๑๘๒ วิธีปภิบตการเผาศพ - เมื่อขึ้นไปถึงเมรุแล้ว นิยมยืนตรง ห่างจากศพประมาณ ๑ ก้าว ล้าแต่งเครื่องแบบข้าราชการ นิยมยืนตรงโค้งคำนบ ล้ามิไค้แต่งเครื่องแบบข้าราชการ นิยมน้อมตัวลงยกมิอไหว้ พร้อมทั้งธูป เทียน ดอกไม้จันทน์ที่อยู่ในมือ (เฉพาะศพนั้นมื อาวุโสสูงกว่าตน หรือมือาวุโสรุ่นราวคราวเดียวกัน) - ขณะที่ยืนตรง โค้งคำนับ หรือน้อมตัวลงยกมือไหว้นั้น นิยมทั้งจิตขอขมาโทษต่อศพนั้นว่า **คายะกัมมัง วะจีคัมมัง มะโนกัมมัง อะโหสิกัมมัง ไหตุ'' \"ข้าพเจ้าไค้ล่วงเกินต่อฟาน ทางกายกิดี ทางวาจากิดี ทางใจกิดี ขอท่านไค้โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าค้วยเกิด\" - เมื่อขอขมาโทษศพจบแล้ว นิยมน้อมตัวลงวางธูป เทียน ดอกไม้จันทน์ ที่เชิงตะกอน พร้อมกับพิจารณาตัวเองถึงความ ตายว่า \"อะยัมริ! โข เม กาโย เอวังธัมโม เอวังภาวี เอวังอะนะ ตีโต\" \"ร่างคายของเราแห้นี้แล ย่อมมีความตายเป็นธรรมดา อย่างนี้ มีปกตีเป็นอย่างนี้ ไม่ล่วงพ้นความดายอย่างนี้ไปไค้\" - เมื่อพิจารณาตัวเองถึงความตายจบแล้ว นิยมวางเครื่อง ขอขมาศพนั้นลงแล้ว ยืนตรง โค้งคำนับ หรือยกมือไหว้ศพ อีกครั้ง พร้อมกับนึกอธิษฐานในใจว่า \"ขอจงไปล่สคตี ๆ เกิด\" ตังนี้แล้วเป็นเสร็จพิธี www.kalyanamitra.org
odcn - การที่ท่านผ้มี๓ยรติทั้งหลายขึ้นไปทำพิธีเผาศพพร้อมกัน ทั้น เป็นพิธีการแสดงความเคารพต่อศพเท่านั้น ยังไม่ใช่พิธีการ เผาศพจริง - เมื่อแขกที่ได้รับเชิญมาขึ้นไปท่าความเคารพศพหมดแล้ว นิยมให้วงศาคณาญาติสนิทมิตรสหายผู้ใกล้ชิดกับผ้ดายขึ้นไปท่าการ เผาศพจริงอีกครั้งหนึ่ง จึงเสร็จพิธีเผาศพบริบูรณ์ ระเบียบปฏิบตการทำบุญเก็บอ้เ การเตรียมลุปกรณ์เครื่องใช้!นพิธี - ในพิธีการท่าบุญเก็บอ้ฐินั้น นิยมจัคเคริยมอุปกรณ์เครื่อง ใช้ไว้ให้มีพรักพร้อมก่อนถึงเวลาท่าบุญ ดังต่อไปนี้ คือ:- ๑. โกศสำหรับใส่อ้ฐิ ๒. กล่องโลหะ คือ ล้ง หรือหีบไม้ สำ หรับใส่อ้เที่เหลือ และยังคาร ๓. ผ้าขาวสำหรับห่อกล่องโลหะ คือ ล้ง หรือหีบไม้ ๔. ผ้าสำหรับทอดบังสุกุลก่อนเก็บอ้ฐิ ๕. อาหารคาวหวาน สำ หรับถวายพระสงฆ์ ๖. นิมนต์พระสงฆ์ พิจารณาผ้าบังสุกุล ก่อนเก็บยัฐิ การกำหนดเวลาเก็บอ็เฐ - การกำหนดเวลาเก็บอํฐินั้น นิยมปฏิบัติกันโดยมาก แบ่ง ออกได้เป็น ๒ แบบ คือ:- www.kalyanamitra.org
0๘๔ ๑. ทำพิธีเก็บอ้ฐิ ตอนเย็น วันเผานั้น หรือ ๒. ทำ พิธีเก็บอ้เ ตอนเช้า วันรุ่งขึ้น - การทำพิธีเก็บอ้ฐิ ตอนเย็น วันเผานั้น นิยมปฎิบ้ตใน งานพระราชทานเพลิงศพ หรืองานฌาปนกิจศพที่จัตให้มีการ ทำ บุญฉลองอ้เติตต่อกันไปจากงานเผาศพนั้น เพื่อรวบรัตงาน บำ เพ็ญกุศลให้แล้วเสร็จภายในวันเผานั้นเลยทีเดียวไม่ต้องกังวลใจ อีกต่อไป - การทำพิธีเก็บอ้เตอนเช้า วันรุ่งขึ้นนั้น นิยมปฏิบัติ ในงานเผาศพที่เจ้าภาพมีความประสงค์จะบำเพ็ญกุศลทำบุญอ้เ ในวันรุ่งขึ้น หรือยังไม่จัดงานทำบุญอ้เก่อน เพราะยังไม่พร้อม ต้วยเหตุใดๆ ก็ตาม - ในการทำบุญเก็บอ้ฐิตอนเช้าวันรุ่งขึ้นนี้ นิยมจัดอาหาร คาวและหวานใส่หาบ โดยจัดใส่ส่ารับคาว ๓ ที่ จัดใส่สำรับหวาน ๓ ที่ แล้วจัดคนหาบ ๓ คน เดินเวียนรอบเชิงตะกอน ๓ รอบ และฃณะเดินเวียนรอบเชิงตะกอนนั้น นิยมก่เรืยกหากัน แล้วนำ อาหารที่หาบมานั้น ไปถวายพระสงฆ์ที่นิมนต์มาพิจารณาบังสุกุลอัฐ - พิธีการจัดอาหารคาวและหวานใส่สำรับ แล้วให้คนหาบ ไปถวายพระสงฆ์ ๓ ที่ อย่างนี้ นิยมเรืยกกันว่า \"พิธีสามหาบ\" - ความจริง ฃณะที่คนหาบเดินเวียนรอบเชิงตะกอน ๓ รอบ และก่เรืยกหากันนั้น เป็นวิธีปฏิบัติสมัยโบราณ ซึ่งจำเป็นจะต้อง ทำอย่างนั้น www.kalyanamitra.org
๑๘๕ - เพราะสมัยโบราณ บ้านเมืองยังเปนป่าดงพงพีเป็นส่วนมาก และนิยมนำศพไปเผาในป่าที่ห่างไกลออกไปจากบ้านเรือน ระยะ ทางเดินจากบ้านไปถึงป่าช้าที่เผาศพนั้นเป็นระยะทางที่ไกลมาก พอสมควร - ในการเดินป่านั้น จำ เป็นจะต้องมืเครื่องหมายเป็นที่สังเกต เพื่อป้องกันไม่ใบ้หลงทาง ในพิธีนำศพไปป่าช้าจึงนิยมมืการบ้กธง เป็นเครื่องหมายไปตลอดทางต้วย เพื่อจะไต้เดินทางกลับไม่หลง ทางนั้นเอง และยังนิยมปฎิป่ตกันสืบมาจนกระทั่งทุกวนนี้ - ความนิยมในการจัดอาหารคาวหวานใส่หาบ ๆ ไป ก็เพราะ หนทางไกล ถ้าจะแบกส่ารับไปกว่าจะถึงก็เมื่อยล้า เพราะมื คำพังเพยว่า \"หาบดีกว่าคอน นอนดีกว่านั้ง\" จึงนิยมหาบไป - ความนิยมในการต้องหาบเวียนรอบเชิงตะกอนนั้น ก็เพราะ การเดินในป่าซึ่งมากไปต้วยต้นไม้ป้ดบังสายดา ทำใบ้มองเห็นไปไต้ ไม่ไกล กว่าจะหาสถานที่เผาศพพบก็ต้องเดินเวียนหาอยู่หลายรอบ - ฃณะที่เดินหาบเวียนรอบเชิงตะกอนนั้น นิยมก่เรืยกหา กันนั้น ก็เพราะการเดินป่านั้น ชั่วระยะห่างกันไม่กี่เล้นก็มอง ไม่เห็นกันแล้ว เกรงว่าจะพลัดหลงกัน จึงต้องก่เรืยกหากันไป ตลอดทาง - ประเพณีเหล่านี้ ล้วนมืดวามจำเป็นมากในสมัยโบราณ โม้น แต่ล่วงเลยมาถึงสมัยบัจจุบันนี้บ้านเมืองเจริญแล้ว ความ จำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้นก็หมดไปแล้ว www.kalyanamitra.org
๑๘๖ - เพราะฉะนั้น ในพิธีทำบุญเก็บอ้ฐินั้นสมควรปฎิใ3ตเฉพาะ พิธีกรรมที่จำเป็นและมีประโยชน์ กล่าวคือ การจัดล่ารับคาว หวานไปถวายพระสงฆ์ที่นิมนต์มาพิจารณาบังสุกุลอ้เนั้นแหละ เป็นข้อบุ่งหมายที่ล่าคัญ - ส่วนการนำล่ารับไปนั้นสะดวกอย่างใดก็ควรนำไปอย่างนั้น ไม่จำเป็นจะต้องจัดไล่หาบแล้วเดินหาบเสมอไป และไม่จำเป็น จะต้องก่เรียกหากัน เพราะมองเห็นกันอยู่แล้ว - เรื่องเช่นนี้ ขอฝากฟานผู้เพิงพินิจพิจารณาดูว่าควรหรือ ไม่ควรประการใด แล้วปฎิบัดิตามความเหมาะสมแก่เหตุการณ์ และสถานที่นั้นๆ จึงจะเป็นผู้สมควรไต้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ ประพฤดิอย่างมีเหตุผลสมกับภาวะของชาวพุทธอย่างแท้จริง วิธีปฎิบตในการเก็บอ้ฐ - ในพิธีการเก็บอ้ฐินั้น สัปเหร่อนิยมทำพิธีแปรรูป คือ นำ เอาอ้ฐของผู้ตายที่เผาแล้วนั้นมาวางเป็นรูปร่าง เป็นโครงร่าง โดยวางโครงร่างให้บันหัวไปทางทิศตะวันตก แล้วนิมนต์ให้พระสงฆ์ พิจารณาบังสุกุลต้วยคำพิจารณา บังสุกุลตายก่อน แล้วแปรรูป โครงร่างกระดูกให้บันบัวกสับไปทางทิศตะวันออก แล้วนิมนต์ให้ พระสงฆ์พิจารณา บังสุกุลเป็น อีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงให้เข้าภาพ งานเก็บอ้ฐใส่โกศจนพอแก่ความต้องการ โดยเลือกเก็บอ้เจาก ส่วนแห่งร่างกาย ๖ แห่ง คือ:- ๑. กระดูคกะโหลกศีรษะ ๑ ชิ้น ๒. กระดูกแขนทั้งสองข้าง ๒ ชิ้น www.kalyanamitra.org
๑๘๗ ๓. กระดูกขาทั้งสองข้าง ๒ ชิ้น และ ๔. กระดูกซี่โครงหน้าอก ๑ ชิ้น - ส่วนอ้เที่เหลอรวมทั้งอังคาร (ขี้เถ้า) ทั้งหมดนิยมกวาด รวมเก็บใส่กล่องโลหะ คือ ถ้ง หรือหีบไม้ แล้วเอาผ้าขาวห่อเก็บไว้ - เมื่อเก็บอํแสร็จแล้ว จึงนำอาหารคาวหวานไปถวายพระ สงฆ์ที่นิมนต์มาพิจารณาบังสุกุล เป็นเสร็จพิธีเก็บอํฐิ ระเบียบปฎิป้ตการทำบุญฉลองอ้ฐิ การกำหนดงานทำบุญฉลองอ้ฐ - การกำหนดวันและเวลาทำบุญฉลองอ้เทั้น นิยมปฏิบัติ กันโดยมาก แปงออกได้เป็น ๓ แบบ คือ:- ๑. การทำบุญฉลองอ้เ ดอนเย็นวันเผาศพนั้น ๒. การทำบุญฉลองอ้เ ดอนเช้าหรือดอนเพล วันรุ่งขี้น จากวันเผาศพนั้น ๓. การทำบุญฉลองอ้เ เมื่อเจ้าภาพมีดวามพร้อมวันใด วันหนึ่ง - การทำบุญฉลองอ้เ ตอนเย็นวันเผาศพนั้น นิยมปฏิบัติ ในงานพระราชทานเพลิงศพ หรืองานฌาปนกิจศพ ที่จัดให้การ บำเพ็ญกุศลติดต่อกันไปจากงานเผาศพนั้น โดยจัดงาน ณ วัด ที่เผาศพนั้น เพี่อรวบรัดงานบำเพ็ญกุศลให้แล้วเสร็จภายในวันเผา นั้นเลยหีเคืยว ไม่ด้องกังวลใจอีกต่อไป www.kalyanamitra.org
๑๘๘ - การทำบุญฉลองอํเ ตอนเช้าหรือตอนเพล วันรุ่งขึ้นจาก วันเผาศพนั้น นิยมปฎิบ้ตในงานเผาศพที่เจ้าภาพมีความประสงค์ จะบำเพ็ญกุศลทำบุญเก็บอ้เ ในวันรุ่งขึ้น แล้วนำอํเและอังคาร ไปตั้งบำเพ็ญกุศลฉลองอ้ฐิ ณ บ้านเรือนท)องตน หรือ ณ วัดใด วัดหนึ่ง ตามความสะดวกของตนเป็นประการสำคัญ - การทำบุญฉลองอัฐิ เมื่อเจ้าภาพมีความพร้อมวันใด วันหนึ่งนั้น นิยมปฎิบ้ตกันโดยมาก ในเมื่อเจ้าภาพได้ตระเตรียม คัวพร้อมแล้วทุกประการ วันใดวันหนึ่งก็ได้ เพราะการทำบุญ กุศลที่มีผลมาก มีอานิสงส์มากนั้น เจ้าภาพจะด้องมีความพร้อม ด้วยศรัทธาและโภคะตั้งสองประการ สลาฬฑึ่จัดงาฬทำบุญฉลอง^ - สถานที่สำหรับจัดงานทำบุญฉลองอ้ฐินั้น นิยมปฎิบ้ดคัน โดยมาก แปงออกได้เป็น ๓ แบบ คือ:- ๑. จัดงานทำบุญฉลองอ้ฐิ ณ วัดที่เผาศพนั้น ๒. จัดงานทำบุญฉลองอ้ฐิ ณ วัดใดวัดหนึ่ง ๓. จัดงานทำบุญฉลองอ้ฐิ ณ บ้านเรือนของตนเอง การเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้!นพิธีทำบุญฉลองอ้ฐ - ในการจัดงานทำบุญฉลองอ้ฐินั้น นิยมจัดเดรืยมอุปกรณ์ เครื่องใช้ในพิธไร้ใบ้มีพรักพร้อมก่อนถึงวันและเวลาประกอบพิธี คังด่อไปนี้ คือ:- www.kalyanamitra.org
๑๘๙ ๑. ผ้าไตร หรือผ้าสบง หรือผ้าเช็ดตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง สำ หรับใช้ทอดให้พระสงฆ์พิจารณาบังสุกุลอ้เ มีจำนวนเท่าพระ- สงฆ์ที่นิมนต์มาสวดพระพุทธมนต์ จำ นวน ๕-๗-๑๐ รูป หรือมี จำนวนมากกว่านี้ก็ใด้ ดามกำตังศรัทธาฃองเจ้าภาพ ๒. ด้ายสายสิญจน์ ๑ ม้วน สำ หรับใช้โยงจากอ้ฐิมาทอด ผ้าบังสุกุล โต๊ะสำหรับตั้งอ้เและอังคาร ๑ ตัว หรือจะใช้โต๊ะบูชาก็ยิ่งดี พร้อมทั้งเครื่องตักการบูชาอ้เ คือ กระถางธูป ๑ ลูก พร้อมตับ ธูป ๑ ดอก และเชิงเทียนพร้อมทั้งเทียน ๑ คู่ การจัดงานทำบุญฉลองอ้ฐ - การอัดงานทำบุญฉลองอ้ฐิทั้น นิยมปฏิบัติพิธีทำบุญเช่น เดียวตับพิธีทำบุญทั้วใปนนเอง มีความนิยมด่างตันบ้างเพียงบาง ประการ ตังด่อใปนี้ คือ:- ๑. นิยมใม่ด้องวงด้ายสายสิญจน์รอบอาคารบ้านเรือน ๒. นิยมใม่ด้องวงด้ายสายสิญจน์รอบฐานพระพุทธรูปที่โต๊ะ หม่บูชา โยงมาให้พระสงฆ์ถือสวดพระพุทธมนต์ ๓. นิยมใม่ด้องตั้งภาชนะนํ้ามนต์ เพราะพิธีทำบุญฉลอง อ้เทั้น เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญกดเวทีด่อท่านผู้ล่วงตับ ใปแล้ว ใม่ใช่ทำบุญเพื่อความเป็นสิรืมงคลแก่เจ้าภาพงาน ๔. นิยมอัดตั้งอ้เและอังคารใว้บนโต๊ะ พร้อมตับตั้งรูปของ ผู้ดายด้วย(ล้ามี) พร้อมทั้งมีเครื่องตักการบูชาอ้ฐิ ดีอ;- www.kalyanamitra.org
oSo - กระถางธูป ๑ ลูก พร้อมกับธูป ๑ ดอก - เชิงเทียน ๑ คู่ พร้อมกับเทียน ๒ เล่ม พร้อมทั้งจัดเตรียมวงด้ายสายสิญจน์รอบโกศอ้เ-อังคาร-รูปภาพ ของผู้ตาย เพื่อใช้ทอดผ้าบังสุกุลให้พระสงฆ์พิจารณาบังสุกุลอํฐิ และอังคารต่อไป ระฒียบปฎิบตการทำบุญบรรจอัเ การกำหนดวันทำบุญบรรจุอฐ - การกำหนดวันทำบุญบรรจุอ้เนั้น นิยมปฏิบัติกันทั้วไป คือ เมื่อเจ้าของงานทีพร้อมทั้งศรัทธาทั้งโภคทรัพย์ ทั้งวงศา- คณาญาติก็พร้อมทุกประการแล้วเมื่อใด ก็จัดงานทำบุญบรรจุอ้เ เมื่อนั้น การเตรียมลุปกรณ์เครื่องใชในการทำบุญบรรจุอฐ - ในการจัดงานทำบุญบรรจุอ้เนั้น นิยมจัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องใช้ในพิธีไว้ให้ทีพรักพร้อมก่อนถึงวันและเวลาประกอบพิธี ดังต่อไปนี้ คือ: ๑. ผ้าไตร หรีอผ้าสบง หรีอผ้าเช็ดดัว หรีอผ้าเช็ดหน้า อย่างใดอย่างหนึ่ง สำ หรับใช้ทอดให้พระสงฆ์พิจารณาบังสุกุลก่อน บรรจุอ้เ ทีจำนวนมากเท่าจำนวนพระสงฆ์ที่นิมนต์มาสวดพระ- พทธมนต์นั้น www.kalyanamitra.org
๑๙๑ ๒. นํ้าอบไทย สำ หรับใช้สรงอ้เ จำนวน ๑ ขวดเป็น อย่างน้อย ๓. ธป นิยมใช้ธูปหอม มีจำนวนมากเพียงพอแก่ผู้มา ร่วมพีธีบรรจุอ้เนั้น (คนละ ๑ ดอก) ๔. กระถางธูป ๑ ลูก สำ หรับใช้ป'กธูปสักการบูชาอ้เนั้น ๕. เหรียญเงิน ๑ บาท หรีอเหรียญเงิน ๕ บาท มี จำนวนมากพอสมควร สำ หรับบรรจุพร้อมกับอ้เนั้น สถานที่บรรจุอ้ฐ - สถานที่สำหรับบรรจุอ้เนั้น เจ้าภาพมีความประสงค์จะ บรรจุอ้เ ณ สถานที่ใด เมื่อไร จะต้องติดต่อสอบถามดกลงกับ ทางวัดหรีอเจ้าหน้าที่สถานที่บรรจุอ้ฐินั้น พร้อมทั้งจะต้องเดรียม อุปกรณ์เครื่องใช้ในพิธีบรรจุอ้ฐิ มีอะไรบ้าง ไว้ล่วงหน้าก่อน เพื่อความสะดวกต้วยกันทุกฝ่าย การจัดงานทำบุญบรรจุอฐ - การจัดงานทำบุญบรรจุอ้เนั้น นิยมปฏิบัติพิธีทำบุญ เช่นเดียวกับพิธีทำบุญทั้วไปนั้นเอง แต่มีความนิยมต่างกันบ้าง เพียงบางประการ เช่นเดียวกับการจัดงานทำบุญฉลองอ้เกังกล่าว มาแล้วนั้นเอง www.kalyanamitra.org
๑๙๒ วิธีปฏิบัติในการบรรจอฐ - วิธีปฏิบัติในการบรรจุอ้เนั้น นิยมปฏิบัติกันโดยมาก ดังต่อไปนี้:- ๑. การสรงนั้าอ้เ โดยบุตรธิดา วงศาคณาญาติและผู้มา ร่วมพิธีทุกคน ประพรมอ้เด้วยนั้าอบไทย พร้อมกับใส่เหรียญ เงินบาทลงในภาชนะบรรจุอ้เนั้น จนครบทุกคนที่มาร่วมพิธี ๒. กัญเชิญอ้แข้าบรรจุ ณ สถานที่สำหรับบรรจุนั้น ๓, เจ้าภาพแจกธป (ที่จุดไฟแล้ว)ให้แก่ผู้มาร่วมพิธีทุกคน (คนละ ๑ ดอก) ผู้เป็นประธานพิธีนำสักการบุชาอเ โดยถือธูป ประณมมือยกขึ้นให้นิ้วบัวแม่มือทั้งสองจรดอยู่ที่ดั้งจมก ปลายนิ้ว ชี้ทั้งสองจรดอยู่ระหว่างคิ้ว พร้อมกับนิกอธิษฐานในใจว่า \"ขอจง อยู่เป็นสุข ๆ เถิด'' จบแล้ว บักธูปไว้ ณ กระถางสำหรับฟ้กธูป บัน แล้วน้อมดัวลงยกมือไหว้อีกครั้ง แน้ผู้มาร่วมพิธีทุกคนก็นิยม ปฏิบัติเช่นเดียวกัน เป็นเสร็จพิธี ระเบียบปฎิฟ้ดการประกอบพิธีลดยองดาร การกำหนดวินประกอบพิธีลอยองคาร - การกำหนดรันประกอบพิธีลอยกังคารนั้น นิยมปฏิบัติกัน โดยมาก แปงออกได้เป็น ๒ แบบ ดีอ:- ๑. การประกอบพิธีลอยกังดาร ในรันทำบุญฉลองอเ www.kalyanamitra.org
oBcn ๒. การประกอบพิธีลอยอังคาร เมื่อมีความพร้อมวันใด วันหนึ่ง สิ่งของที่ควรเตรียมไปใช้!นการลอยอังคาร ๑. พวงมาลัยดอกไม้สด อย่างน้อย ๑ พวง (ส่วนพวงหรด ไม่นิยมนำไป) ๒. ธูป นิยมใช้ธูปหอม สำ หรับจุดลักการบูชาอังคาร มีจำ นวนมากเพิยงพอแก่ผ้ไปร่วมพิธี (คนละ ๑ ดอก) ๓. กระถางธูป ๑ ลูก มีชนาดใหญ่พอสมควร ๔. ด้ายสายสิญจน์ ๑ กลุ่ม สำ หรับใช้ผูกโยงลุ้งหย่อนลง ส่ท้องทะเล ๕. กลีบดอกกุหลาบสด จัดใส่พาน มีจำ นวนมากพอสมควร ๖. ก้อนหิน ลัก ๒-๓ ก้อน มีนํ้าหนักพอจะถ่วงอุ้งให้จม ลงส่ห้องทะเล วิธีปฏิบตในการลอยอังคาร - อ้เที่เหลีอจากการเก็บอ้เพร้อมทั้งอังคาร (ชี้เก้า) ที่กวาด รวมใส่กส่องโลหะ คือ อุ้ง หรือหีบไม้ไว้นั้น นิยมนำไปบรรจุไว้ ในเจดีย์ หรือนำไปลอยเลียในกระแสนั้าไหล เช่น ในทะเล หรือในแม่นั้า แด'โดยมากนิยมนำไปลอยลงในทะเลเพื่อให้ห่าง ไกลชุมชน - เมื่อได้ทำบุญฉลองอ้เและอังคาร โดยการนิมนด้พระสงฆ์ จำ นวน ๕ รูป ๗ รูป ๑๐ รูป หรือนิมนต์พระสงฆ์หมดทั้งวัด www.kalyanamitra.org
๑๙๔ สวดพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเช้า หรือถวายภัตตาหารเพล (ตามความสะตวก) นิมนต์พระสงฆ์พิจารณาบังสุกลอ้ฐิและอังคาร ถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์ทั้งนั้นอนุโมทนาให้พร เจ้าภาพ กรวตนำอุทิศส่วนกุศลให้แก่ท่านผู้ล่วงอับไปแล้ว เปีนเสร็จพิธี ทำบุญฉลองอํเและอังคารแล้ว หรือ - ล้าเจ้าภาพยังไม่พร้อมจะจัตงานทำบุญฉลองอํฐิ และอังคาร ได้ ก่อนที่จะนำอังคารไปลอยนั้น นิยมนิมนต์พระสงฆ์จำนวน ตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป พิจารณาบังสุกุลอังคาร ถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนาให้พร เจ้าภาพกรวดนั้าอุทิศส่วนกุศลให้แก่ท่าน ผู้ล่วงอับไปแล้ว - คณะเจ้าภาพซึ่งมีบุตรธิดาพร้อมด้วยญาติสนิทมิตรสหาย พร้อมภันอัญเชิญอังคารนำลงเรือไปยังสถานที่สมควรจะลอยอังคาร ในทะเลแล้ว - ก่อนที่จะอัญเชิญอังคารลงลอยในทะเล นิยมจุดธูปแจก แก่บรรดาญาติสนิทมิตรสหายที่ไปร่วมพิธีคนละ ๑ ดอก เพื่อให้ ทำการอักการบุชาอังคาร พร้อมภับบอกกล่าวแก่เทพยตาผู้รักษา ทะเลหลวงให้ได้รับทราบด้วย - ประธานพิธี (โดยมาก เป็นบุตร หรือธิดา คนหัวปี) นำด้ายสายสิญจน์มาผูกที่ล้ง แล้วคลี่ด้ายสายสิญจน์ไปให้ญาติ สนิทมิตรสหายทุกคนถือไว้ แล้วอัญเชิญล้งใส่อังคาร โดยถือด้วย มอหังสองประคองหย่อนลงส่ทะเล พร้อมภับด้ายสายสิญจน์ ด้วยกิริยาอาการแสดงความเคารพ แล้วหย่อนพวงดอกไม้สดลง www.kalyanamitra.org
ตามไปพร้อมกันนั้น บรรดาญาติสนิทมิดรสหายทั้งหลายผู้ไปร่วม พิธีก็หย่อนพวงดอกไม้สด (ถ้ามี) หรือโรยกลีบดอกกุหลาบลง ดามไปในทะเล เพื่อทำการกักการบูชาอังคารเป็นวาระสุดท้าย แล้วทุกคนม้อมตัวลงยกมีอไหว้ พร้อมกับกล่าวคำอวยพรแก่ท่าน ผู้ล่วงกับไปแล้วว่า \"ขอจงไป^สุคติ จงอยู่เป็นสุข ๅ เถิด\" ตVังม๕ี แล้ว เป็นเสร็จพิธีการลอยอังคาร - ส่วนเครื่องกักการบูชาด่างๆ และพวงหรืคทั้งหลายไม่ นิยมทิ้งลงในทะเล เพราะจะทำใท้นํ้าในทะเลเกิดความสกปรก และจะท่าไท้เกิดความลำบากใจแก่ชาวประมงทั้งหลาย ดลอดถึง ทำความลำบากใจแก่เจ้าหน้าที่เรือขุดลอกกันดอนอีกล้วย ข้อเสนอแนะเพื่อพิจารณา - ดามคตินิยมแด่โบราณกาลมา บรรพบูรุษท)องเราทั้งหลาย นิยมรวบรวมอ้ฐิที่เหลือและอังคาร (ฃี้เล้า) ทั้งหมดนำไปบรรจุไว้ ในเจดีย์ที่สร้างขึ้นไว้เป็นอนุสรณ์ของบรรพบุรุษ หรือนำไปบรรจุ ไว้ภายไต้ฐานพระพุทธรูป หรือนำไปเก็บรวมไว้ที่โคนต้นโพธิ้ ซึ่งนิยมกันลีบมาว่าสถานที่เหล่านั้นเป็นสถานที่เหมาะสมโดย ประการทั้งปวง เพราะเป็นสถานที่จะไม่มีใครมารบกวนเหยียบยร กลํ้ากรายล่วงเกิน เป็นสถานที่เคารพกักการบูชา และเป็นสถานที่ มีความร่มเย็นเป็นสุข โดยแท้ สมัยฟ้จจุบันนี้ มักนิยมนำอ้เที่เหลือและอังคารไปลอยนํ้า ในทะเลนั้น ไต้ลองสอบถามดหลายท่านต้วยกัน ไต้ความเป็น www.kalyanamitra.org
๑^๖ ทำ นองเดียวก้นว่า \"เพี่อต้องการจะมิใหเครมารบควนเหยียบ ยรกลํ้ากรายล่วงเกิน และเพี่อจะให้ผู้ล่วงลับไปแล้ว มีความ อเjเย็นเมีนสุข เพราะอยู่ในนํ้า\" ดังนี้ - แต่ความจริงปรากฎว่า \"ในการขุดลอกลันดอนที่ปากนํ้า เล้าพระยาทุกวันนี้นั้น ไต้มีล้งใส่ลังคารที่พาลันนำไปลอยใน ทะเลนํน ดิดขึ้นมาพร้อมลับดินโคลนที่ลอกขึ้นมามีจำนวนมาก ทำ ความลำบากใจให้แก่เล้าหน้าที่ประจำเรือขุดลอกลันดอน ไม่น้อยเลย'* ได้รับการบอกเล่ายืนยันความจริงมาอย่างนี้ - เมื่อความจริงมีอยู่เช่นนี้ ผ้ที่หวังว่า \"จะให้อ้ฐและ ลังคารบรรพบุรุษของตนๆ มีความอยู่เย็นเป็นสุข โดยไม่มี ใครมารบกวนเหยียบยากลํ้ากรายล่วงเกิน\" นั้น เห็นจะไร้ผล เสิยแล้ว - เพราะเหตุนี้ จีงฃอเสนอแนะแกทานผู้มั่นอยู่ในความ กดัญณกตเวท ผู้มีความหวังดีปรารถนาดีต่อบรรพบุรุษของตนๆ สมควรจะได้พินิจพจารณาเหตุผลตามความเป็นจริงแล้วชักขในดัน หันกลับมาถือคตินิยมที่บรรพบุรุษของเราทั้งหลายได้ปฎิบ้ดสืบต่อ กันมาแต่โบราณกาลดังกล่าวแล้วข้างด้น ทั้งนี้เพี่อรักษาประเพณี ลันดีงามของชาติไทยเรา และเพี่อความสบายใจด้วยกันทุกฝ่าย พร้อมทั้งเพี่อเป็นการประหยัดอีกด้วย. www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216