักฐานการศึกษาท่ีจะได้รบั หลังจากจบหลักสตู ร - ใบประกาศ การเทยี บโอน -
116 หลักสตู รชน้ั เรยี นวิชาชีพ (31 ชั่วโมงข้ึนไป)
117 แบบเขยี นหลกั สตู รการศกึ ษาต่อเนอื่ ง ชอ่ื หลกั สูตร วชิ าการทอผา้ ขาวมา้ จำนวน 35 ชั่วโมง ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอสังขะ ……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………… ความเป็นมา ความเปน็ มาของหลักสูตร การจดั การศกึ ษาอาชีพในปจั จุบนั มีความสำคญั มากเพราะจะเป็น การพัฒนาประชากรของประเทศให้ มีความร้คู วามสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพเปน็ การแก้ปัญหา การว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็ง ให้แก่เศรษฐกิจชุมชนซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดยุทธศาสตร์ ภายในกรอบเวลา 2 ปีทพี่ ฒั นา 5 ศักยภาพ ของพ้นื ที่ใน 5 กลุ่มอาชพี ใหมใ่ ห้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาค หลักของโลก “รู้เขารู้เราเท่าทัน” เพื่อแข่งขัน ได้ในเวทีโลก “ตลอดจนกำหนดภารกิจที่จะยกระดับการจัด การศกึ ษาเพอื่ เพ่ิมศกั ยภาพและขีด ความสามารถ ใหป้ ระชาชนไดม้ ีอาชพี ที่สามารถสรา้ งรายไดท้ ่มี ั่นคงโดยเน้น การบูรณาการให้สอดคล้องกับ ศักยภาพด้านต่างๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ไดร้ ับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและ การมีงานทำอยา่ งมีคุณภาพทั่วถึง และเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้มัน่ คงมั่งคั่งและมงี านทำอยา่ งยั่งยนื มี ความสามารถเชิงการแขง่ ขนั ทั้งใน ระดบั ภูมิภาค อาเซียนและระดับสากลซึ่งจะเป็นการจดั การศกึ ษาตลอดชีวิต ในรปู แบบใหม่ทส่ี รา้ งความม่นั คง ให้แกป่ ระชาชน และประเทศชาติ สภาพสงั คมปัจจบุ นั ระบบสาธารณูปโภคมี ความจำเป็นและสำคญั ในการ ดำรงชีวติ และความเปน็ อยู่ เพอื่ พฒั นาและส่งเสรมิ ภมู ิปัญญาท้องถ่ินในการทอ ผา้ ซ่งึ เปน็ งานหตั ถกรรมที่ สำคญั ของชาวอสี าน ทีม่ คี วามผูกพันกบั คติความเชื่อของชาว อีสานมาช้านาน และ เปน็ การนำผ้าขาวม้ามาเพิม่ มลู ค่า สรา้ งอาชพี เสริมรายได้หลงั ฤดูทำนำหรือชว่ งเวลาว่าง เป็นการสร้างฐานการ เรยี นร้แู ละเชอื่ มโยงองค์ความรู้ที่เกิดจากประสบการณต์ รงของคนในชมุ ชน หลักการของหลักสูตร 1. เป็นหลกั สูตรการประกอบอาชีพท่ีทำใหเ้ กดิ รายได้ 2. เป็นหลกั สูตรการประกอบอาชีพทสี่ ่งเสรมิ การมีงานทำของประชาชน 3. เป็นหลักสูตรทย่ี ดื หยนุ่ ทัง้ เนอ้ื หา ระยะเวลาเรียน และการจัดกระบวนการเรยี นรู้ จดุ มุ่งหมาย 1.เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจในการทอผา้ ขาวมา้ ไหมโดยใช้ผ้าขาวมา้ ใช้ไหมเป็นวัตถดุ ิบ 2.เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมีความคิดสรา้ งสรรคแ์ ละเกิดทักษะในการออกลวดลาย 3.เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนท่วั ไป ระยะเวลา จำนวน 35 ช่วั โมง ภาคทฤษฎี จำนวน 8 ชวั่ โมง ภาคปฏบิ ัติ จำนวน 27 ชว่ั โมง รวม 35 ชว่ั โมง
118 โครงสรา้ งหลกั สตู ร ท่ี เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จำนวนชว่ั โมง 1 ประวัตคิ วาม 1. ประวตั ิความ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 1. เพ่อื ทราบประวัติ เป็นมา วิทยากรบรรยายใหค้ วามรู้ เรื่อง เปน็ มา ความเป็นมา 2.ความสำคญั ใน 1. ประวัติความเป็นมา 2 2.เพือ่ ทราบ การประกอบอาชีพ 2.ความสำคัญในการประกอบ ชั่วโมง - 2 วัตถดุ ิบและ ความสำคญั ใน การ การทอผ้าขาวม้า อาชีพการทอผ้าขาวมา้ การออกแบบ ประกอบอาชีพการ 3.ภมู ิปัญญาท้องถ่ิน 3.ภูมิปัญญาท้องถน่ิ การทอ 26 ทอผ้าขาวมา้ การทอผ้าขาวม้า ผา้ ขาวมา้ ชว่ั โมง ชัว่ โมง 3 ขัน้ ตอนการ 3.เพ่อื ทราบภูมปิ ญั ญา 4. วเิ คราะหต์ นเองในการ ประกอบ ผลิต ทอ้ งถ่นิ การทอ 1. การจัดเตรยี ม อาชีพ สามารถบอก คุณธรรม 2 18 ผ้าขาวมา้ วัสดุ/อปุ กรณใ์ น การ จริยธรรม สำหรับ อาชพี ได้ ชว่ั โมง ชวั่ โมง 4 การบรหิ าร 1. เพ่อื ทราบการ ทอผา้ ขาวมา้ วิทยากรสาธิตพรอ้ มใหผ้ เู้ รียน ลงมอื จดั การและ จดั เตรยี ม วัสดุ/ 2. ขน้ั ตอนการ ปฏบิ ตั ิ สง่ิ ทตี่ อ้ งเตรยี ม 22 การตลาด อปุ กรณ์ในการทอ ออกแบบผ้าขาวม้า 1. ฟมื ชัว่ โมง ชั่วโมง ผา้ ขาวมา้ ลายพ้นื บา้ น 2. อกั 5 การวัดผล 2. เพ่อื ทราบขัน้ ตอน 1. ขนั้ ตอนและ 3. กี่ 1 ประเมินผล การ ออกแบบลาย เทคนิคการทอ 4. ไมข้ ิด - ชว่ั โมง ผ้าขาวมา้ ผา้ ขาวมา้ ทำงานได้ 5. กระสวย ครบทุกข้ันตอน 6. หลอดดา้ ย 8 27 1. สามารถสรปุ 7. เสน้ ด้าย,ไหม สตี า่ งๆ ข้นั ตอนและ เทคนิค 1.การวเิ คราะหแ์ ละ 1. ทำใบงาน/ชิน้ งาน การทอ การทำงาน วางแผนการตลาด ผ้าขาวม้า 2.เพือ่ ประเมนิ ความ 2.การจัดทำบญั ชี 2.วทิ ยากรใหผ้ เู้ รยี นตอบ พงึ พอใจในการ รายรับ-รายจ่าย/การ แบบสอบถามความพึงพอใจ จัดการเรยี น การสอน ทำบญั ชีครวั เรือน 3.ลงมือปฏิบตั ิ การทอผา้ ขาวม้า 1.เพ่อื ทราบการ วเิ คราะหแ์ ละ 1.การสรุปข้ันตอน 1.บรรยายให้ความรูผ้ ู้เรียนและ วางแผนการตลาด และเทคนคิ การ วิทยากรร่วมสนทนาแลกเปลย่ี น 2.เพ่ือทราบการ ทำงานไดค้ รบทุก ข้อมลู ความคดิ เห็น จดั ทำบัญชรี ายรบั ข้นั ตอน 2.สรปุ ความรแู้ ละวิเคราะห์ การคิด รายจ่าย ราคาตน้ ทนุ การผลิต /การทำบัญชี รวม ครวั เรอื นและปจั จยั เสย่ี งในการ 1.สามารถสรปุ ประกอบอาชีพและจำหนา่ ย ข้ันตอนและเทคนิค 1. ใบงาน/ช้ินงาน การทำงาน 2. วิทยากรใหผ้ เู้ รียน ตอบ 2.เพือ่ ประเมนิ ความ แบบสอบถาม ความพึงพอใจ พึงพอใจในการ จัดการเรยี นการ สอน
119 สื่อ/วัสดอุ ปุ กรณก์ ารเรยี นรู้ 1. สือ่ เอกสารใบความรใู้ นการบรรยายและสาธิตอาชพี และการฝกึ ปฏบิ ัติจริง 2. ตัวอย่างผลงาน 3. ผู้รู้/ภูมิปญั ญาท่ีชำนาญการ 4. วัตถดุ ิบอปุ กรณ์ในอาชพี ที่มีการใช้จรงิ การวดั และประเมินผล 1. การประเมนิ ความร้ภู าคทฤษฎรี ะหว่างเรียนและจบหลกั สูตร 2. การประเมนิ ผลงานระหวา่ งเรียนจาการปฏิบตั ิได้ผลงานท่ีมคี ุณภาพ เกณฑก์ ารจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2. มีผลการประเมนิ ตลอดหลกั สูตรไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. มผี ลงานทีม่ ีคุณภาพตรงตามหลักการของหลกั สูตร หลักฐานการผ่านการอบรม 1. หลักฐานการประเมนิ ผล 2. ทะเบียนคุมวฒุ บิ ัตร 3. วุฒบิ ัตรการศกึ ษาออกโดยสถานศกึ ษา การเทยี บโอน -
120 หลกั สตู ร การทอผา้ ไหมสุรินทรล์ ายโฮล จำนวน 35 ชว่ั โมง ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอสังขะ ความเป็นมา ผ้าทอเป็นสื่อสัญลักษณ์ของคนในแต่ละชุมชน แสดงถึงเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ และความแตกต่างทาง วัฒนธรรม ผ้าทอยงั คงเปน็ ปัจจยั สำคญั ในการดำรงชวี ิตของมนุษย์ตั้งแตแ่ ก่จนถงึ ตาย และมบี ทบาทสำคัญ ทั้งใน แงเ่ ศรษฐกจิ สังคม และวัฒนธรรม การทอผา้ เรม่ิ จากการสาน มนษุ ย์เริม่ สานต้นหญ้าอ่อนเพ่ือใช้ใส่วัสดุ สิ่งของ และต่อมากลายเป็น เสื่อและตะกร้า และพัฒนามาเป็นวิธีการต่อต้นพืชเพื่อเป็นเส้นที่ยาวและทำให้ เหนียว ข้นึ สามารถรบั น้ำหนักไดม้ ากขึน้ จนกระท่ังมกี ารคิดค้นวัสดุการทอจากพืชมาเปน็ เสน้ ใย เชน่ ไหม รู้จัก วธิ กี ารทออย่างง่ายมาผกู กับหินเป็นเสน้ ยนื และใชเ้ ส้นพุ่งเข้าไปเวลาทอ ในอดตี เด็กผหู้ ญงิ ทกุ คนจะถูก ฝึกหัด ให้รู้จักการทอผ้า และเย็บปักถักร้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ จำเป็นในการดำรงชีวิต ในชุมชนภาคอีสาน ผ้าทอ ยังคง บทบาททางสังคมและวัฒนธรรม นอกจากบทบาททางการค้า ยังมีการใช้ผ้าในประเพณีและพิธีกรรมต่าง ๆ ดงั นน้ั การสบื ทอดความคดิ ความเช่ือ แบบแผนทางสงั คม จากคนรุ่นเก่าสคู่ นรุน่ ใหม่ และพัฒนาศักยภาพ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่ ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิต เพื่อการดำรงอยู่ของ วัฒนธรรมควบคู่กับการพัฒนา เป็น อาชีพและรายได้ของคนชุมชน การทอผ้าเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่สืบทอดกันมา นอกจากคุณค่าทาง ศลิ ปะแล้วยังเปน็ การแสดงถงึ แบบแผน ความเปน็ อยใู่ นชมุ ชน ประชาชนในอำเภอสังขะ ส่วนใหญป่ ระกอบอาชีพเกษตรกรรม ตน้ ทุนในการประกอบอาชีพสูง แต่รายได้ตำ่ การสง่ เสรมิ อาชีพการทอผา้ ไหมเปน็ อกี วิธีหนึง่ ทสี่ รา้ งเสริมรายได้ใหป้ ระชาชนอำเภอสงั ขะ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นงานที่ต้องอาศัยฝีมือความประณีตและความละเอียดอ่อนเป็นสำคัญ เพื่อให้ได้ ลวดลายที่ทนั สมัย น่าสวมใส่และตรงตามความตอ้ งการของตลาดเป็นสงิ่ สำคญั ท่จี ำเป็นในการดำรงชวี ิต มีลวดลายที่แตกตา่ งกันออกไป เช่น ลายนำ้ ไหล ลายสายฝน และลายลกู แก้ว ซึ่งการทอก็ขึ้นอยู่กับความช่ืน ชอบของผู้บรโิ ภค วา่ ต้องการชืน่ ชอบลวดลายอย่างไรบ้าง การทอผ้าไหม นอกจากจะทอเพอื่ ไว้ใช้ในครัวเรือน แล้ว ยังสามารถทอเปน็ สินค้านำมาจำหน่ายเพ่มิ รายได้ให้กับครัวเรือน และยังเป็นการสบื สานศิลปวัฒนธรรม ในท้องถ่ินให้คงอยู่ ต่อไป หลกั การของหลักสตู ร 1. เปน็ หลกั สตู รทเี่ นน้ การบรู ณาการให้สอดคลอ้ งกับศกั ยภาพดา้ นตา่ งๆ 5 ด้าน ได้แก่ ศกั ยภาพ ของทรัพยากรธรรมชาติในแตล่ ะพื้นที่ ศักยภาพของพืน้ ที่ตามลักษณะภูมอิ ากาศ ศักยภาพภูมิประเทศและ ทำเลที่ตั้งของแต่ละประเทศ ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่และ ศกั ยภาพของทรพั ยากรมนุษย์ในแตล่ ะพนื้ ที่ 2. มงุ่ พัฒนาคนไทยใหไ้ ดร้ บั การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาอาชพี และการมงี านทำอยา่ งมีคุณภาพทวั่ ถึงและ เทา่ เทียมกัน สามารถสรา้ งรายได้ทม่ี นั่ คง และเป็นบคุ คลท่ีมวี ินัยเป่ียมไปด้วยคุณธรรม จรยิ ธรรม มจี ิตสำนึก ความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ผอู้ น่ื และสงั คม 3. ส่งเสริมให้มีความรว่ มมอื ในการดำเนนิ งานร่วมกบั ภาคเี ครอื ข่าย 4. เน้นการฝึกปฏิบัติจริงเพื่อให้ผูเ้ รยี นเกิดความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำไปประกอบอาชีพให้ เกดิ รายได้ทมี่ ่นั คง มงั่ คง่ั และยั่งยนื ในอาชพี ส่งเสรมิ ให้มกี ารเทยี บโอนความรู้และประสบการณ์เข้าสู่หลักสูตร การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน
121 จดุ มุ่งหมาย ๑. เพือ่ ให้ผเู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับความรเู้ บอ้ื งต้นการทอผา้ ไหมลายโฮล ๒. เพ่อื ให้ผู้เรยี นสามารถผลติ และออกแบบผ้าไหมลายโฮลได้ ๓. เพอ่ื สรา้ งรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว ๔. เพ่อื เป็นการสบื สานวฒั นธรรมพนื้ เมอื งสุรนิ ทร์ ๕. เพือ่ เป็นการใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์ กลุ่มเปา้ หมาย ประชาชนทวั่ ไปในพน้ื ทีอ่ ำเภอสงั ขะ จังหวดั สุรนิ ทร์ ระยะเวลา ภาคทฤษฎี 11 ช่ัวโมง ภาคปฏบิ ัติ 24 ชั่วโมง รวม 35 ช่วั โ
123 โครงสรา้ งหลกั สูตร ท่ี เร่ือง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจัด จำนวนชวั่ โมง กะบวนการเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ัติ 1 ความรเู้ บอื้ งต้น ๑. สรปุ สาระสำคัญ ๑.ประวตั ิความเปน็ มา วิทยากรอธิบาย 1- เกยี่ วกบั การทอ ของความเป็นมา ๒.กระบวนการและรปู แบบการทอ ผา้ ไหม ๒. อธิบายและ ผา้ ไหม -ประวตั ิความเป็นมา และกระบวนการและ เปรียบเทยี บความ ๓.ความสำคญั และประโยชน์ของการ รปู แบบการทอผ้าไหม เหมอื นและแตกต่าง ประกอบอาชพี การทอผา้ ไหม - ความสำคัญและ ของกระบวนการผลิต ประโยชนข์ องการ และรปู แบบการผลิต ประกอบอาชพี การทอ ผา้ ไหม ผ้าไหม ๓. อธบิ ายความสำคัญ และประโยชนข์ องการ ประกอบอาชีพการทอ ผา้ ไหมได้ 2 การเตรียม ๑. อธบิ ายข้ันตอนของ 1.ขนั้ ตอนในการเตรียมเส้นไหม วิทยากรอธิบายและ 1 1 การเตรยี มเสน้ ไหม สำหรบั การทอ สาธติ วตั ถดุ บิ และ เบือ้ งตน้ สำหรับการทอ 2.การเลือกเส้นไหม - ขั้นตอนในการเตรยี ม ส่วนประกอบ ผ้าไหมได้ 3.วตั ถดุ บิ และสว่ นประกอบ เสน้ ไหมสำหรับการทอ ๑. ๒. อธบิ ายและเลือก - การเลือกเสน้ ไหม เส้นไหมให้เหมาะสม -วัตถุดิบและ กับการทอผา้ ไหมแต่ละ สว่ นประกอบ ประเภทได้ ๒. ๓. อธิบาย ส่วนประกอบและ วตั ถดุ บิ ท่ีใช้สำหรับทอ ผ้าไหมได้ 3 การฟอกไหม 1.วัตถุประสงคข์ อง ๑. ๑. อธบิ ายวตั ถุประสงคข์ องการฟอก วทิ ยากรอธบิ ายและ 1 2 การฟอกไหม ไหมได้ สาธติ 2.วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ขอ๒ง. ๒. สามารถบอกวัสดแุ ละอุปกรณ์ท่ใี ช้ -การฟอกไหม -วัสดแุ ละอุปกรณ์ของ การฟอกไหม สำหรบั ฟอกไหมได้ 3.ขน้ั ตอนการฟอก ๓. ๓. อธิบายขนั้ ตอนการฟอกไหมได้ การฟอกไหม ข้อควรระวงั ในการ อธบิ ายข้อควรระวังเกีย่ วกับการฟอก -ขัน้ ตอนการฟอก ฟอกไหม ไหมได้ ข้อควรระวังในการ ฟอกไหม
124 ท่ี เรอื่ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนือ้ หา การจัด จำนวนชว่ั โมง กะบวนการเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 12 4 การกวกั ไหม 1. ๑.อธบิ ายวัตถปุ ระสงค1์ . ๑.จุดประสงคข์ องการการกวักไหม วิทยากรอธิบายและ และการแกวง่ ของการกวกั ไหมและ และการแกว่งไหม สาธิต ไหม การแกว่งไหมได้ 2. ๒.วสั ดแุ ละอุปกรณ์ 4. -การการกวกั ไหมและ 2. ๒.สามารถบอกวสั ดุ 3. ๓.วิธีการการกวักไหมและการแกว่ง การแกว่งไหม และอุปกรณท์ ีใ่ ช้ ไหม 5. -วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ สำหรบั กวกั ไหมและ ๔.ข้อควรระวังในการกวกั ไหมและ 6. -วธิ ีการการกวกั ไหม การแกวง่ ไหมได้ การแกวง่ ไหม และการแกวง่ ไหม 3. ๓.อธบิ ายขน้ั ตอนการ -ขอ้ ควรระวงั ในการ กวกั ไหมและการแกว่ง กวกั ไหมและการแกว่ง ไหมได้ ไหม ๔.อธบิ ายขอ้ ควรระวงั เกี่ยวกบั การกวักไหม และการแกวง่ ไหมได้ 5 การเตรียมเส้น1. ๑. อธิบายขน้ั ตอนการ ๑.ขั้นตอนการเตรียมเส้นไหมพุง่ และ วทิ ยากรอธิบายและ 1 3 ไหมพุ่งและไหม เตรียมเส้นไหมพ่งุ และ ไหมยืน สาธิต ยืน ไหมยืนได้ ๒.การออกแบบลวดลาย 1. -ข้ันตอนการเตรียมเสน้ 2. ๒. สามารถออกแบบ ๓.การร้อยหลอดเลก็ เป็นพวง ไหมพุ่งและไหมยนื ลวดลายสำหรับการทอ 2. -การออกแบบลวดลาย ผ้าไหมได้ -การร้อยหลอดเลก็ เปน็ ๓. อธบิ ายเก่ียวกบั การ พวง รอ้ ยหลอดเลก็ ได้ 6 การค้นเสน้ ไหม1. ๑. อธิบายวตั ถปุ ระสง1ค์. ๑. จุดประสงค์ของการคน้ ไหม วทิ ยากรสาธติ -1 ของการค้นไหมได้ 2. ๒. วัสดแุ ละอุปกรณ์ 4. -การค้นไหม 5. -วัสดุและอปุ กรณ์ใน 2. ๒. สามารถบอกวัสดุ 3. ๓. วธิ ีการคน้ ไหม และอุปกรณท์ ่ใี ช้ ๔. ข้อควรระวงั ในการค้นไหม การคน้ ไหม สำหรบั ค้นไหมได้ 6. -วธิ กี ารค้นไหม 3. ๓. อธิบายวิธกี ารและ ขั้นตอนการค้นไหมได้ ๔. อธิบายข้อควรระวัง เกี่ยวกบั การคน้ ไหมได้
125 ท่ี เร่อื ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้ือหา การจดั จำนวนชว่ั โมง กะบวนการเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 7 การมัดหมี่ 1. ๑. สามารถบอกวัสดุ 1. ๑. วสั ดอุ ปุ กรณ์ 14 วิทยากรอธบิ ายและ เกย่ี วกับการมัดหมไ่ี ด้ 2. ๒. วิธีการมดั /ขั้นตอน/การย้อมสี สาธติ 2. ๒. สามารถบอกวธิ กี าร 3. ๓. ขอ้ ควรระวงั ในการมัด 5. -วัสดอุ ปุ กรณ์ มัด/ข้ันตอนและการยอ้ ม4. ๔. การตรวจสอบความถูกต้องของ6. -วธิ ีการมดั หมล่ี ายโฮล/ สไี หมได้ ลวดลาย ข้นั ตอน/การยอ้ มสี 3. ๓. อธิบายขอ้ ควรระวัง 7. -ข้อควรระวงั ในการมัด เกย่ี วกับการมัดหม่ไี ด้ 8. -การตรวจสอบความ 8 การมว้ น/ปั่น ๔. อธิบายหลักการ ๑. จดุ ประสงคข์ องการม้วน/ปัน่ ถกู ต้องของลวดลาย 13 ไหม ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ไหม ของลวดลายได้ วิทยากรอธิบายและ ๑.อธิบายจดุ ประสงค์ สาธติ ของการมว้ น/ปนั่ ได้ ๒.สามารถบอกวสั ดแุ ละ ๒.วสั ดแุ ละอุปกรณ์ -ความหมายของการ อปุ กรณ์เกยี่ วกบั การ ๓.วธิ กี ารม้วน/ปน่ั ไหม มว้ น/ปั่นไหม ม้วน/ป่ันไหมได้ ๔. ขอ้ ควรระวังในการมว้ น/ปั่นไหม -วสั ดแุ ละอุปกรณ์ ๓.อธบิ ายวธิ กี าร/ขัน้ ตอน -วิธกี ารมว้ น/ปน่ั ไหม การม้วน/ปั่นไหมได้ -ข้อควรระวงั ในการ 4. ๔.อธิบายขอ้ ควรระวงั ม้วน/ปัน่ ไหม เกี่ยวกบั การม้วน/ปนั่ ไหมได้ 9 การกรอ ๑.อธบิ ายจดุ ประสงค์ ๑.จดุ ประสงคข์ องการกรอ วทิ ยากรอธิบายและ 1 3 เส้นดา้ ยไหม สาธติ ยืน/ไหมพงุ่ ของการกรอเสน้ ไหมยืน ๒.วัสดุและอปุ กรณ์ -ความหมายของการ /ไหมพุ่งได้ ๓.วธิ /ี ขั้นตอนการกรอ 1. ๒. สามารถบอกวัสดแุ ละ ๔.ข้อควรระวังในการกรอไหม กรอ อุปกรณเ์ กย่ี วกับการกรอ -วสั ดแุ ละอุปกรณ์ เส้นไหมได้ -วิธ/ี ข้ันตอนการกรอ 2. ๓. อธบิ ายวิธีการ/ -ข้อควรระวงั ในการ ขัน้ ตอนการกรอเส้นไหม กรอ ได้ ๔. อธิบายข้อควรระวัง
126 ที่ เรอื่ ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา การจดั จำนวนชั่วโมง กะบวนการเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 11 10 การเก็บและถัก ๑.อธิบายจดุ ประสงค์ของ ๑. จดุ ประสงคข์ องการเก็บและ วทิ ยากรอธิบายและ 14 ตะกรอ การกรอเส้นไหมยนื /ไหม ถักตะกรอ สาธิต พงุ่ ได้ ๒.วัสดแุ ละอปุ กรณ์ -ความหมายการเก็บ 3. ๒. สามารถบอกวัสดแุ ละ ๓.วิธ/ี ขั้นตอนการเก็บตะกรอ และถักตะกรอ อปุ กรณเ์ ก่ียวกบั การกรอ9. ๔.ขอ้ ควรระวังในการเกบ็ ตะกรอ -วัสดุและอปุ กรณ์ เส้นไหมได้ -วธิ ี/ขน้ั ตอนการเกบ็ 4. ๓. อธบิ ายวิธีการ/ข้ันตอน ตะกรอ การกรอเสน้ ไหมได้ -ขอ้ ควรระวังในการ ๔. อธบิ ายขอ้ ควรระวัง เก็บตะกรอ เก่ยี วกับการกรอเสน้ ไหม ได้ 11 การทอผา้ ไหม ๑.อธิบายขน้ั ตอนของการ ๑. ข้นั ตอนการทอ วทิ ยากรอธิบายและ ทอเปน็ ผืนผา้ ได้ ๒. การเตรียมกี่ สาธติ ๒.เตรียมกีก่ ่อนทอผ้าไหม ๓.การนำหลอดพุ่งใสก่ ระสวย -ขัน้ ตอนการทอ ไดถ้ กู ต้องและเหมาะสม ๔.การเหยยี บตะกอ -การเตรียมกี่ ๓.นำหลอดเสน้ ไหมพุ่งใส่ ๕.การพงุ่ กระสวย -การนำหลอดพงุ่ ใส่ กระสว่ ยได้ถูกตอ้ ง ๖.การจดั ลวดลายและแตง่ รมิ ขอบ กระสวย ๔.เหยียบตะกรอสำหรบั ผ้า -การเหยียบตะกอ การทอผา้ ไหมได้ ๗.การกระแทกฟืม -การพุ่งกระสวย 5. ๕. พงุ่ กระส่วยขณะทอผา้ ๘.การขึงหนา้ ผ้าใหต้ ึง -การจัดลวดลายและ ไหมได้ถกู ต้องและ ๙.การต่อเสน้ ไหมยนื และเส้นไหม แต่งรมิ ขอบผา้ เหมาะสม พุ่งเมือ่ เสน้ ไหมขาด -การกระแทกฟมื ๖.จดั ลวดลายและแตง่ ริม ๑๐.การปรบั และปล่อยเสน้ ไหม -การขงึ หนา้ ผ้าให้ตงึ ขอบผ้าขณะทอไดถ้ กู ตอ้ ง ยืน และเหมาะสม ๑๑.การหวีเสน้ ยนื ขณะทอ ๗.กระแทกฟมื ในขณะทอ ๑๒.การเกบ็ กี่เมื่อหยุดพักการทอ ไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม ๘อใหต้ งึ ได้พอเหมาะ
127 ที่ เรือ่ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนือ้ หา การจดั จำนวนช่วั โมง 12 การค้าออนไลน์ กะบวนการเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏิบัติ 1. เพื่อใหผ้ เู้ รียนท่ี -การทำการค้าออนไลนผ์ ่านช่องทาง 1. ครูบรรยายให้ 1- ความรเู้ รื่องการคา้ ความรูค้ วามเข้าใจ ตา่ งๆ เช่น Line Facebook ออนไลน์และใหผ้ ู้เรยี น 11 24 ศกึ ษาเน้อื หาจากแผน่ เกย่ี วกบั การคา้ Instagram รวมถึงชอ่ งทางการคา้ พับเรื่องการค้า ออนไลน์ ออนไลน์ ขายผา่ นเวบ็ ไซต์ ๒. ผู้เรียนและครูรว่ ม สนทนาแลกเปล่ียน 2. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียน - e-Commerce หรือ e-Market ขอ้ มูลความคดิ เห็น สามารถนำความรไู้ ปใช้ ต่าง ๆ ๓. ผ้เู รียนสรุปความรู้ ในชวี ิตประจำวนั ได้ รวม สื่อการเรียนรู้ 1. สอ่ื เอกสารประกอบการเรียนรู้ 2. สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์ เช่น ขอ้ มูลทางอินเตอร์เน็ต 3. ภูมปิ ญั ญา การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมินจากการเข้าร่วมกิจกรรม การฝกึ ปฏบิ ตั ิของผูเ้ รียน 2. การประเมินจากผลสำเร็จของการทอผ้าไหมสรุ ินทร์ลายโฮล เง่อื นไขการจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรยี นและฝกึ ปฏิบัติตามหลักสูตรไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมินผ่านตลอดหลกั สตู รไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 เอกสารหลักฐานการศึกษาทจี่ ะได้รบั หลงั จากจบหลกั สูตร 1. หลักฐานการประเมินผล 2. วฒุ ิบัตรออกโดยสถานศกึ ษา 3. ทะเบียนคุมวฒุ บิ ตั ร
128 แบบเขียนหลกั สูตรการศึกษาตอ่ เนอ่ื ง ช่ือหลักสูตร วชิ างานทาสีพืน้ ฐาน จำนวน 35 ชัว่ โมง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอสงั ขะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความเป็นมา อาชพี ช่างทาสเี ปน็ อาชพี อิสระท่ีผเู้ รียนสามารถนำมาเป็นอาชพี หลักหรืออาชพี รองได้ เนือ่ งจากเป็นอาชีพ ทผ่ี ้สู นใจสามารถเรยี นรไู้ ดง้ ่ายไม่ยุง่ ยาก ไมม่ ีต้นทนุ ในการประกอบอาชพี เพราะเปน็ อาชีพที่ใช้ฝีมือ และทักษะใน การประกอบอาชีพ และในปัจจุบันที่พักอาศัยของประชาชนส่วนใหญ่ก่อสร้างจากวัสดุคอนกรีต ซึ่งการตกแต่ง ภายในและภายนอกจะนิยมใช้สีในการตกแต่งผนังบ้าน ฝ่าเพดาน และอ่ืนๆ ให้มีความสวยงามและปัจจุบัน ครอบครัวของสังคมไทยเป็นครอบครัวขยาย จึงมีการปลูกที่พกั อาศัยมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบอาชีพด้านช่างทาสี ขาดแคลน อาชีพชา่ งทาสีเป็นอาชีพหนึง่ ท่ีเปน็ ช่องทางในการประกอบอาชีพของผู้ท่ียงั ไม่มีงานทำหรือผู้ที่ต้องการ เปลยี่ นอาชพี ที่เปน็ งานอิสระและม่ันคงได้ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอสังขะ ได้เล็งเห็นความสำคญั ของการฝกึ ทกั ษะ อาชพี งานทาสี จงึ ได้จดั ทำหลักสูตรงานทาสีพื้นฐาน จำนวน 35 ชัว่ โมง เพ่ือเป็นการฝกึ ฝนอาชพี เพอื่ การมีงานทำ และได้นำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและ ครอบครวั หลกั การของหลกั สูตร 1. เปน็ หลักสตู รที่สง่ เสริมใหผ้ ู้เรียนรจู้ ากการลงมอื ปฏบิ ตั ิจรงิ 2. เปน็ หลกั สูตรท่มี ีโครงสรา้ งยืดหยุ่นท้ังด้านสาระเวลา และการจดั การเรยี นรู้ 3. เปน็ หลกั สตู รท่ีสามารถนำความรู้และประสบการณ์ทไ่ี ด้รับไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวันได้ จดุ ม่งุ หมาย หลักสูตรนใ้ี หค้ วามรแู้ ละประสบการณเ์ พ่อื ใหผ้ จู้ บหลักสูตรมีคุณลกั ษณะดงั น้ี 1. เพื่อให้ผเู้ รียน มีความรู้ในเรื่องงานทาสีพน้ื ฐาน เพอ่ื การพฒั นาอาชพี 2. เพ่ือให้ผู้เรยี นไดน้ ำความรแู้ ละทักษะทไ่ี ดร้ ับนำไปพฒั นาตนเองให้อยูใ่ นสังคมได้อย่างมคี วามสุข กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไปในพืน้ ที่อำเภอสงั ขะ จังหวดั สุรินทร์ ระยะเวลา จำนวน 35 ช่ัวโมง (ทฤษฎี 10 ชั่วโมง ปฏิบัติ 25 ชั่วโมง)
129 โครงสร้างหลกั สูตร ท่ี เร่ือง จุดประสงค์การเรียนรู้ เนอื้ หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 1 ช่องทางการ 1. ผเู้ รยี นบอกความสำคัญ 1. ความสำคัญและ 1. ผู้เรียนศกึ ษาสือ่ เอกสาร ใบ 3 5 ประกอบอาชพี และประโยชนข์ องการทาสี ประโยชนข์ องการทาสี ความรู้ ส่ือ อนิ เตอรเ์ น็ต ช่างทาสี ทง้ั ในและนอกอาคารได้ 1.1 การประกอบ เกีย่ วกบั ความสำคญั ประโยชน์ 2. วิเคราะห์ตนเองในการ อาชีพชา่ งทาสคี ุณธรรม ความรเู้ บ้ืองตน้ คณุ ธรรม ประกอบอาชีพชา่ งทาสี จรยิ ธรรมสำหรับอาชีพ จริยธรรมเกี่ยวกับการทาสี สามารถบอกคุณธรรม ชา่ งทาสี 2. ผู้เรยี นสอบถามสัมภาษณ์ จรยิ ธรรม สำหรบั อาชีพช่าง 1.2 ความรู้เบ้อื งต้น พดู คยุ กบั ช่างทาสี เก่ยี วกบั ทาสี 1.2.1 ชนดิ ของสี อาชีพชา่ งทาสี 3. บอกชนดิ ของสี วสั ดุทาสี - สีรองพนื้ 3. นำข้อมลู จากการศึกษาสื่อ และประเภทของเคร่อื งมอื - สีนำ้ อะครลิ คิ และจากการสมั ภาษณ์ มา ทใี่ ช้ในการทาสีได้ - สีน้ำมัน วิเคราะหต์ นเอง เพ่อื ตัดสินใจ 4. อธบิ ายวธิ กี ารรักษา - สยี อ้ มไม้ ประกอบอาชีพ ความปลอดภัยจากการใช้ - สเี คลือบไม้ 4. นำผลการวิเคราะหม์ า เคร่ืองมอื วัสดุ อปุ กรณไ์ ด้ - สีกนั สนมิ แลกเปลยี่ นกบั ผู้เรียน เพอ่ื นใน 1.3 ประเภทของ กลุ่มและวิทยากร เคร่อื งมือที่ใช้ทาสี และ 5. สรปุ ช่องทางการประกอบ วิธีใช้ อาชพี และตดั สินใจของตนเอง 1.4 ความปลอดภยั ใน การใช้เครือ่ งมอื อุปกรณ์ 2 ทักษะการ 1. เตรียมพืน้ ท่ี ทาสี วัสดุ 1. การเตรยี มพ้ืนท่ี 1. ผู้เรยี นศกึ ษาใบความรู้ 1 10 ประกอบอาชีพ อุปกรณ์ และเครอ่ื งมือใน 1.1 การเตรียม เกี่ยวกับประเภทของทาสีวิธีการ การทาสีได้ อปุ กรณน์ ่ังรา้ น ทาสีทุกวธิ ี 2. ทาสรี องพ้นื และสที ับ 1.2 การเตรยี มสี และ 2. ผเู้ รยี นชมการสาธิตของ หนา้ ได้ถกู ต้อง อปุ กรณ์ วิทยากรพร้อมสมั ภาษณ์ 3. เกบ็ รายละเอียดของงาน 1.3 การทาสรี องพน้ื ขั้นตอนวธิ กี ารทาสีทุกวิธี ไดเ้ รียบร้อยสวยงาม และสที ับหนา้ 3. ผ้เู รยี นฝึกทาสีและเกบ็ 4. สรุปข้นั ตอนและเทคนคิ รายละเอยี ด การทำงานได้ครบทกุ ข้นั ตอน
130 ท่ี เรอ่ื ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำนวนชว่ั โมง 1. การคำนวณพื้นท่ี ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 3 การบรหิ าร 1. คำนวณพน้ื ทแี่ ละราคา และการคำนวณราคา 1. ผูเ้ รยี นศกึ ษาใบความรูเ้ รือ่ ง จัดการในการ คา่ แรง คา่ วัสดุ การ 2. การประชาสัมพันธ์ การคำนวณพ้นื ท่ีและการ 1 10 และการหาลกู ค้า คำนวณราคาคา่ แรงและวัสดุ ประกอบอาชีพ ประมาณราคาสี 3. การควบคุม การหาลูกค้า การ 10 25 2. หาลกู ค้าและ มาตรฐานของการ ประชาสมั พนั ธ์มาตรฐานของ 35 ประชาสัมพนั ธ์งานทาสไี ด้ บรกิ าร การบริการและการเจรจา 4. การเจรจาต่อรอง ต่อรองราคา 3. อธิบายมาตรฐานของ ราคากบั ลูกคา้ 2. ผู้เรียนฝกึ คำนวณพ้นื ท่ี การบรกิ ารทาสีได้ ราคาคา่ แรง และวัสดุ การหา รวม ลูกคา้ และวธิ กี าร 4. เจรจาตอ่ รองราคากับ ประชาสมั พันธ์ ลูกค้าไดอ้ ยา่ งราบรนื่ และ 3. ผเู้ รียนฝึกรับงาน และฝึก เปน็ ทพี่ ึงพอใจของลกู ค้า เจรจาตอ่ รองราคากบั ลกู คา้ โดยใชบ้ ทบาทสมมติ และ 5. การทำบญั ชีการ สถานการณจ์ ริง ประกอบอาชีพได้ 4. ผเู้ รียน และผู้สอน สรปุ กระบวนการบรหิ ารจัดการใน การประกอบอาชพี ชา่ งทาสี
131 สอ่ื การเรยี นรู้ 1. เอกสาร/ใบความรู้/VCD/DVD 2. แหล่งเรียนร้ใู นชุมชน/วทิ ยากร การวัดผลและประเมนิ ผล 1. สังเกตการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เขา้ รบั การอบรม 2. การซกั ถามและการตอบคำถาม 3. การแสดงความคิดเหน็ 4. ผลการปฏบิ ตั ิงานของผ้เู รียน 5. ตรวจสอบเวลาเรยี น เงือ่ นไขการจบหลักสตู ร 1. มเี วลาเรียนและฝกึ ปฏิบตั ติ ามหลักสูตรไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ผา่ นตลอดหลกั สตู รไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาทจี่ ะได้รับหลังจากจบหลักสูตร 1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล 2. วุฒิบัตรออกโดยสถานศกึ ษา 3. ทะเบียนคมุ วฒุ ิบตั ร เทยี บโอน -
132 แบบเขยี นหลกั สูตรการศึกษาตอ่ เน่อื ง ชื่อหลกั สตู ร วิชาการทอผา้ ขาวมา้ ลายพนื้ บา้ น จำนวน 35 ช่ัวโมง ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอสงั ขะ ความเปน็ มา ความเปน็ มาของหลักสูตร การจดั การศกึ ษาอาชีพในปัจจุบันมีความสำคญั มากเพราะจะเป็นการ พัฒนาประชากรของประเทศให้ มีความรู้ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพเป็นการแก้ปัญหาการ วา่ งงานและส่งเสริมความเขม้ แขง็ ให้แกเ่ ศรษฐกิจชมุ ชนซงึ่ กระทรวงศึกษาธิการไดก้ ำหนดยทุ ธศาสตร์ภายในกรอบ เวลา 2 ปีทพ่ี ฒั นา 5 ศกั ยภาพ ของพน้ื ทีใ่ น 5 กลุ่มอาชพี ใหม่ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลกั ของโลก “รู้ เขารู้เราเท่าทัน” เพื่อแข่งขัน ได้ในเวทีโลก “ตลอดจนกำหนดภารกิจที่จะยกระดับการจัดการศึกษาเพื่อเพิ่ม ศักยภาพและขีด ความสามารถ ให้ประชาชนได้มีอาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงโดยเน้นการบูรณาการให้ สอดคล้องกับ ศักยภาพด้านต่างๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทำอย่างมี คุณภาพทั่วถึง และเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้มั่นคงมั่งคั่งและมีงานทำอย่างยั่งยืนมีความสามารถเชิงการ แข่งขันทั้งใน ระดับภูมิภาค อาเซียนและระดบั สากลซึ่งจะเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ที่สรา้ ง ความมั่นคง ให้แก่ประชาชน และประเทศชาติ สภาพสังคมปัจจบุ ันระบบสาธารณูปโภคมีความจำเป็นและสำคัญ ในการ ดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ เพ่ือพัฒนาและสง่ เสริมภูมิปัญญาท้องถ่ินในการทอผ้า ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมที่ สำคัญของชาวอีสาน ที่มีความผูกพันกับคติความเชื่อของชาว อีสานมาช้านาน และเป็นการนำผ้าขาวม้ามาเพิ่ม มูลค่า สร้างอาชพี เสริมรายได้หลงั ฤดูทำนำหรือช่วงเวลาวา่ ง เป็นการสร้างฐานการเรยี นรู้และเช่ือมโยงองค์ความรู้ ที่เกิดจากประสบการณ์ตรงของคนในชุมชน หลกั การของหลกั สูตร 1. เปน็ หลกั สูตรการประกอบอาชพี ทท่ี ำใหเ้ กดิ รายได้ 2. เป็นหลักสูตรการประกอบอาชีพทีส่ ง่ เสรมิ การมีงานทำของประชาชน 3. เปน็ หลกั สูตรทีย่ ืดหยนุ่ ทั้งเนื้อหา ระยะเวลาเรียน และการจัดกระบวนการเรียนรู้ จุดมุ่งหมาย 1.เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจในการทอผ้าขาวม้าไหมโดยใช้ผา้ ขาวมา้ ใช้ไหมเป็นวตั ถุดบิ 2.เพื่อให้ผเู้ รียนมคี วามคิดสรา้ งสรรค์และเกิดทักษะในการออกลวดลาย 3.เพื่อให้ผเู้ รยี นสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพได้ กลุ่มเปา้ หมาย ประชาชนทั่วไป ระยะเวลา จำนวน 35 ช่วั โมง 8 ชวั่ โมง ภาคทฤษฎี จำนวน 27 ชวั่ โมง ภาคปฏบิ ตั ิ จำนวน 35 ช่ัวโมง รวม
133 โครงสร้างหลักสูตร ท่ี เรื่อง จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำนวนช่ัวโมง ทฤษฎี ปฏิบัติ 1 ประวัติความ 1. เพื่อทราบประวัติ 1. ประวัตคิ วาม วทิ ยากรบรรยายให้ความรู้ เรื่อง 2 เปน็ มา ความ เปน็ มา เปน็ มา 1. ประวตั คิ วามเป็นมา ชว่ั โมง - 2.เ พ ื ่ อ ท ร า บ 2.ความสำคญั ใน 2.ความสำคญั ในการประกอบ ความสำคัญใน การ การประกอบอาชพี อาชีพการทอผา้ ขาวมา้ ประกอบอาชพี การ ทอ การทอผา้ ขาวมา้ 3.ภูมิปัญญาท้องถนิ่ การทอ ผ้าขาวม้า 3.ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น ผ้าขาวม้า 3.เพื่อทราบภูมิปญั ญา การทอผา้ ขาวมา้ 4. วเิ คราะหต์ นเองในการ ประกอบ ท้องถิ่นการทอ อาชพี สามารถบอก คณุ ธรรม ผา้ ขาวม้า จรยิ ธรรม สำหรับ อาชีพได้ 2 วตั ถุดิบและ 1. เ พ ื ่ อ ท ร า บ ก า ร 1. ก า ร จ ั ด เ ต รียม วทิ ยากรสาธติ พร้อมใหผ้ ูเ้ รียน ลงมือ 2 6 การออกแบบ จ ั ด เ ต ร ี ย ม ว ั ส ดุ / วัสดุ/อปุ กรณใ์ น การ ปฏิบตั ิ สงิ่ ที่ต้องเตรยี ม ชว่ั โมง ชั่วโมง อุปกรณ์ใน การทอ ทอผ้าขาวม้าลาย 1. ฟืม ผ้าขาวม้าลายพ้ืนบ้าน พืน้ บา้ น 2. อกั 2. เพื่อทราบขั้นตอน 2. ข ั ้ น ต อ น ก า ร 3. ก่ี การ ออกแบบ ล า ย ออกแบบผ้าขาวม้า 4. ไมข้ ิด ผ้าขาวม้าแบบพื้นบ้าน ลายพ้ืนบา้ น 5. กระสวย 6. หลอดดา้ ย 7. เสน้ ด้าย,ไหม สตี ่างๆ 3 ข้นั ตอนการ 1 . ส า ม า ร ถ ส รุ ป 1. ข ั ้ น ต อ น แ ล ะ 1. ท ำ ใ บ ง า น / ช ิ ้น งา น ก า ร ท อ 2 18 ผลติ ขั้นตอนและ เทคนิค เ ท ค น ิ ค ก า ร ท อ ผา้ ขาวม้า ช่วั โมง ชว่ั โมง การทำงาน ผ ้ า ข า ว ม ้ า ล า ย 2.ว ิ ท ย า ก ร ใ ห ้ ผ ู ้ เ ร ี ย น ต อ บ 2.เพื่อประเมินความ พื้นบ้าน ทำงาน ได้ แบบสอบถามความพงึ พอใจ พ ึ ง พ อ ใ จ ใ น ก า ร ครบทกุ ขน้ั ตอน 3.ลงมือปฏบิ ัติ การทอผา้ ขาวม้าลาย จัดการเรียน การสอน พน้ื บ้าน 4 การบริหาร 1.เ พ ื ่ อ ท ร า บ ก า ร 1.การวิเคราะห์และ 1.บรรยายให้ความรู้ผู้เรียนและ 2 2 จดั การและ วเิ คราะห์และ วางแผน วางแผนการตลาด วิทยากรร่วมสนทนาแลกเปลี่ยน ชั่วโมง ชวั่ โมง การตลาด การตลาด 2.การจัดทำบัญชี ข้อมลู ความคดิ เหน็ 2.เ พ ื ่ อ ท ร า บ ก า ร รายรับ-รายจ่าย/การ 2.สรุปความรู้และวิเคราะห์ การคิด จัดทำบัญชีราย รับ ทำบัญชคี รวั เรอื น ราคาต้นทุนการผลิต /การทำบัญชี รายจ่าย ครัวเรือนและปัจจัยเสี่ยงในการ ประกอบอาชพี และจำหนา่ ย 5 การวัดผล 1 . ส า ม า ร ถ ส รุ ป 1.การสรุปขั้นตอน 1. ใบงาน/ชิน้ งาน 1 ประเมนิ ผล ขั้นตอนและเทคนิค แ ล ะ เ ท ค น ิ ค ก า ร 2. ว ิ ท ย า ก ร ใ ห ้ ผ ู ้ เ ร ี ย น ต อ บ - ชว่ั โมง การทำงาน ทำงานได้ครบทุก แบบสอบถาม ความพงึ พอใจ 2.เพื่อประเมินความ ข้ันตอน พึงพอใจในการ จัดการเรยี นการ สอน รวม 8 27
134 สอื่ /วัสดุอุปกรณ์การเรียนรู้ 1. ส่อื เอกสารใบความรใู้ นการบรรยายและสาธิตอาชพี และการฝกึ ปฏบิ ัติจริง 2. ตวั อย่างผลงาน 3. ผรู้ ู้/ภูมิปญั ญาท่ีชำนาญการ 4. วัตถดุ บิ อปุ กรณ์ในอาชพี ที่มีการใช้จรงิ การวัดและประเมินผล 1. การประเมนิ ความร้ภู าคทฤษฎรี ะหว่างเรียนและจบหลกั สูตร 2. การประเมินผลงานระหวา่ งเรียนจาการปฏิบตั ิได้ผลงานท่ีมคี ุณภาพ เกณฑก์ ารจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรียนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมินตลอดหลกั สูตรไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. มีผลงานทมี่ ีคุณภาพตรงตามหลักการของหลกั สูตร หลกั ฐานการผ่านการอบรม 1. หลักฐานการประเมนิ ผล 2. ทะเบียนคมุ วุฒบิ ตั ร 3. วฒุ บิ ตั รการศึกษาออกโดยสถานศกึ ษา การเทียบโอน -
135 ชอื่ หลกั สตู ร งานเดนิ สายไฟพน้ื ฐาน จำนวน 35 ช่วั โมง กลุ่มอาชีพเฉพาะทาง กจิ กรรมส่งเสริมศนู ยฝ์ กึ อาชีพชุมชน รูปแบบชนั้ เรยี นวชิ าชพี 31 ชั่วโมง ขน้ึ ไป ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอสงั ขะ จังหวัดสรุ ินทร์ ความเปน็ มา นโยบายการดำเนินงานของสำนักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ได้มีการ จัดสรรงบประมาณเกย่ี วกับการขยายโอกาสในการเข้าถงึ บรกิ าร การศึกษาและการเรยี นรอู้ ย่าง ต่อเนอื่ งตลอดชวี ติ การจัดการศึกษาเพอื่ พฒั นาคณุ ภาพชีวติ ประชาชนทุกชว่ งวยั มุง่ เน้นการฝึกหลักสตู ร วิชาชีพ ที่สอดคล้องกับความ ต้องการของตลาดแรงงาน เพอ่ื การพัฒนาอาชีพและเป็นช่องทางในการประกอบ อาชีพ ปัจจุบันสังคมไทยเป็นครอบครัวขยาย มีการปลูกสร้างบ้านพักอาศัยมากขึ้น ทำให้ต้องมีการวางระบบ ไฟฟ้าภายในอาคาร เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้อยู่อาศัยและความสวยงาม อาชีพช่างเดินสายไฟในอาคารจึงมี ความจำเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นอาชีพที่ใช้ ทักษะความรู้และความชำนาญ สามารถทำเป็นอาชพี หลักและอาชีพเสริม สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับ ครอบครัวได้อย่างมั่นคง ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสังขะ ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิตและให้ชุมชนได้มีงานทำ จึงได้จัดทำหลักสตู รการเดินสายไฟในอาคาร ขึ้น หลักการของหลักสูตร เปน็ หลกั สตู รทเ่ี น้นการฝึกปฏิบตั จิ รงิ โดยใชก้ ระบวนการเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะ และเป็น หลกั สูตรที่ผูเ้ รียนสามารถนำความรูไ้ ปปรับใช้ได้จรงิ เพิ่มชอ่ งทางในการประกอบอาชีพ วตั ถุประสงค์ 1. เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นมที กั ษะในงานเดินสายไฟพ้ืนฐาน 2. เพือ่ ใหผ้ ้เู รียนมีเทคนคิ วธิ ีการทถ่ี ูกต้อง และเกิดความชำนาญในการเดินสายไฟ 3. เพื่อเพม่ิ ช่องทางในการประกอบอาชีพใหก้ ับตนเอง กลมุ่ เป้าหมาย ประชาชนทวั่ ไปในพ้นื ที่อำเภอสงั ขะ จังหวัดสุรินทร์ ระยะเวลา 10 ชัว่ โมง 1. ภาคทฤษฎี จำนวน 25 ชว่ั โมง 2. ภาคปฏิบัติ จำนวน 35 ชัว่ โมง รวม จำนวน
136 โครงสรา้ งหลกั สูตร ที่ เรอื่ ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เนอ้ื หา กระบวนการจัดการเรียนรู้ จำนวนช่ัวโมง ทฤษฎี ปฏบิ ัติ 1 หลกั สูตรช่าง เพื่อใหผ้ ้รู บั การฝึกมี ความรู้ 1. ความปลอดภัย เก่ียวกบั 1. วทิ ยาการให้ความรู้และ 2 5 พน้ื ฐาน “การเดิน เกีย่ วกบั สาเหตุ ของการเกดิ ไฟฟ้า สาธิต สายไฟภายใน อุบัติเหตุ และการป้องกนั 1.1 ความปลอดภยั ในการ 2. ใหผ้ ้เู รียนฝกึ ปฏิบัติ อาคาร ” อุบตั เิ หตุ อุปกรณ์ ปอ้ งกัน ปฏบิ ตั ิงาน 3. วิทยากรตรวจสอบ อบุ ัตเิ หตุ ตลอดจนตระหนักถงึ 1.2 ข้อควรระวังเก่ียวกบั การ อธบิ ายเพม่ิ เติม ความปลอดภยั ในการ ทำงาน ใช้ไฟฟา้ 4. สรปุ และแลกเปลย่ี น ของตนเองและ ผู้อืน่ 1.3 การปฐมพยาบาลผู้ที่ ประสบการณ์/ความรู้ ไดร้ ับอนั ตรายจากไฟฟ้า ร่วมกนั 2 ทกั ษะในการ 1. เพ่อื ให้ผูเ้ รียนมี ความรู้ ทักษะในการประกอบอาชพี 1. วิทยาการให้ความรู้และ 2 4 ประกอบอาชพี ความ เข้าใจเกย่ี วกบั การ การ การเดนิ สายไฟฟ้าภายใน สาธติ งานเดินสายไฟ เดินสายไฟฟา้ ภายในบา้ น อาคาร 2. ใหผ้ ู้เรียนฝึกปฏิบตั ิ 2. เพ่ือใหผ้ ้เู รียน เกิดทักษะการ 1 ขั้นเตรยี มการประกอบ 3. วิทยากรตรวจสอบ - การเตรยี ม เรยี นร้กู ารเดิน สายไฟฟ้าภายใน อาชีพการ เดินสายไฟฟ้าใน อธบิ ายเพม่ิ เตมิ อปุ กรณแ์ ละเลอื ก บ้านอยา่ ง ปลอดภัย บ้าน 4. สรปุ และแลกเปลี่ยน วสั ดุ 3. เพ่อื ใหผ้ ู้เรียน สามารถนำ 1.1 ความรู้เบ้อื งต้นเกีย่ วกับ ประสบการณ์/ความรู้ ความรู้ และทักษะท่ไี ดร้ ับ ไป ไฟฟ้า ร่วมกนั ประกอบอาชพี และมีรายได้ 1.2 เครือ่ งมอื และอุปกรณ์ เพิ่มขึน้ เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ 1.3 การเลือกซื้อวสั ดุ 3 ทกั ษะการเดิน 1.เพอื่ ให้ผเู้ รียนมี ความรู้ความ 2. การตอ่ วงจรไฟฟ้า 1. วิทยาการใหค้ วามรู้ 28 สายไฟในอาคาร เขา้ ใจใน การเดินสายไฟด้วยราง 2.1 การต่อแบบอนุกรม 2. สาธิต ดว้ ยรางเดนิ สาย เดินสายได้ 2.2 การตอ่ แบบขนาน 3. ให้ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ัติ - การเดนิ สายไฟ 2.เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นมี ทักษะในการ 2.3 การตอ่ แบบผสม 4. วทิ ยากรตรวจสอบ ในอาคาร เดิน สายไฟดว้ ยรางเดนิ สาย ได้ 3. การใช้เครื่องมือวดั อธิบายเพ่ิมเติม กระแสไฟฟา้ 5. สรุปและแลกเปล่ียน 3.1 โครงสร้างของ เคร่ืองวดั ประสบการณ์/ความรู้ กระแสไฟฟา้ รว่ มกัน 3.2 การทำงานของ เคร่อื งวัด กระแสไฟฟ้า 3.3 การวัดกระแสไฟฟา้ การเตรยี มเคร่อื งมอื 4. วสั ดุ,อุปกรณใ์ นการ ตดิ ตั้ง สายไฟฟา้ 5. การเขียนแบบระบบ ไฟฟ้า ,อา่ นแบบไฟฟา้ และประเมิน ราคา คา่ บริการ 6. การติดตั้งเดนิ สายไฟ ด้วย รางเดินสาย
137 ที่ เรอื่ ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอื้ หา จำนวนช่วั โมง กระบวนการจดั การเรียนรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 4 การบรหิ ารจัดการ 1. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมี ความรู้ 1. การบรหิ ารจัดการในการ 1. วิทยาการให้ความรู้และ 2 8 สาธิต ในการประกอบ ความ เขา้ ใจเกี่ยวกับบริหาร ประกอบ อาชพี การเดนิ 2. ให้ผ้เู รียนฝึกปฏบิ ัติ 3. วิทยากรตรวจสอบ อาชพี การเดนิ จัดการในการประกอบ อาชีพ สายไฟฟา้ ภายในอาคาร อธิบายเพม่ิ เติม 4. สรปุ และแลกเปลย่ี น สายไฟฟา้ ภายใน การเดินสายไฟฟา้ ภายในอาคาร 1.1 การบรหิ ารจัดการการ ประสบการณ์/ความรู้ อาคาร 2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียน เกิดทกั ษะใน ประกอบอาชพี ร่วมกัน การแกป้ ญั หาความเสี่ยงใน การ 1.2 การบรหิ ารจัดการการ ประกอบอาชีพการเดิน ประกอบอาชีพชา่ งไฟฟา้ สายไฟฟา้ ภายในอาคาร 1.3 การจดั การความเสีย่ ง 1.3.1 ความต่อเนื่องในการ ประกอบอาชีพ 1.3.2 การแก้ปญั หาความ เสยี่ งใน การประกอบอาชพี 5 การวัดและ เพ่ือทดสอบความรคู้ วาม เปน็ การวัดผลผ้รู บั การฝกึ ทดสอบ 2- ประเมนิ ผล และทดสอบฝีมือ ผู้เรียน โดยการประเมนิ ผลหลงั การ 10 25 ฝึกอบรม รวม
138 การจัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. การบรรยาย 2. การสาธิต ทดลอง 3. การฝกึ ปฏบิ ัติจรงิ 4. ศึกษาจากเอกสารสิ่งพิมพ์ /ใบความร/ู้ CVD DVD 5. ศกึ ษาจากผู้รู้ และวิทยากร สอื่ /วัสดอุ ุปกรณก์ ารเรยี นรู้ 1. เอกสาร / ใบความรู้/ VCD DVD 2. แหลง่ เรียนรู้ในชุมชน / วทิ ยากร 3. อปุ กรณป์ ระกอบกลุม่ ช้ันเรยี นวชิ าชพี การวดั และประเมนิ ผล 1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎีระหว่างเรยี นและจบหลกั สูตร 2. การประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี นจากการปฏบิ ัตงิ านที่มคี ณุ ภาพเพยี งพอ สามารถสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ตนเอง ความสำเรจ็ ของการปฏบิ ตั แิ ละจบหลกั สตู ร การจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรียนและฝึกปฏิบัติตามหลักสูตรไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 2. มีผลการประเมินผ่านตลอดหลกั สูตร ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 3. มผี ลงานผา่ นการประเมนิ ทดสอบท่มี ีคุณภาพตามหลกั เกณฑ์ เอกสารหลักฐานการศึกษาที่จะไดร้ ับหลงั จากจบหลกั สตู ร 1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล 2. เกยี รติบตั รออกโดยสถานศกึ ษา การเทยี บโอน -
139 แบบเขียนหลักสูตรการศกึ ษาต่อเนื่อง ช่ือหลกั สูตร วิชางานทาสพี นื้ ฐาน จำนวน 35 ชวั่ โมง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอสงั ขะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความเปน็ มา อาชพี ชา่ งทาสเี ปน็ อาชพี อิสระท่ีผูเ้ รยี นสามารถนำมาเปน็ อาชีพหลักหรืออาชีพรองได้ เนื่องจากเป็นอาชีพ ท่ีผสู้ นใจสามารถเรียนร้ไู ดง้ า่ ยไม่ยงุ่ ยาก ไม่มตี ้นทนุ ในการประกอบอาชีพ เพราะเปน็ อาชีพที่ใช้ฝมี ือ และทักษะใน การประกอบอาชีพ และในปัจจุบันที่พักอาศัยของประชาชนส่วนใหญ่ก่อสร้างจากวัสดุคอนกรีต ซึ่งการตกแต่ง ภายในและภายนอกจะนิยมใช้สีในการตกแต่งผนังบ้าน ฝ่าเพดาน และอื่นๆ ให้มีความสวยงามและปัจจุบัน ครอบครัวของสงั คมไทยเป็นครอบครัวขยาย จึงมีการปลูกที่พักอาศัยมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบอาชีพด้านช่างทาสี ขาดแคลน อาชพี ชา่ งทาสีเป็นอาชีพหน่งึ ที่เป็นชอ่ งทางในการประกอบอาชพี ของผู้ทย่ี ังไม่มงี านทำหรือผู้ท่ีต้องการ เปล่ยี นอาชีพทีเ่ ปน็ งานอสิ ระและมน่ั คงได้ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอสงั ขะ ไดเ้ ล็งเห็นความสำคัญของการฝึกทักษะ อาชพี งานทาสี จงึ ได้จัดทำหลกั สูตรงานทาสพี น้ื ฐาน จำนวน 35 ช่ัวโมง เพ่ือเปน็ การฝึกฝนอาชพี เพอื่ การมีงานทำ และได้นำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและ ครอบครวั หลักการของหลกั สูตร 1. เปน็ หลักสตู รท่สี ่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียนรู้จากการลงมอื ปฏบิ ัติจริง 2. เป็นหลักสูตรท่ีมีโครงสร้างยืดหยุ่นท้งั ด้านสาระเวลา และการจัดการเรียนรู้ 3. เป็นหลักสตู รที่สามารถนำความรแู้ ละประสบการณท์ ี่ไดร้ บั ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ จดุ มุง่ หมาย หลกั สตู รนี้ใหค้ วามรูแ้ ละประสบการณ์เพือ่ ใหผ้ ู้จบหลกั สูตรมคี ุณลักษณะดงั น้ี 1. เพื่อใหผ้ เู้ รียน มีความรใู้ นเรือ่ งงานทาสพี ้นื ฐาน เพอ่ื การพัฒนาอาชพี 2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนไดน้ ำความรแู้ ละทักษะท่ไี ด้รบั นำไปพัฒนาตนเองให้อยใู่ นสงั คมได้อย่างมคี วามสขุ กลุ่มเปา้ หมาย ประชาชนทั่วไปในพืน้ ท่ีอำเภอสังขะ จังหวัดสุรนิ ทร์ ระยะเวลา จำนวน 35 ชั่วโมง (ทฤษฎี 10 ชวั่ โมง ปฏิบัติ 25 ชว่ั โมง)
140 โครงสรา้ งหลักสูตร ท่ี เรอ่ื ง จุดประสงค์การ เน้อื หา การจัดกระบวนการ จำนวนชว่ั โมง 1 ช่องทางการ เรียนรู้ เรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ ประกอบ 1. ผูเ้ รยี นบอก 1. ความสำคญั และ 1. ผเู้ รียนศกึ ษาสือ่ 35 อาชีพช่าง ความสำคัญและ ทาสี ประโยชน์ของการ ประโยชนข์ องการทาสี เอกสาร ใบความรู้ ส่ือ 1 10 ทาสีท้ังในและนอก 2 ทักษะการ อาคารได้ 1.1 การประกอบอาชีพ อินเตอร์เน็ต เก่ยี วกับ ประกอบ 2. วเิ คราะห์ตนเองใน อาชีพ การประกอบอาชพี ชา่ งทาสีคณุ ธรรม ความสำคัญ ประโยชน์ ชา่ งทาสีสามารถบอก คุณธรรม จรยิ ธรรม จริยธรรมสำหรับอาชีพ ความรู้เบื้องต้น สำหรบั อาชีพชา่ งทาสี 3. บอกชนดิ ของสี ช่างทาสี คณุ ธรรม จริยธรรม วสั ดทุ าสีและประเภท ของเคร่อื งมือทใี่ ช้ใน 1.2 ความรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกับการทาสี การทาสีได้ 4. อธิบายวิธกี าร 1.2.1 ชนิดของสี 2. ผู้เรียนสอบถาม รักษาความปลอดภัย จากการใช้เครือ่ งมอื - สรี องพ้ืน สมั ภาษณ์ พูดคยุ กับชา่ ง วสั ดุ อปุ กรณไ์ ด้ - สนี ้ำอะครลิ คิ ทาสี เก่ียวกับอาชีพช่าง 1. เตรยี มพ้นื ท่ี ทาสี วสั ดอุ ปุ กรณ์ และ - สีนำ้ มนั ทาสี เคร่อื งมอื ในการทาสี ได้ - สีย้อมไม้ 3. นำขอ้ มูลจาก 2. ทาสรี องพื้นและสี ทบั หนา้ ไดถ้ กู ตอ้ ง - สเี คลือบไม้ การศึกษาสือ่ และจาก 3. เกบ็ รายละเอียด ของงานไดเ้ รยี บรอ้ ย - สีกนั สนมิ การสัมภาษณ์ มา สวยงาม 4. สรปุ ขนั้ ตอนและ 1.3 ประเภทของ วเิ คราะห์ตนเอง เพอื่ เทคนิคการทำงานได้ ครบทกุ ขน้ั ตอ เครื่องมือที่ใชท้ าสี และ ตัดสินใจประกอบอาชพี วิธีใช้ 4. นำผลการวิเคราะห์ 1.4 ความปลอดภัยใน มาแลกเปลย่ี นกับผู้เรียน การใช้เคร่อื งมอื อปุ กรณ์ เพือ่ นในกลมุ่ และ วทิ ยากร 5. สรปุ ช่องทางการ ประกอบอาชีพและ ตดั สินใจของตนเอง 1. การเตรียมพืน้ ที่ 1. ผ้เู รียนศึกษาใบ 1.1 การเตรยี มอุปกรณ์ ความรเู้ กี่ยวกบั ประเภท น่ังรา้ น ของทาสวี ธิ กี ารทาสที ุก 1.2 การเตรียมสี และ วิธี อปุ กรณ์ 2. ผเู้ รยี นชมการสาธติ 1.3 การทาสรี องพ้นื และ ของวทิ ยากรพรอ้ ม สที บั หนา้ สมั ภาษณข์ นั้ ตอนวิธีการ ทาสีทกุ วิธี 3. ผู้เรียนฝึกทาสแี ละ เกบ็ รายละเอยี ด
141 ท่ี เร่ือง จดุ ประสงค์การ เนือ้ หา การจัดกระบวนการ จำนวนชว่ั โมง เรยี นรู้ เรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 3 การบรหิ าร 1. คำนวณพนื้ ที่และ 1. การคำนวณพน้ื ท่ีและ 1. ผู้เรยี นศึกษาใบ 1 10 จัดการในการ ราคา ค่าแรง คา่ วสั ดุ การคำนวณราคา ความรู้เรอื่ งการคำนวณ ประกอบ การประมาณราคาสี 2. การประชาสมั พนั ธ์ พน้ื ที่และการคำนวณ อาชพี 2. หาลูกค้าและ และการหาลูกค้า ราคาคา่ แรงและวัสดุ ประชาสัมพันธง์ าน 3. การควบคมุ มาตรฐาน การหาลูกค้า การ ทาสไี ด้ ของการบริการ ประชาสัมพนั ธม์ าตรฐาน 3. อธบิ ายมาตรฐาน 4. การเจรจาต่อรองราคา ของการบริการและการ ของการบริการทาสไี ด้ กบั ลกู คา้ เจรจาตอ่ รองราคา 4. เจรจาตอ่ รองราคา 2. ผูเ้ รียนฝึกคำนวณ กับลูกค้าไดอ้ ย่าง พนื้ ที่ ราคาค่าแรง และ ราบรน่ื และเป็นท่พี ึง วัสดุ การหาลกู ค้า และ พอใจของลกู คา้ วิธกี ารประชาสมั พนั ธ์ 5. การทำบัญชกี าร 3. ผ้เู รยี นฝึกรับงาน และ ประกอบอาชีพได้ ฝึกเจรจาตอ่ รองราคากบั ลกู ค้า โดยใช้บทบาท สมมติ และสถานการณ์ จรงิ 4. ผ้เู รยี น และผู้สอน สรุปกระบวนการบริหาร จัดการในการประกอบ อาชีพช่างทาสี สื่อการเรียนรู้ 1. เอกสาร/ใบความรู้/VCD/DVD 2. แหล่งเรยี นรใู้ นชุมชน/วทิ ยากร การวดั ผลและประเมินผล 1. สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมของผู้เขา้ รับการอบรม 2. การซกั ถามและการตอบคำถาม 3. การแสดงความคิดเห็น 4. ผลการปฏิบัตงิ านของผเู้ รยี น 5. ตรวจสอบเวลาเรียน เงอื่ นไขการจบหลกั สูตร 1. มีเวลาเรียนและฝึกปฏิบตั ิตามหลักสูตรไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมินผ่านตลอดหลกั สูตรไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 80
142 เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษาที่จะได้รับหลงั จากจบหลกั สูตร 1. หลักฐานการประเมนิ ผล 2. วุฒบิ ัตรออกโดยสถานศึกษา 3. ทะเบียนคุมวฒุ บิ ตั ร เทยี บโอน -
143 หลกั สูตรงานทาสภี ายนอกและภายใน กิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน พฒั นาอาชีพระยะส้นั รูปแบบชัน้ เรยี นวิชาชีพไมเ่ กิน 31 ชวั่ โมง ข้ึนไป ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอสงั ขะ จังหวัดสรุ นิ ทร์ ความเปน็ มา นโยบายการดำเนินงานของสำนกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้มีการ จดั สรรงบประมาณเกี่ยวกับการขยายโอกาสในการเขา้ ถึงบรกิ าร การศกึ ษาและการเรยี นรอู้ ย่างต่อเนอ่ื งตลอดชีวิต การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตประชาชนทกุ ช่วงวยั ม่งุ เนน้ การฝึกหลักสตู ร วิชาชพี ทีส่ อดคลอ้ งกับความ ต้องการของตลาดแรงงาน เพ่อื การพัฒนาอาชีพและเปน็ ชอ่ งทางในการ ประกอบ อาชีพ ปัจจุบันสังคมไทยเป็นครอบครัวขยาย มีการปลูกสร้างบ้านพักอาศัยมากขึ้น ทำให้ต้องมีการทาสี เพื่อตกแต่งบ้านให้มีความสวยงาม อาชีพช่างทาสีจึงมีความจำเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นอาชีพ ที่ใช้ทักษะความรู้และความชำนาญ สามารถทำเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริม สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับ ครอบครัวไดอ้ ยา่ งมน่ั คง หลักการของหลกั สตู ร 1. เปน็ หลักสูตรทเ่ี น้นการจัดการศกึ ษาอาชพี เพือ่ การมีงานทำ 2. เป็นหลกั สูตรทเ่ี น้นการเรยี นรจู้ ากการปฏบิ ัตจิ ริง เพอื่ ประโยชนใ์ นการประกอบอาชีพได้จริง จุดหมาย ผเู้ รียนมีความรู้ มที กั ษะในการทาสี และประกอบอาชพี อย่างมีคณุ ธรรม สามารถประกอบอาชีพเลี้ยง ตนเองและครอบครัวได้ กลมุ่ เป้าหมาย ประชาชนท่วั ไปในพน้ื ท่อี ำเภอสงั ขะ จงั หวดั สุรนิ ทร์ รายวชิ า จำนวน 10 ชัว่ โมง 1. ทฤษฎี จำนวน 25 ชวั่ โมง 2. ปฏบิ ตั ิ จำนวน 35 ช่วั โมง รวม
144 ท่ี เรือ่ ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เน้อื หา กระบวนการจดั การเรยี นรู้ จำนวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 1 ความปลอดภัยใน เพอ่ื ใหผ้ ้รู ับการฝกึ มี ความรู้ ศึกษาเก่ียวกับ กฎ ระเบยี บ 1. วิทยากรบรรยายให้ 2- การทำงาน เกยี่ วกบั สาเหตุ ของการเกิด และ ขอ้ บงั คบั ในการ ความรูเ้ กย่ี วกบั อุบัติเหตุ อุบัตเิ หตแุ ละ การป้องกัน ปฏบิ ัติงาน สาเหตุ ของ และการปอ้ งกันในการ อบุ ตั ิเหตุ อปุ กรณ์ ปอ้ งกัน อุบตั ิเหตกุ าร ป้องกนั อบุ ตั ิเหตุ ทำงานเก่ยี วกบั งานสี อุบตั เิ หตุ ตลอดจนตระหนกั ถงึ จาก การปฏบิ ตั ิงาน การ ใช้ ความปลอดภยั ในการ ทำงาน อุปกรณป์ ้องกัน อันตรายส่วน ของตนเองและ ผอู้ นื่ บคุ คล การปฐมพยาบาล เบือ้ งตน้ และกฎแหง่ ความ ปลอดภยั 2 การใช้และ เพอ่ื ใหผ้ ู้รบั การฝกึ มี ความรู้ ศึกษาวิธกี ารใชแ้ ละ 1. วิทยากรบรรยายให้ 12 บำรงุ รกั ษา เกยี่ วกบั การใช้ และบำรุงรักษา บำรงุ รักษาเครอ่ื งมือ เชน่ ความรเู้ กย่ี วกับการใชแ้ ละ เครอ่ื งมืองานสี เครอ่ื งมอื เชน่ เหลก็ โป๊ แปรงซี่ เหลก็ โป๊ แปรงซ่ี แปรงขนสัตว์ บำรุงรักษาเคร่อื งมอื งานสี แปรงขนสัตว์ ลูก ประคบ พู่กัน ลกู ประคบ พู่กันจนี ลูกกลิง้ 2.วิทยากรสาธติ การใช้ จีน ลูกกล้ิง กาพน่ สี เคร่ืองปั๊ม กาพ่นสี เครือ่ งปมั๊ ลม ฯลฯ เคร่อื งมืองานสี ลม ฯลฯ การใช้เครื่องมอื ให้ การใช้เครอื่ งมือให้ เหมาะสม เหมาะสมกับ ประเภทของงาน กบั ประเภท ของงาน ฝึก ปฏิบัติ ใช้และ บำรุงรกั ษา เครื่องมือ เชน่ เหล็กโป๊ แปรง ซี่ แปรงขนสัตว์ ลูก ประคบ พกู่ ันจนี ลูกกล้งิ กา พ่นสี เครื่องปม๊ั ลม ฯลฯ การใช้ เครือ่ งมอื ให้เหมาะสมกบั ประเภทของงาน 3 ทฤษฎชี ่างสี เพือ่ ให้ผ้รู บั การฝกึ มี ความรู้ ศึกษาทฤษฎีสี จิตวิทยาการใช้ 1. วทิ ยากรบรรยายให้ 23 เกย่ี วกบั ทฤษฎีสี จติ วทิ ยาการใช้ สี วธิ ี เลอื กใชส้ ใี ห้เหมาะสม ความรู้ สี วธิ ี เลือกใช้สีให้ เหมาะสมกับ กบั พ้นื ผิววัตถุ วิธีการ ผสม 2.วทิ ยากรสาธิตวิธีตรวจ พื้นผิววัตถุ วิธีการผสมและการ และการทาสี ประเภทต่างๆ ความเรียบร้อยของสี ทาสี ประเภทตา่ งๆ เช่น สนี ้ำ เช่น สนี ำ้ พลาสติก สีน้ำมัน สี เทคนคิ และการแกป้ ัญหาที่ พลาสตกิ สีนำ้ มัน สงี าน ไมฯ้ ลฯ งานไม้ฯลฯ เกิดขึ้นกับงาน วิธตี รวจความเรยี บร้อย ของสี วิธีตรวจ ความเรียบรอ้ ยของสี เทคนคิ และการ แกป้ ัญหาท่เี กิด เทคนิคและการ แก้ปัญหาท่ี ข้นึ กบั งาน เกดิ ขึน้ กบั งาน
145 ที่ เร่อื ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา กระบวนการจัดการเรยี นรู้ จำนวนชว่ั โมง 4 การทาสีรองพืน้ 1. วทิ ยากรบรรยายให้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ เพื่อใหผ้ ู้รบั การฝกึ มี ความรู้ ศึกษาวิธกี ารเตรยี ม พืน้ ผวิ งาน ความรู้ และสี ทับหนา้ 2.วิทยากรสาธติ การทาสี 28 เกี่ยวกับการ เตรียมพ้ืนผิวงาน การ เตรยี มวัสดุ อุปกรณ์ การ รอง พ้นื และสีทบั หนา้ 5 การทาสลี วดลาย -5 การ เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ การ ผสมและ อตั ราสว่ นการ ผสม 1. วิทยากรบรรยายให้ 6 การทาสพี ้ืนผิว ความรู้ -5 ขรุขระ ผสมและอัตราส่วน การผสมสี สปี ระเภทตา่ งๆ เชน่ สีรองพ้ืน 2.วทิ ยากรสาธิตการทาสี ลวดลาย 12 7 -การตกแตง่ ผิวสี ประเภทตา่ งๆ เชน่ สรี องพนื้ ปูน ปูนเก่าใหม่ สีกันเชื้อรา สีกนั 2- ทับหนา้ 1. วิทยากรบรรยายให้ 10 25 -การประมาณ เกา่ ใหม่ สีกันเชื้อรา สีกัน สนมิ สนมิ สีนำ้ พลาสตกิ สีนำ้ มัน ความรู้ ราคางานสี 2.วทิ ยากรสาธิตการทาสี สีน้ำพลาสติก สีนำ้ มัน ฯลฯ ฯลฯ เทคนคิ การเลือกวัสดุ พ้ืนผวิ ขรขุ ระ 8 การวัดและ ประเมินผล เทคนิคการเลอื กวสั ดุ และ และ กรรมวิธกี ารทาสีรอง พืน้ 1. วทิ ยากรบรรยายให้ ความรกู้ ารประมาณราคา กรรมวิธีการทาสีรอง พนื้ การ การทาสีทบั หนา้ การตรวจ งานสี 2.วทิ ยากรสาธิตการตกแต่ง ทาสที บั หนา้ การตรวจความ ความ เรียบรอ้ ยของงาน ผิวสที บั หน้า ทดสอบ เรยี บร้อยของงาน เทคนิคการใช้ เทคนิคการใช้ แปรงดอกหญา้ แปรงดอก หญา้ แปรงซี่ แปรง แปรง ซ่ี แปรงขนสัตว์ ลกู กลง้ิ ขน สัตว์ ลูกกลงิ้ ฯลฯ ฯลฯ เพอ่ื ให้ผ้รู ับการฝึกมี ความรู้ ฝกึ ปฏบิ ัติ เตรยี ม ลวดลาย เกย่ี วกบั เตรียม ลวดลายตาม ตามแบบ เตรียมพนื้ ผวิ งาน แบบ เตรยี มพื้นผิวงาน การ การเตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ การ เตรียมวสั ดุอุปกรณ์ การ ผสมสี ผสมสแี ละอัตราส่วน เทคนคิ และอัตราส่วน เทคนคิ การทาสี การทาสี ลวดลายโดยวิธีตา่ งๆ ลวดลาย โดยวิธตี า่ งๆ การตรวจ การตรวจความ เรียบรอ้ ยของ ความเรียบร้อย ของงาน งาน เพอ่ื ให้ผูร้ ับการฝกึ มี ความรู้ ฝกึ ปฏิบตั ิ เตรยี ม พ้ืนผิวงาน เกี่ยวกับการ เตรยี มพื้นผวิ งาน การ เตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์ การ การ เตรียมวัสดุอปุ กรณ์ การ ผสมสีและ อัตราสว่ นเทคนิค ผสมสีและอัตราส่วน เทคนิค การทาสพี ้นื ผวิ ขรขุ ระ โดยวิธี การทาสพี ื้นผิว ขรุขระ โดยวิธี ต่างๆ การ ตรวจความ ตา่ งๆ การ ตรวจความเรยี บรอ้ ย เรยี บรอ้ ย ของงาน ของ งาน เพอื่ ใหผ้ ู้รบั การฝกึ มี ความรู้ ฝึกปฏบิ ัติ ทาสที ับ หนา้ คร้ัง เกยี่ วกบั การทาสี ทับหนา้ คร้งั สุดทา้ ย การ ทาสพี ้นื ทแ่ี คบๆ สดุ ท้าย การ ทาสีพน้ื ท่แี คบๆ การ ตรวจความเรยี บรอ้ ย การตรวจความเรยี บร้อย เพือ่ ทดสอบความรคู้ วาม เข้าใจ เป็นการวัดผลผู้รบั การฝึกโดย และทดสอบฝีมือ ผเู้ รียน การ ประเมนิ ผลหลงั การ ฝกึ อบรม รวม
146 การจดั กระบวนการเรียนรู้ 1. การบรรยาย 2. การสาธติ ทดลอง 3. การฝึกปฏิบตั ิจริง 4. ศึกษาจากเอกสารสงิ่ พิมพ์ /ใบความร/ู้ CVD DVD 5. ศึกษาจากผ้รู ู้ และวทิ ยากร ส่ือการเรียนรู้ 1. เอกสาร / ใบความรู้/ VCD DVD 2. แหลง่ เรยี นรู้ในชุมชน / วทิ ยากร การวดั และประเมินผล 1. การประเมนิ ความรู้ภาคทฤษฎรี ะหว่างเรียนและจบหลกั สูตร 2. การประเมินผลระหว่างเรยี นจากการปฏบิ ตั ิงานที่มคี ุณภาพเพียงพอ สามารถสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ตนเอง ความสำเรจ็ ของการปฏบิ ตั แิ ละจบหลกั สูตร การจบหลักสูตร 1. มเี วลาเรยี นและฝึกปฏิบัติตามหลกั สูตรไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. มผี ลการประเมนิ ผ่านตลอดหลกั สูตร ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80 3. มผี ลงานผา่ นการประเมินทดสอบท่ีมคี ุณภาพตามหลักเกณฑ์ เอกสารหลกั ฐานการศึกษาท่ีจะไดร้ ับหลงั จากจบหลกั สตู ร 1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล 2. วุฒบิ ัตรออกโดยสถานศึกษา 3. ทะเบยี นคมุ วฒุ บิ ตั ร การเทียบโอน -
147 หลักสูตรการศึกษาต่อเนอื่ ง ชอ่ื หลกั สตู รวชิ างานปกู ระเบอ้ื งพ้นื ฐาน จำนวน ๓๕ ชั่วโมง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอสงั ขะ ความเปน็ มา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบนั มีความสำคัญมาก เพราะจะเปน็ การพัฒนาประชากรของประเทศให้มี ความรู้ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็ง ให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ตลอดจนกำหนดภารกิจที่จะยกระดับการจัดการศึกษาเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีด ความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง โดยเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับ ศักยภาพด้านต่างๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ไดร้ ับการศึกษาเพื่อพฒั นาอาชีพ และการมีงานทำอย่างมีคุณภาพท่วั ถึง และเทา่ เทียมกัน ประชาชนมีรายได้มัน่ คงและมีงานทำอย่างยง่ั ยืน จากการสำรวจข้อมูลประชาชนในพื้นที่อำเภอ สังขะ พบว่าการประกอบอาชีพหลัก ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพทางการเกษตรทำนา ทำไร่ ปลูกยางพารา รองลงมาคือรบั จา้ ง แตด่ ้วยสภาวะเศรษฐกจิ ตกตำ่ ราคาผลผลิตทางการเกษตรลดต่ำลง สง่ ผลให้ประชาชนมีรายได้ ไม่เพียงพอ จีงมีความสนใจประกอบอาชีพเสริมมีความต้องการฝึกอาชีพการปูกระเบื้องพื้นฐาน ทั้งนี้เนื่องจาก อาชีพช่างปูกระเบื้อง เป็นอาชีพที่น่าสนใจ และงานช่างปูกระเบื้องจะมีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น กศน.อำเภอ สังขะ เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดทำหลักสูตรการปูกระเบื้องพื้นฐาน จำนวน ๓๕ ชั่วโมง ขึ้นเพื่อให้ กลุ่มเป้าหมายมที กั ษะและสร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัว ชุมชนตอ่ ไป หลกั การของหลักสตู ร 1. เป็นหลักสตู รเพ่อื ช่วยส่งเสรมิ อาชีพและเพม่ิ รายได้ 2. เปน็ หลกั สตู รท่ีส่งเสรมิ ใหผ้ ้เู รยี นรจู้ ากการลงมอื ปฏิบตั ิจริง 3. เป็นหลกั สตู รทีม่ ีโครงสร้างยืดหยนุ่ ทงั้ ดา้ นสาระเวลา และการจัดการเรียนรู้ 4. เป็นหลกั สูตรทีส่ ามารถนำความรู้และประสบการณ์ท่ไี ด้รบั ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั จุดมุ่งหมาย เพ่อื ให้ผเู้ รยี นมีคณุ ลักษณะดังน้ี 1. มคี วามรู้ ความเข้าใจในการประกอบอาชพี ปกู ระเบื้องพ้ืนฐาน 2. มีทักษะในงานปกู ระเบ้ืองพนื้ ฐาน 3. มีทกั ษะในการคำนวณตน้ ทุนกำไรในการประกอบอาชพี และการทำบญั ชี กลมุ่ เปา้ หมาย ประชาชนทัว่ ไป ระยะเวลา จำนวน ๓๕ ช่วั โมง ๑๕ ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี จำนวน ๒๐ ชั่วโมง ภาคปฏิบตั ิ จำนวน ๓๕ ช่วั โมง รวม
148 โครงสร้างหลกั สตู ร ที่ เรอ่ื ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จำนวนช่ัวโมง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 1 ช่องทางการ ๑. ผู้เรยี นบอกความ ๑. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี ๑. ผู้เรียนศึกษาสื่อเอกสารใบ ๒ - ประกอบ สำคัญและประโยชนข์ อง ๑.๑ ความสำคญั และ ความรสู้ ่ืออินเทอรเ์ นต็ อาชีพ การปกู ระเบือ้ งท้ังในและ ประโยชน์ของการปูกระเบอ้ื งทง้ั เก่ยี วกบั ความสำคญั นอกอาคารได้ ในและนอกอาคาร ประโยชน์ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ๒. วเิ คราะห์ตนเองใน ๑.๒ วิเคราะห์ตนเองในการ คุณธรรมจริยธรรมเกย่ี วกับ การประกอบอาชีพปู ประกอบอาชีพปกู ระเบื้อง และ การปกู ระเบอ้ื ง กระเบอ้ื งและสามารถ คุณธรรม จรยิ ธรรมสำหรับอาชีพ ๒. ผเู้ รียนสอบถาม บอกคุณธรรม จรยิ ธรรม ปูกระเบอื้ งพ้ืนฐาน สมั ภาษณ์ พูดคุยกบั ชา่ งปู สำหรบั อาชีพการปู ๒. ความรู้เบอื้ งต้นเกีย่ วกบั การปู กระเบ้อื ง เก่ียวกบั อาชีพปู กระเบื้องพ้ืนฐานได้ กระเบ้ืองพ้นื ฐาน กระเบ้ืองพืน้ ฐาน ๓. บอกชนิดกระเบ้อื ง ๓. ชนดิ ของกระเบอื้ ง ๓. นำข้อมูลจากการศึกษาส่อื วสั ดปุ ูกระเบอ้ื งและ ๓.๑ กระเบื้องปูพน้ื และจากการสัมภาษณ์ ประเภทของเครือ่ งมอื ท่ี ๓.๒ กระเบ้อื งปผู นัง มาวิเคราะหต์ นเองเพอื่ ใช้ในการปูกระเบ้ืองได้ ๓.๓ กระเบือ้ งดนิ เผา ตดั สินใจประกอบอาชพี ๔. อธบิ ายวิธกี ารรกั ษา ๓.๔ ชนิดของวสั ดุปูกระเบอื้ ง ๔. นำผลการวิเคราะห์มา ความปลอดภยั จากการใช้ ๓.๕ กาวซีเมนตส์ ำหรับปู แลกเปลี่ยนกับผู้ร้เู พ่ือนใน เคร่ืองมือ วัสดุ อปุ กรณไ์ ด้ กระเบอ้ื ง กลมุ่ และวทิ ยากร ๓.๖ ปูนสำเร็จรปู ๕. สรุปชอ่ งทางการ ๓.๘ ปนู ทรายผสมเอง ประกอบอาชีพ และ ๓.๙ ประเภทของเคร่อื งมือท่ี ตัดสินใจของตนเอง ใชป้ กู ระเบ้อื งและวิธใี ช้เครอื่ งมือ ๔. ความปลอดภยั ในการใช้ เคร่ืองมืออุปกรณ์ ๒ ทกั ษะการ 1. เตรยี มพนื้ ที่ กระเบือ้ ง 1. การเตรียมพนื้ ท่ี 1. ผู้เรียนศึกษาใบความรู้ ๓ ๑๕ ประกอบ วสั ดุ อปุ กรณ์ และ 2. การเตรยี มกระเบอ้ื ง เกย่ี วกบั ประเภทของ อาชีพ เคร่อื งมือในการ ปู 3. การเตรียมวัสดอุ ุปกรณ์ กระเบื้อง วธิ ีการปู กระเบ้ืองพ้ืนฐานได้ เครื่องมอื กระเบ้ืองทกุ วธิ ี 2. ปูพื้นกระเบ้ืองได้ 4. วิธีการปพู ื้นกระเบ้ืองได้ 2. ผเู้ รียนศึกษาดูงานและ ถูกต้อง ๕. วิธกี ารเกบ็ รายละเอยี ดของ สัมภาษณ์/สนทนากับผู้ 3. เกบ็ รายละเอียดของ งานปูกระเบอ้ื ง ประกอบ งานได้เรยี บรอ้ ยสวยงาม 3. ผเู้ รียนชมการสาธิตของ 4. สรปุ ข้ันตอนและ วิทยากรพร้อมสมั ภาษณ์ เทคนิคการทำงานได้ ขนั้ ตอนและวธิ กี ารปูพนื้ ทกุ ครบทุกข้นั ตอน วิธี 4. ผ้เู รยี นฝึกปพู นื้ ทกุ วธิ ี และฝกึ เกบ็ รายละเอยี ด ของงานตามใบงานจน ชำนาญ
149 5. ผเู้ รียนและผสู้ อน รว่ มกนั สรุปขนั้ ตอนและเทคนิคการ ทำงานได้ครบทุกขั้นตอน จำนวนชวั่ โมง ที่ เรื่อง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอื้ หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ ๓ การบริหาร 1. คำนวณพนื้ ทแ่ี ละ 1. การคำนวณพื้นทแี่ ละการ 1. ผ้เู รยี นศกึ ษาใบความรู้ ๕ ๕ จัดการในการ ราคาคา่ แรง คา่ วสั ดุปู คำนวณราคา เรือ่ งการคำนวณพนื้ ทแี่ ละ ประกอบอาชีพ พ้นื กระเบอ้ื งพ้ืนฐานได้ 1.1 การคำนวณพื้นท่แี ละ การ การคำนวณราคา ค่าแรง ๒. อธิบายมาตรฐาน คำนวณราคาในการปูพืน้ และวสั ดุ ของการบรกิ ารปู ๒. การควบคมุ มาตรฐานของ 2. ผู้เรียนฝกึ ควบคมุ กระเบ้ืองพน้ื ฐานได้ การบรกิ าร มาตรฐานของ การบรกิ าร ๓. สรุปกระบวนการ ๓.กระบวนการบรหิ ารจัดการใน ฝึกคำนวณพ้ืนท่ี ราคา บรหิ ารจดั การในการ การประกอบอาชีพการปู คา่ แรง และวสั ดุ การหา ประกอบอาชีพการปู กระเบือ้ งพ้นื ฐานท่ีพงึ ประสงค์ ลูกค้า และ วธิ กี าร กระเบ้อื งพืน้ ฐานทพี่ งึ ของลูกคา้ ประชาสมั พันธ์ ประสงคข์ องลูกค้าได้ ๓. ผู้เรียน และผู้สอน สรปุ กระบวนการบริหารจัดการ ในการ ประกอบอาชพี ช่างปู กระเบ้ืองได้ 4 โครงการ 1. บอกความสำคัญของ 1. ความสำคัญของโครงการ 1. จดั ให้ผเู้ รยี นศกึ ษา ประกอบ โครงการอาชีพได้ อาชีพ เนอื้ หาจากใบความรู้ เรื่อง ๕- อาชีพ 2. บอกประโยชน์ของ 2. ประโยชนข์ องโครงการ อาชพี ความสำคัญของ โครงการ โครงการอาชีพได้ 3. องค์ประกอบของโครงการ อาชีพ ประโยชนข์ อง 3. บอกองคป์ ระกอบ ประกอบอาชีพ โครงการอาชพี ของโครงการอาชีพได้ 4. การเขยี นโครงการอาชีพ องคป์ ระกอบของ โครงการ 4. อธิบาย ความหมาย อาชพี แลว้ จัดกิจกรรมการ ขององคป์ ระกอบของ สนทนาแลกเปล่ยี นข้อมูล โครงการอาชพี ได้ ความ คิดเห็น เพือ่ สร้าง 5. อธบิ ายลักษณะการ แนวคดิ ในการ เขยี นที่ดีขององค์ประกอบ ดำเนินกิจกรรมการเรยี นรู้ ของโครงการอาชพี ได้ 2. จดั ใหผ้ ้เู รยี นศกึ ษาสาระ ข้อมลู จากใบความรู้ เรอ่ื ง ตวั อย่างการ เขียนโครงการ อาชพี ทีด่ ี เหมาะสม และ ถกู ตอ้ ง พรอ้ มจัดการ อภปิ ราย เพอื่ สรปุ แนวคิด เป็นแนวทางในการ เขียน โครงการอาชีพท่ีดี เหมาะสม และถกู ตอ้ ง 3. จดั ให้ผ้เู รยี นฝึกปฏิบัติ การเขียนโครงการอาชีพ รวม ๑๕ ๒๐
150 สือ่ การเรียนรู้ 1. สือ่ สิ่งพิมพ์ ได้แก่ วารสาร หนังสือเกย่ี วกับการปกู ระเบอ้ื ง 2. ส่อื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ไดแ้ ก่ เว็บไซด์เกย่ี วกบั การปูกระเบื้อง 3. สอ่ื บคุ คล ได้แก่ ผู้เชีย่ วชาญดา้ นปูกระเบอื้ ง 4. วสั ดุ อปุ กรณ์ทีเ่ กีย่ วกบั การฝกึ ทกั ษะการปปู ระเบ้อื ง การวัดผลและประเมนิ ผล ๑. การประเมินความร้ภู าคทฤษฎรี ะหว่างเรยี นและจบหลกั สตู ร ๒. การประเมินจากการทดสอบ การสังเกต ๓. การตรวจผลงาน เกณฑก์ ารจบหลกั สตู ร ๑. ผูเ้ รียนมเี วลาเรียนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐ ๒. ผเู้ รยี นมีผลการประเมนิ ชิ้นงานไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ เอกสารหลักฐานการศกึ ษาที่จะได้รบั หลังจากจบหลกั สตู ร 1. ทะเบยี นคุมเกยี รตบิ ตั ร 2. เกียรติบตั รออกโดยสถานศกึ ษา การเทียบโอน -
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217