Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Futures-Studies

Futures-Studies

Published by pawnin.chaiyabat, 2021-01-20 03:05:27

Description: Futures-Studies

Search

Read the Text Version

อนาคตศกึ ษา | 236 พยากรณ์ผลผลิตมันส�ำปะหลังด้วยเทคนิคการท�ำเหมืองข้อมูล36 การคาดการณ์ภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย เทคนิคของเหมืองข้อมูล37 การท�ำเหมืองข้อมูลเพ่ือการขายต่อเน่ืองของบริการบริหารเงินสด กรณี ศึกษาธนาคารพาณชิ ย์แหง่ หนง่ึ 38 การวิเคราะหผ์ ลกระทบต่อแนวโน้มและผลกระทบไขว้ เครอื่ งมอื ทใ่ี ชว้ เิ คราะห์ผลกระทบแนวโน้ม (trend impact analysis) ในงานวิจยั และการคาด การณใ์ นประเทศไทยเทา่ ทที่ บทวนมา โดยมากใชเ้ ครือ่ งมอื ทางสถติ เิ ปน็ หลกั กรอบแนวคดิ และวธิ กี าร หลักคือการวิเคราะหค์ วามอ่อนไหว (sensitivity analysis) ซึ่งปรบั เปลี่ยนคา่ พารามเิ ตอรข์ องตวั แปร ท่ีสนใจ นอกจากน้ี ยังมกี ารวเิ คราะห์ผลกระทบไขว้ (cross-impact analysis) ในงานศกึ ษาอนาคต เพ่ือพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม เช่น อนาคตภาพของขีดความสามารถด้านนวัตกรรมในการจัดการ ธุรกิจขนาดกลาง39 งานวจิ ยั ดา้ นการศกึ ษา เชน่ การศึกษาเพื่อสรา้ งอนาคตภาพของการจดั การศึกษา ตลอดชวี ติ เพอื่ พฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของเยาวชนในศนู ยเ์ ยาวชน เขตพฒั นาพนื้ ทพี่ เิ ศษเฉพาะกิจจงั หวดั ชายแดนภาคใต4้ 0 ไปจนถงึ งานศกึ ษาอนาคตขององคก์ ร เชน่ งานศกึ ษาอนาคตภาพมหาวทิ ยาลยั มหา จฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั ในทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2557–2566)41 วธิ กี ารตดั สนิ ใจแบบใช้ได้กบั หลายสถานการณ์ กรอบแนวคิดและวิธีการตัดสนิ ใจแบบใชไ้ ดก้ ับหลายสถานการณ์ (Robust Decision Making - RDM) เหมาะส�ำหรับการระบุและออกแบบทางเลือกด้านนโยบายและการออกแบบที่ตอบรับกับ สถานการณ์ไม่แน่นอนในอนาคตได้ดีกว่าแนวทางการวางแผนแบบด้ังเดิมท่ีมุ่งเน้นการพยากรณ์ภาพ อนาคตเดียว วิธีการนี้ยังใช้ประโยชน์ได้ในการตัดสินใจกลุ่มขององค์กรหรือพ้ืนท่ีหน่ึงเม่ือมีฉากทัศน์ ทนี่ า่ จะเกดิ ขนึ้ ไดอ้ ยหู่ ลายฉาก และยงั ไมม่ ฉี นั ทามตใิ นแนวทางการตดั สนิ ใจทน่ี �ำไปสผู่ ลลพั ธท์ ต่ี อ้ งการ งานวจิ ยั ในประเทศไทยเรม่ิ เหน็ การใชว้ ธิ กี ารคาดการณแ์ นวนบี้ า้ ง งานวจิ ยั ของ Wongburi and Park (2018) ทดลองใช้เคร่อื งมือตัดสินใจที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ในการวิเคราะห์เลือกเทคโนโลยี บ�ำบัดน้�ำเสียท่ียั่งยนื ในประเทศไทย42 เครือขา่ ยวจิ ัยเพอ่ื ลมุ่ นำ้� แม่โขงที่ยั่งยนื (Sustainable Mekong Research Network – SMRT) ประยุกต์ใช้กรอบแนวคิดและเคร่ืองมือ RDM ในการวิเคราะห์กรณี ศึกษา 5 ประเทศในลุ่มแม่น�้ำโขง รวมถึงประเทศไทย เพ่อื ช่วยในการพัฒนาและนโยบายท่ีมุ่งแก้ไข ปญั หาการวางแผนบริหารจดั การน�้ำภายใต้เง่ือนไขการเปล่ียนแปลงของสภาพภมู ิอากาศ คณะผ้วู จิ ัย ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการก�ำหนดขอบเขตของปัญหาด้านการบริหาร จดั การทรัพยากรนำ้� รวมถึงการระบุถงึ ปจั จัยไมแ่ น่นอนและแนวทางการวางแผนรับมือความทา้ ทาย ในอนาคต43 ส�ำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (สกว.) ไดต้ ระหนกั ถงึ ความส�ำคญั ของแนวคดิ การคาดการณ์ และวางแผนอนาคตทตี่ ัง้ อยูบ่ นฐานของความไม่แน่นอน รวมถงึ เครือ่ งมอื วเิ คราะห์ใหม่ ๆ ทเ่ี นน้ เร่ือง ความไมแ่ นน่ อน ชดุ โครงการ “การปรบั ตวั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ” ประจ�ำปี 2560 ของ สกว. ใหค้ วามส�ำคญั กับการพัฒนาองคค์ วามร้ดู า้ นการวางแผนการปรับตวั ตอ่ การเปล่ยี นแปลงสภาพ ภมู ิอากาศทสี่ อดคลอ้ งกับแผนแม่บทรองรับการเปลีย่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ พ.ศ. 2558-2593 โดย

237 | อนาคตศกึ ษา มุ่งสร้างองค์ความรู้ในการประกอบการวางยุทธศาสตร์หรือแผนด�ำเนินงานที่อาจมีผลสืบเน่ืองระยะ ยาวภายใต้สถานการณท์ ีไ่ มแ่ น่นอนของอนาคต ชดุ โครงการดงั กลา่ วยงั ม่งุ สรา้ งความเขา้ ใจในแนวคิด และเครอื่ งมือวิเคราะห์ใหม่ ๆ ในการวางแผน อาทิ visioning process, robust decision making และ adaptive planning44 อยา่ งไรกต็ าม จากทไ่ี ด้สอบถามผเู้ ก่ยี วข้องดา้ นการให้ทุนวจิ ัยของ สกว. และผเู้ ชีย่ วชาญในหวั ขอ้ ดังกลา่ ว พบวา่ ณ เดอื นมกราคม พ.ศ. 2562 ยังไม่มีนกั วจิ ัยทีเ่ สนอขอทุน สนบั สนนุ งานวิจยั ท่ีใชแ้ นวคดิ และวธิ กี ารแบบ RDM การสร้างฉากทศั น์ โครงการศกึ ษาอนาคตในประเทศไทยในชว่ งหลงั เรม่ิ ใชว้ ธิ กี ารสรา้ งฉากทศั นใ์ นการศกึ ษาและคาด การณภ์ าพอนาคตแบบเนน้ กระบวนการมสี ว่ นรว่ ม ซงึ่ โดยมากเปน็ การจดั ประชมุ ทเ่ี ชญิ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ น เสยี ทงั้ ผทู้ รงคณุ วฒุ แิ ละตวั แทนจากกลมุ่ คนหลายอาชพี และกลมุ่ วยั เขา้ รว่ มวเิ คราะหแ์ ละระบปุ จั จยั ขบั เคลอื่ นอนาคต แลว้ ก�ำหนดตรรกะฉากทัศน์ (scenario logic) ทนี่ �ำไปสรา้ งฉากทัศนต์ ่อ ตวั อย่าง ในแนวนมี้ อี ยหู่ ลายโครงการ เชน่ โครงการจดั ท�ำภาพอนาคตประเทศไทย พ.ศ. 256245 ซง่ึ ด�ำเนนิ การ โดยสถาบนั คลงั สมองของชาตริ ว่ มกบั ศนู ยค์ าดการณเ์ ทคโนโลยเี อเปค ภายใตส้ �ำนกั งานคณะกรรมการ นโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวตั กรรมแหง่ ชาติ (สวทน.) วตั ถุประสงค์คือเพื่อหาทศิ ทางของ ประเทศไทยในอนาคตอีก 10 ปีข้างหนา้ (พ.ศ. 2562) ผลลพั ธท์ ่ีได้จากกระบวนการคาดการณแ์ บบ มสี ่วนร่วมคอื ฉากทศั น์ 3 ฉากดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ (1) ภาพเกาเหลาไม่งอก ซ่ึงแสดงถงึ ความขดั แย้งอย่าง รุนแรงของคนภายในประเทศ (2) ภาพน้�ำพริกปลาทู ซึ่งสะทอ้ นวิถีชวี ิตแบบไทยที่แม้ไมส่ วยหรู แต่ สุขสงบและมีความเขม้ แขง็ ของเศรษฐกิจภายในประเทศ และ (3) ภาพต้มย�้ำกุง้ นำ้� โขง ซ่งึ ส่ือถึงความ เปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คมทเี่ กดิ จากการรวมตวั กนั ของระบบเศรษฐกจิ และสงั คมในลมุ่ แมน่ ำ้� โขง อกี ตัวอย่างหนึง่ เป็นโครงการจัดท�ำหนงั สือ “ฉากทัศน์ชีวติ คนไทย พทุ ธศักราช 2576” โดยมงิ่ สรรพ์ ขาวสอาด และอภวิ ัฒน์ รตั นวราหะ ใน พ.ศ. 255746 โครงการดังกลา่ วมงุ่ ประมวลและจัดการ ความรู้เพื่ออนาคตประเทศไทย โดยสรุปผลองค์ความรู้จากผลงานวิจัยชุดอนาคตไทยของแผนงาน สร้างเสริมนโยบายสาธารณะท่ดี ี (นสธ.) หนังสอื เลม่ ดังกล่าวแสดงภาพชวี ิตคนไทยในหลายด้าน โดย สอดแทรกประเด็นนโยบายท่ีล้มเหลวและนโยบายที่สร้างจุดเปลี่ยนในอนาคต เพ่ือน�ำไปสู่ข้อเสนอ แนะดา้ นนโยบายสาธารณะทด่ี ีในอนาคต ข้อมูลพ้ืนฐานในการจัดท�ำฉากทัศน์ในงานดังกล่าวมาจากการวิเคราะห์ในเชิงปริมาณและเชิง คณุ ภาพโดยนักวิจยั ในแตล่ ะสาขา เช่น ประชากร เศรษฐกิจ การเกษตร และพลงั งาน จากน้นั จึงมี การจัดประชุมรบั ฟงั ความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ภาพอนาคตในดา้ นตา่ ง ๆ โดยมีผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาเข้า รว่ มเสนอความคดิ เหน็ สดุ ทา้ ยจงึ เปน็ การสรา้ งฉากทศั นข์ องชวี ติ คนไทยใน พ.ศ. 2576 ผลลพั ธท์ ไ่ี ดค้ อื ฉากทศั น์อนาคตของชวี ติ คนไทย ซ่ึงแบง่ ออกเปน็ 2 ฉาก ได้แก่ ฉากซิมโฟนีปี่พาทย์ ซ่งึ เปรียบเทียบ กบั ชีวติ ในอนาคตของคนไทยที่ต้องอยใู่ นกฏระเบยี บชดั เจน ทุกคนมหี นา้ ทเี่ ชีย่ วชาญเฉพาะทาง รจู้ กั บทบาทของตนเอง ทวา่ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามวาทยกรหรอื รฐั บาลกลางทกี่ มุ อ�ำนาจอยา่ งเบด็ เสรจ็ ในขณะท่ี อกี ฉากหนงึ่ คอื ฉากแจส๊ หมอล�ำ ซงึ่ สอื่ ถงึ ชวี ติ ทเี่ ปน็ อสิ ระมากขนึ้ มคี วามยดื หยนุ่ ชวี ติ อสิ ระและเสรภี าพ มากขนึ้ กฎระเบยี บ สามารถปรบั เปลย่ี นและประยกุ ตใ์ หเ้ ทา่ ทนั สถานการณ์ ทอ้ งถนิ่ จะมคี วามสามารถ

อนาคตศึกษา | 238 แตกตา่ งกัน โดยขน้ึ อย่กู ับผนู้ �ำ แต่จะน�ำไปสคู่ วามเหลอ่ื มล�้ำระหวา่ งท้องถิน่ ในขณะทม่ี แี รงงานขา้ ม ชาตไิ ดก้ ารยอมรบั ให้เปน็ คนไทย แตป่ ญั หาคนชายขอบกลับยงั ไม่หมดไป นอกจากนี้� ยังั มีีโครงการอื่น� ที่ใ่� ช้ว้ ิิธีีการสร้า้ งฉากทัศั น์เ์ พื่่อ� คาดการณ์ก์ ารเปลี่ย่� นแปลงในประเด็น็ รายสาขา เช่น่ สำ�ำ นักั นโยบายและยุทุ ธศาสตร์์ สำำ�นักั งานปลัดั กระทรวงพลังั งานมอบหมายให้ส้ ถาบันั วิจิ ัยั พลัังงาน จุุฬาลงกรณ์์มหาวิิทยาลััยดำำ�เนิินโครงการวิิเคราะห์์ภาพอนาคตพลัังงานของประเทศไทย47 โดยการวิิเคราะห์์ภาพจำำ�ลองสถานการณ์เ์ พื่่�อสนองนโยบายด้า้ นพลังั งานระดับั ประเทศในอีีก 20 ปีี ข้า้ งหน้้า (พ.ศ. 2578) เพื่่�อพัฒั นาข้อ้ มูลู เชิิงวิเิ คราะห์แ์ ละฉายภาพอนาคตในด้้านการใช้้และการจัดั หา พลังั งาน แล้ว้ จึงึ นำำ�ภาพอนาคตที่ไ่� ด้น้ั้�นไปพัฒั นาเป็น็ ข้อ้ เสนอแนะนโยบายพลังั งาน เพื่่อ� ให้ส้ อดคล้อ้ งกับั ภาพรวมการพััฒนาโครงสร้้างพื้�นฐานและการพััฒนาในด้้านคมนาคมขนส่่งของประเทศ งานศึึกษา นี้ �ผสมผสานการวิิเคราะห์์ด้้วยเครื่ �องมืือเชิิงปริิมาณกัับการจััดประชุุมผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียเพื่่�อสร้้าง ภาพอนาคต ผลลัพั ธ์ท์ ี่ไ่� ด้ค้ ือื ฉากทัศั น์์ 4 ภาพด้ว้ ยกันั ได้แ้ ก่่ ภาพสุขุ ภาพดีี (Healthy) ภาพมะเร็ง็ ระยะ ที่่� 1 (Cancer Stage I) ภาพไข้้หวััดสายพัันธุ์�ใหม่่ (Great Influenza) และภาพอาการโคม่่า (Coma) อีกโครงการหน่งึ ที่ใช้วิธีการแบบฉากทัศน์ในการฉายภาพอนาคตรายสาขา คือ โครงการจัดท�ำ ภาพอนาคตการเกษตรไทย 256348 โดยสถาบนั คลงั สมองของชาติ รว่ มกบั ศนู ยค์ าดการณเ์ ทคโนโลยเี อ เปค และหน่วยงานอน่ื ๆ ในดา้ นการเกษตรและดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวตั กรรม โครงการ ดังกล่าวใช้กระบวนการสร้างฉากทัศน์แบบมีส่วนร่วม ซ่ึงมีผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้าน การเกษตรเขา้ รว่ มการประชมุ ผลลัพธ์ทีไ่ ดค้ ือฉากทศั น์ของอนาคตการเกษตรไทย 3 ฉาก ได้แก่ ฉาก ไมป้ า่ ซง่ึ สะทอ้ นการเตบิ โตของการเกษตรไทยทเี่ ขม้ แขง็ ฉากไมเ้ ลยี้ ง ซงึ่ มกี ารยกระดบั ดว้ ยเทคโนโลยี และนวัตกรรม และใชท้ นุ ในการดูแลอยา่ งเปน็ ระบบ และฉากไมล้ ม้ ซงึ่ สะทอ้ นภาพอนาคตของความ ลม้ เหลวด้านการเกษตรของประเทศไทย ทั้งในดา้ นความร้ทู างเทคโนโลยีนวัตกรรม ด้านสง่ิ แวดล้อม และดา้ นสังคม โดยเฉพาะในด้านความเหลอ่ื มลำ้� อันเน่อื งจากภาคการเกษตร ในระดับั เมือื งและชุมุ ชน โครงการที่ถ�่ ือื ว่า่ เป็น็ ครั้�งแรกที่ท�่ ดลองใช้ว้ ิธิีีการมองอนาคตแบบฉากทัศั น์ใ์ น การวางนโยบายและแผนการพัฒั นาเมือื งในประเทศไทย คือื โครงการภาพอนาคตเมือื งลำ�ำ พูนู พ.ศ. 2 57049 ดำ�ำ เนิินการโดยศููนย์์คาดการณ์์เทคโนโลยีีเอเปค ร่่วมกัับสำ�ำ นัักงานพััฒนานโยบายสาธารณะ (สพน.) สำ�ำ นัักนายกรัฐั มนตรีี เมื่�อ พ.ศ. 2554 วิธิ ีีการหลัักที่่�ใช้ใ้ นงานดัังกล่า่ วคืือการจััดประชุมุ กลุ่�มย่อ่ ย โดย ให้้ผู้�เข้า้ ร่ว่ มประชุมุ ร่่วมกัันวิิเคราะห์ข์ ้อ้ มููลแนวโน้้มการเปลี่�่ยนแปลงจากอดีีต แล้้วนำ�ำ ผลการวิิเคราะห์์ มาฉายภาพอนาคตด้้วยการเขีียนข่่าวในหน้า้ หนังั สืือพิิมพ์ส์ มมติอิ ีีก 20 ปีีข้้างหน้า้ นอกจากนี้ ใน พ.ศ. 2553 ยังมีโครงการฉายภาพอนาคตเชียงคาน 2580 ของเมืองเชียงคาน จังหวัดเลย50 ซึ่งเป็นส่วนหน่งึ ของการคาดการณ์สถานการณ์ด้านส่งิ แวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรรมบนพ้นื ฐานขอ้ มลู ทีม่ ีอย่ใู นปัจจุบนั ลว่ งหนา้ 30 ปี จดั โดยศนู ย์เครอื ขา่ ยงานวิเคราะห์วจิ ยั และฝึกอบรมการเปลีย่ นแปลงของโลกแหง่ ภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ (START) และสถาบนั สิ่ง แวดลอ้ มสตอ็ กโฮลม์ ภาคพน้ื เอเชยี (Stockholm Environment Institute - SEI) วธิ กี ารหลกั คอื การ จัดประชมุ ระดมสมองของชาวเชียงคานจากหลากหลายสาขาอาชีพ รวมถึงนกั วิชาการและนกั ข่าวใน ฐานะคนนอกพื้นท่ี มาแลกเปลย่ี นข้อมูลเกี่ยวกับอนาคตระยะยาวของเมอื งเชียงคาน อีีกโครงการหนึ่่�งในลัักษณะคล้้ายกัันคืือโครงการทางเลืือกการพััฒนาเพื่่�อบรรลุุเป้้าหมายสัังคม

239 | อนาคตศึกษา อยู่�เย็็นเป็็นสุุข (Strengthening Inclusive Planning and Economic Decision-making for Environmentally Sustainable Pro-Poor Development)51 ซึ่ง� ดำำ�เนินิ การโดยศูนู ย์์ประสานงาน วิจิ ัยั ท้อ้ งถิ่น� จังั หวัดั สมุทุ รสงคราม และสำ�ำ นักั งานโครงการพัฒั นาแห่ง่ สหประชาชาติิ (United Nations Development Programme - UNDP) ประจำ�ำ ประเทศไทยร่่วมกัับกระทรวงมหาดไทย กิิจกรรม หนึ่่�งของโครงการดังั กล่่าวคืือการสร้า้ งภาพอนาคตชุมุ ชนระบบนิเิ วศสามน้ำ�ำ �ในจัังหวััดสมุุทรสงคราม ในกระบวนการศึึกษาและสร้้างภาพอนาคต คณะผู้้�วิิจััยได้้จััดการประชุุมกัับผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีีย ในพื้�นที่�่ โดยเปิิดโอกาสให้้ผู้�เข้้าร่่วมประชุุมเสนอและแลกเปลี่�่ยนความคิิดเห็็นเกี่�่ยวกัับแนวโน้้มการ เปลี่�่ยนแปลงด้้านสิ่�งแวดล้้อม และปััจจััยที่่�มีีผลต่่อการเปลี่่�ยนแปลงสำำ�คััญในพื้�นที่่� ขั้�นตอนหนึ่่�งของ กระบวนการสร้า้ งฉากทัศั น์ค์ ือื การระบุคุ วามไม่แ่ น่น่ อนหลักั ของเหตุกุ ารณ์ท์ ี่ค�่ าดว่า่ จะเกิดิ ขึ้�นในอนาคต ในพื้�นที่ศ่� ึกึ ษา ปัจั จัยั ไม่แ่ น่น่ อนในกรณีีนี้้�คือื การฟื้�นฟูหู รือื ล่ม่ สลายของอาชีีพการทำ�ำ น้ำำ��ตาลมะพร้า้ วและ อาชีีพการเพาะเลี้�ยงชายฝั่�ง และการตระหนักั ใส่ใ่ จหรือื การละเลยเพิกิ เฉยต่อ่ ทรัพั ยากรธรรมชาติแิ ละ สิ่ง� แวดล้อ้ ม ปัจั จัยั เหล่า่ นี้�ใช้เ้ ป็น็ แกนในการสร้า้ งตรรกะฉากทัศั น์์ (scenario logic) ซึ่ง� เป็น็ พื้�นฐานของ ฉากทัศั น์์ 3 ภาพ ได้้แก่่ (1) ภาพหิ่่ง� ห้อ้ ยหดหู่� ปลาทููหนีีตาย สื่�อถึงึ อนาคตของสังั คมอุุตสาหกรรมตาม กระแสหลักั และสิ่ง� แวดล้อ้ มธรรมชาติแิ ละอาชีีพของเกษตรกรและชาวประมงดั้�งเดิมิ ได้ร้ ับั ผลกระทบ (2) ภาพหิ่่ง� ห้อ้ ยยิ้�มสู้� ปลาทูอู ยู่�ได้้ แสดงภาพอนาคตของสังั คมท่อ่ งเที่ย�่ วเชิงิ นิเิ วศมีีระดับั และ (3) ภาพ หิ่่ง� ห้อ้ ยน่า่ ดูู ปลาทูเู ต็็มอ่่าว แสดงภาพอนาคตของสัังคมเกษตรอิินทรีีย์์เต็ม็ ขั้�น อกี โครงการหนงึ่ ทใี่ ชว้ ธิ กี ารวางแผนฉากทศั นใ์ นการคาดการณแ์ บบมสี ว่ นรว่ มของกลมุ่ เปา้ หมาย คอื โครงการ Informal City Dialogues ของมลู นธิ ริ อ็ กกเี้ ฟลเลอร์ (The Rockefeller Foudation) ใน พ.ศ. 255552 องคก์ รศกึ ษาอนาคตชอ่ื Forum for the Future ท�ำหนา้ ที่ประสานกระบวนการคาด การณ์ รว่ มกบั พนั ธมติ รในมหานครหกแหง่ ทวั่ โลกคอื มะนลิ า (Manila) ลมิ า (Lima) เชนไน (Chennai) อะครา (Accra) ไนโรบี (Nairobi) และกรุงเทพมหานคร ส�ำหรับในกรงุ เทพมหานคร คณะที่ปรึกษา จากภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ ด�ำเนินกระบวนการในระดับเมอื ง53 วตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ของโครงการดงั กลา่ วคอื เพือ่ สรา้ งกระบวนการสนทนาระหวา่ งผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ น เสยี ส�ำคญั ในกจิ กรรมนอกระบบทางการ (informal sector) ในมหานครทเ่ี ปน็ กรณีศึกษาทง้ั 6 แหง่ โดยใชแ้ นวทางและวธิ กี ารจัดการประชมุ เชิงปฏิบัติการท่ีมองอนาคตอย่างมสี ่วนร่วม (participatory futures workshops) เปา้ หมายของการประชมุ ชดุ แรกคอื ฉากทศั นข์ องกจิ กรรมนอกระบบในอกี 20 ปขี า้ งหนา้ เมอ่ื ไดฉ้ ากทศั นแ์ ลว้ จงึ จดั การประชมุ ระดมสมองอกี ชดุ หนงึ่ เพอื่ คดิ คน้ นวตั กรรมทสี่ ามารถ ยกระดบั ความเปน็ อยขู่ องคนในกจิ กรรมนอกระบบได้ ไมว่ า่ อนาคตในเมอื งนนั้ จะเปน็ ไปในฉากทศั นใ์ ด ก็ตาม จากนน้ั ผูเ้ ขา้ ร่วมประชมุ ตกลงเลือกนวตั กรรมหนงึ่ เปน็ กิจกรรมน�ำรอ่ งท่ดี �ำเนินการได้จรงิ ดว้ ย เงนิ สนับสนุนจากมลู นิธริ ็อกกเี้ ฟลเลอร์ ในกรณีีของกรุุงเทพมหานคร กลุ่�มผู้้�มีีส่่วนได้้ส่่วนเสีียหลัักที่่�เข้้าร่่วมกระบวนการเป็็นตััวแทนมา จากกลุ่�มกิจิ กรรมนอกระบบทางการ 4 กลุ่�มหลักั ได้แ้ ก่่ กลุ่�มหาบเร่แ่ ผงลอย กลุ่�มคนทำ�ำ งานที่บ่� ้า้ น กลุ่�ม แม่บ่ ้า้ น และกลุ่�มคนขับั ขี่จ่� ักั รยานยนต์ร์ ับั จ้า้ ง ในการจัดั ประชุมุ สร้า้ งฉากทัศั น์์ 3 ครั้�ง มีีเข้า้ ร่ว่ มประชุมุ ครั้�งละประมาณ 50 คน ผลลััพธ์์ที่่�ได้้คืือฉากทัศั น์์ 4 ภาพ ได้แ้ ก่่ (1) ภาพสตูผู ัักผสม (Mixed Veggie

อนาคตศึกษา | 240 Stew: An All-Inclusive City) สื่อ� ถึงึ เมืืองที่่ค� นทุกุ กลุ่�มอยู่่�ด้ว้ ยกัันอย่า่ งแยกไม่่ออก (2) ภาพข้้าวราด แกงกะหรี่่� (Curry Rice: A Mafia and Clique City) สื่อ� ถึงึ เมืืองที่�่แบ่ง่ แยกกลุ่�มชัดั เจน แต่ด่ ำ�ำ เนิิน กิิจกรรมร่่วมกัันเป็็นบางครั้�งตามหน้้าที่�่และบทบาทของตนเอง (3) ภาพข้้าวจานหลุุม (Sectioned Plates: A Tug of War City) สื่�อถึึงเมือื งที่�แ่ ยกกัันอยู่�และแก่ง่ แย่่งชิงิ ดีีซึ่่ง� กัันและกััน แต่่ละกลุ่�มรวม ตัวั กันั เพื่่�อขัับเคลื่อ� นทางการเมืือง และ (4) ภาพบุุฟเฟ่ต่ ์์ฟููดคอร์์ท (Food-Court Buffet: A Free for All City) แสดงภาพที่ค่� นแต่่ละกลุ่�มแยกกัันอยู่�อย่า่ งชัดั เจน และไม่่มีีการรวมตััวกัันเพื่่�อขับั เคลื่อ� นการ เปลี่ย�่ นแปลงใด ๆ เมอ่ื ไดฉ้ ากทศั นท์ งั้ 4 ภาพแลว้ ขนั้ ตอนตอ่ ไปจงึ เปน็ การจดั ประชมุ ระดมสมอง เพอื่ รว่ มสรา้ งแนวคดิ ทเ่ี ปน็ นวตั กรรมส�ำหรบั การพฒั นาและยกระดบั ความเปน็ อยขู่ องคนในกจิ กรรมนอกระบบทง้ั 4 กลมุ่ ซง่ึ เปน็ นวตั กรรมทตี่ อบรบั กบั สถานการณท์ งั้ 4 ภาพทไ่ี ดส้ รา้ งขน้ึ มากอ่ นหนา้ น้ี แนวคดิ ทไี่ ดร้ บั เลอื กและ ยอมรบั จากผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ ในโครงการคอื โครงการนกั กฎหมายชมุ ชน (community lawyers) ซง่ึ ตอ่ มาองค์กรโฮมเนต (Homenet Thailand) รับเปน็ ผ้ดู �ำเนินโครงการน�ำร่องต่อไป วิธกี ารฉากทัศน์มักใช้รว่ มกบั วธิ กี ารอ่นื ๆ ในกระบวนการคาดการณ์ ทั้งวิธีการเชงิ ปริมาณและ เชิงคณุ ภาพ ตัวอย่างหน่งึ คอื โครงการ Low-Carbon Society 2050 and Beyond ซึ่งด�ำเนินการ โดยศนู ยค์ าดการเทคโนโลยเี อเปค54 กลมุ่ ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศและอนาคต ศาสตรใ์ นภมู ภิ าคเอเชยี แปซฟิ กิ เปน็ ผรู้ เิ รม่ิ ออกแบบและด�ำเนนิ กระบวนการคาดการณอ์ นาคตของการ ปรบั ตวั เพอ่ื รบั มอื กบั การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศโลก วตั ถปุ ระสงคข์ องกระบวนการคาดการณค์ อื เพอื่ ฉายภาพอนาคตของสงั คมคารบ์ อนต�่ำ และเพอ่ื เสนอทางเลอื กเชงิ นโยบายใหก้ บั รฐั บาลในภมู ภิ าค น้ี ข้ันตอนแรกของกระบวนการดังกล่าวคือการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อก�ำหนดกรอบการคาด การณแ์ ละการสร้างฉากทัศนอ์ นาคตของสังคมคารบ์ อนต�่ำ ผลลพั ธจ์ ากการประชมุ เชิงปฏิบตั ิการเปน็ ข้อความเชิงพยากรณ์ (predictive statements) ทตี่ อ่ มาไดร้ บั การประเมินเพิม่ เตมิ โดยผ้เู ชย่ี วชาญ จากนน้ั จึงเป็นการส�ำรวจเดลฟายแบบเรยี ลไทม์ (Real-time Delphi) ผลลพั ธจ์ ากการส�ำรวจเดล ฟายคอื ขอ้ มลู ท่คี ณะท�ำงานน�ำไปใช้ตอ่ ในการพฒั นาฉากทศั นข์ องสงั คมคาร์บอนต�่ำในค.ศ. 2050 แต่ กระบวนการไม่ได้จบอยู่เพียงแค่นั้น คณะท�ำงานได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพิ่มเติม เพื่อระดม สมองและระบนุ โยบายและมาตรการทร่ี ฐั บาลและกลมุ่ ประชาคมในภมู ภิ าคนคี้ วรด�ำเนนิ การเพอ่ื บรรลุ เปา้ หมายตามฉากทัศน์ท่ไี ด้สร้างขนึ้ มา อีีกโครงการหนึ่่ง� ที่ผ่� สมผสานเครื่อ� งมือื คาดการณ์เ์ ชิงิ ปริมิ าณกับั วิธิ ีีการสร้า้ งฉากทัศั น์ค์ ือื โครงการ ภาพอนาคตในปีี 2035 : ที่ด่� ินิ พลังั งาน และน้ำำ��ในประเทศไทย โดยนิพิ นธ์์ พัวั พงศกร แ ละคณะ55 ผู้้�วิิจััย ได้้คาดคะเนภาพอุุปสงค์แ์ ละอุุปทานของพลังั งาน ที่ด�่ ินิ และน้ำำ�� ภายใต้้ฉากทััศน์์เศรษฐกิิจไทย 4 ฉาก ใน ค.ศ.2035 แล้ว้ จึงึ ถอดนัยั เชิงิ นโยบายจากภาพอนาคตดังั กล่า่ ว กระบวนการวิเิ คราะห์แ์ ละคาดการณ์์ ในงานวิจิ ัยั เริ่ม� ต้น้ จากที่ค�่ ณะผู้้�วิจิ ัยั พัฒั นาฉากทัศั น์เ์ ศรษฐกิจิ ไทยจำ�ำ นวน 4 ภาพ แล้ว้ นำ�ำ ข้อ้ มูลู ของทั้�งสี่�่ ภาพมาคาดคะเนอุุปสงค์์และอุปุ ทานของน้ำำ�� ที่�่ดินิ ในภาคการเกษตร และพลังั งาน โดยใช้้แบบจำ�ำ ลอง เศรษฐมิิติิ ทั้�งนี้� คณะผู้้�วิิจััยได้้ใช้้วิิธีีการที่�่แตกต่่างกัันในการพยากรณ์์อุุปสงค์์ของการใช้้ทรััพยากรทั้�ง สามประเภท เนื่่�องจากพฤติิกรรมการใช้้ทรััพยากรและลัักษณะของข้้อมููลของทั้�งสามกลุ่�มไม่่เหมืือน กััน คณะผู้้�วิจิ ัยั ตระหนัักถึงึ จุุดอ่อ่ นของการใช้เ้ ครื่�องมืือเศรษฐมิติ ิใิ นการคาดการณ์อ์ นาคต ในประเด็น็

241 | อนาคตศกึ ษา ที่ว�่ ่า่ ปัจั จัยั ไม่แ่ น่น่ อนบางประการอาจทำำ�ให้อ้ นาคตไม่เ่ ป็น็ ไปตามแนวโน้ม้ ที่เ่� กิดิ ขึ้�นในอดีีต คณะผู้้�วิิจััย จึึงจััดกระบวนการคาดการณ์์เพิ่่�มเติิม โดยใช้้วิิธีีการส่่งแบบสอบถามเกี่่�ยวกัับภาพอนาคตไปยัังกลุ่�ม ผู้�เชี่�่ยวชาญ พร้้อมกัับผลการศึึกษาจากแบบจำำ�ลองเศรษฐมิิติิ เมื่�อได้้ผลการสำำ�รวจแล้้ว จึึงจััดการ สััมมนาเชิงิ ปฏิิบััติกิ ารกลุ่�มย่อ่ ย 4 กลุ่�ม อีีกจำำ�นวน 2 ครั้�ง ท้า้ ยที่ส�่ ุดุ จึงึ นำำ�เอาผลลััพธ์ท์ ี่่�ได้้จากประมวล และสังั เคราะห์ข์ ้อ้ มูลู ทั้�งหมดถ่า่ ยออกมาเป็น็ ภาพอนาคตของทรัพั ยากรทั้�งสามประเภท รวมถึงึ ข้อ้ เสนอ แนะเชิงิ นโยบายและมาตรการที่่�ตอบรับั กัับฉากทัศั น์์ที่่ไ� ด้พ้ ััฒนาขึ้�นมา แนวทางการกำำ�หนดฉากทััศน์์ในโครงการวิิจััยดัังกล่่าวเป็็นไปตามแนวคิิดดั้ �งเดิิมของการ สร้้างฉากทัศั น์ต์ ามแบบของเฮอร์ม์ ันั คาน (Herman Kahn) กล่า่ วคือื มีีฉากทัศั น์ฐ์ าน (base scenario) ที่แ�่ สดงวิิวััฒนาการตามแนวโน้ม้ ที่�ผ่ ่่านมา (business as usual) อีีกฉากหนึ่่�งเป็็นฉากทััศน์ก์ ารพััฒนา เศรษฐกิจิ ตามสาขาหลักั ที่ข�่ ับั เคลื่อ� นการเติบิ โต คือื ฉากทัศั น์ท์ ี่เ�่ น้น้ ภาคอุตุ สาหกรรม ฉากทัศั น์ท์ ี่เ�่ น้น้ ภาค การเกษตรและบริกิ าร และท้้ายสุดุ เป็็นฉากทัศั น์ต์ ามแนวคิดิ ยุุทธศาสตร์์ชาติิ Thailand 4.0 คณะผู้� วิจิ ัยั ยังั คำ�ำ นึงึ ถึงึ ปัจั จัยั หรือื จุดุ หักั เห (disruptive force) ที่อ�่ าจทำำ�ให้เ้ กิดิ การเปลี่ย่� นแปลงขนาดใหญ่ใ่ น การพัฒั นาประเทศและการใช้ท้ รัพั ยากรทั้�งสาม ประเภทโดยแบ่ง่ ปัจั จัยั ดังั กล่า่ วออกเป็น็ 3 กลุ่�ม ได้แ้ ก่่ 1. ปจั จยั คกุ คามการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ทไ่ี มส่ ามารถควบคมุ ได้ เชน่ การเตบิ โตของเศรษฐกจิ โลกและปัญหาภูมริ ัฐศาสตร์ ทศิ ทางการพฒั นาของเศรษฐกจิ จีนในเวทโี ลก 2. ปจั จยั คกุ คามทสี่ ามารถควบคมุ ไดบ้ างสว่ น เชน่ ปญั หาการเมอื งไทยไมม่ เี สถยี รภาพ ปญั หา สงั คมสูงวัย ปัญหาคอรัปชนั่ ในสังคม ปญั หาสภาพอากาศแปรปรวน (climate change) การสนับสนุนภาคท่องเที่ยวให้รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน การดูแล จดั การแรงงานตา่ งดา้ วเขา้ ส่รู ะบบเศรษฐกิจ 3. ปจั จยั ทส่ี ามารถควบคมุ ได้ ไดแ้ ก่ การลงทนุ โครงสรา้ งพนื้ ฐาน การเชอ่ื มโยงกบั ประเทศใน ภูมภิ าค ความสามารถในการแข่งขนั เพือ่ ส่งออก การเผยแพรแ่ ละประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยี สมัยใหม่ การเติบโตแบบกระจุกตัวเฉพาะกรุงเทพฯ และภาคตะวันออก การส่งเสริม วิสาหกิจขนาดยอ่ มและขนาดกลางและธุรกิจสตารท์ อพั นโยบายภาครัฐท่ีดแู ลจัดการใน เรอื่ งของที่ดนิ และการเพิ่มความเป็นเมือง ในสว่ นน้ี คณะผวู้ จิ ยั ไดว้ เิ คราะหฉ์ ากทศั นข์ องทรพั ยากรแตล่ ะประเภท โดยค�ำนงึ ปจั จยั หกั เหทม่ี ี ผลตอ่ อปุ สงค์และอุปทานในอนาคต ฉากทัศน์และปัจจยั ไม่แนน่ อนเหล่านี้เปน็ พืน้ ฐานของการเสนอ แนะนโยบายและมาตรการในการจดั การทรพั ยากรท้งั สามประเภท ล่าสุด ผู้เขียนได้ร่วมงานกับคณะผู้วิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการด�ำเนินโครงการ วจิ ยั “คนเมือง 4.0: อนาคตชีวติ เมืองในประเทศไทย” ซง่ึ คาดการณภ์ าพอนาคตของชวี ติ คนเมืองใน ประเทศไทยใน 6 ดา้ น ไดแ้ ก่ การอยอู่ าศยั การท�ำงาน การเดนิ ทาง การซอื้ ของ การเกดิ และการตาย56 โครงการวจิ ยั นใ้ี ชก้ ระบวนการคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ นบั ตง้ั แตก่ ารก�ำหนดกรอบเนอื้ หา การกวาด สญั ญาณ การสรา้ งภาพอนาคตฐาน การสรา้ งภาพอนาคตทางเลอื ก ภาพอนาคตทีพ่ งึ ประสงค์ การ วางแผนยุทธศาสตร์ และการสงั เกตการณแ์ ละตดิ ตามสถานการณ์ ส�ำหรับการสรา้ งภาพอนาคตทาง เลอื กน้ัน คณะผวู้ ิจยั ได้เลือกใชว้ ธิ ีการฉากทศั นเ์ ปน็ หลกั

อนาคตศกึ ษา | 242 การศึกษาอนาคตดว้ ย วิธชี าติพนั ธุ์วรรณนา นอกเหนือื จากวิธิ ีีการที่ร่� ะบุใุ นรายการที่จ่� ัดั ทำ�ำ โดยเกลนและกอร์ด์ อนในโครงการมิลิ เลนเนีียมโปรเจกต์์ แล้้ว ยัังมีีวิิธีีการศึึกษาอนาคตแบบอื่�นที่�่น่่าสนใจและมีีการประยุุกต์์ใช้้ในการคาดการณ์์ภาพอนาคต ของประเด็็นที่�่สนใจเกี่�่ยวกัับประเทศไทย หนึ่่�งในนั้�นคืือวิิธีีการชาติิพัันธุ์�วรรณนา (Ethnographic Futures Research) ซึ่ง� ต่อ่ มาพัฒั นาเป็น็ วิธิ ีีการวิจิ ัยั อนาคตด้ว้ ยเดลฟายแบบชาติพิ ันั ธุ์�วรรณนา งาน ศึึกษาและวิิจััยเกี่�่ยวกัับอนาคตในประเทศไทยที่่�ใช้้วิิธีีการชาติิพัันธุ์�วรรณนาและวิิธีีการเดลฟายแบบ ชาติพิ ันั ธุ์�วรรณนามีีจำำ�นวนมากพอสมควร อาทิิ งานศึกึ ษาอนาคตภาพการอาชีีวศึกึ ษาไทยในทศวรรษ หน้้า (พ.ศ. 2554- 2564)57 อนาคตภาพการอาชีีวศึกึ ษาเอกชนไทยในยุุคประชาคมอาเซีียนระหว่่าง พ.ศ. 2558–256758 ภาพอนาคตหลัักสููตรพลเมืืองศึกึ ษาระดัับการศึึกษาขั้�นพื้�นฐานในทศวรรษหน้้า (ช่่วงระหว่า่ ง พ.ศ. 2555–2565)59 อ นาคตภาพบทบาทการพยาบาลเพื่่�อการพััฒนาการดููแลสุุขภาพ ตนเองของประชาชนในทศวรรษหน้้า60 สัังเกตได้้ว่่า งานศึึกษาอนาคตที่่�ใช้้วิิธีีการกลุ่�มนี้�จำ�ำ นวนมาก อยู่�ในสาขาศึึกษาศาสตร์์และครุศุ าสตร์์ จากการทบทวนวรรณกรรมที่�่เกี่่�ยวข้้อง พบว่่า ต้้นคิิดของวิิธีีการศึึกษาอนาคตด้้วยวิิธีี ชาติิพัันธุ์�วรรณนามาจากงานอนาคตวััฒนธรรมของประเทศไทยของนัักมานุุษยวิิทยาชาวอเมริิกัันที่่� เลืือกประเทศไทยเป็็นกรณีีศึึกษาในการประยุุกต์์และพััฒนาวิิธีีการศึึกษาอนาคตแบบดัังกล่่าว ดัังรายละเอีียดโดยสังั เขปดังั นี้� อนาคตวัฒนธรรมของประเทศไทย งานศึกษาอนาคตประเทศไทยท่ีถือเป็นงานบุกเบิกส�ำคัญของวงการอนาคตศึกษาในระดับโลก คืองานศึกษาอนาคตวัฒนธรรมของประเทศไทย (Cultural Futures of Thailand) โดยรอเบริ ์ต เทกสเ์ ตอร์ (Robert Textor) ซงึ่ ตีพมิ พเ์ ผยแพร่ในวารสารวิชาการ Futures ใน พ.ศ. 252161 ในงาน ดงั กลา่ ว เทกสเ์ ตอร์ใชว้ ธิ ชี าติพันธุ์วรรณนา (ethnography) ในการวเิ คราะหอ์ นาคตทางวัฒนธรรม ของประเทศไทยในชว่ งปลายทศวรรษที่ 1970 โดยการสมั ภาษณป์ ญั ญาชน (intellectuals) คนไทย จ�ำนวน 25 คนในมลรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรฐั อเมรกิ า

243 | อนาคตศึกษา ในงานวิจัยดังกล่าว เทกส์เตอร์ให้เหตุผลของการเลือกกลุ่มเป้าหมายน้ีว่า แม้ว่าคนไทยเหล่านี้ อาศัยอยูใ่ นสหรัฐอเมรกิ าในช่วงการสัมภาษณ์ แต่เปน็ กลมุ่ ทีต่ ้งั ใจที่จะกลับไปอยู่ที่ประเทศไทย จึงมี ความสนใจอย่างมากกับอนาคตของประเทศไทย วิธีการศึกษาของเทกส์เตอร์ถือว่าเป็นการบุกเบิก แนวทางและวิธีการใหม่ในด้านอนาคตศาสตร์ เนื่องจากแตกต่างจากวิธีการกระแสหลักท่ีเป็นท่ีนิยม อยู่ในชว่ งเวลานน้ั ในวงการวชิ าการและวงการวางแผน คอื การคาดการณ์ดว้ ยวธิ กี ารเดลฟาย แมว้ ่า เทกสเ์ ตอรไ์ มไ่ ดส้ มั ภาษณผ์ เู้ ชย่ี วชาญดา้ นอนาคตศกึ ษา แตผ่ ใู้ หส้ มั ภาษณถ์ อื เปน็ กลมุ่ คนชนชน้ั น�ำของ สงั คมไทยท่ีมีโอกาสกลับไปมีอิทธิพลตอ่ การก�ำหนดอนาคตของประเทศไทย ในข้ันแรกของกระบวนการวิจัย เทกส์เตอร์ขอให้ผู้ให้สัมภาษณ์จินตนาการฉากทัศน์ของ ประเทศไทยใน พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) โดยแบ่งเป็นฉากทศั นเ์ ชงิ บวกทพี่ ึงประสงค์ และฉากทศั น์ เชงิ ลบทไี่ มพ่ งึ ประสงค์ ผวู้ จิ ยั ถามค�ำถามกวา้ ง ๆ เกย่ี วกบั อนาคตของประเทศไทย ปรากฏวา่ ประเดน็ หลักท่ผี ูใ้ หส้ มั ภาษณท์ ุกคนกล่าวถงึ คือเหตกุ ารณแ์ ละปจั จัยด้านการเมอื ง โดยเฉพาะในฉากทัศนด์ า้ น ลบ ในทกุ ฉากมเี หตกุ ารณค์ วามรนุ แรงทางการเมอื งเกดิ ขน้ึ และเหตกุ ารณค์ วามรนุ แรงจะเกดิ ขนึ้ ตง้ั แต่ ในช่วงต้นของทศวรรษท่ี 1980 โดยคาดวา่ จะยดื เยือ้ เป็นเวลาหลายปี นอกจากน้ี ผ้ใู ห้สมั ภาษณย์ งั เช่อื ว่า ปญั หาความเหลื่อมล้�ำทางเศรษฐกจิ จะเป็นสาเหตขุ องความรนุ แรงด้านการเมอื งทเี่ กิดข้นึ ตาม มา ข้อค้นพบเกีย่ วกบั ปัจจยั ทางการเมอื งน้แี ตกตา่ งอย่างชดั เจนจากผลการศึกษาปจั จยั ทีผ่ ลักดนั ให้ เกิดการเปล่ียนแปลงในงานอนาคตศึกษาเกี่ยวกับประเทศตะวันตก ซ่ึงมักเน้นปัจจัยด้านเทคโนโลยี และเศรษฐกจิ เปน็ หลกั ฉากทัศนห์ ลักทผี่ ูว้ ิจัยไดจ้ ากการสัมภาษณ์ในชว่ งแรกมอี ยู่ 2 ภาพดว้ ยกัน ได้แก่ ฉากทศั นข์ อง ความต่อเน่ืองของการปกครองดว้ ยรฐั บาลเผดจ็ การทหาร และฉากทศั น์ของการปกครองโดยระบอบ คอมมวิ นสิ ตห์ รอื สงั คมนยิ มทค่ี รองอ�ำนาจหลงั จากการตอ่ สแู้ ละความรนุ แรงทยี่ ดื เยอื้ เปน็ เวลานาน ขนั้ ตอนตอ่ มาของงานวจิ ยั คอื การสมั มนาในกลมุ่ คนไทยทใ่ี หส้ มั ภาษณ์ ภายใตห้ วั ขอ้ “Thailand’s future: the quest for a third path” กิจกรรมหนง่ึ ของการสัมมนาคือการระดมสมองเพ่อื แบ่งฉากทัศน์ท้งั สองภาพออกเป็นอกี สองฉากยอ่ ยตามทแี่ สดงในตารางที่ 17 ฉตาากราทงัศทน่ี อ์17นาคตประเทศไทยตามการแบง่ กลมุ่ คนของเทกสเตอร์ ท่ีมา: Textor (1978), 35 ผลลัพธ์จากการระดมสมองคือฉากทัศน์ที่ 3 ซงึ่ แสดงภาพท่ีกลุ่มคนสายกลางของฝา่ ยซ้ายและ ฝ่ายขวาเจรจาตอ่ รองกัน หลงั จากผ่านการตอ่ สแู้ ละความรุนแรงทยี่ ดื เย้ือและเสยี เลือดเนื้อ ฉากทัศน์

อนาคตศึกษา | 244 ที่ 3 เปน็ ภาพของการปกครองแบบสงั คมนยิ มทไ่ี ดร้ บั การสนบั สนนุ จากบางกลมุ่ ในฝา่ ยทหาร ผลลพั ธ์ ทน่ี ่าสนใจอีกสว่ นหนึ่งจากการศกึ ษานคี้ อื คุณค่า (values) ทีพ่ งึ ประสงค์ 12 ดา้ นส�ำหรบั อนาคตของ ประเทศไทยทผี่ ู้ให้สมั ภาษณม์ ีฉนั ทามตริ ่วมกนั ไดแ้ ก่ (1) การด�ำรงซ่งึ เอกราชของประเทศ (2) การ เลือกที่จะอนุรักษ์และฟื้นฟูวัฒนธรรมไทย (3) การลดความเหลื่อมล�้ำในสังคม (4) รัฐบาลต้องตอบ สนองความต้องการของประชาชน (5) ต้องลดคอรัปช่นั และลดการเอื้อประโยชน์ให้คนบางกลุ่ม (6) ต้องเพมิ่ เสรภี าพ (7) ตอ้ งลดความรุนแรงลงใหไ้ ดม้ ากท่สี ดุ (8) ตอ้ งลดความไมเ่ ป็นระเบยี บให้เหลอื นอ้ ยทส่ี ดุ แมว้ า่ อาจไมม่ คี วามรนุ แรง (9) ตอ้ งจ�ำกดั จ�ำนวนประชากร (10) ตอ้ งรกั ษาสภาพสิง่ แวดลอ้ ม (11) เศรษฐกิจต้องเตบิ โต และ (12) รฐั บาลต้องควบคุมเศรษฐกจิ อย่างเขม้ งวด เทกส์เตอร์วิเคราะห์คุณค่าเหล่าน้ีเพิ่มเติม โดยแบ่งคุณค่าท่ีสังคมให้ความส�ำคัญเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ระเบียบ (order) การเตบิ โต (growth) ความเทา่ เทยี มกนั (equity) และเสรภี าพ (freedom) จากน้ันจึงวิเคราะห์การแลกกันหรือการได้อย่างเสียอย่าง (trade offs) ระหว่างคุณค่าเหล่าน้ี ทั้ง ระหวา่ งระเบยี บกบั การเตบิ โต ระเบยี บกบั ความเทา่ เทยี มกนั ระเบยี บกบั เสรภี าพ การเตบิ โตกบั ความ เทา่ เทียมกนั การเติบโตกับเสรภี าพ และความเท่าเทยี มกันกับเสรีภาพ จากผลลพั ธแ์ ละบทเรยี นจากงานวจิ ยั ขา้ งตน้ เทกสเ์ ตอรไ์ ดด้ �ำเนนิ งานวจิ ยั ตอ่ เนอื่ งเพมิ่ เตมิ อกี ซง่ึ ต่อมากลายเปน็ พ้นื ฐานของวธิ ีวจิ ยั ดา้ นอนาคตศกึ ษาท่ีเรียกว่า การวิจยั อนาคตดว้ ยชาติพนั ธว์ุ รรณนา วิธีการน้ีเน้นการวิเคราะห์อนาคตจากมุมมองด้านสังคมวัฒนธรรมเป็นหลัก โดยเก็บข้อมูลจากการ สัมภาษณ์กลมุ่ คน เพอื่ ทราบถงึ การรบั ร้แู ละความชอบของแตล่ ะคนเกี่ยวกับทางเลือกในอนาคต วิธี การนี้ประยุกต์แนวคิดและวิธีชาติพันธุ์วรรณนาของสาขาวิชามานุษยวิทยาวัฒนธรรม (cultural anthropology) ใหเ้ ข้ากับกรอบแนวคดิ ความต้องการและขอ้ จ�ำกัดของงานวิจัยด้านอนาคตศกึ ษา62 งานวิจัยท่ีเป็นพื้นฐานแนวคิดของเทกส์เตอร์ท่ีเสนอให้ใช้วิธีชาติพันธุ์วรรณนาในการศึกษาภาพ อนาคตยงั คงเปน็ เรอื่ งภาพอนาคตของประเทศไทย แตส่ �ำหรบั ผลงานครงั้ หลงั ซงึ่ ตพี มิ พใ์ น พ.ศ. 2538 เทกส์เตอรไ์ ด้เลือกสมั ภาษณ์ สิปปนนท์ เกตทุ ตั ซึ่งมีประสบการณ์ในการวางแผนพัฒนาประเทศของ ไทยกวา่ 30 ปี โดยใชว้ ธิ ชี าตพิ นั ธว์ุ รรณนาเปน็ วธิ กี ารวจิ ยั หลกั และรว่ มเขยี นภาพฉากทศั นอ์ นาคตของ ประเทศไทยในงานศึกษาท่ตี อ่ เนอ่ื งจากงานดังกลา่ ว พน้ื ฐานทางภววทิ ยา (ontology) ของวธิ กี ารและเนอ้ื หาในงานวจิ ยั ดงั กลา่ วมคี วามนา่ สนใจและ ส�ำคญั ตรงทวี่ า่ ไมม่ ขี อ้ เทจ็ จรงิ เกยี่ วกบั อนาคต (future facts) มแี ตข่ อ้ เทจ็ จรงิ เกย่ี วกบั ปจั จบุ นั และอดตี อนาคตเปน็ เพยี งสง่ิ ทส่ี รา้ งขน้ึ (construct) และไมม่ กี ารด�ำรงอยทู่ เี่ ปน็ ภววสิ ยั (objective existence) ดงั นนั้ เทกสเ์ ตอรจ์ งึ เนน้ วา่ งานวจิ ยั ดงั กลา่ วไมไ่ ดศ้ กึ ษาอนาคตในตวั เอง (per se) แตศ่ กึ ษาภาพลกั ษณ์ ทคี่ นคนหนง่ึ มอี ยใู่ นปจั จบุ นั เกย่ี วกบั ปรากฏการณห์ รอื วฒั นธรรมทมี่ โี อกาสเกดิ ขนึ้ และนา่ จะเกดิ ขนึ้ ใน อนาคต รวมถงึ ภาพทีพ่ ึงประสงค์ทีค่ นคนนนั้ ตอ้ งการให้เกดิ ข้ึน ภาพลักษณ์และความพงึ พอใจเหล่านี้ อาจมีอทิ ธิพลตอ่ กระบวนการเปลี่ยนแปลงท่ีกลายเปน็ อนาคตจริงตอ่ ไป ดงั นน้ั เทกส์เตอรจ์ งึ คาดหวงั ว่า การวิจัยอนาคตด้วยวิธีชาติพันธุ์วรรณนาจะสามารถดึงเอาประเด็นส�ำคัญออกมาจากผู้ให้ข้อมูล เพอ่ื วเิ คราะห์ สรุป ตคี วามและน�ำเสนอทางเลือกส�ำหรับอนาคตต่อไปได้

245 | อนาคตศึกษา เทกส์เตอร์เลือกประเทศไทยเป็นกรณีศึกษาในการทดลองและประยุกต์ใช้วิธีการดังกล่าว เนื่องจากในทศวรรษที่ 1970 ประเทศไทยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แต่การเติบโตดัง กลา่ วไม่น�ำไปสู่การพัฒนาอยา่ งแท้จริง โดยท�ำให้เกิดปัญหาและผลกระทบดา้ นตา่ ง ๆ อย่างมากมาย ทง้ั กบั สง่ิ แวดลอ้ มธรรมชาตแิ ละสงั คม รวมถงึ แรงกดดนั ตอ่ องคป์ ระกอบดา้ นจรยิ ธรรมทมี่ งุ่ สรา้ งความ สมดุลกลมเกลยี ว (harmony) และความพอประมาณตามหลกั คดิ ในพทุ ธศาสนา ปรากฏการณ์์หลัักที่่�เป็็นเป้้าหมายของการศึึกษาของเทกส์์เตอร์์คืือแนวคิิดเวลานิิยม (tempocentrism) ซึ่�งหมายถึึงการที่�่มนุุษย์์เราให้้ความสนใจน้้อยเกิินไปหรืือให้้ความสนใจผิิดไปใน ประเด็น็ เกี่ย�่ วกับั อนาคต แม้ว้ ่า่ มนุษุ ย์จ์ ะคาดหมายอนาคตในหลายด้า้ นอยู่�ตลอดเวลา แต่ม่ ักั เกิดิ ขึ้�นอย่า่ ง ผิดิ เวลา คำำ�ว่า่ เวลานิยิ มสื่อ� ถึงึ สภาพวัฒั นธรรมความคิดิ (psychocultural state) ที่ม�่ นุษุ ย์ใ์ ช้ก้ รอบเวลา ผิิดในการวิิเคราะห์์และคำำ�นึึงถึึงอนาคต โดยเฉพาะในกรณีีที่�่ต้้องวางแผนนโยบายระยะยาว ปััญหานี้� จึึงมักั เกิิดขึ้�นกัับสถานการณ์์ที่ต�่ ้้องจััดการกัับความท้้าทายเฉพาะหน้า้ ในระยะสั้�น ในกระบวนการสร้างภาพอนาคตของประเทศไทยในงานวิจัยดังกล่าว รอเบิร์ต เทกส์เตอร์ ได้สัมภาษณ์สิปปนนท์ เกตุทัต โดยเร่ิมจากค�ำถามทั่วไปเก่ียวกับอนาคตด้านเศรษฐกิจ สังคมและ วัฒนธรรมของประเทศไทย จากนนั้ ผู้วจิ ยั จึงประมวลและเรยี บเรียงประเด็นส�ำคญั แลว้ สง่ กลบั ไปให้ ผู้ให้สัมภาษณ์ให้ความเห็นหรือปรับแก้ตามที่คิดว่าเหมาะสม ในการสัมภาษณ์ข้ันแรกผู้วิจัยขอให้ ผู้ ตอบจินตนาการภาพระบบสังคมวัฒนธรรมของประเทศไทย 100 ภาพในต�ำแหน่งที่ต่อเน่ืองกันจาก ภาพทแี่ ยท่ ่สี ดุ คือต�ำแหนง่ ท่ี 1 ไปยังภาพท่ีดที ี่สดุ คือต�ำแหน่งที่ 100 ภายในเวลาทเี่ ลอื กเอง ในกรณีนี้ ผูต้ อบเลอื ก พ.ศ. 2563 เป็นปีเป้าหมายของฉากทศั นท์ ี่จินตนาการข้นึ มา ภาพอนาคตทงั้ 100 ภาพ แสดงอนาคตของระบบสังคมวัฒนธรรมในประเทศไทยท่ีมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ภาพท่ีเกินออกจาก 100 ถือว่าเป็นภาพอุดมคติหรือยูโทเปีย (utopia) ที่ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ภายในเวลาท่ีก�ำหนด ในขณะท่ี ภาพทเ่ี กนิ ออกจากศูนยถ์ อื วา่ เป็นภาพฝนั รา้ ยหรอื ดิสโทเปยี (dystopia) ในการสมั ภาษณร์ อบตอ่ มา เทกสเ์ ตอรข์ อใหผ้ ใู้ หส้ มั ภาษณส์ รา้ งภาพอนาคต 3 ภาพ ภาพแรกเปน็ ภาพอนาคตที่ประมาณต�ำแหน่ง 85 ถงึ 90 แมว้ ่าอาจไม่ใชภ่ าพอนาคตทีด่ ีที่สุด แต่ถือเป็นภาพท่พี ึง ประสงค์และมโี อกาสเกดิ ขึ้นสงู จากนัน้ จึงเปน็ การสรา้ งภาพทไี่ มพ่ ึงประสงคต์ รงท่ตี �ำแหน่งประมาณ 10 ถึง 15 ในการวจิ ยั ส่วนนี้ เทกส์เตอรพ์ บว่า ฉากทัศนเ์ ชงิ บวกมักใช้เวลาในการระบรุ ายละเอยี ด นานกว่าฉากทัศน์เชิงลบ เม่ือผู้ตอบได้เขียนภาพอนาคตท้ังสองแล้ว ข้ันตอนต่อไปเป็นการระบุภาพ ทม่ี ีโอกาสเกิดขึน้ ได้มากทส่ี ุด (most probable) ซ่ึงไม่เก่ียวกับความพงึ ประสงค์หรือความกลัวของผู้ ตอบ ในขนั้ ตอนน้ี ผตู้ อบตอ้ งพจิ ารณาถงึ ชอ่ งวา่ งระหวา่ งสง่ิ ทตี่ นเองคาดหวงั กบั สง่ิ ทคี่ ดิ วา่ จะเกดิ ขนึ้ ได้ จรงิ วิธกี ารนท้ี �ำใหผ้ ้ตู อบต้องพจิ ารณาอย่างละเอยี ดถถ่ี ้วน โดยเฉพาะเกยี่ วกบั นโยบายและมาตรการ ท่คี าดวา่ จะลดช่องวา่ งดังกลา่ วไดจ้ รงิ วิธิีีการศึกึ ษาอนาคตที่ใ่� ช้เ้ ครื่อ� งมือื แบบชาติพิ ันั ธุ์�วรรณนาต้อ้ งใช้ค้ ำ�ำ ถามที่ส�่ ร้า้ งความชัดั เจน (clarity) ความครอบคลุมุ (comprenhensiveness) บริบิ ท (contextualization) และความสอดคล้อ้ ง (coherence) ในขณะเดีียวกััน วิิธีีศึึกษาดัังกล่่าวทำำ�ให้้เกิิดความยืืดหยุ่�นและการปฏิิสััมพัันธ์์อัันดีีระหว่่างผู้้�วิิจััยกัับ ผู้�ตอบคำ�ำ ถาม อีีกทั้�งการเริ่�มต้้นกระบวนการจากการสร้้างฉากทััศน์์เชิิงบวกตามด้้วยฉากทััศน์์เชิิงลบ

อนาคตศึกษา | 246 ทำำ�ให้้สามารถเข้้าใจถึึงหลัักการและคุุณค่่าของผู้ �ตอบในการพิิจารณาเกี่่�ยวกัับอนาคตได้้เป็็นอย่่างดีี กระบวนการดังั กล่า่ วยังั เปิดิ โอกาสให้ผู้้�ตอบสามารถพินิ ิจิ พิเิ คราะห์ร์ ายละเอีียดของคำำ�ตอบของตนเอง อย่่างละเอีียดและเป็็นระบบ ในกรณีของฉากทศั น์ที่น่าจะเกดิ ขนึ้ จริง เทกส์เตอรพ์ บว่า ผู้ตอบไม่คอ่ ยพึงพอใจกบั ภาพอนาคต ทพ่ี ฒั นาขนึ้ มาตอนแรกเทา่ ใดนกั เทกสเ์ ตอรจ์ งึ เพม่ิ เนอ้ื หาอกี หนง่ึ บท ซง่ึ มเี นอ้ื หาเนน้ ฉากทศั นเ์ ชงิ บวก ทอ่ี าจไมใ่ ชภ่ าพทเี่ ปน็ ไปไดม้ ากทส่ี ดุ แตเ่ ปน็ ภาพอนาคตทเ่ี ชอ่ื วา่ เกดิ ขน้ึ ไดไ้ ด้ ถา้ ประเทศไทยมผี นู้ �ำทด่ี ี และมโี ชคชว่ ยในบางเรอื่ ง ฉากทศั นแ์ นวนเ้ี รยี กวา่ possidictive ซงึ่ เชอื่ วา่ ฉากทศั นท์ สี่ �ำคญั ไมต่ อ้ งเปน็ ฉากทศั นท์ มี่ โี อกาสเกดิ สงู ทสี่ ดุ แตเ่ ปน็ ฉากทศั นท์ ม่ี โี อกาสเกดิ ขน้ึ สงู พอทคี่ มุ้ กบั ความพยายามอยา่ งเตม็ ที่เพื่อให้บรรลุผลตามฉากทัศน์น้ัน ส่วนส�ำคัญส่วนต่อจากน้ันจึงอยู่ท่ีการค้นคิดและก�ำหนดนโยบาย ส�ำคัญทีต่ อ้ งด�ำเนนิ การอยา่ งเรง่ ดว่ น เพอ่ื ใหก้ ารพฒั นาประเทศไทยเป็นไปตามฉากทัศน์ทสี่ ร้างขนึ้ มา เทกสเ์ ตอรก์ ลา่ วทง้ิ ทา้ ยไวใ้ นบทความวจิ ยั ดงั กลา่ ววา่ ผลลพั ธข์ องนโยบายสาธารณะตามฉากทศั น์ ท่พี ัฒนาข้ึนมานนั้ ต้องใชเ้ วลาหลายปีถึงจะสามารถประเมนิ ได้ แต่อย่างน้อยหนงั สือฉากทศั นท์ เี่ ขยี น ไวก้ ไ็ ดร้ บั ความสนใจอยา่ งแพรห่ ลายในกลมุ่ ผนู้ �ำ นกั นโยบายและนกั วางแผนของประเทศไทยในยคุ นน้ั ประกอบกับ ดร.สิปปนนท์เองก็รับต�ำแหน่งผู้บริหารประเทศในระดับรัฐมนตรีและผู้น�ำองค์กรส�ำคัญ ในการวางแผนพัฒนาประเทศ ทั้งส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ฉากทัศน์ท่ีพัฒนาข้ึนมาน่าจะเป็นประโยชน์ ส�ำหรับการพฒั นานโยบายสาธารณะในดา้ นเหล่านี้ นอกจากนี้วิธีการข้างต้นนี้ งานวิจัยเก่ียวกับอนาคตจ�ำนวนหน่งึ ในประเทศไทยได้วิเคราะห์แนว โนม้ การเปลยี่ นแปลงจากอดตี ถงึ ปจั จบุ นั และพยายามคาดการณอ์ นาคตโดยใชว้ ธิ สี อบถามความคดิ เหน็ ของผเู้ ชย่ี วชาญหรอื ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ประเดน็ ทตี่ อ้ งการศกึ ษา โดยตง้ั ค�ำถามตรง ๆ เกยี่ วกบั ภาพอนาคต เชน่ ในงานวจิ ยั ที่ศกึ ษาสภาพการณข์ องภาพยนตรไ์ ทยในอนาคต63ค�ำถามชดุ หนง่ึ ในแบบสอบถามเปน็ ค�ำถามง่าย ๆ เชน่ ทา่ นคิดวา่ ภาพยนตร์ไทยอนาคตจะเป็นอยา่ งไร บางค�ำถามเป็นประโยคที่เปิดใหผ้ ู้ ตอบเลอื กวา่ เหน็ ดว้ ย ไมเ่ หน็ ดว้ ย หรอื เฉย ๆ กบั ประโยคนนั้ เชน่ ในอนาคตภาพยนตไ์ ทยจะไดร้ บั การ ยอมรับจากต่างประเทศมากขึ้น จะแขง่ ขันกับตลาดภาพยนตรใ์ นต่างประเทศมากขึ้น ฯลฯ เมอ่ื ได้ค�ำ ตอบจากแบบสอบถามแลว้ ผู้วจิ ัยจึงเอาค�ำตอบไปประมวลและวิเคราะห์ต่อในเชงิ สถติ ิ โดยอาจเสรมิ ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก การศึกษาอนาคตด้วยวิธีการดังกล่าวสามารถได้ข้อมูลท่ีแสดงภาพอนาคต ของผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ งมาไดร้ ะดบั หนึง่ แมว้ า่ อาจไมเ่ ปน็ ตามหลกั การและวธิ กี ารแนวอนาคตศาสตรท์ พี่ ฒั นา มาอย่างเปน็ ระบบดังเชน่ วิธกี ารเดลฟายหรอื วธิ ีชาติพนั ธุ์วรรณนากต็ าม การศึกษาอนาคตดว้ ยเดลฟายแบบชาติพันธ์ุวรรณนา วิธีการหนึ่งที่พัฒนาต่อยอดมาจากวิธีชาติพันธุ์วรรณนาของเทกส์เตอร์คือการผสมผสานวิธีเดล ฟายกับวธิ ีชาตพิ นั ธว์ุ รรณนา ซง่ึ เสนอเป็นคร้ังแรกโดยจุมพล พลู ภทั รชีวนิ ในระหวา่ งการศึกษาระดบั ปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตา (Minnesota) สหรัฐอเมริกา และพบกับรอเบิร์ต เทกส์เตอร์

247 | อนาคตศึกษา วิธีการศึกษาอนาคตด้วยเดลฟายแบบชาติพันธุ์วรรณนามุ่งเสริมจุดแข็งและลดจุดอ่อนของวิธีการท่ีมี มาแต่เดมิ ทัง้ สองวิธี ในการน้ี จุมพล พลู ภัทรชีวินจงึ ทดลองวิเคราะหก์ รณีศกึ ษาอนาคตทางเลือกของ มหาวิทยาลัยไทยโดยใชว้ ิธกี าร EDFR ท่พี ัฒนาขนึ้ มา64 และเผยแพร่แนวคิดและวธิ กี ารดงั กล่าวในงาน เขียนและงานวิจยั ในช่วงต่อมาทงั้ ที่เป็นภาษาไทย65 และภาษาองั กฤษ66 งานวจิ ยั ในประเทศไทยที่ประยกุ ตใ์ ชว้ ธิ กี าร EDFR ในการศกึ ษาอนาคตครอบคลมุ หวั ขอ้ ในหลาย สาขา ทั้งสาขาการพยาบาล อาทิ เรื่องอนาคตบทบาทการพยาบาลเพื่อการพัฒนาการดูแลสุขภาพ ตนเอง67 และเรื่องรูปแบบการบริการที่เป็นเลิศของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย68 ไปจนถึง เรื่องแนวโน้มการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม69 ทั้งนี้ กลมุ่ งานวจิ ยั ที่ใชเ้ ทคนิค EDFR ทพี่ บมากทีส่ ดุ คอื งานวิจัยดา้ นการศกึ ษา อาทิ การศึกษาอนาคตของ การใช้ e-Education ในการบริหารงานวิชาการสถาบันอดุ มศกึ ษา70 การพฒั นาแนวทางการจดั การ ศึกษาที่มีคุณภาพส�ำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ71 และอนาคตภาพการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี72 รวมถึงงานวิจัยในระดับวิทยานิพนธ์บัณฑิตศึกษาอีกจ�ำนวนหน่ึงที่ประยุกต์ใช้เทคนิคนี้ในการศึกษา ภาพอนาคตในประเทศไทย ขอ้ สงั เกตหนง่ึ จากการประมวลงานวจิ ยั ในประเทศไทยทใี่ ชเ้ ทคนคิ การศกึ ษาอนาคตแนวนค้ี อื โดย มากเปน็ การศกึ ษาแนวโนม้ การเปลยี่ นแปลงและภาพอนาคตในเชงิ ปฏฐิ าน พรอ้ มกบั การเชอ่ื มโยงตอ่ ไปยังประเด็นเชิงปทัสถานท่ีค่อนข้างชัดเจน ผลลัพธ์จากการวิจัยจึงมีนัยเชิงนโยบายชัดเจนในระดับ หนง่ึ แตง่ านวจิ ยั ที่ประมวลมามกั ไมม่ กี รอบแนวคดิ เชงิ ทฤษฎแี ละไมม่ กี ารวเิ คราะหป์ จั จยั และบรบิ ททมี่ ี ผลตอ่ ประเดน็ การวจิ ยั นน้ั เทา่ ใดนกั งานวจิ ยั จงึ ดเู หมอื นเนน้ การทดลองใชเ้ ทคนคิ วธิ กี ารศกึ ษาอนาคต มากกวา่ การทดสอบสมมติฐานหรือทฤษฎี ด้วยเหตุดังกลา่ ว ผลการศึกษาจากงานเหล่านจี้ ึงไมน่ �ำไป สูก่ ารสรา้ งองคค์ วามร้เู ชงิ ทฤษฎีเทา่ ทค่ี วร อยา่ งไรก็ตาม ปญั หาดงั กล่าวอาจเป็นขอ้ จ�ำกดั ไม่ใช่เฉพาะ ของวิธีการวิจยั แนวนี้ แตเ่ ป็นข้อจ�ำกัดของอนาคตศกึ ษาในภาพรวมก็เปน็ ได้

อนาคตศึกษา | 248 หนังสอื ด้านอนาคต ศาสตร์ภาษาไทย ที่่�ผ่่านมานัักเขีียนและนัักวิิจััยชาวไทยได้้ประมวลความรู้้�ด้้านอนาคตศาสตร์์มาแล้้วบ้้าง โดยตีีพิิมพ์์ เผยแพร่่เป็็นบทความวิิชาการ ตำำ�ราและหนัังสืือออกมาเป็็นภาษาไทย ดัังตััวอย่่างต่่อไปนี้้� ประวัติศาสตร์อนาคต (ชยั วฒั น์ คุประตกลุ ) ชัยวฒั น์ คปุ ระตกลุ ถือเปน็ นกั วิจัยและนักเขยี นรุ่นแรกคนหนง่ึ ของประเทศไทยทเ่ี ขยี นบทความเกยี่ ว กับอนาคตศาสตร์และน�ำเสนอความคิดเก่ียวกับภาพอนาคตในด้านต่าง ๆ ไว้หลายงานด้วยกัน อาทิ ในบทความช่อื รัตนโกสินทร์ 400 ซ่งึ ตีพิมพ์ใน พ.ศ. 2525/26 ชัยวัฒน์แนะน�ำอนาคตศาสตร์ โดย อธบิ ายความหมาย ความเปน็ มา และหลกั การพนื้ ฐานของศาสตรด์ งั กลา่ ว แลว้ น�ำเสนอภาพววิ ฒั นาการ ของประเทศไทยนับต้ังแต่เริ่มยุครัตนโกสินทร์ ไปจึงภาพอนาคตของประเทศไทยในปีที่ 400 ของยุค รตั นโกสินทร์ คือ พ.ศ. 272573 ปจั จยั ทดี่ ูเหมือนเปน็ แรงขบั เคลอื่ นส�ำคัญของภาพอนาคตตามทผ่ี ูเ้ ขยี น น�ำเสนอคือความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาทิ เทคโนโลยีการสื่อสาร เทคโนโลยี นวิ เคลียร์ วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ ฯลฯ เนอื้ หาในบทความไม่ไดน้ �ำเสนอเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในเชิง บวกเท่านั้น แต่รวมถงึ ภาพอนาคตในเชงิ ลบ ทั้งความวุ่นวายสับสนในสังคม ปญั หาการผลติ อาหารไม่ พอเพยี งต่อประชากรโลกทีเ่ พมิ่ ขึ้นอย่างรวดเร็ว เปน็ ตน้ เน้อื หาสว่ นนีด้ คู ล้ายกับการน�ำเสนอฉากทศั น์ ที่เขียนข้ึนมาจากแนวโน้มท่ีผู้เขียนสังเกตมาและจินตนาการไปพร้อมกัน นับว่าเป็นบทความที่เปิดมุม มองเกี่ยวกับอนาคตศาสตร์ให้กว้างมากข้ึนส�ำหรับผู้อ่าน แม้ว่าอาจไม่ได้แสดงวิธีการศึกษาตามหลัก อนาคตศาสตรอ์ ย่างเปน็ ระบบโดยตรงกต็ าม ในอีกบทความหนึ่ง คอื “วถิ ีแห่งนักอนาคตศาสตร์” จากพรมแดนความรู้ (วาระครบรอบ 100 ปี พระนาอนุมานราชธน) ซ่ึงเผยแพร่โดยสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ใน พ.ศ. 2532 ชัยวฒั น์เปรียบเทียบให้เหน็ ถึงความแตกต่างระหวา่ งอนาคตศาสตรก์ ับโหราศาสตร์ โดยอธบิ าย วา่ อนาคตศาสตรเ์ ปน็ วิทยาศาสตรท์ ่แี สดงภาพอนาคตท่ีมีหลายลักษณะและรปู แบบ และเป็นอนาคต ที่มนุษย์อาจสามารถสร้างขึ้นเอง ในขณะที่โหราศาสตร์มุ่งแสดงภาพอนาคตเดียวและเป็นอนาคตที่ ก�ำหนดไว้แลว้ บทความดังกลา่ วยังบรรยายถึงความเป็นมาของอนาคตศาสตรใ์ นต่างประเทศจากอดตี จนถึงช่วง พ.ศ. 2532 รวมถงึ ความพยายามจดั ตง้ั สมาคมอนาคตนยิ มแหง่ ประเทศไทย (Thailand Future Society)

249 | อนาคตศกึ ษา ใน พ.ศ. 2530 และการจดั ตงั้ สถาบนั วจิ ยั เพอ่ื การพฒั นาประเทศไทย หรอื ทดี อี ารไ์ อ ทดี่ �ำเนนิ งานศกึ ษา และวจิ ัยเชิงนโยบายเพ่ือวางแผนพฒั นาประเทศไทยในอนาคตระยะส้นั และระยะยาว โดยเฉพาะงาน วิเคราะหแ์ นวโน้มทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทย บทความดงั กลา่ วยงั กล่าวถึงนักอนาคตศาสตร์ท่ีส�ำคัญของโลก และน�ำเสนอแนวคิดและเทคนคิ วิธีพยากรณ์อนาคตต่าง ๆ โดยน�ำเสนอรายละเอียดพอสังเขปเกี่ยวกับเทคนิควิธีท่ีได้รับความนิยม ทส่ี ดุ 3 วธิ ี คือ วิธตี ่อแนวโน้ม (trend extrapolation) วธิ กี ารเดลฟายและเทคนิคสร้างฉากอนาคต (scenario) ชยั วฒั นก์ ลา่ วไวใ้ นบทความดงั กลา่ ววา่ ยงั ไมม่ หี ลกั สตู รและการเรยี นการสอนดา้ นอนาคต ศาสตรโ์ ดยตรงในประเทศใน พ.ศ. 2532 แตค่ าดว่าจะมีการเปดิ การเรียนการสอนดา้ นอนาคตศาสตร์ ในอนาคตอันใกล7้ 4 เป็นที่น่าสนใจว่า ณ เวลานี้ใน พ.ศ. 2563 ยงั ไม่มกี ารเรียนการสอนด้านน้โี ดยตรง ในประเทศไทย ชยั วฒั นเ์ ขยี นสง่ ทา้ ยในบทความดงั กลา่ ววา่ ทกุ คนสามารถเปน็ นกั อนาคตศาสตรไ์ ด้ ถา้ เชอ่ื วา่ อนาคตอยู่ในก�ำมอื ของตนเอง และเป็นความรบั ผิดชอบของตนเองที่จะสรา้ งอนาคตขน้ึ มา มใิ ช่ ตามพรหมลิขติ ดวง หรืออ�ำนาจธรรมชาติใด ๆ อกี ทัง้ อนาคตของประเทศไทยข้นึ อยู่กบั ประชาชนคน ไทยสว่ นใหญเ่ ปน็ ส�ำคญั แนวคิดดังกลา่ วสะทอ้ นแนวคิดหลกั ของอนาคตศกึ ษาในยคุ นน้ั และในยคุ ตอ่ มาทีเ่ ช่ือวา่ อนาคตสามารถก�ำหนดไดด้ ว้ ยการตัดสินใจและการด�ำเนินการในปจั จุบนั อีกบทความหน่งึ ที่ชยั วฒั น์ คปุ ระตกลุ เขียนไว้ในวารสาร มิติท่ี 4 ฉบับพเิ ศษ 3 ใน พ.ศ. 2531 คอื เร่อื ง “ประวตั ศิ าสตรอ์ นาคต” โดยมเี นือ้ หาอธิบายแนวคิด หลกั การ และตวั อยา่ งการเขียนบนั ทึก หรือล�ำดับเหตกุ ารณท์ คี่ าดว่าหรือหวงั ว่าจะเกดิ ข้ึนในอนาคต อีกบทความหนง่ึ คอื “อนาคตศาสตรก์ บั นิยายวทิ ยาศาสตร์” ซึง่ ตพี มิ พ์ในวารสารมติ ทิ ่ี 4 มีเนื้อหาเก่ียวกับประเภทและความส�ำคญั ของนยิ าย วิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะส�ำหรบั การสร้างภาพอนาคตทมี่ ีจดุ มุ่งหมายคลา้ ยกบั อนาคตศาสตร์ แตแ่ ตก ตา่ งกันในด้านวิธกี ารมองอนาคตและขอบเขตความเปน็ ไปได้ของอนาคต75 ชยั วัฒน์ยังเขยี นชดุ บทความ “เทคโนโลยีส่อู นาคต” ในนติ ยสารพบโลก ใน พ.ศ. 253476 เน้ือหา หลักคือการแนะน�ำเทคโนโลยีที่คาดว่าน่าจะมีผลต่ออนาคตของมนุษย์ ทั้งเทคโนโลยีการแพทย์ เทคโนโลยพี ลงั งานแสงอาทติ ยแ์ ละไฮโดรเจน เทคโนโลยหี นุ่ ยนต์ นาโนเทคโนโลยี รวมถงึ อนาคตของ การเรียนรู้และการส�ำรวจอวกาศ บทความเก่ียวกับอนาคตศาสตร์ท่ีกล่าวมาท้ังหมดน้ีรวบรวมอยู่ใน หนงั สอื “ประวัติศาสตรอ์ นาคต” ซึ่งตีพมิ พโ์ ดยส�ำนักพิมพ์คบไฟ ใน พ.ศ. 2540 อนาคตศาสตร์ (นาตยา ปิลันธนานนท์) เทา่ ทส่ี ามารถสบื คน้ ไดใ้ นงานศกึ ษาครงั้ น้ี หนงั สอื “อนาคตศาสตร”์ ของนาตยา ปลิ นั ธนานนท7์ 7 ซงึ่ เผยแพร่ ใน พ.ศ. 2526 นา่ จะเปน็ ต�ำราอนาคตศาสตรเ์ ลม่ แรกทเี่ ขยี นเปน็ ภาษาไทย และครอบคลมุ องคป์ ระกอบ ของความรูพ้ นื้ ฐานดา้ นอนาคตศกึ ษาในฐานะศาสตร์แขนงหนึ่ง เนอ้ื หาในหนังสือเล่มน้ใี หค้ วามส�ำคญั กบั การศกึ ษาอนาคตในฐานะวิธีการและเครือ่ งมอื ในดา้ นการศกึ ษาและการเรียนรู้ สมมติฐานหลกั คือ มโนทศั น์เก่ียวกับอนาคตมีส่วนในการสร้างแรงจูงใจใหก้ บั ผ้เู รียน ความสามารถของผูเ้ รียนในการมอง อนาคตจะสัมพันธ์กับสมรรถภาพทางการเรียนและประสบการณ์ของผู้เรียน ซึง่ เป็นพ้ืนฐานของความ สามารถในการด�ำรงชีวิตอยู่และรับมือกับการเปล่ียนแปลงในสังคม พ้ืนฐานความรู้และทักษะในการ

อนาคตศึกษา | 250 ศกึ ษาทม่ี งุ่ ไปยังอนาคตขา้ งหน้า จึงเปน็ กญุ แจส�ำคัญทท่ี �ำใหผ้ ู้เรียนสามารถปรับตวั ไดด้ ีในสังคมที่มกี าร เปลีย่ นแปลงอยเู่ สมอ หนงั สอื เลม่ นแี้ บง่ ออกเปน็ 12 บท สองบทแรกกลา่ วถงึ การเปลย่ี นแปลงในประวตั ศิ าสตรโ์ ลก และ แนวโน้มและปัญหาที่น่าจะเกิดข้ึนในอนาคต เนื้อหาใน 3 บทต่อมาเป็นแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการ แสวงหาอนาคตและมโนทัศน์และหลักการท่ีเป็นพ้ืนฐานของอนาคตศาสตร์ รวมไปถึงเนื้อหาที่อธิบาย เก่ียวกับนกั อนาคตศาสตร์และแนวคดิ เร่อื งอนาคต เนือ้ หาสว่ นที่ 3 ต้งั แตบ่ ทที่ 6 ถงึ 10 เปน็ เรอ่ื งเก่ียว กบั การสอนอนาคตศาสตร์ ทงั้ หลกั สตู ร วธิ สี อน กจิ กรรมการสอน การสรา้ งจนิ ตนาการอนาคตดว้ ยนยิ าย วิทยาศาสตร์ การสืบสวนสอบสวนค่านิยมและอนาคตศาสตร์ และการประเมินผลการศึกษาอนาคต ศาสตร์ บทสุดท้ายเป็นเร่ืองคุณประโยชนใ์ นภาพรวมของอนาคตศาสตร์ เนื้อหาในบทท่ี 7 ประมวลวิธีการพยากรณ์ท่ีส�ำคัญไว้จ�ำนวนหนึ่ง อาทิ วิธีการเดลฟาย วิธีการ วิเคราะห์ด้วยตาราง วงล้ออนาคต วิธีการสร้างอนาคตจ�ำลอง การเขียนเร่ืองราวเกี่ยวกับอนาคต (scenario) วิธีต้นไม้ความเก่ียวข้อง การวิจัยด�ำเนินงาน การวิเคราะห์ต้นทุนและประโยชน์ การ วิเคราะห์ระบบ การประเมินเทคโนโลยี การคาดการณ์ด้วยวิธีวิเคราะห์แบบมอนติคาร์โล (Monte Carlo Analysis) การพยากรณส์ ณั ฐาน (Morphological forecasting) อนาคตทางเลอื ก การคาด การณท์ ฤษฎคี วามน่าจะเป็นแบบเบย์ (Bayesian statistical forecasting) การวิเคราะห์แรงผลกั ดัน (Force Analysis) การวิเคราะหแ์ บบหว่ งโซม่ าร์คอฟ (Markov Chain) การวิเคราะห์ด้วยสัญญาณของ การเปลย่ี นแปลง (Precursor Forecasting) ผู้เขียนยงั ยกตัวอย่างกิจกรรมทใ่ี ช้ในการสอนแนวคดิ และ วิธกี ารศกึ ษาอนาคตข้างต้น นอกจากการประมวลความรู้พื้นฐานเก่ียวกับอนาคตศาสตร์ หนังสือเล่มดังกล่าวยังมีเนื้อหาท่ีน่า สนใจในบทก่อนสุดท้ายเก่ียวกับโลกพระศรีอาริย์ (utopian) ซ่งึ ถือเป็นโลกแห่งความฝันที่เต็มไปด้วย สันตสิ ขุ ความมน่ั คงและความสขุ นบั เป็นแนวคิดเชงิ อดุ มคตแิ บบยูโทเปียแบบหนง่ึ ขอ้ เสนอส�ำคญั ของ เนื้อหาในบทนี้คือ แม้ว่าสังคมพระศรีอาริย์อาจไม่ใช่สังคมที่สมบูรณ์ที่สุดในทุกรูปแบบ และเป็นไปไม่ ได้ที่จะอธิบายโลกในอุดมคติให้ทุกคนพอใจได้ แต่เราสามารถสร้างมโนทัศน์ของโลกท่ีพึงประสงค์ได้ แม้ว่าอาจไม่ใชโ่ ลกทสี่ มบรู ณ์ที่สดุ กต็ าม หยง่ั รอู้ นาคต (อนุช อาภาภิรม) หนงั สอื “หยั่งรอู้ นาคต: หลักการ ทฤษฎีและเทคนคิ อนาคตศกึ ษา” โดยอนชุ อาภาภริ ม เปน็ หนงั สอื เล่มหน่ึงที่ประมวลความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอนาคตศึกษาเป็นภาษาไทยได้อย่างละเอียดและครอบคลุม หนงั สอื เล่มน้ตี ีพิมพ์โดยมูลนธิ ิศูนย์ส่ือเพือ่ การพัฒนา เมื่อ พ.ศ. 2553 จงึ ถือว่าไม่เกา่ มาก เนอื้ หาหลาย สว่ นอธิบายแนวโนม้ ส�ำคญั ในระดบั โลกทยี่ ังคงมีผลกระทบต่อการเปล่ยี นแปลงในปจั จบุ ัน โครงสรา้ งเนอื้ หาของหนงั สอื แบง่ ออกเปน็ 4 สว่ น เนอื้ หาสว่ นแรกมงุ่ สรา้ งความเขา้ ใจพน้ื ฐานและ หลกั การทว่ั ไปเกย่ี วกบั อนาคตศกึ ษา โดยเรม่ิ จากองคป์ ระกอบพนื้ ฐานของอนาคตศกึ ษา ค�ำอธบิ ายเกยี่ ว กบั เวลา ซึง่ เปน็ พนื้ ฐานของการท�ำความเขา้ ใจเกย่ี วกบั อนาคต เรือ่ งหลกั การอนาคตศกึ ษา ซึง่ ประกอบ ด้วยความเช่ือท่ัวไปเกี่ยวกับอนาคตศึกษา โดยเฉพาะความเชื่อท่ีว่า ภาพอนาคตไม่ได้มีหนึ่งเดียวแต่มี

251 | อนาคตศึกษา หลากหลาย ตามดว้ ยเนอ้ื หาทรี่ ะบถุ งึ ค�ำถามพน้ื ฐานของอนาคตศกึ ษา ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ยก์ บั อนาคต เนอ้ื หาสว่ นทส่ี องเปน็ สว่ นทผ่ี เู้ ขยี นใหค้ วามส�ำคญั เปน็ พเิ ศษ คอื ทฤษฎแี ละกรอบความคดิ ส�ำคญั ทใี่ ชใ้ นการวเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะหป์ รากฏการณแ์ ละเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ โดยมที ง้ั ทฤษฎที างสงั คมศาสตร์ และทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ เน้ือหาส่วนท่ีสามอธิบายเคร่ืองมือและเทคนิคท่ีใช้ในการศึกษาอนาคต เนอ้ื หาส่วนสดุ ท้ายน�ำเสนอแนวทางการน�ำเอาหลักการและเทคนคิ อนาคตศกึ ษาไปปฏบิ ัติตอ่ เนอื้ หาในหนงั สอื เลม่ ดงั กลา่ วอธบิ ายทฤษฎดี า้ นสงั คมศาสตรอ์ ยบู่ า้ ง แตเ่ นอื้ หาหลกั สอ่ื ถงึ ความเชอ่ื พนื้ ฐานวา่ ปจั จยั ดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยเี ปน็ แรงขบั เคลอ่ื นส�ำคญั ทที่ �ำใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลง ในอนาคต โดยเฉพาะพ้ืนฐานด้านหลักเหตุผล เน้ือหาเก่ียวกับวิวัฒนาการและหลักการพ้ืนฐานของ อนาคตศกึ ษาที่ประมวลไวใ้ นหนงั สอื เลม่ นข้ี ยายความไปบางสว่ นแลว้ ในบทท่ี 2 และ 3 ในหนงั สอื เลม่ นี้ หนังสือเล่มน้ีน�ำเสนอหัวข้อหน่ึงท่ีน่าสนใจเกี่ยวกับความเช่ือมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบันและ อนาคต ผูเ้ ขยี นเรียกความเชื่อมโยงนน้ั ว่า “เสน้ ด้ายอนาคต” ซง่ึ หมายถึง สงิ่ ทเี่ ชื่อมอดตี ปจั จุบนั และ อนาคตของสังคมมนุษย์ในทางโลกวสิ ยั และเป็นวิทยาศาสตร์เข้าดว้ ยกนั องค์ประกอบของ “เสน้ ด้าย อนาคต” มี 3 ประการ ไดแ้ ก่ (1) วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ซงึ่ เปน็ ปจั จยั ทข่ี บั เคลอ่ื นการเปลยี่ นแปลง ชีวิตมนุษย์และสังคม เป็นปัจจัยที่ช่วยต้านหายนะท่ีเกิดข้ึนกับมนุษยชาติ และเป็นปัจจัยท่ีแสดงให้ เห็นถึงข้อจ�ำกัดดา้ นตา่ ง ๆ ทงั้ ขอ้ จ�ำกัดของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และขอ้ จ�ำกัดของระบบทีม่ นษุ ย์ สร้างข้นึ อาทิ ระบบเศรษฐกจิ ระบบเมอื ง และระบบการเมือง (2) การจดั ระเบียบหรอื การควบคุม ทางสงั คม ทง้ั การจัดระดับการควบคมุ ตามโครงสร้างสงั คม เช่น ชนชนั้ ในสงั คม การควบคมุ ดา้ นการ ปกครอง การจัดระเบียบทางเศรษฐกิจ ทางวัฒนธรรม รวมถึงการจัดระเบียบโลกด้วยกฎหมาย ข้อ ตกลงและมาตรฐานตา่ ง ๆ และ (3) ตวั มนษุ ยเ์ อง ซ่ึงเปน็ ผ้ลู งมอื ปฏิบัติ โดยการรบั รูแ้ ละเรยี นรู้จาก ประสบการณ์ในอดตี การคาดหวังกบั อนาคต และการรบั ผลลัพธ์จากการปฏิบตั 7ิ 8 ทฤษฎีด้านสังคมศาสตร์ในฐานะพ้ืนฐานของอนาคตศึกษาที่ประมวลไว้ในหนังสือเล่มน้ีมีตั้งแต่ ทฤษฎีความมั่งค่ัง ทฤษฎีสังคมนิยม วัตถุนิยมประวัติศาสตร์ ทฤษฎีชนชั้นน�ำ ทฤษฎีสมคบคิด ไปจนถึงทฤษฎีอนัตตา ส่วนทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ผู้เขียนประมวลแนวคิดเกี่ยวกับสถิติศาสตร์ ทฤษฎไี รร้ ะเบยี บ ทฤษฎีฟิสิกส์ของนิวตนั กฎอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamics) ทฤษฎสี รา้ งทรง (Constructal Theory) ทฤษฎวี วิ ฒั นาการ จติ วคิ ราะหแ์ ละวทิ ยาศาสตรแ์ หง่ การรบั รู้ ปญั ญาประดษิ ฐ์ ไปจนถึงทฤษฎีสัมพทั ธภาพและทฤษฎคี วอนตัม หนงั สอื เลม่ ดงั กลา่ วยงั อธบิ ายถงึ เทคนคิ การท�ำนายอนาคตแบบเกา่ ทงั้ แบบทม่ี ผี ทู้ �ำนายทชี่ ดั เจน เช่น โหร หมอดู คนทรงและนกั นัง่ ทางใน ฯลฯ และแบบการเสย่ี งทาย เช่น การเส่ยี งติว้ เส่ยี งเซยี มซี รวมถึงหลักการและวิธีการของการท�ำนายแบบเก่า ซ่ึงแตกต่างจากกรอบแนวคิดและวิธีการของการ คาดการณ์อนาคตด้วยหลักทางวทิ ยาศาสตร์ เทคนคิ อนาคตศึกษาที่ผ้เู ขยี นประมวลไว้ในหนงั สอื เลม่ ดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ วธิ ฉี ากอนาคต (scenario) เทคนคิ เดลฟาย วธิ กี ารไตถ่ ามผเู้ ชยี่ วชาญกบั การไตถ่ ามชาว บา้ น รวมถึงวธิ ีเห็นลว่ งหน้า (foresight) วิธวี เิ คราะห์แนวโน้ม และการรเู้ อง บทสุดท้ายของหนังสือเล่มน้ีเป็นเรื่องการน�ำหลักการและเทคนิคอนาคตศึกษาไปปฏิบัติ โดย มีเน้ือหาเกี่ยวกับภาพอนาคตของศตวรรษท่ี 21 อาทิ โลกาภิวัตน์ การจัดระเบียบโลก สงครามโลก

อนาคตศึกษา | 252 คร้ังต่อไป การพัฒนาดา้ นวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี และค่านิยมของคนในโลก ขอ้ เสนอหน่งึ ของผเู้ ขยี น คอื ศรวรรษท่ี 21 จะเปน็ ศตวรรษแหง่ การเปลยี่ นผ่านของระบบทุน จากระบบทนุ การเงนิ (financial capitalism) เป็นระบบทุนแบบอนื่ ตวั เลอื กทีม่ ีอยู่ได้แก่ ทุนนิยมรากหญา้ ทุนนยิ มสร้างสรรค์ (crea- tive capitalism) และทุนนิยมธรรมชาติ (natural capitalism) นอกจากน้ียังมีการน�ำเสนอภาพ อนาคตทพ่ี งึ ประสงคข์ องศตวรรษที่ 21 อนาคตศึกษา (สุรชาติ บำ� รงสขุ ) วงการวิชิ าการและนโยบายด้า้ นความมั่น� คงของประเทศไทยก็ต็ ระหนักั ถึงึ ความสำำ�คัญั ของอนาคตศึกึ ษา เช่่นกััน จุุลสารความมั่น� คงศึกึ ษา ฉบับั ที่่� 87 ใน พ.ศ. 2554 เรื่อ� ง “อนาคตศึกึ ษา (Futures Studies)” โดยมีี สุุรชาติิ บำำ�รุงุ สุขุ เป็็นบรรณาธิกิ าร79 รวบรวมบทความและบทสรุุปจากการเสวนาความมั่ ง� คง “ อนาคตศึกึ ษากับั การประเมินิ ภัยั คุกุ คาม” ซึ่ง� จัดั โดยสถาบันั การข่า่ วกรอง สำำ�นักั ข่า่ วกรองแห่ง่ ชาติิ ร่ว่ ม กับั โครงการความมั่น� คงศึกึ ษา เมื่ �อวันั ที่�่ 21 ตุุลาคม 2553 จุุลสารฉบับั ดัังกล่่าวประกอบด้้วยบทความ โดยอนุชุ อาภาภิริ ม ซึ่ง� อธิบิ ายแนวคิดิ หลักั การและวิธิ ีีการพื้�นฐานเกี่ย�่ วกับั อนาคตศึกึ ษา หน่ว่ ยพื้�นฐาน ในการศึกึ ษาอนาคต รวมถึงึ ประเภทภัยั คุกุ คามและการประเมินิ ภัยั คุกุ คาม ผู้�เขีียนยกตัวั อย่า่ งของการ ใช้เ้ ทคนิคิ การตรวจวิเิ คราะห์์ (monitoring) และการสร้า้ งฉากอนาคต (scenario) ในการศึกึ ษาอนาคต อีีกบทความหนึ่่ง� โดยสุุรชาติิ บำ�ำ รุงุ สุขุ อธิบิ ายปัญั หาและภััยคุกุ คามในอนาคต ซึ่�งมีีแนวโน้ม้ ว่า่ จะเพิ่่�ม ความรุนุ แรงขึ้�นทั้�งหมด 15 ประเด็น็ ประกอบด้ว้ ยปัญั หาความมั่น� คงแบบเดิมิ 5 ประการ ซึ่ง� เป็น็ ความ มั่น� ทางทหารเป็น็ หลักั ได้แ้ ก่่ การก่อ่ การร้า้ ย การก่อ่ ความไม่ส่ งบ ความขัดั แย้ง้ เรื่อ� งเส้น้ เขตแดนและการ แย่ง่ ชิงิ ทรััพยากรตามแนวชายแดน อาวุุธทำ�ำ ลายล้้างสููง (weapon of mass destruction) และการ แทรกแซงด้ว้ ยการช่ว่ ยเหลือื ด้า้ นมนุษุ ยธรรมและปฏิบิ ัตั ิกิ ารรักั ษาสันั ติภิ าพ อีีก 10 ประเด็น็ ที่เ่� หลือื เป็น็ ปัญั หาความมั่�นคงรูปู แบบใหม่่ ได้้แก่่ ความมั่น� คงของมนุษุ ย์์ ความมั่�นคงทางสังั คม การอพยพย้้ายถิ่�น ของประชากร ความมั่�นคงด้า้ นสิ่�งแวดล้อ้ ม ความมั่น� คงด้้านน้ำำ�� ความมั่ �นคงด้า้ นพลังั งาน ความมั่�นคง ด้้านอาหาร ความมั่�นคงทางเศรษฐกิิจ ปััญหาอาชญากรรมระหว่า่ งประเทศ ในบทความดัังกล่า่ ว สุุร ชาติิชี้�ให้้เห็น็ ถึงึ ความท้า้ ทายของ “หลากมิติ ิิ หลายปััญหา” ซึ่�งเป็็นโจทย์์สำ�ำ คััญของการศึกึ ษาประเด็็น ด้้านความมั่น� คงในอนาคต บทความอ่นื ๆ นอกจากหนังสือและต�ำราทสี่ รุปความไปแล้ว ยงั มบี ทความอีกหลายฉบับทีอ่ ธิบายอนาคตศกึ ษา/อาทิ ในบทความ “กลวธิ วี จิ ยั อนาคต: กระบวนการอนาคตปรทิ ศั น”์ 80 พรชลุ ี อาชวอ�ำรงุ สรปุ ความรพู้ นื้ ฐาน เกีย่ วกับอนาคตศึกษา โดยอธบิ ายวา่ นกั อนาคต (futurists) คอื ใคร ตา่ งจากนักวางแผนอย่างไร การ วจิ ัยอนาคตคอื อะไร และมวี ิธีการศกึ ษาอนาคตอะไรบา้ ง บทความยงั อธิบายเก่ยี วกบั อนาคตปรทิ ศั น์ (future scanning) คือ การกวาดสัญญาณหาแนวโน้ม เหตุการณ์ และประเด็นท่ีก�ำลังปรากฏ (emerging issues) โดยผู้เขียนยกตัวอย่างปัจจัยที่มีผลต่ออนาคตของอุดมศึกษา และน�ำเสนอข้ัน ตอนของการท�ำอนาคตปรทิ ัศน์

253 | อนาคตศึกษา ในบทความ “การวิจัยอนาคต: การศึกษาแนวโน้มบทบาทองค์กร”81 อังศินันท์ อินทรก�ำแหง ทบทวนแนวคิดเก่ียวกับอนาคตศกึ ษา กระบวนการและตวั อยา่ งวธิ ีการศกึ ษาอนาคตในภาพรวม และ ทบทวนการวิจัยอนาคตเพื่อศึกษาแนวโน้มบทบาทขององค์กร โดยเฉพาะวิธีการวิจัยอนาคตด้วยเดล ฟายแบบชาติพันธุ์วรรณนา (EDFR) บทความดังกล่าวน�ำเสนอข้ันตอนการวิจัยแบบ EDFR อย่าง ละเอียด และยกตัวอย่างงานวิจัยอนาคตที่เป็นปริญญานิพนธ์ที่ศึกษาอนาคตด้วยวิธีการแบบ EDFR และวิธกี ารอืน่ ในลกั ษณะคลา้ ยกัน อนาคตวิทยา: ทฤษฎีและเทคนคิ การจดั การเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา (ชรินทร์ ม่ังค่ัง) หนงั สอื เลม่ ลา่ สดุ ที่ประมวลความรพู้ น้ื ฐานเกย่ี วกบั อนาคตศกึ ษาคอื “อนาคตวทิ ยา: ทฤษฎแี ละเทคนคิ การจดั การเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา” โดยชรนิ ทร์ มงั่ คงั่ ซงึ่ ตพี มิ พเ์ ผยแพรเ่ มอื่ พ.ศ. 255982 หนงั สอื เลม่ นม้ี ีจดุ มงุ่ หมายหลกั คอื (1) เพือ่ ใหน้ กั ศกึ ษาและบคุ ลากรดา้ นการศกึ ษาเขา้ ใจถงึ กระบวนทศั นแ์ ละวธิ กี ารดา้ น อนาคตวิทยา (2) เพอื่ ประยกุ ตใ์ ช้ในการเรียนการสอนวิชาสงั คมศึกษาในโรงเรยี น (3) เพอ่ื ส่งเสริมการ คดิ ค�ำถงึ ถงึ อนาคตและสภาพสงั คมในอนาคต และ (4) เพอ่ื ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ ดา้ นอนาคตวทิ ยาในการ ด�ำเนินชีวิตประจ�ำวนั เพื่อทา้ ยท่สี ุดจะพัฒนาคณุ ลักษณะที่พึงประสงคข์ องพลโลก (global citizens) ตอ่ ไป อนึง่ หนงั สอื เลม่ นใ้ี ชค้ �ำวา่ อนาคตวทิ ยา (futurology) เปน็ หลกั แตด่ เู หมอื นวา่ ใชใ้ นความหมาย เดยี วกับค�ำว่าอนาคตศาสตร์และอนาคตศึกษา (futures studies) ทงั้ หนงั สอื เลม่ นแี้ ละหนงั สอื ของนาตยา ปลิ นั ธนานนทท์ ที่ บทวนมากอ่ นหนา้ นี้ ใหค้ วามส�ำคญั กบั อนาคตศาสตร์หรืออนาคตวิทยาในฐานะองค์ความรู้และชุดเคร่อื งมือที่ช่วยให้นักศึกษาและผู้ที่สนใจ สามารถเรียนรู้และวางแผนอนาคต และด้านการศึกษาในวิชาสังคมศึกษาท่ีมุ่งสร้างทรัพยากรมนุษย์ ทีด่ ี มคี ุณภาพ และมคี ณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ส�ำหรบั สงั คมในอนาคต เนื้อหาในหนังสือแบ่งออกเป็น 7 บท บทท่ี 1 อธิบายสาระส�ำคัญและหลักการอนาคตวิทยา และการเปล่ียนแปลงทางสังคมกับอนาคตวิทยา อนาคตวิทยากับการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมไปถึง สถานการณแ์ ละแนวโน้มของสังคมและวัฒนธรรมไทย และคณุ ค่าของอนาคตวทิ ยา บทท่ี 2 อธิบาย ทฤษฎพี ้นื ฐานของอนาคตศกึ ษา อาทิ ทฤษฎีทางสงั คม ทฤษฎวี ิทยาศาสตรธ์ รรมชาติและส่ิงแวดล้อม และทฤษฎีมหากาฬหรือทฤษฎีสมคบคิด (conspiracy theories) ทฤษฎีอนัตตา ทฤษฎีไร้ระเบียบ (chaos theory) ทฤษฎสี รา้ งทรง (constructal theory) ทฤษฎกี ารเรยี นรสู้ งั คม ทฤษฎตี น้ ไมจ้ รยิ ธรรม (moral tree theory) และทฤษฎีพอเพียง รวมไปถึงเน้ือหาเกีย่ วกบั การเสรมิ สร้างการคิดเชงิ อนาคต เพ่ือพฒั นาความเปน็ พลโลก เนื้อหาในบทที่ 3 เน้นเรื่องการพัฒนาหลักสูตรและการสอนสังคมศึกษาที่มีองค์ประกอบด้าน อนาคตศกึ ษา บทท่ี 4 เปน็ เรอ่ื งเทคนคิ พยากรณ์ในการจัดการเรียนรูด้ ้านอนาคตศกึ ษา ในท้ังสองบท น้ี ผู้เขียนประมวลเทคนิคในการศึกษาอนาคตหลายแบบด้วยกัน เช่น เทคนิคเดลฟาย เทคนิคการ วจิ ัยอนาคตดว้ ยชาติพันธ์วุ รรณนาหรอื EDFR เทคนคิ การวจิ ยั อนาคตด้วยเดลฟายชาติพันธวุ์ รรณนา หรอื EDFR และวิธีอนาคตปรทิ ัศน์ เทคนิคตน้ ไม้ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง (relevance tree) เทคนิควงล้ออนาคต

อนาคตศึกษา | 254 เน้ือหาในบทที่ 5 อธิบายการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาการคิดเชิงอนาคตในวิชา สังคมศึกษา ส่วนบทที่ 6 เป็นเร่ืองกระบวนทัศน์คุณภาพการศึกษาเพ่ือพัฒนาจิตส�ำนักอนาคตของ พลโลก ทั้งปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา กระบวนทัศน์เชิงอนาคตในการพัฒนา มาตรฐานการศึกษา และกระบวนทัศน์ในการสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการเรียนรู้ ตามด้วยบทที่ 7 ที่ อธิบายแนวโน้มการศึกษาทางเลือกเพ่ือปวงชนในสังคมอนาคต ทั้งในด้านนโยบาย รูปแบบของการ จัดการศึกษาทางเลือกทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะเห็นได้ว่า เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้คล้ายคลึง กับเล่มอื่นท่ีทบทวนมาก่อนหน้าน้ี โดยมีเนื้อหาท่ีมุ่งเน้นเป็นพิเศษท่ีแนวคิดและวิธีการอนาคตศึกษา ส�ำหรับการพฒั นาด้านการเรียนรู้ในด้านศึกษาศาสตร์ ภาพรวมของเน้ือหาในหนังสือเกีย่ วกับอนาคตศึกษา จากการประมวลเนอื้ หาในหนงั สอื และต�ำราดา้ นอนาคตศกึ ษาภาษาไทยทม่ี อี ยใู่ นปจั จบุ นั พบวา่ เนอื้ หา โดยท่ัวไปครอบคลุมหัวข้อ แนวคิดและหลักการพ้ืนฐานของศาสตร์น้ีในระดับหน่ึง เน้ือหาโดยมาก เปน็ การแปลและประมวลความร้จู ากผลงานตพี มิ พ์และแหล่งข้อมลู ในตา่ งประเทศ โดยมเี นอ้ื หาเพยี ง เลก็ นอ้ ยทเ่ี ปน็ เรอ่ื งเกย่ี วกบั ประเทศไทยโดยตรง คงดว้ ยเพราะงานวจิ ยั และองคค์ วามรเู้ ชงิ ประจกั ษใ์ น ด้านนี้มีอยู่น้อยมาก จึงไม่มีแหล่งอ้างอิงท่ีเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับประเทศไทยส�ำหรับการเขียนหนังสือ และต�ำราเทา่ ใดนกั หากในอนาคตมงี านวจิ ยั และการศกึ ษาอนาคตเกย่ี วกบั ประเทศไทยมากขน้ึ นา่ จะ มีเนอื้ หาเชงิ ประจกั ษ์มากข้นึ ในหนังสอื ดา้ นอนาคตศาสตร์ท่เี ป็นภาษาไทย สว่ นเนอื้ หาเกย่ี วกบั วธิ กี ารและเครอ่ื งมอื การวเิ คราะหแ์ ละคาดการณอ์ นาคตนน้ั มอี ธบิ ายอยบู่ า้ ง ในหนงั สอื และต�ำราทกี่ ลา่ วถงึ ไปขา้ งตน้ แตเ่ นอ้ื หายงั คงเนน้ แนวคดิ และวธิ กี ารพน้ื ฐานทยี่ งั ไมส่ ามารถ น�ำไปประยกุ ตใ์ ชต้ อ่ ไดจ้ รงิ สง่ิ ทข่ี าดหายไปคอื คมู่ อื ทแ่ี สดงตวั อยา่ งของกระบวนการและขนั้ ตอนการน�ำ วิธกี ารและเครือ่ งมือคาดการณไ์ ปใช้จริง โดยอาจเปน็ คมู่ อื ท่พี ฒั นาและใช้ค่ไู ปกับการฝกึ อบรมเพม่ิ ขีด ความสามารถ ในรูปแบบการประชมุ เชงิ ปฏิบัติหรือเวิร์กชอ็ ป83

255 | อนาคตศึกษา การคาดการณ์เชงิ ยทุ ธศาสตรเ์ พอื่ วาง นโยบายสาธารณะ การพยากรณแ์ ละคาดการณแ์ นวโนม้ ในอนาคตเปน็ สว่ นส�ำคญั ของการวางแผนนโยบายสาธารณะ องค์ ประกอบพนื้ ฐานของการวางนโยบายและแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาตนิ บั ตง้ั แตส่ มยั แรก คอื การเกบ็ ขอ้ มลู พนื้ ฐานเกีย่ วกับประชากร เศรษฐกจิ และสังคม การตงั้ ถ่นิ ฐาน ฯลฯ เพ่อื น�ำมาคาดการณ์ และวางแผนพัฒนาประเทศ ความส�ำคัญของการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลส�ำหรับการคาดการณ์เพ่ือ การวางแผน สะทอ้ นใหเ้ ห็นไดใ้ นการยกระดบั และขยายงานของส�ำนกั งานสถิติกลางขึน้ เปน็ ส�ำนกั งาน สถิติแห่งชาติ พร้อมกับการจัดตั้งส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติภายใต้สังกัดส�ำนักนายก รัฐมนตรใี น พ.ศ. 2502 ในกระบวนการก�ำหนดแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาตโิ ดยส�ำนกั งานพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ นบั ตงั้ แตแ่ ผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1 ใน พ.ศ. 2504 เป็นต้นมา หนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวขอ้ ง ได้วิเคราะห์ตัวเลขเพ่ือคาดการณ์ประชากรและการเปล่ียนแปลงเศรษฐกิจ แม้ว่าการศึกษาอนาคต เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวไม่ได้ใช้วิธีการตามวิธีวิทยาของอนาคตศาสตร์โดยตรง แต่ถือว่าได้ศึกษาการ เปลี่ยนแปลงของอนาคตอย่างเป็นระบบ กลา่ วคือ การวเิ คราะหก์ ารเปล่ยี นแปลงด้านประชากรเปน็ ไป ตามกรอบแนวคดิ และวธิ วี ทิ ยาในดา้ นประชากรศาสตร์ สว่ นการพยากรณก์ ารเปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกจิ กเ็ ปน็ ไปตามหลกั การ แนวคดิ และวธิ ีการทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั ในวงการเศรษฐศาสตร์ในสมัยนน้ั ในขณะเดยี วกนั หนว่ ยงานทมี่ งุ่ พฒั นาระบบวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยแี ละนวตั กรรมของประเทศได้ ใชว้ ธิ กี ารดา้ นอนาคตศาสตรเ์ พอ่ื วางแผนนโยบายมาไดร้ ะยะหนง่ึ โดยประยกุ ตใ์ ชว้ ธิ กี ารใหมใ่ นการคาด การณ์ เชน่ การวเิ คราะหล์ �ำดบั เทคโนโลยี การจดั ท�ำแผนทนี่ �ำทางดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี พรอ้ มกนั น้ี รฐั บาลยงั จดั ตงั้ หนว่ ยงาน กลมุ่ งาน หรอื หนว่ ยวจิ ยั ทม่ี งุ่ ศกึ ษาและวจิ ยั เกย่ี วกบั อนาคตขนึ้ มาโดยเฉพาะ องค์กรเหล่านี้มีพื้นฐานแนวคิดในการคาดการณ์อนาคตที่แตกต่างจากงานพยากรณ์เพ่ือการวางแผน รายสาขาแบบดั้งเดิม โดยเน้นใช้แนวคิด หลักการและเครื่องมือวิเคราะห์ที่ได้รับการยอมรับและเป็น ทีน่ ยิ มในวงการอนาคตศกึ ษามากขน้ึ ตัวอยา่ งท่สี �ำคัญของหน่วยงานด้านอนาคตศึกษาในประเทศไทย คือศูนย์คาดการณ์เทคโนโลยีเอเปค ภายใต้ส�ำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวตั กรรมแหง่ ชาติ (สวทน.) ซึง่ ในปจั จบุ ันคือส�ำนกั งานสภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรมแห่งชาติ (สอวช.)

อนาคตศึกษา | 256 ศูนยค์ าดการณเ์ ทคโนโลยเี อเปค ตามทนี่ �ำเสนอไปกอ่ นหนา้ น้ี จากการทบทวนองคค์ วามรดู้ า้ นอนาคตศาสตรใ์ นประเทศไทย พบวา่ การ ศกึ ษาอนาคตเปน็ สว่ นหนง่ึ ของงานวจิ ยั และการศกึ ษาแนวโนม้ การเปลยี่ นแปลงในสาขาวชิ าตา่ ง ๆ และ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของการวิเคราะห์เพือ่ วางแผนนโยบายอย่แู ล้ว แมว้ ่าจะไมไ่ ด้ระบุอยา่ งชัดเจนวา่ เปน็ งาน ดา้ นอนาคตศาสตร์ อยา่ งไรกต็ าม ประเทศไทยไมไ่ ดม้ กี ารวางระบบองคก์ รและสถาบนั ของการวเิ คราะห์ และศกึ ษาอนาคตอย่างจรงิ จังและอย่างเป็นทางการ จนกระท่งั จัดตง้ั ศนู ย์คาดการณเ์ ทคโนโลยีเอเปค (APEC Center for Technology Foresight – APEC-CTF) ใน พ.ศ. 2541 จุดเริ่มต้นของการจัดตั้งศนู ยค์ าดการณเ์ ทคโนโลยีเอเปคเกดิ จากการท�ำงานร่วมกนั ของกลุ่มประ เทศเอเปค (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ซง่ึ เป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกจิ ระหว่างเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซ่งึ ก่อต้ังขึ้นใน พ.ศ. 2532 โดยมีวัตถุประสงค์เพ่อื ส่ง เสริมให้การเจรจาการค้าหลายฝ่ายรอบอุรุกวัยให้ประสบผลส�ำเร็จ และเพ่ือสร้างความร่วมมือเพ่ือ การเจรญิ เตบิ โตและการพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื ของภมู ภิ าค กจิ กรรมสว่ นส�ำคญั ของกลมุ่ ประเทศเอเปคคอื การ ประชมุ ระหวา่ งรฐั มนตรดี า้ นเศรษฐกจิ ของประเทศสมาชกิ หนึง่ ในนนั้ คอื รฐั มนตรดี า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี โดยมกี ารจดั ตงั้ คณะท�ำงานดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยอี ตุ สาหกรรม (Industrial Science and Technology Working Group - ISTWG) หลงั จากทเี่ อเปคไดจ้ ดั ตง้ั คณะท�ำงานดงั กลา่ วแลว้ มกี ารเสนอแนวคดิ จดั ตง้ั ศนู ยด์ า้ นการคาดการณ์ เทคโนโลยีข้นึ ทางรัฐบาลไทย โดยตวั แทนในขณะน้นั คอื ศาสตราจารย์ ดร.ยงยทุ ธ ยุทธวงศ์ เสนอให้ ประเทศไทยเปน็ เจ้าภาพ โดยมีประเทศสมาชกิ อ่ืน ๆ สนับสนุน เชน่ แคนาดาและออสเตรเลีย น�ำมา สู่การจัดตง้ั ศูนยค์ าดการณเ์ ทคโนโลยเี อเปคข้นึ ในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2541 โดยเป็นโครงการหนง่ึ ของคณะท�ำงาน ISTWG ทีม่ ีส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นเจ้า ภาพ84 ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2541 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการจัดตั้งศูนย์คาด การณเ์ ทคโนโลยเี อเปค ตามท่ีกระทรวงวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยแี ละส่งิ แวดลอ้ มเสนอ โดยได้รบั การ สนบั สนนุ จากกองทนุ เอเปคเปน็ เงนิ 50,000 เหรยี ญสหรฐั ฯ และจากงบประมาณรายจา่ ยประจ�ำ พ.ศ. 2541 ของกระทรวงวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละสง่ิ แวดลอ้ มในสว่ นของส�ำนกั งานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแหง่ ชาติ เปน็ เงิน 5,102,500 บาท85 วัตถุประสงค์หลักของศูนย์คาดการณ์เทคโนโลยีเอเปคคือการพัฒนาและเผยแพร่ความรู้และวิธี การคาดการณ์ และเพ่ือสร้างเสริมขีดความสามารถในการคาดการณ์และวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของกลุ่มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปค โดยด�ำเนินโครงการคาดการณ์ท้ังในระดับองค์กร ระดับประเทศ และระดบั ภูมภิ าค พร้อมกบั การอบรมความรแู้ ละทกั ษะด้านการคาดการณ์ ทงั้ น้ี ศนู ย์ คาดการณ์เทคโนโลยีเอเปคได้ย้ายมาอยู่ในสังกัดของส�ำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรมแหง่ ชาติ (สวทน.) เม่ือ พ.ศ. 2552 จนกระทั่ง สวทน. ปรบั เปล่ยี นพนั ธกิจ และชอ่ื ขององคก์ รเปน็ ส�ำนกั งานสภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ (สอวช.) ใน พ.ศ. 2562 มาจนถงึ ปัจจบุ ัน

257 | อนาคตศึกษา ศนู ยค์ าดการณเ์ ทคโนโลยเี อเปคด�ำเนนิ โครงการคาดการณท์ ค่ี รอบคลมุ หวั ขอ้ และประเดน็ ทห่ี ลาก หลาย และมที ้งั งานในระดับภมู ิภาคเอเปคและภายในประเทศไทย และในระดับชาติ ระดับรายสาขา และระดับองค์กร ตวั อยา่ งงานคาดการณท์ ี่มุ่งไปทีก่ ารจดั ท�ำแผนยุทธศาสตรร์ ะดบั ชาติ ซง่ึ รว่ มด�ำเนิน การโดยศูนยค์ าดการณ์เทคโนโลยีเอเปค ไดแ้ ก่ โครงการคาดการณ์วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีใน ค.ศ. 2020 (S&T 2020) โครงการ National Science Technology and Innovation Roadmap for Thai Industries โครงการศึกษาเทคโนโลยียทุ ธศาสตรส์ �ำหรบั สนบั สนุนกลไกขบั เคลื่อนเศรษฐกจิ เพ่อื อนาคตประเทศไทย และโครงการภาพอนาคตประเทศไทย 2562 สว่ นตวั อยา่ งของโครงการคาดการณร์ ะดบั รายสาขา ไดแ้ ก่ โครงการอนาคตการเกษตรไทย ซึง่ จดั ท�ำในชว่ ง พ.ศ. 2542-2543 โครงการ Healthy Futues of APEC Megacities โครงการ Towards Innovative, Prosperous, and Liveable Asian Megacities โครงการศึกษาความตอ้ งการแพทย์ รังสีวิทยาในอีก 10 ปี ข้างหน้า โครงการคาดการณ์เพ่ือสังคมสูงวัยในอนาคต โครงการศึกษาภาพ อนาคต 10 ปีของอนาคตระบบอาชีวศึกษาประเทศไทยและแนวทางยุทธศาสตร์เพื่อการปรับตัวของ ระบบอาชีวศึกษาในอีก 10 ปีข้างหน้า (2556-2565) โครงการภาพอนาคตการเกษตรไทย 2563 ซง่ึ ด�ำเนนิ รว่ มกบั สถาบนั คลงั สมองของชาติ สว่ นตวั อยา่ งงานคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรใ์ นระดบั องคก์ ร ได้แก่ แผนท่ีน�ำทางของส�ำนักงานปรมาณูเพ่ือสันติ งานวางแผนยุทธศาสตร์ขององค์การคลังสินค้า งานวางแผนแมบ่ ทของสถาบนั มาตรวิทยาแห่งชาติ รวมถงึ การวางแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมสง่ เสริม เทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปนุ่ )86 เป็นต้น วธิ กี ารและกระบวนการท่ใี ช้ในโครงการเหล่านีค้ ่อนข้างคล้ายคลงึ กนั โครงการเกอื บทง้ั หมดใช้วิธี การจัดประชุมเชงิ ปฏิบัตกิ ารทีม่ ผี ู้มีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี เขา้ ร่วมมองภาพอนาคต ในขณะทีห่ ลายโครงการใช้ วิธีการเดลฟาย เพ่อื รวบรวมและประมวลความคิดเห็นเก่ียวกับอนาคตจากผู้เชี่ยวชาญและผู้เกี่ยวข้อง ในประเดน็ ที่สนใจ และหลายโครงการด�ำเนนิ กระบวนการสร้างฉากทัศน์เกี่ยวกบั อนาคตในแต่ละเรื่อง ข้อสังเกตประการหนึ่งคือ โครงการเหล่านี้ไม่ค่อยใช้เคร่ืองมือคาดการณ์เชิงปริมาณเท่าใดนัก แต่เน้น เครอื่ งมอื เชิงคุณภาพและการมีสว่ นรว่ มของผู้มสี ว่ นไดส้ ่วนเสยี โดยเฉพาะผเู้ ชีย่ วชาญรายสาขา อาจกล่าวได้ว่า แนวคิดและวิธีการคาดการณ์เพื่อวางแผนนโยบายตามแนวคิดของกลุ่มอนาคต ศกึ ษาในกลมุ่ นโยบายวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม คอ่ นขา้ งแตกตา่ งไปจากการพยากรณเ์ พอ่ื การวางแผนรายสาขาเพ่อื นโยบายการพัฒนาประเทศแบบดั้งเดิม ท้ังการคาดประมาณประชากรและ การพยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ จุดเร่ิมต้นของแนวความคิดด้านอนาคตศึกษาในกลุ่มวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละนวตั กรรม เรม่ิ จากขอ้ ตระหนกั ทวี่ า่ การลงทนุ ดา้ นวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยตี อ้ งลงทนุ สงู และใชเ้ วลานาน อกี ทงั้ ยงั มคี วามไมแ่ นน่ อนวา่ ผลลพั ธท์ า้ ยสดุ จะเปน็ อยา่ งไร และจะบรรลตุ ามเปา้ หมาย ทคี่ าดหวงั ไวห้ รอื ไม่ ในขณะทว่ี ธิ กี ารวเิ คราะหค์ วามเปน็ ไปไดแ้ บบรายโครงการ (feasibility studies) ท่ี ใชก้ ันอยูท่ ัว่ ไปในการวเิ คราะหเ์ พ่ือวางแผน กไ็ ม่ครอบคลุมภาพใหญ่และแนวโนม้ การเปล่ียนแปลงของ โลก นอกจากน้ี ยงั มีปจั จยั ตา่ ง ๆ มากมายที่ปฏสิ มั พนั ธซ์ งึ่ กนั และกนั แนวคดิ และวธิ กี ารมองอนาคตแบบ

อนาคตศกึ ษา | 258 เดิมไม่สามารถใช้ได้ จึงเกิดความคิดที่จะใช้กรอบทฤษฎีและวิธีการด้านอนาคตศาสตร์ในการวางแผน นโยบายวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยีและนวัตกรรมมากขึ้น87 ในช่วงเวลาไล่เล่ียกัน นักวิจัยท่ีส�ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ทบทวนและเรียนรู้ประสบการณ์ในการคาดการณ์เทคโนโลยีจากประเทศต่าง ๆ ทั้งสหรัฐอเมริกา แคนาดา และญี่ปนุ่ และสรา้ งองคค์ วามรู้ด้านการคาดการณเ์ ทคโนโลยี (technology foresight) โดย เฉพาะวธิ กี ารคาดการณห์ ลกั ทใี่ ชใ้ นองคก์ รทดี่ �ำเนนิ นโยบายและขบั เคลอื่ นดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม น่ันคือการท�ำแผนทน่ี �ำทางเทคโนโลยี การคาดการณเ์ ทคโนโลยสี �ำหรับประเทศไทย หนง่ึ ในงานบกุ เบกิ ดา้ นการคาดการณเ์ ทคโนโลยขี องประเทศไทยเกดิ ขน้ึ ในชว่ งประมาณ พ.ศ. 2539 เมอื่ กลมุ่ นกั วจิ ยั ดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยแี ละสงั คมศาสตรห์ ลายสาขา น�ำโดยศาสตราจารย์ ดร.ถริ พฒั น์ วิลัยทอง จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ศึกษาแนวโน้มการเปล่ียนแปลงด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ของโลก วิธีการคาดการณ์เทคโนโลยีในงานดังกล่าวไม่ใช้แนวทางดั้งเดิมท่ีใช้แพร่หลายในประเทศท่ี พฒั นาด้านเทคโนโลยแี ล้ว เช่น ญี่ปนุ่ และองั กฤษ แต่เริม่ ตน้ จากการก�ำหนดสมมตฐิ านแบบ a prioi วา่ เทคโนโลยใี นอนาคตบางแขนงไดเ้ กดิ ขน้ึ และพฒั นาอยแู่ ลว้ ในขณะทเ่ี ทคโนโลยบี างแขนงยงั เพิง่ เรมิ่ ตน้ วัตถปุ ระสงคข์ องการคาดการณ์ดังกลา่ วคือ เพอื่ วิเคราะหผ์ ลกระทบว่าเทคโนโลยีใดจะมีผลกระทบตอ่ เศรษฐกิจสังคมไทยและอย่างไร ค�ำถามดังกล่าวตั้งอยู่บนความเชื่อท่ีว่า ความเจริญด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเกย่ี วพนั อยา่ งมากกับภมู หิ ลงั และกระบวนการคิดของผู้คนในประเทศ กระบวนการคาดการณ์เทคโนโลยีในงานดังกล่าวเร่ิมจากการคัดเลือกเทคโนโลยีที่ต้องการ วิเคราะห์จ�ำนวน 7 กลุ่ม โดยมีเทคโนโลยีในชุดแรกทั้งหมด 72 รายการ คณะผู้วิจัยประกอบด้วยผู้ เช่ียวชาญจากสาขาที่เก่ียวข้องจ�ำนวน 15 คน ซึ่งท�ำหน้าที่จัดท�ำข้อมูลปฐมภูมิส�ำหรับการออกแบบ สอบถามเพ่ือการส�ำรวจแบบเดลฟาย โดยค�ำถามที่ใช้เป็นแบบปลายปิด ค�ำถามหลัก ได้แก่ ระดับ ความส�ำคัญของเทคโนโลยี หว้ งเวลาทีค่ าดว่าจะมกี ารใชเ้ ทคโนโลยีนัน้ อนั ดบั ของประเทศไทยในดา้ น เทคโนโลยีน้ันเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระดับการพัฒนาท่ีควรต้ังเป็น เป้าหมายในการพฒั นาเทคโนโลยี และอปุ สรรคในการพัฒนาเทคโนโลยี เมื่อได้รับค�ำตอบในรอบแรก คณะผู้วิจัยจึงประมวลผลด้วยซอฟต์แวร์ SPSS เพื่อปรับค�ำถาม โดยเพมิ่ เทคโนโลยที ่ีเสนอเพมิ่ เตมิ โดยผตู้ อบแบบสอบถาม แลว้ จงึ สง่ แบบสอบถามกลบั ไปอกี ครงั้ หนง่ึ พร้อมแสดงผลของแบบสอบถามในครง้ั แรก แบบสอบถามครง้ั ทสี่ องเปดิ โอกาสใหผ้ ู้ตอบสามารถตอบ ค�ำถามใหม่และอาจเปลี่ยนค�ำตอบของตนเอง วิธีการดังกล่าวเป็นไปตามหลักการของวิธีการเดลฟาย เพ่ือเพ่ิมความรอบคอบของผู้ตอบหลังจากที่รับทราบความคิดเห็นโดยรวมของผู้เช่ียวชาญคนอ่ืนแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการสร้างภาพอนาคตของเทคโนโลยีที่เก่ียวข้อง โดยคณะท�ำงานสังเคราะห์ข้อมูล ทั้งจากแบบสอบถามและจากการประมวลของคณะผูว้ ิจัยเอง

259 | อนาคตศึกษา คณะผูว้ จิ ัยได้ตีพมิ พเ์ ผยแพร่ผลการวิจัยในหนังสอื ชื่อ “อนาคตที่ไล่ลา่ ประเทศไทย: แนวโนม้ ของ โลก สงั คม เศรษฐกจิ การเมอื งกับอนาคตของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย”ี 88 โดยน�ำเสนอผลการคาด การณ์เทคโนโลยีส�ำหรับประเทศไทย เน้ือหาในส่วนแรกประมวลแนวโน้มส�ำคัญของโลก ท้ังในด้าน ประชากร สังคม เศรษฐกิจ ตามด้วยการประเมินสภาพการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของประเทศไทย และผลการวิเคราะห์ด้วยวิธีการเดลฟาย บทสุดท้ายน�ำเสนอภาพอนาคตของแต่ละ เทคโนโลยี โดยแบง่ ตามหว้ งเวลาสามชว่ งคอื ค.ศ. 1996-2000, ค.ศ. 2001-2005 และ ค.ศ. 2006-2010 ตามล�ำดบั เทคโนโลยี 7 กลมุ่ ท่ีคาดการณ์ไวใ้ นงานดงั กลา่ ว ได้แก่ (1) เทคโนโลยพี ้ืนฐาน (2) เทคโนโลยี ชวี ภาพ (3) เทคโนโลยชี วี ภาพการแพทย์ (4) เทคโนโลยโี ลหะวสั ดุ (5), (6) เทคโนโลยีอิเลก็ ทรอนกิ ส์ คอมพวิ เตอร์ สารสนเทศและดาวเทยี ม (สองกลมุ่ ) และ (7) เทคโนโลยพี ลงั งาน ยานยนตแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม นอกจากการน�ำเสนอเทคโนโลยสี �ำคญั ในหว้ งเวลาต่าง ๆ แลว้ คณะผวู้ จิ ยั ยังน�ำเสนอปจั จยั ทเี่ ปน็ อปุ สรรคตอ่ การพฒั นาเทคโนโลยีของประเทศไทย รวมถงึ มาตรการเพ่ือจัดการอุปสรรคเหลา่ นน้ั ท้าย ที่สุด คณะผูว้ ิจัยชถ้ี งึ จดุ แข็งและจุดออ่ นของการใชเ้ ทคนิคเดลฟายในการคาดการณ์เทคโนโลยี หนึง่ ใน นน้ั คอื ปญั หาของการต้งั ค�ำถามในแบบสอบถามทใี่ ช้เปน็ ค�ำถามปลายปิด ซ่งึ อาจชีน้ �ำและเหนี่ยวน�ำค�ำ ตอบของผตู้ อบค�ำถาม และลดโอกาสที่จะไดข้ อ้ มลู เชงิ ลกึ เพม่ิ เตมิ จากผเู้ ชยี่ วชาญ นอกจากน้ี ผเู้ ชย่ี วชาญ ที่ตอบค�ำถามโดยมากมาจากสาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ผลการตอบแบบสอบถามจึงอาจเน้นมิติดัง กล่าว และไม่ใหค้ วามส�ำคัญกับมิติสงั คมวัฒนธรรมเท่าใดนัก คณะผู้วิจัยน�ำเสนอบทสรุปท่ีน่าสนใจคือ ประโยชน์จากผลการคาดการณ์แบบเดลฟายขึ้นอยู่กับ บรบิ ทและศกั ยภาพของแตล่ ะสงั คม สงั คมทมี่ แี บบแผนและมรี ะเบยี บชดั เจนจะสามารถสรา้ งและก�ำหนด อนาคตของตนเอง แมว้ ่าจะเผชิญกบั ปัจจยั ไมแ่ น่นอนต่าง ๆ กต็ าม ในทางกลบั กนั สงั คมไทยยงั คงไรซ้ ่งึ ระเบยี บ ไรเ้ สถยี รภาพและมคี วามออ่ นไหวสงู การเมอื งและอทิ ธพิ ลภายนอกท�ำใหก้ ารพฒั นากวดั แกวง่ งา่ ย ผลการคาดการณจ์ งึ ถกู ตอ้ งแมน่ ย�ำได้ยาก อกี ท้งั การพฒั นาของประเทศไทยท่ีผ่านมาเป็นไปอยา่ ง ลักลนั่ และเหล่ือมลำ�้ ท�ำให้การก�ำหนดยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ในการพัฒนามคี วามซับซอ้ นและยุ่งยาก การใชว้ ธิ กี ารเดลฟายในการคาดการณเ์ ทคโนโลยีจงึ อาจไมใ่ ชว่ ธิ กี ารทด่ี ที สี่ ดุ ในการวางแผนเพอ่ื ยกระดบั คุณภาพชวี ติ ของผคู้ นท่ัวไป หลงั จากโครงการคาดการณด์ า้ นเทคโนโลยดี งั กลา่ ว หนว่ ยงานภาครฐั ดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี หลายแหง่ ของประเทศไทยไดเ้ ริม่ เหน็ ความส�ำคญั ของการคาดการณภ์ าพอนาคตของการพฒั นาในดา้ น น้ี จงึ เกดิ โครงการคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรด์ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยหี ลายโครงการ ดงั ตวั อยา่ ง โครงการคาดการณบ์ างส่วนทีด่ �ำเนนิ การโดยศูนยค์ าดการณเ์ ทคโนโลยีเอเปคทีแ่ สดงในตารางที่ 18 ใน หนา้ ถัดไป

อนาคตศกึ ษา | 260 ตตวัารอายง่าทงี่ง1า8นคาดการณ์ท่ดี ำ�เนนิ การโดยศนู ย์คาดการณเ์ ทคโนโลยเี อเปค

261 | อนาคตศกึ ษา องคก์ รอ่นื ทท่ี �ำงานดา้ นอนาคตศึกษา นอกจากศูนย์คาดการณ์เทคโนโลยีเอเปคแล้ว ยังมีหน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหา ก�ำไรอน่ื ๆ ทม่ี พี นั ธกจิ และกจิ กรรมทมี่ งุ่ สรา้ งและแผยแพรอ่ งคค์ วามรดู้ า้ นอนาคตศกึ ษาในประเทศไทย ตวั อย่างมดี ังต่อไปน้ี สถาบันการมองอนาคตนวตั กรรม เม่อื เดอื นสงิ หาคม พ.ศ. 2561 ทผ่ี ่านมา ส�ำนักงานนวัตกรรมแหง่ ชาติ (สนช.) ไดจ้ ัดตงั้ สถาบนั การมอง อนาคคตนวัตกรรม (Innovation Foresight Institute – IFI) โดยก�ำหนดบทบาทใหเ้ ปน็ สถาบนั เฉพาะทางเพือ่ ชว่ ยในการคาดการณค์ วามเปน็ ไปไดข้ องอนาคตทอี่ าจเกดิ ขน้ึ โดยเฉพาะทศิ ทาง นวตั กรรมทส่ี รา้ งการเปลย่ี นแปลงตอ่ ระบบเศรษฐกจิ สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม และชวี ติ ความเปน็ อยู่ รวมถงึ บทบาทในการชว่ ยก�ำหนดทศิ ทางและการวางแผนระยะยาวทสี่ ามารถเออื้ ประโยชนส์ งู สดุ ใหก้ บั ระบบ เศรษฐกจิ และการด�ำเนนิ กจิ กรรมเพอ่ื การพฒั นาด้านต่าง ๆ ของประเทศไทย สถาบนั การมองอนาคตนวตั กรรมนมี้ ียุทธศาสตรก์ ารด�ำเนินงาน 3 ดา้ น ได้แก่ ยุทธศาสตร์การ พัฒนาเครือข่ายนักอนาคตศาสตร์ (Futurist Enablers) มีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายกลุ่มนัก อนาคตศาสตรท์ เี่ ชย่ี วชาญและเขม้ แขง็ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 2 คอื การศกึ ษาภาพและแนวโนม้ อนาคต (Trend Setter) โดยเฉพาะแนวโน้มท่ีสร้างผลกระทบและการเปล่ียนแปลงทั้งเชิงเศรษฐกิจและสังคม และ ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 คอื สง่ เสรมิ การใช้ประโยชนเ์ พ่อื นวตั กรรม (Enterprise Innovation) ผา่ นเครอ่ื งมอื การจดั การนวตั กรรม เครอื ขา่ ยผปู้ ระเมนิ นวตั กรรมทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ เพอ่ื พฒั นาศกั ยภาพทางนวตั กรรม ให้กับกล่มุ ธรุ กิจ ท้ังนี้ ทางสถาบันฯ เริ่มด�ำเนินกิจกรรมด้านอนาคตศึกษาและการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ไป บ้างแล้ว เช่น การลงทะเบียนเพ่ือสร้างเครือข่ายนักวิจัยและนักวิชาการด้านอนาคตศาสตร์ การจัด สัมมนา Trend Talk และงานประชุมและสัมมนาด้านอนาคตศึกษากับสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ สถาบันอนาคตไทยศกึ ษา อีกองค์กรหน่ึงที่มีกิจกรรมด้านอนาคตศึกษาและการคาดการณ์คือสถาบันอนาคตไทยศึกษา (Thailand Future Foundation) ซง่ึ จดั ตงั้ ขนึ้ ในสถานะมลู นธิ ทิ ไ่ี มแ่ สวงหาก�ำไรโดยกลมุ่ นกั ธรุ กจิ และ นักวิชาการจากหลายสาขา เพื่อด�ำเนินการศึกษาและน�ำเสนอข้อคิดเห็นเก่ียวกับนโยบายการพัฒนา ประเทศทมี่ นี ยั ส�ำคัญต่อภาคธรุ กจิ สงั คมโดยรวม เว็บไซต์ของสถาบันฯ (www.thailandff.org) ระบุ ถึงวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเชิง สร้างสรรคจ์ ากภาคสว่ นต่าง ๆ ของสังคมบนพ้ืนฐานของขอ้ มลู และการวิเคราะห์ อนั จะเป็นประโยชน์ ต่อการก�ำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง รวมท้ัง

อนาคตศกึ ษา | 262 เกอื้ หนนุ การเจรญิ เตบิ โตของประเทศทม่ี นั่ คงและยง่ั ยนื ตลอดจนเพอ่ื สรา้ งเครอื ขา่ ยนกั คดิ ทง้ั ในระดบั บคุ คล องคก์ ร และสาธารณะ ซง่ึ จะเปน็ การถ่ายทอดองคค์ วามรู้ไปสแู่ นวปฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นรปู ธรรม หัวข้อและพนั ธกจิ หลักของสถาบนั เน้นไปท่ีเปา้ หมายการพัฒนาท่ียั่งยืน (Sustainable Devel- opment Goals – SDG) การด�ำเนินการผา่ น Future Lab ในการจดั ท�ำฉากทัศนอ์ นาคต การวาง ยุทธศาสตร์เชงิ อนาคตและนวัตกรรมสังคม จากข้อมลู ท่สี ืบค้นมาจากเวบ็ ไซต์ตา่ ง ๆ พบวา่ สถาบันนี้ ไดด้ �ำเนนิ กจิ กรรมดา้ นการคาดการณแ์ ละการจดั ท�ำฉากทศั นใ์ นหลายงานดว้ ยกนั เชน่ การเขา้ รว่ มการ ประชุมเชิงปฏบิ ตั ิการว่าด้วยภาพอนาคต 20 ปขี องอาเซียน การจัดท�ำภาพอนาคตเชิงยุทธศาสตรใ์ น มิตดิ า้ นความมั่นคงของประเทศ ทางสถาบนั ยังออกนติ ยสารออนไลนร์ ายเดือนชือ่ SCENARIO ซึ่งน�ำ เสนอประเด็นเก่ยี วกบั แนวโน้มและการเปล่ยี นแปลงในอนาคตด้านตา่ ง ๆ สถาบนั อนาคตศึกษาเพอ่ื การพฒั นา อกี องคก์ รหนงึ่ คอื สถาบนั อนาคตศกึ ษาเพอ่ื การพฒั นา (Institute of Future Studies for Devel- opment) เปน็ สถาบนั วจิ ยั เอกชนในรปู แบบมลู นธิ ิ โดยจดทะเบยี นเปน็ ที่ปรกึ ษากบั ศนู ยข์ อ้ มลู ที่ปรกึ ษา ไทย กระทรวงการคลัง จากเว็บไซตข์ องสถาบนั ฯ (www.ifd.or.th) พบวา่ ทางสถาบันฯ ให้บริการที่ ปรกึ ษาในดา้ นนโยบายสาธารณะ การบรหิ ารภาครฐั การบรหิ ารธรุ กจิ เศรษฐศาสตร์ สงั คมศาสตร์ และ ระเบยี บวิธวี ิทยาการวิจัย ในเรอ่ื งระเบยี บวิธีวจิ ัย การวเิ คราะห์และประเมนิ ผลกระทบโครงการและ นโยบาย การสร้างแบบจ�ำลองพฤตกิ รรม และการคาดการณ์อนาคตทง้ั ในระดับมหภาคและจลุ ภาค ตวั อย่างของงานศึกษาของสถาบันอนาคตศกึ ษาเพื่อการพฒั นา ได้แก่ • โครงการวิจัยภาพอนาคตและลักษณะคนไทยทพี่ ึงประสงค์ • DerivSIM- A Cross-Impact Based Stochastic Simulation Method for Forecasting (ปที ่ดี �ำเนนิ โครงการ: 2547) • การคาดการณ์คณุ สมบตั ิของบา้ นใน 10 ปขี า้ งหน้า • โครงการวจิ ยั ความตอ้ งการในอนาคตและการพฒั นารปู แบบของระบบบรกิ ารทางการแพทย์ ระดบั ตตยิ ภมู แิ ละสูงกวา่ ใน 15 ปขี า้ งหนา้ • โครงการวิจยั ภาพอนาคต ธ.ก.ส. ในปี 2025 • โครงการวจิ ยั ภาพอนาคตของสถานทที่ �ำงานในประเทศไทยในปี 2575 (Thailand’s Future Workplace in 2032) นอกจากองค์กรท้ังสามนี้ ยังมีหน่วยงานอื่นที่จัดต้ังหน่วยงานย่อยภายในองค์กรที่มุ่งเน้นงาน ด้านการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์โดยเฉพาะ ท้ังเพื่อตอบรับพันธกิจและกิจกรรมด้านการวางแผน ภายในองค์กรเอง และเพ่ือให้บริการกับองค์กรภายนอก ตัวอย่างเช่น สถาบันเพ่ิมผลผลิตแห่งชาติ ไดจ้ ดั ตง้ั ศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ ดา้ นการคาดการณ์ (Center of Excellence for Foresight) ซง่ึ มงุ่ เผยแพร่

263 | อนาคตศึกษา ความรู้และทักษะในการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์โดยเฉพาะในด้านการวางแผนแบบฉากทัศน์ให้กับ ผปู้ ระกอบการไทย โดยใหบ้ รกิ ารปรกึ ษาแนะน�ำและจัดฝกึ อบรมใหก้ ับผูบ้ ริหารองคก์ ร89 ส่่วนในองค์์กรรััฐวิิสาหกิิจและบริิษััทเอกชนก็็มีีหลายแห่่งที่�่ให้้ความสนใจและจััดตั้ �งหน่่วยงาน ภายในที่ท่� ำ�ำ หน้า้ ที่ใ�่ นด้า้ นการคาดการณ์เ์ ชิงิ ยุทุ ธศาสตร์์ ตัวั อย่า่ งเช่น่ สถาบันั นวัตั กรรม ปตท. มีีพัันธกิิจ หลัักคืือการดำำ�เนิินงานวิิจััยและพััฒนาเพื่่�อสร้้างนวััตกรรมด้้านผลิิตภััณฑ์์ปิิโตรเลีียม ปิิโตรเคมีี และ พลัังงาน กิิจกรรมด้้านการคาดการณ์์ของหน่่วยงานนี้้�จึึงมุ่�งนี้�ไปที่�่การคาดการณ์์ด้้านวิิทยาศาสตร์์ เทคโนโลยีีและนวััตกรรมเป็็นหลััก อย่่างไรก็็ตาม ในเดืือนเมษายน พ.ศ. 2562 สถาบัันนวััตกรรม ปตท. ได้้ร่่วมสนัับสนุุนการจััดงาน Bangkok Foresight 2030 ซึ่�งเป็็นการประชุุมเชิิงปฏิิบััติิการ ที่�่มุ่�งคาดการณ์์และสร้้างภาพอนาคตของกรุุงเทพมหานครในอีีก 10 ปีีข้้างหน้้า90 แสดงถึึงความ สนใจและความจำำ�เป็็นในการขยายขอบเขตของการคาดการณ์์ที่่�กว้้างไกลกว่่าธุุรกิิจดั้้�งเดิิมของ องค์์กร ในลัักษณะคล้้ายกััน บริิษััท แมกโนเลีีย ควอลิิตี้� ดีีเวล็็อปเม้้นต์์ คอร์์ปอเรชั่�น (MQDC) ได้จ้ ัดั ตั้�งฟิวิ เจอร์์เทลส์แ์ ล็็บ (FuturesTales Lab) ที่่�มุ่�งเป็็นศูนู ย์์วิจิ ัยั ด้้านการคาดการณ์์ การวิิเคราะห์์ ข้้อมููล และการสร้้างพื้�นที่่�ของการปฏิิสััมพัันธ์์และแลกเปลี่่�ยนความรู้�เกี่�่ยวกัับอนาคต91

อนาคตศึกษา | 264 สรุป ในบทน้ี ผเู้ ขยี นไดพ้ ยายามประมวลภาพรวมของประสบการณด์ า้ นอนาคตศกึ ษาในประเทศไทย ในชว่ งประมาณ 40 กวา่ ปที ผ่ี า่ นมา ทง้ั ในงานเชงิ วจิ ยั วชิ าการและงานคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตร์ ทตี่ อบโจทยก์ ารวางแผนขององคก์ ร สรปุ เปน็ ภาพรวมไดว้ า่ แมว้ า่ งานวจิ ยั และงานวางแผนใน ประเทศไทยไดศ้ กึ ษาการเปลย่ี นแปลงดา้ นตา่ ง ๆ เพือ่ การวางแผนอนาคตมาอยพู่ อสมควร แต่ การคาดการณอ์ นาคตอยา่ งเปน็ ระบบตามแนวคดิ และวธิ กี ารทพ่ี ฒั นาในวงการอนาคตศาสตร์ ระดบั โลก ยงั ถอื วา่ อยใู่ นวงจ�ำกดั โดยมากเปน็ งานคาดการณใ์ นดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยแี ละ ด้านศกึ ษาศาสตร์ อกี ทง้ั กรอบแนวคดิ และเครือ่ งมอื ทใี่ ชใ้ นงานศกึ ษาอนาคตในประเทศไทยที่ ผา่ นมาจึงยงั มีอยเู่ พยี งไม่กแ่ี บบ อย่างไรก็ตาม ในช่วงประมาณ 5 ปีท่ีผ่านมา องค์กรทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนใน ประเทศไทยต่างเร่มิ เห็นความส�ำคัญของอนาคตศึกษาและการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์มาก ขน้ึ และมกี ารจดั ตงั้ องคก์ รดา้ นอนาคตศกึ ษาและการใหท้ นุ ส�ำหรบั โครงการศกึ ษาภาพอนาคต ในหลายด้าน จงึ นบั เปน็ โอกาสดีที่จะพฒั นาองค์ความรูด้ า้ นน้ตี อ่ ไปในประเทศไทย

265 | อนาคตศกึ ษา

อนาคตศึกษา | 266 6 บทสง่ ทา้ ย PRESENT, n. Thadtispaaprptooifntemteernntityfrodmividthinegrtehaelmdoomf ahionpoef. Ambrose Bierce, The Devil's Dictionary

267 | อนาคตศึกษา ชอ่ งวา่ งความรู้ วัตถุประสงค์ประการหนึ่งของการประมวลความรู้ในหนังสือเล่มนี้คือ เพื่อระบุช่องว่างความรู้ด้าน อนาคตศึกษาส�ำหรับประเทศไทย โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบงานวิจัยและงานเขียนด้านอนาคต ศาสตร์ในต่างประเทศกบั งานที่มีอยู่ในประเทศไทย เสรมิ ด้วยขอ้ คิดเห็นจากการสัมภาษณพ์ ดู คุยกบั นกั วชิ าการ นักวางแผนและผู้บรหิ ารในสาขาท่ีเกยี่ วขอ้ ง โดยทว่ั ไป เมอ่ื เราตง้ั ค�ำถามวา่ ชอ่ งวา่ งความรอู้ ยตู่ รงไหน ค�ำตอบทตี่ อ้ งการมกั มงุ่ ไปทห่ี วั ขอ้ หรอื ประเดน็ ทยี่ งั ไมม่ คี �ำตอบ โจทยห์ นงึ่ ทผี่ เู้ ขยี นไดต้ งั้ ไวใ้ นการประมวลความรใู้ นหนงั สอื นคี้ อื ประเทศไทย ควรมงุ่ เนน้ งานวจิ ยั ในหวั ขอ้ หรอื ประเดน็ ไหนในอนาคตศกึ ษา ค�ำตอบหนง่ึ ทไ่ี ดค้ อื ประเทศไทยยงั ตอ้ ง พัฒนาองค์ความรู้ด้านอนาคตศึกษาอีกมากในแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อและประเด็นการวิจัย เคร่ืองมอื การวิจยั และกระบวนการวจิ ัย ตามท่กี ลา่ วมาแลว้ ในบทก่อนหนา้ น้ี แม้ว่าประเทศไทยมี งานวิจัยในแต่ละศาสตร์แต่ละสาขาที่พยากรณ์การเปลี่ยนแปลงในอนาคตอยู่จ�ำนวนมากแล้วก็ตาม แต่การวิจัยอนาคตอย่างเป็นระบบและเป็นไปตามทฤษฎี หลักการและวิธีการท่ียอมรับในวงการ อนาคตศาสตร์ระดบั โลกนั้น ยังมีอย่นู อ้ ยมาก ช่องว่างความร้ใู นดา้ นอนาคตศาสตรจ์ ึงถอื วา่ ใหญ่มาก ส�ำหรบั ประเทศไทย เนอ้ื หาสว่ นตอ่ ไปน�ำเสนอบางประเดน็ ทผ่ี เู้ ขยี นเหน็ วา่ เปน็ เรอื่ งทค่ี วรใหค้ วามส�ำคญั ในการพฒั นา องค์ความรู้ดา้ นอนาคตศกึ ษาในประเทศไทยต่อไป การเผยแพร่ความรแู้ ละทักษะในการเข้าใจและใช้อนาคต ความรใู้ นทกุ ศาสตร์ตงั้ อยบู่ นขอ้ สมมติและเงอ่ื นไขบางประการดว้ ยกันท้งั สน้ิ เชน่ เดยี วกัน ขอ้ สมมติ ทน่ี กั วจิ ยั ในแตล่ ะศาสตรแ์ ละนกั ปฏบิ ตั ใิ นแตล่ ะสาขาวชิ าชพี ใชว้ เิ คราะหแ์ ละคาดการณอ์ นาคตกแ็ ตก ตา่ งกนั ขอ้ สมมตบิ างประการอาจยงั คงเปน็ ทย่ี อมรบั ในบางสาขา แตห่ ากวเิ คราะหจ์ ากมมุ มองอนาคต ศกึ ษา ขอ้ สมมติน้ันอาจใช้ไมไ่ ด้แลว้ ในปัจจบุ นั ข้อสมมตหิ น่งึ ทส่ี �ำคัญในอนาคตศกึ ษาทค่ี วรประยุกต์ ใชใ้ นงานวจิ ยั ในศาสตรอ์ น่ื ได้ คอื อนาคตไมไ่ ดม้ อี ยหู่ นง่ึ เดยี ว แตม่ คี วามเปน็ พหุ และมอี ยหู่ ลากหลาย และทางเลอื ก ด้วยเหตนุ ี้ กระบวนทศั น์ของการศึกษาอนาคตแบบท�ำนายหรือพยากรณอ์ นาคตแบบ

อนาคตศกึ ษา | 268 หนงึ่ เดยี ว แลว้ วางแผนและด�ำเนนิ การตามนนั้ โดยไมไ่ ดค้ �ำนงึ ถงึ ปจั จยั ไมแ่ นน่ อนในอนาคต จงึ ไมเ่ หมาะ สมแลว้ ในโลกปจั จุบนั ที่ความไม่แนน่ อนสูงและสังคมมีความหลากหลายมากข้ึนกวา่ เดมิ ข้อสมมติในการคาดการณ์อนาคต (anticipation assumptions) ของอนาคตศึกษาท่แี ตกตา่ ง จากข้อสมมติในการมองอนาคตของศาสตร์อื่นน้ีเอง อาจเป็นสาเหตุส�ำคัญท่ีท�ำให้ความรู้และเครื่อง มือที่พัฒนาโดยนักอนาคตศาสตร์ยังไม่แพร่หลายไปยังศาสตร์และสาขาอื่น ตัวอย่างเปรียบเทียบท่ี ส�ำคัญคือสถิติศาสตร์ ซึ่งถือเป็นศาสตร์ในตัวเอง และได้พัฒนาองค์ความรู้และเครื่องมือวิเคราะห์ท่ี ศาสตร์อื่นสามารถน�ำไปใช้ได้อย่างกว้างขวาง ในทางตรงกันข้าม อนาคตศาสตร์ค่อนข้างมีข้อจ�ำกัด อย่มู ากท้ังในด้านปรชั ญาและด้านวธิ กี าร อกี ทงั้ ขอ้ สมมตเิ กย่ี วกบั อนาคตในแต่ละศาสตร์ยังไมไ่ ด้เปิด กวา้ ง และทผี่ า่ นมาอาจยงั ไมไ่ ดม้ คี วามพยายามที่จะท�ำใหข้ อ้ สมมตเิ หลา่ นก้ี ระจา่ งและชดั เจนมากขน้ึ ดังนั้น ช่องว่างส�ำคัญในการส่งเสริมอนาคตศึกษาหรืออนาคตศาสตร์ในวงการวิชาการ ไม่ว่า จะในระดับโลกหรือภายในประเทศไทย คือการสร้างและเผยแพร่ความรู้และทักษะพ้ืนฐานเกี่ยวกับ อนาคต (futures literacy) ให้เป็นเร่อื งส�ำคัญในทุกศาสตร์ ไม่จ�ำกัดเฉพาะในสาขาอนาคตศาสตร์ เทา่ นน้ั 1 ขนั้ ตอนแรกทคี่ วรด�ำเนนิ การคอื การเสรมิ สรา้ งฐานความรแู้ ละขดี ความสามารถพนื้ ฐานในการ ตงั้ ค�ำถามใหม่ ๆ ในการท�ำความเขา้ ใจกบั ประเดน็ ปญั หาทมี่ อี ยแู่ ตเ่ ดมิ และที่จะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต จาก นนั้ จงึ พฒั นาภาพอนาคตและหาทางเลอื กเชงิ นโยบายและมาตรการเพือ่ เตรยี มพรอ้ มรบั มอื กบั อนาคต การสร้างความรู้และทักษะเกี่ยวกับการเข้าใจถึงอนาคต ไม่ควรจ�ำกัดอยู่เพียงในวงการนักวิจัย นกั วชิ าการและนกั นโยบาย แตค่ วรขยายขอบเขตกจิ กรรมไปถงึ การเรยี นการสอนส�ำหรบั นสิ ติ นกั ศกึ ษา และบุคคลทวั่ ไป โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ถา้ เราเชอ่ื วา่ ความรูแ้ ละทักษะในการวเิ คราะหแ์ ละจนิ ตนาการ เกยี่ วกับอนาคตเป็นองค์ประกอบพนื้ ฐานที่ตอ้ งกอ่ ร่างและสรา้ งข้นึ ตั้งแตว่ ยั เด็ก การส่งเสริมกิจกรรม ในการเผยแพรค่ วามรแู้ ละทกั ษะในการมองอนาคตต้องลงไปถึงระดับนักเรยี นในโรงเรียนทุกระดับ ตัวอยา่ งหัวขอ้ ในการศึกษาอนาคต โดยทว่ั ไป ในการก�ำหนดกรอบหวั ขอ้ และทศิ ทางการวจิ ยั เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหท้ นุ วจิ ยั ในการสรา้ งองคค์ วาม รู้ใหม่ หน่วยงานท่ีให้ทุนสนับสนุนในประเทศไทยมักด�ำเนินกระบวนการคิดและกล่นั กรองของคณะ กรรมการที่ประกอบดว้ ยผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ผเู้ ชย่ี วชาญและผบู้ รหิ ารมาหลายขนั้ ตอนแลว้ หวั ขอ้ ทเ่ี ลอื กมา ยอ่ มสะทอ้ นความส�ำคญั ความจ�ำเปน็ และความเหมาะสมในดา้ นตา่ ง ๆ ซง่ึ มกั ตอ้ งตอบโจทยท์ ง้ั ในเชงิ วชิ าการและในเชงิ ปฏบิ ตั ิ ดว้ ยเหตดุ งั กลา่ ว ในหนงั สอื เลม่ น้ี ผเู้ ขยี นจงึ ไมไ่ ดม้ งุ่ สรา้ งรายการของหวั ขอ้ ทเี่ ป็นช่องว่างความรดู้ า้ นอนาคตศาสตรท์ ค่ี วรส่งเสริมให้มีการวจิ ัยต่อไป ในขณะเดียวกัน หน่วยงานด้านการวางแผนนโยบายสาธารณะต้องหม่นั ติดตามแนวโน้มการ เปล่ยี นแปลงของโลกตามพนั ธกิจขององคก์ รอยแู่ ล้ว ทั้งหน่วยงานระดับประเทศ เช่น ส�ำนกั งานสภา พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งเพ่ิงเปล่ียนช่ือจากส�ำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ เมือ่ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ท่ผี ่านมา และหนว่ ยงานรายสาขา เช่น หนว่ ยงานนโยบายดา้ นวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และส�ำนักนโยบายและแผนของ

269 | อนาคตศึกษา กระทรวงต่าง ๆ ดงั นั้น แต่ละองค์กรจึงมีหน้าที่ในการก�ำหนดหวั ขอ้ และประเด็นการวางแผนทต่ี อ้ ง สะท้อนแนวโน้ม ประเด็นปัญหาและการเปลีย่ นแปลงท่ีส�ำคญั ในทุกระดบั หวั ข้อและประเด็นทเ่ี ป็น ชอ่ งวา่ งความรสู้ �ำหรบั การศกึ ษาและวางแผนเพื่ออนาคตจึงมีอยมู่ าก และข้ึนอยู่กับพนั ธกจิ บทบาท หนา้ ที่ และทรัพยากรท่ีแตล่ ะองคก์ รมอี ยู่ นยั ส�ำคญั ของเงอื่ นไขเชงิ องคก์ รดงั กลา่ วคอื การก�ำหนดประเดน็ หวั ขอ้ ทเ่ี ปน็ ชอ่ งวา่ งความรคู้ วร ใชก้ ระบวนการเฉพาะกจิ ของแตล่ ะองคก์ รในการคน้ หาและระบปุ ระเดน็ ทค่ี วรสรา้ งองคค์ วามรตู้ อ่ ไป ด้วยเหตุน้ี กิจกรรมการระบุแนวโนม้ ใหม่ (trend spotting) และการศกึ ษาอนาคตเพ่อื การวางแผน นโยบายสาธารณะ จงึ ควรด�ำเนนิ การตอ่ เนอื่ งและอยา่ งสม�่ำเสมอในทกุ องคก์ ร โดยเฉพาะหนว่ ยงานท่ี มพี นั ธกจิ เฉพาะดา้ นการวางแผน ด้วยเหตุดังกลา่ ว หนังสอื เลม่ นีจ้ ึงไม่สามารถตอบโจทยท์ ี่ว่า หวั ข้อ และประเดน็ ไหนท่คี วรสง่ เสริมใหม้ ีการศกึ ษาภาพอนาคต เพราะผู้เขียนเช่ือวา่ แต่ละองคก์ รก�ำหนด ประเด็นหวั ข้อและเครือ่ งมอื ในการศกึ ษาท่เี หมาะสมเอง อย่า่ งไรก็ต็ าม ในที่น่�ี้� ผู้�เขีียนขอยกตัวั อย่า่ งหัวั ข้อ้ ที่เ�่ ป็น็ ช่อ่ งว่า่ งเชิงิ ความรู้�ในปัจั จุบุ ันั ที่ห่� น่ว่ ยงาน ที่�่เกี่่�ยวข้้องอาจสนัับสนุุนให้้วิิจััยเพิ่่�มเติิม หััวข้้อเหล่่านี้�เป็็นประเด็็นการเปลี่่�ยนแปลงเชิิงโครงสร้้าง และปััจจััยผลัักดัันที่�่น่่าจะมีีผลกระทบสููงและระยะยาว ไม่่เฉพาะสำ�ำ หรัับประชาชนคนไทยและ ประเทศไทยเท่า่ นั้�น แต่ร่ วมไปถึงึ ระดับั มนุษุ ยชาติแิ ละระดับั โลก การระบุปุ ระเด็น็ ที่ต่� ้อ้ งสร้า้ งองค์ค์ วาม รู้�เพิ่่ม� สามารถเริ่�มจากการวิเิ คราะห์แ์ นวโน้ม้ ใหญ่่ (megatrends) ระดัับโลกในด้้านสังั คม เทคโนโลยีี เศรษฐกิิจ สิ่�งแวดล้้อม การเมืือง และคุุณค่่า สำำ�หรัับผู้�เขีียน ความท้้าทายสำำ�คััญระดัับโลกแบ่่ง ได้้ 3 ด้้าน ได้แ้ ก่่ 1. ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมของโลก ครอบคลุมความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ ด้านระบบนิเวศ และด้านระบบพลังงาน รวมไปถึงด้านสุขภาพและ ความเป็นอยู่ของผู้คนในโลกท่ีรับกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและ ส่ิงแวดล้อม ประเด็นน้ีเกี่ยวข้องโดยตรงกับความท้าทายในการก้าวพ้นจากสภาพความ ไมย่ งั่ ยนื ไปสสู่ ภาพความยง่ั ยนื (sustainability transitions) ทงั้ ในดา้ นการผลติ และการ บรโิ ภค และดา้ นการบริหารจัดการให้เกดิ ความย่ังยืน 2. ความทา้ ทายด้านสังคมวฒั นธรรม ครอบคลุมประเดน็ ความท้าทายดา้ นการเรียนร้แู ละ การศกึ ษา ดา้ นสงั คม โดยเฉพาะเรอ่ื งความเหลอ่ื มลำ�้ และความไมเ่ ปน็ ธรรมในสงั คม รวม ไปถงึ ความทา้ ทายดา้ นความเปน็ ผนู้ �ำของคนในสงั คม แนวโนม้ และความทา้ ทายส�ำคญั ท่ี เกยี่ วเนือ่ งอยา่ งชดั เจน ท้ังด้านสงั คมวัฒนธรรมและดา้ นสิ่งแวดล้อมคอื กระบวนการเปน็ เมอื ง (urbanization) 3. ความท้าทายด้านการเมือง ทั้งเรื่องความขัดแย้งและการเมืองในระดับท้องถิ่นและ ระดบั ประเทศ ไปจนถงึ การเมอื งระหวา่ งประเทศ ประเด็นการปกครองและการอภิบาล (governance) ประเด็นด้านเศรษฐกิจเป็นปัจจัยหน่ึงที่ผูกโยงกับความท้าทายด้าน การเมืองในระดับตา่ ง ๆ

อนาคตศกึ ษา | 270 ทง้ั นท้ี ง้ั นนั้ ปจั จัยขบั เคล่อื นท่ีส�ำคัญคือความก้าวหน้าและความแพร่หลายของเทคโนโลยี อาทิ เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั เทคโนโลยชี วี ภาพ และเทคโนโลยดี า้ นหนุ่ ยนตแ์ ละปญั ญาประดษิ ฐ์ เปน็ ตน้ เมอ่ื การ พฒั นาเทคโนโลยที �ำใหเ้ สน้ แบง่ ระหวา่ งโลกกายภาพ โลกชวี ภาพและโลกดจิ ทิ ลั เรมิ่ เลอื นรางลง ความ เขา้ ใจในการเปลยี่ นแปลงของปจั จยั เหลา่ นจ้ี งึ มคี วามส�ำคญั ยงิ่ ในการศกึ ษาและเขา้ ใจอนาคต และเพือ่ เตรยี มพรอ้ มรับมือกบั การเปลย่ี นแปลงท่อี าจเกิดข้นึ การศกึ ษาผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสังคมและความเป็นอยู่ของมนษุ ย์ ปจั จยั ส�ำคญั ประการหนงึ่ ทท่ี �ำใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงในอนาคตคอื การพฒั นาวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี และนวตั กรรม ทเี่ ปน็ พ้นื ฐานการผลติ สินคา้ และการบรกิ ารใหม่ ๆ ซ่ึงท�ำให้พฤติกรรม ความเป็นอยู่ ตลอดจนระบบเศรษฐกจิ และสงั คมของมนษุ ยเ์ ปลย่ี นแปลงไป แนวทางหนึง่ ในการคาดการณค์ อื การ ท�ำความเขา้ ใจในแนวโน้มดา้ นวิทยาศาสตรเ์ ทคโนโลยแี ละนวตั กรรม แลว้ คาดการณ์ไปในอนาคตวา่ จะมีอะไรใหม่เกิดข้ึนบ้าง และสิ่งใหม่ ๆ เหล่านั้นจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างต่อผู้คนและเศรษฐกิจ สงั คมในระดบั ตา่ ง ๆ เนอื่ งจากการพฒั นาดา้ นวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยมี หี ลายสาขา อกี ทง้ั ยงั มกี ารผสม ผสาน การประสานและประจบกนั ของเทคโนโลยี ดงั นนั้ การก�ำหนดวา่ นโยบายสาธารณะทงั้ ดา้ นการ วจิ ยั และการด�ำเนินงานจะตอ้ งมงุ่ เน้นไปเรอ่ื งใดนน้ั ต้องมีกระบวนการวิเคราะหท์ เี่ ป็นระบบ โดยมีผู้ เชย่ี วชาญและผูม้ สี ว่ นไดส้ ่วนเสยี เขา้ รว่ มกระบวนการก�ำหนดประเดน็ วจิ ยั ดังกลา่ วด้วย การก�ำหนดหัวข้อส�ำหรับการวิจัยในอนาคตอยู่นอกขอบเขตของการประมวลความรู้ในหนังสือ เล่มนี้ ในทีน่ ้ี ผู้เขยี นจึงขอเพียงยกตวั อย่างแนวโน้มด้านวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยีบางดา้ นท่ีไดร้ บั ความ สนใจจากวงการอนาคตศกึ ษาทวั่ โลก ซงึ่ อาจเปน็ ชอ่ งวา่ งความรสู้ �ำหรบั การวจิ ยั อนาคตและคาดการณ์ เชงิ ยุทธศาสตร์ของประเทศไทยตอ่ ไป ระบบอัตั โนมัตั ิแิ ละหุ่่�นยนต์์ คำ�ำ ถามหลักั ในหัวั ข้อ้ นี้� ได้แ้ ก่่ การพัฒั นาระบบอัตั โนมัตั ิิ (automation) และหุ่�นยนต์จ์ ะมีีผลอย่า่ งไรต่อ่ การผลิติ ในประเทศไทย ซึ่ง� ย่อ่ มมีีผลต่อ่ ภาพอนาคตการทำ�ำ งาน (future of work) และแรงงานในประเทศไทย ยิ่�งในปััจจุุบััน เศรษฐกิิจแบบแพลตฟอร์์ม (platform economy) เริ่ม� มีีผลแล้ว้ ต่อ่ แรงงาน โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ หากในอนาคต ระบบอัตั โนมัตั ิแิ ละ หุ่�นยนต์แ์ พร่ข่ ยายไปทุกุ ด้า้ น ดังั ที่น่� ักั อนาคตศาสตร์ห์ ลายคนพยากรณ์ไ์ ว้้ ความท้า้ ทายในเชิงิ นโยบาย จะเพิ่่ม� มากขึ้�น ทั้�งในด้า้ นประสิิทธิิภาพการผลิติ ด้า้ นความเหลื่อ� มล้ำ�ำ �และความเป็็นธรรมของแรงงาน และสัังคม ด้้านนโยบายสวััสดิิการของรััฐ คำ�ำ ถามในส่่วนนี้้�คืือ อนาคตของนโยบายสาธารณะควร ต้้องปรัับไปอย่า่ งไรเพื่่อ� รับั มือื กัับการแพร่่หลายของระบบอััตโนมัตั ิิ ปัญญาประดิษฐ์ แนวโน้มด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีส�ำคัญที่คาดกันว่าจะมีผลกระทบอย่าง มากตอ่ ระบบเศรษฐกจิ สงั คมในอนาคตคอื ปญั ญาประดษิ ฐ์ ซึง่ จะประสานกบั เทคโนโลยรี ะบบอตั โนมตั ิ และหุ่นยนต์ รวมไปถึงเทคโนโลยีอ่ืนที่จะท�ำให้ความต้องการด้านทักษะของแรงงานมนุษย์ต้องปรับ เปล่ียนไปในอนาคต แม้แต่ในด้านการศึกษาอนาคตเอง กรอบแนวคิดและวิธีการแบบ Artificial Neural Network เรมิ่ ได้รบั ความสนใจและแพร่หลายมากข้นึ ทั้งนท้ี ้ังน้ัน งานวิจยั ดา้ นวิทยาศาสตร์ และวศิ วกรรมศาสตรใ์ นดา้ นปญั ญาประดษิ ฐน์ ยี้ งั ตอ้ งมกี ารสนบั สนนุ ตอ่ ไป ในขณะเดยี ว ประเทศไทย

271 | อนาคตศึกษา ควรมงี านวจิ ยั ดา้ นมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตรท์ วี่ เิ คราะหผ์ ลกระทบและปรากฏการณท์ สี่ มั พนั ธก์ บั การพฒั นาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในอนาคต เพื่อเตรียมพร้อมรบั มือดว้ ยนโยบาย และมาตรการทเ่ี หมาะสมตอ่ ไป เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เป็นเทคโนโลยีอีกชุดหนึ่งที่คาดว่าจะมีผลต่อระบบ เศรษฐกิจและการให้บริการสาธารณะในอนาคตอันใกล้ โดยไม่จ�ำกัดอยู่เพียงแค่การใช้เทคโนโลยี บล็อกเชนส�ำหรับสกุลเงินดิจิทัล หรือ cryptocurrency ท่ีรู้จักกันอยู่ท่ัวไปเท่าน้ัน ตัวอย่างค�ำถาม ในกลุ่มหัวข้อนี้ได้แก่ การซ้ือขายท่ีดินด้วยเงินสกุลดิจิทัลจะเกิดหรือไม่ เม่ือไหร่ และอย่างไร การ ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในด้านการแพทย์จะเกิดได้เร็วขนาดไหน และต้องมีนโยบายอะไรมารอง รับและเตรียมพร้อมรับมือบ้าง การแพทย์แม่นย�ำ (precision medicine) โดยเฉพาะการตัดต่อพันธุกรรมและเทคโนโลยี ชีวภาพ เช่น เทคโนโลยี CRISPR ในด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในกลุ่มน้ี วงการนัก วิทยาศาสตร์และองค์กรที่เก่ียวข้องในประเทศไทยได้ให้ความส�ำคัญอยู่แล้วในปัจจุบัน แต่ยังมีงาน ศกึ ษาอนาคตนอ้ ยมากทผี่ กู โยงเรอ่ื งเหลา่ นกี้ บั ประเดน็ ดา้ นสงั คมวฒั นธรรมและจรยิ ธรรม โดยเฉพาะ เรอ่ื งชวี จรยิ ธรรม (bioethics) ประเดน็ ขา้ มศาสตรเ์ หลา่ นจี้ �ำเปน็ ตอ้ งพฒั นาองคค์ วามรตู้ อ่ ไป ตวั อยา่ ง ค�ำถามในดา้ นน้ี ไดแ้ ก่ เทคโนโลยี CRISPR และการตดั ตอ่ พนั ธกุ รรมจะมผี ลอยา่ งไรตอ่ ภาคการเกษตร ไทยและเกษตรกรรายยอ่ ย การกนิ เนอ้ื สตั วท์ มี่ าจากเซลลท์ เี่ พาะเลยี้ งในหอ้ งทดลองโดยไมม่ กี ารเลย้ี ง และฆ่าสัตว์ถือว่าเป็นการกินเจหรือไม่ กฎหมายการควบคุมด้านอาหารและสาธารณสุขจะต้องปรับ ตวั อยา่ งไร การแพทย์แมน่ ย�ำจะยง่ิ ท�ำให้ความเหล่อื มล้ำ� ทางสังคมในไทยแย่ลงหรือไม่ เปน็ ต้น เทคโนโลยีดิจิทัล คงยังเป็นประเด็นส�ำคัญที่ต้องศึกษาต่อไป ตัวอย่างค�ำถาม ได้แก่ ชีวิตและ สงั คมหลงั ยคุ โซเชยี ลมเี ดยี (social media) จะเปน็ อยา่ งไร คนไทยยงั จะใชส้ อ่ื ใหมเ่ หลา่ นต้ี อ่ ไปหรอื ไม่ อยา่ งไร และจะเปลย่ี นไปอยา่ งไร คนรนุ่ ใหมท่ เ่ี กดิ และเตบิ โตขน้ึ มาในยคุ เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั และสอ่ื โซเชยี ล โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นเจนวาย เจนแซท ไปจนถึงกลมุ่ เจนอัลฟาและเบตา้ ในอนาคต หรอื กล่มุ คนที่ เปน็ ชาวดจิ ทิ ลั โดยก�ำเนดิ (digital natives) มชี วี ติ เปน็ อยา่ งไร และจะใชช้ วี ติ อยา่ งไรในอนาคต ค�ำถาม เหล่าน้จี �ำเป็นต้องใช้นกั วจิ ัยดา้ นสงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตรท์ ่เี ข้าใจเร่อื งวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การศกึ ษานยั ทางจรยิ ธรรม กฎหมายและสงั คมของเทคโนโลยี จากการพฒั นาของวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีที่เกิดข้ึน อาจกล่าวได้ว่า ช่องว่างความรู้ส�ำคัญในด้านอนาคตศึกษาของวงการวิชาการ และวงการวางแผนนโยบายสาธารณะของประเทศไทย อยู่ท่ีองค์ความรู้ด้านความสัมพันธ์ระหว่าง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีกับสังคม (science, technology, and society) ซ่ึงเป็นพื้นฐานส�ำคัญ ของการศึกษาอนาคตในระดับโลก โดยเฉพาะงานศึกษานัยทางจริยธรรม กฎหมายและสังคมของ เทคโนโลยี (Ethical, Legal and Social Implications - ELSI) เป็นกลมุ่ งานวจิ ยั ทีส่ �ำคัญอยา่ ง ย่งิ ในอนาคต

อนาคตศกึ ษา | 272 ภมู ริ ฐั ศาสตร์ อีกหัวข้อหน่ึงที่ส�ำคัญส�ำหรับอนาคตประเทศไทยคือความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับประเทศอื่นในเอเชีย ท่ามกลางแนวโน้มระดับโลกในปัจจุบัน ท่ีแสดงให้เห็นว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ ทวีปเอเชียจะเพ่ิมความส�ำคัญมากขึ้นในระดับโลก ท้ังในด้าน เศรษฐกจิ และการเมอื งระหวา่ งประเทศ ตวั อยา่ งค�ำถามในหวั ขอ้ นไ้ี ดแ้ ก่ ถา้ ทนุ จีนและคนจีนยงั คงหลัง่ ไหลเข้ามาในประเทศไทยตอ่ ไป ชีวิตคนไทยและสังคมไทยจะเปลย่ี นไปอย่างไร ความสมั พนั ธ์ระหว่าง ประเทศจีน อนิ เดยี และอาเซยี นกบั ไทยจะเปลย่ี นไปหรอื ไมแ่ ละอยา่ งไร และเมอ่ื โครงการ One Belt, One Road ของจีนเสรจ็ สมบูรณ์ เศรษฐกิจไทยและอาเซียนจะเปลีย่ นไปอยา่ งไรในอกี 20 ปีข้างหน้า สังคมไทยจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ถ้ามีการเปลี่ยนกฎหมายให้คนต่างด้าวอยู่เมืองไทยได้ง่ายข้ึนและ ตลอดไป หรือถ้าเด็กเกิดใหม่ทุกคนจะได้รับสัญชาติไทยโดยปริยาย เป็นต้น ประเด็นท้าทายเหล่าน้ี จ�ำเปน็ ตอ้ งศกึ ษาภาพอนาคตไวเ้ พือ่ เตรยี มพรอ้ มรบั มอื ได้อยา่ งเหมาะสมและทนั ทว่ งที การศึกษาภาพลักษณอ์ นาคตของคนไทย ดงั ทอ่ี ธบิ ายไปในบทท่ี 2 ขอ้ สมมตสิ �ำคญั ประการหนง่ึ ของอนาคตศาสตร์ คอื มนษุ ยเ์ ราไมส่ ามารถศกึ ษา อนาคตได้ เนอ่ื งจากอนาคตยงั ไมเ่ กดิ ขน้ึ จงึ ไมม่ ขี อ้ มลู หรอื ขอ้ เทจ็ จรงิ ของอนาคต สงิ่ ทเ่ี ราสามารถศกึ ษา ได้จริงคือภาพลักษณ์ของอนาคต (Images of the future) เท่านนั้ หัวขอ้ วิจัยหนง่ึ ทีย่ ังขาดอยู่และ ถอื เปน็ ชอ่ งว่างความรดู้ า้ นอนาคตศึกษาของไทยคือ การศกึ ษาภาพลักษณอ์ นาคตของคนไทย ค�ำถาม วจิ ยั คอื คนไทยคิดอย่างไรเก่ียวกบั อนาคต ทงั้ อนาคตของตนเอง ของญาติพ่นี ้องและครอบครวั ของ สังคมไทย และสังคมโลกโดยรวม และภาพลักษณน์ ้นั มผี ลอยา่ งไรต่อการตัดสินใจและพฤติกรรมใน ปัจจุบัน งานวิจัยของนักสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์จ�ำนวนมากได้ศึกษามาแล้วว่า โลกทัศน์มีผล ตอ่ พฤตกิ รรม นกั เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะเศรษฐศาสตร์พฤตกิ รรม แสดงให้วา่ ระยะเวลาและปจั จยั ทม่ี นษุ ยค์ �ำนงึ ถงึ เกยี่ วกบั อนาคตมผี ลตอ่ พฤตกิ รรมในปจั จบุ นั เชน่ ความเคยชนิ ในการบรโิ ภคแบบไมม่ ี การค�ำนึงถงึ อนาคต (myopic habit) มผี ลโดยตรงต่อการลงทุนและการออม หรือแมแ้ ต่การตัดสนิ ใจ เขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มดา้ นการเมอื ง เปน็ ตน้ งานวจิ ยั เกยี่ วกบั ภาพลกั ษณอ์ นาคตมีประโยชนท์ ง้ั ในเชงิ วชิ าการ และในเชิงนโยบาย จงึ ควรสนับสนุนให้มีงานวิจัยด้านนม้ี ากย่ิงข้ึน การศกึ ษาเหตไุ มค่ าดฝนั ปจั จบุ นั มงี านวจิ ยั ที่ศกึ ษาหวั ขอ้ และประเดน็ ตามแนวโนม้ ส�ำคญั ของโลกและของประเทศไทยทที่ ราบ กันอยูท่ ัว่ ไปแลว้ เชน่ กระบวนการเป็นเมอื ง การเขา้ สสู่ งั คมสูงอายุ การพัฒนาเศรษฐกิจยคุ 4.0 ฯลฯ แตเ่ นอ่ื งจากภาพอนาคตมคี วามไมแ่ นน่ อนสงู และอาจไมเ่ ปน็ ไปตามแนวโนม้ ทผี่ า่ นมา จงึ ควรมงี านวจิ ยั ในหวั ขอ้ ทมี่ คี วามไมแ่ นน่ อนสงู และอาจมผี ลกระทบในระดบั สงู และปานกลางดว้ ย ทงั้ แบบเหตไุ มค่ าด ฝันและหงส์ด�ำ (black swans) ดงั ตัวอย่างต่อไปน้ี • เมื่อโรคไวรัสตดิ ต่อข้ามชนิดสตั ว์ท�ำให้คนตายจ�ำนวนมาก • เมื่อโครงข่ายไฟฟา้ ระดบั ชาติ ถกู แทนทีโ่ ดยระบบพลงั งานชุมชนและครัวเรอื น

273 | อนาคตศกึ ษา • เม่อื เทคโนโลยีปญั ญาประดิษฐส์ ามารถเกบ็ ขอ้ มลู และความทรงจ�ำของคนตาย • เมอ่ื เนือ้ สตั ว์จากหอ้ งทดลองเรมิ่ วางขายในซปุ เปอรม์ ารเ์ ก็ต • ชวี ิตคนไทยหลงั ยคุ โซเชยี ลมีเดีย • เมอื่ แรงงานพมา่ ยา้ ยกลับประเทศเปน็ จ�ำนวนมาก • เมื่อเกิดแผน่ ดนิ ไหวครงั้ ใหญ่ในมหานครกรงุ เทพ การเกิดโรคระบาดใหญจ่ ากไวรัสโคโรนาสายพันธใุ์ หมใ่ น พ.ศ.2562 เป็นเหตกุ ารณไ์ ม่คาดฝนั ท่ี มผี ลกระทบอย่างมากต่อสขุ ภาพ เศรษฐกิจ สังคมและการเมืองระดบั โลก เหตุการณ์ดังกลา่ วแสดงให้ เหน็ ถงึ ความจ�ำเปน็ อยา่ งยิง่ ยวดและเรง่ ดว่ นในการสรา้ งฐานความรแู้ ละระบบการรบั มอื กบั เหตกุ ารณ์ ไม่คาดฝันแบบน้แี ละแบบอื่นทม่ี โี อกาสเกดิ ข้นึ และไดร้ บั ผลกระทบอยา่ งกวา้ งขวางเช่นกนั ชอ่ งวา่ งความรเู้ ชงิ เคร่ืองมอื และวิธีการ แมว้ ่าที่ผา่ นมาอาจมกี ารศึกษาอนาคตในประเทศไทยอยบู่ า้ ง แต่เมือ่ เทียบกบั องคค์ วามรใู้ นระดับโลก แล้ว ยังถือว่าหา่ งไกลพอสมควร องค์ประกอบของความรู้ท่ีส�ำคัญส่วนหนงึ่ คือองคค์ วามรดู้ า้ นเครื่อง มอื และวธิ กี าร รวมถงึ ระบบฐานขอ้ มลู ทท่ี นั สมยั และมขี อ้ มลู มากพอ โดยเฉพาะในโลกปจั จบุ นั ทข่ี อ้ มลู มอี ยมู่ หาศาล และสามารถน�ำมาใชใ้ นการศกึ ษาและคาดการณอ์ นาคตอยา่ งทไ่ี มเ่ คยมมี ากอ่ น ดว้ ยเหตุ นี้ จึงควรสง่ เสรมิ การพัฒนาแบบจ�ำลองหรอื วิธกี ารที่ทนั สมัย ดังเชน่ ระบบ Risk Assessment and Horizon Scanning System (RAHS) ของรฐั บาลสิงคโปร์ รวมถึงกระบวนการใหม่ในการสร้างโจทย์ เพือ่ อนาคตทีส่ ามารถน�ำไปจัดท�ำแผนท่ีน�ำทางการวิจยั และการสนับสนุนการวิจัย ในด้านกระบวนการศึกษาอนาคตและการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ แนวโน้มหน่งึ ท่ีเกิดข้ึนใน วงการอนาคตศาสตรต์ า่ งประเทศคอื การเปดิ กวา้ งของกระบวนการคน้ หาความรใู้ นดา้ นวทิ ยาศาสตรท์ ี่ เรยี กกนั วา่ วิทยาศาสตรเ์ ปิด (open science) หรอื วทิ ยาศาสตรพ์ ลเมือง (citizen science) แนวโนม้ นน้ี า่ จะมผี ลตอ่ วงการอนาคตศกึ ษา โดยเฉพาะในดา้ นกระบวนการศกึ ษาและสรา้ งภาพอนาคต หวั ขอ้ เกีย่ วกบั วทิ ยาศาสตร์เปดิ จึงเปน็ ประเด็นหนึง่ ที่ควรตดิ ตามหรือสนบั สนุนใหม้ กี ารศึกษาในเบ้ืองตน้ ไว้

อนาคตศกึ ษา | 274 ช่องวา่ งเชิงสถาบนั จากกรณีศกึ ษาระบบคาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรข์ องฟนิ แลนดแ์ ละสงิ คโปร์ จะเหน็ ไดว้ า่ ระบบคาดการณ์ ระดบั ชาตแิ บง่ ออกเปน็ สองสว่ นส�ำคัญ สว่ นแรกเปน็ สถาบันและองค์กรภาครัฐทดี่ �ำเนนิ การวเิ คราะห์ และคาดการณป์ ระเด็นอนาคตที่มคี วามหมายเชิงยุทธศาสตร์ เพือ่ สรา้ งนโยบายและยทุ ธศาสตรข์ อง รัฐในการรบั มอื และเตรยี มพรอ้ มส�ำหรับการเปลย่ี นแปลงในอนาคต อกี สว่ นหนง่ึ เป็นชมุ ชนดา้ นการ วิจัยและวิชาการด้านอนาคตศาสตร์ท่ีไม่เก่ียวข้องกับการวางแผนนโยบายภาครัฐโดยตรง แต่อาจมี ส่วนร่วมในการศึกษาและสร้างองค์ความรู้พื้นฐานที่ประยุกต์ใช้ในการวางแผนนโยบาย ในกรณีของ ฟินแลนด์ ชุมชนวิชาการด้านอนาคตศาสตร์ในประเทศมักเป็นนักวิชาการที่สังกัดมหาวิทยาลัยและ สถาบนั วจิ ยั ซง่ึ มกั ไดร้ บั การสนบั สนนุ ดา้ นการเงนิ จากกองทนุ วจิ ยั และนวตั กรรมทอ่ี าจเปน็ หนว่ ยงาน ของรัฐบาลหรืออาจเปน็ มูลนธิ ทิ ่เี ปน็ อสิ ระจากรัฐบาลกไ็ ด้ ระบบคาดการณ์แห่งชาติของประเทศไทยที่ผ่านมายังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าใดนัก และถือว่า ห่างไกลมากจากระบบคาดการณ์แห่งชาติของประเทศที่เป็นผู้น�ำด้านน้ี ไม่ว่าจะเป็นฟินแลนด์หรือ สงิ คโปร์ แมว้ ่าในอดตี ส�ำนกั งานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแหง่ ชาติ (สวทน.) ภายใตก้ ระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ท�ำหนา้ ทเี่ ปน็ ส�ำนกั งานเลขานกุ ารของศนู ย์ คาดการณเ์ ทคโนโลยเี อเปค และด�ำเนนิ โครงการและกจิ กรรมดา้ นการคาดการณม์ าพอสมควร แตผ่ ล งานเชงิ ประจกั ษไ์ ม่ปรากฏเหน็ ในวงกวา้ งมากเทา่ ท่คี วร ทง้ั ผลงานทีไ่ ดร้ บั การเผยแพร่ต่อสาธารณชน ผลงานทน่ี �ำไปใชต้ อ่ ในการวางแผนนโยบายสาธารณะของประเทศไทย และผลงานทเี่ ปน็ แหลง่ อา้ งองิ ในเชงิ วชิ าการ จึงควรสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ ใหด้ �ำเนินบทบาทในดา้ นนเ้ี พมิ่ ขึ้นตอ่ ไปอกี เป็นท่ีน่ายินดีว่าในปัจจุบันมีหน่วยงานและองค์กรท่ีมีกิจกรรมด้านอนาคตศึกษาและการคาด การณอ์ นาคตมากขน้ึ แสดงถงึ ความตระหนกั ในการสรา้ งองคค์ วามรแู้ ละทกั ษะดา้ นนี้ ดงั นนั้ นโยบาย รฐั บาลจงึ ควรเสรมิ สรา้ งขดี ความสามารถขององคก์ รทม่ี อี ยแู่ ลว้ ตอ่ ไปอกี ทง้ั ศนู ยค์ าดการณเ์ ทคโนโลยี เอเปค ภายใตส้ �ำนกั งานสภานโยบายการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรมแหง่ ชาติ (สอวช.) สถาบันการมองอนาคตนวัตกรรม ภายใต้ส�ำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) รวมถึงกลุ่มวิจัยใน มหาวิทยาลัย สถาบนั วจิ ัย และองค์กรภาคเอกชน

275 | อนาคตศกึ ษา เนอื่ งจากประเทศไทยในปจั จบุ นั ยงั มผี เู้ ชยี่ วชาญดา้ นอนาคตศกึ ษาและการคาดการณอ์ ยจู่ �ำนวน นอ้ ย โดยเฉพาะทผ่ี า่ นการอบรมและการเรยี นดา้ นนมี้ าโดยตรงและท�ำงานวจิ ยั ดา้ นนโ้ี ดยเฉพาะ จงึ ตอ้ ง มกี ารเสรมิ สรา้ งขดี ความสามารถดา้ นบคุ ลากรตอ่ ไป พรอ้ มกนั น้ี การศกึ ษาอนาคตในปจั จบุ นั ยงั เปน็ ไป ตามความสนใจสว่ นตวั รายบคุ คล ไมม่ กี ารรวมตวั กนั อยา่ งชดั เจนดงั ในกรณขี อง National Foresight Network ของฟนิ แลนด์ จงึ ควรเสรมิ สรา้ งเครอื ขา่ ยนกั วชิ าการและนกั นโยบายทส่ี นใจเรอ่ื งอนาคตใน ประเทศไทยและเชือ่ มโยงกับประชาคมวชิ าการระดบั โลกใหม้ ากขนึ้ อกี เมอ่ื ไมน่ านมานใี้ นชว่ งเดือนพฤศจิกายนและธนั วาคม พ.ศ. 2561 ทผ่ี ่านมา ส�ำนกั งานนวตั กรรม แหง่ ชาตโิ ดยสถาบนั การมองอนาคตนวตั กรรม ไดจ้ ดั กจิ กรรมทม่ี งุ่ สรา้ งและสง่ เสรมิ เครอื ขา่ ยผทู้ ส่ี นใจ เก่ียวกับการคาดการณ์และอนาคตศึกษา หนึ่งในนั้นคือการจัดการน�ำเสนอผลการศึกษาและการฝึก อบรมเผยแพร่ความรู้และทักษะด้านเครื่องมือคาดการณ์พ้ืนฐาน ซึ่งด�ำเนินการโดยคณะผู้ศึกษาจาก วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมกันนี้ ยังจัดการประชุมระดมความคิดเห็น แนวทางการสร้างเครอื ขา่ ยความร่วมมอื นกั อนาคตศาสตร์ร่วมกับส�ำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ซง่ึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของการจดั ท�ำหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารนโยบาย (policy lab) ภายในองคก์ ร ส่วนส�ำนักงานคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ได้ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้จัดงานฝึกอบรมเครื่องมือคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ใน เดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 นอกจากนี้ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สถาบันเครือข่ายของกระทรวง อุตสาหกรรม ก็ไดจ้ ัดงานอบรมเกีย่ วกบั การคาดการณข์ ององคก์ รธุรกิจ (corporate foresight) เพอื่ การวางแผนยทุ ธศาสตร์ กิจกรรมเหลา่ นน้ี ับเปน็ อกี ก้าวหนงึ่ ของการเสรมิ สรา้ งและขยายชมุ ชนด้าน อนาคตศึกษาและการคาดการณ์เชิงยทุ ธศาสตร์ในประเทศไทย ระบบข้อมูลพื้นฐานเป็นองค์ประกอบส�ำคัญท่ีต้องพัฒนาขึ้นเพ่ือให้ระบบคาดการณ์เชิง ยุทธศาสตร์ระดับชาติสามารถด�ำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากการคาดการณ์เชิง ยุทธศาสตร์ต้องมีข้อมูลเชิงกว้างและเชิงลึกที่สามารถน�ำมาวิเคราะห์แนวโน้มและคาดการณ์การ เปลยี่ นแปลง ระบบการประเมนิ ความเสย่ี งและการกวาดสญั ญาณ (Risk Assessment and Horizon Scanning - RAHS) ของรฐั บาลสิงคโปรม์ ีฐานข้อมูลขนาดใหญท่ ่ีสามารถน�ำมาใช้ได้ในการคาดการณ์ เชิงยุทธศาสตร์ เน่อื งจากข้อมูลท่ีใช้ในกระบวนการคาดการณ์ต้องมีความกว้างและลึกไปพร้อมกัน เพื่อให้สามารถจับสัญญาณอ่อนที่อาจกลายเป็นแนวโน้มส�ำคัญในอนาคต ดังนั้น การเช่อื มต่อข้อมูล ของรัฐบาลและหน่วยงานจึงเป็นหัวใจส�ำคัญของการสร้างระบบฐานข้อมูลท่ีรองรับระบบคาดการณ์ เชงิ ยทุ ธศาสตรข์ องประเทศ นอกจากน้ี หนว่ ยงานดา้ นการวางแผนยทุ ธศาสตรค์ วรเพม่ิ ขดี ความสามารถในการเกบ็ รวบรวมและ วเิ คราะหข์ อ้ มลู มหาศาลหรอื บก๊ิ ดาตา้ โดยไมจ่ �ำกดั เฉพาะขอ้ มลู ทมี่ โี ครงสรา้ งชดั เจน (structured data) แตต่ อ้ งรวมไปถงึ ขอ้ มลู ทโ่ี ครงสรา้ งไมช่ ดั เจน (unstructured data) เชน่ ขอ้ มลู การสนทนาในสอ่ื โซเชยี ล อกี ทง้ั ยงั ควรด�ำเนนิ นโยบายขอ้ มลู เปดิ (open data) ทเ่ี ออื้ ตอ่ การเขา้ ถงึ และใชป้ ระโยชนจ์ ากขอ้ มลู ภาครัฐให้ได้มากท่ีสุด ตราบใดท่ีข้อมูลน้ันไม่มีปัญหาด้านความมั่นคงและไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

อนาคตศกึ ษา | 276 การเปิดข้อมูลให้องค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาสังคมสามารถเข้าถึงได้ งา่ ย จะท�ำใหก้ ารกวาดสญั ญาณและการคาดการณเ์ พือ่ เตรยี มพรอ้ มส�ำหรบั อนาคตเปน็ ไปไดง้ า่ ยมากขนึ้ จากที่ทบทวนไว้ก่อนหน้าน้ี วัตถุประสงค์หลักประการหน่ึงของอนาคตศึกษาคือ เพ่ือวางแผน เตรียมพร้อมรับมืออนาคตที่ไม่แน่นอนและด�ำเนินกิจกรรมท่ีมุ่งไปสู่ภาพอนาคตที่พึงประสงค์ การ ศึกษาอนาคตจึงเกี่ยวข้องกับการกระท�ำ (action) อยู่เสมอ งานอนาคตศึกษาในประเทศไทยท่ีผ่าน มาอาจเน้นการสร้างความตระหนักในเร่อื งอนาคตบ้าง แต่อาจยังไม่น�ำไปสู่การปฏิบัติและการตัดสิน ใจเทา่ ท่ีควรนกั ดงั น้นั กิจกรรมการศึกษาอนาคตเพ่อื การตัดสินใจเชิงนโยบายและกิจกรรมการศกึ ษา อนาคตเชงิ วชิ าการจงึ ตอ้ งพฒั นาไปพรอ้ มกนั สาเหตหุ นง่ึ ทก่ี ารศกึ ษาอนาคตยงั ไมพ่ ฒั นาเปน็ ศาสตรใ์ น ประเทศไทย อาจเปน็ เพราะยงั ไมม่ กี ารเชอื่ มอนาคตศกึ ษากบั การวจิ ยั อนาคตเพอื่ ก�ำหนดนโยบายอยา่ ง เปน็ รปู ธรรม ท�ำใหก้ รอบความคดิ และแนวทางการมองอนาคตในแตล่ ะศาสตรย์ งั มขี อ้ จ�ำกดั อยู่ ซงึ่ โดย มากยังเนน้ แบบท�ำนายแลว้ ด�ำเนินการ (predict-then-act) นบั เปน็ ความท้าทายหลักที่ต้องพยายาม จัดการต่อไป ด้วยกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทีเ่ สนอไปขา้ งต้น

277 | อนาคตศกึ ษา ขอ้ เสนอเชิงนโยบาย จากการประมวลความรู้เก่ียวกับอนาคตศาสตร์และการศึกษาอนาคตเพื่อการวางแผนนโยบายและ ยทุ ธศาสตรข์ องตา่ งประเทศ พบวา่ หนว่ ยงานสนบั สนนุ ดา้ นการวจิ ยั มบี ทบาทส�ำคญั ในการสรา้ งระบบ คาดการณร์ ะดับชาติ ตัวอย่างทีด่ คี อื กองทนุ นวตั กรรมของฟนิ แลนด์ ในการน้ี หนว่ ยงานรฐั ของไทยที่ มพี ันธกจิ ในการสง่ เสริมการวจิ ัยและนวตั กรรมสามารถมีบทบาทได้ดงั นี้ 1. สง่ เสรมิ การพฒั นาองคค์ วามรภู้ ายในวงการอนาคตศกึ ษาในประเทศไทยในสว่ นทเี่ ปน็ ความ รพู้ น้ื ฐานและวธิ กี ารดา้ นอนาคตศกึ ษาโดยตรง ทง้ั ในประเดน็ หวั ขอ้ ทม่ี นี ยั ส�ำคญั เชงิ นโยบาย และในด้านเครือ่ งมอื การศึกษาอนาคตและการคาดการณเ์ ชงิ ยุทธศาสตร์ เพ่ือทราบถงึ จดุ แข็งจดุ อ่อนของวธิ ีการศกึ ษาต่าง ๆ 2. ส่งเสริมการเผยแพร่ความรู้และเคร่ืองมือในการศึกษาและคาดการณ์อนาคตในศาสตร์ และสาขาวิชาเดิมท่ีมีอยู่ โดยมุ่งการวิจัยไปที่หัวข้อที่ข้ามภาคส่วนและข้ามสาขาวิชา (cross-sector and cross-discipline) เพ่ือให้แต่ละวิชาเรียนรู้ปรับปรุงตนเอง ท�ำให้ ประชาคมวิชาเปดิ กวา้ งและสามารถสรา้ งพลงั การเปล่ียนแปลงทางนโยบายได้ 3. สง่ เสรมิ โครงการศกึ ษาและวจิ ยั ในศาสตรท์ ม่ี อี ยใู่ หม้ องภาพอนาคตมากขนึ้ โดยอาจตง้ั เปน็ เงือ่ นไขหนึ่งของการใหท้ ุนวิจัย 4. สนบั สนนุ การศกึ ษาเพอ่ื วางแผนนโยบาย ใหท้ ดลองใชก้ รอบแนวคดิ และวธิ กี ารดา้ นอนาคต ศึกษามากขนึ้ 5. สรา้ งชมุ ชนและเครอื ขา่ ยนกั วชิ าการและนกั นโยบายทสี่ นใจดา้ นอนาคตศกึ ษา โดยอาจจดั อบรม และเสวนาวชิ าการ-นโยบาย (Knowledge-policy interface) ในประเดน็ ทเี่ นน้ ภาพ อนาคต เพือ่ สร้างปฏสิ ัมพนั ธข์ องตวั แทนจากหลายภาคสว่ น ทัง้ ภาควชิ าการ ภาคนโยบาย ภาคประชาสงั คม และภาคธุรกิจ 6. สนบั สนนุ การแลกเปลย่ี นขา้ มสถาบนั และศนู ยว์ จิ ยั รวมถงึ สว่ นงานยทุ ธศาสตรภ์ ายใน สกว. และหน่วยงานให้ทนุ การวิจัยอ่ืน ๆ การให้ทุนวิจัยในหัวข้อและประเด็นตามแนวโน้มส�ำคัญของโลกและของประเทศไทยย่อมเป็น เรื่องท่ีถูกต้องและสมควรด�ำเนินต่อไป อย่างไรก็ตาม เน่ืองจากอนาคตมีความไม่แน่นอนสูงและ

อนาคตศึกษา | 278 อาจไม่เปน็ ไปตามแนวโน้มทผ่ี ่านมา จงึ ควรมีงานวิจยั ในหวั ขอ้ หรอื ประเด็นท่มี ีความไมแ่ นน่ อนสูงและ อาจมผี ลกระทบในระดบั สงู และปานกลาง งานวิจยั เหล่าน้ตี ้องเรม่ิ จากจินตนาการ แล้ววิเคราะหด์ ว้ ย เครื่องมอื อนาคตศกึ ษาท่เี ปน็ ระบบ ในปจั จบุ นั มคี วามจ�ำเปน็ เรง่ ดว่ นในการสรา้ งบคุ ลากรทมี่ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจดา้ นอนาคตศกึ ษาทง้ั ในระดบั พน้ื ฐานและในระดบั สงู จากแนวโนม้ ทหี่ ลายองคก์ รภาครฐั และเอกชนไดใ้ หค้ วามส�ำคญั กบั การ คาดการณเ์ ชงิ ยทุ ธศาสตรเ์ พอื่ วางแผนนโยบายสาธารณะและยทุ ธศาสตรข์ ององคก์ ร การสรา้ งบคุ ลากร ที่มีความรู้พ้ืนฐานด้านอนาคตศึกษาและการคาดการณ์เชิงยุทธศาสตร์ไม่น่าจะเป็นเร่ืองยากมากนัก เพราะเน้ือหาตรงไปตรงมา ส่วนในด้านวิธีการวิเคราะห์ก็สามารถใช้ความรู้ต่อยอดจากศาสตร์อื่นที่มี อยู่แล้ว ประเด็นส�ำคัญจึงน่าจะอยู่ที่การสร้างกรอบความคิดเชิงอนาคตศึกษามากกว่าการฝึกอบรม เครอื่ งมอื เพยี งอยา่ งเดยี ว นอกเหนอื จากการสง่ เสรมิ ความรแู้ ละทกั ษะการวเิ คราะหด์ า้ นอนาคตศกึ ษา ในหมนู่ กั วชิ าการและนกั นโยบายแลว้ ยงั ควรสง่ เสรมิ การพฒั นาบคุ ลากรทส่ี ามารถด�ำเนนิ กระบวนการ ศกึ ษาอนาคตแบบมสี ่วนร่วม เนือ่ งจากกระบวนกรที่มีประสบการณใ์ นการด�ำเนนิ การประชมุ ถอื เป็น องค์ประกอบส�ำคัญท่ีขาดไม่ได้ และจ�ำเป็นต้องมีความรู้และทักษะด้านอนาคตศึกษาท่ีต้องผ่านการ อบรมและฝึกฝนมาโดยเฉพาะ

279 | อนาคตศกึ ษา ความเปน็ ธรรม ในการรบั รอู้ นาคต ประเด็นสุดท้ายท่ีผู้เขียนอยากฝากทิ้งท้ายไว้ในหนังสือเล่มนี้ คือเร่ืองความเป็นธรรมในการรับรู้ อนาคต องคค์ วามรดู้ า้ นอนาคตศกึ ษาไดพ้ ฒั นามามากในชว่ งประมาณหนง่ึ ศตวรรษทผี่ า่ นมา ทง้ั ในระดบั ญาณวทิ ยาและวธิ วี ทิ ยา รวมถงึ ผลลพั ธก์ ารคาดการณท์ นี่ �ำไปใชต้ อ่ ในการวางแผนยทุ ธศาสตรใ์ นระดบั องคก์ รและระดบั ประเทศ วงการอนาคตศกึ ษาไดข้ ยายกวา้ งมากขนึ้ จากทแี่ ตเ่ ดมิ มเี ฉพาะนกั วจิ ยั และ นกั เขยี นในทวีปยโุ รปและอเมรกิ าเหนอื แตใ่ นปจั จบุ นั มนี กั วชิ าการจากเอเชยี แอฟรกิ า และอเมรกิ าใต้ มากขึ้น ขณะเดียวกัน ปรชั ญาและแนวคิดพ้ืนฐานของอนาคตศึกษาได้ขยายขอบเขตออกไปมาก โดย ครอบคลมุ เนอ้ื หาและมมุ มองทก่ี วา้ งกวา่ โลกทศั นเ์ ชงิ วทิ ยาศาสตรแ์ บบนวิ ตนั และยอมรบั ในความหลาก หลายของความคิดและวธิ กี ารสร้างความรเู้ กย่ี วกับอนาคตมากกวา่ เดมิ กระนน้ั กต็ าม วงการอนาคตศกึ ษาในระดบั โลกยงั คงยดึ ครองโดยกลมุ่ นกั คดิ นกั เขยี นในประเทศ ในทวีปยโุ รปและอเมรกิ าเหนอื เปน็ หลกั ถงึ แมว้ า่ ในชว่ งหลงั ไดม้ งี านเขยี นของนกั วชิ าการจากพน้ื ทอ่ี นื่ มากขนึ้ และการประยกุ ตใ์ ชว้ ธิ กี ารคาดการณใ์ นการวางแผนนโยบายวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยขี องหลาย ประเทศในเอเชยี เช่น ญี่ปุน่ สงิ คโปร์และเกาหลใี ต้ ไดร้ บั การยอมรบั มากขน้ึ แต่ในด้านองคค์ วามรเู้ ชงิ วิชาการก็ยังคงเป็นนักวิชาการจากกลุ่มวัฒนธรรมฝั่งตะวันตกท่ีมีผลงานเชิงวิชาการที่เป็นฐานความ รู้ของวงการอนาคตศึกษา นอกจากน้ี ถึงแม้ว่ากระบวนการและวิธกี ารด้านอนาคตศึกษาได้เปิดกว้าง มากข้ึนกว่าเดิม แต่ในภาพรวมก็ยังมีมุมมองและแนวคิดจากปรัชญาตะวันตกเป็นหลัก จึงอาจกล่าว ไดว้ ่า ความเป็นธรรมในการรับรู้ (cognitive justice) ในศาสตร์น้ี ยังตอ้ งไดร้ ับการแกไ้ ขและพฒั นา ตอ่ ไปอีกมาก แนวคิดความเป็นธรรมในการรับรู้ตั้งอยู่บนความตระหนักและยอมรับในความหลากหลายและ พหุนิยมของความรู้ และยึดในสิทธิพ้ืนฐานของความรู้ในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะอยู่ร่วมกันได้ แนวคิดน้ี เสนอเป็นครงั้ แรกใน พ.ศ. 2540 โดยนักคิดชาวอนิ เดียชือ่ ศิวะ วิศวะนาธาน (Shiv Visvanathan) ในหนงั สอื ชื่อ \"A Carnival for Science: Essays on science, technology and development2 แนวคิดดังกล่าวมุ่งวิพากษ์ผลกระทบที่เกิดจากการครอบง�ำของแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์ของปรัชญา

อนาคตศึกษา | 280 ตะวันตกต่อประเทศก�ำลังพัฒนาและวัฒนธรรมอื่น ท่ีไม่ใช่วัฒนธรรมตะวันตก แนวคิดน้ีเรียกร้องให้ วงการวิชาการของโลกให้การยอมรับและความส�ำคัญกับรูปแบบความรู้ท่ีไม่ใช่แบบตะวันตกมากขึ้น เนอ่ื งจากความรมู้ รี ปู แบบทแ่ี ตกตา่ งกนั ไปไดต้ ามวถิ แี ละแนวทางการด�ำรงชวี ติ ทแี่ ตกตา่ งกนั ออกไปใน แตล่ ะสงั คมวัฒนธรรม ความรใู้ นรปู แบบตา่ ง ๆ จึงควรไดร้ บั การยอมรับอยา่ งเท่าเทียมกัน แนวคิดิ ความเป็น็ ธรรมในการรับั รู้�มุ่�งวิพิ ากษ์ก์ ระบวนทัศั น์ด์ ้า้ นวิทิ ยาศาสตร์ก์ ระแสหลักั ของโลกใน ปัจั จุบุ ันั โดยพยายามส่ง่ เสริมิ กระบวนทัศั น์ใ์ นการสร้า้ งองค์ค์ วามรู้�ทางเลือื กและในรูปู แบบอื่น� แนวทาง หลักั คือื การเพิ่่ม� โอกาสในการสนทนาและแลกเปลี่ย่� นกันั ระหว่า่ งผู้�คนที่ม�่ ีีองค์ค์ วามรู้�ที่แ� ตกต่า่ งกันั และ ในบางครั้�งอาจขัดั แย้ง้ กััน โดยหวังั ว่า่ การสนทนาดัังกล่า่ วจะทำำ�ให้้เกิดิ องค์ค์ วามรู้�ในระดัับโลกที่่�นำ�ำ ไป สู่�ความยั่�งยืืน เป็็นประชาธิิปไตยและเป็็นธรรมมากยิ่�งขึ้�น แนวคิิดนี้�เริ่�มแพร่่หลายมากขึ้�นในวงการ วิิชาการระดัับโลกทั้�งในด้้านการศึึกษาวิิทยาศาสตร์์ เทคโนโลยีีและสัังคม ด้้านชีีววิิทยาชาติิพัันธุ์� (ethnobiology) และด้้านเทคโนโลยีีสารสนเทศเพื่่�อการพััฒนา (information and communication technology for development) เป็็นต้้น อััลเบิิร์์ต ไอน์์สไตน์์ กล่่าวไว้้ว่า่ จิินตนาการสำำ�คัญั กว่่าความรู้� เนื่่อ� งจากความรู้�ถูกจำ�ำ กััดอยู่่�กับั สิ่ง� ที่่�เรารู้�และเข้้าใจอยู่�ในปััจจุุบััน ในขณะที่�่จิินตนาการครอบคลุุมไปทั่่�วโลกและทุุกสิ่�งทุุกอย่่างที่่�เราจะ รู้�และเข้้าใจได้้ ข้้อความดัังกล่่าวสามารถขยายความหมายเพิ่่�มได้้ว่่า ความรู้�เป็็นเพีียงภาพปััจจุุบััน แต่่จิินตนาการเป็็นภาพอนาคต ดัังนั้�น ถ้้าหากความสามารถในการรัับรู้�และจิินตนาการของคนใน ปัจั จุบุ ันั ถูกู จำ�ำ กัดั โดยกระบวนทัศั น์แ์ ละปัจั จัยั เชิงิ โครงสร้า้ งบางอย่า่ ง และทำ�ำ ให้ค้ นบางกลุ่�มไม่ไ่ ด้ม้ ีีโอกาส จินิ ตนาการเท่า่ กับั คนกลุ่�มอื่น� นั่่น� หมายความว่า่ ภาพอนาคตที่เ�่ ป็น็ ไปได้แ้ ละที่พ่� ึงึ ประสงค์ข์ องคนกลุ่�มนี้� ก็็ถูกู จำำ�กััดไปด้้วยเช่น่ กันั ด้ว้ ยเหตุนุี้� ความเป็น็ ธรรมในการรัับรู้�และจิินตนาการเกี่�ย่ วกัับอนาคต จึงึ เป็น็ เรื่อ� งที่ต่� ้อ้ งให้ค้ วามสำำ�คัญั อย่า่ งยิ่ง� ในงานด้า้ นอนาคตศึกึ ษา ไม่น่ ้อ้ ยไปกว่า่ ความแม่น่ ยำ�ำ ในการพยากรณ์์ และความล้ำำ��ยุคุ ของจินิ ตนาการ นโยบายสาธารณะโดยเฉพาะในด้า้ นการศึกึ ษาและวิจิ ัยั เกี่ย่� วกับั อนาคต ศึกึ ษา จึึงควรให้้ความสำ�ำ คัญั กับั เรื่อ� งความเป็น็ ธรรมนี้�

281 | อนาคตศกึ ษา

อนาคตศึกษา | 282

283 | อนาคตศึกษา เชิงอรรถ 23 Bell (1997), p. 20 บทท่1ี 24 Bell (1997), p. 23 25 Gidley (2010) 1 พุทธทาสภกิ ขุ (2514) 26 Russell (1968), p. 291 2 All flesh is not the same flesh, but there is one 27 Russell (1968) , p. 291 28 Wiener (1948) kind of flesh of men, another flesh of beasts, 29 Gidley (2017), p. 46 another of fish, another of birds (1 Corinthians 30 Innes (1990) 15:39) ค�ำแปลจาก www.bible.com/th/bible/174/ 31 Innes (1990) 1co.15.39.thsv11 32 Dickson (1971) 3 So God created man in His own image; in the 33 Light (2003) image of God He created him; male and 34 Dickson (1971) female He created them (Genesis 1:27) ค�ำแปล 35 Jungk (1954) จาก https://newchristianbiblestudy.org/bible/ 36 Polak (1961) thai-kjv/genesis/1/27 37 Bell (1997), p. 36 4 Stewart (n.d.) 38 Gidley (2017), p. 68 5 Seligman (2016) 39 Sardar (1999) 6 Ólafsdóttir et al. ( 2015) 40 Inayatullah (1990) 7 Daniel and Spiers (2016) 41 Masini (1990) 8 Ferkiss (1977) 42 Son (2015) 9 https://www.almanac.com/content/predict- 43 Bell (1997), p. 38 ing-weather-pig-spleen 44 Bell (1997), p. 38 10 Cornish (1977) 45 https://www.clubofrome.org/ เขา้ ถึงเมอ่ื 11 Gidley (2017), p.10 12 Popper (1957) 18 พฤษภาคม 2561. 13 Kahn and Wiener (1967) 46 Seefried (2014) 14 Gidley (2017) 47 Bell (1997), p. 46 15 Bell (1997), p. 11. 48 Saritas & Anim, (2017) 16 Munting (1982), p. 45-46 49 Saritas & Anim (2017) 17 Munting (1982), p. 85, 87 50 Saritas & Anim (2017) 18 Nove (1977), p. 31 51 Saritas et al. (2017) 19 Boettke (2000), p. 124 52 Saritas & Anim (2017) 20 Bell (1997), pp. 15-18 53 https://apf.org/about/ วนั ที่ 2 มถิ นุ ายน 21 Bell (1997) 22 Tinbergen (1968) 2561 54 Bell (1997). p. 65. 55 Naisbitt (1984), 9-10 56 Jennings (1993)

อนาคตศกึ ษา | 284 บทท่ี 2 (2007) 37 Salk (1973) 1 Singer (2016) 38 Leibniz (1704) 2 Bell (1997), p.73 39 Lyne & Howe (2007) 3 Kahn (1973) 40 Baumgartner & Jones (1993) 4 Miles & Keenan (2002) 41 Cioffi-Revilla (1998) 5 Glenn (2007) 42 Bishop & Hines (2014) p. 36. 6 Lasswell (1967) 43 Grave (1974) 7 Bell (1997) 44 Beck & Cowan (1996) 8 Voros (2003) 45 Peck (2014) 9 Mau (1968) 46 Peck (2014) 116. 10 Polak (1961) 47 Wilber (2000). 11 Taylor (1989) 48 Institute for Alternative Futures (2005) 12 Cantril (1965) 49 Martino (1976) p. 4. 13 Huber (1974) 50 http://www.ericsson.com/ericsson-mobil- 14 Textor (1990a) and Textor (1990b) 15 Bell (1997), p. 86 ity-report 16 Helmer (1983) 51 https://splinternews.com/by-2020-solar- 17 Slaughter (1993) 18 Bell (1997), บทท่ี 4 และ 5 will-prove-a-better-deal-than-regular- 19 Bell (1964) el-1793844429 20 Bell (1997), p. 89 52 เชน่ Marien (2010) 21 Bell (1997), p. 89 53 เชน่ Andersen & Andersen (2014) 22 Bell (1997), p. 140 54 เช่น Hideg, É. (2007) 23 Bell (1997), p.125 55 Piirainen & Gonzalez (2015) 24 Sorokin & Merton (1937) 25 Zerubavel (1981) บทท่ี 3 26 Neher (1976) p.149, 152 27 Bell (1997), p. 148 1 Glenn and Gordon (2009) 28 De Jouvenel (1967), p. 277 2 Gidley (2017), p. 60 29 Mortensen (2016) 3 Gidley (2017), p. 61 30 เรอ่ื งเดียวกนั . 4 House of Commons Public Administration 31 Bishop & Hines (2012) 32 Bishop & Hines (2012) Select Committee (2007) 33 Bishop & Hines 5 Glenn (2013) 34 Proietti et al. (2019) 6 http://www.millennium-project.org/ 35 Peck (2009) 36 Vandenbroeck, Goossens, & Clemens. millennium/env-scanning.html 7 อภวิ ัฒน์ รัตนวราหะ และคณะ (2563) 8 Porter and Zhang (2015) 9 Manning et al (2009) 10 Gordon and Helmer (1964)

285 | อนาคตศกึ ษา 11 The Futures Group International (2009a) 42 Álvarez and Ritchey (2015) 12 S&T Foresight (2019) 43 Ritchey (2009) 13 Gordon (2009a) 44 Ritchey (2009) 14 Pacinelli (2006) 45 The Futures Group International (2009b) 15 Gordon (1994) 46 รายละเอียด http://www.millennium-proj- 16 Dalkey & Helmer (1963) 17 Kane (1972) ect.org/millennium/ information.html 18 Brauers & Weber (1988) 47 Kahn & Wiener (1967) 19 Duperrin & Godet (1975) 48 Gordon (2009b) 20 Porter (2009) 49 World Energy Council (2011) 21 Kane et al. (1973) 50 มง่ิ สรรพ์ ขาวสอาด และ อภวิ ัฒน์ รตั นวราหะ 22 http://forlearn.jrc.ec.europa.eu/guide/4_ (2557) methodology/meth_structural-analysis. 51 Gordon (2009b) htm 52 Mandel et al. (1993) 23 Bipe Conseil (1992) 53 Godet (2000) 24 Petersen (1997) 54 Gordon (2009b) 25 Hiltunen (2006); Mendonça et al. (2004); 55 Coyle (2009) Steinmüller (2007) 56 Tri, Boswell & Dortmans (2004) 26 Hiltunen (2006) 57 Coyle & Yong (1996) 27 Steinmüller (2007) 58 Wood & Christakis (1984). 28 Mendonça et al. (2004) 59 Lempert et al. (2003) Lempert and 29 Tan et al. (2008) 30 Barber (2006) Collins (2007) 31 Markley (2011) 60 Lempert et al. (2009) 32 Molitor (1977) 61 Lempert et al. (1996) 33 Petersen & Steinmüller (2009) 62 Lempert et al. (2009) 34 Petersen (1997) 63 ตวั อยา่ งเช่น พชั รี สิโรรส และคณะ (2546) 35 Steinmüller & Steinmüller (2004) 36 Petersen & Steinmüller (2009) เจมส์ แอล เครยต์ ัน (James L. Creighton) 37 Petersen (1997) (2552) Slocum (2003) 38 http://wiwe.iknowfutures.eu/what-is-wi- 64 Glenn (2009a) we-bank/ 65 http://www.digitaluniverse.net/hubbard/ 39 Glenn (1989) topics/view/14482/ 40 The Futures Group International (2009a) 66 Kalning (2007) 41 Ritchey (2009) 67 Dufva et al. (2016) 68 Wolfers & Zitzewitz (2006) 69 Berg et al. (2001) 70 Polgreen et al. (2006)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook