- ๙๘ - ข้อพงึ ระวงั 1. การตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ือเป็นคณะกรรมการประเมินด้านท่ี 1, 2 และ 3 สำหรับวิทยฐานะชำนาญการ และด้านท่ี 1 และ 2 สำหรับวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ให้ตั้งบุคคลท่ีมีความรู้ ความสามารถเหมาะสม โดยควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับสาขาท่ีขอประเมินและประสบการณ์หรือวิทยฐานะ หรือระดบั ตำแหน่งของผปู้ ระเมนิ ๒. การประเมินด้านท่ี 1 และด้าน 2 สำหรับวิทยฐานะเช่ียวชาญ ในการต้ังกรรมการประเมิน จำนวน 3 คนน้ัน กรรมการคนท่ี 3 ต้องเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานที่ขอรับการประเมิน ท่มี วี ิทยฐานะไมต่ ่ำกว่าวทิ ยฐานะท่ีขอรับการประเมนิ 3. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีวุฒิปริญญาโทข้ึนไป และขอนำวุฒิดังกล่าว มาใช้ลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งครูเพื่อขอมีวทิ ยฐานะครชู ำนาญการ คุณวุฒิดังกล่าวต้องเป็นคุณวฒุ ิที่ ก.ค.ศ. รบั รองใหก้ บั ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกดั นนั้ ๆ
- ๙๙ - แผนผงั การประเมนิ คำขอให้มหี รอื เลื่อนเป็นวทิ ยฐานะชำนาญการ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารฯ ว ๑๐/๒๕๕๔ 1. ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ยนื่ คำขอถึงสำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษา (รอบปลี ะ 1 ครงั้ ) 2. สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษา ไม่มีคณุ สมบัติ เสนอ กศจ. พจิ ารณา และ ตรวจสอบคณุ สมบัติ สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา แจ้งผู้ขอทราบ มีคณุ สมบัติ 3. กศจ. ต้ังคณะกรรมการประเมนิ 1 ชดุ ผู้บงั คบั บัญชาของผขู้ อ (จำนวน 3 คน) ผทู้ รงคุณวุฒนิ อกสถานศกึ ษาท่ปี ฏิบัตงิ าน 4. ดำเนินการประเมิน 3 ด้าน ปข้าฏรบิ าตัชิงกาานรครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ในสายงานเดยี วกนั ท่ีมวี ิทยฐานะไม่ตำ่ กว่า วทิ ยฐานะทข่ี อรับการประเมนิ กรณใี ห้พัฒนา กรณีพัฒนาแล้ว ให้คณะกรรมการแจ้งสำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษา กรณผี า่ นเกณฑ์/ไม่ผ่านเกณฑ์ ให้ผู้ขอพัฒนาฯ ได้ 2 ครง้ั 5. เสนอ กศจ. พจิ ารณา กรณีไมอ่ นุมัติ กรณอี นุมัติ แจ้งผู้ขอรบั การประเมนิ 6. ผมู้ อี ำนาจตามมาตรา ๕๓ แต่งตงั้ และมเี งือ่ นไขตอ้ งปฏบิ ัตหิ น้าที่ ในพ้นื ทีน่ น้ั 3 ปี
- ๑๐๐ - คำอธบิ ายแผนผงั การประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ให้ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในจังหวดั ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นที่อำเภอเทพา สะบ้ายอ้ ย นาทวี และจะนะ) มีวิทยฐานะชำนาญการ (ว 10/2554) 1. การยนื่ คำขอ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นท่ีอำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) ยื่นคำขอมีวิทยฐานะชำนาญการถึงสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ไดร้ อบปีละ 1 ครัง้ 2. การตรวจสอบคุณสมบัติ สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาตรวจสอบคณุ สมบตั ิ ดังน้ี 1) ระยะเวลาการดำรงตำแหนง่ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารฯ ว 10/2554 ข้อ 1.1 2) มภี าระงาน ดงั นี้ สายงานการสอน มภี าระงานสอนไม่ตำ่ กวา่ ภาระงานขั้นต่ำตามท่สี ่วนราชการต้นสังกัดกำหนด โดยความเหน็ ชอบของ ก.ค.ศ. สายงานบรหิ ารสถานศึกษา/นิเทศการศึกษา มีภาระงานในสายงานเต็มเวลา 3) เป็นผู้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าท่ีตามตำแหน่งนั้น อยู่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธวิ าส และสงขลา (เฉพาะพ้นื ท่อี ำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) มาแล้วไมน่ ้อยกว่า 1 ปีติดต่อกัน นับถงึ วันทยี่ ่นื คำขอ หรือ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งและได้มาช่วยปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งน้ัน อยู่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพน้ื ท่ีอำเภอเทพา สะบา้ ย้อย นาทวี และจะนะ) มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ติดต่อกนั นบั ถึงวันท่ยี น่ื คำขอ หรอื เป็นผู้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งน้ันรวมกับเป็นผู้ดำรงตำแหน่งและ ได้มาช่วยปฏิบัติหน้าท่ีตามตำแหน่งน้ัน อยู่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพ้ืนที่อำเภอเทพา สะบ้ายอ้ ย นาทวี และจะนะ) มาแล้วไมน่ ้อยกว่า 1 ปีติดตอ่ กันนบั ถึงวนั ท่ียนื่ คำขอ 4) ไดป้ ฏบิ ัตงิ านตามหน้าทีค่ วามรับผิดชอบย้อนหลัง 1 ปีติดตอ่ กัน นับถงึ วันที่ยื่นคำขอ กรณีตรวจสอบแล้วไม่มีคุณสมบัติให้เสนอ กศจ. พิจารณา แล้วแจ้งมติให้สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เพือ่ แจง้ ผขู้ อทราบ กรณีตรวจสอบแล้วมีคุณสมบตั ิใหเ้ สนอ กศจ. ตง้ั คณะกรรมการประเมนิ ตอ่ ไป 3. การตง้ั คณะกรรมการประเมิน กศจ. ตั้งคณะกรรมการประเมิน 1 ชุด จำนวน 3 คน ต่อผู้ขอ จำนวน 1 ราย โดยองค์ประกอบ ของคณะกรรมการประเมิน ประกอบดว้ ย คนที่ 1 ผบู้ ังคับบัญชาของผู้ขอรับการประเมิน คนท่ี 2 ผู้ทรงคณุ วุฒนิ อกสถานทปี่ ฏิบตั ิงานท่มี ีความรคู้ วามสามารถเหมาะสม คนท่ี 3 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสายงานเดียวกับผู้ขอรับการประเมินท่ีมี วิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการ และเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์สอดคล้องกับความรับผิดชอบ ของผ้ขู อรบั การประเมนิ
- ๑๐๑ - 4. การประเมนิ ของคณะกรรมการ สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาดำเนินการประเมินทั้ง 3 ด้าน ดงั น้ี ด้านที่ 1 วินยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี ดา้ นที่ 2 ความร้คู วามสามารถ ดา้ นที่ 3 ผลงานที่เกดิ จากการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ เกณฑ์ตัดสิน ด้านท่ี ๑ และด้านที่ ๒ ต้องได้คะแนนจากกรรมการ ๓ คน เฉลีย่ ไม่ต่ำกวา่ ๖๕% ด้านที่ ๓ ไดค้ ะแนนจากกรรมการแตล่ ะคน ไม่ต่ำกวา่ ๖๕% กรณีผลการประเมินด้านใดด้านหน่ึงหรือท้ัง 3 ด้าน ไม่ผ่านเกณฑ์ ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เสนอ กศจ. พิจารณาไม่อนมุ ตั ิ กรณีคณะกรรมการประเมิน มีความเห็นว่าผลการประเมินด้านใดด้านหน่ึงหรือท้ัง 3 ด้าน อยู่ในวิสัย ที่สามารถพัฒนาให้ผ่านเกณฑ์ได้ ให้พัฒนาได้ไม่เกิน 2 คร้ัง คร้ังละไม่เกิน 3 เดือน โดยแจ้งให้สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เพื่อแจ้งผู้ขอรับการประเมนิ พัฒนาต่อไป กรณผี ลการประเมนิ ทั้ง 3 ด้าน ผา่ นเกณฑ์ ใหส้ ำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา เสนอ กศจ. พจิ ารณาอนมุ ัติ 5. การพจิ ารณาของ กศจ. กรณีผา่ นเกณฑ์ กศจ.พจิ ารณา อนมุ ตั ิ กรณีไม่ผา่ นเกณฑ์ กศจ.พิจารณา ไมอ่ นุมตั ิ เมื่อ กศจ. มีมติเป็นประการใดแล้ว ให้สำนกั งานศึกษาธิการจังหวดั แจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงาน เขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาเพอ่ื แจง้ ผขู้ อทราบ 6. การแตง่ ต้ัง กรณี กศจ. มีมติอนุมัติให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 สั่งแต่งต้ังให้มีวิทยฐานะชำนาญการ ไม่ก่อนวันท่ี สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาได้รับคำขอและเอกสารครบถ้วนครั้งหลังสุด โดยต้องเป็นผู้ปฏิบัติหน้าท่ีติดต่อกัน อยูใ่ นพืน้ ทีพ่ ิเศษจนถงึ วนั ท่แี ต่งตง้ั หมายเหตุ ผ้ทู รี่ ับการแตง่ ตัง้ ให้มวี ทิ ยฐานะชำนาญการตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารนี้แลว้ ต้องปฏิบัติหน้าที่ อย่ใู นพ้นื ที่พิเศษดงั กลา่ ว ไมน่ อ้ ยกว่า3 ปี นบั ต้ังแตว่ นั ที่ไดร้ บั อนุมตั ผิ ลการประเมินเวน้ แตม่ ีเหตุผลและความจำเปน็ พเิ ศษ
- ๑๐๒ - แผนผงั การประเมนิ คำขอให้มหี รอื เลื่อนเป็นวทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ ตามหลกั เกณฑ์และวิธีการฯ ว ๑๐/๒๕๕๔ 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ยนื่ คำขอถึงสำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา (รอบปีละ ๑ ครัง้ ) 2. สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา ไมม่ คี ณุ สมบตั ิ เสนอ กศจ. พิจารณา ตรวจสอบคุณสมบตั ิ และสำนกงั านเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา มคี ณุ สมบตั ิ แจง้ ผูข้ อทราบ ชุดท่ี ๑ ประเมนิ ดา้ นที่ ๑ และ ๒ 3. กศจ. ตั้งคณะกรรมการประเมิน ๒ ชดุ ชดุ ท่ี ๒ ประเมินดา้ นท่ี ๓ จากบัญชีรายช่ือที่ ก.ค.ศ. กำหนด 4. กรรมการชดุ ท่ี 1 กรณใี ห้พฒั นา ประเมิน ด้านท่ี 1 และ ดา้ นท่ี 2 กรณีพัฒนาแล้ว กรณผี ่านเกณฑ/์ ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ใหค้ ณะกรรมการแจ้งสำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษา ให้ผู้ขอพฒั นาฯ ได้ 2 คร้ัง 5. เสนอ กศจ. พิจารณา กรณไี ม่อนุมตั ิ ด้านท่ี 1 และดา้ นท่ี 2 แจง้ ผู้ขอรับการประเมิน กรณีอนมุ ัติ กรณีไม่อนมุ ัติ 6. กรรมการชุดที่ 2 กรณีใหป้ รับปรงุ ประเมิน ด้านที่ 3 กรณีปรับปรงุ แลว้ กรณีผา่ นเกณฑ/์ ไม่ผา่ นเกณฑ์ ให้คณะกรรมการแจง้ สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษา เพอ่ื เสนอ กศจ. พจิ ารณาเหน็ ชอบใหป้ รับปรงุ และแจ้งผูข้ อปรับปรุง ได้ 2 ครง้ั 7. เสนอ กศจ. พจิ ารณา ดา้ นที่ 3 กรณีอนมุ ตั ิ แจ้งผขู้ อรบั การประเมิน 8. ผมู้ อี ำนาจตามมาตรา ๕๓ แตง่ ตั้ง
- ๑๐๓ - คำอธิบายแผนผงั การประเมินตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการ ให้ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในจงั หวดั ยะลา ปตั ตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นท่ีอำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) มีวทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ (ว 10/2554) 1. การยื่นคำขอ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นท่ี อำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) ย่ืนคำขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ถงึ สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา รอบปีละ 1 ครั้ง 2. การตรวจสอบคณุ สมบัติ สำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาตรวจสอบคุณสมบตั ิ ดังน้ี 2.1 ระยะเวลาการดำรงตำแหนง่ เป็นไปตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารฯ ว 10/2554 ข้อ 1.1 2.2 มภี าระงาน ดงั น้ี สายงานการสอน มีภาระงานสอนไม่ต่ำกว่าภาระงานขั้นต่ำตามที่ส่วนราชการต้นสังกัดกำหนด โดยความเห็นชอบของ ก.ค.ศ. สายงานบริหารสถานศึกษา/นิเทศการศกึ ษา มีภาระงานในสายงานเต็มเวลา 2.3 เป็นผู้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าท่ีตามตำแหน่งน้ัน อยู่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นที่อำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ติดต่อกนั นบั ถึงวันท่ียนื่ คำขอ หรอื เป็นผู้ดำรงตำแหน่งและได้มาช่วยปฏิบัติหน้าท่ีตามตำแหน่งนั้น อยู่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพื้นที่อำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนตดิ ตอ่ กนั นับถึงวันท่ยี ืน่ คำขอ หรือ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งนั้นรวมกับเป็นผู้ดำรงตำแหน่งและ ได้มาช่วยปฏิบัติหน้าท่ีตามตำแหน่งนั้น อยู่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพ้ืนที่อำเภอเทพา สะบา้ ย้อย นาทวี และจะนะ) มาแลว้ ไม่นอ้ ยกว่า 6 เดือนติดต่อกันนบั ถงึ วันที่ยื่นคำขอ 2.4 ได้ปฏบิ ตั ิงานตามหน้าท่คี วามรับผิดชอบยอ้ นหลงั 1 ปีตดิ ตอ่ กนั นับถึงวันทีย่ ่นื คำขอ กรณีตรวจสอบแล้วไม่มีคุณสมบัติให้เสนอ กศจ. พิจารณา แล้วแจ้งมติให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อแจง้ ผูข้ อทราบ กรณตี รวจสอบแลว้ มีคุณสมบตั ิใหเ้ สนอ กศจ. ต้ังคณะกรรมการประเมนิ ตอ่ ไป 3. การตั้งคณะกรรมการประเมนิ กศจ. ตง้ั คณะกรรมการประเมนิ 2 ชุด ดังน้ี 1) กรรมการชุดที่ ๑ จำนวน ๓ คน ประเมินด้านที่ ๑ ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และ จรรยาบรรณวชิ าชีพ และดา้ นท่ี ๒ ดา้ นความร้คู วามสามารถ โดยมอี งค์ประกอบ คอื คนท่ี 1 ผู้บังคับบญั ชาของผูข้ อรับการประเมนิ คนท่ี 2 ผู้ทรงคุณวฒุ ินอกสถานท่ปี ฏบิ ตั งิ านที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสม คนที่ 3 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีมีวทิ ยฐานะหรือตำแหน่งอ่ืนที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า ไมต่ ำ่ กวา่ วิทยฐานะชำนาญการพเิ ศษ
- ๑๐๔ - 2) กรรมการชุดที่ ๒ จำนวน 3 คน ประเมินด้านท่ี 3 ดา้ นผลงานท่ีเกดิ จากการปฏิบัติหน้าที่ โดยตง้ั กรรมการจากบัญชีรายช่ือท่ี ก.ค.ศ. กำหนด คณะกรรมการประเมนิ ทง้ั 2 ชดุ ประเมนิ จากเอกสารหลักฐาน รวมทั้งการปฏิบัติงานจรงิ ณ สถานศกึ ษา 4. การประเมินของคณะกรรมการชดุ ที่ 1 สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาดำเนินการประเมนิ ดา้ นท่ี 1 และ 2 ดังนี้ ด้านท่ี 1 วินัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ด้านที่ 2 ความรคู้ วามสามารถ เกณฑ์ตดั สิน ดา้ นที่ ๑ และดา้ นที่ ๒ ตอ้ งไดค้ ะแนนจากกรรมการ ๓ คน เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 70% กรณีผลการประเมินด้านใดด้านหน่ึงหรือท้ัง 2 ด้าน ไม่ผ่านเกณฑ์ ให้สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา เสนอ กศจ. พจิ ารณาไม่อนมุ ัติ กรณีคณะกรรมการชุดท่ี 1 ประเมินด้านท่ี 1 และด้านที่ 2 มีความเห็นว่าผลการประเมินด้านใดด้านหนึ่ง หรือท้ัง ๒ ด้าน อยู่ในวิสัยที่สามารถพัฒนาให้ผ่านเกณฑ์ได้พัฒนาได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 3 เดือน โดยแจง้ ให้สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาเพื่อแจ้งผขู้ อรับการประเมินพัฒนาต่อไป กรณีผลการประเมินท้งั 2 ด้านผ่านเกณฑ์ ให้สำนักงานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาเสนอ กศจ. พิจารณาอนุมัติ 5. กศจ. พจิ ารณาผลการประเมินของคณะกรรมการชุดที่ 1 กรณีผลการประเมินด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้ง 2 ด้าน ไม่ผ่านเกณฑ์ กศจ. พิจารณาไม่อนุมัติ ให้สำนกั งานศกึ ษาธิการจังหวัดแจง้ ให้สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาเพือ่ แจง้ ผลการพจิ ารณาใหผ้ ู้ขอรับทราบ กรณีผลการประเมินทั้ง 2 ด้านผ่านเกณฑ์ กศจ. พิจารณาอนุมัติ ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด แจ้งให้สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาส่งเอกสารผลการปฏิบัติงานด้านท่ี 3 พร้อมทั้งเอกสารท่ีเกี่ยวข้อง ให้คณะกรรมการชุดท่ี 2 เพอื่ ดำเนินการตอ่ ไป 6. การประเมนิ ของคณะกรรมการชุดที่ ๒ สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาดำเนนิ การประเมินด้านท่ี 3 ดงั นี้ ดา้ นที่ 3 ผลงานทเ่ี กิดจากการปฏิบตั ิหน้าท่ี สว่ นท่ี 1 ข้อจำกดั ตามสภาพความยากลำบากการปฏิบตั ิงาน ส่วนท่ี 2 ผลที่ประสบผลสำเร็จทางด้านการสอน/ด้านบริหารสถานศึกษา/ ด้านบรหิ ารการศึกษา/ดา้ นนิเทศการศึกษา เกณฑ์ตดั สิน ด้านท่ี ๓ สว่ นที่ 1 ได้คะแนนจากกรรมการแต่ละคน ไมต่ ่ำกว่า 65% ส่วนท่ี 2 ได้คะแนนจากกรรมการแตล่ ะคน ไมต่ ่ำกว่า 65% รวมทง้ั 2 ส่วน ไดค้ ะแนนจากกรรมการ รวมเฉลีย่ ไม่ตำ่ กว่า 70% กรณผี ลการประเมนิ ผา่ นเกณฑ์หรอื ไมผ่ ่านเกณฑ์ให้สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษานำผลการประเมิน เสนอ กศจ. พิจารณา กรณีมีผลการประเมินด้านท่ี 3 ผ่านเกณฑ์จากกรรมการไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 คนและ คณะกรรมการชุดท่ี 2 พิจารณาแล้วเห็นว่าผลงานทางวิชาการอยู่ในวิสัยท่ีสามารถปรับปรุงได้ เห็นสมควรให้ ปรับปรุงผลงานทางวิชาการได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ไม่เกิน 6 เดือน และครั้งที่ 2 ไม่เกิน 3 เดือน และ ให้สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษานำผลการประเมนิ เสนอ กศจ. พจิ ารณา
- ๑๐๕ - 7. การพจิ ารณาของ กศจ. ผลการประเมนิ ของคณะกรรมการชุดท่ี 2 กรณีผ่านเกณฑ์ กศจ. พิจารณา อนุมัติ กรณีไม่ผ่านเกณฑ์ กศจ. พิจารณา ไม่อนุมัติ กรณีการปรับปรุง กศจ. พิจารณาให้ปรับปรุงได้ไม่เกิน 2 คร้ัง คร้ังท่ี 1 ไม่เกิน 6 เดือน และคร้งั ที่ 2 ไม่เกนิ 3 เดอื น เม่ือ กศจ. มีมติเป็นประการใดแล้ว ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งผลการพิจารณา ให้สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาเพื่อแจง้ ผขู้ อทราบ 8. การแต่งตัง้ กรณี กศจ. มมี ตอิ นมุ ตั ิ ใหผ้ ้มู อี ำนาจตามมาตรา 53 ส่ังแต่งต้งั ใหเ้ ล่ือนเปน็ วิทยฐานะชำนาญการพเิ ศษ ไม่ ก่ อนวั นที่ สำนั กงานเขตพื้ นที่ การศึ กษาได้ รั บ คำขอและเอกสารครบ ถ้ วน ครั้ งห ลั งสุ ดและไม่ ก่ อน วัน ที่ ผ่านการพัฒนากอ่ นแต่งตั้ง โดยต้องเปน็ ผ้ปู ฏิบัตหิ น้าทีต่ ดิ ต่อกันอยู่ในพน้ื ที่พิเศษจนถงึ วนั ท่ีแต่งตั้ง สำหรับตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา กรณี ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติ ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ส่ังแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ไม่ก่อนวันท่ีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ได้รับคำขอและเอกสารครบถ้วนคร้ังหลงั สุดและไม่ก่อนวันท่ีผา่ นการพัฒนาก่อนแต่งต้ัง โดยต้องเป็นผู้ปฏิบัติหน้าท่ี ติดตอ่ กนั อยู่ในพน้ื ที่พิเศษจนถึงวันที่แต่งต้ัง หมายเหตุ ผู้ท่ีรับการแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษตามหลักเกณฑ์ และวิธีการน้ีแล้ว ต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพ้ืนท่ีพิเศษดังกล่าว ไม่น้อยกว่า 3 ปี นับต้ังแต่วันที่ได้รับอนุมัติ ผลการประเมิน เว้นแต่มีเหตผุ ลและความจำเปน็ พิเศษ
- ๑๐๖ - แผนผังการประเมินคำขอเพ่ือใหม้ ีหรือเล่ือนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว ๑๓/๒๕๕๖ 1. ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ย่นื คำขอถึงสำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา 2. สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ดำเนนิ การกลั่นกรองและคดั เลอื ก 3. สว่ นราชการตน้ สังกัด ดำเนนิ การกลัน่ กรองและคัดเลือก แจ้งสว่ นราชการ กรณไี ม่มีคณุ สมบตั ิ 4. ก.ค.ศ. ดำเนนิ การ ต้นสงั กัดเพื่อแจง้ กลัน่ กรองและคดั เลอื ก ผ้ขู อทราบ กรณมี คี ณุ สมบัติ แจ้งส่วนราชการต้นสงั กัด เพอื่ แจ้ง สพท. ดำเนินการ กรณผี ลการประเมินผ่านเกณฑ์ ประเมิน แตเ่ อกสารรายงานผลงานดีเด่นฯ และหรือเอกสารรายงาน ผลการพัฒนางานตามข้อตกลง 5. คณะกรรมการประเมิน ยงั ไม่สมบรู ณ์ ทงั้ 3 ด้าน พรอ้ มกัน กรณีปรบั ปรงุ แลว้ ณ สถานทีป่ ฏบิ ัตงิ านจริง กรณผี า่ นเกณฑ์/ไมผ่ า่ นเกณฑ์ แจ้งผ้ขู อให้ปรับปรงุ แกไ้ ข ภายใน 3 เดอื น 6. เสนอ กศจ. พจิ ารณา กรณไี ม่อนมุ ตั ิ กรณีอนมุ ตั ิ แจง้ ผู้ขอรบั การประเมนิ 7. ผมู้ ีอำนาจตามมาตรา ๕๓ แตง่ ตั้ง
- ๑๐๗ - คำอธิบายแผนผังการประเมินตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการ ให้ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาผูม้ ผี ลงานดเี ด่นท่ปี ระสพผลสำเรจ็ เปน็ ทป่ี ระจักษ์ มวี ิทยฐานะชำนาญการพเิ ศษ (ว 13/2556) 1. การย่ืนคำขอ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ย่ืนคำขอมีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ถึงสำนักงาน เขตพื้นทกี่ ารศึกษา 2. การดำเนินการกล่ันกรองและคัดเลือกของสำนกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา 2.1 ให้ กศจ. ตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วย หัวหน้าหน่วยงานของสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา เป็นประธาน ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ขอรับการประเมิน เป็นกรรมการ จำนวนคณะกรรมการ ใหพ้ ิจารณาต้งั ได้ตามความเหมาะสม พิจารณากลั่นกรองและคัดเลือกข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ทม่ี คี ุณสมบตั ิ ดังนี้ 2.1.1 มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับวิทยฐานะท่ีขอรับการประเมิน ตามมาตรฐานวิทยฐานะ ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด 2.1.2 มีภาระงานในหนา้ ท่ีและความรับผิดชอบของตำแหน่งทข่ี อรับการประเมนิ ดงั น้ี สายงานการสอน มภี าระงานสอน ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด สายงานบริหารสถานศึกษา/สายงานบริหารการศึกษา/สายงานนิเทศศึกษา มีภาระงาน ในหนา้ ท่แี ละความรบั ผดิ ชอบเตม็ เวลา 2.1.3 ได้ปฏิบัตงิ านตามหน้าทคี่ วามรับผดิ ชอบในตำแหน่งที่ขอรับการประเมินย้อนหลัง 3 ปี ติดต่อกัน นับถงึ วนั ท่ยี น่ื ขอรับการประเมนิ 2.1.4 มผี ลงานดีเดน่ ทป่ี ระสพผลสำเร็จเปน็ ท่ีประจักษ์ โดยต้องเป็นผลงานตามข้อใดขอ้ หน่งึ ดงั นี้ 1) ผลงานดีเดน่ ทีผ่ ู้ขอรบั การประเมินได้รับรางวลั สงู สดุ ระดับชาตขิ ึน้ ไป ผลงานดีเด่นท่ีผู้ขอรับการประเมินได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติข้ึนไป ไม่น้อยกว่า 2 รางวัล สำหรับวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ภายใน 3 ปี นับถึงวันท่ีสำนักงาน ก.ค.ศ. กำหนด โดยผลงานดีเด่น ต้องตรงหรอื สอดคลอ้ งกบั สาขา/สาขาวิชา/กลมุ่ สาระการเรยี นร้ทู ข่ี อรบั การประเมิน กรณีผลงานดีเด่นท่ีผู้ขอรับการประเมินได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติข้ึนไป เกิน 3 ปี ตอ้ งมีหลกั ฐานแสดงการพฒั นาผลงานและใช้ประโยชนอ์ ย่างตอ่ เนื่อง 2) ผลงานดีเด่นท่ีส่วนราชการต้นสังกัดพิจารณาเห็นว่าเป็นผลงานที่มีคุณภาพ เทียบเคยี งกับผลงานทไี่ ดร้ ับรางวลั สงู สุดระดับชาตขิ ้นึ ไป ผลงานดีเด่นที่ส่วนราชการต้นสังกัดพิจารณาเห็นว่าเป็นผลงานท่ีมีคุณภาพ เทยี บเคียงกบั ผลงานท่ีได้รับรางวัลสงู สดุ ระดับชาติข้ึนไป ไม่นอ้ ยกว่า 2 รายสำหรบั วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ภายใน 3 ปี นับถงึ วันท่ีสำนักงาน ก.ค.ศ. กำหนด โดยผลงานดีเดน่ ตอ้ งตรงหรือสอดคลอ้ งกับสาขา/สาขาวิชา/ กลุ่มสาระการเรยี นรทู้ ี่ขอรับการประเมนิ
- ๑๐๘ - กรณีผลงานดีเด่นท่ีผู้ขอรับการประเมินที่ส่วนราชการต้นสังกัดพิจารณาเห็นว่า เป็นผลงานท่ีมีคุณภาพเทียบเคียงกับผลงานที่ได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติขึ้นไป เกิน 3 ปี ต้องมีหลักฐาน แสดงการพัฒนาผลงานและใชป้ ระโยชน์อย่างต่อเน่อื ง 2.1.5 มขี อ้ เสนอในการพัฒนางานท่ีต่อยอดจากผลงานดีเดน่ ท่ีสอดคล้องกับสาชา/สาขาวิชา/ กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ขอรับการประเมิน จำนวน 1 เรื่อง โดยข้อเสนอในการพัฒนางานต้องมีองค์ประกอบ ครบ 4 ประการ คือ ประเด็นในการพัฒนา เป้าหมายในการพัฒนา วิธีการพัฒนา แนวทางการตรวจสอบ และประเมินผลการพัฒนา 2.2 ให้เสนอ กศจ. พิจารณาให้ความเห็นชอบ และประกาศรายช่ือผู้ได้รับการคัดเลือก ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และประกาศทางเว็บไซต์ เป็นระยะเวลา 15 วัน เพ่ือเปิดโอกาสให้มีการคัดค้าน คุณสมบตั ิและหรือผลงานของผไู้ ดร้ ับการคัดเลือก 2.3 เสนอรายช่อื ผู้ไดร้ ับการคัดเลือกใหส้ ่วนราชการตน้ สงั กัดดำเนินการตอ่ ไป 3. การดำเนินการกลั่นกรองและคัดเลอื กของสว่ นราชการต้นสงั กัด 3.1 ให้ส่วนราชการต้นสังกัด ตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เป็นประธาน ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้ขอรับการประเมิน เป็นกรรมการ จำนวนคณะกรรมการ ให้พิจารณาตั้งได้ตามความเหมาะสม พิจารณากลั่นกรองและคัดเลอื กข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ทีม่ คี ุณสมบัติตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการท่ี ก.ค.ศ. กำหนด 3.2 เมื่อคณะกรรมการพิจารณาแล้ว ให้ประกาศรายช่ือผู้ได้รับการคัดเลือก ณ สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือประกาศทางเว็บไซต์ เป็นระยะเวลา 15 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการ คัดค้านคณุ สมบตั แิ ละหรือผลงานของผไู้ ด้รับการคดั เลอื ก 3.3 เสนอรายช่อื ผ้ไู ดร้ ับการคดั เลอื กใหส้ ำนักงาน ก.ค.ศ. ดำเนนิ การตอ่ ไป 4. การดำเนินการกล่ันกรองและคัดเลอื กของ ก.ค.ศ. เม่ือสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้รับคำขอจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้ว ให้ดำเนนิ การ ดงั น้ี 4.1 ก.ค.ศ. ต้ัง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจเพื่อทำหน้าที่พิจารณารับรองรางวัลสูงสุดระดับชาติขึน้ ไป ผลงานที่มีคุณภาพเทียบเคียงกับผลงานท่ีได้รับรางวัลสูงสุดระดับชาติข้ึนไป และเพื่อพิจารณากลั่นกรอง ตรวจสอบและวินิจฉัยคุณสมบัติของผู้ได้รับการคัดเลือก และพิจารณาคำร้องคัดค้าน รวมท้ังดำเนินการอ่ืน ๆ ตามที่ ก.ค.ศ. มอบหมาย 4.2 เม่ือคณะกรรมการพิจารณาแล้ว ให้ประกาศรายช่ือผู้ได้รับการคัดเลือกทางเว็บไซต์ของ สำนักงาน ก.ค.ศ. เป็นระยะเวลา 15 วัน เพ่ือเปิดโอกาสให้มีการคัดค้านคุณสมบัติและหรือผลงานของผู้ได้รับ การคัดเลือก แล้วแจ้งรายช่ือผู้ได้รับการคัดเลือกเพ่ือเข้ารับการประเมินให้มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพื่อแจ้งสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาดำเนินการประเมิน ดา้ นที่ 1, 2 และ 3 ณ สถานทีป่ ฏิบตั ิงานต่อไป
- ๑๐๙ - 4.3 ก.ค.ศ. กำหนดบัญชีรายช่ือคณะกรรมการประเมินให้สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ดำเนนิ การตัง้ คณะกรรมการเพ่ือประเมนิ ต่อไป 5. การดำเนินการประเมิน วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ให้คณะกรรมการประเมิน ดำเนินการประเมินด้านที่ 1 ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ด้านที่ 2 ด้านความรู้ความสามารถ และดา้ นท่ี 3 ด้านผลการปฏิบัติงาน พรอ้ มกนั และประเมนิ ทุกด้าน ณ สถานทปี่ ฏิบัตงิ านจริง 6. เสนอ กศจ. พจิ ารณา กรณีผา่ นเกณฑ์ กศจ. พิจารณาอนุมัติ กรณไี ม่ผ่านเกณฑ์ กศจ. พจิ ารณาไมอ่ นมุ ัติ 7. การแตง่ ตัง้ กรณี กศจ. มีมติอนุมัติให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ส่ังแต่งต้ังเล่ือนเป็นวิทยฐานะขำนาญการพิเศษ ไม่ก่อนวันท่ีสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้รับคำขอพร้อมเอกสารหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ และไม่ก่อนวันที่ ผ่านการพัฒนากอ่ นแตง่ ตัง้ ตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด
- ๑๑๐ - รายการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (QR Code) เอกสาร ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวนั ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ เร่อื ง หลกั เกณฑ์และวธิ กี ารให้ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา มวี ิทยฐานะและเล่อื นวิทยฐานะ ศธ ๐๒๐๖.4/ว ๑๐ ลงวนั ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เรอ่ื ง หลักเกณฑ์และวธิ กี ารให้ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา (เฉพาะพ้ืนท่ีอำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) มีวิทยฐานะชำนาญการ และมีหรอื เลอ่ื นเปน็ วทิ ยฐานะชำนาญการพเิ ศษ ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๑๓ ลงวนั ท่ี ๑ สงิ หาคม ๒๕๕๖ เรอื่ ง หลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารให้ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ผู้มีผลงานดเี ดน่ ทปี่ ระสพผลสำเรจ็ เป็นท่ีประจักษ์มวี ิทยฐานะหรือเลื่อน เป็นวิทยฐานะชำนาญการพเิ ศษและวทิ ยฐานะเชย่ี วชาญ ทุกตำแหน่ง ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๒๑ ลงวนั ท่ี ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เรอื่ ง หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารให้ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ตำแหนง่ ครู มวี ทิ ยฐานะและเล่ือนวทิ ยฐานะ
- ๑๑๑ - แผนผังการประเมินคำขอมวี ิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตำแหน่งครู ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการฯ ว 21/2560 1. ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ยน่ื คำขอต่อผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา (รอบปีละ 1 ครั้ง) 2. การดำเนนิ การ 3. การดำเนนิ การ 4. การดำเนนิ การ ของสถานศกึ ษา ของสำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษา ของสำนักงานศึกษาธกิ ารจังหวัด 5. กศจ. พจิ ารณา วทิ ยฐานะ ชนก. และ ชนพ. วทิ ยฐานะ ชช. และ ชชพ. กรณไี ม่อนุมตั ิ กรณีอนมุ ัติ กรณไี ม่มีคณุ สมบัติ กรณมี คี ณุ สมบตั ิ สำนกั งานศกึ ษาธิการจังหวัด 7. วทิ ยฐานะ ชนก. และ ชนพ. สำนกั งานศึกษาธกิ ารจงั หวดั สำนักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวดั แจง้ สำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 แจง้ สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษา สง่ เอกสารหลกั ฐานและผลงาน ส่งั แตง่ ตง้ั ทางวชิ าการไปยงั สำนักงาน ก.ค.ศ. เพ่อื แจง้ ผู้ขอทราบ เพือ่ แจ้งผขู้ อทราบ เพ่ือเสนอ ก.ค.ศ. พจิ ารณา 6. ก.ค.ศ. พิจารณา ส่งผลงาน กรณอี นมุ ตั ิ ทางวิชาการ ท่ปี รบั ปรุงแลว้ สำนักงาน ก.ค.ศ. แจง้ สำนกั งาน กรณีไม่อนมุ ตั ิ ศึกษาธกิ ารจังหวัด กรณีปรับปรุง สำนักงาน ก.ค.ศ. แจ้ง สำนกั งาน 7. ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 แต่งตงั้ สำนักงาน ก.ค.ศ. แจ้งสำนกั งานศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด ศึกษาธกิ ารจงั หวัด เพ่อื แจง้ ไปยัง และผู้ขอรับการประเมินปรบั ปรุง สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา ผลงานทางวิชาการ เพอื่ แจ้งผ้ขู อทราบ
- ๑๑๒ - คำอธบิ ายแผนผังการประเมินตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี าร ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ตำแหนง่ ครู มวี ิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ (ว 21/2560) 1. การยนื่ คำขอ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ย่ืนคำขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ต่อผู้อำนวยการสถานศึกษา รอบปลี ะ 1 คร้ัง 2. การดำเนินการของสถานศกึ ษา ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา ตรวจสอบคุณสมบัติและประเมิน ดังนี้ 2.1 ตรวจสอบคณุ สมบัติ 2.1.1 ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องดำรงตำแหน่งครู มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ ย่นื คำขอ หรอื ดำรงตำแหน่งอ่นื ที่ ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องดำรงตำแหน่งครูท่ีมีวิทยฐานะครูชำนาญการ มาแลว้ ไมน่ ้อยกวา่ 5 ปี นับถงึ วันทย่ี นื่ คำขอ หรอื ดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า วิทยฐานะครูเช่ียวชาญ ต้องดำรงตำแหน่งครูท่ีมีวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ มาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ 5 ปี นบั ถึงวนั ทย่ี ่นื คำขอ หรอื ดำรงตำแหน่งอ่ืนที่ ก.ค.ศ. เทยี บเทา่ วิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ต้องดำรงตำแหน่งครูท่ีมีวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ มาแลว้ ไมน่ ้อยกวา่ 5 ปี นับถึงวันทย่ี ื่นคำขอ หรอื ดำรงตำแหน่งอื่นท่ี ก.ค.ศ. เทียบเท่า 2.1.2 มีจำนวนชว่ั โมงการปฏิบตั ิงานเปน็ ไปตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ชั่วโมงการปฏิบัติงาน ประกอบด้วย จำนวนชั่วโมงสอนตามตารางสอน งานสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ การมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และงานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น ทง้ั น้ี ก.ค.ศ. กำหนดชัว่ โมงสอนตามตารางสอน ดงั น้ี ระดับการศกึ ษา/ประเภท ช่วั โมงสอนขั้นต่ำ สังกดั สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ไมต่ ่ำกวา่ 6 ชม./สปั ดาห์ ไม่ต่ำกว่า 12 ชม./สปั ดาห์ 1. ปฐมวัย 2. ประถมศึกษา ไมต่ ำ่ กว่า 12 ชม./สปั ดาห์ (รวมโรงเรยี นวัตถปุ ระสงคพ์ เิ ศษ หรือ โรงเรียนจัดการเรียนรวม) 3. มธั ยมศึกษา ไมต่ ำ่ กวา่ 6 ชม./สปั ดาห์ (รวมโรงเรียนวตั ถุประสงค์พิเศษ หรือ โรงเรยี นจดั การเรยี นรวม) ไม่ตำ่ กวา่ 12 ชม./สปั ดาห์ 4. การศึกษาพเิ ศษ 4.1 เฉพาะความพกิ ารและศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ 4.2 ศึกษาสงเคราะหแ์ ละราชประชานเุ คราะห์
- ๑๑๓ - ผดู้ ำรงตำแหน่งครทู ี่จะขอมวี ทิ ยฐานะหรือเล่ือนวทิ ยฐานะ ต้องมชี ่ัวโมงการปฏิบตั งิ าน ดงั นี้ 1) วิทยฐานะครูชำนาญการหรือวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องมีช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 800 ช่ัวโมง โดยในชั่วโมงการปฏิบัติงานต้องมีชั่วโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ในแตล่ ะปไี มน่ อ้ ยกวา่ 50 ช่ัวโมง ท้ังนี้ ต้องมชี ่ัวโมงสอนขัน้ ต่ำตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนดดว้ ย 2) วิทยฐานะครูเช่ียวชาญหรือวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ต้องมีช่ัวโมงการปฏิบัติงาน ในแตล่ ะปไี ม่นอ้ ยกว่า 900 ชั่วโมง โดยในชวั่ โมงการปฏบิ ตั งิ านตอ้ งมชี ่ัวโมงการมีส่วนรว่ มในชมุ ชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ในแตล่ ะปไี ม่น้อยกวา่ 50 ช่วั โมง ท้งั นี้ ตอ้ งมชี ว่ั โมงสอนขน้ั ต่ำตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนดด้วย สำหรับการเสนอผลงานทางวชิ าการในวิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ใด ในช่วงระยะเวลา ย้อนหลงั 5 ปี ผู้ขอจะต้องมีช่ัวโมงสอน ในวิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ท่เี สนอผลงาน ทางวชิ าการนัน้ ด้วย 2.1.3 มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย หรอื จรรยาบรรณวชิ าชีพ ในชว่ งระยะเวลายอ้ นหลัง 5 ปี นบั ถงึ วันที่ยน่ื คำขอ ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งครู อยู่ระหว่างถูกดำเนินการทางวินัยหรือจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยยังไม่มีคำส่ังลงโทษ ให้ถือวา่ ผนู้ ัน้ มีคุณสมบัติในข้อนี้ 2.1.4 ผ่านการพัฒนา ตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ซ่ึง ก.ค.ศ. ได้กำหนด หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.7/ว 22 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 และตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.7/ว 14 ลงวนั ที่ 25 กันยายน 2561 โดยมีสาระสำคัญ ดงั น้ี 1) ครูต้องเข้ารับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมีการประเมินตนเองเพื่อวิเคราะห์ ความต้องการจำเป็นในการพัฒนา และนำผลการวิเคราะห์มาจัดทำแผนการพัฒนาตนเองเป็นรายปี เสนอผู้อำนวยการสถานศกึ ษาเพ่ือพิจารณาอนุญาต 2) การเข้ารบั การพัฒนา ต้องเข้ารับการพัฒนาในหลักสูตรท่ีสถาบันคุรุพัฒนาให้การรับรอง ภายใน 5 ปีต้องมีจำนวนชั่วโมงการพัฒนา 100 ช่ัวโมง กรณีมีช่ัวโมงการพัฒนาไม่ครบ 100 ช่ัวโมง แต่ไม่น้อยกว่า 60 ช่วั โมง ให้นำช่ัวโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวชิ าชีพ (PLC) ส่วนที่เกนิ จาก 50 ชว่ั โมงในแต่ละปี มานับรวมได้ 3) การเขา้ รบั การพัฒนาตามข้อ (2) ต้องครบ 3 องคป์ ระกอบในแตล่ ะปี ซง่ึ ประกอบดว้ ย ด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านความเป็นครู และเพื่อให้มีคุณลักษณะท่ีคาดหวังตามมาตรฐานวิทยฐานะ ท่จี ะขอรบั การประเมินนัน้ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ท่ีได้รับการพัฒนาตามข้อ (1) – (3) ครบถ้วนแล้ว ถอื ว่าผ่านการพัฒนาก่อนการแต่งตั้งให้มีหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตามมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ดว้ ย 2.1.5 มีผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษาติดต่อกัน นับถึงวนั สิน้ ปีการศกึ ษาก่อนวันท่ีย่นื คำขอ ซ่ึงจะต้องมีการประเมินและมีผลการประเมิน
- ๑๑๔ - เป็นไปตามเกณฑ์การตัดสินแต่ละวิทยฐานะตามที่กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์น้ี ไม่น้อยกว่า 3 ปีการศึกษา โดยพจิ ารณาจากขอ้ มลู ท่ีบนั ทกึ ไวใ้ นแบบประเมินผลงานที่เกดิ จากการปฏบิ ัติหน้าที่ ตำแหน่งครู รายปีการศึกษา การประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อนี้ เป็นการประเมินการปฏิบัติงาน ตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ตามมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ ซึ่งข้าราชการครูทุกคน ต้องมีการประเมิน 3 ด้าน รวม 13 ตัวชี้วัด คือ ด้านการจัดการเรียนการสอน (8 ตัวช้ีวัด) ด้านการบริหาร จัดการชั้นเรียน (3 ตัวชี้วัด) และด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ (2 ตัวชี้วัด) ทุกปีการศึกษา โดยเมอื่ สน้ิ ปกี ารศกึ ษาผดู้ ำรงตำแหน่งครตู ้องประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านของตนเอง เสนอผอู้ ำนวยการสถานศึกษา ผู้ขอและผู้อำนวยการสถานศึกษาต้องเป็นผู้รับรองข้อมูล เอกสาร และหลักฐานเก่ียวกับ คุณสมบัติของผู้ขอด้วย หากภายหลังการตรวจสอบพบว่ามีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้ถอื ว่าเปน็ ผขู้ าดคุณสมบัติ 2.2 การประเมิน ผู้อำนวยการสถานศึกษาประเมนิ ผดู้ ำรงตำแหนง่ ครู ดงั น้ี 2.2.1 ประเมินรายปีการศึกษา 1) ประเมินผลงานท่ีเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้ดำรงตำแหน่งครูทุกคนในสถานศึกษา ภาคเรียนละ 1 คร้ัง โดยภาคเรียนท่ี 1 เป็นการประเมินเพ่ือให้คำแนะนำและพัฒนา และภาคเรียนท่ี 2 ใหป้ ระเมินภาพรวมท้งั ปี 2) เม่ือสิ้นปีการศึกษาให้ผู้ดำรงตำแหน่งครูประเมินตนเอง ท้ัง 3 ด้าน 13 ตัวช้ีวัด อยา่ งต่อเนื่องทกุ ปีการศึกษา แล้วเสนอผลการประเมินให้ผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษาพิจารณา 3) ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษา ต้ังคณะกรรมการจากข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา ในสถานศึกษาหรือนอกสถานศึกษา เพ่ือตรวจสอบและกลั่นกรองข้อมูลที่ผู้ดำรงตำแหน่งครู รายงานและเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของผู้อำนวยการสถานศึกษา ในการประเมินผลงานท่ีเกิดจาก การปฏิบัติหน้าท่ีในแตล่ ะปีการศกึ ษา สำหรับวิทยฐานะครูเช่ียวชาญและวิทยฐานะครูเช่ียวชาญพิเศษ ก.ค.ศ. เป็นผู้ต้ัง คณะกรรมการประเมินผลงานทางวชิ าการ 2.2.2. ประเมนิ เพ่ือให้มีวทิ ยฐานะและเลือ่ นวิทยฐานะ 1) ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาตรวจสอบคุณสมบัติให้เป็นไปตามข้อ 2.1 โดยให้ คณะกรรมการตรวจสอบและกล่ันกรองข้อมลู ของผ้ขู อรบั การประเมนิ พร้อมท้ังให้ความเห็นตอ่ ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา เพื่อประกอบการประเมินตอ่ ไป 2) สรุปผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้ขอในแต่ละปีการศึกษา รวม 5 ปกี ารศึกษา 3) เม่ือผู้อำนวยการสถานศึกษาตรวจสอบและประเมินผู้ดำรงตำแหน่งครูแล้ว ให้จดั สง่ เอกสารหลกั ฐานไปยังสำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา เพื่อดำเนนิ การในสว่ นทีเ่ กี่ยวขอ้ งต่อไป ดงั นี้
- ๑๑๕ - (1) คำขอมวี ิทยฐานะหรือเลื่อนวทิ ยฐานะ ตำแหนง่ ครู (วฐ.1) (2) สรุปผลการตรวจสอบและประเมนิ ตำแหนง่ ครู 5 ปกี ารศึกษา (วฐ.3) (3) เอกสารหลักฐานท่ีเกยี่ วข้อง (4) ผลงานทางวชิ าการ (สำหรับวทิ ยฐานะเชยี่ วชาญและเชยี่ วชาญพเิ ศษ) 2.3 เกณฑ์การตัดสิน ผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีและผลงานทางวิชาการ กำหนดไว้ ดังน้ี ตวั ชว้ี ดั เกณฑ์การตดั สิน ครเู ชย่ี วชาญพเิ ศษ ครชู ำนาญการ ครูชำนาญการพิเศษ ครูเช่ียวชาญ 1. ด้านการจดั การเรียน ทุกตวั ชวี้ ดั ต้องได้ ทกุ ตวั ชว้ี ัดตอ้ งได้ ทกุ ตัวชี้วดั ตอ้ งได้ ทกุ ตัวชี้วัดต้องได้ การสอน ไมต่ ำ่ กวา่ ระดบั 2 ไม่ต่ำกว่า ระดับ 3 ไม่ตำ่ กว่า ระดับ 4 ไมต่ ำ่ กว่า ระดบั 5 2. ดา้ นการบรหิ ารจัดการ ด้าน 2 และ 3 ดา้ น 2 และ 3 ดา้ น 2 และ 3 ดา้ น 2 และ 3 ช้นั เรยี น แตล่ ะด้าน ท้ัง 2 ด้าน ท้งั 2 ดา้ น ทง้ั 2 ดา้ น ไมต่ ำ่ กวา่ ไม่ตำ่ กวา่ ไมต่ ำ่ กวา่ ไม่ต่ำกวา่ 3. ดา้ นการพัฒนาตนเอง ระดับ 2 ระดับ 2 ระดับ 3 ระดับ 4 และพัฒนาวชิ าชพี ไมน่ ้อยกว่า ไมน่ อ้ ยกวา่ ไมน่ ้อยกวา่ ไม่นอ้ ยกว่า 1 ตวั ชี้วัด 3 ตวั ชี้วัด 3 ตวั ชีว้ ดั 3 ตวั ชว้ี ัด 4. ผลงานทางวิชาการ กรรมการแตล่ ะคน กรรมการแตล่ ะคน ไม่ตำ่ กวา่ ร้อยละ 75 ไม่ตำ่ กวา่ ร้อยละ 80 3. การดำเนนิ การของสำนกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษา เมื่อสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาได้รบั คำขอของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ทย่ี ่นื ขอรบั การประเมนิ ใหด้ ำเนนิ การตรวจสอบคุณสมบตั ิใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ 2.1 กรณีท่ีตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ให้สำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาแจ้งสถานศึกษาทราบ และดำเนินการจัดส่งข้อมูลเพิ่มเติม หรือมอบหมายเจ้าหน้าที่ หรือตั้งคณะกรรมการ ไปตรวจสอบขอ้ มลู ณ สถานศกึ ษากไ็ ด้ กรณีที่มีการตรวจสอบผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีกับเอกสารหลักฐานแล้ว พบว่า ผลการประเมินไม่สอดคลอ้ งกับระดับคุณภาพตามตัวชี้วัด ให้สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาเสนอความเห็น ตอ่ สำนักงานศึกษาธิการจงั หวดั เพื่อพจิ ารณาต่อไป 4. การดำเนินการของสำนักงานศึกษาธิการจงั หวัด เม่ือสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดได้รับคำขอของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ทยี่ ่ืนขอรับการประเมิน ให้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติให้เป็นไปตามข้อ 2.1 และนำความเห็นของสำนักงาน เขตพ้นื ที่การศกึ ษามาประกอบการพจิ ารณาด้วย
- ๑๑๖ - กรณีท่ีตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ให้สำนักงาน ศึกษาธิการจังหวัดขอข้อมูลเพิ่มเติม หรือมอบหมายเจ้าหน้าที่ หรือต้ังคณะกรรมการไปตรวจสอบข้อมูล ณ สถานศึกษากไ็ ด้ กรณีที่มีการตรวจสอบผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ีกับเอกสารหลักฐานแ ล้ว พบว่า ผลการประเมินไม่สอดคล้องกับระดับคุณภาพตามตัวชี้วัดให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเสนอความเห็น ต่อ กศจ. เพ่อื พิจารณาตอ่ ไป 5. การพจิ ารณาของ กศจ. 5.1 วิทยฐานะครูชำนาญการและวิทยฐานะครชู ำนาญการพิเศษ 5.1.1 กรณีคุณสมบัติ ตามข้อ 2.1 เป็นไปตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เสนอ อกศจ. และ กศจ. พจิ ารณาตอ่ ไป กศจ. พิจารณาอนุมัติ โดยให้มีผลไม่ก่อนวันท่ีสำนักงานศึกษาธกิ ารจังหวัดได้รับคำขอ มีวิทยฐานะหรือเล่อื นวทิ ยฐานะ พร้อมทงั้ เอกสารหลกั ฐานท่ีเก่ยี วข้องครบถ้วนสมบูรณ์ 5.1.2 กรณีคุณสมบัติ ตามข้อ 2.1 ไม่เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เสนอ อกศจ. และ กศจ. พจิ ารณาต่อไป กศจ. พิจารณาไม่อนุมัติ โดยให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดแจ้งผลให้สำนักงาน เขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา เพื่อแจ้งผ้ขู อทราบตอ่ ไป 5.2 วทิ ยฐานะครูเช่ียวชาญและวิทยฐานะเช่ียวชาญพิเศษ 5.2.1 กรณี กศจ. พิจารณาเห็นชอบให้เป็นผู้มีคุณสมบัติ ตามข้อ 2.1 แล้ว ให้สำนักงาน ศกึ ษาธิการจังหวดั ส่งผลงานทางวชิ าการและเอกสารหลกั ฐานทเ่ี กี่ยวข้องให้ ก.ค.ศ. พจิ ารณาตอ่ ไป 5.2.2 กรณี กศจ. พิจารณาว่าเป็นผไู้ ม่มีคุณสมบัติ ตามขอ้ 2.1 ให้สำนักงานศึกษาธกิ ารจังหวัด แจง้ สำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษา เพอื่ แจ้งผขู้ อทราบต่อไป 6. การพจิ ารณาของ ก.ค.ศ. ก.ค.ศ. ตั้งคณะกรรมการประเมินผลงานทางวิชาการ สำหรับวิทยฐานะครูเช่ียวชาญและวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ หาก ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติ ให้มีผลไม่ก่อนวันที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้รับคำขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ี และผลงานทางวิชาการ ซ่ึงมีเอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวข้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ กรณีท่ีมีการปรับปรุงผลงานทางวิชาการ หาก ก.ค.ศ. อนุมัติ ให้มีผลไม่ก่อนวันที่สำนักงาน ก.ค.ศ. ไดร้ ับผลงานทางวิชาการท่ีปรบั ปรุงครบถว้ นสมบรู ณค์ รัง้ หลังสดุ
- ๑๑๗ - 7. การแตง่ ต้ัง 7.1 วทิ ยฐานะครูชำนาญการ กรณีที่ กศจ. มีมติอนุมัติและผู้ขอมีวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้ผู้มีอำนาจ ตามมาตรา 53 ส่ังแต่งต้ังให้มีวิทยฐานะครูชำนาญการ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.2 ในขั้นหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม ถ้าไมม่ ขี นั้ หรอื อัตราเงนิ เดือนเทา่ เดมิ ให้ได้รับในขน้ั หรอื อัตราเงินเดือนใกล้เคียงทสี่ งู กว่า 7.2 วิทยฐานะครชู ำนาญการพเิ ศษ กรณีท่ี กศจ. มีมติอนุมัติและผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้ผู้มีอำนาจ ตามมาตรา 53 ส่ังแต่งตั้งให้เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.3 ในขั้นหรืออัตราเงนิ เดือนเท่าเดมิ ถา้ ไมม่ ขี ้นั หรอื อตั ราเงนิ เดือนเทา่ เดิม ใหไ้ ด้รับในข้นั หรืออัตราเงินเดือนใกล้เคยี งท่สี ูงกว่า 7.3 วิทยฐานะครูเชีย่ วชาญ กรณีที่ ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติและผู้ขอเล่ือนวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้ผู้มีอำนาจ ตามมาตรา 53 สั่งแต่งตั้งให้เล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเช่ียวชาญ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.4 ในข้ันหรืออัตรา เงนิ เดือนเท่าเดมิ ถ้าไมม่ ขี ัน้ หรืออัตราเงินเดือนเทา่ เดมิ ให้ได้รับในขั้นหรืออตั ราเงนิ เดือนใกลเ้ คยี งทส่ี งู กวา่ 7.4 วทิ ยฐานะครเู ช่ยี วชาญพิเศษ กรณีที่ ก.ค.ศ. มีมติอนุมัติและผู้ขอเล่ือนวิทยฐานะผ่านการพัฒนาตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของส่วนราชการที่ผู้นั้นสังกัดอยู่เป็นผู้ส่ังบรรจุและให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดนำเสนอ นายกรัฐมนตรี เพื่อนำความกราบบังคมทูลเพ่ือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เลื่อนเป็นวิทยฐานะ ครูเช่ียวชาญพิเศษ และให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.5 ในขั้นหรืออัตราเงินเดือนเท่าเดิม ถ้าไม่มีขั้นหรืออัตรา เงินเดอื นเท่าเดมิ ใหไ้ ดร้ ับในขน้ั หรืออัตราเงินเดือนใกล้เคียงทสี่ ูงกวา่
- ๑๑๘ - แผนผังการดำเนินการในชว่ งระยะเวลาเปลย่ี นผ่าน ตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารฯ ว 17/2552 ประกาศใชห้ ลักเกณฑใ์ หม่ 5 กรกฎาคม 2560 1. คุณสมบตั ิครบ ดำเนินการตอ่ 1.1 ขอเลอ่ื นวิทยฐานะถดั ไปตาม ว 17/2552 และยืน่ คำขอไวแ้ ล้ว ได้ภายใน 1 ปี นับตัง้ แตว่ นั ทีม่ ีคุณสมบตั ิครบ จนแลว้ เสร็จ มผี ลอนมุ ตั ิ ตาม ว 17/2552 หรือนบั ตั้งแตว่ นั ท่ี สพท. มีหนังสือแจง้ คำสั่งใหม้ หี รือเลอื่ นวทิ ยฐานะ ก่อน 5 ก.ค. 2560 แลว้ แต่กรณี ดำเนินการตอ่ 1.2 ขอตาม ว 17/2552 ได้อีก 1 ครั้ง ภายใน 1 ปี จนแลว้ เสร็จ นบั ตั้งแต่วนั ที่ สพท. มหี นังสือแจ้งมติไมอ่ นมุ ตั ิ มผี ลไมอ่ นุมัติ ดำรงตำแหน่งครู 2. คณุ สมบัติครบ ขอตาม ว 17/2552 ไดภ้ ายใน 1 ปี กอ่ นวนั ทปี่ ระกาศใช้ ก่อน 5 ก.ค. 2560 นับแตว่ นั ทีป่ ระกาศใช้หลกั เกณฑ์ใหม่ หรอื แต่ยังไมไ่ ดย้ นื่ ขอ ย่นื คำขอถึง สพท. ภายในวันที่ 4 ก.ค. 2561 หลกั เกณฑใ์ หม่ 3. คุณสมบตั คิ รบ ขอตาม ว 17/2552 ได้ภายใน 1 ปี นบั แตว่ นั ที่ ตง้ั แต่ 5 ก.ค. 2560 มคี ณุ สมบตั คิ รบตาม ว 17/2552 เป็นตน้ ไป หมายเหตุ 1. ผดู้ ำรงตำแหนงครผู ู้ช่วย และตำแหน่งครู อยู่กอ่ นวันทีป่ ระกาศใช้หลักเกณฑ์ฯ ว 21/2560 (5 กรกฎาคม 2560) ใหส้ ามารถย่นื คำขอตามหลกั เกณฑฯ์ ว 17/2552 ได้ 1 ครง้ั เพยี งวทิ ยฐานะเดียว ภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่ วนั ทีมีหนังสอื แจ้งมติ หรือวันท่ีมคี ุณสมบตั ิครบ แลว้ แตก่ รณี ทงั้ นี้ หากมวี ฒุ เิ ป็นไปตามเง่ือนไขที่ ก.ค.ศ. กำหนด ตามหนงั สอื สำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ 0206.3/ว 26 ลงวนั ที่ 30 ธนั วาคม 2559 สามารถนำมาลดระยะเวลาการดำรง ตำแหน่งในการขอมวี ิทยฐานะครชู ำนาญการได้ 2. หากไมไ่ ด้ยืน่ คำขอภายในระะยะเวลาทก่ี ำหนดไว้ดงั กล่าว ให้ยื่นขอตามหลกั เกณฑ์ฯ ว 21/2560
- ๑๑๙ - การดำเนินการในช่วงระยะเวลาเปลยี่ นผ่าน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่าน กรณีผู้ดำรงตำแหน่งครูได้ย่ืนคำขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ที่ ก.ค.ศ. กำหนดไว้เดิม (ว 17/2552, ว 10/2554, ว 13/2556) กอ่ นวันที่หลักเกณฑ์และวิธกี ารฯ ว 21/2560 ใช้บังคบั แต่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ และวธิ ีการเดมิ นน้ั ตอ่ ไปจนกวา่ จะแล้วเสรจ็ สำหรับผูท้ ีย่ ื่นขอ ว 17/2552 ในชว่ งระยะเวลาเปลี่ยนผ่านสามารถดำเนินการได้ ดงั น้ี 1. กรณีผู้ดำรงตำแหน่งครู ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนและยื่นคำขอตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ว 17/2552 ไวก้ ่อนประกาศใชห้ ลักเกณฑ์ ว 21/2560 (ก่อน 5 กรกฎาคม 2560) 1.1 กรณีคำขอรับการประเมินที่ยื่นไว้เดิม ได้รับการอนุมัติ และในวันที่มีหนังสือแจ้งมติ มีคุณสมบัติครบที่จะขอเลื่อนวิทยฐานะถัดไปได้อยู่แล้ว ให้ย่ืนคำขอ ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ีมีหนังสือแจ้งมติน้ัน แต่หากวนั ท่ีมีหนังสอื แจ้งมติดงั กล่าว ยงั มีคุณสมบตั ิไม่ครบทจ่ี ะขอเล่ือนวทิ ยฐานะถัดไป ให้ยืน่ คำขอ ภายใน 1 ปี นบั แต่วันที่มีคณุ สมบตั คิ รบ ตัวอย่างท่ี 1 กรณีคำขอรับการประเมินท่ีย่ืนไว้เดิม ได้รับการอนุมัติ และในวันที่มีหนังสือแจ้งมติ มีคุณสมบตั คิ รบทจ่ี ะขอเล่อื นวทิ ยฐานะถัดไปได้อยแู่ ล้ว ใหย้ ื่นคำขอ ภายใน 1 ปี นับแต่วันทม่ี หี นงั สือแจ้งมติ นาง ก ได้ยื่นคำขอรับการประเมินเพ่ือขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ว 17/2552 ส่งถึงสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2559 (ก่อนวันท่ีประกาศใช้ หลักเกณฑ์ ว 21/2560 ) ต่อมาได้รบั หนังสือแจ้งมติอนุมัติ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2560 โดยมีผลอนุมัติยอ้ นหลัง ตัง้ แต่วนั ท่ี 20 กนั ยายน 2559 ซงึ่ ณ วนั ทีไ่ ดร้ บั แจง้ มติน้นั ได้ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ มาแล้ว เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี กรณีน้ี จึงเป็นกรณีท่ี นาง ก มีคุณสมบัติครบและสามารถขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะถัดไป คือวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการฯ ว 17/2552 ได้อยู่แล้ว ตง้ั แต่วันที่ 20 กนั ยายน 2560 ดังนั้น หาก นาง ก ประสงค์จะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ให้ยื่นคำขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ี 15 ธันวาคม 2560 ซึ่งเป็นวนั ท่มี หี นังสือแจง้ มติ จะครบกำหนด 1 ปี ในวันที่ 14 ธนั วาคม 2561 ตัวอย่างท่ี 2 กรณีคำขอรับการประเมินท่ีย่ืนไว้เดิม ได้รับการอนุมัติ และในวันที่มีหนังสือแจ้งมติ ดงั กลา่ ว ยงั มีคุณสมบตั ไิ ม่ครบทจ่ี ะขอเล่อื นวิทยฐานะถดั ไป ใหย้ นื่ คำขอ ภายใน 1 ปี นับแตว่ นั ทมี่ คี ุณสมบตั คิ รบ นาง ญ ได้ย่ืนคำขอรับการประเมินเพื่อขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ส่งถึงสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เม่ือวันท่ี 20 กันยายน 2559 (ก่อนวันที่ ประกาศใชห้ ลักเกณฑ์ ว 21/2560 ) ตอ่ มาไดร้ ับหนงั สือแจง้ มติอนุมตั ิ เมื่อวันท่ี 29 ธันวาคม 2560 โดยมผี ลอนมุ ัติ ยอ้ นหลังต้ังแต่วันท่ี 20 กันยายน 2559 ซ่ึง ณ วันท่ีได้รับแจ้งมติยังดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ไม่ครบ 3 ปี กรณีน้ี นาง ญ จะยื่นคำขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะถัดไป คือ วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการฯ ว 17/2552 ได้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 ซึ่งเป็นวันท่ีมีคุณสมบัติครบเป็นต้นไป ถึงวันท่ี 19 กนั ยายน 2563
- ๑๒๐ - 1.2 กรณีคำขอรับการประเมินที่ยื่นไว้เดิม ไม่ได้รับการอนุมัติ ให้ยื่นคำขอได้ ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ีมีหนังสือแจ้งมติ” ตวั อย่าง กรณีคำขอรับการประเมินท่ียื่นไว้เดิม ไม่ได้รับการอนุมัติ ให้ยื่นคำขอได้ ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีหนงั สอื แจง้ มติ นาย ค ได้ยื่นคำขอรับการประเมินเพื่อเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเช่ียวชาญ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ส่งถึงสำนักงาน ก.ค.ศ. เม่ือวันท่ี 19 พฤษภาคม 2559 และได้รับ หนังสือแจ้งมติไม่อนุมัติ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560 หาก นาย ค ประสงค์จะขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเช่ียวชาญ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 อีกคร้ังหนึ่ง ให้ยื่นคำขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2560 ซงึ่ เป็นวันทีม่ ีหนงั สือแจ้งมติ จะครบกำหนด 1 ปี ในวันท่ี 14 สงิ หาคม 2561 2. กรณีผู้ดำรงตำแหน่งครู มีคุณสมบัติครบถ้วน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 แต่ยงั ไมไ่ ด้ยน่ื คำขอไวก้ ่อนหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการฯ ว 21/2560 (5 กรกฎาคม 2560 ประกาศใช)้ ก ร ณี ผู้ ด ำ ร ง ต ำ แ ห น่ ง ค รู มี คุ ณ ส ม บั ติ เฉ พ า ะ ส ำ ห รั บ วิ ท ย ฐ า น ะ ที่ จ ะ ข อ รั บ ก า ร ป ร ะ เมิ น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 อยู่กอ่ นวันที่หลักเกณฑ์และวิธกี ารนใี้ ช้บังคบั หากประสงค์จะขอมีวทิ ยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ที่ ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กนั ยายน 2552 ใหส้ ามารถยืน่ คำขอได้ภายใน 1 ปี นับแตว่ นั ที่หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารนี้ใช้บงั คับ ตัวอย่างที่ 1 นางสาว จ ได้ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ เม่ือวันท่ี 9 มิถุนายน 2559 ซึ่งมีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ว 17/2552 และสามารถย่ืนคำขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ ได้ตั้งแต่วันท่ี 9 มิถุนายน 2560 แต่ยังมิได้ยื่นคำขอไว้ก่อนวันท่ีประกาศใช้หลักเกณฑ์ และวิธีการ ว 21/2560 (5 กรกฎาคม 2560) หาก นางสาว จ ประสงค์จะขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ให้ยื่นคำขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ใช้บังคับ กล่าวคือ ต้องยื่นคำขอถึงสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ภายในวันท่ี 4 กรกฎาคม 2561 ตัวอย่างท่ี 2 นางสาว ง ได้ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ซึ่งมีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ว 17/2552 และสามารถย่ืนคำขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะ ครูเช่ียวชาญ ได้ตั้งแต่วันท่ี 9 มิถุนายน 2560 แต่ยังมิได้ยื่นคำขอไว้ก่อนวันที่ประกาศใช้หลักเกณฑ์และวธิ ีการ ว 21/2560 (5 กรกฎาคม 2560) หาก นางสาว ง ประสงค์จะขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ให้ย่ืนคำขอได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่หลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ใช้บังคับ กล่าวคือ ต้องยื่นคำขอถึงสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ภายในวันท่ี 4 กรกฎาคม 2561
- ๑๒๑ - 3. กรณีผู้ดำรงตำแหน่งครู มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ต้ังแต่วันที่ หลักเกณฑ์และวธิ กี ารฯ ว 21/2560 (5 กรกฎาคม 2560 ประกาศใช้เป็นต้นไป) ก ร ณี ผู้ ด ำ ร ง ต ำ แ ห น่ ง ค รู มี คุ ณ ส ม บั ติ เฉ พ า ะ ส ำ ห รั บ วิ ท ย ฐ า น ะ ท่ี จ ะ ข อ รั บ ก า ร ป ร ะ เมิ น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันท่ี 30 กันยายน 2552 ต้ังแต่วันที่หลักเกณฑ์และวิธีการน้ีใช้บังคับเป็นต้นไป หากประสงค์จะขอมีวิทยฐานะหรือ เล่ือนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนท่ีสุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวันที่ 30 กนั ยายน 2552 ใหส้ ามารถย่นื คำขอไดภ้ ายใน 1 ปี นับแตว่ นั ทมี่ คี ุณสมบัติครบ ตวั อย่าง นาย จ ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2559 อยู่ก่อน ประกาศใช้หลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 (5 กรกฎาคม 2560) ซึ่งจะมีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ และวิธีการ ว 17/2552 และสามารถย่ืนคำขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ได้ตั้งแต่วันท่ี 9 กนั ยายน 2560 (มีคุณสมบัตคิ รบหลังประกาศใช้หลักเกณฑ์และวธิ ีการฯว 21/2560) หาก นาย จ ประสงค์ จะขอเล่ือนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ให้ย่ืนคำขอได้ภายใน 1 ปี นบั แตว่ นั ที่ 9 กนั ยายน 2560 ถงึ วนั ท่ี 8 กันยายน 2561 หมายเหตุ สำหรับผู้ดำรงตำแหน่งครู ต้ังแต่วันที่หลักเกณฑ์และวิธีการนี้ใช้บังคับเป็นต้นไป การดำเนินการขอมีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ี เว้นแต่ผู้ที่มีกรณี เป็นไปตามเง่อื นไขท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 26 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2559 หากประสงค์จะขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ท่ี ศธ 0206.4/ว 17 ลงวนั ที่ 30 กนั ยายน 2552 ให้สามารถย่นื คำขอได้ 1 คร้ัง ภายใน 1 ปี นับแต่วนั ท่มี ีคุณสมบตั คิ รบ สรปุ สาระสำคญั ตามหนงั สือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 26 ลงวันที่ 30 ธนั วาคม 2559 ดงั น้ี 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีสำเร็จการศึกษาก่อนวันท่ี 9 ธันวาคม 2559 ในระดบั ปริญญาโทหรือปริญญาเอก ใหน้ ำวฒุ ิดงั กล่าวมาลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในการขอมีวิทยฐานะครชู ำนาญการได้ 2. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีอยู่ระหว่างการลาศึกษา ตามระเบียบของทางราชการ หรือได้รายงานการลาไปศึกษาโดยไม่ใช้เวลาราชการตามระเบียบของทางราชการในระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอก ก่อนวันท่ี 9 ธันวาคม 2559 เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วให้นำวุฒิดังกล่าวมาลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ในการขอมวี ิทยฐานะครูชำนาญการได้ 3. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ลาศึกษาตามระเบียบของทางราชการ หรือได้รายงานการไปศึกษาโดยไม่ใช้เวลาราชการในระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอก ต้ังแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป หากจะขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการให้ดำเนินการให้เป็นไปตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.3/ว 20 ลงวันท่ี 9 ธันวาคม 2559 4. ผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้ได้รับคัดเลือกและได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ตั้งแต่วันท่ี 9 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป หากเป็นผู้มีวุฒิปริญญาโท หรือปริญญาเอกและจะขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 20 ลงวันที่ 9 ธนั วาคม 2559 ทั้งน้ี คุณวุฒิที่จะนำมาใช้ในการลดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งในการขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ ตอ้ งเป็นวฒุ ทิ ่ี ก.ค.ศ. รับรอง
- ๑๒๒ - คำถามท่ีพบบอ่ ย 1. มีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ยื่นคำขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไปแล้ว หากผลการประเมินอนุมัติ จะสามารถยืน่ คำขอเลื่อนวิทยฐานะถดั ไปตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารฯ ว 17/2552 อีกได้ หรอื ไม่ คำตอบ ไม่สามารถย่นื คำขอมีวิทยฐานะหรือเลือ่ นวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารฯ ว 17/2552 ได้ เน่ืองจากในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านกำหนดให้ผู้มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 หลังวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 สามารถยืน่ คำขอมีวิทยฐานะหรอื เลอ่ื นวิทยฐานะได้ 1 ครง้ั เพยี งวทิ ยฐานะเดยี ว 2. ผู้ท่ีได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย ก่อนวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 สามารถยื่นคำขอมวี ิทยฐานะครูชำนาญการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ได้หรอื ไม่ คำตอบ สามารถยื่นคำขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ได้ 1 คร้งั เพียงวิทยฐานะเดียว โดยยน่ื คำขอภายใน 1 ปี นบั แตว่ นั ท่มี ีคณุ สมบัตคิ รบ 3. กรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาย้ายสถานศึกษาที่ปฏิบัติงาน สามารถนำผล การปฏิบัตงิ านท่ีเกิดจากการปฏิบตั ิหนา้ ที่ของสถานศกึ ษาเดิมมานับรวมกบั ผลงานท่เี กิดจากการปฏบิ ตั ิหน้าที่ ของสถานศึกษาปัจจุบันให้ครบ 5 ปีการศึกษา เพื่อเป็นคุณสมบัติในการยื่นคำขอมีวิทยฐานะหรือเล่ือนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารฯ ว 21/2560 ได้หรือไม่ คำตอบ สามารถนำผลการปฏิบัติงานมานับรวมได้ ทั้งน้ี สถานศึกษาเดิมต้องรับรองข้อมูลในขณะ ปฏิบตั หิ นา้ ทใี่ นสถานศกึ ษานน้ั ดว้ ย 4. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ปัจจบุ ันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี แต่ยงั ไม่ครบ 2 ปี และเคยตำแหน่งรองผอู้ ำนวยการสถานศึกษา วทิ ยฐานะรองผู้อำนวยการชำนาญการ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี จะยื่นขอเล่อื นเป็นวิทยฐานะผู้อำนวยการ ชำนาญการพเิ ศษไดห้ รอื ไม่ อย่างไร ตอบ หากผู้อำนวยการสถานศึกษาดังกล่าวประสงค์จะย่ืนคำขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะผู้อำนวยการ ชำนาญการพิเศษ ตอ้ งเสนอให้คณะกรรมการศึกษาธกิ ารจังหวดั พจิ ารณาเทียบประสบการณ์การปฏบิ ัติงานตามหน้าท่ี ความรับผิดชอบด้านการบริหารและการพัฒนาสถานศึกษาขณะดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา มานับรวมกับตำแหน่งผอู้ ำนวยการสถานศึกษา เพื่อเป็นคุณสมบัติด้านการปฏิบัติงานตามหนา้ ที่ความรับผดิ ชอบ ด้านการบริหารและการพัฒนาสถานศึกษาย้อนหลัง 2 ปีติดต่อกัน นับถึงวันที่ยื่นคำขอ หากคณะกรรมการ ศึกษาธิการจังหวัดพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบให้สามารถนำการปฏิบัติงานในตำแหน่งดังกล่าวมานับรวมกันได้ โดยมรี ะยะเวลารวมกันไมน่ อ้ ยกวา่ 2 ปีติดต่อกัน ใหเ้ สนอ ก.ค.ศ. พิจารณาเป็นกรณีเฉพาะราย
- ๑๒๓ - 5. ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ทีม่ ีคณุ สมบัติที่จะยื่นคำขอมวี ิทยฐานะหรือเลอื่ นวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารฯ ว 17/2552 และตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารฯ ว 21/2560 สามารถย่ืนคำขอ มีวทิ ยฐานะหรอื เล่อื นวิทยฐานะ ได้พร้อมกันทั้ง 2 หลักเกณฑ์หรือไม่ คำตอบ ยืน่ คำขอไดต้ ามหลกั เกณฑ์ใดหลักเกณฑห์ นึ่งเพยี งหลักเกณฑเ์ ดียวเทา่ นั้น 6. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สามารถเป็นผ้ปู ระเมิน ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการฯ ว 21/2560 ได้หรือไม่ คำตอบ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีมีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา ในกรณสี ถานศกึ ษานนั้ ไม่มผี อู้ ำนวยการสถานศกึ ษา สามารถดำเนนิ การประเมนิ ได้
- ๑๒๔ - เอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์ (QR Code) รายการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร ศธ ๐๒๐๖.๔/ว ๑๗ ลงวันท่ี ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ เร่อื ง หลกั เกณฑ์และวธิ ีการให้ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา มวี ิทยฐานะและเลอ่ื นวทิ ยฐานะ ศธ ๐๒๐๖.4/ว ๑๐ ลงวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เรอ่ื ง หลักเกณฑแ์ ละวิธีการให้ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธวิ าส และสงขลา (เฉพาะพื้นที่อำเภอเทพา สะบ้าย้อย นาทวี และจะนะ) มีวิทยฐานะชำนาญการ และมีหรอื เลอ่ื นเป็นวิทยฐานะชำนาญการพเิ ศษ ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๑๓ ลงวันท่ี ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ เรอื่ ง หลักเกณฑ์และวิธกี ารให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้มีผลงานดเี ดน่ ทปี่ ระสพผลสำเรจ็ เป็นท่ีประจักษ์มวี ิทยฐานะหรือเล่ือน เป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวทิ ยฐานะเชีย่ วชาญ ทุกตำแหน่ง ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๒๑ ลงวนั ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เรอื่ ง หลกั เกณฑ์และวิธกี ารใหข้ ้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหนง่ ครู มวี ิทยฐานะและเล่ือนวทิ ยฐานะ
8. การพฒั นา ๑. การเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มครผู ชู้ ่วย - หลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารเตรียมความพร้อมและพัฒนาอยา่ งเข้ม ตำแหน่งครูผชู้ ่วย 2. การพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา - หลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการพฒั นาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน - หลักเกณฑ์และวธิ ีการพัฒนาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน (ฉบบั ที่ 2) 3. การพฒั นาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากอ่ นแต่งตัง้ ให้มีและเลอื่ นวทิ ยฐานะ หลกั เกณฑ์และวธิ กี ารพัฒนาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาก่อนแตง่ ตง้ั ใหม้ ีและเลอ่ื น เป็นวทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ และวทิ ยฐานะเช่ยี วชาญ
- ๑๒๖ - การพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ๑. การเตรียมความพร้อมและพฒั นาอย่างเข้ม ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย กฎหมาย กฎ ระเบยี บ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารท่เี กีย่ วขอ้ ง มาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2551 กำหนดว่าผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งต้ังในตำแหน่งครูผู้ช่วย ให้ผู้น้ันเตรียมความพร้อมและพัฒ นาอย่างเข้มเป็นเวลาสองปี ก่อนแต่งต้ังให้ดำรงตำแหน่งครู ทง้ั น้ี การเตรยี มความพร้อมและพัฒนาอยา่ งเขม้ ให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ก.ค.ศ. จงึ ไดก้ ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเตรียมความพรอ้ มและพัฒนาอย่างเขม้ ตำแหน่งครูผู้ช่วย ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 19 ลงวันท่ี 25 ตุลาคม 2561 และแบบประเมินการเตรียมความพร้อม และพัฒนาอยา่ งเข้ม ตำแหน่งครูผชู้ ่วย ตามหนังสือสำนกั งาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.๗/ว 26 ลงวันที่ ๒8 ธันวาคม ๒๕๖๑
- ๑๒๗ - แผนผังข้นั ตอนการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย ว 19/2561 .. . . . . . . . . . หมายเหตุ การพิจารณาการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษาดำเนนิ การนำผลการประเมินของครูผู้ชว่ ยท่ีผ่านการประเมินครบแปดครั้ง เสนอขออนมุ ตั ิ กศจ. จงั หวัดท่คี รผู ู้ชว่ ยผนู้ ้นั ไดร้ ับการบรรจุและแตง่ ต้ัง
- ๑๒๘ - หลกั เกณฑ์และวิธีการเตรยี มความพรอ้ มและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหนง่ ครูผ้ชู ่วย (ตามหนงั สอื สำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 19 ลงวนั ท่ี 25 ตลุ าคม 2561) 1. การบรรจแุ ละแต่งต้ัง ให้ผู้มอี ำนาจตามมาตรา 53 สง่ั บรรจแุ ละแตง่ ตัง้ ให้ดำรงตำแหน่งครผู ู้ชว่ ย 2. การปฐมนเิ ทศครผู ชู้ ว่ ย ให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการจัดการปฐมนิเทศ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ครูผู้ช่วยรายงานตัว เข้าปฏบิ ัตหิ นา้ ทรี่ าชการในสถานศกึ ษาทไี่ ดร้ บั การบรรจุและแตง่ ตั้ง 3. การแต่งต้งั คณะกรรมการ ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 แต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม จำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1) ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา เป็นประธานกรรมการ 2) ผู้ดำรงตำแหนง่ ครใู นสถานศึกษา เป็นกรรมการ 3) ผทู้ รงคณุ วุฒิอ่ืนจากภายนอกสถานศึกษา เป็นกรรมการ นิยามความหมายคณะกรรมการเตรียมความพรอ้ มและพฒั นาอย่างเข้ม ดังน้ี ผู้อำนวยการสถานศึกษา หมายถึง ผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ครูผู้ช่วยได้รับการบรรจุและแต่งต้ัง ในสถานศึกษานั้น หากไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง ให้แต่งตั้งผู้อำนวยการสถานศึกษาจากสถานศึกษาอ่ืนท่ีอยู่ใกล้เคียงได้ หรือผู้ได้รับคำส่ังแต่งตั้งให้รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาท่ีครูผู้ช่วยได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง ในสถานศึกษานัน้ ครูในสถานศึกษา หมายถึง ผู้ดำรงตำแหน่งครูในสถานศึกษาท่ีครูผู้ช่วยได้รับการบรรจุและแต่งต้ัง ในสถานศึกษานั้น หากไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง ให้แต่งต้ังครูจากสถานศึกษาอ่ืนท่ีอยู่ใกล้เคียงได้ พร้อมทั้ง ทำหน้าทเี่ ป็นครูพ่ีเลย้ี งได้ ผ้ทู รงคุณวุฒิอ่ืนจากภายนอกสถานศึกษา หมายถึง ผู้ท่ีมิได้สังกดั หรือดำรงตำแหน่งในสถานศึกษา ที่ครูผู้ช่วยได้รับการบรรจุและแต่งต้ังในสถานศึกษานั้น โดยบุคคลดังกล่าว ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความเช่ียวชาญ ด้านการศึกษา เป็นที่ยอมรับในวงวิชาชีพครู สามารถให้คำแนะนำครูผู้ช่วยเก่ียวกับการเตรียมความพร้อม และพฒั นาอยา่ งเข้มได้ ท้งั นี้ ให้ กศจ. เปน็ ผู้พิจารณาบัญชีรายชอ่ื กรรมการคนที่ 3 ทส่ี ำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาเสนอ เพอื่ ให้ความเห็นชอบ 4. การดำเนินการประเมิน 4.1 ให้คณะกรรมการเตรียมความพรอ้ มและพฒั นาอยา่ งเข้ม ดำเนินการประเมนิ การเตรียมความพร้อม และพฒั นาอยา่ งเข้ม ด้านการปฏิบัติตน และด้านการปฏิบัติงาน นับแต่วันทค่ี รูผ้ชู ่วยเข้าปฏิบตั ิหน้าทใ่ี นสถานศึกษา ที่ได้รับการบรรจุและแต่งต้ัง โดยให้มีการประเมินเป็นระยะๆ ทุก 6 เดือน จำนวน 4 คร้ัง จนครบ 2 ปี ตามแบบประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.7/ว 26 ลงวันท่ี 28 ธันวาคม 2561 โดยให้มีการแจ้งผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ จุดเด่น จุดท่คี วรพัฒนา ใหค้ รผู ูช้ ่วยทราบ ภายใน 15 วนั นบั แตว่ นั ท่คี รบรอบการประเมินในแต่ละครง้ั
- ๑๒๙ - 4.2 เกณฑ์การผ่านการประเมินให้ กศจ. พิจารณาจากแบบสรุปผลการประเมินการเตรียมความพร้อม และพัฒนาอย่างเข้ม ตำแหน่งครูผู้ช่วย (ว 26/2561) โดยกรรมการ ทั้ง 3 คน ต้องให้คะแนนประเมินเฉลี่ย ในแต่ละครง้ั ดงั น้ี คร้งั ที่ 1 ตอ้ งมีคะแนนในแต่ละด้าน ไมต่ ่ำกวา่ ร้อยละ 60 ครัง้ ที่ 2 ต้องมีคะแนนในแตล่ ะดา้ น ไม่ตำ่ กว่าร้อยละ 60 ครง้ั ที่ 3 ต้องมีคะแนนในแต่ละด้าน ไม่ตำ่ กวา่ ร้อยละ 70 ครง้ั ที่ 4 ต้องมคี ะแนนในแต่ละด้าน ไม่ต่ำกวา่ ร้อยละ 70 5. การพิจารณาผลการประเมนิ และการแตง่ ต้ัง กรณผี ลการประเมินตำ่ กว่าเกณฑก์ ารประเมนิ ท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ในครง้ั ใด 1) กรณีผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 พิจารณาผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ในครั้งใดแล้วเห็นควร ทบทวนผลการประเมิน ให้คณะกรรมการดำเนินการทบทวนได้อีกคร้ัง โดยให้มีการดำเนินการทบทวนไปพร้อมกับ การประเมนิ ในครงั้ ถดั ไป ดงั น้ี (1) กรณีทบทวนผลการประเมินแล้วผลการประเมินยังต่ำกว่าเกณฑ์การประเมินให้แจ้งครูผู้ช่วยทราบ พร้อมเปิดโอกาสให้ผ้นู ้ันโต้แย้ง แสดงพยานหลักฐาน ภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่ได้รบั แจ้งผลการประเมิน หากมอี ำนาจตามมาตรา 53 พิจารณาเห็นวา่ ไม่สมควรให้ผ้นู ัน้ รับราชการตอ่ ไป ให้สัง่ ให้ผนู้ นั้ ออกจากราชการ ทั้งน้ี หากข้อโต้แย้งมีพยานหลักฐานเพียงพอ ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 พิจารณา ให้กรรมการทบทวนผลการประเมนิ อกี คร้งั และหากผลการประเมินผา่ นเกณฑ์ ก็ให้ครผู ู้ชว่ ยเตรยี มความพรอ้ ม และพฒั นาอยา่ งเขม้ ตอ่ ไปได้ (2) กรณีทบทวนผลการประเมนิ แล้วผลการประเมินผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ใหค้ ณะกรรมการ ดำเนินการประเมนิ ตอ่ ไป กรณผี ลการประเมินผา่ นเกณฑก์ ารประเมินท่ี ก.ค.ศ. กำหนด เมื่อดำเนินการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มจนครบ 2 ปี แล้วครูผู้ช่วย มีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินครบ ท้ัง 4 ครั้ง ให้สถานศึกษาเสนอแบบสรุปผลการประเมิน การเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มให้สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา เพื่อนำเสนอให้ กศจ. พิจารณาอนุมัติ ผลการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม และให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ออกคำสั่งแต่งต้ัง ใหค้ รผู ู้ชว่ ยผนู้ ัน้ ดำรงตำแหน่งครู และแจ้งให้ผู้นั้นทราบ
- ๑๓๐ - ข้อพึงระวัง 1. ครูผู้ช่วยท่ีได้รับการบรรจุและแต่งต้ังต้ังแต่วันท่ี 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ให้เตรียมความพร้อม และพัฒนาอยา่ งเขม้ ตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารฯ ว 19/2561 2. ผู้อำนวยการสถานศึกษาต้องแจ้งให้ครูผู้ช่วยทราบและเข้าใจในหลักเกณฑ์และวิธีการ การเตรยี มความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ก่อนมอบหมายใหป้ ฏบิ ัติหนา้ ท่ี 3. การประเมินตอ้ งดำเนินการทุกๆ 6 เดอื นอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ครบท้งั 4 ครัง้ ภายในเวลา 2 ปี 4. ให้ประเมนิ จากสภาพจรงิ โดยมีเอกสารหลกั ฐานปรากฏชัดเจนและถกู ต้อง 5. กรณีครูผู้ช่วยลาเกินระยะเวลาท่ีกำหนด (๙๐ วัน) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการเตรียมความพร้อม และพัฒนาอย่างเข้ม ผู้น้ันต้องเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มให้ครบสองปีตามจำนวนวันท่ีลา เกนิ ระยะเวลาทกี่ ำหนด 6. กรณีครูผู้ช่วยมีผลการผ่านการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ครบ 4 คร้ัง เกินกำหนดระยะเวลา 2 ปี ให้แตง่ ตงั้ ครผู ูช้ ว่ ยผนู้ นั้ ให้ดำรงตำแหนง่ ครูได้ไม่ก่อนวันท่ผี ่านการประเมินในครั้งที่ 4 7. หากผลการประเมินการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มต่ำกว่าเกณฑ์ในครั้งใด และผู้มีอำนาจ ตามมาตรา ๕๓ มีความเห็นตามท่ีคณะกรรมการพิจารณาแล้ว ต้องไม่มีการประเมินในคร้ังถัดไปและส่ังให้ ครผู ู้ช่วยผ้นู ้นั ออกจากราชการโดยเร็ว 8. ครูผู้ช่วยที่ผ่านการประเมินการเตรยี มความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ครบ 4 ครั้ง ก่อนแต่งต้ัง ครผู ้ชู ่วยให้ดำรงตำแหนง่ ครู ตอ้ งมใี บอนุญาตประกอบวิชาชพี ครู ทอี่ อกโดยครุ สุ ภา
- ๑๓๑ - 2. การพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน กฎหมาย กฎ ระเบียบ หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารทเ่ี กี่ยวข้อง พระราชบัญญัติระเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๗9 กำหนดว่า “ให้ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างท่ีดีแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาและ มีหน้าท่ีพัฒนาผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา เพ่ือให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติท่ีดี คุณธรรมจริยธรรม และจรรยาบรรณ วิชาชีพที่เหมาะสม ในอันท่ีจะทำให้การปฏิบัตหิ นา้ ท่ีราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสทิ ธผิ ล และความก้าวหน้า แกร่ าชการ ทงั้ น้ี ให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารที่ ก.ค.ศ. กำหนด” มาตรา 80 กำหนดว่า “ให้มกี ารพัฒนาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้งั ใหด้ ำรง ตำแหน่งบางตำแหน่ง และบางวิทยฐานะ เพ่ือเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ เจตคติที่ดี คุณธรรม จริยธรรม และ จรรยาบรรณวิชาชีพที่เหมาะสม ในอันที่จะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และ ความกา้ วหน้าแกร่ าชการ ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด” ก.ค.ศ. จึงได้กำหนดหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการ ดังน้ี 1) หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ตามหนงั สือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.7/ว 22 ลงวนั ท่ี 5 กรกฎาคม 2560 2) หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน (ฉบบั ที่ 2) ตามหนงั สอื สำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.7/ว 14 ลงวันที่ 25 กนั ยายน 2561
- ๑๓๒ - แผนผงั ขั้นตอนการตรวจสอบการพัฒนาข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ว 22/2560 และ ว 14/2561 .. / . . . // //
- ๑๓๓ - หลักเกณฑ์และวิธกี ารพฒั นาขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา สายงานการสอน (ตามหนงั สือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.7/ว 22 ลงวนั ท่ี 5 กรกฎาคม 2560 และ หนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.7/ว 14 ลงวนั ที่ 25 กนั ยายน 2561 (ฉบบั ท่ี 2)) 1. การตรวจสอบคณุ สมบตั ิ ให้ กศจ. ตรวจสอบคุณสมบัติด้านการพัฒนา ตามข้อ 2.4 ของหลักเกณฑ์และวิธีการ ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู มีวิทยฐานะและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหนังสือ สำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.3/ว 21 ลงวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 (ว 21/2560) โดยพิจารณาจาก เอกสารหลกั ฐาน ดงั นี้ 1.1 สำเนาวุฒิบตั รผ่านการพัฒนา 1.2 จำนวนช่ัวโมงการพัฒนาในรอบปีที่ย่ืนคำขอมีและเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ว 21/2560 1.3 จำนวนช่ัวโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ส่วนทเี่ กิน ๕๐ ชว่ั โมงในแตล่ ะปี (กรณีท่ีชว่ั โมงพฒั นาไม่ครบ 100 ชวั่ โมง) 1.4 หลกั สูตรการพฒั นาทีผ่ า่ นการรบั รองจากสถาบันครุ พุ ัฒนา หรอื หลักสตู รท่ี ก.ค.ศ. กำหนด 2. การตรวจสอบ ๒.๑ การรับรองหลักสูตรการพัฒนา 2.1.๑ หลักสตู รทส่ี ถาบันครุ ุพฒั นาให้การรบั รอง ให้ กศจ. ตรวจสอบว่าวุฒิบัตรผ่านการพัฒนาต้องเป็นหลักสูตรตามประกาศ ทีส่ ว่ นราชการต้นสงั กัดกำหนด 2.๑.2 หลกั สตู รท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้ กศจ. ตรวจสอบว่าวุฒิบัตรผ่านการพัฒนา เป็นหลักสูตรที่ ก.ค.ศ. รับรอง หรือ เป็นหลกั สูตรท่ีส่วนราชการรับรองตามมาตรฐานที่ ก.ค.ศ. กำหนด ๒.๒ การตรวจสอบจำนวนชั่วโมงการผ่านการพัฒนา ๒.๒.๑ การนับจำนวนชั่วโมงการพัฒนาให้นับตามรอบปีที่ยื่นคำขอมีและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการ ว 21/2560 ๒.๒.2 ให้ กศจ. ตรวจสอบว่าเป็นการพัฒนาติดต่อกันทุกปี และภายในรอบระยะเวลา 5 ปี ที่ขอรับการประเมินให้มีและเล่ือนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ว 21/2560 ต้องมีจำนวนช่ัวโมง การพฒั นาครบ 100 ชั่วโมง ๒.๒.๓ หากมีจำนวนช่ัวโมงการพัฒนาไมค่ รบ ๑๐๐ ชวั่ โมง แต่ไม่น้อยกวา่ ๖๐ ช่วั โมง ให้นำ จำนวนช่ัวโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) สว่ นท่ีเกนิ ๕๐ ชว่ั โมงในแต่ละปี มานบั รวมเปน็ จำนวนชัว่ โมงการพัฒนาใหค้ รบ ๑๐๐ ชั่วโมงได้ ท้ังน้ี ตงั้ แต่วนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 – วนั ที่ 31 ธนั วาคม 2561 ใหย้ กเว้นช่ัวโมง การพัฒนาตามหลกั สูตรท่ีสถาบันครุ ุพัฒนารับรอง หรือตามหลักสูตรที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยให้นำจำนวนช่ัวโมง การมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) ส่วนที่เกิน ๕๐ ช่ัวโมง ในแต่ละปี มานบั เปน็ ช่วั โมงการพฒั นาทดแทนได้ และให้ถือวา่ เป็นการพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอ่ื งติดต่อกัน
- ๑๓๔ - ๒.๒.4 ผลการพฒั นาตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ก่อนแต่งตั้งให้มีและเล่ือนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 3 ลงวันที่ 7 เมษายน 2554 ที่เข้ารับการพัฒนาก่อนวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 และวุฒิบัตร ยังไม่หมดอายุ 3 ปี นับถึงวันท่ีสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือสำนักงาน ก.ค.ศ. รับเรื่อง แล้วแต่กรณี สามารถนำผลการพฒั นาน้ัน มาใชเ้ ป็นคุณสมบตั ิเพ่ือขอมแี ละเลื่อนวิทยฐานะได้ 1 ครั้ง ขอ้ พงึ ระวัง 1. การเข้ารับการพัฒนาเพ่ือขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ ต้องพัฒนาตามหลกั สูตรที่สถาบันคุรุพัฒนารับรอง ทัง้ มาตรฐานหลักสูตร วทิ ยากร และหน่วยพฒั นา หรอื หลกั สูตรที่ ก.ค.ศ. กำหนด 2. ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่าน ผู้ท่ีได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู อยู่ก่อนวันท่ี ประกาศใช้หลกั เกณฑ์และวิธกี ารฯ ว 22/2560 (วันท่ี 5 กรกฎาคม 2560) ให้พัฒนาตามเง่อื นไขท้ายหลักเกณฑ์ และวิธกี ารฯ ว 14/2561 ได้ 3. หลักสูตรการพัฒนาท่ีมิได้ผ่านการรับรองจากสถาบันคุรุพัฒนา หรือมิได้เป็นหลักสูตรท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ไม่สามารถนำมาใช้เป็นคุณสมบัติด้านการพัฒนาเพ่ือขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ ตามข้อ 2.4 ของหลักเกณฑ์ และวิธีการ ว 21/2560 แต่สามารถนำไปบันทึกเป็นผลการพัฒนาตนเอง ตามข้อ 2.5 ของหลักเกณฑ์ และวิธกี าร ว 21/2560 ได้ 4. การตรวจสอบคุณสมบัติ สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา หรือสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด หรือ กศจ. สามารถเรียกเอกสารหลักฐานทีเ่ กยี่ วขอ้ งมาประกอบการพิจารณาได้ 3. การพฒั นาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาก่อนแตง่ ตั้งให้มีและเลอ่ื นเปน็ วทิ ยฐานะ ชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเช่ยี วชาญ กฎหมาย กฎ ระเบียบ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารท่ีเก่ยี วขอ้ ง มาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กำหนดว่าให้มีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้ังให้ดำรงตำแหน่งบางตำแหน่ง และบางวิทยฐานะ เพ่ือเพ่ิมพูนความรู้ ทักษะ เจตคติท่ดี ี คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพที่เหมาะสม ในอันที่จะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความก้าวหน้าแก่ราชการ ทัง้ น้ี ตามหลกั เกณฑ์และวิธกี าร ที่ ก.ค.ศ. กำหนด ก.ค.ศ. จงึ ได้กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนที่จะได้รบั การแต่งต้ังให้มีและเลื่อน เป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ต้องผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาก่อนแต่งต้ังให้มีและเล่ือนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเช่ียวชาญ ตามหนงั สอื สำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.7/ว 3 ลงวันที่ 7 เมษายน 2554
- ๑๓๕ - แผนผังขั้นตอนการพัฒนาข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษากอ่ นแต่งตงั้ ให้มีและเลือ่ น เปน็ วทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ และวทิ ยฐานะเชีย่ วชาญ ว 3/2554 ./ 24 30
- ๑๓๖ - หลกั เกณฑ์และวิธีการพฒั นาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษากอ่ นแตง่ ตัง้ ให้มีและเลอื่ นเปน็ วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวทิ ยฐานะเช่ียวชาญ (ตามหนังสอื สำนกั งาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.7/ว 3 ลงวนั ที่ 7 เมษายน 2554) 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีคุณสมบัติในการเสนอขอรับการประเมินให้มีและ เล่ือนวิทยฐานะ สามารถย่ืนความประสงค์ขอเข้ารับการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการน้ีต่อส่วนราชการ ยกเว้น ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกดั สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ให้ยน่ื ต่อ สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาหรอื สำนกั บรหิ ารงานการศึกษาพิเศษท่ีผนู้ ้นั สงั กัดอยู่ แล้วแต่กรณี 2. สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาหรือสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ / ส่วนราชการ มีหน้าท่ี ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอเข้ารับการพัฒนาตามหลกั สูตรวิทยฐานะชำนาญการพเิ ศษ หรือหลักสูตรวิทยฐานะเช่ียวชาญ ตาม ห ลั กเก ณ ฑ์ แล ะวิธีก ารพั ฒ น าข้าราช การครูแล ะบุ คล ากรท างการศึกษ าก่อน แต่ งตั้งให้ มีแล ะ เลื่ อน เปน็ วทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเช่ียวชาญ 3. ให้สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา หรือหน่วยงานอื่นท่ีได้รับความเห็นชอบ จากสถาบนั พัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศกึ ษาทำหน้าทเ่ี ป็นหน่วยดำเนินการพัฒนา 4. ผลการพัฒนาให้นำไปใช้ในการแต่งต้ังให้มีและเล่ือนวิทยฐานะได้ ภายใน 3 ปี นับแต่วันที่ สำเรจ็ หลักสตู รการพัฒนา 5. องค์ประกอบการพัฒนาก่อนแตง่ ตงั้ ให้มีและเลอ่ื นวทิ ยฐานะ วทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ 1) ระยะเวลาการพฒั นา ไมน่ ้อยกว่า 24 ชั่วโมง 2) หลกั สูตรการพฒั นา ประกอบด้วย 2 สว่ น ดงั นี้ สว่ นที่ 1 พฒั นาสมรรถนะในการปฏบิ ัติหน้างานในหนา้ ที่ สว่ นที่ 2 การวเิ คราะหบ์ ทบาทหน้าที่ ความรับผดิ ชอบ และวางแผนพัฒนาคณุ ภาพการปฏบิ ัติงาน 3) ระยะเวลาเขา้ รับการพัฒนา ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 และผลการประเมนิ คะแนนเฉล่ียส่วนที่ 1 และ 2 ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ทั้งน้ี คะแนนเฉลยี่ ในแต่ละสว่ นตอ้ งไมต่ ่ำกวา่ ร้อยละ 75 วิทยฐานะเชยี่ วชาญ 1) ระยะเวลาการพัฒนา ไมน่ ้อยกว่า 30 ช่วั โมง 2) หลักสตู รการพฒั นา ประกอบด้วย 3 สว่ น ดังนี้ สว่ นท่ี 1 การพัฒนาสมรรถนะในการปฏิบัติงานในหน้าที่ สว่ นที่ 2 การสังเคราะห์บทบาทหน้าท่ี ความรับผดิ ชอบ และวางแผนพัฒนาคุณภาพการปฏบิ ตั ิงาน ส่วนที่ 3 การนำเสนอแนวทางการพัฒนางานในหน้าท่ี หรือพัฒนานวัตกรรมและการสร้าง หรือ การปฏบิ ัติงานเป็นเครอื ข่ายทีเ่ กีย่ วข้องกับงานในหนา้ ที่ 3) ระยะเวลาเข้ารับการพัฒนา ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 และผลการประเมิน คะแนนเฉลี่ย ส่วนที่ 1, 2 และ 3 ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 ท้ังนี้ คะแนนเฉลี่ยในแตล่ ะส่วนตอ้ งไม่ตำ่ กวา่ รอ้ ยละ 75
- ๑๓๗ - ข้อพงึ ระวัง 1. ในวันท่ีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาย่ืนคำขอเข้ารับการพัฒนา ผู้น้ันต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติ ในการเสนอขอรับการประเมินให้มแี ละเล่อื นวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารท่ี ก.ค.ศ. กำหนด 2. ผลการพัฒนาจะตอ้ งอยู่ภายในกำหนดเวลา 3 ปี นับแต่วันทสี่ ำเรจ็ หลักสตู รการพัฒนา 3. การแต่งต้ังให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีและเล่ือนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเช่ียวชาญ ต้องไม่ก่อนวันท่ีผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษาก่อนแต่งต้งั ให้มีและเลื่อนเปน็ วทิ ยฐานะชำนาญการพเิ ศษและวทิ ยฐานะเช่ยี วชาญ 4. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องเข้ารับการพัฒนาในหน่วยพัฒนาท่ีสำนักงาน เขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา เป็นผ้กู ำหนดเท่าน้ัน หากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีความจำเป็นต้องเข้ารับการพัฒนาในหน่วยพัฒนาอื่น ต้องเสนอให้สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา เห็นชอบและเป็นผู้ดำเนินการส่งรายช่ือให้เข้ารับการพัฒนา ในหน่วยพฒั นาน้นั ได้
- ๑๓๘ - รายการเอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์ เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร (QR Code) ว 19/2561 เรือ่ ง หลกั เกณฑ์และวธิ กี ารเตรยี มความพร้อมและพฒั นาอยา่ งเข้ม ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ว 26/2561 เร่ือง แบบประเมินการเตรยี มความพร้อมและพัฒนาอยา่ งเข้ม ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย ว 22/2560 เร่ือง หลักเกณฑ์และวธิ ีการพัฒนาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ว 14/2561 เรื่อง หลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สายงานการสอน (ฉบับท่ี 2) ว 3/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กอ่ นแต่งตัง้ ให้มีและเล่ือนเปน็ วทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษ และวทิ ยฐานะเชย่ี วชาญ
9. การบรหิ ารงานบคุ คลสำหรับขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ตำแหน่งบคุ ลากรทางการศึกษาตามมาตรา 38 ค. (2) คำส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาค ของกระทรวงศึกษาธิการ ส่ัง ณ วันท่ี 3 เมษายน 2560 กำหนดให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารงานบุคคลของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอ่ืนตามมาตรา 38 ค. (2) เฉพาะท่ีอยู่ในสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาทุกเขต และสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา ในพื้นที่จังหวัดน้ัน ๆ โดยต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ในเรื่องต่าง ๆ เช่น การกำหนดตำแหน่ง การบรรจุแต่งต้ัง การเล่ือนเงินเดือน การเล่ือนตำแหน่ง และการย้าย เป็นต้น และให้ศึกษาธิการจังหวัดโดยความเห็นชอบของ กศจ. เป็นผู้มีอำนาจส่ังบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดหรือกรุงเทพมหานครตามมาตรา 53 (3) และ (4) แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2551 ก.ค.ศ. ได้กำหนดกรอบอัตรากำลังตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ในสำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา ๒๒๕ เขต และในสถานศึกษา โดยกำหนดเป็น ๒ ประเภท ดงั นี้ ๑. ประเภททวั่ ไป จำนวน 3 สายงาน ได้แก่ ลำดับท่ี ชอ่ื สายงาน ชอ่ื ตำแหน่ง ระดับ ๑. ปฏบิ ตั งิ านธรุ การ เจา้ พนักงานธรุ การ ปฏิบัตงิ าน – ชำนาญงาน ๒. ปฏบิ ตั งิ านพัสดุ เจ้าพนักงานพัสดุ ปฏบิ ัตงิ าน – อาวโุ ส ๓. ปฏบิ ตั งิ านการเงนิ และบัญชี เจ้าพนกั งานการเงินและบญั ชี ปฏิบัติงาน – อาวโุ ส ๒. ตำแหน่งประเภทวิชาการ จำนวน ๑๐ สายงาน ได้แก่ ลำดบั ท่ี ช่ือสายงาน ช่อื ตำแหน่ง ระดบั 1. วชิ าการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการคอมพวิ เตอร์ ปฏบิ ัติการ – ชำนาญการ 2. จดั การงานทว่ั ไป นกั จดั การงานทัว่ ไป ปฏิบตั ิการ – ชำนาญการพเิ ศษ 3. วิชาการพัสดุ นกั วิชาการพสั ดุ ปฏบิ ัติการ – ชำนาญการพิเศษ 4. วชิ าการเงนิ และบญั ชี นกั วิชาการเงนิ และบญั ชี ปฏบิ ตั ิการ – ชำนาญการพิเศษ 5. วชิ าการตรวจสอบภายใน นักวิชาการตรวจสอบภายใน ปฏิบตั กิ าร – ชำนาญการพเิ ศษ 6. ประชาสัมพันธ์ นกั ประชาสมั พนั ธ์ ปฏิบตั ิการ – ชำนาญการพเิ ศษ 7. วชิ าการศกึ ษา นกั วิชาการศกึ ษา ปฏิบัติการ– ชำนาญการพิเศษ 8. ทรัพยากรบุคคล นกั ทรัพยากรบคุ คล ปฏบิ ัตกิ าร – ชำนาญการพิเศษ 9. นติ ิการ นิตกิ ร ปฏิบัตกิ าร– ชำนาญการพเิ ศษ 10. วิเคราะห์นโยบายและแผน นักวเิ คราะห์นโยบายและแผน ปฏิบตั กิ าร– ชำนาญการพิเศษ สำหรับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มงานในสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ก.ค.ศ. กำหนดให้เรียกชื่อเป็น “ผู้อำนวยการกลุ่ม” โดยไม่จัดเป็นตำแหน่งประเภทอำนวยการ และไม่ผูกพันกับเงินประจำตำแหน่ง หรือสิทธิประโยชน์อ่ืนใด ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.5/321 ลงวันท่ี 7 กันยายน 2552 และ ท่ี ศธ 0206.5/358 ลงวันที่ 30 กันยายน 2552
- ๑๔๐ - การเปลี่ยนตำแหนง่ การยา้ ย และการโอน 1. การเปล่ียนตำแหน่ง การย้าย และการโอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และการย้าย ข้าราชการพลเรือนสามญั ไปบรรจแุ ละแตง่ ต้งั ใหด้ ำรงตำแหน่งบคุ ลากรทางการศึกษาอืน่ ตามมาตรา 38 ค. (๒) 2. กฎหมาย กฎ ระเบียบ และหลกั เกณฑท์ เ่ี ก่ียวข้อง 1. มาตรา 57 กำหนดว่า “การเปลี่ยนตำแหน่ง การย้าย และการโอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปตาม ท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามกฎหมาย ว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้น้ันอาจถูกเปลี่ยนตำแหน่งหรือย้ายตามวรรคหนึ่งได้ เว้นแต่ ถกู ส่ังพักราชการ หรือถูกสั่งใหอ้ อกจากราชการไว้ก่อนในกรณีอนื่ ตามมาตรา 119” มาตรา 59 วรรคสาม กำหนดว่า “การย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญเพ่ือไปบรรจุและแต่งต้ัง ให้ดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องได้รับอนุมัติจาก ก.ค.ศ. แต่ถ้าเป็นการย้ายไปแต่งต้ัง ในตำแหนง่ ซึ่ง ก.ค.ศ. ยงั มิไดก้ ำหนด จะกระทำไดเ้ ม่อื ก.ค.ศ. กำหนดตำแหนง่ แล้ว 2. มาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค. (2) ตามหนงั สือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.5/ว 8 ลงวันท่ี 10 พฤษภาคม 2556 3. หลักเกณฑ์และวิธกี ารเปล่ียนตำแหน่ง การย้าย และการโอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และการย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญ ไปบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.5/ว 30 ลงวนั ท่ี 28 กันยายน 2560
- ๑๔๑ - 3. แผนผงั ข้นั ตอนการดำเนินการเปลี่ยนตำแหน่ง การย้าย และการโอนข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา และการย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญ - ศธจ. ขอความเห็นชอบนำตำแหนง่ ว่างท่ีมีอตั รา 1. สำนกั งานศกึ ษาธิการขอความเห็นชอบใช้ตำแหนง่ เงินเดอื น จาก สพท. มาใชใ้ นการเปลี่ยนตำแหนง่ / เพือ่ เปลี่ยนตำแหน่ง หรือยา้ ย หรือโอน ยา้ ย / โอน 2. กศจ. พจิ ารณาเห็นชอบ - ใช้ตำแหน่งว่างทม่ี อี ัตราเงินเดือน - คุณสมบัติและเงื่อนไขเกี่ยวกับการเปล่ียนตำแหน่ง 3. กศจ. ประกาศรบั สมัคร หรอื ย้าย หรอื โอน กอ่ นวนั รบั สมัครไม่นอ้ ยกว่า 7 วัน - องคป์ ระกอบการประเมิน/ตัวช้ีวัด - แบบประเมนิ /เกณฑ์การใหค้ ะแนนประเมิน 4. ดำเนนิ การรบั สมคั ร ตรวจสอบข้อมลู - ตงั้ คณะกรรมการประเมนิ ไมน่ อ้ ยกว่า 5 คน และประสานส่วนราชการ/หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง 5. คณะกรรมการดำเนินการประเมิน ตามองคป์ ระกอบ ตัวช้ีวดั ตามองค์ประกอบค 6. กศจ. พิจารณา การเปล่ียนตำแหนง่ หรอื ยา้ ย หรอื โอน 7.1 กรณอี นมุ ตั ิ 7.2 กรณไี มอ่ นมุ ตั ิ ใหผ้ ูม้ อี ำนาจตามมาตรา 53 ดำเนนิ การออกคำส่ังบรรจแุ ละแตง่ ตงั้
- ๑๔๒ - 4. คำอธิบายแผนผังขั้นตอนการดำเนินการเปล่ียนตำแหน่ง การย้าย และการโอนข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศกึ ษา และการยา้ ยขา้ ราชการพลเรอื นสามัญ ก.ค.ศ. กำหนดการเปลี่ยนตำแหน่ง การย้าย และการโอนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และการย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญ ไปบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค. (๒) ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.5/ว 30 ลงวันท่ี 28 กันยายน 2560 ซึ่งมีขัน้ ตอนดำเนินการโดยสรุป ดังน้ี 1. สำนกั งานศกึ ษาธิการขอความเห็นชอบใชต้ ำแหนง่ เพอ่ื เปลี่ยนตำแหน่ง หรอื ย้าย หรือโอน สำนักงานศึกษาธิการ ขอความเห็นชอบในการนำตำแหน่งว่างท่ีมีอัตราเงินเดือน มีช่ือตำแหน่ง และระดับตำแหน่งตรงตามกรอบอัตรากำลังและเงื่อนไขที่ ก.ค.ศ. กำหนด และมิใช่เป็นตำแหน่งที่รอการเลกิ หรือยุบ หรือตำแหน่งท่ีมีเงื่อนไขตามท่ีคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) กำหนด หรือตำแหน่งที่สงวนไว้ของสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามาใชใ้ นการเปลี่ยนตำแหน่ง/ย้าย/โอน ทั้งนี้ กศจ. น้ัน ต้องไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันหรือบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกซ่ึงรอการบรรจุและแต่งตั้ง ในตำแหนง่ เดียวกับตำแหนง่ ทจี่ ะรบั เปล่ียนตำแหน่ง หรือย้าย หรือโอน 2. กศจ. พิจารณาเห็นชอบให้ใช้ตำแหน่งในการเปลี่ยนตำแหน่ง หรือย้าย หรือโอน และกำหนดรายละเอียด ดงั ตอ่ ไปนี้ - ตำแหน่งวา่ งที่มีอัตราเงินเดอื นท่ีจะใช้เปลีย่ นตำแหน่ง รบั ย้าย หรือรับโอน - คุณสมบัตแิ ละเงือ่ นไขเก่ยี วกับการเปล่ยี นตำแหนง่ หรอื ยา้ ย หรือโอน - องคป์ ระกอบการประเมนิ /ตัวชี้วดั - แบบประเมนิ /เกณฑ์การให้คะแนนประเมิน - ตง้ั คณะกรรมการประเมินท่มี ีความรู้ความสามารถและความเหมาะสม จำนวนไมน่ ้อยกว่า 5 คน 3. กศจ. ประกาศรับสมัคร กศจ. ประกาศรับสมัครเปลี่ยนตำแหน่ง รับย้าย และรับโอน ก่อนวันรับสมัครไม่น้อยกว่า 7 วัน โดยปิดประกาศไวใ้ นที่เปิดเผยและประชาสมั พันธท์ างอนิ เตอร์เน็ต ส่อื ตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม โดยระบุ - ตำแหนง่ ว่างที่จะรับเปลย่ี นตำแหน่ง รบั ย้าย และรับโอน - คุณสมบตั ขิ องผ้ขู อเปลย่ี นตำแหน่ง, ยา้ ย, โอน - องคป์ ระกอบการประเมนิ /ตัวชวี้ ดั - แบบประเมิน/คะแนนประเมิน - เงือ่ นไข/ข้อความอื่น ๆ ท่ผี ู้ขอเปลี่ยนตำแหน่ง ยา้ ย และโอน ควรทราบ 4. ดำเนนิ การรบั สมคั ร ตรวจสอบข้อมลู และประสานส่วนราชการ/หน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้อง 4.1 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดดำเนินการรับสมัครตามวันเวลาที่ประกาศรับสมัคร พร้อมทัง้ ตรวจสอบคุณสมบตั ขิ องผ้สู มคั รใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานตำแหนง่ ที่ ก.ค.ศ. กำหนด 4.2 กรณีการรับโอน ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ของหน่วยงานการศึกษาท่ีประสงค์จะรับโอน ทำความตกลงกับผู้มีอำนาจสงั่ บรรจุของส่วนราชการหรือหน่วยงานการศึกษาเดิมของผูร้ ับโอน พร้อมสอบถาม ข้อมูลเก่ียวกับการรับเงินเดือน การลาศึกษาต่อ การถูกดำเนินการทางวินัยหรือจรรยาบรรณวิชาชีพ การถูกดำเนินคดีหรือถูกลงโทษทางอาญา หรือถูกดำเนินคดีล้มละลายหรือเป็นบุคคลล้มละลายและข้อมูลอื่น ๆ ตามแบบท่ีกำหนด และเมื่อได้รับความยินยอมพร้อมข้อมูลดังกล่าวจากส่วนราชการหรือหน่วยงานสังกัดเดิม ของผขู้ อโอนแล้วใหน้ ำเสนอ กศจ. พิจารณาตอ่ ไป
- ๑๔๓ - 5. คณะกรรมการดำเนินการประเมิน คณะกรรมการประเมินที่ กศจ. ตั้ง ดำเนินการประเมินความรู้ความสามารถและความเหมาะสม ของผู้ขอเปล่ียนตำแหน่ง ย้าย หรือโอนท่ียื่นคำขอไว้ ตามองค์ประกอบการประเมินและตัวชี้วัดที่กำหนด โดยให้ดำเนินการให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยยึดถือระบบคุณธรรม ความเสมอภาค ความโปร่งใส และตรวจสอบได้ 6. กศจ. พิจารณาการเปลีย่ นตำแหน่ง หรือยา้ ย หรอื โอน การพิจารณาแต่งตั้ง ใหเ้ ป็นไปตามแนวทาง ดงั น้ี 1) ให้พิจารณาจากผลการประเมินฯ ของคณะกรรมการประเมนิ สำหรับการพิจารณารับโอน ให้นำขอ้ มูลตามข้อ 4.2 มาประกอบการพจิ ารณาดว้ ย 2) กรณีการเปล่ียนตำแหน่ง การรับย้าย และการรับโอนต่างกลุ่มตำแหน่งไปแต่งต้ัง ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการขึ้นไป จะต้องพิจารณาการประเมินบุคคลและผลงาน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนดด้วย สำหรับการพิจารณารับโอนให้ดำเนินการภายหลังจากการย้าย หรือการเปล่ียนตำแหน่ง และการบรรจุและแต่งต้ังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอ่ืนตามมาตรา 38 ค. (๒) เสร็จสิน้ แล้ว 3) การพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด ต้องเป็นไป ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการเทียบตำแหน่งตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยคำนึงถึงความจำเป็นและประโยชน์ ที่ทางราชการจะได้รับจากความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ของผู้ขอเปล่ียนตำแหน่ง ย้าย หรือโอน เทียบกบั ตำแหน่งบุคลากรทางการศกึ ษาอืน่ ตามมาตรา 38 ค. (๒) ในหนว่ ยงานการศกึ ษานัน้ ดว้ ย สำหรับการให้รบั เงินเดอื น ใหไ้ ดร้ ับเงนิ เดือนเทา่ เดิม กรณีท่ีเงินเดือนสงู กวา่ ข้นั สงู ของระดับตำแหน่ง ท่ีจะแต่งตั้ง ให้ได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กำหนด (ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.5/ว 23 ลงวนั ที่ 27 ธนั วาคม 2559) 7. ผลการพิจารณา 7.1 กรณอี นมุ ัติ ให้ผูม้ ีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนนิ การออกคำสัง่ บรรจแุ ละแตง่ ตง้ั เมื่อ กศจ. พิจารณามีมติอนุมัติแล้ว ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนินการออกคำสั่ง บรรจุและแต่งตั้ง และส่งคำส่ังบรรจุและแต่งต้ังให้ส่วนราชการ/หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง และสำนักงาน ก.ค.ศ. ภายใน 7 วนั ทั้งนี้ เมือ่ ผู้มอี ำนาจตามมาตรา 53 มีคำสง่ั บรรจแุ ละแตง่ ตัง้ แลว้ ดำเนินการ ดงั น้ี 1) กรณีการเปลี่ยนตำแหน่ง หรือยา้ ย เม่ือออกคำส่ังแล้วแจง้ ใหห้ น่วยงานสงั กัดเดิมทราบ 2) กรณีการรับโอน เมื่อออกคำส่ังแล้วแจ้งให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานสังกัดเดิม ของผู้ได้รับการบรรจุและแต่งต้ังสั่งให้พ้นจากตำแหน่งหน้าท่ีและอัตราเงินเดือนเดิม โดยให้มีผลในวันเดียวกัน กับวันที่มีคำสั่งรับโอน และส่งตัวไปรับตำแหน่งใหม่ต่อไป ท้ังน้ี ผู้ท่ีได้รับโอนต้องรายงานตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ในหน่วยงานการศึกษาท่ีรับโอน ภายใน 45 วัน นับแต่วันท่ีออกคำส่ังรับโอน หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ผู้มีอำนาจสั่งรบั โอนอาจยกเลิกการรับโอนได้ 3) ส่งสำเนาคำส่ังพร้อมบัญชีรายละเอียดการบรรจุและแต่งตั้ง ไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ. ภายใน 7 วัน นบั แตว่ นั ท่ีออกคำสั่ง พร้อมดว้ ยเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
- ๑๔๔ - (1) บัญชีรายละเอียดอัตรากำลังตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอ่ืนตามมาตรา 38 ค. (๒) ในหนว่ ยงานการศึกษาทรี่ ับการแต่งตัง้ (2) สำเนาเอกสารหลกั ฐาน ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนดในแบบคำขอ (3) สำเนารายงานการประชุม กศจ. เฉพาะวาระท่ีพิจารณาและมีมติให้เปล่ียนตำแหน่ง รบั ยา้ ย หรือรบั โอน 7.2 กรณไี ม่อนมุ ัติ ยุตกิ ารดำเนินการ 5. ข้อพึงระวัง 5.1 การรับโอนต่างกลุ่มตำแหน่ง หรือการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ หรือชำนาญการพิเศษ ต้องดำเนินการคัดเลือก ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ท่ี นร 1006/ว 10 ลงวันท่ี 15 กนั ยายน 2548 5.2 การให้ได้รับเงินเดือนต้องให้ได้รับเท่าเดิมและไม่สูงกว่าข้ันสูงของระดับตำแหน่งท่ีได้รับการแต่งตั้ง ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด (ตามหนังสอื สำนกั งาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.5/ว 23 ลงวนั ที่ 27 ธนั วาคม 2559) 5.3 หนว่ ยงานตน้ สงั กดั ยินยอมให้โอน โดยผ้มู ีอำนาจส่งั บรรจแุ ละแตง่ ต้ังลงนาม 5.4 การพิจารณาแต่งตั้งใหด้ ำรงตำแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด ให้พิจารณาดำเนินการ ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.5/ว 6 ลงวันท่ี 29 เมษายน 2554 ซ่ึงกำหนดให้นำหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการเทียบตำแหน่งอย่างอ่ืนเท่ากับการดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตามพระราชบัญญัติ ระเบียบขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551 ตามหนงั สอื สำนักงาน ก.พ. ท่ี นร 1008/ว 30ลงวันที่ 15 กนั ยายน 2553
- ๑๔๕ - การโอนพนักงานส่วนทอ้ งถิ่นและข้าราชการอน่ื 1. การโอนพนักงานส่วนท้องถิ่นและข้าราชการอน่ื ทมี่ ิใช่ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามาบรรจุ และแตง่ ต้ังเปน็ ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตำแหนง่ บคุ ลากรทางการศึกษาอ่ืนตามมาตรา 38 ค. (๒) 2. กฎหมาย ระเบียบ และหลกั เกณฑ์ท่เี กี่ยวข้อง 1. มาตรา 58 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กำหนดว่า “การโอนพนักงานส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ท่ีมิใช่พนักงานวิสามัญ และการโอนข้าราชการอื่นที่มิใช่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามพระราชบัญญัติน้ี และมิใช่ข้าราชการการเมืองมาบรรจุและแต่งต้ังเป็นข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา อาจทำได้หากบุคคลน้ันสมัครใจ โดยให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ของหน่วยงานการศึกษา ท่ีประสงค์จะรับโอนทำความตกลงกับผู้มีอำนาจสั่งบรรจุของส่วนราชการหรือหน่วยงานสังกัดเดิม แล้วเสนอเรื่องให้ ก.ค.ศ. หรือ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา แล้วแต่กรณี อนุมัติโดยให้คำนึงถึงประโยชน์ ที่หน่วยงานการศึกษาน้ันจะได้รับเป็นสำคัญ ทั้งนี้ จะบรรจุและแต่งตั้งให้มีตำแหน่งใด วิทยฐานะใด และให้ได้รับเงินเดือนเท่าใด ให้เป็นไปตามท่ี ก.ค.ศ.กำหนด แต่เงินเดือนท่ีจะให้ได้รับต้องไม่สูงกว่าข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาที่มีคุณวุฒิ ความสามารถ ความชำนาญ หรือความเชี่ยวชาญ ในระดับเดียวกัน เว้นแต่จะเป็นการโอนตามวรรคสอง” 2. มาตรฐานตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอ่ืน ตามมาตรา 38 ค. (2) ตามหนงั สือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.5/ว 8 ลงวนั ท่ี 10 พฤษภาคม 2556 3. หลักเกณฑ์และวิธีการโอนพนักงานส่วนท้องถ่ินและข้าราชการอ่ืน มาบรรจุและแต่งตั้งเป็น ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (๒) ตามหนังสือ สำนกั งาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.5/ว 29 ลงวนั ท่ี 28 กันยายน 2560
- ๑๔๖ - 3. แผนผังข้ันตอนการดำเนนิ การโอนพนกั งานสว่ นท้องถิน่ และขา้ ราชการอื่น - ศธจ. ขอความเห็นชอบนำตำแหนง่ วา่ งทีม่ อี ัตรา 1. สำนกั งานศึกษาธกิ ารขอความเห็นชอบใชต้ ำแหน่ง เงนิ เดอื น จาก สพท. มาใช้ในการรับโอน เพอ่ื รับโอน - ใชต้ ำแหนง่ ว่างท่มี ีอัตราเงินเดอื น 2. กศจ. พจิ ารณาเหน็ ชอบ - คณุ สมบัตแิ ละเงอื่ นไขเก่ียวกบั การรบั โอน - องค์ประกอบการประเมนิ /ตัวชี้วัด 3. กศจ. ประกาศรบั สมัคร - แบบประเมิน/เกณฑ์การใหค้ ะแนนประเมิน ก่อนวนั รบั สมคั รไม่นอ้ ยกว่า 7 วัน - ตั้งคณะกรรมการประเมินไม่นอ้ ยกว่า 5 คน 4. ดำเนินการรบั สมคั ร ตรวจสอบขอ้ มูล และประสานส่วนราชการ/หน่วยงานท่ีเกย่ี วขอ้ ง 5. คณะกรรมการดำเนินการประเมิน ตามองค์ประกอบ ตวั ชีว้ ดั ตามองค์ประกอบค 6. กศจ. พิจารณา การรับโอน 7.1 กรณีอนุมตั ิ 7.2 กรณไี มอ่ นุมตั ิ ใหผ้ มู้ ีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนินการออกคำสั่งบรรจุและแตง่ ตัง้
- ๑๔๗ - 4. คำอธบิ ายแผนผงั ขัน้ ตอนการดำเนนิ การโอนพนักงานสว่ นทอ้ งถนิ่ และข้าราชการอ่ืนฯ ก.ค.ศ. กำหนดการโอนพนักงานส่วนท้องถ่ินและข้าราชการอ่ืน มาบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอ่ืนตามมาตรา 38 ค. (๒) ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ท่ี ศธ 0206.5/ว 29 ลงวนั ท่ี 28 กันยายน 2560 ซึ่งมขี น้ั ตอนดำเนนิ การโดยสรปุ ดงั น้ี 1. สำนกั งานศกึ ษาธิการขอความเห็นชอบใชต้ ำแหน่งเพอ่ื รับโอน สำนักงานศึกษาธิการ ขอความเห็นชอบในการนำตำแหน่งว่างท่ีมีอัตราเงินเดือน มีชื่อตำแหน่ง และระดับตำแหน่งตรงตามกรอบอัตรากำลังและเง่ือนไขท่ี ก.ค.ศ. กำหนด และมใิ ช่เป็นตำแหน่งที่รอการเลิกหรือยุบ หรือตำแหน่งที่มีเง่ือนไขตามท่ีคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) กำหนด หรอื ตำแหนง่ ท่ีสงวนไว้ ของสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา มาใช้ในการรบั โอน ท้ังนี้ กศจ. นั้น ต้องไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันหรือบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกซึ่งรอการบรรจุและแต่งต้ัง ในตำแหนง่ เดียวกับตำแหนง่ ทีจ่ ะรบั โอน 2. กศจ. พิจารณาเห็นชอบใหใ้ ชต้ ำแหน่งในการรบั โอน และกำหนดรายละเอยี ด ดงั ต่อไปน้ี - ตำแหน่งว่างทมี่ ีอตั ราเงนิ เดือนทจ่ี ะใชร้ ับโอน - คณุ สมบัตแิ ละเงอ่ื นไขเกย่ี วกับการรบั โอน - องค์ประกอบการประเมิน/ตัวชว้ี ัด - แบบประเมนิ /เกณฑ์การให้คะแนนประเมนิ - ต้ังคณะกรรมการประเมินที่มีความรคู้ วามสามารถและความเหมาะสม จำนวนไมน่ ้อยกว่า 5 คน 3. กศจ. ประกาศรบั สมัคร กศจ. ประกาศรบั สมัครรับโอน ก่อนวนั รบั สมัครไมน่ ้อยกว่า 7 วนั โดยปดิ ประกาศไวใ้ นท่ีเปิดเผย และประชาสัมพนั ธ์ทางอินเตอรเ์ นต็ สอื่ ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม โดยระบุ - ตำแหน่งวา่ งทจ่ี ะรับโอน - คุณสมบัตขิ องผขู้ อโอน - องค์ประกอบการประเมนิ /ตัวช้วี ัด - แบบประเมนิ /คะแนนประเมิน - เง่ือนไข/ข้อความอ่นื ๆ ท่ีผ้ขู อโอน ควรทราบ 4. ดำเนินการรบั สมคั ร ตรวจสอบขอ้ มูลและประสานส่วนราชการ/หน่วยงานทเ่ี กยี่ วข้อง 4.1 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดดำเนินการรับสมัครตามวันเวลาท่ีประกาศรับสมัคร พร้อมท้ัง ตรวจสอบคุณสมบัตขิ องผ้สู มัครให้เป็นไปตามมาตรฐานตำแหน่งที่ ก.ค.ศ. กำหนด 4.2 ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ของหน่วยงานการศึกษาที่ประสงค์จะรับโอน ทำความตกลง กับผูม้ ีอำนาจส่ังบรรจุของส่วนราชการหรือหน่วยงานการศกึ ษาเดิมของผู้ขอโอน พรอ้ มสอบถามขอ้ มูลเกี่ยวกับ การรับเงินเดือน การลาศึกษาต่อ การถูกดำเนินการทางวินัยหรือจรรยาบรรณวิชาชีพ การถูกดำเนินคดีหรือ ถูกลงโทษทางอาญา หรือถูกดำเนินคดีล้มละลายหรือเป็นบุคคลล้มละลายและข้อมูลอื่น ๆ ตามแบบท่ีกำหนด และเมอื่ ได้รบั ยินยอมพรอ้ มข้อมลู ดงั กลา่ วจากสว่ นราชการหรือหนว่ ยงานสงั กดั เดมิ ของผู้ขอโอนแล้วให้นำเสนอ กศจ. พจิ ารณาตอ่ ไป 5. คณะกรรมการดำเนนิ การประเมนิ คณะกรรมการประเมินท่ี กศจ. ต้ัง ดำเนินการประเมินความรู้ความสามารถและความเหมาะสม ของผู้ขอโอนที่ยื่นคำขอไว้ ตามองค์ประกอบการประเมินและตัวชี้วัดท่ีกำหนด โดยให้ดำเนินการให้เป็นไป ตามหลักการบริหารกิจการบา้ นเมืองทด่ี ี โดยยึดถอื ระบบคุณธรรม ความเสมอภาค ความโปรง่ ใส และตรวจสอบได้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227