RENOVATION OF TEPLEELA SCHOOL FOR LEARNING AND FLEXIBLE ACTIVITY

3.1.4 ลักษณะพืน้ ท่ยี า่ นรามคำ�แหง ถ น น ร า ม คำ � แ ห ง เ ป็ น ถ น น ส า ย ห นึ่ ง ใ นกรุงเทพมหานคร ฝ่ังตะวันออก มีความยาวรวมทั้งหมดประมาณ 18 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 2 ช่วงคอื ชว่ งจากส่ีแยกคลองตันถงึ แยกลำ�สาลีและ ช่วงจากแยกล�ำ สาลีถึงแยกตดั กบั ถนนสุวนิ ทวงศ์ ช่วงจากสี่แยกคลองตันถึงแยกลำ�สาลีมีจุดเริ่มต้นท่ีแยกคลองตันในพื้นที่เขตสวนหลวง ซ่ึงเป็นจุดตัดกับถนนเพชรบรุ ี ถนนพฒั นาการ และถนนสขุ ุมวทิ 71 (ปรดี ี พนมยงค์) ขน้ึ ไปทางตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ผา่ นแยกรามค�ำ แหง (จดุตดั กับถนนพระราม 9) ผ่านแยกวดั เทพลลี า และมหาวทิ ยาลัยรามคำ�แหง,การกีฬาแห่งประเทศไทย ไปสิ้นสุดที่แยกลำ�สาลีในพื้นที่เขตบางกะปิ มีความยาวประมาณ 6 กิโลเมตร มีทางยกระดับช่วงตง้ั แตซ่ อยรามคำ�แหง 13 หน้าหา้ งสรรพสนิ คา้เดอะมอลล์ จนถงึ ซอยรามคำ�แหง 81/4 สถานท่สี �ำ คญั บนถนนชว่ งนี้ มมี หาวทิ ยาลยั รามค�ำ แหง มหาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญัราชมงั คลากฬี าสถาน (สนามกฬี าหวั หมาก) วดั พระไกรสหี ์ และวัดเทพลีลาตัง้ อยู่ท่แี ยกวดั เทพลีลา ซอยรามคำ�แหง 39(ทีม่ า: th.wikipedia.org ) ภาพท3่ี .5 วิเคราะหผ์ งั เมอื งยา่ นรามค�ำ แหง ทมี่ า : พนั ทวิ า เพชรสมี ่วง 3-6

3.2 วิเคราะห์ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม 3.2.1 สภาพทางสงั คมและวัฒนธรรม สภาพทางสังคมของเขตบางกะปิ ประกอบด้วยศูนย์การค้าสำ�คัญ ๆ ตลาดสดเช่น ตลาดบางกะปิ 1,2,3 ตลาดสดแฮปปี้แลนด์ เปน็ ตน้ สถานประกอบการ โรงแรม โรงงาน โรงภาพยนตร์ หมบู่ ้านจัดสรรตา่ ง ๆ ประกอบด้วยชุมชนจำ�นวน 18 ชมุ ชน ซ่งึ แบง่ ตามลกั ษณะประเภทชุมชนคอื ก. ประเภทชุมชนหม่บู ้านจัดสรร ได้แก่ ชุมชนหมูบ่ ้านสนิ ธร ชมุ ชนหมบู่ า้ น กติ ตินเิ วศน์ ชุมชน หมู่บา้ น 5 กะรตั วลิ ลา่ ชุมชนหมู่บ้านศขิ ริน ชมุ ชนหมู่บ้านสวนสน ข. ประเภทชมุ ชนเมือง ไดแ้ ก่ ชมุ ชนหมู่บา้ นเทพทวี ชมุ ชนโครงการร่วมกนั สรา้ ง ชมุ ชน สขุ สนั ต์ 26 ง. ประเภทชมุ ชนชานเมอื งไดแ้ ก่ ชมุ ชนสุขเจรญิ พฒั นา ชมุ ชนหมู่บา้ นพฒั นาหมู่ 8 จ. ประเภทชุมชนแออัดได้แก่ ชุมชนล�ำ สาลี ชุมชนวงั โสม ชมุ ชนเยรซู าเลม็ ชมุ ชน 101 บึงทองหลาง ชมุ ชนวดั กลาง ชมุ ชนคลองกะจะ ชมุ ชนวงั ใหญ่ ชมุ ชนสามัคคีพฒั นา (ทมี่ า : http://arit.chandra.ac.th/edu/Web_social/bangkapi/general.html) ภาพที่3.6 ศิลปะการแสดง ทม่ี า : livingculturalsites.com/index_06_03.html3-7

ภาพที่3.7 วัฒนธรรมทอ้ งถน่ิท่ีมา : livingculturalsites.com/index_06_03.html 3-8

3.2.2 สภาพทางเศรษฐกจิ เขตบางกะปิเป็นพื้นที่หนึ่งของกรุงเทพมหานครที่ถือได้ 1. ประเภทศูนย์การคา้ ได้แก่ เดอะมอลล์บางกะปิ ตะวันนา แมค็ โครวา่ เปน็ เขตชนั้ ในมคี วามเจรญิ เตบิ โตทางดา้ นเศรษฐกจิ อยา่ งรวดเรว็ นอ้ มจติ ต์ โลตัส คาร์ฟู เดอะมอลล์รามคำ�แหง บ๊ิกซีเนื่องจากมีการใช้ประโยชน์ในท่ีดินเต็มพื้นที่เป็นชุมชนหนาแน่นมาก 2. ประเภทโรงภาพยนตร์ ไดแ้ ก่ เมเจอร์คงเหลือท่ีดินว่างเปล่าจำ�นวนน้อย พ้ืนท่ีเขตบางกะปิจึงเป็นแหล่ง 3. ประเภทโรงแรม ไดแ้ ก่ โรงแรมบางกะปโิ รยลั โรส โรงแรมไดรฟ์ อนิธรุ กจิ ขนาดใหญท่ ่สี ามารถสร้างรายไดด้ ้านการจดั เกบ็ ภาษที ้องถ่นิ โรงแรมอเลก็ ซานเดอร์ โรงแรมไดนาสต้ี โรงแรมปบ๊ี อนิ โรงแรมเมจคิให้กบั กรุงเทพมหานคร ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 จดั เก็บภาษี 4. ประเภทตลาด ไดแ้ ก่ ตลาดบางกะปิ 1 - 3 ตลาดแฮปปแ้ี ลนด์โรงเรอื นและท่ดี นิ ได้ 170.55 ล้านบาท ภาษีบำ�รงุ ท้องที่ 7.92 ล้าน ตลาดนครไทย ตลาดเทคโน ตลาดเสรีบาท และภาษปี า้ ย 12.34 ล้านบาท รวมทงั้ สนิ้ ปีละ 190.81 ล้าน 5. โรงงานอตุ สาหกรรม บรษิ ทั เครอื่ งนงุ่ หม่ ส�ำ เรจ็ รปู จ�ำ กดั บรษิ ทับาท นอกจากนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 หน่วยงานสรรพากร ไทยน�้ำ ทพิ ย์ จ�ำ กดั บรษิ ทั โอสถสภา จ�ำ กดั บรษิ ทั บวิ ตเี้ จมสแ์ ฟคตอพน้ื ทีเ่ ขตบางกะปิ ยังสามารถจัดเก็บภาษซี ึ่งเป็นรายได้ของรฐั ได้แก่ รี่ จ�ำ กดั บริษทั กันยงวฒั นา จำ�กัดภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดาปลี ะ 986.24 ล้านบาท ภาษีนิตบิ ุคคลปีละ 6. ประเภทสถานศึกษา ได้แก่ สถาบนั บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์2,328.55 ลา้ นบาท และภาษมี ลู คา่ เพมิ่ ปลี ะ 1,763.68 ลา้ นบาท รวม (นดิ า้ ) มหาวิทยาลัยรามค�ำ แหง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค)ทั้งส้ินปลี ะ 5,078.74 ลา้ นบาทแหล่งธรุ กิจทส่ี ร้างอาชพี สรา้ งราย สถาบนั กวดวชิ าต่าง ๆ ในโครงการวสิ ทุ ธิ์ธานได้และเป็นศูนยร์ วมประชากรหมุนเวยี นในพนื้ ท่ีเขตบางกะปิ เช่น (ท่ีมา : arit.chandra.ac.th/edu/Web_social/bangkapi) ภาพที่3.8 ถาพถ่ายบริบทย่านรามค�ำ แหง ทมี่ า : thinkofliving.com/2017/08/21/metris3-9

3.3 ทตี่ ั้งโครงการ BANGKOK ,THAILAND RAMKHAMHANG ROAD3.3.1 ผังที่ตงั้ โครงการ ถนนรามคำ�แหงภาพที่3.9 ผงั แสดงบรบิ ทโดยรอบย่านรามคำ�แหงที่มา : พันทวิ า เพชรสีมว่ ง 3-10

3.3.2 ขนาดท่ีดนิ พ้ืนท่ีดินสว่ นที่จะปรับปรงุ และตอ่ เติมมพี นื ทที่ ั้งหมด 5,525 ตารางเมตร (3.45 ไร)่พ้ืนที่ดินรวมของโรงเรียนเทพลลี ามีทง้ั หมด 8,845 ตารางเมตร (5.5 ไร)่ ภาพที3่ .10 พน้ื ทโี่ รงเรียนเทพลลี า ภาพท3ี่ .11 ขนาดพืน้ ทโ่ี ครงการ ทมี่ า : พันทิวา เพชรสีม่วง ทีม่ า : พันทวิ า เพชรสีมว่ ง3-11 3.3.2 วิเคราะหด์ า้ นกายภาพ 3.3.2.1 LAND USE : ลักษณะการใช้ที่ดินเป็น 3.3.2.2 INFRASTRUCTURE : ระบบ พื้นท่ีพาณิชยกรรม พื้นท่ีการศึกษา สนามกีฬา สาธารณูปโภค สาธารณูปการครบครัน เช่น และทอ่ี ย่อู าศัย โรงเรียน โรงพยาบาล สถานีตำ�รวจ-ดับเพลิง 3.3.2.3 TRANSPORATION สนามกีฬา เปน็ ตน้ การเข้าถึงโครงการสะดวก เน่ืองจากติดถนน 3.3.2.4 SITE : เป็นพืน้ ทท่ี มี่ กี ารใช้ประโยชน์ด้าน ใหญ่และมคี มนาคมหลากหลาย ไดแ้ ก่ รถยนต์ รถ เศรษฐกจิ เปน็ อาคารพาณชิ ย4์ ชน้ั ขนึ้ ไป และมแี หลง่ โดยสาร เรอื และอนาคตมีรถไฟฟ้าขนสง่ มวลชน ทีอ่ ยชู่ มุ ชนหนาแน่นมาก

3.3.3 ผังสปี ระโยชนก์ ารใชทั ด่ี นิภาพท3ี่ .12 ผังการใชท้ ่ดี นิ รวมกรุงเทพมหานครทีม่ า : www.areaguru.net/cityplan.phpพ้นื ที่สีแดง พ3-15 ที่ดนิ ประเภทพาณิชยกรรมอัตราสว่ นพืน้ ทอ่ี าคารรวมต่อพนื้ ที่ดนิ (FAR) 1:7 -สามารถสร้างได้ 5,525 x 7 = 38,675 ตารางเมตรอัตราสว่ นของทวี่ า่ งตอ่ พื้นที่อาคารรวม(OSR) ร้อยละ 4.5 -ตอ้ งมที ี่วา่ งอยา่ งนอ้ ย 38,675x(4.5/100) = 1,740 ตารางเมตรราคาท่ดี ิน 80,000 บาท/ตาราเมตร -ราคาทีด่ ินท้งั หมด 707.60 ล้านบาท 3-12

3.3.4 SITE ANALYSIS ภาพท่ี3.13 วเิ คราะหผ์ ลกระทบทม่ี ตี ่อโครงการ ที่มา : พนั ทวิ า เพชรสมี ว่ ง3-13

ภาพท3่ี .14 วเิ คราะหข์ นาดถนน ทางเขา้ และต�ำ แหนง่ จราจรที่มา : พันทวิ า เพชรสีม่วง 3-14

3.4 วิเคราะหก์ ารใช้พื้นที่ในโรงเรียน โรงเรียนเทพลีลา (อักษรย่อ: ท.ล, T.L.) เป็นโรงเรียน มธั ยมศกึ ษาประเภทสหศกึ ษา โรงเรยี นมธั ยมศกึ ษาขนาดใหญ่ พเิ ศษ สังกัด ส�ำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ก่อตงั้ เมือ่ 17 พฤษภาคม 2505 โดย ดำ�ริของหม่อมหลวงป่ิน มาลากุล ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ 281 ถนนรามค�ำ แหง แขวงหวั หมาก เขตบางกะปิ กรงุ เทพมหานคร ภาพท3ี่ .15 ด้านหลงั อาคาร7ชนั้ ะโรงเรยี นเทพลีลา3-15ที่มา : พนั ทวิ า เพชรสีมว่ ง

ภาพท3่ี .16 ความหนาแนน่ ในแต่ละชว่ งเวลาของโรงเรียนเทพลลี าทมี่ า : พันทิวา เพชรสีมว่ ง 3-16

3.4.1 ประเภทการใช้งานอาคารในโรงเรยี น (ทมี่ า : th.wikipedia.org/wiki/โรงเรยี นเทพลลี า) ภาพท่3ี .17 แสดงอาคารแต่ละสว่ นในโรงเรยี นเทพลลี า 2.อาคาร เทพธรรมมา มีจ�ำ นวนทง้ั สิน้ 5 ชัน้ ใช้เป็นห้องเรยี นที่ 3.อาคาร เทพพัฒนา มีจำ�นวนทั้งสิ้น 4 ช้ัน เป็นอาคารที่ใช้ ท่ีมา : พนั ทิวา เพชรสมี ่วง จัดการเรียนการสอนตา่ งๆ จำ�นวน 13 ห้อง และ เป็นหอ้ งพัก เป็นห้องปฏิบัติการตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ เช่น ห้องดนตรี คณาจารย์กลุม่ สาระ ศนู ยก์ ารเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ไทย , ห้องดนตรีสากล , ห้องศิลปะ , ห้องนาฏศลิ ป์ , หอ้ ง 1.อาคารเฉลิมพระเกียรติ๖รอบพระชนมพรรษา หรือ อาคาร ศูนย์สุขศึกษาและพลศึกษา , ห้องศูนย์เพ่ือนใจวัยรุ่น (Friends เทพเมธา อาคาร 4 ชนั้ ในอดตี มจี �ำ นวนทง้ั สน้ิ 7 ชั้น ใช้เป็น Corner) , หอ้ งประกอบอาหาร , หอ้ งศูนย์กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ห้องเรียนที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนต่างๆ จำ�นวน 5 ช้ัน การงานอาชีพและเทคโนโลยี 2 รวม ห้องพักคณาจารย์กลุ่มสาระ ห้องเรียนMEP-EP ห้อง ปฏบิ ตั กิ ารทางวิทยาศาสตร์ หอ้ งปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ ห้อง ประชมุ โรงอาหาร และโรงอาหารของโรงเรยี น นอกจากนี้ บรเิ วณ ดาดฟา้ ของอาคารยงั ใชเ้ ปน็ แหลง่ เรยี นรู้ “สวนผกั ลอยฟา้ ” ของ โรงเรยี นเทพลีลาอีกด้วย3-17

4.อาคาร เทพพทิ ยา มจี ำ�นวนทัง้ สิ้น 3 ชั้น เป็นอาคารท่ีต้งั ของ 5.อาคาร กาญจนาภิเษก มีจ�ำ นวนทัง้ สน้ิ 2 ชั้น เปน็ อาคารที่ตง้ั 6.อาคาร กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น มจี ำ�นวนทัง้ สิ้น 2 ชัน้ ชนั้หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ของโรงเรยี น เช่น สำ�นกั งานผอู้ �ำ นวยการ , ของหนว่ ยงานศนู ยก์ ลางของโรงเรยี น เชน่ หอ้ งประชาสมั พนั ธ์ , บนเปน็ อาคารที่ตั้งของงานกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น เช่น งานสำ�นักงานกลุ่มบริหารวิชาการ , ห้องสมุด , ห้องท�ำ งานศูนย์ หอ้ งกลมุ่ บรหิ ารงานบคุ คล และยงั เปน็ ทป่ี ระดษิ ฐานของ พระพทุ ธ กจิ กรรมลูกเสือ-เนตรนารี ฯลฯ ช้ันลา่ งเป็นเรอื นงานช่าง ห้องขา่ วเยาวชนไทย โรงเรยี นเทพลลี า , ห้องประชุมพิพัฒน์ปรยิ ัติ รปู ประจำ�โรงเรียน พระเทพลลี า อีกดว้ ย เก็บของ และโซนหอ้ งน้�ำ ใหญ่สนุ ทร , ห้อง Multimedia , ห้องสำ�นกั งานกล่มุ บรหิ ารงานทว่ั ไป , ส�ำ นกั งานกลมุ่ บรหิ ารงบประมาณ , หอ้ งวดั ผลและประเมนิ 7.อาคาร ท่พี ักบคุ ลากร มจี ำ�นวนทง้ั สนิ้ 5 ช้นั ใช้เปน็ ทพ่ี ักครูผล และ หอ้ งประชมุ เกยี รตยิ ศ , หอ้ งสมุดอิเลค็ ทรอนกิ ส์ (ส่อื และอาจารย์ตลอดจนแม่บ้านนักการภารโรงทศั น์รัฐประสทิ ธ)ิ์ 3-18

3.4.2 วเิ คราะหพ์ น้ื ที่ใชส้ อยแต่ละอาคารและสว่ นที่ปรบั ปรงุ ภาพท3่ี .18 แสดงอาคารที่ปรับปรงุ ตอ่ เติมและเก็บรกั ษาไว้ ท่มี า : พนั ทวิ า เพชรสีม่วง3-19

ภาพท่ี3.19 อาคารเรยี นภายในโรงเรยี นเทพลีลาทม่ี า : johfgd.blogspot.com/2014/07/blog-post_21.html อาคาร7ชั้น และอาคาร5ชัน้ เปน็ อาคารเรียน อาคาร4ชน้ั หลงั นเ้ี ปน็ อาคารทใ่ี ชส้ �ำ หรบั การ อาคาร3ช้ันหลังน้ีใช้เป็นส่วนบริหารจัดการ อาคาร2ช้ันด้านหน้าทางเข้าหลักของหลักของโณงเรียนเทพลีลา โดยอาคาร7ช้ันจะเป็น เรียนการสอนในวิชาเลือกหรือเสริมทักษะพิเศษเช่น ของโรงเรียน โดยช้ันแรกเปิดเป็นห้องสมุดให้กับ โรงเรยี นเปน็ อาคารทใ่ี ชเ้ ปน็ หอ้ งประชาสมั พนั ธข์ า่ วสารห้องประจำ�ช้ันของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี3- ดนตรไี ทย ดนตรสี ากล นาฏศลิ ป์ พละศกึ ษา หรอื เรยี ก นกั เรียน และหอ้ งผู้อำ�นวยการ ชัน้ สองเป็นห้องฝา่ ย ของโรงเรียน และเป็นห้องปกครองอยู่ถัดจากห้อง6 และอาคาร5ช้ันเป็นห้องเรียนของนักเรียนระดับช้ัน ได้ว่าเป็นอาคารส่วนกิจกรรมการเรียน แต่เนื่องด้วย วิชาการต่างๆ ส่วนชั้น3 เป็นห้องประชุม และห้อง ประชาสมั พนั ธ์ ชน้ั 2 เปน็ หอ้ งเกบ็ ของหอ้ งพกั อาจารย์มธั ยมศกึ ษาปที 1่ี -2 โดย2อาคารนจ้ี ะใชเ้ รยี นในวชิ าหลกั สภาพพ้ืนท่ีและรูปแบบอาคารท่ีจำ�กัดทำ�ให้การใช้สอย มัลติมีเดีย การใช้งานของอาคารนี้ถ้าเปรียบเทียบกับ ซง่ึ จากฟงั กช์ น่ั การใชง้ านของอาคารนก้ี บั ต�ำ แหนง่ ทต่ี งั้ในหลักสูตร ปัจจุบันมีสภาพที่ดีสามารถใช้งานได้จึง พ้ืนที่ให้เข้ากับรูปแบบกิจกรรมยังไม่ส่งเสริมการเรียน อาคารหลังอื่นในโรงเรียนคือนักเรียนสามารถใช้ได้ ภายในโครงการยงั ไม่สมั พนั ธก์ ับการใช้งาน เนื่องจากสมควรที่จะคงสภาพอาคารไว้ และอีกเหตุผลคอื หาก รู้และความสามารถของนักเรียนได้อย่างเต็มท่ี อีกทั้ง น้อยท่ีสุด แต่ด้วยพื้นที่ของอาคารนี้มีบริเวณท่ีเหมาะ พื้นท่ีด้านหน้าโรงเรียนถือเป็นส่วนต้อนรับและนำ�เสท�ำ การรอื้ ถอนหรอื กอ่ สรา้ งอาคารหลกั ของโรงเรยี น ยงั มกี ารรบกวนจากเสยี งของเครอ่ื งดนตรปี ะทะกนั และ สมกบั การจดั ระเบยี บและพฒั นาใหโ้ รงเรยี นมสี ภาพแวด นอโณงเรยี นไดด้ ี หากไดร้ บั การปรบั ปรงุ พนื้ ทใ่ี หม้ คี วามนักเรียนก็จะไม่สามารถมีที่เรียนในระยะเวลาก่อสร้างได้ รบกวนรายวชิ าอนื่ ๆ จงึ เหมาะสมทจ่ี ะปรบั ตอ่ และตอ่ เตมิ ท่ีน่าเรียนและหาความรู้ อีกท้ังยังเป็นมุมมองท่ีเห็นได้ ดงึ ดดู และสอดคลอ้ งกบั การใชง้ านของนกั เรยี นและสว่ นส่วนอาคารที่อยู่บุคลากรน้ันถูกแยกออกจะบริเวณที่ พ้นื ท่ีส่วนนใี้ หม้ ีประสิทธิภาพทางการใชง้ าน ชัดเจนจากภายนอกจึงควรมีอาคารที่ดึงดูดและสร้าง สาธารณะมากขน้ึ กจ็ ะสามารถชว่ ยสรา้ งสภาพแวดลอ้ มนักเรียนใช้งานอย่างชัดเจนและอยู่นอกเหนือส่วนการ (จากภาพ3.18 หมายเลข3) ปฏิสมั พนั ธท์ ่ีดีตอ่ นักเรยี นและคนโดยรอบ ภายในโรงเรียนและโยรอบได้เชน่ เดียวกันเรียนร้จู งึ คงสภาพอาคารนีไ้ วเ้ ชน่ กนั (จากภาพ3.18 หมายเลข4) (จากภาพ3.18 หมายเลข5,6)(จากภาพ3.18 หมายเลข1,2,7) 3-20

3.4.3 ลักษณะการใชป้ ระโยชน์ท่ีดนิ ในปจั จบุ นั 12 ภาพท่ี3.20 แสดงตำ�แหนง่ และบรบิ ทโดยรอบโครงการ 34 ท่ีมา : พันทวิ า เพชรสีม่วง 563-21 78 9 10 ภาพที่3.21 ภาพถา่ ยโดยรอบโครงการ ทมี่ า : พนั ทวิ า เพชรสมี ว่ ง

3.4.4 ระยะอาคารเดมิ ในโครงการ ภาพที่3.22 ระยะอาคารเดมิ ในโครงการ ที่มา : พนั ทิวา เพชรสีม่วง 3-22

3.4.5 แบบอาคารเก่า ภาพที่3.23 แปลนอาคารเก่า ท่มี า : พันทิวา เพชรสมี ว่ ง3-23

ภาพท3่ี .24 รปู ดา้ นอาคารเก่า 3-24ทม่ี า : พนั ทวิ า เพชรสมี ่วง

ภาพท่4ี .1 ปกบทที่4ที่มา : พันทิวา เพชรสมี ว่ ง

การศกึ ษารายละเอยี ดโครงการและการออกแบบ4.1 ความเปน็ มาโครงการ สังคมไทยต้ังแต่สมัยอดีตถือได้ว่าเป็นสังคมที่ การปรบั สง่ิ แวดลอ้ ม ชมุ ชน ใหเ้ ขา้ กบั สถานการณเ์ ปน็ สงิ่อยู่แบบพ่ึงพาอาศัยกัน ในแต่ละชุมชนจะประกอบไปด้วย ทมี่ มี าตง้ั แต่ อดตี หรอื จะยอ้ นไปจนถงึ การก�ำ เนดิ โลกเลยก็วดั ซง่ึ ท�ำ หนา้ ท่ีเป็นศนู ย์กลางของกจิ กรรมให้ชุมชน เช่น วา่ ได้พิธีกรรมทางศาสนา การละเล่น ประเพณีวัฒนธรรม จากปญั หาทเี่กดิ ขนึ้ นย้ี งั มสี ถานทหี่ นง่ึ ทมี่ คี วามเรยี นหนังสือ จัดการเล้ียง งานแตง่ ไปจนถงึ การตง้ั ชอ่ื นา่ สนใจในการดำ�รงอยูข่ องสงั คมและชมุ ชนโดยรอบ นน่ัลกู จะเหน็ ไดว้ า่ วดั นนั้ เปรยี บเสมอื นสถานทท่ี อ่ี �ำ นวยความ ก็คอื โรงเรียนเทพลลี า ย่านรามคำ�แหง ซง่ึ โรงเรียนนต้ี ั้งสุข ความสะดวกไว้ทั้งหมด แต่ปัจจุบันเมื่อความเจริญ อยู่ในย่านการศึกษา และเศรษฐกิจด้านการค้าขาย อีกท้ังก้าวเข้ามามากทำ�ให้ส่ิงอำ�นวยความสะดวกต่างๆมีมาก ยังเป็นโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากวัดข้ึนด้วยทำ�ให้วัดไม่ใช่ที่ท่ีคนจะเข้ามาเพื่อทำ�กิจกรรมอย่าง เทพลีลา จึงเปรียบเสมือนเป็นกาวเช่ือมความสัมพันธ์ท่ีสมยั อดีต ดใี หก้ บั ชมุ ชน คน และวัด อกี คร้งั เพราะโรงเรียนแห่งน้ไี ม่ ด้วยปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นน้ีจึงเกิดการตั้ง เพยี งแตม่ ีพืน้ ที่ใหก้ ารศกึ ษาเท่านัน้ ยังมกี ารแบ่งปนั พ้นื ท่ีคำ�ถาม ว่าทำ�ไมชมุ ชนปัจจบุ ันถงึ มคี วามสมั พันธก์ ันนอ้ ย รวมกบั วดั ในวนั ส�ำ คญั ทางศาสนาและประเพณใี หส้ ามารถลง การแบง่ แยกของกลุ่มคน ชุมชน และกจิ กรรม นัน้ มี มาใชพ้ นื้ ทีโ่ รงเรยี นได้ และในวนั หยุดกไ็ ดม้ กี ารจดั ตัง้ ตลาดสาเหตุจากการท่ีเราเป็นคนกำ�หนดขอบเขตให้แต่ละพ้ืนท่ี นัดเพ่ือช่วยเหลือและสร้างรายได้ให้กับผู้ปกครองและหรือไม่ ความจริงแล้วสถานท่ีแต่ละที่มันมีความเป็นอยู่ที่ ชุมชน ซึ่งจะเห็นได้ว่าโรงเรียนไม่จำ�เป็นต้องแยกตัวออกหลากหลาย กว่าท่ีจะกำ�หนดความเฉพาะเจาะจงน้ันได้ จะ จากสังคมอย่างท่ีเป็นมา สามารถใช้พื้นท่ีร่วมกันได้หากเหน็ ไดช้ ดั เลยวา่ วดั ไมใ่ ดเ้ ปน็ เพยี งทอี่ ยขู่ องพระภกิ ษหุ รอื จัดสรรพ้ืนท่ีที่ดีให้ตอบสนองต่อคนและกิจกรรมที่เกิดสวดมนตอ์ ยา่ งเดยี ว แตย่ งั เปน็ ศนู ยร์ วมความบนั เทงิ ของ ขน้ึ เพราะโรงเรียนเทพลลี านี้เปรยี บเสมอื นเส้นเลอื ดใหญ่อดตี อย่างไมน่ า่ เชอื่ ซง่ึ ก็เหน็ แลว้ ว่าความหลากหลายและ ท่ีจะล่อเลยี้ งชมุ ชนให้นา่ อยแู่ ละเกดิ ความยง่ั ยนื ตอ่ ไป 4-2

4.2 วตั ถุประสงค์ของโครงการ 4.2.1 เพอื่ ศกึ ษาโรงเรยี นทมี่ ปี ญั หาของการมกี จิ กรรมทหี่ ลากหลาย และอยู่ในพน้ื ทท่ี ่จี ำ�กดั 4.2.2 เพอ่ื ศกึ ษาและปรบั ปรงุ การใชพ้ น้ื ทเี่รยี นรแู้ ละพน้ื ทกี่ จิ กรรมตา่ งๆ ในโรงเรียน 4.2.3 เพื่อจัดสรรค์พื้นท่ีโรงเรียนและพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้สามารถใช้ งานด้วยกนั ได้อย่างเหมาะสม 4.2.4 เพื่อให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางและใช้ทรัพยากรด้านพ้ืนที่ของ โรงเรียนให้เกิดประโยชน์รว่ มกับวัดและชุมชน 4.2.5 เพ่ือก้าวข้ามขีดจำ�กัดของพื้นที่การศึกษาให้เป็นส่วนหน่ึงของ ชมุ ชนและเปน็ ตน้ แบบสกู่ ารเปน็ สังคมยัง่ ยนื 4.3 หนว่ ยงานและเจ้าของโครงการ 4.3.1 หนว่ ยงานทส่ี นบั สนนุ ไดแ้ ก่ กระทรวงศึกษาธิการ และรฐั บาล 4.3.2 เจ้าของโครงการ คือ โรงเรยี นเทพลีลา ภาพท4ี่ .2 สนามโรงเรียนเทพลลี า4-3 ที่มา : พนั ทวิ า เพชรสมี ่วง

4.4 การกำ�หนดโครงสร้างบรหิ าร 4-4ภาพท่ี4.3 ผังโครงสรา้ งการบรหิ ารโรงเรยี นทมี่ า : พนั ทิวา เพชรสมี ว่ ง

USER 4.5 วเิ คราะห์ผู้ใช้โครงการ 4.5.1 จ�ำ นวนผใู้ ชโ้ ครงการ แผนภูมิท4่ี .1 แผนภูมิแสดงจำ�นวนผู้ใช้โครงการ4-5 ทม่ี า : พันทวิ า เพชรสีมว่ ง

4.5.2 รายละเอียดผใู้ ช้โครงการภาพที่4.4 รายละเอยี ดผู้ใช้โครงการท่ีมา : พันทิวา เพชรสมี ว่ ง 4-6

4-7 ตารางที4่ .1 กิจกรรมผใู้ ช้โครงการ ทม่ี า : พนั ทวิ า เพชรสีมว่ ง



4-9

4-10

4.6 องคป์ ระกอบโครงการ ภาพท4่ี .7 องค์ประกอบหลกั โครงการ ภาพท4่ี .8 องค์ประกอบรองโครงการ ท่ีมา : พันทวิ า เพชรสีมว่ ง ทมี่ า : พันทวิ า เพชรสีมว่ ง MAIN ELEMENT SUBORDINATED ELEMENT องคป์ ระกอบหลักโครงการ องค์ประกอบรองโครงการ ห้องเรยี นกิจกรรม สว่ นซ้อมดนตรี หอ้ งดนตรีไทย สนามกฬี า หอ้ งนาฎศิลป์ ห้องดนตรีสากล หอ้ งฝ่ายบรหิ าร หอ้ งศลิ ปะ ห้องฝ่ายวิชาการ ห้องงบประมาณและงานบคุ คล ห้องการงานอาชพี หอ้ งกิจการนกั เรียน ห้องคหกรรม หอ้ งประชาสัมพนั ธง์ านโรงเรยี น ห้องโสตทัศนศิลป์ ห้องสขุ ศึกษาและพละศกึ ษา ห้องงานชา่ ง ห้องสมดุ4-11

ภาพท4ี่ .9 องคป์ ระกอบรองโครงการ ภาพที4่ .10 องคป์ ระกอบรองโครงการ ท่ีมา : พนั ทิวา เพชรสีมว่ ง ทีม่ า : พนั ทวิ า เพชรสมี ว่ งSUBPORT PROJECT SERVICE PROJECT ส่วนสนบั สนนุ โครงการ ส่วนบริการโครงการ ลานกิจกรรมอเนกประสงค์ ทจี่ อดรถ สวนหย่อม ห้องเก็บของ ห้องงานระบบและอุปกรณช์ ่าง ส่วนจดั ตลาดนดั /ส่วนขายของ ห้องเจา้ หนา้ ท่รี ักษาความปลอดภัย ส่วนพักผอ่ น ห้องสมุดริมรวั้ CCTV 4-12

4.5.1 ท่ีมาและการกำ�หนดพ้นื ที่ใชส้ อยองค์ประกอบหลักโครงการ โปรแกรม กจิ กรรม จำ�นวนผ้ใู ช้งาน จำ�นวนพื้นที่เดมิ /ตร.ม. ปญั หา 1 หอ้ งดนตรีไทย เรยี นทฤษฎี เล่นเคร่ืองดนตรี 45 120 พ้นื ทไี่ ม่เหมาะต่อการเรียนดนตรี ห้องดนตรนี าฏศิลป์ ซอ้ มดนตรี 45 หอ้ งดนตรีสากล 45 120 พื้นที่ไมเ่ หมาะต่อการเรยี นดนตรี เรยี นทฤษฎี เรยี นร�ำ ไทย 45 ห้องศลิ ปะ ซอ้ มรำ�ไทย 45 120 พ้ืนทีไ่ มเ่ หมาะตอ่ การเรียนดนตรี 45 เรยี นทฤษฎี เลน่ เคร่อื งดนตรี 45 120 พื้นทไ่ี มเ่ หมาะตอ่ การเรียนศลิ ปะ ซอ้ มดนตรี 45 60 เรยี นทฤษฎี ทำ�งานศลิ ปะ 150 หอ้ งการงานอาชพี เรยี นทฤษฎี ปฏิบตั เิ ล็กนอ้ ย 120 พนื้ ที่ไมเป็นส่วนตัว นกั เรียนสามารถ เดนิ ผา่ นหอ้ งเรียนไดต้ ลอดเวลา หอ้ งคหกรรม เรยี นทฤษฎี ทำ�อาหาร ขายอาหาร 120 พ้นื ทีแ่ ละอปุ กรณ์ไมเ่ หมาะตอ่ การเรยี น ทำ�อาหาร ถา่ ยเทอากาศไมด่ ีห้องสุขศึกษาและพละศกึ ษา เรียนทฤษฎี เลน่ กฬี า 300 พน้ื ท่ีไมเ่ พียงพอต่อชนดิ กีฬาทเี่ รยี น หอ้ งงานช่าง ทดสอบสมรรถภาพ 120 อากาศไม่ถา่ ยเท แสงสวา่ งไม่เพยี งพอ เรียนทฤษฎี ปฏบิ ตั เิ ล็กนอ้ ย ห้องสมดุ เรียนเปน็ บางวิชา หาข้อมูล 400 แสงสวา่ งไม่เพียงพอ ท�ำ งานกลุ่ม สนามกีฬา เล่นกีฬาเปน็ กลุ่ม หลายชนดิ ในพ้ืนท่ี 2,030 สนามกฬี าเล่นพร้อมกันไมไ่ ดท้ ุกชนดิ ใกลเ้ คยี งกนั หรือพ้นื ท่ีเดียวกนั4-13 ตารางท่ี4.2 ที่มาพ้นื ทใี่ ชส้ อยองค์ประกอบหลกั โครงการ ทมี่ า : พนั ทวิ า เพชรสมี ว่ ง

ปัญหา 2 จำ�นวนพตื้นรท.มเ่ี ห.มาะสม/ ความตอ้ งการ วิธีแกป้ ญั หา 1 วธิ แี กป้ ญั หา 2 เสียงดนตรดี ังรบกวนกับห้อง 170 ป้องกนั เสยี งไมร่ บกวนหอ้ งเรียนอ่ืน ออกแบบหอ้ งเรยี นทกี่ นั เสยี ง สร้างพนื้ ทรี่ องรบั กิจกรรมที่ใช้เสยี งข้างเคยี ง และถกู รบกวนเชน่ เดยี วกัน หรอื ใชพ้ ้ืนท่กี วา้ ง เสยี งดนตรีดังรบกวนกบั ห้อง 170 ปอ้ งกันเสียงไม่รบกวนห้องเรยี นอนื่ ออกแบบหอ้ งเรยี นท่กี ันเสียง สรา้ งพื้นทีร่ องรับกิจกรรมท่ีใช้เสียงข้างเคียง และถูกรบกวนเชน่ เดียวกนั หรอื ใช้พน้ื ทกี่ ว้าง 170 ปอ้ งกันเสียงไม่รบกวนหอ้ งเรยี นอ่นื ออกแบบหอ้ งเรยี นทก่ี นั เสยี ง เสยี งดนตรีดังรบกวนกบั ห้อง 180 พน้ื ท่สี ร้างความคดิ สรา้ งสรรค์ สรา้ งพนื้ ทีร่ องรับกจิ กรรมท่ีใชเ้ สยี งข้างเคยี ง และถกู รบกวนเช่นเดียวกนั สร้างบรรยากาศหอ้ งเรยี นใหก้ ระตนุ้ หรือใชพ้ นื้ ทีก่ ว้าง ความคิดสรา้ งสรรค์ บรรยากาศไม่กระตนุ้ การเรียนรู้ สร้างพื้นทนี่ อกหอ้ งเรยี นในการเรียนรู้ เสยี งดัง ท�ำ ใหไ้ ม่มสี มาธิ 150 ความเปน็ สว่ นตวั จากภายนอก สร้างห้องเรียนใหม้ ีความเปน็ สว่ นตัว จากภายนอกมากขึ้นไม่มพี น้ื ทีข่ ายสินคา้ หรอื อาหารท่ีนัก 225 การถ่ายเทอากาศ และพื้นท่ีท�ำ อาหาร ถ่ายเทอากาศให้ปอดโปร่ง เรยี นทำ� 180+225 เพ่ิมพ้นื ทใ่ี ห้เหมาะกบั การเรียน จดั รปู แบบหอ้ งเรียนและเพ่มิ แยกหอ้ งเรยี นจากส่วนเกบ็ ของ พ้ืนท่ีขายอาหารทนี่ กั เรยี นทำ�อากาศไมถ่ า่ ยเท แสงสวา่ งไมเ่ พียงพอ 240 เพม่ิ พ้ืนทหี่ อ้ งเรียนให้สามารถ ถา่ ยเทอากาศใหป้ อดโปร่ง กลายเป็นทเ่ี ก็บอุปกรณต์ า่ งๆของ ปรับการใช้งานได้ โรงเรยี น เพม่ิ หอ้ งงานช่างแยกจากท่ีเก็บของ ถา่ ยเทอากาศให้ปอดโปรง่ ไมเ่ หมาะกับพฤกิ รรม การเรยี นรู้ในปัจจุบัน 500 พน้ื ท่ีเรยี นรู้ ปรับรปู แบบห้องสมดุ ใหเ้ ข้ากบั ยุคสมยั สร้างบรรยากาศให้น่าค้าควา้ หาความรู้ถกู รบกวนด้วยพ้ืนท่จี อดรถแ์ ละรถ อาจารยเ์ สยี หายจากการเลน่ กีฬา 2,082 แบง่ ขอบเขตกฬี าให้ชดั เจนมากข้ึน เพิ่มพน้ื ท่กี ฬี าบางชนิด จดั กิจกรรมหรือกีฬาทใ่ี ช้ พน้ื ทรี่ ่วมกนั ได้ 4-14

4.5.2 ทม่ี าและการก�ำ หนดพ้นื ทใี่ ชส้ อยองค์ประกอบรองโครงการ โปรแกรม กิจกรรม จำ�นวนผใู้ ชง้ าน จ�ำ นวนพืน้ ท่เี ดิม/ตร.ม. ปญั หา 1 ส่วนซอ้ มดนตรี ซ้อมดนตรี ซ้อมเต้น 50 - ใชพ้ ้นื ท่รี ่วมกับกจิ กรรมอน่ื ท�ำ ให้ ซอ้ มรำ� ซ้อมการแสดง 5 เสยี งดงั รบกวน 110 ห้องฝา่ ยบรหิ าร หอ้ งประจ�ำ ผอู้ �ำ นวยการ รองผอ. 35 128 พนื้ ทไี่ ม่เหมาะสมทางกายภาพ เลขานุการ 5 200 พน้ื ทีไ่ ม่เหมาะสมทางกายภาพ 2-5 200 พ้นื ทีไ่ ม่เหมาะสมทางกายภาพ ห้องฝา่ ยวชิ าการ ครูและเจา้ หนา้ ท่ีดูแลวางแผนด้านการ 450 100 พื้นท่ไี ม่เหมาะสมทางกายภาพ เรยี นตา่ งๆ 75 บรรยากาศไม่เหมาะต่อการตอ้ นรบั 400 ถกู แบ่งแยกจากส่วนใช้งานของนักเรยี นหอ้ งงบประมานและงานบุคคล ครูและเจ้าหนา้ ท่ีดแู ลวางแผนด้านการ เงิน รายได้และงบประมานต่างๆ หอ้ งกจิ การนักเรยี น ครทู ำ�งานและดูแลความประพฤตแิ ละ ความเรยี บรอ้ ยของนกั เรยี นหอ้ งประชาสัมพนั ธ์โรงเรยี น ครแู ละเจา้ หนา้ ท่ี และตัวแทนนกั เรียน คอยตอ้ นรบั และประกาศข่าวสาร รร. หอ้ งโสตทศั นศิลป์ จดั ประชุมระดับชัน้ ประชุมอาจารย์ จดั การต้อนรับแขกรร.ตารางท่4ี .3 ทมี่ าพ้ืนที่ใช้สอยองค์ประกอบรองโครงการที่มา : พนั ทวิ า เพชรสมี ว่ ง4-15

ปญั หา 2 จ�ำ นวนพตนื้ รท.มเ่ี ห.มาะสม/ ความตอ้ งการ วิธีแกป้ ัญหา 1 วธิ แี ก้ปญั หา 2พืน้ ท่ไี มเ่ หมาะสมต่อการซอ้ มดนตรี 215 ซ้อมดนตรีไดด้ ี ไม่รบกวนคนอนื่ มากไป มีพ้ืนทซ่ี อ้ มดนตรีโดยเฉพาะ จดั กจิ กรรมท่ีใชพ้ ้ืนทร่ี ่วมกันได้ขาดความเชอื่ มตอ่ กนั 60 สะดวกตอ่ การใช้งาน ยา้ ยต�ำ แหน่งใหส้ ะดวกต่อการใช้งาน สร้างสภาพแวดล้อมและ บรรยากาศให้ต้อนรับผคู้ น 150 สะดวกตอ่ การใช้งาน ยา้ ยต�ำ แหน่งให้สะดวกต่อการใช้งาน 300 สะดวกต่อการใช้งาน ย้ายต�ำ แหน่งให้สะดวกตอ่ การใช้งาน 80 สะดวกต่อการใช้งาน ย้ายตำ�แหน่งให้สะดวกต่อการใช้งาน 75 500 สะดวกตอ่ การใชง้ าน บรรยากาศนา่ เข้า สามารถตดิ ตอ่ สอบถาม หรอื รบั ขา่ วสารสะดวกหลากหลายการใชง้ าน และช่วงเวลาการ พ้นื ทเี่ หมาะสมตอ่ กิจกรรม ยา้ ยต�ำ แหน่งห้องเพื่อสะดวกต่อการใช้ ใชข้ องนักเรียนและอาจารย์ 4-16

4.5.3 ทม่ี าและการก�ำ หนดพืน้ ท่ีใช้สอยสว่ นสนับสนุนโครงการ โปรแกรม กิจกรรม จำ�นวนผใู้ ช้งาน จำ�นวนพน้ื ทเ่ี ดมิ /ตร.ม. ปัญหา 1ลานกจิ กรรมอเนกประสงค์ ทพ่ี กั ผอ่ นนักเรยี น ทำ�กิจกรรมวัน 150 463 พื้นทไี่ มเ่ พยี งพอต่อความตอ้ งการ ส�ำ คัญของโรงเรยี น และซอ้ มดนตรี 100 1,000 สวนหย่อม ที่พกั ผอ่ นนักเรียนเชา้ กลางวัน เยน็ 100 450 พนื้ ที่ไม่เพียงพอตอ่ ความตอ้ งการ และซอ้ มดนตรี บรรยากาศไม่รม่ ร่ืน ตลาดนัด /ขายของ ขายของ ซื้อของ นั่งรอหรอื 2,230 ขาดพน้ื ท่จี อดรถ ที่นง่ั ทานอาหารไม่ ทานอาหารจากตลาด เพยี งพอ สว่ นพักผอ่ น น่ังเลน่ พูดคยุ ท�ำ งานกลุ ม่ - พ้นื ท่ไี มเ่ พียงพอตอ่ ความตอ้ งการ ท�ำ การบา้ นตารางท่ี4.4 ท่ีมาพืน้ ทใ่ี ชส้ อยสว่ นสนบั สนนุ โครงการท่ีมา : พันทวิ า เพชรสีมว่ ง4-17

ปญั หา 2 จำ�นวนพต้นื รท.ม่เี ห.มาะสม/ ความต้องการ วิธแี กป้ ญั หา 1 วธิ ีแกป้ ญั หา 2ใชพ้ ืน้ ท่ีไมไ่ ด้หากมีวงโยธวาทิตมาซอ้ ม 500 ใชง้ านไดห้ ลากหลายกจิ กรรม ออกแบบพื้นทแี่ ละจัดประเภทการใชง้ าน แบง่ เวลาการใชง้ านตามความเหมาะสม ในพืน้ ทนี่ ี้ รม่ รื่น ผอ่ นคลาย 500 เพมิ่ พ้นื ทส่ี เี ขยี ว ออกแบบพื้นทีแ่ ละจดั ประเภทการใช้งานใชพ้ น้ื ทไ่ี ม่ไดห้ ากมวี งโยธวาทิตมาซ้อม 1,500 สดั สว่ นการใช้งานทีเ่ ปน็ ระเบยี บ ในพืน้ ทีน่ ้ี 360 เพยี งพอตอ่ เด็กนักเรียน จัดระบบทางสัญจรของตลาด เพ่มิ พ้นื ท่นี ั่ง และสัดสว่ นของตลาดให้ ไมร่ บกวนการใช้พ้ืนที่นักเรยี นนกั เรยี นใช้พนื้ ท่ีโรงเรียนทำ�กิจกรรม กระจายพน้ื ทอี่ อกหลายจดุ เพอ่ื รอง ได้ไมเ่ ต็มพ้นื ที่ รบั นักเรยี นหลายกลุ่ม สร้างบรรยากาศทเี่ หมาะต่อ การเรียนรู้ และผ่อนคลายไมม่ ีพื้นทช่ี ัดเจน นกั เรียนจะใช้พืน้ ที่ รว่ มกับกิจกรรมนนั ทนาการอนื่ ๆ 4-18

4.5.4 ที่มาและการกำ�หนดพ้นื ทใ่ี ช้สอยส่วนบรกิ ารโครงการ โปรแกรม กจิ กรรม จ�ำ นวนผใู้ ชง้ าน จำ�นวนพืน้ ทเ่ี ดมิ /ตร.ม. ปัญหา 1 ท่ีจอดรถ จอดรถอาจารย์ เจ้าหน้าท่ี 120 625 (25 คัน) พืน้ ท่ีไม่เพยี งพอต่อความต้องการ ผปู้ กครอง - 3 ห้องเก็บของ เกบ็ ของหรอื เครอื่ งมอื บำ�รุงโรงเรียน 2 100 ใชพ้ ้ืนท่หี ้องเรยี นบางส่วนเพือ่ เก็บของ อุปกรณ์กิจกรรมการเรยี น 1ห้องงานระบบและงานชา่ ง เก็บเคร่ืองมอื ช่าง 150 อยู่ในส่วนที่บ�ำ รงุ รักษาไม่สะดวก และอุปกรณง์ านระบบห้องเจา้ หนา้ ทร่ี กั ษาความ ปอ้ มทอ่ี ยเู่ พ่อื ตรวจสอบบคุ คล 20 มปี อ้ มยามเพยี งทางเข้าหลกั ปลอดภัย เข้าออกโรงเรยี น CCTV ตรวจสอบความปลอดภัยของ 75 อยู่คนละสว่ นกับเจ้าหน้าที่ดูแล โรงเรยี นตารางท่ี4.5 ที่มาพื้นท่ใี ช้สอยสว่ นบริการโครงการท่มี า : พันทิวา เพชรสีมว่ ง4-19

ปญั หา 2 จ�ำ นวนพต้นื รท.ม่ีเห.มาะสม/ ความตอ้ งการ วธิ ีแกป้ ัญหา 1 วิธีแก้ปญั หา 2ถูกรบกวนด้วยพน้ื ท่จี อดรถแ์ ละรถ 1,600 (62 คนั ) เพิม่ ทีจ่ อดรถให้เพยี งพอต่อบคุ ลากร เพ่ิมพ้นื ทีจ่ อดรถ ยา้ ยต�ำ แหนง่ ท่ีจอดไปไวใ้ ตด้ ินเพื่อประอาจารย์เสียหายจากการเลน่ กีฬา หยัดพื้นท่ีดา้ นบน 200 พื้นทีห่ ้องเก็บของเปน็ สดั ส่วน เพ่มิ ห้องเกบ็ ของ หอ้ งเรียนไม่น่าเรยี น คับแคบ จัดหมวดหมูให้ดแู ลรกั ษางาน อากาศไม่ถา่ ยเท 100 พื้นทหี่ อ้ งเกบ็ ของเป็นสดั ส่วน เพิ่มหอ้ งเก็บของ สะดวกตอ่ การใช้งาน ไม่เป็นหมวดหมู่ จัดหมวดหมูใหด้ แู ลรกั ษางาน สะดวกต่อการใชง้ าน 35 เพิ่มการตรวจสอบทางเขา้ ทกุ ทาง เพิม่ ป้อมยามเพ่อื ตรวจสอบ ออกแบบการเข้าถงึ ของ คนเขา้ -ออก บุคคลภายในและภายนอก 20 สะดวกต่อการตรวจสอบและใช้งาน ยา้ ยตำ�แหนง่ ห้องใหม้ คี นตรวจสอบ ได้สะดวก 4-20

4.7 สรปุ พน้ื ทใ่ี ชส้ อยโครงการ แผนภมู ทิ 4่ี .2 สรุปพน้ื ทใี่ ช้สอย ท่ีมา : พันทวิ า เพชรสมี ว่ ง4-21

4.8 การคาดการณ์งบประมาณในการลงทนุ งบประมาณในการลงทนุ สามารถแบง่ ออกเปน็ ส่วนต่างๆ ดังนี้ ขนาดทด่ี นิ โครงการ 8,000 ตารางเมตร ราคาทด่ี นิ 80,000 บาท/ตารางเมตร รวมเป็นเงิน 640,000,000 บาท เนอื่ งจากโครงการเปน็ โครงการปรบั ปรงุ และตอ่ เตมิ โรงเรยี นของรฐั บาลจงึ มพี น้ื ทเ่ี ดมิ อยแู่ ลว้ จงึ ไม่มงี บประมาณในส่วนของราคาทด่ี ิน พ้ืนท่ีใช้สอยโครงการ 8,987 ตารางเมตร ค่ากอ่ สรา้ ง 20,000 บาท/ตารางเมตร รวมเปน็ เงนิ 179,740,000 บาท การตกแตง่ ภายในและเฟอรน์ ิเจอร์ 26,961,000 บาท (15% จากคา่ กอ่ สร้าง) งานภูมิสถาปัตยกรรม 17,974,000 บาท (10% จากคา่ ก่อสรา้ ง)ภาพท4่ี .11 งบประมาน ดงั น้นั งบประมาณในการกอ่ สร้างทงั้ หมด 224,675.000 บาทที่มา : พันทิวา เพชรสีมว่ ง 4-22

4.9 งานระบบวศิ วกรรมทีเ่ ก่ียวข้อง 4.9.1 งานโครงสร้างฐานราก เขม็ เจาะ ปจั จบุ นั เปน็ ทนี่ ยิ มมากขน้ึ ในกรณที นี่ �ำ มาใชก้ บั บา้ น เนอื่ งจาก เทคนิคและวิธกี ารทไ่ี ม่ยงุ่ ยากมาก และราคาไมแ่ พง ใช้เข็มเจาะเม่อื มีความจ�ำ เป็นจะ ตอ้ งตอกเขม็ ใกลๆ้ กบั อาคารอน่ื เชน่ หา่ งกบั อาคารขา้ งเคยี ง 0.80 เมตร โดย ไมอ่ ยากใหเ้ กดิ ความเสยี หาย มปี ญั หาแตกรา้ ว ทรดุ หรอื ซอยทเ่ี ขา้ พนื้ ทกี่ อ่ สรา้ ง มีขนาดแคบมากไมส่ ามารถจะขนสว่ เสาเข็มต้นยาวๆมาตอกได้ จงึ จำ�เปน็ จะต้อง ใชเ้ ขม็ เจาะ เสาเขม็ เจาะแบบแหง้ เปน็ ระบบเสาเข็มเจาะขนาดเล็ก ส่วนใหญ่จะลกึ ไม่ เกนิ 20 เมตร (ขนึ้ อยกู่ บั ระดบั ชนั้ ของดนิ ) ทสี่ ามารถรบั น�้ำ หนกั ได1้ 20 ตนั วธิ ี การเจาะก็คอื ทำ�การเจาะดนิ ลงไป (แบบแหง้ ๆ น่ันเอง) แลว้ กห็ ยอ่ นโครงเหลก็ เทคอนกรีต ลงไปในหลมุ ทเี่ ราเจาะเตรียมไว้ พอเม่อื คอนกรีตแหง้ กจ็ ะได้เสาเข็ม ราคาอาจจะแพงกวา่ ประเภทเสาเข็มตอก แตท่ วา่ จะมขี อ้ ดีมากมาย จึงเปน็ ทน่ี ยิ ม ของวิศกร และช่างวิศกรผู้ควบคุมโครงการต่างๆ เช่น ลดปัญหาการเกิด มลภาวะ ซึง่ นอ้ ยมากเมอ่ื เทยี บกบั แบบเสาเข็มตอก ไมว่ ่าเปน็ การเคลอ่ื นตวั ของ ดนิ การสั่นสะเทือนของดนิ ฝุ่นละออง จึงเป็นท่นี ยิ มใช้ ในทท่ี ช่ี มุ ชน หมูบ่ ้าน ตา่ งๆ เปน็ ตน้ (ทม่ี า : www.centerpile.com/a/2/เสาเข็มเจาะ) ภาพท่4ี .12 โครงสรา้ งด้านในเข็มเจาะ ท่ีมา : poonmix.com/ready-mix-concrete4-23

ภาพที่4.13 ข้ันตอนการสรา้ งเขม็ เจาะทีม่ า : grounddevelopments.co.uk/piling/ 4-24

4.9.2 งานโครงสรา้ งรับน้ำ�หนัก โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหลก็ หรือทีเ่ รยี กโดยย่อว่า “โครงสร้าง ค.ส.ล.” คอนกรีตมสี ว่ นประกอบ หลกั คอื ปนู ซเี มนต์ หนิ กรวดหรอื ทราย และน�้ำ มีคุณสมบตั ใิ นการรับแรงอดั ไดด้ ี แต่รบั แรงดึงไดค้ ่อนข้างตำ่�มาก เมอ่ื น�ำ ไปท�ำ เป็นโครงสร้างบา้ น จงึ ต้องมีการเสรมิ เหลก็ เพ่ือเพ่มิ คณุ สมบตั ใิ นการรบั แรงดงึ โครงสร้าง ค.ส.ล. เปน็ ทน่ี ยิ มในบา้ นเรา เนอ่ื งจากสถาปนกิ และวศิ วกรสว่ นใหญม่ คี วามช�ำ นาญในการออกแบบ ชา่ งกอ่ สรา้ งสว่ นมาก ถนดั งานคอนกรีต ราคาทั้งคา่ ของและคา่ แรงไมส่ ูง ใหค้ วามร้สู กึ แขง็ แรงมั่นคง สามารถหล่อขนึ้ รูปไดห้ ลากหลาย รูปแบบ ทั้งนี้ ตอ้ งใชร้ ะยะเวลาในการก่อสรา้ งพอสมควร เพราะคอนกรีตตอ้ งรอการเซ็ทตวั เพื่อให้มีประสิทธิภาพ สูงสุด ถึงแม้ในปัจจุบันมีคอนกรีตสำ�เร็จรูปท่ีมีส่วนผสมและกระบวนการผลิตท่ีมีมาตรฐาน แต่ยังต้องอาศัย ความละเอยี ดรอบคอบในขน้ั ตอนการเทคอนกรตี และความรบั ผดิ ชอบของชา่ งผคู้ มุ งานและชา่ งกอ่ สรา้ งเปน็ หลกั คอนกรีตมีคุณสมบัตเิ รอ่ื งการสะสมความรอ้ นและการนำ�พาความชื้น จงึ เปน็ เรื่องทค่ี วรค�ำ นึงถงึ และหาทางระวงั ปอ้ งกันไว้ด้วย (ทีม่ า : www.scgbuildingmaterials.com/th/LivingIdea/NewBuild)ภาพท่ี4.14 ผนังในงานสถาปัตยกรรมท่มี า : www.archdaily.com/874264/crafting-color-attilio-panzeris-black-concrete

โครงสร้างเหลก็ เหล็กท่นี ำ�มาทำ�เป็นโครงสร้างบ้านต้องเป็นเหล็กรูปพรรณ ซงึ่ ในอดีตตอ้ งมีการนำ�เขา้ จากตา่ งประเทศจงึ ท�ำ ใหร้ าคาสงู ปจั จบุ นั ไทยเราผลติ เหลก็ รปู พรรณไดเ้ องมาสบิ กวา่ ปแี ลว้ เราจงึ ไดเ้ หน็ อาคารชว่ งหลงั ๆ น้ีสรา้ งดว้ ยโครงสรา้ งเหลก็ กนั มากข้นึ เหตผุ ลทส่ี นับสนุนการใชโ้ ครงสร้างเหล็กน่นั กค็ ือ เหล็กรปู พรรณจะถกู ผลิตจากโรงงานอตุ สาหกรรมซง่ึ มกี ารควบคมุ มาตรฐานในการผลติ สามารถสง่ั ผลติ เตรยี มชน้ิ สว่ นจากโรงงาน มาถงึ หนา้ งานกเ็ ช่อื มประกอบไดท้ นั ที จึงใชเ้ วลาในการก่อสร้างนอ้ ยกวา่ โครงสรา้ ง ค.ส.ล. มาก ดงั น้นั จงึ ลดตน้ ทนุ เรื่องเวลาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากนี้ การออกแบบโครงสร้างท่ีรับน้ำ�หนักอาคารที่เท่ากัน โครงสร้างเหล็กจะมีขนาดเล็กและบางกว่าโครงสรา้ ง ค.ส.ล. จงึ ท�ำ ใหน้ �ำ้ หนกั โดยรวมเบากวา่ ดว้ ย และสง่ ผลใหร้ ะบบฐานรากของอาคารมขี นาดเลก็ กวา่ และประหยดักวา่ นน่ั เอง แตท่ เี่ รายงั ไมค่ อ่ ยพบการสรา้ งบา้ นดว้ ยโครงสรา้ งเหลก็ กน็ า่ จะมสี าเหตใุ นเรอื่ งแรงงานทมี่ คี วามช�ำ นาญในการกอ่ สรา้ งยงั มไี มม่ าก อกี ทงั้ ดว้ ยคณุ สมบตั ขิ องวสั ดเุ องทไี่ มส่ ามารถทนไฟและการกดั กรอ่ นได้ จงึ ตอ้ งท�ำ การปอ้ งกนั โดยการหอ่ หมุ้ ดว้ ยวสั ดทุ นไฟ ทาสกี นั สนมิ และตอ้ งคอยดแู ลรกั ษาตรวจสอบโครงสรา้ งเหลก็ โดยผเู้ ชย่ี วชาญเปน็ ประจ�ำ ซงึ่มีคา่ ใชจ้ ่ายในส่งิ เหล่านี้พอสมควร เมอ่ื เทยี บราคาค่าก่อสร้างแลว้ จงึ อาจจะสงู กว่าโครงสร้าง ค.ส.ล. เล็กน้อย(ที่มา : www.scgbuildingmaterials.com/th/LivingIdea/NewBuild)ภาพท4่ี .15 ผนังในงานสถาปตั ยกรรมท่มี า : www.architecturaldigest.com

4.9.3 งานโครงสร้างพ้ืน ภาพที่4.16 งานออกแบบพ้นื และผนังในงานสถาปตั ยกรรม ทมี่ า : www.dezeen.com/2012/10/29/galaxy-soho-by-zaha-hadid 4.9.3.1 พน้ื คอนกรตี หลอ่ ในที่ (Cast-in-Place Concrete Slabs) จะมกี ระบวนการท�ำ แบบส�ำ หรบั หลอ่ พนื้ ผกู เหลก็ เสรมิ ของพน้ื เชอื่ มกบั เหลก็ ใน คาน แล้วจงึ เทคอนกรีตพ้นื ใหเ้ ปน็ เนื้อเดียวกับคานสว่ นบน โดยสำ�หรบั พ้นื ช้ัน สองขึน้ ไปต้องมีการตงั้ ค้ำ�ยันแบบใตท้ อ้ งพนื้ จนกวา่ คอนกรีตจะแขง็ ตัว อย่าง น้อย 14 วนั ซึ่ง พืน้ คอนกรีตหล่อในที่มี 2 รูปแบบคอื พน้ื คอนกรตี วางบน คาน และ พน้ื คอนกรีตวางบนดนิ 4.9.3.2 พ้ืนคอนกรีตส�ำ เร็จรปู (Precast Concrete Slabs) ผลิตจากคอนกรตี เสริมด้วยลวดอัดแรงก�ำ ลงั สงู ส�ำ เร็จรปู จากโรงงาน เรยี ก กนั โดยท่ัวไปวา่ “แผ่นพ้ืนส�ำ เร็จรูป” แผ่นพื้นประเภทนี้นิยมใชอ้ ย่างแพร่หลาย สำ�หรับบ้านหรืออาคารขนาดเล็ก ติดต้ังโดยการวางบนคาน เสริมเหล็กด้าน บนแล้วเทคอนกรตี ทบั หนา้ (Topping) เรยี กวา่ เป็น “ระบบพืน้ สำ�เรจ็ รปู ” เปน็ ระบบพ้ืนท่ีช่วยประหยัดเวลาในการก่อสร้าง เพราะไม่ต้องทำ�ไม้แบบและไม่ต้อง รอการเซ็ทตัวของคอนกรีต ระบบพื้นสำ�เร็จรูปเหมาะกับพื้นที่ภายในบ้านและ พืน้ ทใี่ ชง้ านที่เปน็ สว่ นแหง้ ตา่ งๆ เชน่ หอ้ งนอน หอ้ งนงั่ เล่น เป็นตน้ ไม่ควร ใช้ในพื้นท่ภี ายนอก 4.9.3.3 แผ่นเหล็กพ้ืนโครงสร้าง (Metal Deck) เป็นระบบที่เหมาะกับโครงสร้างเหล็ก ประกอบด้วยแผ่นเหล็กรีดเป็นลอนต่างๆ ซงึ่ ผลติ จากโรงงานน�ำ มาวางบนคาน โดยมหี วั หมดุ เหลก็ (Shear stud) ยดึ กบั คานเหลก็ เปน็ ระยะๆ แล้วเทคอนกรีตดา้ นบน แผ่นเหลก็ น้ีจะเป็นท้งั แบบและเหลก็ เสรมิ ไปในตวั ดงั นนั้ เหลก็ เสรมิ จะนอ้ ยกวา่ แผน่ พน้ื ระบบอน่ื ๆ แตย่ งั คงตอ้ งเสรมิ เหลก็ ในคอนกรตี เพอ่ื กนั การแตกรา้ ว นอกจากน้ี ทอ้ งแผน่ เหลก็ ใชเ้ ปน็ ฝา้ เพดาน สาํ หรบั ชน้ั ใตพ้ น้ื นนั้ ไดด้ ว้ ย พนื้ ชนดิ นค้ี อ่ นขา้ งเบาและกอ่ สรา้ งรวดเรว็ สามารถ ใชท้ �ำ หลงั คาดาดฟา้ รวมถงึ พน้ื ทเ่ี ปยี กได้ โดยควรท�ำ ระบบกนั ซมึ เพม่ิ เตมิ อยา่ งไร กต็ าม ราคาคา่ กอ่ สรา้ งโดยรวมยงั สงู กวา่ ระบบพน้ื ประเภทอนื่ และควรพน่ หรอื ทาสกี นั สนมิ และกนั ไฟเพมิ่ เตมิ ดว้ ย (ทม่ี า : www.scgbuildingmaterials.com)4-27

4.9.3.4 พน้ื สำ�เร็จรูปแบบแผน่ ทอ้ งเรียบโครงสรา้ งของพนื้ ชนดิ นจ้ี ะประกอบดว้ ยพน้ื คอนกรตี อดั แรงส�ำ เรจ็ รปู แบบแผน่ทอ้ งเรยี บ (prestressed cncrete floor plank) น�ำ มาจัดวางเรียงกันเปน็ พื้นห้องแล้วเททับด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอีกชั้นหน่ึง พื้นประเภทน้ีเป็นท่ีนิยมใช้กันแพร่หลายในการปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนทั่วไป เพราะข้ันตอนไม่ยุ่งยากและประหยัดเวลาเน่ืองจากไม่ต้องทำ�ไม้แบบ อีกทั้งเม่ือทำ�สำ�เร็จแล้วก็สามารถใช้งานรับน้ำ�หนักได้ในระยะเวลาอันส้ัน ไม่ต้องคอยให้คอนกรีตอยู่ตัวหรือบ่มตัวนานเหมือนกับการทำ�พื้นคอนกรีตแบบหล่อกับท่ีและสามารถรับนำ้�หนักได้ดีพื้นคอนกรีตอัดแรงแบบแผ่นท้องเรียบท่ีนิยมใช้กันและมีจำ�หน่ายทั่วไปในท้องตลาดนั้น ทำ�จากปูนซีเมนต์ชนิดแข็งตัวเร็วเสริมด้วยลวดเหล็กอัดแรงกำ�ลังสงู ส่วนใหญ่จะเป็นพ้ืนสำ�เร็จรปู ท่ีมีขนาดความกว้าง 30-35 เซนติเมตร หนา5 เซนตเิ มตร และมชี ่วงความยาว (span length) 1.0-4.5 เมตร ใชโ้ ครงลวดเหลก็ อัดแรงขนาด 4-5 มิลลเิ มตรฝังตามแนวยาวเป็นจำ�นวน 4-7 เส้น ทัง้ นี้ขน้ึ อยกู่ บั ความยาวของแผน่ พน้ื ส�ำ เรจ็ รปู และการใชง้ านวา่ ตอ้ งการใหร้ บั น�้ำ หนกัไดม้ ากนอ้ ยเพยี งใด 4.9.3.5 พ้นื สำ�เรจ็ รปู แบบกลวงพนื้ ส�ำ เรจ็ รปู แบบกลวง (hollow core slab) เปน็ พนื้ คอนกรตี ส�ำ เรจ็ รปู อกี แบบหน่ึงซ่ึงมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างไปจากพ้ืนสำ�เร็จรูปแบบแผ่นท้องเรียบที่กล่าวมาแล้ว กล่าวคือ พ้ืนชนิดน้ีจะมีช่วงความยาวท่ียาวกว่า โดยอาจมีช่วงพาดท่ียาวถึง 12 เมตรโดยไม่เกิดการแอ่นตัวและไม่ต้องใช้ไม้คำ้�ยันชั่วคราวในการกอ่ สร้าง มีขนาดและความหนาให้เลอื กมากกวา่ สามารถรบั น้ำ�หนกั ได้ดกี วา่มกั ใชก้ ับอาคารสำ�นักงาน อาคารขนาดใหญ่ หรืออาคารจอดรถมากกวา่ การใช้ตามอาคารบ้านเรือนท่ัวไป การเทคอนกรีตทับหน้านั้นอาจทำ�หรือไม่ทำ�ก็ได้ขึน้ อยู่กบั วตั ถุประสงค์ของการใชง้ าน และเน่ืองจากพื้นส�ำ เรจ็ รปู ชนดิ น้ีเป็นแบบกลวง ฉะนนั้ ชอ่ งภายในที่กลวงยังสามารถใชป้ ระโยชนใ์ นการเดนิ สายไฟหรือทอ่น้ำ�ได้อกี ด้วย(ท่มี า : www.novabizz.com/CDC/Process15.htm) 4-28

4.8.4 งานโครงสรา้ งผนงั ประเภทของผนัง หรือฝา หรือฝาผนัง คือ ลักษณะของงานทาง สถาปตั ยกรรมทเี่ ปน็ แผน่ ผนื วางแนวตง้ั อยบู่ นคานหรอื พนื้ ผนงั ท�ำ หนา้ ทห่ี อ่ หมุ้ อาคาร กั้นห้องใหเ้ ป็นสัดสว่ น ปอ้ งกนั เสียง กันไฟ กันความร้อน ความหนาว แดด ลม น�ำ้ ฝน ฝนุ่ หรือมลพิษต่างๆ แต่ถา้ ผนังต้องรับน้ำ�หนกั โครงสรา้ งโดยตรง เชน่ น้�ำ หนกั ทก่ี ดลงบนผนงั หรือรับแรงดนั ด้านข้างผนัง เชน่ ดนิ น้ำ� และลม จดั เปน็ ผนังทาง วศิ วกรรม ประเภทผนงั แบง่ ตามวสั ดทุ ใ่ี ชท้ �ำ ผนงั ไดแ้ ก่ ผนงั ไม้ ผนงั วสั ดแุ ผน่ ส�ำ เรจ็ รปู ผนังกระจก ผนงั แผ่นโลหะเคลอื บ ผนังวัสดกุ อ่ และผนงั คอนกรตี เสรมิ เหลก็ 4.8.4.1 ผนงั กรุรอบตัวอาคาร ผนังกรุรอบตัวอาคาร คือผนังกระจกประกอบผืนใหญ่ภายนอกอาคาร ท่ียึดติดกับตัวอาคารด้วยวิธีการเกาะติดข้างคาน ข้างเสา และข้างพื้น ไม่ได้วางอยู่ บนพ้ืนหรือคานไม่ใช้ผนังกระจกอลูมิเนียมปกติธรรมดาอย่าท่ีหลายคนเข้าใจ ส่วน ประกอบผนงั กรรุ อบตวั อาคารประกอบดว้ ยตวั ผนงั ทเี่ ปน็ กระจก และกรอบโครงอลมู ิ เนยี ม สามารถท�ำ เปน็ ชอ่ งเปดิ หนา้ ตา่ งบานกระดกในสว่ นทตี่ อ้ งการเหมาะส�ำ หรบั อาคาร สำ�นักงานขนาดใหญ่ท่ีต้องการความทันสมัย ท้ังน้ีการออกแบบ และก่อนการติดต้ัง ต้องผา่ นการทดสอบ ตรวจสอบระบบการร่ัวซึม ความแข็งแรง และแรงปะทะลม จาก วศิ วกรและผเู้ ชยี่ วชาญโดยละเอียด 4.8.4.2 ระบบผนงั รับนำ�้ หนกั (Bearing Wall) ผนงั รบั น�้ำ หนกั เปน็ ระบบการกอ่ สรา้ งรปู แบบหนงึ่ ในหลายๆรปู แบบทมี่ ใี ชก้ นั ใน ปจั จุบนั ระบบผนงั รบั นำ้�หนักจะใช้ตวั ผนงั เป็นท้ังตัวกนั หอ้ ง และเปน็ ชน้ิ สว่ นทีใ่ ชร้ ับ ก�ำ ลงั ในแนวดงิ่ ตา่ งๆทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั อาคารทงั้ แรงลม น�้ำ หนกั บรรทกุ จร น�ำ้ หนกั บรรทกุ ตายตวั ฯลฯ ความแตกตา่ งกนั นท้ี �ำ ใหก้ ารออกแบบโครงสรา้ งตา่ งๆตลอดจนขน้ั ตอน การก่อสร้างมี ความแตกต่างกันกับระบบโครงสร้างเสาคานที่พบเห็นกันอยู่ทั่วๆไป (ทม่ี า : tpainm.wordpress.com/2016/03/16/งานผนังและประเภทต่างๆ)ภาพท่ี4.17 งานออกแบบพน้ื และผนงั ในงานสถาปัตยกรรมทมี่ า : www.dezeen.com/2012/10/29/galaxy-soho-by-zaha-hadid

4.9.5 ระบบโครงสรา้ งป้องกนั ดินพัง4.9.5.1 Sheet Pile Wall (ก�ำ แพงกนั ดินชที ไพล)์ การกอ่ สรา้ งอาคารหรือสง่ิ ก่อสร้างทม่ี ีขนาดใหญ่ ในพื้นท่ีอนั จำ�กดั ตอ้ งมีการสร้างระบบกำ�แพงกนั ดนิ เพื่อป้องกนั การพงั ทลายของดนิ เมอ่ื ตอ้ งขดุ ดนิ ลงไปกอ่ สรา้ งฐานรากของอาคารหรอื ฐานรากของเสา ตอม่อ (Pylon ) รถไฟฟ้าทีต่ อ้ งก่อสรา้ งฐานรากในพน้ื ที่อันจ�ำ กดั และยงั มนี �้ำ หนกั จากยานพาหนะทส่ี รา้ งแรงสนั่ สะเทอื นจนเกดิ ผลกระทบตอ่ การเคลอื่ นตวั ของดนิ รอบๆ หลมุ ขดุ ทจี่ ดั ท�ำ ไว้ เพอื่ ลงไปท�ำ งานโครงสร้างใต้ดิน เป็นท่ีทราบกันว่าช้ันดินในเขตกรุงเทพมหานคร ลึกลงไปจากผิวดนิ ประมาณ 10.00-12.00 เมตร เป็นดินเหนยี วทไ่ี ม่มคี ่าความเชอื่ มแนน่ และรับแรงเฉือนไดน้ อ้ ย เมอ่ื มีการก่อสร้างใต้ดนิ ระบบโครงสรา้ งชว่ั คราวปอ้ งกนั ดนิ พงั จงึ ตอ้ งถกู น�ำ มาใช้ แผน่ เหลก็ ชที ไพล์(Sheet Pile Walls) เปน็ โครงสรา้ งป้องกันดินรปู แบบหนง่ึ ทถ่ี กู เลือกใช้รปู แบบของ Sheet Pile Walls มดี ้วยกันหลายแบบดงั น้ีก) Cantilever sheet pile Walls เปน็ การตอกฝังแผ่นผนงั ใหจ้ มลงไปในดนิ ระยะทป่ี ลายล่างของผนงั ยึดแน่นและรบั แรงดันดนิ ด้านข้างไดโ้ ดยไม่ลม้ ตวั ลงข)Anchored sheet pile Walls มลี กั ษณะคลา้ ยแบบ Cantilever sheetpile Walls แตเ่ พ่มิ การใช้ Anchor หรือ Tie Rod เป็นตัวยดึ ส่วนบนของผนังกนั ดินเข้ากบั ดนิ หรือวัสดทุ ม่ี กี ารน้ำ�หนักถว่ งไว้ค)Brace Cuts หรอื Brace Cofferdam ความมัน่ คงแขง็ แรงจะข้นึ อยู่กบั ตวั ค�้ำ ยนั (strut) ซง่ึ แผน่ เขม็ พดื จะถกู ตอกลงไปกอ่ นการขดุ และตดิ ตง้ัWale และ Strut ท่ีระดับทอี่ อกแบบไว้กอ่ นการขดุซ่งึ ในทีน่ จ้ี ะกลา่ วถึงการใช้วิธีการใช้ Sheet Pile ระบบ Brace cut เป็นหลกั เพราะเปน็ ระบบทพี่ บเหน็ ทว่ั ไปในการกอ่ สรา้ งในเขต กรงุ เทพมหานคร(ทมี่ า : www.wongthip.com/sheet-pile-wall) ภาพที4่ .18 การติดตง้ั ก�ำ แพงกนั ตดิ ถล่ม 4-30 ท่ีมา : www.dezeen.com/2012/10/29/galaxy-soho-by-zaha-hadid

4.9.6.2 อปุ กรณไ์ ฟฟา้ ในอาคาร ก) เครอ่ื งก�ำ เนดิ ไฟฟา้ (GENERATOR) คอื หนง่ึ อปุ กรณ์ ในระบบการสง่ จ่ายท่มี คี วามส�ำ คญั ทส่ี ดุ อกี ระบบหนงึ่ ทีท่ �ำ หนา้ ท่เี ป็น เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าสำ�รองในกรณีที่กระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้า ดบั เพอื่ ให้หนว่ ยงานตา่ งๆมีกระแสไฟฟ้าใช้อย่างตอ่ เนื่อง ข) หมอ้ แปลง หรือหม้อแปลงไฟฟา้ เป็นอุปกรณ์ ไฟฟ้า ที่ใช้ในการส่งผ่านพลังงานจากวงจรไฟฟ้าหน่ึงไป ยังอีกวงจรโดยอาศัยหลักการของแม่เหล็กไฟฟ้า โดยปกติ จะใช้เช่ือมโยงระหว่างระบบไฟฟ้าแรงสูง และไฟฟ้าแรงตำ่� หม้อแปลงเปน็ อปุ กรณ์หลักในระบบสง่ ก�ำ ลงั ไฟฟ้า ค) Switchboard (MDB,EMDB,DB,ATS,MTS) สวิตช์ บอรด์ ไฟฟา้ คอื หนงึ่ อปุ กรณใ์ นระบบการสง่ จา่ ยทม่ี คี วามส�ำ คญั ทส่ี ดุ อีกระบบหน่ึง ที่ทำ�หน้าท่ีในการป้องกันความเสียหายและควบคุมการ จ่ายไฟฟ้า และรับไฟฟ้าจากระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า หรือ เคร่ือง กำ�เนดิ ไฟฟ้า หรือหม้อแปลงไฟฟ้า และจ่ายให้โหลดตา่ งๆ หรอื หน่วย งานตา่ งๆ ทต่ี ้องการใช้กระแสไฟฟ้า ภาพท4ี่ .19 MDB4-31 ทมี่ า : www.pcelemac.com/s0103/