50 กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ๕ รหสั วชิ า ค๒๓๑๐๑ ๑.๕ หน่วยการเรียน จานวนเวลา ๖๐ ชั่วโมง ศึกษำฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณ และฝึกกำรแกป้ ัญหำในสำระตอ่ ไปน้ี ปริมำตรและพ้ืนท่ีผวิ พ้ืนท่ีผิวและปริมำตรปริซึม พ้ืนที่ผวิ และปริมำตรทรงกระบอก พ้ืนท่ีผวิ และ ปริมำตรพรี ะมิด พ้นื ที่ผวิ และ ปริมำตร กรวย พ้ืนที่ผวิ และ ปริมำตรทรงกลม เปรียบเทียบหน่วยควำมจุหรือ หน่วยปริมำตร กำรนำไปใช้ กรำฟ กรำฟแสดงควำมเก่ียวขอ้ งของปริมำณสองชุด กำรเขียนกรำฟของสมกำรเชิงเส้นสองตวั แปร อำ่ นและแปลควำมหมำยกรำฟ ระบบสมกำรเชิงเส้น สมกำรเชิงเส้นสองตวั แปร กรำฟของสมกำรเชง้ เส้นสองตวั แปร ระบบสมกำรเชง้ เส้นสองตวั แปร วธิ ีแกร้ ะบบสมกำรเชง้ เส้นสองตวั แปร โจทยส์ มกำรเชง้ เส้นสองตวั แปร ระบบสมกำรเชิงเส้น ที่ประกอบดว้ ยสมกำรเชิงเส้นและสมกำรดีกรีสอง ระบบสมกำรท่ีประกอบดว้ ยสมกำรดีกรีสอง ควำมคลำ้ ย สมบตั ิของกำรคลำ้ ยกนั ของรูปสำมเหลี่ยมควำมสมั พนั ธ์ของดำ้ น และมุมภำยในของรูป สำมเหลี่ยม เง่ือนไขท่ีทำใหร้ ูปสำมเหลี่ยมสองรูปคลำ้ ยกนั กำรแกป้ ัญหำกำรนำไปใช้ อตั รำ ส่วนตรีโกณของ มุม ๓๐ , ๔๕ , ๖๐ อตั รำส่วนตรีโกณมิติของมุมประกอบหน่ึงฉำก ควำมสัมพนั ธ์ของอตั รำส่วนตรีโกณและ กำรนำไปใช้ โดยจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ในชีวติ ประจำวนั ท่ีใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ โดย กำรปฏิบตั ิจริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพ่ือพฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคิดคำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรให้ เหตุผล กำรสื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และนำประสบกำรณ์ดำ้ นควำมรู้ ควำมคิดทกั ษะกระบวนกำรท่ีได้ ไปใชใ้ นกำรเรียนรู้สิ่งต่ำง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ งสร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณคำ่ และมีเจตคติที่ดีต่อ คณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระบบระเบียบ มีควำมรอบคอบ มีควำมรับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และมี ควำมเช่ือมน่ั ในตนเอง กำรวดั และประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรที่หลำกหลำยตำมสภำพควำมเป็นจริงใหส้ อดคลอ้ งกบั เน้ือหำและ ทกั ษะที่ตอ้ งกำรวดั มาตรฐานผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ค ๒.๑ ม.๓/๑ ค ๒.๑ ม.๓/๒ ค ๒.๑ ม.๓/๓ ค ๒.๑ ม.๓/๔ ค ๒.๒ ม.๓/๑ ค ๓.๑ ม.๓/๑ ค ๔.๒ ม.๓/๒ ค ๔.๒ ม.๓/๓ ค ๔.๒ ม.๓/๔ ค ๔.๒ ม.๓/๕ ค ๓.๒ ม.๓/๑ รวม ๑๒ ตัวชี้วดั
51 กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดับช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ๖ รหสั วชิ า ค๒๓๑๐๒ ๑.๕ หน่วยการเรียน จานวนเวลา ๖๐ ชั่วโมง ศึกษำฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณ และฝึกกำรแกป้ ัญหำในสำระต่อไปน้ี อสมกำร แกอ้ สมกำรเชิงเส้นตวั แปรเดียว แกโ้ จทยป์ ัญหำอสมกำรเชิงเส้นตวั แปรเดียว ควำมน่ำจะเป็น กำรทดลองสุ่มและเหตุกำรณ์ กฎกำรณ์นบั เบ้ืองตน้ ควำมน่ำจะเป็นของเหตุกำรณ์ สถิติ กำหนดประเด็นเขียนขอ้ คำถำม กำหนดวธิ ีกำรศึกษำและเก็บรวบรวมขอ้ มูลกำรนำเสนอขอ้ มูล กำรนำเสนอขอ้ มูลแจกแจงควำมถ่ี กำรสร้ำงตำรำงแจกแจงควำมถ่ีฮิสโทแกรม และรูปหลำยเหล่ียมควำมถ่ี ควำมหมำยทำงสถิติ อ่ำนและแปรควำมหมำยและวเิ ครำะห์ขอ้ มูลจำกกำรนำเสนอควำมคำดเคล่ือนท่ีอำจเกิดข้ึน ไดจ้ ำกกำรนำเสนอขอ้ มูลทำงสถิติ กำรเสริมทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ กำรเสริมทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์เก่ียวกบั เลขยก กำลงั อตั รำส่วนและร้อยละ ปริมำตรและพ้นื ที่ผวิ สถิติ ควำมน่ำจะเป็ น เพ่อื ใหน้ กั เรียนสำมำรถคิดอยำ่ งมีเหตุผลและสำมำรถใชเ้ หตุผลในกำรเสดงควำมคิดเห็นอยำ่ งเป็น ระเบียบ ชดั เจน และรัดกมุ มีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในหลกั กำร และโครงสร้ำงของคณิตศำสตร์ มีควำมคิดริเร่ิมและ สร้ำงสรรค์ มีควำมสำมำรถและมน่ั ใจในกำรแกป้ ัญหำ ตลอดจนคิดคำนวณไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งและตระหนกั ใน คุณคำ่ ของคณิตศำสตร์ และมีเจตคติท่ีดีต่อวชิ ำคณิตศำสตร์ กำรวดั และประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรที่หลำกหลำยตำมสภำพควำมเป็นจริงใหส้ อดคลอ้ งกบั เน้ือหำและ ทกั ษะที่ตอ้ งกำรวดั มาตรฐานผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวงั ค ๕.๑ ม.๓/๒ ค ๕.๑ ม.๓/๓ ค ๕.๑ ม.๓/๔ ค ๔.๒ ม.๓/๑ ค ๕.๒ ม.๓/๑ ค ๕.๑ ม.๓/๑ ค ๖.๑ ม.๓/๒ ค ๖.๑ ม.๓/๓ ค ๖.๑ ม.๓/๔ ค ๕.๓ ม.๓/๑ ค ๕.๓ ม.๓/๒ ค ๖.๑ ม.๓/๑ ค ๖.๑ ม.๓/๕ ค ๖.๑ ม.๓/๖ รวม ๑๔ ตวั ชี้วดั
52 คาอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ ค๒๑๒๐๑ คณติ ศาสตร์เพมิ่ เติม ๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ศึกษำ วเิ ครำะห์ อธิบำย ฝึกทกั ษะกำรแกป้ ัญหำในสำระต่อไปน้ี เลขยกกาลงั เขำ้ ใจและอธิบำยเก่ียวกบั เลขยกกำลงั ที่มีเลขช้ีกำลงั เป็นจำนวนเตม็ คูณและหำร เลขยก กำลงั ท่ีมีฐำนเดียวกนั และเลขช้ีกำลงั เป็นจำนวนเตม็ ได้ เขียนแสดงจำนวนในรูปสัญกรณ์วทิ ยำศำสตร์ ( A10n เมื่อ 1 A 10 และ n เป็ นจำนวนเตม็ ) การประยุกต์เกยี่ วกบั อตั ราส่วนและร้อยละกำรนำควำมรู้เกี่ยวกบั อตั รำส่วน สดั ส่วนและร้อยละไปใชใ้ น กำรแกป้ ัญหำ โดยนำควำมรู้ ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ที่หลำกหลำยมำใชแ้ กป้ ัญหำในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ได้ อยำ่ งเหมำะสม มีเหตุผลประกอบในกำรตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม ใชภ้ ำษำและสัญลกั ษณ์ทำง คณิตศำสตร์ในกำรส่ือสำร ส่ือควำมหมำย และนำเสนอไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งชดั เจน เชื่อมโยงควำมรู้ต่ำงๆ ใน คณิตศำสตร์และนำควำมรู้ หลกั กำร ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ไปเช่ือมโยงกบั ศำสตร์อื่นๆ และมี ควำมคิดริเร่ิมสร้ำงสรรค์ เพื่อใหเ้ กิดคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผดิ ชอบ มี วจิ ำรณญำณ มีควำมเชื่อมนั่ ในตนเอง มีควำมซ่ือสัตยส์ ุจริตมีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในกำรทำงำน รักควำมเป็นไทย มีจิตสำธำรณะ พร้อมท้งั ตระหนกั ในคุณค่ำและมีเจตคติท่ีดีตอ่ คณิตศำสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. ใชส้ มบตั ิของเลขยกกำลงั ท่ีมีเลขช้ีกำลงั เป็นจำนวนเตม็ บวกในกำรแกป้ ัญหำทำงคณิตศำสตร์และ ปัญหำในชีวติ จริงได้ ๒. คูณและหำรเลขยกกำลงั ท่ีมีฐำนเดียวกนั และเลขช้ีกำลงั เป็นจำนวนเตม็ ได้ ๓. ใชค้ วำมรู้เก่ียวกบั อตั รำส่วน สัดส่วนและร้อยละในกำรแกป้ ัญหำทำงคณิตศำสตร์และปัญหำในชีวติ จริงได้ ๔. มีควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำรสื่อสำร กำรส่ือควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และ กำรนำเสนอ กำรเช่ือมโยงควำมรู้ต่ำงๆ ทำงคณิตศำสตร์และเชื่อมโยงคณิตศำสตร์กบั ศำสตร์อ่ืนๆ และมีควำมคิด ริเริ่มสร้ำงสรรค์ รวมท้งั หมด ๔ ผลการเรียนรู้
53 คาอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ค๒๑๒๐๒คณติ ศาสตร์เพม่ิ เติม ๒ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๑ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ศึกษำ วเิ ครำะห์ อธิบำย ฝึกทกั ษะกำรแกป้ ัญหำในสำระต่อไปน้ี การสร้างทางเรขาคณติ กำรสร้ำงพ้นื ฐำนทำงเรขำคณิต กำรสร้ำงรูปเรขำคณิตสองมิติโดยใชก้ ำรสร้ำง พ้ืนฐำนทำงเรขำคณิต กำรนำควำมรู้เกี่ยวกบั กำรสร้ำงพ้ืนฐำนทำงเรขำคณิตไปใชใ้ นชีวิตจริง มิตสิ ัมพนั ธ์ของรูปเรขาคณติ อธิบำยลกั ษณะรูปเรขำคณิตสำมมิติหนำ้ ตดั ของรูปเรขำคณิตสำมมิติ ระบุ ภำพสองมิติท่ีไดจ้ ำกกำรมองดำ้ นหนำ้ (front view) ดำ้ นขำ้ ง (side view) หรือดำ้ นบน (top view ) ของรูป เรขำคณิตสำมมิติ วำด ออกแบบ หรือประดิษฐ์รูปเรขำคณิตสำมมิติท่ีประกอบข้ึนจำกลูกบำศก์ โดยนำควำมรู้ ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ที่หลำกหลำยมำใชแ้ กป้ ัญหำในสถำนกำรณ์ตำ่ งๆ ได้ อยำ่ งเหมำะสม มีเหตุผลประกอบในกำรตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม ใชภ้ ำษำและสญั ลกั ษณ์ทำง คณิตศำสตร์ในกำรส่ือสำร สื่อควำมหมำย และนำเสนอไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งชดั เจน เช่ือมโยงควำมรู้ตำ่ งๆ ใน คณิตศำสตร์และนำควำมรู้ หลกั กำร ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ไปเชื่อมโยงกบั ศำสตร์อ่ืนๆ และมี ควำมคิดริเร่ิมสร้ำงสรรค์ เพื่อใหเ้ กิดคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผดิ ชอบ มี วจิ ำรณญำณ มีควำมเชื่อมนั่ ในตนเอง มีควำมซ่ือสัตยส์ ุจริตมีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน รักควำมเป็นไทย มีจิตสำธำรณะ พร้อมท้งั ตระหนกั ในคุณค่ำและมีเจตคติที่ดีตอ่ คณิตศำสตร์ ผลการเรียนรู้ ๑. สร้ำงและบอกข้นั ตอนกำรสร้ำงพ้นื ฐำนทำงเรขำคณิตได้ ๒. สร้ำงรูปเรขำคณิตสองมิติโดยใชก้ ำรสร้ำงพ้ืนฐำนทำงเรขำคณิตและบอกข้นั ตอนกำรสร้ำงได้ ๓. ระบุภำพสองมิติท่ีไดจ้ ำกกำรมองดำ้ นหนำ้ ดำ้ นขำ้ งหรือดำ้ นบนของรูปเรขำคณิตสำมมิติท่ีกำหนดให้ ได้ ๔. วำดหรือประดิษฐ์รูปเรขำคณิตสำมมิติท่ีประกอบข้ึนจำกลูกบำศกไ์ ด้ ๕. มีควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ กำรให้เหตุผล กำรส่ือสำร กำรส่ือควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และ กำรนำเสนอ กำรเช่ือมโยงควำมรู้ตำ่ งๆ ทำงคณิตศำสตร์และเช่ือมโยงคณิตศำสตร์กบั ศำสตร์อ่ืนๆ และมีควำมคิด ริเร่ิมสร้ำงสรรค์ รวมท้งั หมด ๕ ผลการเรียนรู้
54 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๒ รายวชิ า คณติ ศาสตร์เพมิ่ เตมิ ๓ รหสั วชิ า ค ๒๒๒๐๑ ๑.๐ หน่วยกติ จานวนเวลา ๔๐ ช่ัวโมง ศึกษำควำมรู้ ฝึกทกั ษะกระบวนกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล ฝึกกำรแกป้ ัญหำเพ่อื พฒั นำศกั ยภำพ ของผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสำระต่อไปน้ี สมบตั ิของเลขยกกำลงั ไดแ้ ก่ สมบตั ิของเลขยกกำลงั กำรดำเนินกำรของเลขยกกำลงั สมบตั ิอ่ืน ๆ ของเลขยกกำลงั พหุนำมและเศษส่วนของพหุนำม ไดแ้ ก่ ทบทวนพหุนำม กำรคูณพหุนำม กำรหำรพหุนำม เศษส่วนของพหุนำม กำรคูณและกำรหำรเศษส่วนของพหุนำม กำรบวกและกำรลบเศษส่วนของพหุนำม ประยกุ ตเ์ กี่ยวกบั อตั รำส่วนและร้อยละ ไดแ้ ก่ อตั รำส่วน ร้อยละ กำรประยกุ ตเ์ ก่ียวกบั อตั รำส่วน และร้อยละ กำรประยกุ ตข์ องกำรแปลงทำงเรขำคณิต ไดแ้ ก่ กำรประยกุ ตข์ องกำรเลื่อนขนำน กำรประยกุ ตข์ องสะทอ้ น กำรประยกุ ตข์ องกำรหมุน เทสเซลเลชนั โดยจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ในชีวติ ประจำวนั ท่ีใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดค้ น้ ควำ้ โดยกำรปฏิบตั ิ จริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพ่อื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคิดคำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรให้เหตุผล กำร สื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และนำประสบกำรณ์ทำงดำ้ นควำมรู้ ควำมคิดทกั ษะกระบวนกำรที่ไดไ้ ปใชใ้ น กำรเรียนรู้ส่ิงต่ำง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ งสร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณค่ำและเจตคติท่ีดีตอ่ คณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระบบระเบียบ มีควำมรอบคอบ มีควำมรับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และมีควำมเช่ือมนั่ ในตนเอง กำรวดั และประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรที่หลำกหลำยตำมสภำพจริงใหส้ อดคลอ้ งกบั เน้ือหำ และทกั ษะที่ ตอ้ งกำรวดั มาตรฐานผลการเรียนรู้ ค ๒.๑ ม.๒/๑ ค ๒.๑ ม.๒/๒ ค ๔.๑ ม.๒/๑ ค ๔.๑ ม.๒/๒ ค ๑.๑ ม.๒/๓ ค ๓.๑ ม.๒/๑ รวมท้งั หมด ๖ ตัว
55 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๓ รายวชิ า คณติ ศาสตร์เพมิ่ เตมิ ๕ รหสั วชิ า ค ๒๓๒๐๑ ๑.๐ หน่วยกติ จานวนเวลา ๔๐ ชั่วโมง ศึกษำควำมรู้ ฝึกทกั ษะกระบวนกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล ฝึกกำรแกป้ ัญหำเพ่อื พฒั นำศกั ยภำพ ของผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสำระต่อไปน้ี กรณฑท์ ี่สอง ไดแ้ ก่ สมบตั ิของ √������ เม่ือ ������ ≥ 0 กำรดำเนินกำรของจำนวนจริงซ่ึงเก่ียวกบั กรณฑท์ ่ี สอง กำรแยกตวั ประกอบของพหุนำม ไดแ้ ก่ กำรแยกตวั ประกอบของพหุนำมดีกรีสองท่ีเป็นผลตำ่ งของ กำลงั สอง กำรแยกตวั ประกอบของพหุนำมดีกรีสองโดยวธิ ีทำเป็นกำลงั สองสมบูรณ์ กำรแยกตวั ประกอบของ พหุนำมดีกรีกวำ่ สองท่ีมีสัมประสิทธิเป็นจำนวนเตม็ กำรแยกตวั ประกอบของพหุนำมท่ีมีสมั ประสิทธิเป็น จำนวนเตม็ โดยใชท้ ฤษฎีบทเศษเหลือ สมกำรกำลงั สอง ไดแ้ ก่ ทบทวนสมกำรกำลงั สอง กำรแกส้ มกำรกำลงั สองโดยวธิ ีทำเป็นกำลงั สอง สมบูรณ์ โจทยป์ ัญหำเก่ียวกบั สมกำรกำลงั สอง พำรำโบลำ ไดแ้ ก่ สมการพาราโบลา พำรำโบลำที่กำหนด ดว้ ยสมกำร ������ = ������������2 เม่ือ ������ ≠ 0 พำรำโบลำที่กำหนดดว้ ยสมกำร ������ = ������������2 + ������ เมื่อ ������ ≠ 0 พำรำโบลำท่ีกำหนดดว้ ยสมกำร ������ = ������(������ − ℎ)2 + ������ เม่ือ ������ ≠ 0 พำรำโบลำที่กำหนดดว้ ยสมกำร ������ = ������������2 + ������������ + ������ เม่ือ ������ ≠ 0 พ้ืนท่ีผวิ และปริมำตร ไดแ้ ก่ พ้นื ท่ีผวิ ของพีระมิด กรวยและทรงกลม กำรนำไปใช้ โดยจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ในชีวติ ประจำวนั ที่ใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดค้ น้ ควำ้ โดยกำรปฏิบตั ิ จริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพอ่ื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคิดคำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรให้เหตุผล กำร ส่ือควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และนำประสบกำรณ์ทำงดำ้ นควำมรู้ ควำมคิดทกั ษะกระบวนกำรที่ไดไ้ ปใชใ้ น กำรเรียนรู้สิ่งต่ำง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ งสร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณคำ่ และเจตคติที่ดีต่อคณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระบบระเบียบ มีควำมรอบคอบ มีควำมรับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และมีควำมเชื่อมน่ั ในตนเอง กำรวดั และประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรท่ีหลำกหลำยตำมสภำพจริงใหส้ อดคลอ้ งกบั เน้ือหำ และทกั ษะท่ี ตอ้ งกำรวดั มาตรฐานผลการเรียนรู้ ค ๑.๑ ม.๓/๑ ค ๔.๑ ม.๓/๑ ค ๔.๑ ม.๓/๒ ค ๔.๒ ม.๓/๑ ค ๔.๒ ม.๓/๔ ค ๒.๑ ม.๓/๑ ค ๔.๒ ม.๓/๒ ค ๔.๒ ม.๓/๓ ค ๒.๑ ม.๓/๒ รวมท้งั หมด ๙ ตวั
56 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๓ รายวชิ า คณติ ศาสตร์เพมิ่ เตมิ ๖ รหัสวชิ า ค ๒๓๒๐๒ ๑.๐ หน่วยกติ จานวนเวลา ๔๐ ชั่วโมง ศึกษำควำมรู้ ฝึกทกั ษะกระบวนกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล ฝึกกำรแกป้ ัญหำเพือ่ พฒั นำศกั ยภำพ ของผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสำระต่อไปน้ี กำรใหเ้ หตุผล ไดแ้ ก่ ควำมรู้พ้นื ฐำนเกี่ยวกบั กำรใหเ้ หตุผลทำงเรขำคณิต ทฤษฎีบทเก่ียวกบั รูป สำมเหลี่ยมและรูปส่ีเหล่ียม กำรสร้ำง ระบบสมกำร ไดแ้ ก่ ระบบสมกำรท่ีประกอบดว้ ยสมกำรเชิงเส้นและสมกำรดีกรีสอง ระบบสมกำรท่ี ประกอบดว้ ยสมกำรดีกรีสองท้งั สองสมกำร วงกลม ไดแ้ ก่ ควำมรู้เก่ียวกบั วงกลม มุมท่ีจุดศูนยก์ ลำงและมุมในส่วนโคง้ ของวงกลม คอร์ด เส้น สัมผสั วงกลม เศษส่วนของพหุนำม ไดแ้ ก่ กำรดำเนินกำรของเศษส่วนพหุนำม กำรแกส้ มกำรเศษส่วนของพหุนำม โจทยป์ ัญหำเก่ียวกบั เศษส่วนของพหุนำม โดยจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ในชีวติ ประจำวนั ท่ีใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดค้ น้ ควำ้ โดยกำรปฏิบตั ิ จริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพอื่ พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคิดคำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรให้เหตุผล กำร ส่ือควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และนำประสบกำรณ์ทำงดำ้ นควำมรู้ ควำมคิดทกั ษะกระบวนกำรที่ไดไ้ ปใชใ้ น กำรเรียนรู้ส่ิงตำ่ ง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ งสร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณคำ่ และเจตคติที่ดีต่อคณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระบบระเบียบ มีควำมรอบคอบ มีควำมรับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และมีควำมเชื่อมนั่ ในตนเอง กำรวดั และประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรที่หลำกหลำยตำมสภำพจริงใหส้ อดคลอ้ งกบั เน้ือหำ และทกั ษะท่ี ตอ้ งกำรวดั มาตรฐานผลการเรียนรู้ ค ๔.๒ ม.๓/๕ ค ๔.๒ ม.๓/๖ ค ๓.๒ ม.๓/๓ ค ๓.๒ ม.๓/๑ ค ๓.๒ ม.๓/๒ ค ๔.๑ ม.๓/๕ ค ๖.๑ ม.๑ – ๓/๑ ค ๔.๑ ม.๓/๓ ค ๔.๑ ม.๓/๔ รวมท้งั หมด ๙ ตวั
57 โครงสร้างกล่มุ สาระการเรียนคณติ ศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รายวชิ าพืน้ ฐาน คณิตศำสตร์ จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต ค31101 คณิตศำสตร์ จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต ค31102 คณิตศำสตร์ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ค32101 คณิตศำสตร์ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ค32102 คณิตศำสตร์ จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต ค33101 คณิตศำสตร์ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ค33102 รายวชิ าเพมิ่ เตมิ คณิตศำสตร์ จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต คณิตศำสตร์ จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต ค31201 คณิตศำสตร์ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต ค31202 คณิตศำสตร์ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต ค32201 คณิตศำสตร์ จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต ค32202 คณิตศำสตร์ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต ค33201 ค33202
58 คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน ค๓๑๑๐๑คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ๑ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ศึกษำ วเิ ครำะห์ อธิบำย ฝึกทกั ษะกำรแกป้ ัญหำในสำระต่อไปน้ี เซตควำมรู้เบ้ืองตน้ และสญั ลกั ษณ์พ้นื ฐำนเกี่ยวกบั เซต ยเู นียน อินเตอร์เซกชนั และคอมพลีเมนตข์ อง เซต ตรรกศาสตร์เบื้องต้นประพจนแ์ ละตวั เช่ือม (นิเสธ และหรือถำ้ ...แลว้ ...ก็ต่อเม่ือ) โดยนำควำมรู้ ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ที่หลำกหลำยมำใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำใน สถำนกำรณ์ตำ่ งๆไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม มีเหตุผลประกอบในกำรตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม ใชภ้ ำษำ และสัญลกั ษณ์ทำงคณิตศำสตร์ในกำรส่ือสำร สื่อควำมหมำย และนำเสนอไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งชดั เจน เช่ือมโยง ควำมรู้ต่ำงๆในคณิตศำสตร์และนำควำมรู้ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ ไปเช่ือมโยงกบั ศำสตร์อ่ืนๆและมีควำมคิดริเริ่มสร้ำงสรรค์ เพ่อื ใหเ้ กิดคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผดิ ชอบมี วจิ ำรณญำณ มีควำมเชื่อมนั่ ในตนเอง มีควำมซื่อสัตยส์ ุจริตมีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน รักควำมเป็นไทย มีจิตสำธำรณะ พร้อมท้งั ตระหนกั ในคุณค่ำและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศำสตร์ รหสั และตัวชี้วดั ค๑.๑ ม.๔/๑ รวมท้งั หมด ๑ตัวชี้วดั
ค๓๑๑๐๒คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ๒ 59 ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๔ ภาคเรียนที่ ๒ คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ เวลา๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หน่วยกติ ศึกษำ วเิ ครำะห์ อธิบำย ฝึกทกั ษะกำรแกป้ ัญหำในสำระต่อไปน้ี หลกั การนับเบื้องต้นหลกั กำรบวกและกำรคูณกำรเรียงสบั เปลี่ยนเชิงเส้นกรณีท่ีส่ิงของแตกตำ่ งกนั ท้งั หมดกำรจดั หมู่กรณีท่ีส่ิงของแตกตำ่ งกนั ท้งั หมด ความน่าจะเป็ นกำรทดลองสุ่มและเหตุกำรณ์ ควำมน่ำจะเป็นของเหตุกำรณ์ โดยนำควำมรู้ ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ที่หลำกหลำยมำใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำในสถำนกำรณ์ ต่ำงๆไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม มีเหตุผลประกอบในกำรตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม ใชภ้ ำษำและสัญลกั ษณ์ ทำงคณิตศำสตร์ในกำรส่ือสำร ส่ือควำมหมำย และนำเสนอไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งชดั เจน เชื่อมโยงควำมรู้ตำ่ งๆใน คณิตศำสตร์และนควำมรู้ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ ไปเช่ือมโยงกบั ศำสตร์อื่นๆและมีควำมคิดริเริ่มสร้ำงสรรค์ เพื่อใหเ้ กิดคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งมีระบบระเบียบ รอบคอบ รับผดิ ชอบมี วจิ ำรณญำณ มีควำมเช่ือมนั่ ในตนเอง มีควำมซ่ือสัตยส์ ุจริตมีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน รักควำมเป็นไทย มีจิตสำธำรณะ พร้อมท้งั ตระหนกั ในคุณค่ำและมีเจตคติท่ีดีตอ่ คณิตศำสตร์ รหสั และตวั ชี้วดั ค๓.๒ม.๔/๑, ม.๔/๒ รวมท้งั หมด ๒ตัวชี้วดั
60 ระดบั ช้ัน ม. ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ ๑.๐ หน่วยกติ จานวนเวลา ๔๐ ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ๓ รหัสวชิ า ค๓๒๑๐๑ ศึกษำควำมรู้พ้ืนฐำนเบ้ืองตน้ ฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล และฝึกกำรแกป้ ัญหำเพ่ือพฒั นำ ศกั ยภำพของผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ นสำระต่อไปน้ี อตั รำส่วนตรีโกณมิติ อตั รำส่วนตรีโกณมิติของมุม 30 , 45 , 60 องศำ กำรใชอ้ ตั รำส่วนตรีโกณมิติ ในกำรหำระยะทำง ควำมสูง ฟังกช์ นั ตรีโกณมิติและกำรประยกุ ต์ ฟังกช์ นั ตรีโกณมิติ กรำฟของฟังกช์ นั ตรีโกณมิติ ฟังกช์ นั ตรีโกณมิติของผลบวกและผลตำ่ งของจำนวนจริง หรือมุม อินเวอร์สของฟังกช์ นั ตรีโกณมิติกำรแกส้ มกำร ตรีโกณมิติ กฎของไซนแ์ ละโคไซน์ กำรจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ที่ใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ ไดป้ ฏิบตั ิจริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพอื่ พฒั นำทกั ษะกระบวนกำรในกำรคิดคำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำร ส่ือควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และนำประสบกำรณ์ดำ้ นควำมรู้ ควำมคิด ทกั ษะกระบวนกำรที่ไดไ้ ปใชใ้ น กำรเรียนรู้ต่ำง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ งสร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณค่ำ และมีเจตคติที่ดีต่อวชิ ำ คณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีควำมรับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และ เชื่อมนั่ ในตนเอง กำรวดั ผลและประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรท่ีหลำกหลำย ตำมสภำพกำรเป็นจริงอิงเน้ือหำและทกั ษะท่ี ตอ้ งกำรวดั เพื่อใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะในกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล กำรนำควำมรู้ ไปแกป้ ัญหำ และทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ท่ีจำเป็น มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั ค ๒.๑ ม. ๔-๖/๑ ค ๒.๒ ม. ๔-๖/๑ ค ๖.๑ ม. ๔-๖/๑ ม. ๔-๖/๒ม. ๔-๖/๓ ม. ๔-๖/๔ ม. ๔-๖/๕ ม. ๔-๖/๖ รวม ๖ ตวั ชี้วดั
61 ระดบั ช้ัน ม. ๕ ภาคเรียนที่ ๒ ๑.๐ หน่วยกติ จานวนเวลา ๔๐ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ๔ รหัสวชิ า ค๓๒๑๐๒ ศึกษำควำมรู้พ้นื ฐำนเบ้ืองตน้ ฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล และฝึกกำรแกป้ ัญหำเพื่อพฒั นำ ศกั ยภำพของผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ นสำระตอ่ ไปน้ี สถิติและขอ้ มูล กำรเก็บรวมรวบขอ้ มูล กำรนำเสนอขอ้ มูล กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูลเบ้ืองตน้ คำ่ กลำงของขอ้ มูล กำรวดั กำรกระจำยของขอ้ มูล กำรแจกแจงปกติ ค่ำมำตรฐำน กำรแจกแจงปกติและเส้นโคง้ ปกติ พ้นื ที่ใตเ้ ส้นโคง้ กำรจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ท่ีใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ ไดป้ ฏิบตั ิจริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพื่อพฒั นำทกั ษะกระบวนกำรในกำรคิดคำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำร สื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และนำประสบกำรณ์ดำ้ นควำมรู้ ควำมคิด ทกั ษะกระบวนกำรที่ไดไ้ ปใชใ้ น กำรเรียนรู้ต่ำง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ งสร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณคำ่ และมีเจตคติที่ดีต่อวชิ ำ คณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีควำมรับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และ เชื่อมน่ั ในตนเอง กำรวดั ผลและประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรท่ีหลำกหลำย ตำมสภำพกำรเป็นจริงอิงเน้ือหำและ ทกั ษะท่ี ตอ้ งกำรวดั เพื่อใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะในกำรคิดคำนวณ กำรให้เหตุผล กำรนำควำมรู้ ไปแกป้ ัญหำ และทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ท่ีจำเป็น มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั ค ๕.๑ ม. ๔-๖/๑ม. ๔-๖/๒ ม. ๔-๖/๓ ค ๕.๓ ม. ๔-๖/๑ ค ๖.๑ ม. ๔-๖/๑ ม. ๔-๖/๒ม. ๔-๖/๓ ม. ๔-๖/๔ ม. ๔-๖/๕ ม. ๔-๖/๖ รวม ๑๐ ตวั ชี้วดั
62 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดับช้ัน ม. ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ๕ รหัสวชิ า ค๓๓๑๐๑ ๑.๐ หน่วยกติ จานวนเวลา ๔๐ ช่ัวโมง ศึกษำควำมรู้พ้นื ฐำนเบ้ืองตน้ ฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล และฝึกกำรแกป้ ัญหำเพื่อพฒั นำ ศกั ยภำพของผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ นสำระต่อไปน้ี ลำดบั และอนุกรม ลำดบั ลำดบั เลขคณิต ลำดบั เรขำคณิต อนุกรมเลขคณิต อนุกรมเรขำคณิต ลิมิตของลำดบั กำรหำผลบวก n พจนแ์ รกของอนุกรมเลขคณิต และเรขำคณิต อนุกรมอนนั ต์ ผลบวกอนุกรม อนนั ต์ กำรสำรวจควำมคิดเห็น กำรสำรวจเบ้ืองตน้ กำรจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ท่ีใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ ไดป้ ฏิบตั ิจริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพื่อพฒั นำทกั ษะกระบวนกำรในกำรคิดคำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำร สื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และนำประสบกำรณ์ดำ้ นควำมรู้ ควำมคิด ทกั ษะกระบวนกำรที่ไดไ้ ปใชใ้ น กำรเรียนรู้ตำ่ ง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ งสร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณคำ่ และมีเจตคติที่ดีต่อวชิ ำ คณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีควำมรับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และ เชื่อมน่ั ในตนเอง กำรวดั ผลและประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรท่ีหลำกหลำย ตำมสภำพกำรเป็นจริงอิงเน้ือหำและ ทกั ษะที่ตอ้ งกำรวดั เพอ่ื ให้มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะในกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล กำร นำควำมรู้ไปแกป้ ัญหำ และทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ท่ีจำเป็ น มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั ค ๔.๑ ม. ๔-๖/๔ ม. ๔-๖/๕ ค ๔.๒ ม. ๔-๖/๖ ม. ๔-๖/๒ ม. ๔-๖/๓ ม. ๔-๖/๔ ม. ๔-๖/๕ม. ๔-๖/๖ ค ๖.๑ ม. ๔-๖/๑ รวม ๙ ตัวชี้วดั
63 กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดบั ช้ัน ม. ๖ ภาคเรียนท่ี ๒ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ๖ รหัสวชิ า ค๓๓๑๐๒ ๑.๐ หน่วยกติ จานวนเวลา ๔๐ ช่ัวโมง ศึกษำควำมรู้พ้ืนฐำนเบ้ืองตน้ ฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล และฝึกกำรแกป้ ัญหำเพื่อพฒั นำ ศกั ยภำพของผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ นสำระต่อไปน้ี ควำมน่ำจะเป็น กำรทดลองสุ่ม เหตุกำรณ์ แซมเปิ ลสเปส กฎเกณฑเ์ บ้ืองตน้ เก่ียวกบั กำรนบั ควำม น่ำจะเป็นของเหตุกำรณ์ แฟคทอเรียล วธิ ีเรียงสบั เปล่ียน วธิ ีจดั หมู่ ทฤษฎีบททวนิ ำม ควำมน่ำจะเป็น กฎ สำคญั บำงประกำรของควำมน่ำจะเป็น กำรจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ท่ีใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ ไดป้ ฏิบตั ิจริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพื่อพฒั นำทกั ษะกระบวนกำรในกำรคิดคำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำร ส่ือควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และนำประสบกำรณ์ดำ้ นควำมรู้ ควำมคิด ทกั ษะกระบวนกำรท่ีไดไ้ ปใชใ้ น กำรเรียนรู้ต่ำง ๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ งสร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณคำ่ และมีเจตคติท่ีดีต่อวชิ ำ คณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มีควำมรับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และ เชื่อมน่ั ในตนเอง กำรวดั ผลและประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรที่หลำกหลำย ตำมสภำพกำรเป็นจริงอิงเน้ือหำและทกั ษะท่ี ตอ้ งกำรวดั เพ่ือใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะในกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล กำรนำควำมรู้ ไปแกป้ ัญหำ และทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ท่ีจำเป็น มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั ค ๕.๒ ม. ๔-๖/๒ ค ๕.๓ ม. ๔-๖/๒ ม. ๔-๖/๖ ค ๖.๑ ม. ๔-๖/๑ ม. ๔-๖/๒ ม. ๔-๖/๓ ม. ๔-๖/๔ ม. ๔-๖/๕ รวม ๘ ตัวชี้วดั
64 คาอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ คาอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดบั ช้ัน ม. ๔ภาคเรียนท่ี ๑ รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพม่ิ เติม ๑ รหสั วชิ า ค๓๑๒๐๑ ๑.๐หน่วยการเรียน เวลา๔๐ช่ัวโมง ศึกษำควำมรู้ ฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณกำรใหเ้ หตุผลและฝึกกำรแกป้ ัญหำเพื่อพฒั นำศกั ยภำพของผเู้ รียน ใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจและสำมำรถนำควำมรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสำระตอ่ ไปน้ี เซตเซตเอกภพสัมพทั ธ์สับเซตและพำวเวอร์เซตยูเนียนอินเตอร์เซกชนั คอมพลีเมนต์ และผลตำ่ งของเซต แผนภำพเวนน์-ออยเลอร์และกำรแกป้ ัญหำ ตรรกศำสตร์ ประพจน์ กำรเช่ือมประพจน์ คำ่ ควำมจริงของประพจน์ กำรสร้ำงตำรำงค่ำควำมจริง กำรสมมูลกนั ตวั บ่งปริมำณ คำ่ ควำมจริงของประพจน์ที่มีตวั บ่งปริมำณ สมมูลและนิเสธประพจนท์ ่ีมีตวั บง่ ปริมำณ กำรอำ้ งเหตุผล จำนวนจริงและพหุนำม จำนวนจริง กำรเท่ำกนั กำรบวก ลบ คูณ หำร สมบตั ิของระบบจำนวน จริง กำรแกส้ มกำรพหุนำมตวั แปรเดียวแกส้ มกำรและอสมกำรพหุนำมตวั แปรเดียว ดีกรีไมเ่ กินส่ี สมบตั ิกำรไม่ เท่ำกนั ช่วงและอสมกำร ค่ำสมั บูรณ์ กำรแกส้ มกำร อสมกำรในรูปค่ำสมั บูรณ์ จำนวนจริงที่อยใู่ นรูปเลขยก กำลงั และกรณฑแ์ กส้ มกำรและอสมกำรเศษส่วนของพหุนำมตวั แปรเดียวและนำไปใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำ กำรจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ท่ีใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ โดยปฏิบตั ิจริงทดลอง สรุปรำยงำน เพือ่ ใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะกำรแกป้ ัญหำกำรใหเ้ หตุผลและนำประสบกำรณ์ดำ้ นควำมรู้ ควำมคิดทกั ษะกระบวนกำรที่ไดไ้ ปใชใ้ นกำรเรียนรู้สิ่งตำ่ งๆและใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ งสร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณค่ำและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศำสตร์สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระเบียบ รอบคอบ มีควำมรับผดิ ชอบ มี วจิ ำรณญำณ และเช่ือมน่ั ในตนเองกำรวดั ผลและประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรท่ีหลำกหลำย ตำมสภำพกำรเป็นจริงอิง เน้ือหำ และทกั ษะที่ตอ้ งกำรวดั เพอ่ื ใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะในกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล กำรนำควำมรู้ไปแกป้ ัญหำ และทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ท่ีจำเป็น ผลการเรียนรู้ ๑. เขำ้ ใจและใชค้ วำมรู้เก่ียวกบั เซตในกำรสื่อสำรและสื่อควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ ๒. เขำ้ ใจและใชค้ วำมรู้เกี่ยวกบั ตรรกศำสตร์เบ้ืองตน้ ในกำรสื่อสำร สื่อควำมหมำย และอำ้ งเหตุผล ๓. เขำ้ ใจจำนวนจริงและใชส้ มบตั ิของจำนวนจริงในกำรแกป้ ัญหำ ๔. แกส้ มกำรและอสมกำรพหุนำมตวั แปรเดียว ดีกรีไม่เกินสี่ และนำไปใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำ ๕. แกส้ มกำรและอสมกำรเศษส่วนของพหุนำมตวั แปรเดียว และนำไปใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำ ๖. แกส้ มกำรและอสมกำรค่ำสมั บูรณ์ของพหุนำมตวั แปรเดียว และนำไปใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำ รวมท้งั หมด ๖ผลการเรียนรู้
65 คาอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดับช้ัน ม. ๔ ภาคเรียนท่ี ๒ รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพมิ่ เติม ๒ รหัสวชิ าค๓๑๒๐๒ ๑.๐หน่วยการเรียน เวลา๔๐ช่ัวโมง ศึกษำควำมรู้ ฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณกำรใหเ้ หตุผลและฝึกกำรแกป้ ัญหำเพือ่ พฒั นำศกั ยภำพของผเู้ รียน ใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจและสำมำรถนำควำมรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสำระตอ่ ไปน้ี ฟังกช์ นั กำรบวก กำรลบ กำรคูณ กำรหำรฟังกช์ นั หำฟังกช์ นั ประกอบ ฟังกช์ นั ผกผนั ฟังกช์ นั เอกซ์โพเนนเซียลและฟังกช์ นั ลอกำริทึม ฟังกช์ นั เอกซ์โพเนนเซียล กรำฟฟังกช์ นั เอกซ์ โพเนนเซียล กำรแกส้ มกำรเอกซ์โพเนนเซียลฟังกช์ นั ลอกำริทึม กรำฟฟังกช์ นั ลอกำริทึม กำรคำนวณหำ ค่ำประมำณโดยใชล้ อกำริทึม กำรแกส้ มกำรโดยใชล้ อกำริทึม เรขำคณิตวเิ ครำะห์ ควำมรู้พ้ืนฐำนเรขำคณิตวเิ ครำะห์ เส้นตรง ระยะระหวำ่ งจุดสองจุด จุดก่ึงกลำง ระหวำ่ งจุดสองจุด ควำมชนั เส้นขนำน เส้นต้งั ฉำก ควำมสัมพนั ธ์ ท่ีมีกรำฟเป็นเส้นตรง ระยะห่ำงระหวำ่ ง เส้นตรงกบั จุด ภำคตดั กรวย วงกลม พำรำโบลำ วงรี ไฮเพอร์โบลำ กำรจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ที่ใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ โดยปฏิบตั ิจริงทดลอง สรุปรำยงำนเพ่ือใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะกำรแกป้ ัญหำกำรใหเ้ หตุผลและนำประสบกำรณ์ดำ้ น ควำมรู้ควำมคิดทกั ษะกระบวนกำรท่ีไดไ้ ปใชใ้ นกำรเรียนรู้สิ่งตำ่ งๆและใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ งสร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณค่ำและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศำสตร์สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระเบียบ รอบคอบ มีควำมรับผดิ ชอบ มี วจิ ำรณญำณ และเชื่อในตนเอง กำรวดั ผลและประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรท่ีหลำกหลำย ตำมสภำพกำรเป็นจริงอิงเน้ือหำ และทกั ษะท่ีตอ้ งกำร วดั เพื่อใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะในกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล กำรนำควำมรู้ไปแกป้ ัญหำ และทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ที่จำเป็น ผลการเรียนรู้ ๑. หำผลลพั ธ์ของกำรบวก กำรลบ กำรคูณ กำรหำรฟังกช์ นั หำฟังกช์ นั ประกอบและฟังกช์ นั ผกผนั ๒. ใชส้ มบตั ิของฟังกช์ นั ในกำรแกป้ ัญหำ ๓. เขำ้ ใจลกั ษณะกรำฟของฟังกช์ นั เอกซ์โพเนนเชียลและฟังกช์ นั ลอกำริทึมและนำไปใชใ้ นกำร แกป้ ัญหำ ๔. แกส้ มกำรเอกซ์โพเนนเชียลและสมกำรลอกำริทึมและนำไปใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำ ๕. เขำ้ ใจและใชค้ วำมรู้เก่ียวกบั เรขำคณิตวเิ ครำะห์ในกำรแกป้ ัญหำ รวมท้งั หมด ๕ผลการเรียนรู้
66 กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดบั ช้ัน ม. ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพม่ิ เตมิ ๓ รหสั วชิ า ค๓๒๒๐๑ ๑.๕ หน่วยการเรียน เวลา ๖๐ ช่ัวโมง ศึกษำควำมรู้ ฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล และฝึกกำรแกป้ ัญหำเพื่อพฒั นำศกั ยภำพของ ผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสำระต่อไปน้ี ฟังกช์ นั เอกซ์โพเนนเซียลและฟังกช์ นั ลอกำริทึม ฟังกช์ นั เอกซ์โพเนนเซียล กรำฟฟังกช์ นั เอกซ์ โพเนนเซียล กำรแกส้ มกำรเอกซ์โพเนนเซียล ฟังกช์ นั ลอกำริทึม กรำฟฟังกช์ นั ลอกำริทึม กำรคำนวณหำ ค่ำประมำณโดยใชล้ อกำริทึม กำรแกส้ มกำรโดยใชล้ อกำริทึม เวกเตอร์ เวกเตอร์ เวกเตอร์ในสองมิติ เวกเตอร์ในสำมมิติ กำรเท่ำกนั ของเวกเตอร์ กำรบวก กำรลบ เวกเตอร์หน่ึงหน่วย กำรคูณเวกเตอร์ดว้ ยสเกลำร์ ผลู คูณเชิงเวกเตอร์ ผลคูณเชิงสเกลำร์ กำรจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ท่ีใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ โดยปฏิบตั ิจริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพื่อใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะกำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผลและนำประสบกำรณ์ ดำ้ นควำมรู้ควำมคิด ทกั ษะกระบวนกำรที่ไดไ้ ปใชใ้ นกำรเรียนรู้ส่ิงตำ่ งๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ ง สร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณค่ำและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระเบียบ รอบคอบ มีควำม รับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และเช่ือมนั่ ในตนเอง กำรวดั ผลและประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรท่ีหลำกหลำย ตำมสภำพกำรเป็นจริงอิงเน้ือหำ และทกั ษะท่ีตอ้ งกำร วดั เพอื่ ใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะในกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล กำรนำควำมรู้ไปแกป้ ัญหำ และทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ที่จำเป็น มาตรฐานผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั ค ๓.๓ ม. ๕/๑ ค ๕.๒ ม. ๕/๑ ม. ๕/๒ ม. ๕/๓ รวม ๔ ตัวชี้วดั
67 กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดบั ช้ัน ม. ๕ ภาคเรียนท่ี ๒ รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพมิ่ เตมิ ๔ รหสั วชิ า ค๓๒๒๐๒ ๑.๕ หน่วยการเรียน เวลา ๖๐ ชั่วโมง ศึกษำควำมรู้ ฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล และฝึกกำรแกป้ ัญหำเพือ่ พฒั นำศกั ยภำพของ ผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสำระตอ่ ไปน้ี จำนวนเชิงซอ้ น จำนวนเชิงซอ้ น กรำฟและคำ่ สัมบูรณ์จำนวนเชิงซอ้ น จำนวนเชิงซอ้ นในรูป เชิงข้วั กำรแกส้ มกำรพหุนำมโดยจำนวนเชิงซอ้ น ทฤษฎีกรำฟเบ้ืองตน้ กรำฟ กรำฟออยเลอร์ กำรประยกุ ตข์ องกรำฟ กำรจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ที่ใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ โดยปฏิบตั ิจริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพ่ือใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะกำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผลและนำประสบกำรณ์ ดำ้ นควำมรู้ควำมคิด ทกั ษะกระบวนกำรที่ไดไ้ ปใชใ้ นกำรเรียนรู้ส่ิงตำ่ งๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ ง สร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณค่ำและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระเบียบ รอบคอบ มีควำม รับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และเชื่อมนั่ ในตนเอง กำรวดั ผลและประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรท่ีหลำกหลำย ตำมสภำพกำรเป็นจริงอิงเน้ือหำ และทกั ษะท่ีตอ้ งกำร วดั เพื่อใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะในกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล กำรนำควำมรู้ไปแกป้ ัญหำ และทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ที่จำเป็น มาตรฐานผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั ค ๒.๑ ม. ๕/๑ ม. ๕/๒ ม. ๕/๓ ค ๒.๒ ม. ๕/๑ ค ๔.๓ ม. ๕/๑ ม. ๕/๒ ม. ๕/๓ รวม ๗ ตวั ชี้วดั
68 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดับช้ัน ม. ๖ ภาคเรียนที่ ๑ รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพมิ่ เตมิ ๕ รหสั วชิ า ค๓๓๒๐๑ ๑.๕ หน่วยการเรียน เวลา ๖๐ ช่ัวโมง ศึกษำควำมรู้ ฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล และฝึกกำรแกป้ ัญหำเพอื่ พฒั นำศกั ยภำพของ ผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสำระตอ่ ไปน้ี ลำดบั อนนั ตแ์ ละอนุกรมอนนั ต์ ลำดบั อนนั ต์ ลิมิตของลำดบั อนนั ต์ อนุกรมอนนั ต์ ผลบวกของ อนุกรม แคลคูลสั เบ้ืองตน้ ลิมิตของฟังกช์ นั ควำมต่อเนื่องของฟังกช์ นั อนุพนั ธ์ของฟังกช์ นั ควำมชนั ของ เส้นโคง้ กำรหำอนุพนั ธ์ของฟังกช์ นั พชี คณิตโดยใชส้ ูตร อนุพนั ธ์ฟังกช์ นั คอมโพสิท อนุพนั ธ์อนั ดบั สูง กำรประยกุ ตอ์ นุพนั ธ์ ปริพนั ธ์ ปริพนั ธ์ไม่จำกดั เขต ปริพนั ธ์จำกดั เขต พ้ืนที่ปิ ดลอ้ มดว้ ยเส้น โคง้ กำรจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ท่ีใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ โดยปฏิบตั ิจริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพื่อใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะกำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผลและนำประสบกำรณ์ ดำ้ นควำมรู้ควำมคิด ทกั ษะกระบวนกำรท่ีไดไ้ ปใชใ้ นกำรเรียนรู้สิ่งตำ่ งๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ ง สร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณคำ่ และมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระเบียบ รอบคอบ มีควำม รับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และเช่ือมน่ั ในตนเอง กำรวดั ผลและประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรที่หลำกหลำย ตำมสภำพกำรเป็นจริงอิงเน้ือหำ และทกั ษะที่ตอ้ งกำร วดั เพอ่ื ใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะในกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล กำรนำควำมรู้ไปแกป้ ัญหำ และทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ที่จำเป็น มาตรฐานผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั ค ๑.๑ ม. ๖/๑ ม. ๖/๒ ค๑.๒ ม. ๖/๑ ม. ๖/๒ ม. ๖/๓ ม. ๖/๔ ม.๖ /๕ ม. ๖/๖ รวม ๘ ตวั ชี้วดั
69 กล่มุ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ ระดับช้ัน ม. ๖ ภาคเรียนท่ี ๒ รายวชิ าคณติ ศาสตร์เพมิ่ เตมิ ๖ รหสั วชิ า ค๓๓๒๐๒ ๑.๕ หน่วยการเรียน เวลา ๖๐ ชั่วโมง ศึกษำควำมรู้ ฝึกทกั ษะกำรคิดคำนวณ กำรใหเ้ หตุผล และฝึกกำรแกป้ ัญหำเพ่ือพฒั นำศกั ยภำพของ ผเู้ รียนใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ และสำมำรถนำควำมรู้น้นั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสำระต่อไปน้ี ควำมสมั พนั ธ์เชิงฟังกช์ นั ระหวำ่ งขอ้ มูล ควำมสัมพนั ธ์เชิงฟังกช์ นั ท่ีเส้นตรง ควำมสัมพนั ธ์เชิงฟังกช์ นั ที่เป็นเส้นโคง้ กำรประมำณค่ำคงตวั โดยใชร้ ะเบียบวธิ ีกำลงั สองนอ้ ยท่ีสุด ควำมสัมพนั ธ์เชิงฟังกช์ นั ของ ขอ้ มูลท่ีอยใู่ นรูปอนุกรมเวลำ กำหนดกำรเชิงเส้น อสมกำรและกรำฟ ระบบอสมกำรและกรำฟ กำรสร้ำงแบบจำลองทำง คณิตศำสตร์ กำรใชว้ ธิ ีของกำหนดกำรเชิงเส้นในกำรแกป้ ัญหำ กำรจดั ประสบกำรณ์หรือสร้ำงสถำนกำรณ์ที่ใกลต้ วั ใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษำคน้ ควำ้ โดยปฏิบตั ิจริง ทดลอง สรุป รำยงำน เพือ่ ใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะกำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผลและนำประสบกำรณ์ ดำ้ นควำมรู้ควำมคิด ทกั ษะกระบวนกำรที่ไดไ้ ปใชใ้ นกำรเรียนรู้สิ่งตำ่ งๆ และใชใ้ นชีวติ ประจำวนั อยำ่ ง สร้ำงสรรค์ รวมท้งั เห็นคุณคำ่ และมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระเบียบ รอบคอบ มีควำม รับผดิ ชอบ มีวจิ ำรณญำณ และเช่ือมน่ั ในตนเอง กำรวดั ผลและประเมินผล ใชว้ ธิ ีกำรท่ีหลำกหลำย ตำมสภำพกำรเป็นจริงอิงเน้ือหำ และทกั ษะที่ตอ้ งกำรวดั เพ่อื ใหม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้ือหำ มีทกั ษะในกำรคิดคำนวณ กำรให้เหตุผล กำรนำควำมรู้ไปแกป้ ัญหำ และ ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ท่ีจำเป็ น มาตรฐานผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั ค ๓.๓ ม. ๖/๑ ค ๖.๑ ม. ๖/๑ ม. ๖/๒ ม. ๖/๓ รวม ๔ ตวั ชี้วดั
70 คาอธิบายรายวชิ ากล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
71 โครงสร้างกลุ่มสาระการเรียนวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ าพืน้ ฐาน ว21101 วทิ ยำศำสตร์ จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต ว21102 วทิ ยำศำสตร์ จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต ว21181 กำรออกแบบแลเทคโนโลยี จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ว22101 วทิ ยำศำสตร์ จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต จำนวน 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกิต ว22102 วทิ ยำศำสตร์ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต ว21182 กำรออกแบบแลเทคโนโลยี ว22181 กำรออกแบบแลเทคโนโลยี ว22182 วทิ ยำกำรคำนวณ ว23101 วทิ ยำศำสตร์ ว23102 วทิ ยำศำสตร์ รายวชิ าเพม่ิ เติม ว21201 วทิ ยำศำสตร์ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ว21202 วทิ ยำศำสตร์ จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ว22201 วทิ ยำศำสตร์ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ว22202 วทิ ยำศำสตร์ ว23201 วทิ ยำศำสตร์ ว23202 วทิ ยำศำสตร์
72 คาอธิบายรายวชิ า เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) รหสั วชิ ำ ว๒๑๑๘๑ เทคโนโลยี (กำรออกแบบและเทคโนโลย)ี กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่ ๑ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง/ภำคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ภำคเรียนที่ ๑ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษำ อธิบำยควำมหมำยของเทคโนโลยี วเิ ครำะห์สำเหตุหรือปัจจยั ท่ีส่งผลต่อกำรเปล่ียนแปลงของ เทคโนโลยี กำรทำงำนของระบบทำงเทคโนโลยี ประยกุ ตใ์ ชค้ วำมรู้ ทกั ษะ และทรัพยำกร โดยวเิ ครำะห์ เปรียบเทียบและเลือกขอ้ มูลท่ีจำเป็นเพ่ือออกแบบวธิ ีกำรแกป้ ัญหำในชีวติ ประจำวนั ในดำ้ นกำรเกษตรและ อำหำร และสร้ำงชิ้นงำนหรือพฒั นำวธิ ีกำรโดยใชก้ ระบวนกำรออกแบบเชิงวศิ วกรรม รวมท้งั เลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือในกำรแกป้ ัญหำไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ ง เหมำะสม และปลอดภยั ตัวชี้วดั ว ๔.๑ ม.๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม.๑/๔,ม.๑/๕ รวมท้งั หมด ๕ ตวั ชี้วดั
73 คาอธิบายรายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) รหสั วชิ ำ ว๒๑๑๘๒ เทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำนวณ) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่ ๑ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง/ภำคเรียน จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต ภำคเรียนที่ ๒ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษำแนวคิดเชิงนำมธรรม กำรคดั เลือกคุณลกั ษณะท่ีจำเป็นตอ่ กำรแกป้ ัญหำ ข้นั ตอน กำร แกป้ ัญหำ กำรเขียนรหสั ลำลองและผงั งำน กำรเขียนออกแบบและเขียนโปรแกรมอยำ่ งง่ำย ท่ีมีกำรใชง้ ำน ตวั แปร เงื่อนไข และกำรวนซ้ำ เพ่อื แกป้ ัญหำทำงคณิตศำสตร์หรือวทิ ยำศำสตร์ กำรรวบรวมขอ้ มูลปฐมภูมิ กำรประมวลผลขอ้ มูล กำรสร้ำงทำงเลือกและประเมินผลเพ่อื ตดั สินใจ ซอฟตแ์ วร์และบริกำรบนอินเทอร์เน็ตที่ ใชใ้ นกำรจดั กำรขอ้ มูล แนวทำงกำรใชง้ ำนเทคโนโลยสี ำรสนเทศ ใหป้ ลอดภยั กำรจดั กำรอตั ลกั ษณ์ กำร พิจำรณำควำมเหมำะสมของเน้ือหำ ขอ้ ตกลงและขอ้ กำหนด กำรใชส้ ่ือและแหล่งขอ้ มูล นำแนวคิดเชิงนำมธรรมและข้นั ตอนกำรแกป้ ัญหำ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกำรเขียนโปรแกรม หรือ กำร แกป้ ัญหำในชีวติ จริง รวบรวมขอ้ มูลและสร้ำงทำงเลือก ในกำรตดั สินใจไดอ้ ยำ่ งมีประสิทธิภำพ และตระหนกั ถึงกำรใชง้ ำนเทคโนโลยสี ำรสนเทศอยำ่ งปลอดภยั เกิดประโยชน์ตอ่ กำรเรียนรู้ และไม่สร้ำง ควำมเสียหำยใหแ้ ก่ ผอู้ ื่น ตวั ชี้วดั ว ๔.๒ ม.๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม.๑/๔ รวมท้งั หมด ๔ ตวั ชี้วดั
74 คำอธบิ ำยรำยวิชำ รหัสวชิ ำ ว ๒๑๑๐๑ รำยวิชำพื้นฐำนวิทยำศำสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ่ี ๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต เวลำ ๖๐ช่วั โมง/ภำคเรียน ภำคเรยี นท่ี ๑ ศึกษาเกี่ยวกับสารรอบตัว สมบัติของสาร การจาแนกสารด้วยสถานะ เน้ือสาร และขนาดอนุภาคของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร สารบริสุทธ์ิและสารผสม การศึกษาชีววิทยาโดยอาศัยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ศึกษา ประเภทโครงสร้างและหน้าที่ของส่วนประกอบภายในเซลล์ส่ิงมีชีวิตด้วยกล้องจุลทรรศน์ ศึกษากระบวนการ ลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ด้วยวิธีการแพร่และการออสโมซิส ศึกษาการดารงชีวิตของพืช กระบวนการ สังเคราะห์ด้วยแสง การลาเลียงสารในพืช การเจริญเตบิ โตของพืช การสืบพันธุ์ของพืช และเทคโนโลยีชีวภาพของ พืช โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การทดลองการอภิปราย การอธิบาย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มี ความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารสิ่งท่เี รยี นรู้และนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ มี คณุ ธรรม และจริยธรรม ตัวช้วี ัด ว ๑.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙ ม.๑/๑๐ ม.๑/๑๑ ม.๑/๑๒ ม.๑/๑๓ ม.๑/๑๔ ม.๑/๑๕ ม.๑/๑๖ ม.๑/๑๗ ม.๑/๑๘ ว ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ รวม ๒๓ ตัวชวี้ ัด
75 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวิชำพ้ืนฐำนวิทยำศำสตร์ รหสั วชิ ำ ว ๒๑๑๐๒ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษำปีที่ ๑ เวลำ ๖๐ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ภำคเรียนที่ ๒ ************************************************************************************* ********** ศึกษาเกี่ยวกับสมบัติของสารบริสุทธ์ิและสารผสม การใช้ความรู้ทางเคมีให้เป็นประโยชน์ต่อการเลือกใช้ สารเคมีในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย ศึกษาเก่ียวกับอุณหภูมิและการวัด ผลของความร้อนท่ีมี ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสาร การถ่ายโอนความร้อน การดูดกลืนและคายความร้อน สมดุลความร้อน องค์ประกอบของบรรยากาศ การแบ่งชั้นบรรยากาศ ผลของรังสีจากดวงอาทิตย์ต่อบรรยากาศ องค์ประกอบของ บรรยากาศ ได้แก่ อุณหภูมิอากาศ ความดันอากาศ ความช้ืนอากาศ ลม เมฆและฝน พายฟุ ้าคะนอง พายหุ มุนเขต รอ้ น มรสมุ การพยากรณอ์ ากาศ และการเปลย่ี นแปลงภมู ิอากาศของโลก โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การทดลองการอภิปราย การอธิบาย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มี ความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรแู้ ละนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ มี คณุ ธรรม และจริยธรรม ตัวชี้วัด ว ๒.๑ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ม.๑/๘ ม.๑/๙ ม.๑/๑๐ ว ๒.๒ ม.๑/๑ ว ๒.๓ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ ว ๓.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม.๑/๔ ม.๑/๕ ม.๑/๖ ม.๑/๗ รวม ๒๐ ตัวช้วี ัด
76 รหสั วชิ า ว๒๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ๒ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ จานวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลา ๖๐ ชั่วโมง / ภาคเรียน ภาคเรียนที่ ๑ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำวิเครำะห์โครงสร้ำงและหน้ำท่ีกำรทำงำนของระบบร่ำงกำยมนุษยแ์ ละสัตว์ ระบบย่อย อำหำร ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบหำยใจ ระบบขบั ถ่ำย ระบบสืบพนั ธุ์ รวมท้งั ระบบประสำทของมนุษย์ และสัตว์ พฤติกรรมกำรตอบสนองของมนุษย์และสัตว์ต่อสิ่ งเร้ำภำยนอกและภำยใน ผลกำรใช้ เทคโนโลยชี ีวภำพในกำรขยำยพนั ธุ์ ปรับปรุงพนั ธุ์เพมิ่ ผลผลิตของสตั ว์ ควำมสำคญั ของอำหำรและสำรอำหำร ตอ่ เพศและวยั สำรในสิ่งเสพติดและแนวทำงกำรป้องกนั สมบตั ิของธำตุและสำรประกอบ กำรแยกสำรดว้ ย กำรกรอง กำรตกผลึก กำรสกดั กำรกลน่ั และโครมำโทกรำฟี กำรเปล่ียนแปลงสมบตั ิมวลและพลงั งำนของ สำรเมื่อเกิดปฏิกิริยำเคมี เขียนสมกำรปฏิกิริยำเคมี ผลของปฏิกิริยำเคมีต่อชีวิตและส่ิงแวดล้อมใน ชีวติ ประจำวนั และกำรใชส้ ำรเคมีอยำ่ งถูกตอ้ งปลอดภยั โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูลและกำรอภิปรำยเพื่อใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอส่ือสำร ส่ิงท่ีเรียนรู้มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั มีจิต วทิ ยำศำสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และคำ่ นิยมท่ีเหมำะสม รหสั ตัวชี้วดั ว ๑.๑ ม ๒/๑ , ว ๑.๑ ม ๒/๒ , ว ๑.๑ ม ๒/๓, ว ๑.๑ ม ๒/๔ , ว ๑.๑ ม ๒/๕ , ว ๑.๑ ม ๒/๖ , ว ๓.๑ ม ๒/๑ , ว ๓.๑ ม ๒/๒ , ว ๓.๑ ม ๒/๓, ว ๓.๒ ม๒/๑ ,ว ๓.๒ ม๒/๒ , ว ๓.๒ ม๒/๓ , ว ๓.๒ ม๒/๔ , ว ๘.๑ ม ๒/๑-๙ รวม ๒๒ ตวั ชี้วดั
77 รหสั วชิ า ว๒๒๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๒ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ จานวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลา ๖๐ ชั่วโมง / ภาคเรียน ภาคเรียนท่ี ๒ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำ วเิ ครำะห์ ทดลองและอธิบำยกำรหำแรงลพั ธ์ของแรงหลำยแรง ในระนำบเดียวกนั ที่กระทำตอ่ วตั ถุ แรงลพั ธ์ท่ีกระทำต่อวตั ถุที่หยดุ น่ิงหรือวตั ถุเคล่ือนที่ ดว้ ยควำมเร็วคงตวั กำรสะทอ้ นของแสง กำรหกั เห ของแสง ควำมสวำ่ งที่มีต่อมนุษยแ์ ละส่ิงมีชีวติ กำรดูดกลืนแสงสี กำรมองเห็นสีของวตั ถุ ลกั ษณะของช้นั หนำ้ ตดั ดิน สมบตั ิของดิน กระบวนกำรเกิดดิน กำรปรับปรุงคุณภำพของดิน กระบวนกำรเกิด และลกั ษณะ องคป์ ระกอบของหิน สมบตั ิของหิน ประเภทของหิน ลกั ษณะทำงกำยภำพของแร่ ลกั ษณะและสมบตั ิของ ปิ โตรเลียม ถ่ำนหิน หินน้ำมนั แหล่งน้ำธรรมชำติ แหล่งน้ำในทอ้ งถิ่น กำรเกิดแหล่งน้ำบนดิน แหล่งน้ำใต้ ดิน กำรผพุ งั อยกู่ บั ท่ี กำรกร่อน กำรพดั พำ กำรทบั ถม กำรตกผลึก โครงสร้ำงและองคป์ ระกอบของโลก โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล และบนั ทึก กำรจดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำย เพ่ือให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรส่ิงที่เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตัดสิ นใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำศำสตร์ คุณธรรม จริยธรรม และคำ่ นิยมท่ีเหมำะสม รหัสตัวชี้วดั ว ๔.๑ ม ๒/๑ , ม ๒/๒ , ว ๕.๑ ม ๒/๑ , ม ๒/๒ , ม ๒/๓ , ว ๖.๑ ม ๒/๑ , ม ๒/๒ , ม ๒/๓ , ม ๒/๔ , ม ๒/๕ , ม ๒/๖ , ม ๒/๗ , ม ๒/๘ , ม ๒/๙ , ม ๒/๑๐ , ว ๘.๑ ม ๒/๑-๙ รวม ๒๔ ตวั ชี้วดั
78 รหสั วชิ า ว๒๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ จานวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง / ภาคเรียน ภาคเรียนท่ี ๑ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำวิเครำะห์ สำรวจ และอธิบำย เก่ียวกับโครโมโซม ยีน สำรพนั ธุกรรมหรือดีเอ็นเอ กระบวนกำรถ่ำยทอดลกั ษณะทำงพนั ธุกรรม โรคทำงพนั ธุกรรม ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพท่ีมีต่อมนุษย์ สตั ว์ และพชื เทคโนโลยชี ีวภำพ ระบบนิเวศ ทรัพยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดลอ้ มตำมปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนประกอบของระบบสุริยะ กลุ่มดำวฤกษ์ กำแล็กซี เอกภพ เทคโนโลยอี วกำศ ดำวเทียม และยำนอวกำศ โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำร สืบค้นขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มข้อมูล และกำรอภิปรำย เพื่อให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถ นำเสนอส่ือสำรส่ิงที่เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำศำสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่ำนิยมที่เหมำะสม รหสั ตัวชี้วดั ม. ว ๑.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ว ๒.๑ ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ว ๒.๒ ม.๓/๑ ๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ว ๗.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ว ๗.๒ ม. ๓/๑ ว ๘.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๙ รวม ๒๓ ตวั ชี้วดั
79 รหสั วชิ า ว๒๓๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ จานวน ๑.๕ หน่วยกติ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง / ภาคเรียน ภาคเรียนที่ ๒ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำวเิ ครำะห์ อธิบำยและทดลองเก่ียวกบั ควำมเร่งและผลของแรงลพั ธ์ ท่ีกระทำต่อวตั ถุ แรง กิริยำ แรงปฏิกิริยำระหวำ่ งวตั ถุ แรงพยงุ ของของเหลวที่กระทำตอ่ วตั ถุ แรงเสียดทำนสถิต แรงเสียดทำนจลน์ กำรเคลื่อนท่ีของวตั ถุท่ีเป็ นแนวตรงและแนวโคง้ พลงั งำนจลน์ พลงั งำนศักยโ์ นม้ ถ่วง กฎกำรอนุรักษพ์ ลงั งำน ควำมสัมพนั ธ์ระหว่ำงปริมำณทำงไฟฟ้ำ กำรต่อวงจรไฟฟ้ำ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ วงจรอิเล็กทรอนิกส์ เบ้ืองตน้ โดยใช้กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ กำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำร สืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำย เพื่อให้เกิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถ นำเสนอสื่อสำรสิ่งท่ีเรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ใน ชีวติ ประจำวนั มีจิตวทิ ยำศำสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่ำนิยมท่ีเหมำะสม รหสั ตัวชี้วดั ว ๔.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ว ๔.๒ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ว ๕.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ว ๘.๑ ม.๓.๑ - ม.๓/๙ รวม ๒๐ ตวั ชี้วดั
80 คำอธบิ ำยรำยวิชำ รำยวิชำวิทยำศำสตร์เพม่ิ เติม รหัสวิชำ ว๒๑๒๗๑ (วิทยำศำสตร์กบั ควำมงำม) กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ชั้นมัธยมศึกษำตอนตน้ เวลำ ๔๐ ชัว่ โมง/ภำคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ภำคเรียนที่ ๑ ************************************************************************************* ************ ศึกษา วิเคราะห์ ตรวจสอบ และอธิบาย ความงามทสี่ มวยั และปจั จัยที่มีผลต่อความงาม การดแู ลความ งามและการเลือกใช้เคร่ืองสาอาง เคร่อื งสาอางในชีวิตประจาวัน การใชส้ มุนไพรในทอ้ งถ่ินเพื่อความงามและ สุขภาพ เทคโนโลยีเพื่อความงามและสขุ ภาพ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถสอื่ สารสิ่งท่ีรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ นาความรไู้ ปใช้ในชวี ติ ประจาวัน มจี ิต วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรมและคา่ นิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑.อธบิ ายสว่ นต่างๆ ของรา่ งกายทเ่ี กยี่ วข้องกบั ความงาม และแนวทางในการดแู ลอย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม ๒.สบื คน้ ข้อมูล สารวจตรวจสอบและอธิบายผลติ ภัณฑ์และเทคโนโลยเี กยี่ วกับความงามประเภทต่างๆ ๓.สบื ค้นข้อมลู และสารวจตรวจสอบภมู ิปญั ญาไทยทเ่ี กย่ี วกับความงาม ๔.นาความรู้ไปใชใ้ นการเลือกใช้ผลติ ภัณฑแ์ ละเทคโนโลยีเกีย่ วกบั ความงามได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ๕.สอ่ื สารสง่ิ ทเี่ รียนรู้ และสร้างสรรค์ผลงานเกี่ยวกับความงามอย่างมีคณุ ธรรมและจริยธรรม รวมท้ังหมด ๕ ผลกำรเรยี นรู้
81 คำอธบิ ำยรำยวิชำ รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์เพมิ่ เติม รหสั วชิ ำ ว๒๑๒๐๒ (ของเล่นเชงิ วทิ ยำศำสตร์) กลุ่มสำระกำรเรยี นร้วู ิทยำศำสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษำตอนตน้ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง/ภำคเรียน จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ภำคเรียนท่ี ๒ ****************************************************************************** * ………….ศึกษา วเิ คราะห์ ออกแบบ สร้างของเล่นอย่างง่ายตามแบบที่กาหนดให้ ดดั แปลงหรอื ประดิษฐข์ องเลน่ ที่ ใช้เครอ่ื งกลอย่างง่ายหรอื หลกั การทางไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกสอ์ ย่างง่าย และอธิบายการทางานของของเล่น ดว้ ย หลักการทางวิทยาศาสตร์ สามารถใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความร้ทู างวทิ ยาศาสตร์ การแก้ปญั หา สามารถ ส่ือสารสิง่ ที่เรยี นรู้ สามารถตัดสินใจ นาความรูไ้ ปใชใ้ นชีวิตประจาวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและ คา่ นิยมท่ีเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑.ต้งั คาถามเก่ียวกับหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์ท่ีสังเกตไดจ้ ากการเลน่ ของเลน่ ๒.สงั เกตและอธบิ ายหลักการทางานของเคร่ืองกลอย่างง่าย วงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อยา่ งงา่ ยทีป่ ระกอบข้ึน ในของเล่น ๓.ตรวจสอบและแก้ไขข้อบกพร่องของเคร่ืองกลอยา่ งงา่ ย วงจรไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกสอ์ ยา่ งง่ายทีป่ ระกอบขึ้นใน ของเล่นที่กาหนด ๔.ออกแบบและประดิษฐ์ของเลน่ โดยใช้เครือ่ งกลอยา่ งง่าย และไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ ย่างง่าย ๕.มีเจตคตทิ ีด่ ีต่อหลกั การทางวิทยาศาสตร์ในของเล่น รวมท้ังหมด ๕ ผลกำรเรียนรู้
82 คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวิชำวิทยำศำสตร์เพิ่มเติม รหสั วชิ ำ - (เชือ้ เพลิงเพอ่ื กำรคมนำคม) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษำตอนตน้ เวลำ ๔๐ ชั่วโมง/ภำคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ภำคเรียนท่ี - ****************************************************************************** ** …………..ศึกษา วิเคราะห์ ทดลอง องค์ประกอบและประเภทของปโิ ตรเลยี ม หินตน้ กาเนิดและแหลง่ กักเกบ็ ปโิ ตรเลียม การสารวจและแหลง่ ปโิ ตรเลียม ผลกระทบและแนวทางแก้ไขท่ีเกิดจากการสารวจและการผลิต ปโิ ตรเลยี ม การแยกก๊าซธรรมชาติ การกลั่นนา้ มันดบิ ผลิตภัณฑจ์ ากก๊าซธรรมชาตแิ ละจากการกลั่นนา้ มันดบิ และ การใชป้ ระโยชน์ ผลกระทบจากกระบวนการผลติ ผลติ ภัณฑ์จากปโิ ตรเลียมและแนวทางแก้ไข สถานการณ์ พลงั งานของโลกและของประเทศไทย การใช้พลงั งานดา้ นการคมนาคมของประเทศไทย การกาหนดราคานา้ มัน เชอื้ เพลิง ผลกระทบและแนวทางการแกไ้ ขผลจากการใชเ้ ช้อื เพลิงเพ่ือการคมนาคม เชอื้ เพลิงทีเ่ ป็นพลังงาน ทดแทน โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถส่อื สารสง่ิ ทีร่ ู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ นาความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจาวัน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นิยม ท่เี หมาะสม ผลกำรเรยี นรู้ ๑. อธิบายความสาคญั และการกาเนิด ของปิโตรเลยี ม ก๊าซธรรมชาติ ถา่ นหิน และหินนา้ มัน ๒. อธิบายแหลง่ การสารวจ และปริมาณสารองของปิโตรเลียม และ แกส๊ ธรรมชาติ ๓. อธิบายผลติ ภณั ฑป์ ิโตรเลียมและการนาไปใชป้ ระโยชน์ ๔. อธบิ ายโครงสร้างราคาและวิเคราะหส์ ถานการณก์ ารใช้น้ามันเชือ้ เพลงิ เพ่ือการคมนาคม ๕. อธิบายประเภทและการใช้ประโยชน์ จากเช้อื เพลิงทเ่ี ป็นพลังงานทดแทน ๖. นาเสนอแนวทางการใช้ปิโตรเลยี ม และแก๊สธรรมชาติ อยา่ งประหยัดและถกู วิธี รวมท้ังหมด ๖ ผลกำรเรยี นรู้
83 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์เพ่ิมเติม รหสั วชิ ำ - (พลงั งำนทดแทนกบั กำรใชป้ ระโยชน)์ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษำตอนตน้ เวลำ ๔๐ ช่วั โมง/ภำคเรยี น จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ ภำคเรยี นที่ - ************************************************************************************************ ศึกษา วเิ คราะห์ ทดลอง ตรวจสอบ เกีย่ วกับพลงั งานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลงั งานนา พลงั งานชีวมวล และพลงั งานนิวเคลียร์ เพื่อให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจในหลักการทางวทิ ยาศาสตร์ของพลังงานดงั กล่าว และการ นามาใชเ้ ปน็ พลงั งานทดแทน และตระหนักในบทบาทและผลกระทบของพลงั งานเหลา่ นันท่ีมีต่อมนษุ ยแ์ ละ สิง่ แวดลอ้ ม โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถสื่อสารสิ่งท่ี เรียนรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ นาความร้ไู ปใช้ในชีวิตประจาวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและ คา่ นิยมท่เี หมาะสม ผลกำรเรยี นรู้ ๑.อธิบายความสาคญั ของพลังงานทดแทน ๒.อธบิ ายหลักการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการนาพลังงานแสงอาทิตย์ พลงั งานลม พลงั งานน้า พลงั งานชวี มวลและ พลงั งานนิวเคลยี ร์ ไปใชป้ ระโยชน์ ๓.อธิบายการใชป้ ระโยชน์ พลังงานแสงอาทิตย์ พลงั งานลม พลังงานน้า พลังงานชวี มวลและพลงั งานนิวเคลยี ร์ ใน ประเทศไทย ๔.อธิบายขอ้ ดแี ละข้อจากัดเกี่ยวกับการใช้ประโยชนแ์ ละแนวทางการพัฒนา ของพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลงั งานน้า พลังงานชีวมวลและพลงั งานนิวเคลยี ร์ รวมทั้งหมด ๔ ผลกำรเรียนรู้
84 คำอธบิ ำยรำยวิชำ รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์เพมิ่ เติม รหสั วิชำ - (เรมิ่ ต้นกบั โครงงำนวทิ ยำศำสตร)์ กล่มุ สำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น เวลำ ๔๐ ชั่วโมง/ภำคเรยี น จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ภำคเรยี นท่ี - *************************************************************************************** ศึกษาวิเคราะห์การทางานของนักวิทยาศาสตร์ ปัญหา หรือ สถานการณ์ ท่ีสังเกตพบในชีวิตประจาวัน ตั้ ง ส ม ม ติ ฐ า น จ า ก ปั ญ ห า ห รื อ ส ถ า น ก า ร ณ์ ท่ี สั ง เ ก ต พ บ อ อ ก แ บ บ ก า ร ท ด ล อ ง เพื่อตรวจสอบ สมมติฐาน กาหนดตัวแปร กาหนดนิยามเชงิ ปฏิบัติการ เลือกใชอ้ ุปกรณ์และวธิ ีการทดลอง อย่าง เหมาะสม บันทึกข้อมูล จัดกระทาข้อมูล นาเสนอข้อมูล วิเคราะห์ และสรุปผลการทดลอง ได้สอดคล้องกับ จุดประสงค์ มีความคิดริเรมิ่ สร้างสรรค์ในการออกแบบการทดลอง หรือดัดแปลงอปุ กรณ์ ในการแก้ปญั หาท่ีเกิดข้ึน โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบคน้ ข้อมลู การอภิปราย การวิเคราะห์ การเปรียบเทยี บ การสารวจ ตรวจสอบ การทานาย และการทดลองเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มี ความสามารถในการตัดสินใจ นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และ คา่ นิยมทเี่ หมาะสม โดยการวดั และประเมนิ ผลด้วยแบบทดสอบ แบบประเมินจากสภาพจริง แบบประเมนิ ทกั ษะ กระบวนการ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางวิทยาศาสตร์ แบบประเมินด้านเจตคติในการทางาน กลุ่ม แบบประเมินความสามารถในการแกป้ ัญหา แบบทดสอบความคิดสรา้ งสรรค์ ผลกำรเรยี นรู้ ๑. สบื คน้ อธบิ าย และอภิปราย ถงึ การทางานของนักวิทยาศาสตร์ ๒. สบื ค้น อธบิ าย และอภิปราย ถงึ ปัญหา หรือ สถานการณ์ ทีส่ งั เกตพบในชีวติ ประจาวัน ๓. อธิบาย และอภปิ รายการตั้งสมมตฐิ านจากปัญหา หรือสถานการณ์ ท่สี ังเกตพบได้ อย่างเหมาะสม ๔. ออกแบบการทดลอง เพ่ือตรวจสอบสมมตฐิ าน กาหนดตวั แปร กาหนดนยิ ามเชิงปฏิบัตกิ าร เลอื กใช้อปุ กรณ์ และวิธีการทดลอง อยา่ งเหมาะสม ๕. บันทกึ ข้อมลู จัดกระทาข้อมูล และนาเสนอข้อมลู ทเ่ี หมาะสม สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์ ๖. วเิ คราะห์ และสรปุ ผลการทดลอง ได้สอดคล้องกับจดุ ประสงค์ ๗. มีความคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์ในการออกแบบการทดลอง หรือดดั แปลงอุปกรณ์ ในการแกป้ ัญหาทเี่ กดิ ข้ึนขณะทา การทดลอง ๘. มีเจตคติ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่ีดี ต่อวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิง่ แวดล้อม รวมทั้งหมด ๘ ผลกำรเรยี นรู้
85 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวิชำวิทยำศำสตร์เพ่ิมเติม รหัสวชิ ำ - (โครงงำนวิทยำศำสตร์) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษำตอนต้น เวลำ ๔๐ ชั่วโมง/ภำคเรยี น จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ภำคเรยี นที่ - ********************************************************************************************* ศกึ ษาวิเคราะห์ ความหมาย ประเภท ขนั้ ตอนการทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ คดิ หัวเรอื่ ง เลือกเรอ่ื งที่จะ ทาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ทาการทดลองเบ้อื งต้นดคู วามเป็นไปได้ จัดทาเค้าโครงของเรื่องที่เลือกทา ลงมอื ทา โครงงานวิทยาศาสตร์ อย่างน้อย 1 เรื่อง โดยใช้วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการรวบรวมข้อมูลหลาย ๆ คร้งั นาเสนอข้อมลู อย่างเปน็ ระบบ แกป้ ญั หาท่เี กิดข้ึนโดยวิธกี ารทางวทิ ยาศาสตร์ และพฒั นาชิ้นงานให้เหมาะสม วิเคราะหผ์ ลการทดลอง สรุปผลการทดลอง ทารายงานผลการทดลอง และนาเสนอโครงงาน ดว้ ยปากเปลา่ อยา่ งถูกต้อง และม่ันใจ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื คน้ ข้อมูล การอภิปราย การวิเคราะห์ การเปรียบเทยี บ การสารวจตรวจสอบ การทานาย และการทดลองเพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิง่ ทีเ่ รียนรู้ มีความสามารถในการตดั สินใจ นาความร้ไู ปใช้ในชีวิตประจาวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมที่เหมาะสม โดยการวดั และประเมนิ ผลด้วยแบบทดสอบ แบบประเมนิ จาก สภาพจรงิ แบบประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ทางวิทยาศาสตร์ แบบ ประเมินด้านเจตคติในการทางานกลุ่ม แบบประเมินความสามารถในการแก้ปัญหา แบบทดสอบความคดิ สรา้ งสรรค์ ผลกำรเรยี นรู้ ๑. สืบคน้ ข้อมูล อธิบาย และอภปิ รายความหมายและประเภทของโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ๒. ศกึ ษา และอธิบายขั้นตอนการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ และคิดหัวเรอื่ งโครงงาน ๓. สบื คน้ ข้อมลู เกย่ี วกับเร่ืองที่เลือกทาโครงงานทาการทดลองเบอ้ื งตน้ ดคู วามเป็นไปไดแ้ ละจัดทาเค้าโครงของ เรอื่ ง ๔. ทาโครงงานวิทยาศาสตร์ อยา่ งน้อย 1 เรือ่ ง โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ในการรวบรวมข้อมลู หลาย ๆ ครง้ั นาเสนอข้อมลู อย่างเป็นระบบ แกป้ ญั หาทีเ่ กดิ ขึน้ โดยวิธกี ารทางวทิ ยาศาสตร์ และพัฒนาช้ินงานใหเ้ หมาะสม ๕. วิเคราะหผ์ ลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และทารายงานผลการทดลอง ๖. นาเสนอโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ดว้ ยปากเปล่า อย่างถูกต้อง และมน่ั ใจ ๗. มีเจตคติ จรยิ ธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ดี ต่อวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งหมด ๗ ผลกำรเรียนรู้
86 โครงสร้างกลุ่มสาระการเรียนวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษาปลาย กล่มุ สาระการเรียนรู้ รายวชิ าพืน้ ฐาน ว31101 วทิ ยำศำสตร์ชีวภำพ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยกิต ว31181 กำรออกแบบและเทคโนโลยี จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต ว31182 วทิ ยำกำรคำนวณ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยกิต ว32101 วทิ ยำศำสตร์กำยภำพ จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยกิต ว32102 วทิ ยำศำสตร์กำยภำพ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต ว32183 กำรออกแบบและเทคโนโลยี จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยกิต ว32184 วทิ ยำกำรคำนวณ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยกิต รายวชิ าเพมิ่ เตมิ หน่วยกิต หน่วยกิต ว31201 ฟิ สิกส์ จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยกิต ว31202 ฟิ สิกส์ จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยกิต ว31221 เคมี จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยกิต ว31222 เคมี จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยกิต ว31241 ชีววทิ ยำ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต หน่วยกิต ว31242 ชีววทิ ยำ จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 หน่วยกิต ว31261 โลกดำรำศำสตร์และอวกำศ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยกิต ว31262 โลกดำรำศำสตร์และอวกำศ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต หน่วยกิต ว32201 ฟิ สิกส์ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 ว32221 เคมี จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 ว32241 ชีววทิ ยำ จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 ว32202 ฟิ สิกส์ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 ว32222 เคมี จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 ว32242 ชีววทิ ยำ จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 ว33201 ฟิ สิกส์ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 ว33221 เคมี จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 ว33241 ชีววทิ ยำ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 ว33202 ฟิ สิกส์ จำนวน 60 ชวั่ โมง 1.5 ว33222 เคมี จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 ว33242 ชีววทิ ยำ จำนวน 60 ชว่ั โมง 1.5 ว32263 โลกดำรำศำสตร์ จำนวน 40 ชว่ั โมง 1.0 ว32264 โลกดำรำศำสตร์ จำนวน 40 ชวั่ โมง 1.0
87 คาอธิบายรายวชิ า เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี รหสั วชิ ำ ว๓๑๑๘๑ เทคโนโลยี (กำรออกแบบและเทคโนโลย)ี กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่ ๔ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง/ภำคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ภำคเรียนท่ี ๑ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษำ วเิ ครำะห์แนวคิดหลกั ของเทคโนโลยี กำรเปล่ียนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยที ่ีเกิดข้ึน และควำมสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยกี บั ศำสตร์อ่ืน ออกแบบ สร้ำง หรือพฒั นำผลงำนสำหรับแกป้ ัญหำท่ีคำนึงถึง ผลกระทบตอ่ สังคมในประเด็นท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั สุขภำพและกำรบริกำร โดยใชก้ ระบวนกำรออกแบบเชิงวศิ วกรรม ซ่ึงใชค้ วำมรู้ ทกั ษะ และเลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้ำและอิเลก็ ทรอนิกส์ เพอื่ แกป้ ัญหำไดอ้ ยำ่ ง ถูกตอ้ ง เหมำะสม ปลอดภยั คำนึงถึงทรัพยส์ ินทำงปัญญำ ใชซ้ อฟตแ์ วร์ช่วยในกำรออกแบบและนำเสนอ ผลงำน ตัวชี้วดั ว ๔.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๒,ม.๔/๓,ม.๔/๔ม.๔/๕ รวมท้งั หมด ๕ ตัวชี้วดั
88 คาอธิบายรายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) รหสั วชิ ำ ว๓๑๑๘๒ เทคโนโลยี (วทิ ยำกำรคำนวณ) กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่ ๔ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง/ภำคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ภำคเรียนท่ี ๒ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษำหลกั กำรของแนวคิดเชิงคำนวณ กำรแยกส่วนประกอบและกำรยอ่ ยปัญหำ กำรหำรูปแบบ กำร คิดเชิงนำมธรรม ตวั อยำ่ งและประโยชนข์ องแนวคิดเชิงคำนวณเพ่ือแกป้ ัญหำในชีวติ ประจำวนั ประยกุ ตใ์ ช้ แนวคิดเชิงคำนวณในกำรออกแบบข้นั ตอนวธิ ีสำหรับแกป้ ัญหำ กำรแกป้ ัญหำดว้ ย คอมพิวเตอร์ กำรระบุขอ้ มูล เขำ้ ขอ้ มูลออก และเงื่อนไขของปัญหำ กำรออกแบบข้นั ตอนวธิ ี กำรทำซ้ำ กำรจดั เรียงและคน้ หำขอ้ มูล ตวั อยำ่ ง กำรออกแบบข้นั ตอนวธิ ีเพ่ือแกป้ ัญหำดว้ ยคอมพิวเตอร์ กำรศึกษำ ตวั อยำ่ งโครงงำนทำงเทคโนโลยสี ำรสนเทศ กำรกำหนดปัญหำ ศึกษำ วำงแผน ดำเนินงำน สรุปผล และเผยแพร่ ในกำรพฒั นำโครงงำนที่มีกำรบูรณำกำร ร่วมกบั วชิ ำอ่ืนและเช่ือมโยงกบั ชีวติ จริง ตัวชี้วดั ว ๔.๒ ม.๔/๑ รวมท้งั หมด ๑ ตัวชี้วดั
89 คาอธิบายรายวชิ า โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหสั วชิ ำ ว๓๑๒๖๑ โลก ดำรำศำสตร์และอวกำศ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่ ๔ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง/ภำคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ภำคเรียนท่ี ๑ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษำเกี่ยวกบั กำรแบง่ ช้นั และสมบตั ิของโครงสร้ำงโลก หลกั ฐำนทำงธรณีวทิ ยำที่สนบั สนุนกำร เคล่ือนท่ีของแผน่ ธรณี ลกั ษณะกำรเคล่ือนท่ีของแผน่ ธรณีตำมทฤษฎีธรณีแปรสณั ฐำน กำรลำดบั ช้นั หินและ ธรณีประวตั ิ หลกั ฐำนทำงธรณีวทิ ยำ กำรหำอำยเุ ปรียบเทียบ อำยสุ มั บูรณ์ มำตรำธรณีกำล สำเหตุและ กระบวนกำรเกิดภูเขำไฟระเบิด แผน่ ดินไหว สึนำมิ กำรทำควำมเขำ้ ใจธรรมชำติของธรณีพิบตั ิภยั เพ่ือ เตรียมพร้อมรับสถำนกำรณ์ โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล กำรสงั เกต กำรวเิ ครำะห์ กำรอภิปรำย กำรอธิบำยและกำรสรุปผล เพอื่ ใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด และควำมเขำ้ ใจ มี ควำมสำมรถในกำรตดั สินใจ ส่ือสำร ส่ิงท่ีเรียนรู้ และนำควำมรู้ไปใชใ้ นชีวติ ของตนเอง ตลอดจนมี จิตวทิ ยำศำสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคำ่ นิยมที่ถูกตอ้ งเหมำะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบำยกำรแบง่ ช้นั และสมบตั ิของโครงสร้ำงโลก พร้อมยกตวั อยำ่ งขอ้ มูลที่สนบั สนุน ๒. อธิบำยหลกั ฐำนทำงธรณีวทิ ยำท่ีสนบั สนุนกำรเคลื่อนท่ีของแผนธรณี ๓. ระบุสำเหตุ และอธิบำยรูปแบบแนวรอยต่อของแผน่ ธรณีที่สมั พนั ธ์กบั กำรเคลื่อนที่ของแผน่ ธรณี พร้อมยกตวั อยำ่ งหลกั ฐำนทำงธรณีวทิ ยำที่พบ ๔. อธิบำยสำเหตุ กระบวนกำรเกิดภูเขำไฟระเบิด รวมท้งั สืบคน้ ขอ้ มูลพ้ืนที่เส่ียงภยั ออกแบบและ นำเสนอแนวทำงกำรเฝ้ำระวงั และกำรปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั ๕. อธิบำยสำเหตุ กระบวนกำรเกิด ขนำดและควำมรุนแรง และผลจำกแผน่ ดินไหว รวมท้งั สืบคน้ พ้นื ท่ีเส่ียงภยั ออกแบบและนำเสนอแนวทำงกำรเฝ้ำระวงั และกำรปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั ๖. อธิบำยสำเหตุ กระบวนกำรเกิด และผลจำกสึนำมิ รวมท้งั สืบคน้ ขอ้ มูลพ้นื ท่ีเสี่ยงภยั ออกแบบ และนำเสนอแนวทำงกำรเฝ้ำระวงั และกำรปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั
90 คาอธิบายรายวชิ า โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ รหสั วชิ ำ ว๓๑๒๖๒ โลก ดำรำศำสตร์และอวกำศ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วทิ ยำศำสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษำปี ท่ี ๔ จำนวน ๔๐ ชว่ั โมง/ภำคเรียน จำนวน ๑.๐ หน่วยกิต ภำคเรียนที่ ๒ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษำเกี่ยวกบั กำรตรวจสอบ กำรระบุชนิดของแร่ สมบตั ิของแร่ กำรใชป้ ระโยชนจ์ ำกทรัพยำกรแร่ อยำ่ งเหมำะสม กำรตรวจสอบและจำแนกประเภทของหิน กำรระบุช่ือหิน วิเครำะห์สมบตั ิของหิน กำรใช้ ทรัพยำกรหินอยำ่ งเหมำะสม กระบวนกำรเกิดและสำรวจแหล่งปิ โตรเลียมและถ่ำนหิน ผลิตภณั ฑท์ ี่ไดจ้ ำก ปิ โตรเลียมและถ่ำนหิน กำรอ่ำนแปลควำมหมำยจำกแผนที่ภูมิประเทศและแผนท่ีธรณีวทิ ยำ กำรประยกุ ตใ์ ช้ ควำมรู้เกี่ยวกบั แผนที่ในชีวติ ประจำวนั โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กระบวนกำรสืบเสำะหำควำมรู้ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล กำรสังเกต กำรวเิ ครำะห์ กำรอภิปรำย กำรอธิบำยและกำรสรุปผล เพื่อใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด และควำมเขำ้ ใจ มี ควำมสำมรถในกำรตดั สินใจ สื่อสำร สิ่งท่ีเรียนรู้ และนำควำมรู้ไปใชใ้ นชีวติ ของตนเอง ตลอดจนมี จิตวทิ ยำศำสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคำ่ นิยมที่ถูกตอ้ งเหมำะสม ผลการเรียนรู้ ๑. ตรวจสอบ และระบุชนิดแร่ รวมท้งั วเิ ครำะห์สมบตั ิและนำเสนอกำรใชป้ ระโยชน์จำกทรัพยำกรแร่ท่ี เหมำะสม ๒. ตรวจสอบ จำแนกประเภท และระบุชื่อหิน รวมท้งั วเิ ครำะห์สมบตั ิและกำรนำเสนอกำรใช้ ประโยชน์ของทรัพยำกรหินท่ีเหมำะสม ๓. อธิบำยกระบวนกำรเกิด และกำรสำรวจแหล่งปิ โตรเลียมและถ่ำนหิน โดยใชข้ อ้ มูลทำงธรณีวทิ ยำ ๔. อธิบำยสมบตั ิของผลิตภณั ฑท์ ่ีไดจ้ ำกปิ โตรเลียมและถ่ำนหิน พร้อมนำเสนอกำรใชป้ ระโยชน์อยำ่ ง เหมำะสม ๕. อำ่ นและแปลควำมหมำยจำกแผนที่ธรณีวทิ ยำของพ้ืนท่ี ที่กำหนดพร้อมท้งั อธิบำยและยกตวั อยำ่ ง กำรนำไปใชป้ ระโยชน์
91 คำอธิบำยรำยวิชำ รำยวิชำพนื้ ฐำนวิทยำศำสตร์ชีวภำพ รหสั วชิ ำว๓๑๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ ๔ เวลำ (๖๐ ชัว่ โมง/ภำคเรียน จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ภำคเรียนท่ี ๑ ************************************************************************************* ********** ศึกษาความหลากหลายของระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของระบบนิเวศ องค์ประกอบของระบบ นิเวศ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เซลลแ์ ละโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ การลาเลียงสารเข้าและออกจาก เซลล์ การรักษาดุลยภาพของน้าและแร่ธาตุ กรด-เบส อุณหภูมิในรา่ งกายมนุษย์ ระบบภูมิคุ้มกันความผิดปกติของ ระบบภูมิคุ้มกัน การสร้างอาหารของพืชด้วยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง สารสังเคราะห์จากพืช ปัจจัยที่มีผล ต่อการเจริญเติบโตของพืช การตอบสนองของพืชต่อส่ิงเร้า ยีนและการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมระดับยีนและโครโมโซม การใช้ประโยชน์จาก เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตจากการคัดเลือกโดยธรรมชาติ การคัดเลือกโดยธรรมชาติของ สิ่งมชี วี ิต โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์กระบวนการสืบเสาะหาความรู้การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การ วิเคราะห์ การอธิบาย การอภิปรายและการสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ความคิดความเข้าใจ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ สื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเองและดูแลรักษาส่ิงมีชีวิตอ่ืนๆ เฝ้าระวังและพัฒนา ส่งิ แวดล้อมอยา่ งยั่งยืน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและคา่ นยิ มทเ่ี หมาะสม ตวั ชวี้ ัด ว ๑.๑ ม๔/๑ ม.๔/๒ ม.๔/๓ ม.๔/๔ ว๑.๒ ม.๔/๑ ม.๔/๒ ม.๔/๓ ม.๔/๔ ม.๔/๕ ม.๔/๖ ม๔/๗ ม.๔/๘ ม.๔/๙ ม .๔ / ๑ ๐ ม .๔ / ๑ ๑ ม.๔/๑๒ ว ๑.๓ ม.๔/๑ ม.๔/๒ ม.๔/๓ ม.๔/๔ ม.๔/๕ ม.๔/๖ รวม ๒๒ ตวั ชวี้ ัด
92 รายวชิ า ฟิ สิกส์ รหสั วชิ า ว๓๑๒๐๑ ฟิ สิกส์เพม่ิ เติม กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ม. ๔ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง./ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี ๑ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำ อธิบำย อภิปรำย ปริมำณกำยภำพ กำรเคลื่อนท่ีใน 1 มิติ แรง มวล และกฎกำรเคล่ือนของ นิวตนั สมดุลกล เครื่องกลอยำ่ งง่ำย กำรเคลื่อนท่ีใน 2 มิติ กำรชนและโมเมนตมั กำระเบิด กำรเคลื่อนที่ แบบหมุน งำนและพลงั งำน กฎกำรอนุรักษพ์ ลงั งำน กำลงั และกำรนำควำมรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั โดยใชท้ กั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ สืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำยเพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรสิ่งท่ี เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั มีจิตวิทยำศำสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และคำ่ นิยมท่ีเหมำะสม รหสั ตวั ชี้วดั ว ๔.๑ ม. ๔-๖/๑ - ม.ม. ๔-๖/๔ ว ๔.๒ ม. ๔-๖/๑ - ม.๔ – ๖/๓ ว ๘.๑ ม. ๔ –๖/๑ ม.๔ – ๖/๑๒ รวม ๑๙ ตวั ชี้วดั
93 รายวชิ า ฟิ สิกส์ รหสั วชิ า ว๓๑๒๐๒ ฟิ สิกส์เพมิ่ เตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ม. ๔ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง./ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี ๒ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำ อธิบำย อภิปรำย ปริมำณกำยภำพ กำรเคลื่อนท่ีใน 1 มิติ แรง มวล และกฎกำรเคล่ือนของ นิวตนั สมดุลกล เครื่องกลอยำ่ งง่ำย กำรเคลื่อนท่ีใน 2 มิติ กำรชนและโมเมนตมั กำระเบิด กำรเคลื่อนที่ แบบหมุน งำนและพลงั งำน กฎกำรอนุรักษพ์ ลงั งำน กำลงั และกำรนำควำมรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั โดยใชท้ กั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ สืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำยเพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรสิ่งท่ี เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั มีจิตวิทยำศำสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และคำ่ นิยมท่ีเหมำะสม รหสั ตวั ชี้วดั ว ๔.๑ ม. ๔-๖/๑ - ม.ม. ๔-๖/๔ ว ๔.๒ ม. ๔-๖/๑ - ม.๔ – ๖/๓ ว ๘.๑ ม. ๔ –๖/๑ ม.๔ – ๖/๑๒ รวม ๑๙ ตวั ชี้วดั
94 รายวชิ า ฟิ สิกส์ รหัสวชิ า ว๓๒๒๐๑ ฟิ สิกส์เพม่ิ เติม กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ม. ๕ เวลา ๖๐ ชั่วโมง./ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี ๑ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำ อธิบำย อภิปรำย ธรรมชำติของเสียง สมบตั ิของเสียง ปรำกฏกำรณ์บำงอยำ่ งของเสียง ควำมเขม้ ของเสียง กำรไดย้ นิ กำรนำควำมรู้เร่ืองเสียงไปใชป้ ระโยชน์ คลื่นแสง ปรำกฏกำรณ์บำงอยำ่ งของแสง ควำม สวำ่ ง ภำพที่เกิดจำกกระจกและเลนส์ ทศั นอุปกรณ์ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ สเปกตรัมของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้ำ และ กำรนำควำมรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั โดยใชท้ กั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ สืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำยเพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรสิ่งที่ เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวนั มีจิต วทิ ยำศำสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่ำนิยมท่ีเหมำะสม รหัสตัวชี้วดั ว ๕.๑ ม. ๔-๖/๒ - ม. ๔-๖/๔ ว ๘.๑ ม. ๔ –๖/๑ ม.๔ – ๖/๑๒ รวม ๑๕ ตัวชี้วดั
95 รายวชิ า ฟิ สิกส์ รหสั วชิ า ว๓๒๒๐๒ ฟิ สิกส์เพมิ่ เตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ม. ๕ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง./ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี ๒ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำ อธิบำย อภิปรำย ปริมำณกำยภำพ กำรเคลื่อนท่ีใน 1 มิติ แรง มวล และกฎกำรเคล่ือนของ นิวตนั สมดุลกล เครื่องกลอยำ่ งง่ำย กำรเคล่ือนท่ีใน 2 มิติ กำรชนและโมเมนตมั กำระเบิด กำรเคลื่อนที่ แบบหมุน งำนและพลงั งำน กฎกำรอนุรักษพ์ ลงั งำน กำลงั และกำรนำควำมรู้ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั โดยใชท้ กั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ สืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำยเพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรสิ่งท่ี เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวนั มีจิตวิทยำศำสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และคำ่ นิยมท่ีเหมำะสม รหสั ตวั ชี้วดั ว ๔.๑ ม. ๔-๖/๑ - ม.ม. ๔-๖/๔ ว ๔.๒ ม. ๔-๖/๑ - ม.๔ – ๖/๓ ว ๘.๑ ม. ๔ –๖/๑ ม.๔ – ๖/๑๒ รวม ๑๙ ตวั ชี้วดั
96 รายวชิ า ฟิ สิกส์ รหสั วชิ า ว๓๓๒๐๑ ฟิ สิกส์เพ่ิมเติม กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ ม. ๖ เวลา ๖๐ ชั่วโมง / ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี ๑ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำ อธิบำย อภิปรำย ประจุไฟฟ้ำ ตวั นำ ฉนวน กำรเหน่ียวนำ แรงระหวำ่ งประจุและ กฎของคูลอมบ์ สนำมไฟฟ้ำ เส้นแรงไฟฟ้ำ ศกั ยไ์ ฟฟ้ำ ตวั เก็บประจุและควำมจุ แรงเคลื่อนไฟฟ้ำ กระแสไฟฟ้ำ และควำมตำ่ งศกั ยไ์ ฟฟ้ำ กำรนำไฟฟ้ำ กฎของโอหม์ กำรต่อตวั ตำ้ นทำน กำรตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้ำ แอมมิเตอร์ โวลต์ มิเตอร์ โอหมม์ ิเตอร์ พลงั งำนไฟฟ้ำ กำลงั ไฟฟ้ำ วงจรไฟฟ้ำในบำ้ น แม่เหล็กและสนำมแมเ่ หลก็ แรงกระทำท่ี เกิดในสนำมแมเ่ หลก็ แกลแวนอมิเตอร์ มอเตอร์ กระแสเหน่ียวนำ ไฟฟ้ำกระแสสลบั ตวั ตำ้ นทำน กำรเขียน แผนภำพเฟเซอร์ กำระประยุกตค์ วำมรู้เร่ืองไฟฟ้ำกระแสสลบั โดยใชท้ กั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ สืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำยเพ่ือใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรสิ่งท่ี เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวนั มีจิตวิทยำศำสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และคำ่ นิยมที่เหมำะสม รหสั ตัวชี้วดั ว ๔.๑ ม. ๔-๖/๑ - ม.ม. ๔-๖/๔ ว ๔.๒ ม. ๔-๖/๑ - ม.๔ – ๖/๓ ว ๘.๑ ม. ๔ –๖/๑ ม.๔ – ๖/๑๒ รวม ๑๙ ตวั ชี้วดั
97 รายวชิ า ฟิ สิกส์ รหสั วชิ า ว๓๓๒๐๒ ฟิ สิกส์เพม่ิ เตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ม. ๖ เวลา ๖๐ ชั่วโมง / ภาคเรียน จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนที่ ๒ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษำ อธิบำย อภิปรำย สภำพยดื หยนุ่ ของของแขง็ ควำมดนั ในของเหลว แรงลอยตวั ควำมตึงผวิ ควำม หนืด หลกั กำรของแบร์นูลลี สมบตั ิของแก๊สและทฤษฎีจลน์ของแก๊ส พลงั งำนภำยในระบบ กำรใชท้ ฤษฎีจลน์ ของแกส๊ อธิบำยกำรเปล่ียนสถำนะและกำรขยำยตวั ของสำร กำรคน้ พบอิเลก็ ตรอน แบบจำลองอะตอมของทอม สัน รัทเทอร์ฟอร์ดและโบร์ ทวภิ ำพของคลื่นและอนุภำค กลศำสตร์ควอนตมั หลกั ควำมไมแ่ น่นอน ปฏิกิริยำฟิ ว ชนั และฟิ ชชนั กมั มนั ตภำพรังสี กำรเปล่ียนสภำพนิวเคลียส กำรสลำยกมั มนั ตภำพรังสี ไอโซโทป และ เสถียรภำพของนิวเคลียสประโยชนแ์ ละโทษของกมั มนั ตภำพรังสีและพลงั งำนนิวเคลียร์ โดยใชท้ กั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ สืบเสำะหำควำมรู้ กำรสำรวจตรวจสอบ กำรสืบคน้ ขอ้ มูล บนั ทึก จดั กลุ่มขอ้ มูล และกำรอภิปรำยเพื่อใหเ้ กิดควำมรู้ ควำมคิด ควำมเขำ้ ใจ สำมำรถนำเสนอ สื่อสำรส่ิงท่ี เรียนรู้ มีควำมสำมำรถในกำรตดั สินใจ เห็นคุณค่ำของกำรนำควำมรู้ไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวนั มีจิตวิทยำศำสตร์ คุณธรรมจริยธรรม และค่ำนิยมที่เหมำะสม รหสั ตวั ชี้วดั ว ๓.๑ ม. ๔-๖/ ๔ , ม. ๔-๖/ ๕ ว ๔.๑ ม. ๔-๖/ ๔ ว ๕.๑ ม. ๔-๖/๕ - ม.๔ – ๖/๘ ว ๘.๑ ม. ๔ –๖/๑ ม.๔ – ๖/๑๒ รวม ๑๙ ตวั ชี้วดั
98 คำอธิบำยรำยวิชำ รหสั วิชำ ว๓๑๒๒๑ วิชำเคมีเพมิ่ เติม กลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตร์ ระดับช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี ๔ เวลำ ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาข้อปฏิบัติเบือ้ งตน้ ในการทาปฏิบตั กิ ารเคมี การเลือกใชอ้ ปุ กรณ์และเคร่ืองมือในการทาปฏิบัติการ การระบุหนว่ ยวัด ปรมิ าณตา่ งๆของสาร การเปลี่ยนหน่วยในระบบเอสไอดว้ ยการใช้แฟกเตอร์เปลยี่ นหน่วย ศึกษา แบบจาลองอะตอม สัญลกั ษณน์ วิ เคลยี รข์ องธาตุ อนุภาคมุลฐานของอะตอม การจดั เรยี งอิเลก็ ตรอนในอะตอม การ จัดเรียงธาตุในตารางธาตุ แนวโน้มสมบตั ิบางประการของธาตุในตารางธาตุตามหมแู่ ละตามคาบ สมบัตขิ องธาตุ โลหะแทรนซนิ ชนั การเปรียบเทยี บสมบัตขิ องธาตุโลหะในกล่มุ ธาตุเรพรีเซน เททฟี ศึกษาและอธบิ าย สมบตั ิและคานวณครึ่งชีวิตของไอโซโทปของกัมมนั ตรังสี ยกตวั อย่างการนาธาตมุ าใชป้ ระโยชน์รวมทัง้ ผลกระทบ ต่อสิ่งมีชวี ิตและสิ่งแวดลอ้ ม ศกึ ษาการเกิดพนั ธะไอออนิก สูตรและการเรยี กช่อื สารประกอบไอออนิก การเปล่ียน พลงั งานในการเกิดสารประกอบไอออนิก สมบตั ิของสารประกอบไอออนกิ ปฏิกริ ยิ าของสารประกอบไอออนกิ ศกึ ษาการเกิดพนั ธะและชนิดของพันธะโคเวเลนต์ การเขยี นสูตรและเรียกช่ือสารโคเวเลนต์ ความยาวพันธะและ พลงั งานพันธะในสารโคเวเลนต์ พลังงานทเี่ กย่ี วข้องกบั ปฏิกิรยิ าของสารโคเวเลนต์ รูปรา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์ สภาพขั้วของโมเลกลุ โคเวเลนต์ แรงยดึ เหนย่ี วระหวา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์ สมบัติของสารโคเวเลนต์โครงรา่ งตาข่าย ศึกษาการเกิดโลหะและสมบัติของโลหะ โดยใช้การเรยี นรดู้ ้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ สามารถนาความรู้และหลักการไปใช้ประโยชน์ เชอ่ื มโยง อธบิ ายปรากฏการณ์ หรอื แก้ปัญหา ในชวี ิตประจาวนั สามารถจัดกระทาและวิเคราะห์ข้อมูล สอื่ สารส่ิงทีเ่ รยี นรู้ มคี วามสามารในการตัดสนิ ใจ แก้ปญั หา มีจติ วทิ ยาศาสตร์ เห็นคุณค่าของวิทยาศาสตร์ มีจรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มท่เี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑.บอกและอธบิ ายข้อปฏิบตั เิ บ้อื งต้นและปฏิบตั ติ นท่ีแสดงถึงความตระหนกั ในการทาปฏิบตั ิการเคมี เพือ่ ใหม้ ีความปลอดภยั ทง้ั ต่อตนเองผอู้ นื่ และส่งิ แวดล้อมและเสนอแนวทางแก้ไขเมอื่ เกดิ อบุ ัติเหตุ ๒. เลือกและใช้อุปกรณห์ รือเครือ่ งมือในการทาปฏิบัติการและวดั ปริมาณตา่ งๆไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๓. นาเสนอแผนการทดลองทดลองและเขียนรายงานการทดลอง ๔. ระบุหนว่ ยวดั ปรมิ าณต่างๆของศาลและเปลี่ยนหนว่ ยวัดใหเ้ ปน็ หนว่ ยในระบบเอสไอดว้ ยการใช้แฟค เตอร์เปลย่ี นหน่วย ๕. สบื คน้ ขอ้ มูลสมมตุ ิฐานการทดลองหรือผลการทดลองทเี่ ป็นประจกั ษ์พยานในการเสนอแบบจาลอง อะตอมของนักวทิ ยาศาสตร์และอธิบายววิ ฒั นาการของแบบจาลองอะตอม ๖. เขียนสัญลกั ษณน์ ิวเคลียร์ของธาตุและระบจุ านวนโปตรอนนิวตรอนและอเิ ล็กตอนของอะตอม จากสัญลักษณน์ วิ เคลยี ร์รวมทั้งบอกความหมายของไอโซโทป
99 ๗. อธบิ ายและเขียนการจดั เรียงอิเลก็ ตอนในระดบั พลงั งานหลักและระดับพลงั งานย่อยเมอื่ ทราบเลข อะตอมของธาตุ ๘. ระบหุ มคู่ าบความเป็นโลหะอโลหะและกง่ึ โลหะของธาตุเรพรีเซนเททีฟและธาตแุ ทรนซซิ ันในตารางธาตุ ๙. วเิ คราะหแ์ ละบอกแนวโน้มสมบตั ิของธาตุเรพีเซนตเ์ ททีฟตามหมู่และตามคาบ ๑๐. บอกสมบัติของธาตโุ ลหะแทรนซิซันและเปรียบเทียบสมบตั ขิ องธาตุโลหะในกลุ่ม ธาตุเรพรีเซนเททีฟ ๑๑. อธิบายสมบัตแิ ละคานวณครง่ึ ชีวิตของไอโซโทปกมั มนั ตรงั สี ๑๒. สบื คน้ ขอ้ มูลและยกตัวอยา่ งการนาธาตมุ าใชป้ ระโยชน์รวมท้งั ผลกระทบตอ่ ส่ิงมชี ีวิตและสง่ิ แวดล้อม ๑๓. อธบิ ายการเกดิ ไอออนและการเกิดพันธะไอออนิกโดยใช้แผนภาพหรือสญั ลกั ษณ์แบบจดุ ของลวิ อสิ ๑๔. เขยี นสูตรและเรียกชอื่ สารประกอบไอออนิก ๑๕. คานวณพลังงานทเ่ี กย่ี วข้องกบั ปฏิกริ ยิ าการเกิดสารประกอบไอออนิกจากวัฏจักรบอร์น-ฮาเบอร์ ๑๖. อธบิ ายสมบตั ิของสารประกอบไอออนิก ๑๗. เขียนสมการไอออนิกและสมการไอออนิกสทุ ธขิ องปฏิกริ ยิ าของสารประกอบไอออนิก ๑๘. อธิบายการเกดิ พันธะโคเวเลนซแ์ บบพันธะเดย่ี วพันธะคู่และพันธะสามด้วยโครงสร้างลิวอิส ๑๙. เขยี นสูตรและเรียกช่ือสารโคเวเลนซ์ ๒๐. วิเคราะหแ์ ละเปรียบเทียบความยาวพนั ธะและพลังงานพันธะในสารโคเวเลนซร์ วมทัง้ คานวณพลงั งาน ทเี่ ก่ยี วข้องกับปฏิกริ ิยาของสารโคเวเลนซจ์ ากพลงั งานพนั ธะ ๒๑. คาดคะเนรปู ร่างโมเลกลุ โคเวเลนซโ์ ดยใชท้ ฤษฎกี ารผลักระหวา่ งคู่อเิ ลก็ ตรอนในวงเลนซ์ และระบุ สภาพขวั้ ของโมเลกุลโคเวเลนซ์ ๒๒. ระบชุ นดิ ของแรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งโมเลกุลโคเวเลนซแ์ ละเปรียบเทยี บจุดหลอมเหลวจดุ เดอื ดและ การละลายน้าของสารโคเวเลนซ์ ๒๓. สืบค้นขอ้ มูลและอธิบายสมบัติของสารโคเวเลนซ์โครงรา่ งตาข่ายชนิดตา่ งๆ ๒๔. อธบิ ายการเกดิ พนั ธะโลหะและสมบัติของโลหะ ๒๕. เปรยี บเทียบสมบัตบิ างประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนซ์และโลหะสบื ค้นขอ้ มลู และ นาเสนอตวั อย่างการใชป้ ระโยชนข์ องสารประกอบไอออนกิ สารโคเวเลนซแ์ ละโลหะไดอ้ ย่างเหมาะสม รวมทั้งหมด ๒๕ ผลการเรียนรู้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247