Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงเรียนน้ำปลีกศึกษา ฉบับปรับปรุง62

หลักสูตรโรงเรียนน้ำปลีกศึกษา ฉบับปรับปรุง62

Published by t.kruyok004, 2020-01-11 20:51:47

Description: หลักสูตรโรงเรียนน้ำปลีกศึกษา ฉบับปรับปรุงปีการศึกษา 2562

Search

Read the Text Version

100 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รหสั วิชำว ๓๑๒๒๒ วิชำเคมีเพมิ่ เติม กลุ่มสำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๔ เวลำ ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาอธิบายรายวิชา ศึกษาเกย่ี วกบั มวลอะตอมของธาตุ มวลของธาตุ ๑ อะตอม มวลอะตอมเฉล่ยี ของธาตุ มวลโมเลกุลของ สาร ความสัมพันธร์ ะหว่างจานวนโมล อนภุ าค มวล และปรมิ าตรของแกส๊ ท่ี STP ศกึ ษาหนว่ ยและการ คานวณความเขม้ ข้นของสารละลาย การทดลองเตรยี มสารละลาย การเปรียบเทยี บจดุ เดอื ดและ จดุ หลอมเหลวของสารบริสุทธแิ์ ละสารละลาย ศึกษาความหมายและเขียนสูตรโมเลกุล สตู รเอมพริ ิคัล หรอื สตู ร อยา่ งง่าย และสตู รโครงสรา้ ง การคานวณหามวลเป็นร้อยละจากสูตร การคานวณหาสตู รเอมิรคิ ลั และสตู ร โมเลกุลของสาร ศึกษาการเขียนและดุลสมการเคมี ทดลองและคานวณหาอตั ราส่วนจานวนโมลของสารตัง้ ตน้ ที่ ทาปฏิกริ ิยาพอดีกัน ศึกษาสมบตั ิของระบบปดิ และระบบปดิ ศึกษาและฝึกคานวณปริมาณสารในปฏิกิรยิ าท่ี เป็นไปตามกฎทรงมวล กฎสัดสว่ นคงที่ ศึกษา ทดลอง และคานวณปริมาตรของแก๊สในปฏิกริ ิยาเคมตี ามกฎของ เกย์ – ลุสแซก และกฎของอาโวกาโดร ศกึ ษาและฝึกคานวณหาความสมั พันธร์ ะหว่างปริมาณของสารในสมการ เคมีนัน้ ๆ และสมการเคมที ีเ่ กี่ยวข้องมากกวา่ หนงึ่ สมการ สารกาหนดปริมาณ ผลได้ร้อยละ โดยใชก้ ารเรยี นรดู้ ว้ ยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ สามารถนาความรู้และหลกั การไปใชป้ ระโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฏการณ์ หรอื แกป้ ัญหา ในชีวติ ประจาวนั สามารถจดั กระทาและวเิ คราะหข์ ้อมูล ส่ือสารสง่ิ ทีเ่ รียนรู้ มคี วามสามารในการตดั สินใจ แกป้ ัญหา มีจติ วิทยาศาสตร์ เห็นคณุ คา่ ของวทิ ยาศาสตร์ มจี ริยธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑.บอกความหมายของมวลอะตอมของธาตุ และคานวณมวลอะตอมเฉลีย่ ของธาตุ มวลโมเลกลุ และ มวลสตู รได้ ๒. อธิบายและคานวณปริมาณใดปริมาณหนึ่งจากความสมั พนั ธ์ของโมล จานวนอนภุ าค มวลและ ปรมิ าตรของแกส๊ ที่ STP ได้ ๓. คานวณอัตราส่วนโดยมวลของธาตุองคป์ ระกอบของสารประกอบตามกฎสดั สว่ นคงทไี่ ด้ ๔. คานวณสูตรอย่างง่ายและสูตรโมเลกุลของสารได้ ๕. คานวณความเข้มข้นของสารในหนว่ ยต่างๆได้ ๖. อธิบายวิธกี ารและเตรียมสารละลายใหม้ คี วามเข้มขน้ ในหนว่ ยโมลารติ ี และปริมาตรสารละลาย ตามท่ีกาหนดได้ ๗. เปรียบเทียบจุดเดอื ดและจุดเยอื กแข็งของสารละลายกับสารบรสิ ทุ ธิ์ รวมทง้ั คานวณจุดเดอื ดและจุด เยือกแขง็ ของสารละลายได้

101 ๘. แปลความหมายสัญลกั ษณ์ในสมการเคมี เขียนและดลุ สมการเคมีของปฏิกริ ิยาเคมีบางชนิดได้ ๙. คานวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ริ ยิ าเคมีทเ่ี ก่ียวข้องกับมวลสารได้ ๑๐. คานวณปรมิ าณของสารในปฏิกิริยาเคมีท่ีเกีย่ วข้องกบั ความเขม้ ข้นของสารละลายได้ ๑๑. คานวณปรมิ าณของสารในปฏกิ ิรยิ าเคมที ีเ่ กี่ยวข้องกบั ปรมิ าตรแก๊สได้ ๑๒. คานวณปริมาณของสารในปฏิกิรยิ าเคมีหลายขน้ั ตอนได้ ๑๓. ระบสุ ารกาหนดปริมาณและคานวณปริมาณสารต่างๆในปฏิกิริยาเคมีได้ ๑๔. คานวณผลไดร้ ้อยละของผลติ ภัณฑใ์ นปฏิกริ ยิ าเคมีได้ รวมท้ังหมด ๑๔ ผลการเรยี นรู้

102 คาอธิบายรายวชิ า ว ๓๒๒๒๑ เคมีเพม่ิ เตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ม. ๕ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง / ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนที่ ๑ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำ วเิ ครำะห์ มวลอะตอม มวลโมเลกุล โมล จำนวนโมลกบั มวลของสำร ปริมำตรตอ่ โมล ของ ก๊ำซ ควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งจำนวนโมล อนุภำค มวล และปริมำตรของกำ๊ ซ สำรละลำยควำมเขม้ ขน้ ของ สำรละลำย กำรเตรียมสำรละลำย สมบตั ิบำงประกำรของสำรละลำย มวลของสำรในปฏิกิริยำเคมี ปริมำตรของ ก๊ำซในปฏิกิริยำเคมี กฎของเกยล์ ุสแซก กฎของเอโวกำโดร กำรคำนวณเก่ียวกบั สูตรและสมกำรเคมี กำร คำนวณหำสูตรเอมพริ ิคลั และสูตรโมเลกลุ กำรคำนวณหำมวลเป็นร้อยละจำกสูตร สมกำรเคมี ควำมสัมพนั ธ์ ระหวำ่ งปริมำณของสำรในสมกำรเคมี กำรเปล่ียนแปลงพลงั งำนของระบบ พลงั งำนกบั กำรเปล่ียนสถำนะ สมบตั ิของของแขง็ กำรเปล่ียนสถำนะของของแขง็ กำรจดั เรียงอนุภำคของของแขง็ สมบตั ิของของเหลว กำร ระเหย จุดเดือดกบั ควำมดนั ไอของของเหลว สมบตั ิของกำ๊ ซ ปริมำตรของก๊ำซ กำรแพร่ของก๊ำซ เทคโนโลยที ่ี เก่ียวกบั สมบตั ิของของแขง็ ของเหลวและกำ๊ ซ โดยใชท้ กั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล กำรอภิปรำย กำรวเิ ครำะห์ กำร เปรียบเทียบ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรทำนำยและกำรทดลอง เพ่อื ใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจสำมำรถ ส่ือสำรสิ่งท่ีเรียนรู้มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจนำควำมรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำศำสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่ำนิยมท่ีเหมำะสม รหสั ตวั ชี้วดั ว ๓.๑ ม.๔-๖/๕ ว ๓.๒ ม.๔-๖/๑ ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑– ม.๔-๖/๑๒ รวม ๑๔ ตวั ชี้วดั

103 คาอธิบายรายวชิ า ว ๓๒๒๒๒ เคมีเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ม. ๕ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง / ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนที่ ๒ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำ วเิ ครำะห์ คำนวณหำ อตั รำกำรเกิดปฏิกิริยำเคมี ปัจจยั ท่ีมีผลตอ่ อตั รำกำรเกิดปฏิกิริยำเคมีเกี่ยวกบั ควำมเขม้ ขน้ พ้นื ที่ผวิ อุณหภูมิ ตวั เร่งและตวั หน่วง แนวคิดเกี่ยวกบั อตั รำกำรเกิดปฏิกิริยำเคมี พลงั งำนกบั กำร ดำเนินไปของปฏิกิริยำเคมี กำรอธิบำยผลของปัจจยั ต่ำง ๆ ต่ออตั รำกำรเกิดปฏิกิริยำเคมี ศึกษำวเิ ครำะห์ เก่ียวกบั สมดุลเคมี ปฏิกิริยำผนั กลบั ได้ กำรเกิดภำวะสมดุล ควำมสมั พนั ธ์ของค่ำคงท่ีสมดุลกบั สมกำรเคมี กำรคำนวณ เก่ียวกบั ค่ำคงที่สมดุล ผลของกำรเปลี่ยนแปลงควำมเขม้ ขน้ ควำมดนั และอุณหภูมิท่ีมีตอ่ ภำวะสมดุล หลกั ของ เลอชำเตอลิเอและกำรใชห้ ลกั ของเลอชำเตอลิเอในอุตสำหกรรม สำรละลำยอิเล็กโทรไลต์ สำรละลำยกรดและ เบส ทฤษฎีกรด–เบส คูก่ รด–เบส กำรแตกตวั ของกรดและเบส กำรแตกตวั ของน้ำบริสุทธ์ิ กำรเปล่ียนควำม เขม้ ขน้ ของไฮโดรเนียมไอออนและไฮดรอกไซดไ์ อออน pH ของสำรละลำย อินดิเคเตอร์สำหรับกรด–เบส สำรละลำยกรด–เบสในชีวติ ประจำวนั และในส่ิงมีชีวติ ปฏิกิริยำของกรด–เบส ปฏิกิริยำไฮโดรลิซิส กำรไทเทรต กรด–เบส อินดิเคเตอร์ สำรละลำยบฟั เฟอร์ และสำรละลำยบฟั เฟอร์ในธรรมชำติ โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรทดลอง กำรสำรวจตรวจสอบ กำร สืบคน้ ขอ้ มูลและกำรอภิปรำย เพือ่ ใหเ้ กิดควำมรู้ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถสื่อสำรส่ิงที่เรียนรู้ มีควำมสำมำรถ ในกำรตดั สินใจ นำควำมรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำศำสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่ำนิยมท่ีเหมำะสม รหสั ตัวชี้วดั ว ๓.๒ ม.๔-๖/๑ , ม.๔-๖/๒ ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑– ม.๔-๖/๑๒ รวม ๑๔ ตวั ชี้วดั

104 คาอธิบายรายวชิ า ว ๓๓๒๒๑ เคมีเพมิ่ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ม. ๖ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง / ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี ๑ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำวเิ ครำะห์เก่ียวกบั ไฟฟ้ำเคมี ปฏิกิริยำรีดอกซ์ กำรดุลสมกำรรีดอกซ์โดยใชเ้ ลขออกซิเดชนั กำร ดุลสมกำรรีดอกซ์โดยใชค้ ร่ึงปฏิกิริยำ เซลลไ์ ฟฟ้ำเคมี เซลลก์ ลั วำนิก กำรเขียนแผนภำพเซลลก์ ลั วำนิก ศกั ยไ์ ฟฟ้ำของเซลลแ์ ละศกั ยไ์ ฟฟ้ำมำตรฐำนคร่ึงเซลล์ เซลลอ์ ิเล็กโทรไลต์ กำรแยกสำรละลำยดว้ ย กระแสไฟฟ้ำ กำรแยกสำรที่หลอมเหลวดว้ ยกระแสไฟฟ้ำ กำรชุบโลหะดว้ ยกระแสไฟฟ้ำ กำรทำโลหะให้ บริสุทธ์ิโดยใชเ้ ซลลอ์ ิเล็กโทรไลต์ กำรผกุ ร่อนของโลหะและกำรป้องกนั ควำมกำ้ วหนำ้ ทำงเทคโนโลยที ่ี เกี่ยวขอ้ งกบั เซลลไ์ ฟฟ้ำเคมี แบตเตอรี่อิเลก็ โทรไลตแ์ ขง็ แบตเตอร่ีอำกำศ กำรทำอิเล็กโทรไดอะลิซิส น้ำทะเล เคมีอินทรีย์ พนั ธะของคำร์บอน หมูฟ่ ังกช์ นั สำรประกอบไฮโดรคำร์บอน (แอลเคน แอลคีน แอลไคน์ อะโรมำติกไฮโดรคำร์บอน) สำรประกอบอินทรียท์ ี่มีธำตุออกซิเจนเป็ นองคป์ ระกอบ (แอลกอฮอล์ ฟี นอล อีเทอร์ แอลดีไฮด์ คีโตน กรดคำร์บอกซิลิก เอสเทอร์ ) สำรประกอบอินทรียท์ ่ีมีธำตุไนโตรเจนเป็ น องคป์ ระกอบ (เอมีน) สำรประกอบอินทรียท์ ี่มีธำตุออกซิเจนและไนโตรเจนเป็นองคป์ ระกอบ (เอไมด)์ โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล กำรอภิปรำย กำรวิเครำะห์ กำรเปรียบเทียบ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรทำนำย และกำรทดลอง เพ่ือใหเ้ กิดวำมรู้ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจสำมำรถส่ือสำรส่ิงที่ เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ นำควำมรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำศำสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคำ่ นิยมที่เหมำะสม รหัสตัวชี้วดั ว ๓.๒ ม.๔-๖/๑ ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑– ม.๔-๖/๑๒ รวม ๑๓ ตัวชี้วดั

105 คาอธิบายรายวชิ า ว ๓๓๒๒๒ เคมีเพม่ิ เติม กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ม. ๖ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง / ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี ๒ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำวเิ ครำะห์เกี่ยวกบั ธำตุและสำรประกอบในอุตสำหกรรม อุตสำหกรรมแร่ อุตสำหกรรมเซรำมิกส์ แกว้ และปูนซีเมนตอ์ ุตสำหกรรมท่ีเก่ียวขอ้ งกบั โซเดียมคลอไรด์ อุตสำหกรรมป๋ ุย เช้ือเพลิงซำกดึกดำบรรพแ์ ละ ผลิตภณั ฑ์ ถ่ำนหิน หินน้ำมนั ปิ โตรเลียม พอลิเมอร์ ผลิตภณั ฑจ์ ำกพอลิเมอร์ ควำมกำ้ วหนำ้ ทำง เทคโนโลยขี องผลิตภณั ฑพ์ อลิเมอร์สังเครำะห์ ภำวะมลพิษที่เกิดจำกกำรผลิตและกำรใชผ้ ลิตภณั ฑจ์ ำก เช้ือเพลิงซำกดึกดำบรรพ์ สำรชีวโมเลกุล โปรตีน คำร์โบไฮเดรต ลิปิ ดและ กรดนิวคลีอิก โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล กำรอภิปรำย กำรวิเครำะห์ กำรเปรียบเทียบ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรทำนำย และกำรทดลอง เพ่ือใหเ้ กิดวำมรู้ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจสำมำรถส่ือสำรส่ิงท่ี เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ นำควำมรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำศำสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคำ่ นิยมที่เหมำะสม รหัสตัวชี้วดั ว ๓.๒ ม.๔-๖/๓ - ม.๔-๖/๙ ว ๘.๑ ม.๔-๖/๑– ม.๔-๖/๑๒ รวม ๑๙ ตวั ชี้วดั

106 รายวชิ า ชีววทิ ยา รหสั วชิ า ว๓๑๒๔๑ ชีววทิ ยา กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ภาคเรียนที่ ๑ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำเกี่ยงกบั ลกั ษณะสำคญั ของส่ิงมีชีวติ กำรใช้ควำมรู้และกระบวนกำรทำงชีววทิ ยำท่ีเป็ นประโยชน์ ต่อมนุษยแ์ ละสิ่งแวดลอ้ ม กำรศึกษำชีววทิ ยำโดยอำศยั กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ และกำรนำควำมรู้เก่ียวกบั ชีววทิ ยำมำประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั ศึกษำโครงสร้ำงและหนำ้ ที่ของสำรเคมีที่เป็นองคป์ ระกอบในเซลลข์ อง ส่ิงมีชีวิต ปฏิกิริยำเคมีในเซลล์ของส่ิงมีชีวิต ศึกษำโครงสร้ำงและหน้ำที่ของส่วนประกอบของเซลลด์ ว้ ยกลอ้ ง จุลทรรศน์ กำรแพร่ กำรออสโมซิส กำรแพร่แบบฟำซิลิเทต และแอกทีฟทรำนสปอร์ต กำรลำเลียงสำรผำ่ นเซลล์ กำรสื่อสำรระหวำ่ งเซลล์ กำรแบง่ เซลล์ กำรเปลี่ยนสภำพเซลล์ กำรชรำภำพของเซลล์ และกำรหำยใจระดบั เซลล์ โดยอำศยั กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ กระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล กำรสังเกต กำรวิเครำะห์ กำรทดลอง กำรอภิปรำย กำรอธิบำยและสรุป เพื่อให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเข้ำใจ มี ควำมสำมำรถในกำรตัดสินใจ สื่ อสำรสิ่งท่ีเรียนรู้และนำควำมรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั มีจิต วทิ ยำศำสตร์ มีคุณธรรม และจริยธรรม รหัสตัวชี้วดั ว ๔.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖, ม.๔-๖/๗, ม.๔-๖/๘, ม.๔-๖/๙ ม.๔-๖/๑๐, ม.๔-๖/๑๑, ม.๔-๖/๑๒ ม.๔-๖/๑๓, ม.๔-๖/๑๔, ม.๔-๖/๑๕, ม.๔-๖/๑๖, ม.๔-๖/๑๗ รวม ๑๗ ตัวชี้วดั

107 รายวชิ า ชีววทิ ยา รหสั วชิ า ว๓๑๒๔๒ชีววิทยา กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๔ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี ๒ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำเก่ียงกบั กำรถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพนั ธุกรรม กำรศึกษำพนั ธุศำสตร์ของเมนเดล กฎของเมนเดล กฎ แห่งกำรแยกและกฎแห่งกำรรวมกลุ่มอยำ่ งอิสระ ลกั ษณะทำงพนั ธุกรรมที่เป็นส่วนขยำยของพนั ธุศำสตร์เมนเดล ศึกษำเก่ียวกับยีนและโครโมโซม กำรค้นพบสำรพนั ธุกรรม โครโมโซม องค์ประกอบทำงเคมีของ DNA โครงสร้ำงของ DNA สมบตั ิของสำรพนั ธุวิศวกรรม มิวเทชน่ั ศึกษำเก่ียวกบั พนั ธุศำสตร์และเทคโนโลยีทำง DNA กำรประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทำง DNA ควำมปลอดภยั ของเทคโนโลยี DNA และมุมมองทำงสังคมและ จริยธรรม ศึกษำเกี่ยวกบั วิวฒั นำกำรหลกั ฐำนท่ีบ่งบอกถึงวิวฒั นำกำรของส่ิงมีชีวิต แนวคิดเก่ียวกบั ววิ ฒั นำกำร ของสิ่งมีชีวติ พนั ธุศำสตร์ประชำกร กำเนิดของสปี ชีส์ โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล กำรสังเกต กำร วเิ ครำะห์ กำรทดลอง กำรอภิปรำย กำรอธิบำยและสรุป เพ่ือให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ มีควำมสำมำรถ ในกำรตดั สินใจ ส่ือสำรสิ่งที่เรียนรู้และนำควำมรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ของตนเอง มีจิตวทิ ยำศำสตร์ มีจริยธรรม คุณธรรม และคำ่ นิยม รหัสตวั ชี้วดั ว ๔.๒ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/๓, ม.๔-๖/๔ ม.๔-๖/๕, ม.๔-๖/๖, ม.๔-๖/๗, ม.๔-๖/๘, ม.๔-๖/๙ ม.๔-๖/๑๐, ม.๔-๖/๑๑, ม.๔-๖/๑๒, ม.๔-๖/๑๓, ม.๔-๖/๑๔, ม.๔-๖/๑๕, รวม ๑๕ ตวั ชี้วดั

108 รายวชิ า ชีววทิ ยา รหัสวชิ า ว๓๒๒๔๑ ชีววทิ ยาเพม่ิ เติม กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ช้ันปี ท่ี ๕ เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนที่ ๑ คาอธิบายรายวชิ า อธิบำยและอภิปรำยเก่ียวกบั เน้ือเยอ่ื ของพืช โครงสร้ำงและหนำ้ ที่ของรำก ลำตน้ ใบ กำรแลกเปลี่ยนแกซ๊ ของพืช กำร คำยน้ำ กำรลำเลียงน้ำแร่ธำตุและอำหำรของพชื กบวนกำรสงั เครำะห์ดว้ ยแสง กลไกกำรเพิ่มคำวมเขม้ ขน้ ของ คำร์บอนไดออกไซดข์ องพืช CAM โฟโตเรสพิเรชนั ปัจจยั บำงประกำรที่มีผลตอ่ กำรสงั เครำะห์ดว้ ยแสงและกำรปรับตวั ของ พชื โครงสร้ำงของพืชดอก กำรสร้ำงเซลลส์ ืบพนั ธุ์ กำรถ่ำยละอองเรณู กำรเกิดผลและเมลด็ กำรงอของเมลด็ และกำรเพำะเล้ียง เน้ือเยอื่ กำรตอบสนองของต่อส่ิงแวดลอ้ มและสำรควบคุมกำรเจริญเติบโต โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำยเพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรส่ิงที่ เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณคำ่ ของกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำ ศำสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และค่ำนิยมท่ีเหมำะสม รหัสตัวชี้วดั ม.๔-๖/ ๓ ม.๔-๖/๔ ว๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ว๑.๒ ม.๔-๖/๓ ม.๔-๖/๔ ว๘.๑ ม.๔-๖/๑ - ๑๒ รวม ๑๘ ตวั ชี้วดั

109 รายวชิ า ชีววทิ ยา รหัสวชิ า ว๓๒๒๔๒ ชีววทิ ยาเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ช้ันปี ที่ ๕ เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนที่ ๒ คาอธิบายรายวชิ า อธิบำยและอภิปรำยเกี่ยวกบั เน้ือเยอื่ ของพชื โครงสร้ำงและหนำ้ ท่ีของรำก ลำตน้ ใบ กำรแลกเปลี่ยนแก๊ซของพชื กำร คำยน้ำ กำรลำเลียงน้ำแร่ธำตแุ ละอำหำรของพชื กบวนกำรสงั เครำะห์ดว้ ยแสง กลไกกำรเพ่ิมคำวมเขม้ ขน้ ของ คำร์บอนไดออกไซดข์ องพืช CAM โฟโตเรสพเิ รชนั ปัจจยั บำงประกำรที่มีผลตอ่ กำรสงั เครำะห์ดว้ ยแสงและกำรปรับตวั ของ พชื โครงสร้ำงของพืชดอก กำรสร้ำงเซลลส์ ืบพนั ธุ์ กำรถ่ำยละอองเรณู กำรเกิดผลและเมลด็ กำรงอของเมลด็ และกำรเพำะเล้ียง เน้ือเยอื่ กำรตอบสนองของต่อส่ิงแวดลอ้ มและสำรควบคุมกำรเจริญเติบโต โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำยเพื่อใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรสิ่งที่ เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณคำ่ ของกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำ ศำสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และค่ำนิยมที่เหมำะสม รหัสตัวชี้วดั ม.๔-๖/ ๓ ม.๔-๖/๔ ว๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ว๑.๒ ม.๔-๖/๓ ม.๔-๖/๔ ว๘.๑ ม.๔-๖/๑ - ๑๒ รวม ๑๘ ตวั ชี้วดั

110 รายวชิ า ชีววทิ ยา รหัสวชิ า ว๓๓๒๔๑ ชีววทิ ยาเพม่ิ เตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย ช้ันปี ที่ ๖ เวลา ๖๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี ๑ คาอธิบายรายวชิ า อธิบำยและอภิปรำยเก่ียวกบั กำรถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพนั ธุกรรม กำรคน้ พบกฎกำรถ่ำยทอดทำง พนั ธุกรรม ลกั ษณะทำงพนั ธุกรรมที่นอกกฎของเมนเดล กำรถ่ำยลกั ษณะบำงประกำรของจีนในออโตโซม กำร คน้ พบสำรพนั ธุกรรม องคป์ ระกอบทำงเคมีและโครงสร้ำงของDNA ,RNA คุณสมบตั ิของสำรพนั ธุกรรม มิวเท ซนั โครโมโซมของคนและกำรกำหนดเพศ พนั ธุวศิ วกรรม กำรโคลนจีน กำรวเิ ครำะห์DNAและกำรศึกษำจีโน กำรประยคุ และควำมปลอดภยั ของเทคโนโลยีDNA โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำยเพื่อใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรสิ่งท่ี เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณคำ่ ของกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำ ศำสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และค่ำนิยมที่เหมำะสม รหัสตวั ชี้วดั ม.๔-๖/๔ ว๑.๒ ม.๔-๖/๑ ม.๔-๖/๒ ว๘.๑ ม.๔-๖/๑ - ๑๒ รวม ๑๕ ตัวชี้วดั

111 รายวชิ า ชีววทิ ยา รหัสวชิ า ว๓๓๒๔๒ ชีววทิ ยาเพมิ่ เตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ช้ันปี ท่ี ๖ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนที่ ๒ คาอธิบายรายวชิ า อธิบำยและอภิปรำยเก่ียวกบั ววิ ฒั นำกำรของสิ่งมีชีวติ ทฤษฎีววิ ฒั นำกำรกลไกของววิ ฒั นำกำร กำเนิด สิ่งมีชีวติ ววิ ฒั นำกำรของมนุษย์ อำณำจกั รสตั ว์ อำณำจกั รพืช อำณำจกั รฟังไจ อำณำจกั รโพทีสตำ อำณำจกั รมอน เนอรำ ไรรัส ควำมหนำแน่นและกำรแพร่กระจำยของประชำกร รูปแบบกำรเพมิ่ และกำรรอดชีวติ ของประชำกร มนุษย์ โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำยเพื่อใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรสิ่งที่ เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณคำ่ ของกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำ ศำสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และค่ำนิยมที่เหมำะสม รหสั ตัวชี้วดั ม.๔-๖/๔ ว๑.๒ ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๓ ว๒.๑ ม.๔-๖/๓ ว๘.๑ ม.๔-๖/๑ - ๑๒ รวม ๑๖ ตัวชี้วดั

112 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี ๑ คาอธิบายรายวชิ า ช่ือวชิ ำ วทิ ยาศาสตร์เพมิ่ เติม รหสั วชิ ำ ว๒๑๒๐๑ จานวน ๑.๐หน่วยกติ ศึกษำวเิ ครำะห์ อธิบำยและอภิปรำยเก่ียวกบั ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ประโยชนเ์ ทโนโลยชี ีวภำพ คววำมหลำกหลำยทำงพนั ธุกรรม ควำมหลำกหลำยของสปี ชีส์ กำรคดั เลือกตำมธรรมชำติและกำรเกิดสปี ชีส์ โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูลและกำรอภิปรำย เพือ่ ใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถสื่อสำรส่ิงที่เรียนรู้ มี ควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ นำควำมรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำศำสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและ ค่ำนิยมท่ีเหมำะสม เชื่อมโยงควำมรู้กบั ศำสตร์อื่น ๆ รหสั ตวั ชี้วดั ว ๑.๑ ม ๑/๑๓ ว ๑.๒ ม๑/๓ , ว ๑.๒ม๑/๔ ว ๘.๑ ม ๒/๑-๙ รวม ๑๒ ตัวชี้วดั

113 คาอธิบายรายวชิ า ช่ือวชิ ำ วทิ ยาศาสตร์เพมิ่ เตมิ รหสั วชิ ำ ว๒๒๒๐๑ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปี ที่ ๒ จานวน ๑.๐หน่วยกติ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี ๑ ศึกษำวเิ ครำะห์ สมบตั ิของสำรและกำรจำแนกสำร กำรเปลี่ยนแปลงทำงกำยภำพและทำงเคมี กำร จำแนกสำรเป็ นหมวดหมู่ สมบตั ิของสำรเน้ือเดียว สำรเน้ือผสม สมบตั ิของสำรละลำย จุดเดือด จุดหลอมเหลว ควำมเขม้ ขน้ และกำรคำนวณหำควำมเขม้ ขน้ ของสำรละลำย กำรเตรียมสำรละลำย ควำมเป็นกรด- เบสของสำร ในชีวติ ประจำวนั กำรแยกสำรโดยกำรกลนั่ กรอง ตกผลึก กำรสกดั ดว้ ยตวั ทำละลำย และวธิ ีโครมำโทกรำฟี กำร นำหลกั กำรแยกสำรไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ประโยชนแ์ ละโทษของสำรที่ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูลและ กำรอภิปรำย เพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถส่ือสำรส่ิงที่เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ นำควำมรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั มีจิตวทิ ยำศำสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคำ่ นิยมที่เหมำะสม เช่ือมโยงควำมรู้ กบั ศำสตร์อ่ืน ๆ รหัสตัวชี้วดั ว ๓.๑ ม ๒/๑ , ว ๓.๑ ม ๒/๒ , ว ๓.๑ ม ๒/๓, ว ๓.๒ ม๒/๑ ,ว ๓.๒ ม๒/๒ , ว ๓.๒ ม๒/๓ , ว ๓.๒ ม๒/๔ , ว ๘.๑ ม ๒/๑-๙ รวม ๑๖ ตวั ชี้วดั

114 คาอธิบายรายวชิ า ช่ือวชิ ำ วทิ ยาศาสตร์เพม่ิ เตมิ รหสั วชิ ำ ว๒๓๒๐๑ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ จานวน ๑.๐หน่วยกติ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ภาคเรียนที่ ๑ ศึกษำวเิ ครำะห์ อธิบำยและอภิปรำยเกี่ยวกบั ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และกำรใชป้ ระโยชน์ กำรต่อวงจร อิเลก็ ทรอนิกส์เพอื่ ใชป้ ระโยชน์ กำรออกแบบและกำรสร้ำง วงจรอิเลก็ ทรอนิกส์ อยำ่ งง่ำย โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูลและกำรอภิปรำย เพ่อื ให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถส่ือสำรส่ิงที่เรียนรู้ มี ควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ นำควำมรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำศำสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและ คำ่ นิยมท่ีเหมำะสม เชื่อมโยงควำมรู้กบั ศำสตร์อ่ืน ๆ รหัส ตวั ชี้วดั ว ๕.๑ ม ๓/๒ ม ๓/๕ ว ๘.๑ ม ๒/๑-๙ รวม ๑๒ ตัวชี้วดั

115 คาอธิบายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม

116 โครงสร้างกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าพืน้ ฐาน จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต ส21101 สังคมศึกษำ 1 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ส21102 ประวตั ิศำสตร์ 1 จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต ส21103 สงั คมศึกษำ 2 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส21104 ประวตั ิศำสตร์ 2 จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต ส22101 สังคมศึกษำ 3 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส22102 ประวตั ิศำสตร์ 3 จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต ส22103 สังคมศึกษำ 4 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส22104 ประวตั ิศำสตร์ 4 จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต ส23101 สังคมศึกษำ 5 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ส23102 ประวตั ิศำสตร์ 5 จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต ส23103 สงั คมศึกษำ 6 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส23104 ประวตั ิศำสตร์ 6 รำยวชิ ำเพม่ิ เติม จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ส20231 หนำ้ ที่พลเมือง 1 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส20232 หนำ้ ที่พลเมือง 2 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ส20233 หนำ้ ที่พลเมือง 3 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส20234 หนำ้ ท่ีพลเมือง 4 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ส20235 หนำ้ ที่พลเมือง 5 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ส20236 หนำ้ ท่ีพลเมือง 6 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส30231 หนำ้ ที่พลเมือง 1 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ส30232 หนำ้ ที่พลเมือง 2 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส30233 หนำ้ ท่ีพลเมือง 3 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ส30234 หนำ้ ท่ีพลเมือง 4

117 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๑ (พระพุทธ-หน้าท)่ี กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ....................................................................................................................................................................................... ศึกษำ กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำเขำ้ สู่ประเทศไทย วเิ ครำะห์ควำมสำคญั ของพระพุทธศำสนำตอ่ สังคมไทย ในฐำนะเป็นศำสนำประจำชำติสถำบนั หลกั ของสงั คมไทย พุทธประวตั ิ ประวตั ิพทุ ธสำวก พระมหำกสั สปะ พระอุบำลี และชำวพุทธตวั อยำ่ ง อนำถบิณฑิกะ นำงวสิ ำขำ นำแบบอยำ่ งกำรประพฤติปฏิบตั ิมำพฒั นำตนเอง ในกำรดำเนินชีวิต พระรัตนตรัย ไตรสรณคมน์ พทุ ธคุณ 9 อริยสจั 4 บทบำทของพระสงฆใ์ นฐำนะผสู้ ืบทอด พระพทุ ธศำสนำ กำรปฏิบตั ิตนที่เหมำะสมต่อพระสงฆใ์ นที่สำธำรณะท้งั ทำงกำย ทำงวำจำและทำงใจ พทุ ธศำสนสุภำษิต ศพั ทท์ ำงพระพทุ ธศำสนำ บทสวดมนตท์ ี่ใชใ้ นศำสนพิธี กำรปฏิบตั ิตนตำมหลกั ธรรมและประเพณีพธิ ีกรรมตำมวนั สำคญั ทำงพระพทุ ธศำสนำ กำรปฏิบตั ิตนในฐำนะพุทธศำสนิกชน กำรพฒั นำจิตเพือ่ กำรเรียนรู้และกำรดำเนินชีวติ ดว้ ยวธิ ีคิดแบบโยนิโสมนสิกำร กำรสวดมนตแ์ ผเ่ มตตำ กำรบริหำรจิตและเจริญปัญญำดว้ ยอำนำปำนสติ กำรปฏิบตั ิตนตำม มรรยำทชำวพทุ ธ กำรจดั โตะ๊ หมู่บูชำ กำรจดั ธูปเทียน กำรอำรำธนำศีล กำรสมำทำนศีล วนั สำคญั ทำงพระพุทธศำสนำ ศึกษำ กฎหมำยในกำรคุม้ ครองสิทธิของบุคคล กำรปฏิบตั ิตนตำมกฎหมำย บทบำทของเยำวชนท่ีมีต่อสงั คม และประเทศชำติ ควำมคลำ้ ยคลึงและแตกต่ำงวฒั นธรรมไทยกบั ประเทศในภูมิภำคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ กำรเคำรพสิทธิ ของตนเองและผอู้ ื่น หลกั กำร เจตนำรมณ์ โครงสร้ำงและสำระสำคญั ของรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจกั รไทย ฉบบั ปัจจุบนั อำนำจอธิปไตยในรัฐธรรมนูญฉบบั ปัจจุบนั กำรปฏิบตั ิตนตำมบทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนูญ แห่งรำชอำณำจกั รไทยฉบบั ปัจจุบนั เพอื่ อธิบำย วเิ ครำะห์เน้ือหำสำระตำ่ งๆสำมำรถปฏิบตั ิตนตำม ไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งและเหมำะสม เพื่อคุณคำ่ ของกำรนำ ควำมรู้ไปพฒั นำตนเองในชีวิตประจำวนั รหสั ตวั ชี้วดั ส ๑.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙ ม.๑/๑๐ ม.๑/๑๑ ส ๑.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ส ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ส ๒.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม. ๑/๓ รวม ๒๓ ตวั ชี้วดั

118 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๑๑๐๓ สังคมศึกษา ๒ (เศรษฐศาสตร์-ภูมศิ าสตร์) กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ .................................................................................................................................................................................... อธิบำยควำมหมำยและควำมสำคญั ของเศรษฐศำสตร์เบ้ืองตน้ วเิ ครำะห์คำ่ นิยมและพฤติกรรมกำรบริโภคของ คนในสังคมซ่ึงส่งผลต่อเศรษฐกิจของชุมชนและประเทศ อธิบำยปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง วเิ ครำะห์ควำมหมำย ประเภท และควำมสำคญั ของสถำบนั กำรเงินท่ีมีผลต่อระบบเศรษฐกิจ บทบำทหนำ้ ท่ีและควำมสำคญั ของธนำคำร กลำง กำรหำรำยได้ รำยจ่ำย กำรออมกำรลงทุนที่แสดงถึงควำมสำคญั ระหวำ่ งผผู้ ลิต ผบู้ ริโภค และสถำบนั กำรเงิน ยกตวั อยำ่ งท่ีสะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงกำรพ่ึงพำอำศยั กนั และกนั ทำงเศรษฐกิจในประเทศ ปัญหำเศรษฐกิจในชุมชน อธิบำย และวเิ ครำะห์ควำมหมำยและกฎอุปสงค์ อุปทำน ปัจจยั ท่ีมีผลต่อกำรกำหนดอุปสงค์ อุปทำน ควำมหมำยควำมสำคญั ของทรัพยส์ ินทำงปัญญำ กฎหมำยท่ีเกี่ยวกบั กำรคุม้ ครองทรัพยส์ ินทำงปัญญำพอสังเขป ตวั อยำ่ งกำรละเมิดทรัพยส์ ิน ทำงปัญญำแต่ละประเภท มีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจและกำรเลือกใชเ้ คร่ืองมือทำงภูมิศำสตร์ (ลูกโลก แผนท่ี กรำฟ แผนภูมิ ฯลฯ) ที่แสดงลกั ษณะทำงกำยภำพและสงั คมของประเทศไทยและทวปี เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย อธิบำยเส้นแบ่งเวลำของประเทศไทยและทวปี ตำ่ งๆ ควำมแตกตำ่ งของวนั เวลำ มำตรฐำน กบั เวลำทอ้ งถิ่น วเิ ครำะห์กำรเช่ือมโยงสำเหตุแนวทำงป้องกนั อคั คีภยั และกำรระวำงภยั ที่เกิดข้ึนภำยในประเทศไทย และในทวปี เอเชียและโอเชียเนีย ผลกระทบจำกกำรเปลี่ยนแปลงทำงธรรมชำติของทวปี เอเชีย ออสเตรียและโอเชียเนีย ควำมร่วมมือระหวำ่ งประเทศในทวปี เอเชีย ออสเตรเลีย โอเชียเนีย ท่ีมีผลต่อส่ิงแวดลอ้ มทำงธรรมชำติ ทำเลที่ต้งั กิจกรรมทำงเศรษฐกิจและสังคมในทวปี เอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย ปัจจยั ทำงกำยภำพและสังคมท่ีมีผลกระทบ ตอ่ กำรไหลของควำมคิดเทคโนโลยสี ินคำ้ และประชำกรในทวปี เอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย โดยใชก้ ระบวนกำรกลุ่ม คิดวเิ ครำะห์ สังเครำะห์ กำรแสวงหำควำมรู้ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก อภิปรำย ฝึกปฏิบตั ิ เพือ่ ใหส้ ร้ำงควำมตระหนกั เกิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ ส่ือสำรส่ิงที่เรียนรู้ สำมำรถเสนอแนวทำงกำรพฒั นำกำรผลิตในทอ้ งถ่ินตำมปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง มีควำมสำมำรถในกำร ใชเ้ ครื่องมือทำงภูมิศำสตร์เพ่ือนำเสนอขอ้ มูลเก่ียวกบั ลกั ษณะทำงกำยภำพและสงั คมของทวปี เอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย รหัสตวั ชี้วดั ส ๓.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ส ๓.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ส ๕.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ส ๕.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ รวม ๑๔ ตวั ชี้วดั

119 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ................................................................................................................................................................................... ศึกษำ วเิ ครำะห์ควำมสำคญั ของเวลำและช่วงเวลำสำหรับกำรศึกษำประวตั ิศำสตร์ เทียบศกั รำชตำม ระบบต่ำงๆ ท่ีใชศ้ ึกษำประวตั ิศำสตร์ วธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์มำใชศ้ ึกษำเหตุกำรณ์ทำงประวตั ิศำสตร์ อธิบำย พฒั นำกำรทำงสงั คมเศรษฐกิจและกำรเมืองของประเทศต่ำงๆในภูมิภำคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตใ้ นดำ้ น ประวตั ิศำสตร์ สังคมเศรษฐกิจ และทำงกำรเมืองของประเทศตำ่ งๆ ในภูมิภำคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ควำมร่วมมือผำ่ นกำรร่วมมือเป็นกลุ่มอำเซียนในภูมิภำคตะวนั ออกเฉียงใต้ ระบุควำมสำคญั ของแหล่งอำรยธรรม ในภูมิภำคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ที่ต้งั และควำมหมำยของแล่งอำรยธรรมในภูมิภำคเอเชียตะวนั ตกเฉียงใต้ เช่น แหล่งมรดกโลกในประเทศต่ำงๆของเอเชียตะวนั ตกเฉียงใต้ อิทธิพลของอำรยธรรมโบรำณในดินแดนไทยที่มีผลต่อ พฒั นำกำรของสงั คมไทยปัจจุบนั โดยใชว้ ธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ กระบวนกำรกลุ่ม กำรคิดวเิ ครำะห์ สงั เครำะห์ กำรแสวงหำควำมรู้ กำรสืบคน้ ขอ้ มูลบนั ทึก อภิปรำย ปฏิบตั ิ เพอื่ ใหส้ ร้ำงควำมตระหนกั เกิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอส่ือสำรส่ิงท่ีเรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรเทียบศกั รำชตำมระบบตำ่ งๆที่ใชศ้ ึกษำประวตั ิศำสตร์ วธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์มำใชศ้ ึกษำ เหตุกำรณ์ทำงประวตั ิศำสตร์ อธิบำยพฒั นำกำรทำงประวตั ิศำสตร์แหล่งอำรยธรรมในภูมิภำคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตไ้ ด้ รหสั ตัวชี้วดั ส ๔.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ส ๔.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ รวม ๕ ตวั ชี้วดั

120 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๑๑๐๔ ประวตั ศิ าสตร์ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ............................................................................................................................................................................... อธิบำยควำมเป็นมำสมยั ก่อนประวตั ิศำสตร์ในดินแดนประเทศไทยโดยสงั เขป รัฐโบรำณในดินแดนไทย ศึกษำวเิ ครำะห์รัฐไทยในดินแดนไทย อธิบำยและวเิ ครำะห์ปัจจยั ในกำรสถำปนำอำณำจกั รสุโขทยั และปัจจยั ที่ เก่ียวขอ้ ง กำรพฒั นำกำรของอำณำจกั รสุโขทยั ดำ้ นกำรเมืองกำรปกครอง เศรษฐกิจ สังคม และควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ ง ประเทศ วฒั นธรรม ภูมิปัญญำไทยในสมยั สุโขทยั ควำมเสื่อมของอำณำจกั รสุโขทยั โดยใชว้ ธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ กระบวนกำรกลุ่ม กำรคิดวเิ ครำะห์ สังเครำะห์ กำรแสวงหำควำมรู้ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก อภิปรำย ฝึกปฏิบตั ิ เพ่ือใหส้ ร้ำงควำมตระหนกั เกิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ ส่ือสำรสิ่งที่เรียนรู้ และภูมิใจในควำมเป็นไทย รหัสตวั ชี้วดั ส ๔.๓ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ รวม ๓ ตวั ชี้วดั

121 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๓ (พระพุทธ- หน้าทพี่ ลเมือง) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ................................................................................................................................................................................... ศึกษำ กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำเขำ้ สู่ประเทศเพื่อนบำ้ น วเิ ครำะห์ควำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำที่ช่วย เสริมสร้ำงควำมเขำ้ ใจอนั ดีกบั ประเทศเพื่อนบำ้ น วเิ ครำะห์ควำมสำคญั ของพระพุทธศำสนำต่อสงั คมไทยในฐำนะเป็น รำกฐำนของวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์และมรดกของชำติ ควำมสำคญั ของพระพุทธศำสนำกบั กำรพฒั นำชุมชนและกำรจดั ระเบียบสงั คม พทุ ธประวตั ิ ประวตั ิพุทธสำวก พุทธสำวกิ ำ ประพฤติตนตำมแบบอยำ่ งกำรดำเนินชีวติ และขอ้ คิดจำก ประวตั ิสำวก ชำดก เร่ืองเล่ำและศำสนิกชนตวั อยำ่ ง ( พระสำรีบุตร, พระโมลคลั ลำนะ, นำงขชุ ชุตตรำ, พระเจำ้ พมิ พิสำร, ) ชำดก (มิตตวนิ ทุกชำดก, รำโชวำทชำดก) ศำสนิกชนตงั อยำ่ ง ( พระมหำธรรมรำชำลิไท, สมเด็จ พระมหำสมณเจำ้ กรมพระยำวชิรญำณวโรรส) อธิบำยโครงสร้ำงและสำระโดยสังเขปของพระไตรปิ ฎก พระรัตนตรัย อริยสจั 4 พทุ ธศำสนสุภำษิต เห็นคุณค่ำของกำรพฒั นำจิตเพื่อกำรเรียนรู้และดำเนินชีวติ ดว้ ยวธิ ีคิดแบบ โยนิโสมนสิกำรคือวธิ ีคิดแบบอุบำยปลุกเร้ำคุณธรรมและวธิ ีคิดแบบอรรถธรรมสมั พนั ธ์ สวดมนตแ์ ผเ่ มตตำ ฝึกกำร บริหำรจิตและเจริญปัญญำดว้ ยอำนำปำนสติ กำรปฏิบตั ิตนตำมหลกั ธรรมเพือ่ กำรดำรงตนอำ่ งเหมำะสมในกระแส ควำมเปล่ียนแปลงของโลกและกำรอยรู่ ่วมกนั อยำ่ งสนั ติสุข กำรเป็นลูกที่ดีตำมหลกั ทิศเบ้ืองตน้ ในทิศ 6 มีมรรยำทของควำมเป็ นศำสนิกชน วเิ ครำะห์คุณค่ำของศำสนพธิ ี พธิ ีกรรม วนั สำคญั และปฏิบตั ิตนไดถ้ ูกตอ้ ง ศึกษำ กำรปกครองของไทยในระบอบประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั ริยท์ รงเป็นประมุข สิทธิมนุษยชน วถิ ี ประชำธิปไตย สถำนภำพ บทบำท สิทธิเสรีภำพ กำรจดั ระเบียบทำงสังคม ควำมเช่ือจริยธรรม วฒั นธรรม ภูมิปัญญำของ ประเทศเพื่อนบำ้ นและประเทศตะวนั ออก กฎหมำยรัฐธรรมนูญ กฎหมำยที่เกี่ยวขอ้ งกบั ตนเอง ครอบครัว ชุมชน และ ประเทศชำติ เพ่อื ใหเ้ กิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ ศรัทธำในศำสนำท่ีตนนบั ถือ ยดึ มนั่ ในระบอบกำรปกครองแบบประชำธิปไตย ปฏิบตั ิตนตำมกฎหมำย รหสั ตวั ชี้วดั ส ๑.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๖ ม.๒/๗ ม.๒/๘ ม.๒/๙ ม.๒/๑๐ ม.๒/๑๑ ส ๑.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ม.๒/๕ ส ๒.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ส ๒.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม. ๒/๓ รวม ๒๓ ตวั ชี้วดั

122 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๒๑๐๓ สังคมศึกษา ๔(เศรษฐศาสตร์ -ภูมศิ าสตร์) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ วฒั นธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ................................................................................................................................................................................. อธิบำยควำมหมำยและควำมสำคญั ของกำรลงทุนและกำรออมต่อระบบเศรษฐกิจ กำรบริหำรจดั กำรเงินออม และกำรลงทุนภำคครัวเรือน วเิ ครำะห์ปัจจยั ที่มีผลต่อกำรลงทุนและกำรออม อธิบำยควำมหมำยและควำมสำคญั และ หลกั กำรผลิตสินคำ้ และบริกำร เสนอแนวทำงกำรพฒั นำกำรผลิตในทอ้ งถ่ินตำมปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง อภิปรำยแนวทำงกำรคุม้ ครองสิทธิของตนเองในฐำนะผบู้ ริโภค อภิปรำยระบบเศรษฐกิจแบบต่ำงๆ หลกั กำรและ ผลกระทบกำรพ่ึงพำอำศยั กนั และกำรแข่งขนั ทำงเศรษฐกิจในภูมิภำคเอเชีย วเิ ครำะห์กำรกระจำยของทรัพยำกรในโลก ที่ส่งผลกระทบตอ่ ควำมสัมพนั ธ์ทำงเศรษฐกิจระหวำ่ งประเทศ กำรแข่งขนั ทำงกำรคำ้ ในประเทศและต่ำงประเทศ ศึกษำ กำรเลือกใชเ้ คร่ืองมือทำงภูมิศำสตร์ (ลูกโลก แผนที่ กรำฟ แผนภูมิ ฯลฯ) ที่แสดงลกั ษณะทำงกำยภำพ และสังคมของทวปี ยโุ รปและแอฟริกำ วิเครำะห์ควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งลกั ษณะทำงกำยภำพและสังคมของทวปี ยโุ รป และแอฟริกำ ศึกษำ กำรเปล่ียนแปลงทำงธรรมชำติ ประชำกร เศรษฐกิจ สงั คมและวฒั นธรรม แนวทำงกำรอนุรักษ์ ทรัพยำกรและส่ิงแวดลอ้ ม ปัญหำเก่ียวกบั ส่ิงแวดลอ้ ม ของทวปี ยโุ รปและแอฟริกำ พร้อมวเิ ครำะห์เหตุและผลกระทบที่ ประเทศไทยไดร้ ับจำกกำรเปล่ียนแปลงของส่ิงแวดลอ้ มในทวปี ยโุ รปและแอฟริกำ โดยใชก้ ระบวนกำรกลุ่ม คิดวเิ ครำะห์ สังเครำะห์ กำรแสวงหำควำมรู้ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก อภิปรำย ฝึกปฏิบตั ิ เพือ่ ใหส้ ร้ำงควำมตระหนกั เกิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรส่ิงที่เรียนรู้ สำมำรถเสนอแนว ทำงกำรพฒั นำกำรผลิตในทอ้ งถ่ินตำมปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง มีควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ครื่องมือทำงภูมิศำสตร์ เพอ่ื นำเสนอขอ้ มูลเก่ียวกบั ลกั ษณะทำงกำยภำพและสังคมของทวปี ยโุ รปและแอฟริกำ รหัสตวั ชี้วดั ส ๓.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ส ๓.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ ส ๕.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ส ๕.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ม.๒/๔ รวม ๑๔ ตัวชี้วดั

123 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๒๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๓ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ................................................................................................................................................................................... ศึกษำ วธิ ีกำรประเมินควำมน่ำเช่ือถือของหลกั ฐำนทำงประวตั ิศำสตร์ในลกั ษณะตำ่ งๆ วเิ ครำะห์ควำม แตกต่ำงระหวำ่ งควำมจริงกบั ขอ้ เทจ็ จริงของเหตุกำรณ์ทำงประวตั ิศำสตร์ เห็นควำมสำคญั ของกำรตีควำม หลกั ฐำนทำงประวตั ิศำสตร์ที่น่ำเช่ือถือ ศึกษำ ที่ต้งั และสภำพทำงภูมิศำสตร์ของภูมิภำคต่ำงๆ พฒั นำกำรทำงประวตั ิศำสตร์ สังคมเศรษฐกิจ กำรเมืองกำรปกครอง ของทวีปเอเชีย ระบุควำมสำคญั ของแหล่งอำรยธรรมโบรำณในภูมิภำคเอเชีย โดยใชว้ ธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ กระบวนกำรกลุ่ม กำรคิดวเิ ครำะห์ สังเครำะห์ กำรแสวงหำควำมรู้ กำรสืบคน้ ขอ้ มูลบนั ทึก อภิปรำย ปฏิบตั ิ เพอ่ื ใหส้ ร้ำงควำมตระหนกั เกิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอส่ือสำรส่ิงท่ีเรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรเทียบศกั รำชตำมระบบตำ่ งๆท่ีใชศ้ ึกษำประวตั ิศำสตร์ วธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์มำใชศ้ ึกษำ เหตุกำรณ์ทำงประวตั ิศำสตร์ อธิบำยพฒั นำกำรทำงประวตั ิศำสตร์แหล่งอำรยธรรมในภูมิภำคเอเชียได้ รหัสตัวชี้วดั ส ๔.๑ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ ส ๔.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒ รวม ๕ ตวั ชี้วดั

124 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๒๑๐๔ ประวตั ศิ าสตร์ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ................................................................................................................................................................................ ศึกษำประวตั ิศำสตร์สมยั กรุงศรีอยธุ ยำ กรุงธนบุรี ในเร่ือง ภูมิปัญญำ วฒั นธรรม ศิลปวฒั นธรรม กำรเสียกรุงศรีอยธุ ยำคร้ังท่ี 1 คร้ังที่ 2 วรี กรรมของบรรพบุรุษไทย ผลงำนบุคคลที่สำคญั จำกหลกั ฐำนทำง ประวตั ิศำสตร์โดยใชว้ ธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ วเิ ครำะห์ พฒั นำกำรของอำณำจกั รอยธุ ยำ กรุงธนบุรี ประเมินควำมน่ำเช่ือถือของหลกั ฐำนทำงประวตั ิศำสตร์ และปัจจยั ที่ส่งผลตอ่ ควำมมนั่ คงและควำมเจริญรุ่งเรือง ระบุภูมิปัญญำและวฒั นธรรมไทยในสมยั อยธุ ยำ และกรุงธนบุรีและอิทธิพลของภูมิปัญญำดงั กล่ำวท่ีมีตอ่ กำร พฒั นำชำติไทยในยคุ ต่อมำ เพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจควำมสำคญั ของเวลำ และกำรพฒั นำกำรของชำติไทย เกิดควำมรักควำม ภำคภูมิใจในควำมเป็ นปึ กแผน่ ของไทย รหัสตวั ชี้วดั ส ๔.๓ ม.๒/๑ ม.๒/๒ ม.๒/๓ รวม ๓ ตวั ชี้วดั

125 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๒๓๑๐๑ สังคมศึกษา ๕ (พระพทุ ธ-หน้าทพ่ี ลเมือง) กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ .................................................................................................................................................................................... ศึกษำ กำรเผยแผพ่ ระพุทธศำสนำเขำ้ สู่ประเทศตำ่ งๆทว่ั โลก วเิ ครำะห์ควำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำ หรือศำสนำที่ตนนบั ถือในฐำนะที่ช่วยสร้ำงสรรคอ์ ำรยธรรมและควำมสงบสุขแก่โลก ศึกษำพุทธประวตั ิประวตั ิ ควำมเป็นมำของศำสดำ หลกั ธรรมทำงพระพุทธศำสนำหรือศำสนำอื่นที่ตนนบั ถือ ยดึ มนั่ และปฏิบตั ิตำม หลกั ธรรมเพ่อื กำรอยูร่ ่วมกนั อยำ่ งสนั ติสุข ประพฤติปฏิบตั ิตนตำมแบบอยำ่ งกำรดำเนินชีวติ และขอ้ คิดจำก ประวตั ิสำวก ชำดก เรื่องเล่ำและศำสนิกชนตวั อยำ่ ง เช่น พุทธสำวก พทุ ธสำวกิ ำ ( พระอญั ญำโกณฑญั ญะ พระ มหำปชำบดีเถรี, พระเขมำเถรี, พระเจำ้ ปเสนทิโกศล) ชำดก (นนั ทิวสิ ำลชำดก, สุวณั ณหงั สชำดก) ศำสนิกชนตวั อยำ่ ง (ม.จ. หญิงพนู พิสมยั ดิศกุล, ศำสตรำจำรยส์ ญั ญำธรรมศกั ด์ิ) พระรัตนตรัย อริยสัจ 4 พุทธ ศำสนสุภำษิต กำรปฏิบตั ิตนตำมหลกั ธรรมในกำรพฒั นำตนเอง กำรพฒั นำจิตเพื่อกำรเรียนรู้และดำเนินชีวติ ดว้ ย วธิ ีคิดแบบโยนิโสมนสิกำร กำรบริหำรจิตเจริญปัญญำดว้ ยอำนำปำนสติ ศึกษำ กำรปฏิบตั ิตนต่อพระสงฆ์ กำรปฏิบตั ิหนำ้ ที่ ของศำสนิกชนท่ีดี และกำรปฏิบตั ิตนในศำสนพธิ ี อธิบำยประวตั ิวนั สำคญั ทำงศำสนำและปฏิบตั ิตนไดถ้ ูกตอ้ ง ศึกษำเรียนรู้เร่ืององคป์ ระกอบของพระพุทธศำสนำ นำไปปฏิบตั ิและเผยแผต่ ำมโอกำส ศึกษำ ลกั ษณะกำรกระทำควำมผดิ ทำงอำญำและโทษ ลกั ษณะกำรกระทำควำมผดิ ทำงแพง่ และควำมรับผดิ ทำง แพง่ มีส่วนร่วมในกำรปกป้องคุม้ ครองผูอ้ ื่นตำมหลกั สิทธิมนุษยชน อนุรักษว์ ฒั นธรรมไทยและเลือกรับวฒั นธรรม สำกลท่ีเหมำะสม วเิ ครำะห์ปัจจยั ท่ีก่อใหเ้ กิดปัญหำควำมขดั แยง้ ในประเทศ ศึกษำ วเิ ครำะห์ขอ้ มูล ข่ำวสำรทำงกำรเมืองกำรปกครองที่มีผลกระทบต่อสงั คมไทยในปัจจุบนั อธิบำย ระบอบกำรปกครองแบบต่ำงๆท่ีใชใ้ นยคุ ปัจจุบนั เปรียบเทียบระบอบกำรปกครองของไทยกบั ประเทศอื่นท่ี มี กำรปกครองระบอบประชำธิปไตย กฎหมำยรัฐธรรมและวถิ ีประชำธิปไตย เพือ่ ใหเ้ กิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ ศรัทธำในศำสนำท่ีตนนบั ถือ ยดึ มน่ั ในระบอบกำรปกครองแบบ ประชำธิปไตย ปฏิบตั ิตนตำมกฎหมำย รหสั ตัวชี้วดั ส ๑.๑ ม๓/๑ ม๓/๒ ม๓/๓ ม๓/๔ ม๓/๕ ม๓/๖ ม๓/๗ ม๓/๘ ม๓/๙ ม๓/๑๐ ส ๑.๒ ม๓/๑ ม๓/๒ ม๓/๓ ม๓/๔ ม๓/๕ ม๓/๖ ม๓/๗ ส ๒.๑ ม๓/๑ ม๓/๒ ม๓/๓ ม๓/๔ ม๓/๕ ส ๒.๒ ม๓/๑ ม๓/๒ ม๓/๓ ม๓/๔ รวมท้งั หมด ๒๖ ตวั ชี้วดั

126 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๓๑๐๓ สังคมศึกษา ๖ ( เศรษฐศาสตร์ –ภูมศิ าสตร์) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ................................................................................................................................................................................ ศึกษำ กลไกรำคำในระบบเศรษฐกิจ กำรมีส่วนร่วมในกำรแกไ้ ขปัญหำและกำรพฒั นำทอ้ งถ่ินตำม ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง หลกั กำรสำคญั ของระบบสหกรณ์ อธิบำยบทบำทหนำ้ ที่ของรัฐบำล ในระบบเศรษฐกิจ บทบำทควำมสำคญั ของกำรรวมกลุ่มทำงเศรษฐกิจระหวำ่ งประเทศ กลุ่มทำงเศรษฐกิจใน ภูมิภำคต่ำงๆ ผลกระทบที่เกิดจำกภำวะเงินฝื ด เงินเฟ้อ วเิ ครำะห์ผลเสียจำกกำรวำ่ งงำนและแนวทำงแกป้ ัญหำ กิจกรรมทำงเศรษฐกิจ กำรบริหำรจดั กำรทรัพยำกรในกำรผลิต กำรบริโภค กำรใชท้ รัพยำกรที่มีอยำ่ จำกดั ได้ อยำ่ งมีประสิทธิภำพและคุม้ คำ่ เขำ้ ใจหลกั กำรของเศรษฐกิจพอเพียงเพอื่ กำรดำรงชีวติ อยำ่ งมีดุลยภำพ ศึกษำ เกี่ยวกบั ระบบและสถำบนั ทำงเศรษฐกิจ ควำมสมั พนั ธ์ทำงเศรษฐกิจและควำมจำเป็นของกำรร่วมมือกนั ทำง เศรษฐกิจในสังคมโลก ศึกษำ กำรใชเ้ ครื่องมือทำงภูมิศำสตร์ในกำรรวบรวม วเิ ครำะห์และนำเสนอขอ้ มูลเก่ียวกบั ลกั ษณะทำงกำยภำพ และสงั คมของทวปี อเมริกำเหนือและอเมริกำใต้ วเิ ครำะห์ควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งลกั ษณะทำงกำยภำพและสังคมของทวปี อเมริกำเหนือ ทวปี อเมริกำใต้ กำรเปล่ียนแปลงประชำกร เศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรมของทวปี อเมริกำเหนือและ อเมริกำใต้ และควำมสมั พนั ธ์ของมนุษยก์ บั มนุษย์ มนุษยก์ บั ส่ิงแวดลอ้ มทำงธรรมชำติของทวปี อเมริกำเหนืออเมริกำใต้ วเิ ครำะห์เหตุและผลกระทบตอ่ เนื่องจำกกำรเปล่ียนแปลงของสิ่งแวดลอ้ มในทวปี อเมริกำเหนือและอเมริกำใตท้ ่ีส่งผลต่อ ประเทศไทย เพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ สรุปเน้ือหำ วเิ ครำะห์ เปรียบเทียบ สำรวจขอ้ มูล อธิบำยควำมสมั พนั ธ์อนั ดีของ ประเทศไทยกบั ประเทศต่ำงๆในทวปี อเมริกำเหนือและอเมริกำใต้ ตลอดจนสมำรถอธิบำยแนวทำงในกำรใช้ ทรัพยำกรธรรมชำติ รหัสตัวชี้วดั ส ๓.๑ ม.๓/๒ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ส ๓.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม. ๓/๖ ส ๕.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ส ๕.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ รวม ๑๕ ตัวชี้วดั

127 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๓๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๕ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ............................................................................................................................................................................. ศึกษำ เรื่องรำว เหตุกำรณ์สำคญั ทำงประวตั ิศำสตร์สมยั กรุงรัตนโกสินทร์ โดยใชว้ ธิ ีกำรทำง ประวตั ิศำสตร์ วเิ ครำะห์เหตุกำรณ์ พฒั นำกำรดำ้ นกำรเมือง กำรปกครอง สังคมเศรษฐกิจและปัจจยั ที่ส่งผลต่อควำม เจริญ และควำมมน่ั คงสมยั กรุงรัตนโกสินทร์ กำรทำสนธิสญั ญำเบำวร์ ิงในสมยั รัชกำลท่ี 4กำรปฏิรูปประเทศ สมยั รัชกำลที่ 5 กำรเขำ้ ร่วมสงครำมโลกคร้ังที่ 1 และ 2 และบทบำทของไทยในสมยั ประชำธิปไตย เพ่อื ใหเ้ กิดควำมเขำ้ ใจควำมสำคญั ของเวลำ และพฒั นำกำรของชำติไทย เกิดควำมรักควำมภำคภูมิใจใน ควำมเป็นปึ กแผน่ ของไทย รหัสตวั ชี้วดั ส ๔.2 ม๓.๑ ม.๓/๒ ส ๔.๓ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม. ๓/๓ ม. ๓/๔ รวม ๖ ตวั ชี้วดั

128 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน วชิ า ส๒๓๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๖ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ............................................................................................................................................................................. ศึกษำ ท่ีต้งั สภำพทำงภูมิศำสตร์ และอธิบำยพฒั นำกำรทำงสังคม เศรษฐกิจ กำรเมืองของภูมิภำคตำ่ งๆ ในโลก ศึกษำกลุ่มประเทศทำงเศรษฐกิจและกำรเมืองในเร่ืองสภำพปัจจุบนั ปัญหำ อิทธิพลของอำรยธรรม ตะวนั ตกท่ีมีผลต่อพฒั นำกำรและกำรเปล่ียนแปลงของสังคมโลกโดยสงั เขป เพ่ือใหเ้ กิดควำมเขำ้ ใจสภำพกำรณ์ปัจจุบนั ของกลุ่มประเทศที่เก่ียวขอ้ งกบั ประเทศไทย ตระหนกั ถึง ควำมสำคญั ของกำรเปลี่ยนแปลง รหัสตวั ชี้วดั ส ๔.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ รวม ๒ ตัวชี้วดั

129 คาอธิบายรายวชิ า ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ส๒๐๒๓๑ หนำ้ ที่พลเมือง 1 ๒๐ ชวั่ โมง / ภำค ๐.๕ หน่วยกิต มีส่วนร่วมอนุรักษม์ ำรยำทไทยในกำรแสดงควำมเคำรพ กำรสนทนำกำรแต่งกำย กำรมีสมั มำคำรวะ แสดงออกถึงควำมเอ้ือเฟ้ื อเผือ่ แผแ่ ละเสียสละตอ่ สังคม เห็นคุณคำ่ และอนุรักษข์ นบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรมและภูมิปัญญำไทย ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง ในเร่ืองควำมซ่ือสตั ยส์ ุจริต ขยนั หมนั่ เพียร อดทน ใฝ่ หำควำมรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหนำ้ ท่ี และยอมรับผลท่ีเกิดจำกกำรกระทำของตนเอง ปฏิบตั ิตนเป็ นแบบอยำ่ ง ของควำมรักชำติ ยดึ มน่ั ในศำสนำ และเทิดทูนสถำบนั พระมหำกษตั ริย์ ประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่พระบรมรำโชวำท ในเร่ืองมีเหตุผล รอบคอบ หลกั กำรทรงงำน ในเร่ืองกำรใชธ้ รรมชำติช่วยธรรมชำติกำรปลูกป่ ำในใจคน และ หลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี ง ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง ในเร่ืองควำมซื่อสัตยส์ ุจริต ขยนั หมน่ั เพียร อดทน ใฝ่ หำควำมรู้ และต้งั ใจปฏิบตั ิหนำ้ ที่ โดยใชก้ ระบวนกำรกลุ่ม กระบวนกำรคิด กระบวนกำรปฏิบตั ิ กระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์ กระบวนกำรแกป้ ัญหำกระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กระบวนกำรสร้ำงควำม ตระหนกั กระบวนกำรสร้ำงคำ่ นิยม และกระบวนกำรสร้ำงเจตคติ เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีลกั ษณะท่ีดีของคนไทย ภำคภูมิใจในควำมเป็ นไทย แสดงออกถึงควำมรักชำติ ยดึ มน่ั ในศำสนำ และเทิดทูนสถำบนั พระมหำกษตั ริย์ และ มีวนิ ยั ในตนเอง ผลการเรียนรู้ 1. มีส่วนร่วมในกำรอนุรักษม์ ำรยำทไทย 2. แสดงออกถึงควำมเอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผ่ และเสียสละตอ่ สงั คม 3.เห็นคุณคำ่ และอนุรักษข์ นบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรมและภูมิปัญญำไทย 4. เป็นแบบอยำ่ งของควำมรักชำติ ยดึ มน่ั ในศำสนำและเทิดทูนสถำบนั พระมหำกษตั ริย์ 5. ประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่พระบรมรำโชวำท หลกั กำรทรงงำนและหลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง ๖. ปฏิบตั ิตนเป็ นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง รวมท้งั หมด ๖ ผลกำรเรียนรู้

130 คาอธิบายรายวชิ า ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ ส๒๐๒๓๒ หนำ้ ท่ีพลเมือง ๒ ๒๐ ชว่ั โมง / ภำค จำนวน๐.๕ หน่วยกิต ปฏิบตั ิตนเป็ นพลเมืองดีตำมวถิ ีประชำธิปไตย ในกำรมีส่วนร่วมในกิจกรรมตำ่ ง ๆ ของสังคม กำร ตดั สินใจโดยใชเ้ หตุผล มีส่วนร่วมและรับผดิ ชอบในกำรตดั สินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน ตรวจสอบขอ้ มูลเพ่ือใชป้ ระกอบกำรตดั สินใจในกิจกรรมต่ำง ๆ ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง ในเร่ืองควำม ซื่อสัตยส์ ุจริตอดทน ขยนั หมนั่ เพยี ร ใฝ่ หำควำมรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหนำ้ ที่ และยอมรับผลที่เกิดจำกกำรกระทำของ ตนเอง ยอมรับควำมหลำกหลำยทำงสงั คมวฒั นธรรมในภูมิภำคเอเชียตะวนั ออกเฉียง ใต้ ในเร่ืองวถิ ีชีวิต วฒั นธรรม ศำสนำ สิ่งแวดลอ้ ม อยรู่ ่วมกนั อยำ่ งสันติและพ่ึงพำซ่ึงกนั และกนั ในสงั คมพหุวฒั นธรรม ดว้ ยกำร เคำรพซ่ึงกนั และกนั ไม่แสดงกิริยำและวำจำดูหมิ่นผอู้ ่ืน ช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั แบง่ ปัน มีส่วนร่วมในกำร แกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ โดยสนั ติวธิ ี ในเรื่องกำรทะเลำะววิ ำท ควำมคิดเห็นไม่ตรงกนั ดว้ ยกำรเจรจำไกล่เกล่ีย กำร เจรจำต่อรอง กำรระงบั ควำมขดั แยง้ ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง ในเรื่องควำมซ่ือสัตยส์ ุจริต อดทน ใฝ่ หำ ควำมรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหนำ้ ที่ ยอมรับผลที่เกิดจำกกำรกระทำของตนเอง โดยใชก้ ระบวนกำรกลุ่ม กระบวนกำรคิด กระบวนกำรปฏิบตั ิ กระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์ กระบวนกำรแกป้ ัญหำ กระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กระบวนกำรสร้ำงควำมตระหนกั กระบวนกำรสร้ำงคำ่ นิยม และกระบวนกำรสร้ำงเจตคติ เพื่อใหผ้ เู้ รียนมี ลกั ษณะเป็นพลเมืองดีในระบอบประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั ริยท์ รงเป็นประมุข มีส่วนร่วมทำงกำรเมือง กำรปกครอง อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนอยำ่ งสันติ จดั กำรควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ติวธิ ี และมีวนิ ยั ในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. ปฏิบตั ิตนเป็ นพลเมืองดีตำมวถิ ีประชำธิปไตย ๒. มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในกำรตดั สินใจตรวจสอบขอ้ มูลเพอื่ ใชป้ ระกอบกำรตดั สินใจในกิจกรรมต่ำง ๆ ๓.ยอมรับควำมหลำกหลำยทำงสังคมวฒั นธรรมในภูมิภำคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ และอยรู่ ่วมกนั อยำ่ งสนั ติ และพ่ึงพำซ่ึงกนั และกนั ๔. มีส่วนร่วมในกำรแกป้ ัญหำควำมขดั แยง้ โดยสันติวธิ ี ๕. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง รวมท้งั หมด ๕ ผลกำรเรียนรู้

131 โครงสร้างกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าพืน้ ฐาน จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต ส31101 สังคมศึกษำ 1 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส32102 ประวตั ิศำสตร์ 1 จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ส31103 สังคมศึกษำ 2 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ส32104 ประวตั ิศำสตร์ 2 จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต ส32101 สงั คมศึกษำ 3 จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส33102 ประวตั ิศำสตร์ 3 จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ส32103 สังคมศึกษำ 4 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ส33104 ประวตั ิศำสตร์ 4 จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต ส33101 สังคมศึกษำ 5 จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต ส33103 สงั คมศึกษำ 6 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส30231 หนำ้ ที่พลเมือง 1 จำนวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ส30232 หนำ้ ที่พลเมือง 2 ส30233 หนำ้ ท่ีพลเมือง 3 ส30234 หนำ้ ที่พลเมือง 4

132 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๓๑๐๑ รายวชิ า สังคมศึกษา ๑ (พระพทุ ธศาสนา) กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ....................................................................................................................................................................... ศึกษำ วิเครำะห์ ลักษณ ะของชมพูทวีปและคติควำมเช่ื อทำงศำสนำสมัยก่อนพระพุทธเจ้ำ พระพทุ ธศำสนำ มีทฤษฎีและวธิ ีกำรที่เป็นสำกล และมีขอ้ ปฏิบตั ิที่ยดึ สำยกลำง กำรพฒั นำ ศรัทธำ และปัญญำท่ี ถูกตอ้ งในพระพุทธศำสนำ พระเจำ้ ในฐำนะเป็ นมนุษยผ์ ูฝ้ ึ กตนไดอ้ ยำ่ งสูงสุดในกำรตรัสรู้ กำรก่อต้งั วธิ ีกำรสอน และกำรเผยแผพ่ ระพุทธศำสนำ พุทธประวตั ิดำ้ นกำรบริหำร และกำรธำรงวิชำศำสนำ ขอ้ คิด และแบบอยำ่ งกำร ดำเนินชีวิตจำกประวตั ิพุทธสำวก สำวิกำ พุทธศำสนิกชนตวั อย่ำง และตวั อย่ำงชำดก วิเครำะห์และปฏิบตั ิตน ตำมหลักธรรม ของพระพุทธศำสนำ พระรัตนตรัย หลักธรรมในกรอบอริยสัจ 4 พุทธศำสนสุภำษิต กำร สงั คำยนำพระไตรปิ ฎก กำรปฏิบตั ิตนเป็นชำวพทุ ธที่ดีต่อพระภิกษุ กำรปฏิบตั ิตนเป็ นสมำชิกท่ีดีของครอบครัว และสังคม ศำสนพิธี คติธรรมที่เก่ียวเนื่องกบั วนั สำคญั และเทศกำลสำคญั ในพระพุทธศำสนำ กำรบริหำรจิต และเจริญปัญญำตำมหลกั สติปัฏฐำน กำรพฒั นำกำรเรียนรู้ดว้ ยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิกำร กำรสัมมนำและ เสนอแนะแนวทำงในกำรธำรงรักษำพระพุทธศำสนำ อนั ส่งผลถึงกำรพฒั นำตน พฒั นำชำติและโลก ประวตั ิของ ศำสดำของศำสนำอื่นและหลกั คำสอนพ้นื ฐำน โดยใช้กระบวนกำรคิด กระบวนกำรสืบค้นข้อมูล กระบวนกำรทำงสังคม กระบวนกำรปฏิบัติ กระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์ และกำรแกป้ ัญหำ กระบวนกำรกลุ่ม เพื่อให้เกิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำไปปฏิบตั ิในกำรดำรงชีวิต นำไปแกป้ ัญหำของตนเองและ ครอบครัว มีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคใ์ นดำ้ นควำมรักชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ ซื่อสัตยส์ ุจริต มีวินยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ยำ่ งพอเพียง มุง่ มน่ั ในกำรทำงำน รักควำมเป็นไทย มีจิตสำธำรณะ สำมำรถอยใู่ นสงั คมไดอ้ ยำ่ งสนั ติสุข รหัสตัวชี้วดั ส.๑.๑ ม.๔/๑ ม.๔/๒ ม.๔/๔ ม.๔/๕ ม.๔/๑๒ม.๔/๑๓ ม.๔/๑๔ ม.๔/๑๕ ม.๔/๑๗ ม.๔/๑๙ ม.๔/๒๐ ส.๑.๒ ม.๔/๑ ม.๔/๒ ม.๔/๓ ม.๔/๔ ม.๔/๕ รวม ๑๖ ตัวชี้วดั

133 คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ไทย ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ........................................................................................................................................................................... ศึกษำ วเิ ครำะห์ ควำมสำคญั ของเวลำและยคุ สมยั ทำงประวตั ิศำสตร์ท่ีแสดงถึงกำรเปล่ียนแปลงของ มนุษยชำติ ข้นั ตอนของวธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ คุณค่ำและประโยชน์ของวธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ท่ีมีต่อกำรศึกษำ ทำง ประวตั ิศำสตร์ ประเด็นสำคญั ทำงประวตั ิศำสตร์ต้งั แต่ควำมเป็นมำของชำติไทยสมยั ก่อนอำณำจกั รสุโขทยั จนถึงกำร เปล่ียนแปลงกำรปกครอง ควำมสำคญั ของสถำบนั พระมหำกษตั ริยต์ ่อชำติไทย บทบำทของสถำบนั พระมหำกษตั ริยใ์ น กำร พฒั นำชำติไทย ในดำ้ นต่ำงๆ อิทธิพลของวฒั นธรรมตะวนั ตกและตะวนั ออกที่มีต่อสงั คมไทย โดยใชว้ ธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ กระบวนกำรคิด กระบวนกำรสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนกำรปฏิบตั ิ กระบวนกำรทำงสงั คม กำรแกไ้ ขปัญหำและกระบวนกำรกลุ่ม เพื่อ ใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจตระหนกั ในควำมสำคญั ของกำรศึกษำประวตั ิศำสตร์ไทย เกิดควำมรัก ควำม ภำคภูมิใจและธำรงควำมเป็นไทย มีคุณลกั ษณะที่พึงประสงคใ์ นดำ้ นรักชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ รักควำมเป็นไทยมุ่งมน่ั ในกำรทำงำน รหสั ตวั ชี้วดั ส. ๔.๑ ม. ๕/๑ ม. ๕/๒ ส. ๔.๓ ม. ๕/๑ ม. ๕/๒ รวม ๔ ตัวชี้วดั

134 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๓๑๐๓ รายวชิ า สังคมศึกษา ๒ (หน้าทีพ่ ลเมือง) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ....................................................................................................................................................................... ศึกษำ วิเครำะห์ควำมสำคญั ของโครงสร้ำงทำงสังคม กำรขดั เกลำทำงสังคมและกำรเปลี่ยนแปลงทำง สงั คม กำรแกป้ ัญหำและแนวทำงกำรพฒั นำสังคม กำรปฏิบตั ิตนและสนบั สนุนให้ผอู้ ื่นประพฤติปฏิบตั ิตนเป็ น พลเมืองดีของประเทศชำติและสังคมโลก วฒั นธรรมไทยที่สำคญั กำรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกำรอนุรักษ์ วฒั นธรรมไทย และเลือกรับวฒั นธรรมสำกล สถำนกำรณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และแนวทำงกำรพฒั นำ บทบญั ญตั ิรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจกั รไทยฉบบั ปัจจุบนั เกี่ยวกบั สิทธิมนุษยชน ปัญหำกำรเมืองที่สำคญั ใน ประเทศไทย กำรเมือง กำรปกครอง กำรประสำนประโยชน์ร่วมกนั ระหว่ำงประเทศ กำรแลกเปล่ียนเพ่ือ ช่วยเหลือและส่งเสริมดำ้ นวฒั นธรรม กำรศึกษำ เศรษฐกิจ สังคม ควำมสำคญั และควำมจำเป็ นที่ตอ้ งธำรงรักษำ ไวซ้ ่ึงกำรปกครองตำมระบอบประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั ริยท์ รงเป็ นประมุข กำรมีส่วนร่วมในกำร ตรวจสอบ กำรใชอ้ ำนำจรัฐ กฎหมำยแพ่งเก่ียวกบั ตนเองและครอบครัว กฎหมำยแพ่งเกี่ยวกบั นิติกรรมสัญญำ กฎหมำยอำญำในเร่ืองควำมผิดเกี่ยวกบั ทรัพย์ ควำมผดิ เก่ียวกบั ชีวติ และร่ำงกำยกฎหมำยอื่นท่ีสำคญั ขอ้ ตกลง ระหวำ่ งประเทศ โดยใช้กระบวนกำรคิด กระบวนกำรสืบค้นข้อมูล กระบวนกำรทำงสังคม กระบวนกำรปฏิบัติ กระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์ และกำรแกป้ ัญหำ กระบวนกำรกลุ่ม เพื่อใหเ้ กิดควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำไปประยกุ ตป์ ฏิบตั ิในกำรดำเนินชีวติ มีคุณธรรมจริยธรรม มี คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคใ์ นดำ้ นควำมรักชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสตั ยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ อยูอ่ ยำ่ งพอเพียง มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน รักควำมเป็นไทย มีจิตสำธำรณะ สำมำรถดำเนินชีวติ อยำ่ งสันติสุขในสังคมไทยและสังคม โลก รหัสตัวชี้วดั ส ๒.๑ ม. ๔/๑ ม.๔/๒ ม.๔/๓ ม.๔/๔ ม.๔/๕ ส ๒.๒ ม. ๔/๑ ม.๔/ ๒ ม. ๔/๓ ม.๔/ ๔ รวม ๙ ตัวชี้วดั

135 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๑๑๐๔ ประวตั ศิ าสตร์ไทย ๒ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ........................................................................................................................................................................... ศึกษำ วเิ ครำะห์ ผลงำนของบุคคลสำคญั ท้งั ชำวไทยและตำ่ งประเทศท่ีมีส่วนสร้ำงสรรคว์ ฒั นธรรมไทย ปัจจยั ที่ส่งเสริมกำรสร้ำงสรรคภ์ ูมิปัญญำไทยและวฒั นธรรมไทยซ่ึงมีผลต่อสงั คมไทยในยคุ ปัจจุบนั สภำพแวดลอ้ มท่ีมี ผล ตอ่ กำรสร้ำงสรรคภ์ ูมิปัญญำไทยและวฒั นธรรมไทย กำรกำหนดแนวทำงและกำรมีส่วนร่วมอนุรักษภ์ ูมิปัญญำไทย และ วฒั นธรรมไทย โดยใชว้ ธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ กระบวนกำรคิด กระบวนกำรสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนกำรปฏิบตั ิ กระบวนกำร เผชิญหนำ้ สถำนกำรณ์ กำรแกป้ ัญหำและกระบวนกำรกลุ่ม เพ่อื ใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจตระหนกั ในควำมสำคญั ของกำรศึกษำประวตั ิศำสตร์ไทย มีบทบำทใน กำร ตดั สินใจ กำรสร้ำงองคค์ วำมรู้ใหม่ เห็นคุณค่ำมีส่วนร่วมในกำรอนุรักษแ์ ละสำมำรถนำควำมรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ไดม้ ี คุณธรรม จริยธรรมและคำ่ นิยมที่เหมำะสม รหสั ตัวชี้วดั ส. ๔.๓ ม. ๕/๓ ม. ๕/๔ รวม ๒ ตวั ชี้วดั

136 คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๓ (พระพทุ ธศาสนา) กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๕๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ........................................................................................................................................................................... ศึกษำ วเิ ครำะห์ ฝึกปฏิบตั ิ สร้ำงควำมคิดรวบยอด นำภูมิปัญญำทอ้ งถิ่น สภำพปัญหำชีวติ สภำพแวดลอ้ ม เขำ้ มำ เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนกำรเรียนรู้ เพ่ือใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ ตระหนกั และเห็นคุณค่ำในเรื่องต่อไปน้ี พระพุทธ เก่ียวกบั ประวตั ิและความสาคญั ของพระพุทธศาสนา เร่ืองลกั ษณะประชำธิปไตยในพระพุทธศำสนำ หลกั กำรของพระพทุ ธศำสนำกบั หลกั วทิ ยำศำสตร์ พระพทุ ธศำสนำเนน้ กำรฝึกหดั อบรมตน กำรพ่ึงตนเอง และกำรมุง่ อิสรภำพ กำรคิดตำมนยั แห่งพระพุทธศำสนำและกำรคิดแบบวทิ ยำศำสตร์ พุทธประวตั ิิ วเิ ครำะห์พทุ ธประวตั ิ ดำ้ นกำร สอน และกำรเผยแผพ่ ระพุทธศำสนำตำมแนวพุทธจริยำ ชาดก เรื่องมโหสถชำดก วนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา เร่ือง หลกั ธรรม คติธรรมท่ีเก่ียวเนื่องในวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา วนั ธรรมสวนะและเทศกาลสาคัญ ศึกษำวเิ ครำะห์คุณค่ำผลงำนภูมิปัญญำทอ้ งถิ่นดำ้ นพระพทุ ธศำสนำ มุ่งอนุรักษศ์ ำสนวตั ถุ และศำสนสถำนในทอ้ งถ่ิน พระธรรม เก่ียวกบั หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เร่ือง พระรัตนตรัย (วเิ ครำะห์ควำมหมำยและคุณค่ำของ ธรรมะ) อริยสัจ ๔ ทุกข์ (ธรรมท่ีควรรู้) : ขนั ธ์ ๕ - โลกธรรม ๘, สมุทยั (ธรรมที่ควรละ) : กรรมนิยำม-กรรม ๑๒ มิจฉำ วณิชชำ ๕, นิโรธ (ธรรมท่ีควรบรรลุ) : วมิ ุตติ ๕, มรรค (ธรรมท่ีควรเจริญ) : อปริหำนิยธรรม ๗ ปำปณิกธรรม ๓ ทิฏฐธมั มิกตั ถสงั วตั ตนิกธรรม ๔ โภคอำทิยะ ๕ อริยวฑั ฒิ ๕ มงคล ๓๘ ในเร่ือง เม่ือถูกโลกธรรมจิตไม่หวน่ั ไหว จิตไม่เศร้ำ โศก จิตไม่มวั หมอง จิตเกษม พุทธศาสนสุภาษติ คือ ปฏิรูปกำรี ธุรวำ อุฏฺฐำตำ วนิ ฺทเต ธน (คนขยนั เอำกำรเอำงำน กระทำ เหมำะสม ยอ่ มหำทรัพยไ์ ด)้ วำเมเถว ปุรโส ยำว อตฺถสฺส นิปฺปทำ (เกิดเป็นคนควรจะพยำยำม จนกวำ่ จะประสบ ควำมสำเร็จ) สนฺตุฏฺฐี ปรม ธน (ควำมสันโดษเป็นทรัพยอ์ ยำ่ งยงิ่ ) อิณำทำน ทุกฺข โลเก (กำรเป็นหน้ีเป็นทุกขใ์ นโลก) พระไตรปิ ฎก วเิ ครำะห์กำรสังคำยนำและกำรเผยแผพ่ ระไตรปิ ฎก เร่ืองน่ารู้จากพระไตรปิ ฎก คนครองเรือนที่ร้ำยและท่ีดี ๑๐ ประเภท ศัพท์ทางพระพทุ ธศาสนา คือ โพธิปักขิยธรรม วำสนำ-บำรมี การบริหารจิตและเจริญปัญญา สวดมนตแ์ ปล และแผเ่ มตตำ วธิ ีปฏิบตั ิและประโยชน์ของกำรบริหำรจิตและเจริญปัญญำ ฝึกกำรบริหำรจิตและเจริญปัญญำตำมหลกั สติ ปัฏฐำน นำวธิ ีกำรบริหำรจิตและเจริญปัญญำไปใชใ้ นกำรพฒั นำกำรเรียนรู้คุณภำพชีวิตและสงั คม พฒั นำกำรเรียนรู้ดว้ ย วธิ ีคิดแบบโยนิโสมนสิกำร ๒ วธิ ีคือ วธิ ีคิดแบบแยกแยะส่วนประกอบ และควำมคิดแบบวภิ ชั ชวำท ศึกษำภูมิปัญญำ ทอ้ งถิ่นในกำรนำหลกั ธรรมไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั พระสงฆ์ เก่ียวกบั ประวตั พิ ทุ ธสาวก พุทธสาวกิ า ไดแ้ ก่ พระอนุรุทธะ พระองคุลิมำล พระธมั มทินนำเถรี และจิตต คหบดี ชาวพุทธตวั อย่าง ไดแ้ ก่ สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช พระธรรมโกศำจำรย์ (พุทธทำสภิกข)ุ พระธรรมโกศำจำรย์ (ปัญญำนนั ทะภิกข)ุ และดร.เอม็ เบดกำร์ หน้าทช่ี าวพุทธ เรื่องกำรบรรพชำอุปสมบท ในพระพทุ ธศำสนำ ประโยชนข์ องกำรบรรพชำและอุปสมบท กำรบวชเป็นแม่ชี ธรรมจำริณี หรือเนกขมั มนำรี กำรศึกษำพุทธศำสนำวนั อำทิตยแ์ ละธรรมศึกษำ กำรปลูกจิตสำนึกและกำรมีส่วนร่วมในสังคมพทุ ธ กำรปฏิบตั ิตนท่ีเหมำะสมในฐำนะผปู้ กครอง และผอู้ ยใู่ นปกครอง ตำมหลกั ทิศเบ้ืองบนในทิศ ๖ กำรเขำ้ ค่ำยพทุ ธบุตร กำรเขำ้ ร่วมพิธีกรรมทำงพระพทุ ธศำสนำ กำร

137 แสดงตนเป็ นพทุ ธมำมกะ มรรยำทชำวพทุ ธและกำรปฏิบตั ิตนต่อพระภิกษุ เรื่องกำรแสดงควำมเคำรพตำมหลกั พระพุทธศำสนำตอ่ พระรัตนตรัย ปูชนียสถำน ปูชนียวตั ถุ และปูชนียบุคคล กำรปฏิสนั ถำรตำมหลกั ปฏิสันถำร ๒ ศาสน พธิ ิี เรื่อง ควำมหมำยและควำมสำคญั คติธรรมในพิธีกรรม บทสวดมนตข์ องนกั เรียน งำนพธิ ี คุณค่ำและประโยชนพ์ ิธี บรรพชำ อุปสมบท คุณสมบตั ิของผขู้ อบรรพชำอุปสมบท เครื่องอฏั ฐบริขำร สัมมนาพระพุทธศำสนำกบั กำรแกป้ ัญหำ และกำรพฒั นำ เร่ือง พระพทุ ธศำสนำกบั กำรเมืองและสันติภำพ เพือ่ ใหเ้ กิดศรัทธำอยำ่ งยง่ิ ต่อพระรัตนตรัย และรักกำรเรียนรู้พระพุทธศำสนำ ประพฤติปฏิบตั ิตนเป็น พทุ ธศำสนิกชนท่ีดีมีคุณธรรม จริยธรรมในกำรอยรู่ ่วมกนั ในสงั คม และสำมำรถนำหลกั ธรรมไปใชเ้ ป็นเครื่องมือ ใน กำรเรียนรู้ กำรทำงำนอยำ่ งมีคุณคำ่ ต่อชีวติ ตนเองและสังคมโดยส่วนรวม รหัสตวั ชี้วดั ส ๑.๑ ม.๕/๒ ม.๕/๖ ม.๕/๗ ม.๕/๘ ม.๕/๑๓ ม.๕/๑๔ ม.๕/๑๕ ม.๕/๑๖ ม. ๕/๑๙ ม. ๕/๒๐ ม.๕/๒๑ ม. ๕/๒๒ ส ๑.๒ ม.๕/๑ ม.๕/๒ ม. ๕/๓ ม.๕/๔ ม.๕/๕ รวม ๑๗ ตวั ชี้วดั

138 คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๒๓๑๐๓ สังคมศึกษา ๔ (เศรษฐศาสตร์) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ........................................................................................................................................................................... ศึกษำ และอภิปรำยกำรกำหนดรำคำและค่ำจำ้ งในระบบเศรษฐกิจ แบบตำ่ งๆ และบทบำทของรัฐ ในกำร แทรกแซงรำคำและกำรควบคุมรำคำเพือ่ กำรแจกจ่ำยและจกั สรรในทำงเศรษฐกิจ ควำมสำคญั ของปรัชญำ ของเศรษฐกิจพอเพยี งที่มีตอ่ เศรษฐกิจ สังคมของประเทศชำติและประยกุ ตใ์ ชเ้ ศรษฐกิจพอเพยี งในกำรดำเนินชีวติ ของตนเองและครอบครัว และเห็นควำมสำคญั ในกำรนำควำมสำคญั ของปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี งมำใชใ้ น กำรวำงแผนพฒั นำเศรษฐกิจและสังคมฉบบั ปัจจุบนั ศึกษำ ควำมหมำย ววิ ฒั นำกำรของสหกรณ์ในประเทศไทย ตระหนกั ถึงควำมสำคญั ของระบบสหกรณ์ ในกำรพฒั นำเศรษฐกิจในระดบั ชุมชนและประเทศ วเิ ครำะห์ปัญหำทำงเศรษฐกิจในชุมชนและเสนอแนวทำงแกไ้ ข บทบำทของรัฐบำลดำ้ นนโยบำยกำรเงิน กำรคลงั ในกำรพฒั นำเศรษฐกิจของประเทศ วเิ ครำะห์สำเหตุและผล กระทบที่เกิดจำกภำวะเศรษฐกิจ และบอกแนวทำงในกำรแกไ้ ขปัญหำโดยใชน้ โยบำยกำรเงิน กำรคลงั ศึกษำ วเิ ครำะห์วิวฒั นำกำรของกำรเปิ ด เสรีทำงเศรษฐกิจ โดยใชก้ ระบวนกำรคิด กระบวนกำรแกป้ ัญหำ กระบวนกำรสืบคน้ ขอ้ มูล กระบวนกำรปฏิบตั ิกระบวนกำร ทำงสงั คม เพ่ือใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจหลกั เศรษฐศำสตร์ ปัญหำท่ีเกิด แนวทำงกำรแกไ้ ขรู้จกั ใชท้ รัพยำกรธรรมชำติ ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด เป็นแนวทำงในกำรแกไ้ ขปัญหำต่ำงๆ ใหม้ ีประสิทธิภำพเพอ่ื ใหป้ ระชำชนมีชีวติ ควำมเป็น อยทู่ ี่ดีและส่งผลใหป้ ระเทศชำติเจริญกำ้ วหนำ้ เพอื่ วเิ ครำะห์ผลกระทบของกำรเปิ ดเสรีทำงเศรษฐกิจในยคุ โลกำภิวตั น์ท่ีมีผลต่อสังคมไทย วเิ ครำะห์ผลดี ผลเสียของควำมร่วมมือทำงเศรษฐกิจระหวำ่ งประเทศในรูปแบบต่ำงๆท่ีนำไปสู่กำรพ่ึงพำ กำรแข่งขนั กำรขดั แยง้ และกำรประสำนประโยชน์ทำงเศรษฐกิจกำรคำ้ ระหวำ่ งประเทศ รหสั ตัวชี้วดั ส. ๓.๑ ม. ๕/๑ ม. ๕/๒ ม. ๕/๓ ม.๕/๔ ส. ๓.๒ ม. ๕/๑ ม. ๕/๒ ม. ๕/๓ รวม ๗ ตวั ชี้วดั

139 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๒๑๐๒ รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ....................................................................................................................................................................... ศึกษำ วิเครำะห์ ควำมสำคญั ของเวลำและยุคสมยั ทำงประวตั ิศำสตร์ที่แสดงถึงกำรเปลี่ยนแปลงของ มนุษยชำติ ข้นั ตอนของวธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ คุณค่ำและประโยชน์ของวธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ ที่มีผลต่อกำรศึกษำประวตั ิศำสตร์สำกล อำรยธรรมลุ่มแม่น้ำไทกรีส – ยูเฟรติส ไนล์ ฮวงโห สินธุ และอำรย ธรรมกรีก – โรมนั กำรติดต่อระหวำ่ งโลกตะวนั ออกกบั โลกตะวนั ตก ที่มีผลตอ่ พฒั นำกำรและกำรเปล่ียนแปลง ของโลก โดยใช้วิธีกำรทำงประวตั ิศำสตร์สำกล กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจ ตรวจสอบ บนั ทึกกำรจดั กลุ่มขอ้ มูลและกำรอภิปรำย เพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจในกำรนำเสนอ กำรสื่อสำรส่ิงที่เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำร ตดั สินใจ กำรสร้ำงองคค์ วำมรู้ใหม่ เห็นคุณค่ำและสำมำรถนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจำวนั ได้ มี คุณธรรม จริยธรรม และคำ่ นิยมท่ีเหมำะสม รหัสตัวชี้วดั ส ๔.๑ ม.๖/๑ , ม.๖/๒ ส ๔.๒ ม.๔/๑ รวม ๓ ตวั ชี้วดั

140 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๓๑๐๔ รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ๔ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ....................................................................................................................................................................... ศึกษำ วเิ ครำะห์ เหตุกำรณ์สำคญั ต่ำง ๆ ที่ส่งผลตอ่ กำรเปล่ียนแปลงของโลกในปัจจุบนั กำรขยำย กำรล่ำอำณำนิคมของประเทศในยโุ รปไปยงั ทวปี อเมริกำ แอฟริกำ และเอเชีย ผลกระทบของกำรขยำยอิทธิพล กำรล่ำอำณำนิคม ควำมร่วมมือและควำมขดั แยง้ ของมนุษยชำติในโลก รวมท้งั สถำนกำรณ์สำคญั ของโลกใน คริสตศ์ ตวรรษที่ 21 โดยใชว้ ธิ ีกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กระบวนกำรคิด กระบวนกำรสืบคน้ ขอ้ มูล กำรปฏิบตั ิ กำรเผชิญ สถำนกำรณ์ กระบวนกำรแกป้ ัญหำ และกระบวนกำรกลุ่ม เพ่อื ใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ตระหนกั ในควำมสำคญั ของกำรศึกษำประวตั ิศำสตร์สำกล มีคุณลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงคใ์ นดำ้ นใฝ่ เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน ซื่อสัตยส์ ุจริต มีวินยั มีควำมรับผิดชอบ รหัสตัวชี้วดั ส ๔.๒ ม.๖/๒ ม.๖/๓ ม.๖/๔ รวม ๓ ตัวชี้วดั

141 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๓๑๐๑ รายวชิ า สังคมศึกษา ๕ (ภูมศิ าสตร์) กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๖ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ....................................................................................................................................................................... ศึกษำวธิ ีกำรใชเ้ คร่ืองมือทำงภูมิศำสตร์ท่ีใหข้ อ้ มูลทำงภูมิสังคมของไทย และภูมิภำคต่ำง ๆ ทวั่ โลก เพ่ือกำรนำไปใช้ในกำรรวบรวม วิเครำะห์ และนำเสนอขอ้ มูลภูมิสำรสนเทศ อย่ำงมีประสิทธิภำพ อิทธิพลของสภำพภูมิศำสตร์ ซ่ึงทำให้เกิดปัญหำทำงกำยภำพหรือภยั พิบตั ิทำงธรรมชำติ ในประเทศไทยของ ภำคต่ำง ๆ ของโลก รวมท้งั กำรเปล่ียนแปลงของพ้ืนท่ี ซ่ึงไดร้ ับอิทธิพลจำกปัจจยั ทำงภูมิศำสตร์ในประเทศไทย และทวปี ต่ำง ๆ กำรเปลี่ยนแปลงทำงธรรมชำติท่ีเกิดข้ึนในโลกวำ่ เป็นผลสืบเนื่องมำจำกกำรกระทำของมนุษย์ หรื อเกิดจำกธรรมชำติ โดยใช้กระบวนกำรวิเครำะห์และประเมินสถำนกำรณ์และวิกฤตกำรณ์ด้ำน ทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและโลก กำรหำมำตรกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำ บทบำทขององคก์ ำรและกำรประสำนควำมร่วมมือท้งั ในประเทศและนอกประเทศเก่ียวกบั กฎหมำยส่ิงแวดลอ้ ม กำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติและสิ่งแวดล้อม โดยระบุแนวทำงกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรธรรมชำติและ สิ่งแวดลอ้ มในภูมิภำคตำ่ ง ๆ ของโลกไดอ้ ยำ่ งเหมำะสมและสร้ำงสรรค์ โดยใช้กระบวนกำรคิด วิเครำะห์ สังเครำะห์ สืบเสำะหำควำมรู้ข้อมูล อภิปรำย กระบวนกำร แกป้ ัญหำ กระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์ เพื่อให้เกิดควำมตระหนัก มีจิตสำนึก และประเมินค่ำกำรใช้ประโยชน์จำกส่ิงแวดล้อม ในกำร สร้ำงสรรค์วฒั นธรรม อันเป็ นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นท้งั ในประเทศไทยและโลก โดยมีส่วนร่วมในกำร แกป้ ัญหำและดำเนินชีวติ ตำมแนวทำงกำรอนุรักษท์ รัพยำกรและสิ่งแวดลอ้ ม เพอ่ื กำรพฒั นำท่ียงั่ ยนื รหสั ตัวชี้วดั ส ๕.๑ ม. ๖/๑ ม. ๖/๒ ม. ๖/๓ ม. ๖/๔ ส ๕.๒ ม. ๖/๑ ม.๖/๒ ม.๖/๓ ม.๖/๔ ม.๖/๕ รวม ๙ ตวั ชี้วดั

142 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๓๑๐๒ รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ....................................................................................................................................................................... ศึกษำ วิเครำะห์ ควำมสำคญั ของเวลำและยุคสมยั ทำงประวตั ิศำสตร์ท่ีแสดงถึงกำรเปลี่ยนแปลงของ มนุษยชำติ ข้นั ตอนของวธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ คุณค่ำและประโยชน์ของวธิ ีกำรทำงประวตั ิศำสตร์ ที่มีผลต่อกำรศึกษำประวตั ิศำสตร์สำกล อำรยธรรมลุ่มแม่น้ำไทกรีส – ยูเฟรติส ไนล์ ฮวงโห สินธุ และอำรย ธรรมกรีก – โรมนั กำรติดตอ่ ระหวำ่ งโลกตะวนั ออกกบั โลกตะวนั ตก ท่ีมีผลตอ่ พฒั นำกำรและกำรเปล่ียนแปลง ของโลก โดยใช้วิธีกำรทำงประวตั ิศำสตร์สำกล กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจ ตรวจสอบ บนั ทึกกำรจดั กลุ่มขอ้ มูลและกำรอภิปรำย เพื่อให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจในกำรนำเสนอ กำรส่ือสำรสิ่งท่ีเรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำร ตดั สินใจ กำรสร้ำงองคค์ วำมรู้ใหม่ เห็นคุณค่ำและสำมำรถนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ในชีวติ ประจำวนั ได้ มี คุณธรรม จริยธรรม และคำ่ นิยมที่เหมำะสม รหสั ตัวชี้วดั ส ๔.๑ ม.๖/๑ , ม.๖/๒ ส ๔.๒ ม.๔/๑ รวม ๓ ตวั ชี้วดั

143 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๓๑๐๔ รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จานวน ๐.๕ หน่วยกติ ....................................................................................................................................................................... ศึกษำ วเิ ครำะห์ เหตุกำรณ์สำคญั ตำ่ ง ๆ ที่ส่งผลตอ่ กำรเปล่ียนแปลงของโลกในปัจจุบนั กำรขยำย กำรล่ำอำณำนิคมของประเทศในยโุ รปไปยงั ทวปี อเมริกำ แอฟริกำ และเอเชีย ผลกระทบของกำรขยำยอิทธิพล กำรล่ำอำณำนิคม ควำมร่วมมือและควำมขดั แยง้ ของมนุษยชำติในโลก รวมท้งั สถำนกำรณ์สำคญั ของโลกใน คริสตศ์ ตวรรษท่ี 21 โดยใชว้ ธิ ีกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กระบวนกำรคิด กระบวนกำรสืบคน้ ขอ้ มูล กำรปฏิบตั ิ กำรเผชิญ สถำนกำรณ์ กระบวนกำรแกป้ ัญหำ และกระบวนกำรกลุ่ม เพอ่ื ใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ตระหนกั ในควำมสำคญั ของกำรศึกษำประวตั ิศำสตร์สำกล มีคุณลกั ษณะ ที่พงึ ประสงคใ์ นดำ้ นใฝ่ เรียนรู้ มุง่ มน่ั ในกำรทำงำน ซื่อสัตยส์ ุจริต มีวนิ ยั มีควำมรับผดิ ชอบ รหัสตัวชี้วดั ส ๔.๒ ม.๖/๒ ม.๖/๓ ม.๖/๔ รวม ๓ ตวั ชี้วดั

144 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ส๓๓๑๐๓ รายวชิ า สังคมศึกษา ๖ (พระพทุ ธศาสนา) กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ....................................................................................................................................................................... ศึกษำ วิเครำะห์ ประวตั ิและควำมสำคญั ของพระพุทธศำสนำ เรื่อง พระพุทธศำสนำเป็ นศำสตร์แห่ง กำรศึกษำ พระพุทธศำสนำเน้นควำมสัมพนั ธ์ของเหตุปัจจยั และวิธีกำรแก้ปัญหำ พุทธศำสนำฝึ กคนไม่ให้ ประมำท พระพุทธศำสนำมุ่งประโยชนแ์ ละสันติสุขแก่บุคคล สังคม และโลก หลกั ธรรมทำงพระพุทธศำสนำ เรื่อง พระรัตนตรัย อริยสัจ 4 ขนั ธ์ 5 พุทธศำสนสุภำษิต พระไตรปิ ฎก คำศพั ท์ทำงพระพุทธศำสนำ กำร บริหำรจิตและเจริญปัญญำ ภูมิปัญญำทอ้ งถ่ินในกำรนำหลกั ธรรมไปใช้ในชีวิตประจำวนั ศึกษำประวตั ิพุทธ สำวก สำวิกำ เร่ือง พระอำนนท์ พระปฏำจำรำเถรี จูฬสุภทั ทำ สุมนมำลำกำร ชำวพุทธตวั อยำ่ ง หน้ำท่ีชำว พุทธเรื่อง วิเครำะห์หน้ำที่พระภิกษุในฐำนะพระนักเทศน์ บทบำทของอุบำสก อุบำสิกำ มำรยำทชำว พุทธ ศำสนพธิ ี สมั มนำพระพุทธศำสนำกบั กำรแกป้ ัญหำและกำรพฒั นำแบบยง่ั ยนื โดยใชก้ ระบวนกำรคิดวเิ ครำะห์ สังเครำะห์ กระบวนกำรสืบคน้ ขอ้ มูล อภิปรำย ฝึ กปฏิบตั ิเพื่อให้เกิด ควำมรู้ควำมคิดควำมเขำ้ ใจ นำควำมรู้ท่ีไดไ้ ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั ให้เป็ นมนุษยท์ ่ีสมบูรณ์ สำมำรถ ดำรงอยใู่ นสงั คมอยำ่ งมีควำมสุข เพือ่ ใหเ้ กิดควำมศรัทธำอยำ่ งยงิ่ ตอ่ พระรัตนตรัย และรักกำรเรียนรู้พระพุทธศำสนำ ประพฤติ ปฏิบตั ิตน เป็ นพุทธศำสนิกชนท่ีดี มีคุณธรรม จริยธรรมในกำรอยูร่ ่วมกนั ในสังคมและสำมำรถนำหลกั ธรรมไปใช้เป็ น เคร่ืองมือในกำรเรียนรู้ กำรทำงำนอยำ่ งมีคุณค่ำตอ่ ชีวติ ตนเองและสงั คม รหัสตวั ชี้วดั ส.๑.๑ ม.๔/๙ ม.๔/๑๐ ม.๔/๑๓ม.๔/๑๔ม.๔/๑๕ม.๔/๑๙ ม.๔/๒๑ ม.๔/๒๒ ส.๑.๒ ม.๔/๑ ม.๔/๒ ม.๔/๔ ม.๔/๕ รวม ๑๒ ตัวชี้วดั

145 คาอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ หน้าทพี่ ลเมือง ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย ส๓๐๒๓๑ หน้าทพี่ ลเมือง๑ จานวน๒๐ชั่วโมง / ภาค ๐.๕ หน่วยกติ ส๓๐๒๓๒ หน้าทพ่ี ลเมือง๒ จานวน๒๐ชั่วโมง / ภา ๐.๕ หน่วยกติ มีส่วนร่วมและแนะนำผูอ้ ื่นใหอ้ นุรักษแ์ ละเผยแพร่มำรยำทไทยสู่สำธำรณะในเรื่องกำรแสดงควำม เคำรพกำรสนทนำกำรแต่งกำยกำรมีสัมมำคำรวะเห็นคุณค่ำอนุรักษส์ ืบสำนประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่ขนบธรรมเนียม ประเพณีศิลปวฒั นธรรมและภูมิปัญญำไทยปฏิบตั ิตนเป็ นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเองในเร่ืองควำมอดทนใฝ่ หำควำมรู้และ ต้งั ใจปฏิบตั ิหนำ้ ท่ี ปฏิบตั ิตนเป็ นแบบอยำ่ งมีส่วนร่วมในกำรจดั กิจกรรมและสนบั สนุนใหผ้ อู้ ื่นแสดงออกถึงควำมรักชำติ ยดึ มน่ั ในศำสนำและเทิดทูนสถำบนั พระมหำกษตั ริยป์ ฏิบตั ิตนเป็นแบบอยำ่ งประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่พระบรม รำโชวำทในเรื่องกำรมีระเบียบวนิ ยั ควำมสำมคั คีหลกั กำรทรงงำนในเรื่องระเบิดจำกขำ้ งในไม่ติดตำรำบริกำร รวมท่ีจุดเดียวใชอ้ ธรรมปรำบอธรรมและหลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี งปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเองใน เรื่องควำมซื่อสตั ยส์ ุจริตขยนั หมนั่ เพยี รอดทนใฝ่ หำควำมรู้ต้งั ใจปฏิบตั ิหนำ้ ที่ยอมรับผลที่เกิดจำกกำรกระทำของ ตนเอง ปฏิบตั ิตนเป็ นแบบอยำ่ งและส่งเสริมสนบั สนุนใหผ้ อู้ ื่นเป็ นพลเมืองดีตำมวถิ ีประชำธิปไตยในเร่ืองกำร เป็นผนู้ ำและกำรเป็นสมำชิกท่ีดีกำรใชส้ ิทธิและหนำ้ ที่กำรใชเ้ สรีภำพอยำ่ งรับผดิ ชอบควำมกลำ้ หำญทำง จริยธรรมกำรเสนอแนวทำงกำรแกป้ ัญหำสงั คมต่อสำธำรณะกำรติดตำมและประเมินข่ำวสำรทำงกำรเมืองและ กำรรู้เท่ำทนั ส่ือกำรมีส่วนร่วมในกิจกรรมทำงกำรเมืองประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนกำรประชำธิปไตยในกำรวพิ ำกษ์ ประเด็นนโยบำยสำธำรณะท่ีตนสนใจมีส่วนร่วมและตดั สินใจเลือกต้งั อยำ่ งมีวจิ ำรณญำณรู้ทนั ข่ำวสำรและรู้ทนั สื่อคำดกำรณ์เหตุกำรณ์ล่วงหนำ้ บนพ้ืนฐำนของขอ้ มูลปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวินยั ในตนเองในเร่ืองควำมซ่ือสตั ยส์ ุจริต ขยนั หมน่ั เพยี รอดทนใฝ่ หำควำมรู้ต้งั ใจปฏิบตั ิหนำ้ ที่และยอมรับผลที่เกิดจำกกำรกระทำของตนเอง ยอมรับในอตั ลกั ษณ์และเคำรพควำมหลำกหลำยในสงั คมพหุวฒั นธรรมเห็นคุณคำ่ ของกำรอยรู่ ่วมกนั อยำ่ งสนั ติและพ่งึ พำซ่ึงกนั และกนั ดว้ ยกำรเคำรพซ่ึงกนั และกนั ไม่แสดงกิริยำและวำจำดูหมิ่นผอู้ ่ืนช่วยเหลือซ่ึง กนั และกนั แบ่งปันปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเองในเร่ืองควำมอดทนใฝ่ หำควำมรู้และยอมรับผลที่เกิดจำกกำร กระทำของตนเอง โดยใชก้ ระบวนกำรกลุ่มกระบวนกำรคิดกระบวนกำรปฏิบตั ิกระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์ กระบวนกำรแกป้ ัญหำกระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมีลกั ษณะท่ีดีของคนไทยภำคภูมิใจในควำมเป็นไทยแสดงออกถึงควำมรักชำติยดึ มน่ั ใน ศำสนำและเทิดทูนสถำบนั พระมหำกษตั ริยเ์ ป็ นพลเมืองดีในระบอบประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั ริยท์ รงเป็น ประมุขมีส่วนร่วมทำงกำรเมืองกำรปกครองมีวจิ ำรณญำณในกำรเลือกต้งั และกำรวพิ ำกษน์ โยบำยสำธำรณะอยู่ ร่วมกบั ผอู้ ื่นอยำ่ งสนั ติจดั กำรควำมขดั แยง้ ดว้ ยสันติวธิ ีและมีวนิ ยั ในตนเอง

146 ผลการเรียนรู้ ๑. มีส่วนร่วมและแนะนำผูอ้ ื่นใหอ้ นุรักษแ์ ละเผยแพร่มำรยำทไทยสู่สำธำรณะ ๒. เห็นคุณค่ำอนุรักษส์ ืบสำนประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่ขนบธรรมเนียมประเพณีศิลปวฒั นธรรมและภูมิ ปัญญำไทย ๓. เป็นแบบอยำ่ งมีส่วนร่วมในกำรจดั กิจกรรมและสนบั สนุนใหผ้ อู้ ่ืนแสดงออกถึงควำมรักชำติยดึ มน่ั ในศำสนำและเทิดทูนสถำบนั พระมหำกษตั ริย์ ๔. เป็นแบบอยำ่ งประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่พระบรมรำโชวำทหลกั กำรทรงงำนและหลกั ปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพยี ง ๕. เป็นแบบอยำ่ งและส่งเสริมสนบั สนุนใหผ้ อู้ ่ืนเป็นพลเมืองดีตำมวถิ ีประชำธิปไตย ๖. ประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนกำรประชำธิปไตยในกำรวพิ ำกษป์ ระเด็นนโยบำยสำธำรณะที่ตนสนใจ ๗. มีส่วนร่วมและตดั สินใจเลือกต้งั อยำ่ งมีวจิ ำรณญำณ ๘. รู้ทนั ข่ำวสำรและรู้ทนั ส่ือ ๙. คำดกำรณ์เหตุกำรณ์ล่วงหนำ้ บนพ้นื ฐำนของขอ้ มูล ๑๐. ยอมรับในอตั ลกั ษณ์และเคำรพควำมหลำกหลำยในสังคมพหุวฒั นธรรม ๑๑.เห็นคุณคำ่ ของกำรอยรู่ ่วมกนั อยำ่ งสันติ และพ่งึ พำซ่ึงกนั และกนั ๑๒.ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง รวมท้งั หมด๑๒ผลการเรียนรู้

147 คาอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ หน้าทพี่ ลเมือง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ส๓๐๒๓๓ หน้าทพ่ี ลเมือง๓ จานวน๒๐ช่ัวโมง / ภาค๐.๕หน่วยกติ ส๓๐๒๓๔ หน้าทพ่ี ลเมือง๔ จานวน๒๐ชั่วโมง / ภาค๐.๕หน่วยกติ แสดงออก แนะผอู้ ่ืน และยกยอ่ งบุคคลที่มีควำมเอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผแ่ ละเสียสละตอ่ สงั คม ปฏิบตั ิตนเป็ นผมู้ ี วนิ ยั ในตนเอง ในเรื่องใฝ่ หำควำมรู้ ปฏิบตั ิตนเป็ นแบบอยำ่ ง มีส่วนร่วมในกำรจดั กิจกรรม และสนบั สนุนใหผ้ อู้ ื่นแสดงออกถึงควำมรัก ชำติ ยดึ มนั่ ในศำสนำ และเทิดทูนสถำบนั พระมหำกษตั ริย์ ปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยำ่ ง ประยกุ ต์ และเผยแพร่ พระบรมรำโชวำท ในเรื่องกำรมีระเบียบวินยั ควำมสำมคั คี หลกั กำรทรงงำน ในเร่ืองระเบิดจำกขำ้ งใน ไม่ติด ตำรำ บริกำรรวมท่ีจุดเดียว ใชอ้ ธรรมปรำบอธรรม และหลกั ปรัชญำเศรษฐกิจพอเพยี ง ปฏิบตั ิตนเป็ นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง ในเร่ืองควำมซื่อสัตยส์ ุจริต ขยนั หมน่ั เพียร อดทน ใฝ่ หำควำมรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหนำ้ ท่ี ยอมรับผลที่เกิด จำกกำรกระทำของตนเอง ปฏิบตั ิตนเป็ นแบบอยำ่ งและส่งเสริมสนบั สนุนใหผ้ อู้ ่ืนเป็ นพลเมืองดีตำมวถิ ีประชำธิปไตย ในเร่ืองกำร เป็นผนู้ ำและกำรเป็นสมำชิกที่ดี กำรใชส้ ิทธิและหนำ้ ที่ กำรใชเ้ สรีภำพอยำ่ งรับผดิ ชอบ ควำมกลำ้ หำญทำง จริยธรรม กำรเสนอแนวทำงแกป้ ัญหำสังคมต่อสำธำรณะ กำรติดตำมและประเมินขำ่ วสำรทำงกำรเมือง และ กำรรู้เท่ำทนั ส่ือ กำรมีส่วนร่วมในกิจกรรมทำงกำรเมือง ประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนกำรประชำธิปไตยในกำรวพิ ำกษ์ ประเด็นนโยบำยสำธำรณะท่ีตนสนใจ มีส่วนร่วมและตดั สินใจเลือกต้งั อยำ่ งมีวจิ ำรณญำณ รู้ทนั ข่ำวสำรและ รู้ทนั ส่ือ คำดกำรณ์ล่วงหนำ้ บนพ้ืนฐำนของขอ้ มูล ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง ในเรื่องควำมซ่ือสตั ยส์ ุจริต ขยนั หมนั่ เพยี ร อดทน และยอมรับผลท่ีเกิดจำกกำรกระทำของตนเอง มีส่วนร่วมในกำรแกป้ ัญหำเมื่อเกิดควำมขดั แยง้ โดยสนั ติวิธี ดว้ ยกำรเจรจำไกล่เกลี่ย กำรเจรจำต่อรอง กำรระงบั ควำมขดั แยง้ และสร้ำงเครือข่ำยป้องกนั ปัญหำควำมขดั แยง้ ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง ในเร่ือง ควำมซื่อสัตยส์ ุจริต อดทน และยอมรับผลที่เกิดจำกกำรกระทำของตนเอง โดยใชก้ ระบวนกำรกลุ่ม กระบวนกำรคิด กระบวนกำรปฏิบตั ิ กระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์ กระบวนกำรแกป้ ัญหำ กระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีลกั ษณะท่ีดีของคนไทย ภำคภูมิใจในควำมเป็นไทย แสดงออกถึงควำมรักชำติ ยดึ มนั่ ในศำสนำ และเทิดทูนสถำบนั พระมหำกษตั ริย์ เป็นพลเมืองที่ดีในระบอบประชำธิปไตยอนั มีพระมหำกษตั ริย์ ทรงเป็นประมุข มีส่วนร่วมทำงกำรเมืองกำรปกครอง มีวจิ ำรณญำณในกำรเลือกต้งั และกำรวพิ ำกษน์ โยบำย สำธำรณะ อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นอยำ่ งสันติ สำมำรถจดั กำรควำมขดั แยง้ ดว้ ยสนั ติวธิ ี และมีวนิ ยั ในตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑.แสดงออก แนะนำผอู้ ่ืน และยกยอ่ งบุคคลท่ีมีควำมเอ้ือเฟ้ื อเผอื่ แผ่ และเสียสละ ๒.เป็นแบบอยำ่ ง มีส่วนร่วมในกำรจดั กิจกรรม และสนบั สนุนใหผ้ อู้ ่ืนแสดงออกถึงควำมรักชำติ ยดึ มนั่ ในศำสนำ และเทิดทูนสถำบนั พระมหำกษตั ริย์

148 ๓.เป็นแบบอยำ่ ง ประยกุ ต์ และเผยแผ่ พระบรมรำโชวำท หลกั กำรทรงงำน และหลกั ปรัชญำของ เศรษฐกิจพอเพียง ๔.เป็นแบบอยำ่ งและส่งเสริมสนบั สนุนใหผ้ อู้ ่ืนเป็นพลเมืองดีตำมวถิ ีประชำธิปไตย ๕.ประยกุ ตใ์ ชก้ ระบวนกำรประชำธิปไตยในกำรวพิ ำกษป์ ระเด็นนโยบำยสำธำรณะท่ีตนสนใจ ๖.มีส่วนร่วมและตดั สินใจเลือกต้งั อยำ่ งมีวจิ ำรณญำณ ๗.รู้ทนั ขำ่ วสำรและรู้ทนั ส่ือ ๘.คำดกำรณ์เหตุกำรณ์ล่วงหนำ้ บนพ้ืนฐำนของขอ้ มูล ๙.มีส่วนร่วมในกำรแกป้ ัญหำเม่ือเกิดควำมขดั แยง้ โยสนั ติวธิ ีและสร้ำงเครือขำ่ ยป้องกนั ปัญหำควำม ขดั แยง้ ๑๐.ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีวนิ ยั ในตนเอง รวมท้งั หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

149 คาอธิบายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook