11) พระวหิ ารหลวง พระวิหารหลวงอยู่ทางด้านใต้ของ พระบรมธาตเุ จดยี ์ อยภู่ ายนอกเขตของพระระเบยี งคด ถอื เปน็ พระอโุ บสถของวดั พระมหาธาตุ นบั เปน็ พระอโุ บสถทก่ี วา้ งใหญ่ ที่สุดในปักษ์ใต้ การวางเสา ยึดแบบที่นิยมกันในสมัยอยุธยา พระพุทธรูปซึ่งเป็นพระประธานในวิหารน้ีช่ือว่า พระศรี ศากยมนุ ศี รธี รรมราชเป็นปางมารวชิ ัยเป็นพระพทุ ธรปู ทสี่ ร้าง สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น หน้าพระประธานมีพระพุทธรูป สาวกขวาและซ้าย คอื พระสารีบุตรและพระโมคคลั ลาน 12) วหิ ารโพธพ์ิ ระเดิม วหิ ารโพธ์พิ ระเดมิ ตั้งอยูท่ างตอนสุดอาณาเขตของวัดพระมหาธาตุ ทางด้านเหนอื ของพระบรม ธาตเุ ปน็ วดั ทสี่ รา้ งหลงั วดั พระมหาธาตไุ มน่ านนกั เรยี กวา่ วดั พระเดมิ ในวดั นม้ี วี หิ ารแบบเดยี วกบั วหิ ารโพธล์ิ งั กาภายใน บรเิ วณพระบรมมาธาตทุ กุ ประการ ทงั้ พระพุทธรูปและต้นโพธ์ิ 13) พระพทุ ธบาทจ�ำลอง พระพุทธบาทจ�ำลองประดิษฐานในมณฑลบนเนินสูง อยู่ทาง ด้านเหนือของพระบรมธาตุนอกวิหารคด พระพุทธบาทน้ี เป็นแผ่นหินสลักพระพุทธบาทจ�ำลอง หินท่ีน�ำมาแกะสลัก พระพทุ ธบาท แตเ่ ดมิ เปน็ ของเจา้ พระยาสรุ ธรรมมนตรี (พรอ้ ม) ขนาดยาว 74 นิ้ว กว้าง 44 นิว้ พระพทุ ธบาทจ�ำลองน้สี รา้ ง เม่ือวันที่ 1 มกราคม 2450 ผู้สร้าง คือพระรัตนธัชมุนี (รตนธชเถร-ม่วง เปรยี ญ) 14) ศาลาศรีพุทธิศาล ศาลาศรีพุทธิสาร สร้างทางด้านใต้ของพระวิหารหลวง ติดกับถนนหลังวัดพระมหาธาตุ ศาลาหลังน้ีสร้างเพื่อใช้เป็นที่พักของพระสงฆ์ อาคันตุกะและพระพุทธศาสนิกชนที่มาสักการะพระบรมธาตุ สร้างเป็นอาคาร 2 ช้ัน ขนาดกว้าง 11 เมตร ยาว 18 เมตร ต่อมุขทางด้านหน้า 4 เมตร มีห้องพัก 30 ห้อง หลงั คาเป็นแบบทรงไทย 15) ประตูวดั (5 ประต)ู ประตูเข้าวัดพระมหาธาตุทางด้านหน้าน้ันมีอยู่ 3 ประตู ประตูกลางที่ตรงกับวิหารธรรมศาลา เรยี กวา่ ประตูเยาวราช เมื่อ พ.ศ. 2452 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรด เกล้าฯ ให้สร้างประตูกลางของวัดพระมหาธาตุ เป็นซุ้ม ก่ออิฐถือปูน เปน็ ซมุ้ ประตขู นาดใหญ่ มลี ายปนู ปน้ั ประดบั จารกึ ปที สี่ รา้ งคอื ร.ศ.128 มซี มุ้ ทศิ ดว้ ยยอดของซมุ้ ประตเู ปน็ แบบพระมหามงกฎุ และพระราชทาน นามว่าประตูเยาวราช 142 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
2. หอพระพุทธสิหงิ ค์ หอพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธสิหงิ ค์ จงั หวัดนครศรีธรรมราช หอพระพทุ ธสหิ งิ ค์ ตง้ั อยบู่ รเิ วณศาลากลางจงั หวดั นครศรธี รรมราช ภายในประดษิ ฐานพระพทุ ธสหิ งิ ค์ พระพุทธรูปศักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาต้ังแต่ครั้งพระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปส�ำริด ประทบั น่ังขดั สมาธเิ พชร ปางมารวชิ ยั 3. วัดท้าวโคตร วัดท้าวโคตร ต้ังอยู่ริมถนนราชด�ำเนิน บา้ นนาเดมิ หมู่ที่2ตำ� บลนาอำ� เภอเมอื งจงั หวดั นครศรธี รรมราช เป็นวัดเก่าแก่แห่งหน่ึงของเมืองนครฯ ภายในวัดท้าวโคตร มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณสถานที่ส�ำคัญคือ ซากเจดีย์โบราณ เจดีย์วัดท้าวโคตรใช้อิฐเป็นโครงสร้างหลัก และใช้ดนิ เหนยี วเปน็ สว่ นยึด 4. วัดเสมาเมือง วัดเสมาเมือง ตั้งอยู่ในเขตต�ำบลในเมือง อำ� เภอเมือง จังหวดั นครศรีธรรมราช พระเจ้าศรีธรรมโศกราช เปน็ ผทู้ รงสรา้ งวดั นขี้ นึ้ สถานทสี่ รา้ งวดั นเี้ ปน็ ทำ� เลใจกลางเมอื ง นครศรธี รรมราชในสมยั นน้ั วดั นเี้ ปน็ ตน้ กำ� เนดิ ของวดั ทงั้ หลาย ในเมืองนคร สร้างและอุทิศถวายแด่พระพุทธองค์ผู้ทรงชนะ มารพระโพธสิ ัตว์ ปัทมปาณีและวัชรปาณี เอกสารประกอบการเรียน 143 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
5. วัดเสมาชัย วัดเสมาชัย ปัจจุบันเป็นวัดร้าง ตั้งอยู่ภายใน โรงเรียนเทศบาลเมืองนครศรีธรรมราช ทางทิศเหนือของวัด เสมาเมอื ง หลงเหลอื เพยี งอโุ บสถเกา่ ทม่ี ฐี านยกสงู และถกู สรา้ ง อาคารโถงสมยั ใหมท่ บั ปจั จบุ นั มพี ระพทุ ธรปู ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ ทเี่ รยี ก กันว่า หลวงพ่อเสมาชัย และเจ้าแม่อ่างทอง พระพุทธรูป หินทรายภายในอุโบสถวัดเสมาชัย (ร้าง) เป็นพระพุทธรูป หินทรายสีแดงคล้ายพระพุทธรูปในศิลปะอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20-21 6. วัดหนา้ พระลาน วัดหน้าพระลาน ตั้งอยู่บนถนนพระบรมธาตุ ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จงั หวดั นครศรธี รรมราช อยตู่ ดิ กบั วดั พระมหาธาตวุ รมหาวหิ าร ซึ่งต้ังอยู่ทางทิศใต้ วัดหน้าพระลานมีพระพุทธรูปประทับยืน หล่อจากสำ� รดิ ปางประทานอภัยสองพระหตั ถ์ หรอื ปางหา้ ม สมุทร ครองจีวรห่มคลุม ทรงเครื่องอย่างพระจักรพรรดิราช อายรุ าวพทุ ธศตวรรษ ที่ 22-24 7. เจดยี ์ยกั ษ์ เจดีย์ยักษ์ เป็นเจดีย์ที่สูงใหญ่รองจากเจดีย์ พระบรมธาตุ ตั้งอยู่ในบริเวณวัดเจดีย์ ซึ่งร้างไปแล้วติดกับ สำ� นกั งานเทศบาลนครศรธี รรมราช ถนนราชดำ� เนนิ ใกลต้ ลาด ทา่ วังช่ือว่า “เจดยี ย์ ักษ”์ 8. วดั ประดู่พัฒนาราม วดั ประด่พู ัฒนาราม เก๋งพระเจ้าตาก 144 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
วดั ประดพู่ ฒั นาราม หรอื วดั ประดู่ หรอื วดั โด ตง้ั อยใู่ นเขตเทศบาลนคร นครศรธี รรมราช อำ� เภอเมอื ง นครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นวัดที่ส�ำคัญวัดหน่ึงของจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นที่บรรจุอัฐิ ของเจา้ พระยานคร (น้อยกลาง) 9. วัดแจ้งวรวิหาร วดั แจง้ วรวหิ าร เปน็ พระอารามหลวงชนั้ ตรี ชนดิ สามญั สงั กดั คณะสงฆม์ หานกิ าย ตงั้ อยตู่ ดิ กบั วดั ประดู่ ต้ังอยู่ริมถนนราชด�ำเนิน ต�ำบลท่าวัง อ�ำเภอเมือง เป็นวัดโบราณมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ได้รับการยกฐานะข้ึน เป็นพระอารามหลวง เมอ่ื วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2529 พส่ี าวของเจ้าพระยานคร (พฒั น์) ชื่อ ชี เป็นผู้สรา้ งประมาณ ปี พ.ศ. 2327 - 2330 10. หอพระสงู พระวิหารสูง หรอื หอพระสูง เป็นปชู นยี สถาน ท่ีส�ำคัญแห่งหนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่นอก ก�ำแพงเมืองโบราณนครศรีธรรมราชด้านทิศเหนือในบริเวณ สนามหนา้ เมือง ใกล้ส�ำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สร้างในสมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนตน้ 11. วดั ทา่ โพธิว์ รวิหาร วัดท่าโพธ์ิวรวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองท่าวัง ต�ำบลท่าชัก อ�ำเภอเมือง สร้างในรัชสมัยสมเด็จพระบรม ไตรโลกนาถ แห่งกรุงศรีอยุธยา โบราณวัตถุโบราณสถานที่ส�ำคัญ คือ โบสถ์และพระประธานในโบสถ์ เปน็ พระพทุ ธรปู ทรงเครือ่ งใหญ่สีสวยงาม ดา้ นหลังพระประธานมเี จดยี ์บรรจุอฐั ขิ องเจ้าพระยานครฯ (พัฒน์) พระประธานในโบสถ์วดั ทา่ โพธ้ิวรวหิ าร วัดท่าโพธิวรวหิ าร เอกสารประกอบการเรยี น 145 รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
12. วดั วังตะวนั ตก วดั วงั ตะวนั ตก ตง้ั อยรู่ มิ ถนนราชดำ� เนนิ ตดิ กบั บริเวณตลาดท่าวัง แต่ก่อนสร้างเป็นวัดเป็นส่วนของ วังเจ้าจอมปราง พระสนมที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระราชทานแกเ่ จา้ พระยานคร (พฒั น)์ สว่ นวงั ของเจา้ จอมปราง ต้ังอยู่ตรงกันข้ามคนละฟากของถนนราชด�ำเนิน คือ วัดวังตะวนั ออกในปจั จุบนั 13. วดั สระเรยี ง วัดสระเรียง ต้ังอยู่ตรงข้ามวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ท่ีเคยเป็นท่ีประทับของพระเจ้า กรุงธนบุรี เม่ือคร้ังยกทัพมาตีหัวเมืองทางใต้และได้สร้าง พลับพลาท่ปี ระทบั ในวัดสระเรยี ง 14. วดั ชายนา วัดชายนา สันนิษฐานว่าเป็นวัดสมัย ก รุ ง ศ รี อ ยุ ธ ย า ต้ั ง อ ยู ่ ใ น ต� ำ บ ล น า อ� ำ เ ภ อ เ มื อ ง จงั หวดั นครศรธี รรมราช โดยพจิ ารณาจากถาวรวตั ถสุ ำ� คญั คอื โบสถซ์ ง่ึ มลี กั ษณะเปน็ โบสถย์ คุ แรกทางพระพทุ ธศาสนาทน่ี ยิ ม เป็นฝมี ือช่างสมยั อยธุ ยา 15. ศาลพระเสื้อเมอื ง ศาลพระเสื้อเมือง ตั้งอยู่ท่ีหลังโรงพยาบาล เทศบาลถนนหนา้ วดั สวนปา่ นอำ� เภอเมอื งจงั หวดั นครศรธี รรมราช แต่เดิม สันนิษฐานเป็นสองกระแส กระแสแรก ว่าเคยเป็น ศาลหลักเมืองของนครศรีธรรมราช ในสมัยโบราณ กระแส ท่ีสอง ว่าเคยเป็นศาลาเปล้ืองเคร่ืองทรงของเจ้าพระยา ท้าวมหากษัตริย์ ท่จี ะมาสกั การะบูชาพระบรมธาตุ 16. ฐานพระสยม ฐานพระสยม (ฐานพระสยมภูวนาท) ต้ังอยู่ที่ ถนนหลังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ฐานพระสยมเป็นเทวา ลัยไศวนิกาย ฐานพระสยมเป็นเทวสถานเก่าแก่ของพราหมณ์ สรา้ งประมาณ พ.ศ.1600 ต้ังอยทู่ าง ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่ไกลนักจากพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช 146 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
17. หอพระอิศวร หอพระศิวะ ตั้งอยู่ท่ีถนนราชด�ำเนิน ใกล้กับ วัดเสมาเมือง ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมือง เป็นเทวสถาน ในศาสนาพราหมณ์ไศวนิกาย คือ นิกายที่นับถือพระศิวะ หรือพระอิศวร นับถืออวัยวะเพศหรือลึงค์ของพระศิวะ ที่เรียกว่า “ศิวลึงค์” และนับถืออวัยวะเพศของพระมเหสี พระศิวะ คือ พระนางอุมา “อุมาโยนี” ศิวลึงค์กับอุมาโยนี จะอยู่คู่กันเสมอ ภายในหอพระศิวะประดิษฐานศิวลึงค์บนแท่นโยนิโทรณะ ภายนอกด้านใต้มี “เสาชิงช้า” จ�ำลอง แทนของเดิม 18. หอพระนารายณ์ หอพระนารายณต์ ง้ั อยทู่ ถี่ นนราชดำ� เนนิ ใกลก้ บั วัดเสมาเมือง ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมือง ฝั่งตรงข้ามกันกับ หอพระศิวะ เป็นเทวสถานในศาสนาพราหมณ์ไวษณพนิกาย คอื นกิ ายทนี่ บั ถอื พระนารายณ์ ซง่ึ เปน็ ใหญแ่ ตเ่ พยี งผเู้ ดยี ว คอื ทั้งผู้สร้าง ผู้รักษาและผู้ท�ำลายสากลโลกน้ี ข้างใน มีเทวรูป นารายณ์ศิลาปิดทองยืนจมดินอยู่เพียงน่องสูงประมาณ ศอกเศษ 19. แหลง่ น�ำ้ ศกั ด์สิ ิทธใิ์ นจงั หวัดนครศรีธรรมราช ในครงั้ โบราณตราบจนปัจจุบนั เม่ือตอ้ งการใช้น�ำ้ พระพุทธมนต์ประกอบพระราชพิธี เช่น นำ�้ อภิเษก นำ้� บรมราชาภเิ ษกและนำ้� พพิ ฒั นส์ ตั ยา เปน็ ตน้ เจา้ เมอื งกจ็ ะใหร้ าชบรุ ษุ ไปพลกี รรม เพอื่ เอานำ้� จากแหลง่ นำ�้ ศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ ทั้ง 6 แหล่งมาประกอบพิธีทุกครั้งไป แหล่งน�้ำศักด์ิสิทธ์ิคู่เมืองนครศรีธรรมราช ใช้ในพระราชพิธีและพิธีกรรม อันศักดิ์สิทธิ์ในพระราชพิธีเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ พระมหากษัตริย์ท่ีจะขึ้นเถลิงถวัลย์ราช แหล่งน้�ำศักด์ิสิทธิ์ที่ใช้ ในการประกอบพิธีพลีกรรมตักน�ำ้ จ�ำนวน 6 แหล่ง คอื 1) บ่อนำ้� ศักด์ิสิทธ์ิ วัดหนา้ พระลาน ต้ังอยู่ในวัดพระลาน ซ่ึงอยู่ทางทิศใต้ ของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ในสมัยโบราณชาวบ้าน เช่ือกันว่าเป็นบ่อน�้ำศักดิ์สิทธ์ิน้�ำใสสะอาด หากใครได้ด่ืมน้�ำ ในบอ่ นี้จะมีสตปิ ัญญาดี มีวาสนา จะได้เปน็ ขุนนางผ้ใู หญ่ เอกสารประกอบการเรยี น 147 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
2) บ่อนำ�้ ศักดิส์ ทิ ธ์วิ ดั เสมาเมอื ง ต้ังอยู่ทางทิศอีสานของวัด เป็นบ่อน้�ำ ท่ีสร้างขึ้นพร้อมกับการต้ังวัดเสมาเมือง ชาวบ้านเชื่อกันว่า บ่อน้�ำแห่งน้ี ตั้งอยู่ภายในเขตธรณีสงฆ์อันเป็นแดนของ พระพุทธศาสนาและในอดีตเคยเป็นศาสนาพราหมณ์ ทีไ่ ดเ้ ข้า ส่นู ครศรธี รรมราชราวศตวรรษท่ี 10-12 3) บ่อน�้ำศกั ดิ์สทิ ธิ์วดั เสมาชยั ตง้ั อยทู่ างทศิ เหนอื ของวดั เสมาเมอื งบอ่ นำ�้ ต้ังอยู่ทางทิศอีสานของวัด เสมาชัย ในอดีตพระเจ้าศรีธรรม โศกราช กษตั รยิ ์เมืองนครไดส้ รา้ งวัดนข้ี ้ึนหลงั จากไดก้ รีธาทัพ ไปตีหัวเมืองฝา่ ยใต้และได้รับชยั ชนะกลบั มา 4) บอ่ นำ�้ ศกั ดิส์ ทิ ธิ์วัดประตูขาว ตั้งอยู่ต�ำบลคลัง อ�ำเภอเมือง จังหวัด นครศรธี รรมราช ปัจจบุ นั เปน็ วัดรา้ งทางราชการไดใ้ ช้สถานท่ี วัดเป็นโรงเรียนอนุบาลนครศรีธรรมราชไปแล้ว บ่อน้�ำ ที่วัดประตูขาว เดิมเป็นบ่อน�้ำลึกอยู่หลังโรงเรียนอนุบาล นครศรีธรรมราช 5) บอ่ น้ำ� ศักดสิ์ ทิ ธห์ิ ้วยเขามหาชัย เป็นล�ำห้วยท่ีมีน�้ำไหลมาจากเขามหาชัย ต้นน�้ำอยู่ในเขตหมู่ท่ี 4 ต�ำบลท่างิ้ว อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ล�ำห้วยน้ีเรียกตามชื่อภูเขามหาชัย อันหมายถงึ ชยั ชนะอนั ยิ่งใหญ่ 6) บอ่ น้ำ� ศักดส์ิ ทิ ธหิ์ ้วยปากนาคราช อยทู่ ต่ี ำ� บลเขาแกว้ อำ� เภอลานสกา จงั หวดั นครศรธี รรมราช นำ�้ จากลำ� หว้ ยนไี้ หลออกมาจากแงห่ นิ ทมี่ ปี าก เหมอื นพญานาค ไหลตลอดปี ตงั้ แตโ่ บราณมาเชอื่ วา่ นำ�้ ในหว้ ย นาคราชเปน็ นำ�้ ศักดส์ิ ทิ ธิ์ 148 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
20. ศาลากลางจงั หวัด ศาลากลางจงั หวดั นครศรธี รรมราช เดมิ เปน็ วงั ของเจ้าเมือง ก่อนที่จะมีการปฏิรูปการปกครองในสมัย พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยูห่ ัว 21. สนามหน้าเมอื ง สนามหน้าเมือง ต้ังอยู่นอกก�ำแพงเมืองเดิม ของเมืองนครศรีธรรมราช ใช้เป็นที่ประกอบกิจกรรมต่างๆ ของทางราชการบา้ นเมืองและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การละเลน่ การแข่งขันกีฬา การออกร้านจ�ำหน่ายสินค้า การจัดงาน เทศกาลประจำ� ปี การแสดงมหรสพ ของชาวเมอื งนครมาตงั้ แต่ สมยั โบราณจนถึงในปจั จบุ ัน 22. ก�ำแพงเมืองนครศรีธรรมราช ก�ำแพงเมืองนครศรีธรรมราช สร้างในสมัย พระเจ้าศรีธรรมโศกราชในราวพุทธศตวรรษที่ 11 ล้อมรอบ เมืองตามพรลิงค์ มีประตูเมืองส�ำคัญ 2 ประตู ประตูด้าน ทิศเหนือ ช่ือ “ประตูไชยศักดิ์” ประตูด้านทิศใต้ชื่อ “ประตูไชยสิทธิ์” ต่อมาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ.2199 - 2231) ไดท้ ำ� การกอ่ สรา้ งขน้ึ ใหมต่ ามแบบกำ� แพง เมอื งทางตะวนั ตก มปี อ้ มปราการทตี่ ง้ั ปนื ใหญแ่ ละปนื อน่ื ๆ ได้ มีใบเสมาบนก�ำแพง 23. สระลา้ งดาบศรปี ราชญ์ สระล้างดาบศรีปราชญ์และอนุสาวรีย์ ศรีปราชญ์ ประวัติอนุสรณ์สถานศรีปราชญ์ ตั้งอยู่ภายใน โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช เป็นอนุสรณ์การตายของ ศรีปราชญ์ ผู้เป็นกวีเอกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แหง่ กรงุ ศรอี ยธุ ยา แตถ่ กู เนรเทศมาอยู่ ณ เมอื งนครศรธี รรมราช ต่อมาเกิดมีความขัดเคืองใจแก่เจ้านครศรีธรรมราช จึงถูกส่ัง ประหาร หลงั จากประหารศรปี ราชญแ์ ลว้ เพชฌฆาตไดน้ ำ� ดาบ มาล้างทสี่ ระแห่งนี้ เอกสารประกอบการเรยี น 149 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
24. อนุสาวรียว์ รี ไทย อนุสาวรยี ์วีรไทย อนุสาวรีย์วีรไทย หรือชาวบ้านเรียกว่า “อนุสาวรีย์จ่าด�ำ” เป็นอนุสรณ์สถานท่ีสร้างข้ึนเพ่ือ เป็นเกียรติประวัติวีรกรรมทหารไทย ที่ได้สละชีพเพ่ือชาติ ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา ต้ังอยู่ตรงบริเวณที่ทหาร ของมณฑลทหารบกนครศรีธรรมราช ภายในฐานบรรจุอัฐิ ของทหารผู้เสียชวี ติ ในการส้รู บครงั้ นน้ั จำ� นวน 116 คน 25. วัดสอ (วัดสรรเสรญิ ) วัดสรรเสริญหรือท่ีรู้จักกันโดยท่ัวไปว่า วัดสอ เป็นวัดที่เก่าแกซ่ ึ่งต้ังอยูห่ มู่ 3 ตำ� บลขุนทะเล อำ� เภอลานสกา จงั หวัดนครศรธี รรมราช เป็นสถานที่รวบรวมผคู้ นเมือ่ มขี ้าศึก รกุ ราน 26. วัดวังไทร วัดวังไทร ต้ังอยู่ที่หมู่ 7 ต�ำบลก�ำโลน อ�ำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช พระยาไทรบุรี ผู้ก่อต้ังวัดวังไทร เป็นวัดเก่าแก่ สร้างเมื่อพุทธศักราช 2275 หรือประมาณ 284 ปีล่วงมาแล้ว โดยต้ังชื่อคร้ังแรกว่า วัดวังพระยาไทรบุรี ต่อมาได้เรียกขานนามวัดเป็น วดั พระยาไทรบุรี 27. วดั ธาตนุ ้อย วดั ธาตนุ อ้ ย หรอื วดั พระธาตนุ อ้ ย ตงั้ อยใู่ นเขต ต�ำบลหลักช้าง อ�ำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งขึ้นโดยความประสงค์ของพ่อท่านคล้าย (พระครูพิศิษฐ์ อรรถการ) พระเกจอิ าจารยท์ ช่ี าวใตเ้ ลอ่ื มใสศรทั ธาอยา่ งสงู ยงิ่ รูปหนึ่ง เช่ือถือถึงความศักด์ิสิทธิ์ของวาจา พูดอย่างไร เป็นอย่างน้นั 28. วัดอินคีรี วัดอินทคีรี ตั้งอยู่ที่บ้านนา หมู่ท่ี 6 ต�ำบลบ้านเกาะ อ�ำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช วัดอินทคีรี จากรูปแบบทางศิลปะของแหล่งศิลปกรรมท่ีปรากฏ และพัฒนาการต่อเน่ืองมาในสมัยอยุธยา จากการพบพระพุทธรปู ศลิ ปะภาคใตภ้ ายในวัดอนิ ทครี ี ท�ำใหส้ ันนษิ ฐานได้วา่ นา่ จะสรา้ งในพุทธศตวรรษ ท่ี 12-14 150 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
29. วดั เขาขุนพนม วัดเขาขุนพนม ตั้งอยู่ในหมู่ท่ี 3 ต�ำบลบ้านเกาะ อ�ำเภอพรหมคีรี สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา เพราะมี ศลิ ปวัตถุโบราณสมัยอยุธยาอยู่มาก เช่น ขันน้�ำมนต์ คนโท พระพทุ ธรูปสำ� ริด เป็นต้น เชงิ เขาใกลท้ างขนึ้ ถ้ำ� มีโบสถ์เก่าแก่ ขนาดเล็กพอพระสงฆ์ท�ำสังฆกรรมได้ มีประตูเข้าทางเดียวไม่มี หน้าต่าง ใบเสมาเป็นศิลาแกะสลัก รูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา ถ้�ำเขาขุนพนม หรอื ถำ�้ คมุ พนม ตง้ั อยภู่ ายใตซ้ ะโงกผาสงู ทหี่ นา้ ถำ�้ มกี ำ� แพงสงู ประมาณ 2 เมตร บนก�ำแพงมีใบเสมาเหมือนก�ำแพงเมือง โบราณ ด้านหน้าก�ำแพงมีลายปูนปั้นประดับด้วยถ้วยชาม ลวดลายสวยงาม ท่ีประตูมียักษ์เป็นนายทวารบาลครึ่งตัวต้ัง อยู่ 2 ตน ด้านหลังประดิษฐานพระพุทธรูปไว้หลายองค์ ลดต�่ำลงไปทางด้านขวามือของถ�้ำเป็นช่องทางเข้าสู่ถ�้ำใหญ่ ด้านหน้าถ�้ำมีรูปปั้นพระสงฆ์ และพระฉายาลักษณ์ พระเจ้า กรุงธนบุรี 30. วดั ภูเขาหลกั วดั ภเู ขาหลกั ตง้ั อย่หู ม่ทู ่ี 5 ต�ำบลทงุ่ สงั อ�ำเภอทงุ่ ใหญ่ ฝงั่ ตะวันตกของแม่น้�ำตาปี หา่ งจากเขาหลัก ประมาณ 300 เมตร เปน็ วัดโบราณทม่ี ชี ่อื เสียงในด้านศลิ ปะโบราณวตั ถุ ภายในวัดมเี จดยี ์ แบบศรีวชิ ยั 31. วัดแมเ่ จ้าอยหู่ วั วัดแมเ่ จ้าอยู่หัว ทีต่ งั้ อยูใ่ นหมู่ท่ี 3 ต�ำบลแม่เจ้าอยู่หวั อำ� เภอเชยี รใหญ่ จังหวัดนครศรธี รรมราช เป็น วัดคกู่ บั ชาวอำ� เภอเชยี รใหญ่ มานาน โดยมปี ระวัตอิ ันยาวนาน ตง้ั แตส่ มยั ยังเปน็ อาณาจักรตามพรลิงค์ วดั ภูเขาหลัก วดั แม่เจา้ อยู่หวั เอกสารประกอบการเรยี น 151 รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
32. วดั ควนชะลิก วัดควนชะลิกเป็นวดั ทเ่ี ก่าแกท่ ี่สุดของอำ� เภอหวั ไทร ตง้ั อยหู่ มู่ 4 ตำ� บลควนชะลกึ อำ� เภอหัวไทร จัง หวัดครศรธี รรมราช กอ่ ตัง้ ในปี พ.ศ.2123 ในสมยั ของสมเดจ็ พระมหาธรรมราชาหรือสมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ที่ 1 แหง่ กรุงศรอี ยุธยา 33. วัดพทั ธสมี า วดั พัทธสมี า ต้งั อยูท่ ี่ อำ� เภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช มอี ายุยาวนานกว่า 755 ปี ตามหลกั ฐาน ของพงศาวดารครศรีธรรมราช ว่า ผสู้ ร้างวดั พทั ธสมี า คอื สองพีน่ ้องที่มเี ชอื้ สายศรีลงั กาและจนี มีนามวา่ พลิติและ พลมิ ยุ ซ่งึ เปน็ ลูกของพสี่ าวของพระเจา้ ศรธี รรมโศกราชที่ 5 จนั ทรภานุ วัดควนชะลกิ วัดพัทธสมี า 34. วดั เขาพระทอง วดั เขาพระทอง สรา้ งมาตง้ั แตส่ มยั ศรวี ชิ ยั ตอน ตน้ หรอื ในยคุ ของ พระเจา้ ศรธี รรมโศกราช และพระเจา้ จนั ทร ภาณศุ รธี รรมราช เป็นวัดทเี่ กา่ แกม่ ีอายุประมาณ 800 กวา่ ปี มพี ระพทุ ธรปู สที องจำ� นวนมากถงึ 29 องค์ ประดษิ ฐานอยรู่ อบ ๆ ภเู ขาทางดา้ นทศิ ตะวนั ออก เปน็ พระปนู ปน้ั ดว้ ยปนู ขาวผสม ด้วยน้�ำผ้ึงอ้อย และน�้ำมันยาง ส่วนโครงสร้างภายในเป็น โครงสรา้ งที่ทำ� ดว้ ยไม้เนอ้ื แข็งทัง้ หมด 35. วัดโมคลาน วัดโมคลาน หรือโมคคลาน ตั้งอยู่ที่หมู่ 11 ตำ� บลโมคลาน อำ� เภอท่าศาลา โมคลานเปน็ ช่ือของพราหมณ์ “โมคลี” ผู้ตั้งเทวสถานศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย ต่อมาเมื่อศาสนาพราหมณ์เล่ือมลง ชาวบ้านจึงได้แปลสภาพ เป็นวดั ในพระพทุ ธศาสนา เรียกชื่อ “โมคคลาน” เลยี นแบบ 152 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
เป็นชื่อพระโมคคัลลาน พระอริยสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า โมคลาน เดิม เป็นที่ต้ังเมือง ก่อนตั้งเมืองนคร ดงั เพลงกล่อมเด็กวา่ “ต้งั ดิน ตงั้ ฟ้า ตง้ั หญ้าเขด็ มอน โมคลานต้งั ก่อน เมอื งคอนตั้งหลัง ตัง้ วัดพระธาตุ ตัง้ บา้ น ตง้ั วัง เมืองคอนตั้งหลงั ตงั้ วังไมน่ าน” ซากโบราณสถานที่พบ ก�ำหนดอายรุ าวพุทธศตวรรษที่ 12 - 16 เปน็ ซากเทวาลัย 36. โบราณสถานตุมปงั โบราณสถานตุมปัง เป็นโบราณสถานที่ต้ังอยู่ ในเขต อ�ำเภอทา่ ศาลา จงั หวัดนครศรธี รรมราช ได้พบแหล่ง โบราณคดี ที่ได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมอินเดีย ร่องรอย ทเ่ี หลอื ใหเ้ หน็ อยา่ งเดน่ ชดั คอื ศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์ ท้ังไศวนิกาย และไวษณพนิกาย จากการส�ำรวจ พบช้ินส่วน ทอ่ นลา่ งของรปู เคารพสลกั จากหนิ ซง่ึ สนั นษิ ฐานวา่ เปน็ เทวรปู องค์พระนารายณ์ 37. โบราณสถานเขาคา แหลง่ โบราณสถานเขาคา ตงั้ อยทู่ บี่ า้ นเขาคา หมู่ 11 ตำ� บลเสาเภา อำ� เภอสชิ ล จงั หวดั นครศรธี รรมราช จัดเป็นเทวสถานที่มีความส�ำคัญสูงสุด ในบรรดาเทวสถานพราหมณ์ที่พบในพื้นท่ี จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตอ�ำเภอสิชล แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของชุมชนอย่างชัดเจน ในคร้ังอดีตเปรียบเป็นวิมาน แห่งพระศวิ ะ เปน็ ศูนย์รวมของชมุ ชนที่ยง่ิ ใหญ่แหง่ หนึง่ ในคาบสมทุ รภาคใต้ เมือ่ ประมาณพันกวา่ ปมี าแลว้ 38. วดั ธาตธุ าราม (วัดเขาธาต)ุ โบราณเก่าแก่ของเมอื งขนอม ทีเ่ ช่ือกนั ว่ามอี ายุ 1,000 ปี ลกั ษณะองคเ์ จดียเ์ ปน็ รปู โอควา่ํ เป็นเจดยี ์ ที่สร้างข้ึนด้วยหินปะการังท้ังองค์ รอบเจดีย์ยังมีพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทราย ตามต�ำนานเล่าว่าผู้มีจิตศรัทธา จากเมอื งไชยา ไดร้ วบรวมทรัพยส์ นิ เงนิ ทองและของมคี า่ ต่าง ๆ เพอ่ื ไปบรรจุที่พระบรมธาตเุ มอื งนคร แตป่ รากฏว่า ไปไม่ทัน เน่ืองจากพระบรมธาตุได้สร้างเสร็จเสียก่อน ผู้มีจิตศรัทธาจึงได้ร่วมใจกันสร้างเจดีย์ข้ึนบนเขาธาตุ โดยการน�ำปะการงั ท่ีมีอย่ใู นบรเิ วณน้ันมาสร้างเปน็ เจดยี ท์ ้งั องค์ เอกสารประกอบการเรียน 153 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
เรื่องท่ี 2 โบราณวัตถุ จังหวัดนครศรีธรรมราช 1. เงินตรานโม (หวั นะโม) เงนิ ตรานโม เป็นวตั ถทุ รงกลม สร้างดว้ ยโลหะพิเศษ มหี ลายแบบหลายร่นุ มตี ัวอักษรโบราณตวั นะ อยตู่ รงกลาง อยใู่ นฐานะเงนิ ตราใชแ้ ลกเปลยี่ นแทนสนิ คา้ ในประเทศไทยมกี ารสรา้ งแหง่ เดยี วทเ่ี มอื งนครศรธี รรมราช ปัจจุบันหัวนะโม เปลี่ยนฐานะเป็นเคร่ืองรางของขลัง หรือวัตถุมงคลชิ้นเอกของนครศรีธรรมราช พุทธคุณครอบ จกั รวาล เมตตามหานยิ ม โชคลาภ แคลว้ คลาด ปลอดภยั แก่ผทู้ อ่ี าราธนาบชู าติดตวั 2. ใบเสมา เปน็ ศลิ ปะศรวี ชิ ยั สมยั กอ่ นพทุ ธศตวรรษท่ี 19 ใบเสมา หรอื สมี า เปน็ ประตมิ ากรรม หินสลกั ซ่ึงใช้เป็นสัญลักษณ์ หรอื เพื่อแสดงขอบเขตพนื้ ทศ่ี ักด์สิ ิทธ์ิเน่อื งในพทุ ธศาสนา 1) ใบเสมา วัดเสมาชัย ใบเสมา วัดเสมาชัย เป็นใบเสมาหินชนวนขนาดย่อม ไม่มีลวดลายประดับ เทยี บไดก้ บั ใบเสมาศิลปะอยุธยาในราวพทุ ธศตวรรษที่ 20-21 2) ใบเสมา วดั ท้าวโคตร ทางดา้ นนอกอโุ บสถ มใี บเสมาปกั บอกเขตอยทู่ ง้ั 8 ทศิ ใบเสมาเหลา่ นอ้ี าจสรา้ งขน้ึ ในสมยั อยธุ ยา ตอนกลาง คือ ราวพทุ ธศตวรรษที่ 21-22 ใบเสมา วัดเสมาชัย ใบเสมา วัดทา้ วโคตร 154 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
3. ศลิ าจารึกวดั เสมาเมืองและศิลาจารึกวดั หวั เวยี ง 1) ศิลาจารึกวัดเสมาเมือง เป็นหินทรายแดงรูปใบเสมา จารึกเป็นอักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤต เมื่อ พ.ศ. 1318 เป็นศิลาจารึกหลักที่ส�ำคัญ ของเมืองนครศรีธรรมราช ในจารึกในหน้า 1 บรรทัดที่ 14,16,28 มีค�ำว่า “ศรีวิชเยนทรราชา” ปรากฏอยู่มีข้อความกล่าวถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักร และกล่าวสรรเสริญ พระเจา้ กรุงศรีวชิ ัย ผเู้ ป็นใหญ่กวา่ พระราชาท้ังปวงในโลกนี้ และหน้า 2 กล่าวถงึ พระบรมเดชานุภาพของพระองค์ ประดจุ พระอาทิตย์ และทรงเป็นหวั หนา้ แหง่ ไศเลนทรวงศ์ เมืองไช 2) ศลิ าจารกึ วดั หวั เวยี ง ปจั จบุ นั หลกั ศลิ า จารึกดังกล่าว เก็บแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงเทพฯ น�ำกลับมาไว้ท่ีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช เพราะเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ อนั ลำ้� คา่ ของชาวจงั หวดั นครศรธี รรมราชแตเ่ ดมิ เพอ่ื ความ ภาคภมู ใิ จในทอ้ งถนิ่ ของตนตอ่ ไป ศลิ าจารกึ วดั หวั เวียง 4. ศิลาจารึกวดั มเหยงคณ์ ในบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้พบศลิ าจารกึ รุ่นเกา่ ร่วมสมยั พทุ ธศตวรรษที่ 12 ซ่ึงเป็นจารกึ รุ่น แรกทพ่ี บในบรเิ วณประเทศไทย นนั่ คอื ศลิ าจารกึ วดั มเหยงค์ จารกึ บนแผน่ สดี ำ� เปน็ จารกึ อกั ษรปลั ลวะ ภาษาสนั สกฤต อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 13 โดยทั่วไปมักจะเข้าใจกันว่าเนื้อหาของศิลาจารึกหลักน้ี กล่าวถึง วินัยสงฆ์ใน พระพุทธศาสนา ศิลาจารึกภาคท่ี 2 เน้ือหา ของจารกึ หลกั นีม้ อี ิทธิพลของศาสนาพราหมณอ์ ย่ดู ว้ ย 5. ศลิ าจารกึ หุบเขาชอ่ งคอย ศลิ าจารกึ หบุ เขาชอ่ งคอย พบในปา่ แถบหบุ เขาชอ่ งคอยซง่ึ อยหู่ า่ งจากบา้ นโคกสะทอ้ น ตำ� บลควนเกย อำ� เภอร่อนพิบูลย์ จงั หวัดนครศรีธรรมราช ไปทางทิศใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นการสร้างข้นึ ด้วยกรรมวิธงี ่าย ๆ ไมป่ ระณตี บรรจง ใชแ้ ผน่ ศลิ าธรรมชาตทิ ม่ี อี ยใู่ นบรเิ วณหบุ เขานนั้ เปน็ ทจ่ี ารกึ รปู อกั ษรขน้ึ 3 ตอน รปู อกั ษรเปน็ ภาษา สนั สกฤต อกั ษรปลั ลวะ อกั ษรทจ่ี ารกึ มรี ปู แบบเหมอื นกบั อกั ษรในจารกึ พระราชทานของพระเจา้ สงิ หวรมนั แหง่ อนิ เดยี ตอนใต้ สมัยพุทธศตวรรษที่ 11นับถือศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวะนิกาย มีดงั น้ี เอกสารประกอบการเรยี น 155 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
ตอนที่ 1 ศิลาจารึกน้ีเป็นของพระศิวะ “ศรีวิทยาธิการสยาม” อธิบายว่า เป็นพระนามอันหน่ึง ของพระศิวะ ซงึ่ แปลวา่ ผ้เู ปน็ สวามขี องนางวิทยาเทวี (นางทรุ คา) นางวิทยาเทวีเปน็ รา่ งหน่งึ ของนางทรุ คา ตอนท่ี 2 ขอความนอบนอ้ มจงมแี กท่ า่ น ผอู้ ยเู่ ปน็ เจา้ แหง่ ปา่ พระองคน์ น้ั ขอความนอบนอ้ มจงมแี กท่ า่ น ผู้เป็นเจ้าแห่งเทพทั้งมวลพระองค์น้ัน ชนท้ังหลายเคารพต่อพระศิวะ ขอให้ท่านผู้เจริญนี้เป็นที่พึงให้บุคคลที่อยู่ที่น้ี มปี ระโยชน์ทว่ั กนั ตอนที่ 3 ถา้ คนดอี ย่ใู นหมบู่ า้ นของชนเหล่าใดความสุขและผลจกั มีแกช่ นเหลา่ น้นั 156 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
6. ศิวลึงค์และฐานโยนโิ ทรณะ 1) ศวิ ลงึ ค์ ศิวลึงค์ของศาสนาพราหมณ์ในนครศรีธรรมราชรุ่นแรก ๆ มักติดกับฐานโยนี เวลาท�ำพิธีกรรม กระท�ำโดยการรดน�้ำลงไปบนโบราณวัตถุดังกล่าว ตามความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ ถือว่า น้�ำที่ไหลลงมาน้ัน เปน็ นำ�้ ศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ นยิ มนำ� มาดม่ื และอาบ ศวิ ลงึ คแ์ บบสมบรู ณ์ ประกอบดว้ ย 3 สว่ น คอื พรหมภาค คอื ภาคของพระพรหม วิษณุภาค คือภาคของพระวิษณุ และ รุทรภาค คือ ภาคของพระอิศวร ทง้ั 3 ภาครวมเป็นภาคเดียวกันเรยี กว่า ตรีมูรติ ศิวลึงค์เป็นรูปเคารพแทนองค์พระศิวะหรือ พระอิศวร เป็นตัวแทนอันไม่เป็นรูปมนุษย์ของพระศิวะ และพระอุมา เทพเจา้ สงู สดุ ของลัทธิไศวนกิ าย ศิวลึงค์ทองค�ำ ชาวบ้านขุดพบศิวลึงค์ทองค�ำ 2 องค์ ที่อ�ำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช อายนุ บั 1,000 ปี ศวิ ลงึ คท์ องคำ� ทพี่ บ ถอื วา่ เปน็ โบราณวตั ถขุ นึ้ สำ� คญั มคี ณุ คา่ ทางประวตั ศิ าสตรท์ างโบราณคดอี ยา่ งสงู เพราะแสดงถงึ ความศรัทธาในเทพเจา้ และความรงุ่ เรืองทางการค้าของนครศรีธรรมราชโบราณ เอกสารประกอบการเรยี น 157 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
2) ฐานโยนิโทรณะ ฐานโยนิโทรณะ คือ ฐานที่ประดษิ ฐานศิวลึงค์ มกั จะมีร่องเพอ่ื ให้น�้ำไปลงตามพธิ กี รรมและความ เชื่อในศาสนาพราหมณ์ ได้มีการค้นพบโยนิโทรณะเป็นจ�ำนวนมากในนครศรีธรรมราช โยนิโทรณะเหล่าน้ีส่วนใหญ่ เปน็ ศิลาท้ังส้นิ ในทีน่ ี้อาจจะแบ่งรปู แบบของโยนิโทรณะ ดังกลา่ วออกเปน็ กลมุ่ ๆ ได้ 5 กลมุ่ ดงั นี้ กลุม่ ท่ี 1 โยนิโทรณะท่ีไม่มีร่องรอยการสลัก นับเป็นโยนิโทรณะแบบดั้งเดิม เพราะเป็นเพียงหินท่ีเจาะรูเท่านั้น ไม่มีร่องรอยการประดับตกแต่งแต่อย่างใดเลย มีอายุใกล้เคียงกับศิวลึงค์ รุ่นแรกทีพ่ บในนครศรธี รรมราช คอื ราวต้นพุทธศตวรรษท่ี 12 ส�ำหรบั รู น้นั อาจจะเปน็ สัญลกั ษณ์ของเพศหญิง หรอื ใช้สำ� หรบั เสียบศวิ ลงึ ค์กไ็ ด้ กลุ่มที่ 2 โยนโิ ทรณะทีไ่ ม่ไดเ้ จาะรู เปน็ โยนโิ ทรณะ ท่ีมีร่องรอยการสลักและตกแต่งให้มีรูปร่างและขนาดที่สวยงามรวมทั้งมี ร่องน้�ำ การประดิษฐานศิวลึงค์บนโยนิโทรณะแบบนี้จึงอาจจะวาง ฐานศิวลึงค์ไปบนแผ่นโยนิโทรณะ โยนิโทรณะแบบน้ีมีอายุอยู่ในราว พทุ ธศตวรรษที่ 12-14 กลุ่มที่ 3 โยนิโทรณะทีเ่ จาะรไู มท่ ะลุ เปน็ โยนิโทรณะ แบบหน่ึงมีการตกแต่งองค์ประกอบทั้งภายนอกและภายในเช่นเดียวกับ โยนิโทรณะโดยทั่วไป แต่ทุกรูท่ีเจาะนั้นไม่ได้เจาะให้ผ่านทะลุแผ่นศิลา อาจจะเจาะให้ลึกเพียงครึ่งหน่ึงของแผ่นศิลาเท่าน้ัน มีอายุอยู่ในราวพุทธ ศตวรรษที่ 12-14 เช่นเดยี วกัน กลุ่มที่ 4 โยนโิ ทรณะทเี่ จาะรทู ะลตุ ลอด โยนโิ ทรณะ แบบน้ีมีรูปแบบเหมือนกับแบบท่ีสามทุกประการ หากต่างกันเพียงว่า โยนิโทรณะแบบน้ีมกี ารเจาะรทู ่ตี รงกลาง แผน่ ศิลา โดยเจาะให้รูดงั กลา่ ว ทะลุผ่านแผน่ ศลิ าลงไปโดยตลอด มอี ายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 12-14 เช่นกนั กลุ่มท่ี 5 โยนิโทรณะท่ีฐานสูงมากและมีลวดลาย ประดบั พบโยนโิ ทรณะบางช้ิน ซงึ่ มีความสูงมาก คือ ราว 1 เมตร ลกั ษณะ ทพี่ เิ ศษไปจากแบบอน่ื ๆ คอื เปน็ โยนโิ ทรณะทมี่ ฐี านสงู มากและมลี วดลาย สลักประดับทุกด้านของฐานมีการสลักฐานเป็นลวดบัวขึ้นไปเป็นช้ัน ๆ และมีเสาด้วยเหมือนกับการสลักภาพจ�ำลองอาคาร มีอายุอยู่ในราว พทุ ธศตวรรษท่ี 12-14 158 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
7. พระวษิ ณุ (พระนารายณ)์ พระวิษณุจากหอพระนารายณ์ ณ พิพิธภัณฑสถาน แห่งชาตินครศรีธรรมราช มีดังน้ี พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ศิลา พบทแ่ี หลง่ โบราณคดี ใกลว้ ดั พระเพรง ตำ� บลนาสาร อำ� เภอพระพรหม ประทับยืนบนปทั มอาสน์ รูปแบบเคร่อื งแตง่ กายมเี ค้าโครงของศลิ ปะ อมราวดปี ะปนกบั คุปตะ เชน่ การคาดผา้ คาดวงโค้งกวา้ งและปรากฏ องค์เพศ ตามแบบศิลปะอมราวดี สวมหมวกทรงกระบอก ท่ีประดับ ด้วยลวดลายแสดงความเก่ียวข้องกับศิลปะคุปตะ จากรูปแบบ ศิลปกรรมพบว่า เข้ามาตั้งแต่ระยะแรก ๆของวัฒนธรรมศรีวิชัย โดยเขา้ มาปะปนกันทั้งอินเดียใตแ้ ละอนิ เดยี เหนือ พระวิษณุจากหอพระนารายณ์นครศรีธรรมราช รปู แบบเครอ่ื งแตง่ กายของพระวษิ ณอุ งคน์ ค้ี ลา้ ยคลงึ กบั ศลิ ปะอมราวดี และคุปตะ โดยการคาดผ้าคาดวงโค้งกว้างนั้นปรากฏมาก่อนแล้ว ตงั้ แตศ่ ลิ ปะอมราวดี สว่ นหมวกทรงกระบอกทปี่ ระดบั ดว้ ยดาบวงกลม ที่มีสิงห์คายชายผ้าและยัชโญปวีตเส้นเชือก ก็ล้วนแต่แสดง ความเกี่ยวข้องกับศิลปะคุปตะจากรูปแบบ ศิลปกรรม พบว่า ประตมิ ากรรมน้ี มีอายุคอ่ นขา้ ง “เกา่ ” จากรูปแบบศิลปกรรม พบว่า เป็นประตมิ านวิทยาที่แสดงความเก่าแกข่ องพระวษิ ณอุ งคน์ ี้เช่นกนั 8. ภาชนะดนิ เผาทรงหม้อสามขา สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ยุคหินใหม่ อายุราว 4,000- 2,000 ปี แหลง่ ทพี่ บถำ�้ เขาแอง อำ� เภอนบพติ ำ� จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ ภาชนะรูปแบบพิเศษมี 3 ขา ในจงั หวัดนครศรีธรรมราช พบเศษ ภาชนะแบบหมอ้ สามขาหลายแหง่ เชน่ ทอ่ี ำ� เภอทงุ่ สง อำ� เภอพรหมครี ี อ�ำเภอรอ่ นพบิ ูลย์ และอำ� เภอนบพิตำ� 9. กลองมโหระทึกส�ำรดิ กลองมโหระทึกส�ำริดสมัยก่อนประวตั ิศาสตร์ ยุคโลหะ พบท่บี า้ นเกยี กกาย ต�ำบลท่าเรอื อำ� เภอเมอื ง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นกลองชนิดหน่ึงที่ท�ำจากส�ำริด บนหน้ากลองมักท�ำรูปกบประดับตกแต่ง จึงมีอีกชื่อว่า “กลองกบ” เมอื่ ราว 3,000 ปี ผลติ ขนึ้ เพอื่ ใชต้ ปี ระโคมในพธิ กี รรม ความเชอ่ื ตา่ ง ๆ เชน่ พธิ ศี พ พธิ เี ลยี้ งผี พธิ ขี อฝน ฯลฯ ใชต้ เี รยี กวิญญาณผตู้ ายใหม้ ารบั ของเซน่ ไหว้ หรอื ใช้เปน็ ทตี่ ง้ั วางของเซน่ สังเวย กลองมโหระทึก กลองมโหระทกึ สำ� ริด มีประตมิ ากรรมรปู กบ เอกสารประกอบการเรยี น 159 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
10. เคร่อื งถว้ ยท่พี บในจังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเมืองส�ำคัญมาแต่โบราณมีสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ ทั้งในทวีป เอเชียและยุโรป โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจการค้า จากหลักฐานได้พบเครื่องถ้วยต่าง ๆ จ�ำนวนมาก เช่น เคร่อื งถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ต่าง ๆ เคร่อื งถ้วยอนั นมั (ญวน) เครอ่ื งถว้ ยไทยต้ังแตส่ มัยลพบรุ ี สมัยสโุ ขทยั สมยั อยุธยา จนถงึ สมยั รัตนโกสินทร์ นอกจากนยี้ งั พบเครอ่ื งถว้ ยพน้ื เมอื งในจงั หวดั นครศรธี รรมราช สว่ นใหญเ่ ปน็ เครอ่ื งปน้ั ดนิ เผา ไมเ่ คลอื บ แหลง่ ท่พี บเครอ่ื งถว้ ยพ้นื เมืองท่สี ำ� คัญคอื วดั นาโรง (วดั รา้ ง) ในเขตเมืองโบราณพระเวยี ง เครอ่ื งถ้วยพ้ืนเมืองจังหวดั นครศรีธรรมราช 11. เครื่องมอื หิน สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 2,000-3,000 ปี ราษฎรขุดพบท่ีต�ำบลสระแก้ว อ�ำเภอท่าศาลา จังหวดั นครศรีธรรมราช 160 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
12. เคร่อื งปน้ั ดินเผาศรีวชิ ยั และตามพรลงิ ค์ ภาคใต้ของไทยและหมู่เกาะของประเทศอินโดนีเซียปัจจุบัน ดินแดนแถบนี้มีความเจริญมาต้ังแต่ พุทธศตวรรษท่ี 6 เป็นต้นมา และมาเจริญมากจนสามารถรวมเป็นรัฐศรีวิชัยในพุทธศตวรรษที่ 13 จากน้ัน รัฐตามพรลิงค์ก็มอี ำ� นาจเหนือคาบสมุทรมลายใู นช่วงพุทธศตวรรษท่ี 18 หมอ้ ดินเผา ศิลปะศรวี ิชยั พุทธศตวรรษที่ 13-15 คนทดี นิ เผา ศิลปะศรวี ิชัยพุทธศตวรรษที่ 13-15 จัดแสดงทพี่ ิพิธภณั ฑสถานแหง่ ชาตินครศรีธรรมราช จัดแสดงท่พี ิพธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาตนิ ครศรีธรรมราช ลกั ษณะเครื่องปั้นดินเผาศรวี ิชัย เครอื่ งปน้ั ดนิ เผาพนื้ เมอื ง มอี ายรุ าวพทุ ธศตวรรษท่ี 13-18 เปน็ ภาชนะเนอ้ื ดนิ เผาธรรมดาทไี่ มต่ อ้ งการ ความรอ้ นสูงนัก มผี ลติ ภัณฑท์ ่ีส�ำคัญ คือ คนที (หมอ้ นำ้� ) และหม้อมีเชงิ โดยพบที่อ�ำเภอไชยา จังหวดั สุราษฎรธ์ านี ทอ่ี �ำเภอเมือง จงั หวดั นครศรธี รรมราช ทอี่ ำ� เภอเขาชยั สน จังหวัดพัทลงุ เคร่ืองปั้นดินเผาศรีวิชัย แบ่งตามลักษณะเนื้อดินปั้นออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดหนึ่งเป็นภาชนะที่มี เนอื้ ดนิ เผาหยาบหนา จะเปน็ ภาชนะทใี่ ช้สอยในชีวติ ประจ�ำวนั เช่น หม้อ จาน ชาม พาน และคนที สว่ นอกี ชนิดหนึ่ง เปน็ ภาชนะทม่ี เี นอ้ื ดนิ ปน้ั ขาวบางละเอยี ดสวยงาม ภาชนะเหลา่ นพี้ บมากทบี่ รเิ วณวดั สวนหลวง (รา้ ง) ตำ� บลศาลามชี ยั อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช และท่ี อำ� เภอสทิงพระ จังหวดั สงขลา 13. เคร่ืองถมเมอื งนคร เครือ่ งถมเมืองนคร “เครื่องถม”เป็นวิธีท�ำภาชนะ โดยลงยาตะกว่ั ทบั หรอื ถมรอยเปน็ ลวดลายตา่ ง ๆ เครอ่ื งถมเมอื งนคร เป็นหัตถกรรมชั้นเลศิ ของคนไทย ถอื กำ� เนิดข้ึนในสมยั อาณาจกั รตามพรลิงคต์ ัง้ แตโ่ บราณ ถมนคร ช่ือนเี้ ปน็ ท่รี ้จู กั และนบั เปน็ หนงึ่ ในบรรดาศลิ ปาชพี ช้นั สูงทม่ี ีมาต้ังแตค่ ร้งั อยธุ ยา มอี ยู่ 3 แบบ คือ ถมเงนิ (หรอื ถมดำ� ) ถมทอง และถมตะทอง เครือ่ งถมเมอื งนคร เอกสารประกอบการเรียน 161 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
1) ถมเงนิ หรอื ทน่ี ยิ มเรยี กกนั วา่ ถมดำ� ลกั ษณะเปน็ เนอื้ ถม ทถ่ี มลงไปบนพนื้ ตามรอ่ งลาย เปน็ สดี ำ� มนั ซงึ่ เนอ้ื ถมจะขบั ลวดลายใหเ้ ดน่ งดงามอยบู่ นพน้ื สเี งนิ เปน็ ถมทเี่ กา่ แกท่ สี่ ดุ ตามความนยิ ม ถมเปน็ กรรมวธิ ใี นการผสม ของโลหะสามอย่างเข้าด้วยกัน คือ เงิน ตะกั่ว และทองแดง น�ำมาป่นจนเป็นผงละเอียดเพื่อโรยลงบนพ้ืนแผ่นเงิน ท่ีขดู ร่อง หรอื ตอกเปน็ ลวดลายไว้แลว้ 2) ถมทอง ก็คือถมด�ำน่ันเอง แต่แตกต่างที่ลวดลาย คือ ลายสีเงินได้เปล่ียนเป็นสีทอง ถมทอง มีความงามตรงทเ่ี ปน็ สที อง ลวดลายกระจ่างเดน่ ชดั ทองทที่ าทับกจ็ ะมีความคงทนนบั ร้อยปี 3) ถมตะทอง เปน็ วธิ กี ารระบายทองคำ� ละลายปรอทหรอื แตม้ ทองเปน็ แหง่ ๆ เฉพาะท่ี โดยเอาทองคำ� แทๆ้ ใสล่ งในปรอท ทองละลายอยใู่ นนำ�้ ปรอท เมอ่ื เอานำ้� ปรอททม่ี ที องคำ� ละลายปนอยไู่ ปแตม้ ตามแหง่ ทตี่ อ้ งการให้ เปน็ สที องนนั้ ในขน้ั แรกปรอทจะยงั คงอยู่ เมอ่ื ไลด่ ว้ ยความรอ้ นปรอทจะหนี ทองกจ็ ะตดิ แนน่ อยบู่ นตำ� แหนง่ หรอื ลาย ท่ีแต้มทองน้ัน การแต้มทองหรือระบายทองในท่ีบางแห่งของถมด�ำเป็นการเน้นจุดเด่น ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีความนิยมในถมตะทองมากกวา่ ถมทอง 162 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
14. สายสร้อยสามกษัตริย์ เป็นหัตถศิลป์เอกลักษณ์ของเมืองนครอีกอย่างหน่ึง เริ่มจากช่างทอง ช่างเงิน จากเมืองไทรบุรี ที่ถูกกองทัพเจ้าพระยานครศรีธรรมราชยกไปตีและกวาดต้อนมาในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยชาวไทยมุสลิม เหลา่ นร้ี วมกลมุ่ ตงั้ หลกั แหลง่ อยทู่ บ่ี รเิ วณทา่ ชา้ ง หลงั สนามหนา้ เมอื ง ซง่ึ ตอ่ มาวดั ทา่ ชา้ งอารามหลวงรา้ งลง จงึ ไดส้ รา้ ง มัสยิดซอลาฮดุ ดนี ขึ้นแทน และบรเิ วณตลาดแขก โดยยงั คงประกอบหัตถศลิ ป์ เครอื่ งทองเงินสืบมา เอกสารประกอบการเรยี น 163 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
กจิ กรรมหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 11 โบราณสถานและโบราณวัตถนุ ครศรีธรรมราช จงตอบค�ำถามต่อไปนี้ทกุ ขอ้ 1. “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ได้รบั พระราชทานนามจากพระมหากษัตรยิ ์พระองค์ใด …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………………....……… …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………....……………… 2. จงบอกความส�ำคัญของวิหารพระม้า พอเป็นสงั เขป …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………………....……… …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………....……………… 3. พระอโุ บสถทใ่ี หญ่ท่สี ดุ ในภาคใต้อยูท่ ่ีจงั หวดั ใด …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………………....……… …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………....……………… 4. แหล่งนำ้� ศักด์ิสทิ ธ์ใิ นจังหวัดนครศรีธรรมราชมีก่ีแหลง่ พอเปน็ สงั เขป …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………………....……… …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………....……………… 5. จงบอกความส�ำคญั ของแหลง่ นำ้� ศกั ดสิ์ ิทธิ์ พอเป็นสงั เขป …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………………....……… …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………....……………… 6. โบราณสถาน เหมอื น หรือแตกต่างจากโบราณวัตถุอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………………....……… …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………....……………… 7. จงให้คำ� จำ� กัดความของค�ำว่า “ตรมี รู ต”ิ มาให้เข้าใจ …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………………....……… …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………....……………… 8. คำ� ว่า “ยคุ หินใหม”่ หมายความว่าอย่างไร พร้อมยกตวั อย่าง ? …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………………....……… …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………....……………… 9. กลองมะโหรทกึ ส�ำรดิ เป็นโบราณวตั ถุ พบท่อี �ำเภอใดของจงั หวดั นครศรีธรรมราช ? …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………………....……… …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………....……………… 10. จงยกตัวอยา่ งโบราณวตั ถทุ พี่ บในจังหวดั นครศรธี รรมราช มาอยา่ งน้อย 5 ชนดิ ? …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………………....……… …………………………………………………………………………………………………..……………………….……………....……………… 164 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 12แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วในจังหวัดนครศรธี รรมราช แหล่งท่องเท่ียวในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นไปตาม ค�ำขวัญส่งเสริมการท่องเที่ยวประจ�ำ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ประเภทแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว การปฏบิ ตั ติ นเปน็ นกั ทอ่ งเทยี่ วทด่ี ี การมคั คเุ ทศกท์ ดี่ ี การอนรุ กั ษ์ การทอ่ งเทย่ี ว กลยทุ ธก์ ารพฒั นาการทอ่ งเทยี่ ว และหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วกบั การพฒั นาการทอ่ งเทยี่ วจงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ จงั หวดั ทม่ี แี หลง่ ประวตั ศิ าสตร์ รอ่ งรอยอารยธรรม มธี รรมชาติ ภเู ขา ปา่ ไม้ ชายทะเล ทส่ี มบรู ณแ์ ละสวยงาม จงึ เปน็ ทมี่ าของคำ� ขวญั สง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วประจำ� จงั หวดั นครศรธี รรมราช เพอ่ื เปน็ การ เรือ่ งที่ 1 ค�ำ ขวญั สง่ เสรมิ การท่องเท่ยี วประจำ�จงั หวัดนครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่มีแหล่งประวัติศาสตร์ ร่องรอยอารยธรรม มีธรรมชาติ ภูเขา ป่าไม้ ชายทะเล ท่ีสมบูรณ์และสวยงาม จงึ เปน็ ทม่ี าของคำ� ขวญั ส่งเสรมิ การท่องเที่ยวประจ�ำจังหวดั นครศรีธรรมราช เพ่อื เปน็ การประชาสมั พันธแ์ ละสง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วของจงั หวัดนครศรีธรรมราช ดงั นี้ เมอื งประวัตศิ าสตร์ พระธาตทุ องค�ำ ชนื่ ฉ่ำ� ธรรมชาต ิ แรธ่ าตุอดุ ม เคร่ืองถม สามกษัตริย์ มากวดั มาศิลป ์ ครบสิน้ กุง้ ปู เร่อื งที่ 2 ประเภทแหล่งท่องเทีย่ วในจังหวดั นครศรธี รรมราช แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วที่ มคี วามลำ�้ คา่ ทง้ั ทะเล ภเู ขา นำ�้ ตก ความงดงามทางดา้ นศลิ ปวฒั นธรรม และวถิ ชี าวบา้ น จงึ เปน็ ทมี่ าของประเภทการทอ่ งเทยี่ วในจังหวดั นครศรธี รรมราชดังนี้ 1. แหล่งทอ่ งเท่ียวประเภทภเู ขาและนำ�้ ตก 1) ยอดเขารามโรม เข า ร า ม โร ม เ ป ็ น ภู เข า ที่ ตั้ ง อ ยู ่ ใ น อ�ำเภอรอ่ นพิบูลย์ เปน็ ยอดเขาทสี่ ูงจากระดบั น้าํ ทะเล ประมาณ 986 เมตร มเี ทอื กเขาทสี่ ลบั ซบั ซอ้ น ทำ� ใหม้ วี วิ ทวิ ทศั นท์ สี่ วยงาม สามารถมองเหน็ ได้ 360 องศา มีสภาพเป็นปา่ ดงดบิ ทส่ี มบูรณ์ มาก มีเฟิร์นล้านปี มหาสะด�ำและดอกไม้นานาพันธุ์ สัตว์ป่า นานาชนิดเตม็ ไปท่วั พ้ืนท่ี อุณหภมู อิ ยู่ระหว่าง 19 - 26 องศา เซลเซยี ส ตลอดท้ังปี อากาศหนาวท่ีสุดอยใู่ นชว่ ง เดือนธันวาคม ถงึ เดอื นกมุ ภาพันธ์ เอกสารประกอบการเรียน 165 รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
2) ทะเลหมอกเขาเหลีย้ ม ทะเลหมอกเขาเหล้ียม ตั้งอยู่ที่ ต�ำบลกรุงชิง อ�ำเภอนบพิต�ำ เป็นสถานท่ีท่องเที่ยว ท่ีเกิด จากกลุ่มการท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์ทะเล หมอกเขาเหลี้ยม เป็นกลุ่มเยาวชนท่ีมีใจรักส�ำนึกรักบ้านเกิด จึงได้มีการ รวมกลมุ่ เพอ่ื อนรุ กั ษห์ วงแหนชมุ ชนของตนเอง และตอ้ งการ ใหค้ นอน่ื ไดเ้ หน็ ถงึ ความอดุ มสมบรู ณ์ ของตำ� บลกรงุ ชงิ โดยรว่ ม กับสมาชิกจัดกิจกรรมน�ำนักท่องเท่ียวชมทะเลหมอก ในยามเช้าบริการขนม จิบกาแฟเคล้าสายหมอกอันสดช่ืน ยามเชา้ ทา่ มกลางอากาศ ท่ีเย็นสบาย ทะเลหมอกเขาเหล้ยี ม 3) น้ำ� ตกพรหมโลก นา้ํ ตกพรหมโลก ตัง้ อยู่ในท้องทีห่ มทู่ ่ี 5 ตำ� บลพรหมโลก อำ� เภอพรหมครี ี มีพน้ื ทสี่ งู ชัน มตี ้นไม้ และพรรณไมข้ นาดใหญข่ นึ้ อยเู่ ปน็ จำ� นวนมาก ชาวบา้ นสมยั กอ่ นเชอื่ กนั วา่ สถานท่ี บรเิ วณนเี้ ปน็ สถานทม่ี สี ง่ิ ศกั ดส์ิ ทิ ธิ์ มาสิงสถติ โดยเฉพาะเทพชน้ั พรหมทั้งโลกไดม้ าสิงสถิตบน ช้ันนํ้าตกจึงได้ตั้งช่ือ “น้�ำตกพรหมโลก” มาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งน้ี น้�ำตกพรหมโลกถือเป็นน�้ำตกที่มีความส�ำคัญ ทางประวัติศาสตร์ท่ีโดดเด่นของจังหวัดนครศรีธรรมราช กลา่ วคอื เม่ือวนั ท่ี 15 มีนาคม พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช และสมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิตพระบรมราชินีนาถ ได้เสร็จประพาสและได้จารึก พระปรมาภิไธยย่อ ภปร และ สก ท่ีหน้าผาช้ันน้ําตก ช้ันท่ี 1 หนานบ่อนํ้าวน น้�ำตกพรหมโลกเป็นน้�ำตกขนาดใหญ่ท่ีสวยงาม มีชั้นนํ้าตกประมาณ 50 ช้ัน เปิดบริการ ให้เข้าชมได้เพียง 4 ชน้ั คอื หนานจงั บ่อน้�ำวน หนานจังไม้ปัก หนานจังหัวบวั และหนานจังอ้ายแล 4) นำ�้ ตกกรุงชิง นํ้าตกกรุงชิง ต้ังอยู่ในท้องที่ต�ำบลกรุงชิง อ�ำเภอนบพิต�ำ “กรุงชิง” เป็นชื่อสถานที่ที่เช่ือกันว่า เคยเปน็ ชมุ ชนมาแตส่ มยั โบราณ เปน็ พนื้ ทท่ี ม่ี ปี ระวตั กิ ารตอ่ สอู้ นั เกดิ จากความขดั แยง้ ในดา้ นความคดิ ในการปกครอง พ้ืนท่ี ผืนป่ากรุงชิง ถูกครอบครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 ต่อมาฝ่ายรัฐบาล สามารถยึดพ้ืนที่ได้ ท�ำให้พรรคคอมมิวนิสต์ที่กรุงชิงแตก ในปี พ.ศ. 2524 ค�ำว่า “ชิง” เป็นชื่อของต้นชิง ซึ่งเป็น พนั ธุไ์ ม้ ในตระกลู ปาล์มชนดิ หนง่ึ ทมี่ มี ากในเขตน้ีปา่ กรงุ ชงิ สภาพพนื้ ทขี่ อง กรงุ ชงิ เปน็ พน้ื ทรี่ าบสงู และมภี เู ขาลอ้ มรอบ ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า “อ่าวกรุงชิง” น้�ำตกกรุงชิง เป็นน้ําตกขนาดใหญ่ เกิดจากคลองกรุงชิง ซ่ึงไหลตัดผ่าน หุบผาหินแกรนิต ลดระดับตามความลาดเอียงของภูเขาก่อเกิดเป็นชั้นน�้ำตกอันงดงาม น้�ำตกกรุงชิงเปิดให้เท่ียวชม จ�ำนวน 7 ชั้น คือ หนานมัดแพ หนานฝนแสนห่า ซึ่งเป็นช้ันที่งดงามท่ีสุด ซ่ึงต้องเดินไปเป็นระยะทางประมาณ 166 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
4 กโิ ลเมตร หนานปลวิ หนานจน หนานโจน หนานต้นตอ และหนานจงั เรอื บนิ นอกจากการเทย่ี วชมนา้ํ ตกและศกึ ษา ประวัติศาสตร์แล้ว น้�ำตกกรุงชิงยังมีแหล่งธรรมชาติและ ความหลากหลายทางชีวภาพท่ีสวยงาม มีเส้นทางเดินป่า ศกึ ษาธรรมชาติ เขา้ คา่ ยอนุรักษธ์ รรมชาติ ศึกษาพรรณไม้ และชมนก อีกดว้ ย ทัง้ นี้ นำ�้ ตกกรงุ ชงิ มีชน้ั น้ำ� ตกที่สวยงาม โดยเฉพาะหนานฝนแสนห่า พิมพ์ลงในธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ฉบบั วันท่ี 30 มถิ ุนายน 2535 เปน็ ชั้นนํ้าตก ทีส่ วยที่สุดของน้ำ� ตกกรุงชงิ 5) นำ้� ตกกะโรม นํ้าตกกะโรม ตง้ั อยหู่ มู่ท่ี 4 ตำ� บลเขาแก้ว อ�ำเภอลานสกา จงั หวดั นครศรธี รรมราช อยภู่ ายใน ทท่ี �ำการอุทยานแหง่ ชาติเขาหลวง กอ่ ตัง้ เมื่อ พ.ศ. 2517 ช่อื “น�้ำตกกะโรม” นี้ คาดว่ามาจากช่ือของภูเขาที่ชาวบ้าน ในท้องท่ีเรียก “เขาโหรม” และล�ำคลองที่ไหลมาจาก น�ำ้ ตกกะโรม ก็เรยี กวา่ “คลองโหรม” ต่อมาเรียกเพ้ียนเป็น “กะโรม” และ ใช้ชื่อว่า “น้ําตก กะโรม” มาจนถึงทุกวันน้ี เป็นแหล่ง ท่องเท่ียวทางธรรมชาติท่ีสวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยาน แหง่ ชาตเิ ขาหลวง มีช้ันน้าํ ตกทงั้ หมด 19 ช้นั เปิดบริการให้ ท่องเท่ียวชมความหลากหลายของธรรมชาติเพียง 4 ช้ัน ไดแ้ ก่ ชน้ั 4 หนานน้ําราง ชนั้ 5 หนานผ้งึ ชน้ั 6 หนานเตย และช้ัน 7 หนานดาดฟ้า ซ่ึงเป็นชั้นที่สวยงามที่สุดแลเห็นสายนํ้าพร่ังพรูลงจากหน้าผาสูงและลาดชัน 45 องศา ลดหล่ันลงมาตามโขดหินกว้างจนถึงแอ่งน้�ำใหญ่เบื้องล่าง สายน้ําจะไหลแยกเป็น 2 สาย ช่วงหน้าฝนสายน้ํา จะไหลหลากแผ่เต็มหนา้ ผาน่าชมมาก ท้ังน้ี น้ำ� ตกกะโรม มีข้อมูลทางประวตั ิศาสตร์ ดงั นี้ ปี พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่ืนด�ำรงราชานุภาพ พร้อมด้วยลูกยาเธอ 4 พระองค์ ได้เสด็จทอดพระเนตรน้�ำตกกะโรมโดยประทับช้าง เปน็ พาหนะ แต่ไมไ่ ด้สลกั พระปรมาภไิ ธยยอ่ ไว้เป็นหลกั ฐาน ปี พ.ศ. 2458 สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ ภาณรุ งั สสี วา่ งวงศ์ กรมพระยาภาณพุ นั ธวุ งศว์ รเดช ได้เสด็จประพาสน้ําตกกะโรม โดยประทับช้างเป็นพาหนะ และสลักริมหน้าผาน้ําตกช้ัน 7 หนานดาดฟ้า เป็นรูปพระอาทิตยแ์ ผ่รัศมี ปี พ.ศ. 2460 พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว รชั กาลท่ี 6 ไดเ้ สรจ็ โดยรถยนต์พระทนี่ ง่ั พร้อมข้าราชบริพาร เสร็จประทับทอดพระเนตรนํ้าตกกะโรม และทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ วปร 2460 ไว้ที่หน้าผานํา้ ตกชั้น 7 หนานดาดฟา้ และไดท้ รงน�ำความงามของน้าํ ตกนีไ้ ปเป็นฉากในบทละครเร่ืองหลวงจ�ำเนยี ร เดนิ ทาง ในพระราชนิพนธ์ เอกสารประกอบการเรียน 167 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
6) พทุ ธสถานถ้�ำตลอด ถํา้ ตลอด เป็นสถานทีท่ อ่ งเท่ยี วเกา่ แก่ หา่ งจากทวี่ า่ การอำ� เภอทงุ่ สง 500 เมตร ไปทางโรงพยาบาล ทุ่งสง เปน็ ถา้ํ ขนาดเลก็ ในภเู ขาที่ มชี ่ือเรียกวา่ เขาชยั ชุมพล โดยตัวถํ้าสามารถเดินทะลุเขาชัยชุมพลกันได้ จึงได้ช่ือว่า ถ้ําตลอด ภายในถ้�ำมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ และบริเวณใกลเ้ คยี งกนั น้นั ยังมีพระพทุ ธรปู ปางตา่ ง ๆ อกี นบั สบิ รปู ลว้ นแลว้ แตเ่ ปน็ ศลิ ปะเกา่ แกท่ ย่ี งั มสี ภาพสมบรู ณ์ และบนผนงั ถา้ํ ยงั มจี ติ รกรรมฝาผนงั ทแี่ สดงถงึ เรอ่ื งราวเกยี่ ว กบั พทุ ธประวัติ อนั เปน็ ผลงานของอาจารย์ แนบ ทิชนิ พงศ์ จติ รกรมชี อ่ื เสยี งชาวนครศรธี รรมราช บรรยากาศภายในถาํ้ ยังมีความเย็นสบายเหมาะส�ำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และแสวงบญุ เปน็ อยา่ งยงิ่ โดยเปน็ ถาํ้ ทส่ี ามารถเดนิ ทะลไุ ด้ 7) ถำ�้ หงส์ ถาํ้ หงส์ ตง้ั อยทู่ ่ี บา้ นพติ ำ� หมทู่ ่ี 3 ตำ� บลกรงุ ชงิ อำ� เภอนบพติ ำ� จงั หวนั ครศรธี รรราช เปน็ ถำ้� ทปี่ ระกอบ ไปดว้ ยหนิ งอกหนิ ยอ้ ยแปลกตามากมาย ถาํ้ แหง่ นค้ี น้ พบเมอื่ พ.ศ.2537 ตงั้ อยใู่ นเขตอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขานน ภายในถาํ้ มธี ารนาํ้ ไหลผา่ นตลอดแนวถา้ํ กอ่ นไหลลงใตด้ นิ ไปสลู่ ำ� ธาร ภายนอก มีหินงอก หินย้อยรูปร่างแปลกตามากมาย และมีลักษณะพิเศษคือ มีน้ําตกภายในถ้ํามากกว่า 5 ชั้น การเดนิ ชมถ้าํ จะตอ้ งเดนิ ลุยน้ําไป ในถ้าํ มคี ้างคาวอาศัยอยู่ เป็นจ�ำนวนมาก เป็นถ้ําท่ีเหมาะหรับส�ำหรับการศึกษา การกำ� เนดิ ของหนิ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี สว่ นในฤดฝู นจะมนี าํ้ หลาก จงึ ไม่เหมาะแกก่ ารทอ่ งเทยี่ ว ที่มาของการเรียกชอื่ ถ้าํ หงส์ เนื่องมาจากต�ำนานท่ีเล่ากันว่ามีนายพรานเข้าป่าไปล่าสัตว์และพบหงส์อยู่ภายในถ้ําหงส์ เป็นถํ้าขนาดกลาง ปากถํ้าคอ่ นขา้ งเล็กขนาดคนลอดได้ทีละคนตอ้ งใช้ความระมัดระวงั ในการลง ไตล่ ง ไปในถํ้า ภายในถํา้ มธี ารนํ้าไหล ผา่ นตลอดแนวถํ้า ก่อนไหลลงใต้ดนิ ไปสู่ลำ� ธารภายนอก ไหลผ่านหินดา้ นหนงึ่ ได้ ความยาว ประมาณ 300 เมตร 8) อทุ ยานบ่อน้ําร้อน น�ำ้ พุรอ้ น 168 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
อทุ ยานบอ่ นาํ้ รอ้ น ตงั้ อยหู่ มทู่ ี่ 6 ตำ� บลวงั หนิ อำ� เภอบางขนั จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ อกี หนงึ่ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทต่ี ง้ั อยใู่ นเขตพนื้ ทข่ี องวดั อทุ ยานบอ่ นา้ํ รอ้ น ซง่ึ นำ้� พรุ อ้ นแหลง่ นมี้ อี ณุ หภมู ทิ ผี่ วิ ดนิ ประมาณ 55 องศาเซลเซยี ส ปัจจุบันถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นบ่อน้ําพุร้อนท่ีมีความพร้อมพัฒนา และมศี กั ยภาพในการตอ้ นรบั นกั ทอ่ งเทยี่ วและมสี งิ่ อำ� นวยความสะดวก พนื้ ฐานประกอบกบั อยใู่ กลเ้ สน้ ทางคมนาคม สายหลกั 2. แหล่งทอ่ งเที่ยวประเภทสถานท่ี จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดขนาดใหญ่ ในแต่ละอ�ำเภอจะมีแหล่งท่องเที่ยวสถานที่ส�ำคัญ ทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี มคี วามสมบูรณข์ องธรรมชาติ ภูเขา ปา่ ไม้ ชายทะเล และวิถชี วี ติ ของผคู้ นทีส่ บื ทอดกันมา ท่ีนา่ สนใจศกึ ษาและเรยี นรู้แกช่ าวนครศรธี รรมราชและบุคคลจงั หวดั อื่น ๆ ดงั น้ี 1) วัดพระมหาธาตวุ รมหาวหิ าร วัดพระมหาธาตวุ รมหาวหิ าร ตง้ั อยู่ตำ� บลในเมอื ง อำ� เภอเมืองนครศรีธรรมราช เปน็ ปูชนยี สถาน ท่ีส�ำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ที่เปรียบดังศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชและชาวใต้ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนั้น เป็นพระอารามหลวง ช้ันเอก ช้ันวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ เป็น ปูชนียสถานที่ส�ำคัญท่ีสุดแห่งหนึ่งของภาคใต้และ ประเทศไทยทม่ี หี ัวใจสำ� คัญ คอื องค์พระบรมธาตุเจดยี ์ที่มี สว่ นยอดเจดยี เ์ ปน็ ทองคำ� ซงึ่ พระบรมธาตอุ งคน์ ี้ สรา้ งขนึ้ มา เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุหรือ พระเชย้ี วแกว้ เบอ้ื งซา้ ย) อนั เปน็ ทสี่ กั การะบชู าของชาวเมอื ง นครศรธี รรมราช ตามตำ� นานพระบรมธาตนุ ครศรธี รรมราช กล่าวว่า เจา้ ชายธนกมุ ารและพระนางเหมชาลา เปน็ ผู้น�ำ เสด็จพระบรมธาตุมาประดิษฐาน ณ หาดทรายแก้ว และสร้างเจดีย์องค์เล็ก ๆเป็นที่หมายไว้ต่อมาในปี มหาศกั ราช 1098 (พ.ศ.1719) พระเจา้ ศรีธรรมาโศกราช ทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมก่อสร้างเจดีย์ องคใ์ หม่ เปน็ เจดีย์ทรงลงกาสงู 55.78 เมตร (กรมศิลปากร บูรณะปลียอดทองค�ำเม่ือ พ.ศ. 2538) จากฐานบัวควํ่า บัวหงายถึงปลียอดสูง 6.80 เมตร ใช้ทองค�ำเน้ือสิบหุ้ม โดยรอบ ภายในวัดพระมหาธาตุๆ มีวิหารท่ีมีความส�ำคัญประดิษฐานอยู่หลายหลัง ท้ังนี้ พระบรมธาตุเจดีย์ องคพ์ ระมหาธาตปุ ระกอบด้วยทองรูปประพรรณ และของมีค่ามากมาย ซึง่ ส่งิ มีคา่ เหล่านพ้ี ทุ ธศาสนกิ ชนน�ำมาถวาย แดอ่ งคพ์ ระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ เพอื่ ใหต้ นไดพ้ บกับนพิ พาน มพี ธิ ปี ฏิบัติอย่างหน่ึงตอ่ องค์พระธาตุ คือ ในวันมาฆบูชา แห่ผา้ ขึน้ ธาตุ เช่อื กนั ว่าหากใครไดน้ ำ� ผ้าขนึ้ ธาตุ จะขอพรไดเ้ ปน็ จริงดังหวัง เอกสารประกอบการเรยี น 169 รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
2) ศาลหลกั เมอื งนครศรีธรรมราช ศาลหลกั เมืองนครศรธี รรมราช ต้ังอยู่ต�ำบลคลงั อ�ำเภอเมอื งนครศรีธรรมราช เป็นท่ปี ระดษิ ฐาน หลกั เมอื งของจงั หวดั นครศรธี รรมราช สรา้ งขนึ้ ในทดี่ นิ ราชพสั ดุ บรเิ วณทศิ เหนอื ของสนามหนา้ เมอื ง มเี นอื้ ทป่ี ระมาณ 2 ไร่ อาคารหลัก ประกอบไปดว้ ยอาคาร 5 หลงั หลังกลาง เป็นที่ประดิษฐานหลักเมือง ลักษณะของการออกแบบ มีศิลปะคล้ายศิลปะศรีวิชัย วางศิลาฤกษ์ เม่ือวันที่ 4 สิงหาคม 2532 ส่วนอาคารเล็ก 4 หลัง ถือเป็นบริวาร ประจ�ำ ทิศท้ัง 4 เรียกว่า ศาลจตุโลกเทพ ประกอบด้วย พระเส้ือเมือง พระทรงเมือง พระพรหมเมือง และ พระบนั ดาลเมอื ง องคเ์ สาหลักเมอื งทำ� ดว้ ยไม้ตะเคียนทอง ที่ได้มาจากภูเขายอดเหลืองอันเป็นภูเขาลูกหน่ึงในทิวเขา นครศรีธรรมราช สว่ นบนของเสาเปน็ รปู จตุคามรามเทพ (สพี่ กั ตร์) โดยองคเ์ สาหลกั เมืองทำ� ดว้ ยไม้ตะเคยี นทองท่ไี ด้ มาจากภูเขายอดเหลือง อันเป็นภูเขาลูกหน่ึงในทิวเขานครศรีธรรมราช ในท้องที่ต�ำบลกระหรอ อ�ำเภอนบพิต�ำ จงั หวดั นครศรธี รรมราช สว่ นบนของเสาเปน็ รปู จตคุ ามรามเทพ (สพี่ กั ตร)์ หรอื เทวดารกั ษาเมอื ง เหนอื สดุ เปน็ เปลวเพลง อยบู่ นยอดพระเกตุ คอื ยอดชยั หลกั เมอื ง รปู แบบการแกะสลกั จนิ ตนาการจากความเชอ่ื ในพทุ ธศาสนาฝา่ ยมหายาน ซึ่งเคยมอี ิทธพิ ลทางศิลปกรรม ในภาคใต้และนครศรธี รรมราช 3) ก�ำแพงเมืองเก่านครศรีธรรมราช ก�ำแพงเมืองเก่านครศรีธรรมราช ต้ังอยู่ริมคลองหน้าเมือง ถนนมุมป้อม อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ของต�ำนานเมอื งนครศรีธรรมราช กำ� แพงเมืองน้ันสร้างขนึ้ ตงั้ แตส่ มยั พระเจา้ ศรธี รรมโศกราช กษตั รยิ ์ผปู้ กครองเมืองนครในอดตี โดยพระองค์ไดส้ รา้ งเมอื งขึ้นทห่ี าดทรายแกว้ จากนั้นพระองค์ก็ได้สร้างก�ำแพงเมือง ซึ่งเป็นก�ำแพงดินที่ล้อมรอบด้วยคูเน่ืองจากก�ำแพงเมืองท่ีพระเจ้า ศรีธรรมโศกราช สร้างขึ้นนั้นเป็นก�ำแพงดิน จึงได้มีการบูรณะก�ำแพงเมืองในส่วนต่าง ๆ หลายคร้ัง แต่ยังคงรักษา แนวก�ำแพงเดิมเอาไว้ สมัยที่มีการบูรณะก�ำแพงเมืองคือ ในสมัยสมเด็จพระราเมศวรแห่งกรุงศรีอยุธยา ปีพทุ ธศักราช 1950 ก�ำแพงเมอื งเกา่ นครศรธี รรมราช (ภาพปจั จบุ นั ) 170 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ภาพอดตี เมืองคอนกำ� แพงเมือคอน รัชกาลท่ี 5 ทรงถ่ายเมอื่ 3 ก.ค. 2448 ภาพจากคุณสารทั (นิก) ชะลอสันตสิ กลุ สำ� นกั ศลิ ปากร ที่ 14 เมืองคอน ข้อมูลจากหนังสือ เร่ืองจัดราชการเมืองนครศรธี รรมราช ลว.7 มค.รศ.115 ของเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย มอบโดยอาจารยส์ มชาย เปล่ียวจติ ร วทิ ยาลยั ศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราช 4) หอพระอศิ วร หอพระอศิ วร ตั้งอยู่ต�ำบลคลัง อ�ำเภอเมอื งนครศรีธรรมราช สนั นษิ ฐาน ว่าสร้างในสมัยอยุธยา แตข่ องเดมิ ชำ� รดุ ไปหมดแลว้ สว่ นอาคารทปี่ รากฏอยใู่ นวนั นเ้ี ปน็ อาคารทกี่ รมศลิ ปากร บรู ณะขน้ึ ใหม่ เมอื่ พ.ศ. 2509 ทางด้านเหนือของหอพระอิศวรเป็นวัดเสมาเมือง ทางด้านใต้เป็นเสาชิงช้า ซึ่งสร้างข้ึนใหม่แทนของเก่า ซ่ึ ง ใ ช ้ ใ น พิ ธี ยั ม ป ว า ย แ ล ะ ต รี ป ว า ย ข อ ง พ ร า ห ม ณ ์ เมืองนครศรีธรรมราช โดยจ�ำลองแบบมาจากเสาชิงช้า ในกรุงเทพฯ แต่มีขนาดเล็กกว่า เดิมหอพระอิศวรเป็นท่ี ประดิษฐานเทวรูปพระอิศวรหลายองค์ เป็นปางหรือ ภาคตา่ ง ๆ กนั ซงึ่ เปน็ เทพสงู สดุ ตามความเชอื่ ของพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย แต่เดิมใกล้ ๆ กับเสาชิงช้า มีโบสถ์พราหมณ์อยู่หลังหนึ่ง แต่ปัจจุบันผุพังลงจนไม่เหลือซากแล้ว ภายในบริเวณโบสถ์เป็นแหล่งท่ีพบช้ินส่วนเทวรูปที่หล่อด้วยส�ำริดอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18 - 25 หลายองค์ ดว้ ยกัน อาทิ พระพิฆเนศวร พระศวิ ะ นาฏราช พระอมุ า และรปู หงส์ นับว่าเก่าแก่มคี ่ายง่ิ นัก ซึง่ ตอ่ มาได้ย้ายมาไว้ ในหอพระอิศวร 5) หอพระนารายณ์ หอพระนารายณ์ ตงั้ อยู่ ถนนราชดำ� เนนิ ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ตรงข้าม หอพระอิศวรเป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไวษณพนิกาย ซ่ึงนับถือพระนารายณ์เป็นเทพสูงสุด มีเทวรูป พระนารายณ์ ประดิษฐานอยู่อาคาร หอพระนารายณ์เดิมไม่สามารถสืบทราบรูปแบบได้แล้ว สงิ่ ทพี่ บภายในหอพระนารายณ์ ไดแ้ ก่ เทวรปู พระนารายณ์ หอพระนารายณ์ เอกสารประกอบการเรยี น 171 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
สลกั จากหนิ ทรายสเี ทาทรงหมวกรปู กระบอกปลายสอบ และพระหตั ถข์ วาทรงสงั ข์ มอี ายรุ าวพทุ ธศตวรรษที่ 10 - 11 นับเป็นเทวรูปที่เก่าแก่ท่ีสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช 6) วงั โบราณ ลานสกา อ�ำเภอลานสกา จากต�ำนานพระเจ้าศรีธรรมโศกราชของ จังหวัดนครศรีธรรมราช ของวัดมหาธาตุวรมหาวิหาร ว่าประมาณปี 1700 - 1800 เมืองนครศรีธรรมราช มีกษัตริย์สามพี่น้อง พระเชษฐา ทรงพระนามว่า “พระเจ้า ศรีธรรมโศกราช” องคร์ องช่อื “จันทรภาณุ” องค์สุดทา้ ย นามว่า “พงษาสุระ” ทุกพระองค์ครองราชย์จะทรง พระนามวา่ พระเจา้ ศรธี รรมโศกราช ทง้ั หมดในชว่ งนไี้ ดส้ รา้ ง ความเจริญให้กับอาณาจักรเป็นอย่างมากท้ังโดยได้ ครอบครองเมืองทั้งหลายตลอดแหลมมลายู เรียกว่าเมือง สิบสองนักษัตร ถือรูปดอกบัว เป็นสัญลักษณ์ประจำ� เมือง นอกจากน้ีพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ได้บูรณะพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช ซึง่ แบบเดมิ เปน็ แบบศรีวชิ ัย ใหเ้ ปน็ แบบ ลังกา โดยก่อครอบเจดีย์เดิม เม่ือส้ินสมัยกษัตริย์ปกครอง ตอ่ มาในสมัยพ่อขนุ รามค�ำแหงไดม้ ีการสร้างระเบยี งรอบองค์พระบรมธาตุ ท�ำก�ำแพงรอบทั้งสีด่ ้าน สรา้ งวหิ ารติดกับ องค์เจดีย์ใหญ่ และสร้างพระพุทธรูปข้ึนแทนองค์พระเจ้าศรีธรรมโศกราชเพ่ีอประดิษฐานไว้ในวิหารสามจอม และเรียกกนั ต่อมาวา่ วิหารพระเจา้ ศรธี รรมโศกราช ในสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราชได้เกิดโรคห่าระบาด หลายครัง้ พระองค์ต้องอพยพประชากรหนีโรคภัยออกจากเมืองหลายคร้ัง ตามหลักฐานได้ปรากฏว่าหนีมาที่ลานสกา และสถานที่ประทบั ก็คือ วงั โบราณแหง่ นี้ 7) วัดธาตุนอ้ ยอ�ำเภอชา้ งกลาง วัดธาตุน้อย หรือ วัดพระธาตุน้อย ต้ังอยู่ในเขตต�ำบลหลักช้าง อ�ำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ต้ังขึ้นโดยความประสงค์ของพ่อท่านคล้าย (พระครูพิศิษฐ์อรรถการ) พระเกจิอาจารย์ ท่ีชาวใต้เส่ือมใสศรัทธาอย่างสูงย่ิงรูปหนึ่ง ซ่ึงศิษยานุศิษย์ และประชาชนที่เคารพนับถือ ศรัทธา พ่อท่านคล้ายได้ เชอ่ื ถอื ถงึ ความศกั ดิ์สิทธิข์ องวาจา พดู อยา่ งไรเปน็ อยา่ งน้ัน ท่านมักจะให้พรกับทุกคน ขอให้เป็นสุข เป็นสุข พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ได้ช่ือว่าเป็นเทวดาเมืองคอน เทพเจ้าแห่งแดนใต้ ชาวเมืองคอนเส่ือมใสศรัทธา เป็นอย่างยิ่ง โดยประดิษฐานพระเจดีย์ พระสารีริกธาตุ และสรีระสังขาร พ่อท่านคล้ายในโลงแก้ว ประดิษฐาน อยใู่ นองคพ์ ระเจดยี ์ ณ สถานทน่ี ี้ จงึ เปน็ เจดยี อ์ นสุ รณส์ ถาน พ่อท่านคล้าย 172 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
8) วดั หรงบน วัดหรงบน ค�ำน้ีเป็นที่สงสัยกันมากว่า หมายความวา่ อยา่ งไร บางคนวา่ เปน็ ชอ่ื ตน้ ไม้ หรอื เพย้ี นมา จากคำ� วา่ หงษ์ เนอ่ื งจากวดั บรเิ วณแถบนท้ี กุ วดั จะมรี อ่ งรอย เสาหงษ์ เปน็ ชากเสาไมใ้ หเ้ หน็ อยหู่ ลายวดั เมอื่ มกี ารสำ� รวจ วดั ปี 2497 นบั เปน็ ครงั้ แรกของการบนั ทกึ อาจมกี ารบนั ทกึ ผิดจะเพี้ยนเพราะส�ำเนียงพูดหรือการเขียนหนังสือไม่เก่ง ของคนสมัยโน้น ก็พอคิดได้ว่าชื่อหรงบน ค�ำว่า หรง อาจเพยี้ นมาจาก คำ� วา่ หงษ์ เปน็ ได้ สว่ นคำ� วา่ บน เนอ่ื งจาก ใกล้ ๆ วัดหรงบน ประมาณห้ารอ้ ยเมตรยงั มีวัดอกี วดั หน่งึ ช่ือวดั กลาง (วัดคงคาวด)ี 9) พระต�ำหนกั ประทบั แรมปากพนงั พระต�ำหนักประทบั แรมเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอปากพนัง ตง้ั อยูท่ ่ี ต�ำบลหูลอ่ ง อ�ำเภอปากพนงั จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระต�ำหนักแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศ ท่ีก่อสร้างขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจ ของประชาชนชาวไทย เพ่ือทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาท สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็น พระตำ� หนกั ทรงงานถวายแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ในคราวเสด็จและทรงงานในจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในพระต�ำหนักประกอบไปด้วย กลุ่มอาคาร พระตำ� หนกั ฯ มลี กั ษณะสถาปตั ยกรรมภาคใต้ ตงั้ อยใู่ นพนื้ ท่ี โครงการพัฒนาพื้นท่ี ลุ่มน้ําปากพนังอันเน่ืองมาจาก พระราชดำ� ริในอดตี อำ� เภอปากพนงั จงั หวดั นครศรธี รรมราช พระต�ำหนักประทับแรมปากพนัง 10) เกาะกระ เกาะกระ ตั้งอยู่ท่ีอ�ำเภอปากพนัง เป็นหมู่เกาะเดียวในพ้ืนท่ีจังหวัดนครศรีธรรมราชท่ีโดดเด่น เปน็ เอกลกั ษณ์ ในฝังทะเลอ่าวไทย เปน็ แหล่งท่องเทย่ี วกลางทะเลท่ยี ังมคี วามอุดมสมบรณู ม์ ากทส่ี ดุ ในทะเลอ่าวไทย ถอื วา่ เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทย่ี งั บรสิ ทุ ธม์ิ าก มรี ะบบนเิ วศทสี่ มบรู ณ์ มหี าดทรายยาวประมาณ 150 เมตร มแี นวปะการงั ครอบคลมุ พืน้ ที่กวา่ 400 ไร่ และยังคงสภาพสมบรู ณท์ ี่สดุ ของอ่าวไทย โดยพบปะการงั แปรงล้างขวด หลายชนดิ เอกสารประกอบการเรยี น 173 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
นบั วา่ เปน็ เกาะทส่ี วยงามคงความอดุ มสมบรู ณข์ องทรพั ยากรใตท้ อ้ งทะเลอา่ วไทยทหี่ าชมไดย้ าก เหมาะแกก่ ารเทยี่ วชมของผทู้ ร่ี กั ในการดำ� นำ้� หรอื ผทู้ ชี่ อบพกั ผอ่ นทา่ มกลางบรรยากาศของธรรมชาติ ทเี่ งยี บสงบ เกาะ กระ ประกอบดว้ ย 3 เกาะ และเกาะบรวิ ารอีก 2 เกาะ คอื เกาะกลางและเกาะเล็ก และเกาะขนาดเล็กอีก 1 เกาะ ทชี่ าวบา้ นเรยี กวา่ “กองหิน” ซง่ึ เกาะ มพี ืน้ ทขี่ นาดใหญ่ท่ีสดุ พื้นท่เี กือบท้ังหมดเปน็ ภูเขาสงู มีแนวหาดทรายสั้น ๆ อยู่ทางทศิ ตะวนั ตก ท้งั นเี้ กาะกระ ยงั เปน็ แหลง่ วางไข่ของเต่าทะเลอีก หลายชนดิ เช่น เตาตนุ เตา่ มะเฟือง เต่ากระ เตา่ หญา้ เต่าหัวค้อน “หอยบษุ ราคมั ” หอยชนดิ ใหมข่ องโลกพบทเ่ี กาะกระ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ไดร้ บั พระราชทาน ช่อื จากสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า “หอยบษุ ราคัม” 11) วัดเขาขุนพนม ตามประวตั เิ ชอื่ กนั วา่ เขาขนุ พนม เคยเปน็ ทปี่ ระทบั ของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช ภายหลงั จากสิ้นรัชกาลของพระองค์ มีผู้สันนิษฐานว่าพระเจ้าตากสินทรงมิได้ถูกประหารชีวิตอย่างที่พงศาวดารกล่าวอ้าง แตไ่ ดท้ รงสบั เปลย่ี นพระองคก์ บั พระญาตหิ รอื ทหารคนสนทิ แลว้ เสดจ็ มายงั นครศรธี รรมราช มกี ารเตรยี มการโดยมกี าร สร้างป้อมปราการ ทำ� เชงิ เทิน ป้อมวงกลม ตามชะงอ่ นผา เพื่อให้พระเจ้าตากสินได้ประทับ เมื่อทรงผนวช เจรญิ วปิ สั สนากรรมฐาน ณ วดั เขาขนุ พนม จนเสดจ็ สวรรคต แต่บางกระแสกล่าวว่าเขาขุนพนม สร้างโดยพระยาตรัง ภมู าภบิ าลเจา้ เมอื งนครศรธี รรมราช สำ� หรบั พกั ตากอากาศ ทเ่ี ขาขุนพนม จึงมีการสรา้ งป้อมปราการคอยป้องกนั อยา่ ง แน่นหนา ความสำ� คญั ต่อชมุ ชนชาวเขาขนุ พนมมคี วามเชื่อ เรื่องพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็จหนีมาประทับที่ เขาขุนพนม จึงได้ร่วมมือกันสร้างพระต�ำหนักสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช บริเวณชะง่อนหินเชิงเขา ซึ่งเป็นบริเวณ ที่เช่ือว่าพระองค์ประทับขณะผนวช อยู่ ประชาชนท่ียังระลึกถึงวีรกรรมและความกล้าหาญ ในการกู้เอกราชชาติไทยในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาคร้ังที่ 2 ได้ร่วมกันสร้างพระบรมสาทิสลักษณ์ ทั้งในเพศบรรพชิต และชุดฉลองพระองค์นักรบ แล้วอัญเชิญ มาไว้ในศาล ให้ผ้คู นท่ีศรทั ธาไดม้ ากราบไหว้ 174 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
12) พระต�ำหนักเมอื งนคร พระตำ� หนักเมืองนครได้เริม่ สร้างมาตงั้ แต่ 17 สงิ หาคม 2537 ใชเ้ วลาก่อสร้าง 4 ปี ทางราชการ ได้ร่วมกับกรมอาชีวศึกษาด�ำเนินการก่อสร้างพระต�ำหนักที่ประทับน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในมหามงคลวโรกาสทรงครองสิริราชสมบติ ครบ 50 ปี และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในมหามงคลสมัยทรงเจริญ พระชนั ษาได้ 40 พรรษา ท้ังนี้เพื่อเป็นท่ีประทับในระหว่างเสด็จ พระราชด�ำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่ จงั หวัดนครศรธี รรมราชและจังหวัดใกลเ้ คียง 13) โบราณสถานวัดโมคลาน โบราณสถานวดั โมคลานต้งั อยู่ท่ี หมู่ 12 บ้านโมคลาน ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ลักษณะเป็นเทวสถานโบราณของศาสนาฮนิ ดใู นลัทธิไศวนกิ าย มีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 - 14 ตอ่ มาถูกทง้ิ รา้ งไป มีการคน้ พบรอ่ งรอยหลักฐานทางโบราณคดี ไดแ้ ก่ เนินซากโบราณสถาน โบราณวัตถุจ�ำพวกหลักหิน สระน้ํา โบราณเป็นส่วนของสถาปัตยกรรมมาแต่เดิม เช่น ฐานโยนิ เศษภาชนะดินเผาฯลฯ แสดงให้เห็นว่าโบราณสถาน แห่งนเี้ ปน็ ชมุ ชนโบราณเก่าแก่ท่ีมีมากอ่ นการตั้งถน่ิ ฐานของเมอื งนครศรีธรรมราช เอกสารประกอบการเรียน 175 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
14) โบราณสถานตมุ ปงั ตง้ั อยใู่ นเขต มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ หมทู่ ่ี 6 ตำ� บลไทยบรุ ี อำ� เภอทา่ ศาลา จงั หวดั นครศรธี รรมราช คนท่ัวไปเรียกสถานท่ี แห่งน้ีว่า วัดตุมปัง (ร้าง) ซ่ึงสมัยก่อนการขุดค้น โดย กรมศิลปากร อย่างเป็นทางการ ได้มกี ารสนั นษิ ฐานวา่ สถานทแ่ี หง่ น้ีน่าจะเปน็ เทวสถาน เนอ่ื งจากมีการพบช้ินส่วนของรปู เคารพ ท่อนล่าง และได้มี การสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระวิษณุ ซ่ึงชาวบ้านเล่าว่า สมยั กอ่ นได้ มกี ารขดุ พบเทวรปู ดงั กลา่ วและยกขน้ึ หลงั ชา้ ง ออกจากป่า แต่เกิดพลัดตกลงมาท�ำให้เทวรูป แยกเป็น 2 ทอ่ น ชาวบ้านเกบ็ เฉพาะท่อนบนขน้ึ ไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 กรมศิลปากร รว่ มกับมหาวทิ ยาลัยวลยั ลักษณ์ มหี นว่ ยปฏบิ ตั งิ านร่วมกนั ระหว่างส�ำนักงานโบราณคดี และพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ท่ี 11 นครศรีธรรมราช รว่ มกบั โครงการอาศรมวัฒนธรรม ในการด�ำเนินการชุดแต่ง/ชุดค้นโบราณสถานตุมปัง เพ่ือศึกษาทางโบราณคดี รายละเอียดทางกายภาพของ แหลง่ ขอบเขตทแี่ ทจ้ รงิ ของโบราณสถาน รวมถงึ การอนรุ กั ษ์ โบราณสถาน 15) วดั ก้างปลาอ�ำเภอทงุ่ สง ตั้งอยู่ที่ต�ำบลที่วัง อ�ำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เม่ือสมัย 800 ปีก่อน มีเจ้าหญิง จากเมืองจีนพระองค์หน่ึง หลบหนีราชภัยจากมองโกล พรอ้ มดว้ ยพระภกิ ษนุ กิ ายมหายาน เดนิ ทางนำ� ทรพั ยส์ นิ มา ช่วยสร้างพระบรมธาตุเมืองนคร แต่ปรากฏว่า เรือส�ำเภา ของท่านเข้าคุ้งน้�ำวนท่ี คลองเภาลาย ท�ำให้เรือแตก เจ้าหญิงผู้นั้นติดเกาะกลางคลอง ช่ือว่าเกาะก้างปลา เพราะมีต้นก้างปลาข้ึนชุกชุมเจ้าหญิงชาวจีนและคณะได้ สรา้ งพระพมิ พแ์ ละพระลากขน้ึ สำ� หรบั ใหส้ กั การบชู า ทำ� ให้ เปน็ ทน่ี บั ถอื ของชาวบา้ นเปน็ อยา่ งมาก วดั กา้ งปลา ไดส้ รา้ ง ขึ้นในสมัยชว่ งกรรุ ตั นโกสนิ ทร์ 16) วดั อาตาปีครี ีเขต - วดั ถา้ํ เพดาน (ถํ้าเพดานนาคราชธาราทอง) ต้ังอย่ทู ี่หมู่ 7 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จังหวดั นครศรีธรรมราช เมอ่ื ปี พ.ศ. 2518 ได้มพี ระธุดงค์ มาปกั กลดเพอ่ื ปฏบิ ตั ภิ าวนา เพราะเหน็ เปน็ ทเี่ งยี บสงบ มแี มน่ ำ�้ ไหลผา่ น มหี บุ เขาเพงิ ถาํ้ สำ� หรบั หลบฝนและเจรญิ สมาธิ ภาวนา นำ� โดยพระอาจารยเ์ จรญิ กุลวัฒโตและพระกรรมฐานอีกหลายรูป จากท่ที า่ นและหม่คู ณะไดป้ ระพฤติธรรม ตามกจิ ของสงฆจ์ นไดร้ บั ความเลอื่ มใสศรทั ธาจากชาวบา้ นอยา่ งมากมาย ทา่ นไดป้ น้ั พระพทุ ธรปู ปางไสยาสนด์ ว้ ยฝมี อื ท่านเอง จากความเส่ือมใสของชาวบ้าน จึงได้นิมนต์ท่านอยู่ต่อและชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างกุฏิเพื่อความสะดวก แก่พระสงฆ์สามเณร จากสภาพท่ีวัดมีภูเขากั้นเป็นเขตแดนระหว่างจังหวัดกระบี่กับจังหวัดนครศรีธรรมราช และมีแมน่ า้ํ ไหลผ่าน เช่ือกันว่าแม่นํา้ สายน้ีจะไหลลงสูแ่ มน่ ำ้� ตาปี และภายในถํ้าด้านบนจะเปรียบเหมอื นเพดานหอ้ ง ท่านเลยตง้ั ชอ่ื วดั ว่า “อาตาปีครี เี ขต ถ้ําเพดาน” 176 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
วดั อาตาปีครี เี ขต - วดั ถา้ํ เพดาน (ถ้าํ เพดานนาคราชธาราทอง) 17) วดั ประดษิ ฐาราม (วัดไสหรา้ ) วดั ประดิษฐาราม (วัดไสหรา้ ) ตัง้ อยทู่ ี่ ต�ำบลบางรูป อ�ำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช “หลวงพ่อนวล ปริสุทโธ” ชาวบ้านเรียกท่านว่า “พ่อท่านนวล” ต�ำแหน่งเจ้าอาวาส มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2548 สริ อิ ายุ 83 พรรษา 63 ทำ� ให้ชาวอ�ำเภอทุง่ ใหญ่ จังหวัดนครศรธี รรมราช ต่างมคี วามภาคภมู ิใจเปน็ อยา่ งย่งิ ท่ีมีพ่อท่านนวล เป็นเน้ือนาบุญของชาวเมืองอย่างแท้จริง ดา้ นวตั ถมุ งคล พอ่ ทา่ นนวลไดจ้ ดั สรา้ งพระเครอ่ื งวตั ถมุ งคล ไว้หลายรุ่นด้วยกนั อาทิวัตถมุ งคลรุ่นล่าสดุ สร้างปี 2552 ผา่ นพธิ ปี ลกุ เสกสมบรู ณ์ พรอ้ มเปดิ ใหบ้ ชู า กำ� ลงั ไดร้ บั ความ นิยมในหมู่ลูกศิษย์ รูปเหมือนพ่อท่านนวล ขนาดบูชา เนอ้ื โลหะหนา้ ตกั 5 นว้ิ รปู หลอ่ ลอยองคเ์ บา้ ทบุ และเหรยี ญ พอ่ ท่านนวล เจรญิ โภคทรพั ย์ 18) วัดรอ่ นนา (พระแมเ่ ศรษฐี)อ�ำเภอร่อนพิบลู ย์ ตั้งอยทู่ ี่หมทู่ ่ี 2 ต�ำบลร่อนพบิ ลู ย์ อำ� เภอร่อนพบิ ูลย์ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ความศกั ดสิ์ ทิ ธขิ์ องแมเ่ ศรษฐี ทำ� ใหเ้ กดิ ประเพณี อันยิ่งใหญ่ เล่าขานสืบทอดกันมา เมื่อคร้ังโบราณในงานบุญประเพณี ลากพระ พระแม่เศรษฐถี อื เป็นพระลากท่ีขนึ้ ชอื่ เปน็ การลากพระบกที่ ยังไม่ใช้ล้อเล่ือน ยังใช้แรงมหาชนท่ีเอาศรัทธามาเป็นที่ตั้ง ในวันแรม 1 ค่ําของทุกปี ประเพณีลากพระถือเป็นบุญประเพณีท่ีย่ิงใหญ่ ของชาวรอ่ นพบิ ลู ย์ มกี ารลากพระจากทกุ วดั มารวมกนั ทอี่ ำ� เภอ โดยเอา พระแมเ่ ศรษฐเี ป็นประธาน ตลอด 2 วนั 1 คนื จะไดย้ ินเสยี งปะทัดดงั ไม่ขาดสาย สาธุชนขอพรพระแม่ได้ทุกเร่ือง แม้แต่ขอบุตร การเจ็บไข้ ได้ป่วย ขอหวย ขอพร เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข ความศักดิ์สิทธ์ิ ของพระแมด่ งั ไปทัว่ ทุกสารทิศ เอกสารประกอบการเรียน 177 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
19) วดั เจดยี ์หรือวดั ไอไ้ ขอ่ �ำเภอสิชล วดั เจดยี ห์ รอื วดั ไอไ้ ข่ ตง้ั อยทู่ ี่ หมู่ 7 ตำ� บลฉลอง อำ� เภอสชิ ล จงั หวดั นครศรธี รรมราช เคยเปน็ วดั รา้ ง ที่เช่ือกันว่าสร้างมาเป็นเวลานับ 1000 ปี มีเพียงเจดีย์โบราณเก่ารกร้างอยู่ตรงบริเวณที่ก�ำลังสร้างโบสถ์ในปัจจุบัน จนเม่ือประมาณ พ.ศ. 2500 มีการบูรณะวัดเจดีย์ขึ้นมาใหม่ มีพระเข้ามาอยู่ประจ�ำ เป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจ ของชาวบา้ นใกลเ้ คยี งและเปน็ ท่ีประดษิ ฐานของ “พ่อทา่ น” พระพุทธรูปเกา่ แกท่ ีอ่ ยมู่ าตงั้ แตย่ ังเปน็ วัดรา้ ง วดั เจดีย์หรอื วัดไอ้ไข่ ไอ้ไข่วัดเจดีย์ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์ คือ รูปไม้แกะสลักของเด็กชายอายุประมาณ 9 - 10 ขวบ ตัง้ อยู่ในศาลาในวัดเจดีย์ เช่ือกันว่าเปน็ วิญญาณศักดสิ์ ิทธทิ์ ่สี ถติ อยู่ ณ วดั แหง่ น้ี เปน็ ท่ีเคารพสกั การะของชาวบ้าน จากศรัทธาที่เช่ือกันว่า “ขอไข่ไหว้รับ” โดยเฉพาะโชคลาภ และการค้าขาย ในวัดเจดีย์จึงเต็มไปด้วยสิ่งของที่ ผู้เสอื่ มใสศรัทธาเอามาแก้บน เชน่ รูปไก่ชน ชดุ ทหาร หนังสต๊ิก ของเลน่ ต่าง ๆ เป็นต้น 20) วดั ดอนตรอ อ�ำเภอเฉลิมพระเกยี รติ วัดดอนตรอ ตั้งอยู่ที่หมู่ท่ี 4 ต�ำบลดอนตรอ อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช ห ล ว ง ปู สั ง ข ์ เ ป ็ น พ ร ะ รู ป ห น่ึ ง ท่ี มี พ ร ร ษ า สู ง สุ ด ข อ ง จงั หวดั นครศรธี รรมราช อายุ 98 ปี รวมพรรษา ถงึ 81 พรรษา เปน็ เจา้ อาวาสมานานถงึ 55 ปี มีบุญวาสนาอายยุ ืนยาวถึง 4 แผ่นดิน และวัดดอนตรอ เป็น 1 ใน 32 วัด ในจังหวัดนครศรีธรรมราชที่มี “อมตะสังขาร” ให้ผู้คนได้ มากราบสกั การะ 21) แม่เจ้าอยหู่ วั อ�ำเภอเชยี รใหญ่ วัดดอนตรอ ตั้งอยู่ท่ีต�ำบลแม่เจ้าอยู่หัว อ�ำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช แม่เจ้าอยู่หัว คือ พระนางเลือดขาวแห่งเมืองนครศรีธรรมราช มีเรื่องราวสรุปย่อได้ว่า เป็นบุตรีคหบดี มีอาชีพค้าขาย ณ ชุมชน สดุ ชายหาดทรายแกว้ นครศรธี รรมราช (สนั ทรายเชยี รใหญ)่ บดิ าเปน็ ชาวพทั ลงุ เชอ้ื สายลงั กา (คลุ า) มารดาเปน็ ชาวบา้ น เก่าหรือบ้านฆ็อง (บริเวณที่ต้ังวัดแม่เจ้าอยู่หัวปัจจุบัน) พระนางเลือดขาวเป็นคนงามด้วยเบญจกัลยาณี มีนิสัย โอบออ้ มอารี เสอื่ มใสในพระพทุ ธศาสนา มเี ลอื ดสขี าวแตก่ ำ� เนดิ จนเปน็ ทรี่ บั รู้ จนรา่ํ ลอื ถงึ พระเจา้ ศรธี รรมาโศกราชที่ 5 178 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
พระนางเลอื ดขาว หรือพระเจ้าสีหราชแห่งนครศรีธรรมราช (ตามพรลิงค์) เม่ือคราวศึกเมืองทะรังหรือเมืองกันตังแข็งข้อ หลังชนะศึก ชนชา้ ง (ทบี่ า้ นทงุ่ ชนในเขตอำ� เภอทงุ่ สงปจั จบุ นั ) ระหวา่ งพกั แรมกลางทางกลบั พระเจา้ ศรธี รรมาโศกราชทรงพระสบุ นิ เห็นสตรมี ลี กั ษณะงดงามตาม เบญจกัลยาณี มใี จกศุ ล เป็นค่บู ญุ บารมี พ�ำนักอยูท่ างทศิ ใตต้ ามเส้นทางหาดทรายแกว้ และมีเลือดสีขาว เมื่อเข้าเมืองนครศรีธรรมราช นมัสการพระบรมธาตุ แล้วจึงจัดขบวนเสด็จออกค้นหาจนถึง ส�ำนักพ่อท่านขรัว ได้พบพระนางเลือดขาวที่มารับเสด็จ โดยขณะทอผ้าถวายได้ท�ำ ตรน (อุปกรณ์ท่ีท�ำจากไม้ไผ่ มีความคมมาก) บาดน้ิวเลือดออกเป็นสีขาว จึงขอพระนางไปเป็นพระนางเมือง เม่ือเสด็จกลับแล้วจึงให้พราหมณ์ ปุโรหติ จดั ขบวนหลวงสู่ขอรบั เขา้ วัง ปรนนบิ ัติรบั ใชด้ ว้ ยความจงรักภกั ดี ทำ� นุบำ� รุงพระพทุ ธศาสนา ท�ำคุณประโยชน์ ให้บา้ นเมอื งมากมาย เปน็ ที่รกั ของไพรฟ่ า้ แต่ถกู กล่นั แกล้งกล่าวหาตา่ ง ๆ นานาจากพระสนมอ่นื พระนางเลอื ดขาว ได้รับสถาปนาเป็นแม่เจ้าอยู่หัวหรือพระนางเลือดขาวอัครมเหสี จนเป็นที่เรียกโดยท่ัวไปว่า พระนางเลือดขาว แม่เจ้าอยู่หัว หรือแม่เจ้าอยู่หัวพระนางเลือดขาว พระนางเลือดขาวได้ขอต่อพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชว่า หากสนิ้ พระชนม์ลงขอใหน้ �ำศพกลบั บ้านเกิด ต่อมาข่าวความเดือดรอ้ นทพี่ ระนางถูกกลั่นแกล้งทราบถงึ พ่อทา่ นขรัว พ่อท่านขรัวได้เดินทางมาขอบิณฑบาตรับแม่เจ้าอยู่หัวกลับบ้านเดิม และทรงอนุญาตพร้อมท้ังให้สร้างวังขึ้น ณ ริมฝังแม่น้ําปากพนัง (บ้านในวัง ต�ำบลแม่เจ้าอยู่หัวปัจจุบัน) แต่การสร้างล่าช้าเพราะพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ทรงประวิงเวลาไว้ไม่อยากให้พระนางกลับบ้านเดิม จนกระท่ังคราวเสด็จไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทน พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชที่เมืองทะรัง (ตรัง) ได้สิ้นพระชนม์ระหว่างทางขณะประทับแรมด้วยกลด (บ้านควนกรด อ�ำเภอทุ่งสง ปัจจุบัน) ในปี พ.ศ. 1814 พระศพถูกอัญเชิญกลับสู่เมืองนครศรีธรรมราช (เมืองพระเวียง) ตัง้ ณ วดั ท้าวโคตร แลว้ จดั ขบวนทางน้ําตามลำ� คลองท่าเรือ ออกทะเลปากนคร เขา้ แม่น้ําปากพนัง (ปากพระนาง) มาข้ึนฝั่งที่บ้านหน้าโกศ จนถึงส�ำนักพ่อท่านขรัว (บริเวณวัดบ่อล้อปัจจุบัน) ถวายพระเพลิงแล้วน�ำพระอัฐิ และพระอังคารประดษิ ฐานในมณฑปสงู 12 วา มเี จดยี ์บรวิ ารโดยรอบ ณ วัดแมเ่ จา้ อยหู่ ัว เอกสารประกอบการเรยี น 179 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
เรอื่ งที่ 3 แหลง่ ท่องเที่ยวประเภทชายทะเล ชายหาด แหล่งท่องเท่ียวกลุ่มชายทะเล ชายหาดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของอ�ำเภอท่ีติดกับชายทะเลและชายหาด ในแต่ละอำ� เภอดังตอ่ ไปนี้ 1. เขาพลายด�ำ เขาพลายด�ำ แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งทะเลใต้ เป็นเขาท่ีมีลักษณะเป็นภูเขาท่ีติดทะเล ตรงแนวรอยต่อเขตอ�ำเภอขนอมและอ�ำเภอสิชล อยู่ห่างจากตัวเมือง นครศรีธรรมราช ประมาณ 86 กิโลเมตร เปน็ ทะเลทมี่ ธี รรมชาตทิ แ่ี สนสงบและมจี ดุ ชมววิ เขาพลายดำ� ทส่ี ามารถเหน็ อา่ วทอ้ งยางไดใ้ นมมุ กวา้ ง และยงั เปน็ แหลง่ อนรุ กั ษ์ถ่ินทีอ่ ยอู่ าศัยของสัตว์ ต่าง ๆ อาทิ นกและผเี ส้อื เขาพลายดำ� 2. อทุ ยานแหง่ ชาติหาดขนอม - หมู่เกาะทะเลใต้ อุทยานแห่งชาติหาดขนอม- หมู่เกาะทะเลใต้ เป็นชายหาดที่มีช่ือเสียงของนครศรีธรรมราช โดดเด่นด้วยหาดทรายที่ยืน่ ยาวออกไปในทะเลคกู่ บั ทิวสน มหี าดทรายยาวกบั ทวิ มะพร้าว และมชี าดหาดที่มีชอ่ื เสยี ง ของนครศรธี รรมราช มอี ่าวต่าง ๆ หลายอา่ ว เชน่ อ่าวท้องหยี อา่ วท้องยาง อา่ วคอเขา อ่าวหน้าดา่ น อา่ วแขวงเภา อ่าวท้องชิง อ่าวในเพลา ซ่ึงมีชายหาดท่ีมีทรายขาวสะอาด น้ําทะเลใส เหมาะส�ำหรับการเล่นน้ําทะเล นอกจากน้ี ยังมีสิ่งที่โดดเด่นคือ โลมาสีชมพูท่ีพบได้ง่าย ณ หาดขนอม รวมถึงเกาะนุ้ยนอก เกาะแห่งต�ำนานหลวงปูทวด เหยียบน้าํ ทะเลจืด หาดในเพลา 180 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
3. แหลมตะลมุ พุก “แหลมตะลมุ พกุ ” คำ� วา่ ตะลมุ พกุ เปน็ นามของปลาชนดิ หนง่ึ ทเี่ คยมชี กุ ชมุ ในบรเิ วณปลายแหลมแหง่ นชี้ าวบา้ นเลยเรยี กแหลมนวี้ า่ “แหลมตะลมุ พกุ ” จากการมปี ลาตะลมุ พกุ ชกุ ชมุ มาจนถงึ ทกุ วนั น้ี ปจั จบุ นั ปลาตะลมุ พกุ ในบริเวณปลายแหลมไม่มีแล้ว “แหลมตะลุมพุก” มีประชาชนมาตั้งถิ่นฐานในราว รัชกาลท่ี 2,3 สมัย รัตนโกสินทร์ ผู้คนอพยพเข้ามาอยู่พวกแรกเป็นชาวไทย อสิ ลาม เขา้ มา ทำ� การประมง ในพน้ื ทต่ี ำ� บลแหลมตะลมุ พกุ ไดป้ ระสมทางวฒั นธรรมประเพณที เี่ ปน็ เอกลกั ษณ์ ชาวบา้ น นับถือสิ่งศักด์ิสิทธิ์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ทั้งทางศาสนา อิสลาม คนจีน ไทยพุทธ ต�ำบลแห่งน้ี ในอดีตมีความ อุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ประชาชน อาศัยอยู่อย่าง หนาแนน่ ทงั้ ไทย จีน อสิ ลาม มีโรงเรยี นจีน และท่ีส�ำคัญ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลท่ี 5 เคยเสด็จแหลมตะลุมพุก เมื่อวันท่ี 19 กรกฎาคม 2432 จากบนั ทกึ จดหมายเหตเุ สดจ็ ประพาสแหลมมลายู ร.ศ. 108 โดยได้บรรยายสภาพความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ ของประชาชนว่า “ที่แหลมน้ีเป็นหาดแคบนิดเดียว แต่ยงั ยาว วงเป็นอ่าวเขา้ ไปไกล มีเรอื นประมาณ 70 หลงั ปลกู มะพรา้ วมาก มขี องทเี่ ปน็ สนิ คา้ ขายออก คือ ปลาเค้า ปลากระบอก เคย แตง เปน็ จำ� นวนมาก เวลาบา่ ย 4 โมง เสด็จกลบั มาลงเรือพระทีน่ ง่ั แลว้ ออกเรอื พระทีน่ ่งั ตอ่ มา” 4. แหล่งทอ่ งเทยี่ วประเภทความเช่อื คติชนวทิ ยา จังหวัดนครศรีธรรมราช เปน็ จงั หวัดทเ่ี ต็มไปด้วยประวตั ศิ าสตร์ มรี ่องรอยแหล่งอารยธรรมมากมาย จึงมีแหลง่ ทอ่ งเท่ยี วทางด้านกลุม่ ความเชอื่ และคตชิ นวทิ ยา ดังตอ่ ไปนี้ 1) ศาลหลวงพอ่ ไทร อ�ำเภอเชยี รใหญ่ คงไมม่ ใี ครในจงั หวดั นครศรธี รรมราชทจี่ ะไมร่ จู้ กั ศาลหลวงตน้ ไทรโดยเฉพาะคนในอำ� เภอเชยี รใหญ่ และ อ�ำเภอหัวไทร ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการพัฒนาพ้ืนที่ลุ่มน้ําปากพนังอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริ ท่ีต่างร่�ำลือ ถึงกติ ตศิ ัพทข์ องความศักดส์ิ ทิ ธขิ์ ณะก่อสรา้ งโครงการเมื่อหลายปกี ่อน เอกสารประกอบการเรียน 181 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
ชาวบา้ นทน่ี น่ั ตา่ งเชอ่ื วา่ สาเหตขุ องเรอ่ื งราวประหลาดดงั กลา่ วเกดิ จาก “อาถรรพณ”์ ของตน้ ไทร โดยบรเิ วณใต้ต้นไทรยงั ขดุ พบซากกระดูกมนุษย์และสัตว์ใหญต่ า่ ง ๆ รวมทัง้ เปลือกหอยทะเล เม่ือชาวบา้ นทราบขา่ ว ก็พากันไปกราบไหว้ต้นไทรกันเป็นจ�ำนวนมาก ศาลหลวงต้นไทร เป็นที่เคารพสักการะของชาวลุ่มน้ําปากพนัง และเป็นอนุสรณ์แห่ง พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ศาลหลวงต้นไทรยังถือเป็นสถานท่ี ยอดนยิ มในพนื้ ท่ี และเปน็ สัญลกั ษณ์อกี อย่างของโครงการพัฒนาลุ่มนาํ้ ปากพนังฯ จากภูมทิ ศั นท์ ี่สวยงาม แปลกตา และต้นไทร ขนาดใหญท่ ่ยี นื ต้นตระหง่านอยกู่ ลางล�ำนาํ้ 2) พระพุทธสหิ งค์ ณ เชงิ เขามหาชัย อ�ำเภอเมอื งนครศรีธรรมราช หอพระพุทธสิหิงค์ อันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์เมืองนครน้ัน เดิมเป็นหอพระ ประจำ� วันของเจา้ พระยานคร ต้งั อยู่ระหวา่ งศาลากลางจงั หวัด และศาลจังหวัด สร้างใหมแ่ ทนหอเดิมใน พ.ศ. 2457 เปน็ วหิ ารกอ่ อฐิ ถอื ปนู หนั หนา้ ไปทางทศิ ตะวนั ออก แบง่ ออกเปน็ สองตอน มผี นงั กอ่ อฐิ กน้ั ตอนหนา้ เปน็ ทปี่ ระดษิ ฐาน พระพุทธสิหิงค์ และมีพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร บุด้วยทองค�ำและเงิน อย่างละองค์ ส่วนด้านหลังเป็นท่ีเก็บอัฐิ ของตระกูล ณ นคร และปจั จุบันไดม้ กี ารสร้างพระพทุ ธสิหงิ คร์ าชภฏั นครศรีธรรมราช 3) จตคุ ามรามเทพ วดั พระมหาธาตุวรมหาวหิ าร ชาวนครศรีธรรมราช มีคตคิ วามเช่ือท่ีว่า องค์จตคุ าม คือ พระเสือ้ เมือง จตุ หมายถงึ ส่ี คาม (คาม-มะ) เขตคาม หมายถงึ อาณาเขตหรือบ้าน เมอื่ รวมกนั นยั ความหมายท่ีมากกวา่ ความเปน็ ทศิ ทง้ั 4 ของบา้ น หรอื อาณาเขต คอื ทศิ ทง้ั สี่ ซง่ึ หมายถงึ ทศิ ทมี่ ที า้ วจตโุ ลกบาล ท้ังส่ีดูแลอยู่ ความหมายของ จตุคามจึงเป็นต�ำแหน่ง ของผูเ้ ปน็ ใหญท่ ัง้ สที่ ิศ มีท้าวจตุมหาราช ปกปอ้ งคุ้มครอง ดูแล พระเสื้อเมือง จึงมีความหมายที่ควรเป็นต�ำแหน่ง ๆ หนึ่ง เพียงแต่ปราชญ์โบราณของเมืองสมมติขึ้นเป็น ท้าวจตุคาม ผู้เป็นใหญ่ใน 4 ทิศองค์รามเทพ ค�ำว่า ราม มีรากฐานมาจากพระราม ท่ีหมายถึงพระนารายณ์อวตาร องคจ์ ตคุ ามรามเทพ ลงมา เป็นพระมหากษัตริย์ ค�ำว่าเทพ ก็คือเทวดา นัยความหมายคือเป็นพระมหากษัตริย์ ท่ีเป็นสมมติเทพ เมื่อองค์รามเทพ เป็นพระทรงเมือง ค�ำว่าทรงเมือง พ้องกับค�ำว่าครองเมือง น่ังเมือง หรือผู้ปกครองบ้านเมือง ซึง่ ก็คอื เจ้าเมืองหรือพระมหากษัตริย์ เชอ่ื กนั วา่ เดมิ นน้ั องคจ์ ตคุ ามรามเทพ เปน็ กษตั รยิ ส์ มยั อาณาจกั รนครศรธี รรมราช มพี ระนาม อยา่ งเปน็ ทางการวา่ พระเจา้ จนั ทรภาณุ เปน็ กษตั รยิ พ์ ระองคท์ ี่ 2 ของราชวงศศ์ รธี รรมาโศกราช เมอ่ื สถาปนาอาณาจกั ร ศรีวิชัยได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงได้สมัญญานามว่า “ราชันด�ำแห่งทะเลใต้” หรือมีอีกราชสมัญญานามหน่ึงว่า “พญาพงั พกาฬ” 182 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
5. แหลง่ ทอ่ งเที่ยวกลมุ่ ชมุ ชนเข้มแขง็ จังหวัดนครศรีธรรมราช ในแต่ละอ�ำเภอมีสภาพพื้นที่ บริบทชุมชนที่แตกต่างกัน ซึ่งคนในพ้ืนท่ี มีวิถีชวี ติ ทแ่ี ตกต่างกนั จึงมีการรวมกลุม่ กันในการดำ� เนนิ กจิ กรรมดา้ นอาชีพจนเกดิ เปน็ ชมุ ชนท่ีเข้มแขง็ และสามารถ เป็นแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วกลุม่ ชมุ ชนเขม้ แข็งที่ปรากฏ ดังต่อไปนี้ 1) บา้ นครี วี ง บ้านคีรีวง ตั้งอยู่ที่ ต�ำบลก�ำโลน อ�ำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ อพยพไปอาศัยอยู่บรเิ วณเชงิ เขาหลวง ตำ� บลก�ำโลน อนั เป็นเส้นทางเดนิ ข้นึ สยู่ อดเขาหลวง ชาวบา้ นมวี ิถชี ีวติ ท่สี งบ สังคมแบบเครือญาติ อาชีพหลักคือการท�ำสวน ผลไม้ผสม เรยี กว่า “สวนสมรม” เช่น มังคดุ เงาะ ทุเรียน สะตอ ชุมชนบ้านคีรีวง แบ่งออกเป็น หลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม มัดย้อม กลุ่มสมุนไพร กลุ่มจักสานกะลามะพร้าว กลุ่มแปรรูปน้ําผลไม้ กลุ่มไวน์ และกลุ่มทุเรียนกวน ซึ่งแต่กลุ่มจะมี ผลิตภัณฑ์ ท่ีได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และ นักท่องเท่ียวที่เดินทางมาท่องเท่ียว ก็มักจะซ้ือ เป็นของฝากกันอยู่เสมอ สินค้าราคาไม่แพงและ มคี ุณภาพ 2) วสิ าหกิจชมุ ชนกลุ่มอนรุ กั ษป์ า่ ชายเลนบา้ นแหลมโฮมสเตย์ กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านแหลมโฮมสเตย์ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 7 ต�ำบลท่าศาลา อ�ำเภอท่าศาลา จงั หวัดนครศรธี รรมราช ลักษณะของพืน้ ทมี่ ีส่วนของผนื ดินที่งอกยน่ื ลงไปในทะเล โดยมีขนาดของพน้ื ที่เพมิ่ ขน้ึ ทุกปี ทางชาวบ้าน องค์กร หน่วยงาน และนักเรียน นักศึกษา ได้มีการร่วมกันในการปลูกป่าชายเลนอยู่ทุก ๆ ปี โดยมีการเลือกพันธุ์โกงกาง ล�ำพู ต้นจาก และ ตลอดจนพันธุ์พืชที่สามารถเจริญงอกงามได้ดี ในพ้ืนที่น้ํากร่อย ได้มีการขยายพื้นท่ีปลูกอยู่ตลอด ทกุ ปี ทำ� ใหช้ าวบา้ นไดร้ บั ประโยชนเ์ ปน็ แหลง่ อาหาร เป็นท่ีอยู่อาศัยของพืชและสัตว์ตามธรรมชาติ เพ่ือ เปน็ ตวั ชว่ ยปอ้ งกนั การกดั เซาะตามแนวชายฝง่ั ทะเล จากป่าโกงกาง โดยพ้ืนที่ดังกล่าวเป็นแหล่งขยาย พันธุสัตว์น้ําให้กับชาวบ้านในพ้ืนที่ สามารถท่ีจะมี พันธุ์ปลา เพื่อเป็นแหล่งอาหาร ตลอดจนสามารถ สรา้ งรายได้ให้กับครอบครวั ไดเ้ ปน็ อย่างดี เอกสารประกอบการเรยี น 183 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
3) ชมุ ชนบา้ นไม้เรียง ชมุ ชนไมเ้ รยี ง เดมิ ชาวชมุ ชนไมเ้ รยี งประกอบอาชพี ทำ� สวนยางพาราเปน็ หลกั แตต่ อ่ มา ประสบปญั หาราคายางตกตา่ํ จึงได้มีแนวทางการแก้ปัญหา โดยมีการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อร่วมกันปรับปรุงคุณภาพยางแผ่นท่ีมีคุณภาพ “กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางไม้เรียง” และใช้เทคโนโลยีใน การผลิตเพื่อให้ขายยางปริมาณมาก ๆ ให้ได้ราคา และมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด ต่อมานาย ประยงค์ รณรงค์ ผู้น�ำชุมชน บ้านไม้เรียง ได้เสนอแผน พัฒนาชุมชนท่ีเป็นการเปลี่ยนทิศทางของเกษตรกรรม แผนใหม่ จากการมุ่งเน้นปลูกพืชเชิงเด่ียวจากท�ำสวน ยางพารา มาเป็นการแสวงหาความหลากหลาย ของการประกอบอาชีพการเกษตร คือ การพัฒนาความ ชุมชนไม้เรียง สามารถของ เกษตรกรและเสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชน ประกอบด้วยกิจกรรมการเกษตร มีวัตถุประสงค์ชัดเจน ในการผลติ เพอื่ การพงึ่ ตนเอง ของชมุ ชนและเชอ่ื มโยงกบั ตลาดภายนอก โดยผา่ นการจดั การของแตล่ ะกลมุ่ ทม่ี อี งคก์ ร บรหิ ารของตน ไมเ้ รียงคอื ตวั อยา่ งของการพฒั นาอย่างมแี บบมีแผน ซง่ึ อยบู่ นฐานข้อมลู และความรู้ซ่งึ ผู้น�ำแมกไซไซ อธบิ ายวา่ “วนั นพ้ี น้ ยคุ ทจี่ ะพฒั นาแบบ คดิ วา่ เหน็ วา่ เขา้ ใจวา่ รสู้ กึ วา่ วนั นต้ี อ้ งใชค้ วามรู้ และตอ้ งเปน็ ความรทู้ นี่ ำ� ไปสู่ การปฏบิ ัติได้จนเกิดปญั ญา การพัฒนาจึงจะเกิด” 4) กลมุ่ ผ้าทอเนินธัมมัง ดว้ ยสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชินนี าถ ในรชั กาลท่ี 9 ได้ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎร ในพ้นื ทบ่ี า้ นเนนิ ธมั มงั หมู่ 5 ตำ� บลแมเ่ จา้ อยหู่ วั อำ� เภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรธี รรมราช เม่อื วนั ท่ี 7 ตลุ าคม พ.ศ.2536 พระองคไ์ ดท้ รงรบั ทราบ ถงึ ปัญหาความทุกขย์ ากของราษฎรในพนื้ ที่ ซ่งึ มฐี านะยากจน การประกอบอาชีพหลักคอื การทำ� นา ผลผลิตทีไ่ ด้รบั อยู่ในเกณฑ์ตํ่า ท�ำให้หัวหน้าครอบครัวต้องออกไปหางานท�ำต่างถ่ิน เหลือแต่แม่บ้าน เด็ก และคนชรา พระองค์ จงึ ไดท้ รงพระราชทานพระราชทรพั ยส์ ว่ นพระองค์ เพอื่ ใหก้ ารกอ่ สรา้ งศาลาศลิ ปาชพี ขนึ้ (หลงั เกา่ ) ปจั จบุ นั ใชเ้ ปน็ พน้ื ท่ี ปฏบิ ตั งิ านของกลมุ่ แปรรปู กระจดู เมอ่ื วนั ท่ี 22 เมษายน พ.ศ. 2537 และพระองคไ์ ดท้ รงเรมิ่ สง่ เสรมิ งานดา้ นศลิ ปาชพี ให้กับราษฎรในพื้นที่ และหมู่บา้ นใกลเ้ คยี งเปน็ ตน้ มา ตอ่ มาเมอ่ื ปี พ.ศ. 2540 พระองค์ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ใหก้ อ่ สรา้ งอาคารศิลปาชพี หลงั ใหมข่ น้ึ มาแทนหลังเก่า และเปิดท�ำการอย่างเป็นทางการเมื่อวันท่ี 2 ตุลาคม พ.ศ.2542 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 2 ชน้ั กว้าง 25 เมตร ยาว 45 เมตร โดยช้ันล่างเป็นหอ้ งโถงโลง่ อนุญาตใหใ้ ช้เปน็ พนื้ ทีป่ ฏิบตั ิงานของกลุ่มทอผ้า หมู่ 5 บ้านเนนิ ธัมมัง ส่วนชนั้ บนประกอบด้วย หอ้ งส่วนพระองค์ (หอ้ งทรงงาน) ห้องผู้ติดตามชาย ห้องผู้ติดตามหญงิ และห้องโถงโล่ง โดยจัดเจ้าหน้าที่จากกองพันทหารช่างที่ 402 เพื่อท�ำหน้าที่อ�ำนวยการ ประสานงาน ก�ำกับดูแล และตดิ ตามผลการปฏบิ ตั งิ านของสมาชกิ ซง่ึ จะตอ้ งดำ� เนนิ การควบคไู่ ปดว้ ยกนั กบั โครงการพฒั นาพนื้ ทลี่ มุ่ นา้ํ ปากพนงั เป็นผลทำ� ใหร้ าษฎรมีฐานะความเปน็ อย่ทู ่ดี ขี ้ึน อีกทั้งยังเป็นการเผยแพรง่ านด้านศลิ ปาชีพใหแ้ พร่หลายตอ่ ไป 184 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
5) ผลติ ภัณฑจ์ ากกระจูด อ�ำเภอชะอวด ผลิตภัณฑ์จากกระจูดเป็นวัสดุจากธรรมชาติ ท่ีมีความเหนียวและนุ่ม เมื่อน�ำมาจักสาน เป็นผลิตภัณฑ์ จะช่วยในการระบายความร้อน ซ่ึงคนในชุมชนสมัยก่อนได้น�ำกระจูดมาสานเป็นเสื่อส�ำหรับปูนอน แสดงถึง วิถีชีวิตท้องถ่ินอย่างหนึ่งของคนภาคใต้ ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านนิยมใช้ สื่อกระจูด ปูนอนเพราะลักษณะ ของภูมิอากาศของภาคใต้ร้อนข้ึน คนในสมัยก่อนจึงได้น�ำเอากระจูดที่มีอยู่ตามธรรมชาติจากป่าพรุมาปรับใช้ ใหเ้ ข้ากับวถิ ีชีวติ ของคนในทอ้ งถ่นิ ดงั นั้นคนในชุมชนรอบปา่ พรุควนเคร็ง ผลิตภณั ฑ์จากกระจดู จากภูมิปัญญาดั้งเดิมมีการสานกระจูดเฉพาะ เสื่อ และกระสอบ เท่านั้นเพ่ือใช้ในการปูนอน และตากข้าวเปลือก และใช้กระสอบส�ำหรับใส่ข้าวสาร หรือเกลือ และของใช้อย่างอื่นภายในครัวเรือน และของใช้ ในครวั เรอื น ปจั จบุ นั ผลติ กณั ฑจ์ กั สานจากลำ� ตน้ กระจดู ไดพ้ ฒั นารปู แบบจากสาดจดู และสอบจดู ใหเ้ ปน็ ผลติ กณั ฑใ์ หม่ ให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางและเหมาะสมกับยุคสมัยมากข้ึน เช่น หมวก กระเป๋า รองเท้าแตะใส่ในบ้าน ชุดรองจาน ชุดปูโต๊ะอาหาร เครื่องตกแต่งบ้าน เป็นต้น ทั้งน้ี ผลิตภัณฑ์จากกระจูด เป็นผลิตกัณฑ์ท่ีผลิตด้วยมือ จากภูมิปัญญาท้องถิ่น น�ำมาผลิตเป็นของใช้ได้หลายรูปแบบตามสมัยนิยม และมีสวยงามเหมาะแก่การใช้สอย และเปน็ ของฝาก 6) ประตูระบายน�้ำอุทกวิภาชประสทิ ธิ์ ในอดีตลุ่มน้�ำปากพนัง เป็นพื้นท่ีท่ีอุดมสมบูรณ์ในภาคใต้ จากหลักฐานท่ีพบเห็นคือโรงสีไฟ โรงสขี า้ วโบราณทพี่ บหลายแหง่ รมิ แมน่ าํ้ ปากพนงั ดว้ ยพนื้ ทล่ี มุ่ นา้ํ แหง่ นก้ี วา้ งใหญค่ รอบคลมุ ถงึ 10 อำ� เภอใน 3 จงั หวดั ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ท�ำให้ระบบนิเวศมีความหลากหลาย ท้ังป่าต้นนํ้า ป่าพรุ ป่าชายเลน และพืน้ ที่ชายฝง่ั แตเ่ ม่อื การพัฒนาทางเศรษฐกจิ เขา้ มา ท�ำใหพ้ นื้ ที่ ปา่ ตน้ นํา้ ถกู ทำ� ลาย จากเดมิ ทร่ี ะบบ น้ําจืดและน้ําเค็มผลักดันตามธรรมชาติ ก็แปรเปลี่ยนเพราะนํ้าจืดจากป่าต้นน้ําไหลลงสู่แม่น้ําปากพนังน้อยลง เอกสารประกอบการเรยี น 185 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
นํ้าเค็มจึงทะลกั ไกลกวา่ ร้อยกิโลเมตร ไม่เพียงปญั หานา้ํ เค็ม แต่ด้วยภูมิประเทศทีเ่ ป็นแอง่ กระทะ ท�ำใหเ้ กิดน้ําทว่ ม ขังเป็นเวลายาวนาน ชาวนาผลิตข้าวได้น้อยลง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 9 ทรงทราบถึงปัญหา จงึ มพี ระราชดำ� รใิ หก้ รมชลประทานกอ่ สรา้ งประตรู ะบายนา้ํ อทุ กวภิ าชประสทิ ธิ์ เพอื่ แยกนาํ้ เคม็ และนา้ํ จดื ออกจากกนั และแบ่งโซนน้ําจืด น้ําเค็ม เพ่ือให้ชาวบ้านท่ีต้องการเล้ียงกุ้งอยู่ในโซนน้ําเค็ม ส่วนชาวบ้านที่ต้องการปลูกข้าว อยู่ในโซนน้ําจืด ปญั หาความขัดแยง้ ทเุ ลาลง สว่ นพนื้ ทพี่ รุก็มีราษฎรทอ่ี าสาดูแลป่าพรตุ ามรับสัง่ ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้พระองค์ยังได้ให้หน่วยงานชลประทานช่วยควบคุมระดับน้ําในพรุไม่ให้แห้ง จนเกิดไฟป่า และรกั ษาระดับนำ�้ ไมใ่ หท้ ่วมขังเพือ่ ใหร้ าษฎรปลูกขา้ วได้ ประตูระบายน้ำ� อทุ กวิภาชประสทิ ธิ์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานแนวทางแกไ้ ขและพฒั นาพนื้ ทล่ี มุ่ นาํ้ ปากพนงั ทง้ั ระบบ ถึง 13 ครั้ง ต้งั แต่ปี 2521 โดยคร้งั ส�ำคัญท่ีสดุ เม่อื ปี 2536 ทรงมีพระราชดำ� รใิ หก้ อ่ สร้างประตูระบายน้ำ� ปากพนงั หรือประตูระบายนํ้าอุทกวิภาชประสทิ ธ์ิ เพอ่ื บริหารจัดการน้าํ ทัง้ หมด พระราชด�ำริดังกลา่ ว ประสบความสำ� เรจ็ มาก ถือเป็นกุญแจแรกในการพลิกพ้ืนลุ่มนํ้าปากพนัง และท�ำให้เกิดการพัฒนาต่อเน่ือง มาโดยตลอด อันค�ำว่า “อทุ กวภิ าชประสิทธิ์” มคี วามหมายวา่ ประตูระบายนํ้าทป่ี ระสบความส�ำเร็จในการแยกน�้ำจืด น้ําเค็ม ซึง่ พระบาท สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน เม่ือวันที่ 22 สงิ หาคม 2542 เร่ืองท่ี 4 การปฏิบัติตนเป็นนกั ท่องเทีย่ วทดี่ ี นักท่องเท่ียวท่ีเดินทางมาท่องเท่ียวในประเทศไทยมีจ�ำนวนมาก มีท้ังคนต่างชาติและคนไทยด้วยกัน บางคนบางกลุ่มมาท่องเท่ียวแล้วก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ท้ังระดับเล็กน้อยจนถึงระดับชาติ เพ่ือเป็นการป้องกัน และแก้ไขปญ้ หา นกั ท่องเที่ยวท่ดี ี ควรปฏบิ ัติตนตามกฎ ระเบียบของสถานทีท่ ่องเทย่ี ว ใส่ใจส่งิ แวดล้อม ดแู ลสภาพ แวดล้อมในสถานท่ที อ่ งเทยี่ วให้ดดู ี ไมค่ วรท�ำลาย 186 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
เรอื่ งท่ี 5 การเปน็ มคั คเุ ทศกท์ ดี่ ี บุคคลท่ีเป็นมัคคุเทศก์ จะต้องมีคุณสมบัติพิเศษหลาย ๆ อย่างประกอบกัน เช่น ความมีใจรักในอาชีพ มคี วามอดกล้นั มีความยืดหยนุ่ ในการปฏบิ ตั งิ าน ตอบสนองความต้องการของนกั ทอ่ งเทย่ี ว ซอื่ สัตย์ สามารถปรบั ตวั ให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์จะช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสม มัคคุเทศก์เป็นผู้ท�ำหน้าที่ดูแล นักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เกือบตลอดเวลาของการน�ำเที่ยวในแต่ละครั้ง ดังน้ัน ในการปฏิบัติงานของมัคคุเทศก์ จะเปน็ ไปโดยธรรมชาติ ไมม่ กี ารฝนื ปฏบิ ตั ิ หรอื ทำ� หนา้ ทห่ี วงั เพยี งเฉพาะคา่ ตอบแทน มคั คเุ ทศกท์ ดี่ ตี อ้ ง มบี คุ ลกิ ภาพดี มนษุ ยส์ มั พนั ธด์ ี กิริยามารยาท มนี ้าํ ใจ มีความรบั ผดิ ชอบ มคั คเุ ทศกเ์ ปน็ ผทู้ อ่ี ยใู่ กลช้ ดิ กบั นกั ทอ่ งเทย่ี วมากทสี่ ดุ เพราะฉะนนั้ ผเู้ รยี นจงึ ควรจะไดเ้ รยี นรู้ และทำ� ความ เขา้ ใจเกยี่ วกบั หนา้ ทแี่ ละความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลกั ษณะอนั จำ� เปน็ ทจ่ี ะทำ� ใหช้ อ่ื เสยี งของประเทศชาติ เปน็ ทร่ี จู้ กั ทว่ั โลก และช่วยเพ่มิ พูนจำ� นวนนกั ทอ่ งเท่ียวให้เข้ามาเท่ียวในประเทศไทยได้มากข้ึน เรอ่ื งที่ 6 การอนรุ ักษส์ ถานทท่ี ่องเทย่ี ว สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นส่ิงท่ีทรงคุณค่าต่อประเทศ ชุมชนและจิตใจของคนในสถานท่ีน้ันเมื่อมีคน เขา้ มาชื่นชมจำ� นวนมาก และเป็นเวลานาน ก็ต้องเกดิ การทรดุ โทรมไปตามกาลเวลา จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งเกบ็ รักษาสถานท่ี ท่ีสำ� คัญเหลา่ น้ี ใหอ้ ยู่ยาวนานเปน็ มรดกใหค้ นร่นุ หลงั ได้ชื่นชม ศึกษาเรียนรู้ต่อไป โดยมแี นวทางในการปฏบิ ัติ ดงั นี้ การป้องกันไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเสียหาย การรักษาความสะอาดการปฏิบัติตามระเบียบของสถานที่ท่องเที่ยว อยา่ งเคร่งครัด และมกี ารประชาสมั พันธ์ เพอ่ื เชิญชวนใหน้ ักทอ่ งเทย่ี วเดินทางเข้าไปใชบ้ ริการ เร่อื งที่ 7 กลยทุ ธ์การพัฒนาการท่องเทยี่ ว วสิ ยั ทศั นข์ องจังหวดั (Vision) นครแห่งอารยธรรม น่าอยู่ น่าเที่ยว การเกษตรและอตุ สาหกรรมย่งั ยืน ค�ำจากวิสัยทัศน์ หมายถึง นครแห่งอารยธรรม นครศรีธรรมราชเมืองที่มีความหลากหลายทางศาสนา พลเมืองอยู่รว่ มกันอย่างเอือ้ อาทร มีแหล่งบม่ เพาะบคุ คลดว้ ยสถาบันการเรียนรทู้ ้งั ในและนอกระบบและมีประเพณี วัฒนธรรมที่สืบทอดอย่างยาวนาน น่าอยู่ น่าเที่ยว และส่งเสริมสุขภาพอนามัย อาหารปลอดภัย เมืองสีเขียว ทเี่ ปน็ มติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ นา้ํ การบรหิ ารจดั การสง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งยงั่ ยนื สาธารณปู โภค ระบบคมนาคม เพ่มิ ศักยภาพระบบโลจสิ ติกส์ เช่ือมโยงโครงขา่ ยถนนใหไ้ ด้มาตรฐาน ส่งเสริมพฒั นาแหลง่ ท่องเที่ยว ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ปลูกฝังความเป็นเจ้าบ้านที่ดี และเป็นเกษตรอุตสาหกรรมย่ังยืน และมีคุณภาพชีวิต ดีข้ึน ดา้ นการเกษตรค่ขู นาน ภมู ิปญั ญาท้องถิ่น โดยยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ แนวทางในการพัฒนา พร้อมท้งั สนับสนุนการท่องเทย่ี ว เชิงเกษตร/เชงิ นเิ วศ เอกสารประกอบการเรียน 187 รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
เรอื่ งที่ 8 หนว่ ยงานที่เกย่ี วขอ้ งกบั การพัฒนาการท่องเทยี่ ว 1. กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า (Ministry of Tourism and Sport) กระทรวงการทอ่ งเทยี่ วและกฬี า เป็นกระทรวงที่มีภารกิจหลักในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเท่ียว การกีฬา การศึกษา ดา้ นกฬี า นนั ทนาการ และราชการอนื่ ๆ 2. การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย (Tourism Authority of Thailand : TAT) ท�ำหน้าที่รับรอง และให้ความสะดวกแก่นักท่องเท่ียวท่ีจะเดินทางมาประเทศไทย รวมท้ังการโฆษณาเผยแพร่ ประเทศไทย ใหเ้ ปน็ ท่รี จู้ กั ของชาวต่างประเทศ 3. สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพ หรือ ส.ม.อ. (Professional Tourist Guide Association : PTGA) สมาคมมัคคเุ ทศก์อาชพี เปน็ องคก์ รทเี่ ปน็ ศนู ยร์ วมของผู้ประกอบกอาชพี มัคคเุ ทศก์ เพื่อใหส้ มาชกิ ได้พบปะสงั สรรค์ แลกเปลย่ี นความคิดเห็น และเป็นศูนยส์ ่ือข่าวระหวา่ งสมาชกิ ของสมาคม 4. กรมการท่องเท่ียว (Department of Tourism) กรมการท่องเท่ียว เป็นส่วนราชการระดับกรม สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีภารกิจเก่ียวกับการท่องเท่ียว ในการพัฒนามาตรฐานการบริการ ด้านการท่องเทย่ี วและแหล่งท่องเท่ียว รวมท้ังการสนบั สนุนการประกอบธรุ กจิ นำ� เทยี่ วและมัคคเุ ทศก์ให้อยใู่ นระดับ มาตรฐาน เพอื่ ก่อให้เกดิ ประโยชนท์ างเศรษฐกจิ สงั คม และวัฒนธรรม และเพอ่ื กอ่ ใหเ้ กิดการทอ่ งเท่ยี วแบบยงั่ ยืน ซ่ึงเดมิ เปน็ ภารกิจของการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย 5. สมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotel Association : THA) เปน็ องคก์ รทสี่ ง่ เสรมิ การประกอบธรุ กจิ โรงแรม สรา้ งความสามคั ครี ะหวา่ งสมาชกิ แลกเปลย่ี นความรคู้ วามคดิ เหน็ เชงิ วชิ าการซงึ่ กนั และกนั คมุ้ ครองสง่ เสรมิ และรกั ษา ผลประโยชน์ร่วมกัน ประสานงานกับภาครัฐและภาคเอกชนในการอ�ำนวยประโยชน์ เพ่ือให้บรรลุวัตถุประสงค์ รว่ มกนั ในการสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ อตุ สาหกรรมการทอ่ งเทย่ี วและบรหิ ารตลอดจนการพฒั นาบคุ ลากรใหม้ คี ณุ ภาพ และมีมาตรฐานมากยิ่งขึน้ 188 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
กจิ กรรมหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 12 แหล่งทอ่ งเท่ียวในจงั หวัดนครศรีธรรมราช จงตอบค�ำถามต่อไปน้ที ุกข้อ 1. ให้เขียนค�ำขวัญส่งเสริมการท่องเท่ียวประจ�ำจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมอธิบายความหมาย พอเป็นสังเขป ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. 2. ให้เขียนค�ำขวัญส่งเสริมการท่องเที่ยวประจ�ำอ�ำเภอที่ตนเองอาศัยอยู่ พร้อมอธิบายความหมาย พอเปน็ สงั เขป ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. 3. ใหอ้ ธบิ าย/ระบปุ ระเภทของแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว พรอ้ มยกตวั อยา่ งแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วในจงั หวดั นครศรธี รรมราช ประเภทละ 3 ตัวอย่าง พร้อมสถานทตี่ ้ัง ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. เอกสารประกอบการเรยี น 189 รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
4. การอนรุ กั ษส์ ถานทท่ี อ่ งเทย่ี วใหน้ า่ ดู นา่ เทยี่ ว และเปน็ มรดกใหก้ บั คนรนุ่ ตอ่ ๆ ไป ทา่ นจะตอ้ งปฏบิ ตั ิ หรือทำ� อยา่ งไรบา้ ง ใหอ้ ธบิ ายพอสงั เขป ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. 5. ใหร้ ะบแุ หลง่ ท่องเท่ียวในพืน้ ที่/อ�ำเภอที่ทา่ นอาศัยอยู่ จ�ำนวน 2 อย่าง/แห่งพร้อมอธิบายวา่ ท่าน จะทำ� อยา่ งไร ให้แหลง่ ท่องเทีย่ วทม่ี อี ยู่ เกดิ ความสะอาด สวยงาม และมนี กั ท่องเท่ยี วมาเทย่ี วเพม่ิ มากข้นึ ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. 6. ให้อธบิ าย/ระบคุ ุณค่า และประโยชนข์ องแหลง่ ท่องเทยี่ ว มาพอสงั เขป ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. ……………….........................…………………………………………………………………………………………………………………….. 190 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 13โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชด�ำ รใิ นจงั หวดั นครศรธี รรมราช โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ เปน็ ผลสบื เนอื่ งมาจากการเสดจ็ เยยี่ มราษฎรทวั่ ประเทศในทกุ ภมู ภิ าค ทรงสดบั รบั ฟงั ทกุ ขส์ ขุ ของประชาชน แลว้ ทรงแสวงหาวธิ กี ารทจ่ี ะแกป้ ญั หาความเดอื ดรอ้ นของพสกนกิ รใหจ้ งได้ และ จากการเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ เยยี่ มเยยี นราษฎรดงั กลา่ ว ทำ� ใหท้ รงพบวา่ คนชนบทสว่ นใหญข่ องประเทศ ทย่ี งั ชว่ ยตวั เอง ไม่ได้มีจ�ำนวนไม่น้อย การช่วยเหลือประชาชนให้ “พออยู่ พอกิน” จึงเป็นพระราชประสงค์ท่ีจะพระราชทาน พระบรมราชานเุ คราะหแ์ กพ่ สกนกิ รในชว่ งตน้ ทรงวเิ คราะหว์ า่ หากเขาพงึ่ ตนเองไดแ้ ลว้ กจ็ ะมสี ว่ นชว่ ยเหลอื เสรมิ สรา้ ง ประเทศชาติ โดยสว่ นรวมไดใ้ นทส่ี ดุ โครงการอนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� รจิ งึ เนน้ หลกั การพงึ่ ตวั เอง ดงั พระราชดำ� รสั ตอนหนึ่งว่า “...เราจะช่วยเหลือเขา ให้เขาสามารถช่วยเหลือตัวเองได้...” ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช มีโครงการ อนั เนอื่ งมาจากพระราชดำ� ริ รวมทง้ั หมด จำ� นวน 66 โครงการใหญ่ 12 โครงการยอ่ ย ซง่ึ สามารถจำ� แนกโครงการพฒั นา ออกเปน็ 5 ดา้ น ประกอบดว้ ย เร่อื งท่ี 1 โครงการพัฒนาด้านแหลง่ น้�ำ โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำ� ริ ในพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ รในจงั หวดั นครศรธี รรมราช โดยโครงการพฒั นาดา้ นแหลง่ นำ้� จงั หวดั นครศรธี รรมราช มตี วั อยา่ งโครงการ 1. ฝายคลองสังขอ์ ันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ต�ำบลทา่ ยาง อ�ำเภอท่งุ ใหญ่ ฝายคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ต�ำบลท่ายาง อ�ำเภอทุ่งใหญ่ อยู่ในพื้นที่ ต�ำบลท่ายาง อำ� เภอทงุ่ ใหญ่ จังหวดั นครศรธี รรมราช เป็นฝายระบบทดน�้ำส่งเขา้ พื้นที่เพาะปลกู ของเกษตรกร ซ่ึงในฤดูแล้งได้รบั ผลกระทบจากต้นทุนนำ้� ไม่เพยี งพอ ทำ� ใหไ้ ม่สามารถสง่ น�้ำเขา้ ระบบแปลงพนื้ ที่เพาะปลูก โดยเฉพาะในฤดูแล้งบางปี นำ้� ในคลองสงั ขไ์ มม่ ี ไหลขาดเปน็ ชว่ ง ๆ สว่ นในฤดฝู น นำ้� จะเออ่ ลน้ คลองสงั ข์ ไหลบา่ ทว่ มพน้ื ทเ่ี พาะปลกู และตวั เมอื ง เขตเทศบาลต�ำบลท่ายาง ท�ำให้ราษฎรได้รับความเสียหายเป็นอันมาก ทุกปีก่อนที่น้�ำจะระบายสู่แม่น�้ำตาปีต่อไป และมีโรงสูบน�้ำของการประปาส่วนภูมิภาคหน่วยจันดี เขตอ�ำเภอทุ่งใหญ่ ซึ่งโรงสูบน้�ำท่ีตั้งห่างจากตัวฝายไปทาง ด้านเหนือน�้ำประมาณ 700 เมตร โดยสูบน�้ำผลิตประปาใช้ในการอุปโภคและบริโภคในเขตเทศบาลต�ำบลท่ายาง และหมู่บ้านข้างเคียงประมาณวันละ 1,300 ม.3 /วัน โดยเฉพาะในฤดูแล้งทางโครงการฝายคลองสังข์มีน้�ำ จ�ำนวนจ�ำกัดอยู่แล้ว ไม่สามารถส่งน�้ำช่วยเหลือพ้ืนท่ีเพาะปลูกได้ จากสภาพปัญหาดังกล่าว นายฉลอง เทพจินดา ราษฎรตำ� บลทา่ ยาง อำ� เภอทุง่ ใหญ่ ไดย้ ืน่ หนงั สอื ถวายฎีกาตอ่ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวฯ ในคราวที่เสด็จเย่ยี ม ราษฎรท่ีอ�ำเภอทุ่งใหญ่ ขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ ช่วยเร่งรัดพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ให้แก่ราษฎร อ�ำเภอทุ่งใหญ่ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเสด็จพระราชด�ำเนินทอดพระเนตร บริเวณพ้ืนท่ีลุ่มน�้ำคลองสังข์ และทรงเย่ียมราษฎรในพ้ืนที่ อ�ำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันท่ี 18 กนั ยายน 2523 ไดม้ พี ระราชดำ� รใิ หก้ รมชลประทานดำ� เนนิ การโครงการและกอ่ สรา้ งโครงการพฒั นาลมุ่ นำ�้ คลองสงั ข์ ในเขตอ�ำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเร่งด่วน เพ่ือจัดหาน�้ำให้แก่พื้นที่เพาะปลูกในเขตอ�ำเภอทุ่งใหญ่ ซ่ึงมีพ้ืนที่เพาะปลูกประมาณ 70,000 ไร่ มีอาณาเขตในพ้ืนที่อ�ำเภอทุ่งใหญ่ อยู่ประมาณเส้นรุ้งท่ี 8-11 เส้นแวง ที่ 99-22-11 ตะวันตก ให้สามารถท�ำการเพาะปลกู ได้ตลอดปี รวมทงั้ การเลยี้ งสตั ว์ด้วย เอกสารประกอบการเรยี น 191 รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242