เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ส�ำ นักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย จงั หวัดนครศรีธรรมราช ส�ำ นักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย สำ�นักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร
เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ส�ำ นักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย จงั หวัดนครศรีธรรมราช ส�ำ นักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย สำ�นักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร
ค�ำนำ� ส�ำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้พัฒนาหลักสูตรรายวิชานครศรีธรรมราชศึกษา รหสั วชิ า สค13000152 ใหเ้ ปน็ รายวชิ าเลอื กเสรี สาระพฒั นาสงั คม ตามหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษา ข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 โดยให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนในเน้ือหาสาระของนครศรีธรรมราช เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้ถึงรากเหง้าความเป็นมา ความเป็นอยู่ และความเป็นไปของจังหวัดนครศรีธรรมราช เพ่ือบ่มเพาะให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจ รัก ศรัทธาและหวงแหนในศิลปวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาตขิ องจงั หวดั นครศรธี รรมราช และดำ� เนนิ ชวี ติ ตามวถิ ขี องชาวนครศรธี รรมราช ร่วมกันพัฒนาและสร้างสันติสุขให้เกิดกับจังหวัดนครศรีธรรมราช อีกทั้ง เพ่ือร่วมกันอนุรักษ์ สืบสานและสืบทอด ความเป็นนครศรีธรรมราชไปสู่คนรุ่นต่อๆ ไป จึงได้จัดท�ำเอกสารประกอบการเรียนรายวิชานครศรีธรรมราชศึกษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย เล่มนข้ี ึ้นมาเพ่อื ให้นักศกึ ษา ได้นำ� ไปใช้ศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง ขอขอบคณุ ผู้ทรงคณุ วุฒิท่เี กย่ี วขอ้ งทกุ ทา่ นท่ไี ด้ใหค้ �ำแนะน�ำ และให้ข้อมูลทีเ่ ปน็ ประโยชนต์ ่อการจดั ท�ำ เอกสารประกอบการเรียนเล่มน้ี และขอบคุณบุคลากรส�ำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราชทุกคน ที่ได้ร่วมกัน จัดทำ� เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ านครศรธี รรมราชศึกษา เลม่ นจี้ นแล้วเสร็จ หวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ านครศรธี รรมราชศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ท้งั กบั ผู้เรียน ครผู ูส้ อน และผูท้ ีส่ นใจทั่วไป และหากมขี อ้ บกพร่องประการใดใครข่ อคำ� ชแ้ี นะ เพอื่ พัฒนาปรับปรงุ ต่อไป ส�ำนกั งาน กศน.จังหวัดนครศรธี รรมราช พฤษภาคม 2563
สารบัญ หน้า ค�ำนำ� สารบัญ คำ� แนะนำ� การใช้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ประวตั ิศาสตร์นครศรธี รรมราช ................................................................................... 1 เรื่องท่ี 1 ลักษณะการตั้งถิน่ ฐานและการด�ำเนินชีวิตของผูค้ นในเขตจังหวดั นครศรธี รรมราช ....... 1 เร่อื งที่ 2 เหตุการณ์สมัยกอ่ นประวตั ศิ าสตร ์ ................................................................................. 3 เรอ่ื งท่ี 3 เหตกุ ารณ์สมยั แรกเรมิ่ ประวตั ิศาสตร ์ ............................................................................ 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ลักษณะภูมิประเทศจังหวดั นครศรีธรรมราช ............................................................... 13 เรื่องที่ 1 ทต่ี ัง้ ขนาด และอาณาเขตจังหวดั นครศรีธรรมราช ........................................................ 13 เรอ่ื งท่ี 2 ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศจังหวัดนครศรธี รรมราช .................................................................. 14 เรื่องที่ 3 แมน่ ำ�้ ทีส่ ำ� คัญของจังหวดั นครศรีธรรมราช .................................................................... 15 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 ลกั ษณะภูมิอากาศจังหวดั นครศรีธรรมราช ................................................................. 20 เรื่องท่ี 1 ฤดกู าลของจงั หวดั นครศรีธรรมราช ............................................................................... 20 เรอ่ื งท่ี 2 ภยั ธรรมชาตทิ เี่ กิดข้ึนในจงั หวัดนครศรธี รรมราช ........................................................... 21 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เศรษฐกจิ ของจังหวดั นครศรธี รรมราช ......................................................................... 29 เรื่องท่ี 1 เศรษฐกิจพอเพียง .......................................................................................................... 29 เรื่องท่ี 2 เศรษฐกจิ กับชมุ ชนในจังหวัดนครศรธี รรมราช . .............................................................. 32 เรื่องที่ 3 การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจของจงั หวัดนครศรีธรรมราช ................................................. 35 เรอ่ื งที่ 4 แนวโน้มเศรษฐกจิ ของจงั หวัดนครศรธี รรมราช .............................................................. 36 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 การคมนาคมของจังหวดั นครศรีธรรมราช ................................................................... 41 เรือ่ งท่ี 1 การคมนาคมทางบกของจงั หวดั นครศรีธรรมราช ........................................................... 41 เรื่องท่ี 2 การคมนาคมทางรถไฟของจงั หวัดนครศรธี รรมราช. ....................................................... 46 เรอ่ื งที่ 3 การคมนาคมทางอากาศของจังหวดั นครศรธี รรมราช . ................................................... 47 เรื่องที่ 4 การคมนาคมทางนำ�้ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ........................................................... 49
สารบญั (ตอ่ ) หน้า หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 6 ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ มจังหวดั นครศรธี รรมราช ...................................... 51 เรอ่ื งที่ 1 ทรพั ยากรปา่ ไมแ้ ละสตั วป์ า่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ...................................................... 51 เรอ่ื งท่ี 2 ทรัพยากรน�้ำ ................................................................................................................. 56 เร่ืองท่ี 3 ทรัพยากรแรจ่ ังหวัดนครศรีธรรมราช ............................................................................. 61 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 ประชากรกับการเมืองการปกครองจงั หวัดนครศรีธรรมราช ....................................... 65 เรื่องที่ 1 ประชากรจังหวดั นครศรีธรรมราช .................................................................................. 65 เรื่องท่ี 2 บุคคลส�ำคญั จังหวดั นครศรีธรรมราช ............................................................................. 68 เรอ่ื งท่ี 3 ประชากร การเมือง และการปกครอง จงั หวัดนครศรธี รรมราช .................................... 76 เรื่องท่ี 4 การเมืองการปกครองจังหวัดนครศรธี รรมราช ............................................................... 78 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 8 การจดั การศกึ ษาจังหวดั นครศรีธรรมราช ................................................................... 81 เรื่องท่ี 1 ความเป็นมาของการศึกษาในจังหวัดนครศรธี รรมราช ................................................... 81 เรอ่ื งที่ 2 การจัดการศึกษาในจงั หวดั นครศรธี รรมราช .................................................................. 82 เรอ่ื งท่ี 3 หนว่ ยงานการศึกษาและสถานศกึ ษาทจ่ี ดั การศึกษา ...................................................... 84 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 ศาสนาจังหวดั นครศรีธรรมราช ................................................................................... 89 เรอ่ื งที่ 1 ประวัตทิ างศาสนาในจงั หวัดนครศรีธรรมราช ................................................................ 89 เรอ่ื งท่ี 2 ศาสนาทชี่ าวจงั หวัดนครศรธี รรมราชสว่ นใหญ่นับถือ ..................................................... 91 เรื่องท่ี 3 ความเชอื่ ทางศาสนาและพิธกี รรมอนื่ ๆ จังหวัดนครศรีธรรมราช .................................. 95 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 10 ประเพณแี ละวัฒนธรรมจงั หวัดนครศรีธรรมราช ...................................................... 97 เรื่องท่ี 1 ประเพณีที่เก่ยี วเนือ่ งกบั ความกตัญญูกตเวที จังหวดั นครศรธี รรมราช ........................... 97 เรอ่ื งท่ี 2 ประเพณีท่ีเกยี่ วเน่อื งกบั ความสามัคคี จงั หวดั นครศรธี รรมราช ..................................... 100 เรื่องท่ี 3 ประเพณที ีเ่ กย่ี วเนอื่ งกบั ความศรัทธา จงั หวดั นครศรีธรรมราช ...................................... 103 เรื่องท่ี 4 เอกลักษณ์ทางวฒั นธรรมจงั หวัดนครศรธี รรมราช ......................................................... 106 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 11 โบราณสถานและโบราณวัตถจุ ังหวัดนครศรีธรรมราช ............................................... 112 เรอ่ื งท่ี 1 โบราณสถานจังหวดั นครศรธี รรมราช ............................................................................. 112 เรื่องท่ี 2 โบราณวตั ถุ จงั หวัดนครศรีธรรมราช .............................................................................. 123
สารบัญ (ต่อ) หน้า หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 12 แหลง่ ทอ่ งเทีย่ วในจงั หวัดนครศรธี รรมราช ................................................................ 130 เรื่องที่ 1 คำ� ขวญั สง่ เสริมการทอ่ งเท่ียวประจำ� จังหวัดนครศรธี รรมราช ........................................ 130 เรอ่ื งท่ี 2 ประเภทแหลง่ ท่องเทีย่ วในจงั หวดั นครศรีธรรมราช ....................................................... 130 เรอ่ื งท่ี 3 แหล่งท่องเที่ยวประเภทชายทะเล ชายหาด ................................................................... 139 เรื่องที่ 4 การปฎบิ ตั ติ นเป้นนกั ท่องเท่ยี วทีด่ ี ................................................................................. 145 เรื่องท่ี 5 การเปน็ มคั คุเทศก์ที่ด ี..................................................................................................... 145 เร่ืองท่ี 6 การอนุรักษ์สถานท่ีทอ่ งเทยี่ ว ......................................................................................... 145 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 13 โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ� ริในจงั หวัดนครศรีธรรมราช ................................ 147 เรื่องที่ 1 โครงการพฒั นาดา้ นแหลง่ น้�ำ ......................................................................................... 147 เรอ่ื งท่ี 2 โครงการพัฒนาด้านส่ิงแวดลอ้ ม ..................................................................................... 155 เรื่องที่ 3 โครงการพฒั นาดา้ นส่งเสรมิ อาชพี ................................................................................. 157 เรอ่ื งที่ 4 โครงการพฒั นาด้านสวัสดิการสงั คม/การศกึ ษา ............................................................. 158 เรื่องที่ 5 โครงการพฒั นาดา้ นแบบบูรณาการและโครงการพฒั นาดา้ นอ่ืน ๆ . ............................... 161 จังหวดั นครศรีธรรมราช “โครงการพฒั นาพ้นื ท่ีลมุ่ น้�ำปากพนัง อนั เน่ืองมาจากพระราชด�ำร”ิ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 14 ปญั หาในจงั หวดั นครศรธี รรมราช ............................................................................. 167 เรื่องท่ี 1 ปัญหาขยะมูลฝอย ......................................................................................................... 167 เร่อื งที่ 2 ปัญหายาเสพตดิ ............................................................................................................ 172 เรอ่ื งท่ี 3 ปญั หาการจราจร ........................................................................................................... 174 เรอ่ื งที่ 4 ปัญหาการลกั ขโมย ........................................................................................................ 175 เรื่องท่ี 5 ปัญหาการพนัน ............................................................................................................. 177 บรรณานกุ รม ................................................................................................................................................... 184 คณะผูจ้ ดั ท�ำ ..................................................................................................................................................... 187
คำ� แนะนำ� การใช้ เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ านครศรีธรรมราชศกึ ษา ระดับประถมศกึ ษา เอกสารประกอบการเรียนรายวิชานครศรีธรรมราชศึกษา ระดับประถมศึกษา เล่มนี้ เป็นส่ือการเรียนรู้ ส�ำหรับนักศึกษาระดับประถมศึกษา หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ทล่ี งทะเบยี นเรยี นรายวชิ านครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั วชิ า สค23000123 สาระการพฒั นาสงั คม ซงึ่ นกั ศกึ ษาสามารถ นำ� ไปเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองเพอ่ื การเรยี นรแู้ ละตระหนกั ถงึ รากเหงา้ ของนครศรธี รรมราช ทงั้ ดา้ นความเปน็ มา ความเปน็ อยู่ และความเปน็ ไปของจงั หวัดนครศรีธรรมราช ท่ีก่อให้เกดิ ความภาคภมู ใิ จ รัก ศรัทธาและหวงแหนในศลิ ปวัฒนธรรม ประเพณี ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ทางธรรมชาติของจังหวัดนครศรีธรรมราช และด�ำเนินชีวิตตามวิถี ของชาวนครศรีธรรมราช อีกทั้งร่วมกันอนุรักษ์ สืบสานและสืบทอดความเป็นนครศรีธรรมราชไปสู่คนรุ่นต่อๆ ไป ทง้ั น้ี นักศกึ ษาควรศกึ ษาและปฏบิ ัติตามลำ� ดบั ดังน้ี 1. เอกสารประกอบการเรยี นเลม่ นี้ ไดจ้ ัดเนอื้ หาสาระใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รียนรู้ จ�ำนวน 14 หนว่ ย การเรยี นรู้ ดังนี้ 1.1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 ประวตั ิศาสตร์นครศรธี รรมราช 1.2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ลกั ษณะภูมิประเทศนครศรธี รรมราช 1.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ลกั ษณะภมู ิอากาศนครศรีธรรมราช 1.4 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เศรษฐกิจของนครศรีธรรมราช 1.5 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 การคมนาคมของนครศรีธรรมราช 1.6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ มนครศรีธรรมราช 1.7 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ประชากรกบั การเมอื งการปกครองจังหวัดนครศรธี รรมราช 1.8 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 8 การจดั การศกึ ษานครศรีธรรมราช 1.9 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 9 ศาสนาจังหวดั นครศรีธรรมราช 1.10 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 10 ประเพณีและวัฒนธรรมนครศรีธรรมราช 1.11 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 11 โบราณสถานและโบราณวตั ถนุ ครศรธี รรมราช 1.12. หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 12 แหล่งท่องเทย่ี วในจงั หวัดนครศรธี รรมราช 1.13 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 13 โครงการอันเน่อื งมาจากพระราชด�ำริในจังหวัดนครศรธี รรมราช 1.14 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 14 ปญั หาในจงั หวดั นครศรีธรรมราช 2. ศึกษาเนื้อหาทลี ะหนว่ ยการเรียนรตู้ ามลำ� ดับ พรอ้ มท�ำกจิ กรรมทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ในแตล่ ะหน่วย การเรยี นรใู้ หค้ รบทกุ ขอ้ แลว้ สง่ ใหค้ รผู สู้ อนเพอ่ื รบั การประเมนิ ผลการเรยี น หรอื ประเมนิ ตนเอง โดยการตรวจคำ� ตอบ จากเนอื้ หา จนครบทัง้ 14 หนว่ ยการเรียนรู้ 3. หากมีเนือ้ หาใดท่ีเรยี นรู้แล้วไมเ่ ขา้ ใจ หรอื ทำ� กจิ กรรมแล้วไม่สามารถตอบคำ� ถามได้ ก็ใหย้ อ้ นกลบั ไป เรียนรเู้ น้ือหาในหน่วยการเรียนร้นู ้ันๆ อีกคร้ังหน่ึง หรอื สอบถามครูผสู้ อนหรือผรู้ ้เู พมิ่ เติม
1หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ประวัตศิ าสตร์จังหวดั นครศรธี รรมราช ประวตั ศิ าสตรน์ ครศรธี รรมราช เปน็ การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ลกั ษณะการตงั้ ถน่ิ ฐานและการดำ� เนนิ ชวี ติ ของผคู้ น ในเขตจงั หวดั นครศรธี รรมราช เหตกุ ารณส์ มยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์ เหตกุ ารณส์ มยั แรกเรม่ิ ประวตั ศิ าสตร์ และเหตกุ ารณ์ สมัยประวัติศาสตร์ ซึ่งการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการสืบค้นความเป็นมาของท้องถิ่นและรวบรวมข้อมูล จากแหล่งข้อมูลและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่ีมีอยู่ท�ำให้เข้าใจความเป็นมาของชาติภูมิ ส่งผลให้เกิดความส�ำนึก รกั และภูมิใจในทอ้ งถน่ิ ของตนเอง เร่ืองที่ 1 ลกั ษณะการตัง้ ถ่นิ ฐานและการดำ�เนินชวี ิตของผ้คู นในเขตจงั หวดั นครศรธี รรมราช ลกั ษณะการตง้ั ถนิ่ ฐานและการดำ� เนนิ ชวี ติ ของผคู้ น ชาวถำ�้ หรอื มนษุ ยถ์ ำ้� ชมุ ชนเกษตรกรรมเรมิ่ แรกชมุ ชน เมอื งทา่ และสถานีการคา้ และชุมชนเมืองและนครรัฐ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ “สงั ฆราชปราชญ์ เรยี นจบปฏิ กไตร หลวกกวา่ ปคู่ รใู นเมืองนื้ ทุกคนลุกแตเ่ มืองนครศร”ี ก่อนมาเป็น นครศรีธรรมราช ช่ือเมืองท่ีมีความหมายว่า นครอันงามสง่าแห่งพระราชาผู้ทรงธรรม อันเป็นจังหวัดหนง่ึ ในประเทศไทยปจั จบุ นั นี้ นครศรธี รรมราช มพี ฒั นาการทางประวัติศาสตรม์ ายาวนาน นบั ต้ังแต่ ก่อนยุคประวัติศาสตร์ ซึ่งหมายถึงยุคสมัยท่ีผู้คนแถบนั้น ยังไม่มีตัวอักษรใช้สื่อสาร มีการต้ังถ่ินฐานอยู่ตามถ้�ำ หรือ เพิงผา หาพืชและสัตว์กินเป็นอาหารไปวัน ๆ จนกระท่ังรวมตัวกันเข้าเป็นชุมชนเกษตรกรรมยุคแรกเร่ิม แล้วพัฒนา มาเป็นเมืองท่าหรือสถานีการค้า ซึ่งมีชื่อว่า ตามพรลิงค์ จนกระท่ังกลายเป็นชุมชนเมืองหรือนครรัฐ ทรี่ งุ่ เรือง ซงึ่ มีช่ือว่า นครศรธี รรมราช ในพทุ ธศตวรรษท่ี 18 เปน็ นครศูนย์กลางแห่งพุทธศาสนาในคาบสมุทรภาคใต้ เป็นนครของปราชญ์ หรือปคู่ รู ทม่ี ีชื่อปรากฏในศิลาจารกึ พ่อขนุ รามค�ำแหงมหาราช ดงั ขอ้ ความข้างต้น การตง้ั ถ่นิ ฐาน หลักฐานทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ที่ส�ำรวจและขุดพบ สามารถแบ่งลักษณะการตั้งถ่ินฐาน และการดำ� เนินชีวติ ของผูค้ นในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช ตัง้ แต่อดีตถงึ ปจั จบุ ันแบง่ ออกได้เป็น 3 ชว่ งเวลา ดงั น้ี 1. ชาวถ้ำ� หรอื มนษุ ยถ์ �้ำ จากการขุดคน้ แหลง่ โบราณคดกี ่อนประวตั ศิ าสตร์ในภาคใต้น�ำมาเปรียบเทียบกับเมอื งนครฯ เชอ่ื ว่า คนกอ่ นประวัติศาสตรใ์ นเมอื งนครฯ พักอาศยั อยูต่ ามถํา้ หรือเพิงผา หาอาหาร โดยการล่าสตั วเ์ ก็บผลไม้ ใชเ้ ครอื่ งมือ หินประเภทครกและสาก ส�ำหรับบดต�ำพืชประกอบอาหาร บางคร้ังอาจใช้ใบมีดหรือขวานหินส�ำหรับปอกลูกไม้ หรอื เปลือกไม้ ตดั เฉือนเนอ้ื สตั ว์ มหี ลกั ฐานทางโบราณคดีแสดงใหเ้ ห็นวา่ เม่อื ประมาณ 5,000 - 6,500 ปี มาแลว้ 1เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
มนษุ ยถ์ าํ้ ในภาคใตป้ ระกอบอาหารโดยใชค้ วามรอ้ นจากไฟ รจู้ กั การหงุ ตม้ โดยใชห้ มอ้ ดนิ เผาและมถี า่ นไมเ้ ปน็ เชอ้ื เพลงิ ภาชนะที่ใช้ประกอบอาหารท่มี ใี ช้โดยท่วั ไป คือ หม้อดนิ เผาก้นกลม และภาชนะแบบหม้อสามขาซึ่งสามารถตั้งครอ่ ม กองไฟ โดยไม่ตอ้ งใช้เสาหรือกอ้ นเสา้ นอกจากน้ยี งั มีภาชนะใส่อาหาร เชน่ ภาชนะทรงพาน หม้อกน้ ตืน้ หม้อมสี ัน ภาชนะประเภทชาม จอก ถว้ ย เหยอื ก แท่นรองหมอ้ และแท่นพงิ ถว้ ย ส�ำหรับรองรบั ถ้วยนำ้� ด่มื อาจท�ำจากเขาสัตว์ เป็นต้น นอกจากน้ีชาวถ�้ำยังรู้จักก่อกองไฟให้ความอบอุ่น รู้จักท�ำเครื่องนุ่งห่ม โดยท�ำจากหนังหรือขนสัตว์ หรอื ท�ำจากเปลือกไม้ พบหนิ ทบุ เปลือกไม้หลายชิ้น หมอ้ และลายเขียนสแี ดง พบท่ีวดั สวนหลวง อ�ำเภอเมอื ง จงั หวดั นครศรธี รรมราช 2. ชมุ ชนเกษตรกรรมเริ่มแรก เปน็ ววิ ฒั นาการของการตง้ั ถน่ิ ฐานชว่ งทส่ี องของเมอื งนคร เรม่ิ จากชมุ ชนยคุ หนิ ใหมท่ อี่ าศยั บนทรี่ าบ ปรากฏชดั ขน้ึ เมอ่ื รจู้ กั ใชเ้ ครอื่ งมอื โลหะ ซงึ่ เปน็ องคป์ ระกอบสำ� คญั ตอ่ การพฒั นาของชมุ ชนเกษตรกรรมทำ� ใหส้ ามารถ ปลูกข้าวได้มากกวา่ เดมิ เริม่ ตั้งถิน่ ฐานถาวร มกี ารเลือกถ่ินฐานในภูมปิ ระเทศทอ่ี ดุ มสมบรู ณเ์ หมาะแก่การเพาะปลูก ปรากฏชุมชนโบราณตามแนวสันทรายและท่ีราบลุ่มแม่น�้ำล�ำคลอง เม่ือประมาณพุทธศตวรรษท่ี 5 เป็นต้นมา โบราณวัตถุของชมุ ชนสมยั น้ี นอกจากเครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ในชวี ติ ประจำ� วันแล้ว ยังมเี ครอื่ งดนตรซี ่งึ เกิดจากการขดั แต่งหิน จากธรรมชาติท่ีเคาะแล้วมีเสียงดังกังวาน สันนิษฐานว่า เป็นระนาดหิน มีลักษณะคล้ายขวานหินยาว ขัดแต่ง จนเรียบรอ้ ย ลกั ษณะเป็นรปู ส่ีเหลีย่ มผนื ผา้ มดี า้ มยาวมากกวา่ ด้านกวา้ ง 3 - 6 เท่า 3. ชมุ ชนเมืองท่าและถานกี ารค้า ระนาดหนิ พบท่ี ต.สระแกว้ อ.ทา่ ศาลา จ.นครศรธี รรมราช นบั ตง้ั แตพ่ ทุ ธศตวรรษที่ 3 เปน็ ตน้ มา ชาวอนิ เดยี ชาวเปอรเ์ ซยี ชาวอาหรับ และชาวโรมันได้เดินเรือมาถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย ตะวนั ออกทำ� ใหค้ าบสมทุ รมลายจู งึ กลายเปน็ จดุ ศนู ยก์ ลางของเสน้ ทางเดนิ เรอื จากฝา่ ยตะวนั ตกอนั ไดแ้ ก่ อนิ เดยี เปอรเ์ ซยี อาหรบั และโรมนั กบั ฝา่ ยตะวนั ออก ได้แก่ จีน เวียดนาม จามปา และเจนละ เรือสินค้ามักต้องแวะเวียนพัก เพื่อขนถ่ายสินค้าหรือหาเสบียงอาหาร หลักฐานส�ำคัญ ได้แก่ โบราณวัตถุ อันเป็นสินค้าจากต่างประเทศ เช่น ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหินสี เคร่ืองประดับ เคร่ืองแก้ว เศษเคร่ืองถ้วยชามตลอดจนประติมากรรม รูปเคารพทางศาสนา ทต่ี ดิ มากบั เรอื เดนิ ทะเล ตง้ั แตพ่ ทุ ธศตวรรษท่ี 8 เปน็ ตน้ มา เกดิ ชมุ ชนอยา่ งถาวร 2 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา
บริเวณเมืองท่าชายฝังทะเล ได้แก่ ตะก่ัวป่า พบจารึกอักษรปัลลวะ ภาษาทมิฬ พบหลักฐานจากศิลาจารึกหุบเขา ช่องคอย อักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤต มีอายุอยู่ประมาณพุทธศตวรรษ ท่ี 12 แสดงถึงชุมชนของกลุ่มผู้นับถือ ศาสนาพราหมณ์อินดู ลัทธิไศวนิกายในเมอื งนคร นอกจากกลุ่มพ่อค้าและนักแสวงโชคแล้วกลุ่มนักบวชพราหมณ์และพระภิกษุในพุทธ-ศาสนา เขา้ มาตงั้ ถน่ิ ฐานในดนิ แดนแถบนใ้ี นเวลาใกลเ้ คยี งกนั เพราะพบประตมิ ากรรมรปู เคารพ เชน่ พระพทุ ธรปู ศลิ ปะอมราวดี คปุ ตะ หลงั คุปตะ ปาละ เนะ เทวรูป อทิ ธิพลปลั ลวะ และโจฬะจากอินเดยี ใต้ เปน็ ต้น 4. ชมุ ชนเมืองและนครรฐั การเข้ามาของวัฒนธรรมอินเดีย ท�ำให้เกิดความเปล่ียนแปลงอย่างมากต่อชุมชนในภูมิภาคน้ี ในระยะเร่มิ แรกศาสนาพราหมณ์จะเดน่ กว่าศาสนาพุทธ เมอื งนครศรีธรรมราช เป็นรัฐทมี่ ีพื้นฐานทางการเกษตร สนิ คา้ พื้นเมือง ไดแ้ ก่ ข้าว การบรู ไมห้ อม (ไม้กฤษณา) ไม้ฝาง ไม้จันทน์ ขี้ผ้ึง งาช้าง เขาสัตว์ หนังสัตว์ และดีบุก เป็นเมืองท่าส�ำคัญ เมืองนครได้ด�ำรงตน เป็นรัฐอิสระ มีความรุ่งเรืองในสมัยปลายพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นรัฐเอกราชในระยะเวลาเดียวกันกับสมัย พ่อขุนรามค�ำแหง แห่งกรุงสุโขทัย เป็นรัฐท่ีม่ังคั่งเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีพระมหากษัตริย์ ทรงพระนาม พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เป็นอาณาจักรที่มีอิทธิพลครอบคลุมท้ังแหลมมลายู บรรดาบ้านเมือง ในอาณาบรเิ วณนถี้ กู ผนวกเปน็ สว่ นหนง่ึ ของอาณาจกั รนครศรธี รรมราช โดยเรยี กเมอื งหลวงนน้ั วา่ เมอื งสบิ สองนกั ษตั ร เมอื งนครศรธี รรมราช เรือ่ งท่ี 2 เหตกุ ารณส์ มยั กอ่ นประวัติศาสตร์ เหตุการณ์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ประกอบด้วย 3 ยุค ได้แก่ ยุคหิน ยุคหินใหม่ และยุคโละหะ โดยมีรายละเอยี ด ดงั น้ี ภาชนะดินเผาทรงหมอ้ สามขา พบที่ถำ�้ เขาเอง อ�ำเภอนบพติ ำ� จังหวัดนครศรีธรรมราช 1. ยคุ หนิ แหล่งโบราณคดีก่อนประวิตศาสตร์ ได้พบว่า แหล่งที่มีการใช้เคร่ืองมือขวานหินกะเทาะสองแหล่ง คอื ทถ่ี ํา้ ตาหมน่ื ยม และถา้ํ เขาหลกั 3เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
ถํา้ ตาหมื่นยม ตง้ั อยูห่ มู่ท่ี 1 บา้ นวังเหรียง ต�ำบลช้างกลาง อำ� เภอช้างกลาง พบเครือ่ งมอื หินกะเทาะ คุมรอบปลายแหลม ด้านบนมีรอยโดนตัดคล้ายกับขวานสั้นท่ีเคยพบที่อ�ำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และเศษภาชนะดนิ เผาสดี �ำ ลายเชือกทาบ ถํ้าเขาหลัก ต้ังอยู่ในเขตต�ำบลสิชล อ�ำเภอสิชล พบเคร่ืองมือหินกะเทาะแบบสองหน้า ลักษณะ เปน็ ขวานสน้ั มรี อยกะเทาะหยาบ ๆ ทำ� จากหนิ ควอรต์ ไซด์ จำ� นวน 1 ชนิ้ และพบภาชนะดนิ เผาประเภทหมอ้ กน้ กลม 1 ชน้ิ หม้อก้นแบน 3 ชิ้น รวมกับกระดกู สตั ว์ประเภทลงิ 2 ช้ิน จากโบราณวัตถุท่ีพบสันนิษฐานว่า ถ้ําท้ังสองแห่งน้ีมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์เข้ามาพักอาศัย แต่ไม่สามารถก�ำหนดอายุของแหล่งได้ชัดเจนจากการเปรียบเทียบกับแหล่งอื่นพอก�ำหนดอายุได้ประมาณ 4,200 - 6,500 ปี 2. ยคุ หินใหม่ ไดพ้ บแหลง่ โบราณคดเี ปน็ จำ� นวนมาก พบโบราณวตั ถุ ไดแ้ ก่ ขวานหนิ ขดั และภาชนะดนิ เผาประเภท หมอ้ สามขา ซง่ึ ส่วนใหญ่ไดพ้ บตามแหล่งท่เี ปน็ ถ้าํ หรอื เพงิ ผา ไดแ้ ก่ ถาํ้ เขาพลู อยู่ในตำ� บลเขาโร อำ� เภอทงุ่ สง พบขวานหิน ขดั มบี ่า เศษภาชนะดนิ เผาเน้ือหยาบและเศษ กระดกู สัตว์ ถำ้� ตลอด อยใู่ นต�ำบลน�้ำตก อำ� เภอทงุ่ สง พบขวานหินขดั และภาชนะดนิ เผาทรงพาน ถํ้านางนอนหงาย อยู่ในต�ำบลบางขัน อ�ำเภอบางขัน พบขวานหินขัดเศษภาชนะดินเผา ภาชนะดนิ เผาสภาพสมบรู ณ์ ประเภทหมอ้ กน้ กลม ชามกน้ กลมทรงขนั นา้ํ ถว้ ยกน้ ตดั ปากบาน ภาชนะกน้ กลมปากบาน ขัดมนั สว่ นใหญ่ตกแตง่ ผวิ นอกดว้ ยลายเชื่อกทาบ และเครื่องประดบั ทำ� จากเปลือกหอยกาบเจาะรู ถ้ําเขาโพรงเสือ อยู่ในเขตต�ำบลทอนหงส์ อ�ำเภอพรหมคีรี พบเศษภาชนะดินเผา เนื้อหยาบ มที ้ังผวิ เรยี บ และลายเชอื กทาบ ชนิ้ สว่ นหมอ้ สามขาและขวานหินขัด ถ้ําเทวดางวงช้าง อยู่ในเขตต�ำบลลานสกา อ�ำเภอลานสกา พบภาชนะดินเผา เศษภาชนะดินเผา ขัดผิวด้านนอกเรียบมัน เนื้อค่อนข้างบางได้แก่ ภาชนะดินเผาลายเชือกทาบรูปทรงคล้ายขันน้ํา และขวานหินขัด แบบจงอยปากนก เขาปนู อยทู่ ว่ี ดั เขาปนู ตำ� บลพรหมโลก อ�ำเภอพรหมครี ี พบเศษภาชนะดนิ เผาเนื้อหยาบตกแตง่ ผวิ ด้วยลายกดทบั ลายเชือกทาบ เปน็ ชิ้นสว่ นของภาชนะ ประเภทหมอ้ สามขา ระนาดหนิ แบบท่ีพบบรเิ วณคลองกลาย อ�ำเภอทา่ ศาลา (ปัจจุบนั อย่ทู พี่ ิพธิ ภัณฑสถานแหง่ ชาติ นครศรธี รรมราช) ถ้ําเขาหินตก อย่ใู นเขตตำ� บลเสาธง อำ� เภอร่อนพิบูลย์ พบลูกปดั เปลือกหอย ลกู ปัดทำ� จากกระดกู เศษภาชนะดนิ เผาลายเชอื กทาบ หม้อสามขา ขวานหินขัดหิน หบุ เขาลานสกา อยูใ่ นเขตตำ� บลลานสกา อ�ำเภอลานสกา พบขวานหินขนาดเลก็ รูปส่เี หลี่ยมคางหมู ขวานหินขัดมบี า่ เขาต่อ อยู่ทบี่ า้ นเขาแก้ว อำ� เภอลานสกา พบขวานหนิ ขัดหรือระนาดหิน ขนาดหนา ขัดเรยี บ เขาพรง อยใู่ นเขตต�ำบลทุ่งปรัง อ�ำเภอสิชล พบขวานหินขัดไม่มบี ่า รปู สี่เหลีย่ มคางหมู ถา้ํ พรรณรา อยใู่ นเขตตำ� บลพรรณรา อำ� เภอถา้ํ พรรณรา พบเศษภาชนะดนิ เผาสดี ำ� แดง ลายเชอื กทาบ ขวานหนิ ขดั ช้นิ ส่วนกระดูกมนุษย์ ถ้ําเขาแอง อยู่ในเขตต�ำบลนบพิต�ำ อ�ำเภอนบพิต�ำ พบหม้อสามขา สภาพเกือบสมบูรณ์ (ปัจจุบัน อยูท่ พ่ี ิพิธภัณฑสถานแห่งชาตนิ ครศรธี รรมราช) 4 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
ส�ำหรบั แหลง่ โบราณคดยี คุ หินใหม่ ทมี่ ิใช่แหล่งถํ้าหรอื เพงิ ผา ได้แก่ คลองเขาแกว้ อยทู่ หี่ นา้ วดั ชายเขา ตำ� บลเขาแกว้ อำ� เภอลานสกา พบขวานหนิ ขดั ขนาดใหญ่ โครงรา่ ง ห้าเหล่ยี ม คมแบบจะงอยปากนก บ้านในแหนบ อยู่ในเขตต�ำบลเขาแก้ว อ�ำเภอลานสกา พบโกลนโครงร่างละเอียดของขวานหินขัด แตง่ พอสมควร หว้ ยครกเบอื อยู่ในเขตตำ� บลท่าดี อ�ำเภอลานสกา พบขวานหนิ ขัด คลองกลาย อยู่ในเขตตำ� บลสระแกว้ อำ� เภอทา่ ศาลา พบขวานหนิ ยาว หรอื ระนาดหิน จำ� นวน 6 ชิ้น เชิงเขาคา ตัง้ อยทู่ ี่เชิงเขาคา ด้านตะวนั ออกเฉียงเหนอื ต�ำบลเสาเภา อ�ำเภอสชิ ล พบขวานหินขดั รูปสีเ่ หลี่ยมคางหมู สิชล อยู่ในเขตพื้นท่ีอ�ำเภอสิชล พบมีดท�ำจากหินทรายสีเทา มีลักษณะเป็นมีดด้ามงอ โครงร่าง เป็นรูปมนรี ส่วนท่ีเป็นด้ามตอนปลายโค้งขนานกับส่วนคม ซ่ึงคอดเล็กกว่าด้าม สีสันร่องแบ่งระหว่างส่วนคม และสว่ นดา้ มขัดเจน เหมอื นมีดมีดา้ มในปจั จบุ นั (ปัจจุบันอยูท่ พี่ พิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาตนิ ครศรีธรรมราช) ชุมชนใกล้วัดพระเพรง อยู่ในเขตต�ำบลนาสาร อ�ำเภอพระพรหม พบขวานหินขัดขนาดกลาง ไม่มีบ่า รปู สเี่ หล่ยี มคางหมู คลองท่าเรือ อยู่ในเขตต�ำบลท่าเรือ อำ� เภอเมอื ง พบขวานหนิ ขดั และก�ำไลหนิ วดั หัวมีนา (รา้ ง) อยู่ในเขตต�ำบลทา่ เรือ อ�ำเภอเมอื งนครศรธี รรมราช พบโกลนขวานหนิ ขัด และ สะเก็ดหิน โบราณวตั ถุ ยุคหนิ ใหม่ 3. ยุคโลหะ ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 1 - 3 เป็นช่วงที่ได้รับวัฒนธรรมจากดินแดนภายนอก โดยเร่ิมติดต่อกับ ดินแดนโพ้นทะเล เช่น จีน อินเดีย และอาหรับ ท�ำให้ชุมชนพื้นเมืองเดิมเปล่ียนแปลงไปสู่ชุมชนในลักษณะใหม่ หลกั ฐานทางโบราณคดสี มยั นท้ี พ่ี บในจงั หวดั นครศรธี รรมราช คอื โบราณวตั ถทุ ที่ ำ� จากโลหะ ทง้ั ทเี่ ปน็ สำ� รดิ และเหลก็ ได้แก่ กลองมโหระทึกกับเครอ่ื งมือส�ำริดและเหลก็ 3.1 กลองมโหระทึก เป็นกลองส�ำริด พบแหล่งผลิตครั้งแรกที่เมืองธันหัว ประเทศเวียดนาม เมอ่ื ประมาณปี พ.ศ. 200 - 300 กลองมโหระทึกทพี่ บในเขตจงั หวดั นครศรธี รรมราช จ�ำนวน 4 ใบ คอื ใบท่ี 1 พบท่ีบา้ นเกยี กกาย หมู่ 8 ตำ� บลท�ำเรือ อำ� เภอเมืองนครศรธี รรมราช สภาพชำ� รุด 5เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
ใบท่ี 2 พบทีค่ ลองคุดดว้ น ในเขตอำ� เภอฉวาง เป็นส่วนของหน้ากลอง พบเมื่อปี พ.ศ. 2482 ใบที่ 3 พบที่บ้านนากะชะ ต�ำบลนากะชะ อำ� เภอฉวาง เมือ่ ปี พ.ศ. 2497 ใบท่ี 4 พบทค่ี ลองทำ� ทนู (บา้ นยวนเทา่ ) ตำ� บลเทพราช อำ� เภอสชิ ล เปน็ สเ่ี หลย่ี มผนื ผา้ (ปจั จบุ นั อยู่ท่พี พิ ิธภณั ฑสถานแห่งชาตนิ ครศรีธรรมราช) 3.2 เครื่องมือเครื่องใช้ ซึง่ ประกอบดว้ ย แหล่งโบราณคดบี า้ นเกียกกาย ตำ� บลทา่ เรือ พบเครอื่ งมอื ส�ำริดขนาดเล็ก ขวานเหล็กมีป้องท่ีสัน คล้ายกับท่ีพบในแหล่งโบราณคดียุคโลหะท่ีจังหวัดกาญจนบุรี พบร่วมกับ โบราณวตั ถอุ นื่ เชน่ ภาชนะดนิ เผาแบบไหกน้ กลม เนอ้ื หยาบและบางมาก ชายปากบาน กน้ ตดั หมอ้ ขนาดเลก็ กน้ กลม ขวานหนิ ซดั เครอ่ื งประดบั ตา่ งหทู องคำ� เศษภาชนะ ดนิ เผาเนอื้ ดนิ เผา เผาด้วยอุณหภูมิตํ่าเป็นจ�ำนวนมาก ช้ันดินทางโบราณคดี แสดงกิจกรรมการอยู่อาศัยของคน ก่อนประวัติศาสตร์ยุคโลหะ แหล่งโบราณคดีบ้านพังสิงห์ ต�ำบลท่าเรือ อ�ำเภอเมือง พบเคร่ืองมือเหล็ก รูปเคียว และปะหญ้า ลักษณะเป็นแผ่นเหล็ก ล่ีเหลี่ยมผืนผ้า มีคมด้านหนึ่งคล้ายจอบ เมื่อใช้งานด้ามจะอยู่ใน แนวตงั้ สว่ นคมอยแู่ นวนอน ดา้ มเป็นแทง่ เหลก็ เรียงคล้ายคางหมู ส�ำหรบั เสยี บเขา้ ดา้ มไม้บางทอ้ งถ่นิ เรียก ปา้ ยหญา้ และไตร กลองมโหระทึก พบทบี่ า้ นเกียกกาย ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เรือ่ งที่ 3 เหตุการณส์ มัยประวัติศาสตร์ เหตุการณ์สมัยประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย สมัยอาณาจักรตามพรลิงค์ สมัยอาณาจักรศรีวิชัย สมยั สริ ธิ รรมนคร สมยั สโุ ขทยั สมยั อยธุ ยา สมยั กรงุ ธนบรุ ี สมยั รตั นโกสนิ ทร์ และยคุ มณฑลเทศาภบิ าลโดยมรี ายละเอยี ด ดงั ตอ่ ไปนี้ ระยะเวลาทจี่ ัดว่านครศรีธรรมราช เข้าสูส่ มัยประวัตศิ าสตร์ ต้งั แตพ่ ทุ ธศตวรรษท่ี 12 ทัง้ นเ้ี พราะไดพ้ บ จารึก อกั ษรโบราณหลายหลกั ในจังหวัดนครศรธี รรมราช จารกึ รนุ่ แรก พบศิลาจารึกอักษรปัลลวะ 3 หลกั ได้แก่ ศลิ าจารึกหบุ เขาชอ่ งคอย พบที่ต�ำบลทุ่งโพธ์ิ อ�ำเภอจุฬาภรณ์ เป็นจารึกบนแท่งหิน ตดิ กบั ภเู ขา อกั ษรปลั ลวะ ภาษาสนั สกฤต กำ� หนดอายรุ าวพทุ ธศตวรรษ ที่ 12 จารึกหลักนี้เป็นของกลุ่มชนท่ีนับถือศาสนาพราหมณ์ ลัทธไิ ศวนิกาย ศิลาจารกึ ชอ่ งคอยหรือศิลาจารึกหบุ เขาช่องคอย ลกั ษณะ ศลิ าจารกึ เปน็ หินขนาด ต้งั อย่บู ริเวณหนา้ ผา ระหว่างหบุ เขาสามารถ มองเห็นพ้ืนท่ีราบด้านล่างได้ชัดเจนด้านบนเป็นแผ่นราบมีอักษร ศิลาจารกึ หบุ เขาช่องคอย ปลั ลวะจารกึ เปน็ ขอ้ ความ 3 ตอน ซงึ่ แปลเปน็ ภาษาไทยปจั จบุ นั ไดด้ งั น้ี ตอนท่ี 1 (ศลิ าจารกึ นเ้ี ปน็ ) ของผเู้ ปน็ สวามขี องนางวทิ ยาเทวี (นางวิทยาเทวีเปน็ ร่างหนึง่ ของนางทุรคา) ตอนที่ 2 ขอความนอบน้อมจงมีแก่ท่าน ผู้อยู่เป็นเจ้า แห่งป่าพระองค์น้ันขอความนอบน้อมจงมีแก่ท่านผู้เป็นเจ้าแห่งเทพ อักษรปลั ลวะจารกึ ตอนที่ 1 6 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา
ทงั้ มวลพระองคน์ น้ั ชนทง้ั หลายผเู้ คารพตอ่ พระศวิ ะ คดิ วา่ ของอนั ทา่ น ผ้เู จรญิ (พระศิวะ) นี้จะพงึ ให้มอี ยู่ในทีน่ ้จี งึ มาเพ่อื ประโยชน์นน้ั ตอนที่ 3 ถ้าคนดีอยู่ในหมู่บ้านของชนเหล่าใดความสุข และผลจักมแี ก่ชนเหล่านั้น อักษรปัลลวะจารกึ ศลิ าจารกึ วัดมเหยงคณ์ (จารึกหลกั ท่ี 27 หรือ น.ศ.10) พบที่วัดมเหยงคณ์ ริมคลองกลาย ต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแท่งศิลาจารึกสีด�ำ รปู สเี่ หลยี่ มสภาพชำ� รดุ มรี อยหกั ดา้ นขวาและดา้ นซา้ ยทง้ั สองขา้ งจารกึ อกั ษรปลั ลวะ ภาษาสนั สกฤต บง่ บอกถงึ เสนาสนะของจดั การจำ� หนา่ ย เครื่องเขียน ทั้งหมึก แผ่นเขียน และได้กล่าวถึงคณะพราหมณ์ท่ีอยู่ ร่วมกนั ดว้ ย ดงั มีปริศนาลายทาง กลา่ วไวว้ า่ “วัดมเหยงคณ์ มีธงสามชาย อยู่ปากน�้ำกลาย ฝ่ายทิศอุดรมีโหนดต้นอ่อน ๆ มีท้อนต้นแฉ้ ใครรู้จักแก้ กินไม่สิ้นเอย” ศิลาจารกึ วดั พระมหาธาตุวรมหาวิหาร (จารกึ หลักที่ 28 หรอื น.ศ.3) เป็นแท่งศิลาแผ่นส่ีเหลี่ยม จารึกอักษรปัลลวะ ภาษามอญโบราณ ก�ำหนดอายุราวพุทธศตวรรษท่ี 12 กรมศิลปากรอ่านและแปลความได้ว่า “รูปจ�ำลอง พ่อมายาแห่งหัวเมืองช้ันนนอก ผู้งามสง่าประดุจถ่านไฟ ที่ก�ำลังลุกโชน” จารึกอักษรปัลลวะท้ัง 3 หลักท่ีพบแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างดินแดนนครศรีธรรมราช กบั อินเดยี 1. สมยั อาณาจกั รตามพรลงิ ค์ ชื่อแรกของเมืองนครศรีธรรมราช ปรากฏตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษท่ี 10 ท้ังกะมะลิง ตะมะลิง ตามรยะลิงค์ ตามพรลิงเดศวร ตันหม่าหลิง และตามพรลิงห์ อันแปลว่า ศิวลึงค์ทองแดง หรือลิฟต์ทองแดง เมืองตามพรลิงค์อันมีความหมายว่า ลิงค์ทองแดง ก�ำเนิดจากเขาคา ลิงค์ทองแดง เป็นการต้ังช่ือจากลึงคบรรพต หรือสยมภูวลึงค์ ท่ีประดิษฐานเนินเหนือสุดของเขาคา เป็นหินรูปธรรมชาติ รูปทรงแบบศิวลึงค์ ที่มีร่องรอย การแกะสลัก เล็กนอ้ ย เพื่อใหเ้ กิดเสน้ พรหมสูตรและ เส้นปารศวสตู ร (เส้นเอ็นของหนังหมุ้ ปลายอวยั วะเพศชาย) ในความเช่ือของพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย ถ้าลิงคบรรพต หรือสยมภูวลิงค์ แตกหักหรือร้าว จะเกดิ อบุ ตั ภิ ยั อยา่ งมากตอ่ ชาวบา้ น จะตอ้ งทำ� พธิ กี รรมบชู าเทพและหมุ้ หอ่ ศวิ ลงิ คด์ ว้ ยทองแดง หรอื ทองคำ� ซง่ึ เชอื่ วา่ ลงิ คบรรพต องค์นค้ี งจะได้รบั การหมุ้ หอ่ ด้วยทองแดง และเรยี กขานกนั ตอ่ มาว่า ตามพรลงิ ค์ โดยอาจเปน็ ทีต่ ั้งเมอื ง หรอื เป็นจุดหมายนักเดินทางได้ จึงบันทกึ ชื่อเมืองแรกแถบทะเลใตน้ ้วี า่ “ตามพรลิงค”์ ตามพรลิงค์ จากยุคที่ก่อตั้งท่ีเขาคา ตามคติศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกายแล้ว จากหลักฐาน ทางโบราณคดี น่าจะมกี ารเปลยี่ นศูนยก์ ลางเปน็ ระยะจากเขาคาสูต่ ้นลมุ่ น�ำ้ คลองกลาย และสบู่ ้านทา่ เรือ ตามล�ำดับ บางช่วงสมยั กม็ อี าณาจักรอ่นื ๆ มอี �ำนาจเหนือกว่า 7เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา
2. สมัยอาณาจกั รศรีวชิ ัย ศรวี ชิ ยั เปน็ ชอ่ื อาณาจกั รทมี่ ชี อ่ื เสยี งทางการเดนิ เรอื และการคา้ มคี วามเจรญิ รงุ่ เรอื งในชว่ งพทุ ธศกั ราช ที่ 13-16 อาณาจกั รน้ีแต่เดิมอยูแ่ ถวเกาะสุมาตรา และขยายอิทธิพลครอบครองช่องแคบมะละกาได้ เป็นจุดควบคมุ เสน้ ทางเดินเรือท้ังในภมู ิภาคและรัฐแดนไกล เชน่ จนี และอนิ เดีย และศรวี ิชัยยังเปน็ ศนู ย์กลางพระพทุ ธศาสนานิกาย มหายานในภูมิภาค ศรีวิชัยตามบันทึกต่าง ๆ ซึ่งเรียกซื่อตามส�ำเนียงของซาติต่าง ๆ เช่น ซิลิโฟซิ โฟซิ คันโทสี โดยมหี ลกั ฐานการบนั ทกึ ท่สี ำ� คญั เชน่ บันทึกหลวงจีนอีจ้ งิ (พ.ศ. 1213-1238) จารึกสุมาตรา (พ.ศ. 1225-1229) บันทึกการเดินเรอื ของสไุ ลมาน พอ่ ค้าอาหรับ (พ.ศ. 1394) ของอาบู่โซอคิ (พ.ศ. 1459) ของมาซูดี (พ.ศ. 1486) จารึกตันซอร์ของอินเดีย (พ.ศ. 1568) บันทึกจากเจาจูคัว ในหนังสือจูพ่านฉี (พ.ศ. 1768) และหลักฐานของไทย ในศิลาจารึกหลกั ที่ 23 (พ.ศ. 1318) ศลิ าจารึกหลกั ที่ 25 (พ.ศ. 1726) และศิลาจารกึ หลักที่ 24 (พ.ศ. 1773) 3. สมัยสริ ธิ รรมนคร ช่ือนี้พบว่าใช้ในกรณีท่ีเป็นช่ือของสถานที่ (คือเมืองหรือนคร) เช่นเดียวกับช่ืออื่น ๆ ท่ีกล่าวมา แตห่ ากเป็น ช่อื ของกษัตรยิ ม์ ักจะเรียนวา่ “พระเจ้าสริ ธิ รรม” หรอื “พระเจา้ สริ ธิ รรมนคร” หรือ “สริ ธิ รรมราช” “สิริธรรมนคร” ปรากฏในหนังสือบาลีเรื่องจามเทวีวงศ์ ซี่งมีพระโพธิรังลีพระเถระ ชาวเชียงใหม่ เป็นผู้แต่งข้ึนในราวพุทธศตวรรษท่ี 21 นอกจากนี้ปรากฏอยู่ในหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ พุทธสิหิงศ์ท่ีลังกา จงึ ทรงอยากได้ พระเจา้ สริ ธิ รรมนครจงึ สง่ ทตู ไปขอกษตั รยิ ล์ งั กาใหก้ รงุ สโุ ขทยั จงึ ไดพ้ ระพทุ ธสหิ งิ ศม์ าบชู า ในตำ� นาน พระบรมธาตเุ มอื งนครศรธี รรมราช ไดก้ ลา่ วถงึ เมอื งขนึ้ ของนครศรธี รรมราช สบิ สองเมอื ง เรยี กวา่ เมอื งสบิ สองนกั ษตั ร ไดแ้ ก่ เมอื งสาย (สายบรุ )ี ใช้ตราหนู เมอื งตาน(ี ปตั ตาน)ี ใชต้ ราววั เมืองกลนั ตนั ใช้ตราเสอื เมืองปาทังใช้ตราแพะ เมืองบันทายสมอ ใช้ตราสิง เมืองสระอุเลา ใช้ตราไก่ เมืองตะกั่วป่าใช้ตราหมา เมืองกระ(กระบุรี) ใช้ตราหมู และคงเป็นเมืองข้ึนตั้งแต่ ปลายพุทธศตวรรษท่ี 18 ถึงปลายพุทธศตวรรษท่ี 19 หรือต้นพุทธศตวรรษที่ 20 ก่อนที่นครศรีธรรมราช จะถูกผนวกเปน็ ส่วนหนงึ่ ของอาณาจักรอยธุ ยา รวมเวลาทนี่ ครศรีธรรมราช หรอื อาณาจกั ร ตามพรลิงค์ เจรญิ อย่างสงู สุดประมาณหนึ่งศตวรรษตัง้ แต่ปลายพทุ ธศตวรรษท่ี 18 เปน็ ตน้ มา 4. สมัยสุโขทยั พทุ ธศตวรรษท่ี 19 - 20 ในช่วงพุทธศตวรรษท่ี 18 นครศรีธรรมราช หรอื ตามพรลงิ ค์ เปน็ เมืองใหญ่ ในคาบสมุทรภาคใต้ มีแสนยานุภาพทางทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งก�ำลังทางเรือ สามารถยกกองทัพเรือไปตีลังกา ถึงสองคร้ัง รวมท้ังยกพลไปตีเมืองละโว้ได้ด้วย พญาศรีธรรมาโศกราช มีความสัมพันธ์กับเมือง หรือดินแดน ทางตอนเหนอื ต้ังแต่ดนิ แดนในลุ่มแม่น�้ำเจา้ พระยาไปจนถงึ สุโขทัย ความสัมพันธ์นี้ ส่วนหนึ่งเกดิ จากความสมั พนั ธ์ ในระบบเครอื ญาตโิ ดยการแตง่ งาน 5. สมยั อยธุ ยา ในกลางพุทธศตวรรษที่ 19 นครศรีธรรมราชอ่อนแอลง ตามต�ำนานเมืองนครศรีธรรมราชมีว่า หลงั จากพระเจา้ อทู่ องสถาปนากรงุ ศรอี ยธุ ยาในปี พ.ศ.1893 ไดย้ กกองทพั ลงมาทางใตส้ รู้ บกบั เมอื งนครศรธี รรมราช แต่ไม่แพ้ชนะกัน จึงได้เจรจาแบ่งดินแดนกับพญาศรีธรรมาโศกราช ที่บริเวณบ้านบางตะพาน (อ�ำเภอบางสะพาน จังหวดั ประจวบคีรีขนั ต)์ พุทธศตวรรษที่ 23 ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ด�ำเนินกุศโลบายใหม่โดยส่ง พระยารามเดโช ทหารเอกเช้ือสายแขกอาหรับ นับถือศาสนาอิสลามมาเป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช 8 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
เพื่อให้เป็นศูนย์กลางอ�ำนาจของอยุธยาในแหลมมลายูเพ่ือโดดเด่ียวและปิดล้อมเมืองสงขลา ส่งผลให้การค้า ของสงขลาซบเซา และสามารถกีดกันอ�ำนาจของอังกฤษออกไปจากสงขลาได้ในที่สุด สงขลาถูกกองทัพ ของกรงุ ศรอี ยธุ ยา จากนครศรธี รรมราชตแี ตก เมอ่ื ปี พ.ศ.2233 และกลบั มาอยใู่ นปกครองของเมอื งนครศรธี รรมราช ตามเดมิ รัชสมัยสมเด็จพระเพทราชา ได้ทรงจัดการกับหัวเมืองที่ขัดขืนพระราชอ�ำนาจไม่ได้เข้ามาร่วมงาน พระราชพิธี ถือนํ้าพระพิพัฒน์สัตยาแสดงความจงรักภักดี มีเมืองนครศรีธรรมราชกับเมืองนครราชสีมา เม่ือปี พ.ศ. 2235 จึงได้ยกกองทัพทั้งทางบกและทางเรือไปดีเมืองนครศรีธรรมราช โดยมีพระยาสุรสงคราม เป็นแม่ทพั หลวง และพระยาราชวังสนั เปน็ แมท่ ัพหน้า พระยารามเดโชมหี นงั สอื ลับ พระยาราชวงั สนั ซงึ่ เป็นเพือ่ น และเป็นมุสลิมด้วยกันช่วยจัดหา เรือให้พระยารามเดโชหนีไปได้ เม่ือตีเมืองนครศรีธรรมราชได้พระยาราชวังสัน ตอ้ งโทษประหารชวี ติ ภายหลงั เสรจ็ ศกึ ความเสยี หายของนครศรธี รรมราชครงั้ น้ี ทำ� ใหอ้ ำ� นาจของเมอื งนครศรธี รรมราช ออ่ นแอลงไปมาก สมเดจ็ พระเพทราชา ทรงนำ� วธิ กี ารกลั ปนาวดั กลบั มาใชอ้ กี ครงั้ คอื ใหอ้ ำ� นาจพระสงฆใ์ นการควบคมุ ชมุ ชน 6. สมยั กรงุ ธนบรุ ี พุทธศตวรรษที่ 24 หลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า เม่ือปี พ.ศ. 2310 หลวงสิทธินายเวร ผเู้ ปน็ ปลดั เมอื งนครศรธี รรมราชหรอื ทเ่ี รยี กกนั วา่ พระปลดั หนู ไดร้ วบรวมผคู้ นตงั้ ตนเปน็ อสิ ระ เรยี กวา่ ชมุ นมุ เจา้ นคร ในปี พ.ศ. 2312 สมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช ไดโ้ ปรดใหเ้ จา้ พระยาจกั รี (หมดุ ) พระยาอภยั รณฤทธิ์ พระยายมราช และพระยาเพชรบุรี ยกก�ำลังทางบกไปปราบแต่ไม่ส�ำเร็จสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงเสด็จ ยกกำ� ลังทางเรือไปตีเมอื งนครศรีธรรมราช ทัพหลวงเข้าตคี า่ ยทา่ หมาก ท่คี ลองปากนคร และท่คี ลองทา่ ศาลาสห่ี นา้ (บา้ นปากพญา) แตก เจ้านครศรธี รรมราชท้งิ เมืองอพยพครอบครวั หนีไปเมอื งสงขลา แล้วใหห้ ลวงสงขลา (วเิ ถียน) พาไปพักพิงอยู่เมืองเทพา เมืองปัตตานี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้โปรดให้เจ้าพระยาจักรีและพระยาพิชัย ราชายกกองทัพเรือติดตามไปเมืองปัตตานี เจ้าเมืองปัตตานียอมส่งตัวเจ้านครศรีธรรมราช (หนู) มาถวายแต่โดยดี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงแต่งต้ังพระเจ้าหลานเธอเจ้านราสุริยวงศ์ ขึ้นครองเมืองนครศรีธรรมราช ต้งั แต่ ปี พ.ศ. 2312 จนถึงแก่พริ าลัย เม่อื ปี พ.ศ. 2319 จงึ ทรงแต่งตง้ั ให้ เจา้ นครศรธี รรมราช (หนู) กลับไปครอง เมืองนครศรธี รรมราช อกี ครง้ั พระราชทานบรรดาศกั ดิเ์ ป็นพระเจา้ นครศรีธรรมราช เจา้ ขัณฑสมี า ให้มเี กียรติเสมอ เจ้าประเทศราชมีอ�ำนาจแต่งต้งั ขนุ นางตามแบบจตสุ ดมภไ์ ด้เช่นเดยี วกับราชธานี 7. สมัยรตั นโกสนิ ทร์ ปี พ.ศ. 2325 ในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช ไดม้ กี ารเปลี่ยนแปลงฐาน อ�ำนาจ ทางการเมือง และการปกครองเมอื งนครศรธี รรมราช ดังนี้ โปรดเกลา้ ใหพ้ ระเจ้านครศรธี รรมราช (หนู) พ้นจากตำ� แหน่ง ใหเ้ ขา้ มารบั ราชการทีก่ รงุ เทพฯ แต่งตั้งเจ้าพัฒน์ (หรือพัด) ปลัดเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นเป็นเจ้าเมืองแทนโดยได้รับบรรดาศักดิ์ เป็น เจา้ พระยาศรโี ศกราช ชาตเิ ดโชไชย มไหสรุ ยิ าบดี อภัยพิรยิ ะ ปรากรมพาหุ พระยาศรธี รรมราช หรือเรียกสั้น ๆ ว่าเจา้ พระยานครศรธี รรมราช (พฒั น)์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) ได้กราบ บังคมทูลขอลาออกจากต�ำแหน่ง เน่ืองจากมีปัญหาเรื่องสุขภาพ พระองค์ได้ทรงแต่งตั้งพระบริรักษ์ภูเบศร์ (น้อย) ผู้ช่วยราชการเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเจ้าเมืองแทน เม่ือปี พ.ศ. 2354 โดยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ 9เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา
เป็นพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) มีนามในตราต้ังว่า พระยาศรีธรรมโศกราช ชาติเดโชไชย มไหสุริยิบดี อภัยพิริยปรากรมพาหุ พระยานครศรีธรรมราช และได้เป็นเจ้าพระยานครศรีธรรมราช ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระนั่งเกลา้ เจา้ อย่หู วั คนท่วั ไปนิยม เรียกว่า เจ้าพระยานครน้อย สมเด็จฯ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพ ทรงกล่าวยกย่องเจ้าพระยานคร (น้อย) มีความตอนหน่ึงว่า “เป็นผู้มีอ�ำนาจมากกว่าเจ้าพระยานครท้ังปวง ได้บังคับบัญชาตลอดจนมาถึงเมืองไชยาข้างฝังตะวันตกก็มีอ�ำนาจ เอื้อมแผ่ไปจนถึงถลาง น�ำทัพศึกที่เป็นเร่ืองส�ำคัญก็คือ ตีเมืองไทร มีอ�ำนาจในเมืองแขกมาก นับถือเป็นพระเจ้า แผน่ ดนิ รอง เปน็ ผไู้ ดร้ บั อำ� นาจทำ� หนงั สอื สญั ญากบั องั กฤษเจา้ ของพระขรรคเ์ นาวโลหะ พระแทน่ ถม พระราชยานถม พระแสงทวนถมและอืน่ ๆ” เจ้าพระยาศรีธรรมราช (น้อย) ได้สร้างความส�ำคัญให้แก่เมืองนครศรีธรรมราชเป็นอันมาก สมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ ทรงกล่าวถึงไว้ในหนังสือสาส์น สมเด็จภาคท่ี 6 มีความตอนหนึ่งว่า “เจา้ พระยานครฯ (นอ้ ย) ปกครองบา้ นเมอื งเขม้ แขง็ กวา่ เจา้ เมอื งแตก่ อ่ น” ในดา้ นการชา่ งไดต้ อ่ เรอื รบ และเรอื กำ� ปน่ั แปลงแก่กองทัพไทยสมัยรัชกาลท่ี 2 จ�ำนวน 30 ล�ำ ได้ส่งเสริมงานช่างศิลปกรรม เคร่ืองถมและ ผ้ายกเมืองนคร จนเป็นทร่ี จู้ ักกว้างขวาง ด้านการรบได้ทำ� ศึกสงครามเพือ่ ปราบปรามกบฏเมอื งไทรบุรีชนะ ท�ำใหไ้ ทรบุรี ยงั คงข้นึ อยู่ กับไทย เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) ถงึ แกอ่ นิจกรรม เม่ือปี พ.ศ. 2382 พระบาทสมเด็จพระน่งั เกล้า เจ้าอยู่หัวทรงแต่งต้ังพระเสน่หามนตรี (น้อยกลาง) ผู้ช่วยว่าราชการเมืองนครศรีธรรมราช ผู้เป็นบุตรคนที่สี่ ของเจ้าพระยานครศรธี รรมราช (น้อย) เป็นเจ้าเมือง ปรากฏนามในตราตงั้ วา่ พระยานครศรธี รรมราช แต่คนทว่ั ไป มักเรียกว่า พระยานครน้อยกลาง ภายหลังได้รับสถาปนาเป็นเจ้าพระยานครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ. 2395 และได้ถงึ แกอ่ นจิ กรรม เมื่อปี พ.ศ. 2410 พระเสน่หามนตรี (หนพู ร้อม) บตุ รคนโตของเจา้ พระยานครศรีธรรมราช (น้อยกลาง) ไดเ้ ข้าดำ� รงตำ� แหนง่ เจ้าเมืองเปน็ เจา้ พระยานครศรีธรรมราชสืบแทน ปรากฏนามภายหลังว่า เจา้ พระยา สุธรรมมนตรี คนทัว่ ไป เรียกว่า เจา้ พระยาชนทวน 8. ยุคมณฑลเทศาภิบาล มณฑลเทศาภิบาล เป็นรูปแบบปกครองโดยการรวมหัวเมือง เข้ามาอยู่ภายใต้การก�ำกับดูแล และบงั คับบัญชาของข้าหลวงเทศาภบิ าล แทนการมเี จา้ เมืองดังแต่ก่อน ขา้ หลวงเทศาภิบาล มีฐานะเป็นขา้ ราชการ ต่างพระเนตร พระกรรณ ของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงไว้วางพระราชหฤทัย คดั เลอื กจากขนุ นางชนั้ ผู้ใหญ่ ทมี่ ีความรคู้ วามสามารถสูงออกไปปฏบิ ัตริ าชการ และยงั มี ข้าราชการรองอีกจ�ำนวนหนึ่งรวมเรียกว่า กองมณฑลท�ำหน้าท่ี ช่วยเหลือการปฏิบัติราชการในแผนกการต่าง ๆ ในมณฑล ก่อนการปฏิรูปการปกครอง หัวเมืองทางปักษ์ใต้ที่มีความส�ำคัญมาก คือ เมืองนครศรีธรรมราช และเมอื งสงขลา เพราะเมอื งทัง้ สองทำ� หนา้ ท่ีควบคุมบังคับบญั ชาประเทศราชมลายู เมือ่ องั กฤษมีเมอื งขน้ึ อย่ปู ระชิด ดนิ แดนไทย เปน็ เหตใุ หโ้ ทษกบั องั กฤษมกี รณพี พิ าทกนั ในเรอ่ื งหวั เมอื งมลายหู ลายครง้ั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยู่หัว ทรงใช้นโยบายประนีประนอม ทรงยกฐานะผู้ครองนครรัฐไทรบุรี ขึ้นเป็นเจ้าพระยาและให้ขึ้นตรงต่อ กรุงเทพฯ จากเดิมท่ีขึ้นกับเมืองนครศรีธรรมราช ทรงมีพระราชประสงค์ให้ หัวเมืองมลายูเป็นพระราชอาณาเขต ชั้นนอกติดกับฝรั่งเศสตะวันตกและได้โปรดเกล้าฯ ให้หัวเมืองปักษ์ใต้ท้ังหมด ท่ีเคยข้ึนสังกัดกระทรวงกลาโหม มาอยู่ในสงั กัดกระทรวงมหาดไทย 10 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา
กจิ กรรมหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 ประวตั ศิ าสตรน์ ครศรธี รรมราช จงตอบค�ำถามต่อไปนีท้ กุ ข้อ 1. จงอธิบายลักษณะการตั้งถ่ินฐานและการด�ำเนินชีวิตของผู้คนในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามหัวข้อตอ่ ไปน้ี พอเปน็ สังเขป ดงั นี้ 1) ชาวถ้ำ� หรอื มนุษยถ์ ำ�้ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. 2) ชมุ ชนเกษตรกรรมเริ่มแรก ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 3) ชุมชนเมืองทา่ และสถานที่การคา้ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 11เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา
4) ชุมชุนเมืองและนครรฐั พอสังเขป ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 2. จงแสดงลำ� ดับเหตุการณส์ ำ� คญั สมยั กอ่ นประวตั ิศาสตรใ์ นยคุ หิน ยุคหนิ ใหม่ และยุคโลหะ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 12 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2ลกั ษณะภูมิประเทศจงั หวดั นครศรีธรรมราช ลักษณะภูมิประเทศจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับ ที่ต้ัง ขนาด และอาณาเขต ลักษณะภูมิประเทศ และแม่น�้ำท่ีส�ำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งการเรียนรู้และการสืบค้นข้อมูลลักษณะ ภมู ปิ ระเทศจงั หวดั นครศรธี รรมราช จะสง่ ผลใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจบรบิ ทของพนื้ ทขี่ องจงั หวดั นครศรธี รรมราชไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เรื่องที่ 1 ทีต่ ัง้ ขนาด และอาณาเขตจังหวดั นครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ต้ังอยู่ทางตอนกลางของภาคใต้ ห่างจากกรุงเทพมหานคร 780 กิโลเมตร มีเน้ือที่ประมาณ 9,942,502 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6,214,064 ไร่ มีพื้นที่มากเป็นอันดับ 2 ของภาคใต้ และเปน็ อนั ดบั ที่ 16 ของประเทศ หรอื ประมาณ รอ้ ยละ 1.98 ของพนื้ ทที่ งั้ ประเทศ ทต่ี ง้ั ของตวั จงั หวดั ตง้ั อยปู่ ระมาณ ละติจูด 9 องศาเหนือและลองตจิ ดู 100 องศาตะวนั ออก มีอาณาเขตตดิ ต่อกับจังหวดั ต่าง ๆ ดังน้ี ทิศเหนือ ติดต่อกับ จงั หวดั สุราษฎรธ์ านีและอา่ วไทย ทศิ ใต ้ ติดต่อกบั จงั หวัดตรงั จงั หวดั พทั ลุง และจังหวัดสงขลา ทิศตะวนั ออก ติดต่อกบั อ่าวไทย ซึง่ มีฝง่ั ทะเลยาว 225 กโิ ลเมตร ทศิ ตะวนั ตก ติดตอ่ กับ จงั หวัดสุราษฎร์ธานี และจงั หวดั กระบี่ ท่มี า : http://www.oceansmile.com/S/Nakhonsitammarat/Nakhon1.htm 13เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
เรอ่ื งที่ 2 ลักษณะภมู ิประเทศจังหวัดนครศรีธรรมราช ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศจงั หวดั นครศรธี รรมราช ประกอบดว้ ย บรเิ วณเทอื กเขาตอนกลาง บรเิ วณทรี่ าบชายฝง่ั ตะวนั ออก และบรเิ วณท่ีราบด้านตะวนั ตก โดยมีรายละเอียด ดังน้ี 1. บรเิ วณเทอื กเขาตอนกลาง ไดแ้ ก่ บรเิ วณเทอื กเขาจงั หวดั นครศรธี รรมราช มอี าณาเขตตงั้ แตต่ อนเหนอื ของจงั หวดั ลงไปถงึ ตอนใตส้ ดุ บรเิ วณพนื้ ทข่ี องอำ� เภอ ทอี่ ยใู่ นเขตเทอื กเขาตอนกลาง ไดแ้ ก่ อำ� เภอสชิ ล อำ� เภอขนอม อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอชะอวด อ�ำเภอจุฬาภรณ์ และอ�ำเภอพระพรหม ในเขตเทือกเขานี้มีภูเขาสูงสุดในจังหวัด คือ ภูเขาหลวง ซ่ึงสงู เหนือระดบั นํา้ ทะเลประมาณ 1,835 เมตร นอกจากน้ีเทือกเขาดังกล่าวยังเป็นเส้น แบ่งเขตอ�ำเภอ ระหว่างอ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอฉวาง กับอ�ำเภอชะอวด อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช อ�ำเภอพรหมคีรี พ้ืนที่ อ.พรหมคีรี อำ� เภอทา่ ศาลา และเปน็ เสน้ แบง่ เขต จงั หวดั นครศรธี รรมราช ท่ีมา : https://www.welovelocal.travel/outingonthetrain กบั อำ� เภอบา้ นนาสารอำ� เภอกาญจนดษิ ฐ์จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี อีกด้วย บริเวณเทือกเขาตอนกลาง มีเส้นทางคมนาคม ทส่ี ำ� คญั คอื ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 401 โดยมรี ะยะทาง เร่ิมต้นจากชายฝั่งตะวันตกของภาคใต้ โดยแยกจาก ถนนเพชรเกษมบริเวณกิโลเมตรท่ี 762+481 ท่ีสามแยก โคกเคียน ใกล้ตัวเมืองอ�ำเภอตะก่ัวป่า จังหวัดพังงา จากนั้นตัดไปทางทิศตะวันออกผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปยงั ชายฝง่ั ตะวนั ออก และลงใตไ้ ปยงั จงั หวดั นครศรธี รรมราช พ้ืนที่ อ.ลานสกา โดยส้ินสุดที่ถนนพัฒนาการคูขวาง และทางหลวงแผ่นดิน ทมี่ าhttps://pantip.com/topic/35053664 หมายเลข 4015 นครศรีธรรมราช–บ้านส้อง เป็นถนนเส้นทางหลักเชื่อมต่อระหว่างอ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอชา้ งกลาง อ�ำเภอฉวาง และอ�ำเภอเวียงสระ จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี 2. บริเวณท่ีราบชายฝั่งตะวันออก ได้แก่ บริเวณต้ังแต่เทือกเขาตอนกลางไปทางตะวันออกถึงฝั่ง ทะเลอ่าวไทย จ�ำแนกไดเ้ ป็น 2 ตอน คอื ตงั้ แต่อำ� เภอเมอื ง จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปทางใต้เป็นที่ราบที่มีความ กว้างจากบริเวณเทือกเขาตอนกลาง ไปถึงชายฝั่งทะเล ระยะทางประมาณ 95 กิโลเมตร มีแม่นํา้ ล�ำคลองทีม่ ตี ้นน�้ำ เกิดจากบริเวณเทือกเขาตอนกลางไหลลงสู่อ่าวไทย หลายสาย นับเป็นท่ีราบซ่ึงมีค่าทางเศรษฐกิจของจังหวัด ล�ำนํ้าส�ำคัญได้แก่แม่น้�ำปากพนัง และมีคลองสายเล็ก ๆ พ้นื ที่อำ� เภอสชิ ล ทม่ี า : about:blank 14 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
ในเขตอำ� เภอเมอื งจงั หวดั นครศรธี รรมราช อกี หลายสาย เชน่ คลองปากพญาและคลองทา้ ยวงั เปน็ ตน้ อกี บรเิ วณหนง่ึ คือ ตั้งแต่อ�ำเภอท่าศาลาขึ้นไปทางทิศเหนือ เป็นบริเวณชายฝั่งแคบ ๆ ไม่เกิน 15 กิโลเมตร คือ อ�ำเภอสิชล และอ�ำเภอขนอม 3. บรเิ วณทร่ี าบด้านตะวันตก ไดแ้ ก่ บริเวณ ทรี่ าบระหวา่ งเทอื กเขาจงั หวดั นครศรธี รรมราช จงึ มลี กั ษณะ เป็นเนินเขาอยู่เป็นแห่ง ๆ อ�ำเภอท่ีอยู่บริเวณที่ราบด้านน้ี คอื อำ� เภอพิปนู อำ� เภอท่งุ ใหญ่ อ�ำเภอฉวาง อ�ำเภอนาบอน อำ� เภอบางขัน อำ� เภอถา้ํ พรรณรา และอำ� เภอทุง่ สง ล�ำน้�ำส�ำคัญ ได้แก่ ต้นน้�ำของแม่น�้ำตาปี ไหลผ่านอำ� เภอพปิ นู อำ� เภอฉวาง และอ�ำเภอทงุ่ ใหญ่ ที่มา : https://www.naewna.com/likesara เรือ่ งที่ 3 แมน่ ำ�้ ทส่ี �ำคัญของจังหวดั นครศรธี รรมราช แมน่ ำ้� ทส่ี ำ� คญั ของจงั หวดั นครศรธี รรมราช ประกอบดว้ ย แมน่ ำ้� ปากพนงั แมน่ ำ้� หลวง คลองปากพนู คลอง ปากพญา-คลองปากนคร คลองเสาธง คลองกลาย คลองน�้ำตกโยง คลองมีน คลองท่าเลาและคลองท่าโลน โดยมรี ายละเอียด ดงั น้ี 1. แม่น้�ำปากพนัง ต้นน้�ำเกิดจากเทือกเขาบรรทัด ในเขตต�ำบลวังอ่าง อ�ำเภอชะอวด ไหลผ่าน อำ� เภอชะอวด อำ� เภอเชยี รใหญ่ และมสี าขาจากอำ� เภอหวั ไทร ไหลมารวมกนั ทบ่ี า้ นปากแพรก กลายเปน็ แมน่ ำ้� ปากพนงั ไหลลงสอู่ า่ วจงั หวดั นครศรธี รรมราช นบั เปน็ แมน่ ำ้� ทส่ี ำ� คญั ทางเศรษฐกิจของจังหวัดมาก โดยเฉพาะทางด้าน เกษตรกรรม บริเวณลุ่มน้�ำปากพนังและล�ำน้�ำสาขา เป็นบริเวณที่ราบมีพ้ืนท่ีนากว่า 500,000 ไร่ มีโครงการ พัฒนาพ้ืนท่ีลุ่มน�้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ด�ำเนินการโดยกรมชลประทาน และแม่น้�ำปากพนัง เป็นที่ตั้งของท่าเทียบเรือประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช และตลาดกลางกงุ้ กลุ าดำ� จงั หวดั นครศรีธรรมราช แม่นำ้� ปากพนงั 2. แม่น้�ำหลวง เป็นสาขาหน่ึงของแม่น้ําตาปี ต้นน้ําเกิดจากบริเวณทิศตะวันตกของเทือกเขา จังหวัดนครศรีธรรมราช และเทือกเขาภูเก็ต ส่วนท่ีเกิดจากเทือกเขาจังหวัดนครศรีธรรมราช มีต้นน้ําอยู่ในเขต อ�ำเภอพิปูน และอ�ำเภอฉวาง ไหลผ่านอ�ำเภอฉวาง และ อำ� เภอทงุ่ ใหญ่เข้าเขตจังหวดั สรุ าษฎร์ธานี อำ� เภอพระแสง อ�ำเภอนาสารไปรวมกับแม่นํ้าคีรีรัฐนิคม (แม่นํ้าพุมดวง) ที่อ�ำเภอพุนพิน เรียกว่า “แม่น�้ำตาปี” แล้วไหลลงสู่ อ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม่น้ําสายนี้เป็นแม่น้�ำ สายท่ีมคี วามยาวท่สี ดุ ของภาคใต้ แมน่ ำ้� หลวง ทมี่ า : http://oknation.nationtv.tv/blog 15เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา
3. คลองปากพูน ต้นน้ําเกิดจากเทือกเขา จงั หวดั นครศรธี รรมราช บรเิ วณเขาหลวงทางดา้ นตะวนั ออก ของเทอื กเขาตน้ นาํ้ อยทู่ น่ี า้ํ ตกพรหมโลกในเขตอำ� เภอพรหมครี ี ไหลไปทาง ทศิ ตะวนั ออกผา่ นตำ� บลบา้ นเกาะ อำ� เภอพรหมครี ี และบา้ นทา่ แพ ตำ� บลปากพนู อำ� เภอเมอื งแลว้ ไหลลงสอู่ า่ ว จังหวัดนครศรีธรรมราช ต้นน้�ำเรียกว่าคลองนอกท่า ใกลป้ ากนำ�้ เรยี กวา่ คลองปากพนู เปน็ คลองทมี่ คี วามสำ� คญั ทางเศรษฐกจิ มาแต่สมัยโบราณ คลองปากพูน ท่ีมา : http://oknation.nationtv.tv 4. คลองปากพญา-คลองปากนคร ต้นน้ําเกิดจากแหล่งน้ําหลายสาขาในเขตเทือกเขา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะท่ีเขาคีรีวง ต�ำบลก�ำโลน อ�ำเภอลานสกา ไหลผ่านอ�ำเภอเมือง ต้นน้ําเรียกว่า คลองท่าดี ผ่านต�ำบลก�ำแพงเซา ต�ำบลมะม่วงสองต้น อ�ำเภอเมือง เม่ือไหลมาถึงสันทราย ซ่ึงเป็นท่ีต้ังตัวเมือง คลองแบ่งแยกเป็นหลายสาขา สายหน่ึงไหลเลียบตัวเมือง ข้ึนไปทางตะวันออกผ่าน ตัวเมืองที่สะพานราเมศวร์ ต�ำบลท่าวัง ผ่านต�ำบลท่าซัก ออกทะเล ท่ีปากพญา เรียกว่า คลองปากพญา ซึ่งเป็นคลองท่ีมีความส�ำคัญ ด้านประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของจังหวัด มีหลักฐานว่า เดิมมีขนาดกว้างและลึก ซึ่งเรือก�ำปั่นขนาดใหญ่เข้ามา ตดิ ต่อค้าขายได้ถึงตัวเมอื งจังหวัดนครศรธี รรมราช คลองปากพญา-คลองปากนคร ท่มี า : https://pimnatnicha14.wordpress.com 5. คลองเสาธง ต้นน้ําเกิดจากเทือกเขาจังหวัดนครศรีธรรมราช ในเขตอ�ำเภอลานสกา คลองน้ีมีช่ือ เรียกกันหลายชือ่ ตามท้องทที่ คี่ ลองไหลผ่าน คือ เม่ือไหลจากนาํ้ ตกกะโรม เรยี กวา่ คลองเขาแก้ว เมื่อไหลเข้าสู่อำ� เภอ ร่อนพิบูลย์ เรียกว่า คลองเสาธง เมื่อไหลผ่านบ้านโคกคราม อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ เรียกว่า คลองโคกคราม เมื่อไหล เข้าสูต่ ำ� บลชะเมา เรยี กว่า คลองชะเมา เมื่อถึงหนองนํ้ามนต์มคี ลองแยกไปลงคลองปากนคร แต่สว่ นใหญอ่ อกทะเล ที่ปากคลองบางจากตอนปลาย คลองนี้จึงเรียกว่า คลองบางจาก และเป็นคลองที่แบ่งเขตอ�ำเภอเมือง จงั หวดั นครศรธี รรมราชกบั อำ� เภอปากพนงั ในสมยั ทพี่ ระยา สขุ มุ นยั วนิ ติ เปน็ เทศาภบิ าลมณฑลจงั หวดั นครศรธี รรมราช ได้ขุดคลองบางจากเช่ือมกับแม่น�้ำปากพนัง เรียกว่า คลองสขุ มุ ที่ต�ำบลบางจาก กรมชลประทานไดส้ รา้ งประตู ระบายน้�ำเพ่ือเก็บกักน้�ำไว้ในล�ำคลองและป้องกันน้�ำเค็ม ระบายให้แก่คลองสุขุมและช่วยการเกษตรกรรมพ้ืนท่ี 58,200 ไร่ ท่ีมา : https:ค//ลwอwงเwสา.bธlงoggang.com 16 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา
6. คลองกลาย ต้นน้�ำเกิดจากเทือกเขา จังหวัดนครศรีธรรมราช ในเขตพื้นท่ี อ�ำเภอนบพิต�ำ ไหลไปออกทะเลท่ีอ�ำเภอท่าศาลา คลองกลาย เป็นท่ีรู้จัก ของชาวจงั หวดั นครศรธี รรมราช เพราะมสี ะพานทย่ี าวทสี่ ดุ ในจงั หวดั จังหวัดนครศรีธรรมราช คลองกลาย ท่ีมา : https://pimnatnicha14.wordpress.com 7. คลองน�้ำตกโยง ต้นน้ําเกิดจากเทือกเขา จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้านตะวันตกบริเวณน้ําตกโยง ต�ำบลถํ้าใหญ่ อ�ำเภอทุ่งสง แล้วไหลผ่านต�ำบลปากแพรก ต�ำบลชะมาย ต�ำบลท่ีวัง และต�ำบลกะปาง เข้าสู่อ�ำเภอ หว้ ยยอด จงั หวัดตรงั กลายเป็นสาขาหน่งึ ของแม่น้าํ ตรงั คลองนำ้� ตกโยง ท่มี า : http://myprojectpage1.blogspot.com 8. คลองมีน ต้นน้ําเกิดจากภูเขาสามจอม ในเขตอ�ำเภอทุ่งใหญ่ ไหลลงมาทางตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านบ้านห้วยญวณข้างเหนือ ผ่านบ้านเขาขาว สหกรณ์ นิคมทุ่งสง บ้านล�ำสาย บ้านทุ่งส้าน สถานีรถไฟหลักช้าง บา้ นปากนาํ้ คลองจนั ดี ไหลไปเปน็ สาขาหนงึ่ ของแมน่ า้ํ หลวง หรือแมน่ า้ํ ตาปีและออกอ่าวบ้านดอน จงั หวัดสุราษฎร์ธานี คลองมีน ท่มี า : https://pimnatnicha14.wordpress.com 17เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา
กิจกรรมหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ลักษณะภูมิประเทศจงั หวัดนครศรธี รรมราช ใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาค้นควา้ และตอบค�ำถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง 1. ท่ตี ง้ั ขนาด และอาณาเขตนครศรธี รรมราช ทต่ี งั้ …………………………………………………………..……… ขนาด………………………………………………………..……… ………………………………………………………….…………… ………………………………………………………….…………… …………………………………………………………….…...…… …………………………………………………………….…...…… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………… อาณาเขต ทิศเหนือ ตดิ ต่อกบั .................................................................................................................................. ทิศใต้ ติดตอ่ กับ .................................................................................................................................. ทศิ ตะวนั ออก ตดิ ตอ่ กบั .................................................................................................................................. ทิศตะวนั ตก ตดิ ต่อกับ .................................................................................................................................. 2. อธิบายลักษณะภมู ิประเทศและยกตัวอย่างอำ� เภอของจังหวดั นครศรธี รรมราช ลักษณะ ลักษณะสำ�คัญ อ�ำ เภอ ภมู ิประเทศ ทอ่ี ยู่ในบริเวณ บรเิ วณ ………………………………………………………................................................ ..………………..…..…… เทือกเขา ………………………………………………………................................................ ………………….……….. ตอนกลาง ………………………………………………………................................................ ………………….…...….. ………………………………………………………................................................ ………………….….……. บรเิ วณทร่ี าบ ………………………………………………………................................................ ..………………..…..…… ชายฝง่ั ………………………………………………………................................................ ………………….……….. ตะวันออก ………………………………………………………................................................ ………………….…...….. ………………………………………………………................................................ ………………….….……. บรเิ วณที่ราบ ………………………………………………………................................................ ..………………..…..…… ดา้ นตะวนั ตก ………………………………………………………................................................ ………………….……….. ………………………………………………………................................................ ………………….…...….. ………………………………………………………................................................ ………………….….……. 18 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา
3. อธบิ ายและยกตัวอยา่ งแม่น้�ำท่สี ำ� คญั ของจงั หวัดนครศรธี รรมราช โดยสงั เขป ช่ือแม่น้�ำ ข้อมูลทว่ั ไป 1. ..................................................... ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ 2. ..................................................... ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ 3. ..................................................... ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ 4. ..................................................... ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ ………………………………………………………................................................ 19เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3ลกั ษณะภมู อิ ากาศจงั หวัดนครศรธี รรมราช ลกั ษณะภมู อิ ากาศนครศรธี รรมราช เปน็ การเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ฤดกู าลของนครศรธี รรมราช และภยั ธรรมชาติ ทีเ่ กิดขึน้ ในจงั หวัดนครศรีธรรมราช ซ่ึงลักษณะทางกายภาพของพ้ืนทใ่ี นนครศรธี รรมราช สง่ ผลต่อการเกดิ ภัยพิบัติ ที่แตกตา่ งกัน การเขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหว่างลกั ษณะทางกายภาพในประเทศไทยกบั ภยั พิบตั จิ ะชว่ ยใหม้ นษุ ยอ์ าศยั อยูร่ ่วมกับธรรมชาตอิ ย่างย่งั ยนื เรื่องที่ 1 ฤดกู าลของจังหวดั นครศรีธรรมราช ลักษณะภูมิอากาศของจังหวัดนครศรีธรรมราชจากสถานท่ีตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร และมีภูเขาแบ่งพื้นท่ี เป็น 2 คาบสมุทร คือ ด้านตะวันออกเป็นทะเลจีนใต้มหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนด้านตะวันตกเป็นทะเลอันดามัน มหาสมทุ รอนิ เดยี สง่ ผลให้จงั หวัดนครศรธี รรมราชมีอุณหภมู ิ ดังน้ี อณุ หภมู ิ เฉลีย่ ท้งั ปี 27.0 °c อุณหภูมิสูงสดุ เฉล่ยี ทงั้ ปี 32.1 °c อุณหภมู ติ ำ่� สุด เฉลย่ี ทั้งปี 23.0 °c นอกจากนี้ยังได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมจากมหาสมุทรอินเดียและพายุหมุนเขตร้อนจากทะเลจีนใต้ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านมหาสมุทรอินเดีย และทะเลอันดามัน เข้าสู่ประเทศไทยบริเวณชายฝั่งตะวันตก จึงมีฝนตกชุก แต่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีเทือกเขาทางตะวันตกและตอนกลางเป็นแนวก้ันทิศทางลม ท�ำให้ได้รับ อทิ ธิพลไมม่ ากนกั ลมมรสุมดังกลา่ วอยใู่ นช่วงประมาณเดอื นพฤษภาคมถึงเดือนตลุ าคม 1. ฤดูฝน 1.1 ต้งั แตเ่ ดอื น พฤษภาคม - ตุลาคม ได้รบั อิทธิพลจากลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใต้ แต่เนื่องจากมี เทือกเขานครศรีธรรมราชที่สูงชัน เป็นที่กั้นทิศทางลมจึงมีฝนตกไม่มากนัก พื้นท่ีที่ได้รับฝน คือ พื้นท่ีทางตะวันตก ของเทือกเขา จ�ำนวน 8 อ�ำเภอ ได้แก่อ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอทุ่งใหญ่ อ�ำเภอบางขัน อ�ำเภอฉวาง อ�ำเภอช้างกลาง อ�ำเภอถำ้� พรรณรา อำ� เภอนาบอนและอ�ำเภอพิปนู 1.2 ตัง้ แต่เดอื นพฤศจิกายน - กุมภาพนั ธ์ ไดร้ บั อทิ ธิพลจากลมมรสมุ ตะวันออกเฉยี งเหนือ ท�ำใหม้ ี ฝนตกหนาแน่น ประกอบด้วย 15 อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอนบพิต�ำ อำ� เภอพรหมคีรี อำ� เภอเมอื งนครศรีธรรมราช อำ� เภอลานสกา อ�ำเภอรอ่ นพิบูลย์ อ�ำเภอจฬุ าภรณ์ อ�ำเภอพระพรหม อ�ำเภอเฉลมิ พระเกียรติ อำ� เภอเชียรใหญ่ อ�ำเภอชะอวด อ�ำเภอหัวไทร และอำ� เภอปากพนัง เนือ่ งจากพ้ืนทีส่ ว่ นใหญ่ ต้งั อยดู่ ้านรบั ลมทำ� ให้เกิดอุทกภัยข้ึนเปน็ ประจำ� ทกุ ปี เกณฑป์ ริมาณฝนตก ปรมิ าณฝนตก ตั้งแต่ 0.1 - 10.0 มิลลเิ มตร/วัน เรยี กว่า ฝนตกเลก็ น้อย ปรมิ าณฝนตก ต้งั แต่ 10.1 - 35.0 มลิ ลิเมตร/วัน เรยี กวา่ ฝนตกปานกลาง ปรมิ าณฝนตก ตั้งแต่ 35.1 - 90 มลิ ลิเมตร/วัน เรยี กวา่ ฝนตกหนกั 20 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา
ปริมาณฝนตก ต้ังแต่ 90.1 มิลลเิ มตรข้ึนไป เรยี นวา่ ฝนตกหนกั มาก สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนครศรีธรรมราช เก็บข้อมูลปริมาณน้�ำฝน จ�ำนวน 5 ปี (ระหว่าง พ.ศ. 2557 - 2561) ปริมาณน�ำ้ ฝนสงู สุด คอื เดือนพฤศจิกายน รองลงมาคือ เดอื น ธันวาคม และเดอื นมกราคม 2. ฤดูร้อน จังหวดั นครศรธี รรมราช เริ่มเขา้ ฤดรู ้อนต้งั แตก่ ลางเดือนมกราคม - กลางเดือนพฤษภาคม อุณหภมู ิ ระยะเวลา 5 ปี ตงั้ แตป่ ี 2557 - 2561 อุณหภูมิสูงสดุ อยู่ในชว่ งระหวา่ งเดอื นเมษายน - สงิ หาคม เดือนทมี่ อี ณุ หภูมิ สูงสุด คือ เดือนพฤษภาคม รองลงมาคือ เดือนมิถุนายนและเดือนเมษายน อุณหภูมิต�่ำสุดอยู่ในช่วงระหว่าง เดือนมกราคม - มนี าคม เดือนทีม่ ีอณุ หภมู ติ �ำ่ สุด คอื เดือนกมุ ภาพนั ธ์ รองลงมา คือ เดอื นมกราคม และเดอื นมีนาคม เรื่องที่ 2 ภัยธรรมชาติทีเ่ กดิ ข้นึ ในจงั หวัดนครศรธี รรมราช จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ จงั หวดั ทม่ี ขี นาดใหญ่ มลี กั ษณะทางกายภาพของพนื้ ทเ่ี ปน็ ภเู ขา ปา่ ไม้ นาขา้ ว ป่าพรุและทะเล ขึน้ กับทำ� เลทต่ี ้งั การไดร้ ับอทิ ธิพลจากธรรมชาติหรอื ท่เี รียกวา่ ภยั ธรรมชาติอย่างหลากหลาย ได้แก่ น�้ำท่วม ดนิ ถลม่ พายุ การกัดเซาะชายฝ่ังทะเล ภยั แล้ง และไฟป่า 1. อุทกภยั อทุ กภยั คอื ภยั หรอื อนั ตรายทเ่ี กดิ จากนำ�้ ทว่ ม หรอื อนั ตรายอนั เกดิ จากสภาวะทน่ี ำ�้ ไหล เออ่ ลน้ ฝง่ั แมน่ ำ�้ ล�ำธาร หรือทางน้�ำเข้าท่วมพ้ืนท่ี ซึ่งโดยปกติแล้วไม่ได้อยู่ใต้ระดับน�้ำ หรือเกิดจากการสะสมน้�ำบนพื้นที่ ซ่ึงระบาย ออกไม่ทัน ท�ำให้พ้ืนที่นั้นปกคลุมไปด้วยน�้ำ พ้ืนท่ีและบริเวณท่ีอาจจะเกิดอุทกภัย ดินถล่มจะเป็นที่ราบลุ่มบริเวณ ริมตลิ่งและเชิงเขา เกิดการเล่ือนไหลของตะกอนมวลดินและหินที่อยู่บนภูเขาสู่ที่ต�่ำในล�ำห้วยและทางน้�ำ ขณะเมอ่ื มฝี นตกหนักอยา่ งต่อเนือ่ ง ลักษณะของพื้นท่เี ส่ียงอุทกภัย-ดนิ ถลม่ จงั หวัดนครศรธี รรมราช 1.1 อุทกภยั ทเ่ี กิดจากน�ำ้ ท่วม แบง่ เปน็ ลกั ษณะใหญ่ 2 ลักษณะดังนี้ 1) น้�ำท่วมขงั /นำ้� ลน้ ตล่งิ เปน็ สภาวะนำ้� ทว่ มทเี่ กดิ ขน้ึ เนอื่ งจากระบบระบายนำ้� ไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ มสี งิ่ กดี ขวางทางนำ�้ มักเกิดข้ึนในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้�ำและบริเวณชุมชนเมือง มีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเกิดจากฝนตกหนัก ณ บริเวณนน้ั ๆ ตดิ ต่อกนั เป็นเวลาหลายวนั หรือเกดิ จากสภาวะน�ำ้ ลน้ ตลิ่ง น้ำ� ท่วมขงั สว่ นใหญ่จะเกิดบรเิ วณทา้ ยนำ้� และมีลักษณะแผ่เป็นบริเวณกว้างเนื่องจากไม่สามารถระบายได้ทัน ความเสียหายจะเกิดกับพืชผลทางการเกษตร และทรัพยส์ ิน 2) นำ�้ ทว่ มฉบั พลนั เกดิ ขน้ึ เนอื่ งจากอทิ ธพิ ลจาก หยอ่ มความกดอากาศตำ�่ (เกดิ พายอุ อ่ น ๆ) รอ่ งความกดอากาศ ต่�ำและพายุเคล่ือนตัวผ่าน ซึ่งอาจจะไม่มีฝนตกหนักในบริเวณนั้นมาก่อน แต่มีฝนตกหนักมากบริเวณต้นน้�ำ ท่ีอยู่ห่างออกไป น�้ำท่วมฉับพลันมีความรุนแรงและเคล่ือนท่ีด้วยความเร็วมาก โอกาสที่จะป้องกันและหลบหนี จงึ มีนอ้ ยทำ� ให้ได้รับความเสยี หาย ทั้งชีวติ และทรัพย์สนิ 21เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา
1.2 สาเหตกุ ารเกดิ อุทกภยั 1) เกดิ จากธรรมชาติ (1) ฝนตกหนักจากพายุหรือพายุฝนฟ้าคะนอง เป็นพายุที่เกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา หลายชั่วโมง มีปริมาณฝนตกหนักมาก ไหลลงสู่ต้นน�้ำล�ำธารไม่ทัน จึงท่วมพ้ืนที่ ท่อี ยูใ่ นที่ตำ�่ มักเกิดในช่วงฤดฝู นหรือฤดูร้อน (2) ฝนตกหนักในป่าบนภูเขา มีปริมาณมาก น้�ำไหลเช่ียวอย่างรุนแรงลงสู่-ท่ีราบเชิงเขา ท�ำให้เกิดน้ำ� ทว่ มขึ้นอย่างกะทนั หนั เรยี กวา่ น�้ำท่วมฉับพลนั เกิดขึ้น หลังจากท่ีมฝี น ตกหนกั ในชว่ งระยะเวลาสน้ั ๆ หรอื เกดิ กอ่ นทฝ่ี นจะหยดุ ตก มกั เกดิ ขน้ึ ในลำ� ธารเลก็ ๆ โดยเฉพาะบริเวณท่อี ยใู่ กล้ตน้ น้ำ� ของบรเิ วณลุม่ น้�ำ ระดบั นำ้� จะสงู ขึน้ อย่างรวดเร็ว (3) ผลจากพายุหรือลมมรสุมมีก�ำลังแรง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นมรสุมที่พัดพา ความช้ืนจากมหาสมุทรอินเดียเข้าสู่ประเทศไทย ท�ำให้จังหวัดนครศรีธรรมราช มีฝนตกตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม และระหว่างเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ท�ำให้จังหวัดนครศรีธรรมราช จะมฝี นตกชกุ อีกครัง้ เนือ่ งจากมรสมุ นนี้ �ำความชุม่ ชนื้ จากทะเลจีนใต้ เม่ือก�ำลังแรง เป็นระยะเวลาหลายวัน ทำ� ใหเ้ กดิ คล่นื ลมแรง ระดับน�้ำในทะเลตามขอบฝัง่ จะสงู ข้นึ ประกอบกบั มฝี นตกหนักทำ� ใหเ้ กดิ น�ำ้ ท่วมได้ 2) เกิดจากมนุษย์ (1) การตัดไม้ท�ำลายป่าในพ้ืนท่ีเส่ียงภัย เม่ือเกิดฝนตกหนักจะท�ำให้อัตราการไหลของ กระแสน�้ำเพ่ิมขึ้นและไหลมาเร็วข้ึน เป็นการเพ่ิมความรุนแรงของน้�ำในการท�ำลาย ท�ำใหด้ นิ ถล่มรากไม้ขนาดใหญ่ถูกชะล้างใหไ้ หลลงมาในท้องน้ำ� (2) การขยายเขตเมืองลุกล้�ำเข้าไปในพ้ืนท่ีลุ่มต�่ำซ่ึงเป็นแหล่งเก็บน้�ำธรรมชาติ ท�ำให้ ไม่มที ่รี บั น�ำ้ ดังนน้ั เมอื่ นำ�้ ลน้ ตลง่ิ กจ็ ะเขา้ ไปท่วมบริเวณที่เป็นพน้ื ทลี่ มุ่ ต่ำ� ซึง่ เป็นเขต เมอื งทขี่ ยายใหมก่ อ่ น (3) การกอ่ สร้างอาคารบา้ นเรอื นขวางทางนำ�้ ธรรมชาติ (4) การออกแบบทางระบายน้ำ� ของถนนไมเ่ พียงพอ ท�ำให้น�ำ้ ล้นเอ่อในเขตเมอื ง (5) การก่อสรา้ งในบริเวณเชิงเขาท่ลี าดชนั โดยไมม่ กี ารค�ำนวณดา้ นวศิ วกรรมท่ดี ีพอ (6) การเกษตรในพื้นท่ลี าดชนั เชงิ เขา (7) การก�ำจัดพชื ทปี่ กคลมุ ดิน (8) ชมุ ชนสว่ นใหญ่ตัง้ อยบู่ รเิ วณเชงิ เขาและท่ีราบลุ่ม (9) การบุกรุกพ้ืนทีป่ า่ (10) การเปลยี่ นแปลงการใชป้ ระโยชน์ท่ดี ินทไ่ี มเ่ หมาะสมกบั สภาพพื้นท่ี 3) การป้องกันอทุ กภยั ก่อนเกดิ อทุ กภัย มขี ้อสงั เกต ดังนี้ (1) มฝี นตกหนกั ถึงหนักมากตลอดทง้ั วัน (2) มีน้�ำไหลซึมหรือน�้ำพุพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินนอกจากนี้อาจจะสังเกตจากลักษณะ การอุ้มน�้ำของช้ันดิน เน่ืองจากการเกิดดินถล่ม ดินจะอ่ิมตัวด้วยน�้ำหรือชุ่มน�้ำ มากกว่าปกติ 22 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
(3) ระดบั นำ�้ ในแม่น้ำ� ล�ำห้วยเพ่ิมสงู ขึ้นอยา่ งรวดเรว็ ผดิ ปกติ (4) สขี องน้�ำมีสีขุ่นมากกว่าปกติ (5) มีกิ่งไม้หรือทอ่ นไม้ไหลมากบั กระแสนำ้� (6) เกิดช่องทางเดินน�้ำแยกขึน้ ใหม่หรือหายไปจากเดิม (7) ตน้ ไม้ เสาไฟ ร้วั หรอื ก�ำแพงเอียงหรือลม้ ลง (8) เกิดรอยแตกร้าวข้ึนที่โครงสร้างต่างๆ ในสิ่งก่อสร้าง เช่น รอยแยกระหว่างวงกบ กบั ประตู หรือระหว่างวงกบกบั หนา้ ต่างขยายใหญ่ข้นึ 2. วาตภยั วาตภัยเป็นภัยท่ีเกิดขึ้นจากพายุลมแรง จนท�ำให้เกิดความเสียหายแก่อาคารบ้านเรือน ต้นไม้ และสง่ิ กอ่ สรา้ ง จงั หวดั นครศรธี รรมราชมโี อกาสเสย่ี งตอ่ ภยั จากพายหุ มนุ เขตรอ้ น ตงั้ แตก่ ลางเดอื นตลุ าคมจนถงึ เดอื น มกราคม และมพี น้ื ท่เี สีย่ งภยั 3 ระดบั ดังนี้ ความเส่ียงระดับต่�ำ จ�ำนวน 5 อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอนาบอน อำ� เภอถ�้ำพรรณรา และอ�ำเภอเฉลมิ พระเกียรติ ความเสี่ยงระดับกลาง จ�ำนวน 9 อ�ำเภอ ได้แก่ อำ� เภอขนอม อ�ำเภอพระพรหม อำ� เภอพิปนู อำ� เภอ ช้างกลาง อ�ำเภอท่งุ สง อ�ำเภอบางขนั อำ� เภอจุฬาภรณ์ อำ� เภอชะอวด และอ�ำเภอเชยี รใหญ่ ความเสย่ี งระดบั สงู จำ� นวน 9 อำ� เภอ ไดแ้ ก่ อำ� เภอสชิ ล อำ� เภอทา่ ศาลา อำ� เภอเมอื ง อำ� เภอลานสกา อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอปากพนงั อำ� เภอหวั ไทร อ�ำเภอฉวาง และอ�ำเภอท่งุ ใหญ่ 2.1 ลกั ษณะการเกดิ วาตภัย ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช มโี อกาสเกดิ วาตภยั คอื พายหุ มนุ เขตรอ้ นเปน็ คำ� ทใ่ี ชเ้ รยี ก พายหุ มนุ ทมี่ ถี น่ิ กำ� เนดิ เหนอื มหาสมทุ รในเขตรอ้ นแถบละตจิ ดู ตำ�่ พายนุ เ้ี กดิ ขน้ึ ในมหาสมทุ รหรอื ทะเลทมี่ อี ณุ หภมู สิ งู ตง้ั แต่ 26 C° หรือ 27 C° ข้ึนไป และมีปริมาณไอน้�ำสูง เมื่อเกิดขึ้นแล้วและมีสภาวะท่ีเจริญเติบโตเต็มท่ี มักเคลื่อนตัว ตามกระแสลมส่วนใหญจ่ ากทิศตะวนั ออกมาทางทศิ ตะวนั ตก และคอ่ ยโคง้ ข้ึนไปทางละตจิ ูดสูง แล้วเวยี นโค้งกลบั ไป ทางทิศตะวันออกอีก พายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นได้หลายแห่งในโลก และมีช่ือเรียกต่างกันไปตามแหล่งก�ำเนิด บรเิ วณทีม่ ีพายุหมุนเขตร้อนเกิดข้นึ เปน็ ประจ�ำและมีผลตอ่ จังหวัดนครศรธี รรมราช ไดแ้ ก่ 1) ดีเปรสชัน เป็นพายุหมุนท่มี ีก�ำลังออ่ น เกิดขึน้ ในละตจิ ดู กลางหรือละตจิ ูดสูง ทำ� ใหฝ้ นตก ปานกลางถงึ ฝนตกหนกั มีความเรว็ ลมสงู สุดใกล้บริเวณศูนย์กลางไมเ่ กิน 33 นอต (61 กโิ ลเมตร/ช่ัวโมง) 2) พายุโซนร้อน เป็นพายุที่มีขนาดความแรงของลมปานกลาง ท�ำให้ฝนตกหนักในวงกว้าง เกิดน้�ำท่วม - ดินถล่ม ต้นไม้ใหญ่หักโค่น ถนนช�ำรุดเสียหาย มีความเร็วลมใกล้บริเวณศูนย์กลางอยู่ระหว่าง 34 - 63 นอต (63 - 117 กโิ ลเมตร/ช่วั โมง) 3) พายุไต้ฝุ่น เป็นพายุที่มีขนาดความแรงของลมสูงสุด ท�ำให้ฝนตกหนัก พายุ ฟ้าคะนอง และอุทกภัย (ซ่ึงมักจะท�ำให้มีคนเสียชีวิตมาก) มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางต้ังแต่ 64 นอต (118 กิโลเมตร/ ชั่วโมง) ข้นึ ไป แตม่ ีช่อื ตา่ ง ๆ กนั ตาม บรเิ วณแหลง่ ที่เกดิ ดงั นี้ พายไุ ตฝ้ นุ่ เกิดข้นึ ในมหาสมุทรแปซฟิ ิกทางเหนือหรอื ในทะเลจนี ใต้ พายุไซโคลน เกดิ ขึน้ ในมหาสมทุ รอนิ เดยี อ่าวเบงกอล ทะเลอาระเปยี พายเุ ฮอร์รเิ คน เกดิ ขน้ึ ในมหาสมทุ รแอตแลนติกเหนือแถวทะเลแครบิ เบยี น อา่ วเมก็ ซิโก 23เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา
การเกิดวาตภยั คร้งั ส�ำคญั ของจงั หวดั นครศรีธรรมราช มดี ว้ ยกนั 3 ครั้ง ดังต่อไปน้ี ครั้งที่ 1 วาตภยั จากพายโุ ซนรอ้ น “แฮเรยี ต” (ความเรว็ ลมสงู สดุ ใกลศ้ นู ยก์ ลาง 95 กโิ ลเมตร/ชว่ั โมง) พดั ขึน้ ฝงั่ ทแี่ หลมตะลุมพุก อำ� เภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวนั ที่ 25 ตลุ าคม พ.ศ. 2505 มีผ้เู สยี ชีวติ 870 คน สญู หาย 160 คน บาดเจบ็ 422 คน ประชาชนไรท้ ่อี ยอู่ าศยั 16,170 คน ทรัพย์สินสญู เสีย ประมาณ 960 ลา้ นบาท ครัง้ ที่ 2 วาตภัยจากพายุโซนร้อน “ฟอร์เรสต์” (Forrest) (ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 155 กโิ ลเมตร/ ชั่วโมง) พดั เข้าจังหวดั นครศรธี รรมราช เมอ่ื วนั ท่ี 15 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2535 ทำ� ใหบ้ ้านเรือนไร่นา ในจังหวัดนครศรธี รรมราช ไดร้ ับความเสยี หาย รวมมูลคา่ ประมาณ 3,000 ลา้ นบาท คร้ังที่ 3 วาตภยั จากพายโุ ซนรอ้ น “ปาบกึ ”(Pabuk) (ความเรว็ ลมสงู สดุ ใกลศ้ นู ยก์ ลาง 80 กโิ ลเมตร/ ชวั่ โมง) พัดเข้าจังหวดั นครศรธี รรมราช เมื่อวนั ท่ี 4 มกราคม พ.ศ.2562 มผี ู้เสียชวี ติ 2 คน พน้ื ทจ่ี �ำนวน 16 อ�ำเภอ ไดร้ บั ความเสยี หายบา้ นเรอื น สงิ่ กอ่ สรา้ ง ตน้ ไม้ เสาไฟฟา้ ลม้ ถนนหลายสาย ถกู ตน้ ไมล้ ม้ ทบั สวนยางพารา สวนปาลม์ สวนผลไม้ได้รบั ความเสียหายเปน็ บรเิ วณกว้าง 2.2 การป้องกันวาตภัย การเตรียมการ และขณะเกดิ วาตภัย 1) ตดิ ตามข่าวและประกาศค�ำเตอื นลักษณะอากาศจากกรมอตุ ุนิยมวทิ ยา 2) เตรยี มวทิ ยแุ ละอปุ กรณส์ อื่ สาร ชนดิ ใชถ้ า่ นแบตเตอร่ี เพอื่ ตดิ ตามขา่ วในกรณที ไี่ ฟฟา้ ขดั ขอ้ ง 3) ตดั กงิ่ ไมโ้ ดยเฉพาะกิง่ ทจ่ี ะหักมาทับบ้าน สายไฟฟา้ ต้นไมท้ ี่ตายยืนต้นควรจัดการโค่น 4) ตรวจเสาและสายไฟฟ้าท้ังในและนอกบริเวณบ้านให้เรียบร้อย ถ้าไม่แข็งแรงให้ยึดเหน่ียว เสาไฟฟา้ ใหม้ ั่นคง 5) พักในอาคารที่ม่ันคงตลอดเวลา ขณะเกิดวาตภัย อย่าออกมาในที่โล่งแจ้ง เพราะต้นไม้ และกิ่งไม้ อาจหกั โคน่ ลงมาทับได้ รวมทัง้ สงั กะสีและกระเบ้ืองจะปลิวตามลมมาท�ำอันตรายได้ 6) ปดิ ประตู หนา้ ตา่ งทกุ บาน รวมทง้ั ยดึ ประตแู ละหนา้ ตา่ งใหม้ นั่ คงแขง็ แรง ถา้ ประตหู นา้ ตา่ ง ไม่แข็งแรง ให้ใช้ไมท้ าบตตี ะปตู รึงปดิ ประตู หน้าต่างไว้จะปลอดภยั ยิ่งขน้ึ 7) ปดิ กั้นชอ่ งทางลมและช่องทางต่าง ๆ ท่ีลมจะเขา้ ไปทำ� ใหเ้ กดิ ความเสียหาย 8) เตรยี มตะเกียง ไฟฉาย และไม้ขีดไฟไวใ้ หพ้ ร้อม ใหอ้ ยู่ใกลม้ อื เมอ่ื เกดิ ไฟฟ้าดบั จะไดห้ ยบิ ใชไ้ ด้อย่างทนั ทว่ งที และน�้ำสะอาด พรอ้ มทง้ั อปุ กรณ์เคร่ืองหงุ ตม้ 9) เตรยี มอาหารส�ำรอง อาหารกระปอ๋ งไว้บา้ งสำ� หรับการยงั ชีพในระยะเวลา 2 - 3 วัน 10) ดับเตาไฟใหเ้ รียบร้อยและควรจะมอี ปุ กรณ์ส�ำหรับดับเพลงิ ไว้ 11) เตรียมเครื่องเวชภณั ฑ์ 12) สิง่ ของควรไว้ในทีต่ �่ำ เพราะอาจจะตกหล่น แตกหักเสียหายได้ 13) บรรดาเรอื แพ ใหล้ งสมอยืดตรึงใหม้ ัง่ คงแขง็ แรง 14) ถา้ มรี ถยนต์ หรอื พาหนะ ควรเตรียมไว้ให้พรอ้ มภายหลงั พายสุ งบ อาจตอ้ งนำ� ผปู้ ่วยไปสง่ โรงพยาบาล นำ้� มนั ควรจะเติมให้เตม็ ถังอยู่ตลอดเวลา 15) เม่ือลมสงบแล้วต้องรออย่างน้อย 3 ชั่วโมง ถ้าพ้นระยะน้ีแล้วไม่มีลมแรงเกิดขึ้นอีก จึงจะวางใจว่า พายุได้ผ่านพ้นไปแล้ว ท้ังนี้เพราะ เม่ือศูนย์กลางพายุผ่านไปแล้วจะต้องมีลมแรงและฝนตกหนัก ผา่ นมาอกี ประมาณ 2 ช่ัวโมง 24 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา
3. ภยั แล้ง ภัยแล้งเกิดจากการมีฝนตกน้อยกว่าปกติ หรือฝนไม่ตกตามฤดูกาล ท�ำให้ขาดแคลนน�้ำดื่ม น�้ำใช้ ขาดแคลนน�้ำเพ่ือการเกษตร พืช สัตว์ขาดน�้ำ ท�ำให้ไม่เจริญเติบโตตามปกติ บางพ้ืนท่ีมีปัญหาฝนท้ิงช่วงในช่วงฤดู เพาะปลกู ทำ� ใหน้ าขา้ วและพชื ไรใ่ นทอ้ งถน่ิ เกดิ ความเสยี หาย ฉะนนั้ กอ่ นถงึ ฤดแู ลง้ ตอ้ งเตรยี มภาชนะเกบ็ นำ้� ใหพ้ รอ้ ม พฒั นาแหลง่ นำ�้ และไมต่ ัดไม้ทำ� ลายปา่ อ�ำเภอในจงั หวดั นครศรีธรรมราชมีความเสี่ยงต้านภยั แลง้ 2 ระดับ ไดแ้ ก่ พนื้ ทที่ ม่ี คี วามเสยี่ งระดบั กลาง จำ� นวน 11 อำ� เภอ ไดแ้ กอ่ ำ� เภอเมอื ง อำ� เภอพระพรหม อำ� เภอลานสกา อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอทุ่งใหญ่ และอ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอถ�้ำพรรณรา อ�ำเภอนาบอน อ�ำเภอพิปูน อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ พ้ืนทท่ี ่มี คี วามเสย่ี งระดับสูง จำ� นวน 4 อำ� เภอ ได้แก่ อ�ำเภอปากพนงั อำ� เภอหัวไทร อำ� เภอชะอวด และอำ� เภอเชยี รใหญ ่ 3.1 สาเหตุการเกดิ ภยั แล้ง ปัจจัยที่ก่อให้เกิดภัยแล้งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นระยะเวลา 3-4 เดือน ระหว่าง เดอื นกุมภาพนั ธ์ถงึ กลางเดอื นพฤษภาคม นอกจากฝนจะไมต่ กตามฤดูกาลแลว้ ยงั มสี าเหตขุ องการเกิดภัยแลง้ ได้ดงั นี้ 1) จากสภาวะอากาศในฤดูรอ้ นทรี่ ้อนมากกวา่ ปกติ 2) จากการพดั พาของลมมรสุมตะวนั ตกเฉยี งใต้ 3) ผลกระทบจากปรากฏการณภ์ าวะเรอื นกระจก 4) จากการตัดไม้ทำ� ลายป่า 5) ภูมิประเทศบางพนื้ ทเี่ ป็นที่สงู สลับกับทร่ี าบและท่รี าบล่มุ บางสว่ นเป็นพื้นทท่ี ้ายนำ้� 6) ไม่มแี หล่งกกั เก็บน้ำ� ขนาดใหญ่ 7) แหลง่ ตน้ น�้ำถูกทำ� ลาย 3.2 ปญั หาจากภัยแล้ง 1) ปัญหาการขาดแคลนนำ�้ เพื่อการอุปโภคบรโิ ภค (1) บริเวณที่อยู่ใกล้พรุ ไม่สามารถน�ำน้�ำมาใช้ได้เนื่องจากแหล่งน้�ำจากพรุมีความ เปน็ กรดสูง ไดแ้ ก่ อำ� เภอชะอวด อ�ำเภอเชยี รใหญ่ และบางส่วนของอ�ำเภอร่อนพบิ ลู ย์ (2) ระบบประปาไมท่ ่ัวถงึ (3) นำ�้ ประปาไม่มีคุณภาพ 4. ไฟปา่ ไฟปา่ เกดิ จากสาเหตใุ ด ๆ ก็ตามในป่าธรรมชาติ หรอื สวนป่าแล้วลุกลามไปไดโ้ ดยอสิ ระ ปราศจาก การควบคุม มกั จะเกิดในชว่ งฤดแู ลง้ ระหวา่ งเดอื นมนี าคมถึงเดอื นพฤษภาคมของทุกปี อำ� เภอท่ีมคี วามเส่ยี งระดบั กลาง ได้แก่ อ�ำเภอปากพนัง อ�ำเภอนบพติ �ำ อ�ำเภอสชิ ล อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอพระพรหม และอ�ำเภอพปิ นู อำ� เภอทม่ี คี วามเสยี่ งระดบั สงู จำ� นวน 6 อำ� เภอ ไดแ้ ก่ อำ� เภอรอ่ นพบิ ลู ย์ อำ� เภอจฬุ าภรณ์ อำ� เภอชะอวด อำ� เภอเชยี รใหญ่ อ�ำเภอหวั ไทร และอำ� เภอเฉลิมพระเกยี รติ 25เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
4.1 สาเหตุของการเกิดไฟป่า จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 1) ฟา้ ผ่า 2) เสยี ดสกี นั 3) การเปล่ียนแปลงสภาพภมู อิ ากาศ จากการกระท�ำของมนุษย์ 1) เผาปา่ ซงั ข้าว ขยะมลู ฝอย 2) การเลีย้ งสัตว์ 3) แกล้งจดุ ไฟเผาเพอ่ื การล่าสัตว์ 4) ความประมาท ความคกึ คะนอง 4.2 การป้องกันไฟป่า 1) กอ่ นเกิดไฟปา่ (1) ก�ำจัดพชื ทีต่ ิดไฟได้งา่ ย เชน่ หญ้าคา หญา้ สาบเสอื พงอ้อ ใบไม้ กิง่ ไมเ้ ล็ก (2) จดั ทำ� แนวกนั ไฟ โดยถางปา่ ใหห้ า่ งจากทางเดนิ ในระยะ 5 เมตร เพอื่ ปอ้ งกนั การตดิ ตอ่ ลกุ ลามของไฟ (3) รณรงค์เผยแพร่ความรเู้ ก่ยี วกบั การป้องกนั และลดผลกระทบจากไฟป่า (4) รกั ษาความชุ่มชนื้ ในเขตป่า (5) แต่งตง้ั คณะกรรมการรบั ผิดชอบพน้ื ท่รี ะดบั อำ� เภอในพนื้ ท่เี สย่ี งสงู (6) เมื่อพบเห็นกองไฟที่มีบุคคลเผาทิ้งไว้ก็รีบดับเสีย หรือเห็นไฟไหม้ก็รีบท�ำการดับ ก่อนท่ีจะท�ำให้เกิดการลุกไหม้มากข้ึน เมื่อเห็นว่าจะไม่สามารถดับได้ด้วยตนเองให้รีบแจ้งเจ้าหน้าท่ีดับเพลิง หรือเจ้าหนา้ ที่ควบคมุ ไฟป่า (7) นักทอ่ งเทย่ี ว ควรปฏบิ ตั ิตามระเบียบขอ้ บังคับในการป้องกันไฟปา่ ให้ความรว่ มมอื เชื่อฟังคำ� แนะน�ำของเจ้าหนา้ ที่ และควรแนะน�ำใหท้ ุกคนรจู้ กั อนั ตรายจากไฟปา่ 2) ขณะเกดิ ไฟป่า (1) ถ้ายังไม่มีเครื่องมือหรือยังไม่มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหน่วยควบคุมไฟป่าแล้ว อย่าเส่ยี งเขา้ ไปดบั ไฟเว้นแตเ่ ป็นการลุกไหม้เล็กนอ้ ยของไฟท่ีเกดิ จากพวกหญ้าต่าง ๆ เช่น หญา้ คา หญา้ สาบเสือ (2) ควรช่วยกันตัดก่ิงไม้สด ตีไฟท่ีลุกไหม้ตามบริเวณหัวไฟให้เช้ือเพลิงแตกกระจาย แล้วตขี นานกับไฟปา่ ทีก่ �ำลังจะเร่มิ ลกุ ลาม 3) หลังจากไฟป่าสงบลงแลว้ (1) ตรวจดูบรเิ วณที่ยังมีไฟคุกรุน่ เม่ือพบแล้วจดั การดบั ให้สนทิ (2) คน้ หาและช่วยเหลอื คน สตั ว์ ท่ีหนไี ฟออกมาและไดร้ บั บาดเจบ็ (3) ระวงั ภยั จากสตั วท์ ห่ี นีไฟป่า ออกมา จะท�ำอนั ตรายแก่ชวี ิตและทรพั ยส์ ิน (4) ปลกู ปา่ ทดแทน ปลูกพืชคลมุ ดิน ปลกู ไม้โตเรว็ 26 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา
4.3 ผลกระทบจากไฟป่า 1) ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพอนามัย (1) ฝ่นุ ควันจากไฟป่าทำ� ให้เปน็ โรคเก่ียวกบั ระบบทางเดินหายใจ (2) ไฟป่าท่ีลามมาติดบ้านเรือนท�ำให้เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนอาจมีคนเสียชีวิต และบาดเจบ็ จากการถูกไฟคลอกได้ (3) ควันจากไฟป่าจะบดบังทัศนวิสัยของยานพาหนะท�ำให้เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บ และเสียชวี ิต 2) ผลกระทบทางส่งิ แวดล้อม (1) โครงสร้างปา่ เปลยี่ นไป (2) ฝนตกเกดิ นำ�้ ทว่ ม (3) เกิดสภาวะเรอื นกระจก 3) ผลกระทบทางเศรษฐกจิ (1) ทำ� ให้สูญเสียทรัพยส์ นิ และคา่ ใช้จา่ ย (2) ระบบสาธารณปู โภคได้รับความเสยี หายอย่างรุนแรง 27เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา
กจิ กรรมหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ลักษณะภมู ิอากาศนครศรีธรรมราช จงตอบค�ำถามต่อไปนี้ทุกขอ้ 1. ให้เขียนอธบิ ายฤดูกาลทเี่ กดิ ขึน้ ในจังหวัดนครศรธี รรมราช พอเปน็ สังเขป …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… 2. ใหอ้ ธบิ ายถงึ การเกดิ ภยั ธรรมชาตใิ นจงั หวดั นครศรธี รรมราช พรอ้ มยกตวั อยา่ งภยั ธรรมชาตติ อ่ ไปนี้ 2.1 อทุ กภยั …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… 2.2 วาตภยั …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 28 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา
4หน่วยการเรียนร้ทู ี่ เศรษฐกจิ ของจังหวดั นครศรธี รรมราช เศรษฐกิจของนครศรีธรรมราช เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับ เศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจกับชุมชน ในนครศรีธรรมราช การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของนครศรีธรรมราช แนวโน้มเศรษฐกิจของนครศรีธรรมราช และเศรษฐกิจท่ีส�ำคัญของนครศรีธรรมราช เป็นการศึกษาเรียนรู้เก่ียวกับระบบการผลิต การบริโภค ความสัมพันธ์ ความรว่ มมอื และแนวโนม้ เศรษฐกจิ ของนครศรธี รรมราช โดยนำ� หลกั การ แนวคดิ และปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาเป็นแนวทางในการด�ำรงชวี ิตและการพฒั นาเศรษฐกิจใหก้ า้ วทนั โลกยคุ โลกาภวิ ตั น์อยา่ งเหมาะสมและย่ังยืน เรือ่ งท่ี 1 เศรษฐกจิ พอเพียง “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาท สมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลท่ี 9 ทรงมีพระราชด�ำรัส ชี้แนะ แนวทางการด�ำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด นานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และเม่ือภายหลังได้ทรงเน้นย�้ำแนวทางการแก้ไขเพ่ือให้ รอดพ้น และสามารถด�ำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กระแสโลกาภิวตั น์และความเปล่ียนแปลงต่าง ๆ 1. ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทาน พระบรมราชานญุ าตใหน้ ำ� ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปเผยแพร่ เพอื่ เปน็ แนวทางปฏบิ ตั ขิ องทกุ ฝา่ ย และประชาชน โดยทัว่ ไป ดงั น้ี เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการด�ำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชน ในทุกระดับ ต้งั แต่ระดบั ครอบครวั ระดับชุมชนจนถึงระดับรฐั ทงั้ ในการพฒั นาและบรหิ ารประเทศ ใหด้ ำ� เนนิ ไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกจิ เพอ่ื ใหก้ า้ วทันต่อโลกยุคโลกาภวิ ตั น์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจ�ำเป็นที่จะต้องมีระบบ ภูมิคุ้มกัน ในตัวท่ีดีพอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ท้ังนี้ จะตอ้ งอาศัย ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอยา่ งยิ่ง ในการน�ำวชิ าการตา่ ง ๆ มาใชใ้ นการวางแผน และการด�ำเนินการทกุ ข้นั ตอน และขณะเดยี วกันจะตอ้ งเสริมสรา้ งพนื้ ฐานจติ ใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจา้ หนา้ ที่ ของรฐั นกั ทฤษฎแี ละนกั ธรุ กจิ ในทกุ ระดบั ใหม้ สี ำ� นกึ ในคณุ ธรรม ความซอื่ สตั ยส์ จุ รติ และใหม้ คี วามรอบรู้ ทเ่ี หมาะสม ด�ำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญา และความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุล และพร้อมต่อการรองรับ การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ท้ังด้านวัตถุ สังคมสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอก ไดเ้ ปน็ อย่างดี 29เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา
2. หลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาท่ีตั้งอยู่บนพ้ืนฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท โดยคำ� นงึ ถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภูมคิ ุ้มกนั ทีด่ ใี นตวั ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคณุ ธรรมประกอบการวางแผน การตัดสินใจ และการกระทำ� ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มีหลกั พจิ ารณาอยู่ 5 ส่วน ดังน้ี 1. กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาท่ีชี้แนะแนวทางการด�ำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางท่ีควรจะเป็น โดยมพี น้ื ฐาน มาจากวถิ ชี วี ติ ดงั้ เดมิ ของสงั คมไทย สามารถนำ� มาประยกุ ตใ์ ชไ้ ดต้ ลอดเวลาและเปน็ การมองโลกเชงิ ระบบ ท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤติ เพ่ือความม่ันคง และความย่ังยืน ของการพัฒนา 2. คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถน�ำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติได้ในทุกระดับ โดยเน้น การปฏบิ ัตบิ นทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเปน็ ข้นั ตอน ทม่ี า: จาก Web Site https://www.stou.ac.th/study/sumrit/7-58(500)/page1-7-58(500).htmlข้อมูลภาพ ณ วนั ที่ 15 พ.ค.63 3. ค�ำนยิ าม ความพอเพยี งจะตอ้ งประกอบดว้ ย 3 คุณลักษณะพร้อม ๆ กัน คอื ความพอประมาณ (Moderation) ความมเี หตผุ ล (Reasonableness) และการมภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี (Self-immunity) ถา้ ขาดคณุ ลกั ษณะ ใดคณุ ลักษณะหน่ึงกจ็ ะไมส่ ามารถเรียกได้วา่ เป็นความพอเพยี ง ได้แก่ 1) ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดี ไมม่ ากหรอื นอ้ ยเกนิ ไปในมติ ติ า่ ง ๆ ของการกระทำ� 5 ด้าน คือ (1) ด้านจิตใจ คอื เรมิ่ ตน้ จากตนเองตอ้ งต้งั สติ มีปัญญา มีจติ ส�ำนกึ ทีด่ ี มเี มตตา เอ้ืออาทร มีความเข้าใจและประนปี ระนอม ค�ำนงึ ถึงผลประโยชนส์ ่วนรวม เขม้ แขง็ และพง่ึ ตนเองได้ (2) ดา้ นสงั คม คอื การสรา้ งความพอดใี นทกุ ระดบั ของสงั คม โดยเรมิ่ จากครอบครวั ชมุ ชน และสงั คม ซง่ึ ตอ้ งชว่ ยเหลอื เกอื้ กลู กนั สรา้ งความเขม้ แขง็ ใหแ้ กช่ มุ ชน รจู้ กั ผนกึ กำ� ลงั และทสี่ ำ� คญั มกี ระบวนการเรยี นรู้ ที่เกิดจากฐานรากทม่ี น่ั คงและแขง็ แรง 30 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
(3) ด้านเศรษฐกิจ คือ ต้องอยอู่ ยา่ งพอดี พอมีพอกนิ ไม่หรหู รา ฟุ่มเฟือย (4) ด้านเทคโนโลยี คือ ควรเหมาะสมสอดคล้องกบั สภาวะและความตอ้ งการ ของประเทศ และควรพัฒนาเทคโนโลยีจากภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ ใหส้ อดคลอ้ งเปน็ ประโยชนต์ ่อสภาพแวดล้อมของเรา (5) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม คือ ใช้อย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนรณรงคร์ กั ษาทรพั ยากรธรรมซาติให้เกิดความยงั่ ยืนสงู สดุ 2) ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงน้ันจะต้องเป็นไป อย่างมเี หตุผล โดยพิจารณาจากเหตปุ จั จยั ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำ� นงึ ถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขนึ้ จากการกระท�ำนน้ั ๆ อย่างรอบคอบ 3) การมภี มู คิ มุ้ กนั ทดี่ ใี นตวั หมายถงึ การเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบและการเปลย่ี นแปลง ดา้ นตา่ ง ๆ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ โดยคำ� นงึ ถงึ ความเปน็ ไปไดข้ องสถานการณต์ า่ ง ๆ ทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ ในอนาคตทง้ั ใกลแ้ ละไกล 4. เงอ่ื นไข การตดั สนิ ใจและการดำ� เนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ใหอ้ ยใู่ นระดบั พอเพยี งนน้ั ตอ้ งอาศยั ทงั้ ความรู้ และคณุ ธรรมเป็นพ้ืนฐาน กล่าวคอื 1) เงื่อนไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรเู้ กย่ี วกับวิชาการต่าง ๆ ท่เี กยี่ วข้องอยา่ งรอบดา้ น ความรอบคอบทจ่ี ะนำ� ความรเู้ หลา่ นน้ั มาพจิ ารณา เพอื่ ประกอบการวางแผนและการใชค้ วามระมดั ระวงั ในขน้ั ปฏบิ ตั ิ 2) เงื่อนไขคุณธรรม ท่ีจะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซ่ือสัตย์สุจรติ และมคี วามอดทน มีความเพยี ร ใชส้ ตปิ ญั ญาในการดำ� รงชีวิต 5. แนวทางปฏิบัติ/ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ จากการน�ำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาท่ีสมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปล่ียนแปลงในทุกด้าน ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี การปฏิบัติในระดับตนเองและในระดับองค์กร เศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นปรัชญาแห่งวิถีชีวิต ทม่ี คี วามหลากหลายและสามารถยดื หยุ่นความเป็นอย่ขู องชีวิตของตนได้ 31เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา
เร่ืองท่ี 2 เศรษฐกิจกบั ชมุ ชนในจังหวดั นครศรธี รรมราช เศรษฐกจิ กบั ชมุ ชนในนครศรีธรรมราช เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจทง้ั การผลติ การบรโิ ภค การจ�ำหน่าย ที่คนในท้องถิ่นชุมชน ได้มีส่วนร่วมท�ำ ร่วมคิด ร่วมรับประโยชน์ และร่วมเป็นเจ้าของ มีรากฐานมาจากศักยภาพ ของชมุ ชน ซง่ึ ประกอบดว้ ยกจิ กรรมดา้ นการเกษตร อตุ สาหกรรม การคา้ การลงทนุ และการบรกิ าร โดยมรี ายละเอยี ด ดงั นี้ 1. ภาวะเศรษฐกิจของจังหวัดนครศรธี รรมราช ประชากรของจงั หวดั ประกอบอาชพี หลกั คอื การเกษตรกรรม ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมของจงั หวดั (GPP) คาดการณจ์ ากสำ� นกั งานคณะกรรมการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ คดิ เปน็ อนั ดบั ที่ 37 ของประเทศ และอนั ดบั ท่ี 10 ของภาคใต้ ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมของจงั หวดั แบง่ ไดเ้ ปน็ สดั สว่ นตามสาขาตา่ ง ๆ คอื สาขาเกษตรกรรม สาขาอตุ สาหกรรม การค้าปลีก คา้ ส่ง สาขาการศึกษา สาขาไฟฟา้ กา๊ ซ และระบบปรับอากาศ ตามล�ำดับ ผู้เรียนสามารถเข้าศกึ ษาข้อมูลเพ่ิมเตมิ เก่ียวกบั ผลติ ภณั ฑม์ วลรวมของจงั หวัดนครศรีธรรมราช โดยการสแกน QR Codeเพอื่ เข้าถงึ ข้อมลู ล่าสดุ 1.1 ด้านการเกษตร ผลผลติ สินคา้ เกษตรท่ีสำ� คญั ได้แก่ ยางพารา ปาล์มนำ้� มัน ขา้ ว มงั คุด ทเุ รียน เงาะ การที่ราคา ผลผลิตปรับตัวเพิ่มข้ึนหรือลดลง ข้ึนอยู่กับปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาด หากมีปริมาณผลผลิตมากเกินจ�ำเป็น ราคากจ็ ะลดลง และราคาผลผลติ จะเพิ่มข้ึน หากผลผลติ มปี รมิ าณนอ้ ย ยางพารา (Rubber Tree) ขา้ ว (Rice) 32 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศึกษา
ทเุ รยี น (Durain) เงาะ (Rambutan) ปาล์ม (Palm) มงั คุด (Mangosteen) ศกึ ษาเพม่ิ เตมิ การตลาดเกษตร ที่มา: จาก thaikasetsart.com ยางพารา ขา้ ว ทุเรียน เงาะ ปาล์มน้ำ� มัน มังคุด ศกึ ษาเพ่ิมเติม ผ้เู รียนสามารถเข้าศกึ ษาขอ้ มูลเพม่ิ เติมเกี่ยวกับสถิติ การปลูกพชื ส�ำคัญได้จากเว็บไซต์ของ ส�ำนักงานสถิติ จงั หวดั นครศรธี รรมราชโดยการสแกน QR Code เพ่อื เข้าถึงขอ้ มลู ล่าสดุ 33เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา
1.2 ดา้ นอุตสาหกรรม การผลติ ในดา้ นอตุ สาหกรรม จงั หวดั นครศรธี รรมราชมีอุตสาหกรรมท่สี �ำคัญ ดงั นี้ 1) อุตสาหกรรมยางพาราและผลติ ภัณฑ์ 2) อตุ สาหกรรมแปรรปู ไม้ยางพารา 3) อุตสาหกรรมสกัดน้�ำมนั ปาล์มดบิ 4) อตุ สาหกรรมปูนซีเมนต์ 5) อตุ สาหกรรมผลิต สง่ จ�ำหน่ายพลงั งานไฟฟ้า ได้แก่ โรงไฟฟา้ ขนอมและโรงไฟฟ้าจาก Bio Gas/ Bio Mass 6) โรงแยกกา๊ ซธรรมชาติ 7) อุตสาหกรรมแปรรปู อาหารทะเล ไดแ้ ก่ โรงงานปลา ศึกษาเพิม่ เติม ผ้เู รยี นสามารถเข้าศกึ ษาขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ เกีย่ วกับ อตุ สาหกรรมในจงั หวดั นครศรีธรรมราช โดยการสแกน QR Code เพื่อเข้าถงึ ขอ้ มูล 34 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา
เรือ่ งท่ี 3 การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของจังหวดั นครศรีธรรมราช การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซ่ึงเป็นสถาบันและการรวมกลุ่มทางธุรกิจ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วยหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช และสภาอุตสาหกรรม จังหวดั นครศรีธรรมราช โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช มีสถานที่ ตงั้ อยเู่ ลขที่ 129/560 หมบู่ า้ นเมอื งทอง หมทู่ ี่ 2 ถนนวนั ดโี ฆษติ กลุ พร ต�ำบลปากนคร อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80000 โดยมวี ัตถุประสงค์ของการจดั ต้งั ดังนี้ 1.1 สง่ เสรมิ การคา้ การบรกิ าร การประกอบวชิ าชพี อิสระ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การเงนิ หรอื เศรษฐกิจทวั่ ไป เชน่ รวบรวมสถิติ เผยแพร่ข่าวสารการค้า วิจัยเก่ียวกับการค้า และ การเศรษฐกจิ สง่ เสรมิ การท่องเท่ยี ว การออกใบรับรองแหลง่ กำ� เนิด ตราสญั ลกั ษณห์ อการคา้ จงั หวดั นครศรธี รรมราช สนิ คา้ การวางมาตรฐานแห่งคณุ ภาพของสนิ คา้ การตรวจสอบมาตรฐานสินคา้ จัดตั้ง และด�ำเนนิ การเกี่ยวกบั การค้า และเศรษฐกิจ พพิ ิธภณั ฑ์สินคา้ การจดั งานแสดงสินคา้ ขอ้ พพิ าททางการค้า 1.2 รับปรึกษาและให้ข้อแนะน�ำแก่สมาชิกเกี่ยวกับการค้า การบริการ การประกอบอาชีพอิสระ อตุ สาหกรรม เกษตรกรรม การเงินหรือเศรษฐกจิ และอ�ำนวยความสะดวกตา่ ง ๆ ใหแ้ กส่ มาซกิ 1.3 ใหค้ �ำปรึกษาและเสนอข้อแนะน�ำแกภ่ าครฐั เพอื่ พฒั นาเศรษฐกิจของจงั หวัดนครศรธี รรมราช 1.4 ประสานงานระหว่างผูป้ ระกอบการกับราชการ 1.5 ปฏบิ ตั กิ จิ การอนื่ ๆ ตามแตจ่ ะมกี ฎหมายระบุ ใหเ้ ปน็ หนา้ ทข่ี องหอการคา้ หรอื ตามทท่ี างราชการ มอบหมาย 2. สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สถานที่ตั้ง 87 หมู่ 9 ต�ำบลนาเคียน อ�ำเภอเมือง นครศรธี รรมราช เปน็ องค์กรไม่แสวงหาก�ำไร ตามพระราชบัญญัตสิ ภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2530 โดยมีวตั ถปุ ระสงคข์ องการจัดตง้ั ดังนี้ 2.1 เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ภาคเอกชน ในการประสานนโยบาย และดำ� เนนิ การกับรัฐ 2.2 ส่งเสรมิ และพฒั นาการประกอบอุตสาหกรรม 2.3 ศึกษาและหาทางแก้ไขปัญหาเก่ียวกับการประกอบ อตุ สาหกรรม 2.4 ส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา วิจัย อบรม เผยแพร่ วิชาการและเทคโนโลยเี กยี่ วกับอตุ สาหกรรม 2.5 ตรวจสอบสนิ คา้ ออกใบรบั รองแหลง่ กำ� เนดิ หรอื ใบรบั ตราสญั ลักษณ์สภาอตุ สาหกรรมจังหวดั นครศรีธรรมราช รองคุณภาพสนิ คา้ ทมี่ า : https://www.facebook.com/FTI.NAKHONSRI/photos/ a.860671530637784/2949243168447266/?type=1&theater 2.6 ให้ค�ำปรึกษาและเสนอแนะแก่รัฐบาล เพ่ือพัฒนา เศรษฐกจิ คา้ นอุตสาหกรรม 2.7 ส่งเสริมนักอุตสาหกรรมและเป็นแหล่งกลางสำ� หรับนักอุตสาหกรรม แลกเปล่ียนความคิดเห็น เพ่อื ประโยชน์ต่อวงการอุตสาหกรรม 2.8 ควบคมุ ดูแลใหส้ มาชิกปฏบิ ัตติ ามกฎหมายเกย่ี วกบั การประกอบการอุตสาหกรรม 2.9 ปฏบิ ัติกิจกรรมอื่น ๆ ตามทก่ี ฎหมายก�ำหนด 35เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา
เรอ่ื งท่ี 4 เศรษฐกจิ ท่ีสำ�คญั ของจังหวดั นครศรีธรรมราช การจำ� หนา่ ยจา่ ยแจก การผลติ และการบรโิ ภคใชส้ อยสงิ่ ตา่ ง ๆ ของชมุ ชน ทงั้ ดา้ นเกษตรกรรม การประมง และอตุ สาหกรรม ช่วยกระตุน้ ให้เกิดภาวะเศรษฐกิจทีส่ �ำคญั ของนครศรธี รรมราช โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้ 1. ด้านเกษตรกรรม จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชากรส่วนใหญ่ยึดอาชีพทางด้านเกษตรกรรมเป็นหลัก ประมาณ ร้อยละ 80 ของประชาชนท้งั จงั หวัด ซ่ึงมีท้งั การกสกิ รรม การประมง การเลีย้ งสตั ว์ พชื เศรษฐกจิ ทส่ี �ำคัญ 1.1 ยางพารา ภาวการณ์ผลิต จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นที่ปลูกยางพาราเป็นล�ำดับที่ 3 ของพื้นที่ ปลกู ยางพาราทัง้ หมด ในภาคใตม้ ีปลกู เกือบทกุ พ้ืนทขี่ องจงั หวัดอ�ำเภอท่ีปลกู มาก คอื อำ� เภอทุ่งใหญ่ อ�ำเภอบางขัน อ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอฉวาง และอ�ำเภอชะอวด ในแต่ละปียางพาราจะผลัดใบในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ในช่วงดังกล่าว ยางพาราจะออกสู่ตลาดน้อย เพราะเป็นช่วงผลัดใบไม่เหมาะกับการกรีดยาง ส่วนในช่วงเดือน พฤษภาคม ถึงเดือนมกราคม จะเป็นช่วงท่ีผลผลิตออกสู่ตลาด เพราะเป็นช่วงที่เหมาะกับการกรีดยาง ส�ำหรับช่วง ที่ปรมิ าณยางออกส่ตู ลาดมาก คอื ชว่ งเดือนมิถุนายน - สิงหาคม และ เดอื นธันวาคม – มกราคม ศกึ ษาเพิ่มเตมิ ผเู้ รียนสามารถเขา้ ศึกษาขอ้ มลู เพ่ิมเตมิ เกย่ี วกับสำ� นักงาน เกษตรจงั หวดั นครศรธี รรมราช โดยการสแกน QR Code เพื่อเขา้ ถงึ ข้อมลู ลา่ สุด ศกึ ษาเพ่มิ เติม ผู้เรียนสามารถเขา้ ดูราคายางพาราลา่ สดุ จากการยาง แหง่ ประเทศไทย (กยท.) โดยการสแกน QR Code เพอื่ เข้าถงึ ข้อมลู ล่าสุด วถิ ตี ลาด ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีการซื้อขายยางพารา แบง่ ออกได้เปน็ 3 ลักษณะ คอื 1) เกษตรกรจะทำ� การซ้อื ขายกับองคก์ ารสวนยางนาบอน 2) ขายให้แกพ่ อ่ คา้ รา้ นคา้ ยอ่ ยในอ�ำเภอและจังหวัด 3) ขายให้แก่ตลาดกลางของการยางแห่งประเทศไทยสาขาจังหวัดนครศรีธรรมราช (กยท.) และกลุ่มสหกรณ์ ในความส่งเสริมของ กยท. ซง่ึ มีโรงรมเปน็ ของตนเอง ส�ำหรบั อ�ำเภอท่ีไม่มี กยท. หากเกษตรกรตอ้ งการขายให้แกอ่ งค์การสวนยาง เกษตรกรก็จะรวบรวม แล้วแจ้งให้องค์การสวนยางนาบอนทราบ เพ่ือจะได้ออกไปรับซ้ือผลผลิตท่ีเกษตรกรน�ำไปขายให้แก่การยาง แห่งประเทศไทยสาขาจังหวัดนครศรีธรรมราช (กยท.) หรือองคก์ ารสวนยางนาบอน 36 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
1.2 ข้าว ภาวการณ์ผลติ จงั หวัดนครศรธี รรมราช มกี ารปลกู และผลติ ขา้ วนาปี อ�ำเภอท่ีเปน็ แหล่งปลกู ขา้ วทสี่ ำ� คญั ของจงั หวดั ไดแ้ ก่ อำ� เภอหวั ไทร อำ� เภอปากพนงั อำ� เภอเชยี รใหญ่ อำ� เภอชะอวด อำ� เภอ เฉลมิ พระเกยี รติ อ�ำเภอทา่ ศาลา อ�ำเภอพระพรหม อ�ำเภอรอ่ นพบิ ลู ย์ อำ� เภอสชิ ล และอ�ำเภอเมือง การปลกู ขา้ วนาปจี ะเรมิ่ ประมาณ เดือนสิงหาคม – ตุลาคม และจะมีการเก็บเก่ียวในช่วง เดือนมีนาคม - เมษายน ข้าวนาปีท่ีผลิตได้ส่วนใหญ่ เปน็ พนั ธพ์ุ น้ื เมอื งชนดิ ตา่ งๆ เชน่ ขา้ วมาเลเฉย้ี ง และพนั ธข์ุ า้ วหอมปทมุ ธานี 1 เกษตรกรสว่ นใหญจ่ ะปลกู ขา้ วเพอื่ บรโิ ภค มากกวา่ เพ่ือการจ�ำหนา่ ย สำ� หรบั ขา้ วนาปรงั จะปลกู ในเขตอำ� เภอปากพนงั อำ� เภอหวั ไทร อำ� เภอเชยี รใหญ่ อำ� เภอชะอวด อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอพระพรหม และอ�ำเภอเมือง ซ่ึงจะเริ่มเพาะปลูกในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม และเก็บเก่ียวในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน ซ่ึงข้าวนาปรังท่ีผลิตได้ส่วนใหญ่ เกษตรกรจะน�ำออกจ�ำหน่าย การเกบ็ ไว้บริโภคจะน้อย เน่อื งจากข้าวมีความชน้ื สงู เกษตรกรไม่นยิ มบรโิ ภค ศึกษาเพิม่ เตมิ ผเู้ รยี นสามารถเขา้ ดรู าคาข้าวล่าสดุ จากสมาคมโรงสขี ้าว แห่งประเทศไทย โดยการสแกน QR Code เพ่ือเข้าถงึ ขอ้ มูลลา่ สดุ ภาวการณ์ตลาด วถิ กี ารตลาดขา้ วเปลือก มีการซอ้ื ขายข้าวเปลอื กของเกษตรกร 3 ลักษณะ คอื 1) จำ� หนา่ ยใหส้ หกรณก์ ารเกษตร 2) จ�ำหนา่ ยใหโ้ รงสใี นท้องถน่ิ 3) จำ� หนา่ ยใหพ้ อ่ คา้ ในทอ้ งทน่ี ำ� ไปแปรรปู เปน็ ขา้ วสารจำ� หนา่ ยใหแ้ กพ่ อ่ คา้ สง่ และพอ่ คา้ ปลกี เพือ่ จำ� หน่ายใหแ้ ก่ผบู้ รโิ ภคตอ่ ไป 1.3 ปาล์มนํ้ามนั ภาวการณผ์ ลติ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช มพี นื้ ทปี่ ลกู ปาลม์ นา้ํ มนั มากเปน็ ลำ� ดบั 4 ของภาคใต้ ปลูกกระจายทุกอ�ำเภอ อ�ำเภอที่เป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ํามันท่ีส�ำคัญของจังหวัด ได้แก่ อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอทุ่งใหญ่ อำ� เภอชะอวด อ�ำเภอขนอม อำ� เภอบางขัน และอำ� เภอเฉลมิ พระเกียรติ ศกึ ษาเพิ่มเติม ผเู้ รยี นสามารถเข้าดูราคาปาล์มนา้ํ มนั ลา่ สุดจากเว็บไซต์ ราคาเกษตร โดยการสแกน QR Code เพอื่ เข้าถึงขอ้ มลู ส่าสดุ 37เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
ภาวการณต์ ลาด วถิ กี ารตลาดปาลม์ นำ�้ มนั มกี ารซอ้ื ขายปาลม์ นำ�้ มนั ของเกษตรกร 3 ลกั ษณะ คอื 1) จำ� หนา่ ยใหพ้ อ่ ค้าในทอ้ งถิ่น 2) จ�ำหนา่ ยให้สหกรณก์ ารเกษตร 3) จ�ำหนา่ ยให้โรงงานสกัดน�้ำมันปาล์มในจงั หวัดและจงั หวัดใกลเ้ คยี ง 1.4 ผลไม้ที่ส�ำคัญ 1) มังคุด ภาวการณผ์ ลติ จงั หวดั นครศรธี รรมราช มพี นื้ ทป่ี ลกู มงั คดุ กระจายอยทู่ วั่ ไปทกุ อำ� เภอ แตอ่ ำ� เภอ ที่ปลกู มาก คือ อ�ำเภอลานสกา อำ� เภอพรหมครี ี อ�ำเภอเมือง อ�ำเภอสชิ ล และอำ� เภอช้างกลาง ผลผลิตออกสตู่ ลาด ชว่ งเดอื น กรกฎาคม - ธนั วาคม ชว่ งที่ออกสูต่ ลาดมากที่สุด คือ เดอื นสิงหาคม 2) ทุเรยี น ภาวการณ์ผลิต จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพ้ืนท่ีส่วนใหญ่ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง กระจายอยู่ท่ัวไปทุกอ�ำเภอ แต่อ�ำเภอท่ีปลูกมากคือ อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอลานสกา และอำ� เภอชา้ งกลาง ผลผลติ ออกสตู่ ลาดชว่ งเดอื นกรกฎาคม - กนั ยายน ชว่ งทอี่ อกสตู่ ลาดมากทส่ี ดุ คอื เดอื นสงิ หาคม 3) เงาะ ภาวการณ์ผลิต จงั หวัดนครศรธี รรมราชในปี 2560 มีพ้ืนทปี่ ลกู เงาะ จำ� นวน 32,746 ไร่ พนื้ ทใี่ ห้ ผลแลว้ 32,440 ไร่ ผลผลติ รวมจำ� นวน 10,125 ตนั ผลผลติ เฉลยี่ 312 กโิ ลกรมั /ไร่ สว่ นใหญป่ ลกู พนั ธโ์ุ รงเรยี น พ้นื ที่ปลูกกระจายอยูท่ ว่ั ไปทกุ อำ� เภอ แต่อ�ำเภอท่ีปลูกมากคอื อ�ำเภอชะอวด อำ� เภอสชิ ล อ�ำเภอฉวาง อำ� เภอเมือง และอำ� เภอนาบอน ผลผลติ ออกสูต่ ลาดชว่ งเดอื นสิงหาคม - ธันวาคม ช่วงท่อี อกสตู่ ลาดมากทสี่ ุดคอื เดือนกันยายน แหล่งรับซอื้ และจ�ำหนา่ ยผลไมข้ องจังหวัด (1) ตลาดกลางผกั และผลไมห้ วั อฐิ 11/7-53 ม.1 ถ.กะโรม อ.เมอื ง โทรศพั ท์ 075-256819, 344203-4 (2) ตลาดกลางสินค้าเกษตรหัวอิฐ 1/8 ม.1 ถ.กะโรม ต.โพธ์ิเสด็จ อ.เมือง โทรศัพท์ 075-344483 (3) พ่อค้าท้องถ่ิน/พอ่ ค้าเร่ ที่มีรถเข้าไปรบั ซอื้ ถงึ สวนโดยตรง (4) ผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ (ล้ง) ส่วนใหญ่จะตัง้ จุดรับซ้ือ ณ แหลง่ ผลิตในตำ� บลตา่ ง ๆ 2. ดา้ นการประมง จังหวัดนครศรีธรรมราชมีชายฝั่งทะเลในพ้ืนท่ี 6 อ�ำเภอ ยาว 225 กิโลเมตร แยกเป็นพ้ืนที่ ในอำ� เภอขนอม 21 กโิ ลเมตร อำ� เภอสชิ ล 26.5 กโิ ลเมตร อำ� เภอทา่ ศาลา 31.8 กโิ ลเมตร อำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช 32 กิโลเมตร อ�ำเภอปากพนัง 85 กิโลเมตร และอ�ำเภอหัวไทร 28.7 กิโลเมตร โดยรูปแบบการประมง ในจงั หวดั นครศรีธรรมราช จำ� แนกได้ตามลกั ษณะเปน็ 2 ประเภท คอื ประมงพืน้ บ้าน และประมงพาณิชย์ 2.1 ประมงพืน้ บา้ น เปน็ ซาวประมงหลกั ของจังหวัดนครศรธี รรมราช มกี ารอาศัยอยู่กนั เป็นชุมชน ชาวประมง หรือหมู่บ้าน ต้ังอยู่ริมฝังคลอง ปากแม่น้�ำ มีเขตติดต่อกับชายฝั่งทะเล ซึ่งชาวประมงจะจอดเรือ อยู่หน้าบ้านของตนเองและน�ำสัตว์ข้ึนมาจ�ำหน่าย เครื่องมือท่ีใช้ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องมือพื้นบ้าน เช่น อวนลอย อวนลอยปลากระบอก อวนจมปมู ้า อวนจมปลาทู เปน็ ต้น 2.2 ประมงพาณิชย์ ชาวประมงจะใช้เรือขนาดใหญ่หรือที่ใช้เคร่ืองยนต์มีแรงม้ามาก ซ่ึงจะมี ท้ังชาวประมงท่ีมีภูมิล�ำเนาในเขตจังหวัด และจังหวัดข้างเคียงเข้ามาท�ำงานการประมงโดยใช้เครื่องมือ เช่น เคร่อื งมือ อวนลากเด่ียว อวนลากคู่ อวนล้อมจบั อวนตดิ ตา เปน็ ต้น ทง้ั น้กี ารท�ำประมงท�ำไดต้ ลอด ทง้ั ปี ท้งั กลางวนั และกลางคนื 38 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศกึ ษา
กจิ กรรมหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เศรษฐกจิ ของนครศรธี รรมราช จงตอบค�ำถามขอ้ ต่อไปน้ี 1. ให้อธิบายหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมยกตัวอย่างกิจกรรมท่ีผู้เรียนน�ำหลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจ�ำวนั มาอยา่ งนอ้ ย 5 กิจกรรม และยกตวั อยา่ งชมุ ชนเศรษฐกิจ พอเพียงในนครศรธี รรมราช ว่าชมุ ชนทำ� อยา่ งไรบ้าง ใหอ้ ธบิ ายพอสังเขป มาอย่างนอ้ ย 2 ชนุ ชน ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... 2. ใหว้ เิ คราะหแ์ ละสรปุ ภาวะเศรษฐกจิ ของจงั หวดั นครศรธี รรมราช ในดา้ นตา่ ง ๆ มาอยา่ งนอ้ ย 3 ดา้ น ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... 39เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค13000152 ระดับประถมศึกษา
3. ให้ยกตัวอย่างการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของจังหวัดนครศรีธรรมราชและระบุความจ�ำเป็น ของการรวมกลุ่มน้ันพอสงั เขป ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... 40 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค13000152 ระดบั ประถมศกึ ษา
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5การคมนาคมของจังหวัดนครศรธี รรมราช การเดนิ ทางของชาวจงั หวดั นครศรธี รรมราช ปจั จบุ นั ใชก้ ารเดนิ ทาง คมนาคม 3 ชอ่ งทาง 1) การคมนาคม ทางบก ได้แก่ รถไฟ รถยนต์ การเดินทางโดยรถยนต์สาธารณะ ท่ีใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ รถทัวร์ รถมินิบัส รถตู้ รถสองแถว การเดินทางภายในตัวอ�ำเภอก็จะมีรถสองแถว รถจักรยานยนต์ 2) คมนาคมทางน�้ำ เป็นการเดินทาง ทางนำ�้ คนโดยทวั่ ไปไมน่ ยิ มใชม้ บี า้ งทย่ี งั ใชก้ ารเดนิ ทางทางนำ�้ ในการขา้ มฝง่ั เชน่ โดยเรอื โดยแพ การบรรทกุ สนิ คา้ แร่ และชาวประมงในการออกไปประกอบอาชีพ และ 3) การคมนาคมทางอากาศ เรื่องที่ 1 การคมนาคมทางบกของจงั หวัดนครศรีธรรมราช การคมนาคม คอื การไปมาตดิ ตอ่ ระหว่างท้องถิน่ ต่างๆ เรม่ิ จากระหว่างหมบู่ ้าน ต�ำบล อ�ำเภอ จังหวดั และประเทศ จังหวัดนครศรีธรรมราชห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 780 กิโลเมตร มีจังหวัดท่ีอยู่ติดกันได้แก่ สงขลา พทั ลุง ตรัง กระบี่ และสุราษฎรธ์ านี ทางรถยนตถ์ นนสายหลกั เข้าสู่จงั หวดั นครศรธี รรมราช เสน้ ทางหลวง หมายเลข ดงั น้ี 1) จากจงั หวัดสุราษฎร์ธานี ถึงจงั หวดั นครศรธี รรมราช ทางหลวงหมายเลข 401 และ 4103 ระยะทาง 134 กโิ ลเมตร 2) จากจงั หวดั ตรัง ถึงจังหวัดนครศรธี รรมราช ทางหลวงหมายเลข 403 ระยะทาง 123 กโิ ลเมตร 3) จากจงั หวัดสงขลา ถงึ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ทางหลวงหมายเลข 408 ระยะทาง 161 กิโลเมตร 4) จากจงั หวดั พทั ลงุ ถงึ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ทางหลวงหมายเลข 41 และ 403 ระยะทาง 99 กโิ ลเมตร ความหมายของตวั เลขทีใ่ ชเ้ รยี กชอ่ื เสน้ ทาง ทางหลวงที่มีเลขหนึ่งตัว หมายถึง ทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงพิเศษท่ีเป็นถนนสายหลักเชื่อม การคมนาคมระหว่างภาคต่อภาค ไดแ้ ก่ ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 1 หรอื ถนนพหลโยธนิ เปน็ ถนนสายหลกั ทไ่ี ปสภู่ าคเหนอื ตง้ั ตน้ จากกรงุ เทพฯ ไปส้นิ สดุ ที่จงั หวดั เชยี งราย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ เป็นถนนสายหลักท่ีไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตัง้ ต้นท่จี งั หวดั สระบรุ ี และไปสิ้นสุดทจ่ี งั หวัดหนองคาย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 หรือ ถนนสุขุมวิท เป็นถนนสายหลักท่ีไปสู่จังหวัดทางภาคกลางรวมถึง ชายทะเลภาคตะวันออกเฉยี งใต้ ตงั้ ตน้ จากกรุงเทพฯ ไปสิ้นสุดที่จังหวดั ตราด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 หรอื ถนนเพชรเกษม เป็นถนนสายหลักทีไ่ ปสู่ภาคใต้ ตงั้ ต้นจากกรุงเทพฯ ไปสิ้นสุดที่อำ� เภอสะเดา จงั หวัดสงขลา ทางหลวงท่ีมีเลขสองตวั คือ ทางหลวงแผ่นดนิ หรือทางหลวงพเิ ศษทเี่ ปน็ สายประธานตามภาคต่าง ๆ เชน่ ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 22 หมายถึง ทางหลวงแผ่นดนิ สายประธานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สายอุดรธานี- นครพนม ทางหลวงพเิ ศษหมายเลข 51 หมายถงึ ทางหลวงซง่ึ เชอ่ื มตอ่ จากถนนวงแหวนรอบนอกกรงุ เทพฯ สพุ รรณบรุ ี 41เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค13000152 ระดบั ประถมศึกษา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197