Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานเชื่อมและโลหะแผ่น 20100 1004

งานเชื่อมและโลหะแผ่น 20100 1004

Published by nutthajee07, 2020-05-26 02:42:52

Description: ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการเบื้องต้นของกระบวนการเชื่อมและโลหะแผ่น หลักความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน การเลือกใช้วัสดุ เครื่องมืออุปกรณ์งานเชื่อม ท่าเชื่อม รอยต่อที่ใช้งานเชื่อมและการแล่นประสาน กี่ประกอบติดตั้งเครื่องมืออุปกรณ์งานเชื่อมแก๊ส การแล่นประสาน ( Brazing ) และเชื่อมไฟฟ้า การเริ่มต้นอาร์ก การเชื่อมเดินแนว ต่อมุม ต่อตัวที เครื่องจักรและเครื่องมือที่ใช้ในงานโลหะแผ่น การเขียนแบบแผ่นคลี่ การถ่ายแบบ การเข้าขอบ การทำตะเข็บ การย้ำหมุด การบัดกรี (Soldering) การขึ้นรูปด้วยการพับ ตัด ม้วน เคาะ และประกอบชิ้นงาน

Search

Read the Text Version

2. PB คือ ทา่ กึง่ ราบกึง่ ขนานนอน

3. PC คือ ท่าขนานนอน

4. PD คอื ท่ากึง่ ขนานนอนกึง่ เหนือศรษี ะ

5. PE คือทา่ เหนือศรษี ะ

6. PF คอื ทา่ ตั้งเช่อื มขึน้

7. PG คือทา่ ตั้งเชือ่ มลง

เทคนิคในการเชอ่ื มแก๊ส 1. วิธีการเชอ่ื มแบบฟอรแ์ ฮนด์ (Forehand Welding)

2.การเชอ่ื มแบบแบล็คแฮนด์ (BACKHAND WELDING)

ลวดเชอ่ื มแกส๊ (FILLER ROD) 1. ลวดเชื่อมเหล็ก (Ferrous Rod) มีลักษณะเปน็ เส้นกลมและเคลือบ ด้วยผิวทองแดงเพือ่ ป้องกันสนิม 2. ลวดเชือ่ มที่ไม่ใช่เหลก็ (Nonferrous Rod) มีหลำยประเภท เช่น ลวดเชือ่ มทองเหลือง ลวด เชื่อมอะลมู ิเนยี ม ลวดเชื่อมเงิน

สญั ลกั ษณ์ของลวดเช่อื มแก๊ส GA 50 G ลวดเชื่อมแก๊ส A ลวดเชอ่ื มที่มคี ณุ สมบัตใิ นกำรยืดตวั สงู 50 คือ ค่ำควำมเค้นแรงดึงตำ่ สดุ คณู ด้วย 1000 ปอนด์ต่อ ตำรำงนวิ้ = 50000 ปอนด์ต่อตำรำงนวิ้

หน่วยที่ 3 การแล่นประสาน การแล่นประสาน คือ กำรตอ่ โลหะทั้งสองชิน้ ชนิด เดียวกนั หรือตำ่ งชนิดกนั โดใชโ้ ลหะชนดิ เดียวกันหรือตำ่ ง ชนดิ กันเป็นตวั ประสำนโดยให้ควำมร้อนสูงเกินกว่ำ 450 C (800 F) แตช่ ้ินงำนไม่ถึงจุดหลอมเหลวแตห่ ลอมละลำย โลหะประสำน

โลหะประสาน มีหนำ้ ที่เปน็ ตัวยึดหรือประสำนให้ โลหะงำน สองชนิ้ ติดกนั มีดงั น้ี 1. ลวดทองเหลือง 2. ลวดทองแดงผสมฟอสฟอรัส 3. ลวดเงิน

ชิ้นงาน ลวดบดั กรีแข็ง เหลก็ คาร์บอน BCuZn, brass ( copper – zinc ) BCu, copper alloy BAg, silver alloy เหลก็ ผสม BAg, silver alloy Bni, nickel alloy เหลก็ ไรส้ นิม BAg, silver alloy BAu,gold base alloy BNi, nickel alloy เหล็กหลอ่ BCuZn, brass ( copper – zinc ) เหลก็ เคลือบผวิ สงั กะสี อะลูมเิ นียม BCuZn, brass ( copper – zinc ) ทองแดง BAlSi, aluminium silicon นิเกิล BCuZn, brass ( copper – zinc ) BAg, silver alloy BCuP,copper-phosphorus BAu,gold base alloy BAg, silver alloy BNi, nickel alloy นิเกิลผสมทองแดง BNi, nickel alloy BAg, silver alloy BCuZn, brass ( copper – zinc ) ซิลิกอน บรอนซ์ BCuZn, brass ( copper – zinc ) BAg, silver alloy BCuP,copper-phosphorus ทังสเตน BCuP,copper-phosphorus ตาราง แสดงงานและการใช้ลวดบดั กรี

ฟลกั ซ์ (FLUX) มีหน้ำทีเ่ ป็นตวั ประสำนทำให้ ลวดบัดกรีแขง็ แลน่ เข้ำไปใน ช่องว่ำงไดง้ ่ำยเปน็ ตัวทำควำม สะอำดรอยบดั กรีป้องกนั กำรเติม แก๊สออกซเิ จน

ชิ้นงาน ลวดบดั กรีแขง็ ตัวประสาน เหลก็ กล้ำ เหลก็ หลอ่ ทองเหลอื ง บรอนซ์ บอแร็ก (Borax) ทองแดง เงิน เงิน เงินผสม โซเดยี มไซยำไนต์ ทังสเตน กรดโบริก กรดโบเรต เหล็กสแตนเลส ซลิ ิกอน เงินผสม อลั คำไลนไ์ บฟลอู อไรต์ บรอนซ์ ทองเหลอื ผสม (Alkaline Bifuoride) อะลูมิเนียม ตำรำงแสดงกำรใชล้ วดบัดกรีแขง็ และฟลักซ์สำหรบั ใช้กับชิน้ งำน

แกส๊ ทีใ่ ชใ้ นการบดั กรีแขง็ 1. แกส๊ ออกซเิ จนกบั แก๊สอะเซทิลีน 2. แกส๊ ออกซเิ จนกบั แก๊สเชื้อเพลิงชนิดอืน่

หนว่ ยที่ 4 ความรู้เบือ้ งตน้ ในการเชื่อมไฟฟา้ ความปลอดภัยในงานเชือ่ มไฟฟ้า 1. ชา่ งเชื่อมมีอปุ กรณ์ในการเชื่อม 2. พืน้ ทีท่ ีท่ าการเชือ่ มไฟฟา้ ต้องปราศจากนา้ มนั และตอ้ งไกลจากวสั ดุท่ตี ดิ ไฟงา่ ยอย่างนอ้ ย 10 เมตร มีอากาศถ่ายเทสะดวก 3. พืน้ ทีท่ ี่ทางานต้องไม่เปียกชื้น หรือมนี ้าขงั อยู่ 4. ในงานเชื่อมไฟฟา้ ควรมีฉากกนั้ เพื่อปอ้ งกันแสง จากงานเชื่อมไฟฟา้ ไปรบกวนคนอื่น

5. มอี ปุ กรณ์ที่ใช้ในกำรดดู ควันที่เกดิ จำกกำรเชื่อม 6. ไมค่ วรเชื่อมงำนดว้ ยตำเปล่ำ หรือยืนมองดูกำรเชื่อม เพรำะในกำรเชื่อมจะเกิดรงั สอี ัลตรำไวโอเลตและรังสี อินฟรำเรด ซ่งึ ก่อให้เกดิ อนั ตรำยแก่นยั น์ตำได้ ถำ้ มอง กำรเชื่อมด้วยตำเปล่ำควรมีระยะหำ่ ง 10 เมตรขึ้นไป 7. ในกำรปรับเพิ่มหรือลด 8. ในกำรตรวจซอ่ มเครือ่ ง กระแสไฟฟ้ำในกำรเชือ่ ม เชื่อมควรปดิ สวิตช์เครือ่ ง ควรหยุดเชื่อมเสียก่อน เชือ่ มทุกครั้ง

9. ขณะเชือ่ มไฟฟ้ำอย่ำพำดสำยเชื่อมที่ไหล่ เพรำะอำจ ถูกไฟดดู ได้ถ้ำสำยไฟเชือ่ มร่วั 10. ในกำรเคำะสแลกควรใส่แวน่ ตำนิรภัยป้องกนั เศษสแล กกระเด็นเข้ำตำ 11. ในกำรตอ่ สำยดินของงำนเชือ่ มไฟฟ้ำ ควรตอ่ กับ ช้นิ งำนและยึดให้แนน่ ถำ้ สำยดินต่อไมถ่ งึ ชิน้ งำนไม่ควรใชท้ อ่ น เหลก็ ไปวำงพำด ควรหำสำยดินมำต่อ 12. อย่ำจบั ช้ินงำนร้อนด้วยถุงมือหนังเพรำะจะทำให้ถงุ มือหนงั ไหม้และแขง็ ใช้งำนไม่ไดค้ วรใชค้ ีมจับงำนร้อนจับชนิ้ งำน

13. ในกำรเปลีย่ นลวดเชื่อมเมื่อลวดเชื่อมเกำ่ หมด ไมค่ วร ใช้มือเปล่ำจบั ลวดเชื่อมใสต่ ัวจบั ลวดเชือ่ ม เพรำะไฟจะดดู 14. สำยไฟเชือ่ มทีช่ ำรุดควรเปลีย่ นหรือใช้เทปพันสำยไฟฟ้ำ พนั ให้เรียบร้อย 15. ต้องแน่ใจว่ำสำยเชื่อมและสำยดินตอ่ ไว้อย่ำงถูกตอ้ ง กับเครือ่ งเชื่อมท่จี ะใช้งำนอย่ำใช้สำยเชือ่ มจนเกนิ กำลังจนสำย เชื่อมร้อน

16. ถังดบั เพลิงจะต้องตดิ อยู่ใกล้พื้นทีง่ ำนเชื่อมไฟฟ้ำ เพื่อ ปอ้ งกันเหตุเพลิงไหม้ 17. เสื้อผ้ำของชำ่ งเชื่อมตอ้ งทำจำกวสั ดุที่ติดไฟยำก ปรำศจำกน้ำมันหรือจำระบี 18. ไมค่ วรวำงหัวเชือ่ มไฟฟ้ำไว้ท่พี ื้น ควรวำงไว้ที่มีฉนวน รองรบั หรือแขวนไว้ปิดสวิตชเ์ ครือ่ งเชือ่ มทุกคร้ังเมื่อเลิกทำ กำรเชือ่ ม

หนว่ ยที่ 4 ความรูเ้ บื้องต้นในการเชือ่ มไฟฟา้ การเชื่อมไฟฟา้ ดว้ ยลวดเชื่อมหมุ้ ฟลกั ซ์ ช่อื ย่อคือ SMAW (Shield Metal ArcWelding) หมำยถึง กระบวนกำร เชื่อมทีไ่ ดร้ บั ควำมรอ้ นจำกกำรอำร์ก ระหว่ำงลวดเชื่อมกบั ช้นิ งำน ทำให้ชิน้ งำนกบั ลวดเชื่อมที่บรเิ วณกำรอำร์กรวมตัวกนั เปน็ เนื้อเดียวกันคือแนวเชือ่ ม ส่วนสำรพอกหุ้มหรือทเี่ รียกว่ำ Flux เมอื่ ได้รบั ควำมร้อนจะกลำยเปน็ ควนั ปกคลุมแนวเชื่อมป้องกัน แก๊สออกซิเจนเข้ำไปรวมตวั กบั น้ำโลหะเหลว

เครือ่ งเชอ่ื มไฟฟา้ ตามลกั ษณะพืน้ ฐาน 1. ขนำดแรงเคลือ่ นไฟฟ้ำอยู่ระหว่ำง 50 - 80 โวลต์ 2. กระแสไฟเชือ่ มสงู แตแ่ รงเคลือ่ นไฟฟ้ำต่ำ 3. สำมำรถควบคมุ ขนำดของกระแสเชือ่ มได้

ฟลกั ซท์ ีห่ ลอมละลำยเปน็ สแลก แกนลวด แนวเชื่อมที่ลวดเชือ่ มและ ชนิ้ งำนรวมตัว สำรพอกหุ้ม โลหะหลอมเหลว ชนิ้ งำน

เครอ่ื งเช่อื มไฟฟา้ เครือ่ งเชือ่ มไฟฟ้ำทีใ่ ช้ในกำรเชือ่ มมีด้วยกนั 2 ชนิด 1. เครอ่ื งเชือ่ มชนิดกระแสไฟฟ้าคงที่ (Constant Current) 2. เครอ่ื งเชือ่ มชนิดแรงเคลือ่ นไฟฟ้าคงที่ (Constant Voltage)

ในปัจจบุ ันแบ่งเครื่องเช่อื มออกเป็น 4 ชนิด 1. เคร่อื งเช่อื มแบบหมอ้ แปลงไฟฟา้ (Transformer Welding Machine)

แกนลวดเหล็ก ขดลวดปฐมภมู ิ (Primary Winding) ขดลวดทตุ ยิ ภูมิ (Secondary Winding)

การควบคุมกระแสไฟที่ใช้ในการเชอ่ื ม มี 2 วิธี 1. ควบคุมด้วยสวิทช์ปรับ (Stepping Switch) 2. การควบคุมโดยการเล่อื นแกน (Movable Core)

2. เครื่องเชือ่ มแบบเจอเนเรเตอร์ (GENERATOR WELDING MACHINE) 1. แบบมอเตอรไ์ ฟฟา้ เป็นต้นกาลงั (Motor Generator Welding Machine)

2. แบบใช้เคร่อื งยนต์เป็นตน้ กาลัง (Engine drive Generator Welding Machine)

3. เครื่องเชือ่ มแบบเรคติไฟเออร์ (RECTIFIER WELDING MACHINE)

ข้อดีของเครือ่ งเช่อื มไฟฟ้าแบบเรคติไฟเออร์ 1. สำมำรถใช้ได้ทั้งกระแสไฟตรงและกระแสไฟสลบั 2. ไม่มเี สียงดงั ขณะเชือ่ ม 3. สมรรถนะสงู กว่ำเครื่องเชือ่ มแบบเจอเนเรเตอร์ 4. สำมำรถเชือ่ มได้ทั้งงำนเหลก็ และไมใ่ ช่เหลก็

4. เคร่อื งเช่อื มแบบอนิ เวอรเ์ ตอร์ (INVERTER WELDING MACHINE)

เครอ่ื งเช่อื มไฟฟ้าที่ผลิตกระแสไฟฟา้ ตรงมีการเปลี่ยนขว้ั 2 แบบ 1. ชนิดกระแสไฟฟา้ ตรงลวดเชือ่ มตอ่ ข้ัวลบ (Direct Current Electrode Negative : DCEN) โดยต่อลวดเชอ่ื มเป็นขั้วลบ () และต่อชิน้ งำนเป็นข้ัวบวก () กำรเชอ่ื มชนดิ นคี้ วำมร้อนที่เกิดจำกกำรอำร์ กประมำณ 2 ใน 3 จะอยู่ที่ชิน้ งำนและอกี 1 ใน 3 จะอยู่ทปี่ ลำยลวดเช่อื ม เหมำะสำหรบั กำรเช่อื มเหลก็ ที่มคี วำมหนำมำก

2.ชนิดกระแสไฟฟ้าตรงลวดเชื่อมตอ่ ขวั้ บวก (Direct Current Electrode Positive : DCEP) โดยต่อลวดเชื่อมเปน็ ขั้วบวก ()และต่อชิน้ งำนเปน็ ข้ัวลบ () ทำใหก้ ำรป้อนนำ้ โลหะจำกลวด เช่อื มสู่ช้นิ งำนสม่ำเสมอดีกวำ่ กำรต่อขั้วตรงควำมร้อนเกิดขึ้นประมำณ 2 ใน 3 อยู่ทปี่ ลำยลวดเชือ่ ม และอีก 1 ใน 3 จะอยู่ที่ช้นิ งำน เหมำะสำหรบั กำร เชอ่ื มช้ินงำนทีม่ ีควำมหนำไม่มำก

รอบทางาน (Duty Cycle) ของเครือ่ งเช่อื ม ของเครื่องเช่ือมไฟฟ้ำในกำรอำร์กกับเวลำท้ังหมดได้ กำหนดเวลำท้ังหมดไว้เป็นมำตรฐำน 10 นำที เปอร์เซ็นต์ดิวตไี้ ซเคิล = (กระแสไฟทีก่ ำหนดของเครือ่ งเช่อื ม)2/  ดิวตีไ้ ซเคลิ ทีก่ ำหนด (กระแสทีต่ อ้ งกำรใช้) 2

แสดงชารต์ แสดงการหาเปอรเ์ ซ็นต์ดวิ ตีไ้ ซเคิล

หลกั การพิจารณาเลือกเครื่องเช่อื ม 1. ขนำดของกระแสไฟเชือ่ มที่ตอ้ งกำรใชง้ ำน 2. ชนดิ ของกระแสไฟฟ้ำที่สำมำรถจดั หำมำใช้กับเครื่อง เชือ่ มได้ 3. องคป์ ระกอบเกีย่ วกับควำมสะดวกและกำรประหยัด ค่ำใช้จ่ำย

เคร่อื งมือและอุปกรณ์ทีใ่ ช้ในการเช่อื มไฟฟา้ อปุ กรณ์ทีใ่ ช้กบั กำรเชอ่ื มไฟฟ้ำ 1. อปุ กรณจ์ ับลวดเชื่อม (Electrode Holder) อปุ กรณ์ สำคญั ของเครือ่ งเชือ่ มไฟฟ้ำมีหน้ำทีจ่ บั ลวดเชื่อมไฟฟ้ำ และเปน็ มือถือขณะทำกำรเชื่อม นอกจำกนีย้ ังเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้ำจำก สำยเชื่อมไปสลู่ วดเชือ่ มไฟฟ้ำอีกด้วย สปรงิ มีฉนวนหุ้ม ที่ยึดสายเชือ่ ม รอ่ งจับลวดเชื่อมไฟฟ้า

สายเชื่อม (WELDING CABLE) มหี น้ำท่นี ำกระแสไฟฟ้ำทีผ่ ลติ ออกจำกเครื่องเชื่อมไปยงั บรเิ วณกำรอำรก์ มดี ้วยกัน 2 เส้น เส้นหนึง่ สำยเชือ่ มเส้น หนึ่งสำยดิน ทำด้วยทองแดงที่มีขนำดเลก็ ๆ จำนวนมำก พนั กนั เป็นเกลียวคลำ้ ยเชือก มีฉนวนทำด้วยยำงห่อหมุ้ อยู่ช้ันนอก

ความยาวของสายเชื่อม (ฟุต) กระแสไฟฟ้า 150 200 300 350 400 450 500 100 250 50 2 2 2 2 1 1/0 1/0 2/0 3/0 75 2 2 1 1/0 2/0 3/0 3/0 3/0 4/0 100 2 1 1/0 2/0 3/0 4/0 4/0 125 2 1/0 2/0 3/0 4/0 150 1 2/0 3/0 4/0 175 1/0 2/0 4/0 200 1/0 3/0 4/0 ตำรำงทีแ่ สดงกำรเลือกใช้สำยไฟเชือ่ มตำมขนำดกระแสและควำมยำว

2. สายดนิ (GROUND CAMP) คือ สำยที่ตอ่ จำกเครือ่ งเชื่อมมำยงั ช้นิ งำนเพือ่ ให้กระแสไฟฟ้ำไหล ครบวงจร

อุปกรณ์ทีใ่ ชใ้ นการปอ้ งกนั อนั ตราย (PROTECTIVE EQUIPMENT) 1. หนำ้ กำกเชื่อมไฟฟ้ำ (Helmet and Hand Shield) 1.1 แบบมือถือ (Hand Shield) 1.2 แบบสวมหวั (HELMET)

ความเขม้ ของเลนสเ์ ชอ่ื ม เบอร์ 6 - 7 กระแสไฟไม่เกิน 30 แอมแปร์ เบอร์ 8 กระแสไฟไม่เกิน 31-75 แอมแปร์ เบอร์ 10 กระแสไฟไม่เกิน 75-200 แอมแปร์ เบอร์ 12 กระแสไฟไม่เกิน 201-400 แอมแปร์ เบอร์ 14 กระแสไฟเกิน 401แอมแปร์

ชดุ ปฏบิ ตั ิงานเชอ่ื มไฟฟา้ 1. เสื้อหนัง (Apron) 2. ถุงมือหนัง (Gloves) 3. ปลอกแขน (Sleeves) 4.ปลอกขำ (Leggings)

อปุ กรณท์ าความสะอาด (CLEANING TOOL) คอ้ นเคาะสแลก (Chipping Hammer)

แปรงลวด (WIRE BRUSH) ด้ำมทำด้วยไม้ ขนแปรงทำด้วยเส้นลวดเรียงเปน็ แถว ตงั้ แต่ 2 แถวขึน้ ไปอยู่บนด้ำมไม้ มีหนำ้ ทีท่ ำควำมสะอำด ช้ินงำนก่อนหรือหลังกำรเชื่อม

คมี จบั งานร้อน (PLIERS) ด้ำมของคมี จะยำวเพือ่ สะดวกในกำรจับช้ินงำนที่ ร้อนเพือ่ ที่จะได้ทำควำมสะอำดสะดวกและรวดเรว็ ขนึ้

หนว่ ยที่ 5 องค์ประกอบของการเชอ่ื มไฟฟ้า 1. การเลือกลวดเชอ่ื มให้เหมาะสมกบั งาน (Correct Electrode) 1.1 ส่วนผสมของโลหะงาน 1.2 ลกั ษณะของรอยต่อและแนวเชือ่ ม 1.3 ความหนาและรูปรา่ งของชิน้ งาน 1.4 สภาพการใชง้ านและความต้องการ 1.5 ชนิดของกระแสไฟที่ใช้ 1.6 กระแสไฟที่ใชใ้ นการเชื่อม

2. การใชร้ ะยะอารก์ ทีถ่ กู ต้อง (Correct Arc Length) ระยะอารก์ ถูกตอ้ ง ระยะอาร์กสูง ระยะอารก์ ถกู ตา่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook