Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Eng for Art

Eng for Art

Published by givesomeone2539, 2021-08-18 08:28:32

Description: art desing

Search

Read the Text Version

ตอนที 1.2 PROJECT DESIGN หาดใหญอํานวยวิทยเทคโนโลยี อ.หาดใหญ จ.สงขลา

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปกรรม รหสั วชิ า20000-1211 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั ปีท่ี 3 อาจารยศ์ ศิธร บญุ ยงั ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวทิ ย์ อาเภอหาดใหญ่ จงั หวดั สงขลา

กาหนดการสง่ แผนการจดั การเรียนรู้ สาขาวิชา ภาษาต่างประเทศ สปั ดาห์ วนั เดือน ปี รายละเอยี ดการสอน แผนการจดั การเรยี นรู้ ผูอ้ านวยการ สาขาวิชา ฝ่ ายพฒั นาวิชาการ 1. 14-18 ม.ิ ย.64 Art meaning/ Scope of Art 2. 21-25 ม.ิ ย.64 Type of Art 3. 28-2 ก.ค.64 Composition Art 4. 5-9 ก.ค.64 Write a lecture in fine arts 5. 12-16 ก.ค.64 Element of visual Art 6. 19-23 ก.ค.64 Dimension/Spade/Proportion 7. 27-30 ก.ค.64 Light& Shade/Texture/Color 8. 2-6 ส.ค. 64 Conversation in the museum 9. 9-13 ส.ค. 64 Art composition guidelines 10. 16-20 ส.ค. 64 Design principles 11. 23-27 ส.ค. 64 Unity 12. 30-3 ก.ย. 64 Visual art structure 13. 6-10 ก.ย. 64 Symbol& Sign 14. 13-17 ก.ย. 64 Photography 15. 20-24 ก.ย. 64 Product& Advertising design 16. 27ก.ย.-1ต.ค.64 Situation in fine arts 17. 4-8 ต.ค.64 Presentation work of art 18. 11-15 ต.ค.64 Final examination

ลกั ษณะรายวชิ า 20000-1211 ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปกรรม รหสั และช่ือวชิ า English of Arts ภาษาองั กฤษ หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าสาขาภาษาต่างประเทศ หลกั สูตร สภาพรายวชิ า ประกาศนียบตั รวชิ าชพี พศ.2562 สานกั งานคณะกรรมการอาชวี ศึกษากระทรวง การศึกษาธกิ าร ระดบั วชิ า เวลาเรยี น ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั ปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 หน่วยกติ จุดประสงคร์ ายวิชา 2 คาบ/สปั ดาห์ จานวน 18 สปั ดาห์ รวม 36 คาบ สมรรรถนะรายวชิ า 1 หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า 1. เพอ่ื ใหร้ ูแ้ ละเขา้ ใจเกย่ี วกบั หลกั การใชภ้ าษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม 2. เพอ่ื ใหส้ ามารถฟงั -ดู พูด อา่ นและเขยี นภาษาองั กฤษเก่ียวกบั งานศิลปกรรม 3. เพอ่ื ใหต้ ระหนกั ถงึ ความสาคญั และเหน็ ประโยชนข์ องการใชภ้ าษาองั กฤษในงาน ศิลปกรรม 1. อา่ นคู่มอื เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณใ์ นงานศิลปกรรม 2. สนทนาตามสถานการณใ์ นงานศิลปกรรม 3. นาเสนอผลงานศลิ ปกรรม 4. เขยี นบรรยายผลงานศลิ ปกรรม 5. ใชเ้ทคโนโลยสี ารสนเทศพฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในงานศิลปกรรม ปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การฟงั -ดูพดู อ่าน และเขยี นภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม การใชศ้ พั ทเ์ ทคนิคพ้นื ฐาน รูปทรง สี ขนาด สดั สว่ น การฟงั -ดูเรอ่ื งราวและ ประเภทของงานศลิ ปะ การอา่ นคู่มอื เครอ่ื งหมาย สญั ลกั ษณ์ การสนทนาตาม สถานการณ์ในงานศลิ ปกรรม ใหข้ อ้ มลู การแสดงความคดิ เหน็ ความรูส้ กึ การ นาเสนอผลงานการเขยี นบรรยายผลงาน และการใชเ้ทคโนโลยสี ารสนเทศ พฒั นาทกั ษะภาษาองั กฤษในงานศิลปกรรม

การประเมินผลรายวชิ า รายวชิ าน้ีแบง่ ออกเป็น.....4.... หน่วยการเรยี น แยกได.้..17... หวั ขอ้ การวดั และการประเมนิ ผลจะ ดาเนนิ การดงั น้ี 1. วธิ ีการ ดาเนนิ การรวบรวมขอ้ มลู เพอ่ื การประเมนิ ผลแยกเป็น.........3......... สว่ น โดยแบ่งแยกคะแนนแต่ละสว่ นจากคะแนนเตม็ ........100...... คะแนน 1.1 พจิ ารณาผลงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย……………………………….... 10.......คะแนน หรอื .... 10%..... 1.2 พจิ ารณาจติ พสิ ยั ความสนใจและการเขา้ ร่วมกจิ กรรม …....20...... คะแนน หรอื ......20%.... 1.3 การทดสอบหน่วยการเรียน …………..……………………………...70...... คะแนน หรอื ......70%.... 1.3.1 สอบเกบ็ คะแนน ......5..........ครง้ั ........50 ......... คะแนน หรอื ............50%................... 1.3.3 สอบปลายภาค…......1......... ครง้ั ..........20........... คะแนน หรือ...........20%................... 2. เกณฑผ์ ่าน ผูท้ จ่ี ะผา่ นวชิ าน้ีจะตอ้ ง 2.1 ทาผลงานทม่ี อบหมายได.้.....8....คะแนน เป็นอย่างนอ้ ยหรอื รอ้ ยละ ...60%... ของคะแนนผลงาน 2.2 มเี วลาเขา้ หอ้ งเรยี นไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ ...80...ของเวลาเรยี นทงั้ หมด 2.3 ผลรวมของคะแนนทงั้ หมดตอ้ งไม่ตา่ กวา่ รอ้ ยละ .........60............ 2.4 ตอ้ งสอบผา่ นหน่วยทส่ี าคญั ...4...หน่วย คือหน่วยท.่ี ..1... ถงึ ...4... ซง่ึ เป็นหน่วยบงั คบั ไม่ตา่ กวา่ รอ้ ยละ..60...ถา้ สอบไมผ่ า่ นตามเกณฑใ์ หม้ โี อกาสสอบแกต้ วั ในหน่วยทต่ี ก.1. ครง้ั เป็นอย่างนอ้ ย 3. เกณฑค์ ่าระดบั คะแนน 3.1 พจิ ารณาตามเกณฑผ์ ่านรายวชิ า ตามขอ้ 2 ผูท้ ไ่ี ม่ผ่านเกณฑข์ อ้ 22 จะไดร้ บั ค่าระดบั คะแนน 1 หรอื จ หรือ F 3.2 ผูท้ ส่ี อบผ่านเกณฑข์ อ้ ท่ี 2 จะไดร้ บั ค่าระดบั คะแนนตามเกณฑด์ งั น้ี คะแนนรอ้ ยละ.........................ข้นึ ไป ได้ 4 หรือ ก หรือ A คะแนนรอ้ ยละ.........................ข้นึ ไป ได้ 3.5 หรือ ข+ หรือ B+ คะแนนรอ้ ยละ.........................ข้นึ ไป ได้ 3 หรือ ข หรือ B คะแนนรอ้ ยละ.........................ข้นึ ไป ได้ 2.5 หรือ ค+ หรือ C+ คะแนนรอ้ ยละ.........................ข้นึ ไป ได้ 2 หรอื ค หรือ C คะแนนรอ้ ยละ.........................ข้นึ ไป ได้ 1.5 หรือ ง+ หรือ D+ คะแนนรอ้ ยละ.........................ข้นึ ไป ได้ 1 หรอื ง หรือ D

การแบง่ หน่วยการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรูร้ ายวิชาภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปกรรม หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2562 จานวนหน่วยการเรียนรู…้ .…4……หน่วย จานวน…..….36..….…ชวั่ โมง บทที่ ช่ือหน่วยการเรียน สาระการเรยี นรู้ จานวนคาบเรยี น ทฤษฎี ปฏิบตั ิ รวม 1 Art criticism Art criticism 88 11 Art meaning / Scope of Art - 2 2 12 Type of Art -22 13 Composition Art -22 14 Write a lecture in fine arts - 2 2 2 The 10 Elements of The 10 Elements of Composition 88 Composition in Art in Art 21 Element of visual Art -22 22 Dimension/Space/Proportion - 2 2 23 Light& Shade/Texture/Color - 2 2 24 Conversation in the museum - 2 2 3 Art creation Art creation 88 31 Art composition guidelines - 2 2 32 Design principles -22 33 Unity -22 34 Visual art structure -22 4 Design principles Design principles 10 10 41 Symbol& Sign -22 42 Photography -22 43 Product& Advertising design - 2 2 44 Situation in fine arts -22 45 Presentation work of art -22 รวม - 34 34 สอบปลายภาค 2 - 2 รวมทง้ั หมด 2 34 36

แผนการจดั การเรียนรูว้ ชิ า ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปกรรม หมวดวชิ าสาสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรก์ ราฟฟิก หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2562 ระยะเวลา……8……ชวั่ โมง แผนท่ี 1 Art criticism 1.สมรรถนะประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ความหมายและขอบข่ายของงานศลิ ปกรรม 12 พดู อธบิ ายประเภทของศลิ ปะ 13 เขยี นเกยี่ วกบั องคป์ ระกอบศลิ ป์ 14 เขยี นบรรยายเกยี่ วกบั ภาพ รูปแบบ สดั สว่ นและรายละเอยี ดของผลงานในงานศลิ ปกรรม 15 แสดงพฤตกิ รรมใฝ่หาความรูห้ มนั่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม 2. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 111 บอกความหมายและขอบข่ายของงานศิลปกรรมไดถ้ กู ตอ้ ง 112 จาคาศพั ทเ์ ฉพาะดา้ นของงานศิลปกรรมและนาไปใชไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง 121 พดู อธบิ ายประเภทของศลิ ปะไดถ้ ูกตอ้ ง 122 พดู อธิบายความสาคญั ของประเภทของศลิ ปะต่าง ๆไดถ้ กู ตอ้ ง 131 เขยี นอธบิ ายเกยี่ วกบั องคป์ ระกอบศิลป์ทต่ี นเองสนใจไดถ้ ูกตอ้ ง 132 เขยี นบรรยายเลา่ เร่ืององคป์ ระกอบศิลป์ทต่ี นเองสนใจไดถ้ กู ตอ้ ง 141 เขยี นอธบิ ายรายละเอยี ดรูปแบบ และสดั ส่วนในงานศิลปกรรมไดถ้ กู ตอ้ ง 142 เขยี นรายละเอยี ดของผลงานในงานศลิ ปกรรมไดถ้ ูกตอ้ ง 151 ศกึ ษาคน้ ควา้ บทเรยี นลว่ งหนา้ ในการเรียนและการปฏบิ ตั งิ าน 152 ปฏบิ ตั งิ านตามขน้ั ตอนทว่ี างไว้ 153 ปฏบิ ตั งิ านเสร็จตามเวลา 154 มคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นและปฏบิ ตั งิ าน 3. แนวคิดและสาระการเรียนรู้ 3.1 ศกึ ษาความหมายและขอบข่ายของงานศิลปกรรม 3.2 มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ประเภทของศิลปะ 3.3 มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจการพดู ตอบเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบศลิ ป์ 3.4 ศกึ ษาประโยคและสานวนคาศพั ทส์ ถานการณในงานศิลปกรรม 3.5 ศึกษาคาศพั ทบ์ ทความเก่ยี วกบั การเย่ยี มชมพพิ ธิ ภณั ฑ์

4. กระบวนการจดั การเรียนรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 4.2 กระบวนการกลมุ่ 4.3 กระบวนการ 3 P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 5. ส่อื การสอน 5.1 .ใบงาน 5.2 Cards 5.3 อนิ เตอรเ์ น็ต 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - สงั เกตการทางานกลมุ่ - ตรวจช้นิ งาน - บอกความหมายของคาศพั ท์ 6.2 เครื่องมอื วดั - ทดสอบการออกเสยี งคาศพั ท์ - แบบฝึกหดั 6.3 เกณฑก์ ารวดั - นกั เรยี นออกเสยี งหนกั เบาของบทสนทนาภาษาองั กฤษไดถ้ กู ตอ้ ง - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ ูกตอ้ งผา่ นเกณฑทก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหล่งการเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง :https://sites.google.com/site/artkrunang/home 8. ผลงาน/ช้ินงานของนักเรียน - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื /การบรู ณาการ (Integrated) -

10. บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ / ปญั หา / อน่ื ๆ) ....................................................................................................................................... * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบูรณาการ

แผนการจดั การเรียนรูว้ ิชา ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปกรรม หมวดวชิ าสาสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรก์ ราฟิก หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2562 ระยะเวลา.......8.......ชวั่ โมง แผนท่ี 2 The 10 Element of Composition in Art 1.สมรรถนะประจาหน่วย 21 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั สว่ นประกอบของทศั นศิลป์ 22 พดู อธบิ ายความหมายของมติ ิ สดั สว่ นและบรเิ วณวา่ งของงานศลิ ปกรรม 23 ยกตวั อย่างสานวนและคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การบอกแสงเงา พ้นื ผวิ ผวิ และสใี นงานศิลปกรรม 24 สนทนาโตต้ อบสถานการณใ์ นงานศิลปกรรม 25 แสดงพฤตกิ รรมความสนใจใฝ่รูใ้ นเรอ่ื งต่าง ๆ 2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 211 บอกลกั ษณะความหมายและความแตกต่างของสว่ นประกอบของทศั นศิลป์ไดถ้ ูกตอ้ ง 212 บอกความแตกต่างของสว่ นประกอบของทศั นศลิ ป์ไดถ้ กู ตอ้ ง 221 พดู อธิบายผลงานทม่ี มี ติ ิ สดั ส่วนและบรเิ วณว่างและบอกคาศพั ทท์ างเทคนคิ ไดถ้ กู ตอ้ ง 222 พดู อธิบายคาศพั ทท์ างเทคนคิ ไดถ้ ูกตอ้ ง 231 ยกตวั อยา่ งคาศพั ทเ์ ก่ยี วการบอกแสงและเงา พ้นื ผวิ สมั ผสั และสใี นงานของตนเองไดถ้ กู ตอ้ ง 232 พดู ความหมายคาศพั ทเ์ กย่ี วการบอกแสงและเงา พ้นื ผวิ สมั ผสั และสใี นงานของตนเองไดถ้ กู ตอ้ ง 241 เขยี นบทสนทนาโตต้ อบในสถานการณ์ดา้ นงานศิลปกรรมไดถ้ ูกตอ้ ง 242 สนทนาโตต้ อบในสถานการณด์ า้ นงานศิลปกรรมไดถ้ กู ตอ้ ง 251 ซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั 252 แสวงหาประสบการณ์และคน้ หาความรูใ้ หมๆ่ 253 มคี วามกระตอื รือรน้ ในการใฝ่หาความรู้ 254 มคี วามร่วมมอื ในการทางานกลมุ่ ร่วมกบั ผูอ้ น่ื 3. แนวคิดสาระการเรียนรู้ 3.1 ศึกษาความหมายและความแตกต่างของสว่ นประกอบของทศั นศิลป์ 3.2 ศกึ ษามติ ิ สดั สว่ นและบริเวณว่างและบอกคาศพั ทท์ างเทคนคิ ในงานศิลปกรรม 3.3 ศกึ ษาคาศพั ทเ์ กย่ี วการบอกแสงและเงา พ้นื ผวิ สมั ผสั และสี 3.4 ศึกษาประโยคและสานวนการอธิบายรายละเอยี ดรูปแบบ และสดั ส่วนในงานศลิ ปกรรม 4. กระบวนการจดั การเรียนรู้ 4.1 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ

4.2 กระบวนการกลมุ่ 4.3 กระบวนการ 3 P 4.4 กระบวนการเรยี นภาษา 4.5 กระบวนการปฏบิ ตั ิ 5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 รูปภาพ 5.3 อนิ เตอรเ์ น็ต 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ ีวดั - ตอบคาถาม - ตรวจแบบฝึกหดั - สงั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 6.2 เครือ่ งมอื วดั - ทดสอบการออกเสยี งคาศพั ท์ - แบบฝึกหดั - บนั ทกึ คะแนนการนาเสนอ 6.3 เกณฑก์ ารวดั -นกั เรียนออกเสยี งหนกั เบาของสานวนภาษาองั กฤษไดถ้ กู ตอ้ ง - นกั เรยี นพดู บรรยายผลงานไดถ้ กู ตอ้ ง - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ งผา่ นเกณฑทก่ี าหนดรอ้ ยละ 60 7. แหล่งการเรยี นรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง : - http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/ - http://www.writesite.org/ 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรียน -

9. ความสมั พนั ธก์ บั วชิ าอน่ื /การบรู ณาการ (Integrated) - 10. บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ / ปญั หา / อน่ื ๆ) .......................................................................................................................................................... * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบรู ณาการ

แผนการจดั การเรียนรูว้ ิชา ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม หมวดวชิ าสาสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรก์ ราฟิก พทุ ธศกั ราช 2562 ระยะเวลา......8......ชวั่ โมง หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี แผนท่ี 3 Art creation 1.สมรรถนะประจาหน่วย 31 แสดงความรูเ้กยี่ วกบั หลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศลิ ปะ 32 อธบิ ายเกย่ี วกบั การปฏบิ ตั งิ าน ขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ านดา้ นการออกแบบงานศิลปะ 33 เขยี นอธิบายเกย่ี วกบั เอกภาพและกฎเกณฑข์ องเอกภาพ 34 สนทนาโตตอบเกย่ี วกบั บทความ และโครงสรา้ งทางทศั นศลิ ป์ 35 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยส์ มั พนั ธ์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 311 บอกหลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศิลปะไดถ้ ูกตอ้ ง 312 อธบิ ายหลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศลิ ปะไดถ้ กู ตอ้ ง 321 อธิบายเก่ยี วกบั การปฏบิ ตั ติ งิ านไดถ้ กู ตอ้ ง 322 อธบิ ายขนั้ ตอนดา้ นการออกแบบงานศิลปะไดถ้ กู ตอ้ ง 331 เขยี นอธิบายเกยี่ วกบั เอกภาพไดถ้ กู ตอ้ ง 332 เขยี นอธิบายเกย่ี วกบั กฎเกณฑข์ องเอกภาพไดถ้ กู ตอ้ ง 341 เขยี นบทสนทนาเกย่ี วกบั บทความและโครงสรา้ งทางทศั นศิลป์ไดถ้ ูกตอ้ ง 342 สนทนาโตต้ อบเกย่ี วกบั บทความและโครงสรา้ งทางทศั นศิลป์ไดถ้ ูกตอ้ ง 351 แสดงกิริยาทา่ ทางสุภาพ 352 พูดจาสภุ าพ 353 ช่วยเหลอ่ื ผูอ้ น่ื 354 รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 3. แนวคดิ สาระการเรียนรู้ 3.1 ศึกษาหลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศิลปะ 3.2 ศกึ ษาขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน ดา้ นการออกแบบงานศิลปะ 3.3 มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจโครงสรา้ งทางทศั นศลิ ป์ 4. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 4.1 กระบวนการกลมุ่ 4.2 กระบวนการ 3 P

4.3 สาธิต 4.4 กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ 5. สอ่ื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 หนงั สอื 5.3 อนิ เตอรเ์ น็ต 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - ตอบคาถาม - ตรวจช้นิ งาน - สงั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 6.2 เครอื่ งมอื วดั - ทดสอบการออกเสยี งคาศพั ท์ - แบบฝึกหดั - บนั ทกึ คะแนนการสนทนา 6.3 เกณฑก์ ารวดั -นกั เรยี นบอกคาศพั ทแ์ ละคาอธิบายเกย่ี วกบั การออกแบบไดถ้ ูกตอ้ ง - นกั เรยี นสนทนาโตต้ อบตามบทสนทนาไดถ้ กู ตอ้ ง - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ ง 7. แหลง่ การเรียนรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง: - http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/index.shtml - http://www.writesite.org/ 8. ผลงาน/ช้ินงานของนักเรียน - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื /การบรู ณาการ (Integrated) -

10. บนั ทึกผลการจดั การเรยี นรู้ (ขอ้ เสนอแนะ / ปญั หา / อน่ื ๆ) ........................................................................................................................................................... * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบรู ณาการ

แผนการจดั การเรียนรูว้ ิชา ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม หมวดวชิ าสาสมรรถนะแกนกลาง กลมุ่ วชิ าภาษาต่างประเทศ สาขาวชิ าคอมพวิ เตอรก์ ราฟิก ระยะเวลา.....10...... ชวั่ โมง หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2562 แผนท่ี 4 Design principles 1. สมรรถนะประจาหน่วย 41 แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั คาศพั ทแ์ ละการใชส้ านวนเกี่ยวกบั เครอื่ งหมายและสญั ลกั ษณ์ 42 แสดงความรูเ้ กีย่ วกบั การถา่ ยภาพและมคี วามเขา้ ใจรายละเอยี ดในภาพถ่าย 43 อธบิ ายเกี่ยวกบั วธิ ีการออกแบบสนิ คา้ และโฆษณา 44 สนทนาโตต้ อบเก่ียวกบั สถานการณ์ในงานศลิ ปกรรม 45 นาเสนอผลงานในงานศิลปกรรม 46 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนิสยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความเช่อื มนั่ ในตนเอง 2. จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 411 บอกความหมายเกี่ยวกบั เครือ่ งหมายและสญั ลกั ษณ์ไดถ้ ูกตอ้ ง 412 ยกตวั อยา่ งเก่ียวกบั สานวนท่เี กี่ยวขอ้ งกบั เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณ์ไดถ้ ูกตอ้ ง 421 อธบิ ายความแตกต่างประเภทของการถา่ ยภาพและประเภทของภาพถ่ายไดถ้ กู ตอ้ ง 422 ยกตวั อยา่ งเทคโนโลยที างโปรแกรมทส่ี ามารถนามาใชใ้ นการถา่ ยภาพไดอ้ ย่างเหมาะสม 431 อ่านเร่ืองและตอบคาถามเกี่ยวกบั การออกแบบสนิ คา้ และโฆษณาไดถ้ กู ตอ้ ง 432 ฝึกปฏบิ ตั กิ ารออกแบบตวั อยา่ งสนิ คา้ หรือโฆษณาทส่ี นใจได้ 441 เขยี นบทบาทสมมตใิ นสถานการณใ์ นงานศิลปกรรมไดถ้ ูกตอ้ ง 442 แสดงบทบาทสมมตใิ นสถาการณ์ในงานศิลปกรรมได้ 451 พดู ใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั ผลงานทางศิลปกรรมของตนเองไดถ้ ูกตอ้ ง 452 พูดสนทนาโตต้ อบหรือตอบคาถามเก่ียวกบั ผลงานทางศิลปกรรมไดถ้ ูกตอ้ ง 462 กลา้ แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตผุ ล 462 กลา้ แสดงออกในสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง 463 แกไ้ ขปญั หาและพฒั นาสง่ิ ใหมๆ่ 464 ใชว้ สั ดุถกู ตอ้ ง พอเพยี งและเหมาะสมกบั งาน 465 ชน่ื ชมยนิ ดเี มอ่ื ผูอ้ น่ื ประสบความสาเร็จ 3. แนวคิดสาระการเรียนรู้ 3.1 จาคาศพั ทเ์ กยี่ วกบั Asking about signs and symbols 3.2 Personal Information เขยี นขอ้ มลู ลงในแบบฟอรม์ 3.3 เขยี น Business card 3.4 Grammar: There is/ There are article

3.5 Writing E- mail 3.6 บตั รอวยพร 4. กระบวนการจดั การเรียนรู้ 4.1 กระบวนการกลมุ่ 4.2 กระบวนการ 3 P 4.3 บทบาทสมมติ 5. ส่อื การสอน 5.1 ใบความรู้ 5.2 อนิ เตอรเ์ น็ต 5.3 VDO 6. การวดั ผลและการประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั - ตอบคาถาม - ตรวจช้นิ งาน - สงั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 6.2 เคร่ืองมอื วดั - ทดสอบการฟงั และออกเสยี งคาศพั ท์ - แบบฝึกหดั - บนั ทกึ คะแนนการสนทนา 6.3 เกณฑก์ ารวดั -นกั เรียนบอกคาศพั ทแ์ ละคาอธิบายเกยี่ วกบั การออกแบบไดถ้ กู ตอ้ ง - นกั เรยี นสนทนาโตต้ อบตามบทสนทนาไดถ้ กู ตอ้ ง - นกั เรยี นตอบคาถามไดถ้ กู ตอ้ ง 7. แหล่งการเรียนรู้ 7.1 หอ้ งสมดุ วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ 7.2 Website ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง : - http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/ - http://www.writesite.org/ 8. ผลงาน/ช้ินงานของนกั เรยี น - 9. ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื /การบรู ณาการ (Integrated) -

10. บนั ทึกผลการจดั การเรียนรู้ (ขอ้ เสนอแนะ / ปญั หา / อ่นื ๆ) ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... * การนาวชิ าทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ นั มาบรู ณาการ

ตารางกาหนดน้าหนกั คะแนนการวดั วชิ าภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปกรรม รหสั วิชา 20000-1211 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2562 (ปวช.3) กระทรวงศกึ ษาธิการ พฤตกิ รรม น้าหนักคะแนน พทุ ธิพสิ ยั หน่วยท่ี เกณฑ์ ่ผาน(%) เน้ือหา คะแนนรวมรายเ ้ืนอหา ความ ูร้-ความจา ความเข ้าใจ การนาไปใช ้ การวิเคราะห์ ูสงกว่า ทักษะพิสัย จิตพิสัย รวม อันดับความสาคัญ 1. Art criticism 70 5 1 2 2 - - 5 10 4 18 2 2. The 10 Element of composition 70 8 2 3 3 - - 10 in Art 17 3 25 1 3. Art creation 70 7 2 2 3 - - 10 4. Design principles 70 10 3 3 4 - - 15 รวม 30 8 10 12 40 20 70 อนั ดบั ความสาคญั 321 * คะแนนดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั * คะแนนดา้ นทกั ษะพสิ ยั 30 * คะแนนดา้ นจติ พสิ ยั 40 * คะแนนงานทม่ี อบหมาย 20 10 รวมทงั้ ส้นิ 100 หมายเหตุ : สูงกว่า เช่น การสงั เคราะห์ การประเมนิ ค่า

ใบความรู้ (Information Sheet) รหสั วชิ า 20000- 1211 ใบความรู้ (Information Sheet) หน่วยกิต 1 (2) หน่วยท่ี 1 วชิ าภาษาองั กฤษสาหรบั ศลิ ปกรรม จานวนชวั่ โมงรวม…8...ชวั่ โมง ใบความรูท้ ่ี 1.1 ช่อื หน่วย Art criticism จานวนชวั่ โมง........2......ชวั่ โมง ช่อื ใบความรู้ Art meaning/Scope of Art 1.สมรรถนะประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั ความหมายและขอบข่ายของงานศิลปกรรม 12 พดู อธิบายประเภทของศิลปะ 13 เขยี นเก่ียวกบั องคป์ ระกอบศิลป์ 14 เขยี นบรรยายเก่ยี วกบั ภาพ รูปแบบ สดั สว่ นและรายละเอียดของผลงานในงานศิลปกรรม 15 แสดงพฤตกิ รรมใฝ่หาความรูห้ มนั่ ศึกษาเลา่ เรียนทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 111 บอกความหมายและขอบข่ายของงานศิลปกรรมไดถ้ ูกตอ้ ง 112 จาคาศพั ทเ์ ฉพาะดา้ นของงานศลิ ปกรรมและนาไปใชไ้ ดถ้ ูกตอ้ ง 151 มกี ารศึกษาคน้ ควา้ บทเรยี นลว่ งหนา้ ในการเรียนและการปฏบิ ตั งิ าน สาระการเรียนรู ้ ศิลปกรรม เป็นสง่ิ ท่มี นุษยส์ รา้ งข้นึ ไม่ใช่สง่ิ ทม่ี อี ยูเ่ องตามธรรมชาติ เช่นพระอาทติ ยต์ กดนิ ทม่ี คี วามสวยงามมากไม่ นบั เป็นศิลปกรรม แต่จติ รกรรมหรอื ภาพเขยี นทวิ ทศั นพ์ ระอาทติ ยน์ บั เป็นศิลปกรรม สรา้ งสรรคโ์ ดยมนุษยเ์ พอ่ื ความงาม หรอื สุนทรียภาพทถ่ี อื เป็นศิลปกรรมแบ่งออกไดเ้ป็น 2 ประเภทดงั น้ี 1.ศลิ ปกรรมประเภทวจิ ติ รศิลป์ (fine arts) หมายถงึ ศลิ ปกรรมทม่ี นุษยท์ าข้นึ เพอ่ื ความปีตชิ ่นื ชมในตวั ช้นิ งาน เช่น งาน จติ รกรรม ประตมิ ากรรม กวนี ิพนธแ์ ละงานดุริยางคศลิ ป์ 2.ศลิ ปกรรมประเภทประโยชนศ์ ิลป์ (useful art หรอื applied art) หมายถงึ ศิลปกรรมทม่ี ปี ระโยชนใ์ ชส้ อยดว้ ย เช่นงานจกั สาน เครือ่ งปน้ั ดนิ เผา เครื่องแกว้ เครื่องเรอื นและสง่ิ ใชส้ อยต่าง ๆ ทม่ี กี ารบรรจงสรา้ งข้นึ โดยประณีต ทงั้ ทส่ี รา้ งดว้ ยมอื (ศลิ ปะหตั ถกรรม)และโดยเครอ่ื งจกั ร (ศลิ ปะหตั ถอตุ สาหกรรม) เอกสารอา้ งองิ อศั นีย์ ชอู รุณ.ศลิ ปกรรม สารานุกรมไทยฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน เลม่ 26 พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1. 2549

ใบงาน (Job Sheet) ใบงานที่ 1 (Job Sheet) รหสั วชิ า 20000- 1211 วชิ าภาษาองั กฤษสาหรบั ศลิ ปกรรม หน่วยกิต 1 จานวนชวั่ โมงรวม...8.... ชวั่ โมง หน่วยท่ี 1 ช่อื หน่วย Art criticism จานวนชวั่ โมง......2...... ชวั่ โมง ใบงานท่ี 1 ช่อื ใบความรู้ Art meaning/Scope of Art รายการสอน จุดประสงคก์ ารเรียนการสอน Painting/Sculpture สมรรถนะประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้ กยี่ วกบั ความหมายและขอบข่ายของงานศิลปกรรม 12 พูดอธิบายประเภทของศิลปะ 13 เขยี นเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบศิลป์ 14 เขยี นบรรยายเก่ยี วกบั ภาพ รูปแบบ สดั ส่วนและรายละเอียดของผลงานใน งานศลิ ปกรรม 15 แสดงพฤตกิ รรมใฝ่หาความรูห้ มนั่ ศกึ ษาเล่าเรียนทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 11 บอกความหมายและขอบข่ายของงานศลิ ปกรรมไดถ้ ูกตอ้ ง 112 จาคาศพั ทเ์ ฉพาะดา้ นของงานศิลปกรรมและนาไปใชไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 151 มกี ารศึกษาคน้ ควา้ บทเรียนลว่ งหนา้ ในการเรียนและการปฏบิ ตั งิ าน เครอื่ งมอื และอปุ กรณ์ วสั ดุ 1. กรรไกร 1. กระดาษ A4 มลี วดลาย 2. กระดาษสี 2. สไี มห้ รือสนี า้ 3.ระดาษสาหรบั วาดรูป 3. พูก่ นั 4.สี 4...ดนิ สอHb ลาดบั ขน้ั ตอนการปฏิบตั งิ าน 1แบง่ นกั เรียนตามความสมคั รใจ 5 กลมุ่ เลอื กหวั หนา้ กลมุ่ ประชมุ แบ่งหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ 2.ศกึ ษาขอ้ มลู เกี่ยวกบั ความหมายและประเภทของงานศิลปกรรมเบ้อื งตน้ 3.ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มเลอื กประเภทของศิลปกรรมท่สี นใจคนละหน่งึ ประเภท 4.ออกแบบร่างผลงานลงในกระดาษสาหรบั วาดรูปและนาผลงานทร่ี ่างลงในกระดาษแขง็ และลงรายละเอยี ดใหส้ มบูรณ์ 5.ผา่ นการตรวจสอบความถกู ตอ้ งจากครูผูส้ อน 6.นาเสนอช้นิ งาน บริหารเวลากลมุ่ ละ10 นาที 7.นกั เรยี นบนั ทกึ ขอ้ มูลลงสมดุ บริหารเวลา 10 นาที

การประเมินผล 1. วธิ ีวดั - ตรวจผลงาน 2. เครื่องมอื วดั - เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 3. เกณฑก์ ารวดั - ความถกู ตอ้ ง 4 คะแนน - ความคดิ สรา้ งสรรค์ 4 คะแนน - ตรงเวลา 2 คะแนน เอกสารอา้ งองิ อศั นยี ์ ชอู รุณ.ศิลปกรรม สารานุกรมไทยฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน เลม่ 26 พมิ พค์ รง้ั ท่ี 1. 2549

แผนภมู ิการจดั งาน (Flow’s Chart) บรหิ ารเวลา........5........ นาที 1. แบ่งนกั เรยี นตามความสมคั รใจ 5 กลมุ่ เลอื กหวั หนา้ กลมุ่ ประชมุ แบง่ หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบ 2. ศกึ ษาขอ้ มลู เกย่ี วกบั ความหมายและประเภทของงาน บริหารเวลา.......20........นาที ศลิ ปกรรมเบ้อื งตน้ 3. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ เลอื กประเภทของศิลปกรรมท่ี บรหิ ารเวลา.......10...........นาที สนใจคนละหน่งึ ประเภท 4. ออกแบบร่างผลงานลงในกระดาษสาหรบั วาดรูปและนา บรหิ ารเวลา........45.........นาที ผลงานทร่ี ่างลงในกระดาษแขง็ และลงรายละเอยี ดใหส้ มบูรณ์ 5. ผ่านการตรวจสอบความถูกตอ้ งจากครูผูส้ อน บรหิ ารเวลา.......10......... นาที 6.นาเสนอช้นิ งาน บรหิ ารเวลากลมุ่ ละไมเ่ กิน8-10 นาที บรหิ ารเวลา.......30......... นาที 7.นกั เรยี นบนั ทกึ ขอ้ มลู ลงสมดุ บรหิ ารเวลา 10 นาที บรหิ ารเวลา.......10......... นาที รวมเวลา..........120….......นาที

ตารางกาหนดเวลาการปฏบิ ตั ิการ (Gantt’s Chart) วิชาภาษาองั กฤษในชีวิตจริง รหสั วิชา 20000-1211 ภาคเรียนท1ี่ ท่ี งาน ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. จดบนั ทึก 1. Presentation 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 about Art 2. 3. 4. 5. สถานศึกษา วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญ่อานวยวทิ ย์ อาจารยผ์ ูส้ อน อ. ศศิธร บญุ ยงั

แบบฟอรม์ การประเมินผลการนาเสนอช้ินงาน (Folio) แบบประเมินผล กิจกรรม.................................................................................................................... ชอ่ื ..............................ช่อื สกลุ ...................................สาขาวชิ า..............................เลขท.่ี .................. ที่ รายการประเมิน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ บนั ทึก 4 3 2 1 1 ดา้ นการออกเสยี ง 1.1 ออกเสยี งอกั ขระถกู ตอ้ งชดั เจน 1.2 ใชร้ ะดบั ภาษาไดถ้ กู ตอ้ งเหมาะสม มคี วาม มนั่ ใจ ดา้ นบคุ ลกิ ภาพ ความคลอ่ งแคลว่ 2 2.1 พูดไดต้ ่อเน่อื ง ไมต่ ดิ ขดั ตะกกุ ตะกกั 2.2 กม้ หนา้ อ่านเน้อื หานอ้ ยมาก 2.3 แสดงท่าทางประกอบเหมาะสมกบั เรื่อง 2.4 แต่งการสภุ าพเรียบรอ้ ย ดา้ นการนาเสนอ 3.1 นาเสนอไดอ้ ยา่ งน่าสนใจ 3 3.2 เสนอเรือ่ งตามลาดบั ขนั้ ตอน 3.3 ชกั ชวนผูฟ้ งั ใหต้ ดิ ตาม 3.4 ใชส้ อ่ื ประกอบการนาเสนอไดเ้หมาะสม ดา้ นเวลา 4.1 พูดจบเน้อื หาภายในเวลาทก่ี าหนด 4.2 ใชเ้วลามากนอ้ ยจากทก่ี าหนดไมเ่ กนิ 2 4 นาที รวม บนั ทกึ ความคิดเหน็ ................................................................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................................................................... .......................................... อาจารยป์ ระจาวชิ า .........../........../..........

กจิ กรรม/ขอ้ เสนอแนะ 1. วชิ าภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปกรรม หมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง หลกั สูตรประกาศนยี บตั ร วชิ าชพี พ.ศ. 2562 สานกั งานคณะกรรมการอาชวี ศกึ ษากระทรวงศึกษาธิการ เรยี นทฤษฎแี ละปฏบิ ตั ิ 2 ชวั่ โมง ต่อสปั ดาห์ ระยะเวลา 18 สปั ดาห์ รวมทง้ั ส้นิ 36 ชวั่ โมง ตลอดภาคเรยี น 1 หน่วยกติ จดุ ประสงคร์ ายวชิ าเนน้ ในเรื่องทกั ษะ (skill) เพอ่ื นาไปใชใ้ นอาชพี ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ดงั นนั้ การเรียนการสอนจงึ ตอ้ งม่งุ เนน้ การสรา้ ง ทกั ษะ โดยการฝึกปฏบิ ตั ยิ ดึ หลกั ไวยากรณ์ กระบวนการในการทางาน ความสามารถเฉพาะตวั และการทางาน เป็นทมี ยดึ ผูเ้รยี นเป็นสาคญั โดยมชี ้นิ งานเป็นร่องรอยการปฏบิ ตั งิ านมแี ผนบูรณาการกบั วชิ าอ่นื ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เพอ่ื นาไปสูก่ ระบวนการการเรยี นการสอน มเี กณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน/ช้นิ งาน 2. ม่งุ สรา้ งความรบั ผดิ ชอบงาน/ภารกจิ ความเป็นระเบยี บในการทางาน การบูรณาการเนน้ การฝึกปฏบิ ตั ิ เพอ่ื ใหเ้กดิ ทกั ษะ นกั เรยี นแต่ละคนจะมคี วามรูใ้ นส่วนทเ่ี ป็นทฤษฎี หลกั การกระบวนการ (คือการสรปุ คาศพั ท์ สานวนทใ่ี ชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ ตอบคาถามเพอ่ื ทบทวน) และส่วนทเ่ี ป็นทกั ษะ (Skill) โดยนาเอากระบวนการ ของทฤษฎไี ปสู่ภาคปฏบิ ตั ิ (การนาเสนอช้นิ งาน การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ฯลฯ) นกั เรยี นแต่ละคนจะไดร้ บั การเอาใจใส่ จากครูผูส้ อน โดยใชเ้กณฑก์ ารใหค้ ะแนน ทกุ ช้นิ งานจะถกู ควบคุมโดยตารางเวลาควบคมุ การปฏบิ ตั งิ าน (Gantt’s Chart) 3. ม่งุ เนน้ สรา้ งบคุ ลกิ ภาพทด่ี ี ความรอบรูจ้ ากแหลง่ เรยี นรูอ้ น่ื ๆ ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรียน และ นามาประยุกตใ์ ชใ้ หเ้หมาะสมกบั สถานการณ์ในการสนทนาโตต้ อบ 4. จดั ป้ายนเิ ทศการนาเสนอและการสาธติ 5. สนทนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร การแสดงบทบาทสมมติ 6. กจิ กรรม/ภารกจิ ทกุ ช้นิ งาน ผูส้ อนจะมอบหมายงานลว่ งหนา้ อยา่ งชดั เจน เพอ่ื ใหผ้ ูเ้รยี นทราบว่าจะ ไดร้ บั ประโยชนอ์ ะไรบา้ ง และนาไปใชใ้ นสถานการณ์จรงิ ไดอ้ ยา่ งไร

การวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรียน 1. ผูส้ อนจะตอ้ งเตรียมการวางแผนการสอนอยา่ งรอบคอบ โดยสรุปบทเรยี นแต่ละบททเ่ี ป็นสาระสาคญั ในส่วนทเ่ี ป็นทฤษฎี กระบวนการตามกาหนดเวลาและจดั หาสอ่ื การเรยี นการสอนประกอบในแต่ละบทเรยี น 2. มอบหมายกจิ กรรม/ภารกจิ ส่วนทเ่ี ป็นความรูแ้ ละส่วนทเ่ี ป็นทกั ษะตลอดภาคเรยี น 3. กาหนดตารางการสง่ งาน ครงั้ ท่ี 1 เน้อื งาน 10 4. การส่งงานทกุ ครง้ั ผูส้ อนจะตอ้ งสรุปขอ้ ทค่ี วรปรบั ปรุงและแกไ้ ขใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของผูส้ อน 5. ผูส้ อนจะตอ้ งออกแบบประเมินผลตามหลกั เกณฑ์ และอธิบายใหผ้ ูเ้ รียนไดท้ ราบการประเมนิ ผล กิจกรรมบางอย่าง เช่น การนาเสนอหนา้ ชนั้ เรียน ควรใหผ้ ูเ้ รียนมีส่วนร่วมประเมินดว้ ยเป็นการสรา้ งความ ยตุ ธิ รรมระหว่างผูส้ อนและผูเ้รียน (การออกแบบประเมนิ ผลอาจออกแบบร่วมกนั ระหวา่ งผูส้ อนและผูเ้รยี นกไ็ ด)้ 6. ผูส้ อนจะตอ้ งอธบิ ายการวดั ผลและประเมนิ ผลใหผ้ ูเ้รยี นไดร้ บั รูอ้ ย่างชดั เจน 7. วิชาภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรมการใหน้ า้ หนกั คะแนนเป็นไปตามระเบยี บการวดั ผลของ โรงเรยี น โดยมแี นวคดิ ดงั น้ี วชิ าภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม เป็นการผสมผสานระหว่างทฤษฎแี ละปฏบิ ตั ิ โดยนาเอาทฤษฎสี ู่การปฏบิ ตั เิ พ่ือใหเ้ป็นช้นิ งาน (Folio) ดงั นน้ั นา้ หนกั คะแนนจะเป็น 80 : 20 ซ่งึ หมายความว่า 50 คะแนนเป็นคะแนนสอบรายจดุ ประสงค์ 10 คะแนนเป็นคะแนนช้นิ งาน 20 คะแนนเป็นคะแนนจติ พสิ ยั และ 20 เป็นคะแนนสอบปลายภาค

แนวขอ้ สอบระหวา่ งภาค/ปลายภาค Choose the correct answer 40 Matching the meaning 10 Final Examination Fill in the in the blank 10 English for Arts (20000-1211) Reading comprehension 5 Part I Part II Part III Part IV

หนงั สอื อา้ งองิ / เอกสารประกอบการสอน รายชอ่ื หนงั สอื ทน่ี กั เรยี นใชเ้รยี นและคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ ในวชิ าภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปะกรรม เลม่ ท่ี ช่อื หนงั สอื หนังสอื หลกั พ.ศ.ทพ่ี มิ พ์ 1 องคป์ ระกอบศิลป์ ช่อื ผูเ้รยี บเรยี ง 2554 กลุ นดิ า เหลอื บจาเริญ เลม่ ท่ี ชอ่ื หนงั สอื หนงั สอื ประกอบ พ.ศ.ทพ่ี มิ พ์ 1 องคป์ ระกอบของศลิ ปะ ช่อื ผูเ้รียบเรยี ง 2531 2 ศิลปะและการออกแบบเบ้อื งตน้ 2555 ศ.เกยี รตคิ ุณ ชลูดน่มิ เสมอ ประเสริฐ พชิ ยะสนุ ทร

กาหนดการสอน รายการสอน หมายเหตุ สปั ดาห์ คาบท่ี 1.Art criticism 1 1-2 2 3-4 11 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ความหมายและขอบข่ายของงานศิลปกรรม 3 5-6 4 7-8 12 พูดอธิบายประเภทของศิลปะ 13 เขยี นเก่ยี วกบั องคป์ ระกอบศิลป์ 14 เขยี นบรรยายเก่ียวกบั ภาพ รูปแบบ สดั ส่วนและรายละเอียดของผลงานในงาน ศิลปกรรม 15 แสดงพฤตกิ รรมใฝ่หาความรูห้ มนั่ ศกึ ษาเล่าเรียนทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม 111 ความหมายและขอบข่ายของงานศลิ ปกรรม 112 คาศพั ทเ์ ฉพาะดา้ นของงานศลิ ปกรรม 151 ศกึ ษาคน้ ควา้ บทเรียนลว่ งหนา้ ในการเรียนและการปฏบิ ตั งิ าน 121 บทสนทนาเกี่ยวกบั ประเภทของศลิ ปะ 122 ความสาคญั ของประเภทของศิลปะต่าง ๆ 152 ปฏบิ ตั งิ านตามขนั้ ตอนทว่ี างไว้ 131 บทสนทนาเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบศิลป์ 132 บทบาทสมมตเิ ร่อื งองคป์ ระกอบศิลป์ 153 ปฏบิ ตั งิ านเสร็จตามเวลา 141 รายละเอยี ดรูปแบบ และสดั สว่ นในงานศิลปกรรม 142 การวจิ ารณด์ า้ นงานศลิ ปกรรม 154 มคี วามเพยี รพยายามในการเรียนและปฏบิ ตั งิ าน 2.The 10 Element of Composition in Art 21 แสดงความรูเ้กยี่ วกบั สว่ นประกอบของทศั นศลิ ป์ 22 พดู อธิบายความหมายของมติ ิ สดั สว่ นและบรเิ วณวา่ งของงานศิลปกรรม 23 ยกตวั อยา่ งสานวนและคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั การบอกแสงเงา พ้นื ผวิ ผวิ และสใี น งานศลิ ปกรรม 24 การสนทนาโตต้ อบสถานการณ์ในงานศลิ ปกรรม 25 แสดงพฤตกิ รรมความสนใจใฝ่รูใ้ นเรื่องต่าง ๆ

กาหนดการสอน(ต่อ) สปั ดาห์ คาบที่ รายการสอน หมายเหตุ 5 9-10 211 ลกั ษณะความหมายและความแตกต่างของสว่ นประกอบของทศั นศลิ ป์ 212 ความแตกต่างของส่วนประกอบของทศั นศิลป์ 251 ซกั ถามปญั หาขอ้ สงสยั 6 11-12 221 ผลงานทม่ี มี ติ ิ สดั ส่วนและบริเวณว่างและบอกคาศพั ทท์ างเทคนคิ 222 คาศพั ทท์ างเทคนคิ 252 แสวงหาประสบการณ์และคน้ หาความรูใ้ หมๆ่ 7 13-14 231 คาศพั ทเ์ กยี่ วการบอกแสงและเงา พ้นื ผวิ สมั ผสั และสใี นงานของตนเอง 232 ความหมายของคาศพั ทเ์ ก่ยี วการบอกแสงและเงา พ้นื ผวิ สมั ผสั และสใี นงาน ของตนเอง 253 มคี วามกระตอื รือรน้ ในการใฝ่หาความรู้ 8 15-16 241 บทสนทนาในสถานการณ์ดา้ นงานศลิ ปกรรม 242 บทบาทสมมตสิ ถานการณ์ดา้ นงานศิลปกรรม 254 มคี วามร่วมมอื ในการทางานกลมุ่ ร่วมกบั ผูอ้ น่ื 3 Art creation 31 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั หลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศิลปะ 32 อธิบายเกยี่ วกบั การปฏบิ ตั งิ าน ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั งิ านดา้ นการออกแบบงาน ศิลปะ 33 เขยี นอธิบายเกย่ี วกบั เอกภาพและกฎเกณฑข์ องเอกภาพ 34 สนทนาโตตอบเกยี่ วกบั บทความ และโครงสรา้ งทางทศั นศลิ ป์ 35 แสดงพฤตกิ รรมดา้ นการมมี นุษยส์ มั พนั ธ์ 9 17-18 311 หลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศลิ ปะ 312 สานวนเกยี่ วกบั หลกั เกณฑก์ ารจดั องคป์ ระกอบงานศลิ ปะ 351 แสดงกิรยิ าท่าทางสภุ าพ 10 19-20 321 การอธิบายเกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ติ งิ าน 322 ขนั้ ตอนดา้ นการออกแบบงานศลิ ปะ 352 พดู จาสภุ าพ

กาหนดการสอน(ตอ่ ) สปั ดาห์ คาบท่ี รายการสอน หมายเหตุ 11 21-22 331 การอธบิ ายเกี่ยวกบั เอกภาพ 332 กฎเกณฑข์ องเอกภาพ 535 ช่วยเหลอ่ื ผูอ้ น่ื 12 23-24 341 การสนทนาเกยี่ วกบั บทความและโครงสรา้ งทางทศั นศลิ ป์ 342 บทความและโครงสรา้ งทางทศั นศิลป์ 354 รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื 4.Design principles 41 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั คาศพั ทแ์ ละการใชส้ านวนเกี่ยวกบั เครื่องหมายและสญั ลกั ษณ์ 42 แสดงความรูเ้กยี่ วกบั การถา่ ยภาพและมคี วามเขา้ ใจรายละเอยี ดในภาพถ่าย 43 อธบิ ายเกยี่ วกบั วธิ ีการออกแบบสนิ คา้ และโฆษณา 44 สนทนาโตต้ อบเกยี่ วกบั สถานการณใ์ นงานศิลปกรรม 45 นาเสนอผลงานในงานศลิ ปกรรม 46 แสดงพฤตกิ รรมลกั ษณะนสิ ยั ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 13 25-26 411 ความหมายเกี่ยวกบั เคร่ืองหมายและสญั ลกั ษณ์ 412 สานวนทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เครอ่ื งหมายและสญั ลกั ษณ์ 461 กลา้ แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล 14 27-28 421 ความแตกต่างประเภทของการถา่ ยภาพและประเภทของภาพถ่าย 422 เทคโนโลยที างโปรแกรมทส่ี ามารถนามาใชใ้ นการถ่ายภาพ 462 กลา้ แสดงออกในสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง 15 29-30 431 การออกแบบสนิ คา้ และโฆษณา 432 การออกแบบตวั อยา่ งสนิ คา้ หรือโฆษณาทส่ี นใจ 463 แกไ้ ขปญั หาและพฒั นาสง่ิ ใหมๆ่ 16 31-32 441 บทสนทนาสถานการณใ์ นงานศลิ ปกรรม 442 บทบาทสมมตใิ นสถาการณ์ในงานศลิ ปกรรม 464 ใชว้ สั ดุถกู ตอ้ ง พอเพยี งและเหมาะสมกบั งาน 17 33-34 451 ใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั ผลงานทางศิลปกรรมของตนเอง 452 ผลงานทางศิลปกรรม 465 ช่นื ชมยนิ ดเี มอ่ื ผูอ้ ่นื ประสบความสาเรจ็ 18 35-36 สอบปลายภาค

วิทยาลยั เทคโนโลยีหาดใหญอ่ านวยวิทย์ สปั ดาหท์ ่ี 1 ชวั่ โมงที่ 1-2 ท-ป-น 0-2-1 เวลา 2 ชวั่ โมง 120 นาที รหสั วิชา 20000-1211 วิชา ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศลิ ปกรรม หน่วยที่ 1 ช่ือหน่วย Art criticism ***************************************************************************************** รายการสอน Art meaning /Scope of Art สาระสาคญั ศลิ ปกรรม เป็นสง่ิ ทม่ี นุษยส์ รา้ งข้นึ ไมใ่ ช่สง่ิ ทม่ี อี ยูเ่ องตามธรรมชาติ เช่นพระ อาทติ ยต์ กดนิ ทม่ี คี วามสวยงามมากไม่นบั เป็นศิลปกรรม แต่จติ รกรรมหรือ ภาพเขยี นทวิ ทศั นพ์ ระอาทติ ยน์ บั เป็นศลิ ปกรรม สรา้ งสรรค์โดยมนุษยเ์ พอ่ื ความงามหรือสุนทรียภาพทถ่ี อื เป็นศิลปกรรมแบง่ ออกไดเ้ป็น 2 ประเภทดงั น้ี 1.ศลิ ปกรรมประเภทวจิ ติ รศลิ ป์ (fine arts) 2.ศลิ ปกรรมประเภทประโยชนศ์ ลิ ป์ (useful art หรอื applied art) คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. นกั เรียนมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ ทางดา้ นงานศลิ ปกรรม 2.นกั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเอง 3.นกั เรยี นมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจการใชส้ านวนภาษาองั กฤษสาหรบั งาน ศลิ ปกรรม คุณธรรมชน้ั นา ตรงต่อเวลา สมรรถนประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้ก่ยี วกบั ความหมายและขอบข่ายของงานศลิ ปกรรม 12 พูดอธิบายประเภทของศิลปะ 13 เขยี นเกยี่ วกบั องคป์ ระกอบศลิ ป์ 14 เขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ภาพ รูปแบบ สดั สว่ นและรายละเอยี ดของผลงานในงาน ศิลปกรรม 15 แสดงพฤตกิ รรมใฝ่หาความรูห้ มนั่ ศึกษาเลา่ เรียนทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 111 บอกความหมายและขอบขา่ ยของงานศิลปกรรมไดถ้ ูกตอ้ ง 112 จาคาศพั ทเ์ ฉพาะดา้ นของงานศลิ ปกรรมและนาไปใชไ้ ดถ้ กู ตอ้ ง 151 มกี ารศกึ ษาคน้ ควา้ บทเรียนลว่ งหนา้ ในการเรียนและการ ปฏบิ ตั งิ าน เน้ือหา Art meaning / Scope of Art -Fine arts/Useful art -Natural art/Expressing semi-abstract art

เน้ือหา (คาบที่ 1) Art meaning : Meaning is the making of objects, images, music, etc. that are beautiful or that express feelings or the activity of painting, drawing, and making sculpture.

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบท่ี1) กจิ กรรม 3 p 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.1 ครูสนทนากลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you ? 1.3 ครูสอบถามนกั เรยี นเก่ียวกบั ศลิ ปกรรมทน่ี กั เรียนเขา้ ใจและรูจ้ กั วา่ ศิลปกรรมในความเขา้ ใจของนกั เรียน เป็นอย่างไรโดยใชป้ ระโยค - what is Art? - Do you know about type of art? - Do you know what is scope of art? 2. ขน้ั กจิ กรรม (กระบวนการความรูค้ วามเขา้ ใจ) 2.1ขน้ั นาเนอ(P1=Presentation) ครูอธบิ ายรายละเอยี ดความหมายของศิลปะและขอบขา่ ยของ ศิลปะ 2.2 ขน้ั ฝึก (P2=Practice) นกั เรยี นฝึกอา่ นคาอธบิ ายความหมายขอองศิลปะและข่อบขา่ ยงานศลิ ปะ เป็นบทความทางภาษาองั กฤษซ่งึ มีการศกึ ษาคน้ ควา้ บทเรียนล่วงหนา้ ในการเรียนและการ ปฏบิ ตั ิงาน 2.3ขน้ั นาไปใช้ (P=Production) นกั เรียนสามรถแปลและเขา้ ใจในบทความนน้ั ได้ 3. ขน้ั สรุป นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความหมายงานศลิ ปกรรมและเขา้ ใจข่อบข่ายของศลิ ปะไดร้ วมถงึ รูค้ าศพั ทท์ างศลิ ปะมากข้นึ 4. ขน้ั ประเมนิ ผล 1. เคร่อื งมอื วดั - ใบความรูเ้กีย่ วกบั คาศพั ทท์ างศิลปกรรม 2.วธิ ีการประเมนิ ผล -การตรวจคาตอบ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนคน้ หาคาศพั ทจ์ ากใบความรูแ้ ละออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ งรอ้ ยละ 60 ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - การแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ระหว่างครูและนักเรยี น ส่อื การสอน -ใบความรูเ้ก่ียวกบั งานศลิ ปกรรม หนงั สอื อา้ งองิ

สชุ าติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศิลป์. กรงุ เทพฯ :อจท กุลนิดา เหลอื บจาเริญ.composition art.ปทุมธานี:สกายบคุ๊ .2556.

เน้ือหา(คาบท่ี2) Fine Art meaning /Fine Art vocabulary Fine Art meaning: creative art, especially visual art whose products are to be appreciated primarily or solely for their imaginative, aesthetic, or intellectual content. Scope of Art There are different forms of art. We consider these two classes: visual art and performing art. Visual art includes paintings, sculpture, literature, calligraphy, photography and architecture. Performing arts are all forms of dance, music, theater and films. Art can also be classified as fine art, commercial art, and applied art.

กจิ กรรมการเรยี นการสอน(คาบที่2) กระบวนการปฏิบตั ิ 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูสอบถามนกั เรียนเก่ียวกบั สญั ลกั ษณแ์ ละองคป์ ระกอบศลิ ป์โดยใชป้ ระโยค - Do you know what is Fine art? - what is abstract meaning? - what do you like about to sketch? 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 การสงั เกต ครูอธิบายเก่ยี วกบั วจิ ติ รศิลป์ อธิบายความหมายและประเภทท่แี บ่งแยกออกไป 2.2 การทาตามแบบ นกั เรียนจบั คูเ๋ พอ่ื สรา้ งผลงานจาก8ประเภทของวจิ ติ รศิลป์ และเขยี นคาศพั ทท์ าง ศลิ ปกรรมและแปลความหมายใหเ้ขา้ ใจงา่ ย 2.3 การทาโดยไม่มแี บบ นกั เรยี นฝึกอา่ นสานวนคาอธิบายความหมายของวจิ ติ รศลิ ป์ประเภทต่าง ๆอย่างเขา้ ใจ ซ่งึ มีการศกึ ษาคน้ ควา้ บทเรียนลว่ งหนา้ ในการเรยี นและการปฏบิ ตั ิงาน 2.4 การฝึกใหเ้กิดทกั ษะ นกั เรียนฝึกวาดรูปตามแต่ละประเภทของวจิ ติ รศิลป์และฝึกเขยี นประโยคหรอื สาวน และนาไปฝึกอ่านเพอ่ื ทาความเขา้ ใจมากข้นึ 3. ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเกี่ยวกบั วจิ ติ รศลิ ป์ ร่วมกนั แกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั โครงสรา้ งภาษาของ การเขยี นการอ่านของนกั เรยี นแต่ละคนใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 4. ขน้ั ประเมนิ ผล 4.1เคร่อื งมอื วดั ผล -ใบความรูต้ วั อย่างการเขยี นวจิ ารณ์ผลงานทางองคป์ ระกอบศิลป์ 4.2วธิ กิ ารประเมนิ ผล -สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิ 4.3เกณฑก์ ารประเมนิ -นกั เรยี นสามารถเขยี นสานวนการวจิ ารณ์ผลงานทางองคป์ ระกอบศิลป์ไดแ้ ละสามารถพูดตามขน้ั ตอนได้ ถูกตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ -พดู นาเสนอในผลงานประเภทอน่ื ๆเพอ่ื ความหลากหลายของสานวนมากข้นึ สอ่ื การเรยี นการสอน

- เอกสารอา้ งองิ - สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท

วิทยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวิทย์ สปั ดาหท์ ่ี 2 ชวั่ โมงที่ 1-2 ท-ป-น 0-2-1 เวลา 2 ชวั่ โมง 120 นาที รหสั วิชา 20000-1211 วิชา ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม หน่วยที่ 1 ช่ือหน่วย Art criticism ***************************************************************************************** รายการสอน Type of Art สาระสาคญั บทความทม่ี เี น้อื หาในเรอ่ื งของสานวนและคาศพั ทท์ เ่ี ก่ียวกบั การบอกประเภท ความเป็นมาของงานศลิ ปะ แต่ละประเภท การอ่านเน้อื เร่อื งและตอบคาถามได้ เป็นสง่ิ สาคญั ทผ่ี ูเ้รียนจาเป็นตอ้ งเรียนรูแ้ ละฝึกฝนเพอ่ื การนาไปใชป้ ระโยชนใ์ น การทางานโดยเฉพาะงานทใ่ี ชท้ กุ องคป์ ระกอบเป็นศิลปะ ซง่ึ ศลิ ปะแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คือ วจิ ติ รศิลป์แบ่งออกเป็น 8 ประเภทมี จติ รกรรม,ประตมิ ากรรม ,สถาปตั ยกรรม,ภาพพมิ พ,์ สอ่ื ผสม,ศลิ ปะภาพถา่ ย,วรรณกรรม,ดนตรีและนาฏศิลป์ และศลิ ปะประยกุ ต์ แบง่ ออกเป็น 4 ประเภท มพี าณิชยศ์ ิลป์,มณั ฑนศลิ ป์, ศิลปะหตั ถกรรม,อตุ สาหกรรมศิลป์ เป็นตน้ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. นกั เรียนมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ 2.นกั เรียนมวี นิ ยั ในตนเอง คุณธรรมชน้ั นา 1. ตรงต่อเวลา มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมรรถนประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้กย่ี วกบั ความหมายและขอบขา่ ยของงานศลิ ปกรรม 12 พดู อธบิ ายประเภทของศิลปะ 13 เขยี นเกยี่ วกบั องคป์ ระกอบศลิ ป์ 14 เขยี นบรรยายเกย่ี วกบั ภาพ รูปแบบ สดั ส่วนและรายละเอยี ดของผลงานในงาน ศลิ ปกรรม 15 แสดงพฤตกิ รรมใฝ่หาความรูห้ มนั่ ศกึ ษาเลา่ เรยี นทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 121 พดู อธบิ ายประเภทของศลิ ปะไดถ้ กู ตอ้ ง เน้ือหา 122 พดู อธบิ ายความสาคญั ของประเภทของศิลปะต่าง ๆไดถ้ กู ตอ้ ง 152 ปฏบิ ตั งิ านตามขน้ั ตอนทว่ี างไว้ 2 Type of art Applied Art

เน้ือหา (คาบที่ 3) Type of art Art: Definition and Meaning The meaning of beauty and art is explored in the branch of philosophy called aesthetics. For more definitions, see the following: 2 Type of art 1. Fine Art Includes: drawing, painting, sculpture and printmaking. 2. Applied Art Includes: architecture, industrial-design, fashion/furnishings-design, interior-design etc. 2 Type of art Fine Art Applied Art 1. Visual Art Applied Art -Drawing 1. Commercial Arts (Arts for Commercial Use) -Painting 2. Decorative Arts -Sculpture 3.Industrial Arts. (Art of product design) -Printmaking 4 Craft (Art by hand) -Photography 5 Design -Mixed Media Visual Art Includes: fine arts, certain contemporary arts (e.g. installation, performance) and decorative arts. Vocabulary and meaning (A-Z Types of Art) Vocabulary Vocabulary Vocabulary 1. Assemblage Art 2. Animation Art 3. Christian Art 4. Calligraphy 5. Architecture 6. Collage 7. Ceramics 8. Art Brut 9. Computer Art 10. Conceptual Art 11. Design (Artistic) 12. Drawing

กจิ กรรมการเรยี นการสอน (คาบที่3) กจิ กรรม 3p 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1.1 ครูสนทนากลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สุขภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูยกตวั อย่างประโยคทใ่ี ชส้ นทนาในพพิ ธิ ภณั ฑห์ รอื ใชว้ จิ ารณ์ผลงานทางศิลปะโดยใชโ้ ยค - How many types of art? - Could you explain about Animation Art? - Difference between fine art and applied arts? 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 ขนั้ นาเนอ(P1=Presentation) นกั เรียนศึกษาประเภทของศิลปะและคาอธิบายความหมายใน รูปแบบภาษาองั กฤษ 2.2 ขน้ั ฝึก (P2=Practice) นกั เรยี นฝึกอ่านสานวนและคาศพั ทท์ ่อี ยู่ในคาอธิบายและใหน้ กั เรียนเลอื ก ออกแบบ ช้นิ งานคนละหน่งึ เร่อื งเช่นการออกแบบผลงานศิลปะ ซ่งึ ปฏิบตั งิ านตามขน้ั ตอนทว่ี างไว้ 2.3ขน้ั นาไปใช(้ P=Production) นกั เรียนบอกและเขา้ ใจความหมายในคาอธิบายและออกแบบผลงานทาง ศิลปะได ้ 3. ขน้ั สรปุ นกั เรยี นช่วยกนั สรา้ งผลงานทางศลิ ปะรวมถงึ รูแ้ ละเขา้ ใจในคาอธิบาย คาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง 4. ขน้ั ประเมินผล 4.1 เครอ่ื งมอื วดั - แบบบนั ทกึ คะแนน 4.2 วธิ กี ารประเมนิ ผล - สงั เกตการปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรียนสนทนาและออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ ของนกั เรียน สอ่ื การสอน - ใบความรูเ้กีย่ วกบั งานศิลปกรรม

หนงั สอื อา้ งองิ - สชุ าติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท

เน้ือหา(คาบที่4) Applied art is the art that serves the purpose. This will mention only fine arts and handicrafts only because both of these types are mostly appliances. From everyday necessities to luxuries that cater to decorations rather than necessities. In this regard, if we look back to ancient times, it can be seen that primitive people had tools of stone, leather, and beaded ornaments hung around their necks. 2 Type of art Fine Art Applied Art 1. Visual Art Applied Art -Drawing -Painting 1. Commercial Arts (Arts for Commercial Use) -Sculpture 2. Decorative Arts -Printmaking 3.Industrial Arts. (Art of product design) -Photography 4 Craft (Art by hand) 5 Design -Mixed Media Applied Art Includes: architecture, industrial-design, fashion/furnishings-design, interior-design etc. 1. Commercial Arts (Arts for Commercial Use) 2. Decorative Arts Broadly synonymous with crafts. See also: Arts and Crafts Movement. 3.Industrial Arts. (Art of product design) 4 Craft (Art by hand) 5 Design Pot molding, program development and graphic design

กจิ กรรมการเรียนการสอน(คาบที่4) กระบวนการปฏบิ ตั ิ 1. ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.1 ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค Good morning/Good afternoon 1.2 ครูซกั ถามถงึ สขุ ภาพของนกั เรียนโดยใชป้ ระโยค How are you? 1.3 ครูสอบถามนกั เรียนเก่ยี วกบั สญั ลกั ษณ์และองคป์ ระกอบศิลป์โดยใชป้ ระโยค - Do you know what is Applied Art meaning? - How many types of Applied Art? - Can you design your art work with waste material? 2. ขน้ั กจิ กรรม 2.1 การสงั เกต ครูอธิบายเกี่ยวกบั ประยุกตศ์ ลิ ป์ และประเภทของศิลปะประยุกต์ 2.2 การทาตามแบบ นกั เรยี นจบั คูเ๋ พอ่ื สรา้ งผลงานจากประเภทของประยุกตศ์ ิลป์ และเขยี นคาศพั ทเ์ ฉพาะพรอ้ ม แปลความหมาย 2.3 การทาโดยไม่มแี บบ นกั เรียนฝึกเขยี นสานวนพดู สนทนาโดยการวจิ ารณ์ผลงานของคู่ของตนเอง ซ่ึง ปฏบิ ตั งิ านตามขน้ั ตอนท่วี างไว้ 2.4 การฝึกใหเ้กิดทกั ษะ นกั เรียนฝึกวาดรูปออกแบบและนาคาศพั ทม์ าเขยี นสานวนเพอ่ื นาไปฝึกพูดอธบิ าย ผลงานได ้ 3. ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเก่ียวกบั ประเภทของศลิ ปะประยุกต์ ประโยคและสานวน ร่วมกนั แกไ้ ขให้ ถูกตอ้ งตามหลกั การเขยี นการพดู ของนกั เรียนแต่ละคนใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 4. ขน้ั ประเมนิ ผล 4.1 เครือ่ งมอื วดั ผล - ใบความรูต้ วั อย่างการเขยี นวจิ ารณผ์ ลงานทางองคป์ ระกอบศลิ ป์ 4.2 วธิ กิ ารประเมนิ ผล - สงั เกตการณ์ปฏบิ ตั ิ 4.3 เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นสามารถเขยี นสานวนการวจิ ารณ์ผลงานทางองคป์ ระกอบศิลป์ไดแ้ ละสามารถพดู ตามขนั้ ตอนได้ ถกู ตอ้ ง ความสมั พนั ธก์ บั วิชาอน่ื - กจิ กรรมเสนอแนะ - พดู นาเสนอในผลงานประเภทอ่นื ๆเพอ่ื ความหลากหลายของสานวน มากข้นึ

สอ่ื การเรียนการสอน - เอกสารอา้ งองิ - สุชาติ เถาทอง และคณะ. ทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ :อจท

วทิ ยาลยั เทคโนโลยหี าดใหญอ่ านวยวทิ ย์ สปั ดาหท์ ่ี 3 ชวั่ โมงที่ 1-2 ท-ป-น 0-2-1 เวลา 2 ชวั่ โมง 120 นาที รหสั วิชา 20000-1211 วิชา ภาษาองั กฤษสาหรบั งานศิลปกรรม หน่วยท่ี 1 ช่ือหน่วย Art criticism ***************************************************************************************** รายการสอน Composition art สาระสาคญั ความหมายขององคป์ ระกอบศลิ ป์คาวา่ องคป์ ระกอบ ตามความหมายพจนานุกรม ราชบณั ฑติ ยสถาน คอื สว่ นต่าง ๆท่ปี ระกอบกนั ทาใหเ้กิดรูปร่างใหม่ข้นึ โดยเฉพาะองคป์ ระกอบศิลป์ หมายถงึ สง่ิ ทศ่ี ลิ ปินและนกั ออกแบบใชเ้ป็นสอ่ื ใน การแสดงออกและสรา้ งความหมายโดยนามาจดั เขา้ ดว้ ยกนั และเกิดรูปร่างอนั เดน่ ชดั (สวนศรี ศรแี พงพงษ์ : 82) องคป์ ระกอบศิลป์หมายถงึ เคร่ืองหมาย หรอื รูปแบบทน่ี ามาจดั รวมกนั แลว้ เกิดรูปร่างต่าง ๆ ทแ่ี สดงออกในการสอ่ื คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ 1. นกั เรียนมพี ฒั นาการทางภาษาเพม่ิ ข้นึ 2.นกั เรยี นมวี นิ ยั ในตนเอง คณุ ธรรมชน้ั นา 1. ตรงต่อเวลา มคี วามรบั ผดิ ชอบ สมรรถนประจาหน่วย 11 แสดงความรูเ้ ก่ียวกบั ความหมายและข่อยขา่ ยของงานศิลปกรรม 12 พูดอธบิ ายประเภทของศิลปะ 13 เขยี นเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบศลิ ป์ 14 พูดบทสนทนาสถานการณใ์ นงานศิลปกรรม 15 แสดงพฤติกรรมใฝ่หาความรูห้ มนั่ ศึกษาเลา่ เรียนทงั้ ทางตรงและ ทางออ้ ม จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 131 เขยี นอธิบายเกย่ี วกบั องคป์ ระกอบศลิ ป์ทต่ี นเองสนใจไดถ้ กู ตอ้ ง 132 เขยี นบรรยายเลา่ เรอ่ื งองคป์ ระกอบศลิ ป์ทต่ี นเองสนใจไดถ้ กู ตอ้ ง 153 ปฏบิ ตั งิ านเสร็จตามเวลา เน้ือหา composition art -Describe -Analyze - Interpretation - Judgements

เน้ือหา(คาบที่5) Describe, Analyze, Interpretation, Judgement A quick reference to help understand, appreciate and analyze art. How to look at and critique art using the four components of artistic criticism. Describe: Tell what you see (the visual facts). - What is the name of the artist who created the artwork? - What kind of artwork is it, what medium is it? - What is the name of the artwork? - When was the artwork created? - Name some other major events in history that occurred at the same time this artwork was created. - List the literal objects in the painting (trees, people, animals, mountains, rivers, etc.). - What do you notice first when you look at the work(s)? Why? - What kinds of colors do you see? How would you describe them? - What shapes can we see? What kind of edges do the shapes have? - Are there lines in the work(s)? If so, what kinds of lines are they? - What sort of textures do you see? How would you describe them? - What time of day/night is it? How can we tell? - What is the overall visual effect or mood of the work(s). Analyze: Mentally separate the parts or elements, thinking in terms of textures, shapes/forms, light/dark or bright/dull colors, types of lines, and sensory qualities. In this step consider the most significant art principles that were used in the artwork. Describe how the artist used them to organize the elements. Suggested questions to help with analysis: - How has the artist used colors in the work(s)? - What sort of effect do the colors have on the artwork? - How has the artist used shapes within the work of art? - How have lines been used in the work(s)? Has the artist used them as an important or dominant part of the work, or do they play a different roll? - What role does texture play in the work(s)? Has the artist used the illusion of texture or has the artist used actual texture? How has texture been used within the work(s).

- How has the artist used light in the work(s)? Is there the illusion of a scene with lights and shadows, or does the artist use light and dark values in a more abstracted way? - How has the overall visual effect or mood of the work(s)? been achieved by the use of elements of art and principles of design. - How were the artists design tools used to achieve a particular look or focus? Interpretation: An interpretation seeks to explain the meaning of the work based on what you have learned so far about the artwork, what do you think the artist was trying to say? ▪ What was the artist’s statement in this work? ▪ What do you think it means? ▪ What does it mean to you? ▪ How does this relate to you and your life? ▪ What feelings do you have when looking at this artwork? ▪ Do you think there are things in the artwork that represent other things/symbols? ▪ Why do you think that the artist chose to work in this manner and made these kinds of artistic decisions? ▪ Why did the artist create this artwork? Judgment: After careful observation, analysis, and interpretation of an artwork, you are ready to make your own judgment. This is your personal evaluation based on the understandings of the work(s). Here are questions you might consider: ▪ Why do you think this work has intrinsic value or worth? What is the value you find in the work(s)? (For example, is it a beautiful work of art, does it convey an important social message, affects the way that I see the world, makes insightful connections, reaffirms a religious belief, etc.) ▪ Do you think that the work(s) has a benefit for others? ▪ Do you find that the work communicates an idea, feeling or principle that would have value for others? ▪ Could the reason you find the work lacking come from a poor use of the elements of art? Explain. ▪ Is the subject matter unappealing, unimaginative, or repulsive? How? ▪ What kind of an effect do you think the work could have for others? ▪ Rather than seeing the work as being very effective or without total value, does the work fall somewhere in-between? Do you think that the work is just o.k.? What do you base this opinion

on? The use of elements of art? Lack of personal expression? The work lacks a major focus? Explore your criticism of the work (s) as much as you would any positive perceptions. Realize that your own tastes and prejudices may enter into your criticism. Give your positive and negative perceptions.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook