Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานเชื่อมและโลหะแผ่น 20100 1004

งานเชื่อมและโลหะแผ่น 20100 1004

Published by nutthajee07, 2020-05-26 02:42:52

Description: ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการเบื้องต้นของกระบวนการเชื่อมและโลหะแผ่น หลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน การเลือกใช้วัสดุ เครื่องมืออุปกรณ์งานเชื่อม ท่าเชื่อม รอยต่อที่ใช้งานเชื่อมและการแล่นประสาน กี่ประกอบติดตั้งเครื่องมืออุปกรณ์งานเชื่อมแก๊ส การแล่นประสาน ( Brazing ) และเชื่อมไฟฟ้า การเริ่มต้นอาร์ก การเชื่อมเดินแนว ต่อมุม ต่อตัวที เครื่องจักรและเครื่องมือที่ใช้ในงานโลหะแผ่น การเขียนแบบแผ่นคลี่ การถ่ายแบบ การเข้าขอบ การทำตะเข็บ การย้ำหมุด การบัดกรี (Soldering) การขึ้นรูปด้วยการพับ ตัด ม้วน เคาะ และประกอบชิ้นงาน

Search

Read the Text Version

3. การต้ังกระแสไฟท่ถี กู ต้อง (Correct Current) 4. การใชค้ วามเร็วในการเดนิ ลวดเชือ่ มที่ถูกตอ้ ง (Correct Travel Speed)

5. การตั้งมมุ ของลวดเชือ่ มท่ถี กู ต้อง (Correct Angle of Electrode) 90 60- 75 ระยะอาร์ก ระยะอารก์

การเริ่มตน้ อาร์ก มี 2 วิธี ระยะอำร์ก 1. แบบวิธีขีด (Scratching) เริ่มตน้ ชนิ้ งำน เข้ำขีด

2. แบบวิธเี คำะ (TAPPING) เข้า เคาะ ระยะอารก์ ชน้ิ งาน

หน่วยที่ 6 ลวดเช่อื ม (Electrode) ลวดเชือ่ ม (Electrode) เปน็ โลหะเติมกไ็ ด้มวี ตั ถุประสงค์ เพื่อให้เกิดกำรยึดเขำ้ กบั รอยต่อของโลหะช้นิ งำน โดยผ่ำน ขบวนกำรให้ควำมร้อนเพื่อหลอมละลำยลวดเชื่อมกับชนิ้ งำน

ลวดเชือ่ ม แบ่งเป็นชนิดใหญ่ ๆ ได้ 2 ชนิด 1. อีเล็กโทรด (Electrode) ลวดเชื่อมไฟฟ้ำในขบวนกำร เชื่อมไฟฟ้ำ (Arc Welding) ลวดเชื่อมชนิดนแี้ บ่งออกได้ 2 ชนดิ 1. ลวดเชื่อมแบบสิน้ เปลือง (CONSUMABLE ELECTRODE) ลวดเช่อื มชนิดนี้จะถูกหลอมละลำยพร้อมกบั กำรเช่อื ม โดยทีล่ วด เชอ่ื มจะเปน็ ทั้งข้ัวไฟฟ้ำและโลหะเติมทั้งสองอย่ำง ควำมร้อนที่เกดิ จำกกำรอำร์คจะทำให้ลวดเชอ่ื มเกิดกำรหลอมละลำยที่ปลำยลวด เชอ่ื มแลว้ ไปรวมตวั ตรงบริเวณทีต่ ้องกำรเชอ่ื ม เช่น ลวดเชอ่ื มของ กำรเชื่อมอำร์กลวดหมุ้ ฟลักซ์ (SHIELD METAL ARC WELDING : SMAW)

2. ลวดเชอ่ื มแบบไม่สิน้ เปลือง (NON-CONSUMABLE ELECTRODE) ลวดเช่ือมชนิดนีไ้ ม่เกย่ี วข้องกับข้ัวไฟฟ้ำไม่หลอม ละลำยไปพร้อมกับกำรเช่อื มในขณะทำกำรเชอ่ื ม เพรำะวสั ดุที่ใช้ ทำเป็นวสั ดจุ ุดหลอมเหลวสงู มกี ำรระบำยควำมร้อนอย่ำงดี เช่น ลวดเชื่อมทังสเตน 2. นนั อีเลค็ โทรด (NON ELECTRODE) หมำยถงึ ลวด เชือ่ มท่ไี ม่เกย่ี วข้องกับข้ัวไฟฟ้ำแตจ่ ะใช้เปน็ โลหะเติมให้กบั รอย เชือ่ มอย่ำงเดียว แบ่งออก 2 ชนิด 1. ลวดเติม (Fillet Rod) ได้แก่ กำรเชอ่ื มทิก กำรเชอ่ื มแก๊ส 2. ม้วนลวดเติม (Filler Wire) เช่น ลวดเชอ่ื มของกำรเชือ่ ม แบบพลำสมำ

ลวดเชื่อมหมุ้ ฟลักซ์ (FLUXCOVERED ELECTRODE) ลวดเชื่อมโลหะทีห่ มุ้ ด้วยสำรพอกหุ้มซ่งึ เรียกว่ำ ฟลักซ์ (FLUX) ฟลักซ์ มีหน้ำที่ดังนี้ 1. ชว่ ยในกำรอำรก์ ได้งำ่ ยขึน้ เรียบสม่ำเสมอ 2. ชว่ ยปอ้ งกันอำกำศเข้ำมำรวมตวั กับแนวเชื่อมด้วยสแลก หลอมเหลว 3. ลดเมด็ โลหะ (SPATTER) 4. กำจัดออกไซดแ์ ละสำรมลทิน 5. ชว่ ยดึงส่งิ สกปรกในบอ่ หลอมละลำยเข้ำมำรวมตัวเป็นสแลก

6. เติมธำตแุ ละรักษำคุณสมบัติของธำตทุ ผ่ี สมอยู่ ซ่งึ ทำให้ แนวเชื่อมมีคุณสมบัตติ ำมท่ีต้องกำร 7. ชว่ ยปกคลุมแนวเชื่อม เพื่อไมใ่ ห้แนวเชื่อมเยน็ ตวั เรว็ เกนิ ไป

ระบบตวั เลข (CLASSIFICATION NUMBER SYSTEM) มำตรฐำนในระบบตัวเลขของลวดเชื่อมในปจั จบุ นั มมี ำตรฐำนต่ำง ๆ ดังต่อไปน้ี AWS (American Welding Society) (A 5.1) JIS (Japanise Industrial Standara) (Z 3211 – 1991) ISO (International Standard Organization) มอก. 49 – 2528

การจาแนกลวดเชื่อมห้มุ ฟลกั ซ์ตามมาตรฐานของ AWS E 6013 E ลวดเชอ่ื มไฟฟา้ 60 ค่าความตา้ นทานแรงดึงต่าสดุ 60 X 1000 = 60000 PSI

1 ตำแหนง่ ท่ำเชื่อม ตัวเลขมีควำมหมำยดังน้ี เลข 1 เชือ่ มได้ทุกท่ำเชื่อม เลข 2 เชื่อมได้เฉพำะท่ำรำบและท่ำขนำนนอน เลข 3 เชือ่ มได้เฉพำะท่ำรำบ 3 ระบบไฟฟ้ำและสำรพอกหุ้มลวดเชื่อม

หนว่ ยที่ 4 พ้นื ฐานโลหะแผน่ ความปลอดภยั ในงานโลหะแผน่ 1. กำรเคลื่อนย้ำยโลหะแผ่นบำงทุกคร้ัง ควรสวมใสถ่ งุ มือหนงั หรือถุงมือผ้ำ เพรำะอำจจะเกิดอุบตั ิเหตจุ ำกขอบคมของโลหะแผ่น บำดได้ 2. กำรเคลื่อนย้ำยโลหะแผ่นควรจับวำงในแนวต้ัง เพรำะใชพ้ ื้นที่ น้อยกว่ำกำรวำงโลหะในแนวนอน เพรำะในแนวนอนโลหะแผ่นจะ ห้อยตำ่ ลง

3. กอ่ นใช้เครื่องจักรจะตอ้ งศึกษำวิธีกำรใช้ กำรระวงั รกั ษำและขอ้ หลีกเลี่ยงเพื่อควำมปลอดภยั ให้เข้ำใจถูกตอ้ งเปน็ สิง่ แรก 4. ในกำรใชเ้ ครื่องมือตัดด้วยเทำ้ ต้องแน่ใจว่ำยืนอยู่ใน ตำแหน่งท่เี หมำะสม และไม่มีผใู้ ดยืน่ ส่วนหนึง่ ส่วนใดของ รำ่ งกำยเข้ำไปในจดุ อนั ตรำย 5. ในกำรใช้เครือ่ งพบั ควรทำงำนพับเพียงคนเดียวจะมี ควำมปลอดภัยมำกกวำ่ กำรทำงำนหลำยคนแต่ถ้ำมีหลำยคน ต้องแน่ใจไมม่ ผี ู้ใดอยู่ในรศั มีของกำรเคลือ่ นไหวของชนิ้ ส่วน เครื่องจักร

6. อย่ำใช้คอ้ นหรือตะไบ ทีม่ ีด้ำมหลวมหรือแตกชำรดุ 7. อย่ำนำเครื่องมือท่มี คี มแหลมใส่ในกระเป๋ำเสื้อหรือกำงเกง เพรำะจะเกิดอันตรำยแก่ผอู้ ื่นได้ 8. ค้อนที่ใชต้ ้องมีขนำดและชนิดทเ่ี หมำะสมกับงำนเสมอ 9. อย่ำใชค้ ้อนขณะมือหรือด้ำมค้อนเปรอะเปื้อนน้ำมัน เพรำะ อำจทำให้เกดิ อันตรำยได้ 10. อย่ำใช้ไขควงแทนสกดั หรือสิ่ว

11. อย่ำใชเ้ ครื่องเจียระไน โดยปรำศจำกอปุ กรณ์ป้องกัน อนั ตรำย และแทน่ พักงำนจะต้องแน่นและห่ำงจำกหน้ำหินไม่ เกิน 3 – 4 มลิ ลิเมตร 12. กำรใช้เครื่องม้วนต้องระวังมือและเสื้อผ้ำให้ห่ำงจำก ลกู กลิ้งเสมอ 13. กอ่ นใช้เครื่องมือเครือ่ งจกั รใด ๆ ต้องตรวจสภำพ ควำมพร้อมกอ่ นว่ำจะใชง้ ำนได้หรือไม่

โลหะแผ่น (SHEET METAL) คือ โลหะแผ่นทุกชนิดที่ มคี วำมหนำไมเ่ กิน 4.5 มลิ ลิเมตร หรือ 3 นวิ้ แบ่งออก 2 ชนิด 16 1. โลหะแผน่ เปลือย (BareMetal or Uncoated Metal) 2. โลหะแผ่นเคลอื บ (Ferrous Metal)

ความหนาของโลหะแผ่นถูกวัดเปน็ ตัวเลข แบ่งออก 2 ชนิด 1. Manufacturer’s Gage หรือ United State Standdard Gage ใชว้ ดั ควำมหนำของโลหะแผ่นที่เป็น เหลก็ (Ferrous Metal) 2. American Standard Wire Gage และ Brown and Sharp Gage ใชว้ ัดควำมหนำโลหะแผ่นนอกกลุ่ม เหลก็ (Nonferrous Metal)

ความหนาของแผ่นโลหะ ความหนา (เบอร์) 16 0.625 นิว้ (1.58 มม.) 0.050 (1.27 มม.) 18 0.156 (0.4 มม.) 0.0125 (0.36 มม.) 28 30 เกจวดั ควำมหนำแผน่ โลหะ

เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นงานโลหะแผ่น 1. เครือ่ งมือวัด (Measureing Tool) 1.1 บรรทดั เหล็ก (Steel Rule)

1.2 บรรทดั วดั มุม (PROTRACTOR) ทำจำกเหลก็ ไร้สนิม หรือ พลำสติกแข็ง มี 2 แบบ คือแบบคร่งึ วงกลม (SEMI CIRCULAR PROTRACTOR) และแบบมีใบหมนุ ปรบั (SWING BLADE PROTRACTOR) แบบมีใบหมนุ นี้จะมีบรรทดั ยึดติดกับหัวองศำ สำมำรถปรับขนำดองศำได้ตำมตอ้ งกำร

1.3 ฉำกเหลก็ (SQUARE) ทำจำกเหลก็ เครือ่ งมือ (TOOL STEEL) แล้วนำไปชุบแขง็ ประกอบไปด้วยส่วนท่เี รียกวำ่ ลำตวั (BODY) ซง่ึ เป็นด้ำนยำวของฉำก ส่วนด้ำนส้ันเรำเรียกวำ่ TONQUE (ทัง) ท้ังลำตัวและด้ำนที่สนั้ จะทำมุม 90 องศำซง่ึ กนั และกนั มหี ลำยขนำดเชน่ 12 X 8 นิว้ 24 X 16 นวิ้

1.4 ฉากผสม (COMBINATION SQUARE) เป็นเครื่องมือ วดั เอนกประสงค์ประกอบไปด้วยส่วนผสมต่ำง ๆ 4 ส่วน คือ 1. หวั หำจุดศนู ย์กลำง (Center Head) 2. หวั วัดมมุ ฉำก (Square Head) 3. หัวปรบั แบ่งมุม (Protractor Head) 4. ใบบรรทดั (Blade)

2. เครื่องมือรา่ งแบบ ใชข้ ีดทำเครือ่ งหมำยลงบนโลหะแผ่น ส่วนปลำยของเครื่องมือ จะมีลกั ษณะแหลม แบ่งออกได้ดงั น้ี 2.1 เหลก็ ขีด (Scriber) ใชข้ ีดเขียนลงบนโลหะแผ่น แบ่ง ออกได้ 3 ชนดิ คือ 1. Ring 2. Socket 3. Shank Type

2.2 วงเวยี น (DIVIDER) มหี น้ำทใ่ี ชเ้ ขียนส่วนโค้ง วงกลม มดี ้วยกนั 2 ชนดิ คือแบบขำสปรงิ (SPRING TYPE) และแบบขำ ตำย (WING TYPE)

2.3 วงเวยี นเลือ่ น (TRAMMEL POINT) เขียนวงกลมหรือ ส่วนโคง้ ทม่ี ขี นำดใหญป่ ระกอบไปด้วยส่วนหวั (HEAD) ทีเ่ ป็น ขำเหล็ก 2 อนั สอดอยู่กับคำนไมห้ รือคำนเหลก็ ซ่งึ มคี วำมยำว ประมำณ 24 นิ้ว ถึง 48 นวิ้ ขำเหล็กทั้งสองข้ำงน้ีสำมำรถ เลือ่ นไปมำได้และบังคับให้ยึดกับคำนไม้หรือคำนเหลก็ ได้โดย กำรขัน THUMB SCREW

2.4 เหล็กตอก (PUNCH) มหี น้ำทใ่ี ชต้ อกสำหรบั ทำ เครือ่ งหมำยที่จะชว่ ยในงำนรำ่ งแบบมีอยู่ 2 ชนดิ คือเหล็กถำ่ ย แบบ (PRICK PUNCH) และเหลก็ นำศูนย์ (CENTER PUNCH)

3. เครื่องมือทั่วไปที่ใชใ้ นงานโลหะแผ่น จะมขี นำดเล็ก น้ำหนกั เบำ สำมำรถเคลื่อนย้ำย หรือหยิบ ไปใช้ทำงำนในที่ต่ำง ๆ ได้สะดวก เครื่องมือทีใ่ ช้ในงำนโลหะแผ่น มหี ลำยชนิด ลักษณะและหน้ำท่กี ำรทำงำนกแ็ ตกตำ่ งกันออกไป 3.1 กรรไกร (Snips) รูปร่ำงของใบมีดตดั มอี ยู่หลำยชนดิ ต้องเลือกใช้ให้เหมำะสมกับสภำพและหน้ำทีก่ ำรทำงำนใน ลกั ษณะต่ำง ๆ กัน กำรตดั โดยกรรไกรน้ันแบ่งออกเปน็ 2 แบบ คือแบบตดั ตรงและตัดโค้ง

แบบตดั ตรง ด้ำนของคมมีดตดั (CUTTING EDGE) จะ ตรงไปยังสันมดี ตัด (TOP BLADE) มลี ักษณะตรงตลอด ใชไ้ ด้ เฉพำะในกำรตดั ตรงไมส่ ำมำรถตัดโค้งได้

แบบตัดโคง้ ด้ำนของคมมีดตัด (Cutting Edge) ใบตดั จะมี ลักษณะโค้งใชส้ ำหรับตดั โค้งซึง่ จะตดั ได้ดี

3.1.1 กรรไกรตดั ตรง (STRAIGHT SNIPS) เปน็ กรรไกรที่มีใบมีดตัดตรง ใช้สำหรบั กำรตัดตรงได้เพยี ง อย่ำงเดียว ลำตัวของกรรไกรยำวประมำณ 7 ถึง 15.7 น้ิว ควำมยำวมีดตัด 2 ถึง 4.5 นวิ้ ตัดแผน่ เหลก็ ได้ถึง เบอร์ 18 3.1.2 กรรไกรตดั แบบผสม (Combination Snips) เปน็ กรรไกรทีส่ ำมำรถตัดโลหะแผน่ ได้ทั้งตรง และโคง้ สดั สว่ นรปู ร่ำงขนำดตำ่ ง ๆ จะเท่ำกับกรรไกร ตัดตรง

3.1.3 กรรไกรอะเวียชนั (AVIATION SNIPS) ขนำด เล็กนำ้ หนกั เบำมคี วำมสำมำรถตดั งำนไดด้ ี มจี ุดหมนุ ทีใ่ ช้ 2 จดุ จะช่วยในกำรตัดได้ดี ควำมยำวของกรรไกรประมำณ 8 นิว้ ใบ ตดั ของกรรไกรประมำณ 2 นวิ้ สำมำรถตัดโลหะแผ่นได้ถึงเบอร์ 18 กรรไกรชนิดนแี้ บ่งออกเปน็ 3 ชนดิ กรรไกรชนดิ ตดั ขวำ (Right Hand) ตวั ด้ามมสี เี ขียว เมื่อ จบั ด้ำมกรรไกรใบตดั ของกรรไกรใบลำ่ งจะอยู่ทำงด้ำนขวำมือ ตดั จำกซ้ำยไปขวำมือหรือตำมเขม็ นำฬิกำ กรรไกรชนดิ ตัดซ้ำย (Left Hand) ตัวด้ามมสี แี ดง เมื่อ จบั ด้ำมกรรไกรใบตดั ของกรรไกรใบล่ำงจะอยู่ทำงด้ำนซำ้ ยมือ ตัดจำกขวำไปซำ้ ยมือหรือทวนเขม็ นำฬิกำ

กรรไกรชนิดตัดตรง (STRAIGHT) ตัวดา้ มจะมีสีเหลือง ใบตัดทั้งคู่จะมีลกั ษณะเรียวแหลมตรงใช้ในกำรตดั ตรง

3.1.4 กรรไกรตัดโคง้ (CIRCULAR OR CURVE SNIPS) กรรไกรชนดิ นี้ถูกออกแบบให้สำมำรถตัดได้ทง้ั โคง้ ซ้ำยโค้งขวำ โดยออกแบบใบให้มีลักษณะโค้ง สำมำรถตัดแผ่นโลหะได้แค่ เบอร์ 22

3.2 กรรไกรโยก (LEVER SHEAR) เป็นกรรไกรที่นิยมใช้ตดั โลหะแผ่นทีม่ คี วำมหนำต้ังแต่ 2 มิลลเิ มตรขึน้ ไป ซึ่งสำมำรถตดั ได้ดีกว่ำกำรใช้กรรไกรมือ ใบตัด ถกู ออกแบบให้โค้งเพือ่ ให้มุมและแรงที่ตัดคงทใี่ บตดั สำมำรถตั้ง ปรบั เปล่ยี นได้ แขนที่ใช้โยกตดั มปี ระโยชน์ในกำรช่วยผ่อนแรง ส่วนใหญ่นิยมใช้ตัดเหล็กพดื ขนำดกว้ำง .5 นวิ้ และหนำ 4.5 มม. ทีใ่ ช้ทำเหล็กดดั

3.3 กรรไกรไฟฟา้ (ELECTRIC SHEAR) เปน็ เครื่องตัดโลหะทีใ่ ช้ไฟฟ้ำเปน็ พลังงำน ช่วยให้ตดั โลหะแผ่น รวดเรว็ ขึน้ สำมำรถตัดได้ท้ังตรงและโค้ง รศั มีกำรตดั โค้งทำงซ้ำย เล็กที่สุด 0.5 นิว้ ทำงขวำ 1 นวิ้ ตดั แผ่นโลหะได้ถึงเบอร์ 16 หลักกำรทำงำนก็คลำ้ ยกับกรรไกรมือ ระยะหำ่ งของใบตัดกรรไกร ไฟฟ้ำ สำมำรถปรับและแต่งได้เพื่อควำมสะดวกในกำรใช้งำน

3.4 คอ้ น (HAMMER) ค้อนเปน็ เครื่องมืออีกชนิดหนึ่งทีใ่ ช้ในงำนโลหะแผ่นมำก หน้ำที่คือใช้ตอก ตแี ละเคำะข้ึนรูปขน้ึ อยู่กับวตั ถปุ ระสงค์ของ ผู้ใช้แบ่งออกได้ดังนี้ 3.4.1 ค้อนหัวแขง็ (Hard Head Hammer) 3.4.2 ค้อนหัวออ่ น (Soft Head Hammer)

คอ้ นหัวแขง็ หัวค้อนจะทำด้วยเหล็กพิเศษ (FORGE TOOL STEEL) สว่ นดำ้ มจะทำดว้ ยไมซ้ ึ่งยำวพอเหมำะกบั น้ำหนักของหัวค้อน แบ่งออกได้ 4 ประเภท 1. ค้อนหัวกลม (Ball Peen Hammer) เป็นค้อนที่นิยม ใช้ในงำนโลหะแผ่น ผิวด้ำนหน้ำ (face) ของค้อนจะเรียบ ส่วน อกี ด้ำนหนึง่ จะมีลักษณะกลม (Ball Peen) ค้อนหัวกลมนี้จะมี ลกั ษณะเล็กกว่ำดำ้ นหน้ำ กำรใช้งำนผวิ ด้ำนหน้ำจะใช้งำนทว่ั ๆ ไป ส่วนหัวกลมเหมำะสำหรับกำรย้ำหมดุ ค้อนทีม่ ีลักษณะคล้ำย กบั ค้อนหวั กลมยงั มีอีก 2 แบบ คือค้อนหวั ตรง (Straight Peen Hammer) และค้อนหัวตัด (Cross Peen Hammer)

ค้อนหัวกลม (Ball Peen Hammer)

2. ค้อนยา้ หมุด (RIVETTING HAMMER) ด้ำนหน้ำ (face) ของหัวค้อนชนิดนี้จะเป็นรปู สีเ่ หลีย่ มนูน เล็กน้อย มุมท้ังส่ีดำ้ นถกู ลบออก เพ่ือป้องกันไม่ให้เกิดรอยเมื่อ เคำะ ส่วนอกี ด้ำน (Peen) หนึง่ จะเรียวทั้ง 2 ขำ้ งปลำยมน เล็กน้อย น้ำหนักตั้งแต่ 0.25 ปอนด์ ถึง 1.8 ปอนด์

3. ค้อนยา้ ตะเข็บ (SETTING HAMMER) ด้ำนหน้ำ (face) ของหวั ค้อนชนิดนี้จะเปน็ รปู ส่เี หลีย่ มแบนเรียบ ไมม่ ีกำรลบมมุ เหมือนค้อนย้ำหมุด สว่ นอกี ดำ้ นหนึง่ จะเรียวเพียง ดำ้ นเดยี วปลำยตัดเพียงเล็กน้อย ดำ้ นหน้ำใช้เคำะเขำ้ ตะเข็บสว่ นอกี ด้ำนจะเคำะสำหรับเข้ำขอบลวดน้ำหนักของค้อนตั้งแต่ 0.25 ปอนด์ ถึง 1.25 ปอนด์

4. ค้อนเคาะขึน้ รูป (RAISING HAMMER) ค้อนชนิดนี้ออกแบบมำในลกั ษณะแตกต่ำงกันเพื่อให้ เหมำะสมกบั กำรใช้งำน ใช้สำหรับขึ้นรปู โลหะแผ่นให้เปน็ รูปร่ำงของภำชนะ หรอื ใช้แต่งเครื่องประดบั ทีต่ ้องกำรควำม ปรำณีต

คอ้ นหัวออ่ น บางทีกเ็ รียกวา่ Mallet เปน็ ค้อนทีใ่ ช้แรงตไี มม่ ำกในกำรตบแต่งช้ินงำนหัวค้อนจะ ทำจำกวัสดุทีอ่ ่อนวตั ถุประสงค์ของกำรใช้ค้อนหัวอ่อนเพือ่ ท่ี ใชใ้ นกำรตบแต่งช้นิ งำนไมใ่ ห้เกิดรอยบบุ หรือโลหะท่เี คลือบ หลุดออก

3.5 คมี (Plier) หน้ำทีข่ องคีม มีหลำยอย่ำงเชน่ จบั ตัด บดิ พบั ขนึ้ อยู่กบั กำรใช้งำนสำหรับคีมที่ใชใ้ นงำนโลหะแผ่นมีรูปร่ำงลกั ษณะและ กำรใช้งำนดังตอ่ ไปนี้ 3.5.1 คีมปำกแบน (Flat Nose Pliers) คีมชนิดนี้มลี ักษณะ แบนมีร่องฟนั เล็กสว่ นของปลำยปำกจะเรียบ มีหน้ำทีจ่ ับชนิ้ งำน และขนึ้ รปู โลหะแผ่น

3.5.2 คมี แบบผสม (Combination or Slip joint Pliers) คีมชนดิ นี้มีหน้ำที่จบั ตัดและโค้งงอช้ินงำน ส่วนปำก (Jaw) ของคีม สำมำรถปรับเพื่อกำรจับยึดชนิ้ งำนขนำดต่ำง ๆ

3.5.3 คีมลอ็ กพับตะเขบ็ (VISE GRIP HAND SEAMER) เหมำะสำหรบั กำรข้ึนรปู กำรพบั ชนิ้ งำนด้วยมือ เม่อื จบั ชิ้นงำนได้ตำแหน่งที่ต้องกำร คีมล็อกจะช่วยจับยึดชิ้นงำนให้แน่น

3.6 เคร่อื งเจาะรูด้วยมือ (HAND PUNCH) เปน็ เครื่องมือที่ใช้เจำะแผ่นโลหะให้เป็นรูกลม เครือ่ งเจำะรู ดว้ ยมือประกอบไปดว้ ยตัวเจำะ (Punch) และแม่พิมพ์รองรบั กำร เจำะ (Die) ทำจำกเหล็กเครื่องมือ (Tool Steel) Punch และ Die มีหลำยขนำดสำมำรถถอดเปลีย่ นไดต้ ำมขนำดทีต่ ้องกำร

3.7 เหลก็ เจาะรูชนดิ ตัน (Solid Punch) รปู ร่ำงของเหลก็ เจำะรชู นิดตันนี้ เหมือนกับเหล็กถำ่ ยแบบ และเหล็กนำศนู ย์ซึ่งตัดปลำยออกที่ปลำยจะชบุ แขง็ กำรใช้งำน เวลำตอกจะต้องมีวัสดุชนิดออ่ นรองรบั

3.8 เหลก็ เจาะรูชนดิ กลวง (Hollow Punch) เป็นทีเ่ จำะรทู ี่มขี นำดใหญ่กว่ำเครื่องเจำะด้วยมือ (Hand Punch) และเหลก็ เจำะรูชนิดตัน (Solid Punch) ส่วนปลำยจะโตกว่ำแต่มี ลักษณะเป็นทรงกระบอกกลวงมีคมตัดอยู่ส่วนทีป่ ลำยสดุ กำรเจำะ ดว้ ยเหล็กเจำะรูชนิดกลวงจะตดั แผ่นวสั ดขุ ำดออกจำกกนั และเศษ วสั ดุจะอยู่ภำยในรูไม่ได้จมลงในวสั ดจุ ึงไม่ต้องหำแผ่นไมม้ ำรองรบั

3.10 เหลก็ ย้าตะเข็บ (Hand Groove) เป็นเครื่องมือใช้สำหรบั ย้ำตะเข็บ (Groove Seam) รอยต่องำน โลหะแผ่นให้แน่นเหล็กย้ำตะเข็บทำจำกเหล็กเครือ่ งมือ (Hand Tool) หรือเหล็กกลำ้ คำร์บอนสงู ปลำยข้ำงหนงึ่ ของเหล็กย้ำตะเข็บมี ลกั ษณะเป็นรปู ส่ีเหลย่ี มผืนผ้ำ มีร่องขนำดต่ำง ๆ กันตำมควำมยำว กำรใช้ต้องใช้ค้อนตอกลงบนหวั ของเหล็กย้ำตะเขบ็ ร่องยำวนจี้ ะถูก ย้ำกดตะเข็บลอ็ กใหแ้ น่นกนั ตะเข็บหลุด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook