2. ปัจจยั ทมี่ อี ิทธิพลตอ่ พฤตกิ รรมการบรโิ ภค การตัดสินใจเลือกซ้ือสินค้าและบริการต่าง ๆ มาบริโภค ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรม การบริโภคดงั น้ี 2.1 รายไดข้ องผ้บู รโิ ภค การบริโภคจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กบั รายไดข้ องผู้บรโิ ภค 2.2 ราคาของสนิ คา้ และบรกิ าร ปรมิ าณการบรโิ ภคขนึ้ อยกู่ บั ราคาสนิ คา้ หรอื บรกิ ารชนดิ นน้ั กลา่ วคอื ถา้ ราคาสนิ ค้าเพิ่มขึน้ ปรมิ าณการบรโิ ภคจะลดลง แต่ราคาสนิ คา้ ลดลงปริมาณการบรโิ ภคจะเพ่มิ ข้ึน 2.3 รสนยิ มหรอื คา่ นยิ มในการบรโิ ภค ซงึ่ มผี ลตอ่ พฤตกิ รรมการบรโิ ภคและแตกตา่ งกนั ตามบคุ คล อายุ เพศ ระดบั การศึกษา รายได้ อาชีพ สงั คมและสภาพแวดล้อม เป็นตน้ 2.4 ฤดูกาล ปริมาณการบริโภคสนิ ค้าบางชนดิ แตกต่างกันไปตามฤดูกาล เช่น ความต้องการใชเ้ สอ้ื กนั หนาวจะมากขน้ึ ในฤดหู นาว ส่วนในฤดูร้อนปรมิ าณการบรโิ ภคน้�ำแข็งจะเพิ่มข้ึน เป็นต้น 2.5 การคาดคะเนเก่ียวกับราคา เป็นการคาดการณ์ถึงการเปล่ียนแปลงราคาสินค้าในอนาคต ซง่ึ สง่ ผลตอ่ ปรมิ าณการบรโิ ภค เชน่ ถา้ คาดการณว์ า่ ราคานำ้� มนั จะเพมิ่ ขนึ้ ผบู้ รโิ ภคกจ็ ะเตมิ นำ้� มนั ไวก้ อ่ น ทร่ี าคานำ้� มนั จะปรับตัวสูงขึ้น เปน็ ต้น 2.6 เทคนิคการขาย การให้สินเชื่อท�ำให้ผู้บริโภคมีอ�ำนาจซ้ือสินค้าและบริการมาสนองตอบ ความตอ้ งการได้มากข้ึน 2.7 การโฆษณา เป็นแรงจูงใจให้ผู้บรโิ ภคมีความต้องการบรโิ ภคสินค้าหรอื บริการชนดิ น้ันเพิ่มข้นึ 3. ค่านยิ มกับพฤติกรรมการบริโภคท่สี ่งผลต่อเศรษฐกจิ และชมุ ชนของประเทศ คา่ นิยม หมายถึง ความรูส้ ึกสนใจ พอใจ ของมนุษย์ เปน็ แนวทางท่ีมนษุ ยย์ ดึ ถือเพื่อประพฤตปิ ฏิบตั ิ มกี ารยอมรับอย่างแพร่หลายจากสมาชิกของสังคม บุคคลในสังคมจะถูกกระตุ้นให้มีส่วนร่วมให้แสดงพฤติกรรมเพ่ือให้บรรลุค่านิยม ซึ่งแต่ละสังคม จะมีลกั ษณะของคา่ นยิ มและพฤติกรรมในการบริโภคแตกต่างกนั ไป 1. คา่ นยิ มความรำ่� รวย และนยิ มใชส้ นิ ค้าจากตา่ งประเทศ บคุ คลเหลา่ นจ้ี ะมคี ่านิยม จะซื้อหรอื ใช้สนิ ค้าทม่ี ีราคาสงู ผลท่ีมตี อ่ เศรษฐกิจ ท�ำให้เปน็ คนฟมุ่ เฟือย น�ำไปสปู่ ัญหาหนี้สนิ 2. คา่ นยิ มรกั ษาสขุ ภาพ จะคำ� นงึ ถงึ สขุ ภาพเปน็ หลกั เลอื กรบั ประทานอาหารทมี่ ปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกาย ผลท่ีมตี ่อเศรษฐกจิ มีชีวติ และความเป็นอย่ทู ดี่ เี ปน็ ก�ำลงั ส�ำคัญในการพฒั นาเศรษฐกิจของชมุ ชนและประเทศ 3. ค่านิยมการบริโภคนิยม บุคคลท่ีมีค่านิยมนี้จะฟุ่มเฟือย บริโภคตามกระแสนิยม ผลท่ีมี ต่อเศรษฐกิจท�ำให้ต้องพยายามด้ินรน หาสิ่งท่ีตนต้องการ ไม่มีวินัยทางการเงินท�ำให้มีปัญหาหน้ีสินน�ำไปสู่ปัญหา ทางเศรษฐกจิ อนื่ ๆ 4. ค่านิยมรักความสนุกเป็นคนที่ชอบความสนุกสนาน ร่ืนเริง ชอบสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ผลท่ีมีต่อ เศรษฐกิจ ท�ำให้เกิดบญั หาหนี้สนิ อาจเป็นอันตรายต่อชีวติ หรือทรัพย์สนิ 5. ค่านิยมการด�ำรงชีวิตเรียบง่ายและประหยัดบุคคลท่ีมีค่านิยมนี้จะเป็นคนเรียบง่าย ใช้จ่าย ในสง่ิ ทจี่ ำ� เปน็ พจิ ารณาอยา่ งรอบคอบกอ่ นตดั สนิ ใจซอื้ วา่ จะคมุ้ คา่ หรอื ไมผ่ ลทม่ี ตี อ่ เศรษฐกจิ คา่ นยิ มนเ้ี ปน็ คา่ นยิ มทด่ี ี เพราะเปน็ ผทู้ ดี่ ำ� รงชวี ติ อยา่ งมคี วามสขุ อยอู่ ยา่ งพอเพยี งตามฐานะ ไมส่ รา้ งปญั หาใหก้ บั ตนเอง ครอบครวั และสงั คม 42 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
เร่อื งที่ 5 เศรษฐกิจที่ส�ำ คญั ของจงั หวัดนครศรธี รรมราช การจำ� หนา่ ยจา่ ยแจก การผลติ และการบรโิ ภคใชส้ อยสง่ิ ตา่ ง ๆ ของชมุ ชน ทง้ั ดา้ นเกษตรกรรม การประมง และอุตสาหกรรม ช่วยกระตนุ้ ใหเ้ กดิ ภาวะเศรษฐกิจทสี่ �ำคญั ของนครศรีธรรมราช โดยมรี ายละเอียดดงั นี้ 1. ด้านเกษตรกรรม จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชากรส่วนใหญ่ยึดอาชีพทางด้านเกษตรกรรมเป็นหลัก ประมาณ ร้อยละ 80 ของประชาชนทัง้ จงั หวดั ซึง่ มีทัง้ การกสิกรรม การประมง การเล้ียงสตั ว์ พืชเศรษฐกิจทีส่ �ำคัญ 1.1 ยางพารา ภาวการณ์ผลิต จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพ้ืนที่ปลูกยางพาราเป็นล�ำดับท่ี 3 ของพื้นท่ี ปลกู ยางพาราท้ังหมด ในภาคใต้มปี ลูกเกอื บทุกพืน้ ท่ีของจงั หวดั อำ� เภอท่ีปลูกมาก คือ อ�ำเภอทุ่งใหญ่ อำ� เภอบางขนั อ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอฉวาง และอ�ำเภอชะอวด ในแต่ละปียางพาราจะผลัดใบในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ในช่วงดังกล่าว ยางพาราจะออกสู่ตลาดน้อย เพราะเป็นช่วงผลัดใบไม่เหมาะกับการกรีดยาง ส่วนในช่วงเดือน พฤษภาคม ถึงเดือนมกราคม จะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด เพราะเป็นช่วงท่ีเหมาะกับการกรีดยาง ส�ำหรับช่วง ทีป่ ริมาณยางออกสตู่ ลาดมาก คอื ชว่ งเดือนมถิ นุ ายน - สงิ หาคม และ เดอื นธนั วาคม – มกราคม ศึกษาเพม่ิ เติม ผ้เู รียนสามารถเขา้ ศกึ ษาขอ้ มลู เพ่มิ เติมเกยี่ วกับส�ำนกั งาน เกษตรจังหวัดนครศรธี รรมราช โดยการสแกน QR Code เพือ่ เขา้ ถงึ ข้อมูลลา่ สุด ศึกษาเพ่มิ เติม ผูเ้ รยี นสามารถเขา้ ดรู าคายางพาราล่าสดุ จากการยาง แหง่ ประเทศไทย (กยท.) โดยการสแกน QR Code เพอื่ เขา้ ถึงขอ้ มลู ล่าสุด วิถตี ลาด ในจังหวัดนครศรธี รรมราช มกี ารซือ้ ขายยางพารา แบง่ ออกได้เป็น 3 ลกั ษณะ คือ 1) เกษตรกรจะทำ� การซือ้ ขายกบั องค์การสวนยางนาบอน 2) ขายใหแ้ กพ่ อ่ ค้าร้านคา้ ย่อยในอ�ำเภอและจังหวัด 3) ขายให้แก่ตลาดกลางของการยางแห่งประเทศไทยสาขาจังหวัดนครศรีธรรมราช (กยท.) และกลุ่มสหกรณ์ ในความสง่ เสรมิ ของ กยท. ซง่ึ มโี รงรมเป็นของตนเอง ส�ำหรับอ�ำเภอทไ่ี ม่มี กยท. หากเกษตรกรต้องการขายให้แกอ่ งคก์ ารสวนยาง เกษตรกรก็จะรวบรวม แล้วแจ้งให้องค์การสวนยางนาบอนทราบ เพ่ือจะได้ออกไปรับซื้อผลผลิตท่ีเกษตรกรน�ำไปขายให้แก่การยาง แหง่ ประเทศไทยสาขาจังหวัดนครศรธี รรมราช (กยท.) หรือองค์การสวนยางนาบอน เอกสารประกอบการเรยี น 43 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
1.2 ขา้ ว ภาวการณผ์ ลิต จังหวัดนครศรธี รรมราช มกี ารปลูกและผลติ ข้าวนาปี อำ� เภอท่เี ปน็ แหล่งปลกู ขา้ วทส่ี ำ� คญั ของจงั หวดั ไดแ้ ก่ อำ� เภอหวั ไทร อำ� เภอปากพนงั อำ� เภอเชยี รใหญ่ อำ� เภอชะอวด อำ� เภอ เฉลมิ พระเกยี รติ อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอพระพรหม อำ� เภอร่อนพบิ ลู ย์ อ�ำเภอสิชล และอ�ำเภอเมอื ง การปลูกข้าวนาปีจะเรมิ่ ประมาณ เดือนสิงหาคม – ตุลาคม และจะมีการเก็บเกี่ยวในช่วง เดือนมีนาคม - เมษายน ข้าวนาปีที่ผลิตได้ส่วนใหญ่ เปน็ พนั ธพ์ุ น้ื เมอื งชนดิ ตา่ งๆ เชน่ ขา้ วมาเลเฉย้ี ง และพนั ธข์ุ า้ วหอมปทมุ ธานี 1 เกษตรกรสว่ นใหญจ่ ะปลกู ขา้ วเพอื่ บรโิ ภค มากกว่าเพอื่ การจำ� หนา่ ย สำ� หรบั ขา้ วนาปรงั จะปลกู ในเขตอำ� เภอปากพนงั อำ� เภอหวั ไทร อำ� เภอเชยี รใหญ่ อำ� เภอชะอวด อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอพระพรหม และอ�ำเภอเมือง ซึ่งจะเริ่มเพาะปลูกในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม และเก็บเก่ียวในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน ซ่ึงข้าวนาปรังที่ผลิตได้ส่วนใหญ่ เกษตรกรจะน�ำออกจ�ำหน่าย การเก็บไว้บริโภคจะน้อย เนือ่ งจากข้าวมีความชน้ื สูง เกษตรกรไม่นิยมบรโิ ภค ศกึ ษาเพม่ิ เตมิ ผู้เรยี นสามารถเข้าดรู าคาขา้ วล่าสดุ จากสมาคมโรงสขี ้าว แห่งประเทศไทย โดยการสแกน QR Code เพื่อเข้าถงึ ข้อมลู ลา่ สดุ ภาวการณ์ตลาด วิถีการตลาดข้าวเปลือก มกี ารซ้ือขายข้าวเปลอื กของเกษตรกร 3 ลักษณะ คือ 1) จำ� หน่ายให้สหกรณก์ ารเกษตร 2) จ�ำหน่ายให้โรงสใี นทอ้ งถนิ่ 3) จำ� หนา่ ยใหพ้ อ่ คา้ ในทอ้ งทน่ี ำ� ไปแปรรปู เปน็ ขา้ วสารจำ� หนา่ ยใหแ้ กพ่ อ่ คา้ สง่ และพอ่ คา้ ปลกี เพ่อื จ�ำหน่ายให้แกผ่ ู้บรโิ ภคตอ่ ไป 1.3 ปาล์มนํา้ มนั ภาวการณผ์ ลติ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช มพี น้ื ทป่ี ลกู ปาลม์ นา้ํ มนั มากเปน็ ลำ� ดบั 4 ของภาคใต้ ปลูกกระจายทุกอ�ำเภอ อ�ำเภอที่เป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ํามันท่ีส�ำคัญของจังหวัด ได้แก่ อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอทุ่งใหญ่ อ�ำเภอชะอวด อำ� เภอขนอม อ�ำเภอบางขัน และอ�ำเภอเฉลมิ พระเกียรติ ศึกษาเพิ่มเตมิ ผูเ้ รยี นสามารถเขา้ ดรู าคาปาลม์ นํา้ มันลา่ สดุ จากเว็บไซต์ ราคาเกษตร โดยการสแกน QR Code เพื่อเขา้ ถึงข้อมูล ส่าสดุ 44 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
ภาวการณต์ ลาด วถิ กี ารตลาดปาลม์ นำ้� มนั มกี ารซอ้ื ขายปาลม์ นำ�้ มนั ของเกษตรกร 3 ลกั ษณะ คอื 1) จ�ำหนา่ ยใหพ้ อ่ ค้าในท้องถิ่น 2) จำ� หน่ายใหส้ หกรณ์การเกษตร 3) จำ� หน่ายให้โรงงานสกดั น้ำ� มนั ปาล์มในจงั หวัดและจงั หวัดใกลเ้ คียง 1.4 ผลไม้ท่สี �ำคญั 1) มงั คดุ ภาวการณผ์ ลติ จงั หวดั นครศรธี รรมราช มพี นื้ ทปี่ ลกู มงั คดุ กระจายอยทู่ วั่ ไปทกุ อำ� เภอ แตอ่ ำ� เภอ ทป่ี ลูกมาก คือ อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอพรหมคีรี อ�ำเภอเมือง อำ� เภอสชิ ล และอ�ำเภอช้างกลาง ผลผลิตออกส่ตู ลาด ช่วงเดอื น กรกฎาคม - ธนั วาคม ชว่ งท่อี อกสูต่ ลาดมากท่สี ุด คือ เดอื นสงิ หาคม แหล่งรับซือ้ และจ�ำหน่ายผลไมข้ องจังหวัด (1) ตลาดกลางผกั และผลไมห้ วั อฐิ 11/7-53 ม.1 ถ.กะโรม อ.เมอื ง โทรศพั ท์ 075-256819, 344203-4 (2) ตลาดกลางสินค้าเกษตรหัวอิฐ 1/8 ม.1 ถ.กะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง โทรศัพท์ 075-344483 (3) ผ้ปู ระกอบการรบั ซื้อผลไม้ (ล้ง) สว่ นใหญจ่ ะตัง้ จุดรบั ซ้อื ณ แหลง่ ผลิต (4) พอ่ ค้าทอ้ งถิ่น/พอ่ คา้ เร่ มีรถเข้าไปรบั ซื้อหรอื ต้งั จดุ รบั ซ้อื ณ แหลง่ ผลิต 2) ทุเรยี น ภาวการณ์ผลิต จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นท่ีส่วนใหญ่ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง กระจายอยู่ท่ัวไปทุกอ�ำเภอ แต่อ�ำเภอที่ปลูกมากคือ อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอลานสกา และอำ� เภอชา้ งกลาง ผลผลติ ออกสตู่ ลาดชว่ งเดอื นกรกฎาคม - กนั ยายน ชว่ งทอ่ี อกสตู่ ลาดมากทสี่ ดุ คอื เดอื นสงิ หาคม แหล่งรบั ซือ้ และจ�ำหน่ายผลไม้ของจังหวัด (1) ตลาดกลางผกั และผลไมห้ วั อฐิ 11/7-53 ม.1 ถ.กะโรม อ.เมอื ง โทรศพั ท์ 075-256819, 344203-4 (2) ตลาดกลางสินค้าเกษตรหัวอิฐ 1/8 ม.1 ถ.กะโรม ต.โพธ์ิเสด็จ อ.เมือง โทรศัพท์ 075-344483 (3) พอ่ ค้าท้องถิ่น/พอ่ คา้ เร่ ทม่ี รี ถเขา้ ไปรบั ซ้ือถึงสวนโดยตรง (4) ผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ (ล้ง) สว่ นใหญ่จะตง้ั จุดรบั ซ้ือ ณ แหลง่ ผลิตในตำ� บลตา่ ง ๆ 3) เงาะ ภาวการณ์ผลิต จงั หวัดนครศรีธรรมราชในปี 2560 มีพน้ื ท่ปี ลกู เงาะ จำ� นวน 32,746 ไร่ พนื้ ทใี่ ห้ ผลแลว้ 32,440 ไร่ ผลผลติ รวมจำ� นวน 10,125 ตนั ผลผลติ เฉลย่ี 312 กโิ ลกรมั /ไร่ สว่ นใหญป่ ลกู พนั ธโ์ุ รงเรยี น พืน้ ที่ปลูกกระจายอย่ทู วั่ ไปทกุ อำ� เภอ แตอ่ ำ� เภอที่ปลูกมากคือ อำ� เภอชะอวด อ�ำเภอสิชล อำ� เภอฉวาง อำ� เภอเมอื ง และอำ� เภอนาบอน ผลผลติ ออกส่ตู ลาดช่วงเดือนสงิ หาคม - ธันวาคม ชว่ งทอ่ี อกสู่ตลาดมากท่ีสุดคือ เดอื นกันยายน เอกสารประกอบการเรยี น 45 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
แหลง่ รับซอื้ และจ�ำหนา่ ยผลไมข้ องจังหวดั (1) ตลาดกลางผกั และผลไมห้ วั อฐิ 11/7-53 ม.1 ถ.กะโรม อ.เมอื ง โทรศพั ท์ 075-256819, 344203-4 (2) ตลาดกลางสนิ คา้ เกษตรหวั อฐิ 1/8 ม.1 ถ.กะโรม ต.โพธ์ิเสดจ็ อ.เมอื ง โทรศพั ท์ 075-344483 (3) ผปู้ ระกอบการรบั ซ้ือผลไม้ (ล้ง) สว่ นใหญจ่ ะต้งั จุดรบั ซอื้ ณ แหลง่ ผลติ (4) พอ่ คา้ ทอ้ งถนิ่ /พ่อคา้ เรม่ ีรถเขา้ ไปรบั ซือ้ หรือตง้ั จดุ รับซ้ือ ณ แหลง่ ผลติ 2. ด้านการประมง จังหวัดนครศรีธรรมราชมีชายฝั่งทะเลในพ้ืนที่ 6 อ�ำเภอ ยาว 225 กิโลเมตร แยกเป็นพ้ืนที่ ในอำ� เภอขนอม 21 กโิ ลเมตร อำ� เภอสชิ ล 26.5 กโิ ลเมตร อำ� เภอทา่ ศาลา 31.8 กโิ ลเมตร อำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช 32 กิโลเมตร อ�ำเภอปากพนัง 85 กิโลเมตร และอ�ำเภอหัวไทร 28.7 กิโลเมตร โดยรูปแบบการประมง ในจงั หวัดนครศรธี รรมราช จำ� แนกได้ตามลักษณะเป็น 2 ประเภท คอื ประมงพืน้ บา้ น และประมงพาณชิ ย์ 2.1 ประมงพนื้ บา้ น เป็นซาวประมงหลักของจังหวดั นครศรธี รรมราช มีการอาศัยอยกู่ ันเปน็ ชุมชน ชาวประมง หรือหมู่บ้าน ต้ังอยู่ริมฝังคลอง ปากแม่น้�ำ มีเขตติดต่อกับชายฝั่งทะเล ซ่ึงชาวประมงจะจอดเรือ อยู่หน้าบ้านของตนเองและน�ำสัตว์ข้ึนมาจ�ำหน่าย เครื่องมือที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องมือพื้นบ้าน เช่น อวนลอย อวนลอยปลากระบอก อวนจมปมู ้า อวนจมปลาทู เป็นต้น 2.2 ประมงพาณิชย์ ชาวประมงจะใช้เรือขนาดใหญ่หรือท่ีใช้เคร่ืองยนต์มีแรงม้ามาก ซึ่งจะมี ท้ังชาวประมงที่มีภูมิล�ำเนาในเขตจังหวัด และจังหวัดข้างเคียงเข้ามาท�ำงานการประมงโดยใช้เคร่ืองมือ เช่น เคร่อื งมือ อวนลากเด่ยี ว อวนลากคู่ อวนล้อมจบั อวนตดิ ตา เป็นตน้ ทง้ั นกี้ ารทำ� ประมงทำ� ไดต้ ลอด ทงั้ ปี ทั้งกลางวัน และกลางคืน สินคา้ ประมงท่ัวไป วิธกี ารรับซือ้ สตั วน์ ำ�้ ในจังหวัดนครศรธี รรมราช ขณะนม้ี ีอยู่ 2 วิธี คอื 1. แพปลาหรอื ห้องเยน็ รบั ซ้ือสินคา้ จากชาวประมงเป็นสทิ ธิข์ าด 2. รบั เปน็ คนกลางขายสนิ คา้ สตั วน์ ำ�้ ใหแ้ กช่ าวประมง วธิ กี ารนผ้ี รู้ วบรวมสนิ คา้ สตั วน์ ำ�้ ไมม่ สี ทิ ธใ์ิ นสนิ คา้ เพียงแต่เป็นผู้รวบรวมสัตว์น�้ำบรรจุหีบห่อแช่น�้ำแข็งส่งไปจ�ำหน่ายแทนชาวประมงเท่านั้นก�ำหนดราคารับซ้ือ ราคาสนิ คา้ สตั วน์ ำ้� มกั จะมกี ารเปลยี่ นแปลงทกุ ระยะ อนั มสี าเหตมุ าจากชาวประมงจบั สตั วน์ ำ�้ ในแตล่ ะเดอื นมปี รมิ าณ ไม่สมำ�่ เสมอ ความเคลอื่ นไหวของราคาจำ� หนา่ ยราคาสตั ว์น้�ำจะสงู มาก ช่วงฤดูมรสุม เพราะการออกจับปลาได้น้อย โดยทวั่ ไปผู้รวบรวมสตั ว์น�ำ้ ไดแ้ ก่ หอ้ งเย็น แพปลา และพ่อค้าคนกลาง จะเปน็ ผกู้ ำ� หนดราคารบั ซ้ือ โดยยดึ เอาราคา จากสะพานปลากรุงเทพฯ หรือราคาจากประเทศมาเลเซียเป็นหลัก ชาวประมงไม่มีอ�ำนาจต่อรองทางด้านราคา นอกจากนี้ราคาสินค้าประเภทนี้จะเคล่ือนไหวข้ึนหรือลงมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปริมาณสัตว์น้�ำท่ีจับได้ใน ชว่ งน้นั ๆ ด้วย 46 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
สนิ คา้ สตั ว์น�้ำทะเล สัตว์น�้ำทะเลทร่ี วบรวมได้ ผ้รู วบรวมหรอื แพปลาจะจ�ำหนา่ ยโดยวธิ ีดังนี้ 1. การจ�ำหนา่ ยโดยตรง ผรู้ วบรวมจะจำ� หนา่ ยแกแ่ พปลาซง่ึ ตงั้ อยใู่ นทอ้ งทก่ี ารจำ� หนา่ ย วธิ นี ไี้ มต่ อ้ งเสยี ค่านายหน้าแก่การจ�ำหน่ายสินค้าสัตว์น�้ำปริมาณมาก ๆ วิธีนี้จะไม่เป็นท่ีนิยมมากนักเพราะการรวบรวมสินค้า ปริมาณมาก ๆ น้นั มคี วามเสีย่ งสูง 2. การจ�ำหน่ายโดยผ่านพ่อค้าคนกลาง ผู้รวบรวมสัตว์น้�ำที่เป็นแพปลาส่วนใหญ่จะนิยมการจ�ำหน่าย โดยวธิ นี เ้ี พราะความแนน่ อนมีมากกวา่ วิธแี รก 3. ดา้ นอตุ สาหกรรม จังหวัดมีอุตสาหกรรมต่าง ๆ หลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมกลางน้�ำที่แปรรูปสินค้า มาจากวัตถุดบิ ทางการเกษตร อตุ สาหกรรมทส่ี ำ� คญั เซน่ อตุ สาหกรรมแปรรูปยางพาราขน้ั ต้น อตุ สาหกรรมแปรรปู ไม้ยางพารา อุตสาหกรรมนำ�้ มันปาลม์ ดบิ อตุ สาหกรรมอโลหะ (ปนู ซีเมนต์ คอนกรีตผสมเสร็จ ผลติ ภณั ฑค์ อนกรตี ) อตุ สาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล เปน็ ต้น เอกสารประกอบการเรียน 47 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
กจิ กรรมหนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เศรษฐกจิ ของนครศรีธรรมราช จงตอบค�ำถามขอ้ ต่อไปนี้ 1. ให้อธิบายหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมยกตัวอย่างกิจกรรมท่ีผู้เรียนน�ำหลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำ� วัน มาอย่างน้อย ๕ กจิ กรรม และยกตัวอยา่ งชุมชนเศรษฐกิจ พอเพียงในนครศรีธรรมราช วา่ ชุมชนท�ำอยา่ งไรบ้าง ให้อธิบายพอสงั เขป มาอยา่ งน้อย ๒ ชุนชน ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. 2. ใหว้ เิ คราะหแ์ ละสรปุ ภาวะเศรษฐกจิ ของจงั หวดั นครศรธี รรมราช ในดา้ นตา่ ง ๆ มาอยา่ งนอ้ ย 3 ดา้ น ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. 3. ให้ยกตัวอย่างการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของจังหวัดนครศรีธรรมราชและระบุความจ�ำเป็น ของการรวมกลุม่ นั้นพอสงั เขป ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. 4. ใหว้ เิ คราะห์ คา่ นยิ ม และพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของตนเอง ครอบครวั และชมุ ชนทสี่ ง่ ผลตอ่ เศรษฐกจิ ของจงั หวัดนครศรธี รรมราช ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... 5. ให้ระบุเศรษฐกิจท่ีส�ำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราชด้านเกษตรกรรม ด้านการประมง และ ด้านอตุ สาหกรรม พรอ้ มอธบิ ายว่ามคี วามสำ� คัญดา้ นการผลติ และการตลาดอย่างไร ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. 48 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5การคมนาคมของจังหวัดนครศรธี รรมราช การเดนิ ทางของชาวจงั หวดั นครศรธี รรมราช ปจั จบุ นั ใชก้ ารเดนิ ทาง คมนาคม 3 ชอ่ งทาง 1. การคมนาคม ทางบก ได้แก่ รถไฟ รถยนต์ การเดินทางโดยรถยนต์สาธารณะ ที่ใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ รถทัวร์ รถมินิบัส รถตู้ รถสองแถว การเดินทางภายในตัวอ�ำเภอก็จะมีรถสองแถว รถจักรยานยนต์ 2. คมนาคมทางน�้ำ เป็นการเดินทาง ทางนำ้� คนโดยทว่ั ไปไมน่ ยิ มใชม้ บี า้ งทย่ี งั ใชก้ ารเดนิ ทางทางนำ้� ในการขา้ มฝง่ั เชน่ โดยเรอื โดยแพ การบรรทกุ สนิ คา้ แร่ และชาวประมงในการออกไปประกอบอาชีพ 3. การคมนาคมทางอากาศ เรื่องที่ 1 การคมนาคมทางบกของจงั หวดั นครศรีธรรมราช การคมนาคม คือ การไปมาติดตอ่ ระหวา่ งทอ้ งถ่ินตา่ งๆ เร่มิ จากระหว่างหมบู่ า้ น ตำ� บล อำ� เภอ จังหวัด และประเทศ จังหวัดนครศรีธรรมราชห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 780 กิโลเมตร มีจังหวัดท่ีอยู่ติดกันได้แก่ สงขลา พัทลงุ ตรัง กระบ่ี และสรุ าษฎรธ์ านี ทางรถยนต์ถนนสายหลักเข้าสจู่ งั หวดั นครศรีธรรมราช เสน้ ทางหลวง หมายเลข ดงั นี้ 1) จากจงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี ถึงจังหวัดนครศรีธรรมราช ทางหลวงหมายเลข 401 และ 4103 ระยะทาง 134 กิโลเมตร 2) จากจงั หวัดตรัง ถงึ จังหวดั นครศรธี รรมราช ทางหลวงหมายเลข 403 ระยะทาง 123 กโิ ลเมตร 3) จากจังหวัดสงขลา ถงึ จังหวัดนครศรธี รรมราช ทางหลวงหมายเลข 408 ระยะทาง 161 กิโลเมตร 4) จากจงั หวดั พทั ลงุ ถงึ จงั หวดั นครศรธี รรมราช ทางหลวงหมายเลข 41 และ 403 ระยะทาง 99 กโิ ลเมตร ความหมายของตัวเลขท่ีใช้เรยี กชอื่ เส้นทาง ทางหลวงท่ีมีเลขหน่ึงตัว หมายถึง ทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงพิเศษท่ีเป็นถนนสายหลักเชื่อม การคมนาคมระหว่างภาคต่อภาค ไดแ้ ก่ ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 1 หรอื ถนนพหลโยธนิ เปน็ ถนนสายหลกั ทไี่ ปสภู่ าคเหนอื ตง้ั ตน้ จากกรงุ เทพฯ ไปสน้ิ สดุ ที่จังหวดั เชยี งราย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 หรือ ถนนมิตรภาพ เป็นถนนสายหลักท่ีไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตัง้ ตน้ ทจ่ี งั หวดั สระบรุ ี และไปสิ้นสุดทีจ่ ังหวัดหนองคาย ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 หรือ ถนนสุขุมวิท เป็นถนนสายหลักที่ไปสู่จังหวัดทางภาคกลางรวมถึง ชายทะเลภาคตะวนั ออกเฉยี งใต้ ต้ังตน้ จากกรุงเทพฯ ไปสนิ้ สดุ ทจ่ี ังหวัดตราด ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 4 หรือ ถนนเพชรเกษม เปน็ ถนนสายหลกั ทไี่ ปสภู่ าคใต้ ต้ังต้นจากกรุงเทพฯ ไปสนิ้ สดุ ที่อ�ำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ทางหลวงทมี่ ีเลขสองตวั คือ ทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงพเิ ศษท่เี ป็นสายประธานตามภาคตา่ ง ๆ เช่น ทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 22 หมายถึง ทางหลวงแผน่ ดินสายประธานในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื สายอดุ รธาน-ี นครพนม ทางหลวงพเิ ศษหมายเลข 51 หมายถงึ ทางหลวงซงึ่ เชอ่ื มตอ่ จากถนนวงแหวนรอบนอกกรงุ เทพฯ สพุ รรณบรุ ี เอกสารประกอบการเรียน 49 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
ทางหลวงท่มี เี ลขสามตวั คอื ทางหลวงแผน่ ดินสายรอง เชน่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 202 หมายถงึ ทางหลวงแผ่นดินสายรองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สายชัยภูมิ-เขมราฐ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 314 หมายถึงทางหลวงแผน่ ดนิ สายรองในภาคกลางสายบางปะกง-ฉะเชงิ เทรา ทางหลวงทม่ี เี ลขสต่ี วั คอื ทางหลวงแผน่ ดนิ ทเ่ี ชอ่ื มระหวา่ งจงั หวดั กบั อำ� เภอ หรอื สถานทส่ี ำ� คญั ของจงั หวดั นัน้ เช่น ทางหลวงหมายเลข 4006 หมายถึงทางหลวงในภาคใตส้ ายแยกทางหลวงหมายเลข 4 (ราชกรูด-หลงั สวน) ปรากฏดังตารางภาพ ปา้ ยทางหลวง ปา้ ยทางหลวง การแบ่งภาค ทางหลวงทข่ี น้ึ ตน้ ด้วยหมายเลข 1 แสดงว่าทางสายนั้น อยู่ในภาคเหนือ และบางสว่ นของภาคตะวนั ออก เฉียงเหนือ ทางหลวงทีข่ นึ้ ต้นดว้ ยหมายเลข 2 แสดงว่าทางสายนั้น อยใู่ นภาคตะวันออกเฉียงเหนอื และบางสว่ นของ ภาคเหนอื และภาคกลาง ทางหลวงทข่ี ึ้นต้นด้วยหมายเลข 3 แสดงว่าทางสายนนั้ อยใู่ นภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และ บางสว่ นของภาคใต้ ทางหลวงที่ขน้ึ ตน้ ดว้ ยหมายเลข 4 แสดงว่าทางสายนั้น อยใู่ นภาคใต้ 1. ทางหลวงแผน่ ดิน ทางหลวงแผ่นดิน คอื เป็นเสน้ ทางสารธารณะ ทางหลวงสายหลักท่เี ป็นโครงขา่ ยเชือ่ มระหวา่ งภาค จังหวัด อ�ำเภอ ตลอดจนสถานที่ส�ำคัญ ท่ีกรมทางหลวงเป็นผู้ด�ำเนินการก่อสร้าง ขยาย บูรณะและบ�ำรุงรักษา และได้ลงทะเบยี นไวเ้ ป็นทางหลวงแผ่นดิน จังหวัดนครศรีธรรมราช มีสายหลัก 1 สายทาง สายรอง 3 เส้นทาง ทางหลวงแผ่นดินจังหวัด 45 สายทาง โดยมที างลาดยาง 1,018.864 กิโลเมตร คอนกรตี 8.92 กโิ ลเมตร โครงขา่ ยทางหลวงแผน่ ดิน (สายหลกั ) ทเี่ ข้าส่เู มืองนครศรธี รรมราช ไดแ้ ก่ 1.1 ทางหลวงชนบท 401 ตอน เขาหวั ช้าง - นครศรธี รรมราช ระยะทาง 83 กิโลเมตร 1.2 ทางหลวงหมายเลข 403 ตอน นครศรีธรรมราช-เสาธง-แยกสวนผกั ระยะทาง 52.3 กโิ ลเมตร 1.3 ทางหลวงหมายเลข 408 ตอน นครศรีธรรมราช - ปากระวะ ระยะทาง 71 กิโลเมตร 50 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
2. ทางหลวงชนบท ทางหลวงชนบท คือ ทางหลวงที่กรมทางหลวงชนบทเปน็ ผู้ดำ� เนนิ การก่อสร้าง ขยาย บูรณะ และ บ�ำรงุ รักษา และไดล้ งทะเบียนไวเ้ ป็นทางหลวงชนบท โครงข่ายทางหลวงชนบทของกรมทางหลวงชนบท ปี 2560 ในจงั หวัดนครศรีธรรมราช จำ� นวน 70 สาย ทาง ระยะทาง รวม 995.071 กิโลเมตร แยกเปน็ ถนนลาดยาง 955.398 กิโลเมตร ถนนคอนกรีต 16.512 กโิ ลเมตร และถนนลูกรงั 23.161 กโิ ลเมตร ระยะทางจากอ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราชไปยังอำ� เภอต่าง ๆ ระยะทางจากอ�ำเภอเมืองนครศรธี รรมราชไปยังอ�ำเภอตา่ ง ๆ พระพรหม 12 กโิ ลเมตร จุฬาภรณ์ 54 กโิ ลเมตร กิโลเมตร พรหมครี ี 22 กโิ ลเมตร นาบอน 56 กิโลเมตร กโิ ลเมตร ลานสกา 22 กิโลเมตร ลชิ ล 61 กโิ ลเมตร กโิ ลเมตร เฉลิมพระเกยี รติ 28 กิโลเมตร ชะอวด 63 กโิ ลเมตร กิโลเมตร ท่าศาลา 29 กโิ ลเมตร หวั ไทร 71 กิโลเมตร กิโลเมตร ร่อนพิบลู ย์ 32 กโิ ลเมตร ฉวาง 75 กโิ ลเมตร ปากพนัง 38 กโิ ลเมตร บางขัน 78 กโิ ลเมตร กโิ ลเมตร ชา้ งกลาง 40 กิโลเมตร ขนอม 100 กโิ ลเมตร เชยี รใหญ่ 51 กิโลเมตร พปิ นู 100 นบพิตำ� 52 กโิ ลเมตร ทงุ่ ใหญ่ 102 ทงุ่ สง 53 กโิ ลเมตร ถ้ําพรรณรา 108 ระยะทางจากจังหวดั นครศรธี รรมราชไปยังจงั หวดั ใกล้เคยี ง พัทลุง 112 กิโลเมตร กระบ่ี 233 ตรัง สุราษฎร์ธานี 123 กิโลเมตร พงั งา 245 สงขลา 134 กิโลเมตร ภเู ก็ต 336 161 กโิ ลเมตร เอกสารประกอบการเรยี น 51 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
การคมนาคมทางบก รถโดยสารประจ�ำทาง การเดนิ ทางข้ามจงั หวดั ใช้รถบัส รถมินบิ ัส รถทวั ร์ รถตู้ รถโดยสารประจ�ำทาง (รถทัวร์) การเดนิ ทาง รถมนิ ิบัส การเดนิ ทางระหวา่ งอำ� เภอ รถสาธารณะท่มี ีบรกิ ารประชาชน ไดแ้ ก่ รถบัส รถตู้ รถสองแถว และรถที่ยงั คงความ เป็นเอกลักษณ์ รถสองแถวไปบ้านชะเมา อำ� เภอเมืองใช้รถไม้ และรถสามล้อ ในบรเิ วณตวั เมือง รถโดยสารประจำ� ทาง (รถเมล)์ 52 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
รถสองแถว รถสามลอ้ รถไม้ เอกสารประกอบการเรยี น 53 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
เรอ่ื งที่ 2 การคมนาคมทางรถไฟของจงั หวัดนครศรธี รรมราช ทางรถไฟสายใต้ทุกขบวน เข้าด่านแรกพื้นที่อ�ำเภอชะอวด ผ่านชุมทางเขาชุมทองอ�ำเภอร่อนพิบูบลย์ ผ่านชมุ ทางทุ่งสงเพอ่ื เดินทางไปทางเหนือ ได้แก่ ภาคใตต้ อนบน กรุงเทพมหานคร และมที างรถไฟแยกจากชมุ ทาง เขาชมุ ทอง อ�ำเภอรอ่ นพบิ ูลยไ์ ปยังสถานีรถไฟจังหวดั นครศรธี รรมราช ส�ำหรับขบวนรถจากนครศรีธรรมราช ได้แก่ ขบวนรถจากนครศรีธรรมราช - กรุงเทพ และกรุงเทพ - นครศรีธรรมราช ขบวนรถธรรมดาและรถไฟสายใต้ทีผ่ ่านชุมทางทุ่งสง สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ที่ ถนนยมราช ต�ำบลท่าวัง อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นสถานีปลายทางท่ีแยกมาจากสถานีชุมทางเขาชุมทอง เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ของทาง รถไฟสายใต้ การเดินทางส�ำหรับคนจังหวัดนครศรีธรรมราช การเดินทางเดินทางมาท่องเท่ียว ในประเทศไทย จากนครศรีธรรมราช ไปจังหวัดต่าง ๆ โดยเส้นทางรถไฟ ดังน้ัน เส้นทางรถไฟเป็นทางเลือกของประชาชนใน จังหวัดนครศรีธรรมราชในการเดินทางข้ามต�ำบล ชุมชน อ�ำเภอ จังหวัดท่ีมีเส้นทางรถไฟผ่านที่เป็นท่ีนิยมในหมู่ ชาวบ้านในพน้ื ท่ีจังหวดั นครศรีธรรมราช สถานรี ถไฟนครศรธี รรมราช รถไฟจากนครศรีธรรมราช ไป กรุงเทพฯ 54 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
1. ประเภทรถไฟ ประเภทต๋วั โดยสารและราคาตวั๋ โดยสารของนครศรธี รรมราช ขบวนรถไฟประจ�ำวัน จากนครศรีธรรมราชไปกรุงเทพฯ มีจ�ำกัด ดังนั้นควรจองตั๋วรถไฟล่วงหน้า ทางออนไลน์ ราคาตั๋วรถไฟจากนครศรีธรรมราช ขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟ และประเภทของตั๋วท่ีคุณเลือก ตารางด้านล่างสำ� หรบั ตัว๋ รถไฟออนไลนส์ ามารถจองได้ที่ busonlineticket.co.th. เวลาออก หมายเลขขบวน ประเภทรถไฟ ประเภทตัว๋ ราคา(บาท) 13:00 น. ชั้น 2 ทนี่ อน ปรบั อากาศ 838 เวลามาถงึ : 05:10 น. 174 เรว็ ชน้ั 2 ทนี่ อน พัดลม 598 ชั้น 2 ที่น่ัง พดั ลม 448 ช้ัน 3 ที่นง่ั พัดลม 273 15:00 น. ชั้น 1 ทีน่ อน ปรับอากาศ 1,502 เวลามาถึง: 06:30 น. 86 ดว่ น ชั้น 2 ทน่ี อน ปรับอากาศ 898 ช้นั 2 ท่ีนง่ั พดั ลม 488 ชน้ั 3 ที่นงั่ พัดลม 313 การเดินทางดว้ ยรถไฟไปจงั หวดั นครศรธี รรมราช ตารางการเดินรถไฟ กรงุ เทพฯ – นครศรธี รรมราช เลขขบวนรถ 173 ประเภท : รถเร็ว เลขขบวนรถ 185 ประเภท : รถด่วน เวลาออกจากกรุงเทพ : 17.35 น. เวลาออกจากกรงุ เทพ : 19.30 น. เวลาถึงนครศรธี รรมราช : 09.55 น. เวลาถึงนครศรธี รรมราช : 10.55 น. ราคาไมร่ วมค่าธรรมเนยี ม ราคาไม่รวมค่าธรรมเนยี ม - ช้ันที่ 1 ราคา 652 บาท - ชน้ั ท่ี 1 ราคา 652 บาท - ชั้นที่ 2 ราคา 308 บาท - ช้นั ท่ี 2 ราคา 308 บาท - ชน้ั ท่ี 3 ราคา 133 บาท - ชนั้ ที่ 3 ราคา 133 บาท 2. ระยะทางและระยะเวลาการเดนิ ทาง ระยะทางระหว่างนครศรีธรรมราชไปกรุงเทพฯ ประมาณ 780 กิโลเมตร ตามแนวรถไฟสายใต้ ไปยงั ใจกลางเมอื งของกรงุ เทพมหานคร รถไฟสายท่ี 174 เป็นรถไฟ ประเภทเร็ว ใช้เวลาเดนิ ทาง 16 ชวั่ โมง 10 นาที จากนครศรีธรรมราช ถึงกรุงเทพฯ ขณะท่ีรถไฟ 86 ซึ่งเป็นรถไฟด่วนใช้เวลาส้ันลง ระยะเวลาเดินทางประมาณ 15 ชั่วโมง 30 นาที การเดินทางโดยรถไฟจาก จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปยังกรุงเทพฯ ใช้เวลาค่อนข้างนาน ควรเลือกประเภทตว๋ั โดยสารแบบนอน ซึ่งถอื วา่ เป็นทางเลอื กท่ดี ที ่สี ดุ ในการเดนิ ทาง ไปยงั กรงุ เทพมหานคร 3. จดุ ออกสถานีรถไฟนครศรธี รรมราช สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ต้ังอยู่ที่ ถนนยมราช ทางฝั่งตะวันตกของต�ำบลท่าวัง สถานีรถไฟ เป็นจุดเชื่อมต่อท่ีสถานีชุมทางเขาชุมทอง การเดินทางในนครศรีธรรมราชโดยระบบขนส่งสาธารณะ มักท�ำได้ โดยการว่าจ้างรถแทก็ ซห่ี รอื รถสองแถว เอกสารประกอบการเรียน 55 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
4. จดุ ถึง-สถานีรถไฟหัวล�ำโพง กรงุ เทพฯ สถานรี ถไฟหวั ล�ำโพง กรงุ เทพฯ ต้ังอยู่ใจกลางเมอื งกรุงเทพฯ เป็นสถานีรถไฟสายหลัก ในกรงุ เทพฯ ตง้ั แตน่ ครศรธี รรมราช ไปยงั กรงุ เทพฯ และจะมาถงึ กรงุ เทพฯ ในตอนเชา้ ของวนั ถดั ไป ควรใชร้ ถแทก็ ซ่ี เพราะมบี รกิ าร ทกุ วนั ตลอด 24 ช่วั โมง หรอื รถไฟฟ้าใต้ดินจะเร่มิ ให้บรกิ ารเฉพาะเวลา 6:00 น. 5. สิง่ อ�ำนวยความสะดวก ปกติแล้ว รถไฟในประเทศไทยจะมีห้องสุขาบนขบวนรถไฟ เพื่อความสะดวกของผู้โดยสาร ผู้โดยสารสามารถซ้ืออาหารจากตู้ขบวนบนรถไฟ ซ่ึงมีโรงอาหาร หรือ จากพ่อค้า แม่ค้า ได้ในราคาเร่ิมต้นที่ 30 - 100 บาท หรือคณุ สามารถซอ้ื อาหารได้ก่อนทคี่ ุณจะขนึ้ รถไฟ และประหยดั ค่าเดินทาง พนักงานจะใหห้ มอน และผา้ หม่ ทสี่ ะอาดใหมไ่ วส้ ำ� หรบั คณุ พรอ้ มแปรสภาพทนี่ ง่ั ใหก้ ลายเปน็ เตยี งนอนในชว่ งกลางคนื หากคณุ จองตว๋ั รถไฟ ประเภทชัน้ นอน 6. ขอ้ เสนอแนะ การเดินทางจากนครศรีธรรมราชไปยังกรุงเทพฯ ใช้เวลาค่อนข้างนาน ในระหว่างเดินทาง ควรน�ำความบันเทิงมาเติมเต็มเวลาระหว่างเดินทาง ประเภทของช้ันนอนโดยเฉพาะ ช้ัน 2 ท่ีนอนปรับอากาศ เป็นที่นิยมอย่างมากเนื่องจากคุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบสบาย ๆ ได้มากขึ้น ดังนั้นจองตั๋วรถไฟล่วงหน้า ออนไลนไ์ ดท้ ่ี BusOnlineTicket.co.th เร่อื งที่ 3 การคมนาคมทางอากาศของจงั หวดั นครศรธี รรมราช ท่าอากาศยานจงั หวดั นครศรีธรรมราช มเี ที่ยวบินใหบ้ ริการ 26 เทีย่ วบนิ ตอ่ วนั โดยมี 3 สายการบิน คือ นกแอร์ ไทยแอรเ์ อเชีย และไทยไลออนแอร์ ท่าอากาศยานนครศรธี รรมราช ท่าอากาศยานนครศรธี รรมราช ทา่ อากาศยานนครศรธี รรมราช(เดมิ ) หรอื เรยี กทวั่ ไปวา่ “สนามบนิ ชะเอยี น” ตง้ั อยใู่ นคา่ ยวชริ าวธุ กองทพั ภาคท่ี 4 โดยการผลกั ดนั ของขา้ ราชการและพ่อคา้ ประชาชน ในจงั หวดั ท่อี ยากใหม้ ีการบริการผู้โดยสารทางอากาศ จงึ อาศยั ทา่ อากาศยานของกองทัพบกในค่ายวชริ าวุธ ซ่งึ กรมการบนิ พาณิชยป์ รบั ปรงุ สนามบินเพ่ือใช้ในเชิงพาณชิ ย์ 56 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
โดยการก่อสร้างอาคารท่ีพักผู้โดยสารและปรับปรุงทางว่ิง แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2527 ใช้เป็นท่าอากาศยานร่วมกัน ระหวา่ งทหารและพลเรอื น ขนาดทางวง่ิ 30X1,700 เมตรหลงั จากเปดิ ใหบ้ รกิ ารในปี พ.ศ. 2531 มผี ใู้ ชบ้ รกิ ารมากขนึ้ ประกอบกับพื้นที่โดยรอบไม่สามารถขยายได้ จึงพิจารณาเลือกพ้ืนท่ีใหม่ ได้แก่ บริเวณต�ำบลปากพูน อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และกอ่ สรา้ งแล้วเสรจ็ ในปี พ.ศ. 2541 โดยประกาศเป็นสนามบิน อนญุ าต เม่ือวนั ท่ี 20 เมษายน 2541 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2543 ซ่ึงในปัจจุบันท่าอากาศยาน นครศรีธรรมราช มีอัตราการเติบโตของจ�ำนวนผู้โดยสาร และจ�ำนวนเท่ียวบินเพ่ิมมากขึ้น กรมท่าอากาศยาน จึงไดจ้ ดั ทำ� แผนพัฒนาท่าอากาศยานนครศรธี รรมราช เพือ่ ให้เพียงพอต่อความตอ้ งการของผู้ใชบ้ รกิ ารในปจั จุบัน สายการบินท่ีใหบ้ รกิ าร สายการบินนกแอร์ สายการบินไทยแอรเ์ อเชีย สายการบินไทยไลออนแอร์ เอกสารประกอบการเรียน 57 รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
เรือ่ งท่ี 4 การคมนาคมทางน้�ำของจงั หวดั นครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรธี รรมราชเปน็ เมอื งติดตอ่ ทางนำ�้ ในอดีตเป็นเมอื งท่าทส่ี �ำคญั เป็นเสน้ ทางการขนส่งทางน้ำ� ได้แก่ อ�ำเภอปากพนัง อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอท่าศาลา ปัจจุบันมีท่าเทียบเรือใช้ในการขนส่งสินค้า มีท้ังของรัฐบาล และเอกชน รวม 28 ทา่ ดังน้ี 1. ทา่ เทียบเรือทใี่ ชใ้ นการขนสง่ สนิ คา้ อ�ำเภอปากพนัง ท่าเทยี บเรือบางพระ อ.ปากพนัง เรอื ขา้ มฟากอ�ำเภอปากพนัง ทา่ เทียบเรืออ�ำเภอขนอม ท่าเทียบเรอื โรงไฟฟา้ ขนอม แหลมประทับอ�ำเภอขนอม เรือขนถา่ นหนิ อำ� เภอท่าศาลา ทา่ เทียบเรือเชฟรอนอ�ำเภอท่าศาลา ทา่ เทยี บเรือ อำ� เภอท่าศาลา 58 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
2. ข้อมลู ท่าเทียบเรอื ท่ใี ช้ของเอกชนและรฐั บาล ที่ เจ้าของ ตำ�บลสถานที่ต้งั ประเภทสนิ คา้ ทา่ เทยี บเรือขนาดเกนิ กว่า 500 ตนั กรอส 1 บรษิ ทั ทา่ เรือขนอม 1 จำ� กดั ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ต.ขนอม อ.ขนอม แร่ 2 บริษทั ทา่ เรอื ขนอม 2 จำ� กดั ชายฝ่งั ทะเลอ่าวไทย ต.ขนอม อ.ขนอม แร่ 3 บรษิ ทั ท่าเรือขนอม 3 จ�ำกัด ชายฝ่ังทะเลอา่ วไทย ต.ขนอม อ.ขนอม แร่ 4 บรษิ ัท ผลติ ไฟฟ้าขนอม จ�ำกัด คลองขนอม ต.ทอ้ งเนียน อ.ขนอม นา้ํ มัน ท่าเทยี บเรอื ขนาดไมเ่ กนิ 500 ตนั กรอส 5 บรษิ ัท พพิ ฒั นก์ ร จ�ำกัด ชายฝง่ั ทะเลอ่าวไทย ต.ท่าชนื้ อ.ท่าศาลา แร่ 6 บริษัท ปนู ซิเมนต์ไทย จ�ำกัด แม่น้ําปากพนัง ต.ปากพนัง อ.ปากพนัง สนิ ค้าท่ัวไป 7 นายรุจาธิตย์ สุชาโต แมน่ ้ําปากพนงั ต.ปากพนงั อ.ปากพนงั สนิ คา้ ประมง 8 องคก์ ารสะพานปลา แม่นํ้าปากพนงั ต.ปากพนัง อ.ปากพนงั สนิ คา้ ประมง 9 กรมประมง ชายทะเล บ้านชายทะเล อ.ปากพนงั สินคา้ ประมง 10 กรมประมง ชายทะเล บ้านหนา้ ศาล อ.หัวไทร สนิ ค้าประมง 11 บริษัทผลิตไฟฟา้ ขนอม จำ� กดั ท่ดี ินราชพสั ดุ นศ 204 ต.ท้องเนยี น อุปกรณ์สำ� หรบั อ.ขนอม กอ่ สร้างโรงไฟฟา้ 12 บริษัท สนิ หลวง จำ� กดั 43 ม.7 ต.นบพิต�ำ อ.นบพติ �ำ แร่ 13 โรงแยกก๊าซธรรมชาติ บรษิ ัท ปตท.จ�ำกัด 123 ม.8 ต.ทอ้ งเนยี น อ.ขนอม ก๊าซธรรมชาติ ท่าเทียบเรือขนาดไม่เกนิ 20 ตนั กรอส 14 นายฉตั รชัย ง่านวสิ ุทธพิ นั ธ์ คลองท่าสงู ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา สนิ ค้าประมง 15 นายนภดล แปกพงค์ ม.2 ต.ทา่ ศาลา อ.ท่าศาลา สินคา้ ประมง 16 นางสุหนะ เสมอภพ คลองปากพูน ต.ปากพนู อ.เมอื ง สินค้าประมง 17 นางจิรา เพชรเศษ คลองสิชล ต.สิชล อ.สชิ ล สินคา้ ประมง 18 นางพวงเพ็ญ พงคส์ วุ รรณ คลองท่าสงู ต.ทา่ ศาลา อ.ทา่ ศาลา สินค้าประมง 19 บรษิ ทั ต.เจริญไพศาลทงุ่ สง จ�ำกัด แม่นํา้ ปากพนงั ต.ปากพนงั อ.ปากพนัง สินค้าประมง 20 เทศบาลเมืองปากพนัง 1 อำ� เภอปากพนงั (ฝ่งั ตะวันตก) โดยสารขา้ มฟาก 21 เทศบาลเมอื งปากพนัง 2 อ�ำเภอปากพนัง (ฝั่งตะวันออก) โดยสารข้ามฟาก 22 เทศบาลเมืองปากพนงั 3 อ�ำเภอปากพนัง (ฝัง่ ตะวนั ตก) (แพขนานยนต์) 23 เทศบาลเมอื งปากพนงั 4 อ�ำเภอปากพนัง (ฝัง่ ตะวันออก) (แพขนานยนต์) 24 เอเชียเหมืองแรอ่ ตุ สาหกรรม 154/2 ม.6 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา แร่ เอกสารประกอบการเรียน 59 รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
การเดนิ ทางของประชาชน ยงั มคี วามตอ้ งการและหลากหลายตามสภาพพน้ื ท่ี พนื้ ทใ่ี ดใกลแ้ มน้ ำ้� ลำ� คลอง กย็ งั มกี ารสญั จรทางนำ�้ แตป่ จั จบุ นั ความเจรญิ ทางดา้ นเศรษฐกจิ การขนสง่ การคมนาคมมกี ารสรา้ งถนนเพมิ่ มากขน้ึ ท�ำให้ความคล่องตัวในการเดินทาง คนส่วนใหญ่ของประชาชนใช้การเดินทางทางบก ทางอากาศ และทางน้�ำ ลดล่ันกันตามล�ำดับ วิถีชีวิตเปล่ียนไป ท�ำให้บางชุมชนที่เคยเป็นท่าเรือ ยังคงเหลือไว้เป็นท่าเรืออนุสรณ์สถาน ไม่มกี ารเดนิ ทางทางนำ้� เด็กร่นุ หลานก็ตอ้ งมีการเรยี นรู้ ว่าชมุ ชนใดทภี่ ูมหิ ลงั อย่างไร ท�ำความเข้าใจ เรยี นรู้ วิถชี วี ิต ของคนในจงั หวัดนครศรธี รรมราชได้ดีย่ิงข้ึน กิจกรรมหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 การคมนาคมทางบกของนครศรธี รรมราช จงตอบค�ำถามต่อไปนท้ี ุกข้อ 1. ให้วาดแผนท่ีการเดินทางจากอ�ำเภอขนอม ไปยังอ�ำเภอหัวไทร พร้อมระบุเส้นทางหมายเลข ทางหลวงหลกั …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. 2. อธบิ ายและยกตวั อย่างการคมนาคมทางรถไฟของนครศรธี รรมราช พอเป็นสังเขป …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................…………………………………………………………………………………………………………………………… …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. . 3. ใหแ้ สดงภาพตารางการเดนิ ทางการคมนาคมทางอากาศของนครศรีธรรมราช 1 วนั …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................…………………………………………………………………………………………………………………………… …........................…………………………………………………………………………………………………………………………….……… 4. อธบิ ายและยกตวั อยา่ งการคมนาคมทางนำ้� ของนครศรธี รรมราช พรอ้ มบอกชอื่ ทา่ เทยี บเรอื ของรฐั และของเอกชน มาอย่างละ 5 แหง่ พรอ้ มระบุประเภทสินคา้ ท่ขี นสง่ …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. …………........................……………………………………………………………………………………………………………………………. 60 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อมจงั หวดั นครศรีธรรมราช ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม เปน็ สงิ่ ทม่ี ผี ลกระทบตอ่ ความเปน็ อยขู่ องประชาชนชาวนครศรธี รรมราช ดังน้ัน “เราชาวนครศรีธรรมราช” ควรจะตอ้ งเรียนร้สู ภาพทรพั ยากรป่าไมแ้ ละสัตว์ปา่ ทรพั ยากรน้ำ� ทรพั ยากรแร่ และทรพั ยากรดนิ ของถน่ิ ของตนเอง เปน็ หนา้ ทขี่ องเราทกุ คน ท่ตี ้องเรยี นรู้ อนรุ กั ษ์ รักษาทรพั ยากรไปสู่รนุ่ ลกู หลาน ไดใ้ ชป้ ระโยชน์ และเปน็ การกระตนุ้ ในการสร้างจติ สำ� นกึ ในการอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม เร่อื งท่ี 1 ทรพั ยากรป่าไมแ้ ละสัตวป์ า่ จงั หวัดนครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นท่ีท้ังจังหวัด 9,942.502 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 6,214,064 ไร่ เป็นพ้ืนที่ป่าไม้ทั้งสิ้น 2,147.20 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,342,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 21.60 ของพ้ืนที่ท้ังจังหวัด สภาพพ้ืนท่ีปา่ ของจงั หวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วยพื้นที่ป่า ดังน้ี 1. เขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อุทยานแห่งชาติเขาปู่ – เขาย่า อุทยานแห่งชาตนิ �้ำตกโยง อุทยานแหง่ ชาติเขานัน อทุ ยานแห่งชาตินำ้� ตกสขี่ ีด อุทยานแหง่ ชาตหิ าดขนอม –หมเู่ กาะ ทะเลใต้ 1) อุทยานแห่งชาติเขาหลวง มพี ื้นท่ี 356,250 ไร่ มีพื้นทคี่ รอบคลมุ อยใู่ นท้องที่ อ�ำเภอลานสกา อ�ำเภอฉวาง อำ� เภอเมอื ง อำ� เภอพิปนู อ�ำเภอพรหมครี ี อำ� เภอช้างกลาง และอำ� เภอนบพิตำ� จังหวัดนครศรีธรรมราช ครอบคลุมเทือกเขานครศรีธรรมราชตอนกลาง ประกอบ ดว้ ยเทอื กเขาสงู สลบั ซบั ซอ้ นทอดยาวเหนอื จรดใตข้ นานไป กบั ชายฝง่ั ทะเลดา้ นตะวนั ออก มที ร่ี าบตามหบุ เขาเลก็ นอ้ ย ดินบนภูเขาเป็นดินที่เกิดจากการผุสลายของหินแกรนิต มียอดเขาสูงสุด คือ ยอดเขาหลวงเป็นยอดเขาที่สูงท่ีสุด ในภาคใต้ สงู จากระดบั นำ�้ ทะเล 1,835 เมตร เปน็ ตน้ กำ� เนดิ ของต้นน�้ำลำ� ธารหลายสาย เชน่ แม่นำ�้ ตาปี แมน่ ำ�้ ปากพนัง คลองกรุงชิง คลองเขาแก้ว คลองท่าแพ คลองระแนะ และคลองละอาย 2) อุทยานแห่งชาติเขาปู่ - เขาย่า มีพ้ืนที่ครอบคลุม อยู่ในท้องที่ อ�ำเภอทุ่งสง อ�ำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช อ�ำเภอรัษฏา อ�ำเภอห้วยยอด อ�ำเภอเมือง อ�ำเภอนาโยง จังหวัดตรัง และอ�ำเภอศรีนครินทร์ อ�ำเภอศรีบรรพต อำ� เภอปา่ พะยอม อำ� เภอกงหรา จังหวัดพัทลุง ตัง้ อยใู่ นบริเวณเทือกเขาบรรทดั สลับซบั ซ้อนปกคลุมด้วยป่าดงดิบขึ้นเขียวสะพรั่งทุกฤดูกาล จนได้รับสมญานามว่า “ปา่ พรหมจรรย”์ สภาพภมู ปิ ระเทศเปน็ เทอื กเขาสงู ซงึ่ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของเทอื กเขาบรรทดั มีภูเขาสูงสลับซับซ้อนมากมายที่วางตัวตามแนวเหนือ - ใต้ ประกอบด้วยภูเขาบรรทัด ภูเขานครศรธี รรมราช เขาปู่ - เขาย่า เขาป้าแหร้ เขาสามรอ้ ยยอด เขาวัดถ้ำ� เขาพระยา ถ้�ำวงั นายพุฒ เขาปู่ เขาย่า เอกสารประกอบการเรียน 61 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
กรงุ จีน เขาป่าโฮ้ง มเี ขาหินแทน่ เปน็ ยอดเขาสูงสุด มีความสูงประมาณ 877 เมตรจากระดบั น้�ำทะเล ในจังหวัดตรัง เปน็ ตน้ แมน่ ำ้� ตรงั กำ� เนดิ ของคลองลำ� ภรู า คลองละมอ โดยในฝง่ั จงั หวดั พทั ลงุ เปน็ แหลง่ กำ� เนดิ คลองลาไม คลองไมเ้ สยี บ คลองน้ำ� ใส ซงึ่ จะไหลรวมเปน็ คลองชะอวดและแม่น้�ำปากพนัง 3) อุทยานแห่งชาติน้�ำตกโยง มีเนื้อท่ีท้ังหมดประมาณ 128,125 ไร่ หรือ 205 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ป่าในเขตต�ำบลช้างกลาง อ�ำเภอฉวาง (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอ�ำเภอช้างกลาง) ต�ำบลเขาแก้ว ตำ� บลลานสกา อ�ำเภอลานสกา ต�ำบลนาบอน อำ� เภอนาบอน ตำ� บลนาหลวงเสน ต�ำบลถำ�้ ใหญ่ อำ� เภอทุง่ สง และ ต�ำบลหนิ ตก ตำ� บลร่อนพบิ ูลย์ อำ� เภอร่อนพบิ ูลย์ จังหวดั นครศรีธรรมราช มีสภาพป่าทีส่ มบูรณป์ ระกอบดว้ ยทิวทัศน์ และน้�ำตกที่สวยงามหลายแห่งด้วยกัน เช่น ยอดเขาเหมน ยอดเขารามโรม น�้ำตกโยง น�้ำตกปลิว น้�ำตกคลองจัง น้�ำตกหนานเตย นำ้� ตกหนานปลิว น้ำ� ตกหนานตากผา้ นำ้� ตกหนานโจน น�ำ้ ตกคหู าสวรรค์ 4) อุทยานแห่งชาติเขานัน มีเนื้อท่ี ประมาณ 256,121 ไร่ หรือ 409.79 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพ้ืนท่ี อ�ำเภอนบพิต�ำ อ�ำเภอท่าศาลา และอ�ำเภอสิชล มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงทอดยาว ตามแนวเหนอื -ใต้ สลบั ซบั ซอ้ น โดยเปน็ สว่ นหนง่ึ ของเทอื กเขานครศรธี รรมราช สภาพปา่ เปน็ ปา่ ดงดบิ ชนื้ ทอ่ี ดุ มสมบรู ณ์ เป็นแหล่งต้นนำ้� ลำ� ธารทส่ี ำ� คัญของ จงั หวดั นครศรีธรรมราช และประกอบไปด้วย พนั ธ์ุไมท้ ่ีสำ� คญั และมคี า่ มจี ุดเดน่ ทางธรรมชาติ ที่สวยงามหลายแหง่ เชน่ นำ�้ ตกสุนันทา (นำ้� ตกเขาบนั ) น�้ำตกกรุงนาง น�้ำตกคลองเผียน ถ�้ำกรุงนาง นำ�้ ตกเขาได เป็นตน้ โดยมยี อดสงู ท่สี ุด คอื ยอดเขาใหญ่ โดยสงู ประมาณ1,438 เมตร จากระดับน�้ำทะเล 5) อุทยานแห่งชาติน�้ำตกส่ีขีด มีพื้นที่ประมาณ 90,625 ไร่ หรือ 145 ตารางกิโลเมตร ต้ังอยู่ ในแนวทวิ เขานครศรธี รรมราชทสี่ งู ชนั สลบั ซบั ซอ้ น ในเขตอำ� เภอสชิ ล จงั หวดั นครศรธี รรมราช และอำ� เภอกาญจนดษิ ฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเทือกเขาแนวแบ่งเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีแนวเขาวางตัว ในแนว ทศิ เหนอื -ใต้ เปน็ แนวยาวขนานกบั ฝง่ั ทะเล ตะวนั ออก ตอนกลาง เปน็ เทอื กเขาทส่ี งู ชนั สลบั ซบั ซอ้ นมลี กั ษณะ เป็นสนั ปันนำ้� โดยลาดต่�ำไปทางตะวันออกและทางตะวันตก ท่รี าบสว่ นใหญอ่ ยู่ทางตะวันออก พน้ื ที่น้ี มียอดเขาทสี่ ูง ที่สุด คอื ยอดเขาคีโหมด สูง 1,303 เมตร ยอดเขาอ่ืน ๆ เช่น ยอดเขานาง สูง 881 เมตร ยอดเขาวังพงุ สงู 600 เมตร ยอดเขาปลายครามสงู 599 เมตร ยอดเขาขุนห้วยแกว้ สงู 582 เมตร ความสูงของพ้ืนทจี่ ากระดับนำ้� ทะเลปานกลาง โดยเฉลีย่ ประมาณ 700 เมตร มหี บุ เขาที่เปน็ แหล่งกำ� เนิดของลำ� ห้วยตา่ ง ๆ มากมายซ่ึงทำ� ใหเ้ กิดแอง่ น้ำ� และน้�ำตก เปน็ ช้ัน ๆ ตอ่ เน่ืองกนั เปน็ ล�ำดับ มีเขาบางลกู เป็นภูเขาหินปูน จึงเกิดถ�้ำที่สวยงามน่าพศิ วง มากมายหลายแห่ง เช่น ถ้ำ� เขาพับผา้ ถ้�ำสวนปราง เป็นตน้ 6) อทุ ยานแหง่ ชาตหิ าดขนอม – หมเู่ กาะทะเลใต้ เปน็ อุทยานแหง่ ชาติทางทะเล อยู่ในเขตพนื้ ที่ จังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วยพ้ืนที่ทางบกและทางทะเลรวมกัน มีเนื้อท่ี ประมาณ 197,500 ไร่ หรือประมาณ 316 ตารางกิโลเมตร เปน็ พน้ื ทีท่ างบกประมาณ 116.74 ตารางกิโลเมตร หรอื 36.94% และเปน็ พ้นื นำ้� ประมาณ 199.26 ตารางกิโลเมตร หรอื 63.06% พนื้ ทที่ างบกประกอบด้วย แนวเทือกเขา นอ้ ยใหญ่ สลับซับซ้อนทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้มีพ้ืนที่ราบผืนใหญ่ เชิงภูเขาเปิดสู่ฝั่งทะเล ด้านอ่าวไทย มียอดเขาหลวง เป็นจุดสูงที่สุดประมาณ 814 เมตรจากระดับน้�ำทะเล ส่วนพื้นท่ีทางทะเลประกอบด้วยเกาะ จ�ำนวน 11 เกาะ ไดแ้ ก่ เกาะแตน เกาะราบ เกาะมัดโกง เกาะมดั แตง เกาะวังนอก เกาะวงั ใน เกาะมดั สุม่ เกาะราใหญ่ เกาะทำ� ไร่ เกาะผี และเกาะนอ้ ย 62 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
อทุ ยานแห่งชาติหาดขนอม - หมู่เกาะทะเลใต้ 2. ปา่ สงวนแห่งชาติ จำ� นวน 69 ปา่ เดมิ มีเนื้อที่รวม 1,925,663 ไร่ ได้มอบเอกสารสทิ ธิ ส.ป.ก. 4-01 ให้กับประชาชนเข้าท�ำประโยชน์ จ�ำนวน 471,210 ไร่ และตัดพื้นท่ีทับซ้อนเขตอุทยานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 638,528 ไร่ คงเหลือพ้นื ท่ี 815,931 ไร่ 3. เขตรักษาพนั ธ์สุ ตั ว์ปา่ และเขตหา้ มลา่ พันธ์สุ ัตว์ป่า 1) เขตรกั ษาพนั ธส์ุ ตั วป์ า่ กะทนู พน้ื ที่62,800ไร่ตง้ั อยตู่ ำ� บลกระทนู อำ� เภอพปิ นู จงั หวดั นครศรธี รรมราช 2) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าแหลมตะลุมพุก พ้ืนท่ี 35,456 ไร่ พ้ืนท่ีป่าแหลมตะลุมพุก ป่าเลน ปากพนงั ตะวันออก อ�ำเภอปากพนงั จงั หวดั นครศรีธรรมราช 3) เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ พ้ืนที่ 62,599 ไร่ ท้องที่ต�ำบลสวนหลวง ต�ำบลทางพูน อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ ต�ำบลแม่เจ้าอยู่หัว ต�ำบลการะเกด อ�ำเภอเชียรใหญ่ ต�ำบลบ้านตูล ต�ำบลชะอวด อ�ำเภอชะอวด ต�ำบลควนพงั อำ� เภอรอ่ นพบิ ลู ย์ จังหวัดนครศรธี รรมราช 4) เขตห้ามลา่ สตั ว์ป่าทะเลนอ้ ย พนื้ ที่ 150,000 ไร่ ทอ้ งทตี่ �ำบลการะเกด เภอเชียรใหญ่ ตำ� บลขอน หาด อำ� เภอชะอวด ต�ำบลแหลม ต�ำบลควนชลิก อำ� เภอหวั ไทร จงั หวดั นครศรธี รรมราช การจ�ำแนกพื้นทีป่ ่าในจังหวัดนครศรธี รรมราช แบง่ ออกเปน็ 4 ชนดิ ไดแ้ ก่ 1. ป่าดงดิบ 2. ปา่ ชายเลน 3. ป่าพรุ และ 4. ป่าชายหาด 1. ป่าดงดบิ เปน็ ปา่ รกทบึ มคี วามลากหลายทางชวี ภาพสงู ประกอบไปดว้ ยพนั ธไ์ุ มแ้ ละสตั วป์ า่ ชนดิ ตา่ งๆ มากมาย ป่าดงดิบ พชื พรรณ และ สัตวป์ ่าทพ่ี บในเขตอุทยาน พืชพรรณ 1) ปา่ ดบิ ชื้น มีพันธไ์ุ มท้ ี่มคี ่าและมีขนาดใหญอ่ ยู่เป็นจ�ำนวนมาก เชน่ ยาง หลมุ พอ ตะเคยี นทอง ไข่เขียว ตะเคยี นทราย สยาขาว กระบากด�ำ พันจ่า หลุมพอ เอยี น เสยี ดช่อ จ�ำปา นาคบตุ ร เลอื ดนก ขนนุ ปาน พิกลุ ปา่ กอ่ รักเขา กระท้อน สะตอ เหรียง เขียด อบเชบ ฯลฯ พชื พ้ืนลา่ งมีจ�ำพวกเฟินตน้ ชนดิ ต่าง ๆ เตา้ รา้ งยกั ษ์ หวาย ไผ่เกรียบ ก้ามกุ้ง พืชตระกูลขิงข่า ไม้เล้ือย และเถาวัลย์ข้ึนเกาะตามไม้ใหญ่มากมายพืชท่ีพบ (สภาพป่า แตล่ ะอทุ ยานจะมคี วามคลา้ ยคลงึ กนั ความโดดเดน่ อทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขานนั จะมไี ม้ “ไมป้ ระ” ทป่ี ระชาชนนยิ มนำ� เมลด็ มารับประทาน) และมหาสด�ำเปน็ พชื ประจำ� ถ่นิ ของอุทยานเขาหลวง เอกสารประกอบการเรียน 63 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
2) ป่าดิบเขา เปน็ ปา่ ท่ีมคี วามโปร่งกว่าป่าดบิ ชน้ื อยูใ่ นระดับความสูง 800 เมตรข้ึนไป เนอ่ื งจากมี ตน้ ไมใ้ หญข่ ้นึ อยนู่ อ้ ย พันธ์ุไม้เด่นได้แก่ ก่อตาหมู กอ่ นก ก่อเดอื ย กอ่ แป้น พืชพืน้ ล่างท่พี บไดแ้ ก่ มังเส เฟิน มอส กล้วยไม้ดนิ เป็นตน้ 3) ปา่ ดบิ แลง้ พบบรเิ วณไหลเ่ ขาตามรอ่ งนำ้� ทมี่ เี นอื้ ดนิ เปน็ ชนั้ บางของปา่ เขาทอ้ งโหนด ปา่ เขาชยั สน และตามเกาะต่าง ๆ พันธไ์ุ ม้ท่สี ำ� คญั ไดแ้ ก่ ตะเคยี นหิน พลองใบใหญ่ หัวค่าง จิกเขา ชะมัง และขี้แรด ฯลฯ 4) ป่าเขาหินปูน บริเวณเขาหินปูนท่ีมีช้ันดินน้อยมากยากต่อการเจริญเติบโตของ พันธุ์ไม้ชนิด ต่าง ๆ ล�ำหรับพืชที่พบเป็นพวกแป้งและว่านสบู่ด�ำ พืชส�ำคัญ ได้แก่ จันทน์ผา เป้ง สลัดได พลับพลึง บุก เขียด และยอปา่ จะพบในอทุ ยานแหง่ ชาตหิ าดขนอม – หมเู่ กาะทะเลใต้ สตั ว์ปา่ 1) สตั ว์ป่าทีส่ ำ� รวจพบในปา่ เขาบริเวณนีท้ ีส่ �ำคญั เชน่ สมเสร็จ เลยี งผา ลิงกัง ลงิ เสน ค่างดำ� คา่ ง เสอื ด�ำ เสือลายเมฆ เก้ง กวางปา่ หมปู า่ กระจง อเี หน็ ชะมด ลงิ เสน ค่าง ชะนี กระรอก เมน่ นกหวา้ นกยงู เหยี่ยว ไกป่ า่ นกเขาเปล้า นกเงือก นกขม้ิน นกกางเขนดง นกแซงแววหางปลา นกปรอดหวั โขน ตะพาบน้�ำ ตะกวด ก้ิงกา่ จ้งิ เหลน งกู ะปะ กบ เขยี ด คางคก ปลาแงะ ปลาซวิ ปลา กระทิง ปลาชะโด ปูน้�ำตก ผีเส้ือกลางวัน ผีเส้ือกลางคืน และแมลงปกี แข็งต่างๆ สัตว์ประเภทนก “นกกนิ ปลหี างยาวเขยี ว” เปน็ นกประจำ� ถน่ิ ของ อทุ ยานแห่งชาตเิ ขานนั “โลมา” เปน็ สตั วเ์ ลย้ี งลกู ดว้ ยนำ้� นมทอ่ี าศยั ในนำ�้ พบทะเลในเขตอุทยานหมู่เกาะทะเลใต้ โลมาสีชมพู 2. ป่าชายเลน จงั หวดั นครศรธี รรมราชมพี น้ื ทปี่ า่ ชายเลนทงั้ หมด 149,748.78 ไร่ อยใู่ นความรบั ผดิ ชอบของทรพั ยากร ทางทะเลและชายฝั่ง ทั้งหมด 108,212.26 ไร่ กระจายในพ้ืนที่เขตอ�ำเภอขนอม อ�ำเภอสิชล อ�ำเภอท่าศาลา อ�ำเภอปากพนัง และอ�ำเภอเมือง การส�ำรวจความ ห ล า ก ห ล า ย ข อ ง สั ง ค ม พื ช ใ น ป ่ า ช า ย เ ล น ใ น บ ริ เ ว ณ ต�ำบลปากนคร ต�ำบลปากพนู ต�ำบลทา่ ไร่ และต�ำบลทา่ ซกั อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ต�ำบลแหลมตะลุมพุก ต�ำบลคลองน้อย ต�ำบลปากพนังฝั่งตะวันตก และ ต�ำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อ�ำเภอปากพนัง พบพันธุ์ไม้ ทง้ั หมด จำ� นวน 19 ชนดิ ชนดิ พนั ธท์ุ พ่ี บมากทสี่ ดุ คอื โกงกาง ใบเลก็ รองลงมา คอื แสมทะเล ถว่ั ขาว ตะบนู ลำ� พู ลำ� แพน ถัว่ ดำ� ถ่วั ขาว ฯลฯ ป่าชายเลน 64 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
3. ปา่ พรุ “ป่าพรุ” เป็นป่าดิบช้ืน มีน้�ำท่วมขัง เป็นแหล่งสร้างความอุดม สมบูรณ์ให้กับธรรมชาติ และความหลากหลายทางชวี ภาพใหก้ บั ระบบนเิ วศ เนอ่ื งจากในดนิ มกี ารสะสมของซากพชื ซากสตั ว์ เศษซากของตน้ ไม้ ใบไมท้ ท่ี บั ถม และยอ่ ยสลายอยา่ งชา้ ๆ กลายเปน็ “ดนิ พที ” หรอื ดนิ อนิ ทรยี ท์ ม่ี ลี กั ษณะหยนุ่ ยวบเหมอื นฟองนำ้� ทมี่ คี วาม หนาแน่นน้อย อุ้มน้�ำได้มาก ลักษณะดังกล่าวถือเป็น ประโยชนท์ สี่ ามารถปอ้ งกนั การเกดิ ไฟไหมป้ า่ ไดม้ าก ปา่ พรุ ในพน้ื ทจี่ งั หวดั นครศรธี รรมราช ชอ่ื วา่ “ปา่ พรุ ควนเครง็ ” ป่าพรุควนเคร็ง ครอบคลุมพ้ืนที่ในเขตอ�ำเภอเชียรใหญ่ อ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ อ�ำเภอร่อนพิบูลย์ อ�ำเภอชะอวด และอ�ำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตรอยต่อ ระหว่างลุ่มน้�ำปากพนังและลุ่มน้�ำทะเลสาบ สงขลา ป่าพรุควนเครง็ ครอบคลุมพนื้ ที่กวา่ 1 แสนไร่ แตถ่ ้ารวมพน้ื ที่ ระดับภมู ทิ ศั นแ์ ลว้ พรุควนเครง็ มีพ้ืนทีก่ วา่ 4 แสนไร่ ซึ่งเป็นอันดบั สอง รองจากพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส สภาพท่ัวไปเป็นพ้ืนที่ซ่ึงฟื้นสภาพจากพื้นท่ีพรุ ที่ถูกคุกคามด้วยไฟป่า และการบกุ รกุ พรรณไมด้ งั้ เดมิ ถกู ทดแทนดว้ ยไมเ้ สมด็ ขาว และไมพ้ น้ื ลา่ งกระจดู กก ปรอื เปน็ แหลง่ กกั เกบ็ คารบ์ อน ท่สี ำ� คญั ในชน้ั พรุ ที่อินทรียวัตถุยงั ไมส่ ลายตัวอยา่ งสมบรู ณ์ 1) พืชพรรณ พรรณไม้ไนพ้ืนที่ป่าพรุ เช่น เสม็ด เสม็ดขาว หยีน้�ำ กระทุ่ม คุระ อินทนิลน้�ำ ตนี เป็ดน�ำ้ ทองหลางนำ้� หวา้ เปน็ ต้น พืชพ้ืนลา่ งเชน่ กก กระจูด กระจดู หนู เตยทะเล ปรงทะเล สำ� เพ็ง หญา้ ยุง บัว ปรง และไม้เลื้อย เชน่ ยา่ นลเิ ภา 2) สตั วป์ า่ สัตวป์ า่ ทพ่ี บในพื้นทปี่ า่ พรคุ วนเครง็ สตั วจ์ �ำพวกนก เชน่ นกกระสาแดง นกยางโทนใหญ่ นกยางโทนนอ้ ย นกยางควาย นกยางกรอกพันธุ์จีน เหยี่ยวแดง ฯลฯ สตั วเ์ ลอ้ื ยคลาน เช่น เต่าเหลือง ตะพาบ เต่าหบั เต่าด�ำ จิ้งจกหางหนาม จ้ิงจกหินสีจาง งูลายสอ ก้ิงก่าหัวแดง เหี้ย งูเหลือม งูเห่าหม้อ งูสามเหลี่ยม และงูกะปะ ส ตั วส์ ะ เทินน �้ำสะเท นิ บก เชน่ กบนา เขยี ดจะนา กบหนอง เขยี ดจิก อ่งึ อ่างบ้าน เขยี ดตะปาด และอ่ึงข้างด�ำ ฯลฯ 4. ป่าชายหาด ป่าชายหาดเป็นป่าละเมาะหรือป่าโปร่งไม่ผลัดใบข้ึนอยู่ตามบริเวณชายหาดหรือเนินทราย ริมทะเล หรอื ชายฝง่ั เปน็ ปา่ ทมี่ ขี นาดเลก็ เกดิ ขน้ึ ดา้ นหลงั ของสนั ทรายตามแนวชายฝง่ั นำ�้ ทะเลทว่ มไมถ่ งึ สภาพดนิ เปน็ ดนิ ทราย และมคี วามเคม็ สงู เปน็ ปา่ ทม่ี คี วามแตกตา่ งจากปา่ ทวั่ ๆ ไปอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เจน คอื ไมม่ คี วามอดุ มสมบรู ณ์ สภาพโดย ทั่วไปแห้งแล้ง ใบไม้ในป่าจะเป็นลักษณะหงิกงอ ซึ่งเป็น ลกั ษณะของปา่ ชายหาดทส่ี มบรู ณ์ ปา่ ชายหาด เปน็ ปา่ ทไี่ ด้ รับอิทธิพลจากกระแสลม กระแสคล่ืน รวมถึงไอเค็ม จากทะเล แสงแดดร้อนจดั สภาพความชืน้ สดุ ขั้ว ท้ังช้นื จัด ชนื้ นอ้ ย และชน้ื ปานกลาง ระบบนเิ วศจงึ ประกอบดว้ ยเนนิ ทรายหรือหาดทรายและมีพืชประเภทไม้เถา หรือไม้เล้ือย ไมท้ ่มุ และไมย้ ืนต้นที่มลี �ำตน้ คดงอ และมคี วามสูงเพมิ่ ข้นึ เร่ือย ๆ เมื่ออยู่ห่างจากชายหาดออกไป ประเภทไม้ มี 3 ประเภท ป่าชายหาด เอกสารประกอบการเรียน 65 รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
1) ประเภทหญ้าหรอื ไม้เลือ้ ย ได้แก่ หญ้าลงิ ลม ผักบุ้งทะเล หญ้าทะเล เตย ซึ่งรากของไมเ้ หลา่ นี้ จะชว่ ยในการยึดเกาะพื้นทรายท�ำให้พนื้ ทรายมีความแน่นหนาแขง็ แรงมากขึ้น เพื่อทีจ่ ะให้รากของไม้ทใ่ี หญ่กว่า เชน่ ไมพ้ มุ่ ไดเ้ กาะต่อไป 2) ประเภทของไม้พุ่ม ได้แก่ รักทะเล ปอทะเล เสมา ซิงซ่ี หนามหัน ก�ำจาย ข้ึนเป็นกลุ่ม ๆ ช่วยบังลมทะเล เป็นปราการใหแ้ ก่ไม้ชนดิ ทไี่ ม่สามารถทนเค็มได้ 3) ประเภทของไม้ยนื ตน้ เชน่ กระทงิ หกู วาง โพทะเล ตีนเปด็ ทะเล หยีน้ำ� มะนาวผี ข่อย แตล่ ำ� ตน้ ไม่สูงมากนัก ใบมีความหงิกงอตามกระแสลม เรือนยอดอยู่ติดกันและมักมีหนามแหลม บางพ้ืนท่ีอาจมีไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่ เชน่ ยางหรอื ตะเคยี น เป็นตน้ เนือ่ งจากมีข้อจำ� กดั ในเรอ่ื ง ความเค็มของดนิ ปริมาณธาตอุ าหารพชื ในดิน ที่มีอยู่น้อย และสภาพดินท่ีเก็บความชื้นไว้ได้ไม่นาน พืชส่วนใหญ่จึงเจริญเติบโตได้ช้า และจากไอเค็มที่พัดเข้ามา จากทะเลและความรุนแรงของลมพายุท�ำให้ ไม้ใหญ่หักโค่นได้ง่าย นอกจากนี้การขาดแคลนน�้ำ ในดินส่งผลต่อ การสงั เคราะหแ์ สงของพชื บญั หาท่ี มกั เกดิ ขน้ึ กค็ อื ซากของใบสนทะเลทม่ี กี ารผสุ ลายชา้ และปกคลมุ ดนิ คอ่ นขา้ งหนา เปน็ การสกดั กนั้ การสบื ตอ่ พันธข์ุ องไมช้ นดิ อื่น ๆ อีกทง้ั อาจก่อให้เกดิ ไฟผวิ ดนิ ข้นึ ได้ สภาพปัญหาทรัพยากรปา่ ไม้ในจงั หวดั นครศรีธรรมราช 1. ปญั หาราษฎรบกุ รกุ พนื้ ทปี่ า่ อนรุ กั ษ์ บกุ รกุ แผว้ ถางพน้ื ทป่ี า่ เพอ่ื ทำ� การเกษตรกรรม และทอี่ ยอู่ าศยั และมนี ายทนุ บางกลมุ่ เขา้ มาซอ้ื ขายทดี่ นิ ไมม่ เี อกสารสทิ ธิ (ทปี่ า่ ) จากราษฎรเพอ่ื สรา้ งรสี อรท์ โรงแรมหรอื สงิ่ กอ่ สรา้ ง อ่นื ใด อันเปน็ การละเมดิ ต่อกฎหมายอยา่ งรา้ ยแรง 2. ปญั หาการลกั ลอบลา่ สตั วป์ า่ ทงั้ เพอ่ื นำ� เนอ้ื สตั วป์ า่ ไปรบั ประทาน นำ� ซากสตั วป์ า่ ไปประดบั เกบ็ รกั ษา และล่าเพอื่ น�ำลกู สตั วป์ ่ามาขายตอ่ เปน็ ต้น ท�ำใหส้ ัตวป์ า่ หลายชนิด มีความเสี่ยงที่จะสญู พันธ์มุ ากขน้ึ เร่ืองท่ี 2 ทรพั ยากรน้ำ� ทรัพยากรน้�ำเป็นส่ิงส�ำคัญต่อการด�ำรงชีวิตของมนุษย์ ที่ได้ใช้อุปโภค บริโภค ตลอดจนใช้ในการ ทำ� การเกษตร การนำ� ทรพั ยากรนำ้� มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ของการดำ� รงชวี ติ เราชาวนครศรธี รรมราช ควรไดศ้ กึ ษา เรยี นรแู้ หลง่ นำ�้ ที่มอี ยใู่ นจังหวดั นครศรธี รรมราช 1) แหลง่ นำ�้ ที่เกิดขนึ้ เองตามธรรมชาติ 2) แหล่งน�้ำ ทมี่ นุษย์ได้สรา้ ง ข้ึนมา 1. แหลง่ น�้ำธรรมชาติ แม่น�้ำล�ำคลองในจังหวัด ส่วนใหญ่เกิดจากเทือกเขานครศรีธรรมราช และเทือกเขาบรรทัด แม่น�้ำ ล�ำคลองท่สี �ำคญั ๆ ในจังหวัด มีดังน้ี 1.1 แหลง่ นำ้� ชายฝ่งั ทะเลตะวนั ออก 1) แม่น�้ำปากพนัง ต้นน�้ำเกิดจาก เทอื กเขาบรรทดั ในเขตตำ� บลวงั อา่ ง อำ� เภอชะอวด ไหลผา่ น อ�ำเภอเชียรใหญ่ และมีสาขาจากอ�ำเภอหัวไทร ไหลมารวม กนั ทบ่ี า้ นปากแพรก กลายเปน็ แมน่ ำ�้ ปากพนงั ไหลสอู่ า่ วนคร 2) แม่น้�ำหลวง เป็นสาขาหน่ึงของ แม่น้�ำปากพนงั ตน้ นำ้� เกิดบรเิ วณทศิ ตะวนั ตกของเทือกเขา 66 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
นครศรธี รรมราช และเทอื กเขาภเู กต็ สว่ นทเี่ กดิ จากเทอื กเขานครศรธี รรมราช มตี น้ นำ้� อยใู่ นอำ� เภอพปิ นู และอำ� เภอฉวาง ไหลผ่านอ�ำเภอฉวาง และอ�ำเภอทุ่งใหญ่ เข้าเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในเขตอ�ำเภอพระแสง อ�ำเภอบ้านนาสาร ไปรวมกบั แมน่ ำ้� ครี รี ฐั นคิ มทอี่ ำ� เภอพนุ พนิ เรยี กวา่ “แมน่ ำ�้ ตาป”ี ไหลลงสอู่ า่ วบา้ นดอน จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี เปน็ แมน่ ำ�้ สายทย่ี าวที่สุดของภาคใต้ 3) คลองปากพูน ต้นน้�ำเกิดจากเทือกเขานครศรีธรรมราช ไหลไปทางตะวันออก ผา่ นอ�ำเภอพรหมครี ี อ�ำเภอเมืองไหลลงสูอ่ ่าวนครศรีธรรมราช 4) คลองปากพญา-คลองปากนคร ต้นน้�ำเกิดจากแหล่งน�้ำหลายสาขาในเขตเทือกเขา นครศรธี รรมราช โดยเฉพาะทเี่ ขาคีรวี ง ตำ� บลก�ำโลน อ�ำเภอลานสกา ไหลผา่ นอ�ำเภอเมือง คลองแยกเป็นหลายสาขา สายหน่ึงไหลเลียบตัวเมืองไปทางตะวันออก ออกทะเลท่ีปากพญาเรียก “คลองปากพญา” ก่อนไหลลงสู่อ่าวไทย ตำ� บลปากนคร อำ� เภอเมืองนครศรีธรรมราช 5) คลองเสาธง ต้นน้�ำเกิดจากเทือกเขานครศรีธรรมราชในเขตอ�ำเภอลานสกา คลองน้ีมีชื่อ เรยี กกนั หลายช่อื ตามท้องที่ทค่ี ลองไหลผ่าน 6) คลองกลาย ตน้ น�ำ้ เกิดจากเทอื กเขานครศรธี รรมราช ในเขตต�ำบลนบพติ �ำ ไหลออกทะเล ท่ีอำ� เภอทา่ ศาลา 7) คลองทา่ ทน ตน้ นำ�้ เกดิ จากเทือกเขานครศรธี รรมราช ไหลลงสูอ่ า่ วไทยทอ่ี ำ� เภอสชิ ล 8) คลองน�้ำตกโยง ต้นนำ้� เกดิ จากเทือกเขานครศรธี รรมราช ดา้ นตะวนั ออกอำ� เภอท่งุ สงไหล เข้าสู่อำ� เภอหว้ ยยอด จังหวัดตรงั กลายเป็นสาขาหนึ่งของแมน่ �้ำตรงั 9) คลองมัน ต้นน้�ำเกิดจากสามจอม ซื่งเป็นเขาลูกหนึ่งในเขตอ�ำเภอทุ่งใหญ่ไหลลงมาทาง ตะวันออกเฉียงเหนอื ไหลไปเปน็ สาขาหนง่ึ ของแม่น้�ำหลวง ออกอา่ วบ้านดอนจังหวดั สรุ าษฎร์ธานี 10) คลองท่าเลา ต้นน�้ำจากเขาวังหีบ ในอ�ำเภอทุ่งสงไหลลงทางใต้ ออกทะเลอันดามัน ทีอ่ ำ� เภอกันตัง จังหวดั ตรัง 11) คลองท่าโลน ต้นน�้ำเกิดจากเขาปลายเปิดใกล้ๆกับเขาวังหีบ ในอ�ำเภอทุ่งสงไหลสู่ทางใต้ ออกทะเลอนั ดามนั ในเขตอ�ำเภอกันตังทบี่ า้ นปันหยี 1.2 แหลง่ น้ำ� ธรรมชาตลิ ่มุ น้ำ� ชายฝั่งทะเลภาคใตฝ้ ั่งตะวนั ตก แหลง่ น�้ำธรรมชาตลิ ุ่มนำ�้ ชายฝง่ั ทะเลภาคใต้ฝั่งตะวนั ตก ประกอบด้วยแมน่ ้�ำสายหลัก 1 สาย คือ แม่น�้ำตรัง บริเวณต้นน�้ำอยู่ในเขต อ�ำเภอทุ่งสง เป็นท่ีลาดชันสูง สภาพป่าไม้มีความอุดม สมบูรณ์ แม่น�้ำตรัง ไหลจากทศิ ตะวันออกเฉียงเหนอื ของอำ� เภอทุง่ สงไปทางทศิ ตะวันออกเฉียงใต้ 1.3 แหล่งน�้ำธรรมชาติลมุ่ น้�ำตาปี แหลง่ นำ้� ธรรมชาติลุ่มน้�ำตาปี ประกอบด้วยแมน่ ้�ำสายหลัก 2 สาย คอื 1) คลองจนั ดี ตน้ นำ�้ อย่บู ริเวณเทอื กเขาหลวง อำ� เภอฉวาง จงั หวดั นครศรธี รรมราช ไหลผ่าน บ้านจนั ดี ลงสแู่ มน่ �้ำตาปี 2) คลองสนิ ปนุ เกดิ จากเทอื กเขาในเขตอำ� เภอคลองทอ่ ม จงั หวดั กระบไ่ี หลเขา้ สอู่ ำ� เภอทงุ่ ใหญ่ จงั หวดั นครศรธี รรมราช เอกสารประกอบการเรียน 67 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
1.4 แหลง่ น�ำ้ ธรรมชาติลมุ่ น�ำ้ ทะเลสาบสงขลา พรุควนเคร็ง อ�ำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นปลายน�้ำที่รองรับน้�ำจากแหล่งน้�ำ ธรรมชาตลิ มุ่ น้�ำทะเลสาบสงขลา ประกอบด้วยแมน่ ำ�้ สายหลกั 1 สาย คือ คลองป่าพะยอม ต้นนำ�้ เกิดจากเทอื กเขา หินกลง้ิ และควนหนิ แกว้ อ�ำเภอควนขนนุ จังหวดั พัทลุง 1.5 น�้ำพรุ อ้ นธรรมชาติ 1) น�้ำพุร้อนอุทยานบอ่ น�ำ้ รอ้ น อุทยานบ่อน�้ำร้อน อยู่ในเขตพื้นที่ของวัดอุทยานบ่อน�้ำร้อน หมู่ท่ี 13 ต�ำบลวังหิน อำ� เภอบางขนั จังหวดั นครศรธี รรมราช มีลกั ษณะเป็นบ่อนำ้� รอ้ นรวม 9 บอ่ เสน้ ผ่าศูนย์กลางของแตล่ ะบอ่ ประมาณ 3 - 4 เมตร มีบ่อเลก็ ๆ อีกหลายบอ่ มอี ุณหภูมิทีผ่ วิ ดินประมาณ 55 องศาเซลเซียส เป็นพ้ืนที่ราบริมคลอง พบน�้ำผดุ อยูใ่ นห้วยหลายแหง่ คุณภาพน�้ำดี ใส ไม่มีกลิ่นก�ำมะถัน 2) นำ�้ พุรอ้ นกรงุ ชงิ น้�ำพุร้อนกรุงชิง ตั้งอยู่ต�ำบลกรุงชิง อ�ำเภอนบพิต�ำ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีลักษณะ เปน็ บ่อน้�ำอนุ่ จำ� นวน 1 บ่อ มีการกอ่ ปูนรอบบรเิ วณปากบ่อ และมกี ารสร้างศาลา ส�ำหรับดงึ น้�ำจากน�้ำพรุ ้อนไปใช้ ประโยชนใ์ นการแชอ่ าบ 3) นำ้� พุรอ้ นหว้ ยปรกิ นำ้� พรุ ้อนหว้ ยปรกิ ตั้งอยู่ตำ� บลหว้ ยปริก อ�ำเภอฉวาง จังหวดั นครศรธี รรมราช มลี ักษณะ เปน็ บอ่ น�ำ้ อ่นุ 1 บ่อ มีการก่อปนู รอบปากบอ่ เพ่อื ไว้สำ� หรบั ดึงน้ำ� พรุ ้อนมาใชอ้ าบแชน่ ำ�้ พรุ ้อน 4) นำ้� พุรอ้ นบ้านหูนบ (วังฆ้อง) ตง้ั อยตู่ ำ� บลพปิ นู อำ� เภอพปิ นู จงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ บอ่ นำ�้ อนุ่ การกอ่ ปนู รอบบรเิ วณ ปากบ่อ มบี นั ไดไวส้ ำ� หรับลงไปอาบ/แชน่ ้�ำพุรอ้ น 5) นำ้� พรุ ้อนหนองบวั นำ้� พรุ อ้ นหนองบวั ตงั้ อยบู่ า้ นหนองบวั ตำ� บลเขาพระ อำ� เภอพปิ นู จงั หวดั นครศรธี รรมราช มีลักษณะเป็นบอ่ น้ำ� อนุ่ ปากบ่อกว้างประมาณ 3 x 3 เมตร มีการก่อปนู รอบบรเิ วณปากบ่อ 2. แหล่งน�ำ้ ผิวดนิ ที่มนุษยส์ ร้างข้ึน อ่างเก็บน�ำ้ ห้วยน้ำ� ใส 2.1 อ่างเกบ็ น�้ำห้วยน�้ำใส ต้ังอยู่ที่ หมู่ท่ี 5 ต�ำบลวังอ่าง อ�ำเภอชะอวดจังหวัดนครศรีธรรมราช มีความจุ 80 ล้าน ลกู บาศกเ์ มตร เปน็ โครงการก่อสร้างแหลง่ น�้ำ เพอ่ื ปอ้ งกัน และบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพ้ืนท่ีลุ่มน�้ำปากพนัง ในเขตอำ� เภอชะอวด เพอ่ื ปอ้ งกนั หรอื บรรเทาปญั หานำ�้ เคม็ เนอ่ื งจากนำ�้ ทะเลหนนุ ในลมุ่ นำ้� ปากพนงั และเพอื่ เปน็ แหลง่ นำ้� อุปโภค บรโิ ภค ในบรเิ วณใกล้เคียง 68 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
2.2 อา่ งเกบ็ น้ำ� คลองกระทนู ตั้งอยู่ท่ีหมู่ที่ 2 ต�ำบลกะทูน อำ� เภอพิปูน จงั หวดั นครศรีธรรมราช มคี วามจุ 70.50 ลา้ น ลูกบาศกเ์ มตร เป็นโครงการพัฒนาแหล่งนำ�้ เพ่อื ประโยชน์ การบรรเทาอทุ กภยั พนื้ ทสี่ องฝง่ั คลองกะทนู และแมน่ ำ้� ตาปี ทางตอนล่าง นอกจากน้ันพ้ืนที่ น�้ำในอ่างเหนือเข่ือนยังใช้ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา น้�ำจืดและบริเวณอ่างเก็บน�้ำ มคี วามวยงาม ใช้เปน็ สถานทท่ี อ่ งเทีย่ วพักผอ่ นหย่อนใจ 2.3 อา่ งเก็บน้�ำคลองดินแดง อา่ งเก็บน้ำ� คลองกระทูน ต้ังอยู่ท่ีหมู่ท่ี 12 ต�ำบลเขาพระ อ�ำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช มีความจุ 60 ล้าน ลูกบาศก์เมตร สร้างข้ึนเพ่ือบรรเทาอุทกภัย ในเขตพื้นที่ ของลุ่มแม่น้�ำตาปีตอนล่าง และเพื่อการเกษตรในพ้ืนท่ี ชลประทาน 9,900 ไร่นอกจากนั้น พื้นที่น�้ำในอ่างเหนือ เขื่อนยังใช้เป็นแหล่งพันธุปลา น�้ำจืด และใช้เป็นสถานที่ ท่องเทีย่ วของจังหวดั 2.4 อา่ งเก็บนำ�้ เสม็ดจวน อา่ งเก็บน้�ำคลองดนิ แดง ตั้งอยู่หมู่ท่ี 3 และหมู่ที่ 4 ต�ำบลกุแหระ อ�ำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีความจุ 60 ล้านลูกบาศกเ์ มตร 2.5 โครงการขุดคลองระบายน�ำ้ ชะอวด-แพรกเมือง โครงการขุดคลองระบายน้�ำชะอวด - แพรกเมือง พร้อมประตูระบายน�้ำ และคันก้ันทราย (โครงการพัฒนาพื้นท่ีลุ่มน�้ำปากพนัง โดยกรมชลประทานด�ำเนินการขุดคลอง ชะอวด - แพรกเมือง ก้นคลอง กว้าง 150 เมตร ลึก 5 เมตร ยาว 27 เมตร พร้อมประตูระบายน้�ำและคันกั้นทราย สามารถระบายน้�ำได้ 540 ลบ.ม.ต่อวินาท)ี 3. ปัญหาด้านทรัพยากรนำ�้ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช สภาพปัญหาด้านทรัพยากรน้�ำของจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย ปัญหาขาดแคลนน้�ำ ปญั หาพื้นทเ่ี ส่ียงภยั น้ำ� ทว่ ม และปัญหาด้านการจดั การป่าตน้ น้ำ� โดยภาพรวมของปัญหาสามารถสรปุ ได้ดงั นี้ 3.1 ปัญหาขาดแคลนน�้ำ เน่ืองจาก ขาดระบบหนว่ งนำ�้ ตามธรรมชาติ ชว่ งฤดแู ลง้ ระหวา่ งเดอื น กมุ ภาพนั ธถ์ งึ เดอื นเมษายน มปี รมิ าณฝนตกนอ้ ย อกี ทงั้ การ พัฒนาแหล่งกักเก็บน�้ำยังมีน้อย พ้ืนท่ีการเกษตรส่วนใหญ่ ปลกู ยางพารา ปาลม์ นำ�้ มนั และการทำ� นาทต่ี อ้ งการนำ้� มาก ท�ำให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้�ำ นอกจากนี้ การเติบโตของแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่และภาคธุรกิจ ต่าง ๆ มีความต้องการใช้น้�ำในฤดูแล้งสูงข้ึน การถมที่ สถานการณน์ ้ำ� ท่วม ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เอกสารประกอบการเรียน 69 รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
เพอื่ ทำ� ทอี่ ยอู่ าศยั มากขนึ้ เรม่ิ ประสบปญั หา การจดั หาระบบสาธารณปู โภคและทรพั ยากรสำ� หรบั ผทู้ อี่ าศยั อยใู่ นเมอื ง เกิดปัญหาขาดแคลนน้�ำอุปโภค 3.2 ปญั หาพ้นื ทเี่ ส่ยี งภยั น้�ำทว่ ม จังหวัดนครศรีธรรมราชพบทั้งปัญหาน�้ำท่วมและน้�ำหลากในช่วงฤดูฝน เดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม ทำ� ใหพ้ นื้ ท่ีจงั หวัดนครศรธี รรมราช ประสบปญั หานำ้� ทว่ มทกุ ปี และปรมิ าณน�้ำที่หลากมาจากพ้นื ท่ี ตอนบน ทเี่ ปน็ พ้ืนท่ีต้นน้ำ� เน่ืองจากขาดโครงสรา้ งชะลอและกกั เก็บนำ้� คลองธรรมชาติเดมิ ถกู บุกรกุ ท�ำให้มีสภาพ ไม่เหมาะสมในการกักเก็บและชะลอน้�ำ ประกอบกับ คลองระบายน้�ำตื้นเขิน มีสิ่งก่อสร้าง กีดขวางทางน�้ำไหล จงึ ท�ำให้นำ้� ไหลลน้ ตล่งิ เขา้ ทว่ มพนื้ ที่เสียหาย 3.3 ปัญหาด้านการจดั การตน้ น�้ำ การบุกรุกพื้นท่ีป่าเพื่อท�ำการเกษตรท�ำให้มีพ้ืนท่ีป่าลดลง ล่งผลให้ปริมาณน�้ำป่าเปลี่ยนแปลง พบมากในพนื้ ทปี่ า่ สงวนแหง่ ชาตทิ ปี่ ระกาศเปน็ เขตปา่ เพอื่ การอนรุ กั ษ์ สำ� หรบั เขตอทุ ยานแหง่ ชาตแิ ละเขตรกั ษาพนั ธ์ุ สัตว์ป่า มีการบุกรุกบริเวณเขตติดต่อ พ้ืนท่ีที่มีการบุกรุกจ�ำนวนมากมักพบปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน ซง่ึ มสี าเหตุ มาจากการทำ� การเกษตรในพนื้ ทลี่ าดชนั และไมม่ มี าตรการอนรุ กั ษด์ นิ และนำ้� ทเี่ หมาะสม และเมอ่ื ปา่ ตน้ นำ�้ ถูกท�ำลาย สมดุลนำ้� จงึ ลดลง 3.4 ปัญหาน้�ำเคม็ บกุ รุก เนื่องจากปริมาณน�้ำจืดท่ีลดลงไม่สามารถช่วยผลักดันน้�ำเค็ม รุกเข้าพื้นที่ได้ โดยน�้ำเค็ม แพร่กระจายเข้าไปในแม่น�้ำปากพนัง ในช่วงฤดูแล้ง เน่ืองจากท้องแม่น้�ำมีความลาดชันน้อยมาก ท�ำให้น้�ำ ในแม่นำ้� ลำ� คลองในพ้ืนทีม่ ีความเค็มถึง 9 เดอื นต่อปี (มกราคม-กนั ยายน) ส่งผลกระทบต่อการปลกู พชื โดยทว่ั ไป 3.5 ปัญหานำ�้ เปรี้ยว ตอนกลางของพื้นที่ลุ่มน�้ำปากพนัง มีสภาพลุ่มต่�ำ น้�ำท่วมขังตลอดปี คือ พรุควนเคร็ง และ พรุคลองฆ้อง ดินพรุมีสารประกอบไพไรท์ตกตะกอนอยู่ เม่ือระดับน้�ำลดลงจนชั้นไพไรท์สัมผัสกับ อากาศ จะเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี ทำ� ใหด้ ินมสี ภาพเปน็ กรด และนำ้� เปรี้ยว สง่ ผลต่อระบบการผลติ ของเกษตรกร 3.6 ปัญหาการถา่ ยเทนำ�้ เสยี ซ่ึงเป็นน้�ำเค็มจากบ่อเลี้ยงกุ้งระบายสู่แหล่งน้�ำธรรมขาติ ท�ำให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพน�้ำ บรเิ วณชายฝง่ั อกี ทงั้ นำ้� เคม็ ยงั ลกุ ลาม เขา้ ไปในพน้ื ทน่ี าขา้ วและไมส่ ามารถปลกู พชื ชนดิ ใดไดจ้ นกลายเปน็ ความขดั แยง้ ทีร่ ุนแรงระหวา่ งราษฎรผูเ้ ลยี้ งก้งุ กุลาดำ� กับราษฎรผูท้ ำ� นาข้าว 3.7 ปัญหาการทง้ิ ขยะ ปล่อยน�้ำเสียและสิ่งปฏิกูลลงแหล่งน้�ำสาธารณะ ท�ำให้เกิดปัญหา มลพิษทางน้�ำ และ การระบายน�ำ้ ไม่สะดวกในฤดูน�ำ้ หลากหรอื ในภาวะอุทกภยั 70 เอกสารประกอบการเรยี น รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
เรือ่ งท่ี 3 ทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั ทะเล จังหวดั นครศรีธรรมราช จงั หวดั นครศรธี รรมราช มพี ้ืนทีช่ ายฝ่ังทะเลยาวรวมประมาณ 236.81 กิโลเมตร ตง้ั แตต่ ำ� บลท้องเนียน อ�ำเภอขนอม ถงึ ต�ำบลหนา้ สตน อำ� เภอหัวไทร มอี �ำเภอที่ตดิ ชายฝ่ังทะเล 6 อำ� เภอ 25 ตำ� บล มีเกาะที่สำ� คญั คอื หมู่เกาะกระ 1. สภาพทรัพยากรทางทะเลและชายฝัง่ ทะเลจงั หวดั นครศรีธรรมราช ทรพั ยากรทางทะเล ปะการงั หญ้าทะเล สัตวท์ ะเลหายาก โดยมรี ายละเอยี ด ดังน ี้ 1.1 ปะการงั หมู่เกาะกระเป็นเพียงหมู่เกาะที่มีแนวปะการังแห่งเดียวในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่ แนวปะการงั 412 ไร่ เกาะกระอยหู่ า่ งจากแผน่ ดนิ ประมาณ 35 ไมลท์ ะเล แนวตรงจากบรเิ วณปากพนงั ประกอบดว้ ย เกาะขนาดเลก็ 3 เกาะ ไดแ้ ก่ เกาะกระใหญ่ เกาะกระกลาง เกาะกระเล็ก และกองหินขนาดเล็ก 1 กอง เรียกหินสูง หรอื หนิ เรอื มสี ว่ นยอดพน้ นำ้� ไมม่ ากนกั ลกั ษณะการวางตวั ของหมู่เกาะ จะกระจายเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยเกาะกระ ใหญ่จะอยู่ทางด้านทิศเหนือ ส่วนเกาะกระกลาง และ เกาะกระเล็กจะเย้ืองไปทางดา้ นทิศตะวนั ออกเฉยี งใต้ หมเู่ กาะกระมีแนวปะการังทีส่ วยงาม และยงั สมบรู ณ์ ปะการงั ชนดิ เดน่ ทพี่ บในพนื้ ทแี่ นวปะการงั ปะการัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ ปะการังเขากวาง เป็นปะการังชนิดเด่นท่ีขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นจนมีลักษณะเป็นดง ทง้ั ปะการงั เขากวางแบบกง่ิ และปะการงั เขากวางแบบโตะ๊ นานาชนดิ นอกจากนบ้ี างชนดิ ยงั ไมเ่ คยรายงานพบทอ่ี นื่ ใด ในฝงั อ่าวไทย คือ Acropora cf. copiosa, A. nana และ A. longicyathus โดยเฉพาะอย่างยิง่ ปะการงั เขากวาง แปรงลา้ งขวดท่มี ีพ้นื ทค่ี รอบคลมุ ทางด้านทศิ ใตข้ องเกาะกระ สภาพแนวปะการังบริเวณหมูเ่ กาะกระ จงั หวดั นครศรธี รรมราช เอกสารประกอบการเรยี น 71 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
สาเหตุและปัญหาที่ส่งผลให้แนวปะการงั เสอ่ื มโทรม เกิดจาก 1) เรอื ประมง ท่ีเขา้ มาลากอวนและมาจอดหลบคล่นื ลมทอดสมอเรอื 2) การเกดิ รั่วไหลของน�้ำลงทะเล และการซะล้างนำ้� มันจากเรอื ประมงเรอื ท่องเทยี่ ว 3) การทง้ิ ขยะลงทะเล ขยะทเี่ ปน็ ปญั หาใหญต่ อ่ แนวปะการงั คอื เศษอวน อวนทป่ี กคลมุ ปะการงั จะท�ำให้ปะการงั ตาย เพราะปะการงั ไม่สามารถรบั แสงแดดได้ 4) การใช้ประโยชน์ ดา้ นการท่องเทีย่ วทางทะเลที่ไม่มคี วามรับผดิ ขอบ ผลเสียหาย ท่เี กดิ จาก นักท่องเที่ยวประเภทด�ำที่ผิว ยืนเหยียบปะการังจนแตกหักเสียหาย ส่วนการท้ิงสมอเรือลงในแนวปะการังนั้น ปัจจุบนั พบนอ้ ยลงแตก่ ็ยงั เปน็ สิ่งทีเ่ กิดขน้ึ ในบางพน้ื ท่ีที่มีทนุ่ ไม่เพียงพอ 5) การทำ� ประมงผดิ กฎหมายบรเิ วณแนวปะการัง เช่น อวนลอ้ มหิน 1.2 หญา้ ทะเล สภาพและสถานการณ์หญ้าทะเล พ้ืนท่ีทางด้านตะวันออกของจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นชายฝั่งทะเลเปิดรับคลื่นลม จากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ แหล่งหญ้าทะเลของจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงมีขนาดเลก็ พบแพร่กระจายอยูท่ างดา้ นเหนือของจงั หวัดเทา่ น้ัน ปจั จุบันชายฝ่ังทะเลของจังหวัดนครศรธี รรมราช พบหญ้าทะเลรวม 6 ชนิด คือ หญ้าคาทะเล หญ้ากุยช่ายทะเล หญ้ากุยช่ายเข็ม หญ้าชะเงาใบ หญ้าชะเงาเต่า และหญ้าใบมะกรูด ครอบคลมุ พ้นื ท่ี หญ้าทะเล รวม 146.6 ไร่ ใน 2 พ้ืนท่ี คอื เกาะท่าไรแ่ ละอ่าวเตลด็ หญ้าทะเล เป็นพืชช้ันสูงท่ีเติบโตได้ดีในบริเวณชายฝั่งน�้ำต้ืน แหล่งหญ้าทะเลเป็นระบบนิเวศชายฝั่งท่ีมีความหลากหลาย ของส่ิงมีชีวิตสูง เป็นบริเวณท่ีมีการสะสมของอินทรีย์สารเป็นแหล่งอาหาร ที่อุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ต่าง ๆ มีการถ่ายทอดพลังงานในรูปของอาหารผ่านจากระบบนิเวศหนึ่งไปสู่อีกระบบหน่ึง และเป็นที่อยู่ของตัว อ่อนของส่ิงมีชีวิต นอกจากความส�ำคัญด้านนิเวศวิทยาแล้ว แหล่งหญ้าทะเล ยังมีความส�ำคัญในแง่ของการผูกพัน ระหว่างวถิ ีชุมชนในพ้ืนทชี่ ายฝง่ั เชน่ ด้านการประมงและการทอ่ งเที่ยวเชิงนิเวศ สาเหตทุ ที่ �ำใหห้ ญ้าทะเลเสื่อมโทรมหรือลดพนื้ ที่ลง 1) การเปลยี่ นแปลงของสภาพแวดลอ้ มตามธรรมชาติ เชน่ ฤดกู าล ความเคม็ อณุ หภมู ิ ตะกอน ดินซึ่งหญ้าทะเลจะมีการเปล่ียนแปลงในรอบปีที่ค่อนข้างชัดเจนโดยหากเข้าส�ำรวจในพื้นท่ีช่วงปลายฤดูร้อน หญา้ ทะเลสว่ นทอี่ ยเู่ หนอื พน้ื ทจี่ ะหายไปจากพน้ื ท่ี เหลอื แตร่ ากและสว่ นใตด้ นิ สว่ นของใบจะแตกยอดใหมใ่ นชว่ งมรสมุ ตะวนั ตก และจะเจรญิ เติบโตเต็มท่ีในช่วงปลายฤดูมรสุมตะวนั ออก 2) ผลจากการด�ำเนินกิจกรรมตา่ งๆ ของมนษุ ย์ เช่น การทิ้งขยะสิ่งปฏกิ ูลตา่ งๆ การท�ำประมง และการท�ำนากุง้ เป็นต้น ซง่ึ กิจกรรมต่าง ๆ เหลา่ นท้ี �ำใหร้ ะบบนเิ วศบริเวณน้ันเปลย่ี นไป อาจทำ� ให้ตะไครน่ ้�ำเขา้ ไป ปกคลุมพ้ืนท่ี ส่งผลให้หญ้าทะเลไม่สามารถสังเคราะห์แสงเจริญเติบโตได้ และส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต และการแพรก่ ระจายของหญา้ ทะเลในทะเลสาบสงขลา 3) การพัฒนาแนวชายฝั่ง ส่งให้ตะกอนไหลลงสู่ทะเล รวมถึงการพัฒนาพื้นท่ีในทะเลชายฝั่ง เพ่อื การท่องเทยี่ ว สร้างสะพานหรือทา่ เทยี บเรอื ขนาดใหญ่ ในบรเิ วณทแี่ หล่งหญา้ ทะเล 4) การท�ำประมงผดิ กฎหมายในพ้ืนท่ีแหล่งหญา้ ทะเล เชน่ อวนลาก และอวนรนุ 5) การปล่อยน�้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม บ้านชุมชนชายฝั่ง และนากุ้งท�ำให้คุณภาพน�้ำ ทะเลเสือ่ มโทรม 6) ปัญหาคล่ืนลมมรสุมที่รุนแรง ท�ำให้มีการเคลื่อนย้ายของแนวสันทราย และตะกอน ตามธรรมชาติทับถมแนวหญา้ 72 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
1.3 สตั ว์ทะเลหายาก สภาพและสถานการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช มสี ตั วท์ ะเลหายากทเี่ ด่น คือ โลมาหลังโหนก ซ่ึงพบมากบริเวณ อ�ำเภอขนอม อ�ำเภอสิชล และอ�ำเภอท่าศาลา โดยมี แนวโน้มจำ� นวนเพิม่ ขึน้ เล็กน้อย ส่วนเต่าทะเล ได้แก่ เต่าตนุ จะพบ มกี ารเกยตนื้ มากในพน้ื ทอ่ี ำ� เภอหวั ไทร และอำ� เภอปากพนงั ที่บริเวณเกาะกระเป็นแหล่งผสมพันธุ์และวางไข่ท่ีส�ำคัญ ในพื้นที่อ่าวไทยตอนล่างในแต่ละปีจะพบว่าแม่เต่าข้ึนมา วางไข่ปีละไม่ต�่ำกว่า 30 รัง หรือ ไข่จ�ำนวนไม่ต�่ำกว่า 3,000 ฟอง เตา่ ตนุ สาเหตทุ ม่ี ีผลกระทบต่อสัตว์ทะเลหายาก 1) ภยั จากเครอื่ งมอื ประมง เนอื่ งจากสตั วท์ ะเลหายากกลมุ่ ทอ่ี ยตู่ ามแนวกบั พน้ื ทที่ ำ� การประมง มาก มเี ครอื่ งมือประมงหลายชนิดท่ีเปน็ อันตรายต่อสตั วท์ ะเลเหล่าน้ี จากขอ้ มูลการตายของสตั ว์ทะเลหายากตา่ ง ๆ พบว่าเคร่อื งมือท�ำการประมงที่เปน็ สาเหตกุ ารตายทสี่ �ำคญั ไดแ้ ก่ อวนลอย เบ็ดราว อวนล้อม โปะ๊ นำ้� ต้นื 2) สภาพแวดลอ้ มชายฝง่ั เสอ่ื มโทรมและขยะในทะเล การทงิ้ ขยะโดยเฉพาะประเภท เศษอวน ถงุ พลาสตกิ ลงในทะเล เปน็ สาเหตสุ ำ� คญั ทท่ี ำ� ใหส้ ตั วท์ ะเลบาดเจบ็ หรอื ตายได้ ตวั อยา่ งการตายของเตา่ ทะเลและโลมา หลายกรณีพบว่า สัตว์ทะเลหลายชนิดเข้าไปติดในเศษอวนตาย หรือเม่ือกินขยะทะเลเข้าไป ไม่สามารถย่อยได้ เกดิ การอดุ ตนั ท่รี ะบบทางเดินอาหาร และเปน็ สาเหตทุ �ำให้สตั ว์ตายในทส่ี ดุ เอกสารประกอบการเรียน 73 รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
3) การเจ็บป่วยตามธรรมชาติและภัยจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ ท้ังเต่าทะเล พะยูน โลมา และปลาวาฬ เป็นสัตว์ที่หายใจด้วยปอด ดังน้ัน การเกิดภัยพิบัติในธรรมชาติมรสุม พายุ คลื่นลมแรง หรอื การเปลย่ี นแปลงชน้ั บรรยากาศ สภาพแวดลอ้ ม และอณุ หภูมิของนำ�้ จงึ มีผลตอ่ สขุ ภาพของสตั วท์ ะเล 4) บุคลากรและองค์ความรู้ด้านสัตว์ทะเลหายากไม่เพียงพอ และความร่วมมือการอนุรักษ์ ไม่แพร่หลาย 5) การลักลอบจับสัตว์ทะเลหายาก ในปัจจุบันแม้ว่ามีการรณรงค์อย่างกว้างขวาง เร่ืองการ อนรุ กั ษส์ ัตว์ทะเลหายาก แตก่ ย็ งั มีรายงานการลักลอบเกบ็ ไขเ่ ตา่ ทะเล 6) การบกุ รุกทำ� ลายแหลง่ แพรข่ ยายพนั ธุของเตา่ ทะเล ท�ำใหส้ ภาพความเหมาะสม ของแหลง่ วางไข่เตา่ ทะเลเสียไป 7) การรบกวน และอบุ ติเหตจุ ากการทอ่ งเท่ยี ว การด�ำเนินงานเพอ่ื อนรุ ักษส์ ัตวท์ ะเลหายาก 1) จดั กจิ กรรมจดั เกบ็ ขยะทะเลตกคา้ งในระบบนเิ วศทสี่ ำ� คญั แบบมสี ว่ นรว่ มในพนื้ ทชี่ ายฝง่ั ทะเล 2) ออกปฏบิ ตั ิงานคมุ้ ครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั อย่อู ยา่ งต่อเนอื่ งในพืน้ ที่ 3) สำ� รวจเตรยี มการประกาศเขตคมุ้ ครองทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่งั 4) โครงการสำ� รวจประเมนิ สถานภาพสตั วท์ ะเลหายากและตดิ ตามสตั วท์ ะเลหายาก ทเ่ี ปน็ สตั ว์ สงวน และคมุ้ ครองบรเิ วณอ่าวขนอม อ�ำเภอขนอม จงั หวัดนครศรีธรรมราช โดยวิธี Photo ID 5) โครงการตรวจสขุ ภาพสตั วท์ ะเลหายากและใกลส้ ญู พนั ธ์ุ ในถน่ิ ทอี่ ยอู่ าศยั โดยวธิ ี Photo ID ครอบคลมุ พนื้ ที่อำ� เภอทา่ ศาลา สิชล และขนอม จงั หวัดนครศรธี รรมราช 6) โครงการชว่ ยชีวิตสตั วท์ ะเลหายากและใกล้สญู พนั ธ์ุ เมอ่ื มีการแจง้ เหตุ 2. สถานการณด์ า้ นการกดั เซาะชายฝ่ัง 1) สถานการณ์ดา้ นการกดั เซาะชายฝง่ั จังหวัดนครศรีธรรมราช มีความยาวชายฝั่งยาวประมาณ 236.81 กิโลเมตร โดยสามารถ แบ่งออกเปน็ 4 กล่มุ คอื อ่าวบ้านดอน อา่ วขนอม - ท่าศาลา อา่ วปากพนัง และแหลมตะลุมพุก โดยมอี าณาเขต ครอบคลมุ พน้ื ทีต่ ำ� บลท้องเนยี น อ�ำเภอขนอม ถงึ ตำ� บลหนา้ สตน อ�ำเภอหวั ไทร รวมทั้งสิ้น 25 ต�ำบล ประกอบด้วย ตำ� บลทอ้ งเนยี น และตำ� บลขนอม อำ� เภอขนอม ตำ� บลทงุ่ ใส ต�ำบลสิชล ต�ำบลทุ่งปรังและต�ำบลเสาภา อ�ำเภอสิชล ตำ� บลกลาย ตำ� บลสระแกว้ ตำ� บลทา่ ขน้ึ และตำ� บลทา่ ศาลา อำ� เภอท่าศาลา ตำ� บลปากพูน ต�ำบลท่าซัก ตำ� บลปากนคร ตำ� บลทา่ ไร่ และตำ� บลบางจาก อำ� เภอเมอื ง ตำ� บลคลองนอ้ ย ต�ำบลปากพนังฝั่งตะวันตก ต�ำบลแหลมตะลุกพุก ต�ำบลปากพนงั ฝัง่ ตะวันออก ตำ� บลบางพระ ต�ำบลบ้านเพิง ตำ� บลทา่ พญา และตำ� บลขนาบนาก อำ� เภอปากพนัง และ ต�ำบลเกาะเพชร และต�ำบลหนา้ สตน อ�ำเภอหวั ไทร สภาพพน้ื ท่ีปา่ ชายเลน จงั หวัดนครศรีธรรมราช 74 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
จากขอ้ มลู การสำ� รวจโดยกรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั พน้ื ทช่ี ายฝง่ั จงั หวดั นครศรธี รรมราช ระยะทางประมาณ 236.81 กโิ ลเมตร มพี ้นื ทช่ี ายฝั่งทีป่ ระสบปัญหาการกดั เซาะยาวประมาณ 61.48 กโิ ลเมตร 2) การด�ำเนนิ การป้องกนั และแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝง่ั การด�ำเนินการแก้ไขแล้ว ซ่ึงจากการส�ำรวจพบโครงสร้างป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะ ชายฝงั ประกอบดว้ ย 2.1) เข่อื นหินทิ้งรมิ ชายฝั่ง 2.2) กำ� แพงกันคลน่ื ประเภทต้งั ตรง 2.3) กลอ่ งกระชหุ ิน 2.4) รอดักทรายแบบตวั ไอ 2.5) เขอ่ื นกนั ทรายและคลนื่ ปากแมน่ ำ�้ 2.6) เขอื่ นหนิ ปอ้ งกนั คลน่ื นอกชายฝง่ั ชายฝ่ังทะเลบา้ นเราะ ตำ� บลทา่ ขนึ้ อ�ำเภอทา่ ศาลา 3) สาเหตขุ องการกัดเซาะชายฝั่ง 3.1) การกัดเซาะชายฝั่งมีสาเหตุจาก กระบวนการทางธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุม ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื กระแสคลน่ื ลมแรง เมอ่ื กระทบชายฝง่ั จะชะตะกอนทรายออกไปทำ� ให้ เกดิ ภาวะขาดความสมดลุ ของตะกอนทรายชายหาด ผนวกกับสภาวะโลกร้อนระดับ น�ำ้ ทะเลสูงข้นึ สง่ ผลให้ ชายฝง่ั ทะเลประสบปญั หากัดเซาะ ชายฝงั่ 3.2) การพฒั นาพน้ื ทชี่ ายฝง่ั ทะเลใน รูปแบบ ต่าง ๆ ได้แก่ การต้ังถ่ินฐานและสิ่งก่อสร้าง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้�ำ การสูบน�้ำทะเล มาใช้เพ่ือการ เพาะเลี้ยง การวางท่อระบายน�้ำทิ้ง และการเปลี่ยนแปลง ทางไหลของน้�ำ และหรือร่องน้�ำ การก่อสร้างรุกล้�ำล�ำน�้ำ เช่น การก่อสร้างสะพาน การสร้างท่าเทียบเรือ และ ชายฝง่ั ทะเลบา้ นมะขามเทศ ตำ� บลบางพระ อ�ำเภอปากพนงั ถนนเลียบชายฝั่ง ล้วนกระตุ้นให้ชายฝั่งทะเลมีความ สภาพพนื้ ท่ีทีถ่ กู กดั เซาะชายฝั่งจงั หวดั นครศรธี รรมราช เปาะบางและเกดิ การเปลยี่ นแปลงไดง้ า่ ยเมอื่ เผชญิ กบั วกิ ฤติ ทางธรรมชาติ 3.3) โดยเฉพาะในชว่ งฤดมู รสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื หลายพน้ื ทป่ี ระสบกบั ปญั หา ชายฝง่ั ทะเล ถูกกระแสคล่ืนลมกัดเซาะ ได้มีการแก้ไขปัญหาเพ่ือช่วยบรรเทา ความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ก�ำแพงกันคล่ืน หินท้ิง และรอดักทราย เป็นต้น โครงสร้าง ดังกล่าวไม่สามารถสลายพลังงานคลื่นได้กลับส่ง ผลกระทบให้ปัญหากัดเซาะชายฝ่งั รุนแรงและขยายตวั เปน็ วงกว้างมากข้ึน ถือว่าเปน็ การแกไ้ ขปญั หาท่ีผดิ พลาด เอกสารประกอบการเรียน 75 รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
เรอ่ื งท่ี 4 ทรัพยากรแรจ่ งั หวัดนครศรีธรรมราช 1. ทรัพยากรแร่ในจังหวดั นครศรธี รรมราช นครศรีธรรมราชมีทรัพยากรแร่ท่ีส�ำคัญทางเศรษฐกิจหลายชนิด ได้แก่ หินปูน โดโลไมต์ ยิปซัม ถ่านหิน ดีบุก ทังสเตน พลวง แบไรต์ ดินขาว บอลเคลย์ เฟลด์สปาร์ และทรายแก้ว มีเน้ือที่รวมกันประมาณ 499 ตารางกโิ ลเมตร คิดเปน็ รอ้ ยละ 5 ของเนือ้ ทจ่ี ังหวดั ทรัพยากรแร่ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช พบแร่ ดังน้ี 1) แรด่ บี กุ พบพน้ื ทอี่ ำ� เภอสิชล รอ่ นพบิ ลู ย์ นบพติ �ำ พรหมครี ี ลานสกา นาบอน พปิ ูน 2) แร่โคโลไมต์ พบพ้ืนทีอ่ ำ� เภอขนอม สิชล นบพิตำ� ทงุ่ ใหญ่ จุฬาภรณ์ ชะอวด 3) ถ่านหิน พบพนื้ ที่อ�ำเภอท่งุ ใหญ่ 4) แรบ่ อลเคลย์ พบพนื้ ที่อ�ำเภอท่งุ ใหญ่ ลานสกา ร่อนพบิ ูลย์ ฉวาง 5) แรแ่ บไรต์ พบพื้นที่อำ� เภอทา่ ศาลา นบพติ �ำ 6) แร่เฟลด์สปาร์ พบพนื้ ทีอ่ ำ� เภอท่าศาลา นบพิตำ� 7) พลวง พบพ้ืนทอ่ี �ำเภอถํ้าพรรณรา ชะอวด 8) แร่ยปิ ซมั พบพ้ืนทอ่ี ำ� เภอฉวาง ถํ้าพรรณรา ทุ่งใหญ่ 9) ทรายเพื่อการกอ่ สรา้ ง พบพนื้ ที่อำ� เภอทา่ ศาลา สชิ ล ฉวาง ท่งุ ใหญ่ 10) ดินขาว พบพื้นท่ีอำ� เภอทงุ่ ใหญ่ ลานสกา ร่อนพิบลู ย์ ฉวาง 11) ทรายแกว้ พบพ้นื ที่อ�ำเภอสิชล 12) หินปูนเพ่ืออุตสาหกรรมซิเมนต์ พบพื้นท่ีอ�ำเภอ ขนอม สิชล นบพิต�ำ ถ้ําพรรณรา ทุ่งใหญ่ บางขัน ทงุ่ สง ร่อนพบิ ูลย์ 13) หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง พบพื้นท่ีอ�ำเภอขนอม สิชล ทุ่งสง ร่อนพิบูลย์ ลานสกา ถา้ํ พรรณรา จฬุ าภรณ์ พรหมคีรี 14) หินปูนจ�ำแนกประเภทไมไ่ ด้ พบพื้นท่ีอ�ำเภอขนอม สิชล นบพติ ำ� ถ้าํ พรรณรา ทุ่งใหญ่ บางขัน ทงุ่ สง ลานสกา จฬุ าภรณ์ ชะอวด 15) หนิ ปูนเพอ่ื อุตสาหกรรมเคมี พบพื้นทอี่ �ำเภอทงุ่ ใหญ่ 16) หินปูนเพอ่ื อตุ สาหกรรมอนื่ พบพืน้ ที่อ�ำเภอขนอม สชิ ล พรหมครี ี ลานสกา ร่อนพบิ ูลย์ ทุ่งสง 2. การใช้ประโยชนจ์ ากทรพั ยากรแรใ่ นจงั หวัดนครศรีธรรมราช ทรพั ยากรแรใ่ นจงั หวดั นครศรธี รรมราชสามารถจำ� แนกตามลกั ษณะการใช้ประโยชน์ ได้ 4 กลมุ่ ดงั น้ี 2.1 กลุ่มเพื่อการพัฒนาสาธารณูปโภคพ้ืนฐานและโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ ใช้เป็น วัตถุดิบ สำ� หรับงานกอ่ สร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานตา่ ง ๆ เชน่ ถนน เข่อื นชลประทาน ฝายกน้ั น�้ำ เปน็ ตน้ แร่ในกลุม่ น้ี ไดแ้ ก่ หนิ ปนู ยิปซมั และทรายกอ่ สร้าง 76 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรีธรรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
ยิปซมั หนิ ปูน ไดโลไมต์ 2.2 กลุ่มแร่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจและ อุตสาหกรรม ใช้เป็นวัตถุดิบขั้นพื้นฐานของ กระบวนการ ผลิตต่าง ๆ ส�ำหรับอุตสาหกรรมต่อเนื่องหลายสาขา เช่น อตุ สาหกรรมอาหารยาอตุ สาหกรรมกระดาษอตุ สาหกรรมสี พลาสติก อุตสาหกรรมหล่อโลหะ อุตสาหกรรมเซรามิก และแกว้ แรใ่ นกลุม่ น้ี ได้แก่ ดบี กุ ทงั สเตน พลวง แบไรต์ ดนิ ขาว บอลเคลย์ เฟลดส์ ปาร์ และทรายแก้ว 2.3 กลมุ่ แรเ่ พอื่ การเกษตร ใชเ้ ปน็ วตั ถดุ บิ สำ� หรบั ผลติ ปยุ๋ ปรับปรุงคุณภาพดิน แร่กล่มุ น้คี ือ โดโลไมต์ ดบี ุก แบไรต์ เอกสารประกอบการเรยี น 77 รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
2.4 กลุ่มแร่พลังงาน ใช้เป็นเช้ือเพลิงในการผลิต กระแสไฟฟ้าและเป็นวัตถุดิบ เช้ือเพลิงในอุตสาหกรรมท่ีใช้พลังงาน ความร้อนไมส่ งู นกั แร่กลุ่มนี้ คอื ถา่ นหนิ 3. สถานการณ์ด้านทรัพยากรแร่ในจังหวดั นครศรธี รรมราช 3.1 ปญั หาส่งิ แวดล้อมบริเวณทที่ ำ� เหมืองแร่ อาจท�ำให้คณุ ภาพน�ำ้ ในแหลง่ น้�ำใกล้เคยี ง เส่ือมโทรม เพราะเกิดจากการชะล้างท่ีเกิดจากการท�ำเหมืองแร่ลงสู่แหล่งน�้ำ เช่น แหล่งน้�ำ มีสารหนู เงิน สังกะสี ทองแดง ตะกวั่ ปนเปอ้ื น อาจเปน็ อนั ตรายตอ่ ผนู้ ำ� นำ�้ ไปใชเ้ พอ่ื บรโิ ภค และอปุ โภค 3.2 การเปิดหน้าเหมืองแร่ เป็นการ พลกิ หนา้ ดนิ ท�ำให้ผวิ ดนิ บรเิ วณน้ันขาด 3.3 ปัญหาการใช้แร่ธาตุ บางประเภท เป็นจ�ำนวนมาก หรือการใช้แร่ไม่คุ้มค่า ไม่ประหยัด อาจท�ำให้ขาดแคลนตลอดไปความอุดมสมบูรณ์ สกปรก พน้ื ทขี่ รขุ ระ มหี ลมุ บอ่ มากมาย จงึ ถกู ปลอ่ ยทงิ้ ใชป้ ระโยชน์ ไม่เต็ม เหมอื งแรใ่ นจงั หวดั นครศรธี รรมราช 3.4 การทำ� เหมอื งในพนื้ ทเี่ สยี่ งดนิ โคลนถลม่ ยงิ่ ทำ� ใหเ้ กดิ ความเสย่ี งจากดนิ โคลนถลม่ หนกั มากยง่ิ ขนึ้ เพราะการท�ำเหมืองแร่มีการทำ� ลายปา่ และเปิดหน้าดิน มีการระเบิดหนิ เพือ่ เอาแร่ ซึ่งท�ำลายความมั่นคงของธรณี เรอื่ งท่ี 5 ทรพั ยากรดนิ 1. ทรพั ยากรดนิ ในจังหวัดนครศรธี รรมราช นครศรธี รรมราชมีเน้ือทปี่ ระมาณ 6.21 ลา้ นไร่ ทรัพยากรดิน นครศรีธรรมราชมีเนือ้ ท่ีประมาณ 6.2 4 ล้านไร่ ดินมีลักษณะ แตกต่าง กันไปตามเขตพื้นที่ ลักษณะดินส่วนใหญ่เป็นดินคละ ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นพ้ืนท่ี เพาะปลูกไม้ ยืนต้น ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นท่ีปลูกยางพารา โดยเฉพาะในเขตอําเภอฉวาง ทุ่งใหญ่ ทุ่งสง และ อําเภอทา่ ศาลา รองลงมาเปน็ พ้นื ทดี่ ินเหมาะแก่การทํานาทัว่ ไป ลกั ษณะของดนิ มีความอดุ มสมบรู ณจ์ ากธรรมชาติ หลากหลาย จนมที รพั ยากรดนิ ท่ีแตกตา่ งกนั ถงึ 7 กลุ่มคอื 1) กลุม่ ดินนา จำ� นวนพื้นที่ 1,992,084 ไร่ สดั ส่วน 31.16 พ้ืนที่อำ� เภอทุกอ�ำเภอ ยกเวน้ ลานสกา พิปูน ฉวาง ทุ่งใหญ่ นาบอน บางขัน ดินนาเกิดจากตะกอนน�้ำกร่อย อาจพบชั้นดินเลนของตะกอนน้�ำทะเล ทไี่ มม่ ศี กั ยภาพกอ่ ใหเ้ กดิ เปน็ กรดกำ� มะถนั ภายใตค้ วามลกึ 150 ซม ปฏกิ ริ ยิ าดนิ เปน็ กลางจงึ เปน็ ดา่ ง ระบายนำ�้ ไดไ้ มด่ ี ความอดุ มสมบูรณ์ปานกลางถงึ สงู เนอ้ื ดินเป็นดนิ เหนียว เหมาะสำ� หรับการท�ำนา 2) ดินทราย จ�ำนวนพน้ื ที่ 112,516 ไร่ สดั สว่ น 1.77 พ้ืนท่อี �ำเภอเมอื ง ขนอม ท่าศาลา ชะอวด ลักษณะของดินทรายเกิดจากตะกอนล�ำน้�ำ เนื้อหยาบอยู่บนชั้นดิน เน้ือดินเป็นดินร่วนปนดินเหนียว หรือดินร่วน 78 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
เหนียวปนทรายแป้ง ดินเป็นกรดเล็กน้อยถึงปานกลาง การระบายน้�ำได้ดีปานกลาง ความอุดสมบูรณ์ต�่ำ การใช้ ประโยชน์ ปลูกพืชไร่ เชน่ ปอแก้ว มันสำ� ปะหลัง ออ้ ย ปอ ขา้ วโพด ฝ้าย ยาสูบ บางแหง่ เป็นป่าเตง็ รัง 3) กลุ่มดินต้ืน จ�ำนวนพ้ืนท่ี 173,042 ไร่ สัดส่วน 2.72 พ้ืนท่ีบางส่วนของอ�ำเภอฉวางทุ่งสง ถ้ำ� พรรณรา ทงั่ ใหญ่ บางขนั ทุ่งสง ชะอวด นาบอน และร่อนพิบลู ย์ กล่มุ ดนิ ตื้น ปฏกิ ริ ิยาดนิ เป็นกรดหรอื เปน็ ดา่ งเลก็ น้อย ความอุดมสมบูรณ์ต่�ำ คุณสมบัติของดินเกิดจากพวกตะกอนน�้ำพาหรือเกิดจากการสลายตัวผุพังอยู่กับท่ี ถูกเคล่ือนย้ายมาทับวัสดุเนื้อหยาบวางทับอยู่บนชั้นหินผุ พบในบริเวณราบเรียบ ท่ีมีน�้ำแช่ขังในฤดูฝน เป็นดินตื่น ที่มีระบายน้�ำค่อนข้างยาก เน้ือดินบนเป็นพวกดินร่วนปนทรายหรือดินร่วน ดินชั้นล่างเป็นดินเหนียวหรือดินร่วน ปนดินเหนยี ว ที่มกี รวดหรอื ลูกรงั ปะปนเปน็ ปรมิ าณมาก 4) กล่มุ ดนิ คละ จำ� นวนพนื้ ท่ี 2,303,230 ไร่ สัดส่วน 36.42 ทุกอำ� เภอ ยกเวน้ อ�ำเภอปากพนัง หัวไทร เชยี รใหญ่ 5) กลมุ่ ดนิ มสี ภาพเปน็ กรด (ดนิ เคม็ ) จำ� นวนพน้ื ที่ 104,041 ไร่ สดั สว่ น 2.19 พนื้ ทอ่ี ำ� เภอรอ่ นพบิ ลู ย์ หัวไทร เชียรใหญ่ ชะอวด ท่าศาลา เฉลิมพระเกียรติ พบบริเวณที่ราบน้�ำทะเลท่วมถึงหรือบริเวณชะวากทะเล กำ� เนดิ ดนิ จากตะกอนนำ�้ ทะเล ดนิ ระบายนำ�้ ไดเ้ ลว เนอ้ื ดนิ เหนยี วหรอื ดนิ รว่ นเหนยี วปนทรายแปง้ ดนิ บนมสี ดี ำ� ปนเทา มีจุดประสีน�้ำตาลเล็กน้อย ชั้นล่างดินเป็นดินเลนสีเทาแก่หรือสีเทาปนเขียว และพบเศษรากพืชปะปนในดิน เป็นจ�ำนวนมาก ดินมีสารประกอบก�ำมะถันสูง เม่ือดินเปียกค่าปฏิกิริยาของดินจะเป็นกรดปานกลางถึงเป็นด่าง ปานกลาง แต่เมือ่ ระบายน้ำ� ออกไปทำ� ให้ดนิ แห้งสารประกอบกำ� มะถนั จะแปรสภาพปลดปลอ่ ยกรดก�ำมะถันออกมา ท�ำให้ดินเป็นกรดจัดมาก ค่าปฏิกิริยาของดินจะลดลงเป็นกรดรุนแรงมาก สภาพปัญหาจะเกิดก๊าสพิษไข่เน่า และก๊าสมเี ทนซึง่ เป็นอนั ตรายตอ่ พชื ส่งผลทำ� ใหก้ ารทรงตวั ของพชื ตำ่� และล้มไดง้ ่าย 6) กลมุ่ ดินเป้ยี วจัด ลกึ ปานกลางและมชี น้ั ดินเลน จ�ำนวนพนื้ ที่ 15,996 ไร่ สดั สว่ น 1.67 พืน้ ที่ อำ� เภอหวั ไทร ชะอวด เชยี รใหญ่ เฉลมิ พระเกยี รติ รอ่ นพบิ ลู ย์ เปน็ กลมุ่ ดนิ ทเี่ กดิ จากวตั ถกุ ำ� เนดิ จากพวกตะกอนลำ� นำ�้ และตะกอนนำ�้ ทะเล แล้วพฒั นาเปน็ สภาพนำ�้ กรอ่ ย หรอื พ้นื ทพี่ รทุ มี่ นี ำ้� ขงั นาน เน้ือดินเหนียวหรือดนิ รอ่ น ดนิ มสี �ำด�ำ หรอื สีเทาปนดำ� มีอนิ ทรยี วัตถุสูง ดนิ ล่างมีจดุ สเี หลอื งและสนี ้�ำตาลปะปน ดนิ ชว่ งล่างลึก 50-100 ซม. เปน็ ดนิ เลนสี เทาปาเขียวที่มีสารประกอบก�ำมะถันสูงหรือดินเปรี้ยวจัด ปฏิกิริยาดินเป็นกรดรุนแรงถึงกรดมาก การใช้ประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นป่าเสม็ด มวี ชั พชื ต่าง ๆ เช่น กก กระจดู และหญ้าชันกาศ ตารางแสดงลักษณะดินกับการใชส้ อย ท่ี ลักษณะดนิ สดั สว่ น การใช้สอย 1. ลาดชนั เชิงซอ้ น 36.77 ป่า, ตน้ นำ�้ 2. เหนียว 28.41 นำ้� ขังหน้าฝน, ท�ำนาด�ำ 3. ดนิ ดี 25.19 สวนต่าง ๆ 4. ปนทราย 3.15 สวนยางพารา 5. ทรายจัด 2.15 สวนมะพร้าว, ทุ่งหญา้ 6. ร่วนเหนียว 1.66 ป่าละเมาะ, เล้ียงสัตว์ 7. อินทรีย์ 1.65 ลุ่มต�่ำ น้�ำขัง ปา่ พรุ 8. เลนนำ�้ ทะเลท่วมถงึ 0.65 ชายเลน ปา่ ชายเลน เอกสารประกอบการเรียน 79 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
จากข้อมูลในตารางแสดงการให้เห็นสภาพของลักษณะดิน ท่ีเป็นดินลาดชันเชิงซ้อนตามป่าเขาต้นน�้ำ ประมาณหนึ่งในสามแล้ว อีกหน่ึงในสามเป็นสภาพต่าง ๆ ท่ีสามารถทําสวนได้ดี ดินเป็นกรด ดินทรายจัด และ อกี เกอื บหนึ่งในสามเปน็ ดนิ เหนียวทํานา คงมเี ลก็ นอ้ ยเทา่ น้นั ทีไ่ มส่ ามารถ ใช้สอยในเชงิ การเกษตรได้ แต่ก็เป็นความ หลากหลายเหมาะสมกับการน�ำไปใช้สอย หรือ การปลูกพืชชนิดใดให้สอดคล้องกับสภาพพ้ืนท่ี สภาพของดิน แต่ละลกั ษณะของดินแต่ละชนิด 2. การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรดนิ ในจงั หวดั นครศรีธรรมราช การใช้ประโยชน์ที่ดินในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีความสอดคล้องกับลักษณะภูมิประเทศ คือ ตอนกลางของจงั หวดั ซ่ึงมีเทอื กเขาพาดผา่ น ลกั ษณะของการใช้พนื้ ท่จี ึงเป็นเขตอุทยานแห่งชาตแิ ละป่าสงวนต่าง ๆ สว่ นทร่ี ะดบั ความลาดชนั ตำ�่ ลงมา การใชพ้ นื้ ทส่ี ว่ นใหญเ่ ปน็ สวนผลไมแ้ ละยางพาราสลบั กบั พน้ื ทอี่ ยอู่ าศยั ทมี่ ลี กั ษณะ แบบอยู่ร่วมกันในพื้นท่ีท�ำการเกษตร ตอนกลางของพ้ืนท่ีเป็นท่ีต้ังของชุมชนที่เป็นชุมชนย่านธุรกิจของจังหวัด เช่น เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช พื้นท่ีนาข้าวซ่ึงถือได้ว่าเป็นพื้นท่ีเกษตรกรรมหลักภายในจังหวัด โดยมีการอยู่ รว่ มกบั พนื้ ทก่ี จิ กรรมการเกษตรอนื่ ๆ คอื ไรน่ าสวนผสม การปลกู พชื ไร่ ผกั ตา่ ง ๆ และทร่ี าบชายฝง่ั ทะเลทอดตวั ขนาน กับอ่าวไทย ต้ังแต่อ�ำเภอสิชลจนถึงรอยต่อกับจังหวัดสงขลากับอ�ำเภอหัวไทร เป็นเขตของพื้นที่เพาะเล้ียงสัตว์น้�ำ มที ้งั การเพาะเลยี้ งกุ้งและปลา 3. สถานการณ์ดา้ นทรพั ยากรดนิ ในจงั หวดั นครศรธี รรมราช สถานการณด์ า้ นทรัพยากรดินในจังหวัดนครศรธี รรมราช มสี ภาพปัญหาต่าง ๆ ดงั นี ้ 3.1 ปญั หาดนิ เปรยี้ วในเขตพน้ื ทป่ี า่ พรุ ตอนกลางของพน้ื ทล่ี มุ่ นำ้� ปากพนงั มสี ภาพตำ่� นำ�้ ทว่ มขงั ตลอด ปี คอื พรคุ วนเครง็ และพรคุ ลองฆอ้ ง ดนิ พรมุ สี ารประกอบไพไรทต์ กตะกอนอยู่ เมอื่ ระดบั นำ�้ ลดลงจนชน้ั ไพไรทส์ มั ผสั กบั อากาศ จะเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมที ำ� ใหด้ ินมีสภาพเป็นกรดและน้�ำเปรี้ยว สง่ ผลต่อระบบการผลติ ของเกษตรกร 3.2 ปญั หาดนิ เคม็ และดนิ เปรย้ี วในพนื้ ทน่ี ากงุ้ รา้ งในเขตลมุ่ นำ�้ พนงั ในสภาพทลี่ มุ่ นารา้ ง และนากงุ้ รา้ ง โครงสร้างดนิ แน่นทบึ การระบายนำ้� ไม่ดี ดนิ เป็นดินเปร้ยี ว และดินเค็มนากุ้งรา้ ง เป็นพื้นทท่ี ี่มีความเคม็ ปรมิ าณธาตุ อาหารค่อนข้างต�ำ่ และมีอนิ ทรียวัตถตุ ำ่� ลักษณะเนอ้ื ดนิ ค่อนข้างเหนียวไม่เหมาะแกก่ ารเพาะปลกู 3.3 ปญั หาดนิ ถลม่ พนื้ ทท่ี เี่ ปน็ ภเู ขาสงู สลบั ซบั ซอ้ นตอนกลางของจงั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ พนื้ ที่ ท่ีมีความเส่ียงสูงต่อการเกิดดินถล่ม เพราะภูมิประเทศมีลักษณะลาดชันสูงถ้ามีฝนตกหนักต่อเน่ืองกันหลายวัน กจ็ ะทำ� ใหม้ ีโอกาสเกดิ ดนิ ถล่มมากข้ึน พื้นทเ่ี สีย่ งต่อการเกิดดินถลม่ ปญั หาดินถล่ม ในจงั หวดั นครศรีธรรมราช 80 เอกสารประกอบการเรียน รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
กิจกรรมหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมจังหวดั นครศรีธรรมราช จงตอบค�ำถามตอ่ ไปนท้ี กุ ข้อ 1. ให้ผู้เรียนวิเคราะห์สภาพปัญหาทรัพยากรป่าไม้ในจังหวัดนครศรีธรรมราช และอธิบายแนวทาง แกป้ ัญหามาพอสังเขป ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 2. ใหผ้ เู้ รยี นอธบิ ายปญั หาทรัพยากรน�้ำในจงั หวดั นครศรีธรรมราช มาพอสังเขป ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ 3. ใหผ้ ูเ้ รยี นอธิบายสาเหตทุ ีม่ ีผลกระทบตอ่ สัตว์ทะเลหายาก มาพอสงั เขป ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ 4. ให้ผู้เรียนอธิบายสถานการณ์ด้านทรัพยากรแร่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน มีปัญหา ด้านใดบ้าง อธบิ ายมาพอสงั เขป ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... 5. ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากเหตุการณ์ พร้อมภาพประกอบเหตุการณ์ จ�ำนวน 1-2 ภาพ เหตุการอุทกภัยกะทนู ปี 2531 พร้อมทง้ั อธิบายถึงสาเหตกุ ารเกิด และถ้าผู้เรยี นเจอสถานการณด์ งั กลา่ ว จะดูแล และปอ้ งกันตวั เองให้พน้ ภัยดว้ ยวิธีการใดบา้ ง ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... เอกสารประกอบการเรียน 81 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
. 6. ให้ผเู้ รียนอ่านบทความด้านลา่ งนี้ แลว้ วิเคราะห์สาเหตขุ องการเกดิ ไฟป่าและผลกระทบทเ่ี กดิ ข้นึ ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................. โหมหนกั ! ไฟปา่ พรเุ มืองคอนเกิดใหม่ 4 จดุ สง่ ผลโรงเรียนปดิ -โรงพยาบาลป่วน วันน้ี (9 ส.ค.) ภาพมุมสงู ในตำ� บลสวนหลวง อ.เฉลิมพระเกยี รติ จ.นครศรธี รรมราช นอกจากไฟปา่ ในเขตป่าพรุควนเคร็งยังคงลุกลามอย่างหนักและทวีก�ำลังรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้ยังพบกลุ่มไฟเกิดใหม่ ขนาดใหญ่อีกอย่างน้อย 4 จุด กลุ่มควันกระจายเต็มท้องฟ้าสูงจากพ้ืนดินหลายร้อยเมตร และเม่ือลมตลบ กดกลุ่มควันได้ปกคลุมพื้นที่ชุมชนเป็นระยะ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ถูกกลุ่มควันเข้าปกคลุมสร้างผลกระทบต่อผู้ป่วยเป็นระยะตามกระแสความรุนแรงของลม ขณะบริเวณพื้นที่ โรงพยาบาลปกคลุมไปดว้ ยเถา้ วชั พชื จากพนื้ ท่ีเกิดไฟลอยมาตกจำ� นวนมาก ขณะเดียวกนั โรงเรียนประถม และ โรงเรียนมัธยม ในเขตทางฝั่งตะวันออก ของอ�ำเภอเฉลิมพระเกียรติ ต้องหยุดเรียนกลางคัน และต้องปล่อยให้ นักเรียนกลับบ้านเนื่องจากควันเข้าปกคลุมโรงเรียนจนครูอาจารย์เกรงจะเกิดผลกระทบต่อนักเรียน จึงหยุด การเรียนการสอนและให้กลบั บา้ นก่อนเวลา ส่วนผลกระทบในพื้นท่ีเกษตรกรรมของชาวบ้าน พบว่า มีสวนปาล์มน�้ำมันจ�ำนวนหลาย 100 ไร่ ในต�ำบลสวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ เสียหายจากแนวไฟลุกลามเข้าไปท�ำลายปาล์มน้�ำมัน แม้ว่าปาล์ม จะทนต่อไฟแต่ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3-4 ปี จึงจะสามารถกลับมาให้ผลผลิตได้อีกครั้ง โดยเกษตรกร เจา้ ของสวนปาลม์ หลายรายตา่ งกงั วลถงึ ผลกระทบทจ่ี ะตามมาคอื ไมม่ รี ายไดแ้ ละไมม่ เี งนิ พอทจี่ ะไปจา่ ยหนธ้ี นาคาร เพื่อการเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร จึงเสนอให้รัฐบาลหาวิธีช่วยเหลือเกษตรกรที่ถูกไฟเข้าท�ำลายพ้ืนท่ี ทางการเกษตรดว้ ย 82 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7ประชากรกับการเมืองการปกครองจงั หวัดนครศรธี รรมราช ประชากรกับการเมืองการปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการเรยี นร้เู ก่ียวกบั ประวตั คิ วามเป็นมา การตั้งถิ่นฐานของประชากรจังหวัดนครศรีธรรมราช ประวัติบุคคลส�ำคัญ ๆ และลักษณะอุปนิสัยใจของคน จังหวัดนครศรีธรรมราช การเปล่ียนแปลงของประชากรจังหวัดนครศรีธรรมราชทุกระดับทุกเพศและวัยที่เก่ียวข้อง และผูกพันกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครอง ตลอดจนประโยชน์ท่ีประชากรจะได้รับจากการเมือง การปกครองและการบรหิ ารขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ เรอื่ งท่ี 1 ประชากรนครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดใหญ่ในภาคใต้ของประเทศไทย มีความส�ำคัญในทางประวัติศาสตร์ มาแต่อดีตควบคู่กับความเป็นมาของชนชาติไทย มีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะการแปรเปล่ียน จ�ำนวนประชากร ที่เป็นไปตามปัจจัยแวดล้อมท้ังภายในและภายนอก ท�ำให้เราจ�ำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับประชากร จังหวัดนครศรีธรรมราช การตั้งรกรากถิ่นฐาน การย้ายที่อยู่อาศัย เชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม อัตราการเกิด และตายของประชากรจังหวดั ต้งั แต่อดตี สมัยกอ่ นประวัตศิ าสตร์จังหวดั นครศรธี รรมราชจนถงึ ปัจจบุ นั 1. สมัยก่อนประวตั ศิ าสตร์นครศรธี รรมราช ในทางโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ คือ ชว่ งเวลา ทมี่ นษุ ยย์ งั ไมร่ จู้ กั บนั ทกึ เรอื่ งราวอนั เปน็ ตวั อกั ษรใหม้ นษุ ย์ สมัยปัจจุบันสามารถอ่าน แปลความหมายออกมาได้จากหลักฐาน ทางโบราณคดีปรากฏว่าจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นท่ีอยู่อาศัย ของมนษุ ยส์ มยั กอ่ น ประวตั ศิ าสตรพ์ น้ื ทเ่ี ปน็ ปา่ เขามากอ่ นทจ่ี ะเปน็ พื้นที่ราบชายฝั่งทะเล 2. การตงั้ ถ่ินฐานและชุมชนโบราณพทุ ธศตวรรษ ท่ี 12-18 ร่องรอยชุมชนโบราณต้ังแต่พุทธศตวรรษท่ี 12 มีปรากฏในท่ีราบเชิงเขา และท่ีราบริมแม่นํ้าทางทิศตะวันออก ของเทือกเขาหลวงภูมิประเทศบริเวณนี้ด้านหนึ่งติดทะเล ถัดไป มีแนวสันทรายทอดยาวตามแนวทิศเหนือและทิศใต้ ส่วนทาง ตะวันตกเป็นแนวเทือกเขานครศรีธรรมราช เป็นแหล่งต้นน้ํา ของคลองหลายสาย จากแนวเทอื กเขาจดฝง่ั ทะเล ประมาณ 15 - 20 กโิ ลเมตร เปน็ แผน่ ดนิ ทอ่ี ดุ มดว้ ยปยุ๋ จากธรรมชาตจิ ากตะกอนทบั ถม ของแม่นํ้า และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่าน จึงเหมาะ แก่การทำ� นาเลีย้ งชมุ ชนขนาดใหญ่ เอกสารประกอบการเรียน 83 รายวิชา นครศรธี รรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
ลักษณะชุมชนเมื่อแรกตั้งเป็นชุมชนการค้า ซึ่งการติดต่อกับดินแดนโพ้นทะเลมีวัฒนธรรม และเทคโนโลยี กา้ วหน้ากว่ายงั ผลใหเ้ กิดความเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจและวฒั นธรรมอย่างช้า ๆ จนชุมชน พฒั นาเติบโตเป็นศูนย์กลางการคา้ ทางทะเลบนคาบสมทุ รไทยในพทุ ธศตวรรษที่ 18 โดยเหตุทภ่ี มู ปิ ระเทศเปน็ ป่าดบิ ท่ีอดุ มสมบรู ณ์ จึงมีผลผลติ จากปา่ อย่มู าก เช่น ขี้ผึ้ง ไม้ฝาง งาชา้ ง หนงั สตั ว์ ซง่ึ เปน็ สนิ คา้ ออกชายฝงั ตะวนั ออกจงึ เปน็ แนวชายฝงั ทนี่ ยิ มตงั้ ถนิ่ ฐาน เพราะสะดวกในการตดิ ตอ่ คา้ ขายกนั กับดนิ แดนโพ้นทะเล เชน่ อนิ เดยี จนี เวียดนามและภาคกลางของประเทศไทย สังคมและชุมชนจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพัฒนาการที่ยาวนาน ซึ่งจากหลักฐานทางโบราณคดี และประวัติศาสตร์ พอจะสันนิษฐานได้ว่าคนจังหวัดนครศรีธรรมราชยุคก่อนประวัติศาสตร์อาศัยอยู่ในถ้ํา บริเวณ ป่าเขา และบนเกาะต่าง ๆ รวมท้ังที่ราบตามริมฝั่งน้ํา ยังชีพโดยการล่าสัตว์ จับสัตว์นํ้าและหาของป่า รู้จักการท�ำ ภาชนะเคร่ืองมือและเคร่อื งน่งุ ห่ม มคี วามเชื่อในเรอื่ งสิ่งศักด์ิสทิ ธ์ิ และเคารพภตู ผี การตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณของจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ค้นพบตามหลักฐานร่องรอย การตง้ั ถนิ่ ฐานของชมุ ชนโบราณสมยั ประวตั ศิ าสตรก์ อ่ นพทุ ธศตวรรษที 19 ตามหลกั ฐานวรรณคดแี ละวตั ถโุ บราณคดี ทปี่ รากฏ ไดแ้ ก่ 1) ชุมชนโบราณบนหาดทรายแก้ว ปรากฏ ร่องรอยการตั้งถ่ินฐาน ตามแนวล�ำนํ้าใหญ่ไหลมาจากภูเขา ทางตะวันตก ผ่านสันทรายออกไปสู่ทะเลอ่าวไทยในหลายพ้ืนที่ โดยเฉพาะบริเวณแนวสันทรายหรือท่ีเรียกว่า หาดทรายแก้ว พบปรากฏรอ่ งรอยตามนกั โบราณคดี 2) ชุมชนโบราณบ้านท่าเรือ ต�ำบลท่าเรือ อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราชนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า เป็นศูนย์กลางของตามพรลิงค์ในยุคแรก เน่ืองจากเป็นจุดท่ี คลองท่าเรือไหลออกทะเล ในอดีตน่าจะเป็นร่องน้ําลึกท่ีเรือ เดินทะเลสามารถแล่นเข้ามาจอดได้ และพบหลักฐานส�ำคัญ คือ เคร่ืองถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ถัง อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 - 15 เคร่ืองถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ซ้อง อายุราวพุทธศตวรรษท่ี 18-19 เคร่ืองสังคโลกสมัยสุโขทัยและเงินตราต่างชาติจ�ำนวนมาก ในซากเรือบรรทุกสินค้าหลายล�ำที่จมอยู่บริเวณปากอ่าว และ ล�ำคลองแหง่ นี้ 3) ชุมชนโบราณเมืองพระเวียงต�ำบลพระเวียง ต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ลักษณะของเมือง เป็นรูปส่เี หลยี่ มผนื ผ้าขนาด 450 X 1,100 เมตร วางตามแนว ทศิ - ทศิ ใต้ มคี เู มอื ง และแนวกำ� แพงดนิ ลอ้ มรอบอยา่ งละชน้ั ภายในเมอื ง มีวัดโบราณหลายแห่ง เช่น วัดสวนหลวงตะวันออก ปัจจุบัน เป็นท่ีต้ังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ วัดพระเวียง ปัจจุบัน เป็นท่ีต้ัง สถานสงเคราะหเ์ ดก็ ชายบา้ นศรธี รรมราช (กรม ประชาสงเคราะห)์ 84 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
4) ชมุ ชนเมอื งโบราณคดนี ครศรธี รรมราช ตง้ั อยตู่ ำ� บลในเมอื ง อำ� เภอเมอื งนครศรธี รรมราช ลกั ษณะ เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 500 X 2,239 เมตร วางยาวตามแนวเหนือใต้บนแนวสันทรายขนาบด้วย ที่ราบลุ่ม มีคูเมืองก�ำแพงเมืองล้อมรอบ จากต�ำนานเมืองนครศรีธรรมราช และพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราชกล่าวถึง ประวัติ การสร้าง เมืองบนหาดทรายแก้ว สถานท่ีฝัง พระทันตธาตุของสมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับการสร้าง พระบรมธาตุเจดีย์ว่าเมืองนี้สร้างข้ึนราวพุทธศตวรรษท่ี 11 โดยพระเจ้า ศรีธรรมโศกราช แต่ไม่มีปรากฏหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ท่ียืนยันได้ว่า นครศรีธรรมราช สร้างขึ้นได้แต่โบราณสถานที่เก่าท่ีสุด สามารถก�ำหนดอายุ จากรูปศิลปกรรมได้ คือ พระบรมธาตุเจดีย์ ท่ีวัดมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นเจดีย์ทรงกลมศิลปะลังกา แบบที่พบ ในเมืองโปโลนาก�ำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 การต้ังถิ่นฐานของชุมชนโบราณของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้คน้ พบตามหลกั ฐาน รอ่ งรอย 3. ลักษณะอุปนสิ ยั ของคนจังหวัดนครศรธี รรมราช โดยทว่ั ไปลกั ษณะอปุ นสิ ยั ของคนจงั หวดั นครศรธี รรมราช มลี กั ษณะคลา้ ย ๆ กบั คนภาคใตท้ วั่ ไป ดงั น้ี 1) ชอบนบั ญาติ หมายถงึ ความสมั พนั ธใ์ นสายสกลุ เดยี วกนั หรอื มคี วามเกยี่ วขอ้ งกนั บางครง้ั เรยี กวา่ “เปน็ ดอง” กนั จึงมีการ “นบั ญาติ/ชุมญาติ” หรือเรียกวา่ “สาวยา่ น” กันถงึ จะรกั กนั อย่างเหนยี วแน่น เม่อื มีงาน หรือกิจกรรมใด ๆ สำ� คัญกจ็ ะกลบั มา “รวมญาติ” กันอยา่ งพร้อมเพรยี ง 2) รกั พวกพอ้ ง แมว้ า่ ไมไ่ ดเ้ ปน็ ญาตกิ นั แตห่ ากเปน็ คนจงั หวดั เดยี วกนั พดู ภาษาเดยี วกนั จะเกดิ การ รวมกลมุ่ กนั “ผกู เกลอ” โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เมอ่ื ออกไปอยตู่ า่ งถนิ่ กจ็ ะปรากฏเหน็ ชดั คนนครศรธี รรมราช มกั รวมกลมุ่ พบปะสังสรรค์เพื่อรู้จักกัน เช่ือมความสามัคคีระหว่างกัน ท�ำกิจกรรมเพ่ือสาธารณะประโยชน์ และมีโอกาสที่จะ “แหลงใต”้ กนั 3) รักภาค/ถ่ินฐาน ในภาพรวมเป็นคนนครศรีธรรมราชที่มีความรู้สึกภาคนิยมสูง มีความหย่ิง และภมู ิใจในทอ้ งถน่ิ ท่อี ยู่ รวมถงึ การใช้ภาษาใตด้ ว้ ย แมว้ ่าจะตกไปอยู่ทอ้ งถ่ินอ่ืน ยังมคี วามภมู ิใจลกึ ๆ ว่าเขาเกดิ มา เป็นคนใตน้ ับวา่ เป็นเอกลกั ษณ์ศักด์ิศรีประการหนง่ึ 4) รกั ตายาย ค�ำว่าตายายในท่ีน้ี หมายถึง บรรพบุรษุ เน้นการนับถอื ผีตายาย (เดิมคงเน้นสายสกลุ แม่เป็นส�ำคัญ) แต่ค�ำว่าตายายโดยทั่วไป หมายถึง บรรพบุรุษของทุกฝ่าย เป็นพฤติกรรมที่เป็นแบบอย่าง ของความเคารพ กตัญญูกตเวทีส�ำนึกในบุญคุณบรรพบุรุษ สืบต่อมาช้านานจนเป็นวัฒนธรรมท่ีเด่นชัด “งานสารท เดอื นสิบ” ของจงั หวดั เปน็ งานใหญ่และเป็นวนั “ชุมญาต/ิ รวมญาต”ิ กันอีกดว้ ย 5) ใจสู้ หมายถงึ การมใี จกลา้ นนั่ เอง กลา้ สู้ กลา้ คดิ กลา้ ทำ� กลา้ ทเี่ ผชญิ หนา้ กบั เหตกุ ารณห์ รอื อปุ สรรค ท่ีเกดิ ขน้ึ พรอ้ มทจ่ี ะออกหนา้ มลี กั ษณะที่คอ่ นข้างจะไมก่ ลัวใคร จงึ กล้าทีจ่ ะตดั สนิ ใจเปน็ ลักษณะแห่งผนู้ �ำได้ 6) ใจใหญ่ ค�ำวา่ “ใหญ”่ หรือบางทีว่าใจนกั เลง แตม่ ใิ ช่นกั เลงหัวไม้ เป็นคนกลา้ ไดก้ ลา้ เสยี ใจกวา้ ง ยอมเสียสละเพือ่ ช่ือเสยี ง แม้ตวั เองจะต้องเสยี ผลประโยชน์ไปบ้าง เอาหน้าไว้กอ่ น 7) ไมห่ วาน หมายถงึ การพดู คนนครศรธี รรมราชพดู หยาบ สำ� เนยี งหว้ นสน้ั ไมม่ หี างเสยี ง อาจมสี ว่ น อยบู่ ้างเพราะสภาพแวดลอ้ มทางภมู ิศาสตร์เป็นตวั กำ� หนด แต่ใหด้ กู นั ทีค่ วามจรงิ ใจถ้าบอกวา่ ชว่ ยกช็ ว่ ยจรงิ ไม่ทิง้ กนั ถ้าบอกว่ารักกร็ กั จริงไม่หลอกกัน 8) หัวหมอ เป็นมุมมองหน่ึงของคนต่างถ่ิน คงเป็นเพราะว่าคนนครศรีธรรมราช มักไม่ยอมก้มหัว ใหใ้ ครงา่ ย ๆ ซง่ึ ความจรงิ ลกั ษณะคนหวั หมอ คอื การทมี่ คี วามคดิ อา่ นทนั คน รมู้ าก จงึ ไมย่ อมสยบใหก้ บั ความอยตุ ธิ รรม ทัง้ ปวงอย่างงา่ ยนัน่ เอง เอกสารประกอบการเรยี น 85 รายวิชา นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย
9) ชอบความเปน็ อสิ ระ เปน็ ลกั ษณะหนง่ึ ของคนนครศรธี รรมราช อาจสบื ลกั ษณะนสิ ยั มาจากโบราณ ที่คนใต้ปกครองตนเองมาโดยตลอดสมัยประวัติศาสตร์ ด้วยเป็นดินแดนไกลศูนย์กลางการปกครอง จึงสร้างสม คุณลักษณะต้องพงึ่ ตนเอง ท�ำใหห้ ยงิ่ และรักศกั ดิ์ศรขี องมาตุภมู ิ เกิดค่านิยมชว่ ยเหลอื ตนเองมากกว่าแบมือขอคนอนื่ 10) รักศกั ดศิ์ รี พฤตกิ รรมนเี้ กิดจากลกั ษณะรวม ๆ เกิดขน้ึ ตามสภาวการณ์หลายอย่างจงึ เกิดความ ภูมิใจจึงไม่แสดงพฤติกรรมใด ๆ ที่ท�ำให้คนอ่ืนดูถูกประณามท้องถ่ินของตน สังเกตได้จากคนใต้ที่เป็นขอทาน หรือโสเภณีน้อยนิดโดยสถิติ เชื่อเร่ืองกรรม ความเชื่อดังกล่าวคงสืบเน่ืองมาจากศาสนาท่ีสืบทอดมาถึงลูกหลาน อันเป็นเหตุปัจจัยไม่ให้คนท�ำช่ัวเพราะกลัวกรรมสนอง ศัพท์ภาษาถ่ินที่ว่า “ใช้ชาติ” จะเป็นค�ำตอบของความเชื่อ ของคนนครศรธี รรมราชเปน็ อยา่ งดี เป็นวัฒนธรรมความเชอ่ื ทว่ี า่ ผลมาจากเหตนุ น่ั เอง เรอื่ งท่ี 2 บุคคลสำ�คัญจังหวดั นครศรีธรรมราช จงั หวดั นครศรธี รรมราช มปี ระวตั แิ ละบคุ คลสำ� คญั ๆ ทม่ี ผี ลงานเปน็ ทปี่ รากฏตอ่ สงั คม ชมุ ชน และทอ้ งถนิ่ โดยมีรายละเอยี ด ดงั น ี้ 1. พระเจา้ ศรีธรรมาโศกราช พระเจา้ ศรธี รรมาโศกราช เปน็ ปฐมกษตั รยิ ์ เปน็ ตน้ ราชวงศ์ปทุมวงศ์ แห่งอาณาจักรตามพรลิงค์ เป็นผู้สร้างเมือง นครศรีธรรมราช จากชุมชนเดิมซึ่งมีช่ือเรียกว่า ตามพรลิงค์ บนหาดทรายแก้ว ปัจจุบันอยู่บริเวณต�ำบลในเมือง อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปลายพุทธศตวรรษท่ี 17 จนกลายเป็นนครรัฐหรือเป็นอาณาจักรใหญ่ในคาบสมุทรไทย ก่อนท่ีจะเข้ารวมอยู่ในราชอาณาจักรไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนตน้ พทุ ธศตวรรษที่ 20 ผลงานและพระเกยี รติคณุ พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชเป็นผู้สร้างเมืองนครศรีธรรมราช และสร้างสถูปเจดีย์ที่เรียกว่า “พระบรมธาตุ” ทเ่ี ป็นปชู นยี สถานท่ีสำ� คัญค่บู ้านคเู่ มืองของไทย 2. พระเจา้ จันทรภาณุ พระเจ้าจันทรภาณุตามประวัติจากหลักฐานต�ำนานเมืองและต�ำนานพระธาตุทราบว่าพระเจ้าจันทร ภาณุ เปน็ พระอนชุ าของพระเจา้ ศรธี รรมาโศกราช เมอ่ื พระเจา้ นครศรธี รรมาโศกราชถงึ แกก่ รรม เมอื่ ศกั ราช 1200 ปี พระยาจันทรภาณุ เป็นเจ้าเมืองมีพระนามว่า “พระเจ้าจันทรภาณุ” นับเป็น พระมหากษตั รยิ ท์ ย่ี งิ่ ใหญพ่ ระองคห์ นงึ่ ในราชวงศศ์ รธี รรมาโศกราช หรอื อาณาจกั ร ตามพรลิงค์ เป็นกษตั ริยท์ ีท่ รงเผยแผ่พระเดชานภุ าพขจร ไปยังแควน้ ไกลทส่ี ุด คือ เกาะลังกา โดยการยกทัพไปตีถึง 2 คร้ัง ตามประวัติจากหลักฐานต�ำนานเมือง และต�ำนานพระธาตุทราบว่า พระเจ้าจันทรภาณุได้ตั้งอารามก่อพระเจดีย์ ปลูกพระศรีมหาโพธิรายทางมาจนถึงเมืองนคร มีข้อความปรากฏอยู่ในศิลาจารึก ตอนหนงึ่ วา่ “พระเจา้ ผปู้ กครองเมอื งนครตามพรลงิ คเ์ ปน็ ผอู้ ปุ ถมั ภต์ ระกลู ปทมุ วงศ์ พระหัตถ์ของพระองคม์ ีฤทธ์มิ ีอ�ำนาจ ด้วยอนุภาพแห่งบุญกศุ ล 86 เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวชิ า สค3300168 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
ผลงานและพระเกียรตคิ ณุ 1) ประกาศอิสรภาพจากอาณาจักรศรีวิชัยให้แก่นครศรีธรรมราช ตอนน้ันนครศรีธรรมราช เปน็ รฐั หนง่ึ ของศรวี ชิ ยั ในขณะทอี่ าณาจกั รศรวี ชิ ยั ออ่ นแอพระเจา้ จนั ทรภาณจุ งึ ประกาศเอกราชจากอาณาจกั รศรวี ชิ ยั ในราว พ.ศ.1773 และอาณาจักรศรวี ิชัยก็ถงึ กาลอวสานในราวปี พ.ศ. 1838 2) ยกทัพไปตลี ังกา 2 คร้งั ดงั นี้ ครั้งที่ 1 ยกไปตีลังกาในราวปี พ.ศ.1750 ในสมัยของพระเจ้าปรักกรมพาหุกษัตริย์แห่งลังกา ในการรบครั้งน้ีได้รับชัยชนะ เป็นเหตุให้แสนยานุภาพของพระองค์แผ่ไปตลอดแหลมมลายู และเกิดมีอาณานิคม ของตามพรลิงค์อยู่ในลังกา และเป็นสาเหตุหน่ึงท่ีลังกาต้องมอบพระพุทธสิหิงค์ให้ในโอกาสต่อมา และชาวลังกา เรยี กพระนามของพระองค์ว่า “ชวากะ” ครัง้ ที่ 2 ยกทพั ไปตีลงั กาครัง้ นี้ อยู่ในระหว่าง พ.ศ. 1801 - 1803 การไปรบลังกาในครัง้ หลังนี้ พระเจ้าจันทรภาณุ ได้รับความช่วยเหลือจากทหารชาวทมิฬโจฬะ และพวกปาณฑย์ ซ่ึงเป็นศัตรูกับชาวลังกา มาแต่โบราณ และได้ยกพลขึ้นบกท่ีมหาติตถะ ทางฝ่ายนครศรีธรรมราช มีเจ้าชายวีรพาหุเป็นแม่ทัพ ในระยะแรก ฝ่ายพระเจ้าจันทรภาณุมีชัยชนะในการรบแต่ระยะหลังกองทัพของพวกปาณฑย์เกิดกลับใจไปร่วมรบกับพวกลังกา ตีพวกทมิฬโจฬะแตกพ่าย ท�ำให้ทัพของพระเจ้าจันทรภาณุถูกล้อม นักประวัติศาสตร์บางท่านกล่าวว่า พระองค์ สิ้นพระชนมใ์ นสนามรบ แต่บางท่านบอกว่า พระองค์เสดจ็ กลบั มาได้ และอยูต่ อ่ มาอีกหลายปจี งึ ส้นิ พระชนม์ 3. เจ้าพระยานคร (พัฒน)์ เจ้าพระยานคร (พัฒน์) หรือเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (พัฒน์) เป็นเจ้าเมืองอันดับท่ี 2 ของนครศรีธรรมราชในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าพระยานครผู้นี้เดิมเป็นหม่อมเจ้าในกรมหม่ืนอินทรพิทักษ์ (รัชกาลที่ 3) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งในพงศาวดาร เรียกว่า พระอุปราช หรือ เจ้าพัฒน์ ในสมัยกรุงธนบุรี ได้ท�ำราชการสนองพระเดชพระคณุ พระเจ้าอยหู่ ัวและประเทศชาติ ผลงานและพระเกียรติคณุ เจา้ พระยานคร (พฒั น)์ หรอื พระอปุ ราช (พฒั น)์ ถงึ แก่ อสัญกรรม เมื่อ พ.ศ.2358 นับเป็นแบบอย่างข้าราชการท่ีดีผู้หนึ่ง คือ เปน็ ผทู้ ไ่ี มย่ ดึ ถอื ในตวั บคุ คลจนเกนิ ไป แตย่ ดึ ถอื ในหลกั การ และประโยชน์ ของส่วนรวม คือ ประเทศชาติเป็นท่ีตั้ง ไม่ว่าเหตุการณ์บ้านเมือง จะเปล่ียนแปลงอย่างไร ก็ยังสามารถปฏิบัติราชการงานเมืองในหน้าท่ี ด้วยดีเสมอมา มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ และต่อผู้บังคับบัญชา มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นสมัยกรุงธนบุรี หรือกรุงรัตนโกสินทร์ จะเห็นว่าเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าแผ่นดิน มาท้ังสองสมัย นอกจากน้ันยังเป็นที่รู้จักกาล รู้จักประมาณตน ปราศจากความโลภ ความหลง เช่น เม่ืออายุมาก ไมส่ ามารถปฏบิ ตั ริ าชการดว้ ยดไี ด้ กก็ ราบถวายบงั คมทลู ลาออกเพอ่ื เปดิ โอกาสใหผ้ อู้ น่ื ทม่ี คี วามสามารถกวา่ ทำ� หนา้ ที่ แทน คุณลักษณะเช่นนี้จึงท�ำให้เจา้ พระยานคร (พัฒน)์ มีวิถชี ีวติ ทดี่ �ำเนินมาดว้ ยความราบรืน่ ตราบส้ินอายขุ ยั เอกสารประกอบการเรยี น 87 รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
4. เจา้ พระยานคร (น้อย) เจ้าพระยานคร (น้อย) หรือเจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) เป็นเจ้าเมืองล�ำดับท่ี 3 ของเมืองนครศรีธรรมราชในสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ นับเป็นเจ้าเมืองท่ีมีชื่อเสียงโดดเด่นกว่าเจ้าเมืองใด ๆ ในสมัยเดียวกัน เพราะเป็นท้ังนักรบ นักปกครอง และเป็นผู้สันทัด ในการช่างเป็นอย่างยอดเย่ียม รับราชการสนองพระเดชพระคุณชาติ บ้านเมืองด้วยความอุตสาหะ จงรักภักดีซื่อสัตย์ต่อพระบรมราโชบาย ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์อย่างแน่วแน่ มนั่ คงถงึ สามรชั กาล คอื พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั และพระบาทสมเดจ็ พระนง่ั เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ตามลำ� ดบั นบั ไดว้ า่ เปน็ ขา้ ราชการชน้ั ผใู้ หญท่ ไ่ี ดบ้ ำ� เพญ็ กรณยี กจิ ที่ส�ำคัญแก่ชาติบ้านเมืองมายาวนาน ต้ังแต่วัยฉกรรจ์จนกระทั่งถึง เจ้าพระยานคร (นอ้ ย) อสญั กรรม เกิดเมือ่ วนั จันทรท์ ี่ 27 สงิ หาคม 2319 ตามหลักฐานทางราชการกล่าววา่ เปน็ บตุ รพระยาสุธรรมมนตรี (พฒั น)์ มารดาชอื่ ปราง หรอื หนูเล็ก เรม่ิ เข้ารบั ราชการอยา่ งจรงิ จังในตน้ รชั สมยั พระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หล้า นภาลัย คือ ใน พ.ศ.2354 ผลงานและพระเกียรตคิ ุณ 1) ด้านการปกครอง การตีเมืองไทรบุรี เป็นเมืองท่ีมีปัญหาในการปกครองของไทยตลอดเวลา เจ้าพระยานคร (นอ้ ย) ปกครองเมืองนคร ต้องใช้ความรู้ ความสามารถทัง้ ในด้านการสงคราม การทตู การปกครอง และการบรหิ ารอยา่ งย่ิงยวด จึงสามารถรักษาเมืองไทรบรุ ีใหอ้ ยภู่ ายในราชอาณาจักรไทยตลอดชวี ิตของทา่ น 2) ด้านการทตู บทบาทของเจ้าพระยานคร (นอ้ ย) วา่ เปน็ นักการทูตคนส�ำคญั ในยุคน้นั โดยเฉพาะ การทูตระหว่างไทยกับองั กฤษในสมยั รชั กาลท่ี 2 - 3 เจา้ พระยานคร (นอ้ ย) มีความเฉลียวฉลาด มปี ฏภิ าณไหวพริบ ในการเจรจาความเมืองและผลแห่งการเป็นนักการทูตผู้มีปฏิภาณท�ำให้เมืองนครศรีธรรมราช มีอิทธิพลต่อหัวเมือง มลายู และเป็นท่ีนบั ถือยำ� เกรงแกบ่ ริษทั องั กฤษ ซึง่ กำ� ลงั แผอ่ ทิ ธิพลการค้าและการเมอื งมายงั ภาคพ้นื เอเชยี อาคเนย์ 3) การตอ่ เรอื เจา้ พระยานคร (น้อย) มีความเชย่ี วชาญในการตอ่ เรือมาก คอื ไดต้ อ่ เรอื กำ� ป่ันหลวง สำ� หรบั บรรทกุ ขา้ วไปขายทอี่ นิ เดยี ทำ� ใหป้ ระเทศชาตมิ รี ายไดม้ าก และทส่ี ำ� คญั คอื ไดต้ อ่ เรอื รบขนาดยอ่ มไปจนถงึ เรอื ขนาดใหญ่ ท่ตี ้องใชก้ รรเชยี งสองชัน้ 4) การพฒั นาเครื่องถม “เครอื่ งถม” เปน็ หตั ถกรรมชนั้ สงู ทช่ี าวนครทำ� สบื ทอดกนั มาแตค่ รงั้ สมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยาตอนกลาง บา้ งกว็ า่ เปน็ ฝมี อื การรงั สรรคข์ องชาวนครครงั้ โบราณ บา้ งกว็ า่ ไดร้ บั สบื ทอดความรจู้ ากชาวโปรตเุ กสทม่ี าตดิ ตอ่ คา้ ขาย แต่ไม่ว่าจะมีก�ำเนดิ มาอย่างไร งานศิลปหัตถกรรมประเภทนก้ี ก็ ลายเป็นงานฝมี ือเอกลกั ษณ์ของเมือง 88 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
5. พระเจ้าขตั ตริ าชนคิ มสมมติมไหสวรรย์ (หนู ณ นคร) พระเจา้ ขตั ติยราชนิคม สมมตมิ ไหสวรรค์ พระเจ้านครศรธี รรมราช เจา้ ขัณฑสีมา พระนามเดิม หนู เป็นพระมหากษัตริย์นครศรีธรรมราช ภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาคร้ังท่ีสอง และเป็นพระเจ้าประเทศราช นครศรีธรรมราช ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เกิด พ.ศ. ใด และที่ใดไม่ปรากฏชัด เมื่อหนุ่มมีบรรดาศักด์ิเป็นหลวงนายสิทธ์ิ นายเวรมหาดเล็กในสมเด็จเจ้าฟ้าอุทุมพร ต่อมาได้รับต�ำแหน่งเป็นปลัด เมืองนครศรธี รรมราช เปน็ ท่รี จู้ กั กันในนาม “พระปลัดหน”ู เมื่อปี พ.ศ. 2312 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกทัพไปปราบชุมนุมเจ้านครศรีธรรมราช โดยมีเจ้าพระยาจักรีเป็นแม่ทัพ กองทัพเจ้านครฯ กับกองทัพกรุงธนบุรี ได้สู้รบกันอย่างสามารถ แต่แม่ทัพกรุงธนบุรีที่ยกทัพไปกลับไม่ปรองดอง กนั จงึ ไมส่ ามารถปราบชมุ นมุ เจา้ นครฯ ไดส้ ำ� เรจ็ สมเดจ็ พระเจา้ กรงุ ธนบรุ ี จงึ ตอ้ งทรงลงไปตดี ว้ ยพระองคเ์ อง แลว้ กท็ รงตไี ดส้ ำ� เรจ็ เจา้ นครศรธี รรมราช เจา้ หนู ตอ้ งหนลี ะทง้ิ เมอื งไปอยทู่ เี่ มอื งปตั ตานี แตเ่ จา้ เมอื งปตั ตานเี กรงกลวั กองทัพสยาม จึงส่งตัวกลับมาให้สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ตั้งแต่นั้นมา พระเจา้ ขตั ติราชนิคมสมมติมไหสวรรย์ หัวเมอื งปักษใ์ ตจ้ งึ มาอยภู่ ายใต้อ�ำนาจกรุงธนบุรี พระองค์ทรงไมป่ ระหาร (หนู ณ นคร) เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เพราะเน่ืองจากในขณะนั้นกรุงศรีอยุธยาแตก ไม่มีเมืองท่ีใหญ่กว่ามาปกครอง เมอื งนครศรธี รรมราชจึงตอ้ งต้ังตนเป็นอิสระ หลังจากน้ันทรงโปรดให้พระเจ้านครศรีธรรมราชเข้ามารับราชการในกรุงธนบุรี แล้วแต่งต้ังพระเจ้า นราสรุ ยิ วงศ์ พระราชนดั ดาให้ไปครองนครศรีธรรมราช จนพ.ศ. 2319 เจ้านราสรุ ยิ วงศส์ ้นิ พระชนม์ สมเด็จพระเจา้ กรุงธนบุรีจึงโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้านครศรีธรรมราช กลับไปครองนครศรีธรรมราช ทรงได้รับพระราชทาน พระสุพรรบัฏเป็น พระเจ้าขัตติยราชนิคม สมมติมไหสวรรค์ พระเจ้านครศรีธรรมราช เจ้าขัณฑสีมา เมื่อวันท่ี 15 กนั ยายน พ.ศ. 2319 ดำ� รงพระอสิ ริยยศทพี่ ระเจา้ ประเทศราช 6. พลเอก เจา้ พระยาบดนิ ทรเดชานุชิต (แย้ม) พลเอก เจ้าพระยาบดินทรเดชานชุ ติ (แยม้ ณ นคร) เปน็ บตุ ร เจา้ พระยาสุธรรมมนตรี (หน)ู อปุ ราช เมืองนครศรธี รรมราช และทา่ นน่มิ เกิดเม่อื รนั ท่ี 21 เมษายน พ.ศ. 2410 ปลายรัชกาลที่ 4 ภายในจวนผวู้ า่ ราชการ เมืองนครศรีธรรมราช ท่านได้เริ่มเล่าเรียนหนังสือไทยหนังสือขอมในส�ำนักครูคงเมืองนครศรีธรรมราช เรียนวิชา เลขไทยในสำ� นกั ขนุ ก�ำจัดไพริน (เอีย่ ม) ท่กี รุงเทพมหานคร เม่ือ พ.ศ. 2422 เม่อื อายุได้ 12 ปี ไดท้ �ำการมงคลตัดจกุ และบวชเป็นสามเณรทรี่ ัดพระมหาธาตเุ มอื งนครศรีธรรมราช แลว้ ไปอยวู่ ดั ใหมก่ าแกว้ ได้ศกึ ษาทางพระพทุ ธศาสนา ในสำ� นกั พระครเู ทพมนุ ี (แกว้ ) ผเู้ ปน็ อปุ ชั ฌาย์ และในสำ� นกั พระครกู าแกว้ เจา้ อธกิ ารวดั ใหมน่ นั้ อปุ สมบท หนงึ่ พรรษา พลเอก เจ้าพระยาบดินทรเดชานุชิต (แย้ม ณ นคร) ทา่ นเปน็ ผู้ใหญ่ในวงศ์ตระกลู เป็นผูเ้ คร่งครดั ในกฎระเบยี บวนิ ยั เยยี่ งวสิ ยั ทหาร แตก่ เ็ ปน็ ผทู้ ม่ี กี ริ ยิ าวาจาทนี่ มุ่ นวล เปน็ ประมขุ แหง่ บา้ นมหาโยธนิ อนั เปรยี บเสมอื น ไม้ใหญ่ท่ีคอยให้ท่ีพักพิงแก่บรรดาญาติพี่น้องลูกหลานตราบจน สิ้นอายุขัย เม่ือวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2504 และท่ีส�ำคัญคือทา่ นเปน็ ผูข้ อพระราชทานนามสกลุ “ณ นคร” อนั เป็นตระกลู ใหญต่ ระกลู หน่ึงท่ีสบื ทอดตอ่ เนอื่ งมา จนถงึ ในปจั จุบนั น้ี เอกสารประกอบการเรียน 89 รายวชิ า นครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
7. หมน่ื ไกรพลขนั ธ์ (ตาขุนพล) หมื่นไกรพลขันธ์ หรือ ตาขุนพลท่านเป็น 1 ใน 4 แม่ทัพคนส�ำคัญของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ประกอบด้วย หม่ืนพันเสร็จหมื่นระเห็จดับภัย หม่ืนสน่ันหวั่นไหว และหม่ืนไกรพลขันธ์โดยหม่ืนไกรพลขันธ์ หรือ ตาขุนพล ได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลบริเวณทางตะวันออกของวัง ซ่ึงท่านได้มีความเชี่ยวชาญในการใช้สรรพาวุธ แกลว้ กล้าในพิไชยสงคราม ส�ำหรบั ตาขนุ พลนั้นมีความศกั ด์ิสิทธิ์ ในการขอไหวไ้ ด้รับ ผทู้ ีบ่ ชู ามักจะนิยมแกบ้ นด้วยอาวุธจำ� ลอง มวย หนงั ตะลุง มโนราห์ หมากพลู เครอื่ งเซน่ ไหวต้ ่าง ๆ ซ่ึงเชอื่ กันวา่ เปน็ สง่ิ ท่ตี าขนุ พลโปรด ในอดตี ทีต่ น้ ประด่ยู กั ษ์ แหง่ นี้ จะปรากฏงบู องหลาขนาดใหญ่ ขดกายอยขู่ า้ งตน้ ประดนู่ เี้ สมอ ซงึ่ ชาวบา้ นเชอ่ื กนั วา่ คอื ตาขนุ พลทจ่ี ำ� แลงกาย มาในรา่ งของงขู นาดใหญ่ ลงจากภูเขามาโปรดลกู หลาน และยังเชือ่ กนั วา่ ทา่ นตาขนุ พล ยงั คงปกปกั รักษาลกู หลาน โดยเสมอมา แม้นกาลเวลาผ่านไปเท่าไร แต่ความศรัทธา นับถือในตาขุนพล วีรบุรุษรักษาเมืองนคร ยังคงมีอยู่ มิเสื่อมคลายจากใจชาวนครสบื ไป 8. พงั พการ พังพการเป็นวีรบุรุษในสมัยอาณาจักรตามพรลิงค์ (ชื่อเดิมของนครศรีธรรมราช) เป็นขุนพลแก้ว ของพระเจ้าจนั ทรภาณทุ ี่ 3 กษตั ริยผ์ ู้เขม้ แข็งแห่งตามพรลงิ ค์ ตามต�ำนานเมอื งนครศรธี รรมราช พงั พการ ไมท่ ราบ วันเกิด ช่ือบิดา มารดา ซ่ึงเป็นลูกขายคนเดียวของชาวนา ของบ้านนพเดียร ในวัยทารก พ่อแม่จะน�ำลูกน้อยไป ท�ำนาด้วย โดยผกู เปลไวท้ ก่ี ิง่ ต้นหว้าซ่งึ งอกที่คันนาของตน ขณะที่ทัง้ สองกำ� ลังดำ� นาอยู่นัน้ กไ็ ดม้ ีงูบองหลา (จงอาง) ใหญต่ วั หนง่ึ เลอื้ ยเขา้ ไป ทเ่ี ปลของเดก็ นอ้ ยโดยไดแ้ ผพ่ งั พานชขู น้ึ เหนอื เปล แลว้ ไดค้ ายแกว้ ไวใ้ นเปลนน้ั ดว้ ย เสรจ็ แลว้ ก็ไดเ้ ลื้อยเข้าป่าหายไปทางทิศตะวนั ตก พอ่ แมข่ องทารกน้อยและเพื่อนชาวนาท่กี �ำลงั ดำ� นาอยู่ ณ ทน่ี น้ั ต่างกพ็ ากนั ตกใจ และไดร้ บี วงิ่ เขา้ มาดทู เี่ ปลของบตุ รตนทนั ทจี งึ เหน็ วา่ ทารกนอ้ ยไมไ่ ดร้ บั อนั ตรายแตอ่ ยา่ งใด และยงั นอนเลน่ แกว้ ของพญางอู ยู่ดว้ ย ต่างกร็ ูส้ ึกยนิ ดีในบุญบารมีของทารกนอ้ ยย่ิงนัก จึงไดต้ ง้ั ชอ่ื ว่า “พังพการ” ผลงาน ท�ำให้เมืองนครศรีธรรมราชพ้นจากอ�ำนาจชองเมืองชวา พังพการเป็นบุคคลท่ีชีวิตอยู่ในสมัย ของพระเจ้าจนั ทรภานุ ซึง่ ครองเมืองนครศรีธรรมราช ประมาณ พ.ศ.1820 เมืองนครศรธี รรมราชไดต้ กเปน็ เมอื งขน้ึ ของชวาซ่ึงยกทัพมาตีเมือง หลักฐานเกี่ยวกับพังพการวีรบุรุษของอาณาจักรตามพรลิงค์ ยังคงมีปรากฏอยู่ทุกวันน้ี ในจงั หวดั นครศรีธรรมราช คอื 1) โคกพังพการ อยูใ่ นตำ� บลนาสาร อำ� เภอพระพรหม 2) บา้ นนพเตียน อยู่ในตำ� บลไชยมนตรี อ�ำเภอเมอื ง 3) เขามหาชัย อยู่ในต�ำบลท�ำงว้ิ อ�ำเภอเมอื ง 4) เร่ืองราวของ “พังพการ” ยังเป็นท่ีมาของส�ำนวนภาษาประจ�ำถิ่น ส�ำนวนหนึ่งอีกด้วยคือที่ว่า “ตายด้วยดาบไม้พาเข” หรือ “ตายกับดาบไม้พาเข” ซ่งึ มคี วามหมายตรงกับสำ� นวนทวี่ า่ “ปลาใหญต่ ายน�ำ้ ตนื้ ” 90 เอกสารประกอบการเรยี น รายวชิ า นครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวิชา สค3300168 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
9. พระรัตนธชั มนุ ี (มว่ ง ศริ ริ ตั น์) พระรัตนธัชมุนี มีนามเดิมว่า “ม่วง ศิริรัตน์” เกิดเม่ือวันท่ี 10 สิงหาคม พ.ศ.2396 ที่บ้านหมาก หมู่ท่ี 5 ต�ำบลบ้านเพิง อ�ำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นบุตรของนายแก้ว และนางทองค�ำ สิริรัตน์ มีพี่นอ้ ง 7 คน เป็นบตุ รคน สุดท้อง เมื่ออายไุ ด้ 7 ปี ไดศ้ ึกษาเบอ้ื งต้นในสำ� นกั อาจารยส์ ดี �ำ วัดหลมุ พอ อ.ปากพนงั อายุ 9 ปี ย้ายไปศึกษาในส�ำนักอาจารย์เพชรวัดแจ้ง อ�ำเภอปากพนัง ไดศ้ กึ ษาเลา่ เรียน มลู กจั จายน์ในส�ำนกั นี้ อายุได้ 15 ปี ได้บรรพชาอย่ทู ่ี วัดแจ้งน้ัน เม่ืออายุได้ 17 ปี ได้ย้ายมาอยู่ท่ีวัดมเหยงคณ์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมจาก พระครูการาม (จู) ในพ.ศ. 2416 ได้อุปสมบทเป็นภิกษุฝ่ายมหานิกาย โดยพระครูการาม (จู) เป็นพระอุปัชฌาย์ มีฉายาว่า “รัตนธโช” เม่ือ อุปสมบทแล้วได้จ�ำพรรษาอยทู่ ่ี วัดมเหยงคณ์ 1 พรรษาตอ่ มาเม่อื พระครู การาม (จู) ย้ายไปอยู่ที่วัดท่าโพธิ์ฯ จึงย้ายตามไปด้วยในปี พ.ศ 2427 เม่ือพระครูการาม (จู) มรณภาพก็ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าโพธ์ิสืบแทน ต่อมาได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เป็นพระราชาคณะมรี าชทนิ นามวา่ “พระสริ ิธรรมมุน”ี พระรัตนธชั มณุ ี (ม่วง ศริ ิรตั น์) ผลงาน/เกยี รติคุณทไ่ี ดร้ ับ 1) ดา้ นการศาสนา เป็นท่ียอมรับและได้รับการยกย่องมาก สามารถแก้ไขปัญหาในการปกครองคณะสงฆ์ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บเรียบร้อยได้ จนกระท่ังกรมหมืน่ วชิรญาณวโรรสและกรมหมนื่ ด�ำรงราชานุภาพ ทรงเห็นพอ้ งต้องกนั วา่ เป็นแบบแผนท่ีดี ควรให้ผอู้ �ำนวยการการศกึ ษา รับไปจดั ใหต้ ลอดเหมือนกนั ท่วั ทกุ มณฑล 2) ดา้ นการศึกษา เปน็ ผูร้ เิ ริ่มจดั การศกึ ษาฝ่ายสามญั และวสิ ามัญขึน้ ในมณฑลนครศรธี รรมราชและมณฑลปตั ตานี จำ� นวนโรงเรยี นทที่ ่านไดจ้ ัดตงั้ ทงั้ หมด 21 แห่ง เช่น 2.1 โรงเรียนหลวงหลังแรกตั้งอยู่ท่ีวัดท่าโพธิ์ อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีชื่อว่า “สุขมุ าภบิ าลวทิ ยา” ไดพ้ ระยาสุขุมนยั วนิ ติ (ปนั้ สุขมุ ) ข้าหลวงเทศาภบิ าล เปน็ ผู้อปุ ถมั ภ์ (โรงเรียนนี้ต่อมาเปล่ียน ซ่ือเปน็ “เบญจมราชูทิศ”) 2.2 โรงเรียนราษฎรผดุงวทิ ยา ตงั้ อยทู่ ว่ี ัดพระนครใต้ พระครกู าชาตเิ ป็นผู้อุดหนนุ 2.3 โรงเรียนวัฑฒนานุกลู อย่ทู วี่ ัดหมาย อำ� เภอท่าศาลา 2.4 โรงเรยี นเกษตราภสิ ิจน์ ตัง้ อยูท่ ีว่ ดั ร่อนนอก อ�ำเภอรอ่ นพิบลู ย์ 2.5 โรงเรยี นนิตยาภริ มย์ ตัง้ อยทู่ จี่ ดั โคกหม้อ อำ� เภอทงุ่ สง 2.6 โรงเรียนวิทยาคม นาคะวงศ์ ตง้ั อย่ทู ีว่ ัดวงั ม่วง อ�ำเภอฉวาง 2.7 โรงเรยี นวสิ ามัญ ใหม้ ีการสอนวชิ าช่างถมข้ึนที่วดั ท่าโพธ์เิ ปน็ คร้ังแรก ในพระราชอาณาจักร เมอื่ พ.ศ. 2456 เอกสารประกอบการเรยี น 91 รายวิชา นครศรีธรรมราชศกึ ษา รหัสรายวชิ า สค3300168 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242